Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore ธรรมสารเทศนา

Description: ธรรมสารเทศนา

Search

Read the Text Version

k ฅ๖ e: รรรบส1ร1ทศน!lau ๓ พระชHใโพรวง ศใ!ไรย์(ทอง ดี ช.ร.๙) ต่อแผ่นดิน ต่อเจ้าของแผ่นดิน ต่อผู้บุกเบิก กอบกู้ พฒนา ปกชกรักษา แผ่นดินมา เท่ากับทรงแนร;นำว่าไม่ควรเป็นคนเนรคุณต่อแผ่นดิน เนรคุณ ต่อเจ้าของแผ่นดิน ต่อผู้บุกเบิก กอบกู้ พฒนา ปกชกรักษาแผ่นดิน มา แต่อดิตตราบถึงชจจุบน คังรับพระราชทานถวายวิกัซนามาค้วยประ:การฉร;นิ้ การทศมเค็่จุพระบรมบพิฅรพระราชสมภารเจ้าทั้งสองพระองคทรงบำเพ็่ญ พระราชกุศลกรั้งนนั้น ไคซอว่าทรงอนุวัตรฅามพระบรมพุทโธวาทต่วนน ชง เป็นการทั้สมควรด้วยประการทั้งปวง เพราะสมเค็่จพระบรมราชบุรพการัและ พระราชบุรพการินํ&ทรงพระคุณอันประเสริฐในพระบรมราชจ้กรัวงต่ทุกๆ พระองกนั้นทรงเป็นทังบุรพเทพ เป็นทั้งสมมติเทพของสมเค็่จพระบรมบพิตร พระราชสมภารเจ้าทั้งสองพระองก สมควรแก่พระราชกุศลทักษิณานุประทานทั้ ทรงบำเพ็่ญพระราชป็ทิศถวายแล้วน และสมเค็่จพระบรมบพิตรพระราชสมภารเจ้า ทั้งสองพระองก่เต่ากทรงเป็นสมมติเทพของเหต่าเสวกามาตยราษฎรชาวไทย ทั้งมวล ควรแก่ทักษิณาคือความ'จงรักภักคและความซํ่ออัตยสุจริตเป็นด้น ทั้พสกนิกรชาวไทยทุกหมู่เหต่าได้น้อมเกล้าน้อมกระหม่อมถวายเป็นนิ'จกาล ตลอดมา ทังพระอริยสงฆสาวกเป็นผู้ควรแก่ทักษิณาของทายก ฉะนั้น อิมินา กตปุฌฺเฌน ด้วย'อำนา'จแห่งพระราชกุศลทักษิณานุประทานกิ'จ ทั้สมเค็่'จบรมบพิตรพระราชสมภารเจ้าทั้งสองพระองค[ด้ทรงบาเพ็่ญพระ ราชอุทิศไนครั้งนั้ ขอ'จงเป็นผลต่าเร็่'จอำนวยไห้เกิดเป็นทิพยสุขทิพยสมบัติแค่ สมเค็่'จพระบรมมหากษัตริยาธิราชเจ้าและสมเค็่'จพระอัครมเหถึผู้ทรงพระคุณ อันประเสริฐ ผู้ทรงเป็นพระบรมราชบุรพการิและพระราชบุรพการินิไนพระบรม- ราชจักริวงคืทุกๆ พระองก ตามควรแก่คตินิยมไนอัมปรายภพทุกประการ รับพระราชทานถวายวิอัชนาพระธรรมเทศนาฉลองพระเดชพระคุณ ประทับพระปิญญาบารม ยุติลงด้วยเวลา ด้วยประการฉะนั้ ฯ ขอถวายพระพร www.kalyanamitra.org

saEa รมม'ปืคคหกปีา เรื่อง การยกย่องธรรม จเช ธนํ อง.ควรสฺส์ เหตุ องฺคํ จเร ชวิตํ รท.ขมาโน องฺคํ ธนํ รวิตฌฺจาปิ สพฺฟ้ จเร นโร ธม.มมนุส์สรนฺโตติ ฯ ขุ,ซา. ๒๘/๓๘๒/©๕๗ บคนจักรับพระราชทานถวายวิร'ชนาพรร:ธรรมเทศนาในธ้ฆมปีคคหกถา ฉลองพระเคชพระคุณประคับพระชญญาบารม ในการททรงพระกรุณา โปรคเกล้าโปรคกระหม่อมบำเพ็่ญพระราชกุศลทักษิณาบุประทานร'ฅมวารท <1 อุทิศถวายพระบรมศพ ศมเค็่'จพระบพิฅรศมเค็่จพระศรนกรินทราบรมราช- ชนน ผู้ทรงพระคุณอันประเศริฐ คามกฅินิยมทางพระพทธศาลนา ค้วยพระทัย ทเร่ยมล้นด้วยพระเมคฅาธรรมและพระกคัญฌูกคเวทิคาธรรม ด้วยหวังตั้ง พระธรรมกิฅฅิวง (ทองค) วัคราชโอรฟ้าราม กรุงเทพมหานกร แฟ้คง ในการบำเพื่ญพระราชกุฟ้ถอุทิศถวาบ พระบรมศพฟ้มเค็่จพระศรนกรินทราบรมราชชนน ณm พระทํ่นั่งสคิุ๓สทิเฅฬมทหาาปราฟ้าท ในพระบรI'มMมหาราชวัง วันอังการ ท ๒๒ สิงหากม พ.ศ. ๒๕๓๘ www.kalyanamitra.org

A ฅ๘ ธรรบส!รใทfiuiiau๓ พระม Hใโพริวง ศใใใรย์(ทอง ดี li.s.๙) พระทัยว่าจะ;สนองพระเคซพระคุณพระราชคุณูปการอเนกอนันฅทํ่สมเค็่จ พระบรมราชซนนทรงมทั้งแก่พระองค แก่พระบรมราชวงก่ และพสกนิกรชาวไทย ทุกหมู่เหล่า จนเฅ็่มพระสติกำลังทํ่จะพงบำเพ็่ญให้เป็นไปไคในกาลสมัยเซ่นน การทพสกนิกรชาวไทยไม่ว่าจะอยูในฐานะไคและอยู่ในถํ่นฐานโค ใน ประเทศหรือค่างประเทศ ค่างยอมรับและชาบซงในพระมหากรุณาธิคุณอัน ใหญ่หลวงมประการค่างๆ ชองสมเค็่จบรมบพิฅรสมเค็่จพระศรนครินทราบรน- ราชชนนิ ผู้ทรงพระคุณอันประเสริฐ และพากันยกย่องนับถือบูชาลักการะ ค้วยวิธิการค่างๆ มากมาย ทั้งในขณะทยังทรงพระชนม่อยู่และในขณะทเสค็่จ สวรรคตแล้ว อย่างทไม่เคยทำไม่เคยปรากฏมาก่อนในอคฅจนถืงปิจจุมัน ก็่ ค้วยเหตุผลประการเคยวคือ พระองคทรงเป็นบุคคลทั้ควรยกปองเทิดทูน ในฐานะทั้ทรงนำหลักธรรมในพระบวรพุทธศาสนาชงเป็นนามธรรมมาปฏิบติ ให้เกิดผลเป็นรูปธรรมได้มากทั้สุดพระองคหนง ชงหาไค้ยากยงในบุคคล อน ไม่น่าเชอว่าบุคคลผู้มร่างเล็่กๆ และมอายุมากแล้วเซ่นสมเค็่จบรมบพิตร พระองคืนจะทรงปฏิมัติไค้มากถืงปานน็้ อนง การทพสกนิกรชาวไทยทุกหมู่เหล่ายกย่องเซิคซูสมเค็่จบรมบพิตร สมเค็่จย่าพระองคืนนั้น มิใซ่เพิยงยกย่องตัวพระองคืเท่านั้น ย่อมถือไค้ว่า พสกนิกรยกย่องเซิคชูธรรมในพระองคืค้วย ค้วยว่าสมเค็่จบรมบพิตรสมเค็่จย่า นั้นทรงประพฤติมั่นคงอยู่ในธรรม ทรงมหลักธรรมเป็นแนวนำล่าหรับคำ เนิน พระชนม่ซ่พมาโคยตลอค และทรงนำหลักธรรมมาใฟ้ห้เกิคประโยชนิจนเป็น รูปธรรมมองเห็่นไค้อย่างชัคเจนมั่นเอง อันหลักธรรมททรงประพฤติมั่นคงอยู่ เป็นประจำทเห็่นประจักษนั้นไค้แก่พระเมตตาธรรม พระขันติธรรม พระลัจธรรม พระจาคธรรม เป็นค้น ชงล้วนเป็นหลักธรรมล่ากัญข้อใหญ่ทกระตุ้นพระทัยให้ ทรงบำเพ็่ญพระราชกรณยกิจค่างๆ อันเป็นไปเพอประโยชนิเกอกูลและความ สงบสขแก่พระโอรสธิคาและประชาชนชาวไทยทั้งร้น www.kalyanamitra.org

ฅ๙ ฿ รับบบflfmnQi 1รอง กไรยฉย่องธรรน แท้ทจริงธรรมฟ้นสมบติทปรร{เf(ริฐทสุดแลร;มค่าทสุดในรงคมมนุษย ยงกว่าสมบติทั้งหลาย รงคมมนุษยจร;อยู่กนด้วยความรมฌ็่นฟ้นสุข ม ความปลอดภย หรือจร;ลำบากยากเฃ็่ญอย่างไร ก็่ฃนอยู่กบว่ามนุษย่นั้น ทั้งอยู่ในธรรมหรือขาดธรรมอย่างไร อนผู้ททั้งอยู่ในธรรมนั้นย่อมทำไหโลก นั้เกิดรนติสุขแลร;สินติภาพได้ทุกยุคทุกสมย แต่ผู้ทขาดธรรมนั้นย่อมทำไท้ โลกนั้ลุกฟ้นไฟ ไท้เกิดความวุ่นวายเดือดร้อนได้มากมายทุกเมึ๋อ แฅใหนแฅใรมๆท่านจัคลำคับกวามลำกัญของสิงทมก่าในโลกนั้[วัดาม ลำ คับ ดือธรรมอยู่ในอนคับสูงสุด รองลงมาดือขวิด รองลงมาอกดืออวยวร; แลร;คันคับตาสุดดือทร้พย่ ธรรมทจัคอยู่ในอันคับสูงสุดในทนั้กือ รจธรรม กวามซออัฅย่ กวามจริงใจ กวามซอฅรง สุจริตธรรม กวามปรร;พฤติคงาม เมตตาธรรม กวามรักกวามปรารถนาคฅ่อกัน เป็นด้น รวมไปถึง วินยธรรม ดือกฎหมาย กฎเกณฑ รร;เบยบแบบแผนด่างๆ ทอังกมกำหนดกันเนไวั ลำ หรับปกกรองอังกมแลร;บ้านเมอง ทท่านยกย่องธรรมว่าเป็นสิงทมค่าสูงสุดเป็นคันคับหนั้งยั๋งกว่าขวิด อวยวร; แลร;ท^ย่นั้น เพราร;ว่าธรรมเป็นสิงเดืยวทจร;รักษาขวิด อวยวร; แลร; ทรัพย่ รวมทั้งสมบ้ติทั้งหลายไนโลกนั้ไวัใด้ ธรรมเท่านั้นทจร;ทำไหโลกนั้ มความสงบร่มเย็่น น่าอยู่อาคัย แลร;ทำไท้ผู้คนมความเข้าไจแลร;เห็่นอก เห็่นไจกน อยู่กนด้วยความรักแลร;หวงดืต่อคัน หากโลกขาดธรรมเลํยแล้ว สิงทจร;เกิดขนในโลกดือการเบยคเบยน ล้างผลาญกัน การเอารัดเอาเปรยบกันจนเกิดการทร;เลาร;วิวาทกัน การท้องร้อง เป็นกวามกัน เป็นด้น เมอถึงรร;คับนั้ ขวิดก็่ค อวัยวร;ก็่ค ทรัพย่ก็่ดื ก็่จร;ไม่ม หอักปรร;กันอร;ไรมาด้มกรองได้ เพราร;หอักปรร;กันทลำกัญของอังกมดือธรรม นั้นได้ขาดหายไปเถึยแล้ว แลร;เมอถึงกราวจร;ด้องสูญเถึยสิงมค่าเหล่านั้เป็นบางอย่างไปเพอรักษา อกอย่างหนั้งเข้าไวัท่านก็่มแนวปฏิบัติกันมาแด่เก่าก่อนว่า ล้าจร;รักษาอวัยวร; www.kalyanamitra.org

i ๔๐ 0 รรรบส1ร1ทสน1 lau ๓ พระมผใโพริวงศาาใรย์(ทองดี ช.ร.๙) เช่นแขนขาไว้ ก็่ฅ้องยอมเส์ยทรัพย!ป แต่ถ้าจะต้องรักษาซวิฅไว้[คย'จะ:ฅ้องฅัค อวัยวะ:บางอย่างทิ้ง ก็่ต้องยอมเส์ย แต่ถ้าหาก'จะ:ต้องรักษาธรรมไว้แล้วท่าน กำ หนคว่า'จะ:ต้องยอมเสิยหมคทุกอย่างไต้!มวาทรัพย่ อวัยวะ: หรึอแม้แต่ซวิฅ เพอมิให้เสิยธรรมไป เพอธำรงธรรมไว้ หมายกวามว่าท่านยอมตายเพอธรรม ไต้นั่นเอง ท่านถือกฅิกันมาอย่างทิ้แต่อคฅ คังทิ้ปรากฏเป็นหลักกำสอนทิ้เป็น หลักฐานในฃุททกนิกาย ซาดก อส์ฅินิบาต ว่าต้วยพระ:เว้าสุตโสมโพธิลัตว่ ทรงแสดงธรรมแก่พระ:เว้าโปริสาทมนุษย่กินกนในสมัยนั้น ชงสมเค็่'จพระ;ลัมมา- ลัมพุทธเว้าทรงนำมาแสดงเกยวกับชวประ:วัติของพระ:องกลมาลตอนหนั้ง กวามว่า จเช ธนํ องควรสฺส เหตุ เป็นอาทิ ชงถอดกวามเป็นภาษาไทยไต้ว่า \"นรซนพงสลร;ทรพยฺเพอรักษาอวัยวร; พึงสอร;อวัยวร; เพึ๋อรักษาซวิต แต่เมึ๋อหวนรร;ถืกถืงธรรมต้องการรักษา ธรรม พึงสอร;ทุกอย่าง ทั้งทรัพย่ อวัยวร; แลร;ซวิต\" แดในยุกใดสมัยใด ผู้กนกกกวามโลภและ;กวามหลงกรอบงำจิตใ'จ เห็่นวิปริต ผิดแปลกไป'จากกตินิยมเช่นน กือเห็่นว่าทรัพย่เท่านั้นกำกัญกว่าทุกอย่าง แม้ กระ:ทั่งธรรม เหื่นไปว่าธรรมตากว่าทรัพย่หรือล้ทรัพย่!มใต้ ในยุกนั้นสมัยนั้น ผู้กนก็่'จะ:พากันทอดทิ้งธรรม ไม่สนใ'จทิ้'จะ;ธำรงรักษากวามดงามต่างๆ ในลังกม และ;หมู่กณะ;ทิ้มองไม่เห็่นกวามกำกัญของกฎหมาย ระ;เบยบวินัยต่างๆ และ;คูถูก คูหมั๋นเย้ยหยันกนทิ้ปฏิบัติมั่นกงอยูในธรรม กนทิ้ปฏิบัติตามกฎหมายระ:เบยบ กติกาต่างๆ ของลังกม พร้อมทั้ง'จะ:พากันกดฃช่มเหงรังแกกนทํ่ประ:พฤติสุ'จริต ธรรมต้วยประ:การต่างๆ แต่'จะ:พากันยกย่องทรัพย่ว่าเป็นตัวกำหนดลังกม ยกย่องผู้มทรัพย่ว่าเป็นกนทํ่สามารถนำลังกมไปกํกวามเ'จริญถ้าวหน้าไต้ เมอผู้กนในยุกนั้นสมัยนั้นถูกกวามโลภและ:กวามหลงกรอบงำให้เห็่น วิปริตไปเช่นนั้ ก็่'จะ:พากันทำทุกอย่างเพอไต้มาซงทรัพย่สมบัติและ;ลาภลักการะ: ต่างๆ ถืงแม้ว่า'จะ:ทำลายโลก ทำ ลายสิงแวดล้อม ทำ ลายญาติพน้อง ทำ ลายเพอน ทำ ลายผู้บังกับบัญชา ทำ ลายผู้!ต้บังกับบัญชา กี่ยอมทำไต้โดยปราศ'จาก www.kalyanamitra.org

๔ด ฿ suuOnmifim i^ 1รอง ทไรยกย่องธรรน สติร'มปซัญญะ ปราศ'จากความละ:อายใจกวามเกรงกรวบาปกรรม เพยงเพอ ไห!ค้สมปรารถนาเท่านั้น ทั้งนั้เพราะ:ควงฅาควงใจไค้มดบอคไปเรยแล้ว ค้วย อำ นาจความโลภและ:ความหลง เพราะ:ความโลภและ;ความหลงนั้เกิคฃนแก่ ผูใคแล้ว ย่อมทำไห้ยู้นั้นไม่รู้อรรถไม่เห็่นธรรม มแฅ่ความมืคบอคเหมือนอยู่ ไนท่ามกลางความมืคมิคฉะ:นั้น สังคมใดหมู่คณร;ใดต้องการให้สิ'งคมหรือหมู่คณร:ของตนปลอดจาก มลพิษแห่งความเลวรๆยทั้งปวง ต้องการให้มืความสงบสุขมืความปลอดภย ในซวิตแลร;ทรืพยรน ก็่ต้องยกย่องเชิดชูธรรมในฐานร;เป็นสิงสัาคญทั้สุด ในสิ'งคมในหมู่คณร;นั้น กล่าวกือผู้คนไนรงคมไนหมู่คณะ:นั้นจะ:ค้องพร้อมไจกันเคารพธรรม มืหรกธรรมเป็นเครองคำเนินซวิฅ ไซ้ธรรมเป็นหรกไนการทำกิจและ:ทำหน้าท ค่างๆ จะ:ค้องไม่ล่วงละ:เมิคธรรมเพราะ:เห็่นแกไค้ เพราะ:เหื่นแก่หน้า เพราะ:เห็่น แก่พวกพ้องและ:ญาติมิฅรเป็นค้น และ:ทล่าคัญทํ่สุคกื่คือจะ:ค้องยกย่องเซิคชู ผู้ ทํ่มืความรู้ความสามารถและ:เป็นผู้ประ:พฤติธรรม เป็นผู้มืธรรมประ:'จำไจอย่าง มั่นคง เซ่นเป็นคนมืเมฅฅากรุณา เป็นคนซอรฅย่สุจริต เป็นคนขยันหมั่นเพิยร เป็นคนมืความรับผิคชอบ เป็นคนกฅัญฌู วิธการยกย่องนั้นคือ ไห้เกิยรติและ:ไห้โอกาสบุคคลเซ่นนั้นไค้เป็นผู้นำ หมู่คณะ:ไห้มืหน้าทํ่การงานทเหมาะ:สม ไห้มืยศกักคิ้ฅามความรู้ความสามารถ หรือยกย่องไห้มืซํ่อสิยงปรากฏไนหมู่คณะไนรงคมนั้นๆ รวมถงปกป้'องคนท ประ:พฤติธรรมมิไห้ถูกรังแก ถูกกลั่นแกล้ง หรือถูกเอารัคเอาเปรืยบค้วยประ:การ ค่างๆ จากคนชั่ว ไนขณะ:เคืยวกัน รงคมนั้นหมู่คณะ:นั้นจะ:ค้องไม่ยกย่อง ไมไห้ เกิยรติ ไมให้โอกาสแก่ผู้ทฃาคธรรม ผู้ทํ่ซอบประ:พฤติล่วงละ:เมิคธรรมเป็น ประ:จำ แม้ว่าผู้นั้นจะ:เป็นผู้มืความรู้มืความสามารถหรือมืทรัพย่สินมากก็่คาม โคยกคกันบุคคลเซ่นนั้นเสิยไมให้เป็นไหญ่ ไมให้เป็นหัวหน้าหมู่คณะ:หรือรงคมไค้ www.kalyanamitra.org

k ๔๒ ฿ sssuaisimim lau ๓ พระฆHไโพธิวง ศไใไรย์(ทอง ฅี ช.ธ.๙) มิให้มตำแหน่งหน้าท มิยศffกคิสูงเกินผูอน นั่นก็่กือพยายามขควงให้อยูในท 0 av จากคนนเอง เพราร;ว่าคนทมิความรู้ความสามารถหรือมิทรัพ มบติแต่ขาด คุณธรรม ไม่ปรร;พฤติธรรมน้น ย่อมนำความเดือดร้อนแลร;ความทุกฃยาก ลำ เค็่ญมาให้แก่เพึ๋อนร่วมหมู่คณะ:ร่วมสิ'งคมได้มากกว่าคนปกติธรรมดา มากน้ก เมอร'งกมนั้นหมู่คณะนั้นพากันยกย่องเซิคชูธรรมเมินธงชัยแลร:ยกย่อง บุกกลผู้มิธรรมผู้ประพฤติธรรมนั่นคง และไมให้เกิยรติไมให้[อกาสแก่อธรรม และผู้ขาคธรรมเซ่นนั้ ธรรมและผู้ประพฤติธรรมก็่จะเข้มแฃ็่งขน รวนอธรรมและ ผู้ขาคธรรมก็่จะอ่อนกำลังลง ในทํ่สูคลังคมและหมู่คณะก็่จะไครับผลเมินความ สงบร่มเย็่น ปราศจากความชัคแย้ง ความบาคหมางทะเลาะวิวาทกัน พ่อแม่ ก็่จะคูแลลูก ไม่ทอคทงลูก ลูกก็่จะพากันปรนนิบัติเลยงคูพ่อแม่ ไม่ปล่อยให้ พ่อแม่ฅกระกำลำบากคามลำพัง ผูใหญกจะเอ็่นคูผู้น้อยค้วยใจบริสูทธิ ผู้น้อย ก็่จะให้ความเคารพนับถือรูใหญ่ทั้งต่อหน้าและลับหลัง พํ่กับน้องก็่จะรักใคร่ ปรองคองกันเหมือนคอนเมินเค็่กๆ สามิกับภรรยาก็่จะไม่ทะเลาะ ไม่แคกแยกกัน แลร;ปีญหาสิงแวดล้อม ปีญหามลพิษต่างๆ ปีญหาจริยธรรม ชญหา ครอบครัว ปีญหาล้งคมต่างๆ แม้กรร;ทั่งบัญหาจราจรทหมักหมมอยูใน สิงคมในหมู่คณร;ก็่จร;ค่อยๆ หมดไปในทั้สุด เพราะแห้จริงแล้วชญหาต่างๆ เหล่านั้เกิดมาจากด้นตอใหญ่เพิยงจุดเดืยวเท่านั้นดือคนทั้ฃาดธรรม คนทั้ ไม่ประพฤติธรรมนั่นเอง คนทั้ประพฤติธรรมแห้จริงนั้นจะไม่เป็นผู้ก่อมัญหา เสิยเอง แต่จะเป็นผู้แกปีญหาต่างๆ ได้ สมเค็่จบรมบพิครสมเค็่จพระศรนครินทราบรมราชซนน ผู้ทรงพระคุณ อันประเสริฐนั้น ทรงปฏิบัติพระองคเมินแบบอย่างแก'พสกนิกรทั้งหลายในทาง ททรงนั่นคงอยูในหลักธรรมและทรงยกย่องธรรม ปฏิบัติพระองคโคยนำธรรม www.kalyanamitra.org

๔ฅ ฿ suuUflmifiai ^ 1รอง ทารยกย่องธรรน นั้นๆ มาเป็นหลักปฏิบัติให้เป็นรูปธรรม เป็นประโยซนั้แก่พสกนิกรซาวไทย ทุกหมู่เหล่า โคยไม่ทรงคำนงถึงกวามสูญเส์ยพระราชทร้พยและความเหนั้อยยาก ความลำเก็่ญแห่งพระวรกาย ไม่ทรงอมในการปฏิบัติพระราชกรณยกิ'จค่างๆ ซงก็่มิไค้ม^คบังคับหรือรับลังให้ทรงปฏิบัติเช่นนั้น หากแค่ทรงปฏิบัติไปคามทํ่ พระกรุณาธรรมในพระทัยกระค้นเตือนให้ทรงรู้ถึกรับผิคชอบค้วยพระองกเอง อยู่เสมอ จึงทรงปฏิบัติพระราชกรณยกิจค่างๆ ไค้[คยไม่ทรงเหนั้อยหน่าย อย่างเช่นองคัสมเค็่จพระลัมมาลัมพุทธเจ้าซงเมอแรกตรัส^หม่ๆ ก็่ทรงห้อแห้ พระทัยทจะออกโปรคลัฅว ค้วยทรงเห็่นว่าธรรมทตรัสรู้นั้นถึกชงและยากนัก ทจะรู้'คามไค้ แค่ก็่ค้วยอาคัยพระมหากรุณาธิคุณในพระทัยมากระค้นเตือน จึงทรงคกลงพระทัยเสค็่จจาริกไปลังสอนเวไนยลัคว่ประติษฐานพระศาสนา ใหมั่นคงคำรงสถาพรมาคราบเท่าทุกวันนั้ ค้วยเหตุนั้เองจึงทำให้พสกนิกรชาวไทยทั้งมวลพากันยกย่องเชิคชู สมเค็่จพระบรมบพิตรสมเค็่จย่าผู้ทรงพระคุณอันประเสริฐไว่ในฐานะทั้สูงล่ง และสูงสุคเท่าทั้สามารถจะยกย่องเซิคชูกันไคในยุคสมัยบัจจุบัน ย่อมถึอไค้ว่า เป็นผลอานิสงส์แท่งการทั้ทรงมธรรมประจำมั่นอยู่ในพระหฤทัย และทรง ประพฤติธรรมนั้นให้มผลปรากฏเป็นรูปธรรมประจักษซคแก่มวลมนุษยชาติ ทั่วไป และถือไค้ว่าพระองคทรงเป็นแบบอย่างแท่งพุทธศาสนิกชนทั้ค ทั้ยอม เถึยสละทุกอย่างเพอธำรงรักษาธรรม เพอให้เห็่นว่าธรรมนั้นเป็นสมบัติมก่า ลำ หรับลังคมมนุษยและมผลอันน่าปรารถนาจริงๆ ชงพุทธศาสนิกชนทั้งมวล ควรจะไค้ทอเป็นเนตติแบบแผนลำหรับการคำเนินช่วิค เพอทำใหซวิคเกิคความ สุขความสงบและเป็นประโยชน่ค่อลังคม คามกำลังความรู้'ความสามารถและ กำ ลังสติบัญญาชองคน และแม้การทั้สมเค็่จบรมบพิตรพระราชสมภารเจ้าทั้งสองพระองกทรง พระกรุณาโปรคเกล้าโปรคกระหม่อมบำเพ็่ญพระราชกุศลอุทิศถวายพระบรมศพ สมเค็่จบรมบพิตรสมเค็่จพระศรืนครินทราบรมราชชนนั ผู้ทรงพระคุณอัน www.kalyanamitra.org

i ๔๔ sssuaisinfiui lau ๓ พระบHใโพรวง ศใใใรย์(ทองสื น.ร.๙) ประLt1ริฐมาโคยฅลอคนั้น ก็่แสคงถงการททรงเการพธรรม ทรงประพฤติมั่นกง อยูในธรรม และทรงปฏิบัติธรรมให้ประจักษเป็นรูปธรรมเช่นเคยวกัน อันจักนำ มาชงพระราชรริสวัสคิ้พิพัฒนมงกลสืบไป ขออำนารพระราชกุศลทสมเค็่จบรมบพิตรพระราชสมภารเจ้าไค้ทรง บำ เพ็่ญอุทิศถวายในวโรกาสนั้ รงเป็นผลร'มฤทธิส์าเร็่จเป็นทิพยสุฃทิพยสมบัติ ปวัฅฅนาการเป็นไปแค่สมเค็่รบรมบพิตรสมเค็่รพระศรนกรินทราบรมราชชนนํ ผู้ทรงพระกุณอันประเสริฐในสุกติภพ โคยกวรแก่ฐานะนิยมทุกประการ รับพระราชทานถวายวิรชนาพระธรรมเทศนา ฉลองพระเคชพระคุณ ประคับพระปิญญาบารม สมกวรแก่เวลา ค้วยประการฉะนั้ ฯ ขอถวายพระพร www.kalyanamitra.org

ทุกฃกถา เรื่อง ทุกฃ์ ทุฤฃเมว หิ สมฺโภติ ทุกุฃํ ติฏุ^ติ เวติ จ นาฌฺรบตร ทุกขา สมฺโภติ นาฌฺฌตฺร ทุกขา นิรุซฺฌติติ ฯ สํ.ส. ©๕/๕๕๕/©๙๙ บ^^^คนิ้ จักรับพรร:ราซทานเฟคงพระธรรมเทศนาใน ทุกฃกถา ฉลอง พระเคซพระคุณประคับพระปิญญาบารมในการททรงพระกรุณาโปรคเกล้าฯ ให้ส่วนราชการ องกการ และบุกกลต่างๆ บำ เพ็่ญพระกุศลถวายพระบรมศพ ศมเค็่จบรมบพิตรศมเค็่'จพระศรันกรินทราบรมราชชนน ผู้ทรงพระคุณอัน ประเสริฐ ชงในวันน พลเอกจรวย นางนิฅยา วงส่สายัณห และกรอบกรัว ๑ พลเอกอักรเคช พันโทหญิงกรรณิการ ศคัประภา และกรอบกรัว ๑ พลเอกเมธ นางทิพยวัลย สมุทรรักษ และกรอบกรัว ๑ บริษัทเศรฬอินทรัยเทพจำกัค ๑ รวม <1 กณะไค้ขอรับพระราชทานเร็เนเจ้าภาพบำเพ็่ญพระกุศลถวายสมเค็่จ พTtธรรมกิตติวงส์ (ทองค) วัคราชโอรฟ้าราม กรุงเทพมหานคร แฟ้คง ในการบำเพี่ญพระ:ราชกุศถถวาย พรรบรมศพฟ้มเค็่จพระ:สรนครนทราบรมราชชนน ณ พระทํ่นั่งคุสิฅมหาปราฟ้าท ในพระบรมมหาราชวัง วันพฤหัฟ้บค ท ]รท๙ กุมภาพันธ พ.ศ. ๒๕๓0^ www.kalyanamitra.org

k ๔๖ sssuaisinflui lau ๓ พระบHาโพรวง ศไใใรย์(ทอง ดี ช.ร.๙) บรมบพิตรพรร:องคนั้น ทั้งนค้วยกวามส์านกในพรร;มหากรุณาธิคุณแห่งศมเค็่จ บรมบพิตรพรร;ราชสมภารพรร;องก พรร;บาทสมเค็่จพรร;mอยู่ห่'วและ;สมเค็่'ไเ พรร;สรนกรินทราบรมราชซนน ผู้ทรงพรร;คุณอันปรร;เสริฐทั้งสองพรร;องก ทั้ ทรงมฅ่อพสกนิกรชาวไทยทุกถ้วนหน้ามาตลอกรร;ยร;เวลาอันยาวนาน ทำ ให้ ชาติไทยแลร;ชาวไทยคำรงมั่นกงเป็น{เกแผ่นแลร;ร่มเย็่นเร็เนสุชโกยทั่วหน้ามา ตราบเท่าทุกวันน แห้พิ สมเด็่จพรร;สรนครินทราบรมราชชนน นั้นทรงมพรร;ราช- คุณูปการแลร;พรร;มหากรุณาธิคุณอันยํ่งใหญไพศาลฅ่อปรร;เทศชาติบ้านเมือง ต่อสถาบันพรร;มหากษัตริย ต่อพรร;บวรพุทธศาสนา แลร;ต่อพสกนิกรชาวไทย ทุกหมู่เหล่าเป็นล้นพ้น เป็นทั้ปรร;อักษชักมาโกยตลอก ทั้งนั้ค้วยทรงบำเพ็่ญ พรร;ราชกรณยกิจต่างๆ ด้วยพรร;ทัยทํ่มั่นกงเค็่กเคยวเล่ยสลร;ไปถกถอยห้อแห้ แลร;ด้วยพรร;วิริยร;อุตสาหะ;อย่างแรงกล้า ตลอกรร;ยร;เวลาอันยาวนาน ผลทั้เกิก จากการททรงบำเพ็่ญพรร;ราชกรณยกิจต่างๆ นั้น เป็นรูปธรรมทสามารถมอง เห็่นสามารถอัมผัสได้[กยทั่วไป เหคุผลล่ากัญประ;การหนงทั่เป็นแรงผลักคันให้ พรร;องกัทรงล่ยสละ;แลร;มืพรร;ทัยมั่นกงในการช่วยเหลือเกอกูลผูอนอยู่เมืองนิจ นั้น ลือพรร;องคทรงเช้าพรร;ทัยในหลักแห่งอัจธรรมชองโลกชองมบุษย่ และ; ชองซวิตอย่างลืกชงและ;ถูกด้องถ่องแห้ จึงทรงอักแจงและ;อักการเรองต่างๆ ให้เป็นไปโกยรกหลักลัจธรรมนั้นๆ เป็นล่ากัญ หากจะไคลืกษาพรร;ราชประ;วัติชองสมเค็่จพรร;ศรนกรินทราบรมราชชนนมื โกยลร;เอยกแล้ว ย่อมทราบได้ว่าพรร;องกทรงไกรับการแนะ;นำสนับสนุนให้!ปวัก ให้!ครูอักและ;สนทนากับพรร;สงฆมาแต่บังทรงพรร;เยาว่ ชงเป็นเหคุให้ทรงมื พรร;ราชหฤทัย'ฝืกใฝ่ในทางธรรมตั้งแต่นั้นมา ยั๋งเมอทรงมืพรร;ชนมายุมากชน ทรงผ่านโลกผ่านเหคุการณมากซน ก็่ยํ่งตระ;หนักยั๋งเช้าพรร;ทัยในลัจธรรม ชองโลกชองซวิตมากชน แม้จะทรงใช้เวลาอยู่ทั้ต่างปรร;เทศเป็นรร;ยร;ๆ แต่ www.kalyanamitra.org

๔๗ nnwnm ftlSi I รอง ทุ ทฃ์ ^สั^ กี่ไค้ทรงสืกษาหากวามรู้ทางธรรมในพร2พุทธศาสนามาโคยฅตอค เมอประทับ อยูในประเทศไทยกี่ทรงใฝ่พระทัยในการสนทนาธรรมทับพระมหาเถระผู้ทรง ภูมิปิญญาในทางธรรมอยู่เนองนิจ เป็นเหตุให้ทรงแฅกฉานและเข้าพระทัยถง แก่นแห้แห่งพระพุทธศาสนาไค้อย่างสุชุมลุ่มตึก จนสามารถทรงแนะนำทรง วินิจฉัยข้อธรรมนั้นๆ ไค้ถูกค้องอย่างน่าอัศจรรย่ ทัจธรรมข้อหนั้งทํ่พระองก่ทรงเข้าถงอย่างถ่องแห้กอ ฉัจธรรมของ ชวิต ชงทุกชวิฅทเกิคมาในโลกจะค้องประสบค้วยทันทั้งนั้น อันทัจธรรมนั้น มเนั้อกวามว่า ''ทกชวิฅทเกิดมาถ้วนตกอยู่ภายใ^กษณะทเสมอเหมือนกันหมด คือ อนิจจัง ไม่เทยงแท้ทุกขัง ไม่ดงทนถาวร แปรสภาพไปศถอดเวลา และอนัดดา ไม่อาจบังกับใท้เปีนไปอย่างทฅ้องการได้ และทสุดของขวิดก็่คือความดาย ทัง้เศ็่ก ทัง้ ^หญ' ทัง้คนโง่ ทัง้ คนฉลาด ถ้วนจะด้องถึงอำนาจของมัจจุราช ถ้วนมืความดายอยู่ข้างหน้าทั้งส้น ถ้ดวโลกทั้งหลายจะด้องดายแน่นอน เมอดายแถ้วก็่จะด้องจากทุกส่ง ทุกอย่างไป ด้องทั้งทุกส่งทุกอย่างไวิในโลกน ใท้เปีนสมบัติของโลกด'อไป มืแด่บญความดกับบาปความชั่วเท่าทั้นทติดดามดนไปเหมือนเงาติดดามตัว น้ทำ บาปกรรมไว้ย่อมเข้าถึงนรก น้ทำ บญกรรมไว้ย่อมเข้าถึงสคติ เกิดมาแถ้วจงไม'ควรประมาท พึงรบทำความศ ชั่งสมความศอันจะ ติดดามดนไปไดในกัมปรายิกภพเถึยแด'วันน เพราะใครเล่าจัก^ด้ว่าความ ดายจะมาถึงกัวเมอไร และในปรภพเบองหน้าทั้นก็่มืบุญเท่าทั้นทจะเปีนท พงของถ้ดวโลกผู้ดายไปแถ้วได้ ผู้ทไม'ประมาทย่อมทำอย่างนได้ ครั้นได้ทำ แถ้ว แมืกัวจะดายไปแถ้วก็่ชอว่าบังไม่ดาย เพราะความดงามททำไว้กังคงอยู่ ในโลกทั้ www.kalyanamitra.org

A ๔๘ sssuaisinfiuiiau๓ พระนHใโพธวง ศใาใรช(ทอง ดี ช.ร.๙) ส่วพู้ทประมาทแล้ว ไมไคล้งฒศวามhะไรไว้มแศ่ประกอบกรรมทำเฃ็่ญ ต่างๆ มแต่จะเห็่นแกไค้เห็่นแก่ฅัวอย่างเคยว แม้จะยังมชวิฅอยูกเหมือนกับ คนทคายแล้ว ซาคนทคายแล้วยังคกว่าเมืยอก เพราะผู้ทคายแล้วไม่ก่อกรรม ทำ เข็่ญใหใครให้เคือคร้อน\" สิ'จธรรมแห่งซวิฅทั้งปวงเซ่นน สมเค็่'จพระสรนกรินทราบรมราชชนนทรง เช้าพระทัยอย่างลกชงและเห็่นถ่องแท้ด้วยพระองกเองมาโคยฅลอค ยังมสิ'จธรรมอกช้อหนงททรงเช้าถึงอย่างลึกชง คือหลักแห่งเบญจชันธ หริอร่างกายทเป็นททั้งทเกิคแห่งกองทุกข คังพระบาลึในสุฅฅนิบาต อังกฅฅร- นิกาย ทพระวชิราภิกษุณได้กล่าวไว้ ดังไคือญเชิญมาเป็นนิกเฃปบทเบองด้น แห่งเทสนาว่า ทุฦฃเมว หิ สมฺโภติ เป็นอาทิ ชงแปลเป็นกวามไทยได้ว่า \"ทุกขเท่านั้นเกิดฃ็้น ทุกฃ์เท่านั้นดำรงอยู่ ทุกขเท่านั้นดับไป นอกจากทุกฃแล้วไมมอรเไรเกิด นอกจากทุกฃแล้วไม่มอรเไรดับ\" ช้อกวามนั้แสคงไว้!ท้กนเราเห็่นกวามจริงชองซวิฅด้วยสติปิญญาว่า ชวิคมนุษย่นั้นโคยแท้แล้วเปีนการรวมคัวกันขนอย่างสมคุถฃองราศุทั้งคืคือ คิน นั้า ไฟ และถม มืวิญญาณธาตุเข้ามาอาคัยอยู่ เกิคความรู้คืก ความจำ ความมืกคิค และความPน ส่งทรวมคัวกันฃนแล้วนั้ภาษาทางสาสนาเรยกว่า เบญจข้นร หมายถงก่วน ๕ ต่วนคือ รูป เวทนา กัญญา กังขาร วิญญาณ มารวมกันเปีนกองเคืยวกัน ทางโลกก็่สมมฅิเรยกกันไปต่างๆ คามภาษาของ คนๆ เช่น เรยกว่า คัวคนบ้าง ชวิคบ้าง สรระบ้าง ท่านเปรยบเบญจชันธนั้เหมือนกับรถยนฅ คือธรรมคาว่ารถยนฅนั้นเภิค ขนมาได้ เพราะนำชนล่วนต่างๆ เซ่น ล้อ ดัวกัง หลังกา พวงมาลัย มาประกอบ กันเช้าอย่างถูกล่วน แล้วก็่สมมติเริยกกันไปตามภาษาของตนๆ เซ่นเริยกว่า รถยนฅ แต่เมอแยกซนล่วนเหล่านั้นออกจากกัน รถยนฅก็่หายไป เริยกว่า www.kalyanamitra.org

๔๙ ฿ ทุฉซกm rSSi ใ รอง ทุ กข์ J รถยนฅโมไค้อก เรยกไค้แต่เพยง ล้อ ตัวถัง หลังกา เป็นค้น เมํ่อแยกซนส่วน เหส่านั้นออกไปอก เซ่นตัคโกรงหลังกาออกเป็นซนๆ โกรงหลังกาก็่หายไป เหลือแต่ซนเหล็่ก เมํ่อแยกซนเหล็่กออกไปอก เซ่นนำไปเผาไฟ ก็่เหลือเพยง ก้อนเหล็่ก เซม่าเหล็่ก เก้าเหล็่ก แยกไปเรอยๆ ก็่กลายเป็นกินไป ซงธาฅกิน นั้เป็นธาตุเกิมของลังฃารต่างๆ อย่างหนง ซวิฅร่างกายซองกนเราก็่เซ่นเคยวถัน โคยแท้จริงแล้วก็่ถูกปรุงแต่งมา จากปิจจัยต่างๆ แล้วศมมกิเริยกว่าเบญจฃันธ และเบญจขันธนั้เองทเป็นทตั้ง ทํ่เกิคแห่งทุกฃทั้งมวล ไม่ว่าจะเป็นกวามเกิค กวามแก่ กวามคาย กวามเศร้าโศก เลืยใจ กวามผิคหวัง กวามระทมขมขน หรอกวามทุกซอย่างอน ค้วยเหตุนั้ ท่านจึงกส่าวว่าเบญจขันธเป็นทุกฃหรือเป็นตัวทุกฃ สิงทเกิด สิงทดำรงอยู่ สิงทตายไป โดยแท้จริงแล้วก็่ลือเบญจฃนธ ชงเป็นตัวทุกฃนั้เอง มํเใช่อะไรอึ๋น และท่าน^ปิญญาเมอเห็่นขัคตังนั้จึงมกวามเซ้าใจในเรํ่องนั้อย่างถ่องแท้ ว่า ทุกขเท่านั้นเกิดขน ทุกฃเท่านั้นดำรงอยู่ ทุกฃเท่านั้นตับไป นอกจากทุกฃ แล้ว ไมมอะไรเกิด ไมมอะไรตับ คามข้อความบาลืข้างค้นนั้น เมอเหื่นตังนั้ แล้วก็่ย่อมจะหมคอุปาทาน คือไม่มกวามยึคมั่นลือมั่นในซวิฅ ในร่างกายซอง คน เพราะมองเหื่นว่าแท้จริงแล้วตัวคนจริงๆ ไม่ม มแต่ศมมกิถันว่ามเท่านั้น ส่าหรับผู้ทมองไม่เหื่นคามเป็นจริงอย่างนั้ย่อมเกิคกวามยคมั่นลือมั่นใน ชวิคในร่างกายซองคน ในซ่วิคซองผู้ทคนรัก และในทรัพย่สมบัฅิทคนไค้มา โคยเหื่นว่าเป็นคนเป็นซองคน ทั้งๆ ทสิงเหส่านั้ล้วนเป็นสิงทสมมติซนทั้งสิน ความยดมั่นลือมั่นในสิงสมมติอย่างนั้แหละทั้ทำให้เกิดทุกขเบองต้นคือ ความหวงแหน ความหวาดกล้ว ความหวาดระแวง ไม่อยากให้จากไป ไม่ อยากให้กลายเป็นอน เมํ่อเกิดอาการอย่างนั้แล้ว ความทกฃ์อนๆ ก็่ตามมา คือเกิคกวามกระเลือกกระสนคนรนเพํ่อถนอมคูแลรักษาสิงทมทเป็นอย่างเฅี่มท www.kalyanamitra.org

i ๕๐ ^ sssuaisinfiin lau ๓ พระ น!ทโพรวง ศใาใรย์(ทอง ดี ช.ร.๙) กรนร่งนั้นๆ มอันต้องเปลยนสภาพไป พลัคพรากไป หรือล้มฅายไปก็่ทุกฃ ระทม หมองไหม้ เศร้าโศกเส์ยใ'จ ซงเร็เนเหตุไหชวิฅเศร้าหมองขุ่นมัวทั้งสิน ผู้ทั้เข้าใจเรองของชวิตอย่างนั้ดเท่ากบมเกรารเปีองกนต้วเองมีให้ทุกข้ รรเทมโนเมอต้องประสบพบภาวร;ความเป็นจริงต่างๆ เหล่านั้ เพราะเมอเข้าใจ และเข้าถึงสิ'จธรรมข้อนิ้แล้วย่อมลามารถตัก'อุปาทาน ตักกวามยึคมั่นถึอมั่น ในอักกาตัวกน ในสิงต่างๆ ทั้เป็นสิงลมมติไต้ เมอตัก'อุปาทานไต้แล้ว จิกใจ ก็่จะโปร่ง เบา ลบาย เป็นอิลระไม่ต้องถึกเกาะอะไรอก เมํ่อไม่ถึกเกาะอะไรไว้ ก็่เถึยลละไค้ ช่วยเหลือเกอกูลยูอนไต้ เห็่นอกเห็่นใจยูอนไต้ งกเว้นการเอารัก เอาเปรืยบฒูน งกเว้นการเบยกเบยนยูอนไต้ กล่าวในทางธรรมถึคือเป็นยู้ม เมกฅาธรรมไต้มั่นเอง และ ผู้มีเมตตาธรรมเท่านั้นจิงจร!เห็่นอกเห็่นใจผู้อึ๋น ช่วยเหลือเกอกูลผู้อึ๋น ไม่เอารัตเอาเปรยบและไม่เบยดเบยนผู้อึ๋น คนขาด เมตตาธรรมหาทำ เช่นนั้นไดใม่ ลมเค็่จพระศรืนกรินทราบรมราชซนนทรงไครับการอบรมมั่งลมมาใน อัจธรรมของซวิก ทรงเห็่นว่าซวิกร่างกายนั้นเป็นเพยงกองทุกขกองหนง ชงจะต้องแกกตับไปไม่วันใกก็่วันหนง และก่อนทั้จะแกลตับไปก็่กวรใข้ชวิก ร่างกายนั้นให้เป็นประโยชน!ห้มากทํ่ลุก โกยประกอบคุณงามกวามก ช่วยเหลือ เกอกูลยูอน เมอทรงเห็่นอย่างนั้จิงทรงใข้เวลาให้หมกไปอย่างมคุณค่าและเป็น ประโยชน ทรงลละลุขล่วนพระองกหรืออาจกล่าวไต้ว่าทรงลละพระชนม่ซพ ชองพระองกเพอผลสิ'มฤทธิชองงาน ชงเป็นประโยชนเกอกูลแก่^นเป็นประการ ลืาตัญ คูเหมือนว่าพระองกจะไม่ทรงอ่อนล้าเหนอยหน่ายหรือห้อแ7ในการเลค็่จ ไปในทั้ต่างๆ เพอบำเพ็่ญพระราซกรณยกิจเลย ทรงถึอกติทั้ว่า ถงเหนึ๋อยก็่ เหนอยหาย แต่เครึ๋องหมายความดยงมีอยู่ กตินั้เป็นกติลืาหรับเตือนใจชอง นักทำงานเพํ่อลงเกราะหผูอนไต้อย่างก ชงจะกอยกระต้นมิให้เกิกกวามห้อแห้ ถกถอยในเมํ่อเกิกอุปลรรกหรือเกิกกวามเหนอยล้าขนมา ผลจากการททรง www.kalyanamitra.org

๕๑ <?: ทุทซทท! fSHi 1 รอง ทฉฃ์ ใ^^ เสืยสลร;ของพระองคนั้นเป็นเหตุให้พสกนิกรซาวไทยโคยเฉพาะทอยูในซนบท ห่างไกล อยู่คามซายแคน อํยู่คามป่าเซาทั่วประเทศไทย พ้น'จากกวามทุกซ ยากลำเก็่ญ พ้น'จากความฃาคแกลนในเรองค่างๆ มคุณภาพซวิฅทั่คซน เป็น ทประจักษซัคกันอยู่แล้ว อนง เนอง'จากทรงเซ้าพระทัยในกั'จธรรมและทรงปฏิบัติให้เป็น'จริงห้วย พระองกัเองไห้ ทั้งทรงไห้รบผลแห่งการปฏิบัติธรรมนั้นๆ ห้วยพระองกเอง เช่นการททรงคำรงพระซนมอย่างเริยบง่าย กันโคษ เป็นเหตุให้พระองกทรงม พระทัยแ'จ่มใสไม่ขุ่นมัว มพระพักฅรและพระฉววรรณอั๋มเอิบ การททรงวาง พระองกคํฅามหกักกังกหวัคคุธรรม เป็นเหตุให้พระองกทรงเป็นทรัก เป็นทั้น่า เข้าเ&'าใกลซิคซองทุกๆ กน ทรงมกวามสุซอยู่กับการเสค็่'จไปช่วยราษฎรทนั่น ทั้นั้ ทำ ให้ทรงมพระซนมายุยืนนาน เป็นห้น จงทรงปรารถนาให้ราษฎรซาวไทย ประพฤติปฏิบัติอย่างพระองกบ้าง จึงนอกจากจะทรงกระทำพระองก!ห้คูเป็น คัวอย่างแล้ว แมในเวลาทั้เสค็่จไปในทั้ใคหรือม^คเข้าเกัาพระองก ก็่มักจะทรง ให้ข้อกิคเป็นเชิงแนะนำ คังเช่นพระคำรัสทั้ฅรัสไว!นทํ่ค่างๆ ซงซออัญเชิญมา แสคงเป็นนิทัสนะอุทาหรณ ณ ทั้นั้เป็นบางคอนบางประโยก เป็นห้นว่า \"จำไว้น:! อิสสาคือ?ษยๆ เปีนตัวการททำให้เกิฅกวามวุ่นวายแล:;ทำให้ เคือมได้เพราะฉะนั้น ให้ละเว้น อย่าใหมอิจฉาหรือริษยาได้เวลานั้ฉันพยายาม ปฏิบัติพรหมวิหารคืเพึ๋อทจะได้อกทนฅ่อกวามอิจฉา อวดก และอะไรต่างๆ ของกน\" \"รู้จักทำใจให้เปีนกลาง พิจารณาว่าทเราโกรธนั้สมกวรไหม พิจารณา ว่ากนเรากวามกิฅเห็่น ไม่เหมือนกัน ด้องให้อภัย ก้องปีกไปเรอยๆ แล้วจะ ระงับได้เอง\" \"อย่าลืมว่าแต่ละกนมืกวามบริสุทธื้ไม่นั้งหมก เพราะฉะนั้น ถึงแม้จะมื ข้อบกพร่องอะไรม้าง ก็่ด้องยอมรับ นคือสภาพของกนปกติ ขอให้มองกันใน แง'กแล้วทุกส่งทุกอย่างจะลืาเร็่จลุล่วงไปด้วยด\" www.kalyanamitra.org

i ๕๒ i?; sssuaisinnui lau ๓ พระบ!ทโพรวง ศไจใรย์(ทอง ดี ช.ร.๙) \"ถ้าเราเพยงแฅ่อยากจ:^มความP เราก็่จะหาไค1ม่ช้านัก แค่ถ้าเราอยาก จะเปีนสุขยํ่งกว่าผูอนก็่ออกจะยาก เพราะเราไปเชํ่อว่าคนอนๆ นนเปีนสุขยงกว่า ทเขาเปีนจริงๆ\" \"คนศของนันร จะต้องเปีนคนไม่พูฅปศ ไม่สอพออ ไม่อิจฉาริษยา ไม่คดโกง และไม่มความทะเยอทะยานอย่างบ้าๆ แค่พยายามทำหน้าทํ่ของตน ใหศในขอบเขฅของค่ลรรรม\" ฅามพระราชดำรัสบางส่วนทไ^ญเชิญมาแสคงไว้น ย่อมเห็่นไคซัคว่า สมเค็่จพระศรนกรินทราบรมราชซนนนั้นทรงสุชุมส่มลี้กในทางธรรม ทรงเข้า พระทัยในชวิฅความเป็นจริงชองผู้กนทั่วไปว่าเป็นอยู่กันอย่างไร คิคกันอย่างไร จึงทรงมพระราชดำรัสหลายเรึ๋องหลายอย่างเป็นแนวให้ปฏิบัติ ทั้งแสคงถงพระ อุคมกติในพระทัยฃองพระองกค้วยว่าทรงชอบและไม่ชอบอะไรอย่างไร กังนั้น การทพสกนิกรชาวไทยทั้งหลายจะแสคงกวามจงรักกักคและกวามกกัญฌู กฅเวทคอบสนองพระราชคุณูปการททรงมฅ่อประชาชนและประเทศชาตินั้น ย่อมกระทำไคโคยการปฏิบัติคามอย่างททรงปฏิบัติพระองกให้คูเป็นแบบและ ปฏิบัติคามพระราชดำรัสททรงแสคงให้เห็่นประจักษ กส่าวกือพสกนิกรชาวไทย ทุกหมู่เหล่าพึงมกวามเป็นอยู่อย่างเริยบง่าย ไม่ฟ้งเฟ้อทะเยอทะยาน ไม่อิจฉา ริษยากัน ให้อกัยแก่กันและกัน ในขณะเคยวกัน ก็่ช่วยเหลือเห็่นอกเห็่นใจ ชงกันและกัน อยู่กันค้วยเมคคาธรรมเป็นททั้ง เมอปฏิบัติกันไค้อย่างนั้ นอกจาก จะไคชอว่าไค้ปฏิการะคอบสนองพระราชคุณูปการโคยทางทถูกค้องชอบธรรม แล้ว ยังจะส่งผลให้เกิคเป็นกันติสุฃและกันติภาพในกัวเอง ในกรอบครัว ในกังคม ประเทศชาติเป็นส่วนรวมค้วย อิมินา กตปุฌฺเฌน ค้วยอำนาจพระทุศลทคณะเจ้าภาพทั้งลืกณะไค้ บำ เพ็่ญอุทิศถวายในโอกาสนั้ ขอจงเป็นผลกัมฤทธิส่าเร็่จเป็นทิพยสุฃทิพยสมบัติ www.kalyanamitra.org

๕ฅ ฬฺ ททซทท! Iรอง ทกซ์ แค่สมเค็่จบรมบพิตรสมเค็่จพรร;ศรนกรินทราบรมราชซนน ผู้ทรงพรร:คุณอัน ปรร;เสริฐ ในสุกติภพโคยกวรแก่ฐานร;นิยมทุกปรร;การ รับพรร;ราชทานถวายวิอัซนาพรร;ธรรมเทศนา ฉลองพรร;เคชพรร;คุณ ปรร;คับพรร;ปิญญาบารม สมกวรแก่เวลา ด้วยปรร;การฉร;น ฯ ขอถวายพรร;พร กินฺเตหิ ปาทสุสฺสูสา เยส์ นตถิ ครูนิห เย ตปปาทรโซกิณฺณา เตว สาธู วิเวกิโน ฯ ธรรมนฅิ. ในโลกน ซนเหล่าใคไม่ปรนนิบัติครูอย่างใกลซคด้วยความเคารพ ซนเหล่านั้นเป็นบุคคลทไมพงปรร:สงค ล่วนซนเหล่าใคอยู่รับใ^กลชคครูทั้งหลาย ซนเหล่านั้นเป็นคนค มวิจารณญาณ. www.kalyanamitra.org

ปณฺฑิโต สุตส์มฺปเ!โน ยตฺถ อตฺถติ เจ สุโต มทุสฺส์าเหน ตํ ^านํ คนฺตพฺพํ ว สุเตสินา ฯ ธรรมนคิ. หากทราบว่า นักปราชญ์ยู้เพยมพร้อมด้วยวิชากวามรู้มอยู่ ณ ทใค ผู้แสวงหากวามรู้ก็่กวรบากบั่นไปหาใหถึง ณ ทนั้น. www.kalyanamitra.org

๗ กตัญญูกตเวทิตากถา เรื่อง ความกตัญญูกตเวที เอสา ภิกฺฃเว สปฺปฺริสภมิ ยทิทํ กตฌฺญตา กตเวทิตาติ ฯ องฺ.เอก. ๒อ/๒๗๗/๗๘ ณ บัคน็้จักรับพระราชทานถวายวิร'ชนาพระธรรมเทศนาใน กตญญ กตเวทิตากถา ฉลองพระเคซพระคุณประคับพระปิญญาบารม ในการ ททรงพระกรุณาโปรคเกล้าฯ ให้มการบำเพ็่ญพระราชกุศลพระบรมอัฐฟ้มเด็่จ บรมบพิตรสมเค็่จพระศรนกรินทราบรมราชชนน ผู้ทรงพระคุณอันประเสริฐ ห้วยพระราชหฤทัยทหวัง'จะสนองพระเคชพระคุณแห่งสมเค็่จพระบรมราชชนน ให้กรบถ้วนสมบูรณถูกห้องตามหลักธรรมและโบราณราชประเพณเป็นสำคัญ การพระราชพิธต่างๆ อันเกยวลับพระบรมศพสมเค็่'จพระบรมราชชนนนั้นจึง สำ เรี่จลงอย่างสมบูรณ เป็นทชนซมยินคของพสกนิกรชาวไทยทั้งประเทศ นับ เป็นภาพทชะห้อง'จารกอบูในกวามทรง'จำของกุกๆ กนไปจนกว่าซวิฅ'จะหาไม่ พรรธทมกิฅฅิวงเรื่ (ทองค) วคราขโป็รศาราม กรุงเทพมหานทร แฝ็คง ในการบำเพ็่ญพรรราชกุคลพระบรมอัฐ ศมเคี่ๆพระศรนกรินฺทราบรมราชขนนึ ณ พระทฺนั่งคุสิคมหาปราศาท ในพระบรมมหาราชวัง วันพธ ท ๑๓ มนคม พ.ศ. ๒๕๓๙ www.kalyanamitra.org

i ๕๖ m ธรรบส!รโทฝ็น! lau ๓ พระฆผใโพธิวง ศไ!ใรบ์(ทอง ดี ช.ร.๙) แท้'จริง กาทสค็่'จสวรรกฅแห่งสมเค็่จบรมบพิฅรสมเค็่'จพรร:flTนกรินทรา- บรมราชซนน ผู้ทรงพรร:กุณอันปรร:เสริฐนั้น มิใซ่'จร;นำกวามทุกฃ1ทมน'สพรร:หฤทัย มาให้แค่สมเค็่'จบรมบพิตรพรร:ราชสมภารเ'จ้าเท่านั้น แม้พสกนิกรซาวไทยทุก หมู่เหล่าค่างก็่รู้ส์กเศร้าสลดส์ยใ'จในการสูญเสียสมเค็่'จย่าอันเป็นทรักเป็นท เทิคทูนยั๋งฃองตนไปอย่างหาปรร:มาณมิไท้เซ่นกัน จี้งค่างพากันมาถวายบังกม พรร:บรมศพกันอย่างมิฃาคสาย แม้[นการพระราชพิธถวายพรร:เพลิงพรร:บรมศพ ก็่พากันหลั่งไหลไปถวายคอกไมอันทนํร'กการะกันอย่างเนืองแน่นทั่วพระราซ- อาณาจักร แสคงไท้เห็่นว่าพสกนิกรชาวไทยนั้นจะ'จงรักกักค จะเทิคทูนบูชา จะร่วมสูฃร่วมทุกฃ และจะไม่ทอคทงสถาบันพระมหากษัตริย่ตลอคไปอย่าง แน่นอน นั้งนั้เพราะสถาบันพระมหากษัฅริย่มิไท้ทอคทงประชาชนนั่นเอง อนง การทสมเค็่จบรมบพิตรพระราชสมภารเจ้าทรงปฏิบัติต่อสมเค็่จ พระบรมราชชนนืผู้ทรงเป็นทํ่รักยั๋งแห่งพระองกมาโคยตลอค ทั้งไนขณะทบัง ทรงพระชนม่อยู่และหลังจากเสค็่จสวรรกตจนถงการพระราชพิธถวายพระเพลิง พระบรมศพเริยบร้อยแล้วนั้ เป็นไปตามหลักธรรมไนพระพุทธศาสนาประการ หนั้งกือกตญฌูกตเวทิตาธรรม ซงเริยกกันโคยสามัญว่า ความกตัญฌูกตเวทิ อันคุณธรรมข้อนั้สมเค็่จพระผู้มพระกากเจ้าทรงยกย่องว่าเป็นลัปปริสภูมิ ตามพระบาลทไคอัญเชิญมาเป็นนิกเฃปบทเทศนาเบองท้นว่า เอสา ภิกขเว สปฺปุริสภูมิ ยทิทํ กตฌฺฌุตา กตเวทิตา ชงแปลว่า \"ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ข้อธรรมคือกตัญฌูตาและ กตเวทตาน\\iเlนลัปปร^ ิสภมิ\" กำ ว่า สิ'ปปุริสภูมิ หมายถง ระดมหรือชั้นของคนด หมายกวามว่า เป็นคุณธรรมชองกนด เป็นคุณธรรมทกนคเขาประพฤติปฏิบัติกัน กนไม่ค www.kalyanamitra.org

๕๗ # niaojiunmโวnminm 1รอง ทวใ- ม-ก-ตัญณูกด!วที แล้วตอบแทนบุญคุณของเขา คุณธรรมสองอย่างนรวมกันเรยกว่ากวาม กฅัญฌูกฅเวท หมายถึงการรู้คุณคนและกอบแทนคุณคน แท้'จริง เฉพาะคำว่าความกฅัญณูนมความหมายทละเอยคลกซง มิใซ่ เพยงรู้คุณกามทไท้ยินไค้ท!งเขาว่า หรือกามทพระท่านเทศนท่านสอนเท่านัน แก่ก้องเกิฅ'จากส์านึกในจิกใ'จของกนจริงๆ การทจะเป็นความกกัญฌูไก้นัน จะก้องมลักษณะ ๓ ประการคือ ๑. รู้ว่าใครบ้างมบุญคุณต่อตน รู้ว่าเขาได้เคยทำเคยให้อะไรแก่ ตนมาบ้าง สามารถจำได้ มความทำนึกยอมรับในบุญคุณ ของเขาอยูในใจตลอดเวลา ๒. รู้ว่าคนททำอุปการะแก่ตนมานั้นเขาคิดอย่างไร กล่าวคือรู้ ถึงจิตใจของเขาว่าเขาด้องการอะไรตอบแทนจากตนอย่างไร แม้เขาจะไม่บอกให้รู้ ก็่สามารถรู้!ห้ด้วยจิตทำนึกของตนเอง ๓. รู้ว่าตนควรจะปฏิบ้ติอย่างไรต่อผู้ทเคยอุปการะ เคยทำเคย ให้อะไรแก่ตนมาตามทตนรู้มาแล้วนั้น กล่าวคือด้องรู้ว่าตน ควรจะตอบแทนเขาอย่างไรแคไหน จึงจะเหมาะสมกับอุปการะ ทเขาเคยทำเคยให้แก่ตนมา ความรู้ทั้งสามอย่างนั้แหละเรืยกว่าความกกัญฌู และจะก้องรู้'ครบทั้ง ๓ ลักษณะจึงจะซอว่ากกัญฌูแท้ ถ้าขากไปเถึยอย่างใคอย่างหนงก็่จะทำให้คุณธรรม อกข้อหนงคือกกเวทิกาเกิคขนไมไก้ กตเวทิตาเป็นเรองของการตอบแทนตาม ทั้ตนได้กตญฌูคือรู้มาแล้ว กตเวทิตามได้เพราะกตญฌุตาม หรือกตญฌุตา เป็นเหตุให้กตเวทิตาเกิดขน เพราะฉะนั้น สมเค็่จพระลัมมาลัมพุทธเจ้าจึงทรง แสกงหลักธรรม ๒ ข้อนั้!ว้ก้วยกันเสมอ คล้ายกับเป็นธรรมะแฝก เรืยกฅิกกัน ไปว่า ความกตญฌูกตเวทิ www.kalyanamitra.org

i ๕๘ 3 sssuaisinfluiiau๓ พระน!ทโพรัวงศใใใรย์(ทอง ดี ช.ธ.๙) สมเค็่จบรมบพิฅรพระราชสมภารเจ้าทรงคำรงมั่นอยูในพ?ะคุณธรรม ช้อนมาแต่ต้น คังจะเห็่นไต้จากการททรงมู้รกส์านกในพระคุณูปการชองสมเค็่'จ พระบรมราชชนนททรงมต่อพระองกมา ทรงทราบถึงพระราชหฤทัย ถึงกวาม ต้องการ และอํ่นๆ ทสมเค็่จพระบรมราชชนนทรงมพระประสงก แมมไต้ฅรัสบอก เพั๋ยงแต่สบพระเนฅร เห็่นพระพักฅร หรือเพัยงไต้ร'มผัสพระทัฅถึ ก็่ทรงทราบ ถึงกวามกิคและความต้องการของสมเค็่จพระบรมราชชนนแล้ว ทั้งทรงทราบ ว่าพระองกกวรจะต้องปฏิบัติอย่างไร จึงจะเป็นทพอพระทัย หรือจะต้อง กอบแทนอย่างไรจึงจะสมกับพระคุณูปการชองสมเค็่จพระบรมราชชนน เมอ ทรงทราบแล้วกี่ทรงปฏิบัติพระองก[ปกามนั้นโกยมิไต้ทรงท้อแท้ท้อถอย การทัสมเด็่จบรมบพิตรพรร;ราชสมภารเจ้าทรงปฏิบัติพรร;องคต่อ สมเด็่จพรร;บรมราชซนนด้วยพรร;กตญฌูกตเวทิตาธรรมนั้นมใช่เป็นปรร;โยชน ส์าหทเพระองคเองและสมเด็่จพระบรมราชชนนเท่านั้น บังเป็นประโยชนต่อ พสกนิกรชาวไทยทั้รู้เห็่นด้วย กล่าวคือการปฏิบัติพระองคเช่นนั้นเท่ากับทรง กระทำพระองค!ห้เป็นตวอย่างเป็นแบบฉบับทึ๋คืฃองพสกนิกร ในเรึ๋องทั้ลูก จะพิงปฏิบัติต่อพ่อแม่ของตนด้วย เมั่อพสกนิกรชาวไทยเกี่นสมเค็่จบรมบพิกรพระราชสมการพระองคํทรง ปฏิบัติต่อสมเค็่จพระบรมราชชนนแล้วต่างกี่ซนชมโสมบัส เห็่นกวามสำกัญ ชองกกัญณูกกเวทิกาธรรม และทันกลับมามองกนเองว่ากวรจะไต้ปรนนิบัติ และกอบแทนพ่อแม่ของกนอย่างไรบ้าง จึงถึอไต้ว่าสมเค็่จบรมบพิกรพระราช- สมการเจ้าทรงประกาศพระลัจธรรมช้อนั้ให้เปิคเผยชักแจ้ง โกยมิต้องแนะนำ ชักชวน เพิยงทรงปฏิบัติพระองกั!ท้เป็นแบบอย่างเท่านั้น แท้ทั้จริง ความกตญฌูกตเวทินั้ม่ใช่มความหมายเพิยงรู้สำนิกในบุญคุณ และตอบแทนบุญคุณของคนผู้มพระคุณต่อตน หรือคนเราควรจะกตญฌู กตเวทิต่อคนด้วยกันเท่านั้นหามิได้ แต่บังหมายรวมไปถึงว่าคนเราควรจะ www.kalyanamitra.org

๕๙ m ทฅัญญทฅ1วทิฅ1ทท1 1รอง กวใ ขกตัญญก ต!ว ท กตัญฌูกตเวทต่อร'ตว ต่อfเถานท ต่อสถาบัน ต่อตรร;กูลวงส์ ต่อรงฃาร ร่างกาย ต่อธรรมชาติร่งแวดล้อมแลร;สิงอึ๋นๆ ทมพรร;คุณต่อตนด้วย กล่าวกือ ร'ฅวหรอสถานทหรอสิงของใคมคุณฅ่อฅน ให้กวามช่วยเหลือ ให้กวามสะ:ควก ให้เกยรติยกซอเลืยงแก่ตนมา ก็่จะ;ต้องกฅัญฌูกฅเวทต่อร'ฅว ต่อสถานท และ;ต่อสิงของนั้นๆ ต้วย ยกตัวอย่างเช่นไต้อาร'ยร'ฅวเช่นใคเลยงซพ เป็นต้นว่าไต้อาตัยโกกระ;บอช่วยไถนา ช่วยลากเฃ็่นภาระ;ต่างๆ ก็่'จะ;ต้องกตัญฌู รู้คุณและ;คอบแทนบุญคุณร'ฅว่เหล่านั้โคยไม่ถูถูกเหยยคหยาม ไมคาว่า ไม่ทุบฅ ทรมาน โคยทสุคไม่ฆ่าแกงไห้ตาย แต่ตอบแทนคุณโคยการเลยงถูไหอมหนำ ไห้แฃ็่งแรง ไห้พักผ่อน ไมใช้งานหนักเป็นต้น ปฏิบัติอย่างนั้เรยกว่า กตัญฌู รู้คุณต่อรตว่ หรือตนเองอยู่อาตัยสุขสบายตามสมกวรไนประ;เทศไคไนถั๋นไค ก็่รู้รานึก บุญคุณและตอบแทนโคยการไม่ถูหมนเหยยคหยามประ;เทศของตน ไม่ถูถูกถํ่นท อยู่หรือร'งกมของตน ไมกอกวามวุ่นวายเคือนร้อน ไมทาไห้เกิคกวามเลืยหายแก่ ประเทศบ้านเนึองของตน แกถนทอยู่แก่รงกมหรือแก่สถาบันทฅนอารยอยู่นั้น ไนขณะเคยวบันก็่ใช้สติกำลังถูแลรักษา สร้างสรรกํกวามเจริญก้าวหน้าไห้แก่ ชาติบ้านเมืองหรือแก่ถํ่นแก่สถาบันของตนต้วยกวามเลืยสละ อย่างนั้เรืยกว่า กตัญฌูต่อสถานทต่อสถาบัน หรือตนเกิคมาไนตระถูลวงต้!ค ก็่มืกวามรับผิคซอบรักษาซํ่อเลืยงของ ตระกูลวงกํนั้นไว้ไมทาไห้ตระกูลวงกํเลืยหายต่างพร้อยเพราะการกระทำทไม่ค ของตน อย่างนั้เรืยกว่า กตัญฌูต่อตระกูลวงส์ แมืลังขารร่างกายของตนก็่เช่นเคยวกัน เจ้าของสิ'งฃารร่างกายจร;ด้อง แสดงความกตัญฌูกตเวทด้วย โตยการให้สิ'งฃารร่างกายได้หยุดพักผ่อนบ้าง ตามเวลาตามโอกาส ไม่ห้กโหมใช้งานมากเกินไป ไมให้ตรากตรำทำงาน หนักเกินไปจนร่างกายทรุดโทรมก่อนเวลาอนควร ร่างกายเป็นเกรองยนฅ www.kalyanamitra.org

A ๖อ # sssuaisiimuiiau๓ พระ นHใโพรวง ศใาใรย์(ทอง ดี ช.ธ.๙) ซนิคหนงเรยกว่าสรรยนฅ ซงฅ้องการหยุคพัก ต้องการการคูแลซ่อมบำรุง เหมือนเครํ่องยนฅชนิคอนๆ การให้ร่างกายไต้หยุคพักบ้าง บำ รุงกำลังให้แฃ็่งแรง อยู่เสมอบ้าง ไมใช้ร่างกายไปในทางทํ่ผิคบ้าง หรอคูแลรักษาสุขภาพร่างกายใหค มิให้[รกภัยเบยคเบยนไต้ง่ายบ้าง เมํ่อร่างกายอ่อนแอหรือถูกโรคภัยเบยคเบยน ก็่บำ รุงรักษาจนหายรืงใช้งานต่อไปบ้าง อย่างนจัคเป็น ความกตญฌูกตเวทต่อ ลังฃารร่างกาย ทั้งสิน เมอกฅัญฌูกฅเวทต่อลังฃารร่างกายเซ่นน ลังฃารร่างกาย ก็่จร;อยู่โต้นาน สามารถอยู่รับใช้คนเองแลร;คนอึ่นไต้นาน หากลังฃารร่างกาย เกิคเจ็่บบํวยหรือคับลงก่อนเวลาอันควรเพราร;เหตุทไม่กฅัญฌูต่อลังฃาร ร่างกาย โอกาสทจร:ทำความเจริญความก้าวหน้าแก่คนเองแลร;ซ่วยเหลือเกอถูล แก่บุคคลอนก็่จร;หยุคชร;งักหรือหมคไปทันทํ การสงวนลังฃารร่างกายไว้ทวย อาลัยความกตญฌูกตเวทจงเป็นเรองลัาคัญ อนง แม้ธรรมซาฅิร่งแวคล้อมต่างๆ เซ่น ต้นไม้ บำ ไม้ ภูเขา แม่นํ้า ลำ คลอง คลอคจนอากาศ ล้วนเป็นสิงทั้มือุปการร;แก่มนุษย่ทั้งสิน ก็่ต้องลำมืก ในบุญคุณแลร;คอบแทนบุญคุณของสิงต่างๆ เหล่านต้วย เซ่นต้นไม้บำไมืกต้อง คูแลรักษาให้อยู่ในสภาพเคิมให้มากทั้สุค ไม่คัคโค่นทำลายให้หมคไปโคยเกิน ความจำเป็น แลร;ปลูกเพํ่มเติมเมอถูกทำลายไปแล้ว หรือแม่นํ้าลำคลองก็่ต้อง คูแลรักษาให้สร;อาคอยู่เสมอ ไม่ปล่อยให้แม่นาลำคลองสกปรกเน่าเหม็่นเพราร; เศษสิงปฏิภูลทั้ทั้งลงไป เมํ่อเห็่นแม่นํ้าลำคลองสกปรกหรือมืเศษขยร;ต่างๆ ทับถมลงไป ก็่ต้องซ่วยภันกำจัคให้หมคไป การกรร;ทำต่างๆ ต่อต้นไม้ ป้าไม้ แลร;แม่นาลำคลองอย่างนเรืยกไต้ว่า กลัญฌูกตเวทัต่อธรรมชาติสิงแวดล้อม เมอธรรมชาติสิงแวคล้อมไคัรับการรู้คุณแลร;คอบแทนคุณอย่างนแล้วก็่จร; อำ นวยปรร;โยซน่แลร;ความสุขแก่มนุษยโปคลอค ครงภันช้ามเมอคนเราไต้อาลัยลัคว่ อาลัยสถานทั้ อาลัยธรรมชาติ สิงแวคล้อมต่างๆ เป็นอยู่ แคใม่รู้ลำนกในบุญคุณไม่คอบแทนบุญคุณ มืแต่ จร;ทำลายมืแต่จร;ทำให้เลือนสภาพ ความเคอคร้อนก็่เกิคแก่มนุษย่เอง www.kalyanamitra.org

๖๑ f; ทฅัณญท1511วทท1ทท1 fS^\\ โรอง ควใบกตัญญกmiวที ^สั^^ แต์๒ราณมา คนทอกตญฌูต่อร'ตว ต่อสถานท ต่อธรรมชาติร่งแวดล้อม เช่นตดไม้ทำลายป่าฟ้นต้น ท่านเรยกว่า มิตตทุพภบุคคล ชงแปลว่า คน ปรร;ทุษร้ายมิตร หรือ คนทรยศเพึ๋อน เพราร;สัตว่ก็่ด สถานทอยู่อาสัยก็่ด ธรรมชาติร่งแวดล้อมก็่ด ชอว่าเ!เนมิตรแท้ เม้นมิตรมอุปการร;ของมนุษย มิความซึ๋อสัตย์แลร:ซอตรงต่อมนุษยเสมอ แต่บางคร้งมนุษย์เราก็่ถูกมิตร ลงโทษเอาบ้าง ก็่เพราร;มนุษย์!ปปรร:ทุษร้ายมิตรก่อนนั่นเอง อย่างเช่นกรณเกิคอุทกภัยใหญ่ทั่วประเทศเมอ!]ทํ่แล้ว ทำ กวามเคือคร้อน และกวามเคืยหายแก่ผู้กนมากมาย และกวามเคือคร้อนนั้นก็่ยังหลงเหลืออยู่ หากพิเกราะหให้คืกี่'จะเห็่นไค้ว่าตัวเราถูกมิตรคือร่งแวกล้อมทั่งสอนหรือ ตักเคือนแล้วว่า การประทุษร้ายมิตรนั้นมิทุกฃมิโทษอย่างไร ชงค้องพิ'จารณา หาทางแกไชปรับปรุงให้กนเกิคกวามกตัญฌูกตเวทต่อธรรมชาติสิงแวกล้อม ต่างๆ ให้มากกว่าทั่เป็นอยู่ และมิใช่เฉพาะเรองค้นไม้ป่าไม้หรือแม่นั้าลำกลอง เท่านั้น แม้เรองอากาศทั่เป็นพิษ มลภาวะทเลือมโทรม ถนนหนทางทั่สกปรก การจรา'จรทั่ติกชัก เป็นค้น อาจกล่าวไค้ว่าเป็นผลกระทบมา'จากการประทุษร้าย มิตร หรือการทรยศเพอนฃองมนุษย์ทั้งสิน หากมนุษย์เรายังเห็่นแกใค้ยัง ประทุษร้ายมิตรภันอยู่อย่างไม่หยุกทั้งอย่างทั่เป็นมาแล้ว กวามทุกชยากกวาม ลำ เก็่ญชองมนุษย์เราก็่จะเพมทวมากชนและปอยกรั้งขนแน่นอน สมเค็่จบรมบพิตรสมเค็่จพระศรืนกรินทราบรมราชชนนพระองกนั้น ทรงทราบข้อธรรมเรั้องกตัญฌูกตเวทนั้เป็นอย่างคื และทรงยึกมั่นอยู่อย่าง เกร่งกรักตลอกพระชนมิ จึงทรงกตัญฌูกตเวทต่อประเทศชาติบ้านเมิอง ต่อ ค้นไม้ ป่าไม้ แม่นั้าลำกลอง และต่อธรรมชาติสิงแวกล้อมต่างๆ อาจกล่าวไค้ ว่าพระราชกรณยกิจทั้งปวงทั่ทรงบาเพ็่ญตลอกพระชนมายุนั้นเป็นเรั้องทั่เกิก และเป็นไปค้วยอำนาจกวามกตัญฌูกตเวทนั้ทั้งสิน เพราร;ขาดคุณธรรมฃ้อนั้ แล้วความส์านกในการทำความด ในการอนุร้กษ ในการบ้องกน หรือในการ สร้างสรรคความเจริญให้แก่บ้านเมิองไท้แก่สังคมก็่จะไม่เกิดขั้นได้ www.kalyanamitra.org

i ๖๒ ฿ sssuaismfluiiau๓ พระ นHใโพธิวง ศไจใรย์(ทอง ฅี น.ร.๙) โคยเฉพาะทรงกฅัญฌูฅ่อพระวรกายเรนอย่างยํ่ง เนองค้วยทรงเป็น พยาบาลมาคลอคพระซนม ทรงทราบเรองของโรกภัยไข้เจ็่บค ^งทรงรักษา พระวรกาย คูแลเรองสุขภาพ เรองอารมณ อากาศ อาหารอย่างถูกสุขลักษณะ คามหลักวิขาการแพทย่ จึงทรงคำรงพระขนมอยูใค้ถึงเกือบเก้ารบห้าพระ พรรษา หากไม่ทรงมกฅัญฌูกคเวทต่อพระวรกายอย่างคเช่นนแล้ว ไฉนเลย 'จะทรงมพระขนม่อยูไคํยืนนานถึงปานน เพราะผู้ท'จะมอายุยึนไค้'นั้นส่วนหนึ๋ง ก็่เพราะมกวามกฅัญฌูกคเวทต่อลังฃารร่างกาย ห่วงใยสุขภาพ คูแลสุขภาพ บำ รุงสุขภาพของคนเองให้คก่อน แล้วจึงไข้ร่างกายทมสุขภาพคนั้นไป'คำ ประโยขน!ห้แก่ยูอน ทั้งลามารถคำไค้มากและคำไค้นานกว่ากนทั่วๆ ไปคังเช่น ลมเค็่'จบรมบพิคร ลมเค็่'จพระศรนกรินทราบรมราขขนนทรงปฏิบัติพระองก ให้เห็่นเป็นคัวอย่างแล้วนั้น กวามกคัญฌูกคเวทเป็นคุณธรรมลำกัญประจำโลกชงกนคทั้งหลาย ปฏิบัติภันสืบๆ มาโคยไม่ทอคทั้ง แม้ลมเค็่'จพระลัมมาลัมพุทธเจ้ากืทรงยกย่อง อิมินา กตปุฌฺเฌน ค้วยอำนา'จพระราขกุศลทักษิณา■นุประทานกิ'จ ทั้ลมเค็่'จบรมบ'พิครพระราขลมภารเจ้าทรงบำเพ็่ญ'อุทิศให้เป็นไปแต่ค้นแล้วนั้ 'จงเป็นผลลัมฤทธิ้ผลิฅวิบากมนุญญผลอันเป็นทิพยสุขทิพยลมบัติอันโอฬ'าร ยงขนไป ลำ เร็่'จแต่ลมเค็่'จบรมบ*พิตรลมเค็่'จพระศรนกรินทราบรมราขขนนผู้ทรง พระคุณอันประเลริฐ คลอคจิรัฐติกาล ลมคามพระราขปณิธานอุทิศโคยฐานะ นิยมทุกประการ รับพระราขทานถวายวิลัขนาพระธรรมเทศนาฉลองพระเคข พระคุณประคับพระบัญญาบารม ยุติลงค้วยประการฉะนั้ ฯ ขอถวายพระพร www.kalyanamitra.org

ปูซนารหปคคลกถา เรื่อง บุคคลผคๆรบูซๆ โย ปุพฺเพ กตกลยาโณ อกๆ โลเก สุทุก.กรํ ปจฺฉๆ กยิรา น วา กยิรา อจฺจนุตํ ปูชนารโหติ ฯ ขุ.ซา. ๒๗/๕๐๙/©๒๙ บคนจักรบพระราชทานถวายวิร'ชนาพระ:ธรรมเทศนาในปูชนารหปุคคลกถา ฉลองพระ!เคชพระ:คุณประ:คับพระ:ปิญญาบารม ในการททรงพระ:กรุณา โปรคเกล้าฯ ให้มการพระ:ราชพิธทรงบำเพื่ญพระ:ราชกุศลเนํ่องในการถวาย พระ:ราชศมัญญา พระ:บาทลมเค็่จพระ:นั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว พระ:มหาเจษฎาราชเจ้า รัชกาลท ๓ แห่งพระ:บรมราชจักรวงคั ณ มณฑลพิธพลับพลามหาเจษฎา- บคินทร เพอลนองพระ:มหากรุณาธิคุณทลมเค็่จพระ:บุรพมหากษัฅริยาธิราชเจ้า พระ:องฅนั้นทรงมฅ่อพระ:บรมราชวงคั และ:ประ:เทศชาติบ้านเมืองรบเนํ่องมา พระธรรมกิฅฅิวงส์ (ทองค) วัคราชโอรฟ้าราม กรุงเทพมหานคร แฟ้คง ในการบำเพ็่ญุพระราซกุศฟ้เนํ่องในการถวายพระราซฟ้มัญญา พระบาทฟ้มเค็่จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว พระมหาเจษฎาราชเจ้า (รชกาฟ้ทํ่ ๓) ณ มณฑลพุธพล้บพถามหาเจษฎาบคินทร ถนนราชคำเนิน วันอังคาร ท ๓๑ มนาคม พ.ศ. ๒ว๕<£๑ www.kalyanamitra.org

k ๖๔ ธรรบส!ร!ททน!ฟบ ๓ พระฆHใโพริวงศาจาร ย์(ทอง ดี ช.ร.๙) แฅ่อคฅฅราบเท่าถี้งปรัฅยุบัน ค้วยนํ้าพรร;ราชหฤทัยทมั่นด้วยพระกฅัญณู กฅเวทิฅาธรรม นำ กวามแช่มชนโสมนัสเป็นล้นพนมาให้แก่พระบรมวงศานุวง ในสายราชสกล พสกนิกรชาวไทย และแก่สมณะช่พราหมณทุกหมู่เหล่า นับเป็น พระมหากรุณาธิคุณอันยํ่งใหญ่อันจักเป็นแบบอย่างแก่พสกนิกรสืบไปกลอก กาลนาน พรร;บาทสมเค็่จพรร;นั่งเกล้าเจ้าอยู่หว พรร;มหาเจษฎาราชเจ้า ทรงเป็น พระราชโอรสพระองก!หญ่ในพระบาทสมเค็่จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย และ เจ้าจอมมารคาเรยม ชงก่อมาทรงไครับสถาปนาพระอิสริยอักคิ้ฃนเป็นสมเค็่จ พระศรสุลาลัย เสคึ่จพระราชสมภพเมอวันจันทรท ๓๑ มนากม พุทธอักราช ๒๓๓0 ณ พระราชวังเคิมกรุงธนบุรั พระนามเคิมว่า พรร;องคเจ้าชายทับ ในป็พุทธอักราช ๒๓๕^ ทรงไครับการสถาปนาขนเป็นเจ้าก่างกรม พระนาม ว่า พรร;เจ้าลูกยาเธอกรมหมนเจษฎาบดินทร เมอสมเค็่จพระบรมชนกนาถ ลินพระชนมแล้ว เหล่าเสนาบค ข้าราชการชั้นยูใหญ่พร้อมด้วยพระลังฆราช พระราชากณะ พระบรมราชวงก่ก่างกรมได้พาอันเข้าเ&'าฯ เชิญเสค็่จฃนกรอง ลิริราชสมบัติเป็นพระบาทสมเค็่จพระเจ้าอยู่ทัวรัชกาลท ๓ แห่งกรุงรัฅน- โกลินทร แก่วันพุธท ๒๑ กรกฎากม พุทธอักราช ๒๓'๖๗ เมอทรงม พระชนมพรรษา ๓๗ พรรษา และกรั้นถงวันพุธทํ่ ๒ เมษายน พุทธอักราช ๒๓๙ได้เสด็่จสวรรกก ณ พระทํ่นั่งจักรพรรติพิมานองกกะวันกก ลิริ พระชนมายุได้\\?๓ พรรษา สถิกอยู่ในพระลิริราชสมบัติ ๒๕ ป็ ๗ เสือน ๒๓ วน พระบาทสมเค็่จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว พระมหาเจษฎาราชเจ้า ทรงม พระราชคุณูปการอย่างใหญ่หลวงแก่แผ่นตินไทยหาทสุคมิได้ นับแก่กรั้งบัง คำ รงพระอิสริยอักคิเป็นพระเจ้าลูกยาเธอกรมหมนเจษฎาบคินทร กราบเท่า ถงเสค็่จล่สวรรกาลัย อังจะขอรับพระราชทานแสคงพระราชคุณูปการล่วนท สืาอัญพอเป็นลังเฃปนัยอังก่อไปนิ้ www.kalyanamitra.org

๖๕ UmnsHilnfianai โรอง บคคลผู้ควรIJชา ใน ด้านการปกครอง เนองจากในฃณ:;นั้นการสืกส์งครามยังไม่หมคร้น เส์ยทเคยว จื้งทรงม่วิเทโศบายทจฟ้องกันปร:;เทศทแยบยล คือทรงศร้าง ความมั่นคงแล:;มั่งคั่งให้แก่หมู่บ้านคามชายแคน โคยสร้างหมู่บ้านเหล่านั้น ให้เป็นเมืองชนมา เพอให้มืกำลังในการบ้องกันรักษาคนเองและพัฒนาถนทอยู่ ให้มั่นคงเป็นป็กแผ่น โคยเฉพาะหมู่บ้านทอยู่คามแนวคามชายแคนทางภาค อสาน เซ่น ทรงสร้างบ้านหินแร่เป็นเมืองอรัญประเทศ บ้านกงเป็นเมือง ขอนแก่น บ้านหารใหญ่เป็นเมืองสกลนคร บ้านท่าแก่งส์าโรงเป็นเมือง กาฬสินธุ บ้านแจละเฌเป็นเมืองอุบล บ้านคูปะทายเป็นเมืองสุ?นทร บ้านสิงหา เป็นเมืองยโสธร บ้านปากแพรกเป็นเมืองกาญจนบุร เป็นค้น นอกจากนั้น ยังทรงสร้างเมืองชายทะเล สร้างบ้อมค่ายริมทะเลทเมืองสมุทรปราการ เมือง จันทบริ เมืองสมุทรสงคราม สร้างเริอรบจำนวนกว่า ๘0 ลำ ล่งไปไว้คาม ชายแคน <lo ลำ ไว้ประจำพระนคร <io ลำ ชุคคลองเพอประโยชนแก่การ ยุทธศาสคริ การคมนาคมและการค้าชาย เซ่น คลองสุนขหอน คลองบางขนาก คลองพระโขนง คลองบางชุนเทยน เป็นค้น อนง ทรงคระหนักคืว่า การพัฒนาประเทศชาติบ้านเมืองให้เจริญทคเทยม นานาอารยประเทศนั้น จำ ด้องมุ่งมั่นสร้างคนของประเทศให้มืกำลังแข็่งแรง ทั้งร่างกายและสมอง ทรงมองเห็่นว่าไพรัชประเทศทกำลังหลั่งไหลมาจากทิศ คะวันคกในรูปของการค้าควบคู่กันไปกับการล่าอาณานิคมนั้นไค้นำลั่งททำลาย กำ ลังคนชองแผ่นคินเช้ามามอมเมาประชาชนคนยามเช้ามาค้วย กล่าวคือนำ มั่นเช้ามาเป็นเครองมือในการปอนทำลายสุขภาพและคืลธรรมอันคืงาม เพอ ทำ ลายความมั่นคงชองชาติเฉกเซ่นไคืใช้ทำลายความมั่นคงในประเทศจํนมา แล้ว ทรงคระหนักแน่วถึงมหันคกัยทกำลังจะเกิคชนแก่บ้านเมืองอย่างถ่องแห้ จึงโปรคให้แกํโคยปราบปรามมั่นอย่างจริงจังคลอครัชกาล ทรงกล้าหาญยอม สูญเถึยรายได้จากภาษมั่นเพอรักษาคนของแผ่นตินเข้าไว้มิให้ตกเป็นทาส ของสิงเสพติคซนิดนั้ ทรงเห็่นว่าคนของแผ่นตินสิาคญกว่ารายได้จากภาษมั่น www.kalyanamitra.org

i ๖๖ # sssuaismmn โล่ฆ ๓ พระบทใโพรวงศใใใรย์(ทองดึ ช.ธ.๙) ทจรเพงไ^ เพราร;รายไค้จากilนแม้จร!มมากแต่ถ้าคนขาคคุณภาพเส์ยแล้ว จร!รกษาแผ่นดินไว!ค้อย่างไร รายไค้เท่าไรก็่รกษาแผ่นดินไว!มใค้ หากคน ในแผ่นดินเป็นทาสของสิง เสพดิดเสิย แล้วบ้านเมืองก็่ม แต่จร!ถดถอยลง เสิยอิสรภาพในทํ่สุคไค้ คังนั้นจึงในกราวหนงถื้งกับโปรคให้เผา'อ่นทจับไค้เป็น จำ นวนมากเส์ยทหน้าพระทนั่งสุธาสวรรก แล้วโปรกให้นำกลักนั้นและกล้อง'อ่น ทจับไค้!ปหล่อเป็นพระพุทธรูป พระราชทานนามว่า พรร!พุทธเศรษฐมุน แล้ว โปรคใหอญเชิญไปประดิษฐานไว้ทศาลาการเปรยญวัคสุกักนเทพวราราม เพอ เป็นเกรองมือเสือนศฅิกนไทยรุ่นหลังให้เห็่นพิษกัยฃองร่งเลพดิกก่อไป พระอัจฉริยภาพและพระวิลัยทัศนํทํ่ยาวไกลอกประการหนั้งของพระบาท ลมเค็่จพระเจ้าอยู'หัวพระองกนั้นสือ ทรงวิเกราะหลถานการณการเมืองรอบๆ ประเทศและในโลกไค้อย่างถูกค้องแม่นยำ ทังมืพระราชวินิจจัยทปรากฏกาม พระราชพงศาวการกอนหนั้งว่า 'ทารสืกษา การสงครามข้างญวนข้างพม่าก็่เห็่นจะไม่มืแล้ว จะมืก็่แต่ ข้างพวกฝรั่ง ให้ระวงให้ด อย่าให้เสิยทแก่เขาไค้ การงานสิงใดของเขาทดิดว่า ควรจะเรยนเอาไว้ก!ห้เอาอย่างเขา แต่อย่าให้นบถือเลอมใสไปเสิยทเดยว\" ข้อนั้นับไค้ว่าเป็นกวามห่วงใยประเทศชาติบ้านเมืองเป็นอย่างยั๋ง ทรงเสือน ลดิกนไทยให้ระมักระกังในการเจรจากบหาและการเลยนแบบชาวกะวันกก มิไค้ทรงห้ามทจะไมให้กบหา แก่ทรงให้กำเนินการค้วยกวามระมักระวัง ยกถือ และรักษากักคศรชองชาติเป็นล่ากัญ ค้วยทรงเกรงว่าก่อไปภายหน้ากนไทยจะ เอาอย่างซาวกะวันกกจนลืมกักดิศรชองชาติและรักษาวัฒนธรรมของกนเอง พุ พุ v เว้๒ไค้ ใน ค้านเศรษฐกิจการค้า นั้น อาจกล่าวไค้ว่ายุกลมัยของพระองกนั้น เป็นยุกลมัยทเศรษฐกิจของไทยรุ่งเรืองเพิองฟูทลุก ค้วยพระปรืชาลามารถและ กลโลบายทฉลากในการค้ากับก่างประเทศ โกยเฉพาะกับประเทศจึน ทรงแก่ง www.kalyanamitra.org

๖๗ 3: ijmnsiiiJfinanai ISOO บคคลผู้ควรบูชา ส์าเภาไปค้าขายกับจน สามารถdงรนค้าออกไค้มาก สร้างรายไค้!ห้แก่ประเทศ {เละไม่น้อยกว่า ๒๕ ล้านบาท ทรงเห็่นบุญกุณฃองเรือส์าเภา จึงโปรคให้ สร้างเรือส์าเภาไว้เ{เนอบุสรณทวัคกอกกระบือเพอให้คนรุ่นหลังไค้จึกษาแล้ว ขนานนามวัคใหม่ว่าวัคยานนาวาชงยังปรากฏอยู่คราบเท่าปิจจุบัน เนํ่องจากทรงแต่งส์าเภาไปค้าขายกับจึนจนมกำไรมหาศาล นำ เงินครา เข้าห้องพระคลังมากมาย เงินจำนวนนเรืยกขานในสมัยต่อมา เงินถุงแดง และ ทรงไช!ปในการก่อสร้างปฏิลังขรณวัควาอารามต่างๆ คามพระราชอัธยากัย เพราะเหตุนพระบาทสมเค็่จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย พระบรมชนกนาถ จึง ฅรัสเรืยกพระเจ้าลูกยาเธอพระองค้นั้นว่า เจ้าสิว เ{เนประจำ และเจ้าลัวพระ ราชโอรสก็่ทรงจัคหารายไค้มาช่วยราชการแผ่นคินของสมเค็่จพระบรมชนกนาถ อย่างเหลือเทืเอ ทำ ให้ทรงมเวลาในการทำบุบำรุงวรรณกรรม สถาบัฅยกรรม ประติมากรรม และวิจิฅรติลบือนๆ อกมากคลอครัชกาล ลิาหรับเงินถุงแคงนั้นไค้เ{เนคุณต่อแผ่นตินลืบมา โคยถูกใช!ห้เป็นค่า ปฏิกรรมสงครามในป็ ร.ศ.๑๑๒ รัชสมัยพระบาทสมเค็่จพระจุลจอมเกล้า เจ้าอยู่หัว รัชกาลท ๕ ทำ ให้ประเทศไทยรอคพ้นจากการถูกยคครองของ อริราชกัครูชงยคกรองประเทศเพอนบ้านโคยรอบมาแล้วไค้อย่างไม่คาคคิค หากสมัยนั้นไม่มเงินถุงแคงทรัชกาลท ๓ ทรงเก็่บสะสมไว้เข้ามาช่วยกู้สกาน- การณเฉพาะหน้าแล้ว ประวัติศาสครชาติไทยอาจพลิกโฉมไปอกรูปแบบหนง จากทเป็นอยู่ก็่ใค้ พระราชคุณูปการทโคคเต่นเป็นประโยชนํแก่ชาติน้านเมืองมาคราบเท่า ทุกวันนั้ก็่คอ การทำนุบำรุงการพรร;ศาสนา สืลปกรรม วรรณกรรม และ การสืกษาซองชาติ กล่าวคือทรงสละพระราชทรัพย่จำนวนมหาศาลทไค้มา จากการค้าขายทางล่าเภา สร้างและปฏิลังขรณวัควาอาวาสมากมาย แต่ทรง ยักเยองรูปแบบใหม่เพอใหมนคงแฃ็่งแรง ค้วยทรงเห็่นว่าวัควาอารามในสมัย www.kalyanamitra.org

i ๖๘ ฿ sssuaisiiifiuiiau๓ พระม Mใโพริวงศาใไรย์(ทอง ดี น.ร.๙) กรงเก่านั้นส่วนใหญ่สร้างด้วยไมจึงไม่กงทน ถูกแคคถูกฝนก็่ผุกร่อนทรคโทรม ง่าย ถูกข้าจึกเผาผลาญได้ง่าย จึงโปรคเกล้าฯ ให้สร้างเป็นคึกก่ออิฐถือปูน เป็นส่วนใหญ่ ส่าหรับลวคลายนั้นก็่ใข้กร::เบองเกถือบซงนำมา'จากประ:เทศจึน ประคับปร::คาเป็นรูปค่างๆ ทำ ให้คูแปลกไป แค่ก็่กลายเป็นอิลปะแบบใหม่ ท สวยงามกงทนถาวร เร้ยกกันค่อมาว่า รลปะพระราชนิยม ชงกลายเป็นมรคก ไทยอกแบบหนงทํ่อวคสายคาซาวโลกได้จนทุกวันนั้ วัคททรงปฏิกังฃรณด้วยคัลปะแบบไหมนั้เรมด้นทํ่ วัดราชโอรส ชงถือกัน ว่าเป็นวัคด้นแบบ ค่อมาก็่ทรงปฏิกังฃรณวัคอนๆ คามแบบอย่างอิกประมาณ ๓0 วัค เช่น วัคพระเชฅพนฯ วัคอรุณราชวราราม วัคสุทัศนเทพวราราม วัคบวรนิเวศ วัคสามพระยา วัคมหรรณพาราม วัคราชสิทธาราม วัคนางนอง และทรงสร้างวัคชนใหม่หลายวัคถือ วัคเทพธิคาราม วัคราชนัคคาราม และ วัคเฉลิมพระเกยรฺฅิ ค่อมาวัคเหส่านั้[ด้เป็นพระอารามหลวงส่ากัญชองประเทศ ชาติและของพระศาสนาทมกวามงคงามอวคคาค่างชาติทแคกค่างกันไป การททรงทุ่มเทพระราชทรัพยมหาศาลสท้งและปฏิกังฃรณพระอาราม ต่างๆ นั้นก็่ด้วยทรงเห็่นว่าวัดเป็นสถานทํ่แห่งเดยวทเป็นของประชาชน โดยแท้จริง เป็นศูนยรวมจิตใจ เป็นทํ่ประชุม เป็นโรงพยาบาล เป็นแหล่ง หาความเทางคัลปวิทยา เป็นสถานทประชาชนทุกชั้นวรรณะสามารถเข้า พกพิงและพงพาได้ตลอดเวลา การสร้างวัดบูรณะวัดไว้กเห่ากับได้ช่วยเหลือ ประชาชนไนด้านกังคมศาสตร้นั่นเอง ด้วยเหฅุนั้พระราชหฤทัยชองพระองก จึงนิก่ใฟ้อยู่แค่เรองการสร้างวัคช่อมวัค แม!กล้จะเสค็่จสวรรคคแล้วกื่ยังทรง ห่วงใยวัควาอาวาสค่างๆ กังพระราชกระแสรับกังทพระราชพงศาวคาร'จารก ไว้ว่า \"ทุกวันนคิคสละห่วงใยหมด อาลัยอยู่แด่วัดสร้างไวัIหญโศหลายวัด ทํ่ยัง คัง่ค้างอยู่ก็่ม ถ้าชำรดทรุดโทรมไป จะไมม^ดช่วยบำรุง เงินในพระคลังทจับจ่าย www.kalyanamitra.org

๖๙ 0 UmnsHilftfiafim ใรอง บุ คคลผู้ควรบชใ ใช้ฑชกาทฟนดินมอยู่^หมนชั่ง ขอ^กหมนชั่งเถิด ถ้า^ศเป็นพ:แจ้ๆแผ่นดิน แล้วให้ช่วยบอกเขา ซอเงินรายนิ้ให้ทนุบำรุงวัฅทชำรศแถ:;การวัดทฅั่งล้างอยู่ ให้แล้วล้วย\" ถาวรวัฅถุแลร;โบราณสถานทส์ากัญชงพร:;บาทสมเค็่'จพระเจ้าอยู่หัว พระองคนั้นทรงสถาปนาไว!นแผ่นคินนชงเป็นทรู้กัถมซอลือเลํ่องไปทั่วโลก ก็่ลือ พระปรางควัคอรุณราชวราฑม พระพุทธไสยาสนวัเๆพระเชตุพนฯ ภูเซาทอง วัคสระเกส โลหะปราสาทวัคราชนัคคาราม พระเฯคยกลางนํ้าสมุทรปราการ พระ พุทธรูปประธานประจำพระอุโบสถพระอารามหลวงททรงสร้างและปฏิกังชรณใว้ รวมทั้งพระพุทธรูปปางประหับยืนสององกัทประคิษฐานอยู่ค้านหน'พระพุทธ- มหามณรัฅนปฏิมากรในพระอุโบสถวัคพระสรรัฅนศาสคาราม ชงหล่อค้วยทอง กัมฤทธิทรงเกรองค้นอย่างพระเจ้าวักรพรรคิ คือ พระพุทรยอดฟ้าจุฬาโลก ชงทรงพระราชอุทิสถวายสมเค็่จพระบรมอัยกา และ พระพุทธเลิศหล้านภาลย ชงทรงพระราชอุทิสถวายสมเค็่จพระบรมชนกนาถ พระราชคุณูปการ ทั่เกยวกบการคืกษา นั้นคือ ในขณะททรงปฏิกังฃรณ วัคพระเชตุพนฯ อยู่นั้น ทรงเห็่นว่าสรรพวิทยาการค่างๆ ทมอยู่หากไมไคืรับ การถ่ายทอคไว้เป็นลายกักษณอักษรก็่จะสูญกันไปพร้อมกับเจ้าของกวามรู้ จึงทรงระคมปวงปราชญแห่งแผ่นคินผูรูวิชาการแขนงค่างๆ ในยุกนั้นให้ถ่ายทอค กวาม^ว้โคยโปรคเกล้าฯ ให้จาร้กไว้ทแผ่นหินอ่อนบ้าง ปีนเป็นรูปร่างไว้บ้าง สกักเป็นภาพนูนไว้ทแผ่นหินอ่อนบ้าง ประกับฅกแค่งไว้คามเสาพระระเบยงและ บริเวณเขตพุทธาวาสของวัค เริยกกันในยุกค่อมาว่า จารกวัดโพธิ้ ทำ ให้คำรับ คำ ราวิชาการค่างๆล่วนใหญ่ในยุกนั้น เช่น วิชาเวชสาสฅร่ วิชาวรรณกคื ยังกงอยู่กู่บ้านกู่เมอง ไคืคืกษาเล่าเริยนกันมาคราบเท่าทุกวันนั้ และลือกันค่อมา ว่าวัคพระเชคุพนฯนั้เป็น มหาวิทยาล้ยเปีด แห่งแรกของประเทสไทย ทเปีคเสร ให้ยู้กนทุกชั้นวรรณะเข้าไปคืกษาไค้อย่างเสรเท่าเทยมกัน นับเป็นพระมหา- www.kalyanamitra.org

A ๗อ 0 sssuaisiimuiiau๓ พระ ม Hาโพรวง ศใใใรย์(ทอง ดี ช.ธ.๙) กรุณาธิคุณเป็นล้นพ้นต่อพสกนิกรชาวไทยทุกยุกทุกสมัย ททรงมสายพรร:เนฅร ทยาวไกลสุค'จร:ประ:มาณไค้ พรร:บาทสมเค็่'จพรร:เจ้าอยู่หัวพรร:องกนั้นทรงมนํ้าพรร:ราชหฤทัยเห็่นแก่ แผ่นดินมากกว่าการต่วนพรร:องก ทัง'จร:เห็่นไค้จากก่อนท'จร:เสค็่'จสวรรคต ทรง รับร่'งให้ปรร:ชุมเสนาบคยู่ใหญ่แล้วมพรร:ราชกรร:แสร่'งเส์ย ทังความปรากฏใน จคหมายเหตุพรร:ราชพงศาวคารตอนหนงว่า \"...ทรงพร:!มหากรุณาดำรัสให้จดหมายเหตุกTะแสพT^TาชโองกาT ปฏิภาร ยกพระนามพระรัฅนฅรัยสรณคมน อันตุดมเปีนประรานพยานอันยง ให้เห็่นจริงในพระราชหฤทัยแล้วทรงพระราชดำรัสยอมอนญาฅให้เจ้าพระยา พระคอังชงว่าทสมหกถาโหม พระยาสรพิพัฒนรัฅนราชโกษา พระยาราชสุภาวดํ ว่าทสมุหนายก กับขุนนางผู้น้อยทั้งปวงจงมความสโมสรสามัฅครสปริกษา พร้อมกัน เมอเห็่นว่าพระบรมวงสานวงอัพระองศ1ดทมวัยวุฒิปริชารอบรู้ ราชานุวัตร เปีนสาสนูปกัมภกยกพระบวรพุทธสาสนา และปกน้องไพร่พัาอาณา ประชาราษฎร รักษาแผ่นดินให้เปีนสุฃสวัสศโดยยง เปีนทยินดิแก่มหาชน ทัง้ ปวงได้ ก็่สุดแห้แด่จะเห็่นดิ ประนประนอมพร้อมใจกันยกพระบรมวงอั องอัทั้นขนเสวยมไหสวรรยาพฅยถวัลยราชดิบอันฅดิวงอัดำรงประเพณด่อไป เถิด อย่าได้กรั๋งเกรงพระราชอัธยากัยเลย เอาแศให้ได้เปีนสุชทั้วหน้า อย่าให้เถิด การรบราฆ่าพันกันให้ได้ความทุกขร้อนแก่ราษฎร...\" นคอ'นาพรร:ราชหฤทัยของพรร:มหากษัตริยาธิราชของแผ่นดินไทยในอคต เมึ๋อทรงไค้รบสถาปนาเป็นพระ:เจ้าแผ่นดินโดยอเนกมหาชนนิกรสโมสรสมมติ จึงเมอจร:เสด็่จสวรรคตก็่ทรงคืนแผ่นดินให้แก่อเนกมหาชนนิกร เพํ่อจฟ้.ด้ สโมสรสมมติผู้ทเหมาร:สมต่อไป ทรงเป็นพรร:มหากษัตริยผู้เพยมพร้อมค้วย ปฏิปทาแห่งพรร:โพธิล้ตว่เจ้าโคยแห้ www.kalyanamitra.org

๗© ;^ ijtfinsHiJfinanm ££4 1ร0ง บภทสฆู้ กวร บู ชา ในยุกฃองพร:;บาทสมเค็่จพร2นั่งเกล้าเ'จ้าอยู่หัว พระมหาเจษฎาราชเจ้า นั้น นับไค้ว่าเป็นยุคทองชองงานสถาปิฅยกรรม งานประติมากรรม งานจิฅรกรรม ในแผ่นตินนั้โคยแท้ ทั้งนั้เป็นผลมาจากการทบ้านเมืองมกวามมั่นคงทางการ ปกครอง มืความมั่งคั่งทางเศรษฐกิจ และความมืพระราชหฤทัยเป็ยมล้นค้วย ความเส์ยสละ ความมืนั้าใจ ความมืวิล้ยทัศนัเห็่นการณใกล และทรงเห็่นแก่ แผ่นตินมากกว่าส่วนพระองคั่ ยู้คนในแผ่นดินสมัยนั้นจึงไค้ช่วยกันลงทุนลงแรง ร่วมกันรังสรรกร่งทมืกณค่าไวั้ให้เป็นมรคกฅกทอคมาถึงทุกวันนั้ และมรคก เหส่านั้นก็่เป็นทเชิคหน้าซูตา เป็นกักคั่ศรชองประเทศชาติบ้านเมืองส่าหรับ อวคแขกบ้านแขกเมือง และสามารถคึงคูคเงินคราค่างประเทศเข้ามาหส่อเลยง แผ่นดินและคนในแผ่นดินไม่ขาคสาย เป็นทํ่ยอมรับของนานาอารยประเทศ ทำ ให้ ลูกไทยหลานไทยไมคาค้อยน้อยหน้าใครมาคราบเท่าทุกวันนั้ ก็่เพราะพระบารมื และพระราชคุณูปการของพระบาทสมเค็่จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว พระมหา เจษฎาราชเจ้า แผ่ปกอยู่เหนือเกล้าเหมือกระหม่อมมาคลอคกาลนาน การทสมเค็่จบรมบพิตรพระราชสมภารพระองก ผู้ทรงพระคุณอันประเสริฐ ไค้ทรงพระกรุณาโปรคเกล้าฯ ถวายพระราชสมัญญาพระบาทสมเค็่จพระนั่งเกล้า เจ้าอยู่หัวว่า \"พระมหาเจษฎาราชเจ้า\" ซงมืความหมายว่า \"มหาราชเจ้าผูมื พระทัยตงนั่นในการบำเพ็่ญพระราชกิจอย่างเจริญสูงสุด\" และทรงพระกรุณา โปรคแกล้าฯ ให้มืการพระราชพิธทรงบำเพ็่ญพระราชกุศล เนองในการถวาย พระราชสมัญญา ณ วโรกาสนั้ค้วยนั้น นับเป็นพระมหากรุณาธิคุณอย่างยั๋ง แสคงให้เห็่นถึงพระราชกฅัญฌูกคเวทีคาธรรมต่อบุรพมหากษัฅริยาธิราชเจ้า พระองกนั้นอย่างเค่นชัค และซึ๋อว่าไค้ทรงบูชาต่อบุคคลผู้ควรบูชาคามหลักแห่ง พระพุทธศาสนาแล้ว เพราะพระบาทสมเค็่จบุรพมหากษัคริยาธิราชเจ้าพร2องก นั้นทรงมืพระราชคุณูปการต่อแผ่นดินและพสกนิกรไทยสุคจ:;คณานับกังรับ พระราชทานแสคงมา ทรงเป็นบุคคลผู้ควรแก่การเการพลักการบูชาคลอคไป www.kalyanamitra.org

k ๗๒ sssuaismflin lau ๓ พระนแใโพธิวงศใใใรย์(ทองดี ช.ร.๙) ฅามนัยพระบาลฃุททกนิกายซาคก ทิ่ไคอัญเชิญมาเป็นนิลเขปบทเบองต้นว่า โย ปุพ.เพ กตกลฺยาโณ เป็นอาทิ กวามว่า \"บุคคลใดเคยทำคุณงามความดซงทำได้ยากไว้ ต่อมาบุคคลนั้น จร;ทำหรอไม่ทำอกก็่ตาม ย่อมเป็นผู้ควรแก่การบูชาโดยต่วนเดยว\" บุกคลผู้ทำความคไว้ก่อนท่านเรยกว่า บุพการบุคคล บุคคลทกิคถึงบุญคุณ คิดถึงความคของบุพการซนนั้นแล้วหาทางทำฅอบแทนอย่างโคอย่างหนง ท่าน เรยกว่า กตญฌูกตเวทิบุคคล บุคคลสองประ๓ทนั้ท่านว่าหาไต้ยาก เพราะคน ต่วนใหญ่จะเห็่นแก่ฅัวเห็่นแกใต้ ช่วยเหลือคนอํ่นทำคิให้แก่คนอนไม่เป็น บุ่งแด่ จะรับจากเขาอย่างเคิยว และเมอรับแล้วก็่ใม่คิดจะฅอบแทนบุญคุณเขา ไม่คำนง ถึงอุปการคุณของเขาทเคยทำเคยให้แก่ตนมาก่อน เพราะถูกความเห็่นแก่ตัว เห็่นแกไต้มาปิดบัง ตังนั้น บุคคลทช่วยเหลือเก็้อถูลคนอนไต้ และบุคคลทคิดถึง บุญคุณคนอึ๋น พร้อมทั้งฅอบแทนบุญคุณเขาไต้นั้น ท่านจึงว่าเป็นบุคคลทหา ไต้ยาก และไคิรับยกย่องว่าเป็นคนทน่าคบหาสมาคม น่าเคารพบูขา ตรงกันข้าม คนทไม่คิดถึงความคิฃองใคร ไม่คิดตอบแทนคุณใคร ท่านว่า เป็นคนทไม่น่าคบ ไม่น่าเข้าใกล้ คบหาไปก็่ป้วยการเปต่า ตังพระบาลืจาก ชุททกนิกาย ขาดก อกตอนหนั้งว่า อกตฌฺณุมกต.ตารํ กตสฺส อป.ปฏิการกํ ยสฺม กดฌฺฌุตา นต.กิ นิรต.ถา ตสฺส เสวนา ฯ ข.ซา. ๒๗/๕๓๒/0๓๔ \"คนท!ม่เคยต่านิกถึงบุญคุณของใคร (ร) คนท!ม่เคยทำ ความดแกใคร ๑ คนทไม่เคยตอบแทนบุญคุณทเขาเคย ทำ ให้ ร) คนสามปรร;๓ทนั้ล้วนน่าตำหนิ การไปเสวนากับ www.kalyanamitra.org

๗๓ ฿ ihnnsHiJHfianni 1ร0ง บุ กทลฆู้ ทวร บู ชา คนทไม่มความกตญฌูนั้นปอมป่วยการเปล่า หาปรร;โยซน การทสมเค็่จบรมบพิฅรพระ;ราชสมภารพระ:องค ผู้ทรงพระ;คุณอันประ:เสริฐ ทรงแสคง'นาพระ:ทัยอันเป่ยมล้นด้วยพระ;กฅัญฌูกฅเวทิตาธรรมต่อพระ;บาท- สมเค็่จพระ;นั่งเกล้าเด้าอยู่'คัว พระ;มหาเจษฎาราชเด้า เซ่นนั้ย่อมเ?เนทประ;คับใจ ชองพระ;บรมวงศา'นุวงด้!นสายราชสคุลและ;พสกนิกรทุกหมู่เหล่า ทั้งจ^ได้ทอ เร็เนแบบอย่างไปปฏิบัติตามเบองพระ;ยุคลบาท เ'พอรักษาคุณธรรมฃ้อนั้1ว1ห้ นั่นคงถาวรสืบไป เพราร;ตราบใดทกตญฌูกตเวทิตาธรรมยงมอยูในโลก โลกก็่ จร;อบอุ่นร่มเย็่น เห็่นอกเ'ห็่นใจกน ช่วยเหลือกนแลร;กน แลร;ตอบแทนกนได้ การไม่เอาใจใล่คูแลกน การทอดทงกนใ'ห้วาเหว'เตยวคาย ก็่จฟ้.ม'เกิดขั้นใน โลก ในสิงคม แลนครอบครัว นับว่าทรงปฏิบัติธรรมสมควรแก่ธรรม นำ ทาง ให้เห็่นประ;จักษแก่พสกนิกรทุกหมู่เหล่า ด้องตามหลักในพระ;'ทุทธศาสนาอังรับ พระ;ราชทานถวายวิลัชนามา อิมินา กตปุญเฌน ขออำนาจพระ;ราชกุศลทักษิณานุประ;ทานทสมเค็่จ บรมบพิตรพระ;ราชสมภารพระ;องก ผู้ทรงพระ;คุณอันประ;เสริฐ ทรงบำเ'ค็่ญให้ ตั้งอยู่ด้วยคแล้วในพระสงฆ ทรงพระราชอุทิศถวายทั้งนั้ จงเป็นผลลัมฤทธิ้ ผลิตวิบากสุขสมบัติ แต่พระบาทสมเค็่จพระนั่งเกล้าเด้าอยู่คัว พระมหาเจษฎา- ราชเด้า ผู้ทรงพระคุณอันประเสริฐ สมอังพระราชปณิธานอุทิศโคยฐานะนิยม ทุกประการ ถวายวิลัชนาพระธรรมเทศนาฉลองพระเคชพระคุณประอับพระ ปิญญาบารม ยุติลงด้วยเวลา ด้วยประการฉะนั้ ฯ ชอกวายพระพร www.kalyanamitra.org

^ นาติมฌฺเฌยฺย วิซฺชิ วา สิปฺปมถวา เอกJJปี ปริโยทาตํ ชวิตกป.ปการณํ ฯ ธทมนติ. ไม่พึงคูหมํ่นวิชากวามรู้หรือสืลปวิทยาว่าน้อย วิชากวามรู้หรือสืลปวิทยา แม้อย่างเคยว หากแตกฉาน ก็่สามารถใช้เอยงซวิตไค้. www.kalyanamitra.org

0 จาคกถา เรื่อง ความเสิยสละรักษาซาติ มตฺตาสุขปริจฺจาคา ปสฺเส เจ วิปุลํ สุฃํ จเซ มตฺตาสุฃํ รโร สมปสฺสํ วิปุลํ สุขนฺติ ฯ ข.ธ. ๒๕/๘/๙ ตนํ้ จักรับพรรราชทานถวายวิสิ'ชนาพ!^ธรรมเทคนๆใน จาคกถา ฉลธง ฆพระเตชพระกณ ประคับพระปิญญาบารม ในการพระราชกุตลคักษิณา- นุประทานกิจ ทฟ้มเตึ่จบรมบพิตรพระราซฟ้มภารเจ้า ยู้ทรงพระตุณอันประเ^^ริฐ ทรงพระราชปรารภมหามงตลวโรกาสททรงเจริญพระซนมายุ ครบ าฮ รอบ นักษัตร ๗๒ พรรษา ๕ ธันวาคมf1กน เพอทรงพระราชอทิคแค่สมเตึ่จ พระบุรพมหากษัฅริยาธิราชเจ้าทุกริชกาก ในพระบรมมหาจักริราชวงค่ ค้วย ■นาพระราชหฤทัยกอปรจ้วยพระกคัญณูกตเวทิตาธรรม จันนำให้ทรงระลึกถง พระราชคุณูปการแห่งสมเค็่จพระบุรพมหากษัตริยาเราชเจ้าทุกริชกาลนั้น แลร; เพอเป็นสวัสติมงคลในวโรกาสเฉลิมพระชนมพรรษาครั้งนั้ค้วย พ7ะธ1?นกิคคิวง (ทองก) วักราชโอ?ศาราม กรุงเทพมหานกร แสกง ในการพระราชพิธบำเพื่ญพระราชกุกถทักษณานุปรรทาน ณ พระทนั่งอมรินทรวินิๆฉั'ย ในพระบรมมหาราชวัง วันเสาร ทํ่ <1 ธันวากม พ.ศ.๒๕dto www.kalyanamitra.org

A ๗๖ sssuaismflui lau ๓ พระฆ!ทโพรวง ศไ'^ไรย์(ทอง สิ น.ร.๙) แท้'จริง สมเค็่'จพระบุรพมหากษัฅริยาธิราซเ'จ้าทุกรัชกาลทผ่านมาในอคฅ นั้น ทรงเป็นปูซารหบุคกลยู้กวรแก่พระราชทักษิณาอุทิศแห่งสมเค็่'จบรมบพิตร พระราชสมภารเจ้า ด้วยทรงมพระราชคุณูปการอย่างใหญ่หลวงแก่แผ่นดิน แก่พสกนิกรชาวไทย และแก่พระราชวงก่เป็นล้นพ้นสุคท'จะนับ'จะประมาณได้ เพราะฅลอคระยะเวลายาวนานกว่า ๒00 ป็ทพระมหากร'ฅริย่ในพระบรม มหาจักริราชวงก่ทรงกรองไอคุริยสมบัติสืบพระราชสิ'นฅดิวงก่เนองกันมา 'จวบถงรัชกาลไนปี'จ'รุบันรวม ๙ รัชกาลนั้น ได้สร้างสรรก่'จรรโลงสิงทคงาม อำ นวยหิฅาบุหิฅประโยชนั อำ นวยกวามสุชไท้แก่แผ่นดินและพสกนิกรมาโคย ไม่ฃาคสาย กล่าวกือได้ทรงริเรั๋มสร้างสรรก่ ทรงรักษาบัองกันสิงทเป็นเอกลักษโน เป็นกักคิ้ศริชองชาติไว้มากมาย สิงทชาวไทยถือกันว่าเป็นกวามเ'จริญรุ่งเริอง ชองชาติ เป็นหน้าเป็นตาชองประเทศ เป็นทนิยมยกย่องชองบุกกลทั่วโลก ว่าเป็นเอกลักษโนเฉพาะตัวชองประเทศไทย ไม่ว่าจร;เป็นสิลปร; เป็นวฒนธรรม หรือเป็นธรรมเนยมประเพณ ตลอดไปถืงกิริยามารยาทต่างๆ ก็่ล้วนมกำเนิด เกิดมาจากในรั้วในวงแทบจะทั้งสิน พระบรมมหาราชวังและพระราชวังทั้งปวง ทกระจายอยู่ทั่วประเทศนั้นเป็นบ่อเกิคแห่งติลปวัฒนธรรมไทย เป็นบ่อเกิค แห่งขนบธรรมเนยมทเป็นเอกลักษโนเฉพาะชองประเทศชาติ โคยทสุคแน้การ ปรับปรุงเปลยนแปลงการบริหารงานราชการแผ่นดินไท้เข้าล่ยุกใหม่เป็นแบบ สากล รวมไปถืงการปกกรองตามระบอบประชาธิปไตย ก็่ก่อกำเนิคจากพระราช- คำ ริและพระวิลัยทัศนัแห่งสมเค็่จพระบุรพมหากบัตริย่ไนอตฅทั้งสิน อคตพระมหากบัตริย!นพระบรมมหาจักริราชวงกํทุกพระองก่ทรงคำเนิน ตามรอยพระราชปโนิธานแห่งพระบาทสมเค็่จพระพุทธยอคฟ้า'รุพ้าโลกมหาราช องก่พระปฐมบรมจักริราชวงก่ทว่า ทั้งใจจะอุปถมภก ยอยกพระพุทธศาสนา จะ รองกันขอบฃณฑสืมา รักษาประชาชนและมนตริ พระราชปโนิธานนั้ถือได้ว่า เป็นกัญญามหาชนททรงไห!ว้แก่พสกนิกรชาวไทยมาโคยตลอคทุกรัชกาล แลร! ทุกพระองกํก็่ทรงปฏิบัติพระราชภารกิจตามแนวพระราชปโนิธานนั้มาโคยเกร่งกรัค www.kalyanamitra.org

๗๗ 0 Tifinfii 1รอง ทว1น1สียสละรฉษใชาฅิ บัคนิ้ จักขอรับพระราชทานแสคงพระราชคุณูปการทยํ่งใหญ่ทเห็่นไคซัค และมกวามส์ากัญยั๋งใหญ่แห่งสมเค็่จพระบุรพมหากษัฅริยทุกพระองกนั้นเพยง ประการเคยว คือการททรงรักษาแผ่นคินไว้ให้กนไทยไค้อยู่กันอย่างเป็นสุข ทุกถ้วนหน้า ทรงทุ่มเทกำลังพระวรกายและกำลังพระราชหฤทัยปกปีกรักษา แผ่นดินไทยไว้ไม่หยุคหย่อน พระเสโทและพระโลหิตทหลั่งรินมากว่า ๒00 ป็ นับแค่สถาปนากรุงรัฅนโกสินทรเป็นราชธานเป็นค้นมานั้น ก็่เป็นไปเพอรักษา แผ่นดินไทยไว้ทงสิน ทุกพระองค้ทรงตระหนักดิว่าแผ่นดินคือทรัพยต้นทุนของการทำมา หากิน การดำเนินชวิต และความอยู่รอดปลอดภัยของประซาซน หากรักษา แผ่นดินให้คงอยูได้ ก็่เท่าภับรักษาด้นทุนการประกอบกิจต่างๆ ไว้!ด้ กล่าวคือ เมอจะลงมือประกอบการอะไรก็่ไม่ด้องลงด้นทุนเพมขั้น เพราะมืด้นทุนคือ แผ่นดินอยู่แล้ว แต่หากขาดผืนแผ่นดิน ก็่จำ เป็นต้องลงทุนสูงขั้น เพราะต้อง ซอแผ่นดินหรือเซ่าแผ่นดินสำหรับทำมาหากิน แผ่นดินเป็นทเชิดหน้าซูดาของ ผู้เป็นเจ้าของ ผู้!ร้แผ่นดินหรือผู้ต้องอาภัยแผ่นดินคนอึ๋นอยู่นั้นไม่อาจจะ อวดภักดิศรืหรือมองหน้าคนอึ๋นได้เต็่มดา แผ่นดินเป็นทรัพย์สำภัญทสุด ในซวิดมนุษย์ มืแผ่นดินอยู่ก็่เท่าภับมืชิวิดอยู่ หากไร้แผ่นดิน แม้จะมืชิวิด อยูกเท่าภับดายทั้งเป็น ทรงดระหนักดว่าเมอยงมืแผ่นดินก็่ยงมืซาดิ เมอสิน แผ่นดินก็่เท่าภับว่าสินซาดิ และดราบใดยงมือธิปไดยบนผืนแผ่นดินอยู่ ซาดิ ก็่ยงคงอยู่ ประซาซนก็่ยงมืด้นทุน หากยงรักษาอธิปไดยบนแผ่นดินไว้!ด้ ก็่ชึ๋อว่ายงรักษาความเป็นเจ้าของแผ่นดิน รักษาความเป็นเอกราซไว้!ด้ เพราะทรงคระหนักคังนั้ ทุกพระองคืจึงทรงนัองกันรักษาแผ่นคินไว้ค้วย กำ ลังพระวรกายและพระสฅิปีญญาทุกวิถทาง บางครั้งมืฃ้าคืกเช้ามายํ่าย หมายยคกรองแม่นคินหรือเช้ามาล่วงลํ้าอธิปไตยเหนือแผ่นคิน ก็่ทรงพลพระ ชนม่ชิพออกค่อถ้ ทรงระคมกำลังสฅิปีญญาช่วยกันแกไข ทรงปลุกเร้ากนไทย www.kalyanamitra.org

i ๗๘ sssuaisimiui lau ๓ พระ นMาโพธิวง ศใใารย์(ทอง ดึ น.ธ.๙) ให้เกิคกวามรักชาติ รักแผ่นติน ประวัติศาสกร[ทยไค้บันทึกเรองราวต่างๆ เกยวกับการบัองกันรักษาแผ่นตินฃองอคฅพระ:มหากบัฅริยโทยแต่ละพระองก ไว้โกยละเอยคและขัคเจน เป็นการบันทึกเรํ่องราวของยู้ทลมกวรไครับยกย่อง ในกวามเป็น พระเจ้าแผ่นดิน ของทุกพระองกโคยแห้จริง แผ่นคินไทยชงเป็นทรัพย่ค้นทุนอันส์ากัญทศมเค็่จพระบุรพมหากษัฅริย่ ทุกพระองกัทรงบัองกันและรักษาไว้เศมอค้วยพระชนมซพก็่ค กวามอยูคมศุข ของพศกนิกรชาวไทยบนแผ่นตินไทยนิ้ก็่ค กวามมเอกราชอธิปโกยเหนือแผ่นคิน กลอกพั้ติลปวัฒนธรรม กวามเจริญรุ่งเรืองไนค้านต่างๆ ชงรวมเรืยกว่าเอกลักษณ ไทย ซึ่งวิวัฒนาการเจริญเติบโกและยั่งยนมั่นกงกู่แผ่นคินไทยมากราบเท่าทุกวันน ก็่ค ล้วนมล้วนเป็นมาไค้ค้วยนาพระราชหฤทัยอันประกอบค้วยพระเมกกา กรุณาธรรมแห่งศมเค็่จพระบุรพมหากษักริย่ทุกพระองกัอย่างแห้จริง อันเมกกากรุณานั้นเป็นคุณธรรมส์ากัญประจำไจ เป็นเหตุผลักกันไห้ เกิคกวามเสิยศละ กวามเสิยศละเป็นเหตุผลักคันไห้เกิคการกระทำร่งทเป็น ประโยชนื กล่าวโกยรวบยอกว่า ความเส์ยศละนั่นเองทเป็นเหตุให้ศมเด็่จ พระบุรพมหากษัตริยทุกพระองค้ทรงบำเพ็่ญพระราซกรณยกิจต่างๆ ทเป็น ประโยซนแก่พศกนิกรชาวไทยดงถวายวิร'ชนามา ทุกพระองคทรงเสิยศละ ทั้งความศุซล่วนพระองคและพระศดิปีญญาเพอยอยกพระพุทธศาศนา เพอ ปีองกันขอบฃณฑส์มา รักษาประชาชนและมนตริ ตามพระราชปณิธานแห่ง องคพระปฐมบรมจ้กริราชวงต่นั้น การทศมเด็่จพระบุรพมหากษักริย่ทุกพระองกัทรงเลัยศละกวามศุข ล่วนพระองกั ทรงบำเพ็่ญพระราชภารกิจต่างๆ เพอประโยชนศขของปวงชน ชาวไทยนั้น ก็่ค้วยทรงอนุศรณถงคำศอนไนทางพระพุทธศาศนาและทรงปฏิบัติ กามคำศอนนั้น เนองค้วยทุกพระองกัทรงเป็นองกัเอกอักรศาศนูปกัมภก อันคำ ศอนทางพระพุทธศาศนาททรงคำเนินกามนั้น ปรากฏกามพระบาลทไค้อัญเชิญ www.kalyanamitra.org

๗๙ $ Tinnai ;J ISOO ทวา ซ!สียสละรทษใชใติ มาเป็นนิกเฃปบทเทศนาฌองต้นว่า มตฺตาสุขปริจจาคา ปสฺเศ เจ วิปุลํ สุขํ เป็นอาทิ \"หากมองเห็่นสุขอนไพบูลยเพรารแสิยสลร;สุขส่วนน้อย ธรชนผู้มองเห็่นสุขอนไพบูลยก็่พงศลร;สุขส่วนน้อย\" พระบาลนมอรรถาธิบายว่า กำ ว่า สุขส่วนน้อย ท่านหมายถึง ความสุข ส่วนต้ว ความสุขเฉพาร;ต้ว ทเกิคจากการกิน การนอน การพักผ่อน หริอเกิค จากการมทรัพยศมบัฅิเป็นต้น กวามสุฃส่วนตัวท่านถึอว่าเป็นสุขส่วนน้อย ก็่ เพราะไครับผลเฉพาะตัว ไม่กว้างไม่ขยายไปถึงกนอน หริอเพราะเป็นสุขทแกบ อยู่เฉพาะในปิจจุบันเท่านั้น ส่วนความสุขอันไพบูลยนั้นโคยปริยายอย่างศูง หมายถึงพระนิพพาน เพราะเป็นกวามสุขทศมบูรโน!ม'เกาะเกยวต้วยตัวคน ทำ ไห!ม่ถึคมั่นถึอมั่น ทำ ให้เถึยศละไต้อย่างกส่องตัว โคยปริยายอย่างคาหมาย ถึงกวามสุขของส่วนรวมโคยทั่วไป ไม่เจาะจงว่าเป็นของใกร ไม่ว่าเป็นของมิตร หริอของตัตรู ธรซนผู้มปีญญาแจ้งปรร;จกษเมอมองเห็่นว่าความสุขอันไพบูลยคือ ความสุขของคนส่วนใหญ่ย่อมเกิคขนได้ด้วยการเคืยสลร;สุขส่วนน้อยคือ ความสุขส่วนตัว จงยอมเคืยสอร;สุขส่วนน้อยนั้น เพึ๋อให้คนส่วนใหญ่ใด้ม ความสุข ปฏิปทาเซ่นนั้น้บว่าเป็นปฏิปทาของผู้เ!เนปราชญ่แลร;ของมหาบุรุษ ทงหลาย คนทั่สามารถเคืยสลร;สุขส่วนตัวเพอความสุขของคนอึ๋นได้นั้นจ้ด เป็นปราชญ่แลร;เป็นมหาบุรุษโดยแห้ ศมเค็่จพระบุรพมหากษัฅริยาธิราขเจ้าทุกพระองกํทรงเป็นปราซญ่ทรง เป็นมหาบุรุษผู้คำ เนินคามปฏิปทาในทางพระพุทธศาศนาฃ้อนั้ จึงทรงบำเพ็่ญ พระองกํเป็นผู้เถึยศละ ทรงเหี่นแก่กวามสุขของพศกนิกรมากกว่ากวามสุข ส่วนพระองค ทรงต้องการให้พศกนิกรพ้นจากกวามทุกฃ ต้วยทรงเห็่นว่า www.kalyanamitra.org

i ๘อ e sssuaisinfluiiau๓ พระฆMาโพรวง ศใจารย์(ทอง ดี ป.ธ.๙) ทุกฃของราษฎรฅือทุกฃของชาติ ทุกพรร;องคจงอยูใกรชดกบราษฎร ทรง สถิตอยูในวิถซวิตแลร!อยูในดวงใจของราษฎรมาทุกยุคทุกสมัย เพราร!ทรง ร่วมสุขร่วมทุกฃด้วยตดอดเวลา พรร!มหากษตริยโทยทุกพรร!องค!ม่เคยทรง ทำ ให้พสกนิกรชาวไทยผิดหวงแลร!เดือดร้อน มแต่จร!พรร!ราชทานความสุขให้ เท่านั้น ทรงเ!เนสรสง่าแห่งราษฎรมาทุกยุคทุกสมัย เป็นทอวดชาวโลกได้ว่า สถามันพรร!มหากษตริย!ทยนั้นเป็นสมมติเทพ ผู้ทรงมันดาลทุกสิงทุกอย่าง ให้แก่คนไทยแลร!แก่ผืนแผ่นตินไทย ทั้งนั้ก็่ด้วยกำดงแท่งพรร!จาคธรรมดือ ความเสิยสดร!ททรงยดมั่นเป็นปฏิปทาทางดำเนินในการครองสิริราชสมมัติ ตลอดมา กวามเสิยสลร:นั้นเป็นคุณธรรมส์ากัญประ:การด้น ททำให้เกิคการ สร้างสรรกั ทำ ให้เกิคกวามเห็่นอกเห็่นใจ ไม่เบยคเบยนไม่เอารัคเอาเปรยบกัน เป็นเหตุให้ผู้กนอยู่กันอย่างพอย่างน้องหรืออย่างเพอนสนิท ตรงกันข้าม ร่งท จร:มาขัคขวางหรือทำลายสิงทสร้างสรรกัจรรโลงหรือสิงทมัองกันรักษากันเข้า ไว้นั้นกี่คือกวามโลภนั่นเอง อันกวามโลกนั้ในพรร:พุทธศาสนารร:บุไ'ฬคเจนว่า เป็นอันตรายต่อทุกสิงทุกอย่าง กังพรร:บาลว่า โลโภ ธมมานํ ปริปนฺโถ ฯ ความโลภเป็นอนตรายต่อธรรมทั้งหลาย. ความโลภ นั้นเป็นกิเลสอย่างหนั่งชงถือว่าเป็นรากเหง้าทก่อให้เกิค กวามกิคทม่งเข้าหาตัวเอง มตัวเองเป็นแกนหลัก คือก่อให้เกิคกวามเห็่นแก่ตัว กวามด้องการไม่สินสุค กวามไม่รู้จักพอ กวามเห็่นแก่ผลปรร:โยชนั่ก่วนตัว รวม ไปถืงกวามกิคแสวงหาเพอไหได้มาชงผลปรร:โยชนั่ทด้องการในรูปแบบต่างๆ กวามกิคเห็่นทมลักษณร:เหล่านั้เป็นเรองชองกวามโลภ เกิคมาจากกวามโลภ มกวามโลภเป็นพนฐานทั้งสิน www.kalyanamitra.org

๘อ ■฿- Tiflfiai s ^/fyy 1รอง ทวในใสีบสละรทษาซาติ daนกำว่า ธรรมทั้งหลาย ในทนหมายถึงทุกสิงทุกอย่างทมอยู่แล้วเรน ปกติหรอทํ่ศร้างสิรรกํจรรโลงกันขนมา ไล้แก่ ธรรมชาติ วัฒนธรรม กันติธรรม สามัคคธรรม ยุติธรรม มโนธรรม แลร: จริยธรรม เป็นล้น ทว่ากวามโลภเป็นอันฅรายต่อธรรมทั้งหลายนั้นอาจเห็่นไล้[คยทั่วไป เป็นล้นว่า ธรรมชาติ ต่างๆ เซ่น ป่าไม้ แม่นั้าลำธาร ภูเขา สิงแวดล้อม โกย ทสุคแม้รนแผ่นกินทั่ถูกทำลายไห้พินาศไห้สูญสินสภาพไป ก็่เพราะกวามโลภ ทั้งสิน กวามโลภเป็นอันกรายต่อธรรมชาติเป็นอย่างยํ่ง วัฒนธรรม กือกวาม เจริญต่างๆ ทํ่สร้างสมกันมาแต่อคฅ อันเป็นกวามภากภูมิไจของต่วนรวม ก็่ถูก ทำ ลาย ถูกทอกทั้ง หรือถูกเหยยบยํ่าล้วยกวามโลภไล้เซ่นเคยวกัน กันติธรรม กือกวามสงบเรืยบร้อยไนกังกม ทำ ไห้กนอยู่กันอย่างสงบสุข ไม่หวากรร:แวง ไม่สร:คุ้งกกัว ก็่ถูกทำลายลงไปเพราร:กวามโลภ สาม้คคธรรม กือกวามรักกัน กวามเป็นนั้าหนั้งไจเคยวกัน กวามเห็่นอกเห็่นไจกันก็่สูญสลายไป เพราร:กวาม โลภเข้ามาทำลาย ยุติธรรม กือกวามเทั้ยงธรรมอันเป็นกราซูเป็นเกรํ่องกักสิน กวามถูกขิก ก็่เอนเอยงถูกทำลายลงไล้เมอเกิกกวามโลภขน โกยทั้สุกแม้ มโนธรรม กือกวามเป็นผู้มไจงกงาม กวามเออเพิอเผอแผ่ กวามรับขิกชอบ กวามมต่านกไนกวามก ชงเป็นคุณธรรมภายไนไจของผู้กนก็่ถูกกวามโลภ ทำ ลายลงไล้ ไม่จำล้องกต่าวถึง จริยธรรม หรือถึลธรรมชงเป็นหกักปฏิบัติ ไนซ่วิฅปรร:จำวันเลย รวมความว่า ความโลภนั้นเมอเกิดข็้นทั่ไหนก็่เป็นอันตรายทั่นั่น เกิดขนกับบุคคลใดก็่ทำให้บุคคลนนกลายเป็นคนเห็่นแก่ตว คนเห็่นแก่ตว จดว่าเป็นบุคคลอันตราย เป็นบุคคลทั่น่ากกัว เพราร;จร;เป็นผู้ทำลายธรรม ทุกอย่างไค้เพราร;ความโลภ ไม่ว่าจร;เป็นธรรมชาติ วัฒนธรรม กันติธรรม สามคคธรรม มโนธรรม แลร;จริยธรรม คนเห็่นแก่ตวสามารถทำลายไค้ ทั้งสิน www.kalyanamitra.org

i ๘๒ sssuaisinfiin lau ๓ พระบMไโพริวงศาจใรบ์(ทอง ฅี ช.ร.๙) กล่าวกือ กนเห็่นแก่ฅัวนั้นสามารถทำลายธรรมซาฅิทสะสมตัวเองมา เป็นเวลานับร้อยนับพันปี ชงเป็นประโยซนัซองล่วนรวมให้หมคสินไป เพยง เพราะต้องการประโยชนั้สุฃล่วนตัวซงถอว่าเป็นสุขล่วนน้อยก็่ใค้ กนเห็่นแก่ตัว คูถูกคูแกลนวัฒนธรรม และทอคทงทำลายวัฒนธรรมชงสิ'งสมกันมาเนํ่นนาน จนเป็นเอกลักษณประ'จำชาฅิก็่ไต้ กนเห็่นแก่ตัวทำลายกวามยุฅิธรรมกวาม เทํ่ยงธรรมอันเป็นหลักยคในการตักสินกวามถูกผิคก็่ไต้ กนเห็่นแก่ตัวทำลาย มโนธรรมชงเกยมในใจเพราะเกิคกวามโลภฃนก็่ไต้ โดยทสุดแม้แต่แผ่นดิน และอธิปไตยของชาติชงสมเด็่จพรร;บุรพมหากษฅริยแลร;บรรพบุรุษไทย ไม่ว่าจะเป็นทหาร ตำ รวจ หรือพลเรือนเยอมส์ยสละ ยอมพลพระชนม่พลชพ และสละหยาดเหงึ๋อม้องกันรกษาไ^วยชวิฅมาแต่อคตจนถงนัจจุบน คนเห็่น แก่ตวก็่สามารถทอดทง หรือนำไปขาย หรือนำไปแลกเป็นผลประโยชนโด้ ทั้งนั้เพราะเมํ่อกวามโลภเกิดชนแล้ว ก็่จะทำให้สฅิปิญญามืคมน หาทาง ออกอย่างอนไมไต้ นอกจากนำไปขายหรือนำไปแลกเป็นผลประโยชนํเท่านั้น แม้จะเห็่นว่านั่นเป็นการสร้างสรรก่ เป็นการแกิปีญหาหรือเป็นทางออกทถูก ต้องก็่ฅาม แต่เพราะกวามกิคเห็่นเซ่นนั้นมโลภะเป็นพนฐาน กวามกิคเห็่น เซ่นนั้นจึงภลายเป็นอันตรายไป ต้วยเหตุนั้พระจอมไตรลัมมาลัมพุทธเจ้าจึงตรัส เสือนให้ระวังกันไว้ว่า ลุทฺโธ อตฺถํ น ชานาติ ลุทฺโธ ธมมํ น ปสฺสติ อนฺธตมํ ตทา โหติ ยํ โลโภ สหเต นรํ ฯ ขฺ.ธ. ๒๕/๒๖๔/๒๙๕ \"คนโลภปอมไม่รู้อรรถคอเหตุผล คนโลภย่อมไม่เห็่นธรรม คือความด ความโลภเข้าครอบงำนรซนเมอใด เมอนั้นย่อมม แต่ความมืดมิด\" www.kalyanamitra.org

๘ฅ Iinnai 'ไ^*'\"cไ ใรอง ภวาบ!สียสละรทษใชาติ ฟ้มเค็่จพร::บุรพมหากษัฅริยาธิราชเจ้าทุกพระองกทรงบรรเทากวามโลภ ในพระราชหฤทัยไค้แล้วจึงทรงบำเพื่ญพระ'จากธรรมกือกวามเสิยสละ เบองค้น ก็่ทรงเสิยสละกวามสุฃท'จะไค้ทรงพักผ่อน ไค้ทรงสำราญพระอิริยาบถกาม พระราชอัธยาทัยซํ่งเป็นกวามสุชทพึงมพี้งไค้ เพอแลกกับกวามสุฃชองพสกนิกร ทั่วไป โกยทรงใช้เวลาเซ่นนั้นไปในการทรงงานและบำเพ็่ญพระราชภารกิจ น้อยใหญให้สำเร็่จเริยบร้อย เป็นประโยชนแก่ส่วนรวมฅิคฅ่อกันมาเป็นเวลา กว่า ๒00 ป็ นับแก่สถาปนาพระบรมมหาจักริราชวงก่และก่อนหน้านั้นอก หลายร้อยป็ แม้สมเค็่จบรมบพิฅรพระราชสมภารเจ้า ผู้ทรงพระกณอันประเสริฐ รัชกาลปิจ'รุบันก็่ทรงคำเนินกามรอยพระราชปฏิปทาแห่งสมเค็่จพระบุรพมหา- กษักริยาธิราชเจ้าทุกพระองกทผ่านมาแล้วโกยเกร่งกรัก เป็นทประจักษซัคกัน โกยทั่วไป ทรงเป็นแบบอย่าง ทรงเป็นผู้นำในการนำจากธรรมกือกวามเสํยสละ มาปฏิบัติให้เกิคผลเป็นรูปธรรม ทรงทุ่มเทพระกำลังและพระสติบัญญา ทรง ยอมลำบากกรากกรำพระวรกายมิไค้หยุคหย่อนเพอกวามเจริญสถาพรแห่ง แผ่นคินไทย และเพอกวามสุขแก่มหาชนชาวสยาม กามพระราชปณิธานทํ่ พระราชทานไว้ นำ ให้ประเทสชาติอยู่รอคปลอคกัยมาไค้กราบเห่าทุกวันนั้ เมอทราบประจักษเซ่นนั้แล้วจึงเป็นการสมกวรอย่างยํ่งทํ่กนไทยทั้งหลาย ชงไค้อาลัยแผ่นตินอยู่กันอย่างเป็นสุขมากราบเท่าทุกวันนั้ จะไค้คำเนินกามรอย พระยุกลบาทแห่งพระมหากษักริย่เจ้าค้วยการแสคงกวามจงรักกักค อันการ แสคงความจงรกภกดนั้นมิใช่เพัยงแค่ยกย่องสรรเสริญด้วยใจแลรแสดง ออกกนด้วยวาจาเท่านั้น หากแค่จะด้องแสดงออกด้วยกายคือการกระทำ ด้วย จึงจะซอว่าจงรักภกดมั่นคง กล่าวคือด้องร่วมแรงร่วมใจกันสร้างสรรคื ความเจริญให้แก่แม่นดินอันเบ็่เนถํ่นเกิดและเป็นทั่อยู่อาลัยของตน ปฏิบัดิ หน้าทั่ในฐานะเป็นคนไทยให้สมบูรณด้วยใจจริงและเคืยสละ ไม่ม่งปฏิบัดิ โดยมผลประโยชนเพอลัวเองแอบแฝงอยู่เบองหลง ด้องคิดอยู่เสมอว่าตน จะสร้างสรรค่อะไรให้แก่แม่นดินได้บ้าง มี่ใช่คิดว่าตนจะได้อะไรจากแม่นดิน www.kalyanamitra.org

i ๘๔ li: ธรรบส!รโทฝ็นไ โส่บ ๓ พระนผใโพริวงศใใไรย์(ทองดี ช.ธ.๙) 1ทงเพยงอย่างเดยว ต้องร่วมมือกนร้ฑษๆผืนแผ่นดิน รกษๆเอกราชอธิปไตย รกษาอิสรภาพเหมือผืนแผ่นดิน ตลอดถงดิลปวัฒนธรรมอนเมืนเอกร'กษณ ไทยชงเป็นพระ;ราชมรดกแห่งสมเค็่จพระ;บุรพมหากษัตริย่และ;ของบรรพบุรุษ ไวัIห้ใต้ อย่าให้^ดนำอำนาจผลประ;โยชนมาแลกแผ่นดินและ;เอกราช อธิปไตยไปไต้ ในขณะ;เดิยวกนต้องช่วยกนทะ;นุถนอมและ;ระ;วังรกษาองด พระ;มหากษัตริย่และ;สถาบนพระ;มหากษตริย่!ว้ให้คู่ชาดิถู่แผ่นดินตลอดไป ทำ ไคคังนนอกจากจะ:ไค้ซอว่าแสคงกวามจงรักภักคด้วยกวามกฅัญฌูต่อ แผ่นคินและ!เจ้าของแผ่นคินแล้ว ย่อมจฟ้.ม่มืใกรตำหนิได้ว่าเป็นกนขายชาติขาย แผ่นคินหรอเป็นกนเนรคุณต่อแผ่นตินทบรรพซนได้เผืยสละเสือคเนอและ;ซวิฅ ป็'องกันและเกื่บรักษาไว้ให้อย่กันเป็นสุขทั่วหน้าด้วย ทั้งนจะเป็นไปไค้กด้วย มืกวามเส์ยสละเป็นพนฐานเบองด้น ขาคกวามเสืยสละแล้ว แม้กวามสามักก กวามซอร'ฅย่สุจริฅ กวามมเมฅคากรุณาและมโนธรรมอนๆ ก็่เกิคขนได้ยาก แต่หากกวามกิคทํ่จะเสิยสละเกิคขนในจิตแล้ว การบำเพ็่ญประโยซนํเพอส่วนรวม เพอกนอนก็่เกิคคามมาไค้ไม่ยาก กังเซ่นทพระมหากษัฅริย!ทยในอค้คและ สมเค็่จพระบรมบพิครพระราซสมภารเจ้ารัซกาลมัจจุมันได้ทรงบำเพ็่ญไว้ให้เป็น แบบอย่างประจักษซัค กังรับพระราซทานถวายวิสิ'ซนามา อิมินา กตปุฌเฌน ขออำนาจพระราซกุศลทักษิณานุประทานทํ่สมเค็่จ บรมบพิครพระราซสมภารพระองก ผู้ทรงพระคุณอันประเสริฐ ทรงบำเพ็่ญ ให้ทั้งอยู่ด้วยคในพระสงฆ ทรงอุทิศถวายในวโรกาสมหามงกลสมัยเฉลิม พระขนมพรรษา ๗๒ พรรษา V? รอบกรั้งน็้ จงเป็นผลสิ'มฤทธิประลิทธิ วิบากสุขสมบัติแต่สมเค็่จพระบุรพมหากษัคริยาธิราซเจ้าทุกๆ พระองก สมกัง พระราซปณิธานอุทิศโคยฐานะนิยมทุกประการ รับพระราซทานถวายวิสิ'ซนา พระธรรมเทศนาฉลองพระเคซพระคุณประกับพระบัญญาบารมื ยุติธรรมกถาลง ด้วยประการฉะน ฯ ขอถวายพระพร www.kalyanamitra.org

สัจจวาจากถา เรื่อจ คำ จธิง สจฺจํ เว อมตา ๆๆจา เอส ธมฺโม สนนุตใน ส์จฺเจ อตฺเถ จ ธมฺเม จ อาหุ สนฺโต ปติฏfฅาติ ฯ ชุ.สุ. ๒๕/๓๕๗ คน็้ จักรับพระราชทานถวายวิร'ชนาพรร:ธรรมเทศนาใน สิ'จจวาจากถา บฉลองพระเคชพระคุณประคับพระปิญญาบารม อนุรูปฅามพระราชคุศล ทักขิณานุปทานกิจทํ่ศมเค็่จบรมบพิตรพระราชศมการเจ้าทั้งสองพระองก ทรงบำเพ็่ญพระราชอุทิศส่วนพระราชกุศลถวาย แค่ศมเค็่จพระบุรพมหา- กษัฅริยาธิราชเจ้าและศมเค็่จพระบุรพอักรมเหกิผู้ทรงพระคุณอันประเสริฐ ผู้ทรงเป็นพระราชบุรพการิและพระราชบุรพการินในพระบรมราชจักรวงค่ ทุกพระองก ชงทรงปฏิบัติเป็นนิพัทธกิจบุรพกากเบองต้นเนองในการพระราช- พิธฉัตรมงกลประจำป็ โคยทรงมพระราชประสงก!ห้ส่าเร็่จเป็นหิตสชสมกวร พระธรรมกิ?)คิวงf^ (ทองคิ) วัคราชโอรฟ้าราม กรุงเทพมหานคร แฟ้คง ในการพระราชกุศลทักษิณานุปทาน เนํ่องในการพระราชพิธฉัฅรมงคล ณ พระทํ่นั่งอมรินทรวินิจฉัย ในพระบรมมหาราชวัง วันพุธทํ่ ๓ พฤษภาคม พ.ศ. เวลา น. www.kalyanamitra.org