Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore 4.หลักสูตร-ศรีสุขวิทยา-61-วิทย์-ปรับใหม่แล้ว

4.หลักสูตร-ศรีสุขวิทยา-61-วิทย์-ปรับใหม่แล้ว

Published by Bio, 2021-06-09 12:40:42

Description: 4.หลักสูตร-ศรีสุขวิทยา-61-วิทย์-ปรับใหม่แล้ว

Search

Read the Text Version

339 หน่วย ชื่อหน่วย ผลการเรยี นรู้ สาระสาคัญ เวลา นา้ หนัก ท่ี การเรยี นรู้ (ชั่วโมง) คะแนน วัตถทุ ่อี ยู่ในของไหลท้ังหมดหรอื เพยี ง บางสว่ น จะถูกแรงพยุงจากของไหล กระทาโดยขนาด แรงพยงุ เท่ากับขนาด น้าหนักของของไหลท่ีถูกวัตถุแทนท่ตี าม หลักของอาร์คิมดี สี ซ่ึงใช้อธิบายการลอย การจมของวัตถุต่าง ๆ ในของไหล ความตึงผิวเปน็ สมบัตขิ องของเหลวท่ียึด ผิวของเหลวไว้ดว้ ยแรงดงึ ผิวปรากฏ- การณ์ทเ่ี ปน็ ผลจากความตึงผิว ความหนดื เป็นสมบตั ิของของไหล วัตถทุ ่ีเคล่ือนท่ี ในของไหลจะมแี รงเนื่อง จากความหนืดต้านการ เคล่ือนทขี่ องวตั ถุ เรียกวา่ แรงหนดื ของไหลอุดมคตเิ ปน็ ของไหลท่มี กี าร ไหลอย่างสมา่ เสมอไม่มคี วามหนืด บบี อดั ไม่ได้ และไหลโดยไม่หมนุ มอี ตั ราการไหล ตามสมการความต่อเน่ือง Av =ค่าคงตวั แก๊สอุดมคตเิ ป็นแกส๊ ทโ่ี มเลกุลมีขนาด เลก็ มากไมม่ แี รงยึดเหนี่ยวระหวา่ งโมเลกุลมี การเคลอ่ื นทีแ่ บบสุม่ และมีการชนแบบ ยืดหย่นุ ความสมั พันธ์ระหว่างความดนั ปริมาตร และอณุ หภมู ิของแก๊สอดุ มคติ เป็นไปตามกฎของ แก๊สอุดมคติ จากแบบจาลองของแก๊สอุดมคตกิ ฎการ เคล่ือนที่ของนวิ ตนั และจากกฎของแกส๊ อดุ มคตทิ าให้ สามารถศึกษาสมบัติทาง กายภาพบางประการของแกส๊ ได้แก่ ความดันพลงั งานจลน์เฉลี่ย และอตั ราเร็ว อาร์เอ็มเอสของโมเลกุลของแก๊สได้ ในภาชนะปดิ เม่อื มีการเปลี่ยนแปลง ปรมิ าตรของ แกส๊ โดยความดันคงตัวงานที่ เกดิ ขนึ้ คานวณได้ จากสมการ W = P∆V

340 หน่วย ชอื่ หน่วย ผลการเรียนรู้ สาระสาคญั เวลา น้าหนกั ท่ี การเรียนรู้ ข้อ 10 - 12 (ชวั่ โมง) คะแนน 2 ฟิสกิ ส์อะตอม โมเลกุลของแก๊สอุดมคติในภาชนะปดิ 25 จะมพี ลังงานจลนโ์ ดยพลงั งานจลน์รวมของ โมเลกลุ เรยี กวา่ พลงั งานภายในของแกส๊ หรือ พลังงานภายในระบบ ซง่ึ แปรผันตรงกับ จานวนโมเลกุล และอุณหภูมิสมั บรู ณ์ของ แกส๊ พลงั ค์เสนอสมมตฐิ านเพอ่ื อธิบายการ 20 แผ่รงั สีของวัตถุดาซ่งึ สรุปได้วา่ พลังงานท่ี วัตถุดดู กลนื หรือแผ่ออกมามีค่าไดเ้ ฉพาะ บางคา่ เท่านน้ั และค่านจ้ี ะเปน็ จานวนเท่า ของ hf เรยี กว่า ควอนตมั พลังงาน โดยแสง ความถี่ fจะมีพลงั งานตามสมการ E = nhf ปรากฏการณ์โฟโตอเิ ล็กทริกเปน็ ปรากฏการณ์ ทอ่ี เิ ลก็ ตรอนหลดุ จากผิวโลหะเมื่อมแี สงท่มี ี ความถี่เหมาะสมมาตกกระทบ โดย จานวนโฟโตอิเล็กตรอน ทหี่ ลุดจะเพิ่มข้นึ ตามความเข้มแสง และ พลังงานจลนส์ ูงสุดของโฟโตอิเล็กตรอนจะ ขน้ึ กับความถี่ของแสงน้ัน โดยพลงั งานของ แสง หรือโฟตอนตามสมมติฐานของพลงั ค์ การคน้ พบการแทรกสอด และการ เลย้ี วเบนของอิเล็กตรอนสนับสนนุ ความคดิ ของเดอบรอยล์ ท่เี สนอวา่ อนภุ าคแสดง สมบัติของคลื่นได้ โดยเมื่อ อนภุ าคประพฤตติ วั เป็นคลื่นจะมีความยาว คลื่น เรยี กวา่ ความยาวคลืน่ เดอบรอยล์ ซึง่ มีค่าข้ึนกับโมเมนตมั ของอนุภาค

หน่วย ชื่อหน่วย ผลการเรยี นรู้ สาระสาคัญ 341 ท่ี การเรียนรู้ เวลา น้าหนกั 3 ฟสิ ิกส์นวิ เคลยี ร์ (ชัว่ โมง) คะแนน ขอ้ 13 - 18 กมั มนั ตภาพรงั สเี ปน็ ปรากฏการณ์ 20 25 ท่ธี าตุกมั มนั ตรงั สีแผร่ ังสีได้เองอย่าง ต่อเนือ่ ง รังสีท่อี อกมามี 3 ชนิด คอื แอลฟาบีตา และแกมมา ในการสลายของธาตุกมั มันตรังสีอัตรา การแผ่รงั สี ออกมาในขณะหน่ึง เรยี กว่า กมั มนั ตภาพ ปริมาณนบ้ี อกถึง อัตราการลดลงของจานวนนวิ เคลยี สของ ธาตกุ ัมมนั ตรงั สี ช่วงเวลาท่จี านวน นวิ เคลียสลดลงเหลือครึง่ หน่ึง ของจานวน เร่ิมต้นเรียกว่า ครงึ่ ชีวิต การทาให้นิวคลีออนในนวิ เคลียส แยกออกจากกันตอ้ งใช้พลงั งานเท่ากับ พลงั งานยดึ เหนย่ี ว นิวเคลียสทม่ี ีพลังงานยึด เหนยี่ วต่อนิวคลีออนสูง จะมีเสถยี ร ภาพดกี วา่ นวิ เคลยี สทีม่ ีพลงั งานยดึ เหนี่ยว ต่อนิวคลีออนตา่ ปฏิกริ ยิ าท่ที าใหน้ ิวเคลียสเกดิ การ เปลยี่ นแปลงองค์ประกอบหรือระดบั พลังงาน เรยี กวา่ ปฏิกริ ยิ านิวเคลยี ร์ ฟชิ ชันเปน็ ปฏิกิริยาท่นี วิ เคลยี สทมี่ ีมวล มาก แตกออกเปน็ นิวเคลียสทมี่ ีมวลน้อย กว่า ส่วนฟวิ ชันเป็นปฏิกิริยาที่นวิ เคลยี สทีม่ ี มวลน้อยรวมตวั กนั เกิดเปน็ นิวเคลียสท่ีมมี วล มากขนึ้ พลงั งานนิวเคลียรแ์ ละรงั สีจากการ สลายของธาตกุ ัมมนั ตรังสสี ามารถนาไปใช้ ประโยชน์ในดา้ นตา่ ง ๆ ขณะเดียวกนั ต้องมี การปอ้ งกนั อันตรายอาจเกิดข้ึนได้ โปรตอนและนวิ ตรอนในนิวเคลียสดว้ ย เครือ่ งเรง่ อนุภาคพลงั งานสงู พบวา่ โปรตอน และนิวตรอนประกอบด้วยอนุภาคอ่นื ทม่ี ี ขนาดเลก็ กว่า เรยี กว่า ควาร์ก ซึ่งยดึ เหนี่ยว กนั ไว้ ด้วยแรงเข้ม

หนว่ ย ชื่อหน่วย ผลการเรียนรู้ สาระสาคัญ 342 ท่ี การเรยี นรู้ เวลา นา้ หนกั (ชว่ั โมง) คะแนน อนภุ าคที่เป็นสอ่ื ของแรงเขม้ ซึ่งไดแ้ ก่ 80 100 กลอู อน และอนุภาคทีเ่ ป็นส่ือของแรงอ่อน ซึง่ ได้แก่ W - โบซอน และ Z – โบซอน รวม

343 คาอธิบายรายวิชาเพิ่มเตมิ รหสั วิชา ว33224 เคมี 4 ชน้ั มัธยมศกึ ษาปีท่ี 6 ภาคเรียนที่ 1 เวลา 60 ชัว่ โมง จานวน 1.5 หน่วยกิต ศกึ ษาและอธบิ ายเกยี่ วกับความสัมพันธแ์ ละการคานวณปริมาตร ความดนั หรืออุณหภมู ิของแก๊ส ตามกฎของบอยล์ กฎของชารล์ และกฎของเกย์-ลูสแซก กฎรวมแก๊ส การคานวณปริมาตร ความดนั อุณหภูมิ จานวนโมลหรอื มวลของแก๊สจากความสัมพนั ธต์ ามกฎของอาโวกาโดร และกฎแกส๊ อดุ มคติ การคานวณความดนั ย่อยหรือจานวนโมลของแกส๊ ในแกส๊ ผสมโดยใชก้ ฎความดันยอ่ ยของดอลตนั การแพร่ ของแก๊สโดยใชท้ ฤษฎจี ลนข์ องแกส๊ การคานวณและเปรยี บเทียบอัตราการแพร่ของแกส๊ โดยใช้กฎการแพร่ ผ่านของเกรแฮม การประยุกตใ์ ชค้ วามรเู้ ก่ยี วกับสมบตั ิและกฎต่างๆ ของแกส๊ ในการอธิบายปรากฏการณ์ หรอื แกป้ ญั หาในชวี ิตประจาวันและในอุตสาหกรรม การคานวณเลขออกซิเดชัน และการระบปุ ฏกิ ริ ิยาที่ เป็นปฏกิ ิริยารีดอกซ์ การเปล่ียนแปลงเลขออกซเิ ดชัน ตวั รดี วิ ซแ์ ละตัวออกซิไดส์ ครึ่งปฏิกริ ิยาออกซเิ ดชนั และครึ่งปฏิกิรยิ ารีดกั ชันของปฏกิ ิริยารีดอกซ์ ปฏกิ ิริยารีดอกซ์ ดุลสมการรีดอกซ์ องค์ประกอบของเซลล์ เคมีไฟฟ้า และสมการเคมขี องปฏกิ ริ ยิ าทแ่ี อโนดและแคโทด ปฏกิ ิริยารวม และแผนภาพเซลล์ การคานวณ คา่ ศักย์ไฟฟา้ มาตรฐานของเซลล์ ประเภทของเซลลเ์ คมีไฟฟา้ ขวั้ ไฟฟา้ และปฏิกริ ิยาเคมี หลักการทางาน และสมการแสดงปฏกิ ริ ยิ าของเซลลป์ ฐมภูมิและเซลล์ทตุ ยิ ภูมิ การชุบโลหะและแยกสารเคมดี ้วย กระแสไฟฟ้า หลักการทางเคมีไฟฟ้าทใ่ี ชใ้ นการชุบโลหะ การแยกสารเคมีด้วยกระแสไฟฟา้ การทาโลหะให้ บริสุทธิ์ และการป้องกันการกัดกรอ่ นของโลหะ ตัวอย่างความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีทเ่ี ก่ียวขอ้ งกับเซลล์ เคมีไฟฟ้าในชวี ิตประจาวัน โดยใช้การสืบเสาะหาความรู้ การสารวจตรวจสอบ ทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตรแ์ ละ ทักษะการเรยี นรู้ในศตวรรษที่ 21 การสบื คน้ ข้อมูล การอภิปรายและการนาเสนอ เพอ่ื ใหเ้ กดิ ความรู้ ความคิด ความเข้าใจ สามารถสอ่ื สารสิง่ ทเ่ี รยี นรู้ มคี วามสามารถในการ ตดั สินใจ การแกป้ ัญหา การนาความรู้ไปใช้ในชีวติ ประจาวัน มีจติ วิทยาศาสตร์ จรยิ ธรรม คุณธรรม และ ค่านิยมทเี่ หมาะสม

344 ผลการเรยี นรู้ 1. อธบิ ายความสมั พันธ์และคานวณปรมิ าตรความดัน หรืออณุ หภมู ขิ องแก๊สท่ภี าวะต่างๆ ตามกฎ ของบอยล์ กฎของชารล์ กฎของเกย์-ลูสแซกได้ 2. คานวณปรมิ าตร ความดัน หรืออณุ หภูมิของแก๊สทีภ่ าวะต่างๆ ตามกฎรวมแกส๊ ได้ 3. คานวณปรมิ าตร ความดัน อณุ หภูมิ จานวนโมลหรือมวลของแกส๊ จากความสมั พันธ์ตามกฎ ของอาโวกาโดร และกฎแกส๊ อุดมคติได้ 4. คานวณความดันย่อยหรือจานวนโมลของแกส๊ ในแก๊สผสม โดยใช้กฎความดนั ยอ่ ยของดอลตัน ได้ 5. อธบิ ายการแพรข่ องแกส๊ โดยใชท้ ฤษฎีจลนข์ องแก๊ส คานวณและเปรยี บเทยี บอตั ราการแพรข่ อง แก๊ส โดยใช้กฎการแพรผ่ ่านของเกรแฮมได้ 6. สบื ค้นขอ้ มูล นาเสนอตวั อย่าง และอธิบายการประยุกต์ใชค้ วามร้เู ก่ยี วกบั สมบัติและกฎต่างๆ ของแกส๊ ในการอธิบายปรากฏการณ์ หรอื แก้ปญั หาในชีวติ ประจาวนั และในอตุ สาหกรรมได้ 7. คานวณเลขออกซิเดชนั และระบุปฏิกริ ยิ าทเ่ี ปน็ ปฏกิ ริ ยิ ารดี อกซ์ได้ 8. วเิ คราะห์การเปล่ยี นแปลงเลขออกซิเดชนั และรุบตวั รดี ิวซแ์ ละตัวออกซไิ ดส์ รวมทง้ั เขียนครงึ่ ปฏกิ ิรยิ าออกซเิ ดชันและครงึ่ ปฏกิ ริ ยิ ารีดกั ชนั ของปฏกิ ิรยิ ารีดอกซ์ได้ 9. ทดลอง และเปรยี บเทยี บความสามารถในการเปน็ ตวั รีดวิ ซห์ รือตัวออกซิไดส์ และเขียนแสดง ปฏกิ ิรยิ ารีดอกซ์ได้ 10. ดุลสมการรีดอกซด์ ว้ ยการใชเ้ ลขออกซิเดชันและวิธีครง่ึ ปฏกิ ริ ิยาได้ 11. ระบอุ งคป์ ระกอบของเซลลเ์ คมไี ฟฟา้ และเขียนสมการเคมีของปฏิกริ ิยาทแ่ี อโนดและแคโทด ปฏิกริ ยิ ารวม และแผนภาพเซลล์ได้ 12. คานวณคา่ ศักย์ไฟฟ้ามาตรฐานของเซลล์ และระบุประเภทของเซลล์เคมไี ฟฟ้า ขัว้ ไฟฟ้าและ ปฏกิ ริ ยิ าเคมที ่เี กดิ ขน้ึ ได้ 13. อธบิ ายหลักการทางาน และเขยี นสมการแสดงปฏิกริ ยิ าของเซลล์ปฐมภูมิและเซลลท์ ุติยภมู ิได้ 14. ทดลองชุบโลหะและแยกสารเคมีด้วยกระแสไฟฟ้า และอธิบายหลักการทางเคมีไฟฟ้าทีใ่ ชใ้ น การชบุ โลหะ การแยกสารเคมีด้วยกระแสไฟฟา้ การทาโลหะให้บรสิ ุทธิ์ และการปอ้ งกันการกัดกร่อนของ โลหะได้ 15. สบื ค้นข้อมลู และนาเสนอตวั อยา่ งความก้าวหน้าทางเทคโนโลยที เี่ กี่ยวขอ้ งกบั เซลลเ์ คมีไฟฟ้า ในชีวติ ประจาวนั ได้ รวมทั้งหมด 15 ผลการเรยี นรู้

345 โครงสร้างรายวชิ าเพม่ิ เติม รหัสวชิ า ว33224 เคมี 4 ชนั้ มัธยมศกึ ษาปีท่ี 6 ภาคเรียนท่ี 1 เวลา 60 ช่วั โมง จานวน 1.5 หน่วยกิต หน่วย ช่ือหน่วย ผลการเรียนรู้ สาระสาคัญ เวลา นา้ หนกั ท่ี การเรยี นรู้ (ชั่วโมง) คะแนน 1 สมบตั ิของแกส๊ ข้อ 1 - 6 • พฤตกิ รรมของแกส๊ ความสัมพนั ธ์ 26 50 ระหวา่ งปรมิ าตร ความดนั และอุณหภูมิ ของแกส๊ อธิบายได้ด้วยกฎของบอยล์ กฎของชารล์ กฎของเกย์-ลสู แซก และ กฎรวมแกส๊ ซง่ึ สามารถนามาใช้ในการ คานวณปรมิ าตร ความดัน หรืออณุ หภมู ิ ของแกส๊ ทภ่ี าวะตา่ งๆ ได้ • ความสมั พันธ์ระหว่างปรมิ าตร และ จานวนโมล หรอื มวลของแกส๊ อธบิ าย ความสมั พนั ธไ์ ดด้ ว้ ยกฎอาโวกาโดร สาหรบั ความสัมพนั ธ์ระหว่างปริมาตร ความดนั อณุ หภมู ิ และจานวนโมลของ แกส๊ อธบิ ายไดด้ ว้ ยกฎแก๊สอุดมคติ ซึ่ง สามารถนามาใช้ในการคานวณและ อธบิ ายการเปล่ยี นแปลง ทเี่ กี่ยวข้องกบั จานวนโมลของแกส๊ ท่ีภาวะต่างๆ ได้ • ในธรรมชาติ แก๊สส่วนใหญอ่ ยู่ รวมกนั เป็นแกส๊ ผสม ในกรณีทีแ่ ก๊สใน แก๊สผสมไม่ทาปฏกิ ริ ิยากัน ความดันของ แก๊สแตล่ ะชนดิ แปรผันตามเศษส่วน โม ลของแกส๊ ทม่ี อี ยู่ในแกสผสมตามกฎ ความดนั ยอ่ ยของดอลตนั • แกส๊ สามารถแพร่ได้ การแพร่ของ แก๊สสามารถอธิบายได้ด้วยทฤษฎีจลนข์ อง แก๊ส ทีอ่ ุณหภูมเิ ดียวกันแก๊สจะแพร่ไดช้ ้า หรือเร็วขนึ้ อยู่กับมวลโมเลกลุ ของแกส๊ อัตราการแพร่ของแกส๊ เป็นสัดสว่ นผกผนั กบั รากท่ีสองของมวลโมเลกุลของแก๊ส สัมพนั ธก์ บั กฎการแพร่ผา่ นของเกรเฮม

346 หน่วย ชื่อหน่วย ผลการเรยี นรู้ สาระสาคญั เวลา นา้ หนกั ท่ี การเรียนรู้ (ชว่ั โมง) คะแนน • สมบัติและกฎต่างๆ ของแกส๊ สามารถนาไปใช้อธิบายปรากฏการณ์ หรอื ประยุกตใ์ ช้ในชวี ิตประจาวันและใน อตุ สาหกรรม 2 เคมีไฟฟา้ ขอ้ 7 - 15 • เคมไี ฟฟา้ เป็นการศึกษาเก่ียวกบั การ 28 50 เปล่ยี นแปลงระหวา่ งพลงั งานไฟฟ้าและ การเกิดปฏกิ ริ ิยาเคมีที่มีการถ่ายโอน อิเลก็ ตรอนแล้วทาให้เกิดการเปล่ยี นแปลง เลขออกซเิ ดชัน ซงึ่ เป็นตัวเลขท่ีแสดง ประจไุ ฟฟ้าหรือประจุไฟฟ้าสมมติของ อะตอมธาตเุ รียกปฏิกิรยิ าชนิดนว้ี ่า ปฏกิ ิรยิ ารดี อกซ์ • ปฏิกริ ิยารีดอกซม์ ีทั้งครึง่ ปฏิกิรยิ าที่ มีการให้อิเลก็ ตรอน เรยี กวา่ ครึ่งปฏิกิริยา ออกซิเดชนั และครงึ่ ปฏกิ ริ ิยาทมี่ กี ารรบั อิเล็กตรอน เรียกว่าครง่ึ ปฏกิ ิรยิ ารีดกั ชัน โดยสารทีใ่ หอ้ เิ ลก็ ตรอนจะมเี ลข ออกซิเดชันเพ่ิมชึ้น เรียกวา่ ตัวรีดวิ ซ์ ส่วนสารที่รบั อิเลก็ ตรอนจะมเี ลข ออกซเิ ดชันลดลง เรียกว่าตัวออกซไิ ดส์ • การเปรยี บเทยี บความสามารถใน การเปน็ ตวั รีดวิ ซ์หรอื ตวั ออกซิไดส์ สามารถพจิ ารณาไดจ้ ากผลการทดลอง ของปฏกิ ริ ยิ ารีดอกซ์ • ปฏิกิรยิ ารดี อกซเ์ ขียนแทนได้ด้วย สมการรีดอกซ์ ซ่งึ การดุลสมการรดี อกซ์ ทาไดโ้ ดยการใชเ้ ลขออกซเิ ดชันและวิธีครึง่ ปฏิกิรยิ า

347 หน่วย ชื่อหน่วย ผลการเรยี นรู้ สาระสาคัญ เวลา นา้ หนกั ท่ี การเรยี นรู้ (ช่วั โมง) คะแนน • เซลล์ไฟฟ้าเคมีประกอบด้วย แอโนด แคโธด และสารละลายอิเล็กโทร ไลต์ ซึง่ อาจเชอื่ มต่อกันด้วยสะพานเกลอื โดยทแ่ี อโนดเกิดปฏิกิริยาออกซเิ ดชัน และแคโธดเกิดปฏิกริ ิยารีดักชัน ทาให้ อิเล็กตรอนเคลอื่ นท่จี ากแอโนดไปแคโธด เซลลไ์ ฟฟ้าเคมสี ามารถเขยี นแสดงได้ดว้ ย แผนภาพเซลล์ • ค่าศักย์ไฟฟ้ามาตรฐานของเซลล์ คานวณได้จากค่าศกั ย์ไฟฟ้ามาตรฐานของ ครง่ึ เซลล์ ถา้ ค่าศักย์ไฟฟา้ ของเซลล์เป็น บวก แสดงว่าปฏิกริ ยิ ารดี อกซเ์ กดิ ขน้ึ ได้ เอง ซ่ึงทาให้เกิดกระแสไฟฟ้า เรยี กเซลล์ ชนิดนวี้ า่ เซลลก์ ัลวานิก แต่ถ้าศกั ย์ไฟฟา้ ของเซลลเ์ ป็นลบ แสดงวา่ ปฏิกริ ิยารี ดอกซ์ไม่สามารถเกิดไดเ้ อง ต้องมีการให้ กระแสไฟฟ้าจงึ จะเกดิ ปฏิกิรยิ าได้ เซลล์ ชนิดน้ีเรยี กวา่ เซลล์อเิ ลก็ โทรลติ กิ • เซลล์ไฟฟา้ เคมีสามารถนาไปใช้ ประโยชนไ์ ด้ในชวี ิตประจาวนั เชน่ แบ ตเตอรี ซึ่งมีทง้ั เซลล์ปฐมภูมแิ ละเซลล์ ทุตยิ ภมู ิ โดยปฏกิ ริ ิยาเคมีทีเ่ กิดขึ้นภายใน เซลล์ปฐมภมู ไิ มส่ ามารถทาให้ เกิดปฏกิ ริ ิยาย้อนกลบั ได้โดยการประจไุ ฟ จึงไม่สามารถนากลับมาใช้ได้อีก ปฏกิ ิรยิ าเคมีทเี่ กดิ ขึ้นภายในเซลลท์ ุติยภมู ิ สามารถทาใหเ้ กิดปฏกิ ริ ยิ าย้อนกลับได้ โดยการประจุไฟ จึงนากลับมาใช้ได้อีก • เซลล์อเิ ล็กโทรลิตกิ สามารถนามาใช้ ประโยชน์ได้ทงั้ ในชวี ติ ประจาวนั ใน อตุ สาหกรรมหลายประเภท เชน่ การชุบ โลหะ การแยกสารเคมีด้วยกระแสไฟฟา้ การทาโลหะให้บรสิ ุทธิ์ การป้องกนั การ กัดกร่อนของโลหะ

348 หน่วย ชื่อหน่วย ผลการเรยี นรู้ สาระสาคญั เวลา น้าหนกั ที่ การเรียนรู้ (ชว่ั โมง) คะแนน • ปฏิกริ ิยาเคมหี ลายปฏิกริ ิยาที่พบใน ชวี ิตประจาวันเป็นปฏิกริ ยิ ารีดอกซ์ เชน่ ปฏกิ ริ ยิ าการเผาไหม้ ปฏกิ ริ ยิ าในเซลล์ เคมไี ฟฟ้า ซ่งึ ความรูเ้ ร่ืองเซลล์เคมีไฟฟ้า และความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีท่ี เกย่ี วขอ้ งกบั เซลลเ์ คมไี ฟฟ้า นาไปสู่ นวตั กรรมด้านพลังงานท่ีเปน็ มติ รตอ่ ส่ิงแวดล้อม รวม 60 100

349 คาอธบิ ายรายวิชาเพ่ิมเติม รหสั วชิ า ว33225 เคมี 5 ช้นั มัธยมศึกษาปีที่ 6 ภาคเรียนที่ 2 เวลา 60 ช่วั โมง จานวน 1.5 หน่วยกิต ศึกษาเกี่ยวกบั ตัวอยา่ งสารประกอบอนิ ทรยี ์ทมี่ ีพนั ธะเด่ยี ว พันธะคู่ หรือพันธะสามท่ีพบใน ชวี ติ ประจาวัน การเขยี นสูตรโครงสร้างลวิ อสิ สูตรโครงสรา้ งแบบย่อและสตู รโครงสร้างแบบเสน้ ของ สารประกอบอินทรยี ์ โครงสร้างและประเภทของสารประกอบอนิ ทรยี จ์ ากหมู่ฟงั กช์ ัน การเขียนสูตร โครงสรา้ งและช่ือเรยี กสารประกอบอินทรยี ป์ ระเภทต่างๆ ทม่ี ีหมู่ฟังก์ชันไมเ่ กนิ 1 หมู่ ตามระบบ IUPAC การเขยี นไอโซเมอร์โครงสร้างของสารประกอบอนิ ทรยี ป์ ระเภทตา่ งๆ จุดเดอื ดและการละลายในน้าของ สารประกอบอินทรยี ์ท่ีมหี มู่ฟงั ก์ชัน ขนาดโมเลกลุ หรอื โครงสรา้ งตา่ งกัน ประเภทของสารประกอบ ไฮโดรคารบ์ อนและผลิตภัณฑ์จากปฏกิ ิริยาการเผาไหม้ ปฏิกริ ิยากบั โบรมนี หรือปฏิกิริยากบั โพแทสเซียม เปอรแ์ มงกาเนต การเขยี นสมการเคมีและการเกิดปฏกิ ริ ิยาเอสเทอริฟเิ คชัน ปฏิกิริยาการสังเคราะหเ์ อไมด์ ปฏิกริ ิยาการไฮโดรลิซสิ และปฏกิ ริ ยิ าสะปอนนิฟิเคชนั การทดสอบปฏกิ ริ ยิ าเอสเทอริฟเิ คชนั ปฏิกิริยา ไฮโดรลซิ สิ และปฏิกิริยาสะปอนนิฟเิ คชนั การนาสารประกอบอนิ ทรีย์ไปใช้ประโยชนใ์ นชีวิตประจาวันและ อุตสาหกรรม ประเภทของปฏิกริ ิยาการเกิดพอลเิ มอร์จากโครงสร้างของมอนอเมอรห์ รือพอลเิ มอร์ ความสมั พนั ธร์ ะหว่างโครงสรา้ งและสมบัติของพอลเิ มอร์และการนาไปใช้ประโยชน์ การทดสอบและระบุ ประเภทของพลาสติกและผลติ ภณั ฑย์ างและการนาไปใชป้ ระโยชน์ ผลของการปรับเปลี่ยนโครงสรา้ ง และ การสังเคราะหพ์ อลเิ มอรท์ ี่มีต่อสมบัติของพอลิเมอร์ ผลกระทบจากการใชแ้ ละการกาจัดผลิตภัณฑ์ พอลิเมอร์และแนวทางแก้ไข ปญั หาและแนวทางแก้ไขโดยใชค้ วามรู้ทางเคมีจากสถานการณ์ท่เี กิดขึ้นใน ชวี ติ ประจาวัน การประกอบอาชีพหรืออุตสาหกรรม การบูรณาการความรทู้ างเคมรี ว่ มกับสาขาวชิ าอน่ื โดยใช้ทกั ษะกระบวนการทางวทิ ยาศาสตรห์ รอื กระบวนการออกแบบเชงิ วศิ วกรรม เพ่ือแก้ปัญหาใน สถานการณห์ รือประเด็นทส่ี นใจ นาเสนอผลงานหรือช้ินงานทไ่ี ด้จากการแกป้ ญั หาในสถานการณ์หรือ ประเดน็ ท่สี นใจโดยใชเ้ ทคโนโลยีสารสนเทศ การเข้ารว่ มสัมมนา การประชุมวิชาการ หรือการแสดง ผลงานส่ิงประดิษฐใ์ นงานนิทรรศการ โดยใช้การสืบเสาะหาความรู้ การสารวจตรวจสอบ ทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตรแ์ ละ ทกั ษะการเรียนรู้ในศตวรรษที่ 21 การสบื คน้ ข้อมูล การอภิปรายและการนาเสนอ เพอ่ื ใหเ้ กิดความรู้ ความคิด ความเขา้ ใจ สามารถสือ่ สารส่ิงทเ่ี รียนรู้ มีความสามารถในการ ตัดสินใจ การแกป้ ัญหา การนาความรไู้ ปใชใ้ นชีวิตประจาวนั มีจิตวิทยาศาสตร์ จรยิ ธรรม คุณธรรม และ ค่านิยมที่เหมาะสม

350 ผลการเรียนรู้ 1. สืบค้นขอ้ มูลและนาเสนอตัวอย่างสารประกอบอินทรีย์ท่ีมีพนั ธะเดยี่ ว พันธะคู่หรือพันธะสามได้ 2. เขยี นสตู รโครงสรา้ งลิวอสิ สูตรโครงสรา้ งแบบย่อและสูตรโครงสร้างแบบเสน้ ของสารประกอบ อนิ ทรียไ์ ด้ 3. วเิ คราะห์โครงสร้างและระบุประเภทของสารประกอบอินทรียจ์ ากหมู่ฟงั ก์ชันได้ 4. เขียนสูตรโครงสร้างและเรียกชอื่ สารประกอบอินทรยี ป์ ระเภทตา่ งๆ ที่มหี มู่ฟังก์ชนั ไมเ่ กนิ 1 หมู่ ตามระบบ IUPAC ได้ 5. เขียนไอโซเมอร์โครงสร้างของสารประกอบอนิ ทรียป์ ระเภทตา่ งๆ 6. วิเคราะหแ์ ละเปรียบเทียบจุดเดือดและการละลายในนา้ ของสารประกอบอนิ ทรยี ์ทีม่ ีหมฟู่ ังก์ชนั ขนาดโมเลกลุ หรือโครงสรา้ งต่างกนั ได้ 7. ระบุประเภทของสารประกอบไฮโดรคารบ์ อนและเขียนผลิตภัณฑจ์ ากปฏิกิรยิ าการเผาไหม้ ปฏิกริ ยิ ากับโบรมีน หรอื ปฏกิ ิรยิ ากบั โพแทสเซยี มเปอรแ์ มงกาเนตได้ 8. เขยี นสมการเคมแี ละอธบิ ายการเกิดปฏกิ ริ ยิ าเอสเทอริฟเิ คชนั ปฏกิ ิรยิ าการสังเคราะหเ์ อไมด์ ปฏกิ ิริยาการไฮโดรลิซสิ และปฏกิ ริ ิยาสะปอนนิฟิเคชันได้ 9. ทดสอบปฏิกริ ยิ าเอสเทอริฟเิ คชัน ปฏิกิรยิ าไฮโดรลซิ สิ และปฏิกิริยาสะปอนนิฟเิ คชนั 10. สืบคน้ ข้อมูล และนาเสนอตวั อยา่ งการนาสารประกอบอนิ ทรียไ์ ปใชป้ ระโยชน์ใน ชีวติ ประจาวนั และอตุ สาหกรรมได้ 11. ระบปุ ระเภทของปฏกิ ิรยิ าการเกดิ พอลเิ มอร์จากโครงสร้างของมอนอเมอรห์ รือพอลเิ มอร์ได้ 12. วเิ คราะหแ์ ละอธบิ ายความสัมพันธ์ระหวา่ งโครงสรา้ งและสมบตั ขิ องพอลิเมอร์ รวมท้ังการ นาไปใชป้ ระโยชน์ได้ 13. ทดสอบและระบุประเภทของพลาสตกิ และผลติ ภัณฑ์ยาง รวมทั้งการนาไปใชป้ ระโยชน์ได้ 14. อธิบายผลของการปรบั เปลีย่ นโครงสรา้ ง และการสังเคราะห์พอลเิ มอรท์ ี่มตี ่อสมบัติของพอลิ เมอรไ์ ด้ 15. สืบค้นข้อมลู และนาเสนอตวั อย่างผลกระทบจากการใช้และแนวทางการกาจัดผลิตภัณฑพ์ อลิ เมอรไ์ ด้ 16. ระบุปัญหาและนาเสนอแนวทางแก้ปัญหาโดยใช้ความรู้ทางเคมจี ากสถานการณ์ท่เี กดิ ข้นึ ใน ชีวิตประจาวนั การประกอบอาชีพหรอื อุตสาหกรรมได้ 17. แสดงหลักฐานถงึ การบรู ณาการความรทู้ างเคมรี ่วมกับสาขาวิชาอื่น รวมทง้ั ทักษะ กระบวนการทางวิทยาศาสตร์หรือกระบวนการออกแบบเชิงวิศวกรรม โดยเนน้ การคดิ วิเคราะห์ การ แกป้ ัญหาและความคิดสรา้ งสรรค์ เพ่ือแกป้ ญั หาในสถานการณห์ รอื ประเด็นที่สนใจ 18. นาเสนอผลงานหรอื ชิ้นงานท่ไี ดจ้ ากการแกป้ ญั หาในสถานการณห์ รือประเดน็ ที่สนใจโดยใช้ เทคโนโลยีสารสนเทศได้ 19. แสดงหลักฐานการเข้ารว่ มการสมั มนา การเข้ารว่ มประชมุ วชิ าการ หรอื การแสดงผลงาน ส่งิ ประดษิ ฐใ์ นงานนทิ รรศการ รวมทั้งหมด 19 ผลการเรยี นรู้

351 โครงสรา้ งรายวชิ าเพิ่มเติม รหสั วิชา ว33225 เคมี 5 ชั้นมัธยมศกึ ษาปีที่ 6 ภาคเรยี นที่ 2 เวลา 60 ชว่ั โมง จานวน 1.5 หนว่ ยกิต หน่วย ช่อื หน่วย ผลการเรยี นรู้ สาระสาคญั เวลา นา้ หนกั ท่ี การเรยี นรู้ (ชั่วโมง) คะแนน 1 เคมีอนิ ทรยี ์ ข้อ 1 - 10 • สารประกอบอินทรยี เ์ ป็น 20 40 สารประกอบของคาร์บอน ส่วนใหญ่พบ ในส่ิงมีชีวิต มีโครงสรา้ งหลากหลายและ แบ่งได้หลายประเภท เนอื่ งจากธาตุ คารบ์ อน สามารถเกิดพนั ธะโคเวเลนตก์ บั ธาตุคาร์บอนด้วยพนั ธะเดยี่ ว พนั ธะคู่ พนั ธะสาม นอกจากนยี้ ังสามารถเกดิ พนั ธะโคเวเลนต์กับธาตุอ่นื ๆ ได้อีกดว้ ย และมีการนาสารประกอบอนิ ทรยี ไ์ ปใช้ ประโยชนอ์ ย่างหลากหลาย • โครงสรา้ งของสารประกอบอนิ ทรีย์ แสดงไดด้ ว้ ยสูตรโครงสร้างลวิ อสี สตู ร โครงสรา้ งแบบยอ่ และสตู รโครงสรา้ ง แบบเสน้ • สารประกอบอินทรีย์มีหลาย ประเภท การพจิ ารณาประเภทของ สารประกอบอินทรยี อ์ าจใชห้ มฟู่ งั กช์ นั เปน็ เกณฑไ์ ด้เป็นแอลเคน แอลคีน แอล ไคน์ อะโรมาติกไฮโดรคารบ์ อน แอลกอ ฮอร์ อเี ทอร์ เอมีน แอลดีไฮด์ คโี ตน กรดคาร์บอกซลิ ิก เอสเทอร์ เอไมด์ • การเรียกชอื่ สารประกอบอนิ ทรีย์ ประเภทแอลเคน แอลคนี แอลไคน์ แอ ลกอฮอร์ อีเทอร์ เอมนี แอลดีไฮด์ คี โตน กรดคาร์บอกซลิ ิก เอสเทอร์และเอ ไมด์ จะเรียกช่ือตามระบบ IUPAC หรือ อาจเรยี กโดยใชช้ ื่อสามัญ • ปรากฏการณท์ ่ีสารมีสูตรโมเลกลุ เหมือนกนั แตม่ สี มบัติตา่ งกนั เรียกว่าไอ โซเมอรทิ ึม และเรียกสารแต่ละชนิดว่าไอ โซเมอร์ ไอโซเมอร์ทมี่ ีสตู รโมเลกลุ

352 หน่วย ชือ่ หน่วย ผลการเรียนรู้ สาระสาคญั เวลา นา้ หนกั ที่ การเรยี นรู้ (ชั่วโมง) คะแนน เหมือนกันแตส่ ูตรโครงสร้างต่างกัน เรียกวา่ ไอโซเมอร์โครงสร้าง • สารประกอบอนิ ทรยี ์ท่ีมหี ม่ฟู งั กช์ นั ขนาดโมเลกุลหรอื โครงสรา้ งของสาร ตา่ งกนั จะมีจุดเดือดและการละลายในน้า ตา่ งกัน สาหรับการละลายของสาร พจิ ารณาได้จากความมีข้ัวของตัวละลาย และตัวทาละลาย โดยสารสามารถ ละลายไดใ้ นตัวทาละลายที่มีข้ัวใกล้เคียง กัน • สารประกอบอินทรยี ป์ ระเภทแอ ลเคน แอลคนี แอลไคน์ อะโรมาติก ไฮโดรคาร์บอน เป็นสารประกอบ ไฮโดรคาร์บอน ซึง่ เม่ือเกิดปฏกิ ิริยาการ เผาไหม้ ปฏิกริ ยิ ากับโบรมีนและปฏิกริ ิยา กับโพแทสเซยี มเปอรแ์ มงกาเนต จะ ให้ผลของปฏกิ ริ ิยาต่างกัน จงึ สามารถใช้ เป็นเกณฑ์ในการจาแนกประเภทของ สารประกอบไฮโดรคารบ์ อนได้ • กรดคาร์บอกซลิ ิกทาปฏกิ ริ ิยากับ แอลกอฮอลไ์ ด้เปน็ เอสเทอร์ เรยี กวา่ ปฏิกิรยิ าเอสเทอรฟิ ิเคชัน กรดคารบ์ อกซิ ลกิ ทาปฏิกิรยิ ากับเอมนี เกิดเป็นเอไมด์ เอสเทอร์และเอไมดส์ ามารถเกดิ ปฏกิ ริ ยิ า ไฮโดรลิซสี ปฏกิ ริ ยิ าไฮโดรลซิ สี ของเอส เทอรใ์ นเบสแอลคาไลน์ เรียกวา่ ปฏกิ ิริยา สะปอนนิฟเิ คชัน • สารประกอบอินทรยี ส์ ามารถ นาไปใชป้ ระโยชน์ได้มากมายใน ชวี ติ ประจาวนั รวมทั้งนาไปใช้เปน็ สารต้ัง ต้นและตัวทาละลายในอตุ สาหกรรมด้าน ตา่ งๆ เชน่ อุตสาหกรรมเช้อื เพลิงและ พลังงาน อุตสาหกรรมอาหารและยา อุตสาหกรรมเกษตร 2 พอลิเมอร์ ข้อ 11 - 15 • พอลิเมอร์เปน็ สารท่ีมีโมเลกุลขนาด 20 30

353 หน่วย ชื่อหน่วย ผลการเรยี นรู้ สาระสาคัญ เวลา น้าหนัก ท่ี การเรยี นรู้ (ช่วั โมง) คะแนน ใหญ่ ทป่ี ระกอบดว้ ยหน่วยย่อยท่เี รียกวา่ มอนอเมอร์ เช่ือมต่อกันด้วยพนั ธะโคเว เลนต์ โดยมีท้งั พอลิเมอร์ธรรมชาตแิ ละ พอลเิ มอร์สังเคราะห์ ปฏิกริ ิยาการเกดิ พอลิเมอร์ อาจเปน็ ปฏิกิรยิ าแบบ ควบแนน่ หรือปฏกิ ิริยาแบบเติม ขน้ึ อยู่ กบั หมุ่ฟังกช์ นั และโครงสร้างของพอลิ เมอร์ • พอลเิ มอร์มโี ครงสร้างต่างกนั อาจ เป็นโครงสรา้ งแบบเสน้ แบบกิง่ หรือ แบบรา่ งแห ขึ้นอยู่กับชนิดของมอนอ เมอรแ์ ละภาวะของปฏกิ ิริยาการเกิดพอลิ เมอร์ ซ่ึงโครงสรา้ งของพอลเิ มอร์ส่งผล ต่อจุดหลอมเหลว ความหนาแนน่ ความ เปราะ ความเหนยี ว ความยืดหยุน่ จงึ สามารถนาไปประยุกต์ใชไ้ ด้อย่าง หลากหลาย • พอลิเมอรท์ ี่ให้ความร้อนแลว้ สามา ถนากลบั มาขน้ึ รูปใหม่ได้เรียกว่า พอลิ เมอรเ์ ทอรม์ อพลาสติก สว่ นใหญม่ ี โครงสร้างแบบเสน้ และแบบก่ิง ส่วนพอลิ เมอรท์ ่ีให้ความร้อนแลว้ ไม่อ่อนตวั จงึ ไม่ สามารถนากลบั มาขึ้นรูปใหมไ่ ด้ เรยี กวา่ พอลิเมอรเ์ ทอร์มอเซต มีโครงสร้างแบบ ร่างแห พลาสติกมีทั้งท่เี ป็นพอลเิ มอร์ เทอร์มอพลาสติก และพอลเิ มอรเ์ ทอรม์ อ เซต ผลติ ภณั ฑ์ยางเปน็ พอลเิ มอร์ทเ่ี ปน็ พอลิเมอรเ์ ทอรม์ อเซต ซึง่ ทาใหม้ สี มบตั ิ และการนาไปใช้ประโยชนต์ ่างกนั • การปรบั เปล่ยี นโครงสรา้ งหรือการ สงั เคราะห์พอลิเมอร์ เชน่ วลั คาไนเซชัน การสังเคราะห์โคพอลิเมอร์ การ สังเคราะห์พอลเิ มอรน์ าไฟฟา้ เป็นการ ปรับปรุงคณุ ภาพของพอลิเมอร์ เพื่อให้ได้ ผลิตภัณฑท์ ีส่ ามารถนาไปใช้ประโยชนไ์ ด้

354 หน่วย ชอ่ื หน่วย ผลการเรยี นรู้ สาระสาคัญ เวลา นา้ หนกั ท่ี การเรียนรู้ (ชัว่ โมง) คะแนน อยา่ งเหมาะสมและหลากหลายมากขึ้น • การใช้และการกาจัดผลิตภัณฑพ์ อลิ เมอร์ อาจสง่ ผลกระทบต่อส่ิงมชี ีวติ และ สงิ่ แวดล้อม จึงควรตระหนักถงึ ผลกระทบท่เี กิดขน้ึ และแนวทางแก้ไข 3 เคมใี นชีวติ ประจาวนั ข้อ 16 - 19 • สถานการณบ์ างสถานการณ์ใน 20 30 ชีวติ ประจาวัน การประกอบอาชีพ หรอื อุตสาหกรรม สามารถนาความรทู้ างเคมี ไปใช้ประโยชน์หรือแก้ปัญหาได้ • การศึกษาหรือการแกป้ ัญหาใน สถานการณ์ หรือประเด็นที่สนใจทาได้ โดยการบูรณาการความรทู้ างเคมีรว่ มกบั วทิ ยาศาสตรแ์ ขนงอืน่ รวมทั้ง คณิตศาสตร์ เทคโนโลยี และทกั ษะ กระบวนการทางวิทยาศาสตร์หรือ กระบวนการออกแบบเชิงวิศวกรรม โดย เน้นการคดิ วเิ คราะห์ แก้ปัญหาและ ความคดิ สรา้ งสรรค์ • การนาเสนองานหรือแสดงผลงาน เปน็ การเปดิ โอกาสใหผ้ ู้มสี ่วนร่วมได้ แลกเปล่ียนแนวคิด ผลงาน รวมทั้งเพมิ่ โอกาสในการพัฒนางาน โดยใช้ เทคโนโลยีสารสนเทศเป็นเครื่องมือ ประกอบการนาเสนอ ซงึ่ จะทาใหก้ าร สอ่ื สารมีประสทิ ธภิ าพมากขน้ึ • การสมั มนา การประชมุ วชิ าการ หรอื การร่วมแสดงผลงาน สงิ่ ประดษิ ฐใ์ น งานนิทรรศการเป็นการเปดิ โอกาสใหผ้ ูท้ ่ีมี สว่ นร่วมได้แลกเปลี่ยนความคิด แสดง ทัศนคติต่อกรณีศึกษาสถานการณ์ หรอื ประเดน็ สาคัญทางเคมี ซงึ่ ช่วยส่งเสรมิ ใหพ้ ัมนากระบวนการคิด ทักษะการ สอื่ สาร ทักษะการใชเ้ ทคโนโลยี•เพ่ือการ คน้ ควา้ และการสอื่ สาร ซ่ึงสามารถทาได้ หลายระดับ โดยอาจเปน็ ระดับชั้นเรยี น

หน่วย ชื่อหน่วย ผลการเรยี นรู้ สาระสาคัญ 355 ท่ี การเรยี นรู้ เวลา น้าหนกั (ชั่วโมง) คะแนน โรงเรียน กล่มุ โรงเรียน ชุมชน 60 100 ระดบั ชาติ หรอื นานาชาติ รวม

356 คาอธบิ ายรายวิชาเพิ่มเตมิ รายวิชา ว30281 โปรแกรมตารางงานขั้นสูง ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปีที่ 4-6 เวลา 40 ช่ัวโมง จานวน 1.0 หน่วยกิต ศึกษาความร้เู บื้องตน้ กับตารางงาน การจดั การกับฐานข้อมูล การใช้ฟงั ก์ชนั ของคาสง่ั เง่ือนไขกับ การทางาน ฟังกช์ ันการคานวณทางดา้ นสถิตแิ ละคณิตศาสตร์ ฟังก์ชันการเรียกข้อมลู จากตารางงานและ การใชง้ าน การใชช้ ุดคาสั่ง คาส่ังและกลมุ่ คาสง่ั ทใี่ ช้ในการเขยี นโปรแกรม การสร้างและการพมิ พ์กราฟ การจดั เรยี งและคน้ หา การประยุกต์ในดา้ นตา่ ง ๆ ปฏบิ ตั กิ ารใช้โปรแกรมตารางงานจดั การฐานข้อมูล ใชฟ้ งั ก์ชนั ของคาส่ังเง่ือนไข ฟังกช์ นั การ คานวณ ฟงั กช์ ันเรยี กข้อมลู จากตารางงาน เขยี นโปรแกรมด้วยชุดคาสั่ง คาสงั่ และกลุ่มคาส่ัง สรา้ งและ พมิ พ์กราฟ เรียกและคน้ หาข้อมูล และประยุกต์ในงานด้านตา่ ง ๆ เพ่อื ให้มจี ิตสานึกความรบั ผิดชอบต่อตนเอง รับผิดชอบต่อส่วนรวมและสงิ่ แวดล้อม มเี จตคติ ทดี่ ีในการทางาน การประกอบอาชีพสจุ รติ มที ักษะการเรยี นรใู้ นศตวรรษที่ 21 และมีคา่ นิยมทพี่ งึ ประสงค์ ผลการเรียนรู้ 1. อธิบายความเปน็ มาและลักษณะพ้ืนฐานของตารางงานได้ 2. อธบิ ายขัน้ ตอนการเปิด-ปิด และส่วนประกอบของโปรแกรมตารางงานได้ 3. อธิบายและปฏิบัตกิ ารเปดิ แฟ้มขอ้ มูล ป้อน/ลบข้อมูล บันทกึ และปิดแฟม้ ข้อมลู ได้ 4. ตกแตง่ ข้อมลู และตารางงานได้ 5. อธิบายและปฏบิ ัติการเขียนโปรแกรมฟังกช์ นั ตรวจสอบเง่อื นไขด้วยฟงั ก์ชนั if ได้ 6. อธบิ ายและปฏบิ ตั ิการสาเนาขอ้ มลู และย้ายขอ้ มลู ได้ 7. เขียนรูปแบบและใชง้ านฟังก์ชนั ในรปู แบบตา่ งๆ ได้ 8. เรียงลาดับและค้นหาขอ้ มลู ได้ 9. สรา้ งแผนภูมปิ ระเภทตา่ งๆ ได้ 10. พฒั นาโปรแกรมตารางงานเพ่อื ประยุกต์กับงานตา่ งๆ ได้ รวมท้ังหมด 10 ผลการเรียนรู้

357 โครงสร้างรายวิชาเพ่ิมเติม รายวชิ า ว30281 โปรแกรมตารางงานขน้ั สูง ชัน้ มัธยมศึกษาปีท่ี 4-6 เวลา 40 ชั่วโมง จานวน 1.0 หน่วยกติ หน่วย ช่อื หน่วย ผลการเรยี นรู้ สาระสาคัญ เวลา น้าหนัก ท่ี การเรียนรู้ (ชั่วโมง) คะแนน 1 วิวฒั นาการของตารางงาน 1.อธิบายความ โปรแกรมประเภทสเปรดชตี 2 5 เป็นมาและลักษณะ (spreadsheet) หรือ พื้นฐานของตาราง โปรแกรมตารางงานใชเ้ กบ็ งานได้ ขอ้ มูลตา่ งๆ สตู รคานวณลง บนแผน่ ตาราง ตารางแตล่ ะ ช่องจะมีช่ือกากับไวใ้ น แนวต้ังหรอื สดมภ์ A,B,C… แนวนอนหรอื แถวกากับดว้ ย หมายเลข 1,2,3.. 2 การเขา้ และออกจากตาราง 2.อธิบายขน้ั ตอน การเรยี กใช้โปรแกรมและ 2 5 งาน การเปิด-ปิด และ การปิดโปรแกรมทาไดห้ ลาย สว่ นประกอบของ วิธี กอ่ นเร่มิ ใช้งานโปรแกรม โปรแกรมตาราง ควรรู้จักสว่ นประกอบของ งานได้ โปรแกรมและคาสง่ั ตา่ งๆ 3 การปอ้ นและแก้ไขข้อมูล 3.อธบิ ายและ การพิมพข์ ้อความลงในตาราง 4 10 ปฏิบตั กิ ารเปิด เป็นการปอ้ นขอ้ ความชนิด แฟม้ ขอ้ มลู ป้อน/ ตา่ ง ๆ เช่น ตวั อักษร ตวั เลข ลบข้อมลู บนั ทึก สูตร เป็นตน้ วธิ กี ารพมิ พ์ และปดิ แฟม้ ข้อมลู คลา้ ยคลึงกบั การพิมพ์ ได้ ข้อความในโปรแกรมประมวล คา แตก่ ็มรี ายละเอยี ดบาง ประการไมเ่ หมือนกัน ซึ่งเป็น ลกั ษณะเฉพาะของโปรแกรม หน่วย ชือ่ หน่วย ผลการเรยี นรู้ สาระสาคัญ เวลา น้าหนกั ท่ี การเรียนรู้ (ช่วั โมง) คะแนน 4 การตกแต่งข้อมูลและตาราง 4.ตกแตง่ ข้อมลู และ การปอ้ นขอ้ มูลลงในตาราง 4 10 งาน ตารางงานได้ งาน ขอ้ มลู อักขระจะถูก

358 หนว่ ย ชือ่ หน่วย ผลการเรียนรู้ สาระสาคัญ เวลา นา้ หนัก ท่ี การเรียนรู้ (ชัว่ โมง) คะแนน 5 ฟังก์ชั่นตรวจสอบเงื่อนไข จัดเก็บใหช้ ิดขอบซา้ ยของ 6 การสาเนาและการยา้ ย ตาราง สว่ นข้อมูลจานวนจะ ขอ้ มลู จดั เก็บให้อยู่ชดิ ขอบขวาของ 7 ฟังก์ชันในตารางงาน ตาราง ซ่ึงผใู้ ชส้ ามารถ 8 การเรียงลาดับและคน้ หา ข้อมลู ตกแตง่ ขอ้ มูลในตารางหรือ ตกแต่งตารางใหเ้ ป็นไปตาม ความเหมาะสม สวยงามได้ 5.อธิบายและ การใช้ฟังกช์ ัน IF มี 25 ปฏิบตั ิการเขยี น ประโยชน์มากในการ โปรแกรมฟงั กช์ ัน ตรวจสอบว่าเซลลม์ ี ตรวจสอบเงือ่ นไข คณุ สมบัตติ รงตามเงื่อนไข ด้วยฟงั กช์ ัน if ได้ และส่งคนื ค่าตา่ งๆ ตามผล การประเมิน (จรงิ หรือเทจ็ ) 6.อธบิ ายและ การใสข่ ้อมูลลงในตารางงาน 4 10 ปฏบิ ตั ิการสาเนา สามารถทาโดยใช้คาสั่งการ ข้อมลู และยา้ ย สาเนาขอ้ มูล และในการยา้ ย ขอ้ มูลได้ ข้อมูลก็มีคาส่งั ทใ่ี ชใ้ นการ เคลอ่ื นย้ายข้อมูลไปไว้ที่อ่ืน ไดอ้ ย่างสะดวก 7.เขยี นรูปแบบและ การทางานดว้ ยฟังกช์ นั เป็น 4 10 ใชง้ านฟงั กช์ นั ใน การทางานทป่ี ระกอบด้วย รปู แบบต่างๆ ได้ ขอ้ มลู ประเภทข้อความ ตัวเลข รวมถงึ ช่ือเซลทใ่ี ช้ เก็บข้อมลู องคป์ ระกอบท่ี ใช้ในการทางานในฟังกช์ นั เราเรยี กว่า อารก์ ิวเมนต์ (argument) ฟังกช์ ันจะชว่ ย ใหก้ ารเขยี นสตู รในการ คานวณสัน้ ลงและง่ายขึ้น 8.เรยี งลาดบั และ การเรยี งลาดบั ข้อมลู 6 20 ค้นหาข้อมูลได้ สามารถจดั เรียงได้เป็น 2 ประเภท คอื เรียงจากมาก ไปน้อย และจากน้อยไปมาก การคน้ หาข้อมูล ทาได้ 2 วิธี คอื การคน้ หาแบบอัตโนมัติ

359 หนว่ ย ช่อื หน่วย ผลการเรียนรู้ สาระสาคัญ เวลา น้าหนัก ท่ี การเรียนรู้ (ช่วั โมง) คะแนน และการคน้ หาแบบขั้นสงู 9 การสร้างแผนภูมิ 9.สร้างแผนภูมิ การนาข้อมูลมาจดั ทาเป็น 6 10 ประเภทต่างๆ ได้ แผนภูมิประกอบการ รายงานจะชว่ ยให้การทา รายงานหรือการนาเสนอ ขอ้ มูลเข้าใจไดง้ า่ ยและมองดู น่าสนใจมากยงิ่ ขึ้น 10 การประยุกตต์ ารางงานดา้ น 10.พัฒนาโปรแกรม การประยุกต์ใช้งาน 6 15 ตา่ งๆ ตารางงานเพือ่ โปรแกรมตารางงานในดา้ น ประยุกต์กับงาน ต่าง ๆ เชน่ การสร้างสตู ร ตา่ งๆ ได้ คูณ การสร้างกราฟ การแก้ สมการ การคานวณหา ค่าสถิตติ ่างๆ การคานวณ ดอกเบยี้ เงินฝาก การตดั เกรด การคิดเกรดเฉล่ยี เปน็ ตน้ รวม 40 100

360 คาอธิบายรายวิชาเพ่ิมเตมิ รหัสวชิ า ว30282 การสรา้ งเวบ็ เพจดว้ ยภาษา HTML ช้นั มธั ยมศึกษาปีท่ี 4-6 เวลา 40 ชั่วโมง จานวน 1.0 หนว่ ยกิต ศึกษาความรูเ้ บ้ืองตน้ เกีย่ วกับอนิ เทอรเ์ น็ตและเวบ็ ไซต์ ความหมายและโครงสรา้ งของภาษา HTML การใสส่ แี ละตกแต่งข้อความในเวบ็ เพจ การจัดการรปู ภาพในเวบ็ เพจ การสรา้ งตารางในเว็บเพจ การสรา้ งการเชือ่ มโยง การสร้างการแบบฟอร์ม การสรา้ งเฟรมในเวบ็ เพจ การสรา้ งสไตล์ชีต การสร้าง Dynamic HTML ในเว็บเพจ การนาเสนอเว็บเพจทสี่ ร้างจากภาษา HTML โดยปฏบิ ัตกิ ารสรา้ งเวบ็ เพจด้วยภาษา HTML และนาเสนอเว็บเพจ เพอื่ ใหม้ เี จตคติทดี่ ใี นการใช้เทคโนโลยสี ารสนเทศ พฒั นาเว็บเพจและนาเสนอข้อมูลสารสนเทศ ได้อยา่ งมีเหตผุ ล มคี ุณธรรม จรยิ ธรรมและความรบั ผดิ ชอบ ผลการเรียนรู้ 1. อธิบายความรู้เบื้องตน้ เกี่ยวกบั อินเทอรเ์ น็ตและเว็บไซต์ได้ 2. อธบิ ายความหมายและโครงสรา้ งของภาษา HTML ได้ 3. ปฏิบัติการจดั วาง ใส่สี และตกแตง่ ข้อความในเว็บเพจได้ 4. ปฏบิ ตั ิการสรา้ งลิสตร์ ายการในเวบ็ เพจได้ 5. ปฏิบตั ิการจัดการรูปภาพในเวบ็ เพจได้ 6. ปฏิบัติการสรา้ งตารางในเว็บเพจได้ 7. ปฏิบตั ิการสรา้ งการเช่ือมโยงได้ 8. ปฏบิ ัตกิ ารสร้างฟอร์มได้ 9. ปฏิบตั กิ ารสร้างเฟรมในเว็บเพจได้ 10. ปฏบิ ัติการสรา้ งสไตล์ชตี และ Dynamic HTMLในเวบ็ เพจได้ 11. สามารถนาเสนอเว็บเพจทสี่ รา้ งจากภาษา HTMLได้ รวมทั้งหมด 11 ผลการเรียนรู้

361 โครงสร้างรายวิชาเพ่ิมเติม รหสั วิชา ว30282 การสรา้ งเวบ็ เพจดว้ ยภาษา HTML ชน้ั มธั ยมศึกษาปีท่ี 4-6 เวลา 40 ช่ัวโมง จานวน 1.0 หน่วยกติ หน่วย ช่อื หน่วย ผลการเรียนรู้ สาระสาคญั เวลา นา้ หนัก ท่ี การเรียนรู้ (ชั่วโมง) คะแนน 1 เรม่ิ ต้นกบั การสร้างเวบ็ เพจ อธิบายความรู้ ปจั จบุ นั อินเทอรเ์ น็ตถือเป็น 2 5 เบอ้ื งตน้ เก่ยี วกบั สว่ นหนงึ่ ในชวี ิตประจาวันของ อนิ เทอร์เน็ตและ เรา ซง่ึ ในอนิ เทอร์เน็ตจะ เวบ็ ไซตไ์ ด้ ประกอบด้วยเว็บไซต์ต่างๆ มากมาย 2 รจู้ กั กับภาษา HTML อธบิ าย HTML (Hypertext Markup 2 5 ความหมายและ Language) เป็นภาษาที่ใชใ้ น โครงสรา้ งของ การในการเขียนโปรแกรม ภาษา HTML ได้ ภาษาหนึ่งของคอมพิวเตอร์ เพอ่ื ตอบสนองในการแสดงผล บนจอภาพในระบบ อินเทอรเ์ น็ตในลกั ษณะของเว็บ เพจผ่านทางเวบ็ เบราว์เซอร์ 3 การจดั วางเนือ้ หาบนหน้า ปฏบิ ตั ิการจดั วาง การจดั เนอื้ หาบนหน้าเว็บโดย 2 5 เวบ็ ขอ้ ความและจัด การพมิ พข์ ้อความขึน้ บรรทดั ตาแหน่งข้อความ ใหมด่ ว้ ยคาสง่ั br การยอ่ หน้า ในเว็บเพจได้ ดว้ ย p และการจดั ตาแหน่ง ดว้ ยคาสงั่ Align และ center จะชว่ ยใหข้ อ้ มลู บนเว็บ แบง่ เปน็ สัดส่วน อ่านง่ายมาก ยิง่ ขึน้ 4 การจัดการขอ้ ความ ปฏิบตั กิ ารใส่สี การกาหนดสใี ห้กบั ข้อความ 4 10 และตกแต่ง จะชว่ ยเนน้ ข้อความ แบง่ แยก ข้อความในเว็บ ข้อความเปน็ สัดสว่ นและชว่ ย เพจได้ ใหห้ นา้ เวบ็ เพจมคี วาม นา่ สนใจมากย่ิงข้นึ 5 การใช้ลิสต์สรา้ งรายการ ปฏิบัตกิ ารสร้าง การนาเสนอข้อมลู ในเวบ็ เพจ 2 5 ลิสตร์ ายการใน ควรมคี วามกระชบั วิธีหนึง่ ท่ี เว็บเพจได้ จะช่วยได้ คือ ยกข้อมลู เป็น ประเดน็ โดยจดั เปน็ รายการ หรอื ลสิ ต์ ซ่งึ สามารถทาได้

362 หนว่ ย ชื่อหน่วย ผลการเรียนรู้ สาระสาคัญ เวลา น้าหนัก ท่ี การเรยี นรู้ (ช่ัวโมง) คะแนน หลายรูปแบบ 6 การเช่ือมโยงเว็บเพจด้วยลิงก์ ปฏิบัติการสรา้ ง การใชล้ ิงก์ทาให้เว็บเพจ 25 การเชอ่ื มโยงได้ แตกตา่ งจากเอกสารธรรมดา เพราะทาใหเ้ ว็บเพจสามารถ ตอบสนองผใู้ ช้ได้ โดยการคลิก ทลี่ ิงก์เพื่อเปิดดูเฉพาะหนา้ เวบ็ เพจทส่ี นใจ 7 จัดข้อมลู ใหเ้ ป็นสัดส่วนดว้ ย ปฏบิ ัตกิ ารสร้าง การใชต้ าราง เหมาะสาหรับ 6 15 ตาราง ตารางในเวบ็ เพจ การนาเสนอข้อมูลจานวนมาก ได้ และสามารถใชต้ ารางในการ จัดองคป์ ระกอบต่างๆ ในเวบ็ เพจใหอ้ ยู่ในตาแหน่งทต่ี อ้ งการ ได้อย่างเปน็ สัดส่วน 8 แต่งเตมิ เว็บเพจดว้ ยกราฟิก ปฏิบตั ิการจดั การ การตกแต่งเว็บเพจด้วย 6 15 รปู ภาพในเวบ็ เพจ รูปภาพช่วยใหเ้ ว็บเพจมคี วาม ได้ น่าสนใจมากยิง่ ข้ึน 9 การสรา้ งเฟรม ปฏิบัติการสรา้ ง การสรา้ งเฟรมเปน็ การแบง่ 4 10 เฟรมในเวบ็ เพจ หน้าเวบ็ เพจออกเป็นสว่ นๆ ได้ โดยใช้หลักการนาเวบ็ เพจ หลายหน้ามาประกอบกันข้ึน เป็นเวบ็ เพจอีกหน้าหนง่ึ

363 หน่วย ช่ือหน่วย ผลการเรียนรู้ สาระสาคญั เวลา น้าหนกั ท่ี การเรียนรู้ (ชั่วโมง) คะแนน 10 การสรา้ งฟอร์ม ปฏบิ ตั กิ ารสรา้ ง การสรา้ งฟอร์มในเว็บเพจ 6 15 11 การใช้สไตล์ชีต และ Dynamic HTML ฟอรม์ ในเวบ็ เพจ เพอื่ ต้องการเกบ็ ขอ้ มูล 12 การเผยแพร่เว็บไซต์ ได้ บางอย่างจากผูเ้ ข้าชมเว็บ เช่น ข้อมูลประจาตวั ขอ้ มลการ เย่ียมชม การสมคั รสมาชิก การตอบแบบสอบถามหรือ แบบสารวจ เป็นต้น ปฏิบัติการใช้ การใช้สไตลช์ ตี ในการควบคุม สไตลช์ ีต และ การแสดงผลในหน้าเว็บเพจ Dynamic HTML ช่วยลดความยงุ่ ยากในการ ได้ เขียนคาสงั่ และการแก้ไขคาส่ัง Dynamic HTML เปน็ เทคนิคที่ช่วยให้การแสดง เว็บเพจน่าสนใจมากขึ้น สามารถโตต้ อบกับผใู้ ช้งานได้ มากกว่าเวบ็ เพจในรปู แบบ HTML ปกติ สามารถนาเสนอ การเผยแพรเ่ ว็บไซต์ เป็นการ 4 10 เวบ็ เพจทสี่ รา้ ง นาไฟล์เวบ็ เพจตา่ งๆไปไวบ้ น จากภาษา HTML เครือข่ายอินเทอรเ์ นต็ หรือผู้ ได้ ใหบ้ รกิ ารพื้นทท่ี าเวบ็ ไซต์ เพ่ือใหผ้ ้อู ่นื สามารถเข้าชม เว็บไซต์ผ่านเบราเซอร์บน เครือข่ายอินเทอรเ์ นต็ ได้ รวม 20 100

364 คาอธบิ ายรายวิชาเพิ่มเติม รหสั วชิ า ว30283 โปรแกรมกราฟิก ชัน้ มธั ยมศึกษาปีท่ี 4-6 เวลา 40 ช่ัวโมง จานวน 1.0 หน่วยกิต ศกึ ษาหลักการพ้นื ฐานของกราฟกิ การใช้โปรแกรมสาหรับงานกราฟิก เชน่ Photoshop, Illustrator, InDesign, PhotoScape เปน็ ตน้ ประโยชนแ์ ละความสามารถของโปรแกรม สว่ นประกอบ ของโปรแกรม หน้าทแี่ ละการใช้งานเครอ่ื งมือของโปรแกรม ลกั ษณะของแผน่ โปรง่ ใส วิธกี ารบันทึกผลงาน การเปดิ งานในโปรแกรม การแก้ไขและปรับแตง่ ภาพโดยใช้เครอื่ งมือของโปรแกรม การใช้คาสั่งฟิลเตอร์ การใสเ่ อฟเฟก็ ต์ และการสรา้ งตวั อกั ษรประกอบภาพ ปฏิบัตกิ ารใชโ้ ปรแกรมกราฟิกสร้างและและตกแต่งภาพดว้ ยการนาเทคนิคเครื่องมือ และวิธกี าร ตา่ งๆ มาประกอบกนั ในการออกแบบชิ้นงาน เชน่ โปสเตอร์ ป้ายรณรงค์ ป้ายโฆษณา แบนเนอร์ และอนื่ ๆ เพอ่ื ใหม้ ีทักษะเบอื้ งต้นเกยี่ วกับการสรา้ งภาพกราฟิก สร้างแนวคดิ เกย่ี วกับงานกราฟิกและ การนาเสนอในรปู แบบตา่ ง ๆ ดว้ ยคอมพวิ เตอร์อยา่ งมีคณุ ธรรมและจริยธรรม ผลการเรียนรู้ 1. อธิบายหลกั การทฤษฎี ประเภท คุณลักษณะของคอมพิวเตอร์กราฟกิ ได้ 2. อธิบายความสามารถ สว่ นประกอบ และเรียกใช้เคร่ืองมอื ของโปรแกรมได้ 3. สรา้ งไฟล์ นาเข้าไฟลภ์ าพจากแหลง่ ต่างๆ และกาหนดขนาดของงานได้อย่างถกู ต้อง 4. เลอื กใช้เครือ่ งมือในการเลือกพื้นทแี่ ละวาดภาพไดอ้ ยา่ งถกู ต้อง 5. ใชเ้ ครื่องมือในการตกแต่งและรีทชั ภาพประกอบการสร้างช้นิ งานได้อย่างถูกต้อง 6. ใชฟ้ ิลเตอร์ประกอบการสรา้ งชิ้นงานได้อยา่ งถูกต้อง 7. สรา้ งและปรับรปู แบบตัวอักษรประกอบการสรา้ งช้ินงานไดอ้ ยา่ งถูกตอ้ ง 8. เลอื กใชเ้ อฟเฟ็กตใ์ นการตกแต่งภาพได้อยา่ งเหมาะสมสวยงาม 9. ใชโ้ ปรแกรมเพือ่ สรา้ งสรรค์งานได้อย่างถูกต้องและเหมาะสม รวมท้ังหมด 9 ผลการเรียนรู้

365 โครงสร้างรายวชิ าเพ่ิมเติม รหัสวชิ า ว30283 โปรแกรมกราฟกิ ช้ันมธั ยมศกึ ษาปีที่ 4-6 เวลา 40 ชั่วโมง จานวน 1.0 หนว่ ยกิต หนว่ ย ชอ่ื หน่วย ผลการเรยี นรู้ สาระสาคญั เวลา นา้ หนัก ที่ การเรยี นรู้ (ช่ัวโมง) คะแนน 1 พน้ื ฐานกราฟกิ 1.อธบิ ายหลกั การ กราฟิก เป็นศลิ ปะหรือศาสตร์ 4 10 ทฤษฎี ประเภท แขนงหน่งึ ทส่ี ื่อความหมายโดย คุณลักษณะของ ใชเ้ ส้น ภาพเขยี น สญั ลักษณ์ คอมพิวเตอร์กราฟิก ภาพถา่ ย ซง่ึ มีลักษณะเหน็ ได้ ได้ ชัดเจน เข้าใจความหมายได้ ทนั ที และถูกต้องตรงตามท่ผี ู้ใช้ ตอ้ งการ ภาพท่เี กยี่ วข้องกับ กราฟิกแบง่ เป็น 2 ประเภท คือ ภาพบิตแม็บและภาพเว็คเตอร์ 2 ร้จู ักโปรแกรม 2.อธบิ าย โปรแกรมกราฟกิ เป็นโปรแกรม 4 10 ความสามารถ ที่นยิ มใชใ้ นการตกแต่ง สว่ นประกอบ และ ภาพกราฟกิ ใหส้ วยงาม เชน่ เรยี กใช้เคร่อื งมือ แก้ไขภาพทีบ่ กพรอ่ งหรือมี ของโปรแกรมได้ ตาหนิ ตกแต่งภาพ ตัดสว่ นทไี่ ม่ 3. สรา้ งไฟล์ นาเข้า ต้องการออก ตดั ต่อภาพโดย ไฟลภ์ าพจากแหล่ง การย้ายภาพคนหรือสิ่งของ ต่างๆ และกาหนด จากภาพถ่ายหนึ่งไปอยอู่ ีกฉาก ขนาดของงานได้ หลังหน่ึง ใสเ่ อฟเฟ็กต์ สร้าง อยา่ งถูกต้อง ภาพกราฟกิ ให้ผสมผสาน ระหว่างภาพถา่ ยและภาพวาด สร้างภาพเพ่ือไปใชใ้ นงานเว็บ เพจ เปน็ ตน้ 3 เคร่ืองมอื วาดภาพ 4.เลอื กใช้เคร่ืองมือ การสรา้ งรูปภาพขึ้นใหม่เอง 6 15 ในการเลือกพนื้ ท่ี เช่น การใช้เคร่ืองมือวาดภาพ และวาดภาพได้ แบบตา่ งๆ ในโปรแกรม จะให้ อยา่ งถูกต้อง กาหนดขนาดของพนื้ ท่ีในการ สร้างงานได้ตามต้องการ

366 หนว่ ย ชื่อหน่วย ผลการเรยี นรู้ สาระสาคญั เวลา น้าหนัก ท่ี การเรียนรู้ (ชั่วโมง) คะแนน 4 เครอ่ื งมือแก้ไขรูปภาพ 5 คาสั่งฟลิ เตอร์ 5.ใช้เครื่องมือในการ การรที ชั เปน็ การปรับแตง่ แก้ไข 6 15 6 การสรา้ งตัวอกั ษร ตกแต่งและรที ัชภาพ ภาพในบางส่วน เชน่ การรีทัช 7 การใสเ่ อฟเฟ็กต์ เพอ่ื สร้างชิ้นงานได้ ใบหน้าไม่ให้มรี ้วิ รอย สิวฝ้า 8 การสร้างชิน้ งาน ถกู ต้อง เป็นต้น 6.ใชฟ้ ิลเตอร์ การทาภาพโดยใช้ฟิลเตอร์ คือ 4 10 ประกอบการสร้าง การตกแต่งภาพด้วยเทคนคิ ช้ินงานไดอ้ ยา่ ง พเิ ศษ ท่ีสามารถปรับเปล่ียน ถูกต้อง รปู แบบของภาพตามความ ต้องการของงาน 7.สร้างและปรับ การตกแต่งภาพให้มตี วั อักษร 4 10 รูปแบบตวั อักษร หรอื ข้อความสามารถทาได้โดย ประกอบการสรา้ ง การใช้เครอ่ื งมือกลุ่ม Type ชิน้ งานไดถ้ ูกตอ้ ง Tool 8.เลือกใชเ้ อฟเฟ็กต์ การใส่เอฟเฟ็กตใ์ ห้กบั ภาพ 4 10 ในการตกแตง่ ภาพ สามารถทาได้หลากหลาย ไดอ้ ย่างเหมาะสม รูปแบบ และเลอื กได้วา่ จะใช้ สวยงาม เอฟเฟ็กต์แตง่ ภาพแคบ่ างส่วน หรือจะแต่งทง้ั ภาพก็สามารถทา ได้ 9.ใช้โปรแกรมเพื่อ การสร้างชิน้ งานจากโปรแกรม 8 20 สรา้ งสรรคง์ านได้ สามารถทาไดห้ ลากหลาย เช่น อย่างถูกต้องและ ภาพโปสเตอร์ ป้ายโฆษณา เหมาะสม แบนเนอรบ์ นเวบ็ ภาพประกอบ งานนาเสนอ เปน็ ต้น รวม 40 100

367 คาอธบิ ายรายวิชาเพิ่มเตมิ รหัสวิชา ว30284 มลั ติมีเดีย ชั้นมัธยมศกึ ษาปีที่ 4-6 เวลา 40 ช่ัวโมง จานวน 1.0 หนว่ ยกติ ศกึ ษาระบบคอมพิวเตอรส์ าหรับงานมลั ติมีเดยี อปุ กรณ์แสดงผลกราฟิก การแสดงผลดว้ ยภาพ วีดีโอ เสียง อปุ กรณป์ ระกอบ เช่น เครื่องขบั แผ่นบันทกึ ซดี ี การด์ ประมวลผลเสียง วีดโี อ สแกนเนอร์ เคร่อื งพิมพส์ ี ฯลฯ การเก็บรวบรวมข้อมูลแบบมลั ตมิ ีเดยี ภาพ วีดีโอ เสยี ง ข้อมลู การใช้โปรแกรมแบบ มัลติมีเดยี เชน่ Ulead Video Studio, After Effect, Premier pro, Sony Vegas คาสง่ั ในการ ดาเนินงานการสร้างงานมัลติมีเดยี การใช้สี การตกแต่งภาพ การเชื่อมข้อมูล หลกั การส่ือหลายมิติ การ สรา้ งข้อความหลายมติ ิ งานประยกุ ตด์ ้านการศึกษา การใส่ไฟลเ์ สียง การใสไ่ ฟลว์ ีดโิ อ การนาเสนอและการ เผยแพร่ผลงาน ปฏบิ ัติการใชซ้ อฟต์แวร์ประยุกตด์ า้ นมัลติมีเดียในการสรา้ งงานสือ่ มัลติมีเดียจากจนิ ตนาการหรือ งานท่ีทาในชีวติ ประจาวนั โดยใชก้ ระบวนการสรา้ งความรู้ความเข้าใจ การคิดวิเคราะห์ การฝกึ ทักษะและ ปฏิบตั ิงาน การแก้ปัญหา การทางานกลมุ่ การเสรมิ สร้างเจตคติ และกระบวนการเสริมสร้างคณุ ลักษณะ อนั พึงประสงค์ เพื่อให้เกิดความตระหนักและเหน็ คุณคา่ มีทกั ษะในการทางาน ทักษะการเรยี นรู้ในศตวรรษ ที่ 21 มคี ุณธรรมและจริยธรรมในการใช้เทคโนโลยสี ารสนเทศ ผลการเรียนรู้ 1. อธบิ ายหลกั การสรา้ งงานและออกแบบงานมัลตมิ ีเดยี ได้ 2. บอกคาศพั ท์ที่ใชใ้ นโปรแกรมการสร้างงานมลั ติมเี ดยี ได้ 3. วางโครงเร่ือง (Story board) เพ่ือสร้างสอ่ื มัลติมีเดียได้ 4. ใช้สว่ นควบคมุ เครอื่ งมือ คาสง่ั ตา่ งๆ ของโปรแกรมมลั ติมีเดยี ได้ 5. สร้างงานมลั ตมิ ีเดยี โดยใชเ้ ทคนคิ ในรปู แบบตา่ งๆ ได้ 6. ใส่เสียงให้กับงานมัลติมีเดยี ได้ 7. ใส่เอฟเฟ็กต์ให้กบั งานมัลติมเี ดียได้ 8. สามารถนาเสนอและเผยแพรผ่ ลงานได้ รวมทั้งหมด 8 ผลการเรียนรู้

368 โครงสร้างรายวชิ าเพม่ิ เติม รหสั วชิ า ว30284 มลั ตมิ ีเดีย ชน้ั มัธยมศึกษาปีท่ี 4-6 เวลา 40 ช่ัวโมง จานวน 1.0 หน่วยกติ หน่วย ช่ือหน่วย ผลการเรียนรู้ สาระสาคญั เวลา นา้ หนัก ท่ี การเรยี นรู้ (ชว่ั โมง) คะแนน 1 ความรูเ้ บือ้ งต้นเกีย่ วกับ 1. อธบิ ายหลกั การ สอ่ื มัลตมิ ีเดยี คือ การใช้ 4 10 มลั ติมีเดยี สร้างงานและ คอมพวิ เตอร์ร่วมกบั โปรแกรม ออกแบบงาน ซอฟตแ์ วรใ์ นการสื่อความหมาย มลั ตมิ เี ดยี ได้ โดยการผสมผสานส่ือหลายชนดิ 2. บอกคาศัพท์ทใ่ี ช้ เช่น ขอ้ ความ กราฟิก ในโปรแกรมการ (Graphic) ภาพเคลอ่ื นไหว สร้างงานมลั ตมิ ีเดีย (Animation) เสยี ง (Sound) ได้ และวดี ทิ ัศน์ (Video) 2 หลกั การสร้างงานตัดต่อ 1. วางโครงเรอื่ ง การวางโครงเรอื่ ง (Story 6 15 วิดโี อ (Story board) เพอื่ board) เป็นสิงสาคญั ท่ีต้อง สรา้ งส่ือมลั ติมเี ดยี ดาเนินการก่อนลงมือสร้าง ได้ ช้ินงาน เพอื่ ให้ไดผ้ ลงานท่ีตรง กบั วัตถปุ ระสงคข์ องสือ่ แตล่ ะ ประเภท เช่น สื่อเพื่อโฆษณา ภาพยนตร์สั้น สารคดี เปน็ ต้น 3 การตัดต่อวิดโี อด้วย 1. ใชส้ ่วนควบคุม การใช้โปรแกรมประยุกตส์ รา้ ง 16 55 โปรแกรมประยุกต์ เคร่อื งมอื คาส่งั งานมัลติมเี ดยี มีส่วนประกอบ ตา่ งๆ ของโปรแกรม และเครื่องมือคลา้ ยคลงึ กนั มี มลั ติมเี ดียได้ การทางานลักษณะเดยี วกนั 2. ใสเ่ สียงใหก้ ับงาน ไดแ้ ก่ การนาเข้าไฟลร์ ปู ภาพ มลั ตมิ ีเดยี ได้ เสยี ง ภาพเคลอ่ื นไหว คลิป 3. ใส่เอฟเฟ็กต์ให้ วิดโี อ ตลอดจนการใช้เอฟเฟก็ ต์ งานมลั ตมิ เี ดยี ได้ ตา่ งๆ เพ่ือเพ่ิมความหนา้ สนใจ ให้กับช้ินงานได้

369 หน่วย ช่อื หน่วย ผลการเรยี นรู้ สาระสาคญั เวลา นา้ หนัก ท่ี การเรยี นรู้ (ชั่วโมง) คะแนน 4 การสร้างผลงาน มลั ติมีเดีย 1. สร้างงาน การสร้างผลงานสือ่ มลั ติมีเดยี 10 20 5 การนาเสนอและ มัลติมเี ดียโดยใช้ ข้นึ อยูก่ ับวตั ถุประสงค์ของการ เผยแพรผ่ ลงาน เทคนิคในรปู แบบ นาไปใชง้ าน ตัวอย่างเชน่ ส่ือ ต่างๆ ได้ มลั ติมเี ดียทผ่ี ลติ เป็นบทเรียน สาเรจ็ รูป (CD-ROM Package) สือ่ มลั ตมิ เี ดียทผี่ ลติ ขึ้นเพ่ือ นาเสนอผลิตภณั ฑแ์ ละบรกิ าร (Product and Services) สาหรับการโฆษณาในแวดวง ธุรกิจ เป็นตน้ 1.สามารถนาเสนอ การนาเสนอผลงานส่ือ 4 10 และเผยแพร่ผลงาน มัลตมิ ีเดียสามารถทาได้หลาย ได้ ชอ่ งทาง เชน่ การนาเสนอผา่ น เครอื่ งฉาย การนาเสนอบนเวบ็ การนาเสนอผ่านสื่อสงั คม ออนไลน์ การนาเสนอทางยูทูป เปน็ ตน้ รวม 40 100

370 คาอธบิ ายรายวิชาเพิ่มเติม รหสั วชิ า ว30285 การสร้างเว็บไซต์ ชน้ั มธั ยมศกึ ษาปีท่ี 4-6 เวลา 40 ช่ัวโมง จานวน 1.0 หนว่ ยกิต ศกึ ษาความรเู้ บื้องตน้ เก่ียวการออกแบบและพัฒนาเวบ็ ไซต์ การออกแบบโครงสรา้ งเว็บไซต์ รปู แบบโครงสร้างเว็บไซต์ การจัดการไซต์และทรัพยากรเวบ็ ไซต์ การออกแบบภาพแบนเนอร์ ภาพกราฟกิ ทใ่ี ชใ้ นเวบ็ ไซต์ การสรา้ งเทมเพลต การสร้างเว็บเพจและการเรียกใชเ้ ทมเพลต การเปดิ ไซตแ์ ละแก้ไขไฟล์ ในเวบ็ ไซต์ การใส่รปู ภาพ การสร้างตาราง การเชื่อมโยง การนาเสนอข้อมลู เทคโนโลยีสารสนเทศ ปฏิบตั กิ ารใชโ้ ปรแกรมประยุกต์ในการออกแบบและพัฒนาเว็บไซต์ และอพั โหลดเข้าสู่ระบบ เครอื ข่ายอินเทอรเ์ นต็ เพ่อื ให้มีความรู้ความเขา้ ใจ มีคุณธรรม จริยธรรมและความรับผดิ ชอบต่อตนเองและสงั คม มีเจตคตทิ ดี่ ีในการจดั ทาเว็บไซต์ นาเสนอข้อมลู และขา่ วสาร ผลการเรียนรู้ 1. อธิบายความรู้เบอื้ งตน้ เกย่ี วกับการพฒั นาเว็บไซต์ได้ 2. อธิบายและปฏิบตั กิ ารออกแบบโครงสรา้ งเวบ็ ไซต์ได้ 3. ปฏบิ ัติการจัดการไซตแ์ ละทรพั ยากรเวบ็ ไซต์ได้ 4. ปฏิบตั กิ ารออกแบบภาพแบนเนอรไ์ ด้ 5. ปฏบิ ตั กิ ารออกแบบภาพกราฟิกที่ใชใ้ นเว็บไซต์ได้ 6. ปฏิบัตกิ ารสรา้ งเทมเพลตได้ 7. ปฏิบตั ิการสรา้ งเวบ็ เพจและการเรยี กใช้เทมเพลตได้ 8. ปฏบิ ัติการเปิดไซต์และแกไ้ ขไฟลใ์ นเวบ็ ไซต์ 9. ปฏบิ ัติการใสร่ ปู ภาพ การสร้างตาราง และทาการเช่ือมโยงเว็บเพจได้ 10. ปฏบิ ตั ิการนาเสนอเวบ็ เพจได้ รวมทั้งหมด 10 ผลการเรียนรู้

371 โครงสร้างรายวิชาเพ่ิมเติม รหสั วชิ า ว30285 การสร้างเวบ็ ไซต์ ชนั้ มัธยมศึกษาปีท่ี 4-6 เวลา 40 ช่ัวโมง จานวน 1.0 หนว่ ยกติ หน่วย ชือ่ หน่วย ผลการเรยี นรู้ สาระสาคัญ เวลา น้าหนัก ที่ การเรียนรู้ (ชั่วโมง) คะแนน 1 ความรู้เบ้ืองตน้ เกย่ี วกับ 1. อธิบายเก่ยี วกับ การเรยี นรูเ้ กยี่ วกับอนิ เตอร์เน็ต 2 10 การสร้างเวบ็ ไซต์ ความรู้เบ้ืองตน้ เวบ็ เพจ เว็บไซต์ กระบวนการ เกี่ยวกบั การสรา้ ง พัฒนาเวบ็ ไซต์และหลกั การ เวบ็ ไซต์ได้ ออกแบบเวบ็ ไซต์จะช่วยให้ สามารถออกแบบและสร้าง เวบ็ ไซตไ์ ด้อยา่ งเหมาะสม 2 ทาความร้จู ักกับ 2. อธิบาย โปรแกรม Dreamweaver มี 4 10 โปรแกรม Dreamweaver ความหมายและ การออกแบบมา เพือ่ ใช้ในการ ส่วนประกอบของ จัดการกับเอกสารทใ่ี ชส้ าหรบั โปรแกรม การสร้างเว็บเพจและเว็บ Dreamweaver ได้ แอพพลิเคช่นั ซง่ึ กาลงั เป็นท่ี 3. สามารถเตรยี ม นยิ ม เนือ่ งจากใช้งานง่าย ความพร้อมก่อนการ สามารถจดั วางข้อความ รูปภาพ สรา้ งเวบ็ ไซตแ์ ละการ ตารางข้อมูล แบบฟอรม์ ฯลฯ สร้าง Site ได้ ลงไปในเวบ็ เพจได้อยา่ งดาย 3 การสรา้ งตารางในหน้า 4. อธิบายและ การสรา้ งตารางสามารถทาได้ 4 10 เวบ็ เพจ ปฏิบตั กิ ารสรา้ ง งา่ ย ๆ เพราะมเี ครื่องมือ ตารางและการ (Table) ชว่ ยสรา้ งตารางบนเว็บ ปรบั แตง่ ตารางได้ เพจไดต้ ามต้องการ 4 การสร้างข้อความในเวบ็ 5. อธบิ ายและ การเพิ่มข้อความในเว็บเพจ 2 10 เพจ ปฏิบัติการสร้าง สามารถทาไดง้ า่ ยโดยพมิ พท์ ี่ ขอ้ ความและใส่ ตาแหน่งเคอร์เซอร์ และกด ลูกเล่นข้อความบน < Enter > เพ่ือข้ึนบรรทดั ใหม่ เวบ็ เพจได้ การใสส่ ีพนื้ หลัง การตกแต่ง ขอ้ ความ ทาได้โดยใช้ Properties

372 หน่วย ชอ่ื หน่วย ผลการเรียนรู้ สาระสาคัญ เวลา นา้ หนัก ที่ การเรียนรู้ (ชว่ั โมง) คะแนน 5 การตกแต่งเว็บเพจด้วย 6. อธิบายและ การนารูปภาพมาใส่เป็นฉาก 6 10 รูปภาพ ปฏิบัตกิ ารแทรก หลงั (Background) ของเว็บ รปู ภาพและการ เพจ เพ่ือสร้างความสะดุดตา จดั การรูปภาพได้ และน่าสนใจ แต่ต้องเลือก 7. อธิบายและ รูปภาพทจ่ี ะนามาใช้ดว้ ยความ ปฏิบตั ิการเปล่ียน ระมัดระวังและใหเ้ หมาะสม พ้นื หลังเว็บเพจและ การใส่กรอบให้ รปู ภาพได้ 6 การตกแตง่ และเพ่ิม 8. อธบิ ายและ การใสล่ กู เล่นใหก้ ับหนา้ เวบ็ เพจ 8 10 ลกู เลน่ ในหน้าเว็บเพจ ปฏบิ ตั ิการสร้างปุ่ม เป็นสง่ิ ทชี่ ว่ ยเพม่ิ ความน่าสนใจ ในโปรแกรมได้ เป็นจุดดงึ ดูดและความตนื่ ตาตน่ื 9. อธิบายและ ใจให้กับผู้เข้าชมเว็บไซต์ การใช้ ปฏิบตั ิการแทรกสื่อ มัลติมเี ดยี ต้องใชเ้ ทคโนโลยี แบบมัลติมีเดยี ใน สาคัญ ไดแ้ ก่ Flash, Java, เว็บไซตไ์ ด้ Java applet, Shockwave, Plug in และ ActiveX Control เป็นตน้ 7 การสร้างลงิ ค์ (Link) ใน 10. สรา้ งลงิ คจ์ าก การสร้างจดุ เชอ่ื มโยง 4 10 เวบ็ ไซต์ ขอ้ ความ, รูปภาพ (Hyperlink) เป็นการเชื่อมโยง และลงิ ค์ไปยงั กันจากจดุ หนึง่ ของเอกสารไปยงั เว็บไซต์อ่นื ได้ อกี ตาแหน่งหนง่ึ ของเอกสาร เดียวกันหรือต่างเอกสารกันบน อนิ เทอร์เนต็ โดยใชข้ อ้ ความ ภาพ หรือเมนูแบบ Drop Down อย่างใดอยา่ งหนึ่งเพ่ือ เป็นต้นทางในการเชื่อมโยงไปสู่ เอกสารปลายทาง

373 หน่วย ชื่อหน่วย ผลการเรียนรู้ สาระสาคัญ เวลา น้าหนัก ที่ การเรยี นรู้ 11. อธบิ ายและ (ช่วั โมง) คะแนน 8 การตกแต่งเวบ็ ไซต์ดว้ ย ปฏิบตั กิ ารตกแต่ง เทมเพลต (Template) แก้ไขเวบ็ ไซต์ด้วย การใช้เทมเพลต (Template) 4 10 เทมเพลตได้ 9 การอัพโหลดเวบ็ ไซต์ ทาใหส้ ามารถแบง่ รูปแบบของ 12. อธบิ ายและ ปฏิบัตกิ ารอัพโหลด เอกสารออกเป็นสองสว่ น คือ เวบ็ ไซตไ์ ด้ ส่วนทแ่ี กไ้ ขได้ (Editable รวม Regions) และส่วนทแี่ ก้ไขไมไ่ ด้ (Non-Editable Regions) เอกสารทสี่ รา้ งจาก Template เดียวกนั จะมีรูปแบบเหมือนกัน การสร้าง Template สามารถ สร้างไดจ้ ากหนา้ เอกสารวา่ ง ๆ หรอื หนา้ ทม่ี ีขอ้ มูลอยูแ่ ลว้ ซ่ึง รวมถึงหน้าเอกสารทม่ี ีข้อมูล แบบไดนามิค เชน่ ASP, ColdFusion, JSP หรือ PHP ก็ ตาม การสร้างเวบ็ ไซต์เมอ่ื เสรจ็ 6 20 สมบรู ณ์แล้วจะต้องอัพโหลด (Upload) ข้อมูลทั้งหมดเขา้ สู่ อนิ เตอร์เน็ตโดยนาไปฝากหรือ เก็บไวบ้ นเวบ็ เซิรฟ์ เวอร์ เพื่อ เผยแพรไ่ ปส่สู าธารณะชน ขณะทข่ี ้อมลู ถูกเผยแพร่อยูน่ ั้น ผู้ดแู ลหรอื เจา้ ของเว็บไซต์ สามารถปรบั ปรงุ แกไ้ ข เปลีย่ นแปลงเนื้อหาหรืออัพเดต ข้อมลู ใหม่ ๆ ได้ตลอดเวลา 40 100

374 คาอธบิ ายรายวชิ าเพิ่มเติม รหสั วชิ า ว30286 การสร้างภาพเคลื่อนไหว ชนั้ มัธยมศึกษาปีที่ 4-6 เวลา 40 ชั่วโมง จานวน 1.0 หน่วยกิต ศึกษาความรู้เบื้องตน้ เก่ยี วกบั การต์ นู หลกั การวาดภาพการ์ตนู สองมิติ หลกั การทางานของ การ์ตูนแอนิเมชัน่ ขนั้ ตอนการผลติ การต์ ูนแอนเิ มชั่น และโปรแกรมสาหรบั สรา้ งการ์ตูนแอนเิ มชน่ั ภาพเคลื่อนไหว การสรา้ งปมุ่ เชอ่ื มโยง การแทรกเสยี ง การนาเสนองาน การเขยี นโค้ดคาสงั่ อย่างง่าย การ นางานทสี่ ร้างออกไปใชง้ านอยา่ งสร้างสรรค์ และมีคณุ ธรรม ปฏบิ ตั ิการใชเ้ คร่ืองมือสาหรบั สร้างการ์ตนู แอนเิ มช่ัน การสร้างวตั ถดุ ้วยเครอื่ งมอื ต่างๆ การ จัดการและการตกแตง่ วัตถุ การจัดการเกีย่ วกบั รูปภาพและตัวอักษร การสรา้ งภาพเคล่ือนไหว การจดั การ ไฟล์มลั ติมีเดีย การใชค้ าสั่งพื้นฐานและการเช่อื มโยง การนาเสนอและการเผยแพร่ผลงาน เพ่อื ให้มคี วามรู้ ความเขา้ ใจ เหน็ คณุ ค่า และใชก้ ระบวนการเทคโนโลยีสารสนเทศในการสรา้ ง การต์ นู แอนิเมช่นั นาเสนอข้อมูลอย่างสรา้ งสรรค์ มีประสิทธิภาพ ประสทิ ธผิ ล และมคี ุณธรรม จริยธรรม ผลการเรียนรู้ 1. อธิบายเกีย่ วกับพ้ืนฐานแอนิเมชัน่ ได้ 2. บอกวธิ กี ารนาเครื่องมือตา่ ง ๆ มาใช้งานได้ 3. ปฏิบัตกิ ารใช้เครอ่ื งมือต่าง ๆ ได้ 4. ใช้เครือ่ งมือและคาส่งั สรา้ งภาพเคลื่อนไหวประเภทตา่ ง ๆ ได้ 5. ใส่เสยี งประกอบภาพเคลื่อนไหวได้ 6. ออกแบบโครงร่างเร่ืองราวตามลาดบั ขน้ั ตอน (Story board) ได้ 7. สรา้ งช้นิ งานแอนเิ มช่นั ได้ รวมท้ังหมด 7 ผลการเรียนรู้

375 โครงสรา้ งรายวชิ าเพม่ิ เติม รหสั วิชา ว30286 การสรา้ งภาพเคล่อื นไหว ชั้นมธั ยมศกึ ษาปีท่ี 4-6 เวลา 40 ชั่วโมง จานวน 1.0 หน่วยกิต หนว่ ย ชือ่ หน่วย ผลการเรยี นรู้ สาระสาคญั เวลา น้าหนัก ท่ี การเรียนรู้ (ชวั่ โมง) คะแนน 1 พน้ื ฐานแอนเิ มชน่ั 1. อธบิ ายเกี่ยวกบั แอนเิ มช่นั (Animation) เป็น 4 5 พื้นฐานแอนิเมชน่ั ได้ กระบวนการนาภาพมาร้อย เรยี งตอ่ กนั แล้วฉายต่อเนื่องกัน ไม่วา่ จากวิธกี าร ใช้คอมพิวเตอร์ กราฟิก ถา่ ยภาพ รปู วาด หรือ รูปถ่ายแตล่ ะขณะของ หนุ่ จาลอง ด้วยความเรว็ ต้ังแต่ 16 เฟรมต่อวนิ าที ข้นึ ไป 2 โปรแกรม Adobe 2. บอกวิธีการนา โปรแกรม Flash ใช้สนับสนุน 2 5 Flash เบือ้ งต้น เครอ่ื งมือต่าง ๆ มา การสร้างงานกราฟิกทั้งภาพน่ิง ใช้งานได้ และภาพเคลอ่ื นไหว สาหรับ 3. ปฏบิ ัตกิ ารใช้ การนาเสนอผ่านคอมพวิ เตอร์ เครื่องมือตา่ ง ๆ ได้ และเครือข่ายอินเทอรเ์ น็ต มี ฟงั ก์ชันชว่ ยอานวยความสะดวก ในการสร้างผลงานหลากหลาย รูปแบบ เชน่ สือ่ CAI การ์ตนู แอนเิ มชั่น e-Card e-Book เวบ็ ไซต์ เป็นตน้ 3 การสร้าง 4. ใชเ้ คร่ืองมือและ การใช้งานโปรแกรม Flash 16 25 ภาพเคล่อื นไหว คาสัง่ สร้าง สร้างภาพเคลอ่ื นไหว สามารถ ภาพเคลอ่ื นไหว ทาได้ท้ังจากรูปภาพทส่ี รา้ งขน้ึ ประเภทต่าง ๆ ได้ ใหมแ่ ละการนาภาพจาก 5. ใส่เสยี งประกอบ ภายนอกมาปรบั แตง่ นอกจาก ภาพเคลื่อนไหวได้ สรา้ งการเคล่อื นไหวแลว้ ยัง สามารถใสเ่ สยี งประกอบการ เคลอื่ นไหวได้อีกดว้ ย

376 หน่วย ช่อื หน่วย ผลการเรียนรู้ สาระสาคัญ เวลา นา้ หนัก ท่ี การเรยี นรู้ (ชั่วโมง) คะแนน 4 การออกแบบโครงรา่ ง (Story Board) 6. ออกแบบโครง การทาสตอร่บี อรด์ เป็นการสร้าง 4 15 5 การสร้างสรรคช์ ้นิ งาน รา่ งเร่อื งราว ตารางขน้ึ มาเพ่ือรา่ งภาพลงไป ตามลาดบั ขัน้ ตอน ตามลาดบั ขัน้ ตอนของเร่ือง (Story board) ได้ ตงั้ แตต่ ้นจนจบ เพื่อให้มองเห็น ภาพรวมของงานทจ่ี ะลงมือทา และหากมสี ิ่งทต่ี ้องแกไ้ ขเกดิ ขึ้น ก็จะสามารถแก้ไขเปล่ียนแปลง ปรับปรงุ ได้ หรือทาสตอร่บี อร์ด ใหมไ่ ด้ 7. สร้างชน้ิ งานแอนิ การสรา้ งชน้ิ งานจากโปรแกรม 14 30 เมชนั่ ได้ Flash สามารถนาแอนเิ มช่ันน้ัน ไปประยุกตใ์ ช้ในงานต่างๆ ได้ หลากหลาย เชน่ ปมุ่ แบนเนอร์ การ์ตนู แอนเิ มชัน่ 2 มิติ e-book e-Card CAI Game และอ่ืนๆ รวม 40 100

377 คาอธิบายรายวชิ าเพ่ิมเตมิ รหัสวิชา ว30287 การออกแบบสิง่ ของเครอ่ื งใช้ ชน้ั มธั ยมศกึ ษาปีที่ 4-6 เวลา 40 ชั่วโมง จานวน 1.0 หน่วยกติ ศึกษาคุณลักษณะและความสามารถของโปรแกรมการออกแบบส่ิงของเคร่ืองใช้ การพัฒนาและ การประยุกต์ใช้งานการสร้างผลิตภัณฑ์ เช่น Pro Desktop, SketchUp ส่วนประกอบของโปรแกรม เครอ่ื งมือ คาสั่งและการใช้งานโปรแกรม ปฏิบัติการใช้โปรแกรมในการออกแบบโครงร่างชิ้นงาน การทารูปทรง 3 มิติ การออกแบบ ทางด้านวิศวกรรม สถาปัตยกรรม การออกแบบผลิตภัณฑ์สิ่งของเครื่องใช้ต่างๆ ถ่ายทอดความคิดเป็น ภาพฉายและแบบจาลอง เพื่อให้มคี วามรู้ความเข้าใจ มีคุณธรรมและลักษณะนิสัยในการทางาน มีความมานะอดทน ภมู ิใจ ในงานทที่ ามีความรบั ผิดชอบทดี่ ตี ่อตนเองและสังคม และมีเจตคติทดี่ ตี ่อการประกอบอาชพี ผลการเรียนรู้ 1. อธบิ ายหลกั การพื้นฐานของการออกแบบผลติ ภณั ฑ์ได้ 2. อธิบายลักษณะของโปรแกรมออกแบบผลิตภณั ฑ์ได้ 3. บอกประโยชน์ของโปรแกรมออกแบบผลิตภัณฑ์ได้ 4. อธิบายส่วนประกอบของโปรแกรมได้ถูกตอ้ ง 5. อธิบายและปฏบิ ัติการใชง้ านกลุ่มเครื่องมือแตล่ ะชนดิ ได้ 6. สามารถออกแบบชน้ิ งานได้ 8. สามารถสร้างชิ้นงานจากการออกแบบได้สาเรจ็ 9. สามารถตกแต่ง และแกไ้ ขชน้ิ งาน ใหม้ คี วามสวยงามได้ 10. มีความภาคภมู ใิ จในผลงานและสามารถนาเสนอผลงานไดอ้ ยา่ งสรา้ งสรรค์ รวมท้ังหมด 10 ผลการเรยี นรู้

378 โครงสรา้ งรายวิชาเพม่ิ เติม รหสั วชิ า ว30287 การออกแบบส่งิ ของเครอ่ื งใช้ ชัน้ มธั ยมศึกษาปีที่ 4-6 เวลา 40 ชั่วโมง จานวน 1.0 หนว่ ยกิต หนว่ ย ชอื่ หน่วย ผลการเรียนรู้ สาระสาคญั เวลา นา้ หนัก ที่ การเรียนรู้ (ช่ัวโมง) คะแนน 1 หลกั การออกแบบ 1. อธิบายหลักการ การออกแบบ คอื กิจกรรม 2 5 ผลติ ภัณฑ์ พน้ื ฐานของการ การแก้ปัญหาเพ่ือให้บรรลุ ออกแบบผลิตภณั ฑ์ได้ ตามเป้าหมายหรือจดุ ประสงค์ ทตี่ ั้งไว้ เป็นการกระทาของ มนุษย์ ดว้ ยจุดประสงค์ท่ี ตอ้ งการแจ้งผลเป็นส่ิงใหม่ๆ มี ทัง้ ทอ่ี อกแบบเพื่อสร้างข้ึน ใหมใ่ ห้แตกตา่ งจากของเดมิ หรือปรับปรุงตกแตง่ ของเดิม 2 ความร้เู บื้องตน้ เก่ียวกบั 1. อธบิ ายลกั ษณะ ปัจจบุ ันมีซอฟต์แวร์ทใ่ี ช้ 25 โปรแกรมออกแบบ ของโปรแกรม สาหรับการสร้าง ผลิตภัณฑ์ ออกแบบผลติ ภณั ฑ์ได้ โมเดล 3 มติ ิ (3D) ทมี่ ี 2. บอกประโยชน์ของ เครื่องมอื พนื้ ฐานต่างๆ โปรแกรมออกแบบ เพียงพอกบั การใชง้ านของผใู้ ช้ ผลติ ภัณฑ์ได้ ระดบั เบอ้ื งตน้ ทตี่ ้องการจะ สร้างงานแบบ 3 มติ ิ หลากหลายโปรแกรม เช่น Pro Desktop, SketchUp 3 ส่วนประกอบของ 1. อธบิ าย เคร่อื งมือตา่ งๆ ของโปรแกรม 6 15 โปรแกรมและกลมุ่ ส่วนประกอบของ จะแยกเป็นชุดตามลกั ษณะ เคร่ืองมอื โปรแกรมได้ถกู ต้อง การใชง้ าน โดยสามารถ ปรับเปล่ียนส่วนตา่ งๆ ที่ ปรากฏบนหน้าจอได้ตาม ความเหมาะสมกับการทางาน เพือ่ ให้ง่ายต่อการใชง้ าน

379 หน่วย ช่ือหน่วย ผลการเรียนรู้ สาระสาคญั เวลา นา้ หนัก ที่ การเรียนรู้ (ชว่ั โมง) คะแนน 4 การใช้งานกลมุ่ เครอื่ งมือ 1. อธิบายและ ชดุ เครอ่ื งมือท่ีแบง่ เป็น 10 25 ของโปรแกรม ปฏบิ ตั ิการใชง้ านกลุม่ หมวดหมู่ มคี วามยดื หย่นุ ต่อ เคร่อื งมอื แต่ละชนดิ การปรับเปลีย่ นส่วนประกอบ ได้ ต่างๆ ทาใหส้ ามารถออกแบบ และสรา้ งงานได้อย่างสะดวก และรวดเร็ว 5 การออกแบบและ 1. สามารถออกแบบ โปรแกรมประยุกตท์ ใี่ ชส้ ร้าง 16 40 ตกแต่งช้นิ งาน ชน้ิ งานได้ รูปทรง 3 มิตสิ าหรับการสร้าง 2. สามารถสร้าง งานเชงิ สถาปัตยกรรม ชิน้ งานจากการ สามารถสร้างแบบร่างตาม ออกแบบได้สาเร็จ จนิ ตนาการ ออกแบบและ 3. สามารถตกแต่ง สร้างโมเดลเป็นรูปรา่ ง ตา่ ง ๆ และแก้ไขช้นิ งาน ให้มี เป็นงานแอนเิ มชัน่ และ ความสวยงามได้ ภาพน่ิงได้ Export ชิน้ งาน เป็นโมเดล 3 มิตไิ ด้ หลากหลายรปู แบบ 6 การนาเสนอผลงาน 1. มีความภาคภูมิใจ การเตรียมตวั ให้พรอ้ มทง้ั 4 10 ในผลงานและ รา่ งกายและจติ ใจเปน็ ส่งิ สามารถนาเสนอ สาคญั ก่อนนาเสนอผลงาน ผลงานได้อยา่ ง ผ้นู าเสนอต้องมีความรู้ สร้างสรรค์ เกยี่ วกับสาระท่ีจะนาเสนอ รวมถึงมีบคุ ลิกภาพที่ดี มี ความเช่ือม่ันในตนเอง รวม 40 100

380 คาอธบิ ายรายวิชาเพ่ิมเตมิ รายวชิ า ง30288 อนิ โฟกราฟิก ช้นั มัธยมศกึ ษาปีที่ 4-6 เวลา 40 ชั่วโมง จานวน 1.0 หน่วยกติ ศกึ ษาความหมายของกราฟกิ สมัยใหม่ (Infographic) หลกั การ วธิ กี ารออกแบบกราฟกิ ซอฟตแ์ วร์ดา้ นกราฟกิ ระบบคอมพวิ เตอร์สาหรบั งานคอมพิวเตอรก์ ราฟิก การใช้งานซอฟต์แวร์ดา้ น กราฟิก ใชเ้ ครื่องมือและอุปกรณ์ต่าง ๆ รวมถงึ คาส่งั ทส่ี าคัญในการออกแบบคอมพิวเตอร์กราฟิกใน โปรแกรมกราฟกิ โดยนาหลักปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพียงมาบรู ณาการ ปฏบิ ัติการนาภาพจากแหลง่ ภาพตา่ งๆ มาสร้างสรรคง์ านกราฟกิ ให้มีจนิ ตนาการตามความคิดรเิ รม่ิ ใช้หลกั การออกแบบเทคนิคการใช้โปรแกรม นาการออกแบบคอมพวิ เตอร์กราฟิกมาประยุกต์ใช้ในการ สร้างสรรคง์ าน ปฏบิ ัติการออกแบบคอมพิวเตอร์กราฟิกดว้ ยโปรแกรมกราฟกิ เพือ่ ใหผ้ ู้เรียนสามารถใช้ซอฟต์แวร์ด้านกราฟิกออกแบบและสรา้ งสรรคผ์ ลงานด้านกราฟิก เผยแพรส่ ู่สาธารณะชนได้อยา่ งมีคุณธรรมและจริยธรรม มีความรับผดิ ชอบ มคี วามสามารถในการใช้ เทคโนโลยไี ดอ้ ย่างเหมาะสม มีเจตคติที่ดีตอ่ การทางาน ผลการเรียนรู้ 1. อธิบายบทบาทและประโยชน์ของงานคอมพิวเตอร์กราฟิกได้ 2. อธบิ ายหลกั การออกแบบกราฟิกได้ 3. สามารถเลอื กใช้โปรแกรมประยกุ ต์ทางด้านกราฟิกได้ 4. อธิบายความหมายของกราฟกิ สมัยใหม่ (Infographic) หลักการ วิธกี ารออกแบบกราฟกิ ซอฟต์แวร์ดา้ นกราฟิกได้ 5. สามารถสร้างสรรคง์ านกราฟกิ ให้มจี ินตนาการตามความคดิ ริเริม่ สร้างสรรค์ได้ 6. สามารถวิเคราะห์ขอ้ มลู ทางสถิตใิ หเ้ ปน็ ภาพสารสนเทศได้ 7. เผยแพร่ผลงานสู่สาธารณะชนอย่างมคี ุณธรรมและจรยิ ธรรมได้ รวมทงั้ หมด 7 ผลการเรยี นรู้

381 โครงสรา้ งรายวชิ าเพิ่มเติม รายวชิ า ง30288 อนิ โฟกราฟกิ ชั้นมัธยมศกึ ษาปีท่ี 4-6 เวลา 40 ช่ัวโมง จานวน 1.0 หนว่ ยกติ หน่วย ช่อื หน่วย ผลการเรียนรู้ สาระสาคญั เวลา นา้ หนัก ท่ี การเรียนรู้ (ชั่วโมง) คะแนน 1 บทบาทคอมพวิ เตอร์ 1. อธบิ ายบทบาท บทบาทของคอมพิวเตอร์ 25 กราฟิก และประโยชนข์ อง กราฟิกในดา้ นต่าง ๆ ไดแ้ ก่ งานคอมพิวเตอร์ ด้านบนั เทิง ดา้ นการ กราฟิกได้ ประชาสมั พนั ธ์ ดา้ นการศกึ ษา ดา้ นธรุ กจิ การคา้ และดา้ นอ่ืนๆ 2 หลกั การออกแบบ 2. อธิบายหลักการ การวางแผนออกแบบงาน 4 10 กราฟิก ออกแบบกราฟิกได้ กราฟิก คอื การกาหนด วัตถปุ ระสงค์ กลุ่มเปา้ หมาย ข่าวสารท่ตี ้องการส่อื ชนดิ สอ่ื ท่ี ต้องการใช้ โดยการออกแบบ กราฟิกต้องคานงึ องค์ประกอบ ต่างๆ ของงานกราฟิก 3 โปรแกรมประยุกตด์ า้ น 3. สามารถเลือกใช้ โปรแกรมสาหรับงานกราฟิกที่มี 2 5 กราฟิก โปรแกรมประยุกต์ ขายอยูใ่ นทอ้ งตลาดมหี ลาย ทางด้านกราฟิกได้ โปรแกรมแตล่ ะโปรแกรมมี ความสามารถเฉพาะทางไมว่ ่า จะเป็นการวาดภาพ การแก้ไข ตกแตง่ ภาพ การนาเสนอ ผลงานกราฟิก การสร้าง ภาพเคลอ่ื นไหว ซ่ึงเป็นส่วนที่ สาคญั อย่างย่ิงในการสร้าง ผลงานด้านคอมพวิ เตอรก์ ราฟิก

382 หน่วย ช่อื หน่วย ผลการเรียนรู้ สาระสาคญั เวลา น้าหนัก ท่ี การเรียนรู้ (ช่วั โมง) คะแนน 4 อนิ โฟกราฟิก 4. อธิบาย ความหมายของ อนิ โฟกราฟกิ (อังกฤษ: 4 10 5 การออกแบบ กราฟิกสมยั ใหม่ อนิ โฟกราฟิก (Infographic) infographics) หรือ อินฟอรเ์ ม หลักการ วิธกี าร 6 การออกแบบ ออกแบบกราฟิก ชนั กราฟกิ (องั กฤษ: อนิ โฟกราฟิกด้วย ซอฟตแ์ วรด์ า้ น โปรแกรมประยุกต์ กราฟิกได้ information graphics) เป็น 5. สามารถ การแสดงผลของข้อมูลหรอื สรา้ งสรรค์งาน กราฟิกใหม้ ี ความรูโ้ ดยภาพที่อ่านและเข้าใจ จนิ ตนาการตาม ความคิดริเริม่ ง่าย งานกราฟกิ ประเภทนน้ี ยิ ม สร้างสรรคไ์ ด้ 6. สามารถ ใชส้ าหรับข้อมลู ท่ีมคี วาม วิเคราะห์ข้อมูลทาง สถิตใิ ห้เป็นภาพ ซับซ้อน ตัวอย่างเชน่ ป้าย แผน สารสนเทศได้ ที่ งานวจิ ยั โดยอนิ โฟกราฟกิ นี้ ยังคงนยิ มใชใ้ นสายงานด้าน วทิ ยาการคอมพิวเตอร์ คณติ ศาสตร์ สถิติศาสตร์ เพือ่ ให้แสดงถึงข้อมลู ที่ซับซ้อน ใหง้ า่ ยข้นึ หลักการออกแบบอนิ โฟกราฟิก 4 10 แบง่ ออกเปน็ 2 ส่วนหลักๆคือ ด้านข้อมูล และดา้ นการ ออกแบบ โปรแกรมประยุกต์ทใ่ี ชใ้ นการ 20 50 ออกแบบอนิ โฟกราฟิกใน ปัจจุบันมหี ลายโปรแกรม เชน่ Photoshop Illustrator coreldraw gเปน็ ต้น

383 หน่วย ชือ่ หน่วย ผลการเรยี นรู้ สาระสาคัญ เวลา นา้ หนัก ท่ี การเรยี นรู้ (ชวั่ โมง) คะแนน 7 การเผยแพร่และ 7. เผยแพร่ผลงานสู่ การนาเสนอและเผยแพร่ผลงาน 4 10 นาเสนองาน สาธารณะชนอย่างมี อาจทาได้ในหลายรูปแบบ เช่น คณุ ธรรมและ การแสดงผลงานโดยไม่มีการ จรยิ ธรรมได้ อธบิ ายประกอบ การรายงาน ด้วยคาพูดในที่ประชุม การจดั นทิ รรศการโดยโปสเตอร์และ อธิบายดว้ ยคาพูด หรอื การ เผยแพรผ่ ่านส่ือออนไลน์ จะต้องคานงึ ถึงหลกั ความ ถกู ต้องเหมาะสม จรรยาบรรณ ลิขสทิ ธ์แิ ละความรบั ผิดชอบต่อ สงั คม เปน็ ตน้ รวม 40 100

384 คาอธบิ ายรายวชิ าเพิ่มเตมิ รหัสวชิ า ว30289 โปรแกรมจัดการฐานขอ้ มูล ชน้ั มัธยมศกึ ษาปีที่ 4-6 เวลา 40 ช่ัวโมง จานวน 1.0 หนว่ ยกติ ศึกษาความรเู้ บ้ืองต้นเก่ียวกับฐานขอ้ มลู การวิเคราะหแ์ ละออกแบบฐานข้อมูล ความรูเ้ บื้องตน้ เกยี่ วกบั โปรแกรมระบบการจัดการฐานข้อมูล การสรา้ งฐานข้อมูล การสรา้ งตาราง การสร้างแบบสอบถาม การสร้างฟอรม์ การสร้างรายงาน การจดั การฐานข้อมูลให้มีประสิทธภิ าพและความปลอดภยั กรณีศึกษา ระบบการจัดการฐานข้อมูลกับการใช้งานดา้ นต่างๆ ปฏิบตั ิการสร้างฐานข้อมลู สร้างตาราง เพิ่มข้อมลู ในตาราง ประมวลผลข้อมูลในตาราง สร้าง แบบสอบถาม สรา้ งฟอร์ม สร้างรายงาน จดั การฐานข้อมูลให้มีประสทิ ธภิ าพและความปลอดภยั ใช้ โปรแกรมระบบการจัดการฐานข้อมูลสร้างโครงงานเพื่อการจัดการงานด้านต่างๆ เพือ่ ใหม้ คี วามรู้ ความเขา้ ใจ มีทักษะในการจดั การฐานข้อมูลเบอ้ื งตน้ และสามารถใชโ้ ปรแกรม ระบบการจัดการฐานข้อมลู สร้างโครงงานเพ่ือการจัดการงานด้านต่างๆ อย่างมจี ิตสานึกและความ รับผดิ ชอบ

385 ผลการเรียนรู้ 1. มคี วามรเู้ บอ้ื งตน้ เก่ียวกับฐานขอ้ มลู 2. มคี วามรู้เกี่ยวกบั การวิเคราะห์ และออกแบบฐานข้อมลู 3. สามารถออกแบบฐานข้อมูล และจาแนกลกั ษณะความสัมพันธร์ ะหวา่ งข้อมูลต่าง ๆ ได้ 4. มคี วามรู้เบอ้ื งตน้ เกีย่ วกับโปรแกรมการจัดการฐานข้อมลู 5. สามารถสร้างฐานข้อมูล สรา้ งตาราง (Table) เพมิ่ ข้อมูลในตาราง และประมวลผลข้อมลู ใน ตารางได้ 6. สามารถสรา้ งแบบสอบถาม (Query) ค้นหาและวเิ คราะห์ข้อมลู ตามทต่ี ้องการได้ 7. สามารถสร้างฟอร์ม (Form) บนั ทกึ ข้อมลู และประมวลผลข้อมลู ผ่านฟอร์มได้ 8. สามารถสรา้ งรายงาน (Report) นาเสนอข้อมลู ตามทตี่ ้องการได้ 9. สามารถจดั การฐานข้อมูลให้มีประสิทธิภาพ และความปลอดภัยได้ 10. ใช้โปรแกรมระบบการจดั การฐานขอ้ มลู สร้างโครงงานเพ่ือการจดั การงานดา้ นตา่ งๆ อยา่ งมี จติ สานึกและความรับผิดชอบ รวมทั้งหมด 10 ผลการเรยี นรู้

386 โครงสร้างรายวิชาเพมิ่ เติม รหัสวชิ า ว30289 โปรแกรมจดั การฐานข้อมูล ช้ันมธั ยมศกึ ษาปีที่ 4-6 เวลา 40 ชั่วโมง จานวน 1.0 หนว่ ยกิต หน่วย ช่อื หน่วย ผลการเรียนรู้ สาระสาคญั เวลา นา้ หนัก ที่ การเรียนรู้ (ชัว่ โมง) คะแนน 1 ความรเู้ บ้อื งต้นเกย่ี วกับ 1. มคี วามร้เู บื้องต้น - ขอ้ มูลและสารสนเทศ 4 10 ฐานขอ้ มลู เกี่ยวกบั ฐานข้อมลู - ฐานข้อมลู เชงิ สัมพันธ์ - คาศัพท์เกีย่ วกบั ฐานขอ้ มูล 2 การวิเคราะห์และ 2. มคี วามรู้เกยี่ วกับ - การพัฒนาระบบฐานขอ้ มูล 4 10 ออกแบบฐานข้อมูล การวิเคราะห์ และ - การออกแบบฐานขอ้ มลู ออกแบบฐานข้อมูล 3. สามารถ ออกแบบฐานข้อมลู และจาแนกลักษณะ ความสมั พนั ธ์ ระหว่างขอ้ มูลตา่ งๆ ได้ 3 ความรทู้ ั่วไปเกี่ยวกับ 4. มคี วามรเู้ บือ้ งต้น - ทาความร้จู กั กบั โปรแกรม 2 5 โปรแกรม Microsoft เก่ียวกบั โปรแกรม Microsoft Access Access การจัดการ - ส่วนประกอบของ ฐานข้อมลู ฐานข้อมูล Microsoft Access - การเข้าใช้งานโปรแกรม Microsoft Access - สว่ นประกอบหน้าตา่ ง หลักของโปรแกรม Microsoft Access

387 หนว่ ย ชื่อหน่วย ผลการเรยี นรู้ สาระสาคญั เวลา น้าหนัก ท่ี การเรยี นรู้ (ชั่วโมง) คะแนน 4 การสรา้ งฐานขอ้ มูล และ 5. สามารถสร้าง - การสร้างฐานขอ้ มลู 6 10 สรา้ งตาราง (Table) ฐานข้อมูล สรา้ ง -การสรา้ งตารางจากแม่แบบ ด้วยโปรแกรม ตาราง (Table) เพิม่ ตาราง (Table Templates) Microsoft Access ขอ้ มลู ในตาราง และ -การสร้างตารางจากคาสั่ง ประมวลผลข้อมูลใน ออกแบบตาราง (Table ตารางได้ Design) 1. การสร้างความสัมพันธ์ ระหว่างตาราง 2. การป้อนข้อมลู ลงในตาราง 3. การจดั การข้อมลู ในตาราง 5 การสร้างแบบสอบถาม 6. สามารถสรา้ ง - ความหมายของคิวรี 6 10 (Query) แบบสอบถาม - การสร้างแบบสอบถาม (Query) คน้ หาและ โดยใชต้ ัวช่วยสรา้ ง (Query วิเคราะหข์ ้อมลู Wizard) ตามทต่ี ้องการได้ - การสร้างแบบสอบถามใน มมุ มองออกแบบ (Query Design) 6 การสร้างฟอร์ม (Form) 7. สามารถสร้าง - ประเภทของฟอร์ม 4 10 ฟอรม์ (Form) - การสรา้ งฟอร์มโดยใชต้ วั ชว่ ย บันทึกข้อมลู และ สรา้ ง (Form Wizard) ประมวลผลข้อมลู - การสรา้ งฟอร์มในมุมมอง ผา่ นฟอรม์ ได้ ออกแบบ (Form Design) 7 การสร้างรายงาน 8. สามารถสรา้ ง - ประเภทของรายงาน 4 10 (Report) รายงาน (Report) - มมุ มองของรายงาน นาเสนอข้อมูล - การสร้างรายงานโดยใชต้ วั ตามทต่ี ้องการได้ ช่วยสร้าง (Report Wizard) - การสร้างรายงานในมุมมอง ออกแบบ (Report Design)

หน่วย ชื่อหน่วย ผลการเรียนรู้ สาระสาคัญ 388 ท่ี การเรยี นรู้ 9. สามารถจัดการ - ความหมายของแมโคร เวลา นา้ หนัก 8 การจัดการฐานข้อมลู ให้ ฐานข้อมลู ให้มี - การสร้างแมโคร (ช่ัวโมง) คะแนน มีประสทิ ธภิ าพและ ประสิทธิภาพ และ - การตงั้ รหัสผา่ นฐานขอ้ มูล ความปลอดภัย ความปลอดภัยได้ 25 9 การออกแบบ 10. ใช้โปรแกรม การสร้างโครงงานระบบการ 8 30 ประยุกตใ์ ช้งานดา้ น ระบบการจดั การ จดั การฐานข้อมลู กรณีศกึ ษา 40 100 ตา่ งๆ ฐานขอ้ มูลสร้าง งานดา้ นต่าง ๆ โครงงานเพื่อการ จัดการงานดา้ น ต่างๆ อยา่ งมี จติ สานกึ และความ รบั ผดิ ชอบ รวม


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook