k ๒๘๖ ชุ;' sssuaisinfiui lau ๓ พระช]ทโพริวงศาจารย์(ทองดี น.ร.๙) ทางทกวรแล^ไม่ควร ถ้าปล่อยไปฅามลำพัง ก็่จะถูกความเคยชินหรอธรรมคา ชักพาไปล่ฝ่ายฅํ่าเสมอ พลังปร5การทสองคือ พลังคิด หมายถึง พลังแห่งความคิด พลัง จินตนาการ หรึอ พลังแห่งแนวความคิดแนวดำริอย่างเ!เนรร;บบเต็่มรูปแบบ สามารถนำไปสร้างสรรค!ห้เป็นรูปธรรมแลร:เป็นปรร:โยซน[ค้ เช่นแนวพรร:- ราชคำริของพรร:บาทสมเค็่'จพรร:ปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเคซ บรมนาถบพิตร ทสามารถจัคทำเป็นโครงการตามแนวพรร:ราชคำริแลร:ปฏิบัติชัคทำให้เห็่น ปรร:จักษเป็นรูปธรรม เป็นต้น แนวความกิคแลร:จินตนาการอย่างนิ้มพลัง มิอานุภาพ สามารถกรร:ดุ้นชักนำจิตให้ตํ่นฅัว กรร:ฉับกรร;เฉง ให้ขวนชวาย บริหารจัคการเพํ่อให้ลำเร็่จตามความคิคจินตนาการนั้นไต้ ผู้มิพลังคิดจร;มิลักษณร;เป็นคนทคิดเป็น มิวิลัยทศน มองเห็่นการกร!กล มองเห็่นสิงทคิดจินตนาการเป็นรูปธรรม สามารถกำหนดจุดเรมต้น จุด ห่ามกลาง แลร;จุดสุดท้ายได้ชดเจน สามารถวางแผนวางรูปเฌบเพึ๋อใท้ปฏิบัติ VI พลังคิด ทำ ให้คนเราเรั๋มต้นสร้างสรรคื คิคเป็น กิคไต้เรอย แต่พลังคิค จำ ต้องมิเครองควบคุมไหคคไม่!นแนวทางทชอบธรรม ในทางทถูกต้อง หาไม่แล้ว จร:คิคไปเรอยเป็อย ผิคๆถูกๆ หรือคิคแต่เพิยงต้านเคืยว ไม่กิคในล่วนท ตรงกันข้าม ไม่คิคถึงผลเถึยทอาจเกิคชนในภายหลัง เมอกิคไม่สมบูรณ ไม่ ถูกต้อง หากเกิคผิคพลาคฃนก็่บักจร:เถึยหาย ไคํรับโทษตามมา การทคนเราจ^ได้ชึ๋อว่าคิดเป็น มิวิลัยท้ศน แลร!มิท้ศนร;ทถูกต้องชอบ ธรรม เป็นทยอมรับของบุคคลทั่วไปนั้น จำ ต้องtเกฝนอบรมพลังคิดใท้ยดทั่น อยูในความถูกต้อง ในความสุจริต แลฟ้นความเสิยสลร;เป็นพ็้นฐานก่อน พลังคิดจึงจร;เข้ารปเข้ารอยชอบธรรมตามไปต้วย www.kalyanamitra.org
๒๘๗ UsMisnwanai '^*' โรอง พส์งฃองผู้บริ«าร พร'งประการทศามกือ พลงf(ร้างสรรค หมายถื้ง การลงมือทำกิจการ ตามทคิดหรือจินตนาการไว้ การสร้างสรรคแนวคิดนนให้กลายฟ้นรูปธรรม เห็่นไค้ชดเจน เมอลงมือทำก็่ทำค้วยพลังจิฅทเข้มแฃ็่ง ม่งมั่น มืกวามอุตสาหะ พากเพยร มืปิญหาอุปสรรกอันโตกี่ฝ่าฟินไปจนกว่าจะราเร็่จ โดยไม่ย่อท้อหรือ ถอยหลังเลิกลา แม้จะผิคพลาดบกพร่องไปบ้าง กี่ไข้พลังปีญญาเข้ามาแกไข กิคเปลยนแปลงปรังปรุงขับเกลอนไปใหม่ กี่จะทำใท้ส์าเร็่จเป็นรูปธรรมไท้ อย่างเช่นนักวิทยาสาสฅร่หรือนักประคิษ^นว่'ตกรรมต่างๆทสร้างสรรกี่ผลงาน ใหม่ๆขนมาอวดตาซาวโลกไท้เสมอๆ ชงกว่าจะราเร็่จฃ็้นมาไท้แต่ละอย่าง ท้องลองผิคลองถูก ท้องล้มเหลวหรือท้องปรับปรุงรูปแบบวิธการหลายกรั้ง หลายหน ไข้เวลาหลายเค้อนหลายปี ท้องลงทุนลงแรงมาก แต่กี่ไม่ย่อท้อ ทอคทง ในท^ดกี่ไท้รับผลราเร็่จ นำ ผลงานออกมาอวคตาขาวโลกไท้อย่าง น่ากากภูมิใจ ทงนเพราะพลังสร้างสรรกี่โม่หดหายจืดจางลงไป พลังประการทร่ค้อ พลังปีญญา หมายถึง ปรืซาฉลๆตรู้ เป็นความรูฑ ละเอยดลกซ็้ง กล่าวค้อ ฉลาดร้เรั้องบุญเรั้องบาป รู้ว่าอะไรกวรอะไรไม่กวร อะไรมืโทษอะไรไม่มืโทษ อย่างทพระพทธองกี่ตรัสไว้ว่า \"ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ธรรมเหล่าใดเป็นกุสล เป็นอกุศล มืโทษไม่มืโทษ เป็นฝ่ายดำ เป็นฝ่ายขาว เป็นของควรเสพ เป็นของไม่ควรเสพ เป็นของ อริยชน มืใซ่ของอริยชน ปีญญาอนเห็่นแจ้งธรรมเหล่าทั้น นเรืยกว่ากำลัง ปีญญา\" พลังปีญญานั้จะเปีนเหตุให้กนเรามืกวามละเอยค รอบกอบ กิดหน้า กิดหลังอย่างกรบล้วน สามารถแกปีญหาไท้ เสริมแต่งลิงสร้างสรรกี่ตามทพลัง กิคจินตนาการไว้[ท้ ทำ ให้กิจการททำราเร็่จไท้สมบูรณสมประสงกี่ ปีญญาย่อมทำให้กิจการต่างๆราเร็่จไท้กี่จริงอยู่ แต่ถ้าปราศจากธรรม ซงเปีนอุปการะแก่กันกี่ไม่เจริญหรือกงทอยูใท้ อย่างเช่นบุกกลแม้จะมืแวว www.kalyanamitra.org
k ๒๘๘ sssuaisinfluiiau๓ พระบ]ทโพรวงศใจใรบ์(ทองดี ช.ธ.๙) เป็นยู้ฉลาคเป็นพนเพมาแต่กำเนิค แต่ถ้าปราศ'จากการtเกการอบรมก็่หาเป็น ผู้ฉลาคไค[ม่ แมถึงจะ'รก'จะ;อบรมในเบองค้นมาค'จนมกวามลามารถแล้'ว แต่ ภายหลังปราศจากกวามบากบั่นหรือท้อถอยในกิจการต่างๆททำ ก็่ใม่เป็นเหตุ เจริญแห่งปีญญา พลังปีญญานนจำต้องอาลัยหมั่นtin หมั่นอบรม หมั่นใช้ จํงจร!เจริญยิงๆฃึน ประตุจเกรองยนฅต่างๆ ถ้าทอคทิ้งไม่หมั่นใช้!ม่หบั่น ฅิคเกรองย่อม'รคฅะกุกคะกักหรือเกรํ่องไม่ฅิคไค้ ต่อใช้อยู่เลมอจึงจะกล่อง ใช้!ค้ ผลฉันใค ปีญญาก็่เป็นฉันนั้น การอบรมเพอให้เกิศพถังปีญญาเจริญยงขนไปนั้นเป็นไปในถักษฌ:! ๓ ปร:!การศือ การvtง หรอการรัvpากการถ่ายทอดของนู้อน จากการดูiงทเห็่น หรือจากการอ่านหนง^อทผู้อึ๋นถ่ายทอดไว้เป็นร:!บบ (ร) การพินิจพิจารณา การเทยบเคยงกบข้อเท็่จจริง หลงจากทได้พิง ได้ดู แลอ่ได้อ่านมาแล้ว (ร) การล้งสมอบรมเพมพูนการพิงหรือการทเรู้เรึ๋องต่างๆ ให้เพมพูนมากยงขั้น เรอยๆ (ร) วิธนั้งสามประการนั้จ:!ทำใหปีญญาเกิศมขั้นและเพํ่มพูนมากยํ่งขั้น ฅามลำดับ จนมพถังทผถักดันใหกจการต่างๆททำลำเร็่จสมบูรถงไศ้ พลังทั้งร่ประการ ทั้งพลังจิต พลังคิด พลัง#ไงสรรค์ แลร;พลังปีญญานั้ ฟ้นพรงท!!!นอุปการะหนุนนำให้เกิดการกรรฟ้า และทำให้การกรรฟ้าลัมฤทธิ้ผล ตามต้องการไต้ทุกประการ และพลังทั้งร่ประการนต่างก็่มอุปการะแก่ลัน จำ ต้องมไปพร้อมๆลันจึงจะชอบ มแต่พลังจิฅเช้มแฃ็่ง แต่ฃาคพลังกิค กอ กิคไม่เป็น และไม่กล้าลงมือไม่กล้าฅัคสินใจทำ ก!ม่เกิคประโยซ'น หรือมืแต่พลังคิค กือกิคเป็นกิคไค้ละเอยค แต่ขาคพลังสร้างลรรก ไม่กล้ากัคสินใจลงมือทำคามทกิค ก็่ไม่เกิคประโยชา4เช่นกัน หรือมืพลังจิค มืพลังกิค มืพลังสร้างสรรกพร้อมมูล แต่ขาคพลังปีญญา ก็่ใฃว้เฃว ไม่เป็นระบบ อาจใช้พลังจิค พลังกิค พลังสร้างสรรค์ ไปทำกิจทิ้โม่ขอบธรรม ก่อทุกฃก่อโทษแก่ยูอนก!ค้ เพราะฉะนั้น พลังทั้งสิประการ นั้จำ ค้องเกอหนุนกันในทางทขอบจึงนับว่าคแท้ www.kalyanamitra.org
๒๘๙ # ชรmsnwanai i 1รอง พลังซองน้บริHIS เจ้าพระคุณสมเค็่'จพรร:ร'งฆราชm กรมหลวงวซิรญาณวง ทรงเ?)น แบบอย่างพระองกหนงในข้อททรงถึงพร้อมด้วยพลังทั้งร่ปร๙การนิ้สมบูรณ ด้วยทรงฉายแสงแห่งพระปรซาสามารถมาแต่ฟ้นสามเณร เมือเจริญพระ- ซนมายุมากขนกื่ทรงไดรับมอบหมายไหรับผิคซอบหน้าทการกณร:สงฆมากข็้น และสูงฃนเรอยๆ เช่นเป็นแม่กองธรรมสนามหลวง แม่กองบาลสนามหลวง เป็นเจ้ากณะมณฑล เป็นด้น เมอทรงปฏิบัติกิจต่างๆ ก็่ทรงปฏิบัติด้วยพลังจิฅ ทเข้มแฃ็่ง บุ่งมั่นไข้พลังคิดแผนงานทจะจัดทำไห้เกิดประโยซนแก่การกณะสงฆ ทรงมืพลังสร้างสรรก่เรั๋มปฏิบัติการดามแนวพลังกิดทเป็นระ:บบ และทรงไข้พลัง ปิญญาคำ เนินการไนทางทถูกด้องซอบธรรม ยึดหลักพระธรรมวินัยเป็นด้น แบบ จึงทำไห้เกิดผลเป็นประโยซนแก่การพระศาสนา การกณะสงฆ และแก่ ประเทศซาติโดยภาพรวม เป็นด้นบทด้นแบบทสามารถปฏิบัติดามอย่างได้มา จนถึงทุกวันน แม้ผู้บริหารหรือผู้นำหมู่นำคณะชงเป็นตวจักรใหญ่ หรือแม้บุคคล ธรรมดาทั่วไปทั้จำต้องรับผิดชอบต่อครอบครัว ก็่จำ ต้องอาต้ยพลังทงร่ ประการนเป็นพ็้นฐาน ถ้ายงฃาคอยู่ ก็่จำ ต้องทำให้เกิดมืขน อบรมลังสมขน หาไม่แล้ว เป็นผู้บริหารก็่ลักแต่ว่าเป็น เป็นผู้นำก็่ลักแต่ว่าเป็น เป็นห้วหน้า ครอบครัวก็่ลักแต่ว่าเป็น ไม่เกินไปกว่าน้น ไม่อาจนำพาหมู่คณะและครอบครัว ให้เจริญก้าวหน้าหรือได้รับความทำเร็่จในสิงทั้ปรารถนาไต้ เพราะฉะนั้น ท่านจึงแนะนำให้สร้างสมพลังเหล่านเข้าไว้ แล้วแสดงให้เห็่นประจักษว่า มืพร้อม ด้วยการประกอบกิจของตนตามปกติหรือตามมอบหมาย ทำ ให้เกิด ผลประจักษ ผู้ทำ ได้ดงนั้จัดว่าเป็นคนฉลาดและมืพลัง สามารถบริหารหมู่คณะ และครอบครัวไต้แน่แห้ และหวังไต้ว่าจะนำประโยชนํมาให้แก่หมู่คณะแก่ ครอบครัวไต้อย่างยั่งยืน อย่างเช่นห้าววาสวะลักกเทวราชทรงนำหมู่เทพ ชั้นดาวดึงส์ให้!ด้รับประโยซนํสุขชั่วนิรันดร ดังรับพระราซทานแสดงมา ด้วย ประการฉะนั้ www.kalyanamitra.org
๒๙๐ > ธรรบส!ร!ทฟึน!ฟบ ๓ พระบHาใพธิวง ศไาไรบ(ทอง ดี น.ร.๙) อิมินา กตปุญเฌน ขออำนาจพระ!กุศลทักษิณานุประทานกิจทกณร:สงฆ วัดบวรนิเวศวิหารซงมเจ้าประ!กุณศมเค็่จพระ;วันรัฅเป็นประธาน กณะกิษยานุกิษย และกณะญาติราชสกุลนพวง ไคจคบำเพ็่ญให้เป็นไป อันอยูในพระบรน- รารูปถัมภของสมเค็่จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร เพออุทิศถวาย แค่สมเค็่จพระอังฆราชเจ้า กรมหลวงวซิรญาณวงค่ ณ โอกาสน ขอจงเป็น บุญนิธมผลอัมฤทธิ เป็นไปเพออิฏฐมนุญผลทน่าปรารถนาพอใจยํ่งฃนไป แค่ สมเค็่จพระอังฆราชเจ้าพระองกนินโดยฐานะนิยมทุกประการ รับพระราชทาน แสดงพระธรรมแทศนาในปริหารกพลกถา ยุติลงด้วยเวลา เอวํ ก็่มด้วยประการ- ฉะน ฯ ขอถวายพระพร www.kalyanamitra.org
สดิกถา เรื่อง ระลึกได้ก็วัฒนา สติมโต สทา ภททํ สติมา สุขเมธติ สติมโต สุเว เสยฺโย เวรา น ปริมุจฺจตติ ฯ สํ.ส. 0๕/๘0๒ q I คน็้ จักรบพระ;ราชทานถวายวิร'ชนาพระ;ธรรมเทศนาใน สติกถา ฉลองพระ; J-J ราชศรัทธา อนุโมทนาพระ;ราชกุศลบุญราสืทักขิณานุปทาน ในการพิธ บำ เพ็่ญพรร;ราชกุศล <5)๐๐ วน พรร;บรมศพ พรร;บาทสมเดื่จพรร;ปรมินทร- มหาภูมิพลอดุลยเดช มหิดลาธิฒศร รามาธิบด จักรินฤบดินทร สยามินทราธิราช บรมนาถบพิตร ทสมเค็่จบรมบพิฅรผู้ทรงพระ;คุณอันประ;เสริฐ ไค้ทรงบำเพ็่ญ ให้เป็นไปเพอธุทิศถวายสนองพระ;มหากรุณาธิคุณ สมเค็่'จพระ;บรมชนกนาถเค้า ค้วยนํ้^าพระราชหฤทัยเป็ยมล้นค้วยพระ;เมฅฅาธรรมและ:พระ;กทัญฌูกฅเวทิดาธรรม พระมหาโพธิวงศาจารย (ทองค) วัคราชโอรศาราม กรุงเทพมหานคร แสคง ในการพระราชพิธบำเพี่ญพระราชกุศส ๑00 วัน พระบรมศพ พระบาทสมเค็่จพระปรมินทรมหาภูมิพลอคุสยเคช บรมนาถบพิคร ณ พระทนุงคุสิฅมหาปราสาท ในพระบรมมหาราชวัง วันเสาร ท ๒๑ มกราคม พ.ศ. ๒๕๖0 เวสา ๑๒.00 น www.kalyanamitra.org
i ๒^ ธรรบส!รณfiuiiau๓ พระบHใโพธิวง ศใใใรบ์(ทอง ดี น.ร.๙) อันเป็นร'ญลักษณแห่งร'ป!!รสบุกกล ชงนำให้เกิกรรสวัสคิมงกลแก่ยู้ปฏิบัติ กลอกกาลนาน พรร{บาทสมเค็่จพรร;ปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร พรร;องกนัน ทรงเป็นพระ;มหาอัรฉริยกษัฅริยทสง่างามแห่งร::บบกบัฅริย ในสากล ทรงเป็นพระ;มหาบุรุษเป็นมํ่งฃวัญทกนไทยภากภูมิใจ มพร:;เกยรติ รพทพระ;เกยรติยศเกริยงไกรไปทุกทิศ เป็นทยอมรับในพระ;อัจฉริยภาพทุกค้าน ทเป็นไปเพือประ;โยชนํแก่รงกมมนุษย เพอกวามสุขสูงสุกของมหาชนซาวสยาม แม้ชาวต่างชาติทิมิเกยมาประ;เทศไทยก็่รู้ปร^จักษชักถึงพร::เกยรติกุณทขจร ขยายไปถึง กลอกเวลาชงเสค็่จกรองราชย ๗0 ป็เศษนั้น ทรงทุ่มเทบำเพ็่ญ พระ;ราชกุณูปการใหญ่หลวงแก่ปวงซนซาวไทยทุกหนแห่ง เสค็่จพร^ราชกำเนิน ไปทรงงาน เสก็่จไปประ;ทับเพอติคกามงานในห้องทต่างๆ มาโกยกลอกพระ;ซนม โครงกาพัฒนาปรร^เทศในรูปแบบฅ่างๆ ไค้หลั่งใหถออกมาโคยเปีน ชศํๆรัสแถรเพระราชคำ?อันแหลมคมตุ่มถึกมิไค้ทยุคยั้งกว่า <^,aao โครงการ ทถึาคัญถึอโครงการทเกยวกับเรองทคิน นา อากาค และปาไม้อันเปีน เครองอาค้ยเพึ๋อปากท้องเพอความอยูค้กินคชองประชาชน ทรงตุ่มเทพัฒนา เปีนรูปแบบและเห็่นมลประอักษ สามารถอำนวยประโยชนไค้อย่างต่อเนอง พระ;ราชกรณยกิจเกยวลับโกรงการพัฒนา ทเริยกว่าโครงการอ้นเนึ๋อง มาจากพรร!ราชดำรินั้นเองทเป็นทมาของกวามมั่นกงของชาติแล5กวามสงบสุข ของรงกมไทย ทั้งในบัจจุบันและ;ในอนากก ไค้เสค็่จติกกามโกรงการต่างๆ ค้วย พระ;องก่เองโกยไม่ทรงย่อห้อ เสค็่จไปทอกพระ;เนกรกวามเป็นอยู่ของราษฎร ทรงเห็่นถํ่นนั้นขากแกลนอะไร กวรมอะไร และกวรเป็นอย่างไร ก็่ทรงมพระ- ราชคำริกิกโกรงการขนเพํ่อกอบสนองกวามค้องการของประชาซนในทนั้นๆ เมั่อทรงเห็่นปวงประชามข้อบกพร่องค้องแกไข มกวามหย่อนยานในเรองไก www.kalyanamitra.org
๒๙๓ >1? สฅทai ISOง ระสีกใด้ก็วัฒนา กวรปรบปรุงแกใฃอย่างไรจึง'จะเหมาะสม หรือกวรปฏิบัติอย่างไรจึง'จะอยู่อย่าง เป็นสุข อยู่อย่างปลอคภัยมั่นกง ก็่พระราชทานพระราชคำรัสในทางปฏิบัติ ในรูปพระบรมราโชวาทบ้าง ในรูปชองพระราชกระแสบ้าง ชงพระราชคำรัส ทั้งมวลนั้นล้วนเป็นธรรม เป็นไปฅามหลักธรรม และสามารถปฏิบัติฅามและ เกิดผล'จริงไค้ทุกประการ เพอให้เห็่นว่าพระราชคำรัสทพระราชทานไว้นั้นสามารถปฏิบัติดามให้ เห็่นผลไค้ และให้เห็่นว่าธรรมนั้นย่อมค้มครองรักษาฅนและลังคมไค้ พระองค้ จึงทรงปฏิบัติพระองคเป็นแบบอย่าง เช่นในเรองการประหยด การใช้เวลา ให้เป็นประโยซน การห่างเว้นจากอบายมุข ความอ่อนน้อมถ่อมตน ความ ส์ารวมระว้ง เป็นต้น นับเป็นพระราชจริยาทสามารถปฏิบัติดามไค้อย่างชัดเจน พระราชคุณูปการด่างๆ ททรงปฏิบัติดลอดมานั้น แบ้ชาวด่างชาติก็่รู้และยกย่อง สรรเสริญ อย่างเซ่น องคการสหประชาชาติไคํจัดประชุมใหญ่สมัยพิเศษ เพอ ถวายพระราชสตุคแด่พระองก นับเป็นสตุคประกาศพระเกยรติคุณระดับโลก เซ่นใจกวามคำสคุคทเป็นกวามจริงและน่าประทับใจบางถ่วนว่า \"... แต่หากอยากจะเขยนถึงพรรเองค1นแง่ฅ ก็่ให้เขยนว่าอะไรททรงทำ แล้วเปีนประโยชน ซงถึงทเปีนประโยชนถึาหรับพระองคก็่ศือการทำประโยชนให้ กับนู้คน โดยเฉพาะคนยากจน ทนทางเคยวทจะรู้ว่าอะไรเปีนประโยชนถึาทรับ ผูค้ นและทำให้เข้าใจปิญหา ก็่คือการเดินทางไปกังพนททห่างไกลและยากจน เพึ๋อพบเจอและพูดคุยกับประชาชนยากไร้ และเจ้าหน้าทหรือข้าราชการ กัวเล็่กๆ ทรงกระดือรือร้นเพอจะแก[ขกัญหาทํ่พบเจอและสนับสนุนให้คนไทย ทำ แบบเคยวกัน\" 'ฑลอดชวิตของพระองคทรงจดดิทรินัฅรต่างๆมากถึง ๔0 ฉบับ ต่วนใหญ่จากการพัฒนาคิดศ้นเพอจัดการแกไขกัญหาให้กับคนจน อาทิ โครงการแก้มลิง จากททรงเห็่นลิงเก็่บของกินไว้ทแก้มเพอนำมากินภายหลัง www.kalyanamitra.org
i ๒๙๔ # รรรบส1ร1ทศน1 lau ๓ พระบ!ทโพธวงศาใใรย์(ทอง ดี ช.ธ.๙) ทTงนำแนวคิดตังกถ่าวไปใ^นกาพัฒนาโครงกาTLพึ๋อแกไขปิญหานํ้าท่วม ใท่กบประชาชน โดยสร้างทเก็่บนํ้าในช่วงนํ้าท่วม เพอนำมาใช้ประโยชนทาง การเกษฅรในภายหลัง\" พระราชคำริ พระราชคำรัฟ้ และพระราช'ไเริยา ของพระบาทสมเค็่จ พระเจ้าอยู่หัว รัชกาลท ๙พระองคํนั้น มคุณล่า มกวามสมบูรณ และเป็นรูปแบบ ทสามารถคำเนินฅามไค้อย่างเฅ็่มท เพราะทั้งหมกนั้นเป็นไปฅามพระนามาภิไธย ว่า \"ภูมิพล\" ชงแปลว่า \"พลงแผ่นดิน\" กือทรงฅิค ฅรัส และปฏิบัติเรํ่องคํๆ ทํ่เป็นพลังแผ่นติน ลือเป็นประโยชนั้สุขแห่งประชาชนทั้งมวล ตามพระปฐม- บรมราชโองการทว่า \"เราจร;ครองแผ่นดินโคยธรรม เพอปรร;โยชนสุขแห่ง มหาซนซาวสยาม\" การเสค็่จสวรรกฅฃองพระองกนำมาซงกวามเสร้าโศกเลืยใจ นำ กวาม อาลัยถง และกวามเลืยคายอย่างหาทสุคมิไค้ สุคทจะพรรณนาให้หมกร้นไค้ พสกนิกรไทยถ้วนหน้าทุกถั๋นทล่างเส์ยสละเวลาเป็นวันเป็นหลายวันเ'พํ่อให้!ค้ โอกาสเช้าถวายการวะและลักการะพระบรมศพ ค้วยคำปึกในพระมหา- กรุณาธิคุณ นับเป็นกวามจงรักภักคอันหาทสุกมิไค้ บัคนั้ การเสค็่จสวรรกก ของในหลวงรัชกาลท ๙ไค้ผ่านเวลามากรบ ๑00 วันแล้ว กวามเศร้าโศก ไค้บรรเทาลงบ้าง กงเหลือแล่กวามจงรักภักกและกวามอาลัยถงมิเสือมกลาย หากพสกนิกรซาวไทยถ้วนหน้าได้เปลยนความ เศร้าโศกมา เป็นการ กรร;ทำตามทั้ตั้งใจ อย่างเซ่นทั้ตั้งใจว่าจร;ทำดเพึ๋อถวายพ่อหลวง จร:เลิก ทำ ผิดทำชั่วเพอถวายเป็นพรร;ราซกุศล หรือยกรร;คบพลงร้กพลังอาลัยให้ สูงฃ็้นเป็นพลังสร้างสรรค์คุณค่าให้แก่ตน แก่ลังคม แลร;ประเทศซาดิ หรือ ใช้ความดิคถงพระเจ้าอยู่หัวแปลเป็นพลังจิตคำนก ลันเป็นจิตคำนกใหม่ ทั้ใหญ'กว่าจิตคำนกเพอตวเองและพวกพ้อง แค่เป็นจิตคำนกทั้คำนงถง คนอนจนกลายเป็นพลังแผ่นดินลันมหาศาล ทำ ให้พบอิสรภาพ ความ!เดิสุข www.kalyanamitra.org
๒๙๕ # สฅิทm i 1รอง ระลึกได้ก็วัฒนไ ไ^fv/ ความงาม แลร;มิตรภาพอนไพศาลต่อคนทงหมดแลร{ธรรมซาติทงปวง อันจักเ!เนไปเพอการอยู่ร่วมกนอย่างสินติ การทจร;ปรับสภาพไค้เซ่นนั้นจำต้องอาอัยธรรมสิากัญปรร{การหนํ่งคือ สติ พสกนิกรไทยถ้วนหน้าจำค้องมสติเป็นพ็้นฐานในการทจะทำกวามคืถวาย พ่อหลวง ในการสร้างพลังสร้างสรรกั ในการสร้างพลังจิตทำนึกให้เกิคขน เพราร;สตินั้นจร:มพลังขับเกลอนจิตใจให้เข้มแข็่ง ให้เตินหน้าไม่ย่อท้อ ให้สามารถ ผ่านพ้นอุปสรรกไค้ค้วยคื เพราร;สตินั้นนำให้เกิกกวามทำเร็่จ นำ ให้เกิดกวาม เจริญร่งเรอง แลร;นำกวามผาสุกมาให้แก่ผูมสติอยู่ปรร;จำ ทั้งกวามคืงามนั้งหลาย ก็่ เพั๋มพนขนเรอยไป กังทสมเค็่จพรร;จอมไตรลัมใม^าลั^ม'พทธเจ้า^ตรัสไว7!น มณิภัททสูตร ลังยุตตนิกาย สกาถวรรก ทอัญเชิญมาเป็นนิกเขปบทเบองค้นว่า สติมโต สทา ภททํ เป็นอาทิ ซํ่งแปลเป็นกวามไทยไค้ว่า \"ความเจริญย่อมมแก่ผู้มสติทุกเมอ คนมสติย่อมได้ความสุข ความดย่อมมแก่คนมสติเป็นนิจ แต่คนมสติอังไม่พ้นจากเวร\" สมเค็่จพรร;ลัมมาลัมพุทธเจ้าตรัสไว้เซ่นนั้ ด้วยทTงเห็่นว่าสติเป็นข้อปฏิบัติ สำ คัญทํ่มนุษยเฑจำด้องมปTะ!จำฅัว เพราะ!มนุษยเราถ้วนด้องการความเจริญ ความก้าวหน้าในทุกทาง ด้องการความสขทั้งแก'ฅนแถะ!คนรอบข้าง และ!ด้องการ พบเห็่นแฅ่เรองติงาม เมอเป็นเช่นนจํงทรงแสคงข้อธรรมคือสติไว้สำหรับปฏิบัติ หาไม'แถ้วกโม่อาจเจริญก้าวหน้าได้ ไม่อาจมความสุขในชวิศได้ และ!ไม่อาจ พบเห็่นความติได้โม่ว่าจากคนเองหริอจากคนอน อันว่า สติ แปลว่า ความรร;ลกได้ หมายถึง อาการทนกขนได้อาการท ฉกคิดขนมาได้ ไม่ลืม ลืงส่งททำลืงคำทพูศไว้ก่อน และ!ส่งทจะ!ทำจะ!พูศฅ่อไป ศรงคันข้ามคับอาการทเริยกว่าลืมนกหริอเผลอไผล สตินั้เป็นธรรมกู่กับธรรม อกข้อหนึ่งคือ อัมปชญญร; ทแปลว่า ความรู้ตว หมายถึงรู้ตัวว่ากำลังทำอะไร www.kalyanamitra.org
i ๒ตาD 0 sssuaisinfiui lau ๓ พระขHใโฬริวง ศใใใรบ์(ทอง ดี น.ร.๙) กำ ลังพูคอะไร สติกับลัมปชัญญะเป็นธรรมคู่กัน แต่มักจะพูคเพยงคำเคยวว่า สติ แต่แม้จะพูคเพยงคำเคยวแต่ก็่มกวามหมายกวบทั้งสองคำ สตินมลักษณ^ท^ากัญ ถก ปร^^การคือ กได้ก่อนทจรเทำก่อนทจร!พูด (ร) รู้จกยงคิดไม่ผลผลาม &) จดจำคิงทํทำคำหพูดไว้แม้นานมาแล้วได้ <ร) กังนัน ท่านกล่าวว่ๆเปีนทฌม่อุปการร!มาก เปีนเหศให้ทนเราไม่เผอเรอ ไม'หลงล่ม แลร!เปีนเหฅุให้ทำอร!ไรไม'ผิศพลาศบกพร่อง แม้จร!ผิคพลาศบกพร่องไปบ้าง ก็่กลับได้สติ รู้กัวว่าผิฅพลาศไป ก็่สามารถกลับกัวกลับใจเลิกลร!ไม'ทำท่อได้ กนเรานั้น ก่อนทจะทำกิจการลันใค ก่อนทจะพูคร่งใคออกไป ถ้าฃาคสติ ก็่ฃาคกวามยังกิค ทำ ไปพูคไปโคยผธุนผลัน ก็่อาจจะเสิยการอาจก่อกวาม เคือคร้อนไค้ เซ่นนั่งหรือนอนอยู่ รืบลุกฃนโคยผลุนผลันไม่ทันนึกไม่ทันเฅรืยมคัว ก่อน ก็่อาจทำให้หม้านึคหรือโซเซล้มลงทำให้เกิคลันครายไค้ ถ้ามสติระลึกไค้ ก่อนจะลุก ก็่จะระวังคัว ลุกซนไค้[คยปลอคกัย แม้!นกิจการทั้งหลายก็่เหมอนกัน หากพอนึกจะทำก็่ลงมือทำ ไม่ยังกิคฅรวจคราให้รอบกอบเลึยก่อน กิจการนั้น ก็่อาจเลึยผล หรือหากจะพูคอะไรก็่พูคไปโคยไม่กิค ก็่อาจพูคผิคเกิคกวามเลึยหาย ไค้เซ่นกัน คังนั้นจะทำอะไรจะพูคอะไรจำค้องมืสติกอยกำกับอยู่เสมอ ผู้มืสติ รอบกอบย่อมไม่ผลุนผลัน ไม่มักง่ายให้เลึยการ เป็นกนมืวิคกวิจารณยั้งกิคในธุระ ลันเป็นหน้าทของคน ไม่บุ่งแต่ลักว่าจะเห็่นผลเป็นกวามส์าเร็่จโคยเร็่ว เมอมืสติ อย่างนึแล้วจะทำการลันไคใจก็่จะนั่นกงไม่ลังเล มืกวามแน่นอนกงท ทำ กิจใคๆ ก็่จะผิคพลาคบกพร่องไค้ยาก สตินั้นเป็นธรรมซาติทค้องtเกฝนจึงเกิคขนไค้ มิใซ่เกิคไค้[คยปกติสามัญ ท่านแนะนำใหรื!กสติกันเพอจะไค้มืสติไว้มัองกันคน น้องกันกวามผิคพลาค บกพร่อง น้องกันกวามเลึยหายทจะคามมา การรืกสตินั้น เรั๋มค้นอาจรืเกไค้ง่ายๆ เซ่นก่อนทํ่จะทำอะไรหรือก่อนทจะกิคอะไรลันเป็นเรองส์ากัญ ก็่นั๋งหลับคา ทำ ใจ ให้สงบลัก <1-๕ วินาท แต่นั้จิคก็่จะหยุคนั่งไค้ สติก็่จะเกิค แม้เพยงเล็่กน้อย www.kalyanamitra.org
๒๙๗ 0 amnm \\'ร?^ 1รอง ระลึกใด้ท็วัฒนใ ก็่เพยงพอทจรเหยุคกิคไค้ว่ารงทจร5ทำหรอกำทจ๙พูคถูกผิคอย่างไร หาก เฅรยมคัวมาก่อนบ้างแล้ว ไค้หยุคฅั้งสฅิคักครู่หนงก่อนทำก่อนใ51ค ก็่จะทำให้ เกิคความมั่นใจ ไม่หวั่นไหว ไม่ว่าจtทำอะไรจะใ5jคอ^ไรก็่จรเไม่ยิคพกาคบกพร่อง เรยหาย tinเซ่นนั้ปอยครงเข้าก็่จะสามารถคุมติได้ตลอดเวลา มสติทุกขณะ หากtiกฝนทำให้นานมากกว่าน ด้วยการสวดมนตบ้าง ด้วยการทำสมาธิบ้าง ก็่มั่3จร!ทำให้มสติอยู่ดลอดเวลา หากทำได้เป็นประจำวน ก็่จะเป็นคนไม่หลงลืม มความจำด แม้จะอยู่ระยะชราภาพ สติก็่จะอยู่กบคัวไปตลอดชวิด เมํ่อtเกสฅิไคมั่นคงแล้วย่อมไครับอานิสงส์คอบแทน คือไคซอว่าไค้ปฏิบัติ ความคื ไครับความเจริญ และไครับความสุข แค่ว่าสติบันไม่อาจทำให้พ้นจากเวร ไค้ เพราะเวรเป็นบาปกรรมทเมั่อทำไปแล้วย่อมมผลติคคามคลอคไป กงกระนั้น กี่คาม สติกี่สามารถหยุคยั้งการทำบาปกรรมไค้ กล่าวคือเมอไค้สติรู่คัวแล้วกี่เลิก ไม่ทำบาปกรรมนั้นค่อไป เป็นการหยุคเวรไว้แค่นั้น แล้วเป็นผู้ประกอบค้วยเมฅคา- ธรรมเป็นเบองหน้า ช่วยเหลอเกอถูลผูอนไม่เบยคเบยนซ่มเหงรังแกยูอน อย่างนั้ ย่อมไม่มเวรกับใครๆ ค้วยเหตุคังนั้ หากพสกนิกรชาวไทยทุกหมู่เหล่าตั้งสติตั้งใจแน่วแน่ เปลยน ความเศร้าโศกไปเป็นการทำคืเพอกวายพ่อหลวง ตั้งสติตั้งใจเลิกทำผิคทำชั่ว เพอกวายเป็นพระราชกศล หรือยกระคับพลังรักพลังอาลัยให้สูงฃ็้นเป็นพลัง สร้างสรรคคุณค่าให้แก่ตน แก่ลังคม และประเทศชาติ โคยยื้คปฏิบัติคามแนว ชองในหลวง รัชกาลท ๙ ทั้งแนวพระราชจริยา แนวพระราชคำริ และแนว พระราชคำรัส อย่างเช่นพระราชคำรัสทํ่มการพิมพเผยแพร่ทั่วไปว่า \"... เกยทเร่งกับราชเลขาธิการว่า การรับฟิงข้อมูลต่างๆ จะ ค้องรัเงฅ้วย ความเทยงธรรมปรากเจากอคติ เมํ่อรับหัเงแล้ว อย่าเพงไปเชอว่าจรแปีนเช่นนั้น จะค้องรับฟืงจากทอนๆ จน เปีนทแนใจหรือนั้นใจ เมอนั้นจึงจะให้คำวินิจฉัยใน!]ญหาข้อ นัน้ ๆ ไค้ถูกค้อง\" www.kalyanamitra.org
i ๒๙๘ ธรรบส!ร!ทศน!lau ๓ พระนHใโพธิวงศใ!ใรย์(ทองดื ช.ร.๙) หรือพระราชดำริทกำหนคกันว่าฟ้นโกรงการตามแนวพร:;ราชดำริ เซ่น แนวพระราชดำริเรืองแกใฃปิญหารงแวคล้อม ทรงวางแนวแกํปิญหาทั้งร:;บบ คือ ป้าไม้ คิน นำ และชันบรรยากาศ คัวยการ \"ทำต้นแบบให้ดู\" แนวพระ ราชดำริ \"ปลูกป้า ๓ อย่าง ประโยซนํ <£ อย่าง\" โกรงการ \"ป้าไม้หมู่บ้าน แทนโครงการ หมู่บ้านป้าไม้\" แนวพระราชดำริเรอง \"หลกปรัชญาเศรษฐกิจ พอเพยง\" เป็นคัน นอกจากนัน กังมหลักในการทรงงานชองในหลวงรัชกาลท (ร^ ซึ๋งมการ ประมวลไว้ว่ามถื้ง ๒ถก หลัก เซ่น เรืองคืกษาข้อมูลอย่างเป็นระบบ เรึ๋อง การพฒนาต้องระเบิดจากข้างใน เรืองแก้!(ญหาทั้จุดเล็่กก่อน เรึ๋องทำตาม ลำ ต้บขน เรืองคำนึงถงภูมิศาศฅรืและลังคม เป็นคัน ในหลักทั้งหมคน ขอรับ พระราชทานยกหลักตัวอย่างฃึนแศคงเป็นแนวทาง คือหลักเรองการพัฒนา คัองระเบิคจากข้างใน มแนวปฏิบัติว่า \"... ต้องสร้างทวามเข้มแข็่งให้คนในชมชนทmเข้าไปพัฒนา มสภาพพร้อมท'ๆะรับกาพัฒนาเ^ยก่อน แล้วจี้งค่อยออก มาก่ล้งคมภายนอก มิใช่เอาความเ'vfญหรือบคคถจากล้งคม ภายนอกเข้าไปหาชุมชนทยังไม'ทันไต้มิโอกาสเฅรืยมคัวหรือ คังคัว หมายความว่า ทำ ความร้จักชุมชน เพึ่อใหร้จุศอ่อน จคแข็่งและความต้องการชองชุมชนก่อนใข้องคัความร้ท มิอยู่เข้าไปพัฒนา โดยให้เจ้าชองพนทไต้โอกาสมิอ่วนร่วม ในการบริหารจัดการ..\" พระราชจริยา พระราชดำรัส และพระราชดำริ ชองพระบาทสมเค็่จ- พระเจ้าอยู่หัว รัชกาลท ๙=/ บัน ถือว่าไคัเป็นเพชรนํ้าเอกประเมินก่ามิไคั หากม สติกำหนค เรืยนรู้ และปฏิบัติคามอย่างเป็นระบบแล้ว ย่อมนำให้เกิคกวามเจริญ เกิคกวามสุช เป็นกวามคืงาม แก่บุกกลทุกระตับ แก่ลังกม และแก่ประเทศชาติ www.kalyanamitra.org
๒๙๙ 0 สฅถ[{แ : [รอง ระลึทได้ก็วัฒนา \" พระศาสนาโคยภาพรวม อยู่ทว่าจำต้องอาสื'ยสติระลึกรู้!ค้ ต้องอาต้ยความ จริงใจ และความจงริกภกดมั่นคงจริงจงของพสกนิกรทุกหมู่เหกำ เพราะทรง ปฏิบตี่ให้เห็่นผลมาแล้วในระดบหนง เพยงนำมาสานต่อเติมเต็่มให้เกิดความ สมบูรณ์และมั่งยืนตลอดไปเท่านั้น หากปราศจากสติ ก็่ปราศจากกวามรู้ลึกฅัว เมอปราศจากความรูลึกคัว ก็่จะประมาท เผลอคัวเผลอใจ กำ หนคไมไค้หรือ ไมไค้กำหนคว่าทำอย่างไรจึงจะไคซอว่ามกวามกำนกในพระมหากรุณาธิคุณ ทำ อย่างไรจึงจะไคซอว่ามกวามจงรักกักคทํ่แท้จริง และทำอย่างไรจึงจะไคซอว่า ทำ คเพอในหลวง หากมสติก็่จะมกวามตั้งใจกำหนคไค้และปฏิบัติจัคทำไค้ถูกค้อง เมอทำกันไค้[คยทั่วถึง นอกจากคัวเองจะไครับผลเป็นกวามเจริญ เป็นกวามสุฃ แล้ว ยังซ่วยล้งกม ซ่วยประเทศซาติบ้านเมืองใท้เจริญให้สงบร่มเย็่นกันถ้วนหน้า ค้วย เพราะสตินั้นมืประโยซนํมืคุณค่าเป็นธรรมทมือุปการะมากในกิจทังปวง คังรับพระราซทานแสคงมา ค้วยประการฉะนั้ อิมินา กตปุฌฺเฌน ขออำนาจพระราซกุศลทักขิณานุปทานกิจ ทํ่สมเค็่จ บรมบพิตรผู้ทรงพระคุณอันประเสริฐ ทรงบำเพ็่ญพระราซอุทิศให้เป็นไปทั้งปวงนั้ จงเป็นบุญนิธิ มืผลอัมฤทธิเป็นทิพยวิบากสมบัติอำนวยสุฃะและอิฏฐมนุญญผล ทุกประการ แค่พระบาทสมเค็่จพระปรมินทรมหาภูมิพลอคุลยเคซ มหิคลาธิเบศร รามาธิบค จักรืนฤบตินทร สยามินทราธิราซ บรมนาถบพิฅร สมเคื่จพระบรม- ซนกนาถ สมอังพระราซปณิธานราซูทิศทุกประการ ในอวสานแห่งพระธรรมเทศนานั้ พระสงฆจคุรวรรกจักไครับพระราซทาน สวคพระกาถาธรรมบรรยายโคยสรกัญญวิธิ เพํ่อเพมพูนพระราซกุศลราถึส่วน อัปปมาทธรรม คามสมกวรแก่เวลา รับพระราซทานถวายวิอัซนาพระธรรมเทศนา ในสติกถา ยุติลงค้วยเวลา เอวํ ก็่มื ค้วยประการฉะนั้ ฯ ซอถวายพระพร www.kalyanamitra.org
อุปปชุชเต สเจ โกโธ อาวชุเช กกจูปมํ อุปปชฺชเต รเส ตณุหา ปุตฺตมํสูปมํ สเร ฯ ธรรมนิฅิ. เมอความโกรธเกิคขน พงนึกเปรยบกับคมเลอย เมอความอยากในรสเกิคขน พึงนึกเปรยบกับเนอบุฅร. www.kalyanamitra.org
ที■ปธัมมกถา เรื่อง ธรรมอันเป็นเกาะพึ๋งพา อุฏ^าเนนปปมาเทน สฌฌเมน ทเมน จ ท!! กรราถ เมธาว ยํ โอโฆ นาภิกรตติ ฯ ขุ.ร. ๒๕/๐๒ q เ คน จักรับพระราชทานถวายวิสิ'ชนาพระ:ธรรมเทศนาใน ทปธมมกถา Uโคยอนุรูปแก่พระราชกุศลทักขิณานุปทานกิ'จ ทํ่ศมเค็่'จพระเ'จ้าอยู่หัว ผู้ทรงพระคุณอันประเศริฐ ทรงพระกรุณาโปรคบำเพ็่ญพระราชกุศล ๕0 วัน พระราชทานศพ พระธรรมมงคลเจตย อคฅเจ้าอาวาศวัคอรุณราชวราราม ราชวรมหาวิหาร ผู้บำ เพ็่ญประโยชนแก่พระอารามและแก่พระศาสนาเป็น อเนกอนันคมาคามลำคับ'จนถึงมรณภาพค้วยชนมายุ ๙๒} ป็ นับเป็นพระ มหากรุณาธิคุณอันหาทสุคมิไค้ เพราะเป็นการประกาศเกยรติคุณชองพระเคช- พระคุณผู้มรณภาพให้ปรากฏไพศาลยั๋งฃนไป พระมหาโพธิวงfinจารย (ทองค) วัคราชโอรฟ้าราม กรุงเทพมหานคร แฟ้คง ในการบำเพ็่ญพระราชกุศล ๕0 วัน ศพพระธรรมมงคลเจคย (เฉลยว) ณ วัคอรุณุราชวราราม กรุงเทพกรุงเทพมหานคร วันจันทรท ๑๘ กันยายน พ.ศ. ๒๕๖0 เวลา ๑๗.๓0 น. www.kalyanamitra.org
i ฅ๐๒ I: sssuaisinfiui lau ๓ พระฆMใใพธิวง ศใใไรย์(ทอง ดื น.ร.๙) พรร:เคชพระ;คุณพรร;ธรรมมงคลเจคย ฐฅปุญญมหาเถรร:นั้น เป็นพรร: มหาเถรร:รัฅฅัญฌูรูปหนึงของกณร:สงฆ!ทย มบุญญาบารมไคร่งสมอบรมมา คามลำคับ จนไคร้บแค่งคังให้คำรงตำแหน่งจ้าอาวาสวัคอรุณราชQราราม ชงเป็น พรร:อารามหลวงชันเอกอุ เป็นพรร:อารามปรร:จำร้ซกาลท ๒ แลร:เป็นพรร:อาราม ทลำคัญยิงชองพรร:พุทธศาสนาในปรร:เทศชงเป็นทรู้วักกันแพร่หลายทั่วไลก แม้จร:ไค้คำรงตำแหน่งลำคัญนั้คอนมอายุพรรษามากแล้ว แค่ก่อนหม้านั้น สมัยเป็นผู้ช่วยเจ้าอาวาส เป็นรองเจ้าอาวาส ก็่ไค้ช่วยเหลืออคฅเจ้าอาวาส มาหลายรูปในการปกครอง ในการบูรณร:ปฏิกังชรถ!พรร:อาราม แลร:การอนๆ จนไค้มสมณคักคิแลร:อายุพรรษากาล สมกวรไค้ร้บตำแหน่งเป็นเจ้าอาวาส ในลำคับค่อมา ในชณร:เป็นเจ้าอาวาสนั้นไค้วางโกรงการพัฒนาวัค พัฒนา พรร:ปรางก่ พรร:อุโบสถ พรร:วิหาร แลร:กุฎสงฆโว้ล่วงหน้า ซงบัคนั้ก็่ลำเร็่จ เร้ยบร้อยมาคามลำคับ ซงก็่เป็นหน้าทชองเจ้าอาวาสรูปค่อไปจร:คำ เนินการ สานค่อให้ลำเร็่จลุล่วงคามทํ่พระ:เคชพรร:คุณไค้วางไว้ ทํ่ท่านไค้วางไว้นั้นนับเป็น จุคเรั๋มค้นทลำกัญอันกวรเจริญรอยคามให้ลำเร็่จคามปณิธาน ในภาวะล่วนคัวนั้น พระเคซพระคุณเป็นพระทมเมคฅา มใจค ยมแย้ม แจ่มใส เออเฟ้อเผอแผ่แก่ภิกษุสามเณรทั้งในวัคนอกวัคและญาติโยม คลอคลืง เยาวชนทั้งหลายทั่วหน้า วัคงานกรั้งใคก็่เผอแผ่กว้างชวางทั่วลืงน่าอนุโมทนา กวามเป็นพระมหาเถระใจกว้างอย่างนั้นั่นเองทํ่ทำให้ท่านไค้เป็นทิ่ร้กเการพชอง กณะสงฆและกนวัคโคยทั่วไป ซวิฅชองพระเคชพระคุณนั้นน่าลืกษา น่าทำคามอย่างในหลายเรั้อง คลอคช่วิฅชองพระเคซพระคุณไค้ปฏิบัติคามกำสอนของสมเค็่จพระกัมมา- กัมพุทธเจ้าโคยคลอค โคยเฉพาะในเรั้องการทำทพงให้แก่คนเองไค้[นชณะทยังม ช่วิคอยู่และเป็นหกักประกันเมอถงมรณภาพไปแล้ว ชงพระพุทธองกํทรงสอน ไว้ว่าให้กนเราสร้างสมปมเพาะไว้ เพราะนั่นแหละเป็นเกาะเป็นทพงแก่คนไค้ www.kalyanamitra.org
ฅ0ฅ ■฿ ทชฒับทm fSS; ใรอง sssuouiOuimะพงพา ฅลอคไป ฅามนัยแห่งพรร:บาลพุทธพจนทฅรฟ้ไ^น ธรรมบท ชุททกนิกาย ท อัญเชิญมาเป็นนิกเฃปบทเทศนาว่า อุฏจfาเนนปปมาเทน เป็นอาทิ ซื้งถอคความ เป็นภาษาไทยไค้ว่า \"ผู้มปีญญาพงfเร้างเการเคือทพงทห้วงนำท่วมไม่ถง ด้วยความหมั่นด้วยความไม่ปรร:มาท ด้วยความ ส์ารวมรร;วง แลร;ด้วยการtเกฝนอินทร้ย\" พร::บาลพุทธพจนํนทรงแลคงธรรมโดยเปรยบค้วยเกาะทนํ้าท่วมไม่ถึง เกา:^เช่นนั้นย่อมเปีนทพงพาของศนบนเกา:^นัน ทำ ให้อยู่อย่างสุขสบาย ม ความปลอดภัยไร้กวามหวาศกถัว ไม่ต้องห่วงว่าจะถูกนาท่วมพัดพาให้เiยหาย ล้มดายไป เกาะทนํ้าท่วมไมกงพงพาไต้ฉันใด ธทมททรงแสดงไว้๔ ประการ คึอความหมั่น ความไม่ประมาท ความทำรวมระวัง และความiกฝนอินทรย่ ก็่ สามารถเปีนเกาะคือเป็นทพึ่งแก'เหล่ามนุษยชาติไดไม่แพกน ขอให้ยกระดับธรรม เหล่านไว้ไห้สูงล่ง ให้อยู่ในจิศใจ และประพฤติปฏิบัติโดยท่อเนองไม่ขาดสาย เห่านั้น ก็่จะเป็นทํ่พงไต้แน่นอน เหมือนเกาะทมระดับสูงกว่านั้า นั้ากไม่อาจ ท่วมไต้ ทำ ให้ปลอดภัย หรือเกาะทอยู่ปรมนั้า หากผู้คนในเกาะช่วยบันถม ช่วยบันทำเขอนนั้นนั้าบัองกันไว้แน่นหนาก็่ปลอดภัยไต้เช่นบัน ดังนั้น ธรรม <i ประการนั้จึงเป็นธรรมส์าดัญส์าหรับเป็นเกรํ่องมือคำรงชิวิฅ่ให้เป็นสุข ให้ เจริญก้าวหน้า และให้มืกวามปลอดภัยทุกประการ อันว่าเกาะทอยู่กลางทะเลย่อมมืภัยคำกัญหลายประการ เซ่นเกิดภูเขาไฟ ประทุก็่ทำให้เกาะล่มลลายหายไปไค้ หรอเกาะทอย่ปรํ่มนั้า เมอเกิดกลนยักษ พัดกระหนั้าก็่จมหายไปไค้เซ่นภัน ถั๋นทอยู่ของมนุษย่ทเป็นแผ่นดินมิใซ่เกาะ กี่เป็นเซ่นนั้น ย่อมมือันดรายรอบค้าน เซ่นเกิดการทะเลาะกัน แดกแยกลามัฅกิกัน ทำ ให้เซ่นฆ่ากัน นั้จัดเป็นอันฅรายกายใน หรือเกิดขนเพราะมืดัฅรูหม่ปิจจามิฅร เข้ามายํ่าย แม่งแย่งดินแดนเป็นค้น นั้จัดเป็นอันฅรายภายนอก เมอเกิดอันตราย www.kalyanamitra.org
i ฅ๐๔ ฿ sssuaisinftui lau ๓ พระชHไโพรัวงศใใไรย์(ทองด ช.ร.๙) อย่างนิ้ฃ็้น ทอยูทพำนักอาffยก็่โม่ปลอคภัยหรืออยู่อาffยไมไค้ ค้วยเหตุภังน สมเค็่จพรร:ซินสิหภัมมาร'มพุทธเค้าจึงทรงแสคงฃ้อธรรมอันเป็นเกา:!อันเป็นท พึงทมั่นกง เป็นทปลอกภัยไม่มอันกราย และสร้างความเ'ไเริญให้แก่มนษยโค้ คือให้เจริญค้วยมนุษย่สมบัติ สวรรกสมบัติ และนิพพานสมบัติ ข้อธรรม <i ประการนั้น จักไค้ขยายกวามพอเป็นแนวปฏิบัติโกยร'งเฃป นัยกามลำคับคืบไป ธรรมอันเป็นเกาะเป็นทพงประการแรกคือ ความหมั่น นั้นกรงภับกำว่า อุฏฐานะ แปลว่า ความหมน ความขยน คือ มความเพยT ความพยายาม ความค่อ^ เป็นธรรมอันคับแรกทยู้ปรารถนากวามเจริญก้าวหน้า ปรารถนา กวามลำเร็่จกวามอยู่รอกปลอกภัย จะพึงสร้างเสริมใหมมั่นกงอยูในกน รืเกฝน ใหมกวามหมั่นขยันเพํ่มขนอยู่กลอกเวลา ทำ ไค้อย่างนั้ก็่จะทำให้กวามปรารถนา ลำ เร็่จไค้ ย่อมทำให้[ค้มนุษย่สมบัติ คือทริพย่คืนเงินทอง ยกคักติ เป็นค้น อย่างท พระพุทธองกํตรัสไว้ว่า ปฏิรูปการ ธุรวา อุฏฺจ?าตา วินฺทเต ธนํ ฯ (สํ.ส. ๑๕/๘๔๕) \"คนททำงานอันเหมาะสม เอางานเอาการ มความหมั่น ย่อมหาทรัพยโต้'' กรงภันข้าม หากไม่หมั่นไม่ขยัน ก็่กลายเป็นกนเกยจกร้าน คนเกยจครๆน ย่อมหาทรัพยโมใต้ ย่อมเจริญก้าวหน้าไมไต้ อย่างทภาษิกโบราณกล่าวไว้ว่า \"ทรัพย์นั้มิไกล ใคร!(ญญาไว หาไต้บ่นาน ทั่วแคว้นแดนดิน มสินทุกสถาน ผู้ใดใจคร้าน บ่พานพบนา\" ทใกหมูใกมกนเกยจกร้านมาก ทนั้นหมู่นั้นจะเคือกร้อนมาก เพราะก้อง กอยช่วยเหคือเจึอจาน คนเกยจคฑ้นเมอแท้(แค้นมากขั้น ไม่มคนช่วยเหลึอ www.kalyanamitra.org
ฅอ๕ $ ทชธับบทท! ; 1รอง รรรนอัน10น1ทไะพงพใ ก็'่ ๆะทิปีนขโมยหรือเปีนคนขอทาน ทำ ให้ผู้คนมู้รกกังวลไม่ปลอดภัย ถูกจับได้ ถูกดัดรนลงโทษ ก็่ด้องเปีนภาระเลยงดูและคอยดูแล คนเกยจคร้านมอันตราย และทำอันตรายรอบด้านทั้งแก'ตนและคนอํ่น อย่างเช่นร่างกายของตน ก็่ปล่อย ให้รกปรกกลนเหม็่น ปีวยไขกปล่อยไวไม่ดูแลรักษา บ้านเรือนทอยู่อาดัยก็่ ปล่อยให้รกรุงรัง มแต่ย่น ไม่ปิดกวาดเช็่ดถูให้ระอาด ชำ รุดผุพังก็่ทั้งไว้เช่นนั้น คนเกยจคร้านจะมลักษณะเช่นนั้จื้งไม่อาจหาทรัพย่ ไม่อาจพัฒนาให้เจริญ ก้าวหน้าได้ เพราะฉะนั้น ย่อมเป็นการสมควรทกนเราจะพึงสร้างสมความหมั่นความ ขยันใหมในตน ไม่ท้อแท้ถคถอย ประกอบขวนขวายในกิจการในหน้าทใท้สมบูรณ เช่นเป็นเค็่กกี่หมั่นกิกษาเล่าเรยนหาวิชาความรู้หาประสบการโน!นการประกอบ อาช่พ เป็นผูใหฤ]กี่หมั่นทำงาน หมั่นคิคหมั่นทำงานใหคให้สมบูรณมากยั๋งขน หมั่นหาทรัพย่หารายไท้เพั๋มขน และหมั่นประหยัคมากขน ทำ ไท้อย่างนั้!คชอว่า สร้างเกาะอันเป็นทพงไว่ไท้ ธรรมอันเป็นเกาะเป็นทพงประการท ๒ กิอ ความไม่ประมาท นั้น ตรงกับคำว่า อัปปมาทะ หมายถง การไม่เลินเล่อในร่งmปีนความดซงเปีนททั้ง แห่งประโยชนอันยงใหญ่ คือคิดถึงลิงทั้ปีนความด เปีนลิงรร้างรรรคื เปีนลิงท จะอำนวยประโยชนและความรขให้แก่ตน เมอเห็่นแก้วก็่ใล่ใจแรวงหาจัดทำ ขนด้วยความหมั่นด้วยความชยัน รร้างเรริมความคืนั้นๆให้เพมพูนแก'ตนมาก ยงขนเรอยๆ ประโยชนอันยงใหญ่ทั้งคดโลกและคดธรรมก็่จะติดตามมา ผู้ทไม่ประมาทอย่างนั้ ย่อมยดประโยซนทั้งสองนั้!วใด้ ย่อมบรรลุถึง ประโยซนทั้งสองนั้โดยไม่ยาก คือ ย่อมบรรลุถึงโภคสมบติ ได้แก่ ทร้ฑย่สิน ทั้คินไร่นา สิงของอันเป็นเครึ๋องอุปโภคบริโภค อันนำมาซงความสุขในชวิต ทั้อิงอาอัยอามิสสิงของ ซงเริยกว่า สามิสสุข และย่อมบรรลุถึงคุณสมบติ ได้แก่กุศลธรรม ความบริสุทธิ้กายวาจา อันนำมาซงความสุขในชวิตทไม่ด้อง อิงอาอัยอามิสสิงของ ซงเริยกว่า นิรามิสสข www.kalyanamitra.org
i ฅอ๖ 0 sssuaisinflin lau ๓ พระฆ!ทโพรวง ศไใารย์(ทอง ร น.ธ.๙) อัปปมาท::นย่อมเกิคขนไค้ด้วยอาสื'ยเหตุคือ มนสิการถงความเร่อม คือการเอาใจใสิคิดถงความเร่อมทจ๙เกิดฃ็้นเ!เนเบ็้องต้น กล่าวคือ เมอ กนเรากิคถึงกวามเร่อม กวามเคืยหาย และอันตราย อันจะมแก่ตน แก'พวกพ้อง แก่ทรัพย่สมบัติ จงไม่ประมาท เอาใจไล่บริหารจัคการให้เรยบร้อย ให้ปลอคภัย บัองภันมิให้เกิดซนไค้ และเมอกนเรากิคถงกวามเร่อมของอังฃารด้วยอำนาจ กวามชราหรือโรกภัยไค้ จึงไม่ประมาท หันหน้าแสวงหาทางสงบ รักษาสติ อารมณมิให้พ้งซ่าน อบรมกุศลให้เกิคบริบูรณ อัปปมาทะเกิดขนไค้ด้วยมนสิการ ถึงกวามเร่อมอย่างน จึงทำให้ยู้มอัปปมาทะนั้นมใจมั่นกง หาทพงให้แก่ตนไค้ คือทำตนให้เป็นทพึ่งแก่ตนไค้ รืเกพงตนเองไค้ด้วยกวามไม่ประมาทเนืองนิตย่ ก็่จะไค้ทพงทประเสริฐ ดังทสมเค็่จพระอัมมาอัมพุทธเจ้าตรัสไว้ว่า อฅตา หิ อตตโน นาโถ โก หิ นาโถ ปโร สิยา อตตนา หิ สุทนฺเตน นาถํ ลภติ ทุลลภํ ฯ (ชุ.ธ. ๒๕/๒๒) \"ตนแลเป็นทพงของตน คนร่นใครเล่าจะเป็นทพงไต้ เพราะว่าบุคคลมตน่!เกฝนคืแล้ว ย่อมไต้ทพงทโด้โตยยาก'' ธรรมอันเป็นเกาะเป็นทพงประการท ๓ คือ ความล่ารวมระว้ง นั้นตรงภับ กำ ว่า ล้ญญมะ หมายถึง ^วังท'?!/ฒัว'?จวไม่ประพฤติไม่ทำร่งทเป็น ทุจริต ไม่ประพฤตินอกลู่นอกทางเพอให้ตนไครับประโยชนืฃ้างเคืยว ไม่แลเหลยว ถึงกวามเคือดร้อนกวามย่งยากทจะเกิดขนแก'ผูอน และไม่พูดถ้อยกำทเป็น ทุจริต ถ้อยกำทโกหกมดเท็่จ ทำ ให้กนอนเข้าใจผิด ก่อกวามเถึยหายให้แก่เขา การระวังไค้อย่างนั้เป็นการบัองภันมิให้ตนไปทำชั่วพูดขั่วอันมโทษแก่ตนทั้งใน ปิจจุบันและอนากต กนทมสติล่ารวมระวังกายภับวาจานั้นเรืยกไค้ว่าเป็นกน มคืล เป็นกนรักษาคืล www.kalyanamitra.org
ฅอ๗ # niJsuunai 1รอง ธรรนอนใซนเกใะพงพใ อนว่าส์ลนั้นก็่คือการรกษากายกบวาจาให้ปราศจากโทษ ปราศจาก ความผิดทบณฑิตซนจรเพึงตำหนิว่าไม่ถูกต้องได้ เรั๋มต้นแต่ปรร;พฤติดปฏิบัติ ชอบ ไม่ปรร;กอบการอนทำไห้ผู้อึ๋นเดือดร้อนเส์ยหาย แลร;พูดจาแต่ถ้อยเป็น จริงเป็นรจจร; เป็นตำศุภาพน่าเชอถือไต้ อย่างนั้เป็นลกษณร;ของดืล ดืลนั้น ทุกคนศามารถปฏิบัติดามไค้ดามเพศภาวร;ของฅน เซ่นเป็นกฤหัสถืก็่รักษาดืล ๕ เป็นศามเณรก็่รักษาดืล ๑๐ เป็นภิกษุก็่รักษาดืล ๒๒ฟ โดยเฉพาร:กฤหัสถื หากรักษาดืล ๕ไค้เป็นนิจ ก็่จร;เป็นบันไดไต่เค้าก้าวขนdความเจริญก้าวหน้าไค้ เป็นเหตุไห้เกิดความเย็่นใจ เป็นทไว้วางใจของคนทั้งหลาย ทั้งเป็นเหตุไห้เจริญ ค้วยโภคสมบัติแลร;ศวรรคศมบัติไค้[ดยอัดโนมัติ ธรรมอันเป็นเการ;เป็นทพงปรร;การท d คือ ความtเกฝนอินทริย่ นั้น ดรงกับกำว่า ทมร; หมายถึง mrtเกใจให้มกวามสงบเย็่น ให้อยูในกรอบแห่ง สมาริ เปีนสจริต จนสามารถข่มใจไห้ ยับยั้งชั่งใจไห้ แลร:ปรับอารมณกวาม คิดให้กว้างโคยเท็่นอกเห็่นใจคนอน ห้วยการเอาใจเขามาให้ไจเราไห้ ใจทั่รกถึงรร;คับนั้Iค้ย่อมเป็นการคืแห้ ไจย่อมมั่นคงแน่วแน่ ไม่ว่าจร; ทำ การใดก็่จะไม่ห้อแห้ เจออุปสรรคอันใดก็่จะไม่ห้อถอยปล่อยวาง หาทางแก้[ข เอาตัวรอดไห้ผ่านพ้นไปไค้ ทั้งจะเป็นคนทมองโลกไนแง่คื มองค้วยความเป็น ธรรม ยอมรับความแดกต่างของแต่ละบุคคล ให้อภัยไค้ไม่จองเวรจองกรรมไค้ ทำ ให้อยู่อย่างสงบ ไม่วุ่นวาย ค้วยเหตุนั้สมเค็่จพระชินถึหพุทธเจ้าจงดรัสไว้ว่า จิตตสฺส ทมโถ สาธุ จิตุตํ ทนฺตํ สุขาวทํ ฯ {ฃุ.ธ. ๒๕/©รท) \"การtเกจิตเป็นความค จิดทั้!เกดืแล้วย่อมนำความสุข มาไห้\" www.kalyanamitra.org
i ฅ๐๘ ร sssuaisinflui lau CD พระบHไโพรวง ศไ'iไรย์(ทอง ดี น.ร.๙) ยูมปร็่๚าย่อม!เกจิฅฃองฅนให้สงบเย็่น ให้เห็่นอกเห็่นใฯกนอน ให้ช่วยเหลือ เก็้อกูลกนอนไค้ การทำเช่นนั้นเท่ากับเป็นการสร้างเกาะลือทพงให้แก่ฅน เมํ่อจิฅ ไครับการ!!กลืแล้ว กายกับวา'จาก็่ย่อมโอนคามจิฅลือสงบเย็่นไปค้วย 'จะทำ อะไร'จะพูคอะไรก็่เป็นประโยซนกล้อยคามกัน หากว่ามิไคป็กจิคมิไค!!กคน ก็่ 'จะกลายเป็นกนแฃ็่งกร้าว ไม่มกวามประพฤติชอบทางกายวา'จาใ'จ แม้'จะม วิทยามกวามรู้มากอย่างไร กี่ช่วยอะไรไมไค้มาก จิงยากท'จะเอาคัวรอค คังท พูคกันว่า ความรูฑวมห้วเอาคัวไม่รอด คังนั้ ฉะนั้น 'จำค้อง!!กจิค!!กฅน ให้ มกายวา'จาใ'จงคงาม สงบเย็่น ชงเป็นร่งทลืากัญมากส์าหรับผู้ค้องมเกาะไว้ เป็นทพงแก่คนทั้งในโลกนั้และโลกหน้า ธรรม <i ประการกังแสคงมานั้ เป็นเกาะลือทพงอันอำนวยผลลือมนษย่ สมบัติให้เกิคฃ็้นเป็นหลัก กล่าวลือมกวามหมั่นมกวามพากเพยรในการทำ กิ'จการ อันใคทํ่บังมิไค้ทำกี่เรั๋มค้นทำ อันใคททำแล้วกี่หมั่นกวคขันคูแลค้วย กวามไม่ประมาทนงเฉย ไม่ปล่อยปละละเลยให้เลืยหายเลือมทราม หมั่นน้องกัน มิให้กวามเลืยหายเกิคชน หากเกิคฃนกี่หมั่นแก[ชค้วยกวามไม่ประมาท กัยพิบัติ . อันใคกี่'จะไมไค้ช่องโอกาสท'จะเกิคขน เหมือนผู้กนทอยูในเกาะทนั้าสามารถท่วม ถึงไค้ กอยระวังน้องกันไว้ล่วงหน้าค้วยกวามไม่ประมาท ค้วยการช่วยกันกิค ช่วยกันทำ ทุ่มถมทล่มทฅานั้นให้คอนให้สูงฃ็้นคามลำกับบ้าง ค้วยการสร้าง ทำ นบสร้างแนวน้องกันไว้ล่วงหน้าบ้าง ค้วยการช่วยกันดูแลว่า'รุคไหน'จะเลืยง อันครายนั้าท่วม เ'พอไค้บอกกล่าวให้ผู้อยู่อาลัยเฅร้ยมยกย้าย'ข้าวชองให้พ้น ระกับนั้าบ้าง อย่างนั้ย่อมทำให้อยูในเกาะนั้นไค้อย่างปลอคกัย ในทางทสูงชน ผู้ปรารถนา'จะไค้สวรรกี่สมบัติหรือนิพพานสมบัติ กี่ สามารถบรรลุถึงไค้ค้วยอาลัยธรรม <i ประการนเป็นบันไคไต่เค้า ค้วยการหมั่น บำ เพ็่ญกุศลธรรม หมั่นสร้างสมบุญค้วยการให้ทานบ้าง รักษาลืลบ้าง เ'จริญ ภาวนาบ้าง ค้วยกวามไม่ประมาท ทั้งใ'จทำค้วยมืสติรูกัว ไม่เผลอไผลปล่อย www.kalyanamitra.org
ฅ๐๙ 0 nUsuunai iS^ 1รอง sssuouiOuimะพึ่งพา วันเวลาให้ล่วงไปเปล่า ล่ารวมกายวาจาให้บริสุทธิ้ไม่ก่อกรรมทำชั่วสร้างความ เคอคร้อนให้แก่ยูอน และ'!เกฝนจิฅให้เป็นสมาธิ สงบนง เมอจิฅสงบนงไค้แล้ว ก็่ฃยายวงออกไป สร้างปิญญาพินิจเห็่นแจ้งในล้งขารร่างกาย ให้เห็่นอนิจจัง ทุกขัง อนัตตา ของร'งฃาร แล้วถอนกวามยึคมั่นถือมั่นในร่งทมทเป็นออก จนกระทั่งจิตเป็นอิสระไม่มกังวล ไม่มกวามผูกพันยคฅิคอะไรต่อไป ทำ ไคคงน็้ ย่อมไค้บรรลุถืงสวรรกสมบัติและนิพพานสมบัติตามล่าตับไค้อย่างแน่นอน เพราะฉะนั้น ผู'้ มปร้ซาทั้งหลายเมํ่อปรารถนาความเจริญแห่งตน พังเพมพูนธรรมอันเป็นเกาะเป็นทั่พงทั้งล้ประการ คือความหมั่น ความ ไม่ประมาท ความสำรวมระวัง และความtiกฝนอินทริย เหล่าน!ห้มพร้อมอยู่ ในตน ก็่จะได้ม่ทั่พงอันหาได้ยากไว้พงพาทั้งในยามมชวิตอยู่และยามละจาก โลกนั้ไปแล้ว เพราะธรรมเหล่านั้ย่อมนำพาชวิตให้!ปล่สุคติ ไปล่ความสงบ เย็่นได้อย่างแน่นอน พระเตชพระกณพระธรรมมงกลเจคืย่ ท่านเป็นพระมหาเถระทเข้าใจเรอง ทพระพุทธองกทรงชั่งสอนนั้เป็นอย่างคื จึงสร้างเกาะกอธรรมอันเป็นทพง เพมพูนไว!นตน โคยฅั้งตนไว!นทางทถูกค้องค้วยค ไค้หมั่นสร้างสมบุญบารม ให้เพํ่มพูนฃนเรํ่อยมายาวนานค้วยกวามไม่ประมาท ล่ารวมระวังกายวาจา ม ล่ลาจารวัตรงคงามน่าเลอมใส และ'!!กจิตให้ผ่องแผ้วสงบเย็่น เห็่นอกเห็่นใจ กนอน ช่วยเหลือเกอกูลภิกษุสามเณร ติษย่ และกนทั่วไป ค้วยเมตตากรุณา- ธรรม นับเป็นแบบอย่างทคืงามน่าสรรเสริญยกย่อง น่าปลาบปลมใจล่าหรับ ติษย่และสงฆ!นพระอาราม ทมผ้นำทประกอบค้วยธรรม เป็นอยู่ค้วยธรรม และเป็นผู้นำทางธรรม ไค้อย่างสมบูรณ ตังไค้พรรณนามา ค้วยประการฉะนั้ อิมินา กตปุฌฺเฌน ขออำนาจพระราขกุศลทักขิณานุปทานบุญภิริยาท สมเค็่จพระเจ้าอยู่หัว ผู้ทรงพระคุณอันประเสริฐ ทรงพระกรุณาโปรคบำเพ็่ญ พระราชกุศล ๕๐ วันพระราชทานศพ พระธรรมมงกลเจดย่ จิตบุญญมหาเถระ www.kalyanamitra.org
i ๓00 ฿ sssuaisinnui lau ๓ พระบHาโพรวง ศไ'=nsu(ทองด ช.ร.๙) อคฅเจ้าอาวาสวัคอรณราชวราราม ณ โอกาสน ขอ'จงเป็นบุญนิธส์าเร็่จ ร'มฤทธิผลิฅวิบากสมบัติบังเกิคแค่พร:;เคซพรร:คุณในวัมปรายภพคามกฅินิยม สมคังพระราชปณิธานอุทิศชองสมเค็่'จบรมบ'พิฅรพรtราชสมภารเจ้า ผู้ทรง พระคุณอันประเสริฐ คลอคจิรัฐติกาล รับพระราชทานแสคงพระธรรมเทศนา ในทปธัมมกถา สมควรแก่เวลา ยุติลงค้วยประการฉะน ฯ ขอถวายพระพร สตํ ทฆายุโก สพุพ- สตตานํ สุขการณํ อสตํ ปน สพฺเพส์ ทุฦฃเหตุ น สํสโย ฯ ธรรมนฅิ. คนคมอายุยน เป็นเหตุให้สรรพอัฅว[ค้ความสุขค้วย แต่คนซั่วมอายุยืน กลับเป็นเหตุให้สรรพสิ'ฅวเคอคร้อน โคยไม่ห้องสงสิยเลย. www.kalyanamitra.org
แแ A สัจจธัมมกถา เรื่อง สัจจธรรม ความสัตย์ ส์จฺเจ อตฺเถ จ รมฺฒ จ อาหุ ส์นฺโต ปติฎfตาติ ฯ สํ.ส. ๐๕/๘๔๐ คน จักรับพรร;ราชทานถวายวิร'ชนาพระธรรมเทศนาใน ร'จจธ้มมกถา บฉลองพระเคชพระคุณประคับพระปิญญาบารม ในการททรงบำเพ็่ญ พระราชกศลพระบรมอัฐ พระบาทสมเค็่จพระปรมินทรมหาภูมิพลอคลยเคช บรมนาถบพิตร สมเค็่จพระบรมชนกาธิราชเจ้า ผู้ทรงพระคุณอันประเสริฐ ค้วยตั้งพระราชหฤทัยสนองพระมหากรุณาธิคุณสมเค็่'จพระบรมชนกนาถเจ้า ให้ครบถ้วนสมบูรโนถูกต้องคามหลักธรรมและโบราณราชประเพณเป็นส์าคัญ การพระราชพิธต่างๆททรงบำเพ็่ญเนองในการออกพระเมรุพระบรมศพสมเค็่จ- พระบรมชนกนาถเจ้าจึงยํ่งใหญ่ต้วยความพร้อมเพริยงแห่งสรรพกำลังชอง พระมหาโพธิวงศาจารย {ทองค) วัคราชโอรสาราม กรุงเทพมหานกร แสคง ในการทรงบำเพ็่ญพระราชกุศถพระบรมอัฐ พระบาทสมเคี่จพระปรมินทรมหาภูมิพลอคุอยเคซ บรมนาถบพิฅร ณ พระทํ่นั่งคุสิฅมหาปราสาท ในพระบรมมหาราชวัง วันทํ่ ๒ฝ คุสากม พุทธอักราช 1๓๕๖0 เวสา ๑๖.£ฑ0 น. www.kalyanamitra.org
k ๓0๒ 0 sssuaisinHin lau ๓ พระนHไโพรวง ศใใารย์(ทอง สิ ช.ร.๙) พร๓ซโอรส พระราชธิคา พระราซนัคคาทุกพระองก รวมถึงของรัฐบาล เหล่า เสวกามาฅย และราษฎรทุกหมู่เหล่า และล่าเร็่จสมบูรณ งคงาม สมพระเกยรติ เป็นทซนซมยินค สร้างกวามป็ติปราโมทยให้เกิคฃนแก่พสกนิกรซาวไทยและ ซาวค่างประเทศทุกภาคล่วนผูไค้เซ้าร่วมพระราซพิธและไค้ซมภาพอันมโหฬาร ยั๋งใหญไม่เกยเห็่นมาก่อน อันอักเป็นอนุสรณทประทับใา)และจารกไว้เป็นกวาม ทรงจำไปคลอคกาลนาน แท้จริง พรร;บาทสมเด็่จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถ มพิตร นั้น ทรงเป็นพระมหากษัฅริยฒูงใหญ่พระองก่หนั้งในโลก ทรงมพระราซ- กณูปการแก่พสกนิกรซาวไทยถ้วนหน้ามายาวนาน ทั้งทรงมพระราซคุณูปการ แก'ซาวโลกทั่วไป ค้วยพระปริซาสามารถ ค้วยพระจริยาวัฅรทงคงาม ค้วย พระราซคำริและพระราซคำรัสทกอปรค้วยคุณก่าค่อกวามเป็นอยู่ซองมวล มนุษย โคยเฉพาะเรองปากท้อง เรองการคำรงซวิฅอย่างพอเพิยง เรองการไซ้ ทรัพยากรธรรมซาติอย่างทนุถนอม และการพัฒนา การคูแลรักษา คลอคถึง การแก[ขปรับปรุงให้เกิคประโยซนอย่างคุ้มค่า โกรงการคามพระราซคำริทเกิคขน คลอคเวลาททรงกรองราซย่ ๗๐ พรรษา กว่า <1,000 โกรงการ เซ่นโกรงการ ฝนหลวง โกรงการเศรษฐกิจพอเพิยง ทเกิคฃ็้นค้วยพระปริซาสามารถและ กวามเถึยสละ ล้วนเป็นไปเพอปากท้อง เพอกวามอยู่คกินค และเพํ่อกวามอยู่ อย่างสุขสงบซองมวลมนุษย่ทั้งร้น และพระราซกรณยกิจคามโกรงการเหล่านั้น ล้วนเป็นแบบอย่าง เป็นศาสคร่พระราซาอย่างล่ากัญยํ่ง ชงสามารถถึบสาน ปฏิบัติค่อและบอกกล่าวทั่งสอนใหยึคเป็นหลักปฏิบัติไค้คลอคไป การทั่พระบาทสมเค็่จพระบรมนาถบพิครพระองกนั้นทรงบำเพ็่ญพระองก เป็นหลักชัย เป็นแบบอย่างทํ่ประเสริฐนั้นก็่เพราะทรงมพระราซอัธยากัยน้อมไป ในทางธรรม ทรงมธรรมเป็นหลักเป็นแนวนำ จํงปฏิบัติคามหลักธรรมทั้งร้น หลักธรรมททรงคระหนักและทรงปฏิบัติแน่วแน่อันเป็นพ็้นฐานล่ากัญเบองค้น คือ ลัจจธรรม www.kalyanamitra.org
ฅอฅ ส์พรับบทท! &โ^] [รอง สั!ารรรบ ทวไนสัตย์ อัน อัจจธรรม หรือ สิจจร; นั้นมกวามหมาย ๒ ประ:การ คือ หมายถึง คำ สิ'ตย อย่างหนั้ง หมายถึง ความสิตย อย่างหนั้ง ในทนั้ฃอรับพระ:ราชทาน วิสิชนาสิจจะ:ในกวามหมายว่าความสิฅย่ อัน ความสิตย นั้นคือ ความจริง สิงทมอยู่จริง สิงทเ!เนจริง กวาม อัฅย่นั้ฟ้นคุณธรรมคำกัญชองสุจริตซนกนคืทั้งหลาย กนคืย่อมยคมั่นอยู่ใน กวามสิฅย่ จะ:ทำอะ:ไรก็่ทำจริง จะ:พูคอะ:ไรก็่พูคจริง จะ:กิคอะ;ไรก็่กิคจริง ทำ พูค กิคฅรงและ:แน่วแน่ ไม่วอกแวกเฉไฉออกนอกลู่นอกทางง่าย กังนั้น กนคืจงไคืรับกวามคำเรืจสมหวังไค[ม่ยากนัก เพราะ;มอัธยากัยหนักอยู่ในสิจจะ: กวามสิฅย่ กังทพระวังกลเถระ:พระ;สาวกชองพระ:พุทธองกัโค้แสคงธรรมไว้ คอนหนั้ง ซงมปรากฏอยู่ใน ฃุททกนิกาย สุตฅนิบาต กังทไค้ยกมาเป็น นิกเฃปบทเทศนาว่า สจฺเจ อตุเถ จ ธมเม จ เป็นอาทิ ชงแปลไค้กวามว่า \"สิตบุรุษทั้งหลายเป็นผู้ตั้งมั่นแล้วในความสิตยทเป็น อรรถแลร!เป็นธรรม\" กำ ว่า สิตบุรุษ ในข้อธรรมนั้หมายถึง คนด คือคนทเป็นสิมมาทิฐ ม ความคิคเห็่นทถูกต้อง เป็นคนดทน่านับถือ มคุณธรรม ปรร;พฤติปฏินัติตน อยู่ในคืลในธรรม กนคืสิกษณะนั้จะมั่นกงอยู่กับกวามสิตย่ คือมกวามจริง ม กวามซํ่อตรง มกวามแท้แน่นอน อนความสิตยทนับว่าดแท้แน่นอนนั้น ย่อม ปรร;กอบด้วยสิกษณร;เด่น ๒ ปรร;การคือ เป็นอรรถแลร;เป็นธรรม ความสิตย่ทเป็นอรรถนั้นคือ เป็นปรร;โยซน่ อำ นวยผลเป็นกวามสุซ กวามสะควกสบาย สร้างสรรกักวามคำเรืจให้เกิคชน กนคืทฅั้งอยู่ในกวามสิตย แนวนั้ก็่คือ กนทมจิตใจงคงาม เถึยสละ บำ เพี่ญประโยชน่แก่ผู้อึ่นแก่สิงกม ค้วยแน่งปีนผลประโยชน่คํวนกัวแก่ผู้อนแก่สิงกม หรือเถึยสละกำสิงกาย กำ สิงสฅิปีญญาช่วยเหลอเกอกูลผูอนและสิงกมค้วยจิตใจทเอออาทร เช่นเป็น อาสาสมักร เป็นแพทยอาสา เป็นจิตอาสา เป็นค้น www.kalyanamitra.org
i ฅ©๔ sssuaisinHuiiau๓ พระมHใโพรัวงศใใไรย์(ทอง ดี น.ร.๙) ความสัตยทฟ้นธรรมนั้นคือ ฟ้นความถูกต้อง ไปผิคคืตธรรม ไม่ผิคกฎหมาย ไม่ผิคร^เบยบประเพณ เร็เนไปฅามครรลองคลองธรรม เป็นท ยอมรับกันโคยทั่วไป คนคืทฅั้งอยูในความกัฅยแนวนั้ก็่คือ คนทรักความถูกต้อง ทำ แค่ร่งทถูกต้อง มความยุติธรรม มความเทยงธรรม ปฏิบัติคนอยูในกรอบ ความคืงาม ยคมั่นอยูในกฎหมาย ไม่หลบเลยงกฎหมาย ไม่อากัยซ่องโหว่ของ กฎหมายหาผลประโยชนส่วนคัว คนฑตั้งอยูในความสัตยทั่เป็นอรรถแลร;เป็นธรรม ทำ พูด แลร;คิดอะไร ก็่เป็นปรร;โยซนแลร;ถูกต้องเช่นนั้ เพราร;ฉร;นั้น คนทั่ปฎิบัติไต้เช่นนั้จงนบไต้ว่า เป็นคนดแท้ คนทมั่นคงอยูในสัจ'จะความสัฅยนั้นจัคว่าเป็นคนมเกยรติ ย่อมไครับ เกยรติ คือมชอเคืยงเกยรติคุณทผู้คนยกย่องสรรเ(1ริญ คังทสมเค็่จพระสัมมา- สัมพุทธเจ้าฅรัสไว้ว่า สจ.เจน กิตฺต ปปฺโปติ ฯ (สํ.ส. ©๕/๘๔๕) คนเราย่อมได้ร้ไมเกยรติเพราร;มสัจจร;คือความสัตย. ผู้ทํ่ฅั้งมั่นอยูในความสัฅย่โต้แน่วแน่นั้นจะมสักษณะเค่นเห็่นประจักษ ๒ ประการคือเป็นคน จริงใจ กับ จริงจัง จริงใจ นั้นคือบริสุทธิใจ สุจริค่ใจ ชํ่อสัฅย่ซอฅรงแน่วแน่ คนทมความ จริงใจจะเป็นคนทั่ซํ่อสัฅย่ซํ่อฅรง เป็นคนฅรงไปฅรงมา ในการอยู่ร่วมกันอย่างม สันตินั้น ผู้อยู่ร่วมกัน'จำต้องมความจริงใจค่อกัน มความจริงใจค่อทุกสิงทเป็น บริบทเกยวข้อง คือ จริงใจต่อธรรม จริงใจต่อบุคคล จริงใจต่อหน้าทั่ จริงใจ ต่อสังคม แลร;จริงใจต่อสิงแวดล้อม คนทั่จริงใจต่อธรรม ก็่จะตั้งใจทำคื ตั้งใจละเว้นไม่ทำความชั่ว ตั้งใจ ปีกฝนจิตใจให้อ่อนโยน มความเมฅฅากรุณาเป็นพนฐาน www.kalyanamitra.org
ต๑๕ 0 gmsuufim ?/KS 1รอง สั ใจธรรบ ควไชสัตย์ คนทจริงใจต่อบุคคล ก็่จะ:ตั้งใจซอสิ'ฅยชอฅรงฅ่อกนทเกยวข้อง ฅ่อบิคา มารคา ต่อศามภรรยา ต่อบุฅรธิคา ต่อมิครสหาย ช่วยเหลือเกอถูล เอออาทรกัน คัวยนํ้าใจทบริสุทธิ้ คนทจริงใจต่อหน้าท ก็่จะ:ตั้งใจทำหน้าทคัวยกวามซอสิ'ฅย คัวยกวาม รับผิคซอบ คัวยกวามบริสุทธิยุติธรรม ไม่ทอคทงหน้าท ไม่ปล่อยปละ:ละ:เลย หรือทำหน้าทบกพร่องคัวยกวามไม่รับผิคซอบ คนทจริงใจต่อสิงคม ก็่จะ:ตั้งใจช่วยเหลือสิ'งกม ทำ หน้าทเป็นอาสาสมักร คัวยใจบริสุทธิ คัวยจิฅเมฅฅากรุณา ทำ คัวเข้ากับสิ'งกมไคัให้อกัยไคัไม่เอารัค เอาเปรยบสิ'งกมเพอผลประ:โยซนล่วนคัวจนเกินพอค คนทจริงใจต่อสิงแวดล้อม ก็่จะ:รักสิงแวคล้อม รักธรรมซาติ ไม่ว่าจะ: เป็นแม่นํ้า ลำ กลอง ถนนหนทาง คันไม้ สวนสาธารณะ: คลอคถงสิงของ ต่างๆทเป็นสาธารณประ:โยซนร่วมกัน มกวามหวงแหนห่วงใย ตั้งใจดูแลรักษา น้องกันอันคราย ไม่ทำลาย ไม่ปล่อยให้เป็นไปคามยถากรรม รวมความก็่คือว่า คนทมความตั้งใจและ:ทำได้ดงน ชํ่อว่ามความจริงใจ ความจริงใจเกิดขนไค้จากใจทมความซอล้ตยและ;ความซึ๋อตรง ใจทซึ๋อล้ตย ก็่จะ;เป็นเหตุให้มความจริงจงกับสิงนั้นตามมา จริงจง นั้นลือ แน่วแม่ มั่นคง ไมโอนเอนกลบไปกล้บมา หมายกวามว่า มกวามบุ่งมั่น กล้าหาญ มจิคผูกพันอยู่กับการกระ:ทำทคนคัองการให้ลำเร็่จโคย ไม่ปล่อยวางทอคทง กนทมกวามจริงจัง ก็่ลือกนทมวิริยะ: มธุคสาหะ: มขันติ มกวามพยายาม อันเป็นหลักธรรมพนฐานในการทำกิจกรรมต่างๆ กนทมกวามจริงใจเป็นพ็้นฐานเบองคันนั้น เมอต่อยอคคัวยการทำอย่าง จริงจัง โคยไม่ย่นย่อ ไม่ท้อแท้ไม่ปล่อยวางกลางคัน เอาจริงเอาจังคัวยจิคใจ www.kalyanamitra.org
k ฅ๐๖ # ธรรบส!รโ!น!น!ฟบ ๓ พระฆHใโพริวงศา!ใรย์(ทองดี ช.ร.๙) ทแน่วแน่มั่นกง ก็่จ2ศามารถสร้างน่นให้เกิคเป็นรูปธรรมขนมาไค้ แม้จร;มกวาม จริงใจ แต่เป็นจริงใจเพยงกำพูคหรือกิริยาทแสคงออกมาใหรู้ว่าจริงใจ แคไม่ม กวามจริงจังในการปฏิบัติในการกรร:ทำ กวามจริงใจนั้นก็่ใร้ผล ไม่เกิคปรร:โยซน่ อันใค เพราร:ฉร:นั้น กวามจริงจังจึงเป็นเกรองมือสืบสานกวามจริงใจให้เกิค เป็นรูปธรรม เป็นปรร:โยซน[ค้อย่างแห้จริง คนดทั้งหลายเ!เนผู้ตั้งมั่นอยู่ในความสัตยอันเป็นอรรถคือเป็น ปรร;โยซน่ แลร;เป็นธรรมคือมืความถูกต้องชอบธรรม โดยปฏิบัติบริหาร จัดการภารร;ต่างๆ ต้วยความจริงใจแลร;ต้วยความจริงจัง สร้างสรรคืสิงท เป็นปรร;โยซน!ห้เกิดแก่ผูอึ๋นไต้อย่างต่อเนึ๋อง มืต้วอย่างให้เห็่นกนไต้แต่อคืต จนถงบัจจุบัน คนทมืสักษณร;เช่นนั้แลร;ปฏิบัติไต้เซ่นนั้จัดว่าเป็นคนคืแห้ ตรงกันข้าม ^คแmยกย่องกันว่าเป็นศนศตามรูปแบบทํ่กำหนศให้มอง หรอแม้จ:!มศวามาริงใจมความจริงจังต่อการกร::ทำ แต่ผู้นั้นฃาตคุณลักษณะ ทำ กัญคือขาตความลัตย่ มการกระทำทไม่เป็นประโยชนต่อผูอน ต่อลังคมโศย ภาพรวม แคะการกระทำนั้นๆ ฃาตความถูกต้องชอบธรรม สร้างปีญหาสร้าง ความเคือศร้อนให้เกิศแก่^นโศยไม่ถูกต้องโศยไม่ชอบธรรม ม้นั้นกไม่อาจ นับไต้ว่าเป็นคนคืโดยชอบธรรมตามความเป็นจริงไต้ เมิ่อเป็นอย่างนั้ ก็่ไม่อาจ ไดรับการยกย่องสรรเสริญ ไม่อาจไดรับการยอมรับจากคนตอนโดยทั่วไป แสะ ไม่อาจเป็นทรักเป็นmคารพนับถือจากคนทั่วไปไต้ พรร:บาทสมเค็่จพรร:ปรมินทรมหาภูมิพลอคุลยเคช บรมนาถบพิตร ผู้ทรง พรร:กุณอันปรร:เสริฐ ทรงปรร:กอบค้วยพรร:อัจจธรรมนั้อย่างลกซ^ง ทรงมั่นกงอยู่ ในพรร:กุณธรรมฃ้อนั้คลอคพรร:ซนมายุ จึงทรงยืนหยัคอยู่กับการบำเพ็่ญพรร: ราซกรณยกิจน้อยใหญ่อย่างมั่นกงคลอครร:ยร:เวลายาวนาน ทรงสร้างสรรกํ โกรงการคามพรร:ราซกำริไว้มากมายมหาศาล เป็นแบบอย่างเป็นแบบแผน ทมั่นกง ถูกค้อง แลร:เป็นปรร:โยซน่แก่มหาซนซาวโลก เป็นทประ:จักษซัคแก่ www.kalyanamitra.org
ฅ©๗ m สัพรบบทai 1รอง สั ใใ ธร รน คว ใบ สั ตย์ ฟ้ายฅาซาวโลกทั้งปวง ฟ้นทภากภูมิใจของพฟ้กนิกรชาวไทยถ้วนหน้าทไค้ เกิคมาอยูใฅ้ร่มพร:;บารมของพระองก ทุกกนทุกหมู่เหล่าจงมอบกายมอบใจ ถวายฅนเป็นข้าละอองธุลพระบาท ถวายความจงรักภักคมั่นกงฅลอคกาล น เป็นร'กฃพยานไค้ว่า ผู้คำ รงมั่นกงอยูในรจจธรรมทเป็นประโยขนและถูกค้อง กามทำนองกลองธรรมนั้น ย่อมไคํรับผลประจักษซัคเจน เป็นทเการพศรัทธา เป็นทนับถือยกย่อง และเป็นผู้กวรแก่การระลึกถืงค้วยกวามปลาบปลมกลอกกาล บัคนั้แม้พระบาทฟ้มเคี่จบรมบพิกรพระราขฟ้มภารพระองก่ ผู้ทรงพระคุณ อันประเฟ้ริฐล้นเกถ้าล้นกระหม่อม จะเฟ้คี่จล่ฟ้วรรกาลัยแล้ว แต่พระราขคุณูปการ อันประเมินก่ามิไค้ทไค้ทรงฟ้รัางฟ้รรก!ว้ยังคำรงอยู่ เพอให้พฟ้กนิกรไทย ทุกหมู่เหล่าลึบฟ้านต่อ หรือปรับเปลยนให้เหมาะฟ้มแก่กาลฟ้นัยไค้ประโยขนั กามเจกนารมณมากขน ข้อลัากัญอยู่ทเมอทุกกนต่างยอมรับศาฟ้ฅร่พระราขา ประการต่างๆไว้เหนือเกล้าเหนือกระหม่อม ต่างพร้อมกันทั้งใจว่าจักคำเนินกาม รอยพระยุกลบาทจนกว่าซวิกจะหาไม่ อันนั้เป็นจุคเรํ่มค้นทลัากัญ แต่หาก ไค้แต่เอ่ยอ้างค้วยวาจา เมั่อกาลเวลาผ่านไปก็่จะเลึอนหายไปจากกวามทรงจำ ไม่เกิคประโยขนือันใคงอกเงยขนมาให้เห็่นเป็นรูปธรรมไค้ ค้วยเหตุนั้จำค้อง เรํ่มค้นปฏิบัติกามกวามทั้งใจ กือทั้งอยู่ในลัจจธรรม โคยมกวามลักย่ มกวาม จริงใจ และมกวามจริงจังอยู่ในหัวใจ อย่างเซ่นทพระบาทฟ้มเคี่จบรมบพิกร พระราขฟ้มภารพระองกั ผู้ทรงพระคุณอันประเฟ้ริฐไค้ทรงมและทรงทั้งมั่นอยู่ กลอกเวลา ก็่จักทำให้!คซึ๋อว่าคำเนินรอยกามพระยุกลบาทแห้จริง และจักเกิค ประโยขนืทั้งแก่กนเอง แก่ลังกม และแก่มนุษยชาติโคยภาพรวม ทั้งนั้เพราะไค้ ทั้งอยู่ในลัจจะอันเป็นอรรถและเป็นธรรมกังทั้รับพระราชทานถวายวิลัขนามา ค้วยประการจะนั้ เทฟ้นาปริโยฟ้าเน ในทฟ้คแห่งพระธรรมเทศนานั้ ขอถวายพระพรฟ้มเคี่จ พระเจ้าอยู่หัว ผู้ทรงพระคุณอันประเฟ้ริฐ และฟ้มเคี่จพระนางเจ้าฯ พระบรม- www.kalyanamitra.org
i ฅ๑๘ $ ธรรบส!ร!ททนแล่บ ๓ พระบ!ทโพธวงศา!ใรย์(ทอง ดี ll , ร.๙) ราชินนาถ ขอให้ฟค็่จคำรงเป็นทพง เป็นหลักชัย แล2เป็นหลักใ'จ ปกเกล้า ปกกระหม่อมปวงพสกนิกรซาวไทยให้มกวามอบอุ่นใ'จ มกำลังใ'จท'จะคำ เนิน ซวิฅอย่างเป็นสุขกังเซ่นสมัยสมเค็่'จพระบรมชนกนาถฅลอคกาลนาน อิมินา กตปุฌฺเฌน ราชาทิทยฺยวาสินํ ปรมินฺทมหาราชา นวโม จกกิวํสิโก มหาปุฌโฌ มหาเตโช มหาปฌฺโฌ มหพฺพโล ทยุยวาสินมตฺลาย สพพกิจจานิ ปูรยิ อิธ นนฺทติ ภิยฺโยโส เปจจ เอวมฺจ นนฺทตุ สคฺเค สุขฌจ ปปฺโปตุ จิรํ ทิพพฌฺจ สมปทํ ฃิปป้ คจฉตุ '๒ฦฃสฺส ปารํ ว ปจฺฉิเม ภเว ฯ และห้วยอำนาจพระราชกุศลบริสุทธิ้ทสมเค็่จบรมบพิตรผู้ทรงพระคุณอัน ประเสริฐ และเหล่าพสกนิกรซาวไทยทุกหมู่เหล่าไห้บำเพ็่ญแล้วนิ้ ขอพระบาท- สมเค็่จพระปรมินทรมหาราชา รัชกาลท ๙ แห่งพระบรมราชจักริวงล่ ผู้ทรง พระบุญญาธิการยํ่งใหญ่ ทรงมพระปริชาสามารถ ทรงพระบรมเตซาพลาบุภาพ อันหาทสุคมิไห้ไห้ทรงบำเพ็่ญสรรพพระราซกรณยกิจไว้มากมาย ทรงบันเทิง อยู่โลกนอย่างยํ่งใหญไพศาล แม้เสต็่จละไปล่สวรรกาลัยแล้วก็่ชอไห้ทรงบันเทิง เซ่นน็้ ซอไห้เสวยทิพยสุชทิพยสมบัติในสุกติภพฅลอคกาลนาน และซอไห้บรรลุ ถงปิงแห่งพระนิพพานในบัจฉิมภพตามพระราชปณิธานประสงกโคยพลัน รับ พระราชทานถวายวิลัซนาพระธรรมเทศนาในลัจจธัมมกถา สมสมัยไห้เวลา ซอ ยุติธรรมกถาลงกงไว้แต่เพิยงเท่าน็้ ฯ ซอถวายพระพร www.kalyanamitra.org
www.kalyanamitra.org
o เอกธมมกถา เรื่อง อำนาจจิต จิตฺเตน นยติ โลโก จิตฺเตน ปริกสุส์ติ จิตฺตสุฟ้ เอกธมมสฺส สพุเพว วสมนฺวคูติ ฯ สํ.ส.๑๕A)๒ บคนจักไค้แศคงพระธรรมเทศนาใน เอกธ้มมกถา อนโมทนาบุญบารมธรรม และ:ชญญาจัมมาปฐบัฅิ ในการทวัคประ:ยุรวงศาวาส คณะ:ศงฟ้ อุบาสก อุบาสิกา และ:สาธซนคนของวัค ซงมท่านเค้ากุณพระ:พรหมบัณฑิต เค้าอาวาส เป็นค้นเป็นประ:ธาน ไค้พร้อมใ'าบันจัคงานสมโภชพระ:อาราม ๑๘๗ ป็ขนในวันน็้ โคยเป็นพิธทฟ้ากัญอันเป็นเอกลักษณของวัค คือมการสมโภชคิคค่อกันมา ทุกป็ ทั้งนิ้เพอประกอบบุญอันยั๋งใหญ่อย่างต่อเนอง ชงเป็นวิลัยฃองบัณฑิฅซน คนฉลาคทไม่คระหนเสิยคาย ปรารภเหตุอย่างใคอย่างหนงแล้วฟ้าบุญเพํ่อ เพั๋มพนบุญกิริยาแก่คน ตามพระพทธนิพน๓ว่า ยงกิฌฺจารมมณํ ฑตฺวา ทชฺซา พระมหาโพธิวงfiาจารย (ทธงสื) ว?)ราขโอรฟ้าราม กรุงเทพมหาน?]ร แฟ้ศงในการฟ้มโภซพระอาราม ๑๘๗ ปี ว'?)ประยุรวงสาวาฟ้ วรวิหาร วันองการ ท ๑๓ มกรากม พ.ส. ๒๕๕๘ เวฟ้า 0๙.๓0 น www.kalyanamitra.org
i ฅ๒๒ sssuaisinflui lau ๓ พระฆHไโพรวง ศใใใรย์(ทอง ดี ช,ร.๙) ทานมมจฉร - คนทั่!ม่ตรรเหนทำเหตุอย่างหนงให้ฟ้นอๆรมณเครึ๋องยดถือ แล้วให้ทาน คังนิ้ ชงนับเป็นเรองทน่ายกย่องในนํ้าใจแลร;กวามกิค เพราะ:ม ความรู้ มกวามพร้อม และ:มกำลังทํ่จะ;จัคทำฅ่อเนองไค้ การสมโภชวัคหรือพระ:อารามนั้นมเป้'าหมายลักกำกัญหลายประ:การ เซ่น เพึ๋อประ;กาศความกำเร็่จ ทโด้สร้างวัดมาจนเป็นวัดเต็่มรูปแบบ หรือ ไค้บูรณะซ่อมแชม ไค้เพํ่มเติมเสริมต่อจากของเคิมจนกำเร็่จสมบูรณน่าชนใจ อกประการหนงสมโภชวัคขน เพอประ;กาศถืงศร้ฑธา ปีญญา ความพร้อม ความสามารถ และกำล้งของผู้สร้างวัด ของผู้บูรณะปฏิล้งขรถร หรือผู้ สร้างเสริมเติมเต็่มให้โลกได้รู้ เพราะหากไมมร่งเหล่านั้และไม่ทุ่มเทกันจริงจัง แล้วย่อมไม่อาจทำให้กำเร็่จสวยงาม เป็นแบบอย่าง และเป็นอนุสรโน!ห้กน รุ่นหลังไค้เรืยนรู้ไค้ทำคาม และไค้คูแลรักษากันต่อไป และการสมโภชวัคเซ่นนั้ ยังเป็นการประกาศให้โลกได้รู้ถืงความมั่นคงของพระพุทธศาสนา ค้วยว่า เมอมยู้สร้างวัค มผู้บูรณะวัคหรือเติมแต่งวัคให้สวยงามไค้สมบูรโนจนสามารถ สมโภชวัคไค้นั้น แสคงว่าพระพุทธศาสนามกวามมั่นกง เจริญรุ่งเรือง ยู้กนม ศรัทธาเลอมใส เข้าใจเข้าถึงพระพุทธศาสนา และมกวามเถึยสละเพอพระพุทธ- ศาสนาจนสร้างวัค บูรณะวัค เติมแต่งวัคจนสมโภช เชิญชวนยู้กนให้มาร่วม อนุโมทนาบุญกันไค้ การสมโภชวัคเซ่นทปฏินัติจัคทำกันทวัคประยุวงศาวาส ในโอกาสนั้ก็่อยู่ในขอบเขฅกังพรรณนามาเซ่นเคยวกัน วัคประยุรวงศาวาส เป็นวัคใหโม่ เป็นวัคกำกัญมาแต่อคฅ มฐานะเป็น พระอารามหลวงชั้นโท สร้างขนโคยเจ้าพระยาบรมประยูรวงต่ (ติส) หรือ สมเค็่จเจ้าพระยาองก!หญในตระกูลบุนนาก เมอกรั้งยังคำรงตำแหน่งเป็น เจ้าพระยาพระกลัง ท่านไค้อุทิศสวนกาแฟข้างบ้านสร้างเป็นวัคขน เมอป็ พ.ศ. ๒๓๗๑ แล้วถวายเป็นพระอารามหลวง เมั่อป้ พ.ศ. ๒๓๗๕ ในสมัย รัชกาลท ๓ ชงพระองก!ค้พระราชทานนามพระอารามแห่งนั้!ว้ว่า วัดประยุร- วงศาวาส www.kalyanamitra.org
๓๒ฅ ^ โอทธับบทm \" Iรอง อำนาใจิฅ อาการ๙ถานท เสนาฟ้นะ และสิงก่อสร้างส์ากัญในพระอาราม เซ่น พระอุโบสถ พระวิหารหลวงพ่อพระพุทธนาก กุฏิสงฆ สระเต่าเขามอ เป็นตัน ทยังกงอยู่เป็นประจักษถี้งบัคน ไครับการสถาปนาขนมาแต่สมัยนั้น และไm^บ การบูรณะซ่อมแซมมาโคยลำกับ ลำ หรับพระบรมธาตุมหาเ'ไเคยนั้น เมอมงานสมโภชวัคกรั้งแรกยังสร้าง ไม่ทันแล้วเสร็่จ ตัวยสมเค็่จเจ้าพระยาฯ ถึงแก่พิราลัยเสิยก่อน ต่อมาสมเค็่-จ- เจ้าพระยาบรมมหาศรสุริยวงกั (ซ่วง) บุฅรชายกนโคของท่านไครับซ่วงสร้างต่อ จนลำเร็่จในสมัยรัชกาลท <i ต่อมาพระบรมธาตุมหาเจคยใตัชำรุคเอยงลง และ อยูในสภาพทรุคโทรมมาก ในป็ พ.ศ. ๒๕<1๙ ท่านเจ้าตุณพระพรหมบัณฑิต สมัยคำรงสมณกักคิทพระธรรมโกศาจารยั เจ้าอาวาส จึงไตัคำเนินการบูรณะ ปฏิลังขรณเป็นการใหญ่ ทำ ใหมั่นกงแซ็่งแรงขน โคยปรับโกรงสร้างองกัพระเจคยั ททรุคเอยงใหนั้งฅรงในแนวคํ่ง โคยใซ้หลักวิชาการทั้งเก่าและใหม่ผสมผสาน จนไตัรูปพระเจคยัทสวยงามสง่าเหมือนเคิม จนในป็ พ.ศ. ๒๕๕๓ สมากม สถาปนิกสยาม ในพระบรมราซูปถัมภ ไตัมอบรางวัลอนุรักษสิลปะสถาปิฅยกรรม คเต่น ในประ๓ทอาการปูชนยสถานและวัควาอารามให้แก่ทางวัค ตัวยเล็่งเห็่นว่า พระบรมธาตุมหาเจคยัเป็นอาการทมืตุณก่าทางมรคกสถาปิฅยกรรมของชาคิ ในทางประวัติศาสฅรัและสกาปิฅยกรรม นับเป็นเกยรติประวัติทั้น่าซิ่นชมยินค และเป็นตันแบบในการบูรณปฏิลังขรณพุทธสถานของวัคต่างๆ ต่อมา วัคประยุรวงศาวาส มืซิ่อทนิยมเร้ยกกันมาแต่โบราณอกอย่างหนงว่า วัดรั้วเหล็่ก เพราะรั้วตัานหน้าพระอุโบสถ พระวิหาร และศาลาการเปรยญตัาน ทิศเหมือเป็นรั้วททำจากเหล็่กเป็นรูปอาวุธโบราณ กือ หอก คาบ และขวาน ซิ่งรั้วเหล่านั้ทำมาจากประเทศอังกฤษ เป็นเหตุใหวัคมืซิ่อเรยกว่าวัครั้วเหล็่ก อกซิ่อหนึ่ง ซิ่งรั้วนั้ก็่ยังรักษาไว้อย่างค เป็นเอกลักษณของวัคอกอย่างหนึ่ง www.kalyanamitra.org
k ฅ๒๔ ฿ sssuaismfim lau ๓ พระนHใโพริวง ศใใไรย์(ทอง ดี น.8.๙) ทแสคงมาข้างต้นเป็นส่วนหนงของพระอาราม เกยวกับสิงปลูกสร้างท วิจิตรงคงาม เป็นหลักฐานมั่นกง และคำรงอยู่เป็นประจักษ เป็นเหตุให้มการ สมโภชพระอารามต่อเนองกันมา ส่าหรับส่วนทเกยวกับการปกกรองพระอาราม การส่กษาเส่าเร้ยน การเผยแผ่พระพุทธศาสนาในรูปแบบต่างๆ ททางวัคไต้ บริหารจัคการอย่างเป็นระเบยบ เป็นระบบ และมรูปแบบทส่บต่อกันมาต้วยคํ มประสิทธิภาพ 'จนเป็นทประจักษกันโคยมั่วไปยังมอกมาก แต่ของคไว!ม่แสคง ไนทน กังนั้นการสมโภชพระอารามน'เท่ากับประกาศกวามส่าเร็่'จอนลัมฤทธิผล ต่อเนองมาไนการบริหารจัคการวัคของพระสงฆและกนของวัค โคยมท่าน เจ้าคุณพระพรหมบัณฑิต เป็นต้นเป็นประธาน การทเจ้าพระยาบรมประยูรวงส่ (คิส)ไต้สร้างวัคนั้ฃนไว้เป็นอนุสรณชวิค ของตนของวงส่ตระกูลก็่คํ การทอคํตเจ้าอาวาสของวัคและเจ้าอาวาสรูปปี'จ'จุบัน ตลอคถงชาววัคไนอคํตและปีจ'จุบัน ไต้ช่วยกันบูรณปฏิลังขรณ ช่วยกันเสริมสร้าง ช่วยกันดูแลรักษาวัคอันเป็นมรคกตํ้าต่านั้!ว้เฅ็่มกวามสามารถจนไห้มงาน สมโภชไต้เช่นนั้ก็่ค เกิคขนและเป็นไปต้วยคํกังนั้ก็่เพราะทุกท่านมจิฅทํ่เหนยวแน่น มั่นกงไนสิงททำ ต้วยมองเห็่นประโยชน่ทขัคเจนทั้งประโยซน่ตน ประโยชนลังกม และประโยซน่พระพุทธศาสนา เพราะจิตเป็นธรรมชาติทมพลัง'อำนาจทั้ง ไนทางสร้างสรรกและไนทางทำลาย เมอไช[ปไนทางสร้างสรรกก็่จะเกิคคุณ เกิคประโยชน่มหาศาล และโลกเรากี่เป็นไปตามอำนาจของจิตนั้รํ่าไป ตกอยู่ ไนอำนาจของจิตนั้อยู่ตลอคเวลา ถูกนำถูกชุคกร่าไปไนทิศทางต่างๆต้วยจิต อยู่ตลอคเวลา กังทํ่องกัสมเค็่จพระลัมมาลัมพุทธเจ้าตรัสตอบเทวคาททูลถาม ตามพระบาลทปรากฏอยูไนสกาถวรรก ลังยุตตนิกายทํ่เซิญมาเป็นนิกเขปบท เบองต้นนั้นว่า จิตฺเตน นยติ โลโก เป็นอาทิ ชงแปลเป็นกวามไทยไต้ว่า \"โลกถูกจิตนำไป ถูกจิตฉุคคร่าไป โลกทั้งหมดเป็นไป ตามอำนาจของธรรมอนหนงคือจิต' www.kalyanamitra.org
๓๒๕ 0 lonsuunm 1รอง อำนใใใต ฅามพระ:บาลน สมเค็่'จพระ;ผูมพระ:ภากเจ้าทรงซแจงให้เห็่นว่า โลกคือ มนุษยชายหญิงทเรยกเฅ็่มรูปว่ามนุษยโลกนั้น ฅกอยูในอำนาจกาพังคับบัญชา ของรทมอันหนงคือจิต จิศเปีนผู้บัญชาการมนุษย!ห้เป็นไปตามอำนาจ นำ ไป ฉุตคร่าไป ไมให้อยู่นงไต้นำ ไปไหนนุตคร่าไปไหน นำ ไปนุตคร่าไปยู่นุคติก็่โต้นำ ไป ยู่ทุคติกไต้ นำ ไปยู่พระนิพพานกโต้ อยู่ทจิตไตรับการปรุงแต่งอย่างไร เมอ รู้เห็่นอย่างนั้แล้วจิงทรงแนะนำไหรักษาจิต ต้มครองจิต ปีกฝนจิตให้เข้มแข็่ง ให้มคุณภาพ มิใทจิตตกอยู่ภายใต้อำนาจฝายตํ่าชงเรยกว่ากิเลลประเภทต่างๆ คือความโลภ ความโกรธ ความหลง เพราะเมอจิตตกอยูในอำนาจกิเลปอย่างใต อย่างหนงแล้ว ก็่จะชักนำนุตคร่าเจ้าของจิตไปในทางทผิตในทางทชว จิตท คุม้ครองรักษาและปีกฝนศแล้วย่อมเป็นจิตตั้งมั่น มความมั่นคง ไม'หวั่นไหว ง่าย มพคังมคุณภาพ ปามารถนำพาคร่าไปในทางทถูกทตไต้ คำ ว่า จิต นั้นคือ ความรู้ความนกคิดทมอยู่โดยธรรมซาตี่ในตวมนุษย ฟ็นฃองกู่กันกับฅัวฅนหรือร่างกายของมนุษย ด่างทำหน้าทอากัยชงกันและ:กัน โคยฅลอด ร่างกายทำหน้าทํ่อย่างหนงคือคำรงกัณฐานทํ่เรืยกว่าว่ารูปอยู่ จิฅ ทำ หน้าท อย่างคือรับ จำ กิค รู้ ชงภาษาพระ:เรืยกว่า เวทนา กัญญา กังขาร วิญญาณ รวมเป็น ๕ อย่าง เรืยกว่า เบญจขันธ เมอรูปร่างกาย กับจิฅรวมกันอยู่เราเรืยกว่า ชวิด เมํ่อแยกกันเราเรืยกว่า ดาย อันนั้เป็น ลักษณะ:ทรู้กันโคยทั่วไป จิดนั้แหลร;ทั่เ!เนธรรมกัาคญอย่างหนงซงมอำนาจมพรงงานเข้มแข็่ง สามารถนำพาคนเราให้ฃนสวรรคกใด้ ดกนรกกใด้ หรือให้เกิดในอบายภูมิ อึ๋นก็่ได้ ท่านจิงแนะ;นำคนให้tเกฝนจิด รักษาจิดไว้มิให้ดกอยู่ในอำนาจ ครอบงำของกิเลสต่างๆทั่อำคญ คือโลภร; ความโลภ โทสร; ความโกรธ โมหร; ความหลง กลไกอำหรับtเกฝนจิดทั่อำคญคือบุญกิริยาว้ดถุ ๓ ปรร;การคือ ทาน คืล แลร;ภาวนา เมอ'รกให้ทาน รืเกเคืยสละ: เออเฟ้อเผอแผ่ ไปคระ:หนเคืยคาย www.kalyanamitra.org
i ฅ๒๖ ๙; sssuaisinHui lau ๓ พระน!1ใโพรวง ศใใใรย์(ทอง ดี น.ร.๙) แกช่วยเหลือเกือกูลผูอืนฅามกำลัง ทำ ไค้เรอยๆก็่'ไเร;ทำให[ลภร;เบาบางลง เมึ๋อ \"รกรักษาลืล ลือทำอร;ไรแลร;พูคอะไรให้เป็นไปอย่างปกติ ไม่ทำให้กนอนลืออร้อน ไม่ทำไม่พูคผิค ไม่บกพร่องเลืยหาย กวบกมกวามคิกให้ทำให้พูคไม่นอกลู่ นอกทาง กวามโกรธก็่าเะถูกระงับให้เบาบางลงไคโกยอัตโนมัติ และเมอเจริญ กาวนา อบรมจิตให้สงบไกนงไค้ ค้วยการtเกสวกมนฅ1หว้พระ นั่งสมาธิเป็นประจำ และพิจารณาช่วิตตามข้อเท็่พิง รู้เห็่นซวิตร่างกายตามกวามเป็นจริง เช่น เห็่นว่าไม่แม่นอน เปลยนแปลงไปตามกาลเวลาจริง ไม่อยู่ในสกาพเติมตลอกไป จริง ไม่อาจบังกับบัญชาไค้จริง แล้วปล่อยวางไม่ยกมั่นลือนั่นในตัวตน ในลัง ทเกยวข้องกับตัวตน ทำ ไค้อย่างนั่ โมหะกวามหลงก็่จะเบาบางลง เมอจิตไครับป็กฝนอย่างน็้ ไครับการรักษากวบคุมอยู่อย่างนั่ ไคิซอว่า ตงจิตไว้ชอบ และซอว่า วางจิตไว้ถูกต้อง แล้ว จิตเช่นนจักเป็นลัมมาปณิธิจิต ผู^งจิตไว้ซอบและวางจิตไว้ถูกต้องอย่างนั่ซอว่าไค้ปฏิบัติตามกำแนะนำของ สมเค็่จพระลัมมาลัมพุทธเจ้า และย่อมไครับประโยซนอานิสงล้ใม่น้อย เป็นทรู้และยอมรับกันโกยทั่วไปแล้วว่า ร่างกายซองมนุษย่หรือซวิต มนุษยนั้นกำหนกกันว่าหาก่ามิไค้หรือมก่าสูงสุกจนไม่อาจตรากาไค้ เมอกนเรา นำ ร่างกายของตนไปตั้งหรือนำไปคำรงอยู่ในททํ่ค มกวามปลอกกัย คุ้มกรอง ดูแลรักษาอย่างก ให้อยู่เป็นปกติสุข ซงวิธิการอย่างนั้เรืยกว่า อัตตสิ'มมา- ปณิธิ ร่างกายนั้นลืจะเป็นสุข มอายุยืนยาว ตรงกันข้าม หากนำร่างกายไปตั้ง ไปกำรงอยู่ในททไม่ค ไม่มกวามปลอกภัย หรือนำไปทำลังทเลวร้ายไม่ถูกต้อง ร่างกายก็่จะเป็นอันตราย มกวามอับเฉา ถูกทำลายคุณกำลง หรือหมกกวาม เป็นกนไป ข้อนั้ฉันไก จิตก็่อยู่ในลักษณะเช่นนั้นเหมือนกัน กล่าวลือ ถ้าวางจิตไว้ถูกทั่ วางจิตไว้กับสิงทั่ดงาม จิตก็่เจริญพัฒนา ถ้าวางไว้ผดทั่ วางไว้กบสิงทั่ผิด จิตณลือมโทรม หาค่ามิได้ต้วยปรร!การทั้งปวง www.kalyanamitra.org
ฅ๒๗ # โอทรบฆททไ รพฺ 1ร0ง อำ นใใใต หรอเปรยบเหมือนรถยนฅรากาแพง ถ้าเจ้าของนำไป'จอคในท'จอค อันเหมา^ฟ้มปลอคภัย รถก็่'จะปลอดภัย ไม่มือันดราย หากนำไป'จอคทงไว[นท ไม่ปลอดภัยเซ่นกลางถนนหรือในซอยเปลยว ก็่'จะมือันตราย เซ่นถูกทุบทำลาย หรือถูกขโมยไป จิฅก็่เซ่นภัน หากวางไว้ถูกทก็่เป็นคุณ วางไว้ผิดทก็่ใหโทษไค้ เพราะจิตให้คุณไหโทษไค้อย่างน จิงทรงแนะนำให้กนเราtเกฝนจิต ให้ รักษาจิต ให้กวบคุมจิต เซ่นทรงแนะนำไว้ว่า - จิตตสฺส ทมโถ สาธุ - การtกจิตเป็นความค. (ชุ.ธ.๒๕/©๙) - จิตฺตํ รก.เฃถ เมธาว - ผู้มืปีญญาพงรักษาจิต. (ชุ.ธ.๒๕/©๙) - จิตฺตํ ทนฺตํ สุขาวหํ - จิต^กแล้ว นำ สุขมาให้. (ชุ.ธ.๒๕/©๙) - จิตฺตํ คุตฺตํ สุขาวหํ - จิตทคุ้มครองแล้ว นำ สุขมาให้. (ชุ.ธ.๒๕/©๙) นอกจากนั้น ในชาดกยังเตือนใจไว้ว่า วิหฌฺฌตื จิต.ตวสานุวต.ตื ฯ (ชุ.ซา.ทุก.๒๗/๙©) ผู้ประพฤติตามอำนาจจิต ย่อมลำบาก. แต่การรืเกฝนจิตอังแสดงมานั้เป็นการรืเกฝนเพอประโยชนํตือกวามสุข ลำ หรับอัวเองเป็นทฅั้ง ยูอนแม้อาจจะไครับผลบ้างณป็นเพยงโดยอ้อมเท่านั้น ยังมืการtเกฝนจิตอกแบบหนั้งชงเมอป็กฝนดแล้วย่อม'อำนวยสุขให้แก่ตนเอง ค้วย แก่ลํวนรวมตือกนรอบข้าง อังกม และประเทศชาติบ้านเมือง ตลอดถง สิงแวดล้อมและโลกชงเป็นทอยู่อาอัยนั้ค้วย การtเกฝนจิฅแบบนั้นตือการtเกฝน จิตให้เป็น จิตลำนํก จิตสาธารณะ และ จิตบริการ ชงจะ'อำนวยประโยชนํ อย่างยํ่งแก่อังกมรอบค้าน การรืเกฝนจิตให้เป็น จิตลำนํก ตือ รืเกจิตให้มืมโนธรรมหรือมโนลำนํก โดยสร้างกวามรู้ล้กทํ่คให้เกิดขน มืกวามรับผิดชอบต่อตนเอง ต่อกนอน และ ต่อหน้าททปฏิยัติ www.kalyanamitra.org
i ๓๒๘ 0 sssuaisinHuiiau๓ พระชMาโพรวง ศใใใรย์(ทอง ดี น.ร.๙) จิฅส์าปึกนเป็นเหตุให้กนเรามเมฅฅากรณาฅ่อกนอํ่น มกวามรูรกอายชั่ว กลัวบาป รูรกรักคเกลยคชั่ว รักกวามซอลัฅย เกลยคกวามกคโกงไม่ซอลัตย รักกวามยุติธรรม เกลยคกวามอยุติธรรมกวามมอกติ เป็นก้น จิตลัานึกเซ่นนิ้ ทำ ให้กนเราทำพูคกิคแฅ่เรองทดๆ กิคแต่จร:ทำปร:โยซนต่อยูอน มนํ้าใจเอ็้ออาทร ซ่วยเหลือกนทลำบากเคือคร้อน ไม่กำนึงถงกวามสุฃลํวนตัว ม่งให้กวามยุฃ แก่ผูอนเป็นหลัก ส่วนยู้ทขาคจิฅลำนึกทดย่อมเป็นกนทํ่ไม่อายชั่วกลัวบาป ขาด กวามรับผิดซอบ เป็นกนทแล้งนํ้าใจ ไมกดทจ^เอ^ออาทรใกร มุ่งประโยซนึฅน เป็นใหญ่ ไม่กำนึงถึงกวามเลืยหายอันจะเกิดแก่ส่วนรวมหรึอลังกมรอบข้าง เป็นอันฅรายต่อกวามสงบสุขของลังกมเป็นอย่างยํ่ง การtเกฝนจิฅให้เป็น จิตสาธารณะ นั้นไก้แก่ ปีกจิฅให้เกิดความรู้สิก คำ นึงถงประโยชนส่วนรวม มกวามรัก หวงแหน สร้างสรรกํ และบำรุงรักษา ร่งทเป็นสาธารณะส่วนรวม เซ่น สมบัติราซการ สมบัติของลังกม สมบัติของ ซาติ รวมถึงร่งแวดล้อมทอำนวยประโยซน!ห้แก่ทุกกน เซ่น อาการสถานทํ่ สวนสาธารณะ ก้นไม้ ป่าไม้ ภูเขา แม่นั้า ลำ กลอง ถนนหนทาง เป็นก้น จิตสาธารณะนั้เป็นจิต!เองกันสมบัติสาธารณะ บัองกันสิงแวดล้อม บัองกันธรรมชาติ และบัองกันติลปวฒนธรรมของมนุษยชาติได้เป็นอย่างด เพราะผู้มจิฅสาธารณะนอกจากจะไม่ทำลายสาธารณสมบัติแล้วยังจะ รักหวงแหนไมให้กนอนมาทำลายโดยไร้เหตุผล และกีดแต่จะสร้างสรรคดูแล รักษาให้ดำรงกงอยู่เพํ่อเป็นประโยซนึแก่ส่วนรวมตราบนานเท่านานก้วย ตรง กันข้ามกับผู้ทํ่ปราศจากจิตสาธารณะย่อมไม่มกวามรักกวามหวงแหนสมบัติ สาธารณะร่งแวดล้อมและธรรมซาติทเป็นประโยซนึร่วมกัน ย่อมไม่กีดทจะ บัองกันหรือดูแลรักษาแต่ประการใด มแต่จะทำลายร่งแวดล้อม สร้างมลภาวะ ให้แก่ธรรมซาติเพอผลประโยซนึส่วนตนประการเคยว www.kalyanamitra.org
๓๒๙ ^ lonsuunm % 1รอง อำนไใใต dauกาxtlnฝนจิฅ่ให้เป็น จิตบริการ นั้นไค้แก่ 1|กจิตให้มความรู้สิก เอ็้ออาทรเห็่นอกเห็่นใจผู้อึ๋น เห็่นเขาใครบกวามลำบากหรอเสือคร้อนก็่หวันไหว อคทนไมไค้ทจ;ะ;ปล่อยไปอย่างนั้น จิฅบริการนเรยกอกอย่างหนั้งว่า จิตอาสา ผูมจิคอาสาเริยกว่า อาสาสมคร จิฅบริการหรอจิฅอาสานั้เป็นเหฅุให้คนมกวามเสืยสล^อย่างสูง มใจกว้างขวาง เข้าไปช่วยเหลอเกอกูลกนอน เข้าไปรับไข้บริการวังกม เป็นอาสาสมักรบำเพ็่ญ ปรร:โยซนั้ค่างๆแก่ล่วนรวมค้วยกวามเสิยสล:; ไปเห็่นแก่ประโยซนล่วนคน เป็นหลัก ผู้มจิฅบริการย่อมมอัธยาวัยไม่นั้งคูคาย เป็นกนมนั้าใจ ยินครับใข้ บริการกนอนค้วยกวามเฅ็่มใจ ทำ ใหวังกมเป็นวังกมแห่งกวามเอออาทรพงพา กันไค้ทั่วไป ผู[้ มมจิฅบริการย่อมไม่อาสาทํ่จะเข้าไปช่วยเหลอไกรค้วยกวาม สมักรใจ มแค่เมอไค้ฆลประโยซนคอบแทนเท่านั้นจึงจะทำ จิฅ ๓ แบบนั้เป็นจิฅทค เป็นจิฅทเออประโยซนค่อกนรอบข้าง วังกม และร่งแวคล้อม เมอtเกฝนจิฅให้เป็นไค้คังนั้ ก็่ซอว่าไค้ปฏิบัติคามพระโอวาท พระบรมศาสคา แม้ว่าจะไม่กงขนบรรลุมรรคผลนิพพานอะไร กี่เป็นประโยซน แก่คนเองและวังคม วังนั้นย่อมเป็นการสมกวรทกนเราจะ'&กฝนคนให้ม จิคลำนก มจิคสาธารณะ และมจิคบริการอย่างนั้ในวัวเอง แต่ย่อมเป็นการยากไม่น้อยทั่จะtlกฝนกันได้ เพราะจำต้องtเน ธรรมชาติของจิตทั่มักท้อถอยไม่จริงจงในการทำความด ในการช่วยเหลือ เกั้อกูลคนอน เช่นจะต้องเว้นการทควรเว้น จะต้องทำการทควรทำ การ หลายอย่างทั่อยากจะทำแตไม่ควรทำ กี่ต้องเว้นเลืย ไม่ทำ การหลายอย่างทั่ ไม่อยากจะทำแต่ควรทำ กี่จำ ต้องทำ จะต้องเดินไปตามทางแห่งความลืาเร็่จ ป็นจิตป็นความรู้ลืกด้วยความอดทนอดกลั้นและความพยายาม แค่หาก'รกฝนไค้ทำไค้ย่อมเป็นเป็นซัยขนะเป็นผลงานของผู้ทำ เมอมซวิค อยู่กี่ลุขสบาย ไค้รับเกี่ยรติ ไค้รับยกย่อง คายแล้วกี่ไปล่สุกติ เพราะประโยซน www.kalyanamitra.org
i ฅฅ๐ 0 sssuaisinfiui lau ๓ พระมHใโพริวงศาใไรย์(ทอง ดี ช.ร.๙) หลายอย่างทบำเพ็่ญทไค้ทำไปนันฟ้ญบุญ จื้งเป็นเรึ๋องทเมธาวบุกกลชนยู้ม ปิญญาไม่ปล่อยวางในเรองการtเกฝนจิฅ เรองการรักษาจิฅ่ให้เป็นไปในทิศทาง ทํถูกต้องเหมาร!สม เพอนำพากนให้สูงเด่น ไต้รับเกยรติ ไครับยกย่อง'ไเากยู้กน ทั่วไปทุกบุกทุกสมัย คราบเท่าทผลงานยังประจักษอยู่ ดังทสมเค็่'จเจ้าพระยา- บรมประยูรวงด่ (ติส) และคระกูลบุนนาก ผู้สร้างวัคประบุรวงศาวาสไว้เป็น อนุสรณแก่ตนและวงด่ตระกูล และอคฅเจ้าอาวาส เจ้าอาวาสรูปปี'จ'จุมัน รวม ถึงภิกษุสามเณรและเหล่าพุทธศาสนิกซนกนวัคตั้งแด่อคคถึงปี'จ'จุมัน ทั่มนํ้าใ'จ ช่วยกันรักษา'จรรโลงพระอารามนไว้!ห้งคงามเป็นมรคกสำดัญฅกทอคมาคราบ ทุกวันน ชงทั้งหมคก็่ใครับเกยรติ ไครับการยกย่องสรรเสริญสูงเด่น เป็นแบบ อย่างแก่กนรุ่นหลังสืบไปคลอคกาลนาน การทังปวงทํ่แสคงมานสำ เร็่'จไต้เภิคชนไต้เพราะอำนา'จจิฅทั่&กฝนคแล้ว จิตมันจึงนำพาชุคไปให้ทำร่งทํ่คมคุณก่ามประโยชน!ว้เป็นอนุสรณ และรักษา ไว้เป็นมรคกทางวัฒนธรรมชองบ้านเมืองชองพระพุทธศาสนา เป็นบุญกิริยา อันสำดัญยง เป็นเรองน่าอนุโมทนา ในทสูคแห่งพระธรรมเทศนาน ขออำนา'จคุณพระศรรัฅนฅรัยและบุญกิริยา ทท่านทั้งหลายไต้ร่วมกันปฏิมัติบำเพื่ญให้เป็นไปเนองในการสมโภชพระอาราม ๑๘๗ ป็ วัคประบุรวงศาวาส ณ โอกาสน 'จงอำนวยผลลัมฤทธิ ประสิทธิ โสตถิสวัสติ ประสิทธิคุภมงกล และประสิทธิ'จตุรพิธพรชัย กือ อาบุ วรรณะ สูฃะ พละ ใหมังเกิคมืแก่ท่านทั้งหลายมืท่านเจ้าคุณพระพรหมมัณฑิคเป็นต้น เป็นประธาน และชอให้ทุกท่านปราศ'จากภัยพิมัติอันตราย พ้น'จากสรรพทุกฃ สรรพโศกทั้งหลายทั้งปวง มั่นกงอยูในธรรมชององกสมเค็่'จพระลัมมาลัมพุทธเจ้า ต้วยกวามสุขกายเย็่นใ'จคลอคกาล รับประทานแสคงพระธรรมเทศนามาสมกวร แก่เวลา ฃอบุติลงกงไว้เพิยงเท่าน ฯ เอวํ ก็่มืต้วยประการฉะนิ้ www.kalyanamitra.org
ตโยธัมมกทา เรื่อง ธรรมบำบัดสัตรู ยสฺเสเต จ ตโย ธมมา วานรินุท ยถา ตว ทกเยํ สูรยํ ปฌฌา ทิฏุ^ โส อติวตุตตติ ฯ ขฺ.ซา. ๒๗/๕๘ บคน็้ จัถรับปรร:ทานแฟ้คงพรรธรรมเทศนาใน ตโยธมมกถา ในการท กณะศงฆวัคพรร:เปีฅุพนวิมลมังกลาราม ซงมท่านเจ้าคุณพรร:เทพวิราภรณ เจ้าอาวาลวัคพรร:เซตุพนเป็นประธาน และมูลนิธิ \"ทุนพระพุทธยอคฟ้า\" ใน พระบรมรารูปถัมภ วัคงานบำเพึ่ญคุกลอทิกถวายพระบาทศมเค็่จพระพุทธ- ยอคฟ้า'จุฟัาโลกมหาราช เนองในโอกาลกรบ ๒0ป็ วันสวรรกฅ วันวันทรท ๗ กันยายน พุทธกักราช ๒๕๕๘ น ชงการวัคงานนกี่เพอเฉลิมพระเกยรติ พระบาทลมเค็่จพระเจ้าอยู่หว ผู้ทรงพระคุณอันประเลริฐพระองกนั้น ค้วยทรง เป็นพระปฐมบรมกษคริยแห่งกรุงรัตนโกลินทร ผู้ทรงลถาปนาพระบรมราซ- พระมหาโพธิวงศา'จา!ย (ทกงศ) วัคราชโอรฟ้าราม กรุงเทพมหานกร แฟ้ศง ในการบำเพึ่ญกุศฟ้ธุทิศถวาย พระบาทฟ้มเคึ่าพระพุทธยอคฟัาจุฬ'าโฟ้กมหาราข ณ พระอโบฟ้ถวัคพระเซคุพนวิมถมังกลาราม กรุงเทพฯ วันทํ่ ๓! กันยายน พ.ศ. 1๓๕๕๘ เวลา ๑๕.00 น. www.kalyanamitra.org
i ฅฅ๒ ธรรบส!ร!ททน!lau ๓ พระบHาโพริวงศา!ใรย์(ทอง ดี ช.ร.๙) จักรวงส์ ทรงมพระราซกุณูปการอย่างใหญ่หลวงแก่ปวงซาวไทยแล::แผ่นคินไทย ทรงอุทิศพระองก่ประกอบพระราชกรณยกิจนานัปการอันเป็นรากฐานและ แนวทางในการพัฒนาบ้านเมืองไหยั่งยืนสืบเนองมาฅราบเท่าทุกวันน ด้วยพระ วิริยะอุตศาหะอย่างยั๋ง จึงทรงเป็นพระมหากษัฅริยาธิราชเจ้ายู้กวรแก่การ จคจำจารึกไวิในควงจิฅ และกวรแก่เกรองอักการะวรามิสอัมมานบูชาคลอค นิรันครกาล พระบาทศมเค็่จพระพทธยอคฟ้าจุพัาโลกมหาราช เศค็่จพระราชสมภพ ในสมัยพระเจ้าอยู่หัวบรมโกศ ถวายคัวเข้ารับราชการกรั้งแรกเป็นมหาคเลึ่ก ในสมเค็่จเจ้าฟ้าอุทุมพร กรมชุนพรพินิค เมอพระชนมายุได้ ๒๑ พรรษา ได้ทรงผนวชเป็นเวลา ๑ พรรษา กรั้นลารกขาแล้วได้เข้ารับราชการต่อมา จนกระทั่งเสืยกรุงเมอป็ พ.ศ. ๒๓๑0 ในสมัยกรุงธนบุรึ ไครับกวามไว้วาง พระราชหฤทัยใหโคยเสค็่จในราชการสงกรามเพอรวบรวมบ้านเมืองให้เป็น ปีกแผ่นหลายกรั้ง ในการน็้ไครับพระราชทานบำเหน็่จกวามชอบเลอน บรรคาคักคิสูงขนโคยลำคับ คอเป็นเจ้าพระยาอภัยรณฤทธิ เป็นพระยายมราช เป็นเจ้าพระยาจักรึ และเป็นสมเค็่จเจ้าพระยามหากษัฅริย่สืก คามลำคับ ต่อมาในปี พ.ศ. ๒๓๒ เกิคเหตุจลาจลฃ็้นในกรุงธนบุรึ เป็นเหตุ ให้ด้องเปลยนแผ่นคินใหม่ ทรงไครับอัญเชิญให้เสค็่จซนเถลิงถวัลยราชสมบัติ เป็นพระมหากษัฅริย่สืบไป เมอวันทั่ \"^๐ เมษายน พ.ศ. ๒๓๒๕ เฉลิม พระปรมาภิไธยว่า พรร;บาทสมเด็่จพรร;พุทธยอดฟ้าจุฬาโลก หอังจากเสค็่จ ชนกรองลิริราชสมบัติแล้วไค[ปรคเกล้าฯ ให้ย้ายพระนกรมาทาง'ฮ่งคะวันออก ของแม่'นาเจ้าพระยาเย็้องภับกรุงธนบุรึพระนกรเติม จากนั้นจึงโปรคให้คำ เนิน การสร้างพระบรมมหาราชวัง ปราสาทราชมณเฑยร กำ แพงพระนกร ย้อม ประคู และวัคพระศรึรัคนศาสคาราม ต่อจากนั้นมาก็่ทรงปฏิบัติพระราชกรณยกิจ ในการทำบุบำรุงบ้านเมืองให้เจริญรุ่งเรึองยั่นกงในทุกๆ ด้าน เช่น ในด้านกวาม ยั่นกง ด้านการจัคระเบยบการปกกรองโคยทรงยืคหอักคามแบบอย่างแต่กรั้ง www.kalyanamitra.org
ฅฅฅ ฅใชรบบทm 1รอง รรรนบำบัด ศั ตรู กรงศรอยุธยาเป็นส์ากัญ ค้านฃนบธรรมเนยมปรร:เพณ รวมทั้งทำนุบำรุงงาน กัลปกรรมแขนงต่างๆ ฅลอดถึงทรงริเรํ่มศร้างสรรกังานวรรณกรรม ทรง ส่งเสริมนักปราชญราชบัณฑิตให้สร้างสรรกัวรรณ^ล!) แปล ชำ ระ เรยบเร้ยง พระราชพงศาวดารและวรรณกดต่างๆตลอดรัชกาล ในด้านการพระศาสนา โปรดให้เสาะหารวบรวมพระกัมภรพระทุทธ- ศาสนาทบังหลงเหลือมิไค้ถูกทำลายเมอกรั้งสงกรามกรุงเก่าและกระกัดกระจาย อยู่ตามหัวเมืองต่างๆ เช้ามาไว!นกรุง และโปรดใหมืการรงกายนาพระไตรปิฎก ขนทวัดนิพพานารามหรือวัดมหาธาตุยุวราชรังสฤษฎิ้ในปิจจุบัน นอกจาก นั้นบังทรงมืพระราชศรัทธาสร้างพระอารามฃ็้นใหม่ตลอดจนบูรณปฏิร'งขรณ พระอารามต่างๆ กส่าวโดยเฉพาะ วัดพระเชตุพนวิมลมงคลาราม แห่งนั้ ซงมืนามเดิมว่า วัดโพธาราม ทรงบูรณะปฏิกังชรณใหม่ทั้งพระอาราม ใช้ เวลารวม ป็ ๕ เดือน ๒๘ วันจึงแล้วเสร็่จ วัดพระเชตุพนนั้กัดเป็น พระอารามประจำรัชกาล เป็นวัดกลางกรุง มืกวามสวยงาม มั่นกง รูปทรง เป็นแบบอย่างดิลปกรรมไทย เหมาะเป็นทอากัยดืกษาธรรมของภิกษุสามเณร เป็นทพำนักของพระมหาเถระทส์ากัญมาแต่อดืตจนถึงปิจจุบัน เพราะวัดเป็น ปฏิรูปเทสเหมาะทจะดืกษาหากวามรู้ทั้งในค้านพระปริบัดิและค้านปฏิบัติ ทรง กัดสร้างไว้เป็นอย่างดมาแต่ค้น ต่อมาก็่ไค้ลืบสานกวามมั่นกงสวยงามกัน เรั้อยมาจนกลายเป็นแหส่งท่องเทํ่ยวส์ากัญติดอันกับ นำ ให้เกิดกวามภากภูมิใจ แก่กนไทย และเป็นจุดดืงดูดใจนักท่องเทยวทั่วโลกให้มาหัศนา นำ มาชงรายไค้ หส่อเลยงประเทศและผู้กนมาถึงสองศตวรรษอย่างน่าอัศจรรย พระบาทสมเด็่จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช เสด็่จสรรคดเมั่อ วันพฤหัสบด ทั่ ๗ กันยายน พ.ศ. ๒๓๕๒ พระชนมายุได้ ๗๓ พรรษา ทรงดำรงอยูในสิริราชสมบติ ๒๘ ปี งานสร้างสรรกัชองพระองกัใค้สถิตอยู่คู่บ้านเมืองมายาวนาน ทรงปฏิบัติ ส่าเร็่จทุกประการตามพระราชปณิธานททรงทั้งไว้ว่า www.kalyanamitra.org
k ๓๓๕ ธรรบส!ร!ทศน! lau ๓ พระชHใโพรวง ศใ!ใรย์(ทอง ดี ช.ร.๙) \"ตังใจจร;อุปถัมภก ยอยกพรร;พุทธศาสนา จร;!!องถัน ขอบขณฑสิมา รกษาปรร;ซาซนแลมนตร\" แม้จะเสค็่จสวรรคฅมากรม kDoV? มเแล้ว แต่พระราชคุณูปการททรง บำ เพ็่ญไ'Kfงปรากฏสืบเนองเรนประจักษอยู่ มิไค้ลบเสือนหรือสูญรันไปเลย ยังเป็นศูนยรวมจิตใจของพลเมือง ยังเป็นมรคกทํ่เป็นรูปธรรมฟูเทํ่เองเต่น ตระหง่านงคงาม ข้อสืากัญทเป็นจุคเด่นเป็นประวัติคาสฅร คือการกัคสินพระทัยย้ายเมือง หลวงมาอยู่ทางรังตะวันออก การกัคสินพระทัยในกรั้งนั้นสือว่าเป็นความ กล้าหาญ เฉยบฃาต เค็่คเคยว และประกอบค้วยพระปรืซาและพระวิกัยทัศน ทลำยุค ทั้งมืทางเป็นไปไค้ยาก เพราะการย้ายเมืองหลวงนั้นมิใซ่ง่ายเหมือน ย้ายเมืองเลื่ก และบ้านเมืองก็่ยังไม่สงบยังมืคืกสงครามอยู่ ทั้งทุนรอนในการ สร้างเมืองนั้นก็่มืไม่มากเพราะเพํ่งผ่านภาวะม้านแตกสาแหรกฃาคมาไค้[ม่นาน หากย้ายไปแล้วไม่เป็นไปตามพระราชประสงกก็่จะทรงถูกต่อค้านแฃ็่งข้อก่อเหตุ จลาจล จะเป็นผลให้ทรงลำบากเคือตร้อนพระราชหฤทัย แต่ก!ม่ทรงหวาตกลัว จนไม่กล้าย้าย ครั้นย้ายแล้วก็่ทรงสร้างม้านแปลงเมืองไหมให้ลำเรืจสมบูรณ ไค้อย่างรวตเร็่วค้วยพระปรืชาและพระราชหฤทัยทม่งมั่น ข้อนั้ยืนยันให้เห็่นว่า ทรงมืพระราชหฤทัยททั้งไว้ชอบประกอบค้วยธรรมตามวิถแห่งพุทธ2ททรง คืกษามาเมอครั้งอุปสมบทเป็นภิกษุในพระศาสนา เซ่นทรงมืพระวิริยะอุตสาหะ ความแกล้วกล้า พระปรืชาชาญฉลาตตามหลักพระศาสนา จึงนำพาให้ชนะ ปิญหาอุปสสรรคและภัยพิบัติกัตรูไค้รันเชิง ซงค้องตามพระพุทธคำรัสท ตรัสเล่าไว้ในตโยธัมมชาตก ฃุททกนิกาย ทอัญเชิญมาเป็นนิกเชปบทเทศนาว่า ยสฺเสเต จ ตโย ธมฺมๆ เป็นอาทิ ความว่า \"คูก่อนพญาวานร ^ดมืธรรม ๓ ปรร;การน คือ ความฃยน ๑ ความแกล้วกล้า ๑ ความฉลาด ๑ เหมือนท่าน ผู้นั้นย่อมล่วงพ้นตัฅรูไค้\" www.kalyanamitra.org
ฅ๓๕ ^ 1?1โยธับบทท1 นรร) Iรอง ธรรนบำบัดศัตรู เด็่จพระร'มมาร'มพทธเจ้าตรัสฅโยธัมมชาดกนไว้ เพอแสดงข้อ รรรมรากัญ ๓ ประการ ลึอศวามขยัน ความแกล้วกล้า และความฉลาด ราหรับปฏิบัติบริหารเพอให้พ้นกัศรู ผูป้ฏิบัติดามได้ แม้'าะมกัศรู กัดรูก็่ทำ อันดรายทำร้ายไมได้กัดรูจะฟายแพ้ไปในทสด จะมแด'ความปลอดภัยไร้ความ หวาดระแวง ไร้ความวิดกภังวลว่าจะมผู้มาทำอันดรายแก'ดน จึงทำให้ดำเนิน ชวิดอย่างสุขสบาย มอันติสงบทุกเมอ หากขาดรรรม ๓ ประการนิแม้เพยง อย่างเดยว ขวิดก็่จะอยู่ร้อนนอนทกข้ หวาดผวากลัวภัย จำ ด้องบัองภันหรือ หาทางกำจัดบัดเปาไม่ร้นสุด คุฌธรรม กา ประการนิจึงเปีนหลักประภันความ ปลอดภัยในขวิดและทรัพยัรนของบุคคลได้เปีนอย่างดํ ในซวิฅของกนเราทุกกนย่อมมสื'ฅรประจำซวิฅอยู่ค้วยกัน อันกัฅรูนั้น มิไข่'จะหมายถึงกนทเกลยคซังไม่ถูกกัน หรือกนทเป็นกู่แก้นเป็นกู่เวรกู่กรรม ทกอยทำลายล้างไห้เถึยซัวิฅ ไห้อวัยวะพิกลพิการ หรือไห้ถึงกวามวิบัฅิซัคสน เท่านั้นก็่หาไม่ สิ'ตรูเซ่นนั้จดเป็นกัตรูไกล มิไค้อยู่ไกล้ชคตัวนัก แต่กำว่าตัฅรู ไนทนั้ยังทมายไปถึงสิ'ตรูใกล้อนเกิดอยู่ไนตัวค้วย ไค้แก่กวามเกย'จกร้าน กวามกลัว กวามโง่เขลาเบาปิญญา กวามยาก'จน ตัฅรูเข่นนย่อมเป็นอันกราย ทำ ไห้เกิคกวามวิบัติ กวามพินาศเถึยหาย ทำ ลายล้างกวามกและทรัพย่สินไค้ เข่นเคยวกัน ตัฅรูทั้งสองประเภทนั้ กนเราย่อมไม่ปรารถนาจะม ไม่ปรารถนาจะไค้ พบเจอ หากเกิคมฃ็้นก็่ปรารถนาจะหลบหลกไห้ห่างไกลหรือกำจักไห้หมกไป จากซัวิฅ เพราะเมอมตัฅรูกอยเบยคเบยนกอยรังกวานอยู่ ก็่อยูไม่เป็นสุข นอน ไม่เป็นสุข ไปไหนมาไหนกใม่เป็นสุข หวากระแวงอยูราไป หากเป็นตัตรูภายใน คือความเกยจคร้าน ความกล้ว และความโง่เขลา แม้จะไม่สนใจหรือไม่รู้ ไม่ยอมรับว่าตนมตนเป็นทั้งทั้มและเป็นอยู่ ก็่ทำ ให้เชองซ้ายืดยาด หวาดระแวง และมืดทบอมจนเมอมกัยหรือกวามจำเป็นเกิกซนค้วยแกไขไมไค้ เมอตัฅรู www.kalyanamitra.org
A ๓๓๖ # sssuaisinfiuiiau(ท พระบHใโพริวงศาๆารย์(ทองด ช.ร.๙) ทังสองอย่างน็้ แม้เพยงอย่างเคยวเกิคฃนแล้วก็่จร;กอยรังกวานซวิฅให้วุ่นๆาย เรยหายอยู่คลอคเวลา ทำ อย่างไรจงจร;ล่วงพ้นสื'ตรูเซ่นนได้ เพึ๋อใหชวิตปลอดภัย เพึ๋อให้ช็วิต พัฒนาเจริญรุ่งเรืองก้าวหน้าไปไค้ตามปกติเฉกเซ่นคนอึ๋น ในช้อนสมเค็่จพรร;ผู้มพรร;ภาคเจ้าไค้ตรัสช้อปฏิบติไว้ซดเจนแล้ว เมอ ค้องการจร;ล่วงพันภัตรู ก็่จำ ค้องปฏิบติตามหล้กธรรมทตรัสไว้ หาไม่แล้ว ก็่จร;ไม่พันมือภัตรูต่างๆ ไค้อย่างแน่นอน คุณธรรมปรร;การแรกกือ ทักฃิยร; ซึ๋งแปลเป็นกวามไทยว่า ความฃยน คือกิริยาททำการงานอย่างแฃ็่งขัน ไม่ปล่อยปลร;ลร;เลย ทำ ไปอย่างปกติธรรมคา เรือยไป ซึงไค้แก่กวามเพยรนั่นเอง กนทมกวามขยันหรือกวามเพยรนั้น ย่อมมืลักษณะ;เฉพาร:คัว สามารถมองเห็่นไค้ลัมยัสไค้ เซ่น เป็นกนมืกวาม กระ;คือรือร้น กระ;ฉับกระ:เฉง ว่องไว มกวามใฟ้คื เมอทำการงานอะ:ไรก็่ฃยัน ขันแฃ็่ง เอางาน มกวามรับผิคซอบ ทั้งกล้าไค้ กล้าเคืย และ:กล้าเคืยง กนทํ่มื ลักษณะ;เซ่นนั้ซึ๋อว่าเป็นกนขยันเป็นกนมืกวามเพยร ถ้ามปิญญาเข้ามาช่วย ถ้วย ก็่จะเอาชนะถ้ฅรูไถ้ไม่ว่าถ้ฅรูทเปีนฅนทไม่ถูกกันชงคอยเปียศเปียนบฑา อยู่รอบข้าง หรอกัศรูภายในคือความเกยพราน ความไม่เอางานเอาการชง นอนเนองอยู่ในคัว ซึวิตชองคนมืทักฃิยธรรมช้อนั้ย่อมเป็นชวิตทั้ปลอดภัย พัฒนาให้ ก้าวหน้าสูงขนไค้ตามลำดม แม้ปรร;สงคจร;ล่วงพันภัตรูคือกิเลสเพอบรรลุ ถงพรร;นิพพานก็่สามารถใช้เป็นบนไดไต่เค้าเช้าถงไค้ ฅรงกันข้าม กนทขาคทักฃิยธรรม เรืยกไค้ว่าเป็นกนเกยจกร้าน กน เกยจกร้านจะ;มลักษณะ;ทเหื่นไคืขัคเจน เช่น เป็นกนเห็่นแก่กวามสุขเล็่กน้อย จึงชอบนอน ชอบกิน ขอบเล่น ไม่เอางานเอาการ ไม่กรร;คือรือร้น ไม่ว่องไว ไม่กระ;ฉับกระ:เฉง กนเกิยจกกร้านเป็นกนทไม่กิคพงคัวเอง พงคัวเองไม่เป็น www.kalyanamitra.org
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147
- 148
- 149
- 150
- 151
- 152
- 153
- 154
- 155
- 156
- 157
- 158
- 159
- 160
- 161
- 162
- 163
- 164
- 165
- 166
- 167
- 168
- 169
- 170
- 171
- 172
- 173
- 174
- 175
- 176
- 177
- 178
- 179
- 180
- 181
- 182
- 183
- 184
- 185
- 186
- 187
- 188
- 189
- 190
- 191
- 192
- 193
- 194
- 195
- 196
- 197
- 198
- 199
- 200
- 201
- 202
- 203
- 204
- 205
- 206
- 207
- 208
- 209
- 210
- 211
- 212
- 213
- 214
- 215
- 216
- 217
- 218
- 219
- 220
- 221
- 222
- 223
- 224
- 225
- 226
- 227
- 228
- 229
- 230
- 231
- 232
- 233
- 234
- 235
- 236
- 237
- 238
- 239
- 240
- 241
- 242
- 243
- 244
- 245
- 246
- 247
- 248
- 249
- 250
- 251
- 252
- 253
- 254
- 255
- 256
- 257
- 258
- 259
- 260
- 261
- 262
- 263
- 264
- 265
- 266
- 267
- 268
- 269
- 270
- 271
- 272
- 273
- 274
- 275
- 276
- 277
- 278
- 279
- 280
- 281
- 282
- 283
- 284
- 285
- 286
- 287
- 288
- 289
- 290
- 291
- 292
- 293
- 294
- 295
- 296
- 297
- 298
- 299
- 300
- 301
- 302
- 303
- 304
- 305
- 306
- 307
- 308
- 309
- 310
- 311
- 312
- 313
- 314
- 315
- 316
- 317
- 318
- 319
- 320
- 321
- 322
- 323
- 324
- 325
- 326
- 327
- 328
- 329
- 330
- 331
- 332
- 333
- 334
- 335
- 336
- 337
- 338
- 339
- 340
- 341
- 342
- 343
- 344
- 345
- 346
- 347
- 348
- 349
- 350
- 351
- 352
- 353
- 354
- 355
- 356
- 357
- 358
- 359
- 360
- 361
- 362
- 363
- 364
- 365
- 366
- 367
- 368
- 369
- 370
- 371
- 372
- 373
- 374
- 375
- 376
- 377
- 378
- 379
- 380
- 381
- 382
- 383
- 384
- 385
- 386
- 387
- 388
- 389
- 390
- 391
- 392
- 393
- 394
- 395
- 396
- 397
- 398
- 399
- 400
- 401
- 402
- 403
- 404
- 405
- 406
- 407
- 408
- 409
- 410
- 411
- 412
- 413
- 414
- 415
- 416
- 417
- 418
- 419
- 420
- 421
- 422
- 423
- 424
- 425
- 426
- 427
- 428
- 429
- 430
- 431
- 432
- 433
- 434
- 435
- 436
- 437
- 438
- 439
- 440
- 441
- 442
- 443
- 444
- 445
- 446
- 447
- 448
- 449
- 450
- 451
- 452
- 453
- 454
- 455
- 456
- 457
- 458
- 459
- 460
- 461
- 462
- 463
- 464
- 465
- 466
- 467
- 468
- 469
- 470
- 471
- 472
- 473
- 474
- 475
- 476
- 477
- 478
- 479
- 480
- 481
- 482
- 483
- 484
- 485
- 486
- 487
- 488
- 489
- 490
- 491
- 492
- 493
- 494
- 495
- 496
- 497
- 498
- 499
- 500
- 501
- 502
- 503
- 504
- 505
- 506
- 507
- 508
- 509
- 510
- 511
- 512
- 1 - 50
- 51 - 100
- 101 - 150
- 151 - 200
- 201 - 250
- 251 - 300
- 301 - 350
- 351 - 400
- 401 - 450
- 451 - 500
- 501 - 512
Pages: