ฅ๘๗ usfiai 1รอง ฃฺ ชสนบฅิ ไครับกวามส์าเรๆในร่งทปรารถนาต้องการ อันเป็นการเพมพูนสถานะของ คัวเองให้สุขสมบูรณยํ่งขนไปเท่านั้น หากแต่เพอเชิญชวนให้คนพุทธฑงปวง ตรร;หนกคิดทจร;น้อมนำพระปฏิปทาแลร;พรร;คุณของพรร;พุทธองคทง ๓ ปรร;การมาเป็นแนวทางคำเนินซวิตของตน คือปฏิบติตนให้เป็นผู้บริสุทธิ้จริง เป็นผูรู้จริง แลร;เป็นผู้เคืยสลร;จริง แม้จะปฏิบัติไม่อาจเท่าทันพระพุทธองกโต้ แต่ขอให้ปฏิบัติคามแนวทางนั้นๆ ก็่ไคซอว่าเป็นกนพุทธ เป็นพุทธบุครเป็น พุทธสาสนิกซนโคยสมบูรณสมเกยรติสมคักคศร การปฏิบัติตามพระปฏิปทาข้อ อรหํ เพอให้เป็นผู้บริสุทธิจริงนั้น จำ ต้อง วางแผนคำเนินชิวิฅ คำ รงฅนแกฝนคนให้มต้นทุนเพอใหซ็วิฅมแสงสว่างในคน ต้วยกวามขยัน ป็กฝนคืกษาเล่าเริยน อังสมภูมิปีญญาให้สูงขนเรํ่อยๆ ประพฤติคัวทำคนให้บริสุทธิสะอาค ยคมั่นอยูในกวามสุจริค ทำ พูคคิคอยูใน กรรลองแห่งธรรม ห่างเว้นจากบาปทุจริค ไม่ยึคติคไปตามอำนาจกวามโลภ กวามโกรธ กวามหลง จนไม่มอิสระ ไม่เป็นคัวของคัวเอง จนไม่อาจกวบคุม อารมณกวบคุมกวามประพฤติของคนไต้ไหลลนไปคามอำนาจกิเลสราไป เมอ คำ เนินซวิคในอักษณะนั้ก็่ถือไต้ว่าจะมกวามบริสุทธิจริง กออยูในกรอบกวาม เป็น อรหํ คามพระพุทธองก หอังจากนั้นกื่พยายามสร้างแสงสว่างทางปีญญาให้เกิคมฃน อันปีญญา นั้นสามารถสร้างได้ก่อให้เกิตมได้ตลอดเวลา เช่นเกิดจากการเริยนรู้ จาก การทำงาน จากการปฏิบติ จากการสนทนาพูดคุยกน เป็นด้น โตยมสติพินิจ ใช้สมองคิตเรองต่างๆ ท!ด้ประสบ ใช้ตาเป็นครู ใช้หูเป็นอาจารย อยู่ตลอด เวลา ปีญญาก็่จะเกิดตามมาตลอดเวลาเช่นกน ปีญญาทเกิคโคยวิธิเช่นนั้ ทำ ให้มปรซารอบรู้แห้จริง จะเป็นประโยขนํสร้างประโยซน!ต้แห้จริง มปีญญา เช่นนั้เริยกได้ว่ารู้จริง ไมใช่เป็นการรู้ด รู้ดกบรู้จริงนั้นต่างกน รู้ด คือรู้คาม ทคนเองกิคว่าเป็นอย่างเป็นอย่างนั้ แล้วก็่แสคงออกมาพูคออกมาว่าคนรู้ www.kalyanamitra.org
i ๓๘๘ sssuaisinHui lau ๓ พระชHใโพธิวง ศไใไรย์(ทอง ดี U.S.๙) อย่างนั้นอย่างน ซ่งเป็น'ไเริงก็่ใค้ ไม่เป็น'จริงก็่ใค้ ดังนั้น กนโบราณจงศอนว่า อย่าไว้ใจคนรู้ด อย่าเชอคนรู้ด เพราร;จร!ทำให้เส์ยหายเดือดร้อนในภายหลงไค้ แต่ถ้า รู้จริง กือรู้กามข้อเท็่'จ'จริง รู'้จากปรร!ศบการณทํ่ย่านพบมาเอง 'จากการ ปฏิบัติมาด้วยดัวเอง รู้อย่างนั้เริยกว่ารู้'จริง คนพุทธทั้งหลายควรเป็นคนรูจริง มากกว่ารู้ดื มิใช่เพยงแค่รู้ดืเพราร!คิดเก่งแลร;มวาทร;ดื แล้วก็่หลงค้วเอง แสดงความรู้ดืราไป ย่อมไค้ปรร;โยชนเป็นส่วนตนเป็นหล้ก แต่ยูอึ่นไมใด้ ปร::โยชนหรืออา'จเส์ยประโยซน!ปโกยไม่รูดัว หลัง'จากทมแศงศว่างแห่งบัญญาในกนเป็นยูรู้'จริงแถ้ว พึงเป็นคนเส์ยศละ จริงด้วย กล่าวกือไม่เก็่บกวามรู้[ว้ชนชมเฉพาะคน แต่พึงเปิคเผยโห่โลกรู้ ด้วย การใชปิญญากวามรู้นั้นไปบำเพ็่ญประโยชนแก่ล่วนรวม แก่ประเทศชาติ แก่ พระศาศนา ทำ โลกนั้ให้ศว่างไศวด้วยแศงแห่งธรรมแห่งกวามก ช่วยเหลือ ผู้กนให้มกวามศว่างทางปีญญา เซ่นศอนให้กนอํ่นรู้จริงกามกน แนะนำกนอน ให้ปฏิบัติคปฏิบัติชอบเหมือนกน ซทางศวรรก!ห้กนอํ่นเห็่นเหมือนทํ่ฅนเชอมั่น คามหลักฐานทํ่กนรู้จริง ไม่กระหนไม่หวงกวามรู้ ไมใข้กวามรู้!ปในทางหา ผลประโยชนํล่วนกนจนไม่กำนงลืงกวามเหมาะกวามกวร เลืยสลร;ทำไค้เช่นนั้ชอว่ามืความเลืยสลร;จริง ดำ เนินตามพรร;ปฏิปทา ข้อ ภควา ของสมเด็่จพระล้มมาล้มพุทธเจ้าจริง หากไม่เช่นนั้น มืแสงสว่าง มืชญญาในตนแล้วก็่จะเพิกเฉย ไม่เลืยสละ ไม่ทำประโยชน หรือใซ้ปีญญา ไปก่อกรรมทำเฃ็่ญแก่ยู้อน ชงจะเกิดโทษแก่ตนในภายหล้งไค้ คนเฑนั้นแม้จะปฏิบัติคัวทำตนตามปฏิปทาข้อ อรทํ คือมความบริ^ทริ้ จริง และตามปฏิปทาข้อ สมฺมาสมพทฺโร คือมความรู้จริง ประพฤติตนอยูใน สุจริตธรรม ไม่ทำผิดทำเคืยอะไร ม่ปิญญาความรู้เป็นอย่างคื สามารถตำรงตน และครอบครัวอยู่อย่างปกติสุขไค้แล้ว แต่หากขาศปฏิปทาแบบ ภควา คือ ไม่เคืยสละ ไม่ช่วยเหลือเกอกูลใคร ไมม่นั้าใจเออเนั้อเผอแผ่ แม้จะตำเนินชวิต www.kalyanamitra.org
ตุ๔๙ ร่฿- usnai \\ >9 Iรอง ชุ นสชบฅิ ไปไค้ ก็่เป็นไปในระฅับmท่านั้น ไม่อาจถงระคับประเสริฐไค้ สมเค็่'จพระบรม- ศาสคาทรงไครับยกย่องว่าฟ้นยู้ประเสริฐสูงสุค ก็่เพราะทรงมพระกุณฅรบทั้ง ๓ ประการ คือทรงเป็นผู้บริสุทธิ้จริง ทรงรู้จริง และทรงเคืยสละจริง เมอเป็นพุทธบุตรเป็นพุทธศาสนิกชนก็่พึงปฏิบติปฏิปทาทั้ง ๓ ประการนั้!ห้สมบูรณเซ่นกัน เมอทำได้ปฏิบติได้ ชวิตก็่จะเป็นซ่วิฅทประเสริฐ เป็นซวิตทึ๋น่ายกย่อง แม้ล่วงกับดบซพไปแล้ว ผู้คนก็่ยงกล่าวขวญยกย่อง ให้เกยรติระลกถงไม่เร่อมคลาย การคำเนินการทั้งมูลนิธิมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย โคยพระมหาเถระ และผู้บริหารมหาวิทยาลัยมหาจุฬ'าลงกรณราชวิทยาลัยทั้งแค่เรํ่มต้นมาจนถง การบริหารมูลนิธิของคณะกรรมการมูลนิธิฯ และผู้บริหารมหาวิทยาลัย มหาจุฬ'าลงกรณราชวิทยาลัยสมัยปิจจุบัน ชอว่าไต้คำเนินคามพระปฏิปทา พุทธคุณ ๓ ประการอย่างครบถ้วนสมบูรณ และซํ่อว่าไต้คำ เนินคามพระ- พุทธคำรัสซักชวนคามพระบาลช้างต้นทว่า บุญนิธิกันไดติดตามตนไปได้ ผู้มชญญาพงทำบุญนิธิกันนั้น เพราะต้องการให้การบริหารงานมหาวิทยาลัย สงฆโทยไคํรับความสะควกคล่องคัวในการคืกษาเล่าเริยน เป็นประโยชนแก่ ภิกษุสามเณรและบุคคลทั่วไปอันเป็นหลักล่าคัญ จงใช้ความบริสูทธิจริงใจ ความรู้ความสามารถ และความเล่ยสละทุ่มเทคำ เนินงานเพอให้ทุนมูลนิธิ เภิคชน เมอเภิคไต้แล้วก็่ทุ่มเทให้เจริญถ้าวหน้ามากยั๋งข็้น และบุ่งหวังทั้งเบัา ให้ถงจุคสูงสุค ถือว่าเป็นความเล่ยสละอย่างสูง ทั้งยังเป็นโอกาสซักชวนผู้ มสรัทธาให้ร่ามบริจาคทั้งทุน อันเป็นการซักชวนให้เถืยสละทำประโยชนแก่ ลังคม ทั้งเป็นบุญกุศลประจำคัว ไม่สาธารณะทั่วไปแก่คนอน ทั้งผูใคจะลัก จะขโมยไปก็่มิไต้ต้วย เริยกว่าไต้ประโยชนทั้งผู้คิคทั้งมูลนิธิ ผู้ร่วมสนับสบุน คำ เนินการ ทั้งผู้ร่วมบริจาคฝากทุนไว้ เป็นช้อน่ายกย่องเป็นแบบอย่างในการ www.kalyanamitra.org
i ๓๙0 ฿ sssuaismnin lau ๓ พระบHใโพธิวงศไ'=ทรย์(ทองดี ช.ธ.๙) ปฏิบัติตามพรร:ปฏิปทาพทธคุณครบffวนสมบูรณ คังไคซแ'จงแสฅงมาด้วย ปรร:การฉร:น็้ อิมินา กตปุฌฺเฌน ด้วยอำนา'ๆบุญกุศลปุพพเปฅพลทํ่มูลนิธิมหา- 'จุฬ'าลงกรณราชวิทยาลัย อันปรร:กอบด้วยคณร:กรรมการมูลนิธิทั้งปวง ฅลอคทั้งเ'จ้าหน้าทมูลนิธิ แลร:มหาวิทยาลัยมหา'รุฬ'าลงกรณราชวิทยาลัย ได้บำเพ็่ญให'เป็นไปในวันน ขอ'จงส์าเร็่'จลัมฤทธิ้ผลเป็นวิบากสมบัติอันไพบูลย ในลัมปรายภพแต่เจ้าชองทุนมูลนิธิแลร:ผู้ม'อุปการคุณทวายชนมใปแล้ว อัน ปรร:กอบไปด้วยเจ้าปรร:คุณสมเค็่'จพรร:พุฒาจารย อาสกมหาเถรร: ยูรเรั๋มทั้ง มูลนิธิ ท่านผู้หญิงลร:เอัยค พิบูลสงกราม ผู้ถวายกำแนร:นำเรองมูลนิธิเบองด้น พรร:ธรรมวรนายก จันทกมหาเถรร: อคตอธิการบคมหา'จุฬาลงกรณราชวิทยาลัย ผSูL้ค/0ำ เนินการจัคtตjังมูลนิธิ%พJร้อมคณะ อาจารยJเกษม บุญศร ผู้ขออบุญาฅจัคตัง มูลนิธิ ฅลอคถึงกรรมการและเจ้าหน้าทมูลนิธิในอคฅ ขอท่านทั้งหลายทั้งปวง นั้นจงได้อบุโมทนาและไครับผลสุขสมบัติในสุคติภพ สมตังอาทิสสนเจฅนา- ปรารภของคณะกรรมการมูลนิธิมหา'จุฬาลงกรโนราชวิทยาลัยทุภประการ รับ ประทานแสคงพระธรรมเทศนาในนิธิกถาก็่พอสมควรแก่เวลา ขอยุติลงคงไว้ เพิยงเท่านั้ ฯ เอวํ ก็่มด้วยประการฉะนั้ www.kalyanamitra.org
๗ กิตติกถา เรื่อง ผู้มีเกียรติยศงดงาม พหุสฺสุตํ สิลวตูปปนฺนํ ธม.เม fตํ น วซหาติ กิตฺติติ ฯ องุ.ปฌฺจก. ๒๒/๕๒ บคน็้ จักไค้แสคงพร^ธรรมเทศนาใน กิตติกถา อนุโมทนาบุญกิริยา ทักขิณานุปทานบุศล ทกำหนคบำเพ็่ญขนปรารภเป็น วนพรร!อนุฟ้รณ์ อปก. อนเร็่เนวนคล้ายวนกินพรร!ซนมเจ้าพรร!คุณสมเด็่จพรร!สิ'งฆราช กิตติ- โสภณมหาเถร ทกณร;สงร็!วัคเบญจมบพิฅร ซงมท่านเจ้ากณพร::เทพกิฅฅิเวท เจ้าอาวาสเป็นประ;ธาน พร้อมค้วยกิษยานุกิษยชาวเบญจมบพิตร ร่วมทันบำเพ็่ญ ให้เป็นไป ห้อมถวายพระกสลแค่เจ้าพระ;คุณสมเค็่จพระ:ทังฆราชพรร;องกนั้น แสะกำหนคไหวันนเป็นวันอคฅเจ้าอาวาส วันบุรพาจารย ซองวัคเบญจมบพิตร ประจำปี บำ เพ็่ญบุสลอทิศถวายแค่อคฅเจ้าอาวาสของวัคทุกรูป พร้อม อทิศส่วนกุศลให้แค่ท่านผู้เป็นบูรพาจารยยู้มพระคุณแก่วัคไปพร้อมทันห้วย พรรมหาโพธิวงสาจารย (ทองค) วัคราชโอรฟ้าราม กรุงเทพมหานกร แฟ้คง ในวันพระ:อนุฟ้รณ อปก. และวันอคคเจ้าอาวาฟ้ วันบุรพาจารย ณ วัคเบญจมบพิตร เขตคุสิฅ กรุงเทพมหานกร วันศฺกร่ ทํ่ ๑๓) มิถุนายน พ.ศ. ๒๕๕๙ เวลา 0๙.00 น. www.kalyanamitra.org
A ๓๙๒ 0 sssuaisinfiui lau ๓ พระชแใโพธิวงศใไใรย์(ทองดื ช.ธ.๙) ชงการบำเพ็่ญกุศลเช่นนั้[ค้ถอปฏิบัติกันมาเป็นนิ'จกาล และในการนนอก'จาก พระเถรานุเถระผู้ใหญ่ผู้น้อยในวัคเบญ'จมบพิตร'จะไค้เสิยสละรับเป็นเ'จ้าภาพ ในกองบุญต่างๆ แล้ว ยังมพระมหาเถระต่างอารามไค้มโสภณจิฅเ'จฅนา ร่วมป้าเพ็่ญกุศลโคยรับเป็นเจ้าภาพวัควัฅกุไทยทานมาถวายค้วย ชงถือว่า เป็นกวามงคงามและเป็นแบบอย่างอันส์ากัญตามหลักกฅัญฌูกตเวทิตาธรรม ในพระพุทธศาสนา อันการป้าเพ็่ญกุศล'อุทิศถวายอคตเจ้าอาวาสและบูรพา'จารย่ฃองวัค'นั้น เป็นบุญกิริยาทน่ายกย่องนับถือ เป็นการแสคงถืงจิตส์านกและกวามรับผิคชอบ ชองผู้เกยไครับอุปการกุณ'จากท่านเหล่านั้นมามากน้างน้อยบ้าง โคยตรงบ้าง โคยอ้อมบ้าง แบ้ท่าน'จะละ'จากไปนานแล้วเป็นสิบป็ร้อยป็ แต่พระกุณกวาม คและสิงทท่านเหล่านั้นไค้สร้างสรรก[ว่ยงปรากฏเป็นรูปธรรมต่อเนั้องอยู่หรือ ยังไม่สูญหายไปไหน ยังพอให้เรืยนรู้และรับอุปการะนั้นต่อๆกันมาไค้ ผู้อยู่ภายหลัง เมอน้อมระลึกนึกถืงก็่เกิควัตล่านึกในภารท'จะปฏิการะตอบแทนพระกุณ ค้วย วัตทมั่นกง กวามรู้ลึกทระลึกถืงและค้องการตอบแทนพระกุณนั้แหละวัคเป็น 'พนฐานของกฅัญฌูกตเวทิตาธรรม หากฃาควัตล่านึกเลึยแล้ว กวามรับผิคชอบ ในเรึ๋องอย่างนั้ และการป้าเพ็่ญกุศลเช่นนั้ย่อมเกิคชนไค้ยาก แบ้'จะเกิคชน ก็่ชาคกวามสง่างามไปอย่างแน่นอน แห้'จริง เจ้าพระกุณสมเค็่'จพระลังฆราช กิตติโสภณมหาเถร นั้นทรงเป็น พระมหาเถระคำรงอยู่ในฐานะบุรุษรัตน่พระองกัหนั้งในอคต ทรงมพระประวัติ และผลงานทงคงาม ทรงเป็นแบบอย่างและสร้างแบบอย่างไว้เป็นค้นแบบแก่ กณะสงฆ!ทยหลายประการ ทกำหนค'จค'จำกันไค้เป็นค้นว่า ทรงมพระปรืชา- สามารถสอบเปรยญธรรม ๙ ประโยกไคตงแต่เป็นสามเณร ถือว่าเป็นสามเณร รูปแรกทสอบไค้๗ประโยกนั้ และทรงเป็นองกปฐมทไคํรับพระราชทานรถหลวง นำ ล่งถืงวัค เมอเข้ารับพระราชทานพัคเปรืยญ ๗ประโยก'จากพระบรมมหาราชวัง www.kalyanamitra.org
๓๙ฅ ■^- nMnai /'AK 1รอง บู้ ช!กี ยรติยศงดงาน ชงธรรมเนยมนยังถือปฏิบัติกันสืบมา'จนถึงปี'จๆบัน พระองฅทรงมแนวพระคำริ เรํ่องการกณะสงฆในประเทศและต่างประเทศหลายอย่างทไค้นำมาสานต่อ ปฏิบัติกันในปี'จ'รุบัน ชงถือไค้ว่าพระองกทรงเป็นหลักชัยของกณะสงฆไทย มาระยะหนง และทรงมพระเกยรติคุณเป็นทยอมรับกันสืบต่อมาหลายประการ ทรงเป็นบักการสืกษา ทรงมสืลา'จารวัฅรงคงามเป็นแบบชาวกัง น่าศรัทธาเลอมใส ทรงฅั้งอยูในคุณธรรมททรงไคํ^กษาเล่าเริยนมาอย่างสมบูรณ พระเกยรติคุณ ชองพระองกสืงยังไม่ละ'จากยังไม่สูญหายไปไหน ยังสถิตอยูในใ'จชองผู้เกยวช้อง ชองผู้พบเห็่น และชองยูไคํสืกษาเริยนรู้พระประกัติสืบเนองกันมา ช้อนก็่เป็นไป ตามพระบาลพุทธพ'จน่ทํ่ตรัสไวั้ใน ลัปปุริสสูตร ปีญ'จกนิบาต อังคุตตรนิกาย ทอัญเชิญมาเป็นนิกเชปบทเทศนาเบองค้นว่า พหุสฺสุตํ สืลวตูปปนฺนํ เป็นอาทิ ชง แปล เป็นกวามไทยไค้ว่า \"เกยรติปอมไม่ละบุคคลผู้เ!เนพหูสูต ผูถืงพร้อมด้วย ติลและวตร ผูตั้งอยูในธรรม\" พระบาลช้อนเท่ากับว่า ฒเศ็่จพร:!^มมา^มพุทธเจ้าทรงชหfอทรง แน:!นำว่า เมอต้องการเกยรฅิ อันเปีนเครองสนับฒุนชวิฅใต้มคุณค่า ใต้ม ต้กคค่ร มคนนับถือ ใต้ความไว้วางใจ ไปไหนมาไหนผู้คนใต้การต้อนรับแล:! ยอมรับ ไครับการยกย่องสรรเสริญ เมอต้องการเช่นนิ้จำต้องสร้างเหคุคือ ประพฤติปฏิบัติฅัวใต้มคุณสมบัติทํ่คื ใต้เป็นผู้เหมาะผู้ควรทจะไครับยกย่อง เช่นนั้น ซงทรงแสคงไว้ในข้อธรรมนั้ ๓ ประการ คือ เป็นพหูสูต เป็นผู้ถืง พร้อมด้วยคืลและว้ตร และ เป็นรูตั้งอยูในรรรม ซงคุณสมบัติ ถา ประการนั้ จักผลักคันใต้มเกยรติ ใต้ใครับเกยรติจากผูอนไต้อย่างแน่นอน ชงเท่ากับทรง แสคงใต้เหี่นว่า รูทไมมคุณสมบัติเหล่านั้ใม่สามารถมเกยรติไต้และย่อมไม่อาจ ไครับเกยรติจากว้ใค www.kalyanamitra.org
i ฅ๙๔ sssuaisinfiin lau ๓ พระมMไโพริวงศาไไรย์(ทอง ดี น.ร.๙) กำ ว่า เกยรติ ในทนหมายถื้ง ซอเติยง หมายถื้ง ความยกย่องนบถือ หมายถึง ความมหน้ามตา ชงแสคงว่าเรนกนมติ'กคิfit มซอเถึยงเป็นทยอมรับ นับถึอ เพราะมกวามคงามเป็นประ;โยชนัชัคเ'จน เมอไปทใค ก็่มหน้ามฅา มกน เกรงขาม มยู้กนยอมร้บ อำ นวยกวามสะ:ควกให้ เป็นค้นในส์านวนไทยมการขยาย กำ ว่า เกยรติ ไว้หลายกำ เช่น เกยรติคุณ หมายถึง กวามคทกล่าวขานเลองถึอ ซอเถึยงเกยรติคุณ ค้านคุณงามกวามค เกยรติภูมิ หมายถึง เกยรติค้านกวามนิยมนับถึอ มยูซนชอบยินค เกยรติยศ หมายถึง มฐานะ:มตำแหน่งหน้าทการงาน ห?อมชาติ กำ เนิคสูง เกยรติติ'กดิ๋ หมายถึง ฐานะ:ทเป็นอยู่ของแค่ละ:บุกกลชงแฅกค่างกันไป คำ ว่า เกยพิศุณ เกยพิภูมิ เกยพิยf1 แล:!เกยพิคํ'กศิ เหล่านฅ่างก็่อยู่ ในความหมายเคยวกับคำว่า เกยรติ ซงหมายถื้ง ชึ๋อเล่ยง ความยกย่องนับถือ แลmามมหน้ามตา ด้วยกันทั้งล่น เหตุททำให้มเกยรติและ:ไครับเกยรติคามพระ:บาลข้างค้นประ:การแรกกือ เป็นพหูสูต นั้นคือ เป็นผู1ด้ศดบตรับฟ้งมาก ผู1ด้คืกษาเล่าเรยนมาก ผู้!ค้ เรยนเมามาก การไค้สคับฟ้งมากนั้เป็นคุณธรรมประ:การหนงเรยกว่า พาหุสิจจร; เป็น ปอเกิคแห่งกวามรู้และ:กวามฉลาค ช่วยให้มกวามรู้กว้างขวาง มกวามจลาค แหลมกม ผู้เป็นพหูสูตนั้ย่อมได้รับเกยรติทุกสถาน แม้จร;เป็นคนยากจน ไม่มั่งคั่งด้วยทรัพย่ศฤงคารปรร;การใด ก็่ยงได้รับคำนิยมยกย่องว่าเป็นผู้ ไม่ยากจนขดสน แม้จร;มชวิตอยู่ก!ม่เปล่าจากปรร;โยชน้ จร;ไปทใดจร;เข้า สมาคมใดก็่แกล้วกล้าอาจหาญ ไม่ครั่นคร้ามหวนกล้วอร;ไร แม้จร;เจรจา ก็่เจรจาฉาดฉานแน่วแนไม่ครั่นคร้าม ผ้คนกี่เกรงขามยอมรับในปรชารอบร้ www.kalyanamitra.org
๓๙๕ # ผิเฬิทท! 1รอง ผู้ ชใกีซรmoศงดงใน กวามเป็นพหูสูฅนสมเค็่จพร:;ผู้มพระภาฅเ'จ้าตรัสยกย่องว่าเป็นอริยทรพยบ้าง เป็นเวสารัชซกรณธรรม คือธรรมทเป็นเหตุให้เป็นผู้กล้าหาญบ้าง เป็นนาถ- กรณธรรม คือธรรมททำตนให้เป็นทพงแก่ตนและแก่กนอนบ้าง แบ้พระอานนทเถรเจ้า ผู้เป็นอุปิฏฐากคืากัญชองพระพุทธเจ้า ผู้[ครับ เอตทักกะคือไคืรับยกย่องว่าเป็นเลิศทางเป็นพหูสูตบุกกล กึ๋โค้อากัยกวามเป็น พหูสูตนั้นบำ เพ็่ญประโยชนยั๋งใหญ่ต่อพระพุทธศาสนา โคยไต้เป็นกำลังลิากัญ ในการทำลังกายนากรั้งแรก ไต้ประมวลกำสอนชองพระพุทธองกทิ่ตรัสในท ต่างๆ มารวมกันไว้เป็นหมวคหปู อันเริยกต่อมาว่าพระไตรปิฎก จ้คเป็นผลงาน ลํ้าก่า เป็นเกยรติประวัติของพระอานนทเถระ เกยรตินั้นมิไต้ละมิไต้ลบเลอนจาก พระเถระไปไหน ผู้ฉลาคทั้งหลาย เมอต้องการเป็นพหูสูต ต้องการเกยรติอันเกิคจากการ เป็นพหูสูต ก็่จำ ต้องสกับตรับทังให้มาก คืกษาเล่าเริยนให้มาก ให้เกิคปริชา ฉลาครู้รอบต้าน ทั้งในต้านทางโลกและต้านทางธรรมกวบกู่กันไป คืกษๆค้านทางโลก คือเริยนรู้เรั้องวิชาการหริอศาสตริต่างๆ เซ่น ลังกมศาสตริ ภาษาศาสตริ กณิตศาสตริ วิทยาศาสตริ เพํ่อนำไปเป็นเกรํ่องมือ ในการทำมาหากิน เพอให้เกิคทรัพย่เกิคปิจจัยอันจำเป็นต่อการคำรงตนและ กรอบกรัวให้อยู่เป็นสูฃ คืกษาค้านทางธรรม คือเริยนรู้เรั้องวิธการคำรงอยู่และการประกอบ อาชพอย่างถูกต้องเป็นธรรม เป็นการเริยนทู้พํ่อริเกฝนจิตให้อยู่ในกรอบแห่ง คุณธรรม เป็นการเริยนรู้ทกอยประกับประกองและอุปถัมภกวามรู้วิชาการ ทางโลกให้คำเนินไปอย่างมืคุณก่าและเป็นประโยชนํ มิให้ชาตกวามพลาคผิค พลั้งเผลอใช้กวามรู้!ปทำบาปอกุศลไม่เป็นประโยชนํ ไปก่อทุกฃก่อโทษให้แก่ ผู้อนและลังกม อันล่งผลให้ตนไดรับกวามเคือคร้อนในภายหลัง www.kalyanamitra.org
k ฅ๙๖ ๙: sssuaisinnm lau ๓ พระนพไโพริวงศใใไรย์(ทองดี น.ร.๙) การสืกษาในทางโลกแลร;ทางธรรมจำฟ้นต้องควบคู่กนไปเสมอ หากเรยนรู้แต่ทางโลก ไม่สนใจเรํ่องทางธรรม ก็่จร;ทำให้คนเราลืมตัวได้ง่าย เมึ๋อลืมตัวแล้วกโม่กลวบาปเกรงกรรมอร;ไร ไม่รู้เลืยด้วยซํ้าไปว่าบาปกรรม ลืออร;ไรมผลอย่างไร เมอเป็นตังนก็่จร;ใช้ความรูทมอยู่มากกว่าคนอนไป ปรร;กอบกรรมทำเฃื่ญแก่ผูอน เพึ๋อให้ตัวเองแลร;คนรอบช้างไคร้บปรร;โยซน ฟ้ายเคยว สร้างความเลือคร้อนความวุ่นวายให้แก่ตังคมไม่เ^นสุค เหตุททำใหัมเกยรฅิแลร;ไครบเกยรฅิปรร:การต่อมาลือ เป็นผูถงพร้อม ด้วยลืลแลร;วตร นั้นขยายกวามไค้ว่า ผูถงพร้อมด้วยลืล ก็่ลือ ยู^้ ารวม กายวาจาใmงาม ไม่ถ่วงถ:!เมิฅข้อห้ามทบัญญัติไว้ รักษากายวาจาให้เป็นไป ฅามปกติ เซ่น ลืล ๕ มข้อบัญญัติห้ามมิให้ปรร:พฤติล่วงลรแมิคไว้ ๕ ปรร:การ มการไม่ฆ่าตัฅว่ เบยคเบยนตัฅว่ เป็นค้น หรือลืล ๘ ลืล ๑0 ลืล ๒๒๗ ซงก็่เป็นข้อบัญญัติทกำหนคไว้เพอให้อยู่กันอย่างปกติสุข ไม่เบยคเบยนกัน ทำ ให้เกิคกวามสร:ควกศบายทั้งในยามหลับแลร:ยามคน ยู้ปฏิบัติรร:บัครร:วังอยู่ ในลืล ขอว่าผูถึงพร้อมค้วยลืล ลืลนั้เป็นเบ็้องด้นแห่งความปรร;พฤติปฏิบัติความดทุกปรร;การ เป็น บรรทคฐานให้บุคคลปรร;พฤติดปฏิบัติชอบมั่นคง ผู้ทั้จร;ปรร;พฤติดปฏิบัติชอบ ล้าไม่มอร;ไรเป็นหลกยค จิตก็่จฟ้.ม่มั่นคงนก มกจร;เอนเอยงเช้าหาทุจริต เพราร;ถูกกิเลสความหลงเช้ามาครอบงำนำให้คิคใหจตเตลิตไปตาม แต่เมึ๋อ มลืลเป็นบรรทตฐาน ปรร;พฤติกายวาจาเป็นปกติธรรมตาแล้ว จิตก็่จร;มั่นคง สามารถจร;ปรร;พฤติความตอนๆ ให้คงทั้อยูได้ ด้วยเหตุนั้ลืลจิงเป็นเบั้องด้น ในการปฏิบัติ ล่วน ผูถงพร้อมด้วยวัตร ลือ ผู้ทำ กิจทพงทำ ทำ หน้าทั้ทั้มอยู่ให้ตัาเร็่จ เรืยบร้อย ปฏิบัติตามธรรมเนํยมนิยมด้วยด รวมกงปฏิบัติคัววางคนไปคาม กฎรร:เบยบทมอยู่ ถ้าเป็นภิกษ เมอปฏิบัติคามหลักแห่งธุคงกวัคร ย่อมไคซอว่า www.kalyanamitra.org
ฅ๙๗ if\" ทิฅฅิทai 1รอง นู้ ซ!กียรติยศงดงไช เป็นยูถึงพร้อมค้วยวัฅร ผู้ถงพร้อมด้วยวัฅรไม่ว่าจ2เป็นคฤหัสถหรอบรรพซิฅ ย่อมเป็นผูมปฏิปทาข้อปฏิบัติทงคงาม น่าเลอมใส น่าปฏิบัติฅาม และย่อมรักษา ธรรมเนยมนิยมอันชอบธรรมและมประโยซน!ห้คำรงอยู่ เป็นสมบัติคู่หมู่กณะ คู่ชาติบ้านเมืองและพระศาสนาได้ เหตุททำไหมเกยรติและไครับเกยรติประการทสามคือ ฟ้นผูตงอยู่ในธรรม นั้นคือ เปีนผู้ปร:^พฤฅิทรม มใจยินhiflนรรรม มธรรมเปีนแนวนำในการ คำ เนินชวิฅ ปฏิบัติไม่นิดไปจากธรรม กำ ว่า ธรรม ทํ่กวรประพฤติอันเป็นเหตุ ให้มืเกยรตินั้นได้แก่ธรรม ๓ ประการ คือ วินิจฉยธรรม ปเวณิธรรม และ สุจริตธรรม วินิจฉยธรรม นั้นคือ ความถูกต้องเทยงตรงในการตดรนวินิจฉัยเรอง ต่างๆ เซ่นในการคัดสินใจทำเรํ่องใคเรองหนํ่ง ก็่สามารถวินิจฉัยหาแนวทาง ทเหมาะสมคัดสินใจทำเรองนั้น ทำ ให้เรองผ่านไปโดยเรยบร้อยและมืประโยชน่ หรืออย่างในเรองการคัดสินกคืกวาม ก็่ฅั้งอยู่ในกวามยุติธรรม เทยงฅรง ไม่เอนเอยง วินิจฉัยคัดสินไปคามข้อเท็่จจริง อย่างนั้เรืยกว่ามืวินิจฉัยธรรม ผูนั้งอยู่ในวินิจฉัยธรรมอย่างนั้ย่อมไครับเกยรติ ไครับกวามเชอถือ และไครับ กวามไว้วางใจ ปเวณิธรรม นั้นคือ ธรรมเนยมประเพณทถือปฏิบัติกนมาแต่เก่าก่อน เป็นธรรมเนยมทคืงาม เป็นประโยชน่ สามารถประกองกวามรักกวามสาบักคื ชองหมู่กณะไว้!ด้ สามารถเป็นทยอมรับกันได!นวงกว้าง การรักษา การประคับ ประกองให้ธรรมเนยมประเพณนั้นยังกงอยู่ต่อไป ยังปฏิบัติกันต่อไป ชอว่า ดั้งอยู่ในปเวณิธรรม สุจริตธรรม นั้นคือ ธรรมส์าหnjประพฤติปฏิบัติทดงาม เป็นหลักแห่ง การประพฤติปฏิบัติคัวทสมบูรณ เมอปฏิบัติคามแล้วย่อมเกิดกวามสมบูรณ ในซ่วิฅ ไครับเกยรติไค้รับการยกย่องฉับถือ อันสุจริตธรรมนั้นท่านแบ่งเป็น www.kalyanamitra.org
k ๓๙๘ sssuaisinHui lau ๓ พระมMาโพรัวงศไใไรช์(ทอง ดี ช.ร.๙) สุจริตธรรมทางกาย ถก ปรร:การ กือ ไม่ฆ่าร'ฅว ไม่ลักทรพย ไม่ประ:พฤติผิด ในกาม สุจริตธรรมทางวาจา <1 ประ:การ กือ ไม่พูดโกหก ไม่พูดกำหยาบ ไม่พูด กำ รอเรยด ไม่พูดกำเพ้อเจ้อ และ: สุจริตธรรมทางใจ ๓ ประ:การ คือไมโลภ อยากได้ของเขา ไม่โกรธประ:ทุษร้ายเขา ไม่หลงผิด สุจริฅธรรมทั้งหมดนิ้เรยก อกอย่างหนง กุศลกรรมบถ เมอปฏิบัติตามได้แล้วย่อมเป็นผลคื ไม่มผลเคืย ย่อมไคืรับเกยรติเป็นด้น ในเรองน็้ แม้พระ:ยโสธราเถรกื่ใด้กราบทูลต่อพระ:พักดรพระ:บรมศาศดาว่า กนเรากวรประ:พฤติธรรมเหล่านใหด ให้เป็นสุจริตธรรมมั่นกง มิให้กลายเป็น ทุจริตไปได้ เพราะ:เมอประ:พฤติได้แล้วย่อมไคืริบผลคืออยู่เป็นสุขทั้งในโลกนและ โลกหน้า คังวจนกาถา ในเถริอปทาน ชุททกนิกาย ว่า ธมมฌจเร สุจริตํ น ตํ ทุจจริตํ จเร ธมฺมจาริ สุขํ เศติ อสุม โลเก ปรมฺหิ จ ฯ (ชุ.สุ.อปทาน รทฅ/๑๖๘) \"บุคคลพ้งปรร;พฤติธรรมให้สุจริต ไม่พ้งปรร;พฤติธรรม นั้นให้ทุจริต เพราร;ผู้มปกติปรร;พฤติธรรมย่อมอยู่ เป็นสุขทั้งในโลกนั้แลร;โลกหน้า\" อันบุกกลผูฅงอยูในวินิจฉัยธรรม ในปเวณิธรรม และในสุจริตธรรม ๓ ประการนั้ ซอว่าเป็นผูฅงอยูในธรรม เกยรติย่อมไม่ละจากผูฅงอยูในธรรมเช่นนั้ อันทจริงคนเราย่อมมเกยพิม^กศิ้nfทัฅเทยมกันมาแฅกาเนิศแล้ว เพราะฅ่างมเกยรฅิมกักศิfirในความเป็นมนุษย่ด้วยกัน แค่เกยรฅิแถะกักศิrfร ชองแค่ถะบุคคถมขนมลงค่างกัน บางคนถศถงเรอยๆ จนกระทั่งไมมเกยรติ ไมไครับเกยรติจากผูใค ไมมคนนับหน้าถึอตา ถึงบางครั้งถูกประณามหยาม เหยยศว่าตาด้อยด้อยคฌค่า ไมน้าคบหา ไมน้านับถึอเป็นด้น ทัง่นก็่เพราะผูนน www.kalyanamitra.org
๓๙๙ $ ทิฅฅิทm เรื่อง นู้ นเฉยรติยศงดงาน ขาศกณสมบัฅิคือ ไม่เป็นพหูปีศ เล่าเพนน้อย มกวามรู้น้อย ขาศกวามฉลาศ แหลมกมบ้าง เป็นน้ขาศคืลและวัตร คือประพฤติปฏิบัติเปียศเปียนผูอน ไม่อยู่ ในกรรลองกลองธรรม ไม่สนไกธรรมเนยมประเพฌอันศงามทเป็นหลักปฏิบัติ ละเมิศคืลธรรมเป็นประจำบ้าง เป็นผูไม่ฅั้งอยูในธรรม ฅัฅตินใจผิศพลาศขาศ ศณธรรม ประพฤติแศ่ทุจริฅ สร้างเวรสร้างกรรมอยู่ศลอศเวลาบ้าง เมอเป็น เช่นน็้เกยรติและลักศิ้สรในกวามเป็นมนุษยก็่ก่อยๆ หมศไป \" แต่บางคนได้รับเกยรติไค้njยกย่องมากซ็้นเรอยๆ จากคนปกติธรรมคา ฟ้นคนมเกยรติมยศได้njการเคารพนบถือ ได้รับการยกย่องเชิดชูให้เป็นใหญ่ เป็นผู้นำ ทั้งนั้ก็่เพรารแป็นพหูสูตบ้าง เป็นผู้ถืงพร้อมเด้วยถืลแลร!วตรบ้าง เป็นผู้ทั้งอยูในธรรมบ้าง จึงส่งผลให้มเกยรติได้รับการยกย่องนบถือ แม้จร! จากโลกนไปแล้วผู้คนก็่ยงรร!ลกถืงแลร!ทำบุญส่งผลไปให้!ม่ฃาดตอน เจ้าประ:คุณสมเค็่จพระล้งฆราช กิฅฅิโสภณมหาเถร ทรงเป็นบุรุษรัฅนํท งคงาม ทรงปฏิบัติพระองก!ปฅามหลักคังแสคงมาช้างต้นสมบูรณ เกยรติยศ อันงคงามจึงเกิคขนแก'พระองค สมพระนามฉายาว่า กิตติใสภโณ ชงมกวาม หมายว่า ผู้งตงามด้วยเกยรติ หรือ ผู้มเกยรติอนงตงาม และเกยรตินั้นก็่มิไต้ ละจากพระองกใป แม้เวลาจะผ่านไปเนั้นนานแล้วก็่ฅาม ยู้ฉลาคในธรรมทั้งหลายทราบขัคอังนั้แล้ว เมอต้องการเพํ่มพูนเกยรติให้ แก'คน ต้องการให้ผู้กนเการพนับถือยกย่อง หรือต้องการให้เกยรติไม่ละจากคนไป ถืจำ ต้องสร้างเหตุ ๓ ประการนให้สมบูรณ ถือเป็นพหูสูคบุกกล เป็นยูถืงพร้อม ต้วยถืลและวัคร และเป็นยูฅงอยูในธรรม ประพฤติคัวทำคนไปคามแบบอย่างเจ้า ประคุณสมเค็่จพระลังฆราช กิคติโสกณมหาเถร คังทไต้ชยายกวามมาช้างต้น ก็่จักส่งผลให้เป็นฒูเกิยรติไครับเกยรติ ไครับการยกย่องนับถือไปคลอคกาลนาน คังรับประทานแสคงมา ต้วยประการฉะนั้ www.kalyanamitra.org
i ๔00 -l: sssuaisinflin lau ๓ พระนHใโพรวงศใใารย์(ทอง ดี ช.ร.๙) อิมินา กตปุฌฺเฌน ด้วยอำนาจบุญกุศลทักขิณานุปทานกิจ ทกณiศงฆ กณะกิษยซาววัคเบญจมบพิตร ซงมท่านเจ้ากุณพระเทพกิตติเวท เจ้าอาวาล เป็นด้นเป็นประธาน มลมานฉันท่ร่วมใจกันจัคฃน เพออุทิศถวายพระกุศลและ กุศลแค่เจ้าพระกุณลมเค็่จพระกังฆราช กิตติโลภณมหาเถร และอคตเจ้าอาวาล ตลอคถึงบูรพาจารยทั้งปวงในโอกาลน ขอจงเป็นบุญนิธมผลกัมฤทธิ เป็นไป เพออิฏฐมบุญผลทน่าปรารถนาพอใจแค่เจ้าพระกุณลมเค็่จฯ อคตเจ้าอาวาล และ บูรพาจารยวัคเบญจมบพิตรทุกรูปโคยฐานะนิยมทุกประการ รับประทานแลคง พระธรรมเทศนาในกิตติกถา ยุติลงด้วยเวลา ด้วยประการฉะน ฯ เอวํ ก็่มด้วยประการฉะน www.kalyanamitra.org
สัปปุริสคันธกถา เรื่อง กลิ่นฃองสัตบุรุษ น ปุปฺผคนฺโร ปฏิวาตเมติ น จนฺทนํ ตครมลลิกา วา ฟ้ฅฌจ คนุโธ ปฎิวาฅเมติ สพฺพๆ ทิฟ้า สป.ปริโส ปวายติติ ฯ ฃุ.ธ. ๒๕/©๔ จักไค้แฟ้คงพระธรรมเทศนาใน สิ'ปปุริลคันธกถา เพอเฉลิมพระเกยรติ U เจัาพระกุณสมเฅ็่จพระอริยวงศากฅญาณ สมเค็่จพระลิ'งฆราช องกท ๑๗ แห่งกรุงรัตนโกลินทร และฉลองศรัทธาเพมพูนปิญญาบารม แก'กณะฟ้งฆ กณะติษยและอารามิกชนซาววัคพระเชคุพน ชงมท่านเจัาคุณพระเทพวราภรณ เจ้าอาวาสวัคพระเชคุพนเป็นประธาน งานบำเพ็่ญกุศลนจัคซ็้น ปฑรภวันมูลนิธิสมเค็่าเพระลิงฆราช(ป่น ปุณุณลิริ) เพํ่อน้อมรำลึกลงวันทไคท]โปรคเกล้าสถาปนาเป็นสมเค็่จพระลิงฆฑช องกท ๑๗ พ7รมหาโพธิวง!*!าๆารย (ทองค) วัคฑขโอรสาราม กรุงเทพมหานคร แสคง ในการบำเพี่ญกุ!*!ลวันมูลนิธิฟ้มเคี่จพระ^งฆราซ (ป่น ปุณฺณิสิริ) ณ วัคพระเขคุพนวิมลมงกลาราม กรุงเทพมหานคร วันพฤหัสบค ท ๒๑ กรกฎาคม พ.ค. ๒๕๕๙ เวลา 0๙.๓0 น. www.kalyanamitra.org
i ๔๐๒ : ธรรบส!ร!ทศน!ฟบ ๓ พระบHTโพริวงศาใารบ(ทอง ดี น.ร.๙) แห่งกรุงรัฅนโกรนทร ฌอวันทํ่ ๒(ร) กรกฎากม พ.ศ. ]รท๕(ร)๕ นับว่าเป็น อุบายวิธทฉลาค โคยปรารภเหตุอย่างใคอย่างหนงฃนแล้วบำเพ็่ญบุญกศล ทำ ให้ มโอกาศทำบุญเพํ่มพูนวาลนาบารมแก่ตนแลพวกพ้อง เป็นการลรางเสริม กวามสามัคกพร้อมเพริยงของหมู่กณ5 และริเกฝนให้มกวามกล่องแกล่วว่องไว ในการจัคการทำงานบุญทถูกต้องงคงาม เป็นแบบอย่างแก'อนุซน คำ เนิน คามหลักแห่งกนฉลาก ชงหาเหตุให้มโอกาสไต้ทำบุญให้ทาน แสคงลงจิตใจท ไม่ตระหน มกวามเรยสละ ปฏิบัติตามพระคำรัสทพระยู้มพระกากเจ้าตรัส แนะนำไวิใน ปิฏฐธตริกเปตวัตถุ ฃททกนิกาย ใจกวามว่า ยง.กิฌจารมมณํ กต.วา ทซฺชา ทานมมจฺฉริ ปุพฺเพ เปเฅว อารพ.ภ อถ วา วตฺถุเทวตา เป็นอาทิ (ชุ.วิ. ๒๖/๔๙) ใจกวามว่า บุคคล^'ตระหนควรทำเหตุอย่างใดอย่างหนง ให้เป็นอารมณ คือปรารภถึงบุพเปตซน หริอเทวดาผู้ รงสถิตอยู่ในเรือน หริอห้าวมหาราชทั้งร่ ผูพุมครองโลก ผู้มยศ คือห้าวธตรฐ ๑ ห้าววิรุฬหก ๑ ท้าววิรูซกษ (ร) ห้าวกุเวร ๑ให้เป็นอารมณ และพ้งให้ทาน ท่านย่อมเป็น ผู้โท้รบบูชาแล้ว และทายกกึ๋ใมไร้ผล. ในการน กณะสงฆวัคพระเซตุพน ไต้ปรารภถึงสมเคื่จพระลังฆราช แห่งวัคพระเซตุพน วันไครับโปรคเกล้าสถาปนาเป็นสมเค็่จพระลังฆราชเป็น อารมณ คือเป็นหลักเรั๋มต้น เพอน้อมรำถึกถึงและตอบแทนพระตุณซอง เจ้าพระคุณสมเค็่จพระลังฆราชพระองคืนั้น ชงเป็นเรองน่ายินคืและน่าอนุโมทนา เป็นอย่างยํ่ง แห้จริง เจ้าพระคุณศมเด็่จพระล้งฆราช ปุณณสิริมหาเถระนั้น ทรงเป็น สมเคื่จพระลังฆราชทถึากัญยํ่งพระองก่หนง แม้จะทรงคำรงอยู่ในฐานะเอกอุคม www.kalyanamitra.org
๔อฅ ฿ aiJiJsanusnm 1รอง กส์นฃองสัตบุรุษ ระคับนใม่นาน แต่พระกุณความคททรงปฏิบัติมาก่อนหน้านันก็่ยิงใหญ่ และมากพอ เป็นทประทับใจและสถิฅอยูในกวามทรงจำของยู้ทไค^มผัฟ้ จื้งไค้ พร้อมใจกันขานเรยกพระองคท่านว่า \"สมเด็่จป้า\" เป็นการยกย่องให้เกยรติ อย่างสูงยั๋ง ค้วยจิฅใจทยอมรับและเคารพบูชา อันคำว่า \"ป้า\" น แสคงถึงกวาม ค้นเกยสนินสนม และแสคงถึงคุณสมบัติของผู้ถูกเร้ยกว่าเป็นผู้ปรร:กอบค้วย เมฅฅาคุณประคุจเป็นบิคา เชอใจไค้ไว่ใจไค้ พึงพาอาคัยไค้ เข้าไกลซคไค้[คย ไม่ยาก เป็นกันเอง เสมอค้นเสมอปลาย บิคาประพฤติกิริยาอย่างไรกะบุฅรธิคา เจ้าพระคุณสมเค็่จพระอังฆราช บุณณสิริมหาเถระก็่ทรงประพฤติองกอย่างบัน สมาเสมอแก่บุกกลทั่วไป ทั้งแก่ภิกบุสามเณรและแก่กฤทัสถชนทุกหมู่เหล่า จงทรงไค้รับยกย่องชานเริยกกันคลอคมาว่า \"สมเด็่จป้า\" ฉะน็้ เป็นทรู้และยอมรับกันมาโคยคลอคว่า สมเค็่จป้านั้นทรงเป็นสมเค็่จ พระอังฆราชทใกลซคประซาซนและพระภิกษุสามเณร ทรงมพระวิอัยทัศนเรํ่อง การพระศาสนาในโลกปิจจุบัน ทรงผูกอัมพันธกับพระประบุชชองศาสนาอํ่น เซ่น เสค็่จเยือนสิาบักวาติกัน ทรงมปฏิอัมพันธกับสมเค็่จพระอันคปาปาสบัยนั้น อย่างค้เยํ่ยม นำ กวามน่าเลอมใสมาล่วงการกณะสงฆ[ทยอย่างสูงสุค นอกจากนั้น ภิจการพระพุทธศาสนาในประเทศก็่บริหารอย่างเป็นรูปธรรมและเข้มแฃ็่ง นำ กวาม จริญสถาพรและกวามสุชสงบมาล่การกณะสงฆอย่างยั่งยืนคลอคยุกสมัย ทรงเป็นปราซญ่ทางกวนิพนธคามแบบอย่างโบราณบัณฑิคแห่งวัคพระเซตุพน ทรงนิพนธเรองราวต่างๆทอ่านง่าย เข้าใจง่ายไว้หลายเรํ่อง ทไค้รบการพิมพึ ต่อเนั้องมาถึงปิจจุบัน ซอเถึยงเกยรติคุณเหล่านั้ชจรขจายไปทั่วทุกทิศ แม้จะ สินพระซนมัใปนานแล้ว แม้กาลเวลาจะผ่านไปนานแล้ว แต่พระเกยรติคุณก็่ยัง หอมหวนทวนลมอยู่ มิไค้สูญหายหรือสินไปไหน ยังเป็นไปทั้งคามลมและทวนลม อยู่อย่างต่อเนั้อง เพราะพระองกทรงเป็นอัคบุรุษ ทรงเป็นปราซญ่ ทรงเป็นผู้อยู่ ในควงใจซองผู้กนทุกบุกทุกสมัย กลํ่นกวามค้งามชองพระองกจึงยังฟ้งซจรซจาย ไปอยู่ทุกเมอในททุกหนแห่ง ข้อนั้ก็่เป็นไปคามทสมเค็่จพระอัมมาอัมพุทธเจ้า www.kalyanamitra.org
k ๔๐๔ sssuaisinHui lau ๓ พระมพาโพรวงศใใไรฃ์(ทองดี ช.ร.๙) ตรัสไว!น สุฅฅนิบาต ฃุททกนิกาย ธรรมบท ทยกขนมาเป็นนิกเฃปบทเทศนา เบืองฅ้นว่า น ปุปฺผคนฺโธ ปฏิวาตเมติ เป็นอาทิ ชงถอดเป็นกวามไทยไค้ว่า \"กลนดอกไร็โหอมแงทวนลมไปไม่ได้ ถลนแก่นจันทน หรือกฤษณา แลดอกมร;ลิก็่หอม!}งทวนลมไปไมได้ ส่วนกลินของจัดบุรุษย่อมหอม!}งทวนลมไปได้ เพราร; จัดบุรุษย่อมหอม!}งขจรไป่ได้ทั่วทุกทิศ\" พระบาลซ้อน สมเศ็่จพT:^S'มมาS'มmธnาทTงแสฅงเปfยบเทยบ กถินของบุปผชาศิแต::พขชาศิทมกถั๋นหอมทุกชนิฅ ไม่ว่าจ::เปีนแก่นจันทน กฤษณา หรือศอกมะลิ ก็่หอมทวนตมไปไมไค้ โศยทํ่ตศแม้คอกไม้สวททศือ คอกปาริฉัฅร ซงม่กตํ่นหอมไปไคไกตถึงรือยโยชน ก็่หอมไปคามตมไค้อย่างเคยว ไม่อาจหอมทวนตมไปไค้เตยแม้เพยงคTงองคต อานภาพกตนหอมของลิงเหต่าน ไม่อาจpiตํ่นหอมของลิ'คบุรุษทั้งหตายไค้ เพ?าะกตํ่นหอมของลิ'ศบุรุษสามารถ หอมค้งขจรไปไศ้ทั้วทุกทีส ทัง้ คามตมแตะทวนตม ททรงแสคงจังนก็่เพอให้เห็่น จัจจะสภาพmปีนจริงของบุปผชาศิแตะรุกขชาติทม่กตั๋นหอมทุกอย่าง แตะเพอ เคือนสติเติอนใจชาวโตกให้ปฏิบัติคนเปีนจัคบุรุษ เปีนคนมกตนแห่งทวามศงาม อยูในจัว เปีนทเคารพบับถอ เปีนทยกย่องเชิคชู แตะเปีนแบบอย่างแก'ผูอน กำ ว่า จัดบุรุษ นั้นแปลว่า ผู้ศงบ แปลว่า คนด หมายถง คนทชอบจันติ รักสงบ ไม่ก่อความเดือดร้อนให้ใคร ฟ้นคนดืทน่านบถือ มคุณธรรม ปรร;พฤติ อย่ในดืลในธรรม เป็นจัมมาทิฐบุคคล ตามประเค็่นนั้ย่อมเซ้าใจไค้ว่า กนเราแม้จะต่างกันมาแต่เกิด ทั้งทรวดทรง รูปร่างหน้าดาอย่างไรก็่ตาม แตกอากัยอาภรณตกแต่งเป็นเกรองประคับ และ อากรณนั้นก็่เหมาะสมกับหน้าตาและทรวดทรงของตนค้วยจึงจะทำให้คูดื คูงดงาม เพราะอาคัยอาภรณตกแต่งเหมาะสมอย่างนั้ แม้จะมรูปร่างหน้าตา www.kalyanamitra.org
๔อ๕ 0 aiJiJsanusnm โรอง nauของสัตบุรุษ ไม่รูจร;งคงามมาแต่เดิม ก็่พาให้คูงามน่าซืนชมไค้ คังทโบราณว่า ไก่งาม เพราร;ขน คนงามเพราร;แต่ง ช้อนฉันโค แมฉัคบุรุษณี่ป็นฉันนันเหมือนกัน การทคนเราจร;เป็นกัฅบุรุษ เป็นกนสงบเป็นคนคขึนมาไค้ ก็่จำ ค้องอากัยอาภรณ เป็นเครํ่องปรร;คับคัว อาภรณปรร;เภทนั้นคือธรรม ชงเรยกว่า ธรรมาภรณ อาภรณคือธรรม ถ้าคนเรามืธรรมเป็นอาภรณเครองประ;คับแล้วย่อมเปน อันธรรมทเป็นอาภรณเครองประ:คับเพอเป็นกัฅบุรุษฉันมืหลาบอย่าง ของคไว่ใม่แสคงทั้งหมค แต่จักยกชนแสคงเพยงบางประ:การ เช่น สุจริตธรรม แลร;คืลธรรม สุจริตธรรม นั้นคือ ความปรร;พฤติทดิงามทางกาย ทางวาจา และ;ทางใจ หมายกง การทำดิ การพูตดิ การคิตดิ การทำดิ ก็่คือการไม่ฆ่าไม่เบยคเบยนคนอํ่นอัฅว่อน การไม่อักขโมย ฉ้อโกงทรัพย่รนชองผูอน แลร:การไม่ล่วงกะ;เมิคคู่ครองชองคนอน การพูดดิ ก็่คือการไม่พูคโกหกมคเท็่จ ไม่พูคคำหยาบคาย ไม่พูคเคืยคคืยูอึน และ;ไม่พูค เพ้อเจ้อไร้สาระ; การคิตดิ ก็่คือการไมโลภอยากไค้สมบัดิชอง&อืนมาเป็นของ คนโคยไม่ชอบธรรม ไมโกรธไม่อาฆาฅปองร้ายผูอืน แลร;มืความกิคเห็่นทฅรง ถูกค้องเป็นธรรม ขู้ปฏิกัดิไคคงนั้จัคว่าเป็นคนทำค พูคคื กิคคื เมือทำคื พูคคื กิคคื ซือว่า ปรร;พฤติสุจริตธรรม คนปรร;พฤติสุจริตธรรมนั้แหลร:ทจัคว่าเป็นอัฅบุรุษ เป็นคนค ทน่านับถือ มืคืลธรรม ปรร;พฤติอยูในคืลในธรรม ค้วยความหมายเป็นคังนั้ คำ ว่า อัปปุริสคันธร; ตามพระ;บาลช้างค้น ชงแปลว่า กลนของคัตบุรุษ จังหมายถืงสุจริตธรรม ชงนำให้อัตบุรุษมืความ หอมพ้งฃจรขจายไปไค้[กลในทุกทิส ทั้งตามลมแลร:ทวนลม คือเป็นยูใค้ริบการ ยกย่องนับถือ ไคริบความไว้วางใจ มืเสน่ห น่าคบหาสมาคม เมอบุคคลเช้าคบหา www.kalyanamitra.org
i ๔๐๖ 0 sssuaisinnui lau ๓ พระฆHใโพรวง ศใใไรบ(ทอง ดี น.ร.๙) ก็่ทำ ให้เจริญก้าวหน้า ไค้แบบอย่างเป็นทางปฏิบัติ เมอไค้กราบไหว้บูชาก็่ทำให้ เกิคสิรินงกลแก่ตัว อกกวามหมายหนึง กำ ว่า สิ'ปปุริสคนรร; กสินของสิ'ฅบุรบนั้น หมายถื้ง สิลคนธร; คือ กลนคืล อันคืลนั้นมกลํ่นหอมหวน ชวนใหใฝ่หา ทำ ให้งกงาม ทำ ให้มเสิน่ห กนผู้มคืล ปรร;พฤติอยูในคืล จักไค้ว่าเป็นสิ'ฅบุรุบ เป็นกนศงบ เป็นกนคื เมอเป็นสิฅบุรุษจงนำให้เป็นกนมกลํ่นหอมหวน เพราร;กลํ่นคืลทมอยู่ ในตนสิงผลให้อบอวนหอมกรร;จายไปทุกทิก อันกำว่า คืล บัน หมายถึง ภาวร;ทควรปรร;พฤติเป็นปกติธรรมคา เป็น มนุษยธรรม เป็นธรรมสิวหรับซาวโลกจร;ได้ปฏิบัติต่อกน เมอปฏิบัติกามไค้ กจร;ทำให้เกิกสินติ อยู่กันอย่างสุขสงบ ไม่เบยกเบยนกัน ไม่เอารักเอาเปรยบกัน เซ่นไม่ฆ่าไม่เบยกเบยนกัน ไม่สิกชโมยฉ้อโกงทรัพย่สินชองกันแลร;กัน แลร; ไม่สิวงลร;เมิกคู่กรองของกนอึ๋น ไม่พูกโกหกมกเท็่จหลอกลวงกัน ไม่คมสุรา เสพยาเสพติคใหโทษ ข้อปฏิบัติเซ่นนั้เริยกว่า คืลห้า ชงเป็นหลกมนุษยธรรม เป็นหลกปรร;กันสินติสุฃในโลกมาแต่โบราณ ผู้ปฏิบัติตามหสิกนั้!ด้เป็นปกติ ธรรมดาปรร;จำวน ซือว่าเป็นผู้มคืลเป็นรูรักษาคืล คืลเซ่นนั้เป็นหลักโบราณ พรร;โพธิสิฅว่เจ้าทังหลายไค้ปรร;พฤติกันมาแล้วจวบจนไค้บรรลุธรรมเป็น พรร;สิมมาสิมพุทธเจ้า คืลจึงเป็นบารมธรรมอย่างหนงในบารมธรรมทั้งหลาย ทํ่นำ ให้เกิคพุทธกาวร;ขน การจร;ปรร;พฤติอยูในคืลไค้นั้น จำ ค้องมจิกใจมั่นกงอยู่ในธรรม ไม่สิวง อร;เมิกธรรม เซ่น จำ ต้องมฒตตากรุณา จึงจร;ไม่ฆ่าไม่เบยกเบยนกันไค้ ทฆ่าไค้ เบยกเบยนไคก็่เพราร;ขากเมฅฅากรุณาอยูในใจ จำ ต้องมสิมมาอาชวร; ปรร;กอบ อาซ่พเป็นสุจริต ถูกค้อง กรงกามหลักของสิงกม จึงจร;ไม่ลักไม่ขโมยไม่ฉ้อโกง เอาเปรยบกัน ไม่เซ่นนั้นก็่จร;ลร;เมิก ไปลักไปขโมยชองของกนอํ่น จำ ต้อง มกามสิงวร รักเคืยวใจเคืยว สิารวมรร;วังในเมํ่อมคู่กรองถูกค้องเป็นธรรม จึง www.kalyanamitra.org
๔๐๗ # ส์ชUsamisnai 1รอง กลี่นฃองสัตบุรุษ 'จะไม่ปTiพฤติล::เมิคคู่กรองของผูอน จำ ต้องมสิจจะ มกวาม'จริงใจ มกวาม ซอสิฅย ตรงไปฅรงมา จึง'จะไม่พูคโกหกมคเท็่'จ หาไม่แล้วก็่'จะพูค'จาไม่อยู่กับ ร่องรอย โกหกพกลมเพอประโยชนส่วนตัวราไป และ จำ ต้องมสติ ไม่ประมาท มัวเมาพลั้งเผลอ ประกองใ'จให้ระวังตัวระลื้กรู้อยู่ฅลอคเวลา จึง'จะไมคมสุรา เสพร่งเสพติคไค้ หาไม่แล้วก็่'จะลืมตัวพลังเผลอไปสืมไปเสพอันเป็นเหตุให้ ผิคลืลไค้ ธรรมแค่ละอย่างเหส่านล้วนเป็นเหตุให้กนเราไมลวงละเมิคลืล ประพฤติ ผิคแปลกไป'จากปกติธรรมคาทั่วไป ผู้ประพฤติอยู่ในลืลในธรรมไค้เซ่นน็้จัคว่าเป็นลัฅบุรุษ ชงเป็นผู้สงบ เป็น กนค เป็นผู้กวรแก่การนับลือยกย่อง กลั๋นแห่งลืลฃองลัตบุรุษนั้นย่อมหอมหวน ทวนลมและตามลมไปในทุกทิศ และลัตบุรุษเซ่นนั้แหละ ทั่พระพทธเจ้าทรง ยกย่องให้เกยรติไว้ว่า เมอเกิคอยู่ในตระกูลไค ในหปูกณะใค ย่อมเป็นไปเพอ ประโยชนัเกอกูล เพอกวามสุขแก่ตระกูลนั้นหมู่กณะนั้น ตังทํ่ตรัสไว้!นลัปปุริสสูตร ปิญ'จกนิบาต อังคุตตรนิกาย ว่า สปฺปุริโส ภิฦฃเว กุเล ชายมาโน พหุโน ซนสฺส อตฺถาย หิตาย สุขาย โทติ เป็นอาทิ (อง..ปฌฺจก. ๒๒/๔๒) ใจกวามว่า ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย สิตบรุษเมอเกิดมา ในตระกูล ปอมเกิดมาเพอประโยชน เพอเก็้อกูล เพึ๋อ ความสุข แก่ชนเบ็่เนอนมาก คือ แก่มารดาบิดา แก่ บุตรภรรยา แก่ทาส แก่คนงานและฅนรัมใซ้ แก่มิดร- สหาย และแก่สมณพราหมณ. แสคงว่า ร'ฅบรษนั้นนอกจากมเกยพิๆณหอมหวนทวนถมด้วยกถํ่น สุจพธTTมแถะกถํ่นรถรทมซงคนประพฤติปฏิบัฅิแด้ว ยังว่งผถให้ผู้เกยวข้อง นัง้ ปวงพถอยหอมหวน ไดรบชอเรยงเกยรติคุณไปด้วย เปีนฟอเปีนแม่ของผู้ไค www.kalyanamitra.org
k ๔๐๘ 0 sssuaisinfiin lau ผ พระบผใโพธิวงศใใไรย์(ทองดี น.ร.๙) กื่ทำ ให้ถูกๆ มหน้ามฅา ไ^บเกยพิไmบยกย่องตามไปห้วย เปีนถูกของผูใศ ก็่ทำ ให้ฟอแม'หน้าชนเบิกบาน สบายใจหายห่วง เปีนสามหรือภทยาชอง0ศ ก็่ทำ ให้สามหรือภทยาน้เปีนคู่ทTองของตัวเองสบายใจไม่หวาฅทแวง เปีนพ เปีนน้องชอง^ค ก็่ทำ ให้พน้องห้วยตันสบายใจไม่ห่วงกังวล เป็นเจ้านายชอง ก็่ทำ ให้ถูกน้องมกวามหวังไmพึงพาอาตัย เป็นมิตรสหายชองผูไฅ ก็่ทำ ให้ เพึอนมิตทพึ๋อนสหายสบายใจ ไว้เนอเชอใจไห้เป็นสมฌซพราหมณ ก็่ทำ ให้ผูม สรัทธาเชอมั่น กลายวิตกกังวลไม่แนใจ ผู้เป็นกัตบุรุษ อุบัติมาเพอปรdยซน้ เพอเก็้อกูล แล^เพอกวามสุขแก'กนรอบข้างในทุกห้านตังน เพราะฉ:;นัน ผู้มปรชาทังหลายพงประพฤติตนให้ฟ้นสัตบุรุษ เป็นคน สงบ เป็นคนด โดยตงอยูในสุจริตธรรมและในติลธรรมมั่นคง ไม่หวั่นไหว ห้อแท้ในการปฏิบติ ก็่จะทำให้เป็นสัตบุรุษ ฟ้นผู้น่านบถือน่ายกย่อง สูงขนไป ก็่เป็นผู้ควรแก่การเคารพบูชาและกราบไหว้ ย่อมเป็นทพงอาสัยของเหล่าชน รอบข้างไค้อย่างมประสิทธิภาพ ไม่ว่าจะยังมซวิตอยู่หรือจากโลกนั้!ปแล้ว กสินแห่งความดก็่จะยังจะหอมหวนทังขจรอยู่ไนโลกตลอดกาลนาน ดัง บรรยายมาฉะน เจ้าพระกุณสมเคื่จพระอริยวงศากฅญาณ สมเค็่จพระสังฆราช ปุณณ- สิริมหาเถระ แห่งวัคพระเซฅุพน ทรงเป็นสัตบุรุษบุกกลคามพระบาลนโคยแท้ ทรงประพฤติและทรงคำรงอยู่ในหลักแห่งสุจริฅธรรมและหสักแห่งติลธรรม กรบถ้วนสมบูรณ เป็นแบบอย่างทํ่สามารกปฏิบัติคามไค้ จึงทรงไคํริบยกย่อง สรรเสริญมิเถือมกลาย ทรงไคํริบกวามนับถือและเชํ่อถือมั่นกง เมอมการตั้ง มูลนิธิขนในพระนาม จึงไคํรับกวามไว้วางใจบริจากและดูแลรักษาสมบัติมูลนิธิ และไค้นำมาสร้างสรรกก่อเกิคประโยซนแก่พระอารามและสังกมทั่วไปอย่าง กว้างซวาง กลั๋นแห่งกวามเป็นสัคบุรุษของพระองก่จะยังกงอยู่และหอมหวน เซ่นน!ปฅลอคกาลนาน ดังรับประทานแสคงมาน www.kalyanamitra.org
๔0๙ $ aUiJsamisnai \\^0 โร อง ก อั๋ นฃ องสั ต บุ รุ ษ อิมินา กตปุญเฌน ค้วยอำนา'จบุญกุศลทักขิณานุปทานกิจ ทกณะ:ศงฆ กณะ:กิษยซาววัคพระ:เซคุพน ซงมท่านเ'จ้าคุณพระ:เทพวัราภรณ เจ้าอาวาศ เ?!นฅ้นเป็นประ:ธาน มลมาน'ฉันท่ร่วมใ'จกันจัคฃื้น เพืออุทิศถวายพระ:กุศลแค่ เจ้าพระ:คุณศมเค็่'จพระ:กังฆราซ ปุณณสิริมหาเถระ: ในโอกาลน ขอ'จงเป็น บุญนิธมผลกัมฤทธิ เป็นไปเพออิฏฐมนญผลทน่าปรารถนาพอใ'จแค่เจ้าพระ:คุณ ลมเค็่'จพระ:กังฆราซ ปุณณสิริมหาเถระ:โคยฐานะ:นิยมทุกประ:การ รับประ:ทาน แลคงพระ:ธรรมเทศนาใน กัปปุริลคันธกถา บุฅิลงด้วยเวลา ด้วยประ:การฉะ:นิ ฯ เอวํ ก็่มด้วยประ:การฉะ:น www.kalyanamitra.org
อาจาโร กุลมกฃาติ เทสมกฃาติ ภาสิตํ สมฺภโว เปมมกฃาติ เทหมกขาติ โภชนิ ฯ ธรรมนฅิ. กิริยามารยาทส่อสกุล ส่าเนิยงพูคส่อลนฐาน การก่อกำเนิคส่อกวามรักใคร่ ร่างกายส่ออาหารการกิน. www.kalyanamitra.org
๙ กตปุญญกทา เรื่อง ผู้ที่ทำ บุญไว้แล้ว อิธ นนฺทติ เปจจ นนทติ กตปุฌฺโฌ อุภยตฺถ นนฺทติ ปุฌฌ เม กตนฺติ นนุทติ ภยฺโย นนฺทติ สุคต คโตติ ฯ ขุ.ธ. ๒๕/©© เนยมฃำ นายกสมากมเป็นค้นเป็นประธาน พร้อมค้วยกณะกรรมการสมาคม คณะติษยานุติษย!นพระเคซพระคุณหลวงพ่อพระมงกลเทพมุน หลวงพ่อ วัคปากนํ้า ภาษเจริญ และท่านสริทธาสาธุซนทั้งหลายไค้มาร่วมกันทำกิจกรรม พิเศษ โคยการไถ่ชวิฅโกกระบือเพอนำเข้าธนาการโคกระรอคามพระราชคำริ พระมหาโพธิางศา'จารย (ทองฅ) าคราชโอรฟ้าราม กรุงเทพมหานคร แฟ้ทฺง ในงานไถ่ชวิฅโ!ากระบอ ณ วัคราขโอรฟ้าราม ฑรุงเทพฯ วันทํ่ ๕ ธันวากม พ.ศ. ๒๕๕๙ เวฟ้า 0๙.๐๐ น. www.kalyanamitra.org
i ๔๐๒ e/ sssuaismflui lau ๓ พระมHไโพริวงศาใไรย์(ทอง ดี น.ร.๙) คังทเกยปฏิบัติมาเป็นประจำทุกๆป็ ส์าหรับกรั้งนเป็นกรงท ๑๒๘ เป็นป็ท ๓^3 นับแฅ่ป็ พ.ศ. ๒๕๒ เป็นต้นมา ในกรั้งน มโกกระบือทไครับการ ไถซวิฅ จำ นวน ๓๘๘ คัว เมอรวมกับโกกระบือทไครับการไถ่ชวิฅไปแต้ว ๑๒๘ กรังนันมจำนวนถง ๓๗,๘๓๕ ซวิฅต้วยกัน กิคเป็นเงินออกมาไคถึง ๕๑0 ต้านบาทเศษ ถึอว่าเป็นจำนวนทมาก กังทมคนก็่ไต้อาคัยท่านทังหลายทังทเป็นเจ้าภาพไหญ่กือบริ'จากเป็น คัวๆ และเป็นเจ้าภาพย่อยร่วมศมทบคามศรัทธา เป็นเหตุไห[ค[ถซวิฅโกภระบือ เป็นประจำ โคยปรารภวาระค่างๆ โคยเฉพาะวาระถึากัญระคับชาติ เซ่นวันเฉลิน- พระชนมพรรษาเป็นต้น ลิาหรับภารไถ่ซ่วิฅโกกระบือไนวันทํ่ ๕ ธันวากมชองทุกป็นั้น เพอถวาย เป็นพระราชกุศลเนองไนวันเฉลิมพระชนมพรรษา แค่พระบาทศม เค็่'จพระ- ปรมินทรมหาภูมิพลอตุลยเคช บฌนาถบพิตร ผู้ทรงพระตุณอันประเศริฐ แค่บัคนั้ พระบาทศมเค็่'จพระปริมินทรมหาภูมิพลอตุลยเคชไต้เสค็่'จศวรรกฅผ่านมา ๕๓ วันแต้ว จึงเป็นโอกาศลิาคัญท'จะไต้บำเพ็่ญกุศล โคยเปลยน'จากการปรารภ วันเศค็่'จพระราชศมภพเป็นวันเศค็่'จศวรรกฅ เพอ'อุทิศถวายเป็นพระราชกุศล แค่พระผู้ทรงพระคุณอันประเศริฐพระองค่นั้น ทั้งนั้ก็่ต้วยนั้าไ'จชองทุกท่านทํ่ม กวามอาลัยและรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณอันยํ่งไหญ่ทํ่ทรงบำเพ็่ญค่อเนอง มานานถึง ๗๐ ป็เศษ โอกาศนั้จึงเป็นโอกาศพิเศษลึาหรับบำเพ็่ญบุญกุศล ส์ากัญแต้วอทิศถวายเป็นพระราชกุศล เป็นการแศคงนั้าไ'จกคัญฌูกฅเวทิคา- ธรรมอันส์ากัญยํ่งคามหลักพระพุทธศาศนา การไถชวิตโคกระบือ กอการเลึยศละเงินชงหามาไต้ต้วยกำลังกายกำลัง ศติบัญญาชองคน ไปไถชวิคโกกระบือท'จะถูกฆ่า'จากโรงฆ่าลัคว่ไห้รอคพ้น'จาก กวามคายเฉพาะหน้า เท่ากับไปซอซ่วิคชองโกกระบือเข้าไว้ การไถ่ซ่วิคโกกระบือ เซ่นนั้จึงวัคว่าเป็นบุญอันส์ากัญ เรยกว่า ชีวิตทาน คือ การให้ชวิต และวัค เป็นบารมเรัยกว่า ชวิตทานบารม www.kalyanamitra.org
๔๑ฅ 0 ทฒเญญnm ำ^^7 ใรอง นู้ ททำบุญใว้ใใล้ว ชวิตทานน็้ถือว่าฟ้นการให้ทส์าคญ คือฟ้นการให้อิฟ้รร ให้ความ ปลอดภยแกชวิต เ!เนการยืดอายุให้ยืนยาวต่อไป ทำ ให้ยงมซวิตดำรงตน อยูใด้ตลอดไปตราบชั่วชวิตปกติของตน เป็นการให้ทก่อนข้างทำไค้ยาก ค้อง ขวนขวายค้องจัคการมากมาย มิใซ่ร'กแก่ว่ามเงินเท่านั้นก็่ทำไค้บริจาคไค้ จำ ค้อง มผู้ช่วยคำเนินการจัคการให้หลายฝ่ายจึงจะคำเร็่จผลเป็นรูปธรรมและเป็นชวิค ทานบารมไค้ คังทท่านทั้งหลายไค้ทำกันอยู่อย่างน ศังมั้น กาTไถ่ขวิฅโคกระบือเป็นชวิศทานบาTมนจี้งมบุญมากมอานิ^ง^ มาก คือ ^ห้ย่อมมอาบุปีนยาว มความมั่นคงในชวิฅ มอิสระ มความปถอคภัย จากภัฅรู จากภัยพิภัศิ จากความเจ็่บไข[ค้บืวยประการต่างๆ ทำ ให้มจิศใจ เพลิดเพลิน แช่มชน เบิกบาน ทัง้ขณะทภังดำรงชวิศอยู่ แม้จากโถกนไปแล้ว ก็่ยังจะเพลิดเพลินแช่มชนในโถกหน้า ด้วยยินคืพอใจว่าเราได้ทำบุญไว้แล้ว เมอจากโถกนไปแล้วย่อมเพลิดเพลินยั๋งขั้นไปในสุคติภพ คังทั้สมเค็่จพระบรม ศาสคาฅรัสไว!น ธรรมบท ฃุททกนิกาย ทอัญเชิญมาเป็นนิกเขปบทเบืองค้นว่า อิธ นนฺทติ เปจจ นนฺทติ เป็นค้น ชงแปลกวามเป็นภาษาไทยไค้ว่า \"ผู้ทั้ทำบุญแล้ว ย่อมเพลิดเพลินในโลกนิ ละจาก โลกนไปแล้วก็่ย่อมเพลิดเพลิน ชั่อว่าย่อมพลิดเพลิน ในโลกทั้งสอง เขาย่อมเพลิดเพลินว่าเราทำบุญไว้แล้ว ไปฟูสุคติย่อมเพลิดเพลินยงฃํ้น\" พระพุทธพจนนพระผู้มพระภาคเจ้าไค้ฅรัสแก่อนาถปิณฑิกเศรษจึ ผู้เป็น มหาอุบาสกคำกัญในพระพุทธสาสนา มเรองทท่านบันทํกไว!นพระกัมภรธรรมบท ว่า อนาถบิณฑิกมหาเศรษ^ผู้มศรัทธายั๋งใหญ่ ไค้ถวายกัฅฅาหารแก'พระสงฆ ทบ้านวันละ ๕00 รูป และไค้มอบหมายให้ลูกสาวคนเล็่กซอสุมนาเทวเป็นผู้ คูแลพระสงฆทมารับฉันกัฅคาหาร นางสุมนาเทวก็่ไค้ดูแลพระสงฆฅามทั้!ครับ มอบหมาย ทั้งค้อนรับ ทั้งจัคอาหารถวาย และไค้มโอกาสฟ้งธรรมจากพระสงฆ www.kalyanamitra.org
i ๔๑๔ # sssuaisiimuiiau๓ พระช!ทโพริวงศาใไรย์(ทอง ดี น.ร.๙) 'จนไค้บรรลุธรรมฟ็นอริยบุกคลระดับสกีทากาม ต่อมานางเกีคเจ็่บป้วยกะทันหัน จนไก^นลม จึงขอให้กนไปตามบิคามา อนาถบิณฑิกเศรษจึไค้มาเยํ่ยมบุตรสาว ถามไถ่ว่า เป็นอะไรหfอแม่ฅฌ ธิคาตอบกลับไปว่า อะไรหรอน้องชาย เศรษ^ ตกใจถามกลับไปว่า เจ้าเพ้อไปหรือแม่คุณ นางตอบว่า ไมไค้เพ้อหรอกน้องชาย เศรษจึถามกลับไปว่า เจ้ากลัวหรืออย่างไร นางตอบว่า ไมไค้กลัวหรอกน้องชาย ตอบไค้แก่น็้ก็่สินใจ อนาถปิณฑิกเศรษจึแม้จะเป็นโสตาบันบุกกลก็่ไม่อา'จอคกลั้นกวาม เศร้าโศกในธิคาไค้ เมือจัคการเรืองศพเสร็่จแล้วก็่ร้องไห้[ปเฝัาพระพุทธเจ้า พระพุทธเจ้าตรัสถามว่าร้องไห้มาทำไม จึงกราบทูลว่านางสุมนาเทวธิคากนเล็่ก ของตนไค้จากไปเสิยแล้ว พระพุทธเจ้าตรัสว่า เมอเป็นเช่นนท่านจะเnร้าโf!ก ไปทำไม ศวามฅายเป็นย่วนหนงของช่วิฅทุกศนมิใช่หรือ เศรษ^กราบทูลว่า ข้อนันตนทราบคอยู่ แต่ว่าธิคาของตนตามปกติก็่เป็นกนทมืหิริโอตดัปปะสมบูรณ แต่เมอใกล้ตายกลับปนเพ้อตายไป จึงทำให้เศร้าโศกเซ่นน แล้วไค้กราบทูล เรองทผ่านมาให้ทรงทราบ พระพุทธเจ้าจึงตรัสว่า ธิดาของท่านมิได้ปนเพ้อ สิงทนางพูดเป็นเรอง จริง ทนางเรืยกท่านผู้เป็นบิดาว่าน้องชายนั้นก็่ถูกด้องแล้ว เพราะนางเป็น สกีทาคามื ได้บรรลุธรรมสูงกว่าท่านชงเป็นโสดาบน เพราะฉะนั้น นางจึง เรืยกท่านแม้จะเป็นบิดาว่าเป็นน้องชาย ด้วยเหตุผลทท่านได้บรรลุธรรม ระดับตากว่า อนาถบิณฑิกเศรษจึโติทัเงดังนั้นก็่แซ่มชนใจหายเศร้า ทูลถาม พระพุทธองก่ว่านางไปเกีคอยู่ ณ ทใต พระพุทธเจ้าตรัสว่าไปเกีคบนสวรรก่ ชั้นตุสิตเพลิตเพสินอยู่บนสวรรก่ชั้นนั้น ดังนั้แล้วก็่ใค้ตรัสพระกาถาดังแสคงมา ข้างค้น พระพุทธพจนบทนั้เป็นเกรํ่องยืนยันว่า สมเฅื่จพระผู้มพระภาศเจ้าไค้ศรัส สรรเสริญยกย่องบุญไว้ว่ามอานิสงลัทำกัญยั๋งใหญ่ ผู้ททำบุญไว้แค้วย่อมไครับ www.kalyanamitra.org
๔๑๕ # nmUojftjnm I s 0 งนู้ที่ทำ บุ ญ T ว้ II ส์ ว อานิสง^จ?ง เช่นย่อมเพลิตเพลินในโลกทังสอง อย่ในโถกนิก็่เพลิตเพลิน เมอละจากโลกนไปก็่เพลิตเพลินอยูในสุตศิภพ ต้วยระลึกอยู่เสมอว่าเราไต้ผล กำ ว่า เพลินบุญ นั้นคือ เพลิดเพลิน ยินคื อมเอิบใจอยูในบุญุ เป็น ผู้อมบุญอยู่ตลอดเวลา เมอเพลินบุญอั๋มบุญอยู่ แสคงว่ามกวามสุขทังกาย แลฟ้.จ คนมดวามสุขเท่านั้นจงจร;เพลินบุญอมบุญอยูใต้ หากไมมบุญหนุนนำ ไมมบุญอุปภมภ!ว้แล้ว ไฉนจร;เพลินบุญไต้ ไฉนจร;อิมบุญไต้ พรร;พุทธเจ้า ทรงแสคงอานิสงส์บุญไว้เป็นหลักฐานมากปรร:การ เช่นว่า - ปุฌุฌํ สุขํ ซวิตสงฃยมหิ ฯ (ชุ.อ.๒๕/ตต) บุญนำสุขมาไหในเวลาลินซวิฅ. - สุโข ปุญฌสฺส อุจฺจโย ฯ (ชุ.ธ.๒๕/๑๙) การลังสมบุญ นำ มาซงกวามสุข. - ปุฌฌานิ ปรโลกสุม ปติฎจ(า โหนฺติ ปาณินํ ฯ (สํ.ส. ๑๙๘๘) บุญเป็นทพงของลัคว้Iนโลกหน้า คังนั้เป็นค้น บุญมอานิสงส์มอานุภาพมากมายอย่างนั้ เพราะฉร:นั้นพรร:พุทธองกจึง ฅรัสให้กนเรามสฅิระลกถงบุญอยู่เสมอ เมอระลึกไค้แล้วก็่ให้ทำบุญนั้นไว้ปอยๆ ทำ เป็นประจำ ชงเป็นการลังสมบุญไว่อนจะนำให้เกิคสุขคลอคไป คังพระบาลึใน ขททกนิกาย ธรรมบท ว่า ปุฌฌฌจ ปุริโส กยิรา กรราเถนํ ปุนปปนํ ตมหิ ฉนฺทํ กรราถ สุโข ปุฌฌสุส อุจจโย ฯ (ชุ.ธ. ๒๕/๑๙) ถ้าคนเราจะพึงทำบญ ก็่ควรทำบุญนั้นปอยๆ ควรทำ ความพอใจในบุญนั้น การลิงสมบุญนำมาชงความสุข. www.kalyanamitra.org
i ๕๑๖ sssuaisiimui lau ๓ พระชผาโพร่วงศไใารย์(ทองดี ช.ร.๙) หาก'ไเฟ้กำถามฃื้นมาว่า อร{ไรเ!เนบุญ บุญหมายถงอร{ไร การท'จร;ฅอบกำถามนย่อมฅอบไสื.มงายนัก เพราร;กำตอบมหลายอย่าง เซ่นตอบว่า บุญคือความสุข บุญคือความด เป็นต้น ซงเรองบุญนิ้'จำ เป็นต้อง รู้กวามหมายให้แน่ซัคว่าบุญคืออร;ไร ทำ อย่างไรคืง'จร:ไต้บุญ เมอรู้แลัว'จร;ไต้ ทำ บุญไต้ถูกต้องแลร;ไคืรับผลสมกวามปรารถนา ผู้ททำบุญตามๆ กันมาโคย ไม่รู้'จริงว่าบุญเป็นอย่างไร ย่อมไม่สามารถจร;ปฏิบัติให้'ถูกต้องต้วยคื แม้จร: ปฏิบัติถูกก็่ถูกไปต้วยกวามไม่รู้จริงต้วยกวามงมงาย ก็่ไม่นำให้ส์าเร็่จปรร:โยซนั อย่างสมบูรณ เหมือนอย่างคนทรู้ว่าเพชรเป็นของสูงค่าผู้คนปรารถนา ต้องการ แค่คนทไม่รู้จกไม่เคยเห็่น เมือพบเข้าก็่ไม่อาจรู้ปรร{โยซน!ต้ รู้ แต่เพยงว่าเป็นของสวยของงามแวววามเท่านัน บุญก็่เช่นเดยวกัน จำ ต้อง ^ห้ตลอดสายจึ๋งจร{สมฆรถร 'น •น กำ ว่า บุญ แปลว่า สิงทซำรร{กันดานของตนให้สร{อาด สิงทชำรร{ผู้ทำ ให้สร{อาด คือร่งทเมอทำแล้ว ใจของผู้ทำเกิคกวามผ่องใสบริสุทธิ ปราศจาก กวามเศร้าหมอง สิงใดก็่ตามเมือปฏิบติจดทำแล้วไม่อาจชำรร{จิตใจให้บริสุทธิ ผ่องใสไต้ สิงนั้นไม่อาจจดว่าเป็นบุญไต้ ^งอนใศทจ:!มาช่วยชำร:!จิฅใจของคนเราให้บริสุทธิ สะอาค ผ่องใสไห้ เหมือนบุญเปีนไมม ป็งอนจะชำระไศกเพยงผ่วนภายนอก ผ่วนบุญเปีนเกรอง ชำ ระใจอันเปีนภายใน เมอใจบริสทธิ อาการภายนอกคือการกระทำและคำทํ่พูศ ก็่บริสุท^ปคามกัน ถ้าใจไม่บริสุทธิ อาการภายนอก^ม่บริสุท^ปห้วย ตังนั้น เมํ่อเราต้องการผลจากการทำบุญ ก็่จำ ต้องรูวิธิการทำบุญทส์ากัญ ชงสมเค็่จพรร;ทรงธรรมพุทธเจ้าไต้ทรงแสคงไว้หลายวิธ เซ่น ทรงแสคงถื้ง บุญกิริยาวฅถุ ถก คือวิธการทำทเป็นบุญ ๓ ปรร;การ คือ ทาน คืล ภาวนา แลร; บุญกิริยาวตถุ ๑0 คือวิธการทำทเป็นบุญ ๑0 ปรร:การ โคยเพั๋มจาก ทาน คืล ภาวนา ไปอก ๗ ปรร:การ คือ การปรร{พฤติถ่อมตนค่อผูใหญ่ www.kalyanamitra.org
๔๑๗ ?! ทฒเญญnai i I รอง นู้ ที่ ทำ บุ ญ ใว้แ a ว การช่วยเหลือผู้อํ่นในกิจทชอบ การให้ลืวนบุญ การอนุโมทนาช่วนบุญ การฟ้งธรรม การแสดงธรรม แลร: การทำความเห็่นให้ตรง เหล่านจัคเรนวิธการ ทำ บุญทถูกหลัก ทำ แล้วใครบปรร:โยซน!^อานิสงล่ ซึงกนพทธโคยทัวไปเข้าใจ แลร:ปฏิบัติคามกันอยู่แล้ว บังมอกกำหนงทํ่ซาวพุทธเรามักกล่าวกงคือกำว่า กุสล ซึงบางกรัง ก็่กล่าวต่อกับกำว่าบุญไปเลยว่า บุญกุสล แลร:ก็่มักจร:เข้าใจกันในกวามหมาย เคืยวกับกำว่าบุญ ชงแทํทจริงกำสองกำนิมกวามหมายต่างกัน แต่สอคกล้องกน เข้ากันไค้ กุสล แปลว่า ความฉลาด หมายถึงกวาม^นร่งททำว่าคืหรือไม่คื กวร หรือไม่กวร ชอบหรือไม่ชอบ กังนั้น กวามฉลาคนิจงจำค้องกู่กับบุญ จร:ไคืรู้ว่า สิงทํ่ทำเป็นบุญแท้หรือไม่แท้ ทำ แล้วจ๙ไค้ผลจริงหรือไม่จริง เป็นค้น สองกำนิ จึงเหมาร:กวรทจร:อยู่กู่กันเป็นบุญกุสล บังมพรร:พุทธพจนิอกบทหนั้ง ทพรร:พุทธองกํทรงแสคงเรืองการทำบุญไว้ คือทรงแสคงว่าในซึวิฅปรร:จำวันมันคนเรากวรจ2ไค้ทำกวามเข้าใจถึงวิธทำบุญ ชงเมํ่อกรร;ทำแล้วย่อมได้รับผลเป็นความสุขความเจริญในวิถซึวิตปรร;จำวัน ปุฌฌเมว โส สิฦเฃยฺย อายตคฺคํ สุขุทรยํ ทานฌฺจ สมจริยฌจ เมตฺตจิตฺตฌุจ ภาวเย ฯ (ชุ.สุ. ๒๕/๒๐๐) ผู้หวังปรร:โยชนิสุขพงล้งสมบุญทํ่มผลอนเลิส มสุข เป็นกำไร คือพงให้ทาน พงบำเพี่ญสมจริยา แลร;พึง บำ เพ็่ญเมตตาจิต. www.kalyanamitra.org
i ๔๑๘ ธรรบส!รใทฟึนใ lau ๓ พระนHใโพรวง ศใจใรย์(ทอง ดี น.ธ.๙) ตามพร^บาลน ศมเค็่จพระซินรหพุทธเจ้าทรงแสคงลักบณรของบุญ ทส์ากญไว้๒ ประการ คือ มผลอนเลิศ กับ มสุขเป็นกำไร ชงหมายกวามว่า เมอทำไปแล้วย่อมไคืรับผลตามมาต่อเนึ๋อง ซงเรนผลไค้ของการทำอันยอกเยยม และผู้ทำย่อมไคืรับกวามสุขซึงเป็นผลกำไร เหมือนค้าขายแล้วมกำไรคือไค้ผล- ตอบแทนค้มก่ากับการลงทุน ทํทำ ให้เกิคกวามสุขอํ่มเอิบใจในผลตอบแทนนั้น เท่ากับทรงแสคงหลักในการตักสินว่าการทำอันไคเป็นบุญ อันโกไม่เป็นบุญ คือ เมือทำแล้วได้รับผลอันเลิศและไ^ผลเป็นความสุข อันนั้นจดเป็นบุญแท้ อนไคเมือทำแล้ว ไม่มืผลอันเลิศ มืแต่ความหายนะแก่ตนและคนอึ๋น และ ไท้ผลเป็นทุกข์ เป็นความเดือดร้อนตามมา อันนนไม่จดว่าเป็นบุญ บุญทํมืลักษณะเซ่นน ทรงแสกงไว้ ๓ ประการ ส์าหรับเป็นหลักปฏิบัติ ส์าหรบหาโอกาสทำในชวิตประจำวัน ลังสมไปเรือยๆ จะไค้พอกพูนเพมขน เรอยๆ เพราะบุญทมืลกษณะมืผลอันเลิศกับมืสุฃเป็นกำไรนั้น ไข่ว่าจะ สามารถทำได้ทุกคนไป คนทํเข้าไจคลาดเคลือนหรือเข้าไจผิด คิดแต่เพยงว่า ทำ ไปก็่เป็นบุญท้งนน แล้วไปทำลิงทผิด เป็นบาปผสมเข้าไปในเวลาทำบุญ โดยมองว่าไม่เป็นไร เซ่น ฆ่าวัวกวายหรือหมูปลาไก่มาทำอาหารถวายพระ มาเลืยงแขก หรือเลืยงสุรายาเมาในงานบุญ เป็นค้น โกยอ้างว่ากนอนเขาก็่ ทำ กันมาอย่างนั้แต่โบราณ โกยมิไคืกกว่า การทำเซ่นนั้เป็นการทำบาปผสมบุญ เป็นเหตุให้บุญมืผลไม่เลิศ และไม่มืสุฃเป็นกำไรสมบูรถง เพราะก่อทุกข์ก่อโทษ ให้แก่ลัตว เสริมก่งให้กนติคสุรายาเมาไร้สติบัวเมายั๋งฃน ทำ ให้เขาประพฤติ ผิคคืลฃ็้น อย่างนเรืยกว่าได้ทำบุญ แดไมได้ร้บผลแห่งบุญ ดือไมได้ผลอันเลิศ แล!มนสุขเป็^^^^^^ ' บุญประการแรกททรงให้ทำคือ ทาน นั้นหมายถึง การไท้ การเลืยสละ การบริจาค ชงวัตถุสิงของทมือยู่ของตนไปให้แก่ผูอน เป็นการแปงปินประโยขน เป็นการแสกงนำใจเผํ่อแผ่ นั้าใจไม่ตระหนหวงแหน ผูให้ทานไค้แสกงว่าเป็นกน www.kalyanamitra.org
๔๑๙ V?: ทฅชุณฌทท! '-^^:/) I รอง นู้ ททำบุญใ 5 II ส์ ว มนํ้าใ'จ เป็นกนมอัธยาffยค เป็นกนโอบ'อ้อมอาร เป็นอ้น €(วนกนฟ้.ม่ซอบให้ ให้[ม่เป็น แสคงว่าเป็นกนตระหนํ่ เป็นกนเหื่นแก่ตัว เป็นกนไร้นำใ'จ เป็นอ้น อันนเป็นไปตามปกติในโลกมนุษยเรา ตังนั้นกนโบราณๆงสอนลูกหลานไอ้ว่า ใครทำใครได้ กือ ถ้าใครให้โด้ ผู้นั้นก็่ใด้รบผลได้ร้บอานิสงส์เ!เนความสุข ใครให้!มใด้ ผู้นั้นก!มใด้รับผลไมได้อานิสงส์เซ่นนั้น และการให้นั้นย่อมมเหตุ'จูงใจ่ให้ทำ ท่านว่า ให้เพืออนุเคราะห้ กอให้ แก่กนทเขาเสือคร้อน กนทลำบากยาก'จน กนพิการ กนช่วยตัวเองไมไอ้ เป็นอ้น ก็่ใอ้ ให้เพึ๋อบูชาคุณ สือให้แก่บุกกลทตนเการพนับถือชงเกย'อุปการะ เกยม พระคุณแก่ตน หรือ^กษาและสร้างสรรกประโยชนํแก่อังกม เช่นบิคามารคา กรูอา'จารย่ ญาติผู้!หญ่ พระสงฆ เป็นอ้นกใอ้ กล่าวโคยรวมก็่สือกนทุกกน อยูในฐานะทกวรให้ทั้งสิน ซงถืงแม้ว่าผู้นั้นจะมั่งมศรสุข มพร้อมมูลทุกอย่าง แล้ว ไม่ขาคแกลนอันไค ก็่สมกวรจะไครับการให้ เพราะผู้!ห้ม่งบูชาคุณมิใช่บุ่ง เพํ่ออนุเกราะหื่ ล่วนวิธการใ'หนั้น จะให้!คยเจาร!จง กอกำหนคตัวผูรับ เช่นกำหนค ว่าเป็นผู้นั้นผู้นั้กไอ้ให้โดยไม่เจาร;จง สือให้เป็นสาธารณะ จะเป็นผู้!คหื่โอ้ เช่น สร้างโรงเรยน สร้างโรงพยาบาล สร้างสะพาน สร้างวัค เป็นอ้นกโอ้ ตังนั้น คนเฑพื้งร่'งมบุญข้อทานน็้!ว้เปีนบ่Tะจำ พึงบ?'ๆาศเ^สละ โดยสมควรแก'ฐานะและโอกาส โดยบุ่งอนุเคราะหบ้าง โดยบุ่งบูชาคุณบ้าง โดย เจาะจงบ้าง โดยไม่เจาะจงบ้าง จะมากหรอบ้อยอย่างไรดามความเหมาะสม แก'ฐานะและโอกาส เพราะการให้นั้ย่อมมผลอันเสิศ มสุขเป็นกำไรแน่นอน อย่างเช่นพระเวสสิ'นครโพธิอัตว่ บำ เพ็่ญทานบารมยั๋งยวคจนไครับผลอันเลิส สูงสุคสือค่อมาไอ้ตรัสรู้ธรรมเป็นพระสิ'มมาสิมพุทธเจ้า พระบรมศาสคาของ พวกเราทั้งหลายในปีจ'จนัน บุญประการทสองททรงให้ทำสือ สมจริยา นั้นหมายถืง การปรรพฤติชอบ ด้วยกาย วาจา ใจ อย่างสมั่าเสมอ เสมอด้นเสมอปลาย ไอ้แก่การประพฤติ www.kalyanamitra.org
i ๔๒0 :?> sssuaisinfiuiiau๓ พระชHใโพธวง ศไาไรย์(ทอง ดี ช.ร.๙) ทคงาม เ?!นร:;ฒยบ ถูกฅ้อง ไม่นอกลู่นอกทางอย่างสมาเสมอ ไม่ประพฤติ แบบลุ่มๆ คอนๆ มิใซ่วันไหนอยากประพฤติก็่ประพฤติ วันไหนอยากเลิกอยาก ทำ อะไรก็่ทำคามใ'ไเชอบ มิใช่เช่นนั้น การประพฤติสมจ?ยานั้น ในทางปฏิบัติก็่คือประพฤติสุจริฅ ทัง้กายสุจริต วจสุจริต มโนสุจริต สมาเสมอ และประพฤติวางตนสมํ่าเสมอตามฐานะทตัวเปีน ตามฐานะบุคคลทตนเกยวช้อง เช่น เมอเรนญาติกันก็่ประพฤติฅ่อยูนั้นในฐานะ เป็นญาติ ให้กวามนับถือกันหรือช่วยเหลือกันคามสมควร แม้ว่าญาติผู้นั้น'จะ มยศมฐานะค้อยกว่าคน กใม่คูถูกเหยยคหยามหรือเมินเฉยไม่สนใ'จ เมอถืง คราว'จะช่วยเหลือก็่ช่วยเหลือไม่ทอคทง อย่างนั้เรืยกว่าประพฤติคนสมาเสมอ ในญาติ แม่ในบุกกลอนก็่ทำนองนั้ ประพฤติกับทุกกนเสมอค้นเสมอปลาย ไม่ เย่อหยั๋ง ไม่กระค้าง ไม่คูหมํ่นเหยยคหยามผู้ค้อยกว่า แคให้กวามส์ากัญแก่ ทุกกนในฐานะทเป็นกนเช่นเคยวกัน สม'จริยาม่ลักษณะเช่นนั้ สมจริยา วัคว่าเป็นบุญเพราะเป็นการประพฤติเป็นสุ'จริต ลือประพฤติชอบ ค้วยกาย วา'จา ใ'จ สมํ่าเสมอ ประพฤติคนต่อยูอนสมาเสมอ เท่ากับประพฤติมั่น อยูในลืล ตงมั่นอยู่ในกรอบของลืล เว้น'จากการประพฤติทุ'จริค ลือประพฤติชั่ว ค้วยกาย วา'จา บุญ'จากสม'จริยาเช่นนั้ย่อมม่ผลอันเลิส มสุฃเป็นกำไร เป็นฐาน ให้ผู้ประพฤติปฏิบัติโคคเต่นสูงขนคามลำกับ บุญประการทสามททรงให้ทำลือ เมตตาจิต นั้นหมายถืง ความริก ความปรารถนาดต่อผูอึ๋น ต้องการให้เขามความสุข เป็นเ'จฅนาทปราศ'จาก กวามม่งร้าย กวามอาฆาฅพยาบาท หรือกวามคิคเบยคเบยนผูอนให้เลือคร้อน เมตตาจิตนั้เป็นการประกาศใหรู้ว่าผูมเป็นคนม่อธยากัยด มจิตใจ กว้าง คิดถืงคนอนในแงดอยู่เสมอ แม้จะมยู้มาทำผิดคิดร้ายอะไรแก่ตน กี่ ไม่อาฆาตแค้น ให้อภยไต้ ปล่อยวางไต้ จิงไม่มเวรมกัยอะไรกับใคร เมึ๋อ www.kalyanamitra.org
๔๒© fimJfueunm fiA) Iรอง นู้ ททำบุญไว้IIล้ว \\ มเมตตาจิตปรร!จำ ก็่ส่งเส์ริมสุขภาพกายสุขภาพจิตให้ผ่องใสบริส์ทธิ้ ไม่ เศร้าหมองตามไปด้วย ศรงกันข้าม ศนทขาคเมฅฅาจิศ จัศว่าเปีนฅนกัรยากัยไมศ ทิศแต่จะ มุ'งร้ายทนอน ให้อภัยคนปีนไมไท้ จึงทิศแต่จะทำร้ายทfปีก'ปีกวามเทิอศร้อน ให้คนอนฑไป ซงเมอทำเช่นนั้นก็่เท่ากับว่าไท้ทำร้ายศัวเอง ทำ ใหกัวเองท้อง เฅอศร้อน หมกมุ่นอยู่กับเรองอยู่กับเวรกัยทจะก่อขน ทำ ให้ชวิศเทิร้าหมอง หน้าศาก็่เทิร้าหมอง หาเสน่ห้หาความน่าเลอมใสมิไท้ ด้วยเหตุน พรร!พุทธองกจิงทรงแนะนำให้บำเพ็่ญเมฅฅาจิฅเข้าไว้ คือ tindนมองกวามจริงให้เห็่นจริง โคยเปริยบเทยบกับตัวเองก็่ใด้ว่า เราร้กสุข เกลยดทุกขฉันใด คนอนก็่ร้กสุขเกลยดทุกฃฉนนั้น เมอมองเห็่นจริงอย่างนั้ แล้ว ก็่ใม่ควรจะทำให้กนอนเคือคร้อน กวรจะทำให้เขามกวามสุฃฅามด้องการ เหมือนทคนด้องการ มองข้ามกวามเกลยคชังไปเคืย ให้อภัยได้เมอเขาทำผิค ต่อคน ตั้งใจให้เขาอยู่เป็นสุข ไม่มืเวรภัยต่อกัน อย่างนั้เป็นด้น แต่โบราณมา ท่านแนะนำให้บำเพ็่ญเมตตาจิต เริยกว่า แผ่เมตตา จะแผ่โคยเจาะจง คือกำหนคตัวลงไป ตังเซ่นบิคามารคาเมฅฅาบุฅรธิคาก็่ได้ จะแผ่โคยไม่เจาะจง คือแผ่เมฅฅาไปในบุกกลและภัฅว่ทั่วไป อย่างเซ่นทแผ่กัน ทั่วไปว่า ศพเพ ศตตา อเวรา โหนฺตุ, ศพฺเพ ศตตา อนํฆา โหนฺตุ, ศพ.เพ ศต.ตา อพุยาปชฺฌา โหนฺตุ, ศพฺเพ ศต.ตา สุข้ อต.ตานํ ปริหรนตุ ฯ อย่างนั้ก็่ใด้ เมคฅาทแผ่โคยเจาะจงนั้นจัคเป็นพรหมวิหารธรรม เมฅฅาทแผ่ โคยไม่เจาะจงจัคเป็นอัปปกัญญา เป็นเมฅฅาระตับสูงทจะนำให้[ด้ผลระตับสูง คือฌาน www.kalyanamitra.org
k ๔๒๒ sssuaisinfiin lau ๓ พระ นHใโพรวง ศใใารย์(ทอง ดี ป.ร.๙) การบำเพ็่ญเมฅฅาจิฅ ทำ ใหจฅประกอบไปด้วยเมฅฅๆ มกวามรักมกวาม ปรารถนาคต่อ^นอย่างนจัคว่าเป็นบุญ ผู้บำ เพ็่ญเมกตาจิฅย่อมได้บุญซงมผล อันเลิศ มสุฃเป็นกำไร ไครับอานิศงส์ฅามทํ่พระองกํฅรัศไว่ถึง ๑๑ ประการ กือ หลบณ!!นส์ฃ ๑ ตึ๋นก็่เป็นสุข ๑ ไม่ฝันร้าย ๑ เป็นทร้กของมนุษย์ ทังหลาย ๑ เป็นทร้กของอมนุษย์ทั้งหลาย ๑ เทวดารักษาคุ้มครอง ๑ พ้นจากภยอนเกิดจากไฟ จากยาพิษ และทัดราวุธ ๑ จิตเป็นสมาธิเร็่ว ๑ หน้าตาผ่องใส ๑ไม่หลงดาย ๑ หากยงไมไค้บรรลุธรรมสูงขนไป ดายแล้ว ก!ค้เข้าถึงพรหมโลก ๑ เมฅฅาจิฅมผลอันเลิศและมสุฃเป็นกำไรอย่างน วิธการทำบุญ กือ ให้ทาน บำ เพ็่ญสมจริยาคือประพฤติสุจริต และเจริญ ฌตตาจิต ๓ ประการนพระพุทธองกทรงซิ้นำไว้ว่าให้หมั่นอังสมไว[ห้มาก เมั่อ ทำ ได้อย่างน'ซอว่าได้ทำบุญไว้แล้ว ผู้ททำบุญไว้แล้วอย่างน ย่อมกากภูมิใจเป็น เบองด้นว่ากนได้ทำบุญ ได้ทำกวามคืไว้เป็นทุนแล้ว ย่อมเพลิคเพลินอยู่กับบุญ อมอยู่กับบุญ กรั้นลินซวิกไปแล้ว ก็่มด้นทุนคือบุญกอยธุปกัมกนำพาไป เพลิคเพลินก่อทํ่สุกกิโลกสวรรก ไคซอว่าได้เพลิกเพลินอยู่ในโลกทั้งสอง ผูทั้ทำ บุญไว้ย่อมไม่ขาดทุนชวิต ย่อมไมโดดเคยวอ้างว้างหาทั้เกาะ หาทั้พงไมไค้ ย่อมมความมั่นใจในบุญทุกขณะไม่ว่าจะยงแฃ็่งแรงอยู่หรือ อายุกาลผ่านว้ยมานานแล้ว บุญย่อมไม่ทอดทั้งแน่นอน การทท่านทั้งหลายมกุศลเจกนามาไถซวิกโกกระบือในกรั้งนหรือใน กรั้งก่อน ซอว่าได้ทำบุญไว้แล้ว ไคอังสมบุญไว้แล้วก่วนหนง เมั่อยังมเรั้ยวแรง กำ อังอยู่ กวรอังสมบุญประเกทอนกามฐานะและกามโอกาส ซวิกก็่เฅ็่มไปด้วย บุญ มบุญเฅ็่มท เมอเกิคบุญเฅ็่มทก็่จะเกิคกวามสมบูรณ เกิคกวามเพลิคเพลิน เกิคกวามอั๋มเอิบใจในโลกน และเมํ่อถึงกราวลาจากโลกนั้[ปก็่จะได้บังเกิคใน สุกกิกพ ไครับกวามเพลิคเพลินไครับกวามสุฃในสุกฅิกพนั้นกลอกกาลนาน กามทพระพุทธองกทรงแสคงไว้ คังไค้ซแจงแสคงมา ด้วยประการฉะนั้ www.kalyanamitra.org
๔๒๓ ^ fimUwajnni s IS อง นู้ ที่ ทำ บุ ญใว้ II ส์ ว เทฟ้นาปริโยสาณ ในอวสานกาลเป็นทสุคถงแห่งเทศนาน ขอเชิญห่าน ทั้งหลายไค้ส์ารวมจิต น้อมรำลื้กถื้งบุญ'จากการไถชวิฅโกกรฟ้อทั้ใค้ป้าเพ็่ญไห้ เป็นไปแล้วไนวันน 'อุทิศถวายเป็นพรร;ราชกุศล แค่พรร;บาทสมเค็่'จพร๗รมินทร- มหาภูมิพลอคุลยเคซ บรมนาถบพิตร รัชกาลท ๙ แห่งพรร;มหาบรมราชจิ'กรวงค่ ผู้ทรงพรร;กุณอันปรร;เสริฐ ชอไห้พรร:องกทรงไค้อนุโมทนารับมหากุศลยั๋งไหญ่ กรั้งน ไค้เสวยทิพยสุชทิพยสมบัติ สถิตส์าราญอยูในสุกติภพทสูงยํ่งตามพระ- บารมธรรมททรงปฏิบัติมาค้วยพรร:องกเอง แลร:ททรงไค้อนุโมทนาพรร:ราชกุศล ทั้งปวงทํ่พสกนิกรไทยล้วนหน้าไค้ป้าเพ็่ญแล้วน้อม'อุทิศถวายค้วยนํ้าไ'จ'จงรักภักค ตลอคจิรัจิติกาล เอเตน สจฺจวชฺเชน จ แลร:ค้วย'อำนา'จล้จธรรมตามทไค้แสคง มาน อิจฺฉิตํ ปตถิตํ ตุมุหํ ขิปปเมว สมิซฺฌตุ ชอกวามค้องการกวามปรารถนา ทห่านทั้งหลายค้องการแล้วปรารถนาแล้วไนโอกาสน จงส์าเรี่'จ จงส์าเรี่จ ร'มฤทธิ้ผล เถิค'อุคมสรรพมงกลสิริสวัสติ ธนสารสมบัติ แลร:อายุ วรรณร: สุชร: พลร: ปฏิภาณ แก่ท่านทั้งหลายโคยเรี่วพลัน ชอไห้ปราศจาภโรกภัย อุปสรรก อันตราย แลร:กวามวิบัติทั้งปวงตลอคกาล รับปรร:ทานแสคงพรร:ธรรมเทศนา ไน กตปุญญกถา สมกวรแก่เวลา ชอยุติลงกงไว้แค่เพิยงเท่าน ฯ เอวํ ก็่ม ค้วยปรร;การฉร;นิ้ www.kalyanamitra.org
ชลปฺปมาณํ กุมุทนา'vf กุลป.ปมาณํ กรณกมฺมํ ปฌฺฌๆปมาณํ กถิตวาฤยํ ภูมิปฺปมาณํ ติณมิลาตํ ฯ ธทมนั๋ติ. ก้านบัวบอกถื้งกวามลึกฅั้นของ'นา การงานทํ่ทำหรอเกรองมือ'กำงานบอกถึงฅรรทูล ก้อยกำทํ่'สู่คออกมาบอกถึงฟ้ฅิปิญญาของผู้'พูค หญ้าทเหํ่ยวแห้งบอกถึงสภาพของคิน. www.kalyanamitra.org
oo วิญญปสังสิตกทา เรื่อง คนที่าญญฃนสรรเสริญ ปฌฺฌวนฺตํ ตถาวาทื้ สิเลสุ สุสมาหิตํ เจโตสมถมนุยุตฺตํ ตํ เว วิฌฺณู ปสํสเรติ ฯ ชุ.เถร. ๒๖/๓๙๘ รักไค้แศคงพร^ธรรมเทศนาใน วิญฌูปร'งสิตกถา เพอประคับ U ปิญญๆบารม อนุโมทนาบุญใหญ่ทกณะฟ้งฆ!นเฃคหนไคใ^คบำเพ็่ญฃน ในโอกาฟ้น ซงมพระเคซพระคุณพระพรหม'จริยาจารย เจ้ากณะใหญ่หนใต้ เป็น ประธาน พร้อมต้วยเจ้าคณะภาก รองเจ้าคณะภาค เจ้าคณะรังหวค รองเจ้าคณะ- รังหวัค เจ้าคณะอำเภอ รองเจ้าคณะอำเภอ เจ้าคณะตำบล เจ้าอาวาศ ผู้ช่วย- เจ้าอาวาศ ชงเป็นพระคังฆาธิการทุกระคับชั้นในเขตหนใต้ ไต้มกุคลฉันทะ ร่วมรัคบำเพ็่ญชั้นทวัคเมืองยะลานิ้ เพออุทิศส่วนกุคลถวายแค่หลวงพ่อพระ ธรรมสิทธิมงคล หลวงพ่อฉน โซคิกมหาเถระ อคฅเจ้าคณะรังหวัดยะลา พรรมหาโพธิวงสาจารย (ทองค) วัครารโอรสาราม กรงเทพมหานคร แสคง ในการบำเพี่ญกุสถอุทิศถวาย พรรธรรมสิทธิมงคล (ฉน โซคิกมหาเถรร) ณ วัคเมืองยรลา อำ เภอเมอง วังหวัคยะลา วันเสาร์ ท ๑<1 มกรากม พ.ศ. ๒๕bo เวลา ๑๒.๓0 น. www.kalyanamitra.org
k ๕๒๖ sssuaisinfiuiiau๓ พระบผาโพรวงศใใใรย์(ทองดี น.ร.๙) อคฅเจ้าอาวาสวัคเมืองยร;ลา การบำเพ็่ญกุศลกรงนถือว่าเป็นบุญใหญ่ทิ่ กณ^สงฆหนโค[ค้ร่วมกันบำเพ็่ญให้เป็นไป เป็นการแสคงนาใจปร:;กอบค้วย กฅัญฌูกฅเวทิคาธรรมทมืค่อหลวงพ่อพร:;ธรรมสิทธินงกล แล:;เป็นการมาแสคง การวธรรมต่อสรร:;ของหลวงพ่อในโอกาสนห้วย หลวงพ่อพรรธรรมสิทธิมงคล เป็นพร::มหาเถระสิากัญรูปหนึ่งของหนให้ และของประเทศ เป็นพระมหาเถระทเจริญห้วยอายุ เจริญห้วยสฅิปิญญา เจริญห้วยผลงาน และเจริญห้วยนำใจทสูงสิง เห็่นไคขัคเจนในทุกห้าน ท่านเป็น นกปกกรองทเป็นรูปแบบและเป็นคัวอย่างไห้สำหรับนักปกกรองทั้งปวงทั้งทเป็น บรรพซิคและกฤหัสถ เพราะท่านใช้สฅิปิญญาผสมกับกวามสามารถเฉพา:;คัว รคหยุ่นผ่อนกันผ่อนยาวไปคามสถานการณ กล้าพูค กล้าเผชิญหน้าเนึ่อจำห้อง พูคห้องเผชิญเหตุการณ และหยุคนึ่งไห้เมอจำ เป็น เพํ่อให้สถานการณสงบ ไม่ เพิมเซือให้ลุกรอไหม้ลามจนแก!ขไมให้ และเมอถงเวลาพูคหรือเขยนก็่แสคง กวามกิคเห็่นออกมาครงๆและขัคเจน แสคงถึงภูมิธรรมและภูมิปิญญาลึกชง อย่างเซ่นในเรํ่องการแกปิญหากากให้ ท่านแสคงกวามเห็่นไว้ว่า \"การแกปีญหา ปากกับใจต้องตรงกัน ถือกัจจะเป็น สำ กัญ คนทไม่ควรนำมาแกปีญหาคือคนทึ๋ใม่รู้สภาพ ของปีญหา คนไกล และอย่าแต้ชญหาโดยใช้เงิน\" นอกจากนัน ท่านยังมืแนวกิคทเป็นกลาง ไม่เลือกทรักผกักทขัง ไม่ก่อ ปิญหา ใซ้ปิญญาในการแก!ขปิญหาเป็นหลัก หากใซปิญญามาแก!ขปิญหา ย่อมทำให้แกปิญหาไห้สำเร็่จ คังเซ่นกวามเห็่นทท่านแสคงไว้ว่า \"การคืกษาทำให้คนมืปีญญา เมอเกิดกัญญาย่อม เช้าใจกัญหา การแต้กัญหาให้สำเร็่จทำให้แผ่นดิน ภาคใต้สงบกันดิ อย่ร่วมกันได้ในกังคม แม้จะนับถือ www.kalyanamitra.org
๔๒๗ วิญญชสังสิฅทท! โรอง คนทวิญณู'ซนสรรโสริญ ศาสนาต่างกันบ้าง แต่มิได้เ!เนอุปสรรค เพราร;เร็่เน คนไทยด้วยกัน\" เพราะ:ท่านยกย่องปิญญๆ ต้องการให้กนมปิญญา จึงสนับสนุนส่งเสริม ให้ทุนการจึกษาแก่ทั้งพระ:ภิกษุสามเณร แก่เยาวชนกนรังหวัคยะ:ลาทุกอำเภอ ไม่ว่าเยาวชนนั้นจะ:เป็นพุทธหริอมุสลิม เพราะ:ท่านเห็่นว่าแม้จะ:นับถือค่าง ศาสนากัน แค่ก็่เป็นกนไทยต้วยกัน มิใช่แสคงว่ายกย่องปิญญาเท่านั้น ยังแสคง ถืงนั้าใจสูงส่งชองท่านต้วย เพราะ:มนั้าใจจึงทำให้เถืยสละ:ไต้ ทำ ใหให้ทุนการ ถืกษาไต้ และ:ไต้ปฏิบัติเช่นนั้มาโคยคลอค ต้วยเหตุนั้ ผู้กนทั่วไปจึงให้กวาม เการพยำเกรง ให้กวามนับถือท่าน อยู่ในกวามสงบ ไม่เบยคเบยนกัน พระคุณกวามคและ:ผลงานชองหลวงพ่อพระ:ธรรมลิทธิมงกลนัน เป็นทั้ ประรักษเป็นทั้ยอมรับทั่วไป และสามารถเป็นแบบอย่างแก่อนุชนรุ่นใหมไม่ว่า บรรพชิตหริอกฤหัสถ!ต้ฅลอคไป นับว่าชิวิฅชองพระเคชพระคุณนันมคุณค่า มกวามสง่างาม นำ มาชงกวามสง่างามแก่พระพุทธศาสนาแก่พระสงฆโคย ภาพรวม เป็นทั้ยกย่องเชิคชู เป็นทั้เการพนับถือ เป็นทั้การวะบูชาชองวิญฌูชน ทั้งหลายและผู้กนทั้งปวง เพราะสมบูรณพร้อมต้วยคุณลักษณะทน่ายกย่อง เชิดชู คังเช่นทั้พระมหากัสสปะ ชงเป็นพระมหาเถระสมัยพุทธกาลไต้แสคงไว้ ปรากฏคามพระบาลิฃุททกนิกาย เถรกาถา ชงอัญเชิญมาเป็นนิกเชปบทเทศนา เบองต้นว่า ปฌฌวนฺตํ ตถาวาท เป็นอาทิ ชงแปลเป็นกวามไทยไต้ว่า \"ผู้รูทั้งหลายย่อมเสรรเสริญคนทั่มปีญญา คนทั่พูดจริง คนทั่ทั้งมั่นอยูในด้ล คนทั่ปรร!กอบความสงบทางใจ นั้นแล\" ข้อกวามช้างต้นนั้พระมหากัสสปะไต้แสคงไว้ ท่านเป็นพระมหาเถระ ผู้มปฏิปทามั่นกงในธุคงกวัตร กรองผ้าบังสุกุลคลอคซพ ไครับยกย่องว่าเป็น www.kalyanamitra.org
i ๔๒๘ # รรรฆส1ร1ทศน11ส่บ ๓ พระบHาโพรวง ศไใไรย์(ทอง ดื ช.ร.๙) เอฅทักกะในทางน เมอพระพุทธเจ้าเสค็่'จปรินิพพานแล้ว ไ^กซวนพระอรทันฅ- สาวกทังหลายมาประชุมพร้อมกันทำทังกายนาพร^ธรรมวินัยเป็นกรั้งแรกท เรยกว่า ปฐมรงคายนา รวบรวมกำทังสอนของพระพุทธเจ้าไว้เป็นหมวกหมู่ ชงเร้ยกก่อมาว่า พระไตรปีฎก ไล้สืบสานกันก่อมาจนถึงปี'จจุบัน ทัศนะซอง ท่านซ้อนแสกงให้เห็่นว่า พระสงฆและกฤทัสถซนมกุณกวามคอย่างไร ท่าน ยูรูทังหลายซงรวมถึงทัวท่านเองล้วยจงยกย่องสรรเสริญ ซงท่านไล้แสกง กุณกวามคอันเป็นคุณทักษณะกำกัญไว้ d ประการ กือ เป็นผู้ทมป็ญญๆ เป็นผู้ทพูดจริง เป็นผู้ทตั้งม'นอยูในส์ล และ เป็นผู้ทประกอบความสงบทางใจ พระสงฆหร้อกฤทัสถซนยู้มคุณทักษณะเซ่นน็้ ย่อมไครับการยกย่องสรรเสริญ จากยูร้ทงหลายและสมกวรทกนทั่วไปจะไล้ยกย่องสรรเสริญ เมอมยู้ปฏิบัติกน เจริญรอยตามก็่ย่อมจะไครับการยกย่องสรรเสริญเซ่นเคยวกัน กำ ว่า เป็นผู้มปีญญา นั้นหมายถึง เป็นผู้มความรู้ มปรซาสามารถ คือมกวามรู้พร้อมทจะจัคทจะคำ เนินการกิจก่างๆไล้ถูกล้องฅรงแนวทาง และ มกวามสามรถพร้อมทจะจักทำคำ เนินการคามกวามรู้นั้นไล้อย่างกล่องแกล'ว ไม่ติคฃัค อย่างทท่านแสคงไว้ว่า อลํ กาตุ๊ อลํ สํวิราตุ๊ - อาจทำ อาจจัดได้ ยู้มปีญญานั้นจึงจักว่าเป็นกนฉลาก อันผู้มปีญญาเป็นคนฉลาดนั้นย่อม เหมาะแก่การใช้งาน เหมาะแก่การทำงาน สามารถทำงานได้กำเร็่จผลด้วยด ไว้วางใจได้ ไม่ด้องพูดไม่ด้องแสดงรายละเอยดอะไรมาก เพราะสามารถ คิดงานได้เอง ทำ งานได้เอง และแก้ปีญหาได้เอง จนกระทั่งงานทั่ทำดำเนินการ กำ เร็่จลุล่วงและเริยบร้อยสมประสงค เพราะฉะนั้น ยู้มปีญญานั้นจึงไครับ การยกย่องสรรเสริญ ไกรับกวามไว้วางใจให้เป็นผู้!หญ่เป็นยู้นำ ให้เป็นยูบังกับ- บัญซา และให้มกวามรับผิกซอบในทุกระกับ ทำ ให้การงานเกินหน้าไปไค!ม่สะคุก ในทางกรงกันซ้าม หากเป็นผู้ซากปีญญา ไม่มกวามฉลาก ไม่มกวาม สามารถเพยงพอ ไครับกวามไว้วางใจให้เป็นผู้!หญ'ให้เป็นผู้นำ ให้เป็นยูบังกับ- www.kalyanamitra.org
๔๒๙ ^ วิญญซ;^สิฅททใ 1รอง ทนทวิญญ'ชชสรรIสริญ บัญชา ก็่'จะเป็นสาเหตุให้เกิคปีญหาอุปสรรกในการทำงาน ไม่อา'จคำ เนินการ ให้คำเร็่'จเรยบร้อยหรือให้บรรลุถึง'จุกหมายไก้ เพราะผู้ขากปิญญาบันไม่อา'จ เป็นเสาหลัก ไม่อา'จเป็นทพงให้แก่กลุ่มหรือหมู่คณร!นั้นๆ ไค้อย่างเฅ็่มทํ่ คำ ว่า เป็นคนพูดจริง นั้นหมายถึง เป็นผู้ฑมวาจาลัฅย พูดจริงทำจริง เชอถือได้ไว้วางใจได้ ดรงไปดรงมา นูน้ วาจา^ฅยนันฯะรักษาคำพูฅ มคำพูค เป็นเป็นนาย มคำพูดเป็นหลักยฅ แกรเปีดฅามหลักทอคำพูดทพูศไว้แม้ทะเ^ย อย่างอนได้ แด่จะไม่ยอมเ^ยคำพูด กนพูก'จริงมลักษณะเซ่นนั้ จื้งทำให้^ ทั้งหสายและกนทั่วไปยกย่องสรรเสริญ อันว่าคำพูกนั้นเป็นคำกัญทสุกอย่างหนั้งชองกนเรา พระพุทธเจ้าทรง สอนว่ากนเรา'จำค้องถึอสารกันค้วยคำ'จริง คำ แห้ เชํ่อถึอไค้ อันเป็นวจส'จริต 'จำค้องงกเว้นคำเท็่'จ คำ โกหกหลอกลวง คำ หยายกาย คำ คํอเถึยก คำ เพ้อเจ้อ ไร้สาระ อันเป็นวจทุ'จริก เพราะคำเหล่านั้นอกจากไม่ก่อประโยชนแล้วยังก่อทุกฃ ก่อโทษให้แก่ผู้พูกและพู3งค้วย หรืออาจรุนแรงให้ค้องไปรับโทษในภพชาติ ก่อไปค้วย คนพูดจริง รักษาคำพูด ตรงไปดรงมา แสดงว่าเป็นคนรับผิดชอบ เป็นคนทั่ไว้วางใจได้ หากเป็นคนมความรู้ความสามารถควบคู่อยู่ด้วย ย่อม เหมาะสมทั่จะไว้วางใจและได้รับโอกาสให้ทำงาน ไม่ว่าจะให้ทำกิจอันไก ไม่ว่า จะให้[ปติกก่อกิจอันไก ย่อมรับผิกชอบ ทำ กิจนั้นๆ ไค้คำเร็่จสมหมาย ย่อม ไม่ก่อให้เกิกปิญหา เพราะกวามไม่จริงเพราะกวามไม่ตรงกามมา ล่วนคน พูดไม่จริง ไม่มนิลัยรักคำสิ'ดย่ ไม่รักษาคำพูด ย่อมเป็นคนลับปลับ เป็นคน หน้าไหว้หลังหลอก เอาแน่นอนไมได้ พูดจาน่าเชอถือไมได้ไว้วางใจได้ยาก เมึ๋อเป็นด้งนั้ จงมคนห่างเว้นไม่กล้าใช[ม่กล้าไว้วางใจ เมอมอบหมายงาน อันไกให้ทำ ก็่อาจทำให้เกิกกวามเถึยหายหรือเกิกกวามติกฃักบกพร่อง ค้องกาม แโกัฃกันราไปก็่ไค้ www.kalyanamitra.org
i ๔๓อ 0 ธรรบส!ร!ทฟิน! lau ๓ พระข!ทโพรวง ศใ!ไรย์(ทองดี ช.ร.๙) กำ ว่า คนทตังมันอยู่ในส์ล นันหมายถึง คนทมปกติกายวาจาเรยบร้อย คนทซือร'ตยสุจริต เซ่นกนทปรร!พฤติไปเบยคฒยนยูอน ไม่ซ่มเหงรังแกผูอน กนทไม่เอารักเอาเปรยบผู้อน กนทซอร'ฅยจริงใจก่อกู่กรองของกน กนฟ้,ม่พูค โกหกหลอกลวง กนทไม่รามร!เลเทเมาจนไร้สติ กนทปรร:พฤติอย่างน็้เป็นปกติ เร้ยกไค้ว่าเป็นผูสังมั่นอยู่ในถึล หากเป็นผู้ปฏิบัติธรรมหรือเป็นนักบวชชงมถึล เป็นหลักปฏิบัติอยู่แล้ว หากไค้รักษาถึล ปฏิบัติไปกามหลักถึลนั้นอย่าง เกร่งกรัก กื่ชอว่าเป็นผู้ทฅั้งมั่นอยูในถึล คนทมันอยู่ในส์ลมัน ย่อมเป็นคนปรร;พฤติสุจริต ตรงไปตรงมา มความ ซอร'ตย่ซอตรง ไม่คดโกงเป็นทุจริต ไม่เห็่นแก่ผลปรร;โยซนรวนตนโดย มิซอบ โดยไปเบยคเบยนข่มเหงรังแก หรือเอารัดเอาเปรยมผู้อึ๋นซงมฐานร; กำ ลัง แลร;ความรู้ความสามารถด้อยกว่าตวเอง กนทมลักษณร!นิลัยอย่างน นอกจากรูรู้กั้งหลายแลร!กนทั่วไปจร!ยกย่องสรรเสริญว่าเป็นกนก เป็นกนไว[จไค้ เป็นกนน่ากบหาแล้ว หากไครับกวามไว้วางใจ ไครับมอบหมายให้เป็นหัวหน้าหมู่ หัวหน้ากณร! ให้คำ เนินกิจการอันใก ย่อมมพวกพ้องมาซ่วยเหลือให้กวาม สร!กวกให้กวามร่วมมือ จนสามารถคำเนินกิจการนั้นๆให้เป็นไปโคยเรืยบร้อย แลร!ส์าเร็่จสมปรร!สงกํ กรงกันข้าม หากเป็นกนทุกิล ไม่กั้งมั่นอยู่ในกิล ย่อมไม่ซอลักย่ ไว้วางใจ ไค้ยาก ปรร!พฤติแก่ทุจริก เอารักเอาเปรืยบ จร!คก็่เฉพาร!ก่อหน้า ลับหลังก็่จร! เห็่นแก่ตัวเห็่นแก่ปรร!โยชน่ลัวนหัว แสวงหาแก่คำแหน่งหน้าทแลร!การงานทให้ โอกาสแก่กนไครับผลปรร!โยชน่เป็นหลัก ผู้ทุลืลนั้นย่อมไม่อาจทำหมู่คณร;แลร; หน้าทั่ทั่รับผิคชอบให้สง่างามมัลักติศรืได้ แลร;เมึ๋อให้โอกาสได้ทำงานแล้ว ย่อมไม่อาจไว้วางใจได้สนิทใจ ผู้มอบหมายจำด้องเลืยเวลาติดตามสอดส่อง เพอ!เองกันความบกพร่องผิดพลาด เพราร!ฉร!นั้น วิญฌูชนกนรูรู้กั้งหลาย จึงไม่ยกย่องสรรเสริญกนทุกิล ไม่ยอมให้กนทุกิลเข้าใกล้กิจการงานชองกน แลร!ไม่ยอมกบหาสมากมกับกนทฺกิลอย่างสนิทใจ www.kalyanamitra.org
๔ฅ๑ # วิญญบสังสิmnai 1รอง คนทวิญญ ชน สรร!สริญ คำ ว่า คนทปรร;กอบความสงบทางใจ นั้นหมายถึง คนทํ่มจิตฟ้นสมาธิ มจิตมั่นคงแน่วแม่ จิตใจเยือกเย็่นสงบนง กนทปรร:กอบกวามสงบทางใจ เช่นนั้จะเป็นกนไมโอนไหวง่าย ไมโลเลเหลาร:แหลร:ไม่แสคงอาการสร:ทกสร:ท้าน หรอหคหู่ท้อแท้!ท้ปรากฏ กนเช่นนั้ย่อมคำรงคนเป็นหลักของผูอนไค้แน่นอน เป็นทํ่พงของผูอนไค้เค่นขัค เป็นหลักของยู้นำหมู่นำกณร:โคยแท้ หากไคํรับ โอกาสทำหน้าทกิจการงานลันไค ก็่จร:สามารถคำ เนินการใหกจการนั้นส์าเร็่จไค้ คามม่งหมาย เพราร:ฉร:นั้น ผู้ทปรร:กอบกวามสงบทางใจจึงไคํรับการยกย่อง สรรเสริญจากยูรูทงหลายแลร:กนทั่วไป การทจร:ทำใจไท้สงบนํ่งไค้นั้น จำ ค้องtเกฝน อย่างน้อยก็่ค้องปฏิบัติ จัคฅัวเองให้เข้าทเข้ารูปเข้ารอย ทปฏิบัติกันนั้น เรํ่มค้นก็่กือ มโยนิโสมนสิการ ไคร่ครองพิจารณาคนเอง กนรอบข้าง สิงรอบคัว ไท้เห็่นสภาพกวามเป็นจริง กือมกวามแคกค่างกันเป็นธรรมคา ไม่อาจจร:เฃ็่นให้ก้าวทันกนอนหรือไท้เป็นไป อย่างทคนต้องการไค้ทุกกน เมํ่อเห็่นขัคเจนอย่างนั้แล้วก็่ยอมรับกวามจริง อย่างนั้น จิคไจก็่จะปล่อยไค้วางไค้เพราร:เหลือวิลัยทแก้!ข เมอรืเกฝนไค้ปอยเข้า ก็่จะทำไจไท้สงบนํ่งไค้ หรือเรํ่มค้นtlกค้วยการทำกัฅรสวคมนฅ ล่ารวมไจไท้ หยุคไท้นงอยู่กับบทสวคมนต หรือสูงข็้นกือ การปฏิบัติกรรมฐานหรือการ ทำ สมาธิ หลับคาหยุคนํ่งอยู่กับอารมณกรรมฐานทั่เรืยนรู้มาจากกรูอาจารย่ รืเกปอยๆ ทำ ปอยๆ จนจิคหยุคนงไค้ รวมกวามกิครวมอารมโน!ท้นงแน่วแน่ ไค้อย่างนั้กี่ทำไท้เกิคกวามสงบทางไจไค้ คนทั่มความสงบทางใจ ย่อมมสมรรถนะความสามารถภายใน จิตใจ จะเข้มแฃ็่ง อดทน และทนทานต่ออารมถรต่างๆ ได้เ!เนอย่างด หากม สมรรถนะภายนอก คือบัญญาความรู้ความสามารถและมสิลการประพฤติ ปฏิบัติทั่ถูกด้องงดงามประกอบด้วย ก็่จะทำให้ผูนนมสมรรถนะสมบูรรนเต็่มทั่ ทั้งภายในภายนอก จะจดทำดำเนินการสิงใดก็่เรืยบร้อยล่าเร็่จสมประสงค www.kalyanamitra.org
i ๔ฅ๒ .i: sssuaisinfluiiau๓ พระฆHTโพรวง ศใใารย์(ทอง ดี ช.ร.๙) ฅรงกันข้าม แม้จรเมสมทถนะภายนอกคือมปิญญา หากฃาฅสมรรถนะ ภายในคือความสงบใจ ^ม'สมบูรถม้นตัว ทำ ให้ภายในใจวุ่นวายตับสนหรือ วิฅกกังวลโฅยใช่เหตุ เมอเกิฅปีญหาอปสรรฅฃนก็่วุ่นวายตับสน เกิฅความ วิศกกังวลวุ่นวาย จนทำใหกนไม้ไห้นอนไม่หตับก็่มอยู่ กณลักษณะทั้งสิประ:การ กือ ความฟ้นผู้มปีญญา ความฟ้นผู้พูคจริง ความฟ้นผูตงมั่นอยูในสิล และ: ความฟ้นผู้ประ;กอบด้วยความสงบใจ นิ้ จัค เป็นคุณลักษณะ:ส์ากัญของผู้อยู่ร่วมกัน ของผู้เกยวเนองลัมพันธกันทางการ ปกกรอง และ:ของผู้ทำงานร่วมกัน จะ:เป็นเหตุให้อยู่ค้วยกันทำงานด้วยกัน อย่างลันฅิอย่างสงบสุข ปรากจากการเอารัคเอาเปรยม กคขํ่ข่มเหง คูถูก เหยยกหยามกัน ทำ ให้ทุกกนมกวามรู้สิกว่าเป็นญาติพน้องกันทั้งหมก มอะไร ก็่ข่วยเหสิอแปงปีนกัน มปีญหาซักแย้งกันบ้างก็่ข่วยกันแก!ขด้วยเหตุผลโกย ชอบธรรม เมออยู่กันอย่างนิ้ก็่จะสงบสุข ปลอกกัย ไม่หวากระแวงกัน การ บ้องกันกึ๋ใม่จำเป็นด้องม ด้วยเหตุกังน พระอริยเจ้าจึงได้แสกงเป็นกติไว้ส์าหรับ ให้ซาวพุทธและกนทั่วไปได้กระหนักและนำไปปฏิบัติ ชงเป็นโซกคของกนร่นหลัง ทมแนวทางปฏิบัติอันท่านแสกงไว้ และไครับรู้แนวทางนั้นส์าหรับปฏิบัติเพออยู่ ร่วมกันอย่างสุขลันติ ก็่อยู่ทั้กนร่นหลังจะเห็่นกวามส์ากัญยอมรับ และปฏิบัติ ตามอย่างกรบถ้วน หากทำไคกจะทำไหซวิฅ ทำ ใหลังกมอยู่กันสุขลันติได้จริง พระเกซพระคุณพระธรรมสิทธิมงกล เป็นพระมหาเถระทั้รับรู้และได้ปฏิบัติ กามข้อธรรมข้างด้นนั้นกรบถ้วนทั้งสิประการ ซวิกของท่านจึงสง่างาม จึงกื้งคูก ศรัทธา เป็นทฅั้งแห่งศรัทธา และเป็นปูซนยบุกกลไม่เสือมกลาย ทั้งเป็นตัวอย่าง แก่ติษยาบุติษย่ แก่อบุซนร่นหลังได้อย่างแยบยล อันจักเกิกผลเป็นลันติสุข ทั้ปรารถนาอย่างแน่นอน การปฏิบัติเข่นนั้ถอว่าเป็นความกซงจำด้องปฏิบัติกัน ก่อเนํ่อง หาไม่แล้วก็่จะเป็นข่องทางกวามซั่วร้ายไค[อกาสเข้ามาบั่นรอนชวิกอัน มก่าให้หมกสินไปโกยเปล่าประโยซน่ ในกอนท้ายแห่งเทศนานั้ ขอยกกำสอน www.kalyanamitra.org
๔๓๓ 5 วิญญนส์งสิฅทai 1รองทนทวิญญ'ชนสรร!สรญ ของพระเคชพร^คุณพรร:ธรรมสิทธิมงคลทท่านแสคงไว้มาเป็นหลักส์าหรับ ปฏิบัคิ ชงถือว่าเป็นสิริมงคลหากไค้เข้าใจและปฏิบัติคาม คำ สอนนั้นว่า \"ความส์าคญของชวิตอยู่ทเราประกอบความดไป เรอยๆ ไม่หยุดยั้ง เป็นการสะกคยั้นความชั่วร้ายท คอยทำลายซวิตอนมค่าให้หมดสินไป หยุดประกอบ ความดเมอไร ความชั่วได้โอกาสเมอนน\" คังนั้ อิมินา กตปุฌุเฌน ค้วยอำนาจบุญกุศลทักขิณานุปทานกิจ ทํ่คณะสงฆ หนไค้ อันมพระเคซพระคุณพระพรหมจริยาจารย เจ้าคณะใหญ่หนใค้ เป็นประธาน ไคจ'คบำเพ็่ญให้เป็นไปเพออุทิศถวายแค่พระเคซพระคุณพระธรรมสิทธิมงคล ณ โอกาสนั้ ขอจงเป็นบุญนิธิมผลลัมฤทธิ เป็นไปเพํ่ออิฏฐมบุญผลทน่าปรารถนา พอใจ แค่พระเคชพระคุณพระธรรมสิทธิมงคล โคยฐานะนิยมทุกประการ รับประทาน แสคงพระธรรมเทศนาใน วิญฌูปลังสิฅกถา ยุติลงค้วยเวลา ค้วยประการฉะนั้ ฯ เอวํ ก็่มค้วยประการฉะนั้ www.kalyanamitra.org
ชาเนยย เปสเน ภจฺจํ พนฺธวํปิ ภยาคเม พฺยฟ้เน จ ตถา มิตฺตํ ทารฌฺจ วิภวกฺขเย ฯ ธรรมนติ. จะรู้ว่าเป็นบ่าวค กี่ในยามรับใช้ จะ:รู้ว่าเป็นพวกพ้องค กี่ในยามภัยมาถึง จะ;รู้ว่าเป็นเพอนค กี่ในยามวิบัติ จะ!รู้ว่าเป็นเมยค กี่ในยามสันเนอประเคาภัว. www.kalyanamitra.org
oo มรณกถา เรื่อง ความตาย ส์พฺเพ สตฺตา ม?สฺสนฺติ มรณนฺตํ หิ ซวิตํ ยถาฑมุมํ คมิสฺสนฺติ ปุฌฺฌปาปผลูปคาติ ฯ สํ.ส. ©๕/๔00 บคน จักไค้แสคงพร::ธรรมเทศนา ฉลองกุศลศรัทธาปร^คับปิญญๆบารม อนรูปแก่กุศลบุญราสืทักษิณานุประทานกิจ ทคณะสงร็]คณะกิษยวัค- มหาพฤฒาราม ซงมท่านเค้าคุณพระราซวซิราภรณ เค้าอาวาสเป็นประธาน คลอคถงคณะกิษย คณะญาติมิครทัมพันธซน ไคจัคบำเพ็่ญให้เป็นไป เนองในพิธ นำ เพ็่ญกุศลปิญญาสมวาร อุทิศถวายแค่พระราซปวราจารย {ณรงค่ จิฅฺฅโสภโณ) อคฅยู้ช่วยเค้าอาวาสวัคมหาพฤฒาราม อคฅทปรกษาเค้าคณะภาค ๑๑ และ อคครองอธิการบคมหาวิทยาล'ย มหาจุพัาลงกรณราชวิทยาลัย นับเป็นความ กรุณาอย่างยํ่งททุกท่านมค่อท่านเค้าคุณผู้มรณภาพ ชงเป็นแบบอย่างอันงคงาม ทพึงปฐนัติคามไค้อย่างสมบูรณส์าหรับปิจฉิมาซนคาซน พระมหาโพเวงคาจารย (ทองค) วัคราชโอรฟ้าราม กรุงเทพมหานคร แฟ้คง ในการบำเพี่ญกุศลปิญญาฟ้มวาร พระราชปวราจารย (ณรงก จิคฺฅโฟ้กโณ) ณ วัคมหาพฤฒาราม เขตบางรัก กรุงเทพมหานคร วันศฺกร ทํ่ {ฑ มนาคม พ.ค. 1๓๕๖0 เวฟ้า 0๙.๓0 น. www.kalyanamitra.org
i ๔ฅ๖ sssuaisinfiuiiau๓ พระบHใโพริวงศาใไรย์(ทอง ดี ช.ธ.๙) ท่านเจ้าคุณพรร;ราชปวราจารย ทส่วนใหญ่รูจักแลร:เรยกกันทั่วไปว่า ท่านเจ้าคุณณรงค เป็นพรร;เถรร:ผู้ทรงกุณอันปรร;เสริฐทั้งทํ่เป็นคุณธรรมและ: คุณกวามรู้ ท่านเป็นพรร:เปรยญธรรม ๘ ปรร:โยก เป็นพรร:นักวิชาการ เป็นกร- อาจารยแลร:เป็นนักบริหารอยูในมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย มหาวิทยาลัยสงฆ ชองไทยมาโคยฅลอก จนไพ'บยกย่องให้คำรงตำแหน่งรองอธิการบค มลูกสืษย่ มากมายทไคํรับการปรร:สาธน่วิชากวามรู้จากท่านเจ้าคุณ ส่วนหนงทยังบวชอยู่ ก็่ไค้เป็นกำลังส์ากัญชองพรร:ศาสนา เป็นพรร:ลังฆาธิการรร:กับปกกรอง เป็น กรูอาจารย่สอนอยู่ในลังฆมณฑลแลร:ในมหาวิทยาลัยสงฆ ส่วนหนงทสิกหา ลาเพศไปเป็นกฤหัสถ ก็่โปปรร:กอบอาชพคามถนัคแห่งตน เป็นบุกกลทเป็นกำลัง ชองราชการแลร:ชองลังกม ทํ่น่ายกย่องกือท่านเจ้าคุณไม่ทั่งการสืกษา ไค้ยก รร:กับกัวเองให้สูงชนแม้จร:มอายุมากแล้ว โคยสืกษาฅ่อจนจบปริญญาเอก ซึ๋งห่างจากคอนจบปริญญาโทถึง ๒0 ป็ จากนั้นก็่ทุ่มเทให้กับงานการถึกษา ในมหาวิทยาลัยสงฆ แลร:งานพรร:ศาสนาในห้องทั่จนสุคกวามสามารถ ท่านเจ้าคุณพรร:ราชปวราจารย่ เป็นนักทำงาน เป็นนักกิค เป็นนักสอนทั่ม คุณก่าฅ่อพรร:ศาสนา ต่อกณร:สงฆ มผลงานปรากฏเป็นรูปธรรมมากมาย เป็นทั่ ยอมรับกันทั่วไป ในคอนสูคห้ายแห่งชวิค ไคํรับพรร:ราชทานเลอนสมณกักคิ เป็นเกยรฅิปรร:วัติแลร:เป็นอบุสรณส่วนกัว แต่ท่านเจ้าคุณแม้จร:มคุณกวามคอย่างไร ลังชารร่างกายย่อมเป็นไปคาม ปกติธรรมคา ในช่วงสุคห้ายแห่งซวิค ท่านมโรกปรร:จำกัว ค้องรักษาพยาบาล มาโคยคลอค ในทั่สูคก็่ลร:ลังชารไปค้วยอายุ ๗๑ ปี เป็นทั่อาลัยถึงแก่พรร:สงฆ แก่ติษย่ แลร:แก่ญาติมิครทั่วหน้า ซงก็่เป็นไปคามหลักกวามจริงทว่า กนเราทุกกนไม่ว่าจร:เป็นบรรพชิค หรือกฤหัสถ จร:เป็นบุกกลส่ากัญหรือมกวามหมายต่อพรร:ศาสนา ต่อวัค หรือ ต่อกรอบกรัว ต่อปรร:เทศชาติอย่างไร ต่างล้วนก็่เป็นมบุษย่กนหนง ซึงเมือ www.kalyanamitra.org
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147
- 148
- 149
- 150
- 151
- 152
- 153
- 154
- 155
- 156
- 157
- 158
- 159
- 160
- 161
- 162
- 163
- 164
- 165
- 166
- 167
- 168
- 169
- 170
- 171
- 172
- 173
- 174
- 175
- 176
- 177
- 178
- 179
- 180
- 181
- 182
- 183
- 184
- 185
- 186
- 187
- 188
- 189
- 190
- 191
- 192
- 193
- 194
- 195
- 196
- 197
- 198
- 199
- 200
- 201
- 202
- 203
- 204
- 205
- 206
- 207
- 208
- 209
- 210
- 211
- 212
- 213
- 214
- 215
- 216
- 217
- 218
- 219
- 220
- 221
- 222
- 223
- 224
- 225
- 226
- 227
- 228
- 229
- 230
- 231
- 232
- 233
- 234
- 235
- 236
- 237
- 238
- 239
- 240
- 241
- 242
- 243
- 244
- 245
- 246
- 247
- 248
- 249
- 250
- 251
- 252
- 253
- 254
- 255
- 256
- 257
- 258
- 259
- 260
- 261
- 262
- 263
- 264
- 265
- 266
- 267
- 268
- 269
- 270
- 271
- 272
- 273
- 274
- 275
- 276
- 277
- 278
- 279
- 280
- 281
- 282
- 283
- 284
- 285
- 286
- 287
- 288
- 289
- 290
- 291
- 292
- 293
- 294
- 295
- 296
- 297
- 298
- 299
- 300
- 301
- 302
- 303
- 304
- 305
- 306
- 307
- 308
- 309
- 310
- 311
- 312
- 313
- 314
- 315
- 316
- 317
- 318
- 319
- 320
- 321
- 322
- 323
- 324
- 325
- 326
- 327
- 328
- 329
- 330
- 331
- 332
- 333
- 334
- 335
- 336
- 337
- 338
- 339
- 340
- 341
- 342
- 343
- 344
- 345
- 346
- 347
- 348
- 349
- 350
- 351
- 352
- 353
- 354
- 355
- 356
- 357
- 358
- 359
- 360
- 361
- 362
- 363
- 364
- 365
- 366
- 367
- 368
- 369
- 370
- 371
- 372
- 373
- 374
- 375
- 376
- 377
- 378
- 379
- 380
- 381
- 382
- 383
- 384
- 385
- 386
- 387
- 388
- 389
- 390
- 391
- 392
- 393
- 394
- 395
- 396
- 397
- 398
- 399
- 400
- 401
- 402
- 403
- 404
- 405
- 406
- 407
- 408
- 409
- 410
- 411
- 412
- 413
- 414
- 415
- 416
- 417
- 418
- 419
- 420
- 421
- 422
- 423
- 424
- 425
- 426
- 427
- 428
- 429
- 430
- 431
- 432
- 433
- 434
- 435
- 436
- 437
- 438
- 439
- 440
- 441
- 442
- 443
- 444
- 445
- 446
- 447
- 448
- 449
- 450
- 451
- 452
- 453
- 454
- 455
- 456
- 457
- 458
- 459
- 460
- 461
- 462
- 463
- 464
- 465
- 466
- 467
- 468
- 469
- 470
- 471
- 472
- 473
- 474
- 475
- 476
- 477
- 478
- 479
- 480
- 481
- 482
- 483
- 484
- 485
- 486
- 487
- 488
- 489
- 490
- 491
- 492
- 493
- 494
- 495
- 496
- 497
- 498
- 499
- 500
- 501
- 502
- 503
- 504
- 505
- 506
- 507
- 508
- 509
- 510
- 511
- 512
- 1 - 50
- 51 - 100
- 101 - 150
- 151 - 200
- 201 - 250
- 251 - 300
- 301 - 350
- 351 - 400
- 401 - 450
- 451 - 500
- 501 - 512
Pages: