-๓87- ๔. ช่อื ผู้ถือปฏบิ ตั ิและผู้สืบทอด 4.1 ผู้ทถ่ี อื ปฏิบัติ ช่ือ นายเล็ก ลกั ษว์ ิลัย วนั เดือน ปเี กิด 4 สงิ หาคม 2495 ทอ่ี ยู่ 2 หมู่ 17 บ้านใหม่ศรวี ไิ ลย์ ต้าบลดอนศลิ า อ้าเภอเวยี งชัย จงั หวัดเชยี งราย หมายเลขโทรศัพท์ ๐๘๗ ๑๘๙ ๗๙๐๕ ๔.๒ ผสู้ ืบทอด ช่อื - วนั เดอื น ปเี กิด - ท่อี ยู่ - หมายเลขโทรศัพท์ - ๕. สถำนะ กำรคงอยู่ ปฏบิ ัตอิ ย่างแพร่หลาย เสี่ยงตอ่ การสูญหาย ไม่ปฏบิ ัติแลว้ ๖. รปู ภำพภมู ปิ ญั ญำทำงวัฒนธรรม/กิจกรรมทำงภมู ปิ ัญญำทำงวัฒนธรรม
-๓๘๘- แบบสำรวจมรดกภมู ปิ ญั ญำทำงวฒั นธรรมจังหวัดเชียงรำย ประจำปี ๒๕๖๕ สภำวัฒนธรรมจงั หวดั เชยี งรำย อำเภอพญำเมง็ รำย จังหวัดเชยี งรำย ๑. ชื่อข้อมูล การสานไม้กวาดดอกหญา้ (ก๋ง) ๒. ลักษณะ วรรณกรรมพ้นื บา้ นและภาษา ศิลปะการแสดง แนวปฏบิ ัติทางสงั คมพิธีกรรม ประเพณี และเทศกาล อาหาร/ความรูแ้ ละการปฏบิ ัตเิ กีย่ วกับธรรมชาติและจกั รวาล งานชา่ งฝมี ือด้งั เดิม การละเล่นพืน้ บา้ น กีฬาพ้นื บา้ น และศลิ ปะการตอ่ ส่ปู ้องกันตัว ๓. รำยละเอียดขอ้ มลู ๓.๑) ประวตั ิความเป็นมาของข้อมูล ในปี พ.ศ. 2544 นางบัวค้า อานุ เป็นหัวหน้าเร่ิมต้นในการสานไม้กวาดดอกหญ้า (ก๋ง) ด้วยการรับ เป็นผู้ฝึกสอนให้กับกลุ่มแม่บ้านท่ีสนใจซ่ึงมีผู้สนใจเป็นจ้านวนมาก และในปี พ.ศ.2548 ทางกลุ่มจึงได้จด ทะเบียนเป็นวิสาหกิจชุมชน กลุ่มหัตถกรรมไม้กวาด รหัสทะเบียน 6-57-12-02/1-0001 ออกให้ ณ วันท่ี 17 ตุลาคม 2548 และต่อมาทางกลุ่มก็ได้รับการส่งเสริมให้มีผลิตภัณฑ์เพ่ือเสริมรายได้ให้กับกลุ่มและชุมชน โดยสนับสนุนงบประมาณเป็นเงิน 50,000 บาท จากหน่วยงานราชการเพื่อจัดซ้ือวัสดอุ ุปกรณ์ที่จ้าเป็นในการ ท้างาน ไดผ้ ลผลิตเป็นผลิตภัณฑ์ทางวัฒนธรรม คอื ไม้กวาดดอกหญา้ ท่ีท้ากับมือ เปน็ การสร้างงาน สรา้ งอาชีพ สร้างรายได้ ให้กับกลุ่มและชุมชนได้เป็นอย่างมาก ที่ส้าคัญ คือสร้างขวัญและก้าลังใจให้กับทางกลุ่มให้มี แรงผลักดันในการผลิตไม้กวาดด้วยความตั้งใจเพ่ือให้ได้ผลผลิตที่มีคุณภาพสามารถส่งออกไปจ้าหน่ายยังตลาด ภายนอกที่มีความต้องการ เป็นมรดกภูมิปัญญางานฝีมือที่ควรอนุรักษ์ไว้และเส่ียงต่อการสูญหาย เพราะไม่มี เยาวชนท่สี นใจจะสืบทอดต่อ ๓.๒) ขัน้ ตอน/วิธีการ/ดา้ เนนิ การเกย่ี วกบั ขอ้ มูล 1. ด้าเนินการจดั หาต้นดอกหญ้า (กง๋ ) ทขี่ ึ้นตามข้างทางและในป่า 2. นา้ กง๋ ที่ไดม้ าคดั แยกและวางเรยี งใหเ้ ป็นระเบยี บเพ่ือง่ายต่อการน้าไปสาน 3. จกั สานดอกหญ้าที่ได้ด้วยมือ (ไม่ใช้เครื่องจักร) ดว้ ยความละเอยี ด 4. น้าไม้กวาดท่ีได้ไปวางจ้าหนา่ ย ราคาขึ้นอยกู่ ับขนาด 5. สรุปเงนิ ทขี่ ายไดเ้ ข้าบัญชีกล่มุ แมบ่ ้านเพอื่ เปน็ ทุนตอ่ ยอดต่อไป ๔. ช่ือผู้ท่ีถือปฏิบัติและผสู้ ืบทอด ๔.๑ ผู้ที่ถอื ปฏิบัติ ช่ือ นางบวั คา้ อานุ วัน เดือน ปเี กดิ 28 มิถุนายน 2497 ที่อยู่ 48 หมู่ 9 ตา้ บลแม่ต้า อา้ เภอพญาเมง็ ราย จงั หวดั เชยี งราย หมายเลขโทรศัพท์ 086 184 3281 ๔.๒ ผู้สบื ทอด ชื่อ นางกนั ยา สุขเกษม วัน เดือน ปเี กิด 1 มกราคม 2511 ทอี่ ยู่ 154 หมู่ 9 ต้าบลแม่ตา้ อ้าเภอพญาเมง็ ราย จังหวดั เชยี งราย หมายเลขโทรศัพท์ 092 970 7135
-๓๘๙- ๕. สถำนะ กำรคงอยู่ ปฏิบัตอิ ย่างแพร่หลาย เสย่ี งต่อการสญู หาย ไม่มีปฏบิ ตั ิแลว้ ๖. รูปภำพภูมิปญั ญำทำงวัฒนธรรม/กิจกรรมทำงภูมปิ ัญญำทำงวัฒนธรรม
-๓๙๐- แบบสำรวจมรดกภมู ิปัญญำทำงวัฒนธรรมจังหวัดเชยี งรำย ประจำปี 2565 สภำวฒั นธรรมจังหวดั เชยี งรำย อำเภอขนุ ตำล จังหวดั เชียงรำย ๑. ช่ือข้อมลู การสานแห ๒. ลักษณะ วรรณกรรมพ้ืนบา้ นและภาษา ศลิ ปะการแสดง แนวปฏบิ ัติทางสังคมพิธีกรรม ประเพณี และเทศกาล อาหาร/ความรู้และการปฏบิ ัติเกย่ี วกบั ธรรมชาติและจกั รวาล งานชา่ งฝมี อื ดงั้ เดิม การละเลน่ พ้นื บา้ น กีฬาพื้นบา้ น และศิลปะการต่อสูป่ ้องกนั ตวั ๓. รำยละเอยี ดขอ้ มูล 3.1 ประวตั ิความเป็นมาของข้อมูล การสานแห จับปลา เป็นภมู ปิ ัญญาของนายประโยชน์ สงิ หแ์ กว้ เกิดวนั ท่ี 23 สงิ หาคม 2494 อายุ 71 ปี มีภูมิล้าเนาอยู่บ้านเลขท่ี 66 หมู่ท่ี 1 บ้านป่าตาลเหนือ ต้าบลป่าตาล อ้าเภอขุนตาล จังหวัดเชียงราย อาชีพ เดิม คือ ท้านา ท้าสวนเม้ียง จากเดิมเม่ือว่างเว้นจากการท้านา มีการท้ามาหากินตามธรรมชาติ จับปลาตาม ล้าห้วย ล้าคลอง โดยใช้เบ็ด ยกยอ แห เพ่ือหาปลาน้ามาเล้ียงครอบครัว ซ่ึงนายประโยชน์ สิงห์แก้ว สืบทอด การสานแหมาจากบิดา เรม่ิ ซมึ ซับและเหน็ บิดาสานแหมาตั้งแต่เด็ก ด้วยใจที่ชอบ จงึ ขอลองถกู ลองผิด รวมท้ังมี ความคิดริเร่ิมทางด้านการสานต่าง ๆด้วย จึงได้ศึกษาหาความรู้เพ่ิมเติมจากผู้รู้ในชุมชน สื่อต่าง ๆ เทคนิคใหม่ ๆ เพอ่ื ให้แหทสี่ านแหออกมามีคุณภาพ มีความแขง็ แรง ทนทาน มรดกภูมิปัญญาการสานแหนี้ สามารถสาร้างรายได้แก่ครอบครัว ราคา ดางละ 800 - 1,200 บาท แล้วแต่ขนาดความกว้างและสร้อยแหท่ีใส่ และคลายความเครียดได้ เพราะนายประโยชน์ สิงห์แก้ว มีโรค ประจ้าตัวคือ กระดูกทับเส้น ไม่สามารถไปท้างานหนักได้ จึงใช้ภูมิปัญญาท่ีมีอยู่ ท้ารายได้เสริมแก่ครอบครัว และท่ีส้าคัญ ผ่อนคลาย พักผ่อน เวลาสานแหจะเปิดเพลงลูกทุ่ง ฟังข่าวสารสาระไปด้วย ทั้งน้ี นายประโยชน์ สิงห์แก้ว แจ้งว่าพร้อมจะสอน หรือถ่ายทอดภูมปัญญานี้ไห้แก่ อนุชน และผู้สนใจทั่วไปได้ โดยไม่คิดค่าใช้จ่าย แต่ขอใหม้ คี วามตั้งใจจริงท่จี ะเรียนรู้ 3.2 ขนั้ ตอน/วิธกี าร/ดา้ เนนิ การเกีย่ วกบั ข้อมูล อปุ กรณท์ เ่ี กยี่ วข้องในกำรสำนแห 1. ด้ายไนลอนสขี าวส้าหรบั สานแห 2. ไมป้ า (ท้าการไม้ไผข่ นาดยาว 1 คืบมอื 3. ธูป 4. โซ่ (สร้อยแห) ข้ันตอนกำรสำน 1. ขึน้ จอมแห โดยใช้เชอื กดา้ ยเบอร์ 4 เบอร์ หรอื เบอร์ 9 ก็ได้ 2. ถักแห ขนาด 16 เสา หรือเรียกว่า 16 ขา) โดยถักไปเร่ือย ๆ เวียนให้ครบ 2 รอบ แล้วจึงขยาย เพิ่มเสาละ 1 ชอ่ ง หรือเรยี กวา่ 1 ตา ท้าไปเร่ือย ๆ จนครบ 16 ขา การถักแหน้ีมีหลายขนาดที่ท่ีต้องการ ถ้าต้องการแหขนาดศอก ต้องหยุดขยายตาเมื่อถักไปจนถึง 8 ศอก ถ้าต้องการแห ขนาด 9 ศอก จะต้องขยายตาเม่ือถักไปจนถงึ 7 ศอก
-391- 3. เทคนคิ การสานจะขึน้ อย่กู ับการดงึ และการพันดา้ ย เม่ือจะจบการสานดา้ ย จะใช้ธูปจดุ ไฟเผาท่ดี ้าย เพื่อป้องกันการหลุดหรือเรียกว่า ด้ายลุ่ย 4. เม่ือได้แหตามขนาดทต่ี ้องการแล้ว จะใสโ่ ซ่ (สรอ้ ยแห)ตามขนาดทตี่ อ้ งการ ต้องการให้หนกั กใ็ ส่โซ่ ท่ีหนัก ถา้ ใส่หนักจะสามารถทอดลงน้าอย่างรวดเร็ว ทา้ ให้ไดป้ ลามาก ๔. ชือ่ ผู้ถือปฏิบัติและผู้สบื ทอด 4.1 ผู้ทีถ่ อื ปฏิบัติ ชอื่ นายประโยชน์ สงิ ห์แก้ว วนั เดอื น ปเี กดิ 23 สิงหาคม 2494 ทอ่ี ยู่ 66 หมู่ 1 ตา้ บลป่าตาล อา้ เภอขุนตาล จังหวัดเชียงราย หมายเลขโทรศพั ท์ ๐๘๗ ๑๘๙ ๗๙๐๕ ๔.๒ ผสู้ บื ทอด ช่ือ - วัน เดอื น ปีเกิด - ทอี่ ยู่ - หมายเลขโทรศพั ท์ - ๕. สถำนะ กำรคงอยู่ ปฏิบตั อิ ย่างแพรห่ ลาย เส่ยี งต่อการสูญหาย ไมป่ ฏบิ ัติแลว้ ๖. รูปภำพภูมิปัญญำทำงวัฒนธรรม/กิจกรรมทำงภมู ิปัญญำทำงวัฒนธรรม -ไม่ม-ี
-392- แบบสำรวจมรดกภมู ปิ ัญญำทำงวัฒนธรรมจงั หวัดเชียงรำย ประจำปี 2565 สภำวัฒนธรรมจังหวัดเชยี งรำย อำเภอเวยี งชัย จังหวัดเชยี งรำย 1. ช่ือข้อมลู แกะสลกั จากเศษไม้ 2. ลักษณะ วรรณกรรมพื้นบ้านและภาษา ศิลปะการแสดง แนวปฏบิ ตั ิทางสงั คมพธิ ีกรรม ประเพณแี ละเทศกาล อาหาร/ความรูแ้ ละการปฏิบัติเก่ียวกบั ธรรมชาตแิ ละจักรวาล งานช่างฝมี ือดง้ั เดมิ การละเล่นพนื้ บา้ น กีฬาพื้นบ้าน และศิลปะการติอสู้ปอ้ งกนั ตัว 3. รำยละเอียดข้อมูล 3.1) ประวัตคิ วามเปน็ มาของขอ้ มลู นายชยั ยศ สมสวสั ดิ์ เกิดเมือ่ วนั ที่ 30 มีนาคม พ.ศ. 2507 ทจ่ี ังหวดั เชียงราย ภายหลงั ได้ยา้ ยมาอยู่ ที่หมู่บ้านดงมะตืน หมู่ที่ 7 ต้าบลผางาม อ้าเภอเวียงชัย จังหวัดเชียงราย เป็นผู้ท่ีมีความสนใจด้านการวาดรูป ต้ังแต่เด็ก ชอบใช้เวลาว่างในการวาดรูป เนื่องจากบิดาเป็นช่างไม้รับสร้างบ้าน จึงได้น้าเศษไม้มาแกะสลักเป็น รูปสัตว์ต่าง ๆ ตามจินตนาการตอนสมัยเรียนอยู่ชั้นประถมศึกษาปีท่ี 3 จนสามารถประดิษฐ์รูปหัวใจมีนกแก้ว คปู่ ระดบั จ้าหนา่ ยให้วัยรนุ่ หน่มุ สาวในวันวาเลนไทน์ หลังจากจบช้ันประถมศึกษาปีที่ 4 ท่ีโรงเรียนดงมะตืน ก็ไม่ได้ศึกษาต่อ เน่ืองจากมีใจรักงานแกะสลัก ไม้ จงึ หมน่ั ฝึกฝนฝีมอื อยา่ งสม่า้ เสมอ จนกระทัง่ ปี พ.ศ. 2531 ได้เขา้ รบั การอบรมแกะสลักไม้ทีศ่ ูนย์การศึกษา นอกโรงเรียนอ้าเภอเวียงชัย และได้น้าความรู้มาแกะสลักเป็นรูปสัตว์ต่าง ๆ แต่ยังไม่สามารถต่อยอดให้เป็น สินค้าท่ีเป็นท่ีนิยมในตลาดได้ เนื่องจากไม่มีความรู้ด้านการตลาด ต่อมามีเจ้าของร้านจ้าหน่ายของท่ีระลึกมา ติดต่อสั่งซื้อผลิตภัณฑ์แกะสลักไม้และรูปสัตว์ต่าง ๆ และน้าออกจ้าหน่ายอย่างกว้างขวาง ต่อมาในปี 2543 ได้จัดต้ังกลุ่มจากผู้สนใจ โดยมีช่ือกลุ่มว่า “กลุ่มแกะสลักจากเศษไม้ บ้านดงมะตืน” โดยท้าหน้าที่เป็นประธาน กลุ่ม ซึ่งเป็นการยกระดับคุณภาพชีวิตของคนในชุมชนให้มีรายได้นอกเหนือจากอาชีพเกษตรกรรมและสามรถ ขยายเครือข่ายไปยังหมู่บ้านอ่ืน ๆ ในพื้นที่ต้าบลผางาม และได้จ้าหน่ายสนิ ค้าไดท้ ันต่อความตอ้ งการของตลาด มากย่งิ ข้นึ จนถงึ สามารถจ้าหนา่ ยไปยงั ต่างประเทศ 3.2) ขั้นตอน/วธิ ีการ/ดา้ เนินการเกยี่ วกบั ข้อมลู 1. แนะนา้ อปุ กรณ์การท้าโมบายชนิดต่าง ๆ 2. แนะน้าวธิ ใี ชอ้ ปุ กรณ์ เช่นการเลอ่ื ย การตัด การเหลา การเจาะ การประกอบ ฯลฯ 3. วิธกี ารเขา้ รูปเป็นโมบายชนดิ ตา่ ง ๆ 4. การนา้ เชือกปอมาถักหรอื ขวั้ เชือกเป็นแขนขาตุ๊กตาหรือสัตว์ตา่ ง ๆ 5. การเคลือบเงาเพื่อใหเ้ กดิ ความสวยงาม 6. การติดเข็มกลดั สา้ หรบั เปน็ เครอ่ื งประดับ 7. การเกบ็ งานหรอื ตกแต่ง
4. ชือ่ ผถู้ อื ปฏบิ ตั แิ ละสืบทอด -๓๙๓- 4.1 ผถู้ อื ปฏิบัติ ชอ่ื นายชัยยศ สมสวสั ด์ิ วนั เดอื น ปี เกดิ 30 มนี าคม 2507 ทอ่ี ยู่ 63 หมู่ 7 ตา้ บลผางาม อ้าเภอเวยี งชัย จงั หวัดเชียงราย หมายเลขโทรศัพท์ 086 191 1329 4.2 ผู้สืบทอด ช่อื นางบุหงา มะโนจิตร วนั เดือน ปี เกดิ 12 มกราคม 2519 ท่อี ยู่ บ้านเลขท่ี 134 หมู่ 7 ตา้ บลผางาม อา้ เภอเวยี งชยั จังหวัดเชยี งราย หมายเลขโทรศัพท์ 065 680 5159 5. สถำนะ กำรคงอยู่ ปฏบิ ตั ิอย่างแพร่หลาย เสย่ี งตอ่ การสูญหาย ไมม่ ปี ฏิบตั แิ ลว้ 6. รปู ภำพภมู ิปัญญำทำงวัฒนธรรม/กิจกรรมทำงภมู ิปัญญำทำงวัฒนธรรม
-๓๙๔- แบบสำรวจมรดกภมู ปิ ัญญำทำงวัฒนธรรมจงั หวัดเชียงรำย ประจำปี ๒๕๖4 สำนักงำนวัฒนธรรมจังหวดั เชียงรำย อำเภอแม่ลำว จงั หวัดเชยี งรำย ๑. ช่ือข้อมูล ขล่ยุ ไม้ ๒. ลกั ษณะ วรรณกรรมพน้ื บา้ นและภาษา ศลิ ปะการแสดง แนวปฏิบัตทิ างสงั คมพิธีกรรม ประเพณี และเทศกาล อาหาร/ความรูแ้ ละการปฏบิ ัติเกยี่ วกับธรรมชาติและจกั รวาล งานช่างฝมี อื ดัง้ เดิม การละเลน่ พื้นบา้ น กีฬาพืน้ บ้าน และศลิ ปะการต่อสู่ป้องกันตัว ๓. รำยละเอียดข้อมลู ๓.๑) ประวัตคิ วามเป็นมาของขอ้ มูล ขลยุ่ เปน็ เครอ่ื งดนตรโี บราณของไทยชนดิ หนง่ึ คนไทยเปน็ คนทีม่ ีพรสวรรค์ทางศิลปะ จะเหน็ ได้ว่างาน หัตถกรรมของไทยมีความงดงาม ประกอบกับความคิดสร้างสรรค์ จึงท้าให้มีมรดกทางด้านศิลปวัฒนธรรม อยู่ เป็นจ้านวนมาก ขลุ่ยก็เช่นเดียวกัน นอกจากขลุ่ยเพียงออ ซ่ึงสืบทอดคุณลักษณะและรูปร่างมาแต่โบราณแล้ว ต่อมาบรรพบุรุษของเรายังได้คิดค้น \"ขลุ่ยหลีบ\" ไว้ส้าหรับเล่นคู่กับขลุ่ยเพียงออ \"ขลุ่ยอู้\" ซึ่งคิดค้นขึ้นในสมัย สมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว เพื่อใช้ประกอบการละเล่นละครดึกด้าบรรพ์ นอกจากน้ัน ก็ยังมีขลุ่ย ท่ีเรียกช่ืออย่างอ่ืนอีก เช่น ขลุ่ยกรวด ขลุ่ยเคียงออ ขลุ่ยรองออ ขลุ่ยออร์แกน เพ่ือให้เหมาะกับการที่จะไปเล่น ผสมกับวงดนตรปี ระเภทตา่ ง ๆ ๓.๒) ข้นั ตอน/วิธกี าร/ดา้ เนนิ การเก่ียวกบั ข้อมูล วัตถดุ ิบหลัก ไม้เนอ้ื แข็ง ใช้ไม้เน้อื แข็ง เช่น ไม้สกั ไม้ชงิ ชัน ไม้มะคา่ ฯลฯ ในชุมชน และเครื่องกลึงแกะไม้ สว่ นประกอบ 1. ไม้เนอ้ื แข็ง ใช้ส้าหรับทา้ เลาขลยุ่ หรือตัวขล่ยุ 2. เครือ่ งกลึงไม้ ใช้ในการลบเหลย่ี มไม้เนอื้ แข็ง 3. เครอื่ งเจาะรูขลยุ่ ใช้เจาะตรงไส้กลาง(ไมท้ ีผ่ า่ นการกลงึ แลว้ ) และดอกสว่าน 4. ไมส้ ่วน ใชใ้ นการวัดระยะก่อนเจาะรบู นขลุย่ และบล็อกเจาะรู ใช้สวมตอนเจาะรบู นขลุย่ เครอื่ งเจาะรูขลุ่ย ใช้ในการเจาะรูบนขลยุ่ อาจใช้สวา่ นมือ หรือเหลก็ เผาไฟก็ได้ 5. มดี ควา้ น ใช้ในการควา้ นเพอื่ เกบ็ รายละเอียดรูขลุ่ยและท่ีแตง่ รูใชใ้ นการตกแตง่ รูขลยุ่ 6. มดี แกะ ใช้ในการแกะปากนกแกว้ 7. ไม้ดากซึง่ ส่วนใหญน่ ยิ มใช้ไมส้ ักทอง และมดี ตอก ใชใ้ นการเหลาไมด้ าก 8. เหล็กกระทุ้ง ซึ่งจะใช้เม่ือช่างต้องการที่จะแต่งหรือแก้ไขดากขลุ่ย เลื่อยใช้ส้าหรับตัดดากขลุ่ย และเคร่ืองเจียรใช้ในการเจยี รส่วนของดากทีเ่ ลอื่ ยเสร็จแล้วเพือ่ ใหเ้ รียบเนียน 9. เทียนไขทต่ี ัดเปน็ ช้ินเลก็ ๆ ใช้ในการอุดชอ่ งวา่ งระหวา่ งรขู ลุ่ย กับไมด้ าก ขัน้ ตอนการผลติ 1. คัดเลือกหาไม้ชนิดที่ต้องการ เช่น ไม้ชิงชัน ไม้มะริด ไม้สัก ไม้มะค่า ฯลฯ ตัดเป็นสีเหลี่ยมผืนผ้า กว้างขนาด 1.5 นิ้ว x 1.5 นิ้ว ยาว 20 น้ิว เพ่ือน้าไปเข้าเครื่องเจาะรู ควรใช้ไม้ส่วนที่เป็นแก่น ไม่ใช่กระพ้ี และตอ้ งทิง้ ไว้ให้แห้งสนิทก่อนเพือ่ ป้องกันการหดตวั และการแตก
-๓๙๕- 2. นา้ ท่อนไมม้ าเขา้ เคร่อื งกลึงเพอื่ ลบเหลยี่ มภายนอก เมื่อไมก้ ลมได้ขนาดแลว้ จึงน้ามาเจาะไส้กลาง 3. ใชไ้ ม้ส่วนทาบแลว้ ท้าเคร่อื งหมายจุดไว้ แล้วเจาะรขู ลยุ่ ตามส่วนท่ีจดุ ไว้ 4. ใชม้ ีดคอ่ ยๆแกะปากนกแก้ว 5. ใสด่ ากขลยุ่ ประโยชน์ใช้สอย หลายคนเลือกสะสมขลุ่ยเป็นงานอดิเรก เพราะ เป็นเครื่องดนตรีท่ีเล่นง่ายหรือ ฝึกเป่าได้ง่าย หยิบพกพาสะดวก ดูแลรักษาง่าย ทนทาน ได้สัมผัสความสวยงามตามธรรมชาติของเนื้อไม้ และความไพเราะของเสยี งขลุ่ย ๔. ชอ่ื ผทู้ ่ีถอื ปฏิบตั ิและผสู้ ืบทอด 4.๑ ผู้ทถ่ี อื ปฏบิ ัติ ชอื่ นายรงุ่ โรจน์ ขลุ่ยทอง วนั เดอื น ปีเกิด - ที่อยู่ หมู่ ๑๔ ตา้ บลดงมะดะ อ้าเภอแม่ลาว จังหวดั เชยี งราย หมายเลขโทรศัพท์ 098 764 4399 4.๒ ผู้สืบทอด ชือ่ นางสาวเกวรนิ ทร์ สแุ ก้ว วัน เดอื น ปเี กดิ - ทอ่ี ยู่ 10๐ หมู่ ๑๔ ตา้ บลดงมะดะ อ้าเภอแมล่ าว จังหวดั เชยี งราย หมายเลขโทรศัพท์ 087 805 7427 5. สถำนะ กำรคงอยู่ ปฏบิ ตั อิ ย่างแพรห่ ลาย เสีย่ งตอ่ การสูญหาย ไม่มีปฏบิ ตั แิ ล้ว 6. รูปภำพภูมปิ ญั ญำทำงวัฒนธรรม/กจิ กรรมทำงภูมิปัญญำทำงวัฒนธรรม คดั เลอื กหาไม้ชนดิ ท่ตี ้องการ เชน่ ไมช้ ิงชัน ไมม้ ะริด ไมส้ ัก ไมม้ ะค่า ฯลฯ ตัดเป็นสเี หล่ียมผนื ผา้ กวา้ ง ขนาด 1.5 นวิ้ x 1.5 นิ้ว ยาว 20 นิ้ว นา้ ท่อนไมม้ าเขา้ เครอ่ื งกลึงเพ่ือลบเหล่ียมภายนอก
-396- เมื่อไม้กลมได้ขนาดแล้วจึงน้ามาเจาะไส้กลาง ใช้ไม้ส่วนทาบแล้วท้าเครื่องหมาย จุดไว้ แล้วเจาะรขู ลุ่ยตามส่วนทจ่ี ดุ ไว้ ใช้มีดคอ่ ยๆแกะปากนกแกว้ และใสด่ ากขลุ่ย
-397- แบบสำรวจมรดกภมู ิปัญญำทำงวัฒนธรรมจงั หวัดเชยี งรำย ประจำปี ๒๕๖๕ สภำวฒั นธรรมจงั หวดั เชยี งรำย อำเภอพญำเม็งรำย จังหวัดเชยี งรำย ๑. ช่ือข้อมูล ขันบายศรสี ่ขู วัญ ๒. ลกั ษณะ วรรณกรรมพืน้ บ้านและภาษา ศิลปะการแสดง แนวปฏบิ ัติทางสังคมพิธีกรรม ประเพณี และเทศกาล อาหาร/ความร้แู ละการปฏิบัตเิ กีย่ วกับธรรมชาติและจกั รวาล งานชา่ งฝีมอื ดั้งเดิม การละเลน่ พืน้ บา้ น กีฬาพื้นบา้ น และศิลปะการต่อสูป่ ้องกันตวั ๓. รำยละเอียดข้อมูล ๓.๑) ประวตั ิความเปน็ มาของข้อมลู “ขนั บายศรี” เปน็ การท้าที่ใช้ภูมิปญั ญาของคนไทยท่สี บื ทอดกนั มาแต่โบราณ เป็นความเชือ่ ในเรอื่ ง การสรา้ งขวัญกา้ ลังใจใหแ้ ก่ผไู้ ด้รับ การทา้ พิธบี ายศรีจงึ เป็นของสูง สง่ิ มีค่าของไทยมาแตโ่ บราณ ในงานมงคล ทกุ งานจะมีพิธที ีม่ ีบายศรีเป็นส่วนสา้ คญั เป็นศาสนพธิ ีของศาสนาพราหมณ์ คา้ วา่ “บาย”เปน็ ภาษาเขมร หมายถึง ขา้ วสกุ “ศร”ี เป็นภาษาสนั สกฤต หมายถึง ม่ิงขวญั “บายศรี” จึงหมายถงึ ขวัญขา้ ว บายศรี น้ันมีข้อสันนิษฐานว่าได้ประดิษฐ์ขึ้นมาจากคติความเช่ือของพราหมณ์ พิจารณาจากการน้า ใบตองมาประดิษฐ์บายศรี เนื่องด้วยใบตองน้ันเป็นของสะอาดบริสุทธิ์ไม่มีมลทินของอาหารเก่าให้แปดเป้ือน และอีกประการหนึ่งก็คือ รูปร่างลักษณะของบายศรีที่ได้จ้าลองเขาพระสุเมรุซ่ึงเป็นท่ีสถิตของพระอิศวร ตลอดจนเครื่องสังเวยก็มีความเชื่อมาจากคติพราหมณ์เช่น ไข่ แตงกวา มะพร้าว รวมถึงพิธีการ เช่น การเวียนเทียน การเจมิ และพิธีการต่าง ๆ เหล่าน้ีพราหมณเ์ ป็นผปู้ ระกอบพิธที ้งั สนิ้ ทางภาคเหนือจะเรียก บายศรีว่า ใบสี, ใบสรี หรือ ใบสีนมแมว และจะเรียกพานบายศรีว่า ขันใบสี เพราะชาวล้านนาจะเรยี กพานว่า ขัน แล้วเรียกขันว่า สลุง บายศรแี ยกเปน็ 4 ประเภท คอื 1. บายศรีหลวง 2. บายศรีนมแมว 3. บายศรีปากชาม 4. บายศรีกลว้ ย \"พิธีบำยศรี\" หรือ \"บำยศรีสู่ขวัญ\" เป็นประเพณีส้าคัญอย่างหนึ่ง ประเพณีสู่ขวัญท้ากันแทบทุกโอกาส ท้ังในมูลเหตุแห่งความดีและไม่ดี เป็นประเพณีเรียกขวัญให้มาอยู่กับตัว พิธีสู่ขวัญนี้เป็นได้ทั้งการแสดงความ ช่ืนชมยินดี ช่วยให้เกิดสิริมงคลต่อผู้ท่ีเข้าร่วมพิธี และเชื่อกันว่า พิธีนี้เป็นการต่อชีวิตคนให้มีอายุยืนยาว เป็น การเสริมบารมี สะเดาะเคราะห์ ให้พ้นจากโชคร้าย โรคาพยาธิ เพ่ือรับโชคลาภ ร้่ารวย และจะมีความสุข ความเจรญิ และเปน็ การปลอบใจให้เจ้าของขวัญจากคณะ ญาตมิ ติ รและบุคคลท่ัวไป ๓.๒) ขน้ั ตอน/วธิ ีการ/ด้าเนนิ การเกย่ี วกับข้อมลู ก่อนทา้ พิธีสขู่ วัญ ตอ้ งมกี ารจัดท้าพาขวัญหรือขันบายศรี หมายถึง ภาชนะใสเ่ ครื่องสงั เวยบชู าก่อนการ เรียกขวัญ ตกแตง่ อย่างสวยงามด้วยใบไม้ เช่น ใบตองกล้วย น้ามาพับ เปน็ มุมแหลมและเย็บซ้อนอย่างสวยงาม อาจทา้ เปน็ 3 ช้ัน 5 ชน้ั หรือ 7 ชน้ั แล้วแต่ความเหมาะสมของผู้จัดพธิ ี บายศรีจึงเป็นความเชอื่ ของคนทุกภาค ในประเทศไทย การท้าพิธีโดยใช้บายศรี ก่อให้เกิดขวัญก้าลังใจ ช่วยให้มีจิตใจที่เข้มแข็ง สามารถเผชิญ ภยนั ตรายไดอ้ ย่างดี ท้าให้เกดิ โชคลาภและสริ มิ งคลแกผ่ ู้กระท้า การใช้บายศรี มีทั้งเหตุการณ์ดีและเหตกุ ารณ์ไม่ดี
-๓98- การสู่ขวัญโดยใช้บายศรีในเหตุการณ์ดี เช่น การเกิด บวช แต่งงาน ข้ึนบ้านใหม่ ฉลองต้าแหน่ง ผูกเส่ียว การกลับมาบ้าน เพื่อให้เกดิ สริ ิมงคลย่ิง ๆ ขน้ึ ไป การสู่ขวัญโดยใช้บายศรีในเหตุการณ์ท่ีไม่ดี เช่น การเจ็บป่วย การเกิดอุบัติเหตุ หรือเหตุการณ์ร้ายต่าง ๆ ทท่ี ้าใหเ้ สียขวัญ เพ่ือสะเดาะเคราะห์ ให้หายจากเหตุการณ์รา้ ย หมอขวญั จะเปน็ ผปู้ ระกอบพธิ ี โดยเชญิ เทวดา อารักษม์ าเป็นสักขีพยาน และบันดาลให้ ๔. ชื่อผูท้ ี่ถือปฏิบตั แิ ละผสู้ บื ทอด ๔.๑ ผทู้ ถ่ี อื ปฏบิ ัติ ชื่อ นางนิตย์ สมแก้ว วัน เดอื น ปเี กิด 5 พฤษภาคม 2507 ทีอ่ ยู่ 131 หมู่ 6 ตา้ บลแมต่ า้ อ้าเภอพญาเม็งราย จงั หวดั เชยี งราย หมายเลขโทรศัพท์ 082 650 6686 ๔.๒ ผสู้ ืบทอด ชื่อ นางสาวชนติ า มณวี รรณ วัน เดอื น ปีเกดิ 5 มีนาคม 2524 ทอ่ี ยู่ 170 หมู่ 6 ตา้ บลแมต่ ้า อ้าเภอพญาเม็งราย จงั หวดั เชยี งราย หมายเลขโทรศัพท์ 093 187 9372 ๕. สถำนะ กำรคงอยู่ ปฏบิ ตั ิอย่างแพร่หลาย เส่ียงตอ่ การสญู หาย ไม่มีปฏบิ ัตแิ ลว้ ๖. รปู ภำพภมู ปิ ญั ญำทำงวัฒนธรรม/กจิ กรรมทำงภูมปิ ัญญำทำงวัฒนธรรม
-399- แบบสำรวจมรดกภมู ปิ ัญญำทำงวัฒนธรรมจงั หวัดเชียงรำย ประจำปี 2565 สภำวัฒนธรรมจงั หวัดเชยี งรำย อำเภอเวียงชัย จังหวัดเชยี งรำย 1. ช่ือข้อมูล ข้าวถัก หรือขจาข้าวเปลือก 2. ลกั ษณะ วรรณกรรมพ้นื บ้านและภาษา ศิลปะการแสดง แนวปฏบิ ตั ิทางสังคมพธิ ีกรรม ประเพณแี ละเทศกาล อาหาร/ความรูแ้ ละการปฏิบัติเกี่ยวกับธรรมชาตแิ ละจักรวาล งานช่างฝีมอื ด้ังเดิม การละเล่นพื้นบา้ น กีฬาพนื้ บา้ น และศลิ ปะการต่อสูป้ อ้ งกันตัว 3. รำยละเอียดข้อมูล 3.1) ประวัตคิ วามเปน็ มาของขอ้ มูล นางพลอย ค้าต้ือ เกิดเมื่อวันท่ี 12 มีนาคม พ.ศ. 2475 ที่จังหวัดเชียงราย อยู่บ้านเลขท่ี 218 หมู่ 12 บา้ นป่าบงใต้ ต้าบลผางาม อา้ เภอเวียงชัย จังหวดั เชียงราย เป็นผู้ทมี่ คี วามสนใจด้านการถักขจาขา้ วเปลือก ตั้งแต่เป็นเด็ก เน่ืองจากเห็นมารดาถักขจาข้าวเปลือกเพื่อน้าไปถวายวัดเพ่ือเป็นพุทธบูชาในโอกาสที่มีงาน ประเพณีเกิดข้ึนในล้านนา จึงให้มารดาสอนวิธีการท้าและลองฝึกท้าดู รวมท้ังคิดว่าควรจะอนุรักษ์เพราะเป็น ความเชือ่ ของชาวลา้ นนา การถักข้าวเปลือก เป็นเคร่ืองสักการะพระพุทธเจ้า เชื่อว่าจะได้รับอานิสงค์ผลบุญแห่งการให้ทาน ในโลกนแ้ี ละโลกหน้า ทรพั ย์สมบตั ิจ้านวนมหาศาลจะหลงั่ ไหลเขา้ มาสู่ตนเองอย่างมากมาย รวมท้ังจะทา้ ให้ชีวิต มีความเจริญรุ่งเรืองก้าวหน้า เปรียบประดุจดั่งเมล็ดข้าวเปลือกที่ตกลงบนพ้ืนดินแห่งใดก็ตาม มักจะเจริญ งอกงามขนึ้ มาสร้างความสมบรู ณ์พูนสุขให้กับผืนแผ่นดินอยา่ งทัว่ ถึง อีกนัยหนึ่งเช่ือว่าข้าวถักใช้ด้ายถักหมายถึง จะได้ส่ิงต่าง ๆ เข้ามาในชีวิต ซึ่งมักจะเป็นสิ่งท่ีดี และสามารถน้าไปเป็นของท่ีระลึก น้าไปแขวนหน้ารถยนต์ โดยมคี วามเช่อื ว่าเปน็ เครื่องหมายแห่งความเจรญิ งอกงาม รุง่ โรจน์ ต่อมานางพลอย ค้าตื้อ ได้เป็นวิทยากรเพ่ือเผยแพร่การถักขจาข้าวเปลือกให้แก่เด็กและเยาวชน ในพื้นท่ีต้าบลผางาม ตามโครงการสืบสานภูมิปัญญาท้องถ่ินสู่เด็กและเยาวชนต้าบลผางาม และเป็นวิทยากร สอนนักเรียนโรงเรียนชราบาลตา้ บลผางาม และไดร้ ับเกยี รตบิ ตั รเชดิ ชเู กียรตดิ า้ นปราชญ์ทอ้ งถิ่นต้าบลผางาม 3.2) ข้ันตอน/วิธีการ/ดา้ เนนิ การเกี่ยวกบั ขอ้ มูล 1. ใช้ไม้หน้าสามเป็นหลัก มีตะปูตัวโต ๒ ตัวยึดคล้องด้ายเป็นคู่ ๆ สามารถเลือกด้ายตามขนาด และสตี ามตอ้ งการ 2. เลือกข้าวเปลือกเมล็ดยาวที่มีขนาดเท่ากันเรียงเมล็ดข้าวในทางเดียวกันเป็นคู่เร่ิมถักและ ใสเ่ มล็ดขา้ วไปจนกว่าจะได้ระยะท่ตี ้องการกบั ขนาดของเหรียญแลว้ 3. น้ามาล้อมรอบเหรียญผูกให้แนน่ ตัดแต่งหางดา้ ยให้เท่ากันการใช้ประโยชน์ ใชบ้ ูชา (ถกั ข้าวเปลือก ลอ้ มเหรยี ญพระ) วัสดุ/อุปกรณ์ ๑. ข้าวเปลือก ๒. ไม้หน้าสาม ๓. ตะปตู วั โต ๔. ดา้ ยสีตา่ ง ๆ ๕. เหรียญตา่ ง ๆ
-400- 4. ชอ่ื ผู้ถอื ปฏิบัตแิ ละสืบทอด นางพลอย ค้าตอ้ื 4.1 ผู้ถือปฏิบัติ 12 มีนาคม 2475 ชื่อ 218 หมู่ 12 ต้าบลผางาม อา้ เภอเวียงชยั จงั หวดั เชยี งราย วนั เดอื น ปี เกดิ 064 530 3950 ทอ่ี ยู่ หมายเลขโทรศพั ท์ นางนาง อุดออน 4.2 ผู้สืบทอด 25 พฤษภาคม 2499 ช่ือ 230 หมู่ 9 ต้าบลผางาม อา้ เภอเวยี งชัย จงั หวัดเชยี งราย วนั เดอื น ปี เกิด 080 530 3950 ท่ีอยู่ หมายเลขโทรศพั ท์ 5. สถำนะ กำรคงอยู่ ปฏบิ ัตอิ ย่างแพรห่ ลาย เสีย่ งตอ่ การสญู หาย ไมม่ ปี ฏบิ ตั ิแลว้ 6. รูปภำพภูมิปญั ญำทำงวัฒนธรรม/กิจกรรมทำงภูมิปัญญำทำงวัฒนธรรม
-401- แบบสำรวจมรดกภมู ปิ ัญญำทำงวัฒนธรรมจังหวัดเชยี งรำย ประจำปี ๒๕๖๕ สภำวฒั นธรรมจงั หวดั เชยี งรำย อำเภอแม่จนั จงั หวดั เชียงรำย ๑. ชื่อข้อมูล เครอ่ื งจักสาน ๒. ลักษณะ วรรณกรรมพื้นบ้านและภาษา ศิลปะการแสดง แนวปฏบิ ัตทิ างสังคมพธิ ีกรรม ประเพณี และเทศกาล อาหาร/ความรู้และการปฏิบตั เิ กีย่ วกับธรรมชาตแิ ละจกั รวาล งานช่างฝีมอื ดัง้ เดมิ การละเลน่ พ้ืนบา้ น กีฬาพ้ืนบา้ น และศลิ ปะการตอ่ ส่ปู ้องกนั ตัว ๓. รำยละเอยี ดขอ้ มูล ๓.๑) ประวตั คิ วามเปน็ มาของขอ้ มลู การจักสานเป็นอาชีพท่ีชาวบ้านหารายได้ช่วยจุนเจือครอบครัวในยามที่เสร็จส้ินจากการท้านา คนในชุมชนรู้จักและมีภูมิปัญญาด้านการจักสานเป็นพ้ืนฐานอยู่แล้ว ซึ่งสืบทอดมาจากบรรพบุรุษ รู้จักการน้า ก้านมะพร้าวมาท้าไม้กวาด น้าไม้ไผ่มาท้ากระบุง ชะลอม ผลิตใช้สอยในครัวเรือน สมัยก่อนชาวบ้านจะท้าไว้ใช้เอง การจกั สานสบื ทอดมาจากบรรพบุรุษในถ่ินฐานเดิม มีผู้ทรงภูมิปญั ญาถ่ายทอดองคค์ วามรแู้ บบด้ังเดมิ ๓.๒) ข้ันตอน/วิธีการ/ดา้ เนนิ การเกยี่ วกับขอ้ มูล - ติดตอ่ ประสานงานกบั สภาวฒั นธรรมต้าบลป่าซาง เพ่ือรวบรวมขอ้ มลู เบ้ืองตน้ - ลงพน้ื ที่จดั เกบ็ ขอ้ มูล ประวัตคิ วามเปน็ มาของข้อมูล ช่อื ผู้ทถี่ อื ปฏิบัติและผู้สืบทอด สถานการณ์คงอยู่ และรูปภาพตา่ ง ๆ ๔. ชื่อผู้ท่ีถอื ปฏิบัตแิ ละผสู้ ืบทอด ๔.๑ ผทู้ ถ่ี ือปฏิบัติ ชอื่ นางเป็ง สมพมิตร วนั เดือน ปีเกดิ - ทอี่ ยู่ - หมายเลขโทรศัพท์ - ๔.๒ ผู้สบื ทอด ช่ือ นายทองดี สมพมติ ร วนั เดือน ปีเกดิ 16 มิถนุ ายน 2483 ท่ีอยู่ 197 หมู่ 11 ตา้ บลป่าซาง อา้ เภอแม่จนั จังหวดั เชยี งราย หมายเลขโทรศัพท์ 082 389 3255 ๕. สถำนะ กำรคงอยู่ ปฏบิ ัติอย่างแพร่หลาย เสี่ยงตอ่ การสูญหาย ไมม่ ปี ฏบิ ัติแล้ว
-402- ๖. รูปภำพภูมปิ ญั ญำทำงวัฒนธรรม/กจิ กรรมทำงภูมปิ ัญญำทำงวัฒนธรรม
-403- แบบสำรวจมรดกภมู ปิ ญั ญำทำงวัฒนธรรมจังหวัดเชียงรำย ประจำปี ๒๕65 สภำวัฒนธรรมจงั หวัดเชยี งรำย อำเภอเวียงชัย จังหวัดเชยี งรำย ๑. ช่ือข้อมูล เครื่องจักสาน งานหัตถกรรม ๒. ลกั ษณะ วรรณกรรมพืน้ บ้านและภาษา ศิลปะการแสดง แนวปฏิบัตทิ างสงั คมพิธีกรรม ประเพณี และเทศกาล อาหาร/ความรู้และการปฏิบตั ิเก่ียวกับธรรมชาตแิ ละจกั รวาล งานช่างฝมี อื ด้ังเดมิ การละเลน่ พ้ืนบา้ น กีฬาพ้ืนบา้ น และศิลปะการตอ่ สูป่ ้องกันตวั ๓. รำยละเอยี ดขอ้ มลู ๓.๑) ประวตั ิความเปน็ มาของข้อมลู เคร่ืองจักสำน เป็นงานศิลปหัตถกรรมอย่างหน่ึง คิดค้นข้ึนโดยมนุษย์เพื่อใช้สร้างเครื่องมือเครื่องใช้ ในชีวิตประจ้าวัน ผลิตข้ึนโดยการสอด ขัด และสานของวัสดุท่ีมีลักษณะเป็นเส้น เป็นร้ิว เพ่ือให้ได้ลวดลาย ทส่ี วยงาม และเพือ่ ให้เกดิ ความคงทนของเคร่ืองจักสาน ๓.๒) ข้นั ตอนวิธกี าร/ดา้ เนนิ การเกย่ี วกับข้อมูล ๑. เตรียมไมไ้ ผแ่ ละเหลาใหม้ ีเส้นอ่อนทางภาคเหนือเรยี กว่าการ “จักตอก” ๒. ใชไ้ มไ้ ผ่ทที่ า้ การเหลาให้อ่อนแลว้ ประสานกนั ข้ึนรปู ตามต้องการ ๔. ชื่อผู้ทถ่ี ือปฏบิ ตั ิและผู้สบื ทอด ๔.๑ ผทู้ ีถ่ ือปฏบิ ตั ิ ช่ือ นายต๊บิ ขนั จันทรแ์ สง วนั เดือน ปีเกิด - ท่อี ยู่ ต้าบลเมืองชมุ อา้ เภอเวยี งชยั จังหวดั เชยี งราย หมายเลขโทรศัพท์ ๔.๒ ผูส้ ืบทอด ช่ือ - วนั เดอื น ปเี กิด - ท่อี ยู่ - หมายเลขโทรศัพท์ - ๕. สถำนะ กำรคงอยู่ ปฏิบัติอยา่ งแพรห่ ลาย เส่ียงตอ่ การสญู หาย ไม่มปี ฏิบตั แิ ล้ว ๖. รปู ภำพภมู ปิ ญั ญำทำงวัฒนธรรม/กจิ กรรมทำงภูมิปัญญำทำงวฒั นธรรม -3๔๒-
-404- แบบสำรวจมรดกภมู ปิ ญั ญำทำงวฒั นธรรมจงั หวัดเชียงรำย ประจำปี ๒๕๖๕ สภำวฒั นธรรมจังหวดั เชยี งรำย อำเภอเวียงชยั จงั หวัดเชยี งรำย ๑. ช่ือข้อมูล เครอื่ งจักสาน ชุมชนคุณธรรมวัดพนาลัยเกษม ๒. ลักษณะ วรรณกรรมพื้นบา้ นและภาษา ศลิ ปะการแสดง แนวปฏิบตั ิทางสังคมพิธีกรรม ประเพณี และเทศกาล อาหาร/ความรูแ้ ละการปฏบิ ัตเิ ก่ียวกบั ธรรมชาตแิ ละจักรวาล งานชา่ งฝีมือด้ังเดิม การละเล่นพืน้ บา้ น กีฬาพื้นบา้ น และศิลปะการตอ่ สู่ป้องกันตัว ๓. รำยละเอยี ดขอ้ มลู ๓.๑) ประวตั ิความเป็นมาของข้อมลู วัดพนาลัยเกษม เดิมช่ือว่า วัดป่าบงขวาง ตั้งอยู่เลขท่ี ๑๒๘ หมู่ ๑๑ บ้านพนาลัย ต้าบลเวียงเหนือ อ้าเภอเวียงชัย จังหวัดเชียงราย วัดน้ีแต่เดิมเป็นวัดร้าง ไม่ปรากฏหลักฐานว่าสร้างเม่ือใด พบแต่เพียงกองอิฐและ ซากเจดีย์ซึ่งอยู่ตรงที่สร้างอุโบสถหลังใหม่ ต่อมาประมาณปี พ.ศ. ๒๔๗๐ มีชาวบ้านอพยพมาจากบ้านปล้อง อา้ เภอเทิง จังหวดั เชียงราย มาต้ังรกรากแผว้ ถางเป็นทอี่ ยู่อาศยั ท้ามาหากิน ณ บรเิ วณน้ี เนื่องจากพ้ืนท่ีเป็นป่าไผ่ (ไผ่บง) เป็นจ้านวนมาก ท้าให้ชาวบ้านในชุมชนน้าวัตถุดิบดังกล่าวมาใช้ใน ชีวิตประจ้าวัน วัดพนาลัยเกษม ซ่ึงเป็นสถานที่ศูนย์รวมจิตใจของชาวบ้านในชุมชนจึงเป็นจุดเริ่มต้นท่ีท้าให้ ชาวบ้านในชุมชน หมู่ ๑๑ มาร่วมตัวกันท้าผลิตภัณฑ์จักสานพานพุ่ม และน้ามาดัดแปลงไปใช้กับงานตกแต่งบ้าน หรือส้านักงาน โดยมีการคิดค้นลายแบบที่เหมาะสมแล้วท้าข้ึน ในรูปแบบต่าง ๆ เป็นการใช้เวลาว่างของคนใน ชุมชนท่ีว่างเว้นจากการท้านา ประกอบกับต้องการนา้ วัตถดุ ิบ (ไมไ้ ผ่) ในชุมชนท่มี ีอยู่ทั่วไปนา้ มาใช้ใหเ้ กิดประโยชน์ เพิม่ มลู คา่ ให้กับสงิ่ ที่มอี ยู่ในทอ้ งถ่ิน และเป็นการอนุรักษ์ภมู ปิ ญั ญาท้องถน่ิ ดา้ นงานหัตถกรรมใหค้ งอย่สู บื ไป เครื่องจักสานชุมชนคุณธรรมวัดพนาลัยเกษม เป็นผลิตภัณฑ์ท่ีใช้วัสดุจากธรรมชาติ โดยใช้มรดกภู มิปัญญาในด้านการจักสานมาออกแบบผลิตภัณฑ์ให้มีความสวยงาม ทันสมัย สามารถใช้งานได้จริง เป็นผลิตภัณฑ์ ที่น้าเอาทักษะความช้านาญท่ีเป็นภูมิปัญญาแบบด้ังเดิมมาปรับเปลี่ยนและพัฒนารูปแบบให้เป็นผลิตภัณฑ์จักสาน แบบใหม่ให้ตอบสนองกับความต้องการของผู้บริโภคสมัยใหม่ แต่ยังคงคุณค่าทางด้านงานหัตถกรรม สะท้อนให้เห็น ถึงการน้าทุนทางวัฒนธรรม วิถีชีวิต ขนบธรรมเนียมประเพณีของคนในชุมชนมาใช้ในการผลิต โดยมีอัตลักษณ์ ท่ีโดดเด่นคือลวดลายในการจักสาน และมรี ูปแบบผลติ ภัณฑ์ทหี่ ลากหลาย ๓.๒) ข้นั ตอน/วิธกี าร/ดา้ เนินการเกี่ยวกับขอ้ มูล วัสดุอุปกรณ์ ไมไ้ ผ่ มีด เครือ่ งจักตอก ค้อน ตะปู ลวด แปรง แลคเกอร์ ข้นั ตอนกำรทำ ๑. หาไม้ไผ่ขนาดทตี่ ้องการ ๒. ตดั ไมเ้ ป็นท่อนตามขนาด ๓. จกั ตอก ๔. รูดเส้ยี นออก ๕. ขน้ึ รูปตามโครงสร้างของชนิ้ งาน ๖. จักสานตามลวดลายทอ่ี อกแบบ ๗. ตากแดดใหแ้ หง้ ๘. สา้ รวจรายละเอยี ดของชน้ิ งาน ๙. ลงแลค็ เกอร์ แลว้ นา้ ไปตากแดดให้แห้ง ๑๐. บรรจหุ ีบหอ่ จากนั้นส่งไปยังลูกค้าตามออเดอร์
-405- ๔. ชอื่ ผู้ที่ถือปฏิบัติและผูส้ ืบทอด ๔.๑ ผู้ท่ถี อื ปฏบิ ัติ ชอื่ พระครวู มิ ลศิลปกจิ /กลุ่มผ้สู ูงอายุตา้ บลเวียงเหนือ วนั เดอื น ปีเกิด - ท่ีอยู่ ๑๒๘ หมู่ ๑๑ ตา้ บลเวียงเหนอื อ้าเภอเวยี งชัย จังหวดั เชยี งราย หมายเลขโทรศัพท์ ๐๘๔ ๖๓๘ ๔๖๗๑ / ๐๘๑ ๙๖๑ ๓๓๔๕ ๔.๒ ผู้สบื ทอด ชอื่ - วัน เดือน ปเี กดิ - ทอี่ ยู่ - หมายเลขโทรศัพท์ - ๕. สถำนะ กำรคงอยู่ ปฏบิ ตั อิ ย่างแพรห่ ลาย เส่ยี งตอ่ การสญู หาย ไมม่ ปี ฏิบตั ิแลว้ ๖. รูปภำพภูมปิ ัญญำทำงวัฒนธรรม/กิจกรรมทำงภูมปิ ัญญำทำงวัฒนธรรม
-406- แบบสำรวจมรดกภมู ิปญั ญำทำงวัฒนธรรมจงั หวัดเชียงรำย ประจำปี ๒๕๖๕ สภำวัฒนธรรมจงั หวดั เชยี งรำย อำเภอแม่ลำว จังหวดั เชยี งรำย ๑. ช่ือข้อมลู เครอ่ื งปน้ั ดินเผา (ปน้ั หม้อ) ๒. ลักษณะ วรรณกรรมพื้นบา้ นและภาษา ศลิ ปะการแสดง แนวปฏบิ ตั ทิ างสังคมพธิ ีกรรม ประเพณี และเทศกาล อาหาร/ความรูแ้ ละการปฏิบัติเกยี่ วกบั ธรรมชาตแิ ละจกั รวาล งานช่างฝีมอื ดง้ั เดิม การละเล่นพนื้ บา้ น กีฬาพนื้ บา้ น และศลิ ปะการตอ่ สปู่ ้องกนั ตัว ๓. รำยละเอยี ดข้อมูล ๓.๑) ประวตั คิ วามเปน็ มาของขอ้ มูล ภาชนะชุดแรก ๆ ของมนุษย์น้ันคือการน้าดินมาข้ึนรูปเป็นภาชนะต่าง ๆ แล้วน้าไปเผา คุณสมบัติของดิน โดยเฉพาะดินเหนียวสามารถอุ้มน้าได้ดี และเม่ือผสมเข้ากับน้าแล้วจะท้าให้ดินมีความเหนียวและสามารถที่จะ ปั้นหรือข้ึนรูปสามมิติ โดยไม่ต้องเพ่ิมเติมวัสดุอื่นอีก ค้าว่า\"เคร่ืองปั้นดินเผา\"เป็นค้านามที่มีความหมายท่ีสื่อให้ เข้าใจได้ในตัวของมันเอง (เอาดินมาป้ันแล้วก็เผา) เม่ือน้าดินท่ีขึ้นรูปแล้วมาให้ความร้อน ดินซึ่งประกอบด้วย ผลึกในตระกูลของ \"alumino silicate\" จะมีการเปล่ียนแปลงสัณฐานทางเคมี สารประกอบ อัลคาไลน์ (alkaline) เปน็ สารชนิดหน่งึ ท่สี ามารถท้าปฏิกริ ิยาเคมีกับผลึกดินที่อุณหภูมิสูง พลังงานความร้อนน้ีสามารถขับ ให้เกิดการเปลยี่ นแปลงของผลึกดนิ โดยจะทา้ ใหเ้ กิดสารประกอบลกั ษณะเปน็ \"แกว้ \" สารประกอบนจ้ี ะท้าหน้าที่ เปน็ ตวั ประสานอนุภาคดินที่เหลือ ซ่ึงท้าหน้าท่เี ป็นโครงสร้าง เขา้ ดว้ ยกัน ทา้ ให้เนือ้ วัสดหุ ลงั การเผา (อยา่ งน้อย ประมาณ 800 องศาเซลเซียส แล้วแต่คุณสมบัติทางเคมี) มีความคงทนแข็งแรงขึ้น สามารถคงรูปไว้ใช้เป็น ภาชนะสังเคราะห์ชนดิ แรกของมนุษย์การป้ันส่วนใหญ่เป็นการปั้นแบบโบราณ ซึ่งหาได้ยากมาก วิธีการป้ันของ ทีน่ เ่ี ปน็ ภมู ิปัญญาทไ่ี ดร้ ับการถ่ายทอดมาจากร่นุ สรู่ ุ่นนานหลายรอ้ ยปี และยงั คงมผี ูส้ บื ทอดมาจนถึงปจั จุบัน ๓.๒) ข้ันตอน/วธิ ีการ/ดา้ เนินการเกีย่ วกับข้อมลู วสั ดสุ ้าหรับปนั้ - ดนิ เหนยี ว - ทรายละเอียด - น้า - แกลบดา้ (ข้ีเถา้ เพาะกล้าไม้) ส้าหรับผสมดินปั้นเตาเผา - ดนิ แดง (ผสมน้าสา้ หรบั แตง่ สขี อบภาชนะ) - ฟางขา้ ว รา้ ข้าว ฟืน (สา้ หรับการเผา) เคร่อื งมือท่ีใช้ในการผลติ - แป้นรองป้ัน - แปน้ คลึงดิน - เครอื่ งโมด่ นิ - หมอ้ ใสน่ ้า - ไม้ดา้ ม กอ้ นหิน ไมพ้ ิมพล์ าย
-407- วิธที ้า ๑. เตรียมดินเหนียว (ดินด้า) แยกก้อนหินดินทรายใบไมออก แล้วหมักไว้ในหลุม ๓-๔ วัน เพ่ือให้เกิด ความชุ่มช้นื และเหนยี วตัว งา่ ยตอ่ การนา้ ไปบด ๒. นวดดินผสมดินกบั ทรายละเอียดอัตราส่วน ๒:๑ โมดนิ จ้านวน ๒ ครงั้ โดยใชเ้ ครอ่ื งเก็บ โดยการคลุม โม่ดว้ ยพลาสตกิ ไว้ ๓. ทา้ การขึน้ รูป หลายวิธีเช่น วิธขี ด แป้นหมนุ ใช้ใบมดี พมิ พล์ าย และวิธอี ิสระ ๔. การตากแหง ใช้ผ่งึ ในทรี่ ม่ ประมาณ ๒ วนั กอ่ นนา้ ไปตากแดดจัด ๆ ๑ วัน ๕. การเผา น้าภาชนะท่ีจะเผาเรียงให้ติดๆกัน เผาด้วยฟางข้าว แกลบหยาบ และฟืนผสมกัน โดยใช้ เวลาประมาณ ๒๔ ชั่วโมง จนถึงจุดสุกตัวจึงเกลี่ยแกลบและฟางออก แล้วปล่อยให้ภาชนะเย็นตัวอย่างช้า ๆ กอ่ นนา้ ออกจากเตาเพอ่ื ตรวจสอบคณุ ภาพ เพอื่ จะใช้งานหรือนา้ ไปจ้าหน่ายต่อไป ๔. ชอื่ ผู้ท่ีถือปฏิบตั แิ ละผสู้ บื ทอด 4.๑ ผ้ทู ีถ่ ือปฏบิ ตั ิ ชอื่ นางบุญโยน สภุ าชนะ วัน เดือน ปีเกิด ๓ สงิ หาคม ๒๔๘๒ ทอ่ี ยู่ ๒๖ หมู่ ๑๑ ตา้ บลบัวสลี อา้ เภอแม่ลาว จงั หวดั เชียงราย หมายเลขโทรศัพท์ ๐๕๓ ๖๗๓ ๙๐๔ 4.๒ ผู้สืบทอด ชอ่ื นางกาบจันทร์ พิจอมบุตร วนั เดอื น ปเี กดิ - ที่อยู่ ๑๖๑ หมู่ ๑๑ ต้าบลบัวสลี อ้าเภอแมล่ าว จงั หวัดเชียงราย หมายเลขโทรศัพท์ 084 170 7019 5. สถำนะ กำรคงอยู่ ปฏบิ ัตอิ ยา่ งแพรห่ ลาย เสย่ี งต่อการสญู หาย ไมม่ ีปฏิบตั แิ ล้ว 6. รปู ภำพภมู ปิ ัญญำทำงวัฒนธรรม/กิจกรรมทำงภูมปิ ัญญำทำงวฒั นธรรม วธิ กี ารปนั้ หม้อดนิ เผา
-408-
-409- แบบสำรวจมรดกภมู ิปัญญำทำงวัฒนธรรมจงั หวัดเชยี งรำย ประจำปี ๒๕๖4 สำนกั งำนวฒั นธรรมจงั หวดั เชียงรำย อำเภอแม่ลำว จังหวดั เชยี งรำย ๑. ช่ือข้อมูล โคมลา้ นนา ๒. ลกั ษณะ วรรณกรรมพนื้ บา้ นและภาษา ศลิ ปะการแสดง แนวปฏบิ ตั ทิ างสังคมพิธีกรรม ประเพณี และเทศกาล อาหาร/ความรู้และการปฏิบตั ิเกีย่ วกับธรรมชาตแิ ละจักรวาล งานช่างฝมี ือดัง้ เดิม การละเล่นพน้ื บา้ น กีฬาพื้นบ้าน และศลิ ปะการต่อส่ปู ้องกนั ตวั ๓. รำยละเอียดขอ้ มลู ๓.๑) ประวตั คิ วามเปน็ มาของขอ้ มูล โคมไฟแขวน หรือโคมล้านนา ของทางภาคเหนือมีมาต้ังแต่สมัยโบราณ เป็นงานศิลปะหัตกรรมที่มี ความสวยงาม ประดับด้วยลวดลายของทางล้านนาอย่างประณีตบรรจง เม่ือถึงเทศกาลยี่เป็ง หรือข้ึน 15 ค้่า เดือน 12 ชาวล้านนาจะเตรยี มเครอื่ งไทยทาน แล้วพากันไปท้าบญุ ทวี่ ดั ผู้เฒ่าผ้แู ก่จะถือโอกาสไปฟังธรรมท่ีวัด พร้อมนอนค้างคืนที่วัด โคมล้านนาจึงเป็นของคู่กันมาช้านาน โคมล้านนาเป็นของจ้าเป็น จุดประสงค์คือ ต้องการท้าข้ึนเพ่ือใช้เป็นตะเกียงจุดไฟให้แสงสว่างยามค่้าคืน แต่ในอดีตน้ามันตะเกียงมีราคาแพง มักใช้ ในราชส้านัก หรือในบ้านเจ้านายช้ันผู้ใหญ่ ชาวล้านนาจึงคิดรึเริ่มท้าโคมไว้ใช้ภายในครอบครัว หรือส้าหรับ พิธีกรรมเท่านั้น ปัจจุบัน โคมล้านนาถูกน้าไปใช้อย่างแพร่หลาย เช่น เพื่อการตกแต่งตามโรงแรม สถานที่ ทอ่ งเที่ยวตา่ ง ๆ เพอื่ ความความสวยงาม อีกท้ังยงั มีรปู แบบท่ีหลากหลายอกี ด้วย โคมล้านนาได้กลายเป็นผลิตภัณฑ์ท้องถ่ิน ที่สามารถท้ารายได้ให้กับชุมชน ท้าให้ชาวบ้านมีรายได้ อีกท้ังยังสามารถสอนให้ลูกหลาน หรือผู้ที่สนใจ ท้าสืบสานต่อไปได้อีกด้วย ทางกลุ่มผู้สูงอายุ จักสาน โคม ตุง บ้านห้วยส้านดอนจั่น ในต้าบลจอมหมอกแก้ว ยังคงร่วมสืบสานการท้าโคมล้านนา โดยจะมีผู้เฒ่าผู้แก่รวมตัวกัน ตง้ั กลมุ่ เผยแพรค่ วามรู้ พร้อมท้ังเข้าร่วมโครงการสรา้ งอาชีพ เป็นวิทยากรใหแ้ กผ่ ู้ที่สนใจ ๓.๒) ขนั้ ตอน/วิธกี าร/ดา้ เนนิ การเกย่ี วกับข้อมลู ๑. โคมรังมดส้ม บา้ งเรียกว่า โคมเสมาธรรมจกั ร มีรปู ทรงทเ่ี หมอื นรังมดส้ม (มดแดง) และรูปทรงเป็นแปด เหล่ียม จึงเรียกว่า ธรรมจักร โคมรังมดส้มน้ี ใช้ไม้ไผ่เฮียะ เหลาให้เป็นเส้น กว้างประมาณ ๑ เซนติเมตร หนา ประมาณ ๒ - ๓ มิลลิเมตร น้ามาหักเป็น ๑๖, ๒๔ เหล่ียมหรือตามต้องการ น้ามาผูกด้วยด้ายให้แน่น เมื่อมัด โครงเสร็จแล้ว น้าไม้เฮียะท่ีเตรียมไว้มาหักมุม เพื่อท้าหูโคมเป็นรูปสามเหล่ียม เม่ือท้าเป็นโครงส้าเร็จแล้ว ติด กระดาษรอบโครง ปล่อยส่วนบนไว้ เพื่อเป็นช่องใส่ผางประทีส และให้อากาศเข้ามาในโคมได้ ตัดลวดลาย อาจจะเปน็ ลายดอกกา๋ กอก (ลายประจ้ายาม) ลายตะวนั ส้าหรับประดับตกแตง่ หลังจากนั้นติดหางโคม สา้ หรับ กระดาษท่ีใช้ท้าโคม อาจใช้กระดาษแก้วหลากสีเป็นอุปกรณ์ท้าโคม ถ้าใช้กระดาษสี ไม่นิยมประดับด้วย ลวดลาย โคมรงั มดส้มใช้จุดเปน็ พุทธบูชา ๒. โคมไห ตัวโคมมีลักษณะเป็นคล้ายไห เน่ืองจากด้านบนหรือปากโคมกว้างกว่าส่วนล่างหรือก้นโคม ด้านบนหักเป็นมุมหกเหล่ียม ด้านล่างหรือส่วนก้นหักเป็นมุมสี่เหลี่ยม ด้านบนสุดท้าเป็นรูปสามเหลี่ยม 4 อัน เป็นหูโคม ตัวโครงโคมท้าจากไม้ไผ่ทรงเรียวยาวพองาม ประดับตกแต่งด้วยกระดาษสา และลวดลายพ้ืนเมือง แต่งหางโคมให้งดงามด้วยการตัดกระดาษเป็นลวดลาย ท้าป่องหรือปากไว้จุดผางประทีบ โคมชนิดน้ีใช้จุดบูชา ได้ท่ัวไป บ้างเรียกว่า โคมเพชร หมายถึง ความสวยงามอร่ามตา บ้างนิยมให้เปน็ ของขวัญในโอกาสขึ้นบ้านใหม่ หมายถึงหม้อเงิน หม้อทอง ไหเงิน ไหทอง ถ้าให้เป็นของขวัญในงานแต่งงาน เป็นนิมิตรหมายให้โชคลาภ ปจั จบุ ันมกี ารน้ารูปแบบของโคมไหมาทา้ เปน็ โคมไฟประดับบา้ น โดยใชว้ ัสดผุ ้าหุ้มตวั โครง
-410- ๔. ชอื่ ผทู้ ่ีถือปฏิบตั ิและผู้สืบทอด 4.๑ ผทู้ ่ีถอื ปฏบิ ตั ิ ชอ่ื นางบัวจันทร์ วรรณสม วัน เดือน ปีเกิด - ท่ีอยู่ 338 หมู่ 3 ตา้ บลจอมหมอกแกว้ อ้าเภอแมล่ าว จงั หวัดเชยี งราย หมายเลขโทรศัพท์ 095 128 9480 ๕.๒ ผู้สบื ทอด ชอื่ กล่มุ ผสู้ งู อายุ จักสาน โคม ตุง หมู่ท่ี 3 วัน เดอื น ปเี กิด - ทอี่ ยู่ หมู่ 3 ต้าบลจอมหมอกแก้ว อา้ เภอแมล่ าว จงั หวัดเชยี งราย หมายเลขโทรศัพท์ 086 920 3165 5. สถำนะ กำรคงอยู่ ปฏิบตั อิ ยา่ งแพรห่ ลาย เสย่ี งต่อการสูญหาย ไมม่ ปี ฏิบตั ิแลว้ 6. รูปภำพภมู ปิ ัญญำทำงวัฒนธรรม/กิจกรรมทำงภูมิปัญญำทำงวฒั นธรรม
-411- แบบสำรวจมรดกภมู ิปญั ญำทำงวฒั นธรรมจังหวัดเชียงรำย ประจำปี ๒๕๖๕ สภำวฒั นธรรมจงั หวัดเชยี งรำย อำเภอพญำเมง็ รำย จงั หวัดเชียงรำย ๑. ช่ือข้อมลู งานจกั สานผสู้ งู อายุ ๒. ลกั ษณะ วรรณกรรมพ้ืนบา้ นและภาษา ศลิ ปะการแสดง แนวปฏิบตั ิทางสังคมพิธีกรรม ประเพณี และเทศกาล อาหาร/ความรู้และการปฏบิ ัตเิ กีย่ วกับธรรมชาตแิ ละจักรวาล งานชา่ งฝมี อื ดัง้ เดมิ การละเล่นพนื้ บา้ น กีฬาพืน้ บา้ น และศลิ ปะการต่อสปู่ ้องกันตัว ๓. รำยละเอยี ดขอ้ มลู ๓.๑) ประวตั คิ วามเปน็ มาของข้อมลู งานจักสาน เปน็ งานฝีมือซึ่งเกิดจากภมู ิปัญญาชาวบา้ นที่มคี วามประณีตสวยงาม มลี วดลายแตกต่างกัน ออกไป เช่น ลายสอง ลายสาม ลายไฟก้าว ลายตาน เป็นต้น แต่ละบ้านจะฝึกงานจักสานเคร่ืองมือเคร่ืองใช้ต่าง ๆ ด้วยไม้ไผ่ หรอื หวาย ซ่ึงในสมัยก่อนถือวา่ เครื่องมือเครื่องใชเ้ หล่าน้ันมีความจ้าเป็นในชีวิตประจ้าวันต้องสืบทอด ฝมี ือภมู ิปัญญาเอาไว้ โดยถา่ ยทอดจากรนุ่ พ่อถึงรุ่นลูกหลาน แมก้ ระทงั่ ในปจั จบุ ันก็ยังนิยมใช้เครื่องจักร มาชว่ ย ในกระบวนการจักสานอยู่ ตัวอย่างของเคร่ืองจักสาน ได้แก่ ก๋วย กระบุง กระด้ง เหิง ซ้าหวด สุ่มไก่ หับไก่ ตาดไหนึ่งข้าว อู่นอน ไซ ซ้องใส่ปลา เป็นต้น ซึ่งคนโบราณรู้จักคิดค้นประดิษฐ์ประดอยเครื่องใช้ด้วยการน้าไม้ ไผ่มาจักสานให้เป็นรูปร่าง ดัดแปลงน้ามาใช้ประโยชน์ในชีวิตประจ้าวันเพ่ือยังชีพสืบทอดกันมาจนถึงปัจจุบั น นับเป็นภูมิปัญญางานฝีมือของชาวบ้านท่ีมีความผูกพันกับวิถีชีวิตของคนล้านนามาช้านาน วัสดุท่ีใช้ในการ จักสาน ได้แก่ ไม้ไผ่ ไม้บงกาย ไม้บงเกลี้ยง ไม้เต้ีย และหวาย น้ามาจักเป็นตอกหรือเป็นเส้นขนาดต่างกัน ชนิดของไม้ไผ่ข้ึนอยู่กับประเภทของงานสาน เครื่องมือท่ีใช้ในการจักสาน ได้แก่ มีดใหญ่ (อีโต้) มีดเหลา เหล็ก เครือ่ งจักสานทน่ี ิยมใช้พอจา้ แนกได้ ดังน้ี ก๋วย คือ เคร่ืองจักสานชนิดหนึ่งรูปทรงคลา้ ยตะกร้าของภาคกลาง มีหลายขนาดแตกต่างกัน และวิธี สานก็ท้าได้หลายอย่าง เชน่ กว๋ ยตาห่าง จะสานเปน็ ตาหา่ ง ๆ ใช้หาบหญา้ หรอื พชื ไร่ ก๋วยหาบขา้ วโพด สานด้วย ผิวไมไ้ ผ่ เปน็ ลายทบึ มีความแขง็ แรงทนทานกวา่ เวลาใชห้ าบจะมคี ู่หาบ 2 ใบ ปัจจุบันนิยมใช้กันอยูท่ ัว่ ไป กระบุง หรือ เบียด มีลักษณะคล้าย “ก๋วย” แต่สานด้วยลายทึบ มีรูปทรงสวยงามประณีตกว่าก๋วย ใช้หาบข้าวสารหรอื ข้าวเปลือก ปัจจบุ นั มีเหลือใชน้ ้อยลง บางหมูบ่ า้ นเลิกใชไ้ ปแล้ว ด้ง หรือ กระด้ง เป็นเครื่องสานที่มีลักษณะรูปทรงกลมแบนคล้ายถาด ขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง ประมาณ 1 ศอก มขี อบสงู ประมาณ 9 น้ิวฟตุ แต่เดมิ ใชส้ ้าหรับฝดั ขา้ ว เพอื่ คัดแยกข้าวเปลอื กออกจากข้าวสาร ปัจจุบนั นยิ มนา้ มาใช้สา้ หรบั ตากของแห้ง เพราะสะดวกคล่องตัวและงา่ ยต่อการใช้งาน ฃ้อง คืองานสานด้วยลายขัดแตะรูปทรงสวยงามคล้ายแจกันแต่อ้วนกลมใหญ่กว่าแจกันหลายเท่า สานดว้ ยตอกไมไ้ ผเ่ ล็ก ๆ เรียงกนั เปน็ ระเบียบ ใชส้ า้ หรับใส่ปลาที่จบั ได้ เพ่อื เปน็ การอนรุ ักษ์ สบื สานและต่อยอดภูมปิ ญั ญาของชาวบ้านท่ีมมี าตงั้ แต่โบราณเพ่ือหวังใหล้ ูกหลาน ได้เรียนรู้และสืบต่อไปให้เป็นมรดกภูมิปัญญามิให้สูญหาย ทางหมู่บ้านจึงได้ร่วมกันจัดต้ังกลุ่มผู้สูงอายุ เพื่อถ่ายทอดองค์ความรู้ท่ีมีให้แก่ลูกหลานได้ใช้สืบทอดต่อไป โดยใช้ชื่อกลุ่มว่า “กลุ่มจักสานผู้สูงอายุ หมู่ 13 บ้านห้วยก้างใหม่” ข้ึน เป็นการสร้างอาชีพ สร้างรายได้ และส่งเสริมให้มีผลิตภัณฑ์ประจ้าหมู่บ้านที่สามารถ ออกจ้าหน่ายให้กับคนทั่วไป ที่ส้าคัญเพื่อให้ผู้สูงอายุเกิดการรวมกลุ่ม มีเวทีให้แลกเปลี่ยนเรียนรู้ระหว่างกัน เป็นการพบปะ พูดคุย และได้ท้ากิจกรรมร่วมกัน สร้างความสามัคคีเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันใ นหมู่บ้าน เป็นการใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์ ส้าหรับผู้สูงอายุ และเกิดรายได้หมุนเวียนจากการจ้าหน่ายผลิตภัณฑ์ จกั สานด้วยมอื ของตนเองอยา่ งภาคภมู ใิ จ
-412- ๓.๒) ขั้นตอน/วิธีการ/ดา้ เนินการเก่ียวกับขอ้ มูล 1. กา้ หนดผลติ ภณั ฑท์ จี่ ะจักสาน 2. จัดเตรียมวสั ดุอปุ กรณ์ท่ีใช้ในการจักสาน 3. รวมกลมุ่ ชว่ ยกันจกั สานคนละไม้คนละมือ ตามแตฝ่ ีมือที่ตนเองถนัด 4. เกบ็ รักษาผลติ ภัณฑ์ท่ีไดจ้ ากการจักสาน เพื่อตรวจสอบความมน่ั คงแข็งแรง ทนทาน สวยงาม และ สภาพดีใชก้ ารได้ กอ่ นออกวางจา้ หนา่ ย 5. ลงบันทึกบญั ชีรายได้จากการจ้าหนา่ ยเพื่อแจ้งสมาชกิ กลุ่มให้ทราบโดยทว่ั กนั ๔. ชื่อผู้ท่ีถอื ปฏิบตั ิและผสู้ บื ทอด ๔.๑ ผู้ท่ีถอื ปฏบิ ตั ิ ชื่อ นายสวาท เชยี งรนิ ทร์ วนั เดอื น ปเี กดิ 29 พฤษภาคม 2515 ทีอ่ ยู่ 15 หมู่ 13 ต้าบลไมย้ า อ้าเภอพญาเมง็ ราย จังหวดั เชียงราย หมายเลขโทรศัพท์ 087 175 9249 ๔.๒ ผู้สบื ทอด ชอ่ื กลุ่มจกั สานผู้สงู อายุ หมู่ที่ 13 บ้านห้วยกา้ งใหม่ วัน เดอื น ปีเกิด - ที่อยู่ หมู่ 13 ตา้ บลไมย้ า อ้าเภอพญาเม็งราย จงั หวัดเชยี งราย หมายเลขโทรศัพท์ 087 175 9249 ๕. สถำนะ กำรคงอยู่ ปฏบิ ตั อิ ย่างแพรห่ ลาย เส่ยี งต่อการสูญหาย ไมม่ ีปฏิบตั ิแลว้ ๖. รูปภำพภมู ิปญั ญำทำงวัฒนธรรม/กจิ กรรมทำงภูมปิ ัญญำทำงวัฒนธรรม
-413- แบบสำรวจมรดกภมู ิปญั ญำทำงวฒั นธรรมจังหวัดเชยี งรำย ประจำปี ๒๕๖๕ สภำวฒั นธรรมจังหวัดเชยี งรำย อำเภอเทิง จงั หวัดเชียงรำย ๑. ช่ือข้อมูล จกั สาน บา้ นไคร้ ๒. ลกั ษณะ วรรณกรรมพืน้ บ้านและภาษา ศิลปะการแสดง แนวปฏิบัตทิ างสังคมพธิ ีกรรม ประเพณี และเทศกาล อาหาร/ความร้แู ละการปฏิบตั ิเกีย่ วกบั ธรรมชาติและจกั รวาล งานช่างฝมี ือดั้งเดมิ การละเล่นพนื้ บ้าน กีฬาพ้ืนบา้ น และศิลปะการตอ่ สู่ป้องกนั ตวั ๓. รำยละเอียดข้อมลู ๓.๑) ประวัติความเป็นมาของขอ้ มูล บ้านไคร้หมู่ 22 เป็นหมู่บ้าน หน่ึงของต้าบลตับเต่า ซ่ึงเป็นหมู่บ้านท่ีแยกมาจากหมู่ท่ี 3 ต้าบลตับเต่า ซึ่งมีประประชาชน ได้อพยพมาจากจังหวัดน่านบางส่วน ได้มาต้ังถ่ินฐาน ณ หมู่บ้านไคร้ หมู่ 3 และในเวลา ตอ่ มามปี ระชากร มากข้นึ จงึ ได้แยกหมู่บ้านเป็นหมู่ 22 เพอ่ื ประโยชน์ดา้ นงบประมาณ และแบง่ เขตรับผิดชอบ ในการจัดการทรัพย์ยากรทางด้านทิศตะวันออกของหมู่บ้าน มีธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์ ดังนั้นจึงเป็นวิถีชีวิต ที่ชาวบ้านได้ใช้ประโยชน์จากไม้ไผ่ ท้าเป็นเคร่ืองจักสาน สามารถน้าใช้ในชีวิตประจ้าวัน และท้าเป็นอาชีพ เสริมได้อีก นายปุ๋ย เครือเถาว์ มีความเชี่ยวชาญโดยการใช้ไม้ไผ่ น้ามาสร้างอุปกรณ์ ด้ารงชีพต่าง ๆ เช่น ตะกร้า สุ่ม อุปกรณ์ดักปลา ข้องใส่ปลา และอ่ืน ๆ ท่ีเป็นงานช่างผีมือ ซ่ึงในช่วงหลังได้ประยุกต์อุปกรณ์ สังเคราะห์ มาช่วยในการสานท้าให้ลดการตัดไม้ไผ่ ซ่ึงเป็นภูมิปัญญาท่ีควรจะรักษาเพ่ือสืบทอดภูมิปัญญาไว้ให้ ลูกหลานได้สบื ทอดต่อไป ๓.๒) ขัน้ ตอน/วิธีการ/ดา้ เนนิ การเก่ียวกับขอ้ มลู ท้าการศึกษาจัดเก็บข้อมูลศึกษา และท้าข้อมูลให้เป็นสารสนเทศเพื่อ การสืบทอดภูมิปัญญาสู่เยาวชน รนุ่ หลงั และคงสภาพภูมิปัญญา ๔. ชอื่ ผู้ท่ีถอื ปฏิบตั แิ ละผสู้ บื ทอด ๔.๑ ผู้ท่ีถอื ปฏิบัติ (๑) ชือ่ นายป๋ยุ เครอื เถาว์ วนั เดอื น ปเี กิด 17 มิถุนายน 2490 ท่ีอยู่ 45 หมู่ 22 ตา้ บลตบั เต่า อา้ เภอเทิง จังหวดั เชียงราย หมายเลขโทรศัพท์ 088 575 8744 (๒) ชอื่ นายธนติ โมงยาม วนั เดอื น ปเี กิด 8 มถิ นุ ายน 2503 ทอ่ี ยู่ 138 หมู่ 3 ตา้ บลตับเตา่ อา้ เภอเทงิ จงั หวดั เชยี งราย หมายเลขโทรศัพท์ 088 575 8744 (๓) ช่ือ นายคดิ ขใิ สยา วัน เดอื น ปีเกดิ 30 มกราคม 2499 ทอ่ี ยู่ 38 หมู่ 22 ต้าบลตับเต่า อา้ เภอเทงิ จงั หวดั เชยี งราย หมายเลขโทรศัพท์ 089 933 5975
-414- ๔.๒ ผู้สืบทอด - ชื่อ - วนั เดือน ปีเกิด - ท่ีอยู่ - หมายเลขโทรศัพท์ 5. สถำนะ กำรคงอยู่ ปฏบิ ตั อิ ย่างแพรห่ ลาย เสย่ี งต่อการสญู หาย ไม่มปี ฏิบตั แิ ลว้ 6. รปู ภำพภูมปิ ัญญำทำงวัฒนธรรม/กิจกรรมทำงภูมปิ ัญญำทำงวฒั นธรรม
-415- แบบสำรวจมรดกภมู ปิ ญั ญำทำงวฒั นธรรมจงั หวดั เชยี งรำย ประจำปี ๒๕๖๕ สภำวัฒนธรรมจงั หวดั เชยี งรำย อำเภอเวยี งแกน่ จังหวดั เชยี งรำย ๑. ชื่อข้อมูล จกั สานจากหวาย ๒. ลักษณะ วรรณกรรมพน้ื บ้านและภาษา ศิลปะการแสดง แนวปฏบิ ัติทางสงั คมพธิ ีกรรม ประเพณี และเทศกาล อาหาร/ความรแู้ ละการปฏบิ ัติเกยี่ วกับธรรมชาติและจักรวาล งานชา่ งฝมี ือด้งั เดมิ การละเลน่ พ้ืนบ้าน กีฬาพื้นบ้าน และศิลปะการตอ่ สู่ป้องกันตวั ๓. รำยละเอยี ดข้อมลู ๓.๑) ประวัติความเปน็ มาของขอ้ มูล หวายเป็นพันธุ์ไม้ที่ขึ้นอยู่เป็นกอ มีใบเรียวยาวผิวเกลี้ยง เนื้อเหนียว และยืดหยุ่นได้ดีกว่าวัสดุอื่น ๆ ท้าให้สามารถจักหรือตอกเป็นเส้นหรือแผ่นบาง ๆ ได้ง่าย การน้าหวายไปท้าเครื่องใช้ จะมีตั้งแต่ตะกร้าหรือ กระบุงที่จะใช้หวายเพียงอย่างเดียว ไปจนถึงเฟอร์นิเจอร์ชิ้นใหญ่อย่างโต๊ะหรือเก้าอี้ ที่จะมีการใช้หวาย ร่วมกับวัสดุอ่ืน ๆ อย่างไม้ไผ่หรือใบตาล ในอดีตเครื่องจักสานมักใช้วัตถุดิบท่ีท้าด้วยหวายเป็น ส่วนใหญ่ เพราะเป็นวัสดุที่หาง่ายและมีอยู่ตาม ท้องถน่ิ ทั่วไป หวายจึงนับ เป็นไม้ท่ีมคี วามสา้ คญั ในงานหัตถกรรมต่าง ๆ เน่ืองจากหวาย เปน็ พืชทม่ี ีลกั ษณะเด่น เฉพาะตัว คือมีความสวยงาม ตามธรรมชาติ มีเนื้ออ่อนกว่าเน้ือไม้แต่มีความเหนียว แข็งแรง และยืดหยุ่นได้ ดีกว่าไม้ไผ่หรือไม้ท่ีใช้ในการจักสานชนิดอ่ืน ๆ สามารถจักเป็นเส้นหรือแผ่นบางได้ง่าย โค้งงอได้ดี คงรูปอยู่ได้ ตลอดไปตามความต้องการ หวายจึงถูกน้ามาใช้ประโยชน์ในชีวิต ประจ้าวันตั้งแต่สมัยโบราณ และมีความ ต้องการใชห้ วายมากยิ่งข้นึ ผลติ ภณั ฑ์จากหวายไดแ้ ก่ เกา้ อี้นง่ั โต๊ะรบั แขก ตะกร้าชนดิ ต่างๆ เป็นต้น ๓.๒) ขั้นตอน/วธิ กี าร/ดา้ เนนิ การเกย่ี วกับข้อมลู 1) เหลาหวายให้มีขนาดพอเหมาะ หรอื ขนาดต่าง ๆ ตามความตอ้ งการ 2) นา้ หวายเส้นหลัก มาดัด และสาน ให้เปน็ โครง ของผลิตภัณฑ์ ตามขนาดและรปู แบบทตี่ อ้ งการ 3) ไม้ไผ่เป็นซี่ ๆ ย้อมสตี ามความต้องการ เพื่อใชเ้ ปน็ เสน้ ยืน เพือ่ ยึดรูปทรงตะกร้า หรือรูปทรงผลิตภณั ฑ์ 4) นา้ เส้นหวายเทียม มาจักสาน หรอื ออกแบบลวดลาย ตามท่ีต้องการ 5) นา้ เส้นหวาย มาประกบเปน็ ขอบตะกรา้ หรือขอบผลิตภณั ฑ์ และสานลวดลายตามความตอ้ งการ 6) เกบ็ รายละเอยี ดชิน้ งาน เก็บปลายหวาย ให้เรียบร้อย 7) ทาน้ามันเคลอื บ เพ่ือให้อยทู่ รง และสวยงาม ทนทานใชง้ านไดน้ าน ๔. ชือ่ ผู้ท่ีถือปฏิบตั แิ ละผู้สืบทอด ๔.๑ ผูท้ ถี่ ือปฏิบตั ิ ชอ่ื กล่มุ จักสานจากหวาย บ้านปอกลาง วัน เดอื น ปเี กิด - ทีอ่ ยู่ วดั ปอกลาง ตา้ บลปอ อ้าเภอเวียงแก่น จังหวัดเชียงราย หมายเลขโทรศัพท์ -
๔.๒ ผ้สู ืบทอด -416- ชอื่ วัน เดอื น ปเี กดิ กลมุ่ จักสานจากหวาย บ้านปอกลาง ท่อี ยู่ - หมายเลขโทรศัพท์ วัดปอกลาง ต้าบลปอ อา้ เภอเวียงแกน่ จังหวดั เชยี งราย - ๕. สถำนะ กำรคงอยู่ ปฏบิ ตั ิอยา่ งแพรห่ ลาย เสยี่ งต่อการสูญหาย ไมม่ ปี ฏิบตั ิแล้ว ๖. รูปภำพภมู ปิ ญั ญำทำงวัฒนธรรม/กิจกรรมทำงภูมปิ ัญญำทำงวฒั นธรรม
-417- แบบสำรวจมรดกภมู ปิ ัญญำทำงวฒั นธรรมจงั หวัดเชียงรำย ประจำปี ๒๕๖๕ สภำวัฒนธรรมจังหวดั เชยี งรำย อำเภอพญำเม็งรำย จงั หวัดเชียงรำย ๑. ช่ือข้อมลู จกั สานตะกร้าหวายเทยี ม ๒. ลักษณะ วรรณกรรมพนื้ บา้ นและภาษา ศิลปะการแสดง แนวปฏบิ ัตทิ างสังคมพิธีกรรม ประเพณี และเทศกาล อาหาร/ความรแู้ ละการปฏิบัติเกย่ี วกบั ธรรมชาตแิ ละจักรวาล งานชา่ งฝมี อื ด้ังเดิม การละเล่นพ้นื บ้าน กีฬาพื้นบ้าน และศิลปะการตอ่ สู่ป้องกนั ตัว ๓. รำยละเอียดขอ้ มลู ๓.๑) ประวตั คิ วามเปน็ มาของข้อมูล เครื่องจักสาน เป็นงานศิลปหัตถกรรมพื้นบ้านของไทยท่ีมีมาช้านานและผลิตกันทุกภาคของประเทศไทย โดยส่วนใหญ่จะใช้วัสดุท่ีหาได้ในท้องถิ่นเป็นวัตถุดิบในการผลิต เช่น หวาย ไม้ไผ่ ย่านลิเพา กระจูดกก ฯลฯ เมื่อน้ามาผลิตเป็นเครื่องมือใช้ในชีวิตประจ้าวัน โดยสนองความต้องการประโยชน์ใช้สอยพื้นฐานเป็นส้าคัญ เคร่ืองจักสานจึงเป็นสง่ิ ท่ีมีความจ้าเป็นและมีความสมั พันธ์อย่างใกล้ชิดกับวิถีของคนไทยจนกลายเป็นสว่ นหนงึ่ ของศิลปวัฒนธรรมพ้ืนบ้านที่มีการสร้างสรรค์ และสืบทอดต่อเนื่องกันมาแต่อดีต นับต้ังแต่ออกแบบลวดลาย รูปทรง โครงสร้าง ตลอดจนการเลือกใช้วัสดุพ้ืนบ้านได้อย่างเหมาะสม ตามคตินิยมท้องถิ่นน้ัน ๆ ท้าให้ เครือ่ งจกั สานพืน้ บา้ นของไทยมเี อกลักษณ์ เฉพาะงานแตกต่างกันไป เคร่ืองจักสาน พื้นฐานของไทยส่วนใหญ่ใช้ไม้ไผ่เป็นวัตถุดิบในการจักสาน นอกนั้นยังมีวัสดุอ่ืน ๆ ตามท้องถ่ินแต่ละภาคของไทย เช่น กก หวาย ใบลาน คล้า คลุ้ม กระจูด แหย่ง เตย ล้าเจียก ย่านล้าเพา ใบมะพร้าว เป็นต้น วัสดุต่าง ๆ เหล่านี้ก่อให้เกิดลวดลายและรูปทรงเครื่องจักสานมีลักษณะเฉพาะตาม เอกลักษณ์ของท้องถ่ินน้ัน ๆ ด้วย การผลิตแต่ละช้ินมีความละเอียดอ่อน ต้องใช้ความช้านาญ ความอดทน ใช้เวลาในการผลิตนาน เน่ืองจากเป็นงานท่ีละเอียด ประณีต สวยงาม มีคุณภาพ มีรูปแบบที่ทันสมัย จึงท้าให้ ผลติ ภัณฑ์ของกล่มุ เปน็ ทสี่ นใจของกลมุ่ เป้าหมายทวั่ ไป ผลิตภัณฑ์ของกลุ่มตะกร้าหวายเทียมของบ้านไม้ยา หมู่ 2 เร่ิมจากการได้รับการอบรมจากเทศบาล ตา้ บลไม้ยา เมอ่ื ปี 2561 ตอ่ มาไดร้ บั การอบรมเพิม่ ทกั ษะความรู้การสานลวดลายตา่ ง ๆ จากศนู ย์ฝกึ อาชีพจาก กรมแรงงานจังหวัดเชียงราย และต่อยอดจาก กศน.อ้าเภอพญาเม็งราย จึงมีทักษะการสานตะกร้า หวายเทียมดีย่ิงขึ้น และเป็นกลุ่มจักสานท่ีมีการท้างานเข้มแข็ง มีผลิตภัณฑ์ท่ีผลิตจากงานฝีมือจักสานที่ใช้ กรรมวิธีในการผลิตแบบโบราณ โดยใช้ช่างฝีมือพ้ืนบ้านอย่างแท้จริง ต้องใช้เวลาและความช้านาญในการผลิต จึงท้าให้ผลิตภณั ฑ์แต่ละชิ้นมีความสวยงาม ละเอียดอ่อน ประณีต มีรูปแบบท่ีทันสมัยและมีคุณภาพ ท้าให้เป็น ทตี่ อ้ งการของตลาดอย่างแพร่หลาย ๓.๒) ขนั้ ตอน/วธิ ีการ/ด้าเนนิ การเกย่ี วกบั ขอ้ มูล วสั ดอุ ุปกรณ์ท่ใี ช้ 1. หวายเทียม 2. เหลก็ หมาด 3. กรรไกรตดั เล็บ
-418- 4. มดี จักตอก 5. ดินสอ 6. คมี 7. เรียด 8. รอง หรอื แบบข้นึ รูปตะกร้า 9. ตะปูทองเหลือง 10. ค้อน 11. มดี เล็ก 12. น้า 13. ผ้าไหม ขัน้ ตอนกำรเตรียมกำร 1. เตรยี มต้นหวาย แล้วน้ามาจักหรือผ่าตามขนาดที่ตอ้ งการ แลว้ นา้ หวายไปซดั เรยี ดให้ไดข้ นาดของ เส้นหวาย ขนาดใหญ/่ แบน/กลม/แบนเล็ก/แบนใหญ่ 2. เตรยี มอุปกรณ์เคร่อื งใช้ ได้แก่ เหล็กหมาด กรรไกรตัดเล็บ มีด คมี ตะปู น้า เปน็ ตน้ ขนั้ ตอนกำรผลติ 1. ตดั ก้น คือ การนา้ หวายทั้งตน้ มาโคง้ มาโคง้ ตามแบบท่ตี ้องการจะทา้ 2. ข้นึ ตะกร้า (จะใชล้ ายขดั ) คอื การนา้ หวายท่เี ตรียมไวม้ าสานเปน็ ลายขัดกับหวาย ทีต่ ัดก้นไว้และจะ มหี วายที่เป็นเส้นยนี หรือเสน้ ตั้งหรอื ด้ิว 3. การเข้าแบบหรอื เขา้ รอง คือ การนา้ แบบหรือรองท่เี ตรยี มไวม้ าใส่ก้นตะกร้าท่ีเตรียมไว้ แล้วสาน ตามแบบและจะมเี สน้ หลกั เรียกว่า ดวิ้ เพ่อื จะใช้หวายท่เี ตรยี มไว้สานเปน็ ลาย 4. การสาน คือ ข้นั ตอนท่ตี ้องใชค้ วามละเอยี ดมากทสี่ ดุ สานตามลายทต่ี ้องการ โดยจะมีเสน้ ดอกสอง ชนิด คอื ตอกยืน (ตอกต้งั หรือดิว้ ) และตอกนอน (ตอกสาน) 5. การสาน หรือเมน้ ปาก คือ ขนั้ ตอนทส่ี านเปน็ ลายจนได้ตะกรา้ ตามต้องการ แล้วพับด้ิวทีเ่ หลือลงมา และถักปากเพื่อเก็บความเรียบรอ้ ย 6. ใสข่ อบ คือ ข้ันตอนท่ีถักปากเสร็จเรียบรอ้ ยแล้ว น้าหวายเปน็ ต้นขนาดเดียวกันกับทด่ี ัดก้น มาดดั โค้ง ท้าเป็นของปากกระเป๋าแล้วถักเปน็ ลายปลาช่อน 7. เตรยี มหู ใส่หู คือ การนา้ หวายเปน็ ต้นมาดดั แล้วโคง้ เพ่อื จะทา้ เป็นหู และใช้หวายที่เปน็ ผวิ ของหวาย ขนาดตามทเ่ี ตรียมไวม้ าถกั รอบหู เปน็ ลายปลาช่อนใหส้ วยงาม 8. ทาน้ามันชักเงา คือ การน้าน้ามันมาทาตะกร้าที่สานเสร็จแล้ว เพื่อให้ตะกร้ามีความแข็งแรง ไมข่ ึ้นรา มีความสวยงาม ๔. ชอื่ ผู้ท่ีถอื ปฏิบตั แิ ละผสู้ ืบทอด ๔.๑ ผทู้ ่ถี ือปฏบิ ตั ิ ช่ือ นายสุข อนิ ตา วนั เดอื น ปีเกดิ 20 มกราคม 2471 ทอี่ ยู่ 182 หมู่ 2 ตา้ บลไม้ยา อ้าเภอพญาเม็งราย จงั หวัดเชยี งราย หมายเลขโทรศัพท์ - ๔.๒ ผู้สืบทอด (1) ช่ือ นางอ้าภา เกง่ กล้า วัน เดอื น ปีเกดิ 27 มกราคม 2507 ท่อี ยู่ 18 หมู่ 2 ต้าบลไม้ยา อ้าเภอพญาเม็งราย จังหวัดเชยี งราย หมายเลขโทรศพั ท์ 082 672 5897
-419- (2) ชือ่ นางล้าพึง มณีสุวรรณ วัน เดอื น ปเี กดิ 5 เมษายน 2520 ทอี่ ยู่ 24 หมู่ 2 ต้าบลไมย้ า อา้ เภอพญาเม็งราย จงั หวัดเชียงราย หมายเลขโทรศัพท์ 082 181 0967 นางนงลกั ษณณ์ ลกั คณะ (3) ช่อื 7 สิงหาคม 2513 วนั เดอื น ปเี กดิ 246 หมู่ 2 ตา้ บลไมย้ า อา้ เภอพญาเมง็ ราย จังหวดั เชยี งราย ทอ่ี ยู่ 082 257 1815 หมายเลขโทรศพั ท์ ๕. สถำนะ กำรคงอยู่ ปฏิบตั อิ ย่างแพร่หลาย เสีย่ งต่อการสูญหาย ไม่มปี ฏบิ ัตแิ ล้ว ๖. รูปภำพภูมปิ ัญญำทำงวัฒนธรรม/กิจกรรมทำงภูมิปัญญำทำงวฒั นธรรม
-420- แบบสำรวจมรดกภมู ปิ ัญญำทำงวัฒนธรรมจังหวดั เชียงรำย ประจำปี ๒๕๖๕ สภำวฒั นธรรมจงั หวดั เชยี งรำย อำเภอเวียงแกน่ จังหวดั เชยี งรำย ๑. ช่ือข้อมลู ศลิ ปหตั ถกรรมพน้ื บาน (ช่างตีมีด) ๒. ลกั ษณะ วรรณกรรมพ้ืนบา้ นและภาษา ศลิ ปะการแสดง แนวปฏิบตั ทิ างสังคมพธิ ีกรรม ประเพณี และเทศกาล อาหาร/ความรู้และการปฏิบตั เิ กีย่ วกับธรรมชาติและจักรวาล งานช่างฝมี ือดั้งเดมิ การละเล่นพ้ืนบา้ น กีฬาพ้นื บ้าน และศิลปะการตอ่ สู่ป้องกนั ตวั ๓. รำยละเอียดข้อมลู ๓.๑) ประวัตคิ วามเปน็ มาของข้อมูล นายแกว ทองค้า เกิดวันที่ มีความรู้ความสามารถเป็นช่างตีมีด เดิมเปนชาวบานปาสัก อ้าเภอพาน จงั หวัดเชียงราย ซ่ึงเปนหมูบานที่มีอาชีพ ตมี ดี กนั ทัง้ หมูบาน พอแกวเหน็ ผูใหญในหมูบานตีมดี จงึ มีความสนใจ และเร่ิมตีมีด ต้ังแตอายุ 26 ป ตอมาไดยายไปอยูบานสักลอ และในป พ.ศ. 2531 ไดยายมาต้ังถิ่นฐาน บานเรือนพรอมครอบครัวที่ หมูบานยายใต โดยยึดอาชีพการตีมีดเปนอาชีพเสริมจนถึงปจจุบัน ในเรื่องของ การทา้ เทยี น พอแกวไดศึกษาและสืบทอดองคความรูจากพออาจารยหลายแหง โดยเฉพาะเอกสารโบราณท่ีสืบ ทอดมาจากกลุมชาตพิ นั ธุลวั ะ บานปุยค้า อ้าเภอพาน ๓.๒) ขั้นตอน/วธิ กี าร/ดา้ เนินการเกย่ี วกบั ขอ้ มลู 1. ปจจุบันไดตีมีด ตีดาบ ท้าเทียนประเภทตาง ๆ ใหกับชาวบานและผูคนที่สนใจท่ัวไปในอ้าเภอ เวยี งแก่น เชน บานทงุ ง้วิ บานสถาน บานทาขาม บานหลูบานหลายงาว บานทงุ ทราย ฯลฯ 2. เผยแพรองคความรูในการตมี ีดแบบพื้นบานใหกบั เด็ก เยาวชน นักเรียนในอ้าเภอเวียงแกน 3. เปนแหลงศึกษาขอมูลทางศิลปหัตถกรรมพ้ืนบานใหกับนักเรียน นักศึกษา และหนวยงานตาง ๆ ในพน้ื ทจี่ งั หวัดเชียงราย ๔. ชื่อผทู้ ถี่ ือปฏิบัติและผ้สู ืบทอด ๔.๑ ผทู้ ถี่ อื ปฏิบตั ิ ชอื่ นายแกว ทองค้า วัน เดือน ปเี กดิ - ทีอ่ ยู่ 43 หมู 5 ต้าบลมวงยาย อา้ เภอเวยี งแกน จังหวดั เชียงราย หมายเลขโทรศัพท์ 087 201 7323 ๔.๒ ผสู้ บื ทอด ช่อื - วนั เดอื น ปเี กิด - ท่ีอยู่ - หมายเลขโทรศัพท์ -
-421- ๕. สถำนะ กำรคงอยู่ ปฏิบตั ิอย่างแพรห่ ลาย เสีย่ งต่อการสญู หาย ไม่มปี ฏบิ ตั ิแลว้ ๖. รูปภำพภมู ปิ ญั ญำทำงวัฒนธรรม/กิจกรรมทำงภูมปิ ัญญำทำงวฒั นธรรม
-422- แบบสำรวจมรดกภมู ปิ ัญญำทำงวัฒนธรรมจงั หวัดเชยี งรำย ประจำปี ๒๕๖๕ สภำวัฒนธรรมจงั หวดั เชยี งรำย อำเภอพญำเมง็ รำย จงั หวัดเชียงรำย ๑. ช่ือข้อมูล ช่างตเี หล็กวยั เก๋า ๒. ลักษณะ วรรณกรรมพื้นบา้ นและภาษา ศลิ ปะการแสดง แนวปฏบิ ตั ทิ างสังคมพิธีกรรม ประเพณี และเทศกาล อาหาร/ความรแู้ ละการปฏิบตั เิ กีย่ วกบั ธรรมชาตแิ ละจกั รวาล งานชา่ งฝีมือดงั้ เดมิ การละเล่นพ้ืนบา้ น กีฬาพน้ื บา้ น และศิลปะการต่อสปู่ ้องกนั ตวั ๓. รำยละเอยี ดข้อมลู ๓.๑) ประวัติความเป็นมาของข้อมูล จากการทนี่ ายบุญ สุรยิ ะ ได้ไปชว่ ยพ่ีชาย ซง่ึ เป็นช่างตีเหลก็ จึงจดจ้าเทคนิควธิ กี ารตเี หล็ก แบบครพู กั ลักจ้า เช่น เหลก็ และมาทดลองท้าเองจนเกิดความช้านาญ และไดย้ ดึ เปน็ อาชีพมามากกวา่ 55 ปี จากประสบการณ์ท่ี ผ่านมา จงึ ไดม้ ีฝีมอื ในการท้าโตะ๊ ม้านงั่ เตยี ง แหยง่ และมีฝมี อื ในการกลงึ ไม้ โดยมีผลพวงมาจากการตีเหล็กขูด ไม้ และไปช่วยช่างกลึงไม้ จากภูมิปัญญาฝีมือชาวบ้านด้านหัตถกรรมท่ีมีอยู่ เราควรอนุรักษ์และส่งเสริมให้ ถ่ายทอดให้คนรนุ่ หลงั ได้เรยี นรู้ เพราะหากไมม่ ีการสืบทอดและต่อยอด อาจเสีย่ งตอ่ การสูญหายได้ ๓.๒) ขั้นตอน/วธิ ีการ/ดา้ เนินการเก่ยี วกบั ขอ้ มูล 1. การเข่น คือ การท้าของท่ีหมดความคมแล้วให้กลับมาคมใหม่อีกครั้ง เช่น มีด พล้า จอบ เสียม ขวาน ที่ช้ารุดหมดความคมแล้ว จะน้ามาเผาให้เหล็กมีความแดงในเตาถ่าน น้าไปตีให้แบนได้รูป หรือปล่อยให้ เย็นลงแล้วน้าไปเจียรด้วยหินเจียร หรือขูดด้วยตะไบ จนเร่ิมมีความคม จากน้ันน้าเข้าเตาถ่านจนแดงท่ัวถึงกัน แล้วน้าไปชุบแข็งด้วยน้า จากน้ันน้าไปขัดด้วยกระดาษทรายหรือตะไบที่มีความหยาบ หากด้ามมีดช้ารุดก็ซ่อม หรอื เปล่ยี นใหม่ ให้สามารถน้ากลบั มาใชไ้ ด้เชน่ เดิม 2. การตีมีด พร้า ขวาน คือ การน้าเหล็กแบนจากแหนบรถยนต์ ตะไบ บาร์เล่ือนโซ่ยนต์ หรือตลับลูกปืน รถใหญ่มาเผาไฟ ตีให้แบน ท้าเป็นรูปมีด พร้า ตามรูปทรงท่ีต้องการ แล้วน้าไปเจียรให้คม หรือใช้ตะไบขูด เมื่อได้รูปตามท่ีต้องการแล้ว น้าไปเผาให้เหล็กแดง ชุบด้วยน้า ทดสอบความแข็งด้วยการใช้ตะไบขูดบริเวณคม เทยี บกบั บริเวณสัน จะมีความแขง็ ต่างกัน ๔. ชอื่ ผูท้ ี่ถอื ปฏิบัติและผู้สืบทอด ๔.๑ ผู้ทถี่ อื ปฏบิ ัติ ช่อื นายบญุ สรุ ิยะ วนั เดอื น ปเี กดิ 15 มิถนุ ายน 2495 ท่ีอยู่ 62 หมู่ 2 ต้าบลไม้ยา อ้าเภอพญาเมง็ ราย จังหวดั เชียงราย หมายเลขโทรศัพท์ 062 475 1319 ๔.๒ ผสู้ บื ทอด ช่อื สมาชิกกลุ่มตีเหล็กไม้ยา อาคารศูนยถ์ ่ายทอดภมู ปิ ญั ญาชาวบา้ น วัน เดอื น ปเี กดิ - ทอ่ี ยู่ 18 หมู่ 2 ต้าบลไม้ยา อา้ เภอพญาเม็งราย จงั หวดั เชียงราย หมายเลขโทรศัพท์ -
-423- ๕. สถำนะ กำรคงอยู่ ปฏิบตั ิอย่างแพร่หลาย เสยี่ งตอ่ การสญู หาย ไม่มปี ฏิบตั แิ ลว้ ๖. รปู ภำพภมู ปิ ญั ญำทำงวัฒนธรรม/กิจกรรมทำงภูมปิ ัญญำทำงวัฒนธรรม
-424- แบบสำรวจมรดกภมู ปิ ัญญำทำงวัฒนธรรมจังหวดั เชียงรำย ประจำปี ๒๕๖๕ สภำวัฒนธรรมจังหวดั เชยี งรำย อำเภอพญำเมง็ รำย จงั หวดั เชยี งรำย ๑. ช่ือข้อมลู ช่างสานงานศลิ ป์ ๒. ลกั ษณะ วรรณกรรมพน้ื บ้านและภาษา ศลิ ปะการแสดง แนวปฏิบตั ิทางสังคมพธิ ีกรรม ประเพณี และเทศกาล อาหาร/ความรู้และการปฏิบตั ิเกย่ี วกบั ธรรมชาติและจกั รวาล งานช่างฝมี ือดงั้ เดิม การละเลน่ พื้นบา้ น กีฬาพน้ื บา้ น และศิลปะการต่อสปู่ ้องกนั ตัว ๓. รำยละเอยี ดข้อมลู ๓.๑) ประวตั ิความเปน็ มาของขอ้ มูล จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคตดิ เชื้อไวรัส โควดิ 19 สง่ ผลใหร้ ้านอาหารต่าง ๆ ปิดตวั เองลง พ่อครัวมือหน่ึงของร้านอาหารตะวันแดง สาขาเชียงใหม่ ช่ือ นายราชัน ปันทะอินทร์ ต้องออกจากงานกลับบ้าน ทเ่ี ชียงรายทนั ที นอกจากไปรบั จ้างเป็นคนงานรับเหมารายวนั แลว้ วนั ท่ีไมม่ ีคนจา้ งก็ไม่มีรายได้ ตอ้ งหาช่องทาง ท้ามาหากินเพ่ิมเนื่องจากเป็นลูกของช่างไม้ท้าโต๊ะ ท้าตู้ ต่ัง เตียง จึงพอจะมีฝีมืออยู่บ้าง และเริ่มมองเห็น ช่องทางท้ามาหากินใหม่ในช่วงโควิดระบาด ผู้คนต่างตกงานกลับบ้านกันเป็นส่วนใหญ่ มีโอกาสได้อยู่บ้าน อย่างเต็มตัว จึงได้มีความคิดจะตกแต่งสวนหย่อมหน้าบ้าน หาของมาประดับบ้าน จึงมีความคิดที่จะลองสาน ตัวสัตว์ชนิดต่าง ๆ โดยใช้วัสดุจากไม้ไผ่ ด้วยมือของตัวเอง เช่น วัว ควาย ฯลฯ จึงลองไปหาซื้อไม้ไผ่มาผ่าเป็นเส้น และลองสานเป็นรูปควาย และถ่ายรูปลงส่ือออนไลน์ คิดว่าอาจจะเป็นจุดขายเผอื่ มีคนสนใจ และแล้วความฝัน ก็เป็นจริงมคี นสนใจส่งั ซ้อื ไปประดบั สวนหยอ่ มบรเิ วณบ้าน ประดบั หน้ารา้ นขายของ หรอื ตามสถานทท่ี อ่ งเท่ียวตา่ ง ๆ โดยมกี ารพฒั นาปรับปรงุ ฝีมือการสานให้ดขี ึ้น บางคนกม็ รี ูปมาให้ดูเป็นตวั อย่างและสัง่ ให้สานตามรูป ซ่ึงก็ท้าได้ ผลงานสานไม้ไผ่รูปสัตว์ขายเริ่มเป็นท่ีรู้จักของผู้ที่พบเห็นและสนใจส่ังให้ท้าเพ่ิมมากข้ึน ท้าให้มีรายได้เพ่ิมจาก อาชีพเป็นช่างสานงานไม้ดัดเป็นรูปต่าง ๆ นอกจากจะสานไม้ไผ่แล้ว ยังสามารถดัดเหล็กเสริมท้าเป็นรูปทรงต่าง ๆ ตามท่ีลกู ค้าต้องการอีกด้วย เปน็ หนึ่งในงานฝีมือภูมิปัญญาท่ีควรต้องอนุรักษ์ สง่ เสริม รักษาและต่อยอดผลงาน ผลิตภัณฑ์ท่ีท้าให้เกิดรายได้ต่อครอบครัวท่ีส้าคัญควรต้องมีการถ่ายทอดให้กับคนรุ่นใหม่ไ ด้ศึกษาเรี ยนรู้ เพอื่ พัฒนาผลติ ภัณฑ์ให้มีความทนั สมัยเป็นทตี่ ้องการของตลาดต่อไป ๓.๒) ขัน้ ตอน/วิธกี าร/ด้าเนินการเกี่ยวกบั ขอ้ มูล ขน้ั ตอนกำรสำนไมไ้ ผ่ 1. ไปหาไม้ไผม่ าผา่ และเหลาเป็นเส้นขนาดน้ิวมือ ความยาวตามทตี่ ้องการ 2. จากนั้นน้ามาผูกมัดด้วยลวดเชือกใหเ้ ป็นรูปร่างสัตว์ ให้คลา้ ยกบั ของจริงทั้งสว่ นหัว ลา้ ตัว เขา และหาง 3. พน่ สี หรอื ลงแลคเกอร์ขดั เงา หรือจะมีการตกแต่งเพิม่ เติมตามใจชอบหรือตามที่ลูกค้าสั่ง 4. ตรวจสอบผลติ ภัณฑส์ นิ คา้ ใหม้ คี วามมั่นคงแขง็ แรง ทนทาน ใหอ้ ยใู่ นสภาพท่ีใช้การได้ 5. เมอ่ื ตรวจสอบผลติ ภณั ฑ์สนิ คา้ เสรจ็ เรยี บรอ้ ยแลว้ สง่ มอบใหก้ บั ลูกคา้ 6. ลงบันทกึ บญั ชรี ับ-จา่ ยเงนิ ควบคุมไว้เพื่อตรวจสอบฐานะทางการเงิน (กา้ ไร/ขาดทนุ ) หมำยเหตุ : หากลูกค้ามีตัวอย่างรูปสัตว์ รูปการ์ตูน สิ่งประดับท่ีน้ามาเป็นตัวอย่าง ก็สามารถสาน ประดษิ ฐใ์ ห้เป็นรปู ท่ตี อ้ งการได้ แตต่ อ้ งแจง้ ล่วงหนา้ ทกุ ครงั้
-425- ๔. ช่อื ผู้ที่ถือปฏิบัตแิ ละผูส้ บื ทอด ๔.๑ ผทู้ ถ่ี อื ปฏิบตั ิ ชอื่ นายราชัน ปนั ทะอินทร์ วัน เดอื น ปีเกิด 3 พฤศจิกายน 2517 ทอ่ี ยู่ 80 หมู่ 14 ตา้ บลไม้ยา อ้าเภอพญาเมง็ ราย จงั หวัดเชียงราย หมายเลขโทรศัพท์ 087 881 4093 ๔.๒ ผู้สบื ทอด ชื่อ นางสภุ าพร ปันทะอินทร์ วัน เดอื น ปีเกิด 17 กุมภาพันธ์ 2515 ทอ่ี ยู่ 80 หมู่ 14 ต้าบลไม้ยา อา้ เภอพญาเมง็ ราย จงั หวดั เชียงราย หมายเลขโทรศัพท์ 087 245 2674 ๕. สถำนะ กำรคงอยู่ ปฏิบัติอยา่ งแพรห่ ลาย เส่ยี งตอ่ การสญู หาย ไม่มีปฏิบัตแิ ล้ว ๖. รูปภำพภมู ปิ ญั ญำทำงวัฒนธรรม/กจิ กรรมทำงภูมปิ ัญญำทำงวฒั นธรรม
-426- แบบสำรวจมรดกภมู ปิ ัญญำทำงวฒั นธรรมจงั หวดั เชยี งรำย ประจำปี ๒๕๖๕ สภำวฒั นธรรมจงั หวัดเชยี งรำย อำเภอเวยี งเชียงรุ้ง จังหวดั เชียงรำย ๑. ชือ่ ข้อมลู ตะกรา้ หวาย ๒. ลักษณะ วรรณกรรมพ้ืนบ้านและภาษา ศลิ ปะการแสดง แนวปฏิบัตทิ างสงั คมพิธีกรรม ประเพณี และเทศกาล อาหาร/ความรแู้ ละการปฏิบตั เิ กยี่ วกับธรรมชาติและจกั รวาล งานช่างฝมี อื ดงั้ เดมิ การละเล่นพ้นื บ้าน กีฬาพื้นบ้าน และศิลปะการต่อสูป่ ้องกนั ตัว ๓. รายละเอียดขอ้ มลู ๓.๑ ประวตั คิ วามเปน็ มาของข้อมูล กลุ่มแปรรูปหงาย ม.14 บ้านเด่นสันทราย ต้าบลทุ่งก่อ อ้าเภอเวียงเชยี งรุ้ง จังหวัดเชียงราย เร่ิมก่อตั้ง กลุ่มเม่ือ พ.ศ.2559 โดยการน้าของนางพรทิพย์ สิทธิขันแก้ว (แม่น้อง) เป็นผู้ก่อตั้งกลุ่ม และเป็นประธาน กลุ่ม โดยมีสมาชกิ ครง้ั แรกจ้านวน 25 คน ซง่ึ ประธานกลุ่มเห็นว่าเพ่ือใช้เวลาวา่ งให้เป็นประโยชน์ และเปน็ การ หารายได้เสริม จึงเริ่มจากการให้คนมาสอน (อุ้ยถ้า บ้านแม่ข้าวต้ม อ้าเภอเมืองเชียงราย) โดยสอนให้สมาชิก กลุ่มสานขันโตกหวาย ต่อมาคิดว่าน่าจะมีผลิตภัณฑ์หลาย ๆ อย่าง จึงเรียนรู้การสานตะกร้าด้วยหวาย และ สานผลิตภัณฑ์อื่น ๆ ท้าให้สมาชิกกลุ่มมีรายได้เพ่ิม และเกิดความคิดสร้างสรรค์ในการออกแบบ รูปทรง และ ลวดลายบนผลิตภัณฑ์ จนเป็นสินค้าผลิตภัณฑ์ชุมชนตามความนิยมของตลาด และเป็นสินค้าที่เกิด จาก ภูมปิ ัญญาของชุมชน ผลติ ภัณฑข์ องใชแ้ ปรรูปจากหวาย เปน็ ผลิตภัณฑ์ทีม่ ีลวดลายสวยงาม น้าไปใชป้ ระโยชน์ในชวี ิตประจา้ วันได้ เช่น ตะกร้าหวาย สามารน้าไปใส่ของไปวัด น้าไปจัดตกแต่งเป็นตะกร้าของขวัญ ของที่ระลึก หรือของฝาก ส่วนขนั โตกหวาย สามารถนา้ ไปใชเ้ ป็นขันโตกในการใส่ส้ารับอาหารเพื่อรับประทานในครัวเรือน และของใช้อื่น ๆ อีกมากมายตามความคิดสร้างสรรค์ จากการออกแบบ รูปทรง และลวดลาย สีสัน สวยงาม มีความทนทาน ซ่งึ เปน็ งานฝีมอื เฉพาะของภมู ปิ ญั ญาท้องถ่นิ สามารถจ้าหนา่ ยไดต้ ลอดปี 3.2 ข้ันตอน/วิธีการ/ดา้ เนินการเกย่ี วกับข้อมูล วสั ด/ุ ประกอบ/สว่ นประกอบ/กระบวนในกำรผลติ วสั ดุ 1) หวาย : ใช้สา้ หรบั ท้าโครงสร้าง และรูปทรง รวมทัง้ ตัวผลติ ภณั ฑ์
-427- 2) หวายเทยี ม : ใช้ส้าหรับสานตัวผลิตภณั ฑ์ และสร้างลวดลายตามตอ้ งการ 3) แทง่ ไม้ : เป็นซ่ี ๆ ใช้ส้าหรบั ท้าสว่ นประกอบของโครงสรา้ งผลติ ภัณฑ์ 4) สียอ้ มผ้า : ใช้สา้ หรับย้อมแท่งไมส้ ว่ นประกอบของโครงสรา้ ง เพือ่ ให้ได้สตี ามแบบท่ีตอ้ งการ 5) นา้ มนั วานิชเงา : ใช้สา้ หรบั ทาผลติ ภณั ฑ์ท่ที ้าสา้ เร็จแลว้ เพื่อเคลือบเงา ให้ทนทาน สวยงาม และกันน้า กันแดดท้าให้ผลิตภัณฑ์ มคี วามคงทน ใช้ได้นาน อุปกรณ์ 1) มีด : มีลกั ษณะปลายบางคม ใช้สา้ หรบั จักหวาย จกั ตอก ใช้เหลาวสั ดุหวาย หรือไม้ ใหไ้ ดร้ ปู ทรง 2) เทปวดั ระยะ : ใชส้ า้ หรบั วดั ระยะ ในการจักสานตา่ ง ๆ 3) เหลก็ ปลำยแหลมแบน : ใช้สา้ หรับแทงเส้นหวายใหเ้ ปน็ รู ชว่ งรอยตอ่ ของการสานลวดลาย หรือการต่อเสน้ หวาย
-428- 4) คมี : ใช้เป็นเครื่องมือในการ คบี ดึง 5) ไม้บรรทัด, ปำกกำ, ดนิ สอ : ใชส้ า้ หรับวัดระยะ และหมายระยะ 6) ฆ้อน : ใชส้ า้ หรับตอกตะปู หรอื ตอกไม้ 7) กาว : ใช้สา้ หรับทาเพอ่ื ให้ บางสว่ นท่ีต้องการใหย้ ดึ ติด 8) ตะปู และไส้แมก็ ยิง : ใชส้ า้ หรับ ตอกหรือยงิ เพ่อื ยดึ หวายให้แน่น คงทน 9) เครอื่ งยิงตะปู /เครือ่ งยงิ แมก็ : ใช้ส้าหรับยิงตะปู ยิงไส้แม็ก ในการยดึ เพ่อื ข้ึนโครงผลติ ภัณฑ์ หรือรปู รา่ งต่าง ๆ ของ 10) โครงดดั หวาย : ใชส้ า้ หรับดดั หวายใหโ้ ค้ง หรือเป็นรปู ตามตอ้ งการ
-429- กระบวนการผลติ 1) เหลาหวายให้มขี นาดพอเหมาะ หรือขนาดต่าง ๆ ตามความตอ้ งการ 2) นา้ หวายเส้นหลกั มาดดั และสาน ใหเ้ ป็นโครง ของผลติ ภณั ฑ์ ตามขนาดและรปู แบบที่ต้องการ 3) ไมไ้ ผเ่ ปน็ ซ่ี ๆ ยอ้ มสีตามความต้องการ เพื่อใช้เปน็ เส้นยืน เพ่ือยึดรูปทรงตะกร้า หรือรูปทรงผลิตภณั ฑ์ 4) น้าเส้นหวายเทียม มาจกั สาน หรือออกแบบลวดลาย ตามทตี่ อ้ งการ 5) น้าเส้นหวาย มาประกบเปน็ ขอบตะกร้า หรอื ขอบผลติ ภณั ฑ์ และสานลวดลายตามความตอ้ งการ 6) เก็บรายละเอียดชน้ิ งาน เกบ็ ปลายหวาย ให้เรียบรอ้ ย 7) ทานา้ มันเคลือบ เพอ่ื ให้อย่ทู รง และสวยงาม ทนทานใชง้ านไดน้ าน ๔. ชอ่ื ผทู้ ี่ถือปฏิบัตแิ ละผู้สืบทอด ๔.๑ ผูท้ ีถ่ ือปฏบิ ัติ ชื่อ นางพรทิพย์ สิทธขิ นั แก้ว วัน เดอื น ปีเกดิ - ทอี่ ยู่ 137 หมู่ 14 ต้าบลทุ่งกอ่ อ้าเภอเวียงเชยี งรุ้ง จงั หวัดเชยี งราย หมายเลขโทรศัพท์ 094 1866341 ๔.๒ ผูส้ บื ทอด ชือ่ กลมุ่ แปรรปู หวายบ้านเด่นสนั ทราย วัน เดอื น ปเี กิด - ทีอ่ ยู่ 137 หมู่ 14 ตา้ บลทงุ่ ก่อ อ้าเภอเวียงเชียงรุง้ จงั หวัดเชียงราย หมายเลขโทรศัพท์ - ๖. สถำนะ กำรคงอยู่ ปฏิบตั ิอย่างแพรห่ ลาย เส่ียงต่อการสญู หาย ไมม่ ปี ฏบิ ัตแิ ล้ว ๗. รูปภำพภูมิปญั ญำทำงวัฒนธรรม/กิจกรรมทำงภูมิปัญญำทำงวัฒนธรรม ทีต่ ัง้ กลุ่มแปรรปู หวาย ม.14 บ้านเด่นสนั ทราย ต.ทุ่งก่อ อ.เวียงเชยี งรุ้ง จ.เชยี งราย และกระบวนการจักสาน ผลติ ภณั ฑ์ (137 ม.14 ต.ท่งุ กอ่ อ.เวยี งเชยี งรงุ้ จ.เชยี งราย)
-430- ขนั โตกหวาย ขนาดต่าง ๆ ตะกร้าหวายหลากหลายรปู ทรง/ลวดลาย การจ้าหนา่ ยผลติ ภณั ฑใ์ นงานตา่ ง ๆ
-431- แบบสำรวจมรดกภมู ิปัญญำทำงวฒั นธรรมจงั หวัดเชียงรำย ประจำปี ๒๕๖๕ สภำวัฒนธรรมจังหวัดเชยี งรำย อำเภอแม่จนั จังหวัดเชียงรำย ๑. ช่ือข้อมลู ตงุ ไชย (ตงุ ไจย หรอื ตุงชยั ) ๒. ลักษณะ วรรณกรรมพื้นบา้ นและภาษา ศิลปะการแสดง แนวปฏบิ ตั ิทางสังคมพิธีกรรม ประเพณี และเทศกาล อาหาร/ความรู้และการปฏิบัติเกีย่ วกับธรรมชาตแิ ละจกั รวาล งานชา่ งฝมี ือดง้ั เดิม การละเล่นพ้นื บา้ น กีฬาพื้นบ้าน และศิลปะการตอ่ สปู่ ้องกันตัว ๓. รำยละเอยี ดข้อมูล ๓.๑) ประวัติความเป็นมาของข้อมูล “ตงุ ” เป็นภาษาถ่ินลา้ นนา ซง่ึ หมายถึง “ธง” ในภาษาไทยภาคกลาง และค้าว่า “ธง” ตามความหมาย ในพจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน หมายถึงผืนผ้าโดยมากเป็นสีและบางอย่างมีลวดลายเป็นรูปต่าง ๆ จุดประสงค์ของการท้าตุงในล้านนา คือการท้าเพื่อถวายเป็นบูชาของชาวพุทธ ท้ังชาวไทยวน ไทใหญ่ และ ชาวไทลือ้ ถอื วา่ เปน็ การทา้ บญุ อุทิศส่วนบุญส่วนกศุ ลให้แกผ่ ู้ล่วงลบั ไปแลว้ หรือการถวายเพ่ือเป็นปจั จยั ส่งกุศล ให้แก่ตนไปในชาติหน้า ด้วยความเช่ือที่ว่าเม่ือตายไปแล้วจะได้เกาะยึดหางตุงข้ึนสวรรค์ พ้นจากขุมนรก ดังน้ัน ชาวล้านนาจึงท้าตุงข้ึนเพ่ือใช้ในพิธีการต่าง ๆ ทางพระพุทธศาสนา ทั้งในงานมงคล งานอวมงคลต่าง ๆ แตกตา่ งไปตามความเชอ่ื และพิธกี รรม ตลอดจนความนยิ มในแตล่ ะทอ้ งถนิ่ ๓.๒) ขัน้ ตอน/วธิ ีการ/ดา้ เนินการเกี่ยวกับขอ้ มูล ตงุ ไชย (ตุงไจย หรือตุงชัย) หมายถงึ ตุงมงคล เป็นเครือ่ งหมายบอกถึงชัยชนะ ความสา้ เร็จ ความปติ ิ ยนิ ดีช่ืนชม เป็นเกยี รติและความเปน็ สิริมงคล ตงุ มงคลมีอยู่หลายชนิด รปู แบบและลกั ษณะ เป็นตุงท่ที อจากเสน้ ด้ายหรอื เส้นไหม มักจะท้าเปน็ ๕,๗,๙ และ ๑๑ ทอ่ น และละ ท่อนยาวประมาณ ๑๒ นิ้ว ตัวตุงกว้างประมาณ ๘ – ๑๒ น้ิว มักประดับตกแต่งด้วยกระดาษเงิน กระดาษทอง ตัดเป็นลวดลาย ในแต่ละท่อนจะมีลายเหมือนกัน บางผืนไม่มีไม้ค่ันมักจะทอเป็นลวดลายต่าง ๆ เช่น ปราสาท พานดอกไม้ พระธาตุ ดอกไม้ คน สัตว์ เช่น ช้าง ม้า นาค ด้านข้างของแต่ละช่องจะตกแต่งด้วยพวงมาลัย สร้อยดอก ดอกจ้าปีกระดาษ แต่หากทอเป็นลายเจดีย์สูงๆ ก็จะมีเพียง ๑ ถึง ๒ ลาย เท่าน้ัน ส่วนหัวและ ท้ายจะทอลวดลายอย่างอื่นประกอบ ส่วนหางตุงจะปล่อยด้ายให้ยาวลงมาเสมอกันให้มีลักษณะเป็นฝอย ๆ หรือฝนั่ เกลยี ว หรอื ตกแต่งด้วยอุบะดอกไม้แห้ง วัสดทุ ีใ่ ช้ทา้ ตงุ ไชย ๑. เส้นด้าย ๒. เส้นไหม (ส้าหรบั ตงุ ทอ) ๓. ผา้ เปน็ ผนื ๔. ไม้ไผเ่ หลาบาง ๆ ๕. กระดาษเงิน ๖. กระดาษทอง ๗. กาว ๘. กระดาษส้าหรบั ประดิษฐด์ อกไมแ้ หง้ การน้าไปใชง้ าน
-432- โดยทวั่ ไปมักจะเห็นการปักตุงไชยเม่อื มีเทศกาลต่าง ๆ เชน่ งานปอยหลวง งานปีใหม่สงกรานต์ เพ่อื ให้ เกิดความสวยงาม และใช้ปกั ตามเส้นทางเพื่อเป็นเครื่องหมายน้าทางไปสู่บรเิ วณท่จี ดั งาน ใช้ในขบวนแห่ และอื่น ๆ เป็นบางโอกาส ๔. ช่อื ผทู้ ี่ถือปฏิบตั ิและผสู้ ืบทอด ๔.๑ ผ้ทู ี่ถอื ปฏิบัติ ชือ่ นางมาลินี แยม้ เมือง วนั เดือน ปเี กิด ๑๑ กรกฎาคม ๒๔๘๘ ที่อยู่ ๗/๑ หมู่ ๓ ต้าบลแม่จัน อา้ เภอแมจ่ นั จงั หวัดเชยี งราย หมายเลขโทรศัพท์ ๐๘๑ ๐๒๒๘๓๓๕ หรอื ๐๙๓ ๐๐๕๑๕๗๓ ๔.๒ ผู้สืบทอด ช่ือ กลมุ่ ผสู้ งู อาย/ุ กล่มุ แมบ่ ้าน/กลุม่ เด็กนักเรยี นและเยาวชนในพื้นท่ี เขตเทศบาลตา้ บลแมจ่ นั วนั เดือน ปเี กิด - ทอ่ี ยู่ เขตเทศบาลตา้ บลแมจ่ นั อา้ เภอแม่จนั จงั หวัดเชียงราย หมายเลขโทรศัพท์ - ๕. สถำนะ กำรคงอยู่ ปฏิบตั อิ ย่างแพรห่ ลาย เสยี่ งต่อการสูญหาย ไม่มีปฏบิ ัตแิ ล้ว ๖. รปู ภำพภูมปิ ญั ญำทำงวัฒนธรรม/กจิ กรรมทำงภูมิปัญญำทำงวฒั นธรรม
-433- แบบสำรวจมรดกภมู ิปัญญำทำงวัฒนธรรมจังหวดั เชียงรำย ประจำปี ๒๕๖๕ สภำวฒั นธรรมจงั หวดั เชยี งรำย อำเภอแม่จัน จงั หวดั เชยี งรำย ๑. ชื่อข้อมูล ตุงสบิ สองราศี (ตุงตวั เปิ้ง หรือตุงปีใหม)่ ๒. ลักษณะ วรรณกรรมพ้ืนบ้านและภาษา ศิลปะการแสดง แนวปฏิบัตทิ างสังคมพิธีกรรม ประเพณี และเทศกาล อาหาร/ความรแู้ ละการปฏิบตั ิเกีย่ วกับธรรมชาตแิ ละจกั รวาล งานช่างฝมี ือดั้งเดิม การละเลน่ พืน้ บ้าน กีฬาพน้ื บา้ น และศลิ ปะการตอ่ ส่ปู ้องกันตวั ๓. รำยละเอียดข้อมลู ๓.๑) ประวตั ิความเป็นมาของข้อมูล ตงุ ตัวเปิ้ง หรือตุงปีใหม่ สตั ว์ ๑๒ ราศี อยู่ในผืนเดียวกนั โดยเรยี งล้าดบั รปู สตั ว์ตา่ ง ๆ ในผนื ตุง ดงั น้ี ๑. ไจ้ ชวด หนู ๒. เป้า ฉลู ววั ๓. ยีขาล เสอื ๔. เหมา้ เถาะ กระตา่ ย ๕. สี มะโรง งใู หญ่ ๖. ไส้ มะเสง็ งเู ล็ก ๗. สะงา้ มะเมยี ม้า ๘. เมด็ มะแม แพะ ๙. สนั วอก ลิง ๑๐. เล้า ระกา ไก่ ๑๑. เสด จอ สนุ ัข ๑๒. ไก๊ กนุ หมู (ตา้ นานลา้ นนาเป็นชา้ ง) ๓.๒) ขนั้ ตอน/วิธีการ/ดา้ เนนิ การเกีย่ วกบั ขอ้ มูล ตงุ สบิ สองราศีมกั ท้าด้วยผา้ ขาว หรือกระดาษสา แต่คนท่ัวไปมกั นิยมท้าด้วยกระดาษสา หรือกระดาษ ชนิดอ่ืนก็ไดเ้ พ่ือความสวยงาม มีความกว้างประมาณ ๔ - ๗ น้ิว ยาวประมาณ ๑ เมตร ตรงกลางจะมีรูปนักษัตร วัสดทุ ใ่ี ชท้ ้าตงุ สิบสองราศี ๑. ผ้าขาว ๒. กระดาษสา ๓. กระดาษสตี ่าง ๆ ๔. ตรายางรูปสตั ว์ ๑๒ ราศี (สา้ หรบั ปัม้ รูปลงบนกระดาษด้วยสยี อ้ มผ้า) การน้าไปใช้งาน นิยมปักถวายทานบนเจดีย์ทรายในวัดร่วมกับตุงชนิดอื่น ๆ ในประเพณีสงกรานต์ (ปีใหม่เมืองเหนือ) และใช้ได้หลายงาน เช่น พิธีสืบชะตา สะเดาะเคราะห์ พิธีทานใจบ้านหรือสร้างบ้าน โดยมีคติความเชื่อว่า หากได้บูชาตุงตัวเป้ิงแล้วจะท้าให้ชะตาชีวิตของเรารุ่งเรือง อยู่เย็นเป็นสุข ท้ามาค้าข้ึน พ้นเคราะห์ พ้นโศก พน้ โรคภยั ในปนี ั้น ๆ
-434- ๔. ชอ่ื ผ้ทู ี่ถอื ปฏิบตั ิและผสู้ บื ทอด ๔.๑ ผทู้ ถี่ ือปฏบิ ตั ิ ชอ่ื จ.ส.ต.อทุ ยั สยุ ะศักด์ิ วนั เดือน ปเี กดิ - ทีอ่ ยู่ ตา้ บลแม่คา้ อ้าเภอแมจ่ ัน จังหวดั เชยี งราย หมายเลขโทรศัพท์ ๐๘๐ ๕๐๓ ๗๔๗๙ ๔.๒ ผู้สบื ทอด ชือ่ ส้านักงานเทศบาลต้าบลสายน้าคา้ วนั เดือน ปเี กิด - ทีอ่ ยู่ ตา้ บลแม่คา้ อ้าเภอแมจ่ นั จังหวัดเชียงราย หมายเลขโทรศัพท์ ๐๕๓ ๗๗๙ ๓๘๘ ๕. สถำนะ กำรคงอยู่ ปฏิบัตอิ ย่างแพร่หลาย เสีย่ งต่อการสญู หาย ไมม่ ีปฏบิ ตั ิแลว้ ๖. รูปภำพภูมิปัญญำทำงวัฒนธรรม/กิจกรรมทำงภูมิปัญญำทำงวัฒนธรรม
-435- แบบสำรวจมรดกภมู ิปญั ญำทำงวฒั นธรรมจงั หวัดเชยี งรำย ประจำปี ๒๕๖๕ สภำวัฒนธรรมจังหวัดเชยี งรำย อำเภอเวยี งชยั จังหวัดเชียงรำย ๑. ช่ือข้อมลู ตมุ้ เหยีย่ น (ทตี่ ักปลาไหล) , ท่ีดกั ปลา ๒. ลกั ษณะ วรรณกรรมพ้ืนบ้านและภาษา ศลิ ปะการแสดง แนวปฏบิ ัติทางสงั คมพิธีกรรม ประเพณี และเทศกาล อาหาร/ความรู้และการปฏิบัติเกีย่ วกบั ธรรมชาตแิ ละจกั รวาล งานชา่ งฝมี ือด้ังเดิม การละเลน่ พืน้ บา้ น กีฬาพ้ืนบ้าน และศลิ ปะการต่อสู่ป้องกันตัว ๓. รำยละเอียดข้อมูล ๓.๑) ประวตั ิความเป็นมาของข้อมูล วถิ ีชีวติ ของคนไทยมักจะหาวัตถุดบิ จากธรรมชาติมาเป็นวัตถดุ ิบในการประกอบอาหาร โดยเฉพาะการ จับสัตวน้าไม่ว่าจะเป็นกุ้ง หอย ปู ปลา ตามแมน้า ล้าเหมือง รองเหมือง ทองนา หนอง คลอง บึง ฯลฯ ซ่ึงมี กระจายท่ัวไปในแต่ละพื้นท่ี ซึ่งบรรพบุรุษได้คิดค้นอุปกรณ์ต่าง ๆ มาใช้เป็นเคร่ืองมือในการจับสัตว์น้า และ ถา่ ยทอดองคค์ วามรูใ้ นการประดิษฐ์เคร่ืองมือให้แก่ลูกหลานสบื ทอดกันมาจนถึงปจั จบุ ัน “ตุ้มเหย่ียน” เป็นเคร่ืองมือส้าหรับดักปลา โดยเฉพาะปลาไหล มีรูปทรงคลายลูกน้าเตา ติดงาแซง บริเวณตีนตุม สวนปากจะสานกรวยใสเหย่ือลอปลาไหล และใชเปนฝาปดตุมภายในตัว ใชดักปลาไหลตามทองนา สระน้า หรือแองน้า การดักปลาไหลมักจะวางตุมในบริเวณท่ีมีน้าน่ิงใกลขอบบอ ขอบสระ หรือคันนาไมลึกนัก พอใหปากตุม โผลพนํน้า ขุดหลุมตื้น ๆ พอวางตุมไดเหมาะ แลวกดดินรอบ ๆ กนตุม ผูกคอตุมโยงกับไมหลักที่ปกไวกันตุม ไมใหลอยหรือลม แลวใสเหยื่อลงในกรวย เพ่ือลอปลาไหลใหเขาไปกินเหย่ือ ซ่ึงสวนใหญจะเปนของคาว เชน ปูฉีก หอยทุบ เศษหัวปลา เปนตน เมื่อปลา ไหลเลื้อยเขาไปในตุมแลวหาทางออกตามอุปนิสัย ก็จะติดกรวยท่ีใส เหยอ่ื ลอปดปา นายอ้าย ราชคม ได้เรียนรู้วิธีการสานตุ้มเหยี่ยน ตุ้มปลา จากการสังเกตและได้ลองท้าเรียนรู้ด้วย ตนเอง โดยตุ้มเหยี่ยนของนายอ้าย ราชคม จะท้ามาจากเหล็กเส้นซ่ึงแตกต่างจากตุ้มเหยี่ยนทั่วไปท่ีมักจะสาน ด้วยไม้ไผ่ จงึ ทา้ ให้ตุ้มเหย่ยี นมีความคงทน แข็งแรง ทนทาน สามารถใชเ้ ป็นเครอื่ งมอื หาปลาได้ยาวนานมากกว่า ตมุ้ เหย่ียนทีท่ า้ จากไมไ้ ผ่ ๓.๒) ขัน้ ตอน/วธิ ีการ/ดา้ เนนิ การเกยี่ วกับข้อมลู วิธีการท้าตุ้มเหย่ียน (ที่ดักปลาไหล) มีขั้นตอนดังน้ี น้าเหล็กเส้นมาขดเป็นวงกลมเพ่ือท้าเป็นฐาน ของตุ้มเหย่ียน และส่วนประกอบของตุ้มเหยี่ยน จ้านวน ๓ วง จากนั้นเอาตาข่ายมาวัดขนาดความกว้าง และความสูงในระดับท่ีต้องการ และท้างาไซ (ช่องทางเข้าของตุ้มเหยี่ยน) แยกไว้สองอันเพ่ือเอามาประกอบ ด้านล่างของตุ้มเหย่ียน เพ่ือให้เป็นช่องให้ปลาเข้าไปด้านใน หลังจากน้ันน้าส่วนประกอบต่าง ๆ มาประกอบ เข้าดว้ ยกนั เป็นต้มุ เหยี่ยน ตุ้มปลา
-436- ๔. ชื่อผ้ทู ี่ถือปฏิบตั แิ ละผู้สบื ทอด ๔.๑ ผู้ที่ถือปฏบิ ัติ ชื่อ นายอ้าย ราชคม วนั เดอื น ปเี กิด ๑ มกราคม ๒๔๙๒ ทอ่ี ยู่ ๒๐๘ หมู่ ๑ ตา้ บลเวียงชัย อ้าเภอเวยี งชยั จงั หวดั เชยี งราย หมายเลขโทรศัพท์ ๐๘๖ ๑๘๕ ๙๕๙๘ ๔.๒ ผูส้ บื ทอด - ชื่อ - วัน เดือน ปีเกิด - ท่อี ยู่ - หมายเลขโทรศัพท์ ๕. สถำนะ กำรคงอยู่ ปฏบิ ัติอยา่ งแพรห่ ลาย เสี่ยงตอ่ การสญู หาย ไมม่ ีปฏิบัตแิ ลว้ ๖. รูปภำพภมู ปิ ัญญำทำงวัฒนธรรม/กจิ กรรมทำงภูมิปัญญำทำงวัฒนธรรม
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147
- 148
- 149
- 150
- 151
- 152
- 153
- 154
- 155
- 156
- 157
- 158
- 159
- 160
- 161
- 162
- 163
- 164
- 165
- 166
- 167
- 168
- 169
- 170
- 171
- 172
- 173
- 174
- 175
- 176
- 177
- 178
- 179
- 180
- 181
- 182
- 183
- 184
- 185
- 186
- 187
- 188
- 189
- 190
- 191
- 192
- 193
- 194
- 195
- 196
- 197
- 198
- 199
- 200
- 201
- 202
- 203
- 204
- 205
- 206
- 207
- 208
- 209
- 210
- 211
- 212
- 213
- 214
- 215
- 216
- 217
- 218
- 219
- 220
- 221
- 222
- 223
- 224
- 225
- 226
- 227
- 228
- 229
- 230
- 231
- 232
- 233
- 234
- 235
- 236
- 237
- 238
- 239
- 240
- 241
- 242
- 243
- 244
- 245
- 246
- 247
- 248
- 249
- 250
- 251
- 252
- 253
- 254
- 255
- 256
- 257
- 258
- 259
- 260
- 261
- 262
- 263
- 264
- 265
- 266
- 267
- 268
- 269
- 270
- 271
- 272
- 273
- 274
- 275
- 276
- 277
- 278
- 279
- 280
- 281
- 282
- 283
- 284
- 285
- 286
- 287
- 288
- 289
- 290
- 291
- 292
- 293
- 294
- 295
- 296
- 297
- 298
- 299
- 300
- 301
- 302
- 303
- 304
- 305
- 306
- 307
- 308
- 309
- 310
- 311
- 312
- 313
- 314
- 315
- 316
- 317
- 318
- 319
- 320
- 321
- 322
- 323
- 324
- 325
- 326
- 327
- 328
- 329
- 330
- 331
- 332
- 333
- 334
- 335
- 336
- 337
- 338
- 339
- 340
- 341
- 342
- 343
- 344
- 345
- 346
- 347
- 348
- 349
- 350
- 351
- 352
- 353
- 354
- 355
- 356
- 357
- 358
- 359
- 360
- 361
- 362
- 363
- 364
- 365
- 366
- 367
- 368
- 369
- 370
- 371
- 372
- 373
- 374
- 375
- 376
- 377
- 378
- 379
- 380
- 381
- 382
- 383
- 384
- 385
- 386
- 387
- 388
- 389
- 390
- 391
- 392
- 393
- 394
- 395
- 396
- 397
- 398
- 399
- 400
- 401
- 402
- 403
- 404
- 405
- 406
- 407
- 408
- 409
- 410
- 411
- 412
- 413
- 414
- 415
- 416
- 417
- 418
- 419
- 420
- 421
- 422
- 423
- 424
- 425
- 426
- 427
- 428
- 429
- 430
- 431
- 432
- 433
- 434
- 435
- 436
- 437
- 438
- 439
- 440
- 441
- 442
- 443
- 444
- 445
- 446
- 447
- 448
- 449
- 450
- 451
- 452
- 453
- 454
- 455
- 456
- 457
- 458
- 459
- 460
- 461
- 462
- 463
- 464
- 465
- 466
- 467
- 468
- 469
- 470
- 471
- 472
- 473
- 474
- 475
- 476
- 477
- 478
- 479
- 480
- 481
- 482
- 483
- 484
- 485
- 486
- 487
- 488
- 489
- 490
- 491
- 492
- 493
- 494
- 495
- 496
- 497
- 498
- 499
- 500
- 501
- 502
- 503
- 504
- 505
- 506
- 507
- 508
- 509
- 510
- 511
- 512
- 513
- 514
- 515
- 516
- 517
- 518
- 519
- 520
- 521
- 522
- 523
- 524
- 525
- 526
- 527
- 528
- 529
- 530
- 531
- 532
- 533
- 534
- 535
- 536
- 537
- 538
- 539
- 540
- 541
- 542
- 543
- 544
- 545
- 546
- 547
- 548
- 549
- 550
- 551
- 552
- 553
- 554
- 555
- 556
- 557
- 558
- 559
- 560
- 561
- 562
- 563
- 564
- 565
- 566
- 567
- 568
- 569
- 570
- 571
- 572
- 573
- 574
- 575
- 576
- 577
- 578
- 579
- 580
- 581
- 582
- 583
- 584
- 585
- 586
- 587
- 588
- 589
- 1 - 50
- 51 - 100
- 101 - 150
- 151 - 200
- 201 - 250
- 251 - 300
- 301 - 350
- 351 - 400
- 401 - 450
- 451 - 500
- 501 - 550
- 551 - 589
Pages: