Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore จรินทร์ งามแม้น

จรินทร์ งามแม้น

Published by วิทย บริการ, 2022-07-07 01:55:23

Description: จรินทร์ งามแม้น

Search

Read the Text Version

มหา ิวทยา ัลยราช ัภฏห ู่ม ้บานจอม ึบง 386 การสะท้อนคิดช่วยทำให้มีการประยุกต์ใช้ความรู้ในการแก้ปัญหา เพราะมีการคิดทบทวนพิจารณา ไตร่ตรองถึงปัญหาหรือสิ่งที่ผิดพลาด และเปล่ียนปัญหาหรือประสบการณ์ที่ได้จากการปฏิบัติจริงเป็นความรู้ และนำความรทู้ ีไ่ ด้นั้นไปปรับใช้ในสถานการณ์อื่น ๆ เป็นการขจัดช่องวา่ งระหว่างทฤษฎกี ับการปฏบิ ตั ิ และเป็น การสะสมความรู้ที่ได้รับจากประสบการณ์ต่าง ๆ เพ่ือพัฒนาตนเองให้ดียิ่งข้ึนต่อไป ในขณะเดียวกัน การสะท้อนคิดอาจจะทำให้เกิดความเครียดได้ เม่ือต้องอยู่ในสถานการณ์ท่ีมีความครียดจากการทำผิดพลาด หรือเหตุการณ์ที่ตัดสินใจไม่ได้ และมีความวิตกกังวลเน่ืองจากไม่สามารถแก้ปัญหาได้ ทั้งนี้ในสถานการณ์ ดังกล่าวควรใช้วิธีการแบ่งปันความคิดซึ่งกันและกัน เพื่อระบายความรู้สึกที่มีต่อปัญหาที่เกิดขึ้น และจะทำให้ รู้สึกสบายใจข้ึน รวมถึงการได้แลกเปลี่ยนความคิดเห็นซึ่งกันและกันจะช่วยให้สามารถแก้ไขปัญหาได้ ซ่ึงการ ยอมรับตนเองและยอมรับปัญหาท่ีเกิดขึ้น จะช่วยให้หาวิธีการแก้ไขปัญหาต่อไปได้ รวมทั้งได้พบมุมมองใหม่ท่ี แตกต่างจากเดิมซึ่งได้จกการสะท้อนคิด และให้มีการตัดสินใจในสิ่งท่ีหมาะสมท่ีสุดสำหรับตนแอง(กนกนุช ช่ืน เลศิ สกลุ , 2544, หน้า 35-36 ; กาญจนา รานะ และศิรริ ตั น์ นติ ขวัน, 2556, หนา้ 12) กล่าวโดยสรุปการสะท้อนคิดเป็นกระบวนการคิดทบทวนและพิจารณาด้วยความละเอียดถ่ีถ้วน มีสติ ต่อเหตุการณ์และประสบการณ์ที่เกิดขึ้น ผู้สะท้อนคิดมีความเข้าใจ สามารถวิเคราะห์และสรุปสิ่งที่เกิดขึ้นได้ และสามารถนำความรู้ที่ได้รับจากการสะท้อนคิดไปใช้อย่างมีประสิทธิภาพมากกว่าเดิม หรือนำไปสู่การ เปล่ียนแปลงมุมมองการเรียนรู้ในอนาคตอยา่ งมีความหมายเดิม 2. รูปแบบ กระบวนการ และวิธกี ารสะท้อนคิด กระบวนการสะท้ อนคิดและกระบวนการเรียนรู้จากประสบการณ์ (Experiential Learning) มีความสัมพันธ์กันและไม่สามารถแยกออกจากกันได้ เพราะกระบวนการสะท้อนคิดเป็นประสบการณ์ท่ีแสดง ออกมาในกระบวนการเรียนรู้ กระบวนการสะท้อนคิดเป็นวงจรข้ันตอนที่มีรูปแบบพ้ืนฐานร่วมกัน คือ การ อธิบายเก่ียวกับประสบการณ์หรือเหตุการณ์และความรู้สึกที่มีต่อประสบการณ์ การวิเคราะห์ความสำคัญของ สถานการณ์และความร้ใู หมท่ ี่ได้รับการพัฒนา และเกิดมุมมองใหม่ซ่ึงเปน็ กลยทุ ธ์ทจี่ ะนำไปใชก้ ับสิ่งที่จะเกิดใน อนาคตได้ (University of Leicester, 20 15)ในหัวข้อนี้ได้รวบรวมรูปแบบและกระบวนการที่เกี่ยวกับการ สะทอ้ นคดิ และการเรยี นรู้จากประสบการณไ์ ว้ดงั นี้ 2.1 รปู แบบและกระบวนการสะทอ้ นคิด David A. Kolb (1975, อ้างถึงใน Saul McLeod, p.2013) ได้ตีพิมพ์เผยแพร่ทฤษฎีรูปแบบลักษณะ การเรียนรู้ (Learning Styles Mode) ประกอบด้วยวงจรการเรียนรู้จากประสบการณ์ (The Experiential Learning Cycle) 4 ขั้นตอน และลักษณะการเรียนรู้ 4 รูปแบบ ทฤษฎีของ Kolb เก่ียวข้องกับกระบวนการ คิดซ่ึงอยู่ภายในของบุคคล โดยเชื่อว่าการเรียนรู้เกี่ยวข้องกับความคิดเชิงนามธรรมที่สามารถนำไปใช้ได้กับ สถานการณ์ต่าง ๆ และแรงขับสำหรับการพัฒนาความรู้หรือความคิดใหม่เกิดจากการได้รับประสบการณ์ใหม่ ด้วย และการเปล่ยี นแปลงประสบการณ์เปน็ การสร้างความรู้ วงจรการเรียนรู้จากประสบการณ์ (The Experiential Learning Cycle) มี 4 ขั้นตอน ดังแสดง ในภาพประกอบที่ 91 ประกอบด้วย ประสบการณ์จริง การสังเกตการณ์การสะท้อนคิด แนวคิดเชิงนามธรรม และการทดลองนำไปใช้ ขั้นตอนท่ี 1 ประสบการณ์จริง (Concrete Experience) การลงมือทำ การเผชิญประสบการณ์ใหม่ หรือพบกับประสบการณ์เดมิ อกี คร้ัง ข้ันตอนท่ี 2 การสังเกตการณ์การสะท้อนคิด (Reflective Observation) คือ การคิดการทบทวน ประสบการณใ์ หม่ โดยเฉพาะสิ่งทีม่ คี วามขัดแย้งระหว่างประสบการณแ์ ละความเขา้ ใจ

มหา ิวทยา ัลยราช ัภฏห ู่ม ้บานจอม ึบง 387 ข้ันตอนท่ี3 แนวคิดเชิงนามธรรม (Abstract Conceptualization) เกิดแนวความคิดใหม่ หรือการ ปรบั เปล่ียนแนวคิดเดมิ ทมี่ ีอยู่ การคิดหรือการเรียนรู้จากประสบการณ์ ขั้นตอนท่ี 4 การทดลองนำไปใช้ (Active Experimentation) การวางแผนและการนำความรูใ้ หม่ท่ีได้ จากการเรียนรู้จากประสบการณ์เดมิ ไปใช้หรอื ลองทำใหม่ ภาพประกอบที่ 12.1 วงจรการเรยี นรู้จากประสบการณ์ของ Kolb (Kolb’s The Experiential Learning Cycle) (McLeod,2013) Kolb and Fry (1975, อ้างถึงใน Smith, M. K, 2001, 2010, pp. 2-3) ยืนยันว่าวงจรการเรียนรู้นั้น สามารถเริ่มต้นไดจ้ ากข้ันตอนใดขัน้ ตอนหน่ึงในสีข่ ั้นตอน และจะดำเนินต่อกันเป็นวงรอบอย่างต่อเน่อื ง อยา่ งไร ก็ตามกระบวนการเรียนรู้มักจะเริ่มต้นด้วยการที่บุคคลมีการกระทำอย่างใดอย่างหน่ึง แล้วเห็นผลของการ กระทำในสถานการณ์นั้น ตามด้วยข้ันตอนท่ี 2 คือ การทำความเข้าใจกับผลกระทบที่เกิดขึ้น ดงั นั้น หากมีการ กระทำในลักษณะเดียวกันเกิดข้ึนในสถานการณ์เดยี วกันก็อาจจะคาดการณ์สิง่ ที่จะเกิดขึน้ จากการกระทำนั้นได้ ในรูปแบบน้ีข้ันตอนที่ 3 จะเป็นความเข้าใจตามหลักการโดยทั่วไปที่ทำให้เกิดเหตกุ ารณ์เฉพาะนี้ นักการศึกษา ทไี่ ด้เรยี นรวู้ ิธนี ี้อาจจะมหี ลกั การท่ัว ๆ ไป ทห่ี ลากหลายเก่ียวกบั ว่าอะไรคือสิ่งท่ีควรทำในสถานการณ์ทีแ่ ตกต่าง กันเม่ือเข้าใจหลักการท่ัวไปแล้ว ข้ันตอนสุดท้ายของ David Kolb คือ การประยุกต์ใช้ในสถานการณ์ใหม่ ในบางกรณีเมื่อผู้เรียนสามารถดำเนินการได้ครบทั้ง 4 ขั้นตอน ไม่มีขั้นตอนใดขั้นตอนหน่ึงของวงจรที่มี ประสทิ ธิภาพมากทส่ี ดุ แตเ่ ป็นกระบวนการเรยี นร้ดู ้วยตัวเองของแต่ละบคุ คล Donald A. Schon (1983, อ้างถึงใน Michelsen, B.; Ferreira, S.) ได้แบ่งการสะท้อนคิดออกเป็น 2 ประเภท คอื 1) Reflection-in-action หรือ การสะท้อนคิดในขณะมีการกระทำเป็นการสะท้อนคิดเกี่ยวกับสิ่งท่ี กำลังกระทำอยู่นั้น ซ่ึงเกิดข้ึนโดยอัตโนมัติจากการปฏิบัติ และเป็นกระบวนการที่เกิดข้ึนโดยไม่ได้ตั้งใจ (Unconscious Process) ไม่ใช่การสะท้อนคิดอย่างจงใจ เป็นการสะท้อนคิดของผู้ท่ีชำนาญในการสะท้อนคิด ของผู้ที่ชำนาญในการสะท้อนคิด Reflection-in-action เหมะสำหรับสถานการณ์ท่ีมีทางเลือกให้ตัดสินใจ และต้องการทางลอื กท่ดี ีกว่า เชน่ การแก้ไขปญั หาเฉพาะหน้าในระหวา่ งการปฏิบตั ิงานเป็นต้น 2) Reflection-on-action หรือ การสะท้อนคิดเม่ือการกระทำเสร็จสิ้นแล้ว หรอื หลังจากท่ีเหตุการณ์ เกิดขึ้นและผ่านพ้นไปแล้ว พยายามคิดทบทวนถึงประสบการณ์ที่ผ่านมา และนำข้อมูลมาวิเคราะห์เพื่อถอด

มหา ิวทยา ัลยราช ัภฏห ู่ม ้บานจอม ึบง 388 บทเรียนจากประสบการณ์ และสร้างมุมมองใหม่ หรือสร้างองค์ความรู้ใหม่จากประสบการณ์ที่เกิดขึ้น ดังนั้น Reflection-on-action จึงเป็นกระบวนการท่ีเกิดขึ้นจากการเปลี่ยนแปลงประสบการณ์ไปสู่ความรู้ มากกว่า เพียงการคิดและอธิบายส่ิงท่ีกระทำเท่านั้น เช่น การได้พูดคุยกันระหว่างนักศึกษาและพนักงานท่ีปรึกษา เพื่อ ทบทวนงานที่ได้ทำไปแลว้ และร่วมกันหาแนวทางการปฏิบัติท่ีดีกว่าเดิม เป็นต้น การสะท้อนคิดของ Donald A. Schon เป็นการแบ่งช่วงเวลาที่บุคคลจะเกิดการสะท้อนคิดได้แต่ไม่ได้อธิบายถึงกระบวนการและ ขั้นตอน ของการสะท้อนคิดในแต่ละช่วงเวลา (Lauterbach, & Becker, 1996, อ้างถึงในวัลภา คุณทรงเกียรติ, 2543, หนา้ 34) Graham Gibbs (1988) ได้เสนอรูปแบบทฤษฎีวงจรการสะท้อนคิดเพื่อใช้เป็นกรอบการเรียนรู้ที่ใช้ สำหรับการเขียนสะท้อนคิด ซึ่ง Gibbs ได้พัฒนามาจากรปู แบบทฤษฎีวงจรการเรียนรู้ประสบการณ์การเรียนรู้ 4 ขั้นของ David Kolb ซึ่งเสนอรูปแบบการเรียนรู้โดนการสะท้อนคิด ซ่ึงไม่เป็นเพียงแต่มีประสบการณ์ แต่เพ่ือท่ีจะเรียนรู้จากประสบการณ์ เพราะหากไม่มีการสะท้อนคิดต่อประสบการณ์น้ันจะสามารถลืมได้ ในเวลาอันรวดเร็ว ทำให้ไม่มีความสามารถในการเรียนรู้ ส่ิงที่มาจากความรู้สึกและความคิดท่ีเกิดข้ึนจากการ สะท้อนคิดเป็นภาพโดยรวม หรือการสร้างการรับรูท้ ี่ช่วยให้จัดการกับสถานการณ์ใหม่ ๆ ได้ วงจรการสะท้อน คิดของ Gibbs (Gibbs' Reflective Cycle) เป็นเครื่องมือท่ีมีประสิทธิภาพสำหรับสะท้อนเหตุการณ์สำคัญ ที่เกิดข้ึน ในการเรียนรู้โดยการปฏิบัติ (Learning by Doing ท้ังในด้านดีและด้านไม่ดี ซึ่งเป็นเหตุการณ์ ท่เี กิดขึ้นระหว่างการเรียนรูห้ รือการปฏบิ ัติงาน วงจรการสะท้อนคิดของ Gibbs มีประโยชน์สำหรบั ผูท้ ีย่ งั ไม่เคย ฝึกการสะท้อนคิด เพราะเป็นกระบวนการที่อธิบายได้ละเอียด แต่ในการปฏิบัติมักจะมีความสับสนในข้ันตอน การประเมินผล การวิเคราะห์ และข้อสรุป ซึ่งดูเหมอื นจะเป็นการถามคำถามที่คล้ายกันและอาจมีการกล่าวซ้ำ แต่มีความสำคัญ สำหรับขั้นตอนการวิเคราะห์ อีก 5 ข้ันตอนประกอบด้วยการอธบิ ายถึงสิ่งท่ีดีหรือไม่ดี อธบิ าย เหตุการณ์ โดยการสรุปหรือบอกเหตุผลว่าทำไมจึงทำสิ่งน้ัน (Education Drop in Centre, University of South Wales, 2013) ; Peter Lia, 2016) ภาพประกอบที่ 12.2 วงจรการสะทอ้ นความคดิ ของ Gibbs (Gibbs’ Reflective Cycle, 1988) (University of Cambria, n.d.)

389 วงจรการสะท้อนคิด 6 ข้นั ตอนของ Gibbs แสดงในภาพประกอบที่ 92 มรี ายละเอยี ดดงั นี้ 1) Description การอธิบายเหตุการณ์หรือเล่าเหตุการณ์โดยสรปุ บอกรายละเอียดสำคัญว่าเกิดอะไร ข้ึน (key Point) เพอ่ื บง่ บอกประเด็นสำคัญของเหตกุ ารณท์ ่ตี ้องการสะท้อนคิด 2) Feelings การแสดงความคิดหรือความรู้สึกต่อเหตุการณ์ท่ีเกิดขึ้น โดยการบอกกวามคิดหรือ ความรูส้ ึกจรงิ ทม่ี ใี นขณะทเี่ กดิ เหตกุ ารณน์ นั้ 3) Evaluation การบอกสิ่งท่ีดีและสิ่งท่ีไม่ดีเกี่ยวกับเหตุการณ์ รวมถึงส่ิงท่ีทำได้ดีหรือทำได้ไม่ดีด้วย เช่นกัน ส่ิงสำคัญคือการพยายามพิจารณาส่ิงเลวร้าย ซ่ึงรวมถึงสิ่งที่ผู้อ่ืนทำหรือไม่ทำว่าเป็นอย่างไร เป็นการ ตัดสินเกยี่ วกบั การเหตุการณ์ และสง่ิ ทจ่ี ะสามารถทำไดใ้ นเหตุการณ์นน้ั 4) Analysis การพิจารณาทุกประเด็นของแต่ละส่วนของเหตุการณ์ และการหาข้อมูลที่เกี่ยวข้อง เพ่ือช่วยในการพิจารณาและตัดสินใจเก่ียวกับเหตุการณ์ การคิดถึงเหตุการณ์อย่างเป็นเหตุเป็นผลซึ่งทำให้เกิด การสะท้อนคิดอย่างแท้จริง ใครได้รับผลกระทบ การสะท้อนคิดถึงประเด็นสำคัญของเหตุการณ์ที่ละประเด็น และหาข้อมูลจากแหล่งอ่ืน ๆ เพื่อเป็นแนวทางในการพิจารณาเหตุการณ์อย่างมีเหตุผล และบอกว่าอะไรคือ เหตุผลของสิ่งท่ีทำไปท้ังหมด บอกเก่ียวกับส่ิงที่ตนเองทำได้ดีภายใต้ข้อจำกัดเท่าท่ีมีอยู่ บอกเกี่ยวกับความรู้ท่ี ได้รับจากปญั หาท่เี กิดขึ้น และบอกสาเหตขุ องปญั หา รวมถึงการสรปุ ความข้าใจเกีย่ วกับเหตุการณท์ ่เี กิดข้นึ 5) Conclusion การสรุปท่ีสมเหตุสมผลจากการตรวจสอบเหตุการณ์ และสรุปจากข้อมูลที่เกี่ยวข้อง วา่ อะไรทน่ี ำมาสู่เหตุการณ์ สิ่งทตี่ นเองและผู้อื่นทำ สง่ิ ท่ีทำให้มาถึงจุดน้ีได้ และส่ิงท่ีตนเองทำไดอ้ ยา่ งเหมาะสม สรุปเกยี่ วกับวธิ ที ท่ี ำให้ผ่านพน้ เหตุการณห์ รือพฒั นาเหตกุ ารณ์นน้ั มาได้ 6) Action Plan การวางแผนถึงส่ิงที่จะทำหากเหตุการณ์นั้นหรือเหตุการณ์ที่คล้ายกันเกิดขึ้นอีกครั้ง จะทำอยา่ งไร มอี ะไรจะทำแตกต่างไปจากเดมิ หรือยงั คงทำเหมือนเดิม มหา ิวทยา ัลยราช ัภฏห ู่ม ้บานจอม ึบง ตารางท่ี 12.1 คำถามในการสะท้อน ขน้ั การสะทอ้ น คำถาม บรรยายสภาพการณ์ เกดิ เหตุการณ์อะไรข้ึนบา้ ง (What happened) แสดงความรูส้ กึ /ความคิดเห็น คดิ และร้สู กึ อยา่ งไรต่อเหตกุ ารณ์น้นั ๆ (What were you thinking and feeling) ประเมนิ เหตุการณ์อะไรบ้างทีแ่ สดงถึงความสำเร็จ/หรอื ความล้มเหลว (What was good and bad about experience) วิเคราะห์ รสู้ ึกต่อเหตุการณ์ตา่ ง ๆ อย่างไร (What sense can you make of the situation) หาขอ้ สรปุ จะทำส่ิงที่แตกต่างอะไรบ้าง (What else could you have done) วางแผนปฏิบตั ิ จะทำส่งิ ที่แตกต่างน้ันได้อยา่ งไร (If it occurred again, what would you do) Holm and Stephenson ได้เสนอชุดคำถามเพ่ือสะท้อนคิดด้วยตัวเองสำหรับการสะท้อนคิด ในสถานการณ์ต่าง ๆ คำถามแต่ละคำถามจะเหมาะสำหรับสถานการณ์ท่ีแตกต่างกัน บางคำถามใช้ถาม ได้มากกว่าหน่ึงคร้ัง หรือใช้ในมุมมองที่แตกต่างกัน นอกจากนี้ชุดคำถามของ Holm and Stephenson ยังช่วยให้เกิดการคิดทบทวนพิจารณาในแต่ละขั้นตอนของการสะท้อนคิดชัดเจนมากขึ้น เช่นเดียวกันกับ ขั้นตอนการสะท้อนคิดของ Gibbs ตัวอย่างคำถามสะท้อนคิดของ Holm and Stephenson เช่น อะไรคือ

มหา ิวทยา ัลยราช ัภฏห ู่ม ้บานจอม ึบง 390 บทบาทของตนเองในสถานการณ์ท่ีเกิดขึ้น ทำไมจึงรู้สึกสบายใจหรือไม่สบายใจ มีอะไรบ้างที่ได้ทำไปแล้ว ส่ิงท่ีตนเองทำเป็นอย่างไร และสิ่งที่ผู้อื่นทำเป็นอย่างไร สิ่งท่ีเกิดขึ้นน้ันเหมาะสมดีแล้วหรือไม่ มีอะไรท่ีสมารถ ทำได้อีกในสถานการณ์ที่เกิดข้ึน และอะไรท่ีจะทำไม่เหมือนเดิม ได้เรียนรู้อะไรบ้าง อะไรคือสิ่งท่ีคาดว่าจะ เกดิ ขึ้น แตกต่างจากเดิมหรือไม่ วิธกี ารคิดเปลี่ยนไปหรอื ไม่ และเปลี่ยนอย่างไร ความรู้จากทฤษฎีและงานวิจัย ซง่ึ สามารถนำไปประยุกต์ใชก้ ับสถานการณ์นี้มีอะไรบ้าง มปี ระเดน็ อะไรบ้างท่ไี ด้เรียนรู้เพิ่มเติมจากสถานการณ์ เช่น ด้านจริยธรรม หรือค้นสังคม และมีความคิดเห็นเก่ียวกับประเด็นที่เกิดขึ้นอย่างไร (Oxfords Brookes University, n.d.) กระบวนการสะท้อนการจัดการเรียนผู้เริ่มต้นจากการสังเกตการจัดการเรียนรู้โดยตรงหรือโดยอ้อม เช่น ดูวิดีโอเทปหรอื ฟังจากเทปบนั ทึกเสยี ง หลังจากน้ันจึงสะท้อนการจดั การเรียนรู้ในด้านตา่ ง ๆตามวงจรการ สะท้อน แลว้ จึงส่อื สารการสะทอ้ นการจัดการเรยี นรู้ออกมาในรปู ของการเขียนหรือการพดู Stephen Brookfield (1995 อ้างถึงใน King & Harbison, 2000 และ Miller, 2010) ได้เสนอแนะ มุมมองเพ่ือความสำเร็จในกระบวนการสะทอ้ นการจดั การเรียนรู้ ไว้ 4 มุมมอง มุมมองจากตนเอง เป็นการสะท้อนการจัดการเรียนรู้ของครูด้วยตัวครูเอง (self-reflective) โดยใช้ การสังเกตตนเอง (self-observation)และการประเมินตนเอง (self -assessment) เป็นเคร่ืองมือสำคัญใน การรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับการจัดการเรียนรู้ มุมมองจากตนเองจะช่วยให้ครูบันทึกกิจกรรมการจัดการเรียนรู้ ได้อย่างละเอียดและครบองค์ประกอบของการจดั การเรยี นรู้เน่ืองจากเปน็ ผู้ท่ีบริหารจัดการเรียนรูด้ ้วยตนเอง มุมมองจากผู้เรียน เป็นการสะท้อนการจัดการเรียนรู้ของครูโดยให้ผู้เรียนให้ข้อมูลย้อนกลับ (feedback) การใช้แบบสอบถาม (questionnaires) หรือการอภิปรายกลุ่ม(group discussions) เพ่ือรวบรวม ขอ้ มลู ซ่ึงใช้เป็นส่วนหนงึ่ ของกระบวนการสะท้อนการจัดการเรียนรู้ ข้อมูลท่ีได้จากมมุ มองของผูเ้ รียนจะช่วยให้ ครูข้าใจปัจจัยท่ีส่งผลต่อความสำเร็จหรือความล้มเหลวในการจัดการเรียนรู้มากขึ้นเนื่องจากผู้เรียนเป็น กลุม่ เป้าหมายที่เก่ียวข้องกบั การจดั การเรียนรู้โดยตรง การรับทราบและทำความเขา้ ใจความรู้สึก ความคิดเห็น และข้อสนอแนะจากผู้เรียนจึงนับเป็นประโยชน์ยิ่งต่อกระบวนการสะท้อนการจัดการเรียนเพ่ือปรับปรุงและ พัฒนาการจัดการเรียนของครู ดังนั้น ครูควรเปิดโอกาสให้ผู้เรียนได้สะท้อนผลการจัดการเรียนรู้ของครูเป็น ระยะ ๆ อยา่ งตอ่ เนอ่ื ง มุมมองจากเพื่อนครู เป็นการสะท้อนการจัดการเรียนรู้ของครูโดยเพื่อนครูในลักษณะของการจับคู่ พัฒนาหรือการใช้กระบวนการกลุ่มเพ่ืออภิปรายแลกเปลี่ยนความคิดเห็นท่ีมีต่อการจัดการเรียน ในกรณีของ การใช้กระบวนการกลุ่มอาจจำแนกกลุ่มตามสาระการเรียนรู้หรือระดับชั้น การสะท้อนการจัดการเรียนรู้ โดยเพื่อนจะช่วยเพ่ิมมุมมองและแนวคิดในการปรับปรุงและพัฒนาการจัดการเรียนรู้ที่หลากหลายจากการ แลกเปลี่ยนประสบการณ์ซึ่งกันและกัน การสะท้อนการจัดการเรียนรู้ในลักษณะน้ีครูจึงควรเปิดใจกว้างรับฟัง ความคิดเห็นท่ีเพื่อน ๆ ช่วยกันสรุปการจัดการเรีนรู้ของตน รวมท้ังแสดงการสะท้อนต่อการจัดการเรียนรู้ของ เพอ่ื นๆ อย่างตรงไปตรงมา และให้ข้อเสนอแนะท่เี ปน็ ประโยชน์ มุมมองจากการศึกษาแนวคิดทฤษฎี เป็นการสะท้อนการจัดการเรียนรู้ของครูโดยการศึกษาแนวคิด ทฤษฎีท่ีเก่ียวกับการจัดการเรียนเพ่ือเป็นกรอบในการตคี วามสถานการณ์ท่ีเกดิ ขนึ้ หรอื อาจเกิดข้ึนในการจดั การ เรยี นรู้ การสะท้อนการจัดการเรียนท่ปี ระสบผลสำเรจ็ จะตอ้ งอาศัยประสบการณเ์ ป็นตัวขบั เคลื่อนกระบวนการ คิด ประสบการณ์ท่ีใช้อาจได้จากการปฏิบัติด้วยตนเองหรือจากการศึกษาแนวคิดทฤษฎีและการอ่ าน ประสบการณ์ของผู้อืน่ ซ่งึ สมารถนำมาประยุกต์ ถ่ายโอนเขา้ กับการปฏิบตั ขิ องตนเองได้ Johns Christopher (1995, 2000) ได้พัฒนารูปแบบโครงสร้างการสะท้อนคิด (Johns’ Model of Structured Reflection) โดยถามคำถามท่ีจะช่วยให้จำแนกประสบการณ์ และสะท้อนให้เห็นถึงกระบานการ

มหา ิวทยา ัลยราช ัภฏห ู่ม ้บานจอม ึบง 391 และผลลัพธ์ โดยใช้ผลงานของ Caper เป็นพ้ืนฐาน เพ่ืออธิบายเกี่ยวกับสุนทรียศาสตร์ของสิ่งท่ีกระทำ ความตระหนักในตนเอง ความรู้ทางศีลธรรม ความรู้เชิงวิทยาศาสตร์หรือประสบการณ์ และการตอบสนอง ใช้คำถามแบบก้าวหน้า เริ่มต้นด้วยการอธิบายประสบการณ์จากนั้นใช้คำถามภายใต้หัวข้อเพื่อจัดระเบียบ การสะท้อนคิด โครงสร้างการสะท้อนคิดของ Johns เป็นรูปแบบซึ่งส่งเสริมให้มีการอธิบายรายละเอียดของ การสะท้อนคิด และความสามารถในการเรียนรู้จากประสบการณ์โดยมีพ้ืนฐานมาจากการปฏิบัติงาน Johns ใช้รูปแบบการสะท้อนคิดซึ่งเน้นการเรียนรู้จากสถานการณ์ท่ีมีอยู่ โดยมีคำถามสำคัญ 5 คำถาม (Johns C., 1995, 2000; Oxford Brookes University, n.d.) ราขละเอยี ดดงั นี้ 1) การบรรยายประสบการณ์ (Description of the Experience) อธิบายประสบการณ์ในขณะท่ี เกิดขึ้นในขณะน้ัน และบอกว่าอะไรคือปัจจัยสำคัญท่ีทำให้เกิดประสบการณ์ อะไรคือปัจจัยสำคัญของความรู้ เดิมหรือประสบการณ์เดิมต่อประสบการณ์ครั้งนี้ อะไรคือกระบวนการหลักสำหรับการสะท้อนคิดใน ประสบการณ์ 2) การสะท้อนคิด (Reflection) การบอกว่าอะไรคือสิ่งท่ีบุคคลพยายามจะทำให้สำเร็จทำไมจึงเป็น เช่นน้ัน ผลของสิ่งท่ีเกิดขึ้นถืออะไร ทั้งกับตนเอง ครอบครัว และเพื่อนร่วมงาน บุคคลรู้สึกอย่างไรต่อ ประสบการณ์ท่ีเกิดข้ึน ผู้ที่เก่ียวข้องรู้สึกอย่างไร และรู้ได้อย่างไรว่าผู้ที่เกี่ยวข้องรู้สึกอย่างไร ท้ังหลังจาก เหตุการณ์ ระหวา่ งสถานการณ์ และกอ่ นเหตุการณ์ 3) ปัจจัยท่ีมีอิทธิพล (Influencing Factors) อะไรคือปัจจัยภายในและปัจจัยภายนอกที่มีอิทธิพลต่อ การตัดสนิ ใจ ความรหู้ รอื ประสบการณ์เดมิ มอี ิทธพิ ลตอ่ การตดั สินใจดว้ ยหรือไม่ 4) การประเมนิ ผล (Evaluation) การทำให้เหตุการณ์ดีกว่าเดิมได้หรือไม่ มีทางเลอื กอื่นอะไรบ้างที่จะ สามารถเลอื กกระทำได้ และสงิ่ ท่เี กดิ ขน้ึ จากการกระทำน้นั คืออะไร 5) การเรียนรู้ (Learning) ส่ิงท่ีเกิดขึ้นจากประสบการณ์ สิ่งท่ีบุคคลสามารถทำได้ในประสบการณ์ ทผี่ ่านมา และตอ่ สิง่ ท่ีจะเกิดขึ้นในอนาคต ประสบการณ์น้ันเปล่ียนแปลงความรู้ด้านวทิ ยาศาสตร์ ด้านศีลธรรม จริยธรรม ความตระหนกั ในตนเอง และศาสตร์อ่นื ๆ ท่บี ุคคลได้รบั จากประสบการณ์ได้อย่างไร ทั้งนี้ กระบวนการสะท้อนคิดของ Gibbs ซึ่งมี 6 ขั้นตอน การสะท้อนคิดเป็นกระบวนการท่ีเหมาะ สำหรับการฝึกสะท้อนคิด เพราะมีข้ันตอนช่วยให้ผู้สะท้อนคิดเกิดกระบวนการทบทวนและพิจารณา ประสบการณ์ท่ีเกิดขึ้นอย่างเป็นระบบ และมีความใกล้เคียงกันกับวงจรการเรียนรู้ของ Kolb ซึ่งเป็นพ้ืนฐาน วงจรการสะท้อนคิดของ Gibbs ด้วย แต่ขั้นตอนของ Gibbs อาจจะมีความซับซ้อนกว่า ในขณะที่โครงสร้าง การสะท้อนคิดของ Johns และ ชุดคำถามของ Holm and Stephenson นำสนอแนวคำถามที่สามารถ นำไปใชใ้ นการปฏิบัตสิ ะท้อนคดิ ได้ง่ายกว่า สำหรบั การสะทอ้ นคิดของ Schon เนน้ ท่ีช่วงเวลาในการสะทอ้ นคิด และไมไ่ ดม้ ีการอธบิ ายถงึ วิธกี ารดำเนนิ การเพื่อใหเ้ กดิ การสะท้อนคดิ โดยสรุปกระบวนการสะท้อนคิดเร่ิมต้นจากการที่บุคคลดำเนินชีวิตโดยการรับรู้รับทราบเหตุการณ์ สถานการณ์ หรือประสบการณ์ที่เกิดขึ้น มีการทบทวนและพิจารณาอย่างมีสติและมีความข้าใจโดยสามารถ วิเคราะห์และแยกแยะทงั้ ดา้ นดีและดา้ นไม่ดีเกย่ี วกับสิ่งท่ีเกิดขึ้นตลอดจนมีการเรยี นรู้และไดร้ ับความรู้ใหม่จาก ประสบการณ์ท่ีเกิดข้ึนนนั้ และสามารถนำไปใช้เพื่อประโยชนต์ ่อการตัดสินใจสำหรับการกระทำที่จะเกิดข้ึนใน อนาคต 2. วธิ ีการสะทอ้ นคดิ การสะท้อนคิดสามารถกระทำในรูปแบบส่วนบุคคล รายคู่ และรายกลุ่มได้ แต่ไม่ควรจัดการสะท้อน คิดเป็นกลุ่มใหญ่ เนื่องจากบรรยากาศอาจยับย้ังการสะท้อนคิดระดับสูงของผู้เรียนได้บรรยายการสะท้อนคิด ต้องผ่อนคลาย โดยฉพาะตัวผู้สอน ต้องสร้างบรรยากาศของความปลอดภัยความไว้วางใจ และการเก็บรักษา

มหา ิวทยา ัลยราช ัภฏห ู่ม ้บานจอม ึบง 392 ความลบั (กรรณกิ า วิชัยเนตร, 2557, น. 197) การสะท้อนคดิ ของผเู้ รยี นสามารถทำไดห้ ลายวธิ ี เช่น การแสดง บทบาทสมมุติ (Demonstration) การอภิปรายกลุ่ม (Group Discussion) การบรรยาย (Lecture) การทำ กจิ กรรมกลุ่มย่อยโดยการอ่านและอภิปราย (Read and Discuss Small Group Activity) การพูดคุยสนทนา เปน็ คู่ (Pair) การแบง่ ปนั (Share) กจิ กรรมการเขียน (Writing Activity) เปน็ ต้น ในการนำการสะท้อนคิดไปใช้ในการศึกษาการสะท้อนคิดเกี่ยวข้องกับ (1) การมองย้อนกลับไปยัง ประสบการณ์หรือเหตุการณ์ ซ่ึงส่วนใหญ่มักเป็นเหตุการณ์บางเหตุการณ์เกิดขึ้นหรือความคิดเก่ียวกับ เหตุการณ์ (2) การวิเคราะห์เหตุการณ์หรือความคิดเห็น ซึ่งมักจะเป็นความคิดในเชิงลึกจากมุมมองท่ีแตกต่าง กัน และพยายามท่ีจะอธิบาย โดยมีการอ้างอิงถึงรูปแบบหรือทฤษฎี (3) การคิดอย่างรอบคอบว่าเหตุการณ์ หรือความคิดใดทมี่ ีความหมายต่อผู้เรียนและความก้าวหน้าของผู้เรียนหรือในการปฏบิ ัตใิ นวิชาชีพ (Hampton, 201) การเรียนรู้เป็นได้ท้ังการปฏิบัติ และการคิดไตร่ตรองเพราะการเรียนรู้ส่วนใหญ่เกิดจากการได้ปฏิบัติ (Burn, Dimock, & Martinez, 2000, อ้างถึงใน ผอ่ งฉวี ไวขาวัจมัย และคณะ, 2555) การสะท้อนคิดมีได้หลายลักษณะ บางคร้ังการสะท้อนคิดต่อหน้าผู้อื่นไม่สามารถสะท้อนได้ทันที แต่อางมีการแบ่งปันและแลกเปลี่ยนเรียนรู้ได้ในภายหลัง เช่น กรณีท่ีเป็นเหตุการณ์ฉุกเฉินเม่ือเหตุกรณ์จบลง แล้วหรือผ่านไปแล้ว เราถึงจะสามารถทบทวนถึงเหตผุ ลของการกระทำได้ในภายหลัง (ปวีณภัทร นิธิตันติวฒั น์ และเยาวลักษณ์ มีบุญมาก, 2557, น. 7) เพราะการสะท้อนคิดเป็นการคิดที่มักจะเกิดข้ึนหลังจากหลัง เหตุการณ์ เพื่อให้เห็นภาพของผู้เรียนต่อเหตุการณ์ ซ่ึงเกิดขึ้น นักศึกษาจะได้รับประโยชน์มากหากมีโอกาส ในการพิจารณาการสะท้อนคิดในสามช่วงเวลาคือ ก่อนเหตุการณ์ ระหว่างเหตุการณ์ และภายหลังจาก เหตกุ ารณ์นั้น (Bound, D, 2001 และ Burn, Dimock, & Martinez, 2000 อา้ งถงึ ใน ผ่องฉวี ไวขาวัจมัย และ คณะ, 2555) รวมถึงวิธีการจัดการเรียนการสอนที่สนับสนุนวงจรการเรียนรู้ เช่น การสังเกต การเขียนบันทึก การอภิปราย การระดมสมอง การคิด การตั้งคำถาม การพูดตอบคำถาม การถามเพื่อสังเกตการณ์ การเขียน รายงานการปฏิบัติงาน การให้ข้อมูลสะท้อนกลับต่อการปฏิบัติงาน การให้ข้อเสนอแนะต่อผู้ร่วววมงาน การ หยุดคิดแบบเงียบ ๆ การสนทนาในระหว่างพักเบรค การเขียนบันทึกประจำวัน (Mobs’, R. 2015) ดังนั้น วิธีการสะทอ้ นคดิ จึงมหี ลายรปู แบบ และหลายวิธกี ารทสี่ ามารถนำไปปรบั ใช้กับสถานการณ์ต่าง ๆ 2.1 การสะท้อนคดิ โดยการเขียน การเขียนสะท้อนคิดเป็นเร่ืองส่วนบุคคลมากกว่าการเขียนวิชาการวิธีอื่น ๆ และการเขียน สะทอ้ นคิด เปน็ การบันทึกประสบการณ์สว่ นตวั ซึ่งการเขียนมีเหตผุ ลและวตั ถุประสงค์หลายประการที่แตกต่าง กัน อาจเพื่อต้องการบันทึกภาพเหตุการณ์ สำรวจความรู้สึก หรือทำความเข้าใจกับส่ิงที่รับรู้เป็นได้ท้ังการ แสดงออกของตนเอง หรือเป็นรูปแบบหน่ึงของการบำบัด หรืออาจเป็นทุกวัตถุประสงค์รวมกัน นอกจากน้ี การเขียนสะท้อนคิดเป็นการสะท้อนประสบการณ์ และความคิดเห็นต่อเหตุการณ์ หรือข้อมูลที่ได้พบเป็นการ แสดงความคิดและความรู้สึกเพื่อการเรียนรู้ และได้รับความรู้ด้วยตนเอง ซึ่งเป็นวิธีท่ีจะทำให้เกิดความชัดเจน และเข้าใจในสิ่งที่กำลังเรียนรู้ นอกจากน้ีการเขียนสะท้อนคิดยังมีส่วนช่วยในการพัฒนาทักษะการเขียน และเป็นการสร้างความรู้จากส่ิงที่ได้เรียนรู้ บางครั้งเขียนเพ่ือตนเองเป็นหลัก หรือเขียนเพ่ือผู้อื่น ทุกคนมีการ สะท้อนคิดในทุกวัน แต่บางคร้ังไม่ได้คิดอย่างลึกซ้ึงเหมือนการเขียนสะท้อนคิด (Bound, 2001, p. I; Hampton, nd ; McClure, P., n.d. p.7) การสะท้อนคิดโดยการเขยี นสามารถทำได้หลายวิธี เชน่ การเขียนบันทึก (Journal Writing) หรือการ เขียนไดอารี่ เพอ่ื บรรยายอธบิ ายสถานการณ์ท่ีเกิดขึ้นโดยจะบรรยายเฉพาะจุดสำคัญของสถานการณ์ที่ตอ้ งการ สะท้อนคิด (กรรณิกา วิชัยเนตร 2557, น. 197) การกระตุ้นให้นักศึกษาสรุปผลในแต่ละ วันด้วยการเขียน สะท้อนคิดในบันทึกประจำวันของตนเอง ซึ่งใช้เวลาเพียงไม่ก่ีนาที่ในการเขียน และมีแนวโน้มท่ีนักศึกษาจะ

มหา ิวทยา ัลยราช ัภฏห ู่ม ้บานจอม ึบง 393 ได้รบั ประโยชน์จากการเขยี นบนั ทกึ สะทอ้ นคดิ นอกจากนอ้ี าจจะมกี ารเกบ็ ตัวอย่างบันทึกประจำวนั เกีย่ วกับการ ปฏิบัติวิชาชพี หรือประสบการณ์การปฏิบัติงานของนักการศึกษาในภาคปฏบิ ัติ ซ่ึงจะแสดงให้เห็นผลการเรียน อย่างสม่ำเสมอและต่อเนื่อง (MeClure. P,nd. p ) และการเขียนบันทึกประจำวันมีบทบาทสำคัญในการ สะทอ้ นคดิ แตล่ ะชว่ งเหตุการณ์ ซึ่งมีหลากหลายรปู แบบและวิธีการตามแต่วัตถปุ ระสงคข์ องการเขียนท่สี ามารถ นำมาใช้เพื่อส่งเสริมการสะท้อนคิดในแต่ละขั้นตอนของการเรียนรู้ เพ่ือมุ่งเน้นเหตุการณ์ท่ีคาดการณ์ว่าจะ เกิดข้นึ เช่นเดยี วกับหตุการณท์ ผ่ี า่ นไปแลว้ (Bound, 2001. pp.1-6) การเขียนสะท้อน (reflective writing) ถูกนำมาใช้เพ่ือการพัฒนาวิชาชีพครูในลักษณะของการ สะท้อนการจัดการเรียนรู้ (reflective teaching) และใช้เป็นส่วนหนึ่งของกระบวนการวิจัยในชั้นเรียน (classroom action research) เนือ่ งจากเปน็ วิธีการที่ช่วยสรา้ งความคิดรวบยอดและมโนทศั น์เกี่ยวกับเรื่องที่ ปฏิบัติหรือเรียนให้มีความชัดเจนขึ้น รวมท้ังช่วยให้สามารถปรับเปลี่ยนและประยุกต์ใช้ความคิดรวบยอดและ มโนทัศน์ต่าง ๆ เหล่านั้นกับสถานการณ์อ่ืน ๆ ได้อย่างเหมะสม การสะท้อนด้วยการเขียนจึงเป็นการต่อยอด ฐานความรู้เดิมใหเ้ กดิ ความรใู้ หม่ ซง่ึ ช่วยส่งเสริมใหค้ รูสามารถพฒั นาตนเองและพฒั นาวิชาชพี ไดอ้ ยา่ งต่อเนื่อง การเขียนสะท้อนการเรียนรู้อาจจำแนกได้ 2 รูปแบบ ได้แก่ การเขียนสะท้อนการจัดการเรียนรู้ตาม กรอบทก่ี ำหนดไว้ และการเขยี นสะทอ้ นการจัดการเรยี นรแู้ บบอิสระ รูปแบบที่ 1 การเขียนสะท้อนการจัดการเรียนรู้ตามกรอบท่ีกำหนดไว้ เป็นการเขียนสะท้อนตาม คำถาม (reflective questions) หรือบรรยายลักษณะสำคัญ ๆ ท่ีเก่ียวข้องกับการจัดการเรียนรู้ตามประเด็น ซ่ึงได้กำหนดไว้ล่วงหน้า เช่น การสะท้อนจากแผ่นงาน (reflective worksheets) หรือการเขียนสะท้อน จากการฟังเทปบันทึกเสียง บันทึกวีดีทัศน์จากการจัดการเรียนรู้ (reflective audio visual records) รูปแบบน้ี มขี ้อดีท่ีช่วยให้สมารถสะท้อนการจัดการเรียนรู้ได้ครบถ้วน ครอบคลุมคำถามและองค์ประกอบท่ีสำคัญในการ จดั การเรียน แต่มีข้อจำกัดที่ไม่สามารถสะท้อนการจดั การเรียนรู้ได้อย่างหลากหลายเนื่องจากผู้เขียนมักยึดติด กับคำถามหรือองค์ประกอบที่กำหนดไว้ จนบางคร้ังทำให้ละเลยการเขียนสะท้อนการจัดการเรียนรู้ที่น่าสนใจ บางประเด็น รูปแบบท่ี 2 การเขยี นสะท้อนการจัดการเรยี นรแู้ บบอิสระ เป็นการเขียนสะท้อนการจัดการเรยี นรูต้ าม สภาพการจัดเรียนท่ีสังเกตได้ มีการสอดแทรกความรู้สึก ความคิดเห็นโดยไม่มีการกำหนดกรอบการสะท้อน ที่ชัดเจน การเขียนสะท้อนลักษณะนี้ เช่น การเขียนอนุทินหรือบันทึกประจำวันของครู(journal writing หรือ teacher diary) รูปแบบน้ีมีข้อดีท่ีสามารถสะท้อนการจัดการเรียนรู้ได้อย่างหลากหลายแต่มีข้อจำกัดที่อาจ สะท้อนการจัดการเรียนรู้ได้ไม่ครอบคลุมประเด็นหรือองค์ประกอบสำคัญของการจัดการเรียนรู้ การเขียน สะท้อนรปู แบบน้ีจึงตอ้ งอาศัยความเช่ียวชาญของผ้เู ขยี นมากกว่ารูปแบบที่ 1 แต่เป็นรปู แบบท่ีได้รับความนิยม นำมาประยุกตใ์ ช้เพื่อสะทอ้ นการจัดการเรยี นรมู้ ากกวา่ การเขียนสะท้อนคิดเป็นสิ่งสำคัญท่ีใช้ในการรายงานความคิด ความรู้สึก และความคิดเห็น แทนที่จะ เป็นเพยี งเหตุการณ์ที่เกิดขนึ้ จรงิ ในแต่ละวัน โดยเฉพาะการรายงานความรู้สึกสว่ นตวั หลังจากเหตกุ ารณ์ ซึ่งชว่ ย ในการสร้างและปรับปรุงประสบการณ์ได้ ความสำคัญของการใช้บันทึกสะท้อนคิดเพื่อบันทึกประสบการณ์ที่ดี และความสำเรจ็ เช่นเดียวกนั กับสงิ่ ท่ีไมป่ ระสบความสำเรจ็ มุมมองท่ีสมดลุ ของส่งิ ทเี่ กิดขึน้ เป็นส่ิงจำเป็น บันทึก สะท้อนคิดประจำวันไม่เพียงสำคัญเฉพาะในระหว่างการปฏิบัติการ แต่คือการบันทึกความสำเร็จส่วนบุคคล ด้วยเช่นกันการเขียนบันทึกสะท้อนคิดระหว่างการปฏิบัติงานช่วยให้นักศึกษามุ่งเน้นท่ีความคิดของตนเอง เก่ียวกับส่ิงที่ได้ปฏิบัติในระหว่างวัน และจดจำส่ิงสำคัญได้ จึงเป็นเครื่องมือท่ีช่วยในการมองย้อนกลับไปและ จดจำส่ิงน้ันได้ การเขียนสะท้อนคิดไม่ใช่เพียงการบันทึกเหตุการณ์ที่ได้เรียนรู้เท่าน้ัน แต่เป็นการสะท้อน

มหา ิวทยา ัลยราช ัภฏห ู่ม ้บานจอม ึบง 394 ผลกระทบของเหตุการณ์ซึ่งมผี ลต่อพฤติกรรมและการเรียนรู้ในอนาคตของผสู้ ะทอ้ นคิดดว้ ย (McClure, P. nd, p.7 : Williams & Wessel, 2004, pp.17-18) นอกจากนีย้ ังมีการเขียนบตั รคำ การเขียนแผนผังความคิด และการจัดทำประวตั ิผลงานออนไลน์ หรือ E:-portfolio เพ่ือจัดเก็บผลงานและส่ิงท่ีเก่ียวข้องกับวัตถุประสงค์การเรียนรู้ท่ีกำหนด ซ่ึงจะช่วยให้นักศึกษา สามารถสะท้อนคิดต่อผลงานและความก้าวหน้าของผลงานท่ีได้ทำและสงิ่ ทน่ี ักศึกษาได้เรียนรกู้ ่อนหน้านี้ และมี การทบทวนเกี่ยวกับผลงานเหล่าน้ัน (กรรณิกา วิชัยเนตร, 2557, น. 197: University of Leicester, 2015; Algonquin College of Applied Arts and Technology, n.d.) การเขียนทำให้เรียนรู้โดยการคิดไตร่ตรองเก่ียวกับเหตุการณ์ที่เกิดข้ึน กิจกรรมท่ีกระทำ และ ประสบการณ์ การกระทำและการคิด ไตร่ตรองร่วมกันก่อให้เกิดความรู้ใหม่ ซ่ึงยากที่จะแยกแยะสองสิ่งนี้ออก จากกัน เพราะเปน็ กระบวนการท่ีเกิดร่วมและเกิดคูข่ นานกัน (Burn, et al,2000 อา้ งถึงใน ผอ่ งฉวี ไวยาวัจมัย และคณะ, 2555, น. 14) 2.2) การสะท้อนคิดโดยการอภปิ รายกลมุ่ หรือสนทนากลุม่ ยอ่ ย การสะท้อนคิดโดยการอภิปรายร่วมกับบุคคลอื่น สามารถดำเนินการได้อย่างอิสระท้ังแบบไม่มี โครงสร้าง และแบบมีโครงสร้าง ซ่ึงเป็นกิจกรรมท่ีช่วยพัฒนาทักษะการสะท้อนคิด เพ่ือแลกเปล่ียนความ คิดเห็น ทำให้ผู้เรียนคิดทบทวนเร่ืองราวต่าง ๆ ประเมินความรู้ความเข้าใจของตนเอง ตลอดจนความเข้าใจ เหตุการณ์โดยการเช่ือมโยงประสบการณ์เข้ากับองคค์ วามรู้ท่เี ก่ียวข้อง นอกจากน้ีการสนทนาในประเด็นต่าง ๆ ตามลำดับขั้นของการสะท้อนคิดจะช่วยส่งเสริมทักษะการสะท้อนคิดได้เป็นอย่างดี (Hampton, n.d อรัญญา บุญธรรม, โศภิณสริ ิ ยุทธวิสทุ ธิ,ธนั ยาพร บวั หลือง, เชษฐา แก้วพรม และคมวฒั น์ รงุ่ เรอื ง, 2558, น. 244-256) การตั้งประเด็นคำถาม ช่วยให้นักศึกษามีแนวทางในการสะท้อนคิด ซ่ึงจะเป็นผลดีต่อกระบวนการ เรียนรู้ของนักศึกษา และช่วยกระตุ้นให้นักศึกษาคิด และไตร่ตรองในการกันหาความรู้ ทำให้นักศึกษามอง ประเด็นได้ด้วยตนเอง และนำไปวิเคราะห์ และแสวงหาวิธแี ก้ปัญหาได้ด้วยตนเอง แต่อาจารย์ผู้สอนต้องช้ีแจง กรอบหรือประเด็นคำถามเพ่อื เป็นแนวทางให้ผู้เรยี นมีอิสระทางความคิดในประเด็นอ่ืนเพม่ิ เติมได้ การอภิปราย กลุ่มทำให้ผู้เรียนสามารถมองประเด็นปัญหาอุปสรรคได้ชัดเจนขึ้น ซึ่งสามารถทำในรูปแบบส่วนบุคคล รายคู่ และรายกลุ่มได้ อาจารย์ผู้สอนเป็นผู้ชี้นำ แต่ไม่ควรขัดการสะท้อนเกิดเป็นกลุ่มใหญ่ เนื่องจากบรรยากาศ อาจจะไม่ส่งเสริมการสะท้อนคิดระดับสูงของผู้เรียน (พิมพาภรณ์ กลั่นกลนิ่ , นิตยา ไทยาภิรมย์และพัชรี วรกิจ พูนผล, 255 : 1, กรรณิกา วิชัยเนตร, 2557, หน้า 197) บรรยากาศการสะท้อนคิดต้องผ่อนคลาย โดยเฉพาะ อาจารย์ผู้สอนต้องสร้างบรรยากาศของความปลอดภัย ความไว้วางใจ และการเก็บรักษาความลับ (กรรณิกา วิชัยเนตร, 2557, หนา้ 197) นอกจากนี้บรรยากาศและท่าทีของสมาชิกในการอภิปรายกลุ่มที่มีความผ่อนคลายจะช่วยให้ผู้สะท้อน คิดกล้าแสดงความคดิ เห็น และไม่กังวลว่าความคิดน้นั จะถูกหรือผิด เพราะ ไมม่ ีถูก-ผิด และกลา้ ที่จะถามในส่ิง ที่สงสัยเพื่อให้ได้คำตอบ สมาชิกในกลุ่มช่วยให้ผู้สะท้อนคิดมองเห็นข้อดีและข้อเสียในมุมมองต่าง ๆ เกี่ยวกับ ตัวเองฝึกการปิดใจขอมรับความคิดเห็นของคนอ่นื และคิดทบทวนเพ่อื หาทางปรบั ปรงุ ให้ดีกว่าเดิม ได้มีโอกาส ฝึกการฟังอย่างต้ังใจ ฝึกเรียบเรียงคำพูดและพยายามคิดหาวิธีการอธิบายเพื่อให้คนอ่ืนเข้าใจในสิ่งท่ีต้องการ ส่ือสาร (อรญั ญา บุญธรรม และคณะ. 2558 หน้า 251-252) 2.3) การสะท้อนคดิ โดยการจับคู่สนทนา หรือการพูดคุย การสะท้อนคิดโดยการพูดคุยสนทนา หรือการสนทนาแลกเปล่ียนเรียนรู้เหมาะสำหรับการกระตุ้น ให้เกิดการพูดจาปราศรัย การพูดคุยอย่างสร้างสรรค์ การสร้างการพูดคุยหรือการทำให้เกิดการพูดคุย โดยพยายามให้ผู้ท่ีคิดแต่ไม่พูดได้เรียนรู้วิธีสอื่ สารความคิดและแสดงความคิดนั้นออกมา ทำให้ผู้คิดแต่ไม่พูดได้

มหา ิวทยา ัลยราช ัภฏห ู่ม ้บานจอม ึบง 395 เรียนรู้วิธีส่ือสารความคิดผ่านการพูด (Burn, et al, 2000 อ้างถึงใน ผ่องฉวี ไวยาวัจมัย และคณะ, 2555 ; กรรณิกา วชิ ัยเนตร, 2557, หนา้ 197; ลำเจียก กำธร, ม. ป. ป.) การสนทนาเป็นการส่งเสริมให้เกิดการสะท้อนคิดและแลกเปลี่ยนประสบการณ์โดยการสังเกต ความร้สู ึกและการรับรูว้ ่ารู้สึกอย่างไรหรือคดิ อย่างไรต่อสถานการณ์ท่ีเกิดขึ้นด้วยความซ่ือสตั ย์ (ลำเจียก กำธร, ม. ป. ป. และกรรณิกา วิชัยเนตร, 2557 หน้า 197) ในการสนทนาอาจกำหนดคำถามเฉพาะเจาะจงท่ีมุ่งเน้น ด้านท่ีผู้สนทนามีความสนใจอย่างแท้จริง เพ่ือให้ผู้สะท้อนคิดได้แสดงประสบการณ์สำคัญเฉพาะของตนเอง ซึ่งจะช่วยให้ผู้สะท้อนคิดได้แสดงความคิดและความรู้สึก หรือส่ิงท่ีปฏิบัติได้ไม่ชัดเจนให้ชัดเจนมากย่ิงข้ึน อาจใช้คำถามที่เปิดกว้างให้มกี ารสะทอ้ นคิดและแสดงความรู้ผา่ นการสะท้อนคิดในบริบทน้ัน ๆ นอกจากน้กี าร นำข้อมูลจากแฟ้มสะสมงานมาตั้งคำถาม เช่น การถามว่าอะไรคือจุดแข็งและจุดอ่อนในแฟ้มสะสมงาน หากสามารถเริ่มต้นประสบการณ์น้ันได้อีกครั้ง มีอะไรที่จะทำแตกต่างจากเดิม จะช่วยให้การสนทนามีความ ชดั เจนมากย่งิ ขน้ึ (Harwood, C., 2013, pp. 39-40) ท้ังนี้การสร้างประสบการณ์ใหม่เพ่ือส่งเสริมการสะท้อนคิดอาจทำได้หลากหลายรูปแบบ เช่น การ ปฏิบัติงานภาคสนาม การทดลองในหอ้ งปฏิบัติการ การจงู ใจด้วยกิจกรรมการดูหนงั และการเล่นเกม หรือการ นำเสนอในช้ันเรียน เพื่อให้นักศึกษาได้แบ่งปันประสบการณ์การเรียนกับผู้อ่ืน ซึ่งอาจจะเป็นการนำเสนอโดย วิดีโอ สไลด์โชว์ กระดานข่าว การอภิปราย หรือการพูด เช่น การสนทนา และการอ่านงานเขียน เป็นต้น กิจกรรมที่ช่วยในเรื่องการทบทวนและการสังเกตการณ์ เช่น การเขียนรายงานสั้น ๆ เกี่ยวกับสิ่งท่ีได้ปฏิบัติ การอภิปราย การระดมสมอง การตั้งคำถามเพื่อคิดหาคำตอบ การตั้งคำถามที่คำตอบไม่มีถูกหรือผิด การ วิเคราะห์กระบวนการตดั สินใจ การให้ข้อมูลสะท้อนกลับต่อผอู้ ื่น เช่น เพื่อนรว่ มงานหรอื ผู้เข้าร่วมกจิ กรรมและ การหยุดเพ่ือคดิ หรือการวิเคราะห์และประเมินประสบการณ์ (ลำเจียก กำธร, ม. ป. ปะ., กรรณิกา วิชัยเนตร, 2557, หน้า 197; University of Leicester, 201 5; Sloan, D. & Dade, M., 2017; Algonquin College of Applied Arts and Technology, n. d.) Yoder, Stephen A. (2017, pp. 30-37) ได้ให้นักศึกษาชมภาพยนตร์แล้วสะท้อนคิดเพ่ือช่วยในการ นำเสนอรูปแบบความเป็นผู้นำที่ปรากฎในภาพยนตร์ และให้นักศึกษาได้ทำความเข้าใจถึงความเป็นผู้นำ และ สร้างแรงจูงใจสำหรับผู้ตาม เพราะภาพยนตร์ ศิลปะ และตำรามีส่วนเก่ียวข้องที่ช่วยให้นักศึกษาเกิด จินตนาการของตนเองต่อประสบการณ์จากผู้อื่น และช่วยเพ่ิมพูนความเข้าใจ ความใส่ใจ และความสามารถใน การมองเหน็ ผลทจี่ ะเกิดตามมาของสง่ิ ท่ีตนเองปฏิบตั ิ การสะท้อนคิดต้องมีการต้ังคำถามและการตอบคำถามเป็นหัวใจสำคัญ ตลอดทุกระยะของ กระบวนการ การฝกึ การสะท้อนคิดด้วยการตั้งคำถาม และฝึกตอบคำถามด้วยมุมมองที่แตกต่างกันหลายแบบ พร้อมกับพัฒนาการตั้งคำถาม และตอบคำถามให้ได้คำตอบท่ีลึกซ้ึงข้ึน โดยอิงกระบวนการสะท้อนคิด และ กิจกรรมที่ฝกึ การสะทอ้ นคดิ (กนกนชุ ชน่ื เลศิ สกลุ , 2544, หน้า 40-41) ดงั น้ี 1) การให้ผู้สะท้อนคิดถามและตอบตนเองว่าทำอะไร เพระเหตุใด ได้เรียนรู้อะไรมีอะไรท่ีควรทำอีก บ้าง ถา้ ทำตา่ งจากนี้จะได้ผลอยา่ งไร เป็นต้น 2) การเขียนหรือพูดด้วยภาษาและสำนวนที่ผู้สะท้อนคิดเรียบเรียงข้ึนเอง เช่น การถาม-ตอบ เพื่อคัดเลือกประเด็นและคำท่ีจะนำมาเขียนหรือพูดเพ่ือสะท้อนคิด การเขียนตอบแบบอัตนัย การเขียนบันทึก ประจำวัน เช่น การสรุปประสบการณ์การเรียนรู้ การเขียนรายงานความก้าวหน้าการเขียนเรียงความ การเขียนกรณีศึกษา การพูดสรุปความ การจัดให้มีการอภิปรายกลุ่มย่อย การนำเสนอผลการศึกษาการพูด โตว้ าที ฯลฯ

มหา ิวทยา ัลยราช ัภฏห ู่ม ้บานจอม ึบง 396 3) การมอบหมายงานให้ทำ และปรับปรุงงานให้ต่างไปจากเดิม หรือการมอบหมายให้สร้างสรรค์ข้ึน งานใหมท่ ี่ยงั ไม่เคยปรากฎมาก่อน 4) การเปรียบเทียบและการสรุปความเหมือนความแตกต่างท้ังสิ่งที่คล้ายกัน และหรือสิ่งท่ีต่างกัน การจัดสภาพแวดล้อมให้มีความหมาย และการกระตุ้นการสะท้อนคิดในชีวิตประจำวัน เพ่ือสร้างเสรมิ อุปนิสัย การสะท้อนคดิ อยา่ งอัตโนมัติ 5) การกำหนดใหค้ ิดและปฏิบัติภายใตเ้ งอื่ นไขท่ีกำหนด นอกจากนี้ยังมีวิธีการสะท้อนคดิ อีกหลากหลายวิธีซง่ึ บางวธิ ีใชส้ ำหรับการสะท้อนคิดในตัวบคุ คล หรือ การสะท้อนคิดด้วยตนเอง บางวธิ ีใชก้ ารสะทอ้ นคดิ เป็นคู่ (Reflection with Pair) หรือการสะท้อนคิดเปน็ กลุ่ม เล็ก การบันทึกเหตุการณ์และอภิปรายกลุ่มในกระบวนการสะท้อนคิดทำให้นักศึกษาสามารถมองประเด็น ปัญหาอุปสรรคได้ชัดเจนขึ้น ผู้สอนจะเป็นผู้ช้ีแนวทาง และกระตุ้นให้นักศึกษาคิดและไตร่ตรอง เพื่อค้นหา ความรู้ซ่ึงทำให้นักศึกษาเห็นประเด็นที่จะสะท้อนคิดได้ด้วยตนเอง และนำไปวิเคราะห์ และแสวงหาวิธี แก้ปญั หาตา่ ง ๆไดด้ ้วยตนเอง (พมิ พาภรณ์ กลน่ั กลน่ิ , นติ ยา ไทยาภิรมย์, พัชรี วรกจิ พนู ผล, 2551, น. 15-17) 2.4) วิธีการพดู เพอื่ สะท้อนคิด การพูดเพอ่ื สะท้อนคิดการจดั การเรียนรเู้ ป็นวธิ ีที่ใชเ้ พื่อแลกเปล่ียนแนวคดิ ประสบการณ์การจัดการ เรยี นรู้ระหวา่ งเพื่อนครู ซึ่งผสมผสานแนวคิดระหว่างการประเมินตนเอง (self-assessment) และการประเมิน โดยเพ่ือน (peer assessment) คล้าย ๆ กับการนิเทศการจัดการเรียนรู้แต่เน้นที่กระบวนการพัฒนาการ จัดการเรียนรู้ (formative process) มากกว่ากระบวนการตัดสินการจัดการเรียนรู้ (summative process) มีขนั้ ตอนในการดำเนินการ ดังนี้ ขั้นท่ี 1 สังเกตการจัดการเรียนรู้ เป็นการแลกเปล่ียนกันสังเกตการจัดการเรียนรู้ระหว่างเพ่ือนครู อาจเป็นการสังเกตโดยตรงหรือการสังเกตโดยอ้อม ครูที่สังเกตการจัดการเรียนรู้ของเพื่อนจะต้องเก็บรวบรวม ข้อมลู เกี่ยวกับสภาพการจัดการเรียนร้ทู ี่สังเกตได้ท้ังหมด ได้แก่ บรรยากาศการจัดการเรียนรู้การจัดการเรียนรู้ ของครูและการเรียนร้ขู องผู้เรยี น ขนั้ ที่ 2 บรรยายสภาพการจัดการเรียนรู้ เป็นการเปล่ียนกันพูดบรรยายเพ่ือแสดงให้เห็นภาพของการ จัดการเรียนรู้โดยครูและเพื่อนครู เป็นกระบวนการเพ่ือยืนยันสภาพการจัดการเรียนรู้ซ่ึงกันและกันด้วย การแลกเปลี่ยนมุมมอง ความคิดเห็นที่มกี ารจดั การเรียนรจู้ ากการสังเกตของแต่ละคน ข้ันท่ี 3 สะท้อนการจัดการเรียนรู้ ครูและเพ่ือนครู ร่วมกันอภิปรายแลกเปล่ียนเกี่ยวกับความสำเร็จ และความลม้ เหลวจากการจัดการเรียน พรอ้ มท้ังวเิ คราะหป์ ญั หา สาเหตุ และปจั จยั ท่ีเกี่ยวขอ้ ง ขั้นท่ี 4 วางแผนการดำเนนิ การในอนาคต เป็นการร่วมกันหาวธิ กี ารหรอื แนวทางการจัดการเรียนรู้ใหม่ ๆ เพอื่ แกไ้ ขปญั หาการจดั การเรียนรหู้ รอื เพ่ิมประสิทธภิ าพการจดั การเรียนรู้ การส่ือสารการสะท้อนการจัดการเรียนรู้ การสื่อสารการสะท้อนการจัดการเรียนรู้เป็นกระบวนการสุดท้ายในการสะท้อนการจัดการเรียนรู้ เพ่ือบันทึกการสะท้อนการจัดการเรียนรู้และแลกเปลี่ยนความคิดเห็น แนวคิด ประสบการณ์ การสื่อสารการ สะท้อนการจัดกาเรีนรู้อาจจำแนกได้ 2 ลักษณะ ได้แก่ การส่ือสารการสะท้อนการจัดการเรียนรู้โดยการเขียน และการสะท้อนการจดั การเรียนรู้โดยการพดู การสื่อสารการสะท้อนการจัดการเรียนรู้โดยการเขียนเป็นวิธีการท่ีได้รับความนิยมอย่างแพร่หลาย ทัง้ ด้านการนำไปใช้และการศึกษาวิจัยเพ่ือพฒั นาวิธีการใช้ให้มีประสิทธภิ าพมากข้ึน สว่ นใหญใ่ ชใ้ นการสะท้อน การจัดการเรียนด้วยตัวครูเอง ส่วนการส่ือสารการสะท้อนการจัดการเรียนรู้โดยการพูดจะเป็นการสะท้อน การจัดการเรียนรู้ระหว่างตัวครูกับบุคคลอ่ืนเพื่อแลกเปล่ียนความคิด ประสบการณ์และมุมมองในการจัดการ

มหา ิวทยา ัลยราช ัภฏห ู่ม ้บานจอม ึบง 397 เรียนรู้ การสะท้อนการจัดการเรียนรู้โดยการพูดอาจเป็นการแลกเปลี่ยนในลักษณะสลับกันสะท้อน โดยการ สังเกตการจัดการเรียนรู้ซ่ึงกันและกันระหว่างเพ่ือนครูหรืออาจเป็นการใช้กระบวนการกลุ่มในการเล่าและฟัง ประสบการณ์การจัดการเรียนรู้ การอภิปรายและเรียนรู้ร่วมกันระหว่างเพื่อนครู เพื่อหาข้อสรุปเก่ียวกับการ จดั การเรียนรูแ้ ละวางแผนปรับปรงุ พัฒนาการจัดการเรยี นรู้ท่ผี ่านมา 3. ระดบั การสะท้อนคิด John Goodman (1984, อ้างถึงใน Jasper, 2003, p. 7) ได้แบ่งระดับการสะท้อนคิดไว้ 3 ระดับ โดยการแบ่งระดับความสามารถในการสะท้อนคิดของบุคคล จากระดับงา่ ยไปถึงระดบั ทีม่ ีความซับซ้อนมากข้ึน โดยระดับท่ี 1 เป็นการบรรยายและการอธิบายสิ่งทีเ่ กิดขน้ึ หรืออธบิ ายประสบการณ์ท่ีเกดิ ขึน้ ได้ ระดบั ท่ี 2 และ ระดับท่ี 3 เป็นการสะท้อนคิดในระดับที่ลกึ ซึ้ง จะเกิดขึ้นเม่ือบุคคลมีทักษะและความรู้จากการได้รับการฝึกฝน ดังนี้ ระดับท่ี 1 การสะท้อนคิดตามวัตถุประสงค์หรือสิ่งที่กำหนด เพื่อสะท้อนคิดต่อประสบการณ์หรือ เหตุการณ์ตามที่กำหนด ระดับท่ี 2 การสะท้อนคิดซึ่งคำนึงถึงความสัมพันธ์ระหว่างหลักการและการปฏิบัติ เป็นการสะท้อนคิดที่มีการประเมินผลและการอภิปรายผลที่เกี่ยวข้องด้วยมีความเกี่ยวพันธ์กับส่ิงที่บุคคล กระทำ และความเช่ือ ภายใต้เหตุผลของการปฏิบัติ และระดับท่ี 3 การสะท้อนคิดท่ีเหนือจากระดับท่ี 1 และ 2 ซ่ึงมีความสัมพันธ์กับคุณธรรมและจริยธรรมทางสังคม ซึ่งเป็นการตัดสินใจอย่างอิสระโดยกระบวนการคิด ตรึกตรองเกี่ยวกับเป้าหมาย และการปฏิบตั ิงาน ซ่ึงผู้ปฏิบัติงานสามารถเชอื่ มโยงระหวา่ งเหตุการณ์ท่ีเกิดขึ้นใน ชีวิตประจำวัน และขอบเขตทางด้านโครงสร้างสังคม และวัฒนธรรม Lauterbach & Becker (1996, อ้างถึง ในวัลภา คุณทรงเกยี รติ, 2543, น. 34) ได้นำเสนอระดบั การสะท้อนคดิ ดว้ ยตนเองแบง่ เป็น 3 ระยะ ดงั นี้ ระยะที่ 1 การตระหนักรู้ในตนเองเปน็ การสะท้อนคิดที่เกิดจากการรับร้คู วามคิดและความรู้สึกท่ีไม่สุข สบายซึ่งอยู่ภายในและเปน็ การรบั รู้ได้ด้วยตัวเอง ระยะนีต้ ้องอาศัยทักษะมาเกี่ยวกับการตระหนักรู้ในตนเองมา วิเคราะห์สถานการณ์ที่เกิดข้ึนมีผลต่อตนเองหรือเป็นผลที่ทำให้เกิดสถานการณ์นี้อย่างไร ต้องอาศัยทักษะ ในการจดจำรำลึกถึงสถานการณ์ท่ีทำให้เกิดความรู้สึกไม่สุขสบายโดยเฉพาะเหตุการณ์ท่ีสะดุดใจและสรุป ออกมาด้วยการบรรยายเพอ่ื สะทอ้ นความคดิ ของตนเองใหช้ ัดเจน ระยะท่ี 2 การวิเคราะห์สถานการณ์ของความรู้สึกและความรู้ท่ีมีต่อสถานการณ์ ระยะนี้บุคคลจะ วิเคราะห์เก่ียวกับสถานการณ์ท่ีเกิดขึ้นว่ามีโครงสร้างเป็นอย่างไร และตรวยสอบความรู้สึกของตนเองที่มีต่อ สถานการณ์น้ัน ๆ โดยอาจจะใช้ความรู้เดิมที่มีอยู่หรือประยุกต์ความรู้จากที่ต่าง ๆ มาอธิบาย การวิเคราะห์น้ี จะต้องอาศัยการรวบรวมหาความสัมพันธ์และเหตุผลที่เหมาะสมกับสถานการณ์ที่เกิดข้ึน โดยอาจนำไปสู่การ ตรวจสอบและสรา้ งความรใู้ หมข่ องสถานการณน์ ้ัน ๆ ระยะที่ 3 การพัฒนามุมมองหรือความคดิ ใหม่ ระยะนีเ้ ปน็ การพฒั นามุมมองหรือความคดิ ใหม่เก่ียวกับ สถานการณ์เดิมที่เกิดข้ึน ซ่ึงผลลัพธ์ที่ได้ คือ การเรียนรู้ท่ีก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงองค์ความรู้ และทัศนคติ ทอี่ าจจะนำไปสู่การเปล่ียนแปลงพฤติกรรม ระยะน้ีจำเป็นต้องอาศยั ทักษะการสังเคราะห์ เพือ่ ผสมสานความรู้ ใหม่และความรู้เก่าในการหาวิธีการแก้ปัญหาและคาดการณ์ผลที่จะเกิดตามมา ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญที่จะทำให้ เกิดผลลัพธ์จากการสะท้อนคิด คือ การพัฒนามุมมองใหม่แต่ระยะน้ีจะสมบูรณ์ได้ต้องอาศัยการประเมินผล ร่วมด้วย ท้ังนี้การสะท้อนคิด 3 ระดับของ Goodman และระยะการสะท้อนคิด 3 ระยะของ Lauterbach & Becker มีความสอดคล้องกันในด้านของความลึกซึ้งของการสะท้อนคิดของบุคคล ตั้งแต่ในระดับการอธิบาย เหตกุ ารณ์และประสบการณ์ ไปจนกระท่งั ถงึ การวเิ คราะห์สง่ิ ท่ีเกิดขึน้ ได้ จนกระทงั่ นำไปส่กู ารปฏบิ ัตติ อ่ ไป Williams, M., R. & Wessel, J (2004) ได้สร้างเกณฑ์การวัดระดับการเขียนบันทึกสะท้อนคิดซึ่ง พัฒนาข้ึนจากการประเมินความน่าเช่ือถือในการเขียนบันทึกประจำวันของ Williams RM. Sundelin G,

มหา ิวทยา ัลยราช ัภฏห ู่ม ้บานจอม ึบง 398 Foster-Sergeant E, Norman GR. โดยกำหนดเกณฑ์การวัดระดับการเขียนบันทึกสะท้อนคิด แบ่งเป็น 5 ระดับ ดังนี้ 1) อธิบายเหตุการณ์ว่าเกิดอะไรขน้ึ สามารถอธิบายเกี่ยวกับความรู้ ความรู้สกึ หรือทัศนคติทมี่ ตี ่อส่ิงท่ี เกิดข้นึ ในเหตุการณน์ ั้น 2) วิเคราะห์ว่าเกดิ อะไรขึ้นในสถานการณ์ท่เี กี่ยวข้องกบั ความรู้ ความรู้สึก หรือทัศนคติ และปฏกิ ริ ิยา ตอ่ เหตุการณ์หรือสถานการณ์ การเรยี นรู้คอื อะไร รวมถึงปฏิกิริยาทางความทางความคดิ และอารมณ์ 3) ตรวจสอบเหตุการณ์ หรือสถานการณ์ท่ีเกิดข้ึนว่าคืออะไร ความรู้ ความรู้สึกหรือทัศนคติใหม่ เกี่ยวกบั เหตกุ ารณท์ ไ่ี ดเ้ รยี นรู้ถกู ตอ้ งหรอื ไม่ 4) ทำความเขา้ ใจเก่ยี วกับเหตุการณ์ปญั หา หรือสถานการณก์ ารเรยี นรู้ใหม่ ๆ อะไรคือความเขา้ ใจใหม่ เกีย่ วกบั เหตกุ ารณ์การเรยี นรู้ หรอื สถานการณ์ว่าเป็นอยา่ งไร 5) ระบุความสัมพันธ์ของปัญหาจากเหตุการณ์หรือสถานการณ์การเรียนรู้ ซ่ึงจะมีผลต่อพฤติกรรม ในอนาคตว่าเป็นอย่างไร กำหนดความชัดเจนของปัญหาการพัฒนาทักษะหรือสิ่งท่ีจะสามารถจัดการกับ เหตุการณ์ หรือสถานการณ์เดยี วกนั นี้ในอนาคตไดอ้ ย่างไร การไม่สะท้อนคิด(Non-reflection) คือ การอธิบายหรือรายงานเก่ียวกับสิ่งท่ีเกิดขึ้น ไม่มีการวิเคราะห์ เหตุการณแ์ ละการเรียนรู้ปัญหาหรอื สถานการณท์ ่เี กดิ ขน้ึ นอกจากน้ี กนกนุช ชื่นเลิศสกุล (2544, หน้า 41-43) ได้กล่าวถึงคุณภาพการสะท้อนเกิดมีองค์ประกอบ สำคัญ คือ กระบวนการปฏิบัติสะท้อนคิดท่ีเป็นไปตามหลักการและวิธีการดำเนินการสะท้อนคิด นอกจากนี้ คณุ ภาพของการสะท้อนคดิ ยงั ประกอบไปดว้ ยปัจจัยต่าง ๆ ที่เกยี่ วข้องซึ่งมีความเชื่อมโยงกันอย่างเป็นองค์รวม คือ (1) ผู้สะท้อนคิดต้องยอมรับและกล้าท่ีจะเผชิญกับความคิดและความรู้สึกภายในของตนเองด้วยความชื่อ สัตย์ เพราะการสะท้อนคิดจะนำไปสู่การค้นพบความจริงเกี่ยวกับตนเองทั้งด้านบวกและด้านลบ ซึ่งอาจจะทำ ให้เกิดความรู้สึกกดดันและสับสน (2) ผู้สะท้อนคิดต้องมีความมุ่งมั่นและเพียรพยายามในการใช้พลังความคิด และใช้เวลาคิด ใคร่ครวญ ทั้งในการต้ังคำถามและการตอบคำถาม รวมถึงการให้เหตุผลประกอบการตัดสินไง (3) ผู้สะท้อนคิดต้องมีข้อมูลความตระหนักรู้ในตนเอง มีความคิดสร้างสรรค์ ผู้สะท้อนคิดต้องมีข้อมูลและ ความรู้สึกที่เกิดข้ึนจากภายในของตนเอง และพร้อมที่จะเผชิญกับความรู้สึกนั้น (4) การสะท้อนคิดโดยผู้อื่น เป็นผู้กระตุ้น จำเป็นต้องสร้างความไว้วางใจ และการเปิดกว้าง เพ่ือให้ผู้สะท้อนคิดกล้าต้ังคำถาม และตอบ คำถามตามความจริง รวมถึงมีการอภิปรายอย่างหลากหลายและเป็นกันเอง (5)ผู้สะท้อนคิดต้องมีความสนุก และมีความสุขกับการเล่นกับความคดิ ซ่งึ จะชว่ ยใหม้ กี ารพัฒนา การสะท้อนคดิ ไดอ้ ย่างรวดเรว็ และลกึ ซึง้ ผ่องฉว่ี ไวยาวังมัย และคณะ (2555, น. 5) ได้สรุปความสามารถในการคิดไตร่ตรองว่าเป็น กระบวนการตัดสินไจในสิ่งท่ีเกิดข้ึน โดยการประเมินตนเองหรือประเมินสถานการณ์ และเชื่อมโยงกับความรู้ เดิมหรือความรู้ท่ีเกิดขึ้นในปัจจุบัน โดยประเมินระดับการคิดไตร่ตรองของนักศึกษาในด้านการศึกษาค้นคว้า การนำเสนอ การสนทนาทางวิชาการ และการเขียนเปน็ 3 ระดับ คือ ระดับท่ี 1การคิดไตร่ตรองระดับเบ้อื งต้น หมายถงึ ระดบั การไตร่ตรองที่ไม่มบี ริบท ไม่มีการวพิ ากษ์วจิ ารณ์เพ่ิมเติม หรือปรับปรุงเปลี่ยนแปลง ระดับที่ 2 การคิดไตรต่ รองระดับปฏิบัติ หมายถึง ระดับการคิดไตร่ตรองที่มกี ารวพิ ากวิจารณ์เพ่ิมเติม หรือมีการปรับปรุง เปล่ียนแปลง แต่ไม่มีบริบท และระดับท่ี 3 การคิดไตร่ตรองระดับวิพากษ์วิจารณ์ หมายถึง ระดับการคิด ไตร่ตรองท่ีมีการวิพากษ์วิจารณ์เพ่ิมเติม หรือมีการปรับปรุงเปล่ียนแปลง และยังคำนึงถึงคุณธรรมจริยธรรม ซึ่งองิ บรบิ ททางสังคมและ วฒั นธรรม Kimber et al. (อา้ งถึงใน Moon, 2004. p. 97) ได้พัฒนากรอบในการพจิ ารณาระดับการสะท้อนคิด ที่เหมาะสมสำหรับการเขียนสะท้อนคิด โดยพัฒนาจากผลงานของ Mezirow ซ่ึงเร่ิมจากการกระทำทเี่ ปน็ ปกติ

มหา ิวทยา ัลยราช ัภฏห ู่ม ้บานจอม ึบง 399 นิสัยเป็นการสะท้อนคิดระดับที่น้อยสุด จนกระทั่งถึงการสะท้อนคิดอย่างมีวิจารณญาณในระดับที่ลึกซึ้งท่ีสุด และช้ีให้เห็นแนวทางในการประเมนิ ผล นอกจากนี้ระดับการสะท้อนคิดนี้ยังสามารถนำไปประยกุ ต์ใช้ไดก้ ับการ สะท้อนคิดอนื่ ๆ โดยแบ่งระดับการสะทอ้ นคดิ ออกเปน็ 4 ระดับ ดงั น้ี ระดับที่ 1 Habitual Action หรือ ระดับการปฏิบัติตามความเคยชิน ซึ่งเป็นการกระทำที่เกิดข้ึนโดย ไม่การคิดและ ไม่มีความพยายามที่จะทำความเข้าใจ เป็นการปฏิบัติการตามข้ันตอนหรือปฏิบัติทำตามคู่มือ การปฏิบัตงิ าน เช่น การปฏิบัติงานในห้องปฏบิ ัติการโดยไม่มีการคดิ พิจารณาเกี่ยวกบั สิ่งทกี่ ำลังทำอยู่ และไม่มี การคิดถึงสิ่งที่กำลังทำว่าทำทำไม ในระดับน้ีมักจะเป็นการหาคำตอบโดยวิธีการคัดลอก ถอดความ หรือสรุป ความโคยไม่เข้าใจส่ิงนั้นจริง ๆ ถ้าเป็นการเขียนจะไม่สามารถอธิบายส่ิงที่เขียนได้ เป็นการเขียนแบบบรรยาย เชิงพรรณนา (Descriptive Writing) คือ การเขียนท่ีไม่แสดงการสะท้อนคิด ซ่ึงเป็นการอธิบายที่ไม่มีการ อภปิ รายถึงสิง่ ทบ่ี รรยาย ระดับที่ 2 Understandingหรือระดับความเข้าใจ มีความเข้าใจหัวข้อหรือแนวคิด มีการหาความหมาย แต่ไม่มีการสะท้อนคิด ไม่มีความเกี่ยวข้องกับประสบการณ์ส่วนตัวหรือการนำประสบการณ์จริงไปใช้ การสะท้อนคิดของคนส่วนใหญ่มักอยู่ในระดับนี้ ในการเขียนสะท้อนคิดจึงมักจะเขียนถึงส่ิงที่มีอยู่ในหนังสือ หรือสิ่งทีเ่ คยไดเ้ รยี นมาจากอาจารย์หรือจากตำราเรียน ซงึ่ ทำให้การเขียนมขี ้อมูลถูกต้องและเข้าใจแมจ้ ะมีการ อธิบายเกี่ยวกับเหตุการณ์ แต่จะไม่มีข้อมูลในส่วนที่เป็นความคิดของตนเอง และส่วนใหญ่มาจากมุมมอง เพียงคนเดียวจากสิ่งท่ีได้ยนิ มาหรอื เรียนรมู้ า ระดบั ท่ี 3 Reflection หรือระดับสะทอ้ นคิด มีความเข้าใจที่ถูกต้องและสะทอ้ นคดิ เก่ียวกับส่ิงที่เข้าใจ น้ันโดยมีการเชื่อมโยงกับประสบการณ์ส่วนตัว หรือนำประสบการณ์ส่วนตัวประยุกต์ใช้ได้จรงิ ถ้าหากเป็นการ เขียนเก่ียวกับประสบการณ์วิชาชีพ ประสบการณ์เหล่านั้นจะได้รับการพิจารณา และอภิปรายผลเกี่ยวกับส่ิงท่ี ได้เรียนรู้ ซึ่งจะมีข้อมูลเชิงลึกส่วนบุคคลท่ีได้เรียนรู้นอกเหนือไปจากทฤษฎีที่ได้เรียนในหนังสือ มีการคิด ย้อนกลับไปยังเหตุการณ์หรือการกระทำที่นำไปสู่การทบทวนพิจารณาเกี่ยวกับส่ิ งที่แสดงออกต่อเหตุการณ์ และการกระทำน้ัน มีการแสดงให้เห็นการตัดสินใจท่ีมีความแตกต่างกัน มีทางเลือกหากเกิดเหตุการณ์แบบ เดยี วกนั อกี และอธิบายทางเลือกท่ีอาจจะมีอยสู่ ำหรับเร่ืองเดียวกัน ระดับสะท้อนคิดมกี ารวเิ คราะห์หรือการบูร ณาการซงึ่ อาจจะไมเ่ ปน็ ไปในแนวทางเดียว ระดับที่ 4 Critical Reflection หรือ ระดับสะท้อนคิดอย่างมีวิจารณญาณ เป็นระดับสูงสุดของการ สะท้อนคิดเป็นการคิดที่มีความชับซ้อนมากขึ้น การสะท้อนคิดในระดับน้ีจะไม่เกิดข้ึนได้ต้ังแต่เร่ิมแรก หรือไม่ เกิดขึ้นได้บ่อย ๆ เนือ่ งจากต้องมีการพฒั นาทักษะการสะท้อนคิด แม้แต่ผูท้ ี่เช่ียวชาญก็ไม่อาจที่จะเปล่ียนแปลง ความเช่ือจากส่ิงที่ทำเป็นประจำ สำหรับนักศึกษาแล้วการศึกษาทำให้เกิดการเปล่ียนแปลงได้มากกว่า เน่ืองจากในช่วงเริ่มต้นนักศึกษายังไม่มีแนวคิดความเช่ืออย่างใดอย่างหนึ่งที่ฝังอยู่กับตัวเอง และยังไม่มีกรอบ ข้อมูลหรือความรู้ การสะท้อนคิดอย่างมีวิจารณญาณ คือกระบวนการที่เกิดข้ึนเมื่อเวลาผ่านไปแล้ว นักศึกษา มกั จะเริ่มต้นด้วยการตระหนักรถู้ ึงความเชอ่ื และตามมาด้วยสมมติฐาน ท้ังน้ขี ้อมูลและประสบการณใ์ หม่จะเข้า มาแทรกระบบความเช่ือเดิม และนำไปสู่การสร้างองค์ความรู้ใหม่ การสะท้อนคิดอย่างมีวิจารณญาณแสดง ให้เห็นถึงความตระหนักว่าการกระทำและเหตุการณ์ไม่เพียงแต่จะสามารถอธิบายไดด้ ้วยมุมมองที่หลากหลาย เท่าน้ัน แต่ยงั มคี วามเกยี่ วข้องกับบริบทตา่ ง ๆ ท้ังค้นประวัติศาสตร์ สงั คม และการเมืองอกี ดว้ ย ระยะเวลาในการสะท้อนคิดการจัดการเรียนรู้ การสะท้อนคิดการจัดการเรียนรู้จำแนกได้ 3 ระยะ ไดแ้ ก่ ก่อนการจัดการเรยี นรู้ ระหว่างการจัดการเรียนรแู้ ละหลงั การจดั การเรียนรู้ ระยะที่ 1 การสะทอ้ นคดิ กอ่ นจดั การเรยี นรู้

400 การสะท้อนคิดก่อนการจัดการเรียนรู้เป็นการใช้กระบวนการคิดไตร่ตรองเพ่ือทบทวนแผนการจัดการ เรียนรู้ที่จะนำไปใช้อย่างละเอียด รอบคอบ ซึ่งจะช่วยให้สามารถวางแผนรับมือกับปัญหา อุปสรรคท่ีอาจเกิด ระหวา่ งการจัดการเรยี นรู้ได้ การสะท้อนคิดกอ่ นการจัดการเรียนรสู้ ามารถต้ังคำถามเพอ่ื สะท้อนได้ ดงั น้ี ตารางที่ 12.2 ระยะท่ี 1 การสะทอ้ นคดิ ก่อนจัดการเรียนรู้ ข้นั การสะทอ้ น คำถาม บรรยายสภาพการณ์  จัดการเรยี นรูเ้ รอ่ื งอะไร แสดงความรสู้ ึก/ความคิดเหน็  มีเปา้ หมายเพ่ืออะไร (ผเู้ รียนรแู้ ละสามารถทำอะไรได้)  ใชว้ ธิ ีการใด ประเมิน  คิด/รู้สกึ ต่อการจัดการเรยี นร้คู รัง้ น้อี ย่างไร วิเคราะห์  ความคดิ หรอื ความรู้สึกนนั้ ส่งผลให้การจัดการเรยี นรู้สำเร็จหรอื ลม้ เหลว หาข้อสรุป ไดห้ รอื ไม่ อย่างไร วางแผนปฏิบัติ  จะมีการปรบั เปลย่ี นความคิด/ความรสู้ ึกทเ่ี ป็นอุปสรรคนั้นไดห้ รือไม่ อย่างไร  กระบวนการจดั การเรียนรูม้ ีความเหมาะสมหรอื ไม่  มปี ัจจัยใดบา้ งท่ีสง่ ผลใหก้ ารจัดการเรยี นรสู้ ำเร็จหรอื ล้มเหลว  ปจั จัยที่สง่ ผลตอ่ ความสำเร็จหรอื ลม้ เหลวนัน้ ๆ มสี าเหตุมาจากอะไร  มีการจดั การเรียนรู้อ่นื ๆ ท่ีชว่ ยให้การจดั การเรยี นรูส้ ำเร็จหรือปอ้ งกัน แกไ้ ขความล้มเหลวที่อาจเกิดขึ้นหรอื ไม่ อยา่ งไร  จะปรับเปล่ยี นการจดั การเรียนรอู้ ยา่ งไรเม่ือเกิดปจั จัยทีส่ ่งผลใหก้ าร จัดการเรยี นรู้ความล้มเหลว มหา ิวทยา ัลยราช ัภฏห ู่ม ้บานจอม ึบง ระยะท่ี 2 การสะท้อนคิดระหว่างการจัดการเรียนรู้ การสะท้อนระหว่างจัดการเรียนรู้เป็นการใช้กระบวนการคิดไตร่ตรอง อย่างละเอียดรอบคอบเพอื่ ทบทวน ปัจจัย กระบวนการและผลผลิตจากการจัดการเรียนรู้ในระหว่างท่ีการจัดการเรียนรู้กำลังดำเนินการอยู่การ สะท้อนนี้จะเกิดข้ึนตลอดระยะเวลาการจัดการเรียนรู้ โดยเฉพาะเมื่อมีปัญหาหรืออุปสรรคท่ีส่งผลให้การ จัดการเรียนรู้น้ัน ๆ ไม่สามารถดำเนินการตามแผนท่ีกำหนดไว้ได้ การสะท้อนการจัดการเรียนรู้นี้จะต้อใช้ ความรู้หรือประสบการณ์เดิมเปน็ ฐานในการขยายความรูใ้ หม่ซ่ึงจะนำไปใช้ประกอบการตดั สินใจเลือกแนวทาง ปฏิบัติเพ่ือปรับปรุง แก้ไขปัญหา อุปสรรคที่เกิดข้ึนนั้น ๆ เช่น ในขณะจัดการเรียนรู้ครูสังเกตพบว่าผู้เรียน ส่วนใหญ่เริม่ เบ่ือหน่ายในการฟัง ครตู ้องคิดพิจารณาว่าผูเ้ รียนเกดิ ความเบอื่ หน่ายในการฟัง เน่ืองจากอะไรเกิด จากครู ผู้เรียนหรือสภาพแวดล้อม มีวิธีการใดบ้างที่สามารถแก้ปัญหานี้ได้ ตัดสินใจเลือกใช้วิธีการในการ แก้ปัญหาท่ีเหมะสมท่ีสุดเพ่ือให้การจัดกิจกรรมการเรียนรู้ขณะน้ันดำเนินการต่อไปได้ การสะท้อนระหว่าง จัดการเรยี นรสู้ ามารถต้ังคำถามเพ่อื การสะท้อนได้ ดังน้ี

401 ตารางท่ี 12.3 ระยะท่ี 2 การสะท้อนคิดระหวา่ งการจัดการเรยี นรู้ ขัน้ การสะท้อน คำถาม บรรยายสภาพการณ์ แสดงความรสู้ ึก/ความคิดเหน็  การจดั การเรียนรดู้ ำเนนิ การไปอย่างไร ประเมนิ  ครนู กั เรยี นหรือผทู้ ี่เก่ยี วขอ้ งคิด/รสู้ ึกตอ่ การจดั การเรยี นรู้อยา่ งไร วิเคราะห์  มีความคิดหรือความร้สู ึกใดบา้ งท่ีสง่ ผลใหก้ ารจัดการเรยี นรสู้ ำเรจ็ ลม้ เหลว หาข้อสรุป  จะมกี ารปรบั เปล่ยี นความคิดความร้สู กึ ท่เี ปน็ อุปสรรคนน้ั ไดห้ รือไม่ วางแผนปฏบิ ตั ิ อย่างไร  กระบวนการจัดการเยนรูด้ ำเนนิ ไปดว้ ยความราบรนื่ เพยี งใด  ผูเ้ รียนบรรลเุ ปา้ หมายการเรียนรู้ทตี่ ั้งไว้หรือไม่ อะไรบ้าง  ปญั หา อุปสรรคทสี่ ่งผลให้การเรียนรูไ้ ม่บรรลุเป้าหมายคืออะไร มี สาเหตมุ าจากอะไร  มีวิธกี ารแกไ้ ขปัญหาอปุ สรรคตา่ ง ๆ เหล่านนั้ อยา่ งไร เลอื กใชว้ ิธีการอะไรในการแกไ้ ขปัญหา อุปสรรค เพราะอะไร  จะดำเนนิ การแกป้ ัญหา อุปสรรคน้ัน ๆ อย่างไร มหา ิวทยา ัลยราช ัภฏห ู่ม ้บานจอม ึบง ระยะท่ี 3 การสะทอ้ นคดิ หลงั การจัดการเรยี นรู้ การสะท้อนหลังจัดการเรียนเป็นการใช้กระบวนการคิดไตร่ตรองอย่างละเอียด รอบคอบเพ่ือทบทวน ปจั จัย กระบวนการและผลผลติ ทเี่ กิดจากการจัดการเรียนรูห้ ลังสิ้นเสร็จการจดั การเรยี นรู้ การสะท้อนน้ีจะเกิด ประโยชน์สูงสุดเม่ือดำเนินการหลังเสร็จสิ้นการจัดการเรียนรู้ทันที เน่ืองจากจะสามารถจดจำเหตุการณ์ที่เกิดข้ึน ระหวา่ งการจดั การเรยี นรไู้ ดอ้ ยา่ งละเอียดครบถว้ น การสะทอ้ นหลังจัดการเรียนมีจุดเด่นท่กี ารมีระยะเวลาในการสะท้อนที่เหมาะสมเพยี งพอ แตม่ ีจุดด้อย ท่ีความสมารถในการย้อนนึกถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นระหว่างการจัดการเรียนรู้ที่อาจไม่ครบถ้วนและไม่ชัดเจน เพียงพอ โดยเฉพาะกรณีท่ีเว้นระยะห่างระหว่างการเสร็จส้ินการจัดการเรียนรู้และการสะท้อนมากเกินไป ตรงกันข้ามกับการสะท้อนระหว่างการจัดการเรียนรู้ซึ่งมีจุดเด่นที่การสะท้อนที่เกิดขึ้นสามารถปรับเปลี่ยน การปฏิบัติในการจัดการเรียนรู้ได้อย่างทันท่วงที โดยเฉพาะเม่ือเกิดปัญหาหรืออุปสรรคที่ส่งผลต่อการจัดการ เรียน แต่มีจุดด้อยที่เป็นการสะท้อนที่เกิดข้ึนอย่างเร็วรวดระหว่างการปฏิบัติซึ่งอาจทำให้กระบวนการคิด พจิ ารณา ไตร่ตรองไม่ละเอียดรอบคอบเท่าทค่ี วร รวมทง้ั มีโอกาสท่ีการสะท้อนนน้ั ๆ อาจเกดิ ความผดิ พลาดได้ โดยเฉพาะกรณีท่ีครูมีความรู้และประสบการณ์เดิมเพ่ือเชื่อมโยงไปสู่ความรู้ใหม่ซ่ึงเป็นประโยชน์ต่อการ ตัดสินใจเลอื กแนวทางการปฏบิ ตั ทิ ไ่ี มเ่ พยี งพอ การสะท้อนหลังจัดการเรียนรู้สามารถต้ังคำถามเพ่ือการสะท้อนได้เช่นเดียวกับการสะท้อนระหว่าง จัดการเรียนรู้ แต่จะเน้นที่ความสำเร็จหรือความล้มเหลวในการจัดการเรียนรู้เพื่อการวางแผนปรับปรุง พฒั นาการจัดการเรยี นร้ใู นลกั ษณะของการเปรียบเทยี บกับเปา้ หมายการจดั การเรียนรู้มากกวา่ การสะท้อนการจัดการเรียนรู้ควรดำเนินการท้ังก่อนจัดการเรียนรู้ ระหว่างจัดการเรียนและหลังการ จัดการเรียนรู้ เพ่ือให้ได้ข้อมูลในการวางแผนปรับปรุงพัฒนาอย่างเป็นระบบและต่อเน่ือง การสะท้อนการ จัดการเรียนรู้อย่างต่อเนื่องเสมอจนเป็นนิสัยและอยู่ในวิถีของการปฏิบัติจะช่วยให้ครูได้พัฒน าทักษะ กระบวนการคิดของตนเองและมีคุณลักษณะสำคัญอื่น ๆ ท่ีเอ้ือประโยชน์ต่อการพัฒนาวิชาชีพครูได้อย่าง แทจ้ ริง

มหา ิวทยา ัลยราช ัภฏห ู่ม ้บานจอม ึบง 402 นอกจากน้ีการท่ีจะพัฒนาผู้เรียนให้เกิดการคิดอย่างมีวิจารณญาณและมีประสิทธิภาพในการเรียน การสอนน้ัน ต้องได้รับความร่วมมือในการใช้หลักการและกระบวนการสะท้อนคิดของท้ังผู้สอนและผู้เรียน ซ่ึงเป็นแนวทางการจัดการเรียนรู้ผ่านการสะท้อนคิดเพ่ือพัฒนากระบวนการคิดอย่างมีวิจารณญาณ การสะท้อนคิดท่ีสามารถทำให้เกิดการคิดอย่างมีวิจารณญาณได้น้ันต้องอาศัยกระบวนกา รสะท้อนคิดอย่างมี วจิ ารณญาณดว้ ย (ปิยาณี ณ นคร, ดนุลดา จามจุรี, ดรุณี ชุณหะวัต,มนสั บุญประกอบ, 2559, น. 210) รวมถึง ประสบการณ์ ความร่วมมือ และโอกาสในการเรียนรู้ของนักศึกษา ซ่ึงมีผลต่อการพัฒนาการสะท้อนคิด และ การสะท้อนคิดในเชิงลึกมักจะเกิดข้ึนจากประสบการณ์ท่ีพบในระหว่างการศึกปฏิบัติงานมากกว่าเกิดจาก ประสบการ์ทพี่ บในระหว่างการฝึกการปฏิบัตงิ านมากกว่าเกดิ จากการเรยี นในหลักสตู ร (Lee, 2005, P.714) 4. การสะท้อนคดิ กบั การจัดการเรยี นการสอนในรายวิชาปกติ การจัดการเรียนการสอนแบบสะท้อนคิดเป็นการช่วยกระตุ้นให้นักศึกษาให้มีความ กระตือรือร้น ได้ทบทวนความรู้ท่ีได้รับได้มองเห็นข้อดีและข้อเสียที่ต้องปรับปรุงพัฒนาให้ดีข้ึน ทำให้นักศึกษาเกิดการคิด ไตร่ตรอง ฝึกวิเคราะห์ตนเอง จดจำความรู้และประสบการณ์ได้นาน ฝกึ การแก้ไขปัญหา และที่สำคัญทส่ี ุด คือ ทำให้นักศึกษาได้มองย้อนดูตนเองว่าสิ่งที่ทำนั้นดีหรือ ไม่ดีอย่างไร แล้วควรทำอย่างไร รู้ว่าตัวเองควรพัฒนา ในเรื่องใด ทำให้นักศึกษาเกิดการหาข้อมูลใหม่ซ่ึงทำให้เกิดความใฝ่รู้มากขึ้น (กาญจนา รานะ และศิริรัตน์ นิตยวัน, 2556, หนา้ 16-17 ; ปยี าณี ณ นครและคณะ, 2559, หน้า 215) การจัดการเรียนรู้ตามรูปแบบการสะท้อนคิดทำให้นักศึกษาได้แสดงความคิดและความรู้สึกรวมท้ังได้ เรียนรู้สิ่งใหม่ที่แตกต่างไปจากความคิดเดิม ๆ ของตนเอง แต่ผู้สอนควรมีการบริหารจัดการเวลาในการ แลกเปลี่ยนเรียนรู้ เช่น การสนทนากลุ่มย่อย เป็นต้น ซ่ึงเป็นการสอนรูปแบบหนึ่งท่ีเปิดโอกาสให้นักศึกษา มีส่วนร่วมในกระบวนการเรยี นการสอน มกี ารแสดงความคิดเห็น และแลกเปล่ียนความคิดเหน็ ทำใหน้ ักศึกษา มีความต่ืนตัวและเตรียมตัวอยู่ตลอดเวลา ช่วยให้นักศึกษาเกิดการเรียนรู้ได้มากกว่า ช่วยเพิ่มระดับแรงจูงใจ ในการเรียนรู้ ตลอดจนช่วยพัฒนาทักษะ ในหลายด้านให้กับผู้เรียน อย่างไรก็ตามไม่ควรใช้เวลานานเกินไป หรือไม่ควรนั้นให้คนใดคนหนึ่งสะท้อนคิดมากเกินไป เพระจะทำให้สมาชิกในกลุ่มคนอื่น ๆ เบื่อหน่ายได้ (ดจุ เดือน เขยี วเหลอื ง และคณะ, 2556, หนา้ 19 ; อรัญญา บญุ ธรรม และคณะ, 2558, หนา้ 253) ท้งั นี้อาจารยค์ วรจัดให้ผู้ประเมินตนเองหลังการสอนทุกครงั้ เพื่อให้นักศกึ ษาวิเคราะห์ตนเองวา่ ต้องทำ อะไรบ้างเพ่ือพัฒนาตนเอง และมีการกำหนดผลลัพธ์ที่ต้องการให้ชัดเจนซึ่งอาจจะจัดให้มีแบบฟอร์มที่กำหนด หัวข้อการประเมินให้ชัดเจน เพ่ือไม่ให้นักศึกษารู้สึกเครียดหรือยุ่งยากใจที่จะประเมินตนเอง เพราะการ ประเมินตนเองตอ้ งใช้เวลา และกไ็ มม่ หี ัวข้อกำหนดให้จะทำใหน้ ึกภาพไม่ออก (ดุจเดือน เขียวเหลือง และคณะ, 2556, หนา้ 19-20) ในข้ันตอนของการจัดลำดับความคิดและการสรุปแนวคิดรวบยอด ผู้เรียนควรได้รับการแนะนำจาก อาจารย์อย่างใกล้ชิด เน่ืองจากในข้ันตอนนี้เป็นข้ันตอนท่ีก่อนข้างยากและซับซอ้ น ถ้าไม่มีความชำนาญอาจจะ ทำให้การสรุปประเด็นคลาดเคล่ือนได้ ซ่ึงกระบวนการสะท้อนคิดโดยอาจารย์เข้ามามีส่วนร่วมจะช่วยทำให้ ผ้เู รียนพบว่าได้รับความรูห้ รือทฤษฎีอะไรบ้างทเ่ี รยี นมาและใช้อย่างเหมาะสมหรอื ไม่ มอี ะไรที่ผู้เรียนควรศึกษา เพ่ิมเติม โดยอาจารย์ต้องสะท้อนให้ผู้เรียนเห็นส่ิงนั้น และต่อไปควรจะมีแนวทางในการจัดการเรียนการสอน เพอื่ ให้ผู้เรยี นได้เรียนร้ตู ามวตั ถุประสงค์การเรียนรู้ (ดุจเดือน เขียวเหลอื ง และคณะ , 2556, น. 19-20: ปยี าณี ณ นคร และคณะ,2559, หน้า 215-218) นอกจากนอี้ าจารยต์ อ้ งมคี วามร้เู ก่ยี วกับวิธีการสะท้อนคดิ และวิธีการสอน รวมถงึ ต้องมีทักษะในการใช้ คำถามซ่ึงจะทำให้เกิดแนวทางการจัดการเรียนรู้ผ่านการสะท้อนคิดเพื่อพัฒนากระบวนการคิดอย่างมี วจิ ารณญาณต่อไป แนวทางและขั้นตอนของการสะท้อนคิดจะทำให้ผู้เรียนได้แสดงส่ิงที่คิดออกมา เกิดการคิด

มหา ิวทยา ัลยราช ัภฏห ู่ม ้บานจอม ึบง 403 วเิ คราะห์ท้งั ค้นความคิดและความรู้สกึ ซ่ึงอาจารยค์ วรต้ังคำถามเพ่ือกระตุ้นผู้เรียนให้คิดวิเคราะห์เกี่ยวกับส่งิ ที่ เรียนซง่ึ สำคญั มาก รวมถงึ วิธกี ารสอน และการสนทนากลุ่มย่อยจะช่วยใหเ้ กิดการเรยี นรู้ และชว่ ยในการจัดการ เรียนการสอนได้มาก (ปียาณี ณ นคร และคณะ, 2559, หนา้ 215-218) 3. บทสรปุ การที่จะพัฒนาผู้เรียนให้เกิดการสะท้อนคิดอย่างมีวิจารณญาณและมีประสิทธิภาพในการเรียน การสอนนั้น ต้องได้รับความร่วมมือในการใช้กระบวนการและหลักการสะท้อนคิดอย่างมีวิจารณญาณ ท้ังใน ส่วนของบทบาทผู้สอน และบทบาทของผู้เรียน แนวทางในการจัดการเรียนรู้โดยใช้การสะท้อนคิด แต่ละ ข้ันตอนสามารถส่งผลให้บุคคลได้พัฒนาตนเอง และนำไปสู่การแก้ปัญหาหรือการเปลี่ยนแปลงที่ดีข้ึน แต่ละ ข้ันตอนในแนวทางการจัดการเรียนรู้สามารถส่งผลให้ผู้เรียนเกิดการเรียนรู้ และสามารถพัฒนาการคิดอย่างมี วิจารณญาณได้ชัดเจนข้ึน ท้ังนี้ผู้สอนต้องศึกษาแนวทางในการจัดการเรียนรู้โดยใช้การสะท้อนคิดท่ีชัดเจน มีทักษะการสอนและทักษะการใช้คำถามในแนวทางดังกล่าวเพื่อใช้ในการจัดการเรียนรู้ (ปียาณี ณ นคร และ คณะ, 2559, น. 216-219) คำถามทบทวน 1. การสะท้อนคิดเปน็ การพฒั นาตนเองเพื่อเป็นครทู ด่ี ีได้หรือไม่เพราะเหตใุ ด 2. นักศกึ ษามีความคดิ เห็นอย่างไรกับการทีต่ ้องพัฒนาตนเองเพอื่ ทจี่ ะเป็นครูทด่ี ี 3. นกั ศึกษามคี วามคดิ เหน็ อย่างไรเกีย่ วกับครทู ่ดี ีในปจั จบุ ัน 4. การสะท้อนคิดสามารถนำไปประยกุ ต์ใช้ในการจดั การเรียนการสอนได้อยา่ งไร 5.นกั ศกึ ษามีความคิดเห็นอยา่ งไรถา้ หากไม่มกี ารสะท้อนคดิ เกย่ี วกบั การเป็นครูท่ีดีเกิดขน้ึ 6. นักศึกษามคี วามคิดเห็นอย่างไรหากมีการจัดการเรยี นการสอนตามรูปแบบการสะทอ้ นคดิ เอกสารอา้ งองิ กนกนชุ ช่นื เลศิ สกุล. (2544) การเรียนรโู้ ดยผ่านการสะท้อนคิด : การศกึ ษาและการปฏิบัติการ พยาบาล ในคลินิก. วารสารคณะพยาบาลศาสตร์ มหาวิทยาลัยบูรพา. 9(2) : หน้า 35-48. กนกวรรณ สภุ าราญ. (2563). ทักษะครกู ับการจดั การเรียนรู้ออนไลน์ยุคใหม่. [ระบบออนไลน์] เข้าถงึ ไดจ้ าก : https://www.si.mahidol.ac.th. สืบค้นขอ้ มลู เมือ่ วนั ท่ี 28 มกราคม พ.ศ. 2564. กรรณิกา วิชยั เนตร. (2557). การสะท้อนคิด : การสอนเพ่ือใหน้ กั ศึกษาพยาบาลพัฒนาการคิดอย่างมี วจิ ารณญาณในการฝึกปฏบิ ตั ิการพยาบาล. วารสารพยาบาลตำรวจ. หนา้ 188-199. กาญจนา ธานะ และศิรริ ตั น์ นติ ยวนั . (2556). รายงานการศึกษาความพึงพอใจของนักศึกษา คณะพยาบาลศาสตร์แมคคอรม์ กิ ต่อการจัดการเรียนการสอนโดยใช้วิธีการสะท้อนคดิ รายวิชาการฝกึ ปฏิบตั ิการพยาบาลพ้นื ฐาน (พบ. 281) ภาคเรยี นท่ี 2 ปีการศกึ ษา 2555. เชยี งใหม่ : มหาวิทยาลัยพายัพ. การสะทอ้ นการจดั การเรยี นร.ู้ [ระบบออนไลน]์ . เขา้ ถึงได้จาก : http://edu.pbru.ac.th. สบื ค้น ขอ้ มลู เม่อื วนั ที่ 3 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2564.

404 ดุจเดอื น เขยี วเหลือง, วารรี ัตน์ แกว้ อไุ ร, พลู สุข หิงคานนท์ และสายฝน วบิ ูลรงั สรรค.์ (2556). การพฒั นารปู แบบการจดั การเยนรแู้ บบการสะทอ้ นคิดเพอื่ สร้างเสรมิ ความสามารถในการ ตดั สนิ ใจเชงิ จรยิ ธรรมทางการพยาบาลสำหรบั นักศกึ ษาพยาบาล. วารสารศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร. 15 (4) : หน้า 9-21. ปวีภัทร นิธติ ันตวิ ัฒน์ และเยาวลักษณ์ มีบญุ มาก. (2557). คมู่ อื แนวการจัดการเรยี นการสอนโดยใช้ การสะทอ้ นคดิ (Refection). ราชบรุ ี : วทิ ยาลยั พยาบาลบรมราชชนนี. ปียาณี ณ นคร, ดนุลดา จามจรี, ดรุณี ชณุ พะวตั , มนัส บุญประกอบ, (2559) การศึกษาแนวทาง การจดั การเรยี นร้ผู ่านการสะทอ้ นคิดเพ่ือพฒั นากระบวนการคิดอย่างมวี จิ ารณญาณใน นักศึกษาพยาบาล. Rama Nurs Journal. 22 (2) : pp.206-221. ผ่องฉวี ไวยาวัจมัย, เสาวนิตย์ เจริญชยั , ศรวี ไิ ล ผลมณี, อำภา ดา่ นภักดี, ณชั ชา กมล, บญุ รอด โชติวชิรา และวรากรณ์ สิทธวิ งศ์. (2555). การวิจัยปฏบิ ตั ิการแบบรว่ มมือเพ่ือสง่ เสริม การคดิ ไตร่ตรองของนกั ศึกษาในระดับอุดมศกึ ษา. รายงานการวิจัย คณะศกึ ษาศาสตร์ มหาวิทยาลยั เชียงใหม่ พมิ พาภรณ์ กลั่นกลน่ิ , นติ ยา ไทยาภริ มย์ และพัชรี กจิ พนู ผล. (2551). ประสบการณ์การเรียนรผู้ ่าน บันทึกการสะท้อนคิดประจำวันในการฝกึ ปฏิบตั ิการสรา้ งเสรมิ สุขภาพเด็กของนกั ศกึ ษา พยาบาล. วารสารการพยาบาลและการศึกษา. 1 (2) : หน้า 2-18. วลั ภา คณุ ทรงเกียรติ. (2543) การสะท้อนคิดด้วยตนเองเพื่อการเอ้อื อาทร.วารสารคณะพยาบาล ศาสตร์ มหาวิทยาลัยบรู พา. 8 (3) : หนา้ 32-36. มหา ิวทยา ัลยราช ัภฏห ู่ม ้บานจอม ึบง

มหา ิวทยา ัลยราช ัภฏห ู่ม ้บานจอม ึบง บรรณานกุ รม กชกร ชำนาญกิตติชยั และคณะ. 2554. การนำหลักปรัชญาเศรษฐกจิ พอเพียงมาประยุกต์ใช้ในการ ดำเนนิ ชวี ิตของนกั ศึกษามหาวทิ ยาลัยราชภัฏสวนดุสิต. รายงานวจิ ัย, มหาวทิ ยาลัยราชภัฏ สวนดสุ ิต. กชกร ม่นั คงเจรญิ กจิ . (2563). สง่ิ ที่ครูและผ้ปู กครองต้องคำนึง เมอ่ื ปรับการสอนมาเป็นออนไลน์. [ระบบออนไลน์] เข้าถึงได้จาก : https://www.educathai.com. สบื คน้ ข้อมลู เมื่อวนั ที่ 29 มกราคม พ.ศ. 2564. กนกนชุ ช่นื เลศิ สกลุ . (2544) การเรียนรู้โดยผา่ นการสะท้อนคดิ : การศกึ ษาและการปฏิบัตกิ ารพยาบาล ในคลนิ กิ . วารสารคณะพยาบาลศาสตร์ มหาวิทยาลัยบรู พา. 9(2) : หนา้ 35-48. กนกวรรณ สภุ าราญ. (2563). ทกั ษะครกู บั การจัดการเรียนรอู้ อนไลนย์ ุคใหม่. [ระบบออนไลน์] เขา้ ถึง ได้จาก : https://www.si.mahidol.ac.th. สืบคน้ ขอ้ มลู เม่ือวันท่ี 28 มกราคม พ.ศ. 2564. กมลชนก แกว้ ทอง. (2559). กระบวนการจัดการเรียนการสอน E-learning แบบออนไลน์. [ระบบ ออนไลน์] เขา้ ถึงไดจ้ าก : https://sites.google.com/site/kamonchanok561031350. สบื ค้นขอ้ มลู เม่ือวนั ที่ 28 มกราคม พ.ศ. 2564. กมลวรรณ บณั ทิฑติ สาธสิ รรค.์ (2561). การสะท้อนคิดของนักศึกษาสหกิจศึกษา มหาวิทยาลัย เทคโนโลยีสุรนารี [ระบบออนไลน์]. เข้าถึงไดจ้ าก : http://sutir.sut.ac.th สบื ค้นขอ้ มลู เมอ่ื วันท่ี 3 กุมภาพนั ธ์ พ.ศ. 2564. กรมสามัญศึกษา. (2556). ความรูด้ า้ นพฤตกิ รรมมนุษยแ์ ละทักษะการครองตน. กรงุ เทพฯ : โรงพิมพ์ ชวนพิมพ.์ กรรณิกา วชิ ยั เนตร. (2557). การสะท้อนคิด : การสอนเพื่อให้นักศึกษาพยาบาลพฒั นาการคดิ อย่างมี วจิ ารณญาณในการฝึกปฏบิ ตั ิการพยาบาล. วารสารพยาบาลตำรวจ. หน้า 188-199. กรรณกิ าร์ วขิ ัมภประหาร .(2539) “การศึกษาความตอ้ งการในการพฒั นาตนเองของข้าราชการ ในมหาวทิ ยาลยั ขอนแกน่ ” วทิ ยานพิ นธ์ปริญญามหาบัณฑิต สาขาวชิ าการบริหารการศึกษา มหาวิทยาลัยขอนแก่น กระมล ทองธรรมชาติ. (2529 : 80) ประเภทของจริยธรรม. [ระบบออนไลน์]. เขา้ ถึงได้จาก : https://jariyathamcomputer.blogspot.com. สืบค้นข้อมลู เมื่อวันท่ี 6 กุมภาพนั ธ์ พ.ศ. 2564. กาญจนา ธานะ และศิริรัตน์ นติ ยวนั . (2556). รายงานการศกึ ษาความพงึ พอใจของนักศึกษา คณะ พยาบาลศาสตรแ์ มคคอรม์ ิกต่อการจดั การเรียนการสอนโดยใช้วิธีการสะท้อนคิดรายวิชาการ ฝกึ ปฏิบตั ิการพยาบาลพ้นื ฐาน (พบ. 281) ภาคเรยี นท่ี 2 ปกี ารศึกษา 2555. เชยี งใหม่ : มหาวิทยาลัยพายัพ. การปฏิบัตติ นตามวชิ าชีพ. [ระบบออนไลน์]. เขา้ ถึงไดจ้ าก : https://www.kruchiangrai.net สบื คน้ ขอ้ มูลเม่อื วนั ท่ี 30 มกราคม พ.ศ. 2564.

มหา ิวทยา ัลยราช ัภฏห ู่ม ้บานจอม ึบง 406 การปฏริ ปู การศึกษาของสิงคโปร์. [ระบบออนไลน์]. เขา้ ถึงไดจ้ าก : https://www.dpu.ac.th สบื คน้ ขอ้ มูลเม่ือวันที่ 1 กมุ ภาพนั ธ์ พ.ศ. 2564. การศึกษาฟนิ แลนด์. 2018. การปฏริ ูปแบบกา้ วหน้า. [ระบบออนไลน์]. เข้าถึงไดจ้ าก : https://www.bbc.com สืบค้นขอ้ มูลเมื่อวนั ที่ 1 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2564. การสะท้อนการจัดการเรยี นร.ู้ [ระบบออนไลน์]. เขา้ ถงึ ไดจ้ าก : http://edu.pbru.ac.th. สบื คน้ ขอ้ มลู เมอื่ วันท่ี 3 กมุ ภาพนั ธ์ พ.ศ. 2564. กิตนิ ันท์ โนสุและเสริมศักดิ์ วิศาลาภรณ์. (2557). องค์ประกอบและตัวบง่ ชี้จติ วิญญาณความเป็นครู สงั กดั สำนักงานเขตพืน้ การศึกษาประถมศกึ ษาในจงั หวัดภาคเหนอื ตอนบน. วารสาร การวจิ ยั กาสะลองคำ มหาวิทยาลยั ราชภัฏเชียงราย, 8(1), หนา้ 53-65. เกศรา บญุ สุข. (2560). การประพฤตเิ ป็นแบบอย่างทีด่ ตี ่อผู้เรียน. [ระบบออนไลน์]. เขา้ ถงึ ได้จาก : www.sites.google.com, สบื ค้นขอ้ มูลเมื่อวันที่ 6 กมุ ภาพันธ์ พ.ศ. 2564. คณะเกษตรศาสตร์ มหาวทิ ยาลัยเชยี งใหม่. การเปล่ียนแปลงทางสังคมและทฤษฎีการเปล่ียนแปลง ทางสงั คม. [ม.ป.ป.]. [ระบบออนไลน์]. เข้าถึงไดจ้ าก : https://agecon- extens.agri.cmu.ac.th/Course_online/Course/352332/4.pdf สบื คน้ ข้อมูล เมอ่ื วันที่ 8 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2564. คณะอนกุ รรมการขับเคล่ือนเศรษฐกจิ พอเพยี ง สำนกั งานคณะกรรมการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาต.ิ 2549. การประยุกต์ใช้ปรชั ญาเศรษฐกิจพอเพียง. (พิมพ์คร้งั ที่ 3). กรงุ เทพฯ : กลุ่มงาน เศรษฐกจิ พอเพียง สำนักงานคณะกรรมการพฒั นาเศรษฐกิจพอเพยี ง. ครูเชยี งราย. (2561). การประพฤติผดิ จรรยาบรรณวิชาชีพครู. [ระบบออนไลน์]. เขา้ ถึงได้จาก : www.kruchiangrai.net, สบื ค้นขอ้ มูลเมื่อวันที่ 6 กมุ ภาพันธ์ พ.ศ. 2564. ครบู ้านนอกดอทคอม. (2551). จรรยาบรรณในวิชาชพี ครู. [ระบบออนไลน์]. เขา้ ถงึ ไดจ้ าก : www.kroobannok.com, สบื ค้นขอ้ มลู เมื่อวันที่ 6 กมุ ภาพนั ธ์ พ.ศ. 2564. ความหมายของคุณธรรม. [ระบบออนไลน์]. เขา้ ถงึ ไดจ้ าก : http://ethics.nso.go.th สบื ค้นขอ้ มลู เม่ือ วนั ที่ 6 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2564. ความหมายของจรรยาบรรณ. [ระบบออนไลน์]. เข้าถึงได้จาก : https://sites.google.com/site/crryabrrnwichachiph/khwam-hmay-khxng-crrya-brrn สืบค้นข้อมูลเม่ือวันที่ 30 มกราคม พ.ศ. 2564. ความหมายของมาตรฐานวิชาชีพทางการศกึ ษา. [ระบบออนไลน์] เข้าถงึ ไดจ้ าก : https://www.kroobannok.com/30415. สบื ค้นข้อมูลเม่ือวนั ท่ี 30 มกราคม พ.ศ. 2564. คอลัมน์ Productivity Food for Thought หนังสอื พมิ พก์ รงุ เทพธุรกิจ. ความหมายและความสำคัญ ของบริบท. [ระบบออนไลน์]. เขา้ ถึงไดจ้ าก : http://novabizz.com/NovaAce/Relationship/context.htm สืบคน้ ข้อมลู เมื่อวนั ท่ี 8 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2564.

407 งบประมาณการศกึ ษาของสิงคโปร์. [ระบบออนไลน์]. เขา้ ถงึ ไดจ้ าก : https://www.dpu.ac.th/ces สบื ค้นข้อมูลเมอ่ื วันที่ 1 กมุ ภาพนั ธ์ พ.ศ. 2564 จรนิ ทร์ งามแม้น. คุณธรรม จรยิ ธรรม และจรรยาบรรณวชิ าชีพครู. คณะครุศาสตร์ มหาวทิ ยาลยั ราชภฏั หมู่บ้านจอมบงึ . จิตวญิ ญาณตามแนวศาสนา [ระบบออนไลน์]. เข้าถงึ ได้จาก : https://sites.google.com สบื คน้ มหา ิวทยา ัลยราช ัภฏห ู่ม ้บานจอม ึบง ข้อมูลเมอ่ื วนั ท่ี 6 กมุ ภาพันธ์ พ.ศ. 2564. ชาตรี เกดิ ธรรม. (2549). หลักการสอน. ปทุมธานี : คณะครุศาสตร์ มหาวทิ ยาลยั ราชภัฏวไลยอลงกรณ์ ในพระบรมราชูปถมั ภ์ จงั หวัดปทุมธาน.ี (อดั สำเนา) ณัฏฐภรณ์ หลาวทอง และปยิ วรรณ วเิ ศษสวุ รรณภมู .ิ (2553). การพฒั นาแบบวดั จิตวิญญาณความ เปน็ ครู. วารสารวธิ วี ทิ ยาการวจิ ัย, 23(1), หน้า 25-54. สภุ ณิดา พฒั ธร (2557). คูม่ ือการจดั ระบบการเรียนการสอนที่เน้นผู้เรียนเปน็ สำคญั (พมิ พค์ รั้งที่ 2). สำนกั งานสง่ เสริมวชิ าการและงานทะเบยี น มหาวทิ ยาลยั ราชภฏั วไลยอลงกรณ์ (2553) ดุจเดอื น เขียวเหลือง, วารีรตั น์ แกว้ อไุ ร, พูลสขุ หิงคานนท์ และสายฝน วบิ ูลรังสรรค.์ (2556). การ พฒั นารูปแบบการจดั การเยนรแู้ บบการสะทอ้ นคิดเพ่ือสรา้ งเสริมความสามารถ ในการ ตดั สนิ ใจเชิงจรยิ ธรรมทางการพยาบาลสำหรับนกั ศึกษาพยาบาล. วารสารศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร. 15 (4) : หน้า 9-21. เดชพงษ์ อุ่นชาต.ิ (2555). สรปุ จรรยาบรรณวิชาชีพคร.ู [ระบบออนไลน]์ . เข้าถงึ ไดจ้ าก : http://www.kruchiangrai.net. สบื คน้ ขอ้ มูลเมือ่ วันที่ 2 กมุ ภาพันธ์ พ.ศ. 2564. เดลินวิ ส์ อ่านขา่ วจริง อ่านเดลินวิ ส.์ 2564 เกาหลใี ตป้ ดิ โรงเรียนในกรงุ โซล คุมโควิดรอบสาม. [ระบบ ออนไลน์]. เขา้ ถงึ ไดจ้ าก : https://www.dailynews.co.th สบื คน้ ขอ้ มูล เม่ือวันท่ี 8 กมุ ภาพนั ธ์ พ.ศ. 2564. ตน้ แบบจติ วิญญาณเปน็ ครู [ออนไลน์] สบื คน้ จาก : http://www.qlf.or.th สืบคน้ ข้อมูล เมือ่ วันที่ 6 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2564. ถวิล (2560). วิชาชพี ควบคมุ ทางการศึกษา. [ระบบออนไลน์]. เข้าถึงไดจ้ าก : https://www.gotoknow.org/posts/632769. สบื ค้นข้อมลู เมื่อวันที่ 8 กุมภาพนั ธ์ พ.ศ. 2564. ทรงพล เจรญิ คำ. (2557). สมรรถนะและศักยภาพของครู. [ระบบออนไลน์]. เข้าถึงไดจ้ าก : https://www.slideshare.net/kongmaya/ss-32236591 สบื คน้ ขอ้ มลู เมื่อวันที่ 4 กุมภาพนั ธ์ พ.ศ. 2564. ทฤษฎขี องจรยิ ธรรม [ระบบออนไลน์]. เข้าถึงได้จาก : https://sites.google.com สืบคน้ ขอ้ มูล เมอ่ื วันที่ 6 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2564. ทฤษฎที างจติ วทิ ยาทเี่ กย่ี วข้องกบั จริยธรรม [ระบบออนไลน์]. เขา้ ถึงได้จาก : https://www.baanjomyut.com สืบคน้ ขอ้ มูลเมอ่ื วันท่ี 6 กุมภาพนั ธ์ พ.ศ. 2564.

มหา ิวทยา ัลยราช ัภฏห ู่ม ้บานจอม ึบง 408 ธรรมนูญชีวติ คลงั หนงั สอื ธรรมะ. (2550). คุณธรรม 4 ประการ., [ระบบออนไลน]์ . เขา้ ถงึ ไดจ้ าก : http://www.dhammathai.org/kaveedhamma/view.php?No=738. สบื ค้นข้อมูล เมอื่ วนั ที่ 2 กมุ ภาพันธ์ พ.ศ. 2564 ธวชั ชยั เพ็งพินจิ . (2558 : 1). ความหมาย ของคณุ ธรรม ศีลธรรม จรยิ ธรรม จรรยาบรรณ และ ธรร มาภบิ าล. [ระบบออนไลน์]. เข้าถงึ ได้จาก : http://www.charuaypontorranin.com สบื ค้น ขอ้ มลู เม่อื วันท่ี 6 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2564. นงนชุ มะยมทอง. (ม.ป.ป). คณุ ธรรม จรยิ ธรรมในการทำงาน. [ระบบออนไลน์]. เขา้ ถงึ ไดจ้ าก : http://www.dsd.go.th/Trat/Region/showhilight/3509 สืบคน้ ขอ้ มลู เมื่อวันที่ 4 กุมภาพนั ธ์ พ.ศ. 2564 บทความ.2563 ปฏริ ูปการศึกษาใหถ้ งึ ราก เคลด็ ลบั ความสำเร็จของฟินแลนด์. [ระบบออนไลน์]. เขา้ ถงึ ไดจ้ าก : https://www.eef.or.th สบื ค้นขอ้ มลู เม่ือวันที่ 1 กมุ ภาพนั ธ์ 2564. บทความวชิ าการ Hot lssue.2560 ฟนิ แลนดก์ ับความสำเรจ็ ทางด้านการศกึ ษา. [ระบบออนไลน์]. เข้าถึงได้จาก : https://library2.parliament.go.th สบื คน้ ขอ้ มลู เม่อื วนั ที่ 1 กมุ ภาพนั ธ์ พ.ศ. 2564. บรษิ ัท ครุศาสตรป์ ัญญา จำกัด. (2563). แนวทางการพัฒนาสมรรถนะ ทักษะครใู นศตวรรษที่ 21. [ระบบออนไลน์] เขา้ ถึงไดจ้ าก : https://karusatpanya.org. สืบคน้ ขอ้ มลู เมอ่ื วันท่ี 9 กุมภาพนั ธ์ พ.ศ. 2564. ปฏริ ูปการศึกษา เรียนร้จู ากผู้ประสบผลสำเรจ็ \"เกาหลใี ต้\". 2557 [ระบบออนไลน์]. เข้าถึงไดจ้ าก : https://www.kroobannok.com/73042 สบื ค้นข้อมลู เมื่อวนั ท่ี 1 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2564. ประเทศเกาหลใี ต้ ระบบการศกึ ษา. [ระบบออนไลน์]. เขา้ ถึงได้จาก : https://sites.google.com/ สบื คน้ ข้อมลู เมื่อวนั ที่ 1 กมุ ภาพันธ์ พ.ศ. 2564 ประเภทของจริยธรรม. [ระบบออนไลน์]. เขา้ ถงึ ได้จาก : https://jariyathamcomputer.blogspot.com. สบื ค้นขอ้ มูลเมื่อวันที่ 6 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2564. ประเภทของจริยธรรม. [ระบบออนไลน์]. เข้าถงึ ไดจ้ าก : https://jariyathamcomputer.blogspot.com สบื คน้ ข้อมูลเมื่อวนั ท่ี 6 กมุ ภาพันธ์ พ.ศ. 2564. ปวีภัทร นิธติ ันตวิ ฒั น์ และเยาวลักษณ์ มบี ญุ มาก. (2557). คมู่ อื แนวการจดั การเรยี นการสอน โดย ใชก้ ารสะทอ้ นคดิ (Refection). ราชบรุ ี : วิทยาลยั พยาบาลบรมราชชนนี. ปจั จยั ที่ทำให้การศึกษาประสบความสำเร็จของสิงคโปร์. [ระบบออนไลน์]. เข้าถงึ ไดจ้ าก : https://www.bbc.com สบื ค้นขอ้ มลู เม่ือวันท่ี 1 กมุ ภาพันธ์ 2564

มหา ิวทยา ัลยราช ัภฏห ู่ม ้บานจอม ึบง 409 ปียาณี ณ นคร, ดนลุ ดา จามจรี, ดรุณี ชุณพะวัต, มนสั บุญประกอบ, (2559) การศึกษาแนวทาง การ จัดการเรียนร้ผู ่านการสะท้อนคิดเพื่อพฒั นากระบวนการคิดอยา่ งมวี จิ ารณญาณ ใน นักศกึ ษาพยาบาล. Rama Nurs Journal. 22 (2) : pp.206-221. ผกาทิพย์ ทรัพยว์ ิริยะกลุ . (2560). การปฏิบัตติ นตามจรรณยาบรรณวิชาชีพครู. [ระบบออนไลน์]. เข้าถึงได้จาก : www.edu-journal.ru.ac.th, สืบคน้ ขอ้ มูลเมอื่ วนั ที่ 6 กุมภาพนั ธ์ พ.ศ. 2564. ผ่องฉวี ไวยาวจั มัย, เสาวนติ ย์ เจริญชัย, ศรวี ไิ ล ผลมณี, อำภา ดา่ นภักด,ี ณชั ชา กมล, บญุ รอด โชติ วชิรา และวรากรณ์ สทิ ธิวงศ.์ (2555). การวิจยั ปฏบิ ตั ิการแบบร่วมมือเพ่ือสง่ เสริม การคิด ไตรต่ รองของนกั ศึกษาในระดบั อุดมศึกษา. รายงานการวิจัย คณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ กัลยาณี พรมทอง. (2560). ความรูเ้ บ้ืองตน้ เกยี่ วกับครู . [ระบบออนไลน์]. เขา้ ถงึ ไดจ้ าก : http://www.ipebk.ac.th/bep/wp-content/uploads/2017/11/Kanlayanee- B3L01.pdf. สบื คน้ ข้อมูลเมือ่ วนั ที่ 30 มกราคม พ.ศ. 2564. พจน์ พจนพาณิชยก์ ลุ (2562). คณุ ธรรมของครู. [ระบบออนไลน์]. เขา้ ถงึ ได้จาก : www.educ105.wordpress.com, สบื คน้ ข้อมูลเมอื่ วันที่ 6 กมุ ภาพนั ธ์ พ.ศ. 2564. พจนา วลัย. การเปลี่ยนแปลงของสงั คม. [ระบบออนไลน์]. เข้าถึงจาก : https://prachatai.com/journal/2016/01/63691 สืบคน้ ข้อมลู เม่ือวนั ท่ี 8 กมุ ภาพันธ์ พ.ศ. 2564. พระเทพเวที (ป.อ. ปยุตฺโต) (2531 : 64) ธวชั ชยั เพง็ พินจิ (2558 : 1) ต้นแบบจิตวญิ ญาณเป็นครู. [ระบบออนไลน์]. เขา้ ถึงไดจ้ าก : http://www.qlf.or.th สบื ค้นข้อมลู เม่ือวนั ที่ 6 กุมภาพนั ธ์ พ.ศ. 2564. พระเทพเวที (ประยทุ ธ์ ปยตุ ฺโต) (2531 : 3) พระเทพเวที (ประยุทธ์ ปยุตโฺ ต) (2531 : 3) องค์ประกอบ ของจริยธรรม. [ระบบออนไลน์]. เข้าถึงไดจ้ าก : https://www.baanjomyut.com สืบค้น ข้อมูลเมอ่ื วนั ท่ี 6 กมุ ภาพนั ธ์ พ.ศ. 2564. พระราชดำรัสเก่ยี วกับการศกึ ษา. ม.ป.ป. [ระบบออนไลน์]. เข้าถึงไดจ้ าก : https://sites.google.com/site/maptaputpan/phra-rach-daras-keiyw-kab-kar-suksa สืบคน้ ขอ้ มูลเม่ือวันที่ 8 กมุ ภาพนั ธ์ พ.ศ. 2564. พฤทธ์ิ ศริ ิบรรณพิทักษ.์ (2556). จรรยาบรรณวชิ าชพี ครู. [ระบบออนไลน์]. เข้าถึงไดจ้ าก : https://ap.mju.ac.th/data_silo/jarya/2013-07-01-09-36-54go0.pdf สืบค้นข้อมลู เมอื่ วันที่ 2 กุมภาพนั ธ์ พ.ศ. 2564. พิณสุดา สิริธรังศร.ี (2557). แนวทางการพัฒนาสมรรถนะ ทกั ษะครใู นศตวรรษที่ 21. [ระบบ ออนไลน์] เข้าถึงได้จาก : https://www.dpu.ac.th/ces/upload/km/1403847501.pdf. สืบค้นข้อมลู เมอ่ื วันที่ 9 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2564.

มหา ิวทยา ัลยราช ัภฏห ู่ม ้บานจอม ึบง 410 พิมพาภรณ์ กลน่ั กล่ิน, นิตยา ไทยาภริ มย์ และพชั รี กิจพูนผล. (2551). ประสบการณก์ ารเรียนร้ผู า่ น บนั ทกึ การสะท้อนคิดประจำวันในการฝึกปฏิบตั ิการสร้างเสริมสุขภาพเด็กของนักศึกษา พยาบาล. วารสารการพยาบาลและการศึกษา. 1 (2) : หน้า 2-18. ฟนิ แลนด์ เป็นหนึ่งในประเทศทขี ึน้ ช่อื ว่ามรี ะบบการศึกษาท่ีดที ี่สุดในโลก. [ระบบออนไลน์]. เขา้ ถึงได้ จาก : https://www.voicetv.co.th สืบคน้ ข้อมลู เม่ือวันที่ 1 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2564. มณีวรรณ เหลยี่ มจงกล. (2555). ค่านยิ มพ้ืนฐาน 8 ประการ. [ระบบออนไลน์]. เข้าถึงได้จาก : https://maneewaan.wordpress.com สบื คน้ ขอ้ มลู เม่ือวันที่ 4 กมุ ภาพนั ธ์ พ.ศ. 2564 มลฑล พระแก้ว. (2563). การปลูกฝังคา่ นยิ มของครู. [ระบบออนไลน]์ . เข้าถึงได้จาก : http://www.eledu.ssru.ac.th/monmanus_su/pluginfile.php. สบื ค้นเมื่อขอ้ มูล เม่อื วนั ท่ี 7 กุมภาพนั ธ์ พ.ศ. 2564. มลฑา จนั ทร์เดือน. (2562). การสร้างศรัทธาในวิชาชพี ครู. [ระบบออนไลน์]. เขา้ ถงึ ได้จาก : https://sites.google.com/site/chumnankarn. สบื ค้นข้อมลู เมอ่ื วนั : 1 กมุ ภาพนั ธ์ พ.ศ. 2564. มหาวิทยาลยั บูรพา. ความหมายและความสำคัญของคณุ ธรรม. [ระบบออนไลน]์ . เข้าถงึ ได้จาก : http://digital_collect.lib.buu.ac.th/dcms/files/53930095/chapter2.pdf สืบค้นข้อมลู เม่ือวันที่ 3 กุมภาพนั ธ์ พ.ศ. 2564. มหาวทิ ยาลัยราชภฏั รำไพพรรณณี. การเปลย่ี นแปลงทางสังคมและวัฒนธรรม. [ม.ป.ป.]. [ระบบ ออนไลน]์ . เขา้ ถึงไดจ้ าก : http://www.epub.rbru.ac.th/pdf-uploads/thesis-158-file06- 2016-10-19-12-45-00.pdf สบื ค้นข้อมูลเมื่อวนั ที่ 8 กุมภาพนั ธ์ พ.ศ. 2564. ยนต์ ชุม่ จิต. (2553 : 138-139) จติ วญิ ญาณตามแนวศาสนา. [ระบบออนไลน์]. เขา้ ถึงได้จาก : https://sites.google.com สืบค้นข้อมลู เมอื่ วันที่ 6 กมุ ภาพนั ธ์ พ.ศ. 2564. ยทุ ธศาสตร์การปฏริ ปู การศกึ ษาของเกาหลี. 2014 ระบบการศึกษาของสาธารณรฐั เกาหลี. [ระบบ ออนไลน์]. เขา้ ถงึ ไดจ้ าก : https://www.bic.moe.go.th สืบค้นขอ้ มูลเมอ่ื วันที่ 1 กุมภาพนั ธ์ พ.ศ. 2564. บําเพ็ญ เขียวหวาน. การเปลี่ยนแปลงทางสังคมไทยและสังคมโลก. [ม.ป.ป.]. [ระบบออนไลน]์ . เข้าถึง ไดจ้ าก : https://edupol.org/eduOrganize/eLearning/generalStaff/doc/group02/03/01.pdf สืบค้นขอ้ มลู เม่ือวนั ที่ 8 กมุ ภาพนั ธ์ พ.ศ. 2564. พนู ทรพั ย์ เกตุวรี ะพงศ์. (2556). ความหมายและความสำคัญของครู. [ระบบออนไลน์] เข้าถึงได้จาก : http://poon2498.blogspot.com/2013/07/1_5942.html. สืบคน้ ข้อมูลเมื่อวันที่ 30 มกราคม พ.ศ. 2564. ระบบการศึกษา กญุ แจความสำเรจ็ ของเกาหลี. 2016 งบประมาณการศึกษา. [ระบบออนไลน์]. เขา้ ถึง ไดจ้ าก : http://www.popcornfor2.com สบื คน้ ข้อมูลเมื่อวันท่ี 1 กมุ ภาพนั ธ์ พ.ศ. 2564

มหา ิวทยา ัลยราช ัภฏห ู่ม ้บานจอม ึบง 411 ระบบการศึกษาของสิงคโปร์. [ระบบออนไลน์]. เขา้ ถงึ ได้จาก : https://www.dpu.ac.th สบื ค้นข้อมลู เม่อื วันท่ี 1 กุมภาพนั ธ์ 2564. ราชบัณฑิตยสถาน, 2546. ทฤษฎีของจรยิ ธรรม [ระบบออนไลน์]. เข้าถึงไดจ้ าก : https://sites.google.com สบื คน้ ข้อมลู เมือ่ วนั ที่ 6 กมุ ภาพนั ธ์ พ.ศ. 2564. วราภรณ์ ศรีวโิ รจน์. (ม.ป.ป.). ลักษณะครูท่ีด.ี [ระบบออนไลน์]. เขา้ ถงึ ได้จาก : www.edu.pbru.ac.th, สบื คน้ ข้อมูลเม่ือวนั ที่ 6 กมุ ภาพันธ์ พ.ศ. 2564. วัลนกิ า ฉลากบาง. (2559). จิตวญิ ญาณความเปน็ ครู : คณุ ลกั ษณะสำคญั ของครมู ืออาชีพ. [ระบบ ออนไลน์]. เขา้ ถงึ ไดจ้ าก : http://www.eledu.ssru.ac.th/kalanyoo_pe/file.php/2/_5_1.pdf สืบค้นข้อมูล เม่อื วันที่ 3 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2564. วลั ภา คณุ ทรงเกยี รติ. (2543) การสะท้อนคิดดว้ ยตนเองเพื่อการเอื้ออาทร.วารสารคณะพยาบาล ศาสตร์ มหาวิทยาลัยบูรพา. 8 (3) : หนา้ 32-36. วารสาร มจร สงั คมมศาสตร์ปรทิ รรศน.์ บรบิ ทสังคม. [ระบบออนไลน์]. เขา้ ถึงได้จาก : https://docs.google.com/document/d/1Igpzt5QS71PWWUR4i9vAazr- v4lWKGbiPYUo922SpKs/edit สบื คน้ ข้อมูลเม่ือวนั ท่ี 8 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2564. วิธกี ารปฏบิ ตั ิตนเป็นพลเมืองดขี องสังคม. [ระบบออนไลน]์ . เข้าถงึ ไดจ้ าก : http://119.46.166.126/self_all/selfaccess10/m4/social4_1/lesson4/lesson4_2.ht ml. สืบคน้ ขอ้ มูลเมื่อวันที่ 7 กมุ ภาพันธ์ พ.ศ. 2564. สถาบนั สง่ เสริมการสอนวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี (สสวท.).2018 คะแนนเฉลีย่ วิทยาศาสตร์ การ อา่ น และคณติ ศาสตร์ ของประเทศต่าง ๆ ใน PISA 2018 [ระบบออนไลน์]. เขา้ ถึงได้ จาก : https://thestandard.co/pisa-2018-2/ สืบค้นข้อมลู เม่ือวันท่ี 9 กุมภาพนั ธ์ พ.ศ. 2564 สถาบนั ส่งเสรมิ การสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (สสวท.).2563 ขา่ วสาร PISA เลอื่ นการจัดสอบไป เป็นปี ค.ศ.2022 [ระบบออนไลน์]. เข้าถึงไดจ้ าก : https://pisathailand.ipst.ac.th สบื คน้ ข้อมลู เมอื่ วนั ท่ี 8 กมุ ภาพันธ์ พ.ศ. 2564 สมเดช สแี สง. (2538 : 230). ความสำคญั ของคุณธรรม 4 ประการ. [ระบบออนไลน์]. เข้าถงึ ได้จาก : http://www.kamsonbkk.com สืบค้นข้อมลู เมือ่ วันที่ 6 กมุ ภาพนั ธ์ พ.ศ. 2564. สำนักงานคณะกรรมการวฒั นธรรมแหง่ ชาติ กระทรวงวฒั นธรรม. (2549). ค่านยิ ม และสภาพแวดล้อม ที่พงึ ประสงค์ของสังคมไทย. [ระบบออนไลน์]. เข้าถึงไดจ้ าก : http://book.culture.go.th/newbook/book/other/kaneeyom สบื ค้นข้อมลู เมือ่ วนั ที่ 4 กมุ ภาพันธ์ พ.ศ. 2564.

มหา ิวทยา ัลยราช ัภฏห ู่ม ้บานจอม ึบง 412 สำนักงานคณะกรรมการวฒั นธรรมแห่งชาติ กระทรวงวฒั นธรรม. (2549). คา่ นิยม และสภาพแวดล้อม ท่ีพงึ ประสงคข์ องสังคมไทย. [ระบบออนไลน์]. เข้าถึงได้จาก : http://book.culture.go.th/newbook/book/other/kaneeyom สืบคน้ ขอ้ มลู เมื่อ วนั ที่ 4 กุมภาพนั ธ์ พ.ศ. 2564. สำนักงานเลขาคุรสุ ภา. (2541). จรรยาบรรณครู พ.ศ. 2539. [ระบบออนไลน์]. เข้าถึงได้จาก : www.uic.ac.th, สืบคน้ ข้อมูลเม่อื วันท่ี 6 กมุ ภาพนั ธ์ พ.ศ. 2564. สำนักงานเลขาธิการสภาการศกึ ษา กระทรวงศกึ ษาธกิ าร. (2561). มาตรฐานการศกึ ษา พ.ศ. 2561. [ระบบออนไลน]์ . เข้าถงึ ไดจ้ าก : http://qa.vru.ac.th/pdf/ 2560. สบื ค้นข้อมูลเมอ่ื วนั ที่ 2 กมุ ภาพันธ์ พ.ศ. 2564. สิงคโปรส์ ูว้ กิ ฤตโควิด-19 ด้วยการพฒั นาศักยภาพประชาชน.2020 เตรยี มความพร้อมต้ังแต่วัยเรยี น. [ระบบออนไลน์]. เข้าถึงได้จาก : https://thestandard.co สืบคน้ ขอ้ มลู เม่อื วันที่ 8 กุมภาพนั ธ์ พ.ศ. 2564. ส่อื การเรียนการสอนมหาวิทยาลยั ราชภัฏสวนสนุ ันทา. สังคมไทยในบรบิ ทปัจจุบัน. [ม.ป.ป.]. [ระบบ ออนไลน]์ . เขา้ ถึงไดจ้ าก : http://www.elfms.ssru.ac.th/narong_an/file.php/1/2- 2560/5/GEH1102_CHAPT_08.pdf สืบคน้ ข้อมูลเมื่อวนั ท่ี 8 กมุ ภาพนั ธ์ พ.ศ. 2564. สุพศิ ทองมาก. (2541). หลักการสอน. ปทุมธานี : คณะครุศาสตร์ สถาบันราชภฏั เพชรบรุ วี ิทยา ลง กรณ.์ (อดั สำเนา) สรุ ศกั ดิ์ ปาเฮ. (2560). ครูกับการศกึ ษายุคโลกาภิวตั น์. [ระบบออนไลน์] เขา้ ถงึ ได้จาก : https://sites.google.com/site/nilobonnoeyps/h สบื ค้นขอ้ มลู เมื่อวนั ที่ 29 มกราคม พ.ศ. 2564. องค์ประกอบของจริยธรรม [ระบบออนไลน์]. เขา้ ถงึ ได้จาก : https://www.baanjomyut.com สืบค้นขอ้ มลู เม่อื วันท่ี 6 กมุ ภาพนั ธ์ พ.ศ. 2564. อมรรัตน์ แก่นสาร. (2558). การพัฒนาตัวบ่งชจี้ ิตวิญญาณความเปน็ ครขู องครู. สงั กดั สำนักงาน คณะกรรมการการศกึ ษาขนั้ พื้นฐาน. อรวรรณ มงุ คุณดา. (2558). คุณลักษณะของครูในศตวรรษท่ี 21 จาก [ระบบออนไลน์] เขา้ ถึงไดจ้ าก : https://www.gotoknow.org/posts/589309. สืบค้นขอ้ มูลเมือ่ วนั ที่ 9 กุมภาพนั ธ์ พ.ศ. 2564. เอกพันธ์ ปดั ถาวะโร. 2555. แนวคดิ จรรยาบรรณวิชาชพี ชั้นสูง. [ระบบออนไลน์]. เขา้ ถึงไดจ้ าก : http://aekapan.blogspot.com สืบค้นข้อมลู เมื่อวนั ท่ี 30 มกราคม พ.ศ. 2564. 13 เหตผุ ลทฟ่ี นิ แลนด์ประสบความสำเรจ็ ทางการศกึ ษา. [ระบบออนไลน์]. เขา้ ถงึ ไดจ้ าก : https://teen.mthai.com/education/108419.html สืบคน้ ข้อมูลเมื่อวนั ท่ี 1 กมุ ภาพนั ธ์ พ.ศ. 2564.

มหา ิวทยา ัลยราช ัภฏห ู่ม ้บานจอม ึบง 413 Abraham H. Maslow, “A Theory of Henman Motivation” Psychological Review vol. 50. 1943. pp.340-396. อ้างในพรรณี ช. เจนจิต 2538 : 463) [ออนไลน์] สืบคน้ จาก : “คณุ ธรรม” “จรยิ ธรรม” และการดารงอยู่กับสงคมประชาธิปไตย Antikainen, Ari; Luukkainen, Anna.2017 Twenty- five Years of Educational Reform Initiatives in Finland. [ระบบออนไลน์]. เขา้ ถึงไดจ้ าก : https://web.archive.org สบื คน้ ขอ้ มูลเม่อื วนั ที่ 1 กมุ ภาพนั ธ์ พ.ศ. 2564 Blogger. (2558). การพฒั นาบุคลกิ ภาพและค่านยิ มในอาชพี ครู. [ระบบออนไลน์]. เข้าถึงไดจ้ าก : http://tn-sumittano5.blogspot.com/ สบื ค้นขอ้ มูลเม่ือวนั ท่ี 8 กมุ ภาพนั ธ์ พ.ศ. 2564. Jeerawut Kokyai. (2558). หน้าที่และความรบั ผิดชอบของวิชาชพี ครู. [ระบบออนไลน์]. เข้าถงึ ได้ จาก : https://sites.google.com/, สืบค้นข้อมูลเมื่อวนั ที่ 6 กมุ ภาพันธ์ พ.ศ. 2564. Orathai education. (ม.ป.ป.). ลักษณะของครูทด่ี ี. [ระบบออนไลน์]. เขา้ ถงึ ได้จาก : https://sites.google.com/, สืบคน้ ข้อมูลเมื่อวันท่ี 6 กมุ ภาพันธ์ พ.ศ. 2564. PISA. 2015 สรปุ ผลการวจิ ัย PISA 2015. [ระบบออนไลน์]. เข้าถงึ ได้จาก : http://www.oic.go.th สบื ค้นข้อมลู เมอื่ วนั ที่ 8 กมุ ภาพันธ์ พ.ศ. 2564. Plook Teacher. (2560). ลกั ษณะของครูที่ดเี ปน็ ทรี่ ักของนกั เรียน. [ระบบออนไลน]์ . เข้าถงึ ไดจ้ าก : https://www.trueplookpanya.com/blog/content/62291/-teaartedu-teaart- teaarttea. สืบคน้ ข้อมูลเมื่อวันท่ี 7 กมุ ภาพันธ์ พ.ศ. 2564. Posted By Plook Teacher. (2560). ลกั ษณะของครทู ี่ดีเปน็ ท่รี กั ของนักเรียน. [ระบบออนไลน์]. เขา้ ถึงไดจ้ าก : www.trueplookpanya.com, สืบคน้ ขอ้ มูลเมอ่ื วนั ท่ี 6 กมุ ภาพนั ธ์ พ.ศ. 2564. PPTV Online.2563 การศกึ ษาฟนิ แลนด์แทบไม่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19. [ระบบออนไลน์]. เขา้ ถึงไดจ้ าก : https://www.pptvhd36.com สืบคน้ ข้อมูลเม่ือวนั ที่ 8 กมุ ภาพันธ์ พ.ศ. 2564 THE BEST TEACHER. (2558). การประพฤตติ นเป็นแบบอย่างท่ีดี. [ระบบออนไลน์]. เข้าถงึ ไดจ้ าก : https://thebestteacheranc.blogspot.com, สบื คน้ ขอ้ มลู เม่อื วนั ที่ 6 กุมภาพนั ธ์ พ.ศ. 2564. Wasana Permpool. (2564). คณุ ธรรม จริยธรรม และจติ วญิ ญาณความเป็นครู. [ระบบออนไลน]์ . เขา้ ถึงได้จาก : http://e-learning.dru.ac.th/course/info.php?id=461. สืบค้นข้อมลู เมื่อวนั ท่ี 3 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2564


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook