Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore พรบและระเบียบกค

พรบและระเบียบกค

Published by justin justin, 2020-08-02 21:26:00

Description: พรบและระเบียบกค

Search

Read the Text Version

หมวด 12 การทงิ้ งาน ( มาตรา 109  เหตลุ งโทษผู้ยืน่ ขอ้ เสนอท่ีได้รับการค หนว่ ยงานของรัฐอนญุ าตใหท้ างาน ไ ทงิ้ งานโดยไม่มเี หตุผลอันสมควร 1.ผูย้ ื่นข้อเสนอไดร้ บั คัดเลอื กไมย่ อมทาสญั ญาหร 2. คสู่ ัญญา/ผ้รู ับจา้ งช่วงที่อนญุ าตใหร้ ับจ้างช่วง 3. ผู้ยน่ื ข้อเสนอ/ค่สู ัญญา กระทาการขัดขวางก 4. เมือ่ ผลการปฏบิ ตั ิงานตามสัญญาของทป่ี รกึ ษ งานกอ่ สรา้ ง มขี อ้ บกพร่อง /ผดิ พลาด/ หรอื ก 5.เม่ือ ผใู้ ห้บรกิ ารจา้ งออกแบบหรอื ควบคุมงาน ปฏบิ ตั ติ ามมาตรา 88( คือผู้รับจา้ งออกแบบ กอ่ สร้างในงานนั้น 6. การกระทาอน่ื ตามที่กาหนดในกฎกระท

(พรบ.มาตรา 109 -111) คดั เลอื ก /คูส่ ญั ญา/ผรู้ บั จา้ งช่วงท่ี ไดก้ ระทาการดงั ต่อไปน้ี ให้ถือวา่ เปน็ ผู้ รอื ขอ้ ตกลงเป็นหนงั สอื ภายในเวลาที่กาหนด งไดไ้ ม่ปฏิบัตติ ามสญั ญา/ขอ้ ตกลงเปน็ หนงั สอื การแขง่ ขันราคาอย่างเป็นธรรม/หรือไม่สจุ ริต ษาหรอื ผใู้ ห้บริการจา้ งออกแบบหรือควบคุม ก่อให้เกดิ ความเสียหายอย่างรา้ ยแรง นกอ่ สร้าง หรือผ้ปู ระกอบการงานก่อสรา้ ง ไม่ บ/ควบคุมงานตอ้ งไมม่ ีส่วนได้เสียกบั ผู้รับจ้าง ทรวง 301

มาตรา ปลดั กระทรวงการค 109 วรรคสอง มีอานาจในการสงั่ เปน็ ผู้ท สงั่ ทิ้งงาน -ให้แจ้งเวีย ผู้ยน่ื ข้อเสนอ (1)หนว่ ยงานข หรอื คสู่ ญั ญา (2)แจง้ เวียนในระ (3)แจง้ ผ้ถู กู ทงิ้ งา มาตรา 109วรรคสี่ หลักเกณฑก์ ารพจิ ารณา/การแจง้ เวียนชอ่ื ให (พรบ.มาตรา 110) เหตแุ ห่งการการรอ้ งขอเพกิ ถอนการเปน็ มฐี านะการเงิน มกี ารชาระภาษี พ ม่นั คง ถูกต้องตามกม.

คลงั มาตรา ผลของการ 109 ถกู สัง่ เปน็ ทง้ิ งาน วรรคสาม ผู้ทิ้งงาน ยน กรณีนติ บิ ุคคลทงิ้ งาน ของรัฐ -ถ้าการกระทาเกิดจากหุน้ สว่ น ะบบ e-GP ผู้จัดการ กรรมการผจู้ ดั การ านทราบ ผบู้ รหิ าร ผูม้ อี านาจดาเนิน กจิ การของนติ ิบุคคล ห้รมต.กาหนด ใหส้ ่งั ทิ้งงานบุคคลดงั กลา่ ว ด้วย นผ้ทู ง้ิ งาน หา้ มมหานต่วรยางา1น1ข1องรฐั พน้ กาหนดระยเวลา จดั ซื้อจัดจา้ งกบั ผู้ทงิ้ งาน ถูกทงิ้ งานตามท่ี รวมถึงนิติบคุ คล/ผูบ้ ริหารนิติ รมต.กาหนด บุคคลด้วย เวน้ แต่ ได้มีการ เพิกถอนช่อื แล้ว 302

ระเบียบท่รี ัฐมนตรีกาหนดวิธปี ฏิบ หมวด 8 กา สว่ นที่ 1 การลงโท ข้อ 192 ห้ามหนว่ ยงานของรฐั ก่อนติ ิสมั พันธ ช่ือ ไว้ในบญั ชรี ายช่อื ผู้ท้ิงงานและได้แจ้งเวยี น เวน้ แตจ่ ะไดม้ กี ารเพกิ การห้ามหน่วยงานของรฐั กอ่ นติ สิ ัมพันธ กบั บุคคลทเ่ี ปน็ กรรมการ ผู้จดั การ ห

บตั เิ รอื่ งการสั่งทิ้งงานผปู้ ระกอบการ ารทง้ิ งาน ทษให้เปน็ ผู้ทง้ิ งาน ธ์กับผูท้ ิ้งงานท่ีปลัดกระทรวงการคลังไดร้ ะบุ นชอ่ื แลว้ กถอนการเป็นผทู้ ิง้ งาน ธก์ ับผทู้ งิ้ งานตามวรรคหน่ึง ให้ใช้บังคับ ห้นุ สว่ นผจู้ ดั การนติ ิบคุ คลนัน้ ๆ ดว้ ย 303

หลกั เกณฑ์การตดั สทิ ธ์ิ /ลงนาม บุคคลธรรมดาหรือนติ ิบุคค ทิ้งงานตามขอ้ กาหนด ในสว่ นนี้ ใหบ้ ุคคล ของรัฐได้  แตถ่ า้ ผลการพิจารณา ตอ่ มา ปลดั กร นิติบคุ คลนน้ั เป็นผ้ทู ง้ิ งาน  ให้หน่วยงานของรัฐตดั รายชือ่ บุคคล คดั เลอื กหรือยกเลกิ การซ้อื หรอื จา้ ง ห ท่ีได้ กระทาก่อนการส่งั การของปลัด เวน้ แต่ ในกรณที หี่ ัวหน้าหน ประโยชนแ์ กห่ นว่ ยงานของรฐั อยา่ งย่ิง หัว บคุ คล ดังกลา่ วออกจากรายชื่อผู้มีสทิ ธไิ ด จัดจ้าง หรอื จะไม่ยกเลกิ การลงนามในสญั ของปลัดกระทรวงการคลังก็ได้

มสัญญา หากถูกสงั่ เป็นผูท้ งิ้ งานแล้ว คลใดทอี่ ยใู่ นระหว่างการพิจารณาใหเ้ ปน็ ผู้ ลดงั กล่าวมสี ิทธิยน่ื ขอ้ เสนอให้แก่หนว่ ยงาน ระทรวงการคลงั ไดส้ ั่งให้บคุ คลธรรมดาหรอื ล ดังกลา่ วออกจากรายชื่อผูม้ สี ิทธไิ ดร้ บั การ หรือยกเลิกการลงนามในสัญญา ซ้อื หรอื จ้าง ดกระทรวงการคลงั น่วยงานของรัฐ พิจารณาเห็นว่าจะเปน็ วหนา้ หนว่ ยงานของรัฐจะไมต่ ดั รายช่ือ ดร้ บั การคัดเลอื ก หรอื จะไม่ยกเลกิ การจัดซอ้ื ญญาซือ้ หรือจา้ งทไ่ี ด้กระทาก่อนการสัง่ การ 304

ข้อ193 ในกรณที ป่ี รากฏวา่ ผยู้ ่ืนขอ้ เส กระทาการ อนั มีลกั ษณะเปน็ กา ให้หัวหน้าหน่วยงานของรฐั พจิ ารณาใหผ้ ู้ย หน่วยงานของรฐั อนญุ าตใหร้ บั ช่วงงานได้ หร ควบคมุ งาน เป็นผ้ทู พรอ้ มความเหน็ ของตน เสนอ เพื่อพิจารณาสงั่ ใหเ้ ป เมอ่ื ปลัดกระทรวงการคลังไดพ้ จิ ารณาหล วนิ จิ ฉัยตามมาตรา 29(5) แลว้ และเห กใ็ หป้ ลดั กระทรวงการคลังสงั่ ใ โดยระบุชอ่ื ผทู้ ้งิ งานไวใ้ นบัญชรี ายชื่อผทู้ ้งิ งาน ของรัฐต่างๆ ทราบ รวมทง้ั แจง้ ให้ผู้ทงิ้ งานรา กรณปี ลดั กระทรวงการคลงั เห็นว่าบคุ คลดงั ก พจิ ารณาไปใหห้ นว่ ยงานของรัฐ

สนอหรือคูส่ ัญญาของหน่วยงานของรัฐ ารท้งิ งาน ตามความในมาตรา 109 ยื่นขอ้ เสนอ คูส่ ญั ญา หรอื ผู้รบั จา้ งชว่ งที่ รอื ท่ีปรกึ ษา หรอื ผู้ใหบ้ รกิ ารออกแบบ หรอื ทง้ิ งาน แลว้ แต่กรณี อไปยังปลัดกระทรวงการคลงั ปน็ ผทู้ งิ้ งานโดยเร็ว ลงั จากทไ่ี ดฟ้ งั ความเห็นของคณะกรรมการ หน็ ว่าบุคคลดังกล่าวสมควรเปน็ ผู้ทิ้งงาน ใหบ้ คุ คล ดังกล่าวเปน็ ผู้ท้ิงงาน น พร้อมทงั้ แจ้งเวยี นช่อื ผทู้ ้ิงงานให้หน่วยงาน ายนน้ั ทราบทางไปรษณยี ล์ งทะเบียนดว้ ย ใน กลา่ วไมส่ มควรเป็นผ้ทู ิ้งงาน ใหแ้ จง้ ผล การ ฐนนั้ ทราบด้วย [มาตรา ๑๐๙ ) 305

ขอ้ 194 ในกรณีมเี หตอุ นั คว ผยู้ ่ืนข้อเสนอรายหน่ึงหรอื หลายราย คัดเลอื กหรือไม่กต็ าม กระทาการอนั เ ธรรมหรือกระทา เช่น การเสนอเอก หรือใชช้ อ่ื บุคคลธรรมดาหรือ น  ใหห้ น่วยงานของรัฐทเ่ี กี่ยวข้องดาเ ดงั กล่าวสมควรเปน็ ผู้ทิง้ งานหรือไม รัฐสงสยั ไปยังผู้ยน่ื ขอ้ เสนอทีถ่ กู สงส ขอ้ เท็จจรงิ ภายในเวลาท แต่ต้องไม่นอ้ ยกว่า 15วัน นับแต่วันที่ได

วรสงสัยปรากฏในภายหลังวา่ ยไมว่ ่าจะเปน็ ผู้ยื่นขอ้ เสนอท่ไี ดร้ บั การ เป็นการขดั ขวางการแขง่ ขนั อย่างเป็น าการโดยไมส่ จุ ริต กสารอันเป็นเท็จ นติ ิบุคคลอืน่ มาเสนอราคาแทน เนนิ การตรวจสอบขอ้ เท็จจริงว่าบคุ คล ม่ โดยมหี นงั สือแจง้ เหตทุ ่หี นว่ ยงานของ สัยทราบ พรอ้ มทงั้ ให้ชแ้ี จงรายละเอยี ด ท่ีหนว่ ยงานของรฐั กาหนด ดร้ ับหนังสือแจ้งจากหน่วยงานของรฐั 306

 เม่อื หนว่ ยงานของรฐั ได้รบั คาชแ้ี จงจากผ หัวหน้าหน่วยงานของรฐั พิจารณาวา่ บ หากผยู้ ่นื ข้อเสนอท่ีถกู สงสยั ไมช่ แ้ี จง ให้ถอื ว่ามีเหตุอนั ควร เช่ือไดว้ า่ มกี ารกระทาอัน หรือมีการกระทาโดยไมส่ ุจริต ใหห้ วั หน้าหน กระทรวงการคลงั เพ่อื พจิ า ข้อ 195 ในกรณีทผ่ี ู้ย่นื ข้อเสนอร่วมกระทา อย่างเป็นธรรม หรอื กระทาการโดยไม่สุจร ดังกลา่ ว ไดใ้ หค้ วามร่วมมอื เปน็ ประโยช  ให้หวั หน้าหน่วยงานของรฐั พจิ ารณาให ไมเ่ ป็นผทู้ ิง้ งานได้ โดยแสดงเหตผุ ล หรือในการส่งั

ผูย้ ่ืนข้อเสนอที่ถูกสงสัยตามวรรคหนง่ึ แลว้ ให้ บุคคลดังกล่าวสมควรเป็นผู้ท้งิ งานหรือไม่ งภายในกาหนดเวลาตามวรรคหนง่ึ นเปน็ การขัดขวางการแข่งขนั อย่างเปน็ ธรรม น่วยงานของรฐั เสนอความเหน็ ไปยังปลดั ารณาให้ผู้นนั้ เปน็ ผู้ทิ้งงาน าการอนั เป็นการขัดขวางการแข่งขนั ราคา รติ รายใด ซง่ึ มใิ ช่เป็นผรู้ เิ รมิ่ ใหม้ กี ารกระทา ชน์ต่อการพิจารณาของหนว่ ยงานของรัฐ หผ้ ู้ย่ืนขอ้ เสนอรายนั้น ไดร้ ับการยกเว้นท่จี ะ ลหรอื ระบุเหตผุ ลไวใ้ นการเสนอความเห็น งการ แลว้ แต่กรณี 307

การถกู สัง่ เปน็ ผทู้ ิ้งงานมีผลถึงบคุ คล ขอ้ 196 ในกรณีทน่ี ติ ิบคุ คลใดถกู ส่ังใหเ้ ป็นผ หนุ้ ส่วนผู้จัดการ กรรมการผู้จดั การ ผบู้ รหิ กิจการ ของนติ ิบคุ คลนัน้ ใหป้ ลัดกระทรวง ด้วย ในกรณีท่นี ิตบิ คุ คลรายใดถกู สั่งใหเ้ ป็น  ใหค้ าสั่งดงั กลา่ ว มผี ลไปถึงนิติบุคคลอ่ืนท ผจู้ ดั การ กรรมการผูจ้ ดั การ ผบู้ รหิ าร หรือ นติ บิ ุคคลน้นั เปน็ บุคคลเดยี วกนั กบั ห้นุ สว่ น ผูม้ ีอานาจในการดาเนนิ งานในกิจการของ  ในกรณีทบ่ี คุ คลธรรมดารายใดถกู ส่ังให้เป บคุ คลอ่นื ทีเ่ ข้ายนื่ ข้อเสนอ ซงึ่ มบี คุ คลดังก ผจู้ ัดการ ผู้บริหาร หรอื ผู้มอี านาจในการด

ลธรรมดาหรอื ผแู้ ทนนติ ิบคุ คลด้วย ผู้ทิง้ งาน ถ้าการกระทาดงั กล่าวเกิดจาก หาร หรอื ผูม้ อี านาจในการดาเนินงานใน งการคลงั สง่ั ให้บคุ คลดังกลา่ วเปน็ ผทู้ ิง้ งาน นผทู้ ิง้ งานตามข้อ194 ข้อ 195หรอื ขอ้ 196 ทีด่ าเนนิ ธุรกิจประเภทเดียวกัน ซงึ่ มหี ุน้ ส่วน อ ผู้มอี านาจในการดาเนินงานในกจิ การของ นผจู้ ดั การ กรรมการผ้จู ัดการ ผู้บริหาร หรอื งนิตบิ ุคคลท่ีถกู พจิ ารณาให้เปน็ ผทู้ ้งิ งานดว้ ย ป็นผู้ท้งิ งานให้คาสัง่ ดงั กล่าวมีผลไปถงึ นิติ กลา่ วเปน็ หุน้ ส่วนผ้จู ัดการ กรรมการ ดาเนนิ งานในกิจการของนิติบคุ คลนนั้ ดว้ ย 308

อานาจปลัดกระทรวงก ขอ้ 197 เพ่อื ประโยชนใ์ นการดาเนนิ กา ขอ้ เท็จจรงิ อนั ควรสงสยั วา่ มีการกระท เปน็ ธรรม หรือกระทาการโดยไมส่ จุ ร รายงานไปยัง ปลดั ก ปลดั กระทรวงการคลังอาจเรยี กใหผ้ ูย้ ืน่ อนั ควร สงสัยวา่ มีการกระทาอนั เปน็ กา หรือกระทาการโดยไม่สุจรติ มาชีแ้ จง ท้ังนี้ โดยมีหนงั สอื แจ้งเหตทุ ่ีปลดั กระทร พรอ้ มท้งั แจง้ ใหบ้ คุ คลนน้ั ช้แี จงรายละ กระทรวงการคลงั กาหนด แต่ ต้องไม่นอ้ แจ้งจากปลัดกระ

การคลงั ในการส่ังท้งิ งาน ารใหเ้ ปน็ ไปตามระเบียบนี้ เมื่อปรากฏ ทาอนั เป็นการขดั ขวางการแขง่ ขนั อย่าง รติ และหน่วยงานของรัฐนน้ั ยงั ไมไ่ ด้ กระทรวงการคลัง นขอ้ เสนอ หรอื คสู่ ัญญา ทม่ี ขี อ้ เท็จจรงิ ารขัดขวางการแขง่ ขนั อย่างเป็นธรรม ขอ้ เท็จจรงิ ตอ่ ปลัดกระทรวงการคลัง รวงการคลังสงสยั ไปยงั บุคคล ดังกลา่ ว ะเอียดข้อเท็จจรงิ ภายในเวลาท่ีปลดั อยกวา่ 15วนั นับแตว่ ันทไี่ ด้รับหนงั สอื ะทรวงการคลัง 309

(ต่อ)อานาจปลัดกระทรวงก เม่ือปลัดกระทรวงการคลังได้รบั คาชแ้ี จงจา คสู่ ัญญา ท่ถี ูกสงสยั ต ให้ปลัดกระทรวงการคลังพ -หากคาชี้แจงไมม่ ีเหตผุ ลรบั ฟงั ได้ ให้ปลดั กร เป็นผ้ทู ง้ิ งาน พรอ้ มท้ังแจ้งผลการพจิ าร -หากผยู้ น่ื ข้อเสนอ หรอื คู่สญั ญา ที่ถูกสงสยั ต ปลดั กระทรวงการคลังจะได้กาหนดไว้ ใหถ้ อื ว การขดั ขวางการแข่งขนั อยา่ งเปน็ ธ ใหป้ ลดั กระทรวงการคลังพิจารณา พรอ้ มทง้ั แจ้งผลการพจิ าณาไปใ

การคลังในการส่งั ท้งิ งาน ากผไู้ ดร้ ับการคัดเลอื กผู้ย่ืนขอ้ เสนอ หรอื ตามวรรคหน่งึ แลว้ พิจารณาคาชแี้ จงดังกลา่ ว ระทรวงการคลังพิจารณาให้บุคคลดงั กล่าว รณาไปให้หนว่ ยงานของรัฐทราบดว้ ย ตามวรรคหน่ึง ไม่ช้ีแจงภายในกาหนดเวลาที่ วา่ มีเหตุอันควรเชือ่ ไดว้ า่ มกี ารกระทาอนั เป็น ธรรม หรือมีการกระทาโดยไม่สจุ รติ าใหบ้ คุ คลดงั กลา่ วเปน็ ผ้ทู ้งิ งาน ให้หน่วยงานของรัฐทราบดว้ ย 310

่สว่ นที่ ๒ การเพิกถอ ข้อ 198 ผทู้ ่ีถูกส่งั ใหเ้ ป็นผูท้ ้ิงงานสามารถยื่น ตอ้ ง แสดงหลักฐานประกอบการพ (1) ถูกขนึ้ บญั ชีเปน็ ผู้ทิ้งงา โดยจะตอ้ งไม่ได้ถกู สั่งให้เปน็ ผูท้ ้ิงงาน เน่อื งจ ขัดขวางการแข่งขันราคาอย่างเป็นธรรม หรอื ก จะได้รบั การเพกิ ถอนในขอ้ นี้ ต้องไม่เคยมีผลก กาหนดและถูกระงบั ไมใ่ ห้เข้าย่นื ขอ้ เสน (2) ถูกข้นึ บัญชีเปน็ ผทู้ ง้ิ งาน และจะต้องไมไ่ ด้ถูกส่งั หรือแจง้ เวียนให้ เ อนั มีลักษณะเปน็ การขัดขวางการแขง่ ขนั โดยไม่ส

อนการเป็นผู้ทิ้งงาน นคาร้องขอเพกิ ถอนการเปน็ ผทู้ ง้ิ งานได้ โดย พจิ ารณามาด้วย โดยมีหลกั เกณฑ์ านมาแลว้ ไม่นอ้ ยกว่า 2 ปี จากมีการกระทาการอันมีลกั ษณะเป็นการ กระทาการโดยไม่สจุ รติ ทงั้ นี้ ผ้ขู อเพกิ ถอนที่ การประเมนิ ตามหมวด7เปน็ ผู้ไม่ผา่ นเกณฑท์ ี่ นอหรือทาสัญญากับหนว่ ยงานของรฐั นมาแลว้ ตั้งแต่ 5 ปขี นึ้ ไป เปน็ ผทู้ ิ้งงาน เนื่องจากมีการกระทาการ นราคาอยา่ งเป็นธรรม หรอื กระทาการ สุจริต 311

ขอ้ 199 คณะกรรมการวนิ จิ ฉัยอาจเสนอคว เพื่อให้มกี าร เพกิ ถอนการเป็นผทู้ ง้ิ งาน ส ไมน่ ้อยกวา่ 10 ปี ออกจาก ขอ้ 200 ผูท้ ิ้งงานรายใดท่ีถกู เพกิ ถอนชือ่ จาก หากผ้ทู ิ้งงานรายนัน้ ถูกสงั่ ให้เปน็ ผทู้ จากวนั ทไ่ี ด้รับการเพิกถอนชอื่ ออกจ เป็นผู้ทง้ิ งานในครัง้ หลงั ผู้ท้ิงงานจะไ มสี ิทธไิ ด้เพิกถอนตามขอ้ 198 (2) ได . ข้อ 201 ผทู้ ง้ิ งานที่ประสงค์จะขอใช้สทิ ธิเพิก ...ต้องยนื่ คาขอเพิกถอนมายงั ปลดั กระทรวงกา มาเพื่อ ประกอบการพจิ ารณาด้วย ท้งั น้ี การเพิกถอนการเป็นผทู้ ง้ิ งานจะมผี ลตอ่ การเปน็ ผทู้ ิ้งงานและไดแ้ จ้งเวียนการเพ

วามเหน็ ตอ่ ปลัดกระทรวงการคลงั สาหรบั ผทู้ ง้ิ งานทถ่ี กู แจ้งเวยี นชอ่ื มาแลว้ กบัญชีรายชือ่ ผู้ทง้ิ งานก็ได้ กการเป็นผู้ทง้ิ งานไปแลว้ ทิ้งงานซา้ อีก ภายในระยะเวลา3 ปี นบั ถดั จากการเป็น ผู้ทงิ้ งานแลว้ การเพกิ ถอนการ ไมม่ สี ทิ ธิไดเ้ พิกถอนตามข้อ 198 (1) แตจ่ ะ ด้ เมื่อครบกาหนดระยะเวลา 8 ปี กถอนการเป็นผู้ท้ิงงานตามขอ้ 198 (1) ารคลัง พร้อมทัง้ เอกสารหลักฐานท่เี ก่ียวขอ้ ง อเมือ่ ปลัดกระทรวงการคลงั ได้ส่งั เพิกถอน พกิ ถอนชือ่ ผ้ทู ้ิงงานแลว้ 312

หมวด 13 การบรหิ า มาตรา 112 ใหห้ น่วยงานของรัฐ จ อยู่ในความครอบครอง ใหม้ กี ารใช คุ้มคา่ และ เกิดประโยชน์ต่อ มาตรา 113 การเกบ็ การบันทึก ก การบารุงรกั ษา และ ให้เปน็ ไปตามระเบยี บ

ารพัสดุ (มาตรา 112 -113) จดั ใหม้ ีการควบคุม และดแู ลพสั ดุท่ี ช้ และการบริหารพสั ดทุ เี่ หมาะสม อหนว่ ยงานของรฐั มากท่สี ุด ารเบิกจ่าย การยมื การตรวจสอบ ะการจาหน่ายพัสดุ บทีร่ ัฐมนตรีกาหนด 313

ระเบยี บท่ีรัฐมนตรกี าหนด สว่ นที่ 1การเกบ็ กา ขอ้ 202 การบริหารพัสดุของหน่วยงานของ มรี ะเบียบ ของทางราชการหรือกฎหมายกา -การบริหารพสั ดใุ นหมวดน้ี ไม่ใช้บังคับกับง และงาน จา้ งออกแบบและควบคมุ งานก่อส ข้อ 203 เมื่อเจา้ หน้าที่ได้รบั มอบพสั ดแุ ลว้ (๑) ลงบญั ชหี รือทะเบียนเพือ่ ควบคมุ พสั ด รายการตาม ตวั อยา่ งทคี่ ณะกรรมก โดยใหม้ ีหลกั ฐานการรบั เขา้ บัญช สาหรบั พสั ดปุ ระเภทอาหารสด จะลงรายกา (๒) เก็บรักษาพัสดใุ ห้เป็นระเบียบเรยี บ ตรงตามบญั ชี หรอื ทะ

ด หมวด 9 การบริหารพสั ดุ ารบันทกึ การเบิกจ่าย งรัฐให้ดาเนินการตามหมวดน้ี เวน้ แต่ าหนดไว้เปน็ อย่างอืน่ งานบรกิ าร งานก่อสรา้ ง งานจา้ งทปี่ รึกษา สร้าง การเก็บและการบันทึก ให้ดาเนนิ การดงั ตอ่ ไปน้ี ดุ แลว้ แต่กรณี แยกเป็นชนดิ และแสดง การนโยบายกาหนด ชหี รอื ทะเบยี นไวป้ ระกอบรายการดว้ ย ารอาหารสดทุกชนดิ ในบัญชีเดยี วกันก็ได้ บร้อย ปลอดภยั และใหค้ รบถ้วนถูกตอ้ ง ะเบยี น การเบิกจ่ายพสั ดุ 314

ข้อ 204 การเบิกพสั ดุจากหน ใหห้ ัวหน้าหน่วยงานทีต่ ขอ้ 205 การจา่ ยพสั ดุ/ผ  ให้หัวหน้าหน่วยพัสดทุ ม่ี หี นา้ ทเี่ กย่ี วก จากหวั หนา้ หนว่ ยงานของรฐั เป็น ผ้จู า่ ยพสั ดตุ อ้ งตรวจสอบความถกู ตอ้ งขอ ลงบญั ชี หรือทะเบียนทุกครง้ั ท่ีมีการจ่าย ขอ้ 206 หนว่ ยงานของรฐั ใดมีความจาเป็นจ ให้อยใู่ นดลุ พินิจของหวั ห โดยให้รายงานคณะกรรมการวินจิ ฉัยและส

น่วยพัสดุของหน่วยงานของรฐั ต้องใช้ พัสดนุ ้ัน เปน็ ผเู้ บิก ผเู้ บิกพัสดุ /ผ้สู ง่ั จา่ ยพัสดุ กับการควบคมุ พสั ดุหรือผ้ทู ่ี ไดร้ ับมอบหมาย นหวั หน้าหนว่ ยพัสดุ เป็นผู้ส่ังจ่ายพสั ดุ องใบเบิกและเอกสารประกอบ (ถา้ ม)ี แล้ว ย และเกบ็ ใบเบกิ จา่ ยไวเ้ ป็นหลกั ฐานด้วย จะกาหนดวิธกี ารเบกิ จา่ ยพัสดเุ ปน็ อยา่ งอน่ื หน้าหน่วยงานของรัฐนั้น สานักงานการตรวจเงินแผน่ ดนิ ทราบด้วย 315

ส่วน การ ขอ้ 207 การให้ยืม หรอื นาพัสดไุ ปใชใ้ นกจิ ก กระท ขอ้ 208 การยมื พัสดปุ ระเภทใช้คงรปู ใหผ้ ู้ย แสดงเหตุผลและกาหนดวันส่งค (๑) การยมื ระหวา่ งหน่วยงานของรฐั จะต้องไดร้ ับอนมุ ตั จิ ากหัวหน (๒) การใหบ้ ุคคลยืมใชภ้ ายในสถานทข่ี องหน จะตอ้ งได้รบั อนมุ ตั ิจาก หวั  แต่ถา้ ยมื ไปใช้นอกสถานทีข่ องหนว่ ยงานข จะตอ้ งไดร้ บั อนมุ ัติจาก ห

นที่ ๒ รยมื การ ซง่ึ มใิ ช่เพ่ือประโยชนข์ องทางราชการจะ ทามิได้ ยมื ทาหลกั ฐานการยืมเป็นลายลักษณ์อกั ษร คืน โดยมีหลกั เกณฑ์ดงั ตอ่ ไปนี้ น้าหนว่ ยงานของรฐั ผ้ใู หย้ ืม นว่ ยงานของรัฐเดยี วกัน วหน้าหนว่ ยงานซง่ึ รับผิดชอบพสั ดนุ ัน้ ของรฐั หวั หนา้ หนว่ ยงานของรัฐ 316

ขอ้ 209 ผู้ยมื พสั ดุประเภท มาสง่ คืนใหใ้ นสภาพท หากเกิดชารดุ เสียหาย หรอื ใชก้ ารไม ซ่อมแซมใหค้ งสภาพเดมิ โดยเสียค่าใช้จ่ายขอ ขนาด ลกั ษณะและคณุ ภาพอยา่ งเดยี วกัน หรือ โดยมีหลกั (1)ราชการส่วนกลาง และราชการส่ว กระทรวงการ (2) ราชการส่วนท้องถิน่ ให้เปน็ ไปตาม (๓) หน่วยงานของรัฐอ่ืน ให้เปน็ ไปตาม

ทใช้คงรปู จะตอ้ งนาพสั ดนุ ้ัน ที่ใชก้ ารได้ เรยี บรอ้ ย ม่ได้ หรือสญู หายไป ใหผ้ ู้ยมื จัดการแก้ไข องตนเอง หรือชดใช้เปน็ พสั ดุประเภท ชนดิ อ ชดใชเ้ ป็นเงินตามราคาท่ีเปน็ อยูใ่ นขณะยืม กเกณฑด์ งั นี้ วนภมู ภิ าค ให้เปน็ ไปตามหลักเกณฑ์ท่ี รคลัง กาหนด มหลักเกณฑท์ ี่กระทรวงมหาดไทยกาหนด มหลกั เกณฑ์ท่หี น่วยงานของรัฐน้นั กาหนด 317

ขอ้ 210 การยมื พัสดุประเภทใช้ส้ินเปลอื งระห เม่ือ หนว่ ยงานของรัฐผ้ยู ืมมีความจา จะดาเนนิ การจดั หาไดไ้ มท่ ันการ และ พอทจี่ ะให้ยมื ได้ โดยไมเ่ ป็นการเสียห และให้ มหี ลักฐานการยมื เปน็ ลายลกั  ท้งั น้ี โดยปกตหิ น่วยงานของรัฐผ และปริมาณเช่นเดียวกันส่งคนื ให ข้อ 211 เมือ่ ให้ผ้ใู หย้ ืมหรอื ผรู้ บั หน้าท่ีแทน ม คนื ภายใน 7วนั น

หวา่ งหนว่ ยงานของรฐั ใหก้ ระทาไดเ้ ฉพาะ าเปน็ ต้องใช้พสั ดนุ ัน้ เปน็ การรีบดว่ น ะ หนว่ ยงานของรฐั ผใู้ ห้ยืมมพี ัสดุนั้นๆ หายแกห่ นว่ ยงานของรฐั ของตน กษณ์อกั ษร ผยู้ ืมจะตอ้ งจัดหาพสั ดุเป็นประเภท ชนิด ห้หน่วยงานของรัฐผู้ให้ยมื อครบกาหนดยืม มีหน้าที่ตดิ ตามทวงพสั ดุท่ใี หย้ มื ไป นับแตว่ นั ครบกาหนด 318

ระเบียบที่รฐั ส่วนท่ี ๓ การบาร ขอ้ 212 การบารงุ รกั ษา  จดั ให้มผี ู้ควบคมุ ดูแลพัสดุท่ีอยใู่ นคว ใชง้ านไดต้ ลอดเวลา กาหนด ใหม่  ให้มกี ารจัดทาแผนการซ่อมและระย พสั ดุเกดิ การชารุด ให้ซ่อมแซมใหก้ ล

ฐมนตรีกาหนด รุงรักษา การตรวจสอบ ให้หนว่ ยงานของรฐั วามครอบครองให้อยู่ใน สภาพที่พรอ้ ม ยะเวลาการซ่อมบารุงทเ่ี หมาะสมดว้ ย ลบั มาอยูใ่ นสภาพ พร้อมใช้งานโดยเร็ว 319

การตรวจสอบ วธิ ีทำ ขอ้ 213 ภายในเดอื นสุดทา้ ยก่อ ให้หวั หนา้ หนว่ ยงานของรฐั หรอื หัวห แต่งตั้งผรู้ ับผิดชอบในการตรวจสอบพสั ดุซง่ึ ตรวจสอบการรับจ่ายพัส และตรวจนับพสั ดปุ ระเภททคี่ ง ในการตรวจสอบตามวรรคหน่งึ ใหเ้ รมิ่ ดา แรกของ ปีงบประมาณเป็นตน้ ไป วา่ การ ตรงตามบญั ชีหรือทะเบยี นหรือไม่ มี พสั เหตุใด หรือพัสดใุ ดไมจ่ าเปน็ ต แล้วใหเ้ สนอรายงานผลการตรวจสอบด นบั แต่วนั เรมิ่ ดาเนินก

บพสั ดปุ ระจาปี อนสน้ิ ปีงบประมาณของทกุ ปี หน้าหนว่ ยงานทีม่ ีหนา้ ท่ตี ามขอ้ 205 งมิใช่เป็นเจ้าหน้าท่ี ตามความจาเปน็ เพ่ือ สดุในงวด 1ปีที่ผ่านมา งเหลอื อยเู่ พยี งวันส้ินงวดน้ัน าเนินการตรวจสอบพสั ดใุ นวนั เปิดทาการวัน รรบั จา่ ยถกู ตอ้ งหรือไม่ พัสดคุ งเหลอื มตี วั อยู่ สดใุ ดชารุด เสอื่ มคุณภาพ หรือสูญไปเพราะ ต้องใชใ้ นหนว่ ยงานของรฐั ตอ่ ไป ดังกล่าวตอ่ ผู้แตง่ ตัง้ ภายใน 30วนั ทาการ การตรวจสอบพสั ดุนั้น 320

เม่อื ผู้แต่งตง้ั ไดร้ บั รายงานจากผู้รบั ผ ให้เสนอหวั หน้าหนว่ ยงานของรฐั 1 ชดุ และส แผ่นดนิ 1ชุด พรอ้ มทง้ั สง่ สาเนารายงาน ไปยังห ขอ้ 214 เม่อื ผู้แต่งต้งั ได้รบั รายงานจากผรู้ บั ผดิ และปรากฏว่ามีพสั ดชุ ารดุ เส่ือมสภาพ หรือสูญ รัฐต่อไป กใ็ หแ้ ตง่ ตงั้ คณะกรรมการสอบหาขอ้ เ เวน้ แต่ กรณที ีเ่ ห็นได้อย่างชัดเจนวา่ เปน็ การ ตามปกติ หรือสญู ไปตามธรรมชาติ ให้ หวั หน ดาเนินการจาหน่ายต่อไปได้ ถ้าผลการพจิ ารณาปรากฏวา่ จะต้องหาต ดาเนินการ ตามกฎหมายและระ หรือของหน่วยงา

ผดิ ชอบในการตรวจสอบพัสดุแลว้ ส่งสาเนารายงานไปยงั สานักงานตรวจเงนิ หน่วยงานต้นสงั กัด (ถ้าม)ี 1ชุด ดว้ ย ดชอบในการตรวจสอบพัสดุตามข้อ 214 ญไป หรือไม่จาเปน็ ตอ้ งใชใ้ นหน่วยงานของ เท็จจรงิ ข้นึ คณะหนึ่ง รเสื่อมสภาพเนื่องมาจากการใชง้ าน นา้ หน่วยงานของรัฐพจิ ารณาส่ังการให้ ตัวผ้รู บั ผดิ ดว้ ย ให้หัวหนา้ หน่วยงานของรัฐ ะเบยี บทเี่ กยี่ วข้องของทางราชการ านของรัฐนั้นตอ่ ไป 321

ส่วนที่ 4 การจา ขอ้ 215 หลังจากการตรวจสอบแลว้ พสั ดุใดห รัฐต่อไปจะสน้ิ เปลืองค่าใชจ้ า่ ยมาก ให้เจ้าหน้า เพื่อพจิ ารณาสัง่ ให้ ดาเนินการตามว (1) ขาย ให้ดาเนินการขา แต่ถา้ ขายโดยวิธที อดตลาดแล้วไมไ่ ดผ้ ลดี ใหน้ เวน้ แต่กรณ (ก) การขายพสั ดุคร้ังหนึ่งซึ่งมรี าคาซอ้ื หรอื ได จะขาย โดยวธิ ีเฉพาะเจาะจง โดยไม่ตอ้ (ข) การขายใหแ้ กห่ น่วยงานของรัฐ หรือองคก์ มาตรา ๔๗ (๗) แห่งประมวลรัษฎากร ให (ค) การขายอปุ กรณ์อิเลก็ ทรอนกิ ส์ เชน่ โทรศ รัฐทหี่ น่วยงานของรฐั มอบใหไ้ วใ้ ชง้ านในหน้าท อปุ กรณด์ ังกล่าวพ้นระยะเวลาการใชง้ านแลว้ เฉพาะเจาะจง

าหนา่ ยพัสดุ หมดความจาเป็น หรอื หากใชใ้ นหน่วยงานของ าทีเ่ สนอรายงานต่อหวั หน้าหน่วยงานของรฐั วธิ กี ารอยา่ งหน่ึงอยา่ งใดดงั ตอ่ ไปน้ี ายโดยวิธีทอดตลาดก่อน นาวิธที ก่ี าหนดเกี่ยวกบั การซื้อมาใชโ้ ดยอนโุ ลม ณีดงั ตอ่ ไปน้ี ดม้ ารวมกันไม่เกิน ๕๐๐,๐๐๐ บาท องทอดตลาดกอ่ นกไ็ ด้ โดยตกลงราคากับผู้ซ้อื การสถานสาธารณกุศลตาม ห้ขายโดยวธิ ีเฉพาะเจาะจง ศัพท์เคล่ือนที่ แท็บเล็ต ใหแ้ ก่เจา้ หน้าท่ี ของ ท่ี เม่ือบคุ คลดงั กลา่ วพน้ จากหนา้ ท่ีหรอื ให้ขายให้แก่บุคคลดังกลา่ วโดยวิธี 322

หลักเกณฑ์การขาย  ให้ถือปฏบิ ัตติ ามประม โดยให้ผู้ท่ีไดร้ ับมอบหมาย ทาการประเมินราค  กรณที ีเ่ ป็นพัสดุทีม่ ีกา ให้พจิ ารณาราคาท่ซี ้ือขายกนั ตามปกตใิ นทอ้ ง ของพสั ดนุ ้นั ณ เวลาที่จะทาการขาย และควร  กรณีทีเ่ ปน็ พัสดุทีไ่ มม่ ีการจาหนา่ ยท่ัวไป ชนดิ ของพสั ดุ และอายุการใช้งาน รวม  ทั้งนี้ ใหเ้ สนอหวั หนา้ หน่วยงานของรฐั ดังกลา่ ว โดยคานงึ ถึงประโย  หน่วยงานของรฐั จะจา้ งผ้ปู ระกอบการท

ยโดยวธิ ีทอดตลาด ใหม่ มวลกฎหมายแพง่ และพาณิชย์ คาทรัพยส์ ินกอ่ นการประกาศขายทอดตลาด ารจาหนา่ ยเป็นการทว่ั ไป งตลาด หรือราคาทอ้ งถิ่นของสภาพปัจจบุ นั รมกี ารเปรียบเทียบราคาตามความเหมาะสม ป ใหพ้ จิ ารณาราคาตามลกั ษณะ ประเภท มท้งั สภาพและ สถานทต่ี ้งั ของพัสดุด้วย ฐพิจารณาให้ความเหน็ ชอบราคาประเมิน ยชน์ของหนว่ ยงานของรฐั ด้วย ท่ใี หบ้ ริการขายทอดตลาดเป็นผู้ดาเนินการก็ ได้ 323

(2) แลกเปล่ียน ให้ดาเนนิ การตามวธิ กี ารแ (3) โอน ใหโ้ อนแก่หนว่ ยงานของรฐั หรอื อ แห่งประมวลรัษฎากร ทั้งนใี้ หม้ หี ลกั ฐานกา (4) แปรสภาพหรือทาลาย ตามหลกั เกณฑ การดาเนินการตามวรรคหน่งึ โดยป วันทห่ี วั หน้าหนว่ ยงานของรฐั ส่ังการ ข้อ 216 เงินทไี่ ดจ้ า -ใหถ้ ือปฏบิ ัติตามกฎหมายวา่ ดว้ ยวิธกี า เกย่ี วข้องทางการเงนิ ของหน่วยงานขอ เงนิ กหู้ รอื เงินชว่ ยเหลอื แล้วแต่กรณี

แลกเปลยี่ นที่กาหนดไว้ในระเบียบ องค์การสถานสาธารณกุศลตามมาตรา๔๗ (๗) ารส่งมอบไว้ตอ่ กนั ด้วย ฑ์และวิธีการทหี่ น่วยงานของรัฐกาหนด ปกติให้แล้วเสร็จภายใน ๖๐ วนั นบั ถดั จาก ากการจาหน่ายพัสดุ ารงบประมาณ หรอื กฎหมายท่ี องรัฐน้ัน หรือขอ้ ตกลงในสว่ นทใ่ี ช้ 324

การจาหน ขอ้ 217 ในกรณที ่พี ัสดสุ ญู ไปโดยไมป่ รากฏ ชดใช้ได้ หรอื มีตวั พัสดุอยู่แต่ไม ให้จาหน่ายพัสดนุ ัน้ เปน็ สญู ถา้ พัสดุนน้ั มรี าคาซือ้ หรือไดม้ ารวมกัน ไม่เกนิ 1,000,000บาท เกนิ 1,000,000 บาท -ราชการสว่ นกลาง -และ ราชการสว่ นภูมิภาค ราชการสว่ นทอ้ งถิ่น หนว่ ยงานของรัฐอื่น รัฐวสิ าหกิจใดมีความจาเปน็ จะกาหนดวงเงินการจ กาหนดไว้ในระเบยี บน้ี ใหเ้ สนอต่อคณะ และเมอื่ ไดร้ ับความเห็นชอบแล้วให้รายงาน

นา่ ยเปน็ สูญ ฏตัวผรู้ ับผิด/หรือมตี วั ผรู้ ับผิดแตไ่ ม่สามารถ มส่ มควรดาเนินการตามขอ้ 216 ญ ตามหลกั เกณฑ์ ดงั ตอ่ ไปนี้ ผูอ้ นมุ ัติ หัวหน้าหนว่ ยงานของรัฐ กระทรวงการคลงั ผู้วา่ ราชการจงั หวัด ให้เป็นไปตามที่ หนว่ ยงานของรัฐ น้นั กาหนด าหน่ายพสั ดเุ ป็นสญู ตามข้อ 187 แตกตา่ ง ไปจากท่ี ะกรรมการวนิ จิ ฉัยเพอื่ ขอความเหน็ ชอบ นสาานักงานการตรวจเงนิ แผน่ ดนิ ทราบดว้ ย 325


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook