Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore แผนการจัดการเรียนรู้ Close up 2

แผนการจัดการเรียนรู้ Close up 2

Published by Teacher Ya Channel, 2021-03-26 14:44:13

Description: แผนการจัดการเรียนรู้ Close up 2
ภาษาอังกฤษพื้นฐาน ชั้นม.2

Search

Read the Text Version

131 131 เรื่องแรกจะมีช่ือ Styles แตละ Styles แลวจะมีภาพของ Styles น้ันๆปรากฎ ครูจะกด Pause เมื่อช่ือข้ึนมาให นกั เรยี นจดไว เพ่อื ดูวา ภาพที่ตามมา ภาพใดท่นี กั เรียนชอบเปน Style ช่ือวาอะไร อาจเลือกไดมากกวา 1 ภาพเมื่อนักเรียนพรอมแลว ครูเปด Youtubeเรือ่ งแรก (กด Pause ทุกคร้งั ทชี่ อ่ื ขึ้นมา) 2. ครอู ธิบายคลปิ เรอ่ื งที่ 2 นักเรยี นจะไดเห็นประเภทของหนังสือที่เขียนไดดีที่สุดอยู 10 ประเภท ใหนักเรียนคิดในใจวา นกั เรยี นชอบอานประเภทใด แลวจดช่ือไว ครูสุมถามนักเรียน Which style of art do you like? Why? Which type of book do you like? Why?  Presentation 1. ครูแจกใบความรูแลวบอกนักเรียนวา “The picture in this knowledge paper can help you to make up your mind.” 2. ครูเขียนประโยคบนกระดาน I like realism art better than abstract art. I prefer realist art to abstract art.(ครูขดี เสน ใตค าํ วา like กบั prefer _ _ _ to) 3. ครูถามนักเรียนวา What is the difference between like and prefer? (Both of them have the same meaning but we don’t use than with “prefer” “Like” is a habit but “prefer” is a feeling.) 4. ครูเขยี น “I like spy book better than comedy book.” แลว ขออาสมคั รมาเปลย่ี นประโยค โดยใช“prefer” 5. ครอู ธบิ ายเพิม่ เติม prefer + to + V1 = prefer + Ving 6. ครใู หอ าสาสมัครมาเขียนประโยค like กับ prefer ตามที่นักเรียนไดเลือกไวบนกระดานเพ่ือนๆชวยกันตรวจความถูก ตอ ง ครูอธิบายเพมิ่ เติม 7. ครูอธบิ ายแลวอา นออกเสียงคาํ วา genre ใหนกั เรียนออกเสยี งตาม อธบิ ายวาคํานี้มาจากภาษาฝร่ังเศส เจาของภาษาจะ ออกเสียง.....แตกตา งกัน จากนั้นเขยี น Genres = groups, classification บนกระดาน 8. ครใู หน กั เรียนอา น Exam up และ Useful Express ใน Student’s Book หนา 39 9. ครแู จกใบงานใหนกั เรยี นจับคูคาํ ถามกับคําตอบ นกั เรียนเขียนคาํ ตอบบนกระดาน 10. ครขู ดี เสน ใตค ําวา like และ prefer ในท้งั คําถามและคาํ ตอบ พรอมอธบิ ายเพิม่ เติม  Practice 1. ครูแจกและอธบิ ายใบงานที่ 2 ใหนกั เรียนจับคูช วยกนั ทาํ คูใดเขยี นคําตอบบนกระดานไดถ กู ตอ งท่ีสดุ ครูมีรางวัลให 2. ครอู ธิบายคาํ สงั่ A ใน Student’s Book หนา 39 แลวใหนกั เรยี นจบั คผู ลัดกนั ถาม ตอบ และใหเ หตผุ ล ใหนักเรียนเขียน คาํ ตอบของเพ่ือนลงดานหลงั ใบงานท่ี 2 (ใหใ ชสรรพนามใหถ กู ตอง) เฉลยคําตอบ Speaking A ใน Student’s Book หนา 39 Students’ own answers 3. ครูสุมนกั เรยี น 6 คู มานําเสนอหนาชั้นเรียน โดยเปลี่ยนสรรพนามใหถกู ตอ ง 4. ครูอธิบายคําสั่ง B ใน Student’s Book หนา 39 นักเรียนทําโดย อาสาสมัครมาเขียนคําตอบบนกระดาน เพื่อนๆ ชวยกนั ตรวจความถูกตอง (ครูอธิบายเพ่มิ เติม) เฉลยคําตอบ Speaking B ใน Student’s Book หนา 39 1. What type; I don’t; better 2. Which ones: Yes, I prefer 3. because: Me too  Production 1. ครอู ธบิ ายคําส่งั แบบฝก หดั C ใน Student’s Book หนา 39 นกั เรยี นจับคูกนั ทําแบบฝกหัด ดวยการสนทนาแลวบันทึก ขอ มลู ลงในตารางแบบฝกหัด เฉลยคําตอบ Speaking C ใน Student’s Book หนา 39 Students’ own answers คมู ือครแู ละแผนการจัดการเรียนรู Close-up 2 ชั้นมธั ยมศึกษาปท ่ี 2

132 2. นักเรยี นนําขอมูลท่ีไดม าเขยี นบทสนทนา สง ครใู นชั้นเรยี น 3. ครูสมุ นักเรยี น 4-6 คู มาสนทนาหนา ชนั้ เรียน 4. เพ่ือนๆชว ยกันตรวจและใหค ําแนะนํา (ครเู พิม่ เตมิ ) นักเรยี นแกไขงานแลวนาํ สงอีกคร้ัง 6. การวดั และประเมนิ ผล เครื่องมอื เกณฑการวัด วิธีการวดั - ใบงาน - ถูกตองทงั้ หมด 1. สังเกตจากการทําใบงาน - แบบฝกหัด - ถูกตอ งทง้ั หมด 2. สงั เกตจากการทาํ แบบฝกหดั - บทสนทนา - Excellent, Good, Fair 3. สังเกตจากการเขยี นบทสนทนา 7. ส่ือ/แหลงการเรียนรู 7.1 คลปิ วีดโี อ เรอื่ ง Styles of Art, Top 10 Best Book Genre จาก www.youtube.com 7.2 หนังสือเรียน Close-up 2, Unit 3 หนา 39 8. บันทึกหลงั การจัดการเรยี นรู (ควรบันทึกการทํางานรวมกันของนักเรยี น เพ่ือนํามาแกไขปรบั เปลยี่ น ใหน ักเรยี นสนใจ และลงมือปฏบิ ัติดวยตนเองตอไป) 9. กจิ กรรมเสนอแนะ .............................................................................................................................................................................................................. ................................................................................................................................................................................................................... คมู อื ครแู ละแผนการจัดการเรียนรู Close-up 2 ชน้ั มัธยมศึกษาปท ่ี 2 5

133 133 ใบความรูท ่ี 1 Expressionism Abstract Realism The Scream by Edvard Munch (1893) Robert Delaunay, 1912–13, Le Premier Jean-Baptiste Greuze, the Laundress, 1761 Disque, Styles of Art Impressionism Surrealism Claude Monet, Woman with a Parasol - “Arrested Expansion or Cardiac Arrest By George Grie Madame Monet and Her Son (Camille and Jean Monet), 1875 Cubism Fascism Pablo Picasso, 1910, Girl with a Mandolin (Fanny Tellier) Gino Severini, 1912, Dynamic Hieroglyphic of the Bal Tabarin Action Spy medy Co Comic Comedy Top 10 Best Book Genres Fantasy Horror Murder Mystery Choose Your Path Romance Adventure คมู อื ครูและแผนการจดั การเรียนรู Close-up 2 ช้นั มัธยมศึกษาปที่ 2

134 ใบงานที่ 1 Match the question (1-5) with the given answers (a-e). Questions: 1. Would you like to paint in the patio or in the gallery? 2. Which one do you like better? 3. Do you prefer reading a book or seeing the film? 4. What do you prefer? 5. Do you prefer a romance book or a comedy one? Answers: a. I prefer seeing the film.(3) b. I like a comedy book better. (5) c. I’d prefer patio to gallery, please. (1) d. I prefer an abstract art to a cubism one. (2) e. I prefer to read a mystery book. (4) ใบงานที่ 2 Arrange the words to form suitable sentences. Begin with a capital letter and end with a full stop or question mark. 1. do / you / type / what / book / of / prefer .............(.W....h..a...t..t..y..p..e....o...f..b...o..o...k...d..o....y..o...u...p...r.e..f..e..r.?..).................................................................................. 2. classical / which / like / pop / better / music / do / one / you /Music / better / or /, ..............(.W...h...i.c..h...o...n..e....d..o....y..o...u....l.i.k..e...b...e..t.t..e..r..,..c..l.a..s..s..ic..a...l..m....u..s..i.c...o...r...p..o...p...m....u...s.i.c..?................................... 3. in / are / painting / you / creative .............(.A..r..e...y...o..u....c..r.e..a...t.i.v..e....i.n...p...a..i.n..t..i.n..g..?............................................................................................... 4. do / or / prefer / you / painting / the / writing / picture / book ...........(..D..o....y..o...u...p...r.e...f.e..r...w...r.i.t..in...g...t..h..e....b..o..o...k...o...r..p...a..i.n..t..i.n..g....................................................................... picture? 5. is / artist / your / who / favourite ............(.W...h...o....i.s...y..o..u...r..f..a..v..o..u...r.i.t.e....a..r.t..i.s.t..?................................................................................................. คูมือครูและแผนการจัดการเรยี นรู Close-up 2 ชั้นมธั ยมศกึ ษาปท ี่ 2 5

135 135 แผนจดั การเรยี นรู หนวยการเรียนรทู ่ี 3 เร่อื ง Be Creative! แผนการจัดการเรยี นรูท ี่ 9 เรื่อง Novel, Narrative, Short Story รหัสวิชา ................... รายวิชาพื้นฐานภาษาอังกฤษ ชนั้ มธั ยมศึกษาปที่ 2 กลมุ สาระการเรียนรูภาษาตา งประเทศ ปก ารศึกษา 25...... ภาคเรียนท่.ี ......เวลา 1 ช่ัวโมง ผูสอน..................................................... 1. มาตรฐานการเรียนร/ู ตวั ชวี้ ดั ต.1.1 ม.2/4 เลือกหวั ขอ เรื่อง ใจความสําคญั บอกรายละเอียดสนบั สนุน (supporting detail) และแสดงความคิดเห็น เก่ยี วกับเรอื่ งทฟี่ ง และอาน พรอ มท้ังใหเหตผุ ลและยกตวั อยา งงา ยๆ ประกอบ 2. จดุ ประสงคก ารเรียนรู เขยี นลาํ ดับใจความตามรูปแบบท่ีกําหนดใหไดถ ูกตอ ง 3. สาระสําคญั /ความคิดรวบยอด (Learning Concept) การเขียนเร่ืองส้ันๆโดยใชโครงสรางภาษาที่มีการเชื่อมโยงแบงยอหนาเปนสัดสวน ทําใหผูเรียนเกิดทักษะท่ีจะเรียนรู ภาษาองั กฤษ ดวยการอาน - ฟง - พูด จนไดบ รรลุตามเปา หมาย 4. สาระการเรยี นรู (Learning Contents) 4.1 ดา นความรู (Knowledge) Pronunciation: - Vocabulary: eventually, paragraph, conclusion, paragraph, conclusion, tidy, huge, mess. Eventually Grammar: Narrative Tenses Function: Describing events Culture: - 4.2 ดานทกั ษะกระบวนการ (Process/Skill) 1) ตอบคําถามจากการดูสื่อวดี ีโอ 2) จับใจความสําคญั และสามารถแยกแยะสวนประกอบของเนื้อหาจากเร่อื งท่ีอานได 3) เขยี นประโยคดว ยโครงสรางทางไวยากรณทถี่ ูกตอ ง 4.3 ดา นเจตคติ (Attitude/Desired) 1) มนี ิสยั รักการอาน 5. กจิ กรรมการเรยี นรู  Lead-in 1. ครเู ปด คลปิ วีดโี อจาก www.youtube.com เรอ่ื ง Harry Potter’s First Flying Lesson (4.10 นาที) ครูกด Pause ที่นาที ที่ 2.42 คอยสงั เกตนักเรยี นในขณะทด่ี วู ดี ีโอ ถานกั เรียนเงยี บ ครู elicit คําถาม Do you know what his name is? What’s the title of the film? 2. ครูเขียน Harry Porter บนกระดาน Before being made into a great film, Harry Porter is famous for a novel. ครูเขียน “Novel” บนกระดาน 3. ครูถาม Can you guess what the meaning of “Novel” is? 4. ครูเขียน A novel is a very long narrative. Do you know who writes this novel? 5. ครเู ขียน J.K Rowling writes it. She is an author. What does narrative mean? 6. ครูเขียน It’s a story that is turned into an information or knowledge for the reader. คูมือครแู ละแผนการจดั การเรยี นรู Close-up 2 ชัน้ มธั ยมศกึ ษาปท ่ี 2

136 7. ครูพูดตอวา In Unit 9 and 10 you’ve ever written a short story. Do you remember? Now you are going to write a narrative.  Presentation 1. ครูแจกใบงานท่ี 1 แลว ใหน ักเรียนอา นใบความรอู กี ครั้ง โดยเลือกความหมายของคําที่จับคไู ปตคี วามประโยคท่ีอานใหส ัมพันธกนั 2. นักเรยี นเขียนคาํ ตอบบนกระดาน เพื่อนๆชวยกนั ตรวจ และบอก Context Clues ท่ีใชในการตัดสนิ ใจ 3. ครูใหน ักเรยี น อา นเรอ่ื งท่เี รียงลําดับถกู ตอ งแลว พรอ มๆ กัน (ครูแกไขคาํ ทอ่ี อกเสียงไมถกู ตอง) 4. ครูใหน ักเรียนออกมาชว ยกนั เขียนเร่ืองท้ังหมดบนกระดานคนละประโยค 5. ครูอธบิ ายเร่ือง Paragraph วา ในเรือ่ ง 1 เรื่องควรแบงเปนยอหนา เม่อื พูดสถานะการณใหมควรยอหนาใหม แลว ใหน กั เรียนชว ยกนั พิจารณาวา ควรยอ หนา ทีใ่ ดบาง 6. ครูขีดเสนใตต ัวเชื่อมในเร่อื งแลว ใหนักเรียนอา น Useful Exam ใน Student’s Book หนา 41 อธบิ ายเพิ่มเตมิ วา คําเหลา น้ีชว ยใหง านเขยี นเรื่องตอเน่ืองไดอยา งราบรน่ื และเปน Context Clues ชว ยนักเรยี นใหจัดลําดับเน้อื เรอื่ งไดง า ยข้ึน  Practice 1. ครอู ธิบายคาํ สง่ั แบบฝก หดั D ใน Workbook หนา 21 นักเรียนทําแบบฝกหัด ครูสุมใหเขียนคําตอบบนกระดาน เพื่อนๆ ชวยกัน ตรวจลาํ ดับกอน – หลงั ของประโยคพรอมใหเหตผุ ล ครูอธิบายเพ่ิมเติม เฉลยคําตอบ Grammar D ใน Workbook หนา 21 1. e 2. f 3. a 4. c 5. b 6. d 2. ใหนกั เรยี น ทจ่ี ดั ลาํ ดับประโยคถกู ตอ ง แลว มานําอานใหเพ่ือน ๆ อา นตาม 8. reading 3. ครูอธบิ ายคาํ ส่ังแบบฝกหัด E ใน Workbook หนาที่ 21 นักเรยี น ทาํ แบบฝกหัด เฉลยคาํ ตอบ Grammar E ใน Workbook หนา 21 1. were 2. in 3. was 4. is 5. as 6. and 7. has 4. ครูสุมนักเรียน 8 คน ออกมาเขยี นคําตอบบนกระดาน เพ่ือนๆ ชวยกันตรวจ พรอมแสดงเหตุผลในขอที่คิดวาไมถูกตอง ครูช้ีแนะ เพิ่มเติม 5. ครเู รยี กนักเรยี นอานทีละคน คนละประโยค ครูชว ยแกไ ขในคาํ อานท่ียงั ไมถ กู ตอง แลวใหน ักเรยี นอานตาม  Production 1. ครูใหน กั เรียนอาน Learning Reminder แลวทําแบบฝก หดั ในใบงานที่ 2 2. ครูสุมนักเรียน 6 คน เขยี นคาํ ตอบบนกระดาน เพ่อื นๆ ชว ยกนั ตรวจ ครูแนะนาํ เพิม่ เตมิ 3. ครูอธิบายคําสั่งแบบฝกหัด A ใน Workbook หนา 22 ครูสุม นักเรียน ทําแบบฝกหัด A ทีละคนจนครบ 6 ขอ เพื่อนๆ ชวยกัน ตรวจความถกู ตอ ง พรอ มบอกเหตุผล ครตู รวจความถกู ตองอกี ครัง้ พรอ มเพิม่ เตมิ เฉลยคําตอบ Writing A ใน Workbook หนา 22 1. At first 3. As soon as 5. before 2. Suddenly 4. eventually 6. after 6. การวดั และประเมินผล วธิ ีการวดั เครอื่ งมอื เกณฑก ารวดั - ใบความรู, ใบงานที่ 1 - ถูกตอ งทง้ั หมด 1. สังเกตจากการศึกษาใบความรู แลว ทาํ ใบงาน - Student’s Book และ - ถกู ตองท้งั หมด ใบงานที่ 2 2. สงั เกตจากการอาน Useful - แบบฝกหัด - ถูกตองท้งั หมด Reminder แลวทาํ ใบงาน 3. สงั เกตจากการทําแบบฝกหดั คูมือครแู ละแผนการจดั การเรยี นรู Close-up 2 ชัน้ มัธยมศกึ ษาปที่ 2 5

137 137 7. สื่อ/แหลงการเรยี นรู 7.1 คลปิ วีดโี อ จาก www. youtube..com เรือ่ ง Harry Potter’s First Flying Lesson 7.2 หนงั สือเรียน Close-up 2 หนา 41 7.3 แบบฝก หดั Close-up 2 หนา 21-22 7.4 ใบความรู 7.5 ใบงาน 1-2 8. บันทึกหลังการจัดการเรยี นรู ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..……………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………................................................................... 9. กิจกรรมเสนอแนะ .............................................................................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................................................................................... คูมือครแู ละแผนการจัดการเรยี นรู Close-up 2 ช้นั มัธยมศึกษาปท ี่ 2

138 ใบความรู - A “novel” is any relatively long work of narrative fiction, normally in prose, and typically published as a book. - A “narrative” is a report of connected events real or imaginary, presented in a sequence of written or spoken word or still or moving images, or both. - A “story” is a narrative, true or fictitious, shorter and less explain than a novel. Narrative (n.) Narration (n.) Descriptions of the act of telling it orally story itself คมู อื ครแู ละแผนการจัดการเรยี นรู Close-up 2 ชนั้ มัธยมศึกษาปท ี่ 2 5

139 139 ใบงานที่ 1 Vocabulary Match each word to tis meaning, according to the knowledge paper given. image   join fiction   put in order (sequence) report   Dreamy (imaginary) relative   Untrue (fictitious) published   Printed (published) connect   Picture (image) fictitious   a made-up story sequence   having the same (relative) imaginary   description, history, record (report) คมู ือครูและแผนการจัดการเรียนรู Close-up 2 ช้นั มธั ยมศกึ ษาปท ี่ 2

140 ใบงานที่ 2 Re-arrange the paragraphs below in the correct order to from a sensible story. ………….. A. As soon as we decided to swim, we walked along the beach with the swimming suits. There were many people around there. All at onces, we found a space to sit down and put our bags on. ………….. B. Before going to see a policeman, we heard some familiar voice. It made us turn around. Then we saw Hyon Ah running to us with our bags in her both hands. ………….. C. Before going to see a policeman, we heard some familiar voice. It made us turn around. Then we saw Hyon Ah running to us with our bags in her both hands. ………….. D. Eventually, we were nearly to cry. We didn’t know what to do. We lost everything. How were we back home? ………….. E. After that, we went to swim about an hour. When we got back to our place, we didn’t see our bags there. Num was looking for the bags while I was asking people. คมู อื ครแู ละแผนการจดั การเรียนรู Close-up 2 ช้นั มธั ยมศกึ ษาปที่ 2 5

141 141 ใบงานท่ี 3 Put “T” in front of the correct sentences and put “F” in front of the wrong sentences according to the note you’re read. ……………. 1. There are rules for writing narratives. ……………. 2. A formula is useful for organizing an exhibition only. ……………. ……………. 3. Experiences and events were told in narratives. ……………. ……………. 4. Narratives needn’t have any paragraph. 5. At the end of the story writer should have a concluding paragraph 6. Narratives will be interesting, if connecting words are used. 7. คมู ือครูและแผนการจัดการเรยี นรู Close-up 2 ชัน้ มัธยมศกึ ษาปท ี่ 2

142 แผนจดั การเรยี นรู หนวยการเรียนรทู ี่ 3 เร่อื ง Be Creative! แผนการจัดการเรยี นรทู ี่ 10 เรอ่ื ง A Draft รหัสวชิ า ................... รายวิชาพื้นฐานภาษาอังกฤษ ช้นั มัธยมศึกษาปที่ 2 กลมุ สาระการเรียนรูภ าษาตางประเทศ ปก ารศึกษา 25...... ภาคเรียนท.ี่ ......เวลา 1 ชั่วโมง ผสู อน..................................................... 1. มาตรฐานการเรียนรู/ตัวชวี้ ัด ต.1.1 ม.2/4 เลือกหัวขอ เร่ือง ใจความสาํ คญั บอกรายละเอยี ดสนับสนุน (supporting detail) และแสดงความคิดเห็น เก่ียวกับเรอ่ื งที่ฟง และอาน พรอมทง้ั ใหเ หตผุ ลและยกตัวอยา งงา ยๆ ประกอบ 2. จดุ ประสงคการเรยี นรู เขยี นประโยคท่ใี ชในการบรรยายเก่ยี วกบั เรอ่ื งทีก่ ําหนดใหไดถูกตอ ง 3. สาระสําคญั /ความคิดรวบยอด (Learning Concept) การเขยี นบรรยายเรอ่ื งตามลาํ ดบั ขนั้ ตอนในการเขียนนวนิยายส้ันๆ โดยใชโครงสรางภาษาที่เหมาะกับระดับชั้นเรียน ทําให ผูเรยี นเกดิ ทักษะท้งั 4 ดา น จนไดบ รรลเุ ปา หมาย 4. สาระการเรียนรู (Learning Contents) 4.1 ดา นความรู (Knowledge) Pronunciation: con'clusion, so'lution Vocabulary: conclusion, solution, a chess match, protect, harm, plot, draft Grammar: Narrative Sentences Function: Useful Expression Culture: - 4.2 ดานทกั ษะกระบวนการ (Process/Skill) 1) ชมการตนู สนั้ ๆ แลวเขียนจบั ใจความสําคญั 2) ทําแบบฝก หัดเรยี งประโยคใหไ ดใ จความเปนนวนยิ ายสั้นๆ 3) ระดมสมองชว ยกันเขยี นเคาโครงเรือ่ งส้ัน 4.3 ดา นเจตคติ (Attitude/Desired Character) มีประสทิ ธิภาพในการสื่อความ 5. กิจกรรมการเรยี นรู  Lead-in 5.1 ครเู ปด คลิปวีดีโอ จาก www.youtube.com เรื่อง การต นู ตลกฮาๆ 2 ของ Funny Smile 5.2 ครู elicit คําตอบ 1) How many people are there in this story? 2) Which story do you prefer? Why? 3) What do you call these 2 men? 4) Are they tribal? 5) Are they cavemen? - From story No.1 คูมอื ครแู ละแผนการจดั การเรียนรู Close-up 2 ชั้นมัธยมศกึ ษาปท ่ี 2 5

143 143 6) What does he want? - From story No.2 7) What does he want? - From story No.3 8) What does he want? - From story No.4 9) What does he want? 10) Is he creative? 11) Why? / Why not?  Presentation 1. ครใู หนักเรยี นแบงกลุมเปน 4 กลุม ใหตัวแทนกลมุ ออกมาจับฉลาก 2. ครบู อกนักเรยี นวา นักเรยี นแตละกลมุ ตอ งสงตวั แทนออกมาเขยี นประโยคคนละ 1 ประโยค ตามเรื่องท่ีกลุมตนจับฉลากไดเร่ืองละ 3 ขอ ความ 3. ครูแบง กระดานเปน 4 ชอง เพือ่ ใหนักเรียนเขยี นขอความเก่ยี วกับเร่อื งของตน 4. เม่ือนักเรียนเขยี นครบทกุ กลมุ แลว ครูสรปุ วา สงิ่ ทน่ี ักเรยี นเขยี นน้ี เพอ่ื เปน draft ท่ีจะใชใ นการเขยี นเรื่อง 5. ครเู ขียนประโยค ลงในทายชอ งของแตล ะเรื่อง  เรอ่ื งท่ี 1 Mine is better.  เรื่องท่ี 2 Mine is harder.  เรื่องที่ 3 It’s nonsense to fly.  เรอ่ื งที่ 4 It’s lucky. 6. นกั เรยี น อา นประโยคท่คี รูเตมิ ลงแตล ะชอง แลว พจิ ารณาวาเก่ยี วของกับเรอื่ งนั้นๆ หรือไม โดยครคู อย elicit คําถาม :- Is it a good sentence for ending the story? :- Is it related to the story? :- Which draft do you like better? Why? :- Technology makes people more creative. Do you agree? Why? / Why not?  Practice 1. ครอู ธิบายคําสัง่ แบบฝก หัด B ใน Workbook หนา 23 2. นกั เรยี นอานเรือ่ งสั้นในแบบฝกหัด B หนา 23 แลวเลือกวา Draft (1-3) ใด ควรจะเปนของเรอ่ื งทนี่ กั เรยี นอาน เฉลยคาํ ตอบ Writing B ใน Workbook หนา 23 Draft 3 3. ครูถาม ใหนักเรียนตอบดวยการยกมอื ทีละ Draft และถามเหตุผลดว ยวา ทาํ ไมจงึ เลอื ก Draft นี้ ไมเลอื ก Draft อ่นื 4. เมื่อนกั เรยี น ไดฟงเหตผุ ลจากแตละกลุมแลว ครใู หน ักเรยี นสรปุ อกี คร้ังวา Draft ใด ควรเปน Draft ของเรอ่ื งทอี่ าน 5. ครูอธบิ ายคาํ สงั่ แบบฝกหดั C ใน Workbook หนา 23 เฉลยคาํ ตอบ Writing C ใน Workbook หนา Students should tick sentences 1, 2, 3, 4, 5 and 6 6. นกั เรยี นอา น Draft ทั้งหมดทผี่ เู ขยี นรางไวส ําหรับเรอื่ งทน่ี ักเรียนอา นแลว ในแบบฝก หดั A แลวทําแบบฝก หดั C 7. ครขู ออาสาสมัคร เขียนคําตอบ แบบฝกหดั C บนกระดาน นกั เรียนชว ยกันตรวจและแกไ ข ครูอธิบายเพ่ิมเตมิ  Production 1. ใหน กั เรียนกลมุ ทจี่ ับฉลากไดทั้ง 4 กลุม เขียนเรื่องของกลุมตัวเอง ใหเปนประโยคท่ีถูกตอง โดยไมตองเรียงลําดับประโยค แลว นาํ มาเขยี นบนกระดาน ใหไ ดกลมุ ละ 4-5 ประโยค แลวใหก ลุมอนื่ มาเรยี งลาํ ดับ ใหเปน เรื่องท่สี มบรู ณ คูม ือครูและแผนการจัดการเรียนรู Close-up 2 ช้ันมธั ยมศึกษาปที่ 2

144 2. นักเรยี นชวยกันตดั สนิ วา กลุม ใดเรยี งลาํ ดบั ไดถ ูกและเขียนเรื่องของตนเองไดถูกตองนาสนใจ กลุมน้ันเปน The Winner (ครูชวย ตดั สนิ ) 6. การวัดและประเมินผล เคร่ืองมอื เกณฑการวัด - คาํ ถาม - ตอบไดท กุ ขอ แสดงวาเขาใจ วิธีการวดั 1.สงั เกตจากการตอบคาํ ถามท่คี รู elicit 2. สังเกตุจากการทาํ แบบฝกหัด - แบบฝกหดั - ถูกทกุ ขอ 3. สงั เกตจากการเขยี นและเรยี งประโยค - ประโยคท่เี ขยี น - Excellent, Good Fair 7. สอื่ /แหลง การเรยี นรู 7.1 คลิปวีดีดอจาก www.youtube.com เรอ่ื ง การตูนตลกฮาๆ ของ Funny Smile 7.2 แบบฝกหัด Close-up 2, Unit 3 หนา 23 8. บันทึกหลงั การจัดการเรียนรู ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..……………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………….................................................................. 9. กิจกรรมเสนอแนะ .............................................................................................................................................................................................................. ................................................................................................................................................................................................................... คูมอื ครูและแผนการจัดการเรียนรู Close-up 2 ชน้ั มธั ยมศึกษาปที่ 2 5

145 145 แผนจัดการเรยี นรู หนว ยการเรียนรูท่ี 3 เรอ่ื ง Be Creative! แผนการจดั การเรยี นรทู ี่ 11-12 เรื่อง Surprising Find! รหสั วิชา ................... รายวิชาพนื้ ฐานภาษาอังกฤษ ชั้นมัธยมศกึ ษาปที่ 2 กลุมสาระการเรียนรูภาษาตางประเทศ ปก ารศึกษา 25...... ภาคเรียนท.ี่ ...... เวลา 2 ชวั่ โมง ผสู อน..................................................... 1. มาตรฐานการเรียนร/ู ตวั ชี้วดั ต.1.3 ม.2/2 พูดและเขยี นสรปุ ใจความสําคัญ/แกน สาระ หัวขอ เร่ือง (topic) ทไี่ ดจากการวิเคราะหเรื่อง/ขาว/ เหตุการณ ท่อี ยูในความสนใจของสังคม 2. จดุ ประสงคก ารเรยี นรู เขียนเรอ่ื งสนั้ โดยใชร ปู แบบที่กําหนดใหไ ดถกู ตอง 3. สาระสําคัญ/ความคิดรวบยอด (Learning Concept) การเขยี นเคา โครงเรอ่ื งจากภาพที่กาํ หนดใหแลวนําไปสูการแยกแยะยอหนา โดยใชคําเชื่อมและเกิดจินตนาการในการเขียน ตอนจบของเรือ่ งไดเอง ดว ยภาษาทีก่ าํ หนด ยอมทาํ ใหผเู รียนเกดิ ทักษะในการเรียนรูทุกดา น จนนาํ ไปสูความสําเร็จตามเปา หมาย 4. สาระการเรียนรู (Learning Contents) 4.1 ดา นความรู (Knowledge) Pronunciation: Paragraph, conclusion Vocabulary: Realized, collect, problem, formula, hermit, crab, screen Grammar: Past Tense Function: Connection Culture: Imagination 4.2 ดานทักษะกระบวนการ (Process/Skill) 1) ถาม - ตอบ เกย่ี วกบั ภาพที่ดู แลว ลาํ ดับเรอ่ื งได 2) อานใบความรแู ละคําเตือนทีเ่ ปนประโยชนแลว จับใจความสาํ คัญ 3) เขยี นเคาโครงเร่อื งและจินตนาการตอนจบ 4) เขยี นเรือ่ งสนั้ 4.3 ดา นเจตคติ (Attitude/Desired Character) 1) มคี วามคิดริเร่ิมสรา งสรรค 5. กจิ กรรมการเรียนรู  Lead-in 1. ครูแจกภาพใบความรูท ่ี 1 Look at these picture carefully. แลว elicit คําถาม :- How many people are there in the picture? :- Are they friends? :- What are they going to do? :- What tree is it? (An apple tree) :- What do they do with the tree when it grows up? :- What are the man and woman thinking to do when the tree is dying? คมู อื ครูและแผนการจัดการเรยี นรู Close-up 2 ชนั้ มธั ยมศึกษาปท ่ี 2

146 :- Are the man and woman the same person with the kids? :- What do you think about the tree? (ทุกครั้งทถี่ ามและมนี กั เรียนตอบคําถามที่ครูตองการ ใหครเู ขียนคํานั้น ๆ บนกระดาน เชน 3 , friends, cantaloupe, the boy, toothache, Yes, they’re decorated creatively) 2. ครใู หน ักเรียน ชว ยกันลําดับภาพแลวใสหมายเลขที่ใตภาพ These pictures tell a story. They are not in the correct order. Arrange them in the correct order. Number them one to six in the boxes provided below.  Presentation 1. ครใู หนักเรยี นอา นแลวจับใจความใบความรทู ี่ 2 2. นกั เรยี นทาํ ใบงานโดยเลอื กประโยคทเ่ี กย่ี วขอ ง ถกู ตองใส T ไมถกู ตองใส F ครูใหนักเรียนตอบปากเปลา พรอมเฉลยอธบิ าย 3. ครใู หนักเรียนศึกษาจับใจความ Learning Focus ใน Student’s Book หนา 40 ครูเขียนคาํ ถามบนกระดาน :- How many paragraphs are there in a short narrative? :- What are those paragraphs? :- Look back to the pictures in the 1st knowledge paper. Which pictures should be the beginning paragraphs? :- Which pictures should be the middle and the conclusion paragraph? 4. นกั เรียนอาสาสมคั รออกไปเขียนคาํ ตอบ พรอ มใหเ หตุผลจากคาํ Context Cluesท่พี บในเรือ่ ง ครอู ธบิ ายเพม่ิ เติม  Practice 1. ครูอธิบายคําส่ังแบบฝกหัด B ใน Student’s Book หนา 40 นักเรียนชวยกันทําแบบฝกหัด และชวยกันตรวจ พรอมเหตุผลครู อธบิ ายเพิม่ เติม เฉลยคาํ ตอบ Writing B ใน Student’s Book หนา 3, 2, 1 2. จากภาพ 6 ภาพในใบความรูท่ี 1 ใหน กั เรียนเขยี น draft โดยแบงกระดานเปน 3 สวน Beginning , Middle, Ending ใหนักเรียนคน ใดอยากเขยี นสว นใด ออกมาเขียนไดเ ลยอยางอิสระ เพ่ือน ๆ ชวยกันพิจารณาวาเขียนถูกสวนหรือไมอยางไร พรอมแสดงความคิดเห็น ครูตรวจ ตวั สะกดใหถ กู ตองอีกครั้ง 3. ครูอธบิ ายแบบฝกหดั D ใน Student’s Book หนา 41 แลวใหน กั เรียนนํา draft ท่ีเขียนมาแตงเปน ประโยค โดยแบง นกั เรียนเปน 3 กลุม แตล ะกลุมเลอื กเขียนแตล ะ paragraph เพื่อนๆ ชว ยกนั แกไขประโยคใหถกู ตอ ง ครเู สนอแนะ เฉลยคําตอบ Writing D ใน Student’s Book หนา Students’ own answers 4. ครูอธิบายคาํ ส่ังแบบฝกหดั A ใน Student’s Book หนา 40 นักเรียนทําแบบฝก หดั ดว ยการเลือกตวั เช่อื มใหถ กู ตอ ง 5. ครูสุมนักเรียนตอบ พรอมอานประโยคใหเพ่ือนอานตาม เพ่ือนๆ ชวยกันตรวจและแกไข พรอมแสดงความคิดเห็น ครูอธิบาย เพม่ิ เตมิ เฉลยคาํ ตอบ Writing A ใน Student’s Book หนา 1. Suddenly 4. As soon as 2. before 5. meanwhile 3. In the end 6. Eventually 6. ครูใหนักเรียน ชวยกันนําประโยคที่แตงในแตละ Paragraph มาชวยกันเขียนเปน Short Story โดยเพ่ิมเติมตัวเช่ือมใน Useful Expressions ใหถูกตอ งเหมาะสม ครตู รวจดูตวั สะกด วรรคตอน ยอ หนา ใหถกู ตอง  Production 1. ใหนักเรียนจับคูกันคิดตอนจบของ Short Story ที่นักเรียนชวยกันเขียนไปแลว วาเมื่อไปถึงคลีนิคหมอฟนแลวเกิดอะไรขึ้น ตอ จากนั้น เพื่อสรปุ ตอนจบของเรือ่ งคูละ 2 ประโยค คูมือครูและแผนการจัดการเรยี นรู Close-up 2 ชั้นมธั ยมศกึ ษาปท ี่ 2 5

147 147 2. ครูสมุ นักเรยี น 2-3 คู ออกมาเขยี นตอนจบของคูตนเองบนกระดาน เพื่อนๆชวยกันตรวจและแกไข (หากครูเห็นวา คูที่สุมออกมา เขยี นตอนจบ ยังไมด ีพอ ครูอาจถามวาคใู ดคดิ วาตอนจบของตวั เองสนกุ กวา น้ี ใหอ อกมาเขยี นอีกได) 3. ครูใหนักเรียนอานเร่ือง A surprising find! ใน Student’s Book หนา 40 แลวใหนักเรียนขีดเสนใตคํากริยาในเร่ือง แลวจับ ใจความลาํ ดับของเร่อื ง 4.ครเู ขยี นคําถามบนกระดาน ระหวา งท่นี กั เรยี นอา นจบั ใจความ แลวสุม นกั เรียนมาเขยี นคาํ ตอบบนกระดาน :- What tense are there in the story? :- What do you call the animal in the picture? :- Guess, what does it mean in Thai? :- When did this story happen? :- Was it a shiny day on that day? :- So, where did Lucy go?/With whom? :- What did Lucy do there? :- Did she collect beautiful, pebbles? :- What did she bring back home :- Why did the mother scream? 5. นกั เรียนชวยกันตรวจและแกไ ขคาํ ตอบใหถกู ตอง (ครูเพิ่มเตมิ ) 6. เมอื่ ครแู นใจวา นักเรยี นทกุ คนจับใจความสาํ คญั ของเรือ่ งไดถูกตองแลว Check understanding ดวยการใหนักเรียนแปลช่ือเร่ือง A surprising find! เปนภาษาไทย 7. ครถู ามนักเรียนวา What was Lucy’s mother going to do next? แลวแบงนักเรยี น ออกเปน 5 กลมุ แตละกลมุ ใหชวยกันแตง paragraph สดุ ทาย กลมุ ใดมีตอนจบทสี่ นกุ สนานใชภาษาไดถ กู ตอ งหลากหลายจากท่เี รยี นมา ไมมีทีผ่ ิดเลย จะเปน The Winner 6. การวัดและประเมนิ ผล วธิ ีการวัด เครือ่ งมอื เกณฑการวัด - Excellent, Good Fair 1.สงั เกตจากการตอบคาํ ถามปากเปลา กับครู - คําถามปากเปลา 2. สังเกตจากการทําใบงาน - ใบงาน - ถูกทุกขอ 3. สงั เกตจากการทาํ แบบฝกหดั - แบบฝกหดั - ถูกทกุ ขอ 4. สังเกตจากการเขียนแบง ยอหนา และการ - ใบความรู - Excellent, Good Fair จนิ ตนาการตอนจบ 7. สื่อ/แหลงการเรียนรู 7.1 ใบความรู 1-2 7.2 ใบงาน 7.3 หนงั สือเรยี น Close-up 2, Unit 3 หนา 40-41 8. บนั ทกึ หลงั การจัดการเรียนรู (ควรบันทึกผลการสังเกตการทํางานรวมกันในกลุมของนักเรยี น เพ่ือปรบั เปลี่ยนกลมุ ในครง้ั ตอ ไป ใหนักเรยี นไดเ กิดการเรียนรู มากขึ้น) คมู อื ครแู ละแผนการจดั การเรียนรู Close-up 2 ชั้นมัธยมศกึ ษาปท ี่ 2

148 9. กิจกรรมเสนอแนะ .............................................................................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................................................................................... คมู อื ครูและแผนการจดั การเรียนรู Close-up 2 ช้นั มัธยมศกึ ษาปที่ 2 5

149 149 ใบความรทู ี่ 1 คมู ือครแู ละแผนการจดั การเรียนรู Close-up 2 ชั้นมธั ยมศึกษาปท ่ี 2

150 ใบความรทู ่ี 2 What is a Narrative? - Something that tells a story. It can be a short story, a novel, a drama, or a narrative poem. - The author may write about :- an experience or event from his past :- something that happened to another person :- a recent or an ongoing experience or event :- a fiction, a made-up story Definition of a Short-Story - Tell about a single event or experience - Fictional (not true) - 500 to 15000 words in length - It has a beginning, middle, and end - Creates an impression on the reader Meaning of ‘Draft’ A draft is a piece of text that the writer creates in the first state of the writing process. It contains the main ideas but not the developed form. คูมอื ครแู ละแผนการจัดการเรียนรู Close-up 2 ชน้ั มัธยมศกึ ษาปท ี่ 2 5

151 151 ใบงาน Study the 2nd knowledge paper carefully. Write ‘T’ or ‘F’ in front of each sentence, according to the 2nd knowledge paper you have read. ……………. 1. A short story is a narrative. ……………. 2. An experience or event are written in a short story. ……………. 3. A narrative can only be a non-fiction. ……………. 4. A short story could be divided into four part. ……………. 5. A short story must have a conclusion. ……………. 6. A draft is a process. ……………. 7. An impression means feeling. ……………. 8. We know the main idea of the story from its draft. Writing a draft ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… คูมือครแู ละแผนการจดั การเรยี นรู Close-up 2 ชน้ั มัธยมศึกษาปท่ี 2

152 แผนจดั การเรยี นรู หนวยการเรยี นรูที่ 3 เรอ่ื ง Be Creative! แผนการจดั การเรียนรทู ี่ 13 -14 เรอื่ ง Creative Recycling รหัสวิชา ................... รายวิชาพ้นื ฐานภาษาอังกฤษ ชั้นมัธยมศกึ ษาปท ่ี 2 กลุม สาระการเรียนรูภ าษาตา งประเทศ ปการศึกษา 25...... ภาคเรยี นท่.ี ...... เวลา 2 ชว่ั โมง ผูส อน..................................................... 1. มาตรฐานการเรียนรู/ ตวั ชี้วดั ต.1.3 ม.2/1 พดู และเขียนบรรยายเกย่ี วกับตนเอง กจิ วัตรประจําวัน ประสบการณ และขาว/เหตุการณ ท่ีอยูในความ สนใจของสังคม 2. จดุ ประสงคก ารเรียนรู พูดนาํ เสนอผลงานท่กี ําหนดใหไ ดถ กู ตอง 3. สาระสําคญั /ความคดิ รวบยอด (Learning Concept) การพดู นําเสนอผลงานการ Recycle สิง่ ของดวยภาษาทมี่ ีโครงสรางเหมะสมกับระดับชั้นเรียน ของผูเรียน ทําใหผูเรียนเกิด ทักษะในการฟง - พดู - อา น - เขียน จนไดบ รรลุความสาํ เรจ็ ตามเปา ประสงค 4. สาระการเรยี นรู (Learning Contents) 4.1 ดา นความรู (Knowledge) Pronunciation: bottle, bottom Vocabulary: craft, rubbish, pane, ware-house, stained-glass Grammar: Narrative Sentence Function: Answering Questions Culture: - 4.2 ดานทักษะกระบวนการ (Process/Skill) 1) อาน จบั คูคําศพั ทก บั ภาพ จับใจความสําคัญกบั ส่งิ ทอี่ าน 2) ดู - ฟง ขอ มูลสาํ คัญจากวีดที ศั น 3) ทาํ แบบฝกหัด 4) ระดมสมองเขยี น Draft และ Short Story 5) การนําเสนอผลงาน 4.3 ดานเจตคติ (Attitude/Desired Character) มีความคดิ รเิ ริ่มสรา งสรรค 5. กิจกรรมการเรียนรู  Lead-in 1. ครูแจกใบความรูใหนักเรียนดูเกี่ยวกับภาพ Bottle Morphology แลวครูวาดภาพ ขวดแกวท่ีเหมือนกันในใบงานบนกระดาน ครู อา นสวนประกอบของขวดแกว ทลี ะสว น สลับสับเปล่ยี นกนั แลว ใหนักเรียนวงิ่ มาเขียนคําพรอมลกู ศรชีบ้ นกระดาน แลวอานออกเสียง ใหเพื่อน ๆ อา นตาม 2. ครเู ปด คลิปวีดีโอ จาก www.youtube.com เรอ่ื ง 12 Things You Can Make from Glass Bottles – So laugh Alves (1.02 นาท)ี ใหน กั เรยี นดู แลว หยุดปด ท่นี าทีท่ี 0.42 เพื่อ elicit คําถาม คมู อื ครแู ละแผนการจดั การเรยี นรู Close-up 2 ชั้นมธั ยมศกึ ษาปท่ี 2 5

153 153 :- What do you think this clip is about? 3. ครเู ขียนคาํ ตอบท่ถี กู ตอ งบนกระดาน “Recycled Glass Bottle”  Presentation 1. ครูแจกใบความรูท่ี 2 ใหนักเรียนจับคูคํากับภาพ แลวชวยกันตรวจความถกู ตอ ง 2. ครอู ธิบายคําสั่งที่ A ใน Student’s Book แลวใหน ักเรียนชวยกันเขียนคําศัพทที่ถูกตองบนกระดาน พรอมออกเสียงคําศัพทให เพ่อื น อานออกเสยี งตาม เพอ่ื นๆ ชว ยกนั ตรวจ (ครูชแ้ี นะ) เฉลยคาํ ตอบ Video A ใน Student’s Book หนา 42 1. stained-glass window 3. label 5. bottles 2. pane of glass 4. neck 6. bottom 3. ครูอธิบายคําสง่ั B ใน Student’s Book แลว บอกนกั เรียนวาใหน ักเรียนลองจับใจความประโยคแลวเลือกคําตอบท่ีถูกมาเขียนบน กระดาน พรอมใหน กั เรยี นชีแ้ จงเหตผุ ลทีท่ ําใหเลือกคํานั้น ๆ เฉลยคําตอบ Video B ใน Student’s Book หนา 42 1. Glass (00:14) 3. Boiling (00:37) 5. shapes (01:20) 2. cleaned (00:19) 4. 706 (00:58) 6. vases (01:33) 4. ครใู หนกั เรยี นเตรียมชม VDO แลว ดคู ําที่นักเรยี นเลอื กมาน้นั ถูกตองหรอื ไม  Practice 1. ครเู ปด VDO ใหน กั เรียนดเู พอ่ื ตรวจคาํ ตอบบนกระดาน (ครอู ธบิ ายเพิม่ เตมิ ) นักเรยี นชว ยกนั ตรวจความถกู ตองพรอ มเหตผุ ล 2. ครูอธิบายคาํ สง่ั แบบฝกหัด C ใน Student’s Book หนา 42 นักเรยี นทําแบบฝกหดั 3. ครสู ุมนักเรยี นเขยี นคําตอบบนกระดาน แลวอานออกเสียงประโยคใหเพ่ือนอานตาม เพื่อนๆ ชวยกันตรวจคําตอบอยางมีเหตุผล (ครเู พิ่มเตมิ ) เฉลยคําตอบ Video C ใน Student’s Book หนา 42 1. art 3. window 5. bottom 7. cut 2. recycle 4. cleaned 6. melts 8. create  Production 1. ครูสนทนากับนักเรียนเรือ่ ง Recycle things แลวถาม :- Have you recycle things? Why? Why not? :- Who have ever recycle things ? :- What have you ever recycle? :- How do you recycle it? :- What was it recycle to be? Stop buying new things? Agree? 2. ครูใหน กั เรียนทเ่ี คย recycle things หาทีมงานของตน ทีมละ 7 คน ชว ยกนั เขยี น Draft เร่ืองส้นั ในสิ่งทตี่ นเคย Recycle นักเรียนที่ เหลือ ที่ไมเคย Recycle สงิ่ ของใด ๆ กจ็ บั กลุมเปนทมี ละ 7 คน เชนกนั ชว ยกนั คิดวาจะ Recycle อะไร แลวชวยกันเขียน Draft 3. ครบู อกนักเรียน ใหแบง Draft ท่ีเขยี นออกเปน 3 สว น The beginning , The middle , The end. แลวนํา Draft ของแตละกลุม มาสง 4. ครูตรวจและเสนอแนะใหนกั เรียนปรับ Draft ของตวั เองใหเหมาะสม 5. นกั เรียนนาํ Draft ของกลุมตน กลบั ไปเขยี นเรื่องสั้นใหม โี ครงสรา งตามท่ไี ดเ รียนมา ตรวจสอบภาษาและคําศพั ททใ่ี ชนําสง(ครูตรวจ และเสนอแนะเพิม่ เตมิ ) 6. นกั เรียนนาํ เสนองานของกลุมตน พรอมส่งิ ที่ Recycle หนาช้นั เรยี น โดยแบงยอหนา ในการนาํ เสนอ ใหเพือ่ นในกลมุ มีสวนรวม คมู อื ครแู ละแผนการจัดการเรียนรู Close-up 2 ช้ันมัธยมศกึ ษาปท่ี 2

154 6. การวัดและประเมนิ ผล เครอ่ื งมือ เกณฑก ารวดั วธิ ีการวัด - แบบฝกหดั - ถกู ตอ งทกุ ขอ 1. สังเกตจากการทาํ แบบฝกหดั - Draft, Short Story - Excellent, Good Fair 2. สังเกตจากงานเขยี น - ผลงานทนี่ ําเสนอ - Excellent, Good Fair 3. สงั เกตจากการนําเสนองานของนักเรียน 7. สอ่ื /แหลง การเรียนรู 7.1 ใบความรู 7.2 คลิปวีดโี อ เรอ่ื ง 12 Things You Can Make from Glass Bottles 7.3 แบบฝก หดั จาก Student’s Book หนา 42 7.4 แหลง ขอมูลอื่นท่ชี วยใหนักเรยี น Recycle ได 8. บันทกึ หลงั การจดั การเรยี นรู (บันทึกการทาํ งานรว มกนั ของนกั เรยี น ตั้งแตเริม่ ระดมสมองคดิ ถึงสิง่ ทจี่ ะมา Recycle จนถงึ ชวยกนั เขยี น Draft และเขียน Short Story) 9. กจิ กรรมเสนอแนะ ........................................................................................................................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................................................................................................................................ คมู อื ครแู ละแผนการจัดการเรยี นรู Close-up 2 ช้ันมัธยมศกึ ษาปที่ 2 5

155 155 ใบความรทู ี่ 1 Bottle Morphology คูมอื ครแู ละแผนการจัดการเรียนรู Close-up 2 ชัน้ มธั ยมศึกษาปที่ 2

156 ใบความรูที่ 2 Matching them Right 1. .................................. 2. 3. 4. 5. ................................. ................................. ................................. 7. 8. .................................. 6. .................................. ................................. ................................. คูมอื ครูและแผนการจดั การเรยี นรู Close-up 2 ช้นั มัธยมศกึ ษาปที่ 2 5

157 หนว ยการเรยี นรู School’s Out! ช้นั มธั ยมศกึ ษาปที่ 2 เวลา 14 ชวั่ โมง 4 รหสั วิชา ……….. รายวิชาพ้นื ฐานภาษาอังกฤษ กลมุ สาระการเรียนรูภาษาตางประเทศ ปการศกึ ษา 25... ภาคเรยี นท่ี 1 ผสู อน ............................................ 1. มาตรฐานการเรียนรู/ตวั ชวี้ ดั ต 1.1 ม.2/3 ระบุ/เขียนประโยค และขอ ความ ใหส มั พนั ธก ับสือ่ ท่ไี มใ ชค วามเรียง รูปแบบ ตา งๆ ทอี่ าน ต 1.1 ม.2/4 เลือกหวั ขอเร่ือง ใจความสาํ คัญ บอกรายละเอียดสนับสนุน (supporting detail) และแสดงความคิดเห็น เกยี่ วกับเรื่องท่ฟี ง และอา น พรอมทงั้ ใหเ หตผุ ลและยกตวั อยางงา ยๆ ประกอบ ต 1.2 ม.2/1 สนทนา แลกเปลี่ยนขอมูลเกี่ยวกับตนเอง เรอ่ื งตางๆ ใกลตัว และสถานการณตางๆ ในชีวิตประจําวันอยาง เหมาะสม ต 1.2 ม.2/2 ใชค ําขอรอง ใหค าํ แนะนาํ คาํ ชแ้ี จง และคาํ อธิบายตามสถานการณ 2. สาระสําคญั /ความคิดรวบยอด (Learning Concept) การฟง การสนทนา การอานและการเขียนเก่ียวกับกิจกรรมท่ีวางแผนจะทําในวันปดภาคเรียน ดวยโครงสรางทางภาษาที่ เหมาะสมกบั ระดบั ช้นั เรียน ทําใหผ ูเรยี นสามารถฝก ฝนทักษะ ทั้ง 4 ดาน ในการเรียนรูภาษาอังกฤษจนสําเร็จลุลวงไดตามเปาหมายท่ี ตอ งการ 3. สาระการเรยี นรู (Learning Contents) 3.1 ดานความรู (Knowledge) 1) การออกเสียงหนักเบาตามพยางคใ นคําศัพทแ ละการลงทายประโยค 2) คาํ ศพั ททเี่ กย่ี วกับวนั หยดุ และสํานวนคําที่ตอบรบั และปฏเิ สธอยา งสภุ าพมากหรือนอย 3) Present + Past Simple Tense, Present + Past Continuous, Active + Passive Voice, Participle Adj., Plan Future 3.2 ดา นทกั ษะกระบวนการ (Process/Skill) 1) ฟงแถบเสียงและวดี ที ัศนเพอื่ จบั ใจความสําคญั จากบรบิ ท 2) เรยี นรเู รอ่ื งโครงสรา งทางภาษา อา น-เขียนประโยค และจดหมายอีเล็คโทรนิคสด ว ยโครงสรางทกี่ าํ หนด 3) การนาํ เสนอขอ มลู การสนทนา 3.3 ดา นเจตคติ (Attitude/Desired Character) 1) ใชภาษาอังกฤษอยา งมีมารยาทถูกตอ งตามกาลเทศะและบคุ คล 2) มีเหตผุ ล และวจิ ารณญาณ มขี ันติธรรม 3) มคี วามเช่ือม่ันในการใชภาษาองั กฤษเพ่ือการสอื่ สาร 4) มปี ระสิทธภิ าพในการส่ือสาร 5) รกั การเรยี นรภู าษาอังกฤษฝกฝนจรงิ จงั และเพยี งพอ คมู อื ครูและแผนการจัดการเรยี นรู Close-up 2 ช้นั มธั ยมศกึ ษาปท่ี 2

158 4. สมรรถนะสาํ คัญของผเู รียนตามหลักสตู รแกนกลางการศึกษาขัน้ พ้ืนฐาน พทุ ธศักราช 2551  ความสามารถในการสื่อสาร  ความสามารถในการคดิ  ความสามารถในการแกปญหา  ความสามารถในการใชท ักษะชีวิต  ความสามารถในการใชเทคโนโลยี 5. คณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงคต ามหลักสตู รแกนกลางการศกึ ษาข้นั พืน้ ฐาน พุทธศักราช 2551  รักชาติ ศาสน กษัตริย  ซือ่ สัตย สจุ รติ  มวี ินยั  ใฝเรยี นรู  อยอู ยา งพอเพียง  มงุ มนั่ ในการทํางาน  รักความเปน ไทย  มีจิตสาธารณะ 6. ภาระงาน/ชน้ิ งาน 1. การพดู สนทนาและบทสนทนา ทม่ี เี กณฑการใหค ะแนน 3 ฝา ย (ครู เพอ่ื น ตวั เอง) 2. การเขียนจดหมายอเี ล็คโทรนคิ สท้งั เชิญและตอบรบั /ตอบปฏิเสธ 7. การวดั และประเมินผล (ภาระงาน/ชิ้นงาน) วิธีการ เครอื่ งมอื เกณฑ 1. สังเกตจากการตอบคําถามจากครู - คาํ ถามของครู - ตอบคาํ ถาม 80 % 2. สังเกตจากการทําแบบฝกหัด, - แบบฝกหัด, ใบงาน - ถูกตอ งทั้งหมด ใบงาน 3. สงั เกตจุ ากชิ้นงานทไี่ ดรับมอบ - ชิน้ งาน - Excellent, Good, Fair 8. กจิ กรรมการเรยี นรู 8.1 Multiple choice, cloze sentence, cloze passage, writing e-mail, listening 8.2 Present + past simple tense, present + past continuous Tense, Active + Passive Voice, Plan Future 8.3 Peer evaluation, peer correction, teacher evaluation, presenting 9. ส่ือ/แหลง เรยี นรู 9.1 คลิปวดี ีโอจาก www.youtube.com, ใบความรู, ใบงาน, แถบเสยี งและวีดที ัศนจากบทเรยี น 9.2 หนงั สือเรียน Close-up 2, Unit 4 หนา 43-56 9.3 แบบฝก หัด Close-up 2, Unit 4 หนา 24-31 คูม อื ครแู ละแผนการจัดการเรียนรู Close-up 2 ชนั้ มัธยมศกึ ษาปท่ี 2

159 แผนจดั การเรียนรู หนวยการเรยี นรูท่ี 4 เรื่อง School’s Out! แผนการจัดการเรียนรูท ่ี 1 เรอ่ื ง A Floating City รหัสวชิ า ………. รายวชิ าพน้ื ฐานภาษาอังกฤษ ชน้ั มัธยมศกึ ษาปท ี่ 1 กลมุ สาระการเรียนรูภาษาตา งประเทศ ปก ารศกึ ษา 25...... ภาคเรียนที่....... เวลา 1 ชวั่ โมง ผสู อน..................................................... 1. มาตรฐานการเรียนรู/ ตวั ช้วี ัด ต 1.1 ม.2/4 เลือกหัวขอเร่ือง ใจความสําคัญ บอกรายละเอียดสนับสนุน (supporting detail) และแสดงความคิดเห็น เกี่ยวกับเรอ่ื งท่ีฟง และอา น พรอ มทั้งใหเ หตผุ ลและยกตัวอยา งงา ยๆ ประกอบ 2. จดุ ประสงคการเรียนรู อา นเรอ่ื งท่กี าํ หนดใหหรอื A Floating City แลว จับใจความสาํ คญั ไดถูกตอง 3. สาระสําคญั /ความคดิ รวบยอด (Learning Concept) การอานเรื่อง A Floating City แลวจบั ใจความสําคญั ไดถ ูกตอ ง ทาํ ใหไดรบั ความรดู า นคําศัพทแ ละโครงสรางประโยคทีเ่ หมาะ กับระดบั ชนั้ ไดฝก ทกั ษะการฟง พดู อานและเขียน พรอ มทง้ั เสริมสรา งการใชภาษาอังกฤษอยางมมี ารยาท ถูกตองตามกาลเทศะและ บุคคล 4. สาระการเรียนรู (Learning Contents) 4.1 ดานความรู (Knowledge) Pronunciation: Comfortable, technology, cruise, promenade Vocabulary: Decks, neighborhood, promenade, on board, cabin Grammar: Verb + to Function: Offer, Advice, Suggestion Culture: Politeness 4.2 ดานทกั ษะกระบวนการ (Process/Skill) 1) ฟง และดูคลปิ วดี ีโอและวดี ีทัศนเ ก่ียวกับ Holiday และเรือเยาวชนแลกเปลย่ี น 2) ตอบคาํ ถามท่ีครูถาม 3) ทําแบบฝกหัด 4) นักเรียนชวยกันตรวจและแกไขงาน 4.3 ดา นเจตคติ (Attitude/Desired Character) 1) ใชภ าษาอังกฤษอยา งมมี ารยาท ถูกตอ ง ตามกาลเทศะแลบคุ ล 5. กิจกรรมการเรียนรู  Lead-in 1. ครูเขียนคําวา School’s Out! บนกระดานแลวบอกนักเรียนวา Today we are going to learn about “School’s Out!” Do you know the meaning of “School’s Out!”? 2. ครูเขยี น A school is out = The school year has come to an end. = Vacation = Long holiday 3. ครหู นั มาถามนกั เรยี น Do you like vacation? Do you like holiday? คมู อื ครแู ละแผนการจดั การเรยี นรู Close-up 2 ช้ันมัธยมศึกษาปท่ี 2

160 4. ครูแจกใบความรูที่เปน lyric ของเพลง Holiday - Jim Modify แลวถามวา Have you ever heard this song? Do you want to listen? 5. ครเู ปดคลปิ วดี โี อ จาก www.youtube ชือ่ Holiday - Jim Modify (6.01 นาท)ี ใหนกั เรียนฟงและรองตาม แลวหยุดท่ี นาทีท่ี 2.03 แลวถามนกั เรยี นวา - Where do you like to go when the school is out? - Do you like to go to an island far away like this song? - How do you go there? - For the island many miles away, you should go by a large ship or cruise. - Holiday are fun whatever do you do there? 6. ครแู จกใบความรทู ่ี 2 เปน Parts of cruise ship 7. ครเู ขียน Cruise = a large ship  Presentation 1. ครูใหนักเรียนดูใบความรูท่ี 2 Part of cruise ship. Let’s see this kind of ship. Is it large? How many passengers are there on it? How do you know? Let’s see how many passengers there are? 2. ครูเปด VDO ของ The Ship for Southeast Asian and Japanese Youth - SSEAYP in 4 Minutes (4.32 นาท)ี 3. ครถู ามนกั เรียนวา - Would you like travel on this cruise? - Are there a community on this cruise? - This is a cruise of Southeast Asian and Japanese youth program. - You can see many passengers from many countries. - It looks like a big city. 4. แลว ใหน ักเรยี นอา นขอ ความใตภาพหรือเรอื น้ี Guess, what the ten countries one? 5. ครูอธิบายคําสั่งแบบฝกหัด A ใน Student’s Book หนา 44 นักเรียนทําแบบฝกหัด แลวเขียนคําตอบบนกระดาน เพ่ือนๆชว ยกันตรวจความถกู ตอง (ครอู ธิบายเพิ่มเตมิ ) เฉลยคําตอบ Reading A ใน Student’s Book หนา 44 1. B 2. E 3. C 4. F 5. D 6. A 8. ครูใหนกั เรียนจบั คกู ันถาม-ตอบ - Have you ever been on one of these holidays? - What is it? - Which one do you like better? ครูสงั เกตการถาม-ตอบของนกั เรยี นดวย 10. ครใู หค นู กั เรียนถาม-ตอบกันกันเก่ยี วกบั Cruise ดวย คนละ 2 คําถาม  Practice 1. ครอู ธิบายคาํ สงั่ แบบฝกหัด A ใน Workbook หนา 24 ใหนักเรียนอา น Exam Reminder 2. ครถู าม เชน - Is it polite to say “no” to people? - So, what should you do? เฉลยคําตอบ Reading A ใน Workbook หนา 24 An excuse or an opinion 3. ครูอธิบายคําส่ังแบบฝกหัด B ใน Workbook หนา 24 นักเรียนทําแบบฝกหัด แลวเขียนคําตอบบนกระดาน เพ่ือนๆ ชวยกนั ตรวจความถูกตอง (ครเู พม่ิ เติม) คูมอื ครูและแผนการจดั การเรียนรู Close-up 2 ชัน้ มธั ยมศึกษาปท ่ี 2

161 เฉลยคาํ ตอบ Reading B ใน Workbook หนา 24 1. b 2. c 3. c 4. b 5. c 4. ครูใหนกั เรียนอา น Exam Close-up แลวถาม เชน - Instead of answer only ‘yes’ what should you do to make it polite? - When ‘sorry’ should be used? 5. ครูอธิบายคําส่ังแบบฝกหัด F, G ใน Student’s Book หนา 45 นักเรียนทําแบบฝกหัด แลวเขียนคําตอบบนกระดาน ชี้แจงและบอกเหตุผล (ครูเพมิ่ เตมิ ) เฉลยคําตอบ Reading F ใน Student’s Book หนา 45 Suggestions = 1, 4 Offers = 3, 5 Ask for advice = 2 เฉลยคาํ ตอบ Reading G ใน Student’s Book หนา 45 1. B 2. A 3. C 4. B 5. A  Production 1. ครอู ธิบายคําส่งั แบบฝก หดั D ใน Student’s Book หนา 44 2. นักเรียนอานเร่ือง A Floating City แลวตอบคําถามวา What is the most interesting paragraph of this story in your opinion? Why? 3. ครสู มุ นกั เรยี นออกมาตอบคําถาม หนา ชน้ั เรยี น เฉลยคาํ ตอบ Reading D ใน Student’s Book หนา 44 Students’ own answers 4. ครูอธิบายคาํ สงั่ แบบฝก หัด E, H ใน Student’s Book หนา 45 นกั เรยี นทาํ แบบฝก หัด 5. ครสู ุมนักเรยี นเขียนคําตอบบนกระดาน เพ่อื นๆชว ยกนั ตรวจ และแกไ ข (ครูอธิบายเพ่ิมเติม) เฉลยคําตอบ Reading E ใน Student’s Book หนา 45 1. visiting four cities . 16 decks on the ship 3. 23 swimming pools 4. 50 trees 5. 10,000 plants 6. 10 million man hours to build เฉลยคาํ ตอบ Reading H ใน Student’s Book หนา 45 1. go 2. stay 3. book 4. put 5. take 6. be 6. การวดั และประเมนิ ผล เคร่ืองมือ เกณฑก ารวัด - คาํ ถาม - ถกู ตอ งและมเี หตผุ ล วธิ ีการวัด 1. สังเกตจากการตอบคําถาม - แบบฝกหดั - ถูกตองทัง้ หมด 2. สังเกตจาการทําแบบฝกหดั คมู ือครแู ละแผนการจดั การเรยี นรู Close-up 2 ช้นั มธั ยมศกึ ษาปที่ 2

162 7. สือ่ /แหลงการเรียนรู 7.1 คลปิ วดี โี อเพลง Holiday - Scorpions 7.2 วีดีทศั น The Ship for Southeast Asian and Japanese Youth 7.3 หนังสือเรียน Close-up 2, Unit 4 หนา 44-45 7.4 แบบฝกหัดใน Close-up 2, Unit 4 หนา 24 7.5 ใบความรู 8. บันทกึ หลังการจดั การเรียนรู ................................................................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................................................................. 9. กิจกรรมเสนอแนะ ครูแนะนาํ ใหน ักเรียนท่สี นใจโครงการเรือเยาวชนแลกเปลี่ยนหารายละเอยี ด ข้นั ตอนการสมัคร เพอื่ เตรียมตัว ใหพรอม เม่อื อายุถึงเกณฑที่จะสมัครแขงขันได คมู อื ครแู ละแผนการจดั การเรียนรู Close-up 2 ชั้นมัธยมศกึ ษาปท ี่ 2

163 ใบความรูท่ี 1 Holiday By Scorpions Let me take you far away You'd like a holiday Let me take you far away You'd like a holiday Exchange the cold days for the sun A good time and fun Let me take you far away You'd like a holiday Let me take you far away You'd like a holiday Let me take you far away You'd like a holiday Exchange your troubles for some love Wherever you are Let me take you far away You'd like a holiday Longing for the sun here we come To the island without name Longing for the sun here we come On the island many miles away from home Here we come on the island without name Longing for the sun here we come To the island many miles away from home Away from home Away from home Away from home Away from home คมู อื ครแู ละแผนการจดั การเรยี นรู Close-up 2 ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปท่ี 2

164 ใบงานที่ 2 Parts of the Cruise Ship The ship for Southeast Asian and Japanese Youth Program is a youth exchange program to promoting friendship and understanding among the youths of the ten Southeast Asian countries and Japan. คูม ือครูและแผนการจดั การเรยี นรู Close-up 2 ชนั้ มัธยมศกึ ษาปท่ี 2

165 แผนจัดการเรยี นรู หนว ยการเรยี นรทู ี่ 4 เรอ่ื ง School’s Out! แผนการจดั การเรยี นรูท ่ี 2 เรือ่ ง Airport Information รหสั วชิ า ………. รายวชิ าพนื้ ฐานภาษาอังกฤษ ชน้ั มธั ยมศกึ ษาปท ี่ 2 กลมุ สาระการเรียนรูภาษาตางประเทศ ปก ารศึกษา 25...... ภาคเรียนท่ี....... เวลา 1 ช่ัวโมง ผูส อน..................................................... 1. มาตรฐานการเรียนรู/ตัวชว้ี ดั ต 1.1 ม.2/3 ระบุ/เขียนประโยค และขอความ ใหส มั พนั ธก บั สอื่ ทไ่ี มใชค วามเรียง รปู แบบ ตางๆ ท่อี า น 2. จดุ ประสงคการเรยี นรู เขียนระบุคาํ หรอื ขอความทีก่ าํ หนดใหไ ดอยา งมีเหตุผลและถูกตอง 3. สาระสําคญั /ความคดิ รวบยอด (Learning Concept) การเขยี นระบุคาํ หรือขอความลงในส่ือที่เปน ประโยคและแผนผังทําใหผูเรยี นตอ งอาศยั ทกั ษษะท้ัง 4 ดาน ตลอดทั้งการตีความ จนไดสําเรจ็ ลลุ วงตามเปาหมาย 4. สาระการเรียนรู (Learning Contents) 4.1 ดานความรู (Knowledge) Pronunciation: Departure, passenger, security, transportation Vocabulary: Passport, passenger, paid, journey, departure Grammar: Preposition of place + time (in, on, at, by) Function: Giving Opinion Culture: Travelling by flight. 4.2 ดานทักษะกระบวนการ (Process/Skill) 1) ตอบคาํ ถามทค่ี รู elicit และ สนทนาเกีย่ วกบั แผนในวนั หยุด 2) อา นจับใจความแลว เลอื กคําตอบ 3) ทําแบบฝก หดั และใบงาน 4) บอกเหตผุ ลใชอางอิงคาํ ตอบที่เปน Cloze และตาราง 4.3 ดา นเจตคติ (Attitude) 1) มีเหตผุ ลและวิจารณญาณ 5. กจิ กรรมการเรียนรู  Lead-in 1. ครู elicit คาํ ตอบจากนกั เรียน - Have you chosen your type holiday yet? - Which one do you like better? - Is there anyone want to go by plane? - Have you ever go abroad by plane? - Is there anyone travel by plane? - Now, come and have a look. คมู อื ครูและแผนการจัดการเรียนรู Close-up 2 ชนั้ มัธยมศกึ ษาปท ่ี 2

166 2. ครเู ปดวดี ีทัศนก ารเดินทางโดยเคร่อื งบิน ใหน กั เรียนชม แลว elicit คาํ ตอบ - Is a travelling by plane interesting? Why / Why not? - Which type of travelling do you like better? - Ok. Up to you but today we are going to learn about travelling by plane.  Presentation 1. ครูแจกใบความรทู ่ี 1 ใหน กั เรยี น ศกึ ษาภาพทลี ะภาพ แลว ครสู มุ เรียกตอบ (นักเรียนยกมอื ขอตอบกใ็ หค รเู รยี กได) Picture No. 1 - What is the name of this man? - What is in his hand? - What is it for? - Where is he in the picture? - Where is he going to? 2. ครแู จกใบความรทู ี่ 2 เพือ่ ทบทวนการใช Preposition แลวอธบิ ายเพิ่มเติม Picture No. 2 - How is he going to? - What type of road did the taxi drive him on? Why? - Is it the better way? Picture No. 3 - Finally, did he arrive at Suvarnabhumi Airport? - What did he do when he got out of the taxi? Picture No. 4 - Where did he take a seat for waiting? - What is the platform 3? Picture No. 5 - Have the plane already landed when he arrived the airport? - When was the plane going to take off? Picture No. 6 - Could he find his reserved seat on the plane? - What should he do before the plane was taken off? (ครสู ุมเรยี กนักเรยี นตอบปากเปลา ทลี ะคน ใครตอบไดใ หย กมอื แลวครูเรยี กตอบกไ็ ด)  Practice 1. ครูอธิบายคําสั่งแบบฝกหัด A ใน Student’s Book หนา 46 นักเรียนทําแบบฝกหัด A แลวเขียนคําตอบบนกระดาน เพ่ือนๆชว ยกนั ตรวจความถูกตอง (ครูเพิ่มเตมิ ) เฉลยคาํ ตอบ Vocabulary A ใน Student’s Book หนา 46 1. E 2. D 3. B 4. F 5. C 6. A 2. ครูอธบิ ายคําส่ังแบบฝก หดั A ใน Workbook หนา 25 นกั เรยี นทาํ แบบฝกหัด แลวเขียนคําตอบบนกระดาน พรอมอาน ออกเสยี งใหเ พ่ือนอานตาม เพ่ือนๆชว ยกนั ตรวจความถูกตอ งและแสดงความคิดเห็น (ครเู พมิ่ เติม) เฉลยคาํ ตอบ Vocabulary A ใน Workbook หนา 25 1. boarding 3. go 5. find 2. check 4. wear 6. wait คมู อื ครูและแผนการจัดการเรียนรู Close-up 2 ช้นั มัธยมศกึ ษาปท ่ี 2

167 3. ครูอธิบายคาํ สั่งแบบฝกหัด E ใน Workbook หนา 26 นักเรียนทาํ แบบฝกหัด เขียนคําตอบบนกระดาน เพ่ือนๆชวยกัน ตรวจความถูกตอง (ครูเพิ่มเตมิ ) เฉลยคําตอบ Vocabulary E ใน Workbook หนา 26 1. on 2. in 3. on 4. in 5. by 6. at  Production 1. ครอู ธบิ ายคําส่งั แบบฝกหัด B ใน Student’s Book หนา 46 2. นักเรียนทําแบบฝกหัด ครูสุมถามคําตอบจากนักเรียน คนละขอ พรอมใหนักเรียนอธิบายเหตุผลที่ เลือกคาํ นั้นๆ ดว ย เพอื่ นๆรว มแสดงความคิดเหน็ เฉลยคําตอบ Vocabulary B ใน Student’s Book หนา 1. You often need Coach Cruise ship Plane taxi Train your passport.   2. You wait on a   platform     3. You wear a    seatbelt.   4. You reserve a  cabin.  5. You reserve a seat.  6. You travel on the motorway. 7. You take off and land. 8. You are serve food. 9. You pay at the end of your journey. 10. You can enjoy outdoor activities. 3. ครูอธิบายคําส่ังแบบฝกหัด C ใน Student’s Book หนา 46 นักเรียนทําแบบฝกหัด ครูสุมเรียกตอบโดยใหอานท้ัง ประโยค เพือ่ นๆ ชวยกันตรวจ และแสดงความคดิ เห็น (ครเู พิ่มเตมิ ) เฉลยคําตอบ Vocabulary C ใน Student’s Book หนา 46 1. in 2. at 3. on 4. by 5. on 6. in 7. on 6. การวัดและประเมินผล วธิ ีการวัด เครอ่ื งมอื เกณฑก ารวดั 1. สงั เกตจากการตอบคาํ ถาม - คาํ ถาม - ตอบไดถูกตอ ง 2. สงั เกตจาการทําในงาน - ใบงาน - ถกู ตอ งทุกขอ 3. สังเกตจากการทําแบบฝกหดั และการใหเหตุผล - แบบฝก หัด - ถูกตอ งทกุ ขอ ตามเหตผุ ล คูมือครูและแผนการจดั การเรียนรู Close-up 2 ชั้นมัธยมศกึ ษาปท ่ี 2

168 7. สื่อ/แหลง การเรียนรู 7.1 วีดีทัศน การเดนิ ทางดวยเครอ่ื งบนิ 7.2 หนังสือเรียน Close-up 2, Unit 4 หนา 46 7.3 แบบฝกหดั Close-up 2, Unit 4 หนา 25-26 7.4 ใบความรู 7.5 ใบงาน 8. บันทึกหลงั การจัดการเรยี นรู ................................................................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................................................................. 9. กจิ กรรมเสนอแนะ ................................................................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................................................................. คมู อื ครูและแผนการจัดการเรยี นรู Close-up 2 ช้นั มัธยมศึกษาปท ่ี 2

169 ใบความรูที่ 1  John took his passport with him. He waited in the departure area near the airport  platform 3.  His plane had already taken off since yesterday and it was going to land within an hour. He checked-in at the counter. คูมอื ครแู ละแผนการจดั การเรยี นรู Close-up 2 ชน้ั มัธยมศกึ ษาปท ี่ 2

170 ใบความรทู ี่ 2 Preposition of Place; in, on, at, by ENCLOSED SPACE SURFACE POINT NEAR/NEXT TO in by on at - neighbourhood - He is standing by me. - China town - street/avenues - home - Her house is by the - Bangkok post office. - Thailand -James Bond Island - school - ship/cruise/bus/train - the corner - 89/4 Hong Yok Road Preposition of Time; in, on, at ENCLOSED SPACE SURFACE POINT in on at - the morning - the afternoon - Thursday - night - the evening - November - Friday morning - 11.00 a.m. - winter - the 1980s - Sunday evening - noon/midday - 2016 - his birthday - midnight - a holiday - bedtime - June 2nd - sunrise - the/a weekend - sunset คูม ือครแู ละแผนการจัดการเรยี นรู Close-up 2 ชั้นมัธยมศกึ ษาปท ี่ 2

171 แผนจัดการเรยี นรู หนว ยการเรยี นรูท่ี 4 เรอื่ ง School’s Out! แผนการจัดการเรียนรูที่ 3-4 เรอ่ื ง Weather Forecast รหสั วิชา ………. รายวชิ าพ้นื ฐานภาษาอังกฤษ ชน้ั มธั ยมศึกษาปท ี่ 1 กลุมสาระการเรียนรภู าษาตา งประเทศ ปก ารศึกษา 25...... ภาคเรียนที.่ ...... เวลา 2 ชว่ั โมง ผสู อน..................................................... 1. มาตรฐานการเรียนรู/ตัวชี้วดั ต 1.2 ม.2/1 สนทนา แลกเปลยี่ นขอมูลเก่ยี วกบั ตนเอง เร่ืองตางๆ ใกลตัว และสถานการณตางๆ ในชีวิตประจําวันอยาง เหมาะสม 2. จุดประสงคการเรียนรู สนทนาแลกเปลีย่ นขอ มูลตามท่ีกําหนดใหไ ดถกู ตอง 3. สาระสําคัญ/ความคดิ รวบยอด (Learning Concept) การสนทนาเกี่ยวกับกิจกรรมเวลาโรงเรียนปดภาค ตองใชทักษะทางภาษาอังกฤษท้ังการฟง การอาน การเขียน จะทําใหผ ูเรยี นมขี อั มูลท่ีจะนําไปใชใ นการสนทนา จนไดบรรลุสเู ปา หมาย 4. สาระการเรยี นรู (Learning Contents) 4.1 ดานความรู (Knowledge) Pronunciation: Security, comfortable, delicious, weather forecast Vocabulary: Later, leave, control, divide, several, soul, souvenir, ideal Grammar: ‘to be like’ Function: Asking, Answering Culture: - 4.2 ดานทกั ษะกระบวนการ (Process/Skill) 1) ดู - ชมวีดีทัศน ขา วพยากรณอากาศ สงั เกตสญั ลกั ษณอ ากาศ 2) ศึกษาใบความรเู กี่ยวกับคาํ ศัพทและโครงสรา งไวยากรณ 3) ทาํ แบบฝกหัด 4) สนทนาถาม-ตอบ เกี่ยวกับวันหยุดภาคเรียน แลว ทํา Peer evaluation ในใบงาน 4.3 ดานเจตคติ (Attitude) 1) มขี นั ตธิ รรม 5. กจิ กรรมการเรียนรู  Lead-in 1. ครูบอกกับนักเรียนวา  Today we are going to watch English news. Which one do you like better?  It’s interesting. There will be many signs on it.  Please try to recognize. 2. ครเู ปด คลปิ วีดโี อจาก www.youtube.com เร่อื ง Five Day Weather Forcast_Studio C (4.05 นาท)ี 3. เมือ่ จบครู elicit นกั เรยี นวา Is there any signs you recognize? คมู ือครูและแผนการจดั การเรียนรู Close-up 2 ชน้ั มธั ยมศกึ ษาปท ี่ 2

172  Who can show me one? Come and draw.  What kind of news is this? What is the man in the news? 4. ครูออกเสียงคําวา Weather forecaster แลว ใหนักเรยี นชว ยกนั สะกด  W_ _ _ _ _ _ F _ _ _ _ _ _ _ _ _  Presentation 1. ครูแจกใบความรูที่ 1 IMPROTANT WEATHER SIGNS ใหนักเรียนศึกษาใบความรู Study the signs. Are they clear? 2. ครใู หน ักเรยี นดู Wealther forcast map หนา 47 แลวทําแบบฝกหัด D นักเรียนอาสามาตอบแบบฝกหัดบนกระดาน เพื่อนๆชวยกนั ตรวจความถกู ตอง (ครอู ธิบายเพิม่ เติม) เฉลยคําตอบ Vocabulary D ใน Student’s Book หนา 47 1. cloudy: stormy 2. cold; snowy 3. hot 4. sunny 5. rainy 3. ครูใหน ักเรยี นศึกษาใบความรู Collocations แลว elicit คําถาม Have you ever found some collocations from this book before? Show me. ครูเขียน tooth decay 4. ครูอธบิ ายคําสัง่ แบบฝก หัด B ใน Workbook หนา 25 นักเรียนทําแบบฝกหัด เขียนคํ่าตอบบนกระดาน เพ่ือนๆชวยกัน ตรวจความถกู ตอง เฉลยคาํ ตอบ Vocabulary B ใน Workbook หนา 25 1. c 2. d 3. a 4. f 5. b 6. e 5. ครูแจกใบความรทู ี่ 2 แลวบอกนักเรียนวา  Please study this knowledge paper and give me the meaning or synonym of ‘to be like’  Practice 1. ครอู ธิบายคําสง่ั แบบฝกหดั C ใน Workbook หนา 25 ใหนกั เรียนจับคภู าพกับคํา นักเรียนทาํ แบบฝกหดั แลว เขียน คาํ ตอบบนกระดาน พรอมช้ีใหเ พือ่ นๆเหน็ Clues ที่อยใู นภาพ ทช่ี ว ยในการเลือกคําตอบ เฉลยคําตอบ Vocabulary C ใน Workbook หนา 25 1. stormy 3. rainy 5. cloudy 2. snowy 4. sunny 6. cold 2. ครอู ธิบายคําส่งั แบบฝกหัด D ใน Workbook หนา 26 นักเรยี นทําแบบฝก หัด D ครูอขออาสาสมัครทําแบบฝกหดั คนละ ขอ พรอมอา นใหเ พื่อนอา นตาม เพอ่ื นๆชว ยกันตรวจความถูกตอง พรอ มชีใ้ หเ หน็ Context Clues (ครูอธิบายเพ่ิมเตมิ ) เฉลยคําตอบ Vocabulary D ใน Workbook หนา 26 1. b 2. a 3. b 4. b 5. b 6. a  Production 1. ครูอธิบายคําสั่งแบบฝกหัด E ใน Student’s Book หนา 47 นักเรียนทําแบบฝกหัด E (Cloze passage) The postcard แลว จบั ใจความ 2. ครสู ุม นกั เรยี น เขยี นคําตอบบนกระดาน เฉลยคําตอบ Vocabulary E ใน Workbook หนา 47 1. on 2. in 3. on 4. in 5. by 6. at 3. ครูอธบิ ายคาํ สง่ั แบบฝกหดั F ใน Student’s Book หนา 47 คูมอื ครูและแผนการจัดการเรยี นรู Close-up 2 ช้นั มธั ยมศึกษาปท ี่ 2

173 1. beautiful เฉลยคาํ ตอบ Vocabulary F ใน Student’s Book หนา 47 2. comfortable 3. really sunny 5. really friendly 4. very clean 6. delicious 7. creamy 4. นักเรียนกลับไปอาน postcard ในแบบฝกหัด E อีกครั้ง เพ่ือหาคําท่ีเหมาะสมมาเติมลงในชองวางของประโยคใน แบบฝก หัด F เพอื่ เปน คาํ ตอบ 5. ครสู ุมนักเรยี นมาอา นประโยคคาํ ถาม แลวใหน กั เรียนคนนน้ั เรยี กเพื่อนตอบทีละคน จนครบ 7 ขอ 6. ครูใหนักเรียนจับคู ออกมาสนทนาหนาชนั้ เรยี น ครูแจกใบงาน 7. ครูอธิบายใบงานใหนักเรยี นเขาใจ ในการกรอกชอ่ื เลขที่ และการใหค ะแนนคสู นทนา รวมทัง้ ชอ งใหค ะแนนตนเองดวย 8. ครูบอกนักเรียนวา การใหคะแนนดจู ากผลคะแนนของเพอ่ื นๆ ของตัวเอง และของครู 7. นักเรยี นสงบทสนทนาเปนลําดบั สดุ ทาย 6. การวัดและประเมินผล เคร่อื งมือ เกณฑการวดั - แบบฝก หัด - ถกู ตอ งทุกขอ วิธีการวดั 1. สังเกตจากการทําแบบฝกหดั 2. สงั เกตจาการสนทนา - คําถามในการสนทนา - Excellent, Good, Fair ถามขอมลู จากเพ่ือน จากใบคะแนน 7. สอ่ื /แหลงการเรยี นรู 7.1 คลปิ วีดีโอ จาก youtube เรอ่ื ง Five Day Weather Forecast 7.2 ใบความรู 1-2 7.3 หนังสือเรยี น Close-up 2, Unit 4 หนา 47 7.4 แบบฝกหดั Close-up 2, Unit 4 หนา 25-26 7.5 ใบงาน 8. บันทกึ หลังการจัดการเรียนรู (บันทกึ การจับคูสนทนา เพ่ือสงั เกตทกั ษะการส่ือสาร และบนั ทึกความสนใจในการใหคะแนนเพอ่ื นดว ย) 9. กจิ กรรมเสนอแนะ ................................................................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................................................................. คมู อื ครแู ละแผนการจดั การเรยี นรู Close-up 2 ช้ันมธั ยมศึกษาปท ่ี 2

174 ใบความรทู ี่ 1 often go together have similar meanings must be used together A collocation can be divided into several types such as... adj. + n. n. + n. n. + v. v. + n. v. + adv. adv. + adj. คมู ือครูและแผนการจัดการเรยี นรู Close-up 2 ช้นั มัธยมศึกษาปท่ี 2

175 ใบความรทู ่ี 2 คูมอื ครแู ละแผนการจัดการเรียนรู Close-up 2 ช้นั มัธยมศึกษาปท ี่ 2

176 ใบงาน Peer Evolution My name: ............................................................. No. ................................... No. Ss No. Presenter’s name Excellent Good Fair My Score 543 1. 2. 3. 4. 5. 6. 7. 8. 9. 10. 11. 12. 13. 14. 15. 16. 17. 18. 19. 20. 21. 22. 23. 24. 25. 26. 27. 28. 29. 30. 31. 32. 33. 34. 35. คมู อื ครแู ละแผนการจดั การเรียนรู Close-up 2 ชั้นมธั ยมศกึ ษาปท่ี 2

177 แผนจัดการเรยี นรู หนวยการเรยี นรูท ี่ 4 เรอื่ ง School’s Out! แผนการจัดการเรียนรทู ี่ 5 เรือ่ ง Plan And Arrangement รหสั วชิ า ………. รายวชิ าพ้ืนฐานภาษาอังกฤษ ชน้ั มธั ยมศกึ ษาปท ่ี 2 กลมุ สาระการเรียนรูภาษาตา งประเทศ ปการศกึ ษา 25...... ภาคเรยี นท่ี....... เวลา 1 ชั่วโมง ผสู อน..................................................... 1. มาตรฐานการเรียนร/ู ตวั ชี้วดั ต 1.1 ม.2/4 เลอื กหัวขอ เร่อื ง ใจความสําคญั บอกรายละเอียดสนบั สนนุ (supporting detail) และแสดง ความคิดเห็นเกีย่ วกบั เรอ่ื งท่ีฟงและอาน พรอ มท้ังใหเ หตุผลและยกตวั อยางงา ยๆ ประกอบ 2. จุดประสงคก ารเรียนรู เขยี นประโยคสนทนาโดยใชโ ครงสรา งท่ีกาํ หนดใหไดถกู ตอง 3. สาระสําคญั /ความคิดรวบยอด (Learning Concept) การเขียนประโยคสนทนาเก่ียวกับการวางแผนจัดกิจกรรมใหตนเองในชวงเวลาปดภาคเรียน ดวยโครงสรางทางภาษาที่ กําหนดให ทําใหผ เู รียนเกิดทกั ษาในการเรียนรูท้ัง 4 ดาน จนไดบ รรลุตามเปา ประสงค ทกุ ประการ 4. สาระการเรียนรู (Learning Contents) 4.1 ดา นความรู (Knowledge) Pronunciation: Schedule, explore Vocabulary: Relative, caravan, delay, melt, explore, couch, potato Grammar: Plan Future and Arrangement Function: Asking and Answering Culture: Useful holiday 4.2 ดา นทักษะกระบวนการ (Process/Skill) 1) ทบทวนโครงสรางของ Plan Future + Arrangement จากใบความรู 2) ทําแบบฝก หดั ใน Student’s Book แลว เรียกเพ่อื นตอบคําถามแบบเรยี น 3) เขยี นบทสนทนาโดยใชโครงสรางทั้งหมดท่ีเรียนเกี่ยวกับ Plan Future + Arrangement 4.3 ดานเจตคติ (Attitude/Desired Character) 1) มีเหตุผลและมีวจิ ารณญาณ 5. กิจกรรมการเรียนรู  Lead-in 1. ครูแจกใบความรทู ี่ 1 และ 2 เรือ่ ง Plan Future 2. ครูเนน เรื่องความแตกตา งของ Present Continuous Tense ที่บอกความเปนอนาคตวา  It is used when we say what we have planned and arranged to do at a specific time in the future. 3. ครูใหนักเรยี นขีดเสนใต V. ท่เี ปนโครงสรางของ Present Continuous Tense ในประโยคตัวอยางท่ีใหมาในใบความรูท่ี 2 แลว วงรอบคาํ ทีบ่ อกเวลาในอนาคตดวย ทกุ ประโยค คูม ือครแู ละแผนการจัดการเรียนรู Close-up 2 ชั้นมธั ยมศกึ ษาปที่ 2

178 4. ครูบอกใหนักเรียนดูคําที่ขีดเสนใตในใบความรูท่ี 1 Look at the underlined verbs under the pictures. Guess, what tense are they presented? ครูอธบิ ายการใช to be going to เพือ่ บอกความเปน อนาคตวา  It is used when we say what we have planned and decided to do before the moment of speaking but not arranged. 5. ครใู หน ักเรียนขีดเสนใต V. to be + going to ในประโยคตัวอยาง แลว ชี้ใหเหน็ วา ไมม คี าํ กาํ หนดเวลาทชี่ ดั เจน ครูอธิบายเพ่ิมเติม The Present Continuous tense is used to talk about plans which are arranged in the future time. “going to” is used to talk about a planned future action. It’s also used to talk about something in the future which is the result of something 6. หลังการอธิบายครูใหนักเรียนเปดหนังสือเรียนไปที่ Grammar reference หนา 110 -111 เพื่อใหนักเรียนศึกษา เพิม่ เติมเรอื่ ง และชว ยกนั สรุป 1) โครงสรางของ to be going to ในประโยคชนิดตา งๆ 2) การนํา Present Continuous: to be going to ไปใช หมายเหตุ Grammar reference ของ Present Continuous: future plans & arrangements อยูในหนังสือเรียนหนา 110 และ 111 7. นักเรยี น 1 คน ไมจาํ เปน ตอ งสรุปไดทั้งหมด ครูเปดโอกาสใหนักเรียนตอบตามความเขาใจของตนเองจนครบถวนตาม โครงสรา งและการนาํ ไปใช ครเู ขียนคําตอบของนักเรยี นแตละคนบนกระดาน นักเรียนจดบนั ทึกสรปุ ส้นั ๆ  Presentation 1. ครูใหนักเรียนดูบทสนทนาขอ A ใน Student’s Book หนา 47 แลวใหนักเรียนขีดเสนใต V. ท่ีเปน Present Continuous Tense ทั้งหมด พรอ มทาํ ความเขา ใจกบั ประโยค แลว วงรอบคาํ บอกเวลาในอนาคต เฉลยคําตอบ Grammar A ใน Student’s Book หนา 47 Students should underline three words: A: Hi Eric, what are you doing this summer? B: We’re going on a cruise next month. A: Really? Where are you going? B: We are sailing round the Mediterranean. A: Are you visiting Spain? B: No, we’re not. We’re sailing straight to France. A: When are you coming back? B: We’re coming back on 17th August. 2. ครูใหนักเรียนดูแบบฝกหัด B ในหนาเดยี วกนั อา นประโยคใหนักเรยี นอา นตาม แลว ถามวาประโยคน้ัน พูดถูกหรือไม ที ละขอ เฉลยคาํ ตอบ Grammar B ใน Student’s Book หนา 47 1. F 2. T 3. T 4. T 5. F 6.T 3. ครูใหน ักเรยี นดแู บบฝก หัดขอ F ใน Student’s Book หนา 48 แลว ใหน ักเรียนขีดเสน ใต V. to be + going to ในแต ละประโยค พรอ มพิจารณาวา ในประโยคน้ันๆมี specific time หรอื ไม เฉลยคําตอบ Grammar F ใน Student’s Book หนา 48 A: We’re going to fly to Australia next summer. B: Wow. That’s far away. A: I know. We’re going to visit relatives there. B: Are you going to stay with them? A: We’re going to stay with them the first week, then we’re going to travel! B: You’re going to have an amazing time! คมู ือครูและแผนการจัดการเรียนรู Close-up 2 ช้ันมธั ยมศกึ ษาปท ี่ 2

179 4. ครใู หนกั เรียนศกึ ษาขอความใน Be careful แลว อธบิ ายย้าํ อกี ครง้ั เพื่อใหไมผดิ พลาดเม่อื นําไปใช 5. ครอู า นกฎเกณฑการใช To be going to + V ทีละขอใหน กั เรยี นชว ยกันเลอื กคํามาเติมในกฎใหสมบูรณ พรอมอธิบาย เพมิ่ เตมิ  Practice 1. ครูอธิบายคําสั่งแบบฝกหัด A, B, C ใน Workbook หนา 27 แลวใหนักเรียนทําแบบฝกหัดนําคําตอบมาเขียนบน กระดาน เพือ่ นๆ ชวยกันตรวจ พรอ มใหเ หตผุ ล (ครเู พม่ิ เติม)ารเขยี นและการอา น ครใู หร างวลั เฉลยคําตอบ Grammar A ใน Workbook หนา 27 1. are meeting 4. are having 2. are greeting 5. are driving 3. is arriving 6. are you doing 1. is flying เฉลยคําตอบ Grammar B ใน Workbook หนา 27 2. is departing 4. is closing 3. is boarding 5. is sitting 6. is landing เฉลยคาํ ตอบ Grammar C ใน Workbook หนา 27 1. am/’m going to stay 4. am not going to fly 2. am/’m going to take 5. are/’re going to need 3. am/’m going to travel 6. am/’m going to pack 2. ครูอธิบายคําสั่งแบบฝกหัด C ใน Student’s Book หนา 46 นักเรียนทําแบบฝกหัด แลวเขียนคําตอบบนกระดาน พรอ มช้ี Context Clues ในตว๋ั ท่ชี ว ยการตดั สินใจของนักเรยี น (ใหน ักเรียนอาสาสมัครออกมาเขยี นเอง) (ครอู ธบิ ายเพิม่ เตมิ ) เฉลยคําตอบ Grammar C ใน Student’s Book หนา 46 1. is boarding; 8.20 a.m. 2. is flying; Andes 3. is taking off; 8.55 a.m. 4. is siting; 11D 5. is flying; Mexico City 3. ครูอธิบายคําส่ังแบบฝกหัด H ใน Student’s Book หนา 47 นักเรียนทําแบบฝกหัด นักเรียนอาสาเขียนคําตอบบน กระดาน อา นนําท้งั ประโยคแลว เพ่ือนอานตาม พรอมชวยกนั ตรวจความถกู ตอ ง (ครูเพม่ิ เติม) เฉลยคําตอบ Grammar H ใน Student’s Book หนา 47 1. is/’s going to melt 4. is/’s going to teach 2. am/’m going to wash 5. are/’re going to drop 3. is/’s going to be 6. are/’re going to look for 4. ครใู หน ักเรียนยอนกลบั ไปอา นใจความบทสนทนาแบบฝกหัด C ใน Workbook หนา 27 แลว จบั คู ชวยกันทําแบบฝกหัด D ใน Workbook หนา 27 คูใ ดเสร็จกอนใหม าเขียนคาํ ตอบบนกระดาน และอา นใหเ พ่อื นฟง คูท่ีเสร็จกอนและถกู ตองทง้ั เฉลยคาํ ตอบ Grammar D ใน Workbook หนา 27 1. are you going to travel with 4. are you going to be there 2. are you going to leave 5. are you going to stay 3. are you going to get to Amsterdam 6. are you going to do คมู ือครูและแผนการจดั การเรยี นรู Close-up 2 ชัน้ มัธยมศึกษาปท่ี 2

180 5. ครอู ธบิ ายคาํ สง่ั B ใน Student’s Book หนา 51 ใหน ักเรยี นเขียนคําตอบบนกระดาน เพื่อนๆชว ยกันตรวจ เฉลยคําตอบ Speaking B ใน Student’s Book หนา 51 1. b 2. a 3. e 4. c 5. d  Production 1. ครอู ธิบายคําสง่ั แบบฝกหดั D ใน Student’s Book หนา 48 นกั เรียนศึกษาตารางการเดนิ ทางของเรือ แลว ทํา แบบฝกหดั เฉลยคําตอบ Grammar D ใน Student’s Book หนา 48 are/’re sitting sail on Saturday 7th August. are/’re arriving on Monday 9th August. are/’re going on the tour at eleven o’clock. are/’re seeing Gaudi’s park and cathedral in Barcelona. are/’re visiting the Vatican on Thursday 12th August. are/’re going to Naples. 2. ครสู ุม นักเรยี นเขียนคําตอบบนกระดาน พรอมใหนักเรียนคนน้ันๆชี้ Context Clues ในตารางเพ่ือยืนยนั คําตอบดวย 4. เพ่อื นๆชวยกันตรวจความถูกตอง (ครอู าจเพม่ิ เติม) 5. ครอู ธบิ ายคําสงั่ แบบฝกหดั E ใน Student’s Book หนา 48 โดยเตมิ คาํ กรยิ าท่ีมีโครงสราง Present Continuous Tense เฉลยคาํ ตอบ Grammar E ใน Student’s Book หนา 48 1. are you doing 2. are you doing 3. are you going 4. Are you visiting 5. Are you going 6. นกั เรียนทําแบบฝก หัด ครสู ุมเรียกนักเรียนเขียนคําตอบบนกระดาน แลวหันกลับมาถามคําถามน้ัน เรียกเพื่อนเพื่อให ตอบคาํ ถามคนละขอ เพอ่ื นๆชว ยกนั ตรวจความถูกตอง (ครเู พม่ิ เติม) (ครอู ธิบายเพมิ่ เติม) 7. ครูอธบิ ายคําสง่ั แบบฝกหดั I ใน Student’s Book หนา 49 นกั เรียนทําแบบฝกหดั เฉลยคําตอบ Grammar I ใน Student’s Book หนา are you going to travel are you going to travel are you going to stay are you going to do are you going to be 8. ครสู ุมมาเขยี นคําตอบทีเ่ ปน โครงสรา งของ To be + going to + V บนกระดาน เพื่อนๆชวยกันตรวจความถูกตอง (ครู เพ่มิ เติม) 9. ครอู ธิบายคําส่ังแบบฝกหัด J ใน Student’s Book หนา 49 ใหนักเรียนเลือกกิจกรรมที่จะทําในวันปดภาคเรียน (ครู อธิบายขอ ความเพมิ่ เติม เพือ่ ใหนักเรยี นเขา ใจชัดเจน ตรงกัน) เฉลยคาํ ตอบ Grammar J ใน Student’s Book หนา 49 Students’own answers 10. ครูใหนักเรียนจับคูเ ขียนบทสนทนา ตามกจิ กรรมท่ีตนเลือกทําในวนั หยดุ ลงดานหลังใบความรู 11. ครูตรวจใหค ะแนน Excellent, Good, Fair คมู ือครแู ละแผนการจดั การเรียนรู Close-up 2 ชั้นมัธยมศกึ ษาปที่ 2


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook