๒๐๑ คำอธบิ ายรายวิชาเพิม่ เติม ว31202 วิชาฟสิ ิกส์ 2 กล่มุ สาระการเรียนรูว้ ทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี ชน้ั มธั ยมศึกษาปที ่ี 4 ภาคเรยี นที่ 2 เวลา 60 ชัว่ โมง ......................................................................................................................................................................... ศกึ ษางานของแรงคงตัวจากสมการและพนื้ ทใ่ี ต้กราฟความสมั พนั ธร์ ะหว่างแรงกบั ตำแหน่ง กำลังเฉล่ีย พลังงานจลน์ พลังงานศกั ย์ พลังงานกล ความสัมพนั ธ์ระหวา่ งงานกบั พลงั งานจลน์ ความสมั พนั ธ์ระหวา่ งงานกบั พลังงานศักยโ์ น้มถ่วง ความสมั พันธ์ระหว่างขนาดของแรงทใ่ี ชด้ ึงสปริงกับระยะที่สปริงยดื ออกความสมั พนั ธ์ระหว่าง งานกบั พลงั งานศกั ยย์ ืดหยนุ่ ความสัมพนั ธร์ ะหวา่ งงานของแรงลพั ธ์และพลังงานจลน์ งานทเ่ี กดิ ข้ึนจากแรงลพั ธ์ กฎ การอนรุ ักษ์พลงั งานกล ปรมิ าณตา่ ง ๆ ที่เกย่ี วขอ้ งกบั การเคล่ือนทขี่ องวตั ถุในสถานการณ์ต่าง ๆ โดยใช้กฎการ อนุรกั ษ์พลังงานกล การทำงาน ประสิทธิภาพ การไดเ้ ปรียบเชิงกลของเคร่ืองกลอยา่ งง่ายบางชนิดโดยใช้ความรู้เร่ือง งานและสมดุลกลในการพจิ ารณา โมเมนตมั ของวัตถุ การดลจากสมการและพืน้ ที่ใต้กราฟความสมั พันธร์ ะหว่างแรง ลัพธ์กบั เวลา ความสมั พันธ์ระหว่างแรงดลกับโมเมนตมั ปริมาณตา่ ง ๆ ทีเ่ กย่ี วกับการชนของวัตถใุ นหน่งึ มติ ิทง้ั แบบ ยดื หยุน่ ไม่ยดื หยุ่น การดดี ตัวแยกจากกันในหนง่ึ มติ ิท่เี ปน็ ไปตามกฎการอนุรักษโ์ มเมนตมั สมดุลกลของวัตถุ โมเมนต์ และผลรวมของโมเมนตท์ ีม่ ตี อ่ การหมนุ แรงค่คู วบ ผลของแรงคู่ควบท่ีมตี ่อสมดลุ ของวตั ถุ แผนภาพของแรงท่ีกระทำ ตอ่ วัตถอุ ิสระเม่ือวตั ถุอยใู่ นสมดุลกล สมดุลของแรงสามแรง สภาพการเคล่อื นท่ขี องวตั ถุเมื่อแรงท่ีกระทำต่อวัตถุผ่าน ศนู ยก์ ลางมวลของวตั ถุ และผลของศนู ยถ์ ่วงที่มีต่อเสถยี รภาพของวตั ถุ โดยใช้กระบวนการทางวิทยาศาสตร์ กระบวนการสบื เสาะหาความรู้ การสบื ค้นขอ้ มูล การสงั เกต การ วิเคราะห์ การอภิปราย การอธบิ ายและการสรปุ ผล เพื่อให้ผู้เรยี นเกิดความรู้ ความคิด และความเข้าใจ มี ความสามารถในการตดั สินใจ ส่ือสารสง่ิ ท่เี รียนรู้และนำความรูไ้ ปใชใ้ นชีวิตของตนเอง ตลอดจนมจี ติ วิทยาศาสตร์ จรยิ ธรรม คณุ ธรรม และค่านยิ มทีถ่ ูกต้อง ผลการเรียนรู้ 1.วิเคราะห์ และคำนวณงานของแรงคงตวั จากสมการและพ้ืนทใี่ ต้กราฟความสัมพนั ธ์ระหวา่ งแรงกบั ตำแหน่ง รวมทง้ั อธบิ ายและคำนวณกำลงั เฉลี่ยได้ 2.อธิบายและคำนวณพลังงานจลน์ พลงั งานศกั ย์ พลงั งานกล ทดลองหาความสมั พนั ธ์ระหวา่ งงานกบั พลงั งานจลน์ ความสมั พนั ธ์ระหวา่ งงานกับพลังงานจลน์ ความสัมพันธ์ระหวา่ งงานกบั พลงั งานศกั ย์โน้มถ่วงความสมั พนั ธ์ระหวา่ ง ขนาดของแรงทใ่ี ช้ดึงสปรงิ กับกบั ระยะท่สี ปรงิ ยืดออกและความสมั พนั ธ์ระหว่างงานกบั พลังงานศักยย์ ดื หยนุ่ รวมท้ัง อธบิ ายความสมั พนั ธร์ ะหวา่ งงานของแรงลัพธแ์ ละพลงั งานจลน์และคำนวณงานท่เี กดิ ข้ึนจากแรงลพั ธไ์ ด้ 3. อธิบายกฎการอนุรกั ษพ์ ลังงานกล รวมท้งั วิเคราะหแ์ ละคำนวณปริมาณต่างๆท่ีเกย่ี วขอ้ งกบั การเคล่ือนที่ของวัตถุ ในสถานการณต์ ่างๆโดยใช้กฎอนรุ ักษ์พลังงานกลได้ 4. อธบิ ายการทำงาน ประสทิ ธภิ าพและการได้เปรียบเชิงกลของเครือ่ งกลอย่างง่ายบางชนิด โดยใช้ความรเู้ ร่อื งงาน และสมดลุ กล รวมทง้ั คำนวณประสิทธิภาพและการไดเ้ ปรยี บเชิงกลได้ 5. อธิบายและคำนวณโมเมนต์ของวตั ถแุ ละการดลจากสมการและพื้นทใี่ ตก้ ราฟความสมั พันธร์ ะหวา่ แรงกับเวลา รวมทง้ั อธิบายความสัมพันธร์ ะหว่าแรงดลกับการไดเ้ ปรียบเชิงกลได้ 6. ทดลองอธิบายและคำนวณปรมิ าณตา่ งๆท่ีเก่ยี วกับการชนของวัตถุในหนง่ึ มติ ิทัง้ แบบยดื หยนุ่ ไม่ยืดหยุ่นและการ ดีดตัวออกจากกนั ในหนงึ่ มติ ิ ซึ่งเป็นกฎการอนรุ ักษ์โมเมนตัมได้
๒๐๒ 7. อธบิ ายสมดุลกลของของวตั ถุ โมเมนตแ์ ละผลรวมของโมเมนต์ที่มตี ่อการหมุน แรงค่คู วบและผลของแรงคู่ควบทีม่ ี ตอ่ สมดุลของวตั ถเุ ขยี นแผนภาพของแรงท่กี ระทำตอ่ วตั ถุอิสระเมอ่ื วตั ถุอยใู่ นสมดุลและคำนวณปริมาณตา่ งๆท่ี เกยี่ วขอ้ ง รวมทั้งทดลองและอธิบายสมดุลของแรงสามแรงได้ 8. สังเกตและอธิบายสภาพการเคลื่อนทข่ี องวัตถุ เมอ่ื แรงท่ีกระทำตอ่ วัตถุผา่ นศนู ย์กลางมวลของวตั ถแุ ละผลของ ศูนย์ถว่ งทม่ี ตี ่อเสถียรภาพของวตั ถไุ ด้
๒๐๓ คำอธบิ ายรายวิชาเพ่มิ เตมิ ว32201 ฟิสกิ ส์ 3 กล่มุ สาระการเรียนร้วู ิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ชัน้ มัธยมศกึ ษาปที ่ี 5 ภาคเรยี นท่ี 1 เวลา 60 ชว่ั โมง ......................................................................................................................................................................... ศึกษาลกั ษณะการเคลอ่ื นทแ่ี บบฮาร์มอนิกอย่างงา่ ย ปริมาณที่เก่ียวขอ้ งกบั การเคลือ่ นท่ีแบบ ฮารม์ อนิกอย่างง่าย แรงกบั การสัน่ ของมวลติดปลายสรงิ และลกู ตมุ้ อย่างง่าย ความถธี่ รรมชาติและการสั่น พอ้ ง ธรรมชาตขิ องคล่นื อตั ราเรว็ ของคลน่ื หลักการทเ่ี กี่ยวกับคลน่ื พฤติกรรมของคลืน่ แนวคดิ เกยี่ วกับ แสงเชิงคล่นื การแทรกสอดของแสงผ่านสลิตคู่ การเลี้ยวเบนของแสงผ่านสลิตเดี่ยว การเลี้ยวเบนของ แสงผ่านเกรตติง การสะทอ้ นและการหักเหของแสง การมองเห็นและการเกิดภาพ ภาพจากเลนส์และ กระจกเงาทรงกลม แสงสแี ละการมองเห็นแสงสี ปรากฏการณธ์ รรมชาติและการใชป้ ระโยชน์เก่ียวกบั แสง โดยใชก้ ระบวนการทางวทิ ยาศาสตร์ การสืบเสาะหาความรู้ การสืบค้นขอ้ มลู การสงั เกต วิเคราะห์ เปรียบเทยี บ อธบิ าย อภิปราย และสรุป เพอ่ื ให้เกดิ ความรู้ ความเขา้ ใจ มีความสามารถในการตัดสินใจ มที ักษะ กระบวนการทางวทิ ยาศาสตร์ รวมทงั้ ทักษะแหง่ ศตวรรษที่ ๒๑ ในดา้ นการใชเ้ ทคโนโลยีสารสนเทศ ด้านการคิดและการแกป้ ญั หา สามารถสือ่ สารส่งิ ที่เรียนรแู้ ละนำ ความรู้ไปใชใ้ นชีวิตของตนเอง มจี ิตวทิ ยาศาสตร์ จริยธรรม คุณธรรม และคา่ นยิ มทีเ่ หมาะสม ผลการเรยี นรู้ 1. ทดลองและอธิบายการเคล่อื นท่แี บบฮาร์มอนิกอย่างง่ายของวตั ถุตดิ ปลายสรงิ และลูกตุ้มอยา่ งงา่ ย รวมทั้งคำนวณปรมิ าณตา่ ง ๆ ทีเ่ กยี่ วข้อง 2. อธิบายความถ่ธี รรมชาติของวตั ถแุ ละการเกดิ การสนั่ พอ้ ง 3. อธบิ ายปรากฏการณ์คลนื่ ชนิดของคลน่ื สว่ นประกอบของคลน่ื การแผ่ของหน้าคลืน่ ด้วยหลักการ ของฮอยเกนส์ และการรวมกนั ของคลน่ื ตามหลกั การซ้อนทบั พรอ้ มทั้งคำนวณอัตราเร็ว ความถ่ี และความยาวคล่ืน 4. สงั เกตและอธิบายการสะท้อน การหกั เห การแทรกสอด และการเลี้ยวเบนของคลืน่ ผิวนำ้ รวมทั้ง คำนวณปริมาณตา่ ง ๆ ทเ่ี กย่ี วข้อง 5. ทดลอง และอธบิ ายการแทรกสอดของแสงผ่านสลติ คู่และเกรตติง การเล้ียวเบนและการแทรกสอด ของแสงผา่ นสลิตเดยี่ ว รวมท้งั คำนวณปริมาณต่าง ๆ ท่ีเกี่ยวข้อง 6. ทดลอง และอธิบายการสะท้อนของแสงท่ผี วิ วัตถุตามกฎการสะท้อน เขียนรังสขี องแสงและ คำนวณตำแหน่งและขนาดภาพของวัตถุ เมอ่ื แสงตกกระทบกระจกเงาราบและกระจกเงาทรงกลม รวมทัง้ อธิบายการนำ ความรู้เร่ืองการสะทอ้ นของแสงจากกระจกเงาราบ และกระจกเงาทรงกลม ไปใชป้ ระโยชน์ในชวี ติ ประจำ วัน 7. ทดลอง และอธบิ ายความสัมพันธ์ระหว่างดรรชนีหกั เห มุมตกกระทบ และมุมหกั เหรวมท้งั อธิบาย ความสมั พันธร์ ะหวา่ งความลกึ จรงิ และความลกึ ปรากฏ มมุ วกิ ฤตและการสะทอ้ นกลับหมดของ แสง และคำนวณปรมิ าณต่าง ๆ ที่เกี่ยวขอ้ ง 8. ทดลอง และเขียนรงั สีของแสงเพอื่ แสดงภาพท่ีเกดิ จากเลนส์บาง หาตำแหนง่ ขนาด ชนิดของ ภาพ และความสมั พันธ์ระหวา่ งระยะวตั ถุ ระยะภาพและความยาวโฟกัส รวมท้งั คำนวณปริมาณ
๒๐๔ ต่าง ๆ ทเ่ี ก่ยี วขอ้ ง และอธบิ ายการนำ ความรเู้ ร่ืองการหกั เหของแสงผ่านเลนส์บางไปใชป้ ระโยชน์ ในชวี ิตประจำ วัน 9. อธบิ ายปรากฏการณธ์ รรมชาติทีเ่ กี่ยวกบั แสง เช่น รงุ้ การทรงกลด มริ าจ และการเห็นทอ้ งฟ้า เปน็ สตี ่าง ๆ ในช่วงเวลาตา่ งกนั 10. สงั เกต และอธบิ ายการมองเห็นแสงสี สีของวัตถุ การผสมสารสี และการผสมแสงสี รวมท้ัง อธบิ ายสาเหตขุ องการบอดสี รวมท้ังหมด 10 ผลการเรยี นรู้
๒๐๕ คำอธิบายรายวชิ าเพมิ่ เติม ว32202 ฟสิ กิ ส์ 4 กล่มุ สาระการเรยี นรูว้ ทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี ชัน้ มัธยมศกึ ษาปที ่ี 5 ภาคเรยี นท่ี 2 เวลา 60 ช่ัวโมง ......................................................................................................................................................................... ศกึ ษาการเกิดเสียง การเคลือ่ นท่ีของเสียง การสะท้อน การหกั เห การแทรกสอด และการเลี้ยวเบน ของคล่ืนเสียง การได้ยินเสียง ความเข้มเสียง คุณภาพเสียง มลพษิ ทางเสยี ง คล่ืนนง่ิ ของเสยี ง การสั่นพ้อง ของเสยี ง การเกิดบีต ปรากฏการณด์ อปเพลอร์ คลื่นกระแทกของเสยี ง ธรรมชาติของไฟฟา้ สถติ การเหน่ยี ว นำ ไฟฟา้ สถิต กฎของคลู อมบ์ สนามไฟฟา้ ศักย์ไฟฟ้า ความตา่ งศกั ย์ ความจแุ ละพลังงานสะสมในตัวเก็บ ประจุ การต่อตัวเก็บประจุ กระแสไฟฟ้าในลวดตวั นำ กฎของโอห์ม สภาพต้านทาน การตอ่ ตวั ตา้ นทาน อเี อม็ เอฟของแหล่งกำ เนิดไฟฟา้ กระแสตรง พลงั งานไฟฟ้า กำ ลังไฟฟ้า การต่อแบตเตอรี่ การวิเคราะห์วงจร ไฟฟา้ กระแสตรง การเปล่ียนพลงั งานทดแทนเป็นพลังงานไฟฟา้ และเทคโนโลยีด้านพลงั งาน โดยใช้ กระบวนการทางวทิ ยาศาสตร์ การสืบเสาะหาความรู้ การสบื ค้นขอ้ มูล การสังเกต วิเคราะห์ เปรียบเทยี บ อธิบาย อภิปราย และสรุป เพ่อื ใหเ้ กดิ ความรู้ ความเขา้ ใจ มคี วามสามารถในการตัดสินใจ มีทักษะ กระบวนการทางวทิ ยาศาสตร์ รวมท้งั ทักษะแห่งศตวรรษท่ี ๒๑ ในดา้ นการใชเ้ ทคโนโลยีสารสนเทศ ดา้ นการคิดและการแกป้ ญั หา สามารถสอื่ สารสง่ิ ท่ีเรยี นรแู้ ละนำ ความร้ไู ปใชใ้ นชวี ติ ของตนเอง มีจิตวทิ ยา ศาสตร์ จรยิ ธรรม คณุ ธรรม และค่านิยมทเี่ หมาะสม ผลการเรียนรู้ 1. อธิบายการเกดิ เสยี ง การเคลอื่ นท่ีของเสยี ง ความสมั พันธร์ ะหว่างคลนื่ การกระจดั ของอนุภาคกับคลนื่ ความดนั ความสมั พันธร์ ะหว่างอัตราเรว็ ของเสียงในอากาศทข่ี ้นึ กับอณุ หภูมใิ นหน่วยองศาเซลเซียส การสะท้อน การหกั เห การแทรกสอด การเลี้ยวเบน ของคลืน่ เสียง รวมท้ังคำนวณปรมิ าณต่าง ๆ ที่เกย่ี วข้อง 2. อธิบายความเขม้ เสียง ระดบั เสียง องคป์ ระกอบของการไดย้ ิน คุณภาพเสียง และมลพิษทางเสยี งรวมทั้งคำนวณ ปรมิ าณต่าง ๆ ท่ีเกีย่ วข้อง 3. ทดลอง และอธบิ ายการเกดิ การสน่ั พอ้ งของอากาศในท่อปลายเปิดหนึง่ ด้าน รวมท้งั สังเกตและอธิบายการเกิดบีต คลนื่ นิ่ง ปรากฏการณด์ อปเพลอร์ คลืน่ กระแทกของเสยี ง คำนวณปริมาณต่าง ๆ ทีเ่ กีย่ วขอ้ ง และนำ ความรู้เร่อื ง เสียงไปใชใ้ นชวี ติ ประจำ วัน 4. ทดลอง และอธบิ ายการทำ วัตถุทเี่ ป็นกลางทางไฟฟ้าใหม้ ีประจไุ ฟฟ้าโดยการขดั สกี นั และการเหนีย่ วนำ ไฟฟ้า สถิต 5. อธบิ าย และคำนวณแรงไฟฟ้าตามกฎของคลู อมบ์ 6. อธิบาย และคำนวณสนามไฟฟ้าและแรงไฟฟ้าทก่ี ระทำ กับอนุภาคท่มี ีประจุไฟฟา้ ทอี่ ยใู่ นสนามไฟฟา้ รวมทง้ั หา สนามไฟฟ้าลัพธเ์ นอื่ งจากระบบจุดประจุโดยรวมกันแบบเวกเตอร์ 7. อธบิ าย และคำนวณพลงั งานศกั ย์ไฟฟา้ ศักย์ไฟฟ้า และ ความต่างศักย์ระหว่างสองตำแหน่งใด ๆ 8. อธบิ ายส่วนประกอบของตัวเกบ็ ประจุ ความสัมพนั ธร์ ะหว่างประจุไฟฟา้ ความต่างศักย์ และความจุของตวั เกบ็ ประจุ และอธบิ ายพลงั งานสะสมในตัวเกบ็ ประจุ และความจุสมมูล รวมท้ังคำนวณปริมาณตา่ ง ๆ ทเี่ กย่ี วขอ้ ง 9. นำ ความรูเ้ รือ่ งไฟฟา้ สถติ ไปอธิบายหลักการทำงานของเครอ่ื งใช้ไฟฟา้ บางชนดิ และปรากฏการณ์ ในชีวติ ประจำ วนั
๒๐๖ 10. อธิบายการเคลือ่ นท่ีของอิเลก็ ตรอนอสิ ระและกระแสไฟฟ้าในลวดตวั นำ ความสัมพันธ์ระหว่างกระแสไฟฟา้ ใน ลวดตัวนำ กบั ความเรว็ ลอยเล่ือนของอิเลก็ ตรอนอสิ ระ ความหนาแน่นของอิเล็กตรอนในลวดตัวนำ และพ้ืนทีห่ นา้ ตัด ของลวดตัวนำ และคำนวณปรมิ าณต่าง ๆ ทีเ่ กี่ยวข้อง 11. ทดลอง และอธบิ ายกฎของโอหม์ อธิบายความสัมพันธ์ระหวา่ งความตา้ นทานกับความยาวพ้ืนทหี่ น้าตดั และ สภาพต้านทานของตวั นำ โลหะท่ีอณุ หภูมิคงตวั และคำนวณปริมาณต่าง ๆทเ่ี กี่ยวข้อง รวมท้ัง อธบิ ายและคำนวณ ความต้านทานสมมูลเมอื่ นำ ตัวต้านทานมาต่อกันแบบอนุกรมและแบบขนาน 12. ทดลอง อธิบาย และคำนวณอีเอ็มเอฟของแหล่งกำเนิดไฟฟ้ากระแสตรง รวมท้ังอธิบายและคำนวณพลงั งาน ไฟฟา้ และกำ ลังไฟฟา้ 13. ทดลอง และคำนวณอีเอ็มเอฟสมมูลจากการตอ่ แบตเตอรี่แบบอนุกรมและแบบขนาน รวมทั้งคำนวณปริมาณ ต่าง ๆ ทเ่ี ก่ยี วข้องในวงจรไฟฟา้ กระแสตรงซ่ึงประกอบด้วยแบตเตอรีแ่ ละตัวต้านทาน 14. อธิบายการเปล่ียนพลงั งานทดแทนเปน็ พลังงานไฟฟา้ รวมทง้ั สบื คน้ และอภปิ รายเก่ยี วกับเทคโนโลยีทีน่ ำ มา แก้ปญั หาหรือตอบสนองความต้องการทางด้านพลงั งาน โดยเนน้ ด้านประสิทธิภาพและความคมุ้ ค่าดา้ นค่าใชจ้ า่ ย รวมทง้ั หมด 14 ผลการเรียนรู้
๒๐๗ คำอธบิ ายรายวิชาเพิม่ เติม ว30205 ฟสิ ิกส์ 5 กลุ่มสาระการเรียนรู้วทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี ชั้นมธั ยมศึกษาปที ่ี 6 ภาคเรียนท่ี 1 เวลา 60 ช่ัวโมง ......................................................................................................................................................................... ศึกษา วเิ คราะห์ และอธิบายหลกั การของแม่เหลก็ ไฟฟา้ สนามแมเ่ หลก็ ฟลกั ซ์แม่เหลก็ การเคล่อื นที่ของ อนุภาคในสนามแม่เหลก็ แรงกระทำตอ่ ลวดตัวนำท่มี กี ระแสไฟฟ้าผ่านเมือ่ วางอยู่ในบรเิ วณท่มี สี นามแมเ่ หลก็ สนามแม่เหล็กทเี่ กิดจากกระแสไฟฟา้ ผ่านลวดตัวนำ แกลแวนอมิเตอร์ มอเตอรก์ ระแสตรง กระแสเหนี่ยวนำ กฎการ เหนี่ยวนำแม่เหลก็ ไฟฟา้ ของฟาราเดย์และกฎของเลนซ์ หลักการของเครอื่ งกำเนดิ ไฟฟ้า หมอ้ แปลงวงจรพนื้ ฐานของ ไฟฟ้ากระแสสลบั การแปลงไฟฟ้ากระแสสลบั เปน็ ไฟฟ้ากระแสตรง ความร้อน อุณหภูมิ ความจุความร้อน การ ขยายตัวของวตั ถเุ น่อื งจากความร้อน สถานะและการเปล่ียนแปลงสถานะของสาร การถ่ายโอนความรอ้ น แกส๊ อดุ ม คติ กฎของบอยล์ กฎของชารล์ กฎของเกย์-ลูสแซก กฎของแก๊สอุดมคติ ทฤษฎีจลนข์ องแกส๊ ความดันและพลังงาน จลนเ์ ฉล่ียของโมเลกลุ ของแก๊ส อตั ราเร็วของโมเลกลุ ของแก๊ส พลังงานภายในระบบ กฎขอ้ ที่หนึ่งของอุณหพลศาสตร์ การประยกุ ต์เกี่ยวกบั อุณหพลศาสตร์ สภาพยืดหย่นุ ของวสั ดุ ความเคน้ ความเครียด มอดุลัสของยัง ความดนั ในของ ไหลและกฎพาสคัล แรงพยุงและหลักอารค์ ิมีดีส ความตึงผวิ การเคลอ่ื นทีใ่ นของไหล สมบัติของของไหลอุดมคติ สมการความตอ่ เน่ือง และสมการแบร์นูลลีและนำหลกั การไปใชร้ ว่ มกบั ภูมปิ ัญญาทอ้ งถนิ่ โดยใชก้ ระบวนการทางวิทยาศาสตร์ กระบวนการสบื เสาะหาความรู้ การสืบคน้ ข้อมูล การสงั เกต การ วิเคราะห์ การอภิปราย การอธบิ ายและการสรปุ ผล เพื่อให้ผู้เรียนเกิดความรู้ ความคิด และความเข้าใจ มี ความสามารถในการตัดสนิ ใจ สอื่ สารส่ิงท่เี รียนรูแ้ ละนำความรไู้ ปใชใ้ นชีวิตตนเอง ตลอดจนมจี ิตวิทยาศาสตร์ จรยิ ธรรม คณุ ธรรม และคา่ นิยมทถี่ ูกตอ้ ง ผลการเรียนรู้ 1. สังเกต และอธิบายเส้นสนามแมเ่ หลก็ อธบิ ายและคำนวณฟลักซ์แม่เหล็กในบริเวณท่ีกำหนด รวมทัง้ สงั เกตและอธบิ ายสนามแม่เหลก็ ทเี่ กิดจากกระแสไฟฟา้ ในลวดตวั นำเสน้ ตรงและโซเลนอยดไ์ ด้ 2. อธิบาย และคำนวณแรงแม่เหลก็ ท่ีกระทำต่ออนภุ าคทม่ี ปี ระจไุ ฟฟา้ เคลือ่ นทใ่ี นสนามแม่เหล็ก แรง แมเ่ หลก็ ท่กี ระทำต่อเสน้ ลวดที่มีกระแสไฟฟา้ ผ่านและวางในสนามแมเ่ หล็ก รัศมีความโคง้ ของการเคล่ือนท่ีเมอื่ ประจุ เคล่ือนทต่ี ั้งฉากกบั สนามแมเ่ หล็ก รวมท้งั อธิบายแรงระหว่างเสน้ ลวดตวั นำคขู่ นานทม่ี ีกระแสไฟฟา้ ผ่านได้ 3. อธิบายหลกั การทำงานของแกลแวนอมเิ ตอรแ์ ละมอเตอรไ์ ฟฟ้ากระแสตรง รวมท้ังคำนวณปริมาณต่าง ๆ ท่เี กยี่ วข้องได้ 4. สังเกต และอธบิ ายการเกิดอีเอ็มเอฟเหนีย่ วนำ กฎการเหนีย่ วนำของฟาราเดย์ และคำนวณปริมาณต่าง ๆ ทีเ่ ก่ยี วขอ้ ง รวมทงั้ นำความร้เู รือ่ งอเี อ็มเอฟเหนยี่ วนำไปอธบิ ายการทำงานของเครื่องใช้ไฟฟ้าได้ 5. อธบิ าย และคำนวณความต่างศกั ยอ์ ารเ์ อ็มเอส และกระแสไฟฟ้าอารเ์ อม็ เอสได้ 6. อธิบายหลักการทำงานและประโยชนข์ องเครอื่ งกำเนิดไฟฟา้ กระแสสลบั 3 เฟส การแปลงอีเอม็ เอฟของ หม้อแปลง และคำนวณปริมาณตา่ ง ๆ ท่ีเกยี่ วขอ้ งได้ 7. อธิบายและคำนวณความรอ้ นท่ีทำให้สสารเปล่ียนอณุ หภมู ิ ความร้อนทที่ ำใหส้ สารเปลย่ี นสถานะ และ ความรอ้ นทเี่ กดิ จากการถ่ายโอนตามกฎการอนุรกั ษพ์ ลังงาน 8. อธบิ ายกฎของแก๊สอุดมคติและคำนวณปริมาณตา่ ง ๆ ทเี่ กย่ี วขอ้ ง
๒๐๘ 9. อธบิ ายแบบจำลองของแก๊สอุดมคติ ทฤษฎีจลน์ของแกส๊ และอตั ราเรว็ อารเ์ อ็มเอสของโมเลกุลของแกส๊ รวมทั้งคำนวณปริมาณตา่ ง ๆ ที่เกี่ยวข้อง 10. อธบิ ายและคำนวณงานทท่ี ำโดยแก๊สในภาชนะปดิ โดยความดนั คงตวั และอธิบายความสัมพันธ์ระหว่าง ความรอ้ น พลังงานภายในระบบ และงานรวมทงั้ คำนวณปรมิ าณตา่ ง ๆ ท่เี ก่ยี วข้องและนำความรู้ เรื่อง พลังงาน ภายในระบบไปอธิบายหลกั การทำงานของเครือ่ งใช้ในชวี ิตประจำวนั 11. อธิบายสภาพยดื หยุ่นและลักษณะการยืดและหดตัวของวัสดุท่ีเปน็ แท่ง เมอื่ ถกู กระทำดว้ ยแรงคา่ ตา่ ง ๆ รวมทั้งทดลอง อธิบาย และคำนวณความเค้นตามยาว ความเครียดตามยาวและมอดุลัสของยัง และนำความรู้เรือ่ ง สภาพยืดหยุน่ ไปใชใ้ นชีวติ ประจำวนั 12. อธิบาย และคำนวณความดันเกจ ความดันสัมบูรณ์ และความดันบรรยากาศ รวมทั้งอธิบายหลกั การ ทำงานของแมนอมิเตอร์ บารอมเิ ตอร์ และเครอ่ื งอัดไฮดรอลกิ ได้ 13. ทดลอง อธบิ าย และคำนวณขนาดแรงพยุงจากของไหลได้ 14. ทดลอง อธิบาย และคำนวณความตึงผวิ ของของเหลว รวมทัง้ สงั เกตและอธิบายแรงหนดื ของของเหลว ได้ 15. อธิบายสมบัติของของไหลอดุ มคติ สมการความต่อเนือ่ ง และสมการแบร์นูลลี รวมทั้งคำนวณปริมาณ ต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง และนำความรู้เกี่ยวกับสมการความต่อเนือ่ งและสมการแบร์นูลลีไปอธิบายหลักการทำงานของ อุปกรณต์ ่าง ๆ ได้ไดร้ ว่ มกบั ภมู ิปญั ญาทอ้ งถ่นิ รวม 15 ผลการเรียนรู้
๒๐๙ คำอธิบายรายวิชาเพิ่มเตมิ ว30206 ฟิสิกส์ 6 กล่มุ สาระการเรยี นรวู้ ทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี ช้ันมธั ยมศกึ ษาปีท่ี 6 ภาคเรยี นที่ 2 เวลา 60 ชว่ั โมง ......................................................................................................................................................................... ศกึ ษา วเิ คราะห์ และอธบิ ายลกั ษณะเฉพาะของคล่ืนแมเ่ หลก็ ไฟฟา้ แสงไมโ่ พลาไรส์ แสงโพลาไรส์เชิงเสน้ แผ่นโพลารอยด์ การนำคล่ืนแม่เหล็กไฟฟ้าในช่วงความถี่ต่าง ๆ ไปประยุกต์ใช้ รวมทั้งการสื่อสารโดยอาศัย คลื่นแม่เหล็กไฟฟา้ ฟสิ ิกส์อะตอม อะตอมและการคน้ พบอิเล็กตรอน รงั สีแคโทด การทดลองของทอมสนั การทดลอง ของมิลลิแกน แบบจำลองอะตอม แบบจำลองอะตอมของทอมสัน แบบจำลองอะตอมของรัทเทอร์ฟอร์ด สเปกตรมั ของอะตอม สเปกตรัมจากอะตอมของแก๊ส การแผ่คลนื่ แม่เหล็กไฟฟ้าจากวัตถุดำ ทฤษฎีอะตอมของโบร์ ระดับพลงั งานของอะตอม การทดลองของฟรังกแ์ ละเฮิรตซ์ รังสเี อกซ์ ความไมส่ มบรู ณข์ องทฤษฎีอะตอมของโบร์ ทวภิ าวะของคล่นื และอนภุ าค ปรากฏการณ์โฟโตอิเล็กทริก ปรากฏการณ์คอมปต์ ัน สมมติฐานเดอบรอยล์ กลศาสตร์ ควอนตัม หลักความไม่แน่นอนของไฮเซนเบิร์ก โครงสรา้ งอะตอมตามแนวคดิ กลศาสตร์ควอนตัม ฟสิ ิกส์นิวเคลียร์ การ ค้นพบกัมมันตภาพรังสกี ารเปลี่ยนสภาพนิวเคลียส องค์ประกอบของนิวเคลียส การค้นพบนิวตรอน การสลายของ นิวเคลียสกัมมันตรังสี ไอโซโทป เสถยี รภาพของนิวเคลยี ส แรงนิวเคลยี ร์ พลังงานยึดเหน่ียว ปฏิกริ ยิ านิวเคลียร์ ฟชิ ชนั ฟิวชัน ประโยชน์ของกมั มันตภาพรงั สแี ละการใช้พลงั งานนวิ เคลียร์ รังสีในธรรมชาติ อนั ตรายจากรงั สี และการ ปอ้ งกนั การค้นควา้ วิจยั และประโยชนด์ ้านฟิสิกส์อนุภาคพรอ้ มประยุกต์รว่ มกับภูมิปญ้ ญาท้องถ่ิน โดยใช้กระบวนการทางวทิ ยาศาสตร์ กระบวนการสบื เสาะหาความรู้ การสืบคน้ ขอ้ มูล การสงั เกต การวิเคราะห์ การอภิปราย การอธิบายและการสรุปผล เพ่อื ให้ผู้เรยี นเกิดความรู้ ความคิด และความเข้าใจ มคี วามสามารถใน การตัดสินใจ สอ่ื สารสิง่ ท่ีเรียนรู้และนำความรูไ้ ปใช้ในชีวติ ตนเอง ตลอดจนมีจติ วทิ ยาศาสตร์ จรยิ ธรรม คุณธรรม และ คา่ นยิ มท่ถี กู ตอ้ ง ผลการเรียนรู้ 1. อธิบายการเกดิ และลักษณะเฉพาะของคล่ืนแม่เหล็กไฟฟา้ แสงไมโ่ พลาไรส์ แสงโพลาไรสเ์ ชงิ เส้น และแผ่นโพลา รอยดร์ วมทั้งอธิบายการนำคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าในช่วงความถ่ีต่าง ๆ ไปประยุกต์ใช้และหลักการทำงานของ อุปกรณ์ท่ีเก่ียวขอ้ ง 2. สืบค้นและอธิบายการส่ือสารโดยอาศยั คลน่ื แมเ่ หล็กไฟฟ้าในการสง่ ผ่านสารสนเทศและเปรียบเทียบการ ส่ือสารดว้ ยสัญญาณแอนะล็อกกับสัญญาณดจิ ทิ ัล 3. อธิบายสมมติฐานของพลังค์ ทฤษฎีอะตอมของโบร์ และการเกิดเส้นสเปกตรัมของอะตอมไฮโดรเจน รวมทั้ง คำนวณปริมาณตา่ ง ๆ ท่เี กย่ี วขอ้ ง 4. อธบิ ายปรากฏการณโ์ ฟโตอิเลก็ ทริกและคำนวณพลงั งาน โฟตอน พลงั งานจลนข์ องโฟโตอเิ ล็กตรอน และฟงั ก์ชัน งานของโลหะ 5. อธบิ ายทวิภาวะของคลื่นและอนุภาค รวมทั้งอธบิ ายและคำนวณความยาวคล่นื เดอบรอยล์
๒๑๐ 6. อธิบายกัมมนั ตภาพรังสีและความแตกต่างของรังสแี อลฟา บตี า และแกมมา 7. อธบิ ายและคำนวณกัมมันตภาพของนวิ เคลียสกัมมนั ตรังสี รวมทัง้ ทดลอง อธบิ าย และคำนวณ จำนวนนิวเคลยี สกมั มันตภาพรงั สที เ่ี หลอื จากการสลาย และครึง่ ชวี ิต 8. อธบิ ายแรงนวิ เคลียร์ เสถียรภาพของนิวเคลียส และพลงั งานยดึ เหน่ียว รวมทง้ั คำนวณปรมิ าณตา่ ง ๆ ท่ี เกี่ยวขอ้ ง 9. อธบิ ายปฏกิ ริ ิยานวิ เคลยี ร์ ฟชิ ชัน และฟิวชัน รวมทงั้ คำนวณพลงั งานนิวเคลียร์ 10. อธิบายประโยชน์ของพลังงานนวิ เคลยี ร์และรงั สี รวมทง้ั อนั ตรายและการปอ้ งกันรงั สใี นดา้ นตา่ ง ๆ 11. อธิบายการค้นคว้าวิจัยด้านฟิสิกส์อนุภาคแบบจำลองมาตรฐานและการใช้ประโยชน์จากการค้นคว้าวิจัย ด้านฟสิ กิ ส์อนภุ าคในดา้ นต่าง ๆ รวม11 ผลการเรยี นรู้
๒๑๑ คำอธบิ ายรายวชิ าเพม่ิ เตมิ ว31221 เคมี 1 กลุม่ สาระการเรียนรู้วทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี ชั้นมธั ยมศกึ ษาปที ่ี 4 ภาคเรยี นที่ 1 เวลา 60 ช่ัวโมง/ปี ......................................................................................................................................................................... ศกึ ษาขอ้ ปฏิบัติเบอ้ื งต้นในการทำปฏบิ ตั ิการเคมี การเลอื กใช้อุปกรณ์และเครอื่ งมือในการทำปฏบิ ตั กิ าร การ ระบุหน่วยวัดปริมาณต่าง ๆ ของสาร การเปลี่ยนหน่วยในระบบเอสไอด้วยการใช้แฟกเตอร์เปลี่ยนหน่วย ศึกษา แบบจำลองอะตอม สญั ลกั ษณ์นวิ เคลียร์ของธาตุ อนุภาคมูลฐานของอะตอม การจดั เรียงอิเล็กตรอนในอะตอม การ จัดเรียงธาตุในตารางธาตุ แนวโน้มสมบัติบางประการของธาตุในตารางธาตุตามหมู่และตามคาบ สมบัติของธาตุ โลหะแทรนซิชัน การเปรยี บเทียบสมบัติกับธาตโุ ลหะในกลมุ่ ธาตเุ รพรเี ซนเททฟี ศึกษาและอธิบายสมบัติและคำนวณ ครึ่งชีวิตของไอโซโทปกัมมันตรังสี ยกตัวอย่างการนำธาตุมาใช้ประโยชน์ รวมทั้งผลกระทบต่อสิ่งมีชีวิตและ สิ่งแวดล้อม ศึกษาการเกิดพันธะไอออนิก สูตรและการเรียกชื่อสารประกอบไอออนิก การเปลี่ยนแปลงพลังงานใน การเกิดสารประกอบไอออนกิ สมบัติของสารประกอบไอออนิก ปฏิกิริยาของสารประกอบไอออนกิ ศึกษาการเกิด พนั ธะและชนิดของพนั ธะโคเวเลนต์ การเขียนสูตรและเรียกช่ือสารโคเวเลนต์ ความยาวพันธะและพลังงานพันธะใน สารโคเวเลนต์ พลังงานที่เกี่ยวข้องกับปฏิกิริยาของสารโคเว-เลนต์ รูปร่างโมเลกุลโคเวเลนต์ สภาพขั้วของโมเลกุล โคเวเลนต์ แรงยึดเหนีย่ วระหว่างโมเลกุลโคเวเลนต์ สมบตั ิของสารโคเวเลนต์โครงรา่ งตาข่าย ศึกษาการเกดิ โลหะและ สมบตั ิของโลหะ โดยใชก้ ารเรียนรู้ด้วยกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ การสืบเสาะหาความรู้ การสำรวจตรวจสอบ สามารถนำ ความรู้และหลักการไปใช้ประโยชน์ เชื่อมโยง อธิบายปรากฏการณ์ หรือแก้ปัญหาในชีวิตประจำวัน สามารถจัด กระทำและวิเคราะห์ข้อมูล ส่อื สารส่งิ ทเี่ รียนรู้ มคี วามสามารถในการตัดสินใจแกป้ ญั หา มีจติ วทิ ยาศาสตร์ เห็นคณุ ค่า ของวิทยาศาสตร์ มีจรยิ ธรรม คณุ ธรรมและค่านยิ มทีเ่ หมาะสม ผลการเรยี นรู้ 1. บอกและอธิบายข้อปฏิบัติเบื้องตน้ และปฏิบัติตนที่แสดงถึงความตระหนักในการทำปฏิบัติการเคมีเพื่อให้มี ความปลอดภัยทั้งตอ่ ตนเอง ผ้อู ่นื และสง่ิ แวดล้อม และเสนอแนวทางแกไ้ ขเมอื่ เกิดอุบัตเิ หตุ 2. เลอื กและใช้อปุ กรณห์ รือเครอื่ งมอื ในการทำปฏบิ ตั กิ าร และวดั ปริมาณต่าง ๆ ได้อย่างเหมาะสม 3. นำเสนอแผนการทดลอง ทดลอง และเขียนรายงานการทดลอง 4. ระบหุ น่วยวดั ปรมิ าณต่าง ๆ ของสาร และเปล่ยี นหน่วยวัดให้เป็นหนว่ ยในระบบเอสไอดว้ ยการใช้ แฟกเตอร์ เปลีย่ นหนว่ ย 5. สืบค้นข้อมูลสมมติฐาน การทดลอง หรือผลการทดลองที่เป็นประจักษ์พยานในการเสนอแบบจำลองอะตอม ของนักวทิ ยาศาสตร์ และอธบิ ายววิ ัฒนาการของแบบจำลองอะตอม 6. เขียนสัญลักษณ์นิวเคลียร์ของธาตุ และระบุจำนวนโปรตอน นิวตรอน และอิเล็กตรอนของอะตอมจาก สญั ลักษณน์ วิ เคลยี ร์รวมท้งั บอกความหมายของไอโซโทป 7. อธิบายและเขียนการจัดเรียงอิเลก็ ตรอนในระดับพลังงานหลัก และระดับพลังงานย่อยเมื่อทราบเลขอะตอม ของธาตุ 8. ระบหุ มู่ คาบ ความเป็นโลหะ อโลหะ และกึง่ โลหะ ของธาตเุ รพรีเซนเททฟี และธาตแุ ทรนซิชนั ในตารางธาตุ
๒๑๒ 9. วเิ คราะหแ์ ละบอกแนวโนม้ สมบัตขิ องธาตเุ รพรีเซนเททฟี ตามหมแู่ ละตามคาบ 10. บอกสมบตั ขิ องธาตุโลหะแทรนซิชนั และเปรียบเทียบสมบตั ิกบั ธาตุโลหะในกล่มุ ธาตุเรพรเี ซนเททฟี 11. อธบิ ายสมบัติและคำนวณคร่ึงชีวติ ของไอโซโทปกัมมนั ตรังสี 12. สบื ค้นขอ้ มลู และยกตัวอย่างการนำธาตุมาใช้ประโยชน์ รวมทงั้ ผลกระทบต่อสง่ิ มชี วี ิตและสิง่ แวดลอ้ ม 13. อธบิ ายการเกิดไอออนและการเกิดพนั ธะไอออนกิ โดยใช้แผนภาพ หรอื สญั ลักษณ์แบบจดุ ของลิวอสิ 14. เขยี นสูตรและเรียกชอ่ื สารประกอบไอออนกิ 15. คำนวณพลังงานทเ่ี กีย่ วขอ้ งกบั ปฏิกริ ยิ าการเกดิ สารประกอบไอออนิกจากวฏั จักรบอรน์ -ฮาเบอร์ 16. อธบิ ายสมบตั ิของสารประกอบไอออนิก 17. เขยี นสมการไอออนกิ และสมการไอออนกิ สุทธิของปฏิกริ ยิ าของสารประกอบไอออนิก 18. อธิบายการเกดิ พันธะโคเวเลนต์แบบพนั ธะเด่ยี ว พนั ธะคู่ และพันธะสาม ด้วยโครงสร้างลวิ อสิ 19. เขียนสตู รและเรยี กช่ือสารโคเวเลนต์ 20. วิเคราะห์และเปรียบเทียบความยาวพันธะ และพลังงานพันธะในสารโคเวเลนต์ รวมทั้งคำนวณพลังงานที่ เกยี่ วขอ้ งกับปฏกิ ริ ยิ าของสารโคเวเลนต์จากพลงั งานพันธะ 21. คาดคะเนรูปรา่ งโมเลกุลโคเวเลนตโ์ ดยใชท้ ฤษฎกี ารผลกั ระหว่างคอู่ เิ ลก็ ตรอนในวงเวเลนซ์ และระบสุ ภาพขัว้ ของโมเลกลุ โคเวเลนต์ 22. ระบุชนิดของแรงยึดเหนี่ยวระหว่างโมเลกุลโคเวเลนต์ และเปรียบเทียบจุดหลอมเหลว จุดเดือด และการ ละลายนำ้ ของสารโคเวเลนต์ 23. สืบค้นข้อมูลและอธิบายสมบตั ขิ องสารโคเวเลนต์โครงร่างตาข่ายชนดิ ต่าง ๆ 24. อธบิ ายการเกิดพันธะโลหะและสมบัตขิ องโลหะ 25. เปรียบเทียบสมบัติบางประการของสารประกอบไอออนิก สารโคเวเลนต์ และโลหะ สืบค้นข้อมูลและ นำเสนอตัวอยา่ งการใชป้ ระโยชน์ของสารประกอบไอออนิก สารโคเวเลนต์ และโลหะไดอ้ ย่างเหมาะสม รวม 25 ผลการเรยี นรู้
๒๑๓ คำอธบิ ายรายวชิ าเพ่มิ เตมิ ว31222 เคมี 2 กลมุ่ สาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ชน้ั มัธยมศกึ ษาปีท่ี 4 เวลา 60 ชวั่ โมง/ปี ศึกษาเกย่ี วกบั มวลอะตอมของธาตุ มวลของธาตุ 1 อะตอม มวลอะตอมเฉลย่ี ของธาตุ มวลโมเลกุลของสาร ความสัมพันธ์ระหว่างจำนวนโมล อนุภาค มวล และปริมาตรของแก๊สที่ STP ศึกษาหน่วยและการคำนวณความ เข้มข้นของสารละลาย การทดลองเตรียมสารละลาย การเปรียบเทียบจุดเดือดและจุดหลอมเหลวของสารบริสุทธิ์ และสารละลาย ศึกษาความหมายและเขยี นสูตรโมเลกุล สูตรเอมพริ คิ ัล หรือสูตรอยา่ งง่าย และสูตรโครงสร้าง การ คำนวณหามวลเป็นร้อยละจากสูตร การคำนวณหาสูตรเอมพริ ิคัลและสูตรโมเลกุลของสาร ศึกษาการเขียนและดุล สมการเคมี ทดลองและคำนวณหาอัตราส่วนจำนวนโมลของสารตงั้ ต้นท่ีทำปฏกิ ิรยิ าพอดีกนั ศึกษาสมบัติของระบบ ปดิ และระบบเปิด ศึกษาและฝกึ คำนวณปริมาณสารในปฏกิ ิริยาเคมีทเี่ ปน็ ไปตามกฎทรงมวล กฎสดั ส่วนคงท่ี ศึกษา ทดลองและคำนวณปริมาตรของแก๊สในปฏิกิริยาเคมตี ามกฎของเกย์- ลูสแซก และกฎของอาโวกาโดร ศึกษาและ ฝึกคำนวณหาความสัมพันธ์ระหว่างปริมาณของสารในสมการเคมีนั้น ๆ และสมการเคมีที่เกี่ยวข้องมากกว่าหน่ึง สมการ สารกำหนดปรมิ าณ และผลไดร้ อ้ ยละ โดยใช้การเรียนรูด้ ้วยกระบวนการทางวทิ ยาศาสตร์ การสบื เสาะหาความรู้ การสำรวจตรวจสอบ สามารถนำ ความรู้และหลักการไปใช้ประโยชน์ เชื่อมโยง อธิบายปรากฏการณ์ หรือแก้ปัญหาในชีวิตประจำวัน สามารถจัด กระทำและวเิ คราะหข์ ้อมลู สอื่ สารสงิ่ ท่ีเรยี นรู้ มคี วามสามารถในการตัดสินใจแก้ปญั หา มจี ิตวิทยาศาสตร์ เห็นคุณค่า ของวิทยาศาสตร์ มีจรยิ ธรรม คุณธรรม และคา่ นิยมทเี่ หมาะสม ผลการเรียนรู้ 1. บอกความหมายของมวลอะตอมของธาตุ และคำนวณมวลอะตอมเฉลี่ยของธาตุ มวลโมเลกุล และมวลสูตรได้ 2. อธิบายและคำนวณปริมาณใดปรมิ าณหนึง่ จากความสัมพนั ธ์ของโมล จำนวนอนุภาค มวล และปริมาตรของ แกส๊ ท่ี STP ได้ 3. คำนวณอตั ราสว่ นโดยมวลของธาตุองค์ประกอบของสารประกอบตามกฎสดั ส่วนคงทไ่ี ด้ 4. คำนวณสตู รอย่างง่ายและสูตรโมเลกุลของสารได้ 5. คำนวณความเขม้ ขน้ ของสารละลายในหน่วยต่าง ๆ ได้ 6. อธบิ ายวิธกี ารและเตรียมสารละลายใหม้ ีความเข้มขน้ ในหนว่ ยโมลารติ ี และปริมาตรสารละลายตามที่กำหนด ได้ 7. เปรยี บเทียบจุดเดอื ดและจุดเยอื กแข็งของสารละลายกับสารบริสุทธ์ิ รวมทั้งคำนวณจุดเดอื ดและจุดเยือกแข็ง ของสารละลายได้ 8. แปลความหมายสัญลกั ษณ์ในสมการเคมี เขียนและดุลสมการเคมขี องปฏิกริ ิยาเคมบี างชนิดได้ 9. คำนวณปริมาณของสารในปฏิกริ ยิ าเคมีทีเ่ กย่ี วขอ้ งกับมวลสารได้ 10. คำนวณปรมิ าณของสารในปฏกิ ิรยิ าเคมที ่เี กย่ี วขอ้ งกบั ความเขม้ ข้นของสารละลายได้ 11. คำนวณปริมาณของสารในปฏิกริ ิยาเคมที ี่เก่ยี วข้องกบั ปริมาตรแกส๊ ได้ 12. คำนวณปรมิ าณของสารในปฏกิ ริ ยิ าเคมหี ลายขน้ั ตอนได้ 13. ระบุสารกำหนดปริมาณและคำนวณปรมิ าณสารต่าง ๆ ในปฏิกริ ยิ าเคมีได้ 14. คำนวณผลได้รอ้ ยละของผลิตภัณฑ์ในปฏกิ ิริยาเคมไี ด้ รวม 14 ผลการเรยี นรู
๒๑๔ คำอธบิ ายรายวชิ าเพิ่มเตมิ ว32221 เคมี 3 กลุ่มสาระการเรียนรวู้ ทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี ชน้ั มธั ยมศึกษาปีท่ี 5 ภาคเรียนที่ 1 เวลา 60 ช่ัวโมง ศึกษาและอธิบายความสัมพันธ์ของปริมาตร ความดัน และอุณหภูมิ คำนวณหาปริมาตร ความดัน หรือ อุณหภูมิของแก๊สตามกฎของบอยล์ กฎของชาร์ล กฎของเกรย์-ลูสแซก และกฎรวมแก๊ส คำนวณปริมาตร ความดัน อุณหภูมิ จำนวนโมล หรือมวลของแก๊สตามกฎของอาโวกาโดร และกฎแก๊สอุดมคติ คำนวณความดันย่อยหรือจำนวน โมลของแก๊สในแก๊สผสมโดยใช้กฎความดันย่อยของดอลตัน ศึกษาและทดลองการแพร่และอตั ราการแพร่ของแก๊ส คำนวณเกี่ยวกับกฎการแพร่ผ่านของเกรแฮม ศึกษาเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้องกับสมบัติของแก๊ส ศึกษาและทดลอง เกี่ยวกับอัตราการเกิดปฏิกิริยาเคมี คำนวณอัตราการเกิดปฏิกิริยาเคมีของสารจากกราฟ ศึกษาและวิเคราะห์ แนวคิดเก่ียวกับการเกิดปฏิกิริยาเคมี โดยใช้ทฤษฎีจลน์และการชนกันของอนุภาค ศึกษา ทดลอง และอธิบาย ผลของความเข้มข้น พื้นที่ผิวของสารตั้งต้น อุณหภูมิ และตัวเร่งปฏิกิริยาที่มีต่ออัตราการเกิดปฏิกิริยาเคมี ยกตัวอย่างและอธิบายปัจจัยที่มีผลต่ออัตราการเกิดปฏิกิริยาเคมีในชีวิตประจำวัน หรืออุตสาหกรรม ศึกษาการ เกิดปฏิกริ ยิ าไปขา้ งหนา้ ปฏิกริ ยิ าย้อนกลับ และปฏกิ ิริยาทีผ่ ันกลบั ได้ ทดลองปฏิกริ ยิ าท่ผี นั กลับได้ ศกึ ษาและทดลอง สมดุลเคมีในปฏกิ ริ ิยา วิเคราะห์ความสัมพันธ์ระหว่างความเข้มข้นของสารต่าง ๆ ณ ภาวะสมดุล ค่าคงที่กบั สมการ เคมี คำนวณค่าคงที่สมดุล และหาความเข้มข้นของสารในปฏกิ ิริยา ณ ภาวะสมดุล ทดลองเพื่อศึกษาผลของความ เข้มข้น ความดัน และอุณหภูมิต่อภาวะสมดุลและคา่ คงที่สมดุล ศึกษาหลักของเลอชาเตอลิเอ และการนำหลักของ เลอชาเตอลิเอไปใช้อธิบายสมดุลเคมีของกระบวนการที่เกิดขึ้นในสิ่งมีชีวิต ปรากฏการณ์ในธรรมชาติและ กระบวนการในอุตสาหกรรม โดยใช้การเรยี นรู้ดว้ ยกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ การสืบเสาะหาความรู้ การสำรวจตรวจสอบ สามารถ นำความรู้และหลักการไปใช้ประโยชน์ เชื่อมโยง อธิบายปรากฏการณ์ หรือแก้ปัญหาในชีวิตประจำวัน สามารถ จัดทำและวิเคราะห์ข้อมูล สื่อสารสิ่งที่เรียนรู้ มีความสามารถในการตัดสินใจแก้ปัญหา มีจิตวิทยาศาสตร์ เห็น คุณค่าของวิทยาศาสตร์ มีจริยธรรม คุณธรรม และค่านยิ มที่เหมาะสม ผลการเรยี นรู้ 1. อธิบายความสัมพันธ์และคำนวณปริมาตร ความดัน หรืออุณหภูมิของแก๊สที่ภาวะต่าง ๆ ตามกฎของ บอยล์ กฎของชารล์ กฎของเกย์-ลูสแซก 2. คำนวณปริมาตร ความดนั หรอื อณุ หภูมิของแก๊สท่ีภาวะต่าง ๆ ตามกฎรวมแก๊ส 3. คำนวณปรมิ าตร ความดนั อณุ หภูมิ จำนวนโมล หรือมวลของแกส๊ จากความสมั พันธต์ ามกฎของอาโวกา- โดร และกฎแกส๊ อดุ มคติ 4. คำนวณความดันย่อยหรือจำนวนโมลของแก๊สในแก๊สผสม โดยใช้กฎความดันย่อยของดอลตัน 5. อธบิ ายการแพร่ของแก๊สโดยใช้ทฤษฎีจลน์ของแกส๊ คำนวณและเปรยี บเทยี บอัตราการแพร่ของแก๊สโดยใช้กฎ การแพรผ่ า่ นของเกรแฮม 6. สืบค้นข้อมลู นำเสนอตัวอยา่ ง และอธบิ ายการประยกุ ต์ใชค้ วามรเู้ กี่ยวกับสมบัตแิ ละกฎตา่ ง ๆ ของแกส๊ ในการ อธิบายปรากฏการณ์ หรือแกป้ ัญหาในชีวิตประจำวนั และในอตุ สาหกรรม 7. ทดลองและเขียนกราฟการเพ่ิมข้ึนหรือลดลงของสารท่ีทำการวัดในปฏิกิริยา 8. คำนวณอัตราการเกิดปฏิกิริยาเคมี และเขียนกราฟการลดลงหรือเพิ่มขึ้นของสารท่ีไม่ได้วัดในปฏิกิริยา 9. เขียนแผนภาพ และอธบิ ายทศิ ทางการชนกนั ของอนภุ าคและพลงั งานทสี่ ง่ ผลต่ออตั ราการเกดิ ปฏกิ ริ ิยาเคมี
๒๑๕ 10. ทดลอง และอธิบายผลของความเข้มข้น พ้ืนที่ผิวของสารต้ังต้น อุณหภูมิ และตัวเร่งปฏิกิริยาท่ีมีต่อ อัตราการเกิดปฏิกิริยาเคมี 11. เปรียบเทียบอัตราการเกิดปฏิกิริยาเมื่อมีการเปล่ียนแปลงความเข้มข้นพ้ืนที่ผิวของสารต้ังต้นอุณหภูมิ และตัวเร่งปฏิกิริยา 12. ยกตวั อย่างและอธิบายปจั จัยทม่ี ีผลต่ออัตราการเกิดปฏกิ ิรยิ าเคมใี นชีวิตประจำวัน หรอื อตุ สาหกรรม 13. ทดสอบและอธิบายความหมายของปฏิกิรยิ าผนั กลบั ได้และภาวะสมดลุ 14. อธิบายการเปลี่ยนแปลงความเข้มข้นของสารอัตราการเกิดปฏิกิริยาไปข้างหน้า และอัตราการเกิดปฏิกิริยา ย้อนกลบั เม่อื เริ่มปฏิกริ ยิ าจนกระท่งั ระบบอยใู่ นภาวะสมดุล 15. คำนวณคา่ คงท่สี มดุลของปฏกิ ริ ยิ า 16. คำนวณความเข้มข้นของสารที่ภาวะสมดุล 17. คำนวณคา่ คงท่สี มดุลหรอื ความเข้มข้นของปฏิกริ ยิ าหลายข้ันตอน 18. ระบปุ ัจจัยทมี่ ีผลต่อภาวะสมดลุ และคา่ คงท่ีสมดุลของระบบ รวมทง้ั คาดคะเนการเปล่ียนแปลงที่เกิดข้ึนเมื่อ ภาวะสมดุลของระบบถกู รบกวน โดยใชห้ ลักของเลอชาเตอลิเอ 19. ยกตัวอยา่ ง และอธิบายสมดุลเคมีของกระบวนการท่ีเกิดข้ึนในส่ิงมชี ีวติ ปรากฏการณใ์ นธรรมชาตแิ ละ กระบวนการในอุตสาหกรรม รวม 19 ผลการเรียนรู้
๒๑๖ คำอธบิ ายรายวชิ าเพิม่ เตมิ ว32222 เคมี 4 กลมุ่ สาระการเรียนร้วู ทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี ชนั้ มัธยมศกึ ษาปีท่ี 5 ภาคเรยี นที่ 2 เวลา 60 ช่ัวโมง ศึกษาไอออนในสารละลายกรดและเบส ทฤษฎีกรด-เบสของอาร์เรเนียส เบรินสเตด-ลาวรี และลิวอิส ศึกษาและทดลองเกี่ยวกับการถ่ายโอนโปรตอนของสารละลายกรด-เบส ศึกษาคู่กรด-เบส คำนวณและ เขียนสมการการแตกตัวของกรด-เบส การคำนวณค่าคงท่ีการแตกตัวเป็นไอออนของกรดอ่อนและเบสอ่อน ศึกษา และทดลองการแตกตัวเป็นไอออนของน้ำ การคำนวณค่าคงที่ของการแตกตัวของน้ำ pH ของสารละลายกรด-เบส ศึกษาและทดลองเรื่องปฏิกิริยาสะเทิน และปฏิกิริยาการเกิดเกลือจากปฏิกิริยาระหว่างสารละลายกรดกับ สารละลายเบส ปฏิกิริยาไฮโดรลิซิสของเกลือ ศึกษาเกี่ยวกับการไทเทรตสารละลาย กรด-เบส การเขียนกราฟและการหาจุดสมมูลจากกราฟของการไทเทรต และคำนวณหาความเข้มข้นของ สารละลายกรด-เบส ศึกษาหลักการเลือกใช้อินดิเคเตอร์สำหรับไทเทรตกรด-เบส ศึกษาและทดลองสมบัติความ เป็นบัฟเฟอร์ของสารละลาย ศึกษาและทดลองการถ่ายโอนอิเล็กตรอนในปฏิกิริยาระหว่างโลหะกับสารละลายของ โลหะไอออน ศึกษาปฏิกิริยาออกซิเดชัน ปฏิกิริยารีดักชัน ตัวรีดิวซ์ และตัวออกซิไดส์ การเขียนและดุลสมการรีดอกซ์โดยใช้เลขออกซิเดชันและครึ่งปฏิกิริยา ศึกษาเซลล์ไฟฟ้าเคมี ศึกษาและทดลอง เกี่ยวกับหลักการของเซลล์กัลวานิก ศึกษาการเขียนแผนภาพของเซลล์กัลวานิก การหาค่าศักย์ไฟฟ้าของเซลล์และ ศักย์ไฟฟ้ามาตรฐานของครึ่งเซลล์ปฏิกิริยาในเซลล์กัลวานิกประเภทเซลล์ปฐมภูมิและเซลล์ทุติยภูมิบางชนิด ทดลองเพื่อศึกษาหลักการสร้างและการทำงานของเซลล์สะสมไฟฟ้าแบบตะกั่ว ศึกษาหลักการของเซลล์อิเล็ก โทรไลติก และทดลองการแยกสารละลายด้วยไฟฟ้าตามหลักการของเซลล์อิเล็กโทรไลติก ศึกษาการแยกสารที่ หลอมเหลวด้วยไฟฟ้า ศึกษาและทดลองชุบโลหะด้วยกระแสไฟฟ้าศึกษาวิธีการทำให้โลหะบริสุทธิ์ ศึกษาและ ทดลองเกี่ยวกับการผุกร่อนและการป้องกันการผุกร่อนของโลหะ ศึกษาความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีที่เกีย่ วข้องกบั เซลล์ไฟฟ้าเคมี โดยใช้การเรียนรู้ด้วยกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ การสืบเสาะหาความรู้ การสำรวจตรวจสอบ สามารถ นำความรู้และหลักการไปใช้ประโยชน์ เชื่อมโยง อธิบายปรากฏการณ์ หรือแก้ปัญหาในชีวิตประจำวัน สามารถ จัดทำและวิเคราะห์ข้อมูล สื่อสารสิ่งที่เรียนรู้ มีความสามารถในการตัดสินใจแก้ปัญหา มีจิตวิทยาศาสตร์ เห็น คุณค่าของวิทยาศาสตร์ มีจริยธรรม คุณธรรม และค่านิยมที่เหมาะสม ผลการเรียนรู้ 1. ระบุ และอธบิ ายว่าสารเปน็ กรดหรอื เบสโดยใช้ทฤษฎกี รด–เบสของอารเ์ รเนียสเบรินสเตด–ลาวรีและ ลิวอสิ 2. ระบคุ ่กู รด-เบสของสารตามทฤษฎีกรด-เบสของเบรนิ สเตด-ลาวรี 3. คํานวณ และเปรยี บเทยี บความสามารถในการแตกตวั หรือความแรงของกรดและเบส 4. คํานวณค่า pH ความเข้มข้นของไฮโดรเนียมไอออนหรือไฮดรอกไซด์ไอออนของสารละลายกรดและ เบส 5. เขียนสมการเคมีแสดงปฏกิ ริ ยิ าสะเทิน และระบุความเป็นกรด-เบสของสารละลายหลงั การสะเทนิ 6. เขยี นปฏกิ ิริยาไฮโดรลิซิสของเกลอื และระบคุ วามเปน็ กรด-เบสของสารละลายเกลือ 7. ทดลอง และอธิบายหลักการการไทเทรตและเลือกใช้อินดิเคเตอร์ท่ีเหมาะสมสําหรับการไทเทรต กรด-เบส
๒๑๗ 8. คํานวณปริมาณสารหรือความเข้มข้นของสารละลายกรดหรือเบสจากการไทเทรต 9. อธบิ ายสมบัติองค์ประกอบ และประโยชน์ของสารละลายบัฟเฟอร์ 10. สืบค้นข้อมูลและนําเสนอตัวอย่างการใช้ประโยชน์ และการแก้ปัญหาโดยใช้ความรู้เก่ียวกับกรด–เบส 11. คํานวณเลขออกซิเดชัน และระบุปฏิกิริยาท่ีเป็นปฏิกิริยารีดอกซ์ 12. วเิ คราะห์การเปล่ยี นแปลงเลขออกซเิ ดชัน และระบุตัวรีดิวซ์และตัวออกซไิ ดส์ รวมทง้ั เขียนคร่งึ ปฏกิ ิรยิ า ออกซิเดชันและครึง่ ปฏิกิริยารีดักชันของปฏิกริ ยิ ารีดอกซ์ 13. ทดลอง และเปรยี บเทียบความสามารถในการเปน็ ตวั รีดิวซ์หรือตัวออกซิไดส์ และเขยี นแสดงปฏกิ ริ ิยา รีดอกซ์ 14. ดลุ สมการรดี อกซ์ดว้ ยการใชเ้ ลขออกซเิ ดชันและวิธีครง่ึ ปฏกิ ิรยิ า 15. ระบอุ งค์ประกอบของเซลล์เคมีไฟฟา้ และเขยี นสมการเคมีของปฏกิ ิริยาทแ่ี อโนดและแคโทด ปฏกิ ริ ยิ ารวม และแผนภาพเซลล์ 16. คาํ นวณคา่ ศักยไ์ ฟฟ้ามาตรฐานของเซลล์และระบปุ ระเภทของเซลลเ์ คมไี ฟฟ้า ขวั้ ไฟฟ้าและปฏิกริ ยิ าเคมีท่ี เกดิ ขนึ้ 17. อธบิ ายหลกั การทาํ งาน และเขียนสมการแสดงปฏิกริ ิยาของเซลล์ปฐมภูมิและเซลล์ทตุ ยิ ภูมิ 18. ทดลองชบุ โลหะและแยกสารเคมีดว้ ยกระแสไฟฟา้ และอธบิ ายหลักการทางเคมไี ฟฟ้าท่ใี ชใ้ นการชบุ โลหะ การ แยกสารเคมีด้วยกระแสไฟฟา้ การทาํ โลหะใหบ้ รสิ ุทธิ์ และการปอ้ งกนั การกดั กรอ่ นของโลหะ 19. สืบค้นข้อมลู และนําเสนอตวั อย่างความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีทเี่ กี่ยวขอ้ งกบั เซลล์เคมีไฟฟา้ ในชวี ติ ประจาํ วนั รวม 19 ผลการเรยี นรู้
๒๑๘ คำอธบิ ายรายวิชาเพ่มิ เตมิ ว30225 เคมี 5 กลมุ่ สาระการเรียนรวู้ ทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ชน้ั มธั ยมศกึ ษาปีท่ี 6 ภาคเรียนที่ 1 เวลา 60 ชวั่ โมง สืบค้นข้อมูลและนำเสนอตัวอย่างสารประกอบอินทรีย์ที่มีพันธะเดี่ยว พันธะคู่ หรือพันธะสาม เขียนสูตร โครงสร้างลิวอสิ สูตรโครงสร้างแบบย่อ และสตู รโครงสร้างแบบเสน้ ของสารประกอบอินทรีย์ วิเคราะห์โครงสร้างและ ระบปุ ระเภทของสารประกอบอนิ ทรยี ์จากหม่ฟู งั ก์ชนั เขียนสูตรโครงสร้างและเรียกช่ือสารประกอบอินทรีย์ประเภท ต่างๆ ที่มีหมู่ฟังก์ชันไม่เกิน 1 หมู่ ตามระบบ IUPAC เขียนไอโซเมอร์โครงสร้างของสารประกอบอินทรีย์ประเภท ตา่ งๆ วเิ คราะห์และเปรียบเทียบจุดเดือดและการละลายในนำ้ ของสารประกอบอนิ ทรียท์ ม่ี ีหมูฟ่ งั กช์ นั ขนาดโมเลกุล หรือโครงสร้างต่างกัน ระบุประเภทของสารประกอบไฮโดรคาร์บอนและเขียนผลิตภัณฑ์จากปฏิกิริยาการเผาไหม้ ปฏิกิริยากบั โบรมีน หรือปฏิกิริยากับโพแทสเซียมเปอร์แมงกาเนต เขียนสมการเคมีและอธิบายการเกดิ ปฏกิ ิริยาเอ สเทอริฟิเคชัน ปฏิกิริยาการสังเคราะห์เอไมด์ ปฏิกิริยาการไฮโดรลิซิส และปฏิกิริยาสะปอนนิฟิเคชัน ทดสอบ ปฏกิ ริ ยิ าเอสเทอริฟิเคชนั ปฏกิ ริ ิยาไฮโดรลซิ ิส และปฏิกริ ยิ าสะปอนนฟิ ิเคชนั สบื ค้นข้อมลู และนำเสนอตัวอยา่ งการ นำสารประกอบอินทรีย์ไปใช้ประโยชน์ในชีวิตประจำวันและอุตสาหกรรม ระบุประเภทของปฏิกิริยาการเกิดพอลิ เมอร์จากโครงสรา้ งของมอนอเมอรห์ รือพอลเิ มอร์ วิเคราะห์และอธิบายความสัมพันธร์ ะหว่างโครงสรา้ งและสมบตั ิ ของพอลิเมอร์ รวมทั้งการนำไปใช้ประโยชน์ ทดสอบและระบุประเภทของพลาสติกและผลิตภัณฑ์ยาง รวมทั้งการ นำไปใช้ประโยชน์ อธิบายผลของการปรบั เปลี่ยนโครงสรา้ ง และการสงั เคราะหพ์ อลิเมอร์ที่มีตอ่ สมบตั ิของพอลิเมอร์ สืบค้นข้อมลู และนำเสนอตวั อยา่ งผลกระทบจากการใช้และการกำจดั ผลิตภณั ฑ์พอลิเมอรแ์ ละแนวทางแก้ไข โดยใช้การเรียนรู้ด้วยกระบวนการทางวทิ ยาศาสตร์ การสบื เสาะหาความรู้ การสำรวจตรวจสอบ สามารถนำ ความรู้และหลักการไปใช้ประโยชน์ เชื่อมโยง อธิบายปรากฏการณ์ หรือแก้ปัญหาในชีวิตประจำวัน สามารถจัด กระทำและวเิ คราะหข์ อ้ มูล สอ่ื สารสงิ่ ที่เรียนรู้ มคี วามสามารถในการตดั สนิ ใจแก้ปัญหา มีจติ วิทยาศาสตร์ เห็นคณุ ค่า ของวทิ ยาศาสตร์ มจี ริยธรรม คุณธรรมและค่านิยมที่เหมาะสม ผลการเรียนรู้ 1. สืบค้นข้อมูลและนำเสนอตัวอย่างสารประกอบอินทรีย์ที่มีพันธะเดี่ยว พันธะคู่ หรือพันธะสามที่พบใน ชวี ติ ประจำวนั 2. เขยี นสูตรโครงสร้างลวิ อสิ สตู รโครงสร้างแบบยอ่ และสูตรโครงสร้างแบบเส้นของสารประกอบอินทรยี ์ 3. วิเคราะห์โครงสรา้ ง และระบุประเภทของสารประกอบอินทรีย์จากหมฟู่ ังกช์ ัน 4. เขียนสูตรโครงสร้างและเรียกชื่อสารประกอบอินทรีย์ประเภทต่างๆ ที่มีหมู่ฟังก์ชันไม่เกิน 1 หมู่ ตามระบบ IUPAC 5. เขยี นไอโซเมอรโ์ ครงสรา้ งของสารประกอบอินทรียป์ ระเภทต่างๆ
๒๑๙ 6. วเิ คราะห์ และเปรียบเทยี บจุดเดอื ดและการละลายในน้ำของสารประกอบอินทรีย์ท่ีมีหมู่ฟังก์ชัน ขนาดโมเลกุล หรือโครงสรา้ งตา่ งกนั 7. ระบุประเภทของสารประกอบไฮโดรคาร์บอนและเขียนผลิตภัณฑ์จากปฏิกริ ยิ าการเผาไหม้ ปฏกิ ิรยิ ากับโบรมีน หรือปฏิกิรยิ ากับโพแทสเซยี มเปอร์แมงกาเนต 8. เขียนสมการเคมีและอธิบายการเกิดปฏิกิรยิ าเอสเทอริฟิเคชนั ปฏกิ ริ ยิ าการสังเคราะห์เอไมด์ ปฏิกิริยาไฮโดรลิ ซิส และปฏกิ ิรยิ าสะปอนนิฟิเคชัน 9. ทดสอบปฏิกริ ิยาเอสเทอรฟิ ิเคชนั ปฏกิ ริ ิยาไฮโดรลซิ สิ และปฏกิ ิริยาสะปอนนฟิ ิเคชัน 10. สบื คน้ ขอ้ มลู และนำเสนอตวั อยา่ งการนำสารประกอบอินทรยี ์ไปใช้ประโยชนใ์ นชวี ิตประจำวันและอตุ สาหกรรม 11. ระบุประเภทของปฏิกิรยิ าการเกิดพอลเิ มอร์จากโครงสร้างของมอนอเมอร์หรอื พอลเิ มอร์ 12. วิเคราะห์ และอธิบายความสมั พันธ์ระหวา่ งโครงสร้างและสมบตั ิของพอลิเมอร์ รวมท้งั การนำไปใชป้ ระโยชน์ 13. ทดสอบ และระบปุ ระเภทของพลาสติกและผลิตภณั ฑ์ยาง รวมทั้งการนำไปใชป้ ระโยชน์ 14. อธิบายผลของการปรับเปลย่ี นโครงสร้าง และการสงั เคราะหพ์ อลิเมอร์ทมี่ ีตอ่ สมบตั ขิ องพอลเิ มอร์ 15. สบื คน้ ข้อมลู และนำเสนอตวั อยา่ งผลกระทบจากการใชแ้ ละการกำจดั ผลติ ภัณฑ์พอลเิ มอร์และแนว ทางแกไ้ ข รวม 15 ผลการเรยี นรู้
๒๒๐ คำอธบิ ายรายวชิ าเพิ่มเติม ว30226 เคมี 6 กลุ่มสาระการเรยี นรวู้ ทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี ชัน้ มัธยมศึกษาปที ี่ 6 ภาคเรยี นที่ 2 เวลา 60 ช่ัวโมง กำหนดปัญหาและนำเสนอแนวทางการแกป้ ัญหาโดยใช้ความรู้ทางเคมี แสดงหลักฐานการบูรณาการความรู้ ทางเคมีร่วมกับสาขาวิชาอื่น รวมทั้งทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ หรือกระบวนการออกแบบเชิงวศิ วกรรม เพื่อแก้ปัญหาในสถานการณ์หรือประเด็นที่สนใจ นำเสนอผลงานหรือชิ้นงานที่ได้จากการแก้ปัญหา และแสดง หลกั ฐานการเขา้ ร่วมการสมั มนา การเขา้ ร่วมประชมุ วชิ าการ หรอื การแสดงผลงานสิ่งประดิษฐ์ในงานนิทรรศการ โดยใช้การเรยี นรดู้ ้วยกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ การสืบเสาะหาความรู้ การสำรวจตรวจสอบ สามารถนำ ความรู้และหลักการไปใช้ประโยชน์ เชื่อมโยง อธิบายปรากฏการณ์ หรือแก้ปัญหาในชีวิตประจำวัน สามารถจัด กระทำและวเิ คราะห์ขอ้ มลู สือ่ สารสิง่ ทเี่ รยี นรู้ มีความสามารถในการตดั สินใจแกป้ ัญหา มีจิตวิทยาศาสตร์ เหน็ คณุ ค่า ของวทิ ยาศาสตร์ มจี ริยธรรม คณุ ธรรมและค่านยิ มทีเ่ หมาะสม ผลการเรียนรู้ 1. กำหนดปัญหาและนำเสนอแนวทางการแกป้ ญั หาโดยใช้ความรู้ทางเคมจี ากสถานการณ์ท่ีเกดิ ขน้ึ ในชีวิตประจำวัน การประกอบอาชีพ หรอื อตุ สาหกรรม 2. แสดงหลักฐานถึงการบรู ณาการความรู้ทางเคมรี ว่ มกับสาขาวิชาอื่น รวมทั้งทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ หรือกระบวนการออกแบบเชิงวิศวกรรม โดยเน้นการคิดวิเคราะห์ การแก้ปัญหาและความคิดสร้างสรรค์ เพื่อ แก้ปญั หาในสถานการณห์ รือประเด็นทสี่ นใจ 3. นำเสนอผลงานหรอื ชิน้ งานทไี่ ด้จากการแกป้ ัญหาในสถานการณ์หรือประเดน็ ท่ีสนใจ โดยใชเ้ ทคโนโลยสี ารสนเทศ 4. แสดงหลักฐานการเข้าร่วมการสัมมนา การเข้าร่วมประชุมวิชาการ หรือการแสดงผลงานสิ่งประดิษฐ์ในงาน นทิ รรศการ รวม 4 ผลการเรียนรู้
๒๒๑ คำอธิบายรายวิชาเพม่ิ เติม ว31241 ชีววิทยา 1 กลมุ่ สาระการเรียนรูว้ ทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี ช้นั มัธยมศึกษาปีท่ี 4 ภาคเรยี นที่ 1 เวลา 60 ช่วั โมง/ปี ศกึ ษา วเิ คราะห์ คุณสมบัติของส่งิ มีชีวิต ความหมายและขอบข่ายของชวี วทิ ยา ชวี วิทยากับการดำรงชีวิต และจริยธรรม วิธีการทางวิทยาศาสตร์ กล้องจุลทรรศน์ สารเคมีในเซลล์ของ สิ่งมีชีวติ ปฏิกิริยาเคมีในเซลล์ ของสิ่งมีชีวิต เซลล์และทฤษฎีเซลล์ โครงสร้างของเซลล์ที่ศึกษาด้วยกล้องจุลทรรศน์อเิ ล็กตรอน การศึกษาดุลย ภาพของเซลล์ การแบ่งเซลล์ การเปลี่ยนแปลงสภาพของเซลล์ เนื้อเยื่ออวัยวะ และระบบของร่างกาย โดยใช้ กระบวนการทางวทิ ยาศาสตร์ การสบื เสาะหาความรู้ การสำรวจตรวจสอบ การสืบค้นขอ้ มลู และอภิปราย เพื่อให้ เกดิ ความรู้ ความคิด ความเข้าใจ สามารถส่ือสารส่งิ ท่ีเรียนรู้ มคี วามสามารถในการตดั สนิ ใจ มีความรับผิดชอบ รอบคอบ สามารถนำความรไู้ ปใช้ในชวี ิตประจำวนั ได้ เพ่อื ใหน้ ักเรยี นมีการเรียนรู้ทีไ่ มจ่ ำกัดภายในหอ้ งเรียน และ สามารถสรา้ งสือ่ และนวัตกรรมต่างๆจากส่ิงท่ีมีอยู่ในท้องถิน่ ได้ มีจติ วทิ ยาศาสตร์ และจริยธรรมในการใช้ความรู้ ทางวทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยีอย่างมีคณุ ธรรมตอ่ สังคมและสง่ิ แวดล้อม ผลการเรียนรู้ 1. สบื ค้นขอ้ มูล อภิปราย สรปุ คณุ สมบัตขิ องส่งิ มชี ีวติ 2. สืบคน้ ขอ้ มลู สรปุ ความหมาย และขอบขา่ ยของวิชาชีววิทยา 3. สบื คน้ ข้อมูลอภิปราย และวิเคราะห์ข้อมูลเกยี่ วกับผลของชีววทิ ยา ทน่ี ำไปใช้ในการดำรงชวี ิตได้อยา่ งสร้างสรรค์ 4. สำรวจ วเิ คราะห์ วธิ ีการทางวทิ ยาศาสตร์ และนำไปใช้ในการศึกษาชวี วทิ ยา 5. ศึกษาคน้ คว้า ทดลองเกีย่ วกับส่วนประกอบและหน้าทขี่ องกลอ้ งจลุ ทรรศน์ และนำไปใช้ไดอ้ ยา่ งถูกต้อง 6. สืบคน้ ขอ้ มลู ทดลอง และอธิบายโครงสร้างและความสำคัญของสารเคมีในเซลล์ 7. สบื คน้ ขอ้ มูล ทดลอง อธบิ าย และสรปุ ปฏิกริ ิยาเคมใี นเซลลข์ องสง่ิ มีชวี ติ 8. สบื ค้นขอ้ มลู ทดลอง สรุป เกย่ี วกับทฤษฎีเซลล์ และโครงสรา้ งพืน้ ฐานของเซลล์ 9. สืบคน้ ขอ้ มูล นำเสนอ อภปิ ราย สรปุ โครงสรา้ งของเซลล์ ที่ศกึ ษาดว้ ยกลอ้ งจุลทรรศนอ์ เิ ล็กตรอน 10. สืบคน้ ขอ้ มูล สำรวจตรวจสอบ อภปิ ราย สรุปการศึกษาดุลยภาพของเซลล์ และการส่ือสารระหวา่ งเซลล์ 11. สืบค้นข้อมลู สำรวจตรวจสอบอภิปราย สรุป การแบ่งเซลล์แบบไมโทซิสและไมโอซสิ 12. สืบค้นข้อมูล อภิปราย และอธิบายสรุปเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงสภาพของเซลล์เนื้อเยื่อ และระบบของ ร่างกาย รวมท้งั หมด 12 ผลการเรียนรู้
๒๒๒ คำอธิบายรายวชิ าเพ่ิมเตมิ ว31242 ชวี วิทยา 2 กล่มุ สาระการเรยี นรู้วิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ช้ันมัธยมศึกษาปีที่ 4 ภาคเรียนท่ี 2 เวลา 60 ช่ัวโมง/ปี ศึกษา วิเคราะห์ การย่อยอาหารของจลุ นิ ทรยี ์ การยอ่ ยอาหารของสตั ว์บางชนดิ การยอ่ ย อาหารของคน การหายใจของเซลล์ โครงสรา้ งทใี่ ช้ในการแลกเปลย่ี น แกส๊ การสูดลมหายใจและการแลกเปลย่ี นแกส๊ การรกั ษา สมดลุ ของรา่ งกาย การขับถา่ ยของส่งิ มชี ีวิตเซลลเ์ ดยี วและสตั ว์บางชนิด การลำเลียงสารในรา่ งกายของคน ส่วนประกอบของเลอื ดคน หมเู่ ลอื ดและการใหเ้ ลือด ระบบนำ้ เหลือง ภมู ิคุ้มกนั ของร่างกาย โดยใช้กระบวนการทางวิทยาศาสตร์ การสืบเสาะหาความรู้ การสำรวจตรวจสอบ การสบื คน้ ขอ้ มลู และอภิปราย เพ่ือใหเ้ กิดความรู้ ความคดิ ความเข้าใจ สามารถสือ่ สารสิ่งท่ีเรียนรู้ มคี วามสามารถในการตัดสนิ ใจ มี ความรบั ผิดชอบ รอบคอบ สามารถนำความรู้ไปใช้ในชวี ติ ประจำวนั ได้ มีจิตวิทยาศาสตร์ และจริยธรรมในการใช้ ความรทู้ างวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยอี ย่างมีคณุ ธรรมตอ่ สังคมและสง่ิ แวดล้อม และ เพ่อื ให้นักเรียนมีการเรียนรู้ท่ี ไม่จำกดั ภายในห้องเรยี น และสามารถสร้างสื่อและนวตั กรรมต่างๆจากส่ิงทีม่ ีอยู่ในทอ้ งถิ่นได้ ผลการเรยี นรู้ 1. อธิบายกระบวนการย่อยอาหารของจลุ นิ ทรีย์ และสัตวบ์ างชนิดทไี่ ม่มที างเดนิ อาหาร 2. อธบิ ายลกั ษณะของทางเดนิ อาหารและการยอ่ ยอาหารของสัตว์บางชนิด 3. ระบสุ ว่ นประกอบและหน้าท่ีของทางเดินอาหารของคน 4. อธบิ ายกระบวนการยอ่ ยทางเคมแี ละการดูดซมึ ในทางเดินอาหารส่วนต่าง ๆ ของคน 5. อธบิ ายปฏิกริ ยิ าการสลายโมเลกลุ ของสารอาหารแบบใช้ออกซิเจน และไม่ใชอ้ อกซเิ จน 6. อธบิ ายโครงสร้างและบทบาทสำคญั ของไมโทคอนเดรยี ทเี่ กย่ี วกับปฏิกริ ยิ าการหายใจระดบั เซลล์ 7. อธบิ ายโครงสรา้ งและกลไกการแลกเปลยี่ นก๊าซของโพรตีสและสตั วบ์ างชนิด 8. อธบิ ายกลไกการทำงานต่าง ๆ ที่เกีย่ วข้องกบั การหายใจเขา้ และการหายใจออกของคน 9. ทำกิจกรรมศกึ ษาอัตราการหายใจของสตั ว์ และศกึ ษาโครงสร้างปอดของสัตว์เลี้ยงลกู ดว้ ยนำ้ นม 10. อธบิ ายการรักษาสมดุลของนำ้ และแรธ่ าตุ กรด – เบส และอุณหภมู ขิ องร่างกายของสิ่งมีชีวติ บางชนิด 11. อธบิ ายความหมายและความสำคัญของกระบวนการขับถ่ายของสิง่ มีชวี ิตเซลลเ์ ดยี วและสัตวบ์ างชนิด
๒๒๓ 12. อธิบายโครงสรา้ งและกระบวนการทำงานของไตคนในดา้ นการขับถา่ ยและการรักษาสมดลุ ของนำ้ 13. อธบิ ายกระบวนการลำเลียงสารและระบบหมนุ เวยี นเลือดของสัตว์บางชนิด 14. อธบิ ายโครงสร้างของ ระบบลำเลยี งสารในรา่ งกายของคน และความสำคัญของหวั ใจความดนั เลือด ท่ีมีผลต่อ ร่างกาย 15. อธบิ ายส่วนประกอบของเลือดคน 16. อธบิ ายหลักการให้และรับเลือดในคน 17. อธิบายโครงสรา้ งของระบบนำ้ เหลอื ง และส่วนประกอบของนำ้ เหลือง 18. อธิบายสาเหตขุ องการเกิดโรคและวิธกี ารปอ้ งกนั โรคบางชนดิ ทเ่ี กิดจากความผิดปกติของภมู ิคุ้มกนั รวมทัง้ หมด 18 ผลการเรียนรู้
๒๒๔ คำอธบิ ายรายวิชาเพิม่ เติม ว32241 ชวี วิทยา 3 กล่มุ สาระการเรยี นรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ชั้นมธั ยมศกึ ษาปที ่ี 5 ภาคเรียนที่ 1 เวลา 60 ช่ัวโมง/ปี ......................................................................................................................................................................... ศึกษาวิเคราะห์ การเคลื่อนท่ีของสง่ิ มีชีวิตเซลล์เดียว การเคลื่อนท่ีของสัตว์ไมม่ กี ระดูกสนั หลงั การเคล่ือนท่ีของ สตั ว์มีกระดูกสนั หลัง การรบั รู้ และการตอบสนอง การตอบสนองของส่งิ มีชวี ิตเซลล์เดียวและสัตว์บางชนิด เซลล์ประสาท การทำงานของเซลล์ประสาท โครงสร้างของระบบประสาท การทำงานของระบบประสาทสงั่ การ อวัยวะรบั ความรสู้ กึ ตอ่ มไรท้ ่อ ฮอร์โมนจากต่อมไรท้ อ่ และอวยั วะที่สำคัญ การรักษาดุลยภาพของร่างกายดว้ ยฮอร์โมน ฟีโรโมน กลไกการเกิด พฤติกรรมของสัตว์ ประเภทพฤติกรรมของสัตว์ ความสัมพนั ธ์ระหว่างพฤติกรรมกับพฒั นาการของระบบประสาท การ สอ่ื สารระหว่างสัตว์ การสืบพันธแุ์ ละการเจริญเติบโตของสัตว์ โดยใชก้ ระบวนการทางวิทยาศาสตร์ กระบวนการสืบเสาะหาความรู้ การสำรวจตรวจสอบ การสังเกต การ สืบคน้ ขอ้ มูล การอภิปราย สรุป เพื่อใหเ้ กดิ ความรู้ ความคิด ความเข้าใจ สื่อสารสงิ่ ที่เรียนรู้ มคี วามสามารถในการตัดสินใจ นำความร้ไู ปใช้ ในชวี ติ ของตนเอง ดแู ลรกั ษาสิ่งมชี วี ติ อนื่ เฝ้าระวังและพัฒนาส่งิ แวดล้อมอย่างยั่งยนื มจี ิตวทิ ยาศาสตร์ จรยิ ธรรม คณุ ธรรม คา่ นยิ ม และเพ่อื ใหน้ กั เรียนมีการเรียนร้ทู ีไ่ มจ่ ำกัดภายในห้องเรยี น และสามารถสรา้ งสอื่ และนวัตกรรม ต่างๆจากสิ่งท่ีมอี ยใู่ นท้องถน่ิ ได้ ผลการเรยี นรู้ 1. สามารถสืบค้นข้อมูล สำรวจตรวจสอบและอธิบายการเคลื่อนทีข่ องสิ่งมีชวี ิตเซลล์เดียว สัตว์ไม่มีกระดูกสันหลงั และมีกระดูกสันหลงั 2. สามารถสืบค้นขอ้ มลู สำรวจตรวจสอบอภปิ รายและอธบิ ายสว่ นประกอบหนา้ ทข่ี องกระดกู สนั หลังคน ชนิดของขอ้ ต่อและการทำงานของข้อตอ่ แบบตา่ งๆ 3. สามารถสบื คน้ ขอ้ มลู อภปิ รายและเปรยี บเทียบลกั ษณะ ตำแหนง่ และหนา้ ทีข่ องกลา้ มเน้ือยดึ กระดกู กลา้ มเนอ้ื หวั ใจ กลา้ มเน้อื เรียบ ตลอดจนการทำงานของกล้ามเน้ือ 4. สามารถสืบค้นข้อมูล สำรวจตรวจสอบและเปรียบเทียบวิธีการรับรู้และตอบสนองต่อสิ่งเราของสิ่งมีชีวิตเซลล์ เดยี วและสัตว์มีกระดกู สนั หลงั บางชนดิ 5. สามารถสืบค้นข้อมูล สำรวจตรวจสอบอธิบายและจำแนกสว่ นประกอบ และหน้าที่ของเซลล์ประสาทพร้อมทั้ง สรุปการเกดิ กระแสประสาท 6. สามารถสืบคน้ ขอ้ มลู อภปิ รายและอธิบายโครงสร้างละหนา้ ทีข่ องสมองและไขสันหลัง 7. สามารถสืบคน้ ข้อมูล อธิบายและเปรยี บเทียบการทำงานของระบบประสาทโซมาติกและระบบประสาทอตั โนมัติ
๒๒๕ 8. สามารถสืบค้นข้อมูล สำรวจตรวจสอบและอธิบายโครงสร้างและการทำงานของอวัยวะรับสัมผัสแต่ละประเภท พร้อมท้ังนำความรคู้ วามรู้ความเข้าใจมาใช้ และหาวธิ ปี อ้ งกนั อันตรายท่ีจะเกิดขนึ้ ต่อระบบประสาทและอวัยวะ รับสมั ผสั 9. สามารถสบื ค้นข้อมลู อภปิ รายและอธบิ ายตำแหน่งโครงสร้างและหน้าที่ของต่อมไร้ท่อที่สำคญั ของคนรวมทั้งชนิด ของฮอร์โมนท่ีสำคญั ท่สี ร้างขนึ้ จากต่อมท่อ 10. สามารถสืบค้นข้อมูล อธิบายและสรุปกลไกการควบคุมการทำงานของฮอร์โมนพร้อมทั้งเปรียบเทียบความ แตกต่างของฮอร์โมนกับ ฟีโรโมน รวมทั้งยกตัวอย่างการใช้ประโยชน์จากฮอร์โมนและฟีโรโมนที่เกี่ยวข้องกับ ชวี ติ ประจำวัน 11. สามารถสืบค้น สำรวจตรวจสอบ และสรุปความหมายและวิธกี ารศึกษาพฤติกรรมของสัตวจ์ ำแนกพฤตกิ รรมของ สตั วแ์ ละจำแนกพฤตกิ รรมท่ีมมี าตั้งแต่เกิด พฤตกิ รรมการเรยี นร้พู รอ้ มท้งั ยกตัวอยา่ ง 12. สามารถสืบค้น อภปิ รายและสรปุ ความสัมพันธ์ระหว่างพฤตกิ รรมกับการพฒั นาการของระบบประสาท 13. สามารถสบื ค้นข้อมูล อภิปรายและเปรยี บเทยี บการส่ือสารระหว่างสตั ว์แบบตา่ งๆ พรอ้ มทัง้ ยกตวั อยา่ ง 14. สามารถสืบค้นขอมูล อภิปรายอธิบาย และสรุปความสำคัญของการสืบพันธ์ สรุปการสืบพันธ์ของคน การสืบ พนั ธ์ของสง่ิ มชี วี ิตเซลลเ์ ดยี วและสตั ว์บางชนิด 15. สามารถสำรวจ ตรวจสอบ และอภปิ ราย และอธบิ ายกระบวนการสร้างเซลลส์ บื พนั ธข์ องสัตวเ์ ลย้ี งลกู ดว้ ยนม 16. สามารถสบื คน้ ขอ้ มลู อภิปรายและอธิบาย การใชเ้ ทคโนโลยีในการแก้ปัญหาภาวะมบี ตุ รยาก 17. สามารถสืบค้นข้อมลู อภิปรายและอธบิ ายกระบวนการเจรญิ เติบโตของส่งิ มีชีวติ เซลลเ์ ดยี วและสัตว์บางชนดิ 18. สามารถสบื คน้ ขอ้ มลู อภิปรายและอธบิ าย กระบวนการเจริญเตบิ โตของคน 19. สามารถสืบค้นข้อมูล อภิปรายและอธิบาย และยกตัวอย่างความผิดปกติของการตั้งครรภ์ และสภาวะบาง ประการท่ีมีผลตอ่ การเจรญิ เตบิ โตของทารกในครรภ์ รวมท้ังหมด 19 ผลการเรยี นรู้
๒๒๖ คำอธิบายรายวชิ าเพิม่ เตมิ ว32242 ชวี วทิ ยา 4 กลมุ่ สาระการเรยี นรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปที ่ี 5 ภาคเรียนท่ี 2 เวลา 60 ชว่ั โมง/ปี ......................................................................................................................................................................... ศึกษาวเิ คราะห์เนอ้ื เย่ือพชื โครงสร้างและหน้าท่ขี องราก โครงสร้างและหน้าท่ขี องลำต้น โครงสรา้ งและหน้าที่ ของใบ การคายนำ้ ของพืช การลำเลียงน้ำของพืช การลำเลียงธาตอุ าหารของพืช การลำเลยี งสารอาหารของพชื การ ค้นคว้าที่เกีย่ วข้องกับกระบวนการสังเคราะห์ดว้ ยแสง กระบวนการสังเคราะห์ด้วยแสง โฟโตเรสไพเรชัน กลไกการ เพิ่มความเข้มข้นของคาร์บอนไดออกไซค์ในพืช C4 กลไกการเพิ่มความเข้มข้นของคาร์บอนไดออกไซค์ในพืช CAM ปัจจัยบางประการที่มผี ลต่อการสังเคราะห์ด้วยแสง การปรับตัวของพืชเพื่อรับแสง การสืบพันธุแ์ บบอาศัยเพศของพืช ดอก การสืบพันธุ์แบบไม่อาศัยเพศของพืชดอก การเจริญเติบโตของพืช การควบคุมการเจริญเติบโตของพืช การ ตอบสนองของพชื ต่อส่ิงแวดลอ้ ม โดยใช้กระบวนการทางวิทยาศาสตร์ กระบวนการสืบเสาะหาความรู้ การสำรวจตรวจสอบ การสังเกต การ สืบคน้ ขอ้ มลู การอภิปราย สรุป เพอ่ื ให้เกดิ ความรู้ ความคิด ความเข้าใจ สือ่ สารสิง่ ทเ่ี รียนรู้ มีความสามารถในการตดั สนิ ใจ นำความรู้ไปใช้ ในชีวิตของตนเอง ดแู ลรักษาสิง่ มีชวี ิตอ่ืน เฝ้าระวงั และพัฒนาสิง่ แวดลอ้ มอยา่ งยัง่ ยืน มีจติ วิทยาศาสตร์ จรยิ ธรรม คณุ ธรรม และคา่ นยิ ม และเพื่อใหน้ ักเรียนมกี ารเรยี นรทู้ ่ไี มจ่ ำกัดภายในหอ้ งเรียน และสามารถสร้างส่อื และ นวัตกรรมตา่ งๆจากสิ่งทมี่ อี ย่ใู นท้องถิน่ ได้ ผลการเรียนรู้ 1. สามารถค้นข้อมลู และอธิบายลักษณะของโครงสร้างและหน้าท่ีของราก ลำตน้ ใบ 2. สำรวจตรวจสอบและอภิปรายลกั ษณะโครงสร้างของราก ลำตน้ ใบ ท่สี มั พันธก์ ับหน้าท่ี 3. สำรวจตรวจสอบโครงสรา้ งภายในตดั ตามขวางของราก ลำตน้ ใบ 4. สำรวจตรวจสอบตำแหนง่ และจำนวนปากใบของพืชในท้องถน่ิ 5. สามารถสืบค้นขอ้ มูลอภปิ รายและสรุปการคายน้ำของพืช การลำเลียงนำ้ ธาตุอาหาร และ สารอาหารของพืช และตรวจสอบอัตราการคายนำ้ ของพชื 6. สามารถวิเคราะหส์ รุปผลการค้นควา้ ของนกั วิทยาศาสตรใ์ นอดีตจนถงึ ปัจจุบนั เกย่ี วกับกระบวนการสังเคราะห์ด้วย แสง 7. สามารถสืบคน้ การทดลองและสรุปความสามารถในการดดู กลนื แสงของสารส่ีชนดิ ตา่ งๆ 8. สบื คน้ อภปิ รายและสรปุ ขน้ั ตอนกระบวนการสงั เคราะหด์ ว้ ยแสงและโฟโตเรสไพเรชัน 9. อภปิ รายและเปรยี บเทยี บกลไกการเพิ่มความเข้มขน้ ของคาร์บอนไดออกไซดใ์ นพืชC4 และพืช CAM
๒๒๗ 10. สามารถสำรวจตรวจสอบ วเิ คราะห์และอธิบายเกย่ี วกบั ปจั จัยบางประการทม่ี ีผลต่ออัตราการสงั เคราะห์ด้วยแสง การทดลองและสรปุ เกยี่ วกบั ปจั จยั บางประการท่ีมีผลตอ่ อตั ราการสงั เคราะหด์ ้วยแสงของพืช 11. สามารถคน้ ข้อมูลและอภปิ รายเกี่ยวกับการปรบั ปรงุ ตวั ของพชื เพ่อื รับแสง 12. สำรวจตรวจสอบและสรุปถงึ โครงสร้างของดอกและอธิบายการสร้างเซลล์สืบพนั ธ์ุของพืชดอก สรุปถึงชนิดและ ส่วนประกอบของผล 13. สืบค้นข้อมูลและสรุปการเกดิ ผลและเมลด็ และสรุปถึงส่วนประกอบของเมลด็ การงอกของเมลด็ ชนิดต่างๆและ ปจั จัยในการงอกของเมล็ด 14. การสืบพันธ์ุแบบอาศัยเพศของพืชดอกการสืบพันธแ์ุ บบไม่อาศัยเพศของพืชดอกและการขยายพันธุพ์ ืช และการ วดั การเจริญเติบโตของพืช 15. สามารถค้นขอ้ มลู เกยี่ วกับสารควบคุมการเจรญิ เติบโตของพชื การตอบสนองของพชื ต่อส่ิงแวดล้อม 16. สามารถสรุปเกี่ยวกับการตอบสนองต่อแสงของปลายยอดพืช วิเคราะห์เกี่ยวกับอิทธิพลของสารควบคุมการ เจรญิ เตบิ โตท่ีมีผลต่อสว่ นตา่ งๆของพชื 17. อภปิ รายและสรุปเก่ยี วกับชนิดและหนา้ ทข่ี องฮอร์โมนพืชและการตอบสนองของพืชตอ่ แรงโนม้ ถว่ งของโลก 18. อธบิ ายปัจจยั กระต้นุ ท่ีมีผลต่อการเคล่ือนไหวของพชื ช้ันสงู และการเคลื่อนไหวของพืชชัน้ สงู แบบตา่ งๆ รวมทง้ั หมด 18 ผลการเรยี นรู้
๒๒๘ คำอธิบายรายวิชาเพ่ิมเตมิ ว30245 ชวี วิทยา 5 กล่มุ สาระการเรยี นร้วู ิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ช้นั มธั ยมศึกษาปที ี่ 6 ภาคเรียนท่ี 1 เวลา 60 ชัว่ โมง/ปี ......................................................................................................................................................................... ศึกษา วิเคราะห์ การศึกษาพันธุกรรมของเมนเดล การค้นพบกฎการถ่ายทอดลักษณะทางพันธุกรรม ความหมายของลักษณะเด่น ลักษณะดอ้ ย ฟีโนไทป์ จีโนไทป์ สภาพของฮอมอไซกัส สภาพ เฮเทอโรไซกัส อัล ลีล เทสต์ครอส ลักษณะพันธุกรรมที่นอกเหนือกฎของเมนเดล การค้นพบสารพันธุกรรม การค้นพบบทบาทของ โครโมโซม รูปร่าง ลกั ษณะ จำนวนและส่วนประกอบของโครโมโซม จีโนม องคป์ ระกอบทางเคมี และโครงสร้าง ของโมเลกุล DNA การสงั เคราะห์ DNA DNA ควบคมุ ลักษณะพนั ธกุ รรม การสังเคราะหโ์ ปรตีน การเกดิ มิวเทชัน พันธุวิศวกรรม โคลนนิ่ง และการประยุกต์ใช้ประโยชน์ต่อมนุษย์ หลักฐานที่บ่งบอกถึงวิวัฒนาการของสิ่งมีชีวิต แนวความคดิ เก่ยี วกบั วิวัฒนาการของส่ิงมชี ีวิต กลไกการเกดิ ววิ ัฒนาการ กำเนดิ ของสปซี ีส์ องค์ประกอบของความ หลากหลายทาง ชีวภาพ ระบบการจดั หมวดหมู่ของสง่ิ มีชีวิต ความหลากหลายของกล่มุ โพรคาริโอต โพรทิสต์ พชื ฟงั ไจ และสัตว์ กำเนดิ ของมนุษย์ และความหลากหลายทาง ชวี ภาพในประเทศไทย โดยใช้กระบวนการทางวิทยาศาสตร์ การสืบเสาะหาความรู้ การสำรวจตรวจสอบ การสืบค้นข้อมูล และอภปิ ราย เพื่อให้เกิดความรู้ ความคิด ความเข้าใจ สามารถสื่อสารสิ่งที่เรียนรู้ มีความสามารถในการ ตัดสินใจ มีความรับผิดชอบ รอบคอบ สามารถนำความรู้ไปใช้ในชีวิตประจำวันได้ มีจิตวิทยาศาสตร์ และ จริยธรรมในการใช้ความรู้ทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีอย่างมีคุณธรรมต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม และเพื่อให้ นักเรยี นมกี ารเรียนรทู้ ไ่ี มจ่ ำกัดภายในหอ้ งเรยี น และสามารถสรา้ งส่ือและนวัตกรรมต่างๆจากสงิ่ ที่มีอยู่ในท้องถ่ิน ได้ ผลการเรยี นรู้ 1. สบื ค้นขอ้ มูล อภิปราย วิเคราะห์ และอธิบาย สรปุ การคน้ พบกฎการถา่ ยทอดทางพนั ธุกรรม 2. สบื คน้ ขอ้ มูล อภิปรายและวเิ คราะห์การถ่ายทอดลกั ษณะทางพนั ธกุ รรมท่ีนอกเหนือกฎของ เมลเดล และความแปรผันทางพนั ธุกรรม 3. สบื ค้นข้อมูล อภิปราย และอธิบายการถา่ ยทอดยนี และโครโมโซม ลักษณะ และสว่ นประกอบของโครโมโซม 4. สบื คน้ ขอ้ มลู วิเคราะห์ อภิปรายและสรุปผลการทดลองของนกั วิทยาศาสตร์ เพื่อนำไปสกู่ ารค้นพบสาร พนั ธกุ รรม 5. สืบค้นขอ้ มูล อภิปราย และอธบิ ายถงึ สว่ นประกอบของนิวคลโี อไทป์ จำแนกชนดิ ของนิวคลโี อไทป์ เขียนภาพ แสดงการเกิดสายพอลินวิ คลีโอไทป์ และโมเลกลุ ของ DNA
๒๒๙ 6. สบื คน้ ขอ้ มูล วิเคราะห์ อภปิ ราย อธบิ ายและสรุปผลการศึกษาของนกั วิทยาศาสตรเ์ ก่ียวกับสว่ นประกอบและ โครงสรา้ งของ DNA 7. สืบค้นข้อมูล อภิปราย และอธิบายสมบัติของสารพันธุกรรม กระบวนการจำลอง DNA และกระบวนการ สังเคราะหโ์ ปรตนี 8. สบื คน้ ขอ้ มลู อภปิ ราย วิเคราะห์และสรปุ เกีย่ วกับการเกิดมิวเทชนั และผลของการเกิดมวิ เทชนั 9. สืบค้นขอ้ มูล อภิปราย นำเสนอ และนำความรู้เรือ่ งเทคโนโลยีชวี ภาพไปประยุกต์ใชใ้ ห้เปน็ ประโยชน์ต่อสังคม และสิง่ แวดลอ้ ม 10. สืบคน้ ขอ้ มูล อภิปราย และอธบิ ายเก่ยี วกับหลักฐานต่างๆ ที่สนบั สนนุ การเกิดวิวฒั นาการของสง่ิ มีชีวิต และ อธบิ ายเปรยี บเทยี บแนวคิดเก่ียวกับวิวฒั นาการของลามาร์ก และชาลส์ ดารว์ นิ 11. สำรวจตรวจสอบ สบื ค้นขอ้ มูล อภิปราย และอธบิ ายเกีย่ วกับการหาความถี่ของแอลลีล และความถี่ของจีโน ไทป์ในประชากร อธิบายกระบวนการเกิดสปีชีส์ใหม่ของสิ่งมีชีวิต และนำเสนอผลกระทบจากการพัฒนา ทางด้านเทคโนโลยีตอ่ การเกดิ ววิ ฒั นาการของสง่ิ มชี วี ิต 12. สืบค้นข้อมูล อภิปรายและอธิบายเกี่ยวกับองค์ประกอบของความหลากหลายทางชีวภาพการศึกษาความ หลากหลายทางชวี ภาพ การจัดหมวดหมู่ของสิง่ มชี ีวิต การตั้งชื่อของสิ่งมีชีวิต พร้อมท้ังระบุเกณฑ์ท่ีใชใ้ นการ จำแนกกลมุ่ ของสง่ิ มีชีวิต 13. สบื ค้นข้อมลู อภปิ รายและนำเสนอคุณค่าของความหลากหลายของสง่ิ มชี วี ิตกับการใชป้ ระโยชน์ของมนษุ ย์ ที่ มผี ลต่อสงั คม และส่ิงแวดลอ้ ม 14. สืบคน้ ขอ้ มูล อภิปรายเก่ยี วกบั สถานการณค์ วามหลากหลายทางชีวภาพในประเทศไทยรวมทง้ั ตระหนักถงึ ผลก กระทบจากการสญู เสียความหลากหลายทางชีวภาพ 15. สบื คน้ วิเคราะห์ และนำเสนอ ลักษณะทีส่ ำคญั และความหลากหลายของสิ่งมชี วี ติ ในอาณาจักรมอเนอรา 16. สืบค้น วิเคราะห์ และนำเสนอ ลกั ษณะท่สี ำคัญ และความหลากหลายของสงิ่ มชี ีวติ ในอาณาจักรโพรทิสตา 17. สืบค้น วิเคราะห์ และนำเสนอ ลกั ษณะที่สำคัญ และความหลากหลายของสง่ิ มีชวี ิต ในอาณาจกั รพืช 18. สืบค้น วิเคราะห์ และนำเสนอ ลักษณะทส่ี ำคัญ และความหลากหลายของส่งิ มชี ีวติ ในอาณาจักรฟงั ใจ 19. สบื ค้น วิเคราะห์ และนำเสนอ ลักษณะทสี่ ำคัญ และความหลากหลายของสง่ิ มีชีวิต ในอาณาจกั รสตั ว์ รวมท้ังหมด 19 ผลการเรียนรู้
๒๓๐ คำอธิบายรายวชิ าเพม่ิ เติม ว30246 ชีววทิ ยา 6 กลุม่ สาระการเรียนรวู้ ิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ช้นั มธั ยมศึกษาปีท่ี 6 ภาคเรยี นที่ 2 เวลา 60 ช่ัวโมง/ปี ......................................................................................................................................................................... ศกึ ษา วเิ คราะห์ สืบคน้ สำรวจ ตรวจสอบ ทำปฏิบตั กิ าร อภิปราย และนำเสนอ ความคิดเกี่ยวกับ ระบบนิเวศในรูปแบบหลากหลาย วิเคราะห์สาเหตุและผลกระทบต่อระบบนเิ วศ ทรัพยากร ธรรมชาติ ประชากร มนุษย์และการพัฒนาที่ยั่งยืน เพื่อให้มีความรู้ ความเข้าใจในความสัมพันธ์ของสิ่งแวดล้อมทั้งระบบ สามารถ แกป้ ญั หา วางแผน เสนอแนวทางเพอื่ แก้ปัญหาและ จดั การทรพั ยากร ธรรมชาติ โดยใช้กระบวนการทางวิทยาศาสตร์ การสืบเสาะหาความรู้ การสำรวจตรวจสอบ การสืบค้นข้อมูล และอภปิ ราย เพื่อให้เกิดความรู้ ความคิด ความเข้าใจ สามารถสื่อสารสิ่งที่เรียนรู้ มีความสามารถในการ ตัดสินใจ มีความรับผิดชอบ รอบคอบ สามารถนำความรู้ไปใช้ในชีวิตประจำวันได้ มีจิตวิทยาศาสตร์ และ จริยธรรมในการใช้ความรู้ทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีอย่างมีคุณธรรมต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม และเพื่อให้ นักเรยี นมกี ารเรยี นรทู้ ไ่ี ม่จำกดั ภายในหอ้ งเรยี น และสามารถสร้างส่ือและนวตั กรรมต่างๆจากสง่ิ ที่มอี ยู่ในท้องถิ่น ได้ ผลการเรยี นรู้ 1. สืบค้นข้อมูล สำรวจ วิเคราะห์ อภิปราย และอธิบายความสำคัญของความหลากหลายของระบบนิเวศ และ ดุลยภาพของระบบนิเวศ 2. สืบค้นขอ้ มลู วิเคราะห์ อภิปราย และอธิบายความสัมพันธ์ในระบบนิเวศ 3. สบื คน้ ขอ้ มูล สำรวจ ตรวจสอบ วเิ คราะห์ อภิปราย และอธบิ ายการถา่ ยทอดพลังงาน และการหมุนเวียนของ สารในระบบนิเวศ 4. สำรวจ วิเคราะห์ และอธิบายหลกั การของกระบวนการเปล่ียนแปลงแทนที่ในท้องถิน่ พร้อมท้งั ยกตัวอย่างการ เปล่ียนแปลงแทนท่ี 5. สืบค้นข้อมูล อภิปราย และอธิบายความหมายของคำว่าประชากร วิเคราะห์ความหนาแนน่ ของประชากรแบบ ตา่ งๆ รวมทัง้ อธิบายปจั จัยจำกดั ทมี่ ผี ลตอ่ การแพรก่ ระจายของประชากร 6. สืบค้นข้อมูล อภิปราย และอธิบายปัจจัยที่กำหนดขนาดของประชากร การเปลี่ยนแปลงขนาดของประชากร สรปุ รปู แบบการเพ่มิ ประชากรของสิง่ มีชวี ิต และอธิบายแบบแผนการรอดชวี ติ ของประชากรส่งิ มีชีวติ 7. สืบค้นข้อมูล วิเคราะห์ อภิปราย และอธิบายบทบาทของประชากรมนุษย์ การเติบโตของประชากรมนุษย์ ตั้งแต่อดีตจนถงึ ปัจจบุ ันและในอนาคต โครงสร้างของประชากรมนุษย์ รวมทั้งอภปิ รายถึงปัจจัยที่มีผลต่อการ เปล่ียนแปลงขนาดของประชากรมนุษย์
๒๓๑ 8. สำรวจ สืบคน้ ข้อมลู อภิปราย และสรุปเกณฑท์ ่ีใช้ในการจำแนกประเภทของทรพั ยากรธรรมชาติ 9. สืบคน้ ข้อมูล วเิ คราะห์ และนำเสนอการใช้ทรัพยากรน้ำ ทรัพยากรดิน ทรัพยากรอากาศ ปญั หา สาเหตขุ อง ปญั หา และการปอ้ งกนั แกไ้ ข 10.สืบค้นข้อมูล วิเคราะห์ และนำเสนอการใช้ทรัพยากรป่าไม้ ทรัพยากรสัตว์ป่า ปัญหา สาเหตุของปัญหา และการป้องกนั แก้ไข 11.ระดมความคิด วามแผน และลงมือปฏิบัติร่วมกับชุมชนในการป้องกัน เฝ้าระวังแก้ไขปัญหา และอนุรักษ์ ทรัพยากรธรรมชาติในทอ้ งถิ่น รวมทง้ั หมด 11 ผลการเรยี นรู้
๒๓๒ คำอธิบายรายวชิ าเพ่ิมเตมิ ว31261 โลก ดาราศาสตร์ และอวกาศ 1 กลุม่ สาระการเรยี นรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ชน้ั มัธยมศกึ ษาปีที่ 4 ภาคเรียนท่ี 1 เวลา 60 ชว่ั โมง ......................................................................................................................................................................... ศึกษาเก่ียวกบั วิทยาศาสตร์โลก กระบวนการเปลี่ยนแปลงของโลก ใช้ความรเู้ ร่ืองสมบัติทางกายภาพ และทางเคมีในการจำแนกแร่และหิน ศกึ ษาการหาอายทุ างธรณวี ทิ ยา ตารางธรณกี าล และกลมุ่ หนิ ทส่ี ำคญั ของประเทศไทย ศึกษาธรณโี ครงสร้างจากแนวแตก แนวเล่ือน หรอื แนวโคง้ ทเ่ี กิดจากความเคน้ ดึง ความเคน้ บบี อดั และความเค้นเฉือน แปลความหมายของแผนที่ภูมปิ ระเทศ แผนทีธ่ รณวี ิทยา และแผนทอี่ ื่นๆ หาเส้น ชัน้ ความสูง ประยุกตค์ วามรเู้ กยี่ วกบั แผนทไี่ ปใช้ประโยชน์ในชวี ติ ประจำวัน ศึกษาแหลง่ ทรัพยากรพลงั งาน ทรัพยากรโลหะ และทรพั ยากรอโลหะ ประยุกต์ความรเู้ รอื่ งทรัพยากรไปใช้ประโยชน์ในรูปแบบต่างๆ ศกึ ษาเกี่ยวกบั แผน่ ดินไหว สึนามิ แผน่ ดนิ ถล่ม แผ่นดินทรุด หลมุ ยบุ น้ำท่วม และภัยแล้ง ทำความเขา้ ใจ ธรรมชาตขิ องธรณพี ิบัตภิ ยั เพอ่ื เตรยี มพรอ้ มรบั สถานการณ์ โดยใชก้ ระบวนการทางวิทยาศาสตรก์ ระบวนการสืบเสาะหาความรู้ การสืบคน้ ขอ้ มูล การสังเกต การวเิ คราะห์ การอภปิ ราย การอธบิ ายและสรปุ เพอ่ื ให้เกิดความรู้ ความคิด ความเขา้ ใจ มีความสามารถในการตัดสินใจ สอ่ื สารสิง่ ท่เี รียนรู้ นำความรไู้ ปใช้ในชีวติ ของตนเอง มีจติ วิทยาศาสตร์ จรยิ ธรรม คุณธรรม และค่านิยมที่ถูกต้องเหมาะสม โดย ม่งุ เนน้ ความเปน็ ไทยควบคกู่ บั ความเป็นสากล ผลการเรียนรู้ 1. สืบค้นขอ้ มูล และอธิบายความหมายของวิทยาศาสตรโ์ ลก และกระบวนการต่าง ๆ ทาง ธรณวี ิทยาทีเ่ กิดขนึ้ ทำใหโ้ ลกมีการเปลีย่ นแปลงต้งั แต่อดตี จนถงึ ปัจจุบัน 2. สืบค้นขอ้ มูล อภิปราย และอธบิ ายความหมาย สมบัติและการเกดิ แรแ่ ละหิน การลำดบั ช้ันหิน การแบ่งลกั ษณะหนิ ออกเปน็ หน่วยหิน 3. สบื คน้ อภิปราย และอธิบาย เกย่ี วกบั การแบ่งเวลาของโลกและการทำธรณีประวตั ิของโลก 4. ทดลอง อภิปราย และอธบิ ายการเปลี่ยนลักษณะของธรณโี ครงสรา้ ง 5. สบื คน้ และอภปิ รายเกีย่ วกับความหมายของสัญลกั ษณ์ต่าง ๆ การสรา้ งแผนทภ่ี มู ิประเทศ แผนท่ธี รณวี ทิ ยา และแผนทอี่ ื่น ๆ รวมถงึ ประโยชน์ของแผนท่ดี ังกลา่ ว 6. สบื คน้ ขอ้ มูล และอภปิ รายเก่ียวกบั ทรพั ยากรธรณขี องประเทศไทยกลุ่มต่าง ๆ และการใชป้ ระโยชน์ 7. สืบคน้ ขอ้ มูล และอภปิ รายเกี่ยวกบั แผ่นดินไหว สนึ ามิ แผน่ ดนิ ถลม่ น้ำทว่ ม สาเหตแุ ละการ ปฏบิ ัติตนให้ปลอดภัยจากการเกดิ ธรณีพิบตั ิภยั ดงั กล่าว รวมทั้งหมด 7 ผลการเรียนรู้
๒๓๓ คำอธิบายรายวชิ าเพ่มิ เติม ว31262 โลก ดาราศาสตร์ และอวกาศ 2 กล่มุ สาระการเรียนรวู้ ิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ช้ันมัธยมศกึ ษาปีท่ี 4 ภาคเรียนที่ 2 เวลา 60 ชั่วโมง ......................................................................................................................................................................... ศึกษาองคป์ ระกอบของอากาศ ชนั้ บรรยากาศ การหมนุ เวยี นของระบบลมของโลก ปจั จยั การเกดิ ลม แบบจำลองการหมนุ เวยี นของระบบลมของโลก การหมุนเวียนของนำ้ ในมหาสมุทร การแบ่งช้ันน้ำใน มหาสมุทร เมฆและการเกิดเมฆ เสถยี รภาพของอากาศ แนวปะทะอากาศ พายุฝนฟ้าคะนอง ทอรน์ าโด พายุ หมุนเขตรอ้ น การเกิดมรสุมอทิ ธิพลของมรสมุ ตอ่ ประเทศไทย ร่องมรสุม ปรากฏการณเ์ อลนโี ญ และ ลานญี า ปรากฏการณ์เรือนกระจก คล่นื ความร้อน การตรวจอากาศ ขั้นตอนในการพยากรณอ์ ากาศ วธิ กี าร พยากรณ์อากาศ แผนท่อี ากาศ แสงและสมบตั ิทางแสง สขี องท้องฟา้ รงุ้ อาทิตยท์ รงกลด จนั ทรท์ รงกลด และมริ าจ โดยใช้กระบวนการทางวทิ ยาศาสตร์ กระบวนการสืบเสาะหาความรู้ การสบื คน้ ขอ้ มูล การสงั เกต การวิเคราะห์ การอภปิ ราย การอธิบายและสรปุ เพอื่ ใหเ้ กดิ ความรู้ ความคิด ความเขา้ ใจ มคี วามสามารถใน การตดั สินใจ สอื่ สารสิง่ ท่เี รียนรู้ นำความรไู้ ปใชใ้ นชีวิตของตนเอง มีจิตวทิ ยาศาสตร์ จรยิ ธรรม คณุ ธรรม และค่านิยมที่ถกู ต้องเหมาะสม โดย มุ่งเนน้ ความเปน็ ไทยควบคู่กับความเปน็ สากล ผลการเรยี นรู้ 1. สบื ค้นขอ้ มูล วิเคราะห์ อภิปราย และอธิบายเกยี่ วกับองคป์ ระกอบของอากาศ การแบ่งชนั้ บรรยากาศ และ อทิ ธิพลของชั้นบรรยากาศท่มี ีตอ่ โลก 2. ทดลอง สบื ค้น อภปิ ราย และอธบิ ายระบบลมของโลก พร้อมระบุปัจจยั ท่เี กีย่ วขอ้ ง 3. ทดลอง สืบค้น อภปิ ราย และอธบิ ายการหมนุ เวียนของกระแสนำ้ ในมหาสมทุ ร พร้อมท้ังระบุปัจจัยทเี่ กยี่ วข้อง 4. ทดลอง สืบคน้ อภิปราย และอธิบายการเกดิ เมฆ เสถียรภาพของอากาศ และแนวปะทะอากาศ 5. สืบคน้ อภปิ ราย และอธิบายการเกิดพายุฝนฟ้าคะนอง ทอร์นาโด พายหุ มนุ เขตร้อน มรสุมผลกระทบและ แนวทางปฏิบตั ติ นให้ปลอดภัยจากพายตุ ่าง ๆ 6. สืบค้น อภิปราย และอธบิ ายการเกิดความแปรปรวนของอากาศ และผลตอ่ ส่ิงมชี ีวิตและสง่ิ แวดล้อม 7. สืบคน้ อภิปราย และอธิบายการพยากรณ์อากาศ และลักษณะอากาศจากแผนท่ีอากาศ 8. ทดลอง สืบคน้ อภิปราย และอธิบายปรากฏการณ์ทางแสงในท้องฟ้า รวมทัง้ หมด 8 ผลการเรยี นรู้
๒๓๔ กลุ่มสาระสังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม
๒๓๕ คำอธบิ ายรายวิชาพ้นื ฐาน รหัสวชิ า ส11102 สังคมศึกษา กลุม่ สาระการเรียนรสู้ งั คมศึกษา ศาสนาและวฒั นธรรม ชนั้ ประถมศกึ ษาปีที่ 1 เวลา 80 ช่ัวโมง / ปี ......................................................................................................................................................................... ศึกษาวิเคราะห์พุทธประวัติหรือประวัติของศาสดาที่ตนนับถือ แบบอย่างการดำเนินชีวิตและข้อคิดจาก ประวัตสิ าวก ชาดก/เรือ่ งเล่าและศาสนกิ ชนตวั อย่างตามท่ีกำหนด ความหมาย ความสำคญั และเคารพพระรตั นตรยั ปฏิบัติตามหลักธรรม โอวาท 3 ในพระพุทธศาสนาหรือศาสนาที่ตนนับถือ สวดมนต์ แผ่เมตตา มีสติ บำเพ็ญ ประโยชน์ตอ่ วัด แสดงตนเปน็ พุทธมามกะหรือศาสนิกชนของศาสนาทต่ี นนบั ถือ ปฏิบัติใน ศาสนพิธี พิธกี รรมและ วนั สำคัญทางศาสนาตามทีก่ ำหนดได้ถกู ต้อง ประโยชน์และการปฏบิ ตั ติ นเป็นสมาชิกทด่ี ขี องครอบครัวและโรงเรยี น ศึกษา วิเคราะห์ ความสามารถและความดีและผลจากการกระทำของตนเองผู้อื่น โครงสร้าง บทบาท หน้าทีข่ องสมาชิกท่ีดีในครอบครัว โรงเรียน บทบาท สทิ ธิ หนา้ ทขี่ องตนเองในครอบครวั และโรงเรียนมีส่วนร่วม ในการตัดสินใจและทำกิจกรรมในครอบครัวและโรงเรียนตามกระบวนการประชาธิปไตยสินค้าและบริการที่ใช้ ประโยชน์ในชีวิตประจำวนั การใช้จา่ ยเงนิ ในชวี ติ ประจำวันไมเ่ กนิ ตัวและประโยชนข์ องการออม การใช้ทรพั ยากรใน ชีวิตประจำวันอย่างประหยัด ความจำเป็นของการทำงานท่ีสุจริต จำแนก บอกสิ่งตา่ ง ๆ ท่อี ยูร่ อบตัว ท้ังที่เกิดข้ึน เองตามธรรมชาติและท่ีมนุษย์สร้างข้ึนสง่ ผลตอ่ ความเปน็ อยู่ของมนุษย์ ระบุความสมั พนั ธ์ ของตำแหนง่ ระยะ ทิศ ของสงิ่ ต่าง ๆ รอบตวั ใชแ้ ผนผังง่ายๆ ในการแสดงตำแหน่งของส่ิงตา่ ง ๆ ในหอ้ งเรียน สงั เกตและเปรียบเทียบการ เปลย่ี นแปลงของอากาศในรอบวนั และการเปลยี่ นแปลงของสภาพแวดล้อมทีอ่ ยูร่ อบตัว โดยใช้กระบวนคิด กระบวนการสืบค้น กระบวนการปฏิบัติ กระบวนการทางสังคม กระบวนการกลุ่ม กระบวนการเผชญิ สถานการณแ์ ละแกป้ ัญหา เพื่อให้เกิดความรู้ ความเข้าใจ สามารถนำไปปฏิบัติในการดำเนินชีวิต มีความสามารถ ทาง ภูมิศาสตร์ กระบวนทางภูมศิ าสตร์ ทักษะทางภูมิศาสตร์และมีทักษะในศตวรรษที่ 21 ด้าน การสื่อสาร ความสามารถในการคิด มีคุณธรรม จริยธรรม มีคุณลักษณะอันพึงประสงค์ในด้านรักชาติ ศาสน์ กษั ตริย์ ซื่อสัตย์สุจริต มีวินัย ใฝ่เรียนรู้ รักความเป็นไทย มีจิตสาธารณะ สามารถดำเนินชีวิตอยา่ งสันตสิ ุขในสังคมไทย และสังคมโลก รหัสตวั ชว้ี ัด ส 1.1 ป. 1 / 1 , ป. 1 / 2 , ป. 1 / 3 , ป. 1 / 4 รวมทัง้ หมด ส 1.2 ป. 1 / 1 , ป. 1 / 2 , ป. 1 / 3 ส 2.1 ป. 1 / 1 , ป. 1 / 2 , ส 2.2 ป. 1 / 1 , ป. 1 / 2 , ป. 1 / 3 ส 3.1 ป. 1 / 1 , ป. 1 / 2 , ป. 1 / 3 , ส 3.2 ป. 1 / 1 ส 5.1 ป. 1 / 1 , ป. 1 / 2 , ป. 1 / 3 , ป. 1 / 4 , ป. 1 / 5 , ส 5.2 ป. 1 / 1 , ป.1 / 2 , ป.1 / 3 24 ตวั ชวี้ ัด
๒๓๖ คำอธบิ ายรายวิชาพ้ืนฐาน รหัสวิชา ส11102 ประวตั ศิ าสตร์ กลมุ่ สาระการเรยี นรสู้ ังคมศึกษา ศาสนาและวฒั นธรรม ชั้นประถมศึกษาปีท่ี 1 เวลา 40 ชั่วโมง / ปี ......................................................................................................................................................................... ศกึ ษา ช่ือ วนั เดือน ปีและการนับชว่ งเวลาตามปฏิทนิ ท่ีใช้ในชวี ิตประจาวนั เหตุการณ์ในชีวิตประจำวัน ตามวันเวลาที่เกิดขึ้นประวัติความเป็นมาของตนเองและครอบครัวโดยสอบถามผู้เกี่ยวข้องความเปลี่ยนแปลงของ สภาพแวดล้อม สิ่งของเครื่องใช้ หรือการดำเนินชีวิตของตนเองกับสมัยของพ่อแม่ ปูุย่า ตายายเหตุการณ์ท่ี เกิดขึ้นในอดีตท่ีมีผลกระทบต่อตนเองในปัจจุบันความหมายและความสำคัญของสัญลักษณ์สำคัญของชาติไทยและ ปฏบิ ตั ติ นไดถ้ กู ตอ้ งสถานทีส่ ำคัญซงึ่ เป็นแหล่งวัฒนธรรมในชมุ ชน ระบุสงิ่ ทตี่ นรกั และภาคภมู ิใจในท้องถนิ่ โดยใช้วิธีการทางประวัติศาสตร์กระบวนคิดกระบวนการสืบค้นข้อมูล กระบวนการปฏิบัติกระบวนการ ทางสงั คม กระบวนการกล่มุ กระบวนการเผชิญสถานการณ์และแก้ปัญหาการสรุป การสื่อสาร การใช้เทคโนโลยี สารสนเทศ เพื่อให้เกิดความรู้ ความเข้าใจ เกิดความสามารถในการคิด ความสามารถ ในการสื่อสาร ความสา มารในการแกป้ ญั หา ความสามารในการใชท้ ักษะชวี ิต และความสามารในการใช้เทคโนโลยี อยา่ งมีประสทิ ธิภาพ มจี ิตสาธารณะ มคี ุณธรรม มีความรักชาติ ศาสนา พระมหากษตั รยิ ์ และเปน็ พลเมืองดีของสงั คมมีวินัย ใฝ่เรียนรู้ มุ่งม่ันในการทำงาน รหัสตวั ชี้วัด ส 4.1 ป.1/1 , ป.1/2 , ป.1/3 ส 4.2 ป.1/1 , ป.1/2 ส 4.3 ป.1/1, ป.1/2 , ป.1/3 รวมทัง้ หมด 8 ตัวช้ีวัด
๒๓๗ คำอธบิ ายรายวิชาพน้ื ฐาน รหัสวชิ า ส12101 สังคมศกึ ษา กล่มุ สาระการเรียนรสู้ ังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม ชน้ั ประถมศกึ ษาปีที่ 2 เวลาเรยี น 80 ชั่วโมง ......................................................................................................................................................................... ศึกษา ความหมาย ความสำคญั ของพระพทุ ธศาสนา ศาสดา คัมภีรข์ องศาสนาที่ตนนบั ถือ เคารพในพระ รัตนตรัยและปฏิบัติตนตามหลักธรรมของศาสนา มรรยาทของชาวพุทธ ศาสนพิธี พิธีกรรมและวันสำคัญทาง ศาสนา ช่นื ชมการทำความดขี องตนเอง บคุ คลในครอบครัวและในโรงเรยี นตามหลกั ศาสนา รวมเห็นคุณค่าของการ สวดมนต์แผ่เมตตา พัฒนาจิตตามแนวทางของศาสนาที่ตนนับถือ ปฏิบัติตน ตามข้อตกลง กติกา กฎ ระเบียบ และหนา้ ท่ีทต่ี ้องปฏบิ ัติในชีวิตประจำวนั มารยาทไทย ยอมรบั ความคดิ ความเชอ่ื การปฏิบัติของผู้อื่นท่ี แตกตา่ งโดยปราศจากอคติ เคารพในสิทธเิ สรีภาพของตนเองและผอู้ ่นื ศกึ ษาความสมั พนั ธข์ องตนเองและสมาชิก ในครอบครัวในฐานะเป็นสว่ นหนึ่งของชุมชน บทบาท อำนาจ ในการตดั สินใจในโรงเรียนและชุมชน ทรพั ยากร ที่นำมาผลิตสินค้าและบริการที่ใช้ในชีวิตประจำวันที่มาของรายได้และรายจ่ายของตนเองและครอบครัว การ แลกเปลี่ยนสินค้าและบริการ โดยวิธีต่าง ๆ ความสัมพันธ์ระหว่างผู้ซื้อและผู้ขาย บันทึกรายรับรายจา่ ยของตนเอง รวมทงั้ สรปุ ผลดขี องการใชจ่ ่ายที่เหมาะสมกับรายไดแ้ ละการออม ระบุสิ่งแวดลอ้ มทางธรรมชาติและท่ีมนษุ ยส์ ร้างขึ้น ตำแหน่งและลักษณะทางกายภาพของสิ่งต่าง ๆ สังเกตและแสดงความสัมพันธ์ระหว่างโลก ดวงอาทิตย์ และดวง จันทร์ ที่ทำให้เกิดปรากฏการณ์ อธิบายความสำคัญของสิ่งแวดล้อมทางธรรมชาติและที่มนุษย์สร้างขึ้น ความสัมพันธ์ระหว่างฤดูกาลกบั การดำรงชีวิตของมนุษย์ มสี ว่ นรว่ มในการจัดการสิง่ แวดล้อมในโรงเรียน พร้อมท้ัง จำแนกและใชท้ รัพยากรธรรมชาติท่ใี ช้แลว้ ไม่หมดไป ท่ีใช้แล้วและสร้างทดแทนขึน้ ใหมไ่ ด้อยา่ งคุ้มค่า โดยใช้กระบวนคดิ กระบวนการสืบค้นขอ้ มูล กระบวนการปฏิบัติ กระบวนการทางสังคม กระบวนการ กลุ่ม กระบวนการแกป้ ัญหา กระบวนการสืบค้นเสาะหาความรู้ และใช้เครื่องมอื ทางภูมิศาสตร์ในการสืบค้นและ สรปุ ข้อมลู ตามกระบวนการทางภมู ิศาสตร์ เพื่อให้เกิดความรู้ ความเข้าใจ สามารถนำไปปฏิบัติในการดำเนินชีวิต มีความสามารถทางภูมิศาสตร์ กระบวนการทางภูมิศาสตร์ ทกั ษะทางภูมิศาสตร์ ทกั ษะในศตวรรษที่ 21 คุณธรรมจริยธรรม คุณลักษณะอันพึง ประสงคใ์ นด้านรักชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ มหี ลกั ธรรมในการดำเนินชีวิต รกั ความเปน็ ไทย มีจิต สาธารณะ และสามารถดำเนินชีวติ ในสังคมไดอ้ ยา่ งสนั ตสิ ขุ รหัสตัวชี้วัด ป.2/1 ป.2/2 ป.2/3 ป.2/4 ป.2/5 ป.2/6 ป.2/7 ป.2/8 ป.2/7 ป.2/1 ป.2/2 ส 1.1 ป.2/1 ป.2/2 ป.2/3 ป.2/4 ส 1.2 ส 2.1 ป.2/1 ป.2/2 ป.2/1 ป.2/2 ป.2/3 ป.2/4 ส 2.2 ส 3.1 ป.2/1 ป.2/2 ป.2/1 ป.2/2 ป.2/3 ส 3.2 ป.2/1 ป.2/2 ป.2/3 ป.2/4 ส 5.1 ส 5.2 รวมทัง้ หมด 28 ตวั ชวี้ ดั
๒๓๘ คำอธิบายรายวิชาพื้นฐาน รหัสวชิ า ส12102 ประวตั ิศาสตร์ กลุ่มสาระการเรยี นรสู้ ังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม ชน้ั ประถมศึกษาปีที่ 2 เวลา 40 ชว่ั โมง / ปี ......................................................................................................................................................................... ศกึ ษา วิเคราะห์ การใช้คำระบเุ วลาที่แสดงเหตกุ ารณ์ในอดีต ปัจจบุ นั และอนาคตการลำดับเหตุการณ์ท่ี เกิดข้ึนในครอบครวั หรอื ในชีวิตของตนเองโดยใช้หลักฐานทเ่ี กย่ี วข้อง การสบื ค้นถึง การเปลี่ยนแปลง ในวิถีชีวิตประจำวันของคนในชุมชนของตนจากอดีตถึงปัจจุบัน ผลกระทบของการเปลี่ยนแปลงที่มีต่อวิถีชวี ิตของ คนในชุมชน บุคคลที่ทำประโยชน์ต่อท้องถิ่นหรือประเทศชาติตัวอย่างวัฒนธรรม ประเพณีและภูมิปัญญาไทยที่ ภาคภูมิใจ และควรอนุรักษ์ไว้ โดยใช้วิธีการทางประวัติศาสตร์กระบวนคิดกระบวนการสืบค้นข้อมูล กระบวนการปฏิบัติกระบวนการ ทางสังคม กระบวนการกลุ่ม กระบวนการเผชญิ สถานการณ์ และแก้ปัญหาการยกตัวอย่าง การสื่อสาร การใช้ เทคโนโลยสี ารสนเทศ เพอื่ ให้เกิดความรู้ ความเข้าใจ เกิดความสามารถในการคิด ความสามารถในการสื่อสาร ความสา มารในการแก้ปญั หา ความสามารในการใช้ทักษะชีวติ และความสามารในการใชเ้ ทคโนโลยอี ย่างมปี ระสิทธภิ าพ มี จติ สาธารณะ มคี ุณธรรม มคี วามรกั ชาติ ศาสนา พระมหากษตั ริย์ และเป็นพลเมอื งดี ของสังคมมีวนิ ัย ใฝเ่ รยี นรู้ มงุ่ มน่ั ในการทำงาน รหสั ตัวชี้วดั ส 4.1 ป2/1 , ป2/2 ส 4.2 ป 2/1 ส 4.3 ป2/1 , ป 2/2 รวมทง้ั หมด 5 ตัวชี้วัด
๒๓๙ คำอธบิ ายรายวชิ าพ้นื ฐาน รหัสวิชา ส13101 สงั คมศึกษาฯ กล่มุ สาระการเรยี นรู้สังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม ชนั้ ประถมศกึ ษาปีท่ี 3 เวลา 80 ชวั่ โมง / ปี ......................................................................................................................................................................... ศึกษาวิเคราะห์ ความสำคัญของพระพุทธศาสนาหรือศาสนาที่ตนนับถือ สรุปพุทธประวัติตั้งแต่ การบำเพ็ญเพียร จนถึงปรินิพพาน แบบอย่างการดำเนินชีวิตและข้อคิดจากประวัติสาวก ชาดก เรื่องเล่า และศา สนิกชนตัวอย่างความหมาย ความสำคญั ของพระไตรปฎิ ก หรือคัมภีร์ของศาสนาทต่ี นนบั ถือ แสดงความเคารพ พระรัตนตรยั และปฏบิ ัตติ ามหลักธรรมโอวาท 3 ในพระพุทธศาสนาหรือหลักธรรม ของศาสนาท่ีตนนับถอื สวด มนต์ แผเ่ มตตามสี ติท่ีเปน็ พนื้ ฐานของสมาธใิ นพระพุทธศาสนา หรอื การพัฒนาจติ ปฏิบัติตนได้อย่างเหมาะสมต่อศา สนวัตถุ ศาสนสถาน ศาสนบุคคล สาวก ศาสนสถาน ศาสนวัตถุศาสนพิธี พิธีกรรม และวันสำคัญ ทางศาสนาได้ ถูกต้องแสดงตนเป็นพุทธมามกะ หรือแสดงตนเปน็ ศาสนิกชนของศาสนาทีต่ นนบั ถือสรปุ ประโยชน์ และปฏิบัติตน ตามประเพณีและวัฒนธรรมในครอบครัวและท้องถิ่นพฤติกรรมการดำเนนิ ชีวิตของตนเองและผู้อื่นทีอ่ ยู่ในกระแส วัฒนธรรมที่หลากหลาย ความสำคัญ ของวันหยุดราชการที่สำคัญบุคคลซึ่งมีผลงานที่เป็นประโยชน์แก่ ชุมชนและท้องถิ่นของตนบาทหน้าที่ของสมาชิกของชุมชนในการมีส่วนร่วมในกิจกรรมต่าง ๆ ตามกระบวนการ ประชาธิปไตยความแตกต่างของกระบวนการการตัดสินใจในชั้นเรียน โรงเรียนและชุมชน โดยวิธีการออกเสียง โดยตรงและการเลือกตัวแทนออกเสียง การเปลี่ยนแปลงในชั้นเรยี น โรงเรียนและชุมชนทีเ่ ป็นผลจากการตดั สินใจ ของบุคคลและกล่มุ ความต้องการและความจำเป็นในการใชส้ ินค้าและบริการในการดำรงชีวติ การใช้จ่าย ทรพั ยากร ทม่ี ีอยจู่ ำกดั มผี ลตอ่ การผลิตและบรโิ ภคสินคา้ และบริการสินคา้ และบรกิ ารท่ีรัฐจัดหาและใหบ้ ริการแก่ประชาชน ความสำคัญของภาษี และบทบาทของประชาชนในการเสียภาษีเหตุผลการแข่งขนั ทางการค้า ที่มีผลทำให้ราคา สินค้าลดลงใช้ แผนท่ี แผนผัง และภาพถ่ายในการหาข้อมลู ทางภูมิศาสตร์ในชมุ ชนไดอ้ ย่างมีประสิทธิภาพตำแหน่ง ที่ตั้งของสถานที่สำคัญในบริเวณโรงเรียนและชุมชนความสัมพนั ธ์ของลักษณะ ทางกายภาพกับลักษณะทาง สังคม ของชมุ ชนเปรียบเทียบการเปล่ียนแปลงสภาพแวดลอ้ มในชมุ ชนจากอดีตถึงปัจจุบนั การพ่ึงพาส่งิ แวดล้อมและ ทรพั ยากรธรรมชาติในการสนองความต้องการพนื้ ฐานของมนุษย์และ การประกอบอาชพี มลพิษและ การก่อให้เกิด มลพษิ โดยมนษุ ย์ ความแตกตา่ งของเมืองและชนบท การเปลี่ยนแปลงของส่งิ แวดลอ้ มในชุมชน โดยใช้กระบวนคิด กระบวนการสืบค้นข้อมูล กระบวนการปฏิบัติกระบวนการทางสังคม กระบวนการ กลุ่ม กระบวนการเผชิญสถานการณ์และแก้ปัญหากระบวนการภูมิศาสตร์ กระบวนการสืบเสาะหาความรู้ การ จำแนก การใช้เครอื่ งมือทางภูมศิ าสตร์ การสอ่ื สาร การใชเ้ ทคโนโลยีสารสนเทศ เพื่อให้เกิดความรู้ ความเข้าใจ ชื่นชม เห็นคุณค่า บำเพ็ญประโยชน์ มีความสามารถ ทางภูมิศาสตร์ เกิด ความสามารถในการคิด ความสามารในการสื่อสาร ความสามารในการแก้ปัญหา ความสามารถในการใช้ทักษะ ชีวิต และความสามารในการใช้เทคโนโลยีอย่างมีประสิทธิภาพ มีจิตสาธารณะ มีคุณธรรม มีความรักชาติ ศาสนา พระมหากษตั รยิ ์ และเปน็ พลเมืองดขี องสังคมมีวินยั ใฝ่เรียนรู้ ม่งุ มนั่ ในการทำงาน มสี ่วนรว่ มและปฏบิ ตั ติ น ในการดูแลสงิ่ แวดล้อมที่บา้ นและชั้นเรียนอย่างเหมาะสม
๒๔๐ รหัสตวั ช้ีวัด ส 1.1 ป.3/1 , ป.3/2 , ป.3/3 , ป.3/4 , ป.3/5 , ป.3/6 , ป.3/7 ส 1.2 ป.3/1 , ป.3/2 , ป.3/3 ส 2.1 ป.3/1 , ป.3/2 , ป.3/3 , ป.3/4 ส 2.2 ป.3/1 , ป.3/2 , ป.3/3 ส 3.1 ป.3/1 , ป.3/2 , ป.3/3 ส 3.2 ป.3/1 , ป.3/2 ส 5.1 ป.3/1 , ป.3/2 , ป.3/3 ส 5.2 ป.3/1 , ป.3/2 , ป.3/3 , ป.3/4 , ป.3/5 , ป.3/6 รวมท้ังหมด 31 ตัวชี้วดั
๒๔๑ คำอธิบายรายวชิ าพ้ืนฐาน รหสั วิชา ส13102 ประวัติศาสตร์ กลุ่มสาระการเรยี นรสู้ ังคมศึกษา ศาสนาและวฒั นธรรม ชน้ั ประถมศกึ ษาปีที่ 3 เวลา 40 ช่ัวโมง / ปี ......................................................................................................................................................................... ศึกษาเทียบศักราชที่สำคัญตามปฏิทิน เหตุการณ์สำคัญของโรงเรียนและชุมชนวิเคราะห์หลักฐานและ แหล่งข้อมูลที่เกี่ยวข้องปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อการตั้งถิ่นฐานและพัฒนาการของชุมชน สรุปลักษณะที่สำคัญของ ขนบธรรมเนียมประเพณแี ละวัฒนธรรมของชุมชนเปรยี บเทียบความเหมือนและความต่างทางวัฒนธรรม ของชุมชน ตนเองกับชุมชน อื่น ๆระบุพระนามและพระราชกรณียกิจโดยสังเขปของพระมหากษัตริย์ไทย ที่เป็นผู้สถาปนา อาณาจกั รไทยพระราชประวตั ิและพระราชกรณยี กจิ ของพระมหากษัตริย์ในรัชกาลปัจจุบนั วรี กรรมของบรรพบุรุษ ไทยท่มี ีสว่ นปกปูองประเทศชาติ โดยใช้วิธีการทางประวัติศาสตร์กระบวนคิดกระบวนการสืบค้นข้อมูล กระบวนการปฏิบัติกระบวนการ ทางสังคม กระบวนการกลุ่ม กระบวนการเผชิญสถานการณ์และแก้ปัญหาการสรุปการเปรียบเทียบ การสื่อสาร การใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ เพื่อให้เกิดความรู้ ความเข้าใจ เกิดความสามารถในการคิด ความสามารถ ในการสื่อสารความ สา มารในการแก้ปัญหา ความสามารในการใช้ทกั ษะชีวิต และความสามารในการใชเ้ ทคโนโลยีอย่างมปี ระสิทธิภาพ มี จติ สาธารณะ มคี ุณธรรม มคี วามรักชาติ ศาสนา พระมหากษัตรยิ ์ และเปน็ พลเมอื งดขี องสงั คมมวี นิ ยั ใฝ่เรียนรู้ ม่งุ ม่ันในการทำงาน รหสั ตัวช้ีวดั ส 4.1 ป. 3/1 , ป. 3/2 ส 4.2 ป. 3/1 , ป. 3/2 ,ป. 3/3 ส 4.3 ป. 3/1 , ป. 3/2 , ป.3/3 รวมท้งั หมด 8 ตัวช้วี ัด
๒๔๒ คำอธิบายรายวชิ าพื้นฐาน รหัสวิชา ส 14101 สังคมศกึ ษา กลมุ่ สาระการเรยี นรู้สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม ช้นั ประถมศกึ ษา 4 เวลา 80 ชั่วโมง/ปี ......................................................................................................................................................................... ศึกษาความสำคัญของพระพุทธศาสนาหรือศาสนาที่ตนนับถือ สรุปพุทธประวัติ ตั้งแต่บรรลุธรรมจนถึง ประกาศธรรม หรือประวัติศาสดาที่ตนนับถือหรือปฏิบัติตนตามแบบอย่างการดำเนินชีวิตและข้อคิด จากประวัติ สาวก ชาดก เรื่องเล่า และศาสนิกชนตัวอยา่ ง แสดงความเคารพพระรัตนตรัย ปฏิบัติตามไตรสิกขาและหลักธรรม โอวาท 3 ในพระพุทธศาสนาหรือหลกั ธรรมของศาสนาทต่ี นนับถอื ชื่นชมการ ทำความดขี องตนเอง บคุ คลใน ครอบครัว โรงเรยี น และชุมชน ตามหลักศาสนา พร้อมทง้ั บอกแนวปฏิบัติ ในการดำเนนิ ชวี ติ สวดมนต์ แผ่เมตตา มีสติ มีสมาธใิ นพระพทุ ธศาสนา หรือการพัฒนาจิตตามแนวทางของศาสนาท่ีตนนับถอื ปฏิบตั ิตนตามหลักธรรมของ ศาสนาที่ตนนับถือหรือปฏิบัติตนเป็นพลเมืองดีตามวิถีประชาธิปไตย เป็นผู้นำ ผู้ตามที่ดี วิเคราะห์สิทธิพืน้ ฐานที่ เด็กทุกคนพึงได้รับตามกฎหมาย ความแตกต่างทางวัฒนธรรมของกลุ่มคนในท้องถิ่น เสนอวิธีการที่จะอยู่ร่วมกนั อย่างสันติสุข อำนาจอธิปไตย ความสำคัญของระบอบประชาธิปไตย บทบาทหน้าท่ีของพลเมืองในกระบวนการ เลือกตั้ง ความสำคัญของสถาบันพระมหากษัตริย์ตามระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมขุ ปัจจัยที่มีผลต่อการเลือกซื้อสินค้าและบริการ สิทธิพื้นฐานและรักษาผลประโยชน์ในฐานะผู้บริโภค หลักการของ เศรษฐกจิ พอเพยี งและนำไปใช้ในชีวิตประจำวัน ความสมั พันธ์ทางเศรษฐกจิ ของคนในชุมชน หน้าทเ่ี บ้ืองต้นของเงนิ ใช้แผนที่และภาพถ่ายระบุลักษณะสำคัญทางกายภาพ แหล่งทรัพยากรและสิ่งต่าง ๆ ในจังหวัดของตนเอง ความสมั พนั ธ์ของส่ิงต่าง ๆ ที่อยใู่ นจงั หวัด สภาพแวดลอ้ มทางกายภาพท่ีสง่ ผลต่อการดำเนินชีวิต การเปล่ียนแปลง สภาพแวดลอ้ มและผลทเี่ กิดจากการเปลีย่ นแปลงนั้น และมสี ว่ นร่วมในการอนุรกั ษ์สง่ิ แวดลอ้ มในจงั หวัด โดยใช้กระบวนการคิด กระบวนการสืบค้นข้อมูล กระบวนการปฏิบัติ กระบวนการทางสังคม กระบวนการกลุ่ม กระบวนการเผชิญสถานการณแ์ ละแก้ปัญหา เพื่อให้เกิดความรู้ ความเข้าใจ สามารถนำไปปฏิบัติในการดำเนินชวี ิต มีคุณธรรม จริยธรรม มี คุณลกั ษณะอนั พึงประสงคใ์ นด้านรักชาติ ศาสน์ กษัตรยิ ์ ซ่ือสัตย์สุจรติ มีวินยั ใฝ่เรียนรู้ รกั ความเปน็ ไทย มีจิต สาธารณะ สามารถดำเนนิ ชวี ิตอย่างสันตสิ ขุ ในสงั คมไทยและสงั คมโลก ตัวชวี้ ัด ส 1.1 ป.4/1 ป.4/2 ป.4/3 ป.4/4 ป.4/5 ป.4/6 ป.4/7 ป.4/8 ส 1.2 ป.4/1 ป.4/2 ป.4/3 ส 2.1 ป.4/1 ป.4/2 ป.4/3 ป.4/4 ป.4/5 ส 2.2 ป.4/1 ป.4/2 ป.4/3 ส 3.1 ป.4/1 ป.4/2 ป.4/3 ส 3.2 ป.4/1 ป.4/2 ส 5.1 ป.4/1 ป.4/2 ป.4/3 ส 5.2 ป.4/1 ป.4/2 ป.4/3 รวม 30 ตัวชว้ี ัด
๒๔๓ คำอธบิ ายรายวิชาพ้นื ฐาน รหสั วิชา ส 14102 ประวตั ศิ าสตร์ กล่มุ สาระการเรยี นรู้สังคมศึกษา ศาสนา และวฒั นธรรม ชน้ั ประถมศึกษาปที ี่ 4 เวลา 40 ชั่วโมง/ปี ......................................................................................................................................................................... ศึกษา วิเคราะห์ การนับช่วงเวลาเป็นทศวรรษ ศตวรรษ และสหัสวรรษ ยุคสมัยในการศึกษาประวัติของ มนุษยชาติโดยสังเขป ประเภทหลักฐานที่ใช้ในการศึกษาความเป็นมาของท้องถิ่น การตั้งหลักแหล่งและพัฒนากา ของมนุษย์ยุคก่อนประวัติศาสตร์และยุคประวัติศาสตร์โดยสังเขป ยกตัวอย่างหลักฐานที่พบในท้องถิ่นที่แสดง พัฒนาการของมนุษยชาตใิ นดินแดนไทย พัฒนาการของอาณาจักรสุโขทัย ด้านการเมืองการปกครอง และ เศรษฐกิจโดยสังเขป ประวัติและผลงานของบุคคลสำคัญสมัยสุโขทัย ภูมิปัญญาไทยท่ีสำคัญสมัยสุโขทัยที่น่า ภาคภูมิใจและควรคา่ แกก่ ารอนรุ ักษ์ โดยใช้กระบวนการคิด กระบวนการสืบค้นข้อมูล กระบวนการปฏิบัติ กระบวนการทางสังคม กระบวนการกลุ่ม กระบวนการเผชิญสถานการณแ์ ละแกป้ ัญหา เพื่อให้เกิดความรู้ ความเข้าใจ สามารถนำไปปฏิบัตใิ นการดำเนินชีวิต มีคุณธรรม จริยธรรม มี คุณลักษณะ อนั พงึ ประสงคใ์ นดา้ นรักชาติ ศาสน์ กษัตริย์ ซอ่ื สตั ย์สจุ ริต มีวนิ ัย ใฝเ่ รยี นรู้ รกั ความเป็นไทย มีจิต สาธารณะ ตัวช้วี ัด ป.4/1, ป.4/2, ป.4/3 ส 4.1 ป.4/1, ป.4/2 ส 4.2 ส 4.3 ป.4/1, ป.4/2, ป.4/3 รวม 8 ตัวชว้ี ัด
๒๔๔ คำอธบิ ายรายวชิ าพ้ืนฐาน รหสั วชิ า ส15101 สงั คมศกึ ษา กลุ่มสาระการเรยี นรูส้ งั คมศึกษาศาสนา และวฒั นธรรม ช้ันประถมศึกษาปีท่ี 5 เวลาเรียน 80 ชั่วโมง / ปี ......................................................................................................................................................................... ศึกษา วิเคราะห์ ความสำคัญของพระพุทธศาสนาหรือศาสนาที่ตนนับถือในฐานะที่เป็นมรดกทาง วัฒนธรรมและหลกั ในการพัฒนาชาตไิ ทยพุทธประวัตติ ั้งแต่เสดจ็ กรงุ กบลิ พสั ด์ุจนถงึ พุทธกิจสำคัญหรอื ประวัติศาสดา ที่ตนนับถือประพฤติตนตามแบบอย่างการดำเนินชีวิตและข้อคิดจากประวัติสาวก ชาดกเรื่องเล่า และศาสนิกชน ตัวอย่างองค์ประกอบและความสำคัญของพระไตรปิฎกหรือคัมภีร์ของศาสนาที่ตนนับถือแสดงความเคารพพระ รัตนตรยั และปฏิบัติตามไตรสกิ ขา และหลกั ธรรมโอวาท ๓ ในพระพทุ ธศาสนาหรอื หลักธรรมของศาสนาท่ีตนนับถือ สวดมนต์ แผ่เมตตามีสติที่เป็นพ้ืนฐานของสมาธิในพระพุทธศาสนาหรอื การพัฒนาจิตตามแนวทางของศาสนาที่ตน นับถือปฏิบัติตนตามหลักธรรมของศาสนาที่ตนนับถือ เพื่อการพัฒนาตนเองและสิ่งแวดล้อมการจัดพิธีกรรมตาม ศาสนาทตี่ นนบั ถืออยา่ งเรียบง่าย มปี ระโยชน์ และปฏบิ ัติตนถูกต้องปฏิบัติตนในศาสนพธิ ี พธิ ีกรรมและวนั สำคัญทาง ศาสนาประโยชน์ที่ได้รับจากการเข้าร่วมกิจกรรมมรรยาทของความเป็นศาสนิกชนที่ดีตัวอย่างและปฏิบัติตนตาม สถานภาพ บทบาทสิทธเิ สรีภาพ และหน้าทใ่ี นฐานะพลเมอื งดวี ิธีการปกป้องคุม้ ครองตนเองหรือผอู้ ่นื จากการละเมิด สิทธิเด็กคุณค่าวัฒนธรรมไทยที่มีผลต่อการดาเนินชีวิตในสังคมไทยการอนุรักษ์และเผยแพร่ภูมิปัญญาท้องถิ่นของ ชุมชนโครงสร้าง อำนาจหน้าที่และความสำคัญของการปกครองส่วนท้องถิ่นบทบาท หน้าที่ และวิธีการเข้าดำรง ตำแหน่งของผู้บริหารท้องถิ่นประโยชน์ที่ชุมชนจะได้รับจากองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นปัจจัยการผลิตสินค้าและ บริการแนวคิดของปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพียงในการทำกิจกรรมต่าง ๆในครอบครัว โรงเรียน และชมุ ชนหลักการ สำคัญและประโยชน์ของสหกรณ์บทบาทหน้าที่เบื้องต้นของธนาคารผลดีและผลเสียของการกู้ยืมการใช้เครื่อง มือ ภูมศิ าสตร์ ตำแหน่ง (พิกดั ภูมิศาสตรล์ ะติจดู ลองจิจดู ) ระยะ ทศิ ทางของภูมภิ าคของตนเองลกั ษณะ ภมู ิลักษณ์ ที่สำคัญในภูมิภาคของตนเองในแผนที่ความสัมพันธ์ของลักษณะทางกายภาพกับลักษณะทางสังคมในภูมิภาคของ ตนเองสภาพแวดล้อมทางกายภาพที่มีอิทธิพลต่อลักษณะการตั้งถิ่นฐานและการย้ายถิ่นของประชากรในภูมิภาค อิทธพิ ลของสิ่งแวดลอ้ มทางธรรมชาตทิ ี่ก่อให้เกดิ วิถีชีวติ และการสรา้ งสรรค์วฒั นธรรมในภมู ิภาคตัวอยา่ งที่สะท้อนให้ เหน็ ผลจากการรกั ษา และการทำลายสภาพแวดล้อม และเสนอแนวคิดในการรักษาสภาพแวดลอ้ มในภูมิภาค โดยใช้กระบวนคิดกระบวนการสืบค้นข้อมูล กระบวนการปฏิบัติกระบวนการทางสังคม กระบวนการ กลุ่ม กระบวนการเผชิญสถานการณ์และแก้ปัญหากระบวนการภูมิศาสตร์ กระบวนการสืบเสาะหาความรู้ การ สรุป การใชเ้ คร่อื งมือทางภูมศิ าสตร์ การสือ่ สาร การใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ เพื่อให้เกิดความรู้ ความเข้าใจ เห็นคุณค่า บำเพ็ญประโยชน์ มีความสามารถทางภูมิศาสตร์ เกิด ความสามารถในการคดิ ความสามารในการสอื่ สาร ความสามารในการแก้ปัญหา ความสามารในการใชท้ กั ษะชีวิต และความสามารในการใช้เทคโนโลยอี ยา่ งมีประสทิ ธิภาพ มจี ติ สาธารณะ มคี ุณธรรม มคี วามรกั ชาติ ศาสนา พระมหากษตั รยิ ์ และเปน็ พลเมอื งดีของสงั คมมีวินยั ใฝ่เรยี นรู้ มงุ่ ม่ันใน การทำงาน รหสั ตัวชีว้ ดั ส 1.1 ป.5/1 , ป.5/2 , ป.5/3, ป.5/4, ป.5/5, ป.5/6, ป.5/7 ส 1.2 ป.5/1 , ป.5/2 , ป.5/3
๒๔๕ ส 2.1 ป.5/1 , ป.5/2 , ป.5/3, ป.5/4 รหสั ตัวช้วี ดั ส 2.2 ป.5/1 , ป.5/2, ป.5/3 ส 3.1 ป.5/1 , ป.5/2 , ป.5/3 ส 3.2 ป.5/1 , ป.5/2 ส 5.1 ป.5/1 , ป.5/2, ป.5/3 ส 5.2 ป.5/1 , ป.5/2 , ป.5/3 รวมท้ังหมด 28 ตวั ช้ีวดั
๒๔๖ คำอธิบายรายวิชาพนื้ ฐาน รหสั วิชา ส15102 ประวตั ศิ าสตร์ กลุม่ สาระการเรียนรสู้ ังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม ช้ันประถมศึกษาปีที่ 5 เวลา 40 ช่ัวโมง / ปี ......................................................................................................................................................................... ศึกษาวิเคราะหค์ วามเป็นมาของทอ้ งถิ่นโดยใช้หลักฐานที่หลากหลายรวบรวมข้อมูลจากแหล่งต่าง ๆเพื่อ ตอบคำถามทางประวัติศาสตร์อย่างมีเหตุผลความแตกต่างระหว่างความจริงกับข้อเท็จจริงเกี่ยวกับเรื่องราวใน ท้องถ่ินอทิ ธิพลของอารยธรรมอนิ เดียและจีนท่ีมตี ่อไทยและเอเชยี ตะวนั ออกเฉียงใต้โดยสงั เขปอิทธิพลของวัฒนธรรม ต่างชาติที่มตี ่อสังคมไทยปัจจุบันโดยสงั เขปพฒั นาการของอาณาจักรอยุธยาและธนบรุ ีโดยสงั เขปประวัติและผลงาน ของบคุ คลสำคญั สมัยอยธุ ยาและธนบรุ ที ี่นา่ ภาคภูมิใจภูมปิ ญั ญาไทยทส่ี ำคัญสมัยอยุธยาและธนบรุ ีท่ีน่าภาคภูมใิ จและ ควรค่าแก่การอนรุ กั ษไ์ วป้ จั จัยท่สี ่งเสรมิ ความเจรญิ รงุ่ เรอื งทางเศรษฐกจิ และการปกครองของอาณาจักรอยุธยา โดยใช้วิธีการทางประวัติศาสตร์กระบวนคิดกระบวนการสืบค้นข้อมูล กระบวนการปฏิบัติกระบวนการ ทางสังคม กระบวนการกลุ่ม กระบวนการเผชิญสถานการณ์และแก้ปัญหาการสืบค้นข้อมูล การรวบรวม การ สอ่ื สาร การใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ เพอื่ ให้เกดิ ความรู้ ความเขา้ ใจ เกดิ ความสามารถในการคิด ความสามารถ ในการสอ่ื สารความ สามาร ในการแก้ปญั หา ความสามารในการใช้ทกั ษะชวี ิต และความสามารในการใช้เทคโนโลยีอยา่ งมีประสทิ ธิภาพ มีจิต สาธารณะ มีคุณธรรม มีความรักชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ และเป็นพลเมืองดีของสังคมมีวินัย ใฝ่เรียนรู้ มงุ่ ม่นั ในการทำงาน รหสั ตัวช้ีวัด ส 4.1 ป.5/1 , ป.5/2 , ป.5/3 ส 4.2 ป.5/1 , ป.5/2 ส 4.3 ป.5/1 , ป.5/2 , ป.5/3, ป.5/4 รวมท้งั หมด 9 ตวั ชว้ี ัด
๒๔๗ คำอธบิ ายรายวิชาพืน้ ฐาน รหสั วชิ า ส16101 สังคมศกึ ษาฯ กลมุ่ สาระการเรียนร้สู ังคมศึกษาศาสนา และวัฒนธรรม ชัน้ ประถมศึกษาปที ี่ 6 เวลาเรียน 80 ชว่ั โมง / ปี ......................................................................................................................................................................... ศึกษาวิเคราะห์ความสำคัญของพระพุทธศาสนาในฐานะเป็นศาสนาประจำชาติ หรือความสำคัญของ ศาสนาที่ตนนับถือพุทธประวตั ิตั้งแต่ปลงอายุสังขารจนถงึ สังเวชนียสถานหรือประวัติศาสดาที่ตนนับถือเห็นคุณคา่ และประพฤติตนตามแบบอย่างการดำเนินชีวติ และข้อคดิ จากประวัติสาวกชาดก เรอื่ งเล่า ศาสนิกชนตัวอย่าง เห็นความสำคญั และการเคารพพระรตั นตรัย ปฏิบัติตามไตรสิกขาและหลักธรรมโอวาท 3 ในพระพุทธศาสนา หรือ หลกั ธรรมของศาสนาทีต่ นนบั ถอื การทำความดีของบุคคลในประเทศตามหลกั ศาสนาพรอ้ มทัง้ บอกแนวปฏิบัติในการ ดำเนินชีวิตคุณค่าและการสวดมนต์แผ่เมตตา และบริหารจิตเจริญปัญญา มีสติที่เป็นพื้นฐานของสมาธิใน พระพุทธศาสนาหรือการพฒั นาจติ ตามแนวทางของศาสนาที่ตนนับถือปฏิบัตติ นตามหลักธรรมของศาสนาที่ตนนบั ถือเพื่อแกป้ ญั หาอบายมุขและสิง่ เสพติดหลักธรรมสำคัญ ของศาสนาอื่น ๆ โดยสังเขปลักษณะสำคัญของศาสนพิธี พิธกี รรมของศาสนาอื่น ๆ และปฏบิ ตั ติ นได้ อย่างเหมาะสม เมื่อต้องเขา้ ร่วมพธิ คี วามรู้เกยี่ วกับสถานที่ต่าง ๆ ในศาสนสถาน และปฏิบัติตนได้อย่างเหมาะสมมรรยาทของความเป็นศาสนิกชนที่ดีประโยชน์ของการเข้าร่วม ในศาสนพิธี พิธีกรรม และกิจกรรมในวันสำคัญทางศาสนาตามท่ีกำหนด และปฏิบัตติ นได้ถูกต้องแสดงตนเป็นพุทธ มามกะหรือแสดงตนเป็น ศาสนิกชนของศาสนาที่ตนนับถือการปฏิบัติตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับ ชีวิตประจำวันของครอบครัวและชุมชนการเปล่ียนแปลงวัฒนธรรมตามกาลเวลาและธำรงรกั ษาวัฒนธรรมอันดงี าม การแสดงออกถึงมารยาทไทยได้เหมาะสม ถูกกาลเทศะคุณค่าทางวัฒนธรรมที่แตกต่างกันระหว่างกลุ่มคนใน สงั คมไทย การติดตามข้อมลู ข่าวสารเหตุการณต์ า่ ง ๆ ในชวี ิตประจำวนั เลือกรับและใชข้ ้อมูลข่าวสารในการเรยี นรู้ได้ เหมาะสม การเปรียบเทียบบทบาท หน้าที่ขององค์กรปกครองสว่ นท้องถิ่นและรัฐบาลการมสี ่วนร่วมในกิจกรรม ต่าง ๆ ที่ส่งเสริมประชาธิปไตยในท้องถิ่นและประเทศบทบาท ความสำคัญในการใช้สิทธิออกเสียงเลือกตั้งตาม ระบอบประชาธปิ ไตยบทบาทของผู้ผลิตท่มี ีความรับผิดชอบบทบาทของผู้บริโภคทีร่ ู้เท่าทันวิธีและประโยชน์ของการ ใชท้ รัพยากรอย่างยัง่ ยืนความสมั พนั ธ์ระหวา่ งผูผ้ ลิต ผบู้ ริโภค ธนาคาร และรฐั บาล การยกตัวอยา่ งการรวมกลุ่มทาง เศรษฐกจิ ภายในท้องถ่ิน การใชเ้ คร่ืองมอื ทางภูมศิ าสตร(์ แผนที่ ภาพถา่ ยชนิดตา่ ง ๆ)ระบลุ ักษณะสำคัญทางกายภาพ และสังคมของประเทศความสัมพันธ์ระหว่างลักษณะทางกายภาพกับปรากฏการณ์ทางธรรมชาติของประเทศ ความสมั พันธร์ ะหวา่ งส่งิ แวดล้อมทางธรรมชาตกิ บั สิ่งแวดล้อม ทางสังคมในประเทศการแปลงสภาพธรรมชาติใน ประเทศไทย จากอดตี ถึงปจั จุบัน ลักษณะทางภูมศิ าสตรแ์ ละโครงการชลประทานเมอื งโคราช และผลท่ีเกิดข้ึนจาก การเปล่ียนแปลงนัน้ จดั ทำแผนการใช้ทรัพยากรในชมุ ชน โดยใช้กระบวนการสืบค้นข้อมูลโดยใช้กระบวนคิด กระบวนการสืบค้นข้อมูล กระบวนการปฏิบัติ กระบวนการทางสังคม กระบวนการกลมุ่ กระบวนการเผชญิ สถานการณ์และแก้ปญั หา การตดิ ตามข้อมูล การจัดพิธีกรรม การนำเสนอข้อมูล การมีส่วนร่วม การใช้เครื่องมือทางภมู ิศาสตร์ การสื่อสาร การสื่อสาร การใช้เทคโนโลยสี ารสนเทศ เพื่อให้เกิดความรู้ ความเข้าใจ เห็นคุณค่า บำเพ็ญประโยชน์ มีความสามารถทางภูมิศาส ตร์ เกิด ความสามารถในการคดิ ความสามารในการสอ่ื สาร ความสามารในการแกป้ ญั หา ความสามารในการใชท้ ักษะชีวิต และความสามารในการใช้เทคโนโลยอี ย่างมปี ระสทิ ธิภาพ มีจติ สาธารณะ มคี ณุ ธรรม มีความรกั ชาติ ศาสนา พระมหากษัตรยิ ์ และเปน็ พลเมอื งดขี องสงั คมมวี นิ ัย ใฝเ่ รยี นรู้ มุง่ มัน่ ในการทำงาน
๒๔๘ รหัสตวั ชีว้ ัด ส 1.1 ป.6/1 , ป.6/2 , ป.6/3,ป.6/4, ป.6/5 , ป.6/6 , ป.6/7 , ป.6/8 ,ป.6/9 ส 1.2 ป.6/1 , ป.6/2 , ป.6/3, ป.6/4 ส 2.1 ป.6/1 , ป.6/2 , ป.6/3 , ป.6/4 , ป.6/5 ส 2.2 ป.6/1 , ป.6/2 , ป.6/3 ส 3.1 ป.6/1 , ป.6/2 , ป.6/3 ส 3.2 ป.6/1 , ป.6/2 ส 5.1 ป.6/1 , ป.6/2 ส 5.2 ป.6/1 , ป.6/2 , ป.6/3 รวมทง้ั หมด 32 ตวั ชี้วัด
๒๔๙ คำอธบิ ายรายวิชาพ้นื ฐาน รหสั วชิ า ส16102 ประวัติศาสตร์ กลุม่ สาระการเรยี นรูส้ ังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม ชั้นประถมศึกษาปที ี่ 6 เวลา 40 ช่ัวโมง / ปี ......................................................................................................................................................................... ศึกษาความสำคัญของวิธีการทางประวัติศาสตร์ ในการศึกษาเรื่องราวทางประวัติศาสตร์อย่างง่าย ๆ นำเสนอข้อมูลจากหลักฐานที่หลากหลายในการทาความเข้าใจเรื่องราวสำคัญในอดีตสภาพสังคม เศรษฐกิจและ การเมืองของประเทศเพ่ือนบา้ นในปจั จุบนั ความสมั พันธ์ของกลุม่ อาเซียนพัฒนาการของไทยสมยั รัตนโกสินทรผ์ ลงาน ของบคุ คลสำคญั ดา้ นต่าง ๆสมยั รตั นโกสินทร์ภูมิปญั ญาไทยที่สำคญั สมัยรัตนโกสินทร์ทีน่ ่าภาคภูมิใจ และควรค่าแก่ การอนรุ กั ษ์ไว้ปัจจยั ที่สง่ เสรมิ ความเจริญรุง่ เรืองทางเศรษฐกิจและการปกครองของไทยสมัยรตั นโกสินทร์ โดยใช้วิธีการทางประวัติศาสตร์กระบวนคิดกระบวนการสืบค้นข้อมูล กระบวนการปฏิบัติกระบวนการ ทางสังคม กระบวนการกลุม่ กระบวนการเผชญิ สถานการณ์และแก้ปัญหาการนำเสนอ การยกตวั อย่าง การ รวบรวมขอ้ มลู การสอื่ สาร การใชเ้ ทคโนโลยีสารสนเทศ เพ่อื ใหเ้ กิดความรู้ ความเขา้ ใจ เกดิ ความสามารถในการคิด ความสามารถ ในการส่ือสารความ สามาร ในการแก้ปญั หา ความสามารในการใช้ทักษะชวี ิต และความสามารในการใช้เทคโนโลยอี ย่างมีประสิทธิภาพ มีจิต สาธารณะ มีคุณธรรม มีความรักชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ และเป็นพลเมืองดีของสังคมมีวินัย ใฝ่เรียนรู้ ม่งุ ม่นั ในการทำงาน รหัสตวั ช้ีวัด ส 4.1 ป.6/1 , ป.6/2 ส 4.2 ป.6/1 , ป.6/2 ส 4.3 ป.6/1 , ป.6/2 , ป.6/3 , ป.6/4 รวมทัง้ หมด 8 ตวั ชี้วัด
๒๕๐ คำอธิบายรายวิชาพ้นื ฐาน รหัสวชิ า ส21101 สังคมศึกษา กล่มุ สาระการเรยี นรู้ สังคมศึกษา ศาสนาและวฒั นธรรม ช้ันมัธยมศกึ ษาปที ี่ 1 ภาคเรยี นท่ี 1 เวลา 60 ช่ัวโมง จำนวน 1.5 หน่วยกิต ......................................................................................................................................................................... ศึกษา วเิ คราะห์พุทธประวตั ติ ้งั แต่ประสตู ิจนถงึ บาเพญ็ ทุกรกิรยิ าหรอื ประวตั ศิ าสดาทต่ี นนบั ถอื การเผยแผ่พระพุทธศาสนาหรือศาสนาทีต่ นนับถอื สู่ประเทศไทย ความสำคัญของพระพุทธศาสนาหรือศาสนาท่ีตน นับถือ ที่มีต่อสภาพแวดล้อมในสังคมไทย รวมทั้งการพัฒนาตนและครอบครัว การประพฤติตนตามแบบอยา่ งการ ดำเนินชีวิต และขอ้ คิดจากประวัตสิ าวก ชาดกเรอื่ งเลา่ และศาสนิกชนตัวอย่างพุทธคุณและขอ้ ธรรมสำคัญ ในกรอบ อรยิ สัจ ๔ หรือหลกั ธรรม ของศาสนาท่ีตนนับถอื ตามทีก่ ำหนดเห็นคุณค่าและนำไปพัฒนาแก้ปญั หาของตนเองและ ครอบครัว เห็นคุณค่าของการพัฒนาจิตเพ่ือการเรียนรู้และการดำเนินชีวิต ด้วยวิธีคิดแบบโยนิโสมนสิการ คือวิธี คิดแบบคณุ ค่าแท้ – คุณคา่ เทยี ม และวธิ คี ดิ แบบคณุ – โทษ และทางออกหรอื การพฒั นาจติ ตามแนวทางของศาสนา ทตี่ นนบั ถอื การสวดมนต์ แผเ่ มตตา บริหารจิต และเจริญปญั ญาด้วยอานาปานสตหิ รอื ตามแนวทางของศาสนาที่ตน นับถือตามที่กำหนด การปฏิบัติตนตามหลักธรรมทางศาสนาที่ตนนับถือในการดำรงชีวิตแบบพอเพียง และดูแล รักษาสิ่งแวดล้อมเพื่อการอยู่ร่วมกันได้อย่างสันติสุข การวิเคราะห์เหตุผล ความจำเป็นที่ทุกคนต้องศึกษาเรียนรู้ ศาสนาอืน่ ๆ การปฏบิ ัติตนตอ่ ศาสนกิ ชนอืน่ ในสถานการณ์ต่าง ๆ ไดอ้ ยา่ งเหมาะสมวิเคราะหก์ ารกระทาของบุคคล ท่ีเปน็ แบบอยา่ งดา้ นศาสนสัมพนั ธ์และนำเสนอแนวทางการปฏิบัติของตนเอง การบำเพญ็ ประโยชน์ต่อศาสนสถาน ของศาสนาที่ตนนับถือจริยวัตร ของสาวกเพอ่ื เปน็ แบบอยา่ งในการประพฤติปฏิบัตแิ ละปฏิบัตติ นอย่างเหมาะสมต่อ สาวกของศาสนาท่ีตนนบั ถือการปฏบิ ตั ิตนอยา่ งเหมาะสมต่อบุคคลต่าง ๆ ตามหลักศาสนา ท่ตี นนบั ถอื ตามที่กาหนด การจัดพิธีกรรม และปฏิบัติตนในศาสนพิธี พิธีกรรมได้ถูกต้องประวัติ ความสำคัญและปฏิบัติตนในวันสำคัญ ทาง ศาสนาทตี่ นนบั ถือตามท่ีกำหนดได้ถูกตอ้ งกฎหมายในการคุม้ ครองสทิ ธขิ องบุคคลบทบาทและหนา้ ที่ของเยาวชนท่ีมี ตอ่ สังคม และประเทศชาตคิ ุณคา่ ทางวัฒนธรรมทเ่ี ป็นปัจจัยในการสร้างความสัมพันธ์ท่ีดีหรืออาจนาไปสู่ความเข้าใจ ผิดต่อกัน การแสดงออกถึงการเคารพในสิทธิเสรีภาพของตนเองและผู้อื่นหลักการ เจตนารมณ์ โครงสร้าง และ สาระสำคัญของรัฐธรรมนญู แห่งราชอาณาจักรไทย ฉบับปัจจุบนั โดยสงั เขป บทบาทการถว่ งดุลของอานาจอธิปไตย ในรฐั ธรรมนญู แหง่ ราชอาณาจักรไทยฉบับปัจจุบัน การปฏบิ ัติตนตามบทบัญญัติของรัฐธรรมนญู แหง่ ราชอาณาจักร ไทย ฉบบั ปจั จุบันทเ่ี กีย่ วขอ้ งกับตนเอง โดยใชก้ ระบวนคดิ กระบวนการสืบคน้ ข้อมลู กระบวนการปฏบิ ัติ กระบวนการทางสังคม กระบวนการ กลมุ่ กระบวนการเผชิญสถานการณแ์ ละแกป้ ัญหา การสอ่ื สาร และการใช้เทคโนโลยสี ารสนเทศ เพื่อให้เกิดความรู้ ความเข้าใจ มีความสามารถในการคิด ความสามารในการสื่อสาร ความสามารใน การแก้ปัญหา ความสามารในการใช้ทักษะชีวิต และความสามารในการใช้เทคโนโลยีอย่างมีประสิทธิภาพ มีจิต สาธารณะ มีคุณธรรม มีความรักชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ และเป็นพลเมืองดีของสังคมมีวินัย ใฝ่เรียนรู้ ม่งุ ม่ันในการทำงาน
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147
- 148
- 149
- 150
- 151
- 152
- 153
- 154
- 155
- 156
- 157
- 158
- 159
- 160
- 161
- 162
- 163
- 164
- 165
- 166
- 167
- 168
- 169
- 170
- 171
- 172
- 173
- 174
- 175
- 176
- 177
- 178
- 179
- 180
- 181
- 182
- 183
- 184
- 185
- 186
- 187
- 188
- 189
- 190
- 191
- 192
- 193
- 194
- 195
- 196
- 197
- 198
- 199
- 200
- 201
- 202
- 203
- 204
- 205
- 206
- 207
- 208
- 209
- 210
- 211
- 212
- 213
- 214
- 215
- 216
- 217
- 218
- 219
- 220
- 221
- 222
- 223
- 224
- 225
- 226
- 227
- 228
- 229
- 230
- 231
- 232
- 233
- 234
- 235
- 236
- 237
- 238
- 239
- 240
- 241
- 242
- 243
- 244
- 245
- 246
- 247
- 248
- 249
- 250
- 251
- 252
- 253
- 254
- 255
- 256
- 257
- 258
- 259
- 260
- 261
- 262
- 263
- 264
- 265
- 266
- 267
- 268
- 269
- 270
- 271
- 272
- 273
- 274
- 275
- 276
- 277
- 278
- 279
- 280
- 281
- 282
- 283
- 284
- 285
- 286
- 287
- 288
- 289
- 290
- 291
- 292
- 293
- 294
- 295
- 296
- 297
- 298
- 299
- 300
- 301
- 302
- 303
- 304
- 305
- 306
- 307
- 308
- 309
- 310
- 311
- 312
- 313
- 314
- 315
- 316
- 317
- 318
- 319
- 320
- 321
- 322
- 323
- 324
- 325
- 326
- 327
- 328
- 329
- 330
- 331
- 332
- 333
- 334
- 335
- 336
- 337
- 338
- 339
- 340
- 341
- 342
- 343
- 344
- 345
- 346
- 347
- 348
- 349
- 350
- 351
- 352
- 353
- 354
- 355
- 356
- 357
- 358
- 359
- 360
- 361
- 362
- 363
- 364
- 365
- 366
- 367
- 368
- 369
- 370
- 371
- 372
- 373
- 374
- 375
- 376
- 377
- 378
- 379
- 380
- 381
- 382
- 383
- 384
- 385
- 386
- 387
- 388
- 389
- 390
- 391
- 392
- 393
- 394
- 395
- 396
- 397
- 398
- 399
- 400
- 401
- 402
- 403
- 404
- 405
- 406
- 407
- 408
- 409
- 410
- 411
- 412
- 413
- 414
- 415
- 416
- 417
- 418
- 419
- 420
- 421
- 422
- 423
- 424
- 425
- 426
- 427
- 428
- 429
- 430
- 431
- 432
- 433
- 434
- 435
- 436
- 437
- 438
- 439
- 440
- 441
- 442
- 443
- 444
- 445
- 446
- 447
- 448
- 449
- 450
- 451
- 452
- 453
- 454
- 455
- 456
- 457
- 458
- 459
- 460
- 461
- 462
- 463
- 464
- 465
- 466
- 467
- 468
- 469
- 470
- 471
- 472
- 473
- 474
- 475
- 476
- 477
- 478
- 479
- 480
- 481
- 482
- 483
- 484
- 485
- 486
- 487
- 488
- 1 - 50
- 51 - 100
- 101 - 150
- 151 - 200
- 201 - 250
- 251 - 300
- 301 - 350
- 351 - 400
- 401 - 450
- 451 - 488
Pages: