Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore แผนการสอนภาษาไทย ม.4 (1)

แผนการสอนภาษาไทย ม.4 (1)

Published by saowanee021238, 2021-03-15 16:32:48

Description: แผนการสอนภาษาไทย ม.4 (1)

Search

Read the Text Version

แผนการจัดการเรียนรู้ วิชาภาษาไทยพื้นฐาน รหัสวิชา ท๓๑๑๐๑ ระดบั ช้ันมธั ยมศึกษาปที ี่ ๔ ปกี ารศึกษา ๒๕๖๓ นางสาวเสาวนีย์ ตะ๊ ต๋า ตาแหนง่ ครูผชู้ ว่ ย กลมุ่ สาระการเรียนรูภ้ าษาไทย โรงเรียนราชประชานุเคราะห์ ๓๑ จงั หวัดเชียงใหม่ สงั กัดสานักบริหารงานการศึกษาพิเศษ สานกั งานการศึกษาขน้ั พื้นฐาน กระทรวงศึกษาธิการ

ก คานา โครงสร้างรายวิชาและแผนการจัดการเรียนรู้ทีจ่ ดั ข้ึนนี้ เพื่อให้ครูผู้สอนได้เตรียมการ ในการจดั การเรียนการสอนรายวิชา ท๓๑๑๐๑ ภาษาไทยพื้นฐาน โดยมีการศึกษาและ วิเคราะห์หลกั สูตรแกนกลางการศึกษาข้ันพื้นฐานพุทธศักราช ๒๕๕๑ และฉบับปรับปรุง พทุ ธศักราช ๒๕๕๕ ตามสาระมาตรฐานการเรียนรู้และตัวชี้วัด วิเคราะห์หลักสูตรของ สถานศึกษาและหลกั สตู รกลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย จัดทาคาอธิบายรายวิชา โครงสร้าง รายวิชา กาหนดเวลาเรียน น้าหนกั คะแนน กาหนดทักษะกระบวนการในการเรียนการสอน ตลอดจนการวัดและป ระเมินผลการเรียนการสอนของครู หวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะเป็น ประโยชน์สาหรบั ครผู ู้สอนในการพฒั นาคณุ ภาพการเรียนรู้และผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของ นกั เรียนโรงเรียนราชประชานุเคราะห์ ๓๑ อาเภอแม่แจ่ม จังหวัดเชียงใหม่ สังกัดสานัก บริหารงานการศึกษาพิเศษ สานักงานคณะกรรมการการศึกษาขนั้ พืน้ ฐานต่อไป เสาวนีย์ ต๊ะต๋า

สารบญั ข เรอ่ื ง หนา้ คำนำ ก สารบญั ข ๑. โครงสร้างรายวชิ าภาษาไทย ๑ ๒ คำอธิบายรายวชิ า โครงสร้างหนว่ ยการเรยี นรู้ ๕ ๒. หนว่ ยการเรียนรู้รายวชิ าภาษาไทย ๖ ๒.๑ หนว่ ยการเรยี นรู้ เรอ่ื ง นมัสการมาตปิ ิตุคณุ และนมสั การอาจรยิ คณุ ๗ ตารางวเิ คราะห์หน่วยการเรียนรู้ ๒๙ ผังมโนทศั นห์ น่วยการเรยี นรู้ ๔๙ ๕๗ แผนการจดั การเรียนรู้ที่ ๑ เรอื่ งการพูดสรปุ แนวคิด ๕๘ - แผนการสอนรายวชิ าภาษาไทย ๕๙ - เอกสารประกอบการสอน/ใบความรู้ - แบบวดั และประเมินผล ๗๖ แผนการจดั การเรยี นรู้ท่ี ๒ เร่ืองการเขยี นเรยี งความ ๙๖ - แผนการสอนรายวชิ าภาษาไทย ๑๐๔ - เอกสารประกอบการสอน/ใบความรู้ ๑๐๕ - แบบวัดและประเมนิ ผล แบบทดสอบ หน่วยการเรยี นรู้ เรอ่ื ง นมสั การมาตปิ ติ ุคณุ และนมสั การอาจรยิ คุณ ๒.๒ หน่วยการเรียนรู้ เร่อื ง อเิ หนา ตอนศึกกะหมงั กหุ นิง ตารางวิเคราะห์หนว่ ยการเรยี นรู้ ผังมโนทัศนห์ นว่ ยการเรียนรู้ แผนการจดั การเรียนรทู้ ี่ ๑ เรื่องการอา่ นจับใจความ - แผนการสอนรายวชิ าภาษาไทย - เอกสารประกอบการสอน/ใบความรู้ - แบบวัดและประเมินผล แผนการจัดการเรียนร้ทู ี่ ๒ เรอ่ื งการวเิ คราะหว์ จิ ารณ์วรรณคดี - แผนการสอนรายวชิ าภาษาไทย - เอกสารประกอบการสอน/ใบความรู้ - แบบวดั และประเมนิ ผล แบบทดสอบ หนว่ ยการเรียนรู้ เรอื่ ง อิเหนา ตอนศึกกะหมัง กุหนงิ ๒.๓ หน่วยการเรียนรู้ เรอ่ื ง นทิ านเวตาลเรอื่ งที่ ๑๐ ตารางวเิ คราะหห์ นว่ ยการเรียนรู้ ผงั มโนทศั นห์ นว่ ยการเรียนรู้

แผนการจดั การเรยี นรทู้ ี่ ๑ เรื่องการพูดแสดงความคิดเห็น ๑๐๖ - แผนการสอนรายวิชาภาษาไทย ๑๒๑ - เอกสารประกอบการสอน/ใบความรู้ - แบบวัดและประเมนิ ผล ๑๓๗ แผนการจัดการเรยี นรู้ท่ี ๒ เรอ่ื งมารยาทในการฟงั การดูและการพูด ๑๔๓ ๑๔๔ - แผนการสอนรายวิชาภาษาไทย ๑๔๖ - เอกสารประกอบการสอน/ใบความรู้ - แบบวัดและประเมนิ ผล ๑๕๕ แบบทดสอบ หนว่ ยการเรยี นรู้ เรื่อง นิทานเวตาลเรอ่ื งท่ี ๑๐ ๑๗๖ ๒.๔ หน่วยการเรียนรู้ เรื่อง หัวใจชายหนุ่ม ๑๘๓ ๑๘๔ ตารางวเิ คราะห์หนว่ ยการเรยี นรู้ ๑๘๕ ผงั มโนทัศน์หน่วยการเรยี นรู้ ๒๐๑ แผนการจดั การเรียนรู้ท่ี ๑ เรอ่ื งการอา่ นวเิ คราะห์ วจิ ารณ์และประเมนิ ค่า ๒๑๗ - แผนการสอนรายวชิ าภาษาไทย ๒๒๓ ๒๒๔ - เอกสารประกอบการสอน/ใบความรู้ - แบบวดั และประเมินผล แผนการจดั การเรียนรทู้ ี่ ๒ เรอ่ื งหลกั การประเมนิ งานเขียน - แผนการสอนรายวชิ าภาษาไทย - เอกสารประกอบการสอน/ใบความรู้ - แบบวัดและประเมินผล แบบทดสอบ หน่วยการเรยี นรู้ เรื่อง หัวใจชายหนมุ่ ๒.๕ หนว่ ยการเรียนรู้ เรอื่ ง นริ าศนรนิ ทร์คำโคลง ตารางวเิ คราะห์หน่วยการเรยี นรู้ ผงั มโนทัศนห์ นว่ ยการเรยี นรู้ แผนการจดั การเรยี นรูท้ ี่ ๑ เร่ืองการวเิ คราะห์วจิ ารณ์และสรปุ ความคิดจากเรอื่ ง - แผนการสอนรายวชิ าภาษาไทย - เอกสารประกอบการสอน/ใบความรู้ - แบบวัดและประเมนิ ผล แผนการจัดการเรียนรู้ท่ี ๒ เรอื่ งการวเิ คราะห์และสงั เคราะหว์ รรณคดี - แผนการสอนรายวชิ าภาษาไทย - เอกสารประกอบการสอน/ใบความรู้ - แบบวดั และประเมนิ ผล แบบทดสอบ หนว่ ยการเรียนรู้ เรอื่ ง นริ าศนรินทร์คำโคลง ๒.๖ หน่วยการเรียนรู้ เรอ่ื ง มงคลสตู รคำฉนั ท์ ตารางวเิ คราะหห์ น่วยการเรยี นรู้ ผงั มโนทัศนห์ นว่ ยการเรียนรู้

แผนการจดั การเรยี นร้ทู ่ี ๑ เรอ่ื งมงคลสตู รคำฉนั ท์ ๒๒๕ - แผนการสอนรายวชิ าภาษาไทย ๒๔๖ ๒๖๕ - เอกสารประกอบการสอน/ใบความรู้ ๒๗๑ - แบบวดั และประเมินผล ๒๗๒ แผนการจัดการเรียนรทู้ ี่ ๒ เรอื่ งสำนวน สภุ าษิตและคำพังเพย ๒๗๔ ๒๙๓ - แผนการสอนรายวชิ าภาษาไทย ๓๐๙ - เอกสารประกอบการสอน/ใบความรู้ ๓๒๖ - แบบวดั และประเมนิ ผล ๓๓๕ ๓๓๖ แบบทดสอบ หน่วยการเรยี นรู้ เรอื่ ง มงคลสตู รคำฉันท์ ๓๓๘ ๒.๗ หนว่ ยการเรยี นรู้ เร่ือง พระเวสสนั ดรชาดก ๓๕๖ ๓๖๘ ตารางวเิ คราะห์หน่วยการเรียนรู้ ผงั มโนทศั น์หนว่ ยการเรียนรู้ แผนการจดั การเรยี นรู้ท่ี ๑ เร่ืองการอ่านวเิ คราะห์ - แผนการสอนรายวิชาภาษาไทย - เอกสารประกอบการสอน/ใบความรู้ - แบบวัดและประเมนิ ผล แผนการจดั การเรียนรู้ที่ ๒ เร่ือง การเขยี นผงั ความคดิ - แผนการสอนรายวชิ าภาษาไทย - เอกสารประกอบการสอน/ใบความรู้ - แบบวัดและประเมนิ ผล แผนการจดั การเรียนรู้ท่ี ๓ เรือ่ ง การเขียนเรยี งความ - แผนการสอนรายวิชาภาษาไทย - เอกสารประกอบการสอน/ใบความรู้ - แบบวัดและประเมินผล แบบทดสอบ หนว่ ยการเรยี นรู้ เร่อื ง พระเวสสนั ดรชาดก ๒.๘ หน่วยการเรียนรู้ เร่อื ง การอา่ นเพ่อื พฒั นาตน ตารางวิเคราะห์หนว่ ยการเรยี นรู้ ผงั มโนทศั นห์ นว่ ยการเรียนรู้ แผนการจัดการเรยี นรทู้ ่ี ๑ เรอ่ื ง อ่านวจิ ารณ์ วรรณกรรม - แผนการสอนรายวิชาภาษาไทย - เอกสารประกอบการสอน/ใบความรู้ - แบบวดั และประเมินผล แผนการจัดการเรียนร้ทู ี่ ๒ เรือ่ งการเขียนแสดงความคดิ เห็น จากการอา่ นวรรณกรรม - แผนการสอนรายวิชาภาษาไทย - เอกสารประกอบการสอน/ใบความรู้ - แบบวัดและประเมนิ ผล แบบทดสอบ หนว่ ยการเรียนรู้ เรอื่ ง การอา่ นเพื่อพฒั นาตน บรรณานกุ รม

๑ รหสั วิชา ท ๓๑๑๐๑ คำอธิบายรายวิชา ช้ันมธั ยมศึกษาปที ่ี ๔ จำนวน ๑ หน่วยกิต รายวิชาภาษาไทย เวลา ๒๕ ชว่ั โมง เวลา ๓ ช่ัวโมง / สัปดาห์ ศกึ ษาวรรณคดแี ละวรรณกรรม โดยใช้ทกั ษะการอ่านออกเสยี งบทรอ้ ยแก้วปละบทรอ้ ยกรอง การอ่านคดิ วิเคราะห์วจิ ารณ์ เพื่อใชเ้ ป็นขอ้ มลู ในการตัดสนิ ใจ ประเมินคา่ อยา่ งมีเหตุผล การตคี วาม แปลความ และขยาย ความ พรอ้ มทั้งแสดงความคดิ เหน็ และสรุปเป็นแผนผงั ความคดิ จากเรอ่ื งทอี่ า่ น การเขียนเรยี งความการพูดสรปุ แนวคิดแสดงความคดิ เห็นจากเรอื่ งทอี่ ่าน การเขยี นเรยี งความ การพดู สรปุ แนวคดิ และแสดงความคิดเห็นจากเรอื่ ง ทอ่ี ่านอย่างมมี ารยาท การใชค้ ำและกลมุ่ คำเพอ่ื สรา้ งประโยคตรงตามวตั ถปุ ระสงค์และวเิ คราะหอ์ ทิ ธิพลของ ภาษาตา่ งประเทศ รวมถึงการวเิ คราะหล์ กั ษณะเด่นและสงั เคราะห์ข้อคดิ ของวรรณคดี โดยเลอื กใชร้ ะดบั ภาษาให้ เหมาะสมแกโ่ อกาส กาลเทศะ และบคุ คล โดยใชท้ กั ษะกระบวนการคิด กระบวนการปฏิบัติ กระบวนการเรียนรูด้ ้วยตนเอง กระบวนการกลุม่ ทกั ษะ การอ่าน การเขียน การพดู และการคิดวเิ คราะห์ เพอ่ื ใหม้ คี วามรแู้ ละทกั ษะ เหน็ คุณค่าและประโยชน์ในการอา่ นและการเขยี นวรรณคดีและวรรณกรรม ภมู ิปญั ญาทางภาษา รกั ษ์ภาษาไทยไว้เปน็ สมบตั ิของชาติ มมี ารยาทในการอา่ น การเขียน การฟงั การดูและการพูด สนใจใฝเ่ รยี นรู้ ขยันมงุ่ ม่ันในการทำงาน รับผิดชอบ และมจี ติ สาธารณะ รหสั ตัวชวี้ ดั ม.๔-๖/๑, ม.๔-๖/๒, ม.๔-๖/๓, ม.๔-๖/๔, ม.๔-๖/๕, ม.๔-๖/๗, ม.๔-๖/๙ ท ๑.๑ ม.๔-๖/๑, ม.๔-๖/๒, ม.๔-๖/๓, ม.๔-๖/๔, ม.๔-๖/๕, ม.๔-๖/๘ ท ๒.๑ ม.๔-๖/๑, ม.๔-๖/๖ ท ๓.๑ ม.๔-๖/๒, ม.๔-๖/๓, ม.๔-๖/๕ ท ๔.๑ ม.๔-๖/๒, ม.๔-๖/๓, ม.๔-๖/๔ ท ๕.๑

๒ การกาํ หนดโครงสร้างรายวิชา โครงสรา้ งรายวิชาพน้ื ฐาน กลุ่มสาระการเรียนรูว้ ิชาภาษาไทย ชั้นมธั ยมศึกษาปที ี่ ๔ ท่ี หน่วยการเรยี นรู้ ตัวชีว้ ดั สาระสำคัญ เวลา นำ้ หนัก (ช่ัวโมง) คะแนน ๑. นมสั การมาตปิ ิตคุ ณุ และ ท๒.๑ ม.๔-๖/๒ การเขียนเรียงความตามหวั ขอ้ ท่ี ๔ ๕ นมัสการอาจริยคณุ ท๒.๑ ม.๔-๖/๘ กำหนด หรอื ตามความสนใจ ท๓.๑ ม.๔-๖/๑ ๒. อเิ หนา ตอนศกึ กะหมงั ท๓.๑ ม.๔-๖/๓ การพูดสรปุ แนวคดิ แสดงความ กุหนงิ ท๓.๑ ม.๔-๖/๖ คดิ เหน็ จากบทรอ้ ยกรอง ประเมินคุณค่าแล้วกำหนด ๓. นทิ านเวตาลเรอ่ื งที่ ๑๐ แนวทางนำไปประยกุ ต์ใช้ในการ ดำเนนิ ชีวติ ๔. หวั ใจชายหนุ่ม ท๑.๑ ม.๔-๖/๓ การวิเคราะห์ วจิ ารณ์เร่ืองทอ่ี า่ น ๘ ๑๐ ท๑.๑ ม.๔-๖/๕ พรอ้ มแสดงความคดิ เหน็ โตแ้ ย้ง ท๑.๑ ม.๔-๖/๙ พร้อมท้ังเสนอความคดิ ใหม่อยา่ ง มเี หตผุ ล การย่อความจากส่ือทม่ี ี รูปแบบรอ้ ยกรอง เพอื่ สรุป ข้อความสำคัญอยา่ งมมี ารยาท ท ๓.๑ ม.๔-๖/๑ การพูดสรปุ แนวคิด และแสดง ๔ ๕ ท ๓.๑ ม.๔-๖/๖ ความคดิ เหน็ จากการฟงั และดู นิทานเวตาลเรื่องท่ี ๑๐ เพือ่ จับ ใจความสำคญั แลว้ นำไปเรียบ เรยี งใหม่ พร้อมนำไปใชใ้ น ชีวิตประจำวนั และมมี ารยาทใน การฟัง การดูและการพดู ท ๑.๑ ม.๔-๖/๑ อ่านออกเสียงบทรอ้ ยแกว้ ๓๕ ท ๑.๑ ม.๔-๖/๒ และจบั ประเด็น วิเคราะหว์ จิ ารณ์ ท ๑.๑ ม.๔-๖/๙ ประเมนิ คา่ วรรณคดี และแสดง ความคิดเหน็ เร่อื ง หวั ใจชายหนมุ่

ท ๒.๑ ม.๔-๖/๔ ดา้ นสงั คมและวฒั นธรรม พรอ้ ม ๓ ท ๒.๑ ม.๔-๖/๕ ทงั้ เสนอความคิดใหม่อยา่ งมี ๒๐ ๕ ท ๒.๑ ม.๔-๖/๘ เหตผุ ล ตามหลักการประเมนิ งาน ๕ ท ๕.๑ ม.๔-๖/๓ เขยี น และฝกึ เขียนประเมนิ สามารถพฒั นางานเขยี นของ ตนเองได้อย่างสร้างสรรค์ โดย เลือกใช้ระดับภาษาให้เหมาะสม แกโ่ อกาส กาลเทศะและบุคคล สอบกลางภาค ๑ ๔ ๕. นริ าศนรินทร์คำโคลง ท ๑.๑ ม.๔-๖/๓ การวิเคราะห์ วจิ ารณจ์ ากการ ๖. มงคลสูตรคำฉันท์ ๔ ท ๑.๑ ม.๔-๖/๗ อา่ นวรรณคดเี รอ่ื งนริ าศนริทร์คำ โคลงอย่างมเี หตผุ ล พรอ้ มสรปุ ท ๕.๑ ม.๔-๖/๒ เป็นแผนผงั ความคิดของตนเอง ท ๕.๑ ม.๔-๖/๔ รวมถึงการวเิ คราะห์ลกั ษณะเด่น ของวรรคดใี นดา้ นตวั ละคร ฉาก และเนอื้ เรอื่ งจากการอา่ น วรรณคดเี รอื่ งนิราศนรินทรค์ ำ โคลง พรอ้ มสงั เคราะห์ข้อคดิ ท่ีได้ แลว้ นำไปใชใ้ นชีวติ ประจำวนั ได้ อย่างถกู ต้อง ท ๒.๑ ม.๔-๖/๑ การเขยี นแสดงทรรศนะ และ ท ๔.๑ ม.๔-๖/๒ ประเมินค่าเพอื่ นำไปใช้ตัดสนิ ใจ แกป้ ญั หาในชวี ติ ประจำวนั ท ๔.๑ ม.๔-๖/๒ รวมถงึ การใชค้ ำและกลมุ่ คำได้ ท ๕.๑ ม.๔-๖/๓ ถกู ตอ้ งตามวตั ถุประสงค์ การใช้ สำนวน สุภาษิตและคำพังเพย ท ๕.๑ ม.๔-๖/๔ การแตง่ คำประพันธ์ประเภท โคลงสีส่ ภุ าพและสามารถนำ แนวคดิ ทีไ่ ด้ไปเป็นแนวทางใน การดำเนินชีวิต

๗. พระเวสสนั ดรชาดก ท ๑.๑ ม.๔-๖/๓ การวิเคราะห์ วิจารณเ์ รือ่ งพระ ๘ ๔ ๘. การอา่ นเพ�อื พัฒนาตน ๓ ท ๑.๑ ม.๔-๖/๗ เวสสันดรชาดกในด้านต่าง ๆ ๑ ๑๐ อยา่ งมีเหตผุ ล แล้วยอ่ ความเพอื่ ท ๒.๑ ม.๔-๖/๒ สรปุ กรอบแนวคิด หรือผงั ๕ ท ๔.๑ ม.๔-๖/๕ ความคดิ ของเรือ่ ง วิเคราะห์ความ ๓๐ แตกตา่ งของภาษาในภาคตา่ ง ๆ ท่ีกลา่ วถึงในพระเวสสันดรชาด กว่ามีความเหมอื น หรอื แตกตา่ ง กนั หรอื ไม่ อยา่ งไร การเขยี น ประมวลสาระทไ่ี ดเ้ พอ่ื เขียน เรียงความ ท ๑.๑ ม.๔-๖/๕ การเขยี นแสดงความคิดเห็น ท ๑.๑ ม.๔-๖/๙ จากการอา่ น ผูอ้ า่ นจะตอ้ งมี ท ๒.๑ ม.๔-๖/๑ ความรู้ ความเข้าใจในเรอื่ งที่ อา่ นเป็นอย่างดี และสามารถ ท ๒.๑ ม.๔-๖/๘ ฝกึ ฝนได้ด้วยการเป็น นักอา่ นทีด่ ี ทำความเขา้ ใจใน เร่อื งที่อ่าน พิจารณาอยา่ งมีเหตุผลและ สามารถถา่ ยทอดให้ผอู้ ืน่ ไดร้ ับรู้ ด้วยภาษาทีถ่ กู ต้องเหมาะสม สอบปลายภาค

๕ กำหนดการจดั การหนว่ ยการเรียนรู้ ชื่อหนว่ ยการเรยี นรู้ “นมสั การมาตาปติ คุ ุณและนมสั การอาจรยิ คณุ ” ช่ือหน่วย มาตรฐานการ สาระสำคญั /ความคดิ ชิ้นงาน/ภาระงาน เวลา นำ้ หนัก การเรียนรู้ เรยี นรู้/ตวั ชีว้ ดั รวบยอด (ช่วั โมง) คะแนน นมัสการ ท๒.๑ ม.๔-๖/๑ การพูดสรปุ แนวคดิ - ผลงานจากการ ๑ ๒ มาตาปติ คุ ณุ ท๒.๑ ม.๔-๖/๓ แสดงความคิดเหน็ และ ประเมนิ คุณค่าจากเร่อื ง พูดสรปุ แนวคดิ และ ท๒.๑ ม.๔-๖/๖ นมสั การ นมัสการมาตาปิตุคุณและ - ใบงานเรอ่ื งการ อาจริยคณุ นมสั การอาจรยิ คณุ โดย สามารถนำแนวคดิ ที่ได้ไป พดู สรปุ แนวคิด ประยกุ ต์ใชใ้ น ชีวิตประจำวันได้ ท๒.๑ ม.๔-๖/๒ การเขยี นเรยี งความ - ใบงานการ ๒ ๓ ท๒.๑ ม.๔-๖/๘ ตามหลกั การ ในหัวข้อท่ี เขียน กำหนดบนพนื้ ฐานแนวคดิ เรยี งความตาม เรอื่ ง นมัสการมาตาปติ คุ ุณ หวั ข้อท่กี ำหนด และนมสั การอาจริยคุณ

๖ ผังวเิ คราะห์หนว่ ยการเรยี นรู้ ชือ่ หนว่ ยการเรยี นรู้ “นมัสการมาตาปติ ุคุณและนมสั การอาจริยคณุ ” แผนการจัดการเรียนรทู้ ี่ ๑ หน่วย นมสั การมาตาปติ คุ ณุ และ แผนการจัดการเรยี นรทู้ ี่ ๒ นมัสการอาจริยคณุ ท๒.๑ ม.๔-๖/๑, ม.๔-๖/๓, ม.๔- ท๒.๑ ม.๔-๖/๒, ม.๔-๖/๘ ๖/๖ การพดู สรปุ แนวคิดแสดงความ เร่อื ง การเขยี นเรยี งความ เรอ่ื ง การพดู สรปุ แนวคดิ คิดเห็น ประเมนิ คณุ ค่าจากเรอ่ื ง และ เขียนเรยี งความตาม แสดงความคดิ เห็น และประเมนิ เขียนเรียงความตามหัวข้อทกี่ ำหนด หลกั การ ในหัวขอ้ ทีก่ ำหนดบน คณุ คา่ จากเร่ือง นมัสการมาตาปติ ุ หรอื ตามความสนใจ โดยใชแ้ นวคดิ จาก พน้ื ฐานแนวคดิ เรื่อง นมสั การมาตา คุณและนมสั การอาจริยคุณ โดย ปิตุคุณและนมสั การอาจรยิ คุณ สามารถนำแนวคดิ ทไ่ี ดไ้ ป เรอ่ื งนมสั การมาตาปติ ุคุณและนมสั การ ประยุกต์ใชใ้ นชวี ติ ประจำวนั ได้ อาจรยิ คณุ อยา่ งมมี ารยาท เหมาะสม กบั กาลเทศะและบคุ คล ช้นิ งาน/ภาระงาน สมรรถนะสำคญั ของผ้เู รียน คณุ ลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ - ผลงานจากการพูดสรปุ - ความสามารถในการ - มวี ินัย สือ่ สาร - ใฝเ่ รียนรู้ แนวคิด - ความสามารถในการคดิ - มุง่ มนั่ ในการทำงาน - ใบงานเรอ่ื งการพูดสรปุ - ความสามารถในการ แนวคดิ แก้ปญั หา - ใบงานการเขียนเรียงความ ตามหัวข้อท่กี ำหนด

๗ แผนการจดั การเรียนรู้วชิ าภาษาไทย โดยใช้การจดั กจิ กรรมรปู แบบบรรยาย กลุ่มสาระการเรียนร้ภู าษาไทย ชัน้ มธั ยมศกึ ษาปที ี่ ๔ หน่วยการเรียนรทู้ ่ี ๑ เรือ่ ง นมัสการมาตาปิตุคุณและนมสั การอาจรยิ คณุ แผนท่ี ๑/๒ แผนการจัดการเรยี นรู้ เรอ่ื ง การพดู สรปุ แนวคดิ ภาคเรียนท่ี ๒/๒๕๖๓ สอนวนั ที่ ............................................... เวลา ๑ ชั่วโมง ๑. สาระสำคัญ การพูดสรปุ แนวคดิ หมายถงึ การพดู สรปุ สาระสำคญั จากแหลง่ ความรู้ตา่ ง ๆ ซ่ึงเปน็ ประโยชน์ใน การเพมิ่ พูนความรูแ้ ละประสบการณใ์ หแ้ กท่ ง้ั ผพู้ ูดและผู้ฟงั แหลง่ ความร้จู ากการฟงั และดู อาจมาจากสอื่ โทรทศั น์ วทิ ยุ หรือสอื่ อเิ ลก็ ทรอนิกส์ตา่ ง ๆ รวมท้ังการฟงั บรรยายและทัศนศึกษา การฝึกฝนทักษะการพดู สรปุ แนวคิดอย่างสม่ำเสมอจะสามารถสอื่ สารไดอ้ ย่างมปี ระสทิ ธิภาพ ๒. มาตรฐานการเรยี นร้แู ละตวั ชี้วดั มาตรฐาน ท ๓.๑ สามารถเลอื กฟงั และดูอย่างมีวิจารณญาณ และพดแู สดงความรู้ความคิด และ ความรู้สกึ ในโอกาสตา่ ง ๆ อย่างมวี ิจารณญาณและสร้างสรรค์ ม.๔-๖/๑ สรปุ แนวคิด และแสดงความคดิ เห็นจากเรอ่ื งทีฟ่ งั และดู ม.๔-๖/๓ ประเมนิ เรือ่ งทีฟ่ งั และดู แลว้ กำหนดแนวทางนำไปประยุกต์ใชใ้ นการดำเนินชวี ติ ม.๔-๖/๖ มีมารยาทในการฟงั การดู และการพูด ๓. จดุ ประสงค์การเรียนรู้ เมือ่ นกั เรียนเรยี นเรอ่ื งการพูดสรปุ แนวคิดแลว้ นักเรยี นสามารถ ๑. อธิบายความหมายและหลักการพดู สรุปแนวคิดได้ (K) ๒. พดู สรปุ แนวคิดจากเรื่องทฟี่ งั หรอื ดูได้ (P) ๓. มีมารยาทในการพูด (A) ๔. สาระการเรยี นรู้ ๑. ความหมายของการพดู สรปุ แนวคิด ๒. หลกั การพดู สรปุ แนวคิด ๓. การพูดสรุปแนวคดิ จากเรอื่ งทฟี่ งั และดู ๕. สมรรถนะท่ตี ้องการ ๑. ความสามารถในการส่ือสาร ๒. ความสามารถในการคิด ๓. ความสามารถในการแก้ปัญหา

๘ ๖. คณุ ลักษณะท่พี งึ ประสงค์ ๑. มวี นิ ัย ๒. ใฝเ่ รียนรู้ ๓. มุ่งมั่นในการทำงาน ๗. กระบวนการจัดการเรียนรู้ กจิ กรรมที่ ๑ ขัน้ นำเขา้ สบู่ ทเรยี น (๕ นาที) ๑. ครกู ล่าวคำทักทายนกั เรียนและพดู คยุ เพ่อื สร้างบรรยากาศที่เป็นกนั เอง ๒. ครชู ี้แจงขอ้ ตกลงในช้ันเรียน ดงั น้ี - ไมพ่ ดู คยุ เสยี งดงั ในขณะท่คี รทู ำการสอน หรอื ในขณะทำกจิ กรรม - ไม่รบั ประทานอาหารหรือขนมในห้องเรยี น - อนญุ าตให้ใชเ้ ครือ่ งมอื สือ่ สารในหอ้ งเรียนได้ในกรณที ที่ ำการสบื ค้นขอ้ มลู ในการเรียน เทา่ นนั้ ๓. ครใู หน้ กั เรียนทำแบบทดสอบกอ่ นเรยี น โดยครอู ธบิ ายคำชี้แจงการทำแบบทดสอบหลงั เรียน เร่ือง การพูดสรปุ แนวคดิ แบบปรนยั ๔ ตัวเลือก มี ๑๕ ขอ้ (๑๕ คะแนน) ใช้เวลา ๑๕ นาที ให้นักเรยี นเลอื ก คำตอบทีถ่ กู ทส่ี ดุ เพยี งคำตอบเดียว แล้วกากบาท (x) ตวั เลอื กลงใบแบบทดสอบ กจิ กรรมท่ี ๒ ขัน้ สอน (๓๐นาท)ี ๑. ครแู จกเอกสารประกอบการเรียนเรื่อง “การพูดสรปุ แนวคดิ ” จากนน้ั ใหน้ กั เรียนอ่านทำความ เขา้ ใจเกยี่ วกบั ความหมาย และหลกั การพดู สรปุ แนวคิด ๒. ครูเปดิ คลปิ วดิ ีโอ “บทนมสั การมาตาปิตคุ ณุ และอาจรยิ คุณ” ใหน้ ักเรียนฟัง จากน้ันให้ นกั เรียนแตล่ ะคนสรุปแนวคิดของตนเองลงในใบงานเรื่อง “การพดู สรปุ แนวคิด” ๓. ครแู บ่งนักเรียนออกเปน็ กลมุ่ กลมุ่ ละ ๔-๕ คนเพื่อทำกจิ กรรมกลุ่ม โดยใหส้ มาชกิ ในกลุม่ นำเสนอแนวคดิ จากการฟงั บทนมสั การมาตาปิตคุ ณุ และอาจรยิ คุณของตนเองใหส้ มาชกิ ในกล่มุ ทเี่ หลือฟงั จากนน้ั แตล่ ะกลมุ่ ร่วมกนั ระดมความคดิ และสรุปแนวความคิดจากเร่ืองทีไ่ ดฟ้ งั ลงในกระดาษโฟร์ชารต์ ๔. ครูใหน้ กั เรยี นออกมาแสดงผลงานจากการปฏิบัตกิ ิจกรรมกลมุ่ ๕. ในขณะทแ่ี ตล่ ะกลมุ่ นำเสนอเสรจ็ ครเู ปิดโอกาสใหเ้ พือ่ นในชนั้ เรยี นสอบถามหรอื แสดงความ คดิ เห็นในเร่อื งที่เพอ่ื นไดน้ ำเสนอ เพื่อเป็นการแลกเปลย่ี นเรยี นรกู้ นั ระหวา่ งกล่มุ โดยทคี่ รูทำหน้าท่ีในการคอยให้ คำอธิบายเพิม่ เตมิ กิจกรรมท่ี ๓ ขนั้ สรปุ (๑๕นาที) ๑. ครูและนกั เรียนร่วมกนั สรปุ องคค์ วามรเู้ รอ่ื งบทนมสั การมาตาปติ ุคณุ และอาจริยคณุ ๒. ครูให้นกั เรยี นทำแบบทดสอบหลงั เรียน โดยครูอธบิ ายคำชแ้ี จงการทำแบบทดสอบหลังเรยี น เรือ่ ง การพดู สรปุ แนวคิด แบบปรนยั ๔ ตัวเลอื ก มี ๑๕ ข้อ (๑๕ คะแนน) ใชเ้ วลา ๑๕ นาที ให้นกั เรียนเลอื ก คำตอบทถี่ ูกทส่ี ุดเพยี งคำตอบเดยี ว แลว้ กากบาท (x) ตวั เลอื กลงใบแบบทดสอบ

๙ ๘. สื่อและแหล่งเรยี นรู้ สอ่ื การเรยี นรู้ ๑. วดิ ีโอบทนมสั การมาตาปติ ุคุณและอาจริยคุณ ๒. เอกสารประกอบการเรยี นเร่ือง การพูดสรปุ แนวคดิ แหลง่ เรียนรู้ ๑. ครู ๒. อินเตอรเ์ นต็ ๓. หนงั สอื วรรณคดีรวจิ ักษ์ ชน้ั มธั ยมศกึ ษาปีท่ี ๔ ๙. การวดั และประเมนิ ผล วธิ กี ารวดั และประเมินผล เคร่อื งมอื วัด เกณฑก์ ารประเมนิ ส่งิ ท่ตี อ้ งการวดั ๑. การอธิบายความหมาย - การทดสอบหลงั เรยี น - แบบทดสอบหลังเรยี น คะแนนจากการทำ และหลกั การพูดสรปุ ชนิดปรนัย ๔ ตัวเลอื ก แบบทดสอบ แนวคิด (K) จำนวน ๑๕ ขอ้ ผา่ นเกณฑร์ อ้ ยละ ๘๐ ขึ้นไป ๒. การพดู สรปุ แนวคิด - การประเมนิ การพดู สรปุ - แบบประเมนิ การพูด คะแนนจากการทำ จากเรอ่ื งท่ฟี งั หรอื ดู(P) แนวคดิ จากเร่ืองที่ฟงั หรือ ดู สรปุ แนวคดิ จากเรื่องท่ฟี ัง แบบฝกึ หดั ๓. การมีมารยาทใน การพดู (A) - การประเมินพฤตกิ รรม หรอื ดู ชนิด Scoring ผา่ นเกณฑร์ ้อยละ ๘๐ การพูดสรปุ แนวคิด ๔. การประเมิน Rubrics รายการ ข้นึ ไป คุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ ประเมิน ๓ รายการ ๓ ระดบั คณุ ภาพ - แบบสังเกตพฤติกรรม - คะแนนพฤตกิ รรม ผูเ้ รียนชนิด Scoring ผ่านเกณฑ์ ร้อยละ ๘๐ Rubrics รายการ ขึ้นไป ประเมนิ ๕ รายการ ๓ ระดบั คุณภาพ แบบประเมินคณุ ลกั ษณะ แบบประเมินคุณลกั ษณะ ผา่ นเกณฑร์ อ้ ยละ ๘๐ อนั พึงประสงค์ อันพึงประสงค์ ๓ ขึ้นไป คณุ ลักษณะ ๔ ระดับ คุณภาพ

๑๐ ๑๐. ผลการจดั การเรียนรู้ พฤติกรรมการเรียนรู้ของผูเ้ รียน ................................................................................................................... .................................................................................................................................................................................... .................................................................................................................................................................................... สมรรถนะทต่ี อ้ งการใหเ้ กิดกบั ผเู้ รียน............................................................................................................ .................................................................................................................................................................................... ................................................................................................................................................................................... คณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ของผเู้ รยี น .......................................................................................................... ................................................................................................................... ................................................................. ............................................................................................................................. ....................................................... จุดเดน่ -จดุ ด้อยทีค่ วรพัฒนาของการจดั กจิ กรรม .......................................................................................... .......................................................................................................................... .......................................................... ............................................................................................................................. ....................................................... ............................................................................................................................................... ..................................... ข้อเสนอแนะในการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ ................................................................................................... ............................................................................................................................. ....................................................... .................................................................................................................................................................................... ลงช่ือ..................................................... (.........................................................) ผสู้ อน วนั ท่ี........ เดือน....................... พ.ศ.................. ลงชือ่ ..................................................... (.........................................................) หัวหน้ากลุ่มสาระการเรียนรู้ วันท.ี่ ....... เดอื น....................... พ.ศ.................. ลงชือ่ ..................................................... (.........................................................)

๑๑ หวั หน้ากลุ่มบริหารงานวิชาการ วนั ท่ี........ เดือน....................... พ.ศ.................. ลงชอ่ื ..................................................... (.........................................................) ผอู้ ำนวยการ วันท.่ี ....... เดือน....................... พ.ศ..................



๑๓

๑๔

แบบทดสอบหลังเรียน ๑๕ เรื่อง การพูดสรุปแนวคิด ชน้ั มธั ยมศกึ ษาปีท่ี ๔ รายวิชา ภาษาไทย คะแนนเต็ม ๑๕ คะแนน จำนวน ๑๕ ขอ้ คำชีแ้ จง : ให้นักเรียนเลือกคำตอบท่ถี กู ตอ้ ง แลว้ ทำเครือ่ งหมาย x ลงในกระดาษคำตอบ ๑. ใครคอื ผแู้ ตง่ บทนมสั การมาตาปติ คุ ุณ อาจารยิ คณุ ก. พระยาศรสี นุ ทรโวหาร ข. พระยาสุนทรภู่ ค. พ่อขนุ รามคำแหง ง. เจ้าพระยาพระคลงั (หน) ๒. บทนมัสการมาตาปติ คุ ณุ แตง่ ด้วยคำประพันธช์ นดิ ใด ก. อนิ ทรวเิ ชยี รฉันท์ ๑๑ ข. กาพยฉ์ บัง ๑๖ ค. กาพยย์ านี ๑๑ ง. กลอนสุภาพ ๓. โดยสว่ นมากบทนมสั การมาตาปิตุคณุ และอาจารยิ คณุ มกั จะท่องทำนองใด ก. ทำนองหลวง ข. ทำนองสวด ค. ทำนองชา้ ง. ทำนองเรว็ ๔. \"บทนมสั การมาตาปิตคุ ณุ \" เป็นบททใ่ี หผ้ ้อู ่านรำลึกถงึ บุญคุณของใคร ก. พ่อ ข. แม่ ค. ครู ง. พ่อ-แม่ ๕. ข้อใดไมไ่ ดม้ คี วามหมายว่า \"พ่อ\" ก. ชนนี ข. ชนก ค. ชนกา ง. พระบิดา

๑๖ ๖. \"ยัง บ ทราบก็ได้ทราบ ทง้ั บญุ บาปทุกส่งิ อนั ชี้แจงและแบง่ ปนั ขยายอัตถ์ใหช้ ดั เจน\" จากคำประพันธข์ ้างตน้ อยใู่ นบทนมัสการใด ก. นมัสการคณุ านุคณ ข. นมัสการมาตาปิตคุ ุณ ค. นมสั การอาจรยิ คณุ ง. นมสั การพทุ ธคณุ ๗. วรรณคดีเร่ือง \"นมสั การมาตาปิตคุ ณุ และอาจาริยคณุ ใหค้ ุณค่าในด้านตา่ งต่าง ๆ ยกเวน้ ขอ้ ใด ก. ดา้ นวรรณศิลป์ ข. การเลน่ เสยี ง ค. ดา้ นสังคม ง. ดา้ นวฒั นธรรม ๘. “ถอื วา่ เลิศ ณ แดนไตร” ข้อใดไมไ่ ดห้ มายถึง แดนไตร ก. โลกสวรรค์ ข. โลกใตท้ อ้ งภภิ พ ค. โลกบาดาล ง. โลกนรก ๙. การพูดสรปุ แนวคิดจากเรอ่ื งทีฟ่ ังหรือดู ควรใช้สำนวนภาษาในลักษณะใด ก. ตามเรือ่ งราวทไ่ี ด้ฟงั หรืออา่ น ข. สำนวนของตนเอง ค. สำนวนเป็นทางการ ง. สำนวนใดใดก็ได้ ๑๐. เพราะเหตุใดจงึ ตอ้ งทบทวนความรคู้ วามเข้าใจเร่ืองท่ีฟังหรือดู กอ่ นท่จี ะพูดสรปุ แนวคิด ก. เพือ่ ใหม้ ีความถกู ตอ้ ง ครบถ้วน ข. เพอ่ื ให้ไดร้ ายละเอยี ดเพม่ิ มากข้ึน ค. เพอื่ ให้เลา่ เรื่องไดต้ ้งั แตต่ ้นจนจบ ง. เพ่ือให้ชแ้ี จงรายละเอียดของเรอ่ื งได้

๑๗ ๑๑. การรู้จักวเิ คราะหผ์ ฟู้ งั มผี ลดีตอ่ ผู้พูดอยา่ งไร ก. ทำให้ทราบพื้นฐานความสนใจของผ้ฟู งั ข. ทำใหส้ ามารถผกู มติ รกบั ผฟู้ งั ได้ดี ค. ทำให้สามารถชนะใจผฟู้ ังได้ ง. ทำให้เกดิ ความนา่ เช่อื ถือ ๑๒. ขอ้ ใดกลา่ วผิดเกี่ยวกบั บทนมัสการมาตาปติ ุคุณ ก. มีการเรยี งลำดบั ความสำคญั ของพระคณุ ข. มกี ารเรียงลำดบั เหตกุ ารณ์ตัง้ แตเ่ ปน็ เด็ก ค. สะท้อนคา่ นยิ มทีต่ อ้ งตอบแทนผมู้ ีพระคณุ ง. สะทอ้ นความรกั ความผกู พนั ของพ่อแม่ ๑๓. ขอ้ ใดกลา่ วถกู ต้องทสี่ ดุ เก่ียวกบั บทนมัสการอาจรยิ คณุ ก. ครคู ือผสู้ ะสมความรู้ทพี่ รอ้ มถ่ายทอดใหล้ ูกศษิ ย์ ข. ครเู ป็นผู้มีพระคุณท่ีควรกราบไหวท้ กุ วนั ค. ครูเป็นผู้แนะแนวทางท่ถี ูกตอ้ งเหมาะสม ง. ครูเปน็ ผู้ทำใหเ้ ราเข้าใจในเรอื่ งทยี่ าก ๑๔. สภุ าษติ ใดเป็นขอ้ สรุปของบทนมสั การมตาปิตุคณุ และบทนมสั การอาจรยิ คณุ ก. ความกตญั ญกู ตเวทีเป็นเครอื่ งหมายของคนดี ข. ธรรมย่อมรกั ษาผปู้ ระพฤตธิ รรม ค. รกั ดีหามจ่ัว รกั ช่วั หามเสา ง. ทำดีไดด้ ี ทำช่ัวไดช่ ่ัว ๑๕. \"ฟูมฟกั ทะนุถนอม บ บำราศนริ าไกล แสนยากเทา่ ไร ๆ บ่คิดยากลำบากกาย\" คำประพนั ธข์ า้ งต้นหมายถึงใคร ก. ครู อาจารย์ ข. พอ่ แม่ ค. แมผ่ ใู้ ห้กำเนดิ ง. พ่อ

๑๘ เฉลยแบบทดหลังเรยี น เรือ่ ง การพูดสรปุ แนวคดิ ขอ้ เฉลย ๑. ก. พระยาศรสี ุนทรโวหาร ๒. ก. อนิ ทรวิเชียรฉันท์ ๑๑ ๓. ข. ทำนองสวด ๔. ง. พอ่ -แม่ ๕. ก. ชนนี ๖. ค. นมัสการอาจรยิ คณุ ๗. ง. ดา้ นวัฒนธรรม ๘. ข. โลกใต้ท้องภภิ พ ๙. ข. สำนวนของตนเอง ๑๐. ก. เพ่ือใหม้ คี วามถูกต้อง ครบถ้วน ๑๑. ก. ทำให้ทราบพ้นื ฐานความสนใจของผฟู้ ัง ๑๒. ก. มกี ารเรยี งลำดบั ความสำคัญของพระคุณ ๑๓. ค. ครเู ปน็ ผ้แู นะแนวทางทถี่ กู ตอ้ งเหมาะสม ๑๔. ก. ความกตัญญกู ตเวทีเป็นเคร่ืองหมายของคนดี ๑๕. ข. พอ่ แม่

๑๙ แบบสรุปคะแนนทดสอบย่อยหลังเรยี น เร่ือง การพูดสรปุ แนวคดิ ระดับชั้นมธั ยมศึกษาปที ี่ ๔ โรงเรยี น............................................ ผลการทดสอบ ่ยอยหลังเ ีรยน ผ่าน ไม่ผ่าน ท่ี ชอ่ื -สกุล คะแนน ๑. ๒. ๓. ๔. ๕. ๖. ๗. ๘. ๙. ๑๐. ๑๑. ๑๒. ๑๓. ๑๔. ๑๕. บนั ทกึ เพิม่ เติม ............................................................................................................................. ....................................................... .................................................................................................................................................................................... ........................................................................................................................ .......................................... ลงชอื่ ...................................................ผปู้ ระเมิน (.......................................................) วนั ท่ี................เดอื น.........................พ.ศ.............

๒๐ แบบประเมนิ การพูดสรุปแนวคดิ หน่วยการเรยี นร้ทู ี่ ๑ เรือ่ ง นมสั การมาตาปิตุคณุ และนมัสการอาจรยิ คณุ แผนท่ี ๑ เรื่อง การพดู สรปุ แนวคดิ พฤติกรรม สรปุ ที่ ชือ่ -สกลุ นำเสนอแนว ิคด รวม ผ/ ไ ้ดตรงประเ ็ดน (๑๕ มผ ) (๓) ใ ้ชภาษาถูก ้ตอง (๓) การใ ้ชเห ุตผล ส ันบส ุนนแนว ิคด (๓) การใ ้ชวาท ิศลป์ (๓) การใ ้ชอ ัวจนภาษา ประกอบการ ูพด (๓) ๑. ๒. ๓. ๔. ๕. ๖. ๗. ๘. ๙. ๑๐. ๑๑. ๑๒. ๑๓. ๑๔. บันทึกเพ่ิมเติม ............................................................................................................................. ....................................................... .................................................................................................................................................................................... ............................................................................................................................. ....................................................... ลงชอ่ื .....................................................................ผปู้ ระเมนิ (..................................................................) วนั ท.ี่ ....... เดือน ....................... พ.ศ........................

๒๑ เกณฑก์ ารประเมนิ การพดู สรปุ แนวคิด รายการประเมนิ ดีมาก (๓) เกณฑก์ ารประเมนิ พอใช้ (๑) ๑. นำเสนอแนวคิดไดต้ รงประเดน็ มกี ารนำเสนอแนวคดิ ปานกลาง (๒) นำเสนอแนวคิดไมต่ รง ได้ตรงประเด็น มีการนำเสนอแนวคิด ประเดน็ ได้ตรงในบางประเดน็ ๒. การใชภ้ าษา ภาษาทใี่ ชเ้ หมาะสม ภาษาท่ีใช้โดยส่วนมาก ภาษาที่ใชไ้ มเ่ หมาะสม ๓. การใชเ้ หตุผลสนบั สนนุ แนวคิด กับเร่อื งท่ีทำการสรุป เหมาะสมกับเร่ืองท่ที ำ กบั เร่อื งทท่ี ำการสรุป ๔. การใช้วาทศลิ ป์ แนวคิด การสรุปแนวคิดโดยมี แนวคดิ ๕. การใช้อวจั นภาษาประกอบการพูด บางคำทไี่ ม่เหมาะสม สรปุ แนวคิด มีการใช้เหตุผล มีการใช้เหตุผล ไม่มีการใชเ้ หตุผล สนบั สนนุ สนบั สนนุ ประกอบการ สนบั สนนุ ประกอบการ ประกอบการพดู สรปุ พดู สรปุ แนวคดิ ในบาง พูดสรปุ แนวคิด แนวคิดในทุก ประเด็น ประเด็น มกี ารใช้วาทศิลป์ใน มีการใช้วาทศิลป์ใน ไม่มกี ารใชว้ าทศิลปใ์ น การโน้มนา้ วประกอบ การโน้มน้าว การโน้มนา้ ว ในทุกประเดน็ การ ประกอบการโตแ้ ย้งใน ประกอบการโต้แยง้ โต้แย้ง บางประเด็น มีการใชอ้ วจั นภาษา มีการใช้อวจั นภาษา ไมม่ ีการใช้อวจั นภาษา ได้สอดคลอ้ งและ ประกอบการพดู สรปุ ประกอบการพดู สรปุ เหมาะสมกับประเด็น แนวคิด แนวคดิ เกณฑ์การใหค้ ะแนนการประเมินพฤติกรรมการเรียนรขู้ องนกั เรยี น กำหนดไวด้ งั น้ี ๓ หมายถงึ ดีมาก ๒ หมายถึง ดี ๑ หมายถงึ ปรับปรงุ คะแนน ๑๓-๑๕ คะแนน หมายถงึ ดีมาก คะแนน ๑๐-๑๒ คะแนน หมายถึง ดี ต่ำกว่า ๙ คะแนน หมายถงึ ปรับปรุง หมายเหตุ นักเรียนผา่ นเกณฑร์ ้อยละ ๘๐ ที่ ๑๒ คะแนนขนึ้ ไป

แบบประเมนิ พฤตกิ รรมนกั เรียนดา้ นเจตพสิ ัยในการเรียน ๒๒ เรอ่ื ง การมารยาทในการพดู สรุป ระดบั ชน้ั มธั ยมศึกษาปีที่ ๔ โรงเรียน........................ พฤติกรรม ท่ี ช่ือ เป็นผู้ ัฟง ่ีท ีด (๓) รวม ผ/มผ ูพดจาสุภาพ (๓) (๑๒) ใ ้ช ้นำเสียง ่ีท ัดงพอเหมาะ (๓) เปิดโอกาสใ ้หผู้ ัฟง ัซกถาม (๓) ๑. ๒. ๓. ๔. ๕. ๖. ๗. ๘. ๙. ๑๐. ๑๑. ๑๒. ๑๓. ๑๔. บันทกึ เพิ่มเติม ............................................................................................................................. ....................................................... .................................................................................................................................................................................... ............................................................................................................................. ..................................... ลงชอ่ื .................................................ผปู้ ระเมิน (.....................................................................) ตำแหนง่ .......................................................... วันท.่ี ..........เดือน.........................พ.ศ..............

๒๓ เกณฑก์ ารสงั เกตพฤติกรรมผ้เู รยี น เร่ืองมารยาทในการพูด รายการประเมิน เกณฑ์การให้คะแนน ๑. เปน็ ผู้ฟงั ทด่ี ี ดีมาก (๓) ดี (๒) ปรับปรงุ (๑) ๒. พดู จาสุภาพ ๓. ใชน้ ำ้ เสยี งท่ีดงั พอเหมาะ ต้ังใจ มีสมาธิในการฟงั ตง้ั ใจ มสี มาธิในการ ไม่มสี มาธิในการฟงั ๔. เปดิ โอกาสใหผ้ ูฟ้ งั ซกั ถาม และขณะฟงั ควรบนั ทึก ฟัง เพยี งเลก็ นอ้ ย ลุกเดนิ เขา้ ออก ทำ สิ่งสำคญั และขณะฟงั ไมม่ ีการ เสยี งเอะอะ และไม่มี บันทึกสิ่งสำคญั การบันทกึ สง่ิ สำคญั ใชค้ ำสุภาพ และ ใช้คำสภุ าพ และคำท่ี ใช้คำไม่สุภาพ และไม่ เหมาะสมกบั โอกาส ไมส่ ภุ าพไมเ่ กนิ ๕ คำ เหมาะสมกับโอกาส เกนิ ๑๐ คำ ใชน้ ้ำเสียงทม่ี คี วามดงั ใช้น้ำเสียงทม่ี ีความดัง ใช้น้ำเสยี งทม่ี คี วามดัง พอเหมาะกบั สถานที่ พอเหมาะกบั สถานที่ ไม่เหมาะกบั สถานท่ี และใช้น้ำเสียงท่นี ่าฟงั และใช้น้ำเสียงท่ีน่าฟงั และใชน้ ้ำเสียงทีไ่ ม่นา่ ในบางครั้ง ฟงั เปิดโอกาสให้ผฟู้ งั ได้ เปดิ โอกาสใหผ้ ู้ฟงั ได้ ไมเ่ ปิดโอกาสให้ผฟู้ งั ซกั ถาม และตอบ ซกั ถามในบางคร้งั ซกั ถาม และลเยงการ คำถามไดต้ รงตามทผ่ี ฟู้ ัง หรือเลยี่ งทจ่ี ะไมต่ อบ ตอบคำถามที่ผ้ฟู งั สงสัย คำถาม สงสัย เกณฑก์ ารให้คะแนน กำหนดไว้ดงั น้ี ๓ หมายถงึ ดมี าก ๒ หมายถึง ดี ๑ หมายถงึ ปรับปรงุ เกณฑก์ ารแปลความหมายคะแนน กำหนดไวด้ งั นี้ ร้อยละ ๖๐ ขึ้นไป (๙ คะแนนขึ้นไป) คะแนน ๙-๑๒ คะแนน หมายถึง ดมี าก คะแนน ๕-๘ คะแนน หมายถึง ดี คะแนน ๑-๔ คะแนน หมายถึง ปรับปรุง หมายเหตุ ผู้ผ่านเกณฑป์ ระเมนิ ต้องไดค้ ะแนน ๑๐ คะแนนข้ึนไป คดิ เปน็ ร้อยละ ๘๐

๒๔ แบบประเมนิ คุณลักษณะอนั พงึ ประสงค์ ๘ ประการ โรงเรียน............................... อำเภอ................... จังหวัด............................. ช่อื -สกุลนกั เรียน...........................................................................หอ้ ง..............................เลขท่.ี ...................... คำช้แี จง : ใหผ้ สู้ อน สังเกตพฤตกิ รรมของนักเรยี นในระหวา่ งเรียนและนอกเวลาเรยี น แล้วขดี / ลงในช่องทตี่ รงกบั ระดบั คะแนน คณุ ลักษณะ รายการประเมิน ระดับคะแนน อนั พึงประสงค์ ๓ ๒ ๑๐ ๑.ซื่อสัตย์สจุ รติ ๑.๑ ปฏบิ ัตติ ามระเบยี บการสอบ และไมล่ อกกนั ๑.๒ ประพฤติ ปฏบิ ัติ ตรงตอ่ ความเปน็ จริงต่อตนเอง ๒. ใฝ่เรยี นรู้ ๑.๓ ประพฤติ ปฏบิ ตั ิตรงตอ่ ความเป็นจรงิ ตอ่ ผอู้ นื่ ๒.๑ แสวงหาข้อมลู จากแหลง่ เรียนร้ตู า่ ง ๆ ๓. มงุ่ มน่ั ในการ ๒.๒ มกี ารจดบนั ทกึ ความรอู้ ยา่ งเป็นระบบ ทำงาน ๒.๓ สรปุ ความรู้ไดอ้ ย่างมเี หตผุ ล ๓.๑ มคี วามตัง้ ใจ และพยายามในการทำงานทไ่ี ด้รบั มอบหมาย ๓.๒ มคี วามอดทนและไมท่ อ้ แทต้ อ่ อปุ สรรคเพือ่ ใหง้ านสำเรจ็ ลงชือ่ ......................................................................ผปู้ ระเมิน (.....................................................................) ........... /................................/...................... เกณฑ์การให้คะแนน - พฤตกิ รรมทปี่ ฏบิ ัติชัดเจนและสมำ่ เสมอ ให้ ๓ คะแนน - พฤติกรรมทป่ี ฏิบัตชิ ดั เจนและบ่อยครั้ง ให้ ๒ คะแนน - พฤตกิ รรมทปี่ ฏิบตั บิ างครงั้ ให้ ๑ คะแนน - พฤติกรรมท่ไี ม่ได้ปฏบิ ัติ ให้ ๐ คะแนน สรุปผลการประเมนิ ร้อยละ ๕๐ - ๖๖ ระดับคุณภาพดีเยย่ี ม (๓)  ผ่านระดับ  ดเี ยยี่ ม  ดี  พอใช้ รอ้ ยละ ๔๐ - ๔๙ ระดบั คุณภาพดี (๒)  ไมผ่ ่านระดับ  ปรบั ปรงุ ร้อยละ ๒๐ - ๓๙ ระดับคุณภาพพอใช้ (๑) รอ้ ยละ ๐ - ๑๙ ระดบั คณุ ภาพปรับปรงุ (๐)

๒๕ เกณฑก์ ารประเมินคุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์ รายการประเมิน ๓ คะแนน ๒ คะแนน ๑ คะแนน ซ่ือสัตยส์ จุ รติ นกั เรยี นให้ข้อมลู ท่ถี ูกตอ้ ง นักเรียนให้ขอ้ มลู ทถี่ กู ต้อง นกั เรยี นใหข้ ้อมลู ทีถ่ กู ต้อง ใฝเ่ รียนรู้ และเป็นจรงิ ปฏิบตั ิในสงิ่ และเป็นจริง ปฏิบัติในสงิ่ และเป็นจรงิ ปฏิบัตใิ นสง่ิ ม่งุ ม่นั ในการทำงาน ท่ีถูกต้อง ทำตามสญั ญา ทถี่ กู ต้อง ทำตามสญั ญา ทถ่ี กู ตอ้ ง ทำตามสญั ญา ทตี่ นให้ไวก้ ับเพือ่ น พ่อ ที่ตนให้ไว้กบั เพอื่ น พอ่ ท่ีตนให้ไว้กับเพ่อื น พอ่ แม่ หรอื ผปู้ กครอง และ แม่ หรือผปู้ กครอง และ แม่ หรือผปู้ กครอง และ ครู ละอายและเกรงกลัวที่ ครู ละอายและเกรงกลวั ครู ละอายและเกรงกลวั จะทำความผิด ที่จะทำความผิด ที่จะทำความผิด เป็นแบบอยา่ งที่ดีด้าน ความซือ่ สตั ย์ นักเรียนเข้าเรียน ตรง นักเรยี นเข้าเรยี นตรงเวลา นกั เรียนเขา้ เรยี น ตรง เวลา ตงั้ ใจเรียน เอาใจใส่ ต้ังใจเรยี น เอาใจใส่ ใน เวลา ต้ังใจเรียน เอาใจใส่ ในการเรียน และมสี ว่ น การเรยี น และมสี ว่ นร่วม ในการเรยี น และมสี ่วน รว่ มในการเรยี นรู้ และเข้า ในการเรยี นรู้ และเข้ารว่ ม ร่วมในการเรียนรู้ และเขา้ รว่ มกิจกรรม การเรียนรู้ กิจกรรม การเรียนรู้ ร่วมกิจกรรม การเรยี นรู้ ต่าง ๆ ทัง้ ภายใน และ ต่าง ๆ บ่อยครง้ั ตา่ ง ๆ เปน็ บางครัง้ ภายนอกโรงเรยี น เป็นประจำ นักเรียนตงั้ ใจ และ นกั เรียนตงั้ ใจ และ นักเรยี นตง้ั ใจ และ รบั ผิดชอบในการปฏบิ ตั ิ รบั ผิดชอบ ในการปฏบิ ัติ รับผดิ ชอบ ในการปฏิบตั ิ หนา้ ท่ีทไี่ ด้รบั มอบหมาย หนา้ ท่ที ไี่ ดร้ บั มอบหมาย หน้าทที่ ไี่ ด้รบั มอบหมาย ใหส้ ำเรจ็ มกี ารปรบั ปรงุ ใหส้ ำเร็จ มกี ารปรบั ปรุง ให้สำเร็จ และพฒั นาการทำงาน และพัฒนาการทำงาน ให้ ให้ดขี ้นึ ภายในเวลา ดขี น้ึ ท่กี ำหนด เกณฑ์การใหค้ ะแนนการประเมนิ คณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงคก์ ำหนดไว้ดงั นี้ ๓ หมายถงึ ดีมาก ๒ หมายถึง ดี ๑ หมายถึง ปรบั ปรงุ

๒๖ แบบประเมนิ สมรรถนะผูเ้ รยี น เรือ่ ง การพูดสรปุ แนวคิด ระดบั ช้นั มธั ยมศกึ ษาปที ่ี ๔ โรงเรยี น........................ ชอ่ื .....................................................................ช้นั .........................เลขท.่ี .............. คำช้ีแจง : ใหส้ ังเกตพฤติกรรมของนักเรยี นในระหวา่ งเรียนและนอกเวลาเรียน แล้วขีด ✓ ลงในชอ่ ง ทีต่ รงกบั ระดับคะแนน สมรรถนะทปี่ ระเมิน ระดบั คะแนน ๓๒๑ ๑. ความสามารถในการสอื่ สาร ๑.๑ มคี วามสามารถในการรบั – ส่งสาร ๑.๒ มคี วามสามารถในการถา่ ยทอดความรู้ ความคิด ความเข้าใจของตนเอง โดยใชภ้ าษาอยา่ งเหมาะสม ๑.๓ ใช้วธิ ีการสือ่ สารทเ่ี หมาะสม ๒. ความสามารถในการคดิ ๒.๑ มีความสามารถในการคดิ วเิ คราะห์ เพอื่ การสรา้ งองค์ความรู้ ๒.๒ มีความสามารถในการคิดเปน็ ระบบ เพอื่ การสรา้ งองคค์ วามรู้ ๓. ความสามารถในการแก้ปญั หา ๓.๑ แกป้ ญั หาโดยใชเ้ หตผุ ล ๓.๒ แสวงหาความรมู้ าใช้ในการแกป้ ญั หา ๓.๓ ตดั สนิ ใจโดยคำนึงถึงผลกระทบตอ่ ตนเองและผูอ้ น่ื ลงช่ือ ................................................................................. ผปู้ ระเมนิ / /........................ ......................... ............................. เกณฑ์การให้คะแนน : - พฤติกรรมทปี่ ฏบิ ัติชดั เจนและสม่ำเสมอ ให้ ๓ คะแนน - พฤติกรรมทป่ี ฏบิ ัติชดั เจนและบ่อยคร้ัง ให้ ๒ คะแนน - พฤตกิ รรมทป่ี ฏิบัตบิ างครง้ั ให้ ๑ คะแนน

๒๗ ผังวิเคราะห์หนว่ ยการเรยี นรู้ ชอื่ หน่วยการเรียนรู้ “นมัสการมาตาปติ ุคุณและนมสั การอาจริยคณุ ” แผนการจัดการเรยี นรู้ท่ี ๑ หนว่ ย นมัสการมาตาปติ คุ ณุ และ แผนการจดั การเรียนรู้ที่ ๒ นมัสการอาจรยิ คณุ ท๒.๑ ม.๔-๖/๑, ม.๔-๖/๓, ม.๔- ท๒.๑ ม.๔-๖/๒, ม.๔-๖/๘ ๖/๖ การพดู สรปุ แนวคิดแสดงความ เร่ือง การเขียนเรยี งความ คิดเหน็ ประเมนิ คุณค่าจากเรอื่ ง และ เรือ่ ง การพดู สรปุ แนวคิด เขียนเรียงความตามหัวขอ้ ที่กำหนด เขียนเรยี งความตาม แสดงความคดิ เห็น และประเมนิ หลักการ ในหวั ขอ้ ท่กี ำหนดบน คณุ คา่ จากเร่ือง นมัสการมาตาปติ ุ หรือตามความสนใจ โดยใชแ้ นวคิดจาก พ้ืนฐานแนวคดิ เรอ่ื ง นมสั การมาตา คุณและนมัสการอาจริยคณุ โดย เร่ืองนมสั การมาตาปติ คุ ุณและนมสั การ ปติ คุ ณุ และนมสั การอาจริยคณุ สามารถนำแนวคิดทไ่ี ดไ้ ป อาจรยิ คณุ อย่างมมี ารยาท เหมาะสม ประยุกต์ใชใ้ นชีวิตประจำวนั ได้ กบั กาลเทศะและบคุ คล ช้ินงาน/ภาระงาน สมรรถนะสำคัญของผู้เรียน คณุ ลักษณะอันพึงประสงค์ - ผลงานจากการพูดสรปุ - ความสามารถในการ - มวี นิ ยั สื่อสาร - ใฝเ่ รยี นรู้ แนวคดิ - ความสามารถในการคดิ - มุ่งมัน่ ในการทำงาน - ใบงานเรื่องการพดู สรปุ - ความสามารถในการ แนวคิด แกป้ ัญหา - ใบงานการเขียนเรยี งความ ตามหวั ข้อทก่ี ำหนด

๒๘ กำหนดการจัดการหนว่ ยการเรยี นรู้ ช่อื หนว่ ย มาตรฐานการ สาระสำคัญ/ความคดิ รวบ ชิ้นงาน/ภาระงาน เวลา น้ำหนัก (ชัว่ โมง) คะแนน การเรยี นรู้ เรยี นร/ู้ ตัวชีว้ ัด ยอด - ผลงานจากการ ๑ ๒ นมสั การ ท๒.๑ ม.๔-๖/ การพูดสรปุ แนวคดิ พูดสรปุ แนวคดิ มาตาปิตคุ ณุ ๑ แสดงความคิดเห็น และ - ใบงานเร่อื งการ และ ท๒.๑ ม.๔-๖/ ประเมนิ คณุ คา่ จากเร่อื ง พูดสรปุ แนวคิด นมสั การ ๓ นมัสการมาตาปิตคุ ณุ และ อาจริยคุณ ท๒.๑ ม.๔-๖/ นมสั การอาจรยิ คณุ โดย ๖ สามารถนำแนวคดิ ท่ีไดไ้ ป ประยุกต์ใชใ้ นชีวติ ประจำวนั ได้ ท๒.๑ ม.๔-๖/ การเขียนเรียงความตาม - ใบงานการ ๒ ๓ ๒ หลกั การ ในหัวข้อท่กี ำหนด เขียน ท๒.๑ ม.๔-๖/ บนพืน้ ฐานแนวคิดเร่อื ง เรยี งความตาม ๘ นมสั การมาตาปติ ุคณุ และ หัวข้อท่กี ำหนด นมัสการอาจรยิ คุณ

๒๙ แผนการจัดการเรียนรวู้ ิชาภาษาไทย โดยใชก้ ารจดั กิจกรรมรูปแบบอภิปรายกลุ่มย่อย กลมุ่ สาระการเรยี นร้ภู าษาไทย ชั้นมัธยมศกึ ษาปีท่ี ๔ หน่วยการเรยี นรู้ท่ี ๑ เรือ่ ง นมสั การมาตาปิตคุ ณุ และนมัสการอาจริยคณุ แผนที่ ๒/๒ แผนการจัดการเรยี นรู้ เร่ือง การเขียนเรยี งความ ภาคเรียนที่ ๒/๒๕๖๒ สอนวันที่ ............................................... เวลา ๒ ชวั่ โมง ๑. สาระสำคญั เรียงความ เปน็ งานเขยี น ร้อยแกว้ ชนดิ หนึ่งทผ่ี เู้ ขียนมงุ่ ถา่ ยทอดเรอ่ื งราว ความรู้ ความคดิ และทศั นคติ ในเรอ่ื งใดเรอื่ งหนง่ึ ด้วยถอ้ ยคำสำนวนทเี่ รยี บเรียงอย่างมลี ำดับขน้ั และสละสลวย โดยมอี งคป์ ระกอบ ๓ สว่ นคอื คำนำ เน้อื เร่ืองและสรปุ ๒. มาตรฐานการเรยี นรแู้ ละตัวช้ีวดั มาตรฐาน ท ๒.๑ ใช้กระบวนการเขยี นเขยี นสอื่ สาร เขยี นเรยี งความ ย่อความ และเขียนเรอ่ื งราวใน รปู แบบตา่ ง ๆ เขยี นรายงานข้อมลู สารสนเทศและรายงานการศกึ ษาค้นควา้ อย่างมีประสทิ ธภิ าพ ม.๔-๖/๒ เขยี นเรียงความ ม.๔-๖/๘ มมี ารยาทในการเขยี น ๓. จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้ เม่อื นักเรยี นเรียนเรอื่ งการเขยี นเรยี งความแลว้ นกั เรยี นสามารถ ๑. อธบิ ายความหมายและองค์ประกอบของการเขยี นเรียงความได้ได้ (K) ๒. เขียนเรยี งความตามหวั ข้อท่กี ำหนดได้ (P) ๓. มีมารยาทในการเขยี น (A) ๔. สาระการเรยี นรู้ ๑. ความหมายของการเขยี นเรยี งความ ๒. องคป์ ระกอบของการเขยี นเรยี งความ ๓. การเขยี นเรยี งความตามหวั ข้อทกี่ ำหนด

๓๐ ๕. สมรรถนะทต่ี อ้ งการ ๑. ความสามารถในการสือ่ สาร ๒. ความสามารถในการคดิ ๓. ความสามารถในการแก้ปัญหา ๖. คณุ ลักษณะทพ่ี ึงประสงค์ ๑. มีวนิ ยั ๒. ใฝ่เรียนรู้ ๓. มงุ่ มน่ั ในการทำงาน ๗. กระบวนการจัดการเรียนรู้ กิจกรรมท่ี ๑ ขั้นนำเขา้ สบู่ ทเรยี น (๕ นาท)ี ๑. ครูกล่าวคำทกั ทายนกั เรยี นและพูดคุยเพ่ือสร้างบรรยากาศทเี่ ปน็ กันเอง ๒. ครูช้ีแจงข้อตกลงในชน้ั เรียน ดังนี้ - ไมพ่ ูดคยุ เสียงดงั ในขณะท่คี รทู ำการสอน หรือในขณะทำกจิ กรรม - ไมร่ ับประทานอาหารหรือขนมในห้องเรียน - อนุญาตใหใ้ ชเ้ ครื่องมอื สื่อสารในหอ้ งเรยี นไดใ้ นกรณีทีท่ ำการสบื คน้ ขอ้ มลู ในการเรียน เทา่ นน้ั ๓. ครนู ำตวั อยา่ งเรยี งความมาให้นกั เรยี นพิจารณาการใชส้ ำนวนภาษาและองค์ประกอบของ เรยี งความ กจิ กรรมที่ ๒ ขน้ั สอน (๓๐ นาที) ๑. ครูให้นักเรียนอภปิ รายและแสดงความคดิ เหน็ เกย่ี วกบั เรยี งความทคี่ รูไดย้ กตัวอยา่ ง โดย อภปิ รายเกี่ยวกบั การต้ังชื่อเร่อื ง การใช้สำนวนภาษาและองค์ประกอบ จากนั้นให้นักเรียนวิเคราะห์วา่ ตวั อย่าง ดงั กลา่ วจดั เป็นการเขียนเรยี งความทีด่ หี รอื ไม่ เพราะเหตใุ ด ๒. ครูแบ่งนักเรียนออกเป็นกลุ่ม กลุ่มละ ๔-๕ คน แล้วให้แต่ละกล่มุ ศกึ ษาและระดมความคิดวา่ เรยี งความที่ดีควรมีองคป์ ระกอบใดบา้ ง และการเขยี นเรยี งความท่ีดีจะตอ้ งมลี ำดบั ขั้นตอนอย่างไร จากนน้ั ใหแ้ ตล่ ะ กลุ่มนำเสนอความคิดของกลมุ่ ตนเอง ๓. ครูแจกเอกสารประกอบการเรียนเรอื่ ง “การเขียนเรียงความ” จากนน้ั ให้นักเรียนอ่านทำ ความเข้าใจเกย่ี วกบั ความหมาย และองคป์ ระกอบและขน้ั ตอนการเขียนเรียงความ ๔. ครใู ห้นกั เรียนเขยี นเรยี งความ โดยกำหนดหัวขอ้ เกีย่ วกบั เรือ่ งพระคณุ บิดา-มารดา หรือ ครดู ใี นดวงใจ โดยกำหนดใหส้ ง่ ในสปั ดาหถ์ ัดไป

๓๑ กิจกรรมท่ี ๓ ขัน้ สรปุ (๑๕นาท)ี ๑. ครูและนกั เรียนรว่ มกนั สรปุ ความรูเ้ รอ่ื ง การเขยี นเรียงความ ๓. ครูใหน้ กั เรียนทำแบบทดสอบหลังเรียน โดยครอู ธบิ ายคำชแี้ จงการทำแบบทดสอบหลงั เรยี น เร่อื ง การเขียนเรยี งความ แบบปรนยั ๔ ตวั เลอื ก มี ๒๐ ข้อ (๑๐ คะแนน) ใชเ้ วลา ๒๐ นาที ใหน้ กั เรียนเลือก คำตอบทถ่ี กู ทส่ี ดุ เพยี งคำตอบเดียว แลว้ กากบาท (x) ตัวเลือกลงใบแบบทดสอบ ๘. ส่อื และแหล่งเรยี นรู้ เกณฑ์การประเมนิ ส่ือการเรยี นรู้ ๑. เอกสารประกอบการเรียนเรื่อง การเขยี นเรียงความ แหลง่ เรยี นรู้ ๑. ครู ๒. อินเตอรเ์ นต็ ๓. หนงั สอื วรรณคดีวิจกั ษ์ ช้ันมัธยมศึกษาปีท่ี ๔ ๙. การวดั และประเมนิ ผล ส่งิ ทตี่ อ้ งการวัด วธิ กี ารวดั และประเมนิ ผล เครอ่ื งมอื วัด ๑. การอธิบายความหมาย - การทดสอบหลงั เรียน - แบบทดสอบหลงั เรียน คะแนนจากการทำ และหลกั การเขยี น ชนิดปรนัย ๔ ตวั เลือก แบบทดสอบ เรียงความ(K) จำนวน ๑๕ ขอ้ ผา่ นเกณฑร์ อ้ ยละ ๘๐ ขน้ึ ไป ๒. การเขียนเรียงความ - การเขยี นเรยี งความตาม - แบบประเมินการพดู คะแนนจากการทำ ตามหัวข้อท่กี ำหนด (P) หวั ข้อท่ีกำหนด สรปุ แนวคิดจากเรอ่ื งทฟ่ี งั แบบฝกึ หดั ๓. การมมี ารยาทในการ - การประเมนิ มารยาทใน เขยี น (A) การเขยี น หรอื ดู ชนิด Scoring ผ่านเกณฑร์ ้อยละ ๗๐ Rubrics รายการ ขน้ึ ไป ประเมิน ๓ รายการ ๓ ระดับคณุ ภาพ - แบบสังเกตมาระยาทใน - คะแนนพฤตกิ รรม การเขียน ชนิด Scoring ผ่านเกณฑ์ รอ้ ยละ ๘๐ Rubrics รายการ ขน้ึ ไป ประเมนิ ๕ รายการ ๓ ระดับคุณภาพ ๔. การประเมิน แบบประเมินคณุ ลกั ษณะ แบบประเมนิ คณุ ลักษณะ ผ่านเกณฑ์ ร้ อยล คณุ ลกั ษณะอันพงึ อนั พงึ ประสงค์ อนั พึงประสงค์ ๓ ะ ๘๐ ข้ึนไป ประสงค์ คุณลกั ษณะ ๔ ระดบั คุณภาพ

๓๒ ๑๐. ผลการจดั การเรยี นรู้ พฤตกิ รรมการเรียนร้ขู องผเู้ รยี น ................................................................................................................... .................................................................................................................................................................................... .................................................................................................................................................................................... สมรรถนะท่ตี อ้ งการใหเ้ กดิ กบั ผเู้ รียน............................................................................................................ .................................................................................................................................................................................... .................................................................................................................................................................................... คณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ของผเู้ รียน .......................................................................................................... ............................................................................................................................. ....................................................... ............................................................................................................................. ....................................................... จดุ เดน่ -จดุ ด้อยท่ีควรพัฒนาของการจดั กจิ กรรม .......................................................................................... .......................................................................................................................... .......................................................... ............................................................................................................................. ....................................................... ............................................................................................................................................... ..................................... ข้อเสนอแนะในการจัดกจิ กรรมการเรียนรู้ ................................................................................................... ............................................................................................................................. ....................................................... .......................................................................................................................................................... .......................... ลงช่อื ..................................................... (.........................................................) ผูส้ อน วันที.่ ....... เดอื น....................... พ.ศ..................

๓๓ ลงชื่อ..................................................... (.........................................................) หวั หน้ากล่มุ สาระการเรียนรู้ วนั ที่........ เดือน....................... พ.ศ.................. ลงชือ่ ..................................................... (.........................................................) หัวหน้ากลุ่มบรหิ ารงานวชิ าการ วนั ที่........ เดอื น....................... พ.ศ.................. ลงชื่อ..................................................... (.........................................................) ผู้อำนวยการ วันท.่ี ....... เดือน....................... พ.ศ..................

๓๔

๓๕

๓๖

๓๗ แบบทดสอบหลังเรียน เร่ือง การพดู สรุปแนวคิด รายวิชา ภาษาไทย ชั้นมัธยมศึกษาปีท่ี ๔ จำนวน ๑๕ ข้อ คะแนนเต็ม ๑๕ คะแนน คำชแ้ี จง : ใหน้ กั เรียนเลอื กคำตอบท่ถี กู ตอ้ ง แลว้ ทำเครอื่ งหมาย x ลงในกระดาษคำตอบ ๑. ข้อใดเป็นลักษณะของการเขยี นคำนำท่ีดี ก. เขียนประมาณ ๕ บรรทดั ข. เขียนเน้ือหาเดียวกบั ตอนสรปุ ค. นำมาจากเนอ้ื เร่อื งบางตอนมาเขียน ง. เขยี นในส่งิ ท่ไี ม่เกย่ี วขอ้ งกบั เนอ้ื เรื่อง ๒. ขอ้ ใดไมใ่ ช่ประโยชนข์ องการวางโครงเรอ่ื ง ก. ทำใหผ้ อู้ า่ นสนใจ ข. กันลมื เรอ่ื งทจ่ี ะเขียน ค. เขียนไม่ออกนอกเรอ่ื ง ง. ทำให้ม่ันใจในการเขียน ๓. การเขียนเรียงความ ควรเลอื กเร่ืองทจ่ี ะเขียนอยา่ งไร ก. เลือกเรอื่ งทค่ี นในสงั คมกำลงั สนใจ ข. เลือกเร่ืองทสี่ นใจ และหาขอ้ มลู ได้ง่าย ค. เลอื กเร่ืองทล่ี ้ลี บั และไมม่ ใี ครพสิ จู น์ได้ ง. เลอื กเรอื่ งไกลตัว และมคี วามแปลกใหม่ ๔. การเขียนเรยี งความทด่ี ี จะต้องมีลักษณะอยา่ งไร ก. เขยี นดว้ ยภาษาระดับทางการ ข. เขียนใหเ้ กิดเอกภาพและจนิ ตนาการ ค. เขยี นเน้ือเรือ่ งทแี่ บ่งได้เป็นสัดสว่ นชัดเจน ง. เขียนอย่างมเี อกภาพ สมั พนั ธภาพ และสารตั ถภาพ

๓๘ ๕. การเขียนเรียงความ ขอ้ ใดกลา่ วถกู ต้อง ก. สว่ นท่เี ป็นเนื้อเรอื่ งตอ้ งมีเพียงย่อหน้าเดยี ว ข. การเล่าเรอ่ื งไมจ่ ำเปน็ ตอ้ งลำดับเหตกุ ารณ์ทีเ่ กิดข้ึน ค. การเปลย่ี นเรื่องใหมถ่ ้ามกี ารส่งทอดเนื้อความกเ็ ขยี นต่อกนั ไป โดยไม่ตอ้ งขน้ึ ยอ่ หน้าใหม่ ง. ควรยกตวั อย่างประกอบเพอื่ ใหผ้ ้อู า่ นเข้าใจเรอ่ื งไดด้ ขี ้ึน ตวั อยา่ งต้องมเี หตผุ ล มหี ลกั ฐาน นา่ สนใจ ๖. ข้อใดจะช่วยสง่ เสรมิ การเขยี นเรยี งความให้มปี ระสทิ ธภิ าพ ก. อ่านมาก ฟังมาก และฝกึ หดั เขยี นอยเู่ สมอ ข. ฝกึ เขยี นโดยลอกเลียนแบบนักเขยี นทีม่ ีช่ือเสยี ง ค. หารปู แบบการเขียนเดน่ ๆ แล้วฝกึ หัดเขยี น ง. รวบรวมสภุ าษติ คำพงั เพย คำคมไว้อ้างองิ ๗. ขอ้ ใดไมใ่ ชศ่ ลิ ปะของการเขยี นเรียงความ ก. การเลอื กใช้คำทสี่ ื่อความหมายชดั เจน ข. การใช้สำนวนและลลี าการเขียนทเี่ ป็นของตนเอง ค. การเขยี นข้อความในแต่ละย่อหน้าใหส้ ัมพันธ์สอดคล้องกนั ง. การสำรวจโครงเรอ่ื ง สรปุ และคำนำให้เสนอเพยี งความคดิ เดียว ๘. องคป์ ระกอบใดของเรียงความทสี่ ามารถดงึ ดดู ความสนใจ ของผู้อ่านได้มากทีส่ ดุ ก. คำนำ ข. เน้อื เรอ่ื ง ค. สรุป ง. คำนำ และสรปุ ๙. การเขยี นเรียงความในสว่ นสรุป ไมค่ วรมลี ักษณะใด ก. ใชภ้ าษากระชับ ข สรุปความคดิ และความตอ้ งการ ค. เสนอข้อคดิ เห็นหรือแนวทางการปฏบิ ัติ ง. นำเสนอประเดน็ ใหม่ๆ ทน่ี ่าสนใจเพิม่ เติม ๑๐. การเขียนเรยี งความ มีองค์ประกอบตามข้อใด ก. ความนำ เนื้อเรือ่ ง สรปุ ข. ชอ่ื เรือ่ ง ความนำ ใจความของเรื่อง สรุป ค. ความนำ เนือ้ เรือ่ ง ใจความของเรอ่ื ง สรุป ง. ความนำ เนือ้ เรือ่ ง ใจความของเรอ่ื ง การใชภ้ าษา สรปุ

๓๙ ๑๑. ส่งิ ใดที่ไมค่ วรนำมาใช้ประกอบในการเขยี นคำนำ ก. คำคม ข. บทกวี ค. รปู ภาพ ง. สุภาษติ ๑๒. ก่อนท่ีจะลงมือเรยี บเรียงเนอ้ื หาในการเขยี นเรยี งความ ควรทำสิ่งใดกอ่ น ก. ร่างบทสรปุ ข. หาขอ้ มูลเพม่ิ เตมิ ค. วางโครงเรอื่ ง ง.หาตัวอย่างประกอบ ๑๓. ข้อใดไม่ใชห่ ลักปฏบิ ัติการเขยี นเรียงความทีด่ ี ก. เขียนจากความรู้ของตน ข. เขยี นจากทรรศนะของตน ค. เขยี นจากประสบการณ์ของตน ง. เขียนตามความนกึ คดิ ของบคุ คลอื่น ๑๔. การเขียนเรียงความควรคำนงึ ถงึ เรอื่ งใดก่อน ก. ภาษาทใ่ี ช้ ข. เคา้ โครงเรื่อง ค. ความจรงิ ของเรื่อง ง. ความสนุกของเร่ือง ๑๕. คำว่า \"บชู ไนย\" หมายถึงข้อใด ก. ควรเคารพ ข. ควรบูชา ค. ควรนบั ถือ ง. ควรกราบไหว้

๔๐ เฉลยแบบทดหลงั เรยี น เรอื่ ง การเขียนเรียงความ ขอ้ เฉลย ๑. ก. เขยี นประมาณ ๕ บรรทดั ๒. ก. ทำให้ผอู้ า่ นสนใจ ๓. ข. เลอื กเร่อื งทสี่ นใจ และหาขอ้ มลู ได้งา่ ย ๔. ง. เขยี นอยา่ งมเี อกภาพ สมั พนั ธภาพ และสารตั ถภาพ ๕. ง. ควรยกตัวอย่างประกอบเพอื่ ใหผ้ ู้อ่านเขา้ ใจเรอื่ งไดด้ ีข้นึ ตัวอย่างตอ้ งมเี หตผุ ล มหี ลกั ฐาน นา่ สนใจ ๖. ก. อา่ นมาก ฟงั มาก และฝกึ หดั เขยี นอย่เู สมอ ๗. ก. การเลือกใชค้ ำทสี่ ่ือความหมายชัดเจน ๘. ก. คำนำ ๙. ง. นำเสนอประเด็นใหมๆ่ ท่นี า่ สนใจเพิ่มเตมิ ๑๐. ก. ความนำ เนอ้ื เรอ่ื ง สรปุ ๑๑. ค. รปู ภาพ ๑๒. ค. วางโครงเร่ือง ๑๓. ง. เขียนตามความนกึ คิดของบุคคลอ่ืน ๑๔. ข. เคา้ โครงเรอ่ื ง ๑๕. ข. ควรบูชา

๔๑ แบบสรุปคะแนนทดสอบย่อยหลังเรยี น เรื่อง การเขียนเรยี งความ ระดบั ชน้ั มธั ยมศึกษาปที ี่ ๔ โรงเรยี น............................................ ผลการทดสอบ ่ยอยหลังเ ีรยน ผ่าน ไม่ผ่าน ท่ี ชือ่ -สกลุ คะแนน ๑. ๒. ๓. ๔. ๕. ๖. ๗. ๘. ๙. ๑๐. ๑๑. ๑๒. ๑๓. ๑๔. ๑๕. บนั ทึกเพิ่มเตมิ ............................................................................................................................. ....................................................... .................................................................................................................................................................................... ........................................................................................................................ .......................................... ลงช่ือ...................................................ผู้ประเมิน (.......................................................) วันท่ี................เดือน.........................พ.ศ.............

๔๒ แบบประเมินการเขียนเรียงความ หนว่ ยการเรยี นรู้ที่ ๑ เร่อื ง นมัสการมาตาปติ ุคณุ และนมัสการอาจริยคณุ แผนที่ ๒ เรื่อง การเขยี นเรียงความ พฤตกิ รรม สรปุ ท่ี ชอ่ื -สกลุ การ ั้ตง ื่ชอเ ื่รอง รวม ผ/ (๓) (๑๕ มผ ) ใ ้ชภาษาถูก ้ตอง (๓) เ ื้นอหา (๓) การลำ ัดบใจความ (๓) หลักเกณ ์ฑทาง ภาษา (๓) ๑. ๒. ๓. ๔. ๕. ๖. ๗. ๘. ๙. ๑๐. ๑๑. ๑๒. ๑๓. ๑๔. บันทกึ เพม่ิ เตมิ ............................................................................................................................. ....................................................... .................................................................................................................................................................................... ............................................................................................................................. ....................................................... ลงชือ่ .....................................................................ผปู้ ระเมิน (..................................................................) วนั ที.่ ....... เดือน ....................... พ.ศ........................

๔๓ เกณฑ์การประเมินการเขยี นเรยี งความ รายการประเมนิ เกณฑ์การประเมนิ ๑. การตง้ั ช่อื เร่อื ง ๒. การใชภ้ าษา ดีมาก (๓) ปานกลาง (๒) พอใช้ (๑) ๓. เนอ้ื หา นา่ สนใจ ทนั สมัย มี น่าสนใจ แต่ไม่ทนั สมยั ทั่ว ๆ ไป ไมน่ ่าสนใจ ๔. การลำดบั ใจความ ๕. หลกั เกณฑ์ทางภาษา ความเหมาะสมกบั สอดคล้องกบั เนื้อหา และไมส่ อดคล้องกับ เนอ้ื เร่อื ง เนอ้ื หา ภาษาทใ่ี ชเ้ หมาะสม ภาษาทีใ่ ช้โดยสว่ นมาก ภาษาทใี่ ช้ไมเ่ หมาะสม กับเรอื่ งทีเ่ ขียน เหมาะสมกบั เร่ืองท่ี กบั เร่อื งทท่ี ำการเขยี น เรยี งความ เขยี นเรยี งความโดยมี เรยี งความ บางคำท่ไี มเ่ หมาะสม มีการใหข้ อ้ มูลถกู ตอ้ ง มีการให้ขอ้ มลู ท่ี ข้อมูลโดยส่วนใหญ่ไม่ สมบรู ณ์ ตรงประเด็น ถกู ต้อง ตรงประเดน็ ถกู ต้อง และขาด แตข่ าดรายละเอยี ด รายละเอียด ใจความชัดเจน ใจความไมช่ ดั เจน ไม่มีความตอ่ เนอ่ื ง ลำดับเหตุการณ์ ขาดความ และขาดความ สมเหตุสมผล สมเหตุสมผล สมเหตุสมผล ประโยคสมบูรณ์ ประโยคสมบูรณ์ แต่ เขียนประโยคผิด ถกู ตอ้ งตาม ผิดหลักเกณฑท์ าง หลกั เกณฑท์ างภาษา หลกั เกณฑท์ างภาษา ภาษา ส่ือความได้ สื่อความไม่ได้ สือ่ ความไดช้ ดั เจน เกณฑก์ ารใหค้ ะแนนการประเมนิ พฤตกิ รรมการเรียนรู้ของนกั เรียน กำหนดไว้ดังน้ี ๓ หมายถงึ ดมี าก ๒ หมายถึง ดี ๑ หมายถึง ปรบั ปรงุ คะแนน ๑๓-๑๕ คะแนน หมายถงึ ดมี าก คะแนน ๑๐-๑๒ คะแนน หมายถึง ดี ตำ่ กวา่ ๙ คะแนน หมายถึง ปรับปรุง หมายเหตุ นักเรียนผา่ นเกณฑร์ อ้ ยละ ๘๐ ที่ ๑๒ คะแนนขนึ้ ไป

แบบประเมนิ พฤติกรรมนกั เรียนดา้ นเจตพสิ ยั ในการเรยี น ๔๔ เร่ือง การมีมารยาทในการเขยี น สรปุ ระดับชน้ั มธั ยมศกึ ษาปที ่ี ๔ โรงเรียน........................ พฤติกรรม ท่ี ชือ่ ลายมือ ่อาน ่งาย รวม ผ/ สวยงาม สะอาดสะ ้อาน (๑๒) มผ (๓) บอกแหล่ง ่ีทมาของ ้ขอมูล (๓) เขียนเ ้วนวรรคตอน ูถก ้ตอง(๓) ัรกษาความสะอาดใน การเขียน(๓) ๑. ๒. ๓. ๔. ๕. ๖. ๗. ๘. ๙. ๑๐. ๑๑. ๑๒. ๑๓. ๑๔. บนั ทึกเพ่ิมเติม ............................................................................................................................. ....................................................... .................................................................................................................................................................................... ............................................................................................................................. ..................................... ลงชอื่ .................................................ผปู้ ระเมนิ (.....................................................................) ตำแหนง่ .......................................................... วันที่...........เดอื น.........................พ.ศ..............

๔๕ เกณฑ์การสังเกตพฤติกรรมผู้เรยี น เรอ่ื งมารยาทในการเขยี น รายการประเมนิ ดีมาก (๓) เกณฑ์การใหค้ ะแนน ปรบั ปรุง (๑) ๑. ลายมืออ่านง่าย สวยงาม เขียนเรียงความด้วย ดี (๒) เขียนเรียงความด้วย ๒. บอกแหล่งทีม่ าของขอ้ มูล ลายมอื ทอี่ ่านงา่ ย เป็น ลายมอื ทอี่ า่ นยาก ไม่ ระเบยี บและสวยงาม เขยี นเรียงความดว้ ย เปน็ ระเบียบ ๓. เขยี นเวน้ วรรคตอนถูกตอ้ ง มีการเขยี นอา้ งองิ ลายมอื ทอี่ า่ นงา่ ย แต่ ไม่มีการเขียนอ้างองิ แหลง่ ทมี่ าอย่างชดั เจน ไมเ่ ป็นระเบยี บ แหลง่ ทมี่ า ๔. รกั ษาความสะอาดในการ ทกุ ครง้ั ท่คี ดั ลอก มกี ารเขยี นอา้ งองิ เขยี น ขอ้ ความของคนอ่นื มา แหลง่ ที่มาในบาง เขยี นเวน้ วรรคตอนได้ เขียนเว้นวรรคตอนได้ ขอ้ ความทีค่ ดั ลอกคน ถกู ต้องบางประโยค ถูกตอ้ งประโยค อื่นมา โดยมีการเวน้ ทไ่ี ม่ เขยี นเว้นวรรคตอนได้ ถูกตอ้ งมากกวา่ ๒ จุด งานเขียนมีความสะอาด ถกู ตอ้ งบางประโยค ขึ้นไป ไมม่ รี อยลบ รอยเปอื้ น โดยมีการเว้นทีไ่ ม่ งานเขยี นมีรอยลบ หรอื ฉีกขาด ถูกต้อง ๑-๒ จุด รอยเป้อื นหรอื ฉีกขาด มากกวา่ ๒ จดุ งานเขียนมคี วาม สะอาดมรี อยลบ รอย เปือ้ นหรอื ฉกี ขาด ๑ – ๒ จุด เกณฑก์ ารให้คะแนน กำหนดไว้ดังนี้ ๓ หมายถึง ดีมาก ๒ หมายถึง ดี ๑ หมายถึง ปรบั ปรุง เกณฑก์ ารแปลความหมายคะแนน กำหนดไว้ดังนี้ รอ้ ยละ ๖๐ ข้นึ ไป (๙ คะแนนขน้ึ ไป) คะแนน ๙-๑๒ คะแนน หมายถึง ดมี าก คะแนน ๕-๘ คะแนน หมายถึง ดี คะแนน ๑-๔ คะแนน หมายถึง ปรบั ปรงุ หมายเหตุ ผู้ผา่ นเกณฑ์ประเมนิ ต้องไดค้ ะแนน ๑๐ คะแนนขึ้นไป คดิ เป็นร้อยละ ๘๐


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook