Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore 1107ด.ช.ฤทธิ์ทวี เงินมูล แก้ไข 14 เมษายน 2566

1107ด.ช.ฤทธิ์ทวี เงินมูล แก้ไข 14 เมษายน 2566

Published by jim.2004, 2023-04-19 15:05:21

Description: 1107ด.ช.ฤทธิ์ทวี เงินมูล แก้ไข 14 เมษายน 2566

Search

Read the Text Version

71 บันทึกผลหลงั การสอน ทักษะจำเปน็ เฉพาะความบกพร่องออทสิ ตกิ มาตรฐาน ๑๓ มีการพัฒนาทักษะจำเป็นเฉพาะความพิการแตล่ ะประเภท ตวั บง่ ชีท้ ี่ ๓ ทักษะการควบควบคุมตนเองในสถานการณ์ต่างๆ การนบั ถือตนเอง และสำนกึ รู้ผดิ ชอบชั่วดี สภาพที่พึงประสงค์/พัฒนาการที่คาดหวัง : สภาพที่พึงประสงค์ที่ ๒ สามารถปฏิบัติตนตามกติกาของ หอ้ งเรียนได้ โครงการ/กจิ กรรมทส่ี อดคล้อง โครงการพาน้องท่องแหล่งเรียนรูน้ ครลำปางเมืองแหง่ ความสุข เป้าหมายระยะยาว ๑ ปี ภายในเดือนมีนาคม ๒๕๖๖ เด็กชายฤทธิ์ทวี เงินมูล สามารถปฏิบัติตนตามกติกาของห้องเรียนได้ จำนวน ๕ ขอ้ นาน ๕ วันติดต่อกัน จุดประสงคเ์ ชงิ พฤตกิ รรมข้อที่ ๑ ภายในเดือนมกราคม ๒๕๖๖ เมื่อกำหนดให้ปฏิบัติตนตามกติกาของห้องเรียน เด็กชายฤทธิ์ทวี เงินมูล สามารถให้ความร่วมมอื ในการปฏิบตั ิตนตามกตกิ าของห้องเรียน ได้ ๓ ข้อ นาน ๕ วัน ตดิ ตอ่ กัน วันที่ ๓ ๔ ๕ ๖ ๗ ๑๐ ๑๑ ๑๒ ๑๓ ๑๔ ๑๗ ๑๘ ๑๙ ๒๐ ๒๑ ๒๔ ๒๕ ๒๖ ๒๗ สอน ระดบั ๑ ๑ ๑ ๒ ๒ ๒ ๒ ๒ ๒ ๒ ๓ ๓ ๓ ๓ ๓ ๓ ๔ ๔ ๔ คุณภาพ ทไ่ี ด้ ภายในเดอื นมกราคม ๒๕๖๖ เดก็ ชายฤทธิท์ วี เงนิ มูล สามารถให้ความร่วมมือในการปฏิบัตติ นตามกติกาของ หอ้ งเรียน ได้ ๓ ข้อ นาน ๕ วนั ตดิ ต่อกัน ระดบั คณุ ภาพ ผูเ้ รยี นสามารถปฏบิ ัตติ นตามกตกิ าของห้องเรยี น ได้ ๓ ข้อ นาน ๕ วัน ติดตอ่ กนั ๔ หมายถึง ปฏบิ ตั ติ นตามกติกาของหอ้ งเรียน ได้ ๓ ข้อ นาน ๕ วนั ตดิ ตอ่ กนั ๓ หมายถงึ ปฏิบัตติ นตามกติกาของห้องเรียน ได้ ๓ ข้อ นาน ๔ วัน ติดต่อกนั ๒ หมายถงึ ปฏบิ ัตติ นตามกติกาของหอ้ งเรยี น ได้ ๓ ข้อ นาน ๓ วนั ตดิ ตอ่ กนั ๑ หมายถงึ ให้ความรว่ มมอื ๐ หมายถงึ ไม่ให้ความรว่ มมือ หมายเหตุ ๑ สงั เกตจากการปฏบิ ตั ิตามข้ันตอนตามที่กำหนดไว้ ๒ สงั เกตจากความสำเรจ็ ของงาน สังเกตจากพฒั นาการของผูเ้ รยี นทที่ ำได้อย่างตอ่ เน่ือง ลงชอื่ .................................................ครูผู้สอน (นางจิราพร จริยภมรกรุ ) ๒๗ มกราคม ๒๕๖๖

72 ความคดิ เหน็ ฝ่ายวิชาการ / ผู้แทน ( √ ) สอนตามแผนการสอนข้ันตอนต่อไป ( ) ควรปรับแก้ ............................................................................................................. (นายจกั รพงศ์ หมืน่ ส)ุ หัวหนา้ งานให้บรกิ ารช่วยเหลอื ระยะแรกเรม่ิ พฒั นาศกั ยภาพ และเตรียมความพร้อม วนั ท่ี/เดอื น/พ.ศ. ๒๗ มกราคม ๒๕๖๖ ความคิดเหน็ ของผู้บรหิ าร หรือผทู้ ไ่ี ด้รบั มอบหมาย ( √ ) สอนตามแผนการสอนข้นั ตอนต่อไป ( ) ควรปรับแก้ ............................................................................................................. ลงชื่อ (นายนภสินธ์ุ ดวงประภา) ผ้ชู ว่ ยผอู้ ำนวยการกลุ่มบรหิ ารวชิ าการ ตำแหนง่ ครู วันท่/ี เดอื น/พ.ศ. ๒๗ มกราคม ๒๕๖๖

73 แผนการสอนเฉพาะบุคคล (Individual Implementation Plan : IIP) ช่อื -สกุล เด็กชายฤทธิ์ทวี เงินมูล ประเภทความพิการ บคุ คลออทิสติก ปกี ารศึกษา ๒๕๖๕ ทกั ษะจำเป็นเฉพาะความบกพร่องออทิสตกิ มาตรฐาน ๑๓ มีการพัฒนาทักษะจำเป็นเฉพาะความพกิ ารแตล่ ะประเภท ตวั บง่ ชท้ี ่ี ๓ ทักษะการควบควบคุมตนเองในสถานการณ์ต่างๆ การนบั ถือตนเอง และสำนกึ รผู้ ดิ ชอบชวั่ ดี สภาพที่พึงประสงค์/พัฒนาการที่คาดหวัง : สภาพที่พึงประสงค์ที่ ๒ สามารถปฏิบัติตนตามกติกาของ ห้องเรียนได้ โครงการ/กิจกรรมท่สี อดคล้อง โครงการพาน้องท่องแหลง่ เรยี นรนู้ ครลำปางเมืองแห่งความสุข เปา้ หมายระยะยาว ๑ ปี ภายในเดือนมีนาคม ๒๕๖๖ เด็กชายฤทธิ์ทวี เงินมูล สามารถปฏิบัติตนตามกติกาของห้องเรียนได้ จำนวน ๕ ขอ้ นาน ๕ วนั ติดตอ่ กนั จุดประสงคเ์ ชิงพฤตกิ รรมข้อท่ี ๑ ภายในเดือนกุมภาพันธ์ ๒๕๖๖ เมื่อกำหนดให้ปฏิบัตติ นตามกติกาของห้องเรียนเด็กชายฤทธิ์ทวี เงิน มลู สามารถใหค้ วามร่วมมือในการปฏิบัติตนตามกติกาของห้องเรียน ได้ ๔ ขอ้ นาน ๕ วนั ติดต่อกัน แผนที่ ๑ เรม่ิ ใช้แผนวนั ท่ี ๑ กมุ ภาพันธ์ ๒๕๖๖ สนิ้ สุดแผนวนั ที่ ๑ กุมภาพนั ธ์ ๒๕๖๖ ใช้เวลาสอนคาบละ ๒๐ นาที ๑. เนอ้ื หา ปฏิบตั ิตนตามกติกาของห้องเรียนได้ ๒. จุดประสงค์ ปลายทาง ผู้เรยี นสามารถปฏิบตั ิตนตามกติกาของห้องเรยี นได้ จำนวน ๕ ข้อ ปฏิบตั ิได้อย่างถูกต้อง มน่ั ใจ ๓. กจิ กรรมการสอน 1) ข้ันเตรียมการสอน สถานที่ หอ้ งเรยี นประสานสายตา ๑ สือ่ ครู นักเรยี น กฎ กตกิ าในห้องเรียน แบบประเมนิ วางบนโต๊ะข้างครูผสู้ อน พรอ้ มปากกา ผ้เู รียน ยนื ข้างครูผู้สอน 2) ขั้นนำเสนองาน ทักทาย ผสู้ อนทักทายผเู้ รยี นโดยการกลา่ วสวัสดี และบอกผู้เรยี นว่า “นวิ เอิร์ธวันนี้ครจู ะให้ นวิ เอิรธ์ ปฏิบัตติ นตามกติกาของหอ้ งเรียนนะคะ” ประเมินความสามารถพื้นฐาน ผู้สอนให้ผู้เรียนปฏิบัติตนตามกติกาของห้องเรียนจำนวน ๑ ขอ้ ให้ดู โดยใชค้ ำสงั่ “นวิ เอริ ์ธไม่แกล้งเพอ่ื นขณะทำกิจกรรมนะคะ”

74 3) ขนั้ สอน ๑. ผ้สู อนบอกผู้เรยี นว่า “นวิ เอิร์ธวันนค้ี รจู ะให้นวิ เอิร์ธปฏบิ ัตติ นตามกติกาของห้องเรยี น จำนวน ๑ ขอ้ นะคะ ” พร้อมสาธติ การเกบ็ ของเลน่ เข้าที่ให้นวิ เอิรธ์ดู ๑.๑ ผ้สู อนกอดอก นง่ั บนเก้าของตนเอง ๑.๒ ผูส้ อนตัง้ ใจทำกิจกรรม คำสงั่ “นิวเอิร์ธไมแ่ กลง้ เพอื่ นขณะทำกิจกรรมนะคะ” ใช้เทคนิคการสอนอะไร - การสาธติ - ทำตามแบบ - กระตุ้นเตือน - ตะลอ่ มกล่อมเกลา ใหแ้ รงเสรมิ /รางวลั ผสู้ อนพดู วา่ “เก่งมากค่ะ” 4) ขั้นประเมนิ บันทึกลงในแบบบันทกึ ผลการเรยี นรู้ตามแผนการสอนเฉพาะบคุ คล ๔. การวัดและประเมินผล ๑) วิธวี ดั และประเมนิ ผล - การสังเกต - การทดสอบ - การฝกึ ปฏิบัตจิ รงิ ๒) เครื่องมือวดั และประเมินผล - แบบบนั ทกึ ผลการเรียนรู้ตามแผนการสอนเฉพาะบุคคล ๖. เกณฑก์ ารวดั และประเมนิ ผล ผู้เรียนสามารถปฏิบตั ติ นตามกติกาของห้องเรียน ได้ ๔ ขอ้ นาน ๕ วัน ติดตอ่ กนั ๔ หมายถงึ ปฏบิ ตั ติ นตามกติกาของหอ้ งเรียน ได้ ๔ ข้อ นาน ๕ วนั ตดิ ตอ่ กนั ๓ หมายถงึ ปฏบิ ัตติ นตามกติกาของห้องเรยี น ได้ ๔ ข้อ นาน ๔ วนั ติดต่อกนั ๒ หมายถึง ปฏบิ ตั ติ นตามกติกาของห้องเรยี น ได้ ๔ ข้อ นาน ๓ วัน ตดิ ตอ่ กัน ๑ หมายถึง ให้ความรว่ มมอื ๐ หมายถงึ ไม่ใหค้ วามรว่ มมือ ลงชอ่ื ...........................................................ครูผู้สอน (นางจิราพร จริยภมรกรุ ) ครชู ำนาญการ

75 ความคิดเหน็ ฝา่ ยวิชาการ / ผูแ้ ทน ( ) เป็นแผนการสอนทีด่ ีใช้สอนได้ ( ) ควรปรับแก้ ........................................................................... ลงช่ือ (นายจกั รพงศ์ หม่นื สุ) หัวหน้างานใหบ้ รกิ ารช่วยเหลอื ระยะแรกเรม่ิ พัฒนาศักยภาพ และเตรยี มความพร้อม วนั ท/ี่ เดอื น/พ.ศ. ๒๐ กมุ ภาพันธ์ ๒๕๖๖ ความคดิ เหน็ ของผู้บริหาร หรอื ผู้ท่ไี ด้รบั มอบหมาย ( ) เป็นแผนการสอนทด่ี ีใชส้ อนได้ ( ) ควรปรับแก้ .............................................................................. ลงช่อื (นายนภสนิ ธ์ุ ดวงประภา) ผูช้ ่วยผู้อำนวยการกลมุ่ บริหารงานวชิ าการ วันท่ี/เดอื น/พ.ศ. ๒๐ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๖

76 แบบบันทึกการวิเคราะหง์ าน ทักษะจำเป็นเฉพาะความบกพร่องออทิสตกิ จุดประสงค์ ภายในเดือนกุมภาพันธ์ ๒๕๖๖ เมื่อกำหนดให้ปฏิบัติตนตามกติกาของห้องเรียน เดก็ ชายฤทธิท์ วี เงนิ มูล สามารถใหค้ วามร่วมมือในการปฏิบตั ิตนตามกติกาของห้องเรียน ได้ ๕ ขอ้ นาน ๕ วัน ตดิ ตอ่ กนั งาน (Task) การปฏบิ ตั ติ นตามกติกาของห้องเรยี น ได้ ๔ ข้อ นาน ๕ วนั ชื่อนักเรยี น เดก็ ชายฤทธิท์ วี เงนิ มูล ลำดับ รายละเอยี ด ผลการประเมนิ Forward Backward วนั เดือน ที่ ได้ ไม่ได้ Chaining Chaining ปี ๑ เก็บของเล่นเข้าที่เป็น ✓ ๑ กรกฎาคม ระเบยี บ ๒๕๖๕ ✓ ๒ ไมแ่ กล้งผูอ้ ่นื ๓ กันยายน ✓ ๒๕๖๕ ๓ ไม่ส่งเสียงดังขณะทำ กจิ กรรม ✓ ๒ พฤศจิกายน ๒๕๖๕ ๔ หยุดเลน่ เมอื่ หมดเวลา ✓ ๔ มกราคม ๕ แบง่ ของเลน่ ให้เพ่ือน ๒๕๖๖ ๕ มนี าคม ๒๕๖๖ ลงชื่อ...........................................................ครผู ้สู อน (นางจิราพร จริยภมรกุร) ครชู ำนาญการ

77 บันทึกผลหลงั การสอน ทกั ษะจำเป็นเฉพาะความบกพร่องออทิสติก มาตรฐาน ๑๓ มีการพฒั นาทักษะจำเป็นเฉพาะความพิการแตล่ ะประเภท ตัวบง่ ชท้ี ี่ ๓ ทักษะการควบควบคมุ ตนเองในสถานการณต์ ่างๆ การนับถือตนเอง และสำนึกรูผ้ ิดชอบชัว่ ดี สภาพที่พึงประสงค์/พัฒนาการที่คาดหวัง : สภาพที่พึงประสงค์ที่ ๒ สามารถปฏิบัติตนตามกติกาของ ห้องเรียนได้ โครงการ/กิจกรรมที่สอดคล้อง โครงการพาน้องทอ่ งแหล่งเรียนรู้นครลำปางเมืองแห่งความสุข เป้าหมายระยะยาว ๑ ปี ภายในเดือนมีนาคม ๒๕๖๖ เด็กชายฤทธิ์ทวี เงินมูล สามารถปฏิบัติตนตามกติกาของห้องเรียนได้ จำนวน ๕ ข้อ นาน ๕ วันติดตอ่ กนั จดุ ประสงค์เชิงพฤติกรรมข้อท่ี ๑ ภายในเดือนกุมภาพันธ์ ๒๕๖๖ เมื่อกำหนดให้ปฏิบัติตนตามกติกาของห้องเรียน เด็กชายฤทธิ์ทวี เงินมลู สามารถใหค้ วามร่วมมือในการปฏิบตั ติ นตามกติกาของห้องเรยี น ได้ ๔ ข้อ นาน ๕ วัน ตดิ ตอ่ กัน วนั ที่ ๓ ๔ ๕ ๖ ๗ ๑๐ ๑๑ ๑๒ ๑๓ ๑๔ ๑๗ ๑๘ ๑๙ ๒๐ ๒๑ ๒๔ ๒๕ ๒๖ ๒๗ สอน ระดับ ๑ ๑ ๑ ๒ ๒ ๒ ๒ ๒ ๒ ๒ ๓ ๓ ๓ ๓ ๓ ๓ ๔ ๔ ๔ คณุ ภาพ ทีไ่ ด้ ภายในเดือนกุมภาพันธ์ ๒๕๖๖ เดก็ ชายฤทธทิ์ วี เงินมลู สามารถใหค้ วามร่วมมือในการปฏิบตั ิตนตามกติกาของ หอ้ งเรยี น ได้ ๔ ข้อ นาน ๕ วัน ตดิ ตอ่ กนั ระดับคุณภาพ ผเู้ รยี นสามารถปฏิบตั ิตนตามกตกิ าของห้องเรียน ได้ ๔ ขอ้ นาน ๕ วนั ตดิ ต่อกัน ๔ หมายถึง ปฏิบัติตนตามกติกาของหอ้ งเรียน ได้ ๔ ข้อ นาน ๕ วัน ตดิ ตอ่ กนั ๓ หมายถงึ ปฏิบัตติ นตามกติกาของห้องเรียน ได้ ๔ ข้อ นาน ๔ วัน ติดต่อกัน ๒ หมายถึง ปฏบิ ตั ติ นตามกติกาของห้องเรยี น ได้ ๔ ข้อ นาน ๓ วนั ตดิ ตอ่ กนั ๑ หมายถึง ให้ความร่วมมือ ๐ หมายถึง ไม่ใหค้ วามร่วมมือ หมายเหตุ ๑ สงั เกตจากการปฏบิ ัติตามข้ันตอนตามท่ีกำหนดไว้ ๒ สังเกตจากความสำเร็จของงาน สงั เกตจากพฒั นาการของผู้เรียนทท่ี ำได้อย่างตอ่ เนื่อง ลงชอ่ื .................................................ครูผู้สอน (นางจิราพร จริยภมรกรุ ) ๒๗ กมุ ภาพนั ธ์ ๒๕๖๖

78 ความคดิ เห็นฝ่ายวิชาการ / ผ้แู ทน ( √ ) สอนตามแผนการสอนขน้ั ตอนต่อไป ( ) ควรปรับแก้ ............................................................................................................. (นายจกั รพงศ์ หมนื่ ส)ุ หัวหนา้ งานให้บรกิ ารชว่ ยเหลอื ระยะแรกเรมิ่ พัฒนาศักยภาพ และเตรยี มความพรอ้ ม วันท/่ี เดือน/พ.ศ. ๒๗ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๖ ความคิดเหน็ ของผบู้ ริหาร หรือผู้ทไี่ ด้รับมอบหมาย ( √ ) สอนตามแผนการสอนขน้ั ตอนต่อไป ( ) ควรปรับแก้ ............................................................................................................. ลงชื่อ (นายนภสินธ์ ดวงประภา) ผูช้ ว่ ยผู้อำนวยการกลุ่มบริหารวชิ าการ ตำแหนง่ ครู วนั ที/่ เดอื น/พ.ศ. ๒๗ กุมภาพนั ธ์ ๒๕๖๖

79

80

81

82

83

84

85

86

87

88

89

90

91

92

93 ขอ้ มลู นกั เรียนรายบุคคล หอ้ งเรยี น ประสานสายตา ๑ ปีการศกึ ษา ๒๕๖๕ ๑. ขอ้ มูลด้านนกั เรียน ๑.๑ ข้อมลู สว่ นตัวนักเรยี น ช่อื -นามสกุล เดก็ ชายฤทธท์ิ วี เงนิ มลู ช่ือเลน่ นวิ เอิรธ์ ประเภทความพิการ ออทสิ ติก เกดิ วนั ที่ ๓ เดือน กนั ยายน พ.ศ. ๒๕๕๙ อายุ ๗ ปี เชอ้ื ชาติ ไทย สัญชาติ ไทย ศาสนา พทุ ธ เลขบตั รประจำตวั ประชาชน ๑-๕๒๙๙-๐๒๖๗๗-๓๔-๓ การจดทะเบียนคนพกิ าร  ไม่ต้องการจดทะเบยี น  ยังไมจ่ ดทะเบียน  จดทะเบียนแล้ว ที่อยปู่ ัจจุบนั บ้านเลขท่ี ๒๗๔ หม่ทู ่ี ๗ ช่อื หม่บู ้าน/ถนน พระบาท ตำบล/แขวง บ้านดง อำเภอ/เขต แมเ่ มาะ จงั หวดั ลำปาง รหัสไปรษณีย์ ๕๒๒๒๐ ๑.๒ ด้านสขุ ภาพ ๑) สขุ ภาพกาย  มีสุขภาพรา่ งกายสมบูรณ์แขง็ แรง  เจบ็ ปว่ ยบ่อย (ระบุ)............................................................................  มีโรคประจำตวั (ระบุ) ลมชัก  ปว่ ยเป็นโรครา้ ยแรง/เรื้อรงั (วัณโรค โรคอ้วน โรคทางเดนิ หายใจเรื้อรงั (หอบหดื ) โรคหัวใจและหลอดเลอื ด โรคหลอดเลอื ดสมอง โรคไตวายเรอ้ื รงั โรคมะเร็ง ภาวะภมู คิ มุ้ กันต่ำ โรคเบาหวาน ภาวะบกพร่องทางระบบประสาทอย่างรุนแรง ลมชกั ฯลฯ ระบุโรค)............................................................... นำ้ หนัก ๒๔ กิโลกรมั ส่วนสูง ๑๒๐ เซนตเิ มตร  น้ำหนกั ผดิ ปกตไิ ม่สมั พนั ธ์กบั สว่ นสงู หรืออายุ  นอนติดเตียง ๒) สุขภาพจิต/อารมณ์/พฤติกรรม  อารมณด์ ี ย้ิมงา่ ย  มีปฏสิ ัมพนั ธ์ทเ่ี หมาะสมกับผู้อ่ืน  อารมณ์หงดุ หงิดง่าย/โมโหง่าย  ไม่มีปฏสิ มั พนั ธก์ ับผอู้ นื่ เช่น เฉยเมย ไมส่ บตา  ไม่มกี ารตอบสนอง/แสดงออกทางอารมณ์  ซมึ เศร้า  แยกตวั ออกจากกลมุ่  หวาดระแวง  ไม่พบพฤติกรรมที่ไม่พึงประสงค์  พบพฤติกรรมที่ไม่พึงประสงค์ทส่ี ง่ ผลกระทบไม่รนุ แรงต่อตนเอง/ผอู้ ืน่ /สิ่งของ  พบพฤติกรรมที่ไม่พงึ ประสงคท์ ่สี ่งผลกระทบรุนแรงต่อตนเอง/ผู้อื่น/ส่งิ ของ ๑.๓ ด้านการเรยี นรู้ ๑) พัฒนาการ/ความสามารถ  พฒั นาการ/ความสามารถเทียบเท่ากับอายจุ ริง  พัฒนาการ/ความสามารถลา่ ชา้ กวา่ อายุจรงิ ๑ – ๓ ปี

94  พัฒนาการ/ความสามารถลา่ ชา้ กวา่ อายุจริง ๓ ปี ขึน้ ไป ๒) การชว่ ยเหลือตนเอง  สามารถช่วยเหลอื ตนเองได้  สามารถชว่ ยเหลอื ตนเองได้บ้าง  ไมส่ ามารถชว่ ยเหลอื ตนเองได้ ๑.๔ ด้านสิทธคิ นพิการ/สนบั สนนุ ชว่ ยเหลือจากองค์กรภาครัฐหรอื เอกชน ๑) เบ้ยี ยังชีพคนพิการ  ไดร้ บั จำนวน ๑,๐๐๐ บาท/เดือน  ไม่ไดร้ บั เนื่องจาก................................................................................................................ ๒) บริการฟ้ืนฟูทางการแพทย์  ได้รบั (ระบโุ รงพยาบาล) สถาบันพฒั นาการเด็กราชนครินทร์  ไม่ไดร้ ับ เนื่องจาก................................................................................................................ ๓) บริการเทคโนโลยี สือ่ สิ่งอำนวยความสะดวก  ได้รับ (ระบสุ ิง่ ท่ีได้รบั ) สิ่งอำนวยความสะดวก ส่อื บรกิ าร และความชว่ ยเหลืออนื่ ใดทาง การศกึ ษา (ระบุหน่วยงานที่ได้รับ) ศูนย์การศกึ ษาพเิ ศษประจำจังหวัดลำปาง  ไมไ่ ด้รบั เนื่องจาก............................................................................................................... ๔) ทนุ การศึกษา/เงนิ ช่วยเหลอื อน่ื ๆ  ได้รบั (ระบุช่ือทุนการศกึ ษา/เงินช่วยเหลืออืน่ ๆ) มลู นิธคิ ุณพุ่ม จำนวน…………………….บาท  ไม่ได้รับ เน่ืองจาก ไมป่ ระสงค์ขอทุน ๕) รับบริการสวัสดกิ ารทางสังคม  ได้รบั (สง่ิ ทีไ่ ด้รบั เชน่ บริการเคสเมเนเจอร์ บรกิ ารรับส่งไปโรงพยาบาล ฯลฯ ระบุ).......... (หน่วยงานท่ไี ดร้ บั เช่น พมจ. กสศ. ฯลฯ ระบุ )..................................................................  ไมไ่ ด้รบั เน่ืองจาก............................................................................................................... ๑.๕ ด้านการเดนิ ทางในชวี ิตประจำวัน ๑) ยานพาหนะทใ่ี ชใ้ นครอบครวั  ไม่มียานหนะใช้ภายในครอบครัว  มยี านพาหนะ โปรดระบุประเภท  จักรยาน  จักรยานยนต์  จกั รยานยนตพ์ ่วง  รถเก๋ง  รถกระบะ ๒ ประตู

95  รถกระบะ ๔ ประตู (นง่ั ๒ ตอนทา้ ยบรรทุก)  รถกระบะ ๔ ประตู (นง่ั ๒ ตอนท้ายบรรทุกมหี ลังคา)  รถกระบะ ๔ ประตู (นั่ง ๒ ตอนแวน)  รถตูส้ ว่ นบคุ คล ๒) วธิ กี ารเดินทางในชีวติ ประจำวนั  เดนิ  ใชย้ านพาหนะ โปรดระบุประเภท  จักรยาน  จักรยานยนต์  จักรยานยนต์พว่ ง  รถเกง๋  รถกระบะ ๒ ประตู  รถกระบะ ๔ ประตู (นง่ั ๒ ตอนท้ายบรรทุก) รถกระบะ ๔ ประตู (น่งั ๒ ตอนท้ายบรรทุกมีหลังคา)  รถกระบะ ๔ ประตู (นงั่ ๒ ตอนแวน)  รถรับจา้ ง / รถรบั -สง่ นักเรยี น  รถโดยสารประจำทาง  รถตสู้ ว่ นบุคคล ๓) ระยะทางจากที่พักอาศัยมายงั สถานศึกษา (ระบุระยะทาง) ๑๔ กโิ ลเมตร

96 ๒. ขอ้ มูลดา้ นครอบครัว ๒.๑ ข้อมลู บิดา  มีชีวติ อยู่  ถงึ แกก่ รรม  ไม่มีข้อมูล ชอื่ -นามสกุล บิดา นายบุญทวี เงนิ มูล อายุ ๓๕ ปี เชอ้ื ชาติ ไทย สญั ชาติ ไทย ศาสนา พุทธ  ไม่มีงานทำ มีงานทำ อาชพี รับจ้าง รายได้ ๒๐๐๐๐ บาท/เดือน ระดับการศึกษา  ไม่ไดร้ ับการศึกษา  ประถมศึกษา  มธั ยมศกึ ษา/ปวช  ปวส/อนปุ รญิ ญา  ปรญิ ญา ทอี่ ยู่ปัจจบุ ัน  ท่อี ย่เู ดียวกบั นักเรียน  ท่ีอยตู่ ่างจากนกั เรียน (โปรดกรอกข้อมูล) บา้ นเลขท่ี.....................ตรอก/ซอย...............หม่ทู .่ี ..........ชือ่ หมู่บ้าน/ถนน................................................... ตำบล/แขวง....................................อำเภอ/เขต................................... จงั หวดั ............................................ รหสั ไปรษณีย.์ .............................................เบอรโ์ ทรศพั ท.์ ........................................................................... ๒.๒ ข้อมูลมารดา  มีชีวติ อยู่  ถงึ แก่กรรม  ไมม่ ขี ้อมูล ชอ่ื -นามสกุล มารดา นางสาวกัลยารตั น์ คำจนั ทึก อายุ ๓๕ ปี เช้อื ชาติ ไทย สัญชาติ ไทย ศาสนา พุทธ  ไม่มงี านทำ  มีงานทำ อาชีพ รบั จา้ ง รายได้ ๑๕, ๐๐๐บาท/เดือน ระดับการศกึ ษา  ไม่ไดร้ บั การศึกษา  ประถมศึกษา  มธั ยมศกึ ษา/ปวช ปวส/อนปุ ริญญา  ปรญิ ญา ที่อยปู่ ัจจุบนั  ที่อย่เู ดียวกบั นักเรยี น  ทอี่ ยตู่ ่างจากนักเรยี น (โปรดกรอกข้อมลู ) บ้านเลขท.ี่ ....................ตรอก/ซอย...............หมูท่ ี.่ ..........ชอ่ื หมู่บา้ น/ถนน................................................... ตำบล/แขวง....................................อำเภอ/เขต................................... จังหวดั ............................................ รหสั ไปรษณีย.์ .............................................เบอร์โทรศพั ท์............................................................................ ๒.๓ ข้อมูลผู้ปกครอง  บิดา มารดา  ผ้ปู กครองไมใ่ ชบ่ ิดา/มารดา (โปรดกรอกข้อมูล) ชอ่ื -นามสกุลผูป้ กครอง ...................................... อายุ .................................................... สญั ชาติ ................. ศาสนา .............. อาชพี ..................................... รายได้ .................................................... ระดบั การศึกษา  ไม่ได้รบั การศึกษา  ประถมศึกษา  มธั ยมศกึ ษา/ปวช  ปวส/อนปุ ริญญา  ปริญญา ทอ่ี ยปู่ ัจจุบนั  ทอี่ ยูเ่ ดยี วกับนกั เรยี น  ทีอ่ ยูต่ า่ งจากนักเรียน (โปรดกรอกข้อมลู ) บา้ นเลขที่.....................ตรอก/ซอย...............หมู่ท่ี...........ชือ่ หมูบ่ ้าน/ถนน................................................... ตำบล/แขวง....................................อำเภอ/เขต................................... จงั หวัด............................................ รหัสไปรษณีย์..............................................เบอร์โทรศพั ท์............................................................................ รายได้ครอบครวั  ๑๐๐,๐๐๐ บาท/ปี ข้ึนไป  ๔๐,๐๐๑ – ๙๙,๙๙๙ บาท/ปี  ไม่เกิน ๔๐,๐๐๐ บาท/ปี

97 สภาพความเปน็ อย่ใู นครอบครวั  อยรู่ ่วมกับบดิ ามารดา  อย่กู ับบิดา  อยูก่ ับมารดา  อยูก่ บั ผูอ้ ่นื (ระบุ) ปู่ย่า สถานภาพของบดิ ามารดา  อยู่ด้วยกนั  หย่ารา้ ง  แยกกนั อยู่  บิดาถึงแก่กรรม  มารดาถึงแก่กรรม  บิดา มารดาถงึ แก่กรรม ครอบครัวของนักเรียนมีสมาชิกท้ังหมด ๔ คน ประกอบดว้ ย พอ่ แม่ ปู่ ย่า บคุ คลในครอบครวั มีการใชส้ ารเสพตดิ  มี  ไมม่ ี เก่ยี วขอ้ งเปน็ ...............................กับนักเรียน ประเภทสารเสพตดิ ทใี่ ช้คือ  บหุ ร่ี  สุรา  ยาบา้  อืน่ ๆ ระบ.ุ ............................ ความถใ่ี นการใช้สารเสพตดิ ของบุคคลในครอบครวั  เป็นประจำ  บางคร้งั บุคคลในครอบครัวเกี่ยวข้องกับการเลน่ การพนนั  มี  ไมม่ ี ความถี่ในการเลน่ การพนนั ของบคุ คลในครอบครวั  เป็นประจำ  บางครั้ง ภายในครอบครัวมีความขัดแย้งและมีการใช้ความรุนแรง  มี  ไมม่ ี บุคคลในครอบครัวเจบ็ ป่วยด้วยโรครนุ แรง/เรอ้ื รัง  มี  ไม่มี อาชพี บดิ า/มารดา/ผปู้ กครองเสยี่ งต่อกฎหมาย  มี  ไม่มี ๒.๔ ด้านเศรษฐกิจครอบครัว  มรี ายไดเ้ พียงพอสำหรบั เลีย้ งดูครอบครัวไดอ้ ย่างดี  มีรายไดเ้ พียงพอสำหรบั เล้ยี งดูครอบครัวเฉพาะที่จำเป็น  มหี นส้ี ิน  มรี ายไดเ้ พียงเลก็ น้อย ไม่เพยี งพอสำหรับครอบครวั  ไมม่ รี ายไดเ้ ลย ตอ้ งพงึ่ พาผู้อ่นื ทง้ั หมด และมหี น้ีสิน ๒.๕ ด้านการคุม้ ครองนกั เรียน ๑) การดูแลเอาใจใส่นักเรียน  สมาชกิ ทกุ คนในครอบครัวช่วยกนั ดูแลเอาใจใสน่ กั เรียนเปน็ ประจำสม่ำเสมอ  ขาดการดูแลเอาใจใส่/ปล่อยปละละเลยนักเรียนเป็นบางครั้ง  ขาดการดแู ลเอาใจใส่/ปล่อยปละละเลยนกั เรยี น/ไมม่ ีผู้ดูแล  นักเรยี นถกู ล่วงละเมิดทางเพศ  นักเรยี นถกู ทำร้ายทารุณ ๒) การชว่ ยเหลือในการพัฒนานกั เรยี น  สมาชิกทกุ คนในครอบครัวเข้าใจ/รว่ มมอื ในการช่วยเหลือในการพัฒนานักเรยี นเป็นอยา่ งดี  สมาชกิ ในครอบครวั บางคนไม่มีความเข้าใจ/รว่ มมือในการชว่ ยเหลือในการพัฒนานักเรยี น  สมาชกิ ทุกคนในครอบครัวขาดความเข้าใจ/ร่วมมือในการชว่ ยเหลือในการพัฒนานักเรียน ๒.๖ ดา้ นเจตคติต่อนักเรียน ครอบครวั มีความคาดหวงั ในการพฒั นานักเรียน  นักเรยี นสามารถพัฒนาได้และมีการแสวงหาความรู้ในการพฒั นานักเรยี นอยู่เสมอ  มคี วามคาดหวังในการพัฒนานกั เรยี นแต่ไม่มีการแสวงหาความรู้เพื่อนำมาพัฒนานักเรียน  ไมม่ คี วามคาดหวงั ในการพฒั นานกั เรยี นและนกั เรยี นเปน็ ภาระของครอบครวั

98 ๒.๗ ด้านความรู้ ความเขา้ ใจ ทกั ษะของผ้ปู กครองในการพัฒนานักเรียน ๑) ความรู้ ความเข้าใจ ทกั ษะของผู้ปกครองในการจัดกิจกรรมเพ่ือพัฒนานกั เรียน  มีการจดั กิจกรรมเพื่อพัฒนานกั เรยี นเปน็ ประจำทุกวนั  มกี ารจัดกจิ กรรมเพ่ือพฒั นานักเรียนเปน็ บางครั้ง  ไม่เคยมีการจัดกจิ กรรมเพอ่ื พัฒนานักเรียน ๒) ความรู้ ความเขา้ ใจ ทกั ษะของผู้ปกครองในการฝึกด้วยเทคนคิ /กิจกรรม  มกี ารฝกึ ด้วยเทคนิค/กิจกรรมที่หลากหลายเป็นประจำทุกวนั  มีการฝกึ ด้วยเทคนิค/กจิ กรรมเป็นบางครั้ง  ไม่เคยฝกึ ด้วยเทคนคิ /กิจกรรม ๓. ข้อมูลด้านสภาพแวดล้อม ๓.๑ สภาพแวดล้อมภายในศนู ยก์ ารศกึ ษาพเิ ศษประจำจังหวดั ลำปาง/หนว่ ยบริการ ๑) บริเวณภายในห้องเรยี นอาคารเรยี น  สภาพแวดล้อมในห้องเรียน/อาคารเรียนมีความเหมาะสมกบั ความตอ้ งการจำเปน็ พเิ ศษของ นักเรียนและปลอดภยั ต่อการดำรงชวี ติ  สภาพแวดลอ้ มในหอ้ งเรียน/อาคารเรียนบางอย่างขาดความเหมาะสมกบั ความต้องการจำเป็น พิเศษของนกั เรยี นแต่ยังสามารถใชไ้ ด้อย่างปลอดภยั ต่อการดำรงชีวิต  สภาพแวดล้อมในห้องเรียน/อาคารเรยี นบางอยา่ งขาดความเหมาะสมกับความต้องการจำเปน็ พเิ ศษของนกั เรียนและไม่ปลอดภยั ต่อการดำรงชวี ติ  สภาพแวดลอ้ มในห้องเรียน/อาคารเรียนทกุ อย่างไมม่ ีความเหมาะสมกบั ความตอ้ งการจำเป็น พิเศษของนกั เรียนและไมป่ ลอดภยั ต่อการดำรงชีวติ ระบุรายละเอยี ดเพิ่มเติม........................................................................................................................................... ๒) บรเิ วณภายนอกอาคารเรยี น  สภาพแวดล้อมนอกอาคารเรยี นมคี วามเหมาะสมกับความตอ้ งการจำเปน็ พิเศษของนักเรียน และปลอดภยั ต่อการดำรงชวี ิต  สภาพแวดล้อมนอกอาคารเรยี นบางอย่างขาดความเหมาะสมกับความต้องการจำเป็นพิเศษ ของนักเรยี นแตย่ งั สามารถใช้ได้อย่างปลอดภัยต่อการดำรงชีวิต  สภาพแวดลอ้ มนอกอาคารเรยี นบางอยา่ งขาดความเหมาะสมกับความต้องการจำเปน็ พิเศษ ของนักเรยี นและไม่ปลอดภัยตอ่ การดำรงชีวติ  สภาพแวดลอ้ มนอกอาคารเรยี นทุกอย่างไม่มคี วามเหมาะสมกับความต้องการจำเปน็ พิเศษของ นักเรียนและไม่ปลอดภัยต่อการดำรงชวี ิต ระบรุ ายละเอยี ดเพม่ิ เติม...........................................................................................................................................

99 ๓) ผเู้ กีย่ วขอ้ ง  ครู/พเี่ ลีย้ งเดก็ พิการ/ผปู้ ฏบิ ตั ิงานใหร้ าชการ ทุกคนพร้อมให้การชว่ ยเหลอื นักเรยี น  ครู/พเ่ี ลยี้ งเด็กพกิ าร/ผปู้ ฏบิ ตั ิงานให้ราชการ บางคนละเว้นไม่ให้การช่วยเหลอื นักเรียน  คร/ู พ่ีเลี้ยงเดก็ พกิ าร/ผู้ปฏบิ ตั งิ านให้ราชการ บางคนรังเกียจนักเรียน  เพื่อนทุกคนยอมรับ/ให้เข้ากลมุ่ ทำกิจกรรม  เพ่ือนบางคนไม่ยอมรบั /ไม่ใหเ้ ข้ากลมุ่ ทำกิจกรรม  เพอื่ นทุกคนไม่ยอมรบั /ไม่ใหเ้ ข้ากลุ่มทำกจิ กรรม ๓.๒ สภาพแวดล้อมภายในบ้าน ๑) บริเวณภายในบา้ น  สะอาดปลอดภัยเอ้ือต่อการพฒั นาศักยภาพนักเรียน  สะอาดปลอดภัยแต่ไม่เอื้อต่อการพัฒนาศักยภาพนกั เรียน  ไม่สะอาดและไมป่ ลอดภัย ๒) บรเิ วณภายนอกบ้าน  สะอาดปลอดภัยเอ้ือต่อการพัฒนาศักยภาพนักเรียน  สะอาดปลอดภยั แต่ไม่เอื้อตอ่ การพัฒนาศกั ยภาพนกั เรียน  ไมส่ ะอาดและไมป่ ลอดภัย ๓.๓ สภาพแวดลอ้ มภายในชุมชน ๑) เจตคตขิ องชุมชนที่มีต่อนักเรียนและครอบครัว  เป็นภาระของสังคม  พร้อมให้ความชว่ ยเหลอื  ความเชอ่ื เรอ่ื งเวรกรรม  มีสทิ ธเิ ท่าเทยี มกับคนทวั่ ไป  น่ารังเกยี จ  คนพกิ ารสามารถพฒั นาได้  ไมส่ นใจ ๒) ความสัมพนั ธ์ของนักเรียนกบั ชุมชน  เป็นท่ีรู้จกั ในชุมชน  มสี ่วนรว่ มในชุมชน  เปน็ ทรี่ ักของคนในชุมชน  ชุมชนใหค้ วามชว่ ยเหลอื  ไม่มีคนในชมุ ชนรู้จกั  ไม่สนใจ  สร้างความเดอื ดร้อนให้คนในชุมชน ๔. ขอ้ มูลดา้ นความปลอดภัยสถานศึกษา ๔.๑ ภัยท่ีเกิดจากการใชค้ วามรนุ แรงของมนุษย์ ๑) การลว่ งละเมดิ ทางเพศ  นกั เรียนมผี ู้ดูแลใกลช้ ดิ ตลอดเวลา  นักเรียนมีผู้ดูแลใกล้ชดิ เป็นบางเวลา  นกั เรยี นมักถูกทง้ิ ให้อยูต่ ามลำพงั หรือไม่มีผ้ดู แู ล  นักเรยี นมีปฏิสมั พันธ์ทางสังคมโดยมรี ะยะหา่ งกับผู้อ่นื

100  นกั เรยี นมพี ฤติกรรมกอดหรือหอมแกม้ เพศตรงขา้ มที่ไม่ใช่ญาตหิ รอื คนรูจ้ กั  นกั เรยี นมีพฤตกิ รรมล้วงหรือจับอวัยวะเพศของตนเอง  นกั เรียนมีพฤตกิ รรมล้วงหรอื จบั อวยั วะเพศของผู้อืน่  นักเรียนมีพฤตกิ รรมกระตุน้ ตนเองทางเพศเป็นบางคร้ัง  นกั เรยี นมพี ฤตกิ รรมกระตุ้นตนเองทางเพศบ่อยคร้ัง/เป็นประจำ  นกั เรยี นมพี ฤติกรรมการเข้าใช้สอื่ เทคโนโลยโี ดยไม่มกี ารควบคมุ ดูแล  นักเรยี นมีพฤตกิ รรมชอบดสู ่อื อนาจารลามก ๒) การทะเลาะววิ าท  นกั เรยี นมผี ้ดู ูแลใกล้ชดิ ตลอดเวลา  นักเรยี นมผี ู้ดูแลใกลช้ ดิ เป็นบางเวลา  นักเรียนมกั ถูกท้ิงใหอ้ ยูต่ ามลำพงั หรือไม่มีผู้ดูแล  นกั เรียนมีกริยาท่าทางเรียบร้อย สุภาพ ไม่กา้ วร้าว ไม่มีพฤติกรรมทำรา้ ยตนเองหรือผูอ้ ืน่  นักเรียนมพี ฤตกิ รรมเล่นไมเ่ ป็นหรอื แยง่ สงิ่ ของ ของเพื่อนหรอื ผอู้ ่นื เปน็ บางคร้ัง  นักเรยี นมีพฤติกรรมชอบแยง่ ของ ของผอู้ ่ืนหรือเพ่ือนบ่อยคร้ัง/เปน็ ประจำ  นกั เรยี นมีพฤตกิ รรมชอบดสู ่ือหรอื ให้ความสนใจสอ่ื ทีม่ ีความรุนแรงในสังคม  นักเรียนมีพฤตกิ รรมเลียนแบบการกระทำหรือคำพดู ท่ีก้าวร้าวรุนแรงเม่ือเห็นผอู้ ืน่ ทำหรือ จากการเสพสื่อ  นกั เรยี นมกั แสดงพฤติกรรมหรอื คำพดู ท่ีกา้ วร้าวรนุ แรงต่อผูอ้ น่ื  นกั เรยี นไดร้ ับยาท่ีมีฤทธใ์ิ นการปรบั พฤติกรรม (ยากลุ่มจิตเวช) แต่ทานยาไมส่ มำ่ เสมอ ๓) การกลั่นแกลง้ รังแก  นกั เรียนมผี ู้ดแู ลใกลช้ ดิ ตลอดเวลา  นักเรียนมผี ู้ดแู ลใกล้ชิดเป็นบางเวลา  นกั เรยี นมกั ถูกทิ้งใหอ้ ย่ตู ามลำพังหรือไม่มผี ูด้ ูแล  นักเรยี นมีกรยิ าท่าทางเรียบร้อย สุภาพ ไม่ก้าวรา้ ว ไม่มีพฤติกรรมทำรา้ ยตนเองหรือผอู้ ื่น  นักเรียนมีพฤติกรรมเลน่ ไมเ่ ป็นหรอื แยง่ สงิ่ ของ ของเพ่ือนหรือผอู้ ่ืนเปน็ บางคร้ัง  นกั เรยี นมีพฤตกิ รรมชอบแย่งของ ของผ้อู นื่ หรือเพ่ือนบ่อยๆ/เปน็ ประจำ  นกั เรยี นมีพฤตกิ รรมชอบดสู ่ือหรอื ให้ความสนใจสอ่ื ท่ีมีความรนุ แรงในสงั คม  นกั เรียนมพี ฤตกิ รรมเลียนแบบการกระทำหรือคำพดู ทแี่ สดงถึงการกลนั่ แกลง้ รังแก เช่น พูดแซว พดู คำหยาบคาย ดึงผมผ้อู ื่น กัดหยิกหรอื ตีผู้อ่นื เมื่อเห็นผ้อู ่นื ทำหรือจากการเสพสื่อ  นกั เรยี นมกั แสดงพฤติกรรมหรือคำพูดท่ีแสดงถงึ การกลัน่ แกลง้ รังแก เช่น พูดแซว พูดคำ หยาบคาย ดึงผมผูอ้ น่ื กัดหยิกหรอื ตผี ู้อ่ืน อยู่เสมอ ๔) การชมุ นุมประท้วงและการจลาจล  นกั เรยี นมีผดู้ ูแลใกลช้ ิดตลอดเวลา  นักเรยี นมผี ดู้ ูแลใกล้ชิดเป็นบางเวลา  นกั เรยี นมกั ถูกทง้ิ ใหอ้ ยตู่ ามลำพังหรือไม่มีผดู้ ูแล

101  นักเรยี นมกี รยิ าทา่ ทางเรียบร้อย สุภาพ ไมม่ ีพฤตกิ รรม กา้ วรา้ ว กอ่ กวน ทำร้ายตนเองหรือ ผู้อืน่ และไม่มีการแสดงพฤติกรรมที่ก่อใหเ้ กิดการชุมนุม ชกั จงู ผอู้ นื่ หรือการประท้วง  นกั เรียนมีพฤตกิ รรมชอบดสู อ่ื หรอื ให้ความสนใจส่อื ท่เี กี่ยวกบั การชุมนมุ ประท้วงและ การจลาจลในสงั คม  นกั เรยี นเสีย่ งตอ่ การถูกชักชวนจากผู้อน่ื ไปรว่ มหรือก่อการชุมนุมประทว้ งและการจลาจล  นกั เรยี นถกู ชกั ชวนไปรว่ มการชมุ นมุ ประท้วงและการจลาจล ๕) การกอ่ วนิ าศกรรม  นักเรียนมผี ดู้ แู ลใกล้ชิดตลอดเวลา  นกั เรยี นมีผู้ดูแลใกลช้ ดิ เป็นบางเวลา  นกั เรียนมักถูกทง้ิ ใหอ้ ย่ตู ามลำพงั หรือไม่มผี ู้ดแู ล  นักเรยี นมีกริยาท่าทางเรียบรอ้ ย สุภาพ ไมม่ ีพฤติกรรม ก้าวรา้ ว ก่อกวน ทำร้ายตนเองหรือ ผู้อ่ืน และไม่มีการแสดงพฤติกรรมทเก่ยี วกับ ทำรา้ ยผู้อืน่ ทำลายสาธารณะสมบัติในสังคม เป็นตน้  นกั เรียนมพี ฤติกรรมชอบดูสื่อหรอื ให้ความสนใจสอ่ื ทีเ่ ก่ียวกบั ทำร้ายผู้อน่ื ทำลายสาธารณะ สมบัติในสังคม เปน็ ตน้  นกั เรียนเสีย่ งตอ่ การถูกชักชวนจากผอู้ น่ื ไปร่วมหรือก่อการชมุ นมุ ประทว้ งและการจลาจล  นกั เรยี นถูกชักชวนไปร่วม ทำรา้ ยผ้อู ่นื ทำลายสาธารณะสมบตั ใิ นสงั คม เป็นตน้ ๖) การระเบิด  นกั เรียนมผี ู้ดแู ลใกลช้ ดิ ตลอดเวลา  นักเรยี นมีผดู้ แู ลใกล้ชิดเป็นบางเวลา  นักเรยี นมักถูกท้งิ ใหอ้ ยตู่ ามลำพังหรือไม่มีผู้ดแู ล  นักเรียนไมม่ ีแนวโน้มทจ่ี ะแสดงพฤติกรรม การพกพาหรือเลน่ สารเคมีหรือวตั ถุที่อาจ กอ่ ให้เกดิ ระเบดิ  บุคคลในครอบครัวนักเรียนมีการใช้สารเคมีหรือวัตถุท่อี าจก่อใหเ้ กิดระเบิดในครอบครวั หรอื ในการประกอบอาชีพของครอบครัว เชน่ ยาฆ่าแมลงวชั พืช หรือสารประกอบในป๋ยุ เคมี หรือสารเคมีทำประทัด พลุ หรือบ้งั ไฟ หรือมวี ตั ถอุ ันตราย เช่น กระปอ๋ งสเปรย์ น้ำมนั ไม้ขีดไฟ ไฟแชค็ ในบ้าน  นักเรียนคลุกคลกี ับบคุ คลมกี ารใชส้ ารเคมหี รือใช้วตั ถุอัตรายในการประกอบอาชพี ท่ีอาจ กอ่ ใหเ้ กดิ ระเบิด  นกั เรยี นคลกุ คลกี ับบุคคลมีการใช้สารเคมีหรือใชว้ ตั ถุอัตรายในการทำประทัด พลุ หรอื บ้งั ไฟ  นักเรียนเสยี่ งตอ่ การถูกชักชวนจากผอู้ น่ื ในการพกพาหรอื เลน่ สารเคมีหรือใชว้ ัตถทุ ่ีอาจ กอ่ ให้เกดิ ระเบดิ  นกั เรยี นมีพฤติกรรมพกพาหรือนำสารเคมีหรือวตั ถุท่ีอาจกอ่ ให้เกิดระเบดิ เชน่ ยาฆา่ แมลง วัชพืช หรอื สารประกอบในปุ๋ยเคมี หรอื สารเคมีทำประทัด พลุ หรือบัง้ ไฟ หรอื มวี ตั ถุอันตราย เชน่ กระปอ๋ งสเปรย์ นำ้ มัน ไม้ขดี ไฟ ไฟแชค็ ๗) สารเคมแี ละวัตถุอันตราย  นกั เรียนมผี ู้ดแู ลใกล้ชดิ ตลอดเวลา  นกั เรยี นมผี ู้ดแู ลใกลช้ ิดเป็นบางเวลา  นักเรยี นมกั ถูกทิง้ ใหอ้ ยตู่ ามลำพังหรือไม่มผี ูด้ ูแล

102  นกั เรียนไมม่ ีแนวโน้มทจ่ี ะแสดงพฤติกรรม การพกพาหรือเล่นสารเคมีหรือวตั ถอุ นั ตราย  บุคคลในครอบครัวนักเรียนมีการใช้สารเคมีหรือวัตถุอันตราย ในครอบครัวหรือใน การประกอบอาชีพของครอบครัว เช่น น้ำยาล้างจาน น้ำยาล้างห้องน้ำ น้ำส้มสายชู ยาฆ่าแมลง ผงซักฟอก นำ้ ยาซักฟอก กระปอ๋ งสเปรย์ น้ำมนั ไม้ขดี ไฟ ไฟแชค็ เป็นต้น  นกั เรยี นคลุกคลกี ับบคุ คลมีการใช้สารเคมีหรอื ใชว้ ตั ถุอัตรายในการประกอบอาชพี  นกั เรยี นคลุกคลีกบั บุคคลมีการใช้สารเคมีหรือใช้วตั ถุอัตรายในการทำประทัด พลุ หรอื บ้งั ไฟ  นกั เรียนเส่ยี งตอ่ การถกู ชกั ชวนจากผู้อน่ื ในการพกพาหรือเล่นสารเคมหี รือใช้วตั ถอุ ันตราย  นกั เรียนมีพฤติกรรมพกพาหรือนำสารเคมีหรือวัตถุอัตรายน้ำยาล้างจาน นำ้ ยาล้างหอ้ งน้ำ นำ้ สม้ สายชู ยาฆ่าแมลง ผงซักฟอก น้ำยาซักฟอก กระป๋องสเปรย์ น้ำมัน ไม้ขดี ไฟ ไฟแชค็ เป็นต้น ๘) การลอ่ ลวง ลักพาตัว  นักเรียนมผี ู้ดแู ลใกล้ชดิ ตลอดเวลา  นักเรียนถกู ทิ้งอยู่ตามลำพังในห้องเรยี นหรือท่ีบา้ นหรือสถานท่สี าธารณะในชุมชนเปน็ บางครัง้  นักเรียนถูกทิ้งอยตู่ ามลำพังในห้องเรียนหรอื ทบี่ า้ นหรือสถานที่สาธารณะในชุมชนบ่อยครง้ั หรือเปน็ ประจำ  นกั เรยี นสามารถแสดงอาการหรอื พดู ปฏิเสธเมอ่ื ถูกชกั ชวนจากผูอ้ ่ืนหรอื คนแปลกหน้า  นักเรียนสามารถแสดงอาการหรอื พูดปฏเิ สธเมอ่ื ถูกชักชวนจากผู้อ่ืนหรือคนแปลกหน้าเป็น บางครัง้  นักเรียนสามารถแสดงอาการหรอื พูดปฏเิ สธหรอื ไม่รบั ของจากผอู้ ่นื หรือคนแปลกหน้าทีใ่ ห้ สิ่งของ/ขนม  นกั เรียนไม่สามารถแสดงอาการหรือพดู ปฏิเสธเม่อื ถูกชักชวนจากผอู้ ่ืนหรือคนแปลกหน้า  นกั เรยี นสามารถแสดงอาการหรือพดู ปฏเิ สธในการรับของจากผู้อน่ื หรือคนแปลกหนา้ ทใ่ี ห้ สิ่งของ/ขนมเป็นบางครง้ั  นกั เรยี นไมส่ ามารถแสดงอาการหรือพูดปฏิเสธในการรับของจากผูอ้ ่ืนหรือคนแปลกหน้าท่ใี ห้ สง่ิ ของ/ขนม ๔.๒ ภัยที่เกดิ จากอบุ ตั เิ หตุ ๑) ภยั ธรรมชาติ ๑.๑) ภัยจากน้ำท่วม (จมนำ้ /ไฟดูด/สัตวม์ ีพิษ)  นักเรียนมผี ้ดู แู ลใกลช้ ิดตลอดเวลา  นักเรียนมผี ูด้ แู ลใกล้ชดิ เป็นบางเวลา  นกั เรยี นบอกสถานการณ์ คำเตอื นภยั หรือภาพสัญลกั ษณ์ในการเตือนภัยทเี่ กิดขึ้นได้  นกั เรยี นไม่สามารถบอกสถานการณ์คำเตือนภัยหรอื ภาพสญั ลกั ษณ์ในการเตอื นภยั ทีเ่ กิดขนึ้ ได้  นักเรยี นสามารถดูแลตัวเองเม่ือเกิดเหตุการณ์ได้  นักเรยี นไม่สามารถดูแลตัวเองเม่ือเกิดเหตุการณ์ได้

103  นกั เรยี นมีพฤตกิ รรม ชอบเล่นนำ้ ชอบเอานิ้วไปแหย่ ชอบไปจบั ชอบเอาของหรือมือใส่ปาก  นักเรียนบอกไม่ได้เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นได้ ไม่สามารถดูแลตัวเองเมื่อเกิดเหตุการณ์ได้ และมพี ฤติกรรม ชอบเล่นน้ำ ชอบเอานิว้ ไปแหย่ ชอบไปจบั ชอบเอาของหรือมือใส่ปาก และถกู ท้งิ ให้อยู่ตามลำพัง หรือไมม่ ผี ดู้ ูแล ๑.๒) ไฟไหมป้ ่าหรอื ไฟไหม้ที่ลกุ ลามในสถานท่ีตา่ ง ๆ  นักเรยี นมผี ดู้ แู ลใกล้ชิดตลอดเวลา  เรียนมีผู้ดูแลใกลช้ ิดเปน็ บางเวลา  นกั เรียนสามารถบอกสถานการณ์ คำเตือนภัยหรือภาพสญั ลักษณใ์ นการเตือนภัยทเ่ี กิดขน้ึ ได้  นักเรยี นไม่สามารถบอกสถานการณ์คำเตือนภัยหรอื ภาพสัญลักษณใ์ นการเตือนภัยท่เี กดิ ขึ้น ได้  นักเรยี นสามารถดูแลตัวเองเมื่อเกดิ เหตกุ ารณ์ได้  นกั เรียนไมส่ ามารถดูแลตัวเองเม่ือเกดิ เหตุการณ์ได้  นกั เรยี นมพี ฤติกรรมชอบเลน่ วัตถไุ วไฟ วตั ถุทก่ี ่อให้เกิดไฟหรือเช้อื เพลิง  นกั เรยี นไม่สามารถบอกเหตกุ ารณ์ทีเ่ กดิ ขนึ้ ไมส่ ามารถดูแลตวั เองเม่ือเกิดเหตุการณ์ได้ และมี พฤติกรรม ชอบเล่นวตั ถุไวไฟ วัตถุทก่ี ่อให้เกิดไฟหรอื เชอ้ื เพลิง และถูกทง้ิ ให้อย่ตู ามลำพงั หรือไม่มีผดู้ ูแล ๑.๓) พายุ  นกั เรียนมผี ู้ดูแลใกล้ชิดตลอดเวลา  เรียนมีผู้ดแู ลใกล้ชิดเปน็ บางเวลา  นักเรยี นสามารถบอกสถานการณ์ คำเตือนภัยหรอื ภาพสัญลักษณ์ในการเตือนภยั ทเ่ี กิดขน้ึ ได้  นักเรยี นไมส่ ามารถบอกสถานการณ์ คำเตือนภัยหรอื ภาพสัญลกั ษณใ์ นการเตอื นภยั ทเี่ กดิ ข้ึน ได้  นักเรียนสามารถดูแลตัวเองเมื่อเกดิ เหตกุ ารณไ์ ด้  นักเรียนไมส่ ามารถดูแลตัวเองเมื่อเกดิ เหตุการณ์ได้  นกั เรยี นไม่สามารถบอกเหตุการณท์ ีเ่ กิดขึน้ ไม่สามารถดูแลตวั เองเม่ือเกิดเหตกุ ารณไ์ ด้ และ ถูกทง้ิ ใหอ้ ยู่ตามลำพังหรือไมม่ ีผู้ดูแล ๑.๔) แผ่นดินไหว  นักเรยี นมีผ้ดู แู ลใกล้ชดิ ตลอดเวลา  เรยี นมีผูด้ แู ลใกลช้ ดิ เป็นบางเวลา  นักเรยี นสามารถบอกสถานการณ์ คำเตือนภัยหรอื ภาพสญั ลกั ษณใ์ นการเตือนภยั ทเ่ี กิดขึ้นได้  นักเรียนไม่สามารถบอกสถานการณ์คำเตือนภัยหรือภาพสัญลักษณใ์ นการเตอื นภยั ทีเ่ กิดข้ึน ได้  นกั เรยี นสามารถดูแลตัวเองเมื่อเกดิ เหตกุ ารณไ์ ด้  นกั เรียนไม่สามารถดูแลตัวเองเม่ือเกิดเหตุการณ์ได้  นกั เรียนไม่สามารถบอกเหตกุ ารณท์ ่ีเกดิ ขึ้น ไมส่ ามารถดแู ลตวั เองเมื่อเกิดเหตกุ ารณ์ได้ และ ถูกทง้ิ ใหอ้ ยู่ตามลำพังหรอื ไมม่ ีผดู้ แู ล

104 ๑.๕) ภยั ธรรมชาติในชว่ งฤดูหนาว  นักเรยี นมีผูด้ แู ลใกล้ชิดตลอดเวลา  เรยี นมผี ดู้ แู ลใกลช้ ดิ เป็นบางเวลา  นักเรยี นสามารถบอกสถานการณ์ คำเตือนภยั หรือภาพสญั ลักษณใ์ นการเตือนภัยท่ีเกิดข้ึนได้  นกั เรยี นไมส่ ามารถบอกสถานการณ์คำเตือนภัยหรอื ภาพสญั ลกั ษณ์ในการเตอื นภัยท่เี กิดขึน้ ได้  นกั เรียนสามารถดูแลตัวเองเม่ือเกดิ เหตกุ ารณ์ได้  นกั เรยี นไม่สามารถดูแลตัวเองเมื่อเกิดเหตุการณ์ได้  นกั เรียนไมส่ ามารถบอกเหตกุ ารณ์ที่เกดิ ขึ้น ไมส่ ามารถดแู ลตัวเองเมื่อเกิดเหตกุ ารณไ์ ด้ และ ถกู ท้งิ ใหอ้ ยู่ตามลำพังหรือไมม่ ีผู้ดแู ล ๒) ภัยจากอาคารเรียน ส่งิ ก่อสร้าง  นกั เรยี นมผี ูด้ ูแลใกล้ชดิ ตลอดเวลา  เรียนมีผู้ดูแลใกลช้ ิดเป็นบางเวลา  นักเรียนสามารถบอกสถานการณ์ คำเตือนภัยหรือภาพสัญลกั ษณ์ในการเตือนภยั ทเ่ี กิดขน้ึ ได้  นักเรยี นไมส่ ามารถบอกสถานการณ์คำเตือนภัยหรือภาพสัญลกั ษณใ์ นการเตือนภยั ทเ่ี กิดขนึ้ ได้  นกั เรียนสามารถดแู ลตัวเองเมื่อเกดิ เหตกุ ารณไ์ ด้  นักเรยี นไม่สามารถดแู ลตัวเองเม่ือเกดิ เหตุการณ์ได้  นักเรียนไม่สามารถบอกเหตกุ ารณ์ที่เกดิ ขนึ้ ไมส่ ามารถดูแลตัวเองเมื่อเกิดเหตกุ ารณไ์ ด้ และ ถูกทงิ้ ใหอ้ ยู่ตามลำพังหรอื ไม่มีผู้ดแู ล ๓) ภัยจากยานพาหนะ  นักเรยี นมผี ูด้ ูแลใกล้ชิดตลอดเวลา  นักเรยี นมีผู้ดูแลใกล้ชิดเป็นบางเวลา  นักเรียนสามารถปฏิบตั ติ นเมอื่ ใช้หรอื โดยสารยานพาหนะที่จำเปน็ ในชวี ติ ประจำวนั ได้ เช่น รถจกั รยาน รถจักรยานยนต์ รถยนต์ เป็นตน้  นักเรียนไมส่ ามารถปฏิบัติตนเมือ่ ใชห้ รือโดยสารยานพาหนะท่ีจำเปน็ ในชีวิตประจำวันได้ เช่น รถจกั รยาน รถจักรยานยนต์ รถยนต์ เป็นต้น  นกั เรยี นสามารถปฏิบัตติ นในการปอ้ งกนั อันตรายท่ีอาจเกิดจากยานพาหนะในชวี ิตประจำวนั  นกั เรียนไมส่ ามารถปฏิบตั ิตนในการป้องกนั อันตรายที่อาจเกดิ จากยานพาหนะใน ชีวติ ประจำวนั ได้  นักเรียนไม่สามารถปฏิบัติตนเมื่อใช้หรือโดยสารยานพาหนะและไม่สามารถปฏิบัติตนใน การป้องกันอนั ตรายทอี่ าจเกิดจากยานพาหนะในชวี ติ ประจำวนั ได้ รวมถงึ มักถูกทิง้ ให้อย่ตู ามลำพงั หรอื ไมม่ ีผดู้ ูแล ๔) ภยั จากการจัดกิจกรรม  นกั เรยี นมีผดู้ แู ลใกล้ชดิ ตลอดเวลา  นกั เรยี นมีผู้ดแู ลใกลช้ ดิ เป็นบางเวลา  นักเรยี นสามารถปฏิบัติตามกฎ กตกิ า ขอ้ ตกลงได้  นกั เรยี นปฏิบตั ติ ามกฎ กตกิ า ข้อตกลงไดเ้ ปน็ บางครั้ง

105  นักเรียนไมส่ ามารถปฏบิ ัติตามกฎ กติกา ข้อตกลงได้ และ มักถูกทิ้งใหอ้ ยู่ตามลำพงั หรือไม่มี ผูด้ ูแล ๕) ภยั จากเครื่องมือ อุปกรณ์  นักเรียนมผี ู้ดูแลใกล้ชิดตลอดเวลา  นักเรยี นมีผู้ดูแลใกล้ชิดเป็นบางเวลา  นักเรียนสามารถใช้เครื่องมือ อุปกรณ์ เช่น กรรไกร/กาว/ดินสอแหลม/มีดครัว/ เครื่องใช้ไฟฟ้า/เครื่องมอื ช่างในบ้านหรือสถานศกึ ษา ไดด้ ้วยตนเองอยา่ งปลอดภัย  นักเรียนไม่สามารถใช้เครื่องมือ อุปกรณ์ เช่น กรรไกร/กาว/ดินสอแหลม/มีดครัว/ เครือ่ งใชไ้ ฟฟ้า/เคร่อื งมอื ชา่ งในบ้านหรอื สถานศกึ ษา ไดด้ ว้ ยตนเองอยา่ งปลอดภยั  นักเรียนไม่สามารถใช้เครื่องมือ อุปกรณ์ เช่น กรรไกร/กาว/ดินสอแหลม/มีดครัว/ เครื่องใช้ไฟฟ้า/เครื่องมือช่างในบ้านหรือสถานศึกษา ได้ด้วยตนเองอย่างปลอดภัย และมักถูกทิ้งให้อยู่ตามลำพัง หรอื ไมม่ ผี ูด้ แู ล ๔.๓ ภยั ทเี่ กิดจากการถูกละเมดิ สทิ ธิ์ ๑) การถกู ปล่อยปละ ละเลย ทอดท้ิง  นกั เรยี นได้รับการดูแลเล้ยี งดจู ากผู้ปกครองและผู้ดูแลเปน็ อยา่ งดี  นักเรยี นถกู ปลอ่ ยปละ ละเลย ทอดทิง้ เปน็ บางครง้ั  นกั เรยี นถกู ปลอ่ ยปละ ละเลย ทอดทงิ้ เปน็ บ่อยครั้ง ๒) การคุกคามทางเพศ  นกั เรยี นรู้วธิ กี ารเอาตวั รอดจากการคุกคามทางเพศ  นกั เรียนได้รับการดแู ลเลีย้ งดูจากผูป้ กครองและผู้ดแู ลเป็นอยา่ งดี  นักเรียนถกู ทิ้งให้อยบู่ ้านเพียงลำพังเปน็ บางครง้ั  นกั เรียนถูกทิ้งให้อยู่บ้านเพยี งลำพังเปน็ ประจำ  บา้ นนักเรยี นอยู่ในพ้นื ทหี่ ่างไกลชมุ ชน  บา้ นนักเรยี นอยใู่ นพ้ืนท่ีห่างไกลชมุ ชน เมื่อมเี หตุสุดวิสัยไม่สามารถขอความช่วยเหลอื จาก ผูอ้ ืน่ หรอื หน่วยงานตา่ ง ๆ ได้ทนั ที  บา้ นนักเรียนอยใู่ นพื้นที่ที่มีการมั่วสุม เช่น ยาเสพติด สุรา การพนนั  บ้านนักเรยี นอย่ใู นพน้ื ที่ที่มีการมว่ั สุม เช่น ยาเสพติด สุรา การพนัน เมื่อมเี หตุสดุ วิสยั ไม่ สามารถขอความชว่ ยเหลอื จากผู้อน่ื หรอื หน่วยงานต่าง ๆ ได้ทันที ๓) การไม่ได้รบั ความเปน็ ธรรมจากระบบการศกึ ษา  นักเรยี นได้รบั การศึกษาและการพัฒนาตนเองจากหนว่ ยงานท่เี กี่ยวข้องกบั ระบบการศกึ ษา  ครอบครัวนักเรียนขาดการรับข้อมูลข่าวสารจากหน่วยงานต่าง ๆ เนื่องจากอยู่ในพื้นที่ ห่างไกล บนเขา ตดิ ชายแดน หรอื พืน้ ท่ีเส่ียงภยั  ผปู้ กครองกลัวลกู ถกู รงั แกหรือกลน่ั แกลง้ หรือไม่ไดร้ บั การดแู ลเท่าทค่ี วรเหมาะสม  ผ้ปู กครองขาดความรู้ความเข้าใจเกีย่ วกับระบบการศึกษา เพราะคดิ วา่ เด็กพิการไมต่ ้องเข้า ระบบการศกึ ษา  การคมนาคมและระบการตดิ ต่อสื่อสารไมส่ ะดวก

106  การส่อื สารดา้ นภาษา เช่น กลุ่มชาตพิ ันธ์ กลุ่มชนกลุ่มนอ้ ย ๔.๔ ภยั ทเี่ กดิ จากผลกระทบตอ่ สุขภาวะทางกายและจิตใจ ๑) ภาวะจิตเวช  นักเรยี นไดร้ ับการดแู ลเลย้ี งดจู ากผู้ปกครองและผ้ดู แู ลเป็นอยา่ งดี  นักเรียนมีพฤตกิ รรม อารมณ์ ร่างเรงิ แจ่มใส่ หรอื สามารถแสดงพฤติกรรม อารมณ์ได้อย่าง เหมาะสมและสอดคลอ้ งตามสถานการณ์  นกั เรยี นมีพฤติกรรม อารมณ์ไม่เหมาะสมบางสถานการณ์  นกั เรียนปญั หาด้านครอบครวั สง่ ผลกระทบต่อจติ ใจ  นักเรยี นมปี ัญหาด้านสภาพแวดลอ้ มในชมุ ชน ท่ีส่งผลตอ่ พฤตกิ รรม  นักเรียนมภี าวะอาการโรคซมึ เศร้า  นกั เรยี นมปี ัญหาทางดา้ นพฤติกรรมและอารมณท์ ี่รุนแรง ๒) ตดิ เกม  นักเรียนได้รับการดแู ลเลี้ยงดูจากผู้ปกครองและผดู้ แู ลเป็นอยา่ งดี  นักเรียนสามารถแบ่งเวลาในการเล่นเกมและทำกิจกรรมอื่น ๆ โดยไม่มีภาวะพฤติกรรม ต่อต้าน  นักเรยี นถูกปลอ่ ยปละละเลยให้เลน่ โทรศพั ทห์ รือเลน่ คอมพิวเตอร์โดยไมม่ ีการควบคุม ดแู ล เป็นบางครงั้  นักเรยี นถูกปลอ่ ยปละละเลยใหเ้ ลน่ โทรศพั ทห์ รือเลน่ คอมพวิ เตอรโ์ ดยไมม่ ีการควบคุม ดแู ล บ่อยคร้งั  สภาพแวดล้อมที่ใกลช้ ดิ ทำใหน้ ักเรยี นมีพฤติกรรมเลยี นแบบ เชน่ ผ้ดู แู ลเล่นเกมคอมพิวเตอร์ หรอื มอื ถอื อย่างไมร่ ะมดั ระวงั  นักเรยี นแสดงพฤตกิ รรมหรอื อารมณ์ที่กา้ วรา้ วรุนแรง เม่อื ถูกหา้ ม ยดึ หรือจำกดั เวลาใน การเลน่ เกม  ผดู้ ูแลขาดความเข้าใจในสอื่ ออนไลนไ์ มส่ ามารถแนะนำให้นกั เรียนเลน่ เกมอย่างระมัดระวงั ได้ ๓) ยาเสพตดิ  นกั เรียนไดร้ ับการดูแลเลย้ี งดูจากผ้ปู กครองและผู้ดูแลเปน็ อย่างดี  นักเรยี นสามารถรบั รูถ้ ึงโทษของยาเสพติด  นักเรียนอยู่ในสภาพแวดล้อม ครอบครัวหรือชุมชน ที่มีการใช้สารเสพติดหรือมีความ เกยี่ วขอ้ งกบั ยาเสพติด และการกระทำผิดกฎหมาย  นกั เรียนถูกชักชวนจากผู้อ่ืนไดง้ ่าย  นกั เรียนมพี ฤติกรรม เลียนแบบหรอื ทำตามผูอ้ ื่น  นักเรยี นเคยทดลองใชย้ าเสพตดิ  นกั เรียนใชย้ าเสพติด  นักเรยี นถกู หลอกใชใ้ ห้เป็นผู้สง่ -รบั ยาเสพติด  นกั เรยี นเปน็ ผู้ขายหรอื ผซู้ ้ือยาเสพตดิ

107 ๔) โรคระบาดในมนุษย์  นกั เรยี นไดร้ ับการดูแลเล้ียงดจู ากผูป้ กครองและผู้ดูแลเปน็ อยา่ งดี  นกั เรยี นมีผดู้ ูแลใกล้ชิดเป็นบางเวลา  นักเรยี นมกั ถูกท้ิงใหอ้ ยตู่ ามลำพังหรือไม่มผี ู้ดแู ล  นักเรยี นรู้จกั วธิ กี ารป้องกนั และสามารถดูแลตนเองใหป้ ลอดภยั จากโรคระบาดได้  นกั เรียนไมส่ ามารถดแู ลตนเองจากโรคระบาดได้ เช่น การใส่แมส ลา้ งมอื ทำความสะอาด รา่ งกาย  นักเรียนอาศยั หรือใชช้ วี ติ อย่ใู นสภาพแวดล้อมท่ีเปน็ แหล่งแพร่เชอื้ โรค  นักเรยี นอยใู่ กลช้ ดิ กับผปู้ ว่ ย เช่น บุคคลในครอบครัว เพ่ือน  ผ้ใู กล้ชิดหรือบคุ คลในครอบครวั เป็นโรคระบาดและนักเรียนไม่สามารถป้องกันตัวเองได้  นกั เรยี นป่วยเป็นโรคระบาดและไมส่ ามารถปอ้ งกนั การแพร่กระจายเช้อื จากตนเองไปสูผ่ อู้ ่ืน ได้ ๕) ภยั ไซเบอร์  นักเรียนได้รบั การดูแลเลี้ยงดจู ากผปู้ กครองและผู้ดูแลเป็นอยา่ งดี  นักเรยี นสามารถแบ่งเวลาในใชส้ ื่อเครือขา่ ยสังคมออนไลนแ์ ละทำกิจกรรมอน่ื ๆ โดยไม่มี ภาวะพฤติกรรมต่อตา้ น  นกั เรยี นถกู ปลอ่ ยปละละเลยให้เล่นโทรศพั ทห์ รือเล่นคอมพิวเตอรโ์ ดยไม่มีการควบคุม ดแู ล เป็นบางคร้ัง  สภาพแวดล้อมทใ่ี กลช้ ิดทำให้เดก็ มีพฤติกรรมเลียนแบบ เชน่ ผดู้ แู ลใชส้ ่อื เครอื ข่ายสังคม ออนไลนอ์ ยา่ งไม่ระมัดระวัง  ผ้ดู แู ลขาดความเข้าใจในใช้ส่อื เครือข่ายสังคมออนไลน์ ไม่สามารถแนะนำ ให้เดก็ ใช้อยา่ ง ระมัดระวังได้  นักเรียนถกู ปลอ่ ยปละละเลยใหเ้ ลน่ โทรศพั ทห์ รือเลน่ คอมพวิ เตอร์โดยไม่มีการควบคุม ดแู ล บอ่ ยครงั้ นกั เรียนแสดงพฤติกรรมหรอื อารมณ์ที่ก้าวร้าวรนุ แรง เมื่อถกู ห้าม ยึด หรือจำกัดเวลาในใช้ส่ือ เครือข่ายสงั คมออนไลน์และทำกจิ กรรมอ่ืน ๆ ๖) การพนนั  นักเรยี นไดร้ ับการดูแลเล้ยี งดูจากผู้ปกครองและผ้ดู ูแลเปน็ อย่างดี  นกั เรียนสามารถรบั รูถ้ ึงโทษของการเลน่ การพนนั  นกั เรยี นอยใู่ นครอบครัว ชมุ ชนหรอื สภาพแวดลอ้ ม ท่ีมีการเล่นพนัน  นักเรียนถูกชักชวนจากเพ่ือนหรอื ผู้ใกล้ชิดใหเ้ ลน่ การพนัน  นกั เรียนมพี ฤติกรรมอยากทดลอง เลยี นแบบการเลน่ การพนันตามเพื่อนหรือผ้ทู ่ีอยใู่ กล้ชดิ  นักเรยี นมพี ฤตกิ รรมส่อไปทางการเลน่ หรือติดการพนัน ๗) มลภาวะเป็นพษิ  นักเรียนได้รบั การดแู ลเลยี้ งดจู ากผ้ปู กครองและผูด้ แู ลเปน็ อยา่ งดี  นกั เรียนร้จู กั วิธีการปอ้ งกันและสามารถดูแลตนเองให้ปลอดภยั จากมลภาวะต่าง ๆ ได้  นักเรียนอยใู่ นสภาพแวดล้อมทีเ่ ปน็ แหล่งมลภาวะ ทางอากาศ ทางเสยี ง ทางดิน ทางนำ้

108  นกั เรียนไม่สามารถดแู ลตนเองจากมลภาวะได้ เชน่ การใส่แมสเพื่อป้องกันมลภาวะทาง อากาศ  นกั เรยี นป่วยหรอื เป็นโรคท่เี กดิ จากมลภาวะ ทางอากาศ ทางเสียง ทางดนิ ทางน้ำ เชน่ โรคระบบทางเดินหายใจ โรคที่เก่ียวกับการไดย้ ินเสียง โรคทางระบบทางเดนิ อาหาร และสุขภาวะทางกายอื่น ๆ ที่ เกดิ จากมลภาวะเป็นพิษ ๘) โรคระบาดในสตั ว์  นักเรยี นไดร้ ับการดแู ลเล้ยี งดูจากผู้ปกครองและผู้ดแู ลเป็นอยา่ งดี  ครอบครัวนกั เรียนรู้จักวิธีการป้องกนั และสามารถดูแลสตั ว์เลี้ยงและคนในครอบครวั ให้ ปลอดภยั จากโรคระบาดหรอื โรคตดิ ตอ่ จากสตั ว์ได้  ครอบครัวนักเรยี นไม่มีความรใู้ นการดูแล ปอ้ งกันโรคต่าง ๆ จากสตั วเ์ ลย้ี ง  นักเรียนอย่ใู นสภาพแวดลอ้ มหรือชุมชนท่ีมกี ารเล้ยี งสัตว์ ทำการปศสุ ตั ว์  นกั เรียนอยู่ในสภาพแวดลอ้ มหรือชุมชนที่มกี ารเกิดโรคระบาดสตั ว์  นกั เรียนปว่ ยหรอื ติดเชอ้ื จากโรคต่าง ๆ จากสตั วเ์ ลย้ี ง หรอื โรคระบาดในสตั ว์ เช่น โรคพิษ สนุ ัขบา้ โรคไขเ้ ลือดออก ไข้หวดั นก โรคฉีห่ นู โรคอหิวาในสตั ว์ โรคเชอื้ ราผิวหนงั โรคเกย่ี วกับพยาธิในสตั ว์ เป็นต้น ๙) โรคภาวะทพุ โภชนาการ  นกั เรยี นสามารถรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ ถกู ต้องตามหลักโภชนาการ ครบ 5 หมู่  นักเรยี นรจู้ กั โทษของอาหารทไี่ ม่มปี ระโยชน์ตอ่ รา่ งกาย  นกั เรียนสามารถออกกำลังกายได้อย่างสม่ำเสมอ  ผู้ปกครองดูแลและมีความรูค้ วามเขา้ ใจด้านโภชนาการอย่างถูกต้อง  นกั เรยี นรับประทานท่ีไม่มปี ระโยชน์ ไม่ถูกต้องตามหลักโภชนาการ  ผู้ปกครองขาดความรู้และไม่มเี วลาในการดแู ลจดั อาหารใหถ้ กู ต้องตามหลกั โภชนาการ  นักเรยี นมีนำ้ หนกั ผิดปกติไมส่ มั พันธ์กับสว่ นสูงหรืออายุ  นักเรียนป่วยเป็นโรคขาดสารอาหาร  นักเรยี นปว่ ยเปน็ โรคขาดสารอาหารหรอื มีปัญหาทางด้านสุขภาพตง้ั แต่กำเนดิ ๔.๕ ภยั สงั คมในเทศกาลตา่ ง ๆ ๑) ถกู จี้ปล้น/ถูกวงิ่ ราวทรัพย/์ ถูกลว้ งกระเปา๋  นักเรียนรจู้ ักวิธีการปอ้ งกันตนเองต่อการถกู จี้ปลน้ /ถูกว่ิงราวทรัพย/์ ถูกล้วงกระเปา๋ และผ้ปู กครองดูแลอย่างใกล้ชิด  นกั เรียนไม่รจู้ กั วธิ ีการป้องกนั ตนเองต่อการถูกจป้ี ล้น/ถูกวงิ่ ราวทรพั ย์/ถูกล้วงกระเปา๋ แต่ผปู้ กครองดูแลอยา่ งใกลช้ ดิ  นักเรยี นรจู้ ักวิธกี ารปอ้ งกันตนเองต่อการถูกจี้ปล้น/ถูกว่ิงราวทรพั ย์/ถูกล้วงกระเปา๋ และมีผดู้ แู ลใกล้ชดิ บางเวลา  นกั เรยี นไมร่ ู้จกั วธิ ีการป้องกนั ตนเองตอ่ การถูกจีป้ ลน้ /ถูกวงิ่ ราวทรพั ย/์ ถูกลว้ งกระเปา๋ และมีผดู้ แู ลใกลช้ ดิ บางเวลา

109  นักเรียนรู้จักวธิ ีการปอ้ งกันตนเองต่อการถกู จป้ี ล้น/ถูกว่ิงราวทรพั ย์/ถูกลว้ งกระเป๋า แตถ่ ูกท้งิ ให้อย่ตู ามลำพงั หรือไมม่ ผี ้ดู ูแล  นักเรยี นไมร่ ู้จกั วธิ ีการป้องกันตนเองตอ่ การถูกจ้ีปลน้ /ถูกว่ิงราวทรพั ย/์ ถูกล้วงกระเป๋า และถูกท้ิงให้อยตู่ ามลำพงั หรือไม่มีผดู้ แู ล ๒) ถูกล่อลวง/ถูกหลอก  นกั เรยี นรจู้ กั วธิ กี ารปอ้ งกันตนเองต่อการถูกล่อลวง/ถกู หลอก และผ้ปู กครองดแู ลอย่าง ใกลช้ ดิ  นกั เรยี นไม่รจู้ กั วธิ ีการป้องกันตนเองตอ่ การถูกลอ่ ลวง/ถกู หลอก แตผ่ ู้ปกครองดแู ลอย่าง ใกล้ชิด  นกั เรียนรู้จักวธิ กี ารปอ้ งกันตนเองต่อการถูกล่อลวง/ถกู หลอกและมผี ้ดู ูแลใกล้ชดิ บางเวลา  นกั เรยี นไมร่ จู้ กั วิธีการป้องกนั ตนเองตอ่ การถูกลอ่ ลวง/ถกู หลอกและมีผดู้ ูแลใกล้ชดิ บางเวลา  นกั เรยี นรู้จักวธิ กี ารป้องกันตนเองต่อการถกู ล่อลวง/ถกู หลอกแต่ถูกท้ิงให้อยู่ตามลำพังหรือไม่ มีผู้ดแู ล  นกั เรยี นไมร่ จู้ ักวธิ กี ารป้องกนั ตนเองตอ่ การถูกลอ่ ลวง/ถกู หลอก และถกู ทิ้งใหอ้ ยู่ตามลำพงั หรือไม่มผี ูด้ ูแล ๓) ถกู ลกั พาตัว  นักเรยี นรู้จกั วิธกี ารปอ้ งกันตนเองต่อการถูกลกั พาตัว และผ้ปู กครองดูแลอยา่ งใกล้ชิด  นักเรียนไมร่ จู้ ักวธิ กี ารป้องกนั ตนเองตอ่ การถูกลักพาตวั แต่ผู้ปกครองดูแลอยา่ งใกลช้ ิด  นักเรยี นรจู้ กั วิธกี ารปอ้ งกันตนเองต่อการถูกลกั พาตัวและมผี ดู้ แู ลใกล้ชดิ บางเวลา  นักเรียนไม่รจู้ ักวิธีการป้องกันตนเองต่อการถูกลกั พาตวั และมผี ูด้ ูแลใกล้ชดิ บางเวลา  นกั เรยี นรจู้ ักวิธีการป้องกันตนเองต่อการถูกลกั พาตัว แตถ่ กู ทิ้งใหอ้ ยูต่ ามลำพงั หรือไม่มีผดู้ แู ล  นักเรียนไมร่ ู้จักวธิ ีการป้องกันตนเองตอ่ การถูกลักพาตวั และถูกทิง้ ให้อยตู่ ามลำพงั หรือไม่มี ผู้ดแู ล ๔) ถูกวางยาดว้ ยวิธีการตา่ ง ๆ  นักเรยี นรจู้ ักวธิ กี ารปอ้ งกันตนเองต่อการถูกวางยาด้วยวธิ ีการต่าง ๆ และผปู้ กครองดูแลอย่าง ใกล้ชิด  นักเรียนไม่รจู้ กั วิธีการป้องกันตนเองตอ่ การถูกวางยาด้วยวธิ กี ารต่าง ๆ แตผ่ ปู้ กครองดแู ล อยา่ งใกล้ชิด  นักเรียนร้จู ักวิธกี ารป้องกันตนเองต่อการถูกวางยาด้วยวธิ กี ารตา่ ง ๆ และมีผู้ดูแลใกล้ชดิ บาง เวลา  นักเรียนไม่รูจ้ กั วิธีการป้องกนั ตนเองตอ่ การถูกวางยาด้วยวธิ ีการต่าง ๆ และมผี ้ดู แู ลใกลช้ ิด บางเวลา  นกั เรยี นรจู้ ักวธิ ีการปอ้ งกันตนเองต่อการถกู วางยาด้วยวธิ กี ารต่าง ๆ แตถ่ ูกทิ้งให้อยตู่ ามลำพัง หรือไม่มผี ดู้ แู ล  นักเรยี นไมร่ ู้จกั วิธีการป้องกันตนเองต่อการถูกวางยาด้วยวิธีการต่าง ๆ และถูกท้ิงให้อยู่ตาม ลำพังหรือไม่มีผูด้ ูแล

110 ๕) อนาจารขม่ ขนื กระทำชำเรา  นักเรยี นรู้จกั วิธีการปอ้ งกันตนเองต่อการอนาจารข่มขืนกระทำชำเรา และผ้ปู กครองดูแล อยา่ งใกลช้ ิด  นกั เรียนไมร่ ู้จักวิธกี ารป้องกนั ตนเองต่อการอนาจารข่มขนื กระทำชำเรา แตผ่ ้ปู กครองดแู ล อย่างใกล้ชิด  นกั เรยี นรูจ้ กั วิธกี ารปอ้ งกันตนเองต่อการอนาจารข่มขืนกระทำชำเราและมีผู้ดูแลใกล้ชิดบาง เวลา  นักเรยี นไม่รูจ้ ักวธิ กี ารป้องกันตนเองต่อการอนาจารข่มขนื กระทำชำเราและมีผู้ดูแลใกลช้ ดิ บางเวลา  นักเรยี นรจู้ ักวธิ กี ารป้องกันตนเองต่อการอนาจารข่มขืนกระทำชำเราแต่ ถูกทิง้ ให้อย่ตู าม ลำพังหรือไมม่ ีผดู้ ูแล  นกั เรยี นไมร่ จู้ กั วธิ ีการป้องกนั ตนเองตอ่ การอนาจารข่มขืนกระทำชำเรา และถูกท้ิงให้อย่ตู าม ลำพังหรือไม่มีผดู้ ูแล ลงชื่อ...............................................ผู้บันทกึ ข้อมลู (นางจิราพร จรยิ ภมรกุร) ตำแหน่ง ครชู ำนาญการ

111 แบบรวบรวมข้อมูลผู้เรียน ตามกรอบคิดแนวเชิงนิเวศ (Ecological System) ชื่อ-นามสกุลนกั เรียน เด็กชายฤทธทิ์ วี เงินมูล ชอ่ื เลน่ นิวเอร์ธ ระดบั ช้นั เตรียมความพร้อม ปกี ารศกึ ษา ๒๕๖๕ ประเภทการรับบรกิ าร ช่วยเหลือระยะแรกเรม่ิ ชอื่ สถานศกึ ษา ศนู ยก์ ารศึกษาพิเศษประจำจงั หวัดลำปาง อำเภอ เมืองลำปาง จังหวัด ลำปาง ข้อมูล ณ วันท่ี ๔ เดอื น กรกฎาคม พ.ศ. ๒๕๖๕ กลุ่มบรหิ ารงานวชิ าการ ศูนยก์ ารศกึ ษาพเิ ศษประจำจังหวัดลำปาง

112 รวบรวมขอ้ มลู ผ้เู รยี น ขอ้ มลู ของผเู้ รียน ๑. ข้อมลู ของผู้เรยี น ชือ่ -นามสกุลนักเรยี น เดก็ ชายฤทธ์ิทวี เงินมูล ช่ือเล่น นวิ เอิร์ธ เชื้อชาติ ไทย อายุ ๗ ปี เพศ ชาย ประเภทความพิการ ออทิสติก โรคประจำตวั -  ลักษณะความพิการ นกั เรียนมีพฤติกรรม ซึ่งเป็นพฤติกรรมซ้ำๆ เช่น พูดเปน็ ภาษาต่างดาว แสดงพฤตกิ รรมท่ีไม่เหมาะสมเมื่อมี การเปล่ียนแปลงกิจกรรมประจำวัน เช่น เวลาในการรับประทานอาหาร ชนิดของอาหารที่รับประทาน ชอบทาน อาหารซ้ำๆ ได้แก่ เต้าหู้ การเปลี่ยนแปลงเวลาในการทำกิจวัตรประจำวัน มีพฤติกรรมหลีกหนีกิจกรรมที่ตนเอง ไม่ชอบ ไม่จับผิวสัมผัสท่ีเหนียว เช่น กาว หรือส่ิงที่ทำให้เปอะเปื้อน ไม่สามารถเริ่มต้นบทสนทนากับผู้อ่ืนได้ ไม่เข้าใจคำท่ีเป็นนามธรรม เช่น การเอ้ือเฟื้อเผ่ือแผ่ การแบ่งปัน ไม่ทำร้ายตนเองแต่ เมื่อถูกขัดใจ มักชอบแยกตัว ออกมาอยูต่ าม ไม่ร้จู กั การรอคอย ไม่รู้จกั การรอคอยเทา่ ที่ควร มีลักษณะกล้ามเน้ือแขนขาแข็งแรง สามารถนั่งทรงตัวได้ด้วย มีความเจ็บป่วยท่ีต้องได้รับการรักษาเป็นระยะ ถ้าเป็นจะหายไปนาน คือ เปน็ อาการภูมิแพ้ สุขภาพร่างกายทว่ั ไปปกติ อารมณย์ มิ้ แย้มแจม่ ใส  พฤติกรรมของผเู้ รยี น พฤตกิ รรมส่วนบุคคล นกั เรยี นเปน็ นักเรียนของครูจิราพร จริยภมรกุร ให้บรกิ ารสอนในศูนย์การศึกษาพิเศษประจำจังหวัดลำปาง ห้องเรียนประสานสายตา ๑ โดยมีการจัดกิจกรรมการเรียนการสอนท่ีสอดคล้องกับหลักสูตรสถานศึกษาการศึกษา การศึกษาปฐมวัย สำหรับผ้เู รียนพิการ ศนู ย์การศึกษาพิเศษประจำจังหวดั ลำปาง ฉบับปรับปรุง พุทธศกั ราช ๒๕๖๕ เม่ือครูจัดกิจกรรมใดกิจกรรมหน่ึงนักเรียนจะมีพฤติกรรมที่ต่อต้านพยายามหลีกหนีการทำกิจกรรมร่วมกับครู เช่น กิ่จกรรรมวิชาการ มักพยายามหลีกหนีโดยการเคล่ือนตัวออกจากกิจกรรม เช่น ส่งเสียง นอนราบไปท่ีโต๊ะ เมื่อถูกขัดใจ ชอบแยกตัวออกมาอยู่ตามลำพัง มีการแสดงพฤติกรรมท่ีไม่เหมาะสมเมื่อมีการเปล่ียนแปลงกิจกรรม ประจำวัน เช่น เวลาในการรับประทานอาหาร ชนิดของอาหารท่ีรับประทาน ชอบทานอาหารซ้ำๆ ได้แก่ เต้าหู้ทอด ไมโล มีพฤตกิ รรมหลกี หนกี ารสมั ผัส ไมจ่ บั ผวิ สมั ผัสทีเ่ หนียว เชน่ กาว หรอื วัตถทุ เี ปอะเปื้อน พฤติกรรมการเรียนรู้ นักเรียนสามารถแสดงความต้องการของตนเอง โดยการออกเสียง บอกความต้องการได้ และแสดงการ ปฏิเสธโดยการแสดงออกทางท่าทางและบอกปฏิเสธได้ สามารถสื่อสารด้วยภาษาท่ีมีความหมาย สามารถฟังและทำ ตามคำส่ังง่ายๆ เช่น หยิบ ใส่ ขอ และสามารถทำตามตัวแบบได้ นักเรียนทำกิจกรรมต่างๆได้ด้วยตอนเอง หรือมี ผู้ดูแลคอยช่วยเหลอื ในข้ันตอนบางขั้นตอนในการทำกิจวัตรประจำวัน เช่น การเตรียมอาหาร แตส่ ามารถหยิบอาหาร เข้าปากและเจาะกล่องนมเพื่อด่ืมเองได้ และสามารถทำกิจกรรมการเรียนรู้โดยใช้การเสริมแรงทางบวกด้วยของท่ี นักเรยี นชอบ ได้แก่ รถของเล่น กลุ่มบรหิ ารงานวิชาการ ศนู ยก์ ารศกึ ษาพิเศษประจำจังหวดั ลำปาง

113 ในระหวา่ งการฝึกการเรียนรู้ผ้เู รียนสามารถเรียนรู้ไดโ้ ดยผ่านการมอง การฟัง โดยเป็นคำสั่งง่ายๆ เป็นลำดับ ข้ันตอนการทำงานจากขั้นตอนง่ายๆไปหาขั้นตอนท่ียากข้ึนด้วยการกระตุ้นเตือนทางกายและวาจา โดยการใช้สื่อ อุปกรณ์ท่ีเป็นของจริงที่เหมาะสมกับผู้เรียนในชีวิตประจำวันและใช้การประสมประสานทุกวิธีในการทำกิจกรรมทุก ขน้ั ตอนโดยการ และวธิ ีท่ีการสอนท่ผี ูเ้ รียนใหค้ วามรว่ มมอื มากทส่ี ุด คอื การประเมินรางวัลและการใหร้ างวัล ภาพนกั เรยี น รวบรวมขอ้ มูลผู้เรยี น ข้อมลู ความสามารถผู้เรยี น  ความสามารถพน้ื ฐานของผ้เู รียน ๑.๑ ความสามารถพื้นฐานทางด้านรา่ งกาย จดุ เดน่ จดุ ออ่ น ๑. เม่ือใหน้ กั เรียนสามารถใช้มือหยิบ จับ เอื้อม กำ นำ ๑. เม่ือให้นักเรียนปล่อยวัตถุในจุดท่ีกำหนด นักเรียน ปล่อยวตั ถไุ ด้ในระดบั อกและมีผู้ช่วยเหลอื ในการช้ีนำ ไม่สามารถปล่อยวัตถุตามเป้าหมายได้ซ่ึงจะต้องใช้การ ทิศทางปล่อยวัตถุ กระตุ้นเตือนทางกายโดยการจับมือผู้เรียนปล่อยวัตถุ ลงตามเป้าหมายที่กำหนดในการ ๒. เม่อื ให้นักเรียนนั่งทรงตัวอยู่ในท่านั่งขัดสมาธิบนพ้ืน ๒. เมอ่ื ให้นกั เรียนน่งั ทรงตัวอยู่ในทา่ นัง่ ขัดสมาธบิ นพื้น หลังต้ังตรงผู้เรียนสามารถน่ังทรงตัวในการทำกิจกรรม หลังต้ังตรง นักเรียนไม่สามารถนั่งทรงได้นานมากกว่า ได้ ๓-๕ นาที ๓ นาที เน่ืองจากมีความล้าของกล้ามเน้ือ ซึ่งนักเรียน จะแสดงอาการโดยการทง้ิ ตวั ลงนอนกบั พนื้ ๓. เมื่อให้นักเรียนเคล่ือนย้ายตนเองขณะท่ีอยู่บนพ้ืน ๓. นักเรยี นไม่สามารถเคลื่อนยา้ ยตนเองไปในทิศทางท่ี ผู้เรียนเคลื่อนย้ายตนเองโดยการใช้มือและเข่าท้ังสอง กำหนดได้ ประมาณระยะทาง ไม่เกิน ๖๐ เซนติเมตร ข้าง ต้ังคลานสลับไปยังทิศทางท่ีต้องการ ประมาณ เน่ืองจากจะมีความล้าของกล้ามเนื้อ ซึ่งนักเรียนจะ ระยะทาง ไมเ่ กนิ ๓๐-๖๐ เซนตเิ มตร แสดงอาการโดยการทง้ิ ตวั ลงนอน ๔. เมอ่ื ให้ทำกิจกรรมภายในห้องเรยี น ในระหว่างทำ ๔. เมื่อให้ทำกิจกรรมภายในห้องเรียน ในระหว่างทำ กจิ กรรมผา่ นไป ๓-๕ นาที นักเรียนทำกจิ กรรมเสรจ็ กิจกรรมผ่านไป ๓-๕ นาที นักเรียนทำกิจกรรมเสร็จ เร็วกว่ากำหนดภายใน ๒ นาที เร็วกว่ากำหนดภายใน ๒ นาที แต่นักเรียนไม่ทำ กิจกรรมตอ่ ไป มักจะฟบุ นอนไปกบั โตะ๊ นักเรียน กลุ่มบรหิ ารงานวชิ าการ ศนู ยก์ ารศกึ ษาพเิ ศษประจำจังหวัดลำปาง

114 รวบรวมขอ้ มลู ผูเ้ รยี น ข้อมูลความสามารถผ้เู รียน ๑.๒ ความสามารถพืน้ ฐานทางดา้ นอารมณ์ จิตใจ จดุ เด่น จดุ อ่อน ๑. นักเรียนเข้าใจอารมณ์ของตนเองและสามารถ ๑. นักเรียนไม่เข้าใจอารมณ์ของผู้อ่ืน เมื่อผู้อ่ืนโกรธ แสดงออกทางท่าทางหรือการส่งเสียงได้ โดยการย้ิม โมโห หรือดุด่า ผู้เรียนไม่เข้าใจ นิ่งเฉย ไม่ตอบสนอง และหัวเราะเม่อื ได้รบั ส่ิงท่ีต้องการ เช่น ได้รบั ขนมหรือ และคดิ ว่า วา่ ให้เพอื่ นในหอ้ ง รถของเล่นท่ี และแสดงการปฏิเสธเม่ือได้ของที่ไม่ ต้องการหรอื ทำกิจกรรมท่ีไม่ชอบด้วยการแสดงท่าทาง (ผลักมือคนอื่น หรือ ผลักสิ่งของออก) และส่งเสียง “โนว /ไม่ ไม”่ เป็นตน้ ๒. นักเรียนสามารถขอความช่วยเหลือได้ เช่น เมื่อ ๒. นักเรียนสามารถขอความช่วยเหลือ เม่ือต้องการ ต้องการสิ่งของบางอย่างนักเรียนจะแสดงความ ความช่วยเหลือหรือต้องการส่ิงของบางโดยการออก ต้องการโดยการรอ้ งขอ เสียงเป็นคำ หรือชี้ที่ส่ิงทีต่ ้องการได้ เชน่ นักเรียนปวด ท้องถ่ายหนัก แต่ท่ีบ้านให้นั่งกระโถน นักเรียนแสดง อาการคือ ผายลมออกมา ซึ่งเป็นพฤติกรรมที่ไม่พึง ประสงค์ และไมย่ อมถ่ายหนกั ในหอ้ งน้ำในหอ้ งเรยี น ๓.นักเรียนสามารถน่ังน่ิงเพ่ือรอคอยสิ่งท่ีต้องการ เม่ือ ๓.นักเรียนไม่สามารถน่ังน่ิงเพ่ือรอคอยสิ่งท่ีต้องการ ผใู้ หญ่บอกให้รอได้ชั่วครู่ ประมาณ ๑ นาที เม่ือผู้ใหญ่บอกให้รอได้ชั่วครู่ หากนานเกินระยะเวลา ๑ นาที ซง่ึ จะแสดงอาการกระดุกกระดิก ๔. ผู้เรียนยอมทำกิจกรรมจนสำเรจ็ ตามท่ีกำหนดได้ทุก ๔. ผู้เรียนยอมทำกจิ กรรมจนสำเรจ็ ตามท่ีกำหนดให้ได้ ครงั้ เปน็ บางคร้ัง แตไ่ ม่ยอมเกบ็ ใบงาน กล่มุ บรหิ ารงานวิชาการ ศนู ย์การศกึ ษาพเิ ศษประจำจังหวดั ลำปาง

115 รวบรวมขอ้ มลู ผเู้ รยี น ข้อมูลความสามารถผ้เู รียน ๑.๓ ความสามารถพ้ืนฐานทางดา้ นสงั คม จุดออ่ น จดุ เด่น ๑. นกั เรยี นไมส่ ามารถรบั ประทานอาหาร โดยการใช้ ช้อนส้อมได้ ๑. นกั เรยี นสามารถรบั ประทานอาหาร โดยการหยิบ อาหารเข้าปากได้เอง ใชห้ ลอดเจาะกล่องนมได้ ดม่ื นำ้ โดยมผี ูช้ ่วยเหลือในการประคองแกว้ แบบมหี จู บั ๑ ขา้ งได้ ๒. เมอื่ ใหน้ ักเรยี นถอด และสวมใส่เครอ่ื งแตง่ กาย ๒. นกั เรียนไมส่ ามารถถอดและสวมใส่เครอื่ งแตง่ กาย นักเรยี นสามารถใหค้ วามร่วมมอื ในการถอดและสวมใส่ ได้ด้วยตนเอง ต้องมคี นคอยช่วยเหลอื ตลอด เครอ่ื งแตง่ กายได้โดยมผี ปู้ กครองเป็นถอดและสวมใส่ ใหท้ กุ ขัน้ ตอนโดยไม่แสดงอาการตอ่ ตา้ น ๓. นกั เรียนสามารถลา้ งทำความสะอาดเวลาเข้า ๓. นกั เรียนไมส่ ามารถล้างทำความสะอาดเวลาเข้า ห้องนำ้ ได้โดยมผี ปู้ กครองเปน็ ผชู้ ว่ ยเหลอื ทุกขัน้ ตอน หอ้ งน้ำได้ด้วยตนเองตามขน้ั ตอน ๔. เมอ่ื ให้นักเรยี นทำกิจกรรมกลมุ่ เช่น กิจกรรม ๔. ผเู้ รียนไม่สามารถทำกจิ กรรมกับผูอ้ น่ื ไมถ่ ึงเวลา ๑๐ วงกลม นักเรียนทำกจิ กรรมอยรู่ ่วมกบั เพ่ือนได้ภายใน นาที ซง่ึ จะแสดงพฤติกรรมอยู่ไม่นิ่ง นำตนเองเอาออก ระยะเวลา ๑๐ นาที จากกิจกรรมโดยการนงั่ เฉยๆ ไมต่ อบสนอง กลมุ่ บรหิ ารงานวิชาการ ศนู ยก์ ารศึกษาพิเศษประจำจังหวัดลำปาง

116 รวบรวมขอ้ มลู ผ้เู รียน ข้อมลู ความสามารถผู้เรยี น ๑.๔ ความสามารถพืน้ ฐานทางด้านสตปิ ัญญา จุดเด่น จดุ ออ่ น ๑. เมื่อครูหรือผู้ดูแลให้ทำกิจกรรมและปฏิบัติตาม ๑. นกั เรยี นไมส่ ามารถปฏบิ ัติตามคำสั่งท่ียากๆ ได้ คำสั่งง่ายๆ (หยิบ ใส่) เช่น หยิบ จับสิ่งของใส่ตะกร้า โดยการเอื้อมมือไปหยบิ ของแตไ่ มส่ ามารถนำของ ผู้เรียนสามารถปฏิบัติตามคำสั่งได้โดยการเอ้ือมมือไป ไปใสต่ ามเป้าหมายที่กำหนดได้ ในการทำหลายๆ หยิบ นกั เรียนสามารถทำไดด้ ว้ ยตนเอง คำสัง่ ๒. เม่ือครูให้ทำกิจกรรมวงกลมและมีการเรียกช่ือ ๒. เม่ือครูให้ทำกิจกรรมวงกลมและมีการเรียกชื่อ นักเรียนสามารถหันหน้าตามเสียงเรียกช่ือเล่น(นิว นักเรียนไม่ตอบสนอง แสดงการนิ่งเฉย หรือหันตาม เอริ ์ธ)ของตนเอง และมองหนา้ ผู้พูดได้ เสียงเรียกช่ือจริงของตนเอง(ฤทธิ์ทวี) และมองหน้าผู้ พูดได้ ๓. นักเรียนสามารถจดจำเสียงและใบหน้าบุคคลท่ี ๓. นกั เรยี นไมส่ ามารถจดจำเสียงและใบหนา้ บุคคล ใกล้ชดิ ได้ เช่น พ่อยุ แม่ปารต์ ี้ ครูจ๋ิม ครเู จ๊ียบ เปน็ ต้น อนื่ ๆเช่น ครูห้องเรยี นอ่ืน หรือ พี่เลยี้ งห้องเรียนอนื่ ได้ กลมุ่ บรหิ ารงานวชิ าการ ศูนย์การศกึ ษาพเิ ศษประจำจังหวัดลำปาง

117 รวบรวมขอ้ มูลผูเ้ รียน ข้อมลู ความสามารถผเู้ รยี น ๑.๕ ความสามารถพ้ืนฐานทางดา้ นทกั ษะจำเปน็ เฉพาะความพกิ าร จดุ เด่น จดุ ออ่ น ๑. นกั เรียนสามารถน่ังทรงตวั บนเกา้ อี้ได้ ๑. นักเรียนไม่สามารถเคล่ือนย้ายตนเองขึ้นและลงบน กระดานโยกเยกได้ ๒. นักเรยี นสามารถใช้มอื ทำกิจกรรมทุกกิจกรรมไดแ้ ต่ ๒. นักเรยี นไมส่ ามารถควบคุมทศิ ทางหรือกำของใน ไม่สามารถควบคุมให้ไปในทิศทางที่กำหนดได้ ลกั ษณะที่กำหนดได้ แต่ทำในอสิ ระได้ กลมุ่ บรหิ ารงานวชิ าการ ศนู ย์การศึกษาพเิ ศษประจำจังหวดั ลำปาง

118 รวบรวมข้อมูลผูเ้ รยี น ข้อมลู ความสามารถผเู้ รียน กรอบการประเมนิ The Van Dijk Framework for Assessment of Individuals who have Severe Multiple Disabilities ๑. Approach-Withdrawal (การเขา้ ใกล้-ถอนหน)ี การดปู ฏกิ ิรยิ าของเดก็ ในการเผชญิ สิง่ ใหม่ ประสบการณ์ บุคคล/สถานท่ี ส่ิงของ ความคิด ๑.๑ อะไรที่เปน็ ตวั ชบ้ี อกวา่ เด็กเข้าร่วม นักเรียนใหค้ วามรว่ มมอื ในการทำกจิ กรรม ๑.๒ อะไรท่เี ป็นตวั ช้บี อกวา่ เด็กไม่เขา้ รว่ ม นักเรยี นมีพฤตกิ รรมหลักหนีในขณะทที่ ำกจิ กรรม ๑.๓ มีอะไรท่ีสงั เกตเหน็ ว่าจงู ใจเดก็ บา้ ง เมอื่ นกั เรียนมคี วามตอ้ งการอยากเลน่ ของเลน่ ทุก ชนิด ๑.๔ อะไรทสี่ ังเกตเหน็ วา่ เดก็ ไมส่ นใจ/หลีกหนบี ้าง การไมร่ บั ประทานอาหารชนดิ อ่นื นอกจากเต้าหู้ทอด คลานหรือขยบั ตวั ออกจากกิจกรรมท่ีให้ทำ นอนราบ ไปกับพน้ื มีพฤติกรรมหลีกหนีการสัมผัส ไม่จบั ผวิ สมั ผสั ท่ี เหนียว เชน่ กาว ของเลอะเทอะ ๒. Sensory Learning Channels (ช่องทางการเรียนรู้ด้านประสาทการรับร)ู้ ๒.๑ เดก็ รับข้อมูลไดโ้ ดยวธิ ใี ดบ้าง แสดงสหี น้าท่าทาง ย้ิม หัวเราะ ร้องไห้ ดใี จ เสียใจ ๒.๒ เด็กตอบสนองต่อเสยี งอย่างไร หนั หน้า พยักหน้าตามเสียง สง่ เสียง ๒.๓ เดก็ ตอบสนองต่อสิง่ เร้าทางสายตาอย่างไร จอ้ งหน้าตามเสียง หยดุ ฟัง และหนา้ กรอกตาไปตาม เสยี งตา่ งๆท่ีไดย้ ิน ๒.๔ เดก็ ตอบสนองต่อการสัมผสั อย่างไร มพี ฤติกรรมหลกี หนีการสัมผสั ไม่จบั ผวิ สมั ผสั ท่ี เหนียว เช่น กาว และของท่ีเหลวๆ เลอะเทอะๆ ๒.๕ เดก็ ใช้ประสาทสัมผัสมากกว่าหนง่ึ อย่างในเวลา ใชป้ ระสาทสมั ผสั มากกว่าหนึ่งอย่างโดยใชต้ า เดยี วกนั หรอื ไม่ ประสานกบั มือ ๒.๖ เด็กแสดงตวั ช้แี นะการร่วมหรือไมเ่ ขา้ ร่วมในการ ไม่ นกั เรยี นแสดงออกทางพฤติกรรมโดยทำสหี นา้ ตอบสนองขอ้ มูลทางประสาทสัมผสั เฉพาะหรือไม่ ท่าทางเฉยๆ ไม่ตอบสนองเม่ือไม่ตอ้ งการเข้าร่วม หรอื ไม่เข้าร่วมการทำกิจกรรม กลุ่มบรหิ ารงานวชิ าการ ศูนยก์ ารศึกษาพเิ ศษประจำจังหวดั ลำปาง

119 รวบรวมข้อมูลผ้เู รียน ขอ้ มลู ความสามารถผเู้ รยี น ๓. Biobehavioral State ชุดของสภาพการณด์ า้ นชวี พฤตกิ รรมและกายภาพตั้งแต่การนอนหลับจนถึงการต่ืน นอนและการร้อง ๓.๑ สภาพปัจจุบันของเดก็ คืออะไร นักเรียนมีพฤติกรรมการง่วงนอนในตอนเช้าระหว่าง เวลา ๑๐.๐๐ น เป็นต้นไป ซ่ึงเป็นพฤติกรรมซ้ำๆ เน่ืองจากมานักเรียนตื่นมาโรงเรียนเช้าพร้อมกับย่า แ ล ะ ก า ร เดิ น ท า งม า เรี ย น ใช้ เว ล า น า น เมื่ อ มี ก า ร เปล่ียนแปลงกิจกรรมประจำวัน เช่น เวลาในการ รับประทานอาหาร ชนิดของอาหารท่ีรับประทาน ชอบทานอาหารซ้ำๆ เชน่ เต้าหทู้ อด และชอคโกแลต เม่ือเปลี่ยนแปลงเวลาในการทำกิจวัตรประจำวัน มีพฤติกรรมหลีกหนีการสัมผัส ไม่จับผิวสัมผัสที่ เหนียว เชน่ และของเหลว เลอะเทอะ ๓.๒ เด็กสามารถควบคุม/เปล่ียนสภาพของตนได้ มพี ฤติกรรมอยู่ไมน่ ่ิง คลานหรือขยับตัวออกจาก หรือไม่ กจิ กรรมที่ให้ทำ คลานไปมารอบห้อง ไมเ่ ข้าใจ อารมณ์ของผอู้ ่นื เชน่ ไม่เข้าใจเวลาเพอ่ื นโกรธ เศรา้ เสียใจ พดู คำซำ้ ๆ ท่เี คยได้ยินบอ่ ย เช่น พูดเป็นภาษา ของตนเอง (ภาษาที่ไมม่ ีความหมาย) ไมส่ ามารถ เริม่ ต้นบทสนทนากับผอู้ ่นื ได้ ไมเ่ ข้าใจคำทีเ่ ปน็ นามธรรม เช่น การเอ้ือเฟ้ือเผ่ือแผ่ การแบ่งปัน ไม่มี ปฏิสมั พันธ์กับบุคคลรอบข้าง เช่น ไมเ่ ล่นกบั เพื่อน ไม่ สนใจ คนรอบขา้ ง เป็นตน้ ไม่มีปฏิสัมพันธ์กับบุคคล รอบขา้ ง เชน่ ไมเ่ ล่นกบั เพอ่ื น ไม่สนใจ คนรอบขา้ ง เปน็ ต้นแสดงพฤตกิ รรมการตอบสนองทางอารมณ์ และสังคมไม่เหมาะสม เมอ่ื ถูกขดั ใจ มักชอบแยกตวั ออกมาอยู่ตามลำพงั ไมส่ ามารถปฏบิ ัตติ ามกฎกติกา ระเบียบ ไม่รจู้ ักการอคอย กลุ่มบรหิ ารงานวชิ าการ ศนู ยก์ ารศึกษาพิเศษประจำจังหวดั ลำปาง

120 รวบรวมข้อมูลผูเ้ รยี น ขอ้ มลู ความสามารถผเู้ รยี น ๓.๓ เดก็ ใชเ้ วลาในการตน่ื ตวั มากน้อยแค่ไหน ใชเ้ วลานานประมาณ ๓-๕ นาที ในการตอบสนอง ตอ่ สิ่งต่างๆ ๓.๔ มีชว่ งกว้างของแตล่ ะสภาพเท่าใดทเ่ี ด็กแสดงให้ การใชร้ ะยะเวลานานในการทำกิจกรรม เหน็ และมแี บบแผนการเปลยี่ นแปลงอะไรระหวา่ ง สภาพ อากาศ สภาพแวดล้อม อารมณ์ การรับประทาน ๓.๕ มีตัวแปรอะไรบ้างท่กี ระทบตอ่ สภาพเดก็ อาหาร หากไม่ไดร้ บั ประทานอาหารทชี่ อบจะแสดง พฤติกรรมไม่พอใจ มผี ลกระทบต่อการทำกจิ กรรมไม่ สำเร็จ ๔. orienting Response (การตอบสนองปฏิกริ ิยาตอบสนองของรา่ งกายในสภาพแวดล้อม) ๔.๑ มีปจั จยั อะไรบา้ งที่ทำให้เดก็ การตอบสนองไป สภาพอากาศ และดา้ นอารมณ์ความรู้สกึ เชน่ ในทิศทางน้นั ได้ชดั แจ้ง อารมณโ์ กรธ โมโห รอ้ งไห้ เป็นต้น ๔.๒ เดก็ แสดงการตอบสนองตอ่ ทศิ ทางออกอย่างไร ตอบรับโดยการพยกั หนา้ ๔.๓ ประสาทการรบั รู้ช่องทางใดที่ปรากฏเชอ่ื มโยง การมอง การสมั ผัส กับการตอบสนอง (ข้อมลู ประสาทการรับรู้ที่กระตนุ้ ใหม้ กี ารตอบสนองและประสาทการรับรทู้ ่ีใช้ ประโยชน์) กลมุ่ บรหิ ารงานวชิ าการ ศนู ยก์ ารศกึ ษาพเิ ศษประจำจังหวัดลำปาง


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook