139 สาระการเรียนรู้แกนกลาง / ทอ้ งถิน่ มาตรฐาน / ตัวชี้วดั ความรู้ (K) ทกั ษะ / คณุ ลกั ษณะ แกนกลาง ท้องถ่นิ กระบวนการ(P) (A) 5. อธบิ ายสาเหตุ กระบวนการเกดิ - กระบวนการเกิด ขนาดและ - - อธบิ าย - ใฝ่เรียนรู้ ขนาดและความรนุ แรง และผลจาก ความรนุ แรง - มงุ่ มน่ั ใน แผ่นดินไหว รวมทั้งสืบค้นข้อมลู การทางาน พ้ืนท่ีเสี่ยงภยั ออกแบบและ นาเสนอแนวทางการเฝ้าระวังและ การปฏบิ ตั ิตนใหป้ ลอดภัย 6. อธบิ ายสาเหตุ กระบวนการเกิด - กระบวนการเกิด และผล - - อธิบาย - ใฝ่เรยี นรู้ และผลจากสึนามิรวมท้ังสบื ค้น จากสึนามริ วมทัง้ สืบคน้ ข้อมูล - มุ่งมั่นใน ข้อมลู พ้ืนทเี่ สี่ยงภัย ออกแบบและ พ้นื ทเ่ี สี่ยงภยั การทางาน นาเสนอแนวทางการเฝา้ ระวงั และ การปฏบิ ัติตนใหป้ ลอดภยั 7. อธบิ ายปจั จัยสาคัญทมี่ ีผลต่อ - การได้รบั พลังงานจากดวง - - อธิบาย - ใฝเ่ รยี นรู้ การไดร้ บั พลังงานจากดวงอาทติ ย์ อาทติ ย์แตกต่างกันในแตล่ ะ - มุ่งมน่ั ใน แตกต่างกันในแตล่ ะบรเิ วณของโลก บริเวณของโลก การทางาน 8. อธบิ ายการหมุนเวยี นของอากาศ - การหมุนเวียนของอากาศ - - อธบิ าย - ใฝเ่ รียนรู้ ทเ่ี ปน็ ผลมาจากความแตกตา่ งของ ท่เี ป็นผลมาจากความแตกตา่ ง - มงุ่ มน่ั ใน ความกดอากาศ ของความกดอากาศ การทางาน 9. อธิบายทศิ ทางการเคล่ือนท่ขี อง - ทิศทางการเคล่ือนทขี่ อง - - อธบิ าย - ใฝเ่ รยี นรู้ อากาศ ทีเ่ ป็นผลมาจากการ อากาศ - มุ่งม่นั ใน หมนุ รอบตัวเองของโลก การทางาน 10. อธิบายการหมนุ เวยี นของ - การหมนุ เวียนของอากาศ - - อธิบาย - ใฝ่เรียนรู้ อากาศตามเขตละตจิ ูด และผลทม่ี ี ตามเขตละติจดู - มุ่งม่นั ใน ต่อภูมอิ ากาศ การทางาน 11. อธิบายปัจจยั ทที่ าใหเ้ กดิ การ - หมนุ เวียนของนา้ ผวิ หนา้ ใน - - อธบิ าย - ใฝเ่ รยี นรู้ หมนุ เวียนของนา้ ผวิ หนา้ ใน มหาสมุทร - มุ่งมัน่ ใน มหาสมุทร และรูปแบบการ การทางาน หมุนเวียนของน้าผิวหน้าใน มหาสมุทร 12. อธิบายผลของการหมนุ เวียน - การหมนุ เวยี นของอากาศ - - อธบิ าย - ใฝเ่ รียนรู้ ของอากาศและนา้ ผวิ หน้าใน และน้าผิวหนา้ ในมหาสมุทรที่ - มงุ่ มน่ั ใน มหาสมทุ รท่มี ีตอ่ ลักษณะภมู ิอากาศ มีต่อลักษณะภูมอิ ากาศ ลมฟา้ การทางาน ลมฟ้าอากาศ ส่ิงมีชวี ิต อากาศ สิ่งมชี ีวิต
140 สาระการเรยี นร้แู กนกลาง / ท้องถิ่น มาตรฐาน / ตวั ชี้วดั ความรู้ (K) ทักษะ / คณุ ลักษณะ แกนกลาง ทอ้ งถิน่ กระบวนการ(P) (A) 13. อธบิ ายปจั จัยที่มีผลตอ่ การ - เปล่ยี นแปลงภูมอิ ากาศของ - - สืบค้นข้อมูล - ใฝ่เรยี นรู้ เปลี่ยนแปลงภูมอิ ากาศของโลก โลก - อธบิ าย - มุ่งม่นั ใน พรอ้ มท้งั นาเสนอแนวปฏบิ ตั ิเพอ่ื ลด - ยกตัวอยา่ ง การทางาน กจิ กรรมของมนุษย์ ทสี่ ่งผลต่อการ เปลย่ี นแปลงภมู อิ ากาศโลก 14. แปลความหมายสัญลกั ษณล์ ม - สัญลักษณ์ลมฟา้ อากาศ ท่ี - - อธบิ าย - ใฝเ่ รยี นรู้ ฟ้าอากาศ ท่ีสาคัญจากแผนที่ สาคญั จากแผนทอ่ี ากาศ - มุง่ มั่นใน อากาศ และนาขอ้ มูลสารสนเทศ การทางาน ตา่ ง ๆ มาวางแผนการดาเนนิ ชีวติ ใหส้ อดคล้องกับสภาพลมฟ้าอากาศ
141 สาระการเรียนรแู้ กนกลาง / ทอ้ งถิ่น มาตรฐาน / ตัวช้ีวดั ความรู้ (K) ทักษะ / คุณลกั ษณะ สาระท่ี 4 เทคโนโลยี แกนกลาง ท้องถ่ิน กระบวนการ(P) (A) มาตรฐาน ว 4.2 เขา้ ใจและใช้แนวคิดเชิงคานวณใน การแก้ปัญหาท่ีพบในชวี ิตจรงิ อยา่ ง เปน็ ขั้นตอนและเปน็ ระบบ ใช้ เทคโนโลยีสารสนเทศและการ ส่ือสารในการเรยี นรู้ การทางาน และการแกป้ ญั หาได้อย่างมี ประสิทธภิ าพ รู้เท่าทัน และมี จริยธรรม ตัวชว้ี ัด - เทคโนโลยสี ารสนเทศท่ีมผี ล - - สบื คน้ ขอ้ มลู - ใฝ่เรียนรู้ 1. ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศในการ ตอ่ การดาเนนิ ชีวติ อาชพี - อธบิ าย - มุ่งม่นั ใน นาเสนอ และแบ่งปนั ข้อมูลอยา่ ง สังคม และวฒั นธรรม - ยกตวั อย่าง การทางาน ปลอดภัย มจี รยิ ธรรม และ วิเคราะหก์ ารเปลีย่ นแปลง เทคโนโลยสี ารสนเทศท่มี ผี ลต่อการ ดาเนินชีวิต อาชพี สงั คม และ วฒั นธรรม
142 คาอธิบายรายวชิ า ระดับมัธยมศกึ ษาตอนต้น
143 คาอธบิ ายรายวชิ าพื้นฐาน รายวิชา ว21101 วิทยาศาสตร์พ้นื ฐาน 1 ชนั้ มัธยมศึกษาปีท่ี 1 ภาคเรยี นท่ี 1 เวลา 40 ชั่วโมง จานวน 1.0 หนว่ ยกติ ศึกษา วเิ คราะห์ การเรยี นร้วู ิทยาศาสตร์ เซลล์ การลาเลียงสารเข้าออกเซลล์ การสังเคราะหด์ ้วย แสง การลาเลียงน้า การสืบพันธุ์และการขยายพันธุ์พืชดอก การเกดิ ผลและเมลด็ ธาตอุ าหารและอาหาร ของพชื สมบัติของสารบริสทุ ธ์ิ การจาแนกและองค์ประกอบของสารบรสิ ุทธิ์ การจดั เรยี งอนภุ าคของสาร ในสถานะตา่ งๆ โดยใชก้ ารสบื เสาะหาความรู้ การสารวจตรวจสอบ ทกั ษะกระบวนการทางวทิ ยาศาสตร์ และ ทักษะการเรยี นรู้ในศตวรรษที่ 21 การสบื ค้นข้อมูลและการอภปิ ราย เพอ่ื ให้เกิดความรู้ ความคดิ ความเข้าใจ สามารถส่ือสารสง่ิ ท่ีเรยี นรู้ มคี วามสามารถในการ ตัดสนิ ใจ การแก้ปัญหา การนาความรู้ไปใชใ้ นชวี ติ ประจาวัน มจี ติ วทิ ยาศาสตร์ จรยิ ธรรม คุณธรรมและ คา่ นิยมทีเ่ หมาะสม รหัสตัวชี้วดั ว 1.2 ม.1/1, ม.1/2, ม.1/3, ม.1/4, ม.1/5, ม.1/6, ม.1/7, ม.1/8, ม.1/9, ม.1/10, ม.1/11, ม.1/12, ม.1/13, ม.1/14, ม.1/15, ม.1/16, ม.1/17, ม.1/18 ว 2.1 ม.1/1, ม.1/2, ม.1/3, ม.1/4, ม.1/5, ม.1/6, ม.1/7, ม.1/8, ม.1/9 รวมท้ังหมด 27 ตวั ช้ีวัด
144 โครงสรา้ งรายวชิ าพืน้ ฐาน รายวิชา ว21101 วิทยาศาสตรพ์ ้ืนฐาน 1 ช้นั มธั ยมศกึ ษาปที ี่ 1 ภาคเรยี นที่ 1 เวลา 40 ช่ัวโมง จานวน 1.0 หน่วยกติ หนว่ ย ชื่อหน่วย มาตรฐานการ สาระสาคญั เวลา นา้ หนกั ที่ การเรยี นรู้ เรียนรู้/ตัวชี้วัด (ช่วั โมง) คะแนน 1 หนว่ ยพ้ืนฐาน ว 1.2 ม.1/1, - เซลล์เป็นหน่วยพื้นฐานของส่งิ มชี วี ิต 6 10 ของสงิ่ มชี ีวติ ม.1/2, - โครงสร้างพนื้ ฐานที่พบทัง้ ในเซลลพ์ ชื และเซลล์ ม.1/3, สตั ว์ ไดแ้ ก่ เย่อื หุ้มเซลล์ ไซโทพลาสซึม และ ม.1/4, นิวเคลยี ส โครงสร้างท่พี บในเซลลพ์ ชื แต่ไม่พบใน ม.1/5 เซลล์สัตว์ ไดแ้ ก่ ผนงั เซลลแ์ ละคลอโรพลาสต์ - การจดั ระบบทางานรว่ มกนั เปน็ ส่งิ มีชีวิต เรมิ่ จากเซลล์ไปเป็นเน้ือเย่ือ อวยั วะ ระบบอวัยวะ และสงิ่ มีชีวิต ตามลาดบั - การแพร่เป็นการเคล่ือนท่ขี องสารจากบริเวณทมี่ ี ความเขม้ ข้นของสารสงู ไปสบู่ ริเวณที่มคี วาม เขม้ ขน้ ของสารต่า - ออสโมซิส เป็นการแพรข่ องน้าผา่ นเยือ่ หุ้มเซลล์ 2 การดารงชวี ิต ว 1.2 ม.1/6, - กระบวนการสงั เคราะห์ด้วยแสงของพืชเกดิ ขึน้ 12 20 ของพืช ม.1/7, ในคลอโรพลาสต์ จาเป็นต้องใชแ้ สง แกส๊ คาร์บอน ม.1/8, ไดออกไซด์ และน้า ม.1/9, - ผลผลติ ของการสังเคราะหด์ ้วยแสงเปน็ ม.1/10, กระบวนการหลักในการสร้างแกส๊ ออกซิเจน ม.1/11, - ไซเล็มและโฟลเอ็ม เปน็ เน้ือเยอื่ มลี ักษณะคล้าย ม.1/12, ท่อเรียงตวั ยาว โดยไซเลม็ ทาหน้าทลี่ าเลยี งนา้ ม.1/13, และธาตุอาหาร มีทิศทางลาเลียงจากรากไปสูล่ า ม.1/14, ต้น ใบ และสว่ นต่างๆ ของพชื โฟลเอม็ ทาหน้าท่ี ม.1/15, ลาเลียงอาหารมีทิศทางลาเลยี งจากบรเิ วณท่ีมกี าร ม.1/16, สังเคราะหด์ ว้ ยแสงไปสสู่ ว่ นต่างๆ ของพืช ม.1/17, - การสืบพันธุแ์ บบอาศยั เพศของพชื ดอกเกิดข้นึ ท่ี ม.1/18 ดอก เกสรเพศผู้มีอับเรณู ทาหน้าที่สร้างสเปิร์ม เกสรเพศเมยี มรี งั ไขภ่ ายในออวุลมถี งุ เอมบรโิ อทา หน้าทสี่ รา้ งเซลล์ไข่ - การสบื พนั ธแุ์ บบไม่อาศัยเพศ เปน็ การสืบพนั ธทุ์ ่ี พืชต้นใหม่เกิดจากส่วนตา่ งๆ ของพืช เชน่ ราก ลา ต้น ใบ มกี ารเจริญเติบโตและพัฒนาขึ้นมาใหม่ได้ - พชื ตอ้ งการธาตุอาหารทจี่ าเป็นหลายชนิดในการ
145 หนว่ ย ช่ือหน่วย มาตรฐานการ สาระสาคัญ เวลา นา้ หนกั ที่ การเรียนรู้ เรยี นร/ู้ ตัวชวี้ ัด (ช่วั โมง) คะแนน เจรญิ เตบิ โตและการดารงชีวิต - เทคโนโลยกี ารเพาะเลยี้ งเนื้อเยอ่ื พืช จะได้พชื จานวนมากในระยะเวลาสนั้ และสามารถนามา ประยุกต์เพอื่ การอนรุ กั ษ์พันธุกรรมพืช ปรับปรุง พนั ธ์ุพชื ท่ีมีความ สาคัญทางเศรษฐกจิ การผลิตยา และสารสาคญั ในพชื และอืน่ ๆ 3 สารบริสุทธ์ิ ว 2.1 ม.1/1, - สารบริสุทธ์ปิ ระกอบดว้ ยสารเพยี งชนิดเดยี ว 6 10 ม.1/2, สารผสมประกอบดว้ ยสารตัง้ แต่ 2 ชนดิ ขึ้นไป สาร ม.1/3, บรสิ ทุ ธิม์ ีจดุ เดือด จดุ หลอมเหลว ความ ม.1/4, หนาแนน่ คงที่แตส่ ารผสมมีจุดเดอื ด จดุ ม.1/5, หลอมเหลวและความหนาแน่นไม่คงท่ี ขึน้ อยูก่ ับ ชนิดและสดั ส่วนของสารทีผ่ สมอยู่ดว้ ย 4 อนุภาคสาร ว 2.1 ม.1/6, - สารบรสิ ทุ ธแ์ิ บง่ ออกเป็นธาตแุ ละสารประกอบ 12 20 ม.1/7, ธาตปุ ระกอบด้วยอนภุ าคท่ีเล็กทส่ี ุดที่ยังแสดง ม.1/8, สมบตั ขิ องธาตนุ น้ั เรียกวา่ อะตอม ธาตแุ ตล่ ะชนดิ ประกอบดว้ ยอะตอมเพียงชนิดเดยี วและไม่ สามารถแยกสลายเปน็ สารอ่ืนได้ สารประกอบเกิด จากอะตอมของธาตุ ตงั้ แต่ 2 ชนิดขึน้ ไปรวมตัว กนั ทางเคมีในอตั ราส่วนคงที่ มีสมบัติแตกตา่ งจาก ธาตุที่เปน็ องค์ประกอบสามารถแยกเปน็ ธาตุได้ ดว้ ยวธิ ที างเคมี - อะตอมประกอบดว้ ยโปรตอน นวิ ตรอน และ อิเล็ก- ตรอน โปรตอนมีประจุไฟฟา้ บวกเท่ากัน นวิ ตรอนเปน็ กลางทางไฟฟ้า อิเลก็ ตรอนมปี ระจุ ไฟฟา้ ลบ อะตอมมจี านวนโปรตอนเทา่ กับจานวน อิเล็กตรอน จะเป็นกลาง ทางไฟฟ้า โปรตอนและนวิ ตรอนรวมกันตรงกลาง อะตอมเรียกวา่ นวิ เคลยี ส สว่ นอเิ ลก็ ตรอน เคลอ่ื นท่ีอยูใ่ นที่ว่างรอบนิวเคลียส - สสารทกุ ชนิดประกอบดว้ ยอนุภาค โดยสารชนิด เดยี ว กนั ทมี่ ีสถานะของแขง็ ของเหลว แก๊ส จะมี การจดั เรียงอนุภาค แรงยดึ เหนย่ี วระหวา่ งอนภุ าค การเคลือ่ นที่ของอนุภาคแตกตา่ งกนั ซงึ่ มผี ลต่อ รูปร่างและปริมาตรของสสาร
หน่วย ชื่อหน่วย มาตรฐานการ สาระสาคัญ 146 ท่ี การเรยี นรู้ เรยี นรู้/ตัวชวี้ ดั เวลา นา้ หนัก สอบกลางภาค (ช่วั โมง) คะแนน สอบปลายภาค 20 20 รวมตลอดภาคเรียน 40 100
147 คาอธบิ ายรายวิชาพืน้ ฐาน รายวิชา ว21102 วิทยาศาสตร์พื้นฐาน 2 ชัน้ มัธยมศกึ ษาปีที่ 1 ภาคเรียนท่ี 2 เวลา 40 ชั่วโมง จานวน 1.0 หน่วยกิต ศึกษา วิเคราะห์ การใช้เทอร์มอมิเตอร์ในการวัดอุณหภูมิสาร คานวณปริมาณความร้อนท่ีทาให้ สสารเปลี่ยนสถานะ เปล่ียนอุณหภูมิ การถ่ายโอนพลังงานความรอ้ น สมดุลความร้อน ช้ันบรรยากาศ ผล ของรงั สีจากดวงอาทิตย์ต่อบรรยากาศ อุณหภูมอิ ากาศ ความดันอากาศ ความช้ืนอากาศ ลม เมฆ ฝน พายุ ฟา้ คะนอง พายหุ มุนเขตร้อน มรสุม การพยากรณอ์ ากาศ การเปล่ียนแปลงอุณหภูมิอากาศของโลก มลพิษ ทางอากาศ โดยใช้การสืบเสาะหาความรู้ การสารวจตรวจสอบ ทักษะกระบวนการการทางวิทยาศาสตร์ และ ทกั ษะการเรยี นรู้ในศตวรรษท่ี 21 การสืบค้นข้อมลู และการอภปิ ราย เพ่อื ใหเ้ กิดความรู้ ความคิด ความเข้าใจ สามารถส่ือสารสงิ่ ท่ีเรียนรู้ มคี วามสามารถในการ ตดั สนิ ใจ การแก้ปัญหา การนาความรไู้ ปใช้ในชีวิตประจาวัน มีจติ วทิ ยาศาสตร์ จริยธรรม คณุ ธรรมและ คา่ นยิ มท่เี หมาะสม ตวั ชีว้ ัด ว 2.1 ม.1/10 ว 2.2 ม.1/1 ว 2.3 ม.1/1, ม.1/2, ม.1/3, ม.1/4, ม.1/5, ม.1/6, ม.1/7 ว 3.2 ม.1/1, ม.1/2, ม.1/3, ม.1/4, ม.1/5, ม.1/6, ม.1/7 รวมทั้งหมด 16 ตวั ชี้วดั
148 โครงสรา้ งรายวิชาพ้ืนฐาน รายวชิ า ว21102 วิทยาศาสตร์พ้นื ฐาน 2 ชั้นมธั ยมศกึ ษาปที ่ี 1 ภาคเรียนท่ี 2 เวลา 40 ชั่วโมง จานวน 1.0 หน่วยกิต หนว่ ย ชอ่ื หน่วย มาตรฐานการ สาระสาคัญ เวลา น้าหนัก ท่ี การเรียนรู้ เรียนรู้/ตวั ชี้วดั (ช่วั โมง) คะแนน 1 ความรอ้ น ว 2.1 ม.1/9, - เมอื่ สสารได้รับหรือสญู เสียความรอ้ นอาจ 12 20 กบั การ ม.1/10 เปลยี่ นอณุ หภูมิ เปล่ยี นสถานะ หรือเปล่ียน เปล่ยี นแปลง ว 2.3 ม.1/1, รูปรา่ ง ปริมาณความร้อนท่ีทาให้สสารเปลยี่ น ของสาร ม.1/2, อุณหภมู ิขน้ึ กับมวล ความร้อนจาเพาะและ ม.1/3, อุณหภมู ทิ เี่ ปลยี่ นไป ปรมิ าณ ความรอ้ นท่ีทาให้ ม.1/4 สสารเปล่ียนสถานะขน้ึ กับมวลและความร้อนแฝง จาเพาะ โดยขณะท่สี สารเปลีย่ นสถานะ อุณหภมู ิ จะไมเ่ ปล่ยี นแปลง ความร้อนทาใหส้ สารขยายตัว หรือหดตวั ได้ 2 การถา่ ยโอน ว 2.3 ม.1/5, - ความรอ้ นถา่ ยโอนจากสสารท่ีมอี ุณหภูมิสงู กวา่ 8 10 พลังงาน ม.1/6, ไปยงั สสารทม่ี ีอุณหภมู ติ ่ากวา่ จนกระทง่ั อุณหภมู ิ ความรอ้ น ม.1/7 ของสสารทง้ั สองเท่ากนั สภาพทสี่ สารทงั้ สองมี อณุ หภมู เิ ท่ากนั เรียกวา่ สมดุลความร้อน เมอ่ื เกิดสมดุลความร้อน ความรอ้ นที่เพิ่มข้ึนของ สสารหนง่ึ จะเทา่ กบั ความร้อนท่ลี ดลงของอีก สสารหนงึ่ - การถ่ายโอนความร้อนมี 3 แบบ คือ การนา ความร้อน การพาความร้อนและการแผ่รงั สคี วาม ร้อน - ความรู้เกีย่ วกับการถ่ายโอนความรอ้ นสามารถ นาไปใช้ประโยชนใ์ นชวี ิตประจาวันได้ 3 ลมฟ้า ว 2.2 ม.1/1 - บรรยากาศแบง่ ได้เป็น 5 ชั้น ไดแ้ ก่ โทรโพส 10 20 อากาศ ว 3.2 ม.1/1, เฟียร์ สตราโตสเฟยี ร์ มโี ซสเฟียร์ เทอร์โมสเฟยี ร์ รอบตวั และเอกโซสเฟียร์ แต่ละชน้ั มีความสาคัญแตกตา่ ง ม.1/2, กนั ม.1/3, - ลมฟา้ อากาศเป็นสภาวะของอากาศในเวลาหน่ึง ของพ้ืนทหี่ น่ึงท่ีมีการเปลีย่ นแปลงตลอดเวลา
149 หนว่ ย ชอ่ื หน่วย มาตรฐานการ สาระสาคัญ เวลา นา้ หนกั ท่ี การเรยี นรู้ เรียนรู้/ตัวชี้วดั (ช่ัวโมง) คะแนน ขน้ึ อยู่กับ อณุ หภูมิอากาศ ความกดอากาศ ลม ความชน้ื เมฆ และหยาดน้าฟ้า - องค์ประกอบลมฟ้าอากาศเปลีย่ นแปลง ตลอดเวลาข้นึ อยู่กบั ปริมาณรังสีจากดวงอาทิตย์ และลกั ษณะพ้นื ผิวโลกสง่ ผลต่ออุณหภมู ิอากาศ และปรมิ าณไอน้าสง่ ผลต่อความชนื้ ความกด อากาศส่งผลต่อลม ความชน้ื ความชื้นและลม สง่ ผลตอ่ เมฆ - เมื่อวตั ถุอยู่ในอากาศจะมีแรงทอ่ี ากาศกระทา ตอ่ วัตถุในทุกทิศทาง ขึ้นอยู่กับขนาดพ้นื ทข่ี อง วัตถุน้นั แรงท่ีอากาศกระทาตั้งฉากกับผิววตั ถตุ ่อ หนงึ่ หนว่ ยพน้ื ที่เรยี กวา่ ความดันอากาศ ความดัน อากาศมคี วาม สัมพนั ธ์กบั ความสงู จากพื้นโลก โดยบรเิ วณท่สี ูงจากพื้นโลกข้ึนไป อากาศเบาบาง ลง มวลอากาศน้อยลง ความดนั อากาศลดลง - พายุฝนฟา้ คะนอง เกดิ จากอากาศที่มอี ุณหภูมิ และความชนื้ สูงเคล่ือนที่ขึ้นสรู่ ะดบั ความสงู ท่ีมี อณุ หภูมติ า่ ลงจนกระท่ังไอนา้ ในอากาศเกดิ การ ควบแนน่ เปน็ ละอองน้า และเกดิ ตอ่ เน่ืองเปน็ เมฆ ขนาดใหญ่ ทาให้เกิดฝนตกหนกั ลมกรรโชกแรง ฟา้ แลบ ฟา้ ผ่า - พายุหมุนเขตร้อนเกดิ เหนอื มหาสมุทรหรือทะเล ทาให้อากาศท่ีมีอณุ หภูมแิ ละความช้นื สูงบรเิ วณ น้นั เคลือ่ นท่ีสูงขนึ้ อย่างรวดเรว็ เปน็ บริเวณกว้าง อากาศจากบริเวณอ่ืนเคลอ่ื นเขา้ มาแทนท่ีและพดั เวียนเข้าหาศนู ยก์ ลางของพายุ ย่งิ ใกล้ศนู ยก์ ลาง อากาศจะเคลอื่ น ที่พดั เวียนเกือบเปน็ วงกลมและ มอี ัตราเร็วสูงท่สี ดุ 4 มนุษยแ์ ละ ว 3.2 ม.1/4, - การพยากรณ์อากาศเปน็ การคาดการณล์ มฟา้ 6 10 การ ม.1/5, อากาศทจ่ี ะเกดิ ขึ้นในอนาคต โดยตรวจวดั เปลีย่ นแปลง ม.1/6, องค์ประกอบลมฟา้ อากาศ การสอ่ื สาร ลมฟา้ ม.1/7, แลกเปลย่ี นขอ้ มูลระหว่างพื้นท่ี การวเิ คราะห์ อากาศ ข้อมูลและสร้างคาพยากรณ์อากาศ ซึง่ สามารถ นามาใช้ประโยชนด์ า้ นตา่ งๆ เช่น การใช้ ชวี ิตประจาวนั การคมนาคม การเกษตร การ
150 หน่วย ชื่อหน่วย มาตรฐานการ สาระสาคญั เวลา นา้ หนัก ท่ี การเรียนรู้ เรียนรู้/ตวั ชวี้ ัด (ช่วั โมง) คะแนน ปอ้ งกัน และเฝา้ ระวังภัยพบิ ัติทางธรรมชาติ - ภูมิอากาศโลกเปล่ยี นแปลงอย่างต่อเน่ืองโดย ปัจจัยทางธรรมชาติ และเปล่ียนแปลงอย่าง รวดเร็วเนือ่ งจากมนุษยป์ ลดปล่อยแกส๊ เรือน กระจกสูบ่ รรยากาศ การเปลย่ี นแปลงภูมอิ ากาศ โลกกอ่ ใหเ้ กิดผลกระทบต่อส่งิ มชี วี ิตและ ส่ิงแวดลอ้ ม เช่น การหลอมเหลวของนา้ แข็งขั้ว โลก การเพิม่ ขึน้ ของระดับทะเล การเปลี่ยนแปลง วัฏจักรนา้ การเกิดโรคอุบัตใิ หม่และอุบตั ิซา้ และ การเกิดภยั พิบัติทางธรรมชาติทีร่ นุ แรง สอบกลางภาค 2 20 สอบปลายภาค 2 20 รวมตลอดภาคเรยี น 40 100
151 คาอธบิ ายรายวชิ าพื้นฐาน รายวิชา ว21103 วิทยาการคานวณ 1 ชัน้ มธั ยมศกึ ษาปีท่ี 1 ภาคเรียนที่ 1 เวลา 20 ชั่วโมง จานวน 0.5 หนว่ ยกติ ศึกษาแนวคิดเชิงนามธรรม การคัดเลือกคุณลักษณะท่ีจาเป็นต่อการแก้ปัญหา ข้ันตอนการ แก้ปัญหา การเขียนรหัสลาลองและผังงาน การออกแบบและเขียนโปรแกรมอย่างง่ายที่มีการใช้ตัวแปร เง่ือนไข และการวนซ้า การออกแบบอัลกอริทึมเพ่ือแก้ปัญหาทางคณิตศาสตร์หรือวิทยาศาสตร์ การใช้ ซอฟตแ์ วร์ท่ใี ช้ในการเขยี นโปรแกรม เช่น Scratch, python, java, c เป็นต้น ปฏิบัติการออกแบบอัลกอริทึม เขียนรหัสลาลองและผังงาน ออกแบบและเขียนโปรแกรมอย่าง ง่าย โดยใช้ทักษะการแก้ปัญหา ทักษะการคิดวิเคราะห์ ทักษะการสืบค้นข้อมูล ทักษะการสื่อสาร ทักษะ การทางาน และทกั ษะการเรยี นรรู้ ว่ มกนั เพื่อให้มีความรู้ ความเข้าใจ สามารถประยุกต์ใช้แนวคิดเชิงนามธรรมในการเขียนโปรแกรมหรือ การแก้ปัญหาที่พบในชีวิตจริง เห็นความสาคัญของการแก้ปัญหาอย่างเป็นข้ันตอน ใช้เทคโนโลยี สารสนเทศและการส่ือสารอย่างสร้างสรรค์และรับผดิ ชอบต่อสังคม ตัวชวี้ ัด ว 4.2 ม.1/1, ม.1/2 รวมทั้งหมด 2 ตวั ชี้วัด
152 โครงสรา้ งรายวชิ าพ้ืนฐาน รายวิชา ว21103 วทิ ยาการคานวณ 1 ชนั้ มธั ยมศึกษาปีที่ 1 ภาคเรียนท่ี 1 จานวน 0.5 หน่วยกติ เวลา 20 ชว่ั โมง หนว่ ย ชอื่ หน่วย มาตรฐานการ สาระสาคญั เวลา นา้ หนัก ที่ การเรียนรู้ เรยี นร/ู้ ตวั ชว้ี ัด (ช่วั โมง) คะแนน 1 แนวคดิ เชงิ ว 4.2 ม.1/1 แนวคิดเชิงนามธรรม การคัดเลอื กคุณลักษณะท่ี 2 10 นามธรรม จาเปน็ ตอ่ การแก้ปัญหา การถ่ายทอด รายละเอียดของปญั หาและการแก้ปญั หา 2 การแก้ปัญหา ว 4.2 ม.1/1, ขั้นตอนการแก้ปัญหา การเขยี นรหัสลาลองและ 2 10 ม.1/2 ผังงาน การกาหนดคา่ ตวั แปร ภาษาโปรแกรม 3 การแกป้ ัญหา ว 4.2 ม.1/1, รู้จกั ไพทอน ตัวแปร ชนิดข้อมูลพื้นฐาน การ 8 40 ด้วยภาษา ม.1/2 แปลงชนดิ ข้อมูล การเขยี นโปรแกรมไพทอนใน ไพทอน โหมดสคริปต์ การทางานแบบวนซา้ การทางาน แบบมีทางเลือก 4 การโปรแกรม ว 4.2 ม.1/1, โปรแกรม Scratch การทางานแบบวนซ้า ตัว 8 40 ดว้ ย Scratch ม.1/2 แปร การทางานแบบมีทางเลือก คาสัง่ วนซา้ แบบ มีเงื่อนไข รวม 20 100
153 คาอธิบายรายวิชาพน้ื ฐาน รายวชิ า ว21104 วิทยาการคานวณ 2 ช้ันมธั ยมศึกษาปีท่ี 1 ภาคเรียนท่ี 2 เวลา 20 ช่ัวโมง จานวน 0.5 หน่วยกติ ศึกษาการรวบรวมข้อมูลปฐมภูมิ การประมวลผลข้อมูล การสร้างทางเลือกและประเมินผลเพ่ือ ตัดสินใจ การใช้ซอฟต์แวร์และบริการบนอินเทอร์เน็ตในการจัดการข้อมูล แนวทางการใช้งานเทคโนโลยี สารสนเทศให้ปลอดภัย การจัดการอัตลักษณ์ การพิจารณาความเหมาะสมของเน้ือหา ข้อตกลงและ ข้อกาหนดการใชส้ ื่อและแหล่งข้อมูล ปฏิบัติการสร้างแบบสอบถามและรวบรวมข้อมูลจากแหล่งปฐมภูมิ ใช้ซอฟต์แวร์และบริการบน อินเทอร์เน็ตในการจัดการข้อมูล โดยใช้ทักษะการแก้ปัญหา ทักษะการคิดวิเคราะห์ ทักษะการสื่อสาร ทกั ษะการคน้ หาและประเมินข้อมลู ข่าวสาร ทักษะการทางาน และทกั ษะการเรยี นรรู้ ว่ มกัน เพื่อให้มีความรู้ ความเข้าใจเกี่ยวกับการจัดการข้อมูล และตระหนักถึงสิทธิส่วนบุคคลในการ จัดเก็บข้อมูล การอ้างอิงแหล่งข้อมูลท่ีถูกต้อง ครบถ้วน มีจิตสานึกในการใช้ข้อมูลจริงในการประมวลผล ตลอดจนใช้เทคโนโลยีสารสนเทศและการสอ่ื สารอย่างปลอดภยั และรบั ผิดชอบต่อสังคม ตัวชี้วัด ว 4.2 ม.1/3, ม.1/4 รวมท้ังหมด 2 ตวั ชว้ี ดั
154 โครงสร้างรายวชิ าพนื้ ฐาน รายวชิ า ว21104 วทิ ยาการคานวณ 2 ชัน้ มัธยมศึกษาปีที่ 1 ภาคเรียนท่ี 2 จานวน 0.5 หน่วยกิต เวลา 20 ช่ัวโมง/ภาคเรยี น หนว่ ย ช่ือหน่วย มาตรฐานการ สาระสาคัญ เวลา นา้ หนกั (ชวั่ โมง) คะแนน ที่ การเรียนรู้ เรยี นรู้/ตัวชวี้ ดั 1 ขอ้ มูลและการ ว 4.2 ม.1/3 การรวบรวมขอ้ มลู ปฐมภูมิ 5 30 ประมวลผล การประมวลผลข้อมลู 2 ซอฟต์แวรจ์ ัดการกบั ว 4.2 ม.1/3 การสร้างทางเลือกและประเมินผล 10 40 ขอ้ มูล เพื่อตัดสินใจ การใช้ซอฟต์แวร์และบรกิ ารบน อนิ เทอร์เน็ตในการจัดการข้อมลู 3 การใชเ้ ทคโนโลยี ว 4.2 ม.1/4 แนวทางการใชง้ านเทคโนโลยี 5 30 สารสนเทศ สารสนเทศให้ปลอดภัย การจัดการอตั ลกั ษณ์ การพิจารณา ความเหมาะสมของเน้ือหา ข้อตกลง และข้อกาหนด การใช้ส่ือและ แหลง่ ข้อมลู รวม 20 100
155 คาอธิบายรายวิชาพน้ื ฐาน รายวชิ า ว21105 การออกแบบและเทคโนโลยี 1 ช้นั มัธยมศกึ ษาปีท่ี 1 ภาคเรียนท่ี 2 เวลา 20 ช่ัวโมง จานวน 0.5 หน่วยกิต ศึกษาและอธิบายแนวคิดหลักของเทคโนโลยีในชีวิตประจาวัน วิเคราะห์สาเหตุหรือปัจจัยที่ส่งผล ต่อการเปล่ียนแปลงของเทคโนโลยี การทางานของระบบเทคโนโลยี การระบุปัญหาหรือความต้องการใน ชีวิตประจาวัน เช่น การเกษตร การอาหาร การวิเคราะห์ เปรียบเทียบ และตัดสินใจเลือกข้อมูลท่ีจาเป็น เพ่ือออกแบบวิธีการแก้ปัญหา การตรวจสอบช้ินงานหรือวิธีการที่ใช้แก้ปัญหาโดยการทดสอบ ประเมินผล ระบุข้อบกพร่องทเี่ กิดขึ้น ตลอดจนแนวทางการปรับปรงุ แก้ไขและการนาเสนอผลงาน ศึกษาคณุ สมบัตขิ อง วสั ดุ เช่น ไม้ โลหะ พลาสติก การใช้อุปกรณ์ เครื่องมือ กลไก ไฟฟ้าและอิเลก็ ทรอนิกส์ เช่น LED บัชเชอร์ มอเตอร์ วงจรไฟฟา้ ในการสรา้ งชิ้นงานเพื่อแกป้ ญั หา ปฏิบัติโดยใช้ทักษะกระบวนการออกแบบเชิงวิศวกรรม การคิดเชิงระบบ การคิดสร้างสรรค์ การ คิดอย่างมีวจิ ารณญาณ การสอ่ื สาร และการทางานร่วมกับผอู้ ่นื เพอ่ื ให้มีความรู้ ความเขา้ ใจเก่ียวกับเทคโนโลยี เลือกใช้วัสดุ อปุ กรณ์ เครอื่ งมอื กลไกล ไฟฟา้ และ อิเล็กทรอนิกส์แก้ปัญหาได้อย่างถูกต้องเหมาะสมปลอดภัย คานึงถึงผลกระทบต่อชีวิต สังคม เศรษฐกิจ และส่ิงแวดล้อม รวมทัง้ คานงึ ถึงทรัพยส์ ินทางปญั ญา ตวั ชว้ี ัด ว 4.1 ม.1/1, ม.1/2, ม.1/3, ม.1/4, ม.1/5 รวมท้ังหมด 5 ตวั ช้ีวัด
156 โครงสรา้ งรายวชิ าพื้นฐาน รายวชิ า ว21105 การออกแบบและเทคโนโลยี 1 ชั้นมัธยมศกึ ษาปีที่ 1 ภาคเรยี นที่ 2 จานวน 0.5 หนว่ ยกิต เวลา 20 ชวั่ โมง หน่วย ชอ่ื หน่วย มาตรฐานการ สาระสาคญั เวลา น้าหนัก ท่ี การเรยี นรู้ เรยี นร้/ู ตวั ช้วี ัด (ช่ัวโมง) คะแนน 1 เทคโนโลยีใน ว 4.1 ม.1/1 แนวคดิ หลักของเทคโนโลยี 5 25 ชีวติ ประจาวัน สาเหตแุ ละปจั จัยทส่ี ่งผลต่อการ เปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยี การทางานของระบบเทคโนโลยี 2 ขอ้ มูลและการ ว 4.1 ม.1/2 การระบุปญั หาหรือความตอ้ งการใน 5 25 วเิ คราะห์ข้อมลู ชีวิตประจาวัน การวิเคราะห์ เปรยี บเทียบ และตดั สินใจเลือก ขอ้ มลู ท่จี าเปน็ เพ่ือออกแบบวิธกี าร แก้ปัญหา 3 ตรวจสอบและ ว 4.1 ม.1/3, การตรวจสอบชิ้นงานหรือวิธีการที่ใช้ 5 25 แกป้ ญั หา ม.1/4 แก้ปัญหาโดยการทดสอบ ประเมินผล ระบุข้อบกพร่องท่ีเกดิ ข้ึน ตลอดจนแนวทางการปรบั ปรุงแก้ไข และการนาเสนอผลงาน ศึกษา คณุ สมบัติของวสั ดใุ นการสร้าง ชน้ิ งานเพื่อแกป้ ัญหา 4 เทคโนโลยีและ ว 4.1 ม.1/5 ความเข้าใจเกีย่ วกับเทคโนโลยี การ 5 25 ทรพั ย์สนิ ทางปัญญา เลือกใชว้ ัสดุ อปุ กรณ์ เคร่ืองมือ กลไก ไฟฟา้ และอิเล็กทรอนิกส์ การแกป้ ัญหาอยา่ งถกู ตอ้ งเหมาะสม ปลอดภยั ผลกระทบต่อชีวิต สังคม เศรษฐกจิ ส่ิงแวดลอ้ ม และทรัพย์สิน ทางปัญญา รวม 20 100
157 คาอธบิ ายรายวชิ าพ้นื ฐาน รายวิชา ว22101 วิทยาศาสตร์พ้ืนฐาน 3 ชั้นมธั ยมศกึ ษาปีที่ 2 ภาคเรียนที่ 1 เวลา 40 ช่ัวโมง จานวน 1.0 หน่วยกิต ศกึ ษา ทดลอง วิเคราะห์ อธบิ าย การแยกสารผสมโดยการระเหยแห้ง การตกผลกึ การกล่นั อยา่ ง ง่าย โครมาโทรกราฟีแบบกระดาษ การสกัดด้วยตัวทาละลาย ตัวละลาย ตัวทาละลาย อุณหภูมิและความ ดันท่ีมีต่อสภาพละลายได้ของสาร ความเข้มข้นของสารละลายและหน่วยความเข้มข้น การเคลื่อนท่ีของ วัตถุที่เป็นผลของแรงลัพธ์ที่เกิดจากแรงหลายแรงท่ีกระทาต่อวัตถุ แรงพยุง การจม การลอยของวัตถุใน ของเหลว แรงเสียดทานสถิตและแรงเสียดทานจลน์ โมเมนต์ของแรง แหล่งของสนามแม่เหล็ก สนามไฟฟ้า และสนามโนม้ ถ่วงและทิศทางของแรงท่ีกระทาต่อวัตถุที่อยู่ในสนาม ความสัมพันธ์ของขนาด แรงแมเ่ หล็ก แรงไฟฟา้ และแรงโน้มถ่วงท่ีกระทาต่อวัตถุ อัตราเร็วและความเร็วของการเคลื่อนท่ีของวัตถุ การกระจัดและความเร็ว เครื่องกลอย่างง่าย และการทางานของเคร่ืองกลอย่างง่ายบางชนิด การเปลี่ยน และการถ่ายโอนพลงั งานตามกฎการอนรุ กั ษพ์ ลงั งาน โดยใช้กระบวนการทางวิทยาศาสตร์ วัสดุ อุปกรณ์ เคร่ืองมือ กลไก ไฟฟ้า และอิเล็กทรอนิกส์ เพื่อแกป้ ญั หาหรอื พัฒนางานไดอ้ ย่างถูกต้องเหมาะสม และปลอดภยั เพื่อให้เกิดความรู้ความเข้าใจ สามารถส่ือสารสิ่งท่ีเรียนรู้ มีความสามารถในการตัดสินใจ การออกแบบวิธีการแก้ปัญหา การใช้ทักษะชีวิต การใช้เทคโนโลยี การนาความรู้ไปใช้ในชีวิตประจาวันได้ อย่างถูกตอ้ ง เหมาะสม และปลอดภัย มจี ิตวทิ ยาศาสตร์ จรยิ ธรรม คณุ ธรรม และคา่ นิยมทเ่ี หมาะสม ตัวชี้วัด ว 2.1 ม.2/1, ม.2/2, ม.2/3, ม.2/4, ม.2/5, ม.2/6 ว 2.2 ม.2/1, ม.2/2, ม.2/3, ม.2/4, ม.2/5, ม.2/6, ม.2/7, ม.2/8, ม.2/9, ม.2/10, ม.2/11, ม.2/12, ม.2/13, ม.2/14, ม.2/15 ว 2.3 ม.2/1, ม.2/2, ม.2/3, ม.2/4, ม.2/5, ม.2/6 รวมทัง้ หมด 27 ตัวชว้ี ัด
158 โครงสร้างรายวชิ าพื้นฐาน รายวชิ า ว22101 วิทยาศาสตร์พนื้ ฐาน 3 ชน้ั มธั ยมศึกษาปีที่ 2 ภาคเรยี นที่ 1 จานวน 1.0 หนว่ ยกติ เวลา 20 ช่วั โมง หน่วย ชื่อหน่วย มาตรฐานการ สาระสาคัญ เวลา น้าหนกั ท่ี การเรียนรู้ เรยี นรู้/ตัวชว้ี ัด (ชวั่ โมง) คะแนน 1 สารละลายและการ ว 2.1 ม.2/1, - การแยกสารผสมโดยการระเหย 13 30 จาแนก ม.2/2, แห้ง การตกผลกึ การกลน่ั อย่างง่าย ม.2/3, โครมาโทรกราฟีแบบกระดาษ ม.2/4, การสกดั ด้วยตัวทาละลาย ไปใช้ ม.2/5, แก้ปญั หาในชีวิตประจาวันโดยบูรณา ม.2/6 การวิทยาศาสตร์ คณติ ศาสตร์ เทคโนโลยี และวิศวกรรมศาสตร์ สารละลายอาจมีสถานะเป็นของแข็ง ของเหลว และแก๊ส สารละลาย ประกอบดว้ ยตัวทาละลาย และตวั ละลายปริมาณตัวละลายใน สารละลายในหน่วยความเข้มขน้ เปน็ ร้อยละ ปรมิ าตรต่อปริมาตร มวลตอ่ มวล และมวลต่อปริมาตรร้อยละโดย มวลตอ่ ปรมิ าตร เปน็ การระบุมวลตวั ละลายในสารละลาย 100 หน่วย ปรมิ าตร การใชส้ ารละลายใน ชีวติ ประจาวัน ควรพิจารณาจาก ความเขม้ ข้นของสารละลาย ขึน้ อยู่ กับจุดประสงคข์ องการใช้งาน และ ผลกระทบต่อสง่ิ ชีวิตและส่ิงแวดลอ้ ม 2 แรงและการเคล่ือนท่ี ว 2.2 ม.2/1, แรงเปน็ ปริมาณเวกเตอร์ เมื่อมีแรง 15 40 ม.2/2, ม.2/3, หลาย ๆ แรงกระทาตอ่ วตั ถุ แลว้ แรง ม.2/4, ม.2/5, ลัพธท์ ี่กระทาต่อวตั ถุมีค่าเป็นศูนย์ ม.2/6, ม.2/7, วัตถุจะไม่เปลีย่ นแปลง การเคลอื่ นที่ ม.2/8, ม.2/9, แตถ่ า้ แรงลัพธ์ท่ีกระทาต่อวัตถมุ คี ่าไม่ ม.2/10, เปน็ ศนู ย์ วตั ถุจะเปลยี่ นแปลงการ ม.2/11, เคลื่อนทเ่ี มือ่ วัตถุอยู่ในของเหลวจะมี ม.2/12, แรงทข่ี องเหลวกระทาต่อวัตถุในทกุ ม.2/13, ทศิ ทาง ความดันของของเหลวมี
หนว่ ย ช่อื หน่วย มาตรฐานการ สาระสาคัญ เวลา 159 ที่ การเรยี นรู้ เรยี นร/ู้ ตวั ช้วี ัด (ช่วั โมง) น้าหนกั 3 งานและพลังงาน คะแนน ม.2/14, ความสมั พนั ธ์กับความลึกจากระดบั ม.2/15 ผิวหน้าของของเหลวเมอ่ื วตั ถุอยู่ใน ของเหลว จะมีแรงพยุงเนือ่ งจาก ของเหลวกระทาต่อวัตถุโดยมีทิศข้นึ ในแนวดิง่ การจมหรือการลอยแรง เสียดทานเปน็ แรงทเี่ กดิ ขึ้นระหวา่ ง ผวิ สัมผสั ของวัตถขุ นาดของแรงเสยี ด ทานระหวา่ งผิวสัมผัสของวตั ถุ โมเมนต์ของแรง เม่ือวัตถุอยใู่ นสภาพ สมดลุ ต่อการหมุน และคานวณโดย ใชส้ มการ M = Fl สนามแมเ่ หลก็ สนามไฟฟ้า และสนามโนม้ ถ่วง และ ทศิ ทางของแรงที่กระทาต่อวัตถุทอี่ ยู่ ในแตล่ ะสนามขนาดของแรงแม่เหล็ก แรงไฟฟา้ และแรงโน้มถว่ งท่กี ระทา ต่อวตั ถุที่อยู่ในสนามนน้ั ๆ กับ ระยะหา่ งจากแหลง่ ของสนาม อัตราเรว็ และความเรว็ ของการ เคลอ่ื นท่ีของวตั ถุ โดยใช้สมการ v= s/t และ v=s/t ว 2.3 ม.2/1, -งานและกาลงั ทเ่ี กิดจากแรงท่ีกระทา 12 30 ม.2/2, ตอ่ วัตถุโดยใชส้ มการ W=Fs และ ม.2/3, P=W/t พลังงาน (Energy) คือ ม.2/4, ความสามารถในการทางานได้ของ ม.2/5, วตั ถุหรอื สสารตา่ งๆ พลังงานไม่ ม.2/6 สามารถสรา้ งขน้ึ ใหมไ่ ด้ แต่สามารถ เปลย่ี นรูปได้ พลงั งานกลได้แก่ พลังงานจลน์และพลงั งานศกั ย์ กฎ การอนุรักษ์พลังงาน (law of conservation of energy) กล่าววา่ “พลงั งานเปน็ ส่งิ ทไี่ ม่สามารถสรา้ ง ขึ้นใหม่และไม่สามารถทาใหส้ ูญหาย หรอื ทาลายได้ แต่จะเกดิ การเปลยี่ น รูปพลังงานจากรูปหนงึ่ ไปเปน็ อกี รูป
หนว่ ย ชื่อหน่วย มาตรฐานการ สาระสาคัญ 160 ที่ การเรียนรู้ เรียนรู้/ตวั ชว้ี ดั เวลา นา้ หนกั หน่ึง (ชัว่ โมง) คะแนน รวม 40 100
161 คาอธิบายรายวชิ าพ้ืนฐาน รายวชิ า ว22102 วิทยาศาสตร์พนื้ ฐาน 4 ช้นั มัธยมศกึ ษาปีที่ 2 ภาคเรียนที่ 2 เวลา 40 ชั่วโมง จานวน 1.0 หน่วยกติ ศกึ ษา ทดลอง อธบิ าย โครงสรา้ งและหน้าท่ีของระบบหายใจ การและเปลี่ยนก๊าซ ระบบขับถา่ ย ทางไต ระบบหมนุ เวียนเลือด ระบบประสาทสว่ นกลาง ระบบสืบพันธุ์ ฮอร์โมนเพศ การตกไข่ การมี ประจาเดอื น การปฏิสนธิ และการพัฒนาของไซโกตจนคลอดเปน็ ทารก ความสาคัญของระบบตา่ งๆ การ ใช้ประโยชน์และผลกระทบจากการใช้เชอ้ื เพลงิ ซากดกึ ดาบรรพ์ พลงั งานทดแทน โครงสรา้ งและ องค์ประกอบของโลก กระบวนการและผลของการผุพังอยกู่ ับที่ การกร่อน การพดั พา การทับถม ลักษณะ ชน้ั หน้าตดั ดิน กระบวนการเกิดและสมบตั ิของดิน การใช้ประโยชน์ดิน กระบวนการเกิดแหล่งน้าผิวดินและ แหลง่ น้าใตด้ ิน แนวทางการใช้นา้ อยา่ งยง่ั ยืนในท้องถิน่ ผลกระทบจากนา้ ท่วม การกดั เซาะ หลุมยบุ แผ่นดินทรดุ โดยใช้กระบวนการทางวิทยาศาสตร์ เพื่อฝึกทักษะเปรียบเทียบ ทดลอง เขียนแผนภาพ นาเสนอ แนวทางแกไ้ ข วเิ คราะห์ สรปุ ผล และการใชห้ ลกั ฐานเชิงประจกั ษ์ เพื่อให้เกิดความตระหนัก ความรู้ ความคิด ความเข้าใจ สามารถส่ือสารสิ่งท่ีเรียนรู้ มี ความสามารถในการตัดสินใจ การออกแบบวิธีการแก้ปัญหา การใช้ทักษะชีวิต การใช้เทคโนโลยี การนา ความรู้ไปใช้ในชีวิตประจาวัน ได้อย่างถูกต้อง เหมาะสม และปลอดภัย มีจิตวิทยาศาสตร์ จริยธรรม คณุ ธรรม และคา่ นิยมท่เี หมาะสม ตวั ชี้วดั ว 1.2 ม.2/1, ม.2/2, ม.2/3, ม.2/4, ม.2/5, ม.2/6, ม.2/7, ม.2/8, ม.2/9, ม.2/10, ม.2/11, ม.2/12, ม.2/13, ม.2/14, ม.2/15, ม.2/16, ม.2/17 ว 3.2 ม.2/1, ม.2/2, ม.2/3, ม.2/4, ม.2/5, ม.2/6, ม.2/7, ม.2/8, ม.2/9, ม.2/10 รวมทั้งหมด 27 ตัวช้ีวดั
162 โครงสรา้ งรายวิชาพน้ื ฐาน รายวชิ า ว22102 วทิ ยาศาสตร์พืน้ ฐาน 4 ชั้นมัธยมศึกษาปที ี่ 2 ภาคเรียนที่ 2 เวลา 20 ชวั่ โมง จานวน 1.0 หน่วยกติ หนว่ ย ชอ่ื หน่วย มาตรฐานการ สาระสาคญั เวลา นา้ หนัก ท่ี การเรียนรู้ เรียนร้/ู ตวั ชี้วัด (ชั่วโมง) คะแนน 1 เรอ่ื ง ระบบ ว1.2 ม.2/1, -ระบบหายใจมีอวัยวะต่าง ๆ เชน่ 18 40 ตา่ งๆของ ม.2/2, ม.2/3, ระบบหายใจ การแลกเปลี่ยนแกส๊ รา่ ยกาย ม.2/4, ม.2/5, อวัยวะทีเ่ กีย่ วข้อง ไดแ้ กจ่ มกู ท่อลม ม.2/6, ม.2/7, ปอด กะบงั ลม และกระดูกซี่โครง ม.2/8, ม.2/9, มนุษย์หายใจเข้าเพื่อนาแก๊สออกซิเจน ม.2/10, เข้าส่รู า่ งกาย เพ่ือนาไปใชใ้ นเซลล์ และ ม.2/11, หายใจออกเพ่ือกาจดั แกส๊ ควบคุมโดย ม.2/12 แก็สคารบ์ อนไดออกไซดก์ ารลกเปล่ยี น แกส๊ ออกซิเจน กบั แก๊ส คารบ์ อนไดออกไซด์ ในรา่ งกาย เกิดขึน้ บรเิ วณถงุ ลมในปอดกับหลอด เลอื ดฝอยท่ีถงุ ลมและระหวา่ ง หลอด เลอื ดฝอยกับเนอ้ื เย่ือ -ระบบขับถา่ ยทางไต มีอวยั วะที่ เกย่ี วข้อง คือ ไต ทอ่ ไต กระเพาะ ปสั สาวะ และท่อปัสสาวะ โดยมไี ตทา หนา้ ทีก่ าจัดของเสยี เช่น ยเู รีย แอมโมเนยี กรดยูรกิ รวมท้ังสารท่ี รา่ งกายไม่ต้องการออกจากเลือด และ ควบคุมสารที่มีมาก หรือน้อยเกินไป เชน่ นา้ โดยขับออกมาในรูปของ ปสั สาวะ -การเลือกรบั ประทานอาหารท่ี เหมาะสม เช่นรบั ประทานอาหารท่ีไม่ มีรสเคม็ จัด การด่ืมนา้ สะอาดให้ เพยี งพอ เปน็ แนวทางหนงึ่ ทช่ี ่วยให้ ระบบขบั ถา่ ยทาหนา้ ทีไ่ ด้อย่างปกติ
หน่วย ชื่อหน่วย มาตรฐานการ สาระสาคญั เวลา 163 ที่ การเรียนรู้ เรยี นรู้/ตวั ชวี้ ดั (ชัว่ โมง) นา้ หนัก คะแนน -ระบบหมุนเวยี นเลอื ด มีโครงสร้าง และหนา้ ทข่ี องหวั ใจ หลอดเลือด และ เลือด การทางานของระบบหมนุ เวยี น เลอื ด โดยใชแ้ บบจาลอง -ระบบประสาทสว่ นกลาง ระบบ ประสาทสว่ นกลาง ประกอบด้วยสมอง และไขสันหลัง จะทาหน้าทีร่ ่วมกับ เสน้ ประสาท ซ่ึงเป็น ระบบประสาท รอบนอก ในการควบคุมการทางาน ของอวัยวะต่างๆ รวมถงึ การแสดง พฤติกรรมเพ่ือการตอบสนองตอ่ ส่ิงเรา้ -ระบบสบื พันธ์ุ ประกอบดว้ ยรังไขใ่ น เพศหญิงจะทาหน้าที่ผลติ เซลลไ์ ข่ ส่วน อณั ฑะในเพศชายจะทาหนา้ ท่ีสรา้ ง เซลลอ์ สจุ ิ ฮอร์โมนเพศทาหน้าท่ี ควบคมุ การแสดงออกของลกั ษณะทาง เพศที่แตกต่างกันการมปี ระจาเดอื น มี ความสัมพนั ธ์กับการตกไข่โดยเป็นผล จากการเปลี่ยนแปลงของระดับ ฮอร์โมน เพศหญงิ
หนว่ ย ช่อื หน่วย มาตรฐานการ สาระสาคัญ เวลา 164 ท่ี การเรยี นรู้ เรยี นรู้/ตัวชวี้ ดั (ช่วั โมง) น้าหนัก คะแนน 2 เรือ่ ง ว3.2 ม.2/1, -เช้อื เพลงิ ซากดึกดาบรรพ์ เกิดจากการ 10 30 ทรัพยากร ม.2/2, ม.2/3, เปลยี่ นแปลงสภาพของซากสง่ิ มชี วี ติ ใน 12 30 ธรณี ม.2/7, ม.2/8, อดีตโดยกระบวนการทางเคมีและ ม.2/9, ม. ธรณวี ิทยา เชอื้ เพลิงซากดกึ ดาบรรพ์ 2/10 ไดแ้ ก่ ถ่านหนิ หินน้ามัน และ ปโิ ตรเลยี ม ซึ่งเกิดจากวตั ถุต้นกาเนิด และสภาพแวดลอ้ มการเกิดที่แตกตา่ ง กนั -การเผาไหม้เชื้อเพลงิ ซากดึกดาบรรพ์ เชน่ แกส๊ คารบ์ อนไดออกไซด์ และ ไน ตรัสออกไซด์ ยังเป็นแก๊สเรือนกระจก ซึง่ ส่งผลให้เกดิ การเปลี่ยนแปลง ภมู ิอากาศของโลกรนุ แรงข้ึน ดงั นนั้ จงึ ควรใชเ้ ชอื้ เพลิงซากดึกดาบรรพ์ โดย คานงึ ถงึ ผล ทเ่ี กิดข้นึ ต่อส่งิ มชี ีวิตและ สงิ่ แวดล้อม จงึ มีการใชพ้ ลงั งาน ทดแทนมากขึน้ เชน่ พลังงาน แสงอาทติ ย์ พลัง งานลม พลังงานนา้ พลังงานชีวมวล พลังงานคล่นื พลังงานความร้อนใต้ พิภพ พลงั งานไฮโดรเจน 3 เร่อื ง โลก ว3.2 ม.2/4, โครงสรา้ งภายในโลกแบง่ ออกเปน็ ช้นั และการ ม.2/5 ตามองคป์ ระกอบทางเคมี ได้แก่ เปลี่ยนแปลง เปลือกโลก ประกอบดว้ ยสารประกอบ ของซลิ ิกอน และอะลูมิเนียมเปน็ หลัก เนือ้ โลกคือ มอี งคป์ ระกอบหลกั เป็น สารประกอบของซิลกิ อน แมกนเี ซยี ม และเหล็ก และแกน่ โลกอยู่ใจกลางของ โลก มอี งค์ประกอบหลักเป็นเหล็กและ นกิ เกลิ ซึ่งแตล่ ะชั้นมลี กั ษณะ แตกตา่ งกนั -การผุพังอย่กู ับที่ การกร่อน และการ สะสมตัวของตะกอน เปน็ กระบวนการ เปลยี่ นแปลงทางธรณวี ทิ ยาท่ีทาใหผ้ วิ โลกเกิดการเปล่ยี นแปลงเป็นภมู ิลักษณ์
หน่วย ชอื่ หน่วย มาตรฐานการ สาระสาคัญ เวลา 165 ที่ การเรยี นรู้ เรียนรู้/ตัวช้ีวัด (ชวั่ โมง) น้าหนกั คะแนน แบบต่างๆ โดยมปี จั จยั สาคัญคอื น้า ลม ธารนา้ แขง็ แรงโน้มถว่ งของโลก สงิ่ มชี วี ิต สภาพอากาศ และปฏิกริ ิยา เคมี -การผพุ ังอยู่กบั ท่ี คือ การท่หี ินผุพัง ทาลายลงด้วยกระบวนการต่าง ๆ ได้แก่ ลมฟา้ อากาศกับน้าฝน และ รวมทงั้ การกระทาของต้นไมก้ ับ แบคทีเรยี ตลอดจนการแตกตัวทาง กลศาสตรซ์ ่งึ มีการเพิ่มและลดอุณหภูมิ สลับกนั เปน็ ตน้ -การกร่อน คือ กระบวนการหนึง่ หรื อหลายกระบวนการที่ทาใหส้ ารเปลอื ก โลกหลดุ ไป -การสะสมตัวของตะกอน คือ การ สะสมตัวของวัตถุจากการนาพาของนา้ ลม หรอื ธารนา้ แขง็ -ดนิ เกิดจากหนิ ท่ผี ุพงั ตามธรรมชาติ ผสมคลกุ เคลา้ กับอนิ ทรยี วัตถุท่ไี ดจ้ าก การเนา่ เปอื่ ยของซากพืช ซากสัตว์ ทับ ถมเปน็ ช้ัน ๆ บนผวิ โลก -การเรยี กช่ือชัน้ ดินหลกั จะใช้อกั ษร ภาษาอังกฤษตวั ใหญ่ ไดแ้ ก่ O, A, E, B, C, R ช้ันหนา้ ตัดดิน เปน็ ชนั้ ดินท่ีมี ลักษณะปรากฏให้เห็นเรียงลาดบั เป็น ช้นั จากชนั้ บนสุดถึงชัน้ ลา่ งสุด -สมบตั ิบางประการของดิน โดยใช้ เคร่ืองมอื ท่ีเหมาะสมและนาเสนอแนว ทางการใช้ประโยชนด์ นิ
หน่วย ชอื่ หน่วย มาตรฐานการ สาระสาคญั เวลา 166 ที่ การเรียนรู้ เรียนรู้/ตวั ช้ีวัด (ช่วั โมง) นา้ หนัก คะแนน -ปัจจัยและกระบวนการเกดิ แหล่งน้า ผวิ ดนิ และแหล่งน้าใต้ดิน แหลง่ น้าผิว ดินและแหลง่ นา้ ใตด้ ินถูกนามาใชใ้ น กิจกรรมต่าง ๆ ของมนษุ ย์ ส่งผลตอ่ การจัดการการใชป้ ระโยชนน์ ้าและ คณุ ภาพของแหลง่ น้า -น้าทว่ ม การกดั เซาะชายฝ่งั ดนิ ถลม่ หลุมยบุ แผน่ ดนิ ทรุด มีกระบวนการ เกดิ และผลกระทบท่ีแตกตา่ งกนั ซง่ึ อาจสรา้ งความเสยี หายรา้ ยแรงแก่ชีวิต และทรัพย์สนิ
167 คาอธิบายรายวชิ าพ้ืนฐาน รายวิชา ว22103 วิทยาการคานวณ 3 ชน้ั มัธยมศึกษาปีท่ี 2 ภาคเรยี นท่ี 1 เวลา 20 ชั่วโมง จานวน 0.5 หน่วยกติ ศึกษา วิเคราะห์ และอภิปรายเก่ียวกับการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศอย่างปลอดภัย การใช้ เทคโนโลยีสารสนเทศอย่างมีความรับผิดชอบ การสร้างและแสดงสิทธิความเป็นเจ้าของผลงาน และการ กาหนดสิทธิ์การใช้ข้อมูล แนวคิดเชิงคานวณ การแก้ปัญหาโดยใช้แนวคิดเชิงคานวณ ตัวดาเนินการบูลีน การออกแบบและเขียนโปรแกรมท่ีมีการใช้ตรรกะและฟังก์ชั่น การออกแบบอัลกอริทึมเพ่ือแก้ปัญหา ซอฟตแ์ วร์ท่ีใช้ในการเขียนโปรแกรม เช่น Scratch, python, java, c เป็นต้น ปฏิบัติการสร้างและแสดงสิทธิความเป็นเจ้าของผลงาน กาหนดสิทธิ์การใช้ข้อมูล ออกแบบ ขน้ั ตอนการแก้ปัญหาโดยใช้แนวคิดเชิงคานวณ ออกแบบและใช้ซอฟต์แวร์ในการเขียนโปรแกรมท่ีมกี ารใช้ ตรรกะและฟังก์ชั่น โดยใช้ทักษะการแก้ปัญหา ทักษะการคิดวิเคราะห์ ทักษะการสืบค้นข้อมูล ทักษะการ สอื่ สาร ทกั ษะการทางาน และทักษะการเรียนรรู้ ่วมกัน เพ่ือให้มีความรู้ ความเข้าใจ ตระหนักและเห็นความสาคัญของการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศอย่าง ปลอดภัยและมีความรับผดิ ชอบต่อสังคม สรา้ งและแสดงสทิ ธ์ิในการเผยแพรผ่ ลงานได้อยา่ งเหมาะสม เห็น ความสาคัญของการแก้ปัญหาอย่างเป็นขั้นตอน ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศและการส่ือสารอย่างสร้างสรรค์ และรบั ผิดชอบตอ่ สังคม ตัวชว้ี ัด ว 4.2 ม.2/1, ม.2/2, ม.2/4 รวมทง้ั หมด 3 ตัวชว้ี ัด
168 โครงสร้างรายวชิ าพ้นื ฐาน รายวิชา ว22103 วิทยาการคานวณ 3 ชัน้ มัธยมศึกษาปีที่ 2 ภาคเรยี นท่ี 1 เวลา 20 ชั่วโมง จานวน 0.5 หน่วยกติ หนว่ ย ชื่อหน่วย มาตรฐานการ สาระสาคญั เวลา น้าหนกั ที่ การเรียนรู้ เรยี นร/ู้ ตัวชว้ี ดั (ชว่ั โมง) คะแนน 1 การใช้เทคโนโลยี ว 4.2 ม.2/4 การใชเ้ ทคโนโลยสี ารสนเทศอย่าง 4 20 อยา่ งปลอดภยั ปลอดภัย มีความรบั ผดิ ชอบ การสร้าง และแสดงสิทธคิ วามเปน็ เจา้ ของผลงาน การกาหนดสทิ ธิ์การใชข้ ้อมลู 2 แนวคิดเชิงคานวณ ว 4.2 ม.2/1 แนวคิดเชิงคานวณ การแก้ปัญหาโดย 6 30 ใชแ้ นวคดิ เชิงคานวณ การออกแบบ ขั้นตอนการแก้ปัญหาโดยใชแ้ นวคดิ เชงิ คานวณ 3 การแก้ปัญหาและ ว 4.2 ม.2/2 การดาเนนิ การบลู ีน การออกแบบการ 10 50 การโปรแกรม เขียนโปรแกรมท่ีมกี ารใช้ตรรกะและ ฟังก์ช่ัน การออกแบบอลั กอริทมึ เพ่ือ แกป้ ญั หา ซอฟต์แวร์ทใ่ี ชใ้ นการเขียน โปรแกรม เช่น Scratch, python, java, c เป็นต้น รวม 20 100
169 คาอธิบายรายวชิ าพื้นฐาน รายวิชา ว22104 วิทยาการคานวณ 4 ชั้นมธั ยมศกึ ษาปีท่ี 2 ภาคเรยี นที่ 2 เวลา 20 ช่ัวโมง จานวน 0.5 หนว่ ยกติ ศึกษา วิเคราะห์เก่ียวกับการออกแบบอัลกอริทึมเพ่ือแก้ปัญหา ซอฟต์แวร์ท่ีใช้ในการเขียน โปรแกรม เช่น Scratch, python, java, c เป็นต้น อภิปรายองค์ประกอบและหลักการทางานของระบบ คอมพิวเตอร์ เทคโนโลยีการสื่อสาร การประยกุ ต์ใชง้ านเทคโนโลยีการสื่อสารและการแกป้ ัญหาเบื้องตน้ โดยใช้ทักษะการปฏิบัติ การแก้ปัญหา การคิดวิเคราะห์ การสืบค้นข้อมูล ทักษะการสื่อสาร ทกั ษะการทางาน และทักษะการเรียนรู้ร่วมกัน เพื่อให้มีความรู้ ความเข้าใจเกี่ยวกับระบบคอมพิวเตอร์และเทคโนโลยีการส่ือสาร สามารถ ประยุกต์ใชแ้ นวคิดเชิงคานวณในการเขียนโปรแกรมหรือการแกป้ ัญหาที่พบในชีวติ จรงิ ตวั ชีว้ ดั ว 4.2 ม.2/2, ม.2/3 รวมทงั้ หมด 2 ตัวชว้ี ดั
170 โครงสรา้ งรายวิชาพน้ื ฐาน รายวชิ า ว22104 วทิ ยาการคานวณ 4 ชั้นมธั ยมศึกษาปีท่ี 2 ภาคเรียนที่ 2 เวลา 20 ชั่วโมง จานวน 0.5 หน่วยกิต หน่วย ชื่อหน่วย มาตรฐานการ สาระสาคญั เวลา น้าหนกั ที่ การเรียนรู้ เรียนร้/ู ตัวช้ีวัด (ชั่วโมง) คะแนน 1 การเขยี นโปรแกรม ว 4.2 ม.2/2 การใชง้ านซอฟต์แวร์ทใ่ี ชใ้ นการ 10 50 ดว้ ยซอฟแวร์ เขียนโปรแกรม เช่น Scratch, python, java, c 2 หลกั การทางานของ ว 4.2 ม.2/3 หลกั การทางานของระบบ 5 25 ระบบคอมพิวเตอร์ คอมพวิ เตอร์ 3 เทคโนโลยกี าร ว 4.2 ม.2/3 เทคโนโลยกี ารสอื่ สาร 5 25 สอ่ื สาร การประยุกต์ใช้งานและการส่ือสาร เบ้อื งต้น รวม 20 100
171 คาอธิบายรายวชิ าพนื้ ฐาน รายวชิ า ว22105 การออกแบบและเทคโนโลยี 2 ช้ันมธั ยมศกึ ษาปีที่ 2 ภาคเรยี นท่ี 2 เวลา 20 ช่ัวโมง จานวน 0.5 หนว่ ยกติ ศึกษาแนวโน้มของเทคโนโลยี สาเหตุและปัจจัยที่ทาให้เทคโนโลยีมีการเปล่ียนแปลง วิเคราะห์ เปรียบเทียบข้อดี ข้อเสีย และผลกระทบของเทคโนโลยีที่มีต่อชีวิต สังคม และสิ่งแวดล้อม การระบุปัญหา หรือความต้องการในชุมชนหรือท้องถ่ิน เช่น ด้านพลังงาน สิ่งแวดล้อม การเกษตร การอาหาร การ วิเคราะห์สถานการณ์เพ่ือสรุปกรอบของปัญหา ออกแบบวิธีการแก้ปัญหาภายใต้เง่ือนไขและทรัพยากร เช่น งบประมาณ เวลา ข้อมูลและสารสนเทศ วัสดุ เคร่ืองมือและอุปกรณ์ การออกแบบวิธีการแก้ปัญหา วิธีการนาเสนอแนวทางแก้ปัญหาและดาเนินการแก้ปัญหาอย่างเป็นขั้นตอน การตรวจสอบช้ินงานหรือ วิธีการที่ใช้แก้ปัญหาภายใต้กรอบเงอื่ นไข โดยการทดสอบ ประเมินผล และอธิบายปัญหาหรือข้อบกพร่อง ที่เกิดขึ้น แนวทางการปรับปรุงแก้ไขและการนาเสนอผลงาน ศึกษาคุณสมบัติของวัสดุ เช่น ไม้ โลหะ พลาสตกิ การใช้อปุ กรณ์ เคร่ืองมือ กลไก ไฟฟ้าและอเิ ล็กทรอนิกส์ เช่น LED มอเตอร์ บัชเชอร์ เฟือง รอก ลอ้ เพลา ในการสรา้ งช้ินงานเพ่อื แกป้ ัญหาหรอื พฒั นางาน โดยใช้ทักษะกระบวนการออกแบบเชิงวศิ วกรรม การคิดเชงิ ระบบ การคิดสร้างสรรค์ การคิดอยา่ ง มวี จิ ารณญาณ การสอ่ื สาร และการทางานร่วมกบั ผอู้ ่นื เพ่ือใหม้ ีความรู้ ความเขา้ ใจเก่ียวกับเทคโนโลยี เลอื กใช้วัสดุ อปุ กรณ์ เครอ่ื งมอื กลไกล ไฟฟา้ และ อิเล็กทรอนิกส์แก้ปัญหาได้อย่างถูกต้องเหมาะสมปลอดภัย เลือกใช้เทคโนโลยีโดยคานึงถึงผลกระทบต่อ ชวี ิต สังคม เศรษฐกจิ และสิง่ แวดล้อม รวมทัง้ คานึงถงึ ทรัพย์สนิ ทางปัญญา ตวั ช้วี ดั ว 4.1 ม.2/1, ม.2/2, ม.2/3, ม.2/4, ม.2/5 รวมทั้งหมด 5 ตวั ชี้วัด
172 โครงสร้างรายวชิ าพ้ืนฐาน รายวิชา ว22105 การออกแบบและเทคโนโลยี 2 ช้นั มัธยมศกึ ษาปีท่ี 2 ภาคเรยี นท่ี 2 เวลา 20 ช่ัวโมง จานวน 0.5 หนว่ ยกิต หนว่ ย ช่ือหน่วย มาตรฐานการ สาระสาคญั เวลา นา้ หนกั ท่ี การเรยี นรู้ เรยี นรู้/ตัวชีว้ ดั (ช่วั โมง) คะแนน 1 ผลกระทบของ ว 4.1 ม.2/1, แนวโนม้ ของเทคโนโลยี สาเหตแุ ละ 5 20 เทคโนโลยตี อ่ ชีวิต ม.2/2 ปจั จัยของการเปลยี่ นแปลงเทคโนโลยี ข้อดี ข้อเสีย ของเทคโนโลยี ผลกระทบของเทคโนโลยตี ่อชีวติ การ ระบปุ ัญหาและความต้องการ เทคโนโลยตี ่างตา่ งๆ ของชุมชนหรือ ท้องถิน่ 2 ออกแบบและทดสอบ ว 4.1 ม.2/3, การออกแบบวิธีการแกป้ ญั หา โดย 5 30 เพือ่ แก้ปัญหา ม.2/4 วิเคราะห์เปรียบเทียบ และตัดสนิ ใจ เลอื กข้อมลู ทจ่ี าเป็นภายใต้เงื่อนไข และทรัพยากรทม่ี อี ยู่ การนาเสนอ แนวทางการแกป้ ญั หาใหผ้ ูอ้ ่ืนเข้าใจ การวางแผนขัน้ ตอนการทางานและ ดาเนินการแกป้ ญั หาอยา่ งเปน็ ขัน้ ตอน การทดสอบ ประเมนิ ผล การอธบิ าย ปัญหาหรอื ข้อบกพรอ่ งทเี่ กิดข้ึน ภายใตก้ รอบเงือ่ นไข พร้อมท้ังหาแนว ทางการปรบั ปรงุ แก้ไข และการ นาเสนอผลการแกป้ ญั หา 3 การออกแบบสรา้ ง ว 4.1 ม.2/5 การเลือกวัสดใุ หเ้ หมาะกับช้ินงาน 10 50 ชิน้ งาน การใชค้ วามรู้ และทักษะเกย่ี วกบั วสั ดุ อุปกรณ์ เครื่องมือ กลไก ไฟฟ้า และ อิเลก็ ทรอนิกส์ ออกแบบสร้างชนิ้ งาน เพื่อแก้ปญั หาหรือพัฒนางานไดอ้ ยา่ ง ถูกตอ้ ง เหมาะสม และปลอดภยั รวม 20 100
173 คาอธิบายรายวชิ าพื้นฐาน รายวชิ า ว23101 วิทยาศาสตรพ์ ืน้ ฐาน 5 ช้นั มธั ยมศึกษาปีท่ี 3 ภาคเรยี นท่ี 1 เวลา 40 ชั่วโมง จานวน 1.0 หน่วยกิต ศึกษา วิเคราะห สมบัติทางกายภาพและการใช้ประโยชน์วัสดุประเภทพอลิเมอร์ เซรามิกส์ และ วัสดุผสม โดยใช้หลักฐานเชิงประจักษ์ และสารสนเทศ การใช้วัสดุประเภทพอลิเมอร์ เซรามิกส์ และวัสดุ ผสม โดยเสนอ แนะแนวทางการใช้วัสดุอย่างประหยัดและคุ้มค่า การเกิดปฏิกิริยาเคมี รวมถึงการจดั เรียง ตัวใหม่ของอะตอมเมื่อเกิดปฏิกิริยาเคมี โดยใช้แบบจาลองและสมการข้อความ กฎทรงมวล ปฏิกิริยาดูด ความร้อน และปฏกิ ิรยิ าคายความรอ้ น จากการเปลีย่ นแปลงพลังงานความร้อนของปฏิกิริยา ปฏิกริ ิยาการ เกดิ สนมิ ของเหล็ก ปฏิกิรยิ าของกรดกับโลหะ ปฏกิ ิรยิ าของกรดกับเบส และปฏิกิริยาของเบสกับโลหะ โดย ใช้หลักฐานเชิงประจักษ์ และอธิบายปฏิกิริยาการเผาไหม้การเกิดฝนกรด การสังเคราะห์ด้วยแสง โดยใช้ สารสนเทศ รวมท้ังเขยี นสมการข้อความแสดงปฏิกิริยา ประโยชน์และโทษของปฏิกิรยิ าเคมที ่ีมีต่อสิ่งมีชวี ิต และสิ่งแวดล้อม และยกตัวอย่างวธิ ีการป้องกันและแก้ปัญหาที่เกิดจากปฏิกิริยาเคมีท่ีพบในชีวิตประจาวัน วิธีแก้ปัญหาในชีวิตประจาวัน ความสัมพันธ์ระหว่างความต่างศักย์ กระแสไฟฟ้า และความต้านทาน และ คานวณปริมาณที่เกี่ยวข้อง ความสัมพันธร์ ะหว่างกระแสไฟฟ้าและความต่างศกั ยไ์ ฟฟ้า การวัดปรมิ าณทาง ไฟฟ้า ความต่างศักยไ์ ฟฟา้ และกระแสไฟฟ้าในวงจรไฟฟ้าเมอ่ื ต่อตัวตา้ นทานหลายตัวแบบอนุกรมและแบบ ขนาน แผนภาพวงจรไฟฟ้าแสดงการต่อตัวต้านทานแบบอนุกรมและขนาน การทางานของชิ้นส่วน อิเลก็ ทรอนิกส์อย่างง่าย คานวณพลังงานไฟฟ้า เลือกใช้เคร่ืองใช้ไฟฟ้าโดยนาเสนอวิธีการใช้เคร่ืองใช้ไฟฟ้า อย่างประหยัดและปลอดภัยแบบจาลองท่ีอธิบายการเกิดคลื่นและบรรยายส่วนประกอบของคล่ืน คลื่น แม่เหล็กไฟฟ้าและสเปกตรัมคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า พัฒนาแอปพลิเคชัน รวบรวมข้อมูล ประมวลผล ประเมนิ ผล โดยใช้การสืบเสาะหาความรู้ การสารวจตรวจสอบ ทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์และ ทักษะการเรียนร้ใู นศตวรรษที่ 21 การสืบคน้ ข้อมูลและการอภปิ ราย เพื่อให้เกิดความรู้ ความคิด ความเข้าใจ สามารถสื่อสารส่ิงที่เรียนรู้ มีความสามารถในการ ตัดสินใจ การแก้ปัญหา การนาความรู้ไปใช้ในชีวิตประจาวัน มีจิตวิทยาศาสตร์ จริยธรรม คุณธรรม และ ค่านยิ มท่เี หมาะสม รหัสตัวช้ีวัด ว.2.1 ม.3/1, ม.1/2, ม.1/3, ม.1/4, ม.1/5, ม.1/6, ม.1/7, ม.1/8 ว.2.3 ม.3/1, ม.1/2, ม.1/3, ม.1/4, ม.1/5, ม.1/6, ม.1/7, ม.1/8, ม.1/9, ม.1/10, ม.1/11, ม.1/12 รวมทั้งหมด 20 ตวั ชีว้ ัด
174 โครงสร้างรายวิชาพน้ื ฐาน รายวชิ า ว23101 วิทยาศาสตร์พน้ื ฐาน 5 ช้นั มธั ยมศึกษาปีท่ี 3 ภาคเรยี นท่ี 1 เวลา 40 ช่ัวโมง จานวน 1.0 หน่วยกิต หนว่ ย ช่ือหน่วย มาตรฐานการ สาระสาคัญ เวลา นา้ หนกั ที่ การเรยี นรู้ เรียนรู้/ตัวช้วี ดั (ชั่วโมง) คะแนน 1 สารและสมบตั ิของสาร ว 2.1 ม.3/1, สาร หมายถงึ สิ่งที่มีตัวตน มีมวลหรือ 15 35 ม.3/2, ม.3/3, น้าหนกั ตอ้ งการท่ีอยแู่ ละสามารถ ม.3/4, ม.3/5, สัมผสั ได้ สารแต่ละชนดิ จะมีสมบตั ิ ม.3/6, ม.3/7, ของสาร ซ่งึ เปน็ ลกั ษณะเฉพาะของ ม.3/8 สารชนิดนน้ั ๆ ท่แี ตกต่างกนั ไปดงั นัน้ จงึ มีการใชเ้ กณฑก์ ารพิจารณาและ อธบิ ายสมบตั มิ าจดั จาแนกสาร และมี การทดสอบสมบัติของสาร 2 ไฟฟ้า คลน่ื ว 2.3 ม.3/1, ปจั จุบนั ไฟฟา้ เปน็ ปัจจัยสาคญั ทส่ี ุด 15 35 แม่เหลก็ ไฟฟ้า ม.3/2, ม.3/3, ปจั จัยหนงึ่ สาหรับการดารง ม.3/4, ม.3/5, ชีวติ ประจาวนั ของชนในชาติ เมอื่ ม.3/6, ม.3/7, สนามไฟฟา้ มกี ารเปลย่ี นแปลงจะ ม.3/8, ม.3/9, เหน่ยี วนาใหเ้ กดิ สนามแมเ่ หลก็ สภาพ ม.3/10, ของการปรากฏตวั ของคลนื่ ม.3/11, แม่เหลก็ ไฟฟ้าคือการเร่งการเคลื่อนท่ี ม.3/12 ของอนภุ าคประจไุ ฟฟา้ 3 อิเล็กทรอนกิ ส์เบือ้ งตน้ ว 2.3 ม.3/13, อิเลก็ ทรอนิกส์ เป็นเทคโนโลยที ่ี 10 30 ม.3/14, ม.3/15, เกี่ยวข้องกับวงจรไฟฟา้ ทป่ี ระกอบดว้ ย ม.3/16, ม.3/17, อุปกรณไ์ ฟฟา้ มคี วามสามารถในการ ม.3/18, ม.3/19, ควบคุมการไหลของอเิ ล็กตรอนทาให้ ม.3/20, ม.3/21 สามารถขยายสัญญาณอ่อนๆใหแ้ รง ข้นึ เพ่อื การส่อื สารทางภาพและเสียง อิเล็กทรอนิกสย์ ังถกู นาไปใชผ้ ลติ เคร่ืองใชไ้ ฟฟา้ ในครวั เรอื น และ อตุ สาหกรรมตา่ งๆ อกี มาก รวม 40 100
175 คาอธิบายรายวิชาพื้นฐาน รายวิชา ว23102 วิทยาศาสตร์พืน้ ฐาน 6 ช้นั มัธยมศึกษาปีที่ 3 ภาคเรียนท่ี 2 เวลา 40 ช่ัวโมง จานวน 1.0 หนว่ ยกิต ศึกษา วิเคราะห กฎการสะท้อนของแสง การเคล่อื นทข่ี องแสง ภาพจากกระจกเงา การหกั เหของ แสง การกระจายแสงของแสงขาว การเกิดภาพจากเลนส์ ปรากฏการณ์ที่เกี่ยวกบั แสง และการทางานของ ทัศนอปุ กรณ์ ความสวา่ งท่ีมตี ่อดวงตา วัดความสวา่ งของแสง ปฏสิ ัมพนั ธ์ขององค์ประกอบของระบบนิเวศ รูปแบบความสัมพนั ธ์ระหวา่ งส่งิ มีชีวติ กบั ส่ิงมีชีวิตรูปแบบต่างๆ แบบจาลองในการอธบิ ายการถ่ายทอด พลงั งานในสายใยอาหาร ความสมั พนั ธ์ของผู้ผลิต ผ้บู ริโภค และผยู้ ่อยสลายสารอนิ ทรียใ์ นระบบนเิ วศ การ สะสมสารพิษในสิ่งมีชวี ติ ในโซ่อาหาร ความสมั พันธร์ ะหวา่ ง ยีน ดีเอน็ เอ และโครโมโซม การถา่ ยทอด ลักษณะทางพนั ธกุ รรม การเกิดจโี นไทปแ์ ละฟีโนไทป์ การแบ่งเซลล์แบบไมโทซิสและไมโอซิส การ เปลีย่ นแปลงของยีนหรอื โครโมโซมอาจทาให้เกิดโรคทางพันธกุ รรม ส่งิ มีชวี ติ ดดั แปรพนั ธกุ รรม ความ หลากหลายทางชีวภาพ การโคจรของดาวเคราะห์รอบดวงอาทิตย์ดว้ ยแรงโน้มถ่วง แบบจาลองที่อธบิ าย การเกิดฤดู และการเคล่ือนท่ีปรากฏของดวงอาทิตย์ แบบจาลองที่อธบิ ายการเกดิ ขา้ งข้ึนข้างแรม การ เปล่ียนแปลงเวลาการข้ึนและตกของดวงจนั ทร์ และการเกิดนา้ ขึ้นนา้ ลงการใชป้ ระโยชนข์ องเทคโนโลยี อวกาศ โดยใช้การสืบเสาะหาความรู้ การสารวจตรวจสอบ ทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์และ ทกั ษะการเรยี นรู้ในศตวรรษที่ 21 การสบื คน้ ข้อมลู และการอภิปราย เพ่ือให้เกิดความรู้ ความคิด ความเข้าใจ สามารถสื่อสารส่ิงที่เรียนรู้ มีความสามารถในการ ตัดสินใจ การแก้ปัญหา การนาความรู้ไปใช้ในชีวิตประจาวัน มีจิตวิทยาศาสตร์ จริยธรรม คุณธรรม และ คา่ นิยมท่เี หมาะสม รหสั ตัวช้ีวัด ว 1.1 ม.3/1, ม.3/2, ม.3/3, ม.3/4, ม.3/5, ม.3/6 ว 1.3 ม.3/1, ม.1/2, ม.1/3, ม.1/4, ม.1/5, ม.1/6, ม.1/7, ม.1/8, ม.1/9, ม.1/10, ม.1/11 ว 2.3 ม.1/13, ม.1/14, ม.1/15, ม.1/16, ม.1/17, ม.1/18, ม.1/19, ม.1/20, ม.1/21 รวมทั้งหมด 26 ตัวช้ีวดั
176 โครงสรา้ งรายวชิ าพ้นื ฐาน รายวิชา ว23102 วทิ ยาศาสตร์พื้นฐาน 6 ช้ันมัธยมศึกษาปที ่ี 3 ภาคเรยี นที่ 2 เวลา 40 ช่ัวโมง จานวน 1.0 หน่วยกิต หนว่ ย ชือ่ หน่วย มาตรฐานการ สาระสาคัญ เวลา นา้ หนัก ท่ี การเรียนรู้ เรยี นร/ู้ ตัวชวี้ ดั (ชว่ั โมง) คะแนน 1 แสงและทัศนูปกรณ์ ว 2.3 ม.3/13, เมื่อให้แสงขาวตกกระทบวตั ถุตา่ งๆ 10 25 ม.3/14, ม.3/15, เราจะเหน็ วัตถุมีสแี ตกต่างกัน การ ม.3/16, ม.3/17, มองเห็นสีของวตั ถุมีปัจจัยตา่ งๆ ม.3/18, ม.3/19, เข้ามาเกย่ี วขอ้ ง แสงมีอทิ ธพิ ลต่อ ม.3/20, ม.3/21 การเหน็ วตั ถุ 2 ระบบนเิ วศและ ว 1.1 ม.3/1, ระบบนิเวศคือ ระบบความสัมพันธ์ 10 25 ความหลากหลาย ม.3/2, ม.3/3, ระหวา่ งปจั จยั ทางธรรมชาตแิ ละ ทางชีวภาพ ม.3/4, ม.3/5, ปจั จัยทางชีวภาพในบรเิ วณหน่ึงๆ ม.3/6 ระบบนเิ วศขนาดใหญ่คือโลกของ ว 1.3 ม.3/9, สง่ิ มชี วี ติ หรือชีวภาค โดยท่ีแตล่ ะ ม.3/10, ม.3/11 ระบบนิเวศมสี ภาพตา่ งกัน ข้ึนอยู่ กบั หลายปัจจัย 3 พนั ธกุ รรม ว 3.1 ม.3/1, การถ่ายทอดลักษณะทางพนั ธุ์ 10 25 ม.3/2, ม.3/3, กรรมเป็นแบบแผนการถ่ายทอด ม.3/4, ม.3/5, ลักษณะของส่ิงมีชวี ิตต่างๆ ระบบ ม.3/6, ม.3/7, การควบคุมการทางานของยีน ม.3/8 ความแปรผันของลกั ษณะทาง พันธกุ รรมประเภททางพนั ธุกรรม รปู แบบการถ่ายทอดลกั ษณะทาง พันธุกรรมตลอดจนการปรบั ตัวของ ส่ิงมชี ีวิตให้กับสภาพแวดลอ้ มและ กระบวนการววิ ัฒนาการ 4 ดาราศาสตร์และ ว 3.1 ม.3/1, ดาราศาสตร์ คือ วชิ าท่ศี ึกษา 10 25 อวกาศ ม.3/2, ม.3/3, เก่ยี วกับดวงดาวต่างๆ รวมท้ังโลกท่ี ม.3/4 เราดารงชีวิตอยู่ ในอดีตมนุษย์บน โลกไดส้ งั เกตลกั ษณะ ตาแหน่งและ การโคจรของดาวบางดวงหรอื บาง กลุ่ม แลว้ นามาใชใ้ นการนาทาง การ บอกทิศ การสังเกตดวงจันทร์เต็ม ดวงกด็ ี จันทร์เสีย้ วกด็ ี ทาใหเ้ กดิ ข้างข้นึ ข้างแรมบนโลกมนุษย์ ส่งผล
หน่วย ชือ่ หน่วย มาตรฐานการ สาระสาคญั 177 ท่ี การเรยี นรู้ เรยี นร้/ู ตวั ชี้วัด เวลา น้าหนัก ไปถงึ การทาปฏทิ นิ จันทรคติ (ชว่ั โมง) คะแนน รวม 40 100
178 คาอธิบายรายวิชาพน้ื ฐาน รายวิชา ว23103 วิทยาการคานวณ 5 ช้นั มธั ยมศึกษาปีท่ี 3 ภาคเรียนที่ 1 เวลา 20 ชั่วโมง จานวน 0.5 หน่วยกิต ศึกษาข้ันตอนการพัฒนาแอปพลิเคชัน Internet of Things (IoT) ซอฟต์แวร์ที่ใช้ในการพัฒนา แอปพลิเคชัน เช่น Scratch, python, java, c, AppInventor การรวบรวมข้อมูลจากแหล่งข้อมูลปฐม ภูมแิ ละทตุ ิยภูมิ การประมวลผล สร้างทางเลอื ก ประเมินผล และการนาเสนอข้อมูลและสารสนเทศ ตามวตั ถปุ ระสงค์ การใชซ้ อฟต์แวรห์ รอื บริการบนอนิ เทอร์เนต็ ที่หลากหลายในการจดั การข้อมลู ปฏิบัติการใช้ซอฟต์แวร์ในการพัฒนาแอปพลิเคชันที่มีการบูรณาการกับวชิ าอ่ืน ใช้ซอฟต์แวร์หรือ บริการบนอินเทอร์เน็ตในการจัดการและการนาเสนอข้อมูล โดยใช้ทักษะการแก้ปัญหา ทักษะการคิด วเิ คราะห์ ทักษะการสบื ค้นข้อมลู ทกั ษะการสือ่ สาร ทกั ษะการทางาน และทักษะการเรยี นรรู้ ่วมกนั เพื่อให้มีความรู้ ความเข้าใจเกี่ยวกับการพัฒนาแอปพลิเคชันและการจัดการข้อมูล ตระหนักและ เหน็ ความสาคญั ของการใชเ้ ทคโนโลยสี ารสนเทศอย่างปลอดภัยและมีความรบั ผิดชอบต่อสังคม ตวั ชว้ี ัด ว 4.2 ม.3/1, ม.3/2 รวมทั้งหมด 2 ตวั ชี้วดั
179 โครงสรา้ งรายวิชาพื้นฐาน รายวิชา ว23103 วิทยาการคานวณ 5 ชนั้ มัธยมศกึ ษาปีท่ี 3 ภาคเรียนที่ 1 เวลา 20 ชั่วโมง จานวน 0.5 หน่วยกิต หน่วย ชือ่ หน่วย มาตรฐานการ สาระสาคญั เวลา นา้ หนัก ที่ การเรยี นรู้ เรียนร/ู้ ตวั ชวี้ ัด (ชวั่ โมง) คะแนน 1 Internet of Things ว 4.2 ม.3/1 ความหมายของ Internet of Things 3 10 (IoT) การแบ่งกลุ่มของ Internet of Things ประโยชน์ 2 การพฒั นา ว 4.2 ม.3/1 การพัฒนาแอปพลิเคชนั ด้วยโปรแกรม 7 40 แอปพลิเคชัน Scratch, python, java, c, AppInventor 3 ซอฟต์แวร์ท่ใี ช้ในการ ว 4.2 ม.3/1 การใชซ้ อฟตแ์ วร์หรือบริการบน 7 40 พฒั นาแอปพลิเคชัน อนิ เทอร์เน็ตในการจัดการและการ นาเสนอข้อมลู 4 ข้อมูลสารสนเทศ ว 4.2 ม.3/2 การรวบรวมขอ้ มลู จากแหล่งข้อมลู 3 10 ปฐมภูมแิ ละทตุ ิยภมู ิ การประมวลผล สรา้ งทางเลือก การประเมินผล และ การนาเสนอขอ้ มูลและสารสนเทศตาม วัตถุประสงค์ การใช้ซอฟตแ์ วรห์ รือ บรกิ ารบนอนิ เทอร์เนต็ ท่หี ลากหลายใน การจดั การข้อมูล รวม 20 100
180 คาอธบิ ายรายวชิ าพ้นื ฐาน รายวิชา ว23104 วิทยาการคานวณ 6 ชั้นมธั ยมศึกษาปีท่ี 3 ภาคเรียนท่ี 2 เวลา 20 ช่ัวโมง จานวน 0.5 หน่วยกติ ศึกษาวิธีการประเมินความน่าเชื่อถือของข้อมูล โดยเทียบเคียงจากข้อมูลหลายแหล่ง แยกแยะ ข้อมูลท่ีเป็นข้อเท็จจริงและข้อคิดเห็น หรือใช้ PROMPT บอกวิธีการสืบค้น หาแหล่งต้นตอของข้อมูล เหตุผลวิบัติ (logical fallacy) ผลกระทบจากขา่ วสารท่ีผดิ พลาด การวเิ คราะหส์ ื่อ และผลกระทบจากการ ให้ข่าวสารที่ผิด อภิปรายการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศอย่างปลอดภัย การใช้เทคโนโลยีสารสนเทศอย่างมี ความรับผดิ ชอบ กฎหมายเกีย่ วกับคอมพิวเตอร์ และการใช้ลิขสิทธขิ์ องผ้อู ่ืนโดยชอบธรรม ปฏิบัติการประเมินความน่าเช่ือถือของข้อมูล สืบค้น หาแหล่งต้นตอของข้อมูล โดยใช้ทักษะการ แก้ปัญหา ทักษะการคิดวิเคราะห์ ทักษะการสืบค้นข้อมูล ทักษะการส่ือสาร ทักษะการทางาน และทักษะ การเรยี นรูร้ ่วมกนั เพ่ือให้มีความรู้ ความเข้าใจเก่ียวกับการประเมินความน่าเช่ือถือของข้อมูล ตระหนักถึงผลกระทบ จากขา่ วสารที่ผิดพลาด ร้เู ท่าทันส่ือ สามารถเลือกแนวปฏิบัติได้อย่างเหมาะสม เห็นความสาคัญของการใช้ เทคโนโลยสี ารสนเทศอย่างปลอดภัยและรบั ผดิ ชอบต่อสังคม เคารพและปฏบิ ตั ิตามกฎหมายคอมพิวเตอร์ ตัวชี้วดั ว 4.2 ม.3/3, ม.3/4 รวมทั้งหมด 2 ตวั ชี้วดั
181 โครงสร้างรายวชิ าพนื้ ฐาน รายวชิ า ว23104 วิทยาการคานวณ 6 ชัน้ มธั ยมศึกษาปีท่ี 3 ภาคเรียนท่ี 2 เวลา 20 ชั่วโมง จานวน 0.5 หน่วยกิต หน่วย ช่อื หน่วย มาตรฐานการ สาระสาคัญ เวลา น้าหนกั ท่ี การเรียนรู้ เรยี นรู้/ตัวช้วี ดั (ช่วั โมง) คะแนน 1 ข้อมลู และการ ว 4.2 ม.3/3 การประเมนิ ความนา่ เชื่อถือของข้อมูล การ 6 30 วิเคราะห์ข้อมูล แยกแยะข้อมลู ที่เป็นข้อเทจ็ จริงและ ข้อคิดเห็น การใช้ PROMPT 2 ความนา่ เชอื่ ถือ ว 4.2 ม.3/3 การประเมินความน่าเช่ือถือของข้อมูล การ 7 35 ของข้อมลู สืบคน้ หาแหลง่ ต้นตอของขอ้ มูล โดยใช้ ทกั ษะการแกป้ ัญหา ทักษะการคิดวิเคราะห์ ทกั ษะการสืบคน้ ข้อมูล ทกั ษะการสอ่ื สาร ทกั ษะการทางาน และทักษะการเรยี นรู้ ร่วมกัน ความรู้ ความเข้าใจเกี่ยวกบั การ ประเมนิ ความนา่ เชื่อถือของข้อมลู การ ตระหนักถึงผลกระทบจากขา่ วสารที่ ผดิ พลาด การรเู้ ท่าทนั สอ่ื 3 กฎหมายเก่ียวกับ ว 4.2 ม.3/4 การใช้เทคโนโลยสี ารสนเทศอย่างปลอดภยั 7 35 คอมพิวเตอร์ การทาธรุ กรรมออนไลน์ การซ้ือสินค้า ซื้อ ซอฟต์แวร์ คา่ บริการสมาชิก ซ้ือไอเท็ม การใชเ้ ทคโนโลยสี ารสนเทศอย่างมคี วาม รับผดิ ชอบ กฎหมายเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ การใช้ลขิ สิทธิ์ของผูอ้ ่ืนโดยชอบธรรม (fair use) รวม 20 100
182 คาอธิบายรายวชิ าพ้ืนฐาน รายวชิ า ว23105 การออกแบบและเทคโนโลยี 3 ชัน้ มธั ยมศึกษาปีที่ 3 ภาคเรยี นที่ 2 เวลา 20 ช่ัวโมง จานวน 0.5 หน่วยกิต ศึกษา วิเคราะห์สาเหตุหรือปัจจัยท่ีส่งผลต่อการเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยี ความสัมพันธ์ของ เทคโนโลยีกับศาสตร์อ่ืน โดยเฉพาะวิทยาศาสตร์หรือคณิตศาสตร์ การระบุปัญหาหรือความต้องการใน ชมุ ชนหรือท้องถิ่นเพ่ือพัฒนางานอาชีพ เช่น ด้านการเกษตร อาหาร พลังงาน การขนส่ง ออกแบบวิธีการ แก้ปัญหาโดยคานึงถึงทรัพย์สินทางปัญญา เงื่อนไขและทรัพยากร เช่น งบประมาณ เวลา ข้อมูลและ สารสนเทศ วสั ดุ เคร่ืองมอื และอปุ กรณ์ การนาเสนอแนวทางแกป้ ญั หาด้วยเทคนคิ หรือวิธีการที่หลากหลาย การตรวจสอบช้ินงานหรอื วิธีการที่ใช้แก้ปัญหาภายใต้กรอบเง่อื นไข โดยการทดสอบ ประเมินผล วิเคราะห์ หรือให้เหตุผลของปัญหาหรือข้อบกพร่องท่ีเกิดขึ้น แนวทางการปรับปรุงแก้ไขและการนาเสนอผลงาน ศึกษาคุณสมบัติของวัสดุเช่น ไม้ โลหะ พลาสติก เซรามิก การใช้อุปกรณ์ เคร่ืองมือ กลไก ไฟฟ้าและ อิเล็กทรอนิกส์ เช่น LED LDR มอเตอร์ เฟือง คาน รอก ล้อ เพลา ในการสร้างชิ้นงานเพื่อแก้ปัญหาหรือ พฒั นางาน โดยใช้ทกั ษะกระบวนการออกแบบเชิงวศิ วกรรม การคิดเชิงระบบ การคดิ สร้างสรรค์ การคิดอย่าง มีวิจารณญาณ การสอ่ื สาร และการทางานร่วมกับผูอ้ ่ืน เพ่ือให้มีความรู้ ความเขา้ ใจเกี่ยวกับเทคโนโลยี เลือกใชว้ ัสดุ อปุ กรณ์ เครื่องมือ กลไกล ไฟฟา้ และ อิเล็กทรอนิกส์แก้ปัญหาได้อย่างถูกต้องเหมาะสมปลอดภัย เลือกใช้เทคโนโลยีโดยคานึงถึงผลกระทบต่อ ชีวติ สงั คม เศรษฐกจิ และสิ่งแวดลอ้ ม รวมทง้ั คานงึ ถงึ ทรัพยส์ ินทางปัญญา ตัวชว้ี ัด ว 4.1 ม.3/1, ม.3/2, ม.3/3, ม.3/4, ม.3/5 รวมทั้งหมด 5 ตัวช้ีวดั
183 โครงสร้างรายวชิ าพื้นฐาน รายวิชา ว23105 การออกแบบและเทคโนโลยี 3 ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปีท่ี 3 ภาคเรยี นท่ี 2 เวลา 20 ชั่วโมง จานวน 0.5 หนว่ ยกิต หนว่ ย ชอื่ หน่วย มาตรฐานการ สาระสาคัญ เวลา นา้ หนกั ที่ การเรยี นรู้ เรยี นรู/้ ตวั ช้ีวดั (ช่วั โมง) คะแนน 1 เทคโนโลยีกับการ ว4.1 ว 3/1 การวเิ คราะหส์ าเหตุ หรือปัจจัยที่สง่ ผลตอ่ 2 10 บูรณาการ การเปลยี่ นแปลงของเทคโนโลยี และ ความสมั พนั ธ์ของเทคโนโลยกี ับ วิทยาศาสตร์ หรือคณติ ศาสตร์ เพื่อเปน็ แนวทางการแก้ปญั หาหรือพัฒนางาน 2 การแก้ปัญหาเพื่อ ว4.1 ว 3/2 การระบปุ ัญหาหรือความต้องการของ 2 10 การพฒั นา ชุมชนหรือทอ้ งถ่นิ เพ่ือพัฒนางานอาชพี การสรปุ กรอบของปัญหา รวบรวม การ วิเคราะห์ข้อมลู และแนวคิดเก่ียวข้องกับ ปัญหา โดยคานึงถึงความถูกต้องดา้ น ทรพั ย์สนิ ทางปัญญา 3 การดาเนนิ การ ว4.1 ว 3/3 การวิเคราะห์ เปรยี บเทยี บ และตัดสินใจ 2 15 แกป้ ญั หา เลือกข้อมูล สารสนเทศ วัสดุ เครอ่ื งมอื และอุปกรณ์ท่ชี ่วยให้ได้แนวทางการ แก้ปญั หาทเ่ี หมาะสม 4 การถ่ายทอด ว4.1 ว 3/4 การร่างภาพ การเขียนแผนภาพ การเขียน 4 15 ความคิดและการ ผงั งาน การนาเสนอแนวทางการแก้ปญั หา นาเสนองาน มหี ลากหลาย การใชแ้ ผนภมู ิ ตาราง ภาพเคล่อื นไหว การกาหนดข้ันตอนและ ระยะเวลาในการทางาน การลด ขอ้ ผิดพลาดของการทางานท่ีอาจเกดิ ข้ึน 5 สร้างสรรคช์ น้ิ งาน ว4.1 ว 3/4 กระบวนการออกแบบเชิงวิศวกรรม การ 10 50 จากการพฒั นา คดิ เชงิ ระบบ การคดิ สร้างสรรค์ การคิด อยา่ งมีวิจารณญาณ การสือ่ สาร และการ ทางานรว่ มกับผู้อน่ื รวม 20 100
184 คาอธิบายรายวิชาเพิ่มเตมิ รายวิชา ว20201 โปรแกรมประมวลคา ชน้ั มธั ยมศกึ ษาปีที่ 1-3 เวลา 40 ชั่วโมง จานวน 1.0 หนว่ ยกติ ศึกษาการใช้โปรแกรมประมวลคา การป้อนข้อมูล การแก้ไขข้อมูล คาสั่งต่างๆ ในการพิมพ์ แฟ้มข้อมูลเอกสาร การจัดแฟ้มข้อมูลเอกสารและ การเรียกแฟ้มข้อมูลมาแก้ไข การกาหนดรูปแบบ เอกสาร การพิมพต์ าราง การคน้ หาและเปล่ียนแปลงข้อความ คาส่งั พิเศษในการสั่งพิมพ์ การประยุกต์ ในงานพิมพเ์ อกสารตา่ งๆ ปฏิบัติการใช้โปรแกรมประมวลคา ป้อนข้อมูล แก้ไขข้อมูล ใช้คาสั่งในการพิมพ์แฟ้มข้อมูล เอกสาร จัดเก็บแฟ้มข้อมูลเอกสารและเรียกแฟ้มข้อมูลมาแก้ไข กาหนดรูปแบบเอกสาร พิมพ์เอกสาร สรา้ งตาราง ค้นหาและ เปล่ียนแปลงข้อความ ใช้คาสั่งพิเศษในการสัง่ พมิ พ์ เพื่อให้มีความรู้ ความเข้าใจ มีทักษะในการจัดทาเอกสารด้วยโปรแกรมประมวลคา สามารถ ประยุกต์การจัดทาเอกสารในรูปแบบต่างๆ ท่ีมีความสวยงาม ถูกต้อง สร้างสรรค์ผลงานได้อยา่ งมีคุณธรรม และจริยธรรม ผลการเรยี นรู้ 1. อธบิ ายและปฏิบตั กิ ารเกีย่ วกบั การพิมพ์เอกสารเบื้องต้น 2. อธิบายและปฏบิ ตั ิการเกยี่ วกบั การจดั เอกสาร 3. อธิบายและปฏิบตั กิ ารเกี่ยวกับการใส่รปู ภาพและการประดิษฐ์ตัวอักษร 4. อธิบายและปฏิบตั กิ ารเกยี่ วกบั การพิมพ์ตาราง 5. อธิบายและปฏิบตั กิ ารเกยี่ วกับคาส่งั พเิ ศษในการสัง่ พิมพ์ 6. อธิบายและปฏบิ ัตกิ ารเกยี่ วกบั การทาจดหมายเวยี น ซองจดหมายและป้ายผนึก 7. อธบิ ายและปฏิบัติการเกย่ี วกบั การประยุกตง์ านพมิ พแ์ ละป้ายผนกึ รวมท้ังหมด 7 ผลการเรยี นรู้
185 โครงสร้างรายวชิ าเพิ่มเติม รายวชิ า ว20201 โปรแกรมประมวลคา ชัน้ มธั ยมศึกษาปีที่ 1-3 เวลา 40 ช่ัวโมง จานวน 1.0 หน่วยกติ หน่วย ชอ่ื หน่วย ผลการเรียนรู้ สาระสาคญั เวลา นา้ หนกั ที่ การเรียนรู้ (ช่วั โมง) คะแนน 1 เรม่ิ ต้นใชง้ าน 1 อธบิ ายและ การเปิดใช้โปรแกรม การปดิ โปรแกรม 4 10 ปฏบิ ัติการเก่ยี วกบั สว่ นประกอบของ MS Office Word การพิมพ์เอกสาร การเลอื กภาษา การเปดิ เอกสาร การสลบั เบอ้ื งตน้ หนา้ ตา่ งแสดงเอกสาร การสร้างเอกสาร 2 อธบิ ายและ ใหม่ การกาหนดคา่ ให้กบั หน้ากระดาษ ปฏบิ ตั ิการเกี่ยวกับ เอกสาร การบันทึกข้อมูล การปดิ ไฟล์ การจัดเอกสาร เอกสาร การเปิดเอกสารเดิม (Open) การเปล่ียนโหมดแสดงเอกสาร การเลอื ก ข้อความและตัวอกั ษร การยอ่ /ขยาย เอกสาร การเปิด/ปิดแถบเครื่องมือ 2 การแทรก 3. อธิบายและ การแทรกตวั อักษร คา ประโยค ลงใน 4 10 ปฏบิ ัตกิ ารเกย่ี วกบั เอกสาร การลบขอ้ ความ (Delete) การ การใส่รปู ภาพและการ ยกเลกิ คาส่ังและการทาซา้ ประดิษฐ์ตวั อักษร (Undo/Redo) ลกั ษณะตัวช้ตี าแหน่งของ 4. อธบิ ายและ เมาส์ การแทรกข้อความทัง้ ย่อหน้า ลงใน ปฏิบัตกิ ารเกีย่ วกบั เอกสาร การแทรกตัวอักษรหรือ การพมิ พ์ตาราง สัญลักษณ์พิเศษ การแทรกเส้นส้นิ สุดหนา้ (page break) การแทรกตารางการ จัดรปู แบบตาราง 3 การส่ังพมิ พ์ 5. อธิบายและ การตั้งคา่ หน้ากระดาษ การตั้งคา่ 4 10 ปฏิบัติการเก่ยี วกบั เครอื่ งพมิ พ์ การสง่ั พิมพ์เอกสารผา่ นทาง คาสั่งพิเศษในการสงั่ เครื่องพิมพแ์ บบปกติ และการส่ังพมิ พ์ พิมพ์ แบบด่วน 4 จดหมาย 6. อธิบายและ การสรา้ งจดหมายเวียน การพิมพ์ข้อมูล 8 30 เวียน ปฏิบัติการเก่ียวกับ ช่ือทีอ่ ยูผ่ รู้ บั การทาจดหมายเวยี น ซองจดหมายและป้าย ผนึก
186 หน่วย ช่อื หน่วย ผลการเรียนรู้ สาระสาคญั เวลา นา้ หนกั ท่ี การเรยี นรู้ (ชัว่ โมง) คะแนน 5 สรา้ งสรรค์ 7. อธบิ ายและ การใชโ้ ปรแกรมจดั การเอกสารสร้างสรรค์ 20 40 ชน้ิ งาน ปฏบิ ัตกิ ารเกยี่ วกบั ช้นิ งาน ท่สี วยงามถกู ต้อง การใช้ การประยุกตง์ านพิมพ์ โปรแกรมจัดการเอกสารอยา่ งมีคณุ ธรรม และป้ายผนึก และจริยธรรม รวม 40 100
187 คาอธบิ ายรายวชิ าเพ่ิมเติม รายวชิ า ว20202 โปรแกรมนาเสนอข้อมูล ชน้ั มธั ยมศกึ ษาปีท่ี 1-3 เวลา 40 ชั่วโมง จานวน 1.0 หนว่ ยกติ ศึกษาเก่ียวกับความหมาย ประโยชน์ การเรียกใช้งาน มุมมองของแถบเคร่ืองมือ Microsoft PowerPoint การสรา้ งงานนาเสนอ การสร้างแผน่ สไลด์ การจัดเก็บงานนาเสนอ การเลิกใชง้ าน โปรแกรม การเลือกแผ่นสไลด์ข้ึนมาแสดงบนจอภาพ การปรับเปล่ียนขนาดสไลด์ การกาหนดมุมมองแผ่นสไลด์ การ คัดลอกแผ่นสไลด์ การย้ายแผ่นสไลด์ การปรับแต่งสไลด์ให้สวยงาม การกาหนดรูปแบบและเวลาการฉาย สไลด์ โดยใช้กระบวนการเทคโนโลยี กระบวนการปฏิบัติ กระบวนการทางาน การประยุกต์ใช้งาน ใน ชีวติ ประจาวัน เพื่อให้มีความรคู้ วามเข้าใจ มีจิตสานึกท่ีดีและเห็นคุณค่าของการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ มีความ รบั ผิดชอบต่อตนเองและสังคมส่วนรวม มคี ณุ ธรรม จริยธรรม มคี วามคิดริเรม่ิ สร้างสรรค์ ผลการเรยี นรู้ 1. บอกความหมายและประโยชนข์ องโปรแกรม Microsoft PowerPoint ได้ 2. สามารถสรา้ งงานและจัดการสไลด์ได้ 3. สามารถจัดพื้นหลังสไลด์แบบต่างๆ ได้ 4. สามารถพิมพ์และจัดข้อความได้ 5. สามารถแทรกรปู ภาพและจัดรูปภาพได้ 6. สามารถนาเสนอสไลด์ทม่ี ีข้อความ รปู ภาพ ภาพเคลือ่ นไหวในเวลาและรปู แบบทีก่ าหนดได้ รวมทั้งหมด 6 ผลการเรียนรู้
188 โครงสรา้ งรายวชิ าเพ่ิมเติม รายวิชา ว20202 โปรแกรมนาเสนอขอ้ มลู ชน้ั มธั ยมศึกษาปที ี่ 1-3 เวลา 40 ช่ัวโมง จานวน 1.0 หน่วยกิต หนว่ ย ช่ือหน่วย ผลการเรยี นรู้ สาระสาคัญ เวลา น้าหนกั ท่ี การเรยี นรู้ (ชัว่ โมง) คะแนน 1 เริ่มตน้ ใชง้ าน 1. บอกความหมายและ ประโยชน์และความสามารถของ 10 20 ประโยชนข์ องโปรแกรม โปรแกรมนาเสนอขอ้ มลู การเปดิ / Microsoft PowerPoint ปดิ โปรแกรม หน้าตา่ งการทางาน ได้ ของโปรแกรมนาเสนอข้อมูล 2 การสร้างงาน 2. สามารถสร้างงานและ แถบเครื่องมือ มมุ มองการจัดการ 10 40 และจัดการสไลด์ จัดการสไลดไ์ ด้ สไลด์ การสร้างแผน่ สไลด์รปู แบบ 3. สามารถจัดพน้ื หลงั ตา่ งๆ การใช้แถบเครื่องมือ สไลดแ์ บบต่างๆ ได้ ออกแบบ การแทรกขอ้ ความ การ 4. สามารถพิมพแ์ ละจดั แทรกรปู ภาพ การแทรกแผนภูมิ ขอ้ ความได้ 5. สามารถแทรกรูปภาพ และจดั รปู ภาพได้ 3 การนาเสนอ 6. สามารถนาเสนอสไลด์ การตัง้ คา่ การนาเสนอผลงาน การ 20 40 ผลงาน ที่มขี ้อความ รปู ภาพ แทรกเสียงและการต้ังคา่ การ 40 100 ภาพเคล่ือนไหวในเวลา เคลอื่ นไหวของสไลด์ การ และรูปแบบท่ีกาหนดได้ กาหนดเวลาในการนาเสนอ การ สร้างสรรค์ช้ินงานตามที่กาหนด รวม
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147
- 148
- 149
- 150
- 151
- 152
- 153
- 154
- 155
- 156
- 157
- 158
- 159
- 160
- 161
- 162
- 163
- 164
- 165
- 166
- 167
- 168
- 169
- 170
- 171
- 172
- 173
- 174
- 175
- 176
- 177
- 178
- 179
- 180
- 181
- 182
- 183
- 184
- 185
- 186
- 187
- 188
- 189
- 190
- 191
- 192
- 193
- 194
- 195
- 196
- 197
- 198
- 199
- 200
- 201
- 202
- 203
- 204
- 205
- 206
- 207
- 208
- 209
- 210
- 211
- 212
- 213
- 214
- 215
- 216
- 217
- 218
- 219
- 220
- 221
- 222
- 223
- 224
- 225
- 226
- 227
- 228
- 229
- 230
- 231
- 232
- 233
- 234
- 235
- 236
- 237
- 238
- 239
- 240
- 241
- 242
- 243
- 244
- 245
- 246
- 247
- 248
- 249
- 250
- 251
- 252
- 253
- 254
- 255
- 256
- 257
- 258
- 259
- 260
- 261
- 262
- 263
- 264
- 265
- 266
- 267
- 268
- 269
- 270
- 271
- 272
- 273
- 274
- 275
- 276
- 277
- 278
- 279
- 280
- 281
- 282
- 283
- 284
- 285
- 286
- 287
- 288
- 289
- 290
- 291
- 292
- 293
- 294
- 295
- 296
- 297
- 298
- 299
- 300
- 301
- 302
- 303
- 304
- 305
- 306
- 307
- 308
- 309
- 310
- 311
- 312
- 313
- 314
- 315
- 316
- 317
- 318
- 319
- 320
- 321
- 322
- 323
- 324
- 325
- 326
- 327
- 328
- 329
- 330
- 331
- 332
- 333
- 334
- 335
- 336
- 337
- 338
- 339
- 340
- 341
- 342
- 343
- 344
- 345
- 346
- 347
- 348
- 349
- 350
- 351
- 352
- 353
- 354
- 355
- 356
- 357
- 358
- 359
- 360
- 361
- 362
- 363
- 364
- 365
- 366
- 367
- 368
- 369
- 370
- 371
- 372
- 373
- 374
- 375
- 376
- 377
- 378
- 379
- 380
- 381
- 382
- 383
- 384
- 385
- 386
- 387
- 388
- 389
- 390
- 391
- 392
- 393
- 394
- 395
- 396
- 397
- 398
- 399
- 400
- 401
- 402
- 403
- 404
- 405
- 406
- 407
- 408
- 409
- 410
- 411
- 412
- 413
- 414
- 415
- 416
- 417
- 418
- 419
- 420
- 421