หลักสูตรวิทยาศาตร์เเละเทคโนโลยี-64

ที่ ชือ่ หน่วย มาตรฐานการเรียนร้/ู สาระสาคญั เวลา นา้ หนกั การเรียนรู้ ตัวชวี้ ัด (ชว่ั โมง) คะแนน (100) 5 การสร้าง เพ่อื ให้นกั เรยี นมี - การสร้างฐานขอ้ มูล MySQL 8 ฐานข้อมูล ความรแู้ ละความ - การตง้ั คา่ ภาษาไทย เรยี นรู้ 10 MySQL เข้าใจเกย่ี วกับคาสั่งใน ภาษา SQL การเขยี นโปรแกรม 6 10 ภาษา PHP เพอื่ จดั การข้อมูล และทาการ 6 10 ติดต่อกับฐานข้อมลู ได้ - 50 6 การเขยี น เพอื่ ให้นกั เรียนมี - การสร้างฐานข้อมลู - 20 โปรแกรม ความรแู้ ละความ - การเพม่ิ ขอ้ มลู ข้อมูลจาก - 30 ฐานขอ้ มูล เขา้ ใจเกี่ยวกับคาสัง่ ใน ฐานข้อมลู 40 100 MySQL การเขยี นโปรแกรม - การลบขอ้ มลู ข้อมูลจาก ภาษา PHP เพื่อจัด ฐานข้อมลู การข้อมลู และทาการ - การแกไ้ ขข้อมูลข้อมูลจาก ตดิ ต่อกับฐานขอ้ มูลได้ ฐานขอ้ มลู - การคน้ หาข้อมูลข้อมูลจาก ฐานขอ้ มลู 7 การนาเสนอ -เพ่อื ใหน้ ักเรียน - การขอพืน้ ทีจ่ ดั เก็บข้อมูล ผลงาน สามารถคน้ ควา้ ฝึก - การอพั โหลดผลงาน ปฏบิ ัติงานการพฒั นา - การนาเสนอผลงาน โปรแกรมบนเว็บดว้ ย โปรแกรมภาษา PHP ไดจ้ ากสถานการณ์จริง -เพือ่ ให้นักเรยี นมี ความตระหนักรู้ในการ ใชง้ านคอมพวิ เตอร์ และสามารถนาไป ประยกุ ต์ใชง้ าน รวมคะแนนระหว่างเรียน สอบกลางภาค สอบปลายภาค รวม หลกั สตู รกลมุ่ สาระการเรยี นรู้วทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี พทุ ธศักราช 2564 398

คาอธิบายรายวชิ า รายวชิ า ส่อื มัลติมีเดียเพื่อการศกึ ษา 1 รหสั วชิ า ว30286 จานวน 2 ชว่ั โมง/สปั ดาห์ ระดับชั้นมธั ยมศกึ ษาปีท่ี 5 จานวน 1.0 หน่วยกิต จานวนเวลาเรยี นท้งั สน้ิ 40 ชวั่ โมง : ภาคเรียน ศึกษาและปฏิบตั เิ กยี่ วกับงานจติ รกรรมดิจิทัลและกราฟิก เข้าใจหลักการทางานเบื้องต้นของ โปรแกรมกราฟิก โดยสามารถใช้งานโปรแกรมทางด้านกราฟิกเบื้องต้น ร่วมกับอุปกรณ์ดิจิทัลต่างๆ ศึกษา และปฏิบัติคาส่ังฟิลเตอร์ท่ีใช้ในการปรับแต่งภาพ สร้างและปรับแต่งชิ้นงานในลักษณะของการ ออกแบบ การตัดต่อ การรีทัชภาพ การสร้างภาพแนวจิตรกรรม และประยุกต์ใช้งานโดยการสร้าง ภาพจิตรกรรมอิเล็กทรอนิกสส์ าหรบั ใชใ้ นงานต่าง ๆ ไดอ้ ย่างเหมาะสมกับงานได้ เพ่ือให้มีความรู้ความเข้าใจในงานจิตรกรรมดิจิทัลและกราฟิก เข้าใจหลักการทางาน เบื้องต้นของโปรแกรมกราฟิก โดยสามารถใช้งานโปรแกรมทางด้านกราฟิกเบื้องต้น ร่วมกับอุปกรณ์ ดิจิทัลต่างๆ ศึกษาและปฏิบัติคาสั่งฟิลเตอร์ที่ใช้ในการปรับแต่งภาพ สร้างและปรับแต่งชิ้นงานใน ลักษณะของการออกแบบ การตัดต่อ การรีทัชภาพ การสร้างภาพแนวจิตรกรรม และประยุกต์ใช้ งานโดยการสรา้ งภาพจติ รกรรมอิเล็กทรอนกิ ส์สาหรบั ใช้ในงานตา่ งๆ ไดอ้ ย่างเหมาะสมกบั งาน โดยใช้ คอมพิวเตอรช์ ว่ ยสรา้ งชิ้นงาน ผลการเรยี นรู้ 1. มีความรพู้ ืน้ ฐานและมีความเขา้ ใจในงานจติ รกรรมดิจิทัลและกราฟกิ 2. มีความรูพ้ น้ื ฐาน และมคี วามเข้าใจในการทางานเบ้ืองต้นของโปรแกรมกราฟกิ 3. สามารถใช้งานโปรแกรมทางด้านกราฟิกได้อยา่ งถูกต้อง 4. สามารถใช้งานโปรแกรมทางดา้ นกราฟิกรว่ มกับอปุ กรณ์ดจิ ิทลั อ่นื ๆ ได้ 5. สามารถใชฟ้ ลิ เตอรใ์ นการปรบั แต่งภาพด้วยโปรแกรมทางด้านกราฟิกได้อยา่ งเหมาะสม 6. สามารถสรา้ งและปรบั แต่งชน้ิ งานในลักษณะของการออกแบบโดยใชโ้ ปรแกรมดา้ น กราฟิกได้อยา่ งเหมาะสม ถูกต้องตามขัน้ ตอน 7. สามารถสรา้ งและปรับแตง่ ชนิ้ งานในลักษณะของการตัดตอ่ โดยใชโ้ ปรแกรมด้านกราฟกิ ไดอ้ ย่างเหมาะสมถูกต้องตามขน้ั ตอน 8. สามารถสร้างและปรับแต่งชิ้นงานในลกั ษณะของการรีทัชภาพโดยใช้โปรแกรมด้าน กราฟิกได้อย่างเหมาะสมถกู ต้องตามข้ันตอน 9. สามารถสรา้ งภาพแนวจติ รกรรมได้อยา่ งเหมาะสม ถกู ต้องตามขั้นตอน 10. สามารถสรา้ งภาพแนวกราฟกิ ในรูปแบบ และเทคนิค ท่ีแตกต่างกันได้อย่างเหมาะสม ถกู ต้องตามขั้นตอน 11. สามารถประยุกต์ใชง้ านโดยการสร้างภาพจติ รกรรมอิเลก็ ทรอนิกส์สาหรบั ใชใ้ นงาน ตา่ ง ๆ ได้ รวมท้ังหมด 11 ผลการเรยี นรู้ หลักสูตรกลมุ่ สาระการเรยี นรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี พุทธศักราช 2564 399

โครงสรา้ งรายวชิ า รายวชิ า ส่ือมลั ตมิ เี ดยี เพื่อการศึกษา 1 รหสั วชิ า ว30286 จานวน 2 ชว่ั โมง/สัปดาห์ ระดับชนั้ มธั ยมศกึ ษาปที ี่ 5 จานวน 1.0 หน่วยกิต จานวนเวลาเรยี นทัง้ สน้ิ 40 ช่ัวโมง : ภาคเรียน สัดส่วนคะแนน ระหวา่ งภาค : ปลายภาค = 70 : 30 ที่ ชือ่ หน่วย มาตรฐานการเรยี นร/ู้ สาระสาคัญ เวลา น้าหนกั การเรยี นรู้ ตัวชีว้ ัด (ช่ัวโมง) คะแนน (100) 1 กราฟิกใน 1. มคี วามร้พู น้ื ฐานและ กราฟิกท่ีพบในชวี ิตประจาวัน 10 ชวี ิตประจา 10 15 วนั มคี วามเข้าใจในงาน บทบาทของคอมพวิ เตอร์กราฟกิ 10 15 จติ รกรรมดจิ ทิ ลั และ บทบาทด้านบันเทิง บทบาทด้าน 10 กราฟิก การประชาสัมพันธ์ ดา้ น 2. มีความรูพ้ น้ื ฐาน การศกึ ษา ดา้ นธรุ กจิ และด้าน และมคี วามเขา้ ใจใน อื่นๆ การทางานเบ้ืองตน้ ของ โปรแกรมกราฟกิ 2 การใช้งาน 1. สามารถใชง้ าน การใชง้ านโปรแกรมมลั ตมิ เี ดีย โปรแกรม มลั ตมิ เี ดีย โปรแกรมทางด้าน ดา้ นกราฟิก เร่มิ ตน้ ใช้งาน ด้านกราฟิก กราฟิกได้อยา่ งถกู ต้อง โปรแกรม Photoshopและ 3 เครือ่ งมอื ต่างๆ ใน 2. สามารถใช้งาน ส่วนประกอบต่าง ๆ ของ toolbox และหนา้ ที่ โปรแกรมทางด้าน โปรแกรม Photoshop ในการ ทางาน กราฟิกรว่ มกับอปุ กรณ์ ดจิ ทิ ัลอ่ืนๆ ได้ 1. สามารถใชฟ้ ิลเตอร์ เคร่ืองมอื ตา่ ง ๆ ใน Toolbox ในการปรับแต่งภาพ และหน้าที่ในการทางาน ชดุ ด้วยโปรแกรมทางด้าน เครือ่ งมอื สาหรับการรีทชั ภาพ ชุด กราฟิกได้อยา่ ง เครือ่ งมอื สาหรบั วาดภาพและ เหมาะสม สรา้ งตัวอักษร เครอ่ื งมือและ 2. สามารถสร้างและ คาสั่งพน้ื ฐานก่อนเริม่ ทางาน ปรับแตง่ ชิ้นงานใน ลกั ษณะของการ ออกแบบโดยใช้ โปรแกรมดา้ นกราฟิก ไดอ้ ยา่ งเหมาะสม ถูกต้อง หลักสตู รกลมุ่ สาระการเรยี นรู้วทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี พุทธศักราช 2564 400

ที่ ชอื่ หน่วย มาตรฐานการเรยี นร/ู้ สาระสาคัญ เวลา นา้ หนกั การเรียนรู้ ตัวชวี้ ดั (ช่ัวโมง) คะแนน (100) 4 การสร้าง 1. สามารถสรา้ งและ การสรา้ งงานดว้ ยโปรแกรม 10 งานด้วย ปรับแตง่ ชิน้ งานใน Photoshop 10 โปรแกรม ลักษณะของการตดั ต่อ Photoshop โดยใชโ้ ปรแกรมดา้ น - 50 กราฟิกได้อย่าง - 20 เหมาะสมถกู ต้องตาม - 30 ขั้นตอน 40 100 2. สามารถสรา้ งและ ปรบั แต่งชิ้นงานใน ลักษณะของการรีทัช ภาพโดยใช้โปรแกรม ดา้ นกราฟิกไดอ้ ย่าง เหมาะสมถกู ต้องตาม ขั้นตอน 3. สามารถสร้างภาพ แนวจิตรกรรมได้อยา่ ง เหมาะสม ถูกต้องตาม ข้ันตอน 4. สามารถสรา้ งภาพ แนวกราฟิกในรปู แบบ และเทคนิค ท่ีแตกต่าง อย่างเหมาะสมถกู ต้อง ตามขัน้ ตอน 5. สามารถประยุกต์ใช้ งานโดยการสร้าง ภาพจติ รกรรม อิเล็กทรอนกิ ส์สาหรบั ใชใ้ นงานต่างๆได้ รวมคะแนนระหว่างเรียน สอบกลางภาค สอบปลายภาค รวม หลักสตู รกลุ่มสาระการเรยี นรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี พทุ ธศกั ราช 2564 401

คาอธิบายรายวิชา รายวิชา สื่อมลั ตมิ เี ดยี เพื่อการศกึ ษา 2 รหสั วชิ า ว30287 จานวน 2 ชว่ั โมง/สปั ดาห์ ระดบั ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปที ี่ 5 จานวน 1.0 หน่วยกิต จานวนเวลาเรยี นทง้ั สิ้น 40 ชว่ั โมง : ภาคเรยี น ศึกษาความหมายของคอมพิวเตอร์และมัลติมีเดีย ระบบคอมพิวเตอร์สาหรับงาน ประมวลผลแบบมัลติมีเดีย อุปกรณ์แสดงผลกราฟิก การแสดงผลด้วยภาพ วีดิโอ เสียง อุปกรณ์ ประกอบ เช่น เคร่ืองขับแผ่นบันทึก ซีดี การ์ดประมวลผลเสียง วีดิโอ สแกนเนอร์ เคร่ืองพิมพ์สี ฯลฯ เทคโนโลยีท่ีเก่ียวข้องกับงานคอมพิวเตอร์มัลติมีเดีย การเก็บรวบรวมข้อมูลแบบมัลติมีเดีย ศึกษารูปแบบ ลักษณะและองค์ประกอบของสื่อมัลติมีเดีย ประเภทและการใช้งานของสื่อมัลติมีเดีย ความรู้เบ้ืองต้นในการผลิตสื่อภาพ เสียง ภาพเคลื่อนไหวและวีดีโอในระบบดิจิทัล เทคโนโลยีท่ีใช้ใน การผลิตส่ือมัลติมีเดีย การใช้โปรแกรมสาเร็จรูปด้านสื่อมัลติมีเดีย การผลิตส่ือมัลติมีเดียจาก โปรแกรมต่าง ๆ ปฏิบตั ิการสรา้ งภาพโดยใช้คาส่งั พนื้ ฐานจากโปรแกรมกราฟกิ การถา่ ยภาพ การตัดต่อคลิป เสียง และการตัดต่อวีดิโอ การนาเสนองานมัลติมีเดีย โดยเลือกใช้โปรแกรมสาเร็จรูปในการสร้าง งานมลั ตมิ เี ดยี ให้เหมาะสมกับลักษณะงาน เพื่อให้มีความรู้ความเข้าใจทักษะเบ้ืองต้นเกี่ยวกับการสร้างภาพเบ้ืองต้นและสร้างแนวคิด เกย่ี วกับงานกราฟิก และการนาเสนองานดว้ ยคอมพิวเตอรร์ ูปแบบมลั ตมิ เี ดียได้ ผลการเรียนรู้ 1. อธบิ ายความหมายและลกั ษณะองค์ประกอบของสอื่ มลั ติมีเดียได้ 2. สามารถจาแนกประเภทและการใช้งานของสือ่ มลั ติมเี ดียเบื้องต้นในการผลติ สื่อภาพ เสยี งภาพเคล่ือนไหว และวีดิโอ ในระบบดจิ ิทัลได้ 3. สามารถปฏิบัตงิ านจากโปรแกรมสาเรจ็ รปู ดา้ นสอ่ื มัลติมีเดยี ได้ 4. อธบิ ายเกี่ยวกับ e-book และการสรา้ งหนังสืออเิ ลก็ ทรอนิกส์ได้ 5. อธิบายหลักการใชง้ านโปรแกรมท่ีใช้สาหรบั สร้าง e-book ได้ 6. ประยุกต์ใชโ้ ปรแกรมแบบมลั ติมเี ดยี ในด้านการศึกษาได้ รวมท้ังหมด 6 ผลการเรียนรู้ หลกั สตู รกลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี พทุ ธศกั ราช 2564 402

โครงสรา้ งรายวชิ า รายวชิ า สอ่ื มัลตมิ ีเดียเพื่อการศึกษา 2 รหสั วชิ า ว30287 จานวน 2 ชวั่ โมง/สัปดาห์ ระดบั ช้ันมัธยมศกึ ษาปที ่ี 5 จานวน 1.0 หนว่ ยกติ จานวนเวลาเรยี นทัง้ ส้ิน 40 ชวั่ โมง : ภาคเรียน สดั ส่วนคะแนน ระหว่างภาค : ปลายภาค = 70 : 30 ท่ี ชอ่ื หน่วย มาตรฐานการเรยี นร/ู้ สาระสาคัญ เวลา น้าหนัก การเรยี นรู้ ตวั ช้ีวดั (ชว่ั โมง) คะแนน (100) 1 สือ่ - อธิบายความหมาย พ้นื ฐานและความร้เู บอ้ื งตน้ เก่ียว 10 มลั ตมิ เี ดีย 15 เบ้อื งตน้ และลักษณะ สอื่ มลั ตมิ ีเดยี องค์ประกอบของสื่อ มัลติมเี ดียได้ - สามารถจาแนก ประเภทและการใชง้ าน ของส่ือมัลตมิ เี ดีย เบ้ืองต้นในการผลติ ส่ือ ภาพ เสียง ภาพ- เคล่ือนไหว และวดี โิ อ ในระบบดจิ ทิ ัลได้ 2 พ้ืนฐานการ - สามารถปฏิบตั ิงาน เครือ่ งมือที่ใชใ้ นการออกแบบ 10 15 สรา้ งสื่อ จากโปรแกรมสาเร็จรปู และสรา้ ง E-book มลั ติมีเดีย ดา้ นสื่อมลั ติมีเดียได้ 3 การสร้าง - อธิบายเกย่ี วกบั การจัดตกแตง่ E-book ดว้ ย 10 10 และ e-book และการสรา้ ง รปู แบบตา่ งๆ ปรับแตง่ หนังสอื อเิ ล็กทรอนิกส์ หนงั สือ ได้ อเิ ล็กทรอ- - อธิบายหลักการใช้ นกิ ส์ ง า น โ ป ร แ ก ร ม ที่ ใ ช้ สาหรับสร้าง e-book หลกั สูตรกลุ่มสาระการเรียนรู้วทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี พุทธศักราช 2564 403

ท่ี ชือ่ หน่วย มาตรฐานการเรียนรู/้ สาระสาคัญ เวลา น้าหนัก การเรียนรู้ ตวั ชี้วัด (ช่ัวโมง) คะแนน (100) 4 การเตรียม - ประยุกต์ใชโ้ ปรแกรม การบนั ทึกและการนาเสนองาน 10 นาเสนอ แบบมัลติมีเดียในดา้ น 10 ผลงาน การศกึ ษาได้ - 50 รวมคะแนนระหวา่ งเรยี น - 20 สอบกลางภาค - 30 40 100 สอบปลายภาค รวม หลักสตู รกลุ่มสาระการเรียนรู้วทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี พทุ ธศักราช 2564 404

รายวิชา โปรแกรมเบื้องตน้ คาอธิบายรายวชิ า จานวน 2 ชว่ั โมง/สัปดาห์ รหสั วชิ า ว30288 จานวน 1.0 หน่วยกติ ระดับช้นั มธั ยมศึกษาปีที่ 6 จานวนเวลาเรยี นท้ังสน้ิ 40 ช่วั โมง : ภาคเรียน ศึกษา อธบิ ายศึกษาความรู้เบอ้ื งต้นเกยี่ วกับโปรแกรม Visual Basic 6.0 โดยการใชง้ านโปรแกรม Visual Basic 6.0 เคร่อื งมอื ท่ีใช้ในการสรา้ งและเครื่องมือออกแบบ ปรับปรุง เคร่ืองมือควบคุม เคร่ืองมือมุมมอง เคร่ืองมือมาตรฐาน คีย์ลัดท่ีใช้ในการใช้งาน Visual Basic 6.0 คาส่งั ปกติ แถบหนา้ ตา่ ง เพื่อให้มีความรู้ความเข้าใจและมีทักษะเก่ียวกับ Visual Basic 6.0 สามารถออกแบบสร้าง และใช้ Visual Basic 6.0 ในการออกแบบได้ดีและสวยงามตามความต้องการ มีเจตคติท่ีดีและเห็น คุณค่าของการใช้กระบวนการเทคโนโลยีสารสนเทศสืบค้นข้อมูล เรียนรู้ ติดต่อส่ือสาร แก้ปัญหา และทางานอยา่ งมปี ระสทิ ธิภาพ ประสทิ ธผิ ล และมคี ณุ ธรรม ผลการเรยี นรู้ 1. นักเรียนมคี วามรู้ความเข้าใจเกย่ี วกบั ประวตั ิความเป็นมาของภาษา Visual Basic 2. นักเรยี นอธบิ ายขัน้ ตอนการเข้าสโู่ ปรแกรม Visual Basic และ สามารถเข้าส่โู ปรแกรม Visual Basic ได้ 3. นกั เรยี นมคี วามรู้ความเขา้ ใจเกี่ยวกบั ส่วนประกอบของโปรแกรมและมีความรู้ความ เขา้ ใจเกยี่ วกับ Tool bar และ Tool box 4. อธบิ ายส่วนประกอบของโปรแกรม Visual Basic และ สามารถใช้งาน Control ต่างๆ 5. นักเรียนมคี วามรู้ความเข้าใจเกีย่ วกบั การจัดการฟอรม์ และโปรเจก็ ต์ 6. นักเรียนอธิบายข้ันตอนการสรา้ งฟอร์มและนักเรียนสามารถฝึกปฏบิ ัตกิ ารสร้างฟอร์ม เขา้ ส่รู ะบบ ได้ 7. นักเรยี นมีความรู้ความเขา้ ใจเกีย่ วกบั การใช้คอนโทรลตา่ งๆและมีความรคู้ วามเขา้ ใจ เก่ยี วกบั Properties ของแต่ละ Object 8. นักเรียนอธิบายขั้นตอนการใช้คอนโทรลต่างๆและสามารถใชง้ านคอนโทรลตา่ งๆ และ กาหนดProperties ได้ 9. นกั เรียนสามารถฝึกปฏบิ ตั ิการสร้างออกแบบฟอร์มตวั แปรและคา่ คงท่ีได้ 10. นักเรยี นอธบิ ายขน้ั ตอนการประกาศใช้ตัวแปรและสามารถประกาศตัวแปรสาหรับเขยี น โปรแกรมได้ 11. นักเรยี นสามารถฝึกปฏบิ ตั แิ ละเขยี นโปรแกรมคานวณหาพ้ืนท่ีของรปู เรขาคณิตได้ 12. นักเรยี นมคี วามรู้ความเข้าใจเก่ียวกบั ข้ันตอนการพฒั นาโปรแกรม 13. นักเรยี นมีความรู้ความเขา้ ใจเก่ยี วกับการเขยี นโปรแกรมและอธิบายข้ันตอนการเขียน โปรแกรมได้ หลักสูตรกลุ่มสาระการเรียนรู้วทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี พุทธศักราช 2564 405

14. นกั เรียนสามารถกาหนดคุณสมบัติใหก้ ับคอนโทรลและสามารถฝกึ ปฏิบัตแิ ละเขยี น โปรแกรมได้ 15. นักเรยี นมคี วามรู้ความเข้าใจเกีย่ วกบั การใช้ฟังกช์ ัน ฟังก์ชนั ประเภทต่างๆและอธบิ าย ขัน้ ตอนการใช้ฟงั กช์ ันได้ 16. นกั เรยี นสามารถนาฟงั ก์ชันมาประยกุ ต์ใช้ในการเขียนโปรแกรมได้ 17. นกั เรียนสามารถฝึกปฏิบตั ิการเขยี นโปรแกรมคานวณและมีความรูค้ วามเขา้ ใจเก่ียวกบั การสรา้ งเมนู 18. นกั เรยี นอธิบายขั้นตอนการสรา้ งเมนแู ละนักเรียนสามารถสรา้ งเมนูโปรแกรมได้ 19. นกั เรียนสามารถฝึกปฏบิ ตั กิ ารเขยี นโปรแกรมให้กบั เมนูคาสัง่ ได้ 20. นกั เรยี นมีความรคู้ วามเข้าใจเก่ยี วกบั การทาโครงงานคอมพวิ เตอร์ รวมทั้งหมด 20 ผลการเรยี นรู้ หลกั สตู รกลมุ่ สาระการเรยี นรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี พทุ ธศกั ราช 2564 406

โครงสร้างรายวชิ า รายวิชา โปรแกรมเบื้องตน้ รหัสวชิ า ว30288 จานวน 2 ช่ัวโมง/สปั ดาห์ ระดบั ชัน้ มัธยมศึกษาปีที่ 6 จานวน 1.0 หน่วยกติ จานวนเวลาเรยี นทั้งส้นิ 40 ชว่ั โมง : ภาคเรยี น สัดสว่ นคะแนน ระหว่างภาค : ปลายภาค = 70 : 30 ที่ ชอ่ื หน่วย มาตรฐานการเรยี นรู/้ สาระสาคัญ เวลา น้าหนกั การเรียนรู้ ตัวช้ีวัด (ช่วั โมง) คะแนน (100) 1 แนะนา 1. นักเรียนมีความรู้ ประวัตคิ วามเป็นมาของภาษา 5 5 โปรแกรม ความเข้าใจเกย่ี วกับ Visual Basic และขน้ั ตอนการเข้า Visual ประวตั ิความเปน็ มา สู่โปรแกรม Visual Basic Basic ของภาษา Visual Basic 2. นักเรยี นอธิบาย ขัน้ ตอนการเข้าสู่ โปรแกรม Visual Basic และ สามารถ เข้าสู่โปรแกรม Visual Basic ได้ 2 สว่ นประกอ 3. นักเรยี นมคี วามรู้ มคี วามรู้ความเข้าใจเก่ยี วกบั 55 บโปรแกรม ความเข้าใจเกยี่ วกบั ส่วนประกอบของโปรแกรมและ Visual สว่ นประกอบของ ความรคู้ วามเข้าใจเกี่ยวกับ Basic โปรแกรมและมคี วามรู้ Tool bar, Tool box และ ความเขา้ ใจเก่ียวกับ สามารถใช้งาน Control ตา่ งๆ Tool bar และ Tool box 4. อธิบาย สว่ นประกอบของ โปรแกรม Visual Basic และ สามารถใช้ งาน Control ตา่ ง ๆ ได้ หลักสูตรกลุ่มสาระการเรียนรู้วทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี พุทธศักราช 2564 407

ท่ี ชือ่ หน่วย มาตรฐานการเรยี นร/ู้ สาระสาคัญ เวลา นา้ หนกั การเรยี นรู้ ตัวชวี้ ดั (ชัว่ โมง) คะแนน (100) 3 การจัดการ 5. นักเรียนมคี วามรู้ การจดั การฟอร์มและโปรเจก็ ต์ 5 5 กับโปรเจก็ ต์ ความเข้าใจเกย่ี วกบั การจดั การฟอร์มและ โปรเจ็กต์ 4 การ 6. นกั เรยี นอธบิ าย ข้นั ตอนการสร้างฟอรม์ ความรู้ 5 10 ออกแบบ ขนั้ ตอนการสรา้ ง ความเขา้ ใจเกี่ยวกับการใช้ หน้าจอ ฟอร์มและนักเรยี น คอนโทรลตา่ งๆและมีความรู้ความ สามารถฝึกปฏบิ ตั กิ าร เขา้ ใจเก่ียวกับ Properties ของ สร้างฟอร์มเข้าสรู่ ะบบ แตล่ ะ Object และ ข้นั ตอนการ ได้ 7. นักเรยี นมี ใช้คอนโทรลตา่ งๆและสามารถใช้ ความร้คู วามเข้าใจ งานคอนโทรลต่างๆและกาหนด เกย่ี วกับการใช้ Properties คอนโทรลตา่ งๆและมี ความร้คู วามเข้าใจ เกี่ยวกับ Properties ของแตล่ ะ Object 8. นักเรียนอธิบาย ขั้นตอนการใช้ คอนโทรลต่างๆและ สามารถใช้งาน คอนโทรลต่าง ๆ และ กาหนด Properties ได้ 5 ตวั แปรและ 9. นักเรยี นสามารถฝกึ ปฏบิ ัตกิ ารสรา้ งออกแบบฟอร์มตัว 5 5 คา่ คงที่ ปฏิบัติการสรา้ งออก แปรและค่าคงที่ แบบฟอรม์ ตวั แปรและ ค่าคงท่ีได้ 6 การเขียน 10. นกั เรียนอธิบาย ขัน้ ตอนการประกาศใช้ตวั แปรและ 5 5 โปรแกรม ขน้ั ตอนการระกาศใช้ สามารถประกาศตัวแปรสาหรับ ตัวแปรและสามารถ เขียนโปรแกรม เขียนโปรแกรม ประกาศตัวแปร คานวณหาพน้ื ทข่ี องรปู เรขาคณิต สาหรับเขยี นโปรแกรม ได้ความรู้ความเข้าใจเก่ียวกับ ได้ ขั้นตอนการพฒั นาโปรแกรม หลักสตู รกลุ่มสาระการเรยี นรู้วทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี พทุ ธศกั ราช 2564 408

ที่ ชือ่ หน่วย มาตรฐานการเรยี นรู้/ สาระสาคญั เวลา น้าหนกั การเรยี นรู้ ตวั ชว้ี ัด (ชวั่ โมง) คะแนน (100) 11. นกั เรียนสามารถ อธิบายขั้นตอนการเขียนโปรแกรม ฝึกปฏบิ ัติและเขยี น สามารถกาหนดคุณสมบัตใิ หก้ ับ โปรแกรมคานวณหา คอนโทรลและสามารถฝึกปฏิบตั ิ พนื้ ท่ขี องรูปเรขาคณติ และเขยี นโปรแกรมได้ ได้ 12. นักเรียนมคี วามรู้ ความเข้าใจเก่ยี วกับ ขน้ั ตอนการพฒั นา โปรแกรม 13. นักเรยี นมีความรู้ ความเข้าใจเกยี่ วกบั การเขียนโปรแกรม และอธิบายขน้ั ตอน การเขยี นโปรแกรมได้ 14. นกั เรยี นสามารถ กาหนดคณุ สมบตั ิ ให้กบั คอนโทรลและ สามารถฝึกปฏิบตั ิและ เขยี นโปรแกรมได้ 7 ฟงั ก์ชนั 15. นักเรยี นมคี วามรู้ ความรู้ความเข้าใจเก่ยี วกับการใช้ 2 5 ความเขา้ ใจเก่ยี วกบั ฟงั กช์ ัน ฟังก์ชันประเภทต่างๆและ การใช้ฟงั กช์ นั ฟังกช์ ัน อธบิ ายข้นั ตอนการใช้ฟงั ก์ชันนา ประเภทต่างๆและ ฟงั ก์ชันมาประยุกตใ์ ชใ้ นการเขยี น อธิบายขัน้ ตอนการใช้ โปรแกรมได้ ฟงั ก์ชนั ได้ 16. นกั เรียนสามารถ นาฟงั กช์ ันมา ประยกุ ตใ์ ชใ้ นการ เขียนโปรแกรมได้ หลักสตู รกลุม่ สาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี พทุ ธศกั ราช 2564 409

ที่ ช่ือหน่วย มาตรฐานการเรยี นร้/ู สาระสาคัญ เวลา น้าหนัก การเรียนรู้ ตัวช้วี ัด (ช่วั โมง) คะแนน (100) 8 การสรา้ ง 17. นกั เรียนสามารถ ฝกึ ปฏิบตั ิการเขยี นโปรแกรม 3 เมนู ฝึกปฏิบตั กิ ารเขยี น คานวณและมีความรู้ความเข้าใจ 5 โปรแกรมคานวณและ เกยี่ วกับการสรา้ งเมนอู ธิบาย 5 9 นาเสนอ มีความร้คู วามเขา้ ใจ ข้ันตอนการสร้างเมนูและนักเรียน 5 โครงงาน เก่ยี วกับการสรา้ งเมนู สามารถสร้างเมนโู ปรแกรมและ - 18. นกั เรยี นอธบิ าย สามารถฝึกปฏิบัติการเขียน - 50 ขั้นตอนการสรา้ งเมนู โปรแกรมให้กบั เมนคู าสัง่ - 20 และนกั เรยี นสามารถ 40 30 สร้างเมนโู ปรแกรมได้ 100 19. นักเรียนสามารถ ฝกึ ปฏิบตั ิการเขียน โปรแกรมให้กับเมนู คาสง่ั ได้ 20. นักเรยี นมคี วามรู้ ความร้คู วามเข้าใจเก่ยี วกับการ ความเข้าใจเกย่ี วกบั ทาโครงงานคอมพวิ เตอร์ การทาโครงงาน คอมพวิ เตอร์ รวมคะแนนระหว่างเรียน สอบกลางภาค สอบปลายภาค รวม หลักสูตรกล่มุ สาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี พทุ ธศักราช 2564 410

รายวิชา โครงงานคอมพิวเตอร์ คาอธิบายรายวิชา จานวน 2 ชว่ั โมง/สปั ดาห์ รหัสวชิ า ว30289 จานวน 1.0 หน่วยกิต ระดบั ช้นั มัธยมศึกษาปที ี่ 6 จานวนเวลาเรยี นท้งั สิน้ 40 ชัว่ โมง : ภาคเรยี น ศึกษา วิเคราะห์ ระบบการสื่อสารข้อมูลสาหรับเครือข่ายคอมพิวเตอร์ ศึกษาและพัฒนา โครงงานคอมพิวเตอร์ โดยใช้ฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ให้เหมาะสมกับงาน นาเสนองานในรูปแบบท่ี เหมาะสม ตรงตามวัตถุประสงค์ของงาน ปฏิบัติการติดต่อสื่อสาร ค้นหาข้อมูลผ่านเครือข่าย อินเทอรเ์ นต็ อยา่ งมคี ณุ ธรรมและจริยธรรม โดยใช้กระบวนการกลุ่ม กระบวนการสืบค้น กระบวนการทางภาษา กระบวนการออกแบบ กระบวนการสร้างความคิดรวบยอด เพ่ือมีทักษะในการใช้เทคโนโลยีในการทางาน มีนิสัยรักการทางาน รักการค้นคว้า มีความ รับผิดชอบ ขยัน อดทน ทางานเป็นระบบ มีความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ ประยุกต์ใช้เทคโนโลยีในการ ทางาน และมีเจตคติที่ดีและเห็นคุณค่าของการใช้กระบวนการเทคโนโลยีสารสนเทศสืบค้นข้อมูล เรียนรู้ ติดตอ่ สื่อสาร แกป้ ญั หาและทางานอยา่ งมีประสทิ ธภิ าพ ประสิทธผิ ล และมีคุณธรรม ผลการเรยี นรู้ 1. อธบิ ายความหมายของโครงงานคอมพิวเตอร์ได้ 2. นักเรยี นสามารถพฒั นาโครงงานไดอ้ ยา่ งถูกต้องตามหลกั การทาโครงงานได้ 3. นกั เรียนใชเ้ ทคโนโลยีสารสนเทศนาเสนองานในรูปแบบทเ่ี หมาะสมได้ 4. นักเรียนสามารถใชค้ อมพวิ เตอรช์ ว่ ยสร้างชน้ิ งานหรือโครงงานตามหลักการทาโครงงานได้ 5. นักเรียนศึกษาผลกระทบด้านสังคมและสิ่งแวดล้อมท่ีเกิดจากงานที่สร้างขึ้นเพื่อหาแนวทาง ปรับปรงุ และพัฒนางานได้ รวมท้ังหมด 5 ผลการเรียนรู้ หลกั สูตรกลมุ่ สาระการเรยี นรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี พทุ ธศักราช 2564 411

โครงสรา้ งรายวิชา รายวชิ า โครงงานคอมพิวเตอร์ รหัสวชิ า ว30289 จานวน 2 ชวั่ โมง/สปั ดาห์ ระดับช้นั มัธยมศกึ ษาปที ี่ 6 จานวน 1.0 หน่วยกติ จานวนเวลาเรยี นทัง้ ส้ิน 40 ชวั่ โมง : ภาคเรียน สดั สว่ นคะแนน ระหวา่ งภาค : ปลายภาค = 70 : 30 ท่ี ช่ือหน่วยการ มาตรฐานการ สาระสาคญั เวลา น้าหนกั เรียนรู้ เรียนรู/้ ตัวชว้ี ดั (ชั่วโมง) คะแนน (100) 1 ความรู้ - อธิบายความหมาย พัฒนาโครงงานคอมพิวเตอร์ 10 15 เบือ้ งตน้ ของโครงงาน โดยใช้ฮาร์ดแวรแ์ ละซอฟต์แวรใ์ ห้ เก่ยี วกับ คอมพวิ เตอร์ได้ เหมาะสมกบั งาน นาเสนองานใน โครงงาน รูปแบบท่ีเหมาะสม ปฏิบัติการ ตดิ ต่อสือ่ สาร ค้นหาข้อมลู ผ่าน เครอื ข่ายอินเทอร์เน็ต 2 การใช้ 1. นักเรียนใช้ ใช้กระบวนการกลุ่มกระบวนการ 10 15 เทคโนโลยี เทคโนโลยี สืบคน้ กระบวนการทางภาษา กบั โครงงาน สารสนเทศนาเสนอ กระบวนการออกแบบ งานในรปู แบบที่ กระบวนการสรา้ งความคิดรวบ เหมาะสมได้ ยอด มีสมาธิในการทางาน มี ทักษะในการใชเ้ ทคโนโลยีในการ ทางาน 3 การพฒั นา 1. นักเรียนสามารถ 1. หลักการทาโครงงาน 20 20 โครงงานและ พัฒนาโครงงานได้ 2. เค้าโครงโครงงาน นาเสนอ อยา่ งถูกต้องตาม 3. การนาเสนอผลงาน โครงาน หลกั การทาโครงงาน ได้ 2. นกั เรยี นสามารถ ใช้คอมพวิ เตอรช์ ่วย สร้างชิ้นงานหรอื โครงงานตามหลกั การทาโครงงานได้ 3. นักเรยี นศกึ ษา ผลกระทบดา้ นสงั คม และสิ่งแวดลอ้ มทเ่ี กิด จากงานทีส่ ร้างขึน้ หลกั สูตรกลมุ่ สาระการเรยี นรู้วทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี พุทธศักราช 2564 412

ท่ี ชื่อหน่วยการ มาตรฐานการ สาระสาคัญ เวลา นา้ หนกั เรียนรู้ เรียนร/ู้ ตัวชว้ี ัด (ช่ัวโมง) คะแนน (100) เพอ่ื หาแนวทาง - 50 ปรบั ปรงุ และพัฒนา - 20 งานได้ - 30 40 100 รวมคะแนนระหว่างเรยี น สอบกลางภาค สอบปลายภาค รวม หลกั สูตรกลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี พทุ ธศกั ราช 2564 413

การวดั และประเมินผลการเรยี นรู้ 1. ผ้เู รียนต้องมเี วลาเรยี นไมน่ ้อยกว่า รอ้ ยละ 80 ของเวลาเรยี นทงั้ หมด 2. ผู้เรยี นต้องผ่านการประเมินทกุ ตวั ชีว้ ดั ในรายวิชา 3. ผเู้ รียนต้องผ่านการประเมิน การคิดวเิ คราะห์อา่ นและเขียนตามรปู แบบการวดั ผลของ รายวชิ า 4. ผู้เรียนตอ้ งผา่ นการประเมินสมรรถนะพ้นื ฐานและ ผู้เรยี นต้องผ่านการประเมนิ สมรรถนะ พ้นื ฐานและคุณลักษณะ ผเู้ รยี นต้องผา่ นการประเมนิ สมรรถนะพ้นื ฐานและคุณลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ตามรปู แบบของการวัดผลของรายวิชา 1. อัตราสว่ นคะแนน คะแนน รวมคะแนนระหวา่ งเรียนเรยี น: สอบปลายภาคเรียน = 70: 30 (70) 50 รายการวัด 20 ➢ ระหว่างภาค มกี ารวัดและประเมินผล ดังน้ี 1. รวมคะแนนระหวา่ งเรยี นเรยี น 1.1 วัดโดยใช้แบบทดสอบ 1.2 วัดทกั ษะ/กระบวนการ/สมรรถนะ (เลือกวดั ตามแผนการจัดการเรียนรู)้ 1.2.1 ภาระงานทม่ี อบหมาย - การทาใบงาน/แบบฝึกหดั /แบบฝกึ ทกั ษะ - การแก้ปัญหาวิทยาศาสตร์ - การศกึ ษาคน้ คว้าทางวิทยาศาสตร์ - การรว่ มกจิ กรรมการเรียนรู้ 1.2.2 ผลงานวิทยาศาสตร์ 1.2.3 โครงงานวิทยาศาสตร์ 1.2.4 ทักษะกระบวนการทางวทิ ยาศาสตร์ และสมรรถนะสาคญั ของผเู้ รียน 1.3 วดั คณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค์ และเจตคติท่ีดีต่อวิชาวทิ ยาศาสตร์ - มวี นิ ัย รับผดิ ชอบ - ใฝ่เรยี นรู้ - มุ่งมน่ั ในการทางาน - มีจิตสาธารณะ 2. คะแนนสอบกลางภาคเรยี น มีการวดั และประเมนิ ผลโดยใช้แบบทดสอบ หลักสูตรกลมุ่ สาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี พทุ ธศักราช 2564 414

รายการวดั คะแนน (30) ➢ คะแนนสอบปลายภาคเรยี น 100 มกี ารวัดและประเมนิ ผลโดยใชแ้ บบทดสอบ รวมท้ังภาคเรยี น 2. เกณฑ์การวัดผลประเมินผล 1. การวัดและประเมินผลโดยใช้แบบทดสอบ กาหนดเกณฑ์การใหค้ ะแนนแตล่ ะแบบทดสอบ ดงั น้ี 1.1 เกณฑ์ใหค้ ะแนนแบบทดสอบแบบเลอื กตอบ พิจารณาจากความถูกผดิ ของการ เลอื กตอบตอบถูกให้ 1 คะแนน ตอบผิดให้ 0 คะแนน 1.2 เกณฑ์ใหค้ ะแนนแบบทดสอบแบบถูกผดิ พจิ ารณาจากความถูกผดิ ของคาตอบ ตอบถูกให้ 1 คะแนน ตอบผดิ ให้ 0 คะแนน 1.3 เกณฑ์ใหค้ ะแนนแบบทดสอบแบบจับคู่ พิจารณาจากความถูกผิดของการจบั คู่ จบั คู่ถกู ให้ 1 คะแนน จับคผู่ ดิ ให้ 0 คะแนน 1.4 เกณฑ์ใหค้ ะแนนแบบทดสอบแบบเปรียบเทียบ พิจารณาจากความถกู ผดิ ของการ เปรยี บเทยี บเปรียบเทียบถูกให้ 1 คะแนน เปรยี บเทียบผิดให้ 0 คะแนน 1.5 เกณฑ์ให้คะแนนแบบทดสอบแบบเติมคา พจิ ารณาจากความถูกผิดของคาตอบ ตอบถูกให้ 1 คะแนน ตอบผดิ ให้ 0 คะแนน 1.6 เกณฑ์ให้คะแนนแบบทดสอบแบบเขยี นตอบ พิจารณาจากคาตอบในภาพรวมท้ังหมด โดยกาหนดระดับคะแนนเป็น 4 ระดับ ดังนี้ ระดบั คะแนน เกณฑ์การใหค้ ะแนน 4 ตอบได้ถกู ต้อง และสามารถอธบิ ายเหตุผลไดอ้ ยา่ งชดั เจน พร้อมทง้ั แสดงแนวคิดเชิง เปรียบเทยี บ 3 ตอบได้ถกู ต้อง และสามารถอธิบายเหตผุ ลได้อยา่ งชดั เจน 2 ตอบได้ถูกต้อง และสามารถอธิบายเหตผุ ลไดเ้ ป็นบางส่วน แตย่ งั ไม่อยา่ งชัดเจน 1 ตอบได้ถูกต้อง แต่ไม่สามารถอธบิ ายเหตุผลได้ 0 ตอบได้ถูกต้อง และไม่สามารถอธบิ ายเหตุผลได้ หลักสูตรกล่มุ สาระการเรยี นรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี พทุ ธศกั ราช 2564 415

1.7 เกณฑ์ใหค้ ะแนนแบบทดสอบแบบต่อเนื่อง 1.7.1 เกณฑใ์ ห้คะแนนแบบทดสอบแบบต่อเนอ่ื งทก่ี าหนดสถานการณ์ พิจารณาจากความถกู ผดิ ของคาตอบ ตอบถูกให้ 1 คะแนน ตอบผดิ ให้ 0 คะแนน 1.7.2 เกณฑ์ให้คะแนนแบบทดสอบแบบต่อเนอ่ื งสองขั้นตอน โดยกาหนด ระดบั คะแนนเป็น 3 ระดบั ดังนี้ ระดบั คะแนน เกณฑ์การให้คะแนน 2 เลือกคาตอบและบอกเหตุผลประกอบถูกตอ้ ง เลอื กคาตอบถูกต้อง แตบ่ อกเหตุผลประกอบไม่ถูกต้อง หรือ เลอื กคาตอบไม่ 1 ถูกต้อง แตบ่ อกเหตผุ ลประกอบได้สอดคล้องกับคาตอบท่เี ลือก เลอื กคาตอบและบอกเหตุผลประกอบไมถ่ ูกตอ้ ง 0 1.8 เกณฑ์ใหค้ ะแนนแบบทดสอบแบบแสดงวธิ ีทา โดยกาหนดระดบั คะแนนเป็น 4 ระดบั ดงั นี้ ระดับคะแนน เกณฑก์ ารให้คะแนน คาตอบถูกต้องและแสดงวธิ ที าท่มี ปี ระสิทธภิ าพโดยแสดงถึงการคิดอยา่ งเปน็ 4 ระบบและการคิดวิเคราะห์ คาตอบถกู ต้องและแสดงวิธีทาถกู ต้องสมบรู ณ์ 3 คาตอบถูกต้อง แต่แสดงวิธีทาถกู ต้อง 2 คาตอบถูกต้อง มีการแสดงแสดงวธิ ีทา แตย่ ังไม่สมบูรณ์ 1 คาตอบไม่ถกู ต้อง และแสดงวิธที าไมถ่ ูกต้อง 0 หลกั สูตรกล่มุ สาระการเรยี นรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี พุทธศักราช 2564 416

2. การวัดและประเมนิ ผลดา้ นทักษะ/กระบวนการ/สมรรถนะ 2.1 ภาระงานท่ีมอบหมาย ดังนี้ - ใบงาน/แบบฝึกหัด/แบบฝึกทกั ษะ กาหนดเกณฑ์การประเมินผลของการทาใบงาน/แบบฝึกหัด/แบบฝึกทักษะ เปน็ 4 ระดบั ดังนี้ ระดบั คณุ ภาพ เกณฑ์การพิจารณา 4 - ทาใบงาน/แบบฝกึ หัด/แบบฝกึ ทักษะครบถ้วนและเสร็จตามกาหนดเวลา (ดีมาก) - ทาใบงาน/แบบฝกึ หัด/แบบฝกึ ทกั ษะไดถ้ ูกต้อง - แสดงลาดับขั้นตอนของการทาใบงาน/แบบฝึกหัด/แบบฝึกทกั ษะชัดเจนเหมาะสม - ทาใบงาน/แบบฝึกหัด/แบบฝกึ ทักษะครบถว้ นและเสร็จตามกาหนดเวลา 3 - ทาใบงาน/แบบฝกึ หัด/แบบฝึกทกั ษะไดถ้ ูกตอ้ ง (ด)ี - สลับข้ันตอนของการทาใบงาน/แบบฝึกหดั /แบบฝึกทักษะ หรือไม่ระบุขัน้ ตอนของการ ทาใบงาน/แบบฝึกหดั /แบบฝึกทักษะ - ทาใบงาน/แบบฝึกหัด/แบบฝึกทักษะครบถ้วน แต่เสร็จหลงั กาหนดเวลาเลก็ นอ้ ย 2 - ทาใบงาน/แบบฝึกหัด/แบบฝกึ ทักษะข้อไมถ่ ูกต้อง (พอใช้) - สลับขัน้ ตอนของการทาใบงาน/แบบฝกึ หดั /แบบฝึกทักษะ หรือไมร่ ะบุขั้นตอนของการ ทาใบงาน/แบบฝกึ หัด/แบบฝึกทักษะ - ทาใบงาน/แบบฝกึ หัด/แบบฝึกทักษะไมค่ รบถ้วน หรอื ไม่เสรจ็ ตามกาหนดเวลาเล็ก 1 - ทาใบงาน/แบบฝกึ หัด/แบบฝึกทักษะไม่ถูกต้อง (ต้องปรับปรุง) - แสดงลาดบั ขั้นตอนของการทาใบงาน/แบบฝึกหัด/แบบฝึกทกั ษะไมส่ มั พนั ธก์ ับโจทย์ หรือไม่แสดงลาดับข้ันตอน หลักสตู รกลุ่มสาระการเรยี นรู้วทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี พุทธศักราช 2564 417

- การประเมนิ ผลการแก้ปัญหาทางวิทยาศาสตร์ กาหนดเกณฑ์การประเมินผลการแกป้ ัญหาโดยใช้วธิ กี ารทางวทิ ยาศาสตร์ ดงั นี้ รายการประเมนิ ระดับคณุ ภาพ เกณฑ์การพจิ ารณา 1. การสังเกต เพ่ือระบุปัญหา 3 (ด)ี - เข้าใจและระบปุ ญั หาได้ถูกต้อง 2. การ 2 (พอใช้) - เข้าใจและระบุปญั หาบางสว่ นไมถ่ ูกต้อง ตงั้ สมมติฐาน 1 (ตอ้ งปรับปรุง) - เข้าใจปญั หานอ้ ยมากหรือไม่สามารถระบปุ ญั หา 3. การรวบรวม ข้อมูล 3 (ด)ี - ตั้งสมมตฐิ านของปญั หาไดเ้ หมาะสมและถูกตอ้ ง 2 (พอใช)้ - ต้งั สมมตฐิ านของปญั หาไดซ้ ่ึงอาจนาไปสคู่ าตอบท่ีถกู 4. การสรปุ ผล 1 (ตอ้ งปรบั ปรุง) แต่ยงั มบี างสว่ นผดิ - ตั้งสมมตฐิ านของปัญหาไม่ถูกต้อง 3 (ด)ี - นาวิธกี ารปัญหาไปใช้ได้ถูกต้อง 2 (พอใช้) - นาวิธีการปญั หาไปใช้ได้ถกู ต้องเป็นบางครั้ง 1 (ต้องปรบั ปรุง) - นาวิธีการปญั หาไปใชไ้ ม่ถูกต้อง 3 (ด)ี - สรปุ ผลไดถ้ กู ตอ้ ง สมบรู ณ์ 2 (พอใช้) - สรุปผลท่ไี มส่ มบรู ณ์หรอื ไม่ถูกตอ้ ง 1 (ตอ้ งปรับปรุง) - ไมม่ ีการสรปุ ผล หลกั สูตรกลุม่ สาระการเรียนรู้วทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี พุทธศักราช 2564 418

- การประเมินผลการศกึ ษาค้นควา้ ทางวทิ ยาศาสตร์ 1) กาหนดเกณฑ์การประเมินผลการศึกษาคน้ คว้าทางวทิ ยาศาสตรด์ า้ นทฤษฎี เปน็ 4 ระดับ ดังนี้ ระดับคณุ ภาพ เกณฑ์การพิจารณา - การวางแผนชัดเจนและทางานเป็นระบบ 4 - แสดงข้อมูลละเอยี ดชดั เจน (ดมี าก) - แสดงความเชือ่ มโยงระหวา่ งเนื้อหาวชิ าไดช้ ัดเจน - ลงข้อสรปุ ทถ่ี ูกต้องชัดเจน - นาเสนอผลงานอย่างเหมาะสม - การวางแผนชัดเจน 3 - แสดงขอ้ มลู ท่ลี ะเอยี ดชัดเจน (ด)ี - แสดงความเชือ่ มโยงระหว่างเนื้อหาวิชาไดช้ ัดเจน - ลงข้อสรุปที่ถูกตอ้ งชดั เจน - นาเสนอผลงานไดย้ ังไม่ชัดเจน - การวางแผนไมช่ ัดเจน 2 - แสดงข้อมลู บางส่วนผดิ พลาด (พอใช้) - แสดงความเชอ่ื มโยงระหว่างเนอ้ื หาวิชาไดไ้ ม่ชัดเจน - ลงขอ้ สรุปบางสว่ นผิดพลาด - นาเสนอผลงานไดไ้ ม่ชัดเจน - การวางแผนไมช่ ดั เจน 1 - แสดงข้อมลู ที่ไม่ถูกต้อง (ตอ้ งปรับปรุง) - แสดงความเช่อื มโยงระหวา่ งเนื้อหาวิชาไดไ้ ม่ชดั เจน - ลงข้อสรุปทีไ่ ม่ถูกต้อง - นาเสนอผลงานไดไ้ ม่ถูกต้อง หลกั สตู รกลุ่มสาระการเรยี นรู้วทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี พทุ ธศักราช 2564 419

2) กาหนดเกณฑ์การประเมินผลการศกึ ษาคน้ ควา้ ทางวิทยาศาสตร์ทมี่ ีผลงานเป็น ส่ิงประดษิ ฐ์ เป็น 4 ระดับ ดังน้ี ระดบั คุณภาพ เกณฑก์ ารพจิ ารณา - มีความคิดริเร่ิมสรา้ งสรรค์และแปลกใหม่ - แก้ปญั หาและตอบสนองตามความต้องการ - วางแผนการสรา้ งโดยใชเ้ ทคนคิ ระดบั สูงและมีคณุ ภาพ พร้อมทั้งแสดงรายละเลยี ด ของชน้ิ งานในแต่ละสว่ นชดั เจนสมบูรณ์ 4 - เลอื กและใช้เคร่ืองมอื วัดพร้อมระบหุ น่วยวัดไดเ้ หมาะสม (ดมี าก) - ดึงดูดความสนใจและมีประสทิ ธิภาพในการทางานสูงสุด ตลอดจนปลอดภยั ประหยัด แข็งแรงและนา่ เชือ่ ถอื - ใช้งานไดต้ ามความคาดหวงั - สรา้ งและเกบ็ รกั ษางา่ ย - คูม่ ือแนะนาการใชม้ คี วามชัดเจนและเข้าใจง่าย - มีความคิดริเรม่ิ สรา้ งสรรค์และแปลกใหม่ - แก้ปัญหาและตอบสนองตามความต้องการ 3 - วางแผนการสร้างและแสดงรายละเลยี ดของแตล่ ะส่วนชัดเจน (ด)ี - เลอื กและใช้เคร่อื งมอื วัดพร้อมระบุหน่วยวดั ได้เหมาะสม - ดงึ ดูดความสนใจ - ใช้งานไดต้ ามความคาดหวงั - สรา้ งและเกบ็ รักษาง่าย - มีความคดิ ริเริ่มสรา้ งสรรค์ - แก้ไขปัญหาและตอบสนองตามความต้องการ 2 - วางแผนการสรา้ งและแสดงรายละเลียดของแตล่ ะส่วนได้ชัดเจนสมบูรณ์เป็นส่วนใหญ่ (พอใช้) - เลือกและใชเ้ ครื่องมอื วดั พร้อมระบหุ น่วยวัดได้เหมาะสม - ดึงดูดความสนใจ - ใชง้ านได้ตามความคาดหวงั - สร้างและเกบ็ รักษาง่าย - ขาดความคิดริเร่ิมสรา้ งสรรค์ 1 - ไมต่ อบสนองต่อแก้ไขปัญหาและความต้องการ (ต้องปรบั ปรุง) - วางแผนการสรา้ งไดช้ ดั เจนเพียงบางส่วน - เลอื กและใชเ้ ครอ่ื งมอื วัดพร้อมระบหุ น่วยวดั ไดไ้ มเ่ หมาะสม หลกั สตู รกลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี พุทธศกั ราช 2564 420

- การประเมินผลการรว่ มกจิ กรรมการเรยี นรู้ การร่วมกิจกรรมการเรยี นรู้สว่ นใหญจ่ ะมอบหมายภาระงานเปน็ กล่มุ กาหนดเกณฑ์การ ประเมินผลการร่วมกจิ กรรมการเรยี นรู้ ดังนี้ รายการประเมิน ระดบั คณุ ภาพ เกณฑก์ ารพิจารณา 1. การวางแผน 3(ด)ี - วางแผนและมอบหมายหน้าทคี่ วาม 2 (พอใช้) รับผดิ ชอบใหส้ มาชกิ ไม่ชดั เจน 1 (ตอ้ งปรับปรุง) - วางแผน แตม่ อบหมายหน้าท่ีความ รับผิดชอบให้สมาชกิ ไมช่ ัดเจน 2. ความร่วมมอื ในกลุม่ 3 (ด)ี - ไมม่ กี ารวางแผน 2 (พอใช)้ - ทกุ คนทางานตามหนา้ ที่รับผดิ ชอบ - สมาชิกสว่ นมากทางานตามหนา้ ที่ 1 (ตอ้ งปรบั ปรุง) - สมาชิกไมท่ างานตามหนา้ ที่ 3. ทกั ษะการปฏิบัตกิ าร 3 (ด)ี - ปฏบิ ตั ิไดค้ รบทุกอยา่ งถกู ต้อง เหมาะสม 3.1 การสงั เกตเพื่อระบุปัญหา 2 (พอใช)้ - ปฏบิ ัติได้ครบทกุ ข้อแต่ยงั มี ข้อผิดพลาดเปน็ บางสว่ น 3.2 การตงั้ สมมตฐิ าน 1 (ตอ้ งปรบั ปรุง) - ไม่สามารถปฏบิ ตั ิได้ครบทกุ ข้อด้วย ตนเองและมีความ 3.3 การรวบรวมขอ้ มลู ผดิ พลาดในการลงขอ้ สรุป 3.4 การแปลความขอ้ มลู - เขียนรายงานดว้ ยรูปแบบที่ถูกต้อง เหมาะสมและนาเสนอได้สมบูรณ์ 3.5 การลงขอ้ สรุป - เขยี นรายงานได้ไมส่ มบรู ณ์ - รายงานมขี อ้ ผดิ พลาด หรอื ไมเ่ ขียน 4. การเขียนรายงาน 3 (ด)ี รายงาน 2 (พอใช้) 1 (ต้องปรบั ปรุง) - ปฏิบัตงิ านเสร็จสมบูรณ์ตามเวลาท่ี กาหนด 5. เวลา 3 (ด)ี - ปฏิบัติงานเสร็จตามเวลาทก่ี าหนดแต่ 2 (พอใช้) ไมส่ มบูรณ์ 1 (ตอ้ งปรับปรุง) - ปฏบิ ัตงิ านไมเ่ สรจ็ สมบรู ณ์ตามเวลาท่ี กาหนด หลกั สตู รกลมุ่ สาระการเรยี นรู้วทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี พทุ ธศกั ราช 2564 421

2.2 แฟ้มสะสมงานวิทยาศาสตร์ การประเมนิ ผลแฟม้ สะสมงานวิทยาศาสตร์ กาหนดเกณฑ์การประเมิน ดังน้ี ระดบั คณุ ภาพ เกณฑก์ ารพิจารณา 4 - ผลงานมีรายละเอียดอยา่ งเพยี งพอท่ีแสดงถงึ ระดับความร้แู ละพฒั นาการของผเู้ รียน (ดีมาก) และแสดงถึงความเข้าใจในเร่ืองท่ีศกึ ษา การนาเสนอข้อมลู แสดงถึงการบูรณาการหรือ เช่ือมโยงมโนทัศน์ต่าง ๆ เข้าด้วยกนั 3 - ผลงานมรี ายละเอยี ดอยา่ งเพียงพอที่แสดงถึงระดับความรู้และพฒั นาการของผู้เรียน (ด)ี ไม่มีข้อผิดพลาดทแี่ สดงวา่ ไม่เข้าใจ แต่การนาข้อมลู ไม่แสดงถึงการบรู ณาการระหวา่ ง ขอ้ มลู หรือมโนทศั น์ในเรอ่ื งทศี่ ึกษา 2 - ผลงานมีรายละเอียดแสดงไวใ้ นบันทึกใหเ้ หน็ ถึงระดับความร้แู ละพัฒนาการของผู้เรียน (พอใช)้ แตพ่ บว่าบางสว่ นมีความผดิ พลาดหรอื ไมช่ ัดเจนหรือแสดงถึงความไมเ่ ขา้ ใจในเร่ืองท่ี ศกึ ษาของผ้เู รียน 1 - ผลงานมีข้อมลู น้อย ไม่มีรายละเอยี ดแสดงไว้ในบันทกึ หรือแสดงให้เห็นถึงระดับความรู้ (ตอ้ งปรบั ปรุง) และพฒั นาการของผ้เู รียน หลักสตู รกลุ่มสาระการเรียนรู้วทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี พุทธศักราช 2564 422

2.3 โครงงานวทิ ยาศาสตร์ การประเมนิ ผลโครงงานวิทยาศาสตร์ กาหนดเกณฑ์การประเมิน ดงั น้ี ระดับคณุ ภาพ เกณฑ์การพจิ ารณา - แสดงถึงความเข้าใจปัญหาอย่างชัดเจน - มคี วามคดิ ริเรมิ่ สรา้ งสรรค์ในการออกแบบโครงงาน 4 - ใชเ้ ทคนิควิธีการต่าง ๆ ในการจดั ทาโครงงานจนประสบผลสาเร็จ (ดีมาก) - การนาเสนอรายงานเปน็ ลาดับขัน้ ตอนดีมากและใช้เป็นแบบอยา่ งได้ - มกี ารวางแผนการทางานเป็นระบบและทางานเสรจ็ ตามกาหนดเวลาทีก่ าหนด - มกี ารศกึ ษาคน้ ควา้ ข้อมลู จากแหล่งการเรยี นรู้ทีน่ า่ เชอื่ ถือและหลากหลาย - แสดงถึงความเขา้ ใจปญั หา - การออกแบบโครงงานถูกต้องเปน็ บางสว่ น 3 - ใช้เทคนคิ วธิ ีการในการจดั ทาโครงงานใหป้ ระสบผลสาเรจ็ เพยี งบางสว่ น (ด)ี - การนาเสนอรายงานเปน็ ลาดับข้ันตอน - มีการวางแผนการทางานและทางานเสรจ็ ตามกาหนดเวลาท่กี าหนด - มกี ารศึกษาคน้ ควา้ ข้อมูลจากแหล่งการเรยี นรู้ทห่ี ลากหลาย - เข้าใจปัญหาแต่ใชเ้ วลานานมาก - ตอ้ งอาศยั การแนะนาในการออกแบบโครงงาน 2 - ต้องไดร้ บั คาแนะนาเก่ยี วกับเทคนคิ วิธกี ารในการจัดทาโครงงาน (พอใช้) - ต้องไดร้ บั คาแนะนาในการเขียนรายงาน - มกี ารวางแผนการทางาน แตไ่ ม่ชัดเจนและทางานเสรจ็ ชา้ กวา่ ท่ีกาหนดไว้ - มีการศกึ ษาค้นคว้าข้อมูลนา่ เชอื่ ถอื ได้เพียงบางส่วน - ไม่เขา้ ใจปัญหา - การออกแบบโครงงานและการทดลองไมถ่ ูกต้อง 1 - ตอ้ งไดร้ ับคาแนะนาเกีย่ วกับเทคนคิ วิธกี ารในการจัดทาโครงงานทุกขน้ั ตอน (ต้องปรับปรุง) - การเขยี นรายงานยงั มขี ้อบกพรอ่ ง - มีการวางแผนการทางาน ไม่เปน็ ระบบและทางานเสร็จชา้ กวา่ ทีก่ าหนดไว้ - มกี ารศึกษาคน้ ควา้ ข้อมูลนอ้ ยมากไมส่ มั พันธ์กับโครงงานท่ีจัดทา หลกั สูตรกลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี พทุ ธศกั ราช 2564 423

2.4 สมรรถนะสาคญั ของผู้เรียน การประเมนิ ผลสมรรถนะสาคัญของผเู้ รยี น ประเมินโดยใช้แบบประเมินสมรรถนะสาคญั ของ ผูเ้ รยี นโดยกาหนดเกณฑ์ในการประเมิน ดังนี้ ระดบั คณุ ภาพ ความหมาย (3) ผ้เู รยี นปฏิบตั ิตนตามสมรรถนะจนเป็นนสิ ยั และนาไปใช้ในชีวติ ประจาวนั เพอ่ื ประโยชน์ ดเี ย่ยี ม สขุ ของตนเองและสังคม โดยพจิ ารณาจากผลการประเมินระดับดเี ยีย่ มจานวน 3-5 สมรรถนะ และไม่มีสมรรถนะใดไดผ้ ลการประเมนิ ต่ากว่าระดบั ดี ผู้เรียนมสี มรรถนะในการปฏิบัติตามกฎเกณฑ์ เพื่อใหเ้ ป็นการยอมรับของสงั คม โดยพิจารณาจาก 1. ไดผ้ ลการประเมินระดบั ดีเยยี่ ม จานวน 1-2 สมรรถนะ และไมม่ ีสมรรถนะใดได้ผลการ (2) ประเมนิ ต่ากว่าระดับดี หรือ ดี 2. ไดผ้ ลการประเมนิ ระดับดีเยีย่ ม จานวน 2 สมรรถนะ และไม่มีสมรรถนะใดไดผ้ ลการ ประเมินต่ากวา่ ระดับผ่าน หรือ 3. ได้ผลการประเมนิ ระดบั ดี จานวน 4-5 สมรรถนะ และไมม่ สี มรรถนะใดไดผ้ ลการ ประเมนิ ตา่ กวา่ ระดับผา่ น ผเู้ รียนรับรู้และปฏิบัตติ ามกฎเกณฑ์และเง่ือนไขที่สถานศึกษากาหนด โดย พิจารณาจาก (1) 1. ไดผ้ ลการประเมนิ ระดบั ผา่ น จานวน 4-5 สมรรถนะ และไม่มีสมรรถนะใดได้ผลการ ผา่ น ประเมนิ ตา่ กวา่ ระดบั ผ่าน หรือ 2. ได้ผลการประเมนิ ระดบั ดี จานวน 2 สมรรถนะ และไม่มีสมรรถนะใดไดผ้ ลการ ประเมนิ ต่ากวา่ ระดับผ่าน (0) ผู้เรียนรบั รู้และปฏบิ ตั ไิ ด้ไมค่ รบตามเกณฑ์และเงื่อนไขทกี่ าหนด โดยพิจารณาจากผลการ ไมผ่ า่ น ประเมินระดับต้องปรบั ปรงุ ต้ังแต่ 1 สมรรถนะ เกณฑ์การใหค้ ะแนน เกณฑก์ ารตัดสนิ ระดบั คุณภาพตามสมรถนะรายข้อ พฤติกรรมทป่ี ฏิบตั ิสม่าเสมอ ให้ 3 คะแนน พฤติกรรมทป่ี ฏิบัติบ่อยครั้ง ให้ 2 คะแนน ช่วงคะแนน ระดบั คณุ ภาพ พฤติกรรมท่ปี ฏบิ ตั ิบางครั้ง ให้ 1 คะแนน 13 - 15 ดีเยย่ี ม (3) พฤติกรรมทป่ี ฏบิ ัติน้อยคร้ัง ให้ 0 คะแนน 9 - 12 5-8 ดี (2) ตา่ กวา่ 5 ผ่าน (1) ไม่ผ่าน (0) หลักสตู รกลมุ่ สาระการเรยี นรู้วทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี พุทธศกั ราช 2564 424

แบบประเมนิ สมรรถนะสาคญั ของผเู้ รียน ชือ่ ..................................................นามสกลุ ..........................................เลขที่..............ช้ัน.................. คาชแี้ จง : ใหผ้ ู้สอนสังเกตพฤตกิ รรมของนักเรียน และขีด / ลงในชอ่ งทต่ี รงกับคะแนน สมรรถนะดา้ น รายการประเมนิ ระดบั คุณภาพ 1. ความสามารถ เยย่ี ม ดี ผา่ น ไมผ่ ่าน ในการสอ่ื สาร (3) (2) (1) (0) 2. ความสามารถ ในการคิด 1 มคี วามสามารถในการรบั -สง่ สาร 1.2 มคี วามสามารถในการถ่ายทอดความรู้ ความคดิ ความเข้าใจ ของตนเอง โดยใช้ ภาษาอย่างเหมาะสม 1.3 ใชว้ ิธกี ารสื่อสารท่เี หมาะสม มีประสิทธภิ าพ 1.4 เจรจาตอ่ รองเพื่อขจดั และลดปัญหา ความขัดแย้งตา่ ง ๆ ได้ 1.5 เลือกรบั และไมร่ ับขอ้ มูลข่าวสารดว้ ย เหตผุ ลและถูกต้อง สรุปผลการประเมิน รวม ..... คะแนน ระดบั ......... 2.1 มีความสามารถในการคดิ วิเคราะห์ สงั เคราะห์ 2.2 มที ักษะในการคิดนอกกรอบอย่าง สรา้ งสรรค์ 2.3 สามารถคิดอยา่ งมวี จิ ารณญาณ 2.4 มคี วามสามารถในการสร้างองค์ความรู้ 2.5 ตัดสนิ ใจแก้ปัญหาเกยี่ วกับตนเองได้ อย่างเหมาะสม 2.1 มีความสามารถในการคดิ วเิ คราะห์ สังเคราะห์ สรปุ ผลการประเมนิ รวม ........ คะแนน ระดบั ........ 3. ความสามารถ 3.1 สามารถแก้ปัญหาและอปุ สรรคตา่ ง ๆ ในการแก้ปญั หา ท่เี ผชิญได้ 3.2 ใชเ้ หตุผลในการแกป้ ัญหา 3.3 เขา้ ใจความสัมพนั ธแ์ ละการ หลักสูตรกลมุ่ สาระการเรยี นรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี พทุ ธศักราช 2564 425

สมรรถนะดา้ น รายการประเมนิ ระดับคณุ ภาพ เย่ยี ม ดี ผา่ น ไมผ่ า่ น (3) (2) (1) (0) เปล่ยี นแปลงในสังคม 3.4 แสวงหาความรู้ ประยกุ ต์ความรู้มาใช้ ในการป้องกนั และแกไ้ ข ปัญหา 3.5 สามารติดสินใจไดเ้ หมาะสมตามวัย สรปุ ผลการประเมิน รวม ........ คะแนน ระดบั ........ 4. ความสามารถ 4.1 เรยี นรู้ดว้ ยตนเองได้เหมาะสมตามวยั ในการใช้ทักษะ 4.2 สามารถทางานกลุ่มร่วมกับผู้อืน่ ได้ ชีวิต 4.3 นาความรูท้ ่ไี ดไ้ ปใชป้ ระโยชน์ใน ชีวติ ประจาวัน 4.4 จัดการปัญหาและความขัดแยง้ ได้ เหมาะสม 4.5 หลีกเลีย่ งพฤติกรรมไม่พึงประสงค์ท่ี ส่งผลกระทบต่อตนเอง สรปุ ผลการประเมิน รวม ........ คะแนน ระดับ........ 5. ความสามารถ 5.1 เลือกและใชเ้ ทคโนโลยีได้เหมาะสมตาม ในการใช้ วัย เทคโนโลยี 5.2 มีทกั ษะกระบวนการทางเทคโนโลยี 5.3 สามารถนาเทคโนโลยไี ปใช้พัฒนา ตนเอง 5.4 ใช้เทคโนโลยีในการแก้ปัญหาอย่าง สร้างสรรค์ 5.5 มคี ุณธรรม จรยิ ธรรมในการใช้ เทคโนโลยี สรุปผลการประเมิน รวม ........ คะแนน ระดับ......... ระดบั คุณภาพตามเกณฑก์ ารประเมินในหลกั สูตรรายชั้น ลงชื่อ...................................................ผ้ปู ระเมนิ หลักสูตรกลุม่ สาระการเรยี นรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี พทุ ธศกั ราช 2564 426

2. ด้านคณุ ลกั ษณะอันพึงประสงค์ การประเมนิ ผลคุณลักษณะอันพึงประสงค์ ประเมินโดยใชแ้ บบประเมินคุณลักษณะอันพึง ประสงค์โดยกาหนดเกณฑ์ในการประเมนิ ดงั น้ี ระดับคุณภาพ ความหมาย (3) ผเู้ รียนปฏบิ ตั ิตนตามคุณลักษณะจนเปน็ นิสยั และนาไปใชใ้ นชวี ิตประจาวนั เพ่อื ดเี ยีย่ ม ประโยชนส์ ุขของตนเองและสังคม โดยพจิ ารณาจากผลการประเมนิ ทั้ง 8 คุณลักษณะ คอื ได้ระดับ 3 จานวน 5-8 คุณลักษณะ และไมม่ ีคณุ ลักษณะใด (2) ไดผ้ ลการประเมนิ ตา่ กวา่ ระดับ 2 ดี ผ้เู รียนมีคุณลกั ษณะในการปฏิบัตติ ามเกณฑ์ เพ่ือใหเ้ ป็นท่ียอมรับของสังคม โดยพิจารณาจาก 1. ไดผ้ ลการประเมนิ ระดับ 3 จานวน 1-4 คุณลักษณะ และไมม่ ีคุณลักษณะ ใดได้ผลการประเมนิ ต่ากว่าระดบั 2 หรือ 2. ไดผ้ ลการประเมนิ ระดับ 3 จานวน 4 คุณลกั ษณะ และไม่มีคุณลักษณะใด ได้ผลการประเมินต่ากว่าระดับ 1 หรือ 3. ได้ผลการประเมินระดบั 2 จานวน 5-8 คณุ ลักษณะ และไมม่ ีคณุ ลกั ษณะ ใดได้ผลการประเมนิ ต่ากว่าระดับ 1 ผู้เรียนรบั รู้และปฏบิ ตั ติ ามกฎเกณฑ์ และเง่ือนไขทส่ี ถานศกึ ษากาหนด โดยพิจารณาจาก (1) 1. ไดผ้ ลการประเมนิ ระดบั 1 จานวน 5-8 คณุ ลกั ษณะ และไม่มีคณุ ลกั ษณะ ผ่าน ใดไดผ้ ลการประเมินต่ากว่าระดับ 1 หรอื 2. ได้ผลการประเมนิ ระดบั 2 จานวน 4 คุณลกั ษณะ และไม่มีคุณลักษณะใด ได้ผลการประเมินต่ากว่าระดับ 1 (0) ผู้เรยี นรบั รู้และปฏิบตั ิได้ไมค่ รบตามกฎเกณฑ์และเงื่อนไขท่ีสถานศึกษา ไมผ่ า่ น กาหนด โดยพิจารณาจากผลการประเมนิ ระดับ 0 ต้งั แต่ 1 คุณลกั ษณะข้ึนไป เกณฑ์การใหค้ ะแนน พฤติกรรมที่ปฏิบัติสม่าเสมอ ให้ 3 คะแนน พฤติกรรมท่ปี ฏบิ ตั บิ ่อยครง้ั ให้ 2 คะแนน พฤติกรรมท่ปี ฏิบัตบิ างครั้ง ให้ 1 คะแนน พฤติกรรมท่ีปฏิบัติน้อยครัง้ ให้ 0 คะแนน หลกั สตู รกลุ่มสาระการเรียนรู้วทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี พทุ ธศกั ราช 2564 427

แบบประเมนิ คณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ ชอ่ื ..............................................นามสกุล......................................เลขท.่ี .............ชัน้ .............. คาชีแ้ จง : ให้ผสู้ อนสังเกตพฤติกรรมของนักเรยี น และขีด / ลงในชอ่ งท่ีตรงกับคะแนน สมรรถนะดา้ น รายการประเมนิ ระดับคณุ ภาพ ดเี ยี่ยม ดี ผ่าน ไมผ่ ่าน (3) (2) (1) (0) 1. รกั ชาติ - ยนื ตรงเคารพธงชาติ และร้องเพลงชาตไิ ด้ ศาสน์ - เขา้ ร่วมกจิ กรรมทีส่ ร้างความสามัคคี ปรองดอง กษัตรยิ ์ และเปน็ ประโยชนต์ ่อโรงเรียน - เขา้ ร่วมกิจกรรมทางศาสนาท่ีตนนบั ถือ ปฏบิ ัตติ าม 2. ซื่อสัตย์ หลักศาสนา สุจริต - เขา้ ร่วมกจิ กรรมทีเ่ กีย่ วกับสถาบนั พระมหากษตั รยิ ์ ตามที่โรงเรยี นจัดขนึ้ - ใหข้ ้อมูลท่ีถูกต้อง และเปน็ จรงิ - ปฏบิ ตั ใิ นสง่ิ ทถ่ี ูกต้อง 3. มีวินยั - ปฏิบัตติ ามขอ้ ตกลง กฎเกณฑ์ ระเบียบ ข้อบังคับ รับผิดชอบ ของ ครอบครวั มีความตรงต่อเวลาในการปฏิบตั ิกิจกรรม ตา่ ง ๆ ในชวี ติ ประจาวนั 4. ใฝเ่ รยี นรู้ - รูจ้ ักใชเ้ วลาวา่ งใหเ้ ป็นประโยชน์ และนาไปปฏบิ ัติ ได้ - รู้จักจดั สรรเวลาให้เหมาะสม - เช่ือฟังคาสั่งสอนของบดิ า - มารดา โดยไมโ่ ต้แย้ง - ตั้งใจเรียน 5. อยอู่ ยา่ ง - ใช้ทรพั ยส์ ินและสิง่ ของของโรงเรยี นอย่างประหยัด พอเพยี ง - ใชอ้ ปุ กรณก์ ารเรยี นอยา่ งประหยดั และรู้คุณคา่ - ใช้จา่ ยอยา่ งประหยัดและมีการเกบ็ ออมเงนิ 6. มุ่งมั่นในการ - มคี วามต้ังใจและพยายามในการทางานที่ได้รับ ทางาน มอบหมาย - มีความอดทนและไมท่ ้อแท้ตอ่ อปุ สรรคเพื่อใหง้ าน สาเรจ็ หลักสูตรกลมุ่ สาระการเรยี นรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี พุทธศักราช 2564 428

สมรรถนะด้าน รายการประเมิน ระดับคุณภาพ ดีเยยี่ ม ดี ผ่าน ไม่ผ่าน (3) (2) (1) (0) 7. รักความเป็น - มีจิตสานึกในการอนุรกั ษว์ ัฒนธรรมและภูมิปัญญา ไทย ไทย - เหน็ คุณคา่ และปฏบิ ตั ติ นตามวฒั นธรรมไทย 8. มจี ติ - รู้จักช่วยพอ่ แม่ ผู้ปกครอง และครูทางาน สาธารณะ - รจู้ ักการดูแลรกั ษาทรัพย์สมบตั แิ ละสิ่งแวดล้อม ของห้องเรยี นและโรงเรยี น ระดบั คุณภาพตามเกณฑ์การประเมินในหลกั สตู รรายชน้ั ลงช่อื ...................................................ผปู้ ระเมิน หลกั สูตรกลมุ่ สาระการเรียนรู้วทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี พทุ ธศักราช 2564 429

3. เกณฑ์การตัดสนิ ผลการเรยี น 3.1 เกณฑ์การตัดสนิ ระดบั ผลการเรยี น ช่วงคะแนน ความหมาย ระดบั ผลการเรยี น 80 - 100 ผลการเรยี นดีเยี่ยม 4 75 - 79 ผลการเรยี นดมี าก 3.5 70 - 74 ผลการเรยี นดี 3 65 - 69 ผลการเรียนคอ่ นขา้ งดี 2.5 60 - 64 ผลการเรยี นพอใช้ 2 55 - 59 ผลการเรียนคอ่ นขา้ งพอใช้ 1.5 50 - 54 ผลการเรียนผ่านเกณฑ์ขั้นต่า 1 0 - 49 ผลการเรียนต่ากว่าเกณฑ์ 0 3.2 เกณฑ์การตดั สินผลการเรียน ร และ มส. 3.2.1 ตดั สนิ ผลการเรียน ร หมายถงึ รอการตดั สินและยังตัดสินผลการเรียนไม่ไดเ้ น่อื งจาก ผเู้ รยี นไม่มี ขอ้ มูลผลการเรียนในรายวิชาครบถว้ น ไดแ้ ก่ ไม่ไดว้ ดั ผลกลางภาคเรยี น/ ปลายภาคเรยี นไม่ไดส้ ่งงานท่ีมอบหมายให้ทา ซึ่งงานนัน้ เป็นส่วนหน่งึ ของ การตัดสนิ ผลการเรยี นหรอื มเี หตสุ ุดวิสัยที่ทาใหป้ ระเมินผลการเรยี นไม่ได้ 3.2.2 ตดั สินผลการเรียน มส. หมายถงึ ผเู้ รยี นไม่มีสิทธเิ ขา้ รับการวดั ผลปลายภาคเรียน เนอ่ื งจากผเู้ รยี น มีเวลาเรียนไม่ถึงร้อยละ 80 ของเวลาเรยี นท้งั หมด และไมไ่ ดร้ บั การผ่อน ผันใหเ้ ขา้ รับการวดั ผลปลายภาคเรยี น หลักสูตรกลุ่มสาระการเรยี นรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี พทุ ธศักราช 2564 430

4. การประเมนิ การอา่ น คิดวิเคราะห์และการเขยี น เกณฑ์การประเมินการอา่ น คิดวิเคราะห์และการเขียน คะแนนเต็ม 20 คะแนน ระดบั คณุ ภาพ ความหมาย ชว่ งคะแนน ดีเยย่ี ม 16 - 20 ดี มผี ลงานท่ีแสดงถึงความสามารถในการอา่ น คิดวิเคราะห์ 13 - 15 ผ่าน และเขยี น ท่ีมคี ุณภาพดเี ลิศอยเู่ สมอ 10 - 12 ไม่ผ่าน มผี ลงานทีแ่ สดงถึงความสามารถในการอา่ น คดิ วิเคราะห์ 0–9 และเขียน ท่ีมคี ณุ ภาพเปน็ ท่ียอมรับได้ มผี ลงานทแ่ี สดงถึงความสามารถในการอ่าน คดิ วเิ คราะห์ และเขยี น ท่ีมีคณุ ภาพเป็นที่ยอมรับได้ แตย่ ังมีขอ้ บกพร่อง บางประการ ไม่มีผลงานที่แสดงถึงความสามารถในการอ่าน คดิ วิเคราะห์ และเขียน หรือถา้ มีผลงาน ผลงานนั้นยงั มขี ้อบกพรอ่ งท่ี ตอ้ งการได้รบั การปรับปรงุ แก้ไขหลายประการ หลกั สตู รกลมุ่ สาระการเรยี นรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี พทุ ธศักราช 2564 431

ภาคผนวก หลกั สูตรกลุ่มสาระการเรียนรู้วทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี พุทธศักราช 2564 432

อภธิ านศัพท์ ศพั ท์ทเ่ี ก่ยี วข้องกบั ตัวชี้วัดกลุ่มสาระการเรยี นรู้วทิ ยาศาสตร์ 1. กาหนดปัญหา (Define problem) ระบคุ าถาม ประเด็นหรอื สถานการณท์ ีเ่ ป็นข้อสงสยั เพื่อนาไปสู่การแก้ปญั หาหรืออภปิ ราย รว่ มกนั 2. แก้ปัญหา (Solve problem) หาคาตอบของปัญหาท่ียังไม่รู้วิธกี ารมาก่อน ทง้ั ปัญหาท่ีเกย่ี วขอ้ งกับวทิ ยาศาสตร์โดยตรง และปัญหาในชีวิตประจาวันโดยใช้เทคนิคและวธิ กี ารต่าง ๆ 3. เขยี นแผนผงั /วาดภาพ (Construct diagram/ illustrate) นาเสนอข้อมูลหรอื ผลการสารวจตรวจสอบดว้ ยแผนผงั กราฟหรอื ภาพวาด 4. คาดคะเน (Predict) คาดการณ์ผลทจ่ี ะเกดิ ขึ้นในอนาคตโดยอาศยั ข้อมูลที่สงั เกตไดแ้ ละประสบการณ์ทีม่ ี 5. คานวณ (Calculate) หาผลลัพธ์จากข้อมูล โดยใช้หลกั การ ทฤษฎี หรือวธิ ีการทางคณิตศาสตร์ 6. จาแนก (Classify) จัดกลมุ่ ของสง่ิ ต่าง ๆ โดยอาศัย ลกั ษณะที่เหมือนกนั เปน็ เกณฑ์ 7. ตง้ั คาถาม (Ask question) พูดหรอื เขียนประโยค หรือวลี เพือ่ ให้ได้มาซึง่ การค้นหา คาตอบทตี่ ้องการ 8. ทดลอง (Conduct/experiment) ปฏิบตั ิการเพ่ือหาคาตอบ ของคาถาม หรือปัญหาในการ ทดลอง โดยตงั้ สมมติฐานเพื่อ เป็น แนวทางในการกาหนด ตวั แปรและวางแผนดาเนินการ เพ่ือตรวจสอบสมมตฐิ าน 9. นาเสนอ (Present) แสดงข้อมลู เรือ่ งราว หรอื ความคิด เพื่อให้ผอู้ นื่ รบั รู้ หรือพจิ ารณา 10. บรรยาย (Describe) ใหร้ ายละเอียดของเหตกุ ารณ์ หรอื ปรากฏการณ์ทเี่ กดิ ขน้ึ ให้ ผู้อน่ื ไดร้ บั รู้ดว้ ยการบอก หรือ เขยี น 11. บอก (Tell) ใหข้ อ้ มลู ข้อเท็จจริง แกผ่ ู้อน่ื ดว้ ยการพดู หรอื เขียน 12. บนั ทึก (Record) เขียนข้อมูลท่ีได้จากการสังเกต เพื่อช่วยจา หรือเพอ่ื เปน็ หลักฐาน 13. เปรยี บเทียบ (Compare) บอกความเหมือน และ/หรือ ความแตกตา่ ง ของสิ่งที่ เทยี บเคียงกนั 14. แปลความหมาย (Interpret) แสดงความหมายของข้อมูล จากหลกั ฐานทีป่ รากฏ เพ่ือลงข้อสรุป หลกั สตู รกลุม่ สาระการเรียนรู้วทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี พุทธศกั ราช 2564 433

15. ยกตวั อยา่ ง (Give examples) ใหข้ ้อมูลเหตกุ ารณห์ รือสถานการณ์ เพ่ือแสดงความเข้าใจในส่ิงท่ีได้ เรียนรู้ 16. ระบุ (Identify) ชี้บอกสิง่ ตา่ ง ๆ โดยใช้ข้อมูล ประกอบอยา่ งเพยี งพอ 17. เลอื กใช้ (Select) พจิ ารณา และตัดสนิ ใจนาวสั ดุ สิ่งของ อปุ กรณ์ หรือวิธกี ารมาใช้ได้อย่างเหมาะสม 18. วัด (Measure) หาขนาด หรอื ปริมาณ ของ ส่ิงตา่ ง ๆ โดยใชเ้ ครือ่ งมอื ที่เหมาะสม 19. วเิ คราะห์ (Analyze) แยกแยะ จัดระบบ เปรียบเทียบ จดั ลาดบั จดั จาแนก หรอื เชือ่ มโยงขอ้ มลู 20. สร้างแบบจาลอง (Construct model) นาเสนอแนวคดิ หรือเหตุการณ์ในรปู ของแผนภาพ ช้นิ งานสมการ ข้อความ คาพูดและ/หรือ ใช้แบบจาลองเพ่ืออธบิ ายความคิด วัตถุ หรอื เหตุการณต์ ่าง ๆ 21. สังเกต (Observe) หาขอ้ มูลด้วยการใช้ประสาทสัมผัสทั้งห้า ทเ่ี หมาะสมตามข้อเทจ็ จริงท่ปี รากฏ โดยไม่ใช้ ประสบการณเ์ ดมิ ของผสู้ ังเกต 22. สารวจ (Explore) หาขอ้ มูลเก่ยี วกับส่งิ ต่าง ๆโดยใชว้ ิธกี ารและเทคนิคท่ีเหมาะสม เพ่ือนาข้อมลู มาใชต้ าม วตั ถปุ ระสงค์ที่กาหนดไว้ 23. สบื คน้ ข้อมูล (Search) หาข้อมูล หรือขอ้ สนเทศท่ีมีผู้รวบรวมไว้แลว้ จากแหล่งตา่ ง ๆมาใช้ประโยชน์ 24. ส่ือสาร (Communicate) นาเสนอ และแลกเปล่ียนความคิด ข้อมลู หรือผลจากการสารวจตรวจสอบ ดว้ ยวธิ ีที่ เหมาะสม 25. อธิบาย (Explain) กลา่ วถงึ เรอ่ื งราวตา่ ง ๆ อยา่ งมเี หตุผล และมีข้อมลู หรือประจกั ษ์พยานอา้ งอิง 26. อภิปราย (Discuss) แสดงความคดิ เห็นตอ่ ประเดน็ หรือคาถามอย่างมเี หตผุ ลโดยอาศยั ความรู้และประสบการณ์ ของผู้อภปิ รายและข้อมลู ประกอบ 27. ออกแบบการทดลอง (Design experiment) กาหนด และวางแผนวิธีการทดลองให้สอดคล้องกับสมมตฐิ านและตัวแปรตา่ ง ๆรวมทง้ั การ บันทกึ ข้อมูล หลักสตู รกลุ่มสาระการเรียนรู้วทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี พทุ ธศักราช 2564 434

ศัพท์ที่เกีย่ วข้องกับตัวช้ีวัดสาระเทคโนโลยี 1. การใชล้ ขิ สิทธิข์ องผ้อู ื่น (Fair use) การนาส่อื หรือข้อมลู ที่เปน็ โดยชอบธรรม ลขิ สิทธขิ์ องผู้อื่นไปใช้โดยชอบดว้ ยกฎหมาย ภายใต้เงือ่ นไขบางประการ เช่น 1) นาไปใชใ้ นการศึกษา หรือการคา้ 2) งานน้นั เปน็ งานวิชาการ หรือบนั เทิง 3) คดั ลอกเพยี งสว่ นนอ้ ย หรือคัดลอกจานวนมาก 4) ทาใหเ้ จ้าของเสยี ผลประโยชน์ทางการเงิน มากน้อยเพียงใด 2. การตรวจและแกไ้ ข (Debugging) กระบวนการในการคน้ หาข้อผิดพลาดข้อผิดพลาดของโปรแกรมเพ่ือแก้ไขให้ทางานได้ ถกู ต้อง 3. การประมวลผลขอ้ มูล (Data processing) การดาเนนิ การตา่ ง ๆ กบั ข้อมูลเพื่อให้ไดผ้ ลลัพธ์ทม่ี ีความหมายและมีประโยชนต์ ่อการ นาไปใชง้ านมากยิ่งข้ึน 4. การรวบรวมข้อมลู (Data collection) กระบวนการในการรวบรวมข้อมลู ที่เก่ยี วข้องจากแหลง่ ขอ้ มูลตา่ ง ๆ 5. ข้อมูลปฐมภมู ิ (Primary data) ข้อมูลที่รวบรวมโดยตรงจากแหลง่ ข้อมูลขนั้ ต้น โดยอาจใชว้ ิธกี ารสงั เกต การทดลอง การ สารวจ การสมั ภาษณ์ 6. เทคโนโลยี (Technology) ส่งิ ที่มนุษยส์ ร้างหรือพฒั นาข้ึนซง่ึ อาจเปน็ ไดท้ ้ังช้นิ งาน หรือวธิ ีการ เพื่อใช้แกป้ ัญหาสนอง ความต้องการ หรือเพม่ิ ความสามารถในการทางานของมนุษย์ 7. แนวคดิ เชงิ คานวณ (Computational thinking) กระบวนการในการแกป้ ญั หาการคดิ วเิ คราะห์อย่างมีเหตุผลเปน็ ขนั้ ตอน เพอื่ หาวธิ กี าร แกป้ ัญหาในรูปแบบท่ีสามารถนาไปประมวลผลได้ 8. แนวคิดเชิงนามธรรม (Abstraction) การพิจารณารายละเอยี ดทีส่ าคญั ของปญั หา แยกแยะสาระสาคัญออกจากสว่ นทไ่ี มส่ าคญั 9. ระบบทางเทคโนโลยี (Technological system) กลุ่มของส่วนต่าง ๆ ตงั้ แต่ สองสว่ นข้นึ ไป ประกอบเข้าดว้ ยกนั และทางานร่วมกนั เพอ่ื ให้ บรรลุวัตถุประสงค์ โดยในการทางานของระบบทางเทคโนโลยจี ะประกอบไปด้วย ตวั ปอ้ น (input) กระบวนการ (process) และผลผลติ (output) ท่สี ัมพนั ธก์ ัน นอกจากนีร้ ะบบทางเทคโนโลยี อาจมี ขอ้ มูลย้อนกลบั (feedback) เพ่ือใชป้ รับปรงุ การทางานได้ตามวตั ถปุ ระสงค์ 10. เหตุผลเชงิ ตรรกะ (Logical reasoning) การใช้เหตุผล กฎ กฎเกณฑห์ รอื เง่อื นไขทเ่ี ก่ียวข้อง เพอื่ แก้ปัญหาไดค้ รอบคลุมทุกกรณี 11. เหตุผลวิบัติ (Logical fallacy) การใชเ้ หตุผลทผ่ี ิดพลาด ไม่อยู่บนพนื้ ฐานของความจรงิ ไม่มนี ้าหนักสมเหตุสมผลมา หลกั สูตรกลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี พทุ ธศักราช 2564 435

สนบั สนนุ หรือชน้ี าขอ้ สรปุ ท่ีผิดใหด้ ูนา่ เชอ่ื ถือ 12. อตั ลกั ษณ์ (Identity) ลกั ษณะเฉพาะหรือข้อมลู สาคัญทีบ่ ่งบอกถึงความเปน็ ตัวตนของบุคคลหรือส่งิ ใดสิง่ หนงึ่ เช่น ชือ่ บญั ชผี ู้ใช้ ใบหนา้ ลายนิ้วมอื 13. อลั กอริทมึ (Algorithm) ขัน้ ตอนในการแก้ปญั หาหรือการทางาน โดยมลี าดับของคาสั่งหรือวธิ ีการทช่ี ดั เจนที่ คอมพวิ เตอร์สามารถปฏิบตั ิตามได้ 14. แอปพลิเคชนั (Software application) ซอฟต์แวร์ประยุกต์ ที่ทางานบนคอมพวิ เตอร์ สมารต์ โฟนแท็บเลต็ หรอื อปุ กรณ์เทคโนโลยี อน่ื ๆ หลกั สูตรกลุ่มสาระการเรยี นรู้วทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี พทุ ธศกั ราช 2564 436

คณะผจู้ ดั ทา ทีป่ รึกษา 1. นายอนุชา ศิลาเกษ ผอู้ านวยการโรงเรียนเชยี งคาน 2. นายเลียง โทคาเวช รองผู้อานวยการโรงเรียนเชียงคาน 3. นายธรรมรตั น์ จติ รประเสริฐ รองผูอ้ านวยการโรงเรยี นเชียงคาน 4. นางสาวชิโรบล วรรณธะนะ รองผู้อานวยการโรงเรียนเชียงคาน 5. นางสุรยี ์พร บุสดี ครู ปฏิบัตหิ นา้ ท่ีรองผู้อานวยการโรงเรียนเชยี งคาน คณะทางาน ประธานกรรมการ 1. นางสุทธินี แร่นาค รองประธาน 2. นายอทุ ัย ไชยโชค กรรมการ 3. นางสาวสุจารีย์ สงั ขท์ อง กรรมการ 4. นางสาวณัฏฐณิชา คาต่า กรรมการ 5. นายอภิสทิ ธิ์ ศรกี ุลวงศ์ กรรมการ 6. นายชยพล พรมมาปี กรรมการ 7. นายวาสนา บุดดาเหลา กรรมการ 8. นางรัชณี หยินอยู่ กรรมการ 9. นางสจุ ิตรา ประภาวฒุ ิ กรรมการ 10. นางสาวอชติ าญา ทุมมาลา กรรมการ 11. นางศริ พิ ร แสนบุดดา กรรมการ 12. นายนิมิต บัวระภา กรรมการ 13. นายวรวัฒน์ คาหวาน กรรมการ 14. นายสุวจิ ักษณ์ วอหา กรรมการ 15. นางสาวชวัลนุช พรมภักดิ์ กรรมการ 16. นายบัณฑติ หยินอยู่ กรรมการ 17. นางปิยพร ทะพา กรรมการ 18. นายเอกรนิ ทร์ ทุมชะ กรรมการและเลขานุการ 19. นางสาวอรอนงค์ วังคา หลักสตู รกลุ่มสาระการเรยี นรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี พุทธศกั ราช 2564 437