Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore แผนการสอนภาษาไทย ม.4 (1)

แผนการสอนภาษาไทย ม.4 (1)

Published by saowanee021238, 2021-03-15 16:32:48

Description: แผนการสอนภาษาไทย ม.4 (1)

Search

Read the Text Version

แผนการจัดการเรียนรู้วชิ าภาษาไทย ๑๔๖ กลุ่มสาระการเรยี นรู้ภาษาไทย ชั้นมัธยมศึกษาปที ี่ ๔ หน่วยการเรยี นรทู้ ี่ ๑ เร่ือง หัวใจชายหนุ่ม แผนที่ ๑/๓ แผนการจดั การเรียนรู้ เรอื่ ง การอ่านวิเคราะห์ วิจารณ์ และประเมนิ ค่า ภาคเรยี น ๒/๒๕๖๒ สอนวนั ที.่ .....................เดอื น........................พ.ศ.............. เวลา ๑ ชั่วโมง ครผู สู้ อน........................................................................... ๑. สาระสาคญั อา่ นออกเสียงบทร้อยแกว้ และจับประเด็น ตีความ แปลความจากการอา่ น และแสดงความคดิ เหน็ เร่อื ง หัวใจชายหนมุ่ ในด้านสงั คมและวฒั นธรรมพรอ้ มทั้งเสนอความคิดใหมอ่ ย่างมเี หตผุ ล ๒. มาตรฐานการเรยี นรู้และตัวช้ีวัด มาตรฐาน ท ๑.๑ ใช้กระบวนการอ่านสร้างความรู้และความคดิ เพอ่ื นาไปใช้ตัดสินใจแก้ปญั หาในการ ดาเนินชีวติ และมนี ิสัยรักการอ่าน ท ๕.๑ เข้าใจและแสดงความคิดเห็น วิจารณ์วรรณคดแี ละวรรณกรรมไทยอยา่ งเหน็ คุณค่า และนามาประยุกตใ์ ช้ในชวี ิตจรงิ ตัวช้วี ัด ท ๑.๑ ม.๔-๖/๑ อ่านออกเสียงบทรอ้ ยแก้ว และบทร้อยกรองไดอ้ ยา่ งถกู ต้องไพเราะ และเหมาะสมกับเรือ่ งท่อี า่ น ท ๑.๑ ม.๔-๖/๒ ตคี วาม แปลความ และขยายความเรือ่ งทอี่ า่ น ท ๑.๑ ม.๔-๖/๙ มมี ารยาทในการอา่ น ท ๕.๑ ม.๔-๖/๓ วเิ คราะห์และประเมินคณุ ค่าด้านวรรณศิลปข์ องวรรณคดี และวรรณกรรม ในฐานะที่เปน็ มรดกทางวัฒนธรรมของชาติ ๓. จุดประสงค์การเรยี นรู้ ๑. นักเรียนสามารถอธิบายเร่ือง หวั ใจชายหนุม่ ได้ (K) ๒. นกั เรียนสามารถตคี วามแปลความ เรือ่ ง หัวใจชายหนุ่มได้ (P) ๓. นักเรยี นเห็นความสาคญั ของการเรียนรทู้ ่ีมาของวรรณคดี (A) ๔. สมรรถนะทต่ี ้องการ ๑. ความสามารถในการส่ือสาร ๒. ความสามารถในการคดิ ๓. ความสามารถในการใช้ทักษะชวี ิต

๑๔๗ ๕. คณุ ลกั ษณะอันพึงประสงค์ ๑. ซอื่ สัตย์ สจุ ริต ๒. ใฝเ่ รยี นรู้ ๓. มีจิตสาธารณะ ๖. สาระการเรียนร/ู้ เนอื้ หา ๑. วรรณกรรม เรอื่ ง หัวใจชายหนมุ่ ๒. การตคี วามแปลความ ๓. ความสาคญั ของการเรียนรทู้ ี่มาของวรรณคดี ๗. ผลงาน/การปฏบิ ตั ิ ๑. ชิน้ งานสมุดวิเศษณ์บนั ทึกคาตอบ ๘. การจดั กจิ กรรมการเรียนร/ู้ กระบวนการเรียนรู้ กจิ กรรมที่ ๑ ข้นั นา (๑๐ นาที) วธิ กี ารดาเนินกิจกรรม ๑. ครูสอบถามนักเรยี นวา่ นักเรียนเคยอ่านหรอื เคยฟังเร่อื ง หวั ใจชายหนมุ่ มาบา้ งหรือไม่ ๒. จากนั้นครจู ึงใหน้ กั เรยี นหยบิ หนังสือเรียนวรรณคดวี ิจักษ์ พร้อมทั้งให้นกั เรยี นดูรปู ภาพจากหนงั สือ ๓. ใหน้ กั เรียนอธบิ ายวา่ เนอื้ หาเรอ่ื ง หวั ใจชายหนมุ่ เป็นเรือ่ งราวเกี่ยวกับอะไรโดยใหน้ กั เรยี น วเิ คราะห์จากรูปภาพ กจิ กรรมที่ ๒ ขนั้ สอน (๓๐ นาที) วิธกี ารดาเนินกจิ กรรม ครูอธบิ ายการต้ังคาถามว่า การตงั้ ถามเปน็ การต้ังคาถามในหวั ขอ้ ทนี่ กั เรียนไดส้ ารวจจากกิจกรรมท่ี ๑ ในการสรา้ งคาถามจะทาใหน้ ักเรียนทราบถงึ วัตถปุ ระสงค์ในการอ่านเนอ้ื เรอ่ื ง โดยคาถามที่จะเป็นประโยชน์ ในการอา่ นมากท่สี ดุ คือ คาถามทีไ่ ปครอบคลมุ หวั ขอ้ หลักหรือประเด็นสาคัญของเรอื่ งท่อี ่าน ทีจ่ ะสง่ ผลให้นกั เรยี นอ่านทาความเข้าใจได้เร็วและมากยิ่งข้ึน ๑. ใหน้ ักเรียนจดบันทึกคาถามท่ีครูกาหนดใหจ้ านวน ๑๐ ขอ้ ลงในชิ้นงานสมดุ วิเศษณ์ ๒. และจากการสารวจในกิจกรรมท่ี ๑ ใหน้ ักเรียนแต่ละคนตงั้ คาถามเก่ยี วกับเร่ือง หัวใจชายหนุ่ม จานวน ๕ ขอ้ ๓. ให้นักเรียนอา่ นเรอ่ื ง หัวใจชายหน่มุ พร้อมทงั้ ตอบคาถามจากกิจกรรมที่ ๒ ๔. ครูแจง้ เรอ่ื งการปฏิบตั ิเมื่อนักเรียนอ่านเจอคาตอบ ในการอา่ นเพอ่ื คน้ หาคาตอบจาก กิจกรรมที่ ๒ ใหน้ กั เรยี นขดี เสน้ ใต้สว่ นทเ่ี ป็นคาตอบ ดว้ ยดนิ สอ ๕. เมื่อนกั เรยี นคน้ หาคาตอบจากกิจกรรมที่ ๓ ให้นกั เรยี นตอบคาถามโดยจดบนั ทึกลงใน ชิน้ งานสมุดวเิ ศษณ์ พร้อมส่งครูท้ายคาบ

๑๔๘ กิจกรรมท่ี ๓ ขัน้ สรุป (๑๐ นาที) วิธดี าเนนิ กจิ กรรม ๑. ครูขอตัวแทนนกั เรียน ๒ คน ออกมาเล่าเรือ่ งจากขอ้ มลู ท่ีไดบ้ นั ทึกไว้ในสมดุ วิเศษณ์ ๒. ครูสรปุ ภาพรวมของเนอื้ หาสาระทน่ี กั เรียนออกมานาเสนอ ๓. ครแู ละนักเรยี นรว่ มกนั อภปิ รายสรปุ ใจความสาคัญและความสาคญั ของการเรยี นร้ทู มี่ า ของวรรณคดีจากเร่ือง หวั ใจชายหนุม่ ทเ่ี รียนมาท้ังหมด เพอ่ื ใหน้ กั เรยี นเขา้ ใจไปในทิศทางเดียวกัน ๙. ส่อื /นวตั กรรม/แหล่งการเรยี นรู้ สือ่ และนวตั กรรม ๑. หนังสอื เรียนวรรณคดวี จิ กั ษ์ ชัน้ มธั ยมศึกษาปีที่ ๔ ๒. ชน้ิ งานสมุดวิเศษณ์บนั ทึกคาตอบ แหลง่ การเรียนรู้ ๑. ครผู ูส้ อน ๒. ห้องสมดุ สาหรับใช้ในการสืบคน้ ความรู้เพม่ิ เติม ๓. อินเทอรเ์ น็ต ในการสืบค้นข้อมลู รปู ภาพ และความรเู้ พมิ่ เติม ๑๐. การวดั และประเมนิ ผล วธิ กี ารวดั และ เครือ่ งมอื ทใ่ี ช้ เกณฑ์การประเมิน ประเมินปชริน้ ะงเมานินสผมลดุ แบบประชน้ิ งาน การวดั และประเมนิ ผล วิเศษณ์บนั ทกึ คาตอบ ผา่ นเกณฑ์รอ้ ยละ นักเรียนสามารถอธิบาย ๘๐ ขน้ึ ไป เรื่อง หวั ใจชายหนมุ่ ได้ (K) นกั เรียนสามารถตีความ ประเมนิ ชิ้นงานสมุด แบบประชน้ิ งาน ผ่านเกณฑ์ร้อยละ วเิ ศษณ์บนั ทกึ คาตอบ ๘๐ ขนึ้ ไป แปลความ เรื่อง หัวใจชาย หนุ่มได้ (P) นกั เรียนเห็นความสาคญั สังเกตพฤตกิ รรม แบบบนั ทกึ การสงั เกต ผา่ นเกณฑ์รอ้ ยละ ของการเรียนรูท้ ่ีมาของ ผ้เู รยี นการมสี ่วนรว่ ม พฤตกิ รรมผเู้ รยี น ๘๐ ขึน้ ไป วรรณคดี (A) ในการทากจิ กรรม คณุ ลักษณะอนั พงึ ประสงค์ สังเกตพฤติกรรม แบบประเมนิ ผ่านเกณฑร์ อ้ ยละ นกั เรยี น คุณลักษณะอันพงึ ๕๐ ข้ึนไป ประสงค์

๑๔๙ ๑๑. บนั ทึกเพิ่มเติมสาหรับผู้บริหาร ………………………………………………….................................................................................................................. …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ลงชื่อ.................................................ผปู้ ระเมิน (.....................................................................) ตาแหน่ง.......................................................... วนั ท่ี...........เดอื น.........................พ.ศ.............. ๑๒. บันทึกผลหลังการจัดการเรยี นรู้ ผลการจัดการเรียนรู้ …………………………………………………………………………………………......................................................................... …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… สภาพปัญหา ………………………………………………………………………………………......................................................................... …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… แนวทางแก้ไขปญั หา …………………………………………………………………………………………....................................................................... …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ข้อเสนอแนะในการจัดการเรยี นรู้ ………………………………………………………………………………………………................................................................. …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ลงชอื่ .................................................ผปู้ ระเมิน (.....................................................................) ตาแหน่ง.......................................................... วนั ที.่ ..........เดือน.........................พ.ศ.............

ลาดับ ชื่อ ๑๕๐ แบบบนั ทกึ การประเมินช้นิ งาน สมุดวเิ ศษณบ์ นั ทกึ คาตอบ ผลงาน สรุป คุณภาพ การใชภ้ าษา ความคิด รวม ผ่าน ผลงาน (๓) สรา้ งสรรค์ (๙) /ไมผ่ า่ น (๔) (๒) ลงช่อื .................................................ผู้ประเมิน (.....................................................................) ตาแหน่ง.......................................................... วันท.่ี ..........เดอื น.........................พ.ศ..............

๑๕๑ เกณฑก์ ารประเมินช้ินงาน สมดุ วเิ ศษณบ์ ันทกึ คาตอบ รายการประเมนิ เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน (๔ คะแนน) (๓ คะแนน) (๒ คะแนน) (๑ คะแนน) (๐ คะแนน) ๑คุณภาพผลงาน . คณุ ภาพผลงาน คุณภาพผลงาน คุณภาพผลงาน คุณภาพผลงาน ผลงานไมต่ าม ๑เขยี น ๑.อธิบาย เร่อื ง ตามรายการ ตามรายการ ตามรายการ ตามรายการ รายการ ประเมนิ ยอ่ ย ประเมินย่อย ประเมินย่อย ประเมินยอ่ ย หวั ใจชายหน่มุ ไดไ้ ดถ้ ูกตอ้ ง ประเมินยอ่ ย อย่างนอ้ ย อยา่ งนอ้ ย อย่างน้อย ๑๒. สามารถตีความ ครบทกุ ขอ้ ๓ ข้อ ๒ ข้อ ๒ ขอ้ การใช้ภาษาไม่ ตามรายการ แปลความ เรอ่ื ง หัวใจชาย การใชภ้ าษา การใชภ้ าษา การใช้ภาษา ประเมินย่อย หนุม่ ได้ ตามรายการ ตามรายการ ตามรายการ ประเมินย่อย ประเมนิ ยอ่ ย ประเมินย่อย ความคิด ๑.๓ จัดรูปแบบได้ ครบทกุ ข้อ อย่างนอ้ ย อยา่ งนอ้ ย สร้างสรรคไ์ ม่ เหมาะสมกบั เนือ้ หา ๒ ขอ้ ๑ ขอ้ ตามรายการ ประเมนิ ยอ่ ย ๑.๔ ผลงานไมม่ ีรอยขาด ความคดิ ความคดิ สร้างสรรคต์ าม สรา้ งสรรคต์ าม ๒การใช้ภาษา . รายการ รายการ ๒ตัวสะกดถกู ต้อง ๑. ประเมินย่อย ประเมินยอ่ ย ๒ระดบั ภาษา ๒. ครบทุกข้อ ๑ ข้อ เหมาะสม ๒เขยี นหนังสอื ตาม ๓. หลักตวั อกั ษรไทย วางเครื่องหมาย สระและ วรรณยกุ ต์ไดถ้ กู ท่ี ๓ความคิดสรา้ งสรรค์ . ๓.๑ สีสันดงึ ดดู ความ สนใจ ๓รปู แบบสวยงาม ๒. และแปลกใหม่

๑๕๒ แบบบนั ทึกการสังเกตพฤตกิ รรมผเู้ รียน การมสี ่วนรว่ มในการทากจิ กรรม การประเมนิ ผลการประเมิน ผา่ น ไมผ่ า่ น การตอบ ความสนใจ การมีสว่ น ช่อื -สกลุ คาถาม และการ รว่ มใน รวม ซกั ถาม กิจกรรม (๙) (๓) (๓) (๓) ลงช่ือ.................................................ผู้ประเมิน (.....................................................................) ตาแหนง่ .......................................................... วันท่ี...........เดอื น.........................พ.ศ..............

๑๕๓ แบบสงั เกตพฤติกรรมผเู้ รยี น การมีสว่ นรว่ มในการทากิจกรรม รายการประเมิน เกณฑ์การให้คะแนน ๑การตอบคาถาม. ดีมาก (๓) ปานกลาง (๒) พอใช้ (๑) ๑ตอบคาถามได้ถกู ต้อง ๑. ๑ตอบคาถามไดร้ วดเรว็ ๒. ตอบคาถามได้ ตอบคาถามได้ ตอบคาถามได้ ตามเกณฑ์ ๓ ขอ้ ตามเกณฑ์ ๒ ข้อ ตามเกณฑ์ ๑ ข้อ กว่ากล่มุ อน่ื ๑ตอบคาถามไดภ้ ายในเวลา ๓. สนใจและซักถาม สนใจและซกั ถาม สนใจและซกั ถาม ตามเกณฑ์ ๓ ขอ้ ตามเกณฑ์ ๒ ขอ้ ตามเกณฑ์ ๑ ข้อ ท่กี าหนด ๒ความสนใจและการซกั ถาม . มสี ว่ นร่วมในกิจกรรม มสี ่วนรว่ มในกจิ กรรม มีส่วนร่วมในกจิ กรรม ตามเกณฑ์ ๓ ขอ้ ตามเกณฑ์ ๒ ข้อ ตามเกณฑ์ ๑ ข้อ ๒ถามในหัวข้อทไ่ี ม่เข้าใจ ๑. ๒บันทึกคาถามและคาตอบ ๒. ๒กล้าแสดงออก ๓. ๓การมีสว่ นร่วมในกจิ กรรม . ๓๑. ให้ความร่วมมอื ๓ให้การชว่ ยเหลือ ๒. ๓มคี วามกระตือรือรน้ ๓. เกณฑ์การให้คะแนน ๓ หมายถงึ ดี ๒ หมายถึง ปานกลาง ๑ หมายถึง พอใช้ การแปลความหมาย คะแนน ๗ – ๙ คะแนน หมายถึง ดี คะแนน ๔ – ๖ คะแนน หมายถึง ปานกลาง คะแนน ๑ – ๓ คะแนน หมายถึง พอใช้

๑๕๔ แบบประเมินคุณลกั ษณะที่พงึ ประสงค์ ชือ่ -สกลุ นกั เรยี น : ___________________ห้อง ป. ๑______ เลขที่_______ คำชแ้ี จง : ให้ผสู้ อน สงั เกตพฤติกรรมของนกั เรียนในระหวา่ งเรียนและนอกเวลาเรียน แลว้ ขดี / ลงในชอ่ งท่ตี รงกับระดับคะแนน คณุ ลักษณะท่ีพงึ รายการประเมิน ระดบั คะแนน ประสงค์ประสงค์ ๓ ๒ ๑๐ ๑. ซื่อสตั ย์ สจุ ริต ๑.๑ ปฏบิ ัตติ ามกฎระเบียบในชน้ั เรยี น และไมล่ อก ๒. ใฝ่หาความรู้ เพอ่ื นขณะทาแบบทดสอบทั้งกอ่ นเรยี นและหลังเรยี น ๓. มีจิตสาธารณะ ๑.๒ ประพฤติตนตรงต่อความเปน็ จริงต่อตนเอง ๑.๓ ประพฤตติ นตรงต่อความเป็นจริงต่อผู้อนื่ ๒.๑ แสวงหาขอ้ มูลจากแหลง่ เรียนรูต้ า่ ง ๆ ทคี่ รชู ีแ้ นะ ๒.๒ มกี ารจดบันทกึ ความรทู้ ี่ได้จากการเรียนอย่างเป็นระบบ ๒.๓ สรปุ ความรู้ท่ไี ด้จากการเรียนอย่างมีเหตุผลและถูกต้อง ๓.๑ มคี วามเข้าใจตนเองและผอู้ ่ืน ๓.๒ สามารถปรบั ตัวทางาน สรปุ ผลการประเมิน ร่วมกับผู้อืน่ ไดอ้ ย่างมีความสลุขงช่ือ.................................................ผู้ประเมนิ ระดบั ดีเยยี่ ม ผ่าน (.....................................................................) ตาแหน่ง.......................................................... ดี วนั ที่...........เดอื น.........................พ.ศ.............. ผา่ นเกณฑ์การประเมิน เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน ให้ ๓ คะแนน ร้อยละ ๕๐-๖๐ ระดับคณุ ภาพ ดเี ยี่ยม (๓) - พฤตกิ รรมปฏิบัติชดั เจนและสมา่ เสมอ ให้ ๒ คะแนน รอ้ ยละ ๔๐-๔๙ ระดบั คุณภาพ ดี (๒) - พฤตกิ รรมปฏิบตั ิชดั เจนและบอ่ ยคร้งั ให้ ๑ คะแนน รอ้ ยละ ๒๐-๓๙ ระดบั คณุ ภาพ พอใช้ (๑) - พฤตกิ รรมปฏิบตั บิ างครั้ง ให้ ๐ คะแนน รอ้ ยละ ๐-๑๙ ระดับคุณภาพ ปรบั ปรุง (๐) - พฤตกิ รรมที่ไม่ไดป้ ฏบิ ัติ

แผนการจัดการเรยี นร้วู ิชาภาษาไทย ๑๕๕ กลุม่ สาระการเรยี นร้ภู าษาไทย ช้ันมัธยมศกึ ษาปที ี่ ๔ หนว่ ยการเรยี นร้ทู ่ี ๑ เรื่อง หัวใจชายหน่มุ แผนท่ี ๒/๒ แผนการจดั การเรียนรู้ เรือ่ ง หลกั การประเมนิ งานเขียน ภาคเรียน ๒/๒๕๖๒ สอนวันท.่ี .....................เดอื น........................พ.ศ.............. เวลา ๑ ชั่วโมง ครผู ู้สอน…………………………………………………………………. ๑. สาระสาคัญ เรียนรู้หลกั การประเมนิ งานเขียน เพ่อื สามารถนาไปเขยี นประเมินคณุ คา่ และพัฒนางานเขยี น ของตนเองได้อย่างสร้างสรรค์ โดยใชร้ ะดบั ภาษาให้เหมาะสมแก่โอกาสกาลเทศะและบุคคล ๒. มาตรฐานการเรียนรู้และตวั ชี้วดั มาตรฐาน ท ๒.๑ ใช้กระบวนการเขยี นเขยี นสือ่ สาร เขยี นเรียงความ ย่อความ และเขียนเร่ืองราว ในรูปแบบต่าง ๆ เขยี นรายงานข้อมลู สารสนเทศและรายงานการศกึ ษาค้นควา้ อยา่ งมปี ระสิทธภิ าพ ตวั ชี้วัด ท ๒.๑ ม.๔-๖/๔ ผลติ งานเขยี นของตนเองในรูปแบบตา่ ง ๆ ท ๒.๑ ม.๔-๖/๕ ประเมนิ งานเขียนของผอู้ ืน่ แล้วนามาพัฒนางานเขียนของตนเอง ท ๒.๑ ม.๔-๖/๘ มีมารยาทในการเขียน ๓. จุดประสงค์การเรยี นรู้ ๑. นักเรียนสามารถบอกหลกั การประเมินงานเขยี นได้ (K) ๒. นักเรยี นสามารถเขยี นประเมนิ คุณคา่ เร่อื ง หัวใจชายหนมุ่ ได้ (P) ๓. นักเรยี นเห็นความสาคญั ของการประเมินงานเขียน (A) ๔. สมรรถนะที่ต้องการ ๑. ความสามารถในการส่อื สาร ๒. ความสามารถในการคดิ ๓. ความสามารถในการใช้ทักษะชีวติ ๕. คุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ ๑. ซ่อื สัตย์ สจุ ริต ๒. ใฝ่เรยี นรู้ ๓. มจี ิตสาธารณะ

๑๕๖ ๖. สาระการเรยี นรู้/เนอ้ื หา ๑. หลกั การประเมนิ งานเขียน ๒. ความสาคัญของการประเมินงานเขียน ๗. ผลงาน/การปฏบิ ตั ิ ๑. ใบงาน เรอ่ื ง การเขียนประเมนิ คุณค่า เรอ่ื ง หวั ใจชายหนุ่ม ๘. การจดั กจิ กรรมการเรยี นรู้/กระบวนการเรยี นรู้ กจิ กรรมท่ี ๑ ขน้ั นา (๑๐ นาที) วิธีการดาเนนิ กิจกรรม ๑. ครแู บ่งนกั เรียนเปน็ กลมุ่ กลุม่ ละ ๔ คน คละกันตามความสามารถ จากนัน้ ให้แต่ละกลุ่มอา่ น ตัวอยา่ งการประเมนิ คุณคา่ งานเขยี นเร่อื งสน้ั ๒. ครสู ่มุ เรยี กนักเรียน ๒-๓ กลุ่ม ออกมานาเสนอแนวทางการประเมนิ คณุ คา่ โดยเพื่อนนกั เรียน ร่วมกันแสดงความคดิ เหน็ และครใู ห้ขอ้ เสนอแนะ กจิ กรรมท่ี ๒ ข้นั สอน (๓๐ นาที) วธิ ีการดาเนนิ กิจกรรม ๑. นกั เรยี นแตล่ ะกล่มุ จบั ค่กู นั เปน็ ๒ คู่ ให้แตล่ ะคู่รว่ มกนั ศกึ ษาความรู้ เรอ่ื ง หลกั การประเมิน งานเขียน ๒. นักเรยี นแต่ละคู่นาความรู้ที่ไดจ้ ากการศึกษามาอธิบายใหเ้ พอื่ นอกี คู่หน่ึงภายในกล่มุ ฟงั ผลัดกนั ซกั ถามหากมขี อ้ สงสัย และผลัดกนั อธบิ ายจนทุกคนมีความเข้าใจชัดเจนตรงกัน แลว้ รว่ มกันสรุปความรู้ เกย่ี วกบั หลกั การประเมนิ งานเขยี น ๓. นกั เรยี นแต่ละกลมุ่ ช่วยกนั ทาใบงาน เรื่อง การเขียนประเมนิ คุณค่าเรอ่ื ง หวั ใจชายหนุม่ ตามหลักการประเมินงานเขยี น กิจกรรมท่ี ๓ ขัน้ สรุป (๑๐ นาที) วธิ ดี าเนินกิจกรรม ๑. ใหน้ ักเรยี นแต่ละกลุ่มส่งตัวแทนกลุ่มออกมานาเสนอหนา้ ชัน้ เรยี น โดยครูและเพ่ือนร่วมกัน ตรวจสอบความถกู ต้องและช่วยกันสรุปบทเรียน ๙. สื่อ/นวัตกรรม/แหลง่ การเรยี นรู้ สอื่ และนวตั กรรม ๑. หนงั สือเรยี นวรรณคดวี ิจกั ษ์ ชัน้ มธั ยมศึกษาปีที่ ๔ ๒. ใบงาน เร่อื ง การเขยี นประเมินคณุ ค่าเรอ่ื ง หวั ใจชายหนุ่ม แหลง่ การเรยี นรู้ ๑. ครผู สู้ อน ๒. ห้องสมดุ สาหรบั ใช้ในการสืบคน้ ความรู้เพิม่ เติม ๓. อนิ เทอร์เนต็ ในการสบื ค้นขอ้ มลู รูปภาพ และความร้เู พ่ิมเติม

๑๕๗ ๑๐. การวัดและประเมนิ ผล วิธกี ารวดั และ เคร่ืองมือทใ่ี ช้ เกณฑ์การประเมิน การวัดและประเมนิ ผล ทาแบบปทรดะสเมอินบผล แบบทดสอบหลงั เรียน ผ่านเกณฑ์ร้อยละ นักเรยี นสามารถบอก หลังเรยี นชนดิ ปรนยั ชนดิ ปรนัย จานวน ๓๐ ๘๐ ขนึ้ ไป หลกั การประเมินงานเขยี น จานวน ๓๐ ข้อ ขอ้ ได้ (K) (การทดสอบหลงั เรียน ผ่านเกณฑร์ ้อยละ ในแผนที่ ๓) แบบประเมนิ ชน้ิ งาน ๘๐ ขึ้นไป นักเรยี นสามารถเขียน ประเมนิ คณุ คา่ เร่ือง ประเมนิ จากการทา หัวใจชายหนุ่มได้ (P) ใบงานเร่อื ง การเขียน ประเมนิ คณุ คา่ นกั เรียนเห็นความสาคัญ สังเกตพฤติกรรม แบบบันทึกการสังเกต ผ่านเกณฑ์ร้อยละ ของการประเมินงานเขยี น ผูเ้ รียนการมสี ว่ นรว่ ม พฤติกรรมผเู้ รยี น ๘๐ ข้ึนไป (A) ในการทากิจกรรม คณุ ลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ สังเกตพฤตกิ รรม แบบประเมนิ ผ่านเกณฑร์ ้อยละ นกั เรยี น คุณลักษณะอันพงึ ๕๐ ข้ึนไป ประสงค์ ๑๑. บันทึกเพ่ิมเติมสาหรับผูบ้ ริหาร ………………………………………………….................................................................................................................. …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ลงช่ือ.................................................ผู้ประเมิน (.....................................................................) ตาแหน่ง.......................................................... วันที.่ ..........เดือน.........................พ.ศ..............

๑๕๘ ๑๒. บันทกึ ผลหลงั การจัดการเรยี นรู้ ผลการจดั การเรียนรู้ …………………………………………………………………………………………....................................................................... …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… สภาพปัญหา ………………………………………………………………………………………......................................................................... …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… แนวทางแก้ไขปัญหา …………………………………………………………………………………………....................................................................... …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ข้อเสนอแนะในการจดั การเรยี นรู้ ………………………………………………………………………………………………................................................................. …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ลงช่ือ.................................................ผู้ประเมนิ (.....................................................................) ตาแหน่ง.......................................................... วนั ท.ี่ ..........เดือน.........................พ.ศ..............

๑๖๗ ใบงานการเขยี นประเมินคณุ คา่ เรื่อง หวั ใจชายหนุ่ม ๑) คุณคา่ ด้านวรรณศลิ ป์ ๒) คุณคา่ ดา้ นเนือ้ หาสาระ

๑๖๘ ๓) คณุ ค่าดา้ นสงั คม ๔) การนาไปประยกุ ต์ใช้ในชีวติ ประจาวนั

๑๖๑ แบบบนั ทึกการประเมินช้นิ งาน การเขียนประเมนิ คุณค่า เรอ่ื ง หัวใจชายหนุ่มได้ ผลงาน สรุป ลาดับ ช่อื คุณภาพ การใชภ้ าษา ความคิด รวม ผ่าน ผลงาน สร้างสรรค์ (๔) (๓) (๒) (๙) /ไม่ผา่ น ลงชื่อ.................................................ผู้ประเมิน (.....................................................................) ตาแหน่ง.......................................................... วันที่...........เดือน.........................พ.ศ..............

๑๖๒ เกณฑก์ ารประเมินชนิ้ งาน การเขียนประเมินคณุ ค่า เร่ือง หวั ใจชายหน่มุ ได้ รายการประเมิน เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน (๔ คะแนน) (๓ คะแนน) (๒ คะแนน) (๑ คะแนน) (๐ คะแนน) ๑คุณภาพผลงาน . คณุ ภาพผลงาน คุณภาพผลงาน คณุ ภาพผลงาน คุณภาพผลงาน ผลงานไมต่ าม ๑ ๑.เขียนประเมนิ คุณคา่ ตามรายการ ตามรายการ ตามรายการ ตามรายการ รายการ เรอื่ ง หวั ใจชายหน่มุ ได้ถูกต้อง ประเมินย่อย ประเมินยอ่ ย ประเมินยอ่ ย ประเมนิ ยอ่ ย ๑๒. สะอาดเรียบรอ้ ย อยา่ งนอ้ ย อย่างน้อย อย่างนอ้ ย ประเมินย่อย ๑.๓ จดั รปู แบบไดเ้ หมาะสม ครบทุกข้อ ๓ ข้อ ๒ ขอ้ ๒ ข้อ การใช้ภาษาไม่ กับเนื้อหา ตามรายการ ๑.๔ ผลงานไมม่ ีรอยขาด การใชภ้ าษา การใชภ้ าษา การใช้ภาษา ประเมนิ ยอ่ ย ตามรายการ ตามรายการ ตามรายการ ๒การใช้ภาษา . ประเมินยอ่ ย ประเมินย่อย ประเมินยอ่ ย ความคดิ ๒ตวั สะกดถูกต้อง ๑. ครบทกุ ข้อ อยา่ งน้อย อย่างน้อย สร้างสรรค์ไม่ ๒ระดบั ภาษาเหมาะสม ๒. ตามรายการ ๒เขยี นหนังสือตามหลกั ตวั ๓. ๒ ขอ้ ๑ ข้อ ประเมินยอ่ ย อักษรไทย ความคดิ ความคดิ วางเคร่อื งหมาย สระและ สรา้ งสรรคต์ าม สรา้ งสรรค์ตาม วรรณยกุ ตไ์ ดถ้ กู ท่ี รายการ รายการ ประเมนิ ยอ่ ย ประเมนิ ยอ่ ย ๓ความคิดสรา้ งสรรค์ . ครบทุกข้อ ๓.๑ สสี ันดึงดดู ความสนใจ ๑ ข้อ ๓รูปแบบสวยงาม ๒. และแปลกใหม่

๑๖๓ แบบบนั ทึกการสังเกตพฤตกิ รรมผเู้ รียน การมสี ่วนรว่ มในการทากจิ กรรม การประเมนิ ผลการประเมิน ผา่ น ไมผ่ า่ น การตอบ ความสนใจ การมีสว่ น ช่อื -สกลุ คาถาม และการ รว่ มใน รวม ซกั ถาม กิจกรรม (๙) (๓) (๓) (๓) ลงช่ือ.................................................ผู้ประเมิน (.....................................................................) ตาแหนง่ .......................................................... วันท่ี...........เดอื น.........................พ.ศ..............

๑๖๔ แบบสังเกตพฤติกรรมผู้เรียน การมสี ว่ นรว่ มในการทากจิ กรรม รายการประเมนิ เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน ๑.การตอบคาถาม ดมี าก (๓) ปานกลาง (๒) พอใช้ (๑) ๑.๑ ตอบคาถามได้ถกู ตอ้ ง ๑.๒ ตอบคาถามได้รวดเรว็ ตอบคาถามได้ ตอบคาถามได้ ตอบคาถามได้ ตามเกณฑ์ ๓ ขอ้ ตามเกณฑ์ ๒ ข้อ ตามเกณฑ์ ๑ ขอ้ กวา่ กลุม่ อ่ืน ๑.๓ ตอบคาถามได้ภายในเวลา สนใจและซักถาม สนใจและซักถาม สนใจและซกั ถาม ตามเกณฑ์ ๓ ขอ้ ตามเกณฑ์ ๒ ขอ้ ตามเกณฑ์ ๑ ข้อ ท่ีกาหนด ๒. ความสนใจและการซกั ถาม มีสว่ นรว่ มในกิจกรรม มสี ว่ นร่วมในกจิ กรรม มีส่วนร่วมในกิจกรรม ตามเกณฑ์ ๓ ขอ้ ตามเกณฑ์ ๒ ขอ้ ตามเกณฑ์ ๑ ข้อ ๒.๑ ถามในหัวข้อท่ไี มเ่ ข้าใจ ๒.๒ บนั ทึกคาถามและคาตอบ ๒.๓ กลา้ แสดงออก ๓. การมสี ว่ นร่วมในกจิ กรรม ๓.๑ ให้ความร่วมมอื ๓.๒ ใหก้ ารช่วยเหลือ ๓.๓ มคี วามกระตือรอื รน้ เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน ๓ หมายถึง ดี ๒ หมายถึง ปานกลาง ๑ หมายถึง พอใช้ การแปลความหมาย คะแนน ๗ – ๙ คะแนน หมายถงึ ดี คะแนน ๔ – ๖ คะแนน หมายถงึ ปานกลาง คะแนน ๑ – ๓ คะแนน หมายถึง พอใช้

๑๖๕ แบบประเมินคุณลกั ษณะที่พงึ ประสงค์ ชือ่ -สกลุ นกั เรยี น : ___________________ห้อง ป. ๑______ เลขที่_______ คำชแ้ี จง : ให้ผสู้ อน สงั เกตพฤติกรรมของนกั เรียนในระหวา่ งเรียนและนอกเวลาเรียน แลว้ ขดี / ลงในชอ่ งท่ตี รงกับระดับคะแนน คณุ ลักษณะท่ีพงึ รายการประเมิน ระดบั คะแนน ประสงค์ประสงค์ ๓ ๒ ๑๐ ๑. ซื่อสตั ย์ สจุ ริต ๑.๑ ปฏบิ ัตติ ามกฎระเบียบในชน้ั เรยี น และไมล่ อก ๒. ใฝ่หาความรู้ เพอ่ื นขณะทาแบบทดสอบทั้งกอ่ นเรยี นและหลังเรยี น ๓. มีจิตสาธารณะ ๑.๒ ประพฤติตนตรงต่อความเปน็ จริงต่อตนเอง ๑.๓ ประพฤตติ นตรงต่อความเป็นจริงต่อผู้อนื่ ๒.๑ แสวงหาขอ้ มูลจากแหลง่ เรียนรูต้ า่ ง ๆ ทคี่ รชู ีแ้ นะ ๒.๒ มกี ารจดบันทกึ ความรทู้ ี่ได้จากการเรียนอย่างเป็นระบบ ๒.๓ สรปุ ความรู้ท่ไี ด้จากการเรียนอย่างมีเหตุผลและถูกต้อง ๓.๑ มคี วามเข้าใจตนเองและผอู้ ่ืน ๓.๒ สามารถปรบั ตัวทางาน สรปุ ผลการประเมิน ร่วมกับผู้อืน่ ไดอ้ ย่างมีความสลุขงช่ือ.................................................ผู้ประเมนิ ระดบั ดีเยยี่ ม ผ่าน (.....................................................................) ตาแหน่ง.......................................................... ดี วนั ที่...........เดอื น.........................พ.ศ.............. ผา่ นเกณฑ์การประเมิน เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน ให้ ๓ คะแนน ร้อยละ ๕๐-๖๐ ระดับคณุ ภาพ ดเี ยี่ยม (๓) - พฤตกิ รรมปฏิบัติชดั เจนและสมา่ เสมอ ให้ ๒ คะแนน รอ้ ยละ ๔๐-๔๙ ระดบั คุณภาพ ดี (๒) - พฤตกิ รรมปฏิบตั ิชดั เจนและบอ่ ยคร้งั ให้ ๑ คะแนน รอ้ ยละ ๒๐-๓๙ ระดบั คณุ ภาพ พอใช้ (๑) - พฤตกิ รรมปฏิบตั บิ างครั้ง ให้ ๐ คะแนน รอ้ ยละ ๐-๑๙ ระดับคุณภาพ ปรบั ปรงุ (๐) - พฤตกิ รรมที่ไม่ไดป้ ฏบิ ัติ

๑๖๖ แผนการจดั การเรียนรูว้ ชิ าภาษาไทย ชัน้ มัธยมศึกษาปที ่ี ๔ แผนท่ี ๓/๓ กล่มุ สาระการเรยี นร้ภู าษาไทย หน่วยการเรียนรู้ท่ี ๑ เรอ่ื ง หวั ใจชายหนมุ่ ภาคเรยี น ๒/๒๕๖๒ เวลา ๑ ช่วั โมง แผนการจัดการเรียนรู้ เรือ่ ง ผลติ งานเขียนอย่างสร้างสรรค์ สอนวันท่ี......................เดือน........................พ.ศ.............. ครูผู้สอน............................................................................ ๑. สาระสาคญั ผลติ และพฒั นางานเขียนของตนเองอย่างสรา้ งสรรค์ โดยเลือกใช้ระดับภาษาใหเ้ หมาะสมแก่โอกาส กาลเทศะและบคุ คล แลว้ เขียนลงในชนิ้ งานวรรณกรรมของฉนั ๒. มาตรฐานการเรียนรู้และตัวช้ีวัด มาตรฐาน ท ๒.๑ ใชก้ ระบวนการเขยี นเขียนส่ือสาร เขียนเรียงความ ย่อความ และเขยี นเรอ่ื งราว ในรปู แบบต่าง ๆ เขยี นรายงานขอ้ มลู สารสนเทศและรายงานการศึกษาคน้ คว้าอย่างมีประสทิ ธภิ าพ ตวั ช้วี ัด ท ๒.๑ ม.๔-๖/๔ ผลติ งานเขยี นของตนเองในรปู แบบตา่ ง ๆ ท ๒.๑ ม.๔-๖/๕ ประเมนิ งานเขยี นของผ้อู ่ืน แลว้ นามาพัฒนางานเขยี นของตนเอง ท ๒.๑ ม.๔-๖/๘ มมี ารยาทในการเขยี น ๓. จุดประสงค์การเรียนรู้ ๑. นักเรยี นสามรถอธบิ ายวธิ ีการเขียนวรรณกรรมได้ (K) ๒. นักเรยี นสามรถผลติ งานเขยี นได้อย่างสร้างสรรค์ (P) ๓. นักเรียนเหน็ ความสาคญั ของวรรณกรรมและวรรณคดี (A) ๔. สมรรถนะทตี่ ้องการ ๑. ความสามารถในการส่อื สาร ๒. ความสามารถในการคดิ ๓. ความสามารถในการใช้ทกั ษะชีวิต ๕. คุณลักษณะอนั พึงประสงค์ ๑. ซ่อื สตั ย์ สจุ รติ ๒. ใฝ่เรยี นรู้ ๓. มจี ิตสาธารณะ

๑๖๗ ๖. สาระการเรยี นร/ู้ เน้ือหา ๑. วิธกี ารเขียนวรรณกรรม ๒. ความสาคัญของวรรณกรรมและวรรณคดี ๗. ผลงาน/การปฏบิ ัติ ๑. ชิน้ งานการวิเคราะห์และประเมินค่าวรรณคดี ๘. การจดั กจิ กรรมการเรียนรู้/กระบวนการเรียนรู้ กจิ กรรมที่ ๑ ขน้ั นา (๑๐ นาที) วธิ ีการดาเนินกจิ กรรม ครูสนทนากับนกั เรียนเก่ยี วกบั กวนี ิพนธ์หรอื วรรณกรรมประเภทรอ้ ยกรองทน่ี กั เรยี นชืน่ ชอบหรอื สนใจ จากน้นั ครสู ุ่มเรยี กนกั เรียน ออกมาอธิบายเก่ยี วกับแนวทางการประเมนิ คณุ คา่ กวนี ิพนธ์หรือวรรณกรรม ประเภทร้อยกรองท่ตี นเองชื่นชอบหรือสนใจ กิจกรรมที่ ๒ ขนั้ สอน (๓๐ นาที) วธิ กี ารดาเนินกจิ กรรม ๑. ครูอธิบายความหมาย คาวา่ จินตนาการ และสรา้ งสรรค์ ใหน้ กั เรียนฟงั เพือ่ สรุปเปน็ องค์ความรู้ ใหน้ กั เรยี นได้เข้าใจ “การเขยี นเรอื่ งตามจินตนาการจะเกดิ จากการสรา้ งจินตนาการเปน็ เร่อื งราวต่างๆ ของผ้เู ขยี น” ๒. จากนน้ั ครูนาเสนอความรู้ เรือ่ ง วิธกี ารเขยี นสรา้ งสรรค์วรรณกรรมในรปู แบบต่าง ๆ ๓. ใหน้ ักเรยี นเขียนสรา้ งสรรคว์ รรณกรรมในรูปแบบต่าง ๆ ตามทต่ี นเองสนใจลงในสมุด ช้ินงานวรรณกรรมของฉนั กจิ กรรมท่ี ๓ ข้ันสรปุ (๑๐ นาที) วิธดี าเนนิ กจิ กรรม ครูใหน้ กั เรยี นแต่ละคนออกมานาเสนอผลงานท่ีตนเองไดพ้ ัฒนาและสร้างสรรคง์ านเขียนวรรณกรรม พรอ้ มทงั้ ใหเ้ พอ่ื น ๆ ร่วมกนั ประเมนิ ค่าในเชงิ สรา้ งสรรคอ์ ย่างมเี หตผุ ล เพื่อนาไปแก้ไขและพฒั นา ๙. สอื่ /นวัตกรรม/แหลง่ การเรยี นรู้ สื่อและนวตั กรรม ๑. หนงั สือเรียนวรรณคดีวจิ ักษ์ ชั้นมัธยมศกึ ษาปีท่ี ๔ ๒. ชิน้ งานวรรณกรรมของฉัน แหลง่ การเรยี นรู้ ๑. ครผู ้สู อน ๒. ห้องสมดุ สาหรับใช้ในการสบื ค้นความรเู้ พมิ่ เติม ๓. อนิ เทอร์เนต็ ในการสืบคน้ ขอ้ มูล รปู ภาพ และความรู้เพ่มิ เติม

๑๖๘ ๑๐. การวดั และประเมินผล การวัดและประเมนิ ผล วธิ ีการวดั และประเมินผล เคร่ืองมือทใ่ี ช้ เกณฑ์การประเมิน ผา่ นเกณฑ์ร้อยละ นกั เรยี นสามารอธิบาย ทาแบบทดสอบหลงั เรียน แบบทดสอบหลังเรยี น ๘๐ ข้นึ ไป วิธีการเขียนวรรณกรรม ชนดิ ปรนัย ชนดิ ปรนยั ผ่านเกณฑ์ร้อยละ ๘๐ ขึ้นไป ได้ (K) จานวน ๓๐ ข้อ จานวน ๓๐ ข้อ ผ่านเกณฑร์ อ้ ยละ นักเรียนสามารถผลิตงาน ประเมนิ ช้ินงาน แบบประเมนิ ชิน้ งาน ๘๐ ขนึ้ ไป เขียนไดอ้ ยา่ งสร้างสรรค์ วรรณกรรมของฉัน ผ่านเกณฑ์ร้อยละ (P) ๕๐ ขนึ้ ไป นักเรียนเห็นความสาคัญ สงั เกตพฤติกรรม แบบบันทึกการสงั เกต วรรณกรรมและวรรณคดี ผู้เรียนการมีสว่ นร่วม พฤติกรรมผ้เู รียน (A) ในการทากจิ กรรม คณุ ลักษณะอนั พงึ ประสงค์ สังเกตพฤติกรรม แบบประเมนิ นักเรียน คุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ ๑๑. บนั ทกึ เพิม่ เติมสาหรบั ผู้บริหาร ………………………………………………….................................................................................................................. …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ลงช่อื .................................................ผูป้ ระเมนิ (.....................................................................) ตาแหน่ง.......................................................... วนั ท.่ี ..........เดือน.........................พ.ศ..............

๑๖๙ ๑๒. บนั ทึกผลหลงั การจัดการเรียนรู้ ผลการจดั การเรยี นรู้ …………………………………………………………………………………………....................................................................... …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… สภาพปัญหา ………………………………………………………………………………………......................................................................... …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… แนวทางแกไ้ ขปญั หา …………………………………………………………………………………………....................................................................... …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ข้อเสนอแนะในการจัดการเรียนรู้ ………………………………………………………………………………………………................................................................. …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ลงชือ่ .................................................ผู้ประเมิน (.....................................................................) ตาแหน่ง.......................................................... วนั ท่.ี ..........เดือน.........................พ.ศ..............

แบบสรปุ คะแนนทดสอบหลงั เรียน ๑๗๐ สรปุ คะแนน สรปุ ท่ี ชอื่ -สกุล ผลการทดสอบหลังเรียน ผ่าน ไ ่มผ่าน คะแนน บนั ทึกเพิม่ เติม .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. ลงช่อื .................................................ผู้ประเมนิ (.....................................................................) ตาแหน่ง.......................................................... วนั ท.ี่ ..........เดือน.........................พ.ศ..............

๑๗๑ แบบบนั ทกึ การประเมนิ ช้นิ งาน วรรณกรรมของฉัน ผลงาน สรุป ลาดับ ชอื่ คณุ ภาพ การใช้ภาษา ความคิด รวม ผา่ น ผลงาน สร้างสรรค์ (๔) (๓) (๒) (๙) /ไม่ผา่ น ลงช่ือ.................................................ผปู้ ระเมิน (.....................................................................) ตาแหน่ง.......................................................... วันท่ี...........เดือน.........................พ.ศ..............

๑๗๒ เกณฑก์ ารประเมินชิ้นงาน วรรณกรรมของฉัน รายการประเมนิ เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน (๔ คะแนน) (๓ คะแนน) (๒ คะแนน) (๑ คะแนน) (๐ คะแนน) ๑. คุณภาพผลงาน คณุ ภาพผลงาน คณุ ภาพผลงาน คุณภาพผลงาน คุณภาพผลงาน ผลงานไมต่ าม ๑.๑ สามารถผลิตงาน ตามรายการ ตามรายการ ตามรายการ ตามรายการ รายการ เขยี นได้อยา่ งสร้างสรรค์ ประเมนิ ยอ่ ย ประเมินยอ่ ย ประเมนิ ยอ่ ย ประเมินยอ่ ย ๑.๒ สะอาดเรยี บร้อย อย่างนอ้ ย อยา่ งน้อย อย่างน้อย ประเมินย่อย ๑.๓ จัดรูปแบบไดเ้ หมาะสม ครบทุกข้อ ๓ ข้อ ๒ ขอ้ ๒ ข้อ การใช้ภาษาไม่ กบั เน้ือหา ตามรายการ ๑.๔ ผลงานไม่มีรอยขาด การใชภ้ าษา การใชภ้ าษา การใช้ภาษา ประเมนิ ยอ่ ย ตามรายการ ตามรายการ ตามรายการ ๒. การใช้ภาษา ประเมนิ ยอ่ ย ประเมนิ ยอ่ ย ประเมินย่อย ความคดิ ๒.๑ ตัวสะกดถูกตอ้ ง ครบทกุ ข้อ อย่างน้อย อย่างน้อย สร้างสรรค์ไม่ ๒.๒ ระดับภาษาเหมาะสม ตามรายการ ๒.๓ เขียนหนงั สือตามหลกั ตัว ๒ ขอ้ ๑ ขอ้ ประเมินยอ่ ย อักษรไทย ความคดิ ความคิด วางเครื่องหมาย สระและ สร้างสรรคต์ าม สร้างสรรคต์ าม วรรณยกุ ต์ไดถ้ กู ที่ รายการ รายการ ประเมินยอ่ ย ประเมินยอ่ ย ๓. ความคิดสรา้ งสรรค์ ครบทกุ ข้อ ๓.๑ สีสันดงึ ดดู ความสนใจ ๑ ข้อ ๓.๒ รูปแบบสวยงาม และแปลกใหม่

๑๗๓ แบบบนั ทึกการสังเกตพฤตกิ รรมผเู้ รียน การมสี ่วนรว่ มในการทากจิ กรรม การประเมนิ ผลการประเมิน ผา่ น ไมผ่ า่ น การตอบ ความสนใจ การมีสว่ น ช่อื -สกลุ คาถาม และการ รว่ มใน รวม ซกั ถาม กิจกรรม (๙) (๓) (๓) (๓) ลงช่ือ.................................................ผู้ประเมิน (.....................................................................) ตาแหนง่ .......................................................... วันท่ี...........เดอื น.........................พ.ศ..............

๑๗๔ แบบสังเกตพฤติกรรมผเู้ รยี น การมสี ว่ นรว่ มในการทากิจกรรม รายการประเมนิ เกณฑ์การให้คะแนน ๑.การตอบคาถาม ดมี าก (๓) ปานกลาง (๒) พอใช้ (๑) ๑.๑ ตอบคาถามไดถ้ กู ตอ้ ง ตอบคาถามได้ ๑.๒ ตอบคาถามได้รวดเรว็ ตามเกณฑ์ ๓ ขอ้ ตอบคาถามได้ ตอบคาถามได้ กว่ากล่มุ อนื่ ตามเกณฑ์ ๒ ข้อ ตามเกณฑ์ ๑ ข้อ ๑.๓ ตอบคาถามไดภ้ ายในเวลา สนใจและซักถาม สนใจและซกั ถาม สนใจและซกั ถาม ท่ีกาหนด ตามเกณฑ์ ๓ ขอ้ ตามเกณฑ์ ๒ ขอ้ ตามเกณฑ์ ๑ ข้อ ๒. ความสนใจและการซกั ถาม มีสว่ นรว่ มในกิจกรรม มสี ่วนรว่ มในกจิ กรรม มีส่วนร่วมในกจิ กรรม ๒.๑ ถามในหวั ข้อท่ไี มเ่ ข้าใจ ตามเกณฑ์ ๓ ขอ้ ตามเกณฑ์ ๒ ข้อ ตามเกณฑ์ ๑ ข้อ ๒.๒ บนั ทกึ คาถามและคาตอบ ๒.๓ กล้าแสดงออก ๓. การมสี ว่ นร่วมในกจิ กรรม ๓.๑ ใหค้ วามร่วมมือ ๓.๒ ใหก้ ารชว่ ยเหลือ ๓.๓ มีความกระตือรอื รน้ เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน ๓ หมายถึง ดี ๒ หมายถงึ ปานกลาง ๑ หมายถึง พอใช้ การแปลความหมาย คะแนน ๗ – ๙ คะแนน หมายถงึ ดี คะแนน ๔ – ๖ คะแนน หมายถงึ ปานกลาง คะแนน ๑ – ๓ คะแนน หมายถึง พอใช้

๑๗๕ แบบประเมินคุณลกั ษณะที่พงึ ประสงค์ ชือ่ -สกลุ นกั เรยี น : ___________________ห้อง ป. ๑______ เลขที่_______ คำชแ้ี จง : ให้ผสู้ อน สงั เกตพฤติกรรมของนกั เรียนในระหวา่ งเรียนและนอกเวลาเรียน แลว้ ขดี / ลงในชอ่ งท่ตี รงกับระดับคะแนน คณุ ลักษณะท่ีพงึ รายการประเมิน ระดบั คะแนน ประสงค์ประสงค์ ๓ ๒ ๑๐ ๑. ซื่อสตั ย์ สจุ ริต ๑.๑ ปฏบิ ัตติ ามกฎระเบียบในชน้ั เรยี น และไมล่ อก ๒. ใฝ่หาความรู้ เพอ่ื นขณะทาแบบทดสอบทั้งกอ่ นเรยี นและหลังเรยี น ๓. มีจิตสาธารณะ ๑.๒ ประพฤติตนตรงต่อความเปน็ จริงต่อตนเอง ๑.๓ ประพฤตติ นตรงต่อความเป็นจริงต่อผู้อนื่ ๒.๑ แสวงหาขอ้ มูลจากแหลง่ เรียนรูต้ า่ ง ๆ ทคี่ รชู ีแ้ นะ ๒.๒ มกี ารจดบันทกึ ความรทู้ ี่ได้จากการเรียนอย่างเป็นระบบ ๒.๓ สรปุ ความรู้ท่ไี ด้จากการเรียนอย่างมีเหตุผลและถูกต้อง ๓.๑ มคี วามเข้าใจตนเองและผอู้ ่ืน ๓.๒ สามารถปรบั ตัวทางาน สรปุ ผลการประเมิน ร่วมกับผู้อืน่ ไดอ้ ย่างมีความสลุขงช่ือ.................................................ผู้ประเมนิ ระดบั ดีเยยี่ ม ผ่าน (.....................................................................) ตาแหน่ง.......................................................... ดี วนั ที่...........เดอื น.........................พ.ศ.............. ผา่ นเกณฑ์การประเมิน เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน ให้ ๓ คะแนน ร้อยละ ๕๐-๖๐ ระดับคณุ ภาพ ดเี ยี่ยม (๓) - พฤตกิ รรมปฏิบัติชดั เจนและสมา่ เสมอ ให้ ๒ คะแนน รอ้ ยละ ๔๐-๔๙ ระดบั คุณภาพ ดี (๒) - พฤตกิ รรมปฏิบตั ิชดั เจนและบอ่ ยคร้งั ให้ ๑ คะแนน รอ้ ยละ ๒๐-๓๙ ระดบั คณุ ภาพ พอใช้ (๑) - พฤตกิ รรมปฏิบตั บิ างครั้ง ให้ ๐ คะแนน รอ้ ยละ ๐-๑๙ ระดับคุณภาพ ปรบั ปรุง (๐) - พฤตกิ รรมที่ไม่ไดป้ ฏบิ ัติ

๑๗๖ แบบทดสอบหลงั เรียน หนว่ ยการเรยี นรูเ้ รือ่ ง “การอา่ นเพอ่ื พัฒนาตน” คาชี้แจง : แบบทดสอบ ชนดิ ปรนยั ๔ ตวั เลือก มี ๓๐ ข้อ คาส่งั : ให้นักเรียนเลือกคาตอบ ท่ถี กู ท่ีสดุ เพยี งคาตอบเดียว แล้วกากบาท (x) ทบั ตัวเลือก ในกระดาษคาตอบให้ถูกต้อง ๑. การคิดวิเคราะห์มีประโยชนอ์ ย่างไร ก. ช่วยในการแสวงหาความรู้ ข. ชว่ ยในการสรปุ ประเดน็ สาคัญ ค. ชว่ ยในการส่ือสารท่เี ป็นกระบวนการ ง. ช่วยในการส่อื ความหมายและแกป้ ญั หาไดอ้ ยา่ งมปี ระสทิ ธภิ าพ ๒. ข้อใดให้คาจากดั ความของการวิจารณไ์ ด้ถกู ตอ้ ง ก. การแสดงความคดิ เหน็ ข. การพิจารณาว่าส่ิงใดดหี รือไม่ดดี ้วยเหตแุ ละผล ค. การพิจารณาตดั สนิ จากความคิดเห็น ส่วนตัว ง. การไม่เห็นดว้ ยกับข้อเท็จจรงิ อยา่ งมีเหตผุ ล ๓. ข้อใดใหค้ วามหมายของการอ่านเพอ่ื การวิเคราะหไ์ ดถ้ กู ตอ้ งท่ีสุด ก. การอา่ นอย่างมวี จิ ารณญาณไตรต่ รอง ข. การอ่านท่ีมุ่งค้นหาเนือ้ หาสาระหรือแกน่ สาคัญของเร่อื ง ค. การอ่านเพ่ือจาแนกประเภทสง่ิ ทีอ่ า่ นในชีวิตประจาวัน ง. การอ่านเพ่ือแยกแยะองคป์ ระกอบของสงิ่ ทอ่ี า่ น ๔. การอ่านเพ่อื วเิ คราะหว์ ิจารณม์ ีความหมายตรงกับขอ้ ใดมากทส่ี ดุ ก. การอา่ นเพ่ือแสดงความคิดเห็นต่อเร่อื งทอี่ า่ นอย่างมเี หตุผล ข. การอ่านเพ่ือตัดสนิ เร่ืองท่ีอา่ นว่ามขี อ้ บกพรอ่ งอย่างไร ค. การอา่ นเพอื่ แยกแยะเรอื่ งทอี่ า่ นแลว้ พจิ ารณาตดั สนิ ว่ามขี ้อดีขอ้ เสยี อยา่ งไร ง. การอา่ นเพือ่ แสดงความคดิ เห็นเรือ่ งที่อ่านจากความคิดเห็นส่วนตวั ๕. การวจิ ารณ์ท่ีดี ไม่ควรปฏบิ ัติตามขอ้ ใด ก. วิจารณอ์ ย่างสร้างสรรค์ ข. วิจารณ์ตามอารมณ์ความรสู้ ึก ค. วจิ ารณอ์ ย่างไมม่ อี คติ ง. วจิ ารณอ์ ย่างเป็นธรรมและเปน็ กลาง

๑๗๗ ๖. ข้อใดเปน็ การตง้ั คาถามเชิงคาดคะเนเหตุการณ์โดยมเี หตุผลประกอบ ก. ถา้ ทา่ นวางแผนการเดนิ ทางไปเทีย่ วกบั เพือ่ น แต่มปี ัญหาเร่อื งเสื้อผ้าเคร่ืองแต่งตัวที่ไม่ ทันสมัย ท่านจะทาอยา่ งไร ข. ถา้ ทา่ นเป็นข้าราชการทเ่ี ก่ยี วขอ้ งกบั การปอ้ งกนั ประเทศได้รับคาส่งั ให้ไปปฏบิ ัตกิ ารลบั ในขณะท่ีมารดากาลังปว่ ยหนกั ทา่ นจะทาอย่างไร ค. ถ้าทา่ นกาลังลงทุนท ากจิ การที่ไม่ต้องการให้ใครทราบเพราะไม่ไวว้ างใจผอู้ ่นื ท่านจะทาอย่างไร ง. ถ้าน้าท่วมประเทศไทยจะเปน็ อย่างไร ๗. ข้อใดตอ่ ไปน้ีไมใ่ ช่ขน้ั ตอนการอ่านเพื่อวิเคราะห์ วจิ ารณ์ ท่ถี ูกตอ้ ง ก. เมือ่ อา่ นจบเร่อื งหนงึ่ ๆ ควรฝกึ การต้ังคาถามเชิงคาดคะเน ข. เรียงลาดับความสาคัญของประเด็นทตี่ ้องการจะวิจารณ์ ค. หาความรูท้ แ่ี วดล้อมเรอื่ งท่ีอ่านอยา่ งรอบดา้ น ง. ฝกึ อ่านออกเสยี งเพ่ือให้เขา้ ใจอารมณ์ ความรู้สกึ ของตัวละคร ๘. ข้อใดเปน็ ความเหมาะสมในการสรปุ ความคิดเหน็ ในการวิจารณว์ รรณคดหี รือวรรณกรรม ก. ยกขอ้ เสยี ใหเ้ หน็ กอ่ นตามดว้ ยข้อดีพร้อมเหตุผลและตัวอย่าง ข. ยกตัวอย่างให้เห็นขอ้ เสยี กอ่ นขอ้ ดพี ร้อมเหตผุ ล ค. ยกข้อดใี ห้เห็นก่อนตามด้วยข้อบกพรอ่ งพรอ้ มเหตผุ ลและตวั อยา่ ง ง. แสดงความคิดเหน็ ได้ตามความพอใจของผู้วจิ ารณ์ ๙. “การอ่านและพิจารณาหนังสือ” หมายความว่าอย่างไร ก. การอ่านหนงั สือมากๆ ข. การอ่านหนงั สืออยา่ งพิจารณา ค. การอา่ นอยา่ งไตรต่ รอง ง. การอ่านอย่างมีวจิ ารณญาณ อา่ นบทร้อยกรองต่อไปน้ี แล้วตอบคาถาม ขอ้ ๑๐ – ๑๔ ขัดเอ๋ยขัดข้อง ท่ีหมายปองกไ็ มเ่ ป็นเชน่ ทค่ี ดิ อย่าท้อจิตย่อหย่อนอ่อนกาลงั ควรติดตั้งหน้าใหมใ่ จเย็นเย็น หาลู่ทางแก้ไขให้ม่ันเหมาะ คงจาเพาะพบวิธีชใี้ ห้เหน็ เหมอื นเมฆนอ้ ยคลอ้ ยเคล่ือนผา่ นเดือนเพญ็ เดือนจะเด่นเวหานา่ ชมเอย ๑๐. บทประพนั ธน์ ้มี ีใจความสาคัญ อย่างไร ก. ความผดิ หวังนามาสู่การตอ่ สู้ ข. ชวี ิตคือการตอ่ สู้ ศตั รูคือยากาลัง ค. อปุ สรรคเป็นทางนาสูค่ วามสาเรจ็ ง. ความพยายามนามาซึ่งความสาเรจ็

๑๗๘ ๑๑. คาวา่ เมฆนอ้ ย หมายถึงอะไร ก. อปุ สรรค ข. ความคิด ค. ความผิดหวัง ง. ความพยายาม ๑๒. คาใดมีความหมายตรงกบั คาวา่ เวหา ก. พนา ข. คงคา ค. นภา ง. พสุธา ๑๓. เม่อื อา่ นข้อความน้ีแลว้ เกิดความรู้สึกอยา่ งไร ก. มกี าลงั ใจตอ่ สู้ ข. ทอ้ แท้หมดหวัง ค. สนกุ สนานตื่นเต้น ง. สลดใจในชะตาตนเอง ๑๔. จากบทประพันธน์ แ้ี สดงว่า ผู้เขียนเปน็ คนอยา่ งไร ก. ชีวติ พบแต่ความสาเร็จ ข. เคยพบอปุ สรรคแต่แก้ไขได้ ค. สิ้นหวังทุกอย่างในชวี ิต ง. เคยพบอปุ สรรคแต่แกไ้ ขไมไ่ ด้ ๑๕. นายายหอม เป็นท้องถิน่ ท่อี ย่ไู กลถนนหนทางไปมาก็แสนจะลาบาก ประสบฝนแล้ง มาเป็นเวลานานติดต่อกันเป็นเวลา ๓ ปี “ นายายหอม ” เป็นชือ่ ของอะไร ก. ไรน่ าแห่งหนง่ึ ข. ชาวนาคนหนึ่ง ค. หญงิ ชราคนหน่งึ ง. หมู่บ้านแหง่ หนงึ่ ๑๖. “กจ็ นั ทรอ์ งั คารไม่เห็นเรอะ ฉนั จะมาดูว่ากินหยูกกนิ ยากนั หรอื ยัง น่กี ็อาศัยให้พ่อหนขู บั มาสง่ ” พอ่ หนูของคณุ ยา่ คือพีข่ องนดิ กบั หนอ่ ย สานวนภาษาทย่ี กมาจะพบในงานเขียนประเภทใด ก. บทความ ข. เรอ่ื งส้ัน, นิยาย ค. นิทาน ง. สารคดีทอ่ งเท่ียว

๑๗๙ ๑๗. ขอ้ ใดใช้สานวนภาษาได้ถูกตอ้ ง ก. ผมเปน็ ครูมานานใครๆ กเ็ รยี กผมว่าพอ่ พิมพ์ของชาติ ข. ขณะทลี่ กู อยใู่ นหอ้ งผ่าตดั แมก่ ระวนกระวาย จนนัง่ ไมต่ ดิ เก้าอ้ี ค. สอบเสร็จแล้ว เรายังเปน็ ลูกผีลกู คนอยเู่ ลยไมท่ ราบวา่ จะไดห้ รือตก ง. ถ้าเราทกุ คนร่วมมอื รว่ มใจเป็นชายข้าวเปลอื ก หญิงขา้ วสารโบราณวา่ งานน้คี งสาเร็จ ลงด้วยดี ใช้คาประพนั ธต์ ่อไปนี้ตอบคาถาม ข้อ ๑๘ กว่าเจ้าจะสูงใหญ่เกินไหล่แม่ ลาบากแทเ้ พียงไหนดวงใจเอย๋ สักหายใจหา่ งเจ้าแม่ไม่เคย เฝ้าชมเชยลูกนอ้ ยผกู้ ลอยใจ ความชรามาเยอื นเตือนให้รู้ แม่จะอยู่กับเราอีกเทา่ ไร ไมใ้ กล้ฝง่ั ทรุดพังลงวันใด เย็นรม่ ไทรจกั ลับไปกบั กาล ๑๘. ขอ้ ใดเป็นวัตถปุ ระสงคข์ องผู้เขียนคาประพนั ธข์ ้างต้น ก. พรรณนาความรกั ที่มตี ่อแม่ ข. ระบายความโศกเศร้าทแ่ี ม่จะจากไป ค. แสดงความร้สู ึกระลึกถึงพระคุณของแม่ ง. เตือนให้ลกู ดแู ลแมเ่ พอ่ื ทดแทนคณุ ๑๙. คาประพนั ธ์ในบทใดที่มีความหมายวา่ แม่รกั ลกู ย่ิงชีวติ ก. ลกู ร้องหรอื ปว่ ยไข้ รกั ษาใหไ้ ด้สุขสม ข. เยอื กเยน็ ดจุ แสงเดอื น ส่องสว่างกลางกมล ค. หากลูกต้องวายชนม์ แมแ่ ทบสน้ิ ชีวตี าม ง. ดว้ ยความรักจากมารดา ละมุนออ่ นใดจักเหมอื น ๒๐. “ดว้ ยไทยลว้ นหมายรักสามัคคี” ประโยคนห้ี มายถึงบคุ คลใด ก. นกั เรียนไทย ข. คนที่อาศยั แผ่นดนิ ไทย ค. คนไทยทกุ คน ง. ข้าราชการไทย ๒๑. “ชีวติ จะดีงาม มคี วามสขุ ประเทศจะรุ่งเรอื งมั่นคง และสังคมจะรม่ เย็นเกษมศานต์ ดว้ ยปัจจัยทสี่ าคญั ที่สุดคือ การพัฒนาคน ซ่ึงจะทาให้คนเปน็ คนดี มีความสขุ และเปน็ ทรพั ยากร มนุษย์ที่มคี ุณภาพ การพฒั นาคนก็คอื การศึกษา” บทความน้กี ล่าวถึงเรอื่ งใด ก. ชีวติ ท่ีดี ข. สังคมท่รี ม่ เย็น ค. การพฒั นาคน ง. การศึกษา

๑๘๐ ๒๒. จากบทความในขอ้ ๓๐ ส่งิ ที่จะช่วยพฒั นาคนคืออะไร ก. สังคม ข. การศกึ ษา ค. ประเทศชาติ ง. ทรัพยากร อา่ นข้อความนแ้ี ล้วตอบคาถามขอ้ ๒๓ - ๒๔ “ไทยนร้ี ักสงบ แต่ถงึ รบไมข่ ลาด เอกราชจะไมใ่ ห้ใครข่มข่ี สละเลอื ดทุกหยาดเปน็ ชาติพลี เถลิงประเทศชาติไทย ทวีมีชัยไชโย” ๒๓. ข้อใดเปน็ ประเด็นสาคัญของบทเพลงนี้ ก. ความรักชาติ ข. ความสละเลือดเพ่อื ชาติ ค. ความรกั สงบ ง. ความมีเกยี รตทิ ่เี ปน็ คนไทย ๒๔. ขอ้ ใดทีไ่ มไ่ ดก้ ล่าวถึงในบทเพลงนี้ ก. ความรกั สงบของชาติไทย ข. ความเปน็ เอกราชของชาติไทย ค. ความเสยี สละเพื่อชาติไทย ง. ความขีข้ ลาดของคนไทย อ่านข้อความนแี้ ลว้ ตอบคาถามข้อ ๒๕ - ๒๖ ความโกรธนนั้ มนั เหมือนทะเลบา้ คลน่ื ซัดซ่าสาดโครมโหมถลา ลมกระหน่าซา้ คลื่นครืนครนื มา เหมอื นอรุ าพลุ่งโชติเพราะโกรธครนั ๒๕. คาประพนั ธ์น้ีต้องการกล่าวถงึ ส่ิงใดเป็นสาคญั ก. ทะเล ข. ลมพายุ ค. ความโกรธ ง. เกลยี วคลื่น ๒๖. คาประพันธก์ ล่าวถึงความโกรธเหมอื นสิ่งใด ก. พายุ ข. คลน่ื ซดั ฝัง่ ค. ทะเลทก่ี าลงั มีพายุ ง. ถกู ทุกขอ้

๑๘๑ ๒๗. “วันน้เี อง็ ไหวค้ รกู ่อนเรยี นหนงั สือหรอื เปล่า” ข้อความน้เี ปน็ คาพดู ชนิดใด ก. คาถาม ข. คาสั่ง ค. คาสอน ง. คาเตอื น ๒๘. “เปน็ สามที ่ีซ่อื สัตยข์ องเธอ เป็นพอ่ ทดี่ ีของลูกและเปน็ ผู้นาทขี่ นั แขง็ แห่งครอบครวั เขาเปน็ ผู้ทอี่ ดทนต่อความเลวเปน็ อย่างยิง่ ...”ขอ้ ความนี้มนี ้าเสยี งแสดงความรู้สึกอยา่ งไร ก. ชืน่ ชม – ยกย่อง ข. ช่ืนชม - เยาะเยย้ ค. ชื่นชม – อาลยั ง. ชน่ื ชม – ยนิ ดี ๒๙. “โบราณท่านเคยส่ังสอน เปน็ อุทาหรณ์สอนใจ ตัวเองยังไม่เท่าไหร่ อย่าเทยี่ วไป ติติงใครเขา เหมือนแม่ปพู รา่ สอนลกู ปู เดินอยา่ เซเฉไปไม่เอา แม่เธออับอายใครเขาว่าไม่สั่งสอนพวกเจา้ ให้ดี” นกั เรียนไดแ้ นวคิดจากเพลงน้ีอยา่ งไร ก. การปฏบิ ตั ติ น ข. ความรักของแม่ ค. การเดนิ ง. การพูด ๓๐. การฝึกนสิ ัยให้รกั การอ่านนนั้ ควรเรม่ิ ต้นจากการอ่านประเภทใด ก. อา่ นเพอื่ ความรู้ ข. อา่ นเพอื่ ฆา่ เวลา ค. อ่านเพื่อสนองความสนใจของตน ง. อ่านเพื่อประโยชนใ์ นการเขา้ สมาคม

๑๘๒ เฉลยแบบทดสอบหลังเรยี น หนว่ ยการเรยี นรเู้ รอื่ ง “การอ่านเพอื่ พัฒนาตน” ๑. ก ๑๑. ก ๒๑. ค ๒. ข ๑๒. ค ๒๒. ข ๓. ง ๑๓. ก ๒๓. ข ๔. ค ๑๔. ข ๒๔. ง ๕. ข ๑๕. ก ๒๕. ค ๖. ข ๑๖. ข ๒๖. ค ๗. ง ๑๗. ก ๒๗. ก ๘. ค ๑๘. ง ๒๘. ข ๙. ค ๑๙. ค ๒๙. ก ๑๐. ง ๒๐. ก ๓๐. ค

๑๘๓ กำหนดการจัดการเรียนรู้ หน่วยการเรยี นรู้ท่ี ๕ นิราศนรนิ ทร์คำโคลง หน่วยที่ มาตรฐาน สาระสำคัญ/ ความคิดรวบยอด ชนิ้ งาน / เวลา น้ำหนัก / ชื่อ การเรยี นรู้ / ภาระงาน (ชัว่ โมง) คะแนน หนว่ ย ตวั ชี้วัด การวเิ คราะห์ วจิ ารณจ์ าก ๑. วิเคราะห์ ๓ ๕ นิราศ ท ๑.๑ ม.๔-๖/๓ นรินทร์ ท ๑.๑ ม.๔-๖/๗ การอ่านวรรณคดเี รื่องนิราศ วิจารณพ์ ร้อมสรุป คำโคลง ท ๕.๑ ม.๔-๖/๒ นรินทร์คำโคลงอย่างมีเหตผุ ล ความคิดจากเรอ่ื ง ท ๕.๑ ม.๔-๖/๔ พร้อมสรปุ เปน็ แผนผังความคิด นิราศนรนิ ทรค์ ำ ของตนเอง รวมถงึ การวเิ คราะห์ โคลงลงในกระดาษ ลักษณะเดน่ ของวรรณคดี ในด้าน โฟร์ชารต์ ตัวละคร ฉาก และเนื้อเรื่อง จาก ๒. วเิ คราะห์ การอา่ นวรรณคดีเร่ืองนริ าศ ลกั ษณะเดน่ และ นรินทรค์ ำโคลง พร้อมสังเคราะห์ สงั เคราะห์ข้อคิด จากวรรณคดจี าก ขอ้ คิดทไี่ ด้แลว้ นำไปใช้ใน เรอื่ งนริ าศนรนิ ทร์ ชีวิตประจำวนั ได้อย่างถูกต้อง คำโคลงลงบน กระดาษโฟรช์ ารต์

แผนการจดั การเรียนรู้ท่ี ๑ ผังวิเคราะหห์ น่วยการเรียนรู้ท่ี ๕ ๑๘๔ เรอ่ื ง การวิเคราะหว์ ิจารณ์และสรุป ช่ือหน่วยการเรียนรู้ นริ าศนรนิ ทรค์ ำโคลง ความคิดจากเรอื่ ง แผนการจดั การเรียนรู้ท่ี 2 ท ๑.๑ ม.๔-๖/๓ หนว่ ย นริ าศนรินทรค์ ำโคลง ๒เรือ่ ง การวิเคราะหแ์ ละสังเคราะห์ ท ๑.๑ ม.๔-๖/๗ การวิเคราะห์ วจิ ารณจ์ าก วรรณคดี ท ๕.๑ ม.๔-๖/๒ การวิเคราะห์ วจิ ารณจ์ าก การอา่ นวรรณคดีเร่ืองนริ าศนรนิ ทร์ ท ๕.๑ ม.๔-๖/๔ การอา่ นวรรณคดเี รอ่ื งนริ าศนรนิ ทร์ คำโคลงอย่างมเี หตผุ ล พร้อมสรุป คำโคลงอยา่ งมเี หตผุ ล พร้อมสรปุ เปน็ แผนผงั ความคดิ ของตนเอง การวเิ คราะห์ลักษณะเด่น เปน็ แผนผงั ความคดิ ของตนเองลงใน รวมถงึ การวเิ คราะหล์ ักษณะเด่นของ ของวรรณคดเี รื่องนิราศนรินทร์คำ ใบงานท่ี 1 ใหเ้ รยี บร้อยและตกแตง่ วรรณคดี ในดา้ นตัวละคร ฉาก โคลง ในดา้ นตวั ละคร ฉาก และเนือ้ ให้สวยงาม เนื้อเร่ือง จากการอ่านวรรณคดเี ร่ือง เร่อื ง พร้อมสังเคราะหแ์ ละอธิบาย นิราศนรนิ ทร์คำโคลง พรอ้ ม ขอ้ คิดที่ไดจ้ ากการอ่านวรรณคดลี งใน สังเคราะหข์ ้อคิดที่ไดแ้ ล้วนำไปใช้ใน ใบงานท่ี 2 ให้ถูกต้อง แลว้ นำข้อคิด ชีวติ ประจำวนั ไดอ้ ย่างถกู ต้อง ไปใช้ในชีวติ ประจำวนั ชิน้ งาน / ภาระงาน สมรรถนะสำคัญของผูเ้ รยี น คุณลักษณะอนั พึงประสงค์ ๑. วิเคราะห์วิจารณพ์ ร้อมสรุป ๑. ความสามารถในการส่ือสาร ๑. ใฝเ่ รยี นรู้ ๒. ความสามารถในการคดิ ๒. มงุ่ มน่ั ในการทำงาน ความคิดจากเร่ืองนิราศนรินทร์ ๓. ความสามารถในการแก้ปัญหา ๓. มีความรับผดิ ชอบ ๔. มีจิตสาธารณะ คำโคลงลงในกระดาษโฟรช์ าร์ต ๒. วิเคราะหล์ ักษณะเดน่ และ สงั เคราะหข์ ้อคิดจากวรรณคดีจาก เร่ืองนิราศนรนิ ทร์คำโคลงลงบน กระดาษโฟรช์ ารต์

๑๘๕ แผนการจัดการเรยี นร้วู ชิ าภาษาไทย มัธยมศึกษาปีท่ี ๔ กล่มุ สาระการเรียนร้ภู าษาไทย แผนที่ ๑/๒ หนว่ ยการเรียนรทู้ ี่ ๕ เรอื่ ง นิราศนรนิ ทร์คำโคลง ภาคเรียนท่ี ๑/๒๕๖๓ แผนการจดั การเรยี นรู้ เรื่อง การวิเคราะหว์ ิจารณ์และสรปุ ความคิดจากเรื่อง เวลา ๒ ชวั่ โมง สอนวันที่............เดือน....................พ.ศ............. ครูผ้สู อน.............................................................. ๑. สาระสำคญั การอา่ นเปน็ ทกั ษะทีจ่ ำเปน็ ต่อการรับร้ขู ้อมูลขา่ วสารในชวี ติ ประจำวัน และในขณะทอี่ ่านจะตอ้ งรู้จักคิด วิเคราะห์ วจิ ารณ์ เพื่อนำความรู้ท่ไี ด้ไปใช้เป็นประโยชน์ ดังน้ันผู้เรียนจงึ ควรฝึกทักษะการวิเคราะห์ วิจารณห์ รือ ประเมินค่าเร่อื งทอี่ ่านอยา่ งถูกต้องและมเี หตุผลเพ่ือจะได้เปน็ พืน้ ฐานในการวเิ คราะห์วิจารณใ์ นขน้ั สูงต่อไป รวมทั้ง นำความรทู้ ไ่ี ด้ไปประยกุ ต์ใชใ้ หเ้ กิดประโยชนใ์ นชีวติ ประจำวัน ๒. มาตรฐานการเรียนรูแ้ ละตัวช้วี ดั มาตรฐาน ท ๑.๑ ใชก้ ระบวนการอ่านสร้างความรูล้ ความคดิ เพ่ือนำไปใชต้ ัดสนิ ใจ แกป้ ัญหาในการดำเนินชีวติ และมี นสิ ยั รกั การอา่ น ตวั ชี้วัด ม.๔-๖/๓ วิเคราะห์ และวจิ ารณ์เรือ่ งท่อี า่ นในทกุ ๆ ด้านอย่างมีเหตุผล ม.๔-๖/๗ อา่ นเรอื่ งตา่ ง ๆ แล้วเขียนกรอบแนวคิด ผังความคิด บนั ทกึ ย่อความ และรายงาน ๓. จดุ ประสงค์การเรียนรู้ ๑. นักเรียนสามารถบอกความหมาย และหลักการวเิ คราะหว์ จิ ารณ์เร่อื งท่ีอ่านได้ (K) ๒. นกั เรียนสามารถวเิ คราะห์วจิ ารณเ์ รอื่ งที่อ่านไดถ้ ูกต้อง (P) ๓. นักเรยี นมีสว่ นร่วมในกจิ กรรมการเรียนการสอน (A) ๔. สมรรถนะทต่ี ้องการ ๑. ความสามารถในการส่ือสาร ๒. ความสามารถในการคดิ ๓. ความสามารถในการแก้ปัญหา ๕. ลกั ษณะอันพึงประสงค์ ๑. ซอ่ื สัตย์ สุจรติ ๒. ใฝเ่ รียนรู้ ๓. มุ่งม่ันในการทำงาน

๑๘๖ ๔. มจี ิตสาธารณะ ๖. สาระการเรียนรู้/เน้ือหา ๑. นิราศนรินทรค์ ำโคลง ๒. ความหมายและหลักการของการวิเคราะห์วิจารณ์ ๗. ผลงาน/การปฏิบตั ิ ๑. วิเคราะห์วจิ ารณ์พร้อมสรปุ ความคดิ จากเร่ืองนริ าศนรินทรค์ ำโคลงลงในกระดาษโฟร์ชารต์ ๘. การจดั กจิ กรรมการเรียนร/ู้ กระบวนการเรียนรู้ กิจกรรมที่ ๑ ขน้ั นำ (เวลา ๑๐ นาท)ี วธิ กี ารดำเนนิ กิจกรรม ๑. ครูผู้สอนทกั ทายนักเรียนด้วยบรรยากาศท่เี ป็นกันเอง เช่น สวสั ดีคะ่ นกั เรียนทุกคน วนั นี้กนิ ข้าวเชา้ กันมาหรือยงั คะ เป็นต้น แล้วแนะนำตวั เองพร้อมให้นักเรียนแต่ละคนแนะนำตนเองเชน่ เดียวกัน ๒. ครชู ้แี จงข้อตกลงในการเรียนและการทำกจิ กรรม เพื่อเปน็ ข้อปฏบิ ตั ริ ว่ มกนั ในชั้นเรยี น ๒.๑ หา้ มเสียงดงั หรือหยอกล้อกนั ในชัน้ เรียน ๒.๒ ห้ามรบกวนสมาธิเพ่อื นในชนั้ เรียน ๒.๓ ห้ามรับประทานอาหารในช้ันเรียน ๒.๔ หากมขี อ้ สงสยั ให้ยกมือข้ึนถาม ๓. ครูผสู้ อนแบ่งกลุ่มนกั เรียนโดยคละความสามารถ กำหนดสดั สว่ นผู้เรยี นท่มี ผี ลการเรียนดี ปาน กลาง และอ่อน ซึ่งจะไดผ้ ้เู รยี น ในอัตราส่วน ๑ : ๒ : ๑ ใน ๑ กลุ่ม จะไดจ้ ำนวนสมาชกิ ๔ คน เมอ่ื จดั เสรจ็ แล้วจึง ให้ผเู้ รียนทีอ่ ยูก่ ลุ่มดว้ ยกนั มานง่ั โต๊ะที่จดั เป็นกลุ่มไว้แลว้ ๔. หลังจากใหน้ ักเรยี นน่ังเป็นกลมุ่ แลว้ ครผู สู้ อนแจกแบบทดสอบให้นักเรียนทำแบบทดสอบ กอ่ นเรยี นชนิดปรนยั จำนวน ๑๐ ข้อ ๔ ตวั เลอื ก ๑๐ คะแนน เรื่อง การวเิ คราะห์วจิ ารณพ์ ร้อมสรุปความคดิ จาก เรื่องทีอ่าน เพ่ือเป็นการวัดระดบั ความร้เู ดิมของนักเรียนในเรอ่ื งการวิเคราะหว์ ิจารณ์พร้อมสรุปความคิดจากเรอื่ งที อา่ นก่อนท่จี ะเริ่มเรียน ๕. ครูผสู้ อนเกบ็ แบบทดสอบและกระดาษคำตอบเม่ือนักเรียนทำเสร็จครบทกุ คนแล้ว กจิ กรรมที่ ๒ ขนั้ สอน (เวลา ๓๐ นาที) วิธีการดำเนนิ กิจกรรม ๑. ครผู ู้สอนนำเขา้ สูบ่ ทเรียน โดยการสนทนากบั นักเรียนเกี่ยวกบั เรือ่ งนิราศนรินทร์คำโคลง เช่น สอบถามนักเรียนวา่ นักเรียนเคยอา่ นนริ าศนรินทร์คำโคลงมาบา้ งหรือเปล่า เพอื่ กระตุน้ ให้นักเรียนทกุ คน เตรยี มพร้อมในการเรียนเนื้อหานนั้ ๆ ๒. ครผู สู้ อนใหน้ กั เรยี นอา่ นเรื่องนิราศนรนิ ทร์คำโคลงในใจ เมื่ออา่ นจบแลว้ ครผู ูส้ อนจึงเล่าเรื่อง นิราศนรินทร์คำโคลง ให้นักเรียนฟัง ๑ รอบ พร้อมใหน้ ักเรียนเปดิ หนังสอื วรรณคดีวิจักษณ์ เรื่องนิราศนรินทร์คำ โคลง

๑๘๗ ๓. หลังจากการเรยี นเน้อื หาเร่ืองนิราศนรินทรค์ ำโคลงแล้ว ครผู ู้สอนนำเสนอความรเู้ ก่ียวกับ ความหมาย หลักการของการวเิ คราะหว์ ิจารณ์พร้อมสรุปความคดิ จากเรอ่ื งทอี า่ น โดยแจกใบความรเู้ รื่อง นริ าศ นรนิ ทรค์ ำโคลง เพ่ือใหน้ ักเรยี นเรยี นรู้ด้วยตนเอง ประกอบกับฟังครูผูส้ อนดว้ ย ๔. ครผู ูส้ อนแจกกระดาษโฟร์ชารต์ เพอื่ ให้นักเรยี นภายในกลมุ่ ร่วมกนั วิเคราะห์วจิ ารณ์พร้อมสรปุ ความคดิ จากเรอื่ งนิราศนรนิ ทรค์ ำโคลง ตามประเดน็ ท่ีตนเองไดร้ ับผดิ ชอบ ๕. นกั เรยี นภายในกลุ่มชว่ ยกนั ศึกษาและวเิ คราะหว์ ิจารณเ์ รื่องนิราศนรนิ ทร์คำโคลง แล้วเขียนลง บนกระดาษโฟรช์ ารต์ พร้อมตกแตง่ ใหส้ วยงาม ๖. ในระหว่างทำกิจกรรม ครูผสู้ อนคอยสงั เกตการณ์ทำกิจกรรม และคอยชีแ้ นะหากนักเรียนมีข้อ สงสัย ๗. นกั เรียนแต่ละกล่มุ ออกมานำเสนอการวเิ คราะห์วจิ ารณเ์ รอ่ื ง นิราศนรินทร์คำโคลง ในสว่ นที่ ตนเองได้รบั ผดิ ชอบ จนครบทุกกลุ่ม ๘. เม่ือนำเสนอเสรจ็ ใหน้ กั เรียนทกุ คนร่วมกนั ประเมินผลงานเพื่อนและเลือกกลุ่มท่นี ำเสนอได้ดี ที่สดุ ๑ กลมุ่ กจิ กรรมที่ ๔ ขนั้ สรุป (๑๐ นาที) วธิ กี ารดำเนนิ กจิ กรรม ๑. จากการทำกิจกรรมกลุ่ม ครผู สู้ อนประกาศผล โดยมอบรางวลั ให้กับกล่มุ ท่ีวิเคราะห์วจิ ารณ์ เร่ืองนริ าศนรนิ ทร์คำโคลงได้ถูกตอ้ งที่สุด และไดค้ ะแนนการประเมินจากเพ่ือนมากเปน็ อนั ดับ ๑ ซงึ่ กล่มุ ท่ีไม่ได้ รางวัล ครูผู้สอนกใ็ ห้กำลงั ใจในการพัฒนาตนเองต่อไป ๒. ครผู ู้สอนใหน้ ักเรียนทำแบบทดสอบหลังเรยี น ชนดิ ปรนัย จำนวน ๑๐ ข้อ ๔ ตวั เลอื ก ๑๐ คะแนน เรื่อง การอา่ นบทร้อยกรอง เพ่ือวัดความรทู้ ไี่ ด้รับจากการเรยี นเร่ือง การวเิ คราะห์วิจารณเ์ ร่ืองที่อ่าน ๓. ครผู ้สู อนเก็บแบบทดสอบและกระดาษคำตอบหลงั จากนกั เรียนทำเสรจ็ หมดทุกคนแลว้ พร้อม ตรวจคะแนนแบบทดสอบและบนั ทกึ ผลคะแนนของสมาชกิ ในห้องเรยี น ๙. ส่ือและแหล่งการเรียนรู้ ส่ือการเรียนรู้ ๑. หนังสอื เรียน รายวิชาพื้นฐาน ภาษาไทย ชดุ ภาษาเพอื่ ชีวิต วรรณคดวี จิ กั ษณ์ ช้นั มธั ยมศึกษาปีที่ ๔ ๒. ใบความรู้เร่ือง การวิเคราะหว์ ิจารณ์เรอื่ งที่อา่ น ๓. กระดาษโฟร์ชารต์ แหลง่ การเรียนรู้ ๑. ครู ๒. หอ้ งสมดุ ๓. อินเทอรเ์ นต็

๑๘๘ ๑๐. การวัดและประเมินผล สง่ิ ที่ต้องการวดั วธิ กี ารวัดและ เคร่อื งมอื วัด เกณฑ์การประเมนิ ประเมนิ ผล ๑. บอกความหมาย และ การทดสอบก่อนเรียน แบบทดสอบปรนยั ๔ คะแนนผา่ นเกณฑ์ รอ้ ย ตวั เลอื ก จำนวน ๑๕ ข้อ ละ ๘๐ ขึน้ ไป หลกั การวิเคราะห์ และหลงั เรยี น วจิ ารณ์เรอ่ื งท่ีอ่านได้ อย่างถูกต้อง (K) ๒. การวเิ คราะหว์ จิ ารณ์ ประเมินการวเิ คราะห์ แบบประเมินการ ผ่านเกณฑ์ร้อยละ ๘๐ วิเคราะห์วจิ ารณ์เรื่องท่ี ขึน้ ไป เรื่องท่ีอา่ น (P) วจิ ารณ์เร่อื งที่อ่าน อ่าน ผ่านเกณฑร์ ้อยละ ๘๐ ๓. การมมี ารยาทในการ การประเมินพฤตกิ รรม แบบสงั เกตพฤติกรรม ข้ึนไป ผูเ้ รยี น Scoring อ่าน (A) ผูเ้ รยี น Rubrics ๔ รายการ ผ่านเกณฑร์ ้อยละ ๘๐ ประเมนิ ๓ ระดบั ข้นึ ไป ๔. การมีสว่ นรว่ มในการ แบบประเมิน คณุ ภาพ ทำกิจกรรม คณุ ลกั ษณะอันพึง แบบประเมิน คุณลกั ษณะอนั พึง ประสงค์ ประสงค์ ๓ คณุ ลักษณะ ๓ ระดับ คณุ ภาพ ๑๑. บันทกึ เพ่ิมเตมิ สำหรบั ผู้บริหาร …………………………………………………............................................................................................................................ ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………................................... ลงชอ่ื .................................................ผู้ประเมนิ (.....................................................................) ตำแหนง่ .......................................................... วนั ท.ี่ ..........เดือน.........................พ.ศ..............

๑๘๙ ๑๒. บนั ทกึ ผลหลังการจดั การเรยี นรู้ ผลการจดั การเรียนรู้ …………………………………………………………………………………………................................................................................ ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………................................... สภาพปญั หา ……………………………………………………………………………………….................................................................................. ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………................................... แนวทางแก้ไขปญั หา …………………………………………………………………………………………................................................................................ ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………................................... ขอ้ เสนอแนะในการจัดการเรียนรู้ ……………………………………………………………………………………………….......................................................................... ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………….......................... …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………......... ลงช่ือ.................................................ผูป้ ระเมิน (.....................................................................) ตำแหน่ง.......................................................... วนั ท.่ี ..........เดอื น.........................พ.ศ.............

๑๙๘ การวเิ คราะห์ หมายถึง การทผ่ี ฟู้ ังและผู้ดูรับสารแลว้ พจิ ารณาองคป์ ระกอบออกเปน็ สว่ น ๆ นำมาแยกประเภทลักษณะ สาระสำคญั ของสาร กลวีการเสนอและเจตนาของผสู้ ง่ สาร การวจิ ารณ์ หมายถงึ การพจิ ารณาเทคนคิ หรือกลวธิ ที ี่แสดงออกมานั้น ใหเ้ หน็ วา่ นา่ คดิ น่าสนใจ น่าติดตาม มชี ้นั เชงิ ยอกย้อนหรอื ตรงไปตรงมา องค์ประกอบใดมีคณุ ค่าน่าชมเชย องค์ประกอบใดน่าทว้ งติงหรอื บกพร่องอยา่ งไร การวจิ ารณ์ส่งิ ใดกต็ ามจงึ ต้องใช้ความรู้มเี หตุ มีผล มีหลกั เกณฑ์และมีความรอบคอบ หลกั ในการวเิ คราะหว์ จิ ารณ์ ๑. อ่านเรอื่ งราวใหเ้ ขา้ ใจชดั เจน ๒. กำหนดขอบเขตวรรณกรรมที่จะวเิ คราะห์ใหช้ ดั เจนวา่ ตอ้ งการวิเคราะหป์ ระเด็นใดบ้าง ๓. กำหนดจุดม่งุ หมายในการวเิ คราะหใ์ ห้ชัดเจน เชน่ เพอื่ การศกึ ษา เพอื่ เขยี นหนังสือ เป็นต้น ๔. พิจารณาหลกั ความรหู้ รือทฤษฎที ีเ่ ก่ียวขอ้ งวา่ จะใช้หลกั ใดในการวิเคราะห์ เชน่ วิเคราะหด์ า้ นประวตั ิศาสตร์ ปรัชญาพุทธศาสนา เป็นต้น

๑๙๙ ประเดน็ ทใ่ี ช้ในการวเิ คราะหว์ ิจารณ์ ๑. คณุ ค่าด้านวรรณศลิ ป์ ๒. คุณค่าดา้ นเนอื้ หาสาระ ๓. คณุ ค่าด้านสงั คม ๔. การนำไปประยุกตใ์ ชใ้ นชวี ิตประจำวัน การนำไปประยกุ ตใ์ ชใ้ นชวี ติ ประจำวนั งานประพนั ธย์ อ่ มประกอบด้วยถอ้ ยคำ เน้อื หาสาระและกลวธิ ีการเขยี นแบบต่าง ๆ ซงึ่ สามารถนำงานประพนั ธไ์ ปใช้ใหเ้ กิดประโยชนไ์ ด้ เช่น ในแงจ่ ดจำถ้อยคำสำนวนไปใช้ เพ่อื ความสนุกสนาน ความไพเราะ สว่ นเนอื้ หาสาระ อาจนำไปใช้ในแง่ได้คติเตือนใจ ได้ความคดิ เหน็ ทีม่ ปี ระโยชนต์ อ่ ชีวิต ครอบครัว และสังคม การนำคณุ คา่ ของงานประพันธ์ ไปใชไ้ ดม้ ากนอ้ ยเพยี งใดขนึ้ อยู่กบั ความสามารถและประสบการณข์ องผอู้ ่าน ที่จะวเิ คราะห์เพอ่ื เลือกจดจำ คดิ แ ท่มี า : https://kingkarnk288.wordpress.com/

แบบสรุปคะแนนทดสอบย่อยระหวา่ งกอ่ นและหลังเรียน ๑๙๒ เรือ่ ง การวิเคราะห์วิจารณ์และสรปุ ความคดิ จากเรื่อง สรุป ระดบั ชั้นประถมศกึ ษาปีท่ี ๓ สรุปคะแนน ท่ี ชื่อ-สกุล ผลการทดสอบ ่ยอย ่กอนเรียน ผลการทดสอบ ่ยอยห ัลงเรียน คะแนนการทดสอบ ่ยอย ที่เ ิพ่ม ึ้ขน ่ผาน ไ ่ม ่ผาน คะแนน คะแนน คะแนน ๑ ๒ ๓ ๔ ๕ ๖ ๗ ๘ ๙ ๑๐ บันทกึ เพ่มิ เติม ............................................................................................................................. ....................................................... .................................................................................................................................................................................... ............................................................................................................................. ....................................................... ลงช่ือ.................................................ผู้ประเมิน (.....................................................................) ตำแหน่ง.......................................................... วนั ที.่ ..........เดอื น.........................พ.ศ..............

๑๙๓ แบบประเมนิ คณุ ลักษณะอันพงึ ประสงค์ ๘ ประการ โรงเรียนกันทรวชิ ยั อำเภอกันทรวิชัย จังหวดั มหาสารคาม สำนักงานเขตพืน้ ที่การศกึ ษามธั ยมศึกษา เขต ๒๖ ภาคเรียนท่ี ๒ ปีการศึกษา ๒๕๖๒ ชอื่ -สกุลนกั เรยี น...........................................................................ห้อง..............................เลขท่ี....................... คำช้ีแจง : ให้ผู้สอน สงั เกตพฤติกรรมของนกั เรียนในระหวา่ งเรยี นและนอกเวลาเรียน แล้วขดี / ลงในชอ่ งที่ตรงกับ ระดับคะแนน คณุ ลักษณะ รายการประเมนิ ระดับคะแนน อันพึงประสงค์ ๓ ๒ ๑๐ ๑.ซื่อสตั ยส์ ุจริต ๑.๑ ปฏิบัตติ ามระเบียบการสอน และไมล่ อกการบ้าน ๑.๒ ประพฤติ ปฏบิ ัติ ตรงต่อความเป็นจริงตอ่ ตนเอง ๑.๓ ประพฤติ ปฏิบตั ิตรงต่อความเป็นจรงิ ต่อผู้อนื่ ๒. ใฝ่เรยี นรู้ ๒.๑ แสวงหาข้อมูลจากแหล่งเรยี นรู้ต่าง ๆ ๒.๒ มกี ารจดบนั ทกึ ความรอู้ ย่างเป็นระบบ ๒.๓ สรุปความรไู้ ดอ้ ยา่ งมเี หตุผล ๓. มงุ่ ม่ันในการทำงาน ๓.๑ มคี วามตง้ั ใจ และพยายามในการทำงานที่ได้รบั มอบหมาย ๓.๒ มคี วามอดทนและไมท่ ้อแท้ตอ่ อุปสรรคเพอื่ ใหง้ านสำเรจ็ ๔. มีจติ สาธารณะ ๔.๑ ชว่ ยเหลือผ้อู ื่นด้วยความเตม็ ใจโดยไมห่ วังผลตอบแทน ๔.๒ อาสาทำงานดว้ ยความสมคั รใจ บันทึกเพิ่มเติม ............................................................................................................................. ....................................................... .................................................................................................................................................................................... ............................................................................................................................. ....................................................... ลงชอ่ื .................................................ผปู้ ระเมนิ (.....................................................................) ตำแหนง่ .......................................................... วันท่ี...........เดือน.........................พ.ศ..............

๑๙๔ เกณฑ์การให้คะแนน - พฤติกรรมท่ปี ฏิบัตชิ ดั เจนและสมำ่ เสมอ ให้ ๓ คะแนน - พฤตกิ รรมท่ปี ฏิบัตชิ ดั เจนและบอ่ ยคร้ัง ให้ ๒ คะแนน - พฤตกิ รรมที่ปฏิบตั บิ างครงั้ ให้ ๑ คะแนน - พฤตกิ รรมทไี่ มไ่ ด้ปฏบิ ัติ ให้ ๐ คะแนน เกณฑ์การแปลความหมายคะแนน กำหนดไว้ดงั นี้ คะแนน ๗ - ๙ คะแนน หมายถงึ ดมี าก คะแนน ๔ - ๖ คะแนน หมายถงึ ดี คะแนน ๐ - ๓ คะแนน หมายถึง ปรบั ปรุง หมายเหตุ ผผู้ า่ นเกณฑ์ประเมินตอ้ งไดค้ ะแนน ๗ คะแนนขึ้นไป คดิ เป็นร้อยละ ๘๐

๑๙๕ เกณฑ์การประเมนิ คุณลักษณะอนั พงึ ประสงค์ รายการประเมนิ ๓๒ ๑ ๑. ซื่อสตั ยส์ ุจรติ นกั เรยี นใหข้ ้อมูลที่ถูกต้อง นักเรยี นให้ข้อมูลที่ถกู ต้องและเปน็ จริง นกั เรียนให้ข้อมลู ที่ถูกต้องและ และเปน็ จริง ปฏบิ ัติในสงิ่ ท่ี ถกู ต้อง ทำตามสัญญาท่ีตน ปฏิบตั ิในส่งิ ทถี่ ูกต้อง ทำตามสญั ญา เปน็ จริง ปฏบิ ตั ใิ นสง่ิ ทถี่ ูกต้อง ให้ไวก้ ับเพ่อื น พอ่ แม่ หรอื ผปู้ กครอง และครู ท่ตี นใหไ้ ว้กับเพื่อน พ่อแม่ หรือ ทำตามสัญญาทีต่ นให้ไวก้ ับ ผู้ปกครอง และครู ละอายและเกรงกลัว เพอื่ น พ่อแม่ หรือผู้ปกครอง ทีจ่ ะทำความผดิ เป็นแบบอย่างที่ดดี า้ น และครู ละอายและเกรงกลวั ท่ี ความซ่อื สัตย์ จะทำความผดิ ๒. ใฝ่เรยี นรู้ นกั เรยี นเขา้ เรียน ตรงเวลา ต้ังใจเรียน นักเรียนเข้าเรยี นตรงเวลา นกั เรียนเขา้ เรียน ตรงเวลา เอาใจใส่ในการเรียน และมีสว่ นรว่ มใน ตงั้ ใจเรียน เอาใจใส่ ต้งั ใจเรียน เอาใจใส่ การเรียนรู้ และเข้าร่วมกิจกรรม ในการเรียน และมีสว่ นร่วม ในการเรยี น และเข้ารว่ ม การเรียนรู้ต่าง ๆ ทั้งภายใน และ ในการเรยี นรู้ และเข้าร่วม กจิ กรรมการเรยี นรู้ตา่ ง ๆ ภายนอกโรงเรียน เปน็ ประจำ กจิ กรรมการเรียนรตู้ า่ ง ๆ เป็นบางคร้งั บ่อยคร้งั ๓. มงุ่ มัน่ ในการ นักเรียนตัง้ ใจ และรบั ผดิ ชอบในการ นกั เรยี นตัง้ ใจ และรับผดิ ชอบ ทำงาน ปฏบิ ัติ หนา้ ทท่ี ่ไี ดร้ บั มอบหมาย นกั เรียนต้ังใจ และรบั ผิดชอบ ในการปฏิบัติหนา้ ท่ีทไ่ี ด้รบั ในการปฏิบัติหน้าท่ีทไ่ี ดร้ ับ มอบหมายใหส้ ำเรจ็ ให้สำเรจ็ มีการปรับปรุงและพัฒนา มอบหมายให้สำเร็จ การทำงานใหด้ ขี น้ึ ภายในเวลา มีการปรับปรงุ และพฒั นา ช่วยเหลอื ผอู้ น่ื ด้วยความเต็ม ทก่ี ำหนด การทำงานให้ดขี น้ึ ใจโดยไมห่ วงั ผลตอบแทน เขา้ ร่วมกิจกรรมเพื่อ ๔. มีจติ สาธารณะ ชว่ ยเหลอื ผู้อ่ืนด้วยความเตม็ ใจโดย ช่วยเหลือผู้อ่ืนด้วยความเต็มใจ แกป้ ญั หาต่าง ๆ ในบางครั้ง ไม่หวังผลตอบแทน อาสาทำงานด้วย โดยไม่หวงั ผลตอบแทน ความสมคั รใจ เข้าร่วมกิจกรรมเพ่ือ เขา้ ร่วมกิจกรรมเพื่อแกป้ ญั หา แกป้ ัญหาหรือรว่ มสรา้ งสง่ิ ท่ดี ีงามของ หรือร่วมสรา้ งสิ่งที่ดงี ามของ ส่วนรวมตามสถานการณ์ท่เี กิดขน้ึ ด้วย ส่วนรวมตามสถานการณ์ท่ี ความกระตอื รือร้น เกิดขน้ึ บ่อยครง้ั เกณฑ์การให้คะแนนการประเมินคณุ ลักษณะอนั พงึ ประสงค์กำหนดไว้ดังน้ี ๓ หมายถงึ ดมี าก ๒ หมายถึง ดี ๑ หมายถงึ ปรบั ปรงุ


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook