โยนโิ ทรณะท่ไี มไ่ ดเ้ จาะรู กลมุ่ ที่ 2 โยนโิ ทรณะท่ีไม่ได้เจาะรู โยนโิ ทรณะท่เี จาะรไู มท่ ะลุ เป็นโยนิโทรณะที่มีร่องรอยการสลักและตกแต่งให้มีรูปร่าง และขนาดทส่ี วยงามรวมทงั้ มรี อ่ งนำ้� ดว้ ย แตเ่ ปน็ ทนี่ า่ สงั เกตวา่ ไมไ่ ด้ มกี ารสลกั เปน็ รลู งไปในแผน่ ศลิ าดงั กลา่ วนเ้ี ลย ดงั นนั้ การประดษิ ฐาน ศิวลึงค์บนโยนิโทรณะแบบน้ีจึงอาจจะวางฐานศิวลึงค์ไปบน แผ่นโยนิโทรณะโดยไม่ต้องมีการเสียบด้วยเดือยแต่อย่างใด อาจจะก�ำหนดให้โยนิโทรณะแบบน้ีมีอายุอยู่ในราวพุทธศตวรรษที่ 12-14 นับเปน็ แบบ ท่ีพบน้อยมาก กลมุ่ ท่ี 3 โยนโิ ทรณะทเี่ จาะรูไมท่ ะลุ มีโยนิโทรณะแบบหนึ่ง มีการตกแต่งองค์ประกอบทั้ง ภายนอก และภายในเช่นเดียวกับโยนิโทรณะโดยท่ัวไปทุกประการ มีร่องน้�ำ และมีการเจาะรูที่ตรงกลางแผ่นศิลาด้วย หากแต่รูท่ีเจาะนั้นไม่ได้ เจาะให้ผ่านทะลุแผ่นศิลา อาจจะเจาะให้ลึกเพียงครึ่งหน่ึงของ แผ่นศิลาเท่านั้น ก�ำหนดให้มีอายุอยู่ในราวพุทธศตวรรษท่ี 12-14 เชน่ เดียวกนั กลมุ่ ท่ี 4 โยนิโทรณะทเี่ จาะรูทะลุตลอด โยนิโทรณะแบบนี้มีรูปแบบเหมือนกับแบบที่สามทุกประการ หากต่างกันเพียงว่าโยนิโทรณะแบบนี้มีการเจาะรูที่ตรงกลาง แผ่นศิลา โดยเจาะให้รูดังกล่าวทะลุผ่านแผ่นศิลาลงไปโดยตลอด กำ� หนดให้มอี ายอุ ยู่ในราวพทุ ธศตวรรษที่ 12-14 เชน่ กัน โยนิโทรณะท่ีเจาะรทู ะลตุ ลอด กลมุ่ ท่ี 5 โยนโิ ทรณะท่ีฐานสูงมาก และมีลวดลายประดับ ในบรรดาโยนิโทรณะท่ีค้นพบในนครศรีธรรมราช มักจะสลักด้วย ศลิ าท่ีไม่หนามากนกั คอื ไมเ่ กิน 6 นิว้ แต่กระนัน้ ก็ตามได้มกี ารค้น พบโยนิโทรณะบางชน้ิ ซงึ่ มีความสูงมาก คอื ราว 1 เมตรลกั ษณะ ดา้ นบนมกี ารตกแตง่ ใหม้ รี อ่ งนำ�้ และรทู เี่ จาะไมท่ ะลผุ า่ นตลอด เชน่ เดยี วกบั โยนโิ ทรณะแบบทสี่ าม แตล่ กั ษณะทพี่ เิ ศษไปจากแบบอนื่ ๆ คือ เป็น โยนิโทรณะที่มีฐานสูงมากและมีลวดลายสลักประดับ โยนโิ ทรณะท่ีฐานสงู มาก ทกุ ดา้ นของฐานมกี ารสลกั ฐานเปน็ ลวดบวั ขน้ึ ไปเปน็ ชนั้ ๆ และมเี สา ดว้ ยเหมือนกับการสลักภาพจ�ำลองอาคาร อาจจะก�ำหนดใหม้ อี ายุ อยใู่ นราวพทุ ธศตวรรษที่ 12-14 ปัจจุบันศิวลึงค์และฐานโยนิโทรณะขนาดต่าง ๆ แสดงให้ชมอยู่ท่ีพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ นครศรีธรรมราช หลกั สูตแรนนวคกราศรรจธี ัดรรกมารราเชรศยี ึกนษราู้ 341
7. พระวษิ ณุ (พระนารายณ)์ พระวิษณุจากหอพระนารายณ์ ณ พพิ ธิ ภัณฑสถานแห่งชาตินครศรีธรรมราช มดี ังนี้ พระวษิ ณุ หรอื พระนารายณศ์ ลิ า พบทแี่ หลง่ โบราณคดี ใกล้วัดพระเพรง ต�ำบลนาสาร อ�ำเภอพระพรหม ประทับยืนบนปัทมอาสน์ สูง 17.30 เซนติเมตร รูปแบบเคร่ืองแต่งกายของพระวิษณุองค์นี้คล้ายคลึง กับพระวิษณุจากวัดศาลาทึง ท่ีไชยา สุราษฏร์ธานี มีเค้าโครงของ ศิลปะอมราวดีปะปนกับคุปตะ เช่น การคาดผ้าคาดวงโค้งกว้างและปรากฏองคเพศ ตามแบบศิลปะอมราวดี สวมหมวกทรงกระบอก พระวษิ ณุ (พระนารายณ)์ ทป่ี ระดับดว้ ยลวดลายแสดงความเกีย่ วขอ้ งกบั ศลิ ปะ คุปตะ จากรูปแบบศลิ ปกรรม พบวา่ ประตมิ ากรรมนมี้ ีอายคุ อ่ นข้าง “เกา่ ” แสดงถึงการเขา้ มาของไวษณพนกิ ายจาก ประเทศอนิ เดยี โดยเขา้ มาตงั้ แตร่ ะยะแรก ๆ ของ วฒั นธรรมศรวี ชิ ยั โดยเขา้ มาปะปนกนั ทง้ั อนิ เดยี ใตแ้ ละอนิ เดยี เหนอื ปัจจุบันแสดงให้ชมอยู่ท่ีพิพิธภัณฑสถานแหง่ ชาติ นครศรีธรรมราช พระวษิ ณสุ วมหมวกทรงกระบอก พพิ ิธภัณฑสถานแหง่ ชาตินครศรธี รรมราช พระวษิ ณอุ งคน์ มี้ เี คา้ โครงคลา้ ยกบั พระ วิษณุในศลิ ปะปลั ลวะตอนตน้ ของอนิ เดยี ใต้ กลา่ วคอื สวมหมวกทรงกระบอกเรียบและนุ่งโธตียาวเรียบ ไมม่ เี ครอ่ื งตกแตง่ โดยลกั ษณะดงั กลา่ วปรากฏเชน่ กนั กบั พระวษิ ณจุ ำ� นวนมากทคี่ น้ พบในจงั หวดั สรุ าษฏรธ์ านี และจังหวัดปราจีนบุรี ในประเทศไทย ประติมากร มักก�ำหนดให้ใช้คทาและชายผ้าคาดเป็นเครื่องค้�ำยัน เพอื่ ใหป้ ระติมากรรมพระวิษณแุ ขง็ แรงข้ึน พระวิษณุ ผดู้ แู ลโลกและพระเปน็ เจา้ สงู สดุ ในลทั ธไิ วษณพนกิ าย ทรงถอื ของ สี่ประการ คือ จักร สงั ข์ คทาและธรณี โดยของถอื แตล่ ะประการลว้ นแตแ่ สดงคณุ สมบตั แิ ละ พระวิษณุสวมหมวก ความย่งิ ใหญ่ของพระองค์ในทุก ๆ ดา้ น เชน่ ทรงถอื จักรอันเป็นสัญลักษณ์ของพระสูรยะน้ัน ก็เน่ืองด้วยทรงเป็นเจ้าแห่งแสงสว่างท่ีแผ่ซ่านไปทุกทิศ เป็นต้น ประติมากรรมชิ้นน้ี พระวิษณุทรงถือจักร (และสังข์) ที่พระหัตถ์คู่หลัง ส่วนพระหัตถ์คู่หน้าถือธรณีและคทา อันเปน็ ลกั ษณะของศิลปะปลั ลวะในศลิ ปะอนิ เดยี ใต้ ซงึ่ ตอบรบั กบั รปู แบบศิลปะ 342 แหนลกัวสกตูารรนจคัดรกศารรีธเรรรยี มนรารชู้ ศกึ ษา
พระวิษณจุ ากหอพระนารายณน์ ครศรีธรรมราช รูปแบบเคร่ืองแต่งกายของพระวิษณุ องคน์ คี้ ลา้ ยคลงึ กบั ศลิ ปะอมราวดแี ละคปุ ตะ โดยการ คาดผ้าคาดวงโค้งกว้างนั้นปรากฏมากอ่ น แล้วต้ังแต่ ศลิ ปะอมราวดี สว่ นหมวกทรงกระบอกทปี่ ระดบั ดว้ ย ตาบวงกลมทมี่ สี งิ หค์ ายชายผา้ และยชั โญปวตี เสน้ เชอื ก กล็ ว้ นแตแ่ สดงความเกยี่ วขอ้ งกบั ศลิ ปะคปุ ตะจากรปู แบบ ศิลปกรรม พบว่าประติมากรรมนี้ มีอายุค่อนข้าง “เก่า” จากรปู แบบศิลปกรรม พบวา่ เป็นประติมาน วทิ ยาทีแ่ สดงความเก่าแก่ของพระวษิ ณุองคน์ ี้เชน่ กนั พระวษิ ณจุ ากหอพระนารายณ์ นครศรธี รรมราช 8. ภาชนะดนิ เผาทรงหม้อสามขา สมัยก่อนประวัติศาสตร์ ยุคหินใหม่ อายุราว 4,000-2,000 ปี แหล่งที่พบถ้�ำเขาแอง อ�ำเภอนบพติ ำ� จงั หวดั นครศรีธรรมราช เปน็ ภาชนะ รูปแบบพิเศษมี 3 ขา ในจังหวัดนครศรีธรรมราช พบเศษภาชนะแบบหม้อสามขาหลายแห่ง เช่น ทอ่ี ำ� เภอทงุ่ สง อำ� เภอพรหมครี ี อำ� เภอรอ่ นพบิ ลู ย์ และ อ�ำเภอนบพิตำ� ภาชนะดินเผาทรงหม้อสามขา 9. กลองมโหระทึกสำ� รดิ สมัยก่อนประวัติศาสตร์ ยุคโลหะ อายุประมาณ 2,000-1,500 ปี พบที่บ้านเกียกกาย ต�ำบลท่าเรือ อ�ำเภอเมือง จังหวัดนครศรีธรรมราช “กลองมโหระทึก” เป็นกลองชนิดหนึ่งที่ท�ำจากโลหะผสมระหว่างทองแดง ดบี กุ และตะกวั่ เรียกว่า ส�ำรดิ บนหนา้ กลอง มักทำ� รูปกบประดับตกแต่งจงึ มอี กี ชือ่ ว่า “กลองกบ” เม่ือราว 3,000 ปี กลองมโหระทึกเป็น เครื่องมือโลหะ ที่คนสมัยก่อน ประวัติศาสตร์ผลิตขึ้นเพื่อใช้ตี ประโคมในพิธีกรรม ความเชื่อต่าง ๆ เช่น พธิ ีศพ พิธีเลย้ี งผี พธิ ีขอฝน ฯลฯ และเป็นลักษณะเฉพาะของวัฒนธรรมความเชื่อ ท่ีมีร่วมกันของคนท่ีเคยอาศัยในดินแดนสุวรรณภูมิ (เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ในปัจจุบัน) เวียดนาม บ้านเกิดของกลองกบ คนสมยั ก่อนมีความเช่ือเร่อื งผี และอ�ำนาจเหนือธรรมชาติ ความอุดมสมบูรณ์ของ ข้าวปลาอาหารเกิดข้ึนจากการดลบันดาลของเทวดา กลองมโหระทึกส�ำริด หลักสูตแรนนวคกราศรรจธี ัดรรกมารราเชรศยี กึ นษราู้ 343
ผฟี า้ ผแี ถนทอ่ี ยบู่ นฟา้ เมอื่ ใดเกดิ ความแหง้ แลง้ จำ� ตอ้ งทำ� พธิ กี รรมบชู าผฟี า้ ผแี ถนใหเ้ กดิ ความพอใจ โดยการตกี ลองกบ เพ่ือส่งสัญญาณขอฝน พร้อมร้องร�ำท�ำเพลงประกอบไปกับท่าเต้นกบกระโดด รวมถึงใช้กลองมโหระทึกตีประกอบ ในพธิ กี รรมเก่ยี วกับความตาย เชน่ ใชต้ ีเรยี กวิญญาณผตู้ ายให้มารับของเซน่ ไหว้ หรอื ใช้เปน็ ที่ตั้งวางของเซ่นสังเวย กลองมโหระทกึ มปี ระติมากรรมรูปกบ กลองมโหระทกึ สำ� ริด ในพิพิธภณั ฑสถานแห่งชาตนิ ครศรีธรรมราช 10. เคร่อื งถว้ ยที่พบในจังหวัดนครศรธี รรมราช จงั หวดั นครศรธี รรมราช เปน็ เมอื งสำ� คญั มาแตโ่ บราณมสี มั พนั ธไมตรกี บั ประเทศตา่ ง ๆ ทง้ั ในทวปี เอเชยี และยุโรป โดยเฉพาะในด้านเศรษฐกิจการค้า จากหลักฐานได้พบเครือ่ งถว้ ยตา่ ง ๆ จำ� นวนมาก เชน่ เคร่อื งถว้ ยจีน สมยั ราชวงศ์ต่าง ๆ เครือ่ งถ้วยอันนมั (ญวน) เคร่อื งถ้วยไทยต้งั แต่สมยั ลพบุรี สมัยสุโขทยั สมยั อยธุ ยา จนถงึ สมยั รตั นโกสนิ ทร์ เครอ่ื งถ้วยท่พี บในจงั หวัดนครศรีธรรมราช 344 แหนลกัวสกูตารรนจคดั รกศารรธี เรรรียมนรารชู้ ศึกษา
นอกจากนยี้ งั พบเครอ่ื งถว้ ยพนื้ เมอื งในจงั หวดั นครศรธี รรมราช สว่ นใหญเ่ ปน็ เครอ่ื งปน้ั ดนิ เผา ไมเ่ คลอื บ แหล่งทีพ่ บเคร่ืองถว้ ยพนื้ เมืองทสี่ ำ� คญั คือ วัดนาโรง (วดั รา้ ง) ในเขตเมอื งโบราณพระเวยี ง เคร่อื งถ้วยพน้ื เมืองในจังหวดั นครศรธี รรมราช 12. เคร่ืองมือหนิ สมยั กอ่ นประวตั ศิ าสตร์ อายรุ าว 2,000-3,000 ปี ราษฎรขุดพบท่ีต�ำบลสระแก้ว อ�ำเภอท่าศาลา จังหวัด นครศรธี รรมราช 12. เครื่องปัน้ ดินเผาศรีวชิ ัยและตามพรลงิ ค์ ภาคใต้ของไทย และหมู่เกาะของประเทศ อินโดนีเซียปัจจุบัน แต่เดิมแบ่งเป็นรัฐเล็ก ๆ ท่ีแยกเป็นอิสระ แกก่ นั ตา่ งกพ็ ยายามมอี ำ� นาจเหนอื กนั โดยสง่ ทตู ไปใหจ้ นี รบั รอง เครือ่ งมอื หิน ฐานะรัฐของตนกับเพื่อค้าขาย ขณะเดียวกันก็ติดต่อค้าขายกับ อินเดยี ตะวนั ออกกลาง และเลยไปถงึ โรมันดว้ ย ดนิ แดนแถบนี้ มคี วามเจรญิ มาตง้ั แตพ่ ทุ ธศตวรรษท่ี 6 เปน็ ตน้ มา และมาเจรญิ มากจนสามารถรวมเปน็ รฐั ศรวี ชิ ยั ในพทุ ธศตวรรษที่ 13 จากน้นั รฐั ตามพรลิงคก์ ม็ ีอ�ำนาจเหนือคาบสมทุ รมลายูในชว่ งพุทธศตวรรษท่ี 18 หมอ้ ดนิ เผา ศิลปะศรวี ิชยั พทุ ธศตวรรษที่ 13-15 คนทีดนิ เผา ศิลปะศรวี ชิ ัยพทุ ธศตวรรษที่ 13-15 จดั แสดงทพ่ี ิพธิ ภัณฑสถานแหง่ ชาตินครศรีธรรมราช จัดแสดงทพ่ี พิ ธิ ภณั ฑสถานแห่งชาตินครศรธี รรมราช หลกั สตู แรนนวคกราศรรจธี ัดรรกมารราเชรศียกึ นษราู้ 345
ลักษณะเคร่ืองปน้ั ดินเผาศรวี ชิ ยั เคร่ืองปนั้ ดินเผาพนื้ เมอื งทพี่ บในภาคใต้ มอี ายรุ าวพุทธศตวรรษท่ี 13-18 กรมศิลปากรไดข้ ดุ คน้ แหลง่ เตาเผาทสี่ ำ� คญั เมือ่ พ.ศ. 2521 ที่บริเวณคลองปะโอ บ้านปะโอ ต�ำบลม่วงงาม และท่ีต�ำบลวดั ขนนุ อำ� เภอสงิ หนคร จังหวัดสงขลา ซงึ่ พบวา่ มีแหล่งเตาเผาหลายแหง่ คอื เตาหม้อ 1 เตาหม้อ 2 เตาหม้อ 3 เตาโคกหม้อ และเตาโคกไฟ นอกจากนย้ี ังพบเคร่อื งปัน้ ดินเผา แบบอ่นื ๆ ในแถบสทงิ พระ แตไ่ มพ่ บเตาเผา อาจเปน็ ไปได้ว่านา่ จะใชว้ ิธเี ผากลาง แจ้งด้วย เป็นภาชนะเนื้อดินเผาธรรมดาที่ไม่ต้องการความร้อนสูงนัก เครื่องปั้นดินเผาจากบ้านปะโอ มีผลิตภัณฑ์ ที่ส�ำคัญ คือ คนที (หม้อน�้ำ) และหม้อมีเชิง ผลิตภัณฑ์จากเตาเผานี้ได้ส่งไปขายในเมืองส�ำคัญต่าง ๆ ในภาคใต้ ของไทย โดยพบทง้ั ท่ีอำ� เภอไชยา จังหวดั สรุ าษฎรธ์ านี ที่อ�ำเภอเมือง จงั หวัดนครศรธี รรมราช ท่ีอ�ำเภอ เขาชยั สน จังหวัดพัทลงุ ลักษณะของเครื่องปั้นดินเผาศรีวิชัยแบ่งตามลักษณะเน้ือดินปั้นออกเป็น 2 ชนิด คือ ชนิดหน่ึงเป็น ภาชนะท่มี ีเน้ือดนิ เผาหยาบหนา มสี ีแดง สเี ทา และสีเหลอื ง มกี ารตกแตง่ ภาชนะดว้ ยเทคนิคต่าง ๆ เชน่ การปัน้ ติด การขดู ขดี การขุด การกด และการเขยี นสี เครือ่ งปนั้ ดินเผาชนดิ นจ้ี ะเป็นภาชนะทใ่ี ชส้ อยในชีวติ ประจำ� วัน เช่น หมอ้ จาน ชาม พาน และคนที ส่วนอีกชนิดหนึ่ง เป็นภาชนะท่ีมีเนื้อดินปั้นขาวบางละเอียดสวยงาม ท่ีพบมากคือ คนที หมอ้ มีเชิงและหมอ้ กน้ กลม คนทีนน้ั รปู กลม คอกว้างสูง ปากมีขอบผายกว้าง พวยยาวตรงเฉียงข้ึน รอบคอสว่ น ลา่ งหรอื ไหลม่ เี สน้ นนู รอบ เชงิ ทก่ี น้ หมอ้ มที ง้ั เชงิ เตยี้ และเชงิ สงู ทปี่ ลายเชงิ ผายกวา้ งขอบเชงิ เปน็ เสน้ นนู บางใบ คอคอด เล็กสูงขอบปากผายกวา้ ง ปากพวยคนทีมีทั้งเรียบและตกแต่งเปน็ เหลย่ี ม มเี ดอื ยโดยรอบ และบางใบรอบไหลม่ กี าร ตกแตง่ ด้วย เสน้ สแี ดง 2-3 เส้น บางทีมแี ถวรอยจดุ อยู่ระหวา่ งแนวเสน้ สแี ดง ซงึ่ ภาชนะชนิดน้ีนับวา่ เปน็ เอกลักษณ์ พเิ ศษของเครอื่ งปัน้ ดนิ เผาศรีวชิ ยั ภาชนะเหล่านี้ พบมากทีบ่ ริเวณวดั สวนหลวง (รา้ ง) ตำ� บลศาลามชี ัย อ�ำเภอเมือง จังหวัดนครศรีธรรมราช ปัจจุบันอยู่ตรงกันข้ามพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ นครศรีธรรมราช และท่ีอ�ำเภอสทิงพระ จงั หวดั สงขลา 13. เคร่อื งถม เมอื งนคร เครือ่ งถมเมืองนคร “เครื่องถม”ตามพจนานกุ รม ฉบบั ราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ. 2493 ให้ นิยามค�ำว่า “ถม” ไวว้ ่า “วธิ ที ำ� ภาชนะ โดยลงยาตะก่ัวทบั หรอื ถมรอยเปน็ ลวดลายตา่ ง ๆ เรียกภาชนะชนิดนน้ั วา่ เครอ่ื งถม” เคร่อื งถมเมอื งนคร เปน็ หัตถกรรมชนั้ เลิศของคนไทย ถอื กำ� เนดิ ข้ึนในสมยั อาณาจกั รตามพรลิงคต์ งั้ แต่โบราณ ถมนคร ชอ่ื นเ้ี ปน็ ทรี่ จู้ กั และนบั เปน็ หนงึ่ ในบรรดาศลิ ปาชพี ชนั้ สงู ทม่ี มี าตงั้ แตค่ รงั้ อยธุ ยา ยงั ไมเ่ ปน็ ทย่ี ตุ ิ วา่ หตั ถศลิ ปะการทำ� เครอ่ื งถมของประเทศไทย และของเมอื งนครศรธี รรมราชนนั้ เรมิ่ ตงั้ แตเ่ มอื่ ใด แตใ่ นประวตั ศิ าสตร์ โลกนั้น ปัจจุบันน้ีได้พบเคร่ืองถมที่เก่าแก่ที่สุดในยุคโรมัน 2 ชิ้น เป็นภาพทหารโรมันและหีบเคร่ืองส�ำอางสตรี อายุระหว่าง 210 ปีก่อนพุทธกาล ถึงราว พ.ศ. 1019 ท�ำให้สันนิษฐานว่าถมนครนี้อาจจะรับมาจากโรมัน ผา่ นทางอินเดยี หรอื กรีก หรือเปอรเ์ ซีย เม่อื ประมาณ 800 ปีก่อน ในขณะทีบ่ างท่านกลบั เหน็ วา่ ถมนครน้ีน่าจะเกิด ท่นี ี่ เพราะบางหลกั ฐานทางกรกี ก็กล่าววา่ รบั ศลิ ปะนจ้ี ากตะวันออกเชน่ กัน สำ� หรบั ประวตั ศิ าสตรไ์ ทยนนั้ เครอ่ื งถมนบั เปน็ หนงึ่ ในเครอื่ งราชปู โภคตง้ั แตค่ รงั้ สมเดจ็ พระบรมไตรโลกนาถ และที่ส�ำคัญ คือ เมื่อคร้ังสมเด็จพระนารายณ์มหาราช ส่งคณะราชฑูตไทยไปเฝ้าสมเด็จพระเจ้าหลุยส์ท่ี 14 ณ ประเทศฝรงั่ เศสน้นั พระราชสาสน์ ถกู บรรจุม้วนไวใ้ นหบี ถมตะทองพร้อมกับราชบรรณาการถมทองดว้ ย พรอ้ ม กันน้นั ในการเขา้ เฝา้ สมเด็จพระสนั ตะปาปา ณ กรงุ วาติกนั ของคณะราชฑตู กรุงสยามครงั้ นั้น ราชบรรณาการกค็ ือ 346 แหนลักวสกตูารรนจคัดรกศารรธี เรรรียมนรารชู้ ศกึ ษา
กางเขนพรอ้ มราชสาสน์ในหบี ถมตะทอง บนพานถมตะทอง และเคร่ืองถมทั้งหลายในคร้งั น้ัน สมเดจ็ พระนารายณ์ ทรงโปรดรบั ส่ังใหเ้ จ้าเมอื งนครศรีธรรมราช จัดหาช่างถมทม่ี ฝี มี ือเขา้ ไปท�ำ ณ กรงุ ศรีอยธุ ยา ระหวา่ ง พ.ศ. 2199 - 2231จงึ ทำ� ใหห้ ลายฝา่ ยสรปุ วา่ ถมนครนน้ั รบั มาจากฝรงั่ ชาตโิ ปรตเุ กสทเ่ี ขา้ มาตง้ั หลกั แหลง่ ทำ� มาหากนิ ในนครศรธี รรมราช ต้ังแต่ปี พ.ศ. 2061 คร้ังรัตนโกสนิ ทร์นนั้ เครือ่ งถมนบั เป็นของสูง เปน็ สมบตั ิของผสู้ งู ศกั ดิ์โดยช่างเปน็ ชาวนคร แม้ทีอ่ พยพ ไปตั้งบ้านช่างถมท่ีกรุงเทพฯ แต่คุณภาพก็ยังสู้ถมเมืองนครไม่ได้ สมัยสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย ซ่ึงมีการฟื้นฟูศิลปวัฒนธรรมและหัตถกรรมนั้น เครื่องถมนครก็รุ่งเรืองมาก ถึงรัชกาลท่ี 3 เคร่ืองราชูปโภค ท้ังหลายล้วนแต่เป็นเคร่ืองถม ได้แก่ พระแท่นท่ีเสด็จออกขุนนางกับพระเสลี่ยง ในรัชกาลที่ 4 มีพระท่ีนั่งภัทรบิฐ และพนักเรือพระที่น่ังกราบด้วยถม คร้ันรัชกาลท่ี 5 เม่ือสร้างพระท่ีน่ังพุดตานกาญจนสิงหาสน์ ประดิษฐานไว้ใน ท้องพระโรงกลางภายใต้นพปดลมหาเศวตฉัตรและยังมี พระที่นั่งถมทอง ขนาดใหญ่ท่ีเจ้าพระยานครให้ช่างท�ำข้ึน เพื่อทลู เกลา้ ถวายอีกด้วย นอกจากเปน็ เครื่องราชปู โภคแลว้ เครอ่ื งถมนครยงั นบั เปน็ ราชบรรณาการ กลา่ วคอื เปน็ ของขวญั ชิน้ สำ� คัญของพระเจ้าอยหู่ วั เสมอมา เช่น ครง้ั พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจา้ อยูห่ วั พระราชทานเครอื่ งถม ถวายแด่ สมเด็จพระราชินีวิคตอเรียแห่งอังกฤษและจนถึงบัดนี้ยังตั้งแสดงอยู่ในพิพิธภัณฑ์พระราชวังบัคกิ้งแฮม, พระบาท สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 ทรงพระราชทานเคร่ืองถมแด่สมเด็จพระราชินีอลิซาเบ็ธท่ี 2 แห่งอังกฤษ, แดป่ ระธานาธบิ ดไี อเซนฮาวแหง่ สหรฐั อเมรกิ า เฉพาะอยา่ งยงิ่ ทรงเลอื กหบี บหุ รถี่ มทอง และตลบั แปง้ ถมทองแกแ่ พทย์ และนางพยาบาลทั้ง 4 ท่รี ว่ มกันถวายการประสตู แิ ละอภิบาลพระองค์ท่าน ณ เมอื งบอสตัน เครื่องถมเมอื งนคร เครอ่ื งถมมีอยู่ 3 แบบ คอื ถมเงนิ (หรอื ถมดำ� ) ถมทอง และถมตะทอง 1. ถมเงนิ หรอื ทนี่ ยิ มเรยี กกนั วา่ ถมดำ� ลกั ษณะเปน็ เนอ้ื ถมทถี่ มลงไปบนพนื้ ตามรอ่ งลาย เปน็ สดี ำ� มนั ซึ่งเนื้อถมจะขับลวดลายให้เด่นงดงามอยู่บนพื้นสีเงิน เป็นถมที่เก่าแก่ท่ีสุดตามความนิยม ถมท่ีดีต้องมีสีด�ำสนิท ไม่มี “ตามด” (ตามด คือ จดุ ขาวบนสีดำ� ) ถมเป็นกรรมวธิ ี ในการผสมของโลหะสามอย่างเขา้ ดว้ ยกนั คือ เงนิ ตะกวั่ และทองแดง นำ� มาปน่ จนเปน็ ผงละเอยี ดเพอื่ โรยลงบนพนื้ แผน่ เงนิ ทข่ี ดู รอ่ ง หรอื ตอกเปน็ ลวดลายไวแ้ ลว้ การทจ่ี ะให้ ผงถมเกาะแน่นอยู่ท่ีการเหยียบพ้ืน (การแกะหรือตอกร่องลงบนเน้ือเงินที่เป็นพ้ืนของลายที่ตอก) ถ้าเหยียบพื้น ให้มรี อยขรุขระมากเทา่ ใด ผงถมกเ็ กาะไดม้ ากเท่านัน้ ถมเงนิ หลักสตู แรนนวคกราศรรจีธัดรรกมารราเชรศยี ึกนษราู้ 347
2. ถมทอง กค็ อื ถมดำ� นนั่ เอง แตแ่ ตกตา่ งทล่ี วดลาย คอื ลายสเี งนิ ไดเ้ ปลย่ี นเปน็ สที อง ชา่ งถมจะเปยี ก หรือละลายทองค�ำให้เหลวเป็นน้�ำ โดยใส่ทองแท่งลงในปรอท ปรอทจะละลายทองแท่งให้เป็นน้�ำ ช่างถมจะชุบ นำ้� ทองผสมปรอทดว้ ยพกู่ นั เขยี นทบั ลงบนลวดลายสเี งนิ การเขยี นนำ�้ ทองละลายปรอทน้ี จะตอ้ งใชค้ วามประณตี เปน็ อย่างมาก ต้องเขียนทับลงบนเส้นเงินเท่าน้ัน เมื่อเขียนเสร็จแล้วจะใช้ความร้อนไล่ปรอทออกจากทอง ทองก็จะติด แนน่ อยบู่ นพน้ื ทเ่ี ขยี นนำ้� ทองนนั้ ถมทองมคี วามงามตรงทเี่ ปน็ สที อง ลวดลายกระจา่ งเดน่ ชดั ทองทที่ าทบั กจ็ ะมคี วาม คงทนนบั รอ้ ยปี ถมทอง 3. ถมตะทอง เปน็ ศัพท์ของช่างถม หมายถึง วธิ ีการระบายทองคำ� ละลายปรอทหรือแตม้ ทองเป็น แหง่ ๆ เฉพาะท่ี มใิ ชร่ ะบายจนเตม็ เนอื้ ทอ่ี ยา่ งเดยี วกบั การทำ� ถมทอง โดยเอาทองคำ� แท้ ๆ ใส่ ลงในปรอท ทองละลาย อยใู่ นนำ�้ ปรอท เมอ่ื เอานำ้� ปรอททม่ี ที องคำ� ละลายปนอยไู่ ปแตม้ ตามแหง่ ที่ ตอ้ งการให้ เปน็ สที องนนั้ ในขนั้ แรกปรอท จะยังคงอยู่ เมอื่ ไลด่ ้วยความร้อนปรอทจะหนี ทองก็จะตดิ แนน่ อยู่บนต�ำแหนง่ หรือลายทแ่ี ตม้ ทองน้ัน การแต้มทอง หรือ ระบายทองในท่บี างแหง่ ของถมด�ำ เป็นการเนน้ จุดเดน่ หรือต้องการแสดงอวดภาพหรือลายเด่น ๆ ฉะนั้นเครือ่ ง ถมตะทองจงึ เปน็ ของทหี่ ายากกวา่ ถมเงนิ หรอื ถมทอง ในสมยั กรงุ ศรอี ยธุ ยามคี วามนยิ มในถมตะทองมากกวา่ ถมทอง ถมตะทอง ช่างถมในกรุงเทพฯ ท้ังท่บี า้ นพานถมและท่ไี ดร้ บั บรรดาศกั ดถ์ิ ึงขัน้ ขนุ ปราณีตถมกจิ ขนุ ประดษิ ฐถมการ น้ัน ไม่สืบทอดถึงปัจจุบัน แต่ทางนครนั้นพระรัตนธัชมุนีศรีธรรมราช (ม่วง รัตนธัชโช) หรือเจ้าคุณ วัดท่าโพธิ์ ไดจ้ ดั ตง้ั โรงเรยี นสอนวชิ าชา่ งถมขนึ้ ในวัด จนพฒั นาเปน็ วทิ ยาลยั ศลิ ปหตั ถกรรมนครศรธี รรมราชในปจั จบุ นั ท�ำใหย้ งั มีเครอ่ื งถมนครผลิตอยถู่ งึ ปจั จบุ นั ทงั้ ถมทองและถมเงิน เฉพาะอยา่ งย่งิ เมอ่ื ปี พ.ศ. 2530 นายเหง้ โสภาพงศ์ ชา่ งถม ชาวนครศรธี รรมราชก็ได้รับการเชดิ ชูเกยี รตใิ หเ้ ปน็ ศิลปนิ แหง่ ชาติ สาขาทศั นศิลป์ (เครอ่ื งถม) 348 แหนลกัวสกูตารรนจคดั รกศารรธี เรรรยี มนรารชู้ ศกึ ษา
เครือ่ งถมนครปจั จุบัน เน่อื งจากทองและเงนิ มีราคาสงู ขึ้น ประกอบกับการท�ำต้องอาศยั เวลาและฝมี ือ ชนั้ สงู จึงมรี าคาสงู สามารถหาซ้ือได้ทัว่ ไปโดยชนิ้ เลก็ ๆ เชน่ ล็อคเก็ต สายสรอ้ ย หวั นโม มขี ายตามรา้ นสนิ ค้าทีร่ ะลึก ในขณะที่เคร่ืองถมชน้ิ ใหญ่ตง้ั แตห่ บี ถม ตลบั ถม ขนั ถม ถาดถม กรอบรูปถม ฯลฯ ซึ่งมีราคาต้ังแต่พันบาท หมืน่ บาท ถึงแสนบาท สามารถหาซื้อได้ที่ร้านจ�ำหน่ายผลงานวิทยาลัยศิลปหัตถกรรมนครศรีธรรมราชข้างวัดบูรณาราม, ร้านสุพจน์ ผู้ผลิตเคร่ืองถมส่งส�ำนักพระราชวังและส�ำนักนายกรัฐมนตรี เพ่ือเป็นของขวัญระดับชาติ และร้านทอง รปู พรรณแทบทุกร้าน 14. สายสร้อย สามกษัตริย์ เปน็ หตั ถศลิ ปเ์ อกลกั ษณข์ องเมอื งนครอกี อยา่ งหนง่ึ สามารถสบื เรอื่ งราวไดว้ า่ เรม่ิ จากชา่ งทอง ชา่ งเงนิ จากเมืองไทรบุรี ที่ถูกกองทัพเจ้าพระยานครศรีธรรมราชยกไปตีและกวาดต้อนมาหลายคร้ังหลายหนในช่วงต้น กรงุ รตั นโกสินทร์ โดยชาวไทยมุสลมิ เหล่าน้รี วมกลุม่ ต้งั หลกั แหลง่ อย่ทู ี่บรเิ วณทา่ ชา้ ง หลงั สนามหนา้ เมือง ซึ่งต่อมา วดั ทา่ ชา้ งอารามหลวงรา้ งลง จงึ ไดส้ รา้ งมสั ยดิ ซอลาฮดุ ดนี ขน้ึ แทน และบรเิ วณตลาดแขก โดยยงั คงประกอบหตั ถศลิ ป์ เคร่ืองทองเงินสืบมา ไม่เพียงแต่สายสร้อยสามกษัตริย์ อันประกอบด้วย เงิน ทอง นาค และเงิน ช่างชาวนคร ได้ประยุกต์และผลิตเครื่องประดับเงินออกมามากมายทั้งสายสร้อยประดับพลอยประกอบชุดไทยพระราชนิยม สายสรอ้ ยทมี่ ตี มุ้ หอ้ ยนา่ รกั หลายรปู แบบทง้ั รปู หวั ใจ รปู ตะกรอ้ รปู ตรานโม กระทง่ั ทป่ี ระดบั ดว้ ยเพชรหนา้ ทงั่ ลกู ประคำ� กำ� ไลตา่ ง ๆ กำ� ไลและต่างหูก็เป็นงานทพ่ี ฒั นารูปแบบทันสมัย เชน่ เลช ซง่ึ เป็นท่นี ยิ มอยา่ งมากน้ัน ชา่ งเงนิ เมืองนคร กส็ ามารถสลกั ถกั ออกมานาหลายลวดลาย หาซอื้ ไดท้ วั่ ทง้ั เมอื งนคร โดยเฉพาะอยา่ งยงิ่ ในชมุ ชนถนนทา่ ชา้ ง หลงั สนาม หน้าเมอื ง ซ่งึ เปน็ แหลง่ ผลติ ดั้งเดมิ มาจนถงึ ปจั จบุ ัน สายสรอ้ ยสามกษัตรยิ ์ ปัจจุบันเน่ืองจากทองและเงินมีราคาสูงขึ้น ประกอบกับการท�ำต้องอาศัยเวลาและฝีมือชั้นสูง เครื่องถมนครไม่คอ่ ยพัฒนารปู แบบและลวดลาย นิยมท�ำแบบดง้ั เดมิ มตี ้งั แต่ ภาชนะ เครื่องประดับชิ้นเลก็ เชน่ ชอ้ น แหวน ก�ำไล เข็มกลัดติดเส้ือ ไปจนถึงช้ินใหญ่ เช่น พานขันโตก ถาด เมื่อเทียบกับเครื่องถมท่ีผลิตจากกรุงเทพฯ ท�ำกระเปา๋ ถอื ผ้หู ญงิ รปู ทรงตา่ ง ๆ ไปออกแบบรว่ มกบั วัสดอุ ยา่ งอนื่ บ้าง เช่น กระเปา๋ ยา่ นลเิ ภาบ้าง หรอื ตกแต่งกับ วัสดุอย่างอ่ืนก็ได้ หวายก็ได้ มีการพัฒนา มีการประกวดแข่งขันกันก็เป็นท่ีน่าภาคภูมิใจเกิดการพัฒนารูปแบบ แต่เคร่อื งถมนครคงเอกลักษณ์ของตนเองไวอ้ ย่างดเี ยย่ี ม หลกั สตู แรนนวคกราศรรจีธดัรรกมารราเชรศียกึ นษราู้ 349
หน่วยที่ 12 แหล่งท่องเที่ยวในจังหวัดนครศรีธรรมราช มาตรฐานการเรียนรู/้ ตัวช้ีวดั มาตรฐาน ส 5.2 เขา้ ใจปฏสิ มั พนั ธร์ ะหวา่ งมนษุ ยก์ บั สภาพแวดลอ้ มทางกายภาพทก่ี อ่ ใหเ้ กดิ การสรา้ งสรรค์ วัฒนธรรม มจี ิตสำ� นึกและมีส่วนร่วมในการอนุรักษ์ทรพั ยากร และส่ิงแวดลอ้ ม เพอื่ การพฒั นาท่ียง่ั ยืน ตัวช้วี ัด ป.4/3 มสี ว่ นร่วมในการอนุรกั ษ์สิง่ แวดลอ้ มในจังหวดั ป.5/2 อธิบายอทิ ธิพลของสง่ิ แวดล้อมทางธรรมชาติทก่ี ่อใหเ้ กิดวถิ ีชวี ติ และการสร้างสรรค์วัฒนธรรม ในภูมิภาค ป.6/3 จดั ทำ� แผนการใชท้ รพั ยากรในชมุ ชน สาระส�ำคัญ นครศรีธรรมราชเป็นจังหวัดท่ีเคยเจริญรุ่งเรืองทางศาสนา ศิลปวัฒนธรรมและประเพณีมาต้ังแต่อดีจนถึง ปัจจุบัน มีความสมบูรณ์ของธรรมชาติ ภูเขา ป่าไม้ ชายทะเล และวิถีชีวิตของผู้คนที่สืบทอดกันมาอย่างงดงาม เป็นแหลง่ ท่องเทีย่ วท่ีน่าสนใจ ศึกษาและเรยี นรู้แก่ชาวนครและจังหวดั อนื่ ๆ สาระการเรียนรู้ 1. ประเภทของแหล่งท่องเท่ียว 1.1 แหล่งทอ่ งเทย่ี วกลุม่ ภเู ขาและน�้ำตก 1.2 แหล่งท่องเทยี่ วกลุ่มสถานทสี่ ำ� คญั 1.3 แหล่งทอ่ งเที่ยวกลุม่ ทะเล ชายหาด 1.4 แหล่งท่องเทยี่ วกลุ่มความเช่อื คติชนวิทยา 1.5 แหล่งท่องเท่ยี วกลุ่มชมุ ชนเขม้ แข็ง 2. วิธกี ารปฏบิ ัติตนเปน็ นักทอ่ งเทย่ี วทดี่ ี 3. การเป็นมคั คเุ ทศก์ทด่ี ี 4. การอนุรักษส์ ถานทีท่ อ่ งเท่ยี ว 5. หน่วยงานท่ีเกยี่ วข้องกับการท่องเทีย่ ว 6. กลยุทธ์การพัฒนาการทอ่ งเท่ยี ว 350 แหนลกัวสกตูารรนจคัดรกศารรธี เรรรยี มนรารชู้ ศกึ ษา
กิจกรรมการเรียนรู้ 1. ครใู หน้ กั เรยี นดภู าพสถานทท่ี อ่ งเทยี่ วตา่ ง ๆ ทเี่ ปน็ ทร่ี จู้ กั อยา่ งกวา้ งขวางในจงั หวดั นครศรธี รรมราช เชน่ ธรรมชาติ ภเู ขา นำ้� ตก ชายทะเล โบราณสถาน และภาพประเพณวี ฒั นธรรมตา่ ง ๆ และใหน้ กั เรยี นบอกชอื่ สถานทเ่ี หลา่ นน้ั รวมท้ังข้อมูลอ่ืน ๆ ท่ีเกี่ยวข้องกับสถานที่นั้น ๆ เท่าที่นักเรียนมีความรู้เดิม ครูอาจเพ่ิมเติมข้อมูลเพื่อเป็นความรู้ ให้แก่นกั เรียน 2. ให้นักเรียนคนที่เคยไปสถานที่ท่องเที่ยวต่าง ๆ ออกมาเล่าประสบการณ์ การเดินทางและให้เหตุผล ท�ำไมต้องการไปสถานทีน่ ั้น ๆ มคี วามสำ� คญั อยา่ งไร 3. นักเรียนแบ่งกลุ่ม ๆ ละ 3-5 คน ท�ำโครงงานวางแผนการเดินทางท่องเท่ียวสถานที่ที่อยากไปท่ีสุด ในท้องถน่ิ ตนเองหรอื ในจังหวัด และให้แตล่ ะกลุ่มมีมัคคเุ ทศก์น�ำเที่ยว 1 คน รายละเอยี ดท่ตี อ้ งเตรยี ม เชน่ - การเตรยี มตวั เดนิ ทาง - วธิ กี ารเดินทาง - วิธหี าข้อมูลสถานทท่ี อ่ งเท่ียว - วธิ ีการปฏบิ ัตติ นทด่ี ี 4. ให้แต่ละกลุ่มน�ำเสนอโครงงานหน้าชั้นเรียน พร้อมให้เหตุผลท�ำไมถึงอยากไป และช่วยกันสรุป แผนการเดนิ ทางใหม้ คี วามสมบรู ณ์ ครเู พมิ่ เตมิ ความรเู้ กยี่ วกบั การปฏบิ ตั ติ นการเปน็ นกั ทอ่ งเทยี่ วทด่ี แี ละการอนรุ กั ษ์ สถานที่ท่องเท่ียวและอื่น ๆ ที่เป็นความรู้ให้นักเรียน เน้นย�้ำมัคคุเทศก์จะต้องเป็นผู้ท่ีมีความรู้ในสถานท่ีน้ัน ๆ เปน็ อยา่ งดี ซงึ่ ทกุ คนทสี่ นใจสามารถเปน็ ได้ นบั เปน็ อาชพี หนงึ่ ทมี่ รี ายไดด้ นี า่ สนใจ และคดั เลอื กโครงงานการเดนิ ทาง ทอ่ งเทย่ี ว 1 โครงงาน เพอ่ื จะได้นำ� ไปทัศนศึกษาต่อไป 5. น�ำนักเรียนไปทัศนศึกษา และให้นักเรียนทุกคนบันทึกความรู้จากการไปศึกษาและประโยชน์ท่ีได้รับ กลับมาจัดทำ� เป็นรายงานและจัดนิทรรศการสรุปผลจากการไปทศั นศกึ ษา เพอ่ื ประชาสัมพันธ์แหล่งท่องเทย่ี ว 6. นักเรียนช่วยกันวางแผนพัฒนาแหล่งท่องเท่ียว โดยบอกแนวทาง/วิธีการการพัฒนาแหล่งท่องเที่ยว ในชุมชนของตนเอง แล้วน�ำเสนอสรปุ วิธีการ/แนวทางทีเ่ ปน็ ไปได้และดีท่ีสุดเป็นแนวในการปฏบิ ตั ติ อ่ ไป การวัดและประเมนิ ผล รายการ วธิ ีการ เครือ่ งมือ 1. พฤตกิ รรมการท�ำงานกล่มุ สังเกต แบบสังเกตพฤติกรรม สงั เกต/สอบถาม แบบสอบถาม 2. การน�ำเสนอผลงาน ตรวจ แบบตรวจชนิ้ งาน 3. ช้นิ งาน - โครงงาน - สมดุ บันทึก - รายงานผล - นิทรรศการ หลักสูตแรนนวคกราศรรจีธดัรรกมารราเชรศียกึ นษราู้ 351
หน่วยท่ี 12 แหล่งท่องเที่ยวในจังหวัดนครศรีธรรมราช ค�ำขวัญส่งเสริมการท่องเทีย่ ว เมอื งประวตั ิศาสตร์พระธาตุทองค�ำ ชน่ื ฉำ่� ธรรมชาติ แรธ่ าตุอดุ ม เคร่ืองถมสามกษัตรยิ ์ มากวัดมากศลิ ป์ ครบสิน้ กุ้งปู 352 แหนลักวสกตูารรนจคดั รกศารรีธเรรรยี มนรารชู้ ศึกษา
ค�ำขวัญส่งเสรมิ การท่องเทยี่ ว ประจำ� อ�ำเภอ อ�ำเภอขนอม ขนอมพรอ้ มมลู เทดิ ทูลคณุ ธรรม ถำ้� สวย รวยชายหาด น้�ำตกหนิ ลาด พระธาตปุ ะการัง ป่าเขาทะเล คือเสนห่ ์ของขนอม อ�ำเภอจฬุ าภรณ์ สามวงั ลอื เลือ่ ง นามเมอื งเจ้าฟ้า ศลิ าช่องคอย อรอ่ ยควั่ กลิง้ อำ� เภอฉวาง เมอื งคนดี มง่ั มียางพารา แขง่ เรอื วันออกพรรษา ศนู ย์การคา้ ตลาดจนั ดี สนุกดงี านปใี หม่ กา้ วไกลการศึกษา อำ� เภอเฉลิมพระเกยี รติ โรงเรียนสมเด็จย่า มาลยั ดอกมะลิ เกจหิ ลวงปู่สังข์ ศลิ ปินดังแห่งชาติ ราชพฤกษ์สัญลักษณ์ พชื ผักไร่นาสวนผสม อ�ำเภอชา้ งกลาง ตำ� นานเมอื งคลอ้ งชา้ ง นำ�้ ยางพนั ธดุ์ ี มากมผี ลไม้ พ่อท่านคล้ายวาจาสิทธิ์ หลกั สตู แรนนวคกราศรรจีธัดรรกมารราเชรศยี ึกนษราู้ 353
อำ� เภอเชยี รใหญ่ เมอื งใหญล่ มุ่ น้ำ� เกษตรกรรมกา้ วหนา้ พทุ ธศาสนาเลศิ ล้ำ� วฒั นธรรมรงุ่ เรือง ลอื เล่ืองศลิ ปิน เมอื งศลิ ปาชพี อ�ำเภอชะอวด เมืองตน้ นำ�้ อิฐแผ่นงาม กงุ้ กา้ มกราม กระจูดสวย ห้วยน้�ำใส อำ� เภอถำ�้ พรรณรา พระไสยาสนล์ �ำ้ คา่ ตระการตากลั ยาณมติ ร ผลผลติ ยางพารา อนุรักษป์ า่ ชื่นฉำ่� ขึ้นถำ้� เป็นประเพณี สายตาปชี ลเขต อ�ำเภอท่งุ ใหญ่ ถ่นิ ยางพนั ธ์ดุ ี เจดียศ์ รีวิชัย เพลินไพรนางนอน จุฬาภรณพ์ ัฒนา ป่าสองทะเลศรี ธรณยี ปิ ซ่ัม อ�ำเภอทุง่ สง ถ้ำ� ตลอดงามตระการ อทุ ยานนำ้� ตกโยง โรงงานมากมี สถานีชมุ ทาง ศูนยก์ ลางราชการ ทรงประทานพระคเู่ มอื ง ลือเล่อื งแม่กวนอิม อำ� เภอทา่ ศาลา โมคลานตง้ั ก่อน ทรพั ยากรมากหลาย หาดทรายยาวรี หมอ้ ดีบ้านยิง ม่ิงเมืองมหาลัย นำ้� ใสปลาสด งดงามน�ำ้ ใจ อ�ำเภอนบพิตำ� น�้ำตกกรุงชงิ ต้นประสวยยิ่ง เดน่ จรงิ คลองกลาย แร่ธาตุปา่ ไม้ คา่ ยลูกเสอื จงั หวดั เมืองประวัตโิ บราณ 354 แหนลกัวสกตูารรนจคัดรกศารรีธเรรรยี มนรารชู้ ศึกษา
อำ� เภอนาบอน นำ�้ ตกคลองจงั ยางดังพนั ธุด์ ี พื้นทอี่ ุดม ชมงานปิดกรดี อำ� เภอบางขนั พระพทุ ธลลี าศูนย์รวมใจ พอ่ ทา่ นไข่วาจาสิทธ์ิ ดุจเนรมติ เขานางนอน บอ่ นำ้� รอ้ นมชี ื่อเสียง ทวิ ทศั น์ช่องเหรียงงามตา เสน่ห์หาน้�ำตกโตน อ�ำเภอปากพนงั รงั นกเลือ่ งช่อื ร่ำ� ลอื ขนมลา โอชาไขป่ ลากระบอก สง่ ออกสม้ โอทบั ทมิ สยาม ลือนามไหว้พระลาก นยิ มมากแขง่ เรอื เพรียว อำ� เภอพปิ นู พระใหญบ่ นภูผา เจ้าฟ้าปรานี ครี ีล้อมขา้ ง สองอ่างพักผ่อน น�ำ้ รอ้ นหลายบอ่ มากพอน�ำ้ ตก ชูยกคนดี ตาปแี ดนเกิด อ�ำเภอพระพรหม ผ้ายกประดษิ ฐ์ ผลติ จักสาน พ้นื บ้านข้าวหลาม งดงามมหาวิทยาลัย มะนาวไขพ่ นั ธ์ดุ ี อ�ำเภอพรหมครี ี เมอื งผลไมด้ ก น�้ำตกสะอาด ธรรมชาติลำ้� ค่า หลากภูมปิ ญั ญาชาวบา้ น สบื สานวฒั นธรรม อำ� เภอรอ่ นพบิ ูลย์ อดุ มสนิ แร่ เมืองแม่เศรษฐี ผลไม้พันธุด์ ี มีปศุสัตว์ เกจหิ ลวงพอ่ ใบพอ้ สานพัด ดุกยา่ งรสจดั ทวิ ทัศน์รามโรม หลักสูตแรนนวคกราศรรจธี ัดรรกมารราเชรศยี กึ นษราู้ 355
อ�ำเภอลานสกา เมืองมังคดุ หวาน หมบู่ ้านพฒั นา ถำ้� ผาสวยงาม น้ำ� ตกกระโรมตระหง่าน สบื ตำ� นานอู่ขา้ วอู่น�ำ้ อ�ำเภอสชิ ล เมอื งโบราณ ถำ�้ พสิ ดาร ธารสะอาด หาดหินงาม น�ำ้ ตกสวย รวยทรพั ยากร อ�ำเภอหวั ไทร เมืองนากงุ้ ทงุ่ นาขา้ ว จ้าวทะเล เสน่หห์ าดทราย มากมายศลิ ปนิ 356 แหนลักวสกตูารรนจคัดรกศารรีธเรรรยี มนรารชู้ ศึกษา
แหล่งทอ่ งเท่ียวในจงั หวัดนครศรธี รรมราช นครศรธี รรมราช เปน็ จงั หวดั ทมี่ พี นื้ ทใี่ หญเ่ ปน็ อนั ดบั สองของภาคใต้ เปน็ ดนิ แดนทเี่ ตม็ ไปดว้ ยประวตั ศิ าสตร์ ความสมบรู ณข์ องธรรมชาติ ภเู ขา ปา่ ไม้ และชายทะเล ตลอดจนศลิ ปวฒั นธรรมและประเพณี วถิ ชี วี ติ ของผคู้ นชมุ ชน ทเี่ ขม้ แขง็ และประชาชนศรทั ธาในพทุ ธศาสนา มวี ฒั นธรรมอาหารการกนิ สนิ คา้ พน้ื เมอื งทหี่ ลากหลาย นครศรธี รรมราช จึงนับเปน็ เมืองทอ่ งเทีย่ วทส่ี มบรู ณย์ ่งิ แบง่ แหลง่ ท่องเทีย่ วในจังหวดั นครศรธี รรมราชออกเป็น 5 กลุ่ม 1. แหลง่ ทอ่ งเทยี่ วภเู ขาและนำ้� ตก ยอดเขารามโรม 1.1 ยอดเขารามโรม เขารามโรมเป็นยอดเขาท่ีสูงจากระดับน้�ำทะเล ประมาณ 986 เมตร มีเทือกเขาท่ีสลับ ซบั ซอ้ น ทำ� ใหม้ วี วิ ทวิ ทศั นท์ สี่ วยงามสามารถมองเหน็ ได้ 360 องศา มสี ภาพเปน็ ปา่ ดงดบิ ทสี่ มบรู ณม์ าก มเี ฟริ น์ ลา้ นปี มหาสะด�ำและดอกไม้นานาพันธุ์ สัตว์ป่านานาชนิดเต็มไปทั่วพื้นที่ เป็นจุดชมทิวทัศน์บนยอดเขาสูง โดยสูงจาก ระดับนำ้� ทะเล ประมาณ 966 เมตร และมถี นนพนื้ แขง็ ถาวรที่รถยนต์เขา้ ถงึ ได้สะดวก เขารามโรมเป็นภูเขาท่ีตง้ั อยู่ใน อำ� เภอร่อนพบิ ลู ย์ จุดท่ีน่าสนใจ เป็นจุดชมทิวทัศน์บนยอดเขาสูง สามารถมองเห็นทะเลหมอกพระอาทิตย์ ข้ึนในยามเช้า และท่ีส�ำคัญเป็นยอดเขาท่ีสามารถมองเห็นชายทะเลแหลมตะลุมพุกไปถึง อ�ำเภอเชียรใหญ่ อ�ำเภอร่อนพบิ ลู ย์ อ�ำเภอพระพรหม อ�ำเภอทุง่ สง และยอดเขาเหมนไดอ้ ย่างเด่นชัด หลักสูตแรนนวคกราศรรจีธดัรรกมารราเชรศียกึ นษราู้ 357
สิ่งอ�ำนวยความสะดวก ศูนย์บริการนักท่องเที่ยว บ้านพักรับรอง ลานกางเต็นท์ สุขา ป้ายชี้ทางเขา้ ถึงสญั ญาณโทรศัพท์ สัญญาณอนิ เตอร์เน็ต การเดินทาง เดนิ ทางโดยรถยนต์ รถจักรยานยนต์ ผ่านอ�ำเภอร่อนพิบลู ย์ โดยทางหลวง หมายเลข 403 ส่วนทางข้ึนเขารามโรม จะต้องเข้าผา่ นไปทางตลาดสดรอ่ นพบิ ลู ย์แล้วเลี้ยวขวาเข้าไปทาง บา้ นสวน จันทน์จนถึงสี่แยกบ้านเถลิงแล้วเลี้ยวซ้ายจะสังเกตป้ายทางขึ้นเขารามโรมอีก 9 กิโลเมตร เป็นถนนคอนกรีตจนถึง เขารามโรม ซึ่งจะสงั เกตเหน็ เสาอากาศส่งของสถานโี ทรทศั น์อย่ดู ้านบน สว่ นความสูงของเขารามโรมอยทู่ ปี่ ระมาณ 986 เมตรจากระดับน้�ำทะเล อุณหภูมอิ ย่รู ะหวา่ ง 19-26 องศาเซลเซยี สตลอดทั้งปี อากาศหนาวทสี่ ดุ อยู่ประมาณ เดือน ธันวาคมถงึ กมุ ภาพันธ์ ขอ้ มลู การตดิ ตอ่ ทอ่ี ยู่ หมู่ 3 ตำ� บลหนิ ตก อำ� เภอรอ่ นพบิ ลู ย์ จงั หวดั นครศรธี รรมราช 80130 เบอรต์ ิดตอ่ 075-354967/088-7854895 เวบ็ ไซต์ http://park.dnp.go.th/visitor/scenicshow.php?id=598 1.2 ทะเลหมอกเขาเหลยี้ ม ทะเลหมอกเขาเหลยี้ ม เปน็ สถานทท่ี อ่ งเทย่ี ว ทเ่ี กดิ จากกลมุ่ การทอ่ งเทย่ี วเชงิ อนรุ กั ษท์ ะเล หมอกเขาเหลยี้ มเปน็ กลมุ่ เยาวชนทม่ี ใี จรกั สำ� นกึ รกั บา้ นเกดิ จงึ ไดม้ กี ารรวมกลมุ่ เพอ่ื อนรุ กั ษห์ วงแหนชมุ ชนของตนเอง และตอ้ งการใหค้ นคนอน่ื ไดเ้ หน็ ถงึ ความอดุ มสมบรู ณ์ ของต�ำบลกรงุ ชงิ โดยร่วมกบั สมาชกิ จัดกิจกรรมนำ� นักท่องเท่ียวชมทะเลหมอกในยามเช้า บริการขนม จบิ กาแฟเคลา้ สายหมอกอันสดช่ืนยามเช้า ทา่ มกลาง อากาศที่เย็นสบาย ต้ังอย่ทู ี่ อ�ำเภอนบพติ �ำ จดุ ทนี่ า่ สนใจ ทะเลหมอก เขาเหลี้ยม เปน็ แหลง่ ทอ่ งเทย่ี วเชงิ นเิ วศทีเ่ ต็มไปด้วย พันธุ์ไม้ที่หายาก ท้ังสัตว์ป่านานาชนิด จุดเด่นของ ทะเลหมอกเขาเหล้ียม คือ เป็นเส้นทางศึกษา ทะเลหมอกเขาเหลยี้ ม ธรรมชาติ อกี ทั้งสามารถชมพระอาทติ ย์ขนึ้ และ ลับขอบฟ้าด้วยทศั นียภาพทส่ี วยงาม เป็นยอดเขาแหลม (เหล้ยี ม ภาษาถ่ินใต้) มีความสงู จากระดับน�ำทะเล 492 เมตร สามารถชมทศั นียภาพไดร้ อบถึง 270 องศา และสามารถชม ทะเลหมอกได้ตลอดทัง้ ปี สง่ิ อำ� นวยความสะดวก บา้ นพกั รบั รอง โฮมสเตย์ สขุ า มคั คเุ ทศกท์ อ้ งถน่ิ ปา้ ยสอื่ ความหมาย ป้ายช้ที างเข้าถงึ กจิ กรรมการทอ่ งเทยี่ ว ทอ่ งเทยี่ วเชงิ อนรุ กั ษ์ / นเิ วศ ทอ่ งเทยี่ วธรรมชาตแิ ละสตั วป์ า่ และดนู ก การเดนิ ทาง สามารถเดนิ ทางได้ทั้ง จักรยาน มอเตอร์ไซค์ รถยนต์ และ เดนิ เท้า ข้อมูลการติดต่อ หมู่ 2 ต�ำบลกรุงชิง อ�ำเภอนบพิต�ำ จังหวัดนครศรีธรรมราช 80160 เบอรต์ ิดต่อ 075-752600 เวบ็ ไซต์ http://www.krungching.go.th/index.php 358 แหนลักวสกตูารรนจคัดรกศารรธี เรรรียมนรารชู้ ศกึ ษา
1.3 น้ำ� ตกพรหมโลก นำ้� ตกพรหมโลกตง้ั อยภู่ ายในหนว่ ยพทิ กั ษอ์ ทุ ยานแหง่ ชาตเิ ขาหลวงท่ีขล.1(นำ้� ตกพรหมโลก) เป็นหน่วยฯ ที่ 1 ของอุทยานแห่งชาติเขาหลวง เริ่มก่อตั้งเม่ือปี พ.ศ. 2519 และเปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าชมอย่าง เป็นทางการเม่ือปี พ.ศ. 2526 อยู่ในท้องที่หมู่ที่ 5 ตำ� บลพรหมโลกอำ� เภอพรหมครี ีจงั หวดั นครศรธี รรมราช ประวัติความเป็นมาชื่อของ “น้�ำตกพรหมโลก” ชาวบ้านเช่ือว่าน้�ำตกพรหมโลกมีสภาพท่ีสูงชัน ประกอบกบั มตี น้ ไมแ้ ละพรรณไมข้ นาดใหญข่ น้ึ อยเู่ ปน็ จ�ำนวนมาก ชาวบ้านสมัยก่อนเช่ือกันว่าสถานท่ี บรเิ วณนเี้ ปน็ สถานทมี่ สี ง่ิ ศกั ดสิ์ ทิ ธม์ิ าสงิ่ สถติ ณ สถาน ท่ีแหง่ น้ี โดยเฉพาะเทพชนั้ พรหมท้ังโลกได้มาสิ่งสถิต บนช้นั นำ้� ตกจงึ ไดต้ ้งั ชื่อ “น้ำ� ตกพรหมโลก” มาจนถงึ น�ำ้ ตกพรหมโลก ทกุ วันน้ี กิจกรรมทส่ี ามารถทำ� ได้จะเปน็ รปู แบบวนั เดยี วกลับ เช่น เลน่ น�ำ้ ตก ปกิ นกิ เดินศึกษาธรรมชาติ เปน็ ตน้ ส่ิงที่น่าสนใจ น้�ำตกพรหมโลกถือเป็นน�้ำตกท่ีมีความส�ำคัญทางประวัติศาสตร์ท่ีโดดเด่น แห่งหนึ่งของจังหวดั นครศรีธรรมราช กลา่ วคอื เม่อื 15 มีนาคม พ.ศ. 2502 พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภมู พิ ล อดลุ ยเดช รชั กาลท่ี 9 และ สมเดจ็ พระนางเจา้ สริ กิ ติ ิ์ พระบรมราชนิ นี าถ ไดเ้ สรจ็ ประพาสและไดจ้ ารกึ พระปรมาภไิ ธย ยอ่ ภปร และ สก ท่ีหน้าผาชั้นน�ำ้ ตกชน้ั ที่ 1 หนานบ่อน�ำ้ วน และ เมือ่ 10 กมุ ภาพันธ์ พ.ศ. 2546 สมเดจ็ พระเจา้ พ่ีนางเธอ เจา้ ฟ้ากลั ยาณิวฒั นา กรมหลวงนราธวิ าสราชนครินทร์ ไดเ้ สร็จประพาสน�้ำตกพรหมโลก น้�ำตกพรหมโลก เปน็ นำ้� ตกขนาดใหญ่ทสี่ วยงาม มีช้นั น�ำ้ ตกประมาณ 50 ช้นั เปดิ บริการให้เข้าชมไดเ้ พียง 4 ชน้ั คอื หนานวังบอ่ น้ำ� วน หนานวังไม้ปัก หนานวงั หัวบวั และหนานวงั อา้ ยแล สิ่งอ�ำนวยความสะดวก สุขา ร้านอาหาร ศูนย์บริการนักท่องเที่ยว ป้ายสื่อความหมาย ป้ายชีท้ างเขา้ และจอดรถได้ประมาณ 50 คนั การเดนิ ทาง ใชเ้ สน้ ทางหลวงหมายเลข 4016 ผา่ นนครศรธี รรมราช-พรหมครี ี ถงึ กโิ ลเมตร ท่ี 20 เจอทางแยกเล้ียวซา้ ยเขา้ ทางหลวง 4132 จากหน้าที่ว่าการอำ� เภอพรหมโลกใช้ระยะทางประมาณ 5 กิโลเมตร ข้อมลู การติดตอ่ ขอ้ มลู การตดิ ตอ่ หนว่ ยพทิ กั ษอ์ ทุ ยานแหง่ ชาติ ที่ ขล.1 (นำ�้ ตกพรหมโลก) ตำ� บลพรหมโลก อ�ำเภอพรหมครี ี นครศรีธรรมราช เบอร์โทร 075-300494 หลกั สูตแรนนวคกราศรรจธี ัดรรกมารราเชรศยี ึกนษราู้ 359
1.4 นำ้� ตกกรุงชงิ น้�ำตกกรุงชิง “กรุงชิง” เป็นชื่อสถานท่ีแห่งหนึ่งในจังหวัดนครศรีธรรมราช เช่ือกันว่าเคยเป็นชุมชนมาแต่สมัยโบราณ และเป็น พ้ืนท่ีท่ีมีประวัติการต่อสู้อันเกิดจากความขัดแย้งใน ด้านความคิดในการปกครอง พ้ืนท่ีผืนป่ากรุงชิง ถกู ครอบครองโดยพรรคคอมมวิ นสิ ตแ์ หง่ ประเทศไทย ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2517 ต่อมาฝ่ายรัฐบาลสามารถยึด พื้นท่ีได้ ท�ำให้พรรคคอมมิวนิสต์ที่กรุงชิงแตกในปี พ.ศ. 2524 คำ� วา่ “ชงิ ” เปน็ ชอ่ื ของตน้ ชงิ ซง่ึ เปน็ พนั ธ์ุ ไมใ้ นตระกลู ปาลม์ ชนดิ หนงึ่ ทม่ี มี ากในเขตนี้ ปา่ กรงุ ชงิ อย่ใู นทอ้ งทีต่ �ำบลกรงุ ชงิ อ�ำเภอนบพิตำ� ห่างจากตวั เมืองนครศรีธรรมราชไปตามทางหลวงหมายเลข 4016 แลว้ เขา้ ทางหลวงหมายเลข 4186 จนถงึ บ้าน ห้วยพานจึงเล้ียวซ้ายเข้าสทู่ างหลวงหมายเลข 4188 (ห้วยพาน – กรุงชิง) รวมระยะทางประมาณ 62 กิโลเมตร จะพบทางแยกซ้ายมือเข้าสู่หน่วยพิทักษ์ น้�ำตกกรุงชิง อุทยานแหง่ ชาติท่ี ขล. 3 (น�ำ้ ตกกรงุ ชิง) เข้าไปอกี 8 กิโลเมตร สภาพพื้นทีข่ องกรงุ ชงิ เป็นพ้ืนท่ีราบสูงและมภี ูเขาลอ้ ม รอบ ซึ่งชาวบ้านเรียกกันว่า “อ่าวกรุงชิง” น้�ำตกกรุงชิงเป็นน�้ำตกขนาดใหญ่ เกิดจากคลองกรุงชิง ซึ่งไหลตัดผ่าน หุบผาหินแกรนิต ลดระดับตามความลาดเอียงของภูเขาก่อเกิดเป็นช้ันน�้ำตกอันงดงาม น้�ำตกกรุงชิงเปิดให้เท่ียวชม จ�ำนวน 7 ชั้น คือ หนานมัดแพ หนานฝนแสนห่า ซ่ึงเป็นช้ันท่ีงดงามท่ีสุดซึ่งต้องเดินไปเป็นระยะทางประมาณ 4 กโิ ลเมตร หนานปลวิ หนานจน หนานโจน หนานต้นตอ และหนานวังเรอื บนิ นอกจากการเทย่ี วชมน้�ำตกและศกึ ษา ประวัติศาสตร์แล้ว น�้ำตกกรุงชิงยังมีแหล่งธรรมชาติและความหลากหลายทางชีวภาพท่ีสวยงาม มีเส้นทางเดินป่า ศึกษาธรรมชาติ เข้าค่ายอนุรักษธ์ รรมชาติ ศึกษาพรรณไม้ และชมนกอีกดว้ ย สง่ิ ท่นี า่ สนใจ มีชั้นน�้ำตกท่ีสวยงามโดยเฉพาะหนานฝนแสนหา่ พิมพ์ลงในธนบตั รฉบับละ 1,000 บาท ฉบบั วนั ท่ี 30 มถิ นุ ายน 2535 เปน็ ชน้ั นำ�้ ตกทส่ี วยทส่ี ดุ ของนำ้� ตกกรงุ ชงิ มเี สน้ ทางศกึ ษาธรรมชาติ สำ� หรบั เรียนร้รู ะบบนิเวศและความหลากหลายทางธรรมชาติ ส่ิงอ�ำนวยความสะดวก บ้านพักรับรอง อุทยานแห่งชาติน้�ำตกกรุงชิง มีบ้านพักรับรอง ทง้ั หมด 7 หลงั แตล่ ะหลงั มี 2 หอ้ งนอน 2 หอ้ งนำ้� แตร่ าคาทพ่ี กั ไมเ่ หมอื นกนั รา้ นสวสั ดกิ าร อาคารบรกิ ารนกั ทอ่ งเทยี่ ว ศาลารบั ประทานอาหาร ลานจอดรถ จอดรถได้ถงึ 25-50 คัน หอ้ งสขุ า ลานกางเตน็ ท์ ปา้ ยสือ่ ความหมาย ห้องนำ�้ สำ� หรับคนพกิ าร 360 แหนลกัวสกตูารรนจคัดรกศารรธี เรรรียมนรารชู้ ศกึ ษา
กจิ กรรมการทอ่ งเทย่ี ว ทอ่ งเทย่ี วเชงิ อนรุ กั ษ์ / นเิ วศ ดนู ก ทอ่ งเทยี่ วธรรมชาตแิ ละสตั วป์ า่ การเดนิ ทาง จากตัวเมอื งนครศรธี รรมราชไปตามทางหลวงหมายเลข 4016 ผ่านสถาบัน ราชภัฏ พรหมคีรี บ้านนาเหรง บา้ นห้วยพาน ระยะทางประมาณ 62 กิโลเมตร มที างแยกเป็นทางลกู รังไปหน่วย พิทักษ์ป่ากรุงชิง ประมาณ 8 กิโลเมตร การขึ้นสู่บริเวณน�้ำตกกรุงชิงต้องเดินทางด้วยเท้า บริเวณน้�ำตกปกคลุมไป ด้วยป่าดิบหนาทึบ ระยะทาง 3.5 กิโลเมตร ใชเ้ วลาเดนิ ทางไปสูน่ ำ�้ ตกกรุงชิงประมาณ 1 ช่ัวโมง 30 นาที ข้อมลู การติดตอ่ นำ�้ ตกกรุงชงิ ต�ำบลกรุงชงิ อ�ำเภอนบพติ �ำ จ.นครศรีธรรมราช 80160 เบอรต์ ิดตอ่ 075-460463 อีเมล [email protected] 1.5 นำ้� ตกกะโรม นำ้� ตกกะโรม เปน็ แหลง่ ท่องเทีย่ วทางธรรมชาติที่สวยงาม ตั้งอยู่ทที่ ำ� การอทุ ยานแหง่ ชาติ เขาหลวง ก่อตง้ั เมอ่ื พ.ศ. 2517 อยูใ่ นท้องท่หี ม่ทู ่ี 4 ตำ� บลเขาแกว้ อำ� เภอลานสกา จงั หวดั นครศรธี รรมราช ช่ือ “น�้ำตกกะโรม” นี้ คาดว่ามาจากช่ือของภูเขาท่ี ชาวบ้านในท้องท่ีเรียก “เขาโหรม” และล�ำคลองที่ ไหลมาจากน�้ำตกกะโรม ก็เรียกว่า “คลองโหรม” ต่อมาเรียกเพีย้ นเปน็ “กะโรม” และใชช้ ่ือว่า “นำ้� ตก กะโรม” มาจนถึงทกุ วันน้ี แตช่ าวบา้ นในพื้นท่กี ย็ งั คง เรียกล�ำคลองว่า “คลองโหรม”เป็นแหล่งท่องเที่ยว ทางธรรมชาติ ท่ีสวยงามอีกแห่งหน่ึงของอุทยาน น�ำ้ ตกกะโรม แห่งชาติเขาหลวง มีชั้นน้�ำตกท้ังหมด 19 ชั้น เปิดบริการให้ท่องเท่ียวชมความหลากหลายของธรรมชาติเพื่อการพักผ่อนหย่อนใจและร่ืนรมย์เพียง 4 ชั้น ได้แก่ ชน้ั 4 หนานน้ำ� ราง ชนั้ 5 หนานผ้งึ ชั้น 6 หนานเตย และชัน้ 7 หนานดาดฟ้า ซ่งึ เปน็ ชน้ั ท่ีสวยงามทีส่ ดุ แลเหน็ สายนำ�้ พร่ังพรูลงจากหน้าผาสูงและลาดชัน 45 องศา ลดหลั่นลงมาตามโขดหินกว้างจนถึงแอ่งน�้ำใหญ่เบื้องล่าง สายน�้ำ จะไหลแยกเป็น 2 สาย ชว่ งหน้าฝนสายน�้ำจะไหลหลากแผเ่ ต็มหนา้ ผานา่ ชมมาก ปี พ.ศ. 2450 พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกลา้ เจา้ อยู่หัว รัชกาลท่ี 5 พระเจา้ นอ้ งยาเธอ กรมหมื่นด�ำรงราชานุภาพ พร้อมด้วยลูกยาเธอ 4 พระองค์ ได้เสด็จทอดพระเนตรน�้ำตกกะโรมโดยประทับช้าง เป็นพาหนะ แตไ่ มไ่ ด้สลักพระปรมาภิไธยย่อไว้เปน็ หลกั ฐาน ปี พ.ศ. 2458 สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้าภาณุรังสีสว่างวงศ์ กรมพระยาภาณุ พันธุวงศ์วรเดช ได้เสด็จประพาสน�้ำตกกะโรม โดยประทับช้างเป็นพาหนะ และสลักริมหน้าผาน้�ำตกช้ัน 7 หนานดาดฟา้ เป็นรปู พระอาทติ ยแ์ ผ่รศั มี 2458 หลักสูตแรนนวคกราศรรจธี ดัรรกมารราเชรศยี กึ นษราู้ 361
ปี พ.ศ. 2460 พระบาทสมเด็จพระมงกฎุ เกล้าเจา้ อยูห่ วั รัชกาลท่ี 6 ได้เสรจ็ โดยรถยนต์ พระทน่ี ัง่ พรอ้ มข้าราชบรพิ าร เสรจ็ ประทับทอดพระเนตรน�้ำตกกะโรม และทรงจารึกพระปรมาภิไธยยอ่ วปร 2460 ไวท้ ่หี นา้ ผาน้ำ� ตกชัน้ 7 หนานดาดฟ้า และไดท้ รงนำ� ความงามของน�ำ้ ตกนี้ไปเปน็ ฉากในบทละครเร่อื งหลวงจำ� เนียร เดินทางในพระราชนิพนธ์ สิ่งท่ีน่าสนใจ 1. มีชน้ั น�ำ้ ตกที่สวยงามเหมาะแก่การเล่นน�ำ้ เที่ยวชม พกั ผอ่ น และชมทัศนียภาพ 2. มีเส้นทางศึกษาธรรมชาติ ส�ำหรับเรียนรู้ระบบนิเวศและความหลากหลายทาง ธรรมชาติ 3. มีสง่ิ อ�ำนวยความสะดวก เชน่ ร้านคา้ สวัสดกิ าร ฯลฯ การเดินทาง เดินทางสะดวก โดยเดินทางจากตัวเมืองนครศรีธรรมราชใช้เส้นทางหลวง จงั หวดั หมายเลข 4016 ไป 9 กโิ ลเมตร แยกซ้ายเข้าทางหลวงหมายเลข 4015 อีก 20 กิโลเมตร ขวามอื มีปา้ ยบอก ทางเข้าสูท่ ที่ �ำการอทุ ยานแห่งชาติเขาหลวง และน้�ำตกกะโรม เขา้ มาอีกประมาณ 1 กโิ ลเมตร ถงึ นำ้� ตก สิ่งอ�ำนวยความสะดวก สุขา ร้านอาหาร ศูนย์บริการนักท่องเที่ยว ป้ายส่ือความหมาย ป้ายชที้ างเขา้ ถงึ ทางลาดห้องนำ�้ สำ� หรับคนพกิ าร และจอดรถได้ประมาณ 80 คัน กิจกรรมการท่องเที่ยว ท่องเที่ยวเชิงผจญภัย เดินป่า ท่องเท่ียวเชิงอนุรักษ์ / นิเวศ ท่องเท่ยี วธรรมชาตแิ ละสตั วป์ ่า ขอ้ มลู การตดิ ตอ่ 248 ถนนลานสกา-นครศรฯี ทางหลวงหมายเลข 4015 หมู่ 4 ถนนลาน สกา-นครศรฯี ต.เขาแกว้ อ.ลานสกาจ.นครศรธี รรมราช 80230 เบอรต์ ิดต่อ 075-300494 1.6 พทุ ธสถานถ้�ำตลอด พทุ ธสถานถ�้ำตลอด ถำ้� ตลอด เปน็ สถานที่ทอ่ ง เทีย่ วเกา่ แกห่ ่างจากที่วา่ การอ�ำเภอทงุ่ สง 500 เมตร ไปทางโรงพยาบาลทุ่งสง เป็นถ้�ำขนาดเล็กในภูเขาท่ี มชี อ่ื เรยี กวา่ เขาชยั ชมุ พล โดยตวั ถำ�้ สามารถเดนิ ทะลุ เขาชัยชมุ พลกันได้ จงึ ได้ชอ่ื ว่า ถ�้ำตลอด ภายในถ�ำ้ มี พระพุทธรูปปางไสยาสน์ขนาดใหญ่ และบริเวณใกล้ เคียงกันนั้นยงั มพี ระพทุ ธรูปปางตา่ ง ๆ อีกนับสบิ รูป ลว้ นแลว้ แตเ่ ปน็ ศลิ ปะเกา่ แกท่ ย่ี งั มสี ภาพสมบรู ณ์ และ บนผนังถ�้ำยังมีจิตรกรรมฝาผนังท่ีแสดงถึงเร่ืองราว เกี่ยวกับพุทธประวัติ อันเป็นผลงานของอาจารย์ แนบ ทชิ นิ พงศ์ จติ รกรมชี อ่ื เสยี งชาวนครศรธี รรมราช บรรยากาศภายในถำ�้ ยงั มคี วามเยน็ สบายเหมาะสำ� หรบั การพักผอ่ นหยอ่ นใจ และแสวงบญุ เป็นอยา่ งย่งิ 362 แหนลกัวสกูตารรนจคดั รกศารรีธเรรรียมนรารชู้ ศกึ ษา
ส่ิงท่ีน่าสนใจ เป็นถ�้ำที่สามารถเดินทะลุได้ เมื่อเข้าไปภายในถ�้ำจะรู้สึกเย็น ภายในถ�้ำมี พระพทุ ธรปู ปนู ปน้ั ปางไสยาสนส์ วยงาม 1 องค์ ความยาว 11 เมตร หนั เศยี รไปทางทศิ ใตต้ ามสว่ นลกึ ของถำ้� พระบาท หันไปทางปากถ�ำ้ ทงั้ ยงั มพี ระพทุ ธรูปเท่าองคจ์ ริงประดิษฐานเรยี งรายไปกบั ผนงั ถำ�้ ทางดา้ นทิศตะวันตกจนสดุ ถ้ำ� ผนังถำ�้ ท้งั สองด้านเปน็ ภาพจติ รกรรมฝาผนงั ฝีมือของครูแนบ ทชิ ินพงศ์ ผู้มีผลงานดีเด่น ทางด้านวัฒนธรรมสาขาจิตรกรรม ประจ�ำปี 2534 ตรงกลางปากทางเข้าถ�้ำมีสิงห์โตแกะสลักจากหินขนาดใหญ่ ดโู ดดเดน่ สวยงาม ด้านขา้ งปากถำ�้ มพี ระพุทธรปู ปูนปั้นขนาดตา่ ง ๆ และเจดยี ์ ฯลฯ บรเิ วณภายนอกถำ�้ มีพระพทุ ธรปู เหมอื น อนั เปน็ ทเี่ คารพศรทั ธาของประชาชนภาคใต้ ไดแ้ ก่ พอ่ ทา่ นคลา้ ยวาจาสทิ ธิ์ วดั ธาตนุ อ้ ย หลวงปคู่ ลง้ิ วดั ถลงุ ทอง พอ่ ท่านซังวดั ววั หลงุ หลวงปู่ทวด วัดชา้ งไห้ และหลวงปูเ่ ขียว วดั หรงบน ประดษิ ฐานอยทู่ ่วั บริเวณ สิ่งอ�ำนวยความสะดวก สุขา ศูนย์บริการนักท่องเที่ยว ป้ายส่ือความหมาย ป้ายชี้ทาง เขา้ ถึงท่ีจอดรถมปี ระมาณ 20 คนั ปจั จบุ ัน เปิดทุกวนั ทำ� การในชว่ งเวลา 08.30 - 16.30 น. การเดนิ ทาง จากตวั เมอื งนครศรธี รรมราชใชท้ างหลวงหมายเลข 403 ประมาณ 25 กโิ ลเมตร จนถึงแยกสวนผักเลี้ยวขวาไปตามทางหลวงหมายเลข 41 มาประมาณ 40 กิโลเมตร แล้วให้เปลี่ยนมาใช้เส้นทาง 4019 ประมาณ 20 กโิ ลเมตร จนถึงอำ� เภอท่งุ ใหญ่ และจากอำ� เภอทุ่งใหญใ่ ชเ้ ส้นทาง 4110 เปน็ ระยะทางประมาณ 10 กิโลเมตร กจ็ ะถึงตวั ถ้ำ� ตลอด หรอื เดินทางไปอ�ำเภอทงุ่ สง ถ้ำ� ตลอดอยหู่ ่างจากท่วี า่ การอำ� เภอทงุ่ สง 500 เมตร เลย้ี วซ้ายทางไปโรงพยาบาลทงุ่ สง ข้อมูลการติดต่อ หมู่ที่ 4 ต�ำบลน�้ำตก อ�ำเภอทุ่งสง จังหวัดนครศรีธรรมราช 80110 เบอร์ติดต่อ 075-411342-3 เวบ็ ไซต์ http://www.tungsong.com/ 1.7 ถ�ำ้ หงส์ ถ�้ำหงส์ เป็นถ้�ำขนาดกลาง ปากถ้�ำค่อนข้างเล็กขนาดคนรอดได้ทีละคน ต้องใช้ ความระมดั ระวงั ในการลงไตล่ งไปในถำ�้ ภายในถำ�้ มธี ารนำ้� ไหลผา่ นตลอดแนวถำ้� กอ่ ไหลลงใตด้ นิ ไปสลู่ ำ� ธารภายนอก ภายในถ้�ำมีหินงอกหินย้อยรูปร่างต่าง ๆ กัน และมีลักษณะพิเศษท่ีพบเห็นได้ไม่มากนัก คือ ภายในถ�้ำมีน้�ำตกที่ ไหลผา่ นหนิ สามชน้ั การเทยี่ วชมภายในถำ�้ จะตอ้ งเดนิ ทอ่ งนำ�้ ตลอด สามารถเดนิ ทะลอุ อกไปอกี ดา้ นหนง่ึ ได้ ความยาว ประมาณ 300 เมตร ถำ�้ หงส์ หลกั สตู แรนนวคกราศรรจีธัดรรกมารราเชรศียึกนษราู้ 363
ถ้�ำหงส์ ต้งั อยู่ที่ บา้ นพติ ำ� หมู่ 3 ตำ� บลกรงุ ชิง อ�ำเภอนบพติ �ำ จงั หวัดนครศรธี รรมราช เปน็ ถำ�้ ทปี่ ระกอบไปด้วยหนิ งอก หนิ ย้อยแปลกตามากมาย ถ�ำ้ แหง่ น้ี ค้นพบเมื่อ พ.ศ. 2537 ตง้ั อยใู่ นเขต อทุ ยานแหง่ ชาตเิ ขานนั ภายในถำ�้ มธี ารน้ำ� ไหลผา่ นตลอดแนวถ�้ำ ก่อนไหลลงใต้ดินไปส่ลู �ำธารภายนอก มหี นิ งอก หนิ ยอ้ ยรปู ร่าง แปลกตามากมาย และมีลักษณะพิเศษคือ มีน้�ำตกภายในถ�้ำมากกว่า 5 ชั้น การเดินชมถ้�ำจะต้องเดินลุยน�้ำไป ตามล�ำน�้ำระยะทางประมาณ 300 เมตร และในถ�้ำมีค้างคาวอาศัยอยู่เป็นจ�ำนวนมาก เป็นถ้�ำท่ีเหมาะส�ำหรับการ ศกึ ษาการกำ� เนดิ ของหนิ ไดเ้ ปน็ อยา่ งดี สว่ นในฤดฝู นจะมนี ำ�้ หลาก จงึ ไมเ่ หมาะแกก่ ารทอ่ งเทย่ี ว ทม่ี าของการเรยี กชอ่ื ถำ�้ หงส์ เนื่องมาจากตำ� นานทีเ่ ลา่ กนั ว่ามนี ายพรานเข้าปา่ ไปล่าสัตว์และพบหงส์อยภู่ ายในถ้�ำ จุดที่น่าสนใจ เป็นถ�้ำที่มีล�ำธารน้�ำไหลผ่าน ภายในถ�้ำมีหินงอกหินย้อยรูปร่างแปลกตา มากมาย และมลี ักษณะพิเศษคือ มนี ำ�้ ตกภายในถ�้ำมากกวา่ 5 ชั้น การเดินชมถำ�้ จะตอ้ งเดินลุยน�ำ้ ไปตามล�ำน้�ำระยะ ทางประมาณ 300 เมตร ในฤดฝู นจะมนี ำ�้ หลากจงึ ไมเ่ หมาะแกก่ ารทอ่ งเทย่ี ว และในถำ้� มคี า้ งคาวอาศยั อยเู่ ปน็ จำ� นวน มาก เป็นถ�ำ้ ทีเ่ หมาะส�ำหรบั การศึกษาการก�ำเนิดของหินได้เป็นอย่างดี สิ่งอ�ำนวยความสะดวก ศูนย์บริการนักท่องเที่ยว มัคคุเทศก์ท้องถ่ิน ร้านอาหาร ป้ายชท้ี างเข้าถงึ สุขา การเดินทาง การเดนิ ทางเข้ามาเย่ียมชม “ถ�้ำหงส์” สามารถใช้ทางหลวงสาย “หว้ ยพาน – ปากลง” (ทางหลวงหมายเลข 4186) เมอ่ื ถึง 4 แยกหว้ ยพาน (ทางแยกไปนำ้� ตกกรงุ ชงิ ) ให้เลยี้ วซา้ ยตามปา้ ยบอก ทางเข้าไปยังนำ�้ ตกกรงุ ชงิ ถ�ำ้ อกี ประมาณ 9 กิโลเมตร อปุ กรณ์ท่ีตอ้ งเตรยี ม เสือ้ ผ้า รองเท้า ทีพ่ รอ้ มลยุ นำ้� ไฟฉายส่วนตวั กลอ้ งถา่ ยภาพควรใช้ อุปกรณก์ ันนำ�้ ให้เรียบร้อยเพราะต้องลยุ นำ้� ไปตลอด ขอ้ มูลการติดตอ่ หมทู่ ี่ 3 ต�ำบลกรงุ ชงิ อำ� เภอนบพติ �ำ จงั หวดั นครศรธี รรมราช 80210 เบอร์ติดต่อ 075 - 466108 1.8 น้ำ� พุรอ้ น อุทยานบ่อน้�ำร้อน อ�ำเภอบางขัน ซึ่งน้�ำพุร้อนแหล่งนี้มีอุณหภูมิท่ีผิวดินประมาณ 55 องศาเซลเซียส นำ้� พุร้อนอุทยานบอ่ น้�ำรอ้ น คืออีกหนง่ึ แหลง่ ทอ่ งเท่ยี วท่ตี ้ังอยู่ในเขตพืน้ ทขี่ อง วัดอุทยานบ่อนำ�้ รอ้ น หมู่ที่ 6 ต�ำบลวังหิน อ�ำเภอบางขนั จังหวัดนครศรธี รรมราช ปัจจุบนั ถอื วา่ เป็นจุดหมายปลายทางด้านการทอ่ งเที่ยว เชิงสุขภาพ บ่อน้�ำพุร้อน ที่มีความพร้อมพัฒนา และมีศักยภาพในการต้อนรับนักท่องเท่ียว และมีส่ิงอ�ำนวย ความสะดวก พื้นฐานประกอบกับอยู่ใกล้เสน้ ทางคมนาคมสายหลกั น�ำ้ พรุ ้อน 364 แหนลกัวสกตูารรนจคัดรกศารรธี เรรรียมนรารชู้ ศึกษา
จุดทน่ี า่ สนใจ มีบ่อนำ�้ รอ้ น ปา่ ไม้ และสงิ่ ศักด์ิสิทธิท์ เ่ี ปน็ ที่เคารพนบั ถอื ของคนท้องถนิ่ กลุม่ นกั ทอ่ งเท่ียว กลมุ่ ผู้สูงอายุ กลมุ่ มสุ ลมิ กลมุ่ คู่รัก / คู่แตง่ งาน และ กลุ่ม Volunteer Tourism ส่งิ อ�ำนวยความสะดวก ป้ายส่อื ความหมาย ปา้ ยชท้ี างเขา้ ถึง บ่อแช/่ อาบนำ้� รวม 9 บ่อ หอ้ งสขุ า 6 ห้อง แยกชายและหญิง ร้านอาหาร/เครือ่ งดืม่ 1 รา้ น บรกิ ารนวดแผนโบราณ ศาลาเอนกประสงค์ 2 หลัง ท่จี อดรถรถยนต์ 80 คนั และจอดรถโดยสารไมป่ ระจ�ำทางปรับอากาศ 50 ท่ีน่งั ได้ 10 คัน ข้อมูลการติดต่อ ท่ีอยู่ หมู่ 6 ต�ำบลวังหิน อ�ำเภอบางขัน จ.นครศรีธรรมราช 80360 เบอร์ติดตอ่ 08-1477-5296 อเี มล [email protected] 2. แหลง่ ทอ่ งเที่ยวสถานท่สี �ำคัญ อ�ำเภอเมืองนครศรธี รรมราช วดั พระมหาธาตุวรมหาวิหาร 2.1 วัดพระมหาธาตวุ รมหาวิหาร วดั พระมหาธาตวุ รมหาวิหาร เป็นปูชนียสถานท่สี �ำคญั ที่สุดแห่งหนงึ่ ท่เี ปรยี บดงั ศูนย์รวม จติ ใจของพทุ ธศาสนกิ ชนของชาวจงั หวดั นครศรธี รรมราชและชาวใต้ วดั พระมหาธาตวุ รมหาวหิ ารนน้ั เปน็ พระอาราม หลวงช้ันเอก ชั้นวรมหาวิหาร เดิมชื่อวัดพระบรมธาตุ เป็นปูชณียสถานท่ีส�ำคัญท่ีสุดแห่งหนึ่งของภาคใต้และ ประเทศไทย ท่ีมีหัวใจสำ� คัญ คอื องคพ์ ระบรมธาตเุ จดยี ์ท่ีมสี ว่ นยอดเจดยี เ์ ปน็ ทองคำ� ซ่ึงพระบรมธาตุองค์นี้ สร้างขึน้ มาเพ่ือประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุ (พระทันตธาตุหรือพระเข้ียวแก้วเบื้องซ้าย) อันเป็นท่ีสักการะบูชาของชาว เมอื งนครฯ ตามตำ� นานพระบรมธาตนุ ครศรธี รรมราช กลา่ ววา่ เจา้ ชายธนกมุ ารและพระนางเหมชาลา เปน็ ผนู้ ำ� เสดจ็ พระบรมธาตมุ าประดษิ ฐาน ณ หาดทรายแกว้ และสรา้ งเจดยี อ์ งคเ์ ล็ก ๆ เป็นทห่ี มายไว้ ตอ่ มาในปีมหาศักราช 1098 (พ.ศ. 1719) พระเจา้ ศรธี รรมาโศกราช ทรงสรา้ งเมอื งนครศรธี รรมราชขนึ้ พรอ้ มกอ่ สรา้ งเจดยี อ์ งคใ์ หม่ เปน็ เจดยี ท์ รง ลงกา สูง 55.78 เมตร (กรมศลิ ปากรบรู ณะปลยี อดทองคำ� เมอ่ื พ.ศ. 2538) จากฐานบัวคว่ำ� บวั หงายถึงปลยี อดสงู 6.80 ใช้ทองค�ำเนอ้ื สิบหุ้มโดยรอบ ภายในวัดพระมหาธาตุฯ มีวหิ ารที่มคี วามส�ำคญั ประดิษฐานอยู่หลายหลัง หลักสตู แรนนวคกราศรรจีธัดรรกมารราเชรศียกึ นษราู้ 365
สิ่งทนี่ ่าสนใจ พระบรมธาตุเจดยี ์ องค์พระมหาธาตุประกอบด้วยทองรูปประพรรณ และ ของมคี า่ มากมาย ซงึ่ สง่ิ มคี า่ เหลา่ นพี้ ทุ ธศาสนกิ ชนนำ� มาถวายแดอ่ งคพ์ ระสมั มาสมั พทุ ธเจา้ เพอ่ื ใหต้ นไดพ้ บกบั นพิ พาน มีพธิ ีปฏบิ ัตอิ ย่างหนึง่ ต่อองคพ์ ระธาตุ คอื ในวันมาฆบูชาแห่ผ้าขนึ้ ธาตุ เช่ือกันวา่ หากใครได้น�ำผา้ ขน้ึ ธาตุ จะขอพรได้ เป็นจริงดงั หวัง และยังมโี บราณสถานท่สี �ำคัญ เชน่ - วิหารพระมหาภิเนษกรมน์ (วิหารพระทรงม้า) เป็นวิหารหลักใช้ส�ำหรับเป็นทาง ขึน้ ไปประกอบพิธีกรรมทางศาสนา เพ่ือเป็นการสกั การะบชู าองค์พระมหาธาตุเจดยี ์ จดั เปน็ ประตขู น้ึ ไปสกู่ ารเคารพ สกั การะ สง่ิ ศกั ดิส์ ิทธสิ์ งู สุด คอื พระทนั ตธาตุของพระพุทธเจ้า - วหิ ารเขยี น ปรบั ปรงุ เปน็ พพิ ธิ ภณั ฑเ์ ครอื่ งพทุ ธบชู า เรยี กวา่ “ศรธี รรมราชพพิ ธิ ภณั ฑ”์ - วหิ ารสามจอม ประดษิ ฐานพระพทุ ธรปู ทรงเครอื่ งอยา่ งกษตั รยิ ช์ อ่ื วา่ “พระศรธี รรมา โศกราช” ด้านหลังวิหารเป็นซุ้มประตูสามช่องตรงซุ้มประตูมีภาพปั้นพุทธประวัติเจ้าชายสิทธัตถะทรงตัดเมาฬี เพอื่ ออกบรรพชา - วิหารโพธ์ิลังกา เป็นสถาปัตยกรรมตามคตินิยมของลังกา มีการปลูกต้นโพธิ์ โดยน�ำหน่อต้นพระศรีมหาโพธ์ิจากประเทศศรีลังกามาปลูกไว้ตรงกลางวิหาร เพ่ือแสดงสัญลักษณ์การตรัสรู้ของ พระสมั มาสัมพทุ ธเจ้า - วหิ ารคต เปน็ สถาปตั ยกรรมทล่ี ้อมรอบองค์พระบรมธาตุเอาไว้ หรอื เรยี กกนั อีกชอ่ื วา่ พระระเบยี ง เปน็ องคป์ ระกอบท่ีมคี วามสำ� คญั สืบเนื่องมาจากตำ� แหนง่ ของอาคารในผังพระระเบียง (ทไ่ี ด้รับอิทธพิ ล จากสถาปัตยกรรมเขมร) นอกจากน้ียังมีปริศนาธรรมให้ค้นหา และส่ิงศักด์ิสิทธ์ิอีกมากมาย และภายในวัดมีแหล่ง จำ� หนา่ ยสนิ คา้ ทรี่ ะลกึ ข้ึนชอื่ ของเมืองนคร เชน่ เครือ่ งเงนิ เครอ่ื งถม ตัวหนังตะลงุ เป็นต้น สิง่ อ�ำนวยความสะดวก ป้ายสื่อความหมาย ป้ายชีท้ างเขา้ ถงึ และสุขา การเดินทาง 1. การเดินทางโดนรถยนต์ส่วนตัวจากเส้นทางสาย 401 ถึงตัวเมืองนครศรีธรรมราช ไปทถ่ี นนราชด�ำเนิน เมือ่ ถึงตำ� บลในเมือง วัดพระมหาธาตุวรมหาวิหารเดน่ ตระหงา่ นอยดู่ ้านขวามอื 2. การเดินทางโดยรถสาธารณะจากตัวเมืองนครศรีธรรมราช สามารถน่ังรถโดยสาร สายสนามกฬี า-หวั ถนน (รถมาสด้า) ค่าโดยสารประมาณ 10 บาท ไปลงหน้า วดั พระธาตุ หรือจะน่ังรถมอเตอร์ไซต์ รับจ้าง ประมาณ (20-50 บาท ข้ึนอยกู่ ับระยะทาง) ข้อมูลการติดต่อ ต�ำบลในเมือง อ�ำเภอเมืองนครศรีธรรมราช นครศรีธรรมราช 80000 โทรศัพท:์ 075-343411 366 แหนลักวสกูตารรนจคดั รกศารรีธเรรรยี มนรารชู้ ศกึ ษา
2.2 ศาลหลักเมืองนครศรีธรรมราช ศาลหลกั เมอื งนครศรธี รรมราช อนั เปน็ ทปี่ ระดษิ ฐานหลกั เมอื งของจงั หวดั นครศรธี รรมราช สร้างขึ้นตามข้อเสนอแนะของคณะกรรมการสร้าง ส่ิงท่ีส�ำคัญทางประวัติศาสตร์ ประกอบด้วย คณะกรรมการหลายฝา่ ย ทงั้ ภาครฐั พอ่ คา้ ประชาชน ในท่ีดินของราชพัสดุ บริเวณทิศเหนือของสนาม หนา้ เมอื ง มเี นอ้ื ทป่ี ระมาณ 2 ไรอ่ าคารหลกั ประกอบไป ด้วยอาคาร 5 หลัง หลังกลางเป็นท่ีประดิษฐาน หลักเมือง ลักษณะของการออกแบบมีศิลปะคล้าย ศิลปะศรวี ิชยั วางศลิ าฤกษ์เมอื่ วนั ที่ 4 สงิ หาคม พ.ศ. 2532 สว่ นอาคารเล็ก 4 หลงั ถือเปน็ บรวิ ารประจ�ำ ศาลหลกั เมือง ทิศท้ัง 4 เรียกว่า ศาลจตุโลกเทพ ประกอบด้วย พระเส้ือเมอื ง พระทรงเมือง พระพรหมเมอื ง และ พระบันดาลเมอื ง วางศิลาฤกษ์เมอื่ วนั ที่ 7 พฤษภาคม พ.ศ. 2535 เสรจ็ สมบรู ณใ์ นปี พ.ศ. 2542 ผอู้ อกแบบอาคารศาลหลกั เมอื งคอื ยทุ ธนา โมรากลุ องคเ์ สาหลกั เมอื งทำ� ดว้ ยไมต้ ะเคยี น ทองทไ่ี ดม้ าจากภเู ขายอดเหลอื งอนั เปน็ ภเู ขาลกู หนงึ่ ในทวิ เขานครศรธี รรมราช สว่ นบนของเสาเปน็ รปู จตคุ ามรามเทพ (สพี่ ักตร์) จดุ ทนี่ า่ สนใจ องคเ์ สาหลกั เมอื งทำ� ดว้ ยไมต้ ะเคยี นทองทไ่ี ดม้ าจากภเู ขายอดเหลอื ง อนั เปน็ ภูเขาลกู หนึ่งในทวิ เขานครศรีธรรมราช ในท้องทตี่ ำ� บลกระหรอ อำ� เภอนบพติ �ำ จงั หวัดนครศรีธรรมราช ขนาดความ สงู 2.94 เมตร เสน้ รอบวง 0.95 เมตร ลวดลายที่แกะสลกั ตงั้ แตฐ่ าน ซ่งึ เปน็ วงรอบเก้าชน้ั มี 9 ลาย ส่วนบนของเสา เป็นรูปจตุคามรามเทพ (ส่ีพักตร์) หรือเทวดารักษาเมือง เหนือสุดเป็นเปลวเพลิงอยู่บนยอดพระเกตุ คือ ยอดชัย หลกั เมอื ง รปู แบบการแกะสลกั จนิ ตนาการจากความเชอ่ื ในพทุ ธศาสนาฝา่ ยมหายาน ซง่ึ เคยมอี ทิ ธพิ ลทางศลิ ปกรรม ในภาคใตแ้ ละนครศรธี รรมราชแต่ครงั้ โบราณ สิ่งอำ� นวยความสะดวก ป้ายสือ่ ความหมาย ป้ายชท้ี างเขา้ ถึงและสขุ า การเดนิ ทาง วิธีท่ี 1: เดินทางโดย รถยนตอ์ อกจากศาลากลางใหเ้ ลี้ยวซา้ ย ไปตามถนน ราชด�ำเนนิ ประมาณ 1.3 กโิ ลเมตร จะเจอสีแ่ ยกไฟแดง (วงเวยี น) ใหเ้ ลี้ยวซา้ ยไป 200 เมตร ศาลหลักเมืองจะอย่ทู าง ดา้ นขวามือ วิธีที่ 2: เดินทางโดย รถสองแถว/สามล้อ ข้ึนรถหน้าศาลากลางจังหวัด ไปตามถนน ราชด�ำเนิน ประมาณ 1.3 กิโลเมตร จะเจอสี่แยกไฟแดง (วงเวียน) ให้ลงรถ แล้วเดินเล้ียวซ้ายไป 200 เมตร ศาลหลักเมืองจะอยทู่ างด้านขวามอื ข้อมูลการติดต่อ ถนนหน้าเมือง ต.คลัง อ.เมืองนครศรีธรรมราช จ.นครศรีธรรมราช 80000 เบอรต์ ิดตอ่ 075-356458 หลกั สตู แรนนวคกราศรรจีธดัรรกมารราเชรศียึกนษราู้ 367
2.3 ก�ำแพงเมืองเกา่ นครศรีธรรมราช กำ� แพงเมอื งเกา่ นครศรีธรรมราช (ภาพปัจจุบนั ) ภาพอดีตเมืองคอน กำ� แพงเมืองคอน รัชกาลท่ี 5 ทรงถา่ ยเมื่อ 3 ก.ค. 2448 ภาพจากคุณสารัท (นกิ ) ชะลอสนั ตสิ กุล สำ� นักศลิ ปากร ที่ 14 เมอื งคอน ขอ้ มูลจากหนงั สอื เรอื่ งจดั ราชการเมืองนครศรธี รรมราช ลว.7 มค.รศ115 ของเสนาบดกี ระทรวงมหาดไทย มอบโดยอาจารยส์ มชาย เปลย่ี วจติ ร วทิ ยาลยั ศิลปหัตถกรรมนครศรธี รรมราช ก�ำแพงเมืองเก่านครศรีธรรมราช เป็นสถานท่ีท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์ ท่ีส�ำคัญของ จังหวัดนครศรีธรรมราช ตัง้ อยรู่ มิ คลองหน้าเมือง ถนนมมุ ป้อม อ�ำเภอเมอื ง จังหวัดนครศรีธรรมราช จากหลักฐาน ทางประวัติศาสตร์ ของต�ำนานเมืองนครศรีธรรมราช ก�ำแพงเมืองน้ันสร้างข้ึนตั้งแต่สมัยพระเจ้าศรีธรรมโศกราช กษัตริย์ผู้ปกครองเมืองนครในอดีต โดยพระองค์ได้สร้างเมืองขึ้นที่หาดทรายแก้ว จากน้ันพระองค์ก็ได้สร้างก�ำแพง เมอื ง ซ่ึงเป็นกำ� แพงดินที่ลอ้ มรอบด้วยคู เน่ืองจากก�ำแพงเมืองที่พระเจ้าศรีธรรมโศกราช สร้างข้ึนนั้นเป็นก�ำแพงดิน จึงได้มีการ บรู ณะกำ� แพงเมือง ในสว่ นตา่ ง ๆ หลายครงั้ แตย่ ังคงรักษาแนวก�ำแพงเดมิ เอาไว้ สมัยทีม่ ีการบูรณะกำ� แพงเมืองคอื ในสมยั สมเดจ็ พระราเมศวรแหง่ กรงุ ศรอี ยธุ ยา ปพี ทุ ธศกั ราช 1950 ไดซ้ อ่ มกำ� แพงเปน็ แบบปกั เสาพนู ดนิ ปพี ทุ ธศกั ราช 2100 เป็นช่วงท่ีมีการติดต่อค้าขายกับชาวโปรตุเกส ได้มีการดัดแปลงก�ำแพง โดยการก่ออิฐให้มีความแข็งแรง 368 แหนลักวสกูตารรนจคัดรกศารรธี เรรรียมนรารชู้ ศึกษา
เพอ่ื ใหเ้ ปน็ ปอ้ มปราการในสมยั สมเดจ็ พระนารายณม์ หาราช ปพี ทุ ธศกั ราช 2230 นบั ไดว้ า่ เปน็ การบรู ณะกำ� แพงเมอื ง นครศรีธรรมราช ครั้งท่ีส�ำคัญท่ีสุด โดยช่างวิศวกรและสถาปนิกชาวฝร่ังเศส ได้สร้างก�ำแพงเมืองตามแบบชาโต (Chateau) และกำ� แพงเมอื งนครศรธี รรมราช ทเี่ หน็ กนั อยใู่ นทกุ วนั น้ี เปน็ กำ� แพงเมอื ง ทส่ี รา้ งขนึ้ ในสมยั พระนารายณ์ มหาราช ก�ำแพงเมืองนครศรีธรรมราช มีลักษณะเป็นรูปส่ีเหลี่ยมผืนผ้า สามารถวัดความสูง ถงึ ยอดเสมาได้ 15 ศอก เชงิ เทินมีความหนา 22 ศอก ริมเชิงเทินมคี วามสงู 2 ศอก ความลึกของก�ำแพงมคี วามลกึ ถึง 8 ศอก มปี อ้ มปราการทง้ั หมด 10 ปอ้ ม มคี ลู อ้ มรอบสนั นษิ ฐานวา่ มกี ารบรู ณะกำ� แพงเมอื งสว่ นตา่ ง ๆ กนั มาหลายครง้ั ทุกครั้ง คงพยายามรักษาแนวก�ำแพงเดิมไว้ก�ำแพงเมืองนครศรีธรรมราชต้ังอยู่ริมคลอง หน้าเมือง ถนนมุมป้อม อำ� เภอเมือง จังหวัดนครศรีธรรมราช จดุ ท่ีนา่ สนใจ ก�ำแพงดนิ แสดงถงึ ความเกา่ แก่ ความแข็งแกร่ง ความเจรญิ รุ่งเรืองท่เี คย ปกปอ้ งเมืองนครศรธี รรมราชจากข้าศึก เป็นโบราณสถานทีส่ �ำคญั ของจังหวัด เป็นเครื่องแสดงถงึ ความเจริญรุง่ เรอื ง และประวัติศาสตร์อันยาวนาน ปัจจุบันได้รับการบูรณะใหม่ให้แข็งแรงและสวยงาม เพื่อพัฒนาเป็นอีก 1 สถานที่ ทอ่ งเทยี่ วทางประวัตศิ าสตรอ์ นั ทรงคุณค่า การเดินทาง สามารถเดินทางโดยรถยนต์ รถจักรยนต์ รถจักรยาน และเดินเท้า ถนนมมุ ป้อม อำ� เภอเมอื ง จงั หวดั นครศรีธรรมราช กำ� แพงเมืองนครศรธี รรมราชตัง้ อย่รู มิ คลองหน้าเมือง ข้อมูลการติดต่อ บริเวณสวนศรีธรรมโศกราช และฝั่งตรงข้าม ถนนถนนราชด�ำเนิน ตำ� บลในเมอื ง อำ� เภอเมืองนครศรีธรรมราช จงั หวัดนครศรธี รรมราช เบอร์ติดต่อ 075-356458 เวบ็ ไซต์ https:// www.fad12.go.th อีเมล [email protected] 2.4 หอพระอิศวร หอพระอิศวร สันนิษฐาน ว่าสร้างในสมัยอยุธยา แต่ของเดิมช�ำรุดไปหมดแล้ว อาคารที่ปรากฏทุกวันนี้เป็นอาคารที่กรมศิลปากร บูรณะข้ึนใหม่ เมอื่ พ.ศ. 2509 ทางดา้ นเหนือของหอ พระอิศวรเปน็ วัดเสมาเมอื ง ทางด้านใต้เป็นเสาชงิ ช้า ซึ่งสร้างข้ึนใหม่แทนของเก่าซึ่งใช้ในพิธียัมปวาย และตรีปวาย ของพราหมณ์เมืองนครศรีธรรมราช โดยจ�ำลองแบบมาจากเสาชิงช้าในกรุงเทพฯ แต่มี ขนาดเล็กกว่า และเพ่ิงเลิกไปเมื่อ พ.ศ. 2468 เดิมหอพระอิศวรเป็นท่ีประดิษฐานเทวรูปพระอิศวร หอพระอิศวร หลายองค์ เป็นปางหรือภาคต่าง ๆ กัน ซ่ึงเป็นเทพสูงสุดตามความเช่ือของพราหมณ์ลัทธิไศวนิกาย แต่เดิมใกล้ ๆ กับเสาชิงชา้ มีโบสถ์พราหมณอ์ ยู่หลงั หนง่ึ แต่ปัจจุบนั ผพุ งั ลงจนไม่เหลอื ซากแลว้ ภายในบรเิ วณโบสถ์เป็นแหลง่ ทพ่ี บ ช้ินส่วนเทวรูปทีห่ ล่อดว้ ยสำ� ริดอายรุ ะหว่างพทุ ธศตวรรษท่ี 18 - 25 หลายองคด์ ว้ ยกัน อาทิ พระพฆิ เนศวร พระศวิ ะ นาฏราช พระอุมา และรูปหงส์ นบั วา่ เกา่ แก่มีคา่ ยิ่งนัก ซึง่ ต่อมาไดย้ ้ายมาไวใ้ นหอพระอิศวรชวั่ คราว และจากน้ันทาง หลกั สตู แรนนวคกราศรรจธี ดัรรกมารราเชรศยี ึกนษราู้ 369
พพิ ธิ ภณั ฑสถานแหง่ ชาตเิ กรงวา่ จะสญู หายไป จงึ ไดย้ า้ ยมาเกบ็ รกั ษาไวใ้ นหอ้ งจดั แสดงของทางพพิ ธิ ภณั ฑ์ โดยหลอ่ รปู จ�ำลองไวแ้ ทนท่ใี นหอพระอิศวร สิ่งที่น่าสนใจ เป็นโบราณสถานในศาสนาฮินดู เป็นท่ีประดิษฐานศิวลึงค์ ซ่ึงถือเป็น สัญลักษณ์ของพระอิศวรและฐานโยนิ รวมทั้งเทวรูปส�ำริดอีกหลายองค์ อาทิ เทวรูปศิวนาฏราช พระอุมาและ พระพิฆเนศ ซง่ึ จ�ำลองจากองค์จริงทเี่ ก็บรกั ษาไวท้ ่ี พิพธิ ภัณฑสถานแห่งชาตนิ ครศรธี รรมราช การเดินทาง จากทางหลวงหมายเลข 401 ถึงตัวเมืองนครศรีธรรมราชไปตามถนน ราชด�ำเนิน ผ่านสนามหน้าเมือง หอพระอิศวรอยู่ตรงข้ามหอพระนารายณ์ พาหนะประจ�ำทางมีรถสองแถวสาย หวั ถนน-สนามกฬี า ว่งิ ผ่านหอพระอิศวร คา่ บรกิ ารท่านละ 10 บาท ขอ้ มูลการติดต่อ ต�ำบลในเมอื ง อ�ำเภอเมอื ง จังหวดั นครศรธี รรมราช 80130 เบอรต์ ิดตอ่ 075-356458 เว็บไซต์ http://www.finearts.go.th/fad14/ 2.5 หอพระนารายณ์ หอพระนารายณ์ ต้ังอยู่ ถนนราชด�ำเนินตรงข้ามหอพระอิศวรเป็นโบราณ สถานในศาสนาพราหมณล์ ทั ธไิ วษณพนกิ าย ซง่ึ นบั ถอื พระนารายณ์เป็นเทพสูงสุดมีเทวรูปพระนารายณ์ ประดษิ ฐานอยอู่ าคารหอพระนารายณเ์ ดมิ ไมส่ ามารถ สืบทราบรูปแบบได้แล้ว ส่ิงที่พบภายในหอ พระนารายณ์ ได้แก่ เทวรูปพระนารายณ์สลักจาก หินทรายสีเทาทรงหมวกรูปกระบอกปลายสอบ และพระหัตถ์ขวาทรงสังข์ มีอายุราวพุทธศตวรรษ หอพระนารายณ์ ท่ี 10-11 นบั เปน็ เทวรปู ทเี่ กา่ แกท่ ส่ี ดุ ในเอเชยี ตะวนั ออก เฉียงใต้ ปจั จบุ นั ไดเ้ ก็บรักษาไวใ้ นพพิ ธิ ภณั ฑสถานแห่งชาตินครศรีธรรมราช สงิ่ ทน่ี า่ สนใจ โบราณสถานในศาสนาพราหมณ์ และเทวรปู พระนารายณส์ ลกั จากหนิ ทราย สีเทา ท่ีต้ังแสดงอยู่ในหอพระนารายณ์ขณะนี้ คือ เทวรูปพระนารายณ์จ�ำลองจากองค์จริงท่ีพบในแหล่งโบราณคดี แถบอำ� เภอสชิ ล การเดินทาง โดยสารรถยนต์ รถจักรยานยนต์ รถจักรยาน ผ่านถนนราชด�ำเนิน ต�ำบลในเมือง อ�ำเภอเมอื งนครศรีธรรมราช ข้อมูลการติดต่อ ถนนราชด�ำเนิน ต�ำบลในเมือง อ�ำเภอเมือง จังหวัดนครศรีธรรมราช 80130 เบอร์ติดต่อ 075-356458 / 075-324479 เว็บไซต์ http://www.finearts.go.th/fad14/ อีเมล [email protected] 370 แหนลักวสกูตารรนจคดั รกศารรีธเรรรียมนรารชู้ ศกึ ษา
2.6 วงั โบราณ ลานสกา อำ� เภอลานสกา จากต�ำนานพระเจ้าศรีธรรมโศกราชของ จังหวัดนครศรีธรรมราชของวัดมหาธาตุวรมหาวิหารว่า ประมาณปี 1700-1800 เมืองนครศรีธรรมราชมีกษัตริย์สามพน่ี อ้ ง พระเชษฐา ทรงพระนามวา่ “พระเจา้ ศรธี รรมโศกราช” องคร์ องช่อื “จนั ทรภาณ”ุ องค์สุดท้ายนามว่า “พงษาสุระ” ทุกพระองค์ครองราชย์จะทรง พระนามว่า พระเจ้าศรีธรรมโศกราชทั้งหมด ในช่วงน้ีได้สร้าง ความเจรญิ ใหก้ บั อาณาจักรเปน็ อยา่ งมากท้ังโดยไดค้ รอบครองเมือง ทง้ั หลายตลอดแหลมมลายู เรยี กวา่ เมอื งสบิ สองนกั ษตั ร ถอื รปู ดอกบวั เป็นสัญลักษณ์ประจ�ำเมือง นอกจากน้ีพระเจ้าศรีธรรมโศกราช ได้บรู ณะพระบรมธาตุนครศรีธรรมราช ซ่งึ แบบเดิมเปน็ แบบศรีวิชยั ให้เป็นแบบลังกา โดยก่อครอบเจดีย์เดิมเม่ือสิ้นสมัยกษัตริย์ สามพ่นี อ้ งแล้วหวั เมืองตา่ ง ๆ ในสุวรรณภูมกิ ็รวมตัวกนั มีพระราชา วงั โบราณ ลานสกา ปกครอง ต่อมาในสมัยพ่อขุนรามค�ำแหงได้มีการสร้างระเบียงรอบองค์พระบรมธาตุ ท�ำก�ำแพงรอบทั้งสี่ด้าน สรา้ งวหิ ารตดิ กบั องคเ์ จดยี ใ์ หญ่ และสรา้ งพระพทุ ธรปู ขนึ้ แทนองคพ์ ระเจา้ ศรธี รรมโศกราชเพอ่ื ประดษิ ฐานไวใ้ นวหิ าร สามจอม และเรียกกันต่อมาว่า วิหารพระเจ้าศรีธรรมโศกราช ในสมัยพระเจ้าศรีธรรมโศกราชได้เกิดโรคห่าระบาด หลายครง้ั พระองคต์ อ้ งอพยพประชากร หนโี รคภยั ออกจากเมอื งหลายครง้ั ตามหลกั ฐานไดป้ รากฏวา่ หนมี าท่ี ลานสกา และสถานที่ประทับก็คือ วังโบราณ แห่งนี้ โดยพระองค์ได้คิดวิธีแก้ไข้ห่า โดยเอาปรอทมาหุงขัดยา ท�ำเป็นหัวนโม หว่านท่ัวเมืองเพ่ือขจัดโรคห่าให้หมดไป เมื่อหมดจากโรคห่า พระองค์จึงเสด็จประทับท่ีเมืองนครศรีธรรมราช เปน็ การถาวร สถานทต่ี รงน้ันจงึ เกิดเป็นวดั ขน้ึ ช่อื วา่ วดั น�ำ้ รอบ แตต่ ่อมาไดย้ า้ ยวัดมาที่สถานท่ีใหม่ เนือ่ งจากสถานท่ี เก่าคับแคบ แต่ต่อมาในปี 2510 ได้บูรณะข้ึนมาใหม่ได้มีการน�ำพระพุทธรูปจ�ำลององค์ พระเจ้าศรีธรรมโศกราช มาประดิษฐานที่น่ีด้วยในปี 2514 เพื่อเตือนใจว่าท่ีนี่เคยเป็นที่ประทับของพระเจ้าศรีธรรมโศกราชมาแต่ครั้งก่อน ตอ่ มาในปี 2518 ทน่ี ไี่ ดเ้ กดิ อทุ กภยั พระพทุ ธรปู องคน์ ไี้ ดส้ ญู หายไป ตอ่ จากนนั้ ชาวบา้ นไดก้ ลา่ วขานกนั วา่ องคพ์ ระได้ มาเขา้ ฝันบอกวา่ จมอย่ใู นน�ำ้ นานแลว้ ให้ชว่ ยเอาขึ้นมาด้วย ชาวบา้ นกช็ ่วยกันขุดแตก่ ไ็ มส่ ามารถหาเจอ จนกระทั่ง ในปี 2546 ได้ท�ำการขุดคน้ อกี ครั้งและได้ท�ำการบวงสรวงเทพยดาและส่ิงศกั ดสิ์ ิทธ์ิ ทำ� ใหไ้ ด้ค้นพบชน้ิ สว่ นองคพ์ ระ ในคราวนน้ั และในเดอื น กรกฎาคม 2546 ได้มีการคน้ พบแทน่ ประทบั ของพระเจ้าศรธี รรมโศกราช โดยกล่าวกันว่า การค้นพบนัน้ มาจากการเข้าฝัน และเป็นทีส่ กั การบูชาของชาวพุทธทั่วโลกมาจนถงึ ปัจจบุ นั น้ี สงิ่ ทน่ี ่าสนใจ โบสถ์เก่าเปน็ วงั โบราณทป่ี ระทบั พระเจ้าศรีธรรมโศกราช และพอ่ ท่านวิน การเดนิ ทาง โดยรถยนต์ รถจกั รยานยนต์ และรถจกั รยาน จากอำ� เภอเมอื งนครศรธี รรมราช ใชเ้ ส้นทางหมายเลข 4019 ประมาณ 18 กิโลเมตร จะเข้าส่อู �ำเภอลานสกา หรือหากเดินทางจากตวั เมอื งนครไปยงั อ�ำเภอลานสกาก็ใชเ้ ส้นทางถนนสายลานสกา-ไม้หลา ข้อมูลการติดต่อ ต�ำบลลานสกา อ�ำเภอลานสกา จังหวัดนครศรีธรรมราช 80230 เบอร์ติดตอ่ 075-391160 เวบ็ ไซต์ http://www.lansaka.go.th/index.php หลกั สตู แรนนวคกราศรรจธี ัดรรกมารราเชรศยี ึกนษราู้ 371
อำ� เภอช้างกลาง 2.7 วัดธาตนุ อ้ ย วัดธาตุน้อย หรือ วัดพระธาตุน้อย ตั้งอยู่ในเขตต�ำบลหลักช้าง อ�ำเภอช้างกลาง จังหวัด นครศรธี รรมราช ตงั้ ขนึ้ โดยความประสงคข์ องพอ่ ทา่ นคลา้ ย (พระครพู ศิ ษิ ฐอ์ รรถการ) พระเกจอิ าจารยท์ ชี่ าวใตเ้ ลอื่ มใส ศรัทธาอย่างสูงย่ิงรูปหนึ่ง ซ่ึงศิษยานุศิษย์และ ประชาชน ท่ีเคารพนับถือ ศรัทธา พ่อท่านคล้ายได้ เช่ือถือถึงความศักดิ์สิทธ์ิของวาจา พูดอย่างไร เปน็ อยา่ งนน้ั ทา่ นมกั จะใหพ้ รกบั ทกุ คน ขอให้ เปน็ สขุ เป็นสขุ พอ่ ท่านคลา้ ย วาจาสทิ ธ์ิ ไดช้ ่ือว่าเป็นเทวดา เมืองคอน เทพเจา้ แหง่ แดนใต้ ชาวเมืองคอนเสอ่ื มใส ศรัทธาเป็นอย่างย่ิง โดยประดิษฐานพระเจดีย์ พระสารีริกธาตุและสรีระสังขารพ่อท่านคล้ายใน โลงแกว้ ประดษิ ฐานอยใู่ นองคพ์ ระเจดยี ์ ณ สถานทน่ี ้ี วัดธาตุน้อย จึงเป็นเจดยี อ์ นุสรณ์สถานพ่อท่านคลา้ ยอีกดว้ ย สิ่งที่น่าสนใจ เป็นที่ต้ังของเจดีย์พ่อท่านคล้ายวาจาสิทธิ์ พระเกจิอาจารย์ที่ชาวใต้เลื่อมใส ศรทั ธาอยา่ งสงู ย่ิงรูปหน่งึ ท่นี ีม่ ีชอ่ื เสยี งในเรื่องความศักด์สิ ทิ ธิ์ ภายในวัดมเี จดยี ์สขี าวตงั้ เดน่ อยู่กลางวดั ด้านในเป็นที่ ประดิษฐานพระเจดีย์พระสารีริกธาตุและสรีระสังขารพ่อท่านคล้ายซ่ึงมีสภาพ แข็งดั่งหินและมีพระนอนองค์ใหญ่ ทส่ี วยงามอีกแหง่ หนึ่งของภาคใต้ การเดนิ ทาง โดยรถยนต์ รถจักยานยนต์ และรถจกั รยาน จากอำ� เภอเมอื ง เสน้ ทางหมายเลข 4195 สู่อ�ำเภอลานสกา พอเจอแยกลานสกาเล้ยี วซา้ ย วงิ่ ตรงไปเรื่อย ๆ อกี ราว 50 กิโลเมตร จนพบ สะพานพ่อทา่ น คล้าย จากนัน้ ลงสะพานกเ็ ลี้ยวซา้ ยเข้าวดั ขอ้ มลู สามารถตดิ ตอ่ เลขท่ี 281 หมทู่ ่ี 1 ตำ� บลหลกั ชา้ ง อำ� เภอชา้ งกลาง จงั หวดั นครศรธี รรมราช 80250 เบอร์โทร 075-486779 372 แหนลักวสกูตารรนจคดั รกศารรีธเรรรียมนรารชู้ ศกึ ษา
2.8 วัดหรงบน อำ� เภอปากพนัง วัดหรงบน ค�ำน้ีเป็นที่สงสัยกันมากว่า หมายความว่าอยา่ งไร บางคนว่าเป็นชื่อต้นไม้ หรอื เพ้ียนมาจากค�ำวา่ หงษ์ เนอื่ งจากวา่ วดั บรเิ วณแถบนท้ี กุ วดั จะมรี อ่ งรอยเสาหงษ์ เปน็ ซาก เสาไมใ้ หเ้ หน็ อยหู่ ลายวดั เมอื่ มกี ารสำ� รวจวดั ปี 2497 นบั เปน็ ครงั้ แรก ของการบนั ทกึ อาจมกี ารบนั ทกึ ผดิ จะเพย้ี นเพราะสำ� เนยี งพดู หรอื การ เขยี นหนงั สอื ไมเ่ กง่ ของคนสมยั โนน้ กพ็ อคดิ ไดว้ า่ ชอื่ หรงบนคำ� วา่ หรง อาจเพ้ียนมาจาก ค�ำวา่ หงษ์ เป็นได้ สว่ นค�ำวา่ บน เนื่องจากใกล้ ๆ วัดหรงบนประมาณห้าร้อยเมตรยังมีวัดอีกวัดหน่ึงช่ือวัดกลาง (วัดคงคาวดี) ถัดไปอกี ประมาณหน่งึ กิโลเมตรครง่ึ กม็ ีอกี วัดช่ือวัดลา่ ง (วัดหงษ์แก้ว) เม่ือดูช่ือวัดท้ังสามวัดแล้ววัดหรงบนชาวบ้านก็เรียก วัดบน อยู่เป็นประจำ� จึงเปน็ วดั บน วัดกลาง วดั ล่าง ล�ำดบั บนล่างนัน้ ชาวบ้านนับเอาล�ำคลองสายหนึ่งท่ีไหลผ่านวัดทั้งสาม วัดหรงบน อยู่บนสุด วัดกลาง (คงคาวด)ี อยู่กลาง วดั หงษแ์ กว้ อยู่ล่างสดุ วัดหรงบน มีบันทึกไว้ในหนังสือประวัติวัดจังหวัดนครศรีธรรมราชว่าต้ังเม่ือ พ.ศ. 2114 ยังไม่มี วิสุงคามสมี า มีคำ� บอกเล่าต่อ ๆ กันมาว่าได้ย้ายมาจากวดั สระหนองหอย (เป็นท่ีรกรา้ งมแี ตซ่ ากอฐิ เกา่ ๆ ใหเ้ ห็น) มาต้ังใหม่เปน็ วดั หรงบน ไมป่ รากฏล�ำดับเจ้าอาวาส มีแต่ค�ำบอกเล่าว่า ในอดตี มพี ระเถระเป็นสมภารผ้ตู งั้ วดั และได้ เก็บอัฏฐิใส่ไว้ในพระประธานท่ีศาลาการเปรียญ 3 องค์ ช่ือว่า สมภารทองปาน สมภารทองหอม สมภารทองห่อ จนมาถงึ อาจารย์เอยี ด (พอ่ ทา่ นเอียด) อาจารย์ของหลวงปู่เขียว อินทมนุ ี ซึ่งหลงั พ่อทา่ นเอียดมรณะ ชาวบา้ นกไ็ ด้ นิมนต์ให้หลวงปู่เขียวมาเป็นเจ้าอาวาสสืบต่อไปจนหลวงปู่เขียวมรณะ วัดหรงบนก็ว่างเว้นเจ้าอาวาสอยู่หลายปี ชาวบ้านจงึ ได้นิมนตอ์ าจารย์สมนึก ฉนั ทธัมโม มาครองวัดเป็นเจา้ อาวาสเมื่อ พ.ศ. 2537 สบื ต่อมาจนถึงปจั จบุ นั นี้ สิง่ ทน่ี า่ สนใจ หลวงปูเ่ ขยี ว อินทมณุ ี พระผ้มู อี ทิ ธิฤทธป์ิ าฏหิ าริยแ์ ละวาจาสทิ ธิ์ สรรี ะเผา ไม่ไหมแ้ ม้กระทงั่ จวี ร เสน้ เกศา เล็บมอื เล็บเทา้ เน้อื หนงั การเดินทาง โดยรถยนต์ รถจักยานยนต์ จากอ�ำเภอเมืองนครศรีธรรมราช ทางหลวง หมายเลข 408 ถึงสีแ่ ยกบ่อล้อ เข้าถนนหมายแลข 4094 ระยะทาง 53 กโิ ลเมตร ระยะทางประมาณ 53 กโิ ลเมตร ถงึ ทางแยกเล้ียวซ้ายมงุ ไปต�ำบลไสหมาก เสน้ ทางนศ.4057 วัดหรงบนอยู่ทางขวามอื ข้อมูลการตดิ ต่อ วัดหรงบน เลขท่ี 56 หมู่ 3 ตำ� บลบางตะพง อำ� เภอปากพนงั จังหวัด นครศรีธรรมราช 80140 เบอร์ตดิ ตอ่ 075-470995 หลักสูตแรนนวคกราศรรจีธดัรรกมารราเชรศียึกนษราู้ 373
2.9 พระต�ำหนักประทับแรมปากพนงั พระต�ำหนักประทับแรม ถูกสร้างข้ึนในโครงการสร้างบ้านให้พ่อซ่ึงด�ำเนินการ โดยความรว่ มมอื ของชาวจงั หวดั นครศรธี รรมราชและ ชาวไทยทั่วประเทศ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้เป็น พระต�ำหนักทรงงานถวายแด่พระบาทสมเด็จ พระเจ้าอยู่หัวในคราวเสด็จ และทรงงานในจังหวัด นครศรธี รรมราช ภายในพระตำ� หนกั ประกอบไปดว้ ย กลุ่มอาคารพระต�ำหนักฯ มีลักษณะสถาปัตยกรรม ภาคใต้ ต้ังอยู่ในพ้ืนท่ีโครงการพัฒนาพ้ืนที่ลุ่มน�้ำ พระตำ� หนกั ประทับแรมปากพนงั ปากพนังอันเน่ืองมาจากพระราชด�ำริ ในอดีต อ�ำเภอปากพนงั จังหวดั นครศรีธรรมราชและในเขตพืน้ ทล่ี ุม่ น�ำ้ ปากพนงั “พรุควนเครง็ ” ประสบกบั ปญั หาเดือดร้อน จากความเส่ือมโทรมของทรัพยากรและสิ่งแวดล้อมอย่างหนัก ทั้งอุทกภัยการขาดแคลนน้�ำจืด ปัญหาดินเปร้ียว ปัญหาน้�ำเค็มรุกล�้ำพื้นท่ีเกษตร ผลผลิตตกต�่ำ ซ่ึงก่อให้เกิดความทุกข์ยากแร้นแค้น ส่งผลถึงการอพยพแรงงาน และการโยกยา้ ยถนิ่ ฐาน จากดนิ แดนซง่ึ เคยเปน็ “อขู่ า้ วอนู่ ำ�้ ” มคี วามอดุ มสมบรู ณท์ ง้ั พนื้ ทนี่ าและในแมน่ ำ�้ กลบั กลาย เป็นพืน้ ท่ที ่ีมีความยากจนมากท่สี ดุ ของประเทศ สง่ิ ทน่ี า่ สนใจ พระตำ� หนกั ประทบั แรมปากพนงั หรอื พระตำ� หนกั ประทบั แรมเฉลมิ พระเกยี รติ อำ� เภอปากพนงั ตง้ั อยทู่ ี่ ตำ� บลหลู อ่ ง อำ� เภอปากพนงั จงั หวดั นครศรธี รรมราช เปน็ พระตำ� หนกั แหง่ แรกและแหง่ เดยี ว ของประเทศ ที่ก่อสร้างข้ึนจากความร่วมแรงร่วมใจของประชาชนชาวไทย เพื่อทูลเกล้าฯ ถวายแด่พระบาทสมเด็จ พระเจ้าอยู่หัว ด้วยความจงรักภักดีและส�ำนึกในพระมหากรุณาธิคุณอันล้นพ้นที่พระองค์ท่านทรงเมตตาต่อเหล่า พสกนิกรชาวปากพนังเป็นทยี่ ่ิง สง่ิ อ�ำนวยความสะดวก สขุ า ศูนยบ์ ริการนกั ทอ่ งเที่ยว ปา้ ยชท้ี างเข้าถงึ และทจี่ อดรถ 50 คัน การเดนิ ทาง จากอำ� เภอเมอื งไปยงั อำ� เภอปากพนงั ระยะทางประมาณ 35 กโิ ลเมตร ใชเ้ สน้ ทาง 4013 เลยี้ วขวาบรเิ วณสามแยก ไปยงั อำ� เภอปากพนงั ฝง่ั ตะวนั ออก ถงึ สแี่ ยกเลย้ี วขวาอกี ครงั้ เดนิ ทางตอ่ อกี ประมาณ 2 กิโลเมตร ถงึ หัวงาน โครงการพัฒนาพืน้ ทีล่ ่มุ แม่นำ้� ปากพนัง อนั เนื่องมาจากพระราชดำ� ริ และหากจะเดินทางไปยงั อำ� เภอปากพนงั ฝง่ั ตะวนั ออก ใชเ้ สน้ ทาง 4013 จากอำ� เภอเมอื ง เลย้ี วขวาบรเิ วณสามแยก ผา่ นสแี่ ยก และขา้ มสะพาน ขา้ มแม่นำ�้ ปากพนงั ไปยงั อำ� เภอปากพนังฝั่งตะวันออก ข้อมูลการติดต่อ ต�ำบลหลู อ่ ง อ�ำเภอปากพนงั จงั หวดั นครศรีธรรมราช 80140 เบอร์ติดต่อ 075-416138 374 แหนลักวสกตูารรนจคดั รกศารรีธเรรรียมนรารชู้ ศกึ ษา
2.10 แหล่งโบราณคดีเกาะกระ แหล่งโบราณคดีเกาะกระ เกาะกระ เป็นหมู่เกาะเดียวในพื้นท่ีจังหวัดนครศรีธรรมราชท่ีโดดเด่น เป็นเอกลักษณ์ ในฝง่ั ทะเลอา่ วไทย เปน็ แหลง่ ทอ่ งเทยี่ วกลางทะเลทยี่ งั มคี วามอดุ มสมบรณู ม์ ากทสี่ ดุ ในทะเลอา่ วไทย ถอื วา่ เปน็ แหลง่ ทอ่ งเทยี่ วทยี่ งั บรสิ ทุ ธมิ์ าก มรี ะบบนเิ วศทส่ี มบรู ณ์ มหี าดทรายยาวประมาณ 150 เมตร มแี นวปะการงั ครอบคลมุ พน้ื ที่ กว่า 400 ไร่ และยงั คงสภาพสมบรู ณท์ ่ีสุดของอ่าวไทย โดยพบปะการังแปรงลา้ งขวดหลายชนดิ นบั วา่ เปน็ เกาะทส่ี วยงามคงความอดุ มสมบรู ณข์ องทรพั ยากรใตท้ อ้ งทะเลอา่ วไทยทห่ี าชม ไดย้ าก เหมาะแกก่ ารเทยี่ วชมของผทู้ รี่ กั ในการดำ� นำ้� หรอื ผทู้ ช่ี อบพกั ผอ่ นทา่ มกลางบรรยากาศของธรรมชาตทิ เี่ งยี บสงบ เกาะกระ ประกอบดว้ ย 3 เกาะ และเกาะบรวิ ารอกี 2 เกาะ คอื เกาะกลางและเกาะเลก็ และเกาะขนาดเลก็ อกี 1 เกาะ ท่ีชาวบ้านเรียกว่า “กองหิน” ซ่ึงเกาะมีพ้ืนที่ขนาดใหญ่ท่ีสุด พ้ืนที่เกือบท้ังหมดเป็นภูเขาสูงมีแนวหาดทรายส้ัน ๆ อยทู่ างทศิ ตะวันตก ทงั้ นี้เกาะกระ ยังเปน็ แหล่งวางไขข่ องเต่าทะเลอกี หลายชนิด เช่น เตา่ ตนุ เต่ามะเฟือง เตา่ กระ เต่าหญา้ เต่าหัวคอ้ น สง่ิ ทน่ี า่ สนใจ “หอยบษุ ราคมั ” หอยชนดิ ใหมข่ องโลก พบทเี่ กาะกระ จงั หวดั นครศรธี รรมราช ไดร้ ับพระราชทานช่อื จากสมเดจ็ พระเทพรัตนราชสดุ าฯ สยามบรมสยามบรมราชกุมารี วา่ “หอยบุษราคมั ” การเดินทาง การเดินทางไปยังหมู่เกาะกระสามารถลงเรือได้ 3 จุด ภายในจังหวัด นครศรธี รรมราช จุดแรกคือจากปากน�ำ้ ขนอม อ�ำเภอขนอม ระยะทางประมาณ 79 ไมลท์ ะเล จุดท่ี 2 จากแหลม ตะลุมพกุ ระยะทางประมาณ 29 ไมล์ทะเล และจดุ ท่ี 3 จากอำ� เภอหวั ไทรมรี ะยะทางประมาณ 53 ไมลท์ ะเล ข้อมูลการติดต่อ ส�ำนักงานการท่องเท่ียวและกีฬาจังหวัดนครศรีธรรมราช โทร/แฟ็กซ์ 075-378046 Email : [email protected] หลักสตู แรนนวคกราศรรจีธัดรรกมารราเชรศียึกนษราู้ 375
อำ� เภอพรหมครี ี 2.11 วดั เขาขนุ พนม วัดเขาขนุ พนม ตามประวัติเช่ือกันว่า เขาขุนพนม เคยเป็นท่ีประทับของสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช ภายหลังจากส้ินรัชกาลของพระองค์ มีผู้สันนิษฐานว่าพระเจ้าตากสินทรงมิได้ถูกประหารชีวิต อย่างท่ีพงศาวดาร กลา่ วอา้ ง แตไ่ ดท้ รงสบั เปลยี่ นพระองคก์ บั พระญาตหิ รอื ทหารคนสนทิ แลว้ เสดจ็ มายงั นครศรธี รรมราช มกี ารเตรยี มการ โดยมีการสร้างป้อมปราการ ท�ำเชิงเทิน ป้อมวงกลมตามชะง่อนผาเพื่อให้พระเจ้าตากสินได้ประทับ เมื่อทรงผนวช เจรญิ วปิ สั สนากรรมฐาน ณ วัดเขาขนุ พนมจนเสดจ็ สวรรคต แตบ่ างกระแสกล่าวว่าเขาขนุ พนม สรา้ งโดยพระยาตรงั ภูมาภิบาลเจ้าเมืองนครศรีธรรมราช ส�ำหรับพักตากอากาศที่เขาขุนพนมจึงมีการสร้างป้อมปราการคอยป้องกัน อย่างแน่นหนา ความส�ำคัญต่อชุมชนชาวเขาขุนพนมมีความเช่ือเรื่องพระเจ้าตากสินมหาราช เสด็จหนีมาประทับท่ี เขาขนุ พนม จงึ ได้รว่ มมอื กันสร้างพระตำ� หนักสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช บริเวณชะง่อนหินเชิงเขา ซ่ึงเป็นบรเิ วณ ที่เชื่อว่าพระองค์ประทับขณะผนวชอยู่ ประชาชนที่ยังระลึกถงึ วรี กรรม และความกล้าหาญในการก้เู อกราชชาติไทย ในสมยั เสยี กรงุ ศรอี ยธุ ยาครงั้ ท่ี 2 ไดร้ ว่ มกนั สรา้ งพระบรมสาทสิ ลกั ษณ์ ทง้ั ในเพศบรรชติ และชดุ ฉลองพระองคน์ กั รบ แลว้ อญั เชญิ มาไวใ้ นศาลใหผ้ คู้ นทศ่ี รทั ธาไดม้ ากราบไหว้ ปจั จบุ นั จงึ มปี ระชาชนจากทวั่ สารทศิ มาเขาขนุ พนม อยเู่ สมอ เพอ่ื ตามรอยพระเจ้าตากสนิ มหาราช ลกั ษณะทางสถาปัตยกรรมเขาขุนพนมมี ลกั ษณะเปน็ ภูเขาหินปนู ลูกโดดเตย้ี ๆ มีต้นไม้ปกคลุมอยู่อย่างหนาแน่น บนภูเขามีถ�้ำหินปูน ท่ีมีโพรงหินงอกหินย้อย ลักษณะของภูเขาวางตัวอยู่ในแถบ เหนือ-ใต้ มคี วามยาวประมาณ 750 เมตร กวา้ งตามแนวทางทศิ ตะวันออก-ตะวนั ตก ประมาณ 500 เมตร สงู จาก ระดับน�้ำทะเลปานกลาง ประมาณ 43 เมตร ส่วนยอดเขาสูง จากระดับน้�ำทะเลปานกลาง ประมาณ 165 เมตร ทางทิศใต้ของภูเขาเป็นทางลาดชัน ทางทิศเหนือเป็นไหล่เขา ทางทิศตะวันตกเป็นสวนมังคุดและสวนยางพารา ทางทิศตะวันตกเป็นโรงเรียนและวัดเขาขุนพนม เขาขุนพนมมีจุดเด่นอยู่ท่ีวัดเขาขุนพนมซึ่งตั้งอยู่ทางทิศตะวันออก เฉียงใต้ ของเขาขุนพนม ประวัติการก่อสร้างไม่ปรากฏ แต่หลักฐานประเภทโบราณสถานและโบราณวัตถุต่าง ๆ สามารถบง่ ได้ว่า วัดเขาขนุ พนมน่าจะสรา้ งขึ้นในตัง้ แตค่ รง้ั กรุงศรอี ยธุ ยาเปน็ ราชธานี สงิ่ ทนี่ า่ สนใจ - มคี วามสำ� คญั ทางดา้ นโบราณคดแี ละประวตั ศิ าสตรเ์ นอื่ งจากมถี ำ�้ ทมี่ กี ำ� แพงกอ่ อฐิ ถอื ปนู และใบเสมา เหมือนกำ� แพงสมัยโบราณ 376 แหนลกัวสกูตารรนจคดั รกศารรีธเรรรียมนรารชู้ ศกึ ษา
- ผนงั ของวดั ดา้ นหน้าเป็นลวดลายปูนปั้นประดบั ด้วยเครอื่ งลายครามของจีน - ในบริเวณถ้ำ� มพี ระพุทธรูป 30 องค์และพระพุทธบาทสำ� ริด - คนทอ้ งถนิ่ ว่าเชือ่ ว่า เป็นท่ปี ระทับของพระเจา้ ตากสนิ ขณะทรงผนวช ส่ิงอ�ำนวยความสะดวก สุขา ปา้ ยส่อื ความหมาย ป้ายช้ีทางเขา้ ถงึ การเดนิ ทาง โดยรถยนต์ รถจักรยานยนต์ ใชถ้ นนทางหลวงหมายเลข 4016 ทีจ่ ะเดนิ ทาง จากอ�ำเภอเมืองนครศรีธรรมราชมุ่งหน้าไปอ�ำเภอนบพิต�ำ ผ่านมหาวิทยาลัยราชภัฏนครศรีธรรมราช จนมาถึง อ�ำเภอพรหมครี ี (ระยะทางประมาณ 23 กิโลเมตร) เมอ่ื ถึงสีแ่ ยกพรหมคีรี ใหเ้ ลย้ี วขวาขับรถตามปา้ ยบอกทางไปอีก ประมาณ 3 กิโลเมตร ข้อมูลการติดต่อ ต�ำบลบ้านเกาะ อ�ำเภอพรหมคีรี จังหวัดนครศรีธรรมราช 80320 เบอร์ติดตอ่ 075-344714 / 075-357800 เว็บไซต์ http://nrt.onab.go.th/index.php 2.12 พระตำ� หนกั เมืองนคร พระต�ำหนกั เมอื งนคร พระต�ำหนักเมืองนครได้เร่ิมสร้างมาตั้งแต่ 17 สิงหาคม 2537 ใช้เวลาก่อสร้าง 4 ปี นายสมั พนั ธ์ ทองสมคั ร ไดม้ อบทด่ี นิ ใหก้ บั ทางราชการ และไดร้ ว่ มกบั กรมอาชวี ศกึ ษาดำ� เนนิ การกอ่ สรา้ งพระตำ� หนกั ท่ีประทับน้อมเกล้าน้อมกระหม่อมถวายพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ในมหามงคลวโรกาสทรงครองสริ ริ าชสมบตั คิ รบ 50 ปี และนอ้ มเกลา้ นอ้ มกระหมอ่ มถวายสมเดจ็ พระเทพรตั นราชสดุ าฯ สยามบรมราชกุมารี ในมหามงคลสมัยทรงเจริญพระชันษาได้ 40 พรรษา ทั้งนี้เพื่อเป็นท่ีประทับในระหว่างเสด็จ พระราชดำ� เนนิ ทรงปฏบิ ตั พิ ระราชกรณยี กจิ ในพน้ื ทจ่ี งั หวดั นครศรธี รรมราชและจงั หวดั ใกลเ้ คยี ง โดยตง้ั อยใู่ นสวนผลไม้ เก่าแก่ของตระกูลทองสมัคร ผู้สร้างเรือนรับรองถวายในนามของชาวเมืองนครศรีธรรมชาติ พระบาทสมเด็จ พระเจ้าอยู่หัวทรงโปรดเกล้าฯ ให้สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรม ราชกุมารีเสด็จฯ ทรงเปิดพระต�ำหนัก แทนพระองคเ์ ม่ือวันที่ 17 สิงหาคม 2541 สง่ิ ทีน่ า่ สนใจ จดั สวนแบบผสม ผลไม้หลากหลายชนดิ ศาลเจ็ดเกลอ แวดล้อมด้วยชุมชน ชาวสวน สง่ิ อำ� นวยความสะดวก สขุ า มคั คุเทศก์ท้องถิน่ ปา้ ยสอื่ ความหมาย ป้ายช้ที างเข้าถึง การเดนิ ทาง โดยรถยนต์ รถจักรยานยนต์ และรถจักรยาน จากตวั เมอื งนครศรธี รรมราช หลักสูตแรนนวคกราศรรจีธดัรรกมารราเชรศยี ึกนษราู้ 377
ไปทางอ�ำเภอพรหมคีรีตามทางหลวงหมายเลข 4016 ผ่านมหาวิทยาลัยราชภัฏนครศรีธรรมราช ที่ว่าการอ�ำเภอ พรหมครี ี เม่ือเจอสแี่ ยกไฟแดงให้เลยี้ วขวา (ใชเ้ ส้นทางเดยี วกบั ทางไปวัดเขาขนุ พนม) หรือ เมอ่ื เจอส่แี ยกไฟแดงให้ ตรงไป ข้ามสะพานแล้วเลี้ยวขวาไปตามถนนตากสินอนุสรณ์ ขอ้ มลู การติดต่อ หมู่ 3 ตำ� บลบา้ นเกาะ อ�ำเภอพรหมครี ี จงั หวดั นครศรีธรรมราช 80320 เบอร์ติดต่อ 075-396300 เว็บไซต์ http://www.bankoh-utt.go.th/index.php?p=1 อ�ำเภอทา่ ศาลา 2.13 โบราณสถานวัดโมคลาน โบราณสถานวดั โมคลาน โบราณสถานวัดโมคลาน ลักษณะเป็นเทวสถานโบราณของศาสนาฮินดูในลัทธิไศวนิกาย มีอายุประมาณพุทธศตวรรษท่ี 12–14 ต่อมาถูกท้ิงร้างไป มีการค้นพบร่องรอยหลักฐานทางโบราณคดี ได้แก่ เนินซากโบราณสถาน โบราณวัตถุจ�ำพวกหลกั หิน สระน้ำ� โบราณเปน็ ส่วนของสถาปัตยกรรมมาแตเ่ ดมิ เช่น ฐานโยนิ เศษภาชนะดนิ เผาฯลฯ แสดงใหเ้ หน็ วา่ โบราณสถานแหง่ นเ้ี ปน็ ชมุ ชนโบราณเกา่ แกท่ มี่ มี ากอ่ นการตง้ั ถน่ิ ฐานของเมอื ง นครศรีธรรมราช โบราณสถานแหง่ น้ีค้นพบครงั้ แรกเมอ่ื ปี พ.ศ. 2477 สภาพทั่วไปในขณะนน้ั ยงั เป็นป่าทบึ ตอ่ มาปี พ.ศ. 2511 โครงการสำ� รวจทางโบราณคดีไทย-องั กฤษ น�ำโดยศาสตราจารย์ ลูฟส์ (H.H.E.Loofs) ไดเ้ ขา้ สำ� รวจพบเสาหนิ เปน็ จ�ำนวนมาก ถกู นำ� มาปกั ไว้เปน็ ระยะห่างเทา่ ๆ กนั หลกั หนิ แนวแรกกบั แนวสดุ ทา้ ยวดั จากทศิ เหนือสุดถึงใต้สุดอยู่หา่ งกันประมาณ 46 เมตร (บ้างกว็ ่าในการคน้ พบครั้งแรกเมือ่ ปี พ.ศ. 2477 แนวหลกั หินอยูห่ า่ ง กนั ประมาณ 400 เมตร) โดยหลักหนิ แนวนอกสุดถกู ทำ� ลายลงจากการบุกรุกจบั จองท่ดี ินทำ� กนิ ของชาวบ้านบริเวณ น้ีปัจจุบันถูกรื้อถอนหมดแล้ว) ร่องรอยหลักฐานอื่น ๆ ที่พบก่อนการขุดแต่งบูรณะโดยกรมศิลปากร มีสภาพเป็น เนินดินปนอิฐขนาดประมาณ 60x90 เมตร ทางด้านทิศตะวันออกของเนินโบราณสถาน มีร่องรอยสระน้�ำ 378 แหนลักวสกตูารรนจคัดรกศารรีธเรรรยี มนรารชู้ ศึกษา
ขนาดใหญ่ 1 สระลกั ษณะเปน็ สถปู ส่เี หลีย่ มผืนผา้ ทอดยาวขนานไปกบั แนวโบราณสถานปัจจบุ นั ตน้ื เขินเกือบไมเ่ ห็น รอ่ งรอย โบราณสถานวดั โมคลานไดถ้ กู ทงิ้ รา้ งไปจนกระทง่ั เมอื่ พ.ศ. 2480 จงึ ไดม้ พี ระภกิ ษเุ ขา้ มาสรา้ งเปน็ สำ� นกั สงฆ์ ต่อมาจึงยกฐานะเป็นวัดดังทกุ วนั นี้ นอกจากหลกั ฐานทางโบราณคดแี ลว้ ยงั มกี ระทคู้ ำ� กลอนทบี่ อกเลา่ กนั มาปากตอ่ ปากหลาย ช่ัวอายคุ นว่า “ตั้งดินต้งั ฟ้าต้งั หญา้ เข็ดมอน โมคลานตง้ั กอ่ น เมอื งคอนต้งั หลงั ” เปน็ การสะทอ้ นใหเ้ หน็ ถึงความเช่อื ของคนทอ้ งถิ่นวา่ สถานที่แห่งนีม้ คี วามเกา่ แกก่ ว่าการตงั้ เมอื งนครศรีธรรมราช ส่ิงที่น่าสนใจ เดิมบริเวณน้ีเป็นศาสนสถานของพราหมณ์ลัทธิไศวนิกาย หลักฐานท่ีพบ ได้แก่ มพี ระพุทธรปู ประทบั ยนื ปางประทานธรรม (ปางวิตรรกะ) ศิลปะผสมผสานระหวา่ งอิทธิพลมอญ (ทวารวด)ี และเขมร ก�ำหนดอายุราวกลางพุทธศตวรรษท่ี 18 - กลางพุทธศตวรรษท่ี 19 อีกองค์เป็นพระพุทธรูปทรงเทริด ปางมารวิชัย อิทธิพลศิลปะเขมรและท้องถ่ิน อายุประมาณพุทธศตวรรษท่ี 18 พระพวยส�ำริด ปางประทานอภัย ศลิ ปะอยธุ ยาตอนปลาย ปัจจุบันประดษิ ฐานอยู่ทว่ี หิ ารโพธิ์ลังกา ดา้ นหนา้ วิหารเขยี น วัดพระมหาธาตวุ รมหาวหิ าร และแนวเสาหนิ แกะสลักกรอบประตูอาคาร ธรณปี ระตู ชน้ิ สว่ นโยนีและศวิ ลึงค์ สระนำ�้ โบราณ แทน่ ต้งั เทวรูป การเดนิ ทาง โดยรถยนต์ รถจกั รยานยนต์ เดนิ ทางโดยทางหลวงหมายเลข 401 สายนครศรี ฯ - ท่าศาลา ประมาณกโิ ลเมตรท่ี 95 ถึงส่แี ยกบ้านหน้าทับเลย้ี วซ้ายสู่สแี่ ยกอนามยั ระยะทาง 3 กิโลเมตร ถงึ ส่ีแยกวดั โหนด - พรหมครี ี ตรงไประยะทางประมาณ 1 กิโลเมตร จะถงึ ชมุ ชนโบราณโมคลานอยทู่ างซ้ายมือ ข้อมูลการติดต่อ หมู่ 12 บา้ นโมคลาน ต.โมคลาน อ.ทา่ ศาลา จ.นครศรีธรรมราช 80160 เบอร์ตดิ ตอ่ 075-356458 เวบ็ ไซต์ http://www.saophao.go.th/index.php 2.14 โบราณสถานตมุ ปัง คนท่ัวไปเรียกสถานที่ แหง่ นว้ี ่า วดั ตมุ ปงั (รา้ ง) ซึง่ สมัยก่อนการขดุ ค้น โดย กรมศลิ ปากร อยา่ งเปน็ ทางการ ไดม้ กี ารสนั นษิ ฐานวา่ สถานที่แห่งนี้ นา่ จะเป็นเทวสถาน เนื่องจากมีการพบ ชนิ้ สว่ นของรปู เคารพทอ่ นลา่ ง และไดม้ กี ารสนั นษิ ฐาน วา่ นา่ จะเป็นพระวษิ ณซุ งึ่ ชาวบ้านเลา่ ว่า สมยั ก่อนได้ มีการขุดพบเทวรูปดังกล่าวและยกขึ้นหลังช้าง ออกจากปา่ แตเ่ กดิ พลดั ตกลงมาทำ� ใหเ้ ทวรปู แยกเปน็ 2 ทอ่ น ชาวบ้านเก็บเฉพาะทอ่ นบนข้นึ ไป ต่อมาในปี พ.ศ. 2545 กรมศลิ ปากร รว่ มกบั มหาวทิ ยาลยั วลยั ลกั ษณ์ มหี นว่ ย ปฏิบัติงานร่วมกันระหว่างส�ำนักงานโบราณคดี และ พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติที่ 11 นครศรีธรรมราช พระตำ� หนกั ประทบั แรมปากพนงั ร่วมกับโครงการอาศรมวัฒนธรรม ในการด�ำเนินการขุดแต่ง/ขุดค้นโบราณสถานตุมปัง เพื่อศึกษาทางโบราณคดี หลกั สูตแรนนวคกราศรรจธี ดัรรกมารราเชรศยี กึ นษราู้ 379
รายละเอยี ดทางกายภาพของแหลง่ ขอบเขตทแี่ ทจ้ รงิ ของโบราณสถาน รวมถงึ การอนรุ กั ษโ์ บราณสถาน ภายหลงั การ ขุดแตง่ ท้งั น้ีผลจากการขดุ แตง่ ทำ� ให้พบเศียรพระพทุ ธรปู สว่ นของท่อนล�ำตัวต้งั แต่คอลงมาถงึ บน้ั เอว และท่อนกร (ซ้าย) ต้ังแต่แขนถึงมือ เม่ือน�ำชิ้นส่วนทั้ง 3 ชิ้น ท่ีได้ขุดพบไปประกอบเข้ากับส่วนท่อนล่างของรูปเคารพท่ีเคยพบ กอ่ นหนา้ น้ี ทำ� ใหท้ ราบวา่ เปน็ รปู เคารพองคเ์ ดยี วกนั และเมอื่ ทำ� การประกอบชน้ิ สว่ นตา่ ง ๆ เขา้ ดว้ ยกนั แลว้ สนั นษิ ฐาน วา่ เปน็ พระโพธสิ ตั วอ์ วโลกเิ ตศวร ดงั นน้ั ขอ้ สนั นษิ ฐานเดมิ เกย่ี วกบั รปู เคารพจากโบราณสถานตมุ ปงั ซงึ่ เคยพบเฉพาะ ช้ินส่วนท่อนล่างแล้วสันนิษฐานว่า เป็นพระวิษณุนั้นอาจมีการเปลี่ยนแปลง โดยผลการสรุปที่แน่นอนนั้น ทางกรม ศลิ ปากรและโครงการอาศรมวฒั นธรรมจะนำ� เสนอใหท้ ราบต่อ สิ่งท่ีน่าสนใจ รูปแบบศิลปะ ภายหลังการขุดแต่ง พบรากฐานของอาคารก่ออิฐจ�ำนวน หลายหลัง โดยอาคารท่ีเห็นในภาพ เป็นอาคารในผังสี่เหลี่ยมผืนผ้าท่ีมีห้องสี่เหลี่ยมจัตุรัสขนาดเล็กอยู่ตรงกลาง โดยรอบอาคารปรากฏหลุมเสา ซ่ึงแสดงให้เห็นว่าอาคารดังกล่าวอาจมีหลังคาเป็นเครื่องไม้ อันท�ำให้นึกถึงอาคาร หลังคาลาดในศิลปะอินเดียใต้และลังกา ประติมานวิทยา มีการค้นพบท่อนล่างของประติมากรรมประทับยืนท่ีนี่ โดยยงั คงเปน็ ท่สี งสัยกนั อยวู่ า่ ประตมิ ากรรมดงั กลา่ วอาจหมายถงึ พระวิษณหุ รือพระโพธสิ ตั วก์ นั แน่ จงึ ยงั ไมแ่ นช่ ดั วา่ โบรารณสถานดงั กลา่ วอาจหมายถงึ เทวาลยั ในลทั ธนิ กิ ายไวษณวะนกิ ายหรอื พทุ ธสถานในพทุ ธศาสนามหายาน ปจั จบุ นั ขอ้ สันนิษฐานไดเ้ ปลีย่ นเปน็ ศาสนาสถานในพทุ ธศาสนานกิ ายมหายาน สง่ิ อ�ำนวยความสะดวก สุขา ปา้ ยสอ่ื ความหมาย ปา้ ยช้ที างเข้าถงึ การเดนิ ทาง เดนิ ทางโดยรถยนต์ จากตวั อ.เมือง จ.นครศรธี รรมราช ไปตามทางหลวง หมายเลข 401 เสน้ ทางสู่ อ�ำเภอทา่ ศาลา ก่อนถงึ ตัวอำ� เภอทา่ ศาลา ประมาณ 2 กิโลเมตร จะพบเสน้ ทางเขา้ ไปยงั มหาวทิ ยาลัยวลัยลกั ษณ์ (ตั้งอยูท่ างซา้ ยมือ) เลีย้ วเขา้ ไปตามถนน ภายในมหาวิทยาลยั มงุ่ หน้าไปสู่ ถนนวลัยตมุ ปัง ซง่ึ เป็นถนนเส้นเดยี วกบั ทต่ี งั้ โรงผลิตนำ�้ ประปาของมหาวทิ ยาลยั ขอ้ มูลการตดิ ตอ่ โบราณสถานตมุ ปัง ตงั้ อยู่ในเขต มหาวทิ ยาลัยวลยั ลกั ษณ์ หมทู่ ่ี 6 ตำ� บล ไทยบรุ ี อ�ำเภอท่าศาลา จังหวัดนครศรธี รรมราช 80160 เบอร์ตดิ ตอ่ 075-356458 อ�ำเภอทุ่งสง 2.15 วดั ก้างปลา มีความอยู่วา่ เม่อื สมยั 800 ปีกอ่ น มเี จ้าหญงิ จากเมืองจนี พระองคห์ นึ่ง หลบหนรี าชภยั จากมองโกล พรอ้ มดว้ ยพระภกิ ษนุ กิ ายมหายาน เดนิ ทางนำ� ทรพั ยส์ นิ มาชว่ ยสรา้ งพระบรมธาตเุ มอื งนคร แตป่ รากฏวา่ เรือส�ำเภาของท่านเข้าคุ้งน้�ำวนท่ีคลองเภาลาย ท�ำให้เรือแตก เจ้าหญิงผู้น้ันติดเกาะกลางคลอง ช่ือว่าเกาะก้างปลา เพราะมีต้นก้างปลาขึ้นชุกชม เจ้าหญิงชาวจีนและคณะได้สร้างพระพิมพ์และพระลากข้ึนส�ำหรับให้สักการบูชา ท�ำให้เป็นนับถือของชาวบ้านเป็นอย่างมาก วัดก้างปลา ได้สร้างข้ึนในสมัยช่วงกรุงรัตนโกสินทร์ โดยตาหม่ืนแก้ว ตาหมน่ื วงั สองขุนนางของพระยานครฯ ท่ถี กู สง่ มาใหเ้ ก็บภาษีทท่ี อ้ งที่ทงุ่ สง (ในสมัยนั้น) ท่านทงั้ สองเห็นพระแมแ่ ก่ ซงึ่ เปน็ รปู แทนของเจา้ หญงิ จากจนี ทมี่ าสรา้ งรปู พระลากไว้ พรอ้ มกบั พระอนั ดบั บรวิ าร (พระศรนี วล พระนวลระหงส,์ พอ่ ท่านภิญโญ พอ่ ท่านสาคร) จงึ ป่าวประกาศใหช้ าวบ้านมารว่ มกนั สรา้ งวัดกา้ งปลาขึ้น เพ่อื เปน็ ท่ีประดิษฐานถาวร ของพระแมแ่ ก่ และเป็นศาสนสถานประจำ� ท้องถิน่ 380 แหนลกัวสกูตารรนจคัดรกศารรีธเรรรยี มนรารชู้ ศกึ ษา
ส�ำหรับวิหารของพระแม่ แก่ (หลวงพ่อแก่) สร้างข้ึนในสมัยของ พระครูวิฑิต ธรรมโสภณ (พระมหาเลยี บ ฐติ ธมฺโม) ได้มาเปน็ เจ้า อาวาสวัดก้างปลา ตงั้ แต่ปี พ.ศ. 2505 และได้เคล่ือน ย้ายรูปพระแก่ท่านได้เจ็บป่วยลงโดยหาสาเหตุไม่ได้ แม้ไปหาหมอที่ไหนก็ไม่พบสาเหตุของอาการป่วย ท่านคิดขึ้นมาได้ว่าน่าจะมาจากการเคลื่อนย้ายรูป พระแกเ่ ปน็ แน่ จงึ ไดบ้ นบานศาลกลา่ วขนึ้ ทา่ นกห็ าย จากอาพาธ และได้ย้ายรูปพระแก่มาไว้ท่ีเดิมและได้ จัดสร้างวิหารข้ึนมาใหม่โดย ประดิษฐานรูปพระแม่ แก่ไวภ้ ายใน สิ่งอ�ำนวยความสะดวก สุขา ป้ายส่ือความหมาย ป้ายช้ีทางเข้าถึง ท่ีจอดรถ ประมาณ 30 คัน วัดกา้ งปลา การเดินทาง จากอ�ำเภอเมืองนครศรีธรรมราช โดยสารรถยนต์ รถจักยานยนต์ ถนนราชดำ� เนิน ถึงสีแ่ ยกหวั ถนนเลย้ี วขวาทางหลวงหมายเลข 403 สูอ่ �ำเภอทงุ่ สง ระยะทาง 69 กิโลเมตร ข้อมูลการติดต่อ ต�ำบลท่ีวัง อ�ำเภอทุ่งสง จังหวัดนครศรีธรรมราช 80110 เบอร์ติดต่อ 075-538344 เว็บไซต์ http://tiwang.go.th/ อ�ำเภอทุ่งใหญ่ 2.16 วดั อาตาปีคีรเี ขต - วดั ถ้ำ� เพดาน (ถ�้ำเพดานนาคราชธาราทอง) วัดอาตาปีครี เี ขต - วดั ถำ�้ เพดาน (ถำ�้ เพดานนาคราชธาราทอง) เมอ่ื ปี พ.ศ. 2518 ไดม้ พี ระธุดงค์มาปกั กลดเพอื่ ปฏิบัติภาวนา เพราะเห็นเป็นทีส่ ปั ปายะ เงยี บสงบ มแี ม่นำ�้ ไหลผ่าน มีหบุ เขาเพิงถ้ำ� สำ� หรบั หลบฝนและเจริญสมาธิภาวนา น�ำโดยพระอาจารย์เจริญ กลุ วัฒโต และพระกรรมฐานอกี หลายรปู จากทท่ี า่ นและหมคู่ ณะไดป้ ระพฤตธิ รรมตามกจิ ของสงฆจ์ นไดร้ บั ความเลอ่ื มใสศรทั ธา หลกั สตู แรนนวคกราศรรจีธดัรรกมารราเชรศยี กึ นษราู้ 381
จากชาวบา้ นอยา่ งมากมาย ท่านได้ปน้ั พระพทุ ธรปู ปางไสยยาสนด์ ้วยฝีมอื ท่านเอง จากความเล่อื มใสของชาวบา้ นจึง ได้นิมนต์ท่านอยู่ต่อและชาวบ้านได้ช่วยกันสร้างกุฏิเพื่อความสะดวกแก่พระสงฆ์สามเณร จากสภาพท่ีวัดมีภูเขาก้ัน เป็นเขตแดนระหว่างจังหวัดกระบ่ีกับจังหวัดนครศรีธรรมราช และมีแม่น้�ำไหลผ่านเช่ือกันว่าแม่น้�ำสายน้ีจะไหลลงสู่ เเม่น�้ำตาปี และภายในถ�้ำด้านบนจะเรียบเหมือนเพดานห้อง ท่านเลยตั้งชื่อวัดว่า “อาตาปีคีรีเขต ถ�้ำเพดาน” หรอื อกี นยั หนงึ่ กห็ มายถงึ “หบุ เขาแหง่ ความเพยี ร” แตช่ าวบา้ นจะรจู้ กั และเรยี กตดิ ปากวา่ “ถำ�้ เพดาน” กนั สว่ นใหญ่ ในปี พ.ศ. 2522 อาจารยเ์ จริญท่านได้จากถ้�ำเพดานเพื่อจาริกออกเผยแพรศ่ าสนาตอ่ ไป ยังความโศกเศรา้ เสยี ใจกบั ชาวบ้านเป็นอย่างย่ิงที่ไม่สามารถนิมนต์ท่านให้อยู่ต่อได้ ยังคงเหลือแต่หลวงตาวิชาญ ท่านก็ได้อยู่เผยแพร่ศาสนา แทนพระอาจารยเ์ จรญิ มาหลายปี ตอ่ มาหลวงตาวิชาญกไ็ ด้อาพาธและมรณภาพยังความโศกเศรา้ แก่พุทธศาสนิกชน อกี คร้งั หลงั จากน้นั ก็มคี รบู าอาจารย์ หลายรุ่นผลัดเปลีย่ นเขา้ มาเผยแผธ่ รรมมะและซอ่ มแซมบำ� รงุ สถานท่ที ั้งอบรม จติ ใจและพฒั นาสถานทใ่ี นชว่ งระยะทม่ี พี ระสายวปิ สั สนากรรมฐาน ไดผ้ ลดั เปลย่ี นเขา้ มาประพฤตปิ ฏบิ ตั ธิ รรม เปน็ ท่ี นา่ อัศจรรยใ์ จหลายคร้ังทพ่ี ระกรรมฐานหลายรปู ไดม้ นี ิมติ เห็นพญานาค ตลอดจนผทู้ ่ีมาปฏบิ ตั ิธรรมก็มีฝนั มีนมิ ิตถึง เทพพญานาคทอี่ ารกั ขาถำ�้ เพดานแหง่ นเี้ หมอื นจะบง่ บอกวา่ สถานทน่ี เี้ ปน็ ทอ่ี ยขู่ องเทพพญานาคทคี่ อยชว่ ยเหลอื พทุ ธ ศาสนามาแต่สมัยพุทธกาล ด้วยเหตุถ้�ำเพดานมีแม่น�้ำสีทองไหลลอดผ่านพื้นถ้�ำและมีเพดานถำ�้ ที่ราบเรียบสวยงาม ด้วยเหตุนี้ พระครวู ินยั ธร เสรมิ มารชโิ ต รักษาการเจ้าอาวาสองคป์ ัจจุบนั จงึ ใหช้ ่ือใหม่ทีส่ อดคลอ้ งและเป็นสริ มิ งคล กับสถานท่ีวา่ “ถ�้ำเพดาน” สิ่งที่น่าสนใจ เป็นศาสนสถานท่ีมีเพดานเป็นถ�้ำ ชาวบ้านเรียกกันว่า วัดถ�้ำเพดาน หรอื เรียกช่อื เตม็ ว่า ถำ้� เพดานนาคราชธาราทอง เป็นถ�้ำหินปูนในเทอื กเขานางนอน มหี นิ งอกหนิ ย้อย ยงั คงสภาพ เดิมของธรรมชาติ มีสภาพรม่ รน่ื น่าพกั ผ่อน และฝกึ สมาธิ สง่ิ อำ� นวยความสะดวก สขุ า ป้ายสื่อความหมาย ทจี่ อดรถประมาณ 40 คัน การเดนิ ทาง จากอำ� เภอเมอื งนครศรธี รรมราช โดยรถยนต์ รถจกั รยานยนต์ ถนนหมายเลข 4015 ถึงโรงพยาบาลพ่อท่านคล้ายเลี้ยวซ้ายถนหมายเลข 4019 สู่อ�ำเภอนาบอน เลี้ยวซ้ายถนนหมายเลข 4014 ไปตำ� บลกรุงหยัน (ระยะทาง 11.5 กิโลเมตร) เลย้ี วขวาถนนหมายเลข 4110 (ระยะทาง 9.1 กโิ ลเมตร) ขอ้ มลู การตดิ ตอ่ ตำ� บล กรงุ หยนั อำ� เภอ ทงุ่ ใหญ่ จงั หวดั นครศรธี รรมราช หมู่ 7 ต.กรงุ หยนั อ.ทงุ่ ใหญ่ จงั หวดั นครศรีธรรมราช 80240 เบอรต์ ิดตอ่ 081-9709719 382 แหนลกัวสกูตารรนจคดั รกศารรีธเรรรยี มนรารชู้ ศกึ ษา
2.17 วดั ประดิษฐาราม (วดั ไสหร้า) วัดประดษิ ฐาราม (วัดไสหรา้ ) ชาวบ้านเรียกท่านว่า “พ่อท่านนวล” เป็นพระสุปฏิปันโนนักปฏิบัติกัมมัฏฐาน ทเ่ี พยี บพรอ้ มดว้ ยจรยิ วตั รอนั งดงาม และเปน็ พระบรสิ ทุ ธสิ งฆท์ ยี่ ดึ หลกั พระธรรมวนิ ยั ตามคำ� สอนในพระพทุ ธศาสนา อย่างเครง่ ครดั ปฏบิ ตั กิ ิจของสงฆ์เป็นกจิ วตั รอยา่ งสม่�ำเสมอ ไมเ่ ว้นแมย้ ามเจ็บไข้ได้ป่วย จนเป็นทเี่ ล่อื งลือและเปน็ ท่ี เคารพศรัทธาเลื่อมใสในหมู่ชาวบ้านญาติโยมแดนปักษ์ใต้เป็นอันมาก พ่อท่านนวล มีนามเดิมว่า นวล เจริญรูป เกดิ เม่อื วันท่ี 13 กรกฎาคม พ.ศ. 2465 ณ บ้านไสหรา้ หมู่ 4 ต�ำบลทุ่งสงั (หมู่ 1 ต.บางรปู ในปจั จุบนั ) อำ� เภอทุง่ ใหญ่ จงั หวดั นครศรธี รรมราช โยมบดิ า-โยมมารดาชอ่ื นายเกลอ่ื น และนม่ิ เจรญิ รปู มพี น่ี อ้ งรว่ มบดิ ามารดาเดยี วกนั ทงั้ หมด 2 คน และมีพน่ี ้องรว่ มบิดาแตต่ า่ งมารดา อกี 4 คน “หลวงพอ่ นวล ปริสุทโธ” มรณภาพ เมื่อปี พ.ศ. 2548 สริ อิ ายุ 83 พรรษา 63 ดำ� รงตำ� แหนง่ เจา้ อาวาส วดั ประดษิ ฐาราม (วดั ไสหรา้ ) บา้ นไสหรา้ ตำ� บลบางรปู อำ� เภอทงุ่ ใหญ่ จงั หวดั นครศรธี รรมราช ทำ� ใหช้ าวอำ� เภอทงุ่ ใหญ่ จงั หวดั นครศรธี รรมราช ตา่ งมคี วามภาคภมู ใิ จเปน็ อยา่ งยง่ิ ทม่ี พี อ่ ทา่ นนวล เปน็ เนอื้ นาบญุ ของชาวเมอื งอยา่ งแทจ้ รงิ ดา้ นวตั ถมุ งคล พอ่ ทา่ นนวล ไดจ้ ดั สรา้ งพระเครอ่ื งวตั ถมุ งคลไวห้ ลายรนุ่ ดว้ ยกนั อาทิ วตั ถมุ งคลรนุ่ ลา่ สดุ สรา้ งปี 2552 ผา่ นพธิ ปี ลกุ เสกสมบรู ณ์ พรอ้ มเปดิ ใหบ้ ชู า กำ� ลงั ไดร้ บั ความนยิ มในหมลู่ กู ศษิ ย์ ลูกหา รูปเหมือนพ่อทา่ นนวล ขนาดบูชาเนือ้ โลหะหนา้ ตกั 5 น้ิว รปู หล่อลอยองค์เบา้ ทุบ และเหรยี ญพ่อทา่ นนวล เจริญโภคทรัพย์ เป็นต้น ชีวิตปฐมวัยและการศึกษาเบื้องต้นของ พ่อท่านนวล ปริสุทโธ วัดไสหร้า ชีวิตในวัยเด็ก พ่อทา่ นนวลเป็นคนชอบสนกุ สนาน แตข่ อี้ าย มคี วามประพฤติเรยี บรอ้ ย สมถะ มีความคดิ รเิ รม่ิ สรา้ งสรรค์ เป็นทร่ี กั ของครอบครัวและเพอ่ื นฝงู เมอ่ื อายุได้ 7 ขวบ ได้เขา้ เรียนหนังสือที่โรงเรยี นวดั มะเฟอื ง ต�ำบลนากะซะ อ�ำเภอฉวาง จงั หวัดนครศรธี รรมราช จนจบชนั้ ประถมศึกษาปีที่ 4 เมอ่ื ปี พ.ศ. 2479 สงิ่ ท่ีนา่ สนใจ พ่อท่านนวล หรอื หลวงพอ่ นวล ปริสทุ โธ ท่านเปน็ พระในพระธรรมวนิ ัย อย่างเครง่ ครดั ปฎิบัตกิ จิ ของสงฆอ์ ยา่ งสม่ำ� เสมอ ไม่เว้นแม้แต่ในยามเจบ็ ไขไ้ ดป้ ่วย จนเป็นทเ่ี คารพนับถอื ศรทั ธาและ เลือ่ งลอื ไปทวั่ ภาคใต้ โดยเฉพาะในเขต จ.นครศรีธรรมราช และพัฒนาชุมชนในด้านตา่ ง ๆ มากมาย รวมถึงการจดั สรา้ งวตั ถมุ งคล เพอื่ ใหศ้ ษิ ยานศุ ษิ ยน์ ำ� ไปบชู าอยา่ งกวา้ งขวาง นบั เปน็ พระเกจอิ าจารยท์ ไี่ ดร้ บั การยอมรบั ในการปลกุ เสก จตคุ ามรามเทพ ที่ผ้คู นจากทว่ั สารทิศในเมอื งไทยเดนิ ทางมากราบไหว้กนั อยู่เปน็ ประจำ� อย่างไมข่ าดสาย หลักสูตแรนนวคกราศรรจีธัดรรกมารราเชรศยี กึ นษราู้ 383
สงิ่ ทอ่ี ำ� นวยความสะดวก สขุ า ปา้ ยสอ่ื ความหมาย ปา้ ยบอกทาง ทจ่ี อดรถประมาณ 40 คนั การเดนิ ทาง จากอำ� เภอเมอื งนครศรธี รรมราช โดยรถยนต์ รถจกั รยานยนต์ ถนนหมายเลข 4016 ถึงเลย้ี วซ้ายสามแยกบ้านตาล ถนนหมายเลข 4015 ถึงวดั ธาตนุ ้อยสถู่ นนหมายเลข 4195 ถึงปอ้ มยามตำ� รวจ อำ� เภอทงุ่ ใหญเ่ ลี้ยวขวาสูถ่ นนหมาย AH2 เลยี้ วซ้ายสถู่ นนเกษมสุข และเลย้ี วขวาสู่ถนน 4110 ระยะทางประมาณ 80.1 กิโลเมตร ขอ้ มลู การตดิ ตอ่ ตำ� บลบางรปู อำ� เภอทงุ่ ใหญ่ จงั หวดั นครศรธี รรมราช 80240 เบอรต์ ดิ ตอ่ 075-344714/075-357800 อำ� เภอร่อนพิบลู ย์ 2.18 วัดรอ่ นนา (พระเเม่เศรษฐ)ี ความศักดิ์สิทธ์ิของแม่เศรษฐี ท�ำให้เกิด ประเพณีอันยิ่งใหญ่เล่าขานสืบทอดกันมา เมื่อครั้งโบราณในงานบุญ ประเพณีลากพระ พระเเม่เศรษฐถี ือเป็นพระลากทข่ี ้นึ ชอ่ื เปน็ การลาก พระบกที่ยังไม่ใช้ล้อเล่ือน ยังใช้แรงมหาชนท่ีเอาศรัทธามาเป็นที่ต้ัง ในวันแรม 1 ค�่ำ ของทกุ ปี ประเพณีลากพระ ถือเป็นบุญประเพณีทยี่ ่งิ ใหญ่ของชาวร่อนพิบูลย์ มีการลากพระจากทุกวัดมารวมกันท่ีอ�ำเภอ โดยเอาพระแมเ่ ศรษฐีเปน็ ประธาน ตลอด 2 วนั 1 คนื จะได้ยนิ เสยี ง ปะทัดดังไม่ขาดสาย สาธุชนขอพรพระแม่ได้ทุกเร่ือง แม้แต่ขอบุตร การเจบ็ ไขไ้ ดป้ ว่ ย ขอหวย ขอพร เพอื่ ความอยเู่ ยน็ เปน็ สขุ ความศกั ดสิ์ ทิ ธิ์ ของพระแม่ดงั ไปทั่วทุกสารทศิ สงิ่ ทน่ี า่ สนใจ วดั รอ่ นนา เปน็ วดั เกา่ แกโ่ บราณ มาตงั้ แตส่ มยั อยธุ ยา มหี ลกั ฐานสำ� คญั ทแ่ี สดงใหเ้ หน็ วา่ วดั รอ่ นนาเปน็ วดั วดั รอ่ นนา (พระเเมเ่ ศรษฐ)ี ท่ีเจริญรุ่งเรืองมาก่อน คือพระพุทธรูปอุ้มบาตรปางพระร่วงเป็นพระคู่ บา้ นคู่เมอื งของชาวรอ่ นพิบูลย์ และมอี งค์พระแม่เศรษฐีอายปุ ระมาณ 700-800 ปี มีต�ำนานการสร้างท่ีนา่ สนใจมาก ท่ีคนในชุมชน และคนต่างจังหวัดมีความศรัทธา เล่ือมใส ขอพรพระแม่ให้ได้สมหวังดังใจ เพื่อความเป็นสุขและสิริ มงคลให้กับตนเอง สิ่งอ�ำนวยความสะดวก สุขา ป้ายส่ือความหมาย ป้ายชที้ างเขา้ ถงึ และท่จี อดรถ 100 คนั การเดนิ ทาง จากอ�ำเภอเมอื งนครศรธี รรมราช โดยรถยนต์ รถจกั รยานยนต์ รถจกั รยาน ถนนราชด�ำเนินถึงสี่แยกหัวถนนเลี้ยวขวาสู่ถนนหมายเลข 403 ถึงส่ีแยกไฟแดงอ�ำเภอร่อนพิบูลย์เลี้ยวขวาสู่ถนน 4018 ประมาณ เกือบ 2 กิโล ใหเ้ ล้ียวซา้ ยเข้าสหู่ ม่บู า้ น รอ่ นนา ขับตรงมาจนสดุ ทางจะพบกบั วดั ต้งั อยู่ ขอ้ มลู การตดิ ตอ่ หมู่ 2 ตำ� บลรอ่ นพบิ ลู ย์ อำ� เภอรอ่ นพบิ ลู ย์ จงั หวดั นครศรธี รรมราช 80130 เบอร์ติดต่อ 075-441967 เว็บไซต์ http://www.ronpibooncity.go.th/home 384 แหนลกัวสกูตารรนจคดั รกศารรธี เรรรียมนรารชู้ ศกึ ษา
อำ� เภอสชิ ล 2.19 วัดเจดียห์ รอื วัดไอ้ไข่ วดั เจดยี ์หรอื วัดไอ้ไข่ วัดเจดีย์หรือวัดไอ้ไข่ ตั้งอยู่ที่ หมู่ 7 ต�ำบลฉลอง อ�ำเภอสิชล จังหวัดนครศรีธรรมราช เคยเปน็ วดั รา้ ง ทเี่ ชอ่ื กนั วา่ สรา้ งมาเปน็ เวลานบั 1000 ปี มเี พยี งเจดยี โ์ บราณเกา่ รกรา้ งอยตู่ รงบรเิ วณทก่ี ำ� ลงั สรา้ งโบสถ์ ในปัจจบุ ัน จนเม่ือประมาณ พ.ศ. 2500 มีการบรู ณะวัดเจดีย์ขน้ึ มาใหม่ มพี ระเขา้ มาอยู่ประจ�ำ เปน็ ทปี่ ฏิบตั ิศาสนกิจ ของชาวบ้านใกล้เคียง และเป็นที่ประดษิ ฐานของ “พอ่ ท่าน” พระพทุ ธรูปเก่าแก่ทอ่ี ยู่มาตง้ั แต่ยังเปน็ วัดรา้ ง ไอไ้ ข่วัดเจดีย์ หรือ ตาไข่วัดเจดยี ์ คอื รปู ไมแ้ กะสลักของเด็กชายอายุประมาณ 9 -10 ขวบ ต้ังอยใู่ นศาลาในวัดเจดีย์ เชือ่ กันว่าเปน็ วิญญาณศกั ด์สิ ิทธ์ิทีส่ ถติ อยู่ ณ วัดแห่งนี้ เป็นท่ีเคารพสกั การะของชาวบ้าน ตง้ั แต่ในละแวกใกล้วัดไปจนถงึ ต่างจงั หวัดในแถบภาคใต้ จากศรัทธาทเี่ ชอ่ื กนั ว่า “ขอไดไ้ หวร้ ับ” โดยเฉพาะโชคลาภ และการค้าขาย ในวัดเจดีย์จึงเต็มไปด้วยส่ิงของที่ผู้เลื่อมใสศรัทธาเอามาแก้บน เช่น รูปไก่ชน ชุดทหาร หนังสต๊ิก ของเลน่ ต่าง ๆ เปน็ ต้น ส่วนบรเิ วณที่ให้จุดประทัดก็มีเศษประทัดกองสงู เป็นเนนิ เขาย่อม ๆ บ่งบอกถงึ แรงศรทั ธาท่ี มีต่อไอ้ไข่ และแสดงถึงผลสัมฤทธิ์จากผู้ท่ีมาขอแล้วได้รับจากไอ้ไข่ ทุกวันผู้คนต่างหลั่งไหลไปขอพรจากไอ้ไข่ เราจะไมไ่ ดย้ นิ เสยี งโฆษณาชกั ชวนใหท้ ำ� บญุ ทกุ คนทมี่ าเพราะความเลอ่ื มใสอยา่ งแทจ้ รงิ ทกุ วนั เสยี งประทดั ดงั จะขนึ้ ตลอดเวลา สว่ นในวนั องั คารและวนั เสารก์ จ็ ะมีกลองยาวแก้บน มาแสดงให้ไอไ้ ข่ดโู ดยประมาณสิบรอบตอ่ วัน สิ่งท่ีน่าสนใจ วัดเจดีย์ เป็นวัดท่ีมีชื่อเสียงของอ�ำเภอสิชล จังหวัดนครศรีธรรมราช โดยมชี ่ือเสยี งโดง่ ดังเกี่ยวกบั “ไอไ้ ข”่ เด็กวัดท่หี ายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย ผู้ท่ีมาเยือนวดั เจดีย์ มักบนบานขานกลา่ ว กบั “ไอไ้ ข”่ ขอใหต้ วั เองสมปรารถนาในสงิ่ หนง่ึ สง่ิ ใด ซงึ่ สว่ นใหญเ่ ชอื่ วา่ “ไอไ้ ข”่ สามารถดลบนั ดาลใหเ้ ปน็ อยา่ งใจนกึ มีผูค้ นเลอ่ื มใสศรทั ธามากมายและมกั ไดต้ ามทีบ่ นบานไว้ จงึ ได้น�ำของแก้บนมาถวาย ซึง่ ของแกบ้ นที่นิยมกนั มาก คือ รูปปั้นไก่ชน เน่ืองจากไอ้ไข่สมยั ทยี่ งั มีชวี ิตชน่ื ชอบไก่ชนเป็นชวี ติ จิตใจ สงิ่ อำ� นวยความสะดวก สขุ า ปา้ ยสอื่ ความหมาย ปา้ ยชที้ างเขา้ ถงึ รา้ นอาหาร รา้ นคา้ ของ เซน่ ไหวแ้ ละเครอ่ื งบูชา และที่จอดรถ 100 คนั การเดินทาง วธิ ีท่ี 1 : เดินทางโดย รถยนต์ จากตวั เมืองนครศรธี รรมราช ใชเ้ ส้นทางนครศรีธรรมราช- สรุ าษฏรธ์ านี ขบั ตรงส่อู ำ� เภอสชิ ล ระยะทางประมาณ 70 กโิ ลเมตร เม่อื เขา้ สู่ตัวอ�ำเภอสิชล จะมปี า้ ยบอกทางเข้า หลักสตู แรนนวคกราศรรจีธัดรรกมารราเชรศียึกนษราู้ 385
วัดเจดยี ์ทางด้านซา้ ยมอื โดยเลย้ี วซ้ายเข้าไปประมาณ 6 กโิ ลเมตร ขับตามเสน้ ทางทมี่ รี ูปปั้นไก่ชน จนไปเจอสามแยก และปา้ ยวัดเจดีย์ เล้ยี วซ้ายไปอีก 500 เมตรก็จะพบวัดเจดยี อ์ ยทู่ างด้านขวามอื วิธที ี่ 2 : เดินทางโดย รถตู้ ขึ้นรถตู้ท่ี บขส. อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช รถนครศรีฯ-สิชล ใหบ้ ริการตั้งแต่ 05.00 - 17.00 น. ค่าใช้จ่าย :รถตู้ ราคา 60 บาท (คา่ ใชจ้ ่ายในการเดนิ ทางมกี ารเปลีย่ นแปลงได้ ขน้ึ อยู่กบั ปัจจยั ต่าง ๆ และสภาวะเศรษฐกิจ) สง่ิ ควรรู้ ของทไี่ อไ้ ขเ่ ดก็ วดั เจดยี ช์ อบ ขนมเปย๊ี ะ นำ�้ แดง ชดุ ทหาร/ตำ� รวจ ไกป่ นู ปน้ั หนงั สตกิ๊ และประทัด การบูชา ไอ้ไข่วัดเจดีย์ ธูป 3 ดอก บูชาบนได้ ไหว้รับ แต่เม่ือส�ำเร็จให้แก้บนด้วยของท่ีน�ำมาบน และจดุ ธูปเพยี ง 1 ดอกเทา่ นน้ั ข้อมูลการติดต่อ หมู่ 7 ต�ำบลฉลอง อ�ำเภอสิชล จังหวัดนครศรีธรรมราช โทร/แฟ็กซ์ 075-378046 Email : [email protected] 2.20 วัดดอนตรอ อ�ำเภอเฉลิมพระเกียรติ หลวงปู่สังข์เป็นพระรูปหนึ่งที่มีพรรษา สงู สุดรูปหน่ึงของเมอื งนคร อายุ 98 ปี มากดว้ ยคณุ งามความ ดีจนเป็นท่ีเคารพนับถือของทุกคนทุกฐานะ ท่านได้น�ำบุตร หลานของชาวบา้ นทวั่ ไปเขา้ สคู่ วามรว่ มเยน็ ภายใตผ้ า้ กาสาวพสั ตร์ นบั หมน่ื คน ในฐานะพระอปุ ชั ฌาย์ ใหก้ ารอบรมสงั่ สอนอบุ าสก อุบาสิกา ให้ยึดม่ันในหลักธรรมของพระพุทธศาสนา ในการ ดำ� รงชวี ติ นบั แสนคน ทง้ั นที้ า่ นไดร้ บั พระราชทานสมณศกั ดเิ์ ปน็ วัดดอนตรอ พระครเู รวตั ศิ ลี คณุ พระครูช้ันโท ในปี พ.ศ. 2526 และพระครชู นั้ เอกในวันที่ 5 ธนั วาคม 2539 ไดร้ บั การยกย่องและ ตงั้ ฉายาวา่ “เทพเจา้ แหง่ ลมุ่ นำ้� ปากพนงั ” ปจั จบุ นั มศี ษิ ยานศุ ษิ ยแ์ ละผเู้ ลอ่ื มใสศรทั ธารวมทงั้ นกั ทอ่ งเทย่ี วชาวมาเลเซยี / สิงค์โปร์เดินทางหลั่งไหลมาสักการะมิขาดสาย อนึ่งในช่วงสงกรานต์ของทุกปี ทางวัดได้จัดให้มีประเพณีสรงน้�ำ รูปเหมอื นพอ่ ทา่ นสังขเ์ ปน็ งานประจ�ำปี ส่ิงท่ีน่าสนใจ หลวงปู่สังข์เป้นพระรูปหนึ่งที่มีพรรษาสูงสุดของจังหวัดนครศรีธรรมราช อายุ 98 ปี รวมพรรษาถึง 81 พรรษา เป็นเจ้าอาวาสมานานถึง 55 ปี มีบุญวาสนาอายุยืนยาวถึง 4 แผ่นดิน และวัดดอนตรอเป็น 1 ใน 32 วดั ในจังหวดั นครศรีธรรมราชท่ีมี “อมตะสังขาร” ใหผ้ คู้ นไดม้ ากราบสักการะ สงิ่ อ�ำนวยความสะดวก สุขา ปา้ ยสอื่ ความหมาย ปา้ ยชท้ี างเขา้ ถงึ และทจี่ อดรถ 50 คัน การเดินทาง จากอ�ำเภอเมอื งนครศรธี รรมราช โดยรถยนต์ รถจกั รยานยนต์ และรถจกั รยาน ถนนราชด�ำเนินถึงสีแยกไฟแดงหัวถนน ตรงไปสถู่ นนหมายเลข 408 ระยะทางประมาณ 28.1 กโิ ลเมตร เลีย้ วซา้ ย ซอย 4013 วดั ดอนตรออยู่ดา้ นขวามือ ข้อมลู การตดิ ตอ่ วดั ดอนตรอ หมู่ 4 ถนนนคร-หัวไทร ตำ� บลดอนตรอ อำ� เภอเฉลมิ พระเกียรติ จังหวัดนครศรีธรรมราช 80190 เบอรต์ ิดต่อ 075-344714 / 075-357800 386 แหนลักวสกตูารรนจคัดรกศารรธี เรรรยี มนรารชู้ ศึกษา
อำ� เภอเชียรใหญ่ 2.21 วัดแมเ่ จ้าอยหู่ วั แมเ่ จา้ อยูห่ ัว แม่เจ้าอยู่หัวคือ พระนางเลือดขาวแห่งเมืองนครศรีธรรมราช มีเรื่องราวสรุปย่อได้ว่า เปน็ บตุ รคี หบดี มอี าชพี คา้ ขาย ณ ชมุ ชนสดุ สายหาดทรายแกว้ นครศรธี รรมราช (สนั ทรายเชยี รใหญ)่ บดิ าเปน็ ชาวพทั ลงุ เชื้อสายลังกา (คุลา) มารดาเป็นชาวบ้านเก่าหรือบ้านฆ็อง (บริเวณท่ีตั้งวัดแม่เจ้าอยู่หัวปัจจุบัน) เกิดเม่ือประมาณ พ.ศ. 1745 ไมป่ รากฏพระนามเดมิ นอกจากบางกระแสเรยี กชอื่ วา่ “กงั หร”ี มพี ่ี 2 คน คอื ทวดชโี ป (มรี ปู ปน้ั ทว่ี ดั พงั ยอม ตำ� บลสวนหลวง อ�ำเภอเฉลมิ พระเกียรติ) และพอ่ ท่านขรัว (มีรูปป้นั ทว่ี ดั บ่อลอ้ ตำ� บลแมเ่ จ้าอยูห่ ัว อ�ำเภอเชียรใหญ)่ พระนางเลอื ดขาวเปน็ คนงามดว้ ยเบญจกลั ยาณี คอื ผมงาม เนอื้ งาม ฟนั งาม ผวิ งาม และวยั งาม มีนิสัยโอบอ้อมอารี เล่ือมใสในพระพุทธศาสนา เป็นที่รักของบุคคลโดยท่ัวไป มีเลือดสีขาวแต่ก�ำเนิดจนเป็นที่รับรู้ เม่ือคราวช่วยงานในหมูบ่ ้าน ทำ� หน้าท่เี จียนหมากพลูจนกรรไกรหนบี น้ิวมีเลือดไหลออกมาปรากฏเปน็ สขี าวตอ่ หนา้ ผคู้ นท่มี าร่วมงาน จนร�ำ่ ลอื ถงึ พระเจา้ ศรธี รรมาโศกราชที่ 5 หรอื พระเจ้าสหี ราช แหง่ นครศรีธรรมราช (ตามพรลิงค์) ณ เมืองพระเวียง จนคราวศกึ เมอื งทะรังหรือเมอื งกนั ตังแข็งขอ้ หลงั ชนะศกึ ชนชา้ ง (ทบี่ า้ นทุง่ ชนในเขตอำ� เภอท่งุ สง ปัจจุบัน) ระหว่างพักแรมกลางทางกลับ พระเจ้าศรีธรรมาโศกราชทรงพระสุบินเห็นสตรีมีลักษณะงดงามตาม เบญจกัลยาณี มีใจกุศล เป็นคู่บุญบารมี พ�ำนักอยู่ทางทิศใต้ตามเส้นทางหาดทรายแก้ว และมีเลือดสีขาว จึงเม่ือเข้าเมืองนครศรีธรรมราช นมัสการพระบรมธาตุแล้วจึงจัดขบวนเสด็จออกค้นหาจนถึงส�ำนักพ่อท่านขรัว ได้พบพระนางเลือดขาวท่ีมารับเสด็จ โดยขณะทอผ้าถวายได้ท�ำตรน (อุปกรณ์ท่ีท�ำจากไม้ไผ่มีความคมมาก) บาดนิ้วเลือดออกเป็นสีขาว จึงขอพระนางไปเป็นพระนางเมือง เม่ือเสด็จกลับแล้วจึงให้พราหมณ์ปุโรหิตจัดขบวน หลวงสู่ขอรับเข้าวัง ปรนนิบัติรับใช้ด้วยความจงรักภักดี ท�ำนุบ�ำรุงพระพุทธศาสนา ท�ำคุณประโยชน์ให้บ้านเมือง มากมาย เปน็ ทรี่ กั ของไพรฟ่ า้ แตถ่ กู กลน่ั แกลง้ กลา่ วหาตา่ ง ๆ นานาจากพระสนมอนื่ พระนางเลอื ดขาวไดร้ บั สถาปนา เป็นแม่เจ้าอยหู่ วั หรอื พระนางเลอื ดขาวอคั รมเหสี จนเป็นทเี่ รียกโดยทั่วไปว่า พระนางเลือดขาวแมเ่ จา้ อย่หู วั หรอื แม่ เจา้ อยูห่ ัวพระนางเลือดขาว พระนางเลือดขาวได้ขอตอ่ พระเจ้าศรธี รรมาโศกราชว่า หากสนิ้ พระชนมล์ งขอใหน้ �ำศพ กลับบ้านเกิด ต่อมาข่าวความเดือดร้อนที่พระนางถูกกล่ันแกล้งทราบถึงพ่อท่านขรัว พ่อท่านขรัวได้เดินทางมาขอ บณิ ฑบาตรบั แมเ่ จา้ อยหู่ วั กลับบ้านเดมิ และทรงอนญุ าตพร้อมท้ังให้สรา้ งวงั ข้นึ ณ รมิ ฝงั่ แม่นำ้� ปากพนงั (บ้านในวัง หลักสูตแรนนวคกราศรรจธี ดัรรกมารราเชรศยี ึกนษราู้ 387
ต�ำบลแมเ่ จา้ อยหู่ ัวปจั จุบนั ) แตก่ ารสรา้ งลา่ ช้าเพราะพระเจ้าศรีธรรมาโศกราชทรงประวิงเวลาไว้ ไมอ่ ยากให้พระนาง กลับบ้านเดิม จนกระทั่งคราวเสด็จไปปฏิบัติพระราชกรณียกิจแทนพระเจ้าศรีธรรมาโศกราชที่เมืองทะรัง (ตรัง) ได้สน้ิ พระชนมร์ ะหว่างทางขณะประทบั แรมด้วยกลด (บ้านควนกลด อ�ำเภอทุ่งสงปจั จุบัน) ในปี พ.ศ. 1814 พระศพ ถกู อัญเชญิ กลบั ส่เู มอื งนครศรีธรรมราช (เมืองพระเวยี ง) ต้งั ณ วัดท้าวโคตร แลว้ จัดขบวนทางนำ้� ตามลำ� คลองท่าเรอื ออกทะเลปากนคร เข้าแม่นำ้� ปากพนงั (ปากพระนาง) มาข้นึ ฝง่ั ทบี่ า้ นหนา้ โกศ จนถึงสำ� นกั พอ่ ทา่ นขรัว (บริเวณวดั บ่อลอ้ ปจั จุบนั ) ถวายพระเพลิงแลว้ นำ� พระอัฐแิ ละพระอังคารประดิษฐานในมณฑปสูง 12 วา มเี จดีย์บรวิ ารโดยรอบ ณ วดั แมเ่ จ้าอยูห่ ัว สง่ิ ทน่ี า่ สนใจ สรา้ งขนึ้ เพอ่ื เปน็ อนสุ รณร์ ำ� ลกึ ถงึ พระมเหสเี อกของพระเจา้ ศรธี รรมโศกราชที่ 5 แม่เจ้าอยู่หัวหรือพระนางเลือดขาวแห่งเมืองนคร พระนางเลือดขาวทรงสร้างและปฏิสังขรณ์วัดต่าง ๆ ไวม้ ากมาย ทง้ั ในเมอื งนครศรธี รรมราช (ตามพรลงิ ค)์ และเมอื งใกลเ้ คยี ง สรา้ งวดั แมเ่ จา้ อยหู่ วั เปน็ วดั แรกเมอื่ ประมาณ พ.ศ. 1775 (พระชนมายุ 30 พรรษา) ประมาณปี พ.ศ. 1790 ไดป้ ฏบิ ตั พิ ระราชกรณยี กจิ แทนพระเจา้ ศรธี รรมาโศกราช เสด็จไปเกาะลังกาเพื่อรับพระพุทธสิหิงค์มายังนครศรีธรรมราช และปี พ.ศ. 1799 ได้เสด็จยังเมืองสุโขทัย เพ่อื จัดระเบียบสงฆฝ์ ่ายฆราวาสประทบั อยู่นาน 5 ปี จงึ เสด็จกลับนครศรีธรรมราช ส่ิงอ�ำนวยความสะดวก สุขา ปา้ ยสื่อความหมาย ปา้ ยชที้ างเขา้ ถึง และท่จี อดรถ 30 คัน การเดินทาง จากอำ� เภอเมืองนครศรธี รรมราช โดยรถยนต์ รถจกั รยานยนต์ และรถจกั รยาน ถนนราชดำ� เนินถงึ สีแยกไฟแดงหวั ถนน ตรงไปสูถ่ นนหมายเลข 408 ระยะทางประมาณ 42.4 กโิ ลเมตร เลย้ี วขวา ถนนหมายเลข 4151 ระยะทาง 2.2 กโิ ลเมตร วัดแมเ่ จ้าอยู่หวั อยู่ดา้ นขวามือ ข้อมูลการติดต่อ ต�ำบลแม่เจ้าอยู่หัว อ�ำเภอเชียรใหญ่ จังหวัดนครศรีธรรมราช 80190 เบอร์ติดต่อ 095-8312467 เวบ็ ไซต์ http://www.maechaoyuhou.go.th/index.php 388 แหนลกัวสกูตารรนจคดั รกศารรธี เรรรยี มนรารชู้ ศึกษา
3. แหลง่ ทอ่ งเทยี่ วกลมุ่ ทะเล ชายหาด แหลง่ ทอ่ งเทยี่ วทางธรรมชาติ (Natural Attraction) หมายถงึ สถานท่ที ่ีเปดิ ใชเ้ พือ่ การทอ่ งเทยี่ ว โดยมที รพั ยากรธรรมชาตเิ ปน็ สงิ่ ดงึ ดดู ใจใหน้ กั ทอ่ งเทย่ี วมาเยอื น ซงึ่ ทรพั ยากรธรรมชาตเิ หลา่ นอ้ี าจจะเปน็ ความงดงาม ตามสภาพธรรมชาติ ความแปลกตาของสภาพธรรมชาติ สัณฐานที่ส�ำคัญทางธรณีวิทยาและภูมิศาสตร์อันเป็น เอกลกั ษณห์ รอื เปน็ สญั ลกั ษณ์ ของทอ้ งถน่ิ นน้ั ๆ เชน่ ภเู ขา นำ�้ ตก ทะเล และชายหาดเปน็ ตน้ ในจงั หวดั นครศรธี รรมราช มแี หล่งทอ่ งเทยี่ วทีม่ ีชอ่ื เสียงเปน็ ที่รูจ้ กั ของคนท่ัวไปดงั นี้ เขาพลายดำ� 3.1 เขาพลายดำ� เขาพลายด�ำ แหล่งท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์แห่งทะเลใต้ เป็นเขาท่ีมีลักษณะเป็นภูเขาท่ีติด ทะเลตรงแนวรอยต่อ เขตอำ� เภอขนอมและอ�ำเภอสิชล อยู่ห่างจากตวั เมือง นครศรธี รรมราช ประมาณ 86 กโิ ลเมตร เป็นทะเลที่มีธรรมชาติที่แสนสงบและมีจุดชมวิวเขาพลายด�ำที่สามารถเห็น อ่าวท้องยาวได้ในมุมกว้าง และยังเป็น แห่งอนุรกั ษถ์ ิ่นท่ีอย่อู าศยั ของสัตว์ ต่าง ๆ อาทิ นกและผีเสอื้ ส่งิ ทน่ี ่าสนใจ มอี ่าวท้องยาง มีภูเขาล้อมรอบ 3 จดุ คอื เขาหลัง เขาหลวง และเขากลาง มีหาดหินงามรางทัดท่เี ต็มไปด้วยโขดหิน รปู รา่ งต่าง ๆ ส่งิ อำ� นวยความสะดวก บ้านพักรบั รอง โฮมสเตย์ สขุ า รา้ นอาหาร ทจ่ี อดรถ 200 คัน ป้ายสอื่ ความหมาย การเดนิ ทาง วธิ ีท่ี 1 : เดินทางโดย รถยนต์ จากตวั เมืองนครศรธี รรมราช ใชเ้ สน้ ทางนครศรีธรรมราช- สรุ าษฏรธ์ านี ขบั ตรงสู่อำ� เภอสิชล ระยะทางประมาณ 70 กโิ ลเมตร เมอื่ ถึงสแ่ี ยกไฟแดงสิชลใหข้ บั ตรงไปประมาณ 3 กิโลเมตรแล้วกลับรถมาประมาณ 500 เมตร เล้ียวซ้ายเข้าสู่เส้นทางไปเขาพลายด�ำ 13 กิโลเมตร ทางเข้า เขาพลายด�ำจะอย่ทู างดา้ นขวามือ วิธที ่ี 2 : เดนิ ทางโดย รถตู้ ขึน้ รถตทู้ ี่ บขส. อ.เมอื ง จ.นครศรธี รรมราช รถนครศรฯี -สิชล ให้บริการตั้งแต่ 05.00 - 17.00 น. ค่าใช้จ่าย ราคารถตู้ 60 บาท (ค่าใช้จ่ายในการเดินทางมีการเปล่ียนแปลงได้ ข้นึ อยกู่ บั ปัจจยั ต่าง ๆ และสภาวะเศรษฐกจิ ) ข้อมูลการติดต่อ ต�ำบลทุ่งใส อ�ำเภอสิชล จังหวัดนครศรีธรรมราช 80340 เบอร์ติดต่อ 075-356253 เวบ็ ไซต์ http://www.nakhonsi.go.th/home อีเมล [email protected] หลักสูตแรนนวคกราศรรจีธดัรรกมารราเชรศยี กึ นษราู้ 389
3.2 อุทยานแหง่ ชาตหิ าดขนอม-หมู่เกาะทะเลใต้ เป็นชายหาดที่มีช่ือเสียงของนครศรีธรรมราช โดดเด่นด้วยหาดทรายท่ีย่ืนยาวออกไป ในทะเลคู่กบั ทวิ สน มหี าดทรายยาวกบั ทวิ มะพร้าว และมีชาดหาดที่มีชอื่ เสยี งของนครศรีธรรมราช มอี ่าวตา่ ง ๆ เช่น อ่าวท้องหยี อา่ วท้องยาง อา่ วคอเขา อ่าวหนา้ ดา่ น อ่าวแฝงเภา อา่ วท้องชิง อา่ วในเพลา ซงึ่ มีชายหาดทีม่ ีทรายขาว สะอาด นำ�้ ทะเลใส เหมาะสำ� หรบั การเลน่ นำ้� ทะเล นอกจากนย้ี งั มสี งิ่ ทโ่ี ดดเดน่ คอื โลมาสชี มพทู พ่ี บไดง้ า่ ย ณ หาดขนอม รวมถึงเกาะนยุ้ นอก เกาะแห่งต�ำนานหลวงปู่ทวดเหยยี บน้�ำทะเลจดื หาดคอเขา สง่ิ ทน่ี ่าสนใจ มีชาดหาดทม่ี ชี อื่ เสยี งของนครศรธี รรมราช ดังนี้ 1) หาดคอเขา (หาดปิต)ิ อยู่ทางตอนเหนือสุดของอา่ วขนอม ตดิ กับเขาคอเขา เป็นหาด ท่ีชาวท้องถ่ินนิยมไปพักผ่อน ชายหาดจะต่อจากหาดหินงาม เน้ือทรายละเอียดมาก น้�ำไม่ลึกมาก เล่นน้�ำได้ ไม่มีอันตรายอะไร บริเวณโดยรอบได้รับการพัฒนาส่ิงอ�ำนวยความสะดวกด้านที่พักและร้านอาหารส�ำหรับบริการ นักท่องเท่ยี ว อย่างไรกต็ าม ปัจจบุ ันบางส่วนถูกจดั เปน็ ทา่ เทยี บเรอื นำ�้ ลึกใช้ขนถ่ายแร่ของเอกชน และเปน็ ที่ตั้งของ ศาลกรมหลวงชมุ พร หาดในเพลา 2) หาดในเพลา เป็นหาดที่มีชื่อเสียงคู่เมืองนครมานาน และเป็นจุดท่ีเด่นท่ีสุดใน การทอ่ งเทยี่ ว ลกั ษณะหาดเปน็ แนวยาวโคง้ ขนานกบั แนวภเู ขาทตี่ อนปลายยนื่ ไปในทะเล ทศั นยี ภาพโดยรอบมคี วาม เป็นธรรมชาติท่ีงดงาม หาดทรายขาวสะอาด ละเอียดเนียนนุ่ม สลับกับหาดหินและโขดหินเป็นช่วง ๆ น้�ำทะเล ใสสะอาดสคี ราม ในอ่าวกว้างเหมาะสำ� หรับเลน่ น้ำ� บรเิ วณหาดจะมที พ่ี ัก ร้านอาหารให้บรกิ ารแก่นักทอ่ งเทย่ี ว 390 แหนลักวสกตูารรนจคัดรกศารรธี เรรรียมนรารชู้ ศกึ ษา
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147
- 148
- 149
- 150
- 151
- 152
- 153
- 154
- 155
- 156
- 157
- 158
- 159
- 160
- 161
- 162
- 163
- 164
- 165
- 166
- 167
- 168
- 169
- 170
- 171
- 172
- 173
- 174
- 175
- 176
- 177
- 178
- 179
- 180
- 181
- 182
- 183
- 184
- 185
- 186
- 187
- 188
- 189
- 190
- 191
- 192
- 193
- 194
- 195
- 196
- 197
- 198
- 199
- 200
- 201
- 202
- 203
- 204
- 205
- 206
- 207
- 208
- 209
- 210
- 211
- 212
- 213
- 214
- 215
- 216
- 217
- 218
- 219
- 220
- 221
- 222
- 223
- 224
- 225
- 226
- 227
- 228
- 229
- 230
- 231
- 232
- 233
- 234
- 235
- 236
- 237
- 238
- 239
- 240
- 241
- 242
- 243
- 244
- 245
- 246
- 247
- 248
- 249
- 250
- 251
- 252
- 253
- 254
- 255
- 256
- 257
- 258
- 259
- 260
- 261
- 262
- 263
- 264
- 265
- 266
- 267
- 268
- 269
- 270
- 271
- 272
- 273
- 274
- 275
- 276
- 277
- 278
- 279
- 280
- 281
- 282
- 283
- 284
- 285
- 286
- 287
- 288
- 289
- 290
- 291
- 292
- 293
- 294
- 295
- 296
- 297
- 298
- 299
- 300
- 301
- 302
- 303
- 304
- 305
- 306
- 307
- 308
- 309
- 310
- 311
- 312
- 313
- 314
- 315
- 316
- 317
- 318
- 319
- 320
- 321
- 322
- 323
- 324
- 325
- 326
- 327
- 328
- 329
- 330
- 331
- 332
- 333
- 334
- 335
- 336
- 337
- 338
- 339
- 340
- 341
- 342
- 343
- 344
- 345
- 346
- 347
- 348
- 349
- 350
- 351
- 352
- 353
- 354
- 355
- 356
- 357
- 358
- 359
- 360
- 361
- 362
- 363
- 364
- 365
- 366
- 367
- 368
- 369
- 370
- 371
- 372
- 373
- 374
- 375
- 376
- 377
- 378
- 379
- 380
- 381
- 382
- 383
- 384
- 385
- 386
- 387
- 388
- 389
- 390
- 391
- 392
- 393
- 394
- 395
- 396
- 397
- 398
- 399
- 400
- 401
- 402
- 403
- 404
- 405
- 406
- 407
- 408
- 409
- 410
- 411
- 412
- 413
- 414
- 415
- 416
- 417
- 418
- 419
- 420
- 421
- 422
- 423
- 424
- 425
- 426
- 427
- 428
- 429
- 430
- 431
- 432
- 433
- 434
- 435
- 436
- 437
- 438
- 439
- 440
- 441
- 442
- 443
- 444
- 445
- 446
- 447
- 448
- 449
- 450
- 451
- 452
- 453
- 454
- 455
- 456
- 457
- 458
- 459
- 460
- 461
- 462
- 463
- 464
- 465
- 466
- 467
- 468
- 469
- 470
- 471
- 472
- 473
- 474
- 475
- 476
- 477
- 478
- 479
- 480
- 481
- 482
- 483
- 484
- 485
- 486
- 487
- 488
- 489
- 490
- 491
- 492
- 493
- 494
- 495
- 496
- 497
- 498
- 499
- 500
- 501
- 502
- 503
- 504
- 505
- 506
- 507
- 508
- 1 - 50
- 51 - 100
- 101 - 150
- 151 - 200
- 201 - 250
- 251 - 300
- 301 - 350
- 351 - 400
- 401 - 450
- 451 - 500
- 501 - 508
Pages: