Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore มรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรม จังหวัดเชียงราย ประจำปี ๒๕๖๕

มรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรม จังหวัดเชียงราย ประจำปี ๒๕๖๕

Description: มรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรม จังหวัดเชียงราย ประจำปี ๒๕๖๕

Search

Read the Text Version

. -288- แบบสำรวจมรดกภมู ปิ ญั ญำทำงวัฒนธรรมจังหวดั เชยี งรำย ประจำปี ๒๕๖๕ สภำวัฒนธรรมจังหวดั เชยี งรำย อำเภอแม่ฟำ้ หลวง จังหวดั เชยี งรำย ๑. ชื่อข้อมูล ซาลาเปา ยนู นาน ๒. ลักษณะ  วรรณกรรมพนื้ บ้านและภาษา  ศิลปะการแสดง  แนวปฏิบัติทางสงั คมพิธีกรรม ประเพณี และเทศกาล  อาหาร/ความรูแ้ ละการปฏบิ ัติเกี่ยวกบั ธรรมชาตแิ ละจักรวาล  งานชา่ งฝีมอื ดั้งเดมิ  การละเล่นพ้ืนบา้ น กีฬาพนื้ บา้ น และศลิ ปะการต่อสู่ป้องกันตวั ๓. รำยละเอียดขอ้ มลู ๓.๑) ประวัตคิ วามเป็นมาของขอ้ มลู ซาลาเปาเป็นอาหารจีนชนดิ หน่ึงทามาจากแป้งสาลีและยีสต์ และนามาผ่านขบวนการนึ่ง ซาลาเปาจะมี ไส้อยู่ภายในโดยอาจจะเป็นเน้ือหรือผัก ซาลาเปาที่นิยมนามารับประทานได้แก่ ซาลาเปาไส้หมู และ ซาลาเปา ไส้ครีม สาหรับอาหารท่ีมีลักษณะคล้ายซาลาเปา ท่ีไม่มีไส้จะเรียกว่า หม่ันโถว นอกจากนี้ซาลาเปายังคงเป็น สว่ นหนึ่งในชุดอาหารตมิ่ ซา ในวัฒนธรรมจนี ซาลาเปาสามารถนามารบั ประทานไดใ้ นทกุ มื้ออาหาร ซง่ึ นิยมมาก ในม้อื อาหารเชา้ ซาลาเปาได้ช่ือว่าได้รับการคิดค้นข้ึนมาโดย จูกัดเหลียง หรือ ขงเบ้ง ในคริสต์ศตวรรษท่ี 2 เม่ือจูกัดเหลียง กลับจากการต่อสู้กับเบ้งเฮ็กแล้วก็เดินทางมากถึงแม่น้าแห่งหน่ึงท่ีคนแถวน้ันเช่ือว่ามีวิญญาณสิงอยู่ใต้น้า ทหารบอกจกู ัดเหลยี งวา่ ถา้ จะข้ามฟาก ต้องตัดหวั ทหารท้ังหมดเพ่ือบูชาดวงวิญญาณ แต่จูกดั เหลยี งไม่อยากให้ ทหารต้องตายจึงคิดการทาหมั่นโถวขึ้นมา แล้วปล่อยให้ลอยตามน้าเพ่ือบูชาดวงวิญญาณ เม่ือบูชาแล้ว จูกัดเหลียง ก็พาทหารข้ามสะพานไปยงั พระนครเซงโต๋ ๓.๒) ขน้ั ตอน/วิธีการ/ดาเนนิ การเกยี่ วกับข้อมูล ร่อนแป้งสาลี 1-2 ครั้งใส่อ่างผสม เติมยีสต์ผสมให้เข้าด้วยกันแล้วทาแป้งเป็นบ่อตรงกลางพักไว้ผสม น้าอุ่น, น้าตาลทราย, เกลือป่น คนให้ละลายแล้วเทลงในแป้งท่ีทาเป็นบ่อไว้ค่อย ๆ นวด ผสมแป้งให้เข้ากัน จากน้ันปิดฝาพักแป้งไว้ให้ข้ึนฟู ประมาณ 40-50 นาที (ทั้งน้ี ขึ้นอยู่กับอุณหภูมิห้องด้วย ถ้าอากาศเย็นจะทา ให้ข้ึนช้าหน่อย ซึ่งสามารถแก้ไขได้โดยการวางอ่างแป้งบนอ่างน้าอุ่น) เม่ือแป้งขึ้นฟู (เป็น 2 เท่า) นาแป้งส่วนท่ี 2 ร่อนกับผงฟู 1 ครั้งเติม ลงในแป้งส่วนที่ 1 ที่ขึ้นฟูแล้วคราวนี้จะต้องนวดแป้ง นวดพอแป้งเข้ากัน เติมเนยขาว นวดต่อจนเนื้อแป้งเนียนนุ่มและไม่ติดมือ นามาตัดเป็นก้อนๆละ ประมาณ 25-30 กรัม ส่วนนี้ได้ประมาณ 30-35 ลูก แล้วคลึงให้ผิวเรียบเนียน ทาจนหมดทุกลูก วางบนกระดาษขาว คลุมผ้าขาวบางที่ชุบน้าบิดหมาด ๆ เพ่ือไม่ให้แป้งแห้งวางพักไว้จนขึ้นฟูเป็น 2 เท่า นาไปนึ่งในลังถึงที่น้าเดือดพล่าน (ในลังถึงควรใส่น้า 3/4 ของ กน้ ลงั ถึง) เวลานง่ึ ประมาณ 10 นาที เปิดลังถงึ แลว้ จงึ ยกลง ๔. ชอื่ ผ้ทู ี่ถอื ปฏิบตั แิ ละผ้สู บื ทอด ๔.๑ ผู้ทีถ่ ือปฏบิ ัติ ช่อื นางเชยี วกุย๋ พรสวรรค์เลศิ วัน เดือน ปเี กิด - ที่อยู่ ร้านจาหน่ายอาหารซาลาเปายนู าน บ้านหว้ ยผ้งึ หมู่ ๒ ตาบลแม่สลองใน อาเภอแม่ฟา้ หลวง จังหวัดเชียงราย หมายเลขโทรศัพท์ 053-730 164 , 082 191 5276

. ๔.๒ ผ้สู ืบทอด -๒89- ชอ่ื วัน เดอื น ปเี กดิ - ทอี่ ยู่ - - หมายเลขโทรศัพท์ - ๕. สถำนะ กำรคงอยู่ ปฏิบัตอิ ยา่ งแพร่หลาย  เส่ยี งตอ่ การสูญหาย  ไมม่ ปี ฏิบตั แิ ล้ว ๖. รปู ภำพภมู ิปญั ญำทำงวัฒนธรรม/กจิ กรรมทำงภูมปิ ัญญำทำงวฒั นธรรม

. -290- แบบสำรวจมรดกภมู ิปัญญำทำงวฒั นธรรมจังหวดั เชยี งรำย ประจำปี ๒๕๖๕ สภำวัฒนธรรมจงั หวัดเชยี งรำย อำเภอขุนตำล จงั หวัดเชยี งรำย ๑. ช่ือข้อมลู ตม้ เต้าหู้ (โจ๊วตะโปด่ ๊ับ) ๒. ลกั ษณะ  วรรณกรรมพน้ื บ้านและภาษา  ศลิ ปะการแสดง  แนวปฏบิ ตั ทิ างสงั คมพิธีกรรม ประเพณี และเทศกาล  อาหาร/ความรู้และการปฏบิ ัติเกีย่ วกับธรรมชาติและจักรวาล  งานช่างฝีมอื ดั้งเดิม  การละเล่นพ้ืนบา้ น กีฬาพ้ืนบา้ น และศลิ ปะการตอ่ สู่ป้องกนั ตวั ๓. รำยละเอยี ดข้อมูล ๓.๑) ประวัติความเป็นมาของขอ้ มูล เจ้าของภูมิปัญญา คือ นางร่งุ ตพิ ร อาทรประชาชิต ผู้ใหญ่บา้ น หมู่ 10 ตาบลยางฮอม อาเภอขนุ ตาล จงั หวดั เชยี งราย ตม้ เต้าหู้ (โจว๊ ตะโป่ดบั๊ ) เป็นเมนูอาหารของชาตพิ ันธ์อุ วิ้ เมี้ยน ทจ่ี ะต้องทาในพธิ ีกรรมต่าง ๆ ซงึ่ ได้รบั การสืบทอดมาจากบรรพบุรุษ ๓.๒) ข้ันตอน/วธิ กี าร/ดาเนนิ การเกี่ยวกับขอ้ มูล ตม้ เตา้ หู้ (โจ๊วตะโป่ดบ๊ั ) มสี ่วนผสม ดังน้ี 1. เต้าหู้ก้อน 2. เน้ือหมู 3. เกลอื 4. กระเทียม 5. พรกิ ไทยดา 6. รากผกั ชี ตน้ หอม ผกั ชี 7. ขงิ วธิ ีทา 1. นาหมูมาสบั ให้ละเอยี ด 2. ตาพรกิ ไทย รากผกั ชี กระเทยี ม ให้ละเอียดเข้าดว้ ยกนั 3. นาข้อ 2 ไปคลกุ กบั เนอื้ หมูทส่ี บั ไว้แลว้ ใส่เกลอื คลกุ ให้เข้ากัน แล้วพักไว้ 4. ตัง้ หมอ้ ใช้ไฟกลาง ๆ พอหม้อรอ้ นใส่นา้ มนั หมเู ล็กนอ้ ย พอน้าร้อนใสน่ ้าเปล่าลงไปพอประมาณ ปรงุ รสด้วยเกลอื แลว้ ทุบขงิ ใส่ลงไป พอนา้ เดือด นาข้อ 3 ปัน้ เป็นคา ๆ ใส่ลงไปในน้าเดือด 5. ใสเ่ ต้าหลู้ งไป เป็นชนั้ ตอนสดุ ท้าย ต้มต่อไปจนเดือด แล้วยกลง โรยดว้ ยต้นหอม ผกั ชี ตักใส่ถ้วย พรอ้ มรบั ประทาน

. -291- ๔. ชื่อผทู้ ี่ถือปฏิบัติและผู้สบื ทอด ๔.๑ ผ้ทู ถ่ี อื ปฏิบัติ ชอ่ื นางรงุ่ ตพิ ร อาทรประชาชิต วนั เดอื น ปเี กิด - ทอ่ี ยู่ หมู่ 10 ตาบลยางฮอม อาเภอขนุ ตาล จงั หวัดเชยี งราย หมายเลขโทรศัพท์ - ๔.๒ ผู้สืบทอด ช่อื - วัน เดอื น ปเี กดิ - ทอี่ ยู่ - หมายเลขโทรศัพท์ - ๕. สถำนะ กำรคงอยู่  ปฏิบตั ิอย่างแพร่หลาย  เสี่ยงตอ่ การสญู หาย  ไม่มีปฏบิ ตั แิ ลว้ ๖. รปู ภำพภูมปิ ัญญำทำงวัฒนธรรม/กจิ กรรมทำงภูมิปัญญำทำงวฒั นธรรม -ไม่ม-ี

. -292- แบบสำรวจมรดกภมู ิปญั ญำทำงวัฒนธรรมจงั หวดั เชยี งรำย ประจำปี ๒๕๖4 สำนกั งำนวัฒนธรรมจังหวดั เชยี งรำย อำเภอแม่ลำว จังหวดั เชยี งรำย ๑. ชื่อข้อมลู นวดจบั เสน้ หมอสมุนไพร ๒. ลักษณะ  วรรณกรรมพื้นบ้านและภาษา  ศลิ ปะการแสดง  แนวปฏบิ ัตทิ างสังคมพิธีกรรม ประเพณี และเทศกาล  อาหาร/ความร้แู ละการปฏิบตั เิ กย่ี วกับธรรมชาตแิ ละจักรวาล  งานชา่ งฝีมือดั้งเดมิ  การละเล่นพื้นบ้าน กีฬาพ้นื บา้ น และศลิ ปะการต่อสูป่ ้องกันตวั ๓. รำยละเอียดข้อมลู ๓.๑) ประวัติความเป็นมาของข้อมลู หมอนวดจบั เส้นเป็นภมู ปิ ญั ญาทอ้ งถ่ินท่ีมีมาช้านาน ซงึ่ ในสมัยกอ่ น ชาวบา้ นท่ีออกไปทาไร่ทานา มกั มีอาการ ปวดเม่ือยกล้ามเนื้อเนื่องจากการทางานหนัก ซ่ึงในสมัยก่อนไม่มีแพทย์แผนปัจจุบัน ชาวบ้านจึงต้องพ่ึง \"หมอนวดจับเส้น\" ซ่ึงเป็นการนวดเพื่อคลายกล้ามเนื้อให้หายจากอาการเจ็บปวด ซ่ึงการนวดมีประโยชน์มาก ต่อสุขภาพ แตค่ วรพจิ ารณาถึงผ้นู วดและขอ้ ควรระวงั ควรมีการออกกาลงั ร่วมดว้ ย เพราะจะทาให้สุขภาพแขง็ แรงยิ่งขึ้น ๓.๒) ขนั้ ตอน/วิธกี าร/ดาเนนิ การเกยี่ วกับข้อมูล การนวดแบ่งตามสรรพคุณออกเป็น 3 อย่าง คือ นวดเพ่ือสนุขภาพ นวดเพ่ือการบาบัดรักษาและนวด เพ่ือการฟื้นฟูสรรถภาพ นอกจากน้ีการนวดแผนโบราณยังแบ่งออกได้ตามกรรมวิธีการนวดเป็น 2 อย่างใหญ่ๆ คือ นวดเชลยศักด์ิ และนวดราชสานัก บางแห่งแบ่งนวดฝ่าเท้าออกมาต่างหาก นวดเพื่อส่งเสริมสุขภาพนวด ได้ทุกคนโดยเฉพาะผู้สูงอายุ เพราะการนวดสามารถกระตุ้นระบบต่าง ๆ ของร่างกายทาให้สดช่ืน ผ่อนคลาย นอนหลับสบาย หากนวดเพื่อการบาบัดรักษา จะมีประโยชน์มากในกลุ่มอาการปวด โดยเฉพาะปวดเมื่อย ปวดกล้ามเนอ้ื ไมว่ ่าจะเป็นปวดหลงั ปวดคอ ปวดคอ โรคเครียด โรคนอนไมห่ ลบั การนวดด้วยยาสมุนไพร เปน็ การเสรมิ ความลนื่ ทาใหน้ วดไล้ไปตามลาตัว กลา้ มเน้ือได้ง่ายข้ึน แต่ความ แรงหรือน้าหนักจะควบคุมลาบาก ส่วนการนวดด้วยน้ามัน หมายถึง น้ามันหอมระเหย เรียกว่า สุคนธบาบัด เป็นการใช้นา้ มันหอมระเหยท่ีเชื่อว่าผลในการบาบัดรักษาโดยการสูดกลิ่นหรือซมึ ผ่านทางผิวหนงั น้ามันระเหย แต่ละชนิดมีสรรพคุณต่างกัน เช่น น้ามันช่วยบรรเทาอาการปวดเมื่อย น้ามันลดอาการเครียดกระตุ้นอารมณ์ โรแมนติก เปน็ ตน้ ๔. ช่ือผทู้ ถ่ี ือปฏิบัติและผู้สืบทอด 4.๑ ผทู้ ถ่ี ือปฏบิ ัติ ช่อื นายมา มะโนวัน วนั เดือน ปเี กดิ - ท่ีอยู่ 26 หมู่ ๔ ตาบลดงมะดะ อาเภอแมล่ าว จังหวัดเชียงราย หมายเลขโทรศัพท์ -

. -2๙3- 4.๒ ผู้สบื ทอด ชอื่ นางจนั ทร์แสง พุธสี วนั เดอื น ปีเกิด - ทอ่ี ยู่ ๕๔ หมู่ ๔ ตาบลดงมะดะ อาเภอแมล่ าว จงั หวัดเชยี งราย หมายเลขโทรศัพท์ - 5. สถำนะ กำรคงอยู่  ปฏบิ ตั ิอย่างแพรห่ ลาย  เสย่ี งตอ่ การสญู หาย  ไม่มีปฏบิ ัตแิ ลว้ 6. รูปภำพภูมิปญั ญำทำงวัฒนธรรม/กิจกรรมทำงภูมปิ ัญญำทำงวฒั นธรรม การนวดจบั เส้นและตอกเส้น ยาท่ีใชน้ วดใช้ยาสมนุ ไพร การนวดใหบ้ รกิ ารแก่ชาวบ้าน

. -294- แบบสำรวจมรดกภมู ิปัญญำทำงวฒั นธรรมจงั หวดั เชยี งรำย ประจำปี ๒๕๖๕ สภำวฒั นธรรมจังหวดั เชยี งรำย อำเภอแมล่ ำว จงั หวัดเชยี งรำย ๑. ช่ือข้อมูล นา้ เงี้ยว ๒. ลักษณะ  วรรณกรรมพื้นบ้านและภาษา  ศลิ ปะการแสดง  แนวปฏิบัติทางสงั คมพิธีกรรม ประเพณี และเทศกาล  อาหาร/ความรู้และการปฏิบตั เิ ก่ียวกับธรรมชาติและจักรวาล  งานชา่ งฝมี ือดั้งเดมิ  การละเล่นพื้นบา้ น กีฬาพน้ื บา้ น และศลิ ปะการตอ่ สู่ป้องกนั ตัว ๓. รำยละเอียดข้อมลู ๓.๑) ประวตั ิความเปน็ มาของขอ้ มลู น้าเงี้ยว หรือขนมเส้นน้าเง้ียว เป็นอาหารของทางภาคเหนือของไทย มีรสชาติคล้ายน้าพริกอ่อง หรือคล้ายน้าพริกแกงส้มของทางภาคกลาง จุดเด่นของรสชาติจะอยู่ท่ีส่วนผสมของพริกแกง หรือพริกน้าเงี้ยว ในแต่ละพ้ืนที่มีส่วนผสมท่ีแตกต่างกัน ทาให้เกิดเป็นเอกลักษณ์ของแต่ละพื้นท่ีน้ัน ๆ เมนูน้าเง้ียว มีขั้นตอน การทาท่ีไม่ยุ่งยาก มักจะทารับประทานกันโดยทั่วไป หรอื เวลามีงานเล้ียง โดยจะทาเป็นหม้อใหญ่ เหมาะกับงานท่ีมี คนจานวนมาก กลุ่มน้าพริกแม่บ้าน ได้เริ่มต้นจากการแบ่งกลุ่มย่อยมาจากกลุ่มแม่บ้านเกษตรกรบ้านป่าก่อดาใต้ เพื่อจด ทะเบียนวิสาหกิจชุมชน เพ่ือดาเนินกิจกรรมตามความถนัดของแต่ละบุคคล เร่ิมต้นมีกันอยู่ประมาณ 10 คน ปัจจุบันมีทั้งหมด 25 คน ทางกลุ่มแม่บ้านได้ช่วยเหลืองานของชุมชนโดยตลอด เมื่อทางชุมชนมีงานบุญหรือ งานอวมงคลขึ้น ทางกลุ่มแม่บ้านต้องทาตาน้าพริกกันเองในทุกครั้ง บางคร้ังเกิดความยุ่งยากในการเตรียมงาน จึงรเิ รม่ิ ความคดิ ในการทาพริกสาเร็จรูปไว้ เพอ่ื ประหยัดเวลาในการปรุงอาหาร ๓.2) ข้นั ตอน/วิธกี าร/ดาเนนิ การเกย่ี วกับข้อมลู ส่วนประกอบนา้ เง้ยี ว 1. พริกแกงน้าเงีย้ ว 500 กรัม 2. ซีโ่ ครงหมู 500 กรมั 3. หมูบด 500 กรัม 4. เลือดไก่ 3 กอ้ น 5. มะเขอื เทศสดี า 1 กิโลกรัม 6. ดอกง้วิ ตามชอบ 8. กระเทียมเจียว 9. เครอื่ งปรงุ – น้าปลา นา้ ตาล (ตามชอบ) 7. ผกั เคยี ง – ผักชตี น้ หอม, ถ่ัวงอก, กะหล่าปลีซอย, พริกแหง้ ทอด (ตามชอบ) สว่ นประกอบพรกิ แกงนา้ เงี้ยว 1.ถ่วั เน่าแผ่น 2.พรกิ เมด็ ใหญ่ 1 กโิ ลกรัม 3.พรกิ เมด็ เล็ก 1 กิโลกรมั 4.หอมแดง 5.กระเทยี ม 6.กะปิ 7.นา้ มนั พชื

. -๒๙5- ขน้ั ตอนการทาน้าเงยี้ ว 1. เริม่ เคีย่ วกระดกู อ่อน รอไว้ใหเ้ ปอ่ื ย 2. ถ้าใสด่ อกงว้ิ ใหแ้ ช่ดอกงว้ิ เตรียมไวป้ ระมาณ 1 ชัว่ โมง เพอ่ื เวลาต้มจะไดเ้ ปื่อยเรว็ 3. หัน่ เลือดไก่ มะเขือเทศ เตรยี มไว้ 4. นาพริกแกงมาผัดกบั นา้ มันจากการเจียวกระเทยี ม ถ้าไม่มีใชน้ ้ามนั พืชได้ 5. นามะเขือเทศไปผดั กบั พริกแกงให้มะเขือเทศสุก 6. เทพริกแกงกับมะเขือทผี่ ดั ไว้ ลงในหม้อน้าซปุ เคี่ยวกระดูก ตามดว้ ยหมบู ดและเลอื ดไก่ 7. คนทกุ อย่างใหล้ ะลายเข้ากัน ปรุงรสด้วยน้าปลา นา้ ตาลตามชอบ เม่ือนา้ เดือดให้ลดไฟลง 8. ใส่ดอกงวิ้ ที่แช่น้าลงไปเคย่ี วด้วย เพือ่ ให้เป่ือย 9. เมื่อทุกอย่างเป่ือยเข้ากนั ให้ลดไฟออ่ น 10. จดั เตรยี มเส้นขนมจนี หรือเสน้ ใหญ่ ไวใ้ นถ้วย ตกั นา้ เงี้ยวราด 11. โดยดว้ ยเครอื่ งเคยี ง กระเจยี มเจยี ว ผกั ต่าง ๆ ข้นั ตอนการทาพรกิ นา้ เงี้ยว 1. นาพรกิ ไปคั่ว 30-40นาที 2. นาพริกคัว่ ถั่วเนา่ แผ่น หอมแดง กระเทยี ม กะปิ ปน่ั ผสมกนั ใหล้ ะเอยี ด 3. นาส่วนผสมทีป่ ่ันละเอียดแล้ว ไปค่วั น้ามัน 1 ชัว่ โมง 4. นาพรกิ นา้ เงยี้ วทีค่ ว่ั แล้ว ข้ึนผึ่งใหเ้ ยน็ 5. นาไปประกอบอาหาร หรอื บรรจลุ งบรรจภุ ัณฑ์ ๔. ช่อื ผู้ท่ีถอื ปฏิบัติและผสู้ บื ทอด ๔.๑ ผ้ทู ี่ถอื ปฏิบัติ ช่อื นางสุพนิ สิงหนาท วนั เดอื น ปีเกดิ - ที่อยู่ 222 หม่ทู ี ๘ ตาบลป่ากอ่ ดา อาเภอแม่ลาว จังหวดั เชียงราย ๒๗๒๕๐ หมายเลขโทรศัพท์ ๐๘๔-๖๑๖-๕๔๔๘ ๔.๒ ผู้สบื ทอด ช่อื อาพร พรหมะศรี วัน เดอื น ปเี กดิ ปพี .ศ.๒๕๐๘ ท่อี ยู่ ๒๑๘ บ้านป่าก่อดาใต้ หมู่ที่ ๘ ตาบลป่าก่อดา อาเภอแม่ลาว จังหวดั เชยี งราย ๒๗๒๕๐ หมายเลขโทรศัพท์ 087-302-4629 ๕. สถำนะ กำรคงอยู่  ปฏิบตั ิอย่างแพร่หลาย  เสย่ี งต่อการสูญหาย  ไมม่ ีปฏบิ ัตแิ ลว้ ๖. รูปภำพภมู ปิ ัญญำทำงวัฒนธรรม/กิจกรรมทำงภูมปิ ัญญำทำงวัฒนธรรม

. -296- “ตัวอย่างผลติ ภัณฑ์พรกิ น้าเงี้ยว” “การตากแหง้ พริก และ พรกิ แหง้ ท่ีไดจ้ ากการตาก” “กลมุ่ แมบ่ า้ นกาลังบรรจุพริกนา้ เงยี้ วลงบรรจุภณั ฑ์”

. -297- แบบสำรวจมรดกภมู ิปัญญำทำงวฒั นธรรมจังหวดั เชยี งรำย ประจำปี ๒๕๖๕ สภำวัฒนธรรมจังหวัดเชยี งรำย อำเภอเวียงแกน่ จงั หวดั เชยี งรำย ๑. ช่ือข้อมลู นา้ พรกิ ซั่มจ้นิ ๒. ลกั ษณะ  วรรณกรรมพนื้ บา้ นและภาษา  ศลิ ปะการแสดง  แนวปฏบิ ัติทางสังคมพธิ ีกรรม ประเพณี และเทศกาล  อาหาร/ความรแู้ ละการปฏิบตั ิเกย่ี วกบั ธรรมชาติและจักรวาล  งานชา่ งฝีมือดงั้ เดิม  การละเลน่ พ้ืนบา้ น กีฬาพ้นื บา้ น และศลิ ปะการต่อสู่ป้องกันตัว ๓. รำยละเอียดขอ้ มลู ๓.๑) ประวตั คิ วามเปน็ มาของขอ้ มูล เมอื่ ประมาณปี พ.ศ.2460 ร้อยกวา่ ปีที่แล้ว มพี อ่ อุย้ หม่อนวงค์ ริบต๊ะ ทา่ นเป็นพ่อหลวงบา้ น สมัยแต่ ก่อนในหมู่บ้านมีงานจะมีการล้มวัว ควายหรือหมูชุมกัน ซ่ึงเป็นสัตว์ใหญ่เพ่ือนาไปประกอบอาหาร ก็จะนาเน้ือที่ฆ่าไปแจ้งข่าวให้แก่ชาวบ้าน โดยเฉพาะงานวันสาคัญ เช่น ปี๋ใหม่เมือง , วันเข้าพรรษา , ออกพรรษา ได้จี้น (เนื้อ) เยอะมากไม่รู้ทาอย่างไร เนื้อท่ีมีรับบริโภคไม่ทันเพราะไม่มีท่ีเก็บทาให้จ้ิน (เนื้อ) มีกลิ่นตุๆ เลยจุดประกายความคิดข้ึนมาโดยการนาเอาจิ้น (เน้ือ) มาหมักโดยการห่อใบตองแล้วนาไปตากแดด สองแดด จะมีกล่ินของจิ้น (เนอื้ ) ออกมาตๆุ นามาย่างใหส้ ุกหอม เพือ่ จะมาตาเป็น “น้าพรกิ ซ่ัมจ้ิน” “น้าพริกซ่ัมจิ้น” เป็นวิธีการถนอมอาหารแบบหนึ่งท่ีเป็นภูมิปัญญาทางด้านอาหารท่ีมีการสืบทอด กันมาต้ังแต่บรรพบุรุษ เนอื่ งจากเนื้อสตั ว์ที่มีปริมาณทีม่ าก บรโิ ภคไมท่ ัน จึงได้คิดวธิ กี ารถนอมอาหารให้ออกมา ในรูปแบบน้าพริกจิ้นเก็บไว้รับประทานในครอบครัว โดยมีวัตถุดิบหลักจากเน้ือสัตว์ (วัว ควาย หรือหมู) ประกอบกบั ผกั สมนุ ไพรในท้องถ่ิน เช่น ข่า กระเทยี ม หอมแดง นามาแปรรปู เป็น “นา้ พรกิ ซมั่ จิน้ ” เป็นอาหารของชาวไทล้ือ ซึ่งเป็นการการถนอมอาหารวิธีหนึ่ง ท่ีเป็นภูมิปัญญาทางด้านอาหารท่ีมี การสืบทอดกันมาตั้งแต่บรรพบุรุษ มีวิถีการดารงชีวิตในการใช้พืชผักสมุนไพรในท้องถิ่น หรือพืชผักสวนครัว ท่ีปลกู เองตามฤดกู าล นยิ มประกอบอาหารใชน้ ้ามันนอ้ ย และใชเ้ กลอื ในการปรุงรส ๓.๒) ขัน้ ตอน/วิธกี าร/ดาเนินการเกี่ยวกบั ขอ้ มูล สว่ นประกอบ 1. เน้ือสตั ว์ 1 กิโลกรัม 2. ขา่ ห่ันฝอย 2 ขดี 3. ใบมะกรูดหนั่ ฝอย 1 ขีด 4. กระเทยี มเจียว 1 ขดี 5. หอมแดง 1 ขีด 6. พริกแห้งคั่วป่น 2 ขดี 7. เกลือปน่ 1 ช้อนโตะ๊ 8. ผงชรู ส ½ ชอ้ นชา

. -298- ข้นั ตอนกำรทำ ๑. นาเนอื้ ววั หรอื เน้ือควายทผี่ า่ นการหมักเรยี บรอ้ ยแล้ว นามานงึ่ ใหส้ ุก จากนนั้ นาไปยา่ งด้วยไ ฟอ่อนให้หอม เมื่อยา่ งเสร็จแลว้ นามาทุบหรอื ตาให้ยุย่ เสรจ็ แล้วพักไว้ ๒. โขลกกระเทียม ซอยหอมแดง ข่า จากนั้นนามาเจียวด้วยน้ามันให้เหลืองและมีกล่ินหอม เสรจ็ แล้วพกั ไว้ ๓. นาวัตถุดิบทุกอย่าง (เนื้อย่างท่ีทุบหรือตาจนยุ่ย กระเทียม หอมแดง ข่า และพริกป่น) ลงมาผัด รวมกันด้วยไฟออ่ นจนมกี ล่นิ หอม ๔. ชอ่ื ผ้ทู ี่ถอื ปฏิบตั แิ ละผู้สืบทอด ๔.๑ ผู้ทีถ่ ือปฏิบัติ ช่อื นางอัมพร แกว้ สุข วัน เดอื น ปีเกดิ - ท่ีอยู่ 25/3 หมู่ 5 ตาบลทา่ ขา้ ม อาเภอเวยี งแกน่ จังหวดั จงั หวัดเชียงราย หมายเลขโทรศัพท์ 089 999 6444 ๔.๒ ผู้สืบทอด ชือ่ อ - วัน เดอื น ปเี กดิ - ท่อี ยู่ - หมายเลขโทรศัพท์ - ๕. สถำนะ กำรคงอยู่  ปฏบิ ัติอย่างแพรห่ ลาย  เส่ยี งตอ่ การสูญหาย  ไมม่ ีปฏบิ ัติแลว้ ๖. รูปภำพภูมปิ ญั ญำทำงวัฒนธรรม/กิจกรรมทำงภูมปิ ัญญำทำงวฒั นธรรม ส่วนประกอบ เน้ือยา่ ง วิธีทา (การผัดน้าพริก) พรกิ ซมั่ จน้ิ

. -299- แบบสำรวจมรดกภมู ปิ ัญญำทำงวัฒนธรรมจงั หวดั เชียงรำย ประจำปี ๒๕๖๕ สภำวัฒนธรรมจังหวดั เชยี งรำย อำเภอแมฟ่ ำ้ หลวง จังหวดั เชยี งรำย ๑. ชือ่ ข้อมลู นา้ พริกทราย ๒. ลักษณะ  วรรณกรรมพ้นื บ้านและภาษา  ศลิ ปะการแสดง  แนวปฏบิ ัตทิ างสังคมพิธีกรรม ประเพณี และเทศกาล  อาหาร/ความร้แู ละการปฏบิ ตั เิ กย่ี วกับธรรมชาติและจักรวาล  งานช่างฝีมอื ดง้ั เดมิ  การละเล่นพ้นื บ้าน กีฬาพืน้ บ้าน และศิลปะการตอ่ สู่ป้องกันตวั ๓. รายละเอียดข้อมลู ๓.๑) ประวตั คิ วามเปน็ มาของข้อมลู บ้ำนเทดิ ไทย ตงั้ อยูท่ ีต่ าบลเทอดไทย อาเภอแมฟ่ ้าหลวง จงั หวัดเชยี งราย ประชาชนทพี่ ักอาศัยอยู่ใน หมูบ่ ้านสว่ นใหญ่เปน็ ชาวไทยใหญ่ และมีคนพน้ื เมอื งเดิมอยู่รวมกัน อาหารพื้นบ้านส่วนใหญ่จึงมีลักษณะผสมผสานระหว่างอาหารพื้นเมือง และอาหารไทยใหญ่ โดยเฉพาะนา้ พริกทราย ผลติ ขนึ้ เป็นสูตรแบบไทยใหญ่ โดยได้ใช้วตั ถดุ ิบที่มีอยู่ในชุมชน เพือ่ ได้นาไปเป็นอาหาร รับประทานเวลามีงานพิธีต่าง ๆ เพื่อต้อนรับแขกท่ีมาจากต่างท้องท่ี และเพื่อเป็นของฝาก มีกระบวนการผลิต ไม่ทาลายธรรมชาติและส่ิงแวดล้อมผลิตภัณฑ์มีรสชาติอร่อยสามารถเก็บรักษาไว้ได้นาน วัตถุดิบหาได้ง่าย ในชุมชน ๓.๒) ขัน้ ตอน/วิธกี าร/ดาเนินการเก่ียวกับข้อมลู นาพริกแห้งทเ่ี ดด็ กา้ น และกระเทียมท่ีแกะเปลือกแล้วมาโขลกจนละเอยี ด หอมแดงแกะเปลอื กซอย เป็นแผ่นบาง ๆ ถ่วั เนา่ แผน่ ป้งิ ให้หอมแล้วนามาตา กุ้งแห้ง ปลาย่าง ลา้ งแลว้ ผง่ึ ให้แหง้ แล้วนามาตาใหล้ ะเอยี ด นากระเทยี ม หอมแดง มาทอดให้เหลอื งแลว้ พักทิ้งไว้ให้สะเด็ดน้ามัน โดยใหน้ า้ มันเหลอื ติดกระทะไว้เลก็ น้อย นาน้าพริก ถว่ั เน่า และกุ้งทโี่ ขกละเอยี ดแลว้ มาคั่วรวมกนั โดยใชไ้ ฟอ่อน ๆ เม่ือหอมได้ที่ใสก่ ระเทียมและหอม ท่ที อดไวแ้ ลว้ นามาคั่วรวมกัน ใส่เกลอื ปรุงรส คลุกเคล้าใหเ้ ขา้ กนั จากนัน้ ทง้ิ กระทะไวใ้ ห้น้าพริกเยน็ จงึ ตักใสถ่ ุง บรรจุจาหนา่ ยตอ่ ไป ๔. ชื่อผทู้ ่ีถือปฏิบัตแิ ละผสู้ บื ทอด - ๔.๑ ผ้ทู ี่ถอื ปฏิบัติ - ชือ่ - วัน เดือน ปีเกิด - ทอี่ ยู่ - หมายเลขโทรศัพท์ - ๔.๒ ผู้สืบทอด - ชอ่ื - วัน เดือน ปเี กิด ทอี่ ยู่ หมายเลขโทรศัพท์

. -300- ๕. สถานะ การคงอยู่ ปฏิบตั อิ ยา่ งแพร่หลาย  เสย่ี งตอ่ การสญู หาย  ไม่มปี ฏิบตั แิ ลว้ ๖. รปู ภาพภูมปิ ญั ญาทางวัฒนธรรม/กจิ กรรมทางภูมปิ ัญญาทางวฒั นธรรม

. -301- แบบสำรวจมรดกภมู ิปัญญำทำงวฒั นธรรมจังหวัดเชียงรำย ประจำปี ๒๕๖๕ สภำวัฒนธรรมจงั หวดั เชยี งรำย อำเภอแมส่ ำย จังหวัดเชยี งรำย ๑. ช่ือข้อมูล นา้ พริกนา้ ผัก ๒. ลกั ษณะ  วรรณกรรมพนื้ บา้ นและภาษา  ศิลปะการแสดง  แนวปฏิบตั ทิ างสังคมพิธีกรรม ประเพณี และเทศกาล  อาหาร/ความรู้และการปฏบิ ตั ิเกยี่ วกับธรรมชาตแิ ละจกั รวาล  งานช่างฝีมอื ดง้ั เดิม  การละเล่นพน้ื บา้ น กีฬาพ้นื บา้ น และศลิ ปะการตอ่ สู่ป้องกนั ตวั ๓. รำยละเอียดขอ้ มูล ๓.๑) ประวตั ิความเป็นมาของข้อมูล น้าพริกน้าผัก เป็นอาหารของกลุ่มชาติพันธ์ ไทยลื้อ เกิดจาก ภูมิปัญญาการถนอมและแปรรูปอาหาร อย่างหน่ึงของชาวไทล้ือ ได้จากการนาผักในสวนครัว ซึ่งส่วนใหญ่นิยมใช้ผักกาดจ้อน (ผักกาดกวางตุ้งโดยการ นาผกั กาดดอก มาลา้ งทาความสะอาด แล้วนามาปัน่ จนละเอยี ด ดองไว้ 3วนั 3 คืน จนมีรสเปรย้ี ว นามาเคยี้ ว บนไฟออ่ น จนไดท้ ่ี มนี ้าคุกคลิก เก็บไว้ นามาทาเปน็ น้าพริก เรยี กว่านา้ พริกน้าผัก เป็นอาหารเจ หรือจะกินกับ ปลายา่ ง หรือหมูทอดก็ได้ ๓.๒) ขนั้ ตอน/วธิ กี าร/ดาเนินการเก่ยี วกับข้อมูล สว่ นผสม - กระเทียม - พริกแห้งค่วั จนหอม - มะแขว่ น - เกลือ - รากผกั ชี/ลูกผกั ชดี บิ วธิ ที า นาส่วนผสมทงั้ หมดมาโขลกรวมกันจนละเอียด แลว้ นานา้ ผกั ทีเ่ คย้ี วไว้มาโขลกรวมกนั ปรงุ รสตามชอบ ๔. ชอื่ ผู้ท่ีถือปฏิบัตแิ ละผสู้ ืบทอด ๔.๑ ผู้ที่ถือปฏิบตั ิ ช่ือ นางดี กนั กอบ ผ้เู ปน็ มารดา วัน เดอื น ปีเกดิ - ท่อี ยู่ 117 หมู่ 1 ตาบลแม่สาย อาเภอแม่สาย จงั หวดั เชียงราย หมายเลขโทรศัพท์ - ๔.๑ ผทู้ สี่ บื ทอด ชือ่ นางศริ ิลกั ษณ์ ภเู ช้อื วนั เดอื น ปีเกดิ - ทอี่ ยู่ 117 หมู่ 1 ตาบลแม่สาย อาเภอแม่สาย จงั หวัดเชยี งราย หมายเลขโทรศัพท์ -

. -๓๐2- ๕. สถำนะ กำรคงอยู่  ปฏบิ ตั ิอย่างแพร่หลาย  เสยี่ งต่อการสูญหาย  ไม่มีปฏบิ ตั ิแลว้ ๖. รูปภำพภูมปิ ญั ญำทำงวัฒนธรรม/กิจกรรมทำงภูมปิ ัญญำทำงวัฒนธรรม

. -303- แบบสำรวจมรดกภมู ปิ ญั ญำทำงวฒั นธรรมจงั หวดั เชยี งรำย ประจำปี ๒๕๖4 สำนักงำนวฒั นธรรมจงั หวัดเชยี งรำย อำเภอแมล่ ำว จงั หวดั เชยี งรำย ๑. ชื่อข้อมลู น้าอ้อยคัน้ สด ๒. ลกั ษณะ  วรรณกรรมพนื้ บา้ นและภาษา  ศลิ ปะการแสดง  แนวปฏิบัตทิ างสังคมพิธีกรรม ประเพณี และเทศกาล  อาหาร/ความรู้และการปฏิบัตเิ ก่ียวกับธรรมชาตแิ ละจกั รวาล  งานช่างฝีมือด้ังเดิม  การละเลน่ พนื้ บ้าน กีฬาพนื้ บา้ น และศิลปะการตอ่ สูป่ ้องกันตวั ๓. รำยละเอียดข้อมลู ๓.๑) ประวตั ิความเปน็ มาของข้อมูล เมื่อปี 2557 เชียงรายเกิดแผ่นดินไหวใหญ่ถึงขนาด 6.3 ที่อาเภอแม่ลาว เหตุการณ์คร้ังน้ีทาให้เกิด น้าลาวาและช้นั หินผดุ ทาให้ยากตอ่ การทาเกษตร วิสาหกิจชมุ ชนผู้ปลูกอ้อยอินทรีย์เชียงรายและสมุนไพรจึงนา อ้อยสายพันธ์ุ “สุพรรณบุรี 50” มาปลูกทาให้ได้อ้อยลาใหญ่ รสชาติหวานหอมอย่าง ย“อ้อยลาวา” เร่ิมจาก การคัดเลือกพันธุ์อ้อยจากศูนย์วิจัยพืชไร่อู่ทอง จังหวัดสุพรรณบุรี สายพันธ์ุคั้นน้า “สุพรรณบุรี 50” สามารถ ให้น้าอ้อยเฉลี่ยได้ถึง 4,913 ลิตรต่อไร่ นามาบ่มควบแน่นให้รากงอก ก่อนนาไปเพาะในถุงด้วยอินทรียวัตถุ ในสวน เมื่อกล้าอ้อยมีอายุครบ 25 วัน จึงนาไปปลูกบรเิ วณแปลงเพาะปลูกอยา่ งประณีต โดยใช้เทคนิคเฉพาะ การดูแลใส่ใจด้วยระบบอินทรีย์ นอกจากจะเป็นอ้อยท่ีลาใหญ่ รสชาติหอมหวานแล้ว อีกจุดเด่นของอ้อยลาวา คอื ปลกู ในฟาร์มอินทรยี ์ PGS ORGANIC ท่ไี ด้รบั รองจากมลู นิธเิ กษตรอินทรีย์ไท การเพาะอ้อยกว่าจะสาเรจ็ ต้องใช้ความอดทนเป็นอย่างมาก ต้องผิดหวังซ้าแลว้ ซ้าเล่า การสั่งจองพันธ์ุ มาแต่ละรอบ ๆ ละ 100 ขอ้ ตา ชว่ งฤดหู นาว อากาศหนาวจัด รากไมง่ อก เหลือรอดเพยี ง 7 ถงุ หรอื แม้แตก่ าร รดน้ามากเกินไปก็ทาให้เกิดการเน่าเสียได้ ให้ฝึกการสังเกต ค้นหาสาเหตุ โดยไม่ย่อท้อต่ออุปสรรค ช่วยให้เกิด การเรียนรแู้ ละลงมือทาอยา่ งสมา่ เสมอ จนสาเรจ็ ได้ลาอ้อยทสี่ วยสมบูรณพ์ รอ้ มค้นั นา้ ใหท้ ุกคนไดด้ ื่ม ๓.๒) ข้นั ตอน/วธิ กี าร/ดาเนินการเกยี่ วกบั ขอ้ มลู วัสด/ุ อุปกรณ์ - ออ้ ยสด - มดี 2 คม - มีดอีโต้ - เครื่องรดี นา้ อ้อย - มดี พร้า - สายยาง - ขวดพลาสติก - ผา้ ขาวบาง - ถัง - ถังแช่เย็น ขัน้ ตอน/วธิ ที า 1. ปลอกอ้อย 2. ล้างออ้ ยท่ปี ลอกดว้ ยน้าสะอาด 3. นาออ้ ยไปผึง่ ใหส้ ะเด็ดนา้ 4. นาออ้ ยที่ล้างเสรจ็ สะเด็ดนา้ แลว้ นาเข้าหบี หรอื เครอื่ งรีดน้าออ้ ย เพือ่ รดี น้าออ้ ย 5. นาน้าออ้ ยทไ่ี ดไ้ ปกรองด้วยผ้าขาวบาง 2-3 ครั้ง 6. ใชส้ ายยางกรอกนา้ ออ้ ยลงขวด เสร็จแลว้ ปิดฝา หมำยเหตุ : ควรคั้นน้าอ้อยในสภาพอากาศที่เย็น เช่น ช่วงเช้า หรือ ช่วงเย็น เพราะอากาศร้อนจะทา ให้นา้ ออ้ ยบดู เสยี ได้

. -304- ๔. ชื่อผ้ทู ่ีถอื ปฏิบัติและผู้สืบทอด 4.๑ ผทู้ ่ถี ือปฏิบตั ิ ชื่อ ศวิ ตา เตชะเนตร (สวนวมิ านดนิ ) วนั เดือน ปเี กิด - ท่ีอยู่ 103 หมู่ท่ี 8 ตาบลจอมหมอกแกว้ อาเภอแม่ลาว จังหวัดเชียงราย หมายเลขโทรศัพท์ 091 0695915 / 085 348 7991 4.๒ ผู้สืบทอด ชื่อ กลุ่มผูป้ ลูกอ้อยอินทรยี ์เชียงราย จานวน 20 ครอบครวั 5. สถำนะ กำรคงอยู่  ปฏิบตั ิอย่างแพรห่ ลาย  เสย่ี งต่อการสญู หาย  ไม่มีปฏบิ ตั แิ ลว้ 6. รูปภำพภูมิปัญญำทำงวัฒนธรรม/กจิ กรรมทำงภูมิปัญญำทำงวัฒนธรรม “อ้อยลาวา” อ้อยลาวาให้ลาอ้อยท่ีใหญ่ นา้ ออ้ ยค้ันสด

. -305- การสาธติ การคน้ั น้าอ้อยและการใหค้ วามรเู้ กี่ยวกับการปลกู ออ้ ยลาวาใหแ้ ก่ กลมุ่ ผปู้ ลกู อ้อยอินทรียเ์ ชียงราย จานวน 20 ครอบครัว

. -306- แบบสำรวจมรดกภมู ิปัญญำทำงวัฒนธรรมจังหวัดเชียงรำย ประจำปี ๒๕๖5 สภำวฒั นธรรมจงั หวัดเชยี งรำย อำเภอเวยี งชยั จังหวดั เชียงรำย ๑. ชื่อข้อมลู ปลาส้ม “สองพี่นอ้ ง มั่งม”ี ๒. ลักษณะ  วรรณกรรมพื้นบา้ นและภาษา  ศิลปะการแสดง  แนวปฏิบตั ทิ างสังคมพิธีกรรม ประเพณี และเทศกาล  อาหาร/ความรแู้ ละการปฏบิ ัตเิ ก่ยี วกับธรรมชาติและจักรวาล  งานชา่ งฝีมือดง้ั เดมิ  การละเลน่ พ้นื บ้าน กีฬาพนื้ บ้าน และศิลปะการต่อสู้ป้องกนั ตวั ๓. รำยละเอยี ดขอ้ มลู ๓.๑) ประวตั ิความเป็นมาของข้อมลู หนองหลวง\"เป็นอ่างเก็บน้าตามธรรมชาติท่ีมีความสวยงามและมีขนาดท่ีใหญ่ท่ีสุดของจังหวัด เชียงรายมีพ้ืนท่ีประมาณ 9000 ไร่ ตั้งอยู่ในพ้ืนที่ 3 ตาบล 2 อาเภอ คือ ตาบลเวียงชัย อาเภอเวียงชัย จานวนกว่า 1,000 ไร่ ตาบลดอนศิลา อาเภอเวียงชัย จานวนกว่า 1,000 ไร่ และตาบลห้วยสัก อาเภอเมือง เชียงราย จานวนกว่า 6,000 ไร่ ทั้งน้ี บริเวณรอบปากอ่างเก็บน้าหนองหลวงเชียงราย มีเกาะปรากฏอยู่ ท้ังหมด คือ เกาะแม่หม้าย เกาะดงมะเฟือง เกาะสันป่าเป้า เกาะสันกลาง เกาะทองกวาว เกาะไหมเย็บ (เกาะแม่หยิบ)เกาะขนนุ และเกาะไผ่เหมย ทาให้หนองหลวงมคี วามสวยงามของธรรมชาติอยา่ งมาก ทางอาเภอ เวียงชยั จงึ พัฒนาให้เป็นแหล่งท่องเทย่ี วเชิงเกษตร ผูท้ ม่ี าเยอื นหนองหลวง ทา่ นจะไดช้ มทิวทศั นข์ องระบบนิเวศ ท่ีสวยงาม สวนสาธารณะแหล่งพักผ่อนหย่อนใจรอบ ๆ อ่างเก็บน้า และที่น่าสนใจมากไปกว่าน้ันท่านจะได้พบ กับวิถีชีวิตของชาวบ้านที่ทามาหากินกับแหล่งน้า การล่าสัตว์น้า หาปลา และการแปรรูปปลาจากหนองหลวง เพ่ือนามาทาเป็นผลิตภัณฑ์อาหาร แสนอร่อย หลากชนิด ซ่ึงหากใครได้ล้ิมลอง ทุกคนต้องติดใจโดยเฉพาะ ปลาส้ม ผลิตภัณฑ์แสนอร่อยจากปลา ท่ีกลายเป็นเอกลักษณ์ของหนองหลวง ท่ีใคร ๆ ได้มาเยือน ต้องได้ซื้อ ต้องได้ชมิ ปลาสม้ หนองหลวง ของดีประจาอาเภอเวยี งชัย จังหวัดเชยี งราย ชาวบ้านบ้านหนองหลวง หมู่ 16 ต.เวียงชยั อ.เวียงชัย จ.เชียงราย รู้จักการทาปลาสม้ มาต้ังแต่ สมัยปู่ย่าตายาย จากประสบการณ์ท่ีสืบทอดกันมายาวนาน จากรุ่นสู่รุ่น ทาให้ปลาส้มของที่น่ี มีความอร่อย ที่ไม่เหมือนใคร ปัจจุบันมีชาวบ้านท่ีทาปลาส้มอยู่หลายเจ้า แต่ละเจ้าจะมีความอร่อยท่ีแตกต่างกันไป แต่สาหรับปลาส้มท่ีได้รับความนิยม เป็นผลิตภัณฑ์ระดับสินค้า OTOP ได้รับรองคุณภาพ อย. สะอาดและ ปลอดภยั สาหรับผู้บริโภค ตอ้ งทนี่ ี่ ปลาส้ม “สองพ่นี ้อง ม่ังมี” โดยคุณบวั จนั ทร์ เครอื ตา ๓.๒) ข้นั ตอน/วิธกี าร/ดาเนนิ การเกี่ยวกบั ขอ้ มูล การทาปลาส้มเนื้อ (๑) ใช้ปลาสด โดยใช้ปลาเกลด็ เช่นปลานิล ปลานวลจันทร์ ปลาย่ีสก ปลาตะเพียน ให้นาปลา สดมาล้างและขอดเกล็ดปลาออกให้หมด ลอกหนังปลาออก ชาแหละเอาแต่เน้ือ ถอดก้างปลาออกให้หมด ซ่ึงปลาสด 100 กิโลกรัม ถ้านามาชาแหละแลว้ จะได้เนอื้ ปลา 40 กิโลกรัม (๒) นาปลาทไี่ ด้ไปลา้ งน้าเปล่าใหส้ ะอาดแล้วนาไปแชใ่ นนา้ ซาวข้าว 10 นาที (๓) หลังจากครบ 10 นาทีให้นาปลาออกจากน้าซาวข้าว แล้วนาไปล้างน้าเปล่าให้สะอาด ลา้ งหลาย ๆ รอบจนกระท่งั นา้ ท่ีลา้ งไมข่ นุ่ นา้ ใส เน้ือปลาจะมีความขาว สะอาด

. -307- (๔) นาเน้ือปลาที่ล้างเสร็จแล้ว ใส่ในภาชนะรอให้สะเด็ดน้าแล้วนามาคลุกผสมกับเครื่องปรุง ซึ่งเคร่ืองปรุงจะประกอบด้วยส่วนผสมตามอัตราส่วน ดังนี้ หากเนื้อปลา 40 กิโลกรัม ให้ใช้เครื่องปรุง ประกอบไปด้วย กระเทียมปอกเปลือกและโขลกละเอียด 2.5 กิโลกรัม,เกลือป่นสาหรับหมักดองท่ีไม่ใช่เกลือ ไอโอดีน 2 กโิ ลกรมั , ขา้ วหุงสกุ (ข้าวสวย)ทไ่ี ด้มาจากขา้ วสาร 2 ลติ ร(ประมาณ 2.5 กโิ ลกรัม) (๕) ผสมเครื่องปรุงทั้งหมดให้เข้ากันก่อนจากนั้นนาเนื้อปลาที่ได้ มาบีบคลุกเคล้าให้เข้ากันกับ เคร่ืองปรงุ (๖) นาไปบรรจุถุงพลาสติก พร้อมจาหน่าย ซึ่งปลาส้มจะอร่อย และมีรสเปร้ียวท่ีกลมกล่อม จะต้องเก็บไว้ในอุณหภูมิห้องปกติประมาณ 3-5 วัน หากจะเก็บไว้นาน ๆ สามารถเก็บไว้ได้นานเป็นปี โดยแช่แข็ง ไวใ้ นต้เู ยน็ การทาปลาส้มตัว (๑) ใช้ปลาเกล็ดเป็นตัว เช่นปลายี่สก ปลานวลจันทร์ ปลาตะเพียนขาว ให้นาปลาสดมาขอด เกล็ด ตดั หวั ควกั ไส้ แล้วล้างนา้ ใหส้ ะอาด ใชม้ ีดปาดค่ันตามลาตวั ปลาท้ัง 2 ดา้ น (๒) แช่ปลาเป็นตวั ในนา้ ซาวขา้ ว 1 ชัว่ โมง แลว้ นาปลามาล้างด้วยน้าเปลา่ ใหส้ ะอาด (๓) นาไปคลุกกับเกลือสาหรับหมักดอง โดยคลุกให้เกลือป่นทาให้ท่ัวตัวปลา ทิ้งไว้ 3-4 ช่ัวโมง จากนั้นล้างตัวปลาดว้ ยนา้ เปล่าให้สะอาดหลาย ๆ รอบ (๔) นาตวั ปลาท่ลี ้างเสร็จแลว้ ใสใ่ นภาชนะรอใหส้ ะเด็ดนา้ แลว้ นาตวั ปลามายดั ไส้ดว้ ยเคร่อื งปรุง ซึ่งเคร่ืองปรุงจะประกอบด้วยสว่ นผสมตามอัตราส่วนดังน้ี หากตัวปลา 5 กิโลกรัม ให้ใช้เครื่องปรุง ประกอบไป ดว้ ยกระเทียมปอกเปลอื กและโขลกละเอยี ด 0.5 กิโลกรมั ,เกลอื ปน่ สาหรับหมกั ดองที่ไม่ใช่เกลือไอโอดีน 2 ขดี , ขา้ วหงุ สุก(ข้าวสวย)ทไ่ี ด้มาจากขา้ วสาร 2 ลิตร(ประมาณ 2.5 กิโลกรัม) (๕) หลังจากยัดเคร่ืองปรุงเสร็จแล้ว นาไปบรรจุถุงพลาสติก พร้อมจาหน่าย ซ่ึงปลาส้มตัวจะ อร่อย และมีรสเปรี้ยวท่ีกลมกล่อมจะต้องเก็บไว้ในอุณหภูมิห้องปกติประมาณ 3-5 วัน หากจะเก็บไว้นาน ๆ สามารถเก็บไวไ้ ดน้ านเปน็ ปี โดยแช่แขง็ ไว้ในตู้เยน็ ๔. ชอื่ ผู้ที่ถือปฏิบตั ิและผ้สู บื ทอด 4.๑ ผทู้ ่ถี ือปฏิบัติ ชือ่ นางบวั จันทร์ เครือตา วัน เดือน ปเี กิด ๑๗ สิงหาคม ๒๕๐๕ (เสยี ชวี ติ เมือ่ วันที่ ๑๕ สิงหาคม ๒๕๖๕) ที่อยู่ ๓ หมูท่ ี่ ๑๖ ตาบลเวียงชัย อาเภอเวียงชัย จงั หวัดเชยี งราย หมายเลขโทรศัพท์ 08๖ ๑๙๕ ๙๓๐๗ 4.๒ ผู้สบื ทอด ช่ือ นางสาวจิราพรรณ เครือตา วนั เดอื น ปเี กิด ๒๘ มิถุนายน ๒๕๓๑ ทีอ่ ยู่ ๓ หมู่ท่ี ๑๖ ตาบลเวยี งชยั อาเภอเวยี งชยั จังหวดั เชยี งราย หมายเลขโทรศัพท์ 080 586 9855 5. สถำนกำรณ์คงอยู่  ปฏิบตั ิอยา่ งแพรห่ ลาย  เส่ยี งตอ่ การสูญหาย  ไมม่ ีปฏบิ ัตแิ ล้ว

. -308- 6. รปู ภำพภูมปิ ญั ญำทำงวัฒนธรรม/กจิ กรรมทำงภูมิปัญญำทำงวัฒนธรรม วัตถดุ บิ ในการทาปลาส้ม ประกอบดว้ ย เนื้อปลา การขอดเกล็ดปลาออกใหห้ มด ลอกหนงั ปลาออก กระเทียม เกลอื และข้าวสกุ ชาแหละเอาแต่เน้อื และถอดกา้ งปลาออกใหห้ มด การนาเนือ้ ปลาไปผสมคลุกเคล้ากับเครอ่ื งปรุง การนาเนื้อปลาทผี่ สมกบั เคร่ืองปรุงเรยี บร้อย ที่เตรยี มไว้ให้เป็นเน้ือเดียวกนั แล้วน้ันมาบรรจุลงในบรรจภุ ณั ฑ์ บรรจุภณั ฑ์ทีจ่ าหน่ายของ ปลาสม้ ทอดพรอ้ มทาน “ปลาส้มสองพีน่ อ้ ง มัง่ มี”

. -309- แบบสำรวจมรดกภมู ปิ ญั ญำทำงวัฒนธรรมจงั หวดั เชยี งรำย ประจำปี ๒๕๖๕ สภำวฒั นธรรมจังหวดั เชยี งรำย อำเภอแม่จัน จังหวดั เชียงรำย ๑. ช่ือข้อมลู แพทย์พืน้ บ้านล้านนา พธิ ีกรรมบาบัด (จติ บาบดั ) ๒. ลักษณะ  วรรณกรรมพนื้ บ้านและภาษา  ศิลปะการแสดง  แนวปฏบิ ตั ิทางสังคมพิธีกรรม ประเพณี และเทศกาล  อาหาร/ความรู้และการปฏิบตั ิเกีย่ วกับธรรมชาตแิ ละจกั รวาล  งานช่างฝีมอื ด้ังเดมิ  การละเลน่ พน้ื บา้ น กีฬาพ้นื บา้ น และศิลปะการตอ่ สู่ป้องกนั ตวั ๓. รำยละเอียดขอ้ มลู ๓.๑) ประวัตคิ วามเป็นมาของขอ้ มลู นายสิงห์คา ยอดคาดี ได้เรียนรู้จากตารา จากพระธุดงค์ และจากชมรมหมอเมืองโดยการถ่ายทอด และศึกษาดว้ ยตนเอง ซงึ่ เป็นการประกอบพธิ ีตามวิถชี ีวิตท่สี บื ทอดกันมาแตบ่ รรพชน โดยมที ง้ั สว่ นที่กระทาเพื่อ ตรวจสอบ เหตุปัจจัยแห่งปัจจัยแห่งความไม่สบายและทาการบาบัดบรรเทา กระทาเพื่อการขจัดปัดเป่าและ บาบัดรักษา กระทาเพ่ือสร้างขวัญและกาลังใจกระทาเพ่ือการเจริญสติและทาใจให้พร้อมรับสภาพความจริง และสว่ นท่กี ระทาเพอื่ เปน็ สิรมิ งคลและบันดาลใหเ้ กดิ ความสงบร่มเย็น ซ่ึงจะแยกกลา่ วทลี่ ะกลมุ่ ดงั น้ี การดูเมือ่ และการทานายฤกษย์ าม การรักษาโรคด้วยพิธีกรรมบาบัดด้านการทานาย–ฤกษ์ยาม เป็นพิธีกรรมสืบทอดมาเป็นเวลาช้านาน เพ่ือดูแลสุขภาพของคนล้านนา เป็นการค้นหาหรือทานายทายทักหาปัญหาของคนที่เจ็บป่วยและเพ่ือหาฤกษ์ ยามในการทาพิธีกรรมต่าง ๆ ให้เป็นแนวทางในการปฏิบตั ิในวิถีชีวิตหรือประกอบพิธีกรรมอ่ืน ๆ ให้อย่เู ย็นเป็น สขุ พน้ จากภยนั ตรายจากโรคภยั ไข้เจ็บอันตรายต่าง ๆ พิธกี รรมทานาย-ฤกษย์ ามน้ีเปน็ การรวมองค์ความรู้จาก หมดพน้ื บา้ นล้านนา ซง่ึ สามารถใช้เปน็ แนวทางในการศกึ ษาเรยี นรแู้ ละนาไปใชป้ ระโยชน์ได้ กลุม่ ขจดั ปดั เป่า การแก้ไขปัญหาสุขภาพด้วยพิธีกรรมบาบัดในด้านการขจัดปัดเป่า ซึ่งมักจะทาหลังจากการ ดหู มอ ดเู มอ่ื ทานายทายทกั และตรวจวนิ จิ ฉัยจนรเู้ หตุแหง่ โรคแล้ว หากมเี หตแุ ละอาการตรงตามตาราก็จะต้อง ประกอบพิธกี รรมเพือ่ บาบัดบรรเทา ๓.๒) ขน้ั ตอน/วิธกี าร/ดาเนนิ การเกย่ี วกับข้อมลู - ติดต่อประสานงานกบั สภาวฒั นธรรมตาบลป่าซาง เพื่อรวบรวมขอ้ มูลเบื้องตน้ - ลงพ้นื ทจี่ ัดเก็บข้อมลู ประวัตคิ วามเป็นมาของข้อมลู ชอ่ื ผู้ทถี่ ือปฏบิ ตั ิและผูส้ บื ทอด สถานการณ์คงอยู่ และรปู ภาพต่าง ๆ ๔. ช่ือผ้ทู ี่ถอื ปฏิบัตแิ ละผูส้ บื ทอด ๔.๑ ผูท้ ถี่ ือปฏิบตั ิ ชอื่ นายสงิ หค์ า ยอดมูลดี วัน เดอื น ปีเกดิ 15 กรกฎาคม 2490 ทีอ่ ยู่ 167 หมู่ที่ 11 ตาบลป่าซาง อาเภอแม่จัน จังหวดั เชยี งราย หมายเลขโทรศัพท์ 081 366 5577

. ๔.๒ ผู้สบื ทอด -310- ชือ่ วัน เดอื น ปีเกิด - ทอ่ี ยู่ - - หมายเลขโทรศัพท์ - ๕. สถำนะ กำรคงอยู่  ปฏิบตั ิอยา่ งแพร่หลาย  เสีย่ งต่อการสูญหาย  ไม่มปี ฏิบตั แิ ล้ว ๖. รูปภำพภูมิปญั ญำทำงวัฒนธรรม/กจิ กรรมทำงภูมิปัญญำทำงวัฒนธรรม

. -311- แบบสำรวจมรดกภมู ปิ ญั ญำทำงวัฒนธรรมจังหวดั เชียงรำย ประจำปี ๒๕๖๕ สภำวัฒนธรรมจังหวัดเชียงรำย อำเภอแมจ่ ัน จงั หวดั เชยี งรำย ๑. ช่ือข้อมลู ลานสขุ ภาพโพธนาราม ๒. ลกั ษณะ  วรรณกรรมพ้ืนบ้านและภาษา  ศลิ ปะการแสดง  แนวปฏบิ ัติทางสงั คมพิธีกรรม ประเพณี และเทศกาล  อาหาร/ความรแู้ ละการปฏิบตั เิ กย่ี วกบั ธรรมชาตแิ ละจักรวาล  งานชา่ งฝีมือดงั้ เดิม  การละเลน่ พืน้ บา้ น กีฬาพื้นบา้ น และศลิ ปะการตอ่ สู่ป้องกนั ตัว ๓. รำยละเอยี ดขอ้ มลู ๓.๑) ประวัตคิ วามเป็นมาของข้อมลู ลานสุขภาพโพธนาราม โดยนายพรมมินทร์ จันสอน ได้เป็นผู้ก่อต้ังข้ึนด้วยตนเอง เกิดจากแรงบันดาลใจ ในการที่อยากเห็นชาวบ้านมีสุขภาพที่แข็งแรง จึงได้คิดหาวิธีการออกาลังกายที่มีต้นทุนประหยัด คุ้มค่า ด้วยนายพรมมินทร์ จันสอน ได้ประกอบอาชีพช่างไม้ ทาให้การคิดค้นอุปกรณ์การออก กาลังง่ายขึ้น โดยได้ชักชวนชาวบ้านในหมู่บ้านมาร่วมมือช่วยกันประดิษฐ์วัสดุเศษไม้ที่เหลือใช้ในหมู่บ้าน และบางส่วน ได้บริจาคมาจากผู้ที่มีจิตศรัทธาเรื่องการออกกาลังกาย ดังนั้น จึงได้ร่วมกับชาวบ้านต้ังชื่อสถานที่แห่งน้ีข้ึน เป็นสถานที่ออกกาลังกาย เพ่ือให้ชาวบ้านในพื้นที่และหมู่บ้านใกล้เคียงมาออกกาลังโดยไม่มีค่าใช้จ่ายใด ๆ ส่วนอุปกรณท์ ่ใี ช้ลานสขุ ภาพโพธนาราม นายพรมมินทร์ จนั สอน ไดม้ กี ารน้าเศษไม้มาดัดแปลงประยุกต์เพ่ิมเติม มาตลอด ลานสุขภาพโพธนาราม ได้มีอุปกรณ์ออกกาลังชนิดต่าง ๆ อาทิ เช่น เก้าอ้ีกระดกลดหน้าท้อง ซิกอัพ ลดหน้าท้อง ลูน่ ่งั ลู่นอน ลู่ว่ิง มา้ กระดกยกกระซบั เครอ่ื งบริหารยดื เส้น เครอื่ งคลายกลา้ มเนื้อ ฯลฯ ๓.๒) ขัน้ ตอน/วธิ ีการ/ดาเนนิ การเก่ยี วกบั ข้อมลู - ๔. ชื่อผู้ที่ถอื ปฏิบัตแิ ละผ้สู ืบทอด ๔.๑ ผู้ทถ่ี อื ปฏบิ ัติ ชื่อ นายพรมมินทร์ จันสอน วัน เดอื น ปเี กิด 1 มกราคม 2491 ที่อยู่ 55 หมทู่ ี่ 8 ตาบลสันทราย อาเภอแมจ่ นั จงั หวัดเชียงราย หมายเลขโทรศัพท์ 087-5773429 ๔.๒ ผู้สบื ทอด ชอ่ื - วัน เดอื น ปเี กดิ - ที่อยู่ - หมายเลขโทรศัพท์ - ๕. สถำนะ กำรคงอยู่  ปฏิบัตอิ ย่างแพรห่ ลาย  เสีย่ งตอ่ การสญู หาย  ไมม่ ีปฏบิ ตั ิแล้ว

. -312- ๖. รปู ภำพภูมิปัญญำทำงวัฒนธรรม/กจิ กรรมทำงภูมปิ ัญญำทำงวัฒนธรรม

. -313- แบบสำรวจมรดกภมู ปิ ัญญำทำงวัฒนธรรมจงั หวัดเชียงรำย ประจำปี ๒๕๖๕ สภำวฒั นธรรมจงั หวัดเชยี งรำย อำเภอแมจ่ นั จังหวดั เชยี งรำย ๑. ชื่อข้อมลู ลาบดอย ๒. ลกั ษณะ  วรรณกรรมพ้นื บ้านและภาษา  ศลิ ปะการแสดง  แนวปฏบิ ัตทิ างสังคมพิธีกรรม ประเพณี และเทศกาล  อาหาร/ความรู้และการปฏิบัตเิ กีย่ วกับธรรมชาติและจกั รวาล  งานช่างฝีมอื ดัง้ เดิม  การละเล่นพ้นื บ้าน กีฬาพ้นื บา้ น และศิลปะการตอ่ ส่ปู ้องกนั ตัว ๓. รำยละเอียดขอ้ มลู ๓.๑) ประวัตคิ วามเปน็ มาของข้อมลู ลาบดอยเป็นเมนูท่ีได้รับการสืบทอดจากบรรพบุรุษ วิธีการทาไม่ยุ่งยาก วัตถุดิบที่ใช้ในการประกอบ อาหารสามารถปลูกไดเ้ อง หรือหาจากธรรมชาติ เคร่ืองปรุงที่สาคัญจะมีแค่เกลือที่ให้รสชาติเค็ม ลาบดอยเป็น เมนูที่ให้โปรตีนสงู และพลังงานสูง เหมาะสาหรบั ผ้ทู ่ีอาศัยอยบู่ นพ้นื ท่สี ูงและมีอากาศหนาวเยน็ ชนเผ่าอาข่า มีถ่ินฐานเดิมอยู่ที่บริเวณภูเขาสูงทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือและตะวันตกเฉียงใต้ของ ประเทศจีน นอกจากน้ยี งั มีประชากรชาวอาขา่ กระจายอยูใ่ นจงั หวดั เชยี งราย หมู่บ้านจอปา่ คา หมูท่ ี่ 14 ตาบล แม่จัน อาเภอแม่จัน จังหวัดเชียงราย ชาวอาข่ายังคงใช้วิถีชีวิตแบบด้ังเดิม การทาอาหารเพ่ือรับประทานจะใช้ วัตถุดบิ ในท้องถิ่นท่ีปลูกเอง และหาได้จากธรรมชาติ เพราะการคมนาคมยังไมเ่ จริญเท่าปัจจุบัน อาหารที่ทามัก เปน็ อาหารทม่ี วี ิธกี ารปรุงไม่ย่งุ ยาก เคร่อื งปรุงก็ใช้แตเ่ กลอื ลาบดอยจุดเด่นคือ เป็นอาหารที่สามารถทาได้ง่ายไม่ยุ่งยาก วัตถุดิบสามารถปลูกได้เอง หรือหาจาก ธรรมชาติ ลดการปรุงแต่งเพราะใช้เกลือเป็นเคร่ืองปรุงเพียงอย่างเดียว ผักแพ้วช่วยให้เจริญอาหาร และบารุง หัวใจ เปลือกต้นมะกอกช่วยแก้ร้อนใน ชุ่มคอ และยังมีส่วนให้เนื้อหมูสับมีความเนียนละเอียด การทาให้ลาบ ดอยสกุ ด้วยวิธหี อ่ ใบตองปงิ้ จะได้ความหอมจากใบตอง และเป็นอาหารท่ใี ห้โปรตีนสงู ๓.๒) ข้นั ตอน/วธิ กี าร/ดาเนนิ การเกย่ี วกบั ขอ้ มลู สว่ นผสม ๑. หมสู ด ๕. ผกั แพ้ว (ภาษาท้องถิน่ เรียกผักไผ่) ๒. พริกแหง้ หรือพริกข้หี นสู ด ๖. สาระแหน่ (ภาษาทอ้ งถ่ินเรียกหอมด่วน) ๓. กระเทยี ม ๗. เปลอื กตน้ มะกอก ๔. ผักชีตน้ หอม ๘. เกลอื ข้นั ตอนกำรทำ 1. สบั หมใู ห้ละเอยี ด 2. นาพรกิ กระเทียม ผักชตี ้นหอม ผักแพ้ว สาระแหน่ เปลือกต้นมะกอก สับดว้ ยกันกบั หมูใหเ้ น้อื เนยี ด ละเอยี ด 3. โรยเกลอื คลุกเคลา้ สว่ นผสมทั้งหมดเข้าดว้ ยกนั 4. นาลาบดอยทไ่ี ดห้ ่อดว้ ยใบตอง ทาเปน็ ลักษณะแบนๆ ปิ้งใหส้ กุ หรอื สามารถเปลีย่ นจากการห่อ ใบตองและนาไปป้ิง เปน็ คั่วใส่น้า อบจนแห้ง ได้รสชาติท่ีเหมือนกนั 5. รับประทานลาบดอยพรอ้ มดว้ ยผกั สดตามชอบ

. -314- ๔. ชือ่ ผ้ทู ่ีถือปฏิบตั ิและผูส้ ืบทอด ๔.๑ ผู้ท่ถี อื ปฏิบัติ ช่อื นางสาวอาหมี่ แชก้อ วัน เดอื น ปีเกิด - ทอี่ ยู่ 95 หมู่ 14 ตาบลแม่จนั อาเภอแมจ่ นั จงั หวดั เชียงราย หมายเลขโทรศัพท์ 081 022 0217 ๔.๒ ผู้สบื ทอด ช่ือ นางสาวรวมิ ล เบียเช วัน เดือน ปีเกิด - ทอ่ี ยู่ 95 หมู่ 14 ตาบลแมจ่ ัน อาเภอแมจ่ ัน จงั หวดั เชียงราย หมายเลขโทรศัพท์ 080 859 8565 ๕. สถำนะ กำรคงอยู่  ปฏบิ ัตอิ ยา่ งแพร่หลาย  เสย่ี งต่อการสูญหาย  ไม่มปี ฏบิ ตั แิ ล้ว ๖. รูปภำพภมู ิปญั ญำทำงวัฒนธรรม/กจิ กรรมทำงภูมปิ ัญญำทำงวฒั นธรรม วัตถดุ ิบสาหรับทาลาบดอย นาหมมู าสับใหล้ ะเอียด ลาบหมพู รกิ ข้หี นูและเกลอื เขา้ ด้วยกัน นาผักทง้ั หมด ลาบพรอ้ มหมูให้ละเอยี ด ลาบใหส้ ว่ นผสมเข้ากนั ท้ังหมด นาลาบดอยหอ่ ดว้ ยใบตอง

. -315- นาลาบดอยห่อดว้ ยใบตองแล้วนาไปย่างไฟเตาถ่านอ่อนๆ ลาบดอยเม่ือสกุ แล้วรับประทานพร้อมผกั สดเพิม่ ความอร่อย

. -316- แบบสำรวจมรดกภมู ปิ ัญญำทำงวฒั นธรรมจังหวดั เชยี งรำย ประจำปี ๒๕๖๕ สภำวัฒนธรรมจังหวัดเชยี งรำย อำเภอเวียงแก่น จังหวดั เชียงรำย ๑. ชื่อข้อมูล ลาบปลาน้าโขง ๒. ลักษณะ  วรรณกรรมพ้นื บ้านและภาษา  ศิลปะการแสดง  แนวปฏบิ ัติทางสงั คมพธิ ีกรรม ประเพณี และเทศกาล  อาหาร/ความร้แู ละการปฏบิ ัติเกย่ี วกับธรรมชาติและจักรวาล  งานช่างฝีมือดั้งเดิม  การละเลน่ พืน้ บ้าน กีฬาพน้ื บา้ น และศิลปะการตอ่ ส่ปู ้องกันตวั ๓. รำยละเอียดข้อมลู ๓.๑) ประวัติความเปน็ มาของข้อมลู แม่น้าโขงมีความหลากหลายของชนิดพันธุ์ปลามากกว่าหนึ่งพันชนิด จากงานวิจัยไทยชาวบ้านของ อาเภอเชียงของ-อาเภอเวียงแก่น เร่ืองความรู้ท้องถ่ินเร่ืองพันธุ์ปลาแม่น้าโขง พบจานวนชนิดพันธุ์ปลา 96 ชนิด ทาให้ปลำมีความสาคัญต่อวิถีชีวิตและบ่งชี้ถึงความม่ันคงทางด้านอาหารของคนลุ่มน้าน้ีเป็นอย่างยิ่ง ประโยชนบ์ วกกับคณุ ค่าทางอาหารของปลาแมน่ ้าโขงก็สร้างรายได้ใหก้ ับคนหาปลา และคนบริโภคไม่น้อย จึงมี การนาปลาน้าโขงไปประกอบเป็นอาหารคือ ลาบปลานา้ โขง ซ่ึงไดร้ ับมรดกภูมิปัญญาจากบรรพบุรุษสืบทอดมา จนถึงปัจจุบัน ซ่ึงปลาแม่น้าโขงจะมีความโดดเด่น เป็นปลาที่เน้ือแน่น เนื่องจากกล้ามเนื้อแข็งแรงเพราะต้อง ว่ายนา้ เชย่ี วในแม่น้าโขงกล้ามเน้ือจงึ แข็งแรง รสชาติอร่อย นับเป็นวิถีคนริมโขงที่สืบทอดมานาน การนาปลามาประกอบอาหารท่ีมีมาแต่บรรพบุรุษ อย่างเช่น ลาบ ปลา เป็นอาหารประเภทลาบ ที่มีส่วนประกอบหลัก คือเนื้อปลาน้าโขงนามาสับให้ละเอียด ปรุงด้วยเคร่ืองปรุง อันประกอบด้วยพริกแห้งเผา และเครื่องเทศต่าง ๆ เช่นเดียวกับลาบชนิดอื่น ๆ เครื่องเคียง ได้แก่ ผักสดนานา ชนดิ โดยเฉพาะประเภทสมุนไพรทม่ี ีกล่ินหอมแรง และเรียกผักท่ีนามารับประทานกับลาบว่า “ผักกับลาบ” ซง่ึ ถือว่าเป็นอาหารทีม่ ีสูตรวธิ กี ารทา และเอกลกั ษณ์เฉพาะของบ้านหว้ ยลึก ท่ีนกั ท่องเที่ยวทีไ่ ด้มาเยย่ี มเยือน ต่าง มีความตอ้ งการท่อี ยากจะชิมลาบปลานา้ โขงของบ้านห้วยลึก ตาบลมว่ งยาย อาเภอเวยี งแกน่ จังหวัดเชยี งราย ๓.๒) ขนั้ ตอน/วิธีการ/ดาเนินการเก่ยี วกับขอ้ มลู ส่วนประกอบ 1. ปลานา้ โขง (ปลาเพ้ยี ,ปลากวา่ ง,ปลาแค้,ปลาคา้ ว,ปลาแกง) 2. ตะไคร้ 3. กระเทยี ม 4. หอมแดง 5. มะเขือแจ้ 6. กะปิ 7. พริกป่น 8. ผักไผ่ (ผักแพว) 9. ต้นหอม ผักชี 10. มะแขว่น 11. เกลือ

. -317- ขน้ั ตอนกำรทำ 1. ล้างปลาใหส้ ะอาด แล่ปลาเอาแต่เนื้อ นามาสับให้ละเอียด 2. นาหวั ปลา เครอ่ื งในปลา ไปตม้ กับ ตะไคร้ ใบมะกรูด เพ่ือทานา้ ปรงุ 3. นา ตะไคร้ กระเทียม หอมเดง มะเขือแจ้ กระปิ มะแขว่ น ไปยา่ งไฟใหห้ อม 4. นาตะไคร้ พริก กระเทียม หอมเดง มะเขือแจ้ กระปิ มะแข่วน ท่ียา่ งแล้วมาตาให้ละเอียดใส่ เกลอื ลงไป แลว้ นาเน้อื ปลาลงไปตาให้เขา้ กนั 5. ผสมน้าตม้ ปลา และเน้อื ปลา คลกุ เคลา้ ใหเ้ ข้ากัน ปรุงรสตามใจชอบ 5. ใส่ผกั ไผ่ ตามด้วยผกั ชีตน้ หอม แล้วคลกุ เคลา้ ใหท้ ่ัว 6. ลาบปลาทีไ่ ด้เปน็ ลาบดิบ หากต้องการกินแบบสกุ ให้รวนในกระทะและเติมน้าตม้ หัวปลา เลก็ น้อย ๔. ชอ่ื ผทู้ ่ีถอื ปฏิบัติและผสู้ ืบทอด ๔.๑ ผทู้ ีถ่ ือปฏบิ ตั ิ ช่ือ นางจันทร์เพ็ญ ศรจุฬา วัน เดอื น ปเี กิด - ทีอ่ ยู่ บ้านห้วยลึก หมู่ 4 ตาบลม่วงยาย อาเภอเวยี งแกน่ จังหวัดเชียงราย หมายเลขโทรศัพท์ 087 187 6710 ๔.๒ ผสู้ ืบทอด ชอื่ นางสาวแคะ แซเ่ ตนิ๋ วัน เดอื น ปเี กิด - ท่ีอยู่ บ้านหว้ ยลกึ หมู่ 4 ตาบลม่วงยาย อาเภอเวยี งแกน่ จังหวดั เชียงราย หมายเลขโทรศัพท์ 092 986 3484 ๕. สถำนะ กำรคงอยู่  ปฏบิ ัติอยา่ งแพร่หลาย  เสย่ี งตอ่ การสญู หาย  ไม่มีปฏบิ ตั แิ ล้ว ๖. รปู ภำพภูมิปญั ญำทำงวัฒนธรรม/กิจกรรมทำงภูมปิ ัญญำทำงวัฒนธรรม สว่ นผสมของลาบปลา ปลำนำ้ โขงทล่ี ำบเสร็จแล้ว

. -318- นาส่วนผสมของลาบไปย่างไฟให้สุก นาส่วนผสมของลาบไปตาใหล้ ะเอยี ด นา้ ปรุง ตม้ เคร่ืองในปลา ตาส่วนผสมและปลาให้เข้ากัน ตาส่วนผสมและปลาให้เข้ากัน คนสว่ นผสมและปลาใหเ้ ข้ากัน

. -319- แบบสำรวจมรดกภมู ปิ ญั ญำทำงวฒั นธรรมจงั หวดั เชียงรำย สำนกั งำนวัฒนธรรมจังหวดั เชียงรำย อำเภอแม่สำย จงั หวัดเชยี งรำย ๑. ช่ือข้อมูล ลาบหมูอาข่า ๒. ลกั ษณะ  วรรณกรรมพน้ื บ้านและภาษา  ศิลปะการแสดง  แนวปฏิบตั ิทางสงั คมพิธีกรรม ประเพณี และเทศกาล  อาหาร/ความรู้และการปฏบิ ัติเกี่ยวกับธรรมชาตแิ ละจกั รวาล  งานช่างฝมี ือดง้ั เดิม  การละเลน่ พืน้ บา้ น กีฬาพืน้ บา้ น และศิลปะการตอ่ สู่ป้องกันตวั ๓. รำยละเอยี ดข้อมลู ๓.๑) ประวัตคิ วามเป็นมาของขอ้ มลู ลาบหมูอาข่าน้ันจะมีความแตกต่างจากลาบอีสานหรือลาบอ่ืน ๆ ท่ัวไป โดยลาบหมูอาข่าจะใส่ ส่วนผสมที่ไม่เยอะมาก โดยมีวัตถุดิบสาคัญคือ รากหอมชู ซ่ึงชาวอาข่านิยมใช้ผสมในอาหารแทบทุกประเภท โดยเฉพาะลาบหมูท่ใี ช้หอมชสู ับรวมกบั เน้อื และเลอื ดสตั ว์ ผกั ไผ่ ตะไคร้ และเคร่อื งเทศอกี หลายชนดิ ก่อนนาไป ห่อใบตองยา่ งหรือควั่ จนหอม เปน็ เมนูลาบท่ีอร่อยและสะทอ้ นวถิ ชี ีวิตบนยอดดอยได้เป็นอย่างดี อาข่า เป็นอีกกลุ่มชาติพันธท์ุ ่ีมีประเพณี วัฒนธรรม จารีต ความเช่ือ และภูมิปัญญาที่สืบทอดต่อกันมา ช้านาน จนกลายเป็นวิถีชีวิตประจาวัน โดยมีประเพณีและพิธีกรรมต่าง ๆ ซึ่งล้วนแล้วแต่เกี่ยวข้องกับวิถีชีวิต แบบสังคมเกษตรกรรมของชาวอ่าข่า สาหรับอาหารของอาข่าถือเป็นอาหาร ‘คลีน’ ขนานแท้ เป็นอาหารเพื่อ สุขภาพ เพราะจะกินผักสดที่ปลูกหรือขึ้นเองตามธรรมชาติ เชน่ ผักกาดเขียว นา้ เต้า ฟักเขยี ว ฟักทอง บวบ ผกั กูด ผักโขม หน่อไม้ หอมชู มะเขือ พริก แตง ถ่ัวฯลฯ กินกับน้าพริกต่าง ๆ เช่น น้าพริกมะแขว่น น้าพริกถ่ัวลิสง น้าพริกงาขาว น้าพริกมะเขือเทศ น้าพริกปลา ฯลฯ หรือนาผักสดมาต้ม ทาแกงจืด ผัดผัก หากมีเนื้อสัตว์ก็จะ นามาปรุงเป็นอาหารต่าง ๆ ท้ังอาหารแบบดั้งเดิมของอาข่า หรือทาแบบอาหารเหนือ เช่น ลาบ อ่อม คั่ว เป็น ตน้ สาหรับลาบหมขู องอาขา่ ซ่ึงมวี ัตถดุ บิ สาคัญคอื หอมชู นยิ มทากินกันในเกือบทุกโอกาสที่มีงานเล้ียงตา่ ง ๆ ลาบหมูอาข่า หรือ ‘ซ่าแบย’ น้ันมีจุดเด่นตรงเน้ือลาบท่ีไม่หนักมาก กินแล้วสดช้ืน เพราะเน้นผักและ สมุนไพรสับผสมรวมกับเนื้อหมู โดยมีวัตถุดิบสาคัญคือ ‘หอมชู’ เป็นผักหน้าตาคล้ายต้นกุ๊ยช่าย แต่กลิ่นหอม แรงกว่าหลายเท่า ปลูกขึ้นดีบนยอดดอย ชาวอาข่านิยมใช้ผสมในอาหารแทบทุกประเภท โดยเฉพาะลาบหมู ท่ีใช้หอมชูสับรวมกับเนื้อและเลือดสัตว์ ผักไผ่ ตะไคร้ และเครื่องเทศอีกหลายชนิด ก่อนนาไปห่อใบตองย่าง หรือคั่วจนหอม เป็นเมนลู าบท่ีอร่อยและสะทอ้ นวิถีชวี ิตบนยอดดอยได้ชัดเจน ๓.2) ขน้ั ตอน/วิธีการ/ดาเนินการเกีย่ วกับขอ้ มูล ส่วนประกอบลาบหมูอาข่า ประกอบด้วย หมูสับติดมันเล็กน้อย รากหอมชู ผักชีฝรั่ง ผักไผ่ ตะไคร้ ตน้ หอมผักชี กระเทยี ม พริกข้ีหนู และเครือ่ งปรุงรส ขัน้ ตอนการทาลาบหมอู าข่า มีดังน้ี ๑) นาหมสู บั รวมกับรากหอมชู ผกั ชฝี ร่ัง ผกั ไผ่ ตะไคร้ ต้นหอมผักชี กระเทยี ม และพรกิ ข้หี นูให้ละเอียด และคละเคา้ ให้เข้ากนั ๒) จากน้ันนาหมูสับข้างต้นไปนาไปห่อใบตองย่างหรือคั่วในกระทะไฟปานกลาง พร้อมด้วยใส่เกลือ และเครอ่ื งปรุงรสตามท่ีต้องการหรือตามความชอบ ๓) เม่ือคั่วจนหมสู บั และทุกอยา่ งสุกแลว้ ก็สามารถนามารบั ประทานไดเ้ ลย

. -320- 4. ช่ือผู้ท่ีถอื ปฏิบตั ิและผู้สืบทอด 4.๑ ผู้ทีถ่ ือปฏิบตั ิ ชื่อ นางสาวผกากานต์ รุ่งประชารตั น์ วนั เดือน ปีเกิด - ทอ่ี ยู่ บา้ นผาหมี หมู่ ๖ ตาบลเวียงพางคา อาเภอแมส่ าย จังหวัดเชียงราย หมายเลขโทรศัพท์ ๐๘๙ ๔๔๙ ๗๙๔๒ 4.๒ ผูส้ บื ทอด ชือ่ - วนั เดอื น ปเี กดิ - ทอี่ ยู่ - หมายเลขโทรศัพท์ - 5. สถำนะ กำรคงอยู่  ปฏิบตั อิ ยา่ งแพรห่ ลาย  เสี่ยงตอ่ การสูญหาย  ไม่มีปฏิบตั แิ ล้ว 6. รปู ภำพภมู ิปัญญำทำงวัฒนธรรม/กจิ กรรมทำงภูมปิ ัญญำทำงวัฒนธรรม นาหมูมาสับใหล้ ะเอียด นาพริกและกระเทียมมาปรงุ รส นาลาบที่ปรงุ รสไปควั่ ลาบหมคู ัว่ สไตลอ์ าข่า

. -321- แบบสำรวจมรดกภมู ิปญั ญำทำงวัฒนธรรมจังหวัดเชยี งรำย ประจำปี ๒๕๖๕ สภำวฒั นธรรมจงั หวัดเชยี งรำย อำเภอแมล่ ำว จงั หวดั เชยี งรำย ๑. ชื่อข้อมลู ลาพี ซ่าทอ (ลาบพริกสมุนไพร) ๒. ลักษณะ  วรรณกรรมพนื้ บ้านและภาษา  ศิลปะการแสดง  แนวปฏิบัติทางสังคมพิธีกรรม ประเพณี และเทศกาล  อาหาร/ความรูแ้ ละการปฏิบัติเกยี่ วกับธรรมชาตแิ ละจกั รวาล  งานชา่ งฝมี อื ดง้ั เดิม  การละเล่นพน้ื บ้าน กีฬาพืน้ บา้ น และศลิ ปะการตอ่ สู่ป้องกันตัว ๓. รำยละเอียดข้อมลู ๓.๑) ประวัติความเปน็ มาของข้อมลู ลาบพริกสมุนไพร เป็นอาหารพ้ืนถิ่นของชนเผ่าพื้นเมืองบีซู ชนเผ่าบีซูมีวิถีชีวิตเรียบง่าย อยู่กินตาม ธรรมชาตดิ ้วยการหาพชื ผกั สมนุ ไพรมาเป็นอาหาร ลาบพรกิ สมนุ ไพรเป็นอาหารทสี่ ามารถทาได้ง่าย เม่ือเขา้ เดิน ทางเข้าปา่ เพราะข้นั ตอนการทาไม่ยงุ่ ยาก และผักสามารถหาตามพ้ืนบ้านได้ รสชาติของลาบพริกสมุนไพร ต้องมีความเผ็ด เค็ม หอม นาผักท่ีใช้เป็นส่วนประกอบเป็นผักสด และผัก ท่ีนามามีประโยชน์ทาให้สุขภาพร่างกายแข็งแรง และมีสรรพคุณในการป้องกันโรค เช่น ความดัน โรคเบาหวาน โรคหวัด เปน็ ต้น ๓.2) ข้นั ตอน/วิธกี าร/ดาเนินการเกยี่ วกบั ข้อมูล ส่วนประกอบ 1. ผักไผ่ (เกบ็ ในหมู่บา้ น) หาไดบ้ รเิ วณทีม่ ีน้าชมุ่ ช้ืน เกบ็ ยอกอ่อน หรือใช้ใบแก่ ใชป้ ระมาณ 1 หยบิ มือ 2. กระเทยี ม 1 - 2 หัว 3. พรกิ ขี้หนู 5 – 7 เมด็ ตามความชอบ 4. พรกิ หนมุ่ ซือ้ จากตลาดหรือปลกู เอง 10 – 15 เมด็ 5. ยอดสม้ ปอ่ ย เก็บได้บริเวณรมิ รั้วในหมูบ่ ้าย ใช้ยอดประมาณ 1 กามือ 6. ใบตน้ หอม (หอมแป้น) เก็บได้บรเิ วณท่ีมีน้าชุ่มชนื้ ในหมู่บ้าน ใชใ้ บประมาณ 1 กามือ 7. ใบขิง หรอื หวั ขิง ปลกู กินเองในครอบครวั ใช้ใบ 1 กามือ หรอื ใชห้ ัวขงิ 1 หัวเลก็ 8. ตะไคร้ประมาณ 3 – 4 ตน้ ปลูกกนิ เองในครอบครวั 9. ปลาร้าแห้ง ซื้อจากตลาด ประมาณ 5 – 10 ตวั 10. เกลือ ซ้ือจากตลาด ใช้ตามความเหมาะสม 11. ผักลวกกนิ คูก่ นั กบั ลาบพรกิ เช่น มะเขือ ใบชงโค ใบมันสาปะหลงั ถว่ั ฝกั ยาว หรอื ผักตามชอบ อุปกรณ์ท่ีใช้ 1. กระบอกไม้ไผ่ผา่ คร่งึ ไปตัดเองในปา่ เลอื กลาไมไ้ ผท่ ีแ่ กแ่ ล้วตัง้ ตรงตดั ให้ได้ขนาดยาวประมาณ1 ศอก หรอื 1ปล้องผ่าครง่ึ แลว้ นามาใชไ้ ด้เลย 2. มีดปลายแหลมขนาดยาว ขั้นตอนกำรทำ 1. นาตะไคร้มาสบั ในกระบอกไม้ไผเ่ ป็นลาดบั แรก จะทาให้เวลาสับแลว้ ไมก่ ระเดน็ ออกมา 2. นาพริกหนมุ่ , ยอดสม้ ป่อย, ใบขิงหรือหวั ขิง, กระเทียม, เกลือ, หอมแป้น, ใบผักไผ่ สับให้ ละเอยี ดในกระบอกไมไ้ ผ่

. -322- 3. นาปลารา้ แห้ง และพริกข้ีหนสู บั ให้ละเอียด 4. นามารับประทานพรอ้ มกับผกั สดตา่ ง ๆ และผักลวกตามที่ชอบ รับประทานกบั ข้าวเหนยี ว เคล็ดลับ - การใชก้ ระบอกไม้ไผ่ผา่ เพ่ือเวลาสบั ผกั จะไม่กระจายออกนอกเขยี ง - การใชเ้ ขียงทวั่ ไป อาจทาให้มีกล่ินคาวจากเขยี งที่ใช้เปน็ ประจา - ควรเริ่มจากการสับผกั ที่มีความแข็งก่อน เพ่ือความละเอยี ด ๔. ชือ่ ผูท้ ่ีถือปฏิบตั ิและผสู้ ืบทอด ๔.๑ ผทู้ ่ถี อื ปฏบิ ตั ิ ชอื่ นางสาวยพุ ารตั น์ ติคา วนั เดือน ปเี กดิ 2513 ทีอ่ ยู่ ๑ หมู่ ๗ ตาบลโป่งแพร่ อาเภอแมล่ าว จงั หวดั เชียงราย หมายเลขโทรศัพท์ 086 086 7382 ๔.๒ ผู้สืบทอด ชอ่ื นางบวั คา วงคล์ ัวะ วัน เดือน ปเี กดิ 2512 ท่อี ยู่ หมู่ ๗ ตาบลโป่งแพร่ อาเภอแม่ลาว จังหวัดเชยี งราย หมายเลขโทรศัพท์ ๐๙๘ ๓๑๒ ๔๑๘๗ 5. สถำนะ กำรคงอยู่  ปฏิบัติอยา่ งแพร่หลาย  เส่ยี งต่อการสูญหาย  ไม่มปี ฏิบตั ิแล้ว 6. รูปภำพภมู ปิ ญั ญำทำงวัฒนธรรม/กจิ กรรมทำงภูมิปัญญำทำงวฒั นธรรม การสบั วัตถดุ บิ ในกระบอกไม้ไผ่ ลาบพรกิ ท่ีทาเสรจ็ แลว้ รับประทานพร้อมกบั ผักลวก ผกั ดิบ ขา้ วเหนียว

. -323- แบบสำรวจมรดกภมู ปิ ญั ญำทำงวฒั นธรรมจงั หวัดเชยี งรำย ประจำปี ๒๕๖4 สำนักงำนวฒั นธรรมจังหวัดเชียงรำย อำเภอแมล่ ำว จังหวัดเชยี งรำย ๑. ชื่อข้อมูล สมุนไพร ๒. ลกั ษณะ  วรรณกรรมพน้ื บา้ นและภาษา  ศิลปะการแสดง  แนวปฏบิ ัติทางสงั คมพธิ ีกรรม ประเพณี และเทศกาล  อาหาร/ความร้แู ละการปฏบิ ัตเิ กีย่ วกบั ธรรมชาตแิ ละจกั รวาล  งานช่างฝมี ือด้งั เดิม  การละเลน่ พืน้ บ้าน กีฬาพ้นื บา้ น และศิลปะการต่อสปู่ ้องกันตวั ๓. รำยละเอียดข้อมูล ๓.๑) ประวัตคิ วามเป็นมาของขอ้ มูล “สมนุ ไพร” ทางเลือกในการรักษาและป้องกันโรคท้ังในรูปแบบของยาและผลติ ภัณฑ์อาหารเสริมที่เป็น กระแสนยิ มของคนทั่วไปในปัจจุบันและเมื่อกล่าวถึง “สมนุ ไพร” ก็อาจจะคิดวา่ เป็นเพียงพืชหรือต้นไม้ที่มาจาก ธรรมชาติเท่านั้น ทาให้รู้สึกปลอดภัยในการเลือกใช้ ทาให้พบปัญหาจากการนาสมุนไพรมาใช้อย่างไม่ถูกต้อง หรือไม่ถูกวิธี จนทาใหเ้ กดิ โทษต่อตวั ของผู้ใช้ โดยพบรายงานทางคลนิ ิกเก่ยี วกับอาการไม่พงึ ประสงค์จากการใช้ สมนุ ไพรทีเ่ พิ่มมากข้นึ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกลมุ่ ผ้ทู ่นี าไปใชส้ าหรบั เป็นยารกั ษาโรค นายสถิตย์ บุญวงค์ อายุ 61 ปี มีความรู้ความสามารถด้านแพทย์แผนไทย แพทย์แผนโบราณ ยาแผน โบราณ ปราชญช์ าวบ้าน ภูมิปัญญาท้องถ่ิน มีการใช้ศาสตรท์ างธรรมในการคานวณธาตุ จากอายุ วันเดือนปีเกิด ของแต่ละบุคคลให้ได้รับยาที่เหมาะกับร่างกายอย่างเหมาะสม โดยความรู้ได้สืบทอดจากคุณปู่ นายชุ่ม บญุ วงค์ ในตอนเด็กตั้งแต่จาความได้ ได้ติดตามคุณปู่ และคุณพ่อ เข้าไปในป่าเพื่อหาสมุนไพร สังเกต จดจา รูปร่าง ลักษณะของพันธ์ุไม้ต่าง ๆ และได้เรียนรู้สูตรยาสมุนไพรในการรักษาโรค ในปัจจุบันมีการผลิตยาในรูปแบบผง เมด็ แคปซูล ยาหมอ่ งข้ผี งึ้ ยาหมอ่ งน้า โดยทกุ สูตรยาไม่ได้เปน็ ความลับ สามารถเผยแพร่ใหแ้ กผ่ ู้ท่สี นใจได้ ๓.๒) ขั้นตอน/วธิ ีการ/ดาเนินการเก่ียวกบั ข้อมูล ปจั จบุ ันมีผลิตภณั ฑย์ าสมนุ ไพรในรูปแบบต่าง ๆ มากมาย เช่น ยาเม็ด ยาแคปซูล ยาเม็ดเคลือบ ยาน้า และยาครีม เป็นต้น โดยยาเม็ดเป็นรูปแบบท่ีได้รับความนิยมมาก เนื่องจากมีความคงตัวดีทั้งทางกายภาพและ เคมี และสะดวกในการรบั ประทาน สาหรบั สตู รตารับของยาสมุนไพรท่สี ามารถตอกอดั เปน็ เม็ดได้น้ันจาเป็นต้อง มีคุณสมบัติท่ีสาคัญ2 ประการ คือ ความสามารถในการไหลท่ีดี เพื่อให้แต่ยาเม็ดแต่ละเม็ดมีขนาดรับประทาน ท่ีสม่าเสมอ และความสามารถตอกอัดเป็นยาเม็ดได้ดีโดยทั่วไปจะใช้เทคนิคการทาแกรนูลเปียก กล่าวคือผสม ผงสมุนไพรกับตัวยาช่วยต่าง ๆ ชนิดและปริมาณท่ีเหมาะสม เตรียมเป็นแกรนูลเปียกจากการใช้สารยึดเกาะ และตวั ทาละลายท่ีเหมาะสม ได้แก่ นา้ และหรอื เอธานอล เป็นตน้ โดยใชเ้ คร่อื งผสมเปียกและเครื่องแร่ง นาไป อบแห้ง แร่งให้ขนาดเล็กสม่าเสมอ ผสมสารหล่อลื่นชนิดต่าง ๆ แล้วนามาตอกด้วยเครื่องตอกยาเม็ด ยาเม็ด สมุนไพร คือยาสมุนไพรท่ีถูกตอกให้มีรูปร่างแบนกลม วงรี เหลี่ยม หรือลักษณะสวยงามอื่น ๆ มีลักษณะแข็ง สาหรับรับประทาน สารช่วยตา่ ง ๆ ในตารับยาเมด็ สมุนไพร

. -324- ๔. ช่อื ผ้ทู ่ีถอื ปฏิบัติและผู้สบื ทอด 4.๑ ผทู้ ีถ่ อื ปฏบิ ตั ิ ชอ่ื นายสถติ ย์ บญุ วงค์ วนั เดอื น ปีเกดิ - ท่ีอยู่ 11 หมู่ 15 ตาบลดงมะดะ อาเภอแมล่ าว จังหวดั เชียงราย หมายเลขโทรศัพท์ 086 942 2695 ๕.๒ ผสู้ บื ทอด ชือ่ นายทองเริ่ม ช่อจาปี วัน เดอื น ปีเกดิ - ทอ่ี ยู่ ๑๑ หมู่ ๑๖ ตาบลดงมะดะ อาเภอแม่ลาว จงั หวัดเชยี งราย หมายเลขโทรศัพท์ 08๙ ๕๕๒ ๒๒๑๓ 5. สถำนะ กำรคงอยู่  ปฏิบัตอิ ย่างแพร่หลาย  เส่ียงตอ่ การสูญหาย  ไม่มีปฏิบตั แิ ลว้ 6. รปู ภำพภูมปิ ัญญำทำงวัฒนธรรม/กจิ กรรมทำงภูมปิ ัญญำทำงวัฒนธรรม

. -325- แบบสำรวจมรดกภมู ิปัญญำทำงวัฒนธรรมจงั หวัดเชยี งรำย ประจำปี ๒๕๖๕ สภำวฒั นธรรมจังหวดั เชยี งรำย อำเภอขุนตำล จงั หวัดเชียงรำย ๑. ชื่อข้อมลู สมนุ ไพรรักษาริดสีดวง (ยารักษามะโหก) ๒. ลักษณะ  วรรณกรรมพน้ื บา้ นและภาษา  ศิลปะการแสดง  แนวปฏิบัติทางสังคมพิธีกรรม ประเพณี และเทศกาล  อาหาร/ความร้แู ละการปฏิบตั เิ ก่ยี วกบั ธรรมชาติและจักรวาล  งานชา่ งฝีมือดง้ั เดมิ  การละเล่นพนื้ บา้ น กีฬาพื้นบา้ น และศลิ ปะการต่อสปู่ ้องกันตัว ๓. รายละเอียดข้อมูล ๓.๑) ประวตั คิ วามเปน็ มาของข้อมลู นายพฒุ ใจประสิทธิชยั อายุ 73 ปี มีภูมลิ าเนาอยู่ท่ีบา้ นเลขท่ี 101 หมู่ 1 บ้านปา่ ตาลดอย ตาบลป่า ตาล อาเภอขุนตาล จังหวัดเชียงราย สืบทอดภูมิปัญญามาจากพ่อหนานปัญญา มะราช หมู่ 3 บ้านร้อง ตาบลสถาน อาเภอนาน้อย จังหวัดน่าน ต้งั แตน่ ายพุฒ ใจประสิทธชิ ยั อายุได้ 30 ปี รวมระยะเวลาสืบทอดภูมิ ปัญญา 43 ปี ๓.๒) ขน้ั ตอน/วธิ กี าร/ดาเนินการเกี่ยวกบั ขอ้ มลู ยำสมนุ ไพรรักษำรดิ สดี วง ส่วนประกอบ 1. หญ้าไมยราบ หรือ หญ้าจิยอบ 2. ไมม้ ะตันขอปา่ ลักษณะเป็นหนามจะอยใู่ นปา่ บนดอย ถ้าหาไม่ได้ให้ใชไ้ ม้พุทราบา้ นกไ็ ด้ 3. เพชรสงั ฆาต สว่ นผสมทัง้ 3 ใชอ้ ยา่ งละ 1 กิโลกรัม หรือตามจานวนท่ีต้องการผลติ แต่ต้องมีสว่ นผสม 1:1:1 วิธีทำ 1. นาสมุนไพรทั้ง 3 ชนิด อย่างละ 1 กิโลกรัม ล้างให้สะอาด และห่ันเป็นชิ้นประมาณ 1 ข้อมือ นาไปตากแดดใหแ้ ห้ง อยา่ งนอ้ ย 3 วัน 2. นาสมุนไพรทีต่ ากแหง้ มาคนใหเ้ ขา้ กนั แลว้ ใชผ้ า้ ขาวบางหอ่ ขนาดพอดี 3. สมุนไพรท่จี ะนาไปต้ม นามาแบ่งครงึ่ เป็น 2 ห่อ โดยสมนุ ไพร 1 ห่อ สามารถใช้ต้มได้ 3 ครง้ั และ สามารถเกบ็ สมนุ ไพรได้นาน 1 เดอื น 4. แลว้ ใสไ่ ปในน้าต้มเดอื ดประมาณ 30 นาที 5. ใชด้ ื่มขณะน้าสมนุ ไพรอนุ่ ๆ หลงั อาหาร วนั ละ 3 มอ้ื ผลกำรรักษำ หวั รดิ สดี วงทวารจะเรมิ่ ฝ่อลงภายใน 5 วัน โดยให้ดม่ื น้าสมุนไพรประมาณ 1 ซอง หรือ 2 หอ่ เล็ก

. -326- ๔. ชอ่ื ผู้ที่ถอื ปฏิบัตแิ ละผสู้ บื ทอด ๔.๑ ผทู้ ่ถี ือปฏบิ ัติ ช่ือ นายพฒุ ใจประสทิ ธิชยั วัน เดือน ปีเกิด ๒๔๙๒ ที่อยู่ 101 หมู่ 1 บา้ นปา่ ตาลดอย ตาบลป่าตาล อาเภอขนุ ตาล จังหวัดเชียงราย หมายเลขโทรศัพท์ 081 759 9549 ๔.๒ ผสู้ บื ทอด ชือ่ - วัน เดือน ปีเกดิ - ที่อยู่ - หมายเลขโทรศัพท์ - ๕. สถานะ การคงอยู่  ปฏบิ ตั ิอย่างแพร่หลาย  เสีย่ งตอ่ การสูญหาย  ไมม่ ปี ฏบิ ตั ิแลว้ ๖. รปู ภาพภูมปิ ัญญาทางวัฒนธรรม/กจิ กรรมทางภูมปิ ัญญาทางวัฒนธรรม - ไมม่ -ี

. -327- แบบสำรวจมรดกภมู ิปญั ญำทำงวัฒนธรรมจังหวดั เชียงรำย ประจำปี ๒๕๖๕ สภำวัฒนธรรมจงั หวดั เชยี งรำย อำเภอแมล่ ำว จงั หวัดเชยี งรำย ๑. ช่ือข้อมูล หน่อมนั ๒. ลักษณะ  วรรณกรรมพื้นบ้านและภาษา  ศลิ ปะการแสดง  แนวปฏบิ ตั ิทางสงั คมพิธีกรรม ประเพณี และเทศกาล  อาหาร/ความรูแ้ ละการปฏิบัติเกีย่ วกับธรรมชาตแิ ละจกั รวาล  งานชา่ งฝีมือดง้ั เดมิ  การละเลน่ พื้นบา้ น กีฬาพน้ื บ้าน และศิลปะการตอ่ สปู่ ้องกันตัว ๓. รำยละเอียดข้อมูล ๓.๑) ประวัติความเปน็ มาของขอ้ มูล หน่อไม้ คือต้นอ่อนของไผ่ แตกจากเหง้าใต้ดินมีสีเหลืองอ่อน หน่อไม้เป็นพื้นที่หาได้ง่ายในประเทศไทย ทั้งในป่าและปลูกตามบ้าน เป็นพืชท่ีสามารถนามาประกอบอาหารได้อย่างหลากหลาย ทั้ง แกง ผัด ต้ม หรือกินสด เป็นเคร่ืองเคียงกับเมนูอ่ืน ๆ การทาหน่อมัน คือภูมิปัญญาการถนอมอาหารประเภทหน่ึง เพราะหน่อไม้หลายชนิด พบมากทางภาคเหนือและข้ึนในฤดูฝน การหมักหน่อไม้ไว้ทาให้ในฤดูอื่น ๆ สามารถมีเมนูหน่อไม้ไว้รับประทานได้ หน่อมันเป็นเมนูทั่วไป เพราะหน่อไม้เป็นพืชท่ีหาได้ทั่วไป ไม่ว่าจะปลูกตาบ้าน หรือตามป่า ชาวบ้านนิยมทาไว้ รับประทานกันเกือบทุกหลังคาเรือน มีวิธีการทาไม่ยุ่งยาก นางวรรณา สลีสองสม เป็นชาวบ้านบ้านสันปูเลย ตาบล บวั สลี อาเภอแม่ลาว จงั หวดั เชยี งราย ไดร้ บั ประทานเมนูหน่อมันมาตงั้ แต่เด็ก วิธีการทาหน่อมันได้เรียนรูส้ ืบทอดมา จากพอ่ แมต่ ั้งแต่อดีต ๓.๒) ขน้ั ตอน/วธิ กี าร/ดาเนินการเกย่ี วกับขอ้ มูล สว่ นประกอบ 1. หน่อไมซ้ าง ประมาณ 3 – 4 หัว หรอื ตามต้องการ 2. น้าเปลา่ พอประมาณ 3. เกลอื 1 หยิบมอื อปุ กรณ์ 1. ถังน้า 2. มีด 3. ถงุ พลาสตกิ 4. ตอกไม้ไผ่ 5. หมอ้ ข้ันตอนการทา ๑. นาหน่อไม้ซางทข่ี ุดมาได้ ปอกเปลือกแข็งด้านนอกออก ๒. นาหนอ่ ไม้ทปี่ อกเปลือกมาลา้ งน้าใหส้ ะอาด ๓. นามีดจมิ้ หน่อไมเ้ ปน็ แนวตามความยาวปล้อง เวลาจมิ้ หา้ มให้หน่อไมข้ าดออกจากกัน ใหค้ งรูป เปน็ ลาหน่อไม้ไว้ ๔. ใช้ตอกไม้ไผ่ มัดตรงสว่ นปลาย เพื่อกนั ไม่ให้หนอ่ ไวแ้ ตกออกจากกัน ๕. นาหน่อไมท้ ่ีมัดแล้วใสล่ งในถงุ พลาสติก แล้ววางลงในถงั น้า ๖. ใส่นาสะอาดพอทว่ มหน่อไม้ แลว้ มดั ปากถุง ห้ามให้หน่อไมล้ อยขึ้นมา ๗. ทิง้ ไวป้ ระมาณ 2 คนื 8. นาออกมาตม้ ใสเ่ กลือเล็กน้อยตอนต้ม เม่ือสุกนามารับประทานได้ มรี สชาตมิ ัน ๆ อร่อย เคล็ดลบั - การหมักหนอ่ ไม้ 2 คืน หน่อมนั จะมคี วามมันอยู่ หากตอ้ งการทิง้ หน่อไมไ้ วน้ านกวา่ น้ี ให้ใส่เกลอื ลงไปหมกั ต่อได้ แตร่ สชาติหน่อไม้จะเปลีย่ นเป็นความเปรี้ยวแทน - หนอ่ มันเปน็ อาหารหลัก สามารถรบั ประทานคู่กบั พริกป่น น้าปู นา้ พริกน้าปูได้

. -328- ๔. ชื่อผู้ที่ถอื ปฏิบัตแิ ละผสู้ ืบทอด 4.๑ ผูท้ ถ่ี ือปฏบิ ัติ ชือ่ นางวรรณา สลีสองสม วนั เดือน ปีเกิด - ท่อี ยู่ ๙๙ หมู่ ๔ ตาบลบัวสลี อาเภอแมล่ าว จังหวดั เชยี งราย หมายเลขโทรศัพท์ ๐๘๗ ๓๐๔ ๕๐๘๘ 4.๒ ผสู้ ืบทอด ช่ือ นายบญุ ผาย สลสี องสม วัน เดอื น ปเี กิด - ท่อี ยู่ ๙๙ หมู่ ๔ ตาบลบัวสลี อาเภอแมล่ าว จงั หวัดเชยี งราย หมายเลขโทรศัพท์ 081 9525032 5. สถำนะ กำรคงอยู่  ปฏบิ ัติอยา่ งแพรห่ ลาย  เสี่ยงตอ่ การสญู หาย  ไมม่ ปี ฏบิ ัติแลว้ 6. รูปภำพภมู ปิ ัญญำทำงวัฒนธรรม/กจิ กรรมทำงภูมิปัญญำทำงวฒั นธรรม “ลา้ งหน่อไม้ใหส้ ะอาด” “ใช้มดี จมิ้ หน่อไม้” “ใช้ตอกไม้ไผ่มัดสว่ นปลาย ไม่ใหป้ ลายหน่อแตกออก” “หน่อไมท้ เี่ ตรียมหมกั ”

. -329- แบบสำรวจมรดกภมู ปิ ญั ญำทำงวัฒนธรรมจังหวัดเชียงรำย ประจำปี ๒๕๖๕ สภำวฒั นธรรมจังหวัดเชยี งรำย อำเภอเวียงชัย จังหวัดเชยี งรำย ๑. ชื่อข้อมูล หมอชาวบ้าน (หมอเป่าเพ่ือการรักษาโรคงสู วดั และโรคกระดูก) ๒. ลักษณะ  วรรณกรรมพ้ืนบา้ นและภาษา  ศิลปะการแสดง  แนวปฏบิ ตั ทิ างสงั คมพิธีกรรม ประเพณี และเทศกาล  อาหาร/ความรแู้ ละการปฏิบัติเกยี่ วกับธรรมชาติและจักรวาล  งานช่างฝีมอื ด้ังเดมิ  การละเล่นพน้ื บ้าน กีฬาพืน้ บา้ น และศิลปะการตอ่ สู่ป้องกนั ตวั ๓. รำยละเอียดขอ้ มูล ๓.๑) ประวัตคิ วามเปน็ มาของข้อมูล “หมอเป่า” เปน็ มรดกภมู ปิ ัญญาการแพทย์พ้ืนบ้านไทยทร่ี ักษาโรคด้วยการเปา่ คาถา ซึง่ สบื ทอดความรู้ มาจากบรรพบุรุษ และโรคที่เช่ือว่าสามารถรักษาได้ด้วยการเป่าคาถาน้ัน ส่วนใหญ่เป็นโรคผิวหนัง อาทิ แผลท่ี เกิดจากสัตว์กัด แผลท่ีเกิดจากไฟไหม้หรือน้าร้อนลวก แผลเริม แผลงูสวัด หรืออาจสามารถรักษา แผลเร้ือรัง มะเร็งที่ผวิ หนัง รวมไปถงึ การเปา่ กระดูกท่ีหักให้เชื่อมต่อตดิ กันได้ มรดกภูมิปัญญาการแพทย์พื้นบ้านไทยดว้ ยการรกั ษาโดยวิธกี ารเป่านั้น ถือได้ว่าเป็นการรักษาทางกาย การพ่นไม่ว่าจะเป็นน้ามนต์ ข้าวสาร น้า หรือเหล้าขาวไปตรงตาแหน่งท่ีมีอาการเจ็บปวด เปรียบเสมือนกับยา ท่ีหมอตามโรงพยาบาลจ่ายให้กับคนไข้ให้กลับไปทานท่ีบ้าน ส่วนการรักษาทางจิตใจ คือ การอาศัยความเชื่อ ของผู้ป่วยและญาตทิ ่ีมตี ่อส่งิ ศกั ดิส์ ิทธิท์ จี่ ะแสดงออกมาโดยการเป่าคาถาในการรกั ษาผูป้ ว่ ย พ่ออุ้ยข่ายแก้ว อุ่นนันกาศ ได้สืบทอดวิชาความรู้การแพทย์พ้ืนบ้านไทย “หมอเป่า” วิธีการรักษา โรคงูสวัด (มะเฮ็งไข่ปลา) และการเป่าโรคกระดูก มาจากญาติที่จังหวัดลาพูน และนาองค์ความรู้ดังกล่าว มาใช้รักษาชาวบ้านในพ้ืนท่ีจนหายจากโรคดังกล่าว และได้รับความเคารพนับถือจากชาวบ้านทั้งในพื้นท่ีและ นอกพ้นื ท่ที ี่ได้รับการรักษาจากโรคท่ีเป็นอยู่ ๓.๒) ขัน้ ตอน/วธิ กี าร/ดาเนินการเกยี่ วกับขอ้ มูล ผู้ป่วยจะเดินทางมารักษาโรคงูสวัด (มะเฮ็งไข่ปลา) หรือโรคกระดูกที่บ้านพ่ออุ้ยข่ายแก้ว อุ่นนันกาศ พร้อมนาดอกไม้ ธูปเทียนมาบูชาเพ่ือเป็นการขอให้พ่อหมอช่วยทาการรักษาให้ หลังจากท่ีพ่อหมอรับดอกไม้ ธูปเทียนแล้ว จะเร่ิมทาการรักษาด้วยการเป่าไปยังตาแหน่งที่มีอาการเจ็บปวดพร้อมกากับคาถา โดยจะทา การเปา่ รักษาในช่วงเวลาตอนเชา้ หรือตอนเยน็ หลังจากท่ีผู้ป่วยรักษาหายแล้วจะมาทาพิธีสรงเกล้าดาหัวกับพ่อหมอ เพื่อเป็นการแสดงออ กถึง ความเคาระและขอบคุณที่ทา่ นาให้การชว่ ยเหลือรกั ษาจนบรรเทาอาการเจ็บปว่ ยจนหายดี ๔. ชอื่ ผู้ที่ถือปฏิบตั แิ ละผูส้ ืบทอด ๔.๑ ผู้ทถี่ อื ปฏิบตั ิ ชอื่ นายขา่ ยแกว้ อุ่นนนั กาศ วัน เดือน ปีเกดิ ๒๗ กนั ยายน ๒๔๘๒ ทีอ่ ยู่ ๗๑ หมู่ ๑๐ ตาบลเวยี งชัย อาเภอเวยี งชัย จังหวัดเชยี งราย หมายเลขโทรศัพท์ ๐๘๔ ๖๑๒ ๐๐๑๓

. -330- ๔.๒ ผูส้ บื ทอด - ชื่อ - วัน เดอื น ปีเกดิ - ที่อยู่ - หมายเลขโทรศัพท์ ๕. สถำนะ กำรคงอยู่  ปฏบิ ตั อิ ย่างแพร่หลาย  เสีย่ งตอ่ การสญู หาย  ไมม่ ปี ฏบิ ตั ิแล้ว ๖. รปู ภำพภูมิปญั ญำทำงวัฒนธรรม/กจิ กรรมทำงภูมปิ ัญญำทำงวัฒนธรรม

. -331- แบบสำรวจมรดกภมู ปิ ญั ญำทำงวัฒนธรรมจงั หวัดเชียงรำย ประจำปี ๒๕๖๕ สภำวัฒนธรรมจงั หวดั เชยี งรำย อำเภอพญำเมง็ รำย จงั หวดั เชยี งรำย ๑. ช่ือข้อมลู หมอดูทานายโชคชะตา ทานายอนาคตของบคุ คล ๒. ลกั ษณะ  วรรณกรรมพ้ืนบา้ นและภาษา  ศิลปะการแสดง  แนวปฏิบัตทิ างสงั คมพิธีกรรม ประเพณี และเทศกาล  อาหาร/ความรู้และการปฏบิ ัตเิ ก่ยี วกบั ธรรมชาติและจกั รวาล  งานชา่ งฝมี ือดั้งเดมิ  การละเล่นพ้ืนบา้ น กีฬาพื้นบา้ น และศิลปะการตอ่ ส่ปู ้องกนั ตวั ๓. รำยละเอียดข้อมลู ๓.๑) ประวตั ิความเปน็ มาของข้อมลู สืบเน่ืองจากท่ีแม่ผล วงศ์ศรีดา ป่วยเป็นโรคไต และได้ทานยาสมุนไพรที่ทางคุณพ่อซ่ึงมีตาราสมุนไพร พน้ื บ้านและควบคู่กับการรักษาทางการแพทย์น้ัน หลังจากทีไ่ ดท้ าผลิตภณั ฑ์สมนุ ไพรข้นึ มาท้ังจาหน่ายและแจก แลว้ น้ัน ในระยะเวลาไม่นานแม่ผล ไดฝ้ ันว่ามีคนคนหนึ่งมาเข้าฝันแล้วบอกแม่ผลว่าจะเป็นคนชว่ ยแม่ผลในการ รักษาคนให้หายจากโรคต่าง ๆ เอง จากนั้นอีกไม่นานแม่ผลก็สามารถทานายโชคชะตาของบุคคลได้ด้วยการ ผ่านการรักษาหรือการทานายทายทักผ่านการรักษาของทั้งตัวบุคคลเองหรือคนรอบข้างหรือคนในครอบครัว ของคนนั้นได้ และช่วยแก้ไขความติดขัดของการดาเนินชีวิตในทุกด้านไม่ว่าจะเป็นเร่ืองของการงาน การเงิน ความรัก และอ่ืน ๆ ตามท่ีบุคคลคนนั้นจะประสบอยู่ แม่ผลก็ดาเนินการช่วยเหลือบุคคลมาตั้งแต่บัดนั้นจนถึง ปัจจบุ นั นี้ ๓.๒) ขัน้ ตอน/วิธกี าร/ดาเนินการเกีย่ วกับขอ้ มลู - ๔. ชอื่ ผทู้ ่ีถือปฏิบตั ิและผู้สืบทอด ๔.๑ ผูท้ ่ีถือปฏิบตั ิ ช่ือ นางผล วงศศ์ รีดา วนั เดือน ปเี กิด 28 กมุ ภาพันธ์ 2497 ทอ่ี ยู่ 113 หมู่ 4 บ้านสันสะอาด ตาบลไมย้ า อาเภอพญาเม็งราย จงั หวดั เชยี งราย หมายเลขโทรศัพท์ 087 173 5245 ๔.๒ ผูส้ ืบทอด ชอื่ - วนั เดือน ปีเกิด - ท่อี ยู่ - หมายเลขโทรศัพท์ - ๕. สถานะ การคงอยู่  ปฏิบัติอยา่ งแพรห่ ลาย  เสยี่ งต่อการสญู หาย  ไมม่ ีปฏบิ ัติแล้ว

. -332 ๖. รปู ภาพภูมิปญั ญาทางวัฒนธรรม/กจิ กรรมทางภูมิปัญญาทางวฒั นธรรม

. -333- แบบสำรวจมรดกภมู ิปญั ญำทำงวัฒนธรรมจังหวดั เชียงรำย ประจำปี ๒๕๖๕ สภำวฒั นธรรมจงั หวดั เชยี งรำย อำเภอเวยี งชยั จังหวดั เชียงรำย ๑. ช่ือข้อมูล หมอพนื้ เมอื ง ๒. ลกั ษณะ  วรรณกรรมพนื้ บ้านและภาษา  ศลิ ปะการแสดง  แนวปฏบิ ตั ิทางสงั คมพธิ ีกรรม ประเพณี และเทศกาล  อาหาร/ความรแู้ ละการปฏิบัติเกี่ยวกบั ธรรมชาติและจักรวาล  งานช่างฝีมือดัง้ เดมิ  การละเล่นพ้นื บา้ น กีฬาพ้นื บ้าน และศลิ ปะการต่อสปู่ ้องกันตวั ๓. รำยละเอยี ดข้อมูล ๓.๑) ประวตั คิ วามเป็นมาของข้อมูล นายนวล สายเขียว เกิดเม่ือวันที่ 5 มกราคม 2485 ปัจจุบัน อายุ 79 ปี อาศัยอยู่บ้านเลขท่ี 187 หมทู่ ่ี 4 บา้ นจอเจรญิ ตาบลดอนศลิ า อาเภอเวียงชยั จงั หวัดเชียงราย จากการสะสมประสบการณ์ด้านสมุนไพรมาเป็นเวลานาน นายนวล สายเขียวเป็นอีกผู้หนึ่งที่เป็น ทย่ี อมรับดา้ นการรกั ษาสุขภาพดว้ ยสมนุ ไพร โดยมตี ารบั ยาท่นี ายนวล สายเขยี ว ปรุงเอง เพอื่ ใช้ในการรักษาโรคตา่ ง ๆ โดยส่วนประกอบทางยานั้นส่วนใหญ่จะเป็นสมุนไพรพ้ืนบ้านท่ีหาได้ทั่วไป แต่บางชนิดก็เป็นของท่ีหายาก หรืออาจจะต้องระบุคุณสมบัตเิ ป็นพิเศษ ความสามารถด้านการรักษาสุขภาพด้วยยาสมุนไพร ท่ีปรุงด้วยตนเอง ถอื เปน็ สง่ิ ทนี่ ายนวลภาคภมู ิใจ และตอ้ งการทอดความรทู้ ีเ่ รยี กได้ว่าเป็นภูมิปัญญาท้องถนิ่ น้ีให้แก่คนรนุ่ ต่อไป ๓.๒) ขัน้ ตอน/วธิ กี าร/ดาเนินการเกยี่ วกบั ข้อมูล วธิ กี ำรถ่ำยทอดโดยสงั เขป 1. กำรปรงุ ยำสมนุ ไพร สมุนไพร 7 อยำ่ ง 1. ฮ่อสะพำยควำย ต้นฮ่อสะพายควายเป็นไม้เถาเล้ือยขนาดใหญ่ เกี่ยวพันตามต้นไม้ใหญ่ในป่า สรรพคุณทางยา เมื่อนามาต้มและดื่มน้าจะทาให้ร่างกายแข็งแรง แต่ต้องดื่มให้ได้ปริมาณเพียงพอ น้าต้ม มีรสจดื สีใส ผคู้ นจึงนยิ มนาเอาใบเตยใส่ลงไปตม้ กบั ใบฮ่อสะพายควายเพ่มิ รสหอมลงไป 2. มะเขือแจ้เครือ ลักษณะไม้เลื้อยมีเน้ือไม้ กิ่งอ่อน เกลี้ยง ใบเด่ียว ขอบใบเรียบ ปลายใบมีต่ิงแหลม เล็กน้อย ดอกสีชมพูหรือสีม่วงเป็นช่อมีขนปกคลุม ผลมีสีเขียวหรือบางผลสีแดงอ่อน สรรพคุณทางยา เถาตม้ ดืม่ มสี รรพคณุ เป็นยาชกู าลงั ลาตน้ ตม้ กับมงุ้ หยวดโดไ่ ม่ร้ลู ้ม ฮอ่ สะพายควาย เขา้ ยาบารุงกาลงั 3. ไม้แก่นฝำง สรรพคุณทางยา รสข่ืนขาหวาน ฝาด รับประทานเป็นยาบารุงโลหิตสตรีขับประจาเดือน แก้ปอดพิการ ขับหนอง ทาโลหิตให้เย็น รับประทานแก้ท้องร่วง แก้ธาตุพิการ แก้ร้อน แก้โลหิตออกทางทวาร หนักและเบา รักษาน้ากัดเท้า แก้คุดทะราด แก้เสมหะ แก้โลหิต แก้เลือดกาเดา น้ามันระเหย เป็นยาสมาน อยา่ งออ่ น แกท้ ้องเดิน 4. เครือเขำแกลบขำวและแดง เป็นไม้พุ่มรอ ก่ิงอ่อนมีขนสีน้าตาล ยิ่งแก่เกล้ียง สีดา ผลย้อยคล้าย สร้อยลูกปัด คอดเป็นข้อๆ มีได้ถึง 7 ข้อ เม่ือสุกสีดาเป็นมัน ห้อยลง สรรพคุณ ดอกสด มีน้ามันหอมระเหย ไมม่ ีกลน่ิ หอมเฉพาะตัว เข้ายาหอมบารุงหัวใจ ตน้ และราก ใช้เขา้ ยาอบ รกั ษาอาการติดยาเสพติด

. -334- 5. ฝกั ข้ีเหลก็ สรรพคณุ ฝัก แก้พิษไขเ้ พ่ือน้าดี พิษไข้เพื่อเสมหะ ลมข้ึนเบือ้ งสูง เบื้องบน ทาใหก้ ระส่า กระสายในทอ้ ง เปลอื กฝัก แกเ้ ส้นเอน็ พิการ 6. หัวข้ำวเย็นเหนือ ข้าวเย็นเหนืออยู่คู่กับข้าวเย็นใต้ เป็นไม้เลื้อยลงหัว ไม้เถาขนาดเล็ก ลาต้นมี หนาม ใบคล้ายใบกลอย รูปไข่ยาวหนา หัว สนี ้าตาลอ่อน เปลือกและเน้อื ในหวั สีแดง รสมนั อรอ่ ยหวานเล็กน้อย สรรพคุณ ใชห้ ัว แก้เสน้ พิการ น้าเหลืองเสีย กามโรค เปอ่ื ยพพุ อง ต้น แก้อัมพาตแกป้ ระดง คุดทะราด น้าเหลืองเสีย แกเ้ สน้ เอ็นพิการ แก้กามโรค ออกดอก เขา้ ข้อฝีแผลเน่าเปื่อย พุพอง เมด็ ผืน่ คนั ดับพษิ ในกระดูก แกป้ ัสสาวะ 7. ข้ำวจ้ำว มีรสมันเย็น สรรพคุณ แก้พิษร้อนในกระหายน้า ทาให้ชุ่มชื่นใจ และใช้ตาผสมกับสุรา ทาแกล้ มพิษ ผ่ืนคนั ไดด้ ี ๔. ชือ่ ผู้ท่ีถอื ปฏิบตั แิ ละผู้สืบทอด ๔.๑ ผ้ทู ีถ่ อื ปฏิบตั ิ ชือ่ นายนวล สายเขยี ว วนั เดือน ปีเกิด 5 มกราคม 2485 ท่อี ยู่ 187 หมู่ 4 บา้ นจอเจริญ ตาบลดอนศิลา อาเภอเวียงชยั จังหวดั เชยี งราย หมายเลขโทรศัพท์ - ๔.๒ ผู้สืบทอด ชื่อ - วัน เดือน ปเี กดิ - ทอ่ี ยู่ - หมายเลขโทรศัพท์ - ๕. สถานะ การคงอยู่  ปฏิบัตอิ ย่างแพรห่ ลาย  เสี่ยงตอ่ การสญู หาย  ไม่มีปฏบิ ัตแิ ล้ว ๖. รปู ภำพภูมปิ ญั ญำทำงวัฒนธรรม/กิจกรรมทำงภูมปิ ัญญำทำงวัฒนธรรม

. -335- แบบสำรวจมรดกภมู ิปัญญำทำงวฒั นธรรมจงั หวดั เชียงรำย ประจำปี ๒๕๖๕ สภำวฒั นธรรมจังหวดั เชยี งรำย อำเภอพญำเมง็ รำย จังหวดั เชยี งรำย ๑. ชื่อข้อมลู หมอเมือง ปราชญ์สมนุ ไพร ๒. ลกั ษณะ  วรรณกรรมพ้นื บา้ นและภาษา  ศลิ ปะการแสดง  แนวปฏิบตั ทิ างสงั คมพธิ ีกรรม ประเพณี และเทศกาล  อาหาร/ความรู้และการปฏิบัติเกย่ี วกบั ธรรมชาติและจักรวาล  งานชา่ งฝมี ือดั้งเดิม  การละเล่นพ้ืนบา้ น กีฬาพน้ื บ้าน และศิลปะการต่อสู่ป้องกันตวั ๓. รำยละเอียดขอ้ มูล ๓.๑) ประวตั ิความเป็นมาของข้อมูล เมื่อปี พ.ศ.๒๕๓๕ แม่ผล วงศ์ศรีดา ได้ป่วยเป็นโรคไตซ่ึงเป็นโรคท่ีต้องใช้เงินเป็นจานวนมากในการ รกั ษาซง่ึ เปน็ ไตแบบภูมิแพ้ตัวเองประกอบกับทางบ้านมฐี านะท่ยี ากจน ทางครอบครัวของแม่ผลซ่งึ มีคุณพ่อเป็น หมอเกี่ยวกับสมุนไพรอยู่แล้วจึงหาทางเลอื กในการรักษาใหแ้ ม่ผล โดยการทดลองใช้สมุนไพรพื้นบ้านมาเป็นตัว ช่วยในการรักษา หลังจากรักษามาได้ระยะหน่ึงมีอาการดีข้ึนมากตามลาดับ ทาให้แม่ผลมีแนวคิดท่ีจะนา สมุนไพรมาเปน็ ตวั ชว่ ยในการรักษาโรคไตให้กับคนอน่ื ๆ เพ่ือทีจ่ ะช่วยลดค่าใชจ้ ่ายอีกดว้ ย ในระยะเวลาหลายปี ท่ีสะสมเร่ืองความรู้สมุนไพรและประกอบกับที่คุณพ่อได้ถ่ายทอดความรู้ด้านสมุนไพร สูตรยาสมุนไพรต่าง ๆ ให้แม่ผลจึงลงมือปลูกสมุนไพรต่าง ๆ มากมายบริเวณบ้านตัวเองเพ่ือนามาปรุงยาและแปรรูปสมุนไพรต่าง ๆ เป็นผลิตภัณฑ์เพื่อบรรเทาอาการของโรตไต เบาหวาน ริดสีดวง ปวดประจาเดือน เพิ่มน้านม บารุงกาลัง ล้างสารพิษ และอื่น ๆ อีกมากมาย จนกระทง่ั ปี พ.ศ.๒๕๕๔ แมผ่ ลกม็ อี าการดีข้นึ ทางโรงพยาบาลจึงใหแ้ ค่ตรวจ สขุ ภาพปลี ะ ๑ คร้งั เทา่ น้นั นบั จากวันนน้ั จนถงึ ปจั จบุ ันแมผ่ ลก็ยังคงดาเนินการแปรรูปผลติ ภัณฑ์สมนุ ไพรตา่ ง ๆ เพื่อช่วยเหลือชาวบ้านและคนท่ีต้องการสมุนไพรเป็นทางเลือกในการช่วยบรรเทาอาการป่วย และสมุนไพรทุก ชนิดเป็นสมุนไพร ออแกนิค 100% จึงม่ันใจได้ว่าจะไม่มีผลเสียต่อร่างกาย และสิ่งที่สาคัญท่ีสุดคือ ได้อนุรักษ์และสืบสานตารายาสมุนไพรพ้ืนบา้ นไว้ใหป้ ระชาชนท่ัวไปและลูกหลานได้รู้จกั และนาไปใช้ประโยชน์ รักษาโรคต่าง ๆ สืบไป และแม่ผลได้รับรางวัลคนดีศรีเชียงราย ประจาปี ๒๕๖๑ ในสาขา ความรู้และแนว ปฏิบัตเิ กย่ี วกับธรรมชาติและจกั รวาล ๓.๒) ขั้นตอน/วิธกี าร/ดาเนินการเกี่ยวกับขอ้ มูล - ๔. ช่ือผูท้ ่ีถือปฏิบัตแิ ละผ้สู บื ทอด ๔.๑ ผทู้ ่ีถือปฏิบัติ ชือ่ นางผล วงศ์ศรีดา วัน เดอื น ปีเกดิ 28 กมุ ภาพนั ธ์ 2497 ทอ่ี ยู่ 113 หมู่ 4 บ้านสันสะอาด ตาบลไมย้ า อาเภอพญาเม็งราย จงั หวดั เชียงราย หมายเลขโทรศัพท์ 087 173 5245

. ๔.๒ ผ้สู ืบทอด -336- ช่อื วนั เดอื น ปเี กดิ นางสาว สุภาภรณ์ วงคศ์ รดี า ท่อี ยู่ 13 มิถุนายน 2528 113 หมู่ 4 บ้านสนั สะอาด ตาบลไมย้ า อาเภอพญาเม็งราย หมายเลขโทรศัพท์ จังหวดั เชยี งราย 095 695 6496 ๕. สถำนะ กำรคงอยู่ ปฏบิ ัตอิ ย่างแพรห่ ลาย  เสย่ี งตอ่ การสูญหาย  ไม่มปี ฏิบตั แิ ลว้ ๖. รูปภำพภูมปิ ัญญำทำงวัฒนธรรม/กิจกรรมทำงภูมปิ ัญญำทำงวัฒนธรรม

. -337- แบบสำรวจมรดกภมู ิปัญญำทำงวัฒนธรรมจงั หวัดเชยี งรำย ประจำปี ๒๕๖๕ สภำวัฒนธรรมจังหวดั เชยี งรำย อำเภอเวียงชัย จังหวดั เชียงรำย ๑. ช่ือข้อมูล หมอยาสมุนไพร ๒. ลกั ษณะ  วรรณกรรมพนื้ บา้ นและภาษา  ศิลปะการแสดง  แนวปฏบิ ัติทางสงั คมพิธีกรรม ประเพณี และเทศกาล  อาหาร/ความรแู้ ละการปฏบิ ัติเก่ยี วกับธรรมชาติและจักรวาล  งานชา่ งฝีมอื ดงั้ เดิม  การละเล่นพืน้ บา้ น กีฬาพืน้ บา้ น และศิลปะการต่อสู่ป้องกนั ตัว ๓. รำยละเอียดขอ้ มูล ๓.๑) ประวตั คิ วามเปน็ มาของขอ้ มลู นายฮ่วน หน่อสุวรรณ์ เกิดเม่ือวันที่ 1 เมษายน 2477 ปัจจุบัน อายุ 87 ปี เป็นบุตรของนายส่างคา นางดว้ ง หน่อสวุ รรณ์ อาศัยอย่บู า้ นเลขท่ี 96 หมู่ที่ 15 บ้านสันเจรญิ ตาบลดอนศลิ า อาเภอเวยี งชัย จังหวัดเชียงราย นายฮ่วน หน่อสุวรรณ์ เป็นผู้มีความรู้ด้านการใช้สมุนไพรหลากหลายชนดิ นามาปรุงเป็น ยาสมุนไพร ท่ีช่วยในการบาบัดรักษาโรคต่าง ๆ การใช้พืชสมุนไพรท่ีมีอยู่ในท้องถิ่นมาใช้ประโยชน์ เพ่ือรักษาสุขภาพ ถือ เป็นภูมิปัญญาเฉพาะตน นายฮ่วน หน่อสุวรรณ์ เรียนรู้สรรพคุณทางยาของสมุนไพรต่าง ๆ ด้วยตัวเอง และ นามาปรุงเป็นยาสมุนไพรจนเป็นที่ยอมรับของคนในชุมชน นอกจากน้ี นายฮ่วน หน่อสุวรรณ์ยังได้มีการจด บันทึกสตู รยาสมนุ ไพรต่าง ๆ ไว้เพอื่ ใหล้ ูกหลานไดเ้ รียนรู้อีกดว้ ยตอ่ ไป ๓.๒) ขั้นตอน/วิธกี าร/ดาเนินการเกย่ี วกบั ข้อมลู หมอยำสมนุ ไพร วิธีกำรถำ่ ยทอดโดยสงั เขป สมนุ ไพรบำบดั และรกั ษำโรคเบำหวำน 1. เตยหอม (ใบและรำก) กับใบต้นสักทอง วิธีทำ น้าต้นเตยหอมเอาทั้งใบและราก ล้างให้สะอาด ตัดส่วนของใบสักทองและใบเตย หอมอย่างละ เท่า ๆ กัน เอามาคั่วไปให้เหลืองส่วนรากเตยหอมไม่ต้องคั่ว แต่เอามาทุบให้แตกแล้วใส่ทั้ง 3 อย่างลงไปใน หม้อต้ม นานา้ ยาทไี่ ดม้ าด่มื แทนน้าทุกวนั ประมาณ 1 เดอื น 2. มะระขน้ี ก วิธีทำ ให้ห่นั มะระขน้ี ก ตากแดดใหแ้ ห้ง นามาชงกบั น้าร้อนดม่ื หรอื ถา้ ตอ้ งการกลบรสขม ให้เติมใบชา ชนดิ ใดกไ็ ด้ลงไปในขณะทช่ี ง และสงิ่ ท่ตี ้องระมัดระวงั เปน็ พเิ ศษ คอื การรบั ประทานเมล็ดของมะระข้ีนก อาจจะ ทาใหเ้ กดิ อาการปวดศีรษะ เป็นไข้ ปวดท้อง ดังน้ันหากจะนามะระข้ีนกมาทายารับประทาน ต้องแกะเมล็ดเสมอ สมุนไพรแก้โรคปวอหลังปวดเอว 1. เพชรสังฆำต วิธที ำ ใช้ส่วนที่เปน็ เถาซ่ึงมรี สร้อนหรือขมคัน ใหน้ าเถาเพชรสังฆาตสดยาวประมาณ 1 – 2 นิว้ สอดเข้า ไปในกล้วยสุกแล้วกินติดต่อกันประมาณ 10 – 15 วัน จะทาให้อาการริดสีดวงทวารดีข้ึน คาเตือนคืออย่ากิน เถาเพชรสังฆาตสดโดยตรง เพราะจะเกิด อาการคันปากและลาคอได้อีกวิธีหนึ่งคือการทาเป็นแคปซูลขนาด 250 มิลลิกรัม โดยการนาเถาเพชรสังฆาตไปตากแดดให้แห้งแล้วบดละเอียด บรรจุใส่แคปซูล ขนาด250 มิลลกิ รัม เกบ็ ไวก้ ินโดยกินครงั้ ละ 2 แคปซลู วนั ละ 4 ครั้ง (ก่อนอาหารเชา้ กลางวนั เย็น และก่อนนอน) โดยกิน จนอาการรดิ สีดวงหายเปน็ ปกติ