ทุกขา ชาติ ปุนปั ปุนัง การเกิดบอ่ ยๆ เปน็ ทกุ ข์รำ่�ไป คะหะการะกะ ทฏิ โฐสิ นี่แน่ะ นายชา่ งปลกู เรือน, เรารจู้ กั เจ้าเสยี แล้ว ปุนะ เคหงั นะ กาหะสิ เจ้าจะทำ�เรอื นใหเ้ ราไมไ่ ดอ้ กี ตอ่ ไป สพั พา เต ผาสุกา ภคั คา โครงเรอื นทัง้ หมดของเจา้ , เราหักเสยี แลว้ คะหะกฏู งั วสิ งั ขะตงั ยอดเรือนเรากร็ ้ือเสยี แลว้ วิสงั ขาระคะตัง จติ ตงั จิตของเราถงึ แล้วซึง่ สภาพ, ท่อี ะไรปรงุ แต่งไมไ่ ดอ้ กี ตอ่ ไป ตณั หานัง ขะยะมัชฌะคา มันไดถ้ งึ แลว้ ซึ่งความสนิ้ ไปแห่งตณั หา (คือถึงนพิ พาน) ปจั ฉิมะพทุ โธวาทะปาฐะ (หนั ทะ มะยงั ปัจฉมิ ะพุทโธวาทะปาฐัง ภะณามะ เส ) หนั ทะทานิ ภกิ ขะเว อามันตะยามิโว ดูกอ่ นภกิ ษทุ งั้ หลาย บัดนี้ เราขอเตอื นทา่ นท้งั หลายว่า
วะยะธัมมา สงั ขารา สงั ขารท้ังหลายมคี วามเสือ่ มไปเป็นธรรมดา อัปปะมาเทนะ สัมปาเทถะ ทา่ นทั้งหลาย, จงยงั ความไม่ประมาทให้ถงึ พร้อมเถดิ อะยงั ตะถาคะตสั สะ ปัจฉมิ าวาจา น้ีเปน็ พระวาจา มใี นครงั้ สดุ ท้ายของพระตถาคตเจา้ คาถาโพธบิ าท บรู ะพารสั ๎มงิ พระพทุ ธะคุณงั บูระพารสั ๎มิง พระธัมมเมตัง บรู ะพารัส๎มิง พระสังฆานัง ทกุ ขะโรคะภะยงั ววิ ญั ชยั เย สพั พะทุกข์ สัพพะโศก สพั พะโรค สัพพะภัย สัพพะเคราะห์ เสนยี ดจญั ไร วิวัญชยั เย สัพพะธะนงั สัพพะลาภังภะวนั ตเุ มรักขนั ตุสุรักขนั ตุ อาคะเนรัสม๎ งิ พระพุทธะคุณัง อาคะเนรัส๎มิง พระธัมมเมตงั อาคะเนรสั ม๎ ิง 351
พระสงั ฆานงั ทกุ ขะโรคะภะยัง วิวัญชัยเย สพั พะทกุ ข์ สัพพะโศก สัพพะโรค สัพพะภัย สพั พะเคราะห์ เสนียดจญั ไร ววิ ัญชยั เย สัพพะธะนงั สัพพะลาภงั ภะวันตุเมรักขันตุสุรักขันตุ ทกั ษณิ รสั ม๎ ิง พระพทุ ธะคณุ ัง ทกั ษิณรัส๎มงิ พระธัมมเมตัง ทกั ษณิ รสั ๎มงิ พระสังฆานงั ทกุ ขะโรคะภะยัง วิวัญชัยเย สพั พะทกุ ข์ สพั พะโศก สัพพะโรค สัพพะภัย สัพพะเคราะห์ เสนยี ดจัญไร ววิ ญั ชัยเย สัพพะธะนงั สัพพะลาภงั ภะวนั ตุเมรกั ขนั ตุสุรักขนั ตุ หรดรี ัส๎มงิ พระพทุ ธะคณุ งั หรดีรัสม๎ ิง พระธัมมเมตัง หรดรี สั ม๎ งิ พระสังฆานงั ทกุ ขะโรคะภะยัง ววิ ัญชัยเย สพั พะทกุ ข์ สพั พะโศก สพั พะโรค สพั พะภัย สพั พะเคราะห์ เสนยี ดจัญไร ววิ ัญชัยเย สพั พะธะนงั สัพพะลาภงั ภะวนั ตุเมรักขันตุสรุ ักขันตุ
ปจั จิมรัสม๎ ิง พระพทุ ธะคุณงั ปัจจมิ รสั ๎มิง พระธัมมเมตัง ปัจจิมรสั ๎มิง พระสงั ฆานัง ทกุ ขะโรคะภะยัง วิวัญชัยเย สพั พะทุกข์ สพั พะโศก สัพพะโรค สพั พะภัย สพั พะเคราะห์ เสนียดจัญไร ววิ ัญชัยเย สพั พะธะนัง สพั พะลาภงั ภะวันตเุ มรักขันตุสุรักขนั ตุ พายัพรสั ๎มิง พระพทุ ธะคุณงั พายพั รัสม๎ งิ พระธัมมเมตงั พายัพรสั ม๎ งิ พระสังฆานงั ทกุ ขะโรคะภะยัง ววิ ญั ชัยเย สพั พะทกุ ข์ สัพพะโศก สัพพะโรค สัพพะภยั สัพพะเคราะห์ เสนยี ดจญั ไร ววิ ญั ชยั เย สัพพะธะนงั สัพพะลาภงั ภะวนั ตเุ มรกั ขนั ตุสรุ กั ขนั ตุ อุดรรสั ม๎ งิ พระพุทธะคณุ งั อุดรรัส๎มงิ พระธมั มเมตัง อดุ รรัส๎มงิ พระสังฆานงั ทุกขะโรคะภะยัง ววิ ัญชยั เย สพั พะทกุ ข์ สัพพะโศก 353
สัพพะโรค สพั พะภยั สัพพะเคราะห์ เสนยี ดจัญไร ววิ ญั ชยั เย สพั พะธะนัง สพั พะลาภังภะวันตเุ มรกั ขนั ตุสุรักขนั ตุ อสี านรัส๎มิง พระพุทธะคณุ ัง อสี านรัส๎มงิ พระธัมมเมตัง อีสานรัส๎มิง พระสังฆานัง ทกุ ขะโรคะภะยงั วิวัญชยั เย สพั พะทุกข์ สัพพะโศก สัพพะโรค สัพพะภยั สัพพะเคราะห์ เสนยี ดจัญไร วิวญั ชยั เย สพั พะธะนงั สัพพะลาภังภะวันตุเมรักขนั ตุสุรกั ขนั ตุ อากาศรสั ๎มิง พระพทุ ธะคุณัง อากาศรสั ๎มงิ พระธัมมเมตงั อากาศรัสม๎ ิง พระสังฆานัง ทุกขะโรคะภะยงั ววิ ัญชัยเย สพั พะทกุ ข์ สัพพะโศก สพั พะโรค สพั พะภัย สัพพะเคราะห์ เสนียดจญั ไร วิวัญชยั เย สัพพะธะนงั สัพพะลาภังภะวนั ตเุ มรักขันตุสรุ ักขันตุ ปฐวีรสั ๎มงิ
พระพุทธะคุณัง ปฐวรี ัสม๎ งิ พระธัมมเมตัง ปฐวีรัสม๎ งิ พระสังฆานัง ทุกขะโรคะภะยงั ววิ ญั ชยั เย สัพพะทุกข์ สพั พะโศก สพั พะโรค สพั พะภยั สพั พะเคราะห์ เสนียดจัญไร ววิ ัญชัยเย สพั พะธะนัง สัพพะลาภังภะวนั ตุเมรักขันตุสุรักขนั ตุ คาถามงคลจักรวาลแปดทศิ อิ มั ส ส ะ มิ ง ม ง ค ล จั ก ร ว า ล ทั้ ง แ ป ด ทิ ศ , ประสิทธิจงมาเป็นกำ�แพงแก้วท้ังเจ็ดชั้น, มาปอ้ งกนั หอ้ มลอ้ มรอบครอบทวั่ อะนัตตา, ราชะเสมานาเขตเต, สะมันตา สะตะโย, ชะนะสะตะสะหัสสานิ พทุ ธะชาละ ปะรกิ เขตเต, รกั ขันตุ สรุ กั ขนั ตุ อิ มั ส ส ะ มิ ง ม ง ค ล จั ก ร ว า ล ท้ั ง แ ป ด ทิ ศ , ประสิทธิจงมาเป็นกำ�แพงแก้วทั้งเจ็ดชั้น, มาปอ้ งกันห้อมลอ้ มรอบครอบทว่ั อะนตั ตา, ราชะเสมานาเขตเต, สะมนั ตา สะตะโย, 355
ชะนะสะตะสะหสั สานิ ธมั มะชาละ ปะริกเขตเต, รักขนั ตุ สรุ ักขนั ตุ อิ มั ส ส ะ มิ ง ม ง ค ล จั ก ร ว า ล ทั้ ง แ ป ด ทิ ศ , ประสิทธิจงมาเป็นกำ�แพงแก้วทั้งเจ็ดชั้น, มาป้องกนั หอ้ มล้อมรอบครอบท่วั อะนัตตา, ราชะเสมานาเขตเต, สะมนั ตา สะตะโย, ชะนะสะตะสะหสั สานิ ปัจเจกะพทุ ธะ ชาละปะริกเขตเต, รักขนั ตุ สรุ ักขันตุ อิ มั ส ส ะ มิ ง ม ง ค ล จั ก ร ว า ล ท้ั ง แ ป ด ทิ ศ , ประสิทธิจงมาเป็นกำ�แพงแก้วทั้งเจ็ดชั้น, มาปอ้ งกนั หอ้ มลอ้ มรอบครอบทวั่ อะนตั ตา, ราชะเสมานาเขตเต, สะมันตา สะตะโย, ชะนะสะตะสะหสั สานิ สังฆะชาละ ปะริกเขตเต, รกั ขันตุ สุรกั ขันตุ บารมี ๓๐ ทศั ทานะ ปาระมี สัมปนั โน, ทานะ อุปะปาระมี สมั ปนั โน,
ทานะ ปะระมัตถะปาระมี สมั ปนั โน, เมตตา ไมตรี กรณุ า มทุ ติ า อุเปกขา ปาระมี สัมปนั โน, อิตปิ ิ โส ภะคะวา สีละ ปาระมี สมั ปันโน, สลี ะ อุปะปาระมี สมั ปนั โน, สีละ ปะระมัตถะปาระมี สมั ปนั โน, เมตตา ไมตรี กรณุ า มุทิตา อเุ ปกขา ปาระมี สัมปันโน, อิติปิ โส ภะคะวา เนกขมั มะ ปาระมี สมั ปันโน, เนกขมั มะ อปุ ะปาระมี สมั ปันโน, เนกขมั มะ ปะระมตั ถะปาระมี สมั ปนั โน, เมตตา ไมตรี กรณุ า มุทติ า อุเปกขา ปาระมี สมั ปนั โน, อิติปิ โส ภะคะวา ปัญญา ปาระมี สมั ปันโน, ปญั ญา อุปะปาระมี สมั ปันโน, ปญั ญา ปะระมัตถะปาระมี สมั ปันโน, เมตตา ไมตรี กรณุ า มทุ ติ า อเุ ปกขา ปาระมี สมั ปันโน, อิติปิ โส ภะคะวา วิรยิ ะ ปาระมี สัมปนั โน, 357
วริ ยิ ะ อุปะปาระมี สมั ปนั โน, วิริยะ ปะระมตั ถะปาระมี สัมปันโน, เมตตา ไมตรี กรุณา มุทิตา อุเปกขา ปาระมี สัมปันโน, อติ ิปิ โส ภะคะวา ขันตีิ ปาระมี สัมปนั โน, ขนั ติี อุปะปาระมี สัมปนั โน, ขนั ตี ปะระมัตถะปาระมี สมั ปันโน, เมตตา ไมตรี กรุณา มุทติ า อุเปกขา ปาระมี สัมปนั โน, อิตปิ ิ โส ภะคะวา สจั จะ ปาระมี สมั ปันโน, สจั จะ อปุ ะปาระมี สมั ปันโน, สัจจะ ปะระมตั ถะปาระมี สมั ปันโน, เมตตา ไมตรี กรณุ า มทุ ิตา อเุ ปกขา ปาระมี สัมปนั โน, อติ ปิ ิ โส ภะคะวา อะธฏิ ฐานะ ปาระมี สัมปนั โน, อะธฏิ ฐานะ อุปะปาระมี สัมปนั โน, อะธิฏฐานะ ปะระมตั ถะปาระมี สัมปนั โน, เมตตา ไมตรี กรณุ า มทุ ติ า อเุ ปกขา ปาระมี สมั ปันโน, อิติปิ โส ภะคะวา
เมตตา ปาระมี สัมปนั โน, เมตตา อปุ ะปาระมี สัมปันโน, เมตตา ปะระมัตถะปาระมี สัมปันโน, เมตตา ไมตรี กรุณา มุทิตา อเุ ปกขา ปาระมี สัมปันโน, อติ ปิ ิ โส ภะคะวา อเุ ปกขา ปาระมี สัมปันโน, อุเปกขา อปุ ะปาระมี สมั ปนั โน, อเุ ปกขา ปะระมตั ถะปาระมี สมั ปนั โน, เมตตา ไมตรี กรุณา มทุ ติ า อุเปกขา ปาระมี สัมปนั โน, อติ ปิ ิ โส ภะคะวา ทะสะ ปาระมี สัมปันโน, ทะสะ อุปะปาระมี สมั ปนั โน, ทะสะ ปะระมตั ถะปาระมี สมั ปันโน, เมตตา ไมตรี กรณุ า มุทิตา อเุ ปกขา ปาระมี สัมปันโน, อติ ิปิ โส ภะคะวา พุทธงั สะระณัง คจั ฉามิ ธมั มัง สะระณัง คจั ฉามิ สังฆงั สะระณัง คจั ฉามิ นะมามหิ ัง 359
กะระณยี ะเมตตะสุตตงั กะระณียะมตั ถะกุสะเลนะ ยันตงั สันตัง ปะทัง อะภสิ ะเมจจะ สักโก อุชู จะ สุหุชู จะ สวุ ะโจ จสั สะ มทุ ุ อะนะติมานี สันตุสสะโก จะ สุภะโร จะ อปั ปะกิจโจ จะ สัลละหกุ ะวุตติ สันตนิ ท๎รโิ ย จะ นิปะโก จะ อัปปะคพั โภ กุเลสุ อะนะนุคิทโธ นะ จะ ขทุ ทัง สะมาจะเร กญิ จิ เยนะ วญิ ญู ปะเร อปุ ะวะเทยยงุ สุขิโน วา เขมโิ น โหนต ุ สัพเพ สตั ตา ภะวนั ตุ สขุ ิตัตตา เย เกจิ ปาณะภูตตั ถิ ตะสา วา ถาวะรา วา อะนะวะเสสา ทีฆา วา เย มะหันตา วา มัชฌิมา รสั สะกา อะณกุ ะถูลา ทฏิ ฐา วา เย จะ อะทฏิ ฐา เย จะ ทเู ร วะสนั ติ อะวิทูเร ภูตา วา สมั ภะเวสี วา 363
สพั เพ สตั ตา ภะวนั ตุ สขุ ติ ัตตา นะ ปะโร ปะรัง นกิ ุพเพถะ นาติมญั เญถะ กัตถะจิ นงั กญิ จิ พ๎ยาโรสะนา ปะฏีฆะสญั ญา นาญญะมัญญสั สะ ทกุ ขะมิจเฉยยะ มาตา ยะถา นยิ ัง ปุตตัง อายุสา เอกะปุตตะมะนุรักเข เอวัมปิ สพั พะภเู ตสุ มานะสมั ภาวะเย อะปะริมาณงั เมตตญั จะ สพั พะโลกัส๎มิง มานะสมั ภาวะเย อะปะริมาณัง อุทธงั อะโธ จะ ตริ ยิ ญั จะ อะสัมพาธงั อะเวรัง อะสะปัตตงั ตฏิ ฐญั จะรัง นิสนิ โน วา สะยาโน วา ยาวะตัสสะ วคิ ะตะมทิ โธ เอตงั สะติง อะธฏิ เฐยยะ พ๎รัหม๎ ะเมตัง วหิ ารัง อธิ ะมาหุ ทฏิ ฐิญจะ อะนุปะคัมมะ สลี ะวา ทสั สะเนนะ สัมปนั โน กาเมสุ วเิ นยยะ เคธัง นะ หิ ชาตุ คพั ภะเสยยงั ปุนะเรตตี ิ
ขนั ธะปะรติ ตัง วิรปู กั เขหิ เม เมตตัง เมตตัง เอราปะเถหิ เม ฉัพย๎ าปตุ เตหิ เม เมตตัง เมตตงั กัณหาโคตะมะเกหิ จะ อะปาทะเกหิ เม เมตตัง เมตตัง ทิปาทะเกหิ เม จะตุปปะเทหิ เม เมตตงั เมตตงั พะหุปปะเทหิ เม มา มงั อะปาทะโก หิงส ิ มา มัง หิงสิ ทปิ าทะโก มา มัง จะตุปปะโท หงิ สิ มา มัง หิงสิ พะหปุ ปะโท สัพเพ สตั ตา สพั เพ ปาณา สัพเพ ภตู า จะ เกวะลา สพั เพ ภทั ร๎ านิ ปัสสันต ุ มา กญิ จิ ปาปะมาคะมา อปั ปะมาโณ พุทโธ อปั ปะมาโณ ธัมโม อัปปะมาโณ สงั โฆ ปะมาณะวนั ตานิ สริ งิ สะปานิ อะหิ วิจฉกิ า สะตะปะที อุณณานาภี สะระพู มูสิกา กะตา เม รกั ขา กะตา เม ปะริต ตา ปะฏกิ กะมันตุ ภตู านิ โสหงั นะโม ภะคะวะโต นะโม สัต ตันนัง สัมมาสัมพทุ ธานัง 365
โพชฌังคะปะริตตงั โพชฌังโค สะตสิ งั ขาโต ธมั มานงั วจิ ะโย ตะถา วริ ิยัมปตี ปิ สั สัทธิ- โพชฌังคา จะ ตะถาปะเร สะมาธเุ ปกขะโพชฌงั คา สัตเต เต สัพพะทสั สนิ า มนุ ินา สัมมะทกั ขาตา ภาวิตา พะหุลกี ะตา สังวัตตนั ติ อะภิญญายะ นพิ พานายะ จะ โพธยิ า เอเตนะ สัจจะวัชเชนะ โสตถิ เต โหตุ สพั พะทา เอกัส๎มงิ สะมะเย นาโถ โมคคัลลานัญจะ กสั สะปัง คลิ าเน ทุกขิเต ทิสว๎ า โพชฌงั เค สัตตะ เทสะยิ เต จะ ตัง อะภินนั ทติ ว๎ า โรคา มจุ จงิ สุ ตังขะเณ เอเตนะ สจั จะวชั เชนะ โสตถิ เต โหตุ สัพพะทา เอกะทา ธมั มะราชาป ิ เคลญั เญนาภิปีฬิโต จุนทตั เถเรนะ ตญั เญวะ ภะณาเปต๎วานะ สาทะรัง สัมโมทิต๎วา จะ อาพาธา ตัม๎หา วุฏฐาสิ ฐานะโส เอเตนะ สัจจะวัชเชนะ โสตถิ เต โหตุ สัพพะทา ปะหนี า เต จะ อาพาธา ตณิ ณันนัมปิ มะเหสนิ งั มัคคาหะตะกิเลสา วะ ปัตตานุปปตั ติธัมมะตงั เอเตนะ สจั จะวัชเชนะ โสตถิ เต โหตุ สัพพะทา
ถวายพรพระ นะโม ตสั สะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพทุ ธัสสะ (๓ ครง้ั ) อติ ิปิ โส ภะคะวา อะระหงั สมั มาสัมพทุ โธ วชิ ชา จะระณะสัมปันโน สุคะโต โลกะวทิ ู อะนตุ ตะโร ปรุ สิ ะทมั มะสาระถิ สตั ถา เทวะมะนุสสานงั พุทโธ ภะคะวาติ ส๎วากขาโต ภะคะวะตา ธัมโม สันทิฏฐิโก อะกาลโิ ก เอหปิ สั สโิ ก โอปะนะยโิ ก ปัจจัตตัง เวทติ ัพโพ วญิ ญูหีติ สุปะฏปิ ันโน ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ อชุ ุปะฏปิ นั โน ภะคะวะโต สาวะกะสงั โฆ ญายะปะฏิปนั โน ภะคะวะโต สาวะกะสงั โฆ สามจี ปิ ะฏปิ นั โน ภะคะวะโต สาวะกะสงั โฆ ยะทิทัง จตั ตาริ ปุริสะยุคานิ อัฏฐะ ปุริสะปคุ คะลา เอสะภะ คะวะโต สาวะกะสงั โฆ อาหเุ นยโย ปาหุเนยโย ทักขเิ ณยโย อญั ชะลีกะระณิโย อะนุตตะรงั ปญุ ญกั เขตตัง โลกสั สาติ (หยดุ ) 367
พาหุง สะหสั สะมะภินิมมติ ะสาวธุ ันตัง ค๎รีเมขะลัง อุทิตะโฆระสะเสนะมารงั ทานาทิธมั มะวธิ นิ า ชติ ะวา มนุ ินโท ตนั เตชะสา ภะวะตุ เต ชะยะมังคะลานิ มาราตเิ รกะมะภยิ ุชฌิตะสพั พะรตั ติง โฆรัมปะนาฬะวะกะมกั ขะมะถทั ธะยักขัง ขนั ตสี ทุ ันตะวิธนิ า ชติ ะวา มนุ นิ โท ตันเตชะสา ภะวะตุ เต ชะยะมงั คะลานิ นาฬาคิรงิ คะชะวะรงั อะติมตั ตะภูตัง ทาวคั คจิ ักกะมะสะนวี ะ สุทารุณันตงั เมตตัมพุเสกะวธิ นิ า ชติ ะวา มนุ นิ โท ตนั เตชะสา ภะวะตุ เต ชะยะมงั คะลานิ อุกขติ ตะขคั คะมะติหตั ถะสุทารณุ นั ตัง ธาวันติโยชะนะปะถงั คลุ มิ าละวนั ตงั อทิ ธภี สิ งั ขะตะมะโน ชิตะวา มนุ ินโท ตันเตชะสา ภะวะตุ เต ชะยะมังคะลานิ กัตว๎ านะ กฏั ฐะมทุ ะรงั อิวะ คพั ภนิ ยี า จิญจายะ ทุฏฐะวะจะนงั ชะนะกายะมัชเฌ
สันเตนะ โสมะวิธินา ชิตะวา มนุ ินโท ตันเตชะสา ภะวะตุ เต ชะยะมงั คะลานิ สจั จัง วหิ ายะ มะตสิ ัจจะกะวาทะเกตงุ วาทาภิโรปติ ะมะนัง อะติอันธะภูตงั ปัญญาปะทปี ะชะลโิ ต ชิตะวา มุนินโท ตนั เตชะสา ภะวะตุ เต ชะยะมงั คะลานิ นันโทปะนนั ทะภชุ ะคงั วพิ ุธงั มะหทิ ธงิ ปุตเตนะ เถระภุชะเคนะ ทะมาปะยันโต อทิ ธูปะเทสะวิธนิ า ชติ ะวา มนุ ินโท ตันเตชะสา ภะวะตุ เต ชะยะมังคะลานิ ทุคคาหะทิฏฐิภุชะเคนะ สุทัฏฐะหตั ถงั พร๎ หั ๎มัง วิสทุ ธิชตุ ิมิทธิพะกาภิธานัง ญาณาคะเทนะ วธิ นิ า ชิตะวา มนุ ินโท ตนั เตชะสา ภะวะตุ เต ชะยะมงั คะลานิ เอตาปิ พุทธะชะยะมังคะละอฏั ฐะคาถา โย วาจะโน ทนิ ะทเิ น สะระเต มะตนั ที หติ ๎วานะเนกะววิ ธิ านิ จปุ ทั ทะวานิ โมกขงั สขุ งั อะธคิ ะเมยยะ นะโร สะปัญโญ 369
ชะยะปะริตตงั มะหาการณุ ิโก นาโถ หติ ายะ สัพพะปาณนิ ัง ปเู รตว๎ า ปาระมี สัพพา ปัตโต สมั โพธมิ ุตตะมงั เอเตนะ สจั จะวัชเชนะ โหตุ เต ชะยะมังคะลงั ชะยนั โต โพธิยา มเู ล สัก๎ยานงั นนั ทวิ ฑั ฒะโน เอวัง ต๎วัง วชิ ะโย โหห ิ ชะยัสสุ ชะยะมังคะเล อะปะราชติ ะปัลลงั เก สีเส ปะฐะวโิ ปกขะเร อะภิเสเก สพั พะพุทธานงั อัคคัปปตั โต ปะโมทะติ สนุ ักขตั ตัง สมุ งั คะลงั สุปะภาตัง สหุ ุฏฐติ ัง สขุ ะโณ สมุ หุ ุตโต จะ สุยิฏฐัง พร๎ ัห๎มะจารสิ ุ ปะทักขิณงั กายะกัมมัง วาจากมั มัง ปะทักขณิ ัง ปะทกั ขณิ งั มะโนกัมมงั ปะณิธี เต ปะทกั ขณิ า ปะทกั ขณิ านิ กัตว๎ านะ ละภนั ตตั เถ ปะทกั ขเิ ณ ภะวะตุ สัพพะมงั คะลงั รักขันตุ สพั พะเทวะตา สพั พะพุทธานุภาเวนะ สะทา โสตถี ภะวนั ตุ เต ภะวะตุ สัพพะมังคะลัง รักขันตุ สัพพะเทวะตา สพั พะธัมมานภุ าเวนะ สะทา โสตถี ภะวันตุ เต ภะวะตุ สพั พะมังคะลัง รกั ขนั ตุ สพั พะเทวะตา สัพพะสงั ฆานุภาเวนะ สะทา โสตถี ภะวันตุ เต
ธมั มะจักกัปปะวตั ตะนะสตุ ตงั เอวัมเม สุตัง ข้าพเจ้า (คอื พระอานนท์เถระ) ได้ฟังมาแล้วอย่างน้ี เอกัง สะมะยัง ภะคะวา สมยั หน่ึงพระผ้มู ีพระภาคเจ้า พาราณะสิยงั วิหะระติ อิสปิ ะตะเน มคิ ะทาเย เสรจ็ ประทบั อย่ทู ่ีป่า, อิสิปตนมฤคทายวนั ใกล้เมอื งพาราณสี ตัตร๎ ะโข ภะคะวา ปญั จะวัคคิเย ภกิ ขู อามนั เตสิ ในกาลนั้นแลพระผมู้ ีพระภาคเจา้ , ตรัสเตือนพระภิกษปุ ัญจวัคคยี ์, ให้ต้ังใจฟังภาษิตนว้ี า่ เท๎วเม ภกิ ขะเว อันตา ดูกอ่ นภกิ ษทุ ัง้ หลาย, ที่สดุ สองอยา่ งเหลา่ นี้ ปพั พะชเิ ตนะ นะ เสวิตัพพา อันบรรพชติ ไมค่ วรเสพ โย จายัง กาเมสุ กามะสขุ ลั ลกิ านุโยโค คอื การประกอบตน ใหพ้ วั พนั ด้วยกามในกามท้งั หลายน้ใี ด หีโน เป็นธรรมอนั เลว คมั โม 371
เปน็ เหตุใหต้ งั้ บ้านเรือน โปถุชชะนิโก เปน็ ของคนผูม้ กี เิ ลสหนา อะนะริโย ไม่ใชข่ องคนไปจากข้าศกึ คอื กเิ ลส อะนัตถะสัญหิโต ไม่ประกอบด้วยประโยชน์อยา่ งหน่ึง โย จายงั อตั ตะกิละมะถานุโยโค คอื การประกอบความเหนด็ เหนอื่ ยแกต่ นเปล่าน้ใี ด ทุกโข ใหเ้ กิดทุกข์แก่ผูป้ ระกอบ อะนะริโย ไมน่ �ำ ผปู้ ระกอบให้ไปจากขา้ ศกึ คือ กิเลส อะนตั ถะสัญหิโต ไมป่ ระกอบด้วยประโยชน์อย่างหนง่ึ เอเต เต ภกิ ขะเว อุโภ อันเต อะนุปะคมั มะ มัชฌิมา ปะฏิปะทา ดกู ่อนภิกษทุ ้งั หลาย, ข้อปฏิบตั อิ ันเปน็ กลาง ไม่เขา้ ไปใกลท้ ่ีสดุ สองอยา่ งนนั่ นั้น ตะถาคะเตนะ อภิสมั พทุ ธา อนั ตถาคต ได้ตรัสรแู้ ลว้ ดว้ ยปัญญาอนั ย่ิง จกั ขกุ ะระณี ญาณะกะระณี กระท�ำ ดวงตา คอื กระทำ�ญาณเครอื่ งรู้
อปุ ะสะมายะ อะภญิ ญายะ สมั โพธายะ นพิ พานายะ สังวัตตะติ ย่อมเปน็ ไป เพื่อความเขา้ ไป สงบระงบั , เพือ่ ความรยู้ ่งิ เพื่อความรู้ดี เพอ่ื ความดบั กะตะมา จะ สา ภกิ ขะเว มชั ฌมิ า ปะฏปิ ะทา ดูก่อนภกิ ษุทั้งหลาย, ก็ข้อปฏิบตั ซิ ่ึงเปน็ กลางนนั้ เหล่าไหน ตะถาคะเตนะ อะภิสมั พุทธา ท่ีตถาคต ไดต้ รัสรูแ้ ล้ว ดว้ ยปญั ญาอนั ย่ิง จักขกุ ะระณี ญาณะกะระณี กระท�ำ ดวงตา คอื กระท�ำ ญาณเครอ่ื งรู้ อุปะสะมายะ อะภญิ ญายะ สัมโพธายะ นิพพานายะ สงั วัตตะติ ยอ่ มเป็นไป เพือ่ ความเขา้ ไป สงบระงับ, เพื่อความรู้ยง่ิ เพื่อ ความรดู้ ี เพอื่ ความดับ อะยะเมวะ อะรโิ ย อัฏฐังคโิ ก มคั โค ทางมีองคแ์ ปดเครื่องไปจากขา้ ศกึ คือ กเิ ลสนีเ้ อง เสยยะถีทงั ได้แก่สง่ิ เหล่าน้คี ือ สมั มาทฏิ ฐิ ปญั ญาอันเหน็ ชอบ สัมมาสังกัปโป ความด�ำ รชิ อบ สมั มาวาจา 373
วาจาชอบ สัมมากมั มันโต การงานชอบ สมั มาอาชีโว ความเล้ียงชีวติ ชอบ สัมมาวายาโม ความเพียรชอบ สมั มาสะติ ความระลกึ ชอบ สมั มาสะมาธิ ความตัง้ จิตชอบ อะยงั โข สา ภิกขะเว มัชฌิมา ปะฏปิ ะทา ดูก่อนภกิ ษุท้งั หลาย, อันนี้แลขอ้ ปฏบิ ตั ิอันเปน็ กลาง ตะถาคะเตนะ อะภิสมั พทุ ธา ท่ตี ถาคต ไดต้ รสั รูแ้ ลว้ ด้วยปญั ญาอันย่ิง จักขกุ ะระณี ญาณะกะระณี กระทำ�ดวงตา คือ กระทำ�ญาณเคร่อื งรู้ อุปะสะมายะ อะภิญญายะ สมั โพธายะ นพิ พานายะ สงั วัตตะติ ยอ่ มเป็นไปเพื่อความเข้าไปสงบระงบั , เพ่ือความร้ยู งิ่ เพือ่ ความรดู้ ี เพอ่ื ความดับ อทิ ัง โข ปะนะ ภกิ ขะเว ทกุ ขัง อะรยิ ะสจั จงั ดูกอ่ นภิกษทุ ง้ั หลาย, ก็ข้อน้แี ลของจริงแหง่ อรยิ บุคคล คอื ทกุ ข์
ชาตปิ ิ ทุกขา แมค้ วามเกิดกเ็ ปน็ ทกุ ข์ ชะราปิ ทกุ ขา แมค้ วามแกก่ เ็ ปน็ ทุกข์ มะระณมั ปิ ทุกขงั แมค้ วามตายกเ็ ป็นทกุ ข์ โสกะปะริเทวะทกุ ขะ โทมะนสั สปุ ายาสาปิ ทุกขา แม้ความโศกความร�ำ่ ไรรำ�พัน, ความไม่สบายกาย ความไมส่ บายใจ, ความคบั แคน้ ใจก็เปน็ ทกุ ข์ อปั ปิเยหิ สมั ปะโยโค ทกุ โข ความประสบกบั สงิ่ ไมเ่ ปน็ ทร่ี กั ท่พี อใจกเ็ ป็นทกุ ข์ ปิเยหิ วปิ ปะโยโค ทุกโข ความพลดั พรากจากสง่ิ ทเ่ี ปน็ ที่รักทพี่ อใจก็เป็นทุกข์ ยมั ปิจฉัง นะ ละภะติ ตมั ปิ ทุกขงั มีความปรารถนาสงิ่ ใด, ไมไ่ ด้ส่งิ นน้ั น่นั กเ็ ป็นทุกข์ สังขติ เตนะ ปัญจปุ าทา นักขันธา ทุกขา ว่าโดยยอ่ อุปาทานขนั ธ์ทงั้ หา้ เป็นตัวทุกข์ อทิ งั โข ปะนะ ภกิ ขะเว ทกุ ขะสะมุทะโย อะรยิ ะสจั จัง ดกู อ่ นภกิ ษุท้งั หลาย, กข็ อ้ นแี้ ลของจริงแห่งอริยบุคคล คอื เหตุให้ทกุ ข์เกิดข้ึน ยายงั ตัณหา ความทะยานอยากนใี้ ด 375
โปโนพภะวกิ า ท�ำ ความเกิดอกี นันทิราคะสะหะคะตา เปน็ ไปกบั ความก�ำ หนัดด้วยอ�ำ นาจความเพลิน ตัตร๎ ะ ตัต๎รา ภนิ ันทนิ ี เพลินยิ่งในอารมณ์นนั้ ๆ เสยยะถที งั ได้แก่สิง่ เหล่าน้ี กามะตัณหา ความทะยานอยากในอารมณท์ ี่ใคร่ ภะวะตณั หา ความทะยานอยากในความมีความเปน็ วภิ ะวะตณั หา ความทะยานอยากในความไม่มไี ม่เปน็ อทิ งั โข ปะนะ ภกิ ขะเว ทกุ ขะนโิ รโธ อะริยะสัจจงั ดกู ่อนภกิ ษุท้ังหลาย, กข็ อ้ นีแ้ ลของจรงิ แหง่ อรยิ บคุ คล คือ ความดบั ทุกข์ โย ตสั สาเยวะ ตัณหายะ อะเสสะวริ าคะนโิ รโธ ความดับโดยไมต่ ดิ ย่อมอยไู่ ดโ้ ดยไม่เหลือแหง่ ตัณหานนั้ น่นั แหละอนั ใด จาโค ความสละตัณหาน้นั
ปะฏนิ สิ สคั โค ความวางตัณหานน้ั มตุ ติ ความปลอ่ ยตณั หาน้นั อะนาละโย ความไมพ่ ัวพันแหง่ ตัณหานัน้ อิทงั โข ปะนะ ภกิ ขะเว ทกุ ขะนิโรธะคามนิ ี ปะฏิปะทา อะรยิ ะสจั จัง ดกู ่อนภิกษุท้ังหลาย, กข็ ้อน้ีแลของจรงิ แหง่ อริยบุคคล คอื ข้อปฏิบัติใหถ้ งึ ความดับทกุ ข์ อะยะเมวะ อะรโิ ย อฏั ฐงั คิโก มัคโค ทางมีองค์แปดเครื่องไปจากข้าศกึ คือ กิเลสนี้เอง เสยยะถีทัง ได้แก่สง่ิ เหล่านี้ คือ สัมมาทิฏฐิ ปัญญาอนั เห็นชอบ สมั มาสงั กปั โป ความดำ�ริชอบ สัมมาวาจา วาจาชอบ สมั มากมั มนั โต การงานชอบ 377
สัมมาอาชีโว (หยดุ ) ความเล้ยี งชวี ติ ชอบ สัมมาวายาโม ความเพียรชอบ สมั มาสะติ ความระลึกชอบ สัมมาสะมาธิ ความต้งั จติ ชอบ อิทัง ทกุ ขงั อะรยิ ะสัจจันติ เม ภิกขะเว, ปพุ เพ อะนะนสุ สุ เตสุ ธมั เมสุ, จกั ขงุ อุทะปาทิ ญาณัง อทุ ะปาทิ ปญั ญา อทุ ะ ปาทิ วชิ ชา อทุ ะปาทิ อาโลโก อุทะปาทิ ดกู ่อนภิกษุท้งั หลาย, จกั ษุได้เกดิ ขึน้ แลว้ ญาณไดเ้ กดิ ข้ึนแล้ว, ปญั ญาไดเ้ กดิ ขน้ึ แลว้ วทิ ยาได้เกดิ ขนึ้ แลว้ , แสงสวา่ งไดเ้ กดิ ขนึ้ แล้วแกเ่ รา, ในธรรมท้งั หลายที่เราไม่ได้เคยฟังแลว้ ในกาล ก่อนว่า, นท่ี ุกข์อริยสัจ ตงั โข ปะนิทัง ทุกขงั อะริยะสัจจัง, ปะริญเญยยันติ เม ภกิ ขะเว, ปุพเพ อะนะนุสสเุ ตสุ ธัมเมสุ, จักขงุ อุทะปาทิ ญาณงั อทุ ะปาทิ ปัญญา อุทะปาทิ วชิ ชา อทุ ะปาทิ อาโลโก อุทะปาทิ
ดูก่อนภกิ ษุทั้งหลาย, กท็ กุ ข์อริยสัจน้นี ัน้ แล ควรกำ�หนด รดู้ ว้ ยปัญญา, ปญั ญาไดเ้ กดิ ข้ึนแล้ว วทิ ยาได้เกิดขึน้ แล้ว, แสงสวา่ งได้เกดิ ข้นึ แลว้ แกเ่ รา, ในธรรมท้งั หลายที่เราไมไ่ ด้ เคยฟังแลว้ ในกาลกอ่ นว่า, น่ีทุกข์อริยสจั ตงั โข ปะนทิ งั ทุกขัง อะรยิ ะสัจจัง, ปะริญญาตนั ติ เม ภิกขะเว, ปพุ เพ อะนะนสุ สเุ ตสุ ธมั เมสุ, จักขงุ อุทะปาทิ ญาณัง อุทะปาทิ ปัญญา อทุ ะปาทิ วชิ ชา อทุ ะปาทิ อาโลโก อทุ ะปาทิ ดูก่อนภิกษทุ งั้ หลาย, กท็ กุ ขอ์ รยิ สจั นีน้ นั้ แล อันเราไดก้ ำ�หนด รแู้ ล้ว,ปญั ญาได้เกิดขนึ้ แล้ว วทิ ยาไดเ้ กิดขนึ้ แลว้ , แสงสว่าง ไดเ้ กิดขน้ึ แล้วแก่เรา, ในธรรมทง้ั หลายทเี่ ราไม่ไดเ้ คยฟังแลว้ ในกาลกอ่ นวา่ , นี่ทกุ ขอ์ ริยสัจ อทิ งั ทกุ ขะสะมุทะโย อะรยิ ะสัจจันติ เม ภกิ ขะเว, ปพุ เพ อะนะนสุ สเุ ตสุ ธัมเมส,ุ จักขุง อุทะปาทิ ญาณัง อทุ ะปาทิ ปัญญา อทุ ะปาทิ วิชชา อุทะปาทิ อาโลโก อทุ ะปาทิ ดูกอ่ นภกิ ษทุ ง้ั หลาย, จกั ษุได้เกดิ ขึน้ แล้ว ญาณไดเ้ กิดขึ้นแลว้ , ปญั ญาได้เกดิ ขึน้ แล้ว วิทยาไดเ้ กดิ ขึน้ แล้ว, แสงสวา่ งได้เกดิ ข้นึ แล้วแก่เรา, ในธรรมท้งั หลายทเี่ ราไมไ่ ดเ้ คยฟงั แลว้ ในกาล ก่อนว่า, น่ีทุกขส์ มทุ ยั อรสิ ัจ ตงั โข ปะนิทัง ทกุ ขะสะมทุ ะโย อะริยะสัจจัง, ปะหาตัพพนั ติ เม ภกิ ขะเว, ปุพเพ อะนะนุสสุเตสุ ธมั เมส,ุ จักขุงอทุ ะปาทิ ญาณัง อทุ ะปาทิ ปญั ญา อุทะปาทิ วิชชา อุทะปาทิ 379
อาโลโก อุทะปาทิ ดกู อ่ นภิกษทุ ง้ั หลาย, ก็ทุกข์สมทุ ยั อรยิ สจั น้นี ้ันแล ควรละ เสีย, ปัญญาไดเ้ กดิ ข้ึนแล้ว วิทยาไดเ้ กดิ ขน้ึ แลว้ , แสงสว่างได้ เกดิ ข้ึนแล้วแกเ่ รา, ในธรรมทงั้ หลายที่เราไม่ได้เคยฟงั แลว้ ใน กาลกอ่ นว่า, นที่ กุ ข์สมุทยั อรยิ สัจ ตงั โข ปะนิทงั ทุกขะสะมทุ ะโย อะริยะสจั จงั , ปะหีนนั ติ เม ภิกขะเว, ปุพเพ อะนะนสุ สุเตสุ ธมั เมสุ, จักขุง อทุ ะ ปาทิ ญาณงั อุทะปาทิ ปญั ญา อุทะปาทิ วิชชา อทุ ะปาทิ อาโลโก อทุ ะปาทิ ดกู อ่ นภกิ ษุทั้งหลาย, กท็ กุ ขส์ มทุ ัยอริยสัจน้ีน้นั แล อันเราได้ ละเสยี แล้ว, ปญั ญาไดเ้ กดิ ขนึ้ แล้ว วิทยาไดเ้ กดิ ขึน้ แล้ว, แสง สว่างไดเ้ กิดข้ึนแล้วแกเ่ รา, ในธรรมท้ังหลายที่เราไม่ไดเ้ คย ฟงั แลว้ ในกาลกอ่ นว่า, น่ีทุกข์สมทุ ัยอรยิ สจั อิทัง ทกุ ขะนโิ รโธ อะริยะสัจจันติ เม ภิกขะเว, ปุพเพ อะนะ นุสสุเตสุ ธัมเมส,ุ จกั ขงุ อทุ ะปาทิ ญาณัง อทุ ะปาทิ ปัญญา อุทะปาทิ วชิ ชา อุทะปาทิ อาโลโก อทุ ะปาทิ ดูกอ่ นภิกษุทัง้ หลาย, จกั ษุไดเ้ กิดขน้ึ แล้ว ญาณไดเ้ กิดข้ึน แลว้ , ปัญญาไดเ้ กิดข้ึนแลว้ วทิ ยาได้เกิดข้ึนแล้ว, แสงสวา่ ง ไดเ้ กิดขึน้ แลว้ แก่เรา, ในธรรมท้ังหลายทีเ่ ราไมไ่ ดเ้ คยฟงั แล้ว ในกาลก่อนว่า, นีท่ กุ ขน์ โิ รธอริยสจั ตงั โข ปะนทิ งั ทกุ ขะนิโรโธ อะรยิ ะสจั จัง, สจั ฉกิ าตพั พนั ติ เม ภกิ ขะเว, ปุพเพ อะนะนุสสเุ ตสุ ธัมเมสุ, จักขงุ อทุ ะปาทิ
ญาณัง อุทะปาทิ ปญั ญา อทุ ะปาทิ วิชชา อทุ ะปาทิ อาโลโก อุทะปาทิ ดูก่อนภิกษทุ ัง้ หลาย, กท็ ุกขน์ ิโรธอรยิ สจั นี้นน้ั แล ควรทำ�ให้ แจง้ , ปัญญาไดเ้ กิดขึน้ แล้ว วทิ ยาได้เกิดขึ้นแลว้ , แสงสวา่ งได้ เกดิ ขนึ้ แล้วแกเ่ รา, ในธรรมทงั้ หลายท่เี ราไม่ไดเ้ คยฟังแลว้ ใน กาลกอ่ นวา่ , นท่ี กุ ข์นโิ รธอรยิ สจั ตัง โข ปะนิทงั ทกุ ขะนิโรโธ อะริยะสจั จงั , สัจฉิกะตนั ติ เม ภกิ ขะเว, ปุพเพ อะนะนุสสเุ ตสุ ธัมเมสุ, จกั ขงุ อทุ ะปาทิ ญาณัง อุทะปาทิ ปญั ญา อทุ ะปาทิ วชิ ชา อุทะปาทิ อาโลโก อทุ ะปาทิ ดกู ่อนภกิ ษทุ ั้งหลาย, ก็ทกุ ขน์ ิโรธอริยสจั น้ีนน้ั แล อันเราได้ กระทำ�ใหแ้ จง้ แลว้ , ปัญญาได้เกิดขน้ึ แลว้ วิทยาไดเ้ กิดขึน้ แล้ว, แสงสวา่ งไดเ้ กดิ ขึน้ แล้วแก่เรา, ในธรรมท้ังหลายทเ่ี รา ไม่ได้เคยฟงั แลว้ ในกาลกอ่ นวา่ , นีท่ ุกข์นิโรธอริยสัจ อทิ งั ทุกขะนิโรธะคามนิ ี ปะฏปิ ะทา อะรยิ ะสัจจันติ เม ภิกขะเว, ปพุ เพ อะนะนุสสเุ ตสุ ธมั เมส,ุ จกั ขุง อุทะปาทิ ญาณัง อทุ ะปาทิ ปญั ญา อทุ ะปาทิ วชิ ชา อุทะปาทิ อาโลโก อุทะปาทิ ดกู ่อนภกิ ษทุ ง้ั หลาย, จักษุได้เกิดขน้ึ แลว้ ญาณไดเ้ กดิ ขนึ้ แลว้ , ปญั ญาได้เกดิ ข้ึนแลว้ วิทยาไดเ้ กดิ ขึ้นแล้ว, แสงสว่าง ได้เกดิ ข้นึ แล้วแก่เรา, ในธรรมทงั้ หลายที่เราไม่ได้เคยฟังแล้ว ในกาลก่อนวา่ , นีท่ ุกขน์ โิ รธคามินอี รยิ สจั 381
ตัง โข ปะนทิ งั ทุกขะนิโรธะคามินี ปะฏปิ ะทา อะริยะสัจจงั , ภาเวตพั พนั ติ เม ภกิ ขะเว, ปพุ เพ อะนะนุสสุเตสุ ธัมเมส,ุ จกั ขงุ อุทะปาทิ ญาณัง อุทะปาทิ ปญั ญา อุทะปาทิ วิชชา อุทะปาทิ อาโลโก อุทะปาทิ ดูก่อนภกิ ษทุ ง้ั หลาย, ก็ทกุ ขน์ โิ รธคามนิ ปี ฏปิ ทา อริยสัจนี้ นนั้ แล ควรให้เจริญข้ึน, ปญั ญาได้เกิดขนึ้ แล้ว วิทยาได้เกิดขึ้น แล้ว, แสงสว่างไดเ้ กดิ ข้ึนแล้วแก่เรา, ในธรรมทั้งหลายที่เรา ไม่ไดเ้ คยฟังแลว้ ในกาลกอ่ นวา่ , น่ีทกุ ข์นิโรธคามินีอริยสัจ ตงั โข ปะนทิ ัง ทุกขะนิโรธะคามนิ ี ปะฏิปะทา อะริยะสจั จงั , ภาวิตันติ เม ภิกขะเว, ปุพเพ อะนะนุสสเุ ตสุ ธัมเมส,ุ จกั ขงุ อทุ ะปาทิ ญาณงั อทุ ะปาทิ ปัญญา อุทะปาทิ วิชชา อทุ ะปาทิ อาโลโก อุทะปาทิ ดูกอ่ นภกิ ษทุ ั้งหลาย, ก็ทกุ ข์นโิ รธคามนิ ีปฏปิ ทา อรยิ สจั น้ี นั้นแล อันเราได้เจรญิ แลว้ , ปัญญาไดเ้ กิดขนึ้ แลว้ วิทยาไดเ้ กิด ขนึ้ แลว้ , แสงสว่างได้เกิดข้นึ แล้วแกเ่ รา, ในธรรมทัง้ หลายท่ีเรา ไมไ่ ดเ้ คยฟงั แล้วในกาลก่อนวา่ , นีท่ กุ ข์นโิ รธคามินอี ริยสัจ ยาวะกีวญั จะ เม ภิกขะเว อเิ มสุ จะตสู ุ อะรยิ ะสจั เจส,ุ เอวันติ ปะริวัฏฏงั ท๎วาทะสาการงั ยะถาภตู งั ญาณะทสั สะนัง นะ สวุ ิสุทธงั อะโหสิ ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย, ปญั ญาอันรูเ้ ห็นตามเปน็ จรงิ แลว้ อยา่ งไร, ในอรยิ สัจสเ่ี หล่านี้ของเรา, ซ่ึงมีรอบสาม มอี าการสบิ สองอยา่ ง นี้ยงั ไมห่ มดจดเพยี งใดแล้ว เนวะ ตาวาหงั ภิกขะเว สะเทวะเก โลเก สะมาระเก
สะพ๎รหั ม๎ ะเก,สสั สะมะณะ พร๎ าห๎มะณยิ า ปะชายะสะเทวะ มะนสุ สายะ, อะนตุ ตะรงั สัมมาสัมโพธิง อะภสิ ัมพทุ โธ ปจั จัญญาสงิ ดูกอ่ นภกิ ษทุ งั้ หลาย, เราจะยืนยนั ตนวา่ เปน็ ผูต้ รัสร้พู รอ้ มเฉพาะซ่ึง ปัญญาเครอื่ งตรสั รู้ชอบ, ไม่มีความตรัสรูอ้ ่นื จะย่งิ กว่าในโลก, เป็น ไปกบั ดว้ ยเทวดา มาร พรหม, ในหมูส่ ัตวท์ งั้ สมณะ พราหมณ์ เทวดา มนุษย์ ไม่ได้เพยี งน้นั ยะโต จะ โข เม ภิกขะเว อิเมสุ จะตูสุ อะริยะสจั เจสุ, เอวันติ ปะริวฏั ฏงั ท๎วาทะสาการงั ยะถาภตู ัง ญาณะทสั สะนงั สวุ ิสุทธัง อะโหสิ ดูกอ่ นภกิ ษุท้งั หลาย, ก็เมือ่ ใดแลปญั ญาอันร้เู ห็นตามเปน็ จรงิ แลว้ อยา่ งไร, ในอริยสัจส่ีเหล่านีข้ องเรา, ซึง่ มีรอบสาม มอี าการสบิ สอง อย่างน้หี มดจดดแี ลว้ อะถาหงั ภกิ ขะเว สะเทวะเก โลเก สะมาระเก สะพร๎ ัห๎มะเก, สัสสะมะณะ พร๎ าห๎มะณิยา ปะชายะสะเทวะมะนสุ สายะ, อะนตุ ตะรงั สัมมาสมั โพธิง อะภสิ มั พทุ โธ ปัจจัญญาสงิ ดูกอ่ นภิกษุทง้ั หลาย, เม่อื น้ันเรายืนยนั ตนได้วา่ , เป็นผูต้ รัสรู้ พร้อม เฉพาะซ่งึ ปญั ญาเคร่ืองตรัสรู้ชอบ, ไม่มีความตรสั รอู้ ่ืนจะย่งิ กวา่ ในโลก, เป็นไปกับด้วยเทวดา มาร พรหม, ในหมูส่ ัตว์ทั้งสมณะ พราหมณ์ เทวดา มนษุ ย์ ญาณญั จะ ปะนะ เม ทัสสะนงั อุทะปาทิ ก็แลปัญญาอันรู้เหน็ ไดเ้ กดิ ขน้ึ แล้วแก่เรา อะกุปปา เม วมิ ตุ ติ อะยะมนั ตมิ า ชาติ นัตถทิ านิ ปุนัพภะโวติ วา่ ความพ้นวเิ ศษของเราไม่กลบั ก�ำ เริบ, 383
ชาตินีเ้ ปน็ ท่สี ุดแล้ว บดั น้ีไม่มีความเกดิ อีก อทิ ะมะโวจะ ภะคะวา พระผู้มีพระภาคเจ้าไดต้ รสั ธรรมปริยายอนั น้ีแล้ว อตั ตะมะนา ปัญจะวัคคยิ า ภกิ ขู ภะคะวะโต ภาสติ ัง อะภนิ นั ทงุ พระภิกษุปัญจวคั คีย,์ กม็ ใี จยนิ ดเี พลินภาษิตของพระผ้มู ีพระภาคเจ้า อิมสั ม๎ ญิ จะ ปะนะ เวยยากะระณสั ม๎ ิง ภัญญะมาเน ก็แลเม่ือไวยากรณน์ ้ี อนั พระผูม้ ีพระภาคเจ้าตรัสอยู่ อายสั ม๎ ะโต โกณฑญั ญสั สะ, วริ ะชงั วตี ะมะลงั ธมั มะจักขงุ อุทะปาทิ จกั ษใุ นธรรมอันปราศจากธลุ ี ปราศจากมลทนิ , ได้เกดิ ข้นึ แล้วแกพ่ ระผมู้ อี ายโุ กณฑัญญะ ยังกญิ จิ สะมทุ ะยะธัมมงั สัพพนั ตงั นโิ รธะธัมมันติ ว่าสง่ิ ใดสงิ่ หนึ่ง มอี นั เกดิ ขนึ้ เป็นธรรมดา, ส่ิงทัง้ ปวงนนั้ มอี นั ดับไปเปน็ ธรรมดา ปะวัตตเิ ต จะ ภะคะวะตา ธัมมะจกั เก ก็ครั้นเมือ่ ธรรมจักรอนั พระผ้มู ีพระภาคเจ้าให้เปน็ ไปแลว้ ภุมมา เทวา สทั ทะ มะนสุ สาเวสุง เหล่าภุมเทวดา กย็ ังเสียงใหบ้ ันลือลน่ั เอตมั ภะคะวะตา พาราณะสยิ ัง อิสิปะตะเน มิคะทาเย, อะนุต ตะรงั ธัมมะจักกัง ปะวัตตติ ัง, อัปปะฏิวัตติยงั สะมะเณนะ วา พร๎ าหม๎ ะเณนะ วา เทเวนะ วา, มาเรนะ วา พร๎ ัห๎มนุ า วา
เกนะจิ วา โลกัส๎มนิ ติ ว่านัน่ จกั รคอื ธรรม ไม่มจี ักรอน่ื ส้ไู ด,้ อนั พระผ้มู พี ระภาคเจา้ ให้เปน็ ไปแลว้ , ในปา่ อิสิปตนมฤคทายวนั ใกล้เมืองพาราณสี, อนั สมณะ พราหมณ์ เทวดา มาร พรหม, แลใคร ๆ ในโลก ยงั ไมใ่ หเ้ ป็นไปได้แล้วดังน้ี (หยดุ ) ภมุ มานงั เทวานงั สัททงั สุตว๎ า, จาตมุ มะหาราชกิ า เทวา สทั ทะมะนสุ สาเวสุง เทพเจ้าเหลา่ ชน้ั จาตุมมหาราช, ไดฟ้ ังเสยี งของเทพเจา้ เหล่า ภมุ เทวดา, แลว้ ก็ยงั เสยี งให้บันลือล่ัน จาตมุ มะหาราชิกานงั เทวานงั สทั ทงั สุต๎วา, ตาวะตงิ สา เทวา สทั ทะมะนุสสาเวสงุ เทพเจา้ เหลา่ ช้นั ดาวดงึ ส,์ ไดฟ้ ังเสยี งของเทพเจา้ เหลา่ ชั้นจาตุม มหาราช, แลว้ ก็ยังเสียงใหบ้ ันลอื ลน่ั ตาวะติงสานัง เทวานงั สัททงั สุตว๎ า, ยามา เทวา สัททะมะนุสสาเวสุง เทพเจา้ เหลา่ ชน้ั ยามา, ไดฟ้ ังเสยี งของเทพเจ้าเหลา่ ช้ันดาวดงึ ส์, แลว้ กย็ งั เสยี งใหบ้ ันลอื ล่นั ยามานงั เทวานงั สัททัง สุตว๎ า, ตสุ ิตา เทวา สทั ทะมะนสุ สา เวสุง 385
เทพเจา้ เหลา่ ช้ันดุสติ , ได้ฟังเสยี งของเทพเจา้ เหลา่ ชน้ั ยามา, แลว้ กย็ งั เสยี งใหบ้ ันลอื ล่ัน ตุสิตานัง เทวานัง สทั ทงั สุตว๎ า, นมิ มานะระตี เทวา สทั ทะ มะนุสสาเวสงุ เทพเจา้ เหลา่ ชัน้ นมิ มานรด,ี ไดฟ้ งั เสยี งของเทพเจา้ เหลา่ ชัน้ ดสุ ิต, แลว้ ก็ยังเสียงให้บนั ลือลั่น นิมมานะระตนี ัง เทวานงั สทั ทงั สตุ ว๎ า, ปะระนมิ มติ ะวะสะวตั ตี เทวา สทั ทะมะนสุ สาเวสงุ เทพเจ้าเหลา่ ชั้นปรนมิ มติ วสวตั ด,ี ไดฟ้ งั เสยี งของเทพเจ้าเหลา่ ช้ันนมิ มานรดี, แล้วกย็ ังเสยี งให้บันลือลัน่ ปะระนิมมติ ะวะสะวัตตนี ัง เทวานัง สัททัง สุตว๎ า, พร๎ หั ๎มะกา ยิกา เทวา สทั ทะมะนุสสาเวสุง เทพเจา้ เหลา่ ใดที่เกดิ ในหมู่พรหม, ได้ฟังเสยี งของเทพเจา้ เหลา่ ชน้ั ปรนิมมติ วสวตั ด,ี แล้วก็ยงั เสยี งใหบ้ นั ลือลน่ั เอตัมภะคะวะตา พาราณะสิยัง อสิ ิปะตะเน มคิ ะทาเย, อะนุต ตะรงั ธัมมะจักกงั ปะวตั ตติ งั , อัปปะฏวิ ัตตยิ งั สะมะเณนะ วา พร๎ าหม๎ ะเณนะ วา เทเวนะ วา, มาเรนะ วา พร๎ ัหม๎ ุนา วา เกนะจิ วา โลกัสม๎ ินติ ว่านั่นจกั รคือธรรม ไม่มีจักรอน่ื สู้ได้, อันพระผูม้ ีพระภาคเจ้าให้ เป็นไปแล้ว, ในปา่ อิสปิ ตนมฤคทายวันใกลเ้ มืองพาราณสี, อนั สมณะ พราหมณ์ เทวดา มาร พรหม, แลใครๆ ในโลกยังไม่ ให้เป็นไปได้แล้ว ดงั นี้ (หยุด)
อติ หิ ะ เตนะ ขะเณนะ เตนะ มหุ ุตเตนะ, ยาวะ พร๎ หั ม๎ ะโลกา สัทโท อพั ภคุ คัจฉิ โดยขณะหน่ึง ครหู่ นึง่ น้นั , เสยี งขึน้ ไปถึงพรหมโลกด้วยประการฉะนี้ อะยญั จะ ทะสะสะหัสสี โลกะธาตุ ทัง้ หมื่นโลกธาตนุ ้ี สงั กมั ปิ สมั ปะกัมปิ สัมปะเวธิ ได้หว่ันไหวสะเทือนสะท้านล่ันไป อปั ปะมาโณ จะ โอฬาโร โอภาโส โลเก ปาตรุ ะโหสิ ทั้งแสงสวา่ งอนั ยง่ิ ไมม่ ปี ระมาณ, ได้ปรากฏแลว้ ในโลก อะติกกัมเมวะ เทวานัง เทวานุภาวัง ลว่ งเทวานุภาพของเทพยดาทงั้ หลายเสียหมด อะถะโข ภะคะวา อุทานัง อุทาเนสิ ล�ำ ดับนัน้ แล พระผมู้ พี ระภาคเจ้าไดท้ รงเปล่งอุทาน อัญญาสิ วะตะ โภ โกณฑัญโญ ว่าโกณฑญั ญะ ได้รูแ้ ล้วหนอ ผู้เจรญิ อญั ญาสิ วะตะ โภ โกณฑัญโญติ โกณฑัญญะ ไดร้ ูแ้ ลว้ หนอ ผู้เจริญ อิตหิ ทิ ัง อายสั ม๎ ะโต โกณฑญั ญสั สะ, อญั ญาโกณฑญั โญ เต๎ววะ นามัง อะโหสีติ เพราะเหตุนั้น นามวา่ อญั ญาโกณฑญั ญะน้ีนนั่ เทียว, ได้มแี ล้ว แก่พระผมู้ อี ายโุ กณฑญั ญะ, ด้วยประการฉะน้แี ล 387
ค�ำ บชู า
ลมุ พินวี นั
ค�ำ บชู าสถานทีป่ ระสตู ิ วนั ทามิ ภันเต ภะคะวา อมิ ัง สงั เวชะนยี งั ฐานัง, ยัตถาคะโตมห,ิ สทั ธสั สะ กลุ ะปุตตัสสะ ทัสสะนยี ัง, อิธะ ลมุ พนิ วี ะเน ตะถาคะเตนะ มัชฌเิ มสุ ชะนะปะเทสุ อะรยิ ะ เกสุ มะนุสเสสุ อปุ ปนั นงั ภาสติ า จะ อาสะภวิ าจา อคั โค หะมัส๎มิ โลกัสสะ เชฏโฐหะมัสม๎ ิ โลกัสสะ, เสฏโฐหะมสั ม๎ ิ โลกสั สะ, อะยะมนั ติมา เม ชาติ, นัตถทิ านิ ปนุ ัพภะโวติ สาธุ โน ภนั เต, อเิ มหิ สกั กาเรหิ อภปิ ชู ะยาม,ิ สว๎ ากขาตญั จะ นะมาม,ิ มัยหัง ทีฆะรตั ตงั หิตายะ สขุ ายะ ข้าแต่พระผูม้ พี ระภาคเจ้าผเู้ จริญ ขา้ พระพทุ ธเจา้ ไดจ้ าริก ตามรอยบาทพระศาสดามาถึงแลว้ ขอถวายอภวิ าทสังเวชนียสถาน ทกี่ ลุ บุตรผมู้ ีศรทั ธาควรทสั สนา (ควรเหน็ ) อนั เป็นสถานทีท่ พี่ ระ ตถาคตเจา้ เสด็จอบุ ัติขน้ึ แล้ว ในหม่มู นุษยช์ าวอริยกะ ในมชั ฌมิ ชนบท ณ สวนลุมพนิ วี ันนี้ และไดต้ รสั อาสภวิ าจาว่า “เราเปน็ ผู้เลิศ ทส่ี ุดในโลก เราเปน็ ผเู้ จรญิ ท่สี ุดในโลก เราเป็นผปู้ ระเสริฐทส่ี ุดใน โลก การเกิดของเรานีเ้ ป็นชาติสุดท้าย บดั น้จี ะไมม่ ีภพใหมอ่ ีกแล้ว” ข้าแต่พระองคผ์ ู้เจรญิ ข้าพระพุทธเจ้าขอบชู าโดยยิ่ง ดว้ ย เครอ่ื งสกั การะเหล่าน้ี และขอน้อมระลกึ ถงึ พระธรรม ท่ที รงแสดง ไว้ดแี ลว้ ขอการบชู าสกั การะในคร้ังน้ี จงเปน็ ไปเพอื่ ประโยชน์ เพ่ือ ความสุข แกข่ ้าพระพุทธเจา้ ตลอดกาลนาน เทอญ 391
พทุ ธคยา
ค�ำ บชู าสถานท่ตี รัสรู้ วันทามิ ภันเต ภะคะวะ อมิ งั โพธริ ุกขะเจตยิ ัง, สังเวชะนยี ัง ฐานัง, ยตั ถาคะโตมห,ิ สทั ธัสสะ กุละปตุ ตสั สะ ทสั สะนยี งั , อธิ ะ คะยาสีเส, ตะถาคะเตนะ สะเทวะเก โลเก สะมาระเก สะพรหั มะเก สัสสะมะณะ พราหมะณยิ า ปะชายะ สะเทวะมะนุสสายะ อะนุตตะรัง สมั มาสมั โพธิง อะภสิ มั พุทธงั สาธุ โน ภนั เต, อิเมหิ สกั กาเรหิ อภปิ ูชะยามิ, ส๎วากขาตญั จะ นะมามิ, มยั หงั ทีฆะรัตตัง หิตายะ สขุ ายะ ข้าแต่พระผมู้ พี ระภาคเจ้าผเู้ จรญิ ข้าพระพุทธเจ้า ได้ จาริกตามรอยบาทพระศาสดา มาถึงแลว้ ขอถวายอภวิ าทต้นพระ ศรีมหาโพธ์ิและพระเจดยี ์น้ี อันเป็นสงั เวชนียสถานทกี่ ลุ บุตรผมู้ ี ศรัทธา ควรทัสสนา (ควรเหน็ ) เปน็ สถานท่ที ี่พระตถาคตตรสั รู้ พร้อมเฉพาะแลว้ ซงึ่ อนตุ ตรสัมมาสัมโพธิญาณในโลก พรอ้ มท้ัง เทวโลก มารโลก พรหมโลก ในหมสู่ ตั ว์ พร้อมท้ังสมณะพราหมณ์ เทวดาและมนุษย์ ณ ที่ต�ำ บลคยาสีสะประเทศแห่งนี้ ขา้ แตพ่ ระองคผ์ ูเ้ จริญ ข้าพระพทุ ธเจ้าขอบูชาโดยย่ิง ดว้ ย เครือ่ งสกั การะเหลา่ นี้ และขอน้อมระลึกถึงพระธรรม ที่ทรงแสดง ไว้ดแี ล้ว ขอการบูชาสักการะในคร้ังนี้ จงเป็นไปเพ่ือประโยชน์ เพอ่ื ความสุข แกข่ ้าพระพุทธเจา้ ตลอดกาลนาน เทอญ 393
พระพทุ ธเมตตา
คำ�บูชาพระพุทธเมตตา วนั ทามิ อิมัง พทุ ธะเมตตาปะฏมิ งั อมิ สั ม๎ ิง คะยาสเี ส ปชู าระเห สกั การะภูเต เจตเิ ย สุปะติฏฐติ งั , อิมินา ปะนะ วันทะมาเนนะ มา เม ทะลิททยิ งั อะหุ พะหชุ ะนานงั ปิโย โหมิ มะนาโป สาธโุ นภันเต อเิ มหิ สกั กาเรหิ อภปิ ชู ะยามิ ข้าพเจ้าขอกราบไหว้ พระพุทธเมตตาปฏมิ าน้ี ซึ่ง ประดิษฐานตั้งมั่นดีแล้วในองค์พระเจดีย์ที่คยาสีสะประเทศ นี้ อันเป็นสถานที่ ควรแก่เคร่อื งบูชาสกั การะ ด้วยการกราบ ไหว้น้ี ขอความเป็นผูข้ ดั สนอย่าไดม้ แี กข่ ้าพเจ้าเลย ขอให้ ข้าพเจ้าเปน็ ทร่ี ักเป็นทพี่ อใจ ของคนทัว่ ไป ขา้ แต่พระองคผ์ ู้ เจรญิ ขา้ พเจ้าขอบูชาโดยยิ่ง ดว้ ยเคร่อื งสักการะเหลา่ นี้ 395
ตน้ พระศรีมหาโพธ์ิ
ค�ำ บูชาพระศรมี หาโพธต์ิ รสั รู้ โพธิ ตสั สะ ภะคะวะโต, อสั สัตโถติ ปะวจุ จะติ, โหติ โย โคตะโม พทุ โธ, สะระณัง สัพพะปาณีนงั , ฐะปะยิตว๎ านะ ธมั โมกกัง, ปจั ฉิมะ ชะนะโพธะนัง, โส รุกโข โพธิคะยายัง, ฐโิ ตพิหาระคามะเก, มะหาโพธพิ ุทธะคะยานาเม, ยตั ถะ ทยั ยสั สะ สนั ตะโก, อาวาโส ทัยยะภิกขูนงั , สัลเลขะ วตุ ติ โยคนิ ัง, วันทเิ ต โพธริ กุ ขมั ห,ิ สัมพทุ โธ ปุนะ วันทิโต, สทั ธัมโม วันทโิ ต เยวะ, สสุ งั โฆ โหติ วนั ทิโต, วันทะนาชะนิตัง ปุญญัง, อติ ยิ งั ระตะนัตตะเย,อนั ตะรายา วนิ ัสสันตุ, โหตุ โสตถี จะ เตชะสา, โลเก รัฏฐัง สุขงั เสต,ิ นมิ มะลัง สพั พะสาสะนัง, ทีฆายกุ า ปะชา สัพเพ, อะนีฆา นิรปุ ทั ทะวาติ ต้นพระศรีมหาโพธิ์ ซง่ึ เปน็ ทีต่ รัสรขู้ องพระผู้มพี ระภาคเจ้า พระนาม ว่าโคดมพุทธเจ้า ผู้เปน็ ที่ระลึกถึงของสรรพสตั ว์ เพราะทรงประดษิ ฐานพระ ธรรมไว้ให้ชนภายหลังได้รู้ ตน้ พระศรมี หาโพธ์นิ ั้นผคู้ นขนานนามวา่ อัสสัตถ พฤกษ์ ต้นพระศรมี หาโพธน์ิ ัน้ ตง้ั อย่ใู กล้วดั ไทยพุทธคยามหาวิหารซงึ่ เป็น วัดของชาวไทย เปน็ สถานท่ปี ฏิบตั ธิ รรมเพอื่ ขดั เกลากเิ ลสของพระสงฆ์ไทย ผปู้ ระกอบความเพียร เมื่อเราทัง้ หลายกราบไหวต้ ้นพระศรมี หาโพธิ์ ชอ่ื วา่ ไดก้ ราบไหวพ้ ระสัมมาสมั พทุ ธเจา้ พระสทั ธรรมเจา้ พระสงฆเจ้าผู้ปฏบิ ัติดี บญุ ใดอันเกดิ แล้วจากการกราบไหว้ พระรตั นตรัยดว้ ยประการฉะนี้ ขอเดช แหง่ บุญน้ัน บันดาลใหอ้ ันตรายทงั้ หลายจงพนิ าศไป ความสวัสดจี งบังเกดิ มี ทกุ ประเทศในโลกน้ีอย่เู ป็นสขุ ทกุ ศาสนาในโลกนจ้ี งปราศจากมลทนิ ประชากรทกุ หมเู่ หลา่ จงมีอายยุ ืนยาวไมม่ ีทกุ ข์ ปราศจากอุปัทวะทุกประการ 397
ธมั เมกขะสถปู
คำ�บชู าสถานท่แี สดงปฐมเทศนา วนั ทามิ ภันเต ภะคะวะ อมิ งั ธมั เมกขะเจติยงั สังเวชะนยี ัง ฐานัง, ยตั ถาคะโตมหิ, สัทธัสสะ กลุ ะปุตตสั สะ ทสั สะนียงั , อาสาฬะหะปณุ ณะมยิ งั , อธิ ะ พาราณะสยิ งั อิสิ ปะตะเน มคิ ะทาเย ตะถาคะเตนะ ปญั จะวคั คยิ านงั ภกิ ขูนงั อะนตุ ตะรัง ธัมมะจกั กงั ปะฐะมัง ปะวัตเตต๎วา จัตตาริ อะรยิ ะสจั จานิ ปะกาสิตานิ สาธุ โน ภันเต, อเิ มหิ สักกาเรหิ อภิปูชะยาม,ิ ส๎วากขาตัญจะ นะมามิ, มยั หัง ทฆี ะรตั ตงั หติ ายะ สุขายะ ขา้ แตพ่ ระผมู้ พี ระภาคเจา้ ผู้เจรญิ ขา้ พระพุทธเจา้ ได้จาริก ตามรอยบาทพระศาสดามาถึงแล้ว ขอถวายอภิวาทธัมเมกขะสถูป น้ี อนั เป็นสังเวชนียสถาน ท่กี ุลบตุ รผู้มีศรัทธา ควรทัสสนา (ควร เหน็ ) อนั เป็นสถานที่ทพี่ ระตถาคตเจา้ ได้ยงั พระธรรมจักรอนั ยอด เยย่ี มใหเ้ ปน็ ไป ทรงประกาศอริยสจั ส่ี เป็นครง้ั แรก แก่พระภกิ ษุ ปญั จวัคคีย์ ที่ปา่ อิสิปตนมฤคทายวัน แขวงเมอื งพาราณสนี ้ี ในวัน อาสาฬหปุณณมี ขา้ แตพ่ ระองค์ผู้เจรญิ ขา้ พระพทุ ธเจา้ ขอบชู าโดยยิ่ง ด้วย เครอ่ื งสกั การะเหลา่ น้ี และขอน้อมระลกึ ถึงพระธรรม ทท่ี รงแสดง ไวด้ แี ลว้ ขอการบชู าสักการะในครั้งน้ี จงเป็นไปเพ่ือประโยชน์ เพื่อ ความสุข แกข่ า้ พระพุทธเจ้า ตลอดกาลนาน เทอญ 399
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147
- 148
- 149
- 150
- 151
- 152
- 153
- 154
- 155
- 156
- 157
- 158
- 159
- 160
- 161
- 162
- 163
- 164
- 165
- 166
- 167
- 168
- 169
- 170
- 171
- 172
- 173
- 174
- 175
- 176
- 177
- 178
- 179
- 180
- 181
- 182
- 183
- 184
- 185
- 186
- 187
- 188
- 189
- 190
- 191
- 192
- 193
- 194
- 195
- 196
- 197
- 198
- 199
- 200
- 201
- 202
- 203
- 204
- 205
- 206
- 207
- 208
- 209
- 210
- 211
- 212
- 213
- 214
- 215
- 216
- 217
- 218
- 219
- 220
- 221
- 222
- 223
- 224
- 225
- 226
- 227
- 228
- 229
- 230
- 231
- 232
- 233
- 234
- 235
- 236
- 237
- 238
- 239
- 240
- 241
- 242
- 243
- 244
- 245
- 246
- 247
- 248
- 249
- 250
- 251
- 252
- 253
- 254
- 255
- 256
- 257
- 258
- 259
- 260
- 261
- 262
- 263
- 264
- 265
- 266
- 267
- 268
- 269
- 270
- 271
- 272
- 273
- 274
- 275
- 276
- 277
- 278
- 279
- 280
- 281
- 282
- 283
- 284
- 285
- 286
- 287
- 288
- 289
- 290
- 291
- 292
- 293
- 294
- 295
- 296
- 297
- 298
- 299
- 300
- 301
- 302
- 303
- 304
- 305
- 306
- 307
- 308
- 309
- 310
- 311
- 312
- 313
- 314
- 315
- 316
- 317
- 318
- 319
- 320
- 321
- 322
- 323
- 324
- 325
- 326
- 327
- 328
- 329
- 330
- 331
- 332
- 333
- 334
- 335
- 336
- 337
- 338
- 339
- 340
- 341
- 342
- 343
- 344
- 345
- 346
- 347
- 348
- 349
- 350
- 351
- 352
- 353
- 354
- 355
- 356
- 357
- 358
- 359
- 360
- 361
- 362
- 363
- 364
- 365
- 366
- 367
- 368
- 369
- 370
- 371
- 372
- 373
- 374
- 375
- 376
- 377
- 378
- 379
- 380
- 381
- 382
- 383
- 384
- 385
- 386
- 387
- 388
- 389
- 390
- 391
- 392
- 393
- 394
- 395
- 396
- 397
- 398
- 399
- 400
- 401
- 402
- 403
- 404
- 405
- 406
- 407
- 408
- 409
- 410
- 411
- 412
- 413
- 414
- 415
- 416
- 417
- 418
- 419
- 420
- 421
- 422
- 423
- 424
- 425
- 426
- 427
- 428
- 429
- 430
- 431
- 432
- 433
- 434
- 435
- 436
- 437
- 438
- 439
- 440
- 441