Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore ✍️ ลักษณะไทย พระพุทธปฏิมา อัตลักษณ์พุทธศิลป์ไทย

✍️ ลักษณะไทย พระพุทธปฏิมา อัตลักษณ์พุทธศิลป์ไทย

Description: ✍️ ลักษณะไทย พระพุทธปฏิมา อัตลักษณ์พุทธศิลป์ไทย

Search

Read the Text Version

ลูกบวบ ชายจวี รทถ่ี กู มว้ นเปน็ ลูก เกดิ จากวธิ ีการนุ่งห่ม วชั รยาน, ลัทธิ “วถิ ีของวชั ระ” เปน็ ชอ่ื ทเี่ รียก “ตันตระยาน” โดยจะใชม้ ือซา้ ยจบั เอาไวเ้ พอ่ื ไมใ่ ห้จีวรคลาย ตัวออก (ดู ตันตระยาน) โดยเรียกตามวัชระ (ดู วัชระ) ลกู บวบ ซง่ึ เป็นสญั ลกั ษณ์ของความแขง็ แกรง่ ประดุจ เพชรของโพธิ ทไ่ี ม่มีวนั สิ้นสลาย ความเปน็ หนึง่ เดยี วของมายา และศูนยตา กรณุ า และปรัชญา วชั รสัตวพ์ ุทธะ, พระ พระนามทศี่ ลิ าจารกึ เขมรเรยี กพระอาทิพุทธะ หรอื พระปฐมพทุ ธของลทั ธิตันตระยาน ซึง่ เปน็ พระพทุ ธเจา้ องคท์ ี่หก ผปู้ ระทานกำเนิดแก่ ลกู ฟกั , ลาย พระปาญจสคุ ต หรือพระชนิ พุทธะ ๕ พระองค์ (ดู ชินพทุ ธะ) วัชระ อาวธุ ของพระอนิ ทร์ เป็นสญั ลกั ษณข์ อง ความจรงิ สงู สุด สามารถทำลายอวชิ ชาทง้ั หลายได ้ ในลัทธิตนั ตระยานเปน็ เครือ่ งมือท่ีพระภกิ ษุถอื ในมอื ขวาเวลาทำวตั ร เป็นสญั ลกั ษณข์ องปัญญา ส่วนมอื ซา้ ยถอื ฆณฺฏา (กระดงิ่ ) สญั ลกั ษณ์ ของอบุ าย ลายลูกฟัก วัชระ หมวด ว. การแบ่งเขตพน้ื ท่ีการปกครองของ วปิ สั สนากรรมฐาน การฝึกจติ หรือการทำสมาธิ ใหเ้ กิดปัญญารู้แจง้ กรุงศรีอยุธยา เริ่มใช้ต้ังแต่สมยั สมเด็จ บา้ งเรียกวา่ การเจริญวปิ ัสสนา หรือวปิ สั สนาธรุ ะ พระนเรศวรจนกระทง่ั เสียกรงุ ครัง้ ที่ ๒ วงราชธานี (พ.ศ. ๒๑๓๓ – ๒๓๑๐ / ค.ศ. 1590 – 1767) วหิ าร อาคารท่ีประชุมสงฆ์ มีพระพุทธรปู เปน็ องค์ ประกอบด้วยหวั เมอื งช้ันเอก โท ตรี จตั วา ประธาน แตต่ ่างจากพระอโุ บสถตรงที่ โดยมศี นู ยก์ ลางอำนาจการปกครองคอื พระวหิ ารจะอาจใช้ประกอบสังฆกรรมอยา่ งเช่น กรงุ ศรอี ยธุ ยา เรยี กพืน้ ทศี่ ูนย์กลางนวี้ ่า การทำวัตรเช้าเยน็ การเทศนาธรรม โดยวิหาร เขตวงราชธานี เรยี กการปกครองของ จะไม่ใชป้ ระกอบสงั ฆกรรมสำคัญท่บี ญั ญัติใน อาณาจกั รอยุธยาในสมยั นว้ี ่า ช่วงวงราชธานี พระวนิ ยั ใหก้ ระทำในพระอุโบสถ เชน่ (ดแู ผนที่ ๔. แผนที่สมัยอยธุ ยา ช่วงวงราชธานี) การอปุ สมบท หรอื การสวดปาตโิ มกข์ทกุ วันพระใหญ่ (ดู อุโบสถ) ภาคผนวก ๕๖๓

หมวด ศ. ศิราภรณ์ เคร่ืองประดับพระเศยี ร ศลิ า หนิ ศก ผม, เสน้ ผม เศวตฉตั ร ฉตั รสขี าว สญั ลักษณข์ องพระราชา เศียร หวั , ศีรษะ ศราวกยาน, ลัทธ ิ “วิถขี องผสู้ ดับฟัง” เป็นลทั ธทิ ี่ปจั จบุ ันใช้เรียกแทน ศร ธนู “หนี ยาน” อันได้แกก่ ลุ่มทมี่ กี ารสบื ทอด นกิ ายดัง้ เดิมทพ่ี ระสมั มาสัมพทุ ธเจา้ ทรง สถาปนาข้นึ (ดู เถรวาท) คำส่งั สอนขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพทุ ธเจา้ หมวด ส. กางเกงมีขนาดยาวประมาณครง่ึ แข้ง โดยท่มี ีจุดมงุ่ หมายจะบรรลุอรหนั ต์ และนิพพาน ผา้ นงุ่ สำหรบั พระภกิ ษุสามเณร (ดู ไตรจวี ร) สถวีรวาท, นกิ าย พระนามทน่ี ิกายเถรวาท ศรอี รยิ เมตไตรย, พระ พระนามทีน่ ิกายเถรวาทเรยี กพระอนาคต- เรยี กพระสัมมาสมั พทุ ธเจา้ สนับเพลา ซง่ึ เปน็ พระพทุ ธเจา้ ผสู้ ถาปนาพระพทุ ธศาสนา พุทธะ (ดู เมตไตรย, ศรอี ารยิ )์ สบง คำน้ีปรากฏขึ้นคร้ังแรกในศลิ าจารึกจามเม่ือ ปี พ.ศ. ๑๕๙๓ (ค.ศ. 1050) และจารึกปราสาท สมณโคดม, พระ นครวัด กัมพูชา ช่วงครึ่งหลงั พทุ ธศตวรรษที่ ศรอี ารยิ ์, พระ พระนามยอ่ ทน่ี ิกายเถรวาท เรียกพระอนาคต- ๑๗ (ต้นครสิ ต์ศตวรรษที่ 12) หมายถึง ผทู้ ีม่ ผี วิ ดำ สยามเป็นคำท่ชี าวต่างชาติ พุทธะศรีอริยเมตไตรย ในความเชือ่ ของ ใชเ้ รยี กผทู้ ีอ่ าศยั อยใู่ นบริเวณจังหวดั สพุ รรณบุร ี และพระนครศรอี ยุธยาในปัจจุบัน ซง่ึ เปน็ พุทธศาสนิกชนไทยแต่เดมิ มา เช่ือว่ายุคท ่ี สยาม ชาวขอม (ดู ขอม) หรือชาวมอญ หรือชาวมอญ – เขมร ทร่ี ับอารยธรรมเขมรจากกมั พูชา ตอ่ มา พระศรอี าริยจ์ ะตรสั รแู้ ละโปรดสัตว์โลก ใชเ้ ป็นช่อื เรยี กรัฐไทยและชนชาตไิ ทย หรอื ที่เรียกว่ายคุ พระศรอี ารยิ ์ จะเปน็ ยุคแห่ง นามทภ่ี กิ ษุลงั กา เรียกคณะสงฆอ์ ยธุ ยา ในสมัยสมเดจ็ พระเจ้าบรมโกศ ความดี ความเจริญ และความสมบรู ณ์พนู สขุ (พ.ศ. ๒๒๗๖ – ๒๓๐๑ / ค.ศ. 1733 – 1758) บา้ งเรียกว่า นกิ ายสยามวงศ ์ ศอ คอ, ลำคอ สยามนิกาย, คณะ ศากยมุนี, พระ พระนามทลี่ ัทธมิ หายานเรียกพระสัมมาสมั พทุ ธเจ้า ศาสนาสิงหล คำทต่ี ำนานต่างๆ เรยี กนิกายเถรวาท คณะมหาวหิ าร ฝา่ ยอรัญวาสี (ดู สหี ฬภกิ ขุ) ศริ จกั ร แสงสว่างรอบเศียรพระพุทธเจา้ หรอื เทพเจา้ ศริ จักร ๕๖๔ พระพุทธปฏมิ า อัตลักษณ์พทุ ธศิลป์ไทย

สรรวาสติวาส, นกิ าย นกิ ายหนง่ึ ในศราวกยาน ที่แยกออกจากนกิ าย โดยทรงเดนิ จงกรมพจิ ารณาสัตว์โลกที่จะ สถวรี วาท เม่ือปลายพทุ ธศตวรรษท่ี ๓ โปรดอยู่ ๗ วัน (กลางครสิ ต์ศตวรรษที่ 3 ก่อนครสิ ต์กาล) (๔) รตั นฆรเจดีย์ หรอื เจดยี ์เรอื นแกว้ หรอื มพี ระไตรปฎิ ก และอรรถกถาเป็นภาษา เจดีย์แห่งอาคารทีป่ ระดับด้วยเพชรพลอยทเ่ี ทวดา สันสกฤต เปน็ นิกายที่รเิ ริ่มการบำเพญ็ บารมี นำมาถวาย โดยทรงพจิ ารณาธรรมในเรอื นแก้ว ของพระโพธิสตั ว์ และเปน็ นิกายทีเ่ จริญ นั้นถงึ ๗ วัน รุ่งเรืองอย่ใู นแคว้นคันธารราษฎร ์ (๕) อชปาลนโิ ครธเจดยี ์ เป็นตน้ ไทรของ ผเู้ ล้ียงแพะทพี่ ระพุทธองคป์ ระทับอยู่ในช่วงท ี่ สรีระ รา่ งกาย ธดิ าพญามารมาผจญอยู่ ๗ วัน (๖) มจุ ลินทเจดยี ์ หรอื ราชาแห่งต้นจิกหรอื สรรี างคาร เถ้าอัฐิท่ีเหลือจากการฌาปนกจิ ศพ ต้นมุจละ โดยครั้งท่พี ระพทุ ธองคท์ รงประทบั บำเพญ็ เพียรอยใู่ ตต้ ้นจิกหรือต้นมจุ ละ เมื่อฝน สงั กจั จายน,์ พระ พระนามทีช่ าวไทยสมัยรัตนโกสินทร์เรียก ตกลงมา พญานาคมจุ ลนิ ทไ์ ด้ขดลอ้ มแลว้ แผ ่ พระมหากจั จายนะ สบื เนอื่ งมาจากได้มีการ พงั พานเป็นร่มกนั ฝนให้พระองค์ตลอด ๗ วนั ค้นพบรปู พระมหากัจจายนะทวี่ ดั ร้างแหง่ หนงึ่ (๗) ราชายตนะเจดีย์ หรอื ทอ่ี ยู่แหง่ ในธนบุรี ในสมยั พระบาทสมเดจ็ พระ พระราชา พระพทุ ธองค์เสวยวมิ ุตติผล- พทุ ธยอดฟา้ จฬุ าโลก และเมอื่ ไดบ้ รู ณะ สมาสมบัติ ประทับอยู่ใตต้ น้ เกดหรือ ปฏสิ ังขรณ์ วดั ร้างแหง่ นีข้ ้นึ ใหม่แล้ว ตน้ ราชายตนะ มีพระอินทร์มาถวายสมอทิพย์ จึงเรียกวา่ วัดสงั กัจจายน์ ตามชือ่ รูป และพอ่ คา้ สองคนช่ือตปุสสะและภลั ลิกะถวาย พระภกิ ษุนาม กัจจายนะ (ดู มหากจั จายนะ) ข้าวมธปุ ณิ ฑิกา ซงึ่ ขณะนั้นพระพุทธเจา้ ยังไมม่ ี บาตร ทา้ วจตโุ ลกบาลจึงถวายบาตรแด ่ สงั ฆาฏิ ผ้าคลุมสำหรับพระสงฆ์สำหรับหม่ กันหนาว พระพุทธองค์ และขอรับเปน็ อบุ าสกคู่แรก และมักจะพับเป็นแถบใชพ้ าดบ่า ของโลก พระพทุ ธเจา้ จงึ ทรงลบู พระเศียรและ ประทานพระเกศาแกพ่ อ่ ค้าทง้ั สอง สังวาล สายสรอ้ ยอันเป็นเครอื่ งประดับใชค้ ล้องเฉวียงบา่ สัมมาสมั พุทธเจ้า, พระ พระนามทน่ี ิกายเถรวาท สัตตมหาสถาน สถานที่สำคัญ ๗ แหง่ หรือการจำลองสถานท ่ี เรยี กพระพุทธเจ้าองคผ์ ูส้ ถาปนาพระพทุ ธศาสนา สำคัญ ๗ แห่งทเ่ี กย่ี วกบั พระพทุ ธประวตั ชิ ว่ ง ๗ สปั ดาห์หลงั จากทท่ี รงตรัสรู้ ประกอบดว้ ย สมั มิตียะ, นกิ าย นกิ ายหนงึ่ ใน ๑๘ นกิ ายของลัทธิศราวกยาน (๑) โพธบิ ัลลังก์ หรือบัลลังก์แหง่ ตน้ โพธิ์ ปรากฏขน้ึ ในชว่ งกลางพุทธศตวรรษท่ี ๕ เม่ือคร้งั ทีพ่ ระพทุ ธองคป์ ระทับทีใ่ ต้ต้นศรมี หาโพธ์ิ (ปลายครสิ ต์ศตวรรษท่ี ๑ ก่อนคริสต์กาล) หลงั จากตรัสรู้ต่ออกี ๗ วนั รุ่งเรอื งในแถบเมืองสารนาถ ประเทศอนิ เดีย (๒) อนิมิสสเจดีย์ พระพุทธเจา้ ทรงยืน พจิ ารณาเพ่งดูตน้ ศรมี หาโพธท์ิ ี่พระองคไ์ ดใ้ ช ้ สมั ฤทธ์ิ โลหะผสมชนิดหนึง่ สว่ นใหญ่ประกอบดว้ ย ประทับจนบรรลพุ ระสมั มาสัมโพธญิ าณ โดยทรง ทองแดงกบั ดีบกุ บ้างสะกดว่า สำรดิ ยนื พิจารณาจากทางทิศตะวันออกเฉยี งเหนือ ของตน้ พระศรีมหาโพธโิ์ ดยมิไดก้ ระพรบิ สาทสิ ลักษณ ์ ภาพเขยี นเหมอื นบคุ คลจรงิ พระเนตรอยถู่ ึง ๗ วนั (๓) รตั นจงกรมเจดีย์ หรอื เจดยี ์ที่ทรง เดินจงกรมอันประดบั ด้วยรัตนะอันมคี ่า ภาคผนวก ๕๖๕

สุขาวด,ี นิกาย เปน็ นกิ ายหนง่ึ ในลทั ธมิ หายาน เกดิ ขนึ้ ใน หม่ คลมุ การนำจีวรมาห่มพันกายใหค้ ลุมไหล่ท้ัง สองขา้ ง โดยจะม้วนชายจีวรเขา้ หาตวั ประเทศจนี เม่อื กลางพุทธศตวรรษที่ ๙ ซึง่ ม้วนของชายจีวรเองนีเ้ รยี กว่าลกู บวบ และหากจะพาดสงั ฆาฏิ ให้พาดทับท่ไี หล่ซ้าย (ต้นคริสตศ์ ตวรรษที่ 4) โดยเนน้ ท่กี าร ใชม้ อื ขวาแหวกชาย ลูกบวบออกมา มักหม่ คลมุ เมือ่ ออกนอกบรเิ วณวัด ถวายภกั ดี ตอ่ พระอมติ าภพทุ ธะ ดว้ ยการบูชา หม่ ดอง หรอื การหม่ ลดไหล่ หรือการหม่ เฉวยี งบา่ คอื ทำสมาธิ และกลา่ วพระนาม ซึ่งเมอื่ เสียชีวติ การนำจวี รมาห่มพนั กายใหค้ ลุมไหลซ่ ้าย และเปิดใหลข่ วา โดยจะม้วนชายจีวรเขา้ หาตวั แลว้ จะไปเกิดในสวรรคส์ ุขาวดี และหลดุ พ้น อนึง่ พระคณะธรรมยุติกนกิ ายจะหมุนลกู บวบ ไปทางซา้ ยออกนอกตัว สว่ นพระคณะ จากสงั สารวฏั มหานกิ ายจะหมนุ ลกู บวบไปทางขวา เขา้ หาตัว ในกรณีทจ่ี ะพาดสังฆาฏิ จะพาดที่ไหล่ขา้ งซา้ ย นอกจากน้นั พระคณะมหานิกายจะมผี า้ รดั อก หรือประคดอกคาดทบั จีวรและสงั ฆาฏิดว้ ย สวุ รรณกระถอบ เครอื่ งประดับที่หอ้ ยอยู่ขา้ งหนา้ ผ้านงุ่ ห่มแหวก คอื การหม่ จีวรคลมุ ไหลท่ ั้งสองข้าง แลว้ แหวก ตอ่ ลงมาจากปนั้ เหน่ง (หัวเข็มขดั ) ดา้ นหนา้ ให้มอื ออกมาเป็นการหม่ จวี รแบบหนงึ่ ในสมยั ก่อน (ดภู าพอธบิ าย ๓. เคร่ืองทรงฯ) สงิ ห,์ ฐาน บา้ งเรียก ฐานแขง้ สิงห์ (ดู แข้งสงิ ห์) สหี ฬภิกข ุ นิกายทสี่ บื ทอดมาจากนกิ ายเถรวาท คณะมหาวิหาร ฝา่ ยอรัญวาสี ของลงั กา เขา้ มาแพรห่ ลายในประเทศไทย ในครงึ่ หลังพุทธศตวรรษที่ ๒๐ (คร่งึ แรกครสิ ต์ศตวรรษที่ 15) (ดู ศาสนาสีหล) เสีย้ ม ลกั ษณะคอ่ นขา้ งแหลม โสณ ี ตะโพก หรอื สะโพก โสต ห,ู ช่องห ู หมวด ห. มอื หัตถ์ จีบผ้านุ่งทีพ่ ับทบซอ้ นกนั เป็นช้ันๆ อย่ดู า้ นหนา้ คาง หนา้ นาง หน ุ หม่ คลมุ หม่ ดอง หม่ แหวก ๕๖๖ พระพทุ ธปฏิมา อัตลักษณพ์ ุทธศลิ ปไ์ ทย

หน้ากระดาน, ฐาน หมวด อ. อกไก่, ลาย ดู ลูกแกว้ อกไก่ องคุลี มาตราวัดสมยั โบราณ ความยาวเท่ากับข้อ ปลายของนวิ้ กลาง ฐ านหนา้ กระดาน อดตี พทุ ธะ, พระ พระพทุ ธเจา้ ในอดีตจำนวนหลายพระองค์ ต้งั แต่ ๔ ถงึ ๒๘ ในนกิ ายเถรวาท ซึง่ ตรสั รูก้ ่อน พระสมณโคดม อนาคตพทุ ธะ, พระ พระพุทธเจา้ ซึง่ จะตรัสรใู้ นอนาคต หลังจาก พระสมณโคดม หางโตใบเทศ, ลาย อนิมสิ เจดีย ์ ดู สัตตมหาสถาน อมิตาภพุทธะ, พระ ดู ชินพทุ ธะ อสีตมิ หาสาวก, พระ พระสาวกชนั้ ผู้ใหญข่ องพระพระพทุ ธเจา้ สมณโคดม จำนวนแปดสบิ รูป อรญั วาสี ผอู้ ยู่ในปา่ , ใช้สำหรับเรียกคณะสงฆ์ ฝ่ายวิปสั สนาธรุ ะ (ดู คามวาส,ี วปิ สั สนากรรมฐาน) ลายชอ่ หางโตใบเทศ อวทาน คัมภีรเ์ กีย่ วกบั พทุ ธประวตั แิ ละประวตั ิของ หางหงส ์ เครือ่ งประดบั หลงั คาอย่บู ริเวณ พระสาวกในชาตกิ ่อนๆ เขยี นข้ึนเปน็ มุมทงั้ สองด้านของหน้าจ่วั ภาษาสันสกฤต ใชใ้ นนิกายสรรวาสตวิ าส และนกิ ายมลู สรรวาสตวิ าส หางหงส์ อังคฐุ นิ้วโปง้ องั สา บ่า ไหล่ ไหปลารา้ เหงา กนกตัวเดยี ว อัฏฐารส, พระ พระพทุ ธเจ้าตามความเช่ือท่วี ่ามีความสูง ๑๘ ศอก สรา้ งเปน็ พระพุทธปฏิมายืน เหงา ภาคผนวก ๕๖๗

อตั ลักษณ ์ ลกั ษณะความเป็นตัวตน หรอื ลกั ษณะเฉพาะ อุณาโลม ขนที่งอกออกมาจากหวา่ งค้ิวเวียนไปทางขวา ของสง่ิ ใดสิ่งหนึ่ง ซ่งึ ทำให้ส่งิ น้นั เป็นท่ีร้จู ักหรอื เปน็ ทจี่ ดจำ อนั จะระบุความเป็นมา ความหมาย มสี ขี าวเหมอื นเงินยวง อนั เป็นลกั ษณะหนึง่ และสถานภาพแห่งความเปน็ ตนเองทา่ มกลาง ชุดความสมั พันธ์ทางสงั คมต่างๆ อตั ลักษณแ์ ปล ของมหาบุรษุ ลักษณะ มาจากภาษาองั กฤษท่วี ่า identity อยา่ งไรกด็ ี คำแปลน้ีจะมีความหมายแตกต่างไปจากคำแปล จากศัพท์เดยี วกันทว่ี ่า เอกลักษณ์ อนั เน้นไปท ี่ ลักษณะทเี่ ป็นเอกภาพและเป็นหนึ่งเดยี ว อุทกสาฎก ผา้ อาบนำ้ , ผา้ อาบน้ำฝน แตอ่ ัตลกั ษณม์ ีนัยกว้างกว่า เพราะลกั ษณะแหง่ ความเป็นตวั ตนอาจจะประกอบด้วยลกั ษณะ ย่อยๆ ทแ่ี ตกตา่ งและหลากหลาย เช่น อัตลักษณ์แหง่ พทุ ธศิลป์ไทย หมายถงึ ลกั ษณะ อทุ ร ชว่ งทอ้ ง, หน้าทอ้ ง, พุง แห่งความเป็นตวั ตนของศิลปทสี่ ร้างข้ึนในบรบิ ท ของพระพุทธศาสนาในประเทศไทย ซึง่ ประกอบ ด้วยความหลากหลายทงั้ ความเช่อื ลัทธินิกาย พนื้ ท่แี วน่ แคว้น และเวลายคุ สมยั อโุ บสถ สถานทซี่ ง่ึ ภายในบรเิ วณมีสมี า (เสมา) อาทิพทุ ธะ, พระ พระปฐมพทุ ธเจา้ , พระพทุ ธเจา้ พระองคแ์ รก, ลอ้ ม สำหรับพระสงฆป์ ระชมุ เพือ่ ทําสงั ฆกรรม พระพทุ ธเจา้ ผปู้ ระทานกำเนิดแกพ่ ระปาญจสคุ ต ของลัทธติ ันตระยาน โดยพระอาทพิ ทุ ธะ สำคัญ เชน่ สวดพระปาติโมกข์ อปุ สมบท, ปรากฏขึ้นครัง้ แรกในคัมภีร์ กาลจักรตันตระ บา้ งเรียก พระปฐมพทุ ธะ โดยพระพุทธรปู ประดิษฐานอยูก่ ลางอาคาร อานิสงส ์ ผลบุญ ผลแหง่ การประกอบกุศลกรรม บา้ งเรยี กวา่ โบสถ์ อุณหิส กรอบหน้า, กระบังหนา้ อุปัชฌาย ์ พระผูเ้ ปน็ ประธานในการอุปสมบท อุณหสิ ซง่ึ ถือเปน็ พระอาจารย์ของภกิ ษุผ้บู วชใหม่ อปุ ัฏฐาก ผูอ้ ปุ ถมั ภ์พระภิกษุสามเณร อษุ ณษี ะ กะโหลกสว่ นทน่ี นู ข้ึนออกมากลางศีรษะ อนั เปน็ หนึ่งในมหาบรุ ษุ ลกั ษณะ ๓๒ ประการ ของพระพุทธเจ้า (ดภู าพอธิบาย ๒. องค ์ ประกอบพระพทุ ธปฏิมา) อุระ อก อูร ุ ต้นขา บรเิ วณโคนขาจนถึงหวั เข่า อนิ ทร์, พระ เทพเจ้า เทวดาในพุทธศาสนา, ท้าวสักกะ, เทวดาผ้เู ป็นใหญใ่ นสวรรคช์ ั้นดาวดงึ ส์และ ชั้นจาตมุ หาราช (ดู ดาวดงึ ส์) โอคว่ำ, ทรง ลักษณะคลา้ ยขันคว่ำ โอษฐ์ ปาก ๕๖๘ พระพทุ ธปฏมิ า อตั ลักษณ์พุทธศิลปไ์ ทย

ภาคผนวก ข. ภาพอธบิ าย พระเศยี ร (ศรี ษะ) พระคยุ หฐาน พระเมาลี (จกุ หรือ มวยผม) (ของในทล่ี บั ) พระจุไร (ไรจกุ ) พระศก, พระเกศ, พระเกศา (เสน้ ผม) พระจุฑามาศ (มวยผม) ไรพระศก (ไรผม,ตนี ผม) อุณาโลม (ขนระหว่างค้วิ ) พระนลาฏ (หน้าผาก) พระขนง (คิว้ ) พระเนตร (ดวงตา) พระโอษฐ์ (ปาก) พ ระกรรณ (ห,ู ใบห)ู - พระชวิ หา (ลน้ิ ) พ ระนาสิก (จมกู ) - พระทนต์ (ฟนั ) พระพกั ตร์ (ดวงหน้า) พ ระมัสสุ (หนวด) พระองั สา (บ่า, ไหล)่ พ ระหนุ (คาง) พระพาหา (แขนท่อนบน) พระอุระ (อก) พ ระปฤษฎางค์ (หลงั ) พระศอ (คอ) พ ระอุทร (ท้อง) ย อดพระถนั (หัวนม) พ ระนาภี (สะดอื ) พระกัจฉะ (รกั แร)้ พระกร (แขนทอ่ นลา่ ง) พ ระปรศั ว์ (สขี า้ ง) บัน้ พระองค์ (สะเอว) พระกปั ประ (ข้อศอก) พระโสณี (สะโพก) พระหัตถ์ (มือ) พระอูรุ (ตน้ ขา) พระเพลา (ขา, ตัก) พระองคุลี (น้วิ ) - พระองั คุฐ (นิ้วหัวแมม่ ือ) พระชานุ (เขา่ ) - พระดรรชนี (นิ้วช)ี้ - พระมชั ฌมิ า (น้วิ กลาง) - พระอนามิกา (น้ิวนาง) พระชงฆ์ (แข้ง) - พระกนษิ ฐา (นิว้ ก้อย) - พระนขา (เล็บ) พระบาท (เทา้ ) สน้ พระบาท (ส้นเทา้ ) ฝ า่ พระบาท (ฝา่ เท้า) ภาพอธิบาย ๑ ราชาศัพท์ทเ่ี กี่ยวข้องกบั สว่ นตา่ งๆ ของร่างกาย ภาคผนวก ๕๖๙

อุษณีษะ หรอื พระเมาล ี พระรศั มี หรือ พระเกตุมาลา เมด็ พระศก พระศก, พระเกศ, พระเกศา (เส้นผม) สังฆาฏิ จีวร ลูกบวบ หน้านางของสบง สบง ฐาน ภาพอธบิ าย ๒ องคป์ ระกอบพระพุทธปฏมิ า ๕๗๐ พระพทุ ธปฏิมา อตั ลักษณ์พทุ ธศลิ ป์ไทย

ดอกไมเ้ พชร มหามงกฎุ กรองศอ กรรเจยี รจร กนกเหนบ็ พ าหรุ ัด (กำไลรัดตน้ แขน) ตาบหนา้ หรือ ทบั ทรวง ทองพระกร พระธำมรงคส์ วมทกุ พระองคลุ ี (สวมแหวนทกุ นิว้ พระหตั ถ์) ครองจวี รห่มเฉยี ง กงจกั ร (เพชรรปู ดอกจอก) ตาบทิศ เฟ่อื งข้าง ส งั ฆาฏ ิ ปั้นเหน่ง สังวาล (หวั เขม็ ขัด) รัดพระองค์ (เข็มขัด) สำรด (ผา้ คาดเอว) สุวรรณกระถอบ ชายไหว พระภูษา (ผา้ นุ่ง) ชายแครง ทองพระบาท ฉลองพระบาทเชิงงอน ภาพอธิบาย ๓ เคร่อื งทรงของพระพทุ ธรปู ทรงเครอ่ื งฉลองพระองค์ ภาคผนวก ๕๗๑

ภาพอธิบาย ๔ พระพทุ ธรปู แบบเชยี งแสน พระพุทธรูปเชียงแสน เป็นชื่อของยุคสมัยท่ีสมเด็จฯ กรมพระยาดำรงราชานุภาพทรงประทานให้กับพระพุทธรูป ที่พบในมณฑลพายัพ ด้วยเหตุว่าพระพุทธรูปที่งามท่ีสุดนั้นพบที่อำเภอเชียงแสน จังหวัดเชียงราย ทรงจำแนกไว้ เป็นสองร่นุ คอื เชยี งแสนชนั้ แรก กบั เชยี งแสนชัน้ หลงั อยา่ งไรก็ดี ในหนงั สอื เล่มน้ีเรียกพระพุทธรปู เชยี งแสนวา่ “พระพทุ ธรปู แบบลา้ นนา” พระพทุ ธรูปแบบ “เชียงแสนชน้ั แรก” พระพทุ ธรูปแบบ “เชยี งแสนช้ันหลงั ” มีช่ือเรียกอีกช่ือว่า “เชียงแสนรุ่นเก่า” มีพระพักตร์กลม เม็ดพระศกเป็นก้นหอย มีพระรัศมีเป็นเปลว ครองจีวรห่มดอง ชายจีวรพาดยาวจรดพระนาภี ประทับขัด ขนาดใหญ่ รัศมเี ป็นบัวตมู หรอื ลูกแกว้ พระวรกายอวบอิ่ม พระอรุ ะอูม ประทับ สมาธริ าบ ปางมารวิชัย ขัดสมาธเิ พชร ปางมารวิชัย ครองจีวรหม่ ดอง ชายจีวรพาดเหนอื พระถันดา้ นซา้ ย จากองค์ความรู้ปัจจุบัน พระพุทธรูปองค์ต้นแบบของหมวดนี้คือ พระพุทธสิหิงค์ นัน่ เอง ๕๗๒ พระพุทธปฏิมา อตั ลกั ษณพ์ ุทธศลิ ป์ไทย

ภาพอธิบาย ๕ พระพทุ ธรูปอ่ทู อง เป็นพระนามของพระเจ้าอู่ทองที่ ยอร์ช เซเดส์ นำมาใช้กับรูปแบบของพระพุทธรูป และกำหนดอายุเวลาอยู่ใน ชว่ งรัชสมยั ของพระเจา้ อูท่ อง ต่อมาหลวงบริบาลบรุ ภี ณั ฑ์ และ เอ.บี. กรสิ โวลด์ จำแนกออกเป็น ๓ หมวด พระพุทธรูป “แบบอู่ทอง หมวดท่ี ๑” มีพระพักตร์คล้ายพระพุทธรูปมอญ – เขมร พระเมาลเี ป็นกรวยครอบทรงฝาชี หรือทรงโอคว่ำ พระพทุ ธรูป “แบบอ่ทู อง หมวดที่ ๒” พระพุทธรูป “แบบอู่ทอง หมวดที่ ๓” พระพักตร์เหล่ียมคล้ายพระพุทธรูปเขมร มีไร พระพักตร์รปู ไข่ มีไรพระศก พระรศั มีเปลว ฐานเวา้ พระศก เป็นกรอบที่พระนลาฏ เม็ดพระศกเล็ก เข้าตรงกลาง โดยพระพุทธรูปหมวดน้ีมีการ เป็นหนามขนุน รัศมีเปลว พระวรกายเหล่ียม จำลองมากที่สุด แต่ยังไม่ทราบว่ามีพระพุทธรูป พระชงฆ์เป็นสันคม จากองค์ความรู้ปัจจุบัน องคใ์ ดเป็นต้นแบบ พระพุทธรูปองคต์ น้ แบบของหมวดนี้คือ พระพทุ ธ กมั โพชปฏิมา ภาคผนวก ๕๗๓

ภาคผนวก ค. รายพระนามพระมหากษัตริย์ไทย (สโุ ขทัย - อยุธยา - ธนบรุ ี - รตั นโกสนิ ทร์ - ล้านนา) ๕๗๔ พระพทุ ธปฏมิ า อตั ลักษณพ์ ุทธศิลปไ์ ทย

ภาคผนวก ๕๗๕

ภาคผนวก ง. แผนที่ แผนที่ ๑ แผนทป่ี ระเทศอินเดยี ๕๗๖ พระพุทธปฏมิ า อัตลกั ษณ์พทุ ธศลิ ปไ์ ทย

แผนท่ี ๒ แผนทีเ่ อเชียตะวันออกเฉียงใต ้ ภาคผนวก ๕๗๗

แผนที่ ๓ แผนท่สี มัยอยธุ ยา ช่วงเมืองพระยามหานคร ๕๗๘ พระพทุ ธปฏิมา อัตลกั ษณพ์ ทุ ธศิลป์ไทย

แผนที่ ๔ แผนที่สมยั อยธุ ยา ชว่ งเมอื งลกู หลวง ภาคผนวก ๕๗๙

แผนท่ี ๕ แผนท่ีสมยั อยุธยา ชว่ งวงราชธาน ี ๕๘๐ พระพทุ ธปฏมิ า อัตลกั ษณพ์ ทุ ธศลิ ป์ไทย

ภาคผนวก จ. ศักราชสำคัญของประวัตพิ ทุ ธศาสนาและพุทธศิลป ์ ศกั ราชสำคญั ของประวตั ิพุทธศาสนาและพุทธศลิ ป พ.ศ. ๑ ๑๐๐ ๒๐๐ ๓๐๐ ๔๐๐ ๕๐๐ กอ น ค.ศ. -543 -444 -344 -244 -144 -44 ประวัติศาสต ร ๑ / 543 กอน ค.ศ. ๒๑๙ / 325 กอน ค.ศ. ๒๗๐ - ๓๐๘ ๓๘๓ / 161 กอ น ค.ศ. มหาปรนิ พิ พาน พระเจาอเลกซานเดอร 274 - 236 กอ น ค.ศ. พระเจามลิ ินท ในอนิ เดีย พระเจา อโศก ในอินเดีย ลัท ิธศราวกยาน ๑ / 543 กอ น ค.ศ. ๑๕๗ / 387 กอ น ค.ศ. ๒๖๐ / 284 กอ น ค.ศ. ๓๕๗ / 187 กอ น ค.ศ. นกิ ายสถวีรวาท นิกายมหาสังฆิกะ นิกายสรรวาสติวาส ภกิ ษมุ หินทเถระ แยกจากนิกายสถวรี วาท แยกจากนกิ ายสถวีรวาท นำพุทธศาสนาไปลงั กา ลัทธิมหายาน / ๓๖๐ / 184 กอ น ค.ศ. ๔๖๓ / 81 กอ น ค.ศ. ัลท ิธตันตระยาน ปรัชญาปารมติ าสตู ร พระสูตรมหายาน ฉบบั ด้งั เดิม สทั ธรรมปุณฑริกสูตร ุพทธ ิศลป พ.ศ. ๑ ๑๐๐ ๒๐๐ ๓๐๐ ๔๐๐ ๕๐๐ กอ น ค.ศ. -543 -444 -344 -244 -144 -44 ภาคผนวก ๕๘๑

พ.ศ. ๕๐๐ ค.ศ. 1 ศักราชสำคญั ของประวตั ิพุทธศาสนาและพุทธศลิ ป ๙๐๐ กอน ค.ศ. -44 ๖๐๐ ๗๐๐ ๘๐๐ 357 57 157 257 ประวัติศาสต ร ๖๖๓ - ๖๘๘ / 120 - 145 พระเจากนษิ กะ ลัท ิธศราวกยาน ๕๖๘ - ๖๐๓ / 25 - 60 พทุ ธศาสนา เผยแผไ ปยังจีน ลัทธิมหายาน / คมั ภีร ๖๐๐ / 57 ๖๙๐ / 147 ๗๐๓ / 160 ๘๗๖ / 333 ัลท ิธตันตระยาน ลลิตวิสตระ ปรัชญาปารมติ าสูตร สขุ าวดีวยูหสตู ร นาคารชุนะ ลังกาวตารสูตร แปลเปนภาษาจนี สถาปนานิกายมาธยมกิ ะ ภิกษุฮนุ เอ้ียง ฉบับพิสดาร สถาปนานกิ ายสุขาวดี ๘๗๖ / 333 แบบคนั ธารราษฏร ๖๐๐ / 57 แบบมถรุ า ๘๖๓ - ๑๐๙๓ พทุ ธศิลปในจนี มหาสถูปทอี่ มราวดี 320 - 550 ุพทธ ิศลป ประตมิ ากรรม ๙๐๐ แบบอมรวาดี แบบคปุ ตะ 357 พ.ศ. ๕๐๐ ค.ศ. 1 ๖๐๐ ๗๐๐ ๘๐๐ กอ น ค.ศ. -44 57 157 257 ๕๘๒ พระพุทธปฏิมา อตั ลกั ษณ์พุทธศลิ ป์ไทย

ศกั ราชสำคัญของประวัติพทุ ธศาสนาและพุทธศลิ ป พ.ศ. ๙๐๐ ๑๐๐๐ ๑๑๐๐ ๑๒๐๐ ค.ศ. 357 457 557 657 ๙๒๘ - ๙๕๗ประวัติศาสต ร ๙๕๗ - ๙๙๘ ๑๑๕๒ - ๑๑๘๘ / 609 - 645 385 - 414 414 - 455 ภกิ ษฮุ ว นจ๋ัง พระเจา จนั ทรคุปตท ่ี ๒ พระเจากุมารคุปตที่ ๑ ตงั้ ราชวงศคุปตะ ต้งั มหาวิทยาลัยนาลณั ฑา ไปแสวงบุญในอนิ เดยี ๙๔๒ - ๙๕๗ 399 - 414 ภิกษุฟาเหียน แสวงบญุ ในอนิ เดีย ลัท ิธศราวกยาน ๙๖๓ / 420 ๙๘๓ / 440 ๑๐๕๐ / 507 ๑๑๘๕ / 642 ภิกษพุ ุทธโฆษา คมั ภีร มหาวงศ นกิ ายเถรวาท นกิ ายมลู สรรวาสตวิ าส (อรยิ ารหนั ตปกขะ) เผยแผใ นอาณาจกั ร แยกออกจาก มอญโบราณ นิกายสรรวาสติวาส ลัทธิมหายาน / ๙๒๘ / 385 ภกิ ษวุ สพุ นั ธุและ ๑๐๙๕ / 552 ลทั ธิมหายาน ัลท ิธตันตระยาน ลัทธิมหายาน เผยแผถึงสุมาตรา เผยแผถึงญี่ปนุ ภิกษกุ มุ ารชวี ะ ภิกษุอสงั คะ ๑๑๕๒ - ๑๑๘๘ ๑๑๘๕ / 642 ไปยงั จีน สถาปนานิกายโยคาจารย 609 - 645 ลัทธิมหายาน เผยแผถ ึงธิเบต คัมภีร จรรยาตนั ตระ ลัทธิตันตระยาน แยกออกจากลัทธิมหายาน ุพทธ ิศลป ๙๕๗ - ๑๐๖๓ ๑๐๐๐ - ๑๐๕๐ 414 - 520 457 - 507 กลมุ ถ้ำยุน - กงุ ประเทศจีน กลุมถำ้ มหายาน ที่อชญั ฏา ประเทศอนิ เดยี พ.ศ. ๙๐๐ ๑๐๐๐ ๑๑๐๐ ๑๒๐๐ ค.ศ. 357 457 557 657 ภาคผนวก ๕๘๓

ศักราชสำคัญของประวตั ิพทุ ธศาสนาและพทุ ธศิลป พ.ศ. ๑๒๐๐ ๑๓๐๐ ๑๔๐๐ ๑๕๐๐ ค.ศ. 657 757 857 957 ประวัติศาสต ร ๑๒๑๔ - ๑๒๓๘ ๑๓๐๓ / 760 ๑๓๑๓ - ๑๓๙๙ 671 - 695 อาหรับยดึ 770 - 856 เอเชยี กลาง การเดินทางของ ราชวงศไศเลนทร ภกิ ษุ อี้ - จิง ปกครองชวา ๑๒๕๓ - ๑๓๒๗ ๑๓๑๓ - ๑๓๕๘ ๑๓๔๕ / 802 710 - 784 770 - 815 สถาปนา มสุ ลมิ ปกครอง พระเจา ธรรมปาละ อาณาจกั รกมั พชู า แควน สินธุในอินเดีย สถาปนาราชวงศป าละ ลัท ิธศราวกยาน ลัท ิธมหายาน / คัมภรี  ๑๒๖๐ / 717 ๑๒๙๐ / 747 ๑๓๖๐ / 817 ๑๔๑๘ - ๑๔๕๘ ัลท ิธ ัตนตระยาน โยคะตันตระ ภกิ ษวุ ัชรโพธิ ภิกษปุ ท มสมั ภวะ ลัทธิตนั ตระยาน 875 - 915 นำลัทธติ นั ตระยาน นำลทั ธิมหายาน รงุ เรืองในกมั พชู า ลัทธมิ หายาน เผยแผในศรวี ชิ ยั เผยแผใ นธเิ บต ลัทธติ นั ตระยาน เปน ศาสนาหลกั รงุ เรอื งในจมั ปา ของศรีวชิ ัย ๑๓๑๘ / 775 ๑๓๒๓ - ๑๓๕๓ ๑๔๑๘ / 875 สรางรูปพระโพธิสัตว 780 - 810 สรางวหิ ารลักษมิทรโลเกศวร ปท มาปาณิ ทไ่ี ชยา สรา งพระสถูปบุโรพุทโธ ทีเ่ วยี ดนาม ทีช่ วา ุพทธ ิศลป พ.ศ. ๑๒๐๐ ๑๓๐๐ ๑๔๐๐ ๑๕๐๐ ค.ศ. 657 757 857 957 ๕๘๔ พระพทุ ธปฏิมา อตั ลกั ษณพ์ ุทธศลิ ป์ไทย

ศักราชสำคญั ของประวตั พิ ุทธศาสนาและพทุ ธศลิ ป พ.ศ. ๑๕๐๐ ๑๖๐๐ ๑๗๐๐ ๑๘๐๐ ค.ศ. 957 1057 1157 1257 ประวัติศาสต ร ๑๕๙๓ / 1050 ๑๖๒๙ - ๑๖๕๕ ชาวสยามปรากฏ 1086 - 1112 ขึน้ เปน คร้งั แรก พระเจาจันสิตตถา ในจารกึ จาม ทน่ี าตรงั แหง พมา ๑๖๒๐ / 1077 ๑๗๒๔ - ๑๗๕๗ ๑๗๔๐ / 1197 พระเจา อนุรทุ ธ 1181 - 1214 มหาวิทยาลัย พระเจา ชัยวรมันที่ ๗ นาลัณฑา แหงพมา ปกครองกมั พูชา ถกู มุสลมิ ทำลาย สวรรคต ลัท ิธศราวกยาน ๑๖๙๖ - ๑๗๒๙ ๑๗๖๑ / 1218 1153 - 1186 พระเจา สววาสิทธิ พระเจาปรากรมพาหทุ ่ี ๑ แหง หริภุญไชย ปฏิรปู นิกายเถรวาท คณะมหาวิหาร ออกผนวช ท่ีโปลนนารวุ ะ ลัทธิมหายาน / ๑๕๐๘ / 965 ๑๕๘๒ / 1039 ัลท ิธตันตระยาน คมั ภีร ภิกษุอตสิ ะ กาลจกั รตันตระ จาริกไปยังธเิ บต ๑๕๘๔ - ๑๖๑๐ ๑๖๔๘ / 1105 ๑๖๕๐ / 1107 ๑๖๙๓ / 1150 1041 - 1067 พระเจา จนั สิตตถา สรา งปราสาทหิน พระเจาอาทติ ตราช พระเจาวิครหปาละที่ ๓ สรา งพระพุทธปฏมิ า แหงพมา พิมาย สรา งพระธาตุ ทรงเครอ่ื ง กรุกุรกิหาร สรา งวิหารอนนั ทา หรภิ ุญไชย ลำพนู ุพทธ ิศล ป ๑๖๐๐ พกุ าม 1057 ๑๗๒๐ - ๑๗๗๓ 1177 - 1230 ศิลปะบายน ในกัมพชู า พ.ศ. ๑๕๐๐ ๑๗๐๐ ๑๘๐๐ ค.ศ. 957 1157 1257 ภาคผนวก ๕๘๕

พ.ศ. ๑๘๐๐ ศกั ราชสำคญั ของประวตั ิพทุ ธศาสนาและพุทธศลิ ป ๒๐๐๐ ค.ศ. 1257 ๑๙๐๐ 1457 1357 ประวัติศาสต ร ๑๘๐๐ / 1257 ๑๘๓๙ / 1296 ๑๘๙๔ / 1351 ๑๙๖๒ / 1419 สถาปนา พระเจามงั ราย สถาปนา สโุ ขทยั เปน อาณาจกั รสโุ ขทยั สรา งเมอื งเชียงใหม ประเทศราช กรงุ ศรอี ยุธยา ของอยธุ ยา ๑๘๓๙ / 1296 ๑๘๗๔ / 1331 ๑๙๐๐ / 1357 ๑๙๑๒ / 1369 ๑๙๗๓ / 1430 คณะกัมโพชสงฆปก ขะ คณะมหาวหิ าร ฝา ยอรัญวาสี ลาว หันมานบั ถือ พระเจากอื นาอาราธนา สถาปนาคณะสีหฬภิกขุ ลัท ิธศราวกยาน รงุ เรอื ง ประดิษฐานทเ่ี มอื งพัน พุทธศาสนา พระสุมนเถระ ในลา นนา จากสโุ ขทยั ไปลานนา ๑๘๖๓ / 1320 ๑๘๙๙ / 1356 ไทยรับนกิ ายเถรวาท พระสุมนเถระ ๑๙๐๕ / 1362 คณะมหาวิหาร นำคณะมหาวิหาร พระมหาธรรมราชาท่ี ๑ (ลิไท) จากลงั กา ฝา ยอรญั วาสีเผยแผทีส่ โุ ขทยั แหง สโุ ขทยั ทรงผนวช ลัท ิธมหายาน / ๑๘๖๓ / 1320 ัลท ิธ ัตนตระยาน ลทั ธติ ันตระยาน ในกัมพชู าเสอ่ื ม ๑๘๒๒ หรือ ๑๘๓๔ ๑๘๖๗ / 1324 ๑๙๐๒ / 1359 ๑๙๐๕ / 1362 ๑๙๑๓ / 1307 ๑๙๖๐ / 1417 ๑๙๗๐ / 1427 1279 หรือ 1291 สราง อญั เชญิ รูปมหาภิเนษกรม พระเจา กอื นา นายอินทรสรศักด์ิ เจา พระยาสารผาสุม พระพุทธปฏิมา พบที่วัดมหาธาตุ สรา งพระยืน ๔ องค สรางวัดสรศกั ดิ์ สรางพระพทุ ธปฏิมาลีลา นาคปรกจากไชยา หลวงพอพนัญเชงิ พระบางเจา วดั พระยนื ลำพูน สุโขทัย ๕ องค ทน่ี า น อยธุ ยา ไปลาว สโุ ขทัย ุพทธ ิศลป พ.ศ. ๑๘๐๐ ๑๙๐๐ ๒๐๐๐ ค.ศ. 1257 1357 1457 ๕๘๖ พระพทุ ธปฏมิ า อัตลักษณพ์ ุทธศิลป์ไทย

พ.ศ. ๒๐๐๐ ศักราชสำคัญของประวัตพิ ุทธศาสนาและพุทธศิลป ๒๑๐๐ ค.ศ. 1457 ๒๐๕๐ 1557 1507 ประวัติศาสต ร ๒๐๑๘ / 1475 ๒๐๒๓ / 1480 ศลิ าจารึกกัลยาณี อสิ ลามแทนที่ พุทธศาสนาในสุมาตรา ลัท ิธศราวกยาน ๒๐๓๘ - ๒๐๖๙ ๒๐๖๐ / 1517 1495 - 1526 รตั นปญ ญาเถระ แตง คณะสหี ฬภกิ ขุ รุงเรอื งในลา นนา ชินกาลมาลปี กรณ ลัท ิธมหายาน / ัลท ิธ ัตนตระยาน ๒๐๐๐ / 1457 ๒๐๑๙ / 1476 ๒๐๒๐ / 1477 ๒๐๒๕ / 1482 ๒๐๒๖ / 1483 ๒๐๔๘ / 1505 ๒๐๘๑ / 1538 ๒๐๙๑ / 1548 สมเด็จพระบรม- พระพทุ ธรปู ของ พระเจาตโิ ลกราช พระเจา ตโิ ลกราช พระเจาติโลกราช พญาแกว หลอ สมเดจ็ พระชยั ราชา พระเจาไชยเชษฐา ไตรโลกนาถหลอ พญายธุ ษิ ฐริ ะ สรา งวดั มหาโพธาราม อัญเชิญพระพุทธ- สรางพระพุทธรปู พระเจา เกาต้ือ สรา งพระ อัญเชญิ พระพุทธ- รูปพระโพธิสตั ว เชียงใหม มหามณีรัตนปฏิมากร มงคลบพติ ร มหามณีรตั นปฏิมากร แบบลวปรุ ะ วดั สวนดอก เชียงใหม ๕๐๐ ชาติ ไปประดิษฐานที่ ไปลา นชาง ุพทธ ิศลป วดั เจดยี ห ลวง เชียงใหม พ.ศ. ๒๐๐๐ ๒๐๕๐ ๒๑๐๐ ค.ศ. 1457 1507 1557 ภาคผนวก ๕๘๗

พ.ศ. ๒๑๐๐ ศกั ราชสำคัญของประวตั ิพทุ ธศาสนาและพุทธศิลป ๒๓๐๐ ค.ศ. 1557 ๒๑๕๐ ๒๒๐๐ 1757 1607 1657 ประวัติศาสต ร ๒๑๐๑ / 1558 ๒๑๑๒ / 1569 ๒๑๓๓ / 1590 พมาปกครอง กรุงศรีอยธุ ยา สมเดจ็ พระนเรศวร เสยี แกพมา ครง้ั ท่ี ๑ ลานนา ทรงจัดระบบ วงราชธานี ๒๑๐๓ / 1560 พระเจาไชยเชษฐา สรา งนครเวียงจนั ท ลัท ิธศราวกยาน ๒๑๖๓ / 1620 ๒๒๙๖ / 1753 คัมภีร โยคาวจร สถาปนา คณะสยามนกิ ายในลงั กา ลัทธิมหายาน / ๒๑๑๘ - ๒๑๗๗ ัลท ิธตันตระยาน 1575 - 1634 ภกิ ษุตารนาถ ๒๑๐๕ / 1562 ๒๑๐๘ / 1565 ๒๑๓๘ / 1592 ๒๑๗๔ / 1631 ๒๒๗๐ / 1727 พระเจา องคต้ือ แมท พั พมา หลอ หลอ พระโลกนาถ สรางพระศรีสรรเพชญ ชะลอพระพุทธไสยาสน ทา บอ หนองคาย พระพุทธรูปเมืองรายเจา ท่วี ัดพระศรสี รรเพชญ อยธุ ยา วัดปา โมก อา งทอง ทีเ่ ชียงใหม ุพทธศิล ป พ.ศ. ๒๑๐๐ ๒๑๕๐ ๒๒๐๐ ๒๓๐๐ ค.ศ. 1557 1607 1657 1757 ๕๘๘ พระพทุ ธปฏมิ า อัตลักษณพ์ ุทธศลิ ปไ์ ทย

ศักราชสำคัญของประวัติพทุ ธศาสนาและพุทธศลิ ป พ.ศ. ๒๓๐๐ ๒๓๕๐ ๒๔๐๐ ค.ศ. 1757 1807 1857 ประวัติศาสต ร ๒๓๑๐ / 1767 ๒๓๒๓ / 1780 ๒๓๖๗ - ๒๓๙๔ ๒๓๙๔ - ๒๔๑๑ กรงุ ศรีอยธุ ยา ลานชา งเปน 1824 - 1851 1851 - 1868 เสยี แกพมา คร้งั ท่ี ๒ ประเทศราช รชั กาลพระบาทสมเด็จ รชั กาลพระบาทสมเดจ็ ของสยาม พระนั่งเกลาเจา อยูหัว พระจอมเกลาเจาอยหู วั ๒๓๕๒ - ๒๓๖๗ ๒๓๑๗ / 1774 ๒๓๒๕ - ๒๓๕๒ 1809 - 1824 ลานนาเปน 1782 - 1809 รัชกาลพระบาทสมเด็จ รัชกาลพระบาทสมเด็จ พระพทุ ธเลิศหลา นภาลัย ประเทศราชของสยาม พระพทุ ธยอดฟาจฬุ าโลก ลัท ิธศราวกยาน ๒๓๗๓ / 1830 สถาปนาคณะ ธรรมยตุ กิ นกิ าย ลัทธิมหายาน / ัลท ิธตันตระยาน ๒๓๑๓ / 1770 ๒๓๒๒ / 1779 ๒๓๒๕ / 1782 ๒๓๖๕ / 1822 ๒๓๖๗ / 1824 ๒๓๗๓ / 1830 ๒๓๗๕ / 1832 ๒๓๙๑ / 1848 ๒๓๙๔ / 1851 หลวงพอ โสธร เจาพระยา สรางพระชัยวฒั น อญั เชิญพระ เร่มิ สรา ง สรา งพระ สรางพระ สรา งพระพุทธ- เรมิ่ สรา ง ลอยตามน้ำมา มหากษัตรยิ ศึก ประจำรัชกาล พุทธบุษยรัตนฯ พระพุทธรูปประจำ สัมพุทธพรรณี พทุ ธไสยาสน ยอดฟาจุฬาโลก พระพทุ ธรปู อญั เชิญพระ สรา งพระ จากจำปาศักดิ์ พระชนมพรรษา วัดพระเชตพุ นฯ และพระพทุ ธ- พทุ ธมหามณี- มากรงุ เทพฯ กรุงเทพฯ เลศิ หลา นภาลยั ประจำรัชกาล รัตนปฏิมากร พทุ ธจกั รพรรดิ์ ุพทธ ิศล ป มายังกรงุ ธนบรุ ี พ.ศ. ๒๓๐๐ ๒๓๕๐ ๒๔๐๐ ค.ศ. 1757 1807 1857 ภาคผนวก ๕๘๙

ศักราชสำคัญของประวัตพิ ทุ ธศาสนาและพทุ ธศลิ ป พ.ศ. ๒๔๐๐ ๒๔๕๐ ๒๕๐๐ ค.ศ. 1857 1907 1957 ๒๔๑๑ - ๒๔๕๓ ๒๔๔๐ / 1897 ๒๔๕๐ / 1907 ๒๔๖๘ - ๒๔๗๗ ๒๔๗๗ - ๒๔๘๙ 1868 - 1910 เสด็จประพาส เสดจ็ ประพาส 1925 - 1935 1935 - 1946 รชั กาลพระบาทสมเด็จ ยุโรปครง้ั ท่ี ๑ ยโุ รป ครง้ั ที่ ๒ รชั กาลพระบาทสมเดจ็ รัชกาลพระบาทสมเดจ็ ประวัติศาสต ร พระจุลจอมเกลาเจาอยหู วั พระปกเกลา เจา อยูหวั พระปรเมนทรมหา- อานนั ทมหิดล ๒๔๓๖ / 1893 ๒๔๕๓ - ๒๔๖๘ ฝงตะวันออกของ ๒๔๔๒ / 1899 1910 - 1925 ๒๔๗๕ / 1932 ๒๔๘๙ - ปจ จบุ นั แมนำ้ โขงขึ้นกบั จดั ตัง้ ระบบ รัชกาลพระบาทสมเดจ็ เปลยี่ นแปลง 1946 - ปจ จบุ ัน จักรวรรดฝิ รงั่ เศส มณฑลเทศาภบิ าล พระมงกุฎเกลาเจา อยหู ัว การปกครอง รัชกาลปจจุบัน ลัท ิธศราวกยาน ๒๔๔๕ / 1902 ๒๔๙๙ / 1956 พระราชบญั ญตั ิ พระบาทสมเดจ็ ลกั ษณะปกครองคณะสงฆ พระเจาอยูหวั ทรงผนวช ลัท ิธมหายาน / ัลท ิธ ัตนตระยาน ๒๔๑๑ / 1868 ๒๔๑๕ / 1872 ๒๔๔๔ / 1901 ๒๔๕๒ / 1909 ๒๔๕๗ / 1914 ๒๔๖๔ / 1921 ๒๔๖๗ / 1924 ๒๔๙๙ / 1956 สราง สรา ง หลอพระพุทธ- ทอรน าเรลลี ฟาแบรเ ช สลกั พระเทพรจนา (สิน) พระเทพรจนา (สนิ ) พระพุทธรปู ประจำ ชนิ ราชจำลอง ปน พระพทุ ธรูป พระแกว มรกตนอ ย พระนริ ันตราย พระบรมรูป วัดเบญจมบพติ ร ปางถวายเนตร ปน หลอ ปน หลอ รชั กาลพระบาทสมเดจ็ เรือนแกว ๔ รชั กาล พระพทุ ธไสยาสน พระนิรโรคนั ตราย พระปรเมนทรมหา- โรงเรียนวัดราชาธวิ าส ุพทธ ิศลป อานันทมหดิ ล พ.ศ. ๒๔๐๐ ๒๔๕๐ ๒๕๐๐ ค.ศ. 1857 1907 1957 ๕๙๐ พระพทุ ธปฏมิ า อตั ลักษณพ์ ุทธศิลป์ไทย

พ.ศ. ๒๕๐๐ ศกั ราชสำคัญของประวตั ิพทุ ธศาสนาและพุทธศิลป ๒๕๕๐ ค.ศ. 1957 ๒๕๑๐ ๒๕๒๐ ๒๕๓๐ ๒๕๔๐ 2007 1967 1977 1987 1997 ประวัติศาสต ร ลัท ิธศราวกยาน ๒๕๐๐ / 1957 ฉลอง ๒๕๐๐ ป ของพุทธศาสนา ลัท ิธมหายาน / ัลท ิธ ัตนตระยาน ๒๕๐๐ / 1957 ๒๕๐๘ / 1965 ๒๕๐๙ / 1966 ๒๕๑๐ / 1967 ๒๕๑๑ / 1968 ๒๕๒๐ / 1977 ๒๕๓๐ / 1987 ๒๕๓๔ / 1991 ๒๕๓๘ / 1995 ๒๕๔๒ / 1999 พระประธาน พระพทุ ธรูป พระพุทธ- หลอพระพทุ ธ- พระนิรโรคนั ตราย พระพุทธรูป พระพทุ ธรปู พระพุทธ- พระพทุ ธ- พระพทุ ธรูป พุทธมณฑล ปางประทานพร นวราชบพติ ร ธรรมศิ รชมพ-ู ชยั วฒั นจ ตุรทิศ ปางลลี า ปางสมาธิ สรุ ิโยทยั - นริ โรคนั ตราย ปางหา มสมทุ ร ของศลิ ป พรี ะศรี ภ.ป.ร. ทีปนวิ ัตสิ ุโขทัย เฉลิมพระชนม- มหามงคล สิริกิต-ิ มหามงคล วัดไทยพุทธคยา พรรษาครบ เฉลมิ พระชนม- ฑีฆายุมงคล เฉลมิ พระชนม- ุพทธ ิศลป ๕๐ พรรษา พรรษา ๕ รอบ พรรษา ๖ รอบ พ.ศ. ๒๕๐๐ ๒๕๑๐ ๒๕๒๐ ๒๕๓๐ ๒๕๔๐ ๒๕๕๐ ค.ศ. 1957 1967 1977 1987 1997 2007 ภาคผนวก ๕๙๑

ดรรชนี ก จ ชโิ นรสาราม, วดั กรงุ เทพมหานคร ๒๗๗ ชีเชียง, ชีเชยี งใส, วัด อยธุ ยา ๑๖๑, ๓๒๘ ชมุ พรรงั สรรค์, วดั จงั หวดั ชุมพร ๒๑๕ กัลยาณี, วัด โคลัมโบ ศรลี ังกา ๑๖๕ จตรุ มติ รประดิษฐาราม, วัด กรุงเทพมหานคร ชุมพลนกิ ายาราม, วัด จังหวัดพระนครศรอี ยธุ ยา กัลยาณสี ีมา, วดั หงสาวดี พมา่ ๑๖๕ กำแพงแลง, วดั จังหวัดเพชรบรุ ี ๒๓๑ ๒๕๖ ๒๑๔, ๓๐๖ เกาะแกว้ สทุ ธาราม, วัด จังหวัดเพชรบุรี ๑๘๗ จอมกิต,ิ พระธาตเุ จดีย์ จงั หวดั เชยี งราย ๑๓๓ ชมุ แสงศรีวนาราม, วดั จังหวดั ชลบุรี ๔๘๒-๓ เกาะถ้ำ จังหวัดสงขลา ๒๕๖-๗ จักรวรรดิราชาวาส, วดั กรงุ เทพมหานคร ๔๒๕ เชตุพน, วัด จงั หวดั สโุ ขทัย ๕๐๐-๑ แก้วพิจิตร, วดั จงั หวัดปราจีนบรุ ี ๓๕๖ จฬุ ามณี, วัด จังหวดั พิษณโุ ลก ๑๖๑ เชงิ ชมุ , พระธาตุ จงั หวดั สกลนคร ๑๖๙ โกรกกราก, วดั จงั หวัดสมุทรสาคร ๕ เจ็ดยอด, วดั จงั หวดั เชียงใหม่ ๒๐, ๒๑๗; ดู เชียงทอง, วัด หลวงพระบาง ลาว ๑๖๙ เชียงมั่น, วัด จงั หวัดเชียงใหม่ ๔๓๗ มหาโพธาราม ไชยวัฒนาราม, วดั จังหวดั พระนครศรอี ยุธยา เจดยี ์เจ็ดแถว, วัด อุทธยานประวัติศาสตรศ์ รสี ัชนาลัย ข ๓๐๐ จังหวดั สุโขทยั ๒๐๐, ๓๙๒, ๔๗๕ ไชยาติการาม, วดั จังหวดั อำนาจเจรญิ ๒๕๑, เจดีย์หลวง, วดั จงั หวดั เชยี งใหม่ ๑๖๗, ๑๗๔, ขนุ อินทรประมลู , วัด จังหวัดอ่างทอง ๔๘๘-๙ ๔๖๗ เขากง, วัด จงั หวัดนราธวิ าส ๓๕๘ ๒๓๘-๙, ๔๐๐ ไชโย, วัด จังหวัดอา่ งทอง ๑๒๖, ๔๔๑ เขาแก่นจนั ทร์ จังหวดั ราชบรุ ี ๑๒๐-๑ ไจค์มะรอ, วัด เมาะลำแยง พมา่ ๓๖๘ เขาถ้ำทะล,ุ วัด จังหวัดราชบรุ ี ๒๓๑ เขาสุวรรณประดษิ ฐ์, วดั จงั หวดั สุราษฎรธ์ าน ี ด ๔๘๒ ฉ เขาใหญ,่ วัด จงั หวัดสุโขทยั ๓๙๘ เขาออ้ , วดั จงั หวัดพทั ลงุ ๓๙๕, ๔๑๓ ดงศรีมหาโพธิ์ จังหวัดปราจีนบุรี ๑๑๖ เขียนบางแก้ว, วัด จงั หวัดพัทลงุ ๓๘๑ เฉลมิ พระเกยี รติ, วดั จงั หวัดนนทบรุ ี ๔๘, แดนเมือง, วัด จงั หวดั หนองคาย ๑๖๙ ๒๗๕ ค ต ช คฤหบด,ี วัด กรงุ เทพมหานคร ๒๔๖ ตระพังทองหลาง, วัด จังหวดั สโุ ขทยั ๕๐๒ คูหาสวรรค์, วัด กรุงเทพมหานคร ๑๘๙ ตะกวน, วัด จังหวดั สุโขทัย ๒๖๐ เครอื วัลย์, วดั กรุงเทพมหานคร ๓๙๗ ชยั พระเกยี รติ, วดั จังหวดั เชียงใหม ่ ๒๔๒, ตึก, วัด จงั หวดั พระนครศรีอยธุ ยา ๔๓๒ โคกขาม, วัด จังหวดั สมทุ รสาคร ๓๑๖-๗, ๓๓๑ ไตรภมู ,ิ วัด จังหวดั นครพนม ๔๒๖ ๒๔๔, ๓๒๔ ไตรภมู ิ, วัด จงั หวัดเพชรบรู ณ์ ๒๐๒ ชยั ภูมิการาม กรุงเทพมหานคร ๔๖๔ ไตรมิตรวทิ ยาราม, วัด กรุงเทพมหานคร ๒๓๔-๕ ชา่ งแตม้ , วดั จงั หวดั เชียงใหม ่ ๒๔๐ ๕๙๒ ดรรชนี ช้างค้ำ, วัด จังหวดั เชยี งใหม ่ ๒๙๖ ชา้ งล้อม, วดั จังหวดั สุโขทยั ๒๖๖, ๒๘๗

ถ ธ บงั พวน, พระธาต ุ จงั หวดั หนองคาย ๑๖๙ บางพลใี หญใ่ น, วัด จังหวัดสมทุ รปราการ ๒๖๕, ถำ้ พระโพธสิ ัตว์ จงั หวดั สระบุร ี ๑๔๓ ธรรมมกิ ราช, วดั จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ๔๓๘; ดู พลบั พลาชยั ชนะสงคราม ถำ้ แสงเพชร, วดั จงั หวัดอำนาจเจรญิ ๔๙๖-๗ บางอ้อยชา้ ง, วัด จังหวดั นนทบรุ ี ๓๙๐ เถนดอคยี พญา, วดั ตะนาวศรี พมา่ ๔๙๑ ๒๑๒ บ้านตำแย, วดั จังหวัดอุบลราชธานี ๒๘๐ บ้านปาง, วดั จังหวดั ลำพนู ๒๑๕ บา้ นยางหลวง, วดั จังหวัดเชียงใหม ่ ๓๗๖ บ้านเหล่า, วดั จังหวดั เชียงใหม่ ๔๘๒-๓ ท น บ้านแหลม, วัด จงั หวดั สมทุ รสงคราม ๑๘๔, ๒๖๕, ๔๓๘-๙; ดู เพชรสมทุ ร ทองนพคุณ, วดั กรงุ เทพมหานคร ๕๐๗ นครโกษา, วัด จังหวดั ลพบุร ี ๒๕๕ บุญยนื , วดั จังหวดั น่าน ๓๘๐ ท้องลับแล, วดั จงั หวัดอตุ รดติ ถ์ ๒๘๐ นครวัด, ปราสาท เสียมเรียบ กมั พูชา ๑๘๒ บปุ ผาราม, วัด เชยี งใหม ่ ๒๔๐; ดู สวนดอก ทา่ ไชยศิริ, วัด จังหวดั เพชรบรุ ี ๔๐๓ นภเมทนดี ล, พระมหาธาตุ จงั หวดั เชียงใหม่ บปุ ผาราม, วดั ถนนทา่ แพ จังหวัดเชียงใหม่ ท่าถนน, วดั จงั หวดั อตุ รดิตถ ์ ๓๓๐ ทา่ สำเภาเหนอื , วัด จงั หวดั พัทลงุ ๓๘๑ ๓๖๐ ๓๑๘ ท่าหลวง, วัด จงั หวัดพิจติ ร ๓๓๒ นางกยุ , วัด จงั หวดั พระนครศรอี ยธุ ยา ๑๔๗ บปุ ผาราม, วัด จงั หวดั ตราด ๒๘๙ เทพธดิ าราม, วดั กรุงเทพมหานคร ๒๗๕, ๓๔๐ นางนอง, วดั กรงุ เทพมหานคร ๒๐๖, ๓๐๔-๕ เบญจมบพติ รดสุ ิตวนาราม, วดั กรุงเทพมหานคร เทพพทิ ักษป์ ุณณาราม, วัด จังหวดั นครราชสีมา นาปงั , วัด จงั หวัดน่าน ๔๖๒ นิเวศธรรมประวตั ิ, วดั จงั หวดั พระนครศรี ๔๙, ๑๘๐, ๑๙๘, ๒๑๓, ๒๒๔, ๒๒๖, ๓๑๓ ๒๓๑, ๒๓๘-๙, ๒๔๒, ๒๕๑, ๒๕๖, เทพศิรนิ ทราวาส, วัด กรุงเทพมหานคร ๑๐๑, อยุธยา ๔๙, ๓๕๐ ๒๗๙, ๓๐๓, ๓๑๖, ๓๑๙-๒๐, ๓๒๓, ๓๓๔, ๓๓๔, ๓๓๖-๗, ๓๔๔, ๓๕๒, ๓๗๖, ๑๐๙, ๑๗๙, ๓๕๐, ๔๑๔, ๕๒๗ ๓๘๕-๖, ๓๘๙-๙๐, ๓๙๒-๓, ๔๐๔-๕, เทวปราสาท, วัด จังหวดั พจิ ิตร ๓๑๐, ๓๑๓ ๔๑๘, ๔๓๐, ๔๓๘, ๔๔๘, ๔๕๒, ๔๖๔, เทวสังฆาราม, วดั จังหวัดกาญจนบรุ ี ๑๓๑ บ ๔๗๖-๗, ๕๐๒, ๕๐๘, ๕๒๒ ไทยชุมพล, วดั จังหวดั สุโขทยั ๔๗๐-๑ ไทยพุทธคยา, วัด พทุ ธคยา อินเดีย ๒๓๑ บรมนิวาส, วัด กรุงเทพมหานคร ๒๖๘ บรมพุทธาราม, วดั จงั หวัดพระนครศรีอยุธยา ป ๓๓๑ บวรนิเวศวิหาร, วดั กรุงเทพมหานคร ๔๗, ๗๖, ปทมุ คงคา, วัด กรงุ เทพมหานคร ๑๑๕, ๕๒๙, ๗๘, ๑๐๑, ๑๐๔-๕, ๑๑๕, ๑๒๖-๗, ๓๐๕ ๑๓๑-๒, ๑๓๔, ๒๒๑, ๒๒๓, ๓๑๐, ปทุมวนาราม, วดั กรงุ เทพมหานคร ๒๔๘ ๓๕๕, ๔๒๐, ๔๒๒-๓, ๔๔๒, ๔๔๔-๕, ปรมยั ยกิ าวาส, วัด จังหวัดนนทบรุ ี ๒๗๘, ๓๕๑ ๔๘๖, ๕๒๖ บวรสถานสุทธาวาส, วดั กรงุ เทพมหานคร ๒๖๒, ๔๒๐ ดรรชน ี ๕๙๓

ประดิษฐธ์ รรมคณุ , วัด จังหวดั หนองคาย พ พระธาตุหรภิ ญุ ไชย, วัด จังหวดั ลำพูน ๒๔๐, ๒๔๙ ๓๔๔, ๓๔๖, ๔๔๙, ๔๖๖ ประด่,ู วดั จังหวัดสรุ าษฎรธ์ าน ี ๑๘๒ พญาภ,ู วัด จังหวัดน่าน ๔๖๒ พระเนตร, วัด จงั หวดั น่าน ๒๖๐ ประตมิ ากรรมต้นแบบ, หอ กรงุ เทพมหานคร พนมศลิ าราม, วดั จังหวดั สรุ นิ ทร ์ ๓๑๓ พระบรมธาต,ุ วดั จงั หวดั นครศรธี รรมราช ๔๘๐ ประเสริฐ, วัด จังหวัดราชบุร ี ๓๐๓ พนญั เชงิ , วดั จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ๔, ๒๒๒, ๔๓๔ ปราสาท, วดั จงั หวัดเชียงใหม่ ๒๔๔ ปรนิ ายก, วัด กรงุ เทพมหานคร ๒๓๔-๕, ๔๖๐ ๒๐๘-๑๐ พระบรมธาตุไชยา, วัด จงั หวัดสุราษฎรธ์ าน ี ปา่ แดง, วัด เชียงตงุ ๑๖๐ ป่าแดง, วดั เชียงใหม่ ๑๖๕-๖, ๓๑๕, ๓๑๘, พระแกว้ , วัด จงั หวดั ชยั นาท ๔๔๖-๘ ๔๑๐ ๕๒๒ พระแก้ว, วดั จังหวัดเชียงราย ๑๘๐ พระบรมมหาราชวงั กรงุ เทพมหานคร -พระที่นงั่ ป่าแดง, วัด ศรสี ัชนาลยั ๑๕๗-๘ ปา่ แดงหลวงดอนชัยบุนนาค, วัด จงั หวัดพะเยา พระแก้ว, หอ เวยี งจันท์ ลาว ๒๕๑, ๓๗๘ จกั รพรรดพิ มิ าน ๕๐๔-๖; -พระท่นี ่ัง ๓๔๙ พระเจา้ ทองทพิ ย์, วดั จังหวดั เชยี งราย ๖ จักรมี หาปราสาท ๑๐๓; -พระทน่ี ัง่ ปา่ มะม่วง, วัด สโุ ขทัย ๑๕๗-๘ ป่าโมก, วัด จังหวัดอา่ งทอง ๓๘, ๔๑๐, ๔๑๖, พระเจา้ เม็งราย, วดั จงั หวดั เชียงใหม่ ๒๓๘-๙, ดุสติ มหาปราสาท ๘๐, ๑๐๓; -พระ ๔๔๓, ๔๔๖, ๔๗๔, ๔๘๕, ๔๙๐, ๕๑๐ ๓๑๖, ๓๗๗, ๔๖๔-๕ ที่นงั่ ไพศาลทักษิณ ๗๑; -พระทีน่ ัง่ ปา่ เลไลยก,์ วัด จังหวัดสุพรรณบรุ ี ๓๖๘ ป่าสักหลวง, วดั เวียงจนั ท์ ลาว ๔๒๔ พระเจา้ ล้านทอง, วดั จงั หวดั เชยี งราย ๒๓๖-๗, ราชกรัณยสภา ๑๑๙, ๓๕๒; -พระ ปากนำ้ , วดั กรงุ เทพมหานคร ๑๙๖ ๒๔๔, ๕๒๒ ทน่ี ง่ั ศวิ าลัยมหาปราสาท ๑๐๓; - พระเจา้ สะเลยี มหวาน, วัด จงั หวดั ลำพนู ๔๓๗ พระทน่ี ง่ั สุทไธศวรรย ์ ๑๐๓; -พระ ผ พระเชตพุ นวมิ ลมงั คลาราม, วัด กรงุ เทพมหานคร ทีน่ ง่ั อมรนิ ทรวนิ ิจฉยั ๘๐, ๘๗; -หอ ผดุงสุข, วดั จังหวดั หนองคาย ๒๔๖ ๔๘, ๑๘๖-๗, ๑๘๙, ๒๐๕, ๒๑๓, ๒๓๑, พระธาตมุ ณเฑียร ๗๒; -หอพระ ไผโ่ รงววั , วดั จงั หวดั สพุ รรณบรุ ี ๒๘๑ ๒๓๔, ๒๖๔, ๓๐๙, ๓๑๖, ๓๒๖, ๓๗๑, บรมอัฐิ พระทีน่ ่ังจักรมี หาปราสาท ๓๘๙, ๔๑๑, ๔๑๓, ๔๑๖, ๔๒๕, ๔๒๘, ๘๒-๕, ๑๐๙, ๓๕๕, ๔๑๔, ๔๔๓, ๔๕๓; ๔๓๘, ๔๕๔, ๔๙๒; ดู โพธาราม -หอพระสลุ าลัยพิมาน ๔๔, ๖๗-๙, กรงุ เทพมหานคร ๗๑, ๗๓-๕, ๘๑-๒, ๘๖, ๙๐-๑, ๙๕, พระทอง, วัด จังหวัดภูเก็ต ๗ ๙๗, ๙๙, ๑๑๑-๔, ๑๑๖-๗, ๑๑๙, ๑๒๘, พระธาตชุ ้างค้ำ, วัด จังหวัดน่าน ๒๔๔, ๓๑๘-๙, ๑๗๕, ๑๙๑, ๓๕๓, ๓๖๒, ๓๗๓, ๔๕๑-๒, ๓๗๔, ๓๗๗, ๓๘๐, ๔๑๘, ๔๖๒ ๔๕๕ ๔๙๓, ๕๒๓; -หอศาสตราคม พระธาตุดอยคำ, วดั จงั หวดั เชียงใหม่ ๓๓๘-๙ ๑๐๘-๙, ๔๐๖, ๕๒๗ พระธาตุดอยสะเกด็ , วัด จงั หวัดเชียงใหม ่ ๓๖๐ พระปฐมเจดยี ์, วัด จังหวัดนครปฐม ๔๘, ๓๗๓, พระธาตดุ อยสเุ ทพ, วัด จงั หวัดเชียงใหม ่ ๑๘๐ ๓๙๘, ๔๙๘ พระธาตบุ ้านสำราญ, วดั ๕ พระพายหลวง, วดั จงั หวัดสโุ ขทัย ๔๘๖-๗ พระธาตุลำปางหลวง, วัด จงั หวัดลำปาง ๒๔๕ พระพุทธ, วดั จังหวดั ตรัง ๓๘๑ พระธาตศุ รีจอมทอง, วัด จังหวดั เชียงใหม ่ พระพุทธ, วดั จงั หวดั นราธิวาส ๑๓๓ ๑๙๘ ๕๙๔ ดรรชน ี

พระพทุ ธศรีสงขลานครนิ ทร์, วหิ าร จังหวัดสงขลา พระศรีรตั นศาสดาราม, วดั กรุงเทพมหานคร พพิ ธิ ภัณฑสถานสำหรับพระนคร ๘-๙; ดู พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนคร ๑๒๓ ๔๘, ๕๒-๔, ๑๐๔, ๑๐๖, ๑๒๖, ๑๗๔ พพิ ิธภณั ฑสถานแหง่ ชาติ กำแพงเพชร จังหวดั พระพุทธสหิ งิ ค,์ หอ จังหวัดชลบรุ ี ๑๗๘ ๔๑๙, ๔๓๔, ๕๐๘; -ปราสาทพระเทพ กำแพงเพชร ๒๑๔, ๔๑๙ พระพทุ ธสหิ ิงค์, หอ จังหวดั นครศรธี รรมราช บิดร ๑๐๒-๓, ๔๓๖; -พระวิหารยอด พพิ ธิ ภัณฑสถานแหง่ ชาติ ขอนแก่น จังหวดั ขอนแกน่ ๒๐๑ ๓๒๙ ๔๑๓, ๔๑๙, ๔๒๒, ๔๓๘; -พระอุโบสถ พพิ ิธภัณฑสถานแหง่ ชาติ จันทรเกษม จงั หวัด พระพุทธไสยาสน,์ วัด จังหวัดเพชรบุร ี ๓๐๒, ๕๐-๑, ๕๕-๖, ๗๙, ๙๑, ๙๔, ๙๖, ๙๙, พระนครศรอี ยธุ ยา ๑๕๐, ๓๒๘, ๔๐๕, ๔๓๘ ๔๙๐ ๑๐๖-๗, ๑๐๙, ๑๒๓, ๑๒๕, ๑๒๘-๙, พพิ ิธภณั ฑสถานแห่งชาติ เจา้ สามพระยา จงั หวัด พระมงคลมง่ิ เมอื ง, พทุ ธอุทยาน จังหวัดอำนาจเจริญ ๑๘๐, ๑๙๓, ๒๔๒-๓, ๓๔๑, ๔๒๐, พระนครศรีอยุธยา ๑๔๗, ๑๕๕, ๑๗๔, ๑๗๗, ๒๑๑-๒, ๒๕๖, ๒๘๓, ๒๘๓ ๔๕๑; -หอพระคนั ธารราษฎร ์ ๘๘-๙, ๓๘๔, ๓๘๘, ๔๑๕-๖, ๔๑๘, ๔๗๐ พระเมรุ, วดั จังหวดั นครปฐม ๑๔๔, ๑๕๒, ๓๐๘, ๔๕๗; -หอพระนาก ๔๑๙; พิพธิ ภณั ฑสถานแห่งชาติ เชียงแสน จังหวดั เชยี งราย ๔๓๗ ๓๖๕, ๓๗๓ -หอพระมณเฑยี รธรรม ๗๙, ๑๒๕, พพิ ธิ ภัณฑสถานแห่งชาติ เชยี งใหม่ จังหวัดเชียงใหม ่ พระยืน, วดั จังหวดั ลำพนู ๑๖๕, ๓๗๕-๖, ๕๒๒ ๔๓๖; -หอพระราชกรมานสุ ร ๕๗, ๒๓๘-๙, ๓๒๑-๒, ๓๔๖, ๔๐๐, ๔๒๘ พระยนื พุทธบาทยุคล, วดั จงั หวดั อุตรดติ ถ์ ๖ ๕๐๔; -หอพระราชพงศานสุ ร ๕๗, พพิ ิธภัณฑสถานแห่งชาติ ไชนาทมุนี จังหวดั ชยั นาท ๓๓๑ พระราชวงั ดุสติ -พระท่นี ง่ั วิมานเมฆ ๑๐๓; - ๕๐๔ พพิ ิธภณั ฑสถานแหง่ ชาติ ไชยา จังหวัดสุราษฎรธ์ าน ี พระท่นี ัง่ อมั พรสถาน ๑๑๑, ๑๑๙, พระศรสี รรเพชญ์, วดั จังหวดั พระนครศรอี ยธุ ยา ๒๐๔, ๔๑๐ ๑๔๗, ๑๗๕, ๑๗๙, ๑๘๓, ๑๙๘, ๒๔๒, ๑๗๔, ๑๘๖, ๒๐๕, ๒๑๔, ๒๕๖, ๒๕๘, พพิ ิธภณั ฑสถานแหง่ ชาติ นครศรีธรรมราช จงั หวัดนครศรธี รรมราช ๔๔๐, ๔๙๑ ๒๕๔, ๓๒๒-๓, ๓๓๒-๔, ๓๔๓, ๓๗๐, ๓๐๔, ๓๓๑, ๓๙๒-๓, ๓๙๕, ๔๐๓, ๔๑๓, พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ น่าน จังหวดั น่าน ๑๘๑, ๓๗๖-๗, ๓๘๕, ๔๓๐, ๔๕๓, ๔๖๔, ๔๑๙, ๔๙๑ ๒๕๖, ๒๖๒, ๒๙๗-๘, ๓๘๐, ๔๐๗ ๔๗๐, ๔๗๒, ๔๗๘, ๕๒๓ พระสงิ ห์, วัด จังหวดั เชียงใหม่ ๑๖๔-๕, ๓๑๔, พิพธิ ภัณฑสถานแห่งชาติ พระนคร กรงุ เทพมหานคร ๑๘-๙, ๔๓, ๑๓๘, พระราม ๙ กาญจนาภเิ ษก, วดั กรงุ เทพมหานคร ๓๒๑-๓, ๓๓๔ ๑๔๑, ๑๔๔, ๑๔๖, ๑๔๘-๙, ๑๕๒, ๑๗๔-๘, ๑๘๒, ๒๓๓, ๒๔๐, ๒๕๕, ๔๙ พระสี่อริ ิยาบถ, วดั จงั หวัดกำแพงเพชร ๕๐๑ ๒๕๘, ๒๕๙-๖๐, ๒๖๖, ๒๘๖, ๒๙๒, พระรูป, วดั จังหวดั สพุ รรณบุร ี ๔๔๖-๗, ๔๖๖ พระเหลาเทพนิมิตร, วัด จังหวดั อำนาจเจรญิ พระศรมี หาธาตุ, วัด กรุงเทพมหานคร ๔๗๘ ๑๙๙, ๒๕๒, ๓๗๘, ๔๒๗ พระศรีรตั นมหาธาต,ุ วัด จงั หวดั พิษณุโลก พระใหญ,่ วดั จงั หวัดสุราษฎรธ์ าน ี ๒๘๕ ๒๑๙, ๒๒๑-๓, ๒๓๑, ๒๖๔, ๒๖๖, พลบั พลาชยั ชนะสงคราม, วดั จังหวดั สมุทรปราการ ๓๙๕ ๑๘๔, ๒๖๕; ดู บางพลใี หญ่ใน พระศรรี ตั นมหาธาตุ, วัด จงั หวดั ลพบุรี ๒๑๒ พกิ ลุ ทอง, วดั จงั หวัดสงิ ห์บรุ ี ๓๑๑, ๓๑๓, ๕๑๒ พระศรีรัตนมหาธาต,ุ วัด จงั หวัดสุโขทยั ๑๕๗, พิชยญาติการาม, วดั กรงุ เทพมหานคร ๒๖๘ ๔๗๕ พระศรรี ัตนมหาธาตุ, วดั จงั หวดั สุพรรณบรุ ี ๔๗๔ ดรรชน ี ๕๙๕

๒๙๔, ๒๙๙, ๓๐๓, ๓๔๙, ๓๕๓, ๓๗๓, พพิ ธิ ภัณฑ์วัดพระธาตุหริภุญไชย จังหวดั ลำพูน ภ ๓๘๒, ๓๘๕, ๓๘๘, ๔๐๓, ๔๐๘, ๔๓๑, ๒๑๗ ๔๓๓, ๔๓๕, ๔๕๕-๖, ๔๖๖, ๔๗๔, ๔๘๖, ๕๐๔-๖, ๕๒๓; -พระทน่ี ัง่ พทุ ไธสวรรย ์ พิพธิ ภณั ฑว์ ดั พระศรรี ัตนศาสดาราม กรุงเทพมหานคร ภักดีประกาศ, พระมหาธาตเุ จดีย ์ จังหวัด ๔๓, ๑๐๖, ๑๗๖-๘, ๕๐๔, ๕๒๓; ดู ๕๔ พพิ ธิ ภัณฑสถานสำหรบั พระนคร ประจวบคีรีขนั ธ์ ๓๕๔, ๔๙๗ พพิ ธิ ภัณฑสถานแห่งชาติ มหาวีรวงศ์ จงั หวัด พพิ ิธภัณฑว์ ดั หนองป่าพง จงั หวัดอุบลราชธานี ภูคกงว้ิ จงั หวัดเลย ๔๘๒-๓ นครราชสีมา ๑๔๖, ๒๘๗, ๓๖๗, ๔๙๖ ภมู นิ ทร,์ วัด จังหวัดน่าน ๒๔๕ ๔๒๖ พพิ ธิ ภัณฑสถานแห่งชาติ รามคำแหง จังหวดั สโุ ขทัย พิพิธภัณฑ์ Archaeological Museum Sarnath ๒๐๕, ๒๖๑, ๓๓๐, ๓๘๗, ๔๖๐, ๔๗๐-๑, ๑๘, ๒๒, ๓๕ ๔๗๓, ๔๘๖ ม พิพิธภณั ฑสถานแห่งชาติ วดั มัชฌิมาวาส จังหวดั พพิ ธิ ภณั ฑ์ British Museum ๒๙๗ สงขลา ๒๕๗ พิพิธภณั ฑ์ Government Museum, Chennai พพิ ธิ ภณั ฑสถานแหง่ ชาติ สงขลา จังหวดั สงขลา มกฏุ กษัตรยิ าราม, วดั กรงุ เทพมหานคร ๔๘, ๓๙๗ ๑๔๒ พิพธิ ภัณฑสถานแหง่ ชาติ สมเดจ็ พระนารายณ์ พิพิธภัณฑ์ Indian Museum, Kolkata ๑๙ ๑๐๙, ๑๙๒, ๕๒๗ จังหวัดลพบรุ ี ๓๒๘-๙, ๓๘๔, ๓๘๗, พพิ ธิ ภัณฑ์ Kimbell Art Museum, Texas ๒๙๕ มงคลบพติ ร, วดั จังหวดั พระนครศรีอยธุ ยา ๔๘๘-๙ พพิ ธิ ภัณฑ์ Metropolitan Museum of Art, New York พิพธิ ภณั ฑสถานแห่งชาติ สวรรควรนายก จังหวัด ๒๐๔, ๒๐๘, ๒๕๘-๙, ๓๒๘, ๓๙๐, สโุ ขทยั ๒๑๔, ๓๐๒, ๓๘๗, ๓๙๐, ๑๙ ๔๐๓, ๔๑๘-๙, ๔๓๐ ๔๓๑, ๔๗๐-๑, ๔๗๓ พพิ ิธภัณฑ์ Nagarajunakonda Museum มโนรม, วัด หลวงพระบาง ๑๖๘ พพิ ธิ ภัณฑสถานแหง่ ชาติ หริภญุ ไชย จังหวดั ลำพนู มว่ ง, วดั จงั หวัดอา่ งทอง ๒๘๑, ๒๘๓ ๑๙๘, ๒๓๖ Andhrapradesh ๑๔๓ มหรรณพาราม, วัด กรงุ เทพมหานคร ๒๓๔-๕ พพิ ิธภัณฑสถานแหง่ ชาติ อนิ ทร์บรุ ี จังหวัดสงิ หบ์ ุร ี พิพิธภณั ฑ์ National Museum, Yangon ๑๔๖ มหาธาต,ุ วดั จงั หวัดชยั นาท ๒๑๓, ๓๘๙, ๔๔๖-๗ ๒๙๑ พพิ ิธภัณฑ์ Patna Museum, Patna ๑๔๙, ๓๔๓ มหาธาตุ, วัด จงั หวดั นครศรีธรรมราช ๔๐๗ พพิ ธิ ภัณฑสถานแหง่ ชาติ อุบลราชธานี จงั หวัด พุทธมณฑล จังหวัดนครปฐม ๔, ๔๘๐-๒ มหาธาตุ, วดั จังหวดั พระนครศรอี ยธุ ยา ๒๑๑-๒, อบุ ลราชธาน ี ๑๙๙, ๓๗๘, ๔๒๗ พุทธาธิวาส, วดั จังหวัดยะลา ๑๙๖ ๓๘๘ พิพธิ ภัณฑสถานแห่งชาติ อทู่ อง จงั หวดั พทุ ไธสวรรย,์ วดั จงั หวดั พระนครศรีอยุธยา มหาธาต,ุ วดั จงั หวดั เพชรบรู ณ์ ๑๘๑, ๔๒๘ สพุ รรณบรุ ี ๓๓๑ มหาธาตุ, วดั จังหวดั ลพบรุ ี ๓๘๙, ๔๔๖ ๓๗๐ มหาธาตุ, วัด จังหวดั สโุ ขทัย ๒๑๔, ๒๒๒, ๕๙๖ ดรรชน ี พสู ,ี พระธาต ุ หลวงพระบาง ลาว ๑๗๐ ๒๒๘, ๒๗๑, ๓๗๙, ๓๘๗ เพชรสมุทร, วัด จังหวัดสมทุ รสงคราม ๑๘๔, มหาธาตุยวุ ราชรังสฤษฎ์, วัด กรุงเทพมหานคร ๒๗๐, ๔๕๘, ๔๗๖-๗ ๔๓๘-๙; ดู บา้ นแหลม มหาโพธาราม, วัด จงั หวัดเชยี งใหม ่ ๑๖๖, โพธาราม, วัด กรุงเทพมหานคร ๑๘๗, ๓๗๑, ; ๒๑๗; ดู เจ็ดยอด ดู พระเชตพุ นวิมลมงั คลาราม โพธาราม, วัด จงั หวดั สรุ าษฎร์ธานี ๔๓๓ โพธช์ิ ยั , วัด จังหวดั หนองคาย ๒๔๘-๙ โพธ์ิประทบั ชา้ ง, วดั จังหวัดพิจิตร ๒๑๙

มหาวนาราม, วดั จงั หวดั อบุ ลราชธาน ี ๒๕๓ ราชาธิวาสวหิ าร, วัด กรุงเทพมหานคร ๖๗, ศ มหาวิทยาลยั ธรรมศาสตร ์ ๑๗๘ ๑๘๗, ๑๙๑, ๑๙๓, ๑๙๕, ๓๓๗, ๕๒๖; มเหยงค,์ วดั จังหวดั พระนครศรอี ยธุ ยา ๕๐๑ ดู สมอราย มูลนิธิ James H.W. Thompson ๒๘๘ ศรเี กิด, วดั จงั หวัดเชยี งใหม่ ๒๑๗ เมธังกราวาส, วัด จังหวัดแพร ่ ๒๕๑ โรงพยาบาลจฬุ าลงกรณ์ ๑๓๒, ๓๑๐ ศรีคุณเมือง, วัด จงั หวดั เลย ๒๐๑ โรงพยาบาลศริ ริ าช ๑๑, ๑๓๑, ๓๑๐ ศรีโคมคำ, วัด จังหวัดพะเยา ๒๓๖, ๒๔๒-๓, โรงเรยี นวัดราชาธิวาส กรุงเทพมหานคร ๔๘๕, ๕๒๒ ร ๔๙๕-๖ ศรชี มภูองคต์ ื้อ, วัด จังหวัดหนองคาย ๑๙๙, ไร่ขิง, วัด จงั หวดั นครปฐม ๒๖๖ ๒๔๖-๗ รอ, วัด จงั หวัดพระนครศรอี ยธุ ยา ๑๔๔ ศรชี ุม, วดั จังหวดั สโุ ขทัย ๒๒๘-๙, ๒๘๘, ๔๔๖, ระฆังโฆสิตาราม, วดั กรุงเทพมหานคร ๑๙๔, ล ๔๔๙-๕๐, ๔๗๕ ๔๔๑ ศรเี ทพประดิษฐาราม, วัด จังหวัดนครพนม ราชธานี, วดั จังหวัดสโุ ขทัย ๓๘๙ ราชนัดดาราม, วดั กรงุ เทพมหานคร ๔๘, ๒๗๔-๕ ล้านนาญาณสงั วราราม, วัด จงั หวัดเชียงใหม่ ๑๙๙-๒๐๐ ราชบพธิ สถติ มหาสีมาราม, วดั กรงุ เทพมหานคร ศรีบุญเรอื ง, วัด จังหวดั ขอนแกน่ ๒๘๔ ๓๓๘ ศรีสองรัก, พระธาต ุ จงั หวดั เลย ๑๖๙ ๔๙, ๑๐๙, ๑๓๑, ๑๙๒, ๓๑๐, ๔๐๙, ลีเชยี งพระ, วัด เชยี งใหม ่ ๑๖๔; ดู พระสงิ ห ์ ศรสี รุ โิ ยทัย, พระเจดยี ์ จังหวัดพระนครศรี ๕๒๗ โลกยสธุ า, วดั จงั หวดั พระนครศรอี ยธุ ยา ๔๘๘ ราชบรุ ณะ, วดั กรงุ เทพมหานคร ๒๓๐-๑, ๔๖๘ ไลย์, วดั จงั หวดั ลพบุร ี ๑๘๔, ๒๙๐-๑ อยุธยา ๑๒๓, ๔๐๙ ราชบรู ณะ, วัด จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ศาลเจ้าพ่อหลักเมือง จังหวัดลำปาง ๑๒๐-๑ -กรปุ รางค ์ ๑๓๘, ๑๔๘, ๑๕๕, ๑๗๔, ศาลากลางจงั หวัด จังหวดั พัทลุง ๑๒๐-๑ ๑๗๗, ๑๙๘, ๒๕๖, ๒๕๙, ๓๘๓-๔, ศาลาแดง, วดั จงั หวัดสระบุรี ๑๒๐-๑ ๓๘๘, ๔๑๖, ๔๗๐ ว ศาลาทอง, วดั จงั หวดั นครราชสมี า ๓๗๒ ราชบรู ณะ, วัด จังหวดั พิษณุโลก ๒๒๓ ศาลาปูน, วดั จังหวดั พระนครศรีอยธุ ยา ๒๖๖ ราชประดิษฐสถิตมหาสมี าราม, วัด กรุงเทพมหานคร ๔๘, ๑๒๖, ๑๗๗, วงั , วดั จังหวัดพัทลุง ๔๓๔ ๒๒๔ วชิ ลุ ราช, วดั หลวงพระบาง ๑๖๘, ๓๘๐, ๔๒๔ ราชสทิ ธาราม, วดั กรุงเทพมหานคร ๔๘, วิเศษการ, วัด กรุงเทพมหานคร ๔๓๕ ส ๒๗๓ วิหารทอง, วัด จงั หวัดพิษณุโลก ๓๙๕ ราชโอรสาราม, วัด กรุงเทพมหานคร ๔๘, เวียง, วัด จงั หวดั สรุ าษฎรธ์ านี ๒๙๒ ๑๙๐, ๒๘๙ สมอราย, วัด ๑๐๖, ๑๘๗, ๑๙๑-๓, ๕๒๖; ดู ราชาธวิ าสวหิ าร สยามสมาคมในพระบรมราชปู ถัมภ์ กรุงเทพมหานคร ๒๗๗, ๓๐๓ สรศักด,์ิ วัด จังหวดั สุโขทยั ๔๖๐ ดรรชนี ๕๙๗

สระเกศ, วดั กรงุ เทพมหานคร ๔๘, ๑๘๙, เสาธงทอง, วัด จังหวัดลพบรุ ี ๔๐๗ อ ๓๙๕, ๔๔๓ โสธรวราราม, วัด จงั หวัดฉะเชิงเทรา ๑๘๔, สระบัว, วดั จงั หวัดเพชรบุร ี ๑๘๗ ๔๓๘ อนงคาราม, วดั กรุงเทพมหานคร ๒๐๖ สระศร,ี วดั จังหวดั สุโขทัย ๓๓๐ โสมนสั วิหาร, วดั กรงุ เทพมหานคร ๑๐๙, อมรนิ ทราราม, วัด กรุงเทพมหานคร ๔ สวนดอก, วดั จังหวัดเชียงใหม่ ๑๖๕-๖, ๒๓๖, อรุณราชวราราม, วดั กรุงเทพมหานคร ๔๘, ๑๙๑-๒, ๒๗๘, ๕๒๗ ๒๔๐-๑, ๕๒๒; ดู บุปผาราม เชียงใหม ่ ๙๙, ๑๐๑, ๒๗๓, ๓๒๕ สวนตาล, วัด จงั หวดั นา่ น ๒๓๖-๗, ๕๒๒ อัปสรสวรรค์, วัด กรุงเทพมหานคร ๒๗๕ สวรรคาราม, วดั จังหวัดสโุ ขทยั ๓๘๗ อินทรวหิ าร, วัด กรุงเทพมหานคร ๔๔๑ สะดือเมือง, วดั เชียงใหม่ ๑๖๗ ห อโุ มงค์มหาเถรจันทร์, วัด จงั หวัดเชียงใหม ่ สะตอื , วดั จงั หวดั พระนครศรีอยุธยา ๔๔๑ สัตตนารถปรวิ ัตร, วัด จังหวัดราชบรุ ี ๒๒๖ ๒๓๘-๙, ๕๒๒ สามเหล่ียมทองคำ จงั หวัดเชียงราย ๓๓๙ หงสร์ ัตนาราม, วัด กรุงเทพมหานคร ๒๓๔, โอกาส, วดั จังหวัดนครพนม ๕ สีโคตบูน, พระธาตุ ทา่ แขก ลาว ๑๖๙ สีบนุ เฮอื ง, ศรบี ุญเรอื ง, วัด จังหวัดหนองคาย ๒๕๐ หนองบัว, วดั จงั หวัดน่าน ๒๔๕ ๑๗๐ หนัง, วดั กรงุ เทพมหานคร ๒๓๔ สสี ะเกด, วัด เวยี งจันท์ ลาว ๑๗๐ หน้าพระเมรุราชิการาม, วดั จงั หวัดพระนครศรี สทุ ธจนิ ดา, วัด จังหวดั นครราชสีมา ๒๗๙, อยธุ ยา ๑๕๐, ๓๐๐, ๓๐๒, ๓๖๕, ๒๘๗, ๓๖๗ ๓๗๓ สทุ ัศนเทพวราราม, วัด กรุงเทพมหานคร ๔๘, หนา้ พระลาน, วดั จังหวดั นครศรีธรรมราช ๔๓๓ ๑๒๙, ๒๓๑, ๒๗๑, ๒๗๔, ๒๗๕, หมากโม, พระธาต ุ หลวงพระบาง ลาว ๑๖๘ ๒๗๗, ๓๒๓, ๓๓๗, ๓๔๑, ๓๖๖, ๔๖๘, หลวง, พระธาต ุ เวยี งจันท์ ลาว ๑๖๙ ๔๙๒-๓ หวั เวยี ง, วัด จังหวัดสุราษฎรธ์ าน ี ๒๗๙, ๔๐๘ สนุ ทราวาส, วดั จังหวัดพทั ลุง ๓๙๗, ๔๒๐, ใหญ่สวุ รรณาราม, วดั จังหวัดเพชรบุรี ๒๖๒-๓ ๔๔๐ ใหม่ประชุมพล, วัด จังหวดั พระนครศรอี ยธุ ยา สุวรรณคูหา, วัด จังหวดั พังงา ๔๙๕ ๓๙๒-๓, ๓๙๕ สุวรรณดาราราม, วดั จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ๕๑๐ สุวันนะพมุ มาราม, วัด หลวงพระบาง ลาว ๑๗๐, ๔๒๕ เสนาสนาราม, วัด จงั หวัดพระนครศรีอยธุ ยา ๒๖๘ ๕๙๘ ดรรชนี

บนั ทึก ดรรชนี ๕๙๙

บนั ทกึ ๖๐๐ ดรรชน ี

บนั ทึก ดรรชนี ๖๐๑

บนั ทกึ ๖๐๒ ดรรชน ี