Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore มรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรม จังหวัดเชียงราย ประจำปี ๒๕๖๕

มรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรม จังหวัดเชียงราย ประจำปี ๒๕๖๕

Description: มรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรม จังหวัดเชียงราย ประจำปี ๒๕๖๕

Search

Read the Text Version

-437- แบบสำรวจมรดกภมู ปิ ญั ญำทำงวัฒนธรรมจงั หวัดเชียงรำย ประจำปี ๒๕๖5 สภำวัฒนธรรมจงั หวัดเชยี งรำย อำเภอเวยี งชยั จังหวัดเชยี งรำย ๑. ช่ือข้อมูล เตามดี ปงหลวง ๒. ลกั ษณะ  วรรณกรรมพื้นบ้านและภาษา  ศลิ ปะการแสดง  แนวปฏบิ ัติทางสงั คมพธิ ีกรรม ประเพณี และเทศกาล  อาหาร/ความรู้และการปฏิบตั เิ กี่ยวกับธรรมชาตแิ ละจกั รวาล  งานชา่ งฝีมอื ดัง้ เดมิ  การละเล่นพน้ื บ้าน กีฬาพื้นบา้ น และศิลปะการตอ่ สู้ป้องกนั ตวั ๓. รำยละเอยี ดขอ้ มลู ๓.๑) ประวัตคิ วามเปน็ มาของข้อมลู เดิมต้นตระกูล สร้อยแก้ว เป็นชาวจังหวัดล้าปาง ได้ท้าการค้าขาย และรับจ้างท้าเกวียนต้ังแต่ จังหวัดล้าปาง ขึ้นมาทางเหนือ เข้าจังหวัดเชียงราย ได้ตั้งถ่ินฐานอาศัยอยู่ท่ีอ้าเภอเวียงชัย รับจ้างท้าเกวียน ต่อมาวันเวลาเปลี่ยนไป ความนิยมของการใช้เกวียนเร่ิมน้อยลง เน่ืองจากมีรถเข้ามาแทน ทางทวดต้นตระกูล สรอ้ ยแก้ว จึงไดเ้ ปลี่ยนอาชีพมาตีมีดขายแทนการท้าเกวยี น จนสืบทอดงานฝีมอื ตีมีดมาจนถึงปจั จุบัน ๓.๒) ขน้ั ตอน/วธิ กี าร/ด้าเนินการเก่ยี วกบั ขอ้ มลู 1. ตัดเหล็กให้ได้ขนาดตามความต้องการ 2. เผาไฟใหแ้ ดงแล้วน้าออกมาจากเตา เพือ่ ข้นึ รูปมีด เม่อื ได้รูปมดี ตามตอ้ งการแล้ว น้าเอาเขา้ เตาเผาไฟอีกคร้งั หนึ่ง แล้วใช้คนตดี ้วยค้อนใหไ้ ด้ตามความตอ้ งการ 3. เม่อื ซ้าได้รปู มีดแล้ว ทง้ิ ไว้ให้เยน็ แล้วใช้คอ้ นตีจนเน้ือเหล็กเรียบเป็นมัน เพื่อให้เนอ้ื เหลก็ เหนียวแน่น คมบาง ตวั มีดตรง 4. นา้ มดี ทีไ่ ด้มาแตง่ ด้วยตะไบ เพ่ือใหไ้ ดร้ ูปเล่มสวยงามข้ึน 5. เม่ือแต่งดว้ ยตะไบได้รปู แลว้ นา้ มาขดู คมให้บางโดยใช้เหล็กขูด เพื่อทา้ ใหต้ วั มีดขาวและบาง 6. เม่อื ขดู ได้คมบางพอสมควรแล้ว ใช้ตะไบหยาบและตะไบละเอียดโสกตามตวั มดี เพ่อื ใหต้ วั มีด ขาวเรียบรอ้ ย และคมจะบางยิง่ ข้ึน 7. เมือ่ โสกเรียบร้อยแล้ว นา้ มาพานคม โดยใชต้ ะไบละเอียดพานขวางของคมมดี เพื่อให้คมมีด บางเฉียบ 8. เมือ่ พานคมแล้วก็น้ามาชบุ “การชบุ ” เปน็ เร่ืองส้าคญั มาก ช่างตอ้ งมีความช้านาญเปน็ พิเศษ โดยนา้ มดี เข้าเผาไฟในเตาจนรอ้ นแดงตามความต้องการ แลว้ ชบุ กบั น้าคมของมดี จะกล้าแข็งไม่อ่อนและไมบ่ ิ่น 9. เม่ือชุบแลว้ นา้ มาฝนหรือลับ โดยใช้หินหยาบและหินละเอียดให้คมได้ท่ี สมัยน้ีใช้หินกากเพชร 10. เมอ่ื ฝนหรือลบั คมไดท้ ีแ่ ลว้ จึงน้ามาเข้าด้ามมดี แล้วใชน้ ้ามันทาตวั มีดเพื่อกันสนิม เปน็ เสรจ็ สน้ิ ข้ันตอนการทา้ มีด

-438- ๔. ชอ่ื ผทู้ ถ่ี ือปฏิบตั ิและผู้สืบทอด 4.๑ ผู้ท่ีถือปฏิบตั ิ ชอ่ื นายสรุ ัตน์ สร้องแกว้ วัน เดอื น ปีเกิด 13 ตุลาคม 2505 ท่ีอยู่ 125 หมู่ ๖ ต้าบลเวยี งชัย อา้ เภอเวยี งชยั จังหวัดเชยี งราย หมายเลขโทรศัพท์ 089 265 6850 4.๒ ผู้สบื ทอด ชอ่ื นายชิงชัย สร้อยแก้ว วนั เดอื น ปีเกดิ 16 เมษายน 2523 ทีอ่ ยู่ 125 หมู่ ๖ ต้าบลเวียงชยั อ้าเภอเวียงชยั จงั หวัดเชยี งราย หมายเลขโทรศัพท์ 080 792 8715 5. สถำนะกำรคงอยู่  ปฏิบตั ิอยา่ งแพร่หลาย  เสีย่ งตอ่ การสูญหาย  ไมม่ ปี ฏบิ ตั แิ ลว้ 6. รูปภำพภูมปิ ัญญำทำงวัฒนธรรม/กจิ กรรมทำงภูมิปัญญำทำงวัฒนธรรม

-439- แบบสำรวจมรดกภมู ิปัญญำทำงวัฒนธรรมจงั หวดั เชียงรำย ประจำปี ๒๕๖๕ สภำวัฒนธรรมจงั หวดั เชยี งรำย อำเภอเวียงชยั จงั หวัดเชียงรำย ๑. ชือ่ ข้อมลู ทอผา้ พนื้ เมือง , ทาตุง ๒. ลกั ษณะ  วรรณกรรมพนื้ บ้านและภาษา  ศลิ ปะการแสดง  แนวปฏบิ ัตทิ างสังคมพิธีกรรม ประเพณี และเทศกาล  อาหาร/ความรแู้ ละการปฏบิ ัตเิ ก่ยี วกับธรรมชาตแิ ละจกั รวาล  งานชา่ งฝมี อื ดง้ั เดิม  การละเลน่ พ้ืนบ้าน กีฬาพื้นบา้ น และศลิ ปะการต่อส่ปู ้องกันตัว ๓. รายละเอยี ดข้อมูล ๓.๑) ประวตั ิความเปน็ มาของข้อมลู ผ้าท่ีทอในบริเวณภาคเหนือหรือล้านนา ปัจจุบันคือบริเวณภาคเหนือ ได้แก่ จังหวัดเชียงราย พะเยา ล้าพูน ล้าปาง แพร่ น่าน เชียงใหม่ และแม่ฮ่องสอน จนถึงดินแดนบางส่วนของประเทศพม่า ประเทศจีน และ ประเทศลาว ผ้าที่ทอในบริเวณภาคเหนือหรือล้านนา ปัจจุบันคือบริเวณภาคเหนือ ได้แก่ จังหวัดเชียงราย พะเยา ล้าพูน ล้าปาง แพร่ น่าน เชียงใหม่ และแม่ฮ่องสอน จนถึงดินแดนบางส่วนของประเทศพม่า ประเทศ จีน และประเทศลาว ผ้าพื้นบ้านภาคเหนืออีกประเภทหน่ึงเป็นผ้าท่ีเก่ียวเน่ืองกับความเชื่อ ขนบประเพณี ของกลุ่มชน เช่น ผ้าส้าหรับนุ่งห่มหรือใช้ในงานท้าบุญงานนักขัตฤกษ์ ได้แก่ ตุง หรือธงท่ีใช้ในประเพณีต่าง ๆ เชน่ ตุงไจ ตงุ สามหาง นางบัวตอง ปัญญาผาบ ได้ศึกษาเรียนรู้วิธีการทอผ้ามาจากบรรพบุรุษ เรียนรู้จากการสังเกต ฝึกทดลองท้า จนกระท่ังปัจจุบันสามารถออกแบบลวดลาย ดัดแปลงลวดลายใหม่ ๆ ได้ด้วยตนเอง ซึ่งศึกษา เรียนรู้สังเกตุจากธรรมชาติส่ิงรอบตัวแล้วน้ามาประดิษฐ์เป็นลวดลาย ปัจจุบันนางบัวตอง ปัญญาผาบ ยังได้มี การน้าผา้ ท่ีทอได้ไปประดิษฐ์ ดดั แปลง และออกแบบ เปน็ ผลิตภัณฑ์อยา่ งอ่นื ดว้ ย เช่น ตุงชนดิ ต่าง ๆ เพ่อื ใช้ใน งานบุญ หรอื งานประเพณตี า่ งของชุมชน ๓.๒) ขั้นตอน/วธิ กี าร/ดา้ เนนิ การเกี่ยวกับข้อมูล 1. นา้ เสน้ ด้ายทยี่ ้อมแลว้ มากรอใส่หลอด 2. นา้ ไปโว้นกบั หลักเพอ่ื ใหไ้ ด้จา้ นวนเสน้ ดา้ ยและความยาวตามทตี่ ้องการ 3. เสน้ ดา้ ยทโี่ วน้ แล้วนา้ ไปมว้ นเข้าลมู 4. นา้ เสน้ ดา้ ยมารอ้ ยตะกอ (เขา) และฟนั หวี (ฟืม) จนครบตามจา้ นวนเสน้ ด้ายที่ก้าหนดไว้ 5. จากนัน้ น้าด้ายพงุ่ ทเ่ี ตรยี มไว้ไปกรอใส่หลอดเลก็ สา้ หรบั ใส่กระสวยเพื่อใช้ทอ 6. เรม่ิ ทอผา้ ไดต้ ามลายที่ก้าหนดไว้ ๔. ชื่อผู้ท่ีถือปฏิบัตแิ ละผูส้ บื ทอด ๔.๑ ผ้ทู ถ่ี ือปฏบิ ัติ ชอื่ นางบวั ตอง ปัญญาผาบ วัน เดือน ปีเกดิ 1 มกราคม 2482 ทีอ่ ยู่ 5 หมู่ 11 ต้าบลเวียงเหนอื อ้าเภอเวียงชัย จังหวดั เชียงราย หมายเลขโทรศัพท์ 083 481 7430

๔.๒ ผู้สบื ทอด -440- ช่ือ วัน เดือน ปเี กิด นางสภุ า ปญั ญาผาบ (ลูกสะใภ้) ทีอ่ ยู่ - หมายเลขโทรศัพท์ - - ๕. สถานะ การคงอยู่  ปฏิบัติอยา่ งแพร่หลาย  เสยี่ งตอ่ การสญู หาย  ไมม่ ีปฏบิ ัติแลว้ ๖. รูปภาพภูมปิ ัญญาทางวัฒนธรรม/กจิ กรรมทางภูมิปัญญาทางวฒั นธรรม

-441- แบบสำรวจมรดกภมู ิปญั ญำทำงวฒั นธรรมจังหวดั เชยี งรำย ประจำปี ๒๕๖๕ สภำวัฒนธรรมจังหวดั เชยี งรำย อำเภอแมส่ ำย จงั หวัดเชยี งรำย ๑. ชื่อข้อมูล บอกไฟดอก / โคมลอย ๒. ลักษณะ  วรรณกรรมพ้ืนบ้านและภาษา  ศลิ ปะการแสดง  แนวปฏิบตั ิทางสังคมพิธีกรรม ประเพณี และเทศกาล  อาหาร/ความรู้และการปฏิบัติเกี่ยวกับธรรมชาติและจักรวาล  งานชา่ งฝีมอื ดงั้ เดมิ  การละเลน่ พ้นื บ้าน กีฬาพ้ืนบา้ น และศลิ ปะการตอ่ สปู่ ้องกนั ตัว ๓. รำยละเอียดขอ้ มลู ๓.๑) ประวัตคิ วามเป็นมาของข้อมูล เมื่อถึงวันเพ็ญขึ้น 15 ค่้าเดือน 12 หรือท่ีคนเมืองเหนือเรียกว่า “เดือนย่ีเป็ง” เป็นช่วงเวลาของ งานเทศกาลลอยกระทง ซึ่งจังหวัดต่าง ๆ ในภาคเหนือได้จัดให้มีงานประเพณีย่ีเป็งข้ึนอย่างย่ิงใหญ่งดงาม นอกจากน้ันแล้วในงานดังกลา่ วยังมีการเฉลิมฉลองจุดพลุ ปล่อยโคมไฟ เล่นบอกไฟกนั อยา่ งครกึ ครน้ื สนุกสนาน ท้งั นีเ้ ป็นเพราะงานประเพณยี ี่เป็งมีความผูกพันกับวิถีชวี ิตของคนลา้ นนามาตงั้ แต่อดีตกาล เอกลกั ษณ์อยา่ งหนึ่ง ของงานประเพณีย่ีเป็งล้านนา นอกเหนือจากโคมลอยแล้ว บอกไฟดอก หรือบอกไฟน้อต้น ก็ถือเป็นสีสันของ งานย่เี ปง็ ล้านนา เพราะคนล้านนาในอดตี จะนยิ มจุดบอกไฟ หรือท่ีภาษาค้าเมืองเรียก “จิบอกไฟดอก” อันเป็น การเฉลิมฉลองงานย่ีเปง็ กนั แทบทุกบา้ น โคมลอยชาวล้านนาทางภาคเหนือของประเทศไทยใช้โคมลอยตลอดปี เพ่ือการเฉลิมฉลองและโอกาส พิเศษอ่ืน เทศกาลส้าคัญมากหนึ่งซ่ึงใช้โคมลอย คือ เทศกาลย่ีเป็ง ซึ่งจัดในวันเพ็ญ เดือน 2 ของปฏิทินล้านนา (ตรงกบั ลอยกระทง ในวนั เพ็ญ เดือน 12 ของปฏทิ ินจันทรคตไิ ทย) การเฉลิมฉลองยีเ่ ป็งทีซ่ ับซ้อนทส่ี ดุ เหน็ ได้ใน จังหวัดเชียงใหม่ เมืองหลวงโบราณของอดีตราชอาณาจักรล้านนา เทศกาลน้ีมุ่งหมายให้เป็นเวลาท้าบุญ ในสมยั ปัจจุบัน ชาวไทยทกุ ภาคนยิ มลอยโคมเมือ่ โคมลอยถกู รวมอยใู่ นเทศกาลในสว่ นทเ่ี หลือของประเทศ นอกเหนือจากน้ี คนยังประดับบ้าน สวนและวัดด้วยโคมกระดาษรูปทรงประณีต (เรียก โคมไฟ) หลายแบบ มองว่าการปล่อยโคมลอยท้าให้โชคดี และชาวไทยจ้านวนมากเชื่อว่าเป็นสัญลักษณ์ของปัญหาและ ความกังวลลอยไป ๓.๒) ขั้นตอน/วธิ กี าร/ด้าเนินการเกยี่ วกบั ขอ้ มลู กรรมวิธีการผลิต เร่ิมจากการน้าเฝ่า มาผสมกับดินไฟ ข้ีเหล็ก มาด ในอัตราส่วน 2 : 1 : 1 แล้วน้าไป ใส่ลงในหม้อตอกอัดด้วยดินแล้วปิดหน้าด้วยกระดาษแก้ว เพียงเท่าน้ีก็เป็นอันเสร็จสิ้นกระบวนการท้าบอกไฟ หม้อ จากนั้นจึงน้าบอกไฟที่ท้าแล้วบรรจุใส่กล่องเพื่อส่งไป จ้าหน่ายยังท่ีต่าง ๆ ทั่วภาคเหนือบอกไฟบอกของ ชาวล้านนา จะนิยมเล่นในช่วงระหว่างก่อนถึงวันงานย่ีเป็ง 2- 3 วัน ขณะท่ีบอกไฟดอกน้ันยังมีความปลอดภัย ไมเ่ ปน็ อันตรายต่อคนเล่นอย่างแนน่ อน เมอ่ื งานประเพณยี ่ีเป็งมาถึงเม่ือครั้ง เราจึงเหน็ บ้านแทบทกุ บ้านน้าบอก ไฟดอกมาจุด เพ่ือสร้างสีสันของงานย่ีเป็งล้านนาให้มีความสนุกสนานคร้ืนเครงมากข้ึน ดังน้ันอาจกล่าวได้ว่า “บอกไฟดอก” จงึ เปน็ ส่วนหนงึ่ ของงานย่เี ป็งมาตัง้ แต่อดีตจนถึงปจั จบุ นั ก็คงไม่ผดิ นัก

-442- ๔. ช่ือผ้ถู ือปฏิบัติและผู้สบื ทอด 4.1 ผู้ทถ่ี ือปฏบิ ตั ิ ช่ือ นายประพจน์ ค้าใจ วนั เดอื น ปเี กดิ - ทีอ่ ยู่ 1 หมู่ 1 ตา้ บลแม่สาย อา้ เภอแม่สาย จังหวัดเชยี งราย หมายเลขโทรศัพท์ 089 637 7102 ๔.๒ ผู้สบื ทอด ช่อื - วัน เดอื น ปเี กดิ - ท่ีอยู่ - หมายเลขโทรศัพท์ - ๕. สถำนะ กำรคงอยู่  ปฏบิ ัตอิ ยา่ งแพร่หลาย  เสยี่ งต่อการสญู หาย  ไมป่ ฏิบัติแลว้ ๖. รปู ภำพภมู ิปญั ญำทำงวัฒนธรรม/กจิ กรรมทำงภูมปิ ัญญำทำงวัฒนธรรม

-443- แบบสำรวจมรดกภมู ปิ ัญญำทำงวัฒนธรรมจังหวดั เชียงรำย ประจำปี ๒๕65 สภำวัฒนธรรมจังหวัดเชยี งรำย อำเภอเวียงชยั จังหวดั เชยี งรำย ๑. ช่ือข้อมลู ปราสาทศพ ๒. ลกั ษณะ  วรรณกรรมพ้นื บา้ นและภาษา  ศลิ ปะการแสดง  แนวปฏิบตั ทิ างสังคมพธิ ีกรรม ประเพณี และเทศกาล  อาหาร/ความร้แู ละการปฏบิ ัติเกีย่ วกับธรรมชาตแิ ละจักรวาล  งานช่างฝีมือดง้ั เดิม  การละเลน่ พนื้ บ้าน กีฬาพ้นื บา้ น และศิลปะการตอ่ สปู่ ้องกนั ตวั ๓. รำยละเอียดข้อมลู ๓.๑) ประวัตคิ วามเป็นมาของข้อมูล หลักฐานกล่าวถึงการใช้ปราสาทในชนชั้นสูงว่าเป็นของที่นิยมท้ามาเป็นเวลานานแต่โบราณแล้ว ดังที่ปรากฏในสาส์นสมเด็จตอนหน่ึงว่า ลุจุลศักราช 940 ปีขาลสัมฤทธิศกเดือนอ้ายข้ึน12ค้่านางพระยา วิสุทธิเทวีผู้ครองนครพิงค์เชียงใหม่ถึงแก่พิราลัยพระยาแสนหลวงแต่งการศพท้าเป็นพิมานบุษบกต้ังบนหลัง นกหัสดินทร์ขนาดใหญ่เคลื่อนด้วยเล่ือนแม่สะดึงเชิญหีบพระศพข้ึนไว้ในบษุ บกก้ันแล้วฉุดชักไปด้วยแรงคชสาร เจาะกา้ แพงเมืองออกไปท่งุ วัดโลกแล้วก็ท้าฌาปนกิจถวายเพลิง ณ ทน่ี ้นั เผาทั้งรูปสัตว์และวิมานท่ีตั้งศพนั้นด้วย จึงเป็นธรรมเนียมในการปลงศพ ๓.๒) ข้นั ตอนวธิ กี าร/ดา้ เนนิ การเกย่ี วกบั ข้อมูล วัสดุที่ใชใ้ นกำรจัดทำปรำสำทศพ ประกอบด้วย ๑. กระดาษเงิน กระดาษทอง ๒. กระดาษมันขาว มันแดง สีขาว สีเทา สีเหลอื ง หลากสี ๓. กาว หรอื แปง้ เปยี ก ส้าหรบั ใชท้ ากระดาษตดิ กบั ตัวปราสาท โดยการนา้ แป้งมันสา้ ปะหลัง ตม้ น้าใหเ้ ดือดคนจนได้ทเ่ี หนียวพอดี จงึ เรยี กว่า แป้งเปยี ก ๔. ไม้งวิ้ แดง ไมน้ นุ่ เครอ่ื งมอื ทีใ่ ช้ในกำรจดั ทำปรำสำทศพ ประกอบดว้ ย ๑. เล่อื ยมือ ๒. เล่ือยวงเดือน ๓. สว่ิ ขนาดตา่ ง ๆ ๔. คอ้ น มุย ๕. กรรไกร ๖. ตะปู ๗. มีดขนาดตา่ ง ๆ ใชส้ ้าหรบั ตัดไม้ ฟันไม้ ผา่ ไม้ ๘. แทน่ รอง ใช้สา้ หรบั รองกระดาษเพอื่ ต้องดอก ต้องลาย แกะลาย ๙. ไม้ฉาก ตลบั เมตร ๑๐. ดินสอเขียนไม้ ๑๑. แมก็ ยิง ปั้มลม ส้าหรับใช้ยงิ ไมต้ ามจดุ ตา่ ง ๆ ท่ีคอ้ นตอกเขา้ ไปไม่ถึง ๑๒. บลอ็ กสกรีนลาย ๑๓. สี - แปรงทาสี

-444- ขัน้ ตอนและวิธีกำรในกำรทำปรำสำทศพ กลุมชางจะมีกระบวนการข้ันตอนในการท้าสวนประกอบของแตละสวนแยกออกจากกัน และ จะมีการท้าเตรียมไวลวงหนาเปนจ้านวนมาก เน่ืองจากงานสั่งท้าปราสาทศพไมมีก้าหนดเวลาท่ีแน่นอน ขึ้นอยู กับการเปนการตายของคนเรา ดังนั้น ช่างท้าปราสาทศพจึงตองจัดเตรียมวัสดุทุกอย่างไวให้พรอมตลอดเวลา โดยมีประโยคที่เรียกกันวา “ส่ังเชาไดสาย สั่งบายไดเย็น” หรือ “คนใช้ไม่ได้ซื้อ คนซื้อไม่ได้ใช้” โดยมีข้ันตอน และวธิ ีการในการท้าปราสาทศพ ดงั นี้ ๑. สว่ นท่เี ปน็ งานกระดาษ การท้าลาย แกะลาย ต้องลาย และตัดกระดาษ งานประเภทนี้มักจะให้ช่างผู้หญิงเป็นผู้ท้า โดยจัดเตรียมกระดาษชนิดต่าง ๆ ท้ังกระดาษแข็งและกระดาษอ่อนหลากสีสัน น้ามาตัดลายในรูปแบบต่าง ๆ และจัดเตรียมไว้เป็นจ้านวนมาก เน่ืองจากเป็นช้ินส่วนท่ีต้องใช้ประดับตกแต่งตัวปราสาทและในกรณีท่ีมีเจ้าภาพ มาสง่ั ท้าปราสาทศพในกรณีเร่งด่วน และมาส่ังพร้อมกันหลาย ๆ แห่ง อาทิเช่น ชอ่ ฟ้า หางชอ่ ฟ้า ตัวช่อฟ้า ใบระกา ดอกต้ัง ฝาหยวด นาคต้น กาบเสา กาบจิว ผ้าม่าน ยอดปราสาท และยอดฉัตร (ใช้ส้าหรับปราสาทศพของ พระสงฆเ์ ท่านนั้ ) ๒. สว่ นท่ีเปน็ โครงปราสาท ตัวปราสาทศพ การท้าโครงปราสาท หรอื ตัวปราสาทศพ จะใช้ช่างผชู้ ายเปน็ ผู้ลงมอื ท้า โดยมีกระบวนการ ในการจดั ท้า ดงั น้ี (๑) น้าไม้ท่เี ป็นแผ่นขนาดใหญม่ าเลอ่ื ยใหม้ ีขนาดเลก็ ตามทตี่ ้องการ (๒) น้าไม้ที่เลื่อยเตรียมไว้ตามขนาดท่ีต้องการ มาประกอบเป็นโครงปราสาท อันดับแรกคือ ท้าโครงเสาเป็นรูปส่ีเหลี่ยมด้านไม่เท่า โดยการน้าไมมาประกอบเขากัน และจะท้าตามขนาดที่เจาภาพมาสั่ง เชน เจ้าภาพตองการปราสาทศพขนาดเสา ๘ ตน หรือ ๑๒ ตน หรือ ๒๔ ตน ซึ่งส่วนประกอบโครงปราสาทน้ี ชา่ งจะต้องจดั เตรียมไวเปนจา้ นวนมากเชนกัน (๓) น้าส่วนที่ประกอบเป็นเสาแต่ละอันมาประกบกันเพ่ือท้าโครงปราสาทหรือตัวปราสาท โดยเรม่ิ ตงั้ แต่ทา้ ฐานข้ึนไปเปน็ อนั ดบั แรกเพ่อื ยึดให้ตวั ปราสาทตงั้ ได้ (๔) เริม่ ท้าสว่ นที่เปน็ ตัวฐานดา้ นบนเพอ่ื เป็นส่วนที่รองรบั หลงั คาปราสาทศพอีกชัน้ หน่ึง ๓. ส่วนท่เี ปน็ หลงั คาปราสาท ช่างท้าปราสาทก็จะจัดท้าส่วนหลังคาแยกไว้ต่างหาก เพ่ือความสะดวกในการขนย้าย และ สามารถยกมาประกอบที่หลังได้ จึงมีการท้าปราสาทแยกแต่ละส่วนไว้เป็นจ้านวนมาก และพร้อมท่ีจะ ประกอบให้แล้วเสร็จภายในวันเดียวได้เลย ในการท้าส่วนท่ีเป็นโครงหลังคาจะมีขนาดเช่นเดียวกับท้าเสา ปราสาทโดยให้ได้สัดส่วนและมีความสัมพันธ์กันทั้งโครงปราสาท และหลังคา เช่น เสา ๘ ต้น จะท้ามุม ๔ เหลี่ยม เสา ๑๒ ต้น ท้ามุม ๖ เหล่ียม เสา ๒๔ ต้น ท้ามุม ๘ เหล่ียม เป็นต้น โดยช่างจะเน้นหลังคารูปทรงไทย มลี ักษณะ ๓ ช้ัน ๕ ช้ัน ๗ ช้นั ๙ ชัน้ ขนึ้ อยู่กับความต้องการของเจ้าภาพทีม่ าส่ังท้า (จะทา้ ปราสาทกี่ช้ัน) ๔. ส่วนท่ีเปน็ ยอดปราสาท (ฉตั ร) ในส่วนน้ีช่างก็จะท้าแยกไว้ต่างหากเช่นกัน เพื่อความสะดวกในการน้ามาประกอบเข้าเป็น ตัวปราสาทที่สมบูรณ์ โดยแต่ละส่วนที่กล่าวมาแล้ว หากท้าเสร็จแล้วจะเก็บรอไว้ จนกว่าจะมีเจ้าภาพมาสั่ง กลุ่มช่างก็จะระดมกันตกแต่งชิ้นส่วนแต่ละอย่างให้สวยงามและน้ามาประกอบกันจนเป็นปราสาทบรรจุศพ ๑ หลงั ๕. การตกแตง่ แต่ละส่วน ฐานปราสาท ตัวปราสาท หลงั คา ยอดปราสาท

-445- ๔. ช่อื ผู้ทีถ่ ือปฏิบตั ิและผ้สู บื ทอด ๔.๑ ผ้ทู ถ่ี ือปฏบิ ัติ ชอ่ื นายสุบรรณ ปงช่มุ ใจ วัน เดือน ปเี กิด - ที่อยู่ 65 หมู่ 11 ตา้ บลเมอื งชุม อ้าเภอเวยี งชยั จังหวัดเชียงราย หมายเลขโทรศัพท์ 086 117 1055 ๔.๒ ผู้สบื ทอด ชื่อ นายณรงค์ ปงชมุ่ ใจ วนั เดอื น ปีเกดิ - ทีอ่ ยู่ 65 หมู่ 11 ตา้ บลเมืองชุม อ้าเภอเวียงชัย จังหวัดเชียงราย หมายเลขโทรศัพท์ - ๕. สถำนะ กำรคงอยู่  ปฏิบตั อิ ย่างแพร่หลาย  เสี่ยงตอ่ การสูญหาย  ไมม่ ปี ฏบิ ตั แิ ลว้ ๖. รปู ภำพภมู ิปัญญำทำงวัฒนธรรม/กิจกรรมทำงภูมปิ ัญญำทำงวัฒนธรรม

-446- แบบสำรวจมรดกภมู ปิ ัญญำทำงวัฒนธรรมจังหวดั เชยี งรำย ประจำปี ๒๕๖5 สภำวัฒนธรรมจังหวดั เชยี งรำย อำเภอเวียงชยั จังหวดั เชยี งรำย ๑. ชื่อข้อมูล ปราสาทศพ (บา้ นรอ่ งบวั ลอย) ๒. ลักษณะ  วรรณกรรมพน้ื บ้านและภาษา  ศลิ ปะการแสดง  แนวปฏิบัติทางสงั คมพิธีกรรม ประเพณี และเทศกาล  อาหาร/ความรู้และการปฏบิ ตั เิ กยี่ วกับธรรมชาตแิ ละจกั รวาล  งานช่างฝีมือดงั้ เดิม  การละเล่นพ้ืนบา้ น กีฬาพนื้ บา้ น และศลิ ปะการตอ่ สปู่ ้องกนั ตวั ๓. รำยละเอียดข้อมลู ๓.๑) ประวัตคิ วามเป็นมาของข้อมลู การท้าปราสาทศพในพ้ืนที่บ้านร่องบัวลอย ต้าบลเวียงชัย อ้าเภอเวียงชัย จังหวัดเชียงราย เร่ิมมีมาต้ังแต่ปี พ.ศ. ๒๔๙๘ โดยมีนายทา ศรีเปง นายมา ศรีเปง (บุคคลทั้งสองท่านน้ีเป็นพ่ีนองกัน) และนายมา ลือชัย ซ่ึงบุคคลทั้ง ๓ ท่านนี้ไดสืบทอดวิชาความรู้การท้าปราสาทศพ มาจากบรรพบุรุษที่อพยพมาจากบานดอนแกว อ้าเภอหางฉตั ร จังหวัดลา้ ปาง และได้มาตัง้ รกรากอยู่ทบ่ี ้านรอ่ งบวั ลอย ต้าบลเวยี งชัย อา้ เภอเวยี งชัย จังหวดั เชยี งราย ทั้งน้ี ในการท้าปราสาทศพครั้งแรก เกิดข้ึนจากการท้าเพ่ือช่วยเหลือซ่ึงกันและกันในหมู่ญาติ พ่ีน้อง บา้ นใกลเ้ รือนเคียง และเปน็ ชาวบ้านท่ีอาศัยอยู่ในหมู่บ้านเดียวกันได้เสียชีวิต จึงได้ช่วยกันทา้ ปราสาทบรรจุโลง ศพให้แก่ผู้ตาย โดยที่ไม่ได้คิดค่าแรงหรือค่าจ้างแต่อย่างใด เพียงแต่ให้ญาติท่ีเป็นเจ้าภาพในการจัดงานศพของ ผู้เสียชีวิตเป็นผู้ขึ้นขันตั้งในการท้าปราสาทบรรจุโลงศพ เน่ืองจากมีความเชื่อท่ีสืบทอดกันมาว่า ก่อนการท้า ปราสาทศพทุกครั้งจะต้องมีขันต้ัง หากไม่มีการท้าขันต้ังจะท้าให้เกิดสิ่งท่ีไม่ดีหรือที่ชาวล้านนาเชื่อกันว่า “จะแพ้จะขึด จะแพ้ผี” ซ่ึงจะส่งผลท้าให้ชา่ งท่ีท้าปราสาทศพจะไม่สบายป่วยไข้ได้ ดังน้ัน ก่อนการท้าปราสาท ศพทุกครงั้ จะตอ้ งมขี ันต้งั โดยเจา้ ภาพศพจะตอ้ งจัดเตรยี มสิ่งของในการทา้ ขนั ต้ัง ประกอบด้วย ๑. กรวยดอกไม จ้านวน ๑ กรวย (ใส่ข้าวตอกดอกไม /ดอกไมสขี าว /ธูปและเทียน ) ๒. หมากแหง จ้านวน ๑ พวง ๓. เมย่ี ง จ้านวน ๑ อม ๔. บุหรี่ จ้านวน ๑ มวน ๕. เหลาขาว จ้านวน ๑ ขวด ๖. ไกตม จ้านวน ๑ ตวั ๗. ไขตม จา้ นวน ๑ ฟอง ๘. สตางค (เงนิ ) จ้านวน ๑๒.๕๐ บาท หมำยเหตุ ปัจจบุ ันทงั้ ๓ ท่าน ได้เสยี ชีวติ แลว้ เม่ือมีความช้านาญในการท้าปราสาทศพเพิ่มมากข้ึนก็มีการถ่ายทอดความรู้สู่คนในชุมชน ต่อมาคนท่ี เคยมาเป็นลูกมือในการท้าปราสาทศพทั้งหลายก็เริ่มมีความช้านาญขึ้นเรื่อย ๆ เพราะเป็นงานฝีมือ ท่ีสามารถ เรียนรู้และดูจากรูปแบบโครงสร้าง ฝึกท้าบ่อย ๆ ก็สามารถท้าได้ หรือบางคนก็มาเรียนรู้ในลักษณะ ครูพักลัก จา้ และนา้ ไปฝึกปฏิบัติ จนมีการสืบทอดวิชาความรู้การท้าปราสาทศพต่อมากันอีกหลายรุ่น และแตกแขนง ออกไปเป็นหลายกลุ่ม ซึ่งในแต่ละกลุ่มจะมีช่างเฉพาะของตนเองในการท้าส่วนประกอบต่าง ๆ เช่น ชา่ งตัดไม้ ชา่ งท้าตวั ปราสาท ชา่ งท้าหลงั คา ชา่ งทา้ ยอดปราสาท ช่างแกะลาย ตอ้ งลาย ฉลุลาย ทา้ ช่อฟ้า ใบระกา หรือช่างบางคนก็สามารถท้าได้ในทุกส่วนประกอบของปราสาทศพ ซึ่งการท้าปราสาทศพนั้นจะมี

-447- ความสวยงาม ประณีตเพียงใดน้ัน ขึ้นอยู่ที่การพัฒนาฝีมือและการประยุกตอ์ อกแบบลวดลายของช่างแต่ละคน รวมไปถึงความอลังการก็ข้ึนอยู่กับงบประมาณในการส่ังท้า โดยงบประมาณในการจัดท้าปราสาทศพมีต้ังแต่ หลักพัน หลักหมื่น จนไปถึงหลักแสน โดยการออกแบบการใช้สีในการท้าปราสาทศพมักจะใช้สีตามวัยของ ผู้เสียชีวิต อาทิเช่น ผู้สูงอายุท่ีมีอายุต้ังแต่ ๖๐ ปีขึ้นไปมักจะใช้โทนสีขาวเป็นหลัก คนวัยหนุ่มสาวหรือวัย กลางคนก็มักจะใช้หลากสีสนั คือ สแี ดง สีชมพู ส่วนพระสงฆม์ ักจะใช้สที อง เป็นตน้ จากเดมิ การทา้ ปราสาทศพที่เร่ิมต้นจากการท้าเพ่ือชว่ ยเหลือกนั ในหมูญ่ าติพน่ี ้องก็กลับกลายมา เป็นองค์ความรู้ มรดกภูมิปัญญาท่ีสืบทอดกันมาจากรุ่นสู่รุ่น จนท้าให้วิชาความรู้ในการท้าปราสาทศพมาเป็น วิชาชีพในการหารายได้ในการเล้ียงชีพกันอย่างแพร่หลายในหมู่บ้านร่องบัวลอย โดยเร่ิมมาต้ังแต่ ปี พ.ศ. ๒๕๑๘ โดยมีการแยกตัวออกไปท้าธุรกิจปราสาทศพกันอย่างแพร่หลาย ในอดีตแทบทุกครัวเรือนในชุมชนจะมีอาชีพ ท้าปราสาทศพซึ่งในยุคหนึ่งมีความจ้านวนร้านค้าปราสาทศพมากกว่า 12 ร้าน แต่ในปัจจุบันเหลือผู้ท่ีท้า ปราสาทศพขายในชุมชนเหลืออยู่จ้านวน 4 ร้าน ถึงกระนั้นก็ตามแม้ว่าในปัจจุบันแม้จะเหลือเพียงไม่ก่ีร้าน แต่ปราสาทศพบ้านร่องบัวลอยก็ยังคงเป็นที่รู้จักของคนเชียงรายและจังหวัดใกล้เคียง ในฐานะหมู่บ้านท่ีท้า ปราสาทศพที่มีช่ือเสียงของจังหวัดเชียงราย จนกลายมาเป็นอาชีพท่ีสร้างรายได้ เป็นธุรกิจท่ีท้าสร้างช่ือเสียง ใหก้ บั คนในหมู่บา้ นร่องบัวลอยมาจนถึงปจั จุบันนี้ ๓.2) ขัน้ ตอน/วธิ กี าร/ด้าเนนิ การเกีย่ วกบั ขอ้ มลู วสั ดุท่ใี ช้ในกำรจัดทำปรำสำทศพ ประกอบด้วย ๒. กระดาษเงนิ กระดาษทอง ๓. กระดาษมันขาว มนั แดง สขี าว สเี ทา สีเหลอื ง หลากสี ใช้ส้าหรับตกแตง่ ตัวปราสาทศพ โดยการต้องให้เป็นลวดลายต่าง ทง้ั ลายไทย ลายดอก เพื่อความสวยงาม ใชส้ า้ หรับตกแตง่ ตัวปราสาทศพ โดยการแกะลาย ต้องลายให้เปน็ ลวดลายต่าง ๆ ท้งั ลายไทย ลายดอก เพอ่ื ความสวยงาม

-448- ๓. กาว หรือ แป้งเปยี ก สา้ หรับใชท้ ากระดาษตดิ กบั ตวั ปราสาท โดยการนา้ แปง้ มนั ส้าปะหลงั ตม้ นา้ ใหเ้ ดือดคนจนไดท้ ่ีเหนียวพอดี จึงเรยี กว่า แป้งเปยี ก แปง้ มนั ส้าปะหลงั ที่นา้ มาท้าเป็นกาวหรือแปง้ เปียก นา้ แปง้ มันส้าปะหลงั มาตม้ น้าใหเ้ ดือดคนไปเรื่อย ๆ ซง่ึ สามารถหาซื้อได้ตามท้องตลาดท่วั ไป จนเหนียวได้ทพ่ี อดี จะไดก้ าวหรือแปง้ เปยี ก ๔. ไม้งิ้วแดง ไมน้ ่นุ ไมง้ ิ้วแดง ไม้นุ่น สา้ หรับใช้ท้าตัวปราสาท โครงหลงั คา และทกุ ส่วนของปราสาทศพ เครอ่ื งมือทีใ่ ช้ในกำรจัดทำปรำสำทศพ ประกอบด้วย ๑. เล่อื ยมอื ใชส้ า้ หรบั เลอ่ื ยไม้ ตัดไม้ ทม่ี ีขนาดเล็ก

-449- ๒. เล่ือยวงเดือน ใชส้ ำหรบั เล่ือยไมท้ ่ีมีขนำดใหญ่ ตดั ซอยออกมำใหม้ ีขนำดเลก็ ๓. สิ่วขนาดต่าง ๆ ส้าหรบั ใชต้ ้องดอก ต้องลาย แกะสลกั ลายตา่ ง ๆ ๔. ค้อน มยุ ใช้ส้าหรบั ตอกตะปู ตอกไม้ ตอกสวิ่ ตอนที่แกะลาย

-450- ๕. กรรไกร ใชส้ ้าหรับตดั วสั ดุตา่ ง ๆ เชน่ กระดาษ ๖. ตะปู ใชส้ ้าหรบั ตอกไมใ้ ห้ยึดติดกบั ตวั ปราสาท ๗. มดี ขนาดต่าง ๆ ใช้ส้าหรบั ตัดไม้ ฟนั ไม้ ผ่าไม้ ใชส้ ้าหรับตดั ไม้ ฟันไม้ ผา่ ไม้ ๘. แทน่ รอง ใช้ส้าหรบั รองกระดาษเพ่อื ต้องดอก ตอ้ งลาย แกะลาย ใชส้ ้าหรับรองกระดาษเพื่อตอ้ งดอก ต้องลาย แกะ ลาย

-451- ๙. ไมฉ้ าก ตลบั เมตร สา้ หรับใช้วดั ความยาว ความกว้างของไมท้ ใี่ ชป้ ระกอบเป็นโครงสร้างตัวปราสาทศพ ๑๐. ดนิ สอเขยี นไม้ ใช้ส้าหรับขีดเขยี นท้าเคร่ืองหมายเพ่ือให้ไดไ้ ม้ตามท่ีตอ้ งการ ๑๑. แมก็ ยงิ ปั้มลม สา้ หรับใชย้ งิ ไมต้ ามจุดตา่ งๆทีค่ ้อนตอกเขา้ ไปไม่ถงึ ส้าหรับใชย้ ิงไมต้ ามจดุ ตา่ ง ๆ ที่คอ้ นตอกเขา้ ไปไมถ่ งึ ๑๒. บล็อกสกรนี ลาย ใชส้ ้าหรบั สกรีนลายดอกตา่ ง ๆ เป็นอปุ กรณ์เสรมิ ท่ีช่วยใหง้ านกระดาษ แกะลาย ตอ้ งดอกรวดเรว็ ยิ่งข้นึ

-452- ๑๓. สี - แปรงทาสี ใช้สา้ หรบั ทา้ ลายดอกสีต่าง ๆ ตามต้องการ ขัน้ ตอนและวิธีกำรในกำรทำปรำสำทศพ กลุ มช างจะมีกระบวนการขั้นตอนในการท้าส วนประกอบของแต ละส วนแยกออกจากกัน และ จะมีการท้าเตรียมไวลวงหนาเปนจ้านวนมาก เนื่องจากงานสั่งท้าปราสาทศพไมมีก้าหนดเวลาท่ีแน่นอน ข้ึนอยูกับการเปนการตายของคนเรา ดังนั้น ช่างท้าปราสาทศพจึงตองจัดเตรียมวัสดุทุกอย่างไวให้พรอม ตลอดเวลา โดยมีประโยคที่เรียกกันวา “ส่ังเชาไดสาย ส่ังบายไดเย็น” หรือ “คนใช้ไม่ได้ซื้อ คนซ้ือไม่ได้ใช้” โดยมขี ้นั ตอนและวิธกี ารในการทา้ ปราสาทศพ ดงั น้ี ๑. สว่ นที่เปน็ งานกระดาษ การท้าลาย แกะลาย ต้องลาย และตัดกระดาษ งานประเภทน้ีมักจะให้ช่างผู้หญิงเป็นผู้ท้า โดยจัดเตรียมกระดาษชนิดต่าง ๆ ทั้งกระดาษแข็งและกระดาษอ่อนหลากสีสัน น้ามาตัดลายในรูปแบบต่าง ๆ และจัดเตรียมไว้เป็นจ้านวนมาก เนื่องจากเป็นชิ้นส่วนที่ต้องใช้ประดับตกแต่งตัวปราสาทและในกรณีที่มีเจ้าภาพ มาสงั่ ท้าปราสาทศพในกรณีเร่งด่วน และมาสั่งพร้อมกันหลาย ๆ แหง่ อาทิเชน่ ชอ่ ฟา้ หางช่อฟ้า ตวั ช่อฟา้ ใบระกา ดอกต้ัง ฝาหยวด นาคต้น กาบเสา กาบจิว ผ้าม่าน ยอดปราสาท และยอดฉัตร (ใช้ส้าหรับปราสาทศพของ พระสงฆเ์ ทา่ นั้น)

-453- ๒. สว่ นทเ่ี ป็นโครงปราสาท ตัวปราสาทศพ การท้าโครงปราสาท หรือตวั ปราสาทศพ จะใช้ช่างผชู้ ายเป็นผู้ลงมอื ท้า โดยมีกระบวนการ ในการจัดท้า ดงั นี้ (๒) นา้ ไมท้ ่เี ป็นแผ่นขนาดใหญ่มาเลอ่ื ยใหม้ ีขนาดเลก็ ตามทต่ี ้องการ (๒) น้าไม้ท่ีเลื่อยเตรียมไว้ตามขนาดที่ต้องการ มาประกอบเป็นโครงปราสาท อันดับแรกคือ ท้าโครงเสาเป็นรูปส่ีเหล่ียมด้านไม่เท่า โดยการน้าไมมาประกอบเขากัน และจะท้าตามขนาดที่เจาภาพมาส่ัง เชน เจ้าภาพตองการปราสาทศพขนาดเสา ๘ ตน หรือ ๑๒ ตน หรือ ๒๔ ตน ซ่ึงส่วนประกอบโครงปราสาทน้ี ช่างจะตอ้ งจัดเตรยี มไวเปนจา้ นวนมากเชนกัน

-454- (๓) น้าส่วนท่ีประกอบเป็นเสาแต่ละอันมาประกบกันเพื่อท้าโครงปราสาทหรือตัวปราสาท โดยเรม่ิ ตง้ั แต่ท้าฐานขนึ้ ไปเป็นอันดับแรกเพื่อยึดใหต้ ัวปราสาทตั้งได้ (๔) เร่ิมท้าส่วนที่เปน็ ตวั ฐานดา้ นบนเพอ่ื เป็นส่วนท่ีรองรับหลงั คาปราสาทศพอีกชน้ั หนง่ึ ๓. ส่วนท่ีเปน็ หลังคาปราสาท ช่างท้าปราสาทก็จะจัดท้าส่วนหลังคาแยกไว้ต่างหาก เพื่อความสะดวกในการขนย้าย และ สามารถยกมาประกอบท่ีหลังได้ จึงมีการท้าปราสาทแยกแต่ละส่วนไว้เป็นจ้านวนมาก และพร้อมที่จะ ประกอบให้แล้วเสร็จภายในวันเดียวได้เลย ในการท้าส่วนที่เป็นโครงหลังคาจะมีขนาดเช่นเดียวกับท้าเสา ปราสาทโดยให้ได้สัดส่วนและมีความสัมพันธ์กันทั้งโครงปราสาท และหลังคา เช่น เสา ๘ ต้น จะท้ามุม ๔ เหล่ียม เสา ๑๒ ต้น ท้ามุม ๖ เหล่ียม เสา ๒๔ ต้น ท้ามุม ๘ เหล่ียม เป็นต้น โดยช่างจะเน้นหลังคารูปทรงไทย มีลกั ษณะ ๓ ชัน้ ๕ ชัน้ ๗ ช้ัน ๙ ชน้ั ขนึ้ อย่กู บั ความต้องการของเจา้ ภาพท่ีมาสั่งท้า (จะท้าปราสาทกี่ช้ัน)

-455- ๔. ส่วนท่ีเป็นยอดปราสาท (ฉัตร) ในส่วนน้ีช่างก็จะท้าแยกไว้ต่างหากเช่นกัน เพื่อความสะดวกในการน้ามาประกอบเข้าเป็น ตัวปราสาทท่ีสมบูรณ์ โดยแต่ละส่วนท่ีกล่าวมาแล้ว หากท้าเสร็จแล้วจะเก็บรอไว้ จนกว่าจะมีเจ้าภาพมาส่ัง กลุ่มช่างก็จะระดมกันตกแต่งช้ินส่วนแต่ละอย่างให้สวยงามและน้ามาประกอบกันจนเป็นปร าสาทบรรจุศพ ๑ หลัง ๕. การตกแตง่ แตล่ ะส่วน ฐานปราสาท ตวั ปราสาท หลังคา ยอดปราสาท

-456- 4. ช่ือผู้ท่ีถือปฏิบัติและผ้สู ืบทอด 4.๑ ผทู้ ีถ่ อื ปฏบิ ัติ ปัจจบุ ันมีผถู้ ือปฏิบตั ิการทา้ ปราสาทศพ จา้ นวน ๔ ร้าน ดงั น้ี (๑) ชอ่ื ร้านสล่ารัตน์ (ปราสาทเสรี) วัน เดือน ปเี กดิ ๓ มกราคม ๒๔๙๒ ทีอ่ ยู่ ๖๙ หมู่ ๒ ต้าบลเวียงชัย อา้ เภอเวยี งชยั จังหวดั เชียงราย หมายเลขโทรศัพท์ 081 998 2308 (๒) ชื่อ นายพุฒ บุญวงค์ รา้ นสล่าเสรฐิ (ร่องบวั ลอย ๑) วัน เดอื น ปีเกดิ ๙ กรกฎาคม ๒๕๐๔ ทอี่ ยู่ หมู่ ๒ ตา้ บลเวียงชัย อา้ เภอเวียงชัย จงั หวัดเชียงราย หมายเลขโทรศัพท์ 081 ๓๖๖ ๙๑๕๔ (๓) ชอ่ื นายเจริญ ขัติยะ รา้ นปราสาทเจรญิ ทอง วัน เดือน ปีเกิด ๙ มนี าคม ๒๕๐๓ ที่อยู่ ๗๗ หมู่ ๒ ต้าบลเวยี งชัย อา้ เภอเวียงชยั จงั หวัดเชียงราย หมายเลขโทรศัพท์ 081 ๗๙๖ ๖๔๗๔ / ๐๘๓ ๗๖๔ ๕๑๓๓ (๔) ชอ่ื นายอนิ จันทร์ ปญั ญาไว รา้ นสล่าอนิ จันทร์ (ศาลาทองร่องบวั ลอย) วนั เดือน ปเี กดิ ๑๘ ตลุ าคม ๒๔๙๖ ที่อยู่ ๑๖๑ หมู่ ๒ ตา้ บลเวียงชัย อา้ เภอเวียงชยั จงหวดั เชียงราย หมายเลขโทรศัพท์ 081 ๓๖๖ ๑๗๑๔ / ๐๘๓ ๑๕๓ ๕๓๙๙ /๐๘๗ ๑๗๗ ๖๘๖๙ 4.๒ ผ้สู บื ทอด (๑) ชื่อ นางสาวล้าดวน เผา่ ปินตา ร้านสลา่ รตั น์ (ปราสาทเสรี) วนั เดือน ปเี กิด ๑๗ กนั ยายน ๒๕๑๗ ทอ่ี ยู่ ๖๙ หมู่ ๒ ต้าบลเวียงชัย อ้าเภอเวียงชยั จงั หวัดเชียงราย หมายเลขโทรศัพท์ 090 321 1608 (๒) ช่ือ นายวรี ะพงษ์ ขตั ยิ ะ รา้ นปราสาทเจริญทอง วนั เดอื น ปเี กดิ ๑๕ กรกฎาคม ๒๕๓๒ ทอ่ี ยู่ ๗๗ หมู่ ๒ ตา้ บลเวียงชัย อา้ เภอเวยี งชัย จงั หวดั เชียงราย หมายเลขโทรศัพท์ 081 ๗๙๖ ๖๔๗๔ (๓) ชื่อ นางสาวกนกพร ปญั ญาไว รา้ นสล่าอนิ จนั ทร์ (ศาลาทองร่องบวั ลอย) วนั เดอื น ปีเกิด ๒๕๑๙ ที่อยู่ ๑๖๑ หมู่ ๒ ต้าบลเวยี งชยั อ้าเภอเวียงชยั จงั หวดั เชียงราย หมายเลขโทรศัพท์ 081 ๓๖๖ ๑๗๑๔ / ๐๘๓ ๑๕๓ ๕๓๙๙ /๐๘๗ ๑๗๗ ๖๘๖๙ 5. สถำนะกำรคงอยู่  ปฏิบตั อิ ยา่ งแพรห่ ลาย  เส่ยี งต่อการสญู หาย  ไมม่ ปี ฏิบัติแล้ว การท้าปราสาทศพ ในส่วนที่เป็นฝีมืองานช่างไม้น้ันยังมีช่างจ้านวนมากที่สืบทอด และท้าปราสาท ได้เป็นอย่างดี และได้แยกกลุ่มออกไปแต่ไม่มีสาขา งานจ้าง งานส่ังท้าปราสาทเข้ามาน้อยจึงไม่เพียงพอต่อ การครองชีพ ท้าใหต้ ้องเลกิ ไปโดยปริยาย แต่ส่วนท่ีเส่ียงต่อการสูญหายต้องได้รับการปกป้องคุ้มครองอย่างเร่งด่วน ก็คือภูมิปัญญาในส่วนของ การต้องดอก ต้องลาย แกะลาย ซึ่งนับวันจะสูญหาย เน่ืองจากงานประเภทน้ีต้องอาศัยใจรัก มีความอดทน ความละเอียด ความประณีต สวยงาม ใช้เวลาในการท้ากว่าจะต้องออกมาได้ ๑ ลาย จึงท้าให้ไม่มีใครสนใจ สืบทอด เพราะการท้าส่ิงเหล่านี้น้าไปขายในงานอื่นไม่ได้ ต้องท้าใช้กับปราสาทศพอย่างเดียว จึงไม่มีคนสนใจ ที่จะสืบทอด มเี พยี งแต่กลุ่มครอบครวั ชา่ งเทา่ น้ันท่ียังคงท้ากนั อยู่

-457- อีกประการหนึ่ง ท่ีน่าเป็นห่วงในเรื่องของภูมิปัญญาการต้องดอกท่ีก้าลังจะสูญหาย คือมีการน้า เทคโนโลยีสมัยใหม่เข้าช่วยให้งานต้องดอกรวดเร็วยิ่งข้ึน น่ันก็คือการท้าบล็อกสกรีนลวดลายต่าง ๆ เข้ามา แทนการท้าด้วยมือ เพราะสามารถท้าได้เป็นจ้านวนมาก รวดเร็ว ไม่เสียเวลา จึงนิยมใช้แบบสกรี นแทน การแกะลายด้วยมอื 6. รปู ภำพภูมปิ ญั ญำทำงวัฒนธรรม/กิจกรรมทำงภูมิปัญญำทำงวัฒนธรรม โครงสรา้ งตัวปราสาทศพ ก่อนการประดับ องคป์ ระกอบในส่วนของหลงั คาปราสาทศพ ตกแตง่ ด้วยกระดาษลวดลายต่าง ๆ ซ่งึ แยกออกมาเพื่อความสะดวกในการขนย้าย ผลงานปราสาทศพ ของช่างฝีมอื บา้ นร่องบวั ลอยในรูปแบบตา่ ง ๆ การขนยา้ ยปราสาทศพ ไปยังบา้ นเจ้าภาพ โดยจะแยกชิน้ ส่วนระหว่างตัวปราสาท กบั หลังคาปราสาท ผลงานการทา้ ขบวนรว้ิ ขบวนศิลปวัฒนธรรม โดยการน้างานช่างฝมี อื ในการทา้ ปราสาทศพ มาเป็นองคป์ ระกอบหลกั ในร้ิวขบวน ซึ่งเป็นกจิ กรรมการประกวดรวิ้ ขบวน ในการแข่งขนั กฬี าแห่งชาติ คร้ังที่ ๔๖ “เจยี งฮายเกมส์”

-458- แบบสำรวจมรดกภมู ิปัญญำทำงวฒั นธรรมจงั หวัดเชียงรำย ประจำปี ๒๕๖๕ สภำวัฒนธรรมจงั หวัดเชยี งรำย อำเภอเวียงชยั จงั หวดั เชียงรำย ๑. ช่ือข้อมูล ปั้นพระพุทธรปู หลอ่ พระพุทธรปู ปัน้ รูปเหมอื น ๒. ลักษณะ  วรรณกรรมพน้ื บา้ นและภาษา  ศิลปะการแสดง  แนวปฏบิ ตั ทิ างสงั คมพิธีกรรม ประเพณี และเทศกาล  อาหาร/ความรู้และการปฏิบตั เิ กยี่ วกับธรรมชาติและจกั รวาล  งานช่างฝีมือดัง้ เดิม  การละเลน่ พื้นบ้าน กีฬาพ้นื บ้าน และศิลปะการตอ่ สูป่ ้องกันตวั ๓. รำยละเอยี ดขอ้ มูล ๓.๑) ประวัตคิ วามเปน็ มาของขอ้ มลู แรกเรม่ิ นายปัญญา โพธิเจรญิ ไดเ้ รียนรู้วธิ ีการปั้นหม้อ ปั้นดิน ทีอ่ า้ เภอแม่รมิ จังหวดั เชียงใหม่ และได้ เรียนรเู้ พิ่มเติมจากมหาวทิ ยาลยั เชยี งใหม่ ด้านการหลอ่ หลอมพระพุทธรปู เมื่อปี พ.ศ. ๒๕๒๔ ถึงปี พ.ศ. ๒๕๓๑ ได้มีโอกาสไปเรียนรู้กับพ่ออุ้ยค้า และพ่ออุ้ยดวงจันทร์ ที่บ้านช่างหล่อ ต้าบลหายยา อ้าเภอเมืองเชียงใหม่ จังหวัดเชียงใหม่ ได้เป็นผู้ช่วยช่างหล่อและติดตามท่าน ไปยังท่ตี า่ ง ๆ หลังจากน้นั นายปญั ญา โพธิเจริญ ไดเ้ ร่มิ ตน้ ท้าเป็นอาชพี รบั งานดว้ ยตนเอง และย้ายมาประกอบ อาชพี ช่างหล่อท่จี ังหวัดเชียงรายต่อจนถึงปัจจบุ นั ๓.๒) ข้ันตอน/วธิ ีการ/ด้าเนินการเกยี่ วกบั ขอ้ มูล วิธกี ารพระพทุ ธรูป หลอ่ พระพุทธรูป ปนั้ รูปเหมือน มขี ั้นตอน ดงั นี้ ๑. การเตรยี มดิน โดยการนา้ ดินเหลืองที่ไดม้ าจากการขุดจากพื้นดินลึกลงไปถึง ๕ เมตรและนา้ มาหมัก แชน่ ้าจนได้ท่ี จึงน้ามาผสมกบั แกลบด้าและขเ้ี ล่ือย ๒. นา้ ดนิ มาปั้นตามขนาด และสัดส่วนตามที่ได้ออกแบบ ๓. จากนน้ั นา้ รปู ปั้นที่ไดข้ นาดตามทตี่ อ้ งการแล้วน้ามาขัด ตกแต่งให้เรยี บไดร้ ูปทรง ๔. นา้ รปู ปัน้ ไปเผาเพื่อใหไ้ ดค้ วามรอ้ น ๕. น้าขี้ผึ้งเป็นแผ่นมาต้มและเอาไปติดเป็นแผ่นตรงดินที่ปั้นไว้ เหตุผลท่ีต้องเผาดินก่อนเพื่อให้ดินมี ความร้อนถงึ จะทา้ ให้ข้ีผึ้งเกาะติดดินได้ ๖. หลงั จากนั้นจะนา้ มาพอกดินนวล ดนิ ออ่ น และดนิ แก่ ประมาณ ๒ - ๓ รอบ ๗. เม่ือดินที่พอกไว้แห้งแล้ว จึงน้าไปเผาละลายขี้ผ้ึงออก และเผาจนหุ่นสุกเป็นสีแดงเหมือนสีของ ถา่ นร้อน ๘. นา้ มาหลอมทอง (ทองแดงและทองเหลือง ทัง้ น้ี ส่วนประกอบขนึ้ อยู่กับชิ้นงานน้นั ๆ) ทมี่ คี วามร้อน เกนิ ๑,๐๐๐ องศา ใหไ้ ดก้ ับมาตราส่วนและขนาด น้าหนักของหุ่น ๙. เมื่อทองท่ีหลอมร้อนได้ที่จึงเทใส่หุ่นให้เต็มและรอให้เย็นถึงจะทุบดินออก จะได้ออกมาเป็นรูปทรง ตามท่ีป้นั ไว้ ๑๐. หลงั จากน้ันเอามาขดั และตกแต่ง เกบ็ รายละเอยี ดใหส้ วยงาม

-459- ๔. ชือ่ ผทู้ ่ีถือปฏิบัตแิ ละผู้สบื ทอด ๔.๑ ผูท้ ี่ถอื ปฏบิ ัติ ช่ือ นายปัญญา โพธิเจริญ วัน เดือน ปเี กิด ๒๓ กุมภาพนั ธ์ ๒๔๙๘ ทอี่ ยู่ ๒๙๑ หมู่ ๖ ตา้ บลเมอื งชมุ อ้าเภอเวยี งชัย จังหวดั เชยี งราย หมายเลขโทรศัพท์ ๐๘๙ ๔๒๙ ๕๔๙๐ ๔.๒ ผ้สู บื ทอด - ช่ือ - วัน เดอื น ปีเกิด - ท่ีอยู่ - หมายเลขโทรศัพท์ ๕. สถำนะ กำรคงอยู่  ปฏบิ ตั อิ ยา่ งแพร่หลาย  เส่ยี งตอ่ การสญู หาย  ไมม่ ีปฏบิ ตั แิ ลว้ ๖. รปู ภำพภูมปิ ัญญำทำงวัฒนธรรม/กจิ กรรมทำงภูมิปัญญำทำงวฒั นธรรม รปู เหมือนพระครศู าสนกิจโกศล รปู เหมือนพระครสู ิรบิ ญุ ญานนั ท์ (ทา่ นทา) ณ วัดศรีบุญเรอื ง นายปญั ญา โพธิเจริญ

-460- แบบสำรวจมรดกภมู ปิ ัญญำทำงวัฒนธรรมจังหวดั เชียงรำย ประจำปี 2565 สภำวัฒนธรรมจงั หวดั เชยี งรำย อำเภอเวยี งชัย จงั หวัดเชยี งรำย ๑. ชื่อข้อมลู ผลติ ภณั ฑ์เสื่อสานจากต้นกก ๒. ลกั ษณะ  วรรณกรรมพื้นบา้ นและภาษา  ศลิ ปะการแสดง  แนวปฏบิ ัตทิ างสงั คมพิธีกรรม ประเพณี และเทศกาล  อาหาร/ความรู้และการปฏิบัตเิ กี่ยวกบั ธรรมชาตแิ ละจักรวาล  งานช่างฝีมอื ดง้ั เดมิ  การละเล่นพื้นบ้าน กีฬาพน้ื บ้าน และศลิ ปะการต่อสู่ป้องกนั ตวั ๓. รำยละเอยี ดข้อมูล ๓.๑) ประวัติความเป็นมาของขอ้ มลู นางทัศนีย์ วงค์ศรีเทพ หมู่ที่ 1 บ้านสมานมิตร ต้าบลดอนศิลา อ้าเภอเวียงชัย จังหวัดเชียงราย โทร. 082 232 1612 ผลิตภัณฑ์จากต้นกก ถือเป็นวิถีการด้ารงชีวิตอีกอาชีพหนึ่งของชุมชน เพราะหลังจากการท้านาแล้ว ชาวบ้านจะตระเวนหาต้นกกจากแหล่งน้าต่าง ๆ ทั้งพ้ืนที่และนอกพ้ืนที่มาท้าผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ ใช้ในครัวเรือน ซึ่งเป็นวัตถุดิบมีมาตั้งแต่ด้ังเดิม จนมีการรวมกลุ่มอาชีพกันในปัจจุบัน ต้นกกในธรรมชาติหายากข้ึน จึงมีการ ปลกู ใชใ้ นครัวเรือนเพ่มิ มากข้ึนเพราะถ้าไม่ผลติ เองกส็ ามารถจา้ หน่ายตน้ สดได้ การรู้จักใช้เทคโนโลยีสมัยใหม่ในการแปรรูปผลผลิต เพื่อการบริโภคอย่างปลอดภัย และประหยัด อันเป็นกระบวนการให้ชุมชนท้องถ่ินพึ่งพาตนเอง ทางเศรษฐกิจได้ เช่น การท้าเครื่องเรือนจากไม้ การทอผ้า การทอเสอื่ การท้าเครื่องจกั สาน เปน็ ต้น ๓.๒) ข้ันตอน/วธิ ีการ/ดา้ เนนิ การเกีย่ วกบั ขอ้ มูล ขนั้ ตอนหรือวํิธกิ ารทีส่ า้ คัญ ๆ มดี ังนี้ 1. การปลูกกกหรือทานากก นับเป็นจุดเริ่มต้นของการสร้างวัสดุในการทอเสื่อ โดยเตรียมที่ดินด้วย การไถ แล้วปักดาหัวกกลงในนาเหมือนการด้านาข้าว จากนั้น มีการบ้ารุงรักษาถอนหญ้าใส่ํป๋ย ปลูกแซมด้วย เวลา ๓-๔ เดอื น กส็ ามารถเก็บเกี่ยวได้ 2. การตัดกกจะใช้มีดเล็ก ตัดเกือบถึงโคนต้นกก แล้วน้ามากองเรยี งเพื่อคัดแยกขนาด ตั้งแต่ความยาว ๙ คืบ ๘ คืบ เรื่อยลงมา จนถึง ๔ คืบ จากน้ันน้าแต่ละกองท่ีมีขนาดเท่ากันมัดเก็บไวด้วยกันตัดดอกท้ิงเพื่อท้า การกรดี เป็นเส้น 3. การกรีดจะใช้มีดปลายแหลมที่ท้ามาจากใบเล่ือย กรีดแบ่งคร่ึงกกแต่ละเส้นถ้าเป็นต้นเล็ก ถ้าเป็น ตน้ ใหญก่ ็กรดี เหมอื นกนั แต่จะ มสี ่วนทีก่ รีดทิ้ง เพอ่ื ใหแ้ หง้ งา่ ย 4. หลังจากได้เส้นกกแล้ว กน็ า้ ไปตาก โดยแผ่วางเรียงเปน็ แนวยาว วนั แรกจะตากเตม็ วัน จากน้ันน้ามา มัดเเปน็ มัดเลก็ ๆ แล้วตาก อกี ราว ๒ วัน ใหเ้ สน้ กกน้ันแหง้ 5. การยอ้ มสีนา้ กกท่ีตากแห้งแล้วมามดั แชน่ ้า ราว ๑๐ ช่ัวโมง เพอื่ ใหเ้ ส้นกกนมิ่ จากน้ันต้มนา้ ให้เดือด ใส่สีย้อม แล้วน้าเส้นกกท่ี มัดเป็นก้าแช่ลงไปในน้าสีท่ีก้าลังเดือดท้ิงไว้ ๑๐-๑๕ นาทีจึงน้าไปแช่น้า แล้วน้า ขึ้น ตากในท่ีรม่ มลี มพัดผ่าน ๓-๔ วัน เม่ือเส้นกกสแี ห้ง ก็สามารถนา้ ไปใช้ในการทอได้ 6. การทอจะร้อยเส้นเอ็นกับฟืมเป็นเส้นยืน ตามขนาดของคืบที่ก้าหนด แล้วใช้เส้นกกใส่กระสวยทอ เรียงเปน็ เส้นนอนคล้ายการทอผ้า การใส่ลายสใี นการทอนยิ มใสต่ อนแรกและตอนสดุ ท้ายของการทอเมอื่ จะเต็มผนื

-461- 7. เม่ือทอได้เตม็ ผนื ก็มดั รมิ เส่อื ตัดเสอื่ ออกจากกแ่ี ละตัดริมอีกครั้งพรอ้ มแต่งเส่ือใหม้ ีความเรยี บรอ้ ย สวยงาม 8. ส่วนราคาในการขาย ถ้าเป็นเส่ือธรรมดา ๕ คืบ ผืนละ ๘๐ บาท, ๖ คืบ ผืนละ ๑๐๐ บาท, ๗ คืบ ผืนละ ๑๒๐ บาท, ๘ คืบ ผืนละ ๑๕๐ บาท และ ๙ คืบ ผืนละ ๑๘๐ บาท ถ้าเป็นเสื่อสีจะท้าต้ังแต่ ๗ คืบ ในราคาผืนละ ๒๕๐ บาท, ๘ คบื ผืน ละ ๓๐๐ บาท และ ๙ คบื ผืนละ ๓๕๐ บาท ๔. ช่อื ผูท้ ่ีถอื ปฏิบัติและผู้สบื ทอด ๔.๑ ผทู้ ่ถี ือปฏิบตั ิ ช่อื นางทัศนยี ์ วงคศ์ รีเทพ วนั เดือน ปีเกิด - ท่อี ยู่ หมู่ 1 บา้ นสมานมิตร ต้าบลดอนศิลา อ้าเภอเวยี งชัย จงั หวัดเชียงราย หมายเลขโทรศัพท์ 082 232 1612 ๔.๒ ผู้สบื ทอด ช่อื - วนั เดือน ปีเกิด - ที่อยู่ - หมายเลขโทรศัพท์ - ๕. สถำนะ กำรคงอยู่  ปฏบิ ตั อิ ย่างแพรห่ ลาย  เสี่ยงต่อการสญู หาย  ไม่มปี ฏบิ ัตแิ ล้ว ๖. รูปภำพภูมปิ ญั ญำทำงวัฒนธรรม/กิจกรรมทำงภูมิปัญญำทำงวฒั นธรรม

-462- แบบสำรวจมรดกภมู ิปัญญำทำงวัฒนธรรมจังหวัดเชยี งรำย ประจำปี ๒๕๖๕ สภำวฒั นธรรมจังหวัดเชยี งรำย อำเภอเวียงเชียงรุง้ จงั หวดั เชียงรำย ๑. ช่ือข้อมูล ผา้ ขาวมา้ ทอมอื ๒. ลักษณะ  วรรณกรรมพื้นบ้านและภาษา  ศลิ ปะการแสดง  แนวปฏบิ ัติทางสงั คมพธิ ีกรรม ประเพณี และเทศกาล  อาหาร/ความรูแ้ ละการปฏบิ ตั ิเก่ยี วกบั ธรรมชาติและจักรวาล  งานชา่ งฝมี อื ดัง้ เดิม  การละเล่นพน้ื บ้าน กีฬาพน้ื บา้ น และศลิ ปะการต่อสปู่ ้องกนั ตัว ๓. รำยละเอียดข้อมลู ๓.๑) ประวัตคิ วามเป็นมาของข้อมลู กลุ่มผ้าขาวม้าทอมอื บา้ นเหลา่ เจริญราษฎร์ เกดิ จากการตง้ั กลุ่มผสู้ ูงอายุในหมู่บา้ นเมอื่ ปี พ.ศ.2550 โดยการจดั ต้ังกลุ่มผสู้ ูงอายุในหม่บู ้าน เพ่อื ใหเ้ กดิ ความสามัคคีในกลุ่ม สรา้ งชุมชนใหเ้ ข้มแขง็ อนรุ ักษ์ภมู ิปัญญา ท้องถ่ินวิถีชีวจิในชุมชนไว้ ,เพ่ือหารายได้เสริม ไม่เป็นภาระของลูกหลาน และใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์ ซ่ึงหลังจากมีกลมุ่ ผู้สูงอายุแล้ว ทา้ ใหผ้ ูส้ ูงอายุมกี ิจกรรมรว่ มกนั หลังจากนั้น เม่ือ พ.ศ.2552 ได้มีการรวมกลุ่มผู้ทอเสื่อกก และการจัดหลักสูตรวิชาชีพระยะสั้นของ กศน.อ้าเภอเวียงเชียงรุ้ง ซึ่งเกิดจากการไปศึกษาดูงาน การผลิตเป็นกระบวนการ การย้อมสี จึงมีการพัฒนา ผลิตภัณฑ์ทอเส่ือกกให้มีความสวยงาม และใช้ประโยชน์ได้ ต่อมากลุ่มผู้สูงอายุได้มีแนวคิดร่วมกันในการริเร่ิม “การทอผ้าขาวม้าทอมือ” ซ่ึงสามารถสร้างงานและสร้างรายได้เพ่ิม ตลอดจนเพื่อให้เป็นแหล่งเรียนรู้ ภมู ิปญั ญาของชุมชน และไดด้ า้ เนินงานตอ่ ยอดมาจนถึงปัจจบุ ัน การทอผ้าขาวม้าทอมือ ของกลุ่มผู้สูงอายุบ้านเหล่าเจริญราษฎร์ มีแรงบันดาลใจมากจากการต้องการ ใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์ และต้องการอนุรักษ์มรดกภูมิปัญญาด้านการทอผ้า ตลอดจนสร้างรายได้แก่ ผู้สูงอายุ ท้าให้ผู้สูงอายุไม่ได้อยู่บ้านเพียงล้าพัง ได้พบปะ พูดคุยกัน เกิดความสนุกสนาน สามัคคีและเกิด ความคิดสร้างสรรค์ในการคิดลวดลายการทอผ้าขาวม้า และสามารถเป็นแหล่งเรียนรู้ ถ่ายทอดภูมิปัญญาของ ชุมชนได้เป็นอย่างดจุดเด่นของผ้าขาวม้าทอมือบ้านเหล่าเจริญราษฎร์ คือลวดลายที่ร่วมกันคิดในกลุ่ม และตั้ง ชอ่ื ลายตามหนว่ ยงานท่ีส่ังหรือต้องการ เช่น ลายออมสิน ลายกศน. และจุดเด่นของกลมุ่ คือไม่ได้ตงั้ กฏเกณฑ์ที่ เข้มงวด เนื่องจากสมาชิกกลุ่มมีเวลาว่างไม่เท่ากัน ใครว่างจากภารกิจก็มาร่วมท้า ถ้าใครมีภารกิจอื่นหากเสร็จ ภารกิจกเ็ ขา้ มาชว่ ยกนั ทกุ คนในกล่มุ มีความสามัคคี รกั ใคร่ กลมเกลียว ๓.๒) ขนั้ ตอน/วธิ ีการ/ดา้ เนนิ การเกย่ี วกบั ขอ้ มลู 1) น้าด้ายหรือฝา้ ยมาโว้นกบั หลักเฝือ เพ่ือขงึ เส้นด้าย เตรียมนา้ ไปท้าเป็นเส้นยืน หรือเส้นแนวต้งั 2) นา้ ด้ายมาใสก่ ง และอกั เพอ่ื จดั ระเบยี บเส้นดา้ ย 3) น้าด้ายมาใสใ่ นฟืม บนก่เี พ่อื ทา้ เป็นเสน้ ยนื หรือแนวต้ังเตรยี มการทอผา้ ขาวม้า 4) น้าดา้ ย หรอื ฝ้ายมากรอกับเฝอื่ นด้าย เพื่อน้าดา้ ยให้อยู่บนหลอดหรอื แกนดา้ ย 5) นา้ หลอดดา้ ยใสใ่ นกระสวย เพ่อื เตรียมน้าไปทอเปน็ เสน้ พุ่งแนวนอน

-๔63- วัสดุอปุ กรณ์ 1) ฝา้ ย และด้ายสตี ่าง ๆ ได้มาจากการซื้อจากแหล่งตา่ ง ๆ (กโิ ลกรัมละ 320 บาท) ฝ้ายหึก คือฝา้ ยดง้ั เดมิ ฝ้ายดิน้ กา่ น เป็นเสน้ ฝ้ายผสม ด้ายประดิษฐ์ สตี า่ ง ๆ กับด้ายประดิษฐม์ ีสีสดใส 2) เฝือ่ น : ใช้ส้าหรับป่ันด้าย 3) หลอดกรอดา้ ย 4) เฝือ : ใชส้ า้ หรบั ขึงเส้นด้ายเพื่อนา้ ไป 5) กระสวย ใชส้ า้ หรับใสห่ ลอดด้ายทก่ี รอแล้ว ท้าเปน็ เส้นยืนหรือเสน้ แนวตัง้ ใน สง่ เสน้ ดา้ ยพงุ่ เขา้ ไปในด้ายเส้นยืนที่ขงึ อยู่ ขัน้ ตอนการทอผ้า บนก่หี รือหูกทอผา้ 6) กง : ใช้จัดระเบียบเส้นด้ายจากด้าย 7) อัก : ใช้พนั เสน้ ดา้ ย เพื่อจัดระเบียบเส้นด้าย ทีซ่ ื้อมา 8) ฟมื : มลี กั ษณะเป็นฟันฟืม หรอื 9) ก่ี หรือหกู : ใช้สา้ หรบั ทอผ้า ฟันหวีท่ีห่าง ตามขนาดของเส้นด้าย 10) จกั รเยบ็ ผา้ : ใช้ส้าหรบั เย็บริมผ้าขาวม้า

-464- ๔. ช่ือผู้ที่ถือปฏิบัตแิ ละผสู้ บื ทอด ๔.๑ ผูท้ ่ถี อื ปฏบิ ัติ ชอื่ นางวรรณดี สุนันต์ วัน เดือน ปีเกดิ - ท่ีอยู่ 623 หมู่ 11 ต้าบลทุง่ ก่อ อ้าเภอเวียงเชียงร้งุ จงั หวัดเชียงราย หมายเลขโทรศัพท์ - ๔.๒ ผู้สบื ทอด ชอ่ื - วัน เดือน ปีเกดิ - ทอ่ี ยู่ - หมายเลขโทรศัพท์ - 5. สถำนะ กำรคงอยู่  ปฏิบตั ิอยา่ งแพรห่ ลาย  เสีย่ งตอ่ การสญู หาย  ไม่มีปฏบิ ัติแลว้ 6. รูปภำพภูมปิ ญั ญำทำงวัฒนธรรม/กจิ กรรมทำงภูมิปัญญำทำงวัฒนธรรม

-465- แบบสำรวจมรดกภมู ิปัญญำทำงวัฒนธรรมจังหวดั เชยี งรำย สำนกั งำนวัฒนธรรมจังหวดั เชยี งรำย อำเภอแม่สำย จงั หวดั เชยี งรำย ๑. ชอื่ ข้อมลู ผ้าชดุ ไทใหญ่ ๒. ลักษณะ  วรรณกรรมพ้นื บา้ นและภาษา  ศลิ ปะการแสดง  แนวปฏิบัตทิ างสังคมพธิ ีกรรม ประเพณี และเทศกาล  อาหาร/ความรู้และการปฏบิ ัตเิ กยี่ วกบั ธรรมชาติและจกั รวาล  งานชา่ งฝีมือดงั้ เดิม  การละเลน่ พ้นื บา้ น กีฬาพนื้ บ้าน และศิลปะการต่อสปู่ ้องกันตวั ๓. รายละเอยี ดข้อมลู ๓.๑) ประวตั คิ วามเปน็ มาของข้อมลู การทอผ้าชุดไทใหญ่ ถือเป็นศิลปะและหัตถกรรมหรืองานฝีมืออย่างหน่ึงท่ีมีมาตั้งแต่สมัยโบราณ เป็นกรรมวิธีการผลิตผืนผ้าโดยใช้เส้นด้ายพุ่งและเส้นด้ายยืนมาขัดประสานกันจนได้เป็นผืนผ้า นอกจากเป็น ขั้นตอนการผลิตเคร่ืองนุ่งห่ม หน่ึงในปัจจัยสี่ของมนุษย์แล้ว ยังถือเป็นงานศิลปะประเภททัศนศิลป์ด้วย เนอื่ งจากมีการใหส้ สี นั และลวดลายตา่ ง ๆ ในผืนผ้า การทอผา้ จงึ ถือเปน็ ศลิ ปะอย่างหนึ่ง ท่ีคนแม่สายรุ่นปัจจุบัน ต้องช่วยกันอนรุ กั ษ์ไว้ในสมยั กอ่ น ผ้หู ญงิ จะท้าเครื่องใช้ต่าง ๆ ในบ้านเอง งานส้าคัญอยา่ งหนึ่งคอื การท้าเสื้อผ้า ผ้านุ่ง ผ้าห่ม ไว้ใช้กันในครอบครัว ในพิธีกรรมต่าง ๆ ก็ต้องใช้ผ้า ดังน้ัน ผ้าทอจึงเป็นสิ่งจ้าเป็นส้าหรับชีวิตคน แม่สายเชน่ กนั ไทใหญ่คือกลุ่มชาติพันธ์ุในตระกูลภาษาไท-กะได ซ่ึงเป็นกลุ่มชาติพันธุ์ขนาดใหญ่อันดับสองของพม่า ส่วนมากอาศัยในรัฐฉาน ประเทศพม่าและบางส่วนอาศัยอยู่บริเวณดอยไตแลง ชายแดนประเทศไทย-ประเทศ พม่า คนไทใหญ่ที่ได้อพยพเข้าสู่ประเทศไทยเพํือหนีปัญหาทางการเมืองและการหางาน ตามภาษาของเขาเอง จะเรียกตัวเอง ไต๊ หรือ ไต (ตามส้าเนียงไทย) พี่น้องไต๊ในพม่ามีหลายกลุ่ม เช่น ไต๊คืน ไต๊แลง ไต๊คัมตี ไต๊ลื้อ และ ไต๊เมา แต่กลุ่มใหญ่ที่สุดคือ ไต๊โหลง ไต๊ = ไทย และ โหลง(หลวง) = ใหญ่ ซึ่งคนไทยเรียก ไทยใหญ่ เหตุ ฉะน้ันจะเห็นได้ว่าภาษาไต๊ และภาษาไทยคล้ายกันบา้ งแต่ไม่เหมือนกัน นอกจากน้ียังมีค้าเรียกไทใหญ่อีกอย่าง ว่า เงีย้ ว แตเ่ ปน็ ค้าท่ีไม่สุภาพในการเอย่ ถึงชาวไทใหญ่ คนไทใหญ่เองเรียก ตวั เองว่า “ไต” ไทใหญต่ ั้งบา้ นเรือน อยู่บริเวณพม่า ลาว ไทย และในเขตประเทศจีนตอนใต ในประเทศไทยพบชาวไทใหญ่อยู่ในจังหวัดเชียงราย เชียงใหม่ เพชรบูรณ์ และแม่ฮ่องสอน สา้ หรบั การแตง่ กายของชาวไทยใหญ่ โดยสว่ นมากแล้วจะเนน้ การสวมใส่ ท่ีมีสีสันสดใส ซ่ึงสีดา สีเทา จะไม่ค่อยมี ซ่ึงจะใช้การออกแบบเส้ือผ้าไทใหญ่มาในของเจ้าฟ้าต่าง ๆ แต่ละชุด แตล่ ะองค์จะไม่เหมือนกัน จะแยกออกไปเป็นชดุ ไทลอื ชุดไทใหญ่ โดยจะแยกออกไปตามแต่รชั กาล การแต่งกายของชาวไทใหญ่มีเอกลักษณ์ท่ีเด่นชัด คือ ถ้าเป็นผู้ชายจะนุ่งกางเกงขาก๊วย หรือเป็น กางเกงเป้าใหญ่ เรียกเปน็ ภาษาไทใหญว่ า่ โกน๋ โห่งโย่ง และ สวมเสือ้ แขนยาว คอกลมมปี กเลก็ น้อยหรือบ้างก็ไม่ มี ผ่ากลางอกตลอดแนวแบะมี กระดุมแบบถักด้วยมือตามแนวสาบเส้ือ เสื้อดังกล่าวมักจะใช้สวมเป็นเส้ือตัว นอก ส่วนเสื้อตัวในไม่จ้ากัดแบบ แต่ส่วนใหญ่เพื่อความเรียบร้อยจะนิยมใส่เส้ือเช้ิตคอปกสีขาว ท้ังเสื้อและ กางเกงท้ามาจากผ้าฝ้ายทอมือ และจะโพกหัวด้วยผ้าสีชมพูอ่อนๆ ส่วนการแต่งกายของผู้หญิง สวมเสื้อ แขวยาวหรือแขนสามส่วน นิยมตัดให้พอดีตัว นุ่งผ้าถุงยาวหรือ ซ่ิน ถึงเร่ียตาตุ่ม นุ่งโดยวิธีป้ายผ้าแล้วบิดเกีย้ ว ม้วนลงให้กระชับและมกี ารโพกหัวคลา้ ยๆ ผู้ชายดว้ ยผ้าเช่นเดยี วกนั แตไ่ ม่ไดก้ ้าหนดสผี า้

-๔66- ๓.2) ข้ันตอน/วธิ กี าร/ดา้ เนนิ การเกยี่ วกบั ข้อมูล วสั ดุอุปกรณ์และอปุ กรณ์ 1) จักรเยบ็ ผา้ /จักรโพ้ง 2) สายวดั 3) กรรไกร 4) กระดาษ 5) สรา้ งแบบ/กระดาษกดลาย 6) ลูกกลิง้ ผ้า 7) ดนิ สอ 8) ด้ายเย็บ 9) เขม็ ข้นั ตอนการผลิตผ้าและผลติ ภณั ฑจ์ ากผา้ ข้นั ตอนการผลติ ชดุ ไทใหญ่ 1) วดั ตวั 2) สร้างแบบ/กดรอย 3) สรา้ งลายปัก/กดรอย 4) ปักลาย 5) ตดั ตามแบบ 6) เยบ็ เข้าตวั 7) เยบ็ กระดุมเสอ้ื 8) สอยกระดุมเส้อื ข้ันตอนการผลิตผ้าถุงไทใหญ่ 1) สรา้ งแบบ 2) ตดั ตามรอย 3) เยบ็ เอว 4) ติดตะขอ 4. ชื่อผ้ทู ่ีถอื ปฏิบตั ิและผ้สู ืบทอด 4.๑ ผ้ทู ีถ่ ือปฏบิ ตั ิ ชอื่ นายมานิตย์ ประกอบกจิ วัน เดือน ปีเกิด - ที่อยู่ 76/2 หมู่ 5 ตา้ บลเวยี งพางคา้ อา้ เภอแมส่ าย จังหวดั เชยี งราย หมายเลขโทรศัพท์ 085 722 1383 4.๒ ผ้สู บื ทอด ชอื่ - วัน เดอื น ปีเกดิ - ทอี่ ยู่ - หมายเลขโทรศัพท์ - 5. สถำนะ กำรคงอยู่  ปฏบิ ตั ิอย่างแพร่หลาย เสย่ี งต่อการสญู หาย  ไมม่ ปี ฏบิ ัติแลว้ 6. รปู ภำพภมู ปิ ัญญำทำงวัฒนธรรม/กจิ กรรมทำงภูมปิ ัญญำทำงวฒั นธรรม ตัวอย่างผ้าชุดไทยใหญ่ผู้ชาย ตัวอยา่ งผ้าชุดไทยใหญ่ผหู้ ญิง

-467- แบบสำรวจมรดกภมู ปิ ัญญำทำงวัฒนธรรมจงั หวัดเชยี งรำย ประจำปี ๒๕๖๕ สภำวัฒนธรรมจงั หวัดเชยี งรำย อำเภอแมล่ ำว จังหวดั เชยี งรำย ๑. ชื่อข้อมูล ผ้าทอกลุ่มชาติพนั ธล์ุ ุ่มแมน่ ้าโขง ๒. ลักษณะ  วรรณกรรมพื้นบ้านและภาษา  ศิลปะการแสดง  แนวปฏิบตั ิทางสังคมพิธีกรรม ประเพณี และเทศกาล  อาหาร/ความรู้และการปฏบิ ตั ิเกี่ยวกบั ธรรมชาติและจักรวาล  งานชา่ งฝีมอื ดง้ั เดิม  การละเลน่ พื้นบา้ น กีฬาพื้นบ้าน และศลิ ปะการต่อส่ปู ้องกันตัว ๓. รำยละเอียดขอ้ มลู ๓.๑) ประวัติความเป็นมาของข้อมูล การทอผ้า เป็นการสืบสานงานหัตถกรรมจากบรรพบุรุษ ต้องอาศัยฝีมือและความรู้ความช้านาญของ ผู้ทอเป็นอย่างมาก ลวดลายมีความเป็นเอกลักษณ์จากการลวดลายดั้งเดิมและออกแบบลวดลายเองแบบ ผสมผสาน ผ้าทอของทางกลุ่มได้สืบสานหัตถกรรมการทอผ้ามาจากจังหวัดล้าพูน เนื่องจากบิดามารดาได้ย้าย ถิ่นฐานมาจากจังหวัดล้าพูนและย้ายถิ่นที่อยู่มาจังหวัดเชียงราย ซึ่งคนล้าพูน มีทักษะในการทอผ้าเป็นทุนเดิ ม อยู่แล้ว โดยมีนางแปง ยาวิชัย มารดา ได้ถ่ายทอดองค์ความรู้เก่ียวกับการทอผ้าให้กับนางมอญ ยาวิชัย ซึ่งเป็น ลูกสาวคนแรกและต่อมานางมอญ ยาวิชัย ได้ถ่ายทอดองค์ความรู้เกี่ยวกับการทอผ้าให้กับน้องสาว อีก ๒ คน คือนางบุหงา จันทร์หน่อแก้ว และนางจันทร์สม อ่ินค้า เพ่ือมิให้ภูมิปัญญาการทอผ้าท่ีได้รับสืบทอดมาสูญหาย ส้าหรับลวดลายต่าง ๆ นางมอญ ยาวิชัย จะเป็นผู้คิดค้น ออกแบบจากการดูลวดลายจากลายผ้าถุงเก่าของ ผู้เป็นมารดา ต่อมาก็พัฒนาจาการดูลวดลายจากอินเตอร์เน็ตและหรือจากผู้ที่มาว่าจ้างให้ถักทอ ท่ีมาในการ ออกแบบลวดลายผ้าทอมาจากการถอดลวดลายจากผ้าถุงของมารดา ต่อมาก็พัฒนาจาการดูลวดลายจาก อินเตอรเ์ น็ตและหรอื จากผู้ท่ีมาว่าจา้ งใหถ้ กั ทอ ๓.๒) ข้นั ตอน/วธิ กี าร/ดา้ เนินการเกยี่ วกับข้อมูล การทอผ้ายกดอกล้าพูน ผ้ายก หมายถึง ผ้าไหมท่ีทอยก ลวดลายให้นูนสูงขึ้นกว่าผืนผ้า โดยเลือกยก บางเส้นและข่มบางเส้น แล้วพุ่งกระสวยไปในระหว่างกลางด้วยด้ินเงินหรือดิ้นทอง ซ่ึงเทคนิคในการทอยก ใหเ้ กดิ ลวดลายน้เี รียกวา่ เทคนคิ การยกดอก ผ้ายกเปน็ ผ้าโบราณที่อดตี ใชใ้ นคุ้มเจา้ หรือในพระราชส้านักเท่านั้น ค้าว่า ยกดอก น้ันเพ่ือบ่งบอกถึงเทคนิคท่ีใช้ทอผ้าและบ่งบอกถึงลวดลายท่ีเป็นเอกลักษณ์ของจังหวัดล้าพูน ท่เี ป็นลวดลายดอกไม้ เชน่ ลายดอกพกิ ลุ ดงั นนั้ จึงเรียกวา่ \"ผา้ ไหมยกดอก\" หรือ \"ผา้ ไหมยกดอก ล้าพูน\" การประดิษฐ์ลวดลายนั้น ผ้ายกล้าพูนนับว่าเป็นศิลปะการทอผ้าที่มีลวดลายงดงามมีเอกลักษณ์ เป็นของตนเอง มีรูปแบบลวดลายที่อ่อนช้อยงดงามของธรรมชาติ เป็นเร่ืองราวของดอกไม้ ใบไม้ เช่น ลายดอกพิกุล ลายกลีบล้าดวน ลายใบเทศ ลายเม็ดมะยม และลายพุ่มข้าวบิณฑ์ เป็นต้น นอกจากนี้ยังน้าลวดลายธรรมชาติ เหล่านี้ประยุกต์เข้ากับลายไทยต่าง ๆ ตามจินตนาการของผู้ออกแบบ ส้าหรับลวดลายที่เป็นลายโบราณด้ังเดมิ และยังได้รับความนิยมในปัจจุบันคือ ลายดอกพิกุลหรือดอกแก้ว ซ่ึงเริ่มแรกในสมัยโบราณไม่มีการบันทึก ลวดลายเป็นลายลักษณ์อักษร ต้องจดจ้าลวดลายไว้ในหัวสมอง ถ้าความจ้าลบเลือนหรือเสียชีวิตไป ลวดลาย ท่ีจดจ้าไว้นั้นก็สูญหายไปด้วย ท้าให้ลายผ้าโบราณหายไปมากเพราะไม่ได้ลอกลายไว้ ต่อมา เจ้าพงศ์แก้ว ณ ล้าพูน (สมรสกับโอรสเจ้าผู้ครองนครล้าพูน) ได้รับการถ่ายทอดวิชาทอผ้าด้วยก่ีพื้นบ้าน และมีความสามารถในการ เรียนรลู้ ายผา้ ยกโบราณท่ีสวยงามของคุ้มลา้ พูน จึงไดเ้ ริ่มเก็บลวดลายไวโ้ ดยบันทึกไว้ในกระดาษกราฟ เพอื่ เป็น ต้นแบบและปอ้ งกันการสญู หาย

-468- ผ้าทอยกดอกที่มีลวดลาย มีเอกลักษณ์โดยเฉพาะตัวของจังหวัดล้าพูน ซ่ึงเป็นศิลปะการทอที่มีรูปแบบ เอกลักษณ์เป็นของตนเอง โดยที่เห็นจากลายจะเป็นในเรื่องของธรรมชาติ เป็นเรื่องราวของดอกไม้ใบไม้ ซึ่งสื่อให้เห็น ภมู ปิ ญั ญาของชาวบ้าน การดา้ รงชวี ิตที่มธี รรมชาตเิ ขา้ มาเปน็ เอกลกั ษณ์ ๔. ชื่อผทู้ ่ีถือปฏิบัติและผู้สืบทอด 4.๑ ผูท้ ีถ่ ือปฏบิ ตั ิ ชือ่ นางจันทร์สม อิน่ คา้ วนั เดือน ปเี กิด - ท่ีอยู่ 28 หมู่ 7 ตา้ บล บัวสลี อา้ เภอแม่ลาว จังหวดั เชยี งราย หมายเลขโทรศัพท์ 083-438-4551 4.๒ ผสู้ ืบทอด ชอ่ื นางบุหงา จันทร์หนอ่ แก้ว วัน เดือน ปเี กดิ - ทอี่ ยู่ 28 หมู่ 7 ตา้ บลบัวสลี อา้ เภอแมล่ าว จังหวดั เชยี งราย หมายเลขโทรศัพท์ 086 187 5179 5. สถำนะ กำรคงอยู่  ปฏบิ ตั อิ ยา่ งแพร่หลาย  เสีย่ งต่อการสูญหาย  ไม่มีปฏิบัตแิ ลว้ 6. รปู ภำพภูมปิ ญั ญำทำงวัฒนธรรม/กจิ กรรมทำงภูมปิ ัญญำทำงวัฒนธรรม

-469- แบบสำรวจมรดกภมู ิปัญญำทำงวฒั นธรรมจังหวดั เชียงรำย ประจำปี ๒๕๖๕ สภำวัฒนธรรมจงั หวดั เชยี งรำย อำเภอเวียงแกน่ จงั หวดั เชยี งรำย ๑. ชือ่ ข้อมลู ผา้ ทอไทล้ือ ๒. ลกั ษณะ  วรรณกรรมพืน้ บ้านและภาษา  ศลิ ปะการแสดง  แนวปฏบิ ตั ทิ างสงั คมพิธีกรรม ประเพณี และเทศกาล  อาหาร/ความรูแ้ ละการปฏิบัติเก่ียวกับธรรมชาตแิ ละจักรวาล  งานชา่ งฝมี ือด้งั เดิม  การละเลน่ พน้ื บ้าน กีฬาพ้ืนบา้ น และศิลปะการตอ่ ส่ปู ้องกนั ตัว ๓. รายละเอยี ดขอ้ มลู ๓.๑) ประวตั คิ วามเปน็ มาของข้อมูล ผ้าทอไทลื้อบ้านดอน ต้าบลปอ อ้าเภอเวียงแก่นนั้น จะสัมผัสได้ถึงความงดงามบนผืนผ้าทอ โดยมีการใช้ ศลิ ปหัตถกรรมท่ีมีความเปน็ มาของชาวไทลื้อร่วมดว้ ยบนลายผา้ ท้าใหเ้ ห็นถึงความเปน็ เอกลกั ษณ์และสญั ลักษณ์ ของความเปน็ ไทลือ้ บา้ นดอน ต้าบลปอ อ้าเภอเวยี งแกน่ โดยชาวบ้านไทล้อื บา้ นดอน ตา้ บลปอ อา้ เภอเวียงแก่น มีภูมิล้าเนามาจากเขตสิบสองปันนา การแต่งกายท่ีเป็นเอกลักษณ์ไทลื้อคือ ผ้าซ่ิน ของผู้หญิงไทล้ือ ท่ีเรียกว่า “ซน่ิ ตา” ซ่งึ เปน็ ผา้ ซิ่นท่ีมี ๒ ตะเขบ็ มลี ักษณะโครงสร้างประกอบดว้ ย ๓ สว่ นคือ หัวซิน่ สเี ขียว ตวั ซิ่นลายขวาง หลากสีต่อตีนซ่ินสีด้า ความเด่นอยู่ท่ีตัวซ่ิน ซ่ึงมีริ้วลายขวางสลับสีสดใส และตรงช่วงกลางมีลวดลายท่ีทอด้วย เทคนิคขิด จก เกาะหรือล้วง เป็นลายรูปสตั ว์ในวรรณคดี ลายพรรณพฤกษา และลายเรขาคณิต จากการศึกษา กลุ่มไทลื้อ ในประเทศไทย พบว่า เอกลักษณ์การทอผ้าท่ีส้าคัญของกลุ่มชนนี้ คือ การทอผ้าด้วยเทคนิคเกาะ หรือล้วงหรือท่ีเป็นท่ีรู้จักกันว่า “ลายน้าไหล” ซ่ึงเป็นเทคนิคที่มีความยุ่งยากซับซ้อน แต่ท้าให้เกิดลวดลาย และสีสันที่งดงามแปลกตา และเป็นอัตลักษณ์อันโดดเด่นเฉพาะกลุ่มที่แตกต่างจากผ้าซิ่นของกลุ่มชาติพันธ์ุ ไทล้ือกลุ่มอื่น ๆ การทอผ้าคือหน้าท่ีส้าคัญอย่างหนึ่งของหญิงล้านนาในอดีต ผ้าทอพื้นเมืองมิได้เป็นเพียง เครื่องนุ่งห่ม เพื่อปกปิดร่างกายหรือให้ความอบอุ่นเท่านั้น แต่เหนือกว่าน้ัน งานศิลปหัตถกรรมบน \"ผืนผ้า\" มีวิญญาณ มีความหมายและมีคุณค่าสะท้อนถึงเอกลักษณ์ทางวัฒนธรรมของผู้สวมใส่ ก่อนนั้นการทอผ้าเป็น เพียงการทอเพ่ือใช้ในครัวเรือนและขายเล็กน้อย แต่ปัจจุบันกลายมาเป็นงานท่ีเสริมรายได้ให้กับหลาย ครอบครัวและชุมชนท่ีมีการทอผ้า ในปริมาณที่มากกว่าความต้องการใช้เองภายในชุมชน รูปแบบและสีสัน ได้รับการพัฒนาไปอย่างหลากหลาย รวมทั้งลวดลายและคุณภาพ การทอ และมีการแปรรูปผ้าทอเป็นเสื้อ กระโปรง กางเกง ผ้าถุงส้าเรจ็ ผ้าพนั คอ กระเปา๋ รองเทา้ ซองแว่นตา และผลติ ภัณฑอ์ น่ื ๆ ๓.๒) ขน้ั ตอน/วิธกี าร/ด้าเนนิ การเกย่ี วกับขอ้ มลู 1. สืบเส้นด้ายยืนเข้ากับแกนม้วนด้ายยืน และร้อยปลายด้ายแต่ละเส้นเข้าในตะกอแต่ละชุด และฟันหวี ดึงปลายเส้นด้ายยืนท้ังหมดม้วนเข้ากับแกนม้วนผ้าอีกด้านหนึ่ง ปรับความตึงหย่อนให้พอเหมาะ กรอดา้ ยเขา้ กระสวยเพ่อื ใช้เป็นด้ายพ่งุ 2. เริ่มการทอโดยกดเคร่ืองแยกหมู่ตะกอ เส้นด้ายยืนชุดที่ 1 จะถูกแยก ออกและเกิดช่องว่าง สอดกระสวยดา้ ยพุ่งผ่าน สลบั ตะกอชดุ ที่ 1 ยกตะกอชุดที่ 2 สอดกระสวยดา้ ยพุง่ กลับ ท้าสลับกันไปเรื่อย ๆ 3. การกระทบฟันหวี (ฟืม) เมื่อสอดกระสวยด้ายพุ่งกลับก็จะกระทบฟันหวี เพื่อให้ด้ายพุ่งแนบ ตดิ กนั ได้เนอ้ื ผ้าที่แน่นหนา 4. การเก็บหรือม้วนผ้า เมื่อทอผ้าได้พอประมาณแล้วก็จะม้วนเก็บในแกนม้วนผ้า โดยผ่อนแกน ด้ายยนื ใหค้ ลายออกและปรบั ความตึงหย่อนใหม่ให้พอเหมาะ

-470- ๔. ชอ่ื ผ้ทู ี่ถอื ปฏิบัตแิ ละผู้สบื ทอด ๔.๑ ผู้ท่ีถือปฏบิ ตั ิ ชอื่ นางสุทธิษา มาตยภ์ ธู ร วัน เดือน ปเี กดิ - ท่อี ยู่ ตาบลปอ อาเภอเวยี งแกน่ จังหวัดเชียงราย หมายเลขโทรศัพท์ 091 078 1382 ๔.๒ ผู้สบื ทอด ชอื่ นางสมัย แสงงาม วนั เดือน ปีเกดิ - ทอ่ี ยู่ ตาบลปอ อาเภอเวียงแก่น จงั หวัดเชยี งราย หมายเลขโทรศัพท์ 085 965 6234 ๕. สถานะ การคงอยู่  ปฏิบตั อิ ย่างแพรห่ ลาย  เสยี่ งตอ่ การสูญหาย  ไมม่ ปี ฏบิ ัตแิ ล้ว ๖. รูปภาพภมู ปิ ัญญาทางวัฒนธรรม/กิจกรรมทางภูมิปัญญาทางวัฒนธรรม ขน้ั ตอนการทอผ้า ผลติ ภณั ฑ์ผ้าทอ

-471- แบบสำรวจมรดกภมู ิปญั ญำทำงวัฒนธรรมจงั หวัดเชียงรำย ประจำปี ๒๕๖4 สำนักงำนวฒั นธรรมจงั หวดั เชยี งรำย อำเภอแมจ่ นั จงั หวัดเชยี งรำย ๑. ชอื่ ข้อมลู ผ้าทอมือบา้ นสนั หลวงใต้ ๒. ลักษณะ  วรรณกรรมพ้นื บา้ นและภาษา  ศลิ ปะการแสดง  แนวปฏิบตั ิทางสังคมพิธีกรรม ประเพณี และเทศกาล  อาหาร/ความรู้และการปฏบิ ัติเกี่ยวกับธรรมชาตแิ ละจกั รวาล  งานช่างฝมี ือดัง้ เดมิ  การละเลน่ พืน้ บา้ น กีฬาพ้นื บ้าน และศลิ ปะการต่อสู่ป้องกันตวั ๓. รายละเอยี ดขอ้ มลู ๓.๑) ประวตั คิ วามเป็นมาของข้อมลู ผ้าทอมือบ้านสันหลวงใต้ เกิดจากการรวมกลุ่มของแม่บ้าน หมู่ที่ 3 ต้าบลจอมสวรรค์ อ้าเภอแม่จัน จงั หวดั เชียงราย เมื่อเวน้ ว่างจากการท้านาก็มาทอผ้าเพ่ือไว้ใช้ในครวั เรือน ในปี พ.ศ. 2534 ได้รวมหนุ้ จาก 37 หุน้ เป็นจ้านวนเงนิ 4,000 บาท ตอ่ มาไดม้ สี ้านักงานพัฒนาชุมชนได้เข้ามาดูแลช่วยเหลือจัดการอบรม เพอ่ื พัฒนา ศักยภาพของผ้าทอ และลวดลายใหม่ ๆ ให้มีความหลากหลายเพ่ิมมากย่ิงข้ึน รวมท้ังการปรับปรุงการดูแลผ้า การบริหารจัดการกลมุ่ ใหด้ ียง่ิ ขึน้ ปัจจุบันมสี มาชิกทง้ั หมด 167 คน และได้จดั ตัง้ เป็นกลมุ่ วิสาหกจิ ชุมชนผ้าทอ พ้ืนเมืองสันหลวงใต้ ผ้าทอทุกผืนถูกถ่ายทอดอัตลักษณ์ความเป็นไทยของท้องถ่ินที่บ่งบอกถึงความตั้งใจของ ผูท้ อลงบนผนื ผ้า ผลติ ภณั ฑผ์ า้ ทอมือของบ้านสันหลวงใต้ท่โี ดดเด่น คือ ผ้าลายจก ใช้เวลาทอประมาณ 3-4 วนั ต่อหน่ึงผนื และผ้ายกดอก 4 ตระกอ มลี ักษณะท่ีโดดเดน่ คือลายจะอยู่ในตัวของมันเอง เวลาทอลายจะปรากฏ ข้ึนโดยไม่ต้องเก็บดอก และลายเกาะ น้าไหล ทอด้วยเทคนิค “เกาะ” หรือ “ล้วง” เกิดลวดลายท่ีพล้ิวไหว เหมือนสายน้า วัฒนธรรมการทอผ้าผูกพันกับชาวบ้านสันหลวงใต้มาเป็นระยะเวลายาวนาน ผ้าทอเป็นส่ือ สัญลักษณ์ของคนในชุมชน ในอดีตเด็กผู้หญิงทุกคนจะถูกหัดให้รู้จักการทอผ้า หรือการเย็บปักถักร้อย การทอผ้า เป็นบทบาททางสังคมและวัฒนธรรม การค้าขาย มีการใช้ผ้าในประเพณี และพิธีกรรมต่าง ๆ การสืบทอด ความคิด ความเชอื่ แบบแผนทางสังคม การทอผา้ เปน็ วัฒนธรรมอย่างหนึ่งที่สืบทอดกันมา นอกจากคุณค่าทาง ศิลปะแล้วยังเป็นการแสดงถึงแบบแผนความเป็นอยู่ในสังคมการสืบทอด หรือถ่ายทอดในสมัยโบราณผู้คน เรียนรู้หนังสือน้อย การถ่ายทอดต้องอาศัยความจ้าจากการปฏิบัติ จึงท้าให้เกิดการช้านาญ ไม่มีการบันทึก เป็นภาพหรือลายลักษณ์อักษรแต่อย่างใด การถ่ายทอดจากแม่สู่ลูก หรือเครือญาติใกล้ชิด ปัจจุบันทางกลุ่ม ผู้ทอผ้าบ้านสันหลวง ได้รับความช่วยเหลือจากหน่วยงานต่าง ๆ ที่ได้เข้ามาพัฒนาศักยภาพการทอผ้า การจดั เก็บองคค์ วามรดู้ า้ นทอผ้า

-๔72- ๓.๒) ขั้นตอน/วธิ ีการ/ด้าเนนิ การเกยี่ วกับข้อมูล ลกั ษณะลวดลำยของผ้ำ ลำยจก ลกั ษณะท่โี ดดเดน่ คือ จะยกดอกขึน้ มาใหเ้ ห็นชัด โดยการสอดเสน้ ดา้ ยความลวดลาย ล้อมรอบด้วยเครอื สลับสีสันระหว่างดอก ลำยยกดอก 4 ตระกอ มีลักษณะทโ่ี ดดเดน่ คือลายจะอยใู่ นตัวของมนั เอง เวลาทอลายจะปรากฏ ข้นึ โดยไม่ต้องเก็บดอก ลำยเกำะน้ำไหล ทอดว้ ยเทคนิค “เกาะ” หรอื “ล้วง” เกดิ ลวดลาย ทพ่ี ล้ิวไหวเหมอื นสายนา้ วัสดอุ ุปกรณ์และอุปกรณ์ 1. กี่กระตุก 2. ฝ้าย 3. เครื่องโวน้ ฝา้ ย 4. ฟนั หวี 5. เคร่ืองกรอระวิง 6. เครอ่ื งกรอระวงิ หลอดเล็ก 7. กระสวย 8. กีท่ อผา้ ขั้นตอนกำรผลติ ผ้ำและผลติ ภัณฑ์จำกผ้ำ 1. น้าฝ้าย (สีตามตอ้ งการ) ไปใส่ในเครอื่ งระวิงปน่ั ใส่หลอดใหญ่ 2. น้าไปใส่เครอื่ งโว้นฝ้าย หรือเดินด้ายเพ่อื หาความยาว 3. เดินด้ายเสรจ็ น้าไปใส่ฟันหวีเพอ่ื หวดี า้ ย 4. น้าด้ายท่ีหวีแล้วไปใสใ่ นกี่ 5. เก็บตระกรอเพื่อท้าให้เปน็ ลายขดั พ้ืนฐาน 6. พนั ดา้ ยสีตามตอ้ งการใส่หลอดเล็ก โดยใส่เคร่ืองระวิงหลอดเล็ก 7. น้าด้ายท่ใี สห่ ลอดเล็กใส่ในกระสวย และน้าไปพุ่งทีก่ ี่ขณะทอผา้ 8. ทอจนได้ความยาวทีต่ ้องการ หรือทา้ ลวดลายจก ลายเกาะ หรอื ขิด

-473- ๔. ชอื่ ผู้ที่ถอื ปฏิบัตแิ ละผู้สืบทอด ๔.๑ ผ้ทู ่ีถือปฏบิ ตั ิ ชือ่ นางสนุ า ตาฟู วัน เดอื น ปีเกดิ - ทอ่ี ยู่ กลุ่มวสิ าหกิจชมุ ชนผ้าทอพืน้ เมอื งสันหลวงใต้ 150 หมู่ 3 ตา้ บลจอมสวรรค์ อ้าเภอแม่จนั จงั หวดั เชียงราย หมายเลขโทรศัพท์ - ๔.๒ ผู้สืบทอด ช่อื นางรัตนาภรณ์ จ้อยนแุ สง วัน เดือน ปีเกดิ - ที่อยู่ กล่มุ วสิ าหกิจชมุ ชนผ้าทอพน้ื เมืองสนั หลวงใต้ 150 หมู่ 3 ต้าบลจอมสวรรค์ อ้าเภอแมจ่ นั จังหวดั เชยี งราย หมายเลขโทรศัพท์ 086 915 6181 ๕. สถานะ การคงอยู่  ปฏบิ ตั อิ ย่างแพร่หลาย  เสยี่ งต่อการสูญหาย  ไม่มปี ฏิบตั ิแลว้ ๖. รปู ภาพภมู ปิ ัญญาทางวัฒนธรรม/กิจกรรมทางภูมิปัญญาทางวัฒนธรรม การทอผา้ บ้านสันหลวงใต้ ต้าบลจอมสวรรค์ อ้าเภอแมจ่ ัน จงั หวัดเชียงราย

-474- แบบสำรวจมรดกภมู ปิ ญั ญำทำงวฒั นธรรมจังหวัดเชยี งรำย ประจำปี 2565 สภำวฒั นธรรมจงั หวดั เชยี งรำย อำเภอเชียงแสน จงั หวัดเชียงรำย 1. ชื่อข้อมูล ผ้าทอหมู่บ้านท่าขันทอง ๒. ลักษณะ  วรรณกรรมพน้ื บา้ นและภาษา  ศิลปะการแสดง  แนวปฏิบัตทิ างสงั คมพิธีกรรม ประเพณี และเทศกาล  อาหาร/ความร้แู ละการปฏิบัติเกี่ยวกับธรรมชาตแิ ละจกั รวาล  งานช่างฝีมอื ดั้งเดิม  การละเลน่ พน้ื บา้ น กีฬาพื้นบ้าน และศลิ ปะการตอ่ สู่ป้องกนั ตวั ๓. รำยละเอยี ดขอ้ มูล ๓.๑) ประวัติความเป็นมาของข้อมูล หมู่บ้านท่าขันทอง เป็นหมู่บ้านคนไทยอีสาน ซึ่งย้ายมาจาก17จังหวัดของภาคอีสาน ได้ย้ายมาอยู่ ดินแดนล้านนา อยู่กันมานานสมัครสมานสามัคคีพร้อมใจรวมกันพัฒนา เพ่ือน้าพาบ้านเราก้าวไกล ซ่ึงเป็น หมบู่ า้ นหัตถกรรม การแปรรูป ผลิตภัณฑ์จากการทอผ้า ผ้าซิน่ จึงนับเป็นความภาคภมู ิใจอย่างหนง่ึ ของหญิงไทย ในสมัยโบราณ การทอผ้าเป็นงานในบ้าน ลูกผู้หญิงมีหน้าที่ทอผ้า แม่จะสั่งสอนให้ลูกสาวฝึกทอผ้าจนช้านาญ แล้วทอผ้าผืนงามส้าหรับใช้ในโอกาสพิเศษ เช่น งานแต่งงาน งานบวช หรืองานบุญประเพณีต่าง ๆ การนุ่ง ผ้าซ่ินของผู้หญิงจึงเป็นเหมือนการแสดงฝีมือของตนให้ปรากฏ ผ้าซ่ินที่ทอได้สวยงาม มีฝีมือดี จะเป็นท่ี กล่าวขวญั และชืน่ ชมอยา่ งกว้างขวาง เสน่หข์ อง ผ้ำฝ้ำยทอมอื จะเป็นลวดลาย เอกลักษณ์อัตลักษณ์ของชุมชนบ้านท่าขันทอง ซึ่งจะผสมผสานกันกับอีสานล้านนา จากทเ่ี ป็นลายอสี านด่งั เดมิ กลายมาเป็น ลายอีสานผสมล้านนา ชื่อลำยสำยแมน่ ำ้ โขง เป็นผ้าทอที่มีเอกลักษณ์แห่งเดียวคือผ้าลายสายแม่น้าโขงที่ชุมชนบ้านท่าขันทองเป็นภูมิปัญญ าของ ท้องถ่ินสู่กรรมวธิ ี การผลติ ฝมี ือพื้นบา้ นกลายเป็น “ผา้ ฝ้ายทอมือลายสายแมน่ ้าโขง” ชนดิ ต่าง ๆ อาทิ ผา้ ขาวม้า ผา้ พันคอ ผา้ สไบ ผ้าคลมุ ไหล่ ผ้าเช็ดมือ กระเปา๋ หมอน เสอ้ื ผ้า และ อีกมากมาย ฯลฯ กลุม่ ชมรมอสี านล้านนา (ผา้ ฝา้ ยทอมอื ) เรม่ิ กอ่ ตัง้ เมื่อปีพ.ศ. 2543โดย นางสาวกงิ่ กานดา อนุภาพ จัดต้งั กลุ่มและสรา้ งรายได้ให้แก่คน ในท้องถิ่น ภาคภูมิใจในฝีมือ จากการทอผ้าที่สืบทอดจากภูมิปัญญาบรรพบุรุษ ทางกลุ่มได้มีการจัดฝึกสอนให้ เด็กและเยาวชน ทอผ้า เพ่ือเผยแพร่ และสาธิตแก่นักศึกษาดูงาน หรือนักท่องเที่ยว เป็นศูนย์การเรียนรู้ของ ชมุ ชน ถือเปน็ การสรา้ งรายไดแ้ ละปลกู ฝังภมู ปิ ญั ญาทอ้ งถนิ่ ให้กับลกู หลานในชุมชนต่อไป ซ่นิ ตนี จกเชยี งแสน 1 .ซน่ิ ตนี จกเชยี งแสนคือผ้าซ่ินตีนจกร่นุ เกา่ ท่สี ุดที่พอจะมีหลักฐานมาถงึ ปัจจุบัน กอ่ นท่ีจะคลี่คลายมา เปน็ ซนิ่ ตีนจกในยุคนี้ สว่ นมากอายุราว ๆ150 - 200ปี บางผืนอาจมากกว่านัน้ 2. ที่เรียกว่าซิ่นตีนจกเชียงแสนคือบรรพบุรุษไทยวนจากเมืองเชียงแสนได้น้ากรรมวิธีการทออาจจะ หอบหว้ิ ซ่ินรุ่นนไี้ ปยังดินแดนตา่ ง ๆ หลังเมอื งเชยี งแสนแตกเมือ่ ราว200ปีก่อน 3.ชาวเชียงแสนได้กระจัดกระจายไปยังดินแดนต่าง ๆ เช่น เชียงใหม่ใต้ ล้าปาง แพร่ น่าน อุตรดิตถ์ ลาว ราชบุรี สระบุรี รวมถงึ สีคิ้ว ซง่ึ ในดนิ แดนเหลา่ นเี้ ราจะพบซน่ิ เชยี งแสน

-475- 4. ซ่ินเชียงแสนมีจุดเด่นอย่างไร อย่างแรกคือจกลายโปร่ง และจกบนพ้ืนแดง ในขณะท่ีจกยุคปัจจุบัน จกบนพื้นด้าหรือสีอื่น เล็บหรือปลายสุดของซ่ินเป็นสีเหลือง ขาว หรือบางผืนอาจจะไม่มี ตัวซ่ินใช้เทคนิคการ ทอตระการตาซ่ึงต่างไปแต่ละท้องถิ่น เช่น แถบน่านใต้นยิ มเกาะลว้ ง มัดก่าน ขิด เชยี งใหม่ใตน้ ิยมมัดหมเี่ ป็นร้ิว ล้าปาง แพร่ และสระบุรี นิยมแถบร้ิวขิดหรือจก อุตรดิตถ์นิยมแถบริ้วจก ราชบุรีใช้เทคนิคหลากหลาย ท้ังมดั หมี่ จก ยกมุก เกาะล้วง เปน็ ต้น 5.ซิน่ ตนี จกเชยี งแสนจัดวา่ เปน็ ซิน่ หายากราคาสูง แต่มากดว้ ยคุณค่าและประวัติศาสตร์เคียงคู่ชาวไทย วน ในปัจจุบันเร่ิมมีการฟืน้ ฟขู ึ้นมาใหม่ ลกั ษณะเดน่ ท่ีเป็นอตั ลักษณ์ เป็นผลิตภณั ฑ์ท่เี น้นชดุ อสี านแบบล้านนา เป็นผ้าทอมอื ทีม่ ีทีน่ ท่ี ่ีเดยี ว ไม่มใี ครเหมอื นแล้วไม่เหมือนใคร ที่เป็นสินค้าโอทอปสินค้าชุมชนบ้านท่าขันทอง ต้าบลบ้านแซว อ้าเภอเชียงแสน จังหวัดเชียงราย ผ้าทอที่เป็น เอกลักษณ์เป็นภูมปิ ัญญาท้องถิ่นทีส่ บื ทอดกันมาโดยมีลวดลายท่ีเป็นเอกลักษณ์ของชาวเชียงแสน หรอื ลวดลาย ที่ถอดจากผ้าเชยี งแสนโบราณ ตามวถิ ชี ีวติ ความเปน็ อยู่ คตคิ วามเช่ือจารีต ประเพณี เอกลักษณ/์ จดุ เด่นผลติ ภัณฑ์ ลักษณะท่ีโดดเด่นของผ้าทอพ้ืนเมือง ลวดลายเชียงแสน คือลวดลายการทอ และการจรด ลวดลายจะ ไม่เหมอื นใคร ลวดลายดั้งเดมิ สืบทอดจากปู่ย่า ของคนเชียงแสน มอี ยู่ 5 ลายดว้ ยกัน ประกอบดว้ ย 1. ลายกาแล 2. ลายขอพันเสา 3. ลายไข่ปลา 4. ลายมะลิ 5. ลายเสือย่อย เน้อื ผา้ แน่นสีไม่ตก 3.2 ขน้ั ตอน วธิ กี ารด้าเนนิ การเกยี่ วกับขอ้ มลู ข้ันตอน ๑. น้าเสน้ ดา้ ยทยี่ ้อมแล้วมากรอใสห่ ลอด ๒. นา้ ไปโวน้ กบั หลักเพื่อใหไ้ ด้จ้านวนเสน้ ด้ายและความยาวตามท่ีต้องการ ๓. เสน้ ดา้ ยทโี่ ว้นแล้วน้าไปม้วนเขา้ ลมู ๔. น้าเส้นดา้ ยมารอ้ ยตะกอ (เขา) และฟนั หวี (ฟืม) จนครบตามจ้านวนเสน้ ด้ายที่ก้าหนดไว้ ๕. จากน้ันน้าด้ายพุ่งท่เี ตรียมไวไ้ ปกรอใส่หลอดเล็กสา้ หรับใสก่ ระสวยเพื่อใชท้ อ ๖. เร่ิมทอผ้าไดต้ ามลายที่ก้าหนดไว้ วตั ถุดิบและส่วนประกอบ 1. ก่ี 2. กระสวย 3. พันหวี 4. กวงพันดา้ ย 5. ฝา้ ยดอก 6. เสน้ ด้าย 7. สีย้อมผา้ 8. อีด เทคนคิ ที่ใช้ ขดิ ลาย ทอยกดอก มดั หมี่

-476- เคล็ดลบั ในกำรผลิต การเตรียมวัตถุดิบจะต้องพิถีพิถัน โดยผ่านกระบวนการต่าง ๆ จนได้เน้ือผ้าท่ีสวยงาม สมบูรณ์ แบบคนทอจะตอ้ งตรวจสอบทุกขัน้ ตอน ของการทอสลับสี การจกและรมิ ผ้าเสน้ ด้าย พ่งุ เส้นด้ายยนื กำรประยุกต์ใช้ นอกจากจะน้ามาใช้เป็นผ้าถุงแล้ว ยังประยุกต์ใช้เป็นเครื่องใช้อื่น ๆ อีกมากมาย เช่น เส้ือ กระโปรงแบบสากล กระเปา๋ สุภาพสตรี เนคไท ผา้ พาดบ่า ฯลฯ ๔. ชอื่ ผู้ท่ีถือปฏิบตั ิและผู้สืบทอด ๔.๑ ผทู้ ีถ่ อื ปฏิบตั ิ ช่ือ กลมุ่ ชมรมชาวอสี านลา้ นนา (ผ้าฝา้ ยทอมือ) วัน เดือน ปเี กดิ - ทีอ่ ยู่ 195 หมู่ 3 ต้าบลบ้านแซว อ้าเภอเชยี งแสน จงั หวดั เชยี งราย หมายเลขโทรศัพท์ - ๔.๒ ผสู้ บื ทอด ชอื่ กลมุ่ ชมรมชาวอสี านลา้ นนา (ผา้ ฝา้ ยทอมือ) วนั เดือน ปเี กดิ - ที่อยู่ 195 หมู่ 3 ตา้ บลบ้านแซว อ้าเภอเชยี งแสน จังหวดั เชยี งราย หมายเลขโทรศัพท์ - ๕. สถำนะ กำรคงอยู่  ปฏบิ ตั อิ ยา่ งแพรห่ ลาย  เสยี่ งตอ่ การสูญหาย  ไมม่ ีปฏิบตั ิแลว้ ๖. รปู ภำพภมู ปิ ัญญำทำงวัฒนธรรม/กจิ กรรมทำงภมู ปิ ญั ญำทำงวฒั นธรรม

-477- แบบสำรวจมรดกภมู ิปัญญำทำงวัฒนธรรมจงั หวัดเชยี งรำย ประจำปี ๒๕๖๕ สภำวัฒนธรรมจงั หวดั เชยี งรำย อำเภอเวียงชัย จงั หวัดเชียงรำย ๑. ชอื่ ข้อมูล ผ้าทออีสานล้านนา ๒. ลักษณะ  วรรณกรรมพ้ืนบ้านและภาษา  ศิลปะการแสดง  แนวปฏิบตั ทิ างสงั คมพธิ ีกรรม ประเพณี และเทศกาล  อาหาร/ความรูแ้ ละการปฏบิ ัติเกีย่ วกบั ธรรมชาติและจักรวาล  งานช่างฝมี อื ดง้ั เดิม  การละเลน่ พืน้ บา้ น กีฬาพ้ืนบ้าน และศลิ ปะการต่อสูป่ ้องกนั ตัว ๓. รายละเอยี ดขอ้ มูล ๓.๑) ประวตั คิ วามเป็นมาของขอ้ มูล ประชากรในหมู่บ้านไตรแก้ว ต้าบลเวียงเหนือ อ้าเภอเวียงชัย จังหวัดเชียงราย เป็นประชากรที่มีการ อพยพย้ายถ่ินฐานมาภาคอีสาน และมาต้ังรกรากอยู่ที่อ้าเภอเวียงชัย โดยครอบครัวของคุณแม่จันได ทองเหลา แต่เดิมมีภูมิล้าเนาเป็นคนจังหวัดหนองคาย ท้าให้มีการน้าวิถีชีวิต ศิลปวัฒนธรรม ประเพณี และความเช่ือของคน อีสานมาใช้ ซ่ึงการทอผ้าไหมก็เป็นมรดกภูมิปัญญาที่มารดาของคุณแม่จันได ทองเหลา น้ามาใช้เพ่ือทอผ้า ไวเ้ ป็นเครอ่ื งนงุ่ หม่ และมไี วใ้ ชส้ า้ หรับงานมงคล และถา่ ยทอดวชิ าการทอผ้าใหก้ ับคณุ แมจ่ นั ได ทองเหลา สืบตอ่ กันมา จนถึงปัจจุบัน เพ่ือเป็นอาชีพเสริมนอกเหนือจากการท้าเกษตรกรรมซ่ึงเป็นอาชีพหลักของประชากรในหมู่บ้าน แต่เดิมมีกลุ่มสตรีที่รวมตัวกันต้ังกลุ่มทอผ้าในชุมชน โดยมีคุณแม่จันได ทองเหลา เป็นผู้น้ากลุ่ม แต่ปัจจุบันมีเพียง คุณแม่จันได ที่ยังคงทอผ้าไหมเพื่อเป็นอาชีพเสริม โดยมีลูกค้าที่เป็นส่วนราชการในพ้ืนที่ และประชาชนท่ัวไปมา สั่งซ้อื สินค้าอยเุ่ ปน็ ประจา้ ๓.๒) ขน้ั ตอน/วธิ ีการ/ด้าเนินการเกีย่ วกบั ขอ้ มูล วัสดุอุปกรณ์และอุปกรณ์ 1. ดา้ ยผ้าไหม 2. เหลง่ : ใชส้ ้าหรับจัดเรยี งเส้นไหมออกจากกระบุง หรือตะกร้า ๓. กง และอก้ั : ทา้ หน้าท่ีใช้ส้าหรับใส่ใจเสน้ ไหม สว่ นอัก้ ใช้ส้าหรบั กวักเส้นหมอ่ี อกจากกง 4. ทส่ี าวไหมเส้นยืน : ใช้ส้าหรับสาวไหมเส้นยืน ๕. ท่ีเข็นไหม : ใช้โดยการเอาปลายม้วนไหมจ่อไว้ท่ีไน ส่วนมืออีกข้างจับท่ีหมุนให้วงล้อหมุนส่วนใน ก็จะหมุนตาม 6. หลกั เฝอื : ใชใ้ นการคน้ ด้ายเสน้ ยืน หลกั เฝอื ท้าจากไม้ หรอื เหล็ก 7. แปรงหวี และตะกรอ (เขา) : ฟันหวี มีลักษณะคล้ายหวี ยาวเท่ากับความกว้างของหน้าผ้า ท้าด้วยโลหะ มีลักษณะเป็นซ่ีเล็ก ๆ มี กรอบท้าด้วยไม้หรือโลหะ ส่วนตะกอ คือเชือกท้าด้วยด้ายไนลอนท่ีร้อย คล้องไหมยืนเพื่อแย่งเส้นไหมเป็นหมวดหมู่ตามที่ต้องการ ใช้ส้าหรับแยกเส้นด้ายใหข้ ้ึนเพื่อเปิด ให้จังหวะของ เสน้ ดา้ ย พุ่งสอดขัดกนั 8. หลอดด้าย และกระสวย : หลอดด้ายมีลักษณะรูปร่างเป็นกลม เรียวยาว มีรูกลวงตรงกลางส้าหรับ สอดไม้ขอหลอด เพื่อสอดรูหลอดด้ายให้อยู่ในรางกระสวย ส่วน กระสวย ท้าด้วยไม้ ปลายสองด้านมน ตรงกลางกลวง ส้าหรับบรรจหุ ลอดดา้ ยพุ่ง มนี ้าหนกั และขนาดเหมาะมือ ใชพ้ ่งุ ไปมาระหวา่ งการยกเสน้ ดา้ ยยืนขึ้นล’ 9. ก่ีทอผา้ หรอื หกู ทอผา้ : เปน็ อปุ กรณ์ใชส้ า้ หรับทอผ้า

-478- ขัน้ ตอนกำรผลติ 1. การเตรียมเส้นไหม การน้าเส้นไหมที่ซื้อมาเข้าเหล่งส้าหรับการจัดเรียงเส้นไหม จากนั้นน้าเส้นไหม ไปฟอกด้วยด่างเพอ่ื ท้าความสะอาด กอ่ นน้าไปย้อมสีตามที่ต้องการ ๒. การทอผา้ ขัน้ ตอนในการทอผา้ มดี งั นี้ 2.๑ สืบเส้นด้ายยืนเข้ากับแกนม้วนด้ายยืน และร้อยปลายด้ายแต่ละเส้นเข้าในตะกอแต่ละชุด และฟันหวี ดึงปลายเส้นด้ายยืนทั้งหมดม้วนเข้ากับแกนม้วนผ้าอีกด้านหนึ่ง ปรับความตึงหย่อนให้พอเหมาะ กรอด้ายเข้ากระสวยเพื่อใชเ้ ป็นดา้ ยพงุ่ 2.๒ เร่ิมการทอโดยกดเครื่องแยกหมู่ตะกอ เส้นด้ายยืนชุดที่ ๑ จะถูกแยก ออกและเกิดช่องว่าง สอดกระสวยด้ายพ่งุ ผา่ น สลับตะกอชดุ ท่ี 1 ยกตะกอชุดท่ี 2 สอดกระสวยด้ายพงุ่ กลบั ทา้ สลบั กนั ไปเรื่อย ๆ 2.3 การกระทบฟันหวี (ฟืม) เมื่อสอดกระสวยด้ายพุ่งกลับก็จะกระทบ ฟันหวี เพื่อให้ด้ายพุ่งแนบ ตดิ กนั ได้เน้ือผา้ ท่แี นน่ หนา 2.4 การเก็บหรือม้วนผ้า เมื่อทอผ้าได้พอประมาณแล้วก็จะม้วนเก็บใน แกนม้วนผ้า โดยผ่อนแกน ดา้ ยยืนใหค้ ลายออกและปรบั ความตึงหยอ่ นใหม่ให้พอเหมาะ ๔. ชือ่ ผ้ทู ี่ถอื ปฏิบัติและผูส้ บื ทอด ๔.๑ ผู้ทถ่ี อื ปฏบิ ตั ิ ชือ่ นางจนั ได ทองเหลา วนั เดือน ปเี กิด ท่อี ยู่ ๑๐ หมู่ ๘ ต้าบลเวยี งเหนือ อา้ เภอเวียงชยั จงั หวดั เชียงราย หมายเลขโทรศัพท์ 084 948 6610 ๔.๒ ผสู้ ืบทอด ชอื่ - วัน เดือน ปเี กดิ - ท่อี ยู่ - หมายเลขโทรศัพท์ - ๕. สถานะ การคงอยู่  ปฏบิ ตั ิอย่างแพรห่ ลาย  เสี่ยงตอ่ การสูญหาย  ไม่มีปฏิบตั ิแล้ว ๖. รูปภาพภมู ปิ ัญญาทางวัฒนธรรม/กิจกรรมทางภูมปิ ัญญาทางวฒั นธรรม

-479- แบบสำรวจมรดกภมู ิปัญญำทำงวฒั นธรรมจงั หวัดเชยี งรำย ประจำปี ๒๕๖๕ สภำวฒั นธรรมจังหวัดเชยี งรำย อำเภอเวยี งชยั จงั หวัดเชยี งรำย ๑. ช่ือข้อมลู วสิ าหกิจชุมชนผลิตภัณฑ์ทา้ มือบา้ นจงเจรญิ “ผา้ ปัก” ๒. ลักษณะ  วรรณกรรมพนื้ บ้านและภาษา  ศลิ ปะการแสดง  แนวปฏบิ ตั ทิ างสงั คมพธิ ีกรรม ประเพณี และเทศกาล  อาหาร/ความรู้และการปฏบิ ัตเิ กย่ี วกับธรรมชาติและจกั รวาล  งานชา่ งฝีมือด้ังเดิม  การละเลน่ พื้นบ้าน กีฬาพนื้ บ้าน และศลิ ปะการต่อสปู่ ้องกันตวั ๓. รำยละเอยี ดข้อมูล ๓.๑) ประวตั ิความเป็นมาของข้อมูล วสิ าหกิจชมุ ชนผลิตภณั ฑ์ท้ามือบ้านจงเจริญ ได้รวมกลุ่มหรือตั้งแต่เร่ิมท้าธุรกจิ มาแล้ว 17ปี รปู แบบ การบริหารจดั การในปัจจบุ นั /การแบ่งผลประโยชน์ในกลมุ่ สมาชกิ ก้าไรสทุ ธใิ นรอบปี จะน้ามาจดั สรรดังตอ่ ไปนี้ 1) 50 % เป็นเงินปันผลประจา้ ปี 2) 20 % เป็นเงินตอบแทนคณะกรรมการ 3) 10 % เปน็ เงินทุนส้ารองกลุ่ม 4) 10 % เปน็ เงนิ สวสั ดกิ ารใหก้ ับสมาชิก 5) 10 % โบนสั เบี้ยขยันและบุคคลท่ีให้ความรว่ มมือกบั กลมุ่ อยา่ งสม้่าเสมอ หรอื ตามมติ คณะกรรมการเหน็ สมควรในการชว่ ยเหลอื สมาชิก ปัจจบุ ันมีสมาชกิ ในกล่มุ / หรือคนทา้ งาน สมาชกิ กลุ่ม จ้านวน ๒๔ คน รวมสมาชิกเครอื ข่ายตา่ ง อา้ เภอจ้านวน 5 อ้าเภอ ทีเ่ ป็นทีมปัก ทั้งหมด จา้ นวน 65 คน ปัจจบุ นั มเี งินทนุ หมุนเวยี นตอ่ ปีประมาณ 50,000 บาท โดยใช้แหล่งเงินทนุ จากเงนิ ทุนหนุ้ สมาชิก ประมาณ 86,500 บาท ๓.๒) ขน้ั ตอน/วธิ ีการ/ดา้ เนนิ การเกี่ยวกับข้อมลู ท่ีมาของการปักผ้าด้วยมือ เร่ิมมาจากพ้ืนฐานทักษะงานฝีมือท่ีมีอยู่เดิม ของกลุ่มผู้หญิงชาวล้านนาในพ้ืนท่ี จังหวัดเชียงรายแต่มีการประยุกต์ ผสมผสานกับงานอ่ืน ๆ หรือความรู้ใหม่ โดยเริ่มจากผลิตตุ๊กตาไหมพรม และต่อมาได้ปรับเปล่ียนมาเป็นการปักผ้าด้วยมือ เม่ือเดือนเมษายน 2561 โดยเน้นงานปักที่แสดงถึงสไตล์ ของตัวเอง 7 ข้อ เช่น การเลือกลาย การก้าหนดสี การวางลาย ฯลฯ รวมถึงการแปรรูปท่ีแตกต่างหลากหลาย เปน็ ผลติ ภณั ฑ์ชนดิ ต่าง ๆ เชน่ พวงกุญแจ กลอ่ งทชิ ชู่ หนา้ กาก กระเป๋าสตางค์ กระเปา๋ ยา่ ม และเส้อื ผา้ เป็นตน้ ลวดลายของการปักผ้า จะเน้นท่ีกระบวนการและเทคนิคการปักท่ีแตกต่างจากการปักผ้าอ่ืน ๆ ท่ัวไป ซ่ึง จะมเี ทคนิค ดังน้ี 1. การปักลายจะต้องเล็กกลางใหญ่ 2. ลายทึบติดกับลายห่าง 3. สเี ขม้ ๆ ให้วางสีขาวหรือสีสว่างตดิ กนั 4. การเลย้ี วโคง้ ของลายตอ้ งคดงอไปมา 5. เลือกลายนูนเพ่อื เพิม่ มติ ิความสวยงามเพ่มิ อารณ์ความร้สู ึก 6. การเลือกสีการปักสีผ้าจะตอ้ งไลเ่ ฉดสี 7. การจดั วางตา้ แหน่งสจี ะต้องสมดุลกันทง้ั ผนื ผ้า

-480- วสั ดุ – อุปกรณ์ ผ้าใยกัญชง / เข็มปกั เบอร์ 24 / ด้ายปัก / ปากกาลบด้วยความร้อน และกรรไกร ขน้ั ตอนการปักผ้า 1. ตดั ผ้าตามขนาดทต่ี ้องการ 2. วาดแพทเทิร์นเพือ่ เปน็ กรอบพ้นื ทีใ่ นการปกั 3. ปักผ้าในรูปแบบทตี่ นเองตอ้ งการโดยแสดงถึงสไตล์ของตวั เอง 7 ข้อ 4. น้าชิน้ งานที่ปกั เรยี บร้อยแล้วไปตกแตง่ หรอื ตดั เย็บลงในชน้ิ งานตามท่กี ้าหนด มาตรฐานฝมี ือ 1) มาตรฐานผ้าปกั มผช.249/2558 เลขที่ 217-3/249(ชร.) 2) มาตรฐานเชยี งรายแบรนด์ พลัส (Chiangrai brand plus) 3) มาตรฐานผลติ ภัณฑผ์ ้าปัก มผช. 216.2554 เลขที่ 217-1/606(ชร.) รำงวัลท่ีเคยได้รับ

-481- การประเมินยอดขายของกลมุ่ 1) ปี 2562 = 243,470 บาท, 2) ปี 2563 = 416,699.38 บาท 3) ปี 2564 = 480,701.16 บาท 4) ปี 2565 (ม.ค.-ปัจจุบนั ) = 306,633.06 บาท ควำมพร้อมและศักยภำพของวิสำหกิจชมุ ชน 1. ดำ้ นปจั จัยกำรผลิต • มแี ผนเตรียมขยายฐานสมาชิกทีมปักผ้าเพิ่มเติม/ขยายพื้นทีเ่ ครือข่ายใหม่ๆ เพ่ือรองรบั การพฒั นางานปัก • ขยายทีมแปรรูป ของใช้ เสื้อผ้าเคร่ืองแต่งกาย • การจัดหาวัตถุดบิ แหลง่ ท่ีมาของวตั ถุดบิ มีอยา่ งต่อเน่ือง • มปี ญั หาและอุปสรรค ทางด้านวัตถุดิบ มีการสั่งซ้ือผา้ พนื้ ส้าหรับการแปรรูป มีบางชว่ งทส่ี ินค้าขาดตลาด เนื่องจากติดขัดเร่ืองการขนส่ง (การปิดกจิ การชั่วคราวเน่ืองจากติดโควิด/พนักงานขนสง่ ตดิ โควดิ ) • มีบคุ ลากรที่สามารถใช้คอมพวิ เตอร์, อนิ เตอร์เน็ต และสมาร์ทโฟน ในระดบั ดี • มกี ารถา่ ยทอดเทคนิคการปัก และการแปรรูปข้ันพื้นฐาน • ยงั ไมม่ ีการประยุกต์ใช้เทคโนโลยี เครื่องจกั รในการผลิต/และยังไมม่ ีเครื่องจักรของกลุ่มฯ • มกี ระบวนการควบคุมการผลิต สินค้าและบริการที่เป็นมาตรฐานชดั เจน มีกระบวนการชัดเจน • มีการทา้ ระบบบัญชขี องกลุ่ม โดยมีการจดั ท้าระบบบัญชีและยน่ื เสยี ภาษีวสิ าหกิจชมุ ชนทุกๆ 6 เดือน • มีการคา้ นึงถงึ และมีแผนในการพฒั นาการย้อมสีธรรมชาติจากเส้นใย • มกี ารพัฒนารปู แบบสนิ ค้าใหม่ๆ อยู่เสมอ • มมี าตรฐานผลิตภัณฑ์ มผช. ประเภทผ้าปัก มผช. 219-3/249(ชร) ช่วงระหวา่ งเดือน 15 มนี าคม 2563-15 มนี าคม พ.ศ. 2566 • มีมาตรฐานผลิตภัณฑ์ มผช. ประเภทผลิตภัณฑ์ผ้าปัก มผช. 217-1/616 (ชร) ช่วงระหว่างเดือน 15 มีนาคม 2563-15 มนี าคม พ.ศ. 2566 • มมี าตรฐานผลติ ภัณฑ์ เชยี งรายแบรนด์ พลัส ชว่ งระหว่างเดือน 20 มีนาคม 2565 - 20 มนี าคม พ.ศ. 2567 2. ด้ำนอุปสงค์ / กำรตลำด • พฒั นาช่องทางการจา้ หน่ายสนิ คา้ ผ่านช่องทาง Tiktok (การฝึกท้าคลปิ วดี โี อ) • ออกงานแสดงสินค้าเพื่อพบลูกคา้ ใหม่ๆ /ส้ารวจตลาดความต้องการ • พัฒนาเวบ็ ไซต์ ของแบรนด์/กลุ่มฯ • พัฒนาช่อง ยทู ูป /Tiktok (การพัฒนาทกั ษะการท้าคลิป วดี ีโอ /การคิดสคริป Story telling) • พฒั นาสนิ ค้า ท่ีพฒั นาเส้นใยดว้ ยการย้อมสีไหมปัก ดว้ ยสธี รรมชาติ และใส่ใจส่ิงแวดล้อม เพ่ือเข้าถึงตลาด ตา่ งประเทศ • มแี นวโน้มยอดขายที่เพิ่มขึน้ การจากสนับสนุนของกรมการค้าภายใน ท้ังการสนบั สนนุ การออกงานแสดงสินค้า และการรวี ิวสนิ คา้ ผ่านช่องทางต่าง ๆ • มี เช่น พวงกุญแจเป็นสินค้าของขวัญ ของฝาก ของท่ีระลึกช่วงส้นิ ปี/ปใี หม่ • มเี สื้อคลมุ ชว่ ยฤดูหนาว

-482- • สดั ส่วนยอดขายสินค้า สามารถจัดล้าดับยอดขายตามมูลค่า มีรายละเอียดดังนี้ ล้าดับท่ี ประเภทสินคา้ 1 เส้อื ผา้ เครือ่ งแต่งกาย 2 พวงกญุ แจ 3 กระเป๋า 4 ยา่ ม 5 หน้ากาก 6 วัสดุ กลุ่มลกู ค้าคือ • กลมุ่ ผหู้ ญงิ อายุ 35-54 ปี ประมาณ 91% • เป้าหมายของการซอ้ื สนิ ค้า เพอ่ื ใช้เอง ชอบงานฝมี ือ ชอบความโดดเดน่ แตกต่างไมเ่ หมือนใคร 95% และ ผู้ประกอบการา ประมาณ 5% • ผูช้ าย 9% ติดตามทาง IG มากกว่า • ช่องทางการติดตาม ทางเพจ face book เปน็ หลกั แต่มกี ารตดิ ตามทาง IG มากข้นึ • ลูกคา้ เกา่ มีการซอ้ื ซ้าและ พรีออเดอรง์ าน • ลูกค้าส่วนใหญอ่ าศยั อยู่ กรงุ เทพฯ เชยี งราย เชียงใหม่ นนทบุรี ชลบรุ ีและสมุทปราการ มีกลุ่มลกู คา้ ประเภท • เปน็ กลุ่มทีม่ ีกา้ ลังซื้อ เชน่ เป็นเจ้าของกจิ การ หรือเปน็ ผบู้ รหิ าร สนิ ค้าท่ซี อ้ื ซ้าชว่ งท่ผี า่ นมา จะเปน็ พวงกุญแจ หน้ากาก กระเปา๋ ยา่ ม เสอ้ื ผา้ • กล่มุ ลูกคา้ ท่ตี ้องการหาสนิ คา้ ทพ่ี เิ ศษๆ โดดเด่น และแตกต่าง สา้ หรบั ใชเ้ องและเป็นของขวัญ ของฝาก • มกี ารจัดทา้ ฐานข้อมูลลกู คา้ ชื่อ ทอี่ ย่เู บอร์โทร • มีช่องทางการประชาสัมพันธ์ และการจดั จา้ หน่ายใหก้ ับลูกค้าช่องทาง 1) Page facebook : https://www.facebook.com/CraftChiangraibywilai62 2) Line Official : https://line.me/R/ti/p/%40ruw0474a

-483- 3) Instragram : hug_villages • มกี ารทา้ กลยทุ ธส์ ่งเสรมิ การขายโดยการจดั โปรโมช่ันตามเทศกาล • มกี ารบรกิ ารส่งสนิ คา้ ฟรี • จัดท้าการด์ อวยพรช่วงปีใหม่ /หรือวันส้าคัญของลูกค้า 3. ดำ้ นกำรสนบั สนนุ และเกีย่ วเนือ่ ง 3.1 การสนับสนุนทไี่ ด้รบั จากหน่วยงาน ท้ังภาครฐั และเอกชน ล้าดับ หนว่ ยงาน/องค์กรท่ใี ห้การสนบั สนนุ เร่ืองท่สี นับสนนุ 1 ธนาคารออมสนิ ดา้ นชอ่ งทางการตลาด โครงการไทยเด็ด ปตท./ การสง่ั สินค้า เชน่ พวงกญุ แจ 2 ม.ราชภัฎเชยี งราย ด้านงานวจิ ยั 3 สสว. เชียงราย สสว. โครงการSMEโคช้ / เรื่องกฎหมาย ตราสินค้า / ด้านการออกบธู 4 ส้านักงานอุตสาหกรรมจังหวัด ดา้ นมาตรฐานผลติ ภณั ฑ์ชมุ ชน 5 สา้ นกั งานเกษตรอ้าเภอเวียงชยั ดา้ นยกระดบั มาตรฐานกลุ่มฯ 6 สา้ นกั งานพฒั นาชุมชนจังหวดั เชยี งราย ดา้ นยกระดบั มาตรฐานกลุ่มฯ เครือข่าย OTOP 7 มหาวทิ ยาลยั เชียงใหม่ ด้านการอบรมพฒั นาศักยภาพผูป้ ระกอบการ/ ออกบธู / การตลาด 8 ส้านกั งานสหกรณ์จังหวดั เชยี งราย ดา้ นออกบธู 9 มหาวทิ ยาลยั แม่ฟา้ หลวง ด้านกฎหมาย/ ตราทะเบียนสินคา้ 10 สถาบนั พัฒนาฝีมือท่ี 20 เชียงราย ด้านฝึกอบรมเพ่ือเพ่ิมประสิทธิภาพแรงงาน 11 ส้านกั งานพาณชิ ยจ์ ังหวัดเชียงราย สนบั สนนุ เขา้ โครงการหมูบ่ ้านท้ามาคา้ ขาย 12 กรมการค้าภายในฯ โครงการหมู่บ้านท้ามาคา้ ขาย 13 มหาวิทยาลัยเทคโนโลยรี าชมงคล ล้าปาง สนับสนุนงบประมาณฝึกอบรมและพัฒนาหนา้ รา้ น 14 มหาวทิ ยาลัยเกษตร/มทร.เชียงใหม่ การตลาดออนไลน/์ การถา่ ยรูปสนิ ค้าสนับสนุนการ ประชาสมั พันธ์ 15 สถาบันพฒั นาอตุ สาหกรรมและส่งิ ทอ การออกแบบผลิตภณั ฑ์ /แฟช่ันล้านนาตะวันออก ๔. ช่ือผู้ที่ถอื ปฏิบตั ิและผสู้ ืบทอด นางวิไล นาไพวรรณ์ ๔.๑ ผู้ทถี่ อื ปฏิบตั ิ 19 พฤศจิกายน 2518 ช่ือ 3 หมู่ 12 ตา้ บลดอนศิลา อ้าเภอเวยี งชยั จังหวดั เชยี งราย วนั เดอื น ปเี กดิ 088 267 4469 ทอ่ี ยู่ หมายเลขโทรศพั ท์

-484- ๔.๒ ผู้สบื ทอด ณฐั ธิดา นาไพวรรณ์ (1) ชือ่ 15 มถิ ุนายน 2544 วนั เดือน ปเี กดิ 3 หมู่ 12 ต้าบลดอนศิลา อา้ เภอเวยี งชัย จังหวัดเชยี งราย ที่อยู่ 092 905 9591 หมายเลขโทรศพั ท์ นางสาวภูรีรัตน์ นาไพวรรณ์ (2) ชอ่ื 6 มิถุนายน 2549 วนั เดอื น ปเี กดิ 3 หมู่ 12 ตา้ บลดอนศลิ า อา้ เภอเวียงชัย จังหวัดเชยี งราย ทีอ่ ยู่ 082 160 165๕. หมายเลขโทรศพั ท์ ๕. สถำนะ กำรคงอยู่  ปฏบิ ัติอย่างแพรห่ ลาย  เสี่ยงตอ่ การสญู หาย  ไมม่ ปี ฏบิ ัติแล้ว ๖. รปู ภำพภูมปิ ัญญำทำงวัฒนธรรม/กิจกรรมทำงภูมิปัญญำทำงวฒั นธรรม 1.พวงกญุ แจ 2.หน้ากากอนามัย กระเป๋าตังเหรยี ญ 3. เส้อื สตรี

-๔85- 4.ย่าม 5.กระเปา๋ เป/้ สะพาย 6.กระเป๋าถือ 7.ผ้าซิ่น 8.อนื่ ๆ

-๔86- แบบสำรวจมรดกภมู ปิ ัญญำทำงวฒั นธรรมจังหวดั เชยี งรำย สำนักงำนวฒั นธรรมจงั หวดั เชยี งรำย อำเภอแมส่ ำย จังหวดั เชยี งรำย ๑. ชื่อข้อมูล ผ้าปกั ชุดชาตพิ ันธุ์ไตหย่า ๒. ลกั ษณะ  วรรณกรรมพ้ืนบ้านและภาษา  ศลิ ปะการแสดง  แนวปฏิบตั ทิ างสังคมพิธีกรรม ประเพณี และเทศกาล  อาหาร/ความร้แู ละการปฏบิ ตั เิ กย่ี วกบั ธรรมชาติและจักรวาล  งานช่างฝีมือด้ังเดิม  การละเล่นพ้ืนบา้ น กีฬาพ้ืนบ้าน และศิลปะการตอ่ ส่ปู ้องกนั ตัว ๓. รายละเอยี ดข้อมลู ๓.๑) ประวัตคิ วามเปน็ มาของขอ้ มลู ปัจจุบันการแต่งกายของชาวไตหย่าจะแต่งกายตามสมัยนิยม ส่วนการแต่งกายในชุดประจ้ากลุ่มชน ในงานประเพณี เช่น งานชุมนุมประจ้าปี เครื่องแต่งกายของสตรีชาวไตหย่าจะประกอบด้วยผ้าซิ่น 2 ผืนซ้อนกัน ผืนแรกเรียกว่า ผา้ ไต่เซนิ เปน็ ผ้าพนื้ สีด้า ประดบั ดว้ ยริว้ ผ้าสีต่าง ๆ เย็บเปน็ แถบชายซิ่น สว่ นผ้าผืนท่ี 2 เรยี กว่า ผ้าเซิน เป็นผ้าพ้ืนสีด้าประดับชายผา้ ด้วยร้ิวผ้าสแี ต่ไม่เย็บด้านข้างให้ตดิ กัน ใช้สวมทับผืนแรกโดยพันรอบตวั ให้ ชายผ้าขนานผืนแล้วคาดเข็มขัดทับ ส่วนช่วงเอวข้ึนไปมีผ้า 3 ช้ิน คือ ผ้าไว้ใช้คาดเอวจะประดับด้วยริ้วผ้าสีต่าง ๆ ท้ังผืน จากน้ันสวมทับด้วยเสื้อตัวที่สอง เรียกว่า ซ่ือแย่ง ซ่ึงเป็นเส้ือไม่มีแขน คอปิด ไม่มีปกผ่าหน้าเฉียงมา ทางซ้าย ส่วนเสื้อตัวท่ีสาม เรียกว่า ซ่ือหลุง มีลักษณะเป็นเสื้อสวมทับแขนยาว ไม่มีปก ผ่าหน้าตรง ความยาว ของเส้ือจะยาวประมาณ 2 ใน 3 ของความยาวช่วงบนของผู้สวมใส่ ส่วนการแต่งกายของผู้ชายไตหย่า ประกอบดว้ ยกางเกงขาตรงสีด้าหรือสคี ราม เสื้อคอจนี แขนยาวสีดา้ ไมป่ ระดบั ลวดลายใด ๆ เนื่องจากพ้ืนที่ของจังหวัดเชียงราย มีกลุ่มชนชาติติพันธ์อาศัยอยู่ ทั้งตามท่ีราบและบนดอยสูง แต่ละ กลุ่มจะมีศาสนา ความเชื่อ ประเพณี และวัฒนธรรมแตกต่างกันไป ตามแต่วิถีด้ังเดิมที่บรรพบุรุษได้ปฏิบัติ สืบทอดกันมา การแต่งกายมีความเป็นเอกลักษณ์อัตลักษณ์ของแต่ละชนชาติพันธ์ุ จุดเด่นที่สามารถบ่งบอก ได้เลยว่าคนท่ีแต่งชุดน้ีเป็นชาติพันธุ์ใด ประกอบกับในพื้นที่อ้าเภอแม่สาย มีชาติพันธ์ุไตหย่าอาศัยอยู่เป็น จ้านวนมาก เครื่องแต่งกายของกลุ่มชาติติพันธ์ไตหย่า มีความโดดเด่นและแปลกตามากกว่าชาติพันธุ์อ่ืน ๆ เพราะไม่ค่อยได้พบเห็นบ่อยนัก โดยเหตขุ า้ งตน้ คุณณฐภัทร จันทาพูน ซึง่ เป็นบุคคลท่ีมีความช่นื ชอบในชุดชาติพันธ์ุ และประกอบธุรกิจด้านผ้าของกลุ่มชาติพันธ์ุ ในช่วงแรกๆได้หาผ้าชุดชาติพันธจ์ุ ากชนเผ่าโดยตรงซึ่งมีราคาแพง ประกอบกับปัญหาการส่ือสารกับชนเผ่า จึงมีแนวคิดท่ีจะเก็บข้อมูลความรู้ด้านการแต่งกายชุดชาติพันธุ์ แล้วน้ามาออกแบบ ตัดเย็บ และจัดจ้าหน่ายเอง ปัจจุบันคุณณฐภัทร ได้ออกแบบ ผลิต และจัดจ้าหน่าย ชุดชาติพันธ์ุ ทั้งแบบด้ังเดิมและแบบ ประยุกต์ให้ทันสมัย และชุดท่ีมีความโดดเด่นมากอย่างหนึ่งของร้าน คอื ชุดผ้าตัดชาตพิ ันธุ์ไตหยา่ ลักษณะลวดลายผ้าปักในชุดชาติพันธ์ุไตหย่า จะเน้นเป็นรูปทรงเรขาคณิต มีรูปสามเหลี่ยมและรูป สี่เหล่ียม รูปส่ีเหล่ียมข้าวหลามตัด รูปวงกลม รูปวงรี ปักด้วยเคร่ืองเงิน มีลักษณะโดดเด่นคงความเป็น เอกลกั ษณ์อัตลักษณ์ของกลมุ่ ชนชาติพนั ธ์ุ