Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore เอกสารประกอบการเรียนวิชาการวิจัยเพื่อพัฒนาการเรียนรู้

เอกสารประกอบการเรียนวิชาการวิจัยเพื่อพัฒนาการเรียนรู้

Published by supada khunnarong, 2021-08-28 10:51:41

Description: เอกสารประกอบการเรียนวิชาการวิจัยเพื่อพัฒนาการเรียนรู้

Search

Read the Text Version

ลอกเลียนผลงาน (Plagiarism) ล่งข้อมลู ที่อา้ งอิงถงึ โดยอาจใชซ้ อฟต์แวรส์ าหรบั ndNote Mendeley และ Zotero เพอ่ื ความ ผูอ้ ืน่ กันของผลงาน – อาจใชโ้ ปรแกรม เช่น าหรอื ข้อความของผู้อน่ื ในการเขียนผลงานว่ามมี าก ช้การอ้างอิงทสี่ อดคลอ้ งและสม่าเสมอกันหรือไม่

การใช้โปรแกรม เพื่อใช้ในการตรวจสอบการ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลพระนค จฬุ าลงกรณ์มหาวทิ ยาลัย เพื่อใช้ในการตรวจสอบ วารสารและเอกสารอเิ ลก็ ทรอนกิ สอ์ น่ื ๆ ทงั้ นขี้ อเ และปริญญาโท ทกุ ท่าน สามารถใช้งานผ่านทางเว

มอกั ขราวสิ ุทธ์ิ รคดั ลอกผลงานทางวชิ าการ คร ได้ขออนุญาตใชโ้ ปรแกรมอกั ขราวสิ ทุ ธิ์ ของ บการลอกเลยี นงานวจิ ัย วรรณกรรม วทิ ยานพิ นธ์ เชิญชวนบุคลากร อาจารย์ นกั ศกึ ษาระดบั ปรญิ ญาเอก ว็บไซต์ http://plag.grad.chula.ac.th





งานวิจยั ทีเ่ กีย่ วขอ้ ง จากการศกึ ษางานวิจยั ทเ่ี กีย่ วข้องกบั ความหลากหลายของแมลงในนาข้าวที่ไมใ่ ช้สารเคมี พบงานวิจยั ทีเ่ กย่ี วข้อง ดงั นี้ รุ่งเกียรติ แก้วเพชร และคณะ (2557) ศึกษาเกี่ยวกับความหลากชนิดของศัตรูธรรมชาติในนาข้าวที่ใช้ สารเคมีและนาข้าวแบบอินทรีย์ โดยมีวิธีการเก็บตัวอย่าง 2 วิธี คือ การใช้สวิงโฉบและการนับจานวนจากกอข้าว พบศัตรูธรรมชาติ 57 ชนิด มีค่าความหลากชนิดของศัตรูธรรมชาติ จากวิธีการใช้สวิงโฉบและการนับจานวนแมลง จากกอข้าว อยู่ที่ 0.7 - 0.15 และ 0.32 - 0.55 ตามลาดับ และพบว่าวิธีการปลูกข้าวที่แตกต่างกันไม่มีผลต่อการ เปลี่ยนแปลงจานวนประชากร ของศัตรูธรรมชาติและดัชนีความหลากหลายของศัตรูธรรมชาติ ในขณะท่ี วีรยุทธ สร้อยนาคและคณะ (2558) ศึกษาความหลากหลายของแมลงและแมงมุมในนาข้าวเขตชลประทาน จังหวัด พิษณุโลก โดยดาเนินการศึกษาในระยะข้าวแตกกอด้วยวิธีการสุ่มแบบธรรมดา โดยใช้สวิงโฉบ 30 ครั้งต่อจุด จานวน 3 จุด จากการศึกษาพบแมลงและแมงมุมท้ังหมด 78 ชนิด จัดจาแนกเป็นแมลงศัตรูข้าว 24 ชนิด แมลง ศตั รธู รรมชาติ 47 ชนิด และแมงมุมศัตรูธรรมชาติ 7 ชนิด มคี ่าดชั นี ความหลากหลายและดชั นีการกระจายตัวของ แมลงและแมงมุมท้ังหมด เท่ากับ 2.53 และ 0.58 ตามลาดับ โดยในส่วนของแมลงศัตรูข้าวมีค่าเท่ากับ 1.47 และ 0.46 ตามลาดับ นอกจากนี้ยังพบว่าจานวนแมลงศัตรูข้าวมีความสัมพันธ์กับแมลงศัตรูธรรมชาติ แต่ไม่มี ความสัมพันธ์กับปัจจัยทางกายภาพ ซึ่งมีความสอดคล้องกับผลการศึกษาของวงเดือน ฟักขา และคณะ (2560) ที่ ได้ศึกษาผลของระบบนิเวศวิศวกรรมในนาข้าวต่อความหลากหลายของแมลงและแมงมุมเมื่อเปรียบเทียบกับนา ข้าวปกติ โดยดาเนินการศึกษาในแปลงนา 2 แปลง แปลงท่ี 1 ทาการปลูกต้นปอเทืองรอบคันนา (Ecological engineering system) และแปลงที่ 2 เป็นแปลงนาข้าวปกติ (Control) ดาเนินการสุ่มโดยใช้สวิงโฉบ และจัด จาแนกชนิดของแมลงและแมงมุม วิเคราะหห์ าความหลากหลายและการกระจายตัว พรอ้ มกับเปรียบเทยี บสัดส่วน ของแมลงศัตรูข้าว แมลงศัตรูธรรมชาติ และแมงมุม นอกจากนี้ยังหาความสัมพันธ์ระหว่างจานวนของแมลงและ แมงมุมต่อปัจจัยทางกายภาพและปัจจัยทางชีวภาพ ผลการศึกษาพบว่าในแปลงท่ีปลูกต้นปอเทืองรอบคันนาและ แปลงนาข้าวปกติ พบแมลงในระดับวงศ์จานวน 79 และ 81 วงศ์ ตามลาดับ ในระดับชนิดพบแมลงจานวน 137 และ 133 ชนิด ตามลาดบั แมลงศตั รูข้าวมีค่าดัชนคี วามหลากหลายเทา่ กบั 1.04 1.11 และ 1.53 ตามลาดบั และมี ค่าดัชนีการกระจายตัว 0.33 0.33 และ 0.53 ตามลาดับ สัดส่วนของจานวนชนิดของแมลงศัตรูข้าว ในแปลงท่ีปลูกต้นปอเทืองรอบคันนาและแปลงนาข้าวปกติ คิดเป็น 17% และ 22% ตามลาดับ แมลงศัตรู ธรรมชาติคิดเป็น 50% และ 51% ตามลาดับ แมงมุมคิดเป็น 5% และ 4% ตามลาดับ และแมลงอื่น ๆ คิดเป็น 28% และ 23% ตามลาดับ แมลงศัตรูธรรมชาติมีค่าดัชนีความหลากหลายเท่ากับ 2.96, 2.31 และ 2.99 ตามลาดับ และมีค่าดัชนีการกระจายตัว 0.70, 0.53 และ 0.83 ตามลาดับ แมงมุมมีค่าดัชนีความหลากหลาย เท่ากับ 0.98, 0.95 และ 0.77 ตามลาดับ และมีค่าดัชนีการกระจายตัว 0.50, 0.59 และ 0.48 ตามลาดับ และพบ อีกวา่ การปลูกตน้ ปอเทืองรอบคนั นา มผี ลต่อจานวนชนิดของแมลงและแมงมุม โดยสง่ ผลให้มีความหลากหลายของ แมลงและแมงมุมมาก ทาให้ระบบนิเวศในแปลงนามีความสมดุลและมีส่วนช่วยลดแมลงศัตรูข้าวในแปลงนา นอกจากนี้ ยังพบว่าแมลงศัตรูข้าว มีความสัมพันธ์กับแมลงศัตรู ธรรมชาติมากท่ีสุด ในขณะเดียวกัน ปิยธิดา ฟองสังข์ และคณะ (2560) ศึกษาความหลากหลายของแมลงในสวนมะขาม ใช้วิธีการเก็บตัวอย่างแบบสุ่ม โดยใช้สวิงโฉบ พบแมลง 30 วงศ์ 8 อันดับ มีค่าดัชนีความหลากหลายเท่ากับ 0.458 แสดงให้เห็นว่าแมลงท่ีพบใน

2 พื้นที่ศึกษามีความหลากหลายน้อย ส่วนค่าดัชนีความเด่นมีค่าเท่ากับ 0.087 แสดงว่าแมลงที่พบในพื้นท่ีศึกษาไม่มี แมลงชนิดใดท่ีมีความเด่น และพบแมลงในอันดับ Hymenoptera มากที่สุด คิดเป็น 27.8% จากทั้งหมดซึ่งเป็น แมลงที่เป็นประโยชน์ในการผสมเกสร สอดคล้องกับผลการศึกษาของธัชคณิน จงจิตวิมล และคณะ (2559) ที่ได้ ศกึ ษา ความหลากหลายของแมลงในสวนแตงโม ใช้วธิ กี ารเกบ็ ตัวอย่างแบบสุ่มธรรมดา พบแมลงจานวน 19 วงศ 6 อันดับ มีค่าดัชนีความหลากหลายเท่ากับ 0.355 และมีค่าความเด่นเท่ากับ 0.255 อันดับที่พบมากท่ีสุด คือ อันดับ Hymenoptera คิดเป็น 59.69% จากท้ังหมด ต่อมาวีรนุช แซ่ต้ัง และคณะ (2561) ศึกษาโครงสร้างทาง ชุมชนและความหลากหลายทางชวี ภาพของแมลง ที่เปน็ ประโยชน์ต่อขา้ วสายพันธุต์ า่ ง ๆ โดยศกึ ษาจากพนั ธ์ขุ ้าว 3 สายพันธ์ุ คือ กข 41 ปทุมธานี 80 และพิษณุโลก 2 ดาเนินการศึกษาในช่วงระยะข้าวแตกกอ ใช้วิธีการสุ่มแบบ ธรรมดา โดยใช้สวิงโฉบตามแนวเส้นทแยงมุมของแปลงนา จานวน 20 โฉบ ทาการเก็บตัวอย่างทั้งหมด 3 คร้ัง รักษาสภาพตัวอย่างด้วยเอทิลแอลกอฮอล์ 95 % และจาแนกลักษณะทางสัณฐานวิทยาในห้องปฏิบัติการ ผลจากการศึกษาพบว่าคา่ ดชั นีความหลากหลายของแมลงโดยรวมมีค่าเท่ากับ 2.96 ท้งั นใ้ี นพันธขุ์ า้ ว กข 41 พบค่า ดัชนคี วามหลากหลาย คา่ ความสม่าเสมอ และดชั นคี วามเด่นโดยรวมตลอดการสารวจ มคี า่ มากทสี่ ุด ซงึ่ มีค่าเทา่ กับ 2.89 0.82 และ 0.91 ตามลาดับ ค่าความคล้ายคลึงระหว่างข้าว ทั้ง 3 สายพันธ์ุ อยู่ในระหว่าง 0.66 -0.74 นอกจากนี้ยังพบวา่ สายพันธ์ุข้าวไม่มีอิทธพิ ลต่อจานวนชนิดของแมลงที่เป็นประโยชน์ และจากการนับจานวนจาก กอข้าวพบศัตรูธรรมชาติ 57 ชนิด ทาให้ทราบว่าวิธีการปลูกข้าวที่แตกต่างกันไม่มีผลต่อการเปล่ียนแปลงจานวน ประชากรของศัตรธู รรมชาติและดชั นีความหลากหลายของศัตรธู รรมชาติ จากการศึกษางานวิจัยในต่างประเทศที่เก่ียวข้องกับความหลากหลายของแมลงในนาข้าวท่ีไม่ใช้สารเคมี พบงานวิจยั ท่เี กยี่ วข้อง ดงั น้ี Ovawanda et al (2016) ศกึ ษาดชั นีความหลากหลายทางชวี ภาพของแมลงโดยการวัดความสมบรู ณ์ของ สายพันธแ์ุ ละความหลากหลายของระบบนิเวศนาข้าวอินทรีย์และนาข้าวที่ไม่ใช้สารเคมี โดยทาการเก็บตวั อย่างใน ฤดกู าลเพาะปลูก ในเดือนเมษายน - พฤษภาคม ปี 2558 และตุลาคม - พฤศจิกายน ปี 2558 พบความหลากหลาย ของสายพันธ์ุ 13 ชนิด ในนาข้าวท่ีไม่ใช้สารเคมี ในขณะที่ในนาข้าวอินทรีย์พบความหลากหลายของสายพันธ์ุ 33 ชนดิ ซ่ึงมดี ชั นีความสม่าเสมอของสายพันธุ์และความหลากหลายทางชีวภาพในนาข้าวอินทรียส์ ูงกวา่ นาข้าวท่ีไม่ใช้ สารเคมี ทั้งในฤดูการเพาะปลูกเดือนเมษายน - พฤษภาคม ปี 2558 และเดือนตุลาคม - พฤศจิกายน ปี 2558 โดยรวมแล้วระบบนิเวศการปลูกข้าวแบบอินทรีย์มีความสม่าเสมอของสายพันธุแ์ ละความหลากหลายของแมลงสูง ซึ่งขัดแย้งกับผลการศึกษาของ Acosta et al (2017) ท่ีได้ทาการศึกษาความหลากหลายของแมลงในนาข้าว ใน พื้นท่ีทั้งหมด 18 เฮกตาร์ และแบ่งพื้นที่ศึกษาออกเป็น 2 ส่วน แต่ละส่วนมีพ้ืนท่ี 6,000 ตารางเมตร โดยทาการ เก็บตัวอยา่ งในช่วงเดอื นตลุ าคม ปี 2555 ถึงเดือนมีนาคม ปี 2556 เก็บตวั อย่างทุกสปั ดาหโ์ ดยใช้วธิ ีการส่มุ ในแปลง นา และบรเิ วณคนั นา ดาเนินการโฉบโดยใชส้ วงิ จัดจาแนกชนิดแมลงและวเิ คราะหค์ วามสมั พันธ์ทางพันธุกรรม พบ แมลงท้ังหมด 800 ตัว แบ่งเป็นแมลงท่ีเป็นผู้ย่อยสลาย แมลงท่ีกินพืชเป็นอาหาร แมลงที่เป็นปรสิตและผู้ล่า และ แมลงอ่ืน ๆ เมื่อวิเคราะห์ความสัมพันธ์ทางพันธุกรรมแสดงให้เห็นว่า มีความคล้ายคลึงกันมากกว่า 90 % ผล การศึกษาแสดงใหเ้ หน็ วา่ ในพนื้ ท่ีศกึ ษามีความหลากหลายของสายพันธุ์ เนอ่ื งจากมีความคลา้ ยคลึงกนั ของสายพันธ์ุ สูง และในปีเดียวกัน Mutamiswa et al (2017) ศึกษาความหลายหลายของศัตรูธรรมชาติท่ีมีแมลงประเภท หนอนเจาะลาต้นอาศัยในพื้นที่เพาะปลูกและในธรรมชาติของประเทศบอตสวานา โดยดาเนินการศึกษาในช่วงฤดู ร้อนของปี 2014 และปี 2015 ศัตรูธรรมชาติทพ่ี บบอ่ ยในพน้ื ทเ่ี พาะปลูก คอื ตวั เบียน และสายพันธ์ทุ ี่พบบ่อยที่สุด

3 คือ Cotesia flavipes. Cameron, C. sesamiae. (Cameron), Pediobius furvus. Gahan และ Gambroides nimbipennis. Seyrig ตามลาดับ ในธรรมชาติพบ Chelonus curvimaculatus. Cameron และ Goniozus indicus. Ashmead Heinrich ในระยะตัวอ่อนหรือปรสิต และพบ Dentichasmias busseolae. Heinrich, Linepithema humile. Mayr, Crematogaster peringueyi. Emery และสายพันธ์ุ Aenictus โดยแมลงอาศัยท่ี พบบ่อย คือ Chilo partellus. Swinhoe และ Sesamia spp. โดยพบความหลากหลายของตัวเบียน 2.1 และ 34.7 ในพื้นท่ีเพาะปลูกและในธรรมชาติตามลาดับ พบความหลากหลายตัวเบียนระยะปรสิต 6.1 – 10.6% และ 6.7 - 9.1% ในพื้นที่เพาะปลูกและในธรรมชาติ ตามลาดับ โดยท่ีในธรรมชาติ C. flavipes มีความเด่น มากกว่า C. curvimaculatus เปน็ 1.1 - 41.6% และ 4.8 - 38.1% จากผลการศกึ ษาแสดงใหเ้ ห็นว่าประเทศบอต สวานามีความอุดมสมบูรณ์ของธรรมชาติอยู่มาก เน่ืองจากมีความหลากหลายของศัตรูธรรมชาติสูง ในขณะที่ García et al (2019) ศึกษาความหลากหลายของศัตรูธรรมชาติในไร่องุ่น เมืองลา ริโอฮา ประเทศสเปน เพื่อ ประเมินอิทธิพลของลักษณะภูมิประเทศต่อความหลากหลายของศัตรูธรรมชาติในไร่องุ่น โดยทาการศึกษาในพ้นื ท่ี 5 แห่ง ได้แก่ ป่าเมดิเตอร์เรเนียน ป่าไม้เมดิเตอร์เรเนียน สวนมะกอก ทุ่งหญ้าธรรมชาติ และไร่องุ่น พบแมลง ศัตรูธรรมชาติ 28,640 ตวั จาแนกเปน็ 10 อันดับ คอื อันดับ Araneae อนั ดับ Coleoptera อันดบั Dermaptera อันดับ Diptera อันดับ Hemiptera อันดับ Hymenoptera อันดับ Mantodea อันดับ Neuroptera อันดับ Solifugae และอันดับ Thysanoptera โดยพบศัตรูธรรมชาติในทุ่งหญ้าธรรมชาติสูงท่ีสุด ผลการศึกษาแสดงให้ เห็นว่าศัตรูธรรมชาติส่วนใหญ่ชอบอาศัยในภูมิประเทศ แบบทุ่งหญ้า นอกจากนี้การศึกษาของ Ghani & Maalik (2020) ที่ได้ศึกษาความหลากหลายและความอุดมสมบูรณ์ของแมลง ทาการสุ่มตัวอย่างในพื้นท่ีที่แตกต่างกัน โดย ใช้สวิงโฉบ พบแมลงท้ังหมด 15 สายพันธ์ุ 9 วงศ์ โดยรวมพบความหลากหลายของสายพันธ์ุสูงสุดในช่วงเดือน มนี าคมถึงเมษายน พบ Schizaphis graminum. มคี วามโดดเดน่ มากทส่ี ดุ คิดเปน็ 17.52% จากท้ังหมด รองลงมา คอื Coccinella septempunctata. (L.) คิดเปน็ 11.83% ซึง่ จากการศึกษาพบวา่ ความหลากหลายและความเด่น ของแมลงศตั รูพืชสงู กว่าแมลงศตั รูธรรมชาติ

งานครงั้ ท่ี 1 อภิปรายในประเดน็ “ครวู ทิ ยาศาสตรค์ วรเปน็ อย่างไร หรอื มีลกั ษณะอย่างไร”

ใบงานครง้ั ท่ี 2 จงตอบคาถามต่อไปน้ี 1. อธิบายความหมายและความสาคญั ของการวจิ ัย 2. การวิจยั มปี ระโยชนอ์ ย่างไรบา้ ง 3. อธิบายคุณสมบัตทิ ีส่ าคัญของนักวิจยั 4. บอกความสาคัญของจรรยาบรรณของนกั วจิ ัย

งานครงั้ ท่ี 3 ให้นกั ศึกษาอภปิ รายบทบาทและความสาคญั ของการวิจยั ในเรื่องตา่ ง ๆ โดยมงี านวจิ ยั ที่ตีพมิ พใ์ นวารสาร ไม่เกนิ 5 ปี มาสนบั สนนุ ในแต่ละเรื่อง โดยเลอื กเพยี งคนละ 1 เรื่องทส่ี นใจ 1. เกษตรกรรม 2. การแพทย์ สาธารณสุข 3. การศึกษา 4. การค้า 5. อตุ สาหกรรม 6. สิง่ แวดลอ้ ม

ใบงานครงั้ ท่ี 4 ใหน้ กั ศึกษาอา่ นผลการวจิ ัยต่อไปน้ี 1.ผลการสารวจแมลงในนาข้าว 2.เอกสารงานวจิ ัยท่เี กย่ี วข้อง ให้นกั ศึกษาจัดกระทาข้อมูลจากตารางเพื่อนาเสนอการเขียนรายงานพร้อมทั้งอภปิ รายผลการวจิ ยั