Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore เอกสารประกอบการเรียน นครศรีธรรมราชศึกษา

เอกสารประกอบการเรียน นครศรีธรรมราชศึกษา

Published by dlit_sm037, 2021-11-17 08:37:02

Description: เอกสารประกอบการเรียน นครศรีธรรมราชศึกษา

Search

Read the Text Version

หน่วยที่ 3 ลักษณะภูมิอากาศ ลกั ษณะภมู อิ ากาศของจงั หวดั นครศรธี รรมราชจากสถานทต่ี งั้ อยใู่ กลเ้ สน้ ศนู ยส์ ตู ร และมภี เู ขาแบง่ พน้ื ทเ่ี ปน็ 2 คาบสมทุ ร คือ ดา้ นตะวนั ออกเปน็ ทะเลจนี ใตม้ หาสมทุ รแปซฟิ ิก สว่ นด้านตะวันตกเป็นทะเลอนั ดามัน มหาสมทุ ร อินเดีย สง่ ผลใหจ้ งั หวัดนครศรีธรรมราชมีอุณหภมู ิ ดังน้ี อุณหภูม ิ เฉล่ยี ทั้งปี 27.0 °C อุณหภมู สิ งู สุด เฉลี่ยทัง้ ปี 32.1 °C อณุ หภมู ติ ่�ำสุด เฉลี่ยท้ังปี 23.0 °C นอกจากน้ียังได้รับอิทธิพลจากลมมรสุมจากมหาสมุทรอินเดีย และพายุหมุนเขตร้อนจากทะเลจีนใต้ ลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้พัดผ่านมหาสมุทรอินเดียและทะเลอันดามันเข้าสู่ประเทศไทยบริเวณชายฝั่งตะวันตก จงึ มีฝนตกชกุ แตจ่ ังหวัดนครศรีธรรมราช มเี ทือกเขาทางตะวนั ตกและตอนกลางเป็นแนวกั้นทิศทางลม ทำ� ให้ไดร้ บั อิทธิพลไมม่ ากนกั ลมมรสมุ ดงั กล่าวอยใู่ นช่วงประมาณเดือนพฤษภาคมถึงเดือนตุลาคม หลกั สตู แรนนวคกราศรรจธี ัดรรกมารราเชรศยี กึ นษราู้ 41

ทางเดนิ ของลมมรสุมผา่ นจงั หวัดนครศรธี รรมราช 42 แหนลักวสกตูารรนจคัดรกศารรธี เรรรียมนรารชู้ ศึกษา

ฤดกู าล จังหวัดนครศรธี รรมราช มี 2 ฤดู คือ ฤดูฝน และ ฤดรู ้อน ดงั ภาพ ฤดกู าล 12 เดอื นของจังหวดั นครศรีธรรมราช หลกั สูตแรนนวคกราศรรจีธัดรรกมารราเชรศยี ึกนษราู้ 43

ฤดฝู น ฤดฝู น แบง่ เป็น 2 ช่วง ไดแ้ ก่ 1. ตั้งแต่เดอื น พฤษภาคม–ตุลาคม ไดร้ ับอทิ ธพิ ลจากลมมรสุมตะวันตกเฉยี งใต้ แต่เนือ่ งจากมเี ทอื กเขา นครศรธี รรมราชทสี่ งู ชนั เปน็ ทกี่ นั้ ทศิ ทางลมจงึ มฝี นตกไมม่ ากนกั พน้ื ทที่ ไี่ ดร้ บั ฝน คอื พน้ื ทท่ี างตะวนั ตกของเทอื กเขา จ�ำนวน 8 อ�ำเภอ ได้แก่ อ�ำเภอทุ่งใหญ่ อ�ำเภอฉวาง อ�ำเภอพิปูน อ�ำเภอทุ่งสง อ�ำเภอบางขัน อ�ำเภอช้างกลาง อำ� เภอถ�้ำพรรณรา อำ� เภอนาบอน 2. ตง้ั แตเ่ ดือน พฤศจกิ ายน–กุมภาพนั ธ์ ไดร้ บั อิทธิพลจากลมมรสุมตะวันออกเฉยี งเหนอื ทำ� ให้มฝี นตก หนาแน่น ประกอบด้วย 15 อ�ำเภอ ได้แก่ อ�ำเภอขนอม อ�ำเภอจุฬาภรณ์ อ�ำเภอชะอวด อ�ำเภอเฉลิมพระเกียรติ อ�ำเภอท่าศาลา อ�ำเภอนบพิต�ำ อ�ำเภอปากพนัง อ�ำเภอพรหมคีรี อ�ำเภอพระพรหม อ�ำเภอเมืองนครศรีธรรมราช อ�ำเภอร่อนพิบูลย์ อ�ำเภอลานสกา อ�ำเภอสิชล อ�ำเภอหัวไทร อ�ำเภอเชียรใหญ่ เนื่องจากพื้นท่ีส่วนใหญ่ตั้งอยู่ด้าน รบั ลมทำ� ใหเ้ กิดอทุ กภยั ข้นึ เป็นประจ�ำทกุ ปี เกณฑ์ปริมาณฝนตก ปรมิ าณฝนตก ต้งั แต่ 0.1 – 10.0 มลิ ลิเมตร/วนั เรียกวา่ ฝนตกเล็กน้อย ปริมาณฝนตก ตัง้ แต่ 10.1 - 35.0 มลิ ลิเมตร/วนั เรยี กว่า ฝนตกปานกลาง ปริมาณฝนตก ตัง้ แต่ 35.1 - 90 มิลลเิ มตร/วนั เรียกวา่ ฝนตกหนกั ปริมาณฝนตก ต้งั แต่ 90.1 มิลลิเมตรขึ้นไป/วนั เรยี กวา่ ฝนตกหนกั มาก สถานีอุตุนิยมวิทยาจังหวัดนครศรีธรรมราช เก็บข้อมูลปริมาณน�้ำฝน จ�ำนวน 5 ปี (ปีพ.ศ. 2557-2561) ปรมิ าณนำ�้ ฝนสงู สดุ คอื เดอื นพฤศจกิ ายน รองลงมาคอื เดอื นธนั วาคม และ เดอื นมกราคม ปรากฏดงั ตาราง และภาพ 44 แหนลกัวสกตูารรนจคดั รกศารรีธเรรรียมนรารชู้ ศกึ ษา

ตาราง ปริมาณนำ้� ฝน ประจ�ำปี พ.ศ. 2557-2561 (mm) ปี มกราคม กมุ ภาพนั ธ์ มนี าคม เมษายน พฤษภาคม มถิ ุนายน กรกฎาคม สิงหาคม กนั ยายน ตุลาคม พฤศจกิ ายน ธันวาคม 2557 267.5 1.6 0 0.3 202.2 93.7 75.3 159.1 123.3 337.6 418.6 639.2 220.8 2558 69.5 18.3 0.2 112.6 65.1 63 96.3 37.6 145.3 326.8 577.4 399.7 150.5 2559 114.7 118.3 0 0 44.4 114.7 140.4 49.8 116.1 272.3 387.3 112 617.8 2560 1772.7 115.3 74.6 170.6 81.1 129.6 91.6 126.5 123.3 1035 607.5 123.56 2561 226.6 12.4 114.7 59.1 109.5 110 90.7 191.2 335.1 775 704.2 702.4 1395.1 3193.3 2462.6 รวม 2451 265.9 189.5 342.6 502.3 511 494.3 เฉล่ีย (mm) 490.20 53.18 37.90 68.52 100.46 102.20 98.86 140.48 279.02 638.66 492.52 ทม่ี า : สถานีอุตนุ ิยมวิทยาจังหวัดนครศรธี รรมราช, 2562 หลักสูตแรนนวคกราศรรจธี ดัรรกมารราเชรศียกึ นษราู้ 45

ปริมาณน�ำ้ ฝน ประจำ� ปีพ.ศ. 2557-2561 (mm) ทมี่ า : สถานอี ตุ ุนยิ มวทิ ยาจังหวดั นครศรีธรรมราช, 2562 ฤดูร้อน จังหวัดนครศรีธรรมราชเร่ิมเข้าฤดูร้อนต้ังแต่เดือนกลางเดือนมกราคม–กลางเดือนพฤษภาคม ระยะเวลา 3 เดือน อุณหภูมิ ระยะเวลา 5 ปี ตั้งแต่ปี 2557-2561 อุณหภูมิสูงสุดอยู่ในช่วงระหว่างเดือนเมษายน-สิงหาคม เดือนท่ีมีอุณหภูมิสูงสุด คือ เดือนพฤษภาคม รองลงมาคือ เดือนมิถุนายน และเดือนเมษายน อุณหภูมิต�่ำสุดอยู่ ในช่วงระหว่างเดือนมกราคม-มีนาคม เดือนที่มีอุณหภูมิต�่ำสุด คือ เดือนกุมภาพันธ์ รองลงมา คือ เดือนมกราคม และเดอื นมีนาคม ปรากฏดงั ตาราง และภาพ 46 แหนลักวสกตูารรนจคัดรกศารรธี เรรรียมนรารชู้ ศึกษา

ตาราง อุณหภูมสิ งู สดุ ต่�ำสดุ ประจ�ำปี พ.ศ. 2557-2561 (องศาเซลเซยี ส) ปี มกราคม กุมภาพนั ธ์ มนี าคม เมษายน พฤษภาคม มิถุนายน กรกฎาคม สงิ หาคม กันยายน ตลุ าคม พฤศจิกายน ธนั วาคม อณุ หภูมสิ ูงสุด 31.6 33.3 35.9 35.1 34.7 35.1 34.4 33.2 31.9 30.9 30.3 2557 29.9 31.1 33.6 2558 30.1 31.4 33.3 34.1 35.3 34.5 34.5 33.6 33.1 32.3 30.7 31 2559 31.8 31.1 32.7 2560 29.4 31.6 33 35.9 35.5 34.5 33.4 34.3 34.1 32.7 31.4 29.7 2561 30.2 31.36 33.18 เฉล่ยี 30.28 32.6 34.3 34.5 34 33.9 33.3 33.1 30.5 29.9 อุณหภูมติ ำ�่ สดุ 19.9 21.2 2557 21.2 20.5 21.9 33.2 33.5 33.9 34.1 33.9 33.5 32.1 31.2 31.3 2558 21.6 22.9 22.7 2559 23.4 22.9 23.5 34.34 34.74 34.42 34.22 34.02 33.44 32.42 30.94 30.44 2560 23.2 22.5 23.5 หลักสูตแรนนวคกราศรรจธี ดัรรกมารราเชรศียกึ นษราู้ 47 2561 23.2 21.74 22.56 23.2 23.7 24 23.7 22.9 23.1 22.9 23.1 22.9 เฉลีย่ 22.52 22.9 23.5 23.5 23.4 23 23.3 22.9 23.1 23.5 24.3 25.1 24.1 23.8 24.4 24.1 24.2 24.2 23.4 24.2 25 24.6 24.3 24.3 24.3 24.2 23.9 23.2 24 24.3 24.3 24.7 24.5 23.8 24 23.8 23.9 23.72 24.32 24.10 23.98 23.82 23.72 23.64 23.62 23.38 ที่มา : สถานีอตุ นุ ิยมวิทยาจังหวัดนครศรีธรรมราช, 2562

อณุ หภมู ิ ประจ�ำปี 2557-2561 (องศาเซลเซยี ส) ทม่ี า : สถานอี ุตนุ ิยมวทิ ยาจงั หวัดนครศรีธรรมราช, 2562 ภัยธรรมชาติ จงั หวดั นครศรธี รรมราช เปน็ จงั หวดั ทม่ี ขี นาดใหญ่ มลี กั ษณะทางกายภาพของพน้ื ทท่ี เี่ ปน็ ภเู ขา ปา่ ไม้ นาขา้ ว ปา่ พรแุ ละทะเล ขนึ้ กบั ทำ� เลทตี่ งั้ การไดร้ บั อทิ ธพิ ลในทางลบจากธรรมชาตหิ รอื ทเ่ี รยี กวา่ ภยั ธรรมชาตอิ ยา่ งหลากหลาย ไดแ้ ก่ นำ�้ ทว่ ม-ดินถลม่ พายุ การกดั เซาะชายฝง่ั ทะเล ภยั แลง้ และไฟป่า อทุ กภยั อุทกภัย คือ ภัยหรืออันตรายท่ีเกิดจากน้�ำท่วม หรืออันตรายอันเกิดจากสภาวะท่ีน้�ำไหล เอ่อล้นฝั่งแม่น้�ำ ลำ� ธาร หรอื ทางนำ�้ เขา้ ทว่ มพน้ื ท่ี ซง่ึ โดยปกตแิ ลว้ ไมไ่ ดอ้ ยใู่ ตร้ ะดบั นำ�้ หรอื เกดิ จากการสะสมนำ�้ บนพนื้ ท่ี ซง่ึ ระบายออก ไม่ทนั ทำ� ใหพ้ ้นื ทน่ี น้ั ปกคลุมไปดว้ ยน�้ำ พ้นื ทีแ่ ละบรเิ วณทีอ่ าจจะเกิดอทุ กภัย ดินถลม่ จะเปน็ ทร่ี าบล่มุ บรเิ วณริมตล่งิ และเชงิ เขา เกิดการเลอ่ื นไหล ของตะกอนมวลดินและหินทีอ่ ยู่บนภเู ขาสู่ท่ีตำ�่ ในลำ� หว้ ยและทางนำ้� ขณะเม่อื มีฝนตกหนักอยา่ งต่อเนอ่ื ง ลักษณะของพื้นที่เสี่ยงอุทกภัย–ดินถล่มจังหวัดนครศรีธรรมราช อ�ำเภอที่มีความเส่ียงระดับกลาง จ�ำนวน 5 อ�ำเภอ ได้แก่ อ�ำเภอนาบอน อ�ำเภอบางขัน อ�ำเภอขนอม อ�ำเภอช้างกลาง และอ�ำเภอทุ่งใหญ่ สว่ นอ�ำเภออีก 18 อำ� เภอ มีความเสีย่ งระดับสงู 48 แหนลกัวสกูตารรนจคัดรกศารรธี เรรรียมนรารชู้ ศกึ ษา

พน้ื ที่เส่ยี งภยั จากอทุ กภัย จงั หวัดนครศรธี รรมราช หลักสูตแรนนวคกราศรรจีธดัรรกมารราเชรศยี กึ นษราู้ 49

1. อทุ กภัยท่เี กิดจากนำ้� ท่วม แบง่ เป็นลกั ษณะใหญ่ 2 ลกั ษณะดงั นี้ 1.1 น้ำ� ท่วมขัง/นำ้� ล้นตลงิ่ เป็นสภาวะน้�ำท่วมที่เกิดข้ึน เนื่องจากระบบระบายน้�ำไม่มีประสิทธิภาพ มีสิ่งกีดขวางทางน�้ำ มักเกิดขึ้นในบริเวณท่ีราบลุ่มแม่น้�ำและบริเวณชุมชนเมือง มีลักษณะค่อยเป็นค่อยไป ซ่ึงเกิดจากฝนตกหนัก ณ บรเิ วณนน้ั ๆ ตดิ ตอ่ กนั เปน็ เวลาหลายวนั หรอื เกดิ จากสภาวะนำ�้ ลน้ ตลง่ิ นำ�้ ทว่ มขงั สว่ นใหญจ่ ะเกดิ บรเิ วณทา้ ยนำ้� และมีลักษณะแผ่เป็นบริเวณกว้างเน่ืองจากไม่สามารถระบายได้ทัน ความเสียหายจะเกิดกับพืชผลทางการเกษตร และทรพั ย์สิน 1.2 นำ้� ท่วมฉบั พลนั เกิดข้ึนเนื่องจากอิทธิพลจาก ความหย่อมความกดอากาศต่�ำ (เกิดพายุอ่อน ๆ) รอ่ งความกดอากาศตำ่� และพายเุ คลอื่ นตวั ผา่ น ซง่ึ อาจ จะไม่มีฝนตกหนักในบริเวณนั้นมาก่อน แต่มีฝน ตกหนักมากบริเวณต้นน�้ำท่อี ย่หู ่างออกไป น�ำ้ ท่วมฉับ พลนั มคี วามรนุ แรงและเคลอ่ื นทด่ี ว้ ย ความรวดเรว็ มาก น้�ำทว่ มในเมอื งจังหวัดนครศรธี รรมราช โอกาสทจี่ ะป้องกันและหลบหนี จึงมีน้อย ทำ� ใหไ้ ด้รับ ความเสยี หาย ท้ังชวี ติ และทรัพยส์ ิน 2. สาเหตุการเกดิ อุทกภยั 2.1 เกดิ จากธรรมชาติ 1. ฝนตกหนักจากพายุหรือพายุฝนฟ้าคะนอง เป็นพายุท่ีเกิดข้ึนติดต่อกันเป็นเวลาหลายช่ัวโมง มปี ริมาณฝนตกหนักมาก ไหลลงสูต่ น้ นำ�้ ลำ� ธารไม่ทนั จึงท่วมพืน้ ที่ทีอ่ ยู่ในท่ตี ่�ำ มกั เกิดในช่วงฤดูฝนหรอื ฤดูรอ้ น 2. ฝนตกหนกั ในปา่ บนภเู ขา มปี ริมาณมาก น้ำ� ไหลเชย่ี วอยา่ งรุนแรงลงส่ทู ่ีราบเชิงเขา ทำ� ใหเ้ กิด นำ้� ท่วมขนึ้ อย่างกะทันหัน เรยี กวา่ นำ้� ท่วมฉับพลัน เกดิ ข้ึนหลังจากที่มฝี นตกหนกั ในช่วงระยะเวลาสน้ั ๆ หรือเกดิ ก่อนท่ีฝนจะหยุดตก มักเกิดขึ้นในล�ำธารเล็ก ๆ โดยเฉพาะตอนที่อยู่ใกล้ต้นน้�ำของบริเวณลุ่มน�้ำ ระดับน�้ำจะสูงขึ้น อย่างรวดเร็ว 3. ผลจากพายุหรือลมมรสุมมีก�ำลังแรง มรสุมตะวันตกเฉียงใต้ เป็นมรสุมท่ีพัดพาความช้ืนจาก มหาสมุทรอินเดียเข้าสู่ประเทศไทย ท�ำให้จังหวัดนครศรีธรรมราชมีฝนตกตั้งแต่ปลายเดือนพฤษภาคม–กรกฎาคม และระหว่างเดือนตุลาคม-กุมภาพันธ์ มีลมมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือ ท�ำให้จังหวัดนครศรีธรรมราชจะมีฝนตกชุก อีกครงั้ เนือ่ งจากมรสมุ นนี้ ำ� ความชมุ่ ช้ืนจากทะเลจนี ใต้ เมอ่ื กำ� ลงั แรงเป็นระยะเวลาหลายวนั ท�ำใหเ้ กิดคลื่นลมแรง ระดับน้�ำในทะเลตามขอบฝง่ั จะสงู ขน้ึ ประกอบกบั มฝี นตกหนักท�ำให้เกดิ นำ้� ท่วมได้ 50 แหนลกัวสกตูารรนจคัดรกศารรธี เรรรียมนรารชู้ ศกึ ษา

2.2 เกิดจากมนษุ ย์ 1. การตัดไม้ท�ำลายป่าในพื้นท่ี เส่ียงภัย เมื่อเกิดฝนตกหนักจะท�ำให้อัตราการไหล ของกระแสนำ้� เพม่ิ มากขนึ้ และไหลมาเรว็ ขนึ้ เปน็ การ เพม่ิ ความรุนแรงของน้ำ� ในการทำ� ลาย ทำ� ใหด้ นิ ถลม่ รากไม้ ขนาดใหญถ่ ูกชะลา้ งให้ไหลลงมาในท้องนำ้� 2. การขยายเขตเมอื งลกุ ลำ้� เขา้ ไป รากไม้พัดลอยมาตามน�ำ้ จากการตดั ต้นไม้ใหญ่ ในพน้ื ทล่ี มุ่ ตำ่� ซงึ่ เปน็ แหลง่ เกบ็ นำ้� ธรรมชาติ ทำ� ใหไ้ มม่ ี ที่รับน�ำ้ ดังนน้ั เมอ่ื นำ�้ ลน้ ตลง่ิ ก็จะเข้าไปทว่ มบรเิ วณทีเ่ ปน็ พน้ื ท่ีลุ่มตำ่� ซงึ่ เป็นเขตเมืองทขี่ ยายใหมก่ ่อน 3. การกอ่ สร้างอาคารบ้านเรือนขวางทางนำ้� ธรรมชาติ 4. การออกแบบทางระบายนำ้� ของถนนไมเ่ พียงพอ ท�ำให้นำ�้ ลน้ เออ่ ในเขตเมือง 5. การกอ่ สรา้ งในบรเิ วณเชิงเขาทล่ี าดชัน โดยไม่มีการค�ำนวณด้านวิศวกรรมที่ดีพอ 6. การเกษตรในพน้ื ที่ลาดชันเชิงเขา 7. การก�ำจดั พชื ทป่ี กคลมุ ดิน 8. ชมุ ชนส่วนใหญต่ ้ังอย่บู ริเวณเชิงเขาและที่ราบลุ่ม 9. การบุกรุกพนื้ ทีป่ า่ 10. การเปลยี่ นแปลงการใช้ประโยชน์ที่ดินทไี่ มเ่ หมาะสมกับสภาพพื้นที่ 3. การป้องกันอทุ กภัย 3.1 กอ่ นเกดิ อทุ กภัย 3.1.1 การเตือนภยั จากธรรมชาติ มีข้อสังเกตดังนี้ 1.) มฝี นตกหนกั ถึงหนักมากตลอดท้ังวัน 2.) มีน้�ำไหลซึมหรือน้�ำพุพุ่งขึ้นมาจากใต้ดิน นอกจากน้ีอาจจะสังเกตจากลักษณะ การอุ้มน้�ำของช้นั ดิน เน่ืองจากการเกิดดนิ ถลม่ ดนิ จะอิม่ ตัวด้วยนำ�้ หรือชมุ่ น�้ำมากกวา่ ปกติ 3.) ระดับน�ำ้ ในแมน่ �ำ้ ล�ำห้วยเพ่ิมสูงขึน้ อย่างรวดเรว็ ผิดปกติ 4.) สขี องน�ำ้ มีสขี ่นุ มากกวา่ ปกติ 5.) มีกิง่ ไมห้ รือท่อนไมไ้ หลมากับกระแสนำ�้ 6.) เกดิ ช่องทางเดินน�้ำแยกขึ้นใหมห่ รอื หายไปจากเดิม 7.) ต้นไม้ เสาไฟ รั้ว หรอื กำ� แพงเอียงหรือลม้ ลง 8.) เกิดรอยแตกร้าวขึ้นที่โครงสร้างต่าง ๆ ในส่ิงก่อสร้าง เช่น รอยแยกระหว่างวงกบ กับประตู หรือระหวา่ งวงกบกับหน้าตา่ งขยายใหญข่ ึน้ หลกั สูตแรนนวคกราศรรจธี ัดรรกมารราเชรศยี กึ นษราู้ 51

อปุ กรณ์การเตือนภยั ธรรมชาติ สเี ขยี ว เฝา้ ระวังตดิ ตามสถานการณ์ ดังทุก 20 นาที นาน 10 วินาที สีเหลอื ง เตอื นภยั และเตรียมพร้อมอพยพ ดังทุก 15 นาที นาน 10 วนิ าที สแี ดง อพยพไปยังทป่ี ลอดภยั ดังทุก 3 นาที นาน 10 วนิ าที 3.1.2 การเตือนภยั จากมนษุ ย์ มขี ้อสังเกตดงั นี้ 1) ฝึกอบรมอาสาสมัครประจ�ำหมู่บ้านเกี่ยวกับการเฝ้าระวังและใช้งานระบบเตือนภัย นำ้� ทว่ ม–ดินถล่ม 2) ส่วนราชการและประชาชนสามารถตรวจสอบปริมาณน้�ำฝนจากการเตือนภัยทาง Internet ได้ทุกสถานี Early Warning ท่วั ประเทศตลอด 24 ชวั่ โมง ดงั ภาพตอ่ ไปน้ี ผังระบบเตอื นภยั 52 แหนลักวสกูตารรนจคดั รกศารรีธเรรรียมนรารชู้ ศกึ ษา

3.2 ขณะเกดิ อทุ กภัย 1) ตดั สะพานไฟ และปดิ แกส๊ หงุ ตม้ ใหเ้ รียบรอ้ ย 2) ใหอ้ ยใู่ นอาคารท่ีแข็งแรง และอยใู่ นทสี่ งู พน้ ระดับนำ้� ทเี่ คยทว่ มมาก่อน 3) ทำ� รา่ งกายให้อบอนุ่ อยเู่ สมอ 4) ไม่ควรขับขย่ี านพาหนะฝา่ ลงไปในกระแสน้�ำหลาก 5) ไม่ควรเลน่ น�้ำหรอื วา่ ยน�้ำเลน่ ในขณะน้�ำท่วม 6) ระวงั สตั ว์มพี ิษทห่ี นีน้�ำท่วมข้ึนมาอยู่บนบา้ นและหลังคาเรือน เช่น งู แมงปอ่ ง ตะขาบ ฯลฯ 7) ตดิ ตามเหตกุ ารณอ์ ยา่ งใกลช้ ดิ เชน่ สงั เกตลมฟา้ อากาศ และตดิ ตามคำ� เตอื นเกย่ี วกบั ลกั ษณะ อากาศจากกรมอตุ นุ ิยมวิทยา 8) เตรยี มพรอ้ มทจ่ี ะอพยพไปในทปี่ ลอดภยั เมอ่ื สถานการณจ์ วนตวั หรอื ปฏบิ ตั ติ ามคำ� แนะนำ� ของ ทางราชการ 9) เม่ือจวนตัวให้คำ� นึงถึงความปลอดภัยของชีวิตมากกวา่ ห่วงทรพั ยส์ มบตั ิ 3.3 หลงั เกิดอุทกภยั 1) การขนสง่ คนอพยพกลบั ยงั ภมู ิลำ� เนาเดิม 2) การชว่ ยเหลอื ในการรอื้ สงิ่ ปรกั หกั พงั การกวาดเกบ็ ขนสง่ิ ปรกั หกั พงั ทว่ั ไป การทำ� ความสะอาด บ้านเรอื น ถนนหนทางท่เี ตม็ ไปด้วยโคลนตม และสง่ิ ช�ำรดุ เสยี หายทเี่ กลื่อนกลาดอย่ทู ่ัวไปกลบั สูส่ ภาพปกตโิ ดยเร็ว 3) ซอ่ มแซมบ้านเรอื น ทพี่ ักอาศัย โรงเรียน สะพานทห่ี กั พังชำ� รุดเสยี หาย และทีเ่ สียหายมากจน ไม่อาจซอ่ มแซมได้ กใ็ หร้ อื้ ถอนเพราะจะเปน็ อันตรายได้ 4) จัดซ่อมท�ำเครื่องสาธารณูปโภคให้กลับคืนสู่สภาพปกติโดยเร็วที่สุด เช่น การไฟฟ้า ประปา โทรเลข โทรศพั ท์ 5) ภายหลงั น้�ำทว่ มจะมีซากสัตวต์ ายในทตี่ ่าง ๆ ซงึ่ จะตอ้ งจดั การเก็บฝังโดยเร็ว สตั ว์ที่มีชวี ติ อยู่ ซึ่งอดอาหารเป็นเวลานาน ให้รบี ให้อาหารและน�ำกลับคืนใหเ้ จา้ ของ 6) ซอ่ มถนน สะพาน และทางรถไฟท่ีชำ� รุดเสียหายใหก้ ลับส่สู ภาพเดิม เพ่ือใช้ ในการคมนาคม ได้โดยเรว็ ที่สุด 7) สรา้ งอาคารช่วั คราวสำ� หรับผทู้ ี่อาศัย 8) แจกเส้ือผา้ เครือ่ งนงุ่ ห่ม และอาหารแก่ผูป้ ระสบภยั เพ่อื ด�ำรงชีวติ ชั่วระยะหนึง่ 9) ระวงั การเจบ็ ป่วยและโรคระบาด หลักสูตแรนนวคกราศรรจีธัดรรกมารราเชรศียึกนษราู้ 53

วาตภัย วาตภยั เปน็ ภยั ทเ่ี กดิ ขน้ึ จากพายลุ มแรง จนทำ� ใหเ้ กดิ ความเสยี หายแกอ่ าคารบา้ นเรอื น ตน้ ไม้ และสงิ่ กอ่ สรา้ ง จงั หวัดนครศรีธรรมราชมโี อกาสเส่ยี งต่อภยั จากพายุหมนุ เขตร้อน ตั้งแต่กลางเดอื นตลุ าคมจนถึงเดอื นมกราคม จงั หวดั นครศรธี รรมราชมพี ้ืนทีเ่ สยี่ งภัย 3 ระดบั ดงั นี้ 1. ความเสี่ยงระดับต�่ำ จ�ำนวน 5 อ�ำเภอ ได้แก่ อ�ำเภอพรหมคีรี อ�ำเภอนบพิต�ำ อ�ำเภอ ถ้�ำพรรณรา อำ� เภอเฉลมิ พระเกียรติ และอำ� เภอนาบอน 2. ความเสี่ยงระดับกลาง จ�ำนวน 9 อ�ำเภอ ได้แก่ อ�ำเภอขนอม อ�ำเภอพิปูน อ�ำเภอช้างกลาง อ�ำเภอพระพรหม อ�ำเภอทุ่งสง อำ� เภอบางขัน อำ� เภอจฬุ าภรณ์ อำ� เภอชะอวด และอำ� เภอเชียรใหญ่ 3. ความเสยี่ งระดบั สงู จำ� นวน 9 อ�ำเภอ ไดแ้ ก่ อำ� เภอสชิ ล อ�ำเภอท่าศาลา อ�ำเภอเมอื ง อำ� เภอปากพนัง อำ� เภอหัวไทร อ�ำเภอร่อนพบิ ลู ย์ อำ� เภอลานสกา อ�ำเภอฉวาง และอ�ำเภอทงุ่ ใหญ่ พน้ื ทเี่ สยี่ งภัยจากพายุหมุนเขตร้อน จงั หวัดนครศรธี รรมราช 54 แหนลักวสกตูารรนจคดั รกศารรีธเรรรยี มนรารชู้ ศึกษา

ลักษณะการเกดิ วาตภยั ในจงั หวดั นครศรธี รรมราชมโี อกาสเกดิ วาตภยั คอื พายหุ มนุ เขตรอ้ นเปน็ คำ� ทใ่ี ชเ้ รยี ก พายหุ มนุ ทม่ี ถี นิ่ กำ� เนดิ เหนอื มหาสมทุ รในเขตรอ้ นแถบละติจดู ตำ่� พายุน้เี กดิ ขนึ้ ในมหาสมทุ ร หรอื ทะเลท่มี ีอณุ หภมู สิ งู ตัง้ แต่ 26๐ ซ. หรอื 27๐ ซ. ขน้ึ ไป และมีปริมาณไอน�้ำสูง เมอ่ื เกดิ ขน้ึ แล้วและ มีสภาวะท่ีเจริญเติบโตเตม็ ท่ี มักเคล่อื นตัวตามกระแสลม ส่วนใหญ่จากทิศตะวันออกมาทางทิศตะวันตก และค่อยโค้งข้ึนไปทางละติจูดสูง แล้วเวียนโค้งกลับไปทางทิศ ตะวันออกอีก พายหุ มุนเขตรอ้ นเกดิ ข้ึนได้หลายแหง่ ในโลก และมชี ่ือเรียกต่างกนั ไปตามแหล่งกำ� เนดิ บรเิ วณทม่ี พี ายุ หมุนเขตร้อนเกิดขึ้นเป็นประจำ� และมีผลตอ่ จังหวัดนครศรีธรรมราช ไดแ้ ก่ 1. ดีเปรสชัน เป็นพายุหมนุ ท่ีมีก�ำลงั อ่อน เกิดขึ้นในละติจูดกลางหรือละติจูดสงู ท�ำใหฝ้ นตกปานกลางถงึ ฝนตกหนัก มีความเรว็ ลมสงู สุดใกลบ้ รเิ วณศนู ย์กลางไม่เกนิ 33 นอต (61 กิโลเมตร/ชว่ั โมง) 2. พายโุ ซนรอ้ นเปน็ พายทุ มี่ ขี นาดความแรง ของลมปานกลาง ท�ำให้ฝนตกหนักในวงกว้าง เกดิ นำ้� ทว่ ม–ดนิ ถลม่ ตน้ ไม้ใหญ่หกั โค่น ถนนชำ� รดุ เสยี หาย มคี วามเรว็ ลมใกล้บริเวณศนู ยก์ ลาง อยรู่ ะหวา่ ง 34–63 นอต (63–117 กโิ ลเมตร/ชัว่ โมง) 3. พายไุ ตฝ้ นุ่ เปน็ ไตฝ้ นุ่ เปน็ พายทุ มี่ ขี นาด ความแรงของลมสูงสุด ท�ำให้ฝนตกหนัก พายุ ฟ้าคะนอง และอุทกภยั (ซ่งึ มกั จะท�ำใหม้ คี นเสยี ชีวิต มาก) มคี วามเรว็ ลมสงู สดุ ใกลศ้ นู ยก์ ลางตง้ั แต่ 64 นอต อุทกภยั จากพายโุ ซรอ้ น (118 กิโลเมตร/ชว่ั โมง) ขึ้นไป แตม่ ชี ่ือตา่ ง ๆ กนั ตาม บรเิ วณแหลง่ ท่ีเกดิ ดังน้ี พายไุ ต้ฝนุ่ เกิดข้นึ ในมหาสมุทรแปซฟิ ิกทางเหนอื หรือในทะเลจนี ใต้ พายุไซโคลน เกดิ ขน้ึ ในมหาสมทุ รอินเดีย อา่ วเบงกอล ทะเลอาระเบีย พายเุ ฮอร์ริเคน เกิดขน้ึ ในมหาสมุทรแอตแลนตกิ เหนอื แถวทะเลแคริบเบยี น อา่ วเม็กซโิ ก การเกิดวาตภยั คร้ังสำ� คญั ของจงั หวัดนครศรธี รรมราช ความเสยี หายจากพายุโซนร้อน “แฮเรยี ต” การเกดิ วาตภยั ในจงั หวดั นครศรธี รรมราช มีด้วยกนั 3 ครงั้ ดงั ต่อไปนี้ หลกั สตู แรนนวคกราศรรจธี ดัรรกมารราเชรศยี ึกนษราู้ 55 1. วาตภัยจากพายุโซนร้อน “แฮเรียต” (ความเร็วลมสูงสุดใกล้ศูนย์กลาง 95 กิโลเมตร/ ชั่วโมง) พัดข้ึนฝั่งท่ีแหลมตะลุมพุก อ�ำเภอปากพนัง จงั หวัดนครศรธี รรมราช เม่ือวันท่ี 25 ตุลาคม พ.ศ. 2505 มผี เู้ สยี ชวี ติ 870 คน สญู หาย 160 คน บาดเจ็บ 422 คน ประชาชน ไร้ที่อยู่อาศัย 16,170 คน ทรัพยส์ นิ สูญเสยี ราว 960 ลา้ นบาท

2. วาตภยั จากพายโุ ซนรอ้ น “ฟอรเ์ รสต์” (Forrest) (ความเร็วลมสงู สดุ ใกล้ศนู ย์กลาง 155 กิโลเมตร/ ชวั่ โมง) พัดเข้าจังหวัดนครศรีธรรมราช เมอื่ วนั ที่ 15 พฤศจิกายน พ.ศ. 2535 ท�ำให้บ้านเรือน ไร่นา ในจังหวัดนครศรีธรรมราชได้รับ ความเสียหาย รวมมูลค่าประมาณ 3,000 ลา้ นบาท 3. วาตภัยจากพายุโซนร้อน “ปาบึก” (Pabuk) (ความเร็วลมสูงสุดใกล้ศูนย์กลาง 80 กิโลเมตร/ช่ัวโมง) พัดเข้าจังหวัดนครศรีธรรมราช เมื่อวันท่ี 4 มกราคม พ.ศ. 2562 มีผูเ้ สยี ชวี ติ 2 คน พน้ื ทจ่ี ำ� นวน 16 อำ� เภอ ไดร้ บั ความเสยี หาย บา้ นเรอื น ความเสียหายจากพายุโซนร้อน “ปาบกึ ” ส่ิงก่อสร้าง ต้นไม้ เสาไฟฟ้าล้ม ถนนหลายสาย ถูกต้นไมล้ ม้ ทบั สวนยางพารา สวนปาลม์ สวนผลไม้ไดร้ บั ความเสยี หายเปน็ บรเิ วณกวา้ ง การปอ้ งกนั วาตภยั การเตรียมการ และขณะเกิดวาตภัย 1. ตดิ ตามข่าวและประกาศคำ� เตือนลกั ษณะอากาศจากกรมอตุ ุนิยมวิทยา 2. เตรยี มวิทยแุ ละอปุ กรณ์สื่อสาร ชนดิ ใชถ้ ่านแบตเตอร่ี เพื่อติดตามข่าวในกรณที ่ไี ฟฟ้าขดั ขอ้ ง 3. ตดั กิ่งไม้ โดยเฉพาะกิง่ ท่ีจะหักมาทับบา้ น สายไฟฟา้ ตน้ ไมท้ ่ีตายยืนต้นควรจดั การโคน่ ลงเสยี 4. ตรวจเสาและสายไฟฟ้าท้ังในและนอกบริเวณบ้านให้เรียบร้อย ถ้าไม่แข็งแรงให้ยึดเหนี่ยวเสาไฟฟ้า ใหม้ น่ั คง 5. พักในอาคารท่ีมั่นคงตลอดเวลาขณะเกิดวาตภัย อย่าออกมาในท่ีโล่งแจ้ง เพราะต้นไม้และกิ่งไม้ อาจหกั โค่นลงมาทบั ได้ รวมทั้งสังกะสแี ละกระเบือ้ งจะปลิวตามลมมาทำ� อนั ตรายได้ 6. ปดิ ประตู หนา้ ตา่ งทุกบาน รวมทั้งยึดประตูและหน้าตา่ งใหม้ น่ั คงแขง็ แรง ถ้าประตูหน้าตา่ งไมแ่ ข็งแรง ให้ใชไ้ ม้ทาบตตี ะปูตรึงปิดประตู หนา้ ต่างไว้จะปลอดภัยย่ิงขึน้ 7. ปดิ ก้นั ชอ่ งทางลมและช่องทางต่าง ๆ ที่ลมจะเข้าไปทำ� ใหเ้ กิดความเสยี หาย 8. เตรียมตะเกียง ไฟฉาย และไม้ขีดไฟไว้ให้พร้อม ให้อยู่ใกล้มือ เม่ือเกิดไฟฟ้าดับจะได้หยิบใช้ได้อย่าง ทันทว่ งที และน้�ำสะอาด พรอ้ มทัง้ อุปกรณเ์ ครอื่ งหงุ ตม้ 9. เตรยี มอาหารสำ� รอง อาหารกระปอ๋ งไวบ้ า้ งสำ� หรบั การยงั ชพี ในระยะเวลา 2-3 วนั 10. ดับเตาไฟใหเ้ รยี บร้อยและควรจะมอี ปุ กรณส์ �ำหรับดับเพลิงไว้ 11. เตรยี มเครือ่ งเวชภณั ฑ์ 12. สิ่งของควรไว้ในทตี่ ำ่� เพราะอาจจะตกหล่น แตกหกั เสียหายได้ 13. บรรดาเรอื แพ ให้ลงสมอยึดตรงึ ให้ม่งั คงแข็งแรง 14. ถ้ามีรถยนต์ หรือพาหนะ ควรเตรียมไว้ให้พร้อมภายหลังพายุสงบอาจต้องนำ� ผู้ป่วยไปส่งโรงพยาบาล น�้ำมันควรจะเตมิ ใหเ้ ตม็ ถงั อยตู่ ลอดเวลา 56 แหนลกัวสกูตารรนจคัดรกศารรีธเรรรียมนรารชู้ ศกึ ษา

15. เม่ือลมสงบแล้วต้องรออย่างน้อย 3 ช่ัวโมง ถ้าพ้นระยะนี้แล้วไม่มีลมแรงเกิดข้ึนอีก จึงจะวางใจว่า พายุได้ผ่านพ้นไปแล้ว ท้ังน้ีเพราะ เมื่อศูนย์กลางพายุผ่านไปแล้วจะต้องมีลมแรงและ ฝนตกหนักผ่านมาอีก ประมาณ 2 ชั่วโมง หลังวาตภยั 1. เมอื่ มีผู้บาดเจบ็ ใหร้ ีบชว่ ยเหลอื และนำ� สง่ โรงพยาบาลหรือสถานพยาบาลท่ีใกล้เคยี งโดยเรว็ ที่สดุ 2. ตน้ ไม้ใกล้จะล้มใหร้ ีบจดั การโคน่ ล้มลงเสยี มฉิ ะนัน้ จะหักโค่นลม้ ภายหลัง 3. ถ้ามีเสาไฟฟ้าล้ม สายไฟขาดอย่าเข้าใกล้หรือแตะต้องเป็นอันขาด ท�ำเครื่องหมายแสดงอันตราย แจง้ ให้เจ้าหน้าท่ีหรือชา่ งไฟฟ้าจดั การดว่ น อย่าแตะโลหะท่เี ป็นสื่อไฟฟา้ 4. เมื่อปรากฏว่าทอ่ ประปาแตกทใี่ ด ให้รบี แจง้ เจ้าหน้าทม่ี าแกไ้ ขโดยดว่ น 5. อยา่ เพง่ิ ใชน้ ำ้� ประปา เพราะนำ้� อาจไมบ่ รสิ ทุ ธิ์ เนอื่ งจากทอ่ แตกหรอื นำ้� ทว่ ม ถา้ ใชน้ ำ้� ประปาขณะนนั้ ดมื่ อาจจะเกิดโรคได้ ใหใ้ ช้นำ้� ทก่ี ักตนุ ก่อนเกิดเหตุดมื่ แทน ภัยแล้ง ภยั แลง้ เกิดจากการมีฝนตกนอ้ ยกวา่ ปกติ หรอื ฝนไมต่ กตามฤดกู าล ทำ� ใหข้ าดแคลนน�้ำดมื่ นำ�้ ใช้ ขาดแคลน น้�ำเพ่ือการเกษตร พืช สัตว์ขาดน้�ำท�ำให้ไม่เจริญเติบโตตามปกติ บางพื้นท่ีมีปัญหา ฝนท้ิงช่วงในช่วงฤดูเพาะปลูก ท�ำให้นาข้าวและพืชไร่ในท้องถ่ินเกิดความเสียหาย ฉะน้ันก่อนถึงฤดูแล้ง ต้องเตรียมภาชนะเก็บน�้ำให้พร้อม พัฒนาแหลง่ น้ำ� และไมต่ ดั ไมท้ ำ� ลายปา่ อำ� เภอในจงั หวัดนครศรธี รรมราชมคี วามเส่ียงด้านภยั แลง้ 2 ระดบั ได้แก่ พนื้ ทท่ี ม่ี คี วามเสย่ี งระดบั กลาง จำ� นวน 11 อำ� เภอ ไดแ้ ก่ อำ� เภอเมอื ง อำ� เภอพระพรหม อำ� เภอเฉลมิ พระเกยี รติ อ�ำเภอลานสกา อ�ำเภอพรหมคีรี อ�ำเภอนบพิต�ำ อ�ำเภอพิปูน อ�ำเภอถ�้ำพรรณรา อ�ำเภอทุ่งใหญ่ อ�ำเภอนาบอน และอ�ำเภอทุ่งสง พ้ืนทที่ ีม่ ีความเส่ยี งระดบั สูง จ�ำนวน 4 อ�ำเภอ ได้แก่ อำ� เภอปากพนัง อำ� เภอหัวไทร อำ� เภอชะอวด และ อ�ำเภอเชยี รใหญ่ หลกั สูตแรนนวคกราศรรจีธัดรรกมารราเชรศยี กึ นษราู้ 57

พ้ืนทเี่ สยี่ งภัยจากภยั แลง้ จังหวดั นครศรธี รรมราช สาเหตุการเกิดภัยแลง้ ปัจจยั ท่กี อ่ ใหเ้ กิดภัยแลง้ ในจงั หวดั นครศรธี รรมราชเปน็ ระยะเวลา 3 เดอื นครึง่ ระหวา่ งเดอื นกุมภาพนั ธ์– กลางเดือนพฤษภาคม นอกจากฝนจะไมต่ กตามฤดกู าลแลว้ ยังมสี าเหตุของการเกิดภยั แลง้ ไดด้ งั น้ี 1. จากสภาวะอากาศในฤดรู อ้ นทร่ี ้อนมากกว่าปกติ 2. จากการพัดพาของลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ 3. ผลกระทบจากปรากฏการณ์ภาวะเรือนกระจก 4. จากการตดั ไม้ท�ำลายป่า 5. ภมู ิประเทศบางพน้ื ที่เปน็ ที่สูงสลบั กับทีร่ าบและท่ีราบลุม่ บางส่วนเปน็ พืน้ ท่ที ้ายน�้ำ และสันทราย 6. ไม่มแี หล่งกักเกบ็ น้�ำขนาดใหญ่ 7. แหล่งตน้ น้�ำถูกทำ� ลาย 58 แหนลักวสกตูารรนจคัดรกศารรธี เรรรียมนรารชู้ ศกึ ษา

ปัญหาจากภัยแลง้ 1. ปัญหาการขาดแคลนนำ�้ เพือ่ การอปุ โภคบริโภค 1.1 บริเวณที่อยู่ใกล้พรุ ไม่สามารถน�ำน้�ำมาใช้ได้เนื่องจากแหล่งน�้ำจากพรุมีความเป็นกรดสูง ได้แก่ อำ� เภอชะอวด อ�ำเภอเชียรใหญ่ และบางส่วนของอำ� เภอรอ่ นพิบลู ย์ 1.2 ระบบประปาไมท่ ่วั ถึง 1.3 น�้ำประปาไมม่ คี ุณภาพ 2. ปัญหาการขาดแคลนนำ�้ เพอ่ื การเกษตร 2.1 ปรมิ าณน้ำ� ที่กกั เกบ็ ไวไ้ ม่เพียงพอกับความต้องการ 2.2 แม่นำ�้ บางสายมีนำ้� เค็มรกุ ล้ำ� เขา้ มาทางปากนำ�้ กลายเป็นน้ำ� กร่อย การเตรียมพรอ้ มรบั ภยั แล้ง หน่วยงานราชการ 1. ขดุ ลอกคคู ลอง สระนำ�้ รอ่ งน้ำ� 2. ก่อสรา้ งและปรบั ปรุงฝายชะลอนำ้� ฝายน้ำ� ล้น ฝายมีชีวติ ทำ� นบชั่วคราว 3. ก่อสร้างปรับปรุงและซ่อมแซมแก้มลิง อ่างเก็บน�้ำ ประตูระบายน�้ำ ท่อระบายน�้ำ ขุดเจาะหรือ พฒั นาแหลง่ น�ำ้ บาดาล ประชาชนทอ่ี ยู่ในเขตเมือง 1. ควรใชน้ �้ำอยา่ งประหยดั ไมเ่ ปิดน�ำ้ ไหลทิ้งในขณะลา้ งหนา้ แปรงฟัน โกนหนวด และซกั ผ้า 2. หมน่ั ตรวจสอบการรว่ั ซมึ ของชกั โครก ดว้ ยการหยดสผี สมอาหารลงในถงั พกั นำ้� หากมสี ปี นมากบั นำ�้ โดยไม่ไดก้ ดชกั โครกแสดงว่ามกี ารร่ัวซึมให้รีบซอ่ มแซมทนั ที 3. หมั่นตรวจสอบการช�ำรุดของก็อกน้�ำ ฝักบัว ท่อน้�ำ โดยปิดอุปกรณ์น�้ำทุกตัว และบันทึกมาตร เลขวัดนำ้� ถ้าตวั เลขมีการเปลย่ี นแปลง แสดงวา่ มกี ารรว่ั ไหลของนำ้� ใหร้ บี ซ่อมแซม 4. ใชส้ ปรงิ เกอรห์ รอื ฝกั บวั รดนำ้� และควรรองนำ�้ ใสภ่ าชนะสำ� หรบั ลา้ งรถ แทนการใชส้ ายยางฉดี โดยตรง 5. ตดิ ตงั้ อปุ กรณเ์ ตมิ อากาศทีห่ วั กอ๊ กน้�ำ ฝกั บวั เพือ่ ช่วยเพมิ่ แรงดนั และลดปริมาณน้�ำ เกษตรกร 1. หลีกเล่ียงการเผาตอซังข้าวและฟางข้าวให้ใช้วิธีฝังหรือไถกลบแทน เพราะจะท�ำให้ดินขาดความ ชุ่มชื้น ส่งผลใหส้ ถานการณ์ภัยแล้งรนุ แรงมากข้ึน 2. เลือกปลูกพืชอายุส้ันที่ใช้น้�ำน้อย เช่น พืชตระกูลถ่ัว ข้าวโพด มันส�ำปะหลัง ฯลฯ งดเว้น การทำ� นาปรงั นอกเขตพืน้ ทีท่ ่จี ังหวัดกำ� หนด หลักสูตแรนนวคกราศรรจีธัดรรกมารราเชรศยี กึ นษราู้ 59

ไฟปา่ ไฟปา่ เกดิ จากสาเหตใุ ด ๆ กต็ ามในปา่ ธรรมชาติ หรอื สวนปา่ แลว้ ลกุ ลามไปไดโ้ ดยอสิ ระปราศจากการควบคมุ มกั จะเกดิ ในช่วงฤดูแล้ง ระหว่างเดอื นมนี าคม–พฤษภาคมของทุกปี อ�ำเภอที่มีความเสี่ยงระดับกลาง ได้แก่ อ�ำเภอปากพนัง อ�ำเภอสิชล อ�ำเภอลานสกา อ�ำเภอนบพิต�ำ อำ� เภอพิปนู และอำ� เภอพระพรหม อ�ำเภอท่มี คี วามเสี่ยงระดบั สงู จำ� นวน 6 อำ� เภอ ไดแ้ ก่ อำ� เภอจุฬาภรณ์ อ�ำเภอชะอวด อำ� เภอเชยี รใหญ่ อ�ำเภอรอ่ นพิบูลย์ อ�ำเภอหัวไทร และอ�ำเภอเฉลมิ พระเกยี รติ พ้นื ท่เี สี่ยงภยั จากไฟป่า จังหวัดนครศรีธรรมราช 60 แหนลกัวสกตูารรนจคดั รกศารรีธเรรรยี มนรารชู้ ศกึ ษา

สาเหตุของการเกิดไฟปา่ จากปรากฏการณ์ทางธรรมชาติ 1. ฟา้ ผ่า 2. ก่ิงไมเ้ สยี ดสีกนั 3. การเปล่ียนแปลงสภาพภมู ิอากาศ จากการกระท�ำของมนุษย์ 1. เผาปา่ ซงั ขา้ ว ขยะมลู ฝอย 2. การเล้ยี งสัตว์ 3. แกล้งจดุ ไฟเผาเพ่อื การลา่ สัตว์ 4. ความประมาท 5. ความคกึ คะนอง การป้องกนั ไฟปา่ ก่อนเกิดไฟปา่ 1. ก�ำจัดพชื ทตี่ ดิ ไฟไดง้ า่ ย เชน่ หญา้ คา หญ้าสาบเสือ พงออ้ ใบไม้ กง่ิ ไม้เล็ก 2. จดั ทำ� แนวกนั ไฟโดยถางปา่ ใหห้ า่ งจากทางเดนิ ในระยะ 5 เมตร เพอ่ื ปอ้ งกนั การตดิ ตอ่ ลกุ ลามของไฟ 3. รณรงค์เผยแพรค่ วามรูเ้ กี่ยวกับการป้องกนั และลดผลกระทบจากไฟปา่ 4. รักษาความชุ่มชืน้ ในเขตปา่ 5. แต่งตั้งคณะกรรมการรับผดิ ชอบพ้นื ท่รี ะดบั อำ� เภอในพน้ื ที่เสีย่ งสงู 6. เมอ่ื พบเหน็ กองไฟทมี่ บี คุ คลเผาทง้ิ ไวก้ ร็ บี ดบั เสยี หรอื เหน็ ไฟไหมก้ ร็ บี ทำ� การดบั กอ่ นทจ่ี ะทำ� ใหเ้ กดิ การลุกไหมม้ ากขึน้ เมอ่ื เหน็ ว่าจะไม่สามารถดับไดด้ ว้ ยตนเองกร็ บี แจ้งเจ้าหนา้ ทีด่ ับเพลิงหรือเจา้ หน้าที่ควบคุมไฟป่า 7. นักท่องเที่ยว ควรปฏิบัติตามระเบียบข้อบังคับในการป้องกันไฟป่า ให้ความร่วมมือ เช่ือฟัง คำ� แนะนำ� ของเจา้ หน้าที่ และควรแนะน�ำใหท้ กุ คนรจู้ กั อนั ตรายจากไฟปา่ ขณะเกิดไฟปา่ 1. ถา้ ยังไม่มเี ครื่องมือ หรือยังไม่มีเจา้ หนา้ ที่ดับเพลิงจากหน่วยควบคุมไฟป่าแล้ว อย่าเส่ียงเข้าไปดบั เวน้ แต่เปน็ การลุกไหมเ้ ลก็ น้อยของไฟท่เี กดิ จากพวกหญา้ ต่าง ๆ เชน่ หญ้าคา หญ้าขจรจบ หญ้าสาบเสอื 2. ควรช่วยกันตัดก่ิงไม้สด ตีไฟท่ีลุกไหม้ตามบริเวณหัวไฟให้เชื้อเพลิงแตกกระจาย แล้วตีขนานกับ ไฟป่าทก่ี �ำลงั จะเรมิ่ ลกุ ลาม หลังจากไฟปา่ สงบลงแลว้ 1. ตรวจดูบริเวณทย่ี ังมีไฟคกุ ร่นุ เมอ่ื พบแลว้ จดั การดับให้สนทิ 2. คน้ หาและชว่ ยเหลือคน สัตว์ท่ีหนีไฟออกมาและไดร้ บั บาดเจ็บ 3. ระวังภยั จากสตั วท์ ีห่ นีไฟปา่ ออกมา จะท�ำอันตรายแก่ชีวติ และทรัพย์สินได้ 4. ปลกู ปา่ ทดแทน ปลกู พืชคลุมดนิ ปลูกไม้โตเร็ว หลกั สูตแรนนวคกราศรรจีธดัรรกมารราเชรศยี กึ นษราู้ 61

เครอ่ื งมอื พน้ื ฐานในการดบั ไฟป่า 3.1 ทีต่ บไฟ ใช้ในการดับไฟทางตรง โดยการตบคลุมลงไปบนเปลวไฟ เพื่อป้องกันไม่ให้อากาศเข้าไปท�ำปฏิกิริยากับไฟ เปลวไฟก็จะดับลง เหมาะสำ� หรับการดบั ไฟท่ไี หม้เช้ือเพลิงเบา ไดแ้ ก่ หญ้า ใบไมแ้ หง้ ฯลฯ 3.2 ถังฉีดน้�ำดบั ไฟป่า 1. ใชส้ ำ� หรบั ฉดี ลดความรอ้ นของไฟ ในการดบั ไฟทางตรงเพอื่ ให้ เครอื่ งมือดับไฟป่าชนิดอืน่ สามารถเขา้ ไปท�ำงานทขี่ อบของไฟได้ 2. ใชฉ้ ดี ดบั ไฟทย่ี งั เหลอื คา้ งอยใู่ นโพรงไม้ ในรอยแตกของไม้ หรอื ในฐานกอไผ่ ท่ีเครอื่ งมอื อยา่ งอนื่ เขา้ ไปท�ำงานไมไ่ ด้ 3.3 ครอบไฟป่า ใช้ในการท�ำแนวกันไฟ โดยใช้ด้านท่ีเป็นจอบในการถากถาง ขดุ ตดั สบั เชอื้ เพลงิ ทเี่ ปน็ วชั พชื จากนนั้ จงึ ใชด้ า้ นทเ่ี ปน็ คราด คราดเอา เชอื้ เพลงิ เหลา่ น้อี อกไปทิง้ นอกแนวกันไฟ 62 แหนลักวสกตูารรนจคดั รกศารรธี เรรรยี มนรารชู้ ศกึ ษา

3.4 พลั่วไฟป่า ใชข้ ดุ ตัด ถาก ตักและสาด ตบไฟ และใชใ้ นการขดุ หลมุ ส�ำหรับ เป็นท่ีหลบกำ� บงั จากไฟป่าในกรณฉี กุ เฉิน ผลกระทบจากไฟปา่ ผลกระทบต่อสขุ ภาพอนามัย 1. ฝ่นุ ควันจากไฟปา่ ท�ำให้เป็นโรคเก่ียวกับระบบทางเดนิ หายใจ 2. ไฟป่าท่ีลามมาติดบ้านเรือนท�ำให้เกิดเหตุไฟไหม้บ้านเรือน และอาจมีคนเสียชีวิตและบาดเจ็บ จากการถกู ไฟคลอกได้ 3. ควนั จากไฟปา่ จะบดบังทศั นวิสัยของยานพาหนะท�ำใหเ้ กิดอบุ ตั เิ หตุ บาดเจ็บและเสียชวี ิตได้ ผลกระทบทางส่ิงแวดล้อม 1. โครงสร้างปา่ เปลีย่ นไป 2. ฝนตกเกดิ นำ้� ทว่ ม 3. เกิดสภาวะเรอื นกระจก ผลกระทบทางเศรษฐกิจ 1. ทำ� ใหส้ ญู เสียทรัพย์สินและคา่ ใชจ้ า่ ย 2. ระบบสาธารณูปโภคได้รบั ความเสยี หายอย่างรุนแรง หลกั สูตแรนนวคกราศรรจีธัดรรกมารราเชรศียึกนษราู้ 63

หน่วยท่ี 4 เศรษฐกิจ มาตรฐานการเรยี นรู้และตวั ชี้วดั มาตรฐาน ส 3.1 เข้าใจและสามารถบริหารจัดการทรพั ยากรในการผลิตและการบรโิ ภค การใช้ทรพั ยากร ที่มีอยู่จ�ำกัดได้อย่างมีประสิทธิภาพและคุ้มค่า รวมท้ังเข้าใจหลักการของเศรษฐกิจพอเพียงเพื่อการด�ำรงชีวิต อย่างมดี ุลยภาพ ตัวช้วี ดั ป.4/3 อธิบายหลกั การของเศรษฐกจิ พอเพียงและนำ� ไปใชใ้ นชวี ติ ประจำ� วันของตนเอง ป.5/2 ประยกุ ตใ์ ชแ้ นวคดิ ของปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพยี งในการทำ� กจิ กรรมตา่ ง ๆ ในครอบครวั โรงเรยี น และชมุ ชน ม.1/2 วิเคราะห์คา่ นิยมและพฤตกิ รรมการบริโภคของคนในสงั คมซึ่งสง่ ผลต่อเศรษฐกิจของชมุ ชน และประเทศ ม.2/3 เสนอแนวทางการพฒั นาการผลิตในทอ้ งถ่นิ ตามปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพียง มาตรฐาน ส 3.2 เขา้ ใจระบบและสถาบนั ทางเศรษฐกจิ ตา่ ง ๆ ความสมั พนั ธท์ างเศรษฐกจิ และความจำ� เปน็ ของการรว่ มมอื กันทางเศรษฐกิจในสังคมโลก ตัวชวี้ ดั ป.4/1 อธิบายความสมั พันธ์ทางเศรษฐกิจของคนในชมุ ชน ป.6/2 ยกตวั อย่างการรวมกลมุ่ ทางเศรษฐกิจภายในทอ้ งถิน่ สาระสำ� คญั การศกึ ษาเรยี นรเู้ กยี่ วกบั ระบบการผลติ การบรโิ ภค ความสมั พนั ธ์ ความรว่ มมอื และแนวโนม้ เศรษฐกจิ ของ นครศรีธรรมราช โดยน�ำหลักการ แนวคิด และปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพียง เปน็ แนวทาง ในการด�ำรงชีวิต และการ พฒั นาเศรษฐกจิ ใหก้ า้ วทันโลกยุคโลกาภวิ ัตน์ อยา่ งเหมาะสมและย่งั ยืน 64 แหนลักวสกูตารรนจคัดรกศารรีธเรรรียมนรารชู้ ศึกษา

สาระการเรยี นรู้ เศรษฐกิจ 1. 2. 3. 4. เศรษฐกจิ พอเพยี ง เศรษฐกจิ กบั ชมุ ชน การรวมกลมุ่ ทางเศรษฐกิจ แนวโน้มเศรษฐกิจ ในนครศรธี รรมราช ของนครศรีธรรมราช ในนครศรีธรรมราช 1. เศรษฐกจิ พอเพยี ง ความรเู้ กยี่ วกบั หลกั ปรชั ญาเศรษฐกจิ พอเพยี ง การนำ� ไปประยกุ ตใ์ ช้ ชมุ ชนการเรยี นรู้ ตามแนวทางของ หลักปรชั ญาเศรษฐกิจพอเพียงในจงั หวดั นครศรธี รรมราช 2. เศรษฐกิจกับชมุ ชนในนครศรีธรรมราช ภาวะเศรษฐกจิ การผลิต การแลกเปลีย่ น และการบริโภค ของชุมชนในจงั หวดั นครศรีธรรมราช 3. การรวมกล่มุ ทางเศรษฐกจิ ในนครศรีธรรมราช 3.1 องคก์ รที่เก่ยี วข้องการรวมกลุ่มทางเศรษฐกจิ ในนครศรธี รรมราช 1) หอการคา้ จงั หวดั นครศรีธรรมราช 2) สภาอตุ สาหกรรมจงั หวดั นครศรธี รรมราช 3.2 การคา้ ระหว่างประเทศ 1) ด่านศลุ กากรนครศรีธรรมราช 2) ด่านศลุ กากรสิชล 4. แนวโน้มเศรษฐกิจของนครศรีธรรมราช 4.1 แนวโน้มเศรษฐกิจ ค่านยิ ม และพฤติกรรมการบรโิ ภคที่สง่ ผลต่อเศรษฐกิจ ของนครศรีธรรมราช 4.2 ศนู ย์กลางธรุ กจิ การคา้ ทีส่ ำ� คญั 4.3 เศรษฐกจิ ทสี่ �ำคัญของนครศรธี รรมราช 1) ดา้ นเกษตรกรรม 2) ด้านการประมง 3) ดา้ นอุตสาหกรรมและเหมอื งแร่ กิจกรรมการเรียนรู้ 1. แนวทางดำ� เนินการ 1.1 ผู้เรียนศึกษา ค้นคว้า เกี่ยวกับชุมชนเศรษฐกิจพอเพียงของนครศรีธรรมราช และน�ำมา เปรียบเทยี บใหเ้ ขา้ กับหลักปรัชญาเศรษฐกจิ พอเพียง 1.2 ผู้เรียนระบุกิจกรรมที่น�ำหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงไปประยุกต์ใช้ในชีวิตประจ�ำวัน โดยระบกุ จิ กรรมทเ่ี ก่ียวกับความพอประมาณ มเี หตผุ ล มีภมู คิ มุ้ กัน มีความรู้ และมคี ณุ ธรรม 1.3 สรปุ อภิปราย และน�ำเสนอเพ่ือแลกเปลย่ี นเรยี นรู้ หลกั สตู แรนนวคกราศรรจธี ดัรรกมารราเชรศยี กึ นษราู้ 65

ตวั อยา่ ง 1) ผู้เรียนศึกษาชุมชนเศรษฐกิจพอเพียงของนครศรีธรรมราช และเปรียบเทียบ กับหลักปรัชญา เศรษฐกิจพอเพยี ง ชมุ ชนเศรษฐกจิ พอเพยี ง เปรยี บเทยี บกับหลกั ปรัชญาเศรษฐกจิ พอเพียง 2) ผู้เรียนระบุกิจกรรมที่น�ำหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงไปประยุกต์ ใช้ในชีวิตประจ�ำวัน และทำ� เครอื่ งหมาย () ในช่องทตี่ รงกบั หลกั ปรชั ญาเศรษฐกิจพอเพียง ลำ� ดับ กจิ กรรม พอประมาณ มีเหตุผล มภี มู คิ ุ้มกนั มคี วามรู้ มคี ณุ ธรรม 66 แหนลักวสกตูารรนจคดั รกศารรธี เรรรียมนรารชู้ ศกึ ษา

2. แนวทางด�ำเนนิ การ 2.1 ผูเ้ รยี นสังเกต ส�ำรวจ ข้อมลู ความสมั พันธข์ องการผลติ และการบรโิ ภค ของครอบครัวและชมุ ชน 2.2 ผเู้ รยี นศกึ ษา คน้ ควา้ ขอ้ มลู ระบบเศรษฐกจิ ในจงั หวดั นครศรธี รรมราช ดา้ นการผลติ และการบรโิ ภค 2.3 สรุป อภปิ ราย และน�ำเสนอเพือ่ แลกเปลีย่ นเรียนรู้ ตวั อยา่ ง ผู้เรียนบนั ทกึ ข้อมูลของระบบเศรษฐกิจในจังหวัดนครศรธี รรมราช ด้านการผลิต และการบรโิ ภค ลำ� ดบั กิจกรรม การผลติ การบรโิ ภค หลักสตู แรนนวคกราศรรจธี ัดรรกมารราเชรศยี ึกนษราู้ 67

3. แนวทางด�ำเนินการ 3.1 ผเู้ รยี นศึกษา ค้นคว้า การรวมกลุม่ ทางเศรษฐกจิ ในระดบั ชมุ ชน โดยระบุความจำ� เป็นของการรว่ ม มือกนั ของกลุ่มทางเศรษฐกจิ ผนู้ �ำกล่มุ วตั ถุประสงค์ วธิ ีดำ� เนนิ การ และเป้าหมาย 3.2 ผู้เรียนศึกษา ค้นคว้า การรวมกลุ่มทางเศรษฐกิจในระดับจังหวัดนครศรีธรรมราช โดยระบุกลุ่ม ทางเศรษฐกิจ ผ้นู �ำกลุ่ม วตั ถุประสงค์ วิธดี �ำเนินการ และเปา้ หมาย 3.3 สรุป อภปิ ราย น�ำเสนอเพ่ือแลกเปลี่ยนเรียนรู้ ตัวอยา่ ง ผู้เรียนศึกษาการรวมกลุ่มทางเศรษฐกิจในระดับชุมชนและระดับจังหวัดนครศรีธรรมราช พรอ้ มทง้ั บันทึกขอ้ มลู ตามประเดน็ ที่กำ� หนด การรวมกลมุ่ ทางเศรษฐกจิ ในระดบั ชมุ ชน : นครศรีธรรมราช เป้าหมาย ล�ำดับ กลมุ่ ทางเศรษฐกิจ ผู้น�ำกลุม่ วัตถุประสงค์ วธิ ีดำ� เนนิ การ 68 แหนลกัวสกตูารรนจคัดรกศารรีธเรรรียมนรารชู้ ศกึ ษา

ลำ� ดบั กลมุ่ ทางเศรษฐกิจ ผ้นู ำ� กลุ่ม วัตถปุ ระสงค์ วธิ ดี ำ� เนนิ การ เป้าหมาย 4. แนวทางด�ำเนนิ การ 4.1 ผู้เรียนศึกษาพฤติกรรมการบริโภคของ ตนเอง ครอบครัว และชมุ ชน 4.2 ผู้เรียนศึกษา วิเคราะห์ ค่านิยม และพฤติกรรมการบริโภค ที่ส่งผลต่อเศรษฐกิจ ของจังหวัด นครศรธี รรมราช 4.3 สรุป อภิปราย แลกเปล่ียนเรียนรู้ และน�ำเสนอแนวทางการพัฒนาเศรษฐกิจ ของจังหวัด นครศรธี รรมราช ตวั อย่าง ผู้เรยี นศึกษา วเิ คราะห์ คา่ นยิ ม และพฤตกิ รรมการบริโภคของตนเอง ครอบครัว และชมุ ชน ทส่ี ่งผลต่อ เศรษฐกจิ ของจงั หวดั นครศรีธรรมราช และเสนอแนวทางการพฒั นาเศรษฐกจิ ของจงั หวัดนครศรีธรรมราช ค่านยิ ม และพฤตกิ รรมการบริโภคของตนเอง ครอบครวั และชุมชน ทสี่ ง่ ผลตอ่ เศรษฐกิจของจังหวดั นครศรธี รรมราช หลักสูตแรนนวคกราศรรจธี ัดรรกมารราเชรศยี กึ นษราู้ 69

แนวทางการพัฒนาเศรษฐกิจของจงั หวัดนครศรีธรรมราช การวัดและประเมินผล รายการ วธิ กี าร เคร่ืองมือ 1. ความรคู้ วามเข้าใจเกยี่ วกบั - สงั เกตความเขา้ ใจและ - แบบสงั เกตพฤตกิ รรมรายบคุ คล ชุมชนเศรษฐกจิ พอเพียง ความสนใจ ในการทำ� กจิ กรรม - แบบสงั เกตพฤตกิ รรมรายกลมุ่ ในนครศรธี รรมราช รายบคุ คล - แบบประเมนิ ชนิ้ งาน 2. ความสัมพันธ์ของระบบ - สงั เกตการมสี ว่ นรว่ มในการทำ� การผลติ และการบรโิ ภค กจิ กรรมกลมุ่ - แบบสงั เกตพฤตกิ รรมรายบคุ คล ของชมุ ชนในนครศรีธรรมราช - ประเมนิ ชน้ิ งาน 3. การรวมกลุ่มทางเศรษฐกจิ - สงั เกตความเขา้ ใจและ - แบบสงั เกตพฤตกิ รรมรายกลมุ่ ในนครศรธี รรมราช ความสนใจ ในการทำ� กจิ กรรม - แบบประเมนิ ชนิ้ งาน รายบคุ คล - แบบสงั เกตพฤตกิ รรมรายบคุ คล 4. พฤตกิ รรมของผูบ้ รโิ ภค - สงั เกตการมสี ว่ นรว่ มในการทำ� ที่สง่ ผลตอ่ เศรษฐกิจของ กจิ กรรมกลมุ่ - แบบสงั เกตพฤตกิ รรมรายกลมุ่ นครศรธี รรมราช และแนวทาง - ประเมนิ ชน้ิ งาน - แบบประเมนิ ชน้ิ งาน การพัฒนาเศรษฐกิจของ - สงั เกตความเขา้ ใจและ - แบบสงั เกตพฤตกิ รรมรายบคุ คล นครศรีธรรมราช ความสนใจ ในการทำ� กจิ กรรม รายบคุ คล - แบบสงั เกตพฤตกิ รรมรายกลมุ่ - สงั เกตการมสี ว่ นรว่ มในการทำ� - แบบประเมนิ ชนิ้ งาน กจิ กรรมกลมุ่ - ประเมนิ ชนิ้ งาน - สงั เกตความเขา้ ใจและ ความสนใจ ในการทำ� กจิ กรรม รายบคุ คล - สงั เกตการมสี ว่ นรว่ มในการทำ� กจิ กรรมกลมุ่ - ประเมนิ ชน้ิ งาน 70 แหนลกัวสกูตารรนจคัดรกศารรธี เรรรยี มนรารชู้ ศึกษา

หน่วยท่ี 4 เศรษฐกิจ เศรษฐกจิ พอเพียง “เศรษฐกจิ พอเพยี ง” เปน็ ปรชั ญาทพ่ี ระบาท สมเดจ็ พระเจา้ อยหู่ วั รชั กาลท่ี 9 ทรงมพี ระราชดำ� รสั ชี้แนะแนวทางการด�ำเนินชีวิตแก่พสกนิกรชาวไทย มาโดยตลอดนานกวา่ 25 ปี ตงั้ แตก่ อ่ นเกดิ วกิ ฤตการณ์ ทางเศรษฐกจิ และเมอื่ ภายหลงั ไดท้ รงเนน้ ยำ้� แนวทาง การแก้ไขเพื่อให้รอดพ้น และสามารถด�ำรงอยู่ได้ อยา่ งมน่ั คงและยงั่ ยนื ภายใตก้ ระแสโลกาภวิ ตั น์ และ ความเปลี่ยนแปลงตา่ ง ๆ พระบาทสมเดจ็ พระบรมชนกาธิเบศร มหาภมู พิ ลอดุลยเดชมหาราช กบั เศรษฐกิจพอเพยี ง ท่ีมา : www.chiangmainews.co.th ปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพียง พระบาทสมเดจ็ พระบรมชนกาธเิ บศร มหาภมู พิ ลอดลุ ยเดชมหาราช รชั กาลที่ 9 ไดท้ รงพระราชทานพระบรม ราชานุญาตให้น�ำปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงไปเผยแพร่ เพ่ือเป็นแนวทางปฏิบัติ ของทุกฝ่ายและประชาชน โดยทวั่ ไป ดงั น้ี เศรษฐกจิ พอเพยี ง เปน็ ปรชั ญาชถ้ี งึ แนวทางการดำ� รงอยแู่ ละปฏบิ ตั ติ นของประชาชนในทกุ ระดบั ตง้ั แตร่ ะดบั ครอบครวั ระดบั ชุมชน จนถึงระดับรฐั ทั้งในการพัฒนาและบริหารประเทศใหด้ ำ� เนินไปในทาง สายกลาง โดยเฉพาะ การพฒั นาเศรษฐกจิ เพ่ือใหก้ ้าวทนั ตอ่ โลกยุคโลกาภิวัตน์ ความพอเพยี ง หมายถึง ความพอประมาณ ความมเี หตผุ ล รวมถึงความจำ� เป็นท่ีจะตอ้ งมีระบบภมู ิคมุ้ กนั ในตวั ท่ีดพี อสมควรตอ่ การมีผลกระทบใด ๆ อันเกิดจากการเปลี่ยนแปลงทั้งภายนอกและภายใน ทง้ั นี้จะตอ้ งอาศยั ความรอบรู้ ความรอบคอบ และความระมัดระวงั อย่างยง่ิ ในการน�ำวิชาการต่าง ๆ มาใชใ้ นการวางแผน หลกั สูตแรนนวคกราศรรจธี ัดรรกมารราเชรศียกึ นษราู้ 71

และการด�ำเนนิ การทกุ ขนั้ ตอน และขณะเดยี วกันจะต้องเสริมสร้างพ้ืนฐานจิตใจของคนในชาติ โดยเฉพาะเจ้าหน้าท่ี ของรัฐ นักทฤษฎีและนักธุรกิจในทุกระดับ ให้มีส�ำนึกในคุณธรรม ความซ่ือสัตย์สุจริต และให้มีความรอบรู้ ที่เหมาะสมด�ำเนินชีวิตด้วยความอดทน ความเพียร มีสติปัญญา และความรอบคอบ เพ่ือให้สมดุล และพร้อม ต่อการรองรบั การเปลยี่ นแปลงอยา่ งรวดเร็วและกว้างขวาง ทัง้ ด้านวัตถุ สงั คม ส่ิงแวดล้อม และวฒั นธรรมจากโลก ภายนอกไดเ้ ป็นอยา่ งดี หลกั แนวคดิ ของเศรษฐกจิ พอเพยี ง การพัฒนาตามหลักเศรษฐกิจพอเพียง คือ การพัฒนาที่ต้ังอยู่บนพื้นฐานของทางสายกลาง และความไม่ประมาท โดยค�ำนึงถึงความพอประมาณ ความมีเหตุผล การสร้างภูมิคุ้มกันที่ดีในตัว ตลอดจน ใช้ความรู้ความรอบคอบ และคณุ ธรรมประกอบการวางแผน การตดั สนิ ใจ และการกระทำ� ปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพียง มหี ลกั พิจารณาอยู่ 5 สว่ น ดังน้ี 1. กรอบแนวคิด เป็นปรัชญาที่ช้ีแนะแนวทางการด�ำรงอยู่และปฏิบัติตนในทางที่ควรจะเป็น โดยมีพื้นฐาน มาจากวิถีชีวิตดั้งเดิมของสังคมไทย สามารถน�ำมาประยุกต์ใช้ได้ตลอดเวลาและเป็นการมองโลก เชงิ ระบบที่มีการเปลย่ี นแปลงอย่ตู ลอดเวลา มงุ่ เนน้ การรอดพน้ จากภยั และวิกฤติ เพ่อื ความมน่ั คง และความยงั่ ยืน ของการพฒั นา 2. คุณลักษณะ เศรษฐกิจพอเพียงสามารถน�ำมาประยุกต์ใช้กับการปฏิบัติได้ในทุกระดับ โดยเน้น การปฏบิ ตั ิบนทางสายกลาง และการพัฒนาอย่างเปน็ ขน้ั ตอน 3. คำ� นยิ าม ความพอเพียงจะต้องประกอบด้วย 3 คณุ ลกั ษณะพรอ้ ม ๆ กัน คอื ความพอประมาณ (Moderation) ความมีเหตุผล (Reasonableness) และการมีภูมิคุ้มกันในตัวท่ีดี (Self-immunity) ถ้าขาด คณุ ลกั ษณะใดคณุ ลักษณะหนง่ึ ก็จะไม่สามารถเรยี กไดว้ า่ เปน็ ความพอเพียง ได้แก่ 3.1 ความพอประมาณ หมายถึง ความพอดี ไม่มากหรือน้อยเกินไปในมิติตา่ ง ๆ ของการกระทำ� 5 ประการ คอื 1) ดา้ นจิตใจ คอื เริ่มต้นจากตนเองต้องต้ังสติ มปี ญั ญา มีจติ สำ� นึกท่ดี ี มีเมตตา เออ้ื อาทร มคี วามเขา้ ใจและประนปี ระนอม ค�ำนงึ ถึงผลประโยชนส์ ่วนรวม เขม้ แขง็ และพ่งึ ตนเองได้ 2) ดา้ นสงั คม คอื การสรา้ งความพอดีในทุกระดบั ของสงั คม โดยเร่มิ จากครอบครัว ชุมชน และสงั คม ซง่ึ ตอ้ งชว่ ยเหลอื เกอ้ื กลู กนั สรา้ งความเขม้ แขง็ ใหแ้ กช่ มุ ชน รจู้ กั ผนกึ กำ� ลงั และทสี่ ำ� คญั มกี ระบวนการเรยี นรู้ ท่เี กดิ จากฐานรากทม่ี ั่นคงและแข็งแรง 3) ดา้ นเศรษฐกจิ คือ ต้องอย่อู ยา่ งพอดี พอมพี อกิน ไมห่ รหู รา ฟุ่มเฟือย 4) ด้านเทคโนโลยี คือ ควรเหมาะสมสอดคล้องกบั สภาวะและความตอ้ งการของประเทศ และควรพัฒนาเทคโนโลยีจากภมู ปิ ัญญาท้องถน่ิ ให้สอดคล้องเป็นประโยชน์ตอ่ สภาพแวดล้อมของเรา 5) ด้านทรัพยากรธรรมชาติและส่ิงแวดล้อม คือ ใช้อย่างประหยัดและมีประสิทธิภาพ ตลอดจนรณรงคร์ ักษาทรพั ยากรธรรมชาติให้เกดิ ความย่งั ยืนสงู สุด 72 แหนลักวสกตูารรนจคดั รกศารรีธเรรรียมนรารชู้ ศึกษา

3.2 ความมีเหตุผล หมายถึง การตัดสินใจเกี่ยวกับระดับของความพอเพียงน้ันจะต้องเป็นไป อย่างมีเหตุผล โดยพจิ ารณาจากเหตุปัจจัยท่ีเกีย่ วขอ้ ง ตลอดจนค�ำนึงถงึ ผลท่ีคาดว่าจะเกิดขึน้ จากการกระท�ำนัน้ ๆ อยา่ งรอบคอบ 3.3 การมภี มู คิ มุ้ กนั ทดี่ ใี นตวั หมายถงึ การเตรยี มตวั ใหพ้ รอ้ มรบั ผลกระทบและ การเปลย่ี นแปลง ดา้ นตา่ ง ๆ ทจ่ี ะเกดิ ขน้ึ โดยคำ� นงึ ถงึ ความเปน็ ไปไดข้ องสถานการณต์ า่ ง ๆ ทค่ี าดวา่ จะเกดิ ขนึ้ ในอนาคตทง้ั ใกลแ้ ละไกล 4. เงอื่ นไข การตดั สนิ ใจและการดำ� เนนิ กจิ กรรมตา่ ง ๆ ใหอ้ ยใู่ นระดบั พอเพยี งนนั้ ตอ้ งอาศยั ทง้ั ความรู้ และคณุ ธรรมเป็นพน้ื ฐาน กลา่ วคือ 4.1 เงอื่ นไขความรู้ ประกอบดว้ ย ความรอบรู้เกีย่ วกับวชิ าการต่าง ๆ ทเี่ ก่ียวขอ้ งอย่างรอบดา้ น ความรอบคอบทจี่ ะนำ� ความรเู้ หลา่ นนั้ มาพจิ ารณา เพอื่ ประกอบการวางแผนและการใชค้ วามระมดั ระวงั ในขน้ั ปฏบิ ตั ิ 4.2 เง่ือนไขคุณธรรม ที่จะต้องเสริมสร้างประกอบด้วย มีความตระหนักในคุณธรรมมี ความ ซือ่ สัตยส์ จุ รติ และมีความอดทน มคี วามเพยี ร ใชส้ ตปิ ัญญาในการดำ� รงชีวิต 5. แนวทางปฏบิ ตั /ิ ผลทค่ี าดวา่ จะไดร้ บั จากการนำ� ปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพยี งมาประยกุ ตใ์ ช้ คอื การพัฒนาที่สมดุลและยั่งยืน พร้อมรับต่อการเปล่ียนแปลงในทุกด้าน ทั้งด้านเศรษฐกิจ สังคม สิ่งแวดล้อม ความรู้และเทคโนโลยี การปฏิบัติในระดับตนเองและในระดับองค์กร เศรษฐกิจพอเพียงจึงเป็นปรัชญาแห่งวิถีชีวิต ท่มี ีความหลากหลาย และสามารถยืดหยุ่นความเป็นอย่ขู องชีวิตของตนได้ ด้วยเหตุนี้ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยูห่ ัว รัชกาลที่ 9 จึงได้พระราชทานความหมายของความพอเพียงไว้ ตามพระราชด�ำรัสที่พระราชทานในโอกาส วันเฉลิมพระชนมพรรษา เมื่อวันท่ี 4 ธันวาคม 2541 ดงั นี้ หลกั สูตแรนนวคกราศรรจีธัดรรกมารราเชรศยี กึ นษราู้ 73

“...คำ� วา่ พอเพียงมีความหมายกวา้ งออกไปอีก ไมไ่ ดห้ มายถงึ การมพี อสำ� หรบั ใช้เองเทา่ นัน้ แต่มีความหมายว่าพอมพี อกนิ ...พอมพี อกินนี้ก็แปลวา่ เศรษฐกจิ พอเพียงนัน่ เอง...” “...ให้พอเพียงน้กี ็หมายความว่า มีกินมีอยู่ ไมฟ่ ุม่ เฟือย ไมห่ รูหราก็ได้ แต่วา่ พอแม้บางอย่าง อาจจะดูฟุ่มเฟือย แตถ่ ้าทำ� ให้มีความสุข ถา้ ท�ำได้กส็ มควรทีจ่ ะท�ำ สมควรท่ีจะปฏบิ ตั ิ...” “Self-sufficiency (พึ่งพาตนเอง) นั่นหมายความว่า ผลิตอะไร มีพอที่จะใชไ้ ม่ต้องไปขอซ้ือคนอืน่ อยู่ได้ด้วยตนเอง...” “...แต่พอเพียงน้ี มคี วามหมายกวา้ งขวางยิ่งกว่านี้อีก คือค�ำวา่ พอก็พอเพยี ง เพยี งนีก้ ็พอ ดงั นนั้ เอง คนเราถ้าพอในความต้องการกม็ คี วามโลภนอ้ ย เม่ือมคี วามโลภนอ้ ย กเ็ บยี ดเบยี นคนอ่ืนนอ้ ย ถ้าทุกประเทศมีความคิด-อันนีไ้ ม่ใชเ่ ศรษฐกิจ มคี วามคดิ วา่ ทำ� อะไรตอ้ งพอเพยี ง หมายความว่าพอประมาณ ไมส่ ุดโตง่ ไมโ่ ลภอย่างมาก คนเราก็อย่เู ป็นสุข...” ทม่ี า : http://km.rdpb.go.th/Knowledge/View/73 ปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพียง ท่มี า http://www.cdd.go.th/ 74 แหนลักวสกูตารรนจคดั รกศารรธี เรรรยี มนรารชู้ ศกึ ษา

ตวั อย่างชมุ ชนเศรษฐกิจพอเพียงในนครศรธี รรมราช ไร่จันทรังษี เป็นไร่ต้นจากที่เปิดเป็นแหล่งเรียนรู้เร่ืองราวของต้นจาก อีกท้ังยังจ�ำหน่ายผลิตภัณฑ์ นำ้� ตาลจากเพิม่ เติมด้วย ขอ้ มูลเพม่ิ เตมิ ของไร่จนั ทรงั ษี คีรีวง หมู่บ้านที่ถูกขนานนามว่า เป็นหมู่บ้านท่ีอากาศดีท่ีสุดในประเทศไทย ตั้งอยู่ที่ อ.ลานสกา จ.นครศรีธรรมราช หมู่บ้านแห่งน้ีอยู่ในใจกลางหุบเขา แวดล้อมไปด้วยธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์ คนในหมู่บ้าน อย่อู าศัยกนั อย่างพอมพี อกิน (นจุ รี แรกรุน่ , 2560) ขอ้ มลู เพม่ิ เติมของครี วี ง ศูนย์ศิลปาชีพบ้านเนินธัมมัง ด�ำเนินการส่งเสริมให้ราษฎรได้มีอาชีพเสริมท�ำจะได้มีรายได้ มาเลี้ยงดูครอบครัวเพิ่มข้ึนอีกทางหนึ่ง นอกเหนือจากรายได้หลักท่ีประกอบอาชีพอยู่เป็นรายได้ท่ีค่อนข้างจะน้อย ปัจจุบันมีสมาชิกศิลปาชีพ 173 คน ท�ำงานศิลปาชีพที่เป็นอาชีพเสริมประเภทปักผ้า ทอผ้า สานเส่ือกระจูด สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิต์ิ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ได้เสด็จเข้าทรงงานในศาลาศิลปาชีพ บ้านเนินธัมมัง ทอดพระเนตรผลงานศิลปาชีพของสมาชิก ทรงรับซื้อผลิตภัณฑ์ของสมาชิกไว้เพ่ือให้มูลนิธิส่งเสริม ศลิ ปาชพี ในสมเดจ็ พระนางเจา้ สริ กิ ติ ์ิ พระบรมราชนิ นี าถ พระบรมราชชนนพี นั ปหี ลวง นำ� ไปจำ� หนา่ ยตอ่ ทรงรบั สมคั ร ราษฎรที่สมคั รใจเขา้ เปน็ สมาชิกศลิ ปาชพี เพื่อส่งเสริม ให้มอี าชพี เสรมิ จะไดม้ ีรายได้มาเลีย้ งดูครอบครัวเพมิ่ ขึ้น ขอ้ มลู เพ่มิ เตมิ ศูนย์ศิลปาชีพบ้านเนินธมั มงั หลกั สูตแรนนวคกราศรรจีธัดรรกมารราเชรศยี ึกนษราู้ 75

เศรษฐกจิ กบั ชมุ ชนในนครศรีธรรมราช 1. ภาวะเศรษฐกิจของจงั หวัดนครศรธี รรมราช ในปี 2560 ประชากรของจงั หวดั 1,557,482 คน ประกอบอาชีพหลัก คือ การเกษตรกรรม ผลติ ภัณฑ์ มวลรวมของจงั หวดั (GPP) ปี 2559 (คาดการณจ์ ากส�ำนักงานคณะกรรมการเศรษฐกจิ และสังคมแหง่ ชาต)ิ มีมูลคา่ 150,515 ล้านบาท คดิ เปน็ อันดับท่ี 37 ของประเทศ และอนั ดับท่ี 10 ของภาคใต้เพิ่มขน้ึ เม่ือเปรียบเทียบกับปี 2558 รอ้ ยละ6.93 รายไดเ้ ฉล่ยี ตอ่ คน 98,627 บาท เพ่ิมข้ึนรอ้ ยละ 6.07 ผลติ ภณั ฑ์มวลรวมของจังหวัด แบ่งได้เปน็ สดั ส่วน ตามสาขาตา่ ง ๆ คอื สาขาเกษตรกรรม รอ้ ยละ 25.78 สาขาอตุ สาหกรรม รอ้ ยละ 12.08 การคา้ ปลีกคา้ ส่ง รอ้ ยละ 11.42 สาขาศึกษา ร้อยละ 9.76 สาขาไฟฟ้า กา๊ ซ และระบบปรบั อากาศ ร้อยละ 6.98 ผลติ ภณั ฑม์ วลรวมของนครศรธี รรมราช ไฟฟา้ ก๊าซ เกษตรกรรม 11% 39% การศกึ ษา 15% การค้า1ป7ล%ีกค้าสง่ อุตสาหกรรม 18% ผลิตภัณฑ์มวลรวมของนครศรธี รรมราช ทมี่ า : www.cgd.go.th/cs/nrt/nrt/CFO.html ในช่วงท่เี กิดภาวะเงนิ เฟ้อ ในปี 2560 เมอ่ื เทยี บกบั ระยะเดียวกนั ของปี 2559 สูงขึน้ ร้อยละ 0.7 โดย เปน็ ผลจากการเพ่ิมข้ึนของดชั นีราคาหมวดอ่นื ๆ ไมใ่ ช่อาหารและเคร่อื งดมื่ รอ้ ยละ 1.4 ตามการเพ่ิมขนึ้ ของหมวด พาหนะ การขนส่ง และการสอื่ สาร รอ้ ยละ 2.3 และหมวดยาสบู และเครอ่ื งดม่ื มแี อลกอฮอล์ รอ้ ยละ 3.9 และดชั นี ราคาผบู้ รโิ ภคพื้นฐาน ร้อยละ 0.6 จากการเพิ่มขึ้น ของพลังงาน ศึกษาเพ่มิ เตมิ ผเู้ รยี นสามารถเขา้ ศกึ ษาขอ้ มลู เพม่ิ เตมิ เกย่ี วกบั ผลติ ภณั ฑม์ วลรวมของจงั หวดั นครศรธี รรมราช โดยการสแกน QR Code เพ่อื เข้าถึงข้อมลู ลา่ สดุ 76 แหนลักวสกูตารรนจคดั รกศารรธี เรรรยี มนรารชู้ ศกึ ษา

1.1 ด้านการเกษตร ผลผลิตสนิ คา้ เกษตรทส่ี �ำคญั ได้แก่ ยางพารา ปาลม์ น�้ำมัน ขา้ ว มงั คุด ทเุ รยี น เงาะ ผลผลติ สินค้า เกษตร ท่สี �ำคญั มรี าคาปรับตวั เพิม่ ข้นึ ได้แก่ ยางพารา ปาล์มน้�ำมัน ข้าว ทุเรยี น และเงาะ เพมิ่ ขน้ึ รอ้ ยละ 22.41, 25.27, 14.88, 28.54 และ 1.21 ตามล�ำดบั สว่ นมงั คุดมรี าคาปรบั ตัวลดลง รอ้ ยละ 24.93 การทร่ี าคาผลผลิตปรับ ตวั เพ่ิมข้ึนจากการทผี่ ลผลติ ออกส่ตู ลาดลดลง ซึ่งเกดิ จากผลกระทบจากสภาพอากาศ รวมทง้ั สนิ คา้ โภคภัณฑ์ท่ีปรับ ราคาสงู ขึน้ อย่างตอ่ เน่อื ง ประกอบกับความต้องการ ของตลาดต่างประเทศเพมิ่ มากข้นึ จากภาวะเศรษฐกจิ โลกท่ีเรมิ่ ฟน้ื ตัว อยา่ งไรกต็ ามในช่วงครึง่ ปหี ลังราคาสนิ คา้ เกษตรปรับตัวลดลง ยางพารา (Rubber Tree) ขา้ ว (Rice) ทเุ รยี น (Durian) เงาะ (Rambutan) ปาล์มน�้ำมนั (Oil Palm) มังคดุ (Mangosteen) การตลาดเกษตร หลักสตู แรนนวคกราศรรจีธัดรรกมารราเชรศยี กึ นษราู้ 77 ท่ีมา: จาก thaikasetsart.com

ศึกษาเพิ่มเติม ขา้ ว ทเุ รียน ยางพารา เงาะ ปาลม์ น้ำ� มนั มงั คดุ สถติ กิ ารปลกู พชื ส�ำคญั ปกี ารเพาะปลูก 2560/2561 จงั หวดั นครศรธี รรมราช อันดบั ชนิด จ�ำนวนครวั เนอื้ ที่ (ไร่) ผลผลติ (กโิ ลกรัม) เรอื นเกษตรกร ปลกู เก็บเก่ียว รวม ตอ่ เนื้อที่เกบ็ เกย่ี ว 1 ยางพารา 106,376 1,825,706 1,578,719 399,088,000 253 2 ปาล์มน�ำ้ มัน 28,195 434,750 324,625 837,361,000 2,579 3 ข้าวนาปี 15,509 220,920 187,584 87,944,000 469 4 มงั คดุ 16,510 92,923 81,097 24,897,000 307 5 ทเุ รียน 7,344 49,283 38,390 23,648,000 616 6 ลองกอง 3,666 26,540 25,341 2,179,000 86 7 เงาะ 2,606 32,746 32,440 10,705,000 330 ท่มี า : สำ� นกั งานสถิตจิ งั หวดั นครศรีธรรมราช ศกึ ษาเพ่ิมเติม ผู้เรียนสามารถเข้าศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมเก่ียวกับสถิติการปลูกพืชส�ำคัญได้จากเว็บไซต์ของ ส�ำนกั งานสถติ ิจังหวัดนครศรีธรรมราช โดยการสแกน QR Code เพ่อื เข้าถึงข้อมูลลา่ สุด 78 แหนลกัวสกูตารรนจคดั รกศารรีธเรรรยี มนรารชู้ ศกึ ษา

1.2 ด้านอุตสาหกรรม การผลิตในด้านอุตสาหกรรมในปี 2561 มีโรงงานอุตสาหกรรมจ�ำนวน 1,951 แห่ง เงินทนุ 59,586.09 ลา้ นบาท มีการจา้ งงาน 24,392 คน โดยแยกออกเป็นโรงงานจำ� พวกที่ 1 จ�ำนวน 637 โรงงาน โรงงานจ�ำพวกท่ี 2 จ�ำนวน 128 โรงงาน โรงงานจ�ำพวกที่ 3 จ�ำนวน 1,186 โรงงาน โดยมีอุตสาหกรรมท่ีส�ำคัญ ณ สงิ หาคม 2561 ดงั น้ี 1.2.1 อตุ สาหกรรมยางพาราและผลิตภณั ฑ์ จ�ำนวน 165 โรง 1) อุตสาหกรรมยางแผ่นรมควัน จ�ำนวน 154 โรงงาน ก�ำลังการผลิต รวมประมาณ 470,000 ตันตอ่ ปี แยกเป็น โรงงานขนาดกลางและขนาดใหญ่ จ�ำนวน 25 โรงงาน และเป็นโรงงานสหกรณ์ชมุ ชน จำ� นวน 57 โรงงาน 2) อุตสาหกรรมน�้ำยางข้น จ�ำนวน 5 โรงงาน ก�ำลังการผลิตจ�ำนวน 70,000 ตันต่อปี ตลาดตา่ งประเทศท่สี ำ� คญั ไดแ้ ก่ จีน และมาเลเซยี 1.2.2 อตุ สาหกรรมแปรรปู ไมย้ างพารา มจี ำ� นวน 91 โรงงาน กำ� ลงั การผลติ 1,100,000 ลกู บาศก์ เมตรตอ่ ปี ตลาดต่างประเทศที่ส�ำคญั คอื จนี 1.2.3 อุตสาหกรรมสกดั น้ำ� มนั ปาลม์ ดบิ มีจำ� นวน 8 โรงงาน กำ� ลังการผลติ 1,830 ตันต่อวนั 1.2.4 อุตสาหกรรมปูนซิเมนต์ เป็นโรงงานขนาดใหญ่ มีจ�ำนวน 1 โรงงาน ก�ำลังการผลิต 1,394,587 เมตริกตันต่อปี ผลิตและจ�ำหนา่ ยปนู ซิเมนต์ในพนื้ ที่ภาคใต้ 1.2.5 อุตสาหกรรมผลิต สง่ จำ� หน่ายพลงั งานไฟฟ้า 1) โรงไฟฟ้าขนอม มีก�ำลงั การผลติ 824 เมกกะวัตต์ 2) โรงไฟฟา้ จาก Bio Gas/ Bio Mass จ�ำนวน 6 โรง กำ� ลงั การผลิต 90.45 เมกกะวัตต์ 1.2.6 โรงแยกกา๊ ซธรรมชาติ กำ� ลงั การผลติ SALES 71,610 ลา้ นลกู บาศกฟ์ ตุ ตอ่ วนั LPG 166,980 ตันตอ่ ปี และกา๊ ซโซลีนธรรมชาติ 30,927 ตนั ตอ่ ปี 1.2.7 อตุ สาหกรรมแปรรปู อาหารทะเล มโี รงงานปลา จำ� นวน 13 โรง ปจั จบุ นั ไดห้ ยดุ การประกอบ กจิ การชั่วคราวหลายโรงงาน เนอื่ งจากปริมาณสตั วน์ ำ้� ทะเลในอา่ วไทยมนี อ้ ยประกอบกบั มาตรการ IUU ให้ปริมาณ สตั วน์ ้ำ� ในทะเลซึง่ เป็นวตั ถดุ บิ มีนอ้ ย ทำ� ให้เรือประมงหยุดกิจการ 1.3 ดา้ นการก่อสรา้ ง ด้านการกอ่ สรา้ ง มีการขยายตัวเพิ่มขึ้นรอ้ ยละ 1.42 จากการอนญุ าตให้กอ่ สร้างบา้ นทอี่ ยอู่ าศัย เพิ่มขึน้ ขณะทก่ี ารกระตุ้นจากภาครัฐชะลอตวั ลงแต่ยังมงี บลงทนุ โดยเปน็ การกระตนุ้ การลงทนุ ในโครงการระบบ สาธารณูปโภค 1.4 ดา้ นการค้าการลงทนุ การค้าการลงทุนโดยรวมมีการขยายตัวลดลงจากปีก่อน จากการจดทะเบียนนิติบุคคลจัดต้ังใหม่ เม่อื เทียบกบั ปีทีผ่ า่ นมาลดลงรอ้ ยละ 10.77 โครงการทไี่ ดร้ บั อนุมตั ิการส่งเสรมิ การลงทุนในจังหวดั นครศรธี รรมราช มเี พียง 2 โครงการ สว่ นการจดทะเบยี นรถยนต์บรรทุกสว่ นบคุ คลเพ่มิ ขึ้นร้อยละ 59.28 หลักสตู แรนนวคกราศรรจธี ดัรรกมารราเชรศียึกนษราู้ 79

1.5 ด้านการบรกิ าร ด้านบริการขยายตัวเพ่ิมข้ึนจากปีท่ีผ่านมา เป็นผลจากนักท่องเท่ียวทั้งชาวไทยและต่างชาติ เดินทางเข้ามาเท่ยี วในจงั หวัดมากข้ึน จากสถานการณ์ภาวะเศรษฐกจิ โลกเร่ิมฟน้ื ตวั รวมท้ังความร่วมมือ ของภาครัฐ และเอกชนท่ีมีการกระตุ้นการท่องเที่ยว นักท่องเที่ยวที่เพ่ิมขึ้นส่วนใหญ่เป็นชาวเอเชียโดยเฉพาะชาวจีนท่ีสะท้อน จากการเข้าพักในโรงแรมเพิ่มข้นึ การรวมกลมุ่ ทางเศรษฐกิจของนครศรีธรรมราช สถาบันและการรวมกลุ่มทางธรุ กจิ 1. หอการค้าจังหวัดนครศรีธรรมราช มีสถานท่ีต้ังอยู่เลขที่ 129/560 หมู่บ้านเมืองทอง หมู่ที่ 2 ถนนวนั ดโี ฆษติ กลุ พร ตำ� บลปากนคร อำ� เภอเมอื ง จงั หวดั นครศรธี รรมราช 80000 โดยมวี ตั ถปุ ระสงคข์ องการจดั ต้งั ดังน้ี 1.1 สง่ เสริมการค้า การบริการ การประกอบวชิ าชพี อิสระ อตุ สาหกรรม เกษตรกรรม การเงิน หรือ เศรษฐกจิ ทวั่ ไป เชน่ รวบรวมสถติ ิ เผยแพรข่ า่ วสารการคา้ วจิ ยั เกย่ี วกบั การคา้ และการเศรษฐกจิ สง่ เสรมิ การทอ่ งเทยี่ ว การออกใบรับรองแหล่งกำ� เนดิ สินค้า การวางมาตรฐานแหง่ คุณภาพของสินคา้ การตรวจสอบมาตรฐานสินค้า จดั ต้ัง และดำ� เนนิ การเกย่ี วกบั การคา้ และเศรษฐกจิ พพิ ธิ ภณั ฑส์ นิ คา้ การจดั งานแสดงสนิ คา้ การเปน็ อนญุ าโตตลุ าการชข้ี าด ข้อพิพาททางการค้า 1.2 รับปรึกษาและให้ข้อแนะน�ำแก่สมาชิกเกี่ยวกับการค้า การบริการ การประกอบอาชีพอิสระ อุตสาหกรรม เกษตรกรรม การเงินหรือเศรษฐกิจ และอ�ำนวยความสะดวกตา่ ง ๆ ให้แกส่ มาชกิ 1.3 ให้ค�ำปรกึ ษาและเสนอข้อแนะน�ำแกภ่ าครฐั เพ่อื พัฒนาเศรษฐกิจของจังหวัดนครศรธี รรมราช 1.4 ประสานงานระหว่างผปู้ ระกอบการกบั ราชการ 1.5 ปฏบิ ตั ิกิจการอื่น ๆ ตามแต่จะมกี ฎหมายระบุ ให้เป็นหนา้ ทขี่ องหอการคา้ หรอื ตามทที่ างราชการ มอบหมาย ตราสญั ลักษณ์หอการคา้ จังหวัดนครศรธี รรมราช ทมี่ า : http://www.thaifranchisecenter.com/links/show.php?id=243 80 แหนลักวสกูตารรนจคดั รกศารรธี เรรรยี มนรารชู้ ศึกษา

2. สภาอุตสาหกรรมจังหวัดนครศรีธรรมราช สถานที่ตั้ง 87 หมู่ 9 ต�ำบลนาเคียน อ�ำเภอเมือง นครศรีธรรมราช เป็นองค์กรไม่แสวงหากำ� ไร ตามพระราชบัญญัติสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย พ.ศ. 2530 โดยมวี ัตถปุ ระสงคข์ องการจดั ตงั้ ดังน้ี 2.1 เป็นตวั แทนของผปู้ ระกอบการอตุ สาหกรรมภาคเอกชน ในการประสานนโยบาย และดำ� เนินการ กบั รัฐ 2.2 สง่ เสรมิ และพฒั นาการประกอบอตุ สาหกรรม 2.3 ศึกษาและหาทางแกไ้ ขปญั หาเกีย่ วกบั การประกอบอตุ สาหกรรม 2.4 ส่งเสริม สนบั สนนุ การศกึ ษา วจิ ยั อบรม เผยแพร่วชิ าการและเทคโนโลยีเกี่ยวกับอตุ สาหกรรม 2.5 ตรวจสอบสินคา้ ออกใบรบั รองแหล่งกำ� เนดิ หรอื ใบรบั รองคณุ ภาพสนิ ค้า 2.6 ให้ค�ำปรกึ ษาและเสนอแนะแก่รัฐบาล เพื่อพฒั นาเศรษฐกจิ ดา้ นอุตสาหกรรม 2.7 สง่ เสรมิ นกั อตุ สาหกรรมและเปน็ แหลง่ กลางสำ� หรบั นกั อตุ สาหกรรม แลกเปลยี่ นความคดิ เหน็ เพอ่ื ประโยชน์ต่อวงการอุตสาหกรรม 2.8 ควบคมุ ดูแลใหส้ มาชกิ ปฏิบตั ิตามกฎหมายเก่ยี วกับการประกอบการอุตสาหกรรม 2.9 ปฏบิ ตั ิกจิ กรรมอ่ืน ๆ ตามทีก่ ฎหมายก�ำหนด ตราสญั ลักษณ์สภาอตุ สาหกรรมจังหวัดนครศรธี รรมราช ท่มี า : de-de.facebook.com แนวโนม้ เศรษฐกิจของนครศรธี รรมราช แนวโนม้ เศรษฐกิจ คา่ นยิ มและพฤตกิ รรมการบรโิ ภค ท่สี ง่ ผลตอ่ เศรษฐกจิ ของนครศรธี รรมราช ความหมายของการบรโิ ภค หมายถงึ การใชป้ ระโยชนจ์ ากสนิ คา้ และบรกิ าร เพอื่ สนองความตอ้ งการของผู้บริโภค มีความหมายรวมทัง้ การกนิ และการใช้สนิ ค้าหรือบริการ พฤตกิ รรมการบรโิ ภค หมายถงึ พฤตกิ รรมของผบู้ รโิ ภคในการตดั สนิ ใจ และแสดงออก ในการเลอื กซอื้ สนิ คา้ และบรกิ ารตา่ ง ๆ มาบรโิ ภคเพือ่ ให้ได้รบั ความพอใจสงู สุด การบรโิ ภคทม่ี ปี ระสทิ ธภิ าพ หมายถงึ การใชป้ ระโยชนจ์ ากสนิ คา้ และบรกิ าร โดยคำ� นงึ ถงึ หลกั การบรโิ ภคทด่ี ี ไดแ้ ก่ ความจ�ำเป็น ประโยชน์ทไ่ี ด้รับความปลอดภยั และความประหยัด ใช้สนิ คา้ และบรกิ ารอย่างคุ้มค่ามากท่ีสดุ หลักสูตแรนนวคกราศรรจธี ัดรรกมารราเชรศยี ึกนษราู้ 81

ความสำ� คญั ของการบริโภค การบริโภค เปน็ กิจกรรมทางเศรษฐกจิ ทมี่ คี วามสำ� คญั เน่ืองจากมนษุ ยท์ ุกคนตอ้ งบรโิ ภค เพื่อการดำ� รงชวี ติ และการบริโภคยังเป็นสิ่งกระตุ้นให้เกิดการลงทุน การจ้างงาน ท�ำให้มีรายได้ทั้งผู้ผลิตและเจ้าของปัจจัยการผลิต มสี นิ คา้ และบรกิ ารเพ่ิมขน้ึ ท�ำให้เศรษฐกจิ ขยายตวั ข้ึน หลักการบรโิ ภคทดี่ ี (เพญ็ ศริ ิ จารจุ ินดา, มปป). ผ้บู ริโภคควรคำ� นงึ ถงึ หลักการบรโิ ภคทดี่ ี ดงั น้ี คือ 1. ความจำ� เปน็ หมายถงึ สง่ิ ทจี่ ำ� เปน็ ตอ้ งบรโิ ภค มฉิ ะนน้ั จะทำ� ใหเ้ กดิ อนั ตรายตอ่ ตนเองหรอื ครอบครวั ส่วนใหญ่สิ่งทจ่ี �ำเป็นในการครองชพี คือ ปจั จัยสี่ ได้แก่ อาหาร ท่ีอยู่อาศยั เครอ่ื งนงุ่ ห่ม ยารกั ษาโรค 2. ความมีประโยชน์ หมายถึง บริโภคในสิ่งที่เป็นประโยชน์ต่อตนเองและครอบครัว โดยไม่ท�ำให้ ผ้อู ่ืนหรือสงั คมเดือดร้อน 3. ความปลอดภัย หมายถึง เมื่อบริโภคสินค้าหรือบริการน้ันแล้วไม่เกิดอันตรายต่อตนเอง และส่ิงแวดล้อม โดยการอ่านฉลากสินค้า พิจารณาส่วนประกอบ วนั ผลิตและวันหมดอายุ หรือการรับรองคณุ ภาพ สนิ ค้าจากหน่วยงานท่ถี กู ต้องตามกฎหมายและนา่ เชอ่ื ถอื 4. ความประหยัด หมายถึง ประมาณการบริโภค ไม่มากหรือน้อยเกินไป โดยค�ำนึงถึงคุณภาพ ราคาทเ่ี หมาะสม ใชจ้ า่ ยตามปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพยี ง พอประมาณ มเี หตผุ ล ไมเ่ ลยี นแบบการบรโิ ภค ไมฟ่ มุ่ เฟอื ย ทำ� ให้ใช้ประโยชนจ์ ากสินคา้ และบรกิ ารอยา่ งคุ้มคา่ ปัจจัยท่ีมอี ทิ ธพิ ลต่อพฤตกิ รรมการบรโิ ภค การตดั สนิ ใจเลอื กซอื้ สนิ คา้ และบรกิ ารตา่ ง ๆ มาบรโิ ภค ขนึ้ อยกู่ บั ปจั จยั ทม่ี อี ทิ ธพิ ลตอ่ พฤตกิ รรม การบรโิ ภค ดงั นี้ 1. รายได้ของผู้บริโภค การบริโภคจะมากหรือน้อยขึ้นอยู่กับรายได้ของผู้บริโภค กล่าวคือ ถ้ามีรายได้ มากข้นึ กจ็ ะเพิ่มการบรโิ ภค แต่ถา้ รายได้ลดลงก็จะลดการบริโภคลง 2. ราคาของสินค้าและบริการ ปริมาณการบริโภคขึ้นอยู่กับราคาสินค้าหรือบริการชนิดนั้น กล่าวคือ ถ้าราคาสนิ คา้ เพ่มิ สูงขึ้นปรมิ าณการบริโภคจะลดลง แต่ถา้ ราคาสนิ ค้าลดลงปรมิ าณการบริโภคจะเพิ่มขน้ึ 3. รสนิยมหรือค่านิยมในการบริโภค ซ่ึงมีผลต่อพฤติกรรมการบริโภค และแตกต่างกัน ตามบุคคล อายุ เพศ ระดบั การศึกษา รายได้ อาชีพ สังคมและสภาพแวดล้อม เป็นตน้ 4. ฤดกู าล ปรมิ าณการบรโิ ภคสนิ คา้ บางชนดิ แตกตา่ งกนั ไปตามฤดกู าล เชน่ ความตอ้ งการใชเ้ สอ้ื กนั หนาว จะมากขึ้นในฤดหู นาว ส่วนในฤดูร้อนปริมาณการบรโิ ภคน้�ำแขง็ จะเพมิ่ ขนึ้ เปน็ ต้น 5. การคาดคะเนเกี่ยวกับราคา เป็นการคาดการณ์ถึงการเปล่ียนแปลงราคาสินค้าในอนาคต ซึ่งส่งผล ตอ่ ปรมิ าณการบรโิ ภค เชน่ ถา้ คาดการณว์ า่ ราคานำ้� มนั จะเพมิ่ ขนึ้ ผบู้ รโิ ภคกจ็ ะเตมิ นำ�้ มนั ไวก้ อ่ น ทร่ี าคานำ�้ มนั จะปรบั ตัวสูงขึน้ เป็นตน้ 6. เทคนิคการขาย การให้สินเชื่อท�ำให้ผู้บริโภคมีอ�ำนาจซื้อสินค้าและบริการมาสนองความต้องการได้ มากขึน้ 7. การโฆษณา เปน็ แรงจงู ใจให้ผบู้ ริโภคมีความตอ้ งการบริโภคสินคา้ หรือบรกิ ารชนิดนนั้ เพมิ่ ขึ้น 82 แหนลักวสกตูารรนจคดั รกศารรีธเรรรยี มนรารชู้ ศึกษา

คา่ นิยมกับพฤตกิ รรมการบรโิ ภคทส่ี ่งผลตอ่ เศรษฐกิจของชุมชนและประเทศ ค่านิยม หมายถึง ความรู้สึกสนใจ พอใจ ของมนุษย์ เป็นแนวทางที่มนุษย์ยึดถือเพ่ือประพฤติปฏิบัติ มีการยอมรับอย่างแพรห่ ลายจากสมาชกิ ของสังคม บคุ คลในสงั คมจะถกู กระตนุ้ ใหม้ สี ว่ นรว่ มใหแ้ สดงพฤตกิ รรมเพอ่ื ใหบ้ รรลคุ า่ นยิ ม ซง่ึ แตล่ ะสงั คมจะมลี กั ษณะ ของค่านิยมและพฤติกรรมในการบริโภคแตกต่างกันไป 1. คา่ นิยมความร�ำ่ รวย และนิยมใชส้ นิ ค้าจากต่างประเทศ - พฤติกรรมการบริโภค บุคคลท่ีมีค่านิยมนี้ จะซ้ือหรือใช้สินค้าท่ีมีราคาสูง โดยเฉพาะสินค้าที่ มชี ื่อเสียงและมรี าคาแพงจากต่างประเทศ นบั ถอื คนที่ร�่ำรวยหรือคนในสังคมชั้นสูง - ผลทม่ี ตี อ่ เศรษฐกจิ ทำ� ใหเ้ ปน็ คนฟมุ่ เฟอื ย นำ� ไปสปู่ ญั หาหนสี้ นิ และการพงึ่ พาสนิ คา้ จากตา่ งประเทศ มากเกนิ ไปโดยไมจ่ �ำเปน็ ทำ� ใหข้ าดดลุ การคา้ ควรปรับเปล่ยี นค่านยิ มโดยการปลกู ฝงั เรอ่ื ง ความประหยดั 2. ค่านิยมรักษาสขุ ภาพ - พฤตกิ รรมการบรโิ ภค บคุ คลท่ีมีค่านยิ มน้ี จะคำ� นงึ ถงึ สขุ ภาพเป็นหลัก เลือกรับประทานอาหารทีม่ ี ประโยชน์ต่อร่างกายออกก�ำลังกายอย่างสม�่ำเสมอ รักษาความสะอาด พักผ่อนอย่างเพียงพอ ไปพบแพทย์ เปน็ ประจ�ำ เพอ่ื ทำ� ใหส้ ุขภาพแข็งแรง ตอ้ งการมีชวี ติ ที่ยนื ยาว รวมทัง้ ดูแลสุขภาพ คนในครอบครวั ดว้ ย - ผลที่มีต่อเศรษฐกิจ ไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาลทั้งของตนเองและของรัฐบาล มีชีวติ และความเปน็ อย่ทู ่ดี ีเปน็ กำ� ลังสำ� คญั ในการพฒั นาเศรษฐกิจของชุมชนและประเทศ 3. คา่ นยิ มการบริโภคนยิ ม - พฤตกิ รรมการบรโิ ภค บคุ คลทมี่ คี า่ นยิ มนี้ จะฟมุ่ เฟอื ย บรโิ ภคตามกระแสนยิ มบรโิ ภค โดยไมไ่ ดค้ ำ� นงึ ถึงเรอื่ งใด ๆ ไมว่ ่าจะราคา สขุ ภาพ รายได้ หรอื ความจำ� เป็นนอกจากความพึงพอใจของตน - ผลท่ีมีต่อเศรษฐกิจท�ำให้ต้องพยายาม ดิ้นรน หาสิ่งที่ตนต้องการ ไม่มีวินัยทางการเงิน เสียเงิน โดยไมจ่ ำ� เปน็ ใชส้ นิ คา้ และบรกิ ารสน้ิ เปลอื งและไมค่ มุ้ คา่ ทำ� ใหม้ ปี ญั หาหนสี้ นิ นำ� ไปสปู่ ญั หาทางเศรษฐกจิ อนื่ ๆ และ ปญั หาสงั คมอน่ื ๆ ตามมา 4. คา่ นยิ มรักความสนกุ - พฤติกรรมการบริโภคบุคคลที่มีค่านิยมน้ี เป็นคนที่ชอบความสนุกสนาน รื่นเริง ชอบสังสรรค์กับ เพ่ือน ๆ ญาตพิ น่ี อ้ งในทุกโอกาส ทกุ เทศกาล - ผลท่ีมีต่อเศรษฐกิจ ท�ำให้เกิดปัญหาหน้ีสิน อาจเป็นอันตรายต่อชีวิตหรือทรัพย์สินท่ีเกิดจาก การทะเลาะวิวาท แต่ก็ท�ำให้มีการกระจายรายได้ไปยังสถานที่ท่องเท่ียวต่าง ๆ ภายในประเทศ เป็นการสร้างงาน สรา้ งรายไดไ้ ปให้สถานท่ที อ่ งเทย่ี วต่าง ๆ เปน็ การกระตุ้นเศรษฐกจิ ของชุมชน และประเทศให้ดขี ้ึน 5. คา่ นิยมการด�ำรงชีวติ เรียบงา่ ยและประหยัด - พฤติกรรมการบริโภค บุคคลท่ีมีค่านิยมน้ีจะเป็นคนเรียบง่าย ใช้จ่ายในส่ิงท่ีจ�ำเป็น พิจารณา อยา่ งรอบคอบกอ่ นตดั สนิ ใจซอื้ วา่ จะคมุ้ คา่ หรอื ไม่ สามารถออมเงนิ ไดด้ ี ไมน่ ยิ มกอ่ หนสี้ นิ ใหก้ บั ตนเอง หรอื ครอบครวั - ผลท่ีมีต่อเศรษฐกิจ ค่านิยมน้ีเป็นค่านิยมที่ดี เพราะเป็นผู้ที่ด�ำรงชีวิตอย่างมีความสุข อยู่อย่างพอ เพียงตามฐานะ ไมส่ ร้างปัญหาให้กับตนเอง ครอบครัว และสงั คม และเงินออมยังเป็นผลดีต่อการลงทนุ ในชมุ ชนและ ประเทศนอกจากนย้ี ังมคี า่ นยิ มอื่น ๆ ท่ีมีผลต่อพฤติกรรมการบรโิ ภคของคนไทย ท้ังทีเ่ ปน็ คา่ นิยมส่วนตวั และคา่ นิยม ของสงั คม ซึง่ สง่ ผลตอ่ เศรษฐกจิ ของตนเอง ชุมชน และประเทศชาติ เชน่ ค่านิยมการทำ� บุญ การเชอื่ โชคลางของขลัง เป็นตน้ หลกั สตู แรนนวคกราศรรจธี ดัรรกมารราเชรศียึกนษราู้ 83

เศรษฐกิจของนครศรีธรรมราช โครงสรา้ งของตลาดและศนู ยก์ ลางแห่งธุรกิจการค้าที่สำ� คญั จังหวัดนครศรีธรรมราช เป็นศูนย์กลางตลาดสินค้าเกษตรของภูมิภาคในภาคใต้ โดยมีศูนย์กลางตลาดผัก ผลไม้ ดังนน้ั โครงสรา้ งทางเศรษฐกจิ จะขึ้นอยกู่ ับการท�ำการเกษตรเป็นสำ� คญั จุดศูนยก์ ลางทส่ี ำ� คญั ของธรุ กจิ ต่าง ๆ จะกระจายอยู่ในอ�ำเภอเมอื ง ทงุ่ สง และปากพนัง ตลาดสินค้าเกษตรกรรม ตลาดกลางผักและผลไม้ ข้าว และพืชไร่ ของจังหวัดนครศรีธรรมราช ในการส่งเสริมของกรมการค้า ภายในกระทรวงพาณิชย์ จ�ำนวน 3 แห่ง 1. ตลาดกลางผกั และผลไมน้ ครศรธี รรมราช (ตลาดรวมพชื ผลหวั อฐิ ) ตง้ั อยทู่ ี่ 11/92 ถ.กะโรม ต.โพธเ์ิ สดจ็ อ.เมอื ง เปน็ ทงั้ ตลาดค้าสง่ และคา้ ปลีก โดยจดั แบ่งเป็นตลาดผัก ตลาดผลไม้ สินคา้ พชื ไร่ อาหารสด และแห้งเกือบ ทกุ ชนดิ ในตลาดแหง่ นส้ี ว่ นใหญเ่ ปน็ ผรู้ บั ซอ้ื และเกษตรกรรายยอ่ ยในจงั หวดั และจงั หวดั ใกลเ้ คยี ง ผรู้ บั ซอื้ จะรวบรวม ผลผลิตชนิดต่าง ๆ น�ำไปขายปลีกในจังหวัด หรือขายส่งต่อในจังหวัดใกล้เคียง และส่งตลาดต่างประเทศ ตลาดนี้ มกี ารซ้ือขายทุกวนั ปรมิ าณซ้อื ขายประมาณ 400 - 500 ตนั /วัน 2. ตลาดกลางเกษตรหวั อฐิ (ตลาดแม่พยอม) ตั้งอยูท่ ่ี 1/8 ม.1 ถ.กะโรม ต.โพธ์ิเสดจ็ อ.เมอื ง เป็นตลาด ประเภทซ้อื ขายผกั และผลไม้ มีปรมิ าณซ้อื ขายประมาณ 95 ตนั /วนั 3. ตลาดกลางข้าวและพืชไร่ ตั้งอยู่ที่ 55/1 ม.7 ถ.หัวไทร-ปากเหมือง ต.หัวไทร อ.หัวไทร เป็นตลาด ประเภทซ้อื ขายขา้ วและพชื ไร่ ตลาดกลางผักผลไม้ของเอกชน ตลาดบวั ตอง ต้งั อยทู่ ี่ ถ.กะโรม ต.โพธ์ิเสดจ็ อ.เมอื ง เปน็ ตลาดทม่ี กี ารซอ้ื ขายผลไม้เป็นส่วนใหญ่ ตลาดกลางยางพาราจงั หวัดนครศรธี รรมราช ตง้ั อยทู่ ่ี 1 ม.2 ถ.จนั ดี - ทงุ่ ใหญ่ ต.จันดี อ.ฉวาง ศกึ ษาเพม่ิ เติม ผเู้ รยี นสามารถเขา้ ศกึ ษาขอ้ มลู เพมิ่ เตมิ เกย่ี วกบั ตลาดการคา้ ทสี่ ำ� คญั ของจงั หวดั นครศรธี รรมราช โดยการสแกน QR Code เพ่ือเข้าถงึ ข้อมลู ลา่ สดุ 84 แหนลกัวสกตูารรนจคัดรกศารรธี เรรรียมนรารชู้ ศึกษา

แหล่งรบั ซื้อสนิ คา้ เกษตรในจงั หวัดนครศรีธรรมราช ช่วงซือ้ ขาย สนิ คา้ แหล่งรับซื้อที่สำ� คญั ยางพารา ตลาดกลางยางพารานครศรีธรรมราช, รา้ นรบั ซอื้ ตลอดทั้งปี ปาลม์ น้ำ� มนั โรงงานสกัดนำ�้ มนั ปาลม์ , ลานเท ตลอดทงั้ ปี ข้าว โรงสี ม.ค. - พ.ค. , ส.ค. - ต.ค. มังคุด ผปู้ ระกอบการรับซ้อื ผลไม้ (ลง้ ), ตลาดรวมพชื ผลหัวอฐิ ก.ค. – พ.ย. ทุเรียน ผปู้ ระกอบการรับซ้ือผลไม้ (ลง้ ), ตลาดรวมพืชผลหวั อฐิ ก.ค. – พ.ย. เงาะ ผปู้ ระกอบการรับซอ้ื ผลไม้ (ลง้ ), ตลาดรวมพืชผลหวั อิฐ ก.ค. – พ.ย. ลองกอง ผู้ประกอบการรับซ้ือผลไม้ (ล้ง), ตลาดรวมพืชผลหวั อิฐ ก.ค. – พ.ย. ที่มา : ส�ำนักงานพาณิชย์จังหวดั นครศรธี รรมราช ตลาดสินค้าอปุ โภคบริโภค ในจงั หวดั นครศรธี รรมราชมตี ลาดในลกั ษณะทเี่ ปน็ ตลาดสนิ คา้ อปุ โภคบรโิ ภคเกดิ ขน้ึ เปน็ จำ� นวนมาก ทั้งขนาด เลก็ และขนาดใหญ่ โดยตลาดดังกลา่ วจะเกิดขนึ้ ตามแหล่งชุมชนโดยเฉพาะตามเขตเมือง หรอื เขตเทศบาล ดงั น้ันจะ เหน็ ไดว้ า่ ศนู ยก์ ลางของตลาดสนิ คา้ อปุ โภค บรโิ ภคทสี่ ำ� คญั ของจงั หวดั จะอยใู่ นบรเิ วณเขตเทศบาลนครนครศรธี รรมราช เทศบาลเมืองทุ่งสง และเทศบาลเมอื งปากพนงั ซ่งึ เขตพน้ื ท่ดี งั กลา่ วเป็นแหล่งชมุ ชนทส่ี ำ� คัญของจังหวดั นอกจากน้ี ยงั มตี ลาดสดซง่ึ เปน็ แหลง่ ซอ้ื ขายอาหารแหง้ และอาหารสดในเขตเทศบาลและตำ� บลทกุ วนั รวมทงั้ ตลาดนดั ทเี่ กดิ ขนึ้ ตามท้องถิ่นต่าง ๆ กระจายอยู่ทุกอ�ำเภอ นอกจากน้ี นครศรีธรรมราชยังมีศูนย์การค้าขนาดใหญ่ ต้ังอยู่ในเขต เทศบาลนคร คอื ศนู ยก์ ารค้าโรบินสนั โอเชย่ี น ศนู ย์การค้าเซน็ ทรลั พลาซา่ นครศรธี รรมราช ศนู ยก์ ารค้าเซน็ ทรลั พลาซา่ นครศรีธรรมราช ทีม่ า : http://www.centralplaza.co.th/nakhonsithammarat/ ศกึ ษาเพิม่ เติม ผู้เรียนสามารถเข้าศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับศูนย์การค้าเซ็นทรัลพลาซ่านครศรีธรรมราช โดยการสแกน QR Code เพอื่ เข้าถึงข้อมูลล่าสุด หลักสูตแรนนวคกราศรรจีธดัรรกมารราเชรศียกึ นษราู้ 85

สรปุ ภาพรวมภาวะเศรษฐกจิ จงั หวดั นครศรธี รรมราช ปี 2559 - 2560 ประเภท ปี 2559 ปี 2560 เปรยี บเทียบปี 2559/60 พื้นท่ี (พันไร)่ 6,214.064 6,214.064 (รอ้ ยละ) ประชากร ณ 31 ธนั วาคม 1,554,432 1,557,482 - ผลิตภัณฑ์จงั หวดั (GPP) 150,515 0.19 การลงทุนภาคเอกชน - - - ทะเบยี นนิติบุคคลทค่ี งอยู่ (ราย) - บรษิ ัทจำ� กัด 4,447 4,890 9.96 - หา้ งห้นุ ส่วนจ�ำกดั 1,691 1,938 14.61 - หา้ งห้นุ ส่วนสามญั 2,747 2,943 7.13 - โรงงานอุตสาหกรรม - โรงงานทคี่ งอยู่ (โรง) 9 9 - - เงนิ ทุน (ลา้ นบาท) 1,870 1,932 3.31 การเงนิ การธนาคาร 56,572.12 58,717.45 3.46 - ธนาคารพาณิชย์ (แหง่ ) 96 99 - เงนิ รับฝากท่ธี นาคารพาณิชย์ (ล้านบาท) 67,082 70,780 - - เงนิ ให้สินเช่อื ธนาคารพาณชิ ย์ (ล้านบาท) 68,035 72,164 3.12 การคลงั (ลา้ นบาท) 3,303.465 3,047.657 5.51 - ภาษีสรรพากร 403.582 349.230 6.07 - ภาษีสรรพสามติ -7.74 -13.47 ทีม่ า : ส�ำนกั งานพาณชิ ยจ์ ังหวัดนครศรีธรรมราช ศกึ ษาเพมิ่ เตมิ ผู้เรียนสามารถเข้าศึกษาข้อมูลภาพรวมเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจของนครศรีธรรมราชได้ที่ เวบ็ ไซต์สำ� นกั งานพาณิชย์จังหวดั นครศรีธรรมราช โดยการสแกน QR Code เพอื่ เข้าถึงขอ้ มลู ลา่ สดุ 86 แหนลกัวสกูตารรนจคัดรกศารรีธเรรรียมนรารชู้ ศกึ ษา

การค้าระหว่างประเทศ จังหวดั นครศรธี รรมราช มดี ่านศลุ กากรท่มี ี การน�ำเข้าและสง่ ออกสนิ ค้า 2 ด่าน คอื ดา่ นศุลกากร นครศรธี รรมราช และดา่ นศลุ กากรสชิ ล ด่านศุลกากรนครศรธี รรมราช ตั้งอยเู่ ลขท่ี 430/6 ม.1 ถ.นครศรฯี -ท่าศาลา ต.ปากพนู อ.เมอื ง จ.นครศรธี รรมราช 80000 เปน็ ดา่ นศลุ กากรทางทะเล มพี นื้ ทใ่ี นความรบั ผดิ ชอบ 21 อำ� เภอ (ยกเวน้ อ.สชิ ล ด่านศลุ กากรนครศรีธรรมราช และอ.ขนอม) รวมทง้ั สนามบนิ ศลุ กากรทา่ อากาศยาน ที่มา : http://nakhonsithammarat.customs.go.th/ นครศรีธรรมราช ปัจจุบันการบริการทางศุลกากรของด่านฯ นครศรีธรรมราช มุ่งเน้นการอ�ำนวยความสะดวก ในการผ่าน พธิ กี ารศลุ กากรสง่ ออกสนิ คา้ ซงึ่ สว่ นใหญเ่ ปน็ แรแ่ ละหนิ แกรนติ โดยสง่ ออกทางทา่ เอกชน ของผปู้ ระกอบการสง่ ออก ซ่ึงอยู่บริเวณ อ.ท่าศาลา ส่วนการให้บริการพิธีการศุลกากรน�ำเข้าส่วนใหญ่เป็นสินค้าน�ำเข้าทางไปรษณีย์จาก ตา่ งประเทศของประชาชนทั่วไปทม่ี าติดตอ่ รบั สินค้าที่ดา่ นฯ นครศรีธรรมราช โดยเปดิ ให้บรกิ าร ในวันเวลาราชการ ต้ังแตว่ ันจันทร์ - ศกุ ร์ เวลา 08.30 - 16.30 น. โทรศัพท์ : 075 - 765 - 314 โทรสาร : 075 – 765 - 345 หรือ โทร. 0 - 2667-6000 (กด 24 - 5703 งานธุรการ) อเี มล์ [email protected] 1. เมอื ง 2. ท่าศาลา 3. นบพติ ำ� 4. พิปนู 5. พรหมคีรี 6. ถ�้ำพรรณรา 7. ฉวาง 8. ชา้ งกลาง 9. ลานสกา 10. พระพรหม 11. ปากพนงั 12. ทงุ่ ใหญ่ 13. นาบอน 14. ทุ่งสง 15. รอ่ นพบิ ลู ย์ 16. เฉลิมพระเกียรติ 17. เชียรใหญ่ 18. บางขนั 19. จุฬาภรณ์ 20. ชะอวด 21. หัวไทร พ้ืนทีร่ ับผดิ ชอบของด่านศลุ กากรนครศรธี รรมราช จำ� นวน 21 อ�ำเภอ หลกั สูตแรนนวคกราศรรจีธดัรรกมารราเชรศยี กึ นษราู้ 87

หน้าที่ความรับผดิ ชอบด่านศลุ กากรนครศรีธรรมราช 1. ด�ำเนินการด้านพิธีการน�ำเข้า - ส่งออก จัดเก็บภาษีอากร และการตรวจปล่อยของทางด่านศุลกากร ให้เป็นไปตามกฎหมายและระเบยี บ ข้อบงั คบั 2. เบิกจา่ ยเงนิ และนำ� ส่งเงินรายได้ทกุ ประเภทสง่ คลังจงั หวดั ตามระเบียบขอ้ บังคบั 3. คนื อากรขาเขา้ หรือ ขาออกทม่ี ที ัณฑ์บนทุกประเภท 4. เกบ็ รักษาสินค้าทนี่ �ำเข้า - ส่งออก รวมตลอดถงึ การเก็บรกั ษาและ จ�ำหน่ายของกลาง และของตกค้าง ใหเ้ ปน็ เปน็ ไปตามระเบียบขอ้ บงั คบั 5. ดำ� เนนิ การเกยี่ วกบั คดี และจ่ายเงนิ สนิ บนรางวลั 6. ทำ� หนา้ ทปี่ อ้ งกนั และปราบปรามการลักลอบหนีศลุ กากรภายในเขตอ�ำนาจของด่านฯ หรือตามทไี่ ด้รับ มอบหมาย จากส�ำนักงานศลุ กากรภาค หรอื กรมศุลกากร 7. ร่วมมอื ประสานงานกับส่วนราชการต่าง ๆ ศกึ ษาเพิ่มเตมิ ผู้เรียนสามารถเข้าศึกษาข้อมูลภาพรวมเก่ียวกับด่านศุลกากรนครศรีธรรมราชได้ท่ีเว็บไซต์ ดา่ นศลุ กากรนครศรีธรรมราช โดยการสแกน QR Code เพ่อื เข้าถงึ ขอ้ มลู ล่าสุด ดา่ นศลุ กากรสชิ ล ตงั้ อยเู่ ลขท่ี 351/5 หมทู่ ่ี 3 ด่านศุลกากรสิชล ถนนศุภโยคพัฒนา ต�ำบลสิชล อ�ำเภอสิชล จังหวัด ทม่ี า : http://sichon.customs.go.th/ นครศรีธรรมราช 80120 โทรศัพท์ : 075-536434 โทรสาร : 075-536433 รับผิดชอบในเขตพ้ืนที่ อ�ำเภอสิชล เนื้อที่ 703.105 ตร.กม. (ระยะห่างจาก ตวั จังหวัด 66 กม.) และอ�ำเภอขนอม เนื้อที่ 433.926 ตร.กม. (ระยะห่างจากตัวจังหวัด 100 กม.) จงั หวดั นครศรธี รรมราช สนิ คา้ ทมี่ าปฏบิ ตั พิ ธิ กี ารทดี่ า่ นศลุ กากรสชิ ล สว่ นใหญเ่ ปน็ สนิ คา้ ขาออก ขนสง่ ทางทะเล มสี นิ คา้ หลกั ในการส่งออก ดังน้ี 1. แร่ธรรมชาติ จ�ำพวก ยิปซ่ัม และโดโลไมต์ มีผู้ประกอบการส่งออกสินค้าดังกล่าว จ�ำนวน 3 ราย โดยจะท�ำการขนถ่ายสินค้าบริเวณท่าเรือน�้ำลึก อ.ขนอม จ.นครศรีธรรมราช ประเทศปลายทาง ญี่ปุ่น อินโดนีเซีย มาเลเซีย ฟิลปิ ปินส์ เวยี ดนาม เกาหลใี ต้ ไต้หวนั 2. ก๊าซธรรมชาตเิ หลว (NGL) มผี ู้ประกอบการส่งออก จ�ำนวน 1 ราย (ปตท.) โดยจะท�ำการขนถ่ายสนิ คา้ บรเิ วณโรงแยกกา๊ ซธรรมชาตขิ นอม อ.ขนอม จ.นครศรธี รรมราช ประเทศปลายทาง สงิ คโ์ ปร์ นอกจากนดี้ า่ นศลุ กากร สิชล ยังมีการปฏิบตั ิพิธีการเกย่ี วกบั เรอื ค้าชายฝั่ง สินค้าในการค้าชายฝงั่ ส่วนใหญเ่ ป็นก๊าซ LPG ซง่ึ ทำ� การขนถ่าย สนิ ค้าบรเิ วณโรงแยกกา๊ ซธรรมชาติขนอม อ.ขนอม จ.นครศรีธรรมราช 88 แหนลักวสกตูารรนจคดั รกศารรีธเรรรียมนรารชู้ ศกึ ษา

หนา้ ที่ความรบั ผดิ ชอบดา่ นศลุ กากรสชิ ล การปฏิบัติงานของเจ้าหน้าท่ีด่านศุลกากรสิชล ส่วนใหญ่เป็นการปฏิบัติงานนอกสถานท่ี เนื่องจากท่าท่ี ท�ำการขนถ่ายสินค้าอยู่ที่ อ.ขนอม ซึ่งด่านฯ ได้จัดส่งเจ้าหน้าท่ีไปท�ำการตรวจเรือ ควบคุมการบรรทุก ขนถ่าย ตรวจชั่ง ตลอดจนการตรวจปล่อยสินค้าเข้า - ออก ควบคุมให้มีการปฏิบัติพิธีการให้ครบถ้วนถูกต้องและป้องกัน ไม่ใหม้ ีการกระทำ� ผิดตามกฎหมายศุลกากร ปัจจุบันกรมศุลกากรมีการเพิ่มประสิทธิภาพในการบริหารงานศุลกากรด้วยระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ โดยการน�ำระบบพิธีการศุลกากรทางอิเล็กทรอนิกส์แบบไร้เอกสาร paperless เน้นบริการ ท่ีสะดวก รวดเร็ว และโปร่งใส ในรูปแบบของ e-customs ซึ่งได้ถูกออกแบบให้มีรูปแบบและข้ันตอน การท�ำงานของโปรแกรมของ แต่ละระบบมาเป็นมาตรฐานเดียวกนั เพอ่ื ใหบ้ ริการแกผ่ ้ปู ระกอบการอย่างครบวงจร ศึกษาเพิม่ เตมิ ผู้เรียนสามารถเข้าศึกษาข้อมูลภาพรวมเก่ียวกับด่านศุลากรสิชลได้ท่ีเว็บไซต์ด่านศุลากรสิชล โดยการสแกน QR Code เพ่อื เข้าถึงข้อมูลลา่ สุด ในปี พ.ศ. 2560 จงั หวดั นครศรีธรรมราชมีมลู ค่าการคา้ รวม 473.035 ล้านบาท ลดลงจาก ปกี ่อน 108.328 ล้านบาท หรือลดลงร้อยละ 18.63 แยกเปน็ มลู คา่ ส่งออก 471.963 ลา้ นบาท ลดลงจาก ปีกอ่ น 108.195 ล้านบาท หรอื ลดลงรอ้ ยละ 18.65 มลู คา่ การนำ� เขา้ 1.072 ลา้ นบาท ลดลงจากปกี อ่ น 0.133 ลา้ นบาท หรอื ลดลงรอ้ ยละ 11.04 สนิ คา้ น�ำเขา้ และสง่ ออกทสี่ ำ� คัญ ได้แก่ สินค้าเบด็ เตล็ด และแรเ่ ฟลดส์ ปาร์ แรเ่ ฟลดส์ ปาร์ (Feldspar) ท่มี า: dmr.go.th ศึกษาเพ่ิมเตมิ ผู้เรียนสามารถเข้าศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับแร่เฟลด์สปาร์ โดยการสแกน QR Code เพื่อเขา้ ถงึ ข้อมูลลา่ สุด หลักสูตแรนนวคกราศรรจธี ดัรรกมารราเชรศยี ึกนษราู้ 89

เศรษฐกิจท่สี �ำคญั ของนครศรธี รรมราช ด้านเกษตรกรรม จังหวดั นครศรธี รรมราช ประชากรส่วนใหญ่ยึดอาชีพทางดา้ นเกษตรกรรมเปน็ หลกั ประมาณ ร้อยละ 80 ของประชาชนทั้งจงั หวดั ซึ่งมีทัง้ การกสกิ รรม การประมง การเลี้ยงสตั ว์ พชื เศรษฐกจิ ทส่ี �ำคญั 1. ยางพารา ภาวการณ์ผลิต จังหวัดนครศรีธรรมราชมีพื้นท่ีปลูกยางพาราเป็นล�ำดับท่ี 3 ของพ้ืนที่ปลูกยางพารา ทง้ั หมด ในภาคใตใ้ นปี 2560 มีพื้นทเ่ี พาะปลูก 1,826,464 ไร่ มีผลผลติ เฉลีย่ 241 กก./ไร่ ผลผลิต รวม 402,127 ตัน ยางพารามีปลูกเกอื บทกุ พน้ื ทีข่ องจังหวดั อ�ำเภอทีป่ ลกู มาก คอื ทุ่งใหญ่ บางขนั ทุง่ สง ฉวาง และ ชะอวด ในแตล่ ะปี ยางพาราจะผลดั ใบในชว่ งเดอื นกมุ ภาพนั ธ์ - เมษายน ในช่วงดังกลา่ วยาง จะออกสตู่ ลาดน้อย เพราะเปน็ ชว่ งผลัดใบ ไม่เหมาะกบั การกรดี ยาง ส่วนในช่วงเดือน พฤษภาคม - มกราคม จะเปน็ ชว่ งท่ีผลผลิตออกสูต่ ลาด เพราะเป็นช่วง ท่ีเหมาะกับการกรีดยาง ส�ำหรับช่วงท่ีปริมาณยางออกสู่ตลาดมาก คือ ช่วงเดือนมิถุนายน - สิงหาคม และ เดือนธนั วาคม - มกราคม ศึกษาเพิ่มเตมิ ผู้เรียนสามารถเข้าศึกษาข้อมูลเพ่ิมเติมเกี่ยวกับส�ำนักงานเกษตรจังหวัดนครศรีธรรมราช โดยการสแกน QR Code เพ่ือเขา้ ถงึ ข้อมลู ล่าสุด ภาวการณ์ตลาด ในปี 2560 ราคาเฉลี่ยยางแผน่ รมควัน ชนั้ 3 กก.ละ 63.27 บาท เทยี บกบั ปี 2559 ซงึ่ มีราคาเฉลย่ี กก.ละ 55.71 บาท เพิ่มข้ึนรอ้ ยละ 13.57 และราคาเฉล่ียยางแผ่นดิบ กก.ละ 58.94 บาท เทยี บกบั ปี 2559 ราคาเฉลี่ย กก.ละ 48.15 บาท เพิ่มขึน้ รอ้ ยละ 22.41 บาท เน่ืองจากผลผลติ เขา้ สตู่ ลาดน้อยเปน็ ผลเนือ่ งจาก การเกิดอุทกภัยในช่วงต้นปี ประกอบกับภาวะเศรษฐกิจโลกเริ่มฟื้นตัว ส่งผลให้ราคาซ้ือขายยางพาราเพ่ิมขึ้นตาม ความตอ้ งการยางพาราของตลาดต่างประเทศท่ีเพิม่ ขึ้น ศึกษาเพ่ิมเติม ผ้เู รยี นสามารถเข้าดูราคายางพาราล่าสดุ จากการยางแห่งประเทศไทย (กยท.) โดยการสแกน QR Code เพอ่ื เขา้ ถึงขอ้ มูลลา่ สดุ 90 แหนลกัวสกตูารรนจคดั รกศารรธี เรรรยี มนรารชู้ ศึกษา


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook