Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore แผนกาจัดการเรียนรู้คณิตศาสตร์ ป.3

แผนกาจัดการเรียนรู้คณิตศาสตร์ ป.3

Description: ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2566

Search

Read the Text Version

7. การวดั และประเมนิ ผล รายการวดั วิธีการ เครอ่ื งมือ เกณฑก์ ารประเมนิ ประเมินระหว่างการจดั กิจกรรมการเรียนรู้ 1) การบวกจานวน - ตรวจใบงานท่ี 2.3 - ใบงานที่ 2.3 - รอ้ ยละ 60 ผา่ นเกณฑ์ - กิจกรรมฝกึ ทกั ษะ - รอ้ ยละ 60 ผ่านเกณฑ์ สามจานวนที่มี - ตรวจกจิ กรรมฝกึ ทักษะ - แบบฝกึ หดั - ร้อยละ 60 ผ่านเกณฑ์ ผลบวกไม่เกิน - ตรวจแบบฝกึ หัด 100,000 2) การนาเสนอ - ประเมนิ การนาเสนอ - แบบประเมนิ การ - ระดบั คณุ ภาพ 2 ผ่าน ผลงาน/ผลการทา ผลงาน/ผลการทา นาเสนอผลงาน เกณฑ์ กจิ กรรม กิจกรรม 3) พฤตกิ รรมการ - สงั เกตพฤติกรรม - แบบสงั เกต - ระดบั คุณภาพ 2 ผา่ น ทางานรายบุคคล การทางานรายบุคคล พฤติกรรม เกณฑ์ การทางานรายบุคคล 4) พฤตกิ รรม - สงั เกตพฤติกรรม - แบบสังเกต - ระดบั คุณภาพ 2 ผ่าน การทางานกลุ่ม การทางานกลุ่ม พฤตกิ รรม เกณฑ์ การทางานกลุ่ม 5) คณุ ลักษณะ - สังเกตความมวี ินัย - แบบประเมนิ - ระดับคุณภาพ 2 ผ่าน อันพึงประสงค์ ใฝเ่ รียนรู้ และมงุ่ มั่น ในการทางาน คุณลกั ษณะ เกณฑ์ อนั พึงประสงค์ 8. สอ่ื /แหล่งการเรยี นรู้ 8.1 สือ่ การเรยี นรู้ 1) หนังสือเรียน คณติ ศาสตร์ ป. 3 เลม่ 1 หนว่ ยที่ 2 การบวกจานวนทม่ี ีผลบวก ไม่เกนิ 100,000 2) หนังสอื แบบฝึกหัด คณิตศาสตร์ ป. 3 เลม่ 1 หน่วยท่ี 2 การบวกจานวนท่ีมีผลบวก ไม่เกิน 100,000 3) ใบงานที่ 2.3 เรื่อง รู้หรือไม?่ บวกกันสามจานวนแลว้ ได้เทา่ ไรนะ 4) บัตรภาพสนิ ค้า 5) บัตรโจทยก์ ารบวกสามจานวน 6) บัตรกระดาษคาตอบ 8.2 แหลง่ การเรียนรู้ - ห้องเรียน

ใบงานที่ 2.3 เรอื่ ง รู้หรอื ไม?่ บวกกันสามจานวนแลว้ ไดเ้ ท่าไรนะ คาช้ีแจง : ให้นักเรียนแตล่ ะกลุม่ ชว่ ยกันเลอื กจานวนทก่ี าหนดให้ไปแสดงวธิ กี ารบวกจานวนสามจานวน โดยแตล่ ะขอ้ ต้องไม่ใช้จานวนซา้ กัน 5,791 4,323 3,712 6,824 15,679 23,456 79,312 11,547 83,660 74,390 23,475 51,678 จงแสดงวิธีทา โจทย์ โจทย์ แสดงวธิ ีทา แสดงวิธที า ..................................................... ..................................................... ..................................................... ..................................................... ..................................................... ..................................................... ..................................................... ..................................................... ..................................................... ..................................................... ..................................................... ..................................................... โจทย์ โจทย์ แสดงวิธีทา แสดงวิธที า ..................................................... ..................................................... ..................................................... ..................................................... ..................................................... ..................................................... ..................................................... ..................................................... ..................................................... ..................................................... ..................................................... .....................................................

ใบงานท่ี 2.3 เฉลย เร่ือง รหู้ รอื ไม?่ บวกกนั สามจานวนแล้วไดเ้ ทา่ ไรนะ คาช้ีแจง : ใหน้ กั เรียนแต่ละกลมุ่ ชว่ ยกันเลือกจานวนท่กี าหนดให้ไปแสดงวธิ กี ารบวกจานวนสามจานวน โดยแตล่ ะข้อ ต้องไม่ใชจ้ านวนซา้ กัน 5,791 4,323 3,712 6,824 15,679 23,456 79,312 11,547 83,660 74,390 23,475 51,678 จงแสดงวิธีทา โจทย์ โจทย์ แสดงวธิ ีทา แสดงวิธที า ..................................................... ..................................................... ..................................................... ..................................................... ..................................................... ..................................................... ..................................................... ..................................................... ..................................................... ..................................................... ..................................................... ..................................................... โจทย์ โจทย์ แสดงวธิ ที า แสดงวธิ ีทา ..................................................... ..................................................... ..................................................... ..................................................... ..................................................... ..................................................... ..................................................... ..................................................... ..................................................... ..................................................... ..................................................... .....................................................

บตั รภาพสนิ ค้า 23,110 4,200 22,410 31,040 3,250 5,410 2,312 1,541 14,340

บตั รโจทย์การบวกสามจานวน 34,522 + 25,341 + 22,389 =  2,562 + 2,310 + 5,614 =  8,420 + 3,579 + 1,900 =  4,157 + 5,230 + 1,411 =  6,452 + 1,347 + 1,290 =  3,584 + 5,214 + 2,100 =  บตั รกระดาษคาตอบ

บันทึกผลหลังกระบวนการจดั กิจกรรมการเรียนรู้ 1. ผลการเรียนรทู้ ่เี กิดข้นึ กบั ผู้เรียน 1.1 ผเู้ รยี นผ่านจุดประสงค์การเรยี นรู้ จานวน...................คน คิดเปน็ ร้อยละ.................. 1.2 ผเู้ รียนไมผ่ า่ นจุดประสงค์การเรยี นรู้ จานวน...................คน ไดแ้ ก่ ......................................................................................................................................................................... สาเหตุ .......................................................................................................…………………………………………………………. 1.3 ผูเ้ รียนได้รบั ความรู้ : .......................................................................................................…………………………………………………………. 1.4 ผเู้ รยี นเกิดทกั ษะกระบวนการ : .......................................................................................................…………………………………………………………. 1.5 ผเู้ รยี นมีคณุ ธรรม จริยธรรม ค่านยิ ม : .......................................................................................................…………………………………………………………. 2. ปัญหา / อปุ สรรค …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………….………………………....................................................................................................................................... ....................................................................................................................................................................................... …………….………………………............................................................................................................................................. 3. ขอ้ เสนอแนะ / แนวทางแก้ไข …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………….………………………....................................................................................................................................... ....................................................................................................................................................................................... …………….………………………............................................................................................................................................. ลงชือ่ ........................................ผสู้ อน (นางสาวพรรตั น์ จนั ทร์คา)

แผนการจดั การเรยี นรู้ท่ี 8 กลมุ่ สาระการเรยี นรู้ คณติ ศาสตร์ รหัสวิชา ค 13101 ชั้นประถมศกึ ษาปที ี่ 3 หน่วยการเรยี นรูท้ ี่ 2 เรอ่ื ง การบวกจานวนที่มผี ลบวกไมเ่ กิน 100,000 เวลาเรียน 3 ชั่วโมง เวลา …………………………… เรื่อง แบบรูปของจานวนท่ีเพิ่มขนึ้ ทลี ะเท่า ๆ กนั ชื่อผสู้ อน นางสาวพรรัตน์ จันทรค์ า วนั ที่ ........................................ 1. มาตรฐานการเรยี นรู้/ตวั ช้วี ัด ค 1.2 ป.3/1 ระบจุ านวนทหี่ ายไปในรปู ของจานวนทเ่ี พมิ่ ขึ้นหรอื ลดลงทีละเทา่ ๆ กนั 2. จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ 1) อธิบายแบบรูปของจานวนทีเพิม่ ขนึ้ ทลี ะเท่า ๆ กันได้ (K) 2) ระบุจานวนท่หี ายไปในรูปของจานวนทเ่ี พิม่ ขนึ้ ทีละเท่า ๆ กันได้ (P) 3) นาความรูเ้ ก่ยี วกับแบบรูปของจานวนท่ีเพมิ่ ขึน้ ทีละเท่า ๆ กัน ไปใชแ้ ก้ปัญหาทางคณติ ศาสตร์ได้ (A) 3. สาระการเรยี นรู้ สาระการเรียนรทู้ ้องถ่ิน พิจารณาตามหลักสูตรของสถานศึกษา สาระการเรยี นรู้แกนกลาง แบบรูปของจานวนทเี่ พ่ิมขนึ้ หรอื ลดลงทลี ะเท่า ๆ กัน 4. สาระสาคัญ/ความคดิ รวบยอด แบบรูปของจานวนท่ีเพ่ิมข้ึนเป็นการเรียงลาดับจานวนจากน้อยไปมาก จานวนทางขวาจะมากกว่าจานวนทางซ้าย ทอี่ ยู่ตดิ กนั ตามการเพ่มิ ขึน้ ทก่ี าหนด อาจจะเรม่ิ ต้นด้วยจานวนนับจานวนใดกไ็ ด้ 5. สมรรถนะสาคัญของผเู้ รยี นและคุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ สมรรถนะสาคญั ของผู้เรยี น คณุ ลกั ษณะอันพึงประสงค์ 1. ความสามารถในการส่ือสาร 1. มีวินัย 2. ความสามารถในการคดิ 2. ใฝเ่ รยี นรู้ 1) ทกั ษะการสังเกต 3. มงุ่ ม่นั ในการทางาน 2) ทักษะการเชอื่ มโยง 3) ทักษะการใหเ้ หตผุ ล 4) ทักษะกระบวนการคิดแกป้ ัญหา 3. ความสามารถในการแกป้ ญั หา 4. ความสามารถในการใชท้ ักษะชวี ิต

6. กิจกรรมการเรียนรู้  แนวคิด/รปู แบบการสอน/วธิ ีการสอน/เทคนิค : แบบค้นพบ (Discovery Method) ชว่ั โมงที่ 1 ขั้นนา นาเขา้ สู่บทเรยี น 5. ครูกระตุ้นความสนใจของนกั เรียนโดยการใหน้ กั เรียนดบู ัตรตวั เลขแสดงจานวน 5 ใบ ดังนี้ ตัวอย่างบตั รจานวน 4,530 4,533 4,536 4,539 4,542 จากน้ันครูตงั้ คาถามแล้วใหน้ ักเรยี นร่วมกันตอบว่า “นักเรยี นร้หู รือไม่วา่ จานวนเหลา่ นม้ี ีความสัมพันธ์กันอย่างไร (แนวตอบ ขน้ึ อยกู่ บั ดุลยพินิจของครผู ู้สอน) 2. ครูคอยกระตุ้นให้นักเรียนแสดงความคิดเห็นอย่างมีเหตุผล โดยให้คาแนะนาว่าบัตรตัวเลขแสดงจานวนแต่ละใบ ตา่ งกนั หรอื เหมอื นกนั อย่างไร ถา้ ต่างกนั ตา่ งกนั อย่างไร หรือถ้าเหมือนกนั เหมือนกนั อย่างไร หมายเหตุ : ครยู งั ไม่เฉลยจนกว่านักเรยี นจะหาความสมั พันธ์ไดด้ ว้ ยตนอง ขน้ั สอน สอน 1. ครูให้นักเรียนแบ่งกลุ่ม กลุ่มละ 5 คน (คละความสามารถทางคณิตศาสตร์) แล้วแจกป้ายตัวเลขที่มตี ัวเลข 3, 5, 8, 10 (ตัวเลขละ 1 ป้าย) โดยให้สิทธิ์ในการชูป้ายตอบคาถามได้แค่คนละ 1 คร้ัง คร้ังละ 1 คนต่อกลุ่มเท่านั้น นักเรียนทตี่ อบคาถามไปแลว้ ไม่สามารถตอบคาถามได้อีก ไมว่ ่าจะตอบผิดหรอื ถูกก็ตาม 2. ครูนาบัตรแบบรูปของจานวนท่ีมีความสัมพันธ์กันแบบเพ่ิมข้ึนทีละ 3 เพิ่มข้ึนทีละ 5 เพ่ิมข้ึนทีละ 8 และเพิ่มขึ้นที ละ 10 ชนิดละ 5 ชุด มาแสดงให้นักเรียนดู คร้ังละ 1 ชุด สลับกัน จากน้ันให้นักเรียนชูป้ายท่ีมีตัวเลขตรงกับ ความสัมพนั ธ์ของแบบรปู กลุม่ ทชี่ ูปา้ ยได้ถูกต้องมากท่ีสดุ เป็นกลุ่มท่ีชนะ 4,530 4,533 4,536 4,539 4,542 45,108 45,116 45,124 45,132 45,140 95,820 95,830 95,840 95,850 95,860 15,003 15,006 15,009 15,012 15,015 20,550 20,555 20,560 20,565 20,570

3. ครูให้อาสาสมัครนักเรียนในกลุ่มท่ีชนะออกมาอธิบายว่า “เพราะเหตุใดจึงเลือกชูป้ายตัวเลขดังกล่าวกับบัตรแบบ รปู ของจานวนท่คี รูแสดงให้ดูในแต่ละครง้ั ” 4. ครูให้นักเรียนแบ่งกลุ่ม กลุ่มละ 4 คน (คละความสามารถทางคณิตศาสตร์) ให้นักเรียนร่วมกันศึกษาแบบรูปของ จานวนท่เี พม่ิ ข้นึ จากหนงั สือเรียน คณิตศาสตร์ ป.3 เล่ม 1 หน้า 47–50 5. ครูตง้ั คาถามให้นักเรียนร่วมกันคิดและตอบวา่ “ในการหาแบบรูปนักเรียนมวี ธิ ีคิดอย่างไร” (แนวตอบ หาคา่ ความต่างของแบบรูปแรกและแบบรูปที่สอง จะทาใหท้ ราบว่าเพ่มิ ขึ้นทีละเท่าไร) 6. ครกู าหนดแบบรูปของจานวนท่ีมีความสัมพันธ์แบบเพิ่มขึ้นทีละ 3 ให้นักเรียนพิจารณาและร่วมกันอภิปราย แล้ว ตง้ั คาถามกระตนุ้ ความคดิ ว่า “จานวนต่อไปคือจานวนใด” 100, 103, 106, 109, … , …, … จากนั้นครูกล่าวว่า จากแบบรูปที่กาหนด เริ่มจาก 100 จานวนต่อมา คือ 103, 106, 109, … โดยครูต้ังคาถาม กระตุ้นความคิด ดงั นี้  จานวนเรม่ิ ตน้ ของแบบรปู คอื จานวนใด (แนวตอบ 100)  จานวนถดั ไปของแบบรูปคอื จานวนใด (แนวตอบ 103)  จานวน 100 และ จานวน 103 มีค่ามากกวา่ หรอื นอ้ ยกวา่ 100 อยู่เท่าไร (แนวตอบ มากกวา่ อยู่ 3)  จานวนทีถ่ ัดจาก 103 คือจานวนใด และมคี า่ มากกวา่ หรือน้อยกว่า 103 อยู่เท่าไร (แนวตอบ 106 และมากกวา่ อยู่ 3)  จานวนท่ถี ดั จาก 106 คือจานวนใด และมีค่ามากกวา่ หรอื นอ้ ยกว่า 106 อยเู่ ทา่ ไร (แนวตอบ 109 และมากกวา่ อยู่ 3)  นักเรยี นคิดว่าจานวนท่อี ยู่ถดั จาก 109 ควรมีค่ามากกวา่ หรอื น้อยกว่า 109 เทา่ ไร (แนวตอบ มากกวา่ อยู่ 3)  นกั เรียนคิดว่าจานวนทอ่ี ยถู่ ดั จาก 109 อีกสามจานวน ควรมคี า่ เทา่ ไรบา้ ง (แนวตอบ 112, 115, 118) 7. ครูและนักเรียนร่วมกันสรุปความรู้เก่ียวกับแบบรูปของจานวนที่เพ่ิมขึ้นทีละเท่า ๆ กันว่า “แบบรูปของจานวนที่ เพ่ิมข้ึนเป็นการเรียงลาดับจานวนจากน้อยไปมาก จานวนทางขวาจะมากกว่าจานวนทางซ้ายที่อยู่ติดกันตามการ เพิ่มขนึ้ ทีก่ าหนด อาจจะเร่ิมต้นด้วยจานวนนับจานวนใดกไ็ ด้”

ช่ัวโมงท่ี 2 8. ครูกล่าวทักทายและทบทวนความรู้เก่ียวกับแบบรูปท่ีเพิ่มขึ้นทีละเท่า ๆ กัน ที่ได้เรียนจากช่ัวโมงที่แล้วโดย การกาหนดจานวน 3 จานวน ที่มีความสัมพันธ์กนั โดยการเพ่ิมข้ึนทีละ 3 แล้วขออาสาสมัครออกมาตอบคาถามว่า จานวนท่ีต่อจากจานวนชุดน้ีอีก 3 จานวน มีค่าเท่าใด พร้อมกับให้นักเรียนคนดังกล่าวอธิบายเหตุผลประกอบ คาตอบ โดยครเู ป็นผู้ตรวจสอบความสมเหตุสมผลของคาตอบ 9. ครูกาหนดแบบรูปของจานวนนับที่เพ่ิมข้ึนทีละ 5 ให้นักเรียนพิจารณาและร่วมกันอภิปรายแล้วต้ังคาถามกระตุ้น ความคดิ ว่า “จานวนต่อไปคอื จานวนใด” 55, 60, 65, 70, … , …, … โดยครูกล่าวว่าจากแบบรูปท่ีกาหนด เร่ิมจาก 55 จานวนต่อมาคือ 60, 65, 70, … โดยต้ังคาถามกระตุ้น ความคิด ดังน้ี  จานวนเริ่มต้นของแบบรูปคือจานวนใด (แนวตอบ 55)  จานวนถัดไปของแบบรปู คือจานวนใด (แนวตอบ 60)  จานวน 55 และ จานวน 60 มคี า่ มากกวา่ หรือน้อยกวา่ 55 อยเู่ ทา่ ไร (แนวตอบ มากกวา่ อยู่ 5)  จานวนที่ถัดจาก 60 คือจานวนใด และมคี ่ามากกวา่ หรอื น้อยกว่า 60 อยู่เท่าไร (แนวตอบ 65 และมากกว่าอยู่ 5)  จานวนท่ีถดั จาก 65 คือจานวนใด และมีค่ามากกวา่ หรือนอ้ ยกว่า 65 อย่เู ท่าไร (แนวตอบ 70 และมากกว่าอยู่ 5)  นกั เรยี นคดิ วา่ จานวนทอี่ ย่ถู ดั จาก 70 ควรมีค่ามากกวา่ หรือนอ้ ยกวา่ 70 เท่าไร (แนวตอบ มากกว่าอยู่ 5)  นักเรยี นคดิ วา่ จานวนทอ่ี ยถู่ ดั จาก 70 อีกสามจานวน ควรมีคา่ เท่าไรบา้ ง (แนวตอบ 75 , 80 , 85) 10. ครกู าหนดแบบรูปของจานวนนับท่เี พ่ิมขึ้นทีละ 5 อีก 3 จานวน แลว้ ให้นักเรียนร่วมกันหาค่าท่ีอยู่ถดั จากจานวน สุดท้ายของจานวนชุดนี้ อกี 3 จานวน ครสู ังเกตและใหค้ าแนะนาเกี่ยวกับแบบรูปทเี่ พม่ิ ขึน้ ทลี ะเท่า ๆ กนั เพม่ิ เตมิ ฝกึ ทกั ษะ 1. ครูให้นักเรียนหาคาตอบจากคาถามมุมขวาบนในหนังสือเรียนคณิตศาสตร์ ป.3 เล่ม 1 หน้า 47 จากนั้นครูและ นักเรียนรว่ มกนั เฉลยคาตอบ (แนวตอบ มคี วามสมั พนั ธ์กนั โดยการเพิ่มข้ึนทลี ะ 5)

2. ครูกาหนดจานวนข้ึนมา 1 จานวน จากนั้นขออาสาสมัครนักเรียนทีละ 1 คน เพ่ือบอกจานวนถัดไปท่ีนับเพิ่มครั้ง ละ 2 ตอ่ จากจานวนที่ครูกาหนด เช่น 1,021  นักเรยี นคนท่ี 1 บอกจานวนถดั ไปคือจานวนใด (แนวตอบ 1,023)  นกั เรียนคนท่ี 2 บอกจานวนถดั ไปคือจานวนใด (แนวตอบ 1,025)  นกั เรียนคนท่ี 3 บอกจานวนถัดไปคือจานวนใด (แนวตอบ 1,027) ครูให้นักเรียนบอกจานวนถัดไปอีก 3–4 คน จากน้ันครูเปลี่ยนเป็นนับเพ่ิมทีละ 5, 25, 50 และ 100 โดยเปล่ียน นกั เรยี นคนอ่ืนเปน็ คนกาหนดจานวน 3. ครูให้นักเรียนแบ่งกลุ่ม กลุ่มละ 4 คน (คละความสามารถทางคณิตศาสตร์) แล้วให้แต่ละกลุ่มร่วมกันทาใบงานท่ี 2.4 เร่ือง แบบรูปของจานวนที่เพ่ิมข้ึนทีละเท่า ๆ กัน เมื่อทาเสร็จแล้วให้แต่ละกลุ่มออกมานาเสนอหน้าช้ันเรียน โดยนักเรียนทเ่ี หลือชว่ ยกนั ตรวจสอบความถกู ตอ้ ง 4. ครูและนักเรียนร่วมกันสรุปความรู้เกี่ยวกับแบบรูปของจานวนท่ีเพิ่มขึ้นทีละเท่า ๆ กัน ว่าเป็นการบวกจานวน เพมิ่ ข้นึ ทีละเท่า ๆ กนั ชว่ั โมงท่ี 3 ขัน้ นา นาเขา้ สู่บทเรียน 1. ครูให้นักเรียนทอ่ งสูตรคูณ แม่ 2 แม่ 3 และ แม่ 5 พร้อมกันเพอ่ื เป็นการเตรยี มความพร้อมของผเู้ รียน 2. ครูให้นักเรียนแบ่งกลุ่ม กลุ่มละ 3 คน (คละความสามารถทางคณิตศาสตร์) จากนั้นแจกคลิปหนีบกระดาษ ให้ กลมุ่ ละ 50 อัน แลว้ ใหน้ กั เรียนแตล่ ะกลุ่มหยิบคลิปหนบี กระดาษตามจานวนท่ีครกู าหนด ดงั นี้  คร้งั ที่ 1 หยบิ คลปิ หนีบกระดาษมาวาง 5 อัน ครูต้ังคาถาม ใหน้ ักเรียนตอบว่าตอนนม้ี คี ลิปทัง้ หมดก่ีอนั (แนวตอบ 5)  ครง้ั ท่ี 2 หยิบคลิปหนบี กระดาษมาวาง 5 อนั ครตู ้ังคาถาม ให้นกั เรยี นตอบวา่ ตอนนม้ี คี ลิปทัง้ หมดกี่อนั (แนวตอบ 10)  ครั้งท่ี 3 หยิบคลิปหนีบกระดาษมาวาง 5 อนั ครตู ้ังคาถาม ใหน้ ักเรียนตอบว่าตอนนีม้ ีคลปิ ท้ังหมดก่ีอัน (แนวตอบ 15)  ครงั้ ที่ 4 หยิบคลิปหนีบกระดาษมาวาง 5 อัน ครตู ั้งคาถาม ให้นักเรียนตอบวา่ ตอนนี้มคี ลปิ ทั้งหมดก่ีอนั (แนวตอบ 20)  คร้งั ท่ี 5 หยิบคลปิ หนีบกระดาษมาวาง 5 อัน ครูต้ังคาถาม ให้นักเรียนตอบวา่ ตอนน้ีมคี ลปิ ทง้ั หมดก่ีอัน (แนวตอบ 25)

 ครั้งท่ี 6 หยิบคลปิ หนีบกระดาษมาวาง 5 อนั ครตู ้ังคาถาม ใหน้ ักเรียนตอบวา่ ตอนนี้มคี ลปิ ทั้งหมดกี่อนั (แนวตอบ 30)  ครง้ั ที่ 7 หยิบคลิปหนบี กระดาษมาวาง 5 อนั ครตู ้ังคาถาม ให้นักเรียนตอบวา่ ตอนนี้มคี ลิปท้ังหมดก่ีอัน (แนวตอบ 35)  คร้งั ท่ี 8 หยบิ คลปิ หนบี กระดาษมาวาง 5 อนั ครูตั้งคาถาม ให้นกั เรยี นตอบว่าตอนนม้ี ีคลปิ ท้ังหมดก่ีอัน (แนวตอบ 40) 3. ครูเขยี นชดุ ตัวเลขท่ีเกดิ จากหยิบคลปิ หนบี กระดาษทีละครงั้ บนกระดาน ดงั นี้ 5 10 15 20 25 30 35 40 จากนนั้ ตั้งคาถาม ใหน้ ักเรียนร่วมกนั ตอบว่า  ชุดตวั เลขดังกลา่ วเป็นรูปแบบของจานวนที่เพ่ิมทีละเท่าไร (แนวตอบ 5)  จานวนตอ่ ไปจะเป็นจานวนใด (แนวตอบ 45) ขั้นสอน สอน 1. ครูให้นกั เรยี นดูเสน้ จานวน 1 เสน้ แล้วใหน้ กั เรยี นรว่ มกนั พจิ ารณาว่า มีตัวเลขใดบ้างท่ีหายไปจากเส้นจานวน (แนวตอบ 30 35 55 65 75 80 85 90 95) 0 5 10 15 20 25 30 35 40 45 50 55 60 65 70 75 80 85 90 95 ตวั อย่างเสน้ จานวน 2. ครูอธบิ ายเพิม่ เติมว่าจานวนทเี่ ขยี นเรยี งลาดบั กนั อยา่ งมเี งือ่ นไข เราเรียกวา่ แบบรปู ในขอ้ นี้ คอื แบบรูปของ จานวนทีเ่ พมิ่ ขึ้นทลี่ ะ 5 3. ครูยกตัวอย่างแบบรูปที่เพ่ิมขึ้นทีละ 4 โดยให้นักเรียนเขียนแบบรูปท้ังหมดจากเส้นจานวนท่ีมีตัวเลขหายไป จากนั้นครูยกตัวอย่างแบบรูปจานวนท่ีเพ่ิมข้ึนทีละ 3 และทีละ 4 ประมาณ 3–4 ข้อ โดยสุ่มนักเรียนออกมาเขียน แบบรปู บนกระดาน จนนักเรยี นเขา้ ใจ ฝึกทักษะ 1. ครูให้นกั เรียนแบ่งกลุ่ม กลุ่มละ 4 คน (คละความสามารถทางคณิตศาสตร์) ให้นักเรียนแต่ละกลุ่มแข่งกัน ถาม-ตอบ ในกิจกรรม “เพื่อนช่วยเพื่อน” จากหนังสือเรียน คณิตศาสตร์ ป.3 เล่ม 1 หน้า 51 โดยกลุ่มที่ตอบเร็วและถูกต้อง

จะได้คะแนนสะสม 1 คะแนน จบเกมกลุ่มที่มีคะแนนมากที่สุดก็จะเป็นกลุ่มที่ชนะ จากน้ันครูและนักเรียนร่วมกัน เฉลยคาตอบอีกครง้ั 2. ครูให้นักเรียนจับคู่กับเพื่อนแล้วทากิจกรรมพัฒนาความรู้ในหนังสือเรียน คณิตศาสตร์ ป.3 เล่ม 1 หน้า 51 ประมาณ 10–15 นาที จากนั้นครแู ละนกั เรียนรว่ มอภิปรายเกี่ยวกับแบบรปู ของจานวนทไ่ี ดท้ าในกิจกรรม 3. ครูให้นักเรียนกลุ่มเดิมร่วมกันทากิจกรรมฝึกทักษะในหนังสือเรียน คณิตศาสตร์ ป.3 เลม่ 1 หน้า 52 เม่ือเสรจ็ แล้ว ให้แตล่ ะกลุม่ ออกมานาเสนอหน้าช้นั เรยี น โดยนักเรยี นทเี่ หลือชว่ ยกนั ตรวจสอบความถกู ต้อง ข้ันสรปุ สรุป 1. ครูให้นักเรียนร่วมกันตอบคาถามจาก “กรอบความรู้ที่ได้” ในหนังสือเรียน คณิตศาสตร์ ป.3 เล่ม 1 โดยครูเป็น ผตู้ รวจสอบความถกู ต้อง 2. ครูและนักเรียนรว่ มกันสรุปความรู้ว่า “แบบรูปและความสัมพันธ์ที่เพิ่มข้ึน คือ การเรียงลาดับจานวนจากน้อยไป มาก จานวนทาง ขวาจะมากกว่าจานวนทางซ้ายที่อยู่ติดกันตามความสัมพันธ์ที่กาหนด อาจจะเร่ิมต้นด้วยจานวน นับจานวนใดก็ได้” 3. ครูให้นักเรียนทาแบบฝึกหัด ในหนังสือแบบฝึกหัด คณิตศาสตร์ ป.3 เล่ม 1 เป็นการบ้าน เพื่อตรวจสอบ ความเข้าใจเป็นรายบุคคล 7. การวัดและประเมนิ ผล รายการวัด วธิ ีการ เครอ่ื งมอื เกณฑ์การประเมนิ ประเมินระหวา่ งการจดั กิจกรรมการเรียนรู้ 1) แบบรูปของจานวน - ตรวจใบงานที่ 2.4 - ใบงานท่ี 2.4 - ร้อยละ 60 ผา่ นเกณฑ์ ทเี พม่ิ ข้นึ ทีละเท่า ๆ - ตรวจกจิ กรรมฝึกทกั ษะ - กจิ กรรมฝกึ ทักษะ - ร้อยละ 60 ผา่ นเกณฑ์ กัน - ตรวจแบบฝึกหัด - แบบฝึกหดั - ร้อยละ 60 ผา่ นเกณฑ์ 2) การนาเสนอ - ประเมนิ การนาเสนอ - แบบประเมนิ การ - ระดบั คุณภาพ 2 ผา่ น ผลงาน/ผลการทา ผลงาน/ผลการทา นาเสนอผลงาน เกณฑ์ กจิ กรรม กิจกรรม 3) พฤติกรรมการ - สังเกตพฤตกิ รรม - แบบสงั เกต - ระดบั คุณภาพ 2 ผา่ น ทางานรายบุคคล การทางานรายบุคคล พฤตกิ รรม เกณฑ์ การทางานรายบคุ คล 4) พฤตกิ รรม - สงั เกตพฤติกรรม - แบบสงั เกต - ระดบั คุณภาพ 2 ผา่ น การทางานกลุม่ การทางานกลมุ่ พฤตกิ รรม เกณฑ์ การทางานกลมุ่

รายการวดั วิธีการ เครือ่ งมอื เกณฑ์การประเมนิ 5) คุณลกั ษณะ - สงั เกตความมีวินัย - แบบประเมนิ - ระดับคุณภาพ 2 ผา่ น อนั พงึ ประสงค์ ใฝ่เรียนรู้ และมุ่งม่นั คุณลกั ษณะ เกณฑ์ ในการทางาน อนั พึงประสงค์ 8. สอ่ื /แหลง่ การเรยี นรู้ 8.1 สือ่ การเรยี นรู้ 1) หนังสือเรียน คณิตศาสตร์ ป. 3 เลม่ 1 หนว่ ยท่ี 2 การบวกจานวนทมี่ ีผลบวก ไม่เกิน 100,000 2) หนังสือแบบฝกึ หดั คณิตศาสตร์ ป. 3 เล่ม 1 หนว่ ยที่ 2 การบวกจานวนท่ีมีผลบวก ไมเ่ กนิ 100,000 3) ใบงานท่ี 2.4 เรื่อง แบบรูปของจานวนทเี่ พิม่ ขน้ึ ทลี ะเท่า ๆ กนั 4) บัตรจานวน 5) ป้ายตัวเลข 6) คลิปหนบี กระดาษ 7) เสน้ จานวน 8.2 แหล่งการเรียนรู้ - ห้องเรียน

ใบงานที่ 2.4 เรือ่ ง แบบรูปของจานวนท่เี พม่ิ ข้ึนทลี ะเทา่ ๆ กัน คาช้ีแจง : ให้นกั เรยี นแตล่ ะกลุ่มทากิจกรรมตามทีก่ าหนดใหต้ ่อไปนี้ 1. โยงเสน้ จับคู่ให้ถูกตอ้ ง 2,814 2,817 2,820 2,823 2,826   แบบรูปของจานวนทเ่ี พมิ่ ขึน้ ทีล่ ะ 22 5,471 5,487 5,504 5,521 5,538   แบบรูปของจานวนทเ่ี พ่ิมข้ึนท่ีละ 3 25,111 25,133 25,155 25,177 25,199   แบบรปู ของจานวนที่เพิม่ ขึ้นที่ละ 40 49,175 49,187 49,199 49,211 49,223   แบบรูปของจานวนทเ่ี พิม่ ขึ้นทล่ี ะ 17 68,410 68,450 68,490 68,530 68,570   แบบรปู ของจานวนที่เพ่มิ ข้นึ ทลี่ ะ 12 2. เขยี นจานวนลงในชอ่ งวา่ งใหถ้ กู ต้อง ______ ______ ______ 1) นบั เพมิ่ ทลี ะ 6 4,591 4,597 ______ 2) นบั เพม่ิ ทลี ะ 12 ______ ______ ______ 41,234 ______ 41,258 3) นับเพม่ิ ทลี ะ 20 ______ ______ 45,100 45,000 ______ ______ 4) นับเพม่ิ ทีละ 50 79,330 ______ ______ 79,230 ______ ______

ใบงานท่ี 2.4 เฉลย เร่ือง แบบรปู ของจานวนทเี่ พมิ่ ขึน้ ทีละเทา่ ๆ กัน คาชี้แจง : ใหน้ ักเรียนแตล่ ะกลุ่มทากิจกรรมตามท่กี าหนดใหต้ ่อไปน้ี 1. โยงเส้นจับค่ใู หถ้ ูกต้อง 2,814 2,817 2,820 2,823 2,826   แบบรูปของจานวนท่เี พมิ่ ข้ึนทีล่ ะ 22 5,471 5,488 5,505 5,522 5,539   แบบรปู ของจานวนทเี่ พิ่มขน้ึ ทล่ี ะ 3 25,111 25,133 25,155 25,177 25,199   แบบรปู ของจานวนที่เพ่มิ ขึน้ ท่ีละ 40 49,175 49,187 49,199 49,211 49,223   แบบรปู ของจานวนท่เี พม่ิ ขึ้นท่ีละ 17 68,410 68,450 68,490 68,530 68,570   แบบรูปของจานวนท่เี พม่ิ ขึ้นทล่ี ะ 12 2. เขียนจานวนลงในช่องว่างใหถ้ กู ต้อง _4_,6_0_9__ _4_,6_1_5__ _4_,6_2_1__ 1) นบั เพ่ิมทีละ 6 4,591 4,597 _4_,6_0_3__ 2) นบั เพิ่มทีละ 12 4_1_,2_7_0__ 4_1_,2_8_2__ 4_1_,2_9_4__ 41,234 4_1_,2_4_6__ 41,258 3) นับเพิ่มทีละ 20 4_5_,0_4_0__ 4_5_,0_6_0__ 4_5_,0_8_0__ 45,100 45,000 4_5_,0_2_0__ 4) นับเพ่มิ ทลี ะ 50 79,380 7_9_,4_3_0__ 7_9_,4_8_0__ 79,230 7_9_,2_8_0__ 7_9_,3_3_0__

บัตรจานวน 4,533 4,536 4,539 4,542 4,530 45,116 45,124 45,132 45,140 45,108 95,830 95,840 95,850 95,860 95,820 15,006 15,009 15,012 15,015 15,003 20,555 20,560 20,565 20,570 20,550 เส้นจานวน 00 55 1100 1155 2200 2255 30 35 4400 4545 5500 55 6600 65 7700 75 80 85 90 95 ตวั อย่างเสน้ จานวน

ปา้ ยตัวเลข





3 5 8 10 แบบจาลองสือ่ “ป้ายตวั เลข” เม่ือประกอบแล้ว

บนั ทึกผลหลงั กระบวนการจดั กิจกรรมการเรยี นรู้ 1. ผลการเรียนรูท้ ่เี กิดขึ้นกบั ผเู้ รยี น 1.1 ผู้เรียนผ่านจดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้ จานวน...................คน คดิ เป็นรอ้ ยละ.................. 1.2 ผ้เู รยี นไมผ่ า่ นจุดประสงค์การเรยี นรู้ จานวน...................คน ได้แก่ ......................................................................................................................................................................... สาเหตุ .......................................................................................................…………………………………………………………. 1.3 ผเู้ รยี นได้รับความรู้ : .......................................................................................................…………………………………………………………. 1.4 ผู้เรียนเกดิ ทกั ษะกระบวนการ : .......................................................................................................…………………………………………………………. 1.5 ผเู้ รียนมคี ุณธรรม จรยิ ธรรม ค่านยิ ม : .......................................................................................................…………………………………………………………. 2. ปัญหา / อปุ สรรค …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………….………………………....................................................................................................................................... ....................................................................................................................................................................................... …………….………………………............................................................................................................................................. 3. ข้อเสนอแนะ / แนวทางแกไ้ ข …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………….………………………....................................................................................................................................... ....................................................................................................................................................................................... …………….………………………............................................................................................................................................. ลงช่ือ........................................ผสู้ อน (นางสาวพรรัตน์ จันทรค์ า)

แผนการจดั การเรียนร้ทู ่ี 9 กลุ่มสาระการเรียนรู้ คณิตศาสตร์ รหัสวิชา ค 13101 ช้ันประถมศึกษาปีที่ 3 หนว่ ยการเรยี นรทู้ ี่ 2 เรอื่ ง การบวกจานวนทม่ี ีผลบวกไม่เกนิ 100,000 เวลาเรยี น 3 ชว่ั โมง เวลา …………………………… เรอ่ื ง โจทย์ปัญหาการบวก ชื่อผสู้ อน นางสาวพรรัตน์ จันทรค์ า วันที่ ........................................ 1. มาตรฐานการเรยี นรู้/ตัวชวี้ ัด ค 1.1 ป.3/9 แสดงวธิ ีหาคาตอบของโจทย์ปัญหา 2 ข้ันตอน ของจานวนนบั ไมเ่ กิน 100,000 และ 0 2. จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้ 1) อธิบายข้นั ตอนวิธีการหาคาตอบจากโจทยป์ ญั หาไดอ้ ย่างถูกตอ้ ง (K) 2) วเิ คราะหโ์ จทยป์ ัญหาการบวกทตี่ วั ตัง้ ไมเ่ กนิ 100,000 ได้ (K) 3) เขียนประโยคสัญลกั ษณแ์ ละหาคาตอบไดจ้ ากโจทย์ปญั หาการบวกทต่ี ัวต้ังไม่เกนิ 100,000 ได้ (P) 4) นาความรูเ้ ก่ยี วกบั โจทย์ปญั หาไปใชแ้ ก้ปัญหาในชีวติ จรงิ ได้ (A) 3. สาระการเรยี นรู้ สาระการเรยี นรทู้ อ้ งถ่ิน พจิ ารณาตามหลกั สตู รของสถานศึกษา สาระการเรยี นร้แู กนกลาง การแก้โจทย์ปัญหาและการสร้างโจทย์ปัญหา พร้อมท้ัง หาคาตอบ 4. สาระสาคัญ/ความคดิ รวบยอด โจทยป์ ญั หาการบวกจะประกอบไปด้วยสองส่วนคอื ส่วนทโ่ี จทย์กาหนดให้และส่วนท่โี จทย์ถาม การหาคาตอบ โจทย์ปญั หาการบวก ทาไดโ้ ดยการวเิ คราะห์โจทย์ เขยี นประโยคสัญลกั ษณ์แลว้ หาคาตอบ 5. สมรรถนะสาคญั ของผู้เรียนและคุณลักษณะอันพงึ ประสงค์ สมรรถนะสาคัญของผเู้ รยี น คณุ ลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ 1. ความสามารถในการส่ือสาร 1. มีวนิ ัย 2. ความสามารถในการคดิ 2. ใฝ่เรยี นรู้ 1) ทักษะการเขียน 3. มุ่งมน่ั ในการทางาน 2) ทักษะการเช่อื มโยง 3) ทกั ษะการใหเ้ หตุผล 4) ทักษะกระบวนการคดิ แกป้ ญั หา 3. ความสามารถในการแกป้ ัญหา 4. ความสามารถในการใช้ทกั ษะชวี ิต

6. กิจกรรมการเรยี นรู้  แนวคิด/รปู แบบการสอน/วิธกี ารสอน/เทคนิค : แบบคน้ พบ (Discovery Method) ข้นั นา ชวั่ โมงที่ 1 นาเขา้ สูบ่ ทเรยี น 1. ครูทักทายนักเรียนและทบทวนความรู้เกี่ยวกับการบวกจานวนท่ีมีผลบวกไม่เกิน 100,000 โดยครูแบ่งนักเรียน ออกเป็นสองกล่มุ (กลุ่มนักเรียนชาย และกลมุ่ นกั เรียนหญิง) จากนั้นตั้งคาถามแล้วให้นักเรียนร่วมกันตอบ ดังน้ี  152 + 145 =  (แนวตอบ 297)  2,569 + 2,154 =  (แนวตอบ 4,723)  45,214 + 12,358 =  (แนวตอบ 57,572)  452 + 352 + 789 =  (แนวตอบ 1,593)  4,215 + 2,560 +1,487 =  (แนวตอบ 8,262) ซึ่งนักเรียนที่ยกมือก่อนจะมีสิทธ์ิตอบก่อน ถา้ ตอบถูกจะได้คะแนนสะสมให้กับกลุ่ม ขอ้ ละ 1 คะแนน กลุ่มใด ได้คะแนนมากท่ีสุดเป็นกลมุ่ ทีช่ นะ 2. ครูติดโจทย์ปัญหาการบวกบนกระดาน แล้วให้นักเรียนร่วมกันหาคาตอบเพ่ือเป็นการทบทวนและฝึกวิเคราะห์ โจทย์ปัญหา ตวั อยา่ ง พ่อใหเ้ งนิ 120 บาท ปูใ่ ห้เพ่ิมอีก 37 บาท ฉนั มเี งนิ รวมทง้ั หมดเทา่ ไร ใหน้ ักเรยี นวเิ คราะห์และตอบคาถามจากโจทยป์ ัญหา ดงั นี้  สง่ิ ท่ีโจทยถ์ ามคืออะไร (แนวตอบ ฉนั มีเงินรวมท้งั หมดเท่าไร)  สง่ิ ทโี่ จทย์กาหนดให้คืออะไร (แนวตอบ พอ่ ให้เงนิ 120 บาท และปู่ใหอ้ ีก 37 บาท)  โจทยป์ ัญหามีสว่ นประกอบ 2 สว่ น อะไรบ้าง (แนวตอบ สง่ิ ท่โี จทย์ถาม กับส่งิ ท่ีโจทย์กาหนดให้)  จากโจทยป์ ญั หาดังกลา่ วนักเรียนเขียนประโยคสัญลักษณ์ได้ว่าอย่างไร (แนวตอบ 120 + 37 =)

ข้นั สอน สอน 1. ครูให้นักเรียนพิจารณาคาถามมุมขวาบนในหนังสือเรียน คณิตศาสตร์ ป.3 เล่ม 1 หน้ า 53 เพื่อเป็น การทบทวนความรู้เก่ียวกับการแก้โจทย์ปัญหาการบวกจานวนไม่เกิน 1,000 ซึ่งนักเรียนได้เรียนมาแล้ว จากนนั้ ต้งั คาถาม ใหน้ กั เรียนร่วมกนั ตอบ ดังน้ี  ส่ิงท่โี จทย์ถามคอื อะไร (แนวตอบ พลอยมเี งนิ กบี่ าท)  สง่ิ ท่ีโจทย์กาหนดใหค้ ืออะไร (แนวตอบ พลอยมเี งิน 321 บาท ได้รับเงนิ เพิ่มจากคณุ แม่และคุณยาย 225 บาท และ 190 บาท ตามลาดับ)  โจทย์ปัญหาดังกล่าวต้องแกป้ ญั หาด้วยวิธีใด (แนวตอบ วิธีบวก)  คาตอบของโจทย์ปญั หาน้ีคืออะไร (แนวตอบ 736 บาท) 2. ครูต้ังคาถามกระต้นุ ความคิดให้นกั เรยี นร่วมกนั วิเคราะห์ ดังนี้  โจทย์ปญั หาการบวกจะประกอบไปดว้ ยก่สี ว่ น อะไรบ้าง (แนวตอบ 2 ส่วน คอื ส่งิ ทโี่ จทยก์ าหนดให้ กับสงิ่ ท่ีโจทย์ถาม)  นกั เรียนจะหาคาตอบโจทย์ปัญหาการบวกได้อยา่ งไร (แนวตอบ ทาไดโ้ ดยการวิเคราะห์โจทย์ เขยี นประโยคสญั ลักษณ์แล้วหาคาตอบ) 3. ครูยกตัวอย่างโจทย์ปัญหาการบวกบนกระดาน ใหน้ ักเรียนฝึกวเิ คราะหเ์ ขียนประโยคสญั ลกั ษณ์และหาคาตอบ สรุ เดชขายลูกไก่ได้เงิน 1,250 บาท ขายลูกเปด็ ได้ 2,537 บาท สรุ เดชขายสัตว์ท้งั สองชนดิ ได้เงินเท่าไร นักเรียนวิเคราะหแ์ ละตอบคาถามจากโจทย์ปญั หา ดงั นี้  ส่ิงทโ่ี จทย์ถามคืออะไร (แนวตอบ สุรเดชชายสัตว์ท้งั สองชนิดได้เงินเท่าไร)  สงิ่ ทโ่ี จทยก์ าหนดใหค้ อื อะไร (แนวตอบ สุรเดชขายลูกไก่ไดเ้ งนิ 1,250 บาท และ ขายลูกเป็ดได้เงิน 2,537 บาท)  วิธแี กโ้ จทย์ปัญหานีค้ ือวิธใี ด (แนวตอบ วธิ บี วก)  จากโจทยป์ ัญหาดงั กลา่ วนักเรยี นเขียนประโยคสัญลักษณ์ได้อยา่ งไร (แนวตอบ 1,250 + 2,537 =)  คาตอบของโจทย์ปญั หานคี้ ืออะไร (แนวตอบ สุรเดชขายสตั วท์ ั้งสองชนิดไดเ้ งนิ 3,787 บาท)

4. ครูให้นักเรียนแบ่งกลุ่ม กลุ่มละ 4 คน (คละความสามารถทางคณิตศาสตร์) แล้วให้แต่ละกลุ่มศึกษาตัวอย่างเรื่อง โจทย์ปัญหาการบวก ในหนังสือเรียนคณิตศาสตร์ ป.3 เล่ม 1 หน้า 55–56 จากนั้นครูให้นักเรียนแต่ละกลุ่มส่ง ตัวแทนออกมาอภิปรายหน้าช้ันเรยี น โดยครูและนกั เรยี นทเ่ี หลือรว่ มกนั ตรวจสอบความถกู ต้อง 5. ครูสาธิตการแก้โจทย์ปัญหาการบวกและแสดงวิธีทาบนกระดานอย่างละเอียด เพ่ือให้นักเรียนได้เข้าใจเร่ืองโจทย์ ปัญหาเกี่ยวกับการบวกมากย่ิงข้ึน โดยเปิดโอกาสให้ซักถามข้อสงสัยท่ียังไม่เข้าใจ เพื่อเป็นการตรวจสอบความรู้ ของตนเอง 6. ครูและนักเรียนร่วมกันสรุปความรู้เกี่ยวกับการแก้โจทย์ปัญหาการบวกว่า “โจทย์ปัญหาการบวกจะประกอบไป ด้วยสองส่วนคือ ส่วนที่โจทย์กาหนดให้และส่วนท่ีโจทย์ถาม การหาคาตอบโจทย์ปัญหาการบวก ทาได้โดยการ วิเคราะหโ์ จทย์ เขียนประโยคสัญลักษณแ์ ลว้ หาคาตอบ” ชั่วโมงท่ี 2 7. ครูทักทายนักเรียนและทบทวนความรู้เก่ียวกับการบวกจานวนที่มีผลบวกไม่เกิน 100,000 โดยครูแบ่งนักเรียน ออกเปน็ สองกล่มุ คือ กล่มุ นกั เรียนชาย และกลมุ่ นักเรยี นหญงิ จากนน้ั ตัง้ คาถามแล้วให้นักเรยี นรว่ มกันตอบ ดังนี้  589 + 487 =  (แนวตอบ 1,076)  3,429 + 2,548 =  (แนวตอบ 5,977)  34,567 + 1,847 =  (แนวตอบ 36,414)  6,987 + 8,339 + 2,127 =  (แนวตอบ 17,453)  28,489 + 16,192 +8,487 =  (แนวตอบ 53,168) ซง่ึ นกั เรยี นท่ยี กมือกอ่ นจะมสี ทิ ธ์ิตอบกอ่ น ถา้ ตอบถูกจะได้คะแนนสะสมใหก้ บั กลุ่ม ข้อละ 1 คะแนน กลุม่ ใด ได้คะแนนมากท่สี ดุ เปน็ กลมุ่ ท่ีชนะ 8. ครูยกตวั อยา่ งโจทย์ปญั หาการบวกจานวนที่มผี ลบวกไม่เกิน 100,000 เพือ่ เป็นการทบทวนความรูเ้ ดิมอกี 2-3 ตัวอย่าง โดยใหน้ กั เรยี นร่วมกันวเิ คราะห์โจทย์ปัญหาแล้วหาคาตอบไปพร้อมกนั ตวั อยา่ ง แม่คา้ ขายเงาะไดเ้ งิน 10,258 บาท ขายลาไยได้เงนิ 5,420 บาท และขายมงั คุดได้เงนิ อกี 7,465 บาท แมค่ ้าขายผลไมท้ ัง้ สามชนดิ ได้เงนิ ทัง้ หมดเทา่ ไร ใหน้ กั เรยี นวเิ คราะหแ์ ละตอบคาถามจากโจทย์ปัญหา ดงั น้ี

 สิง่ ท่โี จทย์ถามคืออะไร (แนวตอบ แมค่ า้ ขายผลไม้ทัง้ สามชนดิ ไดเ้ งินทัง้ หมดเท่าไร)  สง่ิ ทีโ่ จทย์กาหนดใหค้ อื อะไร (แนวตอบ แม่คา้ ขายเงาะได้เงนิ 10,258 บาท ขายลาไยได้เงนิ 5,420 บาท และขายมังคุดได้เงนิ อกี 7,465 บาท)  สรุปได้วา่ โจทยป์ ญั หามีสว่ นประกอบ 2 สว่ น อะไรบ้าง (แนวตอบ สิง่ ทีโ่ จทย์ถาม กับสิ่งทโ่ี จทยก์ าหนดให้)  จากโจทย์ปญั หาดงั กล่าวนักเรียนเขยี นประโยคสญั ลักษณไ์ ดอ้ ยา่ งไร (แนวตอบ 10,258 + 5,420 + 7,465 =)  คาตอบของโจทย์ปัญหานีค้ ืออะไร (แนวตอบ แมค่ า้ ขายผลไม้ท้งั สามชนิดไดเ้ งินทั้งหมด 23,143 บาท) ตัวอย่าง นิชาจะนาเงินไปฝากธนาคารทุก ๆ สามเดือน ครั้งแรกนิชา นาเงินไปฝาก 5,324 บาท ครั้งที่สอง 9,563 บาท และครั้งที่สามนาเงนิ ไปฝาก 4,112 บาท รวมสามคร้ังนชิ านาเงนิ ไปฝากธนาคารเท่าไร ใหน้ ักเรยี นวิเคราะหแ์ ละตอบคาถามจากโจทย์ปญั หา ดังนี้  สิ่งทโ่ี จทยถ์ ามคอื อะไร (แนวตอบ รวมสามครงั้ นิชานาเงนิ ไปฝากธนาคารเทา่ ไร)  สงิ่ ทีโ่ จทย์กาหนดให้คอื อะไร (แนวตอบ นชิ าจะนาเงินไปฝากธนาคารทุก ๆ สามเดอื น ครัง้ แรกนชิ า นาเงินไปฝาก 5,324 บาท ครั้งท่สี อง 9,563 บาท และครัง้ ท่สี ามนาเงนิ ไปฝาก 4,112 บาท)  สรุปไดว้ ่าโจทยป์ ญั หามีส่วนประกอบ 2 สว่ น อะไรบา้ ง (แนวตอบ สงิ่ ทโี่ จทยถ์ าม กับส่ิงทโ่ี จทย์กาหนดให้)  จากโจทยป์ ัญหาดังกล่าวนกั เรียนเขยี นประโยคสัญลักษณไ์ ด้ว่าอย่างไร (แนวตอบ 5,324 + 9,563 + 4,112 =)  คาตอบของโจทย์ปัญหานี้คอื อะไร (แนวตอบ รวมสามครงั้ นิชานาเงินไปฝากธนาคาร 18,999 บาท) ฝึกทกั ษะ 1. ครูให้นักเรียนฝึกแก้โจทย์ปัญหาการบวกโดยให้อาสาสมัครนักเรียนแต่ละกลุ่มออกมาจับฉลากโจทย์ปัญหา กลุม่ ละ 1 ข้อ จากกล่องปริศนาทา้ แกโ้ จทย์ จากนั้นใหน้ ักเรียนแต่ละกลุ่มนาโจทย์ปัญหาท่ีจับฉลากไดท้ าลงใน ใบงานที่ 2.5 เร่ือง โจทย์ปัญหาการบวก 2. เมื่อทกุ กลมุ่ ทาเสรจ็ แลว้ ครูใหอ้ าสาสมัครนักเรยี นแตล่ ะกลมุ่ ออกมานาเสนอผลงาน และครใู หค้ าแนะนา เพม่ิ เติม

3. ครูและนักเรียนร่วมกันสรุปความรู้เกี่ยวกับการแก้โจทย์ปัญหาการบวกว่า “โจทย์ปัญหาการบวกจะประกอบไป ดว้ ย 2 ส่วน คือ ส่วนที่โจทย์กาหนดให้และส่วนท่ีโจทย์ถาม การหาคาตอบของโจทย์ปัญหาการบวก ทาได้โดยการ วเิ คราะหโ์ จทย์ เขยี นประโยคสัญลักษณ์ แลว้ หาคาตอบ” ช่วั โมงท่ี 3 สอน 1. ครูทบทวนทบทวนความรู้เก่ยี วกับโจทย์ปัญหาการหาร โดยครูนาแถบประโยคโจทย์ปัญหาติดไว้บนกระดาน จากน้ันครูแบ่งนักเรยี นออกเป็น 2 กลุ่ม (กลุ่มนักเรียนชายและกลมุ่ นักเรยี นหญงิ ) แล้วให้ท้ังสองกลมุ่ แข่งขัน กนั เรียงแถบประโยคที่ติดบนกระดานให้เปน็ โจทย์ปัญหาการบวก กลุ่มท่ีทาเสร็จกอ่ นและถูกต้องกจ็ ะเป็นกลุ่ม ที่ชนะ โดยครูและนกั เรยี นร่วมกันเฉลยคาตอบ อารมี ีเงนิ 4,859 บาท ขายถัว่ เขยี วได้ 2,574 กโิ ลกรัม พรพมิ ลมีมากกว่าอารี 4,178 บาท ขายถ่วั แดงได้ 6,524 กโิ ลกรมั พรพจนม์ เี งินกบ่ี าท โรงงานขายถว่ั ไปกก่ี โิ ลกรมั พรพจนม์ ีมากกวา่ พรพมิ ล 8,459 บาท โรงงานขายถว่ั ดาได้ 5,268 กิโลกรมั 2. ครูทบทวนการแสดงวธิ ีหาคาตอบของโจทย์ปัญหาการบวก โดยครูเขยี นโจทย์ปัญหาการบวกบนกระดาน ดงั น้ี ร้านเค้กแห่งหนึ่งมียอดขายเดือนมกราคม 15,269 บาท เดือนกุมภาพันธ์มียอดขายมากกว่าเดือนมกราคม 45,289 บาท และเดอื นมนี าคมมียอดขายมากกว่าเดือนกุมภาพันธ์ 15,890 บาท เดือนมนี าคมมยี อดขายกบ่ี าท จากนัน้ ต้ังคาถาม แล้วใหน้ กั เรยี นรว่ มกนั ตอบ ดังนี้  จากโจทยป์ ัญหาบนกระดาน สงิ่ ท่โี จทย์ถามคืออะไร (แนวตอบ เดือนมนี าคมมียอดขายกบี่ าท)  จากโจทยป์ ญั หาบนกระดาน ส่งิ ทโี่ จทย์กาหนดให้คืออะไร (แนวตอบ ร้านเค้กแหง่ หนึง่ มียอดขายเดอื นมกราคม 15,269 บาท เดือนกมุ ภาพนั ธม์ ียอดขาย มากกว่า เดือนมกราคม 45,289 บาท และเดือนมนี าคมมียอดขายมากกว่าเดอื นกุมภาพันธ์ 15.890 บาท)  นักเรียนจะมีวิธกี ารแก้โจทย์ปัญหานีอ้ ย่างไร (แนวตอบ ใชว้ ิธกี ารบวก)  นกั เรียนสามารถเขยี นประโยคสัญลกั ษณจ์ ากโจทยข์ อ้ นไ้ี ดอ้ ย่างไร (แนวตอบ 15,269 + 45,289 + 15,890 = )  คาตอบของโจทย์ปัญหานค้ี ืออะไร (แนวตอบ 76,448 บาท)

 นกั เรียนจะมวี ธิ กี ารในการตรวจสอบความสมเหตุลมผลของคาตอบไดอ้ ยา่ งไร (แนวตอบ คาตอบท่ีได้มาตอ้ งมากกว่าจานวนทโ่ี จทย์กาหนดให้) 3. ครูสาธิตการแก้โจทย์ปัญหาการบวกและแสดงวิธีทาบนกระดานอย่างละเอียด เพื่อให้นักเรียนได้เข้าใจเร่ืองโจทย์ ปัญหาเก่ยี วกับการบวกมากยงิ่ ข้ึน โดยเปดิ โอกาสใหน้ ักเรยี นได้ซกั ถามข้อสงสัยท่ยี ังไมเ่ ขา้ ใจ 4. ครูแบ่งนักเรียนอกเป็นกลุ่ม กลุ่มละ 4 คน (คละความสามารถทางคณิตศาสตร์) แล้วให้นักเรียนแต่ละกลุ่มร่วมกัน ทากิจกรรมฝึกทักษะ ในหนังสือเรียนคณิตศาสตร์ ป.3 เล่ม 1 หน้า 59-60 ข้อ 1-2 โดยเขียนคาตอบลงในสมุด เสร็จแล้วนักเรยี นและครูร่วมกันเฉลยคาตอบ ครูกล่าวชมเชยกลุ่มท่ีทาเสร็จ และตอบได้ถูกต้องมากท่ีสุด ถ้าข้อใด นกั เรยี นไมเ่ ขา้ ใจ ครูนามาอธบิ ายเพิ่มเติมบนกระดาน ข้ันสรุป สรปุ 1. ครแู ละนักเรยี นรว่ มกันอภิปรายและสรุปเกี่ยวกับโจทยป์ ญั หาการบวกจนได้ประเดน็ ดงั นี้ - การแกโ้ จทย์ปัญหาการบวก ต้องเรมิ่ จากการวิเคราะห์โจทยป์ ัญหาก่อน วา่ ส่งิ ที่โจทย์กาหนดให้คืออะไร และส่ิง ทีโ่ จทย์ถามคืออะไร จากนน้ั วางแผนแก้โจทย์ปญั หานั้น - การแก้ปัญหา ให้เร่ิมจากเขียนประโยคสัญลักษณ์ จากน้ันแสดงวิธีทา สุดท้ายตรวจสอบความสมเหตุสมผลของ คาตอบ 2. ครูยกตัวอย่างโจทย์ปัญหาการบวกบนกระดาน 2–3 ตัวอย่าง และให้นักเรียนบอกประโยคสัญลักษณ์ของโจทย์ ปัญหานน้ั 3. ครูสรุปความรู้เก่ียวกับการแก้โจทย์ปัญหาการบวกและการแสดงวิธีหาคาตอบของโจทย์ปัญหาการบวกว่า โจทย์ ปัญหาการบวกจะประกอบไปด้วยสองส่วนคือ ส่วนท่ีโจทย์กาหนดให้และส่วนที่โจทย์ถาม การหาคาตอบโจทย์ ปญั หาการบวก ทาไดโ้ ดยการวิเคราะหโ์ จทย์ เขียนประโยคสญั ลักษณแ์ ล้วหาคาตอบ 4. ครูให้นักเรียนทาแบบฝึกหัด ในหนังสือแบบฝึกหัด คณิตศาสตร์ ป.3 เล่ม 1 เป็นการบ้าน เพื่อตรวจสอบ ความเข้าใจเป็นรายบุคคล

7. การวดั และประเมินผล รายการวดั วิธกี าร เครือ่ งมอื เกณฑก์ ารประเมนิ ประเมินระหวา่ งการจดั กิจกรรมการเรยี นรู้ 1) โจทยป์ ัญหาการ - ตรวจใบงานท่ี 2.5 - ใบงานที่ 2.5 - รอ้ ยละ 60 ผา่ นเกณฑ์ บวก - ตรวจกจิ กรรมฝึกทกั ษะ - กิจกรรมฝกึ ทกั ษะ - รอ้ ยละ 60 ผ่านเกณฑ์ - ตรวจแบบฝกึ หดั - แบบฝึกหัด - ร้อยละ 60 ผ่านเกณฑ์ 2) การนาเสนอ - ประเมินการนาเสนอ - แบบประเมินการ - ระดบั คณุ ภาพ 2 ผา่ น ผลงาน/ผลการทา ผลงาน/ผลการทา นาเสนอผลงาน เกณฑ์ กจิ กรรม กจิ กรรม 3) พฤติกรรมการ - สังเกตพฤติกรรม - แบบสังเกต - ระดบั คุณภาพ 2 ผา่ น ทางานรายบุคคล การทางานรายบุคคล พฤตกิ รรม เกณฑ์ การทางานรายบุคคล 4) พฤตกิ รรม - สังเกตพฤตกิ รรม - แบบสงั เกต - ระดับคุณภาพ 2 ผา่ น การทางานกลุ่ม การทางานกลุม่ พฤติกรรม เกณฑ์ การทางานกลมุ่ 5) คุณลักษณะ - สงั เกตความมวี นิ ัย - แบบประเมิน - ระดบั คุณภาพ 2 ผา่ น อนั พึงประสงค์ ใฝเ่ รียนรู้ และมุง่ ม่ัน คุณลักษณะ เกณฑ์ ในการทางาน อันพงึ ประสงค์ 8. สอ่ื /แหล่งการเรียนรู้ 8.1 สือ่ การเรยี นรู้ 1) หนังสือเรยี น คณติ ศาสตร์ ป. 3 เล่ม 1 หนว่ ยท่ี 2 การบวกจานวนท่ีมีผลบวก ไม่เกนิ 100,000 2) หนังสอื แบบฝึกหดั คณิตศาสตร์ ป. 3 เลม่ 1 หน่วยที่ 2 การบวกจานวนท่ีมีผลบวก ไมเ่ กิน 100,000 3) ใบงานที่ 2.5 เรื่อง โจทย์ปัญหาการบวก 4) บตั รโจทย์ปัญหา 5) แถบประโยคโจทย์ปญั หา 6) กล่องปริศนาท้าแก้โจทย์ 8.2 แหลง่ การเรียนรู้ - ห้องเรยี น

ใบงานท่ี 2 .5 เร่อื ง โจทยป์ ญั หาการบวก คาชแี้ จง : ใหน้ ักเรียนช่วยกันวางแผนและแก้โจทยป์ ญั หาทก่ี าหนดให้ โจทย์ …………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………… สง่ิ ท่ีโจทยก์ าหนดให.้ ....................................................................................................................... ส่ิงที่โจทย์ถาม.................................................................................................................................. การวางแผน การแกป้ ัญหา …………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………

ใบงานท่ี 2.5 เฉลย เร่ือง โจทย์ปญั หาการบวก คาชี้แจง : ให้นกั เรยี นชว่ ยกันวางแผนและแก้โจทยป์ ัญหาทก่ี าหนดให้ โจทย์ …………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………… สง่ิ ที่โจทย์กาหนดให้......................................................................................................................... ส่ิงทโ่ี จทย์ถาม.................................................................................................................................. การวางแผนการแกป้ ัญหา การแก้ปญั หา …………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………

บตั รโจทยป์ ัญหา ชาวนามีข้าวเหนียว 4,500 ตนั ขา้ วสาร 8,582 ตัน ข้าวสาลี 4,415 ตัน ชาวนามีผลผลิตทง้ั หมดเท่าไร ร้านค้าแห่งหน่ึงมีกระทะ 3,786 ใบ มีหม้อมากกว่ากระทะ 1,456 ใบ มีกาต้มน้ามากกว่าหม้อ 7,841 ใบ ร้านค้ามีกาต้ม นา้ กใี่ บ โรงงานแห่งหน่ึงผลิตน้าลาไยได้ 9,876 ขวด โรงงานที่สอง ผลิตได้มากกว่าโรงงานแรก 11,789 ขวด โรงงานที่สามผลิตได้ มากกว่าโรงงานท่ีสอง 7,890 ขวด โรงงานที่สามผลิตน้าลาไย ได้กขี่ วด สุธีฝากเงินท่ีธนาคารในวันจันทร์ 45,000 บาท วันอังคาร ฝากเพิ่มอีก 48,125 บาท วันพุธฝากเพ่ิมอีก 5,320 บาท เจน ภพจะมีเงินฝากในธนาคารกบ่ี าท

แถบประโยคโจทย์ปัญหา อารีมีเงิน 4,859 บาท พรพมิ ลมีมากกว่าอารี 4,178 บาท พรพจนม์ เี งินกบ่ี าท พรพจน์มมี ากกว่าพรพิมล 8,459 บาท

ขายถว่ั เขยี วได้ 2,574 กิโลกรมั ขายถวั่ แดงได้ 6,524 กิโลกรัม โรงงานขายถว่ั ไปก่ีกิโลกรัม โรงงานขายถว่ั ดาได้ 5,268 กิโลกรมั

โจทย์ปญั หา พอ่ ให้เงนิ 120 บาท ป่ใู ห้เพิ่มอีก 37 บาท ฉนั มเี งนิ รวม ทง้ั หมดเท่าไร สุรเดชขายลูกไก่ได้เงิน 1,250 บาท ขายลกู เปด็ ได้ 2,537 บาท สรุ เดชขายสัตว์ท้ังสองชนดิ ได้เงินเทา่ ไร

บันทึกผลหลงั กระบวนการจัดกจิ กรรมการเรยี นรู้ 1. ผลการเรยี นรทู้ ่เี กิดข้นึ กบั ผู้เรียน 1.1 ผเู้ รยี นผ่านจุดประสงค์การเรยี นรู้ จานวน...................คน คดิ เปน็ ร้อยละ.................. 1.2 ผูเ้ รยี นไม่ผา่ นจดุ ประสงค์การเรยี นรู้ จานวน...................คน ไดแ้ ก่ ......................................................................................................................................................................... สาเหตุ .......................................................................................................…………………………………………………………. 1.3 ผูเ้ รียนได้รบั ความรู้ : .......................................................................................................…………………………………………………………. 1.4 ผูเ้ รยี นเกิดทกั ษะกระบวนการ : .......................................................................................................…………………………………………………………. 1.5 ผเู้ รยี นมีคณุ ธรรม จริยธรรม ค่านิยม : .......................................................................................................…………………………………………………………. 2. ปัญหา / อปุ สรรค …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………….………………………....................................................................................................................................... ....................................................................................................................................................................................... …………….………………………............................................................................................................................................. 3. ขอ้ เสนอแนะ / แนวทางแก้ไข …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………….………………………....................................................................................................................................... ....................................................................................................................................................................................... …………….………………………............................................................................................................................................. ลงช่อื ........................................ผู้สอน (นางสาวพรรัตน์ จนั ทรค์ า)

แผนการจัดการเรยี นรูท้ ่ี 10 กลมุ่ สาระการเรียนรู้ คณิตศาสตร์ รหัสวิชา ค 13101 ชนั้ ประถมศึกษาปีที่ 3 หน่วยการเรยี นรทู้ ี่ 2 เร่ือง การบวกจานวนท่มี ผี ลบวกไม่เกิน 100,000 เวลาเรยี น 3 ชว่ั โมง เวลา …………………………… เรอ่ื ง การสรา้ งโจทย์ปัญหาการบวก ชอ่ื ผู้สอน นางสาวพรรัตน์ จนั ทร์คา วนั ท่ี ........................................ 1. มาตรฐานการเรียนร/ู้ ตัวชี้วัด ค 1.1 ป.3/9 แสดงวิธีหาคาตอบของโจทย์ปญั หา 2 ขน้ั ตอน ของจานวนนบั ไมเ่ กนิ 100,000 และ 0 2. จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้ 1) อธบิ ายวธิ ีการสร้างโจทย์ปัญหาการบวกได้ (K) 2) เขียนแสดงการสร้างโจทยป์ ัญหาการบวกได้ถูกต้อง (P) 3) เขียนแสดงวธิ ีหาคาตอบจากโจทย์ปัญหาการบวกทีส่ ร้างข้นึ ไดอ้ ยา่ งถูกตอ้ ง (P) 4) นาความรู้เก่ยี วกับการสรา้ งโจทยป์ ัญหาการบวกไปใช้แกป้ ญั หาในชีวิตจริงได้ (A) 3. สาระการเรยี นรู้ สาระการเรยี นรู้แกนกลาง สาระการเรียนรทู้ ้องถน่ิ การแก้โจทย์ปัญหาและการสร้างโจทย์ปัญหา พร้อมทั้ง พจิ ารณาตามหลกั สตู รของสถานศึกษา หาคาตอบ 4. สาระสาคัญ/ความคิดรวบยอด การสร้างโจทย์ปัญหาการบวกจะประกอบไปด้วยสองส่วน คอื ส่วนทโ่ี จทย์กาหนดให้และส่วนท่ีโจทย์ถาม ซ่งึ ในกระบวนการแก้ปัญหามี 4 ขั้นตอน คือ วิเคราะห์โจทย์ปัญหา วางแผนแก้ปัญหา การแก้ปัญหาและ ตรวจสอบความสมเหตุสมผลของคาตอบ 5. สมรรถนะสาคญั ของผู้เรียนและคุณลักษณะอันพึงประสงค์ สมรรถนะสาคัญของผเู้ รยี น คณุ ลักษณะอนั พึงประสงค์ 1. ความสามารในการสอื่ สาร 1. มวี ินัย 2. ความสามารถในการคิด 2. ใฝเ่ รียนรู้ 1) ทกั ษะการเขียน 3. ม่งุ มั่นในการทางาน 2) ทักษะการเชอ่ื มโยง 3) ทักษะการใหเ้ หตผุ ล 4) ทักษะกระบวนการคดิ แกป้ ัญหา 3. ความสามารถในการแกป้ ญั หา 4. ความสามารถในการใช้ทักษะชีวติ

6. กจิ กรรมการเรียนรู้  แนวคิด/รูปแบบการสอน/วิธีการสอน/เทคนคิ : สืบเสาะหาความรู้ (5 Es Instructional Model) ข้นั นา ชว่ั โมงที่ 1 กระตนุ้ ความสนใจ (Engage) 6. ครูทักทายนักเรียนและทบทวนความรู้เก่ียวกับการบวก โดยครูให้นักเรียนแบ่งกลุ่ม กลุ่มละ 5 คน (คละ ความสามารถทางคณิตศาสตร)์ แลว้ ให้นักเรยี นแต่ละกลุ่มเล่นเกม “วงลอ้ เสีย่ งทาย” โดยมีกตกิ า ดงั นี้ - ครูหมุนวงล้อท่ีมีตัวเลข เม่ือลูกศรหยุดอยู่ท่ีจานวนใด ให้นักเรียนแต่ละกล่มุ ร่วมกันคิดจานวน 3 จานวนที่บวก กนั แลว้ ไดผ้ ลลพั ธ์เท่ากับจานวนตัวเลขที่ครหู มุนวงล้อได้ - กลุ่มทค่ี ดิ ไดก้ ่อนและถกู ต้องจะได้คะแนนสะสม 5 คะแนน - ครแู ละนกั เรียนรว่ มเล่นเกมนี้ 4–5 ครงั้ - กลมุ่ ท่ีไดค้ ะแนนมากท่ีสุดก็จะเป็นกลมุ่ ท่ีชนะ 7. ครทู บทวนความรู้เกีย่ วกับโจทยป์ ัญหาการบวกว่า “โจทยป์ ญั หาการบวกประกอบไปดว้ ยก่ีส่วน อะไรบ้าง” (แนวตอบ 2 สว่ น คือ ส่งิ ท่ีโจทย์กาหนดให้ กับส่งิ ทีโ่ จทยถ์ าม) 8. ครูกาหนดโจทย์ปัญหาบนกระดาน ให้นักเรียนร่วมกันหาคาตอบเพ่ือเป็นการทบทวนและฝึกวิเคราะห์แก้โจทย์ ปัญหา ตัวอยา่ ง โรงเรียนแห่งหนง่ึ มนี ักเรียนชาย 389 คน มนี ักเรียนหญิง 638 คน โรงเรยี นน้ีมนี ักเรียนทงั้ หมดกค่ี น ใหน้ กั เรยี นวเิ คราะหแ์ ละตอบคาถามจากโจทยป์ ญั หา ดังนี้  สิง่ ทโี่ จทยถ์ ามคืออะไร (แนวตอบ โรงเรยี นนม้ี นี กั เรียนท้ังหมดก่ีคน)  สงิ่ ที่โจทยก์ าหนดใหค้ อื อะไร (แนวตอบ มนี ักเรยี นชาย 389 คน นักเรียนหญงิ 638 คน)  สรุปได้วา่ โจทย์ปญั หามีส่วนประกอบ 2 ส่วน อะไรบ้าง (แนวตอบ สงิ่ ทโี่ จทยถ์ าม กับสิง่ ทโ่ี จทย์กาหนดให้)  จากโจทยป์ ัญหาดงั กล่าวนักเรยี นเขยี นประโยคสญั ลกั ษณไ์ ด้ว่าอยา่ งไร (แนวตอบ 389 + 638 = 1,027 บาท) 9. ครูตั้งคาถามกระตุ้นความคิดของนักเรียนว่า “ในชวี ิตประจาวันนักเรยี นพบเห็นอะไรที่เกี่ยวข้องกับการบวก บา้ ง” ครูเปิดโอกาสให้นักเรยี นแสดงความคิดเหน็ ตามความเข้าใจของตนเอง

ข้นั สอน สารวจคน้ หา (Explore) 1. ครูใหน้ ักเรียนร้องเพลงโจทย์ปัญหาพรอ้ มกนั เพลงโจทย์ปญั หา เนื้อร้อง อ.ดวงจติ ต์ กาญจนมยรู ทานอง เพลงเดก็ ป๊ัม เลขโจทย์ตอ้ งอ่านหลายที เพราะว่าโจทยน์ ้นั มปี ัญหาซับซ้อน บันทึกไว้ก่อนโจทย์ส่ังให้ทาอะไร ทาความเขา้ ใจไปทีละตอน ไมย่ ากเยน็ แปลความให้ได้ จะไมผ่ ิดต้องตีความเป็น ต้องฝกึ คิดคานวณ อกี ข้ันตอนตอ่ ไป เราตอ้ งย่อความสรุปชัดเจน ข้ันแสดงวิธที านั้น เพ่อื ประโยชนใ์ นการเขยี นแสดง พิจารณาปัญหาของโจทย์ อา่ นให้เข้าใจแลว้ กเ็ ขียนไดเ้ อง ถา้ คิดไมไ่ ดท้ บทวนดูใหม่ ครูให้นักเรียนร่วมกันวิเคราะห์เนือ้ เพลงจนได้ข้อสรุปว่า “โจทย์ปญั หาการบวกต้องประกอบไปด้วย 2 ส่วน คือ ส่วน ที่โจทย์กาหนดให้ กับส่วนที่โจทย์ถาม ซ่ึงในกระบวนการแก้ปัญหามี 4 ข้ันตอน คือ วิเคราะห์โจทย์ปัญหา วางแผนการแกป้ ญั หา ดาเนินการแกป้ ญั หาและตรวจสอบความสมเหตุสมผลของคาตอบ” 2. ครูยกตัวอย่างการสร้างโจทย์ปัญหาการบวกจากการกาหนดตัวเลข 3 จานวน แล้วเขียนโจทย์บนกระดานท่ีมี ความสัมพันธ์กับตัวเลขท่ีครูกาหนดขึ้น ซง่ึ โจทย์ปัญหาประกอบไปด้วย 2 ส่วน คือ ส่วนท่ีโจทย์กาหนดให้ กับส่วน ทีโ่ จทย์ถาม จากน้ันตั้งคาถาม ให้นักเรยี นร่วมกันตอบว่า “สิ่งใดคอื ส่งิ ทโี่ จทย์กาหนดให้ สง่ิ ใดท่โี จทย์ถาม” 3. ครูตดิ บัตรแถบโจทย์ปัญหาการบวกบนกระดาน ดงั นี้ ทะเลแห่งหนงึ่ เกบ็ ขยะพลาสติกได้ 2,369 กโิ ลกรัม จากนั้นเลือกตัวแทนนักเรียนออกมาสร้างโจทย์ปัญหาการบวกหน้ากระดาน โดยครูและนักเรียนร่วมกัน ตรวจสอบความถูกตอ้ ง ครูทากจิ กรรมลกั ษณะน้ี 2–3 ขอ้ 4. ครูให้นักเรียนแบ่งกลุ่ม กลุ่มละ 4 คน (คละความสามารถทางคณิตศาสตร์) ให้นักเรียนแต่ละกลุ่มทาใบงานที่ 2.6 เรื่อง การสร้างโจทย์ปัญหาการบวก จากนั้นครูให้นักเรียนแต่ละกลุ่มออกมานาเสนอหน้าชั้นเรียน โดยครูและ นักเรยี นท่เี หลือร่วมกนั ตรวจสอบความถูกต้อง 5. ครูและนักเรียนร่วมกันสรุปความรู้เกี่ยวกับการสร้างโจทย์ปัญหาการบวกว่า “การสร้างโจทย์ปัญหาการหารจะ ประกอบไปด้วยสองส่วน คือ สว่ นทีโ่ จทย์กาหนดให้และสว่ นทโ่ี จทย์ถาม”

อธบิ ายความรู้ (Explain) ชว่ั โมงที่ 2 1. ครูทบทวนความรู้เก่ียวกับการสร้างโจทย์ปัญหาโดยการต้ังคาถามกระตุ้นความคิด แล้วให้นักเรียนร่วมกันตอบว่า “การสร้างโจทย์ปัญหาต้องประกอบดว้ ยขอ้ ความกี่สว่ น อะไรบ้าง” (แนวตอบ 2 สว่ น คอื สว่ นที่โจทยก์ าหนดให้ และสว่ นท่ีโจทย์ถาม) 2. ครูให้นักเรียนแบ่งกลุ่ม กลุ่มละ 4 คน (คละความสามารถทางคณิตศาสตร)์ แลว้ ใหแ้ ต่ละกลุ่มศกึ ษา เรื่อง การสร้าง โจทย์ปัญหาการบวกในหนังสือเรียนคณิตศาสตร์ ป.3 เล่ม 1 หน้า 57–58 จากนั้นครูให้นักเรียนแต่ละกลุ่มส่ง ตัวแทนออกมาอภิปรายหน้าชนั้ เรยี น โดยครูและนักเรยี นทเี่ หลือรว่ มกันตรวจสอบความถกู ต้อง 3. ครูอธิบายความรู้เรื่อง การสร้างโจทย์ปัญหาการบวกว่า ต้องประกอบไปด้วย 2 ส่วนคอื ส่วนที่โจทย์กาหนดให้ กับ ส่วนที่โจทย์ถาม ซ่ึงประโยคในการสร้างควรเป็นเร่ืองที่มีความเชื่อมโยงและสัมพันธ์กันทั้งหมด และควรสร้างให้ เหมาะสมกับสถานการณ์ในชีวติ จริง โดยต้องสร้างให้ครบท้ังสองส่วน 4. ครูให้นักเรียนจับคู่กับเพื่อนแล้วทากิจกรรม “เพื่อนช่วยเพ่ือน” ในหนังสือเรียน คณิตศาสตร์ ป.3 เล่ม 1 หน้า 59 เมือ่ ทาเสร็จแล้ว ครูขออาสาสมัครนักเรียนออกมาเฉลยคาตอบ โดยครูและนักเรียนร่วมกันตรวจสอบความถูกตอ้ ง 5. ครูใหน้ ักเรียนกลุ่มเดิมรว่ มกันสร้างโจทย์ปัญหาจากโจทย์กิจกรรมฝึกทักษะ ในหนังสือเรียน คณิตศาสตร์ ป.3 เล่ม 1 หน้า 60 ข้อ 3 จากนั้นขออาสาสมัครนักเรียนแต่ละกลุ่มออกมาอ่านโจทย์ปัญหาท่ีสร้างข้ึนให้นักเรียนท่ีเหลือ รว่ มกันตรวจสอบ โดยครคู อยใหค้ าแนะนาและตรวจสอบความถูกต้อง ขยายความเข้าใจ (Elaborate) 1. ครูให้นักเรียนแบ่งกลุ่ม กลุม่ ละ 3–4 คน (คละความสามารถทางคณิตศาสตร์) จากน้ันครูแจกรูปภาพสินค้าพร้อม ราคา กลุ่มละ 3–4 รายการ แล้วให้นักเรียนแต่ละกลุ่มร่วมกันสร้างโจทย์ปัญหาการบวก จากรูปภาพและราคาท่ี นกั เรยี นได้ โดยเขยี นลงในใบงานที่ 2.7 เรื่อง ร่วมด้วยชว่ ยกัน สรา้ งสรรค์โจทยป์ ญั หาการบวก ตัวอย่าง รปู ภาพ 3,990 บาท 1,750 บาท 350 บาท 8550 บาท 2. ครูให้นักเรียนแต่ละกลุ่มออกมานาเสนอผลงานหน้าชั้นเรียน ครูและนักเรียนท่ีเหลือร่วมกันตรวจผลงานและ ชมเชยกลุ่มท่ีทาได้ถูกต้องและเหมาะสม ครูพิจารณาโจทย์ปัญหาในข้อที่ยังไม่ถูกต้อง โดยให้นักเรียนร่วมกัน แก้ไขปรบั ปรุงให้ถูกต้อง 3. ครูและนักเรียนร่วมกันอภิปรายและสรปุ ความรู้เก่ียวกับการสร้างโจทย์ปัญหาว่า “มีข้ันตอนอยา่ งไร และสิ่งสาคัญ ในการสร้างโจทย์ปัญหาการบวกคืออะไร” (แนวตอบ ความเหมาะสมกับสถานการณ์ในชีวิตจริง)

ข้นั สรุป ช่ัวโมงท่ี 3 ตรวจสอบผล (Evaluate) 1. ครูแบ่งนักเรียนออกเป็นกลุ่ม กลุ่มละ 3–4 คน (คละความสามารถทางคณิตศาสตร์) จากน้ันให้แต่ละกลุ่มสร้าง โจทย์ปัญหาการบวกจากประสบการณ์ในการช้ือขายหรือใช้จ่ายเงนิ ในชีวิตประจาวัน กลุม่ ละ 1 โจทยป์ ัญหา 2. ครูขออาสาสมัครนักเรียนกลุ่มท่ีสร้างโจทยป์ ัญหาเสร็จสมบูรณ์ท่ีสุด เขียนวิเคราะห์โจทย์บนกระดาน โดยครูคอย ใหค้ าปรึกษาและอธบิ ายเพ่ิมเติมส่วนที่บกพรอ่ งให้เข้าใจมากยิง่ ข้ึน 3. ครตู ัง้ คาถามกระตนุ้ ความคิดนักเรียนว่า “การสร้างโจทยป์ ญั หามีหลักสาคญั อย่างไร” (แนวตอบ ข้นึ อยูก่ บั ดลุ ยพินิจของครูผู้สอน) 4. ครูมอบหมายให้นักเรียนทาชิ้นงานการสร้างโจทย์ปัญหาการบวกที่มีผลบวกไม่เกิน 100,000 โดยให้นักเรียนหา รูปภาพและราคาสินค้าจากแผ่นรายการสินค้าห้างสรรพสินค้าต่าง ๆ จานวน 3 ชิ้น จากนัน้ นามาสรา้ งโจทย์ปัญหา การบวก พร้อมทัง้ แสดงวิธีหาคาตอบ ลงในกระดาษ A4 โดยให้ครอบคลุมประเดน็ ดังน้ี - การสรา้ งโจทยป์ ญั หาการบวก - เขียนส่ิงทโ่ี จทยก์ าหนดให้ - เขยี นสงิ่ ทโ่ี จทย์ถาม - เขยี นประโยคสญั ลักษณ์ - แสดงวธิ ที า - หาคาตอบ - ตรวจสอบความสมเหตุสมผลของคาตอบ 5. ครูให้นักเรียนแบ่งกลุ่ม กลุ่มละ 3-5 คน (คละความสามารถทางคณิตศาสตร์) ร่วมกันทากิจกรรม “สนุกคิด สนุกทา” ในหนังสือเรียน คณิตศาสตร์ ป.3 เล่ม 2 หน้า 61 ลงในสมุด เม่ือทาเสร็จแล้ว ครูสุ่มนักเรียน 2-3 กลุ่ม ออกมานาเสนอผลงานที่กลุ่มตนเองทา โดยครูและนกั เรยี นกลมุ่ ท่ีเหลือรว่ มกนั ตรวจสอบความถูกต้อง 6. ครูส่มุ ตัวแทนนักเรยี นออกมาทากิจกรรม “คาถามทา้ ทายการคิดขั้นสูง” และกจิ กรรม “เชื่อมโยงส่ชู ีวติ ประจาวัน” ในหนังสือเรยี น คณติ ศาสตร์ ป.3 เล่ม 1 หนา้ 62 โดยครูและนกั เรยี นทเี่ หลือร่วมกนั ตรวจสอบความถกู ต้อง 7. ครูและนักเรียนร่วมกันสรุปว่า “การสร้างโจทย์ปัญหาการบวกว่า ต้องประกอบไปด้วย 2 ส่วนคือ ส่วนที่โจทย์ กาหนดให้ กับส่วนที่โจทยถ์ าม ซึ่งประโยคในการสร้างควรเป็นเรื่องที่มีความเช่ือมโยงและสัมพันธ์กันท้ังหมด และ ควรสรา้ งให้เหมาะสมกับสถานการณ์ในชีวติ จรงิ และสรา้ งใหค้ รบทัง้ สองส่วน” 8. ครูให้นักเรียนทาแบบฝึกหัด ในหนังสือแบบฝึกหัด คณิตศาสตร์ ป.3 เล่ม 1 เป็นการบ้าน เพื่อตรวจสอบ ความเข้าใจเปน็ รายบุคคล 9. นักเรยี นทาแบบทดสอบหลงั เรยี น หน่วยการเรียนรทู้ ี่ 2 เร่ือง การบวกจานวนท่มี ีผลบวกไม่เกนิ 100,000

7. การวัดและประเมนิ ผล รายการวัด วิธีการ เคร่ืองมอื เกณฑ์การประเมิน 7.1 การประเมินช้นิ งาน/ - ตรวจชนิ้ งานการสร้าง - แบบประเมนิ ชนิ้ งาน/ - ระดบั คุณภาพ 2 ผ่าน ภาระงาน (รวบยอด) โจทยป์ ัญหาการบวก ภาระงาน เกณฑ์ 7.2 ประเมนิ ระหว่าง การจดั กจิ กรรมการ เรียนรู้ 1) การสรา้ งโจทยป์ ญั หา - ตรวจใบงานที่ 2.6 - ใบงานที่ 2.6 - ร้อยละ 60 ผา่ นเกณฑ์ - ใบงานท่ี 2.7 - รอ้ ยละ 60 ผา่ นเกณฑ์ เกยี่ วกบั การบวก - ตรวจใบงานที่ 2.7 - กิจกรรมฝกึ ทักษะ - รอ้ ยละ 60 ผา่ นเกณฑ์ - แบบฝึกหัด - รอ้ ยละ 60 ผ่านเกณฑ์ - ตรวจกจิ กรรมฝกึ ทกั ษะ - แบบประเมินการ - ระดับคณุ ภาพ 2 ผ่าน - ตรวจแบบฝึกหดั นาเสนอผลงาน เกณฑ์ 2) การนาเสนอผลงาน/ - ประเมนิ การนาเสนอ ผลการทากิจกรรม ผลงาน/ผลการทา กิจกรรม 3) พฤตกิ รรมการ - สังเกตพฤตกิ รรม - แบบสังเกต - ระดับคุณภาพ 2 ผา่ น ทางานรายบุคคล การทางานรายบุคคล พฤติกรรม เกณฑ์ การทางานรายบคุ คล 4) พฤติกรรม - สงั เกตพฤตกิ รรม - แบบสังเกต - ระดบั คุณภาพ 2 ผา่ น การทางานกลมุ่ การทางานกลุม่ พฤติกรรม เกณฑ์ การทางานกลมุ่ 5) คุณลักษณะ - สงั เกตความมวี นิ ัย - แบบประเมิน - ระดับคุณภาพ 2 ผ่าน อนั พึงประสงค์ ใฝเ่ รียนรู้ และมุ่งม่ัน ในการทางาน คุณลักษณะ เกณฑ์ 7.3 การประเมนิ หลังเรยี น - แบบทดสอบหลงั เรียน - ตรวจแบบทดสอบ อนั พึงประสงค์ หนว่ ยการเรียนรูท้ ่ี 2 หลังเรียน การบวกจานวนท่มี ี - แบบทดสอบหลัง - รอ้ ยละ 60 ผา่ นเกณฑ์ ผลบวกไมเ่ กนิ เรียน 100,000

8. ส่อื /แหลง่ การเรยี นรู้ 8.1 สอ่ื การเรยี นรู้ 1) หนงั สอื เรียน คณิตศาสตร์ ป. 3 เล่ม 1 หน่วยท่ี 2 การบวกจานวนท่ีมีผลบวก ไมเ่ กิน 100,000 2) หนงั สอื แบบฝกึ หดั คณิตศาสตร์ ป. 3 เลม่ 1 หนว่ ยท่ี 2 การบวกจานวนที่มผี ลบวก ไม่เกิน 100,000 3) ใบงานที่ 2.6 เรอ่ื ง การสร้างโจทย์ปญั หาการบวก 4) ใบงานท่ี 2.7 เร่ือง ร่วมด้วยชว่ ยกนั สรา้ งสรรคโ์ จทยป์ ญั หาการบวก 5) บัตรโจทย์ปัญหา 6) เพลงโจทย์ปัญหา 7) บัตรภาพวงลอ้ เสีย่ งทาย 8) บัตรภาพสินคา้ 8.2 แหลง่ การเรียนรู้ - หอ้ งเรยี น

ใบงานท่ี 2.6 31,789 เรือ่ ง การสรา้ งโจทยป์ ัญหาการบวก คาช้ีแจง : ให้นกั เรียนชว่ ยกันสร้างโจทย์ปญั หาจากสง่ิ ที่กาหนดใหต้ ่อไปนี้ 56,420 12,023 1. โจทยป์ ญั หาการบวก ตอบ 14,789 + 42,000 + 27,320 = ? 2. โจทย์ปัญหาการบวก ตอบ อำเภอศรีเมืองใหมม่ ีประชำกร 63,120 คน 3. โจทยป์ ญั หาการบวก ตอบ

ใบงานที่ 2.6 เฉลย เรื่อง การสรา้ งโจทยป์ ญั หาการบวก 31,789 คาชี้แจง : ให้นักเรียนชว่ ยกนั สรา้ งโจทยป์ ญั หาจากสิ่งทีก่ าหนดให้ตอ่ ไปน้ี 56,420 12,023 1. โจทย์ปญั หาการบวก ตอบ 14,789 + 42,000 + 27,320 = ? 2. โจทยป์ ัญหาการบวก ตอบ อำเภอศรีเมอื งใหมม่ ีประชำกร 63,120 คน 3. โจทย์ปัญหาการบวก ตอบ

ใบงานที่ 2.7 เร่อื ง รว่ มดว้ ยช่วยกนั สรา้ งสรรคโ์ จทยป์ ัญหาการบวก คาชแี้ จง : ให้นักเรียนช่วยกันวางแผนและสร้างโจทย์ปัญหาจากบตั รภาพสินค้าท่ีกาหนดให้ พรอ้ มทัง้ หาคาตอบ ภาพสนิ ค้าทีไ่ ด้.................................................................................................................. โจทย์ สิง่…ท…โี่ …จท…ย…์ก…า…หน…ด…ใ…ห…้ ……………………………………………………………………………………………… ...…...…...…..…...…...…...…...…..…...…...…...…..…...…...…...…...…..…...…...…...…...…..…...…...…...…...…..…...…...…...…..…...…...…...…...…..…...…...…...…...…..…...…………… ……………………..........................................................................................................……… ส่งิ ท่ีโจทยถ์ าม.................................................................................................................................. การแก้ปัญหา …………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………… การตรวจสอบความสมเหตสุ มผลของคาตอบ ......................................................................................................................................................... .........................................................................................................................................................

ใบงานที่ 2.7 เฉลย เรือ่ ง ร่วมดว้ ยชว่ ยกนั สรา้ งสรรคโ์ จทย์ปัญหาการบวก คาช้ีแจง : ใหน้ กั เรยี นช่วยกนั วางแผนและสรา้ งโจทยป์ ัญหาจากบตั รภาพสนิ ค้าท่กี าหนดให้ พร้อมทง้ั หาคาตอบ ภาพสินคา้ ที่ได้.................................................................................................................. โจทย์ ส…ิ่งท…ีโ่…จ…ท…ย์ก…า…ห…น…ด…ให…้ ……………………………………………………………………………………………… ..…...…...…..…...…...…...…...…..…...…...…...…..…...…...…...…...…..…...…...…...…...…..…...…...…...…...…..…...…...…...…..…...…...…...…...…..…...…...…...…...…..…...…. ………… …………………………..........................................................................................................… ส่งิ ทโ่ี จทยถ์ าม.................................................................................................................................. การแกป้ ญั หา …………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………… การตรวจสอบความสมเหตุสมผลของคาตอบ ......................................................................................................................................................... ........................................................................................................................................................

เพลงโจทยป์ ัญหา เนื้อร้อง อ.ดวงจิตต์ กาญจนมยูร ทานอง เพลงเดก็ ปมั๊ เลขโจทย์ตอ้ งอ่านหลายที เพราะว่าโจทย์นน้ั มีปญั หาซับซอ้ น ทาความเข้าใจไปทลี ะตอน บนั ทึกไว้กอ่ นโจทยส์ งั่ ให้ทาอะไร จะไม่ผิดตอ้ งตคี วามเปน็ ไม่ยากเยน็ แปลความให้ได้ อีกขัน้ ตอนตอ่ ไป ต้องฝกึ คิดคานวณ ขัน้ แสดงวิธีทานั้น เราตอ้ งยอ่ ความสรปุ ชัดเจน พจิ ารณาปญั หาของโจทย์ เพือ่ ประโยชน์ในการเขียนแสดง ถา้ คดิ ไมไ่ ดท้ บทวนดูใหม่ อ่านให้เข้าใจแลว้ กเ็ ขียนไดเ้ อง บตั รภาพสนิ ค้า 3,990 บาท 1,750 บาท 350 บาท 8550 บาท

แถบประโยค โรงเรยี นแหง่ หนึ่งมนี กั เรยี นชาย 389 คน มนี กั เรยี นหญิง 638 คน โรงเรยี นนม้ี นี กั เรียนทงั้ หมดกีค่ น ทะเลแหง่ หนงึ่ เกบ็ ขยะพลาสติกได้ 2,369 กโิ ลกรมั