Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore เอกสารประกอบการเรียน นครศรีธรรมราชศึกษา

เอกสารประกอบการเรียน นครศรีธรรมราชศึกษา

Published by dlit_sm037, 2021-11-17 08:37:02

Description: เอกสารประกอบการเรียน นครศรีธรรมราชศึกษา

Search

Read the Text Version

วิถตี ลาด ในจงั หวัดฯ มกี ารซ้ือขายยาง แบ่งออกไดเ้ ปน็ 3 ลกั ษณะ คอื 1. เกษตรกรจะทำ� การซอื้ ขายยางกับองคก์ ารสวนยางนาบอน 2. ขายให้แก่พอ่ ค้ารา้ นค้าย่อยในอ�ำเภอและจงั หวดั ซ่ึงมีประมาณ 120 รา้ น 3. ขายให้แก่ตลาดกลางของการยางแห่งประเทศไทยสาขาจังหวัดนครศรีธรรมราช (กยท.) และกลุ่มสหกรณ์ ในความส่งเสริมของ กยท. ซ่ึงมโี รงรมเป็นของตนเองจำ� นวน 57 โรง ส�ำหรับอ�ำเภอที่ไม่มี กยท. หากเกษตรกรต้องการขายให้แก่องค์การสวนยาง เกษตรกรก็จะรวบรวม แล้วแจ้งให้องค์การสวนยางนาบอนทราบเพ่ือจะได้ออกไปรับซ้ือผลผลิตท่ีเกษตรกรน�ำไปขายให้แก่ การยาง แห่งประเทศไทยสาขาจงั หวดั นครศรธี รรมราช (กยท.) หรอื องคก์ ารสวนยางนาบอน และพ่อค้าทอ้ งถ่ินจะแตกตา่ ง กันโดยผลผลิตท่ีขายให้แก่พ่อค้าท้องถิ่นจะมีราคาต�่ำกว่าประมาณ 0.50-1.50 บาท ส�ำหรับราคาซื้อขายตลาด กยท. และองค์การสวนยาง จะใช้ราคาจากตลาดกลางหาดใหญ่เป็นราคาอิง ส่วนการซ้ือขายของกลุ่มสหกรณ์ ในความสง่ เสรมิ ของ กยท.จะใช้วธิ ีประมลู ต๋วั กระดาษซง่ึ ทาง กยท.จะแจ้งผลการประมูลใหท้ างสหกรณ์ทราบรวมท้ัง วันที่ส่งมอบ 2. ข้าว ภาวะการผลติ จงั หวดั นครศรธี รรมราช มกี ารปลกู และผลติ ขา้ วนาปี ในปี 2560 มพี นื้ ทปี่ ลกู 220,920 ไร่ ผลผลิตรวม 87,944 ตนั อำ� เภอทเ่ี ปน็ แหลง่ ปลูกขา้ วที่สำ� คญั ของจังหวดั ได้แก่ อำ� เภอหวั ไทร ปากพนัง เชยี รใหญ่ ชะอวด เฉลมิ พระเกยี รติ ท่าศาลา พระพรหม ร่อนพบิ ลู ย์ สิชล และอำ� เภอเมอื ง ขา้ วนาปจี ะมกี ารเกบ็ เก่ยี วในช่วง เดอื นมนี าคม - เมษายน ส�ำหรับการปลูกขา้ วนาปีจะเริ่มประมาณเดือนสิงหาคม - ตลุ าคม สว่ นการปลกู ข้าวนาปรงั พื้นทป่ี ลูกทั้งหมด 120,554 ไร่ ไดผ้ ลผลิตรวม 61,730 ตัน สว่ นใหญ่จะปลูกในเขตอำ� เภอปากพนัง หัวไทร เชยี รใหญ่ เฉลมิ พระเกยี รติ ชะอวด พระพรหม และ อำ� เภอเมอื ง ซง่ึ จะเรมิ่ เพาะปลกู ในชว่ งเดอื นมถิ นุ ายน - กรกฎาคม และเกบ็ เกยี่ วในชว่ งเดอื นสงิ หาคม - กนั ยายน ขา้ วนาปรงั ท่ีผลิตได้ส่วนใหญ่ เกษตรกรจะน�ำออกจ�ำหน่าย การเก็บไว้บริโภคจะน้อย เน่ืองจากข้าวมีความชื้นสูง เกษตรกร ไม่นิยมบรโิ ภค สำ� หรบั ขา้ วนาปีท่ผี ลิตไดส้ ว่ นใหญ่เป็นพนั ธพ์ุ ้นื เมอื งชนดิ ต่าง ๆ เช่น ขา้ วมาเล เฉีย้ ง และพันธขุ์ า้ วหอม ปทุมธานี 1 เกษตรกรส่วนใหญ่จะปลูกข้าวเพ่ือบริโภคมากกว่าเพื่อการจ�ำหน่าย ยกเว้นแถบบริเวณลุ่มน้�ำปากพนัง ประชากรจะมีอาชีพหลัก คือ ท�ำนาจึงปลูกข้าวไว้เพ่ือขาย โดยจะมีการท�ำนา ปีละ 2 ครั้ง คือ นาปี และนาปรัง ซงึ่ ขา้ วเปลอื กทผ่ี ลติ ไดเ้ มอื่ สเี ปน็ ขา้ วสารแลว้ จะไดข้ า้ วสารชนดิ 25% และขา้ วสารชนดิ 15% ราคาเฉลย่ี ขา้ วเปลอื กเจา้ ตันละ 7,683 บาท เพม่ิ ขน้ึ จากปี 2559 ซงึ่ มีราคาเฉลยี่ ตนั ละ 6,688 บาท เพิม่ ข้ึนรอ้ ยละ 14.87 อย่างไรก็ตาม ข้าวที่ผลิตได้ส่วนใหญ่เป็นข้าวคุณภาพต่�ำ 25% จึงต้องมีการน�ำเข้าจากภาคอื่น ๆ โดยขา้ วที่นำ� เขา้ มาส่วนใหญ่จะเปน็ ข้าวคุณภาพดที ง้ั ขา้ วสารเจ้าและขา้ วสารเหนยี ว เพอื่ สนองตอบต่อความตอ้ งการ ข้าวสารของประชาชนที่มีรายได้ปานกลางหรือรายได้สูง โดยเฉพาะกลุ่มพ่อค้า นักธุรกิจ ข้าราชการ พนักงาน รฐั วิสาหกิจ หลักสตู แรนนวคกราศรรจธี ดัรรกมารราเชรศยี กึ นษราู้ 91

ศึกษาเพิม่ เติม ผู้เรียนสามารถเข้าดูราคาข้าวล่าสุดจากสมาคมโรงสีข้าวแห่งประเทศไทย โดยการสแกน QR Code เพ่ือเขา้ ถงึ ข้อมูลลา่ สุด ภาวการณต์ ลาด วิถกี ารตลาดข้าวเปลอื ก มีการซ้ือขายขา้ วเปลือกของเกษตรกร 3 ลกั ษณะ คือ 1. จ�ำหน่ายใหส้ หกรณ์การเกษตร 2. จ�ำหนา่ ยให้โรงสีในท้องถิ่น 3. จ�ำหน่ายให้พ่อค้าในท้องที่น�ำไปแปรรูปเป็นข้าวสารจ�ำหน่ายให้แก่พ่อค้าส่งและพ่อค้าปลีก เพ่อื จ�ำหนา่ ยให้แก่ผูบ้ ริโภคตอ่ ไป 3. ปาล์มน�้ำมัน ภาวการณ์ผลิต ในปี 2560 จังหวัดนครศรีธรรมราช มีพ้ืนท่ีปลูกปาล์มน้�ำมันมากเป็นล�ำดับ 4 ของ ภาคใต้ โดยมีพนื้ ท่ีปลูก 488,621 ไร่ ผลผลิตรวม 1,027,300 ตนั ปลูกกระจายทกุ อ�ำเภอ อ�ำเภอที่เป็นแหล่งปลกู ปาลม์ นำ�้ มนั ทส่ี ำ� คัญของจงั หวดั ไดแ้ ก่ อ�ำเภอสชิ ล ทงุ่ ใหญ่ ชะอวด ขนอม บางขนั และเฉลมิ พระเกียรติ ศกึ ษาเพิม่ เติม ผูเ้ รยี นสามารถเข้าดูราคาปาลม์ น�้ำมันลา่ สดุ จากเว็บไซต์ราคาเกษตร โดยการสแกน QR Code เพ่อื เข้าถงึ ขอ้ มลู ลา่ สุด ภาวการณต์ ลาด วิถีการตลาดปาล์มน�้ำมัน มีการซอื้ ขายปาลม์ น้�ำมนั ของเกษตรกร 3 ลกั ษณะ คือ 1. จ�ำหน่ายใหพ้ ่อคา้ ในท้องถิ่น 2. จ�ำหนา่ ยให้สหกรณก์ ารเกษตร 3. จ�ำหนา่ ยให้โรงงานสกัดน�ำ้ มนั ปาล์มในจังหวัดและจงั หวัดใกลเ้ คียง จังหวัดนครศรีธรรมราชมีโรงงานสกัดน�้ำมันปาล์มดิบ จ�ำนวน 8 โรงงาน มีก�ำลังการผลิตรวมต่อวัน 4,250 ตนั ราคาเฉลย่ี ปาล์มทะลาย 4.14 บาท ลดลงจากปีทีผ่ ่านมา 1.40 บาท คดิ เปน็ ร้อยละ 25.27 ผลผลิตออกสู่ ตลาดมากชว่ งเดือนมนี าคม - มถิ นุ ายน 92 แหนลกัวสกตูารรนจคัดรกศารรีธเรรรยี มนรารชู้ ศึกษา

4. ผลไมท้ ส่ี ำ� คญั 4.1 มงั คุด ภาวการณ์ผลิต จังหวัดนครศรีธรรมราช ในปี 2560 มีพ้ืนท่ีปลูกมังคุด จ�ำนวน 92,923 ไร่ พน้ื ทเี่ กบ็ เก่ียว 81,097 ไร่ ผลผลติ รวมจำ� นวน 24,897 ตนั ผลผลติ เฉล่ีย 307 กิโลกรมั /ไร่ พ้ืนที่ปลกู กระจายอยทู่ ว่ั ไป ทุกอำ� เภอ แตอ่ ำ� เภอทป่ี ลกู มาก คือ อ�ำเภอลานสกา พรหมครี ี เมือง สิชล และชา้ งกลาง ผลผลติ ออกสู่ตลาดชว่ งเดอื น กรกฎาคม - ธนั วาคม ชว่ งท่อี อกสตู่ ลาดมากทส่ี ุด คือ เดือนสิงหาคม แหลง่ รับซอ้ื และจ�ำหนา่ ยผลไม้ของจังหวดั 1. ตลาดกลางผักและผลไมห้ ัวอิฐ 11/7-53 ม.1 ถ.กะโรม อ.เมอื ง โทร.075-256819, 344203-4 2. ตลาดกลางสนิ ค้าเกษตรหัวอฐิ 1/8 ม.1 ถ.กะโรม ต.โพธเิ์ สดจ็ อ.เมือง โทร. 075-344483 3. ผปู้ ระกอบการรบั ซอ้ื ผลไม้ (ล้ง) ส่วนใหญจ่ ะตั้งจุดรับซอ้ื ณ แหล่งผลติ 4. พอ่ คา้ ท้องถิน่ /พอ่ ค้าเร่ มีรถเขา้ ไปรบั ซื้อหรือต้งั จดุ รบั ซื้อ ณ แหลง่ ผลติ เกษตรกรชาวสวนมังคุด เมื่อเก็บเก่ียวผลผลิตมังคุดแล้วก็ขายมังคุดให้กับพ่อค้าหลายลักษณะ กล่าวคอื ขายใหก้ ับพอ่ ค้าท้องถนิ่ หรือพอ่ คา้ เร่ทม่ี รี ถเข้าไปรับซ้ือถงึ สวนโดยตรง หรอื นำ� ไปขายให้กบั พอ่ ค้าทอ้ งถนิ่ จดุ รวบรวมทเ่ี ปน็ ตวั แทนของพอ่ คา้ สง่ ออกทตี่ งั้ จดุ รบั ซอ้ื ในตำ� บลตา่ ง ๆ ซง่ึ อยทู่ ว่ั ไป ในเขตอำ� เภอเมอื ง อำ� เภอลานสกา อ�ำเภอพรหมคีรี นอกจากนี้เกษตรกรบางส่วนก็จะน�ำมังคุดมาขายให้กับพ่อค้าขายส่งท่ีตลาดกลางผักและผลไม้ (หัวอิฐ) ส�ำหรับจุดรวบรวมซึ่งเป็นตัวแทนของพ่อค้าส่งออกก็จะน�ำมาคัดเกรดหรือขนาดจ�ำนวนลูก ต่อกิโลกรัม แล้วมาบรรจุกล่องพลาสติกส่งให้กับพ่อค้าส่งออก และพ่อค้าส่งออกจะน�ำไปท�ำความสะอาด เป่าฝุ่น เคลือบผิว ก่อนทจ่ี ะสง่ ออกไปยังประเทศไต้หวนั ฮอ่ งกง ญ่ปี ุ่น ฯลฯ สว่ นพ่อคา้ ท้องถ่นิ หรอื พอ่ ค้าเร่ก็จะขายใหก้ บั พ่อค้าขายส่ง ตลาดกลางผกั และผลไม้ และพ่อคา้ ขายสง่ ก็จะขายต่อให้กับพ่อค้าขายปลกี ต่อไป 4.2 ทเุ รยี น ภาวการณ์ผลิต จังหวัดนครศรีธรรมราชในปี 2560 มีพ้ืนที่ปลูกทุเรียน จ�ำนวน 49,283 ไร่ พนื้ ทใี่ หผ้ ลแลว้ 38,390 ไร่ ผลผลติ รวมจำ� นวน 23,648 ตนั ผลผลติ เฉลยี่ 616 กโิ ลกรมั /ไร่ สว่ นใหญป่ ลกู พนั ธห์ุ มอนทอง พ้นื ทป่ี ลกู กระจายอยูท่ ว่ั ไปทกุ อำ� เภอ แต่อำ� เภอทป่ี ลูกมากคอื อำ� เภอสชิ ล ทา่ ศาลา นบพติ �ำ ลานสกา และชา้ งกลาง ผลผลติ ออกสูต่ ลาดช่วงเดือนกรกฎาคม - กันยายน ช่วงท่ีออกสตู่ ลาดมากทีส่ ดุ คือ เดือนสงิ หาคม แหลง่ รับซอ้ื และจ�ำหน่ายผลไมข้ องจังหวัด 1. ตลาดกลางผกั และผลไม้หัวอิฐ 11/7-53 ม.1 ถ.กะโรม อ.เมอื ง โทร.075-256819, 344203-4 2. ตลาดกลางสินค้าเกษตรหวั อิฐ 1/8 ม.1 ถ.กะโรม ต.โพธ์เิ สด็จ อ.เมือง โทร. 075-344483 เกษตรกรชาวสวนทุเรียนเม่ือเก็บเก่ียวผลผลิตแล้วก็ขายให้กับพ่อค้าหลายลักษณะ กล่าวคือ ขายให้กบั พ่อคา้ ทอ้ งถ่นิ หรือพ่อค้าเรท่ ่มี ีรถเข้าไปรับซอ้ื ถึงสวนโดยตรง หรือนำ� ไปขายใหก้ ับจุดรวบรวมที่เปน็ ตวั แทน ของพอ่ คา้ ส่งออกท่ตี ั้งจุดรับซอ้ื ในต�ำบลตา่ ง ๆ ซึ่งอยทู่ ั่วไป นอกจากนี้เกษตรกรบางส่วนก็จะน�ำทุเรยี น มาขายใหก้ บั พ่อค้าขายส่งที่ตลาดกลางผักและผลไม้ (หัวอิฐ) โดยร้อยละ 25 จ�ำหน่ายภายในจังหวัด ร้อยละ 75 จ�ำหน่าย ต่างจังหวดั ซง่ึ พอ่ ค้าจะนำ� ไปจำ� หนา่ ยยังจังหวดั อนื่ ๆ และสง่ ออกไปตลาดต่างประเทศ หลกั สูตแรนนวคกราศรรจีธดัรรกมารราเชรศยี ึกนษราู้ 93

4.3 เงาะ ภาวการณ์ผลิต จังหวดั นครศรธี รรมราชในปี 2560 มีพน้ื ที่ปลกู เงาะ จ�ำนวน 32,746 ไร่ พนื้ ทีใ่ ห้ ผลแลว้ 32,440 ไร่ ผลผลติ รวมจ�ำนวน 10,125 ตัน ผลผลิตเฉล่ยี 312 กิโลกรมั /ไร่ สว่ นใหญป่ ลกู พนั ธ์โุ รงเรยี น พน้ื ที่ ปลูกกระจายอยูท่ ่ัวไปทกุ อำ� เภอ แตอ่ �ำเภอทปี่ ลกู มากคือ อำ� เภอชะอวด สชิ ล ฉวาง เมือง และนาบอน ผลผลติ ออกสู่ ตลาดชว่ งเดอื นสิงหาคม - ธนั วาคม ชว่ งทอ่ี อกส่ตู ลาดมากทส่ี ดุ คอื เดือนกนั ยายน แหล่งรบั ซ้อื และจ�ำหน่ายผลไมข้ องจังหวดั 1. ตลาดกลางผกั และผลไม้หวั อิฐ 11/7-53 ม.1 ถ.กะโรม อ.เมอื ง โทร.075-256819, 344203-4 2. ตลาดกลางสนิ คา้ เกษตรหัวอฐิ 1/8 ม.1 ถ.กะโรม ต.โพธ์ิเสด็จ อ.เมอื ง โทร. 075-344483 3. ผปู้ ระกอบการรบั ซอื้ ผลไม้ (ลง้ ) ส่วนใหญจ่ ะตั้งจุดรับซือ้ ณ แหล่งผลิต 4. พอ่ คา้ ท้องถ่ิน/พ่อคา้ เร่ มีรถเข้าไปรบั ซือ้ หรือตั้งจดุ รบั ซอ้ื ณ แหลง่ ผลติ เกษตรกรชาวสวนเงาะเมอื่ เกบ็ เกีย่ วผลผลติ แล้วกข็ ายให้กบั พ่อคา้ หลายลกั ษณะกลา่ วคือ ขายให้ กับพ่อค้าท้องถิ่น หรือพ่อค้าเร่ท่ีมีรถเข้าไปรับซื้อถึงสวนโดยตรง หรือน�ำไปขายให้กับจุดรวบรวมท่ีเป็นตัวแทนของ พอ่ ค้าเพอ่ื รับซอ้ื ไปจำ� หนา่ ยต่างจังหวัด ซ่งึ ต้ังจดุ รบั ซือ้ ในตำ� บลต่าง ๆ อยู่ทัว่ ไป นอกจากนีเ้ กษตรกรบางสว่ นก็จะนำ� เงาะมาขายใหก้ บั พ่อคา้ ขายส่งทีต่ ลาดกลางผกั และผลไม้ (หัวอฐิ ) โดยรอ้ ยละ 25 จำ� หน่ายภายในจังหวัด ร้อยละ 75 พอ่ ค้ามารบั ซ้ือไปจ�ำหนา่ ยตา่ งจงั หวัด ดา้ นการประมง จงั หวดั นครศรีธรรมราช มีชายฝ่งั ทะเลในพืน้ ท่ี 6 อ�ำเภอ ยาว 225 กโิ ลเมตร แยกเป็นพ้นื ท่ี ในอ�ำเภอขนอม 21 กิโลเมตร อ�ำเภอสชิ ล 26.5 กิโลเมตร อำ� เภอทา่ ศาลา 31.8 กโิ ลเมตร อ�ำเภอเมืองนครศรธี รรมราช 32 กิโลเมตร อ�ำเภอปากพนัง 85 กโิ ลเมตร และอำ� เภอหวั ไทร 28.7 กโิ ลเมตร โดยรูปแบบ การประมงในจงั หวดั นครศรธี รรมราช จำ� แนกไดต้ ามลกั ษณะเปน็ 2 ประเภท คอื ประมงพน้ื บา้ น และประมงพาณชิ ย์ 1. ประมงพนื้ บา้ น เปน็ ชาวประมงหลกั ของจงั หวดั นครศรธี รรมราช มกี ารอาศยั อยกู่ นั เปน็ ชมุ ชนชาวประมง หรือหมู่บ้าน ต้ังอยู่ริมฝั่งคลอง ปากแม่น้�ำ มีเขตติดต่อกับชายฝั่งทะเล ซึ่งชาวประมงจะจอดเรือ อยู่หน้าบ้านของ ตนเองและนำ� สตั วข์ น้ึ มาจำ� หนา่ ย เครอื่ งมอื ทใี่ ชส้ ว่ นใหญจ่ ะเปน็ เครอ่ื งมอื พน้ื บา้ น เชน่ อวนลอย อวนลอยปลากระบอก อวนจมปูม้า อวนจมปลาทู เป็นต้น 2. ประมงพาณิชย์ ชาวประมงจะใชเ้ รือขนาดใหญห่ รือท่ีใช้เครอ่ื งยนตม์ ีแรงมา้ มาก ซง่ึ จะมีทง้ั ชาวประมง ทมี่ ภี มู ลิ ำ� เนาในเขตจงั หวดั และจงั หวดั ขา้ งเคยี งเขา้ มาทำ� งานการประมงโดยใชเ้ ครอื่ งมอื เชน่ เครอื่ งมอื อวนลากเดยี่ ว อวนลากคู่ อวนล้อมจบั อวนติดตา เปน็ ต้น ท้ังน้ีการทำ� ประมงท�ำได้ ตลอดทั้งปี ทงั้ กลางวันและกลางคนื ด้านประมงเป็นฐานทางเศรษฐกิจทีส่ �ำคัญอยา่ งหน่ึงของภาคใต้ ในจ�ำนวนผลผลิตทมี่ อี ยเู่ พียงไม่กี่ชนิด จังหวัดนครศรีธรรมราช เป็นจังหวัดท่ีมีความส�ำคัญในการผลิตสัตว์น้�ำทะเลต่าง ๆ ของภาคใต้ มีท่าเรือขนาดเล็ก จ�ำนวนมากทเ่ี รือสามารถเขา้ จอดเพ่อื ขนถ่ายสัตว์นำ�้ รวมทง้ั ทา่ เทยี บเรือประมงขององค์การสะพานปลา นอกจากน้ี มีแพปลาของผู้ประกอบกิจการค้าสัตว์น้�ำหลายแห่งท่ีรับข้ึนปลาและรวบรวมสินค้าเข้าสู่ห้องเย็น ในจังหวัดอื่น ๆ ทีใ่ กลเ้ คียง และตลาดภาคกลางรวมทั้งสง่ ไปยังตลาด เช่น ประเทศมาเลเซยี สิงคโปร์ 94 แหนลกัวสกตูารรนจคัดรกศารรีธเรรรยี มนรารชู้ ศึกษา

สินคา้ ประมงท่ัวไป วิธีการรับซื้อสตั วน์ ำ�้ ในจังหวดั ขณะน้ีอยู่ 2 วธิ ี คือ ก. แพปลาหรอื หอ้ งเยน็ รบั ซอ้ื สนิ คา้ จากชาวประมงเปน็ สทิ ธขิ าด วธิ นี น้ี ยิ มทำ� กนั มาก เนอ่ื งจากชาวประมง สว่ นใหญก่ ยู้ มื เงนิ จากผรู้ วบรวมสตั วน์ ำ้� โดยไมเ่ สยี ดอกเบยี้ ไปลงทนุ ทำ� การประมงกอ่ นแตม่ ขี อ้ ผกู พนั วา่ จะตอ้ งนำ� สตั ว์ น�้ำท่ีจับได้มาขายให้แก่ผู้ให้กู้ยืม โดยหักหน้ีสินก่อนแล้วจึงช�ำระเงินส่วนที่เหลือให้แก่ชาวประมงและประการส�ำคัญ คอื ชาวประมงไมม่ คี วามรอบรู้ ความเคลอ่ื นไหวของราคา และภาวะตลาดจงึ มกั จะขายสนิ คา้ สตั วน์ ำ้� ทะเลใหแ้ กเ่ จา้ ของ แพปลาหรอื ผ้รู วบรวม ซึ่งการขายโดยวธิ นี ี้จะไม่มีการหกั คา่ นายหนา้ ข. รบั เปน็ คนกลางขายสนิ คา้ สตั วน์ ำ�้ ใหแ้ กช่ าวประมง วธิ กี ารนผ้ี รู้ วบรวมสนิ คา้ สตั วน์ ำ้� ไมม่ สี ทิ ธใิ นสนิ คา้ เพียงแต่เป็นผู้รวบรวมสัตว์น้�ำบรรจุหีบห่อแช่น้�ำแข็งส่งไปจ�ำหน่ายแทนชาวประมงเท่าน้ัน สินค้าท่ีจ�ำหน่ายได้แล้ว ผ้รู วบรวมจะหักค่านายหนา้ ร้อยละ 5 รวมหกั ค่าใช้จา่ ยต่าง ๆ เชน่ ค่าน้ำ� แข็ง คา่ ขนสง่ คา่ หีบห่อ คา่ แรงงานกรรมการ แลว้ สว่ นที่เหลอื จงึ จะจา่ ยให้ชาวประมง วิธกี ารนไี้ ม่เปน็ ท่นี ิยมมากนัก กำ� หนดราคารบั ซ้ือ ราคาสนิ คา้ สัตวน์ �ำ้ มกั จะมีการเปลยี่ นแปลงทุกระยะอันมสี าเหตมุ าจากชาวประมง จับสัตว์น�้ำในแต่ละเดือนมีปริมาณไม่สม�่ำเสมอ ความเคล่ือนไหวของราคาจ�ำหน่ายราคาสัตว์น้�ำจะสูงมาก ชว่ งฤดมู รสมุ เพราะการออกจับปลาไดน้ อ้ ย โดยท่ัวไปผู้รวบรวมสตั วน์ �้ำ ได้แก่ หอ้ งเยน็ แพปลา และพ่อคา้ คนกลาง จะเป็นผู้ก�ำหนดราคารับซื้อ โดยยึดเอาราคาจากสะพานปลากรุงเทพฯ หรือราคาจากประเทศมาเลเซียเป็นหลัก ชาวประมงไม่มีอ�ำนาจต่อรองทางด้านราคา นอกจากนี้ราคาสินค้าประเภทนี้จะเคล่ือนไหวข้ึนหรือลง มากน้อย เพยี งใดข้ึนอยู่กบั ปรมิ าณสัตว์นำ้� ท่ีจับได้ในชว่ งนนั้ ๆ ด้วย สนิ ค้าสตั วน์ ำ�้ ทะเล สัตว์น�ำ้ ทะเลทรี่ วบรวมได้ ผ้รู วบรวมหรอื แพปลาจะจำ� หน่ายโดยวิธดี ังน้ี ก. การจ�ำหน่ายโดยตรง ผู้รวบรวมจะจ�ำหน่ายแก่แพปลาซ่ึงตั้งอยู่ในท้องท่ีการจ�ำหน่าย วิธีน้ีไม่ต้อง เสียค่านายหน้าแก่การจ�ำหน่ายสินค้าสัตว์น�้ำปริมาณมาก ๆ วิธีนี้จะไม่เป็นที่นิยมมากนักเพราะการรวบรวมสินค้า ปรมิ าณมาก ๆ นน้ั มคี วามเส่ยี งสูง ข. การจ�ำหน่ายโดยผ่านพ่อค้าคนกลาง ผู้รวบรวมสัตว์น้�ำที่เป็นแพปลาส่วนใหญ่จะนิยมการจ�ำหน่าย โดยวิธนี ้ี แมว้ า่ จะตอ้ งเสียค่านายหนา้ ประมาณรอ้ ยละ 5 ของมลู คา่ สินคา้ ท่จี �ำหน่ายก็ตาม ทงั้ นี้เพราะความแน่นอน มมี ากกวา่ วธิ แี รก แพปลาจะสง่ สนิ คา้ ไปยงั ตวั แทนของตนทส่ี ะพานปลากรงุ เทพฯ เพอ่ื ทำ� การประมลู ขายหรอื จำ� หนา่ ย ใหแ้ กแ่ พปลาหรอื กจิ การหอ้ งเยน็ ในอำ� เภอหาดใหญ่ ซง่ึ เปน็ แหลง่ ใหญใ่ นการรวบรวมสตั วน์ ำ้� จากชาวประมงบางราย ได้ติดต่อจ�ำหน่ายสินค้าสัตว์น้�ำโดยตรงให้แก่ผู้ซื้อในประเทศมาเลเซียด้วย ส�ำหรับการเลือกส่งสินค้าสัตว์น�้ำทะเล ชนดิ ใดไปจำ� หน่ายยงั ตลาดใดมากน้อยเพยี งไรนัน้ กจ็ ะดูความต้องการของตลาดนน้ั ๆ ด้วย เชน่ ปลาทู ส่วนใหญ่ จะส่งเข้ากรุงเทพฯ ปลาอินทรีย์ จะส่งไปตลาดหาดใหญ่ ส่วนปลาหมึก กุ้ง ปลากะพงขาว ปลาจาระเม็ด จะส่ง เข้าห้องเยน็ เพ่ือสง่ ออกต่างประเทศ หลักสูตแรนนวคกราศรรจธี ัดรรกมารราเชรศยี ึกนษราู้ 95

ดา้ นอตุ สาหกรรม จงั หวดั นครศรธี รรมราช มโี รงงานอุตสาหกรรม จ�ำนวน 1,932 โรง มกี ารจา้ งงาน 23,895 คน เงนิ ลงทนุ 58,717.45 ลา้ นบาท โดยแยกออกเป็นโรงงานขนาดเล็ก จ�ำนวน 1,799 โรง โรงงานขนาดกลาง จำ� นวน 92 โรง โรงงานขนาดใหญ่ จ�ำนวน 41 โรง การอุตสาหกรรมในจังหวัดนครศรีธรรมราช มีอุตสาหกรรมต่าง ๆ หลายชนิด ส่วนใหญ่เป็นอุตสาหกรรมกลางน้�ำที่แปรรูปสินค้ามาจากวัตถุดิบทางการเกษตร อุตสาหกรรมที่ส�ำคัญ เช่น อุตสาหกรรมแปรรูปยางพาราข้ันต้น อุตสาหกรรมแปรรูปไม้ยางพารา อุตสาหกรรมน�้ำมันปาล์มดิบ อุตสาหกรรม อโลหะ (ปูนซิเมนต์ คอนกรีตผสมเสรจ็ ผลติ ภัณฑ์คอนกรีต) อุตสาหกรรมแปรรปู อาหารทะเล เปน็ ตน้ ในปี 2560 มโี รงงานอตุ สาหกรรมไดร้ บั อนญุ าตประกอบกจิ การใหม่ จำ� นวน 76 โรง เงนิ ลงทนุ 2,247.87 ลา้ นบาท มกี ารจา้ งงาน 923 คน สว่ นใหญเ่ ปน็ อตุ สาหกรรมแปรรปู ไมแ้ ละผลติ ภณั ฑจ์ ากไม้ รองลงมาเปน็ อตุ สาหกรรมยาง และผลติ ภณั ฑย์ าง 96 แหนลักวสกูตารรนจคดั รกศารรีธเรรรียมนรารชู้ ศึกษา

หน่วยที่ 5 การคมนาคม มาตรฐาน/ตัวชว้ี ัด มาตรฐาน ส 5.1 เข้าใจลกั ษณะทางกายภาพของโลกและความสมั พนั ธข์ องสรรพสง่ิ ซง่ึ มผี ลตอ่ กัน ใชแ้ ผนท่ี และเครื่องมือทางภูมิศาสตร์ในการค้นหา วิเคราะห์และสรุปข้อมูลตามกระบวนการทางภูมิศาสตร์ตลอดจนใช้ ภมู ิสารสนเทศอยา่ งมปี ระสทิ ธิผล ตวั ชีว้ ัด ป.5/1 สบื คน้ และอธบิ ายขอ้ มูล ลกั ษณะทางกายภาพในจังหวัดของตน ดว้ ยแผนท่ีและรูปถา่ ย (ช้นั ป.5) สาระสำ� คัญ การสืบค้นและอธิบายข้อมูล และเลือกใช้การคมนาคมที่เหมาะสมส่งผลให้มีความสามารถในการใช้ ทกั ษะชวี ติ ดำ� รงอยู่ด้วยความสงบสุข สาระการเรยี นร้ ู 1. การคมนาคมทางบก 2. การคมนาคมทางรถไฟ 3. การคมนาคมทางอากาศ 4. การคมนาคมทางเรอื กจิ กรรมการเรียนรู้ 1. ศึกษาการคมนาคมในจังหวัดนครศรีธรรมราช 2. อธบิ ายขอ้ มูลลกั ษณะการคมนาคมในจังหวัดนครศรธี รรมราช 3. เสนอแนวทางการเลือกใชก้ ารคมนาคมทเี่ หมาะสมและปลอดภัย หลักสูตแรนนวคกราศรรจธี ัดรรกมารราเชรศียึกนษราู้ 97

การประเมินผล ตวั ช้ีวัด วิธกี าร เครอ่ื งมือ แบบประเมนิ ผลงาน สบื คน้ ขอ้ มลู ลกั ษณะทางกายภาพในจงั หวดั ของตน ดว้ ยแผนที่ การประเมนิ ผลงาน และรูปถ่าย แบบทดสอบ แบบประเมนิ ผลงาน อธบิ ายข้อมลู เกี่ยวกบั การคมนาคมในจังหวดั ของตน การทดสอบ แบบทดสอบ การประเมนิ ผลงาน แบบประเมนิ ผลงาน เลือกใช้การคมนาคมได้เหมาะสม ประหยัดและปลอดภัย การทดสอบ การประเมินผลงาน 98 แหนลกัวสกตูารรนจคดั รกศารรธี เรรรยี มนรารชู้ ศึกษา

หน่วยที่ 5 การคมนาคม การคมนาคมทางบก จงั หวดั นครศรธี รรมราชหา่ งจากกรงุ เทพมหานคร ประมาณ 780 กโิ ลเมตร มจี งั หวดั ทอี่ ยตู่ ดิ กนั ไดแ้ ก่ สงขลา พัทลุง ตรัง กระบี่ และสรุ าษฎร์ธานี ทางรถยนตถ์ นนสายหลกั เข้าสจู่ ังหวัดนครศรีธรรมราช ดังนี้ - จากจงั หวดั สุราษฎรธ์ านี ถงึ จังหวดั นครศรธี รรมราช ทางหลวงหมายเลข 401 และ 4103 ระยะทาง 134 กิโลเมตร - จากจังหวัดตรัง ถงึ จงั หวัดนครศรีธรรมราช ทางหลวงหมายเลข 403 ระยะทาง 123 กิโลเมตร - จากจงั หวดั สงขลา ถงึ จงั หวดั นครศรธี รรมราช ทางหลวงหมายเลข 408 ระยะทาง 161 กโิ ลเมตร - จากจงั หวดั พทั ลงุ ถงึ จงั หวดั นครศรธี รรมราช ทางหลวงหมายเลข 41 และ 403 ระยะทาง 99 กโิ ลเมตร ทางหลวงแผน่ ดนิ จังหวัดนครศรธี รรมราช มีสายหลัก 1 สายทาง สายรอง 3 เส้นทาง ทางหลวงแผ่นดิน จงั หวัด 45 สายทาง โดยมที างลาดยาง 1,018.864 กม. คอนกรตี 8.92 กม. โครงขา่ ยทางหลวงแผ่นดิน (สายหลัก) ทเ่ี ขา้ สู่เมืองนครศรธี รรมราช ได้แก่ - ทางหลวงชนบท 401 ตอน เขาหัวช้าง - นครศรธี รรมราช ระยะทาง 83 กม. - ทางหลวงหมายเลข 403 ตอน นครศรธี รรมราช - เสาธง - แยกสวนผกั ระยะทาง 52.3 กม. - ทางหลวงหมายเลข 408 ตอน นครศรธี รรมราช - ปากระวะ ระยะทาง 71 กม. ทางหลวงชนบท โครงขา่ ยทางหลวงชนบทของกรมทางหลวงชนบท ปี 2560 ในจงั หวดั นครศรธี รรมราช จำ� นวน 70 สายทาง ระยะทาง รวม 995.071 กโิ ลเมตร แยกเปน็ ถนนลาดยาง 955.398 กโิ ลเมตร ถนนคอนกรตี 16.512 กโิ ลเมตร และถนนลกู รงั 23.161 กิโลเมตร หลกั สตู แรนนวคกราศรรจธี ดัรรกมารราเชรศยี ึกนษราู้ 99

ระยะทางจากอำ� เภอเมอื งนครศรธี รรมราชไปยงั อำ� เภอตา่ ง ๆ ปากพนัง 38 กโิ ลเมตร ทา่ ศาลา 29 กโิ ลเมตร ชะอวด 63 กโิ ลเมตร สิชล 61 กโิ ลเมตร เชยี รใหญ่ 51 กโิ ลเมตร ขนอม 100 กโิ ลเมตร หัวไทร 71 กิโลเมตร พรหมครี ี 22 กโิ ลเมตร เฉลิมพระเกยี รติ 28 กิโลเมตร ลานสกา 22 กโิ ลเมตร ร่อนพิบลู ย์ 32 กิโลเมตร พปิ ูน 100 กิโลเมตร จุฬาภรณ์ 54 กิโลเมตร บางขัน 78 กิโลเมตร ทุ่งสง 53 กโิ ลเมตร ทุ่งใหญ่ 102 กโิ ลเมตร ฉวาง 75 กิโลเมตร พระพรหม 12 กโิ ลเมตร นาบอน 56 กโิ ลเมตร ถ�้ำพรรณรา 108 กิโลเมตร ช้างกลาง 40 กโิ ลเมตร นบพติ ำ� 52 กิโลเมตร ระยะทางจากจังหวัดนครศรธี รรมราชไปยงั จังหวัดใกล้เคียง สรุ าษฎรธ์ านี 134 กโิ ลเมตร กระบ่ี 233 กิโลเมตร ตรงั กโิ ลเมตร พทั ลุง 123 กิโลเมตร พงั งา 245 กิโลเมตร สงขลา 112 กโิ ลเมตร ภูเกต็ 336 161 กิโลเมตร ข้อมูลเส้นทางเดนิ รถโดยสารประจ�ำทาง กรุงเทพ - นครศรธี รรมราช ล�ำดับที่ สายที่ ช่อื เส้นทาง จำ� นวนรถ (คัน) 1 62 กรงุ เทพฯ - ขนอม 19 2 981 กรงุ เทพฯ - นครศรธี รรมราช - ปากพนงั 75 3 998 กรุงเทพฯ - เชียรใหญ่ 15 ท่มี า : บริษทั ขนส่ง จำ� กดั 100 แหนลกัวสกตูารรนจคดั รกศารรีธเรรรยี มนรารชู้ ศึกษา

โครงการที่สำ� คญั เพ่อื ขับเคล่อื นแผนพัฒนาจังหวดั 20 ปี แผนทโ่ี ครงขา่ ยคมนาคมขนสง่ จังหวัดนครศรีธรรมราช ถนนในความควบคมุ ของแขวงทางหลวงนครศรธี รรมราช ท่ี 1 ส�ำนกั งานทางหลวงท่ี 16 (นครศรีธรรมราช) 1. ทางหลวงหมายเลข 401 กม. 238 + 279 - กม. 240 + 597 - บ้านต้นเหรียง 2. ทางหลวงหมายเลข 408 กม. 13 + 300 - กม. 17 + 000 - บ้านชะเมา 3. ทางหลวงหมายเลข 4103 กม. 24 + 799 - กม. 32 + 879 - นาพรุ - จังหนู ถนนทางหลวงเพื่อการทอ่ งเทย่ี ว 4. ทางหลวงหมายเลข 4014 ตอน คลองเหลง - ขนอม กม. 0 + 000 - กม. 17 + 530 5. ทางหลวงหมายเลข 4142 ตอน บา้ นโฉ - ขนอม กม. 34 + 825 - กม. 47 + 513 6. ทางหลวงหมายเลข 4016 ตอน พรหมคีรี - นบพติ ำ� กม. 23 + 250 - กม. 40 + 789 7. ทางหลวงหมายเลข 4015 ตอน บ้านตาล - เสาธง กม. 000 + 000 - กม. 24 + 070 ปรับปรุงตามมาตรฐานกรมทางหลวง 7/12 8. ทางหลวงหมายเลข 4188 ตอน หว้ ยพาน - นำ้� ตกกรงุ ชงิ กม. 0 + 000 - กม. 9 + 000 9. ทางหลวงหมายเลข 4186 ตอน โรงเหล็ก - หว้ ยพาน กม. 0 + 200 - กม. 16 + 564 10. ทางหลวงหมายเลข 4189 ตอน ทา่ พดุ - ยอดเหลือง กม. 0 + 000 - กม. 9 + 000 11. ทางหลวงหมายเลข 4341 ตอน จอมทอง - เขาพลายดำ� กม. 0 + 000 - กม. 9 + 300 12. ทางหลวงหมายเลข 4140 ตอน ทา่ ศาลา - นบพิต�ำ กม. 0 + 633 - กม. 21 + 650 ถนนในความควบคุมของแขวงทางหลวงชนบทนครศรธี รรมราช ส�ำนักงานทางหลวงชนบทท่ี 11 (สรุ าษฎร์ธานี) 1. ถนนเฉลมิ พระเกยี รตแิ ละสว่ นตอ่ ขยาย อ.เมอื ง จ.นครศรธี รรมราช ชว่ งที่ 1 งบประมาณ 3,200 ลา้ นบาท ชว่ งที่ 2 สว่ นตอ่ ขยาย 1,200 ลา้ นบาท 2. ถนนพทุ ธภมู ิ งบประมาณ 420 ลา้ นบาท 3. ถนนเลยี บทางรถไฟนครศรธี รรมราช (ตอนที่ 2) ต.โพธเิ์ สดจ็ ต.คลงั งบประมาณ 70 ลา้ นบาท 4. ถนนเลยี บชายฝง่ั ทะเลอา่ วไทย สชิ ล - ทา่ ศาลา งบประมาณ 50 ลา้ นบาท 5. ถนนสายนศ.4095แยกทางหลวงหมายเลข4186-บา้ นหว้ ยตงต.กรงุ ชงิ อ.นบพติ ำ� งบประมาณ160ลา้ นบาท 6. ถนนสายนศ.4088แยกทางหลวงหมายเลข4105-บา้ นหว้ ยแกว้ ต.เขานอ้ ยอ.สชิ ลงบประมาณ120ลา้ นบาท 7. ถนนสาย นศ.4083 แยกทางหลวงหมายเลข 4103 - บา้ นสแ่ี ยกวดั โหนด ต.ปากพนู ต.โมคลาน งบประมาณ 180 ลา้ นบาท 8. ถนนสาย นศ.3027 แยกทางหลวงหมายเลข 401 - บา้ นกลาง ต.ทา่ ศาลา อ.ทา่ ศาลา งบประมาณ 180 ลา้ นบาท 9. ถนนเพอื่ รองรบั การเดนิ ทางและขนสง่ ศนู ยแ์ พทย์ มหาวทิ ยาลยั วลยั ลกั ษณ์ งบประมาณ 120 ลา้ นบาท 10. ถนนสาย นศ.4020 แยกทางหลวงหมายเลข 4013 - บา้ นบางทา่ พระ อ.เมอื ง งบประมาณ 20 ลา้ นบาท 11. ถนนชลประทาน บา้ นไสมว่ ง - บา้ นบางเตย อ.เมอื ง งบประมาณ 185 ลา้ นบาท 12. ถนนราชนคิ ม - ปากนำ�้ ปากพญา ต.ทา่ ซกั อ.เมอื ง งบประมาณ 150 ลา้ นบาท หลักสตู แรนนวคกราศรรจีธดัรรกมารราเชรศียึกนษราู้ 101

แผนท่ที ่องเท่ยี วจังหวดั นครศรธี รรมราช 102 แหนลักวสกตูารรนจคัดรกศารรีธเรรรยี มนรารชู้ ศกึ ษา

แผนที่ตวั เมอื งนครศรธี รรมราช หลกั สูตแรนนวคกราศรรจธี ัดรรกมารราเชรศยี กึ นษราู้ 103

การคมนาคมทางบก รถโดยสารประจ�ำทาง รถโดยสารประจำ� ทาง (รถทัวร)์ รถโดยสารประจ�ำทาง (รถเมล)์ รถตู้ รถมินิบัสจากสนามบนิ 104 แหนลักวสกตูารรนจคัดรกศารรธี เรรรยี มนรารชู้ ศึกษา

รถไม้ รถสองแถว รถสามล้อ รถจักรยานยนตร์ ับจ้าง หลักสูตแรนนวคกราศรรจธี ดัรรกมารราเชรศียกึ นษราู้ 105

การคมนาคมทางรถไฟ ทางรถไฟ ทางรถไฟสายใต้ทุกขบวนผ่านชุมทางทุ่งสง และมีทางรถไฟแยกจากชุมทางเขาชุมทองไปยังสถานี นครศรธี รรมราช สำ� หรับขบวนรถจากนครศรีธรรมราช ไดแ้ ก่ ขบวนรถจากนครศรธี รรมราช - กรุงเทพ และกรงุ เทพ - นครศรีธรรมราช ขบวนรถธรรมดาและรถไฟสายใตท้ ผ่ี ่านชุมทางทุ่งสง ตามตาราง กำ� หนดเวลาเดินรถ สถานชี ุมทางทงุ่ สง (เทย่ี วไป) ขบวนท่ี ต้นทาง ออกเวลา ชุมทางทุ่งสงออกเวลา ปลายทาง ถึงเวลา ประเภทรถ 171 กรุงเทพฯ 13.00 02.29 สไุ หงโก-ลก 10.45 รถเร็ว 31 กรุงเทพฯ 14.45 03.14 ชุมทางหาดใหญ่ 06.35 รถด่วนพเิ ศษ 37 กรุงเทพฯ 15.10 03.50 สไุ หงโก-ลก 11.20 (ทักษณิ ารัถย)์ รถด่วนพิเศษ 169 กรุงเทพฯ 15.35 05.46 ยะลา 11.20 83 กรุงเทพฯ 17.05 06.25 ตรงั 08.05 (ทกั ษิณ) 173 กรงุ เทพฯ 17.35 08.22 นครศรธี รรมราช 09.55 รถเรว็ 167 กรุงเทพฯ 18.30 08.45 กันตงั 11.20 รถด่วน 85 กรุงเทพฯ 19.30 09.27 นครศรีธรรมราช 10.55 รถเร็ว 41 กรงุ เทพฯ 22.50 09.49 ยะลา 14.30 รถเร็ว รถด่วน 447 กรงุ เทพฯ 06.20 08.43 สุไหงโก-ลก 17.35 รถด่วนพิเศษ 445 กรงุ เทพฯ 06.30 12.14 ชมุ ทางหาดใหญ่ 16.50 (ดเี ซลราง) รถทอ้ งถิน่ รถท้องถ่นิ 106 แหนลักวสกตูารรนจคัดรกศารรีธเรรรยี มนรารชู้ ศึกษา

ก�ำหนดเวลาเดนิ รถ สถานีชุมทางทงุ่ สง (เที่ยวกลบั ) ขบวนท่ี ต้นทาง ออกเวลา ชมุ ทางท่งุ สงออกเวลา ปลายทาง ถงึ เวลา ประเภทรถ 174 นครศรธี รรมราช 13.00 14.24 กรงุ เทพฯ 05.10 รถเร็ว 168 12.40 15.17 กรุงเทพฯ 05.35 รถเร็ว 86 กนั ตงั 15.00 16.20 กรุงเทพฯ 06.30 รถดว่ น 170 นครศรธี รรมราช 12.35 18.13 กรงุ เทพฯ 09.00 รถเรว็ 84 17.25 19.01 กรงุ เทพฯ 08.35 รถดว่ น 42 ยะลา 14.45 19.03 กรุงเทพฯ 05.55 ตรงั รถด่วนพิเศษ 172 ยะลา 11.30 19.27 กรงุ เทพฯ 09.15 (ดเี ซลราง) 38 14.20 21.38 กรุงเทพฯ 10.10 สไุ หงโก-ลก รถเรว็ 32 สไุ หงโก-ลก 18.45 22.07 กรงุ เทพฯ 10.30 รถด่วนพิเศษ 446 ชุมทางหาดใหญ่ 06.40 10.58 ชุมพร 16.30 (ทกั ษณิ ) 448 06.30 15.31 สรุ าษฎรธ์ านี 17.55 รถดว่ นพเิ ศษ ชุมทางหาดใหญ่ (ทกั ษิณารถั ย)์ สุไหงโก-ลก รถทอ้ งถ่ิน รถทอ้ งถนิ่ กำ� หนดเวลาเดนิ รถ สถานนี ครศรธี รรมราช ขบวนท่ี ตน้ ทาง ออกเวลา ปลายทาง ถึงเวลา 451 นครศรีธรรมราช 06.00 สไุ หงโก-ลก 14.50 455 นครศรีธรรมราช 09.58 17.10 456 06.35 ยะลา 13.55 452 ยะลา 08.55 นครศรธี รรมราช 18.05 174 สุไหงโก-ลก 13.00 นครศรีธรรมราช 15.10 86 นครศรธี รรมราช 15.00 06.30 173 นครศรธี รรมราช 17.35 กรุงเทพฯ 09.55 85 กรุงเทพฯ 19.30 กรุงเทพฯ 10.55 กรุงเทพฯ นครศรีธรรมราช นครศรธี รรมราช หลกั สตู แรนนวคกราศรรจีธัดรรกมารราเชรศยี ึกนษราู้ 107

สถานีรถไฟนครศรีธรรมราช ต้ังอยู่ที่ ถนนยมราช ต�ำบลท่าวัง อ�ำเภอเมืองนครศรีธรรมราช จังหวัดนครศรีธรรมราช เป็นสถานีปลายทางที่แยกมาจากสถานีชุมทางเขาชุมทอง เป็นสถานีรถไฟช้ัน 1 ของทางรถไฟสายใต้ เบอรโ์ ทรศพั ท์ 0 - 7535 - 6364, 0 - 7534 - 6129 กรุงเทพมหานคร เป็นศนู ยก์ ลางสำ� หรบั คน ไทยและนักท่องเท่ียวจากทั่วทุกมุมโลก เป็นเมือง หลวง ของประเทศไทย นกั ทอ่ งเทีย่ วส่วนใหญ่จะเดนิ ทางมาทอ่ งเทย่ี วในประเทศไทยจาก กรงุ เทพฯ ดงั นนั้ เมืองที่ก�ำลังพัฒนาจึงมีโอกาสในการหางานนับล้าน ส�ำหรับคนในพ้ืนท่ีประเทศไทย ดังนั้นผู้คนส่วนใหญ่ ในท้องถิ่น จากจังหวัดอ่ืน ๆ รวมทั้งจังหวัด สถานีรถไฟนครศรีธรรมราช นครศรีธรรมราชจึงเดินทางไปท�ำงานที่กรุงเทพฯ รถไฟจากนครศรธี รรมราช ไปกรงุ เทพฯ เปน็ เสน้ ทางรถไฟทเี่ ปน็ ทนี่ ยิ มในหมชู่ าวบา้ นในพนื้ ทจี่ งั หวดั นครศรธี รรมราช ผู้โดยสารส่วนใหญ่ ท่ีเดินทางจากนครศรีธรรมราชไปกรุงเทพฯ เป็นชาวท้องถิ่นท่ีท�ำงานในกรุงเทพฯ ปกติจังหวัด นครศรธี รรมราช ไปกรงุ เทพฯ มีการจองเต็มช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์และวนั หยดุ ราชการ หรือชว่ งเทศกาล รถไฟจากนครศรธี รรมราช ไป กรงุ เทพฯ ประเภทรถไฟ ประเภทต๋วั โดยสาร และราคาตวั๋ โดยสาร ขบวนรถไฟประจำ� วนั จากนครศรธี รรมราชไปกรงุ เทพฯ มจี ำ� กดั ดงั นน้ั ควรจองตัว๋ รถไฟล่วงหน้าทางออนไลน์ ราคาตว๋ั รถไฟจากนครศรธี รรมราช ขน้ึ อยกู่ บั ประเภทของรถไฟ และประเภทของตว๋ั ทค่ี ณุ เลอื ก ตารางดา้ นลา่ งสำ� หรบั ตั๋วรถไฟออนไลนส์ ามารถจองไดท้ ี่ busonlineticket.co.th. 108 แหนลักวสกตูารรนจคดั รกศารรธี เรรรยี มนรารชู้ ศึกษา

เวลาออก หมายเลขขบวน ประเภทรถไฟ ประเภทตวั๋ ราคา (บาท) ชั้น 2 ที่นอน ปรับอากาศ 838 13:00 น.เวลามาถึง: 05:10 น. 174 เรว็ ชน้ั 2 ทน่ี อน พดั ลม 598 ชัน้ 2 ทน่ี ่งั พัดลม 448 273 ช้นั 3 ที่นั่ง พดั ลม 1,502 898 ชั้น 1 ทน่ี อน ปรับอากาศ 488 313 15:00 น.เวลามาถงึ : 06:30 น. 86 ดว่ น ชั้น 2 ที่นอน ปรบั อากาศ ช้นั 2 ทน่ี ง่ั พดั ลม ชัน้ 3 ทนี่ ั่ง พัดลม การเดินทางด้วยรถไฟไปจังหวัดนครศรธี รรมราช ตารางการเดนิ รถไฟ กรงุ เทพฯ - นครศรีธรรมราช เลขขบวนรถ : 173 ประเภทรถ : เรว็ เลขขบวนรถ : 85 ประเภทรถ : ดว่ น เวลาออกจากกรุงเทพ : 17.35 เวลาออกจากกรุงเทพ : 19.30 เวลาถึงนครศรีธรรมราช : 09.55 เวลาถงึ นครศรีธรรมราช : 10.55 ราคาไมร่ วมค่าธรรมเนยี ม : ราคาไมร่ วมค่าธรรมเนียม : - ช้นั ท่ี 1 ราคา 652 บาท - ช้นั ที่ 1 ราคา 652 บาท - ชน้ั ที่ 2 ราคา 308 บาท - ชน้ั ท่ี 2 ราคา 308 บาท - ชน้ั ที่ 3 ราคา 133 บาท - ชน้ั ที่ 3 ราคา 133 บาท ระยะทางและระยะเวลาเดนิ ทาง ระยะทางระหว่างนครศรีธรรมราชไปกรุงเทพฯ ประมาณ 780 กิโลเมตร ตามแนวรถไฟสายใต้ ไปยัง ใจกลางเมืองของกรุงเทพมหานคร รถไฟสายท่ี 174 เป็นรถไฟ ประเภทเร็ว ใช้เวลาเดินทาง 16 ช่ัวโมง 10 นาที จากนครศรีธรรมราช ถึงกรุงเทพฯ ขณะที่รถไฟ 86 ซ่ึงเป็นรถไฟด่วนใช้เวลาสั้นลง ระยะเวลาเดินทางประมาณ 15 ช่ัวโมง 30 นาที การเดินทางโดยรถไฟจาก จังหวัดนครศรีธรรมราช ไปยัง กรุงเทพฯ ใช้เวลาค่อนข้างนาน ควรเลือกประเภทตั๋วโดยสารแบบนอน ซงึ่ ถอื วา่ เปน็ ทางเลือกท่ดี ที สี่ ดุ ในการเดนิ ทาง ไปยังกรงุ เทพมหานคร หลักสูตแรนนวคกราศรรจธี ดัรรกมารราเชรศียึกนษราู้ 109

จดุ ออก - สถานรี ถไฟนครศรีธรรมราช สถานรี ถไฟนครศรธี รรมราช ตง้ั อยทู่ ่ี ถนนยมราช ทางฝง่ั ตะวนั ตกของตำ� บลทา่ วงั สถานรี ถไฟ เปน็ จดุ เชอ่ื มตอ่ ที่สถานีชุมทางเขาชุมทอง การเดินทางในนครศรีธรรมราชโดยระบบขนส่งสาธารณะ มักท�ำได้โดยการว่าจ้าง รถแทก็ ซีห่ รือรถสองแถว จดุ มาถึง - สถานรี ถไฟหัวล�ำโพง กรุงเทพฯ สถานีรถไฟหัวล�ำโพง กรุงเทพฯ ต้ังอยู่ใจกลางเมืองกรุงเทพฯ เป็นสถานีรถไฟสายหลัก ในกรุงเทพฯ ตั้งแต่นครศรีธรรมราช ไปยังกรุงเทพฯ และจะมาถึงกรุงเทพฯ ในตอนเช้า ของวันถัดไป ควรใช้รถแท๊กซ่ี เพราะมี บริการทุกวันตลอด 24 ชั่วโมง หรอื รถไฟฟา้ ใต้ดนิ จะเรม่ิ ให้บรกิ ารเฉพาะเวลา 6:00 น. ส่งิ อำ� นวยความสะดวก ปกตแิ ลว้ รถไฟในประเทศไทยจะมหี อ้ งสขุ าบนขบวนรถไฟ เพอ่ื ความสะดวกของผโู้ ดยสาร ผโู้ ดยสารสามารถ ซื้ออาหารจาก ต้ขู บวนบนรถไฟ ซ่งึ มโี รงอาหาร หรือ จากพอ่ ค้า แม่คา้ ได้ในราคาเริม่ ต้นท่ี 30 - 100 บาท หรือคุณ สามารถซ้อื อาหารไดก้ ่อนท่คี ุณจะขนึ้ รถไฟ และประหยัดค่าเดินทาง พนักงานจะให้หมอนและผ้าหม่ ทส่ี ะอาดใหม่ไว้ ส�ำหรบั คุณ พร้อมแปรสภาพท่ีน่งั ใหก้ ลายเปน็ เตียงนอนในชว่ งกลางคืน หากคุณจองต๋วั รถไฟประเภทช้ันนอน ข้อเสนอแนะ การเดนิ ทางจาก นครศรีธรรมราช ไปยัง กรุงเทพฯ ใช้เวลาค่อนขา้ งนาน ในระหวา่ งเดนิ ทาง ควรน�ำความ บนั เทงิ มาเติมเตม็ เวลาระหว่างเดนิ ทาง ประเภทของช้นั นอนโดยเฉพาะ ช้นั 2 ท่ีนอน ปรบั อากาศ เป็นท่ีนิยมอยา่ ง มาก เนื่องจากคุณสามารถเดินทางท่องเท่ียวแบบสบาย ๆ ได้มากข้ึน ดังนั้นจองตั๋วรถไฟล่วงหน้าออนไลน์ได้ท่ี BusOnlineTicket.co.th 110 แหนลกัวสกูตารรนจคัดรกศารรีธเรรรยี มนรารชู้ ศึกษา

การคมนาคมทางอากาศ ทา่ อากาศยานนครศรธี รรมราช มเี ท่ยี วบนิ ใหบ้ ริการ 26 เท่ยี วบินตอ่ วนั โดยมี 3 สายการบิน คอื นกแอร์ ไทยแอรเ์ อเชยี และไทยไลออนแอร์ ทา่ อากาศยานนครศรธี รรมราช ทา่ อากาศยานนครศรธี รรมราช (เดมิ ) หรอื เรยี กทวั่ ไปวา่ “สนามบนิ ชะเอยี น” ตง้ั อยใู่ นคา่ ยวชริ าวธุ กองทพั ภาคท่ี 4 โดยการผลกั ดนั ของข้าราชการและพ่อค้า ประชาชนในจังหวัดที่อยากให้มกี ารบรกิ ารผ้โู ดยสารทางอากาศ จงึ อาศยั ทา่ อากาศยานของกองทพั บกในคา่ ยวชริ าวธุ ซง่ึ กรมการบนิ พาณชิ ยป์ รบั ปรงุ สนามบนิ เพอื่ ใช้ ในเชงิ พาณชิ ย์ โดยการก่อสร้างอาคารท่ีพักผู้โดยสารและปรับปรุงทางวิ่ง แล้วเสร็จในปี พ.ศ. 2527 ใช้เป็นท่าอากาศยานร่วมกัน ระหวา่ งทหารและพลเรือน ขนาดทางวงิ่ 30 x 1,700 เมตร หลังจากเปดิ ให้บรกิ าร ในปี พ.ศ. 2531 มผี ู้ใชบ้ รกิ าร มากขึ้น ประกอบกับพ้ืนที่โดยรอบไม่สามารถขยายได้ จึงพิจารณาเลือกพื้นท่ีใหม่ ได้แก่ บริเวณต�ำบลปากพูน อำ� เภอเมอื งนครศรธี รรมราช และกอ่ สร้างแล้วเสร็จในปี พ.ศ. 2541 โดยประกาศเป็นสนามบิน อนญุ าต เมือ่ วนั ท่ี 20 เมษายน 2541 และ เปิดให้บริการอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 10 มิถุนายน 2543 ซ่ึงในปัจจุบันท่าอากาศยาน นครศรีธรรมราชมีอัตราการเติบโตของจ�ำนวนผู้โดยสาร และจ�ำนวนเท่ียวบินเพ่ิมมากขึ้น กรมท่าอากาศยาน จงึ ไดจ้ ัดท�ำแผนพัฒนาท่าอากาศยานนครศรีธรรมราช เพ่อื ให้เพียงพอตอ่ ความตอ้ งการของผู้ใช้บริการในปจั จุบนั สายการบนิ นกแอร์ สายการบินไทยแอรเ์ อเชีย สายการบินไทยไลออนแอร์ หลกั สตู แรนนวคกราศรรจีธัดรรกมารราเชรศียึกนษราู้ 111

112 แหนลักวสกตูารรนจคดั รกศารรีธเรรรียมนรารชู้ ศึกษา

การคมนาคมทางน�ำ้ จังหวัดนครศรีธรรมราชเป็นเมืองติดต่อทางน�้ำ ในอดีตเป็นเมืองท่าที่ส�ำคัญ เป็นเส้นทางการขนส่งทางน้�ำ ได้แก่ อ�ำเภอปากพนัง อ�ำเภอขนอม อ�ำเภอท่าศาลา ปัจจุบันมีท่าเทียบเรือใช้ในการขนส่งสินค้า มีท้ังของรัฐบาล และเอกชน รวม 28 ทา่ ดังน้ี อ�ำเภอปากพนงั ทา่ เทยี บเรอื บางพระอ.ปากพนงั เรือขา้ มฟากอำ� เภอปากพนงั ทา่ เทยี บเรอื อ�ำเภอขนอม ทา่ เทยี บเรือโรงไฟฟา้ ขนอม แหลมประทับอำ� เภอขนอม เรือขนถา่ นหิน อำ� เภอท่าศาลา ท่าเทยี บเรอื เชฟรอน ท่าเทียบเรือ อำ� เภอทา่ ศาลา อำ� เภอท่าศาลา หลกั สตู แรนนวคกราศรรจีธัดรรกมารราเชรศยี กึ นษราู้ 113

ขอ้ มูลท่าเทียบเรือของเอกชนและรฐั บาล ท่ี เจา้ ของ ตำ� บลสถานท่ีต้งั ประเภทสนิ ค้า ทา่ เทยี บเรอื ขนาดเกินกว่า 500 ตนั กรอส 1 บริษัท ท่าเรอื ขนอม 1 จำ� กัด ชายฝัง่ ทะเลอ่าวไทย ต.ขนอม อ.ขนอม แร่ 2 บริษัท ท่าเรือขนอม 2 จ�ำกัด ชายฝงั่ ทะเลอ่าวไทย ต.ขนอม อ.ขนอม แร่ 3 บรษิ ทั ทา่ เรือขนอม 3 จำ� กัด ชายฝ่ังทะเลอ่าวไทย ต.ขนอม อ.ขนอม แร่ 4 บริษทั ผลติ ไฟฟ้าขนอม จำ� กัด คลองขนอม ต.ท้องเนยี น อ.ขนอม นำ�้ มนั ทา่ เทยี บเรือขนาดไม่เกิน 500 ตันกรอส 5 บรษิ ัท ภาคใต้เชื้อเพลิง จำ� กดั แมน่ ำ้� ปากพนัง ต.ปากพนัง อ.ปากพนงั น�้ำมัน (ขอระงับใช้งาน) 6 บรษิ ัท พิพัฒน์กร จำ� กัด ชายฝ่ังทะเลอ่าวไทยต.ทา่ ขน้ึ อ.ท่าศาลา แร่ 7 บริษทั ปนู ซเิ มนต์ไทย จำ� กดั แม่น�ำ้ ปากพนัง ต.ปากพนงั อ.ปากพนงั สนิ ค้าท่วั ไป 8 นายรุจาธิตย์ สชุ าโต แมน่ ำ�้ ปากพนงั ต.ปากพนัง อ.ปากพนัง สินคา้ ประมง 9 บรษิ ทั ปตท.จำ� กดั (มหาชน) แม่น้�ำปากพนงั ต.ปากพนงั อ.ปากพนงั นำ�้ มนั (ขอระงบั ใช้งาน) 10 องค์การสะพานปลา แม่น�้ำปากพนัง ต.ปากพนัง อ.ปากพนงั สนิ ค้าประมง 11 กรมประมง ชายทะเล บา้ นชายทะเล อ.ปากพนงั สินค้าประมง 12 กรมประมง ชายทะเลบ้านหน้าศาล อ.หัวไทร สนิ ค้าประมง 13 บรษิ ัทผลิตไฟฟ้าขนอม จำ� กัด ทด่ี นิ ราชพสั ดุ นศ 204 ต.ทอ้ งเนยี น อ.ขนอม อปุ กรณส์ ำ� หรบั ก่อสร้างโรงไฟฟา้ 14 บริษัท สนิ หลวง จ�ำกัด 43 ม.7 ต.นบพติ ำ� อ.นบพติ ำ� แร่ 15 โรงแยกกา๊ ซธรรมชาติ บรษิ ทั ปตท.จำ� กดั 123 ม.8 ต.ท้องเนียน อ.ขนอม ก๊าซธรรมชาติ ท่าเทยี บเรอื ขนาดไม่เกิน 20 ตนั กรอส 16 นายฉัตรชัย งา่ นวสิ ุทธพิ นั ธ์ คลองทา่ สงู ต.ท่าศาลา อ.ทา่ ศาลา สินค้าประมง 17 นายนภดล แปกพงศ์ ม.2 ต.ท่าศาลา อ.ท่าศาลา สนิ คา้ ประมง 18 นางสุภา ศกั ด์เิ กษมกฤต คลองทา่ สงู ต.ท่าศาลา อ.ทา่ ศาลา สินค้าประมง 19 นางสหุ นะ เสมอภพ คลองปากพูน ต.ปากพนู อ.เมือง สินคา้ ประมง 20 นางจริ า เพชรเศษ คลองสชิ ล ต.สชิ ล อ.สชิ ล สนิ คา้ ประมง 21 นางพวงเพญ็ พงศ์สวุ รรณ คลองท่าสงู ต.ท่าศาลา อ.ทา่ ศาลา สนิ ค้าประมง 22 บรษิ ทั ต.เจริญไพศาลทุง่ สง จ�ำกัด แมน่ ำ้� ปากพนงั ต.ปากพนัง อ.ปากพนงั สินคา้ ประมง 23 เทศบาลเมืองปากพนงั 1 อ�ำเภอปากพนงั (ฝ่งั ตะวนั ตก) โดยสารขา้ มฟาก 24 เทศบาลเมอื งปากพนงั 2 อำ� เภอปากพนัง (ฝง่ั ตะวันออก) โดยสารขา้ มฟาก 25 เทศบาลเมืองปากพนัง 3 อำ� เภอปากพนัง (ฝ่งั ตะวันตก) (แพขนานยนต์) 26 เทศบาลเมืองปากพนงั 4 อำ� เภอปากพนัง (ฝั่งตะวนั ออก) (แพขนานยนต)์ 27 เทศบาลตำ� บลเชียรใหญ่ ต.เชยี รใหญ่ อ.เชียรใหญ่ จัดงานแข่งเรือ 28 เอเชียเหมืองแร่อุตสาหกรรม 154/2 ม.6 ต.ท่าศาลา อ.ท่าศาลา แร่ 114 แหนลกัวสกตูารรนจคดั รกศารรธี เรรรยี มนรารชู้ ศกึ ษา

หน่วยท่ี 6 ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม มาตรฐานการเรยี นรู/้ ตัวชว้ี ดั มาตรฐาน ส 5.2 เข้าใจปฏิสัมพันธ์ระหว่างมนุษย์กับส่ิงแวดล้อมทางกายภาพที่ก่อให้เกิดการสร้างสรรค์ วิถีการดำ� เนนิ ชีวติ มจี ิตส�ำนกึ และมสี ว่ นร่วมในการจดั การทรัพยากร และส่ิงแวดลอ้ มเพอื่ การพฒั นาท่ีย่ังยนื ตัวช้ีวัด ป.2/4 มีส่วนร่วมในการจัดการสงิ่ แวดลอ้ มในโรงเรียน ป.3/2 อธบิ ายการใชป้ ระโยชนจ์ ากสงิ่ แวดลอ้ มและทรพั ยากรธรรมชาตใิ นการสนองความตอ้ งการขน้ั พนื้ ฐาน ของมนุษย์และการประกอบอาชพี ป.3/6 มสี ่วนร่วมในการจดั การสิ่งแวดลอ้ มในชมุ ชน ป.4/1 วเิ คราะห์สงิ่ แวดล้อมทางกายภาพทส่ี ง่ ผลตอ่ การด�ำเนนิ ชีวิตของคนในจงั หวัด ป.4/2 อธบิ ายการเปลย่ี นแปลงสง่ิ แวดลอ้ มในจงั หวดั และผลทเี่ กดิ จากการเปลยี่ นแปลงนน้ั ป.4/3 นำ� เสนอแนวทางการจดั การสง่ิ แวดล้อมในจังหวดั ป.5/2 วิเคราะหอ์ ิทธิพลของส่ิงแวดล้อมทางธรรมชาติทกี่ ่อใหเ้ กิดวิถีการด�ำเนินชวี ิตในภูมิภาคของตน ป.5/3 นำ� เสนอตวั อย่างที่สะท้อนให้เห็นผลจากการรักษาและทำ� ลายสงิ่ แวดล้อม และเสนอแนวทาง ในการจัดการสง่ิ แวดล้อมในภูมิภาคของตน ป.6/3 น�ำเสนอตวั อยา่ งทส่ี ะท้อนให้เห็นผลจากการรักษาและท�ำลายทรพั ยากรและสงิ่ แวดล้อม และเสนอแนวทางในการจัดการอย่างยั่งยนื ในประเทศไทย สาระส�ำคญั ทรพั ยากรธรรมชาตแิ ละสิ่งแวดล้อมต่าง ๆ ในแตล่ ะท้องถิน่ มปี ระโยชนต์ อ่ การด�ำรงชีวติ ของมนษุ ย์ การเพมิ่ ขน้ึ ของประชากรน้นั ท�ำใหม้ ีการใชท้ รพั ยากรธรรมชาตมิ ากขนึ้ สง่ ผลตอ่ ทรัพยากรธรรมชาตลิ ดน้อยลงและเส่ือมโทรม ก่อให้เกิดภัยพิบัติจากธรรมชาติกับมนุษย์มากขึ้น ดังนั้นการสร้างจิตส�ำนึกในการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ และสิง่ แวดลอ้ ม เป็นหน้าทีข่ องเราทกุ คนที่จะรักษาใหม้ คี วามยงั่ ยนื ต่อไป หลักสูตแรนนวคกราศรรจธี ัดรรกมารราเชรศียกึ นษราู้ 115

สาระการเรียนรู้ 1. ทรพั ยากรปา่ ไม้และสัตว์ป่า 1.1 ขอ้ มลู พนื้ ที่ป่าไมโ้ ดยสรปุ 1.2 การจำ� แนกปา่ ไม้ในจังหวดั นครศรีธรรมราช 1.3 ทรัพยากรป่าไม้ทส่ี ำ� คัญในจังหวดั นครศรีธรรมราช โดยมรี ายละเอยี ดดงั นี้ 1) อทุ ยานแหง่ ชาติ 2) เขตรกั ษาพนั ธ์สตั ว์ป่า 3) เขตหา้ มลา่ สัตว์ป่า 1.4 สถานการณ์ด้านทรัพยากรปา่ ไม้ในจงั หวดั นครศรธี รรมราช 2. ทรพั ยากรทางทะเลและชายฝงั่ 2.1 ทรพั ยากรทางทะเลและชายฝงั่ ของจงั หวัดนครศรธี รรมราช 1) ป่าชายเลน 2) ปะการงั 3) หญา้ ทะเล 4) สัตว์ทะเลหายาก 5) ป่าชายหาด 6) ปา่ พรุ 2.2 สถานการณ์ดา้ นทรพั ยากรน�้ำในจังหวดั นครศรธี รรมราช 3. ทรพั ยากรน�ำ้ 3.1 แหลง่ น�้ำผวิ ดินธรรมชาติ 1) แหล่งน้ำ� ธรรมชาติล่มุ น้�ำชายฝ่งั ทะเลภาคใต้ฝัง่ ตะวันออก 2) แหล่งน�้ำธรรมชาติลุ่มนำ้� ชายฝงั่ ทะเลภาคใต้ฝ่ังตะวนั ตก 3) แหลง่ นำ้� ธรรมชาตลิ ่มุ น�้ำตาปี 4) แหล่งน�้ำธรรมชาตลิ ุม่ น�้ำทะเลสาบสงขลา 3.2 แหลง่ น้ำ� ผวิ ดินท่สี ร้างข้นึ 1) อา่ งเกบ็ นำ�้ ห้วยน้�ำใส 2) อ่างเก็บน้�ำคลองกระทนู 3) อ่างเก็บน�ำ้ คลองดินแดง 4) อ่างเกบ็ น�ำ้ เสมด็ จวน 3.3 สถานการณด์ ้านทรัพยากรน้ำ� ในจังหวัดนครศรธี รรมราช 4. ทรัพยากรแร่ 4.1 ทรพั ยากรแร่ในจงั หวัดนครศรธี รรมราช 4.2 การใชป้ ระโยชน์จากทรพั ยากรแร่ในจังหวดั นครศรีธรรมราช 116 แหนลกัวสกูตารรนจคัดรกศารรีธเรรรียมนรารชู้ ศึกษา

4.3 สถานการณ์ดา้ นทรพั ยากรแรใ่ นจังหวัดนครศรธี รรมราช 5. ทรัพยากรดิน 5.1 ทรพั ยากรดนิ ในจังหวดั นครศรีธรรมราช 5.2 การใช้ประโยชน์ทรพั ยากรดนิ ในจงั หวดั นครศรธี รรมราช 5.3 สถานการณท์ รพั ยากรดินในจงั หวัดนครศรีธรรมราช กจิ กรรมการเรยี นรู้ 1. ศกึ ษาและคน้ ควา้ เกยี่ วกบั สภาพ และปญั หาทรพั ยากรธรรมชาตแิ ละสงิ่ แวดลอ้ มในทอ้ งถนิ่ ของตนเอง และ ในจังหวัดนครศรธี รรมราช 2. รวบรวมและวเิ คราะหเ์ กย่ี วกบั สภาพ และปญั หาทรพั ยากรธรรมชาตแิ ละสง่ิ แวดลอ้ มในทอ้ งถนิ่ ของตนเอง และในจังหวัดนครศรีธรรมราช 3. สรปุ แนวทางหรอื ขอ้ เสนอแนะเกยี่ วกบั การใชท้ รพั ยากรและสงิ่ แวดลอ้ มในทอ้ งถนิ่ ของตนเอง และในจงั หวดั นครศรีธรรมราช 4. ร่วมกจิ กรรมอนรุ ักษท์ รัพยากรธรรมชาตแิ ละสงิ่ แวดลอ้ ม การวัดและประเมนิ ผล รายการ วิธกี าร เครือ่ งมือ 1. สรปุ สภาพและปัญหาเกย่ี วกับทรัพยากรธรรมชาติ และส่ิงแวดล้อมในทอ้ งถิ่นตนเองและในจังหวดั 1. การทดสอบ 1. แบบทดสอบ นครศรีธรรมราช 2. การประเมนิ ผลงาน 2. แบบประเมินผลงาน 2. บอกวิธีการใช้ทรัพยากรธรรมชาตอิ ยา่ งยงั่ ยืน และเปน็ มติ รกับสง่ิ แวดล้อม 1. การทดสอบ 1. แบบทดสอบ 2. การประเมินผลงาน 2. แบบประเมินผลงาน 3. มีส่วนร่วมในการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ สงั เกตการมสี ว่ นร่วม แบบสงั เกตพฤตกิ รรม และส่งิ แวดลอ้ มในท้องถิ่นตนเอง ในการท�ำกิจกรรม หลกั สตู แรนนวคกราศรรจธี ดัรรกมารราเชรศียึกนษราู้ 117

หน่วยท่ี 6 ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ทรัพยากรธรรมชาตแิ ละสิง่ แวดล้อมจงั หวดั นครศรีธรรมราช 1. ทรัพยากรป่าไม้และสัตว์ปา่ 1.1 ขอ้ มลู พื้นที่ป่าไม้โดยสรปุ จงั หวดั นครศรธี รรมราช มพี น้ื ทท่ี ง้ั จงั หวดั 9,942.502 ตารางกโิ ลเมตร หรอื ประมาณ 6,214,064 ไร่ เป็นพื้นที่ป่าไม้ทั้งสิ้น 2,147.20 ตารางกิโลเมตร หรือ 1,342,000 ไร่ คิดเป็นร้อยละ 21.60 ของพื้นท่ี ทั้งจงั หวัด ประกอบด้วย 1.1.1 อทุ ยานแห่งชาติ จำ� นวน 6 แห่ง รวมเน้ือท่ี 1,085,371 ไร่ พื้นที่ปา่ อนรุ กั ษ์ เนอื้ ที่ ทต่ี ้ัง 1. อุทยานแหง่ ชาติเขาหลวง 356,250 ไร่ ท้องที่ต�ำบลดอนตะโก ต�ำบลโมคลาน ต�ำบลหัวตะพาน อำ� เภอทา่ ศาลา ตำ� บลกะหรอ ตำ� บลนบพติ �ำ อำ� เภอนบพติ �ำ 2. อทุ ยานแห่งชาตินำ้� ตกโยง 128,125 ไร่ ต�ำบลเขาพระ ต�ำบลกะทูน ต�ำบลพิปูน ต�ำบลยางค้อม 3. อุทยานแหง่ ชาติเขานนั 256,121 ไร่ อ�ำเภอพิปูน ต�ำบลละอาย อ�ำเภอฉวาง ต�ำบลช้างกลาง อ�ำเภอช้างกลาง ต�ำบลท่างิ้ว อ�ำเภอเมืองนครศรีธรรมราช ต�ำบลพรหมโลก ต�ำบลบ้านเกาะ ต�ำบลอินทคีรี อำ� เภอพรหมครี ี และตำ� บลเขาแกว้ ตำ� บลทา่ ดี ตำ� บลกำ� โลน อำ� เภอลานสกา จังหวดั นครศรธี รรมราช ท้องท่ีต�ำบลช้างกลาง อ�ำเภอช้างกลาง ต�ำบลเขาแก้ว ตำ� บลลานสกา อำ� เภอลานสกา ตำ� บลนาบอน อำ� เภอนาบอน ต�ำบลนาหลวงเสน ต�ำบลถ�้ำใหญ่ อ�ำเภอทุ่งสง และต�ำบลหินตก ต�ำบลร่อนพิบูลย์ อ�ำเภอร่อนพิบูลย์ จังหวัดนครศรธี รรมราช ทอ้ งทต่ี ำ� บลกรงุ ชงิ ตำ� บลนบพติ ำ� อำ� เภอนบพติ ำ� ต�ำบลตลงิ่ ชัน อำ� เภอทา่ ศาลาและตำ� บลเขานอ้ ยตำ� บลฉลองตำ� บลเทพราช ตำ� บลเปลย่ี น อ�ำเภอสิชล จังหวัดนครศรธี รรมราช 118 แหนลกัวสกูตารรนจคัดรกศารรีธเรรรยี มนรารชู้ ศกึ ษา

พนื้ ทป่ี ่าอนรุ กั ษ์ เนือ้ ที่ ท่ีตัง้ 4. อทุ ยานแหง่ ชาตนิ ำ�้ ตกสขี่ ดี 90,625 ไร่ ท้องท่ีต�ำบลสี่ขีด ต�ำบลเขาน้อย อ�ำเภอสิชล จังหวัด 196,875 ไร่ นครศรีธรรมราช (พ้ืนที่อยู่ในจังหวัดนครศรีธรรมราช และ 5. อทุ ยานแหง่ ชาตหิ าดขนอม สรุ าษฎรธ์ านี) - หมเู่ กาะทะเลใต้ 57,375 ไร่ ทอ้ งท่ีเขตอ�ำเภอขนอม อำ� เภอสิชล จงั หวดั นครศรีธรรมราช (เปน็ อุทยานแหง่ ชาติ (พ้ืนที่อย่ใู นจังหวดั นครศรธี รรมราชและสรุ าษฎรธ์ าน)ี ทางทะเลอยู่ ในการด�ำเนินการ ทอ้ งท่ตี ำ� บลนำ้� ตก อ�ำเภอทุ่งสง ตำ� บลวังอ่าว อ�ำเภอชะอวด เพื่อประกาศจัดตง้ั จงั หวดั นครศรธี รรมราช (พน้ื ทอ่ี ยใู่ นจงั หวดั นครศรีธรรมราช เป็นอุทยานแหง่ ชาติ ตรังและพัทลงุ ) ตามกฎหมาย) 6. อทุ ยานแหง่ ชาตเิ ขาปู่-เขายา่ 1.1.2 ปา่ สงวนแหง่ ชาติ จำ� นวน 69 ปา่ เดมิ มเี นอ้ื ทร่ี วม 1,925,663 ไร่ ไดม้ อบเอกสารสทิ ธิ ส.ป.ก.4 - 01 ใหป้ ระชาชนเขา้ ท�ำประโยชน์ จำ� นวน 471,210 ไร่ และตดั พน้ื ทท่ี บั ซอ้ นเขตอทุ ยานเขตรักษาพันธส์ุ ตั ว์ป่า 638,528 ไร่ คงเหลือ 815,931 ไร่ 1.1.3 เขตรกั ษาพันธ์ุสตั ว์ปา่ และเขตหา้ มลา่ สตั ว์ปา่ หน่วยงานพื้นทปี่ า่ อนุรกั ษ์ พื้นท่ี (ไร)่ ทีต่ ัง้ 1. เขตรักษาพันธุส์ ัตว์ป่ากระทูน 2. เขตห้ามลา่ สัตวป์ า่ แหลมตะลมุ พุก 62,800 ต�ำบลกะทนู อำ� เภอพิปนู จงั หวัดนครศรีธรรมราช 3. เขตหา้ มล่าสตั ว์ป่าบอ่ ลอ้ 35,456 พื้นที่บริเวณป่าแหลมตะลุมพุก ป่าเลนปากพนัง ฝั่งตะวันออกและป่าชายเลนเกาะไชย ในท้องท่ี 4. เขตห้ามล่าสตั วป์ า่ ทะเลน้อย ตำ� บลปากพนงั ฝง่ั ตะวนั ออก และตำ� บลแหลมตะลมุ พกุ อ�ำเภอปากพนัง จงั หวดั นครศรีธรรมราช 62,599 ท ้ อ ง ท่ี ต� ำ บ ล ส ว น ห ล ว ง ต� ำ บ ล ท า ง พู น อ�ำเภอเฉลิมพระเกียรติ ต�ำบลแม่เจ้าอยู่หัว ต�ำบลการะเกด อ�ำเภอเชียรใหญ่ ต�ำบลบ้านตูล ต�ำบลชะอวด อ�ำเภอชะอวด ต�ำบลควนพัง อ�ำเภอรอ่ นพบิ ูลย์ จงั หวัดนครศรีธรรมราช 150,000 ท้องท่ีต�ำบลการะเกด อ�ำเภอเชียรใหญ่ ต�ำบลเคร็ง ต�ำบลขอนหาด อ�ำเภอชะอวด ต�ำบลแหลม ตำ� บลควนชะลิก อ�ำเภอหัวไทร หลักสูตแรนนวคกราศรรจีธัดรรกมารราเชรศยี ึกนษราู้ 119

1.1.4 ปา่ ชายเลน มพี นื้ ทรี่ วม 149,748.8 ไร่ เปน็ พน้ื ทป่ี า่ ชายเลนคงสภาพ จำ� นวน 80,922.46 ไร่ และปา่ ชายเลนทเี่ ปลย่ี นแปลงไป 68,826.34 ไร่ โดยพน้ื ทป่ี า่ ชายเลนสว่ นใหญอ่ ยใู่ นทอ้ งทอ่ี ำ� เภอปากพนงั และอำ� เภอ เมืองนครศรธี รรมราช 1.2 การจ�ำแนกปา่ ไม้ในจังหวัดนครศรีธรรมราช ปา่ ไมใ้ นจงั หวัดนครศรธี รรมราช จ�ำแนกเปน็ 4 ชนดิ ได้แก่ 1.2.1 ป่าดงดบิ ลักษณะเป็นป่า รกทบึ มคี วามหลากหลายทางชวี ภาพสงู ประกอบไป ดว้ ยพนั ธไ์ุ มแ้ ละสตั วป์ า่ ชนดิ ตา่ ง ๆ มากมาย ปา่ ดงดบิ คดิ เปน็ พนื้ ทม่ี ากทส่ี ดุ ในจงั หวดั เปน็ บรเิ วณยาวตลอด จากทศิ เหนือจดทศิ ใต้ อย่ใู นเขตอำ� เภอสิชล ทา่ ศาลา พปิ นู พรหมคีรี ลานสกา รอ่ นพิบลู ย์ ทงุ่ ใหญ่ ชะอวด และนาบอน ต้นไม้ส�ำคัญ ได้แก่ ตะเคียน จ�ำปา ป่าหลุมพอ ไมย้ าง อบเชย ไม้หอม เป็นตน้ 1.2.2 ป่าชายเลน ป่าชายเลน ปา่ ดงดิบในอทุ ยานแหง่ ชาติเขาหลวง นำ้� เคม็ หรอื ปา่ เลนอยบู่ รเิ วณทศิ ตะวนั ออกของจงั หวดั ใน อำ� เภอปากพนงั ขนอม และบางสว่ นของอำ� เภอเมอื ง ปา่ ชายเลนเปน็ ปา่ ทม่ี คี ณุ คา่ เปน็ แหลง่ เพาะพนั ธป์ุ ลากบั สตั วท์ ะเล อกี หลายชนดิ และปา่ ชายเลนยังช่วยปอ้ งกนั ลมพายุ ลดความรนุ แรงของลม ช่วยปอ้ งกันดินพังตามชายฝงั่ อีกด้วย 1.2.3 ป่าพรุ มีอยู่ทางใต้ของจังหวัดในเขตอ�ำเภอเชียรใหญ่ เฉลิมพระเกียรติ ร่อนพิบูลย์ ชะอวดและหวั ไทร จงั หวดั นครศรธี รรมราช สภาพทว่ั ไปเปน็ พนื้ ทซี่ ง่ึ ฟน้ื สภาพจากพนื้ ทพ่ี รทุ ถี่ กู คกุ คามดว้ ยไฟปา่ และ การบกุ รกุ สภาพโดยทวั่ ไปเปน็ พนื้ ทท่ี ม่ี นี ำ้� ทว่ มขงั สภาพดนิ เปน็ กรดมากจนไมเ่ หมาะตอ่ การเกษตร มไี มจ้ ำ� พวกเสมด็ กก กระจดู และหญ้าชนดิ ต่าง ๆ ขึน้ อยเู่ กอื บทั่วพื้นที่ 1.2.4 ปา่ ชายหาด มพี นื้ ทนี่ อ้ ยอยตู่ ามชายฝง่ั ทะเลทม่ี ดี นิ คอ่ นขา้ งเปน็ ทราย เชน่ พบในพนื้ ทเ่ี ขต อำ� เภอปากพนัง 1.3 แหลง่ ทรพั ยากรป่าไม้ที่ส�ำคัญในจังหวัดนครศรธี รรมราช 1.3.1 อทุ ยานแหง่ ชาตเิ ขาหลวง มีพื้นท่ี 356,250 ไร่ ครอบคลุมเทือกเขา นครศรธี รรมราชตอนกลาง ประกอบด้วยเทือกเขาสูง สลับซับซ้อนทอดยาวเหนือจรดใต้ขนานไปกับชายฝั่ง ทะเลด้านตะวันออก มีที่ราบตามหุบเขาเล็กน้อย ดนิ บนภเู ขาเปน็ ดนิ ทเ่ี กดิ จากการผสุ ลายของหนิ แกรนติ มยี อดเขาสงู สดุ คอื ยอดเขาหลวง เปน็ ยอดเขาท่สี งู ท่สี ดุ ในภาคใต้ สูงจากระดบั นำ�้ ทะเล 1,835 เมตร เปน็ ตน้ ก�ำเนิดของต้นน�้ำล�ำธารหลายสาย เช่น แม่น้�ำตาปี อทุ ยานแหง่ ชาตเิ ขาหลวง 120 แหนลกัวสกตูารรนจคดั รกศารรีธเรรรยี มนรารชู้ ศึกษา

แม่น้�ำปากพนัง คลองกรุงชิง คลองเขาแก้ว คลองท่าแพ คลองระแนะ และคลองละอาย อันเป็นแหล่งน�้ำท่ีส�ำคัญ ของพื้นทโ่ี ดยรอบอทุ ยานแหง่ ชาติเขาหลวง อทุ ยานแหง่ ชาติเขาหลวงมีพ้ืนทค่ี รอบคลุมอยูใ่ นท้องที่ อ�ำเภอลานสกา อ�ำเภอฉวาง อำ� เภอเมือง อ�ำเภอพปิ ูน อ�ำเภอพรหมคีรี อ�ำเภอชา้ งกลาง และอำ� เภอนบพติ ำ� จังหวัดนครศรีธรรมราช 1) พืชพรรณ พชื พรรณไมส้ ว่ นใหญเ่ ปน็ พชื ปา่ ดงดบิ ซงึ่ สามารถจำ� แนกออกไดเ้ ปน็ 2 ประเภทดว้ ยกนั คอื 1.1) ป่าดิบเขา เป็นป่าท่ีข้ึนอยู่เหนือระดับน้�ำทะเลต้ังแต่ 1,000 เมตรข้ึนไปจนถึง ยอดเขาท่ีมีเมฆหมอกคลุม พันธุ์ไม้ที่ส�ำคัญ ได้แก่ เหมือด ก�ำยาน แดงเขา ก่อเขา บุญนาคเขา จำ� ปนู ชา้ ง ฯลฯ พชื คลมุ ดนิ สว่ นใหญค่ ลา้ ยปา่ ดบิ เขาระดบั ตำ�่ แตจ่ ะมพี ชื หญา้ ขนึ้ มากไดแ้ ก่บวั แฉกใบใหญ่ บวั แฉกใบมน หวายเหงิ หวายแซม่ า้ หวายเขา เปน็ ตน้ 1.2) ป่าดงดิบชื้น ครอบคลุมพ้ืนท่ีส่วนใหญ่ของอุทยานแห่งชาติเกือบทั้งหมด พชื ประจำ� ถน่ิ และไมท้ มี่ คี า่ ทางเศรษฐกจิ สว่ นใหญ่ ไดแ้ ก่ ยาง ตะเคยี นทอง ไขเ่ ขยี ว ตะเคยี นทราย สยาขาว กระบากดำ� กระบากขาว พนั จำ� หลมุ พอ เอยี น เชยี ด อบเชย เทพทาโร จำ� ปาปา่ กอ่ แดงคาน แดงเขา ยมปา่ ฯลฯ นอกจากนี้ ยงั มกี หุ ลาบพนั ปี กหุ ลาบเขาหลวง เตา่ รา้ งยกั ษ์ หวายหอม หวายไมเ้ ทา้ ไผเ่ กรยี บ ก้ามกุ้งหลายชนิด และมหาสด�ำ ซ่งึ เป็นเฟนิ ตน้ ประจ�ำถิน่ ของอุทยานแหง่ ชาตเิ ขาหลวง เปน็ ตน้ 2) สัตว์ป่า ผลของการส�ำรวจชนดิ และประชากรสัตวป์ ่าในอุทยานแหง่ ชาตเิขาหลวง เมอื่ ปี 2534 พบวา่ อทุ ยานแหง่ ชาตเิขาหลวงเปน็ ถนิ่ ทอ่ี ยอู่ าศยั ของสตั วป์ า่ ไมน่ อ้ ยกวา่ 327 ชนดิ สตั วป์ า่ ท่ีพบเหน็ เช่น สมเสรจ็ เลียงผา ลิงกงั ลงิ เสน คา่ งดำ� คา่ งแวน่ ถน่ิ ใต้ ชะนธี รรมดา เสอื ลายเมฆ เสอื ดำ� เสอื โครง่ หมหี มา เกง้ กวางปา่ เมน่ หางพวง สตั วจ์ ำ� พวก นก เชน่ นกอินทรดี ำ� ไก่ฟ้าหน้าเขียว ไกป่ ่า นกเขา เปลา้ ธรรมดานกหวา้ นกเงอื กหวั หงอกนกเงอื กปากดำ� นกกก นกชนหิน นกโพระดกหลากสี นกพญา ปากกวา้ งทอ้ งแดง และนกกนิ ปลี ฯลฯ นอกจากนี้ ในบรเิ วณเขาหลวง ยังพบสัตว์เลื้อยคลานและสัตว์ครึ่งบกคร่ึงน้�ำ ท่ีหายาก หลายชนิด เช่น งูลายสายมลายู เต่าจักร งหู ลามปากเปด็ งสู ามเหลย่ี มหวั หางแดง จงิ้ จกนว้ิ ยาว กำ� พล ตกุ๊ แกปา่ โคนนวิ้ ตดิ จงิ้ เหลนเรยี วปกั ษใ์ ต้ งเู ขยี ว เลยี งผา ดงลาย กบเขาทอ้ งลาย กบตะนาวศรี เขยี ดงศู ภุ ชยั เปน็ ตน้ ในบรเิ วณแหลง่ ตน้ นำ้� ลำ� ธารของอทุ ยานแหง่ ชาตเิ ขาหลวง จะพบสตั ว์น�ำ้ ในปรมิ าณน้อย ไดแ้ ก่ ปลาพลวง ปลาแฮะ ปลาไสข้ ม ปลาซวิ นำ้� ตก ปลาอกี อง ปลาตดิ หนิ ปนู ำ�้ ตก เปน็ ต้น เนื่องจากมีกระแสน้�ำไหลแรง ปริมาณสารอาหารในน�้ำมีน้อย พื้นน้�ำเป็นหินและทรายไม่เหมาะกับการเจรญิ เตบิ โต ของสตั วน์ ำ้� หลักสตู แรนนวคกราศรรจีธดัรรกมารราเชรศยี กึ นษราู้ 121

1.3.2 อุทยานแหง่ ชาตินำ�้ ตกโยง อทุ ยานแหง่ ชาตนิ ำ้� ตกโยง มพี น้ื ที่ 128,125 ไร่ หรอื 205 ตารางกโิ ลเมตร ครอบคลุมพนื้ ท่ีป่า ในเขตอำ� เภอชา้ งกลาง อำ� เภอลานสกา อำ� เภอนาบอน อ�ำเภอทุ่งสง และอ�ำเภอร่อนพิบูลย์ จังหวัด นครศรีธรรมราช มสี ภาพปา่ ทส่ี มบรู ณ์ ประกอบดว้ ย ทิวทัศน์และน�้ำตกที่สวยงามหลายแห่งด้วยกัน เช่น ยอดเขาเหมน ยอดเขารามโรม น�้ำตกโยง น้�ำตกปลิว น้�ำตกคลองจัง น้�ำตกหนานเตย น�้ำตกหนานปลิว นำ้� ตกหนานตากผา้ นำ้� ตกหนานโจน นำ้� ตกคหู าสวรรค์ เหมาะแก่การท่องเที่ยวพักผ่อนหย่อนใจศึกษา หาความรู้ ทงั้ ยงั เปน็ ตน้ นำ�้ ลำ� ธารทส่ี ำ� คญั มยี อดเขาเหมน เปน็ ยอดเขาสงู สดุ มคี วามสูง 1,235 เมตร จากระดับ อุทยานแห่งชาตนิ ำ�้ ตกโยง นำ้� ทะเล 1) พชื พรรณ พืชพนั ธไุ์ มส้ ว่ นใหญเ่ ปน็ พืชป่าดิบช้ืน และปา่ ดิบเขา ดงั น้ี 1.1) ปา่ ดบิ ชนื้ มพี นั ธไ์ุ มท้ มี่ คี า่ และมขี นาดใหญอ่ ยเู่ ปน็ จำ� นวนมาก เชน่ ยาง หลมุ พอ ตะเคยี นทอง นาคบตุ ร กระบาก เสยี ดชอ่ เลอื ดนก ขนนุ ปาน จำ� ปา พกิ ลุ ปา่ กอ่ รกั เขา กระทอ้ น สะตอ เหรยี ง ฯลฯ พชื พ้ืนล่างมีจ�ำพวกเฟินตน้ ชนดิ ต่าง ๆ พืชตระกลู ขิงข่า ไมเ้ ล้อื ย และเถาวลั ย์ข้ึนเกาะตามไมใ้ หญม่ ากมาย 1.2) ป่าดิบเขา เป็นป่าท่ีมีความโปร่งกว่าป่าดิบช้ืนอยู่ในระดับความสูง 800 เมตร ขนึ้ ไป เนอ่ื งจากมตี น้ ไมใ้ หญข่ น้ึ อยนู่ อ้ ย พนั ธไ์ุ มเ้ ดน่ ไดแ้ ก่ กอ่ ตาหมู กอ่ นก กอ่ เดอื ย กอ่ แปน้ พชื พน้ื ลา่ งทีพ่ บไดแ้ ก่ มังเร เฟนิ มอส กล้วยไม้ดิน เป็นต้น 2) สัตว์ป่า สตั วป์ า่ ทส่ี ำ� รวจพบในปา่ เขาบรเิ วณนท้ี สี่ ำ� คญั เชน่ เสอื ดำ� เลยี งผา สมเสรจ็ หมปู า่ เกง้ กระจง อเี หน็ ชะมด ลงิ เสน คา่ ง ชะนี กระรอก เมน่ นกหวา้ นกยงู เหยย่ี ว ไกป่ า่ นกเขาเปลา้ นกเงอื ก นกขมนิ้ นกกางเขนดง นกแซงแววหางปลา นกปรอดหัวโขน ตะพาบน้�ำ ตะกวด กิ้งก่า จ้ิงเหลน งูกะปะ กบ เขียด คางคก ปลาแงะ ปลาซวิ ปลากระทิง ปลาชะโด ปูน้�ำตก ผีเสื้อกลางวนั ผเี สอื้ กลางคนื และแมลงปีกแข็งตา่ ง ๆ 122 แหนลักวสกตูารรนจคัดรกศารรธี เรรรียมนรารชู้ ศกึ ษา

1.3.3 อทุ ยานแห่งชาตเิ ขานนั มีลักษณะภูมิประเทศเป็นเทือกเขาสูงทอดยาวตามแนวเหนือ-ใต้ สลับซับซ้อน โดยเป็น ส่วนหน่ึงของเทือกเขานครศรีธรรมราช มีเน้ือที่ ประมาณ 256,121 ไร่ หรือ 409.79 ตาราง กิโลเมตร สภาพป่าเป็นป่าดงดิบช้ืนที่อุดม สมบูรณ์ เป็นแหล่งต้นน้�ำล�ำธารที่ส�ำคัญของ จังหวัดนครศรีธรรมราช และประกอบไปด้วย พนั ธไ์ุ มท้ ส่ี ำ� คญั และมคี า่ มจี ดุ เดน่ ทางธรรมชาติ ที่สวยงามหลายแห่ง เช่น น้�ำตกสุนันทา (น้�ำตกเขานัน) นำ�้ ตกกรงุ นาง นำ้� ตกคลองเผยี น ถำ้� กรงุ นาง นำ�้ ตกเขาใด เปน็ ตน้ โดยมยี อดสงู ทส่ี ดุ คอื ยอดเขาใหญ่ โดยสูงประมาณ 1,438 เมตร จากระดบั น้ำ� ทะเล 1) พืชพรรณ พ้ืนท่ีส่วนใหญ่ น�ำ้ ตกสนุ ันทา อุทยานแหง่ ชาติเขานัน เป็นป่าดงดิบชนื้ ทอ่ี ุดมสมบูรณค์ รอบคลุมกว่า 90 เปอรเ์ ซ็นตข์ องพื้นที่ มีพันธ์ุไมท้ ี่มีคา่ หลายชนดิ เชน่ ยาง หลมุ พอ ตะเคียนทอง ไข่เขียว ตะเคียนทราย เสียดช่อ และจ�ำปาป่า เป็นต้น นอกจากน้ีพ้ืนท่ีป่าบริเวณบ้านทับน้�ำเต้า บ้านหนา้ พระเจ้า บา้ นห้วยพริก และบ้านหว้ ยแห้ง จะพบไม้ประ (Elaleriospermum tapos Bl.) ซึง่ เปน็ ไม้ทน่ี ิยม เกบ็ เมล็ดมารบั ประทาน และเมล็ดดงั กลา่ วมีราคาสูง 2) สตั ว์ปา่ อทุ ยานแหง่ ชาตเิ ขานนั มสี ัตว์ปา่ นานาชนิด เช่น เลียงผา สมเสร็จ เกง้ หมูปา่ กระจง อีเห็น ชะมด นอกจากนย้ี งั มนี กมากกว่า 150 ชนิด ซึ่งรวมถึงนกขนาดใหญ่อย่างนกกก และนก เฉพาะถ่ินท่ีพบบนทิวเขานครศรีธรรมราช คือ นกกนิ ปลหี างยางเขยี ว นกกนิ ปลหี างยางเขยี ว หลกั สูตแรนนวคกราศรรจีธัดรรกมารราเชรศยี ึกนษราู้ 123

1.3.4 อุทยานแหง่ ชาตนิ �้ำตกสี่ขดี อทุ ยานแหง่ ชาตนิ ำ้� ตกสข่ี ดี มพี น้ื ทปี่ ระมาณ 90,625 ไร่ หรอื 145 ตารางกโิ ลเมตร ต้ังอยู่ในแนวทิวเขานครศรีธรรมราชท่ีสูงชันสลับ ซับซ้อน ในเขตอ�ำเภอสิชล จังหวัดนครศรีธรรมราช และอ�ำเภอกาญจนดิษฐ์ จังหวัดสุราษฎร์ธานี เป็นเทือกเขา แนวแบ่งเขตจังหวัดนครศรีธรรมราช และจังหวัดสุราษฎร์ธานี แนวเขาวางตัวในแนว ทิศเหนือ - ใต้ เป็นแนวยาวขนานกับฝั่งทะเล ถ�้ำเขาพบั ผา้ ตะวนั ออก ตอนกลาง เปน็ เทอื กเขาทสี่ งู ชนั สลบั ซบั ซอ้ น มีลักษณะเป็นสันปันน้�ำ โดยลาดต�่ำไปทางตะวันออกและทางตะวันตก ท่ีราบส่วนใหญ่อยู่ทางตะวันออก พ้ืนที่น้ี มียอดเขาทส่ี งู ทส่ี ุด คือ ยอดเขาคีโหมดสูง 1,303 เมตร ยอดเขาอืน่ ๆ เชน่ ยอดเขานางสงู 881 เมตร ยอดเขาวังพุง สูง 600 เมตร ยอดเขาปลายครามสงู 599 เมตร ยอดเขาขุนหว้ ยแก้ว สงู 582 เมตร ความสงู ของพนื้ ทจ่ี ากระดบั นำ�้ ทะเลปานกลางโดยเฉลย่ี ประมาณ 700 เมตร มีหบุ เขาท่ีเปน็ แหลง่ กำ� เนดิ ของลำ� หว้ ยตา่ ง ๆ มากมาย ซึ่งท�ำให้เกิดแอ่งน้�ำและน้�ำตกเป็นช้ัน ๆ ต่อเน่ืองกัน เป็นลำ� ดับ มเี ขาบางลูกเปน็ ภเู ขาหนิ ปนู จึงเกดิ ถ�้ำทส่ี วยงามน่าพศิ วง มากมายหลายแห่ง เช่น ถ�ำ้ เขาพับผ้า ถำ้� สวนปราง เปน็ ตน้ 1) พชื พรรณ พชื พรรณในอทุ ยานแหง่ ชาตนิ ำ้� ตกสขี่ ดี มีลักษณะของป่าดิบช้ืนเป็นส่วนใหญ่ มีพันธุ์พืชหลายชนิดขึ้นอยู่ อย่างหนาแน่น ดงั น้ี 1.1) ปา่ ดบิ ชนื้ ครอบคลมุ พนื้ ทส่ี ว่ น ใหญ่ของอุทยานแห่งชาติ โดยมากจะพบตามหุบเขาและริมห้วยที่มี ความชื้นสูง พันธุ์ไม้ส�ำคัญ ได้แก่ ยางปาย ยางแดง ตะเคียนทอง ตะเคยี นทราย หลมุ พอ ไขเ่ ขยี ว พญาไม้ กอ่ เลก็ เตา่ รา้ งยกั ษ์ ชก ฯลฯ ถำ�้ สวนปราง พืชพื้นล่างและไม้เถา ได้แก่ มหาสด�ำ หวายก�ำพวน หวายเทิง หวายข้ีเส้ยี น เตยยา่ น เปอื่ ย คอกว่ิ ย่าน เปน็ ต้น 1.2) ปา่ ดิบเขา พบในพื้นทีท่ ส่ี งู จากระดับน้�ำทะเลตั้งแต่ 1,000 เมตรข้นึ ไป ซ่ึงเป็น ระดับทมี่ เี มฆหมอกปกคลมุ ทำ� ให้มอี ากาศชื้นเสมอ พนั ธุไ์ มท้ ี่พบ ไดแ้ ก่ เหมือด ก�ำยาน หวั เต่า ติ่ง แดงเขา ก่อเขา ก่อใบเอียด ฯลฯ ไม้พุ่มและพืชพ้ืนล่างเป็นพวกตาเป็ดตาไก่ เคลง เนียม หวายแส้ม้า หวายเขา ดาวสามแฉก กล้วยไมด้ นิ ชนดิ ตา่ ง ๆ เป็นต้น 124 แหนลักวสกตูารรนจคดั รกศารรธี เรรรยี มนรารชู้ ศกึ ษา

1.3) ป่ารุ่นหรือป่าเหล่า เป็นสังคมพืชท่ีเกิดข้ึนทดแทนสภาพธรรมชาติเดิม ภายหลงั การถกู บกุ รกุ ทำ� ลาย พนั ธไ์ุ มท้ สี่ ำ� คญั ประกอบดว้ ยไมเ้ บกิ นำ� ไดแ้ ก่ สอยดาว ปอหชู า้ ง กะลอขน ลอ่ พงั แหรใหญ่ ท้งุ ฟ้า เป็นต้น 2) สตั วป์ ่า เปน็ แหลง่ ทอี่ ยอู่ าศยั ของสตั วป์ า่ จำ� นวน327 ชนดิ ไดแ้ ก่ สตั วเ์ ลยี้ งลกู ดว้ ยนม พบ 100 ชนดิ ได้แก่ เลยี งผา ช้างป่า สมเสร็จ เสือไฟ เกง้ ลิงเสน ชะนธี รรมดา ค่างแวน่ ถิ่นใต้ เสอื ลายเมฆ หมูปา่ อน้ ใหญ่ เมน่ ใหญ่ แผงคอ พังพอนเหลือง หมหู รง่ิ ชะมดเชด็ อีเห็นธรรมดา พงั พอนธรรมดา กระแตธรรมดา พญากระรอกดำ� กระรอกขา้ ง ลายทอ้ งแดง คา้ งคาวขอบหขู าวเลก็ ค้างคาวบวั ฟนั กลม หนฟู านเลก็ ฯลฯ 2.1) นก พบทั้งสน้ิ 157 ชนดิ เป็นนกประจ�ำถนิ่ 143 ชนิด และเป็นนกอพยพยา้ ยถนิ่ 14 ชนดิ ไดแ้ ก่ นกเหยย่ี วรงุ้ ไกป่ า่ นกเขาเขยี ว นกบง้ั รอกใหญ่ นกเคา้ กู่ นกจาบคาหวั สสี ม้ นกแกก๊ นกแอน่ ฟ้าเคราขาว นกพญาไฟใหญ่ นกปรอดเหลืองหัวจุก นกแซงแซวหางบ่วงใหญ่ นกจาบดินอกลาย นกกินแมลงหัวสีน้�ำตาล นกกางเขนดง นกกระจิบคอดำ� นกจบั แมลงคอสนี �้ำตาลแดง นกกินปลกี ลว้ ยเล็ก นกกาฝากอกเพลิง และนกกะตดิ๊ ตะโพกขาว ฯลฯ 2.2) สัตวเ์ ลือ้ ยคลาน พบจำ� นวน 39 ชนดิ ไดแ้ ก่ เตา่ จกั ร ตะพาบแก้มแดง ตุก๊ แก ปา่ ลายจดุ จ้งิ จกหางหนาม กงิ้ กา่ บนิ ปกี สสี ม้ เหา่ ชา้ ง เหย้ี จิ้งเหลนดินจุดดำ� งูสิงหางดำ� งูเขยี วหวั จงิ้ จก งูสามเหล่ยี ม หัวหางแดง ฯลฯ สตั วค์ ร่ึงบกครึง่ น�้ำ พบ 11 ชนดิ ได้แก่ อ่งึ กรายหัวมน อึ่งอา่ งบา้ น กบตะนาวศรี กบทูด เขียดตะปาด เขียดงศู ภุ ชัย เป็นตน้ 2.3) สตั วน์ ำ้� พบปลา 18 ชนดิ ท่ีพบโดยทว่ั ไป ได้แก่ ปลาพลวง ปลาแฮะ ปลาซิว นำ้� ตก ปลาเลยี หิน ปลาติดหิน และปลาอกี อง นอกจากนีย้ งั พบปูน�้ำตกบริเวณนำ้� ตกส่ีขีด 2 ชนิดด้วยกัน คอื ปูมดแดง (Phricotelphusa limula) และ ปูน้ำ� ตก (Salangathelphusa brevimarginata) 1.3.5 อุทยานแหง่ ชาติหาดขนอม-หมู่เกาะทะเลใต้ อุทยานแห่งชาติหาดขนอม-หมู่เกาะทะเลใต้ เป็นอุทยานแห่งชาติทางทะเลอยู่ใน การด�ำเนินการเพ่ือประกาศจัดตั้งเป็นอุทยานแห่งชาติตามกฎหมาย อุทยานแห่งชาติหาดขนอม - หมู่เกาะทะเลใต้ อยู่ในเขตพ้ืนที่จังหวัดนครศรีธรรมราชและสุราษฎร์ธานี ประกอบด้วยพื้นที่ทางบกและทางทะเลรวมกัน มีเนื้อที่ ประมาณ 197,500 ไร่ หรอื ประมาณ 316 ตารางกโิ ลเมตร เป็นพ้ืนทีท่ างบกประมาณ 116.74 ตารางกโิ ลเมตร หรอื 36.94% และเปน็ พืน้ น้�ำประมาณ 199.26 ตารางกิโลเมตร หรือ 63.06% พ้นื ทที่ างบกประกอบดว้ ย แนวเทอื กเขา น้อยใหญ่สลบั ซบั ซ้อนทอดตัวจากทิศเหนอื ส่ทู ศิ ใต้ มีพื้นทร่ี าบผนื ใหญ่ เชงิ ภเู ขาเปดิ สฝู่ ั่งทะเล ด้านอ่าวไทย มียอดเขา หลวงเป็นจดุ สูงทส่ี ดุ ประมาณ 814 เมตรจากระดบั นำ�้ ทะเล สว่ นพนื้ ทีท่ างทะเลประกอบดว้ ยเกาะ จ�ำนวน 11 เกาะ ไดแ้ ก่ เกาะแตน เกาะราบ เกาะมดั โกง เกาะมดั แตง เกาะวงั นอก เกาะวงั ใน เกาะมดั สมุ่ เกาะราใหญ่ เกาะทา่ ไร่ เกาะผี และเกาะนอ้ ย หลกั สูตแรนนวคกราศรรจธี ดัรรกมารราเชรศยี ึกนษราู้ 125

อทุ ยานแห่งชาตหิ าดขนอม - หมู่เกาะทะเลใต้ อุทยานแห่งชาติหาดขนอม - หม่เู กาะทะเลใต้ ประกอบดว้ ยป่าชนดิ ตา่ ง ๆ ไดแ้ ก่ 1) พืชพรรณ 1.1) ปา่ ดบิ ชนื้ พบในพน้ื ทเ่ี ทอื กเขาสงู บรเิ วณปา่ คลองธง ปา่ คลองเหลง ปา่ ชยั คราม ปา่ วดั ประดู่ และบางสว่ นของปา่ เขาออก ปา่ เขาทอ้ งโหนด และปา่ เขาชยั สน พนั ธไ์ุ มท้ พี่ บ ไดแ้ ก่ ยาง ตะเคยี น หลมุ พอ ไข่เขยี ว กนั เกรา พืชพน้ื ล่างประกอบด้วย ไผ่ หวาย ระก�ำ เต่าร้าง ตลอดจนพชื ทอ่ี าศัยตามลำ� ตน้ หรอื เรือนยอดของ ไมข้ นาดใหญ่ เช่น กลว้ ยไม้ มอส เฟนิ และเถาวลั ย์ชนิดต่าง ๆ 1.2) ป่าดิบแล้ง พบบริเวณไหล่เขาตามร่องน้�ำที่มีเน้ือดินเป็นช้ันบางของป่าเขา ท้องโหนด ป่าเขาชัยสน และตามเกาะตา่ ง ๆ พนั ธุ์ไม้ที่ส�ำคัญ ไดแ้ ก่ ตะเคียนหิน พลองใบใหญ่ หัวค่าง จิกเขา ชะมงั และขี้แรด ฯลฯ 1.3) ป่าชายเลน พบในปา่ เลนคลองขนอม พนั ธไ์ุ ม้ท่ีสำ� คญั ไดแ้ ก่ โกงกางใบใหญ่ โกงกางใบเล็ก แสม ตะบนู ล�ำพู ลำ� แพน ถั่วดำ� ถวั่ ขาว ฯลฯ และ ป่าชายหาด พบบริเวณชายหาดบนเกาะตา่ ง ๆ พันธไ์ุ ม้ทีพ่ บ ได้แก่ หูกวาง สนทะเล หยที ะเล จกิ ทะเล และรักทะเล เปน็ ตน้ นอกจากน้ี ยงั พบพ้นื ท่ีปา่ ซึ่งมีลักษณะ เปน็ ป่าพรุในพ้ืนทซ่ี ง่ึ อยบู่ ริเวณตอนบนของปา่ เลนคลองขนอมและในพ้ืนทเ่ี กาะวังนอก 1.4) ป่าเขาหินปูน บรเิ วณเขาหินปนู ที่มีช้ันดินนอ้ ยมากยากต่อการเจรญิ เตบิ โตของ พันธุ์ไม้ชนิดต่าง ๆ ส�ำหรับพืชที่พบเป็นพวกเป้งและว่านสบู่ด�ำ พืชส�ำคัญ ได้แก่ จันทน์ผา เป้ง สลัดได พลับพลึง บกุ เชยี ด และยอป่า 2) สัตว์ปา่ พื้นที่อุทยานแห่งชาติหาดขนอม-หมู่เกาะทะเลใต้ เป็นแหล่งที่อยู่อาศัยของสัตว์ป่า หลายชนิด จ�ำแนกได้ ดังน้ี 2.1) สัตว์เล้ียงลูก ด้วยนม พบประมาณ 18 ชนดิ เชน่ กวางปา่ หมูป่า ลิง คา่ ง หมาใน บาง ชะนี กระรอก กระแต และพบ วา่ มีสัตว์ป่าสงวน อย่างนอ้ ย 2 ชนดิ คือ เลียงผา และ สมเสร็จ อยใู่ นบรเิ วณพนื้ ที่ดว้ ยและยงั มีสัตว์เลีย้ งลูก ดว้ ยนมท่อี าศยั ในน�ำ้ ไดแ้ ก่ โลมา โลมาสชี มพู 126 แหนลักวสกตูารรนจคัดรกศารรีธเรรรียมนรารชู้ ศึกษา

2.2) นก พบประมาณ 140 ชนิด ซ่ึงประกอบด้วยนก ซ่ึงอาศัยอยู่ในสภาพพ้ืนท่ี ทางบกและพ้ืนทีท่ างทะเล เชน่ เหยย่ี วรุง้ นกออก นกเงือก นกเปลา้ นกขุนทอง นกดุเหว่า เปน็ ตน้ และบรเิ วณเกาะ ตา่ ง ๆ มีนกกานำ�้ นกชาปไิ หน นกนางนวล เปน็ ตน้ 2.3) สตั วเ์ ล้อื ยคลาน พบประมาณ 14 ชนดิ ประกอบด้วย เต่า ตะพาบน�ำ้ ซง่ึ อาศยั อยใู่ นลำ� หว้ ย ล�ำคลอง ก้งิ ก่า ตกุ๊ แก แย้ ตะกวด งชู นดิ ตา่ ง ๆ เช่น งเู หลอื ม นอกจากน้ีบริเวณเกาะตา่ ง ๆ มรี ายงาน วา่ มีเตา่ ทะเลข้ึนมาวางไข่เป็นจ�ำนวนมากในอดีต 2.4) สัตว์ครงึ่ บกครึง่ นำ�้ พบว่า มีกบและเขียดชนดิ ตา่ ง ๆ 2.5) ปลาและสตั วน์ ำ�้ อน่ื ๆ ประกอบดว้ ย ปลานำ�้ จดื และปลาทะเลชนดิ ตา่ ง ๆ หอย กุ้ง ปลงิ ทะเล ปะการงั สมอง ปะการังเขากวาง ปะการงั จาน และดอกไม้ทะเล เปน็ ต้น 1.3.6 อุทยานแหง่ ชาติเขาปู่ - เขายา่ อทุ ยานแหง่ ชาติเขาปู่ - เขาย่า มพี ื้นทค่ี รอบคลมุ อยใู่ นทอ้ งทอ่ี ำ� เภอทงุ่ สง อำ� เภอชะอวด จงั หวดั นครศรธี รรมราช อำ� เภอรษั ฎา อ�ำเภอห้วยยอด อ�ำเภอเมือง อ�ำเภอนาโยง จังหวัดตรัง และอ�ำเภอ ศรนี ครนิ ทร์ อำ� เภอศรบี รรพต อำ� เภอปา่ พะยอม อำ� เภอกงหรา จงั หวดั พทั ลงุ ตงั้ อยู่ในบริเวณเทอื กเขาบรรทดั สลบั ซับซอ้ น ปกคลมุ ดว้ ยปา่ ดงดบิ ช้นื เขยี ว สะพร่ังทุกฤดูกาล จนได้รับสมญานามว่า “ปา่ พรหมจรรย์” สภาพภมู ปิ ระเทศเปน็ เทอื กเขาสงู ซง่ึ เปน็ สว่ นหนง่ึ ของเทือกเขาบรรทัด มีภูเขาสูงสลับซับซ้อนมากมายที่วางตัวตามแนว เหนอื - ใต้ ประกอบดว้ ยภูเขาบรรทัด ภูเขานครศรีธรรมราช เขาปู่ - เขาย่า เขาปา้ แหร้ เขาสามรอ้ ยยอด เขาวัดถ�้ำ เขาพระยากรุงจนี เขาป่าโฮง้ มีเขา หนิ แทน่ เปน็ ยอดเขาสงู สดุ มคี วามสงู ประมาณ 877 เมตรจากระดบั นำ�้ ทะเล พ้ืนที่อุทยานแห่งชาติเขาปู่ - เขาย่าเป็นต้นแม่น�้ำตรังและแม่น�้ำปากพนัง ถ�ำ้ วงั นายพฒุ เขาปู่ เขาย่า โดยในฝง่ั จงั หวดั พทั ลงุ เปน็ แหลง่ กำ� เนดิ คลองลาไม คลองไมเ้ สยี บ คลองนำ้� ใส ซง่ึ จะไหลรวมเป็นคลองชะอวดและแมน่ ้ำ� ปากพนัง ส่วนในฝ่ังจังหวัดตรังเปน็ ต้นก�ำเนดิ ของคลองล�ำภรู า คลองละมอ ซง่ึ เป็นตน้ น�้ำแม่น้�ำตรัง 1) พชื พรรณ สภาพสงั คมพชื ในอทุ ยานแหง่ ชาตเิ ขาปู่ - เขายา่ สว่ นใหญม่ สี ภาพเปน็ สงั คมพชื ปา่ ดบิ ชน้ื พันธุ์ไมท้ พี่ บ ไดแ้ ก่ ตะเคียนทอง หลุมพอ ยาง กระบาก จ�ำปาปา่ พกิ ลุ ไขเ่ ขยี ว นาคบตุ ร พญาไม้ หลาวชะโอน ฯลฯ พืชพน้ื ลา่ ง ได้แก่ ชา้ งร้องไห้ หวาย กลว้ ยไมป้ ่า สมนุ ไพร และวา่ นชนดิ ต่าง ๆ 2) สัตวป์ ่า เนื่องจากอุทยานแห่งชาติเขาปู่-เขาย่า มีอาณาเขตติดต่อกับเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า เทือกเขาบรรทัด จึงมีสัตว์ป่าอพยพไปมาอยู่เสมอ จากการส�ำรวจชนิดของสัตว์ป่าในเขตอุทยานแห่งชาติ พบสัตว์ ประเภทตา่ ง ๆ ประกอบดว้ ย หลกั สูตแรนนวคกราศรรจีธดัรรกมารราเชรศียึกนษราู้ 127

2.1) สัตว์เลี้ยงลูกดว้ ยนม ประมาณ 60 ชนิด เชน่ เลียงผา สมเสรจ็ หมีคน เสอื ปลา เก้ง กระจงควาย ค่างแว่นถิ่นใต้ ชะมดแปลงลายแถบ หมาไม้ หนูผีจ๋ิว อีเห็นลายพาด พญากระรอกเหลือง พญากระรอกด�ำ คา้ งคาวแมไ่ ก่ปา่ ฝน คา้ งคาวปกี ถุงเคราดำ� ฯลฯ นก พบประมาณ 286 ชนดิ เชน่ นกยางไฟหวั สเี ทา นกคัดคู สีทองแดง นกบ้ังรอกปากแดง นกกะเต็นแดง นกเงือกหัวหงอน นกจอกป่าหัวโต นกพญาปากกว้างเล็ก นกขม้ินน้อยสเี ขยี ว นกจาบดินหัวดำ� นกกระจบิ กระหมอ่ มแดง นกจับแมลงสีส้ม นกกินปลกี ล้วยปากยาว นกกาฝาก สีเลอื ดหมู ฯลฯ 2.2) สัตว์เลื้อยคลาน พบประมาณ 67 ชนิด เชน่ เต่าจกั ร ตะพาบน้�ำ เหา่ ช้าง ต๊ดุ ตู่ ตะกวด เหย้ี จ้งิ เหลนนอ้ ยหางยาว ก้ิงก่าบินหวั สีฟ้า ตกุ๊ แกป่าใต้ งูดนิ มลายู งูเห่าทองพ่นพิษ งคู งคาทอง งใู บ้ ฯลฯ 2.3) สัตว์ครึ่งบกครึ่งน้�ำ ส�ำรวจพบ กบหงอนมลายู กบชะง่อนหินเมืองใต้ กบเขาหลังตอง กบตะนาวศรี กบว้าก อ่ึงกรายลายจุด อ่ึงกรายหัวแหลม อ่ึงกรายมลายู คางคกแคระ กบหนอง เขียดบัว เปน็ ตน้ 2.4) ปลา ในบริเวณแหล่งน้�ำพบ ประมาณ 15 ชนิด ได้แก่ ปลาตูหนา ปลามัด ปลาหวด ปลาหลด ปลาซิวควาย ปลาซิวใบไผ่ ปลาอกี อง และปลาชะโอนถ�้ำ เปน็ ตน้ 2.5) แมลง ประมาณ 70 ชนิด เช่น ผ้ึงหลวง ด้วงดีดหนวดไผ่ ด้วงกว่างห้าเขา จกั จ่ันงวงมวนแดง ผีเสื้อพ่อมด ผเี สือ้ หางตง่ิ อิศวร ผีเสอื้ ดาราไพรปักษใ์ ต้ ผีเส้ือเจา้ ปา่ ผีเส้อื กระทกรกสีคล้�ำ ผเี ส้ือ ถงุ ทองปกั ษ์ใต้ เปน็ ต้น 1.3.7 ปา่ พรคุ วนเครง็ ป่าพรุควนเคร็งมีพื้นท่ีในเขตอ�ำเภอเชียรใหญ่ อ�ำเภอเฉลิมพระเกียรติ อ�ำเภอร่อนพิบูลย์ อ�ำเภอชะอวดและอ�ำเภอหัวไทร จังหวัดนครศรีธรรมราช เขตรอยต่อระหว่างลุ่มน้�ำปากพนังและลุ่มน้�ำทะเลสาบ สงขลา ครอบคลุมพื้นที่กวา่ 1 แสนไร่ แต่ถา้ รวมพนื้ ท่ี ระดับภมู ิทศั น์แลว้ พรคุ วนเคร็งมพี ้นื ทกี่ ว่า 4 แสนไร่ ซงึ่ เปน็ อนั ดบั สอง รองจากพรโุ ตะ๊ แดง จงั หวดั นราธวิ าส สภาพท่ัวไปเป็นพื้นที่ซึ่งฟื้นสภาพจากพ้ืนที่พรุ ทถี่ กู คกุ คามดว้ ยไฟปา่ และการบกุ รกุ พรรณไมด้ ง้ั เดมิ ถูกทดแทนด้วยไม้เสม็ดขาว และไม้พ้ืนล่างกระจูด กกปรือ เป็นแหล่งกักเก็บคาร์บอนท่ีส�ำคัญในช้ันพรุ ทีอ่ ินทรยี วัตถยุ ังไมส่ ลายตัวอยา่ งสมบรู ณ์ 1) พืชพรรณ ป่าพรุควนเครง็ พรรณไมใ้ นพน้ื ทปี่ า่ พรุ เช่น เสมด็ เสม็ดขาว หยีน�ำ้ กระทุ่ม คุระ อินทนลิ น้�ำ ตนี เปด็ น้ำ� ทองหลางน้ำ� หวา้ เป็นตน้ พชื พ้นื ลา่ ง เช่น กก กระจดู กระจดู หนู เตยทะเล ปรงทะเล ล�ำเพง็ หญา้ ยงุ บัว ปรง และไมเ้ ลอื่ ย เช่น ย่านลเิ ภา 128 แหนลักวสกูตารรนจคัดรกศารรธี เรรรียมนรารชู้ ศึกษา

2) การใชป้ ระโยชน์ 2.1) ประมง บริเวณพ้ืนท่ีพรุเป็นแหล่งท�ำประมงที่ส�ำคัญเพ่ือการยังชีพและการค้า ของชุมชน 2.2) ป่าไม้ ประชาชนในพื้นท่ีใช้ไม้เสม็ด แต่เป็นการลักลอบใช้ประโยชน์เนื่องจาก เปน็ เขตหา้ มล่าสัตวป์ ่า 2.3) วัตถุดิบ เป็นแหล่งกระจูดซ่ึงเป็นวัตถุดิบส�ำหรับท�ำหัตถกรรมเสื่อของชุมชน ทะเลนอ้ ย 2.4) คมนาคม การใช้เส้นทางน�้ำระหว่างชุมชนท่ีอยู่ตอนเหนือทะเลสาบกับชุมชน ทะเลนอ้ ย 2.5) หาของป่า พ้ืนท่ีพรุเป็นแหล่งอาหารที่ส�ำคัญของครัวเรือนในพ้ืนที่เนื่องจาก เป็นแหลง่ พืชผกั และสมนุ ไพร 2.6) น�ำ้ มกี ารพฒั นาแหล่งนำ�้ ประเภทคูคลองเพือ่ การเกษตรในพ้นื ที่ 2.7) ทงุ่ หญา้ เลยี้ งสตั ว์ พนื้ ทพี่ รคุ วนเครง็ ทเี่ ปน็ ทงุ่ หญา้ มพี นื้ ทบี่ รเิ วณกวา้ งเนอื่ งจาก ยงั ไมม่ กี ารฟ้ืนตัวของป่าไม้ ถูกชุมชนใชเ้ ป็นท่งุ หญา้ เล้ยี งสตั ว์ 1.3.8 เกาะกระ หมู่เกาะกระเป็นหมู่เกาะ เดยี วของจงั หวดั นครศรธี รรมราช อยหู่ า่ งจากแผน่ ดนิ ประมาณ 350 กโิ ลเมตร เมอ่ื วดั ในแนวตรงจากบรเิ วณ อำ� เภอปากพนงั มเี นอื้ ทที่ ง้ั หมด 2,337.5 ไร่ ประกอบ ด้วยเกาะขนาดเล็ก 3 เกาะ ได้แก่ เกาะกระใหญ่ เกาะกลาง (เกาะหลาม) เกาะเล็ก (เกาะบก) และกองหินขนาดเล็กอีก 1 กอง เรียกว่า หินเรือ ซึ่งมสี ว่ นยอดโผลน่ ำ�้ ไม่มากนัก 1) สถานภาพทางกายภาพ พน้ื ทเี่ กาะกระเปน็ พน้ื ทท่ี ม่ี คี วามสำ� คญั อยา่ งยงิ่ เนอ่ื งจากมคี วามหลากหลายทางชวี ภาพ สูงเหมาะสมส�ำหรับการพัฒนาและควรค่าแก่การอนุรักษ์ หมู่เกาะมีแนวปะการังที่สวยงาม มีความสมบูรณ์ มีแนว ปะการังท้ังสิ้น 412 ไร่ มีการสำ� รวจพบปะการงั แขง็ 67 ชนิด โดยเฉพาะปะการังแปรงล้างขวดและปะการงั เขากวาง ซ่ึงเป็นปะการังที่พบเฉพาะชายฝั่งทะเลอันดามันเท่านั้นและไม่เคยพบฝั่งอ่าวไทย เน่ืองจากต้องการพ้ืนที่ที่มีน�้ำใส และแสงสวา่ งมาก เกาะกระเป็นแหลง่ วางไข่ของเตา่ ตนุและเตา่ กระ ทพ่ี บการข้นึ วางไข่ของเตา่ ทะเลไม่นอ้ ยกว่าปลี ะ 30 รงั ยังเป็นพ้นื ทอ่ี ยู่อาศยั ของชนดิ พนั ธุ์ท่อี ยใู่ นสภาพใกล้สูญพนั ธ์ุอยา่ งยงิ่ เชน่ เต่ากระและนกโจรสลัดคริสต์มาส เต่าตนุ นกยางจีน 2) สถานภาพทางชีวภาพ จากการสำ� รวจของศนู ยว์ จิ ยั ทรพั ยากรทางทะเลและชายฝง่ั อา่ วไทยตอนลา่ งสามารถ รวบรวมสาหร่ายได้ 8 ชนิด แบง่ ออกเป็น 4 กลมุ่ คือ สาหรา่ ยแกมน�ำ้ เงนิ สาหร่ายสีเขยี ว สาหรา่ ยสีนำ้� ตาล และ สาหร่ายสีแดง การส�ำรวจพบว่า สาหร่ายสีน้�ำตาล พบจ�ำนวนชนิดมากท่ีสุดถึง 3 ชนิด ได้แก่ Padina sp., Lobophoravariegate, Dictyota adnata รองลงมา คือ กลุ่มสาหร่ายสีเขียวและสาหร่ายสีแดง โดยพบอยู่ตาม ชอ่ งว่างระหวา่ งปะการงั เขากวางกิง่ บนซากปะการงั ตาย และบนพนื้ หนิ กระจายอยู่ทว่ั ไปบรเิ วณแนวปะการงั หลักสูตแรนนวคกราศรรจธี ัดรรกมารราเชรศียึกนษราู้ 129

1.4 สถานการณ์ด้านทรพั ยากรป่าไมใ้ นจังหวัดนครศรีธรรมราช 1.4.1 ปญั หาราษฎรบกุ รกุ พน้ื ทป่ี า่ อนรุ กั ษ์ บกุ รกุ แผว้ ถางพนื้ ทป่ี า่ เพอื่ ทำ� การเกษตรกรรม และ ที่อยู่อาศัย และมีนายทุนบางกลุ่มเข้ามาซื้อขายท่ีดินไม่มีเอกสารสิทธิ (ที่ป่า) จากราษฎรเพื่อสร้างรีสอร์ท โรงแรม หรือสิ่งกอ่ สรา้ งอืน่ ใด อันเปน็ การละเมดิ ตอ่ กฎหมายอยา่ งร้ายแรง 1.4.2 ปัญหาการลักลอบล่าสัตว์ป่า ทั้งเพื่อน�ำเนื้อสัตว์ป่าไปรับประทาน น�ำซากสัตว์ป่า ไปประดับ เก็บรักษาและล่าเพ่ือน�ำลูกสัตว์ป่ามาขายต่อ เป็นต้น ท�ำให้สัตว์ป่าหลายชนิด มีความเส่ียง ท่ีจะสญู พันธ์มากขนึ้ 2. ทรัพยากรน้ำ� 2.1 ลมุ่ น�้ำในพ้นื ทจ่ี ังหวัดนครศรธี รรมราช 2.1.1 ลมุ่ นำ�้ ภาคใตฝ้ ง่ั ตะวนั ออก มี 3 ลมุ่ นำ้� สาขา ประกอบดว้ ย ลมุ่ นำ้� สาขาภาคใตฝ้ ง่ั ตะวนั ออก ส่วนท่ี 2 ล่มุ น้�ำสาขาภาคใตฝ้ ่ังตะวันออก สว่ นท่ี 3 และลมุ่ น้ำ� สาขาคลองกลาย 2.1.2 ลุม่ นำ้� ภาคใตฝ้ ั่งตะวนั ตก มี 1 ล่มุ น้�ำสาขา คอื ลุ่มนำ้� สาขาแม่น�ำ้ ตรัง 2.1.3 ลมุ่ น�ำ้ ตาปี มี 4 ลุ่มน�ำ้ สาขา ประกอบด้วย ล่มุ นำ�้ สาขาคลองจันดี ลมุ่ นำ�้ สาขาแม่นำ�้ ตาปี ตอนบน ลมุ่ น้�ำสาขาคลองสินปุนและลุ่มน้�ำสาขาแมน่ �ำ้ ตาปีตอนลา่ ง 2.1.4 ลมุ่ นำ้� ทะเลสาบสงขลา มี 2 ลุ่มนำ้� สาขา ประกอบด้วย ลุม่ น�้ำสาขาคลองป่าพะยอม และ ลุ่มนำ้� สาขาฝ่ังตะวนั ออก 1 (ระโนด) 2.2 แหลง่ น้ำ� ผวิ ดนิ ธรรมชาติ (ศกึ ษาในแมน่ �ำ้ สำ� คญั ของหน่วยภูมปิ ระเทศ) 2.2.1 แหล่งนำ�้ ธรรมชาติลุ่มน�ำ้ ชายฝ่งั ทะเลภาคใตฝ้ ่งั ตะวนั ออก แหล่งน้�ำธรรมชาติลุ่มน�้ำชายฝั่งทะเลภาคใต้ฝั่งตะวันออก ประกอบด้วยแม่น้�ำ สายหลกั 11 สาย ดงั นี้ 1) แม่น�้ำปากพนัง ตน้ นำ้� เกดิ จากเทอื กเขาบรรทดั ในเขตตำ� บลวงั อา่ ง อำ� เภอชะอวด ไหลผา่ น อำ� เภอชะอวด อำ� เภอเชยี รใหญ่ และมสี าขาจากอำ� เภอหวั ไทร ไหลมารวมกนั ทบ่ี า้ นปากแพรก กลายเปน็ แมน่ ำ้� ปากพนงั ไหลลงสอู่ า่ ว นครศรธี รรมราช นบั เปน็ แมน่ ำ้� ทส่ี ำ� คญั ทางเศรษฐกจิ ของจังหวัดมากโดยเฉพาะทางการเกษตรกรรม บริเวณลุ่มน้�ำปากพนัง มีโครงการพัฒนาพื้นท่ีลุ่มน�้ำ ปากพนังอันเนื่องมาจากพระราชด�ำริ ด�ำเนินการ โดยกรมชลประทาน และแม่น�้ำปากพนังเป็นที่ตั้ง ของทา่ เทียบเรือประมงจังหวัดนครศรธี รรมราช และ ตลาดกลางกุง้ กุลาดำ� นครศรีธรรมราช แมน่ �้ำปากพนงั 130 แหนลกัวสกตูารรนจคัดรกศารรีธเรรรยี มนรารชู้ ศกึ ษา

2) แมน่ ำ้� หลวง เป็นสาขาหนึ่งของแม่น้�ำตาปี ต้นน�้ำเกิดจากบริเวณทิศตะวันตกของเทือกเขา นครศรธี รรมราช และเทอื กเขาภเู กต็ สว่ นทเ่ี กดิ จากเทอื กเขานครศรธี รรมราช มตี น้ นำ้� อยใู่ นเขตอำ� เภอพปิ นู และอำ� เภอฉวาง ไหลผา่ นอำ� เภอฉวางและอำ� เภอทงุ่ ใหญ่ เขา้ เขตจงั หวดั สรุ าษฎรธ์ านี ในเขตอำ� เภอพระแสง อ�ำเภอนาสาร ไปรวมกบั แม่น้�ำ คีรีรัฐนิคม (แม่น้�ำพุมดวง) ท่ีอ�ำเภอพุนพิน เรียกว่า “แม่น�้ำตาปี” แล้วไหลลงสู่อ่าวบ้านดอน จังหวัดสุราษฎร์ธานี แมน่ �้ำสายน้เี ปน็ แมน่ ้�ำสายยาวท่ีสดุ ของภาคใต้ 3) คลองปากพูน ต้นน�้ำเกิดจากเทือกเขานครศรีธรรมราช บริเวณเขาหลวงทางด้านตะวันออกของ เทือกเขา ต้นน้�ำอยู่ที่น้�ำตกพรหมโลก ในเขตอ�ำเภอพรหมคีรี ไหลไปทางทิศตะวันออกผ่านต�ำบลบ้านเกาะ อ�ำเภอพรหมคีรีและบ้านท่าแพ ต�ำบลปากพูน อ�ำเภอเมืองแล้วไหลลงสู่อ่าวนครศรีธรรมราช ต้นน�้ำเรียกว่า คลองนอกท่า ใกลป้ ากน้�ำเรียกว่าคลองปากพนู เปน็ คลองท่มี ีความส�ำคัญทางเศรษฐกิจมาแตส่ มัยโบราณ 4) คลองปากพญา - คลองปากนคร ต้นน�้ำเกิดจากแหล่งน้�ำหลายสาขาในเขตเทือกเขานครศรีธรรมราช โดยเฉพาะท่ี เขาคีรีวง เขตต�ำบลก�ำโลน อ�ำเภอลานสกา ไหลผ่านอ�ำเภอเมือง ต้นน้�ำเรียกว่า คลองท่าดี เมื่อไหลมาถึงสนั ทราย ซง่ึ เปน็ ทต่ี งั้ ตวั เมอื ง คลองแบง่ แยกเปน็ หลายสาขา สายหนง่ึ ไหลผา่ นตวั เมอื ง ออกทะเลทปี่ ากพญา เรยี กวา่ คลองปากพญา ซึ่งเป็นคลองท่ีมีความส�ำคัญในแง่ประวัติศาสตร์เศรษฐกิจของจังหวัดมีหลักฐาน ว่าแต่เดิมมีขนาดกว้างและลึก เรือกำ� ป่นั ขนาดใหญเ่ ข้ามาตดิ ตอ่ คา้ ขายไดถ้ ึงตวั เมืองนครศรีธรรมราช 5) คลองเสาธง ต้นน้�ำเกิดจากเทือก เขานครศรีธรรมราช ในเขตอ�ำเภอลานสกา คลองน้ี มชี ือ่ เรยี กกนั หลายช่ือ ตามท้องทท่ี ี่คลองไหลผ่าน คอื เม่ือไหลจากน�้ำตกกะโรม เรียกว่า คลองเขาแก้ว เม่ือไหลเข้าสอู่ ำ� เภอร่อนพิบลู ย์ เรยี กวา่ คลองเสาธง เมื่อไหลผา่ นบา้ นโคกคราม อำ� เภอรอ่ นพบิ ลู ย์ เรยี กวา่ คลองโคกคราม เมื่อไหลเข้าสู่ต�ำบลชะเมาเรียกว่า คลองชะเมา เม่ือถึงหนองนำ้� มนต์ มคี ลองแยกไปลง คลองปากนคร แต่ส่วนใหญ่ออกทะเลท่ีปากคลอง บางจาก ตอนปลายคลองนจี้ งึ เรยี กวา่ คลองบางจาก คลองเสาธง คลองนเ้ี ป็นคลองทีแ่ บ่งเขตอำ� เภอเมอื งนครศรธี รรมราชกบั อ�ำเภอปากพนัง หลักสตู แรนนวคกราศรรจธี ดัรรกมารราเชรศียึกนษราู้ 131

6) คลองกลาย ต้นน้�ำเกิดจากเทือก เขานครศรีธรรมราชในเขตพ้ืนท่ีอ�ำเภอนบพิต�ำ ไหลไปออกทะเล ท่ีอ�ำเภอท่าศาลา คลองกลายเป็น ที่รู้จักของชาวนครศรีธรรมราช เพราะมีสะพาน ทยี่ าวท่สี ุดในจงั หวัด 7) คลองท่าทน ต้นน�้ำเกิดจากเทือก คลองกลาย เขานครศรีธรรมราชตอนบน ไหลลงสู่อา่ วไทยท่อี ำ� เภอสิชล 8) คลองน้�ำตกโยง ตน้ นำ�้ เกดิ จากเทอื กเขานครศรธี รรมราชดา้ นตะวนั ตก บรเิ วณนำ้� ตกโยง ตำ� บลถำ�้ ใหญ่ อำ� เภอทงุ่ สง แลว้ ไหลผา่ นตำ� บลปากแพรก ตำ� บลชะมาย ตำ� บลทวี่ งั และตำ� บลกะปาง เขา้ สอู่ ำ� เภอหว้ ยยอด จงั หวดั ตรงั กลายเปน็ สาขาหน่ึงของแม่นำ้� ตรงั 9) คลองมนี ตน้ นำ�้ เกดิ จากภเู ขาสามจอม ในเขตอำ� เภอทงุ่ ใหญ่ ไหลลงมาทางตะวนั ออกเฉยี งเหนอื ผ่านอำ� เภอทงุ่ สง อำ� เภอชา้ งกลาง อำ� เภอฉวาง ไหลไปเปน็ สาขาหนงึ่ ของแมน่ ำ�้ หลวง หรอื แมน่ ำ้� ตาปี และออกอา่ วบา้ นดอน จังหวัดสุราษฎร์ธานี 10) คลองท่าเลา ตน้ นำ�้ เกดิ จากภเู ขาวงั หบี อำ� เภอทงุ่ สง จงั หวดั นครศรธี รรมราชไหลลงทางใตผ้ า่ นตลาด ท่งุ สง แลว้ ไหลเขา้ อำ� เภอหว้ ยยอด อำ� เภอเมอื งตรงั และออกทะเลอันดามนั ทอี่ �ำเภอกันตงั จังหวดั ตรงั 11) คลองท่าโลน ตน้ นำ�้ เกดิ จากภเู ขาปลายเบกิ ใกล้ๆกบั ภเู ขาวงั หบี ในอำ� เภอทงุ่ สงไหลลงทางใต้ผา่ นบา้ น ทา่ เลา บา้ นเปน็ คงุ้ ทว่ี า่ การอำ� เภอทงุ่ สงดา้ นตะวนั ออก บา้ นในหวงั บา้ นดา่ นปาบ บา้ นหว้ ยขนั แล้วรวมเข้าเป็นล�ำน�้ำ เดียวกนั กบั คลองทา่ เลา ไหลผา่ นภูเขากลาย บ้านเขาโร เขา้ อำ� เภอห้วยยอด อ�ำเภอเมืองตรงั และออกทะเลอนั ดามนั ในเขตอ�ำเภอกันตังท่ีปนั หยี จงั หวดั ตรงั 2.2.2 แหล่งน้�ำธรรมชาตลิ มุ่ น�ำ้ ชายฝั่งทะเลภาคใตฝ้ ่ังตะวันตก แหล่งน้�ำธรรมชาติลุ่มน�้ำ ชายฝั่งทะเลภาคใต้ฝั่งตะวันตก ประกอบด้วยแม่น�้ำ สายหลกั 1 สาย คอื แมน่ ำ�้ ตรงั บรเิ วณตน้ นำ�้ อยใู่ นเขต อำ� เภอทุ่งสง เปน็ ทีล่ าดชันสูง สภาพป่าไมม้ ีความอุดม สมบูรณ์ แม่น�ำ้ ตรงั ไหลจากทศิ ตะวันออกเฉียงเหนอื ของอ�ำเภอทุ่งสงไปทางทศิ ตะวนั ออกเฉียงใต้ แมน่ ำ�้ ตรงั 132 แหนลักวสกูตารรนจคัดรกศารรีธเรรรยี มนรารชู้ ศกึ ษา

2.2.3 แหล่งนำ�้ ธรรมชาติลมุ่ น้�ำตาปี แหลง่ น้�ำธรรมชาตลิ มุ่ นำ้� ตาปี ประกอบด้วยแมน่ �้ำสายหลัก 2 สาย คือ (1) คลองจันดี ต้นน้�ำอยู่บริเวณเทือกเขาหลวง อ�ำเภอฉวาง จังหวัดนครศรีธรรมราช ไหลผ่านบ้านจนั ดี ลงสู่แมน่ ำ�้ ตาปี (2) คลองสินปุน เกิดจากเทือกเขาในเขตอ�ำเภอคลองท่อม จังหวัดกระบี่ไหลเข้าสู่ อำ� เภอทุ่งใหญ่ จงั หวดั นครศรธี รรมราช 2.2.4 แหลง่ นำ้� ธรรมชาติล่มุ น�้ำทะเลสาบสงขลา แหลง่ นำ้� ธรรมชาตลิ ่มุ นำ้� ทะเลสาบสงขลา ประกอบด้วยแมน่ ำ�้ สายหลกั 1 สาย คอื คลอง ปา่ พะยอม ตน้ นำ�้ เกดิ จากเทอื กเขาหนิ กลง้ิ และควนหนิ แกว้ อำ� เภอควนขนนุ จงั หวดั พทั ลงุ ไหลลงสพู่ รคุ วนเครง็ อำ� เภอ ชะอวด จงั หวัดนครศรีธรรมราช 2.3 แหลง่ น้ำ� ผวิ ดนิ ทส่ี ร้างขึ้น 2.3.1 อา่ งเก็บน้�ำหว้ ยน�้ำใส ตงั้ อยทู่ ี่หมทู่ ี่5ตำ� บลวงั อา่ ง อ�ำเภอชะอวด จังหวัดนครศรีธรรมราช มีความจุ 80 ลา้ นลกู บาศกเ์ มตร เปน็ โครงการกอ่ สรา้ งแหลง่ นำ�้ เพ่ือป้องกันและบรรเทาปัญหาอุทกภัยในพื้นท่ีลุ่ม น�้ำปากพนัง ในเขตอ�ำเภอชะอวด เพื่อป้องกันหรือ บรรเทาปัญหาน้�ำเค็ม เน่ืองจากน�้ำทะเลหนุนในลุ่ม น้�ำปากพนัง และเพื่อเป็นแหล่งน้�ำอุปโภค บริโภค อ่างเก็บน�้ำหว้ ยนำ้� ใส ในบริเวณใกล้เคียง 2.3.2 อา่ งเกบ็ นำ้� คลองกระทนู ตงั้ อยทู่ หี่ มทู่ ่ี2ตำ� บลกะทนู อำ� เภอพปิ นู จงั หวดั นครศรธี รรมราช มคี วามจุ 70.50 ล้านลูกบาศก์เมตร เป็นโครงการพัฒนาแหล่งน้�ำ เพื่อประโยชน์การบรรเทาอุทกภัยพ้ืนท่ีสองฝั่งคลอง กะทนู และแม่น้�ำตาปที างตอนลา่ ง นอกจากนัน้ พน้ื ท่ี น�้ำในอ่างเหนือเข่ือนยังใช้เป็นแหล่งเพาะพันธุ์ปลา น�้ำจืดและบริเวณอ่างเก็บน้�ำมีความสวยงาม ใช้เป็น สถานทที่ อ่ งเทีย่ วพกั ผ่อนหย่อนใจ อา่ งเก็บน�ำ้ คลองกระทนู หลักสตู แรนนวคกราศรรจีธัดรรกมารราเชรศียกึ นษราู้ 133

2.3.3 อา่ งเกบ็ น�้ำคลองดนิ แดง ตง้ั อยหู่ มทู่ ่ี12ตำ� บลเขาพระ อ�ำเภอพิปูน จังหวัดนครศรีธรรมราช มีความจุ 60 ล้านลูกบาศก์เมตร สร้างข้ึนเพ่ือบรรเทาอุทกภัย ในเขตพื้นที่ของลุ่มแม่น้�ำตาปีตอนล่าง และเพ่ือ การเกษตรในพนื้ ทชี่ ลประทาน 9,900 ไร่ นอกจากนน้ั พื้นท่ีน้�ำในอ่างเหนือเขื่อนยังใช้เป็นแหล่งพันธุ์ปลา น�้ำจืด และใชเ้ ปน็ สถานท่ที อ่ งเทย่ี วของจังหวดั 2.3.4 อ่างเกบ็ น้ำ� เสมด็ จวน อา่ งเก็บน้ำ� คลองดินแดง ต้ังอยหู่ มู่ท่ี 3 และหมทู่ ี่ 4 ตำ� บลกแุ หระ อำ� เภอทุ่งใหญ่ จังหวดั นครศรีธรรมราช มคี วามจุ 60 ลา้ นลกู บาศกเ์ มตร 2.3.5 โครงการขดุ คลองระบายน�ำ้ ชะอวด-แพรกเมอื ง โครงการขุดคลองระบายน�้ำชะอวด-แพรกเมือง พร้อมประตูระบายน�้ำ และคันกั้นทราย (โครงการพัฒนาพ้ืนที่ลุ่มน�้ำปากพนัง โดยกรมชลประทานด�ำเนินการขุดคลองชะอวด - แพรกเมือง ก้นคลอง กวา้ ง 150 เมตร ลึก 5 เมตร ยาว 27 เมตร พรอ้ มประตรู ะบายน้ำ� และคันก้ันทราย สามารถระบายนำ�้ ได้ 540 ลบ.ม. ต่อวนิ าที) 2.4 พุรอ้ นธรรมชาติ 2.4.1 น้ำ� พรุ อ้ นอุทยานบอ่ น้ำ� รอ้ น อุทยานบ่อน�้ำร้อน อยู่ในเขตพื้นท่ีของวัดอุทยานบ่อน้�ำร้อน หมู่ท่ี 13 ต�ำบลวังหิน อำ� เภอบางขัน จงั หวัดนครศรธี รรมราช มีลกั ษณะเป็นบ่อนำ�้ ร้อนรวม 9 บ่อ เส้นผา่ ศูนย์กลางของแต่ละบ่อประมาณ 3 - 4 เมตร มีบอ่ เล็ก ๆ อกี หลายบ่อ มีอุณหภูมิท่ผี ิวดนิ ประมาณ 55 องศาเซลเซียส เป็นพ้นื ทร่ี าบรมิ คลอง พบน�้ำผุด อย่ใู นห้วยหลายแห่ง คุณภาพนำ�้ ดี ใส ไมม่ ีกลน่ิ ก�ำมะถัน 2.4.2 น�้ำพรุ ้อนกรงุ ชงิ น�้ำพุร้อนกรุงชิง ตั้งอยู่ต�ำบลกรุงชิง อ�ำเภอนบพิต�ำ จังหวัดนครศรีธรรมราช มีลักษณะ เปน็ บอ่ นำ�้ อนุ่ จ�ำนวน 1 บอ่ ปากบ่อกว้าง 2.5 x 2.5 เมตร มีการกอ่ ปูนรอบบรเิ วณปากบ่อ และมีการสรา้ งศาลา สำ� หรับดงึ น้�ำจากนำ้� พุร้อนไปใช้ประโยชนใ์ นการแช่อาบ จำ� นวน 2 ศาลา 2.4.3 น�้ำพุร้อนหว้ ยปริก น�้ำพุรอ้ นหว้ ยปรกิ ตัง้ อยู่ตำ� บลหว้ ยปรกิ อำ� เภอฉวาง จงั หวัดนครศรธี รรมราช มลี กั ษณะ เป็นบ่อน้�ำอุ่น 1 บ่อ ปากบ่อกว้างประมาณ 10 x 20 เมตร มีการก่อปูนรอบปากบ่อ และมีการก่อบ่อปูน ขนาด 1.5 x 0.8 เมตร จำ� นวน 15 บ่อ รอบ ๆ บริเวณปากบ่อ เพือ่ ไวส้ �ำหรบั ดึงนำ�้ พรุ อ้ นมาใช้อาบแชน่ ้ำ� พุร้อน 2.4.4 น�้ำพรุ ้อนบ้านหูนบ (วงั ฆ้อง) ตงั้ อยตู่ ำ� บลพปิ นู อำ� เภอพปิ นู จงั หวดั นครศรธี รรมราช เปน็ บอ่ นำ�้ อนุ่ จำ� นวน 1 บอ่ ปากบอ่ มีขนาดกวา้ งประมาณ 15 x 15 เมตร มกี ารกอ่ ปนู รอบบริเวณปากบอ่ บันไดไว้ส�ำหรับลงไป อาบ/แช่ น้ำ� พรุ ้อน 134 แหนลักวสกูตารรนจคดั รกศารรีธเรรรียมนรารชู้ ศึกษา

2.4.5 น้�ำพรุ ้อนหนองบวั นำ�้ พรุ อ้ นหนองบวั ตงั้ อยบู่ า้ นหนองบวั ตำ� บลเขาพระ อำ� เภอพปิ นู จงั หวดั นครศรธี รรมราช มลี กั ษณะเปน็ บอ่ นำ�้ อนุ่ จำ� นวน 2 บอ่ ปากบอ่ กวา้ งประมาณ 3 x 3 เมตร มกี ารกอ่ ปนู รอบบรเิ วณปากบอ่ สงู ประมาณ 90 เซนตเิ มตร 2.5 ปัญหาด้านทรพั ยากรน�ำ้ ในจังหวดั นครศรีธรรมราช สภาพปัญหาด้านทรัพยากรน้�ำของจังหวัดนครศรีธรรมราช ประกอบด้วย ปัญหาขาดแคลนน้�ำ ปญั หาพื้นทีเ่ สีย่ งภยั น�้ำท่วม และปัญหาดา้ นการจดั การป่าต้นน�้ำ โดยภาพรวมของปญั หาสามารถสรุปได้ ดังน้ี 2.5.1 ปญั หาขาดแคลนนำ�้ เนอ่ื งจากขาดระบบหนว่ งนำ้� ตามธรรมชาติ ชว่ งฤดแู ลง้ ระหวา่ งเดอื น กมุ ภาพนั ธถ์ งึ เดอื นเมษายน มปี รมิ าณฝนตกนอ้ ย อกี ทงั้ การพฒั นาแหลง่ กกั เกบ็ นำ�้ ยงั มนี อ้ ย พนื้ ทก่ี ารเกษตรสว่ นใหญ่ ปลกู ยางพารา ปาล์มนำ�้ มนั และการทำ� นาท่ตี อ้ งการน�้ำมาก ท�ำใหห้ ลายพ้ืนทีป่ ระสบปัญหาขาดแคลนน�้ำ นอกจากน้ี การเติบโตของแหล่งท่องเที่ยวขนาดใหญ่และภาคธุรกิจต่าง ๆ มีความต้องการใช้น้�ำในฤดูแล้งสูงข้ึน การถมท่ี เพอ่ื ทำ� ทอี่ ยอู่ าศยั มากขน้ึ เรม่ิ ประสบปญั หา การจดั หาระบบสาธารณปู โภคและทรพั ยากรสำ� หรบั ผทู้ อี่ าศยั อยใู่ นเมอื ง เกิดปัญหาขาดแคลนนำ้� อปุ โภค 2.5.2 ปัญหาพื้นที่เส่ียงภัยน้�ำท่วม จังหวัดนครศรีธรรมราชพบทั้งปัญหาน�้ำท่วมและนำ้� หลาก ในช่วงฤดูฝน เดือนตุลาคมถึงเดือนธันวาคม ท�ำให้ พ้ืนที่จังหวัดนครศรีธรรมราชประสบปัญหาน�้ำท่วม ทุกปี และปริมาณน้�ำที่หลากมาจากพ้ืนที่ตอนบน ท่ีเป็นพื้นท่ตี น้ น้ำ� เนื่องจากขาดโครงสรา้ งชะลอและ กกั เกบ็ นำ�้ คลองธรรมชาตเิ ดมิ ถกู บกุ รกุ ทำ� ใหม้ สี ภาพ ไมเ่ หมาะสมในการกกั เกบ็ และชะลอนำ�้ ประกอบกบั คลองระบายน้�ำต้ืนเขิน มีสิ่งก่อสร้าง กีดขวางทาง น้�ำไหล จงึ ท�ำใหน้ ำ้� ไหลล้นตลงิ่ เข้าท่วมพนื้ ทเี่ สียหาย สถานการณน์ �้ำทว่ ม ในจงั หวดั นครศรธี รรมราช 2.5.3 ปัญหาด้านการจัดการ ตน้ นำ�้ การบกุ รกุ พน้ื ทป่ี า่ เพอ่ื ทำ� การเกษตรทำ� ใหม้ พี นื้ ทปี่ า่ ลดลง สง่ ผลใหป้ รมิ าณนำ�้ ปา่ เปลยี่ นแปลง พบมากในพน้ื ท่ี ป่าสงวนแห่งชาติที่ประกาศเป็นเขตป่าเพื่อการอนุรักษ์ ส�ำหรับเขตอุทยานแห่งชาติและเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า มีการบุกรุกบริเวณเขตติดต่อ พ้ืนท่ีท่ีมีการบุกรุกจ�ำนวนมากมักพบปัญหาการชะล้างพังทลายของดิน ซึ่งมีสาเหตุ มาจากการทำ� การเกษตรในพน้ื ทลี่ าดชนั และไมม่ มี าตรการอนรุ กั ษด์ นิ และนำ้� ทเ่ี หมาะสม และเมอื่ ปา่ ตน้ นำ้� ถกู ทำ� ลาย สมดุลนำ�้ จึงลดลง 2.5.4 ปัญหาน้�ำเค็มบุกรุก เนื่องจากปริมาณน้�ำจืดท่ีลดลงไม่สามารถช่วยผลักดันน�้ำเค็ม รุกเข้าพ้ืนท่ีได้ โดยน�้ำเค็มแพร่กระจายเข้าไปในแม่น้�ำปากพนัง ในช่วงฤดูแล้ง เนื่องจากท้องแม่น้�ำมีความลาดชัน นอ้ ยมาก ทำ� ใหน้ ำ�้ ในแมน่ ำ้� ลำ� คลองในพน้ื ทมี่ คี วามเคม็ ถงึ 9 เดอื นตอ่ ปี (มกราคม-กนั ยายน) สง่ ผลกระทบตอ่ การปลกู พชื โดยทัว่ ไป หลกั สูตแรนนวคกราศรรจีธดัรรกมารราเชรศียึกนษราู้ 135

2.5.5 ปญั หาน้�ำเปรีย้ ว ตอนกลางของพื้นทีล่ มุ่ น�้ำปากพนงั มีสภาพล่มุ ต่ำ� น้�ำท่วมขงั ตลอดปี คือ พรคุ วนเครง็ และ พรุคลองฆอ้ ง ดินพรุมสี ารประกอบไพไรท์ตกตะกอนอยู่ เมอ่ื ระดบั น้ำ� ลดลงจนช้ันไพไรท์สัมผสั กบั อากาศ จะเกิดปฏกิ ิริยาเคมี ท�ำให้ดินมีสภาพเปน็ กรด และน้�ำเปร้ียว ส่งผลตอ่ ระบบการผลิตของเกษตรกร 2.5.6 ปัญหาการถ่ายเทน้�ำเสีย ซึ่งเป็นน�้ำเค็มจากบ่อเลี้ยงกุ้งระบายสู่แหล่งน�้ำธรรมชาติ ท�ำให้เกิดผลกระทบต่อคุณภาพน้�ำบริเวณชายฝั่ง อีกท้ังน�้ำเค็มยังลุกลาม เข้าไปในพ้ืนที่นาข้าวและไม่สามารถ ปลูกพืชชนิดใดไดจ้ นกลายเปน็ ความขัดแยง้ ทร่ี นุ แรงระหว่างราษฎรผู้เลย้ี งก้งุ กลุ าด�ำกับราษฎรผทู้ �ำนาข้าว 2.5.7 ปัญหาการทิ้งขยะ ปล่อยน�้ำเสียและสิ่งปฏิกูลลงแหล่งน�้ำสาธารณะ ท�ำให้เกิดปัญหา มลพิษทางนำ�้ และการระบายน้ำ� ไม่สะดวกในฤดนู ำ้� หลากหรอื ในภาวะอุทกภยั 3. ทรพั ยากรทางทะเลและชายฝง่ั จงั หวดั นครศรธี รรมราช มพี นื้ ทชี่ ายฝง่ั ทะเลยาวรวมประมาณ 236.81 กโิ ลเมตร ตงั้ แตต่ ำ� บลทอ้ งเนยี น อำ� เภอขนอม ถงึ ตำ� บลหนา้ สตน อ�ำเภอหัวไทร มอี ำ� เภอท่ีติดชายฝงั่ ทะเล 6 อ�ำเภอ 25 ตำ� บล มเี กาะท่ีสำ� คญั คอื หมเู่ กาะกระ 3.1 ทรพั ยากรทางทะเลและชายฝง่ั ของจังหวัดนครศรธี รรมราช ทรัพยากรทางทะเลและชายฝง่ั ท่สี �ำคญั ของจังหวดั นครศรีธรรมราช ไดแ้ ก่ 3.1.1 ป่าชายเลน มีพ้ืนที่รวม 149,748.8 ไร่ เป็นพื้นท่ีป่าชายเลนคงสภาพ จ�ำนวน 80,922.46 ไร่ โดยพ้ืนที่ปา่ ชายเลนส่วนใหญ่ อยู่ในท้องที่อ�ำเภอปากพนังและอ�ำเภอเมือง นครศรีธรรมราช สถานการณ์พ้ืนที่ป่าชายเลน คงสภาพมีแนวโน้มเพิ่มข้ึน สาเหตุหลักท่ีท�ำให้ ปา่ ชายเลนลดลงเกดิ จากการใชพ้ น้ื ทเี่ พาะเลย้ี งสตั วน์ ำ้� และทำ� การเกษตร 3.1.2 ปะการัง มีพื้นที่รวม ป่าชายเลน 412 ไร่ ปะการงั ชนดิ เดน่ ทพ่ี บ ไดแ้ ก่ ปะการงั เขากวาง แหลง่ ทพี่ บมเี พยี งแหง่ เดยี วคอื หมเู่ กาะกระ เปน็ แนว ปะการังที่มีสภาพดีมาก สาเหตุที่ส่งผลกระทบ ต่อปะการัง ส่วนใหญ่เกิดจากเรือประมงท่ีเข้ามา ท�ำการลากอวนและเข้ามาจอดหลบคล่ืนลมบริเวณ หม่เู กาะกระ ปะการงั 136 แหนลกัวสกตูารรนจคัดรกศารรีธเรรรยี มนรารชู้ ศึกษา

3.1.3 หญา้ ทะเล มพี ื้นทรี่ วม 146.6 ไร่ พบหญ้าทะเล 6 ชนดิ บรเิ วณเกาะท่าไรแ่ ละอา่ วเตล็ด สถานการณ์มีความสมบูรณ์ปานกลาง สาเหตุท่ีท�ำให้แหล่งหญ้าทะเลเส่ือมโทรมส่วนใหญ่เกิดจากการเปลี่ยนแปลง ของสภาพแวดลอ้ มตามธรรมชาติและ ผลจากการดำ� เนินกจิ กรรมตา่ ง ๆ ของมนุษย์ 3.1.4 สั ต ว ์ ท ะ เ ล ห า ย า ก ของจังหวัดนครศรีธรรมราช พบโลมาและเต่า จ�ำนวน 6 ชนดิ โดยเฉพาะโลมาหลังโหนก พบมาก บริเวณอ�ำเภอขนอม โดยมีแนวโน้มจ�ำนวนเพ่ิมข้ึน เลก็ น้อย เต่าทะเลพบมากทีห่ มู่เกาะกระ 3.1.5 ป่าชายหาด จ�ำนวน 694.30 ไร่ พบในพืน้ ทเี่ ขตอ�ำเภอปากพนงั เต่าทะเล 3.2 สถานการณ์ด้านทรพั ยากรทางทะเลในจังหวดั นครศรธี รรมราช 3.2.1 ปะการัง แนวปะการังของจังหวดั นครศรธี รรมราชมเี พยี ง 1 แหง่ คอื หมเู่ กาะกระ มพี ้นื ท่แี นวปะการัง 412 ไร่ เปน็ แนวปะการงั หา่ งฝง่ั ทมี่ สี ภาพดมี าก มบี างสว่ นทไี่ ดร้ บั ผลกระทบจากเรอื ประมงทเ่ี ขา้ มาทำ� ประมงอวนลาก หรอื เรอื ท่เี ขา้ มาจอดหลบลมบริเวณชายฝั่งของเกาะ และพบวา่ แนวปะการงั สว่ นที่เสียหายสามารถฟ้นื ตวั ได้เองตาม ธรรมชาติเป็นอยา่ งดี เพราะมสี ภาพแวดล้อมท่ีเหมาะสมต่อการเจริญเติบโตของปะการงั อีกทั้ง กรมทรพั ยากรทาง ทะเลและชายฝง่ั ไดผ้ ลกั ดนั ใหห้ มเู่ กาะกระเปน็ พนื้ ทค่ี มุ้ ครองตามพระราชบญั ญตั สิ ง่ เสรมิ การบรหิ ารจดั การทรพั ยากร ทางทะเลและชายฝั่ง พ.ศ. 2558 ตามมาตรา 20, 21 และ 22 เพื่อให้มีการดูแลรักษาสภาพแวดล้อมให้เป็นไป ตามธรรมชาตติ ่อไป 1) สภาพและสถานการณ์แนวปะการงั หมู่เกาะกระเป็นเพียงหมู่เกาะท่ีมีแนวปะการังแห่งเดียวในจังหวัด อยู่ห่างจากแผ่นดิน ประมาณ 35 ไมล์ทะเล แนวตรงจากบริเวณปากพนัง ประกอบด้วยเกาะขนาดเล็ก 3 เกาะ ได้แก่ เกาะกระใหญ่ เกาะกระกลาง เกาะกระเลก็ และกองหนิ ขนาดเลก็ 1 กอง เรยี กหนิ สงู หรอื หนิ เรอื มสี ว่ นยอดพน้ นำ้� ไมม่ ากนกั ลกั ษณะ การวางตวั ของหมู่เกาะ จะกระจายเป็นรปู สามเหลี่ยม โดยเกาะกระใหญ่จะอยทู่ างด้านทิศเหนือ ส่วนเกาะกระกลาง และเกาะกระเล็กจะเยื้องไปทางดา้ นทศิ ตะวันออกเฉยี งใต้ หมู่เกาะกระมีแนวปะการังท่ีสวยงามและยังสมบูรณ์ มีแนวปะการัง 412 ไร่ ปะการัง ชนิดเด่นที่พบในพื้นท่ีแนวปะการังจังหวัดนครศรีธรรมราช ได้แก่ ปะการังเขากวาง เป็นปะการังชนิดเด่นที่ขึ้นอยู่ อยา่ งหนาแน่นจนมีลกั ษณะเปน็ ดง ท้งั ปะการังเขากวางแบบกง่ิ และปะการงั เขากวางแบบโต๊ะนานาชนดิ นอกจากนี้ บางชนิดยังไมเ่ คยรายงานพบท่ีอ่ืนใดในฝง่ั อ่าวไทย คือ Acropora cf. copiosa, A. nana และ A. longicyathus โดยเฉพาะอย่างย่ิงปะการังเขากวางแปรงลา้ งขวดที่มพี ้นื ทค่ี รอบคลุมทางดา้ นทศิ ใตข้ องเกาะกระ หลักสตู แรนนวคกราศรรจีธดัรรกมารราเชรศยี กึ นษราู้ 137

2) สาเหตแุ ละปัญหาที่สง่ ผลให้แนวปะการงั เส่ือมโทรม สภาพแนวปะการงั บรเิ วณหมเู่ กาะกระ จังหวัดนครศรีธรรมราช A เกาะกระใหญท่ ศิ ตะวนั ออก B เกาะกระใหญ่ทศิ ใต้ C ระหว่างเกาะกระกลางและเกาะกระเลก็ D เกาะกระเลก็ ทศิ ใต้ 2.1) เรือประมง ท่เี ข้ามาลากอวนและมาจอดหลบคลื่นลมทอดสมอเรอื 2.2) การเกดิ รว่ั ไหล ของนำ�้ มนั ลงทะเล และการชะลา้ งนำ�้ มนั จากเรอื ประมง เรอื ทอ่ งเทย่ี ว 2.3) การท้ิงขยะลงทะเล ขยะท่ีเป็นปัญหาใหญ่ต่อแนวปะการังคือ เศษอวน อวนท่ี ปกคลุมปะการงั จะท�ำให้ปะการังตาย เพราะปะการงั ไมส่ ามารถรับแสงแดดได้ 2.4) การใช้ประโยชน์ ด้านการท่องเท่ียวทางทะเลท่ีไม่มีความรับผิดชอบ ผลเสียหาย ทเี่ กดิ จากนกั ทอ่ งเทยี่ วประเภทดำ� ทผ่ี วิ ยนื เหยยี บปะการงั จนแตกหกั เสยี หาย สว่ นการทง้ิ สมอเรอื ลงในแนวปะการงั นนั้ ปจั จุบนั พบนอ้ ยลง แตก่ ย็ ังเปน็ สงิ่ ท่ีเกิดขึ้นในบางพ้ืนท่ีที่มที ่นุ ไมเ่ พยี งพอ 2.5) การท�ำประมง ผิดกฎหมายบรเิ วณแนวปะการงั เชน่ อวนล้อมหนิ 3.2.2 หญา้ ทะเล 1) สภาพและสถานการณ์ทรัพยากรหญ้าทะเล หญ้าทะเลเป็นพืชช้ันสูงท่ีเติบโตได้ดีในบริเวณชายฝั่งน�้ำต้ืน แหล่งหญ้าทะเลเป็น ระบบนิเวศชายฝั่งที่มีความหลากหลายของส่ิงมีชีวิตสูง เป็นบริเวณท่ีมีการสะสมของอินทรีย์สาร เป็นแหล่งอาหาร ท่ีอุดมสมบูรณ์ของพืชและสัตว์ต่าง ๆ มีการถ่ายทอดพลังงานในรูปของอาหารผ่านจากระบบนิเวศหน่ึงไปสู่อีก ระบบหน่ึง และเป็นที่อยู่ของตัวอ่อนของส่ิงมีชีวิต นอกจากความส�ำคัญด้านนิเวศวิทยาแล้ว แหล่งหญ้าทะเล ยงั มคี วามสำ� คัญในแง่ของการผูกพนั ระหวา่ งวิถชี มุ ชนในพ้ืนทชี่ ายฝงั่ เชน่ ด้านการประมงและการทอ่ งเที่ยวเชิงนเิ วศ 138 แหนลักวสกูตารรนจคัดรกศารรธี เรรรยี มนรารชู้ ศกึ ษา

พื้นท่ีทางด้านตะวันออกของจังหวัดนครศรีธรรมราชเป็นชายฝั่งทะเลเปิดรับคลื่นลม จากลมมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือ แหล่งหญ้าทะเลของจังหวัดนครศรีธรรมราชจึงมีขนาดเล็ก พบแพร่กระจายอยู่ ทางด้านเหนือของจังหวัดเท่าน้ัน ปัจจุบันชายฝั่งทะเลของจังหวัดนครศรีธรรมราช พบหญ้าทะเลรวม 6 ชนิด คือ หญ้าคาทะเล หญ้ากยุ ชา่ ยทะเล หญา้ กุยช่ายเขม็ หญ้าชะเงาใบ หญา้ ชะเงาเตา่ และหญา้ ใบมะกรูด ครอบคลุมพืน้ ท่ี หญา้ ทะเล รวม 146.6 ไร่ ใน 2 พื้นที่ คอื เกาะท่าไรแ่ ละอา่ วเตลด็ การสำ� รวจแหลง่ หญ้าทะเลเกาะทา่ ไร่ จงั หวดั นครศรีธรรมราช 2) สาเหตทุ ี่ท�ำให้หญา้ ทะเลเสอ่ื มโทรม หรือลดพ้ืนทล่ี ง 2.1) การเปลยี่ นแปลงของสภาพแวดลอ้ มตามธรรมชาติ เชน่ ฤดกู าล ความเคม็ อณุ หภมู ิ ตะกอนดนิ ซง่ึ หญา้ ทะเลจะมกี ารเปลยี่ นแปลงในรอบปที คี่ อ่ นขา้ งชดั เจน โดยหากเขา้ สำ� รวจในพน้ื ทชี่ ว่ งปลายฤดรู อ้ น หญ้าทะเลส่วนที่อยู่เหนือพื้นที่จะหายไปจากพื้นท่ี เหลือแต่รากและส่วนใต้ดิน ส่วนของใบจะแตกยอดใหม่ในช่วง มรสุมตะวันตก และจะเจรญิ เตบิ โตเต็มทีใ่ นชว่ งปลายฤดูมรสมุ ตะวนั ออก 2.2) ผลจากการด�ำเนินกิจกรรมต่าง ๆ ของมนุษย์ เช่น การทิ้งขยะส่ิงปฏิกูลต่าง ๆ การทำ� ประมง และการท�ำนากุง้ เป็นต้น ซึง่ กิจกรรมต่าง ๆ เหล่านีท้ ำ� ให้ระบบนิเวศบริเวณนัน้ เปลี่ยนไป อาจทำ� ให้ ตะไคร่น้�ำเข้าไปปกคลุมพื้นที่ ส่งผลให้หญ้าทะเลไม่สามารถสังเคราะห์แสงเจริญเติบโตได้ และส่งผลกระทบต่อ การเจรญิ เติบโตและการแพรก่ ระจายของหญ้าทะเลในทะเลสาบสงขลา 2.3) การพัฒนาแนวชายฝ่ัง สง่ ให้ตะกอนไหลลงสู่ทะเล รวมถึงการพัฒนาพนื้ ท่ใี นทะเล ชายฝ่ัง เพื่อการท่องเที่ยว สร้างสะพานหรอื ท่าเทียบเรือขนาดใหญ่ ในบรเิ วณทแ่ี หลง่ หญา้ ทะเล 2.4) การทำ� ประมงผิดกฎหมายในพ้ืนท่ีแหล่งหญา้ ทะเล เชน่ อวนลาก และอวนรนุ 2.5) การปลอ่ ยนำ้� เสยี จากโรงงานอตุ สาหกรรม บา้ นชมุ ชนชายฝง่ั และนากงุ้ ทำ� ใหค้ ณุ ภาพ น�ำ้ ทะเลเส่อื มโทรม 2.6) ปญั หาคลน่ื ลมมรสมุ ทรี่ นุ แรง ทำ� ใหม้ กี ารเคลอื่ นยา้ ยของแนวสนั ทราย และตะกอน ตามธรรมชาติทบั ถมแนวหญา้ หลกั สตู แรนนวคกราศรรจีธัดรรกมารราเชรศยี กึ นษราู้ 139

3.2.3 สตั วท์ ะเลหายาก 1) สภาพและสถานการณท์ รพั ยากรสตั วท์ ะเลหายาก จังหวัดนครศรีธรรมราช มีสัตวท์ ะเลหายากทเ่ี ด่น คือ โลมาหลังโหนก ซงึ่ พบมากบริเวณ อ�ำเภอขนอม อ�ำเภอสิชล และอ�ำเภอท่าศาลา โดยมีแนวโน้มจ�ำนวนเพิ่มขึ้นเล็กน้อย ส่วนเต่าทะเล ได้แก่ เต่าตนุ จะพบมีการเกยต้ืนมากในพื้นที่อ�ำเภอหัวไทร และ อำ� เภอปากพนงั ทบ่ี รเิ วณเกาะกระเปน็ แหลง่ ผสมพนั ธ์ุ และวางไขท่ สี่ ำ� คญั ในพน้ื ทอี่ า่ วไทยตอนลา่ ง ในแตล่ ะปี จะพบวา่ แมเ่ ตา่ ขนึ้ มาวางไขป่ ลี ะไมต่ ำ่� กวา่ 30 รงั หรอื ไข่จำ� นวน ไม่ตำ่� กว่า 3,000 ฟอง 2) สาเหตุที่มีผลกระทบต่อ สัตว์ทะเลหายาก 2.1) ภัยจากเคร่ืองมือ ประมง เนือ่ งจากสตั วท์ ะเลหายากกลุม่ ท่อี ยูต่ ามแนว เต่าตนุ ชายฝ่งั เชน่ เต่าทะเล พะยนู โลมาอริ วดี โลมาหลังโหนก โลมาหัวบาตรหลังเรยี บ และโลมาปากขวด มีความใกลช้ ดิ กับพ้ืนที่ท�ำการประมงมาก มีเครื่องมือประมงหลายชนิดท่ีเป็นอันตรายต่อสัตว์ทะเลเหล่าน้ี จากข้อมูลการตาย ของสตั ว์ทะเลหายากต่าง ๆ พบวา่ เคร่อื งมือทำ� การประมงที่เปน็ สาเหตุการตายท่สี ำ� คญั ไดแ้ ก่ อวนลอย เบ็ดราว อวนลอ้ ม โป๊ะนำ้� ตื้น 2.2) สภาพแวดล้อมชายฝั่งเสื่อมโทรมและขยะในทะเล การท้ิงขยะโดยเฉพาะประเภท เศษอวน ถงุ พลาสตกิ ลงในทะเล เปน็ สาเหตสุ ำ� คญั ทท่ี ำ� ใหส้ ตั วท์ ะเลบาดเจบ็ หรอื ตายได้ ตวั อยา่ งการตายของเตา่ ทะเล และโลมา หลายกรณีพบว่า สัตว์ทะเลหลายชนิดเข้าไปติดในเศษอวนตาย หรือเม่ือกินขยะทะเลเข้าไป ไม่สามารถ ย่อยได้ เกดิ การอดุ ตันท่รี ะบบทางเดนิ อาหาร และเปน็ สาเหตทุ �ำใหส้ ัตว์ตายในทส่ี ดุ 2.3) การเจบ็ ป่วยตามธรรมชาติและภยั จากปรากฏการณธ์ รรมชาติ ทั้งเตา่ ทะเล พะยนู โลมาและปลาวาฬ เป็นสัตว์ท่ีหายใจด้วยปอด ดังนั้น การเกิดภัยพิบัติในธรรมชาติมรสุม พายุ คล่ืนลมแรง หรือ การเปล่ยี นแปลงชนั้ บรรยากาศ สภาพแวดล้อม และอุณหภูมขิ องน้�ำ จึงมผี ลต่อสขุ ภาพของสตั วท์ ะเล 2.4) บุคลากรและองค์ความรู้ด้านสัตว์ทะเลหายากไม่เพียงพอ และความร่วมมือ การอนรุ กั ษไ์ ม่แพรห่ ลาย 2.5) การลักลอบจับสัตว์ทะเลหายาก ในปัจจุบันแม้ว่ามีการรณรงค์อย่างกว้างขวาง เรื่องการอนุรักษส์ ัตวท์ ะเลหายาก แต่ก็ยังมีรายงานการลกั ลอบเก็บไข่เต่าทะเล 2.6) การบุกรุกท�ำลายแหล่งแพร่ขยายพันธุ์ของเต่าทะเล ท�ำให้สภาพความเหมาะสม ของแหลง่ วางไขเ่ ต่าทะเลเสียไป 2.7) การรบกวน และอุบัติเหตจุ ากการท่องเทีย่ ว 140 แหนลักวสกตูารรนจคดั รกศารรธี เรรรยี มนรารชู้ ศึกษา


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook