Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore ธรรมสารเทศนา

Description: ธรรมสารเทศนา

Search

Read the Text Version

ob จาคสัม'ปทากถา เรื่อง ความเสียสละ อิธ คหปติ อริยส์าวโก วิคตมลมจฺเฉเรน เจตสา อคารํ อซฺฌๆวสติ มุตฺตจาโค ปยตปาณิ โวสฺสคฺครโต ยาจโยโค ทานส์วิภาครโต, อยํ วุจฺจติ คหปติ จาคสมฺปทาติ ฯ องฺ.จตุกก. ๒0/๖0 บคนจักไค้แฟ้คงพรร:ธรรมเทศนาในจาคร'มปทากถาอนุโมทนาบุญทท่าน ทั้งหลายไค้มาร่วมบำเพ็่ญให้เป็นไปค้วยการไถ่ซวิฅโกกรร:รอให้รอคพ้น จากกวามคายเฉพา: การไถ่ซวิฅโกกรร:รออย่างเซ่นทจัคในวันนจัคเป็นกิจกรรมพิเศษทหาทำ ไค้ยาก จัคว่าเป็นบุญพิเศษไปค้วย วัคราฟ้อรสารามนั้!คมกิจกรรมพิเศษน็้เป็น ปรร:จำ นับแฅ่ป็ พ.ศ. 1£ฃ๕๒<1 เป็นค้นมา ป็ทั้เป็นป็ท ๓๗ แล้ว กรั้งนเป็น ครั้งทั้ ๑๓0 นับแค่เรั้มจัคมาไคไถ่ซวิฅโกกรร:รอไปแล้วจำนวน ๓๘,๓๓<£ ซ่วิฅ ในกรั้งนมโกกรร:รอทไ^บการไถ่ซั๋วิฅจำนวน ๓00 ซวิฅ พระมหาโพเวงศา'จารย (ทองก) วักราชโอรฟ้าราม กรุงเทพมหานกร แฟ้กงในงานไถ่ซวิกโกกระบือ ณ วักราชโอรฟ้าราม กรุงเทพฯ วันท ๕ ธันวากม พ.ก. ๒๕๖0 เวลา 0๙.00 น. www.kalyanamitra.org

i ๔๘๘ ? sssuaisinfluiiau๓ พระ ช!ทโพรวง ศใใารย์(ทอง ดี ช.ร.๙) การไถ่ซวิฅโกกระปึอนิ้ เป็นกวามริเรั๋มฃองอาจารยกรธๆ เนยมฃำ นายก- กมากมรษยหลวงพ่อวัคปากนํ้า โคยยคหลักว่าเป็นการกร้างบารมทํ่ถ่ากัญกอ ซวิตทานบารม เพราะเป็นการใMวิฅแกโกกระบือ และ^หกกือท่านทั้งหลาย ทเป็นเจ้าภาพทั้งทั้บริจากเป็นรายกัวและผู้บริจากร่วมกมทบกามกร้ท่ธา การให้ เช่นนชือว่าให้ชวิตแก่ตน เพราะเงินทบริจากเป็นก่าไถ่ชวิกโกกระบือนั้นเป็น เกรองเลยงซวิกของกนและกรอบกรัวเป็นหลัก เมอกนบริจากไปก็่เท่ากับว่า ไค้เสิยกละปิจจัยเกรองยังชพฃองกน ยังผลอานิกงลัให้กนไ^บกวามมชวิก ยืนยาวก่อไปเหมือนโกกระบือทกนไค้!ถซวิกใหไปค้วย และการไถ่ชวิคโกกระบืออย่างททำกันอยู่นั้ถือว่าทำไค้ยาก เพราะค้อง อากัยกวามพร้อมเพริยงของกนหมู่มาก กนจำนวนน้อยทำไมไค้แน่นอน อย่าง ในงานนั้ก็่ไค้อากัยกณะกรรมการกมากมสืษย่หลวงพ่อวัคปากนั้าเป็นหลัก ร่วม ค้วยกณะกัษยานรษย่ไนพระเคขพระกณหลวงพ่อพระมงกลเทพมุน หลวงพ่อ วัคปากนั้า และท่านผู้เป็นเจ้าภาพทุกท่านพร้อมใจกันทำ ในฟ้ายกถานทํ่ ก็่ใค้ อากัยพระภิกษุกามเณรวัคราขโอรการาม และกณะกรู กักเริยน พกักงานโรงเริยน วัคราชโอรก ไค้ช่วยกันวัคทำ เมอรวมกำลังกันมากเช่นนั้ก็่ทำใหภิจกรรมนั้ผ่านไป ค้วยกวามเริยบร้อยคามประกงกทุกกรั้ง กำ หรับวัตถุประกงค้ของการไถซวิฅโกกระบือในกรั้งนั้นั้น นอกจากเพอ ให้ผู้มืจิฅศรัทธามืกำลังไค้กร้างบญพิเศษอันเป็นขวิฅทานบารมื เป็นการก่ออายุ แถ่กัวเองและโกกระบืออันเป็นอานิกงกํโคยฅรงแล้ว ยังปรารภวัคฃนเพออุทิศ ถวายเป็นพระราขถุศลแก่พระบาทกมเค็่จพระปรมินทรมหาภูมิพลอคุลยเคข บรมนาถบพิตร ผู้ทรงพระคุณอันประเกริฐ ผู้เกค็่จกํกวรรกาลัยแล้ว โคยปรารภ วันท ๕ ธันวากมซงเป็นเกค็่จพระราขกมภพเป็นหลัก ชงในทุกวันท ๕ รนวากม เช่นนั้ ไค้วัคโกรงการไถ่ซวิตโกกระบือถวายเป็นพระราขกุศล เฉลิมพระชนม- พรรษามาทุกป็ ก็่ค้วยนั้าใจของทุกท่านทมืกวามอาลัยและรำลกถึงพระมหา- www.kalyanamitra.org

๔๘๙ TinauUmnm ' 1รองควาน!สียสละ กรุณาธิกุณอันยั๋งใหญ่ททรงบำเพ็่ญฅ่อเนืองมานานถึง C^O llเศษ เป็นการ แศคงนำโจกอัญณูกตเวทิตาธรรมอันส์าศัญยิง การไถ่ชวิตโคกรรเบอ ถือว่าเป็นการให้ทิถ่าคญ คือเป็นการให้อิสรรเ ให้ความปลอดภยแกชวิต เป็นการยดอายุให้ยืนยาวต่อไป ทำ ให้ยงมชวิต ดำ รงตนอยูได้ตลอดไปตราบซวชวิตปกติของตน เป็นการให้ทิค่อนข้างทำ ไค้ยาก ค้องขวนขวาย ค้องจัคการมากมาย มิใช่อักแต่ว่ามเงินเท่านันก็่ทำไค้ บริจากไค้ หาเป็นเช่นนั้นไม่ ททุกกนทำไค้บริจากไค้เช่นนืเพราะมจิฅใจทิงคงาม เฅ็่มเป็ยมค้วยเมตตากรุณาเป็นพนฐาน และซอว่าไค้เถึยศละตามแบบของ พระเวศอันตร พระโพธิอัตว่ผูยงค้วยทานบารม และตามแบบของพระบาทศมเคื่จ พระเจ้าอยู'หัว รัชกาลทํ่ พระองคนัน ค้วยว่าพระองกทรงบำเพ็่ญพระบารม ค้วยการให้ค้วยการเถึยศละเพอยูอนมาโคยตลอคพระ!ซนมายุ โกรงการต่างๆ ทพระราซคำริฃนและทรงคำ เนินการให้เป็นรูปธรรม การทรงฅิคตามผลงาน และการทรงแนะนำให้ดูแลรักษาศานต่อ ล้วนเป็นไปเนืองค้วยกวามเถึยศละศุข ถ่วนพระองก ทรงทุ่มเทพระวรกายอย่างต่อเนั้อง จนเกิคผลงานเป็นรูปธรรม และเป็นประโยซนํมากมายมหาศาล เราท่านนั้งหลายไค้เห็่นและไคํอัมผัศแล้ว ก็่เกิตกวามรู้ถึกซาบซง จึงไค้พากันเถึยศละตามพระองกตามเวลาโอกาศทิจะ ทำ ไค้ อย่างเช่นการเถึยศละไถ่ซวิตโกกระบือวนนั้ การเถึยศละเช่นนั้เรยกว่า จาคอัมปทา จัคเป็นแนวทางการปฏิบัติและ เป็นวิถึคำ เนินซวิตของซาวพุทธทพระพทธองกทรงแศคงไว้ โคยทรงแศคงว่า หากปฏิบัติตามแล้วย่อมไค้อานิศงส์ทถึากัญ ย่อมไคร่งทปรารถนาค้องการตาม ทประศงกั และทรงแศคงว่าผู้อยู่กรองเรือนทปรารถนาค้องการอานิศงส์น จำ ค้องปฏิบัติให้เป็นไปตามหลักนั้จึงจะถึาเร็่จตามปรารถนา กังปรากฏในพระบาล ปิตตกัมมศูตร จตุกกนิบาต อังคุตตรนิกาย ทอัญเชิญมาเป็นนิกเขปบทเทศนา เบองค้นว่า อิธ คหปติ อริยสาวโก เป็นอาทิ ซง^ค้แปลเป็นกวามไทยไว้ว่า \"บ'น www.kalyanamitra.org

k ๔๙๐ # sssuaisiiuim lau ๓ พระฆHใโพรวง ศไใไรย์(ทอง ดี ช.ร.๙) \"ดูก่อนคฤหบด อริยสาวกในรรรมวินัยน มใจ ปราศจากมลทินคือความดรร;ทน มจาคร;อันปล่อยแล้ว มฟ้ามืออันชุ่ม ยินดึในการสลร; ฟ้นผู้ควรแก่การขอ ยินคืในการจำแนกทาน อยู่ครอบครองเรือน นเรืยกว่า จาคอัมปทา\" ดามพรร:บาลข้างฅ้นน็้ สมเคื่จพรร;ยูมพร:;ภากเจ้า ทรงแสคงลักษณร;นิอัย หรือปกติวิลัยของผู้เป็นอริยสาวกทอยู่กรองเรือน มกรอบกรัว มืลัมพันธซน อันเป็นทิรักรอบกาย ว่าเป็นผู้มืจิฅโจทปราศจากกวามฅรร;หนํ่เคืยคายอันเป็น มลทินซวิฅ มกวามเคืยสลร; มืฝ่ามืออันชุ่มค้วยการหยิบฉวยฐ่งของแบ่งปิน มิฃาคสายจนเหงือออกทมือหรือต้องล้างมือบ่อยกรั้ง ยินคืในการเคืยสลร;นั้น โคยไม่เคืยคาย ไม่ซร;งักงันกลางกัน ใบหน้ายมแย้มอยู่เสมอทำให้มืกนกล้าเข้า มาขอ เพราร;เมอขอแล้วย่อมไต้คามต้องการ มืจิฅใจฟ้.ฝ่ฅ่อการจำแนกแจกจ่าย ร่งของอันฅนมือยู่แก่ผูอน นเ!เนอักษณร;นิอัยปรร;จำตวฃองผู้เป็นอริยสาวก ชงพรร;พุทธองคื ทรงยกขนมาแสดงให้เห็่น เพึ๋อเป็นแนวทางล่าหรับดำนินชวิดในหมู่มนุษย ทิอยู่ร่วมกน เมึ๋อทุกคนมือักษณร;นิอัยเช่นนั้ก็่ทำให้เก็้อกูลกน ช่วยเหคือกน โดยไม่เห็่นแก่อัว ไม่เห็่นแก่คนรอบกายจนไม่อาจช่วยเหคือคนอนแม้จร; เดือดร้อนล่าบากขดสนอย่างไร ชงแนวทางเช่นนั้ผู้เป็นอริยสาวกทั้งหลาย ได้ปฏินัติตามกนมาทั้งแต่ครั้งพุทธกาลจนถงปีจจุบน กำ ว่า จาคอัมปทา นั้นมืกวามหมายว่า ความถงพร้อมด้วยการเคืยสลร; หรือหมายถึง จาคสมนัติคือสมบติทเกิดจากการเคืยสลร; ล่วนใหญ่มักจร;เรืยก ลันๆ ว่า จาคร; ชงหมายถึง การสลร; การให้ การบริจาค การเคืยสลร;บริจาค จร;กล่าวต้วยกำไค ก็่อยูในกวามหมายของจากร;ไต้ทุกกำ อย่างเช่นทพูดโ(นว่า สอะวัศถุ^งของ สถ:;อวัยว:: สละชวิฅ สละเวลา สละความสุข กาTสละอย่างน www.kalyanamitra.org

๔๙© ฿ iinauiJninai 1รอง ควใชเสียสละ หมายถึงจากะทั้งร้น และการสละ:อย่างนแหละทสมเค็่'จพรร;ร'มมาร'มพุทธเจ้า ตรัสว่าเป็นลักษณะนิรยเป็นปกติของอริยสาวกผู้กรองเรือน เมอทำไค้ปฏิบัติ ไค้ย่อมไค้อานิสงส์ คือไครับร่งทํ่ตนปรารถนาไค้อย่างแน่นอน อนสิงทคนเราทั่วไปปรารถนานั้น พรร;พุทธองคทรงแสดงไว้ว่าม <i ประ!การ คือ ปรารถนาว่า ขอใMกก({มร'ฅิจงเกิศขนแก่เราโกยรรรม ประการทนง ปรารถนาว่า เมอเราไค[กกมรศิโกยรรรมแล้ว ฃอยnจงเ^องฟูแก'เรา พร้อมก้วยญาติและมิศรสหาย ประการหนง ปรารถนาว่า เมอเฑไคมิ!กลมรติแล้ว ไศ้ยสพร้อมศ้วยญาติและมิครสหายแล้ว ขอให้เราจงเปีนอยู่นาน จงรักษาอายุ ไหยั่งยืน ประการหนง ปรารถนาว่า เมอไศโกกสมรติ ไศ้ยส และไศ้เปีนอยู่นาน รักษาอายุไกยั่งยืนแล้ว เมอคายไป ขอให้เราจงเข้าถึงสุกติโลกสวรรก ประการหนง กล่าวโคยสรุป ลังทกนเราปรารถนาค้องการ <i ประการนั้นก็่คือ ขอให้ มโภคสมบัติทรัพยสินเงินทองจ้บจ่ายใช้สอยพอเพยง ไม่อดคดขาดแคลน ๑ ขอให้มยศ มตำแหน่ง มหน้าทการงาน เจริญรุ่งเรือง ก้าวหน้า ไม่ตกอบ ช้ดช้องประการใด ๑ ขอให้มอายุยืน มสุขภาพร่างกายแฃ็่งแรงตำรงอยู่ ได้นาน ๑ หลังจากสินขวิดแล้วขอให้!ด้เกิดในเทวโลก ไม่ตกนรก ไม่เช้าถง อบายภูมิ ๑ พระพุทธองกตรัสว่าความปรารถนาค้องการ <1 ประการนั้ย่อม ล่าเร็่จไค้ค้วยจากลัมปทา คือไค้เลัยสละ ไค้บริจาก ไค้1ห้อย่างพร้อมมูล ในทางปฏิบัติจาคลัมปทานั้นย่อมทำได้ก็่ด้วยการสละประการต่างๆ เช่น สละสิงของ สละอว้ยวะ สละขวิด สละความสุข สละเวลา สละ ของ คือไหลังของ ไหปีจจัยลั แก่ยูอน หวังไห้ผูอนพ้นกวามเคือคร้อน หรือพ้นภัยต่างๆ เช่น สละอาหาร สละยารักษาโรก สละเลัอผ้าบรรเทาทุกฃ สละเงินทองไหไปไซ้จ่าย เป็นค้น www.kalyanamitra.org

i ๔๙๒ 0 sssuaismnuimu๓ พระ มHาใพรวง ศไใใรย์(ทอง ดี ช.ร.๙) ส์ลร{อวยวร? ก็่กือสละ:อวัยวร:บางอย่างเพอช่วยเหลือผูอน เช่น สละ:เลือด สละ:ได เป็นด้น สละ;ชวิต ก็่กอยอมเลืยงภัยช่วยเหลือกนอํ่นโดยเอาซวิฅเข้าแลก ทุ่ม สุดตัวเพึ๋อ่ให้กนอนรอด'จากภัยพิบัติ เช่น นักผจญเพลิง ทหารกล้าในสมรภูมิ เป็นด้น สละ;ความสุข ก็่กือยอมทิ้งกวามสุฃทํ่ตัวพิงได้พิงมไปช่วยเหลือเกอภูล ยูอน โดยทิ้ตัวเองด้องเดือดร้อนแทน เช่น ผู้เป็นอาสาสนักร เป็นจิตอาสา เป็นแพทยอาสา เป็นด้น สละ;เวลา ก็่กอยอมเลืยเวลาทิ้เป็นประ;โยชนัของตัวเองไปช่วยเหลือ^น ไปทำแทนผู้อํ่น หรือทำงานทิ้เป็นประ:โยซนัแก่ยูอน เช่น ไปร่วมงาน ไปแสดง กวามเห็่นอกเห็่นใจ เป็นด้น กาTสละรูปแบบฝางๆ เหล่าน หากทำไค้สละไค้ ถือว่าเปีนบุญ เปีนไป ฅามทพุทธองค้ทรงแสดง มอานิสงล่ฅามกรณทึ๋สละ คือไค้ทั้งมบุษยสมบัติ และสวรรคสมบัติ ชึ่งถือว่าเปีนจาคบัมปทา เปีนความเคืยสละในระดับพนฐาน ทสามารถทำไค้ไม่ยาก ยงมการสละ;ทิ้สูงข็้นไปอกซั้นหนง เป็นไปเพอให้ใต้นิพพานสมบติกน เลยทเคยว การสละ;ทิ้ว่านั้นคือ การสละ;กิเลส ก็่คือสละ;ความโลภ ความโกรธ ความหลง ทิ้เกิคฃ็้นอยู่เป็นประ;จำในชวิตของคนเรา สละ;กิเลส ก็่ดือ การพยายามเลิก พยายามละ;การกระ;ทำความประ;พฤติ ทิ้เป็นไปตามอำนาจกิเลส ดือ เมอมกวามโลก อยากได้ อยากม อยากเป็น กี่ ละ:กวามอยากเช่นนั้นลง เมอมกวามโกรธเป็นนิร'ย กี่พยายามลดกวามโกรธลง เมํ่อมกวามหลง กวามงมงาย ไมไข้สติกวบคุม ไม่ใซปิญญาพิจารณา กี่พยายาม ติด พยายามฅริฅรองหาเหคุผลข้อเท็่จจริง ไม่หลงผิดติดผิดดามใจตัวเอง กี่ละ: www.kalyanamitra.org

๔๙๓ ๆททสับช!ททท! ใรองภวไบ!สียสar กวามหลงเช่นนั้นลง เมอบรรเทาความโลภ ความโกรธ ความหลงลงไค้บ้าง แบ้จะยังไม่หมค และไมกงกับไ^อว่าสละกิเลส ก็่ทำ ไหกิเลสเบาบาง ทุกฃโทษ ก็่เบาลงฅาม สละกิเลสไดIนระดบนั้แม้จะยังมชวิตอยู่ แม้จะยังไม่ถงพระ- นิพพานก็่ทำให้คนเราอยู่สุขสงบ ไม่วุ่นวาย มสุขภาพกายสุขภาพจิตทดแจ่มใส ไม่วิตกกังวลอะไรมาก หากสามารถสละกิเลสได้หมดสิน ไม่มเซึอเยึอใยอยู่ ก็่เบ็่เนอนได้บรรลุถงพระนิพพานแล้ว นั่นเฟ้นผลเบ็่เนอานิสงส์สูงสุดของ จาคล้มปทาโดยแห้ แด่จาคล้มปทา การสละทั้งสองส่วนคือส่วนทเป็นโลกิยะ ยันทำใหไค้ มนุษยสมยัฅิและสวรรคสมบัติ และส่วนทเป็นโลกคระ ยันทำให้[ค้นิพพาน- สมบัตินั้น จำ ค้องอากัยการสละทั้ส์ากัญทสุคประการหนั้ง ชงหากไม่มการ สละเช่นนั้แล้ว ก็่ไม่อาจสละอะไรไค้มาก การสละประการนั้นก็่คือ สละความ เห็่นแก่กัว การสละความเห็่นแก่ตวนั้จดว่าล้าคญทั้สุดเฟ้นเบึองด้น เพราะเมือ สละความเห็่นแก่ตวเฟ้นเบองด้นได้แล้ว ก็่สามารถสละอย่างอนได้โดย ไม่ยาก แม้การสละกิเลสคือความโลภ ความโกรธ ความหลงได้เด็่ดขาด หรือการทำให้กิเลสเหล่านั้นเบาบางลง ก็่สามารถทำได้เข้าถงได้เมอสละ ความเห็่นก่ตวแล้วเช่นกัน ความเห็่นแก่ตว ก็่คือความรู้กิกยึคถือกัวเองเป็นหลัก จะทำอะไรก็่ม่ง ให้ฅวเองไค้ประโยซนเป็นหลัก ขอให้คัวเองไค้ให้คัวเองมื ให้คัวเองเป็นเท่าบัน เป็นพอใจ คัวค้องการไค้ ค้องการมื ค้องการเป็นอะไร ก็่ค้องไค้ ค้องม ค้อง เป็นอย่างนั้น หากคัวเองไม่มืโอกาสไค้ ไม่มืโอกาสม ไม่มโอกาสเป็น ก็่จะ ไม่สนใจไม่ทำ เฉยเคืยหรือหลกเลยงเคืย คังนั้เป็นค้น ลักษณะความเห็่นแก่คัว เช่นนั้ ภาษาพระเรืยกว่า อดตานุทิฏฐ หรือ ล้กกายทิฏฐ คือความยึคมั่น ถือมั่นในคัวคน ในความเป็นคัวคน ยึคมั่นถือมั่นในเบญจฃันธคือ รูป เวทนา ลัญญา ลังขาร วิญญาณ โคยความเป็นคนหรือเป็นของคน www.kalyanamitra.org

i ๔๙๔ รรรบส1ร1ทศน1 lau ๓ พระมผใโพธิวง ศใใารบ์(ทองดี น.8.๙) อัฅฅานุทิฏฐนแหละ:ททำให้กนเราเป็นกนเห็่นแก่ฅัว ให้กวามสำกัญแก่ฅัว ปรนเปรอกัว โคยไม่ศนใจว่ากนอํ่น'จะ!เป็นอย่างไร ทำ ใใ^จากะ;ช่วยเหลือกนอน ไมไค้ทำให้มกวามคระ!หนเลืยคาย ไม่กิคทจะให้อะ!ไรแกใกร กนเห็่นแก่คัวจึงให้ อะ!ไรกนอืน ช่วยเหลือกนอน หรอเป็นหลักให้แก่กนอนไค้ยาก เท่ากับว่ากน เห็่นแก่คัวนันสละ!วัตถุสิงฃองก็่ยากทจะ!สละ!ไค้ สละ!อวัยวะ! สละ!ซวิฅยํ่งยาก ขนไป โคยทสุคแม้สละ!เวลาเพอกนอนก็่ยังทำให้ยาก ไม่จำค้องกล่าวถึงการ สละ!กิเลส สละ!กวามโลภ สละ!กวามโกรธ และ!สละ!กวามหลงเลย แม้จะ!สละ! กิเลสโคยทำให้เบาบางก็่ยากเป็นปกติอยู่แล้ว เพราะ!ฉะ!นั้น ท่านจึงสอนให้สละ!กวามเห็่นแก่คัวให้[ค้เป็นเบองค้นก่อน โคยสอนว่าให้รูเห็่นคามกวามเป็นจริง ไม่ยคมั่นถึอมั่นในเบญจขันธ รู้เห็่นว่า เบญจขันธนั้นมิใช่คัวคน ไม่มคัวคน บังกับบัญชาไมไค้ค้วยประ!การทั้งปวง ลักแค่เป็นธาตุทเปลํ่ยนแปลงไปคลอคเวลา รู้เห็่นไค้อย่างนั้อย่างขัคแจ้ง ก็่จะ! ถอนอัคคานุทิฏฺฐไค้ และ!ย่อมสละ!กวามเห็่นแก่คัวไค้ เพราะ!จะ!มกวามรู้ลืกท 'รู้แจ้งเห็่นจริงคามทเป็นจริงในทุกล่วนซองธาตุทรวมคัวกันเป็นคัวคนแล้ว ยคมั่นถึอมั่นว่ามคัวมคนจริง จนไม่อาจปล่อยวางไค้ และ!ทสำกัญเมอถึคมั่นถึอมั่นจนเป็นกวามเห็่นแก่คัวจนเกยชิน ก็่กลาย เป็นกนคระ!หนทั้งทรัพย่ กำ ลัง และ!กวามกิคทมอยู่ แล้วไม่ยอมสละ!แปงปินแก่ผูอน ทั้มกำลังค้อยกว่าคนหรือขาคแกลนมากกว่าคน เมั่อสละ!กวามเห็่นแก่คัวไค้ แม้จะ!ค่อยเป็นค่อยไป ค่อยเลืยสละ!ค้วยการรู้แจ้งเห็่นจริง ค้วยการไคร่ครอง กิคค้วยสติบัญญาไปคามสำคับ ก็่จะ!สละ!กวามเห็่นแก'คัวไคคฃนคามสำคับ เมอ สละ!กวามเห็่นแก'คัวไค้มากเท่าไร ก็่จะ!สละ!อย่างอนไม่ว่าร่งของ อวัยวะ! เวลา หรือกิเลสนานาประ!การไค้[คยไม่ยาก จะ!สามารถปล่อยวาง สามารถทำใจ สามารถ ให้อกัยไค้อย่างไม่เกยเป็น อันนั้แหละ!ทเป็นผลมาจากการสละ!กวามเห็่นแก'คัว www.kalyanamitra.org

๔๙๕ ฿ ๆแทสับบmnm : เรอง ภวใบ!สียสar ' ^ร?/ กนทสลร:กวามเห็่นแก่ตัวไค้จนกล่าวไค้ว่าเป็นกนไม่เห็่นแก่ตัวนั้น ดูไค้ ไม่ยากนัก เพราร;กนไม่เห็่นแก่ตัวจร;เป็นกนทมนำใจ เสิยสลร; ช่วยเหลือกนอืน ไค้ง่าย แม้บางกรงตัวเองจร;เกือกร้อนแฅ่เมอเหี่นกนอืนเคือคร้อนกว่าฅนก็่ ช่วยเหลือโกยมนํ้าใจ มอร:ไรก็่แปงปินไป เข้าในทำนอง \"มเพอให้ได้เพอเลืย\" คือเป็นกนทมอร;ไรก็่มเพอทจร:ให้ เพอทจร:แปงปินแก่ผูอน มิใช่มเพือตัวเอง และเพอกนรอบข้างของตัวเท่านั้น และจะไค้อะไรมา ก็่ใค้มาเพอทจะเลืยสละ แบ่งปีน ไม่กระหนเลืยกาย กนไม่เห็่นแก่ตัวจะมลักษณะนิตัยเช่นนั้ และกนทํ่ \"มเพอให้ ได้เพึ๋อเลืย\" นั้นจะมกวามรู้ลืกว่า \"เลืยแล้วได้ ให้แล้วม\" คือรู้ลืกว่าการเลืยสละซองกนนั้นย่อมมอานิสงล่แน่นอน แม้จะ ไม่ปรารถนาอะไร แฅ่เมอทำไปแล้วก็่จะไมไร้ผล มกวามรูลืกและเซึ่อเช่นนั้จึง ยอมให้ยอมเลืย และกี่เป็นเช่นนั้นจริง กนทเลืยสละเป็นนิลัยนักจะไคืสิงพิเสษๆ เป็นผลกอบแทนกามมา หรือเมอให้[ปแล้วกี่มผลกอบแทน ทำ ให้มร่งทเกิกฃ็้น แก่กนโกยไม่กากกิก ผลกอบแทนประเภทเหล่านั้ กนทเลืยกนทให้เป็นประจำ ย่อมรู.ค้เป็นอย่างคื เพราะตัวเองเป็นกนไค้เอง ดงนั้น แม้จะมคนมาทดทานหรือห้ามปรามรเให้ให้ เซ่นกล่าวว่าให้ใป ทำ ไม ให้แล้วได้อะไร หรือเก็่บไว้เป็นมรดกให้ลูกหลานดกว่า อะไรทำนองน แต่ผูให้นั้นก็่มิได้เซํ่อถือ มิได้ทำตาม ยงคงเถืยสละยงคงให้เหมือนเดิม เพราะ ตัวเองรู้ดอปูว่าการเถืยสละการให้ของตนนั้นได้ประโยซนอย่างไร จากลัมปทานั้เป็นคุณธรรมระตับสูง พระพทธองกกรัสว่าเป็นลัมปรายิกักอ- ประโยซน่ คือมือานิสงส์ล่งให้ผู้สละผูให้นั้นๆ ไค้รบกวามสุช่ในลัมปรายภพคือ สุกกิโลกสวรรก ไม่สูญเปล่าแน่นอน แก่จากลัมปทาจะเกิกมฃนไค้จำค้องอาตัย การสละกวามเห็่นแก่ตัว ถอนอักกานุทิฏฐเป็นเบองค้นก่อน เท่ากับเป็นการ เปิกประดูให้ก้าวเกินเข้าไปข้างในโกยง่ายฉะนั้น การสละกวามเห็่นแก่ตัวจื้งเป็น ภาวะทจำเป็นและสำตัญทสุก ทํ่จะทำให้การสละทุกอย่าง กั้งแก่สละวักถุสิงซอง ไปจนถืงสละกิเลสกิกกามมาไค้ www.kalyanamitra.org

i ๔๙๖ sssuaisinnui lau CD พระมHาโพริวง ศไใไรย์(ทอง ดี น.ร.๙) คังนัน บุกกลทุกกนไม่ว่าใกร โคยเฉพาร:ยู้กรองเรอน เมอฅ้องการอยู่กรอง เรือนอย่างมก'วามสุข เมอปราถนาฅ้องการใหฅัวแลร:กรอบกรัวม่โภกสมบัติ ใช้สอยไม่ฃาคแกลน ปรารถนาให้คัวเองมเกยรติ มยศ มหน้าทการงาน มกวาม เจริญรุ่งเรืองก้าวหน้า ปรารถนาให้คัวเองมอายุยืน คำ รงซวิฅเสวยสุขอยู่กับ สมบัติแลร:กนอันเป็นทรักไคํยืนนาน แลร:ปรารถนาให้!ปส่สุกติโลกสวรรกหลังจาก ลันชวิฅแล้ว ก็่จำ ก้องอาลัยจากลัมปทาน กือก้องอาลัยกวามถื้งพร้อมก้วย การเลัยสลร: โคยให้หรือแน่งบันวัคถุลังของ อวัยวร: คลอคถึงสลร:กิเลส กวาม โลภ กวามโกรธ กวามหลง ให้บรรเทาเบาบางลง เมอถึงพร้อมก้วยจากร:เซ่นน ลังทํ่ปรารถนาย่อมคามมาไม่ขาคสาย หากทำไก้คามน็้ก็่ไคํซอว่าปฏิบัติคาม กำ ลังสอนขององกสมเค็่จพรร:ลัมมาลัมพุทธเจ้าโคยครง แลร:ซอว่าไก้เป็นพุทธ- มามกซนทถึงพรร:พุทธเจ้าเป็นสรณร:ทพงไก้อย่างสมบูรณ ก้วยปรร:การฉร:น ในทสุคน ซอเชิญท่านทั้งหลายไก้ลัารวมจิคให้แน่วแน่ รำ ถึกถึงบุญกุศล ทํ่ไก้บำเพ็่ญแล้วในวันน แล้วน้อมอุทิศถวายเป็นพรร:ราซกุศลแค่พรร:บาทสมเค็่จ- พรร:ปรมินทรมหาภูมิพลอกุลยเคซ บรมนาถบพิคร ผู้ทรงพรร:กุณอันปรร:เสริฐ พรร:องกนั้น ซอให้ทรงเพลัคเพลันเกษมลัาราญก้วยทิพยสุซทิพยสมบัติใน สุกติภพนั้นให้ยํ่งๆ ซนไปคลอคจิรัฐติกาล เอเตน สจุจวซฺเชน แลร:ก้วย อำ นาจวิบากผลจากการไถ่ซวิคโกกรร:ยือในกรั้งนั้ ซอท่านทั้งหลายจงเป็นผู้ มอายุยืน คำ รงซพอยู่เนํ่นนานคามปรารถนา โคยปราศจากทุกฃ โศก โรกกัย อุปสรรก อันคราย กัยพิบัตินานาปรร:การ มกวามเจริญก้วยอิฏฐมนญผล ทเหถึอ กือ วรรณร: สุขร: แลร:พลร: โคยพร้อมมูล แลร:ซอกวามปรารถนา ก้องการ d ปรร:การช้างก้นจงเกิคมสมปรารถนาไปคามลำคับกาล รับปรร:ทาน แสคงพรร:ธรรมเทศนาในจากลัมปทากถา ลำ เรืจสมปรร:สงกคามเวลา ซอยุติลง กงไว้แค่เพิยงเท่านั้ ฯ เอวํ ก็่มก้วยปรร:การฉร:นั้ www.kalyanamitra.org

๗๒ ปี พระมหาโพธิวงศาจารย์ ที่ระลึก งานทำบุญฉลองอายุวัฒนมงคล ๗๒ ปี พระมหาโพธิจงศาจารย์ (ทองดี สุรเตโซ) เจ้าอาจาสจัดราซโอรสาราม กรุงเทพมหานคร ๑๕ กุมภาพนธ์ ๒๕๖๑ มูลนัริสิริจัฒนทกค SIRIVADIfA^MiflAKDI l'()UM}ATf(>S โดย คุณเจริญ - คุณหญิงวรรณา สิริปีฒนภักดี และครอบคริว จ'ดพิมพ์ถราย www.kalyanamitra.org

www.kalyanamitra.org