-๒๓๙- ๔. ชอ่ื ผทู้ ี่ถือปฏิบตั แิ ละผู้สืบทอด ๔.๑ ผู้ท่ีถือปฏบิ ัติ ช่อื ชาวบ้านในชมุ ชนบา้ นสบคา วัน เดือน ปีเกิด - ทอี่ ยู่ หมู่ 5 ตาบลเวยี ง อาเภอเชยี งแสน จงั หวดั เชียงราย หมายเลขโทรศัพท์ 08๑ ๕๓๑ ๙๘๐๕ ๔.๒ ผู้สบื ทอด ชือ่ ชาวบา้ นในชุมชนบ้านสบคา วัน เดอื น ปเี กิด - ทอี่ ยู่ หมู่ 5 ตาบลเวยี ง อาเภอเชียงแสน จังหวดั เชยี งราย หมายเลขโทรศัพท์ 08๑ ๕๓๑ ๙๘๐๕ ๕. สถำนะ กำรคงอยู่ ปฏบิ ัตอิ ย่างแพร่หลาย เสยี่ งต่อการสูญหาย ไม่มปี ฏบิ ตั แิ ลว้ ๖. รูปภำพภูมปิ ญั ญำทำงวัฒนธรรม/กจิ กรรมทำงภูมปิ ัญญำทำงวฒั นธรรม
-๒๔๐- แบบสำรวจมรดกภมู ิปัญญำทำงวฒั นธรรมจังหวดั เชียงรำย ประจำปี 2565 สภำวฒั นธรรมจงั หวดั เชยี งรำย อำเภอเชียงแสน จงั หวัดเชยี งรำย 1. ชื่อข้อมูล ประเพณีการล่องสะเปา (ยี่เป็ง) ชมุ ชนบ้านสบกก 2. ลักษณะ วรรณกรรมพืน้ บ้านและภาษา ศลิ ปะการแสดง แนวปฏบิ ตั ทิ างสงั คมพธิ ีกรรม ประเพณี และเทศกาล อาหาร/ความร้แู ละการปฏิบตั ิเก่ียวกับธรรมชาติและจักรวาล งานช่างฝมี ือดง้ั เดิม การละเลน่ พ้ืนบ้าน กีฬาพื้นบา้ น และศลิ ปะการตอ่ สู่ป้องกันตัว 3. รำยละเอียดข้อมูล 3.1 ประวตั คิ วามเป็นมาของข้อมูล การลอยสะเปาของบ้านสบกกไม่ปรากฏหลักฐานเด่นชัดนักว่ามีมาต้ังแต่สมัยใดเพราะบ้านสบกกเร่ิม ก่อต้ังเม่ือราว พ.ศ.2480 หรือก่อนหน้าน้ันไม่นาน และหมู่บ้านสบกกเองนั้นเป็นหมู่บ้านที่ชาวบ้านส่วนมาก อพยพมาจากหลายๆแห่ง จึงนาประเพณีเดิมของตนเองมาสืบสานท่ีนี่จนกลายเป็นวัฒนธรรมประเพณีสืบทอด กันมาจนถึงทุกวันน้ี ความเชอ่ื ประเพณลี อ่ งสะเปา ประเพณีล่องสะเปาของคู่บ้านสบกกกระทากันในวันเพ็ญเดือนยเ่ี ป็ง (ตรงกบั เดือน ๑๒ ของภาคกลาง) หรือวนั ลอยกระทง กระทาเพ่อื ๑. ขอขมาต่อแม่น้าคงคา บชู าพระนารายณ์ท่ีรกั ษาแมน่ า้ คงคาตามความเชื่อของศาสนาพราหมณ์ ๒. บูชารอยพระพุทธบาทท่ีประดิษฐ์ ณ หาดทรายแม่น้านัมมทา อันเป็นการเจริญพุทธานุสติราลึกต่อ องค์พระสัมมาสมั พทุ ธเจ้า ๓. เพอ่ื เป็นการสะเดาะเคราะห์ และไดบ้ รจิ าคทาน ในวันน้นั ดว้ ย 3.2 ขน้ั ตอน วธิ ีการดาเนนิ การเก่ยี วกับขอ้ มูล นิยมทาสะเปากันที่วัด โดยชาวบ้านช่วยกันทาสะเปาเป็นรูปเรือลาใหญ่ วางบนแพไม้ไผ่ และนาสะตวง พร้อม ด้วยข้าวของตา่ ง ๆ ท้งั หม้อ ไห เสอื้ ผ้า เครอ่ื งนงุ่ หม่ เครอ่ื งอปุ โภค บรโิ ภคตา่ ง ๆ ใส่ลงไปในสะเปา ในช่วงหวั คา่ ของวันย่ีเป็ง จึงพากันหามสะเปา พร้อมแห่ด้วยฆ้องกลองจากวัดไปลอยที่แม่น้าโขงและทาพิธีเวนทานท่ีท่าน้า ก่อนปลอ่ ยสะเปาลอยลงไป การทาสะเปารูปเรือลาใหญ่ นาไปลอยในคืนยี่เป็งที่แม่น้าโขงในคืนย่ีเป็นน้ัน ท่ีหมู่บ้านสบกกจะใส่ สิ่งของจาพวก เส้ือผ้า ข้าวของเครื่องใชต้ ่าง ๆ ลงไปด้วย เพ่ือเป็นการสะเดาะเคราะห์ และเป็นการบรจิ าคทาน หากมีผู้ทามีความลาบากไดเ้ ก็บนาไปใช้ ๔. ชอ่ื ผู้ที่ถอื ปฏิบตั ิและผสู้ ืบทอด ๔.๑ ผู้ทถี่ อื ปฏบิ ัติ ชื่อ พระอธกิ ารอภิชาติ รติโก เจา้ อาวาสวัดสบกก วนั เดือน ปีเกดิ - ทอี่ ยู่ วัดสบกก หมู่ 7 ตาบลบ้านแซว อาเภอเชียงแสน จังหวัดเชยี งราย หมายเลขโทรศัพท์ -
๔.๒ ผูส้ ืบทอด -๒๔๑- ช่ือ วนั เดอื น ปีเกิด ชาวบา้ นในชมุ ชนบา้ นสบกก ที่อยู่ - หมายเลขโทรศพั ท์ หมู่ 7 ตาบลบา้ นแซว อาเภอเชียงแสน จงั หวัดเชยี งราย - 5. สถำนกำรณค์ งอยู่ ปฏิบตั ิอยา่ งแพรห่ ลาย เสี่ยงต่อการสญู หาย ไม่มปี ฏิบตั ิแล้ว 6. รูปภำพปัญญำทำงวัฒนธรรม/กิจกรรมทำงภมู ปิ ญั ญำทำงวัฒนธรรม
-๒๔๒- แบบสำรวจมรดกภมู ปิ ญั ญำทำงวัฒนธรรมจังหวัดเชยี งรำย ประจำปี 2565 สภำวัฒนธรรมจงั หวดั เชยี งรำย อำเภอเชยี งแสน จังหวดั เชยี งรำย 1. ช่ือข้อมูล ประเพณีการเลีย้ งเส้ือบา้ น 2. ลกั ษณะ วรรณกรรมพื้นบา้ นและภาษา ศลิ ปะการแสดง แนวปฏบิ ตั ิทางสงั คมพธิ ีกรรม ประเพณี และเทศกาล อาหาร/ความรูแ้ ละการปฏบิ ตั ิเกี่ยวกบั ธรรมชาตแิ ละจกั รวาล งานช่างฝีมอื ด้ังเดมิ การละเลน่ พ้ืนบา้ น กีฬาพ้นื บา้ น และศลิ ปะการต่อสปู่ ้องกันตัว 3. รำยละเอียดขอ้ มลู 3.1 ประวตั ิความเป็นมาของขอ้ มูล เสือ้ บ้าน หรือหอเสอ้ื บา้ น เปน็ ส่วนหนง่ึ ของชุมชนและหมู่บา้ น ซง่ึ ทางภาคเหนือเราน้ันมีกันทุกหมู่บ้าน เป็นความเชื่อมาต้ังแต่อดีต ลักษณะความเชื่อ เสื้อบ้าน เป็นดวงวิญญาณที่ทาหน้าท่ีปกปักรักษาสมาชิกในหมู่บ้าน สถิตอยู่ในเรือนล้านนาขนาดเล็กกลางหมู่บ้าน เรียกว่า หอเสื้อบ้าน คาว่า เสื้อบ้าน ผู้เฒ่าผู้แก่ว่าไว้ว่า เส้ือ มาจากคาว่า เซื้อ แปลว่าบรรพบุรุษ หมายถึงดวงวิญญาณของบรรพบุรุษที่มีความดีหรือมีบุญคุณกับชาวบ้าน อาจจะเป็นผู้นาในการตั้งหมู่บ้าน หรือคนท่ีมีความดีเป็นท่ีเคารพนับถือของหมู่บ้าน หรือดวงวิญญาณดวงใด ดวงหนึ่งที่สถิตอยู่บริเวณนั้นก่อนสร้างหมู่บ้าน ฯลฯ ความสาคัญ เส้ือบ้าน มีหน้าที่และบทบาทสาคัญคือ เป็นผูป้ กปกั รักษา คมุ้ ครองสมาชิกในหมบู่ ้าน แต่ละหมู่บา้ นจะมหี อเสื้อบา้ น ชาวล้านนาเชื่อว่า มีเทวดาอารักษ์ รักษาชาวบ้านในหมู่บ้านให้อยู่เย็นเป็นสุข เป็นการยอมรับ การเป็นกลุ่มเป็นพวกเดียวกัน สมาชิกในหมู่บ้าน มีความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน หรือเก้ือกูลซ่ึงกันและกัน ถือเป็นหน้าที่ท่ีต้องดูแลช่วยเหลือกันต้ังแต่เกิด จนถึงตายมคี วามผูกพนั กัน 3.2 ข้ันตอน วธิ ีการดาเนนิ การเกยี่ วกับขอ้ มูล พธิ ีกรรม เมือ่ จะทาพิธีบวงสรวงเสื้อบ้าน ชาวบา้ นในหมู่บ้านกจ็ ะร่วมกันนาเอาสงิ่ ของต่าง ๆ ทัง้ อาหาร คาว - หวาน ดอกไม้ ธูปเทียน มารวมกันจัดทาเป็นเครอื่ งสักการะบูชา เจ้าพิธีประจาหมู่บ้านก็จะกล่าวโองการ เพ่ือขอให้ผีเส้ือบ้านช่วยปกปักรักษาให้สมาชิกในหมู่บ้านให้มีความร่มเย็นเป็นสุข ปราศจากภยันตราย และ โรคาพยาธิทั้งปวง ซึ่งบ้านสบกกจะทาพิธีไหว้เสื้อบ้าน หรือเลี้ยงเสื้อบ้านทุกปีในวันแรม 9 ค่า หรือ ขึ้น 9 ค่า เดอื น 9 เหนอื หรือเดอื น 7 ใต้ ในการไหว้บูชาเส้อื บา้ นนน้ั ชาวบ้านจะรวมใจกันออกค่าใชจ้ ่ายทกุ หลงั คาเรอื น ๔. ช่ือผู้ที่ถือปฏิบัตแิ ละผู้สืบทอด ๔.๑ ผทู้ ่ีถือปฏิบตั ิ ชอ่ื ชาวบ้านสบกก วนั เดอื น ปเี กดิ - ทีอ่ ยู่ หมู่ 7 ตาบลบา้ นแซว อาเภอเชียงแสน จงั หวัดเชยี งราย หมายเลขโทรศพั ท์ -
๔.๒ ผู้สืบทอด -2๔๓- ช่อื วนั เดอื น ปีเกิด ชาวบ้านสบกก ทอ่ี ยู่ - หมายเลขโทรศัพท์ หมู่ 7 ตาบลบา้ นแซว อาเภอเชยี งแสน จงั หวัดเชยี งราย - 5. สถำนกำรณ์คงอยู่ ปฏบิ ตั อิ ย่างแพรห่ ลาย เส่ียงต่อการสญู หาย ไมม่ ปี ฏบิ ตั ิแล้ว 6. รปู ภำพปัญญำทำงวฒั นธรรม/กจิ กรรมทำงภมู ปิ ัญญำทำงวัฒนธรรม
-2๔๔- แบบสำรวจมรดกภมู ปิ ัญญำทำงวฒั นธรรมจังหวัดเชยี งรำย ประจำปี ๒๕๖๕ สภำวัฒนธรรมจังหวัดเชยี งรำย อำเภอเวยี งแก่น จงั หวดั เชียงรำย ๑. ช่ือข้อมลู พิธถี วายหนงั แดง ๒. ลกั ษณะ วรรณกรรมพน้ื บ้านและภาษา ศลิ ปะการแสดง แนวปฏิบตั ทิ างสังคมพธิ ีกรรม ประเพณี และเทศกาล อาหาร/ความรู้และการปฏบิ ัตเิ กยี่ วกับธรรมชาติและจกั รวาล งานช่างฝีมอื ดงั้ เดิม การละเล่นพ้ืนบ้าน กีฬาพื้นบ้าน และศลิ ปะการตอ่ สู่ป้องกันตัว ๓. รายละเอียดข้อมูล ๓.๑) ประวตั คิ วามเปน็ มาของขอ้ มูล “ถวายหนังแดง” เป็นพิธีกรรมการเลี้ยงผีป่าของกลุ่มชาติพันธุ์ไทลื้อในอาเภอเวียงแก่น ถือเป็น ประเพณีพิธีกรรมด้ังเดิมที่ได้ปฏิบัติสืบทอดกันมาต้ังแต่คร้ังบรรพกาล ผู้เฒ่าผู้แก่ได้เล่าสืบต่อกันมาว่า ในอดีต หลายหมู่บ้านได้เกิดโรคห่าระบาดขึ้น ทาให้ผู้คนและสัตว์เลี้ยงเจ็บป่วยและล้มตายเป็นจานวนมาก และในช่วง บางปีฝนก็ไม่ตกต้องตามฤดูกาล จึงเช่ือกันว่าเป็นเพราะถูกผีป่า ผีฟ้า หรือผีร้าย (ผีฮ้าย) มารังควานก่อกวนคน ในหมู่บ้านให้อยู่ไม่สงบสุข จึงได้บนบานศาลกล่าวกับผีป่า เพ่ือขอให้ช่วยคุ้มครองคนภายในหมู่บ้านให้คลาด แคล้วจากภัยอันตรายต่าง ๆ และช่วยเพิ่มผลผลิตทางการเกษตรของชาวบ้านให้อุดมสมบูรณ์ โดยจะขอเซ่นสรวง ดว้ ยวัวตวั ผเู้ ป็นประจาทุกปี การประกอบพิธีเร่ิมขึ้นอย่างเรียบง่ายในป่าที่กาหนดเป็นพื้นท่ีประกอบพิธีกรรม ซ่ึงตั้งอยู่ไม่ห่างจาก หมู่บ้านมากนัก บรรดาผู้เฒ่าผู้แก่จะช่วยกันทาหิ้งสาหรับเลี้ยงผี กว้างประมาณ 2 เมตร เป็นห้ิงไม้ไผ่ยกพ้ืนสูง ปูพ้นื หิง้ ดว้ ยใบตอง สงู จากพ้นื ประมาณสองเมตร จากนั้นจะนาววั ไปผูกติดไวก้ บั ตน้ ไม้ ผู้อาวุโสในหมบู่ า้ นจะ จุด เทียนแล้วบอกกล่าวต่อส่ิงศักดิ์สิทธ์ิ ก่อนจะให้คนนาวัวไปฆ่า เพ่ือทาอาหารมาเซ่นไหว้ในพิธีกรรม เครื่องเซ่น ไหวใ้ นพธิ ถี วายหนังแดง ประกอบไปดว้ ย ลาบเน้ือสด แกงอ่อม เน้ือยา่ ง ข้าวเหนยี ว เหล้า หนังวัว หางววั หวั ววั พร้อมด้วยขาทั้ง 4 ขา พร้อมกับทา “จิ๊นหาบ จ๊ินหาม” คือ เอาเน้ือวัวมาหอ้ ยไว้กับไม้ไผ่ ทาให้มีลักษณะคล้าย กับการหาบและการหาม เชื่อกันว่าเมื่อผีป่ามารับเอาไปแล้วจะหาบหามส่ิงท่ีไม่ดี ออกจากหมู่บ้านไปด้วย เมื่อ จัดเตรียมเสร็จแล้ว ผู้เฒ่าผู้แก่จะจุดเทียนบอกกล่าวส่ิงศักด์ิสิทธ์ิให้มารับเครื่องเซ่นไหว้ จากนั้นประมาณ 20 นาที ผูเ้ ฒ่าผู้แกจ่ ะขอเอาอาหารที่เหลือมารบั ประทานร่วมกัน สว่ นชาวบ้านท่เี ข้าร่วมพิธีกรรมจะแบ่งเอาเนื้อวัว ไปทาอาหารเล้ียงกันภายในสถานท่ีประกอบพิธีกรรม เม่ือเสร็จพิธี ผู้เฒ่าผู้แก่จะ นาหนังวัวท่ีใช้ในการเซ่นไหว้ ไปเกบ็ ไวท้ ี่วัด เพอ่ื ทาเป็นหนังหน้ากลองของหมู่บ้านต่อไป ๓.๒) ขัน้ ตอน/วธิ ีการ/ดาเนนิ การเกีย่ วกับข้อมลู ลงพน้ื ทีจ่ ัดเก็บข้อมลู โดยการสอบถามผมู้ ีความรู้
-2๔๕- ๔. ช่ือผทู้ ี่ถือปฏิบัติและผสู้ บื ทอด ๔.๑ ผูท้ ีถ่ ือปฏบิ ัติ ชื่อ นายสวาท รวมจติ ร วนั เดอื น ปีเกิด - ทอ่ี ยู่ ๒๖ หมู่ ๕ ตาบลม่วงยาย อาเภอเวียงแก่น จังหวัดเชยี งราย หมายเลขโทรศัพท์ ๐๙๐ ๓๑๙ ๒๙๒๗ ๔.๒ ผสู้ ืบทอด ช่ือ - วัน เดอื น ปเี กิด - ท่ีอยู่ - หมายเลขโทรศพั ท์ - 5. สถำนกำรณค์ งอยู่ ปฏบิ ัติอยา่ งแพรห่ ลาย เส่ยี งตอ่ การสูญหาย ไมม่ ปี ฏบิ ัตแิ ล้ว ๖. รูปภาพภมู ปิ ัญญาทางวัฒนธรรม/กิจกรรมทางภูมิปัญญาทางวัฒนธรรม การทาพธิ ี “ท้าวทงั้ สี่” เพื่อเป็นการขอให้เทพารักษ์ การจัดเตรยี มเครื่องประกอบพิธกี รรม ที่ดูแล ณ สถานทีจ่ ัดพิธไี ด้รบั รู้ และปกปกั รักษาให้พน้ ภยั “พธิ ีถวายหนังแดง” การประกอบพิธีกรรม “พิธีถวายหนังแดง” การรับประทานสิง่ ของท่ีถวายฯ หลังจากประกอบ พิธเี สร็จ โดยมีความเชอ่ื ว่าเป็นของศักดิส์ ทิ ธ์ิ
-๒๔๖- แบบสำรวจมรดกภมู ปิ ัญญำทำงวฒั นธรรมจงั หวัดเชียงรำยประจำปี ๒๕๖๕ สภำวฒั นธรรมจงั หวัดเชยี งรำย อำเภอแมส่ รวย จังหวดั เชยี งรำย ๑. ช่ือข้อมูล พธิ ีกรรม ผีป่ยู ่าหม้อนึง่ ๒. ลกั ษณะ วรรณกรรมพ้นื บ้านและภาษา ศิลปะการแสดง แนวปฏิบตั ิทางสงั คมพิธีกรรม ประเพณี และเทศกาล อาหาร/ความร้แู ละการปฏบิ ัติเกีย่ วกับธรรมชาติและจักรวาล งานช่างฝีมอื ดัง้ เดมิ การละเลน่ พน้ื บ้าน กีฬาพื้นบา้ น และศลิ ปะการต่อสปู่ ้องกนั ตวั ๓. รำยละเอยี ดข้อมลู ๓.๑) ประวัติความเปน็ มาของข้อมูล พิธีกรรม ผีหม้อนึ่ง เป็นรูปแบบของการสื่อสารชุมชนลักษณะหนึ่งในการประกอบพิธีกรรมแต่ละ รูปแบบจะมีมิติของการสื่อสารประกอบอยู่ด้วยเสมอท้ังผู้ประกอบพิธีกรรมซ่ึงเป็นผู้ส่งสารผู้ เข้าร่วมพิธีกรรม และเทพยาดาทั้งหลายเป็นผู้รับสาร ส่วนสื่อและช่องทางการสื่อสารเช่น เวลาการประกอบพิธีกรรม สถานท่ี ประกอบพิธีกรรมเครื่องสังเวย ฉากประกอบพิธีและเน้ือหาสารจะเป็นบทสวด การสนทนาที่เกิดข้ึน ทั้งนี้การ เห็นคุณค่าของความเจ็บป่วยขึ้นอยู่กับระบบความเชื่อที่สามารถกระตุ้นความกังวลเกี่ยวกับการสูญเสียและ ความตาย ท้ังนี้ความเช่ือเหล่าน้ีอาจนาไปสู่ความไม่เข้าใจในกระบวนการรักษาความเจ็บป่วยในเชิงการแพทย์ แผนปจั จุบนั ผีหม้อน่ึง (ปู่ย่าหม้อน่ึง) เป็นรูปแบบการพิธีกรรม ที่มีการตั้ง หม้อท่ีใช้นึ่งข้าวเหนียวเป็นอุปกรณ์ ในการประกอบพิธีกรรม ยายสม มั่งมี เป็นผู้สืบทอดการประกอบพิธีกรรมนี้ โดยสืบทอดพิธีกรรมผีหม้อน่ึง มาจากบรรพบรุ ุษร่นุ ปู่ย่า มาถึงร่นุ พอ่ แมจ่ นกระท่ังมาถงึ ตน โดยจะทาการเส่ยี งทาย รกั ษาโรคตามแบบพธิ กี รรม แบบโบราณล้านนา มีการสืบต่อกันมารุ่นต่อรุ่น เชื่อกันว่าจะมีเทพยาดาสิ่งศักดิ์สิทธ์ิ จะลงมาควบคุมการตอบ คาถาม จากผู้ที่มาสอบถาม มีปัญหาแก้ไขชีวิตแก้ไขไม่ได้ ต้องการรักษาโรคและทานายดวงชะตา ในปัจจุบันนับได้ว่ากาลังจะสูญหายไป หรือพบเห็นได้น้อยมากเนื่องจากความเจริญก้าวหน้าของเทคโนโลยี ที่ล้าหน้า ผู้คนมีความเช่ือในด้านวิทยาศาสตร์ เชื่อในสิ่งท่ีตามองเห็น หยิบจับได้ จงเป็นสาเหตุให้พิธีกรรม เหลา่ นี้คอ่ ย ๆเลือนหายไป ทั้งน้ี “ผีหม้อนึ่ง” นับได้ว่าเป็นพิธีกรรมโบราณของคนล้านนาท่ีสืบทอดต่อกันมานับร้อยปี สิ่งสะท้อน ท่ีได้รับจากพิธีกรรมน้ีก็คือ ยาใจที่ผู้ป่วยต้องการเป็นที่พึ่งพิงสุดท้าย เพราะพวกเขามีความเชื่อและเคารพในสิง่ ศักด์ิสิทธิ์เหมือนกัน เช่นเดียวกับยายสม ขัดดีท่ียังคงรักษาพิธีกรรมผีหม้อนึ่งไว้อย่างเหนียวแน่นจนถึงทุกวันนี้ เร่ืองราวของ “ผีหม้อนึ่ง” ของคนล้านนายังคงมีให้เห็นอยู่เสมอ แม้ว่าบางครั้งความเช่ือดังกล่าว อาจสูญหาย หรือถูกหลงลืมไปบ้างตามเวลา แต่ภายในจิตสานึก และความรู้สึกของชาวบ้านทุกคนจะเปี่ยมล้นด้วยความสุข ความอบอนุ่ ใจทีพ่ วกเขาไดแ้ สดงออกตอ่ ส่ิงศกั ดิ์สิทธ์ทิ น่ี บั ถอื ยังคงถูกรักษาสบื ไป ๓.๒) ขัน้ ตอน/วธิ ีการ/ดาเนินการเก่ียวกบั ข้อมลู อปุ กรณ์วสั ดุท่ีต้องใชใ้ นการประกอบพิธกี รรม 1. ธูป จานวน 12 ดอก 2. เทียน จานวน 12 ก้าน 3. ดอกไม้ จานวน 12 ดอก 4. ข้าวสาร จานวน 2 ถว้ ย 5. ขา้ วเหนยี ว จานวน คร่งึ จาน 6. หมากพลู และเสื้อหรือของใช้ของคนทจ่ี ะมาถามหรอื ให้ชว่ ยเหลือ
-2๔๗- จากน้ันจะมีการจุดธูปและสวดคาถา หรือ สวดมนต์ ต่อหน้าหม้อนึ่ง เสมือนเป็นการเชิญให้เทพยดา สิ่งศักดิ์สิทธิ์มาลง หรือมาสิงในหม้อนึ่ง จากนั้นชาวบ้านที่มาก็จะถามไถ่ถึงข้อสงสัยของตน เป็นต้นว่า สาเหตุ ท่ีตนเองมีอาการเจ็บไข้ได้ป่วยเนื่องจากอะไร หรือการทานายทายทักส่ิงของท่ีหายไป เพื่อให้ปู่ย่าหม้อน่ึงก็จะ ตอบโดยการใช้แขนหม้อน่ึงขีดเขียนลงไปในกระด้ง ซึ่งมีข้าวสารเป็นรูปต่าง ๆ เม่ือชาวบ้านที่เดินทางมาขอให้ ผหี ม้อนึ่งชว่ ยไดค้ าตอบแลว้ กจ็ ะกลบั ไปแก้ไขตามที่ผหี ม้อน่ึงบอกไว้ ๔. ชือ่ ผู้ท่ีถอื ปฏิบตั ิและผูส้ ืบทอด ๔.๑ ผทู้ ่ีถอื ปฏบิ ัติ ชอ่ื ยายสม มั่งมี วัน เดอื น ปเี กดิ - ทีอ่ ยู่ หมู่ 3 ตาบลเจดยี ห์ ลวง อาเภอแม่สรวย จงั หวดั เชยี งราย หมายเลขโทรศัพท์ - ๔.๒ ผู้สบื ทอด ชื่อ - วนั เดือน ปีเกิด - ทอี่ ยู่ - หมายเลขโทรศัพท์ - ๕. สถานะการคงอยู่ ปฏบิ ตั ิอย่างแพร่หลาย เสี่ยงตอ่ การสูญหาย ไมม่ ีปฏบิ ัติแล้ว ๖. รปู ภาพภมู ปิ ญั ญาทางวัฒนธรรม/กิจกรรมทางภูมิปัญญาทางวัฒนธรรม
-๒๔๘- แบบสำรวจมรดกภมู ปิ ัญญำทำงวัฒนธรรมจงั หวดั เชียงรำย ประจำปี 2565 สภำวัฒนธรรมจังหวดั เชยี งรำย อำเภอเวียงป่ำเป้ำ จงั หวดั เชียงรำย ๑. ชื่อข้อมูล พิธสี บื ชะตา ๒. ลักษณะ วรรณกรรมพนื้ บา้ นและภาษา ศลิ ปะการแสดง แนวปฏบิ ตั ิทางสังคมพธิ ีกรรม ประเพณี และเทศกาล อาหาร/ความรู้และการปฏบิ ัตเิ ก่ยี วกบั ธรรมชาติและจกั รวาล งานช่างฝมี อื ด้งั เดิม การละเลน่ พืน้ บา้ น กีฬาพนื้ บา้ น และศิลปะการตอ่ สู่ป้องกันตวั ๓. รำยละเอยี ดขอ้ มูล ๓.๑) ประวัตคิ วามเปน็ มาของข้อมูล “พธิ ีสืบชะตำ หรือ ชำตำ” เป็นพิธีกรรมทางความเชื่อของชาวลา้ นนาที่มีมาแต่โบราณควบคู่กบั วถิ ีชีวิต สังคม และมติ ทิ างวฒั นธรรม คนลา้ นนาใชพ้ ธิ สี ืบชะตากบั คน สืบชะตาสตั ว์เลี้ยง สบื ชะตาบา้ นเมอื ง และ ประยุกต์ใช้กบั การอนรุ กั ษ์ เช่น สืบชะตาป่า แม่นา้ -ต้นนา้ เป็นต้น การสืบชะตา จัดทาขึน้ เพื่อให้บุคคลหายจากโรคภัย หรอื ภยนั อันตรายต่าง ๆ หรือในกรณีทไ่ี ด้โชค วาสนาเล่อื นข้นั เลอ่ื นยศตาแหนง่ หนา้ ท่ี หรอื ในงานมงคลสาคญั ๆ อาทิเชน่ การทาบญุ วันเกดิ การทาบุญ ขนึ้ บ้านใหม่ รวมไปถึงพิธีต้อนรบั ก็นยิ มนามาประกอบใชเ้ พื่อความเป็นสริ ิมงคลแก่บุคคลหรือคณะบุคคลน้นั ๆ “พิธี” ต้องสาเร็จได้ด้วยเครื่องพลีกรรม หรือเครื่องสืบชะตา โดยสืบทอดมาแต่โบราณ เช่น ไม้ค้าใหญ่ 3 เล่ม ไม้ค้าเล็ก 108, บันไดเงิน-ทอง, กระบอกน้า-ทราย ลวดเงิน-ทอง แพรหมาก-พลู-บุหร่ี-เทียน, จ่อตุงจัย, เสื้อใหม่-หมอนใหม่, หน่อกล้วย-อ้อย, ข้าวเปลือก-ข้าวสาร, เคร่ืองครัวครบ, เทียนค่าคิง เป็นต้น โดยทุกอย่าง จดั แต่งดว้ ยความปราณีตบรรจงตามแบบโบราณทีท่ รงไวซ้ ึง่ ความศักด์สิ ทิ ธิ์ “ผู้ประกอบพิธี” คือ พระสงฆ์เป็นผู้ประกอบพิธีพระธรรมเทศนาเฉพาะพิธีสืบชะตาคือ “ธรรมศำลำ กำริวิชัยสูตร” พระสงฆ์มีบทสวดเฉพาะคือ “บทอุณหัสวิจัย” เป็นต้น ในพื้นที่นั้น ๆ จะมีผู้เฒ่าผู้สูงอายุ ท่ีสามารถจดั แตง่ ดาเคร่อื งสืบชะตาไดอ้ ย่างครบและถูกต้องถูกแบบแผนโบราณ 3.2) ขนั้ ตอน/วิธกี าร/ดาเนินการเกย่ี วกบั ข้อมลู - จัดแตง่ ดา จดั เตรียมเครื่องสืบชะตาตามแบบโบราณ และตอ้ งประกอบด้วยศิลปะการแต่ง การจัดวาง ท่สี วยงามมีความศรัทธา - ตอ้ งนิมนต์พระสงฆผ์ ูป้ ระกอบพธิ ตี ามวิธปี ฏบิ ตั ิ และมมี ัคนายกชว่ ยดาเนินกจิ กรรม - ข้นั ตอนอาจปรับใชต้ ามเหตุ เช่น สืบชะตาคน สบื ชะตาบา้ นเมือง สืบชะตาป่าไม้-ตน้ น้า เป็นต้น ท้ังน้ี ตอ้ งปรึกษาผรู้ ูท้ างพิธี คือ มคั นายก ๔. ช่ือผทู้ ถี่ ือปฏิบตั ติ ำมและสืบทอด 4.1 ผ้ทู ี่ถอื ปฏิบตั ิ ชอ่ื นายบุญธรรม สวุ นั ดี วนั เดอื น ปเี กิด - ที่อยู่ หมู่ 7 ตาบลเวียง อาเภอเวียงป่าเปา้ จังหวัดเชียงราย หมายเลขโทรศัพท์ 089 261 5573
-๒๔๙- 4.2 ผู้สืบทอด ชือ่ เครือข่ายผู้สูงอาย,ุ เครือข่ายวัฒนธรรม, เครือข่ายชมรมน้อย-หนานอาจารยว์ ัด, เครือข่ายพระสงฆ์ วัน เดอื น ปเี กิด ท่ีอยู่ - หมายเลขโทรศัพท์ ครอบคลุมทัง้ อาเภอ 7 ตาบล อาเภอเวียงปา่ เป้า จงั หวดั เชียงราย 097 968 9109 (สภาวฒั นธรรมอาเภอเวียงปา่ เปา้ ) ๕. สถานะการคงอยู่ ปฏิบัติอยา่ งแพร่หลาย เสีย่ งตอ่ การสญู หาย ไม่มีปฏบิ ัตแิ ล้ว ๖. รูปถ่ำยภูมปิ ญั ญำทำงวฒั นธรรม/กจิ กรรมทำงภูมิปัญญำทำงวัฒนธรรม
-๒๕๐- แบบสำรวจมรดกภมู ิปญั ญำทำงวัฒนธรรมจังหวัดเชยี งรำย ประจำปี 2565 สภำวฒั นธรรมจังหวดั เชยี งรำย อำเภอเมอื งเชยี งรำย จงั หวัดเชียงรำย ๑. ช่ือข้อมลู การตานก๋วยสลาก ๒. ลักษณะ วรรณกรรมพนื้ บ้านและภาษา ศลิ ปะการแสดง แนวปฏบิ ัตทิ างสงั คมพธิ ีกรรม ประเพณี และเทศกาล อาหาร/ความรแู้ ละการปฏิบัตเิ กีย่ วกบั ธรรมชาติและจักรวาล งานช่างฝมี อื ดั้งเดมิ การละเล่นพ้นื บา้ น กีฬาพ้นื บา้ น และศิลปะการตอ่ สูป่ ้องกนั ตวั ๓. รำยละเอยี ดข้อมลู ๓.๑) ประวัตคิ วามเปน็ มาของขอ้ มลู
-2๕๑- 3.2) ขัน้ ตอน/วธิ ีการ/ดาเนินการเกย่ี วกับข้อมลู การสัมภาษณ์ นายวันชนะ ท้าวแก่นจันทร์ ๔. ช่อื ผทู้ ่ีถือปฏบิ ตั ิตำมและสืบทอด 4.1 ผทู้ ่ีถอื ปฏบิ ัติ ช่อื คณะศรทั ธาตาบลรอบเวยี ง อาเภอเมอื งเชียงราย จังหวดั เชยี งราย วนั เดอื น ปเี กิด - ที่อยู่ ตาบลรอบเวียง อาเภอเมืองเชียงราย จังหวัดเชียงราย หมายเลขโทรศัพท์ - 4.2 ผู้สืบทอด ชือ่ นายวนั ชนพ ท้าวแก่นจนั ทร์ วนั เดือน ปเี กิด - ท่ีอยู่ ๑๓๘ หมู่ ๓ ตาบลรอบเวียง อาเภอเมืองเชียงราย จงั หวัดเชียงราย หมายเลขโทรศัพท์ ๐๕๓ ๗๔๑ ๙๘๗ ๕. สถำนะ กำรคงอยู่ ปฏิบตั ิอยา่ งแพร่หลาย เสีย่ งตอ่ การสญู หาย ไม่ปฏบิ ัติแล้ว ๖. รปู ถ่ำยภูมิปัญญำทำงวฒั นธรรม/กิจกรรมทำงภมู ิปัญญำทำงวัฒนธรรม
-252-
-๒๕๓- แบบสำรวจมรดกภมู ปิ ญั ญำทำงวฒั นธรรมจังหวัดเชียงรำย ประจำปี 2565 สภำวฒั นธรรมจังหวดั เชยี งรำย อำเภอเมอื งเชียงรำย จงั หวัดเชยี งรำย ๑. ช่ือข้อมลู พิธีสืบชะตาขุนนา้ แม่ขา้ วต้มท่าสุด และพธิ ีสืบชะตาขุนน้าห้วยพลู ๒. ลักษณะ วรรณกรรมพน้ื บา้ นและภาษา ศลิ ปะการแสดง แนวปฏิบัติทางสังคมพธิ ีกรรม ประเพณี และเทศกาล อาหาร/ความรู้และการปฏบิ ัติเก่ียวกับธรรมชาติและจักรวาล งานช่างฝีมือดง้ั เดมิ การละเล่นพื้นบา้ น กีฬาพืน้ บา้ น และศิลปะการต่อสู่ป้องกนั ตัว ๓. รำยละเอียดข้อมูล ๓.๑) ประวัติความเปน็ มาของขอ้ มลู ทางภาคเหนือน้ัน การต่อชะตามีหลายอย่างและนิยมทาให้หลายกรณี ชาวบ้านบางกลุ่มท่ีมีวิถีชีวิต ผูกพันกับแม่น้า ชาวบ้านก็นิยมจัดพิธีสืบชะตะให้กับแม่น้าเพ่ือต่ออายุ และความเป็นสิริมงคลจะได้เกิดขึ้นกับ แมน่ ้า รวมทัง้ ผูค้ นในชุมชนดว้ ย การสืบชะตาให้กับแม่น้าจึงเป็นการแสดงความศรัทธา ความเคารพ และเหนือ สงิ่ อื่นใดคือการรว่ มกนั แสดงออกถงึ ความห่วงใยต่อกนั โดยพธิ สี ืบชะตาขุนน้าแม่ข้าวตม้ และขนุ นา้ ห้วยพลูน้ีจัด ข้ึนเพ่ือเป็นการต่อชีวิตให้กับแม่น้า และเป็นการขอขมาต่อแม่น้าสายสาคัญต่อสรรพสิ่งท้ังมวล รวมถึงผู้คน ท้ังสองฝงั่ แมน่ ้า และเป็นการกระตุ้นเตือนให้คนที่อาศัยอยบู่ รเิ วณแมน่ ้ามจี ิตสานึกช่วยกันรักษาสายนา้ แห่งน้ีให้ ยนื ยาวอยา่ งย่ังยนื .2) ข้นั ตอน/วิธีการ/ดาเนนิ การเกย่ี วกบั ข้อมูล สอบถามข้อมลู จากผ้นู าชุมชน และชาวบา้ นในพนื้ ท่ี ๔. ชอ่ื ผทู้ ่ถี ือปฏบิ ัติตำมและสบื ทอด 4.1 ผ้ทู ี่ถอื ปฏิบตั ิ ชื่อ ชาวบา้ นในชุมชนตาบลทา่ สดุ วนั เดอื น ปเี กิด - ทอ่ี ยู่ ตาบลทา่ สุด อาเภอเมอื งเชยี งราย จังหวดั เชยี งราย หมายเลขโทรศัพท์ - 4.2 ผู้สืบทอด ชื่อ ชาวบา้ นในชุมชนตาบลทา่ สุด วนั เดอื น ปีเกดิ - ที่อยู่ ตาบลท่าสดุ อาเภอเมืองเชยี งราย จังหวดั เชียงราย หมายเลขโทรศัพท์ - ๕. สถำนะ กำรคงอยู่ ปฏบิ ตั ิอย่างแพร่หลาย เสย่ี งต่อการสญู หาย ไม่ปฏิบตั ิแลว้
-๒๕๔- ๖. รูปถำ่ ยภูมปิ ญั ญำทำงวฒั นธรรม/กจิ กรรมทำงภูมปิ ัญญำทำงวัฒนธรรม
-๒๕๕-
-๒๕๖- แบบสำรวจมรดกภมู ปิ ัญญำทำงวัฒนธรรมจงั หวัดเชียงรำย ประจำปี 2565 สภำวฒั นธรรมจังหวดั เชยี งรำย อำเภอเมอื งเชียงรำย จังหวัดเชยี งรำย ๑. ชื่อข้อมูล ประเพณีไหวส้ าพระธาตผุ าตอง ๒. ลักษณะ วรรณกรรมพนื้ บ้านและภาษา ศิลปะการแสดง แนวปฏบิ ัตทิ างสงั คมพธิ ีกรรม ประเพณี และเทศกาล อาหาร/ความรูแ้ ละการปฏิบัติเกีย่ วกบั ธรรมชาตแิ ละจกั รวาล งานชา่ งฝมี อื ด้ังเดมิ การละเลน่ พ้นื บ้าน กีฬาพนื้ บ้าน และศิลปะการตอ่ สู่ป้องกนั ตวั ๓. รำยละเอียดข้อมลู ๓.๑) ประวัตคิ วามเปน็ มาของขอ้ มูล ความเชื่ออย่างหนึ่งของชาวล้านนาในการบูชาสักการะพระบรมธาตุเจดีย์น้ันเก่ียวข้องกับความความ เชื่อในพระธาตุประจาปีเกิด คนล้านนาเชื่อว่า การสร้างบุญทานการกุศลเปรียบเสมือนกับการสะสมเสบียงเพอื่ ชีวิตใหม่ในภพหน้า การบูชาพระบรมธาตุเจดีย์ก็ถือว่าเป็นอีกวิธีหน่ึงที่ผู้แสวงบุญต่างแสวงหาหนทางไป สักการะบูชาพระบรมธาตุเพ่ือก่อให้เกิดความเป็นสิริมงคลแก่ตน ในสมัยล้านนาได้มีความเชื่อเก่ียวกับการ สักการะพระธาตุประจาปีเกิดวา่ เปน็ การสะเดาะเคราะหแ์ ละเสริมความเป็นสิริมงคลแกช่ ีวิต สาหรบั ประเพณไี หวส้ าพระธาตุถา้ ผาตอง จะดาเนินการจัดกจิ กรรมในวนั วิสาขบูชาของทุกปี ซึ่งถือเป็น ประเพณที ี่ชาวบ้านถ้าผาตองถอื ปฏบิ ตั ิสบื ตอ่ กันมาอยา่ งยาวนาน .2) ข้นั ตอน/วิธีการ/ดาเนนิ การเกี่ยวกบั ข้อมูล สอบถามขอ้ มลู จากผ้นู าชุมชน และชาวบา้ นในพ้นื ท่ี ๔. ช่อื ผู้ท่ถี ือปฏบิ ตั ติ ำมและสืบทอด 4.1 ผทู้ ีถ่ อื ปฏบิ ัติ ช่ือ ชาวบา้ นในชุมชนตาบลท่าสดุ วัน เดือน ปีเกดิ - ทอ่ี ยู่ ตาบลทา่ สุด อาเภอเมืองเชยี งราย จงั หวดั เชียงราย หมายเลขโทรศัพท์ - 4.2 ผู้สืบทอด ชื่อ ชาวบ้านในชุมชนตาบลทา่ สดุ วัน เดือน ปเี กดิ - ท่อี ยู่ ตาบลท่าสดุ อาเภอเมอื งเชียงราย จงั หวดั เชยี งราย หมายเลขโทรศัพท์ - ๕. สถำนะ กำรคงอยู่ ปฏบิ ัติอย่างแพร่หลาย เส่ยี งตอ่ การสูญหาย ไมป่ ฏิบัตแิ ล้ว
-๒๕๗- ๖. รูปถำ่ ยภูมปิ ญั ญำทำงวฒั นธรรม/กจิ กรรมทำงภูมปิ ัญญำทำงวัฒนธรรม
-๒๕๘- แบบสำรวจมรดกภมู ปิ ญั ญำทำงวัฒนธรรมจังหวัดเชียงรำยประจำปี ๒๕๖๕ สภำวฒั นธรรมจงั หวดั เชยี งรำย อำเภอเวียงป่ำเป้ำ จังหวดั เชยี งรำย ๑. ช่ือข้อมลู ประเพณีวนั ศีล (สือหนี่) ๒. ลักษณะ วรรณกรรมพน้ื บ้านและภาษา ศลิ ปะการแสดง แนวปฏบิ ัติทางสงั คมพธิ ีกรรม ประเพณี และเทศกาล อาหาร/ความรแู้ ละการปฏิบตั เิ กยี่ วกับธรรมชาตแิ ละจักรวาล งานช่างฝมี ือด้งั เดิม การละเล่นพื้นบ้าน กีฬาพื้นบ้าน และศิลปะการตอ่ สปู่ ้องกันตวั ๓. รายละเอียดข้อมูล ๓.๑ ประวตั ิความเปน็ มาของขอ้ มูล วันศีล ชุมชนในแต่ละพื้นที่แต่ละแห่งวิถีการดารงชีวิต และความเชื่อท่ีแตกต่างกันไป เพราะมาจาก การสืบทอดจากบรรพบุรุษท่ีไม่เหมือนกัน การกระทาใด ๆ ในความเชื่อท่ีในส่ิงต่าง ๆ หรือที่เรียกว่าพิธีกรรม เพ่ือท่ีจะให้ชาวบ้านได้มีการจัดการทาพิธีกรรมทางความเช่ือ โดยเฉพาะพิธีกรรมในวันศีลชาวลาหู่ถือว่า เป็นพิธีกรรมอย่างหนึ่งท่ีสาคัญท่ีผู้เฒ่าหยุดงานเพ่ือที่จะทาบุญรับศีล และจากไปประกอบพิธีกรรมก็จัดเตรียม น้า เทยี น เขา้ ไปใน หอแหย่ เพอื่ บูชาสักการะตามความเช่ือของชนเผ่าลาหู่ ชาวบ้านจะหยุดงานทาไร่ ทานา ทาสวน และพกั ผอ่ นอย่ทู ีบ่ ้าน เพื่อจะทาพิธีกรรมที่หอแหย่ในวนั ศีลตอนเย็น นาน้ามาเพอ่ื ลา้ งมือให้แกผ่ ู้เฒ่า ผแู้ ก่ และผู้นา ศาสนาการรดน้าล้างมือนั้น ชาวบ้านถือวา่ เป็นการล้างบาปไปในตัว เพื่อเป็นการล้างบาปในส่งิ ต่าง ๆ ที่มือได้ทา ลงไป และกม็ กี ารเตน้ ราในหอแหย่กนั สนุกสนาน วันศีลของชาวลาห่จู ะตรงกับวนั ข้ึน 15 ค่า และแรม 15 ค่า แต่วันศีลในชว่ งปีใหม่จะตรงวันท่ีสามของปีใหม่ จะต้องงดการกินเน้ือสัตว์ การฆ่าสัตว์ การด่ืมเหล้าในเม่ือวันศีล พวกเขามีความเช่ือว่าเป็นวันพักผ่อนของพวกเขา ตอนเย็นของวันศีลจะมีพิธีรดน้าดาหัวผู้เฒ่าผู้แก่ แล้วโตโบจะกล่าวอวยพรทุก ๆ คน ดึกๆ ค่าคืน จะมีการ ประกอบพิธใี นหอแหย่ (โบสถ)์ แลว้ เต้นราตีกลองและเปา่ แคนกนั อย่างสนกุ สนานต่อหนา้ ต้นวอ ๓.๒ ขั้นตอน/วธิ กี าร/ดาเนินการเก่ยี วกับข้อมลู การปฏิบตั ติ นในวนั ศีล ชาวลาหู่ถือว่าวันศีลเป็นที่สาคัญวันหน่ึง เพราะฉะนั้นชาวลาหู่จะพร้อมใจกันเพื่อหยุดงานต่าง ๆ อยู่แต่กับ บ้าน พร้อมทจ่ี ะรบั ศลี การปฏบิ ตั ิตนของชาวลาหู่ที่บ้านจะแลในวันศีลมีข้อห้ามและข้อปฏบิ ัติ ดงั นี้ 1. จะไมไ่ ปทางานนอกหมบู่ า้ น 2. ไม่ฆ่าสตั ว์ตดั ชีวดิ ในวันศลี 3. ไมค่ วรพูดถึงเร่อื งท่ีไม่ดีและไมเ่ ป็นมงคล 4. จะไมก่ นิ อาหารเน้ือสัตว์ในวนั ศีล ถ้ากนิ อาจจะเกิดการเจ็บปว่ ยได้งา่ ย
-๒๕๙- การทาบุญสะเดาะเคราะห์ ในการทาบญุ สะเดาะเคราะห์ เม่ือชาวลาหู่ไดร้ บั เคราะห์ หรือมกี ารเจบ็ ปว่ ยไม่สบายกายและใจ กจ็ ะได้ จัดเตรียมสิ่งของเพ่ือไปให้ผู้นาทางศาสนา ทาพิธี ซึ่งชาวลาหู่ เรียกว่า “ค๊อตาเตเว่” โดยเคร่ืองมือเหล่าน้ี จะมี ผู้บอกวิธีการทา คือ ลาซ่อ ลาซ่อเป็นผู้เชี่ยวชาญการเคร่ืองมือ ในการประกอบ พิธีกรรมเพื่อนา ไปไห้ผู้นาทาง ศาสนา หรอื ท่ีเรียกว่าโตโบ เพ่ือสวดขอพรใหห้ ายจากเคราะหร์ ้ายต่าง ๆ หรอื เคราะหท์ จี่ ะมาถึง นอกจากน้ี ยงั มี สิง่ ของท่ีจะตอ้ งเตรยี มเพอ่ื นาไปประกอบการทาพิธกี รรม คือ 1. เทียน ถอื ว่าให้นาไปจุดเพ่ือ แสงสวา่ ง ในการประกอบพธิ กี รรม 2. สาลี หรือ ฝ้าย สาลีต้องเป็นสีขาว ชาวลาหู่ถือว่า สาลีหรือฝ้ายน้ี จะไปรับคาพูดที่เคยพูดไม่ดี หรือ ผใู้ ห้รา้ ยแก่ผอู้ น่ื 3. ผา้ ขาว เพ่ือความสะอาดและความบรสิ ทุ ธิ์ ผา้ จงึ ต้องเปน็ ผา้ สขี าว 4. นา้ เพอื่ นาไปล้างมอื ผู้นาศาสนาหรือโตโบ 5. ด้าย การพิธีจะต้องเป็นด้ายขาวเหมือนกัน สาหรับด้ายนี้ เม่ือโตโบทาพิธีเสร็จก็เอาผูกข้อมือหรือ ห้อยคอ เพื่อป้องกันอันตรายส่ิงต่าง ๆ เหล่านี้ทั้งหมด จะเห็นได้ว่าอุปกรณ์ท่ีนาไปทาประกอบกับเคร่ืองมือ ในการประกอบพิธกี รรมนั้นจะต้องเป็นสีขาว ชาวลาหู่ หรอื แม้แต่ศาสนาใดกต็ าม จะใช้สีขาวเปน็ สอื่ ในการประกอบพิธีกรรม ถือว่าเป็นสีแห่งความบริสุทธิ์และถือว่าเป็นมงคลความเชื่อของ ชาวลาหู่มีความ เช่ือเรื่องบาป บุญ คุณ โทษ ซึ่งมีความเหมือนกับศาสนาพุทธในประเทศไทย แต่ต่างกันตรงท่ีการขอพรกับ เทพเจ้า การทาพิธีและการปฏิบัติธรรม ลาหู่ทาให้ได้ทราบถึงเก่ียวกับความเช่ือและพิธีกรรมต่าง ๆ ถึงแม้ว่า พิธีกรรมของชาวลาหู่ ใช้เวลาในการทาพิธีกรรมไม่นานนัก แต่ก็เชื่อว่ามีความหมายต่อการดารงชีวิตในอนาคต ได้เปน็ อย่างมากอย่างดีกับ ชนเผ่าลาหู่ วันศีลของชาวลาหู่จะตรงกับวันขึ้น 15 ค่า และแรม 15 ค่า แต่วันศีลในช่วงปีใหม่จะตรงวันท่ีสามของ ปใี หม่ จะต้องงดการกินเนื้อสตั ว์ การฆ่าสัตว์ การด่ืมเหล้าในเมื่อวนั ศลี พวกเขามีความเชื่อว่าเปน็ วนั พักผ่อนของ พวกเขา ตอนเยน็ ของวนั ศลี จะมีพิธรี ดน้าดาหวั ผู้เฒา่ ผ้แู ก่ แล้วโตโบจะกล่าวอวยพรทุก ๆ คน ดกึ ๆ ค่าคนื จะมี การประกอบพธิ ีในหอแหย่ (โบสถ)์ แล้วเต้นราตีกลองและเป่าแคนกันอยา่ งสนุกสนานตอ่ หนา้ ตน้ วอ ลาหซู่ ึ่งมวี ถิ ีชีวติ แตกต่างจากชาวเขาเผ่าอื่น ๆ ซงึ่ ยงั คงเหนียวแนน่ ในวิถีชวี ิตทบี่ รรพบุรุษสร้างสมกันมา และถ่ายถอด ไว้เป็นมรดกของเผ่าพันธุ์ อาจกล่าวได้ว่าชาวเขาท้ังหมด ลาหู่เป็นชาวเขาท่ีสม่าเสมอ ในขนบธรรมเนียม ประเพณีทางศาสนาของตนเองมากท่ีสุด คนลาหู่จะเช่ือฟังคาส่ังสอน ของผู้นาศาสนา มีการไปชุมนุมกัน ที่หอแหย่ ทุกวันข้ึนและแรม 15 ค่า เพ่ือการทาพิธีกรรมทางศาสนา เน่ืองจากเป็นวันศีล มีการรดน้าเพ่ือล้างบาป ในตอนเย็น และตอนคา่ กจ็ ะมกี ารเต้นรากนั อย่างสนุกสนาน ๔. ชือ่ ผทู้ ่ีถือปฏิบตั ิและผสู้ ืบทอด ๔.๑ ผู้ท่ีถอื ปฏบิ ัติ ชื่อ ชนชาติพันธุ์เผ่าลาหูใ่ นพื้นที่อาเภอเวียงปา่ เป้า วนั เดือน ปเี กิด - ท่ีอยู่ บา้ นแมป่ ูนหลวง หมู่ ๘ ตาบลเวียง อาเภอเวียงปา่ เปา้ จังหวัดเชยี งราย หมายเลขโทรศัพท์ - ๔.๒ ผู้สบื ทอด ชอื่ ชนชาติพนั ธเ์ุ ผ่าลาหใู่ นพนื้ ท่ีอาเภอเวียงป่าเป้า วนั เดอื น ปีเกิด - ทอ่ี ยู่ บ้านแมป่ ูนหลวง หมู่ ๘ ตาบลเวยี ง อาเภอเวยี งปา่ เป้า จงั หวัดเชยี งราย หมายเลขโทรศัพท์ -
-๒๖๐- ๕. สถานะการคงอยู่ ปฏบิ ัตอิ ย่างแพร่หลาย เสย่ี งตอ่ การสูญหาย ไม่มีปฏบิ ัติแลว้ ๖. รูปภาพภูมปิ ญั ญาทางวัฒนธรรม/กจิ กรรมทางภูมปิ ัญญาทางวฒั นธรรม อปุ กรณ์กำรประกอบพธิ ีกรรม 1. กตุ ิเจ 2. ธุย๋ หิเจ่ 3. เควเิ จ่ 4 . กอมูต่ยุ 5. ลิชิ 6. โลบูพือ
-๒๖๑- แบบสำรวจมรดกภมู ิปัญญำทำงวัฒนธรรมจงั หวดั เชยี งรำยประจำปี ๒๕๖๕ สภำวัฒนธรรมจงั หวดั เชยี งรำย อำเภอเวยี งป่ำเป้ำ จังหวดั เชยี งรำย ๑. ชอื่ ข้อมลู กนิ วอ (เคาะจาเว) ๒. ลักษณะ วรรณกรรมพนื้ บ้านและภาษา ศิลปะการแสดง แนวปฏิบตั ิทางสังคมพธิ ีกรรม ประเพณี และเทศกาล อาหาร/ความรแู้ ละการปฏิบัตเิ กย่ี วกับธรรมชาติและจักรวาล งานช่างฝีมือดงั้ เดมิ การละเลน่ พืน้ บ้าน กีฬาพน้ื บา้ น และศิลปะการตอ่ สู่ป้องกันตวั ๓. รายละเอยี ดขอ้ มูล ๓.๑ ประวตั คิ วามเป็นมาของข้อมลู กนิ วอ หรือ เคาะจาเว คอื เทศกาลเฉลมิ ฉลองใหม่ สว่ นมากจะตรงกับเทศกาลตรษุ จีน แตก่ ารกินวอ หรือเคาะจาเวหรือปีใหม่ของชนเผ่าลาหู่ มี 7 วัน มีปีใหม่ผู้หญิง 4 วัน ปีใหม่ผู้ชาย 3 วัน และมีการออกวันปี ใหม่ต้องดูวันเวลาทดี่ เี หมาะสม เพราะมคี วามเชอื่ ว่าออกปใี หม่วนั ดีจะเกดิ แต่สงิ่ ดีตลอดทง้ั ปี โดยสรุปคือ กินวอ หรือเคาะจาเว คือ เทศกาลปีใหม่ ช่วงเวลาที่ดีท่ีว่างเว้นจากการทาไร่ ทาสวน ทานา เทศกาลหยุดพักผ่อนประจาปี ได้มีเวลาเท่ียวหาพ่อแม่ ปู่ย่า ตายาย ตลอดจนได้เท่ียวหาญาติพ่ีน้องต่างบ้านอยู่ต่าง เมืองได้มาเจอกัน ตลอดเทศกาลกินวอ นยิ มนุ่นผ้าใหม่ สะอาดสดใส ทุก ๆ คน ตลอดจนไดม้ กี ารดาหัวรดน้าขอ พรผูใ้ หญ่ กนิ วอ หรือ เคาะจาเว ปใี หม่ลาหู่ตรงกบั ตรษุ จีนแทบทุก ๆ ปี มีการแบง่ ปีใหม่เป็นปีใหม่ผู้หญิง ปีใหม่ ผชู้ าย ปีใหมผ่ ู้หญงิ จะเร่ิมก่อนวันแรก ตาข้าวปกุ หรอื ออฝุ เพราะมคี วามเช่ือว่าข้าวปุกคือของอาหารของกิน ชนิดหน่ึงที่ต้องทาถวายเจ้าพ่อวอเจ้าแม่วอ และมีการทาหิ้งวางข้าวปุก วันที่สอง ฆ่าสุกรบ้านละ 1 ตัว นิยม สุกรตัวผู้ขนาดสุกรจะใหญ่เพราะแต่ละบ้านนิยมเล้ียงไว้อย่างน้อย 1 ตัว เพ่ือนามาทาพิธีช่วงกินวอ ซึ่งก็คือ นามาปรุงเป็นอาหารเฉลิมฉลองเทศกาลปีใหม่ กินวอหรือเคาะจาเว และมีการสร้างลานเต้นจะคึ วันที่สามวัน รับน้าใหม่ นิยมตื่นเช้า ๆ รดน้าขอพรตามบ้านกัน วันท่ีส่ีวันดาหัวภายในหมู่บ้าน ดาหัวพ่อแม่มีการละเล่นลูกข่าง ลกู สะบ้า โยนลูกช่วง ปีใหม่ผู้ชาย วันแรกมีการเริ่มตาข้าวปุกใหม่ วันที่สองฆ่าไก่ ๑ ตัว หรือ 1 คู่ วันท่ีสาม รับน้าใหม่ ปัจจุบันไม่ค่อยมีคนทาเหมือนปีใหม่ผู้หญิง วันท่ีสาม ปีใหม่วันสาคัญไม่นิยมจับจ่ายเป็นวันงดจ่าย และพูดแต่ เปน็ มงคล พูดแต่สิง่ ดีงาม และมีการดาหวั ตา่ งหมู่บ้านหากหมบู่ า้ นอื่นมาดาหัว ๓.๒ ขั้นตอน/วธิ กี าร/ดาเนนิ การเกี่ยวกบั ขอ้ มลู สว่ นประกอบ ❖ ลานเต้นจะคึ\\ ❖ ข้าว ขา้ วเหนียว ข้าวกา่ งา ❖ เสือ้ ผา้ ชดุ ใหม่ชุดชนเผ่า
-๒๖๒- ระยะเวลำเทศกำลกนิ วอ หรือเคำะจำเว หรือปีใหม่ ➢ ปใี หม่ผู้หญิง 4 วัน วันท่ี ๑. ตาข้าวปุก วนั ท่ี 2. วันฆ่าสุกร สร้างลานเตน้ จะคึ วันที่ ๓. วันรับน้าใหม่ วันท่ี ๔. วนั ดาหวั ➢ ปใี หม่ผชู้ าย วนั ที่ ๑. ตาข้าวปกุ วันที่ ๒. วันฆ่าไก่ หรืออาจฆ่าหมู วันที่ ๓. วันรบั นา้ ใหม่ พดู จาแตส่ งิ่ ทีเ่ ปน็ มงคล อาบนา้ ใหค้ นเฒ่าคนแก่ ช่วงบา่ ยทาอาหาร ตานหาคนตาย ให้อาหาร (ข้าวปกุ )อุปกรณ์ทาการเกษตร ชาวลาหู่จะมีการแต่งกายเฉพาะผู้หญิงนุ่งผ้าถุงเสื้อตกแต่งด้วยเงิน ชายสวมชุดกางเกงและเส้ือ ของชนเผา่ ไมค่ ่อยนยิ มประดับตกแต่ง เรยี บงา่ ย ๔. ช่ือผทู้ ี่ถอื ปฏิบัตแิ ละผสู้ บื ทอด นางนาคา ภัทรเสถยี รชยั ๔.๑ ผูท้ ีถ่ ือปฏบิ ตั ิ ๒๔๙๓ (๑) ชื่อ ๔๑๖ หมู่ ๙ ตาบลเวียง อาเภอเวียงปา่ เปา้ จังหวดั เชยี งราย วัน เดอื น ปเี กดิ 098 813 5657 ทีอ่ ยู่ นางนะอู่ จะหงะ หมายเลขโทรศัพท์ ๒๕๐๒ (๒) ชอ่ื หมู่ ๙ ตาบลเวียง อาเภอเวียงป่าเป้า จังหวดั เชียงราย วนั เดือน ปเี กิด ทอ่ี ยู่ - หมายเลขโทรศัพท์ นางสาวศรีสุดา จะเงาะ (๓) ช่ือ ๒๕๓๔ วนั เดือน ปเี กิด หมู่ ๙ ตาบลเวียง อาเภอเวียงปา่ เปา้ จงั หวัดเชียงราย ทีอ่ ยู่ หมายเลขโทรศพั ท์ - ๔.๒ ผู้สบื ทอด ช่ือ - วัน เดอื น ปเี กิด - ทีอ่ ยู่ - หมายเลขโทรศัพท์ - ๕. สถานะการคงอยู่ ปฏิบัตอิ ยา่ งแพรห่ ลาย เส่ียงต่อการสูญหาย ไม่มปี ฏิบตั ิแลว้
-๒๖๓- ๖. รูปภาพภูมปิ ญั ญาทางวัฒนธรรม/กจิ กรรมทางภูมิปัญญาทางวัฒนธรรม
-๒๖๔- แบบสำรวจมรดกภมู ปิ ญั ญำทำงวฒั นธรรมจงั หวดั เชียงรำย สภำวัฒนธรรมจังหวัดเชยี งรำย อำเภอพำน จังหวดั เชยี งรำย ๑. ชื่อข้อมลู ปจู่ า๋ นประจาวัดสันทราย ๒. ลักษณะ วรรณกรรมพื้นบ้านและภาษา ศิลปะการแสดง แนวปฏบิ ตั ิทางสังคมพิธีกรรม ประเพณี และเทศกาล อาหาร/ความร้แู ละการปฏิบัตเิ กยี่ วกับธรรมชาติและจกั รวาล งานช่างฝมี ือดั้งเดิม การละเลน่ พ้ืนบ้าน กีฬาพื้นบา้ น และศิลปะการต่อสู่ป้องกนั ตวั ๓. รำยละเอยี ดขอ้ มูล ๓.๑ ประวัติความเป็นมาของข้อมลู นายสมบูรณ์ สุวรรณ์ เกิดเม่ือ 5 เมษายน 2491 พ้ืนเพเป็นคนบ้านสันทราย ตาบลดอยงาม อาเภอพาน จังหวัดเชียงราย เร่ิมศึกษาทางธรรมเม่ือ พ.ศ. 2504 รายละเอียดการดาเนินการส่งเสรมิ แนวปฏบิ ัติทางสังคม พธิ กี รรม ประเพณี และเทศกาล ดงั นี้ 1. เข้ารับการบรรพชาสามเณร จาวัด ณ วัดหนองควาย ตาบลดอยงาม อาเภอพาน จังหวัดเชียงราย มพี ระคาปนั ปญั ญาธโร เจ้าคณะตาบลหัวง้ม เขต 2 เป็นผู้ดูแล ระยะเวลา 6 เดือน 2. ย้ายไปจาวัด ณ วดั ท่าดอกแกว้ ตาบลดอยงาม อาเภอพาน จังหวัดเชียงราย ระยะเวลา 5 ปี 3. ย้ายไปจาวัด ณ วัดเทพวัน ตาบลเมืองพาน อาเภอพาน จังหวัดเชียงราย มีพระครูอินทวัลย์ วิวัฒน์ เจ้าคณะตาบลเมืองพาน เขต 1 เป็นผู้ดูแล ซึ่งในระหว่างนี้เริ่มเรียนนักธรรมตรี ณ วัดป่าซาง ตาบลเมืองพาน อาเภอพาน จังหวัดเชียงราย ระยะเวลา 1 ปี 4. เมอื่ ศกึ ษานักธรรมตรีจบแลว้ จึงย้ายมาจาวดั ท่านดอกแกว้ ตาบลดอยงาม อาเภอพาน จังหวัดเชียงราย 5. ปี พ.ศ. 2510 เริ่มสร้างวดั สนั ทราย ตาบลดอยงาม อาเภอพาน จงั หวดั เชยี งราย และจาวัด ณ วดั สนั ทราย จนกระท่งั ลาสกิ ขา ในปี พ.ศ. 2514 6. เมื่อลาสกิ ขาแล้วจึงเรม่ิ ปฏิบตั ิหนา้ ทีค่ ณะกรรมการวดั สันทราย ตาบลดอยงาม อาเภอพาน จงั หวัดเชียงราย 7. เร่ิมเป็นปู่จ๋านประจาวัดสันทราย ตาบลดอยงาม อาเภอพาน จังหวัดเชียงราย ระหว่างปี พ.ศ. 2522 – 2540 พักการเป็นปจู่ า๋ น 1 ปี และระหวา่ งปี พ.ศ. 2541 – 2545 เขา้ รบั ตาแหน่งผใู้ หญ่บ้าน หมทู่ ่ี 1 บา้ นสันทราย ตาบลดอยงาม อาเภอพาน จงั หวดั เชียงราย 8. เม่ือหมดวาระการดารงตาแหน่งผู้ใหญ่บ้านจึงกลับมาปฏิบัติหน้าที่ปู่จ๋านประจาวัดสันทราย ตาบล ดอยงาม อาเภอพาน จงั หวดั เชยี งราย ต้ังแตป่ ี 2554 ถึงปัจจบุ ัน จุดเร่ิมต้นการเรียนรู้เป็นปู่จ๋านวัด เร่ิมศึกษาจากการบวชเรียนได้เรียนรู้ ขั้นตอน การดาเนินพิธีกรรม ทางศาสนา การจาบทสวดต่าง ๆ และรายละเอียดอื่น ๆ ท่ีเกี่ยวข้อง แต่จุดเริ่มต้นการเป็นปู่จ๋านส่งเคราะห์ ฮ้องขวัญ รดน้ามนต์ หรือท่ีชาวบ้านเรียกว่า “หมอเมือง” มีจุดเริ่มต้นจากมารดาป่วย จึงไปขอเชิญพ่อหนาน แก้ว บา้ นเด่น ตาบลเมอื งพาน อาเภอพาน จังหวัดเชียงราย ให้มารักษามารดา แต่สภาพการเดนิ ทางสมยั ก่อนที่ ค่อนข้างลาบาก พ่อหนานแก้วไม่สามารถมาทาพิธีส่งเคราะห์ ฮ้องขวัญ รดน้า มนต์ ให้มารดาได้ จึงได้ขอร่าเรียนวิชา เพื่อมารักษามารดา จนเป็นท่ีเล่าลือในหมู่ชาวบ้านสืบต่อกันมา เม่ือมีคนต้องการทา พธิ ีส่งเคราะห์ ฮ้องขวญั รดน้ามนต์ มักจะมาเรยี กให้ไปทาพธิ ีให้เสมอ
-๒๖๕- ๓.๒ ข้นั ตอน/วิธีการ/ดาเนินการเกี่ยวกบั ข้อมลู - ๔. ชื่อผู้ทถ่ี ือปฏิบตั ิและผสู้ ืบทอด ๔.๑ ผถู้ ือปฏิบตั ิ ชือ่ นายสมบรู ณ์ สวุ รรณ์ วนั เดอื น ปเี กดิ 5 เมษายน 2491 ท่อี ยู่ 28 หมู่ 1 ตาบลดอยงาม อาเภอพาน จงั หวดั เชียงราย หมายเลขโทรศัพท์ 087 182 3921 ๔.๒ ผสู้ ืบทอด ชื่อ นายบุญหวัง กันทวี วนั เดือน ปีเกิด - ทอ่ี ยู่ หมู่ 1 ตาบลดอยงาม อาเภอพาน จังหวัดเชยี งราย. หมายเลขโทรศัพท์ - ๕. สถำนะ กำรคงอยู่ ปฏบิ ตั ิอย่างแพร่หลาย เส่ียงตอ่ การสูญหาย ไมม่ ปี ฏิบตั แิ ลว้ ๖. รปู ภำพภมู ปิ ัญญำทำงวัฒนธรรม/กจิ กรรมทำงภูมิปัญญำทำงวฒั นธรรม
-๒๖๖- แบบสำรวจมรดกภมู ปิ ญั ญำทำงวัฒนธรรมจงั หวดั เชยี งรำย สภำวัฒนธรรมจังหวัดเชยี งรำย อำเภอพำน จงั หวดั เชียงรำย ๑. ชื่อข้อมูล ภูมปิ ัญญาชาวบ้าน ด้านพิธกี รรม ๒. ลกั ษณะ วรรณกรรมพนื้ บา้ นและภาษา ศิลปะการแสดง แนวปฏบิ ัติทางสงั คมพธิ ีกรรม ประเพณี และเทศกาล อาหาร/ความรู้และการปฏบิ ตั ิเกีย่ วกับธรรมชาตแิ ละจกั รวาล งานช่างฝมี อื ด้งั เดมิ การละเลน่ พื้นบ้าน กีฬาพื้นบ้าน และศิลปะการต่อส่ปู ้องกันตัว ๓. รำยละเอยี ดข้อมลู ๓.๑ ประวตั ิความเปน็ มาของข้อมูล ดาเนินการประกอบพธิ กี รรมตา่ ง ๆ ในชว่ งประเพณวี ฒั นธรรมท้องถ่นิ ภายในหมบู่ ้านและในตาบลตาม เทศกาลทีส่ บื ทอดกนั มา เช่น สง่ เคราะห์ สง่ แถน ส่งจนหน้าจนหลงั เรียกขวัญ เวนตานตามฤดเู ทศกาลนัน้ ๆ ๓.๒ ขั้นตอน/วธิ ีการ/ดาเนนิ การเกย่ี วกบั ข้อมูล - ๔. ชือ่ ผู้ท่ถี ือปฏิบตั ิและผูส้ ืบทอด ๔.๑ ผถู้ อื ปฏบิ ตั ิ ชอ่ื นายครรชิต เมอื งต๊บิ วนั เดือน ปีเกิด 10 มถิ ุนายน 2511 ที่อยู่ 13 หมู่ 2 ตาบลแมเ่ ย็น อาเภอพาน จังหวัดเชยี งราย หมายเลขโทรศัพท์ 086 115 5605 ๔.๒ ผสู้ บื ทอด ชอ่ื นายสริ ิโรจน์ จนั ทรต์ ๊ะ วนั เดอื น ปเี กิด 28 ธนั วาคม 2522 ทีอ่ ยู่ 238 หมู่ 2 ตาบลแมเ่ ยน็ อาเภอพาน จังหวัดเชยี งราย หมายเลขโทรศัพท์ 089 433 8321 ๕. สถำนะ กำรคงอยู่ ปฏิบัตอิ ย่างแพรห่ ลาย เสยี่ งตอ่ การสูญหาย ไม่มปี ฏบิ ตั แิ ล้ว ๖. รูปภำพภมู ปิ ญั ญำทำงวัฒนธรรม/กิจกรรมทำงภูมิปัญญำทำงวฒั นธรรม
-๒๖๗- แบบสำรวจมรดกภมู ปิ ัญญำทำงวฒั นธรรมจงั หวัดเชียงรำย สภำวฒั นธรรมจงั หวดั เชยี งรำย อำเภอพำน จงั หวัดเชยี งรำย ๑. ช่ือข้อมลู ภูมปิ ัญญาชาวบ้าน ด้านศาสนพิธี ๒. ลักษณะ วรรณกรรมพน้ื บา้ นและภาษา ศิลปะการแสดง แนวปฏิบัตทิ างสงั คมพธิ ีกรรม ประเพณี และเทศกาล อาหาร/ความรู้และการปฏิบตั เิ กย่ี วกับธรรมชาตแิ ละจกั รวาล งานช่างฝีมือดง้ั เดมิ การละเลน่ พน้ื บ้าน กีฬาพื้นบ้าน และศิลปะการตอ่ ส่ปู ้องกันตัว ๓. รำยละเอยี ดขอ้ มลู ๓.๑ ประวตั ิความเป็นมาของขอ้ มลู นายแสวง มูลรังษี มัคคทายกวัด มีภูมิปัญญาด้านศานพิธีต่าง ๆ เช่น งานมงคล งานอวมงคล การทา พิธีในวันพระ เช่น ทาบุญตักบาตร โดยได้รับคาอธิบายจาก อดีตเจ้าคณะอาเภอพานพระครูธรรมภาณพินิต และได้ศกึ ษาเรียนรู้มาจากมัคทายกวดั ต่าง ๆ ๓.๒ ขัน้ ตอน/วธิ กี าร/ดาเนินการเก่ียวกับข้อมูล ส่วนมากก็จะทาพิธีในทางเดียวกัน ขั้นตอนแรกคือ การนาไหว้พระบูชาพระรัตนตรัย รับสมาทานศีล 5 หลังจากน้ัน กล่าวคาถวายข้าวพระพุทธ เสร็จแล้วก็กล่าวคา ถวายภัตตาหาร รับพรจากพระสงฆ์ กล่าวคาแผ่เมตตา (แบบล้านนา) ไหวพ้ ระ และกล่าวคาลาพระ เสรจ็ พธิ ี ๔. ชือ่ ผูท้ ี่ถือปฏบิ ัติและผูส้ บื ทอด ๔.๑ ผู้ถือปฏบิ ัติ ช่ือ นายแสวง มูลรงั ษี วนั เดอื น ปเี กิด 10 กันยายน 2494 ท่ีอยู่ 302 หมู่ 15 ตาบลเมืองพาน อาเภอพาน จงั หวดั เชียงราย หมายเลขโทรศัพท์ 089 802 7271 ๔.๒ ผสู้ ืบทอด ชอ่ื นางลาวลั ย์ มลู รงั สี วนั เดือน ปเี กดิ 19 มนี าคม 2500 ทอี่ ยู่ 302 หมู่ 15 ตาบลเมืองพาน อาเภอพาน จงั หวดั เชยี งราย หมายเลขโทรศัพท์ 084 488 5966 ๕. สถำนะ กำรคงอยู่ ปฏบิ ัติอยา่ งแพร่หลาย เสี่ยงตอ่ การสูญหาย ไมม่ ปี ฏิบตั แิ ลว้
-๒๖๘- ๖. รูปภำพภูมปิ ญั ญำทำงวัฒนธรรม/กจิ กรรมทำงภูมปิ ัญญำทำงวัฒนธรรม
. -๑๘๗-
. -๒๖๙- แบบสำรวจมรดกภมู ปิ ัญญำทำงวฒั นธรรมจงั หวดั เชียงรำย ประจำปี ๒๕๖๕ สำนักงำนวัฒนธรรมจังหวัดเชยี งรำย อำเภอแมจ่ ัน จงั หวดั เชียงรำย ๑. ช่ือข้อมลู การทาทองมว้ นกรอบ ๒. ลกั ษณะ วรรณกรรมพน้ื บา้ นและภาษา ศิลปะการแสดง แนวปฏบิ ตั ทิ างสังคมพธิ ีกรรม ประเพณี และเทศกาล อาหาร/ความรแู้ ละการปฏิบัติเกีย่ วกับธรรมชาติและจกั รวาล งานชา่ งฝมี อื ดง้ั เดิม การละเลน่ พืน้ บา้ น กีฬาพื้นบ้าน และศลิ ปะการต่อสูป่ ้องกนั ตวั ๓. รำยละเอยี ดขอ้ มลู ๓.๑) ประวัตคิ วามเปน็ มาของข้อมูล ชาวบ้านกล้วยเดมิ มีอาชพี เกษตรกรรม ทาไร่ ทานา หลังจากฤดูกาลทานาชาวบา้ นต้องหาอาชีพรับจ้าง ทา ทางกลมุ่ แม่บ้านหมู่บ้านบา้ นกลว้ ย หมทู่ ่ี ๕ ตาบลศรีค้า อาเภอแมจ่ ัน จงั หวดั เชียงราย จงึ ได้รว่ มกล่มุ คิดกัน หาอาชีพเสริมโดยการทาขนมทองม้วนกรอบ โดยได้รับสูตรการทาขนมจากบรรพบุรุษสืบทอดกันมา และนามาปรบั เปลยี่ นสูตร และอปุ กรณก์ ารทาใหท้ นั สมยั เหมาะเปน็ อุตสาหกรรมในครัวเรอื นมากข้ึน ๓.๒) ขั้นตอน/วิธีการ/ดาเนนิ การเกี่ยวกับข้อมลู สว่ นผสม ประกอบด้วย ๑. แปง้ เอนกประสงค์ ๖. ไขไ่ ก่ ๒. แป้งมนั ๗. กะทิ ๓. นา้ ตาลปี๊บ ๘. น้าใบเตยตม้ สกุ ๔. นา้ ตาลทราย ๙. เกลือ ๕. เนย ๑๐. งาดาค่วั สุก ขั้นตอนกำรทำทองมว้ นกรอบ ๑. ผสมแป้งเอนกประสงค์และแปง้ มันใหเ้ ข้ากนั ๒. ต้มเนยใหล้ ะลายพกั รอให้เย็น ๓. ต้มน้าใบเตยใหไ้ ด้สแี ละกลิ่นตามทีต่ ้องการ ๔. นาสว่ นผสม ข้อ ๑ – ๓ มาผสมให้เขา้ กัน ๕. ใส่ไขไ่ ก่ นา้ ตาลทราย นา้ ตาลป๊ิบ และใสเ่ กลอื เล็กนอ้ ยคนให้เข้ากันจนน้าตาลทรายละลาย ๖. ใส่งาดาควั่ สุกแล้วเข้าไปคนใหเ้ ข้ากันพักไว้ รอประมาณ ๒ ชั่วโมง ๗. อ่นุ แผน่ พิมพข์ นมทองม้วนรอใหเ้ ครอ่ื งร้อน ๘. ใส่ส่วนผสมประมาณ ๑ ชอ้ นโตะ๊ ลงในแผ่นพิมพข์ นมทองม้วน ๙. รอสกุ สกั พักใช้ไม้แกะออกกลบั ดา้ น ๑๐. เมอ่ื ขนมทองม้วนสุกท้งั สองด้านพบั เก็บขอบและวางม้วนไปกับไม้ไผ่ให้ไดข้ นาด ๑๑. พกั รอให้เย็นแพ็คใสถ่ ุงรอการจาหนา่ ย
. -๒๗๐- ๔. ชื่อผูท้ ี่ถอื ปฏิบตั ิและผู้สืบทอด ๔.๑ ผทู้ ีถ่ อื ปฏิบตั ิ ชือ่ นางคาผ่อง ฟ้าคาตนั วัน เดอื น ปเี กดิ - ท่อี ยู่ ๖๘ หมู่ ๕ ตาบลศรคี ้า อาเภอแม่จนั จังหวัดเชยี งราย หมายเลขโทรศัพท์ ๐๘๗ ๓๐๕ ๙๔๘๓ ๔.๒ ผู้สบื ทอด ช่อื นางสาวสุพรรษา ยานะโรจน์ วนั เดือน ปีเกิด - ท่ีอยู่ ๖๗ หมู่ ๕ ตาบลศรีคา้ อาเภอแมจ่ นั จังหวดั เชียงราย หมายเลขโทรศัพท์ ๐๘๗ ๓๐๕ ๙๔๘๓ ๕. สถำนะ กำรคงอยู่ ปฏิบตั ิอยา่ งแพร่หลาย เส่ยี งต่อการสญู หาย ไมม่ ปี ฏิบตั แิ ลว้ ๖. รูปภำพภมู ปิ ัญญำทำงวัฒนธรรม/กิจกรรมทำงภูมปิ ัญญำทำงวัฒนธรรม
. -27๑- แบบสำรวจมรดกภมู ปิ ัญญำทำงวัฒนธรรมจงั หวัดเชยี งรำย ประจำปี ๒๕๖๕ สภำวัฒนธรรมจังหวัดเชยี งรำย อำเภอขุนตำล จังหวัดเชยี งรำย ๑. ชอื่ ข้อมูล การแพทย์แผนไทยสมุนไพรพ้ืนบ้าน (หมอพื้นบ้านลา้ นนา) ๒. ลกั ษณะ วรรณกรรมพื้นบา้ นและภาษา ศิลปะการแสดง แนวปฏิบัตทิ างสังคมพธิ ีกรรม ประเพณี และเทศกาล อาหาร/ความรแู้ ละการปฏบิ ตั ิเกย่ี วกบั ธรรมชาตแิ ละจักรวาล งานชา่ งฝมี อื ดั้งเดิม การละเล่นพืน้ บ้าน กีฬาพืน้ บ้าน และศิลปะการตอ่ สปู่ ้องกนั ตัว ๓. รายละเอียดข้อมลู ๓.๑) ประวตั ิความเปน็ มาของขอ้ มูล เจ้าของภูมิปัญญา นายสนน่ั กติ ติศักด์ิเจริญ มีภมู ลิ าเนาอยู่บ้านเลขที่ 236 หมู่ 9 ตาบลยางฮอม อาเภอขุนตาล จังหวดั เชียงราย ความรู้เรื่องสมุนไพรเป็นภูมิปัญญาท่ีได้สืบทอด โดยมีการศึกษาหาความรู้จากบรรพบุรุษและการ สืบคน้ การศกึ ษาหาความรู้จากส่ือต่าง ๆ การอบรมเชิงปฏิบตั ิการ การทดลอง ค้นคว้า จนสามารถนามาปฏิบัติและ ถ่ายทอดแก่อนุชนรุ่นต่อไปได้ จนสามารถเป็นแหล่งศึกษาดูงานได้ ด้วยการเปิดเป็นโรงเรียนสมุนไพรพ้ืนบ้าน บา้ นหว้ ยสัก ๓.๒) ขัน้ ตอน/วธิ กี าร/ดาเนินการเกีย่ วกบั ขอ้ มูล สมุนไพรท่ีจัดทามี สมุนไพรนพคุณ รักษาโรคริดสีดวงทวาร สมุนไพรลูกประคบ รักษาอาการเกี่ยวกับ กล้ามเน้ือตึง กินอ้อพญ๋า เพ่ือให้มีความจาที่ดี ผลิตสมุนไพรยาหม่อง ยาหอม ยาดม ปัจจุบันเปิดเป็นโรงเรียน สมุนไพรบ้านหว้ ยสกั สามารถเปน็ แหลง่ ศึกษาดงู านเกีย่ วกบั ดา้ นสมนุ ไพร ๔. ช่ือผ้ทู ่ีถือปฏิบัติและผ้สู ืบทอด ๔.๑ ผทู้ ถี่ ือปฏิบตั ิ ชอ่ื นายพุฒ ใจประสทิ ธชิ ยั วัน เดอื น ปเี กดิ ๒๔๙๒ ทอี่ ยู่ 236 หมู่ 9 ตาบลยางฮอม อาเภอขุนตาล จงั หวดั เชยี งราย หมายเลขโทรศัพท์ 089-516-5417 ๔.๒ ผูส้ บื ทอด ช่ือ - วัน เดอื น ปเี กดิ - ท่อี ยู่ - หมายเลขโทรศัพท์ - ๕. สถานะ การคงอยู่ ปฏิบัตอิ ยา่ งแพรห่ ลาย เส่ยี งตอ่ การสญู หาย ไมม่ ีปฏบิ ัติแล้ว ๖. รูปภาพภูมิปญั ญาทางวัฒนธรรม/กิจกรรมทางภูมิปัญญาทางวฒั นธรรม - ไม่มี -
. -2๗๒- แบบสำรวจมรดกภมู ิปญั ญำทำงวฒั นธรรมจังหวดั เชียงรำย ประจำปี ๒๕๖๕ สภำวัฒนธรรมจังหวัดเชยี งรำย สภำวฒั นธรรมอำเภอเทงิ จงั หวดั เชยี งรำย ๑. ชื่อข้อมลู แกงฮงั เลหมก ๒. ลักษณะ วรรณกรรมพ้นื บ้านและภาษา ศลิ ปะการแสดง แนวปฏบิ ตั ทิ างสังคมพิธีกรรม ประเพณี และเทศกาล อาหาร/ความรู้และการปฏิบัตเิ กีย่ วกบั ธรรมชาตแิ ละจกั รวาล งานช่างฝมี ือดั้งเดิม การละเล่นพน้ื บา้ น กีฬาพ้ืนบา้ น และศิลปะการตอ่ สู่ป้องกนั ตวั ๓. รำยละเอียดข้อมลู ๓.๑) ประวตั คิ วามเปน็ มาของขอ้ มูล เดิมทีมชี าวเงีย้ วเข้ามาอยู่ในหมูบ่ ้านช่อื อ้ยุ จนั ทร์ (เสยี ชวี ติ แลว้ ) เวลาในหมบู่ ้านมีงานเล้ยี งคนเยอะ ๆ เช่น งานขึน้ บ้านใหม่ งานศพ งานข้นึ พระธาตุ ก็ไดช้ ว่ ยกนั ทาแกงฮงั เลหมกเล้ยี งผูค้ น ๓.๒) ข้นั ตอน/วธิ ีการ/ดาเนนิ การเก่ียวกับข้อมลู วธิ ีทา เอาเนื้อหมูสันคอหรือสามชั้นผสมกับน้าพริกแกงฮังเลคลุกเคล้าให้เข้ากัน ใส่กระท้อน (บะต้อง) สบั ปะรด (บะขนดั ) หรือกระเทยี มดอง เพือ่ ใหเ้ นื้อเปอ่ื ย นุม่ เอาท้งั หมดใส่ใบตองจากนั้นทาการห่อ เอาน้าใส่กระทะใบใหญ่ แล้วทาตะแกรง วางให้พ้นน้า นาห่อฮังเลวางเรียงจากนั้นเอาใบตองคลุมไว้ ปล่อยให้น้าเดอื ดจนหมสู กุ จะมนี า้ เคร่ืองแกงออกมาจะหอม เวลารบั ประทานหมจู ะนุม่ หอม รสชาติอรอ่ ย สว่ นผสมของน้าพริกเครื่องแกง พริกแห้ง กระเทยี ม หอมแดง ข่า ตะไคร้ กะปิ เกลือ ๔. ช่ือผทู้ ี่ถือปฏิบัติและผ้สู ืบทอด ๔.๑ ผ้ทู ี่ถอื ปฏิบตั ิ ชื่อ พ่ออ้ยุ คามา จนั ทรถ์ า วัน เดอื น ปีเกิด 1 กันยายน 2474 ทอ่ี ยู่ 2 หมู่ 2 ตาบลเวยี ง อาเภอเทิง จงั หวดั เชยี งราย หมายเลขโทรศัพท์ - ๔.๒ ผสู้ บื ทอด ชือ่ - วนั เดอื น ปเี กดิ - ท่ีอยู่ - หมายเลขโทรศัพท์ - ๕. สถำนะ กำรคงอยู่ ปฏิบตั อิ ยา่ งแพรห่ ลาย เสี่ยงตอ่ การสญู หาย ไมม่ ปี ฏบิ ตั ิแลว้
. -2๗๓- ๖. รปู ภำพภูมิปัญญำทำงวัฒนธรรม/กจิ กรรมทำงภูมปิ ัญญำทำงวัฒนธรรม
. -2๗๔- แบบสำรวจมรดกภมู ปิ ัญญำทำงวฒั นธรรมจงั หวดั เชียงรำย ประจำปี ๒๕๖๕ สภำวัฒนธรรมจงั หวัดเชยี งรำย อำเภอพญำเมง็ รำย จงั หวดั เชยี งรำย ๑. ช่ือข้อมลู ขนมจนี น้าเง้ยี ว ๒. ลักษณะ วรรณกรรมพืน้ บ้านและภาษา ศิลปะการแสดง แนวปฏิบตั ทิ างสังคมพธิ ีกรรม ประเพณี และเทศกาล อาหาร/ความรแู้ ละการปฏิบตั ิเกี่ยวกับธรรมชาตแิ ละจกั รวาล งานช่างฝีมือดง้ั เดมิ การละเล่นพ้ืนบา้ น กีฬาพ้นื บ้าน และศลิ ปะการต่อส่ปู ้องกันตัว ๓. รำยละเอียดขอ้ มูล ๓.๑) ประวตั คิ วามเป็นมาของข้อมลู “ขนมจีนน้ำเงี้ยว” เป็นอาหารยอดนิยมของคนล้านนา มีลักษณะเป็นเส้นเหมือนก๋วยเต๋ียว รบั ประทานง่ายไม่ต้องปรุงรสมาก สว่ นประกอบเคร่ืองปรุงประกอบไปดว้ ย เสน้ ขนมจนี เลือดหมูสด เนื้อหมูบด กระดูกหมู มะเขือเทศ เลือดไก่ก้อน ดอกง้ิว ถ่ัวเน่า เดิมทีขนมจีนไม่ได้ทานพร้อมกับน้าเง้ียว แต่เพ่ิงนามา ประยุกต์มาทานพร้อมกันเม่ือไม่นานมานี้ น้าเง้ียว เป็นอาหารของชาวเง้ียว ซึ่งเป็นกลุ่มไทยใหญ่ที่อาศัยอยู่ใน รัฐฉาน ประเทศพม่า ต่อมาคนพม่าได้หนีการต่อสู้รบกับรัฐบาลพม่า จึงอพยพเข้ามาอาศัยกระจายอยู่ ทั่วพื้นท่ีของทางภาคเหนือ ส่วนใหญ่หนีไปหลบซ่อนทางจังหวัดแพร่ เนื่องจากในยุคน้ันมีการสัมปทานพื้นที่ การทาป่าไม้ให้กับบริษัทจากอังกฤษ มีความต้องการแรงงานมาก ชาวเงี้ยวจึงพากันหนีไปปักหลักอาศัยเป็น ชมุ ชนใหญ่ทน่ี ัน้ ปจั จบุ ันขนมจนี นา้ เงย้ี วนิยมทานควบคู่กบั ผักนานาชนดิ แคบหมู สม้ ตา ไก่ยา่ ง และเนอ้ื ทอด ขนมจีนน้ำเงี้ยว คืออาหารของทางภาคเหนือ มีส่วนประกอบคือดอกงิ้ว ดัดแปลงมาจากน้าพริกอ่อง น้าพริกแกงจะมีความเข้มข้นคล้ายน้าพริกแกงส้มของทางภาคกลาง คือ ใช้พริกแห้ง แต่ไม่ใส่กระชาย และใส่ ถั่วเน่าแผ่นหรือเต้าเจี้ยวหรือทั้งสองอย่าง น้ำแกงน้ำเงี้ยว จะมีรสชาติเค็มเผ็ด มีรสเปร้ียวจากมะเขือเทศ สาหรับใส่ขนมจีนหรือเส้นก๋วยเตี๋ยว เช่นเดียวกับน้าก๋วยเต๋ียว หรือขนมจีนน้ายา ซึ่งชาวไทใหญ่มักจะเรียก น้าเง้ียวว่า น้าหมากเขือส้ม ซึ่งถ้าใส่ขนมจีนก็เรียกว่า เข้าเส้นน้าหมากเขือส้ม ซ่ึงในการทาน้าเง้ียวนั้นเราจะใช้ เกสรดอกง้ิวป่ำ ซ่ึงเป็นงิ้วชนิดดอกแดงตากแห้ง (ในภาษาเหนือ งิ้ว จะหมายถึง ต้นนุ่น ได้ด้วย มักจะเรียกว่า งิ้วดอกขาว ใสล่ งไป ซงึ่ ดอกงว้ิ เปน็ สว่ นประกอบสาคัญในการทาน้าเงยี้ ว น้ำเง้ียว เป็นอาหารท่ีได้รับความนิยมในหมู่ชาวล้านนามาแต่อดีตจวบจนถึงปจั จบุ ัน ชาวบ้านมักจะทา น้าเง้ียวสาหรับจัดเลี้ยงในงานต่าง ๆ ถือว่าเป็นอาหารมงคลอย่างหนึ่งของชาวล้านนา โดยทั่วไปมักจะทาน น้าเงี้ยวกับขนมจีน (ขนมเส้น) หรือเส้นก๋วยเตี๋ยว (เรียกก๋วยเตี๋ยวน้าเง้ียว) น้าเง้ียวเป็นอาหารข้ึนชื่อของจังหวดั เชียงราย ซึ่งรสชาติน้าเง้ียวจะมีความเข้มข้นและจัดจ้านมาก ๆ (แต่กินง่าย) ขนมจีนน้าเง้ียวจะอร่อยหรือ ไม่อร่อยมันอยู่ที่ การทาพรกิ แกงน้ำเงีย้ ว และวิธที าน้าพรกิ น้าเง้ยี วภาคเหนือแบบดั้งเดิมจริง ๆ จะตอ้ งมีการใช้ ถวั่ เนา่ แผน่ ด้วย (ถั่วเน่าแข็บ) แต่หากหาไมไ่ ด้จริงก็สามารถใชเ้ ตา้ เจี้ยวทดแทนได้บา้ ง ดังนั้น จึงควรต้องมีการสืบทอดการจัดทาขนมจีนน้าเงี้ยวไปยังรุ่นลูกรุ่นหลานให้ได้เรียนรู้และนามาใช้ ในชีวิตประจาวัน เพื่อสร้างรายได้ สร้างอาชีพให้กับครอบครัวด้วยการทาขาย และควรมีการถ่ายทอดสูตร ดัง้ เดมิ ใหค้ งไวเ้ พ่ือเปน็ การอนรุ ักษ์มรดกภมู ิปัญญาท้องถิน่ ของคนรนุ่ ก่อนมใิ ห้สญู หายไป
. -2๗๕- ๓.๒) ข้ันตอน/วิธีการ/ดาเนินการเกีย่ วกับขอ้ มลู วธิ กี ำรทำขนมนจนี นำ้ เงีย้ ว 1. ต้ังกระทะหรอื หม้อใสน่ า้ มัน ลงไปผดั กบั พริกแกงให้หอม ใส่หมูสับลงไปผดั ให้เข้ากนั 2. เตมิ นา้ ซปุ ปลอ่ ยให้เดือด แลว้ ใสม่ ะเขือเทศ ต้มให้มะเขือเทศนม่ิ ใส่กระดูกหมู ปลอ่ ยใหเ้ ดือด ใส่ ดอกเงีย้ วที่แชน่ า้ ไว้บีบนา้ ออกใหห้ มด 3. ใสใ่ นหมอ้ แกงต้องคอยตักฟองออก ปรงุ รสด้วยเกลือ นา้ ปลา ถั่วเนา่ 4. เมื่อได้รสชาตทิ ่ตี ้องการใหเ้ ตมิ เลอื ดไก่ แล้วเค่ียวต่อไปจนซโี่ ครงหมูเนื้อนิ่ม 5. ต้ังไฟตอ่ ประมาณ 5 นาที เสร็จแล้วยกลง นาขนมจีนใส่จาน ราดด้วยแกง (น้าเง้ียว) 6. รับประทานคกู่ ับเครื่องเคยี งได้เลย เสริ ์ฟกับเส้นขนมจีนและผักต่าง ๆ ทงั้ ผักกาดดอง ถ่ัวงอก กระเทยี มเจยี ว ผักชี ตน้ หอม เตมิ มะนาวเพม่ิ ความเปรย้ี ว โรยหนา้ ดว้ ยแคบหมู ๔. ชื่อผูท้ ี่ถอื ปฏิบัติและผ้สู ืบทอด ๔.๑ ผู้ทถ่ี อื ปฏิบัติ ช่ือ นางกุลวดี วิชา วนั เดือน ปเี กดิ 24 สงิ หาคม 2510 ทอี่ ยู่ 145 หมู่ 11 ตาบลไม้ยา อาเภอพญาเม็งราย จังหวัดเชยี งราย หมายเลขโทรศัพท์ 085 652 7068 ๔.๒ ผ้สู ืบทอด ชื่อ นางสาวปางเงนิ แสงคา วนั เดอื น ปเี กดิ 19 กรกฎาคม 2528 ท่อี ยู่ 180 หมู่ 11 ตาบลไมย้ า อาเภอพญาเมง็ ราย จงั หวดั เชียงราย หมายเลขโทรศัพท์ 061 276 4259 ๕. สถำนะ กำรคงอยู่ ปฏิบัติอยา่ งแพรห่ ลาย เสย่ี งต่อการสญู หาย ไม่มีปฏบิ ัตแิ ล้ว ๖. รปู ภำพภูมปิ ัญญำทำงวัฒนธรรม/กจิ กรรมทำงภูมิปัญญำทำงวัฒนธรรม
. -2๗๖- แบบสำรวจมรดกภมู ปิ ัญญำทำงวฒั นธรรมจงั หวดั เชยี งรำย ประจำปี ๒๕๖5 สำนักงำนวฒั นธรรมจังหวัดเชียงรำย อำเภอแม่ลำว จงั หวัดเชยี งรำย ๑. ชื่อข้อมลู ข้าวแตน๋ น้าแตงโม ๒. ลกั ษณะ วรรณกรรมพนื้ บ้านและภาษา ศิลปะการแสดง แนวปฏบิ ตั ิทางสงั คมพิธีกรรม ประเพณี และเทศกาล อาหาร/ความรแู้ ละการปฏิบัตเิ กี่ยวกับธรรมชาตแิ ละจักรวาล งานชา่ งฝมี ือดัง้ เดมิ การละเลน่ พืน้ บ้าน กีฬาพื้นบ้าน และศิลปะการต่อสูป่ ้องกันตัว ๓. รำยละเอยี ดข้อมลู ๓.๑) ประวตั คิ วามเป็นมาของขอ้ มลู ข้าวแต๋น เป็นขนมพื้นบ้านอาหารพื้นเมืองมาตั้งแต่สมัยก่อนไม่สามารถสืบค้นได้ว่ามีมาต้ังแต่เม่ือใด เดิมชาวบ้านในอดีตมีอาชีพทาไร่ทานา มีรายได้น้อย เวลารับประทานข้าวเหนียวเหลือจึงนาไปตากแห้งเก็บ เอาไว้ทอดรับประทาน ถือเป็นการนาอาหารเหลือท้ิงมาทาให้เกิดคุณค่าและเกิดประโยชน์มากขึ้น จึงได้จัดตั้ง เป็นวิสาหกจิ ชมุ ชนขา้ วเกรียบขา้ วแตน๋ แม่ลาว เพ่อื ผลิตข้าวแตน๋ เป็นผลติ ภัณฑ์ชมุ ชน ๓.๒) ขัน้ ตอน/วธิ กี าร/ดาเนินการเกีย่ วกบั ข้อมลู ส่วนผสม ข้าวแตน๋ นา้ แตงโม 1. ขา้ วเหนยี วเขยี้ วงูใหม่ 500 กรมั (น้าหนกั ก่อนน่ึง) 2. น้าแตงโม 200 ml. 3. หัวกะทิ 50 ml. (ใชน้ ้าแตงโมแทนที่ได)้ 4. นา้ ตาลทรายไมฟ่ อกสี 3 ชอ้ นโตะ๊ 5. เกลอื ปน่ 1/2+1/4 ชอ้ นชา 6. งาดา 2 ชอ้ นโต๊ะ (ไมต่ อ้ งค่วั และจะใสห่ รอื ไม่ใสก่ ็ได้) อตั ราส่วนน้าตาลโรยหนา้ 1. นา้ ตาลมะพร้าว/นา้ ตาลป๊ีบ 450 กรัม 2. น้าตาลทรายแดง 100 กรมั 3. เกลือป่น 1/4 ช้อนชา 4. นา้ เปลา่ 40 กรัม วธิ ที า ขา้ วแต๋นน้าแตงโม 1. นาข้าวเหนียวแช่น้า จากนั้นนาไปนึ่ง โดยนาใบเตยใส่ลงไปในน้าต้มเพ่ือให้มีกลิ่นหอม ใช้เวลานึ่ง ประมาณ 30 นาที 2. นาแตงโมปั่นให้ละเอียด กรองด้วยผ้าขาวบาง จากน้ันใส่หัวกะทิ น้าตาลทรายไม่ฟอกสี และเกลือป่น ลงไป คนให้เข้ากนั นาขา้ วเหนยี วที่น่งึ สุกแล้วเทลงไป คลุกเคล้าให้เข้ากัน พักท้ิงไว้ประมาณ 15 - 20 นาที 3. เมื่อครบเวลา ให้ใส่งาดาลงไป คลุกเคล้าให้เข้ากัน จากนั้นอัดใส่พิมพ์และตากแดดไว้ นากระทะ ใส่น้ามันตั้งไฟแรงเพื่อให้น้ามันร้อน จากนั้นปรับเป็นไฟกลาง นาข้าวท่ีตากแดดมาทอด โดยคีบข้าวไว้แล้วขยับ ให้โดนน้ามันทั่ว ๆ ก่อนจะปล่อย เพ่ือให้ข้าวฟู ใช้เวลาทอดไม่นาน สังเกตให้มีลักษณะเหลืองกรอบ สามารถ นาข้นึ ไดเ้ ลย พกั สะเด็ดนา้ มนั ไว้
. -2๗๗- 4. ทาน้าตาลราดหน้าข้าวแต๋น โดยการนาน้าตาลป๊ีบหรือน้าตาลมะพร้าว น้าเปล่า น้าตาลทรายแดง เกลือป่น ลงหม้อ ใช้ไฟกลางค่อนไฟอ่อน คนผสมให้เข้ากันดี พักไว้ให้อุ่น ๆ จะทาให้ข้นขึ้น แล้วใช้ช้อนตักน้า และหยอดลงไปบนขา้ วตามชอบ ๔. ชื่อผทู้ ี่ถือปฏิบัติและผสู้ ืบทอด 4.๑ ผูท้ ่ีถือปฏิบตั ิ ชือ่ นางฉววี รรณ อดุ ป้อ วนั เดอื น ปีเกดิ 2505 ที่อยู่ ๒๔ หมู่ ๑๙ ตาบลดงมะดะ อาเภอแม่ลาว จงั หวดั เชยี งราย หมายเลขโทรศัพท์ - 4.๒ ผูส้ ืบทอด ชือ่ นางสาวอัมพร อดุ ป้อ วนั เดอื น ปีเกิด - ทีอ่ ยู่ ๒๔ หมู่ ๑๙ ตาบลดงมะดะ อาเภอแม่ลาว จงั หวดั เชยี งราย หมายเลขโทรศัพท์ - 5. สถำนะ กำรคงอยู่ ปฏบิ ัตอิ ย่างแพรห่ ลาย เสีย่ งตอ่ การสูญหาย ไมม่ ปี ฏิบตั ิแล้ว 6. รูปภำพภูมปิ ญั ญำทำงวัฒนธรรม/กจิ กรรมทำงภูมปิ ัญญำทำงวฒั นธรรม วธิ ีทาขา้ วแตน๋ น้าแตงโม
. -2๗๘- แบบสำรวจมรดกภมู ิปญั ญำทำงวฒั นธรรมจงั หวัดเชยี งรำย ประจำปี ๒๕๖๕ สภำวฒั นธรรมจังหวดั เชยี งรำย อำเภอแมฟ่ ำ้ หลวง จังหวัดเชยี งรำย ๑. ช่ือข้อมูล ขา้ วแรมฝนื (ป้านวล) ๒. ลกั ษณะ วรรณกรรมพื้นบา้ นและภาษา ศลิ ปะการแสดง แนวปฏิบัตทิ างสงั คมพธิ ีกรรม ประเพณี และเทศกาล อาหาร/ความรู้และการปฏิบัตเิ ก่ยี วกบั ธรรมชาตแิ ละจักรวาล งานชา่ งฝีมือด้งั เดิม การละเล่นพนื้ บา้ น กีฬาพื้นบ้าน และศิลปะการตอ่ ส่ปู ้องกันตวั ๓. รำยละเอยี ดขอ้ มลู ๓.๑) ประวัติความเป็นมาของข้อมลู ข้าวแรมฟืน หรือข้าวแรมคืน เป้นอาหารชนิดหนึ่งท่ีมีรสเปร้ียว เผ็ด หวาน เป็นทั้งอาหารว่างและ อาหารหลกั หลายสิบปแี ล้ว ถือได้วา่ เป็นอาหารของชาวแมส่ ายไปแลว้ คาว่า \"ขา้ วแรมฟืน\" คงเพ้ียนมาจาก ขา้ ว แรมคืน ซึ่งชื่อน้กี ค็ งมาจากวิธีการทาน่นั เอง ข้าวแรมฟนื เปน็ ได้ท้งั อาหารคาวและหวาน แตท่ ุกอยา่ งเป็นมังสะวิรตั เปน็ อาหารเจ ซึ่งเป็นที่นิยมของ ชาวไทยใหญ่ ไทลื้อ และไทเขิน นาเข้ามาจากทางสิบสองปันนาประเทศจีน ผ่านมาทางพม่า แล้วเข้ามาทาง อาเภอแมส่ าย จังหวัดเชียงราย เปน็ เวลานาน ๓.๒) ขั้นตอน/วิธกี าร/ดาเนินการเกี่ยวกับขอ้ มลู กรรมวิธีในการทาข้าวแรมฟืน ซ่ึงก็มีส่วนประกอบหลักอยู่ 2 อย่าง คือตัวแป้งข้าวแรมฟืน และ เครื่องปรุง ซึ่งอาหารชนิดนี้สังเกตดูองค์ประกอบคงจะมีลักษณะคล้าย ๆ ก๋วยเต๋ียวของชาวจีนนั่นเอง ตัวข้าวแรมฟืนเติมมี 2 ชนิด คือข้าวแรมฟืนขาว และข้าวแรมฟืนถั่วลันเตา ปัจจุบันได้เพิ่มข้าวแรมฟืนถ่ัวดิน (ถ่ัวลิสง) เข้ามาดว้ ย ข้าวแรมฟนื ขาวทาจากการโมข่ า้ วเจ้าแข็งทาแป้ง แล้วนานา้ แป้งทต่ี กตะกอนมาเคี่ยวกับปูน ขาวจนสุก จากนั้นเทใส่ภาชนะใดก็ได้ ท้ิงไว้ 1 คืน วันรุ่งข้ึนแป้งจะแข็งตัว ตามรูปภาชนะที่บรรจุ ส่วนข้าวแรมฟืนถั่วน้ันจะมีสีเหลือง ซ่ึงทาจากเม็ดทั่วลันเตาแช๋จนเม็ดขยายแล้วจึงนามาโม่ จากนั้นนาตะกอน ส่วนหนึ่งมาเค่ียวจนเดือด สังเกตดูว่าตะกอนเริ่มเหนียวจึงเทใส่ภาชนะแต่ไม่นิยมทาค้างคืนหรือแรมคืน เพราะ หากท้ิงไว้นาน แป้งนี้จะเหลว ไม่จับตัวแข็งเหมือนข้าวแรมฟืนขาว เม่ือได้แป้งข้าวแรมฟืนแล้ว ก็นามาห่ันเป็น ชิ้นส่ีเหลยี่ มผนื ผ้าเลก็ ๆ เตรยี มไว้ ๔. ชอ่ื ผู้ที่ถอื ปฏิบัติและผู้สืบทอด ๔.๑ ผทู้ ถี่ อื ปฏบิ ตั ิ ชือ่ ร้านจาหน่ายอาหาร ปา้ นวล วัน เดอื น ปีเกดิ - ทอี่ ยู่ 8 หมู่ 1 ตาบลเทอดไทย อาเภอแม่ฟา้ หลวง จงั หวดั เชียงราย หมายเลขโทรศัพท์ -
. -27๙- ๔.๒ ผู้สืบทอด ชือ่ - วัน เดอื น ปีเกิด - ท่ีอยู่ - หมายเลขโทรศัพท์ - ๕. สถำนะ กำรคงอยู่ ปฏิบตั อิ ยา่ งแพร่หลาย เส่ยี งตอ่ การสูญหาย ไมม่ ปี ฏิบตั แิ ล้ว ๖. รปู ภำพภูมปิ ญั ญำทำงวัฒนธรรม/กจิ กรรมทำงภูมปิ ัญญำทำงวฒั นธรรม
. -280- แบบสำรวจมรดกภมู ิปญั ญำทำงวัฒนธรรมจงั หวัดเชยี งรำย สำนกั งำนวฒั นธรรมจังหวดั เชยี งรำย อำเภอแม่สำย จังหวดั เชยี งรำย ๑. ชื่อข้อมูล ข้าวแรมฟืนหรือข้าวฟืน ๒. ลกั ษณะ วรรณกรรมพื้นบา้ นและภาษา ศิลปะการแสดง แนวปฏบิ ตั ิทางสงั คมพธิ ีกรรม ประเพณี และเทศกาล อาหาร/ความรู้และการปฏบิ ัตเิ ก่ียวกับธรรมชาติและจกั รวาล งานชา่ งฝีมือดง้ั เดมิ การละเลน่ พน้ื บา้ น กีฬาพนื้ บา้ น และศลิ ปะการตอ่ สปู่ ้องกนั ตัว ๓. รำยละเอียดข้อมูล ๓.๑) ประวตั ิความเป็นมาของข้อมูล ข้าวแรมฟืน นับเป็นอาหารของชาวไทใหญ่ซึ่งอพยพมาจากสิบสองปันนา ว่ากันว่าชื่อเพี้ยนมาจาก “ข้าวแรมคืน” บางคนก็ว่าช่ือข้าวแรมฟืนนั้นเพี้ยนมาจากคาว่า \"Liang Fen\" (เหลียงเฟิ่น) ซ่ึงเป็นภาษาจีน เพราะท่ีจีนกม็ ีอาหารลักษณะแบบนีเ้ ช่นกัน ถ้าไปเดนิ ตลาดเช้าที่แมส่ ายจะเหน็ ข้าวแรมฟนื หลายสี เพราะทามา จากวัตถุดิบต่างกัน สูตรดั้งเดิมจะเป็นข้าวเจ้า ซึ่งเป็นข้าวแรมฟืนสีขาว ถ้าทาจากถ่ัวลันเตาหรือถั่วเหลืองจะได้ ข้าวแรมฟืนสเี หลือง และถ้าทาจากถัว่ ลสิ ง จะไดข้ า้ วแรมฟนื สีมว่ งอ่อน ข้าวแรมฟืนทามาจากข้าวเจ้า ถั่วลันเตา หรือถั่วลิสง เตรียมโดยนามาแช่น้าจนอ่อนตัว จากนั้นนามา บดจนละเอียด แล้วนามาผสมกับน้าให้มีความเข้มข้นพอควร โดยสาหรับข้าวแรมฟืนข้าวต้องมีการผสมกับน้า ปูนใสหรือแคลเซียมคลอไรด์เพ่ือช่วยในการแข็งตัว จากนั้นนามาต้มจนสกุ และมีความข้นหนืดพอเหมาะแล้วจึง ต้ังทิ้งไว้ข้ามคืนหรือแรมคนื (ซึ่งอาจเป็นท่ีมาของคาว่าข้าวแรมฟืนนัน่ เอง) ในระหว่างน้ีแป้งจะเย็นตัวลงจนแข็ง เป็นเจลขุ่นและมีสีตามธรรมชาติของวัตถุดิบ เวลารับประทานก็เพียงนามาตัดเป็นชิ้นเล็ก ๆ ราดน้าปรุงรส ขลุกขลิกรสชาติออกเปรี้ยวหวาน อาจเพ่ิมพริกค่ัวและถั่วบด สาหรับข้าวแรมฟืนถ่ัวลนั เตายังนิยมนามาทอดใน น้ามนั ไดเ้ ปน็ ข้าวแรมฟืนทอดที่กรอบนอกนุ่มในและมีรสชาติอรอ่ ย จนบางคนเรยี กว่า “เฟร้นชฟ์ รายไทลื้อ” ๓.๒) ข้นั ตอน/วิธกี าร/ดาเนนิ การเก่ียวกับขอ้ มูล ข้าวแรมฟืน มีสว่ นประกอบด้วยกัน 3 ส่วน คือ 1) ตัวแป้งที่ทาจากการโม่ข้าวเจ้าจนเปน็ น้าแปง้ (ปัจจุบันนี้ใชแ้ ป้งข้าวเจ้า สะดวกตามยุคสมัย) นามา เคี่ยวกับไฟอ่อนๆจนเหนียว และใส่ชามหรือภาชนะก้นลึก ทิ้งเอาไว้ข้ามคืน (จึงเป็นชื่อเรียกว่า \"ข้าวแรมคืน\" แต่ผู้คนเรียกเพ้ียนไปมาตามกาลเวลา เลยกลายเป็น \"ข้าวแรมฟืน\") จากนั้นนามาตัดเป็นก้อนสี่เหล่ียม ขนาดใหญ่กว่าลกู เตา๋ พอประมาณ 2) น้าราด แบ่งออกเป็น 5 น้า คือ น้าผักกาดดองเปรี้ยว (น้าส้มผักกาด) น้าสู่หวาน น้าส้ม ทามาจาก น้าตาลอ้อย (สตู รสบิ สองปันนา) และนา้ ตาลอ้อยหมักจนเปรีย้ ว นา้ มะเขอื เทศ นา้ ขิง และนา้ ถว่ั เน่า 3) เคร่ืองเคียงและเคร่ืองปรุง ได้แก่ พริกค่ัวกระเทียม ถ่ัวลิสงป่น ผักลวก (ถั่วงอก กะหล่าปลี ถั่วฝกั ยาวซอย) ผักชซี อยละเอียด เกลอื ป่น ซอี วิ๊ ขาวและซอี ิ๊วดา ขั้นตอนการทา ข้าวแรมฟืนทามาจากข้าวเจ้า ถ่ัวลันเตา หรือถ่ัวลิสง เตรียมโดยนามาแช่น้าจนอ่อนตัว จากน้ันนามา บดจนละเอียด แล้วนามาผสมกับน้าให้มีความเข้มข้นพอควร โดยสาหรับข้าวแรมฟืนข้าวต้องมีการผสมกับ น้าปูนใสหรือแคลเซียมคลอไรด์เพื่อชว่ ยในการแข็งตัว จากนัน้ นามาต้มจนสกุ และมีความข้นหนืดพอเหมาะแล้ว จึงต้ังท้ิงไว้ข้ามคืนหรือแรมคืน (ซ่ึงอาจเป็นท่ีมาของคาว่าข้าวแรมฟืน) ในระหว่างนี้แป้งจะเย็นตัวลงจนแข็ง เป็นเจลขุ่นและมีสีตามธรรมชาติของวัตถุดิบ เวลารับประทานก็เพียงนามาตัดเป็นช้ินเล็ก ๆ ราดน้าปรุงรส ขลุกขลิกรสชาติออกเปร้ียวหวาน อาจเพิ่มพริกคั่วและถั่วบด สาหรับข้าวแรมฟืนถั่วลันเตายังนิยมนามาทอด ในน้ามันได้เป็นข้าวแรมฟนื ทอดทีก่ รอบนอกนุ่มในและมีรสชาตอิ ร่อย
. -281- 4. ชอื่ ผทู้ ่ีถอื ปฏิบตั ิและผู้สบื ทอด 4.๑ ผ้ทู ่ถี ือปฏบิ ตั ิ ชอ่ื นายมานิตย์ ประกอบกิจ วัน เดือน ปีเกิด - ที่อยู่ 76/2 หมู่ 5 ตาบลเวยี งพางคา อาเภอแมส่ าย จงั หวดั เชยี งราย หมายเลขโทรศัพท์ 085 722 1383 4.๒ ผ้สู บื ทอด ชอ่ื - วัน เดอื น ปีเกดิ - ทีอ่ ยู่ - หมายเลขโทรศัพท์ - 5. สถำนะ กำรคงอยู่ ปฏิบัตอิ ย่างแพรห่ ลาย เสยี่ งตอ่ การสญู หาย ไม่มีปฏิบตั ิแล้ว 6. รูปภำพภูมิปญั ญำทำงวัฒนธรรม/กิจกรรมทำงภูมิปัญญำทำงวัฒนธรรม ข้าวแรมฟนื สมี ว่ งที่ทาจากถัว่ ลสิ ง ขา้ วแรมฟนื สเี หลืองท่ีทาจากถวั่ ลนั เตา/ถว่ั เหลอื ง เครอื่ งเคียงและเคร่ืองปรงุ ข้าวแรมฟืนแบบเส้น แบบทอด ขา้ วแรมฟนื ทป่ี รุงสาเร็จ
. -282- แบบสำรวจมรดกภมู ปิ ญั ญำทำงวัฒนธรรมจังหวัดเชยี งรำย ประจำปี ๒๕๖๕ สภำวฒั นธรรมจงั หวัดเชยี งรำย อำเภอแมส่ ำย จงั หวดั เชยี งรำย ๑. ช่ือข้อมูล ข้าวหมาก ๒. ลกั ษณะ วรรณกรรมพ้นื บา้ นและภาษา ศิลปะการแสดง แนวปฏิบัติทางสังคมพิธีกรรม ประเพณี และเทศกาล อาหาร/ความรแู้ ละการปฏบิ ัติเกี่ยวกับธรรมชาติและจักรวาล งานชา่ งฝมี ือดง้ั เดมิ การละเลน่ พื้นบ้าน กีฬาพื้นบา้ น และศิลปะการตอ่ สู่ป้องกันตัว ๓. รำยละเอียดข้อมูล ๓.๑) ประวัตคิ วามเปน็ มาของขอ้ มลู ข้าวหมาก อาหารหมักพ้ืนบ้านของไทย เกิดจากภูมิปญั ญาของคนท้องถ่นิ ซง่ึ ถูกสบื ทอดต่อกนั มาจวบ จนถึงปจั จุบนั ข้าวหมาก (Kaomak Or Sweetened Rice) เป็นอาหารท่ีคนโบราณคิดค้นกระบวนการหมักจนได้ แบคทีเรียและจุลินทรีย์ท่ีมีประโยชน์ หรือโพรไบโอติก ที่นมเปร้ียวในปัจจุบันนามาเป็นจุดขายน่ันเอง แท้จริง แล้วข้าวหมากก็คือขนมหวานชนิดหน่ึง ที่ทามาจากการนาข้าวเหนียวมานึ่งแล้วหมักกับราและยีสต์ในรูปของ แป้ง หรือท่ีเรียกกันว่า “แป้งข้าวหมาก” เพื่อให้ราและยีสต์เปลี่ยนเป็นน้าตาล หรือเป็นแอลกอฮอล์เพียง เลก็ น้อย ข้าวหมากจึงไม่จดั วา่ เป็นของหวานมนึ เมา หรือ และไม่ใชส่ ุรา ข้าวหมาก คือ ข้าวท่ีหมักได้จะนุ่มและมีรสหวาน ส่งกลิ่นหอม นอกจากข้าวหมาก จะรับประทานเพ่ือ เพิ่มความสดชื่นแล้ว ยังสามารถบาบัดอาการของโรคเรื้อรังต่าง ๆ ได้ เช่น ช่วยเร่ืองระบบขับถ่าย บารุงธาตุ ต้านโรคอัมพฤกษ์ ต้านมะเร็ง ต้านโรคหัวใจ ต้านความดันโลหิต แก้ปัญหาวัยทอง ช่วยให้นอนหลับได้ดีข้ึน นอกจากนีย้ ังช่วยทาใหผ้ ิวพรรณดี ผิวใส อีกดว้ ย ลกู แป้งขำ้ วหมำก ลูกแป้ง หรือบางคนเรียกว่าแป้งข้าวหมาก มีลักษณะเป็นก้อนแห้งทรงครึ่งวงกลม สีขาวนวลเนื้อแป้ง โปร่ง มเี ส้นใยของเช้ือราเกาะอยู่ เมือ่ เก็บไวน้ านสจี ะเข้มขึ้น ลกู แปง้ แตล่ ะเจ้าที่ขายตามท้องตลาดจะมีสว่ นผสม ท่ีแตกต่างกันออกไป โดยใช้ยีสต์และเชื้อราต่างสายพันธ์ุกัน ลูกแป้งท่ีดีจะต้องใช้เชื้อท่ีดี สะอาด ควบคุม อุณหภูมิและความชืน่ ขณะทาอย่างพอเหมาะ ประโยชน์ของขำ้ วหมำก - ในขา้ วหมากมี จลุ ลินทรยี ์และแบคทีเรียทีม่ ีประโยชน์ ท่เี รียกว่า โพรไบโอติกส์ (Probiotics) ชนิด เดียวกับในนมเปรย้ี ว ที่มีสว่ นชว่ ยเร่อื งระบบขบั ถ่าย - มสี ารทช่ี ว่ ยใหร้ า่ งกายผลิตกรดอินทรยี ์ ทาให้กระดูกและเมด็ เลือดตา่ ง ๆ แขง็ แรง - มสี ารตา้ นอนุมูลอิสระ ช่วยกะจดั สารก่อมะเร็งต่าง ๆ ในร่างกาย - ช่วยบาบดั โรคเร้อื รังต่าง ๆ เช่น โรคกระเพาะ โรคหวั ใจ โรคความดนั โลหติ สงู เบาหวานและภมู แิ พ้ - มีสังกะสี ช่วยบารงุ ผวิ พรรณ บารุงเลอื ด ทาให้ผิวพรรณสดใส - แก้ปญั หาวยั ทอง ทาให้นอนหลับไดด้ ีข้ึน
. -283- เคล็ดลบั กำรทำขำ้ วหมำก - ความสะอาดสาคญั มากเพราะมีผลตอ่ รสชาติของขา้ วหมาก ถา้ มีสิง่ ปนเปื้อนจะทาให้ข้าวหมากมีรส เปร้ียวปนหวาน - ข้าวเหนียวควรเลอื กอยา่ งดี คือไม่มเี มล็ดขา้ วอ่ืนปนมาเยอะ เพราะจะทาให้ข้าวเหนยี วสกุ ไม่ทว่ั ถงึ ทาให้ข้าวเหนียวบางเมลด็ เปน็ ไต - ลกู แปง้ ข้าวหมากท่ีคุณภาพดกี ็มีผลต่อรสชาติของขา้ วหมาก ข้าวหมากจะหวานมากหรือหวานนอ้ ย รวม ทั้งไมม่ รี สเปรี้ยว ก็ขึน้ อยู่กับลกู แปง้ ข้าวหมากด้วย - อปุ กรณ์ท่ีใชท้ าข้าวหมาก ควรแยกตา่ งหากจากอปุ กรณ์ที่ใช้ประจาทว่ั ไป - นา้ ต้อยข้าวหมากออกมากหรอื นอ้ ยขึ้นอยู่กบั เมลด็ ข้าวทีค่ ลกุ เคล้า เมลด็ ขา้ วท่ีคลกุ เคล้าลกู แป้งขา้ ว หมากแล้วค่อนขา้ งมีเมลด็ ติดกนั น้าตอ้ ยจะออกมามาก แต่ถา้ เมลด็ ขา้ วท่ีคลกุ เคล้าลกู แป้งข้าวหมาก ค่อนแลว้ ข้างแห้งเมลด็ ไมต่ ิดกนั นา้ ต้อยจะออกมาพอดี ๓.๒) ข้ันตอน/วธิ ีการ/ดาเนนิ การเกีย่ วกบั ขอ้ มูล สอบถามจากผูส้ ืบทอด คน้ คว้าเพม่ิ เติม จากแหลง่ ทม่ี าต่าง ๆ ๔. ช่อื ผทู้ ่ีถือปฏิบตั แิ ละผ้สู ืบทอด ๔.๑ ผู้ท่ีถอื ปฏบิ ัติ ชอ่ื . นางศรพี รรณ์ วงคส์ าย วนั เดอื น ปเี กิด - ท่ีอยู่ 2 หมู่ 1 ตาบลแม่สาย อาเภอแมส่ าย จงั หวัดเชยี งราย หมายเลขโทรศัพท์ 081 883 8727 ๔.๒ ผู้สบื ทอด ช่ือ - วนั เดอื น ปเี กิด - ที่อยู่ - หมายเลขโทรศัพท์ - ๕. สถำนะ กำรคงอยู่ ปฏิบัตอิ ยา่ งแพร่หลาย เสี่ยงต่อการสญู หาย ไมม่ ปี ฏบิ ตั แิ ลว้ ๖. รูปภำพภมู ปิ ัญญำทำงวัฒนธรรม/กิจกรรมทำงภูมปิ ัญญำทำงวัฒนธรรม
. -284- แบบสำรวจมรดกภมู ิปญั ญำทำงวัฒนธรรมจังหวัดเชียงรำย ประจำปี ๒๕๖๕ สภำวัฒนธรรมจงั หวดั เชยี งรำย อำเภอแม่ฟำ้ หลวง จงั หวดั เชียงรำย ๑. ชื่อข้อมูล เครือ่ งดื่มชา ๒. ลักษณะ วรรณกรรมพื้นบา้ นและภาษา ศิลปะการแสดง แนวปฏิบตั ิทางสงั คมพธิ ีกรรม ประเพณี และเทศกาล อาหาร/ความรู้และการปฏบิ ตั เิ ก่ียวกับธรรมชาติและจักรวาล งานช่างฝมี ือด้ังเดมิ การละเล่นพ้นื บ้าน กีฬาพน้ื บา้ น และศลิ ปะการต่อสูป่ ้องกนั ตัว ๓. รายละเอยี ดข้อมลู ๓.๑) ประวัติความเป็นมาของขอ้ มลู ประเภทของชา “ชา” ผลิตจากยอดอ่อนของต้นชา Camellia sinensis (L.) สายพันธุ์ชาท่ีปลูกใน ประเทศไทยแบ่งได้เป็น 2 สายพันธ์ุใหญ่ ๆ คือ ชาสายพันธุอ์ ัสสัม (Camellia sinensis var. assamica) และ ชาสายพันธ์ุจีน (Camellia sinensis var. sinensis) ชาอัสสัมเป็นชาพื้นเมืองด้ังเดิมของไทยท่ีพบได้ตามภูเขา สูงในแถบภาคเหนือ ส่วนชาจีนเป็นชาท่ีนาเข้ามาจากประเทศไต้หวัน และจีน เป็นสายพันธุ์ท่ีได้จากการ ปรบั ปรุงพันธุ์ ไดแ้ ก่ พนั ธอ์ุ ่หู ลงเบอร์ 17 หรืออูห่ ลงกา้ นออ่ น อหู่ ลงเบอร์ 12 หรือชิงซนิ อ่หู ลง พันธ์สุ ่ฤี ดู พันธ์ุถิ กวนอิม เป็นต้น ใบชาสดท้ังสายพันธุ์อัสสัมและสายพันธุ์จีนที่นิยมนามาผลิตชาเพ่ือให้ได้คุณภาพดีจะใช้เฉพาะ ยอดอ่อนของต้นชา นามาเข้ากระบวนการผึ่ง หมัก คั่ว นวด และอบท่ีแตกต่างกัน ทาให้ได้ผลิตภัณฑ์ชาท่ีมีสี กล่ิน และรสชาติของน้าชาที่แตกต่างกันไป ข้ันตอนการผลิตที่หลากหลาย ซับซ้อน ประกอบกับความชานาญของ ผู้ผลิตชาแต่ละราย รวมท้ังสายพันธ์ุชา สภาพภูมิประเทศ ภูมิอากาศ ความอุดมสมบูรณ์ของดินและน้า ตลอดจนองค์ประกอบทางเคมใี นใบชาสดจะเปน็ ตัวกาหนดคุณภาพและลักษณะเฉพาะของชาชนิดต่าง ๆ ๓.๒) ขัน้ ตอน/วธิ ีการ/ดาเนนิ การเก่ียวกบั ข้อมลู วิธีการ ประกอบอาหาร (บรรยายพร้อมแนบภาพนิ่งเป็นไฟล์นามสกุล JPEG หรือ TIFF ไม่น้อยกว่า กระบวนการผลิตชาเรม่ิ จากการเกบ็ ใบชาสด (tea plucking) และนามาเข้ากระบวนการ (processing) ท่ีทาให้ เกิดการหมกั ในระดับที่แตกต่างกนั ไป เมอื่ จัดแบง่ ประเภทชาตามระดบั ของการหมักจะสามารถแบ่งชาได้หลัก ๆ 3 ประเภท คือ ชาเขยี ว (green tea) ชาอู่หลง (oolong tea) และชาดา (black tea) ๔. ช่อื ผู้ทถี่ ือปฏบิ ตั แิ ละผู้สืบทอด ๔.๑ ผทู้ ่ีถอื ปฏบิ ัติ ชอื่ สหกรณ์การเกษตรแม่สลอง วนั เดอื น ปเี กดิ - ทอ่ี ยู่ 73 หมู่ 1 ตาบลแมส่ ลองนอก อาเภอแม่ฟ้าหลวง จงั หวัดเชียงราย หมายเลขโทรศัพท์ 053 765 138 ๔.๒ ผู้สืบทอด ชื่อ - วนั เดือน ปีเกดิ - ทอ่ี ยู่ - หมายเลขโทรศัพท์ -
. -285- ๕. สถานะ การคงอยู่ ปฏิบตั อิ ยา่ งแพร่หลาย เสย่ี งตอ่ การสญู หาย ไม่มปี ฏิบตั แิ ลว้ ๖. รปู ภาพภูมปิ ญั ญาทางวัฒนธรรม/กจิ กรรมทางภูมปิ ัญญาทางวฒั นธรรม
. -286- แบบสำรวจมรดกภมู ิปญั ญำทำงวฒั นธรรมจังหวัดเชียงรำย ประจำปี ๒๕๖๕ สภำวฒั นธรรมจงั หวัดเชยี งรำย อำเภอเวียงชัย จงั หวดั เชียงรำย ๑. ช่ือข้อมูล แคบหมูแมจ่ นั ทร์สวย ๒. ลักษณะ วรรณกรรมพ้ืนบ้านและภาษา ศิลปะการแสดง แนวปฏบิ ตั ทิ างสงั คมพิธีกรรม ประเพณี และเทศกาล อาหาร/ความรูแ้ ละการปฏบิ ัติเกยี่ วกบั ธรรมชาติและจักรวาล งานช่างฝมี ือด้งั เดิม การละเล่นพนื้ บา้ น กีฬาพ้ืนบา้ น และศิลปะการตอ่ ส่ปู ้องกนั ตัว ๓. รำยละเอยี ดข้อมลู ๓.๑) ประวัติความเปน็ มาของข้อมลู แคบหมูเป็นอาหารพ้ืนบ้านที่ชาวล้านนานิยมรับประทานในชีวิตประจาวัน และเป็นส่วนประกอบ ทส่ี าคัญของอาหารทใี่ ช้ในการต้อนรับแขกในงานประเพณี งานบุญ งานมงคล งานอวมงคล เปน็ ตน้ และยังเป็น ของฝากที่นักท่องเท่ียวนิยมซ้ือติดไม้ติดมือไปฝากญาติผู้ใหญ่ พี่น้อง เพ่ือนฝูง ในทุกโอกาสที่มาท่องเท่ียวทาง ภาคเหนือ แคบหมูเป็นอาหารที่มคี ุณค่าทางอาหารครบถ้วน หากนาแคบหมูมาประกอบอาหารชนิดตา่ ง ๆ เชน่ แกงบอน ส้ามะเขือแจ้หรือส้ามะเขือขึ่น ตลอดจนรับประทานเป็นเครื่องเคียงกับน้าพริกหนุ่ม น้าพริกอ่อง นา้ พริกตาแดง ขนมจนี นา้ เง้ียว และส้มตา แคบหมูเป็นอาหารที่ได้จากการนาหนังหมูไปทอดน้ามัน โดยผ่านข้ันตอนต่าง ๆ อันเป็นมรดก ภูมิปัญญาของชาวบ้านล้านนาไทยสืบทอดกันมาเป็นเวลาช้านาน แคบหมู คือ หนังหมูทอดกรอบ มีลักษณะ กรอบพอง มีรสชาตกิ ลมกล่อม และมกี ลิน่ หอมชวนรบั ประทาน “แคบหมูแม่จนั ทรส์ วย” เริ่มตน้ จากแม่จันทร์ และแมส่ วย ท่เี ปน็ เพื่อนกัน ได้เรียนรกู้ ารทาแคบหมูจาก มารดา และได้มาร่วมมือกนั ทาแคบหมูขายภายในชุมชน ต่อมาได้มีการรวมตัวกนั ของกลุ่มแมบ่ ้านภายในชุมชน ตงั้ กลมุ่ วสิ าหกจิ ชุมชนเพอื่ ทาผลติ ภัณฑแ์ คบหมมู าจาหนา่ ย นาโดยนางบุญตา ขุมเงนิ ซ่งึ เปน็ ทายาทของเจ้าของ สูตรการทาแคบหมู และเพื่อเป็นเกียรติต่อเจ้าของสูตรแคบหมู จึงได้นาชื่อของแม่จันทร์ และแม่สวย มาตั้งชื่อ เป็น “แคบหมูแม่จนั ทร์สวย” “แคบหมูแม่จันทร์สวย” เริ่มก่อต้ังมาแล้วกว่า ๒๐ ปี โดยมีผลิตภัณฑ์จาหน่ายอยู่ ๔ รายการ คือ แคบหมูไร้มัน แคบหมูติดมัน แคบหมูกระจก และแคบหมูป๊อป (โดยใช้ไมโครเวฟในการทาให้สุก) ได้รับ มาตรฐาน GMP และมี อย.รับรอง เคยได้รับมาตรฐานโอทอป ๕ ดาวระดับประเทศ สามปีซ้อน โดยมีสโลแกน ของผลิตภัณฑ์ ดังนี้ “แคบหมแู ม่จันทร์สวย กรอบ สะอำด อร่อย” ๓.๒) ขั้นตอน/วธิ กี าร/ดาเนนิ การเกี่ยวกับข้อมูล ข้นั ตอนการทาแคบหมู ๑. นาหนงั หมูสดมาต้มให้สุก ๒. ทาการขดู ขนหนงั หมอู อกให้หมด และนาหนงั หมูมาลา้ งนา้ ทาความสะอาด ๓. ตัดหนังหมูออกเป็นชนิ้ จากนน้ั นาเข้าเครอื่ งตดั ให้เปน็ เส้น ๆ ๔. นาเคร่ืองหมูมาปรุงรสชาติ ๕. นาเครอ่ื งหมูมารวน ด้วยการทอดในน้ามนั พอใหแ้ ตก จากนั้นนามาพัก ๖. นามาทอดในนา้ มนั ร้อนให้แคบหมูกรอบ ๗. บรรจุลงในบรรจุภณั ฑ์
. -287- ๔. ชือ่ ผู้ท่ีถือปฏิบัตแิ ละผสู้ บื ทอด ๔.๑ ผู้ทถ่ี ือปฏิบตั ิ ช่อื นางบญุ ตา ขุมเงิน วัน เดอื น ปเี กดิ ๕ สิงหาคม ๒๕๐๕ ท่อี ยู่ ๕๘/๑ หมู่ ๑๙ ตาบลเวียงชัย อาเภอเวียงชยั จงั หวดั เชียงราย หมายเลขโทรศัพท์ ๐๙๕ ๒๓๖ ๑๕๕๖ ๔.๒ ผู้สบื ทอด ชอื่ นางสาวสุภชา ขมุ เงิน วัน เดอื น ปีเกดิ ๒๗ มถิ ุนายน ๒๕๓๙ ทอ่ี ยู่ ๗๘ หมู่ ๑๙ ตาบลเวยี งชยั อาเภอเวยี งชยั จังหวัดเชียงราย หมายเลขโทรศัพท์ ๐๙๕ ๖๘๐ ๓๑๗๗ ๕. สถำนะ กำรคงอยู่ ปฏบิ ตั ิอย่างแพร่หลาย เสยี่ งตอ่ การสูญหาย ไม่มีปฏบิ ตั แิ ลว้ ๖. รูปภำพภูมิปญั ญำทำงวัฒนธรรม/กจิ กรรมทำงภูมปิ ัญญำทำงวัฒนธรรม นาหนงั หมมู าตม้ ให้สกุ ทาการขูดขนหนังหมอู อกให้หมด นาหนงั หมูมาทอดให้กรอบ นาแคบหมูมาบรรจลุ งในบรรจุภณั ฑ์ นางบญุ ตา ขุมเงนิ และผลิตภณั ฑ์
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147
- 148
- 149
- 150
- 151
- 152
- 153
- 154
- 155
- 156
- 157
- 158
- 159
- 160
- 161
- 162
- 163
- 164
- 165
- 166
- 167
- 168
- 169
- 170
- 171
- 172
- 173
- 174
- 175
- 176
- 177
- 178
- 179
- 180
- 181
- 182
- 183
- 184
- 185
- 186
- 187
- 188
- 189
- 190
- 191
- 192
- 193
- 194
- 195
- 196
- 197
- 198
- 199
- 200
- 201
- 202
- 203
- 204
- 205
- 206
- 207
- 208
- 209
- 210
- 211
- 212
- 213
- 214
- 215
- 216
- 217
- 218
- 219
- 220
- 221
- 222
- 223
- 224
- 225
- 226
- 227
- 228
- 229
- 230
- 231
- 232
- 233
- 234
- 235
- 236
- 237
- 238
- 239
- 240
- 241
- 242
- 243
- 244
- 245
- 246
- 247
- 248
- 249
- 250
- 251
- 252
- 253
- 254
- 255
- 256
- 257
- 258
- 259
- 260
- 261
- 262
- 263
- 264
- 265
- 266
- 267
- 268
- 269
- 270
- 271
- 272
- 273
- 274
- 275
- 276
- 277
- 278
- 279
- 280
- 281
- 282
- 283
- 284
- 285
- 286
- 287
- 288
- 289
- 290
- 291
- 292
- 293
- 294
- 295
- 296
- 297
- 298
- 299
- 300
- 301
- 302
- 303
- 304
- 305
- 306
- 307
- 308
- 309
- 310
- 311
- 312
- 313
- 314
- 315
- 316
- 317
- 318
- 319
- 320
- 321
- 322
- 323
- 324
- 325
- 326
- 327
- 328
- 329
- 330
- 331
- 332
- 333
- 334
- 335
- 336
- 337
- 338
- 339
- 340
- 341
- 342
- 343
- 344
- 345
- 346
- 347
- 348
- 349
- 350
- 351
- 352
- 353
- 354
- 355
- 356
- 357
- 358
- 359
- 360
- 361
- 362
- 363
- 364
- 365
- 366
- 367
- 368
- 369
- 370
- 371
- 372
- 373
- 374
- 375
- 376
- 377
- 378
- 379
- 380
- 381
- 382
- 383
- 384
- 385
- 386
- 387
- 388
- 389
- 390
- 391
- 392
- 393
- 394
- 395
- 396
- 397
- 398
- 399
- 400
- 401
- 402
- 403
- 404
- 405
- 406
- 407
- 408
- 409
- 410
- 411
- 412
- 413
- 414
- 415
- 416
- 417
- 418
- 419
- 420
- 421
- 422
- 423
- 424
- 425
- 426
- 427
- 428
- 429
- 430
- 431
- 432
- 433
- 434
- 435
- 436
- 437
- 438
- 439
- 440
- 441
- 442
- 443
- 444
- 445
- 446
- 447
- 448
- 449
- 450
- 451
- 452
- 453
- 454
- 455
- 456
- 457
- 458
- 459
- 460
- 461
- 462
- 463
- 464
- 465
- 466
- 467
- 468
- 469
- 470
- 471
- 472
- 473
- 474
- 475
- 476
- 477
- 478
- 479
- 480
- 481
- 482
- 483
- 484
- 485
- 486
- 487
- 488
- 489
- 490
- 491
- 492
- 493
- 494
- 495
- 496
- 497
- 498
- 499
- 500
- 501
- 502
- 503
- 504
- 505
- 506
- 507
- 508
- 509
- 510
- 511
- 512
- 513
- 514
- 515
- 516
- 517
- 518
- 519
- 520
- 521
- 522
- 523
- 524
- 525
- 526
- 527
- 528
- 529
- 530
- 531
- 532
- 533
- 534
- 535
- 536
- 537
- 538
- 539
- 540
- 541
- 542
- 543
- 544
- 545
- 546
- 547
- 548
- 549
- 550
- 551
- 552
- 553
- 554
- 555
- 556
- 557
- 558
- 559
- 560
- 561
- 562
- 563
- 564
- 565
- 566
- 567
- 568
- 569
- 570
- 571
- 572
- 573
- 574
- 575
- 576
- 577
- 578
- 579
- 580
- 581
- 582
- 583
- 584
- 585
- 586
- 587
- 588
- 589
- 1 - 50
- 51 - 100
- 101 - 150
- 151 - 200
- 201 - 250
- 251 - 300
- 301 - 350
- 351 - 400
- 401 - 450
- 451 - 500
- 501 - 550
- 551 - 589
Pages: