สำหรบั การซื้อ Hardware เพ่ืออนุมตั ิธรุ กรรม เงินทจี่ ะต้องจา่ ยคา่ ไฟ และเงินทจ่ี ะต้องจา่ ยคา่ เชา่ สถานที่หาก ตอ้ งการมี Hardware ขนาดใหญท่ มี่ คี วามเรว็ ในการแกไ้ ขปัญหาเชิงตวั เลขท่เี รว็ ที่สุด กลไก Proof-of-work น้คี ือ กลไกหนึง่ ทีท่ ำให้ Nodes ที่มีการลงทนุ มหาศาลจะมีศักยาภาพมากกวา่ Nodes อนื่ ในการยืนยนั ธรุ กรรม และด้วย การลงทนุ มหาศาลท่เี กิดขึ้นจะเปน็ ปัจจยั ป้องกันไมใ่ ห้ Nodes เหล่านน้ั ดำเนนิ การอนมุ ตั ิธรุ กรรมทีไ่ ม่ถกู ต้องเพราะ มิเชน่ นั้นแล้วจะทำใหเ้ งนิ ลงทุนของตนเสียหายได้ นอกจากนี้ Public blockchain ยังตอ้ งมี Incentive mechanism ทจ่ี ะต้องรับประกนั ไดว้ ่า Nodes ทุก Nodes จะมแี รงจูงใจในการยืนยันธุรกรรมที่ถูกตอ้ งเสมอ เพราะระบบ Public blockchain ทใี่ ครก็ได้เขา้ มายนื ยนั ธรุ กรรมนั้นแตล่ ะคนอาจมีจดุ ประสงคท์ ี่แตกต่างกนั ได้ ระบบแบบ Bitcoin จึงตอ้ งมกี ารให้รางวัลผลตอบแทนตอ่ ผู้ Nodes ท่ีดำเนินการสำเรจ็ โดยผลตอบแทนนจ้ี ะตอ้ งคุ้มคา่ ต่อการลงทนุ ของ Nodes ดังกล่าวด้วย และจะต้องมี ปริมาณมากพอที่จะทำให้ Nodes ไม่เกิดแรงจูงใจในการฉ้อฉลเงนิ ในระบบชำระเงนิ ดงั กล่าว ดังนั้นหากธนาคารกลางตดั สินใจนำเทคโนโลยี Distributed ledger system มาใชส้ ำหรบั การออก CBDC จงึ มีความจำเปน็ ท่ีจะต้องออกแบบระบบในลักษณะ Private (Permissioned) blockchain ที่ Nodes ต่างๆในระบบจะถอื เปน็ องค์กรที่ผ่านเกณฑ์การกำกบั ดูแลของธนาคารกลาง ได้รบั ใบอนุญาตจากธนาคารกลาง และเป็นองคก์ รท่มี แี รงจูงใจในการอนุมัตทิ ุกธุรกรรมทีถ่ ูกต้องอยูเ่ สมอ ระบบ Private blockchain นจ้ี งึ ลดความ กงั วลของความเส่ยี งประเภททเี่ รยี กว่า “Sybil attack” ซึง่ เป็นความเส่ยี งท่ีมกี ลุม่ ผู้ไมห่ วังดีสรา้ ง nodes เพิ่มเตมิ ในระบบจน nodes ของกล่มุ ตนเองสามารถลงฉันทามตทิ ีช่ นะ nodes อ่ืนๆได้ตลอดเวลาเพ่อื ดำเนินการอนุมัติบาง ธุรกรรมทเ่ี ปน็ ประโยชนเ์ ฉพาะกับกลุม่ ตนเท่าน้นั อย่างไรกต็ ามการพัฒนาระบบ Blockchain สำหรับ CBDC จะตอ้ งมีเทคโนโลยีที่สามารถรองรับปรมิ าณ ธรุ กรรมทเ่ี กิดขนึ้ ในระบบชำระเงินได้ ซึ่งในปจั จุบันยงั ไม่มีเทคโนโลยี Blockchain ใดทสี่ ามารถรองรบั การอนมุ ัติ ธุรกรรมได้เรว็ เมื่อเทยี บกบั ระบบการชำระเงินแบบรวมศูนย์อย่างในปัจจุบัน ตามรายละเอยี ดท่ชี ีแ้ จงในรูปท่ี 15.2 374
รปู ที่ 15.2 ความสามารถของ Blockchain ในการอนมุ ตั ิธรุ กรรมต่อวนิ าที ที่มา Coin98 (2018) นอกจากนีก้ ารพฒั นา Blockchain มาใช้ในระบบการชำระเงนิ สำหรับ CBDC ธนาคารกลางจะต้องให้ ความระมัดระวังเพ่มิ เติมกบั 3 ประเด็นสำคญั ทม่ี าพรอ้ มกบั การอยูใ่ นระบบดิจิตอลแบบสมบรู ณด์ ังน้ี 1) การสง่ ข้อมูลระหว่างกันทางอิเล็กทรอนิกมีต้นทนุ ที่ต่ำทำให้เกิดความเสย่ี งทมี่ ีการส่งข้อมูลปรมิ าณ มหาศาลท่ีอาจไม่ตรงกับความเป็นจริงได้ 2) การส่งข้อมูลและยนื ยันธุรกรรมหากไมม่ ภี าระผูกพัน (Liabilities) ที่ยึดโยงกบั การตดั สินใจยืนยันธุรกรรม จะเกดิ ความเสีย่ งที่ หนว่ ย (Nodes) ในระบบอาจไมไ่ ด้ยนื ยันธรุ กรรมอย่างถกู ต้องตลอดเวลา 3) หากไม่มกี ารเขา้ ถึงข้อมูลท่บี นั ทึกไวใ้ นอดตี ท้ังหมด จะเกิดความเสี่ยงทีก่ ารยนื ยันอนมุ ัตธิ รุ กรรมใหม่อาจไม่ ถกู ต้องเกดิ “Double spending” ได้ ถงึ แม้การเกิดขน้ึ ของเทคโนโลยี Blockchain จะเปน็ ตน้ กำเนดิ ของสกลุ เงินท่เี รยี กวา่ Cryptocurrency และเป็นทม่ี าของแรงกดดันที่ทำใหธ้ นาคารกลางตอ้ งพจิ ารณาในการออกสกุลเงินใหมท่ ี่เรยี กวา่ CBDC แต่การสรา้ ง เงินสกลุ ใหมน่ ้ีไมม่ ีความจำเป็นทีจ่ ะต้องอยภู่ ายใต้เทคโนโลยี Blockchain เสมอไป ธนาคารกลางสามารถ ดำเนนิ การสรา้ ง CBDC ภายใตร้ ะบบชำระเงินแบบในปจั จุบันได้เลย และยงั คงสามารถทำใหร้ ะบบการเงนิ ทง้ั หมด ของประเทศเป็นสังคมไรเ้ งนิ สด 375
การนำเสนอ CBDC ภายใต้ระบบชำระเงินแบบรวมศนู ยแ์ บบในปจั จุบนั มปี ระโยชน์ในหลายดา้ นท้ังในมิติ ของเงนิ ลงทุนท่ีไมต่ ้องการเงินลงทนุ ในการสร้างระบบชำระเงนิ ใหมท่ ้ังหมด และในดา้ นของศกั ยภาพของการอนมุ ัติ ธรุ กรรมชำระเงินทเ่ี ทคโนโลยีปัจจุบนั มีการพฒั นาจนสามารถรองรบั ปรมิ าณธรุ กรรมมหาศาลได้อยา่ งมี ประสิทธิภาพ อยา่ งไรก็ตามการนำระบบชำระเงนิ แบบรวมศูนย์มาใช้กับ CBDC สร้างความเสี่ยงค่อนข้างมากกบั ระบบ การเงินเพราะการรวมศูนยธ์ รุ กรรมการชำระเงินในระบบกลางจะทำใหร้ ะบบชำระเงนิ นี้มีความเส่ียงต่อการถกู โจมตีทาง Cyber ค่อนขา้ งมาก หรือมีความเส่ียงที่จะเกดิ สถานการณ์ทเ่ี รียกวา่ Overload ทีห่ ากเกิดขนึ้ จะทำให้ ระบบชำระเงินท้งั ระบบต้องหยุดชะงกั สรา้ งความเสยี หายมหาศาลต่อระบบเศรษฐกิจ ยงิ่ ไปกว่านน้ั หากธนาคารกลางตดั สนิ ใจทจี่ ะยกเลิกเงนิ สด (Physical notes) เพือ่ ใหก้ ารดำเนินนโยบาย ทางการเงินผ่าน CBDC มคี วามคล่องตัวมากย่งิ ขึ้นก็จะทำให้ระบบการเงนิ ทัง้ หมดขึน้ อยู่กับระบบชำระเงนิ กลาง เพยี งระบบเดยี ว ไม่ได้มีทางเลอื กให้กบั ภาคประชาชนและภาคธรุ กจิ ในการใชเ้ งินในรปู แบบอ่นื สำหรบั ชำระเงนิ ใน กรณที ่รี ะบบใดระบบหนึง่ เสยี หาย บทสรุป หากมองในภาพรวมการนำเสนอ CBDC ในแตล่ ะรูปแบบนั้นเปิดโอกาสให้กับธนาคารกลางได้เปลี่ยน บทบาทของตน และมเี ครื่องมือท่เี ปล่ยี นแปลงไปจากกลไกท่ีมอี ย่ใู นปัจจุบนั โดยประโยชนต์ า่ งๆ สรปุ ได้ดงั นี้ 1 ธนาคารกลางสามารถดำเนินนโยบายดอกเบีย้ ติดลบได้อยา่ งมปี ระสทิ ธิภาพเพราะประชาชนไมม่ เี งินในรูป ของธนบตั ร ทีม่ ีอตั ราดอกเบี้ยต่ำสดุ ท่ศี นู ย์ 2 ธนาคารสามารถดำเนนิ นโยบายการเงนิ ผา่ นการเปล่ยี นแปลงอัตราดอกเบยี้ ได้โดยตรงที่เข้าถงึ ประชาชน โดยไมต่ อ้ งผา่ นการดำเนนิ ธุรกิจของธนาคารพาณิชย์ 3 บัญชเี งินฝากทธ่ี นาคารพาณชิ ย์จะมีคู่แข่งเป็นบัญชขี องธนาคารกลางทำให้เกิดความหลากหลายด้าน ผลติ ภัณฑ์เงินฝากต่อประชาชน 4 ระดับชน้ั ของระบบชำระเงินจะลดลง (Delayering the payment system) ทำให้การควบคมุ สภาพ คล่องของระบบการเงนิ มปี ระสทิ ธิภาพมากยิง่ ขน้ึ 5 เน่อื งจากธนาคารกลางดูดสภาพคล่องออกจากระบบผ่านบัญชี CBDC ทีธ่ นาคารกลาง ธนาคารจะต้อง สรา้ งกลไกในการถา่ ยโอนสภาพคลอ่ งเหลา่ นไี้ ปส่ภู าคธุรกจิ ซ่ึงทำใหเ้ กิดคำถามตามมาวา่ จะอยใู่ นรปู แบบใด 376
เช่นการอนุมัติสนิ เชื่อโดยตรงของธนาคารกลาง หรอื ธนาคารกลางเข้าซ้ือพอร์ตสินเชอื่ จากธนาคารพาณิชย์ เป็นต้น 6 มีแนวโนม้ ที่ธนาคารกลางอาจแปรเปลีย่ นไปเป็น State bank หรือธนาคารของรัฐ ทีส่ ามารถดำเนนิ นโยบายทีเ่ ช่ือมโยงกบั การคลังได้โดยตรง 7 อาจเกิดผลกระทบเชิงลบต่อการพัฒนานวัตกรรมใหม่ๆของระบบชำระเงิน เพราะในปจั จุบันทมี่ รี ะบบ ชำระเงนิ แบบ Tiered system น้ันทำใหเ้ กดิ นวตั กรรมมากมายเช่น เช็ค, ATM, debit/credit cards, online banking และ mobile banking เป็นตน้ 8 การแก้ไขปัญหาดา้ น Credit risk และ liquidity risk อาจมีประสทิ ธิภาพมากยง่ิ ขึ้น เพราะธนาคารกลาง เปน็ ผรู้ บั ความเสยี่ งเหลา่ นั้นโดยตรง ลดบทบาทของตวั กลางทางการเงนิ CBDC จงึ เปน็ แนวทางหนง่ึ ที่ธนาคารกลางในหลายประเทศรวมถงึ ประเทศไทยกำลงั ใหค้ วามสำคญั และ ศึกษาวิเคราะห์อย่างเชิงรกุ ถงึ แนวทางในการออกแบบเงิน CBDC เพอื่ ใช้ในการควบคุมระบบเศรษฐกิจในยุค ดิจติ อลได้อย่างมปี ระสทิ ธิภาพ เอกสารอ้างองิ Agarwal, R., & Kimball, M. (2015). Breaking Through the Zero Lower Bound. IMF Working Paper, WP/15/224. Andolfatto, D. (2015). Should the Fed Issue Its Own Bitcoin? Newsweek, December 31. Bank of England. (2020, March 20). Central Bank Digital Currency: Opportunities, challenges and design. Bank of England Discussion Paper. Retrieved from Bank of England. Barrdear, J., & Kumhof, M. (2016). The macroeconomics of central bank issued digital currencies. Bank of England Staff Working Paper No. 605. Benes, J., & Kumhof, M. (2012). The Chicago Plan Revisited. IMF Working Paper(WP/12/202). Bewley, T. (2005). Fairness, Reciprocity, and Wage Rigidity. In H. Gintis, S. Bowles, R. Boyd, & E. Fehr, Moral Sentiments and Material Interests: The Foundations of Cooperation in Economic Life (pp. 303-338). Cambridge: MIT PRess. 377
Binswanger, H., Huber, J., & Mastronardi, P. (2012). Die Vollgeld-Reform - wie Staatsschulden abgebaut und Finanzkrisen verhindert werden können. Solothurn: Zeipunkt. BIS. (2018). Central bank digital currencies. Committee on Payments and Market Infrastructures. Bjerg, O. (2013). Gode Penge: Et Kontant Svar På Gældskrisen. Kobenhavn: Informations Forlag. Bjerg, O. (2014). Making Money - The Philosophy of Crisis Capitalism. London: Verso. Bjerg, O. (2017). Designing New Money - The Policy Trilemma of Central Bank Digital Currency. CBS Working Paper. Bordo, M., & Levin, A. (2017). Central Bank Digital Currency and the Future of Monetary Policy. NBER WORKING PAPER SERIES 23711. Broadbent, B. (2016). Central Banks and Digital Currencies. Speech at London School of Economics. Buchanan, J. (1962). Predictability: The Criterion of Monetary Constitutions. In L. Yaeger, In Search of a Monetary Constitution (pp. 155-183). Harvard University Press. Camera, G. (2017). A Perspective on Electronic Alternatives to Traditional Currencies. Sveriges Riksbank Economic Review, No. 1, 126-148. Carney, M. (2016). Enabling the FinTech Transformation: Revolution, Restoration, or Reformation? Speech by the Governor. Lord Mayor’s Banquet for Bankers and Merchants of the City of London at the Mansion House. Bank of England. Cleland, V. (2016). Fintech: Opportunities for All? Speech by the Chief Cashier. 2nd International Workshop P2P Financial Systems. Bank of England. Coin98. (2018, December 6). Compare The Transaction Speed of VISA with That's CRYPTOCURRENCY. Retrieved from Medium.com: https://medium.com/coin98- analytics/compare-the-transaction-speed-of-visa-with-thats-cryptocurrency-ea2fa31d237b Dyson, B., & Hodgson, G. (2016). Digital Cash: Why Central Banks Should Issue Digital Currency. London: Positive Money. Dyson, B., & Jackson, A. (2013). Modernising Money. London: Positive Money. Engert, W., & Fung, B. (2017). Central Bank Digital Currency: Motivations and Implications . Bank of Canada Staff Discussion Paper/Document d’analyse du personnel 2017-16 . 378
Fernandez-Villaverde, J., & Sanches, D. (2018). Can currency competition work? University of Pennsylvania. Fiedler, S., Gern, K.-J., Kooths, S., & Stolzenburg, U. (2017). Financial Innovation and Monetary Policy: Challenges and Prospects. Monetary Dialogue - In-Depth-Analysis, European Parliament. Fisher, I. (1913). A Compensated Dollar. Quarterly Journal of Economics, 27, 385-397. Foundery. (2016). The Advent of Crypto Banking - A New Paradigm for Central and Commercial Banking. FirstRand Bank Ltd. Friedman, M. (1960). A Program for Monetary Stability. New York: Fordham Press. Fung, B., & Halaburda, H. (2016). Central Bank Digital Currencies: A Framework for Assessing Why and How. Bank of Canada Staff Discussion Paper No. 2016-22. Gesell, S. (1916). Die Natürliche Wirtschaftsordnung, available in English as The Natural Economic Order. London: Peter Owen Ltd. Gouveia, O., Santos, E., Neut, A., & Sebastian, J. (2017). Central Bank Digital Currencies: Assessing Implementation Possibilities and Impacts. Working Paper. Madrid: BBVA. Hayek, F. (1978). Denationalisation of Money—The Argument Refined: An Analysis of the Theory and Practice of Concurrent Currencies (2nd edition). London: Institute of Economic Affairs. He, D., Leckow, R., Haksar, V., Mancini, T., Jenkinson, N., Mikari, K., . . . Tourpe, H. (2017). Fintech and Financial Services: Initial Considerations. International Monetary Fund Staff Discussion Note 17/05. Huber, J. (2014). Monetäre Modernisierung. Zur Zukunft der Geldordnung: Vollgeld und Monetative. Marburg: Metropolis. Huber, J. (2017). Sovereign Money - Beyond Reserve Banking. Cham: Palgrave Macmillan. Huber, J., & Robertson, J. (2000). Creating New Money: A Monetary Reform for the Information Age. London: New Economics Foundation. Innes, A. (1913). What Is Money. The Banking Law Journal 30, 377. Innes, A. (1914). Credit Theory of Money. The Banking Law Journal 31, 151. 379
Jackson, A., & Dyson, B. (2012). Moderning Money: Why Our Monetary System Is Broken and How It Can Be Fixed. Positive Money: London. Jevons, W. (1875). A Tabular Standard of Value. In: Money and the Mechanism of Exchange, Chapter 25. Ketterer, J., & Andrade, G. (2016). Digital Central Bank Money and the Unbundling of the Banking Function. Discussion Paper. Inter-American Development Bank. Lagos, R., & Wright, R. (2003). Dynamics, cycles, and sunspot equilibria in ‘genuinely dynamic, fundamentally disaggregative' models of money. Journal of Economic Theory, 109(2), 156-171. Marshall, A. (1887). Remedies for Fluctuations of General Prices. The Contemporary Review, 51, 355-375. Mersch, Y. (2017). Digital Base Money: An Assessment from the ECB’s Perspective. Speech by Member of the Executive Board. The Farewell Ceremony for Pentti Hakkarainen, Deputy Governor of Suomen Pankki – Finlands Bank. European Central Bank. Nicolaisen, J. (2017, April 25). What Should the Future Form of Our Money Be? Retrieved from Norges Bank: https://www.norges-bank.no/en/news-events/news- publications/Speeches/2017/2017-04-25-dnva/ Pichler, P., Schierlinker-Brandmayr, A., & Summer, M. (2018). Digital money. Monetary policy & The economy Q3/18, 23-35. Rogoff, K. (2015). Costs and Benefits to Phasing Out Paper Currency. NBER Macroeconomic Annual 2014, 29, 445-456. Ryan-Collins, J., Greenham, T., Werner, R., & Jackson, A. (2011). Where Does Money Come From? - A Guide to the UK Monetary and Banking System. London: New Economics Foundation. Schumpeter, J. (1934). The Theory of Economic Development. New Brunswick: Transaction Publishers. Skingsley, C. (2016). Should the Riksbank Issue E-Krona? Speech by the Deputy Governor. FinTech Stockholm. 380
Tucker, P. (2017). The political economy of central banking in the digital age. 44th Economics Conference 2017 (pp. 42-57). Oesterreichische NationalBank. Werner, R. (2005). New Paradigm in Macroeconomics: Solving the Riddle of Japanese Macroeconomic Performance. Basingstoke: Palgrave Macmillan. Wicksell, K. (1898). Interest and Prices: A Study of the Causes Regulating the Value of Money. Jena, Sweden: Gustav Fischer Press. Yifei, F. (2016). On Digital Currencies, Central Banks Should Lead. Bloomberg View. 381
บทที่ 16 บทสรปุ การเปล่ียนแปลงทางเทคโนโลยีทเ่ี กิดขนึ้ อยา่ งกา้ วกระโดดในช่วง 10 ปที ีผ่ ่านมาเปน็ ตวั เรง่ ใหผ้ ู้ประกอบใน ทกุ อุตสาหกรรมต้องปรับตวั เพ่อื ให้สามารถดำเนนิ ธรุ กิจอย่างประสบความสำเรจ็ ในยคุ ดิจิตอล 4.0 โดย อตุ สาหกรรมการเงินการธนาคารน้นั ไดร้ บั ผลกระทบจากการเปล่ียนแปลงดงั กล่าวอย่างมากโดยเฉพาะกับการ ใหบ้ รกิ ารชำระเงิน การบรหิ ารบัญชีเงินฝาก และการใหส้ นิ เชอื่ ผใู้ หบ้ รกิ ารทางการเงินรายใหมท่ เี่ รยี กว่า Fintechs ได้เข้ามาแข่งขันในลักษณะทีม่ ุง่ เป้าเพ่ือความเปน็ เลิศ ในบริการด้านใดดา้ นหนึง่ จนทำใหอ้ ตุ สาหกรรมการเงินการธนาคารอาจเปล่ยี นแปลงจนมีลักษณะของ Disaggregation of financial services ไดใ้ นลกั ษณะทผ่ี บู้ ริโภคเลอื กใช้แตล่ ะบริการจากผใู้ ห้บรกิ ารท่ีเป็นเลศิ ใน ดา้ นนนั้ ๆ บรกิ ารดา้ นการชำระเงนิ คืออุตสาหกรรมแรกๆ ทถ่ี ูกแขง่ ขันจากผใู้ หบ้ ริการทางการเงินรายใหม่เพราะการ ชำระเงินทเ่ี กิดขนึ้ นน้ั แท้จรงิ แลว้ เป็นเพียงการสง่ ข้อความทางอเิ ล็กทรอนิกส์เพื่อยนื ยันการโอนเงิน ด้วยเหตุน้ีจึงทำ ใหเ้ กิดระบบชำระเงินแบบ Mobile transfer และการนำเทคโนโลยีมาประยกุ ต์ใชใ้ นการสร้าง E-wallet ที่ รวบรวมทกุ วธิ กี ารชำระเงินเข้าดว้ ยกันในกระเป๋าสตางคท์ ี่อยใู่ น Smartphone หรือการคดิ ค้นอปุ กรณร์ บั ชำระเงิน ดว้ ยเทคโนโลยี NFC เพ่อื ให้สามารถชำระเงนิ ผา่ น Smartwatch หรอื Smartphone ได้ทันที แทนการใช้บตั ร พลาสติก การเกิดข้นึ ของนวัตกรรมใหม่ๆในระบบชำระเงินเหล่านี้ จงึ ทำให้สถาบนั การเงนิ แบบดั้งเดมิ ต้องเร่ง ปรับตัว และนำเสนอบรกิ ารที่มตี ้นทุนที่ถูกลง และมคี วามรวดเรว็ ในการชำระเงนิ ใหม้ ากขนึ้ เชน่ ในประเทศไทยได้มี การเกิดขน้ึ ของ PromptPay, QR-code payment, Mobile banking และ Travel Debit card เปน็ ต้น ในสว่ นของบริการดา้ นการรับฝากเงินและกเู้ งนิ นัน้ ไดร้ บั ผลกระทบจากปญั หาในปจั จุบันทสี่ ว่ นตา่ งอตั รา ดอกเบยี้ ระหวา่ งเงินกแู้ ละเงินฝากอยใู่ นระดบั สงู วิธกี ารประเมินความเส่ียงของผู้ก้แู ละการกำหนดอตั ราดอกเบยี้ เงินกู้ท่ีไม่เปน็ มาตรฐานหรือโปร่งใสในมุมของผู้บรโิ ภค กระบวนการอนุมตั ิสนิ เช่ือที่ใช้เวลานาน และข้อจำกดั ท่ไี ม่ สามารถใหเ้ งนิ กกู้ ับทกุ กลมุ่ ประชากรได้ 382
Fintechs ไดเ้ ล็งเหน็ ถึงช่องว่างดงั กลา่ วจงึ นำมาสู่การนำเสนอ P2P lending platform ท่ีให้ผกู้ ูแ้ ละผู้ ปล่อยก้มู าพบกนั ซึง่ เปน็ การให้โอกาสกับผ้ปู ลอ่ ยกู้ในการเลือกผลตอบแทน และเลอื กความเส่ยี งของผ้กู ้ทู ่ีตนเองพึง พอใจ นอกจากน้เี ม่ือข้อมลู ต่างๆในปจั จุบันอยู่ในรูปแบบดิจิตอลมากย่ิงขึ้นจึงทำใหก้ ารประเมินความเสี่ยงผู้กู้ สามารถประเมินไดจ้ ากข้อมลู ทห่ี ลากหลายมากกว่าในอดตี นำมาสกู่ ารอนมุ ัตสิ นิ เช่ือดว้ ย Alternative data และมี การคิดคน้ Credit scoring ท่ีมคี วามแมน่ ยำกวา่ ในปัจจุบนั เทคโนโลยีสำคัญท่สี ถาบันการเงินหลายแห่งใหค้ วามสนใจคือ Blockchain ซ่งึ สามารถนำมาประยุกตใ์ ช้ กับระบบการชำระเงินได้ อย่างไรก็ตาม Blockchain ไม่ใชเ่ ทคโนโลยีที่สามารถนำมาแทนท่ที กุ กจิ กรรมในปัจจบุ นั ไดท้ นั ที เพราะเง่อื นไขสำคัญท่ใี ช้ในการประเมนิ ว่า Blockchain จะนำมาใช้ไดห้ รอื ไมน่ ั้น สามารถสรุปเป็นประเด็น ไดด้ ังนี้ 1) กระบวนการอนุมัติธรุ กรรมเก่ียวข้องกับหลายบุคคลหรอื หนว่ ยงานหรือไม่ 2) ทกุ หน่วยงานทเี่ กี่ยวข้องมี ความสอดคล้องกันและมคี วามเห็นรว่ มกันถึงแนวทางการทำงานหน่งึ ๆหรอื ไม่ 3) ตอ้ งการเกบ็ ข้อมลู ทแี่ ก้ไขได้ยาก หรอื ไม่ และ 4) กฎเกณฑใ์ นการอนุมัติธุรกรรมมคี วามน่ิงไม่เปล่ียนแปลงบอ่ ยหรือไม่ หากเงอ่ื นไขเหลา่ นผ้ี ่าน Blockchain จึงอาจถกู นำมาใช้เพือ่ เพมิ่ ประสทิ ธิภาพการทำงานในปัจจบุ ัน การเกดิ ของ Cryptocurrency ถงึ แม้จะสร้างความกงั วลให้กบั ผูว้ างนโยบาย แตต่ อ้ งยอมรบั วา่ Cryptocurrency ท่ีเกดิ ขึน้ ในปัจจบุ นั ยังไมส่ ามารถสร้างความม่นั ใจใหก้ ับผใู้ ชใ้ นดา้ นของความผันผวนของมลู ค่า ของเงนิ ได้ ซึง่ Cryptocurrency สว่ นใหญย่ งั ไมม่ ีกลไกในการสรา้ งเสถียรภาพของเงนิ เหมอื นอย่างเงินในสกลุ ดง้ั เดมิ ท่ีมีธนาคารกลางในการควบคมุ ปรมิ าณและกำหนดมูลคา่ ของเงนิ ในแต่ละช่วงเวลา ถงึ แมใ้ นปี ค.ศ. 2019 Facebook และพนั ธมตั รได้มีการนำเสนอเงนิ Cryptocurrency ท่ีเรยี กว่า Libra ทมี่ ีการกำหนดแนวทางในการ สร้างเสถียรภาพของมูลค่าของเงนิ แต่ Libra กย็ ังประสบกับอุปสรรคท่ีธนาคารกลางหลายแหง่ อาจไม่สามารถ อนญุ าตใหเ้ กดิ สกุลเงินทค่ี ดิ ค้นโดยภาคเอกชนมาแขง่ ขนั กับสกุลเงนิ ของรฐั ได้ การเปล่ียนแปลงทางนวตั กรรมในด้านต่างๆนำไปสู่ระบบเศรษฐกิจใหม่ทเี่ รยี กวา่ ระบบเศรษฐกจิ ดจิ ติ อล ซึง่ เปลี่ยนแปลงความสมั พันธ์ และโครงสร้างของระบบเศรษฐกจิ อย่างสิน้ เชงิ จนนำไปสู่เหตกุ ารณ์สำคัญดังน้ี 1) การค้าขายผ่าน Cross-border e-commerce จะมีบทบาทสำคญั มากข้นึ แตไ่ มไ่ ด้มาแทนทีก่ ารคา้ แบบด้ังเดิม 2) การนำเทคโนโลยีดจิ ิตอลมาประยุกต์ใชเ้ พอ่ื สร้างกลยุทธ์การขายแบบ Omnichannel retailing ทเ่ี ป็นการขาย ผา่ นหลายชอ่ งทางแบบเปน็ เนื้อเดียวกัน 3) การตระหนักรบั รถู้ ึงโอกาสและความเสีย่ งจากรปู แบบธุรกจิ ทเี่ รยี กวา่ Everything as a service เพ่อื ลดการลงทุนขนาดใหญ่และทำให้ธรุ กจิ สามารถปรับตวั ได้เรว็ ตอ่ สถานการณท์ ่ี เปลย่ี นแปลงไป และ 4) โอกาสใหมๆ่ ทเี่ กิดจากความร่วมมือของสถาบนั การเงนิ และ Fintechs ในการพัฒนาระบบ ชำระเงินเพ่ือให้การชำระเงนิ เกิดข้นึ ไดท้ ันที ปลอดภัย และราบร่ืน 383
การเปลย่ี นผ่านสู่ระบบเศรษฐกจิ ดจิ ิตอล (Digital Economy) ดงั ทก่ี ล่าวขา้ งตน้ ไมไ่ ด้สรา้ งโอกาสในการ เตบิ โตและประสทิ ธิภาพทด่ี ขี ้ึนเพียงดา้ นเดียว แต่อาจทำให้สงั คมอยู่ในสภาวะ Digital Divide หรือสถานการณ์ที่ ประชากรบางกลมุ่ ไมส่ ามารถไดร้ ับประโยชนอ์ ยา่ งเตม็ ท่ี ปัจจัยสำคญั ที่เป็นตัวกำหนดสถานการณ์ Digital divide ไดเ้ ปน็ อย่างดีคือการชว้ี ดั ระดับ Digital literacy ของประชากร ซ่งึ Digital literacy น้ีเปน็ แนวคิดใหม่ทีเ่ พ่งิ เกิดขึน้ ไมน่ าน จึงยงั ไม่มีทฤษฎที ่ียอมรับเป็นวงกวา้ งว่าการวดั Digital literacy ควรวดั มิตใิ ดบา้ ง การชว้ี ัดระดบั Digital literacy ทงี่ านวจิ ัยชนิ้ นเี้ สนอประกอบดว้ ย 4 ปัจจัยย่อยไดแ้ ก่ 1) การเข้าถึง เทคโนโลยดี ิจติ อล 2) ทกั ษะการใช้งานเทคโนโลยีดจิ ิตอล 3) ความรดู้ ้านเทคโนโลยดี จิ ิตอล และ 4) การตระหนักถงึ ข้อมูลและสทิ ธติ ่างๆในโลกดจิ ิตอล โดยงานวจิ ยั ชิน้ นีไ้ ด้นำเสนอแบบสอบถามสำหรบั เกบ็ รวบรวมขอ้ มลู และ นำเสนอวิธกี ารทางสถิติทเ่ี รียกว่า Principle Component Analysis (PCA) มาเพื่อหาระดับคะแนนของ Digital literacy ซึ่งจากผลการวจิ ยั พบประเด็นสำคญั ดังนี้ - เพศชายมีการเขา้ ถงึ เทคโนโลยดี ิจิตอลมคี วามรู้ และมีการตระหนักถึงความเสี่ยงในโลกดิจิตอล มากกว่าเพศหญิงอยา่ งมนี ัยสำคญั - เจเนเรช่นั Millennial คอื กลุ่มเจเนเรชั่นทม่ี คี วามโดดเด่นสูงสุดในทกุ มติ ิย่อยของ Digital literacy รองลงมาคอื เจเนเรชน่ั Z และ เจเนเรชน่ั X ตามลำดบั - กลุม่ อาชีพ Professional จะมคี วามโดดเด่นด้าน Digital literacy สูงทส่ี ดุ โดยกลมุ่ ตวั อยา่ งทีต่ กงาน จะเปน็ กลุ่มทีม่ ปี ญั หาด้าน Digital literacy อย่างมาก ซ่งึ อาจเปน็ การสะท้อนวา่ กลุ่มประชากร ดงั กลา่ วไดร้ บั ผลกระทบจากสถานการณ์ Digital divide แลว้ นอกจากนี้ งานวจิ ยั ยังได้แบ่งกลมุ่ ตัวอย่างออกเป็น 3 กลุ่มย่อยตามระดับคะแนน Digital literacy ด้วย วิธกี ารทางสถิตทิ ่เี รียกวา่ Cluster analysis ซ่งึ พบวา่ ประมาณรอ้ ยละ 26 ของกลมุ่ ตวั อย่างเป็นกลุม่ Digital fluency ร้อยละ 55 เปน็ กลมุ่ Digital neutral และรอ้ ยละ 21 เป็นกลุ่ม Digital illitarate เม่ือวิเคราะหพ์ ฤตกิ รรมการใช้ผลติ ภณั ฑแ์ ละบรกิ ารทางการเงนิ ของทง้ั สามกล่มุ จะพบว่ากลุ่ม Digital fluency มกี ารใชบ้ ัตรเครดิต และการลงทุนในกองทุนรวมท่สี ูงโดดเด่นกวา่ กล่มุ อนื่ เป็นลูกคา้ ของธนาคารมากทสี่ ดุ จำนวนอย่างน้อย 3 แห่งขึ้นไป เป็นกลุ่มทีใ่ ห้ความสำคัญกับความหลากหลายของผลิตภณั ฑส์ ำหรับการตัดสินใจ เลอื กเป็นลกู ค้าหลายธนาคาร ถงึ แม้ประชากรในกลมุ่ Digital fluency จะให้ความสำคญั กบั สาขาท่เี ขา้ ถึงง่าย แต่ หากธรุ กรรมทางการเงนิ ต่างๆไม่มีความจำเปน็ ท่จี ะต้องทำผ่านสาขาอีกตอ่ ไปในอนาคต ผลิตภณั ฑ์ Mobile banking จะเปน็ ปจั จยั สำคญั ทบี่ ่งชีว้ า่ จะเลอื กเป็นลกู ค้าธนาคารใด 384
ถึงแม้สถาบนั การเงินควรใหค้ วามสนใจกับดจิ ิตอลและนวตั กรรม แตป่ จั จัยหนงึ่ ทป่ี ระชากรไม่ว่าจะอยใู่ น กลมุ่ ระดบั Digital literacy ใดยงั คงให้ความสำคญั ในลำดับทีส่ องและสามคือเร่ืองของความนา่ เช่อื ถือของสถาบนั การเงิน และความเปน็ เลิศในการบริหารต้นทนุ จนนำมาสูก่ ารลดค่าธรรมเนยี มต่อผบู้ ริโภค ซง่ึ เมอ่ื วเิ คราะห์กลยทุ ธข์ องสถาบนั การเงนิ ในประเทศไทยผ่านการสำรวจผบู้ ริหารระดบั สูงจะพบวา่ สถาบนั การเงินในไทยใหค้ วามสำคญั กับการ Simplification ผลิตภณั ฑห์ รอื บริการทม่ี ีอย่ใู นปัจจุบันให้มีความ เขา้ ใจงา่ ยเพ่อื ขยายฐานลกู คา้ ให้กวา้ งมากขึน้ และมงุ่ หวงั ให้บริการที่นำเสนอสามารถตอบโจทย์ไดล้ กู คา้ สงู ทส่ี ุด หรอื ทเ่ี รียกวา่ Customer-centric model โดยเทคโนโลยที ส่ี ถาบันการเงินในไทยจะลงทนุ อย่างมากในอนาคตประกอบดว้ ยเทคโนโลยีท่เี กี่ยวกบั Cyber Security และ Big data analytics เพ่ือให้สามารถเข้าใจพฤตกิ รรมและความต้องการของผู้บรโิ ภคได้มาก ข้ึน ในขณะทยี่ ังสามารถสร้างความน่าเช่ือถือของบริการของตน และลดความเสีย่ งทจ่ี ะเกิดเหตุการณ์ไมค่ าดฝนั ต่อ ระบบดจิ ติ อลของตน อย่างไรกต็ ามความคิดเห็นของสถาบนั การเงนิ มคี วามแตกต่างจากความตอ้ งการของผูบ้ รโิ ภคอยบู่ ้าง เช่น สถาบนั การเงินคดิ ว่าการหาจุดเดน่ ดว้ ยความเชย่ี วชาญเฉพาะทางเป็นส่ิงสำคัญ แตผ่ ลสำรวจความคิดเห็นของ ประชากรไทยไม่ได้ใหค้ วามสำคัญด้านนี้เลย โดยกลบั ตอ้ งการใหส้ ถาบันการเงินม้งุ เน้นเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน เพอ่ื นำมาสกู่ ารลดค่าธรรมเนียม มเี ครือ่ ง Automatic ที่ทำไดห้ ลายอย่าง หรอื มีระบบแจ้งเตอื น Notification แบบจำเพาะบคุ คล ในประเดน็ สุดท้ายท่หี นงั สอื เล่มนีว้ เิ คราะหค์ ือ โอกาสท่ี Digital currency ใหมๆ่ ทีเ่ กดิ ขน้ึ จากภาคเอกชน จะเข้ามาเปลยี่ นรปู แบบของระบบเศรษฐกิจ และเปลยี่ นบทบาทหน้าที่ของธนาคารกลางในการกำกบั ดูแล ผลการ วเิ คราะหพ์ บวา่ Digital currency ทเ่ี กิดข้นึ ในปจั จุบันมกั จะอยู่ในรูปแบบของ Pre-paid basis คอื จะต้องมีการนำ เงนิ ในปัจจบุ ันไปแลกซ้ือเงนิ Digital currency ดงั กลา่ ว และหากผ้ใู ช้เงินต้องการใชเ้ งนิ เปน็ วงกว้างก็จะต้องแลก เงนิ กลบั มาเป็นสกลุ เงนิ ด้ังเดิม ดังนัน้ ผลกระทบต่อปริมาณของเงินในระบบจงึ ค่อนข้างจำกัด นอกจากน้ีปรมิ าณเงนิ ของ Digital currency ทีม่ อี ยูใ่ นปัจจุบันของแตล่ ะ Platform ไมไ่ ดม้ ีมูลค่าท่ีสงู มาก นักเมอื่ เทียบกบั มูลค่าของสกุลเงนิ แบบดง้ั เดิม และ Digital currency ท่เี กดิ ขึน้ มักจะอยู่บน Internet platform ที่ไม่ไดอ้ ยู่ในประเทศใดประเทศหน่ึง แต่เปน็ Internet platform ที่ใชท้ ว่ั โลก ดงั น้ัน Digital currency ท่มี ีใน ปัจจุบันจึงยงั ไม่มีผลกระทบต่อสกลุ เงนิ ของประเทศใดประเทศหนึ่งอย่างมีนยั สำคัญ 385
อย่างไรก็ตามสิ่งท่นี ่ากังวลหาก Digital currency ได้รับการยอมรบั เป็นวงกว้าง และประชาชนใชเ้ งิน ดังกล่าวแทนท่ีเงนิ จากธนาคารกลาง จะทำให้เกิดการเพิ่มขึ้นของเงนิ Digital currency อย่างมากในขณะท่ี ปริมาณการใช้เงนิ ในสกลุ ดงั้ เดิมลดนอ้ ยลง เหตกุ ารณน์ จ้ี ะทำใหข้ นาดของ Balance Sheet ของธนาคารกลาง ลดลง และลดประสิทธภิ าพของการดำเนินนโยบายดา้ นการเงิน จนธนาคารกลางอาจไม่สามารถกำหนดอัตรา ดอกเบย้ี ระยะส้นั เพ่ือควบคมุ สภาพคลอ่ งในระบบเศรษฐกิจไดเ้ ช่นเดิม ดังนั้นธนาคารกลางหลายประเทศจงึ มีแนวคิดที่จะออกเงินสกุลดจิ ิตอลใหม่ซึ่งมักจะถกู เรียกว่า Central Bank Digital Currency (CBDC) โดยในปจั จบุ นั รูปแบบของ CBDC นัน้ ยงั ไม่ได้มีการกำหนดทช่ี ดั เจน ว่าจะอยู่ใน ลักษณะใด แตเ่ มอ่ื ทำการวเิ คราะห์รูปแบบต่างๆของ CBDC แลว้ จะพบผลที่นา่ สนใจได้แก่ 1) ธนาคารกลาง สามารถดำเนินนโยบายดอกเบี้ยตดิ ลบไดอ้ ย่างมีประสิทธภิ าพเพราะประชาชนไม่มีเงินในรูปของธนบตั ร (ท่ีมอี ัตรา ดอกเบย้ี ต่ำสดุ ท่ีศนู ย์) 2) ธนาคารกลางสามารถดำเนนิ นโยบายการเงนิ ผ่านการเปลีย่ นแปลงอัตราดอกเบ้ยี ไดโ้ ดย ตรงที่เขา้ ถึงประชาชนโดยไมต่ ้องผา่ นการดำเนนิ ธุรกจิ ของธนาคารพาณชิ ย์ 3) บญั ชีเงนิ ฝากของธนาคารพาณิชย์จะ มคี แู่ ข่งเป็นบัญชีของธนาคารกลางทำให้เกิดความหลากหลายด้านผลิตภณั ฑ์เงนิ ฝากตอ่ ประชาชน และ 4) การ แกไ้ ขปัญหาดา้ น Credit risk และ liquidity risk อาจมีประสทิ ธิภาพมากยง่ิ ขนึ้ เพราะธนาคารกลางเปน็ ผรู้ ับความ เสี่ยงเหล่านนั้ โดยตรง ลดบทบาทของตัวกลางทางการเงนิ CBDC จึงเป็นแนวทางหนงึ่ ที่ธนาคารกลางในหลายประเทศรวมถึงประเทศไทยกำลงั ใหค้ วามสำคญั และ ศึกษาวิเคราะห์อยา่ งเชงิ รุกถงึ แนวทางในการออกแบบเงิน CBDC เพื่อใช้ในการควบคุมระบบเศรษฐกิจในยคุ ดิจติ อลได้อยา่ งมีประสทิ ธภิ าพ 386
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147
- 148
- 149
- 150
- 151
- 152
- 153
- 154
- 155
- 156
- 157
- 158
- 159
- 160
- 161
- 162
- 163
- 164
- 165
- 166
- 167
- 168
- 169
- 170
- 171
- 172
- 173
- 174
- 175
- 176
- 177
- 178
- 179
- 180
- 181
- 182
- 183
- 184
- 185
- 186
- 187
- 188
- 189
- 190
- 191
- 192
- 193
- 194
- 195
- 196
- 197
- 198
- 199
- 200
- 201
- 202
- 203
- 204
- 205
- 206
- 207
- 208
- 209
- 210
- 211
- 212
- 213
- 214
- 215
- 216
- 217
- 218
- 219
- 220
- 221
- 222
- 223
- 224
- 225
- 226
- 227
- 228
- 229
- 230
- 231
- 232
- 233
- 234
- 235
- 236
- 237
- 238
- 239
- 240
- 241
- 242
- 243
- 244
- 245
- 246
- 247
- 248
- 249
- 250
- 251
- 252
- 253
- 254
- 255
- 256
- 257
- 258
- 259
- 260
- 261
- 262
- 263
- 264
- 265
- 266
- 267
- 268
- 269
- 270
- 271
- 272
- 273
- 274
- 275
- 276
- 277
- 278
- 279
- 280
- 281
- 282
- 283
- 284
- 285
- 286
- 287
- 288
- 289
- 290
- 291
- 292
- 293
- 294
- 295
- 296
- 297
- 298
- 299
- 300
- 301
- 302
- 303
- 304
- 305
- 306
- 307
- 308
- 309
- 310
- 311
- 312
- 313
- 314
- 315
- 316
- 317
- 318
- 319
- 320
- 321
- 322
- 323
- 324
- 325
- 326
- 327
- 328
- 329
- 330
- 331
- 332
- 333
- 334
- 335
- 336
- 337
- 338
- 339
- 340
- 341
- 342
- 343
- 344
- 345
- 346
- 347
- 348
- 349
- 350
- 351
- 352
- 353
- 354
- 355
- 356
- 357
- 358
- 359
- 360
- 361
- 362
- 363
- 364
- 365
- 366
- 367
- 368
- 369
- 370
- 371
- 372
- 373
- 374
- 375
- 376
- 377
- 378
- 379
- 380
- 381
- 382
- 383
- 384
- 385
- 386
- 387
- 388
- 389
- 390
- 391
- 392
- 393
- 394
- 395
- 396
- 397
- 398
- 399
- 400
- 401
- 402
- 403
- 404
- 405
- 406
- 407
- 408
- 409
- 410
- 411
- 412
- 413