เอกสารประกอบการเรียน วิชา เบเกอรีเ่ บอื้ งตน ชั้นมัธยมศกึ ษาปท่ี 6 ปการศกึ ษา 2561 ผสู อน นางสาวปณ ชดา ไชยมงคล ตาํ แหนง ครู คศ.1 โรงเรยี นราชประชานเุ คราะห 31 อ.แมแ จม จ.เชยี งใหม สังกัด สํานกั บรหิ ารงานการศกึ ษาพิเศษ
สารบญั 3ลักษณะรายวิชา หนาการแบง หนวยการเรยี นวิชาเบเกอร่เี บือ้ งตน 6คําแนะนําการใชเอกสารประกอบการสอน 7 11หนว ยท่ี 1 ความรเู บอ้ื งตนเกี่ยวกับผลิตภัณฑเบเกอรี่ แนวคดิ สาระการเรยี นรู จดุ ประสงคก ารเรยี นรู 13 แบบทดสอบกอนเรียน 14 ความรเู บ้อื งตนเก่ียวกบั ผลิตภณั ฑเ บเกอร่ี 16 กจิ กรรมฝก ปฏบิ ัติ 18 แบบฝก หดั หนว ยท่ี 1 57 แบบทดสอบหลังเรียน 60 เฉลยแบบฝก หดั หนว ยที่ 1 62 เฉลยแบบทดสอบกอน-หลังเรียน 65 66หนว ยท่ี 2 หลักและวิธีการทาํ คุกกี้ แนวคดิ สาระการเรยี นรู จดุ ประสงคก ารเรยี นรู 67 แบบทดสอบกอนเรียน 68 หลักและวธิ กี ารทาํ คุกก้ี 70 กิจกรรมฝกปฏิบัติ 73 แบบฝก หดั หนว ยที่ 2 113 แบบทดสอบหลังเรียน 117 เฉลยแบบฝก หดั หนว ยที่ 2 119 เฉลยแบบทดสอบกอน-หลงั เรยี น 123 125
สารบญั 4หนว ยท่ี 3 หลักและวธิ ีการทาํ เคก หนา แนวคดิ สาระการเรียนรู จดุ ประสงคก ารเรียนรู 126 แบบทดสอบกอนเรียน 127 ความรเู บือ้ งตนเกย่ี วกบั ผลิตภัณฑเ บเกอร่ี 129 กจิ กรรมฝกปฏบิ ัติ 132 แบบฝก หดั หนว ยท่ี 3 174 แบบทดสอบหลังเรียน 178 เฉลยแบบฝก หดั หนว ยท่ี 3 180 เฉลยแบบทดสอบกอน-หลังเรยี น 184 186หนว ยท่ี 4 หลกั และวธิ กี ารทาํ พาย แนวคิด สาระการเรียนรู จดุ ประสงคก ารเรยี นรู 187 แบบทดสอบกอนเรียน 188 หลกั และวิธีการทาํ พาย 190 กิจกรรมฝกปฏบิ ตั ิ 192 แบบฝก หดั หนว ยที่ 4 232 แบบทดสอบหลังเรียน 236 เฉลยแบบฝก หดั หนว ยท่ี 4 238 เฉลยแบบทดสอบกอน-หลงั เรยี น 241 243หนว ยท่ี 5 หลักและวิธีการทําขนมปง แนวคดิ สาระการเรยี นรู จุดประสงคก ารเรียนรู 244 แบบทดสอบกอนเรียน 245 หลักและวิธีการทําขนมปง 247 กจิ กรรมฝกปฏิบัติ 249 แบบฝก หดั หนว ยที่ 5 294 แบบทดสอบหลังเรียน 298 เฉลยแบบฝก หดั หนว ยท่ี 5 300 เฉลยแบบทดสอบกอน-หลงั เรยี น 303 305
สารบญั 5หนว ยท่ี 6 หลกั และวธิ กี ารทาํ โดนทั หนา แนวคดิ สาระการเรยี นรู จุดประสงคก ารเรียนรู 306 แบบทดสอบกอนเรียน 307 หลกั และวธิ กี ารทาํ โดนทั 309 กจิ กรรมฝก ปฏบิ ตั ิ 311 แบบฝก หดั หนว ยที่ 6 346 แบบทดสอบหลังเรียน 350 เฉลยแบบฝก หดั หนว ยที่ 6 352 เฉลยแบบทดสอบกอน-หลงั เรยี น 355 357หนว ยท่ี 7 การจดั ตกแตง บรรจุภณั ฑแ ละการจดั จําหนา ย แนวคิด สาระการเรยี นรู จุดประสงคก ารเรยี นรู 358 แบบทดสอบกอนเรียน 359 การจัดตกแตง บรรจุภัณฑแ ละการจดั จาํ หนา ย 361 กจิ กรรมฝกปฏบิ ัติ 363 แบบฝก หดั หนว ยที่ 7 373 แบบทดสอบหลังเรียน 378 เฉลยแบบฝก หดั หนว ยที่ 7 380 เฉลยแบบทดสอบกอน-หลงั เรยี น 383 385บรรณานกุ รม
7 การแบงหนวยการเรยี นวิชาเบเกอรี่เบอื้ งตน รหสั วิชา 2402-2017 จาํ นวน 3 หนวยกิต เวลาเรยี น 6 ช่วั โมง/สปั ดาห รวมเวลาเรยี น 108 ชั่วโมง/1 ภาคเรียนสอน ชอ่ื หนว ย / รายการสอน จาํ นวนชว่ั โมง มาตรฐานครง้ั ท่ี ทฤษฏี ปฏบิ ัติ รายวิชาที่1 หนว ยท่ี 1 ความรูเบือ้ งตน เก่ยี วกับผลิตภณั ฑเบเกอรี่ 4 2 1,2 1. การเลอื กใชว ตั ถุดิบในการทาํ เบเกอรี่ 2. การเลอื กอุปกรณเคร่อื งใชป ระเภทที่ใชม อื 3. การเลอื กอุปกรณเครื่องใชประเภทท่ีใชไ ฟฟา หรือเคร่อื งทนุ 4. คําศัพทตาง ๆ เกย่ี วกับเบเกอร่ี 5. สรุปเนอ้ื หาหนว ยท1่ี ความรเู บ้ืองตนเกยี่ วกบั ผลิตภัณฑ เบเกอร่ี 6. กจิ กรรมฝก ปฏิบัติ หนว ยท่ี 1 ความรเู บอ้ื งตน เกย่ี วกับ ผลติ ภัณฑเ บเกอร่ี2-4 หนว ยท่ี 2 หลกั และวธิ กี ารทาํ คกุ ก้ี 3 15 1,2,3 1. ชนิดของคุกกี้ 2. วตั ถดุ ิบและอปุ กรณท สี่ ําคัญในการทาํ คุกก้ี 3. หลกั และวธิ กี ารทาํ คกุ ก้ี 4. เทคนิคที่สําคัญในการทําคุกกี้ 5. สาเหตุทที่ ําใหค กุ กผี้ ดิ คุณลกั ษณะและวิธกี ารแกไข 6. สรุปเนือ้ หาหนวยที่ 2 หลกั และวธิ กี ารทําคกุ ก้ี 7. กจิ กรรมฝก ปฏิบตั กิ ารทาํ คุกกีช้ นดิ ตา ง ๆ 1) เมอแรงคคุกกี้ 2) คกุ กี้เนยสด 3) คกุ กีส้ ิงคโปร 4) คุกกีบ้ ารธญั พชื 5) คุกก้ขี าวโอต 6) คกุ กผ้ี ลไม 7) คุกกแี้ ฟนซี
สอน ชอ่ื หนว ย / รายการสอน 8ครั้งที่ จาํ นวนชว่ั โมง มาตรฐาน ทฤษฏี ปฏบิ ัติ รายวิชาที่5-7 หนว ยท่ี 3 หลกั และวิธีการทาํ เคก 3 15 1,2,3 1. ชนิดของเคก 3 15 1,2,3 2. วัตถุดบิ และอุปกรณท่ีสาํ คัญในการทาํ เคก 3. หลกั และวธิ กี ารทาํ เคก 4. เทคนิคที่สําคัญในการทําเคก 5. สาเหตทุ ีท่ าํ ใหเ คก ผดิ คณุ ลกั ษณะและวธิ ีการแกไข 6. สรุปเนอื้ หาหนว ยท่ี 3 หลกั และวธิ กี ารทาํ เคก 7. กจิ กรรมฝก ปฏิบัติการทําเคกชนิดตาง ๆ 1) เคก เนยสด 2) เคก ผลไม 3) เคก ฝอยทอง 4) ชฟิ ฟอ นเคก ใบเตยไสค รมี มะพราวออ น 5) เคก มว นไสครมี8-10 หนว ยท่ี 4 หลกั และวธิ กี ารทาํ พาย 1 ชนิดของพาย 2. วัตถดุ ิบและอุปกรณท ส่ี าํ คญั ในการทาํ พาย 3 หลกั และวธิ กี ารทําพาย 4. เทคนิคที่สําคัญในการทําพาย 5. สาเหตุท่ที ําใหพ ายผิดคณุ ลกั ษณะและวธิ ีการแกไข 6. สรปุ เน้อื หาหนว ยท่ี 4 หลกั และวธิ กี ารทําพาย 7. กจิ กรรมฝก ปฏบิ ัตกิ ารทําพายชนิดตาง ๆ 1) ทารตสับปะรดและกังหันสับปะรด 2) พายลูกตาล 3) พัฟกรอบ 4) พฟั ไสกรอก 5) พัฟขาวโพดมะพรา วออ น
9สอน ชอ่ื หนว ย / รายการสอน จาํ นวนชว่ั โมง มาตรฐานคร้ังที่ รายวิชาที่ ทฤษฏี ปฏบิ ตั ิ11-13 หนว ยท่ี 5 หลกั และวธิ ีการทําขนมปง 1,2,3 1. ชนิดของขนมปง 3 15 2. วัตถุดิบและอุปกรณที่สําคัญในการทําขนมปง 3. หลกั และวธิ กี ารทําขนมปง 4. เทคนิคที่สําคัญในการทําขนมปง 5. สาเหตทุ ที่ ําใหขนมปงผิดคุณลักษณะและวธิ กี ารแกไ ข 6. สรุปเน้อื หาหนว ยท่ี 5 หลกั และวธิ กี ารทําขนมปง 7. กจิ กรรมฝก ปฏิบัติการทําขนมปงชนิดตาง ๆ 1) ขนมปงขาไกงาดํา 2) ขนมปงปอนดสังขยาใบเตย 3) ขนมปงโรลหมูหยอง 4) ขนมปงไสกรอก 5) ขนมปงไสฝอยทอง 6) ขนมปงไสผ ลไม14-16 หนว ยท่ี 6 หลกั และวิธีการทําโดนทั 3 15 1,2,3 1. ชนดิ ของโดนทั 2. วตั ถดุ บิ และอปุ กรณท ส่ี ําคญั ในการทาํ โดนัท 3. หลกั และวธิ กี ารทาํ โดนทั 4. เทคนิคที่สําคัญในการทําโดนัท 5. สาเหตุท่ที าํ ใหโ ดนทั ผิดคุณลักษณะและวิธกี ารแกไ ข 6. สรุปเนือ้ หาหนว ยที่ 6 หลกั และวธิ กี ารทาํ โดนทั 7. กจิ กรรมฝก ปฏบิ ตั ิการทําโดนัทชนิดตาง ๆ 1) โดนทั ฟก ทอง 2) โดนทั ชอ็ กโกแลตเมลด็ อลั มอนด 3) โดนทั ไสฟ ล ลิ่งแยมสตรอเบอรแ่ีละบลเู บอรรี่ 4) โดนทั ไสก รอก 5) โดนัทเคลือบช็อกโกแลต 6) โดนทั ซปุ ขา วโพด
10สอน ชอ่ื หนว ย / รายการสอน จาํ นวนชว่ั โมง มาตรฐานครงั้ ที่ รายวิชาที่ ทฤษฏี ปฏิบัติ17 หนว ยท่ี 7 การจัดตกแตง บรรจุภัณฑและการจดั จําหนาย 1,2,3 33 1. การจัดตกแตงและเลือกใชบรรจุภณั ฑ 2. หลกั การจดั จาํ หนา ยและหลกั การกาํ หนดราคา 3. สรุปเน้อื หาหนว ยท่ี 7 การจัดตกแตงบรรจุภณั ฑแ ละ การจดั จาํ หนา ย 4. กจิ กรรมฝกปฏบิ ัติการจัดตกแตง บรรจุภณั ฑแ ละ การจดั จาํ หนา ยคกุ ก้ี เคก พาย ขนมปง และโดนทั18 สอบปลายภาค 1 5 1,2,3 23 85 รวม
13 หนว ยท่ี 1ความรูเบ้อื งตน เกยี่ วกบั ผลติ ภัณฑเบเกอร่ี
14 หนวยที่ 1 ความรเู บือ้ งตนเก่ียวกบั ผลติ ภัณฑเ บเกอรี่แนวคิด ปจจัยท่ีสําคญั ในการทาํ เบเกอรใ่ี หไ ดคณุ ลกั ษณะท่ีดี มีคุณภาพในเบื้องตน คอื การเลอื กใชวตั ถุดิบทด่ี ี และการรจู กั เลอื กใชอ ปุ กรณ เครือ่ งมือ เครอ่ื งใช ใหถูกตองเหมาะสม กับงาน นบั เปนความรูพ้ืนฐานท่จี ําเปนตอ งเรยี นรู และทําความเขา ใจกอ นการทําผลติ ภณั ฑเบเกอร่ี วตั ถุดิบทส่ี ําคญัในการทําเบเกอรี่ ไดแ ก แปงสาลี น้ําตาลทราย ไขมัน นา้ํ ไข เกลอื นม สารทช่ี ว ยทาํ ใหขึน้ ฟู (ยสี ตเบคกงิ้ โซดา ผงฟู แอมโมเนยี ) สารเสรมิ คณุ ภาพ สารท่ใี หกล่ินรส และสวนผสมอน่ื ๆ สว นอุปกรณเคร่อื งมือ เครอื่ งใช ทส่ี ําคญั ในการทาํ เบเกอรี่ ได แก เครื่องใชประเภทชงั่ ตวง วัด เชน เครอ่ื งช่งัถว ยตวงของเหลวและของแหง ชอ นตวง เครอ่ื งใชประเภทเตรยี มและผสม เชน ท่รี อนแปง อางผสมตะกรอ มือ พายยาง ลูกกลิ้งตดั แปง พาย มดี ฟน เลอ่ื ย สเ ปตตูลา พิมพกดคกุ ก้ี หัวบบี คุกกี้ พายไมแปรงไมคลึงแปง ที่ผสมแปง ทัพพีแบน กระดาษลอกลาย เครอ่ื งใชประเภทอบ เชน ถาดอบขนมตะแกรง และพิมพชนิดตาง ๆ และเคร่อื งใชประเภททใี่ ชไฟฟาหรอื เครือ่ งใชประเภททนุ แรง ไดแกเครื่องผสมอาหาร หัวตีรปู ตะขอ หัวตีรปู ใบไม และหัวตีรูปตะกรอ เครอื่ งผสมสอ งแขน ตหู มกั โดและเตาอบ ผเู รียนตอ งศกึ ษาเรียนรู และทําความเขาใจในการเลือกใชว ตั ถดุ ิบ และเคร่ืองมือเครื่องใชใ หถ กู ตองเหมาะสมกับการทาํ ผลติ ภณั ฑเบเกอร่ชี นิดตา ง ๆสาระการเรยี นรู 1. การเลอื กใชวัตถุดบิ ในการทําเบเกอร่ี 2. การเลอื กอปุ กรณเ คร่ืองใชประเภททใี่ ชม อื 3. การเลือกอปุ กรณเ ครอื่ งใชป ระเภทท่ีใชไ ฟฟาหรือเคร่ืองทนุ แรง 4. คาํ ศัพทตา ง ๆ เก่ยี วกับเบเกอรี่
15จดุ ประสงคก ารเรยี นรู 1. นักเรียนสามารถเลือกใชวัตถดุ บิ ในการทาํ เบเกอรีไ่ ดถ กู ตองเหมาะสม 2. นักเรียนสามารถเลอื กอปุ กรณ เครอื่ งใชประเภททใ่ี ชม อื และประยุกตใชเทคโนโลยี ไดเหมาะสมกับงาน 3. นักเรียนสามารถเลอื กอุปกรณเ คร่ืองใชป ระเภทท่ีใชไฟฟา หรอื เครือ่ งทนุ แรงและ ประยุกตใชเทคโนโลยีไดเหมาะสมกับงาน 4. นักเรียนสามารถบอกความหมายคําศัพทตาง ๆ เกี่ยวกับเบเกอรี่ได 5. นักเรียนสามารถนําความรูไปใชปฏิบัติงานการทําเบเกอรี่เบื้องตนไดถูกตอง 6. นกั เรียนมีกิจนสิ ัยในการปฏิบตั งิ านดวยความเปน ระเบียบ เรยี บรอ ย ประณีต รอบคอบ และปลอดภัยในการปฏิบัติงาน
16 แบบทดสอบกอ นเรียนวชิ า เบเกอรเี่ บอื้ งตน หนวยท่ี 1 เรอ่ื ง ความรูเบ้อื งตน เกยี่ วกับผลิตภัณฑเ บเกอรี่ ระดับชน้ั ปวช. 2จาํ นวน 10 ขอ ใหเวลาทาํ 15 นาทีคําสัง่ จงทาํ เครอ่ื งหมายกากบาท (X) ลงในกระดาษคาํ ตอบที่ถูกทส่ี ดุ เพยี งขอ เดียว1. ใครเลอื กใชนํ้าตาลไมเหมาะสม ก. นาย ก ใชน ้าํ ตาลทรายปนทําเคกเนย ข. นาย ข ใชน้ําตาลทรายแดงทําคุกกี้ผลไม ค. นาย ค ใชน ้าํ ตาลไอซ่งิ ทาํ คุกกี้เนย ง. นาย ง ใชน ้ําตาลทรายหยาบยอ มสี ตาง ๆ เพอ่ื ใชตกแตง หนา ขนม2. ขอใดมีความสัมพันธเ ชน เดยี วกับ แปง ขนมปง : ขนมปง ก. แปงเคก : พาย ข. แปง โฮลวตี : เคก ค. แปงอเนกประสงค : คุกก้ี ง. แปงขาวโพด : โดนัทยีสต3. ใครเลอื กใชสารท่ชี วยทาํ ใหขึน้ ฟไู ดถกู ตอ ง ก. นาย ก. ใชยีสตทําคุกก้ีใหข ้ึนฟู ข. นาย ข. ใชผงฟูทาํ เคกใหข ้นึ ฟู ค. นาย ค. ใชเบคกิ้งโซดาทําขนมปงใหขึ้นฟู ง. นาย ง. ใชแอมโมเนียทําโดนทั ใหข ้ึนฟู4. ใครเลอื กใชไขมันไดถ ูกตอง ก. นาย ก. ใชเนยเทียมทาพิมพ ข. นาย ข. ใชเนยสดทําชิฟฟอ นเคก ค. นาย ค. ใชเ นยขาวทอดโดนทั ง. นาย ง. ใชเพสตรี้มาการีนทําพายรวน5. ขอ ใดเปน วตั ถุดบิ ที่ตอ งระมัดระวงั อยางมาก ในการชั่ง ตวง วดั ก. ผงฟู เบคกง้ิ โซดา ข. เนยขาว มาการีน เนยสด ค. นา้ํ ตาลไอซิง่ น้าํ ตาลทรายปน ง. แปงเคก แปงอเนกประสงค
176. ขอ ใดมคี วามสัมพันธเ ชนเดียวกบั กระบอกกดคกุ ก้ี : กดคกุ ก้ี ก. มีดฟนเลอื่ ย: ปาดเคก ข. ทพั พแี บน : ทอดโดนทั ค. สเปตตลู า : ตดั เนย หรอื แปง โด ง. แปรง : ทาเนยเตรียมพิมพ7. ขอ ใดเปน เครื่องมือที่ใชสําหรับผสมแปงกับไขมัน ก. ไมคลึงแปง ข. ทตี่ ดั แปง ค. สเปตตลู า ง. เบลนเดอร8. ขอใดบอกความหมายของคําศัพทเบเกอรี่ไมถกู ตอ ง ก. เพสตร้มี าการนี คือ เนยเทยี มชนดิ ท่มี จี ดุ หลอมเหลวสงู ข. แปงอเนกประสงค คือ แปงสาลีทีม่ โี ปรตีนตาํ่ เหมาะสําหรับทําขนมปง ค. โด คอื สว นผสมระหวาง แปง กบั นํ้า และอาจมีสว นผสมอื่น ๆ แลวนํามานวดใหเ ขา กนั ง. น้ําตาลไอซิง่ คือ นํ้าตาลทรายท่ีบดจนละเอียด แลวเติมสวนผสมของแปงขา วโพดลงไป9. ใครเลือกใชอ ุปกรณไ ดถูกตอง ก. นาย ก. ใชเครื่องผสมสองแขนทําขนมปง ข. นาย ข. ใชเครื่องผสมอาหารหัวตรี ปู “ตะกรอ” ทําเคกเนย ค. นาย ค. ใชเคร่ืองผสมอาหารหวั ตีรปู “ใบไม” ทําเคกไข ง. นาย ง. ใชเ ครื่องผสมอาหารหวั ตีรูป “ตะขอ” ทําสปองจเคก10. เคร่ืองผสมอาหารหวั ตรี ูป “ตะขอ” ใชสําหรับทําอะไร ก. นวดแปง ข. ตเี นยกับไข ค. ตีเนยกับนํ้าตาล ง. ตีไขใ หเกิดฟองในเวลาอนั ส้ัน
18 หนว ยที่ 1 ความรเู บอ้ื งตน เกีย่ วกบั ผลิตภัณฑเ บเกอรี่1. การเลอื กใชว ตั ถดุ ิบในการทาํ เบเกอรี่ การทําเบเกอร่ีใหม รี สชาติหอม หวาน มนั มรี ูปรางท้งั ภายนอกและภายในที่ดนี ัน้จําเปนตอ งเรยี นรู และทําความเขา ใจเกี่ยวกับวัตถดุ บิ ชนิดตา งๆ และสามารถเลอื กใชวัตถดุ บิ ทดี่ ีมีคุณภาพมาผลิตผลติ ภัณฑเ บเกอร่ใี ห มีคณุ ภาพ ดงั นนั้ การเลอื กใชว ตั ถุดบิ ในการทําเบเกอรี่จงึ นบั เปนปจ จยั ข้นั พืน้ ฐานท่สี ําคญั ซึ่งตองเรียนรูแ ละทาํ ความเขา ใจตัง้ แตแ รก 1.1 แปง สาลี แปงสาลเี ปนสวนผสมสาํ คัญ และจําเปน สําหรับการทําผลิตภัณฑเ บเกอรท่ี กุ ชนิด เพราะในแปงสาลีมีโปรตีน 2 ชนิด คือ กลเู ตนนิ (Glutenin) และไกลอะดนิ (Gliadin) รวมกนั อยู เมือ่ นาํ ไปผสมกับนาํ้ ในอัตราสวนทีเ่ หมาะสมจะทําใหเ กิดสารทเี่ รียกวา “ กลูเต็น ” (Gluten) มลี ักษณะเปน ยางเหนยี ว ยดื หยนุ ได กลเู ตน็ นเ้ี ปนตัวทีช่ วยเกบ็ กาซ และทําใหเ กิดโครงรา งทจี่ าํ เปนตอ ผลิตภัณฑเบเกอร่ี เมอ่ื ไดร บั ความรอ นจากเตาอบ จะมีลักษณะเปนโครงรางแบบฟองน้ํา แปงสาลีที่มีจําหนายในทองตลาด ในปจ จบุ ัน มหี ลายชนดิ แตละชนิดมีคุณสมบัตพิ ืน้ ฐานและคณุ สมบตั พิ เิ ศษท่แี ตกตางกั นไป ขนมชนดิ เดยี วกนั สตู รเดยี วกนั หากใชแ ปง สาลตี า งชนดิ กนัอาจทําใหขนมมีรสชาติ หรอื ลักษณะทแ่ี ตกตาง กันได ดังนัน้ การเลอื กใชแ ปงสาลที ่ีถกู ตอง ในการทําขนมจึงมีความสําคัญสําหรับการทําผลิตภัณฑเบเกอรี่เปนอยางยิ่ง 1.1.1 หลักเกณฑทใ่ี ชในการพิจารณาแปง สาลี 1) เร่อื งของสแี ปง (Color) ควรมีสีขาวสะอาดหรือสีครีม ปราศจากสิ่งเจือปน เพราะหากมสี ง่ิ เจือปนจะทาํ ใหเ นอื้ ของขนมมคี ุณภาพไมด ี 2) กําลังของแปง (Strength) หมายถึง กําลังของแปงที่สามารถอุมกาซที่เกิดขึ้นในระหวา งหมกั ไดดีเพือ่ ใหผ ลิตภัณฑมกี ารขึ้นฟแู ละปรมิ าตรดี
19 3) ความทนตอ สภาพตาง ๆ (Tolerance) คือ ความสามารถ ในการทนตอสภาพการผสมนาน ๆ ทนตอการรดี และการกระทาํ อื่นๆโดยกลเู ต็นไมฉีกขาด ซึ่งทําใหแ ปงสาลีหมกั ไดน านและไดผลิตภณั ฑท ่มี ีปรมิ าตรดี 4) ความสามารถของแปง ในการดดู ซมึ นาํ้ สูง (High Water Absorption) จะชว ยใหผลิตภัณฑม ปี ริมาตรมากขึน้ เนอ้ื ขนมไมแ หง 5) ความสม่ําเสมอของแปง (Uniformity) ทั้งความสม่ําเสมอของสี ขนาดของเม็ดแปงและอ่ืน ๆ ถา แปง สาลขี าดความสมํ่าเสมอทําใหผ ลิตภณั ฑท่ี ทําในแตล ะครง้ั มลี กั ษณะไมเหมอื นกนัหรือไมมีความเปนมาตรฐาน 1.1.2 ชนดิ ของแปงสาลี แปง สาลี แบงออกเปน 3 ชนดิ หลกั ๆ ดังนี้ 1) แปงขนมปง (Bread Flour) เปน แปง สาลที ี่ทํามาจากขาวสาลีชนิดแข็ง (Hard Wheat)มีโปรตีนสงู ถึงรอ ยละ 12-14 เนือ้ แปง หยาบ และมสี นี วลเขมกวาแปงชนิดอ่นื เม่ือถูดว ยมอื จะรสู ึกสาก ๆ และเมอ่ื ใชน ิ้วกดลงบนแปง แปง จะ ไมเ กาะตัวกนั แปงชนิดนี้เหมาะสําหรับทํา ขนมปง และผลติ ภัณฑท ีใ่ ชย สี ตเ ปนตัวทําใหข ึ้นฟู เพราะมีคณุ สมบัติดดู ซมึ น้าํ สูง เมื่อนํามานวดผสมกบั น้ําจะทําใหก อ นแปง มคี วามเหนยี วและยดื หยนุ ดี เมอ่ื นาํ มาอบ จะทําใหเ กดิ โครงรา งที่มลี ักษณะคลายฟองนาํ้ตัวอยางของแปง ชนดิ น้ใี นทองตลาด ไดแก แปงตราหาน และแปงตรายานอวกาศ เปน ตน 2) แปง อเนกประสงค (All Purposed Flour) เปนแปงสาลีที่ ไดจากการผสมขาวสาลีชนดิ แขง็ กบั ชนดิ ออ น ในสดั สวนทเี่ หมาะสมเขา ดวยกนั จึงมีลักษณะของแปงขนมปงและแปงเคกรวมกนั มีโปรตีนสูงปานกลาง ประมาณรอยละ 10-11 มคี ุณสมบัตดิ ูดซมึ นํา้ ป านกลาง แปง ชนดิ น้ีสามารถใชทําขนมอบไดหลายชนิด เชน คุกก้ี พาย โดนทั เคกบางชนิด ขนมปงจืด และขนมปงหวานสารที่ ใชทําให ขึน้ ฟู สามารถใช ไดท ้ัง เบคกิ้งโซดา ผงฟู และยีสต ตวั อยาง ของ แปง ชนดิ น้ีในทองตลาด ไดแ ก แปงตราวาว และแปงตรากบ เปน ตน 3) แปง เคก (Cake Flour) เปนแปงสาลีที่ทํามาจากขาวสาลีชนิดออน (Soft Wheat)มีโปรตนี ตาํ่ ประมาณรอ ยละ 7-9 เนอื้ แปงสีขาว เนยี น ละเอียด เบา สมั ผสั แลว รสู กึ ออนนุม ลืน่ มอืมีคุณสมบตั ดิ ดู ซึมนา้ํ ตํ่า เม่อื นําไปผานขบวนการฟอกสี ทําใหแปง มีความสามารถในการ ดดู ซึมนํ้าและไขมนั ได มากขึ้น แปง ชนดิ น้ี เหมาะสําหรับ ทาํ เคก สารท่ีใชท าํ ใหข้นึ ฟู สามารถใช ไดทั้งผงฟูและเบคกิ้งโซดา ตัวอยา งของแปง ชนดิ น้ีในทองตลาด ไดแ ก แปงตราพัดโบก และแปง ตราบวั แดงเปนตน
20 ภาพท่ี 1.1 แปงขนมปงและตัวอยางผลติ ภัณฑใ นทองตลาดภาพท่ี 1.2 แปงอเนกประสงคและตัวอยางผลติ ภณั ฑในทองตลาด ภาพที่ 1.3 แปงเคกและตวั อยางผลิตภัณฑใ นทองตลาดภาพที่ 1.4 แปง สาลีโฮลวตี ภาพท่ี 1.5 แปง ขาวโพด ภาพที่ 1.6 เเปง คัสตารด
21 นอกจากน้ี ยงั มีแปง ชนดิ อ่ืนๆ ทีน่ ยิ มใชเ ปน สว นผสมในการทําผลติ ภณั ฑเบเกอรี่ไดแ ก แปง สาลโี ฮลวตี แปงขาวโพด และเเปงคัสตารด ซึ่งนิยมใชเปนสว นผสมทําไสพ าย ไสขนมปงและไสโ ดนทั ฯลฯ แปงสาลโี ฮลวีต (Whole Wheat Flour) เปนแปงสาลีทผี่ ลิตจากขาวสาลีชนดิ ออ นท่ยี ังไมไดขัดขาวจึงมีสวนของปลายเมล็ดขาวหักรวมอยู นิยมใชทําขนมปง และขนมอบเพอ่ื สุขภาพ แปงขาวโพด (Corn Flour) เปนแปงที่ผลติ จากขา วโพด มีสีขาวออกเหลอื ง เนอื้ แปงเนยี นลนื่ มือ เปน แปง ทใ่ี หค วามขนใชทําไสขนมชนดิ ตา ง ๆ เวลาใชต องละลายนาํ้ กอ นเพอื่ ไมใหจบั ตวัเปน เมด็ และชว ยใหข น อยตู ัว เเปง คสั ตารด (Custard Powder) เปน แปง ท่ใี ชผสมทาํ ไสครมี ทาํ ใหไสของขนมขน มสี ีครมี และกล่ินหอม 1.1.3 การเลอื กซือ้ แปง แปงที่ ดีควรมีลักษณะละเอียด สีขาว หรอื สีครีมตามชนิด ของแปง มสี ีสมํ่าเสมอสะอาด แหง สนทิ ไมมีกลิน่ ปราศจากมอด หรือแมลงชนิดตางๆ เวลาเลือกซือ้ แปง ควรเลอื ก ใหเหมาะสมถูกตอ งกับชนิดของผลิตภัณฑ โดยตรวจสอบวนั เดอื น ปท ่ีผลิต วนั หมดอายุ และไมควรซื้อแปงมาเก็บไวนาน ๆ เพราะจะทําใหแปงเกา มีกลิน่ เหม็นสาบ 1.1.4 การเกบ็ รักษาแปง การเก็บรักษาแปง ควรเกบ็ ไวในหองท่ีสะอาด มีอากาศถายเทดี ปราศจากกลิ่น ถา ใชไมหมด ควรเกบ็ ใสภ าชนะทแ่ี หง สะอาด มีฝาปดสนิทเพื่อปองกันการรบกวนจากแมลง 1.2 ไขมนั ไขมันทใ่ี ชใ นการทําผลิตภณั ฑเ บเกอรท่ี ํามาจากไขมนั สตั ว และไขมันพชื เชน ไขมนั เนยจากนม น้าํ มนั จากเมล็ด งา น้าํ มนั จาก เมลด็ ฝาย น้าํ มันจาก ถัว่ ตา ง ๆ ไขมันทําหนาท่ีจบั อ ากาศในระหวางการตีสว นผสมชวยกักเก็บกา ซทีเ่ กิดขึ้นชว ยหลอ ลืน่ และปอ งกนั การจับตัวของกลูเต็นในขณะผสม เพราะไขมันจะแทรกตัวหอ หมุ กลูเต็นทําใหเ กดิ โครงรา งผลิตภณั ฑท ี่ออ นนมุ คงตัว มีกลนิ่ รสทด่ี ีและชว ยเพมิ่ ปรมิ าตรใหแ กผลิตภัณฑ 1.2.1 หนา ท่ีของไขมันในการทาํ ผลิตภณั ฑเบเกอรี่ ประเภทตาง ๆ 1) สาํ หรบั ขนมปง ไขมันทําหนา ที่ใหค วามออ นนมุ และกลิน่ รสทดี่ ี โดยไขมนั จะชว ยเกบ็ กา ชทีเ่ กดิ ข้ึน ปองกันไมใหอากาศภายนอกเขา ชว ยหลอล่นื กลเู ตน็ ใหย ดื หยุนไดดี ทําให มีปริมาตรเพิม่ 2) สาํ หรบั เคก ไขมัน จะเปนตัวเก็บอากาศระหวางการตี เนยกับน้ําตาล ชว ยทาํ ใหสว นผสมข้ึนฟเู ปนครมี ทําใหเคกมีกลิน่ รส ความนุม และชวยยืดอายุการเกบ็ ไดน านข้ึน
22 3) สาํ หรบั คุกก้ี และพาย ไขมันทําใหเกิดความคงตัวและ เกดิ โครงร างเฉพาะ ของผลิตภัณฑ 1.2.2 ชนดิ ของไขมนั ท่ีนยิ มใชใ นการทาํ ผลิตภัณฑเ บเกอร่ี 1) เนยสด (Butter) ทํามาจากไขมนั ในนาํ้ นมสดโดยการปนแยกไขมันออกจากน้ํานมมีสีเหลอื ง กล่ินหอม มีปริมาณไขมันรอ ยละ 70-80 มีราคาแพงกวาเนยขาว และเนยเทียม เนยสดท่ีใชกันทั่วไปจะเปนกอ นสีเ่ หลี่ยมหอ ดว ยอลูมเิ นียมฟอย ล มี 2 ชนดิ คือ ฟอยลสเี งนิ เปน เนยสดชนดิ จดื และฟอยลส ที องเปน เนยสดชนดิ เคม็ ซึง่ มเี กลือเปนสว นผสมอยรู อยละ 3 เวลาใชต องระวงัเพราะหากใชผิดประเภทจะทําใหรสชาติของขนมเปลี่ยนไป ในการทําขนมนิยมใชเนยสดผสมกับเนยเทยี ม หรอื เนยขาว เพราะ เนยสดมีรสชาติหอมอรอ ย แต เนยเทียมและเนยขาว สามารถตีใหขึ้นฟูเปน ครีมไดงายกวา เนยสด 2) เนยขาว (Hydrogenated Vegetable Shortening) ทาํ มาจากนํ้ามนั พืช บริสทุ ธ์ิปราศจากกลิ่น เชน น้ํามนั มะพรา ว นํ้ามนั ถัว่ เหลอื ง นํา้ มนั ขาวโพด โดยนาํ ไปผาน กระบวนการเตมิไฮโดรเจน ทาํ ใหน ้ํามันแขง็ ตวั เปนเนยแขง็ ที่ มีสีขาว ไมม ีกลนิ่ รส เปน ของแข็งทอ่ี ณุ หภูมิหองมปี ริมาณไขมันรอ ยละ100 นยิ มใชในการทําขนมปง ตีครมี แตง หนา เคก ทาพิมพ และใชท อดโดนทั 3) เนยเทยี มหรอื มาการนี (Margarine) ทํามาจากไขมันพืช หรอื ไขมนั สตั ว โดยนํามาผสมกับนม หรอื ครมี และปรงุ แตง กล่ินรส สี ลักษณะรูปรางใหใ กลเ คยี งกบั เนยสด จึงเรยี กอีกชอื่ วา“เนยเทยี ม ” มีลกั ษณะเปนของแข็งทอ่ี ณุ หภมู หิ อ ง บางตํารับนิยม ใชผสมกับเนยสดในการทําเคกคุกกี้ และทําพาย เพราะเนยเทยี มจะตใี หข ึน้ ฟูไดเรแ็วละงายกวา เนยสดทําใหส ว นผสมไมเ หลวในเวลาตีหรอื บางชนิดมีจุดละลายสูงจึงนํามาใชคลึงกับแปงทําพายชั้นเชน เพสตรีม้ าการนี (Pastry Margarine) 4) นํา้ มนั พืช (Vegetable Oils) ทํามาจากเมล็ดแหงของพืช ทใี่ หน้าํ มนั เชน ถว่ั เหลืองรําขาว เมลด็ ดอกทานตะวนั เมลด็ ขา วโพดและ ปาลม มีสเี หลอื งออ น นยิ มใชแทนเนยในการทําเคกบางชนิด เชน ชิฟฟอนเคก เปน ตนภาพท่ี 1.7 เนยสด ภาพที่ 1.8 เนยขาว
23ภาพที่ 1.9 มาการีน ภาพที่ 1.10 นาํ้ มนั พชื 1.2.3 การเลือกซือ้ ไขมนั ไขมนั ทดี่ ีควรเปน ไขมันท่สี ดใหม ไมมีสิ่งปลอมปน ไมมีกลนิ่ เหม็นหืน มสี ีสมาํ่ เสมอไมมีตะกอนและควรเลอื กซ้ือใหเหมาะสมกับผลิตภณั ฑท ่ตี องการทํา โดยตรวจสอบวนั เดอื น ป ที่ผลิตและวนั หมดอายุ มีเครื่อง หมาย รบั รอง จากสํานักคณะกรรมการ อาหารและยา (อย.) กระทรวงสาธารณสุข และอยใู นบรรจุภัณฑท ่มี ีสภาพดี 1.2.4 การเกบ็ รกั ษาไขมนั ไขมันควรเกบ็ ลงใน ภาชนะทม่ี ฝี าปด ปองกัน ฝนุ ละออง และการดดู กลน่ิ การเกบ็รักษาควรเก็บใหพ น จากแสงและความรอ นหรอื ทท่ี ่มี อี ุณหภูมสิ ูงเพราะจะทําใหม ีกล่ินหนื ไดง าย ไมควรเกบ็ ใกลกับสงิ่ ทที่ ําใหเ กดิ กลน่ิ เพราะไขมันจะดูดกลิ่นแปลกปลอมเขาไปได การเก็บรักษา ไขมันควรเกบ็ ตามคุณสมบัติของไขมันคอื เนยสดควรเก็บในตูเยน็ สว นไขมนั ชนดิ อน่ื เชน เนยขาวเนยเทยี มและน้ํามันพชื สามารถเก็บไวใ นอุณหภูมิหอ งได แตถ าใชง านไมห มดควรเกบ็ ไวในตเู ย็น เพอ่ื ยดื อายุการใชงานใหน านขน้ึ 1.3 ไข ไขเปนอาหารที่มีคุณคาทางโภชนาการสูง ทง้ั ไขมัน โปรตนี วิตามินและเกลือแร ไขไกประกอบดวยสวนสาํ คญั หลักสองสวน คือ ไขแดง (Egg Yolk) และไขขาว(Egg White) ไขเ ปนสว นผสมที่ทําใหโครงราง ของขนมอบนุม ฟู ภายหลังการอบ ชว ยเพม่ิ กลน่ิ รสใหเขมขน มีสีสวยชวยเพิ่มปริมาตรของผลติ ภัณฑ และเพิ่มคุณคาทางอาหาร เพราะไขมีแคลเซยี ม ฟอสฟอรสั และธาตุเหล็กสงู ในการทําผลติ ภัณฑเ บเกอร่ีสว นใหญนยิ มใชไ ขไ กม ากกวาไขเปด เน่อื งจากมี กล่ินคาวนอ ยกวา
24 ภาพท่ี 1.11 ไขไก 1.3.1 การเลือกซื้อไข ไขท่มี คี ณุ ภาพดี ตองมีความสดใหม สะอาด จบั แลวสากมือ มนี วล มีชองอากาศไมลึกเมื่อนําไปลอยน้ําไขจะจมลงกนภาชนะ เมอ่ื ตอกไขจะเห็นลักษณะของ ไขแ ดง นนู อยตู รงกลางไขขาวขน เปน เจล มีความคงตัว และยดึ แนน กบั ไขแ ดง ไมมกี ล่ินเหมน็ การเลือกซ้ือไขไกควรเลอื กซือ้ ไขที่มีความสดใหม มเี ปลอื กสะอาด เพราะถา เปลือกไขสกปรกจะมีเชื้อจลุ ินทรยี ตดิ อยู ซึง่ อาจจะแทรกซึมเขาไปในไขได ทําใหไ ขเ สยี เร็ว 1.3.2 การเก็บรกั ษาไข 1) เลอื กเกบ็ เฉพาะไขส ดใหม และเปลอื กสะอาด เพอ่ื ปอ งกนั ไมใหไขเสยี เร็ว 2) ไมควรลางไขกอนถึงเวลาประกอบอาหาร เพราะจะทําใหลางเมือกที่หุมเปลือกไขออกไป ทําใหกาซและน้ําระเหยจากฟองไขงา ยขน้ึ และจลุ ินทรียแ ทรกเขาไปทําใหไ ขเ สยี เรว็ 3) ควรเกบ็ รักษาไขในท่ีที่อณุ หภูมติ ํ่าหรอื เกบ็ ในชอ งเกบ็ ไขของตูเยน็ โดยตง้ั ดา นปานของไขข้ึนเวลาเกบ็ เพราะโพรงอากาศทอี่ ยูดานปานจะไมถกู นํา้ หนักของเนอ้ื ไขก ดทบั และไขแ ดงจะไมล อยตวั ขึ้นเวลาเกบ็ 4) ควรเก็บไขในที่สะอาดปราศจากกลิ่น มีอากาศถายเท เนื่องจากเปลือกไขมีรูพรุนทาํ ใหสารที่มีกลนิ่ ระเหยผานเขาไปได 1.4 นาํ้ ตาล นา้ํ ตาลเปนสว น ผสมท่ี ใหค วามหวาน แกข นมอบ และเปน อาหารของยีสตในระหวางการหมัก แปง ทาํ ใหแ ปงข้ึนฟู ชว ยใหการตีครีมและตีไขมีความคงตัว และข้ึ นฟู รวมท้งั ชว ยเก็บความชื้นให ผลิตภัณฑ ชว ย ใหสีผวิ ของผลิตภณั ฑม ีความ สวยงามขนึ้ และเพิ่มคุณคาทางอาหารนอกจากน้ี ยงั ใชเ ตรยี มเปน สว นผสมของนํ้าตาลไอซิ่งสาํ หรับผลิตภณั ฑเบเกอรีช่ นดิ ตาง ๆ
25 1.4.1 ชนดิ ของนาํ้ ตาลที่ใชในการทําผลติ ภัณฑเ บเกอร่ี 1) นํา้ ตาลทรายขาว (Granulated Sugar) มีความละเอียดตางกัน ตง้ั แตน ํา้ ตาลทรายชนดิ ละเอยี ด ธรรมดา และหยาบ น้ําตาลทราย ขาวทใี่ ชทําคกุ กี้ และเคก ไดด ี ควรเปนน้ําตาลทรายชนดิ ละเอยี ด หรือน้ําตาลทรายปน เพราะจะผสมเขากบั สวนผสมอน่ื ๆไดดี ถา นํ้าตาลทรายมีขนาดใหญและหยาบจะไมสามารถละลายไดหมดเวลาตีกับเนย สวน น้ําตาลทราย ขาวชนดิ ธรรมดาสามารถละลายไดหมดเวลา ตกี ับไขในการทําแยมโรล สวนน้ําตาลทราย ชนดิ หยาบใชโรยบนหนาคกุ ก้ี หรอื ยอ มสีตางๆ เพือ่ ตกแตง หนา ขนมใหส วยงาม 2) นาํ้ ตาลไอซ่ิง(Icing or Confectionery Sugar)เปน นํ้าตาลทมี่ ีลกั ษณะเปน ผงละเอยี ดมีแปงขาวโพดผสมอยูประมาณรอ ยละ 3 เพอ่ื ปองกันการจับตัวกนั เปนกอน นิยมใชท ําเปน สว นผสมในการทาํ คุกกช้ี นิดตา ง ๆ 3) นาํ้ ตาลทรายแดง (Brown Sugar) เปนนํา้ ตาลดิบ ท่ีมคี วามชืน้ สูง มีสนี าํ้ ตาลออนจนถงึ นํา้ ตาลเขม คอ นขางรว น แตม ีการจบั ตวั เปน กอ น กอ นใชค วรบ้ีให ละเอยี ดกอ น นาํ้ ตาลชนดิ น้ีใชส ําหรับทําคุกกี้และเคกบางชนิด ที่ตองการกลิ่นรสและสีของน้ําตาลทรายแดง เชน คกุ ก้ขี า วโอตฟรุตเคก เปนตน 1.4.2 การเลือกซ้ือน้าํ ตาล นา้ํ ตาลทด่ี ตี อ ง สะอาด ปราศจากสิ่งแปลกปลอมเจือปน ไมจบั ตวั เปน กอนแขง็ หรือมีลกั ษณะเย้ิมเนื่องจากดดู ความชนื้ การเลือกซื้อน้ําตาลควรเลือกซื้อใหเหมาะสมกับชนิดของขนมที่ตอ งการผลติ และบรรจุอยใู นบรรจุภณั ฑท ส่ี ะอาด มิดชดิ บอกวนั เดือน ป ทผ่ี ลติ มเี ครื่องหมายรบั รองจากสํานักคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) กระทรวงสาธารณสุข 1.4.3 การเก็บรกั ษานา้ํ ตาล การเก็บรักษาน้ําตาล ควรเกบ็ ในภาชนะทแ่ี หง สนทิ มีฝาปดมดิ ชดิ เพ่ือปองกนั ฝนุละอองเจอื ปน และความชื้นภาพท่ี 1.12 น้ําตาลทรายขาว ภาพที่ 1.13 น้ําตาลทรายปน
26ภาพที่ 1.14 น้าํ ตาลไอซง่ิ ภาพที่ 1.15 น้ําตาลทรายแดง นอกจากน้ียังมี นํ้าผ้งึ ซึง่ เปน น้ําหวาน ท่ีไดจ ากเกสรดอกไมน านาชนดิ ทีผ่ ้งึ นํามาเกบ็ ไวในรงั ในนา้ํ ผึ้ง ประกอบดวย เฮกโทส ซโู ครส มอ ลโทส กรดกลโู คนคิ กรดอะมโิ น แรธาตุ และวิตามินตางๆ เชน วติ ามินซี วติ ามินบี 2 วติ ามินอี ฯลฯ ซึ่งเปนประโยชนตอรางกาย ในปจ จุบนัน้ําผึ้งแทมีราคาสูง จึงมีการปลอมปน กันมาก ในการเลอื ก ซื้อจึงควรเลือกซ้อื จากแหลง ผลติ ที่ ผานการรบั รอง บอกวัน เดือน ปท ่ผี ลติ และวนั หมดอายุ บรรจุ อยูในขวดแกว ทส่ี ะอาด มสี ีนา้ํ ตาลออนใส ไมม ีตะกอน1.5 เกลอื เกลือเปน สว นท่ชี วยเพ่มิ รสชาตใิ หข นมอบดขี นึ้ อีกท้งั ยงั ชวยควบคุมการทํางานของยีสตในการหมักโด ทําใหกลเู ต็ นของโดมีกําลังในการยื ดตวั ไมแฉะชว ยทาํ ใหเ กดิ สีผิวของขนมอบและปอ งกนั การเจรญิ เตบิ โตของแบคทีเรียที่ไมตอ งการ ภาพที่ 1.16 เกลอื 1.5.1 การเลอื กซ้อื เกลอื ควรเลอื กซ้อื เกลอื ทเ่ี ปนเกลอื บรสิ ทุ ธิ์ ปราศจากสง่ิ เจอื ปน มีลกั ษณะปน ละเอยี ดไมจ ับตวัเปน กอ นละลายนาํ้ ไดด มี ีสีใสสะอาด ไมมรี สขมหรอื เฝอ น
27 1.5.2 การเกบ็ รักษาเกลอื การเกบ็ รักษาควรบรรจุลงในภาชนะท่แี หง สะอาดมีฝาปดมดิ ชิด เพ่อื ปอ งกนั ไมใหดดูความชื้นจากอากาศ ซึ่งเปนสาเหตุใหเกลือละลายได 1.6 นํา้ นา้ํ ที่ใชใ นการทําผลติ ภณั ฑเบเกอร่ี อาจเปนนา้ํ ทว่ั ไป หรอื นา้ํ ท่อี ยูในนม ไข และของเหลวตางๆ นา้ํ เปนตวั ชวย ละลายสว นผสมอน่ื ๆ เชน น้ําตาล เกลอื และเปน ตัวทาํ ใหเ กดิ การเปลย่ี นโครงสรางของโปรตีนในแปงสาลีใหเปน “กลเู ตน็ ” ทม่ี คี วามเหนยี วและยดื หยนุ ดี ชวยควบคุมอุณหภมู ิ และความหนดื ของแปง ชวยใหยสี ตกระจายตวั ทํางานในระหวา งการหมักโด และชว ยทาํใหแปงสุกสม่ําเสมอในระหวางการอบ นา้ํ ท่ีใชในการทําผลิตภัณฑเบเกอรคี่ วรเปนน้าํ ที่สะอาดปราศจากเชอ้ื โรค สามารถด่ืมกินได 1.7 นม นมเปนสารละลายที่มีสวนของไขมัน โปรตีน น้ําตาล และแรธาตุปนอยูไ มส ามารถแยกออกจากกัน ไดเม่ือต้งั ท้งิ ไว นมเปนสวนประกอบที่สําคัญในขนมอบเพราะเปนตัวละลายใหสวนผสมเขากัน และเปนตัวเก็บความชื้น ใหผลติ ภณั ฑมลี ักษณะ ออ นนุม มีสสี ัน กลนิ่ รส ท่ีดีนารับประทาน เพิ่มคุณคาทางอาหาร 1.7.1 ชนิดของนมทใ่ี ชใ นการทาํ ผลติ ภณั ฑเบเกอรี่ 1) นมสด (Fresh Milk) เปนนมที่ไดจากวัวโดยนํามาผานขบวน การฆาเช้ือ ดว ยวธิ ีพาสเจอไรซ (Pasteurize) หรอื วิธียเู อชที (Ultra High Temperature) นมท่ไี ดจากการฆาเชอื้ ดว ยวธิ ีพาสเจอไรซ มีอายุการเก็บทีค่ อนขางส้นั เพราะ ฆาเชื้อดวยอณุ หภูมิตํา่ และใชเวลานาน แตยังคงไวซงึ่ รสชาตดิ ี กวาการฆา เชื้อโดยวิธียูเอชที ซึ่งฆา เช้อื ดวย อณุ หภมู ิสงู มากในเวลาสน้ั แตนมยูเอชทีมีอายุการเก็บไดนานกวา ขนมที่ทําจากนมสดจะมีสีขาวกวาขนมที่ทําจากนมชนิดอื่นๆ 2) นมขน จดื หรอื นมสดระเหย (Evaporated Milk) เปนนมที่ไดจากการนํานมสดมาระเหยนาํ้ออกไปครึ่งหนึ่งทําใหมีความเขมขนมากกวานมสด มีสเี หลืองเล็กนอย นยิ มบรรจใุ สกระปองอลูมิเนียมทรงสูง ในการทําขนมนิยมใชนมขนจืดระเหยแทนนมสด เวลาใชจงึ ตอ งเตมิ นา้ํเพิม่ ข้ึนอีกหน่ึงเทาตัว ขนมที่ทําจากนมขน จดื จะมสี เี หลืองเลก็ นอ ย 3) นมผง (Powder Milk) เปนนมที่ไดจากการนํานมสดมาระเหยน้ําผานกรรมวิธีการผลิตตามขน้ั ตอนจนเปนผงแหงสนิท มคี วามชื้นไมเกนิ รอ ยละ 3-5 นมผงมีอายุการเก็บยาวนาน แตม ีคุณสมบัตดิ ูดนา้ํ และความช้นื ไดดจี งึ ควรเกบ็ ไวใ นภาชนะท่ปี ด สนิท
28 นมผง แบง ออกเปน 2 ชนิด คอื นมผงที่มีไขมันและนมผงปราศจากไขมัน นมผงที่มีไขมัน มีราคาแพงใชสําหรับชงดื่ม ไมสามารถเก็บไวน านๆ เพราะจะมกี ลิน่ หนื และจับตัวเปน กอ นไดงา ย สวนนมผงปราศจากไขมันหรือที่รูจักในชื่อของ นมผงขาดมันเนย นิยมใชในการทําขนมอบเพราะนอกจากจะมีราคาถูกแลว ยังสามารถเก็บไดเป นเวลานานกวานมผงที่มีไขมัน นมผงทั้งสองชนิดมีองคประกอบเนื้อนมสูงประมาณรอยละ95 ดงั นน้ั หากใชนมผงในการทําขนมมากจะทาํ ใหข นมแหงถาตองการใชนมผงทําขนมแทนนมสดหรือนมขนจืด จําเปนตองดัดแปลงสูตรขนมโดยการเพิ่มปริมาณน้ําทดแทนใหใกลเคียงกับนมสดหรือนมขนจืดนมสด นมขน จดื นมผง ภาพท่ี 1.17 นมชนิดตาง ๆ 1.7.2 การเลอื กซ้ือนม การเลือกซ้ือนม ควรพิจารณาเลือก บรรจภุ ัณฑที่อยใู นสภาพใหม ดี ไมมรี อยบบุ บอกวัน เดือน ป ทีผ่ ลิต และวนั หมดอายุ มีเครื่องหมายรับรองจากสํานักคณะกรรมการอาหารและยา 1.7.3 การเก็บรกั ษานม นมมหี ลายชนดิ การเกบ็ รักษานมจงึ มวี ธิ ีการที่แตกตางกันตามกรรมวิธผี ลติ คือ 1) นมสดพาสเจอรไ รซ ตอ งเกบ็ ไวในตูเยน็ ท่อี ุณหภมู ิ 3-5 องศาเซลเซยี ส 2) นมสดยเู อชทแี ละนมขน จืดยเู อชที ควรเก็บไวใ นที่แหง ไมถ กู แสงแดดและความรอ นถาใชไมหมดควรเก็บสว นท่เี หลือไวใ นตูเ ยน็ โดยใสภ าชนะแกวหรือกระเบ้อื งปด ฝาใหม ดิ ชิด 3) นมผง ควรเกบ็ ไวใ นทแ่ี หง ไมถ กู แสงแดดและความรอ น ใสใ นภาชนะท่ี ปด สนทิปราศจากความชื้นเพราะนมผงจะดูดความชื้นจากอากาศไวท ําใหนมผงจบั ตวั เปน กอนแขง็ 1.8 สารทช่ี วยใหผลติ ภัณฑขึน้ ฟู สารทช่ี วยใหผลิตภัณฑข น้ึ ฟเู ปน สารทใี่ ชเ ตมิ ลงไปในแปงหรอื สวนผสม ในการทําขนมอบทําใหเกดิ ก าซขึ้นระหวางการผสมหรือระหวางการอบ เมื่อขนม อบเสรจ็ จะทําให ขนมขึ้น ฟู เบามีปริมาตรมากขึ้น ไมแนน และมีเนอื้ สัมผสั นารับประทาน
29 1.8.1 วิธที ีท่ ําใหขนึ้ ฟู มหี ลายวิธี คือ 1) การขน้ึ ฟดู ว ยอากาศ ทําไดโดยการใหอากาศเขาไปผสมโดยตรงกับแปงและสว นผสม เชน การรอนแปง กอ นผสม การตเี นยกบั นํ้าตาลในการทาํ เคก เนย การตีไขก ับนํ้าตาล ทรายในการทําสปองจเคกและการตีแปงกับสว นผสมอ่นื ๆเชน ผงฟู นํา้ ไขมัน นม น้ําตาลทราย เขา ดวยกนัในการทําชิฟฟอนเคก 2) การขน้ึ ฟูดว ยไอนา้ํ เกิดจากน้ําในสวนผสมของขนมขยายตวั เปนไอน้าํ เมือ่ ถกูความรอ นขณะอบ เชน การพองตวั ของครีมพฟั หรอื เอแคลร ซงึ่ เกดิ จากน้ําท่ีผสมลงในแปง เกิดการพองตัวในขณะอบ ทําใหเกิดชองวางกลวงในตัวแปงเอแคลร สว นการพองตวั เปน ชน้ั ของพฟั เพสตร้ีเกดิ จากนาํ้ ในสว นผสม และนาํ้ ในเนยท่ี นํามาหอ รีด พบั ระหวา งชน้ั ของแปง เดอื ดกลายเปนไอในขณะไดรับความรอนจากเตาอบ 3) การข้นึ ฟูดว ยกาชคารบ อนไดออกไซด เกดิ ข้นึ ไดโ ดยขบวนการทางชวี เคมี ไดแกยีสต และขบวนการทางเคมี ไดแก เบคก้ิงโซดา ผงฟู และผงแอมโมเนยี 1.8.2 สารท่ีชว ยใหผลิตภณั ฑขน้ึ ฟู แบง ออกเปน 4 ชนิดใหญ ๆ คือ 1) ยสี ต เปนสงิ่ มชี ีวติ กลมุ รา รูปรางคลายฟองไข เจรญิ เตบิ โตโดย การแตกหนอ หรอืแบง ตวั ในสภาวะท่มี อี าหารและอณุ หภูมิ ที่เหมาะสม คือ 30 องศาเซลเซียส สําหรับอาหารที่จําเปนตอ การเจรญิ เตบิ โต คอื แปง นํ้าตาล นม และสว นผสมอน่ื ๆ ดงั นน้ั เมือ่ นาํ ยีสตม าผสมในขณะนวดแปง ยีสตจ ะทําหนา ทผี่ ลติ กาชคารบ อนไดออกไซ ดและแอลกอฮอล ทาํ ให ขนมข้ึนฟู เนือ้ นุมมกี ลิน่ รสเฉพาะตัว นิยมใชทําโดนัทยีสต และขนมปงชนิดตาง ๆ ยีสต ทีใ่ ชกนั ทว่ั ไปมี 3 ชนิด คอื (1) ยีสตสด(Compress Yeast หรอื Fresh Yeast) ยีสตชนิดนม้ี ีลกั ษณะอัดแนนหรอืหอ เปน กอ น มสี นี ํา้ ตาลออ น ประกอบดว ยยีสตร อยละ 30 ความชื้นรอยละ70 เจรญิ เตบิ โตเรว็ เมอ่ื มีอาหารและสิ่งแวดลอมที่เหมาะสม จงึ ตอ งเก็บในอุณหภมู ิต่าํ ประมาณ 4-6 องศาเซลเซยี ส ตลอดเวลายีสตสดมีอายุการเก็บไมนานหรือเก็บในตเู ยน็ ไดนาน ประมาณ 1-2 สัปดาห ปริมาณที่ใชประมาณรอ ยละ 3 ของนาํ้ หนกั แปง โดยละลายยีสตในนํา้ กอ นท่ีอณุ หภมู ิ 30 องศาเซลเซยี ส แลวเติมลงไปในแปง ยีสตสดไมเ ปนทน่ี ิยมใชเนอ่ื งจากไมสะดวกในการใชงานและการเก็บรักษา (2) ยีสตแหงชนดิ เมด็ (Active Dry Yeast) มีลักษณะเปนเมด็ เลก็ ๆ ทอนส้ัน สีครีมเกบ็ รักษาไดนานในอณุ หภูมหิ อง และสามารถเกบ็ ไดนานหลายเดอื นในอุณหภูมิของตูเย็น ปริมาณทใี่ ชรอ ยละ 1.5-2 ของนํ้าหนกั แปง วธิ ีใช คอื เทน้ําอนุ (อณุ หภมู ิ 45 องศาเซลเซยี ส) ลงในชามที่ผสมน้าํ ตาลทรายไวเล็กนอย โรยยสี ตล งไปบนผิวนาํ้ เปน เวลา 10 นาที จงึ นําไปผสมกับแปง ยสี ตแ หงชนดิ เมด็ น้ีสะดวกนอ ยกวา ยสี ตส ด แตส ามารถเกบ็ ไวไ ดน านหลายเดอื น
30 (3) ยสี ตแหง ชนดิ ผง(Instant Dry Yeast) คอื ยีสตท ่ีมีลกั ษณะเปนผงละเอยี ด สําเร็จรูปไมตอ งละลายน้าํ ปริมาณทใ่ี ชรอยละ1-1.5 ของนา้ํ หนักแปง วธิ ีใช คอื เตมิ ลงไปในสวนผสมของแปงและนําไปผสมกับ สวนผสมอ่นื ๆ เปน ยีสตท่ีนิยมใชกันมากเพราะสะดวกในการใช ยีสตแ หง ชนิดผงเม่ือเปดใชงานแลวควรเก็บไวใ นตูเยน็ การเลือกซื้อและการเกบ็ รกั ษา ยสี ต ควรดวู นั เดอื น ปท ่ผี ลิต และอายุการใชงานของยสี ตบ นบรรจภุ ณั ฑ ควรเกบ็ ยสี ตไวทอี่ ณุ หภมู ิ 8-27 องศาเซลเซยี ส ในภาชนะสีชา หรอื ทบึ แสงที่ปดฝาสนิท กรณที ่ีอตั ราการใชต อวันนอ ย ควรเลอื กซ้ือในปริมาณนอ ย ๆ และเกบ็ ไวใ นตเู ยน็ เพอื่ ชวยยดือายุการใชงานไดน าน การทดสอบคณุ ภาพของยีสต โดยการใสย ีสต 1 ชอ นโตะ ลงในน้ําอุน 1 ถว ย แลวเติมน้ําตาลทราย 1 ชอนโตะ คนใหเ ขากันต้งั ไวย สี ตจะคอย ๆ ปดุ ขึ้นมาบนผิวหนา ของนํ้า ภาย ในเวลา 5-10 นาที แสดงวา ยีสตน ้นั ยังไมเสื่อมคุณภาพสามารถใชง านไดภาพที่ 1.18 ยสี ตแหง ผงสําเร็จรูป ภาพท่ี 1.19 เบคกิ้งโซดา 2) เบคกงิ้ โซดา (Baking Soda) มีชื่อทางเคมีวา โซเดียมไบคารบอเนต เปนสารเคมีที่ไดรับความรอนจะสลายตัวใหกาชคารบอนไดออกไดซ แตม ีขอเสีย คอื มีสารตกคางในผลติ ภณั ฑซ่ึงถาใชมากเกินไป จะทําใหผ ลิตภัณฑม ีรสเฝอน สามารถแกไขรสเฝอ นไดโดยการเติมกรดลงไปในสวนผสม เชน ใชนมเปรีย้ วแทนนมสด หรือเตมิ น้าํ มะนาว หรอื นาํ้ สม สายชลู งในนมสด การเลอื กซือ้ และการเกบ็ ควรซอื้ จากแหลงท่ีขายวตั ถุดิบทท่ี ําขนมอบทเี่ ช่อื ถือไดมีการบรรจุกลองอยางเรียบรอย ควรเก็บใสขวดปด ฝามดิ ชดิ ในทแ่ี หง อณุ หภูมิไมสูงและความชืน้ ต่ํา 3) ผงฟู (Baking Powder) เปนสารที่ชวยทําใหขนมตางๆ มีความโปรงเบา ฟู และเพิ่มปรมิ าตร โดยผงฟจู ะชว ยปลอยกา ซคารบ อนไดออกไซดระหวา งผลติ ผงฟเู ปนสวนผสมของโซเดียมไบคารบอเนต หรือเบคกง้ิ โซดา ผสมกับสารเคมีที่ทําหนาที่เปนกรด และแปงขาวโพดท่ที าํ หนา ท่ีปองกนั ไมใ หส ารทั้งสองสมั ผสั กนั โดยตรงเพราะจะทําปฏิกรยิ ากัน ผงฟูมี 2 ชนดิ คอื
31 (1) ผงฟกู ําลงั หนึง่ (Single Acting Baking Powder) ผงฟชู นิดนป้ี ระกอบดวยเบคก้ิงโซดาผสมกับกรดทารทาริค หรอื ทเ่ี รยี กกันวา ครีมออฟทารทาร (Cream of Tar Tar) ผงฟชู นิดน้ีเปนผงฟทู ี่ใหป ฏกิ ิริยาเร็วโดยจะใหกา ซคารบ อนไดออกไซดออกมาอยางรวดเร็วทันที ในระหวา งท่ีผสมเมือ่ ผสมเสรจ็ ขนมจะขึ้นฟดู อี ยางรวดเรว็ และตองรีบนาํ เขา อบทันที ถาไมอบทันที ผลติ ภณั ฑจะสญู เสียกา ซทเี่ กดิ ข้ึน ทําใหผ ลติ ภณั ฑข น้ึ ฟูไมดีเทาทค่ี วร (2) ผงฟูกําลังสอง(Double Acting Baking Powder) ผงฟชู นิดนป้ี ระกอบดวยเบคกง้ิโซดาผสมกับกรด ตง้ั แต 2 ชนดิ ขึน้ ไป กรดช นิดหน่งึ จะทําใหเ กดิ ปฏิกิ รยิ าเรว็ อีกชนดิ หนงึ่ เกิดปฏิกริยาชา ในขณะท่ีกําลังผสมสว นผสมเขาดว ยกัน กรดท่ใี หป ฏิกิ ริยาเร็วของผงฟู จะใหก า ซคารบ อนไดออกไซดออกมาสว นหนง่ึ และเม่ือนําผลติ ภณั ฑเ ขา อบ กรดที่ใหป ฏิกิริยาชาจะผลิตกาซออกมาอีกสว นหนง่ึ เมื่อไดร ับความรอนจากเตาอบ จึงเรยี กผงฟชู นิดนว้ี า “ผงฟกู าํ ลังสอง ” หรอืผงฟูท่ีใหปฏกิ ิรยิ าสองครง้ั ผงฟชู นดิ นนี้ ยิ มใช มากในการทําเบเกอร่ี เพราะไมต องรีบเรง ในการอบขนมที่ทําเสร็จสามารถรอเวลาเขาเตาอบไเดน อ่ื งจากในขั้นตอนอบผงฟูจะทาํ ใหเกิดกาซออกมาอีกครง้ั วิธที ดสอบคณุ ภาพ โดยการใสผ งฟู 1 ชอนชาลงในน้ํารอน ถามีฟองอากาศปุดขึ้นมาอยา งรวดเรว็ แลว คอ ย ๆชาลงจนหมด แสดงวา ผงฟูน้ันยงั มคี ุณภาพดี และสามารถใชง านได การเลอื กซ้อื และการเกบ็ รักษา ผงฟู ควรซื้อขนาดที่บรรจุไมมากหรือขนาดเล็กเพราะถา เก็บไวน าน ๆ อาจทําใหผงฟูเส่อื มประสทิ ธิภาพลง ควรเลอื กชนดิ ทเี่ ปนผงละเอยี ด สีขาวไมจ บั ตัวกันเปน กอ น บรรจใุ นภาชนะทมี่ ีฝาปด มดิ ชดิ ดวู นั เดือน ป ทผ่ี ลิต และวนั หมดอายุ ควรเก็บรักษาในภาชนะทีม่ ฝี าปดสนิทเกบ็ ไวใ นที่แหง อณุ หภมู ไิ มส งู หลงั การใชควรปดฝาใหแ นน ทกุ คร้งัภาพท่ี 1.20 ผงฟูกาํ ลงั หน่ึง ภาพที่ 1.21 ผงฟูกําลังสอง 4) ผงแอมโมเนยี (Ammonia Powder) ไดแ ก แอมโมเนียคารบอเนตหรอื แอมโมเนยีไบคารบอเนต มลี ักษณะเปน เกลด็ สีขาวใชก นั นอ ย นยิ มใสขนมหนา แตก การใชแอมโมเนใียนขนมอบตองทําการอบ ดวยอุณหภู มิสงู เพอ่ื ใหก ลนิ่ ฉนุ ของกาซ ระเหย ออกไป ถาใชกับเคกหรือขนมปงจะเหลือกลิ่นตกคางของแอมโมเนีย ขอดีของแอมโมเนีย คือ ทําใหข นมขนึ้ ฟไู ดด ีเพราะเมอ่ื ขนมถกูความรอนจะขยายตัวทันทีตามเวลาทีต่ องการ
32 การเลอื กซอ้ื ผงแอมโมเนยี ควรเลือกซ้อื แอมโมเนยี ทีม่ ลี ักษณะแหง หอบรรจมุ ิดชิดและมีปริมาณบรรจนุ อ ย เพื่อสามารถใชไดห มดในระยะเวลาสน้ั เนื่องจากผงแอมโมเนียมีคุณสมบัติดูดความชื้นจากอากาศไดงาย และจะระเหยเปนกาซไปเรื่อย ๆ ทาํ ใหผงแอมโมเนยี เสื่อมคณุ ภาพ ภาพที่ 1.22 ผงแอมโมเนยี ขอ ควรระวัง การใชสารที่ชวยใหท ําใหข ึน้ ฟู ควรชั่งตวงดวยความระมัดระวังเพราะถาใชม ากจะทาํ ใหผลติ ภัณฑขนึ้ ฟมู ากเกินไป ถาใชนอยผลิตภัณฑท ไ่ี ดจ ะแนน หนกั ปริมาตรไมดีไมช วนใหร บั ประทาน อกี ท้งั ยังทําใหขนมเสียได 1.9 สารเสรมิ คณุ ภาพ สารเสริมคุณภาพ คือ สารชว ยใหเ นือ้ สัมผัสของขนมอบดี ขึน้ ชวยทําให ขนม นุม ฟูสามารถเก็บไดนาน สารเสรมิ คุณภาพทน่ี ยิ มใชกนั ในทอ งตลาดมี 4 ชนดิ คือ 1.9.1 เอม็ เพลก็ ซ (Emplex) เปนสารที่ ชวยทาํ ใหขนมนมุ ข้นึ มปี รมิ าตรดี ทํามาจาก สารธรรมชาติ เชน ถั่วเหลือง นม เกลือ มีลักษณะคลายนมผง สามารถดูดความชื้น ไดดจี งึ ควรเกบ็ ไวใ นที่อากาศเย็นและแหง โดยปกติจะใสเอม็ เพลก็ ซก ับแปง ประมาณ 1-2 ชอนชาตอแปง 1 กโิ ลกรมัสําหรับทําขนมเคก สว นขนมปง หวาน โดนทั ใชประมาณ 2-4 ชอนชา ตอแปง 1 กโิ ลกรมั 1.9.2 เอสพี (SP) ยอมาจากคําวา Sponge Cake (สปองจเคก) เพราะเปน สารท่ีนิยม ใชใ นการทาํ เคก ทมี่ ีไขเปนสวนผสมหลัก เชน สปองจเคก เอสพมี ีลกั ษณะเปนครีมใส สนี ้าํ ตาลออนเกือบขาวและเปน ตวั ชว ยทาํ ใหไขมนั รวมตัวกบั นํ้าไดด ี ใชเติม ไปพรอ มกับการตีไข นาํ้ ตาล ทราย นาํ้ เมือ่ผสมเสรจ็ สว นผสมจะขน สามารถตั้งขนมทิ้งไดกอ นอบ 2-3 ชั่วโมงโดยขนมไมยุบตัว ขนมที่ไดมีปรมิ าตรดีและขนึ้ ฟสู วย การเก็บรักษาเอสพีควรเกบ็ ในท่ีอากาศเย็นและแหง จะทําใหเกบ็ ไวไดน านอยา ใหถ กู แสงแดดและอากาศ เพราะจะทําใหเสือ่ ม คุณภาพ เกิดการแยกชั้นของสาร ปริมาณที่ใชประมาณรอยละ 2 ของนา้ํ หนกั ไข นา้ํ ตาลและแปงรวมกัน
33 1.9.3 อีซี 25 เค (EC 25 K) เปนสารที่นิยมใชกับการทําเคกที่มีสวนผสมของไขมันเปนหลัก เชน เคกเนย มลี ักษณะเปนครีมสีขาวออกเหลือง อซี ี 25 เค จะชวยทําใหเกิดการรวมตัวของของเหลวและไขมนั ดขี น้ึ ทาํ ใหต สี วนผสมงาย ของเหลวและไขมนั ในเคก เนยไมแ ยกช้ัน เคก ที่ไดจะมีเนอ้ื นุม ฟู เบา เนอ้ื ละเอยี ด และมีปริมาตรมากขึ้น ปริมาณที่ใชประมาณรอยละ 12-15 ของนาํ้ หนกัไขมนั ในสตู ร โดยเติมลงไปพรอ มเนย เม่อื ใชเสรจ็ ควรเก็บรักษาในที่อากาศเย็นและแหง จะทําใหเกบ็ ไดน าน 1.9.4 สารเสริมคุณภาพขนมปง (Bread Improver) เปนสารที่ใชปรับปรุงคุ ณภาพขนมปงใชในการทําขนมปง แบบ ทนุ เวลา เพอ่ื ยน ระยะเวลาในการหมกั ให นอ ย ลง หรือใชใ นการทาํผลติ ภณั ฑท ข่ี น้ึ ฟูดว ยยสี ต เชน ขนมปง โดนัทยสี ต เดนิช เพสตร้ี ครวั ซองค เปน ตน ทํามาจากสารธรรมชาติ ไดแ ก ถ่วั เหลอื ง นม และโปรตีนรปู อนื่ ๆ มลี ักษณะเปน ผงละเอยี ด สี ขาว สารเสรมิคณุ ภาพชวยทําใหขนมข้นึ ฟงู าย มีเนอ้ื นมุ ละเอียด มีขนาดใหญ และคงความสดใหม เกบ็ ไวไ ดน านปริมาณทใ่ี ชประมาณรอ ยละ 1 ของนาํ้ หนกั แปง เมอื่ ใชเสรจ็ ควรเก็บรักษาในที่อากาศเย็นและแหงจะทาํ ใหเ ก็บไดน านภาพที่ 1.23 เอม็ เพล็กซ ภาพที่ 1.24 เอสพีภาพที่ 1.25 อีซี 25 เค ภาพที่ 1.26 สารเสรมิ คุณภาพขนมปง
34 1.10 กลนิ่ รสและสวนผสมอนื่ ๆ กลิ่นรสและสว นผสมอ่ืน ๆ เปน วัตถุดบิ ทีช่ วยเติมกลิ่นรสและสใี หแกผ ลิตภัณฑ ขนมอบทาํ ใหผลติ ภณั ฑมีกลิ่นรสเฉพาะอยางตามตองการ กล่นิ รสไดจากการสกัดน้ํามันของผลไม หรอื ผกัหรือเปนการทําเทียมขึ้นมา ใหม การเก็บรักษา ควรเกบ็ ไวใ นขวดสชี าและปด ขวดใหส นทิ เพอ่ืปองกันการระเหยของกลิ่น กลนิ่ รส และสว นผสมอ่นื ๆ ที่นยิ มนํามาใชในการทําผลิตภัณฑขนมอบไดแ ก 1.10.1 ชอ็ กโกแลต (Chocolate) เปน ผลติ ภณั ฑท ไี่ ดจ ากเมลด็ โกโก (Cocoa Bean) โดยมีสว นประกอบหลกั 2 สวน คือโกโก(Cocoa Solid) และเนยโกโก(Cocoa Butter) แตอ าจมสี ว นประกอบอ่นื ๆ เชน นํ้าตาลทรายไขมนั พชื กลิ่นรส สารที่ชว ยทําใหค งตัว หรอื นมสด ข้นึ อยูกับความตองการวาจะนําไปทําช็อกโกแลตประเภทใด เชน การทําช็อกโกแลตชนิดไมหวาน ไมต อ งใสนํา้ ตาลทรายการทําช็อกโกแลตนม ใหใสนมลงไป เปน ตน ช็อกโกแลตทนี่ ิยมใชในการทําผลิตภัณฑเ บเกอรี่ มีหลายชนดิ เชน 1) ชอ็ กโกแลตนม (Milk Chocolate) มีลักษณะเปนแทง สีขาว มีกล่นิ รสคลา ยกับช็อกโกแลตธรรมดา แตมีลกั ษณะตา งกันท่ี มีสีขาว ประกอบดว ยโกโกบ ตั เตอร นมผง ไขมนั เนยนํ้าตาลทราย ช็อกโกแลตนมใชสําหรับนํามาแตงหนาเคก และใชเ คลือบหนาโดนัท เปน ตน 2) ชอ็ กโกแลตชิพ (Chocolate Chips) มีลักษณะเปน ช็อกโกแลตเมด็ เล็ก ผลติ โด ยการผสมไขมันพืช และใสส ารทีช่ วยไมใหเนอื้ ละลาย นิยมใสในคุกกี้ เพราะจะไมละลาย ภายหลงัการอบ 3) ช็อกโกแลตโคทติ้ง (Chocolate Coating) มลี กั ษณะเปน แทง ใชส าํ หรบั เคลือบหนาเคก เวลาใชใ หนาํ เอาชอ็ กโกแลตโค ทต้ิงนใ้ี สลงในหมอ ตนุ ต้ังไฟใหล ะลายเทานนั้ชอ็ กโกแลตชนดิ น้ีมคี ณุ สมบัติในการแข็งตวั ชา จึงไมจ าํ เปน ตองรบี ใชท ันทีที่ตนุ เสรจ็ ควรรอใหช็อกโกแลตเยน็ กอ นนําไปใชงาน การเก็บรักษาช็อกโกแลต ควรเก็บใสภาชนะท่ีมิดชดิ ไมใหอากาศผานเขาออกหรอืถกู อากาศ และเกบ็ ใหหางจากสิง่ ท่มี กี ลน่ิ แรงเน่อื งจากชอ็ กโกแลตจะดูดกลิ่นงาย อณุ หภูมทิ ี่เหมาะสมในการเก็บช็อกโกแลต คือ 15-18 องศาเซลเซียส ถาเก็บรักษาอยาง ถูกวิธี ช็อกโกแลตธรรมดาสามารเถกบ็ ไดน าน 12 เดอื น สว นชอ็ กโกแลตท่มี ีนม และไขมันสามารถเก็บไดนาน 8 เดอื น 1.10.2 ผงโกโก (Cocoa Powder) แบงเปน 2 ชนิด คอื ผงโกโกธ รรมดาและผงโกโกห วาน(Sweetened Cocoa Powder) ใชสําหรับแตงกลิ่นรส ของขนมปง ขนมเคก และแตงหนาขนมบางชนิดการเก็บโกโก ควรเกบ็ ในภาชนะที่ปดสนทิ อยาใหถูกแสงแดด และใกลกับความชื้นเพราะจะทําใหผงโกโกแขง็ ตัว
35 1.10.3 เหลารัม (Rum) เปนเหลา ท่กี ลน่ั จากออ ย หรอื กากนํ้าตาล นยิ ม ใชทําเคกผลไมเพอ่ื ใหไดก ลน่ิ รสหอมหวานนา รบั ประทาน 1.10.4 ชาเขยี วมทั ฉะ (Matcha) เปนชาผงสีเขียวสดคลายสีเขียวมะนาว สะดวกในการใชงานใหส ีสวย มกี ลนิ่ หอม และราคาไมแพง ควรเก็บแยกจากอาหารชนิดอื่น เม่อื เปดหอหรอื ถุงควรเกบ็ สวนที่เหลือใสขวดท่มี ีฝาปดมิดชิด 1.10.5 กาแฟ (Coffee) ไดมาจากเมล็ดของตนกาแฟ มกี ลิ่นหอม มีรสเฉพาะ กาแฟใหท้งักลิ่นรส และสี เม่ือเปดถุงท่ีบรรจอุ อก ควรถายใสข วดทีม่ ฝี าปดสนิทและเกบ็ ไวในท่ีแหง ไมควรใชชอ นเปยกน้าํ ตกั กาแฟ เพราะจะทําใหกาแฟทเี่ หลอื จบั ตวั เปนกอนแขง็ 1.10.6 สีผสมอาหาร การเลือกใชค วรดฉู ลาก วัน เดอื น ป ทีผ่ ลติ การเกบ็ รกั ษาตอ งไวใ นที่แหง การนํามาใชค วรเลอื กใชสีผสมอาหารแบบขวดทม่ี หี ลอดสาํ หรบั ดดู น้าํ สี จะสะดวก และไมควรใชมากเกินไปเพราะจะทาํ ใหผลติ ภณั ฑส เี ขม ไมนารับประทาน 1.10.7 วานลิ า (Vanilla) เปนกลิ่นหอมจากพืชชนิ ดหนง่ึ ใสใ นสว นผสมของเคก และคุ กก้ีแบง เปน วานลิ านาํ้ (Vanilla Extract) และวานลิ าผง(Vanilla Powder) วานิลาน้ําเปนวานิลาสังเคราะหมสี ีน้ําตาลเขม กลน่ิ หอม ควรเลอื กซ้ือ ขวดท่ีไมมตี ะกอนนอนกน ขวด สาํ หรบั วานลิ าผงมีลกั ษณะเปน ผงละเอียด สีขาวนวล กล่ินหอม เมื่อใชงานเรียบรอ ยตองเก็บใหม ดิ ชิด อยา ใหถ ูกความชื้น 1.10.8 เมล็ดอัลมอนด (Almond Nut) เปน พืชตระกลู ถัว่ ที่มีเปลือกแขง็ หมุ อยูช น้ั ในมเี ปลอื กสนี ํ้าตาลออ น รูปรางรๆี เมล็ดอัลมอนดมีอยสู องชนดิ ดวยกนั คอื ชนดิ ขม และชนดิ หวาน ชนดิ ขมมกั จะนาํ มาสกดั ทาํ กลน่ิ ผสมอาหาร สว นชนิดหวานใชใ นการทําเบเกอร่ี เชน ใชตกแตงหนา เคกหนา คุกกี้ และใชใ สในเนือ้ ขนม มที งั้ ชนดิ ดบิ และชนิดสกุ มี ทงั้ แบบที่สไลดเปนแผนบางๆ และแบบหัน่ เปนชน้ิ ยาว ๆ ใหเ ลอื กใช ตามความเหมาะสม แตการใชเมลด็ อลั มอนด ทําใหผลิตภณั ฑ มีตน ทนุ สงู ซึ่งสามารถลดตน ทนุ ไดโ ดยเลือกใชเมล็ดมะมวงหิมพานตแทน 1.10.9 เมลด็ มะมวงหิมพานต(Cashew Nut) เปน สว นท่ียื่นออกมาจากผลทางดา นซา ยของเมลด็ มีรปู คลายไต มีเปลือกแข็งหุม ขางในมีเปลือกบางๆ ติดอยูกับเนื้อของเมล็ด นิยมใชท าํ ขนมอบไดหลายชนดิ เนื่องจากมีราคาถูกกวาเมล็ดอัลมอนด มีขายทั้ง แบบเตม็ เมลด็ แบบเมลด็ ผา ซีก และแบบเมลด็ หกั การเลอื กซอ้ื ข้นึ อยกู บั การนาํ ไปใช ควรเลอื กชนดิ ใหมส ด สะอาดไมมีแมลง หรือมอดกดั แทะเมลด็ 1.10.10 สวนผสมอน่ื ๆ เชน ลูกเกด เมลด็ ฟก ทอง เมลด็ ทานตะวนั กลว ยตาก ผลไมเชอ่ื มมะตูม ฝอยทอง ฯลฯ สามารถ นํามาใชตกแตงเคก เนย คกุ ก้เี นย เคก ผลไม คุกกธ้ี ญั พืช ไสขนมปงแยมโรลฝอยทอง เปน ตน
36ช็อกโกแลตเกล็ดสี ชอ็ กโกแลตนม ชอ็ กโกแลตชพิ ช็อกโกแลตโคทต้ิงรูปแบบตาง ๆโกโก ชาเชียวมัทฉะ กาแฟเหลารัม สีผสมอาหาร กลิน่ ชนิดตาง ๆ ภาพท่ี 1.27 กล่ินรสท่นี ิยมใชใ นการทําเบเกอร่ี
37เมลด็ อลั มอนดส ไลด เมล็ดมะมวงหิมพานต ลกู เกดดาํเมลด็ ฟก ทอง เมลด็ ทานตะวนั กลวยตากมะตมู เชอื่ มแหง แกนสบั ปะรดเชอ่ื มแหง ผลไมแชอมิ่สตรอเบอรเ่ี ชอ่ื มแหง กีวีเช่ือมแหง มะเขือเทศราชินีเชื่อมแหง ภาพที่ 1.28 สว นผสมอน่ื ๆ
382. การเลือกอุปกรณ เคร่อื งใชประเภททีใ่ ชม อื การทําขนมอบใหไดคุณภาพท่ีดี ส่ิงสาํ คญั ไมน อยไปกวา ข้นั ตอนและหลกั วธิ ีการผลิต คอืการรจู กั เลอื กใชอ ปุ กรณ เครื่องใชประเภททีใ่ ชมอื ใหถ กู ตองและเหมาะสมกบั การผลิต ซ่งึ เครื่องใชประเภทใชมือ สามารถแบงออกเปน 3 ประเภท คอื 2.1 เคร่อื งใชป ระเภท ชัง่ ตวง วัด 2.1.1 ถว ยตวงของเหลว(Liquid Measuring Cups ) ทาํ ดว ยแกว หรอื พลาสตกิ ใสใชส าํ หรับตวงของเหลว เชน นํ้า นม น้ํามนั ฯลฯ มีปริมาตรบอกดานขางทั้ง 2 ดา น มหี ลายขนาดตง้ั แต 1 ถว ย2 ถว ย โดยทกุ ขนาดมขี ดี บอกสดั สว นชดั เจน เชน 1/4 1/3 1/2 2/3 3/4 และ 1 ถว ยตวง 2.1.2 ถว ยตวงของแหง (Dry Measuring Cups ) ทาํ จากวสั ดหุ ลายชนิด เชน สแตนเลส อลูมิเนยี มและพลาสติก ใชส ําหรับตวงของแหง เชน แปง นํ้าตาล เนย นมผง ฯลฯ ถว ยตวงชนดิ น้ีจะทําเปนชุดชุดหน่งึ มี 4 ขนาด คือ 1 ถว ยตวง 1/2 ถว ยตวง 1/3 ถว ยตวง และ 1/4 ถว ยตวง 2.1.3 ชอ นตวง (Measuring Spoons) ทาํ จากวัสดุหลายชนดิ เชน อลมู ิเนียม สแตนเลส และพลาสติก ใชสาํ หรับตวงสวนผสมจํานวนนอย เชน ผงฟู เบคกิง้ โซดา เกลือ และพริกไทย ฯลฯชอ นตวงหนง่ึ ชดุ มี 4 ขนาด คือ 1 ชอ นโตะ 1 ชอนชา 1/2 ชอนชา และ1/4 ชอนชา 2.1.4 เครอ่ื งช่ัง (Scale) เปนอุปกรณที่จําเปนในการทําเบเกอรี่ มีหลายแบบทั้งที่ทําจากโลหะและพลาสติก เครอ่ื งชั่งท่นี ยิ มใช คือ เครื่องชง่ั ทีม่ ีนํา้ หนกั สงู สุด 1 กโิ ลกรมั ซง่ึ สามารถชั่งของไดต ง้ั แต 5 กรมั จนถงึ 1 กโิ ลกรมั บอกรายละเอยี ดชดั เจน สามารถถอดจานออกจากตวั เครอ่ื งไดทําใหส ะดวกในการช่งั สวนผสมทเ่ี ปนของแหง และของเหลว เชน แปง นํา้ ตาล เนย ฯลฯถว ยตวงของเหลว ถว ยตวงของแหง ชอ นตวง เครื่องช่งั ภาพท่ี 1.29 เครื่องใชป ระเภท ช่งั ตวง วัด
39 วธิ ีการชั่งตวงวัตถุดิบในการทาํ เบเกอรี่ 1) ชอ นตวง ใชสําหรับตวงของเหลวหรือของแหง ถาใชตวงของแหงไมควรใชช อ นตวงตกัสวนผสม เชน ผงฟู หรือเบคก้งิ โซดา โดยตรง เพราะจะทําใหไดปริมาตรที่มากเกินไป ควรใชว สั ดุอืน่ ตกั ใสช อ นแลว ใชส เปตตลู า ปาดใหเรยี บอกี ครั้ง 2) ถว ยตวงของแหง ใชตวงสวนผสมที่เปน ของแหง เทา น้ัน วิธีการตวงใหต กั ของแหงที่ตองการ ใสถ ว ยตวง ตามขน าดที่ตองการ ใหพ ูน แลว ใชส เปตตูลาปาดสว นผสมทเ่ี กิน ออกจะไดสว นผสมตามขนาดที่ตองการ 3) ถวยตวงของเหลว มลี ักษณะเปน แกว หรือพลาสติ ก มีขีดบอกปริมาตรอยู ดา นขางถว ยวิธกี ารตวงใหใ สของเหลวทตี่ องการตวงลงในถวยตวงทต่ี งั้ บนพื้นราบระดับเดยี วกับสายตา จะเห็นระดับของของเหลวมีลักษณะเวาลง ใหสังเกตที่ระดับเวาลางสุดใหตรงกับขีดปริมาตรที่ตองการ 4) เคร่ือง ชัง่ สามารถ ใชในการ ตวงวัตถดุ ิบ ไดทั้งในปริมาณมาก และ ในปริมา ณนอ ยซงึ่ ถว ยตวงและชอ นตวงอาจ ทําใหเกดิ การผดิ พลาดในการตวงได ในการทําขนมอบจึงนิยมใชการชงั่ มากกวาการตวงเพราะไดอ ตั ราสว นคงทีแ่ นน อน กอนชง่ั สว นผสมทกุ ครง้ั ควรหาภาชนะรอง เชนถุงพลาสติก เพอ่ื ปองกนั มิใหสว นผสมเปรอะเปอ นเครื่องช่งั หลังจากใชง านแลว ควรทําความสะอาดและเชด็ ใหแหงดว ยผา ทีส่ ะอาด เกบ็ เขา ท่ีใหเ รยี บรอ ย ขอสาํ คัญในการช่งั คือ อยาลมื หักน้าํ หนักภาชนะทใ่ี สส ว นผสมออกดว ย หรือนาํ สวนผสมใสในถุงพลาสติกท่สี ะอาดและนําไปช่งัแตค วรระวังอยาใชช ่งั ของหนักเกินขนาดของตาชั่ง เพราะจะทําใหต าชงั่ เสยี ได ขอ ควรระวงั ในการตวง 1) แปง นาํ้ ตาลทรายปน นา้ํ ตาลไอซ่ิง และนมผง ตอ งรอ นกอ นตวงทกุ ครงั้ โดยใชส เปตตูลาปาดบนแปง นาํ้ ตาล นมผง สวนที่เกนิ ออก จงึ จะไดส วนผสมทถ่ี ูกตอ ง 2) เนยสด มาการีน และเนยขาว ควรอดั ใหแนน อยา ใหมชี อ งอากาศ แลว ใชสเปตตลู าปาดสวนเกินออก จงึ จะไดสว นผสมทถี่ กู ตอง 3) น้ําตาลทรายแดง ตองทําใหน้ําตาลทรายแดงที่เปนเม็ดเกาะกันกระจายเสียกอน เวลาตวงตอ งกดเบา ๆ ใหแนน พอควร แลว ใชส เปตตูลา ปาดสว นทเ่ี กนิ ออก จึงจะไดส วนผสมท่ถี ูกตอง 4) การตวงสารทช่ี ว ยทําใหข ึ้นฟู เชน ผงฟู เบคกิ้งโซดา กอ นตวงตอ งทาํ ใหก ระจายตวั และปาดใหพ อดีกับขอบชอนตวง ควรตวงอยางระมดั ระวังเพ่ือใหไดสว นผสมทถ่ี ูกตอง 5) การตวงของเหลว ดว ย ถวยตวงของเหลว ระดับของเหลวที่ปรากฏแกสายตา จะมีลักษณะเวา ลง สังเกตที่ระดับเวาลางสุดใหตรงกับขีดปริมาตรที่ตองการ จงึ จะไดสว นผสมทถี่ กู ตอง
40 2.2 เครือ่ งใชประเภทเตรียมและผสม 2.2.1 ทรี่ อนแปงหรอื แลง (Sifter) ทาํ จากวัสดุหลายชนิด เชน พลาสติก อลูมเิ นยี ม และสแตนเลส สาํ หรบั ตวั ตะแกรง สวนมากทํา ดว ยสแตนเลส ควรเลือกขนาดใหเหมาะสมกับมือและการใชง าน ทีร่ อ นแปง หรอื แลงเปนอปุ กรณท ีจ่ าํ เปน และมีความสําคัญมาก เพราะชวยรอนแปงและสว นผสมอื่นๆ เชน ผงฟู โกโก ไมใ หเ กาะกนั เปน กอน หลงั ใชงานทุกครงั้ ลางใหส ะอาด ผง่ึ ใหแ หงเพ่อื ไมใหเกิดการอุดตัน เปน สนมิ และรักษาอายุการใชงานของอุปกรณ 2.2.2 อา งผสม (Mixing Bowls) ใชสําหรับคลุกเคลาสวนผสมตางๆ มีหลายชนิด หลายขนาด ทาํ ดว ยวสั ดหุ ลายชนดิ เชน สแตนเลส อลมู ิเนยี ม แกว พลาสตกิ เปน ตน มเี ปน ชุดตัง้ แตข นาดเลก็ ถงึ ขนาดใหญ แตในการทําเบเกอร่ีหรืออาหารทวั่ ไป จะใชอางสแตนเลสเพราะทนตอความรอนหรือเย็นไดดี ขอสําคัญคือไมเปนสนิม เวลาใชเลือกขนาดใหเหมาะสมกับปริมาณของอาหารและการใชงาน ควรเลือกอางที่มีรูปรางโคงเรียบไมหักมุมเพื่อชวยในการผสมและทําความสะอาดไดงา ยเม่ือใชแ ลวควรลา งใหส ะอาด และผงึ่ ใหแหง 2.2.3 ตะกรอมือ (Beater or Wire Whisk) ใชสําหรับคนหรอื ตะลอมสว นผสมใหเขากนัโดยเฉพาะเนื้อเคกที่ตองการความเบาฟูอยางชิฟฟอนเคก ควรเลอื กใชต ะกรอมอื ที่ทําดวยสแตนเลสทงั้ อนั การเลอื กซือ้ ตรวจดลู วดทต่ี ดิ กบั โครงขอบใหแนน เสน ลวดเปน ระเบยี บรอยตอเสนลวดกับดามแข็งแรง รักษาความสะอาดงาย ท่ีถือตอ งจับไดพอเหมาะ เม่อื ใชง านเรียบรอ ยแลว ควรลา งใหสะอาด และเชด็ ใหแ หง 2.2.4 พายยาง (Rubber Scraper) ใชป าดสว นผสมไมใ หต ดิ อา ง เพ่อื เทลงในพมิ พห รอืภาชนะ นอกจากน้ี ยังใชในการคนตะลอ มแปงใหเขา กับสวนผสมอ่นื ๆ เชน การทําเคก การทาํ คุกกี้และการทาํ พาย ฯลฯ ควรเลือกใชพ ายยางที่มลี กั ษณะปลายพายออน ใชงานแลวทําความสะอาดทุกครง้ั เชด็ ใหแหง 2.2.5 ท่ตี ัดแปงเปน แผน โลหะ (Dough Cutter) ทาํ จากวสั ดหุ ลายชนดิ เชน สแตนเลสหรอืทําจากพลาสติกใชตัดกอนโดของแปงขนมปงใหไดขนาดตามตองการ หรืออาจใชชวยผสมแปงในกรณที นี่ วดแปง กับพ้ืนโตะ โดยใชแ ผน ตดั แปง กวาดแปง และสว นผสมทเ่ี ปน ของเหลวใหแ ปงและของเหลวรวมตวั กนั เรว็ ขน้ึ เมอ่ื ใชง านแลว ตอ งทาํ ความสะอาด และเชด็ ใหแ หง 2.2.6 ลกู กล้ิงตัดแปง พายและเพสตรี้(Pastry Wheel) ใชสําหรับตัดแปงพายและแปง เพสตร้ีทาํ ดว ยสแตนเลส ไมเปนสนิม ลักษณะเปน แผน วงกลม ลกู กลิ้งแบบเรยี บใชต ดั แปง เพสตร้ีและลูกกลิง้ แบบฟนเฟองใชตัดแปง พาย การใชงานตอ งเลือกชนดิ ท่ีกลิง้ ไดค ลอ งไมฝ ด เมอื่ ใชงานแลวตองลางทําความสะอาด โดยเฉพาะตรงฟนเฟอง และเช็ดใหแหง 2.2.7 คีมคีบอาหาร มีรูปรางคลายกรรไกร มีหลายขนาดใชคีบอาหารจากภาชนะ หรือคีบถาดที่อบขนมออกจากเตา การใชงานควรเลือกชนิดที่จับงายเคลื่อนไหวสะดวก ขนาดเหมาะกับมือ
41 2.2.8 มดี ฟน เลอ่ื ย (Bread Knife) ใบมีดยาว10-12 นิว้ คมมดี หยกั ปลายมน ฟนเลอ่ื ยจะถี่ใชห นั่ ขนมปง เคก ทําใหเนอ้ื ขนมไมแตกรว นหรอื เสียรปู ตวั ใบมดี ทาํ ดวยสแตนเลส มีดา มจับมั่นคงทาํ ดว ยวสั ดอุ ยา งดี เม่อื ใชง านแลวตอ งลาง และเชด็ ใหแ หง แลว เกบ็ ใหเ รยี บรอ ย 2.2.9 สเปตตูลา (Spatula) ใชสําหรับปาดเคก มีลักษณะคลายมีด ไมมีคมทั้งสองดานมีหลายขนาด ทําจากสแตนเลสเนื้อบาง ทําใหปาดไดงายและเรียบ ดามทําดวยไม การใชงานควรเลือกขนาดใหเหมาะสมกับการใชงาน เม่ือใชง านแลวตอ งลางและเชด็ ใหแ หงแลว เกบ็ ใหเรยี บรอ ย 2.2.10 พิมพกดคุกกี้ ควรใชพ ิมพท ่ที ําจากสแตนเลส เลือกซ้ือลวดลายท่ไี มมีซอกมมุ มากเพราะจะทําความสะอาดไดงาย เมือ่ ใชงานแลว ตองลาง และเชด็ ใหแ หง แลว เกบ็ ใหเ รยี บรอ ย 2.2.11 กระบอกกดคุกก้ี ลักษณะเปนกระบอกทรงกลมทําดวยโลหะเคลือบ และพลาสติกสามารถกดขนมเปนรปู ตา ง ๆ ตามแปนพิมพทีต่ อ งการ โดยเปล่ยี นแปนพิมพท ่ีติดอยูตรงหัวกระบอกกดเชน รูปหวั ใจ รูปดาว รูปดอกไม หลังจากใชแ ลวควรถอดลา งแตละช้นิ สว นใหสะอาด เช็ดใหแ หง 2.2.12 หัวบบี คุกก้ีและถุงบบี คกุ กี้ หวั บบี คกุ กี้มีหลายแบบทั้งแบบที่ทําจากสแตนเลส และทองเหลอื งสวนถงุ บบี คกุ กีท้ ําจากพลาสตกิ ชนดิ ดใี ชบ ีบครีมแตงหนาเคกใหเปนลวดลายไดหลายแบบเชน ดอกไม ใบไม ฯลฯ เม่อื ใชเสรจ็ ควรลางทําความสะอาดโดยแชน า้ํ รอ นเพอื่ ใหครีมท่ตี ิดอยทู ่ีตัวหัวบีบละลายออกมา หามใชไมแคะเด็ดขาดเพราะจะทําใหลายเสียงาย 2.2.13 พายไม (Wooden Spoon) ใชคนอาหารหรือกวนอาหารรอน ๆ บนเตามีหลายขนาดข้ึนอยกู บั ปริมาณของอาหารและขนาดภาชนะ ควรเลือกซ้ือพายทท่ี ําดวยไมเ นือ้ แข็ง ผิวเรียบทําความสะอาดไดงาย เมื่อใชแลว ควรลางทําความสะอาดทุกครั้ง และผ่งึ ใหแ หง 2.2.14 ไมค ลึงแปง (Rolling Pin) ใชคลึงแปงใหหนาบางตามตองการ มีหลายขนาด ควรเลือกซือ้ ชนิดที่มีนํ้าหนกั พอควร ทําดว ยไมเ นอ้ื แขง็ ผวิ เรยี บ ไมมเี ส้ยี น เม่อื ใชแลว ควรลางทําความสะอาดทุกคร้ัง และผ่งึ ใหแ หง 2.2.15 แปรง(Pastry Brush) เปน อุปกรณท ใ่ี ชทาเนยเพอื่ เตรยี มพิมพ หรอื ทาไขบ นหนา ขนมมีหลายขนาดการเลือกซ้ือควรเลอื กชนดิ ท่ขี นแปรงติดกบั ดา มเพอ่ื ไมห ลุดงา ยเวลาใช เม่อื ใชแลว ควรลางทําความสะอาดทุกครงั้ และผ่ึงใหแ หง 2.2.16 ทผ่ี สมแปง (Blender) มดี ามถอื และมีลวดโคง เรียงกัน 4-5 เสน ทาํ จากสแตนเลสใชผสมแปง กบั ไขมนั และสว นผสมอนื่ ๆ ทาํ ใหแ ปงทผ่ี สมกบั เนย มลี กั ษณะรว นเปน เม็ดเลก็ ๆคลายเมลด็ ถว่ั เขยี ว เชน การทําพายรวน เม่ือใชแ ลวควรลางทําความสะอาดทุกคร้ัง และผ่ึงใหแ หง 2.2.17 ทแ่ี ซะขนมหรอื ทพั พแี บน ทาํ ดว ยสเตนเลส ใชสําหรับแซะขนมออกจากถาด เม่ืออบขนมสุกเรยี บรอ ยแลว ใชแลวควรลางทําความสะอาดทุกคร้ัง และผึง่ ใหแ หง 2.2.18 กระดาษลอกลาย (Parchment Paper) เปนกระดาษสีขาวขุน ใชในการรองกนพมิ พรองกน ถาดขนมที่จะอบ หอมว นคุกก้ี หอมว นเคกโรล และใชร องแปง ที่รอนจากท่ีรอ นแปง
42ท่รี อนแปง /แลง อางผสม ตะกรอ มอื พายยางท่ีตัดแปง ลูกกลิ้งตดั พาย คีมคีบอาหาร มีดฟนเลือ่ ยสเปตตลู า พมิ พก ดคุกกี้ กระบอกกดคุกกี้ ถงุ และหวั บบีพายไม ไมคลึงแปง แปรงทาพิมพ เบลนเดอร ทแี่ ซะขนมหรอื ทัพพีแบน กระดาษลอกลาย ภาพท่ี 1.30 เคร่อื งใชป ระเภทเตรยี มและผสม
432.3 เครือ่ งใชป ระเภทอบ 2.3.1 ตะแกรง (Rack) ใชส าํ หรับวางขนมอบทีส่ ุกจากเตาอบรอน ๆ เพอ่ื ใหขนมเย็นเร็วเพราะอากาศผา นไดดีกวาอยูในพิมพ ควรเลือกซ้อื ตะแกรงที่ทําจากสแตนเลสเชอ่ื มตอ สนทิ มีหลายขนาด เลือกใชตามความเหมาะสม หลังจากใชแลว ควรลางใหสะอาด โดยเฉพาะบริเวณรอยตอของตะแกรงอยาใหมีเศษขนมติด และผงึ่ ใหแหง 2.3.2 ถาดอบขนม สวนมากทําจากอลูมิเนียม มีหลายขนาดใชสําหรับรองพิมพเคกขณะอบเพือ่ ปองกนั ไมใ หเ คกดา นลา งรอ นเกนิ ไปจะทําใหข นมไหมเ สีย ใชอบขนมปง คกุ กี้ พาย เปนตนควรเลือกซื้อตามประโยชนใชสอย เมอ่ื ใชแลวควรลางทําความสะอาดเช็ดใหแหง 2.3.3 พิมพช นิดตา ง ๆ สวนมากทําจากอลูมิเนียม สแตนเลส มีขนาดรูปรางหลายรูปแบบเลือกใชตามความเหมาะสมกับขนมอบแตละชนิด เชน พิมพเคก พิมพขนมปง พิมพพาย ฯลฯ การเลอื กซือ้ ควรเลอื กชนดิ อลมู ิเนียม เพราะรับความรอนและแผความรอ นไดเรว็ อกี ทั้งมรี าคาถูกกวาพิมพทท่ี ําจากสเตนเลส หลังการใชควรลางตามซอกมุมใหสะอาด เช็ดใหแหงตะแกรง ถาดอบขนม พมิ พข นมปงปอนดพมิ พพ ายถวยจบี ถาดพาย พมิ พทารตพมิ พเ คก พิมพเคกรปู ตาง ๆ พมิ พสปองจเ คก ภาพท่ี 1.31 ตะแกรง ถาดอบขนม และพมิ พชนดิ ตาง ๆ
443. การเลือกอุปกรณ เคร่อื งใชประเภท ที่ใชไ ฟฟาหรอื เครือ่ งทุนแรง การทาํ ขนมอบใหไดคณุ ภาพทดี่ ี สิ่งสาํ คญั ไมนอยไปกวา ขน้ั ตอนและหลกั วธิ ี การผลติคือ การเลอื กใชอปุ กรณเ ครื่องมอื เครื่องใช ประเภท ที่ใชไฟฟา หรอื เครอ่ื ง ทนุ แรง ซึง่ เครื่องใชประเภทที่ใชไฟฟาหรอื เครอ่ื งทุน แรงทส่ี าํ คัญในการทําเบเกอรี่ คอื 3.1 เครอ่ื งผสมแบบแนวต้ังหรอื เครอ่ื งผสมอาหาร เครื่องผสมมีประโยชนตอการทําเบเกอรี่ คอื ชว ยใหส วนผสมตางๆ รวมตวั เปน เนอ้ื เดยี วกนัมีใหเ ลอื กหลายขนาดตามความตองการตวั เครื่อง ประกอบดว ยแกนกลางที่มเี ดอื ยสาํ หรับใสห ัวตหี รอืหวั ผสมซึง่ มีอยู3 ชนิด คือ หวั ตีรปู ตะขอ หัวตีรปู ใบไม และหวั ตรี ปู ตะกรอ การใชห วั ตตี อ งเลอื กใชใ หเหมาะสมถูกตองกับผลติ ภัณฑ หากใชห วั ตไี ม ถกู ตอง อาจทําใหเ ครื่องชาํ รดุ หรอื ทําใหขนมที่ไดมีคณุ ภาพไมด ีเครอ่ื งผสมอาหารน้ี สามารถถอดเปลย่ี นหวั ตีไดโดยใชตัวเครอื่ งผสมตวั เดยี วกัน และสามารถปรับอัตราความเร็วของเครื่องไดตามความตองการของผลิตภัณฑ หวั ตเี คร่ืองผสมอาหาร ม3ี ชนดิ ดงั นี้ 3.1.1 หวั ตรี ูปตะขอ (Dough Hook) ใชสาํ หรบั นวดแปง ใหเ ปน กอ นโดในการทําขนมปงโดยหวั ตีรปู ตะขอนีจ้ ะทําการมวน ดงึ กอ นแปงเพ่ือใหเ กิดเปนกลูเต็นท่ีดี 3.1.2 หัวตีรปู ใบไม (Paddle) ใชตีเนยกบั น้าํ ตาลใหขึ้นฟูในการทําเคก หรือคุกก้ี หรอื ใชในการตีแปง น้ําตาล ของเหลว และไขแดงในการทําชิฟฟอนเคก 3.1.3 หัวตรี ูปตะกรอ (Wire Whip) ใชส าํ หรับการตไี ขใ หเกดิ ฟอง ในระยะเวลาสน้ั โดยใชความเร็วของเครื่องคอนขางสูงเพอ่ื ใหไ ขท ีต่ ีอยูต วั ทําใหเคกมปี ริมาตรดี เคกทีน่ ิยมใชห ัวตีรปู ตะกรอไดแ ก ชิฟฟอนเคก สปองจเคก หรือการตีเคก แบบข้นั ตอนเดยี วเครอ่ื งผสมอาหาร หัวตีรูปตา ง ๆภาพท่ี 1.32 เคร่ืองผสมอาหาร และหวั ตี
45 3.2 เครื่องผสม2 แขน ภาพท่ี 1.33 เคร่ืองผสม 2 แขน เครอื่ งผสมน้ี ประกอบดว ยแขน2 แขน ปลายงอโดย แขนทง้ั สองจะชว ยดงึ ยื ดกอ นโดท่อี ยูตรงกลางอยางชา ๆ ความเร็วของ เครอ่ื งมีระดบั เดยี ว เหมาะกับการนวดแปงขนมปง โดยไมท ําใหอณุ หภูมขิ องกอนโดรอ นเกนิ ไปใน ระหวางการผสม นอกจากน้ี ยังสามารถใชผ สมแปง พฟั เพสตรี้ และแปง โดนทั ยสี ต ได แปงที่นวดไดมลี ักษณะเนอ้ื เนยี น นุม กวา แปง ทน่ี วด โดยใชเครือ่ งผสมอาหารหวั ตรี ปู ตะขอ แตอา งผสมไมสามารถถอดออกมาจากตวั เครอ่ื งได ในการลางทําความสะอาดจงึ ควรใชผาชุบน้ําเช็ดใหสะอาด แลว จงึ ใชผ าแหงเช็ดอีกครง้ั วิธใี ชและการดแู ลรกั ษาเครอื่ งผสมอาหารและเครื่องผสม 2 แขน 1) การวางเครื่องควรมีฐานรองที่มั่นคงแข็งแรง 2) การวางอางผสมตองวางบนแปนทมี่ ีจดุ ล็อก3 จดุ ใหเขา ทจ่ี นแนน แลวใสห ัวตที ตี่ อ งการ 3) ควรเลือกความเร็วในการผสมใหถูกตองกับชนิดของขนมที่ตองการ 4) ขณะเครื่องทํางานไมควรเอามือหรือสิ่งของลงไปในอาง ถาจําเปนใหปดเครื่องกอนทุกครั้ง 5) เม่อื ใชง านเสรจ็ เรียบรอยแลวควร ปดเครือ่ ง แลว ถอดปลก๊ั ทําความสะอาดทุกครั้ง โดยใชผาหมาดๆเช็ดตัวเครอ่ื ง อยาใชน ้ําราดตวั เครือ่ งเดด็ ขาด เพราะอาจจะทําใหม อเตอรเ สียหายได 6) ควรหมน่ั ดจู าระบที ่ชี ว ยในการหลอ ลืน่ ถา หมดหรอื นอ ยลง ตอ งอดั จาระบีใสเขาไปใหมเพอ่ื ปอ งกนั การสกึ หรอของเครอ่ื ง 7) เครอ่ื งผสมบางรนุ ทม่ี ีทงั้ เกยี รเรง ความเรว็ และมสี วิตชปดเปด เมือ่ จะเปลีย่ นความเร็วตอ งปด เครอ่ื งกอ นเสมอแลวคอ ยเปลี่ยนความเร็ว 8) ถา เปล่ียนรอบไมเ ขาหรอื เครอื่ งไมห มนุ ให ปดเคร่ือง ใชม อื ซาย จับหัวตีบิดไปมา เลก็ นอ ยแลวใชมือขวาผลักคันเกยี ร 9) ถากระแสไฟฟาตก ตอ งงดใชเครื่องโดยเด็ดขาด และควรตอสายดินเพ่ือปอ งกนั ไฟดูดในกรณีที่เครื่องขัดของไมควรแกไขเอง ควรเรียกชางที่มีความรู ความชํานาญในวิชาชีพ สาขาน้ีโดยตรงมาแกไข
46 3.3 ตหู มักโด ตูห มกั ใช สําหรับ หมกั ผลติ ภณั ฑท ่ีใชยสี ตเ ปน ตัวชว ย ทําใหขน้ึ ฟู เชน ขนมปงชนดิ ตาง ๆและผลติ ภณั ฑอ ืน่ ๆ ทใี่ ชยสี ต เปน สว นผสม “ตหู มกั ” สรางขึน้ มาเพอ่ื ชว ยยน ระยะเวลาขัน้ ตอนในการหมักใหเ รว็ ขึน้ ชวยทําใหผลิตขนมปง ไดจาํ นวน มากอยา งรวดเรว็ โดยมีหลักการสาํ คัญในการสรา งตูหมกั คอื การควบคุมอุณหภูมแิ ละความช้นื ใหเ หมาะสมแกก ารเจรญิ เตบิ โตของยสี ต ยีสตส ามารถเจรญิ เติบโต และสรางกา ซคารบ อนไดออกไซดไดด ีที่สุดในท่ที มี่ ีอาหารสมบรู ณ มีอุณหภูมิและระดับความช้นื ทีเ่ หมาะสม (อณุ หภมู ิ 29-33 องศาเซลเซียส ความชื้นรอยละ85-95) ถาอณุ หภูมิไมเ หมาะสมหรือระดบั ความชน้ื ต่ํา จะทาํ ใหการขยายตัวไมดี ผวิ ขนมปง จะแหงแตถาระดับความชื้นสูงเกินไปขนมปงจะเปยกแฉะ ถานําเขาอบจะเกิดปุมพุพองบนผิวขนมปง ดไู มนารับประทาน ภาพท่ี 1.34 ตหู มักโด3.4 เตาอบ เตาอบ เปนเคร่อื งมอื ทสี่ ําคญั ท่สี ดุ ในการทาํ ผลิตภัณฑเ บเกอร่ี เตาอบท่ีใชใ นการทําเบเกอร่ีมีหลายชนิด เชน เตาอบไฟฟา และเตาอบแกส ที่ทําจากเหลก็ หรอื สแตนเลส เตาอบท่ดี ีตอ งสามารถตง้ั อุณหภมู ิท่ตี อ งการ ได มีตัวควบคุมอณุ หภมู ิ และทําใหอุณหภูมิคงที่สม่ําเสมอ สามารถเก็บความรอ นไดน าน ทําใหไมเปลืองเชอ้ื เพลงิ สาํ หรบั ราคาของเตาอบข้ึนอยูกบั ขนาดและวสั ดุที่นํามาผลติเชน เหลก็ สแตนเลส หรือใยแกว ทบี่ รรจอุ ยภู ายในเพ่อื ใชเกบ็ ความรอน ถา เตาอบมใี ยแกวบุอยูนอยก็จะทาํ ใหอุณหภูมใิ นตอู บไมค งท่ี ข้นึ หรือลงไดอ ยา งรวดเร็ว
47 เตาอบไฟฟา เตาอบไฟฟา มีหลายขนาด สามารถตั้งอุณหภูมิ และเวลาไดตามความเหมาะสมกับขนมแตล ะชนดิ มีไฟลางและไฟบนใหเลือกใชอบไดตามตองการ บางรุนมีพัดลมกระจายความรอนใหทั่วทําใหขนมมีสีเหลืองสวย สมาํ่ เสมอกัน ใชงานงาย และสะดวก เตาอบชนดิ แกส เตาอบชนดิ แก ส สวนใหญผลติ ในประเทศ มี หลาย ขนาด ราคาไมแพง เตาชนดิ นจ้ี ะมีเทอรโมมเิ ตอรอยูดานบนสุดของเตาเพอื่ ใชดอู ณุ หภมู ิในการอบขนม ทํามาจากเหล็ก มีทอเปลวไฟดานลาง และดานขางหลายราง อุณหภมู ิสงู -ต่าํ ตามเปลวไฟท่ีเปด ตามราง สามารถปรับเปลวไฟใหออนหรือแรง ตามความตองการได เมอ่ื ซื้อมาใหมๆ ผูขายจะทาสีเตาอบทั้งขางในและขางนอกเพอ่ื ใหด ูสวยงาม กอนใชตอ งกําจดั กล่ินสีกอนโดยการเผาไลค วันสเี คลือบเตา เพือ่ ไมใ หม คี วันและกลิ่นสีออกมาปนเปอนขนมในขณะ อบ การเผากําจัดกล่ินสีเคลอื บเตาทถี่ ูกตอง จะตอ งเปด เตาแกสทกุ ทอ ที่อุณหภูมิภายในเตาตํา่ (ไมค วรเกนิ 100 องศาเซลเซยี ส) พรอ มทงั้ ใสถ าดน้ําซงึ่ มีกากชาหรอืถานหงุ ตม แชอยเู พ่ือดดู กลิ่นและควนั สีในเตาอบ ใชเ วลาประมาณ 3 ชั่วโมง หรอื จนกวา ภายในของเตาอบมีสเี หลอื งไมม ีควนั และกลนิ่ สเี หลอื อยู การใชเ ตาอบในการทาํ ขนมอบ การใชเตาอบในการทําขนมอบ ควรจดุ ไฟท้งิ ไวใหเตารอน ตามที่ตองการ เม่อื ผสมสว นผสมของขนมเสร็จสามารถนําเขาอบไดทนั ที เพราะถา เตายังรอนไมพอ ขนมอาจไมขน้ึ แตถาเตารอนจดั เกินไปจะส้ินเปล้ืองเชอ้ื เพลิงตารางที่ 1 ตารางเปรยี บเทยี บอุณหภมู ขิ องเตาอบในระบบเซลเซยี สและฟาเรนไฮตองศาเซลเซยี ส องศาฟาเรนไฮต องศาเซลเซยี ส องศาฟาเรนไฮต 120 248 130 266 140 284 150 300 160 325 170 340 180 350 190 375 200 400 210 410 220 428 230 446 240 464 250 482
48 วธิ ีการใชเตาอบชนดิ แกส 1) ตรวจดวู าลวเปดแกส ของทุกทอ วาอยใู นตาํ แหนง ทป่ี ด อยกู อนใชทกุ คร้งั 2) เปด วาลวทถี่ งั แกส รวมทง้ั วาลว เปดปดแกสของวาลวตัวควบคุม 3) จุดไฟที่ปลายของทอนําไฟ พรอมทั้งเปดวาล วแกส ของทอ นําไฟ ไฟจะตดิ การปรับความรอนของเตาอบ สามารถปรับเปลวไฟใหออนหรือแรงได ตามตองการ โดยก ารปรบั วาลวเปดปดแกสของทอนําไฟ 4) จดุ ทอนําไฟไปที่รูอากาศลางของรางแกสท่ตี อ งการจดุ ไฟ 5) หากเปลวไฟตดิ ไมทว่ั ทง้ั รางหรอื เปลวไฟเปน สเี หลอื ง หรอื มีเขมาดําเกิดข้นึ ทาํ ใหเ กดิความรอนไมเพียงพอ ใหหมุนปรับที่เหรียญแบงอากาศของทอแกสแตละตจนัวกวา จะไดเ ปลวไฟสฟี า 6) ในกรณีที่ตองการเรงใหเตาอบรอนเร็วสามารถทําได ดังน้ี คือ จุดไฟทกุ รางแกส และเรง ไฟใหแรง เมื่อถึงอุณหภูมิท่ตี อ งการจงึ ปดไฟรางแกส ที่ไมตองการใช และรางแกส ที่ตองการใชใหหรีไ่ ฟทวี่ าลวเปดปดหัวเตาของรางแกสนั้น จุดไฟเฉพาะรางแกสที่ตองการใช โดยเรง ไฟใหแรงเม่ือถึงอุ ณหภูมทิ ่ตี อ งการ คอ ยหรไ่ี ฟที่วาลวเปดปดหัวเตาของรางแกสนั้น 7) ในกรณที ี่ไมต อ งการเรงความรอนใหจ ดุ ไฟเฉพาะรางแกส ที่ตองการและหรีไ่ ฟใหออ นลง คําแนะนําในการใชไฟเตาอบ 1) รางแกสที่อยูทางดานขางของเตาอบจะใชเปนไฟบนในการอบขนม โดยทุกครัง้ ท่ีมีการจดุ ไฟจะตอ งเปด หนา ตา งเตาทอ่ี ยูดานขา งทกุ ครง้ั (ถา มบี านเลื่อนปดเปด ได) 2) รางแกสที่อยูดานลางของเตาอบ จะใชเปนไฟลางในการอบขนม 3) ไฟที่ใชใ นการอบขนมนั้นเราตองหรไ่ี ฟใหค งที่ (ไฟคอนขางออน) เพือ่ ใหความรอนกระจายไดท ั่วถงึ หรือมี อณุ หภูมิคง ที่ หากเรง ไฟ (ใชไฟแรง ) ขนมสว นทอ่ี ยเู หนอื ไฟอาจจะไหมเกรยี มเกนิ ไป และอุณหภูมิจะเพม่ิ ข้นึ เร่อื ย ๆ ขอ ควรระวงั ในการใชเ ตาอบชนิดแกส 1) กอ นใชแ ละเมื่อเลิกใชเ ตา ตอ งปดวาลว ทุกตวั และปดวาลวท่ถี งั แกสเสมอ 2) ควรตั้งเตาในบริเวณที่มีอากาศถายเทไดสะดวก 3) อยาวางถังแกสตามแนวนอนเพราะจะทําใหแกสไหลผานหัวปรับ สายยางอาจแตกได 4) เมื่อมีกลนิ่ แกส ผดิ สังเกต อยาจดุ ไฟ ตอ งสาํ รวจใหแนใจวา ไมมแี กส ร่ัว 5) การเคลื่อนยายเตาหามออกแรงยกที่รางแกสเพราะจะทําใหรางแกส เกิดชํารดุ หรือร่วั ได 6) ควรวางเตาอบในที่ที่มรี ะดับเดียวกนั เพือ่ ปอ งกันเตาอบเอยี ง ซ่ึงจะมีผลตอการอบขนม
49 การบาํ รงุ รกั ษาและทําความสะอาดเตาอบชนิดแกส 1) เมื่อใชงานแลวควรเช็ดทําความสะอาดทุกครั้ง ในขณะที่เตายังอุน ๆ 2) ไมควรใหภายในเตามีเศษขนมมากเกินไป ซึ่งเศษขนมพวกนี้อาจจะไปปดรู ของรางแกส จนอดุ ตนั ได การทาํ ความสะอาดภายในเตาแกส และรางแกส ควรทําในขณะทเี่ ตาอบเยน็ แลว 3) หากไมไ ดใ ชเ ตาอบเปน เวลานานควรจุดแกสอุนเตาที่อุณหภูมิ 80-120 องศาเซลเซียสเพอ่ื ไลความชื้นทกุ ๆ 15 วนั เทอรโ มมเิ ตอรวาลวเปดปด หวั เตาบน วาลว เปดปด หัวเตาบน รอู ากาศลาง 4 รูวาลวแมค วบคุมทั้งหมด วาลว เปดปด หัวเตาลา ง วาลวเปด ปด ทอ นําไฟ ภาพที่ 1.35 เตาอบชนดิ แกส
504. คาํ ศัพทต า ง ๆ เกยี่ วกับเบเกอรี่ 1 0 4.1 คาํ ศัพทเ กีย่ วกบั ขนมอบ ขนมปง (Bread) คือ อาหารชนิดหนึ่ง ท่ีรจู ักกันแพรห ลาย ทํามาจาก แปง น้ํา เกลือ สารท่ีชว ยใหข นึ้ ฟู และสว นผสมอน่ื ๆ อีกหลายชนิด โดยมีสว นผสมสาํ คญั ทีช่ ว ยใหข นึ้ ไดดี คือ ยีสต ขนมปง มี 2 ชนิด คอื- ยสี ตเบรด หมายถงึ ขนมปงทใ่ี ชยีสตเปน ตัวทาํ ใหข้ึน- ชอ คเบรด หมายถึง ขนมปงที่ใชสารเคมีเปนตวั ทาํ ใหข ้ึน เคก (Cake) คอื ขนมอบทปี่ ระกอบดวย ไขมัน นาํ้ ตาล ไข นม แปง และสวนผสมอ่ืนๆ เชนเน้อื ผลไมส ดและเช่ือม มสี วนประกอบสําคัญท่ชี วยทาํ ใหข น้ึ คือ ผงฟู หรือเบคก้งิ โซดา เคก แบง ออกเปน 3 ชนดิ คอื - เคก เนย (Butter Cake) คอื เคก ทมี่ ีไขมนั เปนสว นผสมหลกั- เคก ไข (Sponge Cake) คือ เคก ทีม่ ไี ขเ ปนสวนผสมหลกั- ชิฟฟอ นเคก (Chiffon Cake) คอื เคกท่แี ยกไขขาว – ไขแดง คุกกี้ (Cookies) คือ ขนมหวานชน้ิ เลก็ ๆ ทม่ี ีความกรอบมักใชรับประทานเปนของขบเคี้ยวเลน พาย (Pie) คือ ขนมอบซึ่งประกอบดวยสวนเปลือก และสวนไส ทําจากผลไม หรอื เน้ือสตั วมีลกั ษณะรว น ทารต (Tart) คือ เปลือกพายที่อบพรอ มไสชนดิ ตาง ๆ ตามความตองการมีขนาดเล็ก พัฟเพสตรี้ (Puff Pastry) คือ ขนมอบชนิดหนึ่งมีลักษณะคลายพาย จะมีชั้นของแปงสลับกับช้นั ของเนย การท่เี ปน ชนั้ ไดโ ดยการคลึงแปงออกเปนแผนแลววางเนยลงสลับ พับทบแปงแลวคลึงทาํ ซํ้ากัน 3-4 ครั้ง เมื่ออบขนมแลว จะไดเปลอื กขนมที่เปนชนั้ หลาย ๆ ชั้น บิสกติ (Biscuits) คือ ขนมอบประเภทคุกกี้ มีลักษณะเปนแผนบางๆ คอนขางกรอบ มักทําใหเปนรูปรางตางๆ ไดตามตองการโดยใชพิมพกดลงบนแปงที่ผสมแลว ครวั ซองค (Croissant) คือ ขนมอบชนดิ หนง่ึ ที่ข้นึ ดวยยสี ต และมสี วนผสมของไขมนั อยูมากลักษณะแปงขางนอกกรอบเปน ชั้น สว นขา งในนมุ มวนเปน รปู เขาควาย หรอื พระจนั ทรครง่ึ เสีย้ ว1 ทิพาวรรณ เฟอ งเรอื ง. (2533). ขนมอบ. กรุงเทพฯ : ทพี ีเพรส. หนา 260-262
51 4.2 คําศัพทเ ก่ียวกบั สวนผสมทีใ่ ชในการทาํ ขนมอบ ยีสต (Yeast) คอื สง่ิ มีชีวิตเลก็ ๆ เติมลงในสวนผสมของแปง ทําใหเกิดการหมักขึ้น ทําใหพองฟูขึ้น เหมาะสําหรับการทําขนมปง ผงฟู (Baking Powder) คือ สารทท่ี าํ ใหเ กดิ การฟู โดยปฏกิ ิ ริยาทางเคมีนิยมใชทําขนมเคกคุกกี้ หรอื ขนมอบชนิดตา งๆ ผงฟมู ี 2 ชนิด คือ ผงฟชู นิดเกดิ ปฏิกริ ิยาทนั ที และผงฟชู นดิเกดิ ปฏกิ ิรยิ าสองเทาตวั โซดาไบคารบอเนต (Baking Soda) อกี ชื่อหนึ่งใชเรยี ก ผงโซดา เปนสารชนดิ หนงึ่ ที่ชว ยใหข นมขน้ึ ฟโู ดยปฏิกิริยาทางเคมี มักนิยมใชทําคุกกี้ เคก แอมโมเนยี (Ammonia) คือ สารเคมีทท่ี าํ ใหเกดิ การฟูและเกดิ ปฏิกริ ิยาอยางรวดเรว็ ใชท าํขนมอบบางชนิด ครมี ออฟทารท าร (Cream of Tar Tar) คอื สารชวยใหขนึ้ ฟูชนิดหน่ึง โดยปกติจะเติมลงในไขข าว เพื่อทําใหไ ขข าวตขี ึน้ แลว คงตัวไมย บุ งา ย คสั ตารด (Custard) คอื สวนผสมของไข นม และสว นผสมอนื่ ๆ อบในเตาอบจนกระทั่งขน และสกุ มรี สหวาน น้ําตาลไหม (Caramel) คอื นาํ้ เช่ือมหรอื นาํ้ ตาล นํามาตม หรือเผาไฟจนมสี นี าํ้ ตาล ช็อกโกแลต (Chocolate) คอื ผลผลติ ทไ่ี ดจากเมล็ ดโกโก ผลิตออกมาในรูปแบบตาง ๆ กันเชน ชอ็ กโกแลตชนดิ ไมห วาน ชอ็ กโกแลตชนดิ หวานสาํ หรบั ทาํ ขนม นมผงขาดมนั เนย (Powder Milk) คอื นมท่แี ยกเอานํ้าและไขมันสวนใหญอ อกเกือบหมดทาํ ใหเปนผง นมขน จดื ระเหย (Evaporated Milk) คอื นมท่ีระเหยเอานาํ้ ออกมากวา ครึ่งหนงึ่ เม่ือเวลาจะใช ในรูปของนมสดตองเติมน้ําลงผสมเทาตัวของนมที่ใช จึงจะไดนมสดที่สมบูรณ เนยขาว (Shortening) คอื ผลผลติ จากนา้ํ มนั พืชหรือจากไขมันสตั วทผ่ี านกรรมวิธี กล่ัน กรองฟอกสีและการเติมกาซไฮโดรเจนเขาไป มักใชในขนมจําพวกขนมปงและการแตงหนาเคก เนยสด (Butter) คือ ผลผลติ จากไขมันในนา้ํ นมสด มสี ีเหลืองออ น กล่นิ หอม มปี ริมาณไขมนั รอยละ 70-80
52 เนยเทยี ม หรอื มาการนี (Margarine) คอื ไขมันซึ่งสกัดมาจากพืช มีไขมันรอยละ 80 อาจใชแทนเนยสดได สําหรับขนมบางสูตร เพสตรี้ มาการีน (Pastry Margarine) คอื เนยเทยี มชนดิ จุดหลอมเหลวสูง ใชเ ปนไขมันทีอ่ ยูระหวางช้ันแปงพฟั เพสตรี้ ครัวซองค น้าํ ตาลไอซงิ่ (Icing Sugar) คือ นํา้ ตาลทรายซง่ึ บดจนละเอยี ดแลว เติมสว นผสมของแปงขาวโพดลงไปเลก็ นอ ย เพื่อปอ งกนั การจับเปนกอน ผงโกโก (Cocoa Powder) คือ ช็อกโกแลตที่ทําเปนผงและแยกเอาไขมันออกบางสวน แยม (Yam) คอื ผลไมก วนทําจากเนือ้ ผลไม นาํ้ ตาล และนาํ้ เคย่ี วจนขน ผลไมแชอมิ่ คือ ผลไมชนิดตางๆ ที่ทําตามกรรมวิธีถนอมอาหารโดยการนําไปแชน้ําเชื่อมจนอ่ิมตัว แปง ขนมปง (Bread Flour) คอื แปง สาลชี นดิ เน้อื หยาบ มีเปอรเ ซน็ ตข องโปรตนี สูงและมีการดูดซึมน้ําไดสูง ใชในการทําขนมปง แปงอเนกประสงค (All Purposed Flour) คือ แปงสาลีชนิดเนื้อแข็งปานกลาง ใชทําขนมชนดิ ตา งๆได แปง เคก (Cake Powder) คอื แปง สาลชี นิดหนง่ึ เน้ือละเอยี ด ขาว มปี ริมาณของโปรตีนตาํ่เหมาะสําหรับทําเคก 4.3 คาํ ศพั ทเ ก่ียวกับขัน้ ตอนการทําขนมอบ กลเู ต็น (Gluten) คอื สง่ิ ท่มี ีลกั ษณะเปนยางยดื หยุน ได เกดิ จากการรวมตัวของโปรตีนในแปงกบั นํา้ การหมกั (Fermentation) คือปฏกิ ริ ิยาทางเคมีที่เกิดจากยีสตกับ น้ําตาล ทําใหเกิดกา ซคารบ อนไดออกไซด โด (Dough)คอื ของผสมระหวางของเหลว แปง สว นผสมอน่ื ๆ ซง่ึ มคี วามเหนยี วและนวดได สปองจ (Sponge) คือ การเตรียมสวนผสมขั้นแรกในการทําขนมปงประกอบดวย แปง ยีสตนาํ้ และอน่ื ๆ จากนัน้ หมักทิ้งไว
53 สรุปเน้อื หาหนว ยท่ี 1 ความรูเ บอ้ื งตนเกีย่ วกับผลติ ภัณฑเบเกอรี่การเลือกใชว ัตถดุ บิ ในการทําผลติ ภัณฑเบเกอรี่ 1) แปงสาลี เปนวัตถุดิบท่ที าํ หนาทเ่ี ปน โครงรางใหก ับผลิตภัณฑเบเกอร่ี แปงขนมปง นิยมใชทําขนมปง และผลิตภัณฑท ่ีมยี สี ตเปน สารทช่ี ว ยทาํ ใหข้นึ ฟู แปง อเนกประสงค สามารถใชท าํ ผลติ ภณั ฑเบเกอรี่ไดห ลายชนดิ เชน คุกก้ี พาย โดนัท สารที่ชว ยทําใหข้นึ ฟสู ามารถใชไ ดท้งั เบคกิ้งโซดา ผงฟู และยีสต แปงเคก นิยมใชทําเคก เชน เคก เนย สปองจเคก และชฟิ ฟอ นเคก สารทชี่ ว ย ทาํ ใหขึน้ ฟสู ามารถใชไ ดท ั้งผงฟู และเบคกงิ้ โซดา แปง ชนิดอน่ื ๆ แปงโฮลวีต นิยมใชท ําผลติ ภณั ฑเบเกอรีเ่ พอ่ื สขุ ภาพ แปงขาวโพด นยิ มใชท าํ ไสข นมชนิดตาง ๆ แปง คัสตารด นิยมใชผ สมทาํ ไสค รมี ทําใหไสของขนมขน มีสีครมี และกลิ่นหอม 2) ไขมนั เปนวัตถดุ บิ ท่ีทาํ หนา ท่ีใหค วามออนนุมกบั ผลิตภณั ฑเบเกอรี่ ทําใหโครงรางผลิตภณั ฑม ีความคงตัว และมกี ล่ินรสทดี่ ี เนยสด ใหก ลนิ่ รสท่ีดี แตต ีใหข้ึนฟไู ดย ากกวาเนยเทยี มและเนยขาว มีราคาแพง นยิ มใชผ สมกบั เนยเทยี มทําเคก คุกก้ี โดนัทเคก เนยขาว นยิ มใชท าํ ขนมปง ตีครีมแตงหนาเคก ทาพิมพแ ละเปน นาํ้ มนั ทอดโดนทั เนยเทยี มหรือมาการนี นิยมใชผสมกับเนยสดทําเคกคกุ กี้ โดนทั เคกราคาไมแพง บางชนิดมีจุดละลายสูง เชน เพสตรี้มาการีน จึงนํามาใชทําแปงพายชั้น น้าํ มันพืช ใชทําเคกบางชนิดแทนเนย เชน ชิฟฟอนเคก 3) ไข เปนวัตถดุ ิบท่ที าํ หนาท่ีเปนโครงรางผลิตภัณฑเบเกอรี่ ทําใหเน้ือผลติ ภณั ฑ นุม ฟูชว ยเพ่มิ กลน่ิ รสใหเขมขน มสี ีสันสวยงาม และชวยเพิ่มปรมิ าตรผลิตภัณฑ 4) นาํ้ ตาล เปนวตั ถุดิบที่ทาํ หนา ทใ่ี หความหวาน ชวยเก็บความชื้นใหกบั ผลติ ภณั ฑ และชว ยใหส ีผวิ ของผลิตภัณฑมคี วามสวยงาม นาํ้ ตาลทรายขาว ชนิดละเอียดมากใชทําคกุ กี้ เคก ชนิดธรรมดาใชทําแยมโรล และชนดิ หยาบใชโ รยบนคุกกี้ หรอื ยอมสีเพื่อตกแตงหนา ขนมใหสวยงาม นาํ้ ตาลไอซ่งิ ใชโรยหนาขนมปงเนยสด และโดนทั ใหส วยงามนา รับประทาน นาํ้ ตาลทรายแดง ใชทําขนมทต่ี อ งการกล่ินรสและสขี องน้าํ ตาล เชน เคกผลไม
54 5) เกลอื เปนวัตถุดิบที่ชวยเพิ่มรสชาติใหขนมดีขึ้น ชวยควบคุมการทํางานของยีสตในการหมกั และชวยทาํ ใหเ กดิ สีผิวของขนมอบ 6) นํา้ เปน วัตถดุ ิบที่ชวยละลายสว นผสมอน่ื ๆ เปนตวั ทาํ ใหเกิดการเปล่ียนแปลงโครงสรา งโปรตนี ในแปงสาลใี หเ ปน กลเู ตน็ ท่ีมีความเหนยี วและยืดหยนุ ดี ชว ยใหย สี ตก ระจายตวั ทาํ งานในระหวางการหมักโด ชวยทําใหแปงสุกสม่ําเสมอในระหวางอบ 7) นม เปนวตั ถดุ ิบทท่ี าํ หนาที่ใหค วามออนนมุ สีสนั และกลน่ิ รสกบั ผลิตภัณฑเบเกอรี่ นมสด เปน ผลติ ภัณฑท ี่ไดจ ากนมวัว ทําใหขนมมีสขี าวกวา ขนมที่ทําจากนมชนิดอื่น นมขน จดื นิยมใชทําผลิตภณั ฑเบเกอรี่มากกวา นมสด นมผง นิยมใชนมผงขาดมันเนยทําขนมปงหรือไสขนม 8) สารท่ที ําใหข ้นึ ฟู เปนวตั ถุดิบท่ีทาํ หนาทใ่ี หโ ครงรางผลติ ภณั ฑขนึ้ ฟู เบา โปรงพอง ยสี ต ใชทําโดนัทยีสตและขนมปงชนิดตางๆ ยีสตท ่นี ิยมใช คือ ยสี ตผ งเร็จรปู เบคก้งิ โซดา นิยมใชทําคกุ กี้ เคก ผงฟู นยิ มใชท าํ คุกกี้ เคก แอมโมเนยี นิยมใชทําขนมหนาแตก 9) สารเสริมคุณภาพ เปนสารทชี่ ว ยทาํ ใหเ นื้อสมั ผสั ของผลิตภัณฑดี นมุ ฟู ท่ีนิยมใชในทอ งตลาด ไดแ ก เอ็มแพล็กซ เอสพี อซี ี 25 เค และสารเสริมคณุ ภาพขนมปง 10) กลิน่ รสและสวนผสมอ่ืน ๆเปน วัตถดุ บิ ทชี่ วยเพมิ่ กลน่ิ รสและสใี หก ับผลิตภณั ฑท ําใหผลิตภัณฑมกี ล่นิ รสทด่ี ี นา รบั ประทาน เชน ชอ็ กโกแลต วานิลา สผี สมอาหาร เหลารมั ฯลฯการเก็บรกั ษาวตั ถดุ ิบ หลกั การเกบ็ รกั ษาวตั ถุดบิ โดยทั่วไป คอื เกบ็ วัตถดุ ิบทมี่ คี วาม ชน้ื ไวในท่ชี ้นื และ เกบ็วตั ถุดบิ ท่แี หง ไวในท่ีแหง สว นวตั ถดุ บิ ที่เสียงา ยเกบ็ ไวในตูเ ยน็ สําหรับการเกบ็ วัตถุดบิ ในตูเยน็ ซ่ึงมีความชื้น ควรหอ ดว ยพลาสติก หรือใสภ าชนะปด ฝาใหม ดิ ชิด เพ่อื ปอ งกันการสูญเสียรส กลิ่น การเก็บรักษาวตั ถดุ บิ ท่ีสาํ คญั ในการทําผลติ ภณั ฑท่ถี กู ตอ งควรปฏิบัตติ อ ไปนี้ 1) แปง ชนดิ ตาง ๆ เชน แปงเคก แปงขนมปง แปงอเนกประสงค ฯลฯ ควรเก็บในหองที่สะอาด มีอากาศถายเทดี ปราศจากกลิ่น ปลอดจากแมลงรบกวนจะมีคุณภาพดี สามารถเกบ็ ไดน านถึง 5 เดอื น ในกรณที ี่แปง มีตวั แมลงอยจู ะตอ งแยกออกมาทง้ิ ทนั ที 2) ไขมนั และนํ้ามันควรเก็บตามคุณสมบัติของไขมัน เชน เนยสด ควรเก็บในตูเ ย็น เนยขาวเนยเทียมและนํ้ามนั พืช สามารถเกบ็ ไวใ นทีอ่ ุณหภมู หิ องได ควรเกบ็ ใหพน จากแสงและอุณหภูมิทส่ี งู เพราะจะทาํ ใหไ ขมันมกี ลน่ิ หืนไดง า ย ไมค วรเก็บไวใกลส ่ิง ของที่มีกล่ิน เพราะไขมันสามารถดดู กลน่ิ แปลกปลอมเขา ไวไ ดง า ยและรวดเรว็
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147
- 148
- 149
- 150
- 151
- 152
- 153
- 154
- 155
- 156
- 157
- 158
- 159
- 160
- 161
- 162
- 163
- 164
- 165
- 166
- 167
- 168
- 169
- 170
- 171
- 172
- 173
- 174
- 175
- 176
- 177
- 178
- 179
- 180
- 181
- 182
- 183
- 184
- 185
- 186
- 187
- 188
- 189
- 190
- 191
- 192
- 193
- 194
- 195
- 196
- 197
- 198
- 199
- 200
- 201
- 202
- 203
- 204
- 205
- 206
- 207
- 208
- 209
- 210
- 211
- 212
- 213
- 214
- 215
- 216
- 217
- 218
- 219
- 220
- 221
- 222
- 223
- 224
- 225
- 226
- 227
- 228
- 229
- 230
- 231
- 232
- 233
- 234
- 235
- 236
- 237
- 238
- 239
- 240
- 241
- 242
- 243
- 244
- 245
- 246
- 247
- 248
- 249
- 250
- 251
- 252
- 253
- 254
- 255
- 256
- 257
- 258
- 259
- 260
- 261
- 262
- 263
- 264
- 265
- 266
- 267
- 268
- 269
- 270
- 271
- 272
- 273
- 274
- 275
- 276
- 277
- 278
- 279
- 280
- 281
- 282
- 283
- 284
- 285
- 286
- 287
- 288
- 289
- 290
- 291
- 292
- 293
- 294
- 295
- 296
- 297
- 298
- 299
- 300
- 301
- 302
- 303
- 304
- 305
- 306
- 307
- 308
- 309
- 310
- 311
- 312
- 313
- 314
- 315
- 316
- 317
- 318
- 319
- 320
- 321
- 322
- 323
- 324
- 325
- 326
- 327
- 328
- 329
- 330
- 331
- 332
- 333
- 334
- 335
- 336
- 337
- 338
- 339
- 340
- 341
- 342
- 343
- 344
- 345
- 346
- 347
- 348
- 349
- 350
- 351
- 352
- 353
- 354
- 355
- 356
- 357
- 358
- 359
- 360
- 361
- 362
- 363
- 364
- 365
- 366
- 367
- 368
- 369
- 370
- 371
- 372
- 373
- 374
- 375
- 376
- 377
- 378
- 379
- 380
- 381
- 382
- 383
- 384