Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore เอกสารประกอบการเรียน นครศรีธรรมราชศึกษา

เอกสารประกอบการเรียน นครศรีธรรมราชศึกษา

Published by dlit_sm037, 2021-11-17 08:37:02

Description: เอกสารประกอบการเรียน นครศรีธรรมราชศึกษา

Search

Read the Text Version

หาดหน้าดา่ น 3) หาดหน้าด่าน คือ หาดที่อยู่บริเวณตอนกลางของอ่าวขนอม ชายหาดเป็นแนวยาว ทรายขาว เมด็ ทรายละเอียด เหมาะแกก่ ารเลน่ นำ�้ ทะเล บรรยากาศสงบเงียบ สะอาด สามารถมองทิวทศั น์ท้องทะเล สีครามสวยงาม มีที่พักและร้านอาหารริมหาดให้บริการแก่นักท่องเท่ียว ท้ังนี้ ในอดีตบริเวณหาดหน้าด่านเคยเป็น ทา่ เรอื สนิ คา้ ชมุ ชนชาวจนี ซง่ึ เปน็ ตน้ ตระกลู ของชาวจนี อำ� เภอขนอมในปจั จบุ นั เคยเปน็ ทต่ี งั้ ตลาดคา้ ขายมานบั รอ้ ยปี เพ่ิงเลิกไปเม่ือ พ.ศ. 2505 ครั้งที่เกิดมหาวาตภัยท่ีแหลมตะลุมพุก ปัจจุบันตลาดได้ย้ายไปอยู่ท่ีตลาดส่ีแยก หา่ งจากหาดขนอมไปประมาณ 1.8 กิโลเมตร นับไดว้ ่าตลาดการค้ามตี น้ กำ� เนดิ ณ ท่ีบรเิ วณหาดหนา้ ด่านแห่งนี้ เขาหินพบั ผ้า 4) เขาหนิ พับผ้า อยู่ในอ�ำเภอขนอม เป็นปรากฏการณ์ทางธรณีวทิ ยาท่เี หน็ ได้บนเขาหิน และเกาะบางเกาะในทะเลขนอม บรเิ วณหนา้ อา่ วเตลด็ คอื ทเ่ี กาะทา่ ไร่ เกาะนยุ้ นอก เขาหลกั ซอ และชายฝง่ั อา่ วเตลด็ ลกั ษณะทเ่ี หน็ จะเหมอื นเปน็ แผน่ หนิ ทที่ บั ซอ้ นเรยี งกนั เปน็ ชน้ั ๆ สงู ขนึ้ ไป ดา้ นบนมตี น้ ไมข้ นึ้ ปกคลมุ หลากหลายชนดิ บางชนดิ กด็ แู ปลกตาออกไป สำ� หรบั การเกดิ ของเขาหนิ พบั ผา้ เกดิ จากกระบวนการหนิ ตะกอน ทมี่ กี ารตกตะกอนของ หินทมี่ ีส่วนประกอบและความแข็งตา่ งกัน เปน็ ชนั้ ๆ ในท้องทะเล ต่อมามีการเอียงและยกตัวของเปลอื กโลกชนั้ หิน ดังกล่าวก็เกิดเป็นหน้าผา เมื่อถูกกระแสน�้ำและลมกัดกร่อนเอาชั้นที่อ่อนกว่าออกเหลือช้ันท่ีแข็งแกร่งกว่า ก็จะดูเหมือนแผ่นหินท่ีซ้อนกันเป็นช้ัน ๆ เปรียบเหมือนขนมชั้นหรือผ้าท่ีพับไว้ จึงเป็นท่ีมาของชื่อ “หินพับผ้า” เมื่อนักทอ่ งเที่ยวฝรั่งไดม้ าเหน็ ที่นก่ี ็บอกว่าเขาหนิ ลกั ษณะน้คี ลา้ ยกับ “PancakeRock” ท่เี มอื ง Punakaiki ประเทศ หลกั สูตแรนนวคกราศรรจธี ดัรรกมารราเชรศยี ึกนษราู้ 391

นิวซีแลนด์ กเ็ ลยเรยี กหนิ พับผา้ เหล่านี้ว่า “แพนเคก้ ร็อค เมอื งไทย” ทั้งนี้ การจะมาเยีย่ มชมต้องไปเชา่ เรือหางยาว ท่แี หลมประทบั เรือ 1 ลำ� น่งั ได้ 7 คน ควรจะมาเช้า ๆ เพราะอาจจะได้เหน็ โลมาสชี มพดู ว้ ยในระหว่างนง่ั เรือชม หินพบั ผ้า หาดทรายแก้ว 5) หาดทรายแกว้ เปน็ หาดทรายทสี่ วยงามมากแหง่ หนงึ่ ในอำ� เภอทา่ ศาลา นกั ทอ่ งเทยี่ ว สามารถมาน่ังชมพระอาทิตย์ขึ้น เล่นน้�ำทะเล กินอาหารท่ีทะเลสด ๆ อร่อยได้ท่ีร้านอาหารหาดทรายแก้ว และมานอนนับดาวได้ท่ีหาดทรายแก้วรีสอร์ท และถึงแม้ว่าหาดทรายชายทะเลแห่งน้ีจะไม่เป็นที่รู้จักมากนัก แต่เป็นสถานที่พักผ่อนที่สงบร่มรื่นสวยงามตามแบบชายฝั่งทะเลตะวันออก ด้วยแนวหาดทรายยาวท่ีมีทิวสนและ ดงมะพรา้ วเปน็ ฉากหลังนับวา่ เปน็ ความสขุ ทห่ี าไดใ้ นราคาไม่แพงเลย หาดทอ้ งชงิ 6) หาดทอ้ งชงิ ยาวประมาณ 1,300 เมตร รายลอ้ มดว้ ยหาดทอ้ งชงิ เวง้ิ อา่ วทถ่ี กู หอ้ มลอ้ ม ดว้ ยทวิ เขาทง้ั สามด้าน ท�ำใหพ้ ื้นทนี่ ี้เกือบถกู ตัดขาดจากโลกภายนอก จงึ ยังคงรกั ษาสภาพธรรมชาตไิ วไ้ ด้เปน็ อยา่ งดี เปน็ หาดทม่ี พี น้ื ทต่ี อ่ จากหาดแขวงกา มหี าดทรายขาวสวนมะพรา้ ว มภี เู ขาไชยสนอยทู่ างใตข้ องหาด สงู กวา่ 500 เมตร ปิดกนั้ การเดินทางและเสยี งจากรถยนต์ ไดย้ ินเฉพาะเสยี งเรอื ลกั ษณะพ้นื ทยี่ งั เปน็ ธรรมชาติ เหมาะแกก่ ารต้งั แคมป์ สำ� หรบั หมู่คณะใหญ่ที่ชืน่ ชอบการผจญภัย มที พี่ ักรมิ หาด ดา้ นบนมีทีพ่ กั ของอทุ ยานฯ ส�ำหรบั นกั ทอ่ งเที่ยว 392 แหนลักวสกูตารรนจคดั รกศารรีธเรรรียมนรารชู้ ศกึ ษา

อ่าวทอ้ งหยี 7) อา่ วท้องหยี อยู่เลยจากหาดในเพลาไปทางใต้ นบั ไดว้ ่าเปน็ แหลง่ ท่องเที่ยวทางใต้สดุ ของทะเลขนอม มสี ภาพแวดลอ้ มเปน็ ธรรมชาตทิ ส่ี มบรู ณ์ ชายหาดสงบเงยี บและเปน็ สว่ นตวั และเนอ่ื งจากอา่ วทอ้ งหยี เป็นแนวโค้งชายหาดลาดลงสู่ทะเล สลับโขดหินสวยงามเหมาะท่ีจะลงเล่นน�้ำ จึงเหมาะส�ำหรับการพักแรม แบบแคมป์ปิ้งหรือกางเต็นท์ รวมถึงมีเรือประมงมาขึ้นฝั่งอ่าวท้องหยีด้วย สามารถหาซื้อปลาสด ๆ ได้กันท่ีน่ี อกี ทง้ั บริเวณแนวหาดท้องหยีพบวา่ มแี นวปะการงั ท่สี มบูรณ์มาก โลมาสชี มพู 8) ชมโลมาสชี มพู สญั ลกั ษณแ์ หง่ ทอ้ งทะเลขนอม ดว้ ยความอดุ มสมบรู ณข์ องทรพั ยากร ทางธรรมชาตใิ นทะเลและป่าชายเลน พน้ื ท่อี �ำเภอขนอม ท�ำใหอ้ �ำเภอขนอมเปน็ ถิ่นอาศยั ของโลมาสชี มพูซง่ึ ชอบกิน ปลากระบอก ปลาเล็ก ๆ โดยชว่ งเวลาทีเ่ หมาะแก่การดูโลมา คือ ช่วงเชา้ ไปจนถงึ เท่ยี ง ทัง้ นี้ จริง ๆ แล้วมีการใช้โลมา สีชมพูเป็นจุดดงึ ดดู ด้านการท่องเทย่ี วในแถบน้ถี ึง 3 อำ� เภอดว้ ยกัน คือ อ�ำเภอดอนสัก จังหวัดสุราษฎรธ์ านี อ�ำเภอ ขนอมและอำ� เภอสชิ ล จงั หวดั นครศรธี รรมราช ซึง่ มพี นื้ ที่ติดตอ่ กนั ท้ังทางบกและทางทะเล ซ่งึ ในปัจจบุ นั การออกไป ทอ่ งเท่ียวชมโลมาในทะเลก�ำลงั เป็นที่นิยมอยา่ งมาก หลักสูตแรนนวคกราศรรจธี ดัรรกมารราเชรศยี ึกนษราู้ 393

หลวงปู่ทวด เกาะนยุ้ นอก 9) หลวงป่ทู วด ความมหศั จรรยข์ องเกาะแห่งน้ี คอื มีบ่อน้ำ� ธรรมชาติเสน้ ผ่าศูนย์กลาง ประมาณ 30 น้ิว เป็นบ่อน้�ำจืดจากแผ่นดินใหญ่ ถือเป็น Unseen Thailand (อันซีน ไทยแลนด์) แห่งหน่ึงของ ประเทศไทย โดยเวลาทนี่ ำ้� ทะเลขนึ้ จะกลบบอ่ นำ�้ จนมองไมเ่ หน็ ตอ่ เมอื่ นำ�้ ทะเลลดลงจะเผยใหเ้ หน็ บอ่ นำ�้ จดื ชาวบา้ น แถบน้ีเชื่อว่า “บ่อน้�ำจืด” คือ บริเวณท่ีหลวงปู่ทวดได้เคยมาเหยียบน้�ำทะเลให้กลายเป็นน้�ำจืดตามต�ำนาน ดังนั้น บนยอดเขาของเกาะจงึ มีหลวงป่ทู วดประดษิ ฐานอยู่ ซ่ึงชว่ งเวลาท่ีควรไปเทย่ี ว คือ ตั้งแต่เช้าเพราะเปน็ ช่วงท่นี ำ�้ ทะเล ยงั ไมข่ น้ึ หากไปสาย ๆ จะไม่สามารถชมิ น้ำ� จดื ได้ ท้งั นี้ นกั ทอ่ งเทีย่ วสามารถเดินทางมาท่ีเกาะได้โดยใช้เรอื หางยาว จากท่าเรือแหลมประทบั สิ่งอ�ำนวยความสะดวก อทุ ยานแหง่ ชาติ ยงั ไม่ท่ีพกั ไว้บริการนักทอ่ งเที่ยว มแี ตส่ ถานที่ กางเต็นท์ให้บริการนักท่องเท่ียว เนื่องจากเป็นอุทยานแห่งชาติจัดต้ังใหม่ หากสนใจท่ีจะเดินทางไปท่องเท่ียวท่ี อุทยานแหง่ ชาติ ตอ้ งจัดเตรยี มเต็นท์และอาหารไปเอง รายละเอยี ดเกี่ยวกับสถานท่ี กางเต็นท์ ใหต้ ิดตอ่ สอบถามกบั อุทยานแห่งชาตโิ ดยตรง การเดินทาง จากจังหวัดนครศรีธรรมราช ไปตามทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 401 (นครศรีธรรมราช-สุราษฎร์ธานี) ระยะทางประมาณ 80 กโิ ลเมตร แลว้ แยกเขา้ สู่ อำ� เภอขนอมตามทางหลวงจังหวัด หมายเลข 4041 ไปประมาณ 30 กโิ ลเมตร ถึงท่ที �ำการอทุ ยานแห่งชาติ สถานท่ีติดต่อ อุทยานแห่งชาติหาดขนอม - หมู่เกาะทะเลใต้ ม.1 ต.ขนอม อ.ขนอม จ.นครศรีธรรมราช 80210 โทรศัพท์ 075-528495 394 แหนลักวสกตูารรนจคดั รกศารรธี เรรรียมนรารชู้ ศกึ ษา

แหลมตะลมุ พุก 3.3 แหลมตะลุมพุก “แหลมตะลมุ พกุ ” คำ� วา่ ตะลมุ พกุ เปน็ นามของปลาชนดิ หนงึ่ ทเ่ี คยมชี กุ ชมุ ในบรเิ วณปลาย แหลมแห่งน้ี ชาวบา้ นเลยเรยี กแหลมนี้ว่า “แหลมตะลุมพกุ ” จากการมีปลาตะลุมพกุ ชุกชมุ มาจนถึงทกุ วนั นี้ ปัจจบุ นั ปลาตะลุมพุกในบริเวณปลายแหลมไม่มีแล้ว “แหลมตะลุมพุก” มีประชาชนมาต้ังถ่ินฐานในราวรัชกาลท่ี 2,3 สมยั รัตนโกสนิ ทร์ ผูค้ นอพยพเข้ามาอยพู่ วกแรกเปน็ ชาวไทยอิสลาม เขา้ มาท�ำการประมง ปจั จบุ นั มีกุโบ (หลมุ ฝงั ศพ) เก่าอย่หู ลายแหง่ หลงั จากนัน้ มีชาวจีนอพยพเขา้ มาอาศยั ท�ำการคา้ มีโรงพระจีนและประชาชนในตำ� บลมเี ช้ือสายแซ่ ต่าง ๆ พวกสุดท้ายเป็นคนไทยพื้นเมือง ปัจจุบันประชาชนในพื้นที่ต�ำบลแหลมตะลุมพุก ได้ประสมทางวัฒนธรรม ประเพณที เ่ี ปน็ เอกลกั ษณ์ ชาวบา้ นนบั ถอื สง่ิ ศกั ดส์ิ ทิ ธเิ์ ปน็ ทยี่ ดึ เหนย่ี วจติ ใจทง้ั ทางศาสนาอสิ ลาม (แมแ่ หมะ ตาแหลม) คนจีน (กง๋ ) ไทยพทุ ธ (พ่อท่านลาภ พอ่ ท่านสวา่ ง) ต�ำบลแหง่ นใี้ นอดตี มคี วามอดุ มสมบรู ณเ์ ป็นอยา่ งมาก ประชาชน อาศยั อยอู่ ยา่ งหนาแนน่ ทงั้ ไทย จนี อสิ ลาม มโี รงเรยี นจนี วนั สำ� คญั ของคนจนี มธี งชาตจิ นี มากกวา่ ธงชาตไิ ทย ประชากร อพยพมาอาศัยอยู่ไม่น้อยกว่า 800 ครัวเรือน และที่ส�ำคัญพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัฐกาลท่ี 5 เคยเสด็จแหลมตะลมุ พกุ เมอื่ วันที่ 19 กรกฎาคม 2432 จากบนั ทกึ จดหมายเหตเุ สด็จประพาสแหลมมลายู ร.ศ. 108 โดยได้บรรยายสภาพความเป็นอยู่การประกอบอาชีพของประชาชนว่า “ท่ีแหลมนี้ เป็นหาดแคบนิดเดียวแต่ยังยาว วงเปน็ อา่ วเขา้ ไปไกล มเี รอื นประมาณ 70 หลงั ปลกู มะพรา้ วมาก มขี องทเี่ ปน็ สนิ คา้ ขายออก คอื ปลาเคา้ ปลากระบอก เคย แตงเป็นมาก เวลาบา่ ย 4 โมง เสด็จกลับมาลงเรือพระท่ีนงั่ แล้วออกเรือพระที่นงั่ ต่อมา” สง่ิ ท่นี า่ สนใจ แหลมทรายรูปจันทร์เสยี้ วที่ย่นื ไปในอ่าวไทย บรเิ วณตอนบนสุดของอ�ำเภอ ปากพนงั ด้านที่ติดกับทะเลในหรืออ่าวนคร เปน็ ชมุ ชนชาวประมง สว่ นด้านอ่าวไทยเปน็ หาดทรายยาวขนานไปกบั ทิวสนทะเล มีรา้ นจ�ำหน่ายของท่ีระลึก อาหารทะเลแปรรูป ร้านอาหารริมหาด มสี ่วนแสดงเหตุการณใ์ นอดีตครง้ั เกดิ มหาวาตภยั จากพายโุ ซนรอ้ นแฮเรยี ต เมอื่ วนั ท่ี 25 ตลุ าคม 2505 ซงึ่ ทำ� ใหช้ าวแหลมตะลมุ พกุ สญู หายไปกวา่ 1300 คน ส่ิงอ�ำนวยความสะดวก ลานกางเตน็ ท์ สุขา ร้านอาหาร ศูนย์บริการนักท่องเทยี่ ว ป้ายส่อื ความหมาย ป้ายชี้ทางเข้าถงึ หลกั สูตแรนนวคกราศรรจีธัดรรกมารราเชรศยี กึ นษราู้ 395

การเดินทาง ใช้เวลาเดินทางราวคร่ึงช่ัวโมงหรือใช้เส้นทางนครศรีธรรมราช – ปากพนัง (ทางหลวงสาย 4013) ไปยงั อ�ำเภอปากพนังฝั่งตะวนั ตก ถึงบา้ นบางฉลากมที างแยกเขา้ สู่แหลมตะลมุ พกุ ระยะทาง จากทางแยกไปยงั แหลมประมาณ 16 กิโลเมตร เส้นทางตลอดสายสู่ปลาย แหลมมกี ารท�ำนากุ้งสองข้างทางสลับกับ แนวปา่ ชายเลน ข้อมูลการติดต่อ แหลมตะลุมพุก ต�ำบลแหลมตะลุมพุก อ�ำเภอปากพนัก จังหวัด นครศรธี รรมราช 80330 เบอร์ตดิ ต่อ 075-466174 4. แหลง่ ทอ่ งเทีย่ วกลุ่มความเชอ่ื คติชนวิทยา อ�ำเภอเชยี รใหญ่ 4.1 ศาลหลวงพอ่ ไทร ศาลหลวงพอ่ ไทร คงไม่มีใครในจังหวัดนครศรีธรรมราชที่จะไม่รู้จัก ศาลหลวงต้นไทร โดยเฉพาะคนใน อ�ำเภอเชียรใหญ่ และ อ�ำเภอหัวไทร ซ่ึงเป็นพ้ืนที่โครงการพัฒนาพ้ืนท่ีลุ่มน�้ำปากพนังอันเนื่องมาจากพระราชด�ำริ ท่ีตา่ งรำ่� ลอื ถึงกติ ติศัพท์ของความศักด์ิสทิ ธิ์ขณะกอ่ สรา้ งโครงการเมื่อหลายปกี อ่ น ชาวบ้านท่ีน่ันต่างเช่ือว่า สาเหตุของเรื่องราวประหลาดดังกล่าวเกิดจาก “อาถรรพณ์” ของต้นไทร โดยบริเวณใต้ต้นไทรยังขุดพบซากกระดูกมนุษย์ และสัตว์ใหญ่ต่าง ๆ รวมท้ังเปลือกหอยทะเล เมอื่ ชาวบา้ นทราบขา่ วกพ็ ากนั ไปกราบไหวต้ น้ ไทรกนั เปน็ จำ� นวนมาก ตอ่ มาพระบาทสมเดจ็ พระเจา้ อยหู่ วั รชั กาลท่ี 9 เสด็จพระราชด�ำเนินพร้อมด้วย สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี มา ณ แปลงปลูกป่าชายเลน เฉลมิ พระเกียรติของบริษทั ปตท. จำ� กดั (มหาชน) อ.ปราณบุรี จ.ประจวบคีรขี นั ธ์ เมอื่ วนั ท่ี 16 พฤศจิกายน 2545 ครัง้ นั้น นายจ�ำรูญ พลายด้วง ชาวบ้าน ต.แมเ่ จ้าอยู่หัว อ.เชียรใหญ่ ได้รับพระมหากรณุ าธคิ ุณพระราชทานพระบรม ราชวโรกาสให้เข้าเฝ้าฯ และได้กราบบังคมทูลพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวถึงต้นไทรโบราณขนาดใหญ่ที่ข้ึนขวาง แนวขดุ คลองชะอวด-แพรกเมือง นายจ�ำรูญ กราบบังคมทูลถึงเร่ืองราวประหลาดท่ีเคร่ืองยนต์ขนาดใหญ่จะดับทุกครั้ง เม่ือขับเคลื่อนมาถึงต้นไทร และเมื่อมีชาวบ้านมาต้ังเครื่องเซ่นไหว้ และขอโชคลาภก็สมปรารถนาในส่ิงท่ีขอ จงึ มคี วามเชอื่ วา่ เปน็ ตน้ ไทรศกั ดสิ์ ทิ ธ์ิ พระบาทสมเดจ็ พระเจา้ อยหู่ วั จงึ มพี ระราชดำ� รใิ ห้ ดร.สเุ มธ ตนั ตเิ วชกลุ กรรมการ และเลขานุการมูลนิธิชยั พฒั นา ไปด�ำเนินการจัดสรา้ งศาลหลวงขึน้ ตามโบราณราชประเพณี 396 แหนลกัวสกูตารรนจคดั รกศารรีธเรรรียมนรารชู้ ศกึ ษา

ต่อมาสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี พระราชทานงบประมาณให้ แก่มูลนิธิชัยพัฒนาด�ำเนินการก่อสร้างศาลขึ้น โดยมี นาวาอากาศเอก อาวุธ เงินชูกล่ิน อดีตอธิบดีกรมศิลปากร เป็นผู้ออกแบบ เมื่อจัดสร้างแล้วเสร็จ มูลนิธิชัยพัฒนาได้ประสานกองพระราชพิธี ส�ำนักพระราชวัง ค�ำนวณฤกษ์ ศุภมงคลการพิธีต้ังศาลตามฤกษ์ โดยมีพราหมณ์หลวงเป็นผู้ประกอบพิธีหลวง เม่ือวันศุกร์ท่ี 29 ตุลาคม 2547 เวลา 10.09 น. ส่ิงที่น่าสนใจ ศาลหลวงต้นไทร เป็นที่เคารพสักการะของชาวลุ่มน้�ำปากพนัง และเป็น อนสุ รณแ์ หง่ พระมหากรณุ าธคิ ณุ ของพระบาทสมเดจ็ พระเจา้ อยหู่ วั ศาลหลวงตน้ ไทรยงั ถอื เปน็ สถานทย่ี อดนยิ มในพน้ื ท่ี และเป็นสัญลักษณ์อีกอย่างของโครงการพัฒนาลุ่มน�้ำปากพนังฯ จากภูมิทัศน์ที่สวยงาม แปลกตา และต้นไทร ขนาดใหญท่ ยี่ นื ตน้ ตระหงา่ นอยกู่ ลางลำ� นำ้� ดว้ ยเหตนุ ้ี ในวนั หยดุ ยาวจะมนี กั ทอ่ งเทย่ี วทง้ั ชาวไทยและชาวตา่ งประเทศ โดยเฉพาะชาวสงิ คโปร์ และมาเลเซยี เดินทางมากราบไหว้ศาลต้นไทรเป็นจ�ำนวนมาก เพราะเช่อื ในความศกั ด์ิสทิ ธิ์ การให้โชคลาภ และให้คมุ้ ครองในการเดนิ ทางดว้ ย การเดนิ ทาง จากอำ� เภอเมอื งนครศรธี รรมราช โดยรถยนต์ รถจกั รยานยนต์ ถนนราชดำ� เนนิ ถงึ สี่แยกหัวถนน เขา้ สู่ถนนหมายเลข 408 ไปตำ� บลการะเกศ กลับรถเล้ียวซา้ ยถนนสู่ถนนหมายเลข 4151 ศาลหลวง พอ่ ไทรอยู่ด้านขวามอื ระยะทาง 57.4 กิโลเมตร ข้อมูลการติดต่อ หมู่ที่ 12 ต�ำบลการะเกด อ�ำเภอเชียรใหญ่ จังหวัดนครศรีธรรมราช 80170 เบอร์ติดตอ่ 084-0561665 เว็บไซต์ http://www.karaked.go.th/index.php 4.2 พระพทุ ธสิหงิ ค์ พระพุทธสิหิงค์ พระพทุ ธสิหงิ ค์ ตามประวัติกล่าววา่ พระพุทธสิหิงค์ สร้างทป่ี ระเทศลงั กา เมื่อ พ.ศ. 700 ด้วยกิตติศัพท์เลื่องลือว่าเป็นพระพุทธรูปท่ีศักดิ์สิทธิ์ มีพุทธลักษณะงดงาม พ่อขุนรามค�ำแหง จึงทรงขอให้พระเจ้า ศรีธรรมโศกราชจัดส่งราชทูตไปลังกา ขอพระพุทธรูปองค์นี้มาบูชา ซึ่งก็ได้มาตามราชประสงค์ ได้อัญเชิญมา ประดิษฐาน ท่ีนครศรธี รรมราช จดั งานพธิ ีสมโภชใหญโ่ ต เป็นเวลา 7 วัน พระเจา้ ศรีธรรมโศกราชได้ให้ชา่ งท้องถนิ่ จ�ำลองไวบ้ ูชา 1 องค์ แลว้ ไดอ้ ัญเชิญไปไว้ ณ กรงุ สโุ ขทัย พระพุทธสิหงิ ค์องค์ท่ีประดิษฐานอยู่ทีน่ ครศรีธรรมราชนี้ มลี ักษณะ ตามแบบสกุลชา่ งท้องถน่ิ เรยี กวา่ แบบขนมตม้ คอื มพี ระพักตรก์ ลม อมยิ้ม พระอรุ ะอวบอ้วน ประทับน่งั ในทา่ ขัดสมาธเิ พชร ชายสงั ฆาฏิส้นั ระดบั พระถัน หลักสตู แรนนวคกราศรรจธี ัดรรกมารราเชรศียึกนษราู้ 397

หอพระพทุ ธสหิ งิ ค์ อนั เปน็ ที่ประดษิ ฐานของพระพทุ ธสหิ ิงคเ์ มืองนครน้นั เดมิ เป็นหอพระ ประจำ� วังของเจา้ พระยานคร ตงั้ อย่รู ะหวา่ งศาลากลางจงั หวดั และ ศาลจงั หวดั สร้างใหมแ่ ทนหอเดิมใน พ.ศ. 2457 เปน็ วหิ ารกอ่ อฐิ ถอื ปนู หนั หนา้ ไปทางทศิ ตะวนั ออก แบง่ ออกเปน็ สองตอน มผี นงั กอ่ อฐิ กน้ั ตอนหนา้ เปน็ ทป่ี ระดษิ ฐาน พระพุทธสิหิงค์ และมพี ระพทุ ธรูปยนื ปางอุ้มบาตร บดุ ว้ ยทองค�ำ และเงิน อย่างละองค์ สว่ นด้านหลังเปน็ ทเี่ กบ็ อฐั ิ ของตระกลู ณ นคร และปัจจบุ ันได้มกี ารสร้างพระพทุ ธสหิ ิงค์ราชภฏั นครศรีธรรมราช การจัดสร้างดงั กล่าว สืบเนอ่ื งจากปีพทุ ธศักราช 2555 อนั เป็นปีที่ 55 ของการสถาปนา มหาวิทยาราชภัฏนครศรีธรรมราช และเป็นปีส�ำคัญของชาวพุทธท่ัวโลก ที่สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าตรัสรู้ครบ 2,600 ปี เรยี กกนั วา่ “ปีสมั พทุ ธชยนั ตี” มหาวทิ ยาลัยราชภัฏนครศรีธรรมราช และจังหวดั นครศรีธรรมราช จึงได้จดั โครงการกอ่ สร้าง “พระพุทธสิหิงค์” ขนาดใหญห่ น้าตักกว้าง 9 เมตร สงู 21 เมตร นามวา่ “พระพทุ ธสิหงิ คร์ าชภัฏ นครศรีธรรมราช” เพ่ือเป็นปูชนียสถานและแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมอีกแห่งหนึ่งของจังหวัดนครศรีธรรมราช พระพทุ ธรปู ทีจ่ ะสร้างนีจ้ ำ� ลองพระพุทธสหิ งิ ค์แบบนครศรธี รรมราช จากหอพระพทุ ธสิหงิ คม์ าประดิษฐานไว้ ณ เชงิ เขามหาชยั อันเป็นภเู ขาทม่ี ีความส�ำคญั ในประวัตศิ าสตร์ของอาณาจกั รนครศรธี รรมราช ส่ิงที่น่าสนใจ พระพุทธสิหิงค์ เป็นพระพุทธรูปคู่บ้านคู่เมือง พระพุทธรูปปางมารวิชัย ขัดสมาธเิ พชร แบบขนมตม้ 4.3 องคจ์ ตุคามรามเทพ องคจ์ ตุคามรามเทพ ชาวนครศรีธรรมราช มีคติความเชื่อที่ว่า องค์จตุคาม คือ พระเสื้อเมือง จตุ หมายถึง ส่ี คาม (คาม-มะ) เขตคาม หมายถงึ อาณาเขตหรอื บา้ น เมอ่ื รวมกนั นัยความหมายทมี่ ากกว่าความเป็นทศิ ท้ัง 4 ของ บา้ น หรอื อาณาเขต คอื ทศิ ทง้ั ส่ี ซงึ่ หมายถงึ ทศิ ทมี่ ที า้ วจตโุ ลกบาลทง้ั สด่ี แู ลอยู่ ความหมายของจตคุ ามจงึ เปน็ ตำ� แหนง่ ของผู้เป็นใหญ่ท้ังสี่ทิศ มีท้าวจตุมหาราช ปกป้องคุ้มครองดูแล พระเสื้อเมืองจึงมีความหมายที่ควรเป็นต�ำแหน่ง ๆ หนงึ่ เพียงแต่ปราชญ์โบราณของเมอื งสมมตขิ ึน้ เปน็ ท้าวจตคุ าม ผู้เป็นใหญ่ใน 4 ทิศ องค์รามเทพ ค�ำวา่ ราม มรี ากฐานมาจากพระราม ที่หมายถงึ พระนารายณอ์ วตารลงมา เปน็ พระมหากษตั ริย์ คำ� ว่าเทพ กค็ ือเทวดา นยั ความหมายคือเป็นพระมหากษตั รยิ ์ ท่ีเป็นสมมติเทพเมื่อองคร์ ามเทพ เป็นพระทรงเมือง ค�ำว่าทรงเมืองพ้องกับค�ำว่า ครองเมือง น่ังเมือง หรือผู้ปกครองบ้านเมือง ซ่ึงก็คือเจ้าเมืองหรือ พระมหากษัตริย์ 398 แหนลกัวสกตูารรนจคัดรกศารรธี เรรรยี มนรารชู้ ศึกษา

เชื่อกันว่าเดิมน้ัน องค์จตุคามรามเทพ เป็นกษัตริย์ในสมัยอาณาจักรนครศรีธรรมราช มีพระนามอยา่ งเป็นทางการว่า พระเจา้ จนั ทรภาณุ เปน็ กษัตรยิ ์พระองค์ท่ี 2 ของราชวงศศ์ รีธรรมาโศกราช เชอ่ื วา่ มี พระวรกายเปน็ สเี ขม้ เป็นกษตั รยิ ์นักรบทแี่ กรง่ กล้า เมื่อสถาปนาอาณาจกั รศรีวชิ ยั ไดอ้ ย่างมนั่ คงแลว้ จงึ ได้สมญั ญา นามวา่ “ราชนั ดำ� แหง่ ทะเลใต”้ หรอื มอี กี ราชสมญั ญานามนงึ วา่ “พญาพงั พกาฬ” และตอ่ มาสำ� เรจ็ วชิ าจตคุ ามศาสตร์ และทรงบ�ำเพ็ญบญุ เพอ่ื สร้างบารมอี ธิษฐานจิต เป็นพระโพธิสตั ว์ เพื่อบรรเทาทุกขแ์ ก่มนษุ ยท์ งั้ ปวง สิ่งท่นี ่าสนใจ จตคุ ามรามเทพเป็นองคเ์ ทพบุตรในท่านง่ั มี 4 กร ถอื อาวธุ ตา่ ง ๆ และนาย ทหาร 4 นาย นั้น จะปรากฏในรปู ของหนมุ าน 4 กร ถืออาวุธในทว่ งท่าตา่ ง ๆ ตามศิลปะศรวี ิชยั และจตคุ ามรามเทพ ได้รับความนับถืออย่างกว้างขวาง โดยเชื่อว่าทรงฤทธานุภาพในทุก ๆ ด้าน ตามจารึกของชาวศรีวิชัยได้บอกว่า “มีอานุภาพดุจดังพระอาทิตย์และพระจันทร์ ท่ีขจัดความมืดมัวในโลก” การขออธิษฐานจากพระองค์นั้นท�ำได้ โดยมีเงอ่ื นไข 3 ประการ 1. อธษิ ฐานขอในสง่ิ ทเี่ ปน็ ไปได้ โดยไม่ขดั ต่อศีลธรรม 2. เมือ่ ได้รับสงิ่ ทีห่ วงั แล้ว ตอ้ งรกั ษาสัจจะท่ไี ดใ้ ห้ไว้กับพระองค์ 3. ควรจะสรา้ งกศุ ลกรรมถวายแดอ่ งคจ์ ตคุ ามรามเทพ แตท่ ่สี �ำคัญ อย่าล�ำพังเพยี งอธษิ ฐาน ต้องสรา้ งกศุ ลกรรมใหแ้ ก่ตนเองใหค้ รบทุกดา้ นดว้ ย คือ ให้ทาน รกั ษาศีล และบำ� เพ็ญภาวนา สง่ิ อำ� นวยความสะดวก ปา้ ยสอ่ื ความหมาย ปา้ ยชท้ี างเขา้ ถงึ มคั คเุ ทศกน์ ำ� เทยี่ ว และสขุ า การเดินทาง 1. การเดินทางโดนรถยนต์ส่วนตัวจากเส้นทางสาย 401 ถึงตัวเมืองนครศรีธรรมราช ไปทถ่ี นนราชด�ำเนิน เม่ือถึงต�ำบลในเมอื ง วดั พระมหาธาตวุ รมหาวหิ ารเด่นตระหงา่ นอยู่ด้านขวามือ 2. การเดนิ ทางโดยรถสาธารณะจากตวั เมอื งนครศรธี รรมราช สามารถนง่ั รถโดยสารสาย สนามกฬี า-หวั ถนน (รถมาสดา้ ) คา่ โดยสารประมาณ 10 บาท ไปลงหนา้ วดั พระธาตุ หรอื จะนง่ั รถมอเตอรไ์ ซตร์ บั จา้ ง ประมาณ (20-50 บาท ข้ึนอยูก่ บั ระยะทาง) สถานที่ต้ัง วัดพระมหาธาตุ วรมหาวิหาร ต�ำบลในเมือง อ�ำเภอเมืองนครศรีธรรมราช นครศรธี รรมราช 80000 โทรศพั ท์ 075-343411 หลกั สตู แรนนวคกราศรรจีธัดรรกมารราเชรศยี ึกนษราู้ 399

5. แหลง่ ท่องเทย่ี วกลุ่มชมุ ชนเข้มแข็ง 5.1 บ้านคีรีวง บา้ นคีรวี ง บา้ นครี วี ง เปน็ ชมุ ชนเกา่ แกท่ อ่ี พยพไปอาศยั อยเู่ ชงิ เขาหลวง ตำ� บลกำ� โลน อนั เปน็ เสน้ ทาง เดินข้ึนสู่ยอดเขาหลวง ชาวบ้านมีวิถีชีวิตท่ีสงบสังคมแบบเครือญาติ อาชีพหลักคือการท�ำสวนผลไม้ผสม เรียกว่า “สวนสมรม” เช่น มังคุด เงาะ ทุเรียน สะตอ ชุมชนบ้านคีรีวง แบ่งออกเป็นหลายกลุ่ม ได้แก่ กลุ่มมัดย้อม กลมุ่ สมนุ ไพร กลมุ่ จกั สานกะลามะพรา้ ว กลมุ่ แปรรปู นำ�้ ผลไม้ กลมุ่ ไวน์ และกลมุ่ ทเุ รยี นกวน ซงึ่ แตก่ ลมุ่ จะมผี ลติ ภณั ฑ์ ท่ีได้รับความนิยมจากผู้บริโภค และนักท่องเท่ียวท่ีเดินทางมาท่องเที่ยว ก็มักจะซื้อเป็นของฝากกันอยู่เสมอ สินคา้ ราคาไมแ่ พงและมคี ณุ ภาพ ทศั นยี ภาพแหง่ ธรรมชาติ เพราะครี วี งตงั้ อยทู่ า่ มกลางเทอื กเขา ปา่ ไมแ้ ละสายนำ้� กจิ กรรม ทนี่ า่ สนใจ ในหมบู่ า้ นครี วี ง คอื การพกั ในทพ่ี กั แบบโฮมสเตย์ เพลนิ ตาและเพลนิ อารมณก์ บั ทศั นยี ภาพแหง่ ธรรมชาติ ทตี่ ง้ั อยทู่ า่ มกลางเทอื กเขา ปา่ ไม้ ปน่ั จกั รยานชมววิ สดู อากาศบรสิ ทุ ธิ์ ซง่ึ สามารถหาเชา่ จกั รยานไดต้ ามรา้ นเชา่ จกั รยาน ในจดุ ต่าง ๆ รอบหมูบ่ า้ น ส่งิ ที่น่าสนใจ จดุ ท่องเทีย่ วมดี งั น้ี จดุ ท่ี 1 “สะพานบ้านคีรวี ง” เปน็ จุดแลนดม์ ารก์ ส�ำคัญท่ีไมว่ ่าใครก็ต้องมาถา่ ยรูป เหมือน กบั วา่ ถ้าใครไม่ได้มาถ่ายรปู กบั สะพานนก้ี เ็ หมือนมาไมถ่ งึ บ้านครี วี ง จุดท่ี 2 “หนานหนิ ทา่ หา” มีลักษณะเป็นลำ� คลอง ช่วงฤดูท่องเทย่ี วจะมนี กั ท่องเที่ยวมา เลน่ น�ำ้ ที่บริเวณน้ีกันอยา่ งสนุกสนาน จุดท่ี 3 “สะพานแขวน-ท่าหา” อยู่ไม่ไกลจากหนานหินท่านา เป็นสะพานแขวนเล็ก ๆ ล้อมรอบดว้ ยววิ ป่าเขา เอาไว้เปน็ อกี หนงึ่ ท่ีถ่ายรปู สวย ๆ ของบ้านครี ีวง 400 แหนลกัวสกตูารรนจคัดรกศารรธี เรรรยี มนรารชู้ ศกึ ษา

จุดที่ 4 “ตลาดบ้านคีรีวง” ตลาดเล็ก ๆ อยู่ไม่ไกลจากสะพานบ้านคีรีวง นักท่องเที่ยว จะได้เดนิ เลอื กซื้อของกินตา่ ง ๆ มากมาย จนอยากซื้อติดมอื กลบั ไปเปน็ ของฝากให้กับคนท่บี ้าน จดุ ที่ 5 “ถ้ำ� น้�ำวงั ศรีธรรมโศกราช” ถ�้ำหนิ งอกหินยอ้ ยทีส่ วยงาม ภายในมีสายนำ้� ไหลผ่าน นอกจากทัศนียภาพท่ีสวยงามแล้ว ถ�้ำแห่งน้ียังเป็นแหล่งประวัติศาสตร์ที่ส�ำคัญของเมืองนครศรีธรรมราชอีกด้วย เน่ืองจากเคยมกี ารค้นพบวัตถุโบราณจ�ำนวนมากภายในถ้�ำ และไดน้ ำ� ไปจดั แสดงไว้ท่ีพิพธิ ภณั ฑต์ ำ� บลขนุ ทะเลซ่ึงอยู่ หา่ งออกไปไมไ่ กล จุดที่ 6 “น้�ำตกวงั ไมป้ ัก” นำ�้ ตกขนาดเล็กท่ีอย่สู ุดถนนของหม่บู ้านคีรวี ง ยงั คงอุดมด้วย ธรรมชาตทิ สี่ มบูรณท์ ั้งปา่ ไม้โดยรอบ แถมอากาศกย็ งั สดชน่ื สดุ ๆ สิ่งอ�ำนวยความสะดวก โฮมสเตย์ ลานกางเต็นท์ สุขา ร้านอาหาร ศูนย์บริการ นักท่องเท่ียว ร้านขายสนิ คา้ ทร่ี ะลึก มคั คุเทศก์ท้องถ่ิน ป้ายส่อื ความหมาย ปา้ ยช้ที างเขา้ ถงึ การเดินทาง การเดินทางไปบ้านคีรีวงจากอ�ำเภอเมือง โดยรถจักรยาน รถมอเตอร์ไซค์ รถโดยสารประจ�ำทาง และรถยนต์ตามทางหลวงหมายเลข 4016 จากนั้นเล้ียวซ้ายเข้าทางหลวงหมายเลข 4015 บรเิ วณ กิโลเมตรที่ 9 เลยี้ วขวาเขา้ หมู่บา้ นครี ีวง เข้าไป 9 กิโลเมตร หรอื ขนึ้ รถสองแถวจากตลาดยาว ในอ�ำเภอเมือง มรี ถออก ตงั้ แตเ่ วลา 07.00-16.00 น. ราคา 20 บาท เมอ่ื มาถงึ หมบู่ า้ นหากตอ้ งกรเทยี่ วชมหมบู่ า้ นสามารถเชา่ จกั รยาน ป่ันได้ โดยจุดเช่าจกั รยานทเี่ ปน็ ทีน่ ยิ มคอื ที่รา้ นกาแฟบา้ นนายทงั้ ต้ังอยู่ใกล้กบั สะพานครี วี ง ข้อมลู การตดิ ตอ่ ท่อี ยู่ ตำ� บลกำ� โลน อำ� เภอลานสกา จังหวดั นครศรธี รรมราช 80230 เบอรต์ ดิ ตอ่ 075-533111 เวบ็ ไซต์ http://www.kamlone.go.th/index.php อเี มล kiriwongcenter_07@hotmail. com 5.2 วสิ าหกิจชมุ ชนกลุ่มอนรุ ักษ์ป่าชายเลนบ้านแหลมโฮมสเตย์ ปา่ ชายเลนบา้ นแหลมโฮมสเตย์ หลกั สตู แรนนวคกราศรรจีธดัรรกมารราเชรศยี กึ นษราู้ 401

กลุ่มอนุรักษ์ป่าชายเลนบ้านแหลมโฮมสเตย์ตั้งอยู่ที่ หมู่ 7 ต.ท่าศาลา อ.ท่าศาลา จ.นครศรีธรรมราช ลักษณะของพื้นท่ีมีส่วนของผืนดินที่งอกยื่นลงไปในทะเล โดยมีขนาดของพื้นท่ีเพ่ิมขึ้นทุกปี โดยมีพื้นที่มีขนาดเพ่ิมขึ้น ทางชาวบ้าน องค์กร หน่วยงาน และนักเรียน นักศึกษา ได้มีการร่วมกันในการปลูกป่า ชายเลนอยทู่ กุ ๆ ปี โดยมีการเลือกพันธโุ์ กงกาง ลำ� พู ตน้ จาก และตลอดจนพันธ์ุพชื ที่สามารถเจริญงอกงามไดด้ ใี น พ้ืนทนี่ ้ำ� กร่อย ไดม้ ีการขยายพนื้ ทปี่ ลูกอยูต่ ลอดทุกปี โดยมพี ื้นทร่ี วมโดยประมาณ 5,000 กว่าไร่ และมีแนวโน้มเพ่มิ ข้ึนทุกปี โดยอยูใ่ นพืน้ ทหี่ มู่ 7 และ หมู่ 14 ต.ท่าศาลา อ.ท่าศาลา จ.นครศรีธรรมราช ด้วยลกั ษณะพื้นท่ดี งั กลา่ ว ท�ำให้ชาวบ้านได้รับประโยชน์เป็นแหล่งอาหารเป็นที่อยู่อาศัยของพืชและสัตว์ตามธรรมชาติเพื่อเป็นตัวช่วยป้องกัน การกดั เซาะตามแนวชายฝง่ั ทะเลจาก ปา่ โกงกางทมี่ สี ว่ นเพมิ่ ขน้ึ ทกุ ปโี ดยพน้ื ทด่ี งั กลา่ วเปน็ แหลง่ ขยายพนั ธส์ุ ตั วน์ ำ้� ให้ กับชาวบ้านในพ้ืนท่ีสามารถที่จะมีพันธุ์ปลาเพ่ือเป็นแหล่งอาหารตลอดจนสามารถสร้างรายได้ให้กับครอบครัว ได้เปน็ อย่างดี ส่ิงท่ีน่าสนใจ แหล่งท่องเท่ียวแห่งเดียวที่มีจุดเด่นท่ีสุดในประเทศ ท่ีมีการสปาโคลนสด ในทะเลทมี่ แี หลง่ โคลนท่ีมคี วามอดุ มสมบรู ณ์สงู ในการท�ำสปา มีเมนูอาหารทเี่ ป็นเอกลกั ษณ์ คอื ข้าวมันทะเลโคลน และใบโกงกางทอดเทมปุระทีอ่ ร่อยท่สี ุด สิง่ อ�ำนวยความสะดวก โฮมสเตย์ ลานกางเต็นท์ สุขา ศูนยบ์ ริการนกั ทอ่ งเท่ยี ว ป้ายสื่อ ความหมาย ป้ายชที้ างเขา้ ถงึ การเดนิ ทาง จากอำ� เภอเมอื งนครศรธี รรมราช โดย รถจกั รยานยนต์ รถโดยสารประจำ� ทาง รถยนต์ ถนนหมายเลข 4012 สอู่ �ำเภอทา่ ศาลา เลย้ี วขวาสี่แยกโรงเรียนราชประชานเุ คราะห์ 8 ถนนสุวรรณเจดยี ์ บ้านแหลมอยู่ดา้ นซ้ายมอื ระยะทาง 22 กโิ ลเมตร ข้อมลู การติดต่อ ท่ีอยู่ เลขท่ี 128 หมู่ 7 ต�ำบลทา่ ศาลา ถนนนครศร-ี ท่าศาลา-สรุ าษฎร์ ต.ทา่ ศาลา อ.ทา่ ศาลา จ.นครศรีธรรมราช 80160 เบอร์ติดตอ่ 065-5137273 เวบ็ ไซต์ http://www.thasala.go.th/ index.php 5.3 ชมุ ชนบา้ นไมเ้ รียง ชมุ ชนไมเ้ รยี ง 402 แหนลกัวสกตูารรนจคัดรกศารรีธเรรรียมนรารชู้ ศึกษา

ชุมชนไม้เรียง เดิมชาวชุมชนไม้เรียงประกอบอาชีพท�ำสวนยางพาราเป็นหลัก แต่ต่อมา ประสบปญั หาราคายางตกตำ่� จงึ ไดม้ แี นวทางการแกป้ ญั หา โดยมกี ารรวมกลมุ่ เกษตรกรเพอื่ รว่ มกนั ปรบั ปรงุ คณุ ภาพ ยางแผน่ ทมี่ คี ณุ ภาพ “กลมุ่ เกษตรกรชาวสวนยางไมเ้ รยี ง” และใชเ้ ทคโนโลยใี นการผลติ เพอื่ ใหข้ ายยางปรมิ าณมาก ๆ ให้ได้ราคาและมีคุณภาพและเป็นท่ีต้องการของตลาด ต่อมานายประยงค์ รณรงค์ ผู้น�ำชุมชนบ้านไม้เรียง ได้เสนอ แผนพัฒนาชุมชนท่ีเป็นการเปล่ียนทิศทางของเกษตรกรรมแผนใหม่ จากการมุ่งเน้นปลูกพืชเชิงเด่ียวจากท�ำสวน ยางพารา มาเป็นการแสวงหาความหลากหลายของการประกอบอาชีพการเกษตร คอื การพัฒนาความสามารถของ เกษตรกรและเสริมสร้างเศรษฐกิจชุมชน ประกอบด้วยกิจกรรมการเกษตร 8 กิจกรรม ได้แก่ กลุ่มเพาะเลี้ยงปลา กลุ่มผักปลอดสารพิษ กลุ่มแปรรูปข้าว กลุ่มเพาะเล้ียงไก่พ้ืนเมือง กลุ่มผลิตอาหารสัตว์ กลุ่มเพาะเล้ียงสุกร กลุ่มสมุนไพรและกลุ่มเพาะเลี้ยงเห็ด กลุ่มกิจกรรมเหล่านี้ มีวัตถุประสงค์ชัดเจนในการผลิตเพ่ือการพึ่งตนเอง ของชมุ ชนและเชือ่ มโยงกบั ตลาดภายนอก โดยผา่ นการจดั การของแตล่ ะกล่มุ ทม่ี ีองคก์ รบริหารของตน สิ่งที่น่าสนใจ ชาวบ้านเป็นเจ้าของการเรียนรู้ เจ้าของการพัฒนา เจ้าของการศึกษา เจา้ ของทรัพยากร เจ้าของแบบแผนชวี ติ ของตนเอง หน่วยงานตา่ ง ๆ ลงไปชว่ ยเสรมิ เตมิ เตม็ ให้ศูนยก์ ารเรยี นรขู้ องไม้ เรียงจงึ ไม่มปี ้ายทีใ่ คร ๆ ไปปกั ไวใ้ หญ่โตแสดงความเป็นเจ้าของ ไมเ้ รยี งคอื ตวั อยา่ งของการพัฒนาอย่างมแี บบมแี ผน ซงึ่ อยบู่ นฐานขอ้ มลู และความรู้ ซงึ่ ผนู้ ำ� แมกไซไซอธบิ ายวา่ “วนั นพ้ี น้ ยคุ ทจี่ ะพฒั นาแบบ คดิ วา่ เหน็ วา่ เขา้ ใจวา่ รสู้ กึ วา่ วนั นี้ต้องใช้ความรู้ และต้องเป็นความรูท้ ีน่ ำ� ไปสกู่ ารปฏิบัติไดจ้ นเกดิ ปัญญา การพฒั นาจึงจะเกิด”หน่วยงานใด การเดนิ ทาง ใชท้ างหลวงสาย ฉวาง–ทานพอ ระยะทาง 5 กโิ ลเมตร ถงึ สถานรี ถไฟทานพอ ถงึ บา้ นปลายเส เดินทางอกี 2 กโิ ลเมตร สอบถามข้อมลู โทร. 081-9560865 5.4 กล่มุ ผา้ ทอเนินธัมมงั กล่มุ ผา้ ทอเนนิ ธมั มัง ด้วยสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ในรัชกาลท่ี 9 ได้ทรงเสด็จเย่ียมราษฎร ในพ้ืนที่บ้านเนินธัมมัง หมู่ 5 ต�ำบลแม่เจ้าอยู่หัว อ�ำเภอเชียรใหญ่ จังหวัดนครศรีธรรมราช เม่ือวันที่ 7 ตุลาคม พ.ศ. 2536 พระองคไ์ ดท้ รงรบั ทราบถงึ ปญั หาความทกุ ขย์ ากของราษฎรในพนื้ ทซ่ี งึ่ มฐี านะยากจน การประกอบอาชพี หลกั คอื การทำ� นา ผลผลติ ทไ่ี ดร้ บั อยใู่ นเกณฑต์ ำ่� ทำ� ใหห้ วั หนา้ ครอบครวั ตอ้ งออกไปหางานทำ� ตา่ งถนิ่ เหลอื แตแ่ มบ่ า้ น เด็ก และคนชรา พระองค์จึงได้ทรงพระราชทานพระราชทรัพย์ส่วนพระองค์ เพ่ือให้การก่อสร้างศาลาศิลปาชีพข้ึน (หลงั เกา่ ) ปจั จบุ ันใช้เป็นพื้นท่ีปฏิบตั ิงานของกลมุ่ แปรรูปกระจดู เมอ่ื วันที่ 22 เมษายน พ.ศ. 2537 และพระองค์ได้ ทรงเร่ิมสง่ เสริมงานด้านศลิ ปาชีพให้กบั ราษฎรในพ้ืนที่ และหมบู่ ้านใกล้เคียงเปน็ ต้นมา หลกั สตู แรนนวคกราศรรจีธดัรรกมารราเชรศียึกนษราู้ 403

ต่อมาเม่ือปี พ.ศ. 2540 พระองค์ทรงมีพระราชเสาวนีย์ ให้ก่อสร้างอาคารศิลปาชีพ หลังใหม่ข้ึนมาแทนหลังเก่า และเปิดท�ำการอย่างเป็นทางการเม่ือวันที่ 2 ตุลาคม พ.ศ. 2542 เป็นอาคาร คอนกรีตเสรมิ เหลก็ สงู 2 ชัน้ กว้าง 25 เมตร ยาว 45 เมตร โดยชน้ั ลา่ งเปน็ หอ้ งโถงโลง่ อนุญาตให้ใช้เป็นพน้ื ทปี่ ฎิบัติ งานของกลุ่มทอผา้ ม.5 บา้ นเนนิ ธมั มงั สว่ นชั้นบนประกอบด้วย หอ้ งสว่ นพระองค์ (หอ้ งทรงงาน) ห้องผู้ติดตามชาย ห้องผู้ติดตามหญิง และห้องโถงโล่ง โดยจัดเจ้าหน้าที่จากกองพันทหารช่างที่ 402 เพ่ือท�ำหน้าที่อ�ำนวยการ ประสานงาน ก�ำกับดูแล และติดตามผลการปฏิบัติงานของสมาชิก ซ่ึงจะต้องด�ำเนินการควบคู่ไปด้วยกันกับ โครงการพัฒนาพื้นท่ีลุ่มน�้ำปากพนัง เป็นผลท�ำให้ราษฎรมีฐานะความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น อีกท้ังยังเป็นการเผยแพร่งาน ดา้ นศิลปาชพี ใหแ้ พร่หลายต่อไป และในปัจจบุ นั ศนู ย์ศลิ ปาชพี บา้ นเนนิ ธัมมงั มสี มาชกิ รวมทั้งสนิ้ 539 ราย ส่ิงที่น่าสนใจ โครงการศูนย์ศิลปาชีพบ้านเนินธัมมัง เป็นโครงการพระราชด�ำริใน สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระพระพระบรมราชินีนาถ โดยก่อตั้งเมื่อ พ.ศ. 2537 เริ่มแรกมีสมาชิก 11 คน ทอผ้าตาม พระราชเสาวนยี ฯ์ สง่ กองศลิ ปาชพี สวนจติ รลดา มสี ำ� นกั งานพฒั นาชมุ ชนเขา้ ไปเปน็ หนว่ ยงานเสรมิ สนบั สนนุ กท่ี อผา้ จ�ำนวน 20 ชดุ และโรงเรอื น 1 หลัง และชว่ ยเหลอื ในด้านการตลาด ซง่ึ อยู่ในการควบคุมดูแลของชุดประสานงาน ศนู ยศ์ ลิ ปาชพี กองทพั ภาคท่ี 4 มกี ลมุ ทอผา้ 3 กลมุ่ คอื กลมุ่ ทอผา้ หมทู่ ่ี 1 บา้ นคงคาลอ้ ม กลมุ่ ทอผา้ หมทู่ ่ี 2 บา้ นบางงู และกลุ่มทอผา้ หม่ทู ่ี 3 บา้ นเนนิ ธมั มงั การเดินทาง จากอำ� เภอเมอื งนครศรธี รรมราช ใช้ทางหลวง 408 ผ่านตำ� บลเเม่เจา้ อยู่หวั ห่างจากอ�ำเภอเมืองประมาณ 40 กโิ ลเมตร ขอ้ มลู การตดิ ตอ่ ศนู ยศ์ ลิ ปาชพี บา้ นเนนิ ธมั มงั หมู่ 1 บา้ นคงคาลอ้ ม, หมู่ 2 บา้ นบางงู และ หมู่ 5 บา้ นเนนิ ธมั มงั ตำ� บลแมเ่ จา้ อยหู่ วั อำ� เภอเชยี รใหญ่ จงั หวดั นครศรธี รรมราช 80190 ตดิ ตอ่ : นางอำ� นวย คงสปี าน เบอรโ์ ทร 081 - 6787668 5.5 ผลติ ภัณฑจ์ ากกระจูด ผลิตภัณฑจ์ ากกระจูด 404 แหนลักวสกูตารรนจคัดรกศารรีธเรรรียมนรารชู้ ศกึ ษา

ผลติ ภณั ฑจ์ ากกระจดู เปน็ วสั ดจุ ากธรรมชาติ ทมี่ คี วามเหนยี วและนมุ่ เมอ่ื นำ� มาจกั สานเปน็ ผลติ ภณั ฑ์ จะชว่ ยในการระบายความรอ้ น ซงึ่ คนในชมุ ชนสมยั กอ่ นไดน้ ำ� กระจดู มาสานเปน็ เสอ่ื สำ� หรบั ปนู อน แสดงถงึ วิถชี วี ิตทอ้ งถน่ิ อยา่ งหนึ่งของคนภาคใต้ ซึง่ แตเ่ ดิมชาวบา้ นนยิ มใช้ สอ่ื กระจดู ปนู อน เพราะลกั ษณะของภูมอิ ากาศ ของภาคใต้รอ้ นชื้น คนในสมัยก่อนจึงได้น�ำเอากระจดู ท่ีมอี ยู่ตามธรรมชาติ จากปา่ พรุ มาปรบั ใชใ้ หเ้ ขา้ กับวิถชี ีวิตของ คนในทอ้ งถ่นิ ดงั นัน้ คนในชมุ ชนรอบป่าพรุควนเคร็ง โดยเฉพาะทบ่ี างนอ้ ย บ้านไรเ่ นนิ ตำ� บลท่าเสม็ด บ้านควนปอ้ ม ต�ำบลควนเคร็ง บ้านกุมแป ต�ำบลบ้านตูล และบ้านโคกทราง ต�ำบลนางหลง ของอ�ำเภอชะอวด จึงได้น�ำกระจูด มาจักสาน เป็นสื่อส�ำหรับใช้ปูนอน ปูน่ัง หรือใช้ประโยชน์อย่างอ่ืน กระจูดจึงเป็นเอกลักษณ์อย่างหนึ่งของ จงั หวดั นครศรธี รรมราช ท่มี ชี ื่อเสียง และเรยี กกันตดิ ปากกันมาตั้งแต่บรรพบุรษุ ว่า ถา้ จะซือ้ เสอื่ หรอื สาด ต้องซอ้ื “สาดชะอวด” จากภูมิปัญญาด้ังเดิมมีการสานกระจูดเฉพาะ เสื่อ และกระสอบ เท่าน้ันเพ่ือใช้ใน การปนู อน และตากขา้ วเปลอื ก และใชก้ ระสอบสำ� หรบั ใสข่ า้ วสาร หรอื เกลอื และของใชอ้ ยา่ งอน่ื ภายในครวั เรอื นและ ของใช้ในครัวเรือน ปัจจุบันผลิตภัณฑ์จักสานจากล�ำต้นกระจูดได้พัฒนารูปแบบจาก สาดจูด และ สอบจูด ให้เป็นผลิตภัณฑใ์ หมใ่ ห้ใช้ประโยชน์ได้อย่างกว้างขวางและเหมาะสมกับยคุ สมยั มากขนึ้ เช่น หมวก กระเปา๋ รองเท้า แตะใส่ในบ้าน ชุดรองจาน ชุดปโู ต๊ะอาหาร เคร่ืองตกแตง่ บา้ น เป็นต้น สง่ิ ทนี่ า่ สนใจ เปน็ ผลติ ภณั ฑท์ ผ่ี ลติ ดว้ ยมอื จากภมู ปิ ญั ญาทอ้ งถน่ิ นำ� มาผลติ เปน็ ของใชไ้ ด้ หลายรปู แบบตามสมัยนยิ ม และมีสวยงามเหมาะแก่การใชส้ รอ้ ยและเป็นของฝาก การเดนิ ทาง จากอำ� เภอเมอื งนครศรธี รรมราช โดยรถยนต์ รถจกั รยานยนต์ ถนนราชดำ� เนนิ ถึงส่ีแยกหัวถนน เขา้ สถู่ นนหมายเลข 408 ถงึ สแ่ี ยกบ่อลอ้ เล้ยี วขวาถนนหมายเลข 4151 ไปอ�ำเภอชะอวด เลี้ยวซ้าย ถนนหมายเลข 4165 มงุ่ ไปตำ� บลบา้ นตลู เลยี้ วขาวเบยี่ งซา้ ยเขา้ สถู่ นน 3020 ไปตำ� บลทา่ เสมด็ ศนู ยผ์ ลติ ภณั ฑก์ ระจดู อย่ดู า้ นขวามือ ระยะทาง 73.9 กโิ ลเมตร ขอ้ มลู ตดิ ตอ่ ม.1 ต.เครง็ อ.ชะอวด จ.นครศรธี รรมราช https://www.nakhononline.com/ 5.6 ประตูระบายนำ�้ อทุ กวิภาชประสทิ ธ์ิ ประตรู ะบายนำ้� อทุ กวภิ าชประสิทธิ์ หลกั สตู แรนนวคกราศรรจีธดัรรกมารราเชรศียกึ นษราู้ 405

ในอดตี ลมุ่ นำ�้ ปากพนงั เปน็ พนื้ ทท่ี อ่ี ดุ มสมบรู ณใ์ นภาคใต้ จากหลกั ฐานทพี่ บเหน็ คอื โรงสไี ฟ โรงสขี า้ วโบราณทพี่ บหลายแหง่ รมิ แมน่ ำ�้ ปากพนงั ดว้ ยพนื้ ทลี่ มุ่ นำ้� แหง่ นกี้ วา้ งใหญค่ รอบคลมุ ถงึ 10 อำ� เภอ ใน 3 จงั หวดั ได้แก่ จังหวัดนครศรีธรรมราช พทั ลงุ และสงขลา ท�ำให้ระบบนิเวศมคี วามหลากหลาย ทง้ั ปา่ ต้นน้ำ� ป่าพรุ ปา่ ชายเลน และพ้ืนที่ชายฝั่ง แต่เม่ือการพัฒนาทางเศรษฐกิจเข้ามา ท�ำให้พ้ืนที่ป่าต้นน�้ำถูกท�ำลาย จากเดิมที่ระบบน�้ำจืด และน้�ำเค็มผลักดันตามธรรมชาติ ก็แปรเปล่ียนเพราะน�้ำจืดจากป่าต้นน�้ำไหลลงสู่แม่น�้ำปากพนังน้อยลง น้�ำเค็ม จึงทะลักไกลกวา่ ร้อยกิโลเมตร ไม่เพยี งปัญหาน้�ำเคม็ แต่ด้วยภมู ิประเทศทเ่ี ปน็ แอง่ กระทะ ท�ำใหเ้ กดิ น้�ำท่วมขังเป็น เวลายาวนาน ชาวนาผลิตข้าวได้น้อยลง ส่วนพ้ืนท่ีใกล้ชายฝั่งชาวบ้านปรับเปลี่ยนนาข้าวมาเป็นนากุ้ง แต่ด้วยไม่มี ความรู้ในการจัดการ ทำ� ใหเ้ กิดน�้ำเสียจากบ่อเลี้ยงกงุ้ กระทบถงึ นาขา้ ว ชาวบา้ นทะเลาะขดั แยง้ กนั เอง สว่ นในพืน้ ที่ ป่าพรุก็มีปัญหาน�้ำเปรี้ยว เรียกได้ว่าพื้นท่ีแห่งนี้มีปัญหา 4 น้�ำ 3 รส พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลท่ี 9 ทรงทราบถึงปญั หา จึงมีพระราชดำ� รใิ ห้กรมชลประทานกอ่ สร้างประตูระบายน้ำ� อทุ กวภิ าชประสทิ ธ์ิ เพือ่ แยกน้�ำเค็ม และน้�ำจืดออกจากกนั และแบง่ โซนน�้ำจดื น้ำ� เค็ม เพื่อใหช้ าวบา้ นท่ตี ้องการเลี้ยงกงุ้ อยใู่ นโซนน้�ำเคม็ ส่วนชาวบ้านท่ี ตอ้ งการปลกู ขา้ วอยใู่ นโซนนำ้� จดื ปญั หาความขดั แยง้ ทเุ ลาลง สว่ นพน้ื ทพ่ี รุ กม็ รี าษฎรทอี่ าสาดแู ลปา่ พรตุ ามรบั สงั่ ของ พระบาทสมเดจ็ พระเจา้ อยหู่ วั นอกจากนพี้ ระองคย์ งั ไดใ้ หห้ นว่ ยงานชลประทานชว่ ยควบคมุ ระดบั นำ�้ ในพรไุ มใ่ หแ้ หง้ จนเกิดไฟปา่ และรกั ษาระดบั น้�ำไมใ่ ห้ทว่ มขงั เพอ่ื ใหร้ าษฎรปลกู ข้าวได้ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวพระราชทานแนวทางแก้ไขและพัฒนาพ้ืนท่ีลุ่มน้�ำปากพนัง ท้ังระบบ ถึง 13 ครั้ง ตั้งแต่ปี 2521 โดยครั้งส�ำคัญท่ีสุด เมื่อปี 2536 ทรงมีพระราชด�ำริให้ก่อสร้างประตู ระบายน�้ำปากพนัง หรือประตูระบายน้�ำอุทกวิภาชประสิทธิ์ เพื่อบริหารจัดการน�้ำทั้งหมด “พระราชด�ำริดังกล่าว ประสบความส�ำเร็จมาก ถือเป็นกุญแจแรกในการพลิกฟื้นลุ่มน้�ำปากพนัง และท�ำให้เกิดการพัฒนาต่อเนื่องมา โดยตลอดอันค�ำว่า “อุทกวิภาชประสิทธิ์” มีความหมายว่า ประตูระบายน้�ำที่ประสบความส�ำเร็จในการแยกน้�ำจืด น�้ำเค็ม ซึง่ พระบาทสมเดจ็ พระเจ้าอยหู่ วั ทรงพระกรุณาโปรดเกลา้ ฯ พระราชทาน เมอื่ วันที่ 22 สิงหาคม 2542 สง่ิ ท่นี า่ สนใจ “ประตูระบายนำ�้ อุทกวภิ าชประสทิ ธ์”ิ (โครงการการพฒั นาลุม่ น�ำ้ ปากพนัง อนั เนอ่ื งมาจากพระราชด�ำร)ิ ตั้งอยทู่ ีต่ ำ� บลหูล่อง อำ� เภอปากพนงั จงั หวดั นครศรธี รรมราช ได้ช่อื วา่ เป็นพระตำ� หนัก แหง่ เดยี วทไี่ ดส้ รา้ งขน้ึ จากประชาชน ในอดตี อำ� เภอปากพนงั มปี ญั หาทางดา้ นสง่ิ แวดลอ้ ม มนี ำ�้ ทว่ ม นำ้� จดื มไี มเ่ พยี งพอ ดนิ เปร้ยี ว ความเค็มลกุ ลำ้� เข้ามา เปน็ ผลให้มผี ลผลติ ต่ำ� ความยากจน และแรงงานตอ้ งอพยพเข้ามาหางานท�ำในเมอื ง ทง้ิ ถน่ิ ฐานเรือกสวนไร่นาทเ่ี คยอุดมสมบรู ณอ์ อกมา สง่ิ อำ� นวยความสะดวก สขุ า ศนู ยบ์ รกิ ารนกั ทอ่ งเทย่ี ว ปา้ ยสอื่ ความหมาย ทจ่ี อดรถ 50 คนั การเดินทาง จากอ�ำเภอเมืองไปยังอ�ำเภอปากพนังระยะทางประมาณ 35 กิโลเมตร ใช้เส้นทาง 4013 เล้ียวขวาบริเวณสามแยก ไปยังอ�ำเภอปากพนังฝั่งตะวันออก ถึงสี่แยกเล้ียวขวาอีกคร้ัง เดินทาง ต่ออกี ประมาณ 2 กโิ ลเมตร ถึงหัวงาน โครงการพัฒนาพนื้ ทีล่ ุม่ แมน่ �้ำปากพนงั อนั เนอ่ื งมาจากพระราชด�ำริ และหาก จะเดนิ ทางไปยงั อำ� เภอปากพนงั ฝง่ั ตะวนั ออก ใชเ้ สน้ ทาง 4013 จากอำ� เภอเมอื ง เลย้ี วขวาบรเิ วณสามแยก ผา่ นสแ่ี ยก และข้ามสะพาน ข้ามแม่น�ำ้ ปากพนงั ไปยังอ�ำเภอปากพนังฝ่งั ตะวันออก ข้อมูลการตดิ ตอ่ อาคารพิพธิ ภัณฑเ์ ฉลิมพระเกยี รติ 61/61 หมู่ที่ 5 ต.หูล่อง อ.ปากพนงั จ.นครศรีธรรมราช 80140 เบอร์ติดตอ่ 0-75416127 เว็บไซต์ https://www.pncenter.com อีเมล [email protected] 406 แหนลกัวสกตูารรนจคดั รกศารรีธเรรรยี มนรารชู้ ศึกษา

การปฏบิ ตั ิตนเป็นนกั ท่องเทยี่ วทดี่ ี นักท่องเท่ียวท่ีเดินทางมาท่องเที่ยวในประเทศไทยมีจ�ำนวนมาก มีท้ังคนต่างชาติและคนไทยด้วยกัน บางคนบางกลุ่มมาท่องเทีย่ วแลว้ กอ่ ใหเ้ กิดปญั หาตา่ ง ๆ ทงั้ ระดบั เลก็ น้อยจนถงึ ระดับชาติ เพือ่ เป็นการป้องกันและ แก้ปญั หา นกั ท่องเท่ียวที่ดีควรปฏิบัตติ นดังนี้ 1. ใฝ่หาขอ้ มูล นนั่ คือการเดินทางทอ่ งเที่ยวจะทำ� ใหเ้ ราไดส้ ัมผัสความงามของธรรมชาติ ช่ืนชมกบั สถานทท่ี างประวตั ศิ าสตรแ์ ละยงั ไดส้ มั ผสั กบั วฒั นธรรมและผคู้ นจากทตี่ า่ ง ๆ ดงั นนั้ จงึ ควรหาขอ้ มลู กอ่ นการเดนิ ทาง เพ่ือให้การเดินทางทอ่ งเทย่ี วน้นั ไดร้ บั ประโยชนส์ ูงสุด 2. เปดิ ใจใหก้ วา้ งและมคี วามอดทน เนอ่ื งจากเราตอ้ งเดนิ ทางไปในทท่ี มี่ หี ลายสง่ิ หลายอยา่ งแตกตา่ ง จากทท่ี คี่ นุ้ เคย และมหี ลายอยา่ งอาจทำ� ใหข้ ดั ใจในระหวา่ งการเดนิ ทาง ซง่ึ สว่ นใหญเ่ ปน็ ปญั หาเลก็ นอ้ ย ควรทำ� ใจและ เปิดใจใหก้ วา้ ง จะทำ� ให้ทอ่ งเท่ียวดว้ ยความสขุ ตลอดการเดนิ ทาง 3. ให้ความเคารพกับวัฒนธรรมและผู้คน ผู้คนย่อมมีความหลากหลายทางวัฒนธรรม และไม่มี วฒั นธรรมใดดที ส่ี ดุ ในโลก เราในฐานะผมู้ าเยอื นควรใหค้ วามเคารพในวฒั นธรรมนน้ั ๆ ไมด่ ถู กู เหยยี ดหยาม โดยเฉพาะ ในเรอื่ งละเอยี ดอ่อน เชน่ เรื่อง ศาสนา และความเช่อื ของท้องถน่ิ 4. ไม่ควรหาประโยชน์ส่วนตัว ในบางสังคมจะมีความเป็นอยู่ที่ยากจน ผู้มาเยือนไม่ควรเข้าไปหา ประโยชนโ์ ดยมชิ อบ ไมว่ า่ จะเปน็ การใหค้ า่ จา้ งต่ำ� ๆ การล่วงละเมิดหรอื กดข่ีเด็ก หรือการใชบ้ ริการทางเพศ 5. ใสใ่ จสง่ิ แวดลอ้ ม การเดนิ ทางทอ่ งเทยี่ วของเรายอ่ มรบกวนสง่ิ แวดลอ้ มไมม่ ากกน็ อ้ ย ดงั นน้ั จะควร ระมัดระวังการใช้น้�ำ ไม่ใช้น้�ำมากเกิดควร เพราะในบางพ้ืนที่มีภาวะขาดแคลนน�้ำอยู่ และควรระมัดระวังเรื่อง การทง้ิ ขยะ และควรดูแลสภาพแวดล้อมในสถานท่ีท่องเทย่ี วให้ดดู ี ไม่ควรทำ� ลาย 6. สร้างความประทับใจให้เกิดขึ้น เราในฐานะผู้มาเยือนควรมีปฏิสัมพันธ์ที่ดีกับคนในพ้ืนท่ี ท�ำใหเ้ จ้าของสถานทรี่ สู้ ึกพอใจหรอื ประทับใจท่ีเรามา ไมใ่ ชท่ �ำให้เกิดความไม่พอใจเกิดขน้ึ ถ้าเราสร้างความประทับ ใจทด่ี ีได้ นักท่องเทย่ี วที่มาทหี ลงั เราจะไดร้ ับการตอ้ นรบั ท่ีดีจากเจ้าของสถานท่ดี ว้ ย 7. เคารพและเรยี นรซู้ งึ่ กนั และกนั การมคี วามเคารพและเปดิ ใจเรยี นรซู้ ง่ึ กนั และกนั ระหวา่ งการเดนิ ทางทอ่ งเท่ยี ว จะท�ำให้การท่องเทย่ี วน้ันเป็นประสบการณท์ ดี่ ี และชว่ ยทำ� ให้การทอ่ งเที่ยวน้นั ราบร่ืน และปลอดภยั การเปน็ มัคคเุ ทศก์ที่ดี บุคคลทต่ี อ้ งการเป็นมคั คุเทศก์ จะต้องมีคณุ สมบัติพิเศษหลาย ๆ อยา่ งประกอบกนั เช่น ความมีใจรัก ในอาชีพ มีความอดกล้ัน มีความยืดหยุ่นในการปฏิบัติงาน ตอบสนองความต้องการของนักท่องเท่ียว ซื่อสัตย์ สามารถปรับตัวให้เหมาะสมกับแต่ละสถานการณ์จะช่วยแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าได้อย่างเหมาะสม มัคคุเทศก์เป็น ผู้ท�ำหน้าที่ดูแลนักท่องเท่ียวอย่างใกล้ชิดเกือบตลอดเวลาของการน�ำเท่ียวในแต่ละคร้ัง ดังนั้นในการปฏิบัติงานของ มคั คุเทศกจ์ ะเปน็ ไปโดยธรรมชาติ ไมม่ ีการฝนื ปฏบิ ัติ หรือทำ� หน้าทห่ี วงั เพียงเฉพาะคา่ ตอบแทน มคั คุเทศกท์ ดี่ ตี อ้ ง มีคณุ สมบตั ิ 5 ประการ คือ หลักสตู แรนนวคกราศรรจีธดัรรกมารราเชรศียกึ นษราู้ 407

1. มนุษย์สัมพนั ธ์ดี มลี กั ษณะ ดงั น้ี 1.1 รู้เขา รู้เรา ต้องรู้ว่านักท่องเท่ียวของเราเป็นใคร เป็นชาติใด มีลักษณะนิสัยโดยท่ัวไปเป็น อย่างไร มีวัตถุประสงค์ในการเดินทางท่องเที่ยวเพ่ืออะไร เพ่ือที่จะได้ปรับตัวให้เข้ากับนักท่องเที่ยวกลุ่มน้ันได้ และ ใหก้ ารบรกิ ารทเี่ หมาะสมเปน็ ทถี่ กู ใจแกน่ กั ทอ่ งเทย่ี ว เชน่ นกั ทอ่ งเทย่ี วชาวไทยชอบซอื้ ของมากกวา่ ชาตอิ นื่ ๆ จะตอ้ ง จัดเวลาในการซ้ือของมากข้ึนกว่ากลุ่มอื่น ๆ ส่วนนักท่องเท่ียวชาวอังกฤษชอบให้ตรงเวลาและเป็นไปตามกฎเกณฑ์ ทต่ี ง้ั ไว้ 1.2 มีน�้ำใจ พร้อมที่จะบริการเสมอ มีความเอ้ือเฟื้อเผ่ือแผ่และเห็นอกเห็นใจ ในขณะเดียวกัน กจ็ ะต้องอดทน อดกล้ัน ไม่แสดงอารมณ์และกริ ยิ ามารยาทท่ไี มด่ ี ตอ้ งควบคุมอารมณ์ของตนเองได้ 1.3 มีความรับผิดชอบ มัคคุเทศก์ต้องคอยดูแลเอาใจใส่สุขภาพและทรัพย์สินแก่นักท่องเท่ียว เม่อื มปี ญั หาตา่ ง ๆ ทีเ่ กิดข้นึ กบั นักท่องเท่ยี วในด้านอ่นื ๆ เชน่ ติดต่อส่งขา่ วสารกลับประเทศ การติดต่อสอ่ื สารกบั คนในทอ้ งถ่ิน มัคคเุ ทศกจ์ ะตอ้ งช่วยแก้ปญั หาตา่ ง ๆ ท่ีเกดิ ข้ึนกับนกั ท่องเท่ยี วได้อยา่ งมปี ระสทิ ธภิ าพ 1.4 สร้างความเข้าใจระหว่างคนในชาติและระหว่างชาติ อธิบายให้เห็นถึงความแตกต่างของ ความเช่ือ ศาสนา ขนบธรรมเนียม ประเพณีและวัฒนธรรม พ้ืนฐานการศึกษา และลักษณะร่วมของคนแต่ละชาติ และไม่ก่อให้เกิดความไม่เข้าใจหรือความเข้าใจผิดระหว่างชาติ โดยไม่แสดงความดูถูกหรือยกย่องวัฒนธรรม หรือ บุคคลกลมุ่ ใดกลมุ่ หน่งึ ทำ� ให้เกดิ ความเปน็ กันเองระหวา่ งกลุ่มนกั ทอ่ งเท่ยี ว ท�ำให้บรรยากาศการทอ่ งเทีย่ วมีความสุข 2. บคุ ลกิ ภาพดีบคุ ลกิ ภาพของมคั คเุ ทศกท์ ดี่ ี บคุ ลกิ ภาพทวั่ ไปประกอบดว้ ย บคุ ลกิ ภาพภายนอกและ บคุ ลกิ ภาพภายใน บคุ ลิกภาพภายนอกส�ำหรับมคั คุเทศก์ หมายถงึ ส่ิงทป่ี รากฏให้เห็นไดใ้ นตวั มคั คเุ ทศก์ ได้แก่ 2.1 ร่างกาย มัคคุเทศก์ควรให้ความสนใจและเอาใจใส่ต่อร่างกายเป็นอันดับแรก โดยพิจารณา ที่จะท�ำให้ผู้ทพ่ี บเหน็ เกิดความสบายตา จมกู และอารมณ์ มจี ดุ ส�ำคญั ๆ ในรา่ งกายท่ตี อ้ งคำ� นงึ ถงึ คือ 2.1.1 ผม ไมป่ ล่อยให้ยุ่งเหยิง แต่ควรดแู ลใหส้ ะอาด และมองดเู รยี บรอ้ ย ทงั้ นี้ มิไดห้ มาย ถึงการตกแตง่ ทตี่ ้องสิน้ เปลอื งค่าใช้จ่าย 2.1.2 หน้าตา แจม่ ใส ไมย่ ยู่ ี่ หรืองว่ งเหงาหาวนอน 2.1.3 หู จมกู ฟนั ควรดแู ลทำ� ความสะอาดใหเ้ รยี บรอ้ ยตงั้ แตก่ อ่ นจะออกจากบา้ น การแคะหู จมูก ฟันในทีส่ าธารณะหรอื ตอ่ หนา้ บคุ คลอ่นื เปน็ มารยาททไ่ี ม่สภุ าพ ไม่ควรปฏบิ ัติ 2.1.4 เลบ็ ตัดให้อยใู่ นสภาพท่ีเหมาะสมท้ังเลบ็ มอื และเล็บเท้า ถ้าจะไวย้ าวก็ควรค�ำนึงถงึ ความสะอาด การแคะเล็บในท่สี าธารณะก็เป็นมารยาทไมค่ วรท�ำอีกเช่นเดียวกัน 2.2 การแตง่ กาย ควรได้รบั การดแู ลเอาใจใส่ โดยค�ำนงึ ถึงความสะอาดเรยี บรอ้ ย และเหมาะสม กบั สภาพแวดล้อมเป็นส�ำคัญ 2.2.1 เสื้อ กระโปรง หรือกางเกง ควรให้อยู่ในสภาพที่ควรจะเป็น ท้ังรูปร่าง ลักษณะ และสีสันนอกจากความสะอาดเรียบร้อยแล้ว ควรค�ำนึงถึงกาลเทศะในการใช้เสื้อผ้าชุดนั้น ๆ ด้วย ส�ำหรับเส้ือผ้า ท่มี ีกระดุม จะตอ้ งตรวจดใู หค้ รบตามจำ� นวน ถา้ เสือ้ ผ้ามีสง่ิ ผดิ ปกติ เชน่ มีคราบเหงื่อไคล รอยขาด รโู หว่ ซิปแตก ฯลฯ ควรปรบั ปรงุ แก้ไขให้อยู่ในสภาพทดี่ ีก่อนท่จี ะนำ� มาใช้ 2.2.3 รองเท้า ถุงเทา้ ต้องสะอาด ไมข่ าด หรือช�ำรดุ และเหมาะสมกับโอกาส หรอื สถานที่ 408 แหนลกัวสกูตารรนจคดั รกศารรีธเรรรียมนรารชู้ ศกึ ษา

ท่ีจะใช้ด้วย การแต่งกายที่สะอาดเรียบร้อยและเหมาะสมกับกาลเทศะ นอกจากจะช่วยสร้างบุคลิกภาพท่ีดี แลว้ ยงั ชว่ ยใหผ้ แู้ ตง่ กายนน้ั มคี วามมนั่ ใจในตนเองมากขน้ึ และชว่ ยสรา้ งบรรยากาศทด่ี ไี ดอ้ กี ดว้ ยตรงขา้ มหากแตง่ กาย ไม่สะอาดเรยี บร้อย และไมเ่ หมาะสมจะทำ� ให้เกิดความผนั แปรแห่งอารมณ์ทง้ั แก่ผทู้ ี่แต่งกายและผูท้ ่พี บเห็น 2.3 การพูดจา ควรระมัดระวังเกย่ี วกบั คำ� พดู นำ้� เสยี ง ปฏิกิริยาของผ้ฟู ัง ดังน้ี 2.3.1 ค�ำพูด ควรระมัดระวังการใช้ถ้อยค�ำให้สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ค�ำหยาบหรือค�ำท่ีมี ความหมายสองแง่สองมมุ 2.3.2 นำ�้ เสยี ง ไมพ่ ดู หว้ น ๆ ตวาด กระโชกโฮกฮาก ใหเ้ นน้ นำ�้ หนกั เสยี งหนกั เบาใหเ้ หมาะสม พูดให้ชดั ถ้อยชดั คำ� ไมช่ า้ หรอื เรว็ จนเกินไป 2.3.3 ปฏกิ ริ ยิ าของผฟู้ งั ขณะพดู ควรสงั เกตปฏกิ ริ ยิ าของผฟู้ งั วา่ สนใจหรอื ตอ้ งการฟงั มาก น้อยเพยี งใด มผี ู้ใดต้องการซกั ถาม ไม่พูดสวนหรือแยง่ พูด ควรมีจงั หวะจะโคนในการพดู ใหเ้ หมาะสม 2.4 กริ ยิ ามารยาท หมายถึง การแสดงออกทางสหี น้า ท่าทาง และความประพฤติ จะตอ้ งอยใู่ น อาการสำ� รวม เชน่ ไมล่ ว้ ง แคะ แกะ เกา ควกั จมิ้ รา่ งกายในทช่ี มุ ชน และไมก่ ระทำ� การทค่ี วรกระทำ� ในทล่ี บั ไปกระทำ� ในท่ีแจ้ง หากจ�ำเป็นจริง ๆ ก็ควรกระท�ำให้แนบเนียน เช่น การจาม การไอ หรือเม่ือเกิดอาการคัน ก็ควรหัน ความสนใจของผ้ทู ่ีอยู่รอบขา้ งไปทอี่ นื่ เสียก่อน แลว้ จึงแอบ ๆ ท�ำ 2.5 บคุ ลกิ ภาพภายในสำ� หรบั มคั คเุ ทศก์ หมายถงึ สงิ่ ทมี่ คั คเุ ทศกแ์ สดงออกจากความรสู้ กึ ภายใน หรอื ท่ีเรียกกนั ว่า “จรรยาบรรณของมคั คุเทศก์” ท่ีสำ� คัญมี ดงั น้ี 2.5.1. มที ศั นคตทิ ดี่ ตี อ่ อาชพี และหนา้ ทขี่ องมคั คเุ ทศก์ ตอ่ ธรุ กจิ การทอ่ งเทยี่ ว และตอ่ ชอื่ เสยี ง ของประเทศชาติ 2.5.2 มคี วามซือ่ สตั ย์สุจริตตอ่ นกั ท่องเที่ยวและทุก ๆ ฝา่ ยทีเ่ กีย่ วขอ้ ง 2.5.3 มีสตใิ นการปฏิบตั ิหนา้ ท่ีการงาน 2.5.4 มีน้�ำใจต่อนักทอ่ งเท่ยี ว 2.5.5 มองโลกในแงด่ ี และมีมนษุ ยสัมพนั ธ์ 2.5.6 มคี วามรับผดิ ชอบในหนา้ ท่ี จรรยาบรรณของมคั คเุ ทศกท์ สี่ ำ� คญั ดงั กลา่ วขา้ งตน้ น้ี จะชว่ ยใหก้ ารปฏบิ ตั งิ านของมคั คเุ ทศก์ ส�ำเรจ็ ลลุ ว่ งไปได้อย่างดแี ละมปี ระสทิ ธภิ าพ โดยเฉพาะอยา่ งยง่ิ งานทม่ี ัคคเุ ทศกม์ กั จะประสบคอื ปญั หาเฉพาะหนา้ ท่ี จะต้องแก้ไขโดยเร่งด่วน ซึ่งมักจะเป็นปัญหาที่ไม่คาดคิดมาก่อน บ่อยคร้ังปัญหาเกิดขึ้นก่อนที่มัคคุเทศก์จะพบกับ นกั ทอ่ งเทยี่ ว เชน่ นกั ทอ่ งเทยี่ วปวดฟนั ขณะเดนิ ทาง นกั ทอ่ งเทยี่ วทำ� ฟนั ปลอมหาย นกั ทอ่ งเทยี่ วทำ� แวน่ สายตาตกแตก ฯลฯ หากมัคคุเทศก์มีจรรยาบรรณก็ย่อมจะช่วยแก้ปัญหาให้ส�ำเร็จได้โดยง่าย และเป็นผลดีแก่เจ้าของปัญหาอย่าง แน่นอน หลักสตู แรนนวคกราศรรจีธัดรรกมารราเชรศียึกนษราู้ 409

3. มีความรู้ดี มคั คุเทศกต์ อ้ งมีความรูเ้ รอ่ื งสำ� คัญ 6 ประการ ดงั น้ี 3.1 ความรเู้ กยี่ วกบั ขอ้ มลู ทวั่ ไปทส่ี ำ� คญั ของบรษิ ทั เชน่ การบรกิ าร เสน้ ทางนำ� เทย่ี ว เบอรโ์ ทรศพั ท์ หรือแฟกซ์ สถานท่ตี ดิ ต่อ เพอื่ ประโยชนใ์ นการปฏิบัติงานและใหข้ ้อมูลแกน่ ักทอ่ งเทยี่ ว 3.2 ความรู้โดยรวมของประเทศไทย เกี่ยวกับประวัติศาสตร์ ภูมิศาสตร์ สังคม การเมือง การปกครอง ศาสนา เทศกาล งานประเพณีทส่ี ำ� คญั วัฒนธรรมความเป็นอยู่ของผ้คู นในแต่ละภาค 3.3 สถานท่ีท่องเท่ียว ประเพณี วัฒนธรรม และผลิตภัณฑ์พ้ืนเมืองในท้องถ่ิน สถานท่ีเท่ียว เบอร์โทรศัพท์ หรือ แฟกซ์ สถานที่ติดต่อ เพ่ือประโยชน์ในการปฏิบัติงานและให้ข้อมูลแก่นักท่องเท่ียวในท้องถิ่น ทง้ั ท่เี ป็นธรรมชาตแิ ละมนษุ ยส์ รา้ งข้นึ เชน่ อาคารบ้านเรือน วดั โบราณสถาน และผลิตภัณฑ์พน้ื เมือง เชน่ เครอื่ ง จกั สาน ผ้าทอ งานแกะสลกั การแสดงของท้องถน่ิ เช่น มโนราห์ ฟอ้ นเลบ็ ระบ�ำชาวเขา เทศกาลและประเพณตี า่ ง ๆ เชน่ ลอยกระทง สงกรานต์ บญุ บัง้ ไฟ งานแหเ่ ทียนพรรษา ฯลฯ 3.4 ขั้นตอนและวิธีการเข้าออกเมือง การเก็บภาษี การติดต่อกับหน่วยงานราชการท่ีเก่ียวข้อง มัคคุเทศกต์ อ้ งใหค้ �ำแนะนำ� นกั ทอ่ งเทีย่ ว และดูแลให้การตดิ ตอ่ กบั ฝ่ายต่าง ๆ ทเ่ี กย่ี วข้องให้เป็นไปอย่างราบรื่น 3.5 ต้องมีความรู้ในการใช้ภาษาต่างประเทศ มีทักษะในการพูด อ่าน และเขียน เป็นอย่างดี ส่งิ ทส่ี �ำคญั ท่ีสดุ คือ สามารถพูดบรรยายให้นกั ทอ่ งเท่ียวเขา้ ใจเรอื่ งราวตา่ ง ๆ ได้ 3.6 ต้องมีการประสานงานและความสัมพันธ์ท่ีดีกับธุรกิจอ่ืน ๆ ท่ีเกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยว เพอ่ื ชว่ ยใหก้ ารปฏบิ ตั งิ านเปน็ ไปอยา่ งราบรนื่ และกอ่ ใหเ้ กดิ ความประทบั ใจแกน่ กั ทอ่ งเทยี่ วมากทส่ี ดุ เชน่ การคมนาคม ขนสง่ ทีพ่ กั ร้านอาหาร ธรุ กจิ บันเทงิ และรา้ นขายของท่รี ะลกึ 4. มคี วามรักงาน มัคคเุ ทศก์ต้องมีความภาคภมู ิใจในอาชพี ของตน มใี จรักในงานบริการ มคี วามรบั ผิดชอบในหนา้ ที่ ตง้ั ใจปฏบิ ัตงิ านใหม้ คี ุณภาพมากทส่ี ุด อดทนตอ่ ปญั หา พยายามปรบั ปรุงแก้ไขในสว่ นบกพรอ่ งของ ตนเองและรักษามาตรฐานการทำ� งานทดี่ ใี หไ้ ด้ตลอดไป 5. มีศิลปะในการพูด การพูดเป็นศาสตร์และศิลป์ หมายถึง การพูดมีกฎเกณฑ์ส�ำหรับเรียนรู้และ การปฏิบัติ ขณะเดียวกันก็อาศัยความสามารถเฉพาะตัวของผู้พูดด้วย มัคคุเทศก์ต้องมีการเตรียมตัวที่ดีส�ำหรับ การอธิบาย การล�ำดับเน้ือหา ถ่ายทอดด้วยภาษาท่ีเข้าใจง่าย รู้จักกาลเทศะ ควรพูดเร่ืองใด เวลาใด ใช้ภาษา ให้เหมาะสมกบั เพศ วยั และสถานการณ์ มัคคุเทศก์เป็นผู้ที่อยู่ใกล้ชิดกับนักท่องเที่ยวมากท่ีสุด เพราะฉะน้ันผู้เรียนจึงควรจะได้เรียนรู้ และท�ำความเข้าใจเก่ียวกับหน้าที่และความรับผิดชอบ คุณลักษณะอันจ�ำเป็นท่ีจะท�ำให้ช่ือเสียงของประเทศชาติ เปน็ ทร่ี จู้ กั ทว่ั โลกและชว่ ยเพ่ิมพนู จำ� นวนนกั ท่องเทยี่ วใหเ้ ขา้ มาเท่ยี วในประเทศไทยได้มากข้นึ 410 แหนลกัวสกตูารรนจคัดรกศารรธี เรรรยี มนรารชู้ ศึกษา

การอนุรักษ์สถานที่ท่องเท่ียว สถานทีท่ ่องเที่ยวตา่ ง ๆ เปน็ สงิ่ ที่ทรงคณุ คา่ ตอ่ ประเทศ ชุมชนและจิตใจของคนในสถานทีน่ น้ั เมือ่ มีคน เข้ามาช่นื ชมจ�ำนวนมากและเป็นเวลานาน ก็ต้องเกิดการทรดุ โทรมไปตามกาลเวลา จึงจ�ำเป็นตอ้ งเก็บรักษาสถานที่ สำ� คญั เหล่านีใ้ ห้อยู่ยาวนานเป็นมรดกให้คนรุน่ หลงั ไดช้ ่ืนชม ศกึ ษาเรยี นรตู้ ่อไป โดยมีแนวทางในการปฏบิ ตั ดิ ังนี้ 1. การป้องกนั ไม่ใหเ้ กิดการเปลย่ี นแปลงเสียหาย เช่น เกิดไฟไหมป้ า่ เกดิ จากการกระทำ� ของมนษุ ย์ ทเี่ ข้าไปถากถางนำ� เอาพนื้ ท่ีบางส่วนมาใช้ทำ� การเพาะปลกู การลักลอบเขา้ ไปล่าสัตว์ การปลอ่ ยนำ้� เสยี ต่าง ๆ ลงไป ในแหล่งน�้ำซ่ึงท�ำให้น้�ำเกิดมลภาวะข้ึนมา และการขีดเขียนข้อความต่าง ๆ ตามต้นไม้ โขดหิน โดยสิ่งเหล่าน้ีจะ เป็นการท�ำให้สถานที่ท่องเท่ียวได้รับความเสียหาย ดังน้ันการป้องกันสิ่งแวดล้อมจึงเป็นเรื่องท่ีส�ำคัญการรักษา สถานที่ท่องเที่ยวให้คงไว้ตามธรรมชาติ ท้ังควรมีการจัดส่ิงอ�ำนวยความสะดวกต่างท่ีจะมีขึ้นในสถานที่ท่องเท่ียว ตามธรรมชาติ 2. การรักษาความสะอาด นับว่ามีความส�ำคัญมากเพราะสถานที่ท่องเที่ยวจะน่าเท่ียวหรือไม่จะขึ้น อยูก่ ับความสะอาดเปน็ ปัจจัยทสี่ �ำคญั เน่อื งจากสถานที่ท่องเที่ยวสว่ นใหญ่จะมนี ักท่องเท่ยี วเดินทางเขา้ ไปใชบ้ ริการ เปน็ จำ� นวนมาก โอกาสทน่ี กั ทอ่ งเทยี่ วจะสรา้ งความสกปรกเกดิ ขน้ึ จงึ มมี าก ดงั นน้ั ผรู้ บั ผดิ ชอบจงึ ตอ้ งจดั หาเจา้ หนา้ ที่ รักษาความสะอาดโดยตรงเพื่อเก็บกวาดเศษขยะ นอกจากน้ีทางสถานที่ท่องเท่ียวยังต้องหาสถานท่ีทิ้งขยะอย่าง เพียงพอ เพอื่ ท่ีนกั ทอ่ งเทย่ี วจะได้นำ� เอาส่งิ ที่ไม่ตอ้ งการไปทิง้ เพราะขยะนอกจากจะท�ำให้สถานที่ท่องเทีย่ วสกปรก แล้วยงั อาจเปน็ อนั ตรายต่อสตั ว์ปา่ ในบริเวณนั้นดว้ ย 3. ไมค่ วรสรา้ งสงิ่ กอ่ สรา้ งและปรบั ปรงุ สถานทที่ อ่ งเทยี่ วมากเกนิ ไป เพราะจะทำ� ใหค้ วามเปน็ ธรรมชาติ ของสถานที่ทอ่ งเทีย่ วสูญเสียไป 4. การปฏิบัติตามระเบียบของสถานที่ท่องเท่ียวอย่างเคร่งครัด เพ่ือต้องการท่ีจะรักษาหรืออนุรักษ์ สถานทที่ ่องเท่ยี วที่เป็นธรรมชาตเิ อาไว้ ผใู้ ชบ้ ริการจึงต้องปฏิบัติตามระเบียบท่ีสถานท่ีทอ่ งเทีย่ วน้ัน 5. จดั เจา้ หนา้ ทใ่ี นการดแู ลและรกั ษาความปลอดภยั แกน่ กั ทอ่ งเทยี่ ว เพอื่ ปอ้ งกนั ความเสยี หายทอ่ี าจ จะเกิดขนึ้ กับสถานท่ที ่องเทย่ี ว 6. การประชาสัมพนั ธ์ เพอื่ เชิญชวนใหน้ กั ทอ่ งเทยี่ วเดนิ ทางเขา้ ไปใช้บริการและการขอความร่วมมือ จากนักท่องเท่ียวท่ีเดินทางเข้าไปเพื่อป้องกันมิให้นักท่องเท่ียวเดินทางเข้าไปมากเกินกว่าสถานท่ีท่องเท่ียวจะรับได้ และสามารถที่จะควบคมุ ใหน้ ักทอ่ งเที่ยวให้ปฏิบัติตามระเบียบขอ้ บังคบั ของสถานท่ที อ่ งเที่ยวได้ กลยุทธ์การพัฒนาการท่องเที่ยว วสิ ัยทัศน์ของจังหวดั (Vision) นครแห่งอารยธรรม น่าอยู่ นา่ เทยี่ ว การเกษตรและอุตสาหกรรมยั่งยนื คำ� จากวิสัยทัศน์ หมายถงึ นครแห่งอารยธรรมนครศรธี รรมราชเมืองที่มคี วามหลากหลายทางศาสนา พลเมืองอยู่ร่วมกันอย่างเอื้ออาทร มีแหล่งบ่มเพาะบุคคลด้วยด้วยสถาบันการเรียนรู้ท้ังในและนอกระบบ และมปี ระเพณี วฒั นธรรมทส่ี บื ทอดอยา่ งยาวนาน นา่ อยู่ นา่ เทยี่ ว เมอื งทป่ี ลอดภยั จากอาชญากรรม อบุ ตั ภิ ยั ภยั พบิ ตั ิ ทางธรรมชาติ และสง่ เสรมิ สขุ ภาพอนามยั อาหารปลอดภยั เมอื งสเี ขยี วทเ่ี ปน็ มติ รกบั สงิ่ แวดลอ้ ม เมอื งพลงั งานสะอาด การจัดการทรัพยากรธรรมชาติ น้�ำ การบริหารจัดการสิ่งแวดล้อมอย่างย่ังยืนสาธารณูปโภค ระบบคมนาคม เพ่ิมศักยภาพระบบโลจิสติกส์เชื่อมโยงโครงข่ายถนนให้ได้มาตรฐาน ส่งเสริมพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวทางวัฒนธรรม หลกั สูตแรนนวคกราศรรจธี ัดรรกมารราเชรศียกึ นษราู้ 411

และธรรมชาติ ปลูกฝังความเป็นเจ้าบ้านท่ีดี และเป็นคนมีอัธยาศัยไมตรีท่ีดี เป็นเมืองน่าเท่ียวการเกษตรและ อุตสาหกรรมยั่งยืน นครแห่งการผลิตทางการเกษตรท่ีมีความสมดุลของระบบนิเวศ และสภาพแวดล้อม มุ่งเน้น การผลิตที่มีคุณภาพ ปลอดภัย มีมาตรฐาน ตรงตามความต้องการของผู้บริโภค และน�ำนวัตกรรม เทคโนโลยี อนั ทนั สมยั มาประยกุ ตใ์ ช้ สง่ ผลใหเ้ กษตรกร ประชาชน ชาวจงั หวดั นครศรธี รรมราช มคี วามผาสกุ และมคี ณุ ภาพชวี ติ ดขี ้ึน การบริหารจัดการดา้ นโครงสร้างพ้นื ฐานการผลิตที่มปี ระสิทธภิ าพสูงสดุ ในเรือ่ ง ดิน น�้ำ และระบบชลประทาน รวมทง้ั การจดั สรรทดี่ ินทำ� กิน การจัดการด้านการสง่ เสริมการผลิตพชื สตั ว์ ประมง การพัฒนาศกั ยภาพเกษตรกรสู่ Smart Farmer การพัฒนาองค์กรเกษตรกร ให้เข้มแข็ง การบริหารจัดการฟาร์มสู่ Smart Farm การวางแผน การผลติ การพัฒนาตลาดสนิ ค้าเกษตร ที่มีความยงั่ ยนื และเชอื่ มโยงเครือขา่ ยด้านการตลาดทัง้ ภายในและภายนอก ประเทศ การแปรรูปเพิ่มมูลค่าสินค้าเกษตรสร้างผลตอบแทนเชิงเศรษฐกิจ และการประยุกต์ใช้นวัตกรรมด้าน การเกษตรคขู่ นานภมู ิปญั ญาท้องถิน่ โดยยดึ หลกั ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพยี งเป็นแนวทางในการพฒั นา พร้อมท้งั สนับสนุนการท่องเท่ียว เชิงเกษตร/เชิงนิเวศ สนับสนุนและพัฒนาอุตสาหกรรมที่เป็นมิตรกับส่ิงแวดล้อม เพื่อเพ่ิม มลู คา่ ผลติ ภณั ฑม์ วลรวมของจงั หวดั สกู่ ารพฒั นาการเกษตรทย่ี ง่ั ยนื ของจงั หวดั โดยคำ� นงึ ถงึ ความยง่ั ยนื ทางเศรษฐกจิ ความยัง่ ยนื ทางดา้ นส่งิ แวดล้อม และความยั่งยนื ทางดา้ นสงั คมของจงั หวดั แผนพัฒนาจังหวัดนครศรีธรรมราช พ.ศ. 2561-2564 ได้มีนโยบายด้านการพัฒนาการท่องเที่ยว ดังนี้ ประเด็นยุทธศาสตร์ที่ 2 การพัฒนาการท่องเท่ียวบนพ้ืนฐานธรรมะ ธรรมชาติ และศิลปวัฒนธรรม 3 ประเดน็ ยุทธศาสตรก์ ารทอ่ งเท่ียวของจังหวัด ประเดน็ ท่ี 1 การพฒั นาคณุ ภาพแหลง่ ทอ่ งเทย่ี ว สนิ คา้ และบรกิ ารทอ่ งเทยี่ วทกี่ อ่ ใหเ้ กดิ ความยงั่ ยนื ประเด็นที่ 2 การสง่ เสริมการตลาดท่องเท่ยี วเชงิ รกุ ประเด็นท่ี 3 การพฒั นาการบรหิ ารจัดการการทอ่ งเท่ยี ว กลยทุ ธ/์ แนวทางการพัฒนา 1. พัฒนาแหล่งท่องเท่ียว สินค้าและบริการด้านการท่องเที่ยวให้ได้มาตรฐานและมีศักยภาพ เชงิ เศรษฐกิจแกจ่ งั หวัด 2. ยกระดับกิจกรรมการท่องเท่ียวที่มีศักยภาพทางการท่องเที่ยวให้เป็นแบรนด์การท่องเที่ยว ระดบั นานาชาติ 3. พัฒนาและปรบั ปรงุ โครงสรา้ งพ้ืนฐานเพื่อรองรบั การท่องเทย่ี ว 4. พัฒนาและปรบั ปรุงสิ่งอานวยความสะดวกดา้ นการท่องเที่ยว 5. พัฒนาและปรบั ปรงุ ความปลอดภยั และสุขอนามัยดา้ นการทอ่ งเทย่ี ว ประเดน็ ยทุ ธศาสตร์ ท่ี 2 การส่งเสรมิ การตลาดทอ่ งเท่ยี วเชิงรกุ เปา้ หมาย/วตั ถุประสงค์ 1. ยกระดับต�ำแหน่งทางการตลาดจากการเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่มีความหลากหลายสู่การเป็น แหล่งท่องเที่ยวท่ีมีคุณภาพ 2. นกั ทอ่ งเที่ยวมคี วามม่ันใจและเชือ่ มั่นในการเดนิ ทางสูจ่ งั หวัดนครศรธี รรมราช 412 แหนลกัวสกูตารรนจคดั รกศารรธี เรรรยี มนรารชู้ ศกึ ษา

กลยุทธ/์ แนวทางการพัฒนา 1. ยกระดบั ภาพลักษณก์ ารทอ่ งเท่ยี วสูก่ ารเปน็ Quality Destination 2. สง่ เสรมิ ความรว่ มมอื ทางการตลาดกบั ภาคสว่ นตา่ ง ๆ และการใชเ้ ทคโนโลยใี นทางการตลาด วสิ ยั ทัศน์ของจงั หวัด ประเด็นยุทธศาสตร์ ที่ 3 การพฒั นาการบรหิ ารจดั การการท่องเทีย่ ว เปา้ หมาย/วัตถุประสงค์ 1. การวางแผนและด�ำเนินงานด้านการท่องเท่ียวของทุกภาคส่วนอย่างมีการบูรณาการ มีความสอดคลอ้ งและเปน็ ไปตามทศิ ทางเดียวกัน 2. ทุกภาคส่วนมีความร่วมมือในการพัฒนาและบริหารการท่องเที่ยวของจังหวัด นครศรธี รรมราช 3. บุคลากรด้านการท่องเท่ียวมคี ุณภาพมาตรฐานและจรรยาบรรณ กลยุทธ์/แนวทางการพฒั นา 1. พัฒนาบคุ ลากรด้านการทอ่ งเท่ยี วและยกระดบั ผปู้ ระกอบการ 2. พฒั นาระบบข้อมลู และสารสนเทศเพื่อการทอ่ งเท่ียว 3. ส่งเสริมมาตรการเก่ยี วกบั การควบคุม/กฎหมายทเ่ี ก่ียวขอ้ งดา้ นการทอ่ งเที่ยว หนว่ ยงานทเี่ กีย่ วข้องกับการทอ่ งเทยี่ ว 1. กระทรวงการทอ่ งเทยี่ วและกฬี า (Ministry of Tourism and Sport) กระทรวงการทอ่ งเทยี่ ว และกีฬา เป็นกระทรวงที่มีภารกิจหลักในการส่งเสริม สนับสนุน และพัฒนา อุตสาหกรรมการท่องเท่ียว การกีฬา การศึกษาด้านกีฬา นันทนาการ และราชการอื่น ๆ ท่ีมีกฎหมายก�ำหนดให้เป็นอ�ำนาจหน้าท่ีของกระทรวง การท่องเทยี่ วและกฬี า กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา จัดต้ังข้ึนตามพระราชบัญญัติปรับปรุงกระทรวง ทบวง กรม พ.ศ. 2545 หมวด 5 ตามมาตรา 14 กำ� หนดใหก้ ระทรวงการทอ่ งเทยี่ วและกีฬา มีอ�ำนาจหน้าทเี่ กีย่ วกับการสง่ เสรมิ สนบั สนนุ และพฒั นาอตุ สาหกรรมการท่องเทีย่ ว การกฬี า การศกึ ษา ดา้ นกฬี า นนั ทนาการ และราชการอน่ื ตามท่ี กฎหมายก�ำหนด ให้อ�ำนาจหน้าท่ีของกระทรวงการท่องเท่ียวและกีฬา มีส่วนราชการตามมาตรา 15 ดังต่อไปน้ี (1) ส�ำนักงานรฐั มนตรี (2) สำ� นักงานปลัดกระทรวง (3) ส�ำนกั งานพัฒนาการกีฬาและนนั ทนาการ (4) สำ� นกั งาน พัฒนาการทอ่ งเทีย่ ว 2. การท่องเท่ียวแห่งประเทศไทย (Tourism Authority of Thailand : TAT) เกิดขึ้นโดย พระด�ำรขิ องพระเจา้ บรมวงศ์เธอ กรมพระกำ� แพงเพชรอัครโยธิน ครงั้ ทรงด�ำรงตำ� แหน่งผูบ้ ญั ชาการรถไฟ ได้มกี าร สง่ เรอื่ งราวเกยี่ วกบั เมอื งไทยไปเผยแพรใ่ นสหรฐั อเมรกิ า ใน พ.ศ. 2467 ไดม้ กี ารจดั ตงั้ แผนกโฆษณาของการรถไฟขนึ้ ท�ำหน้าท่ีรับรอง และให้ความสะดวกแก่นักท่องเท่ียวที่จะเดินทางมาประเทศไทย รวมท้ังการโฆษณาเผยแพร่ ประเทศไทย ให้เป็นที่รู้จักของชาวต่างประเทศ มีส�ำนักงานตั้งอยู่ที่กรมรถไฟ เชิงสะพานนพวงศ์ ต่อมาได้ย้ายมา ตงั้ ทสี่ ถานรี ถไฟหวั ลำ� โพง เมอ่ื พระเจา้ บรมวงศเ์ ธอ กรมพระกำ� แพงเพชรอคั รโยธนิ ทรงยา้ ยไปดำ� รงตำ� แหนง่ เสนาบดี หลกั สตู แรนนวคกราศรรจธี ดัรรกมารราเชรศยี ึกนษราู้ 413

กระทรวงพาณชิ ย์ และคมนาคม งานดา้ นส่งเสริมการท่องเทย่ี ว ได้ยา้ ยไปอยทู่ ีก่ ระทรวงพาณชิ ย์ และคมนาคมดว้ ย แตย่ งั คงท�ำงานรว่ มกบั กรมรถไฟ มสี ำ� นกั งานตงั้ ที่ถนนเจริญกรุง หนา้ ไปรษณยี ก์ ลาง 3. สมาคมมัคคเุ ทศก์อาชพี หรอื ส.ม.อ. (Professional Tourist Guide Association: PTGA) สมาคมมัคคุเทศก์อาชพี เป็นองค์กรท่ีเป็นศูนย์รวมของผูป้ ระกอบกอาชีพมคั คุเทศก์ เพือ่ ใหส้ มาชกิ ได้พบปะสังสรรค์ แลกเปล่ียนความคิดเห็น และเปน็ ศนู ยส์ ่ือข่าวระหวา่ งสมาชิกของสมาคม 4. กรมการทอ่ งเทยี่ ว (Department of Tourism) กรมการทอ่ งเทยี่ ว เปน็ สว่ นราชการระดบั กรม สังกัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ซึ่งจัดตั้งขึ้นตามพระราชบัญญัติปรับปรุงกระทรวง ทบวง กรม พ.ศ. 2545 มาตรา 5 หมวด 5 ตั้งแต่วันท่ี 3 ตุลาคม 2545 กรมการท่องเทีย่ ว มภี ารกิจเกยี่ วกบั การทอ่ งเท่ียว ในการพัฒนา มาตรฐาน การบริการด้าน การท่องเที่ยวและแหล่งท่องเที่ยว รวมทั้งการสนับสนุนการประกอบธุรกิจน�ำเที่ยวและ มัคคเุ ทศกใ์ ห้อยู่ในระดบั มาตรฐาน เพอ่ื ก่อให้เกิดประโยชนท์ างเศรษฐกิจ สงั คม และวฒั นธรรม และเพ่อื กอ่ ให้เกดิ การท่องเท่ียวแบบยั่งยืน ซ่ึงเดิมเป็นภารกิจของการท่องเท่ียวแห่งประเทศไทย และได้ถ่ายโอนมาให้ส�ำนักงาน พฒั นาการท่องเที่ยว ตามพระราชบญั ญัตปิ รบั ปรงุ กระทรวง ทบวง กรม พ.ศ. 2545 ประกอบกบั กฎกระทรวงแบ่ง ส่วนราชการส�ำนักงานพัฒนาการท่องเท่ียว กระทรวงการท่องเท่ียวและกีฬา พ.ศ. 2545 นอกจากน้ี ส�ำนักงาน พฒั นาการท่องเท่ียว ยังรบั โอนงานพัฒนาและสนบั สนนุ กจิ การภาพยนตร์มาจากกรมประชาสมั พันธ์ดว้ ย 5. สมาคมโรงแรมไทย (Thai Hotel Association: THA) สมาคมโรงแรมไทย เป็นองค์กร ท่ีส่งเสริมการประกอบธุรกิจโรงแรม สร้างความสามัคคีระหว่างสมาชิก แลกเปลี่ยนความรู้ความคิดเห็นเชิงวิชาการ ซง่ึ กันและกนั คุม้ ครองสง่ เสริมและรกั ษาผลประโยชนร์ ่วมกนั ประสานงานกบั ภาครฐั และภาคเอกชนในการอ�ำนวย ประโยชน์เพ่ือให้บรรลุวัตถุประสงค์ร่วมกัน สมาคมมีนโยบายในการด�ำเนินงานบริหารสมาคมโดยร่วมประสานงาน กบั หนว่ ยงานตา่ ง ๆ ในการสง่ เสรมิ และสนบั สนนุ อตุ สาหกรรมการทอ่ งเทย่ี วและบรหิ ารตลอดจนการพฒั นาบคุ ลากร ให้มคี ุณภาพ และมีมาตรฐานมากยงิ่ ขึ้น สมาคมโรงแรมไทยกอ่ ตง้ั ขน้ึ เม่ือปี พ.ศ. 2506 โดยคณะผบู้ รหิ ารโรงแรมและ เจา้ ของโรงแรมไดร้ ว่ มกนั ขออนญุ าตจดั ตงั้ ขนึ้ โดยในขณะนน้ั เรยี กวา่ “สมาคมโรงแรมเพอ่ื นกั ทศั นาจรแหง่ ประเทศไทย” 414 แหนลักวสกตูารรนจคดั รกศารรีธเรรรียมนรารชู้ ศึกษา

หน่วยท่ี 13 โครงการอันเนื่องมาจากพระราชด�ำริ มาตรฐานการเรยี นร/ู้ ตัวชี้วัด มาตรฐาน ส 4.3 เข้าใจความเป็นมาของชาตไิ ทย วฒั นธรรม ภูมปิ ัญญาไทย มีความรัก ความภมู ิใจ และ ธำ� รงความเป็นไทย ตัวช้วี ดั ป. 3/1 ระบพุ ระนามและพระราชกรณยี กิจโดยสงั เขปของพระมหากษตั รยิ ไ์ ทยท่เี ป็นผทู้ รงสถาปนา อาณาจักรไทย ป. 3/2 อธบิ ายพระราชประวตั แิ ละพระราชกรณยี กจิ ของพระมหากษตั รยิ ใ์ นรชั กาลปจั จบุ นั โดยสงั เขป ป. 4/3 อธิบายความสำ� คญั สถาบันพระมหากษตั รยิ ์ตามระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษตั ริย์ ทรงเป็นพระมุข ป. 5/2 ประยกุ ตใ์ ชแ้ นวคดิ ของปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพียงในการทำ� กิจกรรมตา่ ง ๆ ในครอบครัว โรงเรียน และชุมชน ป. 6/4 อธิบายภูมปิ ัญญาไทยที่ส�ำคัญสมยั รัตนโกสนิ ทร์ท่นี ่าภาคภมู ใิ จ และควรคา่ แกก่ ารอนรุ ักษไ์ ว้ สาระส�ำคญั /ความคดิ รวบยอด การศกึ ษาพระราชกรณยี กจิ เกย่ี วกบั โครงการพระราชดำ� รนิ ำ� สกู่ ารปรบั ใชใ้ นชวี ติ ประจำ� วนั แสดงถงึ การรกั ษ์ และภมู ใิ จในความเปน็ ไทย สาระการเรยี นรู้ โครงการพระราชดำ� รขิ องพระบาทสมเดจ็ พระบรมชนกาธเิ บศร มหาภมู พิ ลอดลุ ยเดชมหาราช บรมนาถบพติ ร (รชั กาลท่ี 9) ในจังหวดั นครศรธี รรมราช หลกั สตู แรนนวคกราศรรจธี ดัรรกมารราเชรศียกึ นษราู้ 415

http://www.nakhonsithammarat.go.th/royalproject/index.php# 416 แหนลักวสกตูารรนจคัดรกศารรธี เรรรยี มนรารชู้ ศกึ ษา

กิจกรรม 1. สืบค้นโครงการพระราชดำ� รใิ นจังหวดั นครศรีธรรมราชทแ่ี กป้ ญั หาการด�ำรงชวี ิตของประชาชนใน ชมุ ชน/หรอื พัฒนาวิถีชวี ิตของประชาชนในชุมชน 2. นำ� ผลการสบื คน้ จดั ลำ� ดับความต้องการปรบั ใช้สู่วถิ ีชวี ติ และแลกเปล่ยี น 3. แตล่ ะกลมุ่ เลอื ก 1 โครงการพระราชด�ำรมิ าออกแบบโครงงานปฏิบตั ิ ของกลุม่ ตนเอง 4. น�ำเสนอผลการปฏิบตั โิ ครงงานและผลทเี่ กดิ ข้ึนในชีวิตประจ�ำวันดว้ ยวิธีการที่หลากหลาย การวดั และประเมนิ ผล รายการ วิธกี าร เครอื่ งมอื 1. ชน้ิ งาน แบบบันทึกการสืบคน้ ตรวจสอบ แบบบนั ทึกการสืบค้น 2. ชิ้นงาน โครงงานปฏบิ ตั ิ ตรวจสอบ สัมภาษณ์ แบบบันทึกการตรวจสอบโครงงาน แบบสัมภาษณ์ ท่ีมา : http://www.nakhonsithammarat.go.th/royalproject/index.php หลกั สูตแรนนวคกราศรรจีธัดรรกมารราเชรศยี ึกนษราู้ 417

418 แหนลักวสกตูารรนจคดั รกศารรีธเรรรียมนรารชู้ ศึกษา โครงการอนั เนือ่ งมาจากพระราชด�ำริในจงั หวัดนครศรีธรรมราช (จำ� นวน 66 โครงการใหญ่ 12 โครงการย่อย จ�ำแนกโครงการพัฒนาออกเป็น 5 ดา้ น) ดงั น้ี โครงการพัฒนา โครงการพัฒนา โครงการพฒั นา โครงการพฒั นา โครงการพฒั นา ดา้ นแหล่งนำ้� ด้านสิง่ แวดล้อม ดา้ นส่งเสริมอาชพี ดา้ นสวัสดิการสงั คม/ ด้านแบบบรู ณาการและ จ�ำนวน 53 โครงการ เช่น จำ� นวน 4 โครงการ จ�ำนวน 1 โครงการ เช่น โครงการพัฒนาด้านอ่ืน ๆ 1. ฝายคลองสงั ข์อันเนื่องมาจาก 1. โครงการอนรุ กั ษ์และฟ้ืนฟู 1. สง่ เสรมิ ศิลปาชีพ การศกึ ษา พระราชด�ำริ ต�ำบลท่ายาง ปา่ พรุควนเคร็ง (จัดทำ� ฝาย บา้ นตรอกแค ตำ� บลขอนหาด จ�ำนวน 4 โครงการ เช่น จำ� นวน 4 โครงการ อำ� เภอทุ่งใหญ่ น�ำ้ ลน้ ชั่วคราว) ต�ำบลเคร็ง อำ� เภอชะอวด 1. โรงเรยี นต�ำรวจตระเวน 12 โครงการย่อย 2. ฝายคลองวงั หบี (วงั ฉอ้ นาง) อ�ำเภอชะอวด ชายแดน บ้านเขาวงั หมทู่ ี่ 12 อนั เนอ่ื งมาจากพระราชดำ� ริ 2. กอ่ สรา้ งฝายชะลอการไหล ตำ� บลหนิ ตก อำ� เภอรอ่ นพบิ ลู ย์ เชน่ (บา้ นวังฉอ้ นาง) ของนำ้� ในพื้นทปี่ า่ พรุ 2. โรงเรียนต�ำรวจตระเวน 1. พัฒนาพน้ื ทล่ี ุ่มน้ำ� ปากพนงั ตำ� บลนาหลวงเสน อ.ทุ่งสง ตำ� บลสวนหลวง ชายแดน บา้ นควนมีชยั อนั เนอื่ งมาจากพระราชด�ำริ 3. พฒั นาพน้ื ทีล่ ุม่ น้�ำปากพนัง อำ� เภอเฉลมิ พระเกียรติ ฯลฯ หมู่ที่ 8 ต�ำบลวงั อ่าง ฯลฯ ฯลฯ อ�ำเภอชะอวด ฯลฯ

หน่วยที่ 13 โครงการอันเนื่องมาจากพระราชด�ำริ โครงการอนั เนื่องมาจากพระราชด�ำริ ในพระบาทสมเดจ็ พระบรมชนกาธเิ บศร มหาภูมพิ ลอดลุ ยเดชมหาราช บรมนาถบพติ ร มีจ�ำนวน 66 โครงการใหญ่ 12ในโคจรังงหกวารัดยน่อคยรจศำ� รแธีนรกรโคมรรงากชารพัฒนาออกเปน็ 5 ดา้ น ดังนี้ โครงการ/ทต่ี ั้ง เมอื่ วันที่ หมายเหตุ 1. ฝายคลองปากลงอนั เนือ่ งมาจาก โครงการพฒั นาด้านแหล่งน้ำ� พระราชดำ� ริ ต�ำบลนบพติ ำ� พระบาทสมเด็จพระบรมชนกา ลกั ษณะโครงการ : ก่อสรา้ งฝายทดนำ้� อ�ำเภอนบพิตำ� พร้อมท่อระบายน�้ำ ธเิ บศร มหาภมู พิ ลอดุลยเดช ประโยชนข์ องโครงการ : สง่ น�้ำให้พืน้ ท่ี มหาราช บรมนาถบพิตร การเกษตร 2,500 ไร่ หน่วยงานทรี่ บั ผดิ ชอบ : กรมชลประทาน พ.ศ. 2520 ลกั ษณะโครงการ : ก่อสร้างฝายทอ่ ระบายน�้ำปากคลอง 2. ฝายคลองเปียน อนั เนอ่ื งมาจาก พระบาทสมเดจ็ พระบรมชนกา ประโยชน์ของโครงการ : สง่ น�ำ้ สนับสนนุ พระราชดำ� ริ ต�ำบลนบพติ ำ� ธิเบศร มหาภูมพิ ลอดลุ ยเดช พื้นทีก่ ารเกษตร 100 ไร่ อ�ำเภอนบพติ ำ� มหาราช บรมนาถบพิตร หนว่ ยงานที่รับผิดชอบ : กรมชลประทาน ลกั ษณะโครงการ : ปรับปรุงคลองสง่ น้ำ� 23 ธันวาคม 2520 ท่อระบายนำ�้ ปากคลองและอาคาร ประกอบทอ่ ลอดถนนทอ่ ส่งนำ�้ 3. โครงการปรับปรุงระบบส่งน้ำ� พระบาทสมเดจ็ พระบรมชนกา ประโยชน์ของโครงการ : ส่งน�้ำสนบั สนุน บา้ นหว้ ยแห้ง – บ้านเปยี น ตำ� บลนบพิต�ำ ธเิ บศร มหาภูมิพลอดุลยเดช พ้นื ทกี่ ารเกษตร 2,500 ไร่ อำ� เภอนบพติ ำ� มหาราช บรมนาถบพิตร หนว่ ยงานทีร่ ับผดิ ชอบ : กรมชลประทาน พ.ศ. 2520 ลักษณะโครงการ : ก่อสรา้ งฝายหนิ กอ่ และขดุ คลองส่งน้ำ� 4. ฝายคลองเสยี นอนั เน่ืองมาจาก พระบาทสมเด็จพระบรมชนกา ประโยชนข์ องโครงการ : สง่ นำ�้ สนับสนุน พระราชดำ� ริ ต�ำบลนบพิต�ำ ธเิ บศร มหาภูมพิ ลอดลุ ยเดช พน้ื ทีก่ ารเกษตร 730 ไร่ อำ� เภอนบพติ ำ� มหาราช บรมนาถบพติ ร หน่วยงานทร่ี บั ผิดชอบ : กรมชลประทาน พ.ศ. 2520 หลักสูตแรนนวคกราศรรจธี ัดรรกมารราเชรศียึกนษราู้ 419

โครงการ/ทต่ี ั้ง เมอ่ื วนั ที่ หมายเหตุ 5. ฝายคลองแซอันเน่อื งมาจาก พระบาทสมเด็จพระบรมชนกา ลกั ษณะโครงการ : กอ่ สร้างฝายหินกอ่ พระราชด�ำริ ตำ� บลนบพติ �ำ ธิเบศร มหาภมู พิ ลอดุลยเดช พร้อมท่อระบายนำ�้ ปากคลอง อำ� เภอนบพิตำ� ประโยชน์ของโครงการ : ส่งน�้ำช่วยเหลอื 6. ฝายคลองนบพิตำ� อันเนอื่ งมาจาก มหาราช บรมนาถบพติ ร ราษฎรใชส้ �ำหรบั อปุ โภค บรโิ ภคและพนื้ ท่ี พระราชดำ� ริ ต�ำบลนบพิต�ำ พ.ศ. 2520 การเกษตร อำ� เภอนบพติ ำ� หนว่ ยงานทร่ี บั ผิดชอบ : กรมชลประทาน 7. อ่างเก็บนำ�้ หว้ ยนำ�้ ใส อนั เนอ่ื งมาจาก พระบาทสมเดจ็ พระบรมชนกา ลกั ษณะโครงการ : ฝายหินก่อ พระราชดำ� ริ ต�ำบลวงั หอน และ ธิเบศร มหาภมู ิพลอดุลยเดช ประโยชนข์ องโครงการ : กกั เก็บน้�ำ ตำ� บลวงั อ่าง อำ� เภอชะอวด มหาราช บรมนาถบพติ ร ส�ำหรับอปุ โภคบรโิ ภค ใหแ้ ก่ราษฎร 8. ฝายคลองสงั ขอ์ ันเน่อื งมาจาก ในพ้ืนที่ และสง่ นำ้� สนบั สนุนพน้ื ท่ี พระราชด�ำริ ต�ำบลท่ายาง 23 สงิ หาคม 2520 การเกษตร 1,500 ไร่ อำ� เภอท่งุ ใหญ่ พระบาทสมเด็จพระบรมชนกา หนว่ ยงานทีร่ บั ผดิ ชอบ : กรมชลประทาน 9. อ่างเกบ็ นำ�้ สระมโนราห์ อนั เนอ่ื งมาจาก ธเิ บศร มหาภมู ิพลอดุลยเดช ลกั ษณะโครงการ : กอ่ สรา้ งระบบ พระราชด�ำริ ตำ� บลปริก อำ� เภอทงุ่ ใหญ่ ชลประทาน อาคารระบายน�ำ้ ล้น มหาราช บรมนาถบพติ ร ประโยชน์ของโครงการ : สง่ น�ำ้ ช่วยเหลือ 10. โครงการบอ่ บาดาลบ้านบอ่ จกิ 13 กันยายน 2521 พ้นื ที่การเกษตร 35,500 ไร่ อันเนอื่ งมาจากพระราชดำ� ริ หนว่ ยงานท่ีรับผดิ ชอบ : กรมชลประทาน ตำ� บลบางจาก อ�ำเภอเมือง พระบาทสมเด็จพระบรมชนกา ลกั ษณะโครงการ : ขุดลอกฝายคลองสงั ข์ ธิเบศร มหาภูมพิ ลอดลุ ยเดช ประโยชน์ของโครงการ : สง่ นำ�้ มหาราช บรมนาถบพติ ร ชว่ ยเหลอื ราษฎรในพน้ื ทส่ี �ำหรบั อุปโภค บริโภค พนื้ ทท่ี �ำเกษตร 17,000 ไร่ 18 กันยายน 2523 หนว่ ยงานทีร่ บั ผิดชอบ : กรมชลประทาน พระบาทสมเด็จพระบรมชนกา ลกั ษณะโครงการ : กอ่ สรา้ งอา่ งเก็บน้ำ� ธเิ บศร มหาภมู ิพลอดลุ ยเดช ทำ� นบดิน อาคารส่งน�ำ้ และทางระบายน้ำ� ฉุกเฉนิ มหาราช บรมนาถบพิตร ประโยชน์ของโครงการ : ชว่ ยเหลอื ราษฎร จ�ำนวน 1 หมู่บ้าน 70 ครัวเรือน พระบาทสมเดจ็ พระบรมชนกา ใหม้ ีนำ�้ สำ� หรบั อปุ โภคบริโภคและพนื้ ที่ ธเิ บศร มหาภมู พิ ลอดุลยเดช การเกษตร 300 ไร่ มหาราช บรมนาถบพิตร หนว่ ยงานทรี่ ับผิดชอบ : กรมชลประทาน ลกั ษณะโครงการ : จดั ซือ้ อปุ กรณ์และติด พ.ศ. 2525 ตั้งเครอื่ งสบู น�้ำ ประโยชนข์ องโครงการ : ชว่ ยเหลือ ราษฎรในพื้นทส่ี �ำหรบั อปุ โภคบริโภค และ ทำ� การเกษตร หนว่ ยงานที่รบั ผดิ ชอบ : กรมชลประทาน 420 แหนลกัวสกูตารรนจคดั รกศารรีธเรรรียมนรารชู้ ศกึ ษา

โครงการ/ที่ตัง้ เมื่อวนั ท่ี หมายเหตุ 11. โครงการฟ้ืนฟูพ้ืนท่แี ละบรรเทาอุทกภยั พระบาทสมเดจ็ พระบรมชนกา ลักษณะโครงการ : ขดุ ลอกและขยาย บา้ นครี วี งอนั เนอื่ งมาจากพระราชด�ำริ ธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดช ความกว้างคลอง บ้านคีรวี ง ต�ำบลก�ำโลน อ�ำเภอลานสกา ประโยชน์ของโครงการ : การระบายน�้ำ 12. อา่ งเก็บน�ำ้ คลองกระทูนอันเน่ือง มหาราช บรมนาถบพติ ร ใหม้ ปี ระสทิ ธภิ าพ มาจากพระราชดำ� ริ ตำ� บลกระทนู 24 ธนั วาคม 2531 หน่วยงานท่ีรับผิดชอบ : กรมชลประทาน อำ� เภอพปิ ูน ลกั ษณะโครงการ : ปรบั ปรงุ อา่ งเกบ็ นำ�้ 13. อ่างเกบ็ น้ำ� คลองเพรียงอันเนือ่ งมาจาก พระบาทสมเด็จพระบรมชนกา ประโยชนข์ องโครงการ : ส่งน้ำ� ไปใช้ พระราชด�ำริ ตำ� บลทงุ่ สังข์ ธเิ บศร มหาภูมพิ ลอดลุ ยเดช เพื่อการเพาะปลูก พืน้ ท่ีการเกษตรกวา่ อำ� เภอทงุ่ ใหญ่ มหาราช บรมนาถบพิตร 12,500 ไร่ และเปน็ แหลง่ เลี้ยงปลาน้ำ� จดื หน่วยงานทรี่ ับผิดชอบ : กรมชลประทาน 14. ฝายคลองท่าโลน อันเนือ่ งมาจาก พ.ศ. 2531 ลกั ษณะโครงการ : กอ่ สร้างอา่ งเก็บนำ้� พระราชดำ� ริ บา้ นใสเหนือ พระบาทสมเด็จพระบรมชนกา ประโยชน์ของโครงการ : ส่งน�้ำ ต�ำบลนาหลวงเสน อำ� เภอทงุ่ สง ธิเบศร มหาภูมพิ ลอดลุ ยเดช เพอื่ การอุปโภคบรโิ ภคของราษฎร 1 หมู่บ้าน 90 ครวั เรือนและสง่ น�้ำช่วยเหลือ 15. ฝายคลองวังหีบ (วงั ฉ้อนาง) มหาราช บรมนาถบพิตร พน้ื ท่กี ารเกษตร 300 ไร่ อันเน่อื งมาจากพระราชด�ำริ 18 กันยายน 2533 หน่วยงานทีร่ บั ผดิ ชอบ : กรมชลประทาน บ้านวงั ฉ้อนาง ตำ� บลนาหลวงเสน ลกั ษณะโครงการ : ฝายคอนกรตี อ�ำเภอท่งุ สง่ พระบาทสมเดจ็ พระบรมชนกา เสรมิ เหล็ก และพร้อมระบบคลองส่งน้ำ� ธเิ บศร มหาภมู พิ ลอดลุ ยเดช ประโยชน์ของโครงการ : ช่วยเหลอื 16. อา่ งเก็บน้�ำบ้านนาประดิษฐ์ มหาราช บรมนาถบพติ ร ราษฎรส�ำหรบั อปุ โภคบรโิ ภคและพนื้ ท่ี อันเน่อื งมาจากพระราชด�ำริ การเกษตร 2,500 ไร่ ต�ำบลนาหลวงเสน อำ� เภอท่งุ สง 2 ตุลาคม 2533 หนว่ ยงานทร่ี บั ผดิ ชอบ : กรมชลประทาน ลักษณะโครงการ : ฝายทดน้ำ� พรอ้ ม พระบาทสมเดจ็ พระบรมชนกา อาคารประกอบและระบบสง่ น้ำ� ธิเบศร มหาภมู พิ ลอดุลยเดช ประโยชน์ของโครงการ : ช่วยเหลอื มหาราช บรมนาถบพิตร ราษฎร จำ� นวน 3 หมูบ่ า้ น 2,000 คน ให้มนี ้�ำสำ� หรบั อุปโภคบริโภคและพ้ืนที่ (ฎีกา) ท�ำการเกษตร 1,000 ไร่ พ.ศ. 2533 หน่วยงานที่รบั ผดิ ชอบ : กรมชลประทาน ลักษณะโครงการ : กอ่ สรา้ งอา่ งเกบ็ นำ้� พระบาทสมเดจ็ พระบรมชนกา พรอ้ มระบบสง่ นำ�้ ธเิ บศร มหาภูมพิ ลอดลุ ยเดช ประโยชนข์ องโครงการ : ช่วยเหลอื มหาราช บรมนาถบพิตร ราษฎรจำ� นวน 3 หม่บู า้ น 2,000 คน ให้มนี ้ำ� ส�ำหรบั อปุ โภคบริโภคและพื้นที่ 2 ตุลาคม 2533 ท�ำการเกษตร 1,000 ไร่ หนว่ ยงานทร่ี ับผดิ ชอบ : กรมชลประทาน หลกั สูตแรนนวคกราศรรจีธดัรรกมารราเชรศียึกนษราู้ 421

โครงการ/ทต่ี ้งั เมอ่ื วันท่ี หมายเหตุ 17. พัฒนาพ้นื ทีล่ ุม่ น�้ำปากพนัง พระบาทสมเดจ็ พระบรมชนกา ลกั ษณะโครงการ : บรหิ ารนำ้� ในลมุ่ นำ�้ (ศึกษาแนวทางด�ำเนนิ งานและออกแบบ ธิเบศร มหาภูมพิ ลอดุลยเดช ปากพนงั ให้มีประสิทธิภาพสูงสดุ รายละเอียด) บ้านใหม่ ตำ� บลบ้านใหม่ หนว่ ยงานทร่ี ับผดิ ชอบ : กรมชลประทาน อำ� เภอปากพนัง มหาราช บรมนาถบพิตร 18. พฒั นาพนื้ ทล่ี ุ่มนำ้� ปากพนัง 2 ตลุ าคม 2536 ลักษณะโครงการ : ขุดลอกคลองชักนำ� อำ� เภอปากพนัง (ขุดลอกคลอง) และระบายคลองระบายน�้ำ พระบาทสมเดจ็ พระบรมชนกา ประโยชนข์ องโครงการ : ส่งน้�ำใหร้ าษฎร 19. พฒั นาพนื้ ที่ลุม่ น�ำ้ ปากพนงั (บนั ไดปลา) ธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดช มีนำ้� อปุ โภคบรโิ ภค และการเกษตรได้ บา้ นใหม่ ต�ำบลบา้ นใหม่ มหาราช บรมนาถบพิตร อย่างเพยี งพอ อำ� เภอปากพนัง หน่วยงานที่รับผิดชอบ : 2 ตุลาคม 2536 หนว่ ยบญั ชาการทหารพัฒนา 20. โครงการใหค้ วามช่วยเหลือพ้นื ที่ป่าจาก ลกั ษณะโครงการ : ปรบั ปรงุ รูปแบบ ตำ� บลขนาบนาก อำ� เภอปากพนัง พระบาทสมเดจ็ พระบรมชนกา และการท�ำงานของบันไดปลาและสตั วน์ �ำ้ ธเิ บศร มหาภมู ิพลอดลุ ยเดช อืน่ ๆ 21. ขดุ คลองระบายนำ้� ชะอวด-แพรกเมอื ง มหาราช บรมนาถบพติ ร ประโยชน์ของโครงการ : อนรุ กั ษเ์ พาะ พร้อมประตรู ะบายน้�ำและคันกน้ั ทราย ขยายพันธุ์ปลาให้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ (โครงการพัฒนาพ้ืนท่ลี ่มุ น้�ำปากพนัง) 2 ตลุ าคม 2536 หน่วยงานท่ีรับผดิ ชอบ : กรมชลประทาน 22. การขดุ ลอกร่องน้ำ� บรเิ วณอ่าวปากพนงั ลักษณะโครงการ : กอ่ สร้างอาคารอดั น�ำ้ และอืน่ ๆ อำ� เภอหวั ไทร – พระบาทสมเดจ็ พระบรมชนกา (เรือสัญจร) และอาคารทอ่ ลอดถนนอัดน�ำ้ อ�ำเภอปากพนงั ธเิ บศร มหาภูมพิ ลอดุลยเดช ประโยชนข์ องโครงการ : ปอ้ งกนั น�ำ้ เค็ม มหาราช บรมนาถบพติ ร ไหลเขา้ พื้นทปี่ ่าจากและบรเิ วณใกล้เคียง หน่วยงานทร่ี ับผิดชอบ : กรมชลประทาน 2 ตุลาคม 2536 ลกั ษณะโครงการ : คลองระบายน้ำ� พรอ้ ม พระบาทสมเด็จพระบรมชนกา ประตรู ะบายนำ�้ และคนั กน้ั ทราย ธิเบศร มหาภมู พิ ลอดุลยเดช ประโยชน์ของโครงการ : ช่วยระบายนำ้� ในฤดูน้�ำหลากไดเ้ ร็วขึน้ ไมใ่ ห้ทว่ มพื้นท่ี มหาราช บรมนาถบพติ ร หนว่ ยงานทรี่ บั ผดิ ชอบ : กรมชลประทาน 1 ธนั วาคม 2531 ลักษณะโครงการ : ขุดลอกคลองหนา้ โกฏิ คลองทา่ พญา คลองฉกุ เฉนิ คลองปากระวะ พระบาทสมเดจ็ พระบรมชนกา คลองแพรกเมือง ธิเบศร มหาภมู พิ ลอดุลยเดช หน่วยงานทร่ี ับผิดชอบ : กรมเจ้าทา่ มหาราช บรมนาถบพิตร 24 ธนั วาคม 2531 422 แหนลักวสกูตารรนจคัดรกศารรธี เรรรียมนรารชู้ ศึกษา

โครงการ/ท่ตี ้งั เมอื่ วนั ที่ หมายเหตุ 23. กอ่ สร้างระบบบ�ำบดั นำ�้ เสียเฉพาะจดุ พระบาทสมเด็จพระบรมชนกา ลกั ษณะโครงการ : กอ่ สรา้ งระบบบ�ำบดั ตำ� บลหัวไทร อำ� เภอปากพนงั ธิเบศร มหาภมู ิพลอดุลยเดช นำ้� เสยี เฉพาะจดุ บรเิ วณหลงั เรอื นจำ� ปากพนงั บรเิ วณโรงเรยี นเทศบาลวดั นาควารี และ 24. กอ่ สร้างประตูระบายน้ำ� หนา้ โกฏิ มหาราช บรมนาถบพติ ร บริเวณ เลียบถนนสขุ าภบิ าล 1 ต�ำบลขนาบนาค อำ� เภอปากพนงั 9 และ 11 ตุลาคม พ.ศ. 2535 หน่วยงานทร่ี ับผิดชอบ : ส�ำนักงานนโยบายและแผน 25. ก่อสรา้ งประตูระบายน�ำ้ ทา่ พญา พระบาทสมเด็จพระบรมชนกา ทรพั ยากรธรรมชาตแิ ละสงิ่ แวดลอ้ ม ตำ� บลท่าพญา อำ� เภอปากพนัง ธเิ บศร มหาภูมพิ ลอดุลยเดช ลกั ษณะโครงการ : กอ่ สรา้ งประตรู ะบาย 26. กอ่ สรา้ งประตูระบายน�ำ้ เสอื หงึ มหาราช บรมนาถบพติ ร น�้ำปากพนงั คลองระบายนำ้� คลองระบาย ตำ� บลเสือหึง อ�ำเภอปากพนัง น�้ำฉกุ เฉิน คันกนั แบง่ เขตน�้ำ คลองระบาย 27. กอ่ สรา้ งประตรู ะบายนำ้� อทุ กวภิ าชประสทิ ธ์ิ 2 ตลุ าคม 2536 นำ้� ฉุกเฉิน คนั กนั้ แบง่ เขตน้ำ� จดื เค็ม ต�ำบลหลู ่อง อำ� เภอปากพนงั หน่วยงานทร่ี ับผดิ ชอบ : 28. ขุดลอกคลองระบายน�้ำและคลองชกั น�ำ้ พระบาทสมเด็จพระบรมชนกา กรมชลประทาน ในพ้นื ท่ีการเกษตร ต�ำบลช้างซ้าย ธิเบศร มหาภมู ิพลอดลุ ยเดช ลักษณะโครงการ : กอ่ สร้างประตรู ะบาย ต�ำบลท่าเรือ ต�ำบลบางจาก อ�ำเภอเมอื ง มหาราช บรมนาถบพิตร น�้ำปากพนัง คลองระบายน�้ำ คลองระบาย 29. ฝายบ้านเขาทราย อันเน่ืองมาจาก น�้ำฉกุ เฉิน คนั ก้นั แบ่งเขตนำ�้ จืด เค็ม พระราชด�ำริ ตำ� บลเปล่ยี น อำ� เภอสิชล 2 ตลุ าคม 2536 หน่วยงานที่รับผดิ ชอบ : กรมชลประทาน พระบาทสมเดจ็ พระบรมชนกา ลักษณะโครงการ : กอ่ สร้างประตูระบาย ธเิ บศร มหาภูมพิ ลอดลุ ยเดช น�้ำปากพนัง คลองระบายน�้ำ คลองระบาย น้�ำฉกุ เฉนิ คนั กนั้ แบ่งเขตน�ำ้ จดื เค็ม มหาราช บรมนาถบพติ ร หนว่ ยงานทร่ี บั ผดิ ชอบ : กรมชลประทาน 2 ตุลาคม 2536 ลักษณะโครงการ : ก่อสรา้ งประตูระบาย น�้ำปากพนงั คลองระบายนำ้� คลองระบาย พระบาทสมเด็จพระบรมชนกา น้ำ� ฉุกเฉนิ คันก้นั แบ่งเขตน้�ำจดื เค็ม ธเิ บศร มหาภมู ิพลอดลุ ยเดช หน่วยงานทร่ี บั ผิดชอบ : กรมชลประทาน มหาราช บรมนาถบพิตร ลักษณะโครงการ : ขดุ ลอกคลองระบาย น�้ำและคลองชักน�ำ้ ในพื้นท่กี ารเกษตร 2 ตุลาคม 2536 หน่วยงานที่รบั ผิดชอบ : กรมชลประทาน พระบาทสมเด็จพระบรมชนกา ธเิ บศร มหาภูมพิ ลอดลุ ยเดช ลักษณะโครงการ : กอ่ สร้างฝาย คอนกรีตเสรมิ เหล็ก พร้อมระบบส่งนำ�้ มหาราช บรมนาถบพติ ร ประโยชน์ของโครงการ : ชว่ ยเหลือ 2 ตลุ าคม 2536 ราษฎรจำ� นวน 2 หมู่บ้าน 700 ครวั เรอื น ใหม้ นี ำ�้ สำ� หรับอุปโภคบรโิ ภคและพื้นท่ี พระบาทสมเด็จพระบรมชนกา การเกษตร 1,100 ไร่ ธเิ บศร มหาภูมพิ ลอดุลยเดช หน่วยงานท่รี ับผิดชอบ : กรมชลประทาน มหาราช บรมนาถบพิตร (ฎกี า) พ.ศ. 2539 หลกั สูตแรนนวคกราศรรจธี ัดรรกมารราเชรศียกึ นษราู้ 423

โครงการ/ทตี่ ง้ั เม่ือวนั ที่ หมายเหตุ 30. อาคารอดั น�ำ้ ห้วยนบเทวดา พระบาทสมเดจ็ พระบรมชนกา ลักษณะโครงการ : ก่อสรา้ งอาคารอดั นำ�้ อันเนือ่ งมาจากพระราชด�ำริ ธเิ บศร มหาภมู ิพลอดลุ ยเดช พรอ้ มระบบท่อสง่ นำ�้ ตำ� บลทุ่งสง อ�ำเภอนาบอน ประโยชนข์ องโครงการ : ชว่ ยเหลอื ราษฎร 31. ฝายคลองเสลาอันเนื่องมาจาก มหาราช บรมนาถบพติ ร ใหม้ ีน�ำ้ ส�ำหรับอุปโภคบรโิ ภค จ�ำนวน 100 พระราชดำ� ริ ตำ� บลละอาย อำ� เภอฉวาง (ฎีกา) ครัวเรือนและพืน้ ท่ีการเกษตร 100 ไร่ หนว่ ยงานท่ีรบั ผดิ ชอบ : กรมชลประทาน 32. ฝายคลองคุดพร้อมระบบส่งนำ้� 12 เมษายน 2539 ลักษณะโครงการ : ก่อสรา้ งฝายคอนกรตี อนั เน่ืองมาจากพระราชดำ� ริ พระบาทสมเด็จพระบรมชนกา เสรมิ เหล็กระบบทอ่ ส่งน�้ำ พรอ้ มอาคาร บา้ นไสโคกลิง ตำ� บลละอาย อ�ำเภอฉวาง ธเิ บศร มหาภมู ิพลอดลุ ยเดช ประกอบ ประโยชนข์ องโครงการ : ช่วยเหลือ 33. ฝายหว้ ยปากเจาพรอ้ มระบบสง่ น้�ำ มหาราช บรมนาถบพิตร ราษฎรจำ� นวน 2 หมู่บ้าน 700 ครวั เรือน อนั เนือ่ งมาจากพระราชด�ำริ (ฎกี า) และพน้ื ท่กี ารเกษตร 1,200 ไร่ บา้ นหนา้ เขาวัด ตำ� บลตลง่ิ ชนั หนว่ ยงานท่รี บั ผิดชอบ : กรมชลประทาน อำ� เภอท่าศาลา 12 เมษายน 2539 ลกั ษณะโครงการ : ก่อสรา้ งฝาย 34. สระเก็บน้ำ� บ้านควนเนยี งอันเน่ืองมาจาก คอนกรตี เสริมเหลก็ พรอ้ มระบบสง่ นำ้� พระราชดำ� ริ บา้ นควนเนียง พระบาทสมเดจ็ พระบรมชนกา ประโยชน์ของโครงการ : ชว่ ยเหลือ ต�ำบลแก้วแสน อ�ำเภอนาบอน ธเิ บศร มหาภมู ิพลอดุลยเดช ราษฎรจ�ำนวน 3 หม่บู ้าน 250 ครวั เรอื น มหาราช บรมนาถบพิตร ใหม้ ีน�ำ้ สำ� หรบั อุปโภคบริโภคและพืน้ ที่ ท�ำการเกษตร 400 ไร่ (ฎีกา) หนว่ ยงานที่รบั ผดิ ชอบ : กรมชลประทาน 5 ตุลาคม 2540 ลกั ษณะโครงการ : กอ่ สร้างฝาย คอนกรีตเสริมเหลก็ พรอ้ มระบบส่งนำ�้ พระบาทสมเด็จพระบรมชนกา ประโยชนข์ องโครงการ : ชว่ ยเหลอื ราษฎร ธเิ บศร มหาภูมิพลอดุลยเดช จ�ำนวน 280 ครวั เรือน ให้มีน้ำ� สำ� หรับ มหาราช บรมนาถบพิตร อุปโภคบริโภคและพื้นทท่ี �ำการเกษตร 800 ไร่ (ฎกี า) หน่วยงานทร่ี ับผิดชอบ : กรมชลประทาน 3 มิถนุ ายน 2542 ลักษณะโครงการ : กอ่ สรา้ งสระเกบ็ น�้ำ ประโยชนข์ องโครงการ : ชว่ ยเหลือ พระบาทสมเด็จพระบรมชนกา ราษฎร จ�ำนวน 32 ครัวเรอื น ให้มีนำ้� ธเิ บศร มหาภูมิพลอดลุ ยเดช สำ� หรบั อปุ โภคบรโิ ภคและพ้นื ทก่ี ารเกษตร มหาราช บรมนาถบพติ ร 100 ไร่ หนว่ ยงานทรี่ ับผิดชอบ : กรมชลประทาน (ฎีกา) 3 สิงหาคม 2544 424 แหนลักวสกูตารรนจคัดรกศารรธี เรรรียมนรารชู้ ศึกษา

โครงการ/ทีต่ ้ัง เมอื่ วนั ที่ หมายเหตุ 35. อ่างเกบ็ น้ำ� คลองเก อนั เน่อื งมาจาก พระบาทสมเด็จพระบรมชนกา ลักษณะโครงการ : อ่างเกบ็ น้�ำพรอ้ ม พระราชด�ำริ ตำ� บลนบพติ ำ� ธิเบศร มหาภูมพิ ลอดุลยเดช ระบบทอ่ สง่ นำ้� อ�ำเภอนบพิต�ำ ประโยชนข์ องโครงการ : ชว่ ยเหลอื ราษฎร มหาราช บรมนาถบพติ ร 5,814 คน 1,250 ครัวเรือน มนี ำ�้ ใน 36. อา่ งเก็บน�้ำท�ำนบ 3 อนั เนือ่ งมาจาก (ฎกี า) การอปุ โภคบรโิ ภค และพื้นทก่ี ารเกษตร พระราชด�ำริ ต�ำบลรอ่ นพิบลู ย์ 1,100 ไร่ อำ� เภอร่อนพบิ ลู ย์ 31 มกราคม 2546 หน่วยงานทีร่ บั ผิดชอบ : กรมชลประธาน พระบาทสมเด็จพระบรมชนกา ลักษณะโครงการ : อ่างเกบ็ น้ำ� พร้อม 37. ฝายคลองตอ่ ยหอย อันเน่อื งมาจาก ธเิ บศร มหาภูมิพลอดุลยเดช กอ่ สร้างระบบทอ่ ส่งน�้ำ พระราชด�ำริ ตำ� บลเขาพระทอง ประโยชนข์ องโครงการ : ชว่ ยเหลอื ราษฎร อำ� เภอชะอวด มหาราช บรมนาถบพติ ร จำ� นวน 11 หม่บู า้ น 3,142 ครัวเรอื นให้ 38. อา่ งเกบ็ น�้ำคลองดนิ แดง อนั เนื่องมาจาก 9 พฤศจิกายน 2549 มีน้ำ� ส�ำหรบั อุปโภคบรโิ ภคและพนื้ ท่ี พระราชดำ� ริ ตำ� บลเขาพระ อ�ำเภอพปิ ูน ท�ำการเกษตร 1,000 ไร่ พระบาทสมเด็จพระบรมชนกา หน่วยงานทร่ี บั ผิดชอบ : กรมชลประทาน 39. พัฒนาพ้ืนที่บา้ นเนนิ ธมั มัง ธเิ บศร มหาภูมิพลอดลุ ยเดช ลกั ษณะโครงการ : ฝายคอนกรตี อนั เนอื่ งมาจากพระราชด�ำริ มหาราช บรมนาถบพิตร เสรมิ เหล็กพรอ้ มระบบท่อส่งน้�ำ บา้ นเนินธัมมัง (จัดหาแหล่งน�ำ้ ) ประโยชนข์ องโครงการ : ชว่ ยเหลือ ตำ� บลแม่เจา้ อยู่หัว อ�ำเภอเชียรใหญ่ พ.ศ. 2536 การอุปโภค-บรโิ ภค 80 ครัวเรอื นและ พระบาทสมเด็จพระบรมชนกา พ้ืนท่กี ารเกษตร 1,000 ไร่ ธเิ บศร มหาภมู ิพลอดุลยเดช หน่วยงานที่รบั ผดิ ชอบ : กรมชลประทาน ลักษณะโครงการ : ก่อสร้างอ่างเกบ็ นำ้� มหาราช บรมนาถบพิตร พร้อมระบบทอ่ ระบายน�ำ้ 23 พฤศจิกายน 2531 ประโยชน์ของโครงการ : ช่วยเหลอื สมเดจ็ พระนางเจา้ สิรกิ ิต์ิ ราษฎรในพ้ืนทีใ่ หม้ ีนำ้� อุปโภคบรโิ ภคและ พระบรมราชินนี าถ ทำ� การเกษตร ได้อย่างเพียงพอ พระบรมราชชนนีพนั ปหี ลวง หนว่ ยงานทร่ี บั ผดิ ชอบ : กรมชลประทาน ลักษณะโครงการ : ขดุ ลอกคลองเพื่อเกบ็ 7 ตุลาคม 2536 กกั และระบายนำ�้ คันกนั้ น�ำ้ พร้อมอาคาร ประกอบ ประโยชนข์ องโครงการ : ชว่ ยเหลือ ราษฎร ใหม้ นี �้ำส�ำหรับอุปโภคบริโภคและ ทำ� เกษตร ไดอ้ ยา่ งเพียงพอ หนว่ ยงานทีร่ ับผิดชอบ : กรมชลประทาน หลักสตู แรนนวคกราศรรจธี ดัรรกมารราเชรศียกึ นษราู้ 425

โครงการ/ท่ีตงั้ เม่อื วนั ท่ี หมายเหตุ 40. อาคารบงั คับน�ำ้ คลองแกระ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกติ ์ิ ลกั ษณะโครงการ : ฝายทดนำ้� และระบบ ตำ� บลขอนหาด อ�ำเภอชะอวด พระบรมราชินีนาถ สง่ น�ำ้ ประโยชนข์ องโครงการ : ชว่ ยเหลือ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ราษฎรให้มีน�ำ้ สำ� หรบั อุปโภคบรโิ ภคและ 18 ตุลาคม 2537 พน้ื ที่ทำ� การเกษตร 2,000 ไร่ หน่วยงานที่รบั ผดิ ชอบ : กรมชลประทาน 41. อาคารบังคับนำ�้ บา้ นควนใส บา้ นควนใส สมเด็จพระนางเจา้ สริ ิกิต์ิ ลักษณะโครงการ : ฝายทดน�ำ้ สง่ น�้ำ ตำ� บลขอนหาด อำ� เภอชะอวด พระบรมราชินนี าถ ประโยชนข์ องโครงการ : ช่วยเหลือ ราษฎรใหม้ นี �้ำสำ� หรบั อุปโภคบริโภคและ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง พ้นื ทีท่ ำ� การเกษตร 1,000 ไร่ 18 ตลุ าคม 2537 หน่วยงานทร่ี ับผิดชอบ : กรมชลประทาน 42. โครงการฝายทดนำ�้ บ้านไสเตาออ้ ย สมเด็จพระศรีนครนิ ทรา ลักษณะโครงการ : ฝายทดน้ำ� คอนกรตี ต�ำบลบางขัน อ�ำเภอบางขนั บรมราชชนนี พรอ้ มอาคารประกอบ ระบบส่งน�ำ้ พรอ้ ม อาคารประกอบ 6 กรกฎาคม 2532 ประโยชน์ของโครงการ : ช่วยเหลอื ราษฎรให้มีนำ้� สำ� หรับอปุ โภคบรโิ ภค จ�ำนวน 800 ครวั เรือน และพ้นื ทที่ �ำ การเกษตร 300 ไร่ หนว่ ยงานที่รบั ผดิ ชอบ : กรมชลประทาน 43. ฝายคลองลำ� นาว บ้านไร่ยาว สมเดจ็ พระกนษิ ฐาธิราชเจา้ ลกั ษณะโครงการ : ฝายคอนกรตี ต�ำบลบางขนั อำ� เภอบางขัน กรมสมเดจ็ พระเทพรัตนราชสดุ าฯ เสริมเหล็ก พรอ้ มระบบสง่ น้ำ� ด้วย สยามบรมราชกุมารี ทอ่ เหลก็ เหนียว พรอ้ มอาคารประกอบ (ฎกี า) ประโยชน์ของโครงการ : ช่วยเหลือ 12 มกราคม 2537 ราษฎรให้มีน�้ำสำ� หรับอปุ โภคบรโิ ภค จ�ำนวน 4 หมู่บ้าน 500 ครัวเรอื นและ พื้นที่ท�ำการเกษตร 3,000 ไร่ หน่วยงานที่รับผิดชอบ : กรมชลประทาน 44. โครงการจัดหาน้ำ� ช่วยเหลือราษฎร สมเดจ็ พระกนิษฐาธริ าชเจ้า ลกั ษณะโครงการ : กอ่ สรา้ งทอ่ ส่งนำ�้ จาก บ้านควนมชี ยั บ้านควนมีชัย กรมสมเด็จพระเทพรตั นราชสุดาฯ อ่างเก็บน้�ำห้วยนำ�้ ใส ระยะทางประมาณ ต�ำบลวังอา่ ง อ�ำเภอชะอวด สยามบรมราชกุมารี 14.350 กิโลเมตร 9 ตลุ าคม 2544 ประโยชนข์ องโครงการ : ช่วยเหลือ ราษฎรใหม้ นี �้ำส�ำหรบั อุปโภคบริโภค และพ้ืนท่ที �ำการเกษตร 1,800 ไร่ หนว่ ยงานทร่ี ับผดิ ชอบ : กรมชลประทาน 426 แหนลักวสกูตารรนจคดั รกศารรีธเรรรยี มนรารชู้ ศกึ ษา

โครงการ/ที่ต้ัง เมอื่ วนั ท่ี หมายเหตุ 45. พัฒนาพ้ืนท่ที งุ่ นาเมืองชยั สมเด็จพระเจ้าน้องนางเธอ ลกั ษณะโครงการ : ระบบป้องกนั น้ำ� ทว่ ม (หมู่บา้ นจฬุ าภรณพ์ ฒั นา 1) เจา้ ฟ้าจฬุ าภรณวลัยลกั ษณ์ คันกั้นน�้ำ ระบบระบายนำ�้ ขุดลอกคลอง ตำ� บลทา่ ยาง อ�ำเภอทงุ่ ใหญ่ ตดิ ตัง้ เคร่อื งสูบนำ�้ อัครราชกุมารี ประโยชน์ของโครงการ : ชว่ ยเหลือ 46. หมบู่ ้านจฬุ าภรณ์พัฒนา 2 บ้านห้วยตรดี 25 เมษายน 2532 ราษฎรใหม้ นี ้�ำส�ำหรับอปุ โภคบริโภค ตำ� บลเขาพระ อำ� เภอพปิ นู จำ� นวน 150 ครวั เรอื น และพนื้ ที่ 47. อ่างเกบ็ นำ�้ เสมด็ จวน (หม่บู ้านจฬุ าภรณ์ สมเด็จพระเจา้ นอ้ งนางเธอ ท�ำการเกษตร 2,700 ไร่ พัฒนา 3) (อ่างเกบ็ ห้วยลึก) อนั เนอ่ื งมา เจา้ ฟ้าจฬุ าภรณวลยั ลกั ษณ์ หน่วยงานทรี่ ับผิดชอบ : กรมชลประทาน จากพระราชด�ำริ ตำ� บลกแุ หระ ลกั ษณะโครงการ : ปรับปรุงและขดุ คลอง อ�ำเภอท่งุ ใหญ่ อัครราชกมุ ารี พร้อม สะพานรถยนต์ อาคารท่อลอดถนน 48. หมูบ่ า้ นจฬุ าภรณ์พัฒนา 4 พ.ศ. 2532 เพ่ืออำ� นวยความสะดวกในการคมนาคม (ระบบส่งนำ�้ หนองทะเลปรน) สมเด็จพระเจา้ นอ้ งนางเธอ ขนสง่ ระหวา่ งหม่บู า้ น บ้านบางปรน ตำ� บลกุแหระ เจา้ ฟา้ จฬุ าภรณวลยั ลักษณ์ หนว่ ยงานทร่ี บั ผิดชอบ : กรมชลประทาน อำ� เภอทุ่งใหญ่ อัครราชกมุ ารี ลักษณะโครงการ : ก่อสรา้ งอ่างเก็บนำ�้ 49. โรงเรียนจฬุ าภรณพ์ ิพฒั น์ (บ�ำบัดน�้ำเสยี ) และระบบสง่ น้ำ� บ้านปรน ตำ� บลกแุ หระ อ�ำเภอทงุ่ ใหญ่ สมเดจ็ พระเจ้าน้องนางเธอ ประโยชนข์ องโครงการ : ชว่ ยเหลือ เจา้ ฟ้าจฬุ าภรณวลยั ลกั ษณ์ ราษฎรจำ� นวน 2,237 คน 377 ครวั เรือน ใหม้ ีน้�ำสำ� หรับอปุ โภคบริโภคและพน้ื ท่ี อคั รราชกุมารี ท�ำการเกษตร 2,700 ไร่ 5 มกราคม 2535 หน่วยงานทรี่ บั ผิดชอบ : กรมชลประทาน สมเดจ็ พระเจ้านอ้ งนางเธอ ลักษณะโครงการ : กอ่ สร้างทอ่ ระบายน้�ำ เจา้ ฟา้ จุฬาภรณวลยั ลักษณ์ พร้อมระบบส่งน้�ำ อคั รราชกุมารี ประโยชน์ของโครงการ : เพ่อื มีนำ�้ ใชก้ าร อุปโภค-บรโิ ภคและพ้นื ทก่ี ารเกษตร 3,000 ไร่ หน่วยงานที่รบั ผดิ ชอบ : กรมชลประทาน ลักษณะโครงการ : บ่อบ�ำบดั นำ้� เสียปม๊ั และระบบไฟฟา้ ท่อระบายน้�ำเสียและ อาคารประกอบ หน่วยงานทร่ี บั ผิดชอบ : กรมชลประทาน หลักสูตแรนนวคกราศรรจีธัดรรกมารราเชรศยี ึกนษราู้ 427

โครงการ/ท่ีตง้ั เมอ่ื วนั ที่ หมายเหตุ 50. สถานสี ูบน้�ำด้วยไฟฟา้ บา้ นเกาะสำ� โรง อนั เน่อื งมาจากพระราชดำ� ริ สมเด็จพระกนษิ ฐาธิราชเจา้ ลกั ษณะโครงการ : สถานีสูบน้ำ� อ�ำเภอหัวไทร กรมสมเดจ็ พระเทพรัตนราชสุดาฯ ประโยชนข์ องโครงการ : แกไ้ ขและบรรเทา 51. โครงการจดั หาน้�ำเพอ่ื สนบั สนนุ สยามบรมราชกุมารี ความเดือดร้อนจากการขาดแคลนนำ้� ให้ การผลติ พันธุ์ขา้ วชมุ ชนบ้านอา่ วเคยี น 25 สงิ หาคม 2554 กับราษฎร จำ� นวน 5 หมบู่ ้าน มีนำ้� ส�ำหรบั อันเนือ่ งมาจากพระราชด�ำริ หมทู่ ่ี 7 ต�ำบลชะเมา อ�ำเภอปากพนงั อุปโภคบรโิ ภค และพ้นื ท่ีการเกษตร จ�ำนวน 12,000 ไร่ และสามารถส่งนำ�้ 52. โครงการจดั หานำ้� ชว่ ยเหลือ สนบั สนุนพน้ื ท่โี ครงการถ่ายทอด ศนู ยก์ ารเรียนต�ำรวจตระเวนชายแดน เทคโนโลยกี ารปรบั ปรงุ ดนิ เปร้ียว บ้านห้วยตง หมูท่ ่ี 7 ต�ำบลกรงุ ชงิ ตามทฤษฎีแกลง้ ดนิ พ้ืนท่ี 4,000 ไร่ อำ� เภอนบพิต�ำ ไดอ้ ยา่ งเพยี งพอตลอดท้ังปี หน่วยงานท่ีรับผิดชอบ : กรมชลประทาน สมเดจ็ พระกนษิ ฐาธิราชเจา้ ลกั ษณะโครงการ : กอ่ สรา้ งอาคารบังคบั กรมสมเด็จพระเทพรตั นราชสุดาฯ น้�ำแห่งท่ี 1 ขนาด 2x2x11 เมตร สยามบรมราชกุมารี (ปากคลอง 4L - MD5) จำ� นวน 1 แห่ง, 18 กรกฎาคม 2557 ก่อสรา้ งอาคารบงั คับน�้ำแหง่ ที่ 3 ขนาด 1x1x1 เมตร (ปากคลอง 5R-MD4) จ�ำนวน 1 แห่ง, ก่อสรา้ งท่อลอด ถนน ขนาด 1x1x1 เมตร จ�ำนวน 3 แห่ง ประโยชน์ของโครงการ : ราษฎร จำ� นวน 125 ครวั เรือน 426 คน มแี หล่งน้ำ� สนบั สนุนพื้นที่การเกษตร จำ� นวน 3,800 ไร่ ไดอ้ ยา่ งพอเพียง ตลอดทั้งปี หนว่ ยงานทร่ี ับผิดชอบ : กรมชลประทาน สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า ลกั ษณะโครงการ : ทำ� นบดินขนาด กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสดุ าฯ 5.00x60.70x5.00 เมตร พร้อมอาคาร สยามบรมราชกมุ ารี บังคบั น�้ำ, โรงสูบนำ้� , โรงกรองนำ�้ 29 พฤษภาคม 2557 และบอ่ พักขนาด 300 ลบ.ม ประโยชน์ของโครงการ : จดั หาน้ำ� ส�ำหรับอุปโภค บริโภคแกศ่ ูนยก์ ารเรียน ตำ� รวจตระเวนชายแดนบ้านหว้ ยตง พืน้ ที่ใกลเ้ คยี ง และราษฎรประมาณ 150 คน ไดต้ ลอดทัง้ ปี หนว่ ยงานทร่ี บั ผดิ ชอบ : กรมชลประทาน 428 แหนลักวสกูตารรนจคดั รกศารรีธเรรรยี มนรารชู้ ศกึ ษา

โครงการ/ทตี่ งั้ เม่ือวนั ที่ หมายเหตุ 53. โครงการจัดหาน้ำ� ช่วยเหลอื สมเด็จพระกนษิ ฐาธริ าชเจ้า ลักษณะโครงการ : กอ่ สรา้ งท�ำนบดิน ศูนยก์ ารเรียนตำ� รวจตระเวนชายแดน กรมสมเดจ็ พระเทพรตั นราชสุดาฯ ขนาด 6.00 x 40.00 x 6.00 เมตร บ้านหลังอ้ายหมี หมทู่ ่ี 5 ตำ� บลวงั อ่าง อำ� เภอชะอวด สยามบรมราชกมุ ารี พรอ้ มอาคารบงั คบั นำ้� และบอ่ พกั นำ้� 2 แหง่ 29 พฤษภาคม 2557 ประโยชนข์ องโครงการ : ครแู ละนักเรียน รวมทัง้ ราษฎรในพื้นทข่ี า้ งเคยี ง จำ� นวน 120 คน มนี ้�ำสำ� หรับอุปโภคบรโิ ภคได้ ตลอดท้ังปี หน่วยงานท่รี ับผดิ ชอบ : กรมชลประทาน โครงการพัฒนาด้านสิ่งแวดล้อม 1. โครงการอนรุ กั ษแ์ ละฟน้ื ฟปู า่ พรคุ วนเครง็ พระบาทสมเด็จพระบรมชนกา ลักษณะโครงการ : จัดทำ� ฝายก้ันน�ำล้น (จดั ท�ำฝายนำ้� ล้นชั่วคราว) ธเิ บศร มหาภมู ิพลอดลุ ยเดช ชวั่ คราว ต�ำบลควนเคร็ง อ�ำเภอชะอวด มหาราช บรมนาถบพิตร ประโยชน์ของโครงการ : ชะลอการไหล ของนำ้� ท�ำใหพ้ ้นื ท่บี ริเวณโดยรอบไดร้ ับ 16 พฤศจกิ ายน 2545 ความชุม่ ช้นื ส่งผลใหพ้ ืน้ ที่และป่ามี ความสมบรู ณข์ น้ึ หน่วยงานท่ีรับผดิ ชอบ : กรมชลประทาน 2. ก่อสรา้ งฝายชะลอการไหลของนำ�้ พระบาทสมเด็จพระบรมชนกา ลกั ษณะโครงการ : กอ่ สร้างฝาย ในพื้นที่ป่าพรุ ต�ำบลสวนหลวง ธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดช ประโยชนข์ องโครงการ : ชะลอการไหล อำ� เภอเฉลมิ พระเกยี รติ มหาราช บรมนาถบพติ ร ของนำ�้ ในพนื้ ทปี่ ่าพรุ เพมิ่ ความหลาก หลายทางชวี ภาพ การมสี ่วนร่วมภาค 16 พฤศจกิ ายน 2545 ประชาชนในการอนรุ กั ษ์ สรา้ งงานใน ชมุ ชนกระจายไดส้ ู่ท้องถิ่น หน่วยงานทร่ี บั ผดิ ชอบ : กรมอุทยาน แหง่ ชาติ สัตวป์ า่ และพันธ์ุพชื 3. โครงการนำ� ร่องหมู่บา้ นนาป่าพรุ พระบาทสมเด็จพระบรมชนกา ลักษณะโครงการ : จัดตัง้ และเสรมิ สร้าง เพอ่ื พัฒนาการมีสว่ นรว่ มป้องกนั ไฟป่า ธิเบศร มหาภมู ิพลอดุลยเดช ความแขง็ แกรง่ องคก์ รผูน้ ำ� ชุมชนปอ้ งกัน อยา่ งย่ังยนื ตำ� บลควนเคร็ง มหาราช บรมนาถบพติ ร ไฟป่า จดั ทำ� แนวกันไฟ อ�ำเภอชะอวด หนว่ ยงานทร่ี บั ผดิ ชอบ : กรมอทุ ยาน 16 พฤศจิกายน 2545 แห่งชาตสิ ัตว์ป่าและพันธพ์ุ ชื 4. การบริหารจัดการด้านน้�ำและอนุรักษ์ พระบาทสมเด็จพระบรมชนกา ลักษณะโครงการ : บริหารจัดการต้นน้�ำ ฟนื้ ฟู วิจยั และพัฒนาปา่ ไม้ ธเิ บศร มหาภมู ิพลอดุลยเดช และอนุรักษ์ฟ้ืนฟวู จิ ัยและพฒั นาป่าไม้ มหาราช บรมนาถบพติ ร หนว่ ยงานท่รี บั ผิดชอบ : กรมอทุ ยาน แหง่ ชาติสตั วป์ ่าและพันธพุ์ ืช หลกั สตู แรนนวคกราศรรจีธดัรรกมารราเชรศียึกนษราู้ 429

โครงการ/ทีต่ ั้ง เมอื่ วันที่ หมายเหตุ โครงการพัฒนาดา้ นสง่ เสรมิ อาชีพ 1. ส่งเสรมิ ศิลปาชพี บ้านตรอกแค สมเด็จพระนางเจา้ สิรกิ ิติ์ ลักษณะโครงการ : สง่ เสริมอาชีพ และ ต�ำบลขอนหาด อ�ำเภอชะอวด พระบรมราชนิ นี าถ เป็นแหล่งจ้างงาน หนว่ ยงานทร่ี ับผิดชอบ : พระบรมราชชนนีพนั ปีหลวง สำ� นักราชเลขาธิการ โครงการพัฒนาดา้ นสวัสดิการสังคม / การศึกษา 1. โรงเรียนตำ� รวจตระเวนชายแดน พ.ศ. 2506 ลักษณะโครงการ : ให้การศกึ ษาแก่ บา้ นเขาวงั บ้านเขาวัง หมูท่ ี่ 12 นักเรยี นในพืน้ ทที่ รุ กนั ดาร ต�ำบลหินตก อำ� เภอร่อนพิบูลย์ หน่วยงานที่รบั ผดิ ชอบ : กองบัญชาการตำ� รวจตะเวนชายแดน 2. โรงเรยี นต�ำรวจตระเวนชายแดน สมเด็จพระศรีนครินทรา ลกั ษณะโครงการ : ให้การศกึ ษาแก่ บา้ นควนมีชัย บา้ นควนมชี ยั หมทู่ ่ี 8 บรมราชชนนี นักเรยี นในพื้นทท่ี รุ กนั ดาร ต�ำบลวงั อา่ ง อ�ำเภอชะอวด พ.ศ. 2506 หน่วยงานทีร่ บั ผดิ ชอบ : กองบญั ชาการต�ำรวจตะเวนชายแดน 3. โรงเรียนต�ำรวจตระเวนชายแดน สมเด็จพระศรนี ครนิ ทรา ลักษณะโครงการ : ให้การศกึ ษาแก่ บา้ นไรย่ าว บา้ นไร่ยาว หมทู่ ี่ 6 บรมราชชนนี นกั เรยี นในพื้นทีท่ รุ กนั ดาร ต�ำบลบางขนั อำ� เภอบางขัน พ.ศ. 2506 หน่วยงานทีร่ บั ผิดชอบ : กองบัญชาการต�ำรวจตะเวนชายแดน 4. โรงเรียนต�ำรวจตระเวนชายแดน สมเด็จพระศรนี ครนิ ทรา ลกั ษณะโครงการ : ใหก้ ารศกึ ษาแก่ บ้านยงู งาม บา้ นคอกช้าง หมูท่ ่ี 5 บรมราชชนนี นกั เรยี นในพนื้ ที่ทรุ กนั ดาร ตำ� บลบางขัน อำ� เภอบางขนั พ.ศ. 2506 หนว่ ยงานทรี่ บั ผิดชอบ : กองบัญชาการตำ� รวจตะเวนชายแดน โครงการพัฒนาแบบบรู ณาการและโครงการพฒั นาดา้ นอื่น ๆ 1. พฒั นาพ้นื ท่ลี ุ่มน�ำ้ ปากพนงั อนั เนอื่ ง พระบาทสมเด็จพระบรมชนกา ลกั ษณะโครงการ : บริหารจัดการ มาจากพระราชด�ำริ ธิเบศร มหาภมู พิ ลอดลุ ยเดช โครงการใหม้ ปี ระสทิ ธิภาพ 1.1 (งานอำ� นวยการ) มหาราช บรมนาถบพิตร หนว่ ยงานท่ีรบั ผิดชอบ : บา้ นศรีสมบรู ณ์ ต�ำบลหลู อ่ ง กรมชลประทาน บ้านบางพระ ตำ� บลบางพระ 9 ตุลาคม 2535 บา้ นตลาดชะอวด 11 ตลุ าคม 2535 ต�ำบลชะอวด 2 ตุลาคม 2536 อำ� เภอปากพนงั อ�ำเภอชะอวด 430 แหนลักวสกตูารรนจคดั รกศารรีธเรรรียมนรารชู้ ศกึ ษา

โครงการ/ท่ีต้ัง เมอื่ วันท่ี หมายเหตุ 1.2 ตดิ ตง้ั เครอ่ื งเกบ็ ผกั ตบชวา พระบาทสมเดจ็ พระบรมชนกา ลักษณะโครงการ : จดั ซือ้ และตดิ ต้งั แบบติดต้งั ริมฝ่ังระบบ ธเิ บศร มหาภูมิพลอดลุ ยเดช เคร่ืองเก็บผกั ตบชวาแบบตดิ ต้ังรมิ ฝั่ง สายพานล�ำเลยี ง ตำ� บลหลู อ่ ง มหาราช บรมนาถบพิตร ระบบสายพานลำ� เลียง อำ� เภอปากพนัง หนว่ ยงานทร่ี บั ผิดชอบ : 2 ตุลาคม 2536 กรมชลประทาน 1.3 พัฒนาพ้นื ที่ลมุ่ น�ำ้ ปากพนงั พระบาทสมเด็จพระบรมชนกา ลักษณะโครงการ : พฒั นาและฟืน้ ฟู (งานกำ� จดั ผกตบชวาและวชั พชื ) ธเิ บศร มหาภูมิพลอดลุ ยเดช ระบบเกษตรในพนื้ ทีม่ ีนำ้� อุปโภคบรโิ ภค บา้ นใหม่ ต�ำบลบ้านใหม่ มหาราช บรมนาถบพิตร หน่วยงานทร่ี ับผิดชอบ : อำ� เภอปากพนัง กรมชลประทาน 2 ตุลาคม 2536 กรมโยธาธิการและผงั เมือง 1.4 โครงการจดั ท�ำฐานข้อมูล พระบาทสมเดจ็ พระบรมชนกา ลักษณะโครงการ : จา้ งทำ� แผนที่ระวาง เพ่ือวางแผนพัฒนาพืน้ ทล่ี ุม่ นำ้� ธเิ บศร มหาภูมพิ ลอดลุ ยเดช รปู ถา่ ยออรโ์ ธสี ส�ำรวจและ ปากพนัง อำ� เภอปากพนัง มหาราช บรมนาถบพติ ร จดทะเบยี นเกษตรกร ทดสอบ การเลย้ี งก้งุ ทะเลระบบปดิ ในพื้นท่ี 2 ตุลาคม 2536 นำ�้ จดื ร่วมกบั การปลกู ขา้ วนงั อ�ำเภอปากพนังอ�ำเภอปากพนงั อนุรกั ษ์ สรา้ งงานในชุมชนกระจาย ได้สทู่ ้องถ่ิน หนว่ ยงานทร่ี บั ผิดชอบ : สำ� นักงานปลัดกระทรวงเกษตร และสหกรณ์ 1.5 โครงการถา่ ยทอดเทคโนโลยี พระบาทสมเด็จพระบรมชนกา ลักษณะโครงการ : ถา่ ยทอดเทคโนโลยี การปรบั ปรงุ ดนิ เปรย้ี วตาม ธเิ บศร มหาภูมิพลอดลุ ยเดช ต่าง ๆ จดั ทำ� ศนู ยเ์ รยี นรพู้ ฒั นามูลค่า โครงการแกลง้ ดนิ บ้านควนโกะ๊ มหาราช บรมนาถบพิตร ผลผลิตและแปรรูป ตำ� บลแหลม อ�ำเภอหวั ไทร หนว่ ยงานทรี่ บั ผดิ ชอบ : กรมพฒั นาทด่ี นิ 16 กันยายน 2536 1.6 ขดุ บอ่ เลี้ยงปลาและกุ้งกา้ มกราม พระบาทสมเดจ็ พระบรมชนกา ลักษณะโครงการ : สง่ เสริมการเลีย้ งปลา หมู่ 6 หมู่ 7 หมู่ 8 ต�ำบลธานใหม่ ธิเบศร มหาภมู พิ ลอดุลยเดช การเพาะเลี้ยงสตั วน์ ำ�้ และพัฒนาอาชีพให้ อ�ำเภอปากพนงั มหาราช บรมนาถบพิตร ราษฎรมีรายได้เพ่ิมข้นึ หนว่ ยงานที่รบั ผิดชอบ : กรมประมง 2 ตลุ าคม 2536 1.7 โครงการฟ้ืนฟูการผลติ ขา้ วตาม สมเด็จพระกนษิ ฐาธิราชเจ้า ลักษณะโครงการ : ฟื้นฟูการผลติ ขา้ ว แนวเศรษฐกจิ พอเพียงในพ้นื ท่ลี ุม่ กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสดุ าฯ ตามแนวเศรษฐกจิ พอเพยี งในพืน้ ที่ น้ำ� ปากพนงั หมู่บา้ นหวั ป่าขลู สยามบรมราชกมุ ารี หนว่ ยงานทร่ี ับผดิ ชอบ : กรมการข้าว ตำ� บลปา่ ระกำ� อำ� เภอปากพนัง 18 สงิ หาคม 2551 หลกั สูตแรนนวคกราศรรจธี ัดรรกมารราเชรศียกึ นษราู้ 431

โครงการ/ท่ีตัง้ เมอ่ื วันท่ี หมายเหตุ 1.8 โครงการพฒั นาอาชพี ปศุสตั ว์ พระบาทสมเดจ็ พระบรมชนกา ลักษณะโครงการ : พัฒนาอาชีพและส่ง ในพ้ืนทลี่ มุ่ น�้ำปากพนัง ธิเบศร มหาภูมพิ ลอดลุ ยเดช เสริมรายได้ในภาคเกษตร ส่งเสริมปศสุ ตั ว์ อำ� เภอปากพนัง อำ� เภอหวั ไทร มหาราช บรมนาถบพติ ร หนว่ ยงานที่รบั ผดิ ชอบ : กรมปศสุ ตั ว์ อ�ำเภอเชียรใหญ่ อ�ำเภอชะอวด อำ� เภอเฉลมิ พระเกียรติ อ�ำเภอจุฬาภรณ์ อ�ำเภอร่อนพิบลู ย์ อำ� เภอพระพรหม 1.9 โครงการแก้ไขและพฒั นา พระบาทสมเดจ็ พระบรมชนกา ลักษณะโครงการ : บริหารจัดการลุ่มน�ำ้ สงิ่ แวดลอ้ ม บา้ นใหม่ ธเิ บศร มหาภูมพิ ลอดลุ ยเดช ปากพนงั ใหม้ ีประสทิ ธิภาพและสอดคล้อง ต�ำบลบา้ นใหม่ อ�ำเภอปากพนัง มหาราช บรมนาถบพิตร กบั หลกั ยทุ ธศาสตร์ หนว่ ยงานทร่ี บั ผดิ ชอบ : กรมชลประทาน 2 ตลุ าคม 2536 1.10 โครงการท�ำนา ต�ำบลการะเกด พระบาทสมเดจ็ พระบรมชนกา ลักษณะโครงการ : บรู ณะและปรบั ปรงุ ตำ� บลบ้านเนนิ อ�ำเภอเชยี รใหญ่ ธิเบศร มหาภมู ิพลอดุลยเดช ระบบชลประทานช่วยราษฎรให้มีน้ำ� เพอื่ มหาราช บรมนาถบพิตร สำ� หรับทำ� การเกษตรและส�ำหรบั อุปโภค บรโิ ภค หนว่ ยงานทรี่ บั ผดิ ชอบ : กรมชลประทาน 2. พัฒนาพื้นทบ่ี ้านเนนิ ธมั มัง สมเดจ็ พระนางเจ้าสิริกิติ์ ลักษณะโครงการ : พฒั นาพน้ื ทด่ี ิน อันเนอ่ื งมาจากพระราชดำ� ริ พระบรมราชินนี าถ เปรยี้ วจัดเพอื่ ปลูกขา้ ว ปรบั ปรุง คนั นา 2.1 โครงการพัฒนาดนิ เปรย้ี วจดั สรา้ งทางระบายน�ำ้ จัดทำ� ไร่นาสวนผสม บ้านเนินธมั มัง ตำ� บลแม่เจา้ อยหู่ ัว พระบรมราชชนนีพันปหี ลวง สง่ เสริมการปรบปรงุ ดินดว้ ยปยุ๋ พืชสด 2 ตลุ าคม 2537 หนว่ ยงานทรี่ บั ผดิ ชอบ : กรมพฒั นาทดี่ นิ 2.2 กอ่ สร้างศูนยอ์ พยพสัตว์ สมเด็จพระนางเจา้ สริ ิกิต์ิ ลกั ษณะโครงการ : ก่อสรา้ งศูนย์อพยพ บ้านเนินธัมมงั ตำ� บลแม่เจ้าอยูห่ ัว พระบรมราชินีนาถ สัตวจ์ ากปัญหาน�ำ้ ทว่ ม อำ� เภอเชียรใหญ่ หนว่ ยงานท่ีรับผดิ ชอบ : องคก์ ารบริหาร พระบรมราชชนนีพนั ปีหลวง สว่ นจังหวดั นครศรีธรรมราช 3. ศึกษา ทดลอง การปลูกและใช้ประโยชน์ สมเดจ็ พระกนษิ ฐาธิราชเจ้า ลกั ษณะโครงการ : ศกึ ษา ทดลองการ ไมเ้ สมด็ แบบครบวงจร อำ� เภอเชียรใหญ่ กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ ปลกู ไม้เสมด็ แบบครบวงจร สยามบรมราชกมุ ารี และการใชป้ ระโยชน์ 17 มกราคม 2549 หนว่ ยงานทร่ี บั ผดิ ชอบ : มลู นธิ ชิ ยั พฒั นา 4. โครงการปรบั ปรุงพิพธิ ภัณฑ์ สมเด็จพระกนษิ ฐาธิราชเจา้ ลกั ษณะโครงการ : ซอ่ มแซมอาคาร โครงการพฒั นาพ้ืนท่ีลุม่ นำ�้ ปากพนงั กรมสมเดจ็ พระเทพรัตนราชสดุ าฯ พิพธิ ภัณฑ์ อนั เนื่องมาจากพระราชดำ� ริ ต�ำบลหลู ่อง สยามบรมราชกุมารี ประโยชนข์ องโครงการ : สามารถรองรับ อำ� เภอปากพนัง 2 มนี าคม 2559 การเข้าเย่ยี มชมของเยาวชนและ ประชาชนทัว่ ไปได้มากข้ึน หนว่ ยงานทรี่ บั ผดิ ชอบ : กรมชลประทาน 432 แหนลกัวสกูตารรนจคดั รกศารรธี เรรรยี มนรารชู้ ศกึ ษา

โครงการอนั เน่ืองมาจากพระราชด�ำริ ในพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมพิ ลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพติ ร (รชั กาลท่ี 9) ในจังหวัดนครศรีธรรมราช โครงการสง่ น�ำ้ และบำ� รุงรกั ษาลุ่มน้ำ� ปากพนังตอนบน ท่ีมา : กรมชลประทาน http://irrigation.rid.go.th/rid15/cad/2013/ ท่ีตั้งและอาณาเขต โครงการสง่ นำ�้ และบำ� รงุ รกั ษาลมุ่ นำ้� ปากพนงั ตอนบน ตงั้ อยเู่ ลขที่ 93/3 หมทู่ ี่ 7 ตำ� บลวงั อา่ ง อำ� เภอชะอวด จังหวัดนครศรีธรรมราช รหัสไปรษณีย์ 80180 หมายเลขโทรศัพท์ 0-7534-5254 และโทรสาร 0-7549-3249 อาณาเขต ทศิ เหนือ จดอำ� เภอเชยี รใหญ่ และอำ� เภอเฉลมิ พระเกยี รติ ทศิ ตะวนั ออก จดอา่ วไทย ทิศใต้ จดอ�ำเภอระโนด จังหวดั สงขลา อำ� เภอปา่ พะยอม, อำ� เภอควนขนนุ จังหวดั พทั ลุง ทิศตะวนั ตก จดอำ� เภอทงุ่ สง จังหวัดนครศรีธรรมราช อ�ำเภอรษั ฎา และอำ� เภอหว้ ยยอด จงั หวัดตรัง ที่มา : กรมชลประทาน http://irrigation.rid.go.th/rid15/cad/2013/ หลกั สูตแรนนวคกราศรรจีธดัรรกมารราเชรศียกึ นษราู้ 433

ขอบเขตพืน้ ทีร่ บั ผิดชอบ โครงการสง่ นำ�้ และบำ� รงุ รกั ษาลมุ่ นำ้� ปากพนงั ตอนบน รบั ผดิ ชอบพน้ื ทใี่ นเขตลมุ่ นำ�้ ปากพนงั ตอนบน ประกอบ ด้วยพ้ืนท่ีท่ีราบชายฝั่งทะเลด้านตะวันออกซ่ึงเป็นที่ราบท่ีมีความส�ำคัญในการเพาะปลูกและพ้ืนที่ทางทิศตะวันตก ซ่งึ เป็นเทือกเขาสูงโดยมีคลองชะอวด คลองไมเ้ สียบ เปน็ แหล่งนำ�้ สายหลกั ในการหล่อเล้ยี งพืน้ ทีท่ ัง้ 2 ฝ่งั ครอบคลมุ พื้นที่อ�ำเภอชะอวด บางส่วนของอ�ำเภอเชียรใหญ่ อ�ำเภอหัวไทร ของจังหวัดนครศรีธรรมราช และบางส่วนของ อำ� เภอปา่ พะยอม อำ� เภอควนขนนุ จงั หวดั พทั ลงุ มพี นื้ ทโ่ี ครงการรวมทงั้ สนิ้ 772,370 ไร่ เปน็ พนื้ ทก่ี ารเกษตร 333,267 ไร่ และเปน็ พ้นื ทีช่ ลประทาน 152,300 ไร่ แยกเปน็ ฝา่ ยสง่ นำ้� และบำ� รงุ รกั ษาที่ 1 รบั ผดิ ชอบโครงการหว้ ยนำ้� ใส และพนื้ ทใี่ นอำ� เภอชะอวด ไดแ้ ก่ หมทู่ ่ี 2,5,6,8,9 ต.วังอ่าง หมู่ท่ี 1,5,6,7 ต�ำบลเขาพระทอง หมู่ท่ี 1,2,3,4,5,6 ต�ำบลควนหนองหงส์ หมู่ท่ี 1,2,3,4 ต�ำบลบ้านตูล อ�ำเภอป่าพะยอม ได้แก่ นิคมสร้างตนเองควนขนุนหมู่ท่ี 1,3,5,8 ต�ำบลลานข่อย มีพ้ืนท่ีทั้งหมด 123,414 ไร่ เป็นพนื้ ทก่ี ารเกษตรจ�ำนวน 80,390 ไร่ และอยใู่ นเขตพ้ืนทีช่ ลประทาน จำ� นวน 19,300 ไร่ ฝ่ายส่งน้�ำและบำ� รุงรกั ษาที่ 2 รบั ผดิ ชอบโครงการฝายคลองไม้เสยี บ และพ้ืนทีใ่ นเขตอ�ำเภอ ชะอวด ได้แก่ หม่ทู ่ี 1,2,3,4,5,6,7,8,9 ตำ� บลเกาะขนั ธ์ หมูท่ ี่1,3,4,7 ตำ� บลวังอ่าง หมทู่ ่ี 2,3,4 ตำ� บลเขาพระทอง หมทู่ ี่ 1,2,3,4,5,6 ต�ำบลท่าประจะ หมู่ท่ี 1,2,3,4,5,6,7,8 ต�ำบลชะอวด หมู่ท่ี 1,2,3,4,5,6,7 ต�ำบลท่าเสม็ด หมู่ที่ 1,2,3,4,5,6,7 ต�ำบลนางหลง หมู่ท่ี 1,2,3,4,5,6 ต�ำบลขอนหาด หมู่ที่ 1,2,3,4,5,6,7,8,9,10,11 ต�ำบลเคร็ง ต�ำบลชะอวด อำ� เภอควนขนุน ไดแ้ ก่ หมทู่ ่ี 2,3,5,6 ตำ� บลแหลมโตนด มีพ้ืนที่ทั้งหมด 437,000 ไร่ เปน็ พ้ืนทกี่ ารเกษตร จ�ำนวน 115,333 ไร่ และอยู่ในเขตพนื้ ทช่ี ลประทาน จ�ำนวน 53,000 ไร่ ฝ่ายสง่ น�้ำและบำ� รุงรกั ษาท่ี 3 รับผดิ ชอบโครงการประตูระบายน�้ำคลองชะอวด-แพรกเมอื ง และพืน้ ที่ใน เขตอำ� เภอหวั ไทร ไดแ้ ก่ หมทู่ ่ี 3,5,6 ตำ� บลหนา้ สตนหมทู่ ่ี 1,2,3,4,5,6,7,8,9,10 ตำ� บลเขาพงั ไกร หมทู่ ่ี1,2,3,4,5,6,7,8,9,10 ตำ� บลแหลม หมทู่ ี่ 1,2,3,4,5,6 ตำ� บลควนชะลกิ หมทู่ ่ี 1,2,3,4,5 ตำ� บลรามแกว้ หมู่ที่ 5,6,7,8,9,10 ต�ำบลทรายขาว หมทู่ ี่ 1,2,7,9,12 ตำ� บลหวั ไทร อำ� เภอเชยี รใหญ่ ไดแ้ ก่ หมทู่ ี่ 4,7,8,11,12 ตำ� บลการะเกด หมทู่ ่ี 6,8,9 ตำ� บลเขาพระบาท มพี นื้ ทท่ี งั้ หมด 211,956 ไร่ เปน็ พน้ื ทก่ี ารเกษตร จำ� นวน 137,544 ไร่ และอยใู่ นเขตพนื้ ทชี่ ลประทาน จำ� นวน 80,000 ไร่ 434 แหนลกัวสกูตารรนจคดั รกศารรธี เรรรยี มนรารชู้ ศึกษา

แผนท่แี สดงเขตลุ่มนำ�้ ปากพนงั ตอนบน และตอนล่าง ทม่ี า : โครงการสง่ น�ำ้ และรักษาล่มุ น้ำ� ปากพนงั ตอนบนกhttp://irrigation.rid.go.th/rid15/cad/2013/The%20territory.php แมน่ ำ�้ ปากพนงั เสน้ ชวี ติ แหง่ ทรี่ าบลมุ่ ฝง่ั ตะวนั ออกของจงั หวดั นครศรธี รรมราชสายนมี้ ตี น้ กำ� เนดิ จากทวิ เขา นครศรีธรรมราชไหลมาบรรจบกับแควสาขาที่ไหลมาจากทะเลสาบสงขลา ท่ีต�ำบลปากแพรกท้ังยังมีล�ำน้�ำสาขา อีกหลายสายไหลมารวมกัน กลายเป็นแม่น�้ำปากพนังสายใหญ่ ไหลข้ึนไปด้านทิศเหนือลงสู่อ่าวนครศรีธรรมราช ในอ�ำเภอปากพนัง รวมความยาวของแม่น้�ำ 147 กิโลเมตร ไหลผ่านอาณาบริเวณเกือบ 2 ล้านไร่ ใน 12 อ�ำเภอ ของ 3 จงั หวัด คอื นครศรีธรรมราช พัทลุงและสงขลา รวมเรียกวา่ “ลุ่มน้ำ� ปากพนงั ” ภมู ปิ ระเทศของลมุ่ น้�ำปากพนัง ดา้ นตะวนั ตกเป็นภเู ขาสงู ตอนกลาง เป็นเนินเขาและทรี่ าบสงู แล้วค่อย ๆ ทอดตัวลงส่ทู ี่ราบลุ่มอนั กวา้ งขวางและ อุดมสมบูรณ์ทางทิศตะวนั ออก หลกั สูตแรนนวคกราศรรจธี ดัรรกมารราเชรศยี กึ นษราู้ 435

หน่วยที่ 14 ปัญหาในจังหวัดนครศรีธรรมราช มาตรฐานการเรยี นรู้และตัวช้วี ดั มาตรฐาน ส 2.1 เขา้ ใจและปฏบิ ตั ติ นตามหนา้ ทกี่ ารเปน็ พลเมอื งดี มคี า่ นยิ มทดี่ งี ามและธำ� รงรกั ษาประเพณี และวฒั นธรรมไทย ดำ� รงชีวิตอยรู่ ว่ มกันในสงั คมไทยและสังคมโลกอยา่ งสันติสุข ตัวชี้วัด ม.1/1 ระบคุ วามสามารถของตนเองในการท�ำประโยชน์ต่อสังคมและประเทศชาติ มาตรฐาน ส 2.2 เข้าใจระบบการเมอื งการปกครองในสงั คมปัจจุบัน ยึดม่ัน ศรัทธาและธำ� รงรักษาไว้ ซ่ึงการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเปน็ พระประมุข ม.3/3 วเิ คราะหป์ ระเดน็ ปญั หาทเี่ ปน็ อปุ สรรคตอ่ การพฒั นาประชาธปิ ไตยของประเทศไทยและเสนอ แนวทางแก้ไข มาตรฐาน ส 3.1 เข้าใจและสามารถบรหิ ารจดั การทรัพยากร ในการผลติ และบรโิ ภค การใช้ทรพั ยากรทีม่ ี อยู่อย่างจ�ำกัดได้อย่างมีคุณภาพและคุม้ ค่า รวมทั้งเขา้ ใจหลกั การของเศรษฐกจิ พอเพยี งเพือ่ ด�ำรงชวี ติ อย่างมดี ลุ ภาพ ม.3/2 มสี ว่ นรว่ มในการแก้ปัญหาและพัฒนาทอ้ งถิน่ ตามหลกั ปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพยี ง สาระส�ำคญั การศึกษาเรยี นร้เู ก่ยี วกบั ปัญหาทเ่ี กดิ ขน้ึ ในจังหวัดนครศรธี รรมราช และรู้วธิ แี กป้ ญั หา และปฏิบตั ติ นไมใ่ ห้ เปน็ ต้นเหตขุ องปญั หา จะสง่ ผลให้จังหวดั นครศรธี รรมราชดำ� รงอย่อู ยา่ งสงบสขุ สาระการเรียนรู้ 1. ขยะมูลฝอย 2. การจราจร 3. ยาเสพติด 4. การลักขโมยและการพนนั 5. ปัญหาทางด้านเศรษฐกจิ 6. การสร้างจติ สาธารณะ 436 แหนลักวสกตูารรนจคัดรกศารรธี เรรรยี มนรารชู้ ศกึ ษา

กิจกรรมการเรียนรู้ 1. ศึกษาปัญหาเรื่องขยะมูลฝอย และปัญหาเร่ืองการจราจรและปัญหาอ่ืน ๆ ที่เกิดขึ้นใน จังหวดั นครศรธี รรมราช 2. เปรยี บเทยี บ วเิ คราะห์ อภปิ ราย สรปุ ผล และนำ� เสนอเกยี่ วกบั ปญั หาขยะมลู ฝอย และปญั หาการจราจร และปญั หาอน่ื ๆ ทเี่ กิดข้นึ ในจงั หวัดนครศรีธรรมราช 3. เสนอแนวทางการแกป้ ญั หาขยะมลู ฝอย และปญั หาการจราจรและปญั หาอน่ื ๆ ในจงั หวดั นครศรธี รรมราช 4. ปฏิบตั ิกจิ กรรมการเรียนรู้ โดยใชก้ ระบวนการกลุ่ม 5. สรุปผล และน�ำไปใช้ (ต่อยอด : โครงงานต่าง ๆ เช่น โครงงานประดิษฐ์ของตกแต่งบ้านจากขยะ โครงงานขยะนมี้ คี ุณค่า ขยายผลสคู่ รอบครวั ชมุ ชน เช่น การคดั แยกขยะ ธนาคารขยะ) การวดั และประเมนิ ผล รายการ วธิ ีการ เครือ่ งมอื 1. สงั เกตพฤตกิ รรมในการเรียนรู้ 1. การสงั เกตพฤตกิ รรม 1. แบบสังเกตพฤตกิ รรม การถามตอบ การมีส่วนรว่ ม ในการอภปิ รายแสดงความคดิ เหน็ 2. อธิบายสาเหตขุ องปัญหา 2. ตรวจการเขยี นอธบิ ายตาม 2. ใบกจิ กรรม และแนวทางการแก้ปญั หา ใบกจิ กรรมทกี่ �ำหนด 3. สังเกตพฤติกรรมในการทำ� งาน 3. การสังเกตพฤติกรรม 3. แบบสังเกตพฤตกิ รรม กลุ่ม ในการท�ำงานกลุม่ การทำ� งานกลุ่ม 4. สรปุ ผลและนำ� เสนอแนวทาง 4. ประเมนิ ผลการนำ� เสนอผลงาน 4. แบบประเมนิ การแก้ปัญหาในแตล่ ะเรื่อง 5. สังเกตคณุ ลักษณะอันพงึ ประสงค์ 5. สังเกตคุณลักษณะอนั พึง 5.แบบประเมินคณุ ลักษณะ และสมรรถนะสำ� คญั ของผู้เรียน ประสงค์ และสมรรถนะสำ� คัญ อนั พึงประสงค์ และสมรรถนะ ของผู้เรียน สำ� คัญของผเู้ รยี น 6. ประเมินตามสภาพจรงิ จาก 6. ตรวจผลงานตามชนิ้ งาน / 6. แบบประเมินตามชนิ้ งาน / กจิ กรรมทน่ี กั เรยี นปฏิบัติ ภาระงาน ภาระงาน หลักสตู แรนนวคกราศรรจธี ดัรรกมารราเชรศยี ึกนษราู้ 437

หน่วยที่ 14 ปัญหาในจังหวัดนครศรีธรรมราช ปญั หาขยะมูลฝอยในจงั หวดั นครศรธี รรมราช จังหวัดนครศรีธรรมราชเป็นจังหวัดที่เต็มไปด้วยแหล่งท่องเที่ยวด้านศิลปวัฒนธรรม โบราณสถาน และแหลง่ ทอ่ งเทยี่ วทางธรรมชาติ ซง่ึ สรา้ งรายไดใ้ หจ้ งั หวดั นบั หมนื่ ลา้ นบาทตอ่ ปี แตป่ จั จบุ นั จงั หวดั นครศรธี รรมราช กำ� ลังประสบปัญหาเรือ่ งขยะมูลฝอย ซง่ึ ควรได้รบั การแกไ้ ขโดยเร่งดว่ น เพือ่ ไม่ให้สง่ ผลกระทบตอ่ การทอ่ งเท่ียวของ จงั หวดั นครศรีธรรมราชในอนาคต สถานการณด์ ้านขยะในปี พ.ศ. 2559 จงั หวัดนครศรีธรรมราชมอี งค์กรปกครอง ส่วนทอ้ งถ่นิ (อปท.) ทีม่ กี ารให้บรกิ ารจดั เก็บขยะ จำ� นวน 177 แห่ง คิดเป็นร้อยละ 63.6 จาก อปท. ท้ังหมด 184 แห่ง ในจ�ำนวนน้ีมี 34 แห่ง ที่มีสถานท่ีก�ำจัดขยะแต่มี อปท. เพียง 7 แห่ง ที่มีการก�ำจัดขยะถูกหลักสุขาภิบาล ส�ำหรับสถานการณ์ปริมาณขยะที่เกิดข้ึนในปี 2559 พบว่ามีจ�ำนวน 368,388 ตัน (ส�ำนักงานสถิติ จังหวดั นครศรธี รรมราช : 2559) 438 แหนลักวสกูตารรนจคัดรกศารรธี เรรรียมนรารชู้ ศกึ ษา

ท่มี า : สำ� นักงานทรัพยากรธรรมชาตแิ ละสิง่ แวดลอ้ มจังหวดั นครศรธี รรมราช จดั ท�ำโดย : ส�ำนกั งานสถติ จิ ังหวดั นครศรธี รรมราช หลักสตู แรนนวคกราศรรจธี ดัรรกมารราเชรศียึกนษราู้ 439

ขยะมูลฝแอนยวในทจางังกหาวรดั แนกคไ้ รขปศญัรีธหรา รมราช แนวทางการลดปรมิ าณขยะมลู ฝอย การป้องกันและควบคุมการเพ่ิมขึ้นของปริมาณขยะที่ส�ำคัญต้องอาศัย ขบวนการปรับเปลี่ยนพฤติกรรม ในชีวติ ประจำ� วันโดยทวั่ ไปแล้วหน่วยงาน ประชาชน องคก์ รและชมุ ชนสามารถลดปริมาณขยะทจ่ี ะเกดิ ขนึ้ ได้โดยใช้ หลกั การ ดงั นี้ 1. ระดบั ครวั เรอื นการจดั การขยะ โดยอาศัยหลัก 5 R คือ 1.1 ลดการใช้ (Reduce) 1) ลดการขนขยะเข้าบ้านไม่ว่าจะเป็นถุงพลาสติก ถุงกระดาษ กระดาษห่อของ โฟมหรือ หนังสอื พมิ พ์ เป็นต้น 2) ใช้ผลิตภัณฑ์ชนิดเติม เช่น น�้ำยาล้างจาน น้�ำยาปรับผ้านุ่ม เคร่ืองส�ำอาง ถ่านชนิดชาร์จได้ สบูเ่ หลว นำ้� ยารดี ผา้ นำ้� ยาทำ� ความสะอาด ฯลฯ 3) ลดปรมิ าณขยะมลู ฝอยอนั ตรายในบา้ น หลกี เลย่ี งการใชส้ ารเคมภี ายในบา้ น เชน่ ยากำ� จดั แมลง หรือน้�ำยาท�ำความสะอาดต่าง ๆ ควรจะหันไปใช้วิธีการทางธรรมชาติ อาทิ ใช้เปลือกส้มแห้งน�ำมาเผาไล่ยุงหรือ ใชผ้ ลมะนาวเพื่อดับกล่ินภายในห้องน�้ำ 4) พยายามหลกี เลย่ี งการใชโ้ ฟมและพลาสตกิ ซง่ึ กำ� จดั ยาก โดยใชถ้ งุ ผา้ หรอื ตะกรา้ ในการจบั จา่ ย ซื้อของ ใชป้ ่นิ โตใส่อาหาร 1.2 ใช้ซ้ำ� Reuse 1) น�ำสิ่งของท่ีใช้แล้วกลับมาใช้ใหม่ เช่น ถุงพลาสติกที่ไม่เปื้อนก็ให้เก็บไว้ใช้ใส่ของอีกคร้ังหน่ึง หรอื ใชเ้ ปน็ ถงุ ขยะในบ้าน 2) น�ำส่ิงของมาดัดแปลงให้ใช้ประโยชน์ได้อีก เช่น การน�ำยางรถยนต์มาท�ำเก้าอี้ การน�ำขวด พลาสติกกส็ ามารถนำ� มาดัดแปลงเป็นที่ใส่ของ แจกนั การนำ� เศษผ้ามาทำ� เปลนอน เปน็ ต้น 3) การใชก้ ระดาษทัง้ สองหน้า 1.3 การรไี ซเคิล Recycle การแปรสภาพและหมุนเวียนน�ำกลับมาใช้ได้ใหม่ โดยน�ำไปผ่านกระบวนการผลิตใหม่อีกคร้ัง เปน็ การนำ� วสั ดุทส่ี ามารถน�ำกลับมาใชใ้ หม่ได้ เช่น กระดาษแกว้ พลาสตกิ เหลก็ อลูมเิ นียม มาแปรรูปโดยกรรมวธิ ี ตา่ ง ๆ นอกจากจะเปน็ การลดปรมิ าณขยะมลู ฝอยแลว้ ยงั เปน็ การลดการใชพ้ ลงั งานและลดมลพษิ ทเี่ กดิ กบั สงิ่ แวดลอ้ ม ซึ่งเราสามารถทำ� ได้โดย 1) คดั แยกขยะรีไซเคิลแต่ละประเภท ได้แก่ แกว้ กระดาษ พลาสตกิ โลหะ อโลหะ 2) น�ำไปขาย / บริจาค / น�ำเขา้ ธนาคารขยะ / กิจกรรมขยะแลกไข่ 3) ขยะเหล่านก้ี ็จะเข้าสู่กระบวนการรีไซเคลิ 1.4 การซอ่ มแซม Repair เปน็ การซ่อมแซมแก้ไขส่งิ ของต่าง ๆ ให้สามารถใช้งานต่อได้ 1.5 การหลีกเลย่ี งการใช้ Reject การหลีกเล่ียงการใชส้ ง่ิ ท่ีกอ่ ให้เกิดมลพิษ 440 แหนลักวสกูตารรนจคดั รกศารรธี เรรรียมนรารชู้ ศกึ ษา


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook