Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore มรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรม จังหวัดเชียงราย ประจำปี ๒๕๖๕

มรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรม จังหวัดเชียงราย ประจำปี ๒๕๖๕

Description: มรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรม จังหวัดเชียงราย ประจำปี ๒๕๖๕

Search

Read the Text Version

. -338- 2. หญำ้ ใต้ใบ วิธีทำ ใหเ้ อาตน้ หญ้าลกู ใบ (ถอนเอาต้นตลอดถงึ ราก) จานวนมากน้อยตามต้องการนามาลา้ งให้สะอาด สับเป็นชิ้นเล็ก ๆ ตากแดดให้แห้ง ใส่หม้อดินต้มกับน้าพอสมควร ใช้น้ารับประทานต่างน้าชามีสรรพคุณ แก้โรคปวดหลงั ปวดเอวโรคไตไดผ้ ลดีอย่างชะงัด ๔. ช่อื ผู้ท่ีถอื ปฏิบัตแิ ละผูส้ ืบทอด ๔.๑ ผ้ทู ่ีถอื ปฏบิ ตั ิ ชอื่ นายฮ่วน หนอ่ สวุ รรณ์ วนั เดอื น ปีเกดิ 1 เมษายน 2477 ทอี่ ยู่ 96 หมทู่ ี่ 15 บ้านสันเจริญ ตาบลดอนศิลา อาเภอเวียงชยั จงั หวดั เชียงราย หมายเลขโทรศัพท์ - ๔.๒ ผู้สืบทอด ชอื่ - วนั เดอื น ปีเกดิ - ทีอ่ ยู่ - หมายเลขโทรศัพท์ - ๕. สถำนะ กำรคงอยู่  ปฏิบัติอยา่ งแพรห่ ลาย  เสี่ยงต่อการสญู หาย  ไมม่ ีปฏิบตั แิ ล้ว ๖. รูปภำพภูมปิ ัญญำทำงวัฒนธรรม/กจิ กรรมทำงภูมิปัญญำทำงวฒั นธรรม

. -339- แบบสำรวจมรดกภมู ปิ ัญญำทำงวัฒนธรรมจงั หวดั เชยี งรำย ประจำปี ๒๕๖๕ สภำวฒั นธรรมจังหวัดเชยี งรำย อำเภอแม่ฟ้ำหลวง จงั หวดั เชยี งรำย ๑. ชื่อข้อมูล หมตู ๋นุ (ยนู นาน) ๒. ลักษณะ  วรรณกรรมพ้นื บ้านและภาษา  ศิลปะการแสดง  แนวปฏิบตั ทิ างสงั คมพิธีกรรม ประเพณี และเทศกาล  อาหาร/ความรู้และการปฏบิ ตั เิ ก่ยี วกบั ธรรมชาติและจักรวาล  งานช่างฝีมอื ดั้งเดมิ  การละเลน่ พน้ื บา้ น กีฬาพ้ืนบา้ น และศิลปะการตอ่ สู่ป้องกันตัว ๓. รำยละเอยี ดข้อมูล ๓.๑) ประวัตคิ วามเปน็ มาของขอ้ มูล โดยทั่วไป เมื่อคนจีนกล่าวถึงอาหารมักจะมีองค์ประกอบสองส่วนอันได้แก่ ข้าว และกับข้าว ข้าว คือ อาหารจาพวกธัญพืชและแป้ง เป็นหลักท่ีขาดไม่ได้ในทุกมื้อ ส่วนกับข้าว คือ เนื้อสัตว์ ผัก เป็นอาหารรอง หากไม่มีก็เพียงทาให้มื้อน้ันขาดรสชาด ทั้งน้ี ข้าวและกับข้าวต้องมีความสมดุล อาหารจีนบางชนดิ ดูผวิ เผินเป็น อาหารเด่ยี ว เช่น เกยี๊ ว ซาลาเปา แต่มสี ว่ นผสมครบถว้ นทัง้ แปง้ เนื้อสตั ว์ และผกั กรรมวิธีการปรุง เริ่มจากการคัดสรรวัตถุดิบโดยส่วนใหญ่ใช้วตั ถุดิบจากท้องถิ่นเป็นหลัก สังคมเกษตร ท่ีอยู่ในภูมิภาคแตกต่างกันทาให้มีความหลากหลายในการปรุงอาหาร เมื่อจีนมีการติดต่อกับต่างประเทศก็มี การนาเข้าวัตถุดิบ เชน่ ข้าวสาลี แพะ แกะ ผกั ผลไม้ จากแถบเอเชยี ตะวนั ตกและเอเชยี กลาง วิธีการปรุงอาหาร จนี ทสี่ าคญั มี ต้ม น่ึง ยา่ ง ดอง และตากแหง้ สว่ นการผดั เปน็ วธิ ที มี่ าทหี ลงั ๓.๒) ขนั้ ตอน/วิธกี าร/ดาเนนิ การเก่ียวกบั ข้อมลู นาเน้อื หมแู ละเครื่องเทศมาใส่ในหมอ้ เขา้ ด้วยกนั ใสน่ า้ พอท่วม ตุ๋นไปในหม้อตุ๋นประมาณ 6 ชว่ั โมง หรอื จนเปื่อย ถ้าหากไม่มหี ม้อตนุ๋ ให้ใช้หมอ้ ธรรมดา ต้มครั้งแรกพอเดือด แล้วชอ้ นฟองทิ้ง เบาไฟต้มรมุ ๆ ไป 1 ช่วั โมง ปดิ เตา พอเย็นตม้ ไฟรุม ๆ ใหม่ ไปซัก 3-4 คร้ัง ระหว่างตุ๋น ไดป้ ระมาณ ครึง่ ช่ัวโมง ใสเ่ หด็ หอม จะได้เป่ือยพร้อมกัน ระหวา่ งตม้ ให้คอยดมกล่ินเครื่องเทศ ถ้ากลิ่นแรงเกนิ ไป ให้ช้อนเคร่อื งเทศออกบา้ งถ้าหอมหัวใหญ่ท้งั หัวทีต่ ้มไป ด้วยมนั ฉา่ นา้ ท่ตี ้มแล้ว กช็ อ้ นท้งิ (ท้ังหัว) เอาหมตู นุ๋ ทไ่ี ด้ที่แล้ว ทงั้ หมอ้ ใสต่ ู้เย็นสกั 3 ชม. ช้อนไขมนั ทลี่ อยออก ทิง้ ไปเอาหมู หน่ั ชน้ิ หนาๆ หั่นตามขวางเสน้ เนื้อสัตว์นา้ ซุป ใหน้ ามากรอง หรอื ชอ้ นเครือ่ งเทศออกใหห้ มด นาไป ตั้งไฟใหเ้ ดอื ดอีก ๔. ชอ่ื ผู้ท่ีถือปฏิบตั ิและผ้สู ืบทอด ๔.๑ ผู้ทถ่ี ือปฏิบตั ิ ชอ่ื นางวรี ยา แซ่ตง วัน เดอื น ปีเกิด - ที่อยู่ 267/1 บา้ นหว้ ยผ้ึง หมู่ 2 ตาบลแมส่ ลองใน อาเภอแมส่ ลองใน อาเภอแมฟ่ ้าหลวง จงั หวดั เชยี งราย หมายเลขโทรศัพท์ 087 172 2648

. ๔.๒ ผ้สู ืบทอด -340- ช่อื วัน เดอื น ปเี กดิ - ทีอ่ ยู่ - - หมายเลขโทรศัพท์ - ๕. สถำนะ กำรคงอยู่ ปฏิบัตอิ ย่างแพร่หลาย  เส่ยี งตอ่ การสูญหาย  ไมม่ ปี ฏิบตั แิ ล้ว ๖. รูปภำพภูมิปัญญำทำงวัฒนธรรม/กจิ กรรมทำงภูมปิ ัญญำทำงวฒั นธรรม

. -341- แบบสำรวจมรดกภมู ิปัญญำทำงวัฒนธรรมจังหวัดเชียงรำย ประจำปี ๒๕๖๕ สภำวฒั นธรรมจังหวดั เชยี งรำย อำเภอแมจ่ ัน จังหวดั เชียงรำย ๑. ช่ือข้อมูล หอ่ น่งึ ไกเ่ มืองขา้ วควั่ ๒. ลกั ษณะ  วรรณกรรมพื้นบา้ นและภาษา  ศิลปะการแสดง  แนวปฏบิ ตั ทิ างสงั คมพธิ ีกรรม ประเพณี และเทศกาล  อาหาร/ความรแู้ ละการปฏบิ ัตเิ กย่ี วกับธรรมชาตแิ ละจักรวาล  งานช่างฝีมอื ดงั้ เดมิ  การละเลน่ พน้ื บ้าน กีฬาพ้ืนบ้าน และศลิ ปะการตอ่ สปู่ ้องกันตัว ๓. รำยละเอียดข้อมลู ๓.๑) ประวตั คิ วามเป็นมาของขอ้ มูล ห่อน่ึงไก่เมืองข้าวค่ัว เป็นอาหารของทางภาคเหนอื โดยการนาเน้ือไก่พันธุ์พื้นเมืองมาผดั กับเครือ่ งแกง ใส่ผัก ใส่ขา้ วค่วั ผสมเพ่ือเพิ่มความข้นของอาหาร จากนน้ั นาไปห่อใบตองแล้วไปนง่ึ ให้สุก ชาวบา้ นป่าตงึ อาเภอ แม่จัน จังหวัดเชียงรายนิยมรับประทานวันสาคัญตามเทศกาลต่างๆ และนิยมนาห่อน่ึงไก่ไปทาบุญที่วัด คุณค่า ทางโภชนาการ เน้อื ไกส่ ามารถหาทานได้ท่ัวไป มโี ปรตีนที่มีประโยชนช์ ่วยในการเจริญเติบโตของร่างกาย อีกท้ัง ส่วนผสมเคร่ืองแกงยังมีคุณค่าทางโภชนาการ เช่น ตะไคร้แก้และบรรเทาอาการหวัด อาการไอ ข่า ช่วยบารุง ร่างกาย กระเทยี มช่วยเสริมสรา้ งการเจริญเติบโตของเน้ือเยอ่ื ในรา่ งกายช่วยป้องกันการเกิดโรคมะเร็ง และชว่ ย เสรมิ สรา้ งภูมิต้านทานให้กบั รา่ งกาย มะแขว่น ช่วยย่อยอาหาร และรกั ษาโรคทางระบบทางเดนิ อาหาร ๓.๒) ข้ันตอน/วิธีการ/ดาเนินการเก่ยี วกับขอ้ มูล สว่ นประกอบ 1. เคร่ืองแกง พริกแห้งเม็ดเล็ก กระเทียม หอมแดง กะปิ เกลือ ถั่วเน่า ข่า ตะไคร้ มะแขว่น เครื่องเทศ รากผักชี และขา้ วค่วั 2. สว่ นประกอบหลัก เนื้อไก่พันธ์ุพื้นเมือง ใบตาลึง ดอกแค ถ่ัวฝักยาว หรือถ่ัวพู มะเขือพวง สะค้าน (จักคาด) พริกข้หี นูสวน ขน้ั ตอนกำรทำ 1. โขลกเคร่ืองแกงท้งั หมดเข้าด้วยกัน 2. หนั เนอื้ ไก่ และผักแยกพักไว้ 3. ผัดเครือ่ งแกงกับนา้ มนั พชื ใหห้ อม ใส่ไกห่ น่ั เป็นชิ้น พอไกส่ ุกเติมนา้ คัวจนแตกมนั ประมาณ 2 ชั่วโมง จนเครือ่ งแกงเข้ากับเน้ือไก่ 4. แยกเนอื้ ไกแ่ ละน้าเครื่องแกงออกจากกัน 5. นาน้าเคร่อื งแกงและผักท้ังหมดผัดด้วยไฟอ่อนๆ ผกั ใกลส้ กุ ใสข่ ้าวค่ัวคลุกเคลา้ ใหเ้ ข้ากัน 6. เตรียมใบตองกว้างประมาณ 8 นว้ิ ตัดหวั ตดั ทา้ ย นามาซ้อนกันสองชนั้ ตักผกั ท่ีผัด และเนอ้ื ไก่ ไวใ้ สบ่ นใบตอง 7. ฉีกใบตองกว้างประมาณ 3 นว้ิ หอ่ ด้านนอกอกี 1 ชน้ั ใชไ้ ม้กลดั กลัดใบตอง 8. ใชก้ รรไกรตัดแตง่ ห่อใบตองให้สวยงาม 9. นาลงนึง่ ในลังถึง ประมาณ 40 นาที

. -342- ๔. ชื่อผทู้ ี่ถือปฏิบตั แิ ละผสู้ บื ทอด ๔.๑ ผูท้ ีถ่ อื ปฏิบัติ ช่อื นางจนั ทร์สวย อมุ า วัน เดือน ปเี กิด - ท่อี ยู่ 166 หมู่ 8 ตาบลปา่ ตงึ อาเภอแมจ่ นั จงั หวดั เชยี งราย หมายเลขโทรศัพท์ 081 603 5061 ๔.๒ ผสู้ บื ทอด ชอ่ื นายกิตตชิ ยั อมุ า วัน เดอื น ปีเกิด - ที่อยู่ 166 หมู่ 8 ตาบลปา่ ตงึ อาเภอแมจ่ นั จงั หวัดเชียงราย หมายเลขโทรศัพท์ 081 603 5061 ๕. สถำนะ กำรคงอยู่  ปฏิบตั ิอย่างแพร่หลาย  เสย่ี งต่อการสูญหาย  ไมม่ ีปฏบิ ัติแลว้ ๖. รูปภำพภมู ิปัญญำทำงวัฒนธรรม/กิจกรรมทำงภูมปิ ัญญำทำงวัฒนธรรม การตาเคร่ืองแกงห่อน่ึงไก่เมืองขา้ วคว่ั นานา้ เครื่องแกงและผกั ทัง้ หมดผัดดว้ ยไฟอ่อน ๆ นาเน้ือไกเ่ มืองและผกั ห่อดว้ ยใบตอง นาห่อน่ึงไก่เมืองข้าวค่ัวลงน่ึงในลงั ถึง ประมาณ 40 นาที ห่อนงึ่ ไกเ่ มืองขา้ วคัว่ เมอื่ สุกแลว้

. -343- แบบสำรวจมรดกภมู ิปัญญำทำงวฒั นธรรมจงั หวัดเชยี งรำย ประจำปี ๒๕๖๕ สภำวัฒนธรรมจังหวัดเชยี งรำย อำเภอเวยี งแกน่ จงั หวดั เชยี งรำย ๑. ช่อื ข้อมูล เหล้าอุ หรอื สุราหมกั ๒. ลกั ษณะ  วรรณกรรมพื้นบา้ นและภาษา  ศลิ ปะการแสดง  แนวปฏบิ ัติทางสังคมพิธีกรรม ประเพณี และเทศกาล  อาหาร/ความรแู้ ละการปฏิบตั ิเกี่ยวกบั ธรรมชาติและจกั รวาล  งานช่างฝมี อื ดงั้ เดมิ  การละเลน่ พนื้ บา้ น กีฬาพน้ื บา้ น และศลิ ปะการตอ่ สูป่ ้องกนั ตัว ๓. รำยละเอยี ดขอ้ มลู ๓.๑) ประวัตคิ วามเป็นมาของข้อมลู เหล้าไห (เหล้าอุ) เป็นสุราหมักอินทรีย์ ในภูมิปัญญาของชนเผ่า ขมุ ในพ้ืนที่อาเภอเวียงแก่น ท่ีใช้เป็น เครือ่ งดม่ื ท่ีมีแอลกอฮอลไ์ มเ่ กนิ 20 % เหลา้ อขุ องชนเผ่าขมุ ทามาจากข้าวเหนยี วที่สีเป็นขา้ วสารแล้วนามาล้าง ทาความสะอาดพร้อมกับแกลบหยาบ ผ่ึงให้แห้งนาท้ัง 2 อย่างมาบรรจุในไหดินในปริมาณท่ีเหมาะสม เติมน้าเปล่าให้ท่วมพอดี ปิดฝาไหให้สนิท ทิ้งไว้ 2 - 3 วัน หรือหลายวัน ก็สามารถนามาดื่มได้ มีกลิ่นหอมชวนดื่ม และเป็นเคร่ืองด่ืมที่ชนเผ่า ขมุ ในหมู่บ้านปกติจะเป็นเครื่องดื่มที่ใช้ในงานประเพณีของชนเผ่าขมุ เช่นเทศกาล ปีใหม่ ขึน้ บ้านใหม่ แต่งงาน หรือกิจกรรมงานพธิ ที างความเช่ือของชมุ ชน และใชต้ ้อนรับแขกผ้มู าเยือน เหล้าไห(เหล้าอุ) เป็นเครื่องดื่มพ้ืนบ้านที่ผลิตขึ้นจากข้าวเหนียวผสมแกลบแล้วหมักในไห จากนั้นปิด ด้วยข้ีเถ้าจนสนิท เวลาดื่มต่างจากสุราพื้นบ้านทั่วไปตรงที่ต้องเติมน้า แล้วใช้หลอดท่ีผลิตจาก “ไม้ซาง” ไม้ไผ่ ชนิดหนึ่งท่ีมีขนาดลาเล็ก เจาะลงไปแล้วด่ืม ซึ่งมักใช้ดื่มนงานประเพณีต้อนรับแขก โดยล้อมวงด่ืมแล้วเวียนไห ไปรอบวงเป็นเคร่อื งดื่มเชงิ วฒั นธรรม ๓.2) ขน้ั ตอน/วิธกี าร/ดาเนินการเกยี่ วกบั ขอ้ มลู เหล้า ๑ ไห จะใช้วัสดุ ดังน้ี ๑. ขา้ วกลอ้ ง ๑ กโิ ลกรัม ๒. แกลบ ๓ ขีด ๓. หัวเชือ้ ๑.๕ ขดี การทาข้ึนอยู่กับอุปกรณ์ สว่ นมากแลว้ จะทาคร้ังหนงึ่ ประมาณ ๒๐ ไห โดยการนาข้าวกล้องไปแช่น้าไว้ ๑ คนื จากน้นั นาแกลบมาคลุกเคล้าให้เข้ากนั เสร็จแลว้ นาไปนงึ่ ใหส้ ุก นาออกมาผึง่ ลมให้ขา้ วเย็น จากนน้ั นาหัว เชือ้ มาคลุกเคล้าให้เข้ากันแล้วนาไปหมกั ไวท้ ไ่ี หมังกรขนาดใหญ่ จานวน ๓ คนื แล้วนาออกมาบรรจุใส่ไห แล้วใช้ ใบตองปดิ ปากไหก่อน แลว้ เอาขเ้ี ถ้าผสมน้าพอเป็นก้อนปิดทับอีกครง้ั หนึ่ง จากน้ันหมกั ไว้อีก ๑๕ วนั ก็สามารถ นามาดม่ื ได้แลว้ ๔. ชอ่ื ผทู้ ่ีถอื ปฏิบตั แิ ละผสู้ ืบทอด 4.๑ ผทู้ ี่ถือปฏบิ ตั ิ ชื่อ นางสาวนภาพร สมศรี วนั เดอื น ปเี กิด - ท่ีอยู่ 96 หมู่ 6 ตาบลหลา่ ยงาว อาเภอเวียงแก่น จังหวดั เชียงราย หมายเลขโทรศัพท์ 086 183 5193

. -๓๔4- 4.๒ ผู้สืบทอด นางโลม เช้ือน้อย ช่อื - วนั เดอื น ปเี กิด ที่อยู่ บ้านห้วยเอยี น ตาบลหลา่ ยงาว อาเภอเวียงแก่น จังหวดั เชยี งราย หมายเลขโทรศัพท์ - ๖. สถำนะ กำรคงอยู่  ปฏิบัตอิ ยา่ งแพรห่ ลาย  เสยี่ งตอ่ การสูญหาย  ไม่มีปฏิบตั แิ ลว้ ๗. รปู ภำพภูมิปัญญำทำงวัฒนธรรม/กิจกรรมทำงภูมปิ ัญญำทำงวัฒนธรรม

. -๓๔5- แบบสำรวจมรดกภมู ิปัญญำทำงวัฒนธรรมจงั หวดั เชยี งรำย ประจำปี ๒๕๖๕ สภำวฒั นธรรมจงั หวัดเชยี งรำย อำเภอแมส่ ำย จังหวดั เชยี งรำย ๑. ช่ือข้อมูล โหราศาสตร์ ๒. ลักษณะ  วรรณกรรมพืน้ บา้ นและภาษา  ศิลปะการแสดง  แนวปฏบิ ัตทิ างสงั คมพธิ ีกรรม ประเพณี และเทศกาล  อาหาร/ความรูแ้ ละการปฏบิ ตั ิเกีย่ วกับธรรมชาติและจกั รวาล  งานช่างฝมี อื ด้งั เดมิ  การละเลน่ พื้นบ้าน กีฬาพ้ืนบ้าน และศิลปะการตอ่ ส่ปู ้องกันตัว ๓. รำยละเอียดข้อมูล ๓.๑) ประวัติความเปน็ มาของขอ้ มูล โหรำศำสตร์ (อังกฤษ: astrology) เป็นศาสตร์หนึ่งที่ไม่ได้รับการยอมรับทางวิทยาศาสตร์ มีความ เก่ยี วข้องกบั การทานายอนาคต หรือ โชคชะตาของมนุษย์, ปรากฏการณต์ ่าง ๆ ของบา้ นเมอื งและของโลก โดย อาศัย เวลา และ ตาแหน่งของดวงดาวต่าง ๆ บนท้องฟ้า เป็นสาคัญ แล้วบันทึกไว้เป็นสถิติ โหราศาสตร์ เป็น วิชาที่ต่างกับวิทยาศาสตร์ ด้วยแม้จะสามารถพิสูจน์ทราบได้โดยใช้กฎเกณฑ์ และเหตุผลในทางโหราศาสตร์ นามาทดลอง พิสูจน์ให้เห็นประจักษ์ สามารถสรุปออกมาเป็นทฤษฎีได้ ไม่ว่าจะทดลองกี่คร้ัง ที่ใด ๆ ในโลก เช่นเดียวกับวิทยาศาสตร์ โหราศาสตร์ก็ยังคงเป็นวิชาที่ค่อนข้างลึกลับ ด้วยเหตุนี้นักวิทยาศาสตร์จึงไม่รับรอง โหราศาสตร์ว่าเป็นศาสตร์อย่างหน่งึ อย่างไรกต็ ามทางรัฐบาลอนิ เดียได้มีการประกาศเม่ือวนั ท่ี 11 พค. 2544 ให้มีการสอนวชิ าโหราศาสตรใ์ นมหาวิทยาลัยได้ วิชาโหราศาสตร์มีหลายระบบและมีความแตกต่างกัน แบ่งออกเป็น โหราศาสตร์ไทย โหราศาสตร์ สากล โหราศาสตรจ์ ีน โหราศาสตรย์ เู รเนียน การพยากรณ์ในโหราศาสตร์ต้องอาศัยโหรผมู้ ีความรู้ความชานาญ ในการผกู ดวงและเปน็ ผู้พยากรณ์เพ่ือตีความหมายเป็นโอกาสของการเกิดเหตุการณต์ ่าง ๆ ในอนาคต โหราศาสตร์ เป็นสาขาหนึ่งของการพยากรณ์และเน่ืองจากการใช้ตาแหน่งของดวงดาวจึงมีความ เก่ยี วข้องกบั วชิ าดาราศาสตร์ ทฤษฎีหรอื หลกั วชิ าท่ีใช้ในการ \"อ่าน\" หรือ \"แปล\" การโคจรของดวงดาว เพ่อื เปน็ การทานายเหตุการณ์ นน้ั ก็มีหลากหลายและแตกต่างกัน สาหรับในประเทศไทย หลักวชิ าที่ใช้ถา่ ยทอดกันกม็ ี โหราศาสตร์ไทย โหราศาสตร์ภารตะ โหราศาสตรพ์ มา่ โหราศาสตร์สากลยูเรเนยี น โหราศาสตร์พาราณสี ทั้งนี้ โหราศาสตร์ไทยกย็ งั แบง่ แยกออกเป็นอีกหลายสานักและหลายสายวิชา เชน่ โหราศาสตร์ไทยสาย วชิ า อ.อรุณ ลาเพญ็ โหราศาตร์ไทยสายสบิ ลคั นา โหราศาสตรไ์ ทยระบบลัคนาจร โหราศาสตร์ไทยสายวิชา อ. ประทปี อัครา โหราศาสตรไ์ ทยสายวชิ า อ.ส.แสงตะวัน โหราศาสตร์ไทยหลักสตู รอินทภาส-บาทจันทร์ และปจั จุบนั สถาบนั เทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจา้ คณุ ทหารลาดกระบัง ได้มีการเปิดการสอนวชิ าเลือกท่ี ชื่อว่า “โหราศาสตร์” ใหแ้ กน่ ักศกึ ษาคณะวศิ วกรรมศาสตร์

. -๓๔6- ๓.๒) ข้ันตอน/วิธีการ/ดาเนินการเกย่ี วกบั ข้อมูล ๔. ชือ่ ผทู้ ่ีถือปฏิบัติและผสู้ บื ทอด ๔.๑ ผทู้ ีถ่ ือปฏบิ ัติ ช่อื ว่าที่ พ.ต สรุ ิยะ กูลพิมาย วนั เดือน ปเี กดิ - ทอ่ี ยู่ 77 หมู่ 1 ตาบลแม่สาย อาเภอแมส่ าย จังหวัดเชียงราย หมายเลขโทรศัพท์ 081 531 9093 ๔.๒ ผสู้ บื ทอด ชื่อ - วนั เดอื น ปเี กดิ - ทีอ่ ยู่ - หมายเลขโทรศัพท์ - ๕. สถำนะ กำรคงอยู่  ปฏิบตั ิอย่างแพรห่ ลาย  เสยี่ งตอ่ การสญู หาย  ไมม่ ีปฏบิ ตั แิ ลว้ ๖. รูปภำพภมู ปิ ัญญำทำงวัฒนธรรม/กจิ กรรมทำงภูมปิ ัญญำทำงวัฒนธรรม

. -๓๔7- แบบสำรวจมรดกภมู ิปัญญำทำงวฒั นธรรมจงั หวดั เชียงรำย ประจำปี ๒๕๖4 สำนกั งำนวฒั นธรรมจงั หวัดเชยี งรำย อำเภอแม่จัน จังหวดั เชียงรำย ๑. ช่ือข้อมลู อาหารชาติพนั ธุไ์ ทยอง ๒. ลกั ษณะ  วรรณกรรมพ้ืนบา้ นและภาษา  ศิลปะการแสดง  แนวปฏบิ ตั ิทางสังคมพิธีกรรม ประเพณี และเทศกาล  อาหาร/ความรู้และการปฏิบตั เิ กีย่ วกบั ธรรมชาตแิ ละจกั รวาล  งานช่างฝีมือด้ังเดิม  การละเล่นพืน้ บา้ น กีฬาพ้ืนบา้ น และศิลปะการตอ่ ส่ปู ้องกนั ตวั ๓. รำยละเอยี ดข้อมลู ๓.๑) ประวัติความเป็นมาของข้อมลู ชาวไทยองนยิ มอาหารประเภทน้าพรกิ แกง ตม้ นง่ึ ป้งิ หมก ยา่ ง ทท่ี าจากพืชผัก เนื้อสตั ว์เชน่ เดียวกับ กลมุ่ ชาตพิ ันธไ์ุ ทยวน เชน่ แกงแคไก่ แกงหยวกกลว้ ย น้าพริกผักนงึ่ จอผักกาด เปน็ ตน้ ซงึ่ เปน็ อาหารท่ีกลา่ วได้ ว่าเป็นเอกลักษณ์ของอาหารล้านนา รับประทานกับข้าวเหนียว ส่วนอาหารเดิมของชาวเมืองยองประเทศพม่า ทสี่ ืบทอดต่อมาถงึ ปจั จบุ ันเป็นอาหารประเภทผักท่หี าได้ตามฤดูกาลในท้องถ่นิ เช่น ผักกดู เตา ใช้ยาหรอื แกง เป็นต้น ๓.๒) ขั้นตอน/วธิ ีการ/ดาเนนิ การเกี่ยวกับขอ้ มลู นำ้ พรกิ นำ้ ผัก น้าพรกิ นา้ ผัก เป็นนา้ พริกที่มีลักษณะขน้ ถึงขลุกขลกิ เป็นอาหารท่ีทามาจากผกั กาดเขยี วแก่ ทง้ั ต้น นามาดองสกั 2 วัน ให้มรี สเปรยี้ ว นิยมรับประทานกับแคบหมูและผักข้ีหูด สว่ นประกอบ 1. ผกั กาดเขียว จานวน 3 ขดี 2. เกลอื เม็ดตาละเอยี ด (ไม่ใช้เกลอื ไอโอดีน) จานวน 1 ช้อนโต๊ะ 3. ขา้ วเหนียวนึง่ จานวน 1 ช้อนโตะ๊ 4. น้าซาวขา้ ว จานวน 1 ถ้วย 5. พรกิ แหง้ จานวน 5 เม็ด 6. กระเทยี ม จานวน 3-5 กลีบ 7. เกลือป่น จานวน 1 ช้อนชา 8. มะแขวน่ จานวน 1 ช้อนชา 9. ต้นหอมผักชซี อย จานวน 1 ชอ้ นโต๊ะ วิธกี ารทา 1. หันผกั กาดเขียวใหล้ ะเอียด 2. นาผักกาดเขยี วไปตากแดดประมาณ 10 นาที เพื่อใหน้ ุ่มกอ่ นนามาขยา 3. ขยาผักกาดเขยี วกับเกลอื เมด็ จนน่ิม 4. ใส่ข้าวเหนียวนง่ึ ลงไป ขยาใหเ้ ข้ากนั 5. ใส่นา้ ซาวข้าว ปดิ ฝา หมักไวป้ ระมาณ 2 วนั 6. หมักผกั กาดเขียวได้ที่แลว้ นาผกั กาดมาตม้ ใหน้ า้ งวดเล็กน้อย ปิดไฟพกั ไวใ้ ห้เย็น

. -๓๔8- 7. โขลกพลิก เกลอื กระเทยี ม และมะแขวน่ รวมกันใหล้ ะเอียด 8. ใสเ่ ครื่องปรุงทโี่ ขลกแล้วลงในน้าผัก คนใหเ้ ข้ากนั โรยดว้ ยต้นหอมผกั ชีซอย ยำผักกำดใส่ผักปู่ย่ำ ส่วนประกอบ 1. ผักกาด จานวน 3 ขีด 2. ผกั ปยู่ า่ จานวน 1 กามือ 3. มะกอก หรือมะนาว จานวน 1 ลูก 4. ปลานิล จานวน 1 ตัว 5. ตะไคร้ จานวน 5 หวั 6. รากผักชี จานวน 5 ราก 7. เกลอื จานวน 1 ช้อนโตะ๊ 8. กะปิ จานวน 1 ชอ้ นโต๊ะ 9. กระเทียม จานวน 5 กลบี 10. พริกหนมุ่ ยา่ งไฟ จานวน 3-5 เม็ด 11. ตน้ หอมผกั ชซี อย จานวน 1 ชอ้ นโต๊ะ วิธีการทา 1. เดด็ ผกั ป่ยู ่าซอยรวมกนั กบั ผกั กาด 2. ตง้ั น้าเดอื ด นาเน้ือปลานลิ ตะไคร้ รากผกั ชี และกะปิ ลงไปตม้ พรอ้ มกนั 3. แกะเนือ้ ปลาทต่ี ้มสกุ แล้ว (เอากางปลาออกให้หมด) 4. โคลกพรกิ หน่มุ ย่างไฟ เกลือ กระเทียมเขา้ ด้วยกัน 5. นาเนอ้ื ปลาทแ่ี กะแล้วโคลกกับนา้ พริก ตาจนเนื้อเข้ากันละเอียดพอควร 6. นาน้าพริกทตี่ าพร้อมกับเน้ือปลามาคลุกเคลา้ กบั ผักปู่ยา่ และผักกาดทซ่ี อยไว้ใหเ้ ข้ากัน 7. ปรงุ รสด้วยมะกอก หรอื มะนาว พร้อมด้วยเกลือเล็กน้อย โรยด้วยต้นหอมผกั ชซี อย ผกั กำดจอ ผักกาดจอ จอผักกาด เป็นตารับอาหารท่ีใช้ผักกาดกวางตุ้งท่ีกาลังออกดอก หรือเรียกว่า ผักกาดจ้อน หรือผักกาดดอก ซ่ึงปรุงด้วย เกลือ กะปิ ปรุงรสด้วยน้ามะขามเปียกหรือมะขามสด ใส่กระดูกหมู ซึ่งบางแห่งนยิ มใสน่ า้ ออ้ ย ลงไปด้วย บางสตู รใส่ถวั่ เน่าแขบ็ หรือถ่ัวเน่าแผน่ ย่างไฟ นยิ มรบั ประทานกับพริกแห้ง ทอด ตัดเปน็ ทอ่ น โรยหน้าแกง หรอื รับประทานตา่ งหากแลว้ แต่ชอบ ส่วนประกอบ 1. ผักกาดกวางตุ้ง จานวน 1 กโิ ลกรมั 2. ซ่โี ครงหมู จานวน 400 กรัม 3. หอมแดง จานวน 5 หัว 4. กระเทียม จานวน 10 กลบี 5. ถ่วั เน่า จานวน 2 แผน่ 6. กะปิ จานวน 2 ช้อนโตะ๊ 7. นา้ มะขามเปียก จานวน 3 ช้อนโต๊ะ 8. เกลอื ปน่ จานวน 1 ชอ้ นชา

. -๓๔9- วธิ ีการทา 1. ต้มนา้ จนเดอื ด ใสซ่ ี่โคลงหมูลงไป ต้มจนหมสู ุก 2. โขลกกระเทยี ม หอมแดง กะปิ เกลือ ถวั่ เน่า รวมกนั ให้ละเอยี ด ใส่ลงในหมอ้ 3. เดด็ ผักกาด ใส่ผกั กาดลงไปในหมอ้ 4. ใส่น้ามะขามเปียก คนให้ท่ัว ปิดไฟ 5. โรยด้วยตน้ หอมผกั ซี พริกทอด ควั่ ถั่วเน่ำ ค่ัวถั่วเน่า เปน็ อาหารที่ทามากจากถั่วเหลอื งต้มเป่ือยหมัก และนามาโขลกใหล้ ะเอยี ด ห่อใบตอง และย่างไฟ สว่ นประกอบ 1. ถว่ั เนา่ จานวน 1 ถว้ ย 2. ไขไ่ ก่ จานวน 3 ฟอง 3. หอมแดง จานวน 5 หวั 4. ข่าหน่ั จานวน 10 แว่น 5. ตระไครห้ ัน จานวน 2 ช้อนโต๊ะ 6. ใบมะกรูดซอย จานวน 2 ชอ้ นโตะ๊ 7. พรกิ ปน่ จานวน 2 ชอ้ นโต๊ะ 8. เกลือ จานวน 1 ชอ้ นชา 9. กระเทยี มสบั จานวน 1 ชอ้ นโตะ๊ 10. น้ามันพืช จานวน 3 ชอ้ นโตะ๊ วธิ กี ารทา 1. โขลกเกลอื ขา่ ตระไคร้ รวมกนั ให้ละเอียด 2. ใสห่ อมแดง พริกป่น โขลกรวมกันใหล้ ะเอียด 3. ใส่ใบมะกรูด โขลกจนใบมะกรดู ละเอียด 4. ใส่ถวั่ เนา โขลกจนส่วนผสมเข้ากนั 5. เจียวกระเทยี มกนั นา้ มัน ใสส่ ่วนผสมทโี่ ขลกลงผัดใหห้ อม 6. ใสไ่ ข่ไก่ ผดั ใหเ้ ข้ากนั 7. ผัดตอ่ จนไข่ไก่สกุ ปิดไฟ ๔. ช่อื ผ้ทู ี่ถือปฏิบัติและผสู้ บื ทอด ๔.๑ ผู้ทถ่ี อื ปฏิบัติ ชอ่ื นางสงั เวยี น ปรารมภ์ วนั เดือน ปเี กดิ - ทอี่ ยู่ ๑๑๓ หมู่ ๑๒ ตาบลจันจว้าใต้ อาเภอแมจ่ ัน จังหวดั เชยี งราย หมายเลขโทรศัพท์ 086 922 5679 ๔.๒ ผู้สบื ทอด ช่ือ นายอานนท์ ใจลังกา วนั เดอื น ปเี กดิ 26 มีนาคม 2533 ท่อี ยู่ 53 หมู่ 12 ตาบลจนั จวา้ ใต้ อาเภอแม่จัน จงั หวดั เชียงราย หมายเลขโทรศัพท์ 064 879 9443

. -๓๕0- ๕. สถำนะ กำรคงอยู่  ปฏิบตั ิอย่างแพร่หลาย  เสี่ยงตอ่ การสูญหาย  ไมม่ ีปฏบิ ตั แิ ลว้ ๖. รปู ภำพภูมปิ ัญญำทำงวัฒนธรรม/กจิ กรรมทำงภูมปิ ัญญำทำงวฒั นธรรม การทาน้าพริกนา้ ผัก ยาผกั กาดใสผ่ กั ป่ยู ่า

. -๓๕1- การทาคั่วถั่วเน่า การทาจอผกั กาด

. -๓๕2- อาหารขันโตกชาติพันธ์ไุ ทยอง

. -๓๕3- แบบสำรวจมรดกภมู ปิ ัญญำทำงวฒั นธรรมจงั หวดั เชียงรำย ประจำปี 2565 สภำวัฒนธรรมจงั หวัดเชยี งรำย อำเภอเชียงแสน จงั หวดั เชียงรำย 1. ช่ือข้อมูล ปลากระบอก 2. ลักษณะ  วรรณกรรมพน้ื บ้านและภาษา  ศิลปะการแสดง  แนวปฏบิ ตั ิทางสังคมพิธีกรรม ประเพณี และเทศกาล  อาหาร/ความรู้และการปฏบิ ัติเกีย่ วกบั ธรรมชาติและจักรวาล  งานช่างฝมี อื ดัง้ เดมิ  การละเลน่ พ้ืนบ้าน กีฬาพ้นื บา้ น และศิลปะการตอ่ สูป่ ้องกนั ตัว 3. รำยละเอียดขอ้ มูล 3.1 ประวตั ิความเป็นมาของข้อมูล ในอดีตคนเหนือสมัยโบราณไม่มีตู้เย็น และอุปกรณ์อย่างเช่น ปิ่นโตหรือภาชนะใส่อาหาร ห่อข้าวปลา อาหารไปทาไร่ทานา ทาสวน ปลาเม่ือสมัยก่อน 50 ปีให้หลังแต่ละแม่น้าจะมีปลามากมาย โดยเฉพาะ “ปลาช่อน” ซ่ึงเมื่ออยู่บนดอยไปทาไร่ก็มักจะนาไม้ไผ่มาตัดเป็นปล้อง แล้วจึงนาปลาช่อนใส่เข้าไปในกระบอก ไมไ่ ผ่ สามารถพกพาหรือเก็บไวก้ ินมอื้ อ่นื ๆ ได้อีก โดยชาวบา้ นกจ็ ะพกแตพ่ ริก เกลือ หอม ตะไคร้ เพอื่ ไว้ปรุงรส ปลากระบอก ถึงปจั จุบันนไ้ี ด้นา เมนูนีอ้ อกมาจาหนา่ ยแถวรมิ แมน่ า้ โขง และปรงุ รส เพื่อเสรมิ รสชาติให้อร่อยมากย่งิ ขึน้ วสั ด/ุ อุปกรณ์ - ไมไ้ ผ่บง (ซาง) - ไม้ไผ่ซาง - ไม้ขา้ วหลาม เน่ืองจากการใช้อุปกรณ์วัสดุที่แตกต่างกัน ทาให้รสชาติไม่เหมือนกัน รสแกงพริกป่าจะนิยมใช้ไม้ไผ่บง (ซาง) รสพริกแกงส้ม เฉพาะไม้บง แกงเผ็ดจะมีกะทิ นิยมใช้ไม้ข้าวหลาม แต่ละชนิดของไม้ไผ่ รสชาติจะต่าง ๆ กันไป จะทากนิ กันแทบจะทุกบ้าน ทุกครวั เรอื นในเมืองเชยี งแสน เมนูสุดเด็ด ของเมืองเชียงแสนแห่งนี้ พลาดไม่ได้เลยคือ ปลาช่อนกระบอกไม้ไผ่ เผาร้อน ๆ มีความ แปลกและรสชาติท่ีเด่น จนเป็นท่ีรู้จักอย่างแพร่หลาย โดยการนาอาหารคือปลา มาบรรจุไว้ในกระบอกไม้ไผ่ แลว้ นามาเผาให้สกุ ทาใหม้ กี ล่ินทห่ี อม 3.2 ขน้ั ตอน วธิ ีการดาเนนิ การเกีย่ วกบั ขอ้ มูล เครื่องแกง ประกอบด้วย พริกแห้ง กระเทียม หอมแดง ตะไคร้ ข่า ขมิ้น รากผักซี กะปิ เกลือ วัตถุดบิ ได้แก่ ปลาชอ่ น วธิ ที าปลากระบอก 1. ขอดเกล็ดปลาช่อนและควกั ไส้พุง 2. จากนั้นนาเกลือตามด้วยพริกแห้ง กะปิ ขม้ิน หอมแดงห่ัน ตะไคร้ห่ัน กระเทียม คนอร์ก้อน ใสล่ งไปในครกแลว้ ตา 3. จากนั้นนาปลาทเ่ี ราเอาเกล็ดออกมาปาดตามขวาง ตามลาตัวของปลาช่อน 4. จากน้นั นาพรกิ แกงทเี่ ราตาในครกมาคลุกเคล้ากบั ปลาชอ่ นทเี่ ตรยี มไว้ 5. ผสมผสานใบหยีล่ ่าลงไป 6. นากระบอกไมไ้ ผ่ซางมาแลว้ ใส่ปลาชอ่ นทีไ่ ด้ผสมผสานเครื่องแกงลงไปในกระบอกไม้ไผ่ซาง 7. จากนน้ั นาใบเตยมาปดิ ปากกระบอกไมไ้ ผ่ซางไว้ 8. จากน้ันปิดด้วยในตองอกี หน่ึงชั้น 9. แล้วนาไปอังไฟใหส้ ุก (เผาไฟเหมือนข้าวหลาม)อมกาลงั ดี แล้วนามาปรงุ เป็นกับขา้ วต่อไป

. -๓๕4- ๔. ชอ่ื ผ้ทู ี่ถือปฏิบตั แิ ละผู้สบื ทอด ๔.๑ ผ้ทู ่ถี ือปฏิบตั ิ ช่อื นายรัตเขต ฐานะมูล วนั เดือน ปเี กดิ - ที่อยู่ 273 หมู่ 7 ตาบลป่าสัก อาเภอเชียงแสน จังหวดั เชยี งราย หมายเลขโทรศัพท์ - ๔.๒ ผสู้ บื ทอด ชอ่ื สภาวฒั นธรรมตาบลปา่ สกั และสภาวัฒนธรรมอาเภอเชยี งแสน วนั เดอื น ปเี กดิ - ทอ่ี ยู่ - หมายเลขโทรศัพท์ - 5. สถำนกำรณค์ งอยู่  ปฏิบัติอยา่ งแพรห่ ลาย  เสีย่ งตอ่ การสญู หาย  ไม่มปี ฏิบตั แิ ลว้ 6. รปู ภำพปัญญำทำงวัฒนธรรม/กจิ กรรมทำงภูมปิ ญั ญำทำงวัฒนธรรม

. -๓๕5- แบบสำรวจมรดกภมู ปิ ัญญำทำงวัฒนธรรมจังหวดั เชียงรำยประจำปี ๒๕๖๕ สภำวัฒนธรรมจังหวดั เชยี งรำย อำเภอแม่สรวย จังหวัดเชยี งรำย ๑. ชื่อข้อมูล หลามบอน (แกงบอน) ๒. ลักษณะ  วรรณกรรมพืน้ บ้านและภาษา  ศิลปะการแสดง  แนวปฏบิ ัตทิ างสังคมพธิ ีกรรม ประเพณี และเทศกาล  อาหาร/ความรู้และการปฏบิ ัติเกย่ี วกับธรรมชาตแิ ละจกั รวาล  งานช่างฝีมอื ดงั้ เดิม  การละเล่นพ้นื บ้าน กีฬาพ้ืนบา้ น และศลิ ปะการต่อสูป่ ้องกันตวั ๓. รำยละเอยี ดข้อมูล ๓.๑) ประวตั ิความเปน็ มาของข้อมลู หลามบอน ภาษากลางเรยี กว่า แกงบอล เป็นอาหารพน้ื บ้านอกี ชนิดหนึง่ ของภาคเหนือที่คนเหนอื ตา่ ง รูจ้ กั กันดี เป็นอาหารทม่ี รี าคาถกู แตร่ สชาติอร่อย บอน พืชชนิดหนึ่งท่ีข้ึนตามลาห้วยริมหนองน้าเป็นพืชล้มลุกอวบน้ามีหัวใต้ดินใบรูปไข่แกมรูปหัวใจ ปลายใบแหลมหรือมน คนภาคเหนือนยิ มใชท้ าอาหารเขาเรยี กว่าบอนเขยี วเปน็ ยาเย็นเสน้ ใยของบอนเขยี วช่วย ในกำรดูดซับกำรกลำยพันธุ์และฤทธิ์กำรยับยั้งกำรเจริญเติบโตของเนื้องอก ในแกงบอนยังมีสมุนไพรหลาย ชนิดเช่นใบมะกรูดอุดมสมบูรณ์ไปด้วยเบต้าแคโรทีนป้องกันการเกิดมะเร็งแก้ไข้แก้ช้าใน หอมแดงบรรเทา อาการหวัดแก้หอบหืดรักษาแผลในกระเพาะ ยอดส้มป่อยลดเสมหะลดความอ้วนแก้ไอ ข่าแก้ลมพิษช่วยย่อยอาหาร ฯลฯ และสมุนไพรอื่นๆอีกมากมาย อาหารเหนือมักจะอุดมสมบูรณ์ไปด้วยสมุนไพรหลากหลายชนิดทุกอย่าง ลว้ นมีประโยชน์ต่อร่างกายทั้งนนั้ ๓.1) ขน้ั ตอน/วธิ กี าร/ดาเนินการเก่ียวกบั ขอ้ มูล ส่วนประกอบ 1. บอนตน้ อ่อน 2. หหู มู 3. ข่า 4. กระเทยี ม 5. พรกิ แห้งผิงไฟ 6. หอมแดง 7. กะปิ 8. ใบมะกรูด 9. ยอดส้มป่อยหรือมะขามเปียก 10. เกลอื 11. น้ามันพชื วิธที ำ 1. นาเย่อื สเี ขยี วทห่ี ุ้มตน้ ของบอนออก หักเป็นท่อนลา้ งให้สะอาด 2. นาบอน ขา่ หั่น หหู มซู อย ยอดสม้ ป่อยไปนง่ึ ให้สกุ ประมาณ 30 นาทีจนเละพักทง้ิ ไว้ 3. โขลกหรือตาเครื่องแกงให้ละเอยี ด (พริกแหง้ ท่ีผิงไฟ กระเทยี ม หอมแดง กะปิ) 4. ตง้ั กระทะเจยี วกระเทยี มให้เหลอื งหอม ตักกระเทยี มเจียวออกพกั ทิง้ ไว้ 5. ผัดเคร่อื งแกงท่โี ขลกไว้ท้งั หมดใหห้ อม นาส่วนประกอบท่นี ่งึ ทัง้ หมดมาผัดรวมกนั 6. ใส่ใบมะกรูดฉีกละเอียดผดั รวมกนั 7. ปรงุ รสตามชอบ (เกลือ) 8. ตกั ใสถ่ ว้ ยนากระเทยี มเจียววางไวด้ า้ นบน

. -๓๕6- ๔. ชื่อผ้ทู ี่ถือปฏิบัติและผ้สู ืบทอด ๔.๑ ผู้ทีถ่ ือปฏบิ ัติ ชอ่ื - วัน เดือน ปีเกิด - ท่อี ยู่ หมู่ 3 ตาบลเจดยี ์หลวง อาเภอแมส่ รวย จังหวัดเชียงราย หมายเลขโทรศัพท์ - ๔.๒ ผู้สบื ทอด ชื่อ - วนั เดือน ปีเกิด - ท่อี ยู่ - หมายเลขโทรศัพท์ - ๕. สถานะการคงอยู่  ปฏิบัติอยา่ งแพร่หลาย  เสีย่ งตอ่ การสูญหาย  ไมม่ ปี ฏบิ ตั ิแลว้ ๖. รูปภำพภมู ิปัญญำทำงวัฒนธรรม/กจิ กรรมทำงภูมิปัญญำทำงวฒั นธรรม

. -๓๕7- แบบสำรวจมรดกภมู ปิ ญั ญำทำงวัฒนธรรมจังหวัดเชยี งรำย ประจำปี 2565 สภำวัฒนธรรมจงั หวัดเชยี งรำย อำเภอเวยี งปำ่ เป้ำ จงั หวดั เชยี งรำย ๑. ช่ือข้อมลู จิ้นส้ม ๒. ลักษณะ  วรรณกรรมพน้ื บา้ นและภาษา  ศิลปะการแสดง  แนวปฏบิ ตั ทิ างสงั คมพิธีกรรม ประเพณี และเทศกาล  อาหาร/ความรแู้ ละการปฏิบตั เิ กย่ี วกบั ธรรมชาตแิ ละจักรวาล  งานชา่ งฝมี อื ด้ังเดมิ  การละเลน่ พ้ืนบา้ น กีฬาพ้ืนบ้าน และศลิ ปะการตอ่ ส่ปู ้องกันตัว ๓. รำยละเอียดข้อมลู ๓.๑) ประวตั คิ วามเป็นมาของขอ้ มูล “จิ้นส้ม” เป็นการถนอมอาหารอย่างหนึ่ง เป็นองค์ความรู้ทางการปฏิบัติในวิถีชีวิตของคนล้านนา เกี่ยวกับการถนอมอาหารให้อยู่ได้หลายวันด้วยการหมัก เป็นชื่อเรียกเฉพาะ เป็นอาหารประจาเอกลักษณ์ ของคนล้านนา ทั้งเป็นอาหาร อาหารว่าง ของฝาก และสามารถแปรรูปได้หลายๆ วิธี ท้ังนาไปประกอบ อาหารในสตู รตา่ ง ๆ ได้หลายสตู รเป็นทน่ี ยิ ม “จ้ินส้ม” สามารถหมักด้วยเนื้อหมู, ควาย, และอ่ืน ๆ เช่น จ้ินส้มหมู จิ้นส้มควาย จ้ินส้มเห็ด ฯลฯ “จิ้นส้ม” บรรจุหีบห่อด้วยใบตองสด มัดให้แน่นด้วยตอก จัดเก็บเป็นระเบียบด้วยการมัดรวมกลุ่มเป็นพุ่ม ทีละหลาย ๆ หอ่ “จิ้นส้มแม่ขะจำน” มีชื่อเสียงที่ได้รับความนิยม โดยผู้ประกอบการเจ้าของผลิตภัณฑ์จานวนมากได้ นาไปจดทะเบียนต้ังเป็นกลุ่มวิสาหกิจ เป็นเครือข่ายทางวัฒนธรรม และมีการวางจาหน่ายจนเป็นของฝาก ทข่ี ึน้ ช่ือของอาเภอและจังหวัด 3.2) ข้ันตอน/วธิ ีการ/ดาเนินการเกี่ยวกับขอ้ มลู นาเน้ือหมูมาสับให้ละเอียดแล้วคลุกเคล้าด้วยข้าวเหนียว กระเทียม เกลือ ดินปะสิว พริกสด และ แต่งดว้ ยหนังหมูสดทซี่ อย-หัน่ เปน็ ชิน้ ยาว ๆ บาง ๆ และพริกขีห้ นูสด เม่ือคลุกเคล้าพร้อมเข้ากันดีแล้ว นามาห่อด้วยใบตองสด ด้วยหน้าตาที่สวยงามมัดให้แน่นด้วยตอก ทิง้ ไว้ 2-3 วัน จะมีรสเปร้ียวนิด ๆ นามาประกอบอาหารไดห้ ลายอยา่ ง ๔. ช่ือผทู้ ถ่ี ือปฏบิ ัติตำมและสืบทอด 4.1 ผ้ทู ่ถี ือปฏบิ ตั ิ ชอ่ื แม่อยุ้ ตาล ใจดี วัน เดือน ปี เกดิ - ท่ีอยู่ 296 หมู่ 1 ตาบลแม่เจดยี ์ อาเภอเวียงปา่ เป้า จงั หวดั เชยี งราย หมายเลขโทรศัพท์ - 4.2 ผ้สู บื ทอด ชอื่ นางอาไพรตั น์ พรหมเทศ วัน เดือน ปีเกิด 5 กรกฎาคม 2496 ทอ่ี ยู่ 505 หมู่ 1 ตาบลแม่เจดีย์ อาเภอเวียงปา่ เปา้ จังหวัดเชียงราย หมายเลขโทรศัพท์ 085 718 9615

. ไมป่ ฏบิ ตั แิ ลว้ -๓๕8- ๕. สถำนะ กำรคงอยู่  ปฏิบตั ิอยา่ งแพร่หลาย เส่ียงตอ่ การสูญหาย ๖. รูปถำ่ ยภูมิปัญญำทำงวฒั นธรรม/กจิ กรรมทำงภมู ปิ ัญญำทำงวัฒนธรรม

. -๓๕9- แบบสำรวจมรดกภมู ิปญั ญำทำงวฒั นธรรมจังหวัดเชียงรำย ประจำปี 2565 สภำวัฒนธรรมจังหวัดเชยี งรำย อำเภอพำน จงั หวัดเชยี งรำย ๑. ช่ือข้อมลู ภูมปิ ญั ญาชาวบา้ นด้านการแพทย์พ้ืนบา้ น (หมอเมือง) ๒. ลกั ษณะ  วรรณกรรมพนื้ บ้านและภาษา  ศิลปะการแสดง  แนวปฏบิ ตั ทิ างสงั คมพิธีกรรม ประเพณี และเทศกาล  ความรู้และการปฏิบตั ิเก่ียวกับธรรมชาตแิ ละจกั รวาล  งานชา่ งฝีมือดง้ั เดมิ  การละเลน่ พืน้ บ้าน กีฬาพืน้ บา้ น และศิลปะการต่อสปู่ ้องกันตัว ๓. รำยละเอยี ดข้อมูล ๓.๑) ประวัตคิ วามเปน็ มาของข้อมูล นายบุญทา อปุ ระเสน ได้มคี วามสนใจเรยี นร้เู ก่ยี วกับการรักษาอาการด้วยภมู ปิ ัญญาการแพทย์พ้ืนบ้าน ตงั้ แตอ่ ายุ 10 ขวบ เนื่องจากได้รับการรกั ษาอาการเจ็บป่วยจนหายดี จงึ ได้เกดิ ศรัทธาอยากเรียนรู้ จนเกิดความ เชี่ยวชาญมรดกภูมิปัญญาประเภทการแพทย์พ้ืนบ้านและดนตรีพื้นบ้าน ด้านพืชสมุนไพรพื้นบ้าน การปรุงยา สมุนไพรรักษาโรค การเป่าคาถา รักษาอาการเจ็บป่วย การตอกเส้น การย่าขาง การอบสมุนไพร การบรรจุ สมุนไพรแบบสมัยปัจจุบัน ด้านดนตรี การเล่นเคร่ืองดนตรี สะล้อ ซอ ซึง ระนาด ฆ้องวง กลองตะโพนมอญ การเปา่ แน การเปา่ ขล่ยุ การเป่าป่ี การเปา่ ทรัมเปท็ 3.2) ข้นั ตอน/วิธกี าร/ดาเนนิ การเกยี่ วกับขอ้ มูล นายบุญทา อุปเสน ได้เปิดบ้านเป็นศูนย์การเรียนรู้ตาบลป่าหุ่ง เพ่ือให้ผู้สนใจได้เข้าไปเรียนรู้ ศึกษา ณ บา้ นเลขที่ 119 หมู่ 1 ตาบลป่าหงุ่ อาเภอพาน จังหวดั เชียงราย ๔. ช่อื ผทู้ ี่ถือปฏิบตั ติ ำมและสืบทอด 4.1 ผทู้ ี่ถือปฏิบัติ ช่ือ นายบญุ ทา อุปเสน วัน เดอื น ปี เกิด ๘ เมษายน ๒๔๘๑ ท่ีอยู่ 119 หมู่ 1 ตาบลป่าห่งุ อาเภอพาน จงั หวัดเชียงราย หมายเลขโทรศัพท์ 081 025 6743 4.2 ผู้สบื ทอด ชอ่ื นายธวัชชยั ยอดแกว้ (หมอเมือง สาขาสมุนไพร) วัน เดอื น ปี เกิด ๒๔๙๐ ทอี่ ยู่ 119 หมู่ 1 ตาบลปา่ หุ่ง อาเภอพาน จงั หวดั เชยี งราย หมายเลขโทรศัพท์ 063 841 8935 ๕. สถำนะ กำรคงอยู่ ปฏบิ ตั อิ ยา่ งแพรห่ ลาย  เส่ียงตอ่ การสญู หาย ไมป่ ฏิบัตแิ ล้ว

. -๓๖0- ๖. รปู ถำ่ ยภูมปิ ญั ญำทำงวฒั นธรรม/กจิ กรรมทำงภูมปิ ัญญำทำงวัฒนธรรม

. -361- แบบสำรวจมรดกภมู ิปญั ญำทำงวฒั นธรรมจังหวดั เชียงรำยประจำปี ๒๕๖๕ สภำวัฒนธรรมจงั หวัดเชยี งรำย อำเภอเวียงปำ่ เปำ้ จงั หวดั เชียงรำย ๑. ชือ่ ข้อมลู ขา้ วปกุ (ออฝุ) ๒. ลกั ษณะ  วรรณกรรมพืน้ บา้ นและภาษา  ศิลปะการแสดง  แนวปฏบิ ตั ิทางสังคมพธิ ีกรรม ประเพณี และเทศกาล  อาหาร/ความรูแ้ ละการปฏบิ ัติเก่ียวกบั ธรรมชาติและจักรวาล  งานช่างฝมี อื ดั้งเดิม  การละเล่นพืน้ บ้าน กีฬาพ้ืนบ้าน และศลิ ปะการต่อสปู่ ้องกนั ตัว ๓. รายละเอียดข้อมลู ๓.๑ ประวัตคิ วามเป็นมาของขอ้ มลู ข้าวปุก เปน็ ของอาหารเปน็ ขนมชาวลาหู่ หรือ ชาวมเู ซอ มีลกั ษณะเหมือนข้าวคลุกงาน หรือ ข้าวนุงา ของชาวพ้ืนราบ แต่มีความแตกต่างตรงข้าวปุกต้องตาให้ละเอียด มีงาดาหรืองาขาวเป็นตัวช่วยเพิ่มรสชาติ และตาง่ายเน่ืองจากในงาจะมีน้ามันงาน เป็นอาหารท่ีชาวลาหู่นิยมทาต้อนรับแขกผู้มาเยือน ในเทศกาลปีใหม่ (กนิ วอ) จะหาทานไม่ได้ง่าย ตอ้ งรอเทศกาลถึงมีใหไ้ ดร้ ับประทาน จะมลี กั ษณะเหมือน หรือ ขา้ วปน้ั ขนาดใหญ่ แต่สาหรับชาวลาหู่แล้ว ข้าวปุกเป็นกับข้าวหรือเป็นขนม ประเภทข้าวป่ันที่จะรับประทานกับนมสด น้าผ้ึง นา้ อ้อย เพอ่ื เพิม่ รสชาตใิ ห้อาหารดว้ ย โดยสรุปคือ มีข้าวเหนียว งา ผสมกันกลายเป็นข้าวปุก ซึ่งเป็นอาหารท่ีมีท่ีมาสะท้อนให้เห็นถึงวิถีชีวิต ที่เรียบง่าย มีคุณค่าทางอาหาร อิ่ม อร่อย รับประทานได้ง่าย ทานดิบตอนข้าวปุกอ่อน ๆ หรือจะซอยเป็นแผ่น ๆ นาไปทอดกับน้ามัน จะได้ข้าวปุกทอดทาง่าย ๆ แต่แฝงไปด้วยความเอาใจใส่ความสามัคคีที่แสดงออกมาของชาวลา หู่ ข้าวปุก หรือ ออฝุ ซ่ึงมีความสาคัญต่อจิตใจงานสาคัญ เช่น ปีใหม่ ของชาวลาหู่ ที่มักจะมี “ออฝุ” (ข้าวปุก) เป็นองค์ประกอบของอาหารม้ือดังกล่าวเสมอ ข้าวปุก หรือ ออฝุ จึงไม่ใช่เพียงอาหารแต่เป็นส่ิง ท่ีช่วยแก้ปัญหาความอดอยากให้แต่ชาวลาหู่ในช่วงเวลาน้ัน อาหารง่ายๆ แต่ได้ช่วยเหลือชีวิตของชาวลาหู่ สะท้อนถึงชีวิตที่เรียบง่ายแต่แฝงไปด้วยความรักและความสามัคคีของชาวลาหู่ แสดงออกมาผ่านอาหาร แห่งชาติพันธ์ุ ๓.๒ ข้ันตอน/วธิ ีการ/ดาเนินการเกยี่ วกับขอ้ มลู ส่วนประกอบ ❖ ขา้ วเหนียว หรือ ข้าวกา่ ❖ งา (งาขาว งาดา ) ขั้นตอนกำรทำ ๑. แช่ข้าวคา้ งคืน นง่ึ ขา้ วเหนียวใหส้ กุ 2. ลา้ งงาให้สะอาด คั่วงาให้สกุ นามาตาในครกใหล้ ะเอยี ด ๓. ใส่ภาชนะครกกระเด่ือหรือใส่ถุงสะอาดตาให้ละเอียดผสมงาเพื่อให้ข้าวตาง่ายไม่ติดภาชนะ ตาละเอยี ดแล้วปนั้ เปน็ ลกู กลมใหไ้ ดท้ รงสวยงาม (พอ่ แมม่ ักปลกู ฝังให้ลูกสาวป้ันได้ทรงสวยงามมักจะบอกกับลูก สาวว่าปนั้ ขา้ วปกุ สวยอนาคตได้ลูกสาวนา่ รกั )

. -36๒- ชาวลาหู่จะมีวัฒนธรรมการกินท่ีไม่เน้นการประกอบอาหารที่ไม่ยุ่งยาก ใช้วัตถุดิบในการปรุงอาหาร ตามธรรมชาติทมี่ ใี นท้องถิ่นเป็นสาคัญ โดยเน้นขา้ วเหนียว งา เป็นสาคัญ ข้าวปุก จะมีหน้าตาเหมือนกับข้าวปั้น แต่เวลาทอดรับประทานจะยืดได้มีความเหนียวอ่อนนุ่มมาก มคี วามแตกตา่ งความพิเศษ คือ ขา้ วปุกลาหู่ไมผ่ สมเกลอื ๔. ชอื่ ผูท้ ่ีถอื ปฏิบัติและผสู้ บื ทอด นางสาวพัชรี ภัทรเสถียรชยั ๔.๑ ผู้ที่ถือปฏบิ ตั ิ ๒๕๓๑ (๑) ชื่อ 1๓๗ หมู่ ๙ ตาบลเวยี ง อาเภอเวยี งป่าเปา้ จงั หวัดเชยี งราย วัน เดือน ปีเกิด 082 186 8628 ที่อยู่ นายพิภพ ไทยวิจิตรกร หมายเลขโทรศพั ท์ ๒๕๑๑ (๒) ชอ่ื หมู่ ๙ ตาบลเวยี ง อาเภอเวียงปา่ เป้า จังหวดั เชยี งราย วัน เดือน ปเี กดิ ทีอ่ ยู่ - หมายเลขโทรศัพท์ ๔.๒ ผู้สบื ทอด - ช่ือ - วนั เดอื น ปเี กิด - ท่ีอยู่ - หมายเลขโทรศัพท์ ๕. สถานะการคงอยู่  ปฏิบตั อิ ยา่ งแพรห่ ลาย  เส่ยี งต่อการสูญหาย  ไม่มปี ฏิบัติแลว้ ๖. รปู ภาพภมู ิปัญญาทางวัฒนธรรม/กิจกรรมทางภูมิปัญญาทางวัฒนธรรม

. -363- แบบสำรวจมรดกภมู ปิ ญั ญำทำงวฒั นธรรมจังหวัดเชยี งรำย ประจำปี 2565 สภำวฒั นธรรมจังหวัดเชยี งรำย อำเภอแม่สำย จงั หวัดเชยี งรำย ๑. ชื่อข้อมูล การแพทย์แผนไทย และการแพทย์พ้ืนบ้านไทย ๒. ลักษณะ  วรรณกรรมพน้ื บา้ นและภาษา  ศลิ ปะการแสดง  แนวปฏบิ ตั ิทางสังคมพิธีกรรม ประเพณี และเทศกาล  อาหาร/ความรูแ้ ละการปฏิบัตเิ กย่ี วกับธรรมชาตแิ ละจกั รวาล  งานชา่ งฝีมือด้งั เดมิ  การละเล่นพื้นบา้ น กีฬาพื้นบา้ น และศิลปะการตอ่ สปู่ ้องกันตวั ๓. รำยละเอยี ดขอ้ มลู ๓.๑) ประวัติความเป็นมาของข้อมลู การแพทย์แผนไทย และการแพทย์พ้ืนบ้านไทย เดิม ได้เรียนรู้และสืบทอดมาจากพ่อแม่ท่ีมีความรู้ใน การบาบัดรักษา และป้องกันโรค ในสมัยอดีตสมัยโบราณท่ีผ่าน มา เช่น การปวดเมื่อยตามร่างกาย การมีอาการ เจ็บป่วย เป็นไข้ ปวดท้อง ท้องเสีย หรือ กล้ามเนื้ออ่อนแรง เป็นอัมพฤษ์ อัมพาต ตลอดจนการใช้ สมุนไพร เป็นยารักษาโรคในการรักษาคนในชุมชน หลังจากนั้นได้มีการเพ่ิมทักษะการเรียนรู้ โดยได้ไปเรียนการแพทย์ พ้ืนบ้านท่ีจังหวัดลาพูน เรียนรู้จากการรักษาบาบัดโรคจากการฝังเข็มท่ีอาเภอเทิง จังหวัดเชียงราย อีกทั้งเป็น อาสาสมคั รสาธารณสขุ ในหมบู่ ้าน โดยนาความรู้มาประยุกตใ์ ชก้ บั การรักษาโรคทางการแพทย์ในปัจจบุ นั 3.2 ขัน้ ตอน/วธิ กี าร/ดาเนนิ การเกย่ี วกบั ข้อมูล เรม่ิ ต้นจากการเรียนรู้จากพ่อและแม่ ในการใช้ภูมิปัญญาท้องถิ่น รกั ษาคนในหมูบ่ ้าน ตลอดจนมีหมอเมือง มารักษาพ่อแม่ท่ีป่วย หลังจากน้ัน ได้เรียนรู้เพิ่มเติมจากการไปศึกษาแหล่งความรู้ในที่ต่าง ๆ ท้ังในจังหวัดและ ต่างจังหวัด เช่น การเรียนรู้แพทย์พ้ืนบ้าน การเรียนรู้การนวดเส้น การเรียนรู้สมุนไพรในการบาบัดรักษาโรค การเรียนรู้การรักษาโรคโดยวิธกี ารฝังเข็ม ณ ปัจจุบัน ได้ก่อตั้งเป็นชมรมฮอมผญ๋า หมู่ 6 ตาบลโป่งงาม อาเภอ แม่สาย จังหวดั เชยี งราย 4. ช่อื ผู้ที่ถอื ปฏบิ ัตแิ ละผ้สู บื ทอด 4.1 ผู้ทถ่ี อื ปฏิบัติ ช่ือ นางปาริชาติ บญุ ธมิ า วัน เดือน ปีเกดิ 29 มนี าคม 2502 ทอ่ี ยู่ 22 หมู่ 6 ตาบลโปง่ งาม อาเภอแมส่ ายจงั หวดั เชยี งราย หมายเลขโทรศัพท์ 089 997 1550 4.2 ผูส้ บื ทอด ชอ่ื เด็กชายศวิ ภวษิ ฐ์ บญุ ธิมา วัน เดอื น ปเี กิด 24 พฤษภาคม 2555 ที่อยู่ 22 หมู่ 6 ตาบลโป่งงาม อาเภอแมส่ าย จังหวัดเชยี งราย หมายเลขโทรศัพท์ 089 997 1550 ๕. สถำนะกำรคงอยู่ ปฏิบัตอิ ยา่ งแพรห่ ลาย ⃞ เส่ียงต่อการสูญหาย ⃞ ไมม่ ีปฏบิ ัตแิ ล้ว

. -364- ๖. รปู ภำพภูมิปัญญำทำงวฒั นธรรม /กจิ กรรมทำงภูมิปัญญำทำงวัฒนธรรม

. -365- แบบสำรวจมรดกภมู ิปัญญำทำงวฒั นธรรมจังหวัดเชยี งรำย ประจำปี ๒๕๖๕ สภำวัฒนธรรมจงั หวดั เชยี งรำย อำเภอเมอื งเชียงรำย จงั หวัดเชียงรำย ๑. ชอื่ ข้อมลู ขา้ วตม้ มดั (ขา้ วตม้ ผดั ) ๒. ลกั ษณะ  วรรณกรรมพน้ื บ้านและภาษา  ศิลปะการแสดง  แนวปฏิบตั ิทางสังคมพธิ ีกรรม ประเพณี และเทศกาล  อาหาร/ความร้แู ละการปฏบิ ัติเกี่ยวกบั ธรรมชาติและจกั รวาล  งานช่างฝีมอื ดงั้ เดิม  การละเล่นพืน้ บา้ น กีฬาพน้ื บา้ น และศิลปะการตอ่ ส่ปู ้องกนั ตวั ๓. รายละเอยี ดข้อมูล ๓.๑) ประวตั ิความเปน็ มาของขอ้ มลู ข้าวต้มมัด หรือ ข้าวต้มผัด เป็นขนมชนิดหนึ่งที่ทาด้วยข้าวเหนียวผดั กับกะทิ แล้วนาไปห่อด้วยใบตอง ข้าวต้มมัด (ไส้กล้วย) ข้าวต้มมัดเป็นอีกหน่ึงภูมิปัญญาชาวบ้านท่ีสามารถใช้ทรัพยากรธรรมชาติได้อย่างดีเย่ียม ซึ่งประเทศไทยมีการปลูกกล้วยค่อนข้างมาก เราจึงได้ประโยชน์จากใบตองและกล้วยทาให้ได้เมนูขนมที่อร่อย เช่น ข้าวต้มมัด ข้าวต้มมัดหรือข้าวต้มผัด เป็นขนมไทยพื้นบ้าน นิยมทาเป็นขนมในเคร่ืองไทยทานถวาย พระภกิ ษใุ นเทศกาลตักบาตรเทโวเทศกาลออกพรรษา และยงั นยิ มทาเปน็ ของแจกกันในหมญู่ าติมติ รในเทศกาล ออกพรรษาเช่นเดียวกัน และยังเป็นขนมท่ีได้รับความนิยมแพร่หลายในการรับประทานก่อนถึงเวลาอาหารม้ือเย็น หรอื ใชเ้ ปน็ เสบียงสารองเพอื่ รบั ประทานระหวา่ งการเดนิ ทางข้ามวนั ข้ามคืน ๓.๒) ขนั้ ตอน/วิธีการ/ดาเนินการเกีย่ วกบั ข้อมลู องคป์ ระกอบของอาหาร (สตู ร) ขา้ วเหนียวขาว ๕๐๐ กรัม มะพร้าวขดู ๕๐๐ กรัม น้าสาหรบั คั้นกะทิ ๓ ถว้ ย นา้ ตาลทราย ๑/๒ ถว้ ย เกลือปน่ ๑ ช้อนโต๊ะ กลว้ ยน้าวา้ สกุ ปอกเปลอื กผ่าครงึ่ ๑๐ ลกู ถว่ั ดาต้มสุก ๑ ถ้วย ใบตองสาหรับหอ่ ขนม วธิ กี ารประกอบอาหาร ๑. ซาวขา้ วเหนยี วใหส้ ะอาด ตักขนึ้ สะเดด็ น้า เตรยี มไว้ ๒. คัน้ มะพรา้ วกบั น้าให้ไดน้ ้ากะทิ เตรยี มไว้ ๓. ผสมนา้ กะทิ (๒ ถ้วย) กบั นา้ ตาลทราย และเกลือป่นเข้าด้วยกัน คนผสมจนนา้ ตาลทราย ละลาย กรองเอาเฉพาะน้ากะทิ เตรยี มไว้ ๔. เทสว่ นผสมกะทใิ ส่หมอ้ นาขน้ึ ตั้งไฟออ่ น ใส่ข้าวเหนียว กวนผสมจนเข้ากัน และส่วนผสม ทั้งหมดเร่ิมแห้ง ยกลงจากเตา เตรียมไว้ ๕. เช็ดใบตองใหส้ ะอาด ตักส่วนผสมข้าวเหนยี วใส่ ตามด้วยกล้วย และถ่ัวดา หอ่ ขนมให้ สวยงาม จากน้นั นาไปนงึ่ นานประมาณ ๔๐ นาที นาออกจากชดุ น่ึง พกั ทงิ้ ไว้ พร้อมรับประทาน

. ๔. ชอ่ื ผทู้ ถ่ี ือปฏิบัตแิ ละผู้สบื ทอด -366- ๔.๑ ผูท้ ี่ถอื ปฏิบัติ (๑) ชื่อ นางแจม่ จนั ทร์ ศิริเผ่าพนั ธ์ุ วัน เดอื น ปีเกิด - ทีอ่ ยู่ 349 หมู่ 17 ตาบลแมข่ า้ วตม้ อาเภอเมอื งเชียงราย จังหวดั เชยี งราย หมายเลขโทรศพั ท์ 099 270 8854 นางจนั ทรด์ ี เขือ่ นเพชร (๒) ช่อื วัน เดอื น ปเี กดิ - ทีอ่ ยู่ 192 หมู่ 16 ตาบลแม่ข้าวตม้ อาเภอเมอื งเชียงราย จังหวดั เชยี งราย หมายเลขโทรศพั ท์ 083 580 7198 นางทองเหรียญ สมดุ ความ (๓) ชอื่ วัน เดือน ปเี กิด - ทอ่ี ยู่ 217 หมู่ 19 ตาบลแมข่ ้าวตม้ อาเภอเมืองเชยี งราย จงั หวดั เชยี งราย หมายเลขโทรศพั ท์ 083 763 9566 ๔.๒ ผู้สบื ทอด - ช่ือ - วนั เดือน ปีเกดิ - ทอ่ี ยู่ - หมายเลขโทรศัพท์ ๕. สถานะ การคงอยู่  ปฏิบัตอิ ยา่ งแพรห่ ลาย  เสยี่ งตอ่ การสญู หาย  ไม่มีปฏบิ ตั ิแล้ว ๖. รูปภาพภูมปิ ญั ญาทางวัฒนธรรม/กจิ กรรมทางภูมปิ ัญญาทางวัฒนธรรม

. -๓๖๗- แบบสำรวจมรดกภมู ปิ ญั ญำทำงวฒั นธรรมจังหวัดเชยี งรำย สภำวฒั นธรรมจังหวดั เชยี งรำย อำเภอพำน จังหวัดเชยี งรำย ๑. ชื่อข้อมลู ปราชญช์ าวบ้าน (หมอสมุนไพรพ้ืนบา้ น) ๒. ลักษณะ  วรรณกรรมพืน้ บา้ นและภาษา  ศิลปะการแสดง  แนวปฏิบัติทางสังคมพธิ ีกรรม ประเพณี และเทศกาล  อาหาร/ความรแู้ ละการปฏิบตั เิ กี่ยวกบั ธรรมชาติและจักรวาล  งานช่างฝีมอื ด้ังเดมิ  การละเล่นพ้ืนบ้าน กีฬาพื้นบา้ น และศลิ ปะการต่อส่ปู ้องกันตัว ๓. รายละเอียดข้อมลู ๓.๑ ประวตั คิ วามเป็นมาของขอ้ มูล นายติ๊บ ตาสาย เกิดเม่ือ 1 กันยายน 2484 พ้ืนเพเป็นคนบ้านบวกปลาหนอน ตาบลเวียงห้าว อาเภอพาน จังหวัดเชียงราย เริ่มศึกษาเร่ืองสมุนไพรพ้ืนบ้าน และต้ังกลุ่มศูนย์การเรียนรู้”กลุ่มสมุนไพร พ้ืนบ้าน” ประจาตาบลเวียงห้าว เมื่อปี พ.ศ.2550 และได้รับบัตรประจาตัวสมาชิกสภาหมอเมืองล้านนา เชยี งราย เลขทบ่ี ตั ร 053 ประเภทสมนุ ไพร เมอ่ื วนั ท่ี 1 มีนาคม 2550 จุดเร่ิมต้นการเป็นหมอสมุนไพรพื้นบ้าน เพราะเพ่ือเป็นการส่งเสริมให้กลุ่มสมาชิกคนพิการในตาบล เวียงห้าวมรี ายได้เพิ่มจากการทายาสมนุ ไพรพน้ื บา้ นท่ีมอี ยใู่ นท้องถ่ินเพอ่ื เป็นกาใช้ประโยชน์จากพชื สมนุ ไพรท่ีมี ในท้องถน่ิ ให้เกิดประโยชน์ในการสุขภาพ ๓.๒ ขน้ั ตอน/วิธีการ/ดาเนินการเกี่ยวกับข้อมูล - ๔. ชอ่ื ผูท้ ี่ถือปฏบิ ตั ิและผูส้ ืบทอด ๔.๑ ผู้ถือปฏิบตั ิ (๑) ช่ือ นางผดั ตาสาย วัน เดือน ปเี กิด 1 กมุ ภาพนั ธ์ 2499 ทอี่ ยู่ 198 หมู่ 7 ตาบลเวยี งหา้ ว อาเภอพาน จังหวัดเชียงราย หมายเลขโทรศพั ท์ 094 584 7434 (๒) ช่ือ นายอ้าย ตาคา วนั เดือน ปเี กดิ 1 มกราคม 2493 ทอี่ ยู่ 4 หมู่ 2 ตาบลเวยี งหา้ ว อาเภอพาน จังหวดั เชยี งราย หมายเลขโทรศัพท์ 087 728 7610 ๔.๒ ผู้สบื ทอด ช่อื - วนั เดือน ปีเกิด - ที่อยู่ - หมายเลขโทรศัพท์ - ๕. สถำนะ การคงอยู่  ปฏิบัติอย่างแพรห่ ลาย  เสี่ยงตอ่ การสูญหาย  ไมม่ ีปฏบิ ตั ิแล้ว

. -๓๖๘- ๖. รปู ภำพภูมิปัญญำทำงวัฒนธรรม/กจิ กรรมทำงภูมปิ ัญญำทำงวัฒนธรรม

. -๓๖๙- แบบสำรวจมรดกภูมิปญั ญำทำงวัฒนธรรมจังหวดั เชียงรำย สภำวัฒนธรรมจงั หวดั เชียงรำย อำเภอพำน จังหวดั เชยี งรำย ๑. ช่ือข้อมลู ภูมปิ ญั ญาชาวบ้านด้านการแพทย์พืน้ บ้าน สมนุ ไพร ลูกประคบ ๒. ลกั ษณะ  วรรณกรรมพ้นื บ้านและภาษา  ศิลปะการแสดง  แนวปฏบิ ัติทางสังคมพธิ ีกรรม ประเพณี และเทศกาล  อาหาร/ความรูแ้ ละการปฏิบตั เิ กี่ยวกับธรรมชาตแิ ละจกั รวาล  งานชา่ งฝีมอื ดงั้ เดมิ  การละเล่นพ้นื บ้าน กีฬาพ้ืนบา้ น และศิลปะการต่อสปู่ ้องกันตัว ๓. รำยละเอยี ดขอ้ มลู ๓.๑ ประวตั ิความเป็นมาของข้อมูล นางบัวจันทร์ ธกิ าไร ชาติพนั ธ์ุไทลื้อ ได้เร่ิมต้นเรยี นร้มู าจากโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพ ตาบลสนั มะเค็ด อาศัยพื้นฐานจากปูย่ ่าตายายสืบทอดกนั มาเป็นมรดก และได้เรียนรูเ้ พ่ิมเตมิ จากสถานท่ีราชการต่าง ๆ เน้น แนวทาง เผยแพร่ตามในหมู่บ้าน โรงเรียนผสู้ งู อายุ การออกบูทในอาเภอ การนาสมุนไพรเขา้ ร่วมกิจกรรมต่างๆ ระดับอาเภอ จงั หวดั เปน็ ภมู ิปัญญาเฉพาะตัว อยากให้ลูกหลาน อนรุ กั ษ์สืบทอด หรอื ปฏิบัติไม่ให้สญู หาย ปัจจุบันยังมีการทาสมนุ ไพรละการนวดแผนไทย ณ โรงเรยี นผูส้ ูงอายตุ าบลสนั มะเค็ด มีการนวด แช่ฝา่ เท้า และประคบสมุนไพรไทย ๓.๒ ข้ันตอน/วธิ กี าร/ดาเนินการเกย่ี วกับข้อมลู - ๔. ชอ่ื ผูท้ ่ีถือปฏิบตั แิ ละผสู้ บื ทอด ๔.๑ ผทู้ ี่ถือปฏิบตั ิ ชอ่ื นางบวั จันทร์ ธิกาไร วัน เดือน ปเี กิด 20 เมษายน 2498 ทอ่ี ยู่ 131 หมู่ 14 ตาบลสนั มะเคด็ อาเภอพาน จังหวดั เชยี งราย หมายเลขโทรศัพท์ 062 271 2124 ๔.๒ ผสู้ ืบทอด ชอ่ื น.ส. จนั ทรแ์ รม ธมิ ูล วนั เดือน ปีเกิด 19 พฤศจกิ ายน 2522 ทอ่ี ยู่ 3 หมู่ 5 ตาบลสนั มะเคด็ อาเภอพาน จังหวดั เชียงราย หมายเลขโทรศัพท์ 096 170 0374. ๕. สถำนะ กำรคงอยู่  ปฏบิ ัตอิ ยา่ งแพร่หลาย  เสยี่ งต่อการสญู หาย  ไม่มปี ฏิบตั แิ ล้ว

. -๓๗๐- ๖. รปู ภำพภูมิปัญญำทำงวัฒนธรรม/กจิ กรรมทำงภูมปิ ัญญำทำงวัฒนธรรม

. -371- แบบสำรวจมรดกภมู ปิ ญั ญำทำงวัฒนธรรมจงั หวัดเชียงรำย สภำวฒั นธรรมจงั หวดั เชยี งรำย อำเภอพำน จังหวดั เชียงรำย ๑. ชื่อข้อมูล ภมู ปิ ญั ญาชาวบา้ นด้านการแพทยแ์ ละสาธารณะสุข การตอกเส้น ๒. ลกั ษณะ  วรรณกรรมพืน้ บา้ นและภาษา  ศลิ ปะการแสดง  แนวปฏิบัติทางสงั คมพิธีกรรม ประเพณี และเทศกาล  อาหาร/ความรู้และการปฏิบัติเกี่ยวกับธรรมชาติและจกั รวาล  งานช่างฝมี อื ดั้งเดมิ  การละเลน่ พ้ืนบา้ น กีฬาพื้นบ้าน และศลิ ปะการต่อสู่ป้องกนั ตัว ๓. รำยละเอียดขอ้ มลู ๓.๑ ประวตั คิ วามเปน็ มาของขอ้ มูล นายรัฐไกร บุญตัน เช่ียวชาญภูมิปัญญา ประเภท การแพทย์แผนไทย ด้านหมอพ้ืนบ้านล้านนา สาขา กายบาบดั ผลงานเดน่ ดา้ น มหัศจรรยก์ ารนวดตอกเส้น ได้รบั การสืบทอดภูมิปญั ญาหมอพ้นื บา้ นจาก ปู่ ซ่งึ เป็น หมอพื้นบ้านและมีความสนใจเก่ียวกับหมอพื้นบ้าน และได้ไปศึกษาเพิ่มเติมในเร่ืองการบาบัดดูแลสุขภาพ ร่างกายท่ีวัดก่ิวพร้าว อาเภอแม่จัน จังหวัดเชียงราย การกดจุด จัดกระดูก การนวดตอกเส้น ได้ไปศึกษาเรียนรู้ ดูแลและรักษาสุขภาพผู้ป่วย ไปช่วยงานสอนท่ีโรงเรียนผู้สูงอายุหลายแห่ง และออกไปช่วยงานระดับตาบล อาเภอ และและจงั หวัด เชน่ งานข่วงวฒั นธรรม เปน็ ตน้ ๓.๒ ขั้นตอน/วธิ ีการ/ดาเนินการเกยี่ วกับข้อมลู - ๔. ชือ่ ผู้ที่ถือปฏบิ ัติและผสู้ บื ทอด ๔.๑ ผูถ้ อื ปฏบิ ตั ิ ชื่อ นายรฐั ไกร บญุ ตนั วัน เดือน ปีเกิด 10 มกราคม 2499 ท่อี ยู่ 230 หมู่ 9 ตาบลมว่ งคา อาเภอพาน จงั หวดั เชยี งราย หมายเลขโทรศัพท์ 065 956 3854 ๔.๒ ผูส้ ืบทอด ชือ่ นางสาว ธัญญนรี แสนจีระนนั ท์ วนั เดือน ปเี กดิ 9 มถิ ุนายน 2522 ท่ีอยู่ 230 หมู่ 9 ตาบลม่วงคา อาเภอพาน จังหวดั เชยี งราย หมายเลขโทรศัพท์ 065 992 9525 ๕. สถำนะ กำรคงอยู่  ปฏิบตั ิอยา่ งแพร่หลาย  เส่ียงต่อการสญู หาย  ไมม่ ปี ฏบิ ตั แิ ล้ว

. -37๒- ๖. รปู ภำพภูมิปัญญำทำงวัฒนธรรม/กจิ กรรมทำงภูมปิ ัญญำทำงวัฒนธรรม

. -๓๗๓- แบบสำรวจมรดกภมู ิปญั ญำทำงวฒั นธรรมจังหวดั เชียงรำย สภำวัฒนธรรมจังหวัดเชยี งรำย อำเภอพำน จังหวัดเชียงรำย ๑. ชื่อข้อมลู การนวดแผนไทย การแพทย์พื้นบ้าน ๒. ลักษณะ  วรรณกรรมพ้นื บา้ นและภาษา  ศลิ ปะการแสดง  แนวปฏบิ ัติทางสังคมพธิ ีกรรม ประเพณี และเทศกาล  อาหาร/ความรแู้ ละการปฏบิ ัติเกย่ี วกับธรรมชาติและจักรวาล  งานชา่ งฝมี ือด้งั เดิม  การละเล่นพื้นบา้ น กีฬาพ้นื บา้ น และศิลปะการต่อสู่ป้องกันตวั ๓. รำยละเอียดข้อมลู ๓.๑ ประวตั คิ วามเปน็ มาของขอ้ มูล การนวดไทยเป็นศาสตร์ทใี่ ชใ้ นการบาบดั อาการเกยี่ วกับระบบโครงสร้าง กล้ามเน้ือและเส้นเอน็ ได้เป็นอย่างดี การนวดไทยสามารถทาได้ด้วยตนเอง ในเบ้ืองต้น เพ่ือบรรเทาอาการปวดต่าง ๆ อาการเมื่อยล้าของกล้ามเน้ือ และเส้นเอ็น ช่วยเพิ่มการไหลเวียนโลหิต และการทางานของต่อมและอวัยวะต่าง ๆ การนวดตนเอง เป็นการดูแล สุขภาพด้วยตนเอง ใช้เพียงมือสองข้างของตนเอง ไม่ต้องพึ่งยา ไม่ต้องพ่ึง หมอนวด ช่วยประหยัดค่ารักษาพยาบาล ประหยัดเวลา โดยใชเ้ วลาช่วงที่เราพักผ่อนดู ทวี กี อ่ นนอนหรือหลังตื่นนอน ในการนวดตนเองได้ นาไปใช้ประโยชน์ ในชวี ิตประจาวนั และสามารถถา่ ยทอดความรู้ ภูมปิ ญั ญาการนวดไทยสบื ทอดต่อกันมา ในการดูแลสุขภาพแบบไทย นวดแผนไทย หรือ นวดแผนโบราณ คืออะไร? นวดแผนไทย คือ การนวดชนิดหน่ึง ซึ่งเป็นศาสตร์บาบัด และรักษาโรคแขนงหนึ่งของการแพทย์แผนไทย โดยจะเน้นในลักษณะการกด การคลึง การบีบ การดัด การดึง การอบ และประคบ ซึ่งรู้จักกันโดยท่ัวไปในชอ่ื “นวดแผนโบราณ” ซ่ึงไม่ใช่เพ่ือรักษาความเจ็บปวดเท่านั้น แต่ยังดีต่อสุขภาพ และสามารถรกั ษาโรค เพราะการนวดจะสง่ ผลโดยตรงต่อรา่ งกายและจิตใจ โดยอาศัยการสัมผสั อยา่ งมีศลิ ปะ ๓.๒) ข้นั ตอน/วิธกี าร/ดาเนนิ การเกย่ี วกับขอ้ มลู แม้ว่าการนวดไทยนั้นทาให้เราสบายตัว คลายความเมื่อยล้า แต่จริง ๆ แล้วการนวดน้ันใช่ว่าจะมีแต่ ข้อดีเสมอไป จริงอยู่ว่าการนวดไทย หรือ การนวดแผนโบราณ น้ันมีข้อดีอยู่มาก แต่ก็ใช่ว่าจะไม่มีข้อเสียเลย ดังน้ันก่อนเข้ารับการนวด ผู้นวดจึงควรจะต้องศึกษาข้อมูลเร่ืองประโยชน์และโทษให้ดีเสียก่อน เพื่อป้องกัน อนั ตราย หรือความเสยี หายบางอย่างทอ่ี าจเกิดขน้ึ กับร่างกายได้ มีท้ังหมด 5 ขอ้ ดว้ ยกัน ดงั นี้ ๑. นวดผดิ วิธี อนั ตรายกวา่ เดิม ถ้าการนวดอย่างผดิ วธิ ี อย่างเช่น การฟกช้า กลา้ มเนือ้ อักเสบ บวมแดง หากเกิดข้ึนซา้ ๆ บอ่ ย ๆ จะทาใหเ้ กิดพังผดื จนต้องไปผา่ ตัดออกกันเลย ๒. เช็คโรคประจาตัวก่อน มีโรคประจาตัวต่อไปนี้ควรจะต้องงด หรือระมัดระวังให้มากในระหว่างการนวด คือ โรคความดันโลหติ , โรคหัวใจ, โรคกระดูกพรุน, โรคเก่ียวกับระบบประสาท โดยเฉพาะไขสันหลัง, โรคข้อต่อหลวม, โรคหลอดเลือด หรือน้าเหลืองอุดตัน, โรคเบาหวาน เปน็ ตน้ ๓. หากมีแผล ควรงดนวด จะทาใหแ้ ผลลุกลามและเส่ียงตอ่ การตดิ เชือ้ มากขึ้น ๔. ปวดเม่ือยเกินไป ไม่ควรนวด อาจทาให้อาการทรุดหนักไปอีก อาการปวดเม่ือยจนเกินไป มีดังน้ี อาการปวดหัว ท่ีเกิดจากไซนัสอักเสบ อาจทาให้การมองเห็นไม่ชัด เกิดภาพซ้อน มีอาการอาเจียนแทรกซ้อน อาการปวดคอ ที่ร้าวชาไปจนถึงบ่า ไหล่ มีอาการแขนขาไม่มีแรงร่วมด้วย อาการปวดไหล่ หรือแขนขา ท่ีไม่ สามารถขยับไหล่หรือแขนขาได้ หวั ไหล่หรือแขนขามีอาการบวมแดง ร้อน ปวดรา้ ว อาการปวดหลัง ทรี่ ้าวเสยี ว ไปจนถึงสะโพก แขนขาชา มอี าการจับไขห้ นาวส่นั ๕. ข้อสดุ ท้ายน้ีจะเปน็ ผลและอาการข้างเคียงท่ีอาจจะเกดิ ขนึ้ ได้ หากผนู้ วดเขา้ ขา่ ยท้ังส่ีข้อข้างต้น แย่ที่สุด อาจทาให้เกิดอมั พาตได้

. -๓๗๔- ๔. ชื่อผ้ทู ี่ถือปฏิบัตแิ ละผู้สืบทอด ๔.๑ ผู้ทีถ่ อื ปฏิบัติ (๑) ชอื่ นางสุพนิ ปุก๊ แก้ว วนั เดอื น ปเี กดิ 30 พฤษภาคม 2509 ที่อยู่ 169 หมู่ 5 ตาบลสนั ติสุข อาเภอพาน จงั หวดั เชียงราย หมายเลขโทรศัพท์ 089 999 1726 (๒) ช่อื นางบัวผัด ธนูจันทร์ วัน เดือน ปเี กดิ 25 กมุ ภาพนั ธ์ 2507 ท่ีอยู่ 91 หมู่ 3 ตาบลสนั ตสิ ขุ อาเภอพาน จงั หวัดเชียงราย หมายเลขโทรศัพท์ 088 291 7062 ๔.๒ ผสู้ บื ทอด ชื่อ - วนั เดอื น ปเี กดิ - ที่อยู่ - หมายเลขโทรศัพท์ - ๕. สถำนะ กำรคงอยู่  ปฏบิ ัตอิ ยา่ งแพรห่ ลาย  เสีย่ งตอ่ การสญู หาย  ไมม่ ปี ฏบิ ัตแิ ลว้ ๖. รปู ภำพภมู ิปญั ญำทำงวัฒนธรรม/กจิ กรรมทำงภูมิปัญญำทำงวัฒนธรรม

. -๓๗๕- แบบสำรวจมรดกภมู ิปญั ญำทำงวฒั นธรรมจงั หวัดเชยี งรำย สภำวัฒนธรรมจงั หวดั เชยี งรำย อำเภอพำน จังหวัดเชียงรำย ๑. ช่ือข้อมลู การแปรรปู อาหารขนมไทย ๒. ลกั ษณะ  วรรณกรรมพ้ืนบ้านและภาษา  ศิลปะการแสดง  แนวปฏบิ ัติทางสังคมพธิ ีกรรม ประเพณี และเทศกาล  อาหาร/ความรู้และการปฏิบตั ิเกย่ี วกับธรรมชาติและจักรวาล  งานช่างฝมี ือด้ังเดมิ  การละเลน่ พ้นื บา้ น กีฬาพนื้ บ้าน และศลิ ปะการตอ่ สปู่ ้องกันตวั ๓. รำยละเอียดขอ้ มูล ๓.๑ ประวัติความเปน็ มาของขอ้ มูล ขนมจัดเป็นอาหารที่คู่สารับกับข้าวไทยมาต้ังแต่ครั้งโบราณ โดยใช้คาว่าสารับกับข้าวคาว-หวาน โดยท่ัวไปประชาชนจะทาขนมเฉพาะในงานเล้ียง นับต้ังแต่การทาบุญเล้ียงพระ งานมงคลและงานพิธี การ อาหารหวานที่จัดเปน็ สารับจะต้องประกอบดว้ ย ของหวานอย่างน้อย 5 ส่ิง ซง่ึ ต้องเลือกให้มรี สชาติ สีสัน ชนดิ ตลอดจนลักษณะทีก่ ลมกลนื กัน แตล่ ะสารบั จะตอ้ งมีผลไม้ 10 ที่ และขนมเป็นน้า 1 ทเ่ี สมอ ขนมไทย เป็นเอกลักษณ์ด้านวัฒนธรรมประจาชาติไทยอย่างหนึ่งท่ีเป็นที่รู้จักกันดี เพราะเป็นส่ิงที่ แสดงให้เหน็ ถึงความละเอียดอ่อนประณตี ในการทาตัง้ แตว่ ัตถดุ ิบ วิธกี ารทา ท่กี ลมกลืน พถิ ีพถิ ัน ในเรอื่ งรสชาติ สีสันความสวยงาม กล่ินหอม รูปลักษณะชวนรับประทาน ตลอดจนกรรมวิธีการรับประทาน ขนมแต่ละชนิด ซ่ึงยังแตกต่างกันไปตามลักษณะของขนมชนดิ นนั้ ๆ ขนมไทยท่ีนิยมทากันทุก ๆ ภาคของประเทศไทย ในพิธีการต่าง ๆ เนื่องในการทาบุญเล้ียงพระ ก็คือขนม จากไข่ และมักถือเคล็ดจากชื่อและลักษณะของขนมน้ัน ๆ งานศิริมงคลต่าง ๆ เช่น งานมงคลสมรส ทาบุญ วันเกิดหรือทาบุญข้ึนบ้านใหม่ ส่วนใหญ่ก็จะมีการเล้ียงพระกับแขกที่มาในงาน เพ่ือเป็นศิริมงคลของงานขนม ก็จะมีฝอยทอง เพื่อหวังให้อยู่ด้วยกัน ยืดยาวมีอายุยืน ขนมชั้น ก็ให้ได้เล่ือนขั้นเงินเดือน ขนมถ้วยฟูก็ขอให้เฟ่ืองฟู ขนมทองเอกกข็ อให้ไดเ้ ปน็ เอก เป็นตน้ แต่ตามความเช่ือบางอย่างของคนไทย ขนมท่ีมีลักษณะเป็นเส้น มักจะใช้สาหรับงานทาบุญอายุ เพราะเช่ือว่าจะช่วยให้มีอายุยืนยาว แต่กลับไม่ใช้จัดในงานศพ เพราะเช่ือว่าจะมีการตายต่อเนื่องไม่เป็นมงคล ความเชื่อเหล่าน้ถี ือเปน็ เหตผุ ลของแต่ละบคุ คลมไิ ด้เปน็ ข้อห้ามเสยี ทีเดียว ๓.๒) ขั้นตอน/วธิ ีการ/ดาเนินการเก่ียวกับข้อมูล ส่วนผสม แปง้ ขนมเทยี นผสมหญ้าชวิ คกั • แป้งขา้ วเหนยี ว 500 กรัม • นา้ ตาลปี๊บ 200-300 กรมั (ปรับความหวานได้ตามชอบ) • นา้ เปล่า 350 มลิ ลลิ ิตร • หญา้ ชิวคัก 30 กรัม สว่ นผสม ไสข้ นมเทยี น (ไส้เค็ม) • ถว่ั เขียวซกี เราะเปลอื ก 1 กโิ ลกรัม • กระเทยี ม • พรกิ ไทย • น้ามนั พืช (สาหรบั ผดั ) • เกลอื ปน่ (สาหรับปรงุ รส) • นา้ ตาลทราย (สาหรบั ปรงุ รส)

. -๓๗๖- วิธที าแปง้ ขนมเทียน 1. ลา้ งหญ้าชิวคักใหส้ ะอาด จากนน้ั นาไปแชน่ ้าประมาณ 30 นาที จนหญ้าน่มิ ลา้ งอีกครงั้ แล้วบีบ ให้แหง้ นาไปปั่นจนละเอียด เตรยี มไว้ 2. ใสห่ ญา้ สับลงในแป้งข้าวเหนียว ใสน่ ้าตาลป๊ีบลงไป ค่อย ๆ เทน้าลงไปทลี ะนิดแลว้ นวดจนสว่ นผสม เข้ากนั ดี (ระวังไม่เหลวและไม่หนืดจนเกินไป) พักแป้งไว้ประมาณ 1 ชว่ั โมง วธิ ีทาไส้ขนมเทียนเคม็ 1. ล้างถั่วเขยี วซีกเราะเปลอื กให้สะอาด แช่ทิ้งไว้อย่างนอ้ ย 2 ชัว่ โมง หรือขา้ มคืน จากนัน้ นาไปนึ่ง จนสกุ พกั ท้ิงไว้จนเยน็ สนทิ 2. โขลกกระเทยี มกบั พริกไทยเขา้ ด้วยกนั จนละเอยี ด ใสถ่ ัว่ เขียวนงึ่ ลงโขลกพอหยาบ 3. ใส่น้ามันพืชลงในกระทะ ใส่ส่วนผสมไส้ลงผัดจนหอม ปรุงรสด้วยเกลือป่นและน้าตาลทราย ชิมรสตามชอบ ให้มรี สหวาน เคม็ เผ็ด ปดิ ไฟ ยกลงจากเตา พักทง้ิ ไวจ้ นเยน็ ป้ันเปน็ กอ้ นกลม เตรยี มไว้ วธิ ีหอ่ ขนมเทยี น 1. เตรียมใบตองสาหรับห่อขนม ล้างนา้ ใหส้ ะอาด 2. จบั ใบตองให้เปน็ ทรงกรวย ใสไ่ สท้ ่ีปั้นไวล้ งไป ตกั ส่วนผสมแปง้ ใส่ จากนนั้ ห่อให้สวยงาม เรยี งลงในชดุ น่งึ 3. นาขนมไปน่ึงด้วยไฟแรงที่มีน้าเดือดพล่าน น่ึงนานประมาณ 30 นาที จนขนมสุก ปิดไฟ นาออก จากชุดนงึ่ ๔. ชอ่ื ผู้ท่ีถอื ปฏิบตั แิ ละผสู้ บื ทอด ๔.๑ ผ้ทู ถ่ี ือปฏิบัติ ช่อื นางบุตร แสงงามเมือง วัน เดอื น ปีเกดิ 3 กนั ยายน 2493 ที่อยู่ 100 หมู่ 7 ตาบลสันตสิ ุข อาเภอพาน จังหวดั เชยี งราย หมายเลขโทรศัพท์ - ๔.๒ ผ้สู ืบทอด ชื่อ นางมาลี วงคแ์ ก้ว วนั เดือน ปเี กดิ 29 เมษายน 2489 ทอ่ี ยู่ 119 หมู่ 7 ตาบลสันตสิ ุข อาเภอพาน จังหวัดเชยี งราย หมายเลขโทรศัพท์ - ๕. สถำนะ กำรคงอยู่  ปฏบิ ัติอย่างแพร่หลาย  เสี่ยงตอ่ การสูญหาย  ไม่มีปฏบิ ัตแิ ล้ว ๖. รปู ภำพภมู ปิ ญั ญำทำงวัฒนธรรม/กจิ กรรมทำงภูมิปัญญำทำงวัฒนธรรม

. -๓๗๗- แบบสำรวจมรดกภมู ิปญั ญำทำงวัฒนธรรมจังหวดั เชยี งรำย สภำวฒั นธรรมจังหวดั เชยี งรำย อำเภอพำน จังหวัดเชยี งรำย ๑. ช่ือข้อมลู การแปรรูปอาหารจากปลา (ไส้กรอกปลานลิ ) ๒. ลกั ษณะ  วรรณกรรมพืน้ บ้านและภาษา  ศลิ ปะการแสดง  แนวปฏิบตั ทิ างสังคมพธิ ีกรรม ประเพณี และเทศกาล  อาหาร/ความรู้และการปฏบิ ตั เิ กี่ยวกับธรรมชาตแิ ละจักรวาล  งานช่างฝีมอื ด้ังเดิม  การละเลน่ พนื้ บ้าน กีฬาพนื้ บ้าน และศลิ ปะการตอ่ สปู่ ้องกันตัว ๓. รำยละเอียดขอ้ มลู ๓.๑ ประวตั ิความเปน็ มาของข้อมูล อาเภอพาน จงั หวัดเชียงราย เป็นแหล่งผลิตปลานิลท่ีใหญ่ที่สุดในภาคเหนือ แตใ่ นบางปีราคาผลผลิตตกต่า ปล่อยท้ิงเน่า เสีย สมาชิกกลุ่มผู้เลี้ยงปลานิลบ้านป่าก่อ หมู่ที่ 9 ตาบลสันติสุข อาเภอพาน จังหวัดเชียงราย จึงได้รวมตัวกันแปรรูปอาหารจากปลาซึ่งเป็นวธิ ีการหนึ่งท่ีจะทาให้เนื้อปลา มีรับประทานได้ตลอดท้ังปีในราคา ที่เหมาะสม ยงั คงคณุ คา่ ทางอาหาร เกบ็ รักษาได้นานและมีมลู คา่ เพิม่ สูงขนึ้ การแปรรปู อาหาร หมายถงึ กระบวนการปรบั ปรุง เปลี่ยนแปลงรูปร่างและรสชาติของอาหาร ใหม้ ลี ักษณะ แปลกใหมแ่ ตกต่างไปจากเดิม เพ่อื เพิ่มมูลคา่ และคุณภาพ สามารถเก็บไว้รบั ประทานได้ เป็นระยะเวลานานและ สามารถนาไปใชป้ ระโยชนไ์ ด้มากย่ิงขึน้ การแปรรปู อาหารมคี วามสาคัญ ดังนี้ ๑. ช่วยประหยดั งบประมาณในการจัดซือ้ อาหารใหม่ ๒. ชว่ ยประหยดั ทรพั ยากร ไม่ทิ้งของเหลอื โดยนามาแปรรูปใหม่ ๓. ทาให้อาหารมลี กั ษณะแตกต่างไปจากเดิม ไดร้ สชาติใหม่ ทาใหผ้ ู้รบั ประทานอาหารไมเ่ บือ่ ๔. ได้คณุ ค่าทางโภชนาการเพ่ิมข้ึนจากการเพ่ิมเติมเน้ือสตั ว์หรอื ผักสด ๕. ทาให้เกิดความคดิ สร้างสรรคใ์ นการแปรรปู อาหารให้ได้อาหารชนิดใหม่ ๖. ชว่ ยถนอมอาหารท่มี ีมากตามฤดกู าล เปน็ ต้น ๗. ชว่ ยเพ่ิมมลู ค่าและรายได้ ประโยชนใ์ นการแปรรปู และการถนอมผลผลิต ดังน้ี ๑. ช่วยให้เก็บอาหารไว้บริโภคได้นาน ๆ เน่ืองจากการถนอมอาหารเป็นการป้องกันและยับย้ังการทางาน และการเข้าทาลายของเชื้อจุลินทรีย์บางชนิด เช่น เชื้อรา เช้ือแบคทีเรียและยีสต์ซึ่งเป็นตัวการ ทาให้ผลผลิต เกิดการเน่าเสียและเส่อื มคณุ ภาพ ๒. ช่วยให้มีอาหารรสชาติแปลกใหม่รับประทาน การแปรรูปผลผลิตโดยการถนอมอาหาร เป็นการเปล่ียนแปลง รสชาติของผลผลติ อย่างหนง่ึ ๓. ช่วยให้มีอาหารที่ชอบไว้บริโภคตลอดเวลา เพราะการแปรรูปผลผลิตโดยการถนอมอาหารช่วยให้ เกบ็ รักษาอาหารไว้ไดน้ านโดยไม่เน่าเสียและไมเ่ สื่อมคุณภาพ ๔. ช่วยประหยัดค่าอาหารให้กับครอบครัว กล่าวคือ การถนอมอาหารไว้รับประทานในครอบครัว เปน็ การประหยดั คา่ อาหารใหก้ บั ครอบครวั ได้อกี ทางหนง่ึ ๕. ช่วยให้ครอบครัวมีรายได้เพ่ิมข้ึน ถ้าหากผลผลิตที่แปรรูปน้ันมีมากจนเหลือจากการรับประทาน ในครอบครัวก็สามารถนาไปจาหนา่ ย เพอื่ เปน็ การเสริมรายไดใ้ ห้กบั ครอบครัวได้อีกทางหนงึ่

. -๓๗๘- ๖. ชว่ ยใหผ้ ลผลติ ทางการเกษตรมคี า่ มากขน้ึ เพราะบางครง้ั ผลผลิตบางชนิดเมอื่ นามาแปรรปู โดยการ ถนอมอาหารน้นั จะขายไดใ้ นราคาสงู กว่าผลผลติ ท่ยี ังไม่ได้แปรรูป ๗. ชว่ ยใหส้ ะดวกในการบริโภค เน่อื งจากผลผลติ บางชนดิ เมือ่ นามาแปรรูปแลว้ จะชว่ ยให้ น่า รับประทาน และสะดวกในการบรโิ ภคมากขึน้ ๓.๒ ขนั้ ตอน/วิธกี าร/ดาเนินการเกี่ยวกบั ข้อมูล การทาไสก้ รอกปลาสมุนไพร มีขนั้ ตอน ๑. เตรยี มสมุนไพรดบั กลิน่ คาวของปลา คือ กระเทียมแกะเปลือก ๓ ขีด ตะไครห้ ่นั ๕ ขดี ผกั ชีไทยห่ัน ๓ ขีด ปนั่ ละเอียด ๒. เนอ้ื ปลาบด ๕ กิโลกรมั ผสมกับมันหมูบด ๒ กิโลกรมั เพ่ือให้ไสก้ รอกนมุ่ และไมแ่ ขง็ จนเกินไป ๓. ใส่สมุนไพรท่ีปั่นแกล้ว ใส่ไข่ไก่ ๖ ฟอง แป้งข้าวโพด ๓ ขีด เกลือ ๑ ขีด ผงชูรส ๑.๕ ขีด น้าตาล ทราย ๑ ขดี น้าสะอาด ๑ ลติ ร คลุกเคล้าส่วนผสมทง้ั หมดใหเ้ ขา้ กันกับเน้ือปลา ๔. การอัดไส้กรอก อุปกรณ์อัดไส้กรอก ประกอบด้วย ไส้เทียมคอลลาเจน เชือกมัดไส้กรอก วิธีการอัด ไส้กรอก คือ นาไส้เทียมคอลลาเจนสวมเข้าไปตามท่อกรวย นาส่วนผสมที่เตรียมอัดลงไปในกรวยด้านบน จากนั้นจะออกแรงหมนุ ส่วนผสมจะถกู ดนั ออกมากลายเปน็ ไส้กรอก และมัดไสก้ รอกให้เป็นทอ่ น ๕. ขนั้ ตอนการตม้ ไสก้ รอก ใหใ้ ชอ้ ุณหภมู ิ ๔๐ องศาเซลเซียส ตม้ ไส้กรอกจนมีสขี าว ตกั ออกมาพกั ไว้ ๖. ข้ันตอนการบรรจุไส้กรอกในถุง นาเข้าเครื่องซีลสุญญากาศเพื่อปิดปากถุง จะเก็บรักษาความสด และรสชาติของไส้กรอกปลาได้นาน ๔. ชือ่ ผ้ทู ี่ถอื ปฏิบัตแิ ละผ้สู ืบทอด ๔.๑ ผทู้ ี่ถือปฏบิ ัติ ช่ือ นำงกมลำนนั ท์ แสงจนั ทร์ วัน เดอื น ปีเกิด 16 พฤษภาคม 2511 ท่ีอยู่ 417 หมู่ 9 ตาบลสันตสิ ขุ อาเภอพาน จังหวัดเชียงราย หมายเลขโทรศัพท์ 091 412 0311 ๔.๒ ผสู้ บื ทอด ชอ่ื นางฟองจนั ทร์ ชยั มงคล วนั เดอื น ปีเกิด 7 ธันวาคม 2507 ท่อี ยู่ 357 หมู่ 9 ตาบลสนั ตสิ ุข อาเภอพาน จงั หวดั เชียงราย หมายเลขโทรศัพท์ 083 153 6472 ๕. สถำนะ กำรคงอยู่  ปฏิบตั ิอย่างแพร่หลาย  เส่ยี งต่อการสญู หาย  ไมม่ ปี ฏบิ ัติแล้ว

. -๓๗๙- ๖. รปู ภำพภูมิปัญญำทำงวัฒนธรรม/กจิ กรรมทำงภูมปิ ัญญำทำงวัฒนธรรม



-๓๘๐- แบบสำรวจมรดกภมู ปิ ญั ญำทำงวฒั นธรรมจังหวดั เชียงรำย สำนักงำนวัฒนธรรมจังหวัดเชียงรำย อำเภอแมส่ ำย จงั หวดั เชยี งรำย ๑. ช่ือข้อมลู กลมุ่ ตดั เย็บชมุ ชนหว้ ยไคร้พัฒนา ๒. ลักษณะ  วรรณกรรมพ้ืนบ้านและภาษา  ศิลปะการแสดง  แนวปฏบิ ัติทางสังคมพธิ ีกรรม ประเพณี และเทศกาล  อาหาร/ความรแู้ ละการปฏิบตั เิ กย่ี วกบั ธรรมชาตแิ ละจกั รวาล  งานช่างฝมี อื ดั้งเดมิ  การละเล่นพนื้ บา้ น กีฬาพ้ืนบา้ น และศิลปะการตอ่ สู่ป้องกนั ตวั ๓. รำยละเอยี ดข้อมลู ๓.๑) ประวตั คิ วามเป็นมาของข้อมูล ผ้ากลุ่มตัดเยบ็ ชุมชนหว้ ยไคร้พัฒนา เกดิ จากวิสัยทศั นแ์ ละพลังความสามัคคีของกลมุ่ แม่บ้านของชุมชน บ้านหัวยไคร้พัฒนา ผ้าแต่ละช้ินถูกสร้างสรรค์แตกต่างกัน เป็นลวดลายท่ีไม่ค่อยซ้ากัน ซ่ึงผู้ปักสามารถ ออกแบบและปักลวดลายตามความชอบหรือความถนัด ผ้าส่วนใหญ่เป็นผ้าฝ้าย ผ้าพื้นเมือง และผ้าจาก สีเปลือกไม้ ท้าให้สวมใส่สบายไม่ระคายเคืองผิวของผู้สวมใส่ ผลิตภัณฑ์จากผ้าต่าง ๆ มีความสวยงาม แข็งแรง คงทน และสะดวกต่อการใช้งาน รวมทั้งการออกแบบเสื้อผ้าหรือผลิตภัณฑ์จากผ้าที่ทันสมัย ไม่ซ้าใคร และ สามารถออกแบบได้ตามความต้องการของลูกค้าอกี ดว้ ย กลุ่มตัดเย็บชุมชนห้วยไคร้พัฒนา เป็นการรวมตัวของผู้น้าชุมชนและกลุ่มแม่บ้านของบ้านหัวยไคร้พัฒนา โดยได้รับการสนับสนุนงบประมาณจากกองทุนเงินล้านในการจัดซื้อจักรเย็บผ้า และปี พ.ศ.25๖๓ ได้รับการ สนับสนุนจากส้านักงานส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย (กศน.) อ้าเภอแ ม่สาย จัดฝึกอบรมตัดเย็บผ้าเพื่อเรียนรู้และพัฒนาทักษะด้านการตัดเย็บรูปแบบต่าง ๆ ให้แก่สมาชิกลุ่มตัดเย็บชุมชน ห้วยไคร้พัฒนา แต่หลังจากน้ันสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเช้ือไวรัสโคโรนา 2019 (Covid–19) ได้ปรากฏการแพร่ระบาดขึ้นในพ้ืนท่ีอ้าเภอแม่สาย จึงท้าให้การด้าเนินการลักษณะกลุ่มหยุดช่ัวคราว โดยให้ สมาชิกกลุ่มตัดเย็บอยู่ท่ีบ้านและหากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อฯ ดีขึ้นจะกลับมาด้าเนิน กลมุ่ ตัดเย็บชมุ ชนหว้ ยไคร้พฒั นาต่อไป ผ้ากลุ่มตัดเย็บชุมชนห้วยไคร้พัฒนา เกิดการรวมตัวของผู้น้าชุมชนและกลุ่มแม่บ้านของบ้านหัวย ไคร้ พัฒนาทีไ่ ด้เลง็ เหน็ ความส้าคัญในการสง่ เสริมอาชพี และเป็นการเพ่มิ รายได้แก่ตนเองและครอบครัว ประกอบกับ ในชุมชนมีผู้ที่มีความรู้ด้านการตัดเย็บอยู่แลว้ จึงได้กันจัดต้ังกลุ่มตัดเย็บชุมชนห้วยไคร้พัฒนาข้ึน โดยได้รับการ สนับสนุนงบประมาณจากกองทุนเงินล้านในการจัดซื้อจักรเย็บผ้า และต่อมาได้รับการสนับสนุนจากส้านักงาน ส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย (กศน.) อ้าเภอแม่สาย ในการจัดฝึกอบรมตัดเย็บผ้า เพอื่ เรียนรู้และพัฒนาทกั ษะด้านการตดั เย็บให้แกส่ มาชิกกล่มุ เอกลักษณ์และอัตลักษณ์ที่โดดเด่นของผ้ากลุ่มตัดเย็บชุมชนห้วยไคร้พัฒนา คือลายปักท่ีไม่เหมือนกัน เป็นเฉพาะตัวจึงท้าให้มีความสวยงามท่ีหลากหลาย รวมทั้งการออกแบบเสื้อผ้าหรือผลิตภัณฑ์จากผ้าท่ีทันสมัย ไมซ่ ้าใคร และสามารถออกแบบไดต้ ามความต้องการของลูกค้าไดด้ ว้ ย ๓.2) ขน้ั ตอน/วิธกี าร/ดา้ เนนิ การเกย่ี วกบั ขอ้ มูล วสั ดอุ ุปกรณ์และอุปกรณ์ 1) จักรเยบ็ ผา้ /จกั รโพง้ 2) สายวัด 3) กรรไกร 4) กระดาษ 5) สร้างแบบ/กระดาษกดลาย 6) ลกู กลิ้งผา้ 7) ดนิ สอ 8) ดา้ ยเย็บ 9) เข็ม ๑๐) ผา้ ปักส้าหรับตดั เยบ็

-๓๘๑- ขัน้ ตอนกำรผลติ ผำ้ และผลติ ภัณฑ์จำกผ้ำ 1) สมาชกิ กลุม่ ตดั เยบ็ ชมุ ชนหว้ ยไคร้พฒั นาปักผ้าลวดลายตามท่ีแต่ละคนชอบหรือต้องการ 2) นา้ ผา้ แตล่ ะผนื ท่ีสมาชกิ กลุ่มปักเสร็จแล้วเข้าสกู่ ระบวนการตัดเย็บ 3) ออกแบบตดั เยบ็ ตามความตอ้ งการของลูกค้าหรือออกแบบตามความเหมาะของผลติ ภัณฑ์ผ้าและลวดลาย ๔) ตดั ตามแบบ ๕) ไดผ้ ลผลิตภัณฑจ์ ากผ้าพร้อมจา้ หนา่ ยต่อไป 4. ชื่อผู้ที่ถอื ปฏิบตั ิและผสู้ ืบทอด 4.๑ ผทู้ ีถ่ ือปฏิบัติ ชอื่ นางประภากร พลสทิ ธิ์ วัน เดอื น ปีเกดิ - ทอ่ี ยู่ ๒๑/๑ หมู่ 1๐ ตา้ บลหว้ ยไคร้ อ้าเภอแม่สาย จงั หวัดเชียงราย หมายเลขโทรศัพท์ 085 722 1383 4.๒ ผู้สืบทอด ช่อื - วัน เดือน ปีเกิด - ทอ่ี ยู่ - หมายเลขโทรศัพท์ - 5. สถำนะ กำรคงอยู่  ปฏิบัติอย่างแพรห่ ลาย  เส่ียงตอ่ การสญู หาย  ไมม่ ปี ฏิบตั แิ ลว้ 6. รปู ภำพภมู ปิ ัญญำทำงวัฒนธรรม/กจิ กรรมทำงภูมปิ ัญญำทำงวัฒนธรรม ถุงยา่ มปักผ้าด้วยลวดลาย กระเปา๋ ผ้า ตวั อย่างเส้ือผา้ ทต่ี ัดเยบ็ จากกลุ่ม

-๓๘๒- แบบสำรวจมรดกภมู ปิ ญั ญำทำงวัฒนธรรมจงั หวดั เชียงรำย ประจำปี ๒๕๖๕ สภำวฒั นธรรมจงั หวัดเชยี งรำย อำเภอแมจ่ ัน จังหวดั เชยี งรำย ๑. ชอ่ื ข้อมูล การทาบายศรี ๒. ลกั ษณะ  วรรณกรรมพื้นบ้านและภาษา  ศิลปะการแสดง  แนวปฏิบัติทางสงั คมพธิ ีกรรม ประเพณี และเทศกาล  อาหาร/ความรูแ้ ละการปฏิบตั เิ กยี่ วกับธรรมชาติและจักรวาล  งานช่างฝีมือดงั้ เดิม  การละเลน่ พ้นื บ้าน กีฬาพน้ื บ้าน และศิลปะการต่อส่ปู ้องกนั ตัว ๓. รายละเอียดข้อมูล ๓.๑) ประวัตคิ วามเปน็ มาของขอ้ มลู เม่ือมีงานมงคล พิธีการทางศาสนาชาวบ้านก็จะร่วมมือกันท้าบายศรี เพ่ือประกอบพิธีต่าง ๆ งานสืบชะตา งานบวงสรวง งานบายศรีสู่ขวัญนาค(งานบวช) และงานบายศรีสู่ขวัญวันแต่งงาน จึงมีการถ่ายทอดวิธีการท้า จากรุน่ สู่รุ่น เพื่อรักษาวัฒนธรรมและประเพณีของหมู่บ้านไวส้ ืบต่อไป ๓.๒) ขน้ั ตอน/วิธกี าร/ดาเนนิ การเกี่ยวกบั ขอ้ มูล ศกึ ษาขัน้ ตอนการทาบายศรแี ต่ละประเภทและการทาบายศรีเพ่ือประกอบพิธีตา่ ง ๆ และการทากรวย ดอกไม้ จดั ทารายละเอียดข้ันตอน วัสดุอปุ กรณ์ และบนั ทึกภาพการทาบายศรี 1. ก้าหนดขนาดของบายศรี ชว่ งห่างของแตล่ ะชน้ั หา่ งประมาณ 8 น้ิว 2. ท้าตัวบายศรีเสรจ็ แล้วแชน่ า้ แลว้ น้าข้นึ สลัดน้า ใส่ไว้ในกะละมังคลุมด้วยผ้าขาวบาง 3. การท้าตวั รอง จีบใบตองด้านแขง็ อยูท่ างขวามือด้านอ่อนอยู่ทางซ้ายมือ พบั มาทางขวามือ 3 ทบ ให้เกินครงึ่ ไปทางขวามือทางด้านขวามือใช้ใบตองพบั 3 ทบซอ้ นใบตองที่พับจากทางด้านซา้ ยมือใหอ้ ยตู่ รงกลาง เมือ่ พับไดเ้ ช่นนี้แล้ว 3 อนั ให้หอ่ 3 ชน้ิ รวมกนั วิธีหอ่ ห่อแบบห่อบายศรีจนครบ 4. วธิ ีเข้าตัวบายศรี ให้เริ่มตั้งแต่ช้นั ลา่ งกอ่ น และนา้ ไปติดกับแปน้ โฟมที่ให้ตัดไวแ้ ลว้ น้าบายศรโี ดยใช้ ลวดตวั ยูเสยี บยดึ ให้แนน่ จนครบรอบชั้นบนชน้ั ลา่ ง แลว้ จึงติดตวั รองระหวา่ งช่องของบายศรจี นครบ 5. คาดเอว ระหว่างช้ันบนและช้ันล่างของตัวบายศรีจะใช้กาบกล้วยจะต้องสลักลวดลาย และอาจ ตกแต่งดว้ ยบานไม่รโู้ รยหรือดอกไมอ้ ่นื 6. เมื่อทา้ ครบ 3 ชนั้ แลว้ ชนั้ บนสดุ ใหใ้ สบ่ ายศรปี ากชาม ใช้เวลาการท้า 2 สปั ดาห์ วสั ดุ/อปุ กรณ์ - ใบตอง - พาน - เข็มหมุด - ตะปูเขม็ - น้ามันมะกอก - ดอกไม้สด - โฟม - กรรไกร - เม็กกบั ลกู เมก็ - ไม้ลกู ช้ิน

-๓๘๓- ๔. ช่อื ผู้ที่ถอื ปฏิบัติและผ้สู ืบทอด ๔.๑ ผ้ทู ีถ่ อื ปฏบิ ตั ิ ชือ่ นางมาลินี แย้มเมือง วนั เดือน ปีเกดิ ๑๑ กรกฎาคม ๒๔๘๘ ที่อยู่ ๗/๑ หมู่ ๓ ตาบลแมจ่ นั อาเภอแม่จนั จงั หวดั เชียงราย หมายเลขโทรศัพท์ ๐๘๑ ๐๒๒๘๓๓๕ หรือ ๐๙๓ ๐๐๕๑๕๗๓ ๔.๒ ผู้สืบทอด ชอ่ื กลมุ่ ผู้สงู อาย/ุ กลุ่มแม่บ้าน/กลุ่มเด็กนกั เรียนและเยาวชนในพ้นื ท่ี เขตเทศบาลตาบลแม่จนั วัน เดือน ปเี กดิ - ทีอ่ ยู่ เขตเทศบาลตาบลแมจ่ ัน อาเภอแม่จนั จงั หวัดเชียงราย หมายเลขโทรศัพท์ - ๕. สถานะ การคงอยู่  ปฏิบตั อิ ยา่ งแพร่หลาย  เส่ยี งต่อการสญู หาย  ไม่มปี ฏิบตั แิ ล้ว ๖. รูปภาพภูมิปัญญาทางวัฒนธรรม/กิจกรรมทางภูมิปัญญาทางวฒั นธรรม

-๓๘๔- แบบสำรวจมรดกภมู ิปัญญำทำงวฒั นธรรมจงั หวดั เชียงรำย ประจำปี ๒๕65 สภำวฒั นธรรมจังหวดั เชยี งรำย อำเภอเวยี งชัย จงั หวัดเชียงรำย ๑. ช่ือข้อมูล การปลูกหม่อนเลย้ี งไหมและการทอผา้ ไหม ๒. ลกั ษณะ  วรรณกรรมพืน้ บา้ นและภาษา  ศลิ ปะการแสดง  แนวปฏบิ ัติทางสังคมพิธีกรรม ประเพณี และเทศกาล  อาหาร/ความรแู้ ละการปฏบิ ตั ิเกยี่ วกบั ธรรมชาติและจักรวาล  งานชา่ งฝมี อื ดั้งเดิม  การละเล่นพืน้ บ้าน กีฬาพน้ื บ้าน และศลิ ปะการต่อส่ปู ้องกันตวั ๓. รำยละเอียดข้อมลู ๓.๑) ประวตั ิความเปน็ มาของข้อมลู ผ้าทอและเคร่ืองถักทอถือเป็นของใช้ท่ีแสดงถึงการริเริ่มความคิดสร้างสรรค์ของมนุษย์ เนื่องจาก กรรมวิธีการทอผ้าแต่ละพื้นเมืองน้ันมีลักษณะแตกต่างกันทั้งรูปแบบของสีสันและลวดลาย แม้ว่าจะใช้วัตถุดิบ จากไหมหรือฝ้ายก็ตาม ด้วยสาเหตุเหล่าน้ีจึงทาให้การทอผ้านับเป็นงานหัตถศิลป์ และการทอผ้ายังสะท้อน ให้เหน็ ถึงความสัมพนั ธ์ของสังคมและวฒั นธรรมของกลุ่มพ้นื ทีน่ ้นั ได้อีกด้วย ๓.๒) ขั้นตอนวิธกี าร/ด้าเนนิ การเก่ียวกบั ข้อมูล ๑. การเตรียมเสน้ ไหม และย้อมสีตามต้องการ ๒. ต่อเสน้ ไหม ๓. การเตรยี มฟมื ทอผา้ ๔. การทอผ้ากับฟมื ตามลวดลายทต่ี ้องการ ๔. ชอ่ื ผูท้ ีถ่ ือปฏบิ ัติและผ้สู บื ทอด ๔.๑ ผทู้ ถี่ อื ปฏิบัติ ชือ่ นางพนั สีเชยี งสา (ยายพนั ธ์) วนั เดือน ปเี กดิ - ท่อี ยู่ 135 หมู่ที่ 3 ตา้ บลเมืองชุม อา้ เภอเวยี งชยั จังหวดั เชียงราย หมายเลขโทรศัพท์ - ๔.๒ ผ้สู ืบทอด ชื่อ - วนั เดอื น ปีเกิด - ท่ีอยู่ - หมายเลขโทรศัพท์ - ๕. สถำนะ กำรคงอยู่  ปฏบิ ัติอย่างแพรห่ ลาย  เสย่ี งตอ่ การสญู หาย  ไม่มปี ฏบิ ตั แิ ลว้

-๓๘๕- ๖. รูปภำพภูมปิ ญั ญำทำงวัฒนธรรม/กจิ กรรมทำงภูมปิ ัญญำทำงวัฒนธรรม

-๓๘๖- แบบสำรวจมรดกภมู ปิ ญั ญำทำงวัฒนธรรมจังหวดั เชียงรำย ประจำปี 2565 สภำวัฒนธรรมจงั หวัดเชยี งรำย อำเภอเวยี งชัย จงั หวัดเชยี งรำย ๑. ช่ือข้อมูล การแปรรูปกะลามะพร้าว ๒. ลกั ษณะ  วรรณกรรมพืน้ บ้านและภาษา  ศิลปะการแสดง  แนวปฏบิ ัตทิ างสังคมพธิ ีกรรม ประเพณี และเทศกาล  อาหาร/ความรู้และการปฏบิ ัติเก่ียวกับธรรมชาติและจักรวาล  งานชา่ งฝมี อื ดั้งเดิม  การละเล่นพืน้ บา้ น กีฬาพ้นื บ้าน และศลิ ปะการต่อสปู่ ้องกันตวั ๓. รำยละเอยี ดข้อมูล 3.1 ประวัตคิ วามเป็นมาของข้อมลู นายเล็ก ลักษ์วิลัย เกิดเม่ือวันที่ 4 สิงหาคม พ.ศ. 2495 เป็นบุตรนายเป็ง นางบัวค้า ลักษ์วิลัย ปจั จบุ นั อาศยั อย่บู า้ นเลขท่ี 2 หมูท่ ่ี 17 บา้ นใหม่ศรีวไิ ลย์ ต้าบลดอนศิลา อ้าเภอเวียงชยั จงั หวดั เชยี งราย จากความคิดท่ีว่า มะพร้าว 1 ลูก สามารถน้ามาใช้ประโยชน์ได้หลากหลายประการจากน้ามะพร้าว ดา้ นในน้ามารับประทานได้ เน้ือมะพร้าวมาค้นั เปน็ กะทิ ทา้ ทัง้ อาหารหวาน อาหารคาว เปลือกมะพร้าวสามารถ น้ามาเป็นเชอ้ื เพลิง และนา้ มาเป็นกระถางปลูกดอกกลว้ ยไม้ และกะลามะพร้าวนา้ มาแปรรปู ทา้ ส่งิ ของเคร่ืองใช้ ต่าง ๆ ซึ่งนายป๋ัน วงค์ศรี เป็นผู้ริเริ่มน้ากะลามะพร้าวที่สามารถหาได้ท่ัวไป มาแปรรูปเป็นส่ิงของต่าง ๆ เช่น ชอ้ น กระบวยตักนา้ กระปกุ ออมสิน โคมไฟ ฯลฯ เพื่อจ้าหน่าย สรา้ งรายได้ใหแ้ กต่ นเอง ต่อมานายเล็ก ลักษ์วิลัย ได้ริเริ่มน้ากะลาทะพร้าวมาแปรรปู ในลักณะส่ิงของเคร่อื งใช้ต่าง ๆ ท่ีสามารถ นา้ มาใชป้ ระโยชนไ์ ด้อย่างหลากหลาย 3.2 ข้นั ตอน/วิธีการ/ด้าเนินการเกี่ยวกบั ข้อมูล วิธีกำรทำผลติ ภัณฑจ์ ำกกะลำมะพร้ำว ๑. น้ากะลามะพร้าวแก่จัดท่ีแห้งแล้วมาขูดเอาเน้ือด้านในออกให้หมด แล้วขัดผิวภายนอกกะลา ใหเ้ กล้ียง สว่ นดา้ นในขดั ด้วยกระดาษทราย ๒. ร่างแบบ หรอื ลวดลายที่ต้องการดว้ ยดินสอลงบนกะลา กะลาท่ใี ชจ้ ะเปน็ ทงั้ ลูก เปน็ ซีก หรือเป็นเศษ ขึ้นอยูก่ ับรปู แบบของผลติ ภณั ฑ์ ๓. ใช้สว่านเจาะรูตามแบบลวดลาย โดยใช้ดอกสว่านขนาด 2 มิลลิเมตร เจาะให้รอบแบบลาย เพ่อื เปน็ รูหรบั สอดใบเลอ่ื ย ๔. ใช้เล่ือยฉลุตามแบบลาย โดยเริ่มจากด้านในก่อน แล้วฉลุขอบด้านนอกเพื่อความสะดวกในการจับ ชนิ้ งาน (ใช้เทียนไขลูบใบเล้ือยฉลเุ พอ่ื ใหล้ ่นื สะดวกในการฉล)ุ ๕. ตกแต่งผิวและขอบนอกของกะลาด้วยตะไบละเอียด จากน้ันขัดด้วยกระดาษทรายเบอร์ 4 และเบอร์ 0 จนผวิ กะลาเรยี บทีส่ ุด ๖. กรณีท่ีต้องมีการประกอบช้ินส่วนต่าง ๆ เข้าหากัน หรือติดผลิตภัณฑ์บนแท่นไม้ให้ใช้กาวตราช้าง หรือกาวลาเทก็ ซต์ ดิ หากตอ้ งการเพ่ิมความแข็งแรงย่งิ ขึ้นใช้ตะปูหรอื หมดุ ตอกเปน็ สลกั ยึด ๗. หากต้องการเคลือบเงาให้ใช้พู่กันทาแลคเกอร์จนท่ัวผลิตภัณฑ์ แล้วทิ้งไว้ให้แห้ง ทาซ้าใหม่ ท้าเช่นน้ี 2 - 3 ครง้ั จะได้ผลิตภัณฑ์ท่ีเงางาม