Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore แผนการจัดการเรียนรู้ Close up 2

แผนการจัดการเรียนรู้ Close up 2

Published by Teacher Ya Channel, 2021-03-26 14:44:13

Description: แผนการจัดการเรียนรู้ Close up 2
ภาษาอังกฤษพื้นฐาน ชั้นม.2

Search

Read the Text Version

281 แผนจัดการเรยี นรู หนวยการเรียนรทู ่ี 6 เรอ่ื ง Look At Me! แผนการจดั การเรียนรูท่ี 3 เรือ่ ง Describe People รหัสวชิ า ................... รายวิชาพน้ื ฐานภาษาอังกฤษ ช้นั มัธยมศึกษาปท ่ี 2 กลุมสาระการเรียนรภู าษาตา งประเทศ ปการศกึ ษา 25...... ภาคเรยี นท่ี 2 เวลา 1 ชัว่ โมง ผสู อน..................................................... 1. มาตรฐานการเรียนรู/ตัวชี้วดั ต 1.1 ม.2/4 เลือกหัวขอเรื่อง ใจความสําคัญ บอกรายละเอียดสนับสนุน (supporting detail) และแสดงความคิดเห็น เกีย่ วกับเรอ่ื งทฟี่ ง และอาน พรอ มทัง้ ใหเ หตุผล และยกตวั อยา งงา ยๆ ประกอบ ต 1.3 ม.2/1 พูดและเขียนบรรยายเก่ียวกับตนเอง กิจวัตรประจําวัน ประสบการณและขาว/เหตุการณที่อยูในความสนใจ ของสงั คม 2. จดุ ประสงคก ารเรยี นรู อานขอความที่กําหนดใหแลวจับใจความสําคญั โดยใชคําศพั ท สํานวนภาษาไดอยางถกู ตอง 3. สาระสําคญั /ความคดิ รวบยอด (Learning Concept) การอา นขอ ความแลวจบั ใจความสําคัญได ทําใหน กั เรยี นมคี วามรูดานคําศัพท สํานวนภาษา ไดฝกทักษะการอาน ทําใหมีความ มัน่ ใจในการใชภ าษาอังกฤษในการส่ือสารไดอยา งมปี ระสทิ ธภิ าพ 4. สาระการเรยี นรู (Learning Contents) 4.1 ดานความรู (Knowledge) Appearance and personality 4.2 ดา นทกั ษะกระบวนการ (Process/Skill) ทกั ษะการอา น การเขียน การฟง การพดู และกระบวนการเรียนภาษาเพอื่ การสอ่ื สาร 4.3 ดา นเจตคติ (Attitude) มีความมั่นใจในการใชภาษาองั กฤษในการสื่อสาร และมปี ระสทิ ธิภาพในการสอ่ื ความ 5. กจิ กรรมการเรยี นรู  Lead-in ครูใหนักเรียนดูภาพใน Close-up 2 Student’s Book หนา 72 และถามคําถามเกี่ยวกับ People's appearance เชน What colour hair do you have?, Is your hair long or short?, Is your hair curl or straight?  Presentation 1. ครูอธบิ ายคาํ สงั่ แบบฝก หดั Vocabulary A ใน Student’s Book หนา 72 2. ครูใหน ักเรียนอาน Descriptions แลวจบั คคู นกับภาพ ครอู าจชวยนักเรียนทําเปนตัวอยาง 1 ขอแลวใหนักเรียนทําขอ ท่ีเหลอื ดวยตนเอง ครยู ังไมใ หน ักเรียนเฉลยคําตอบ ใหนักเรียนทําแบบฝกหัด Vocabulary B กอ น คมู ือครูและแผนการจัดการเรียนรู Close-up 2 ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปท ี่ 2

282 เฉลยคาํ ตอบ Vocabulary A ใน Student’s Book หนา 72 1. Jessica 2. Matheus 3. Oliver 4. Katie 3. ครูอธบิ ายคาํ สง่ั แบบฝกหดั Vocabulary B ใน Student’s Book หนา 72 4. ครูใหนักเรียนอานขอความในแบบฝกหัด Vocabulary A แลวอานออกเสียงขอความที่พิมพตัวหนา เชน short, straight brown hair 5. ครูใหน กั เรยี นระบวุ า ขอ ความท่อี านน้ัน ตรงกบั ภาพ Picture 3; the boy's hair 6. ครูใหน กั เรียนอานออกเสยี งขอ ความทีพ่ ิมพตัวหนาและระบคุ ําตอบในขอ ทเ่ี หลือ 7. หากมเี วลาใหค รูสุมถามนักเรยี น ใหชวยกนั ตอบทีละภาพ 8. ครูใหน ักเรยี นชว ยกันเฉลยคาํ ตอบ ครเู ขยี นคําตอบบนกระดานและอธิบายเพิม่ เตมิ เฉลยคําตอบ Vocabulary B ใน Student’s Book หนา 72 Students label the photos.  Practice 1. ครูอธิบายคําสงั่ แบบฝก หัด Vocabulary C ใน Student’s Book หนา 72 2. ครูใหน ักเรียนอานคําศพั ททั้งหมด แลว เขียนคําศัพทใสล งในกลมุ คําท่กี ําหนดให บางคําอาจใสล งไดม ากกวา 1 กลมุ คาํ 3. ครูใหนกั เรียนชว ยกนั เฉลยคาํ ตอบ ครเู ขียนคําตอบบนกระดานและอธิบายเพม่ิ เตมิ เฉลยคาํ ตอบ Vocabulary C ใน Student’s Book หนา 72 Eyes: brown Hair: brown, curly, blonde, wavy, straight, long, short, red Skin: pale, tan, freckles 4. ครูอธบิ ายคําส่งั แบบฝกหัด Vocabulary D ใน Student’s Book หนา 72 5. ครูใหน กั เรียนจบั คูกัน ผลดั กนั โดยให Student A บรรยายบคุ คลทอ่ี ยใู นภาพแลวให Student B เดาวาเปนภาพใด 6. ครใู หน ักเรยี นผลัดกัน โดยให Student B บรรยายบคุ คลท่ีอยใู นภาพแลวให Student A เดาวา เปน ภาพใด เฉลยคําตอบ Vocabulary D ใน Student’s Book หนา 72 Students’ own answers  Production 1. ครูอธิบายคาํ สงั่ แบบฝก หัด Vocabulary E ใน Student’s Book หนา 72 2. ครูใหนกั เรียนอา นประโยค สังเกตคํากอ นและหลังชอ งวา งของแตล ะประโยค และใหนักเรียนคิดถึงคาํ ตอบท่ีจะตอบแลว ใหนักเรยี นอา นตวั เลือกเพอื่ เลือกคาํ ตอบท่ถี ูกตองทส่ี ดุ 3. ครูใหนักเรียนชวยกันเฉลยคาํ ตอบ ครเู ขยี นคาํ ตอบบนกระดานและอธบิ ายเพิ่มเติม เฉลยคาํ ตอบ Vocabulary E ใน Student’s Book หนา 72 1. b 2. a 3.b 4. b 5. b 6.a 4. ครูอธิบายคําสั่งแบบฝก หดั Vocabulary F ใน Student’s Book หนา 72 5. ครใู หนักเรียนอา นออกเสียงคาํ ศัพทใ น Yellow word bank อธบิ ายความหมายคําศัพทท่ีนักเรียนไมเขาใจ ใหนักเรียน เขา ใจตรงกัน คูมือครูและแผนการจัดการเรียนรู Close-up 2 ช้นั มธั ยมศกึ ษาปท่ี 2

283 6. ครใู หน ักเรยี นจับคูกนั อานประโยค แลวใหนักเรียนสังเกตคํากอนและหลังชองวางของแตละประโยค และใหนักเรียน คดิ ถงึ คําตอบที่จะตอบ แลว ใหนกั เรยี นอานตัวเลือกเพือ่ เตมิ คําลงในประโยค 7. ครูใหนกั เรียนชวยกนั เฉลยคําตอบ ครเู ขียนคําตอบบนกระดานและอธิบายเพ่มิ เตมิ เฉลยคาํ ตอบ Vocabulary F ใน Student’s Book หนา 72 1. funny 2. shy 3. cheerful 4. kind 5. sociable 6. silly 8. ครูอธบิ ายคําสัง่ แบบฝก หัด Vocabulary G ใน Student’s Book หนา 72 9. ครูใหน กั เรียนจบั คูก นั ผลัดกันบรรยายบคุ คลทน่ี กั เรียนรจู ัก เชน สมาชกิ ในครอบครัว หรือเพื่อน ครูกระตุนใหนักเรียน บรรยายรปู รา งลักษณะและบุคลกิ โดยใชคําศพั ทท ่ีนักเรียนเรยี นใน Unit น้ี เฉลยคําตอบ Vocabulary G ใน Student’s Book หนา 72 Students’ own answers 6. การวัดและประเมินผล เคร่ืองมือ เกณฑก ารประเมิน วธิ กี าร - แบบสังเกต - นกั เรียนผานเกณฑโดยปฏิบัตกิ ิจกรรม 1. ประเมินความรคู ําศพั ท สํานวน ไดถ ูกตอ งรอยละ 70 ภาษา ประโยค - แบบบนั ทึกผลการปฏบิ ตั งิ าน - นกั เรยี นผา นเกณฑโดยปฏบิ ัติกิจกรรม 2. ประเมินการอาน การเขยี น ไดถกู ตองรอ ยละ 70 3. ประเมินการพดู การฟง - แบบสังเกต - นกั เรยี นผา นเกณฑโดยปฏิบตั ิกจิ กรรม ไดถ ูกตอ งรอ ยละ 70 4. สังเกตพฤตกิ รรมการเขา รว มกจิ กรรม - สังเกตพฤตกิ รรมการ - นักเรียนผา นเกณฑโ ดยมสี วนรวมใน เขารวมกิจกรรม กิจกรรมและมีความสุขในการเรียน อยางนอ ยรอ ยละ 80 7. ส่ือ/แหลงการเรียนรู หนังสอื เรยี น Close-up 2, Unit 6 หนา 72 8. บันทึกหลงั การจดั การเรียนรู ................................................................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................................................................. 9. กิจกรรมเสนอแนะ ................................................................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................................................................. คูมือครแู ละแผนการจัดการเรียนรู Close-up 2 ชน้ั มัธยมศึกษาปท ่ี 2

284 แผนจัดการเรียนรู หนว ยการเรียนรูท ี่ 6 เร่ือง Look At Me! แผนการจดั การเรยี นรูท ี่ 4 เร่ือง My Uncle Ed รหัสวชิ า ................... รายวชิ าพน้ื ฐานภาษาอังกฤษ ชั้นมัธยมศกึ ษาปที่ 2 กลุม สาระการเรียนรูภ าษาตา งประเทศ ปการศึกษา 25...... ภาคเรียนท่ี 2 เวลา 1 ชั่วโมง ผูส อน..................................................... 1. มาตรฐานการเรียนรู/ตวั ชว้ี ัด ต 1.1 ม.1/4 ระบุหวั ขอเรอื่ ง (topic) ใจความสําคัญ (main idea) และตอบคําถามจากการฟง และอานบทสนทนา นิทาน และเร่อื งส้ัน 2. จุดประสงคการเรียนรู อานเร่ือง My Uncle Ed แลวจบั ใจความสําคญั โดยใชค ําศพั ท สํานวนภาษาท่ถี กู ตองได 3. สาระสําคญั /ความคิดรวบยอด (Learning Concept) การอานเร่ือง My Uncle Ed แลวจับใจความสําคัญทําใหนักเรียนมีความรูดานคําศัพท สํานวนภาษาไดฝกทักษะการอาน ทาํ ใหม ีความม่ันใจในการใชภาษาองั กฤษในการส่อื สารไดอ ยางมีประสทิ ธภิ าพ 4. สาระการเรียนรู (Learning Contents) 4.1 ดานความรู (Knowledge) Prepositions 4.2 ดา นทักษะกระบวนการ (Process/Skill) 1) ทกั ษะการฟง พูด อาน และเขียน 2) กระบวนการเรยี นภาษาเพอื่ การสื่อสาร 4.3 ดา นเจตคติ (Attitude) 1) มคี วามมั่นใจในการใชภ าษาอังกฤษในการสื่อสาร 2) มปี ระสทิ ธภิ าพในการส่อื ความ 5. กิจกรรมการเรยี นรู  Lead-in ครใู หนักเรียนดูภาพใน Student’s Book 2 หนา 73 และถามคําถาม 1. What kind of animal is it? 2. What colour is it? 3. Is it dangerous?  Presentation 1. ครูอธบิ ายคาํ สัง่ แบบฝก หัด Vocabulary H ใน Student’s Book หนา 73 2. ครูใหนักเรยี นสังเกตตัวอยาง Noun ตัวแรกในตาราง และวิธีการเปลยี่ น Noun ใหเ ปน Adjective 3. ครูเขียน Noun ตวั ตอ ไปบนกระดานแลว ใหน กั เรียนชวยกนั เปลย่ี นเปน Adjective คูมือครูและแผนการจดั การเรียนรู Close-up 2 ชั้นมัธยมศกึ ษาปท ี่ 2

285 4. ครูเขียน Noun ตัวท่ีเหลอื บนกระดานแลว ใหนักเรียนชวยกนั เปล่ียนเปน Adjective ใหนักเรียนสังเกตหลักการเปล่ียน Noun ใหเ ปน Adjective จนนักเรียนเขา ใจวาสว นทา ยท่ีเตมิ ลงทาย Noun แตละคํานนั้ มีความแตกตา งกัน 5. ครใู หนักเรยี นสังเกตวามี Noun บางตวั เปล่ยี นเปน Adjective ไดหลายรปู แบบ เชน - annoying, annoyed - beautiful - caring, careful, careless - friendly - lazy - lovely, loving - shocked, shocking - worried, worrying 6. ครใู หน กั เรยี นสงั เกตวามี Noun บางตัว เปลีย่ นเปน Adjective ไดห ลายรูปแบบ แตมีความหมายตรงขา มกัน เชน - careful (ระมัดระวงั ) careless (ประมาท) มีความหมายตรงกนั ขามกนั - careful, careless และ caring อธบิ ายถึงพฤตกิ รรมของบคุ คล - lovely อธบิ ายรปู รา งลกั ษณะและพฤตกิ รรมของบคุ คล - loving อธิบายพฤติกรรมของบุคคล - annoyed, shocked และ worried อธิบายความรูส กึ ของบุคคล - annoying, shocking และ worrying อธบิ ายการกระทําและเหตกุ ารณ 7. ครใู หน กั เรยี นชว ยกันเฉลยคาํ ตอบ ครเู ขียนคาํ ตอบบนกระดานและอธิบายเพิม่ เตมิ เฉลยคําตอบ Vocabulary H ใน Student’s Book หนา 73 1. annoying, annoyed 2. beautiful 3. careful, caring, careless 4. friendly 5. lazy 6. lovely, loving 7. shocked, shocking 8. worried, worrying 8. ครูอธบิ ายคําสัง่ แบบฝกหัด Vocabulary I ใน Student’s Book หนา 73 9. ครูใหนักเรยี นจับคูกันเตมิ Adjectives ในขอ H ลงในชอ งวาง 10. ครูใหนักเรียนอา นประโยคใหเขาใจความหมายกอ นทจี่ ะเลือก Adjectives เติมลงในชอ งวาง 11. ครใู หน กั เรยี นชวยกนั เฉลยคําตอบ ครเู ขียนคาํ ตอบบนกระดานและอธบิ ายเพ่ิมเติม เฉลยคําตอบ Vocabulary I ใน Student’s Book หนา 73 1. annoying 2. friendly 3. lovely 4. lazy 5. worried 6. shocked 7. beautiful 8. caring  Practice 1. ครูอธบิ ายคําส่งั แบบฝกหดั Vocabulary J ใน Student’s Book หนา 73 2. ครใู หนักเรียนดภู าพท่อี ยดู านขวาของขอ ความทีจ่ ะอา น แลวครูใหนกั เรยี นตอบคาํ ถาม ตอไปน้ี 1) What does this picture show? 2) How would you describe the spider? 3) How does it make you fee? เฉลยคําตอบ 1. A spider 2. It's large with short brown hair and black skin. 3. Scared 3. ครใู หนักเรยี นอานประโยคทัง้ ประโยค และหา Key words ใหนักเรยี นสงั เกตคําที่อยูกอ นและหลงั ชอ งวาง คูม อื ครแู ละแผนการจัดการเรยี นรู Close-up 2 ช้นั มธั ยมศึกษาปท ่ี 2

286 4. ครใู หน ักเรยี นอานตัวเลอื กของคําตอบอีกครั้ง และเลือกคาํ ตอบทดี่ ที ส่ี ดุ 5. ครใู หน กั เรยี นชว ยกนั เฉลยคาํ ตอบ ครเู ขยี นคาํ ตอบบนกระดานและอธิบายเพม่ิ เติม เฉลยคําตอบ Vocabulary J ใน Student’s Book หนา 73 1. with 2. about 3. to 4. of 5. about 6. by 7. with 8. about 6. ครูอธบิ ายคาํ สัง่ แบบฝก หดั Vocabulary A และ B ใน Workbook หนา 39 เพ่ือทบทวน ใหเวลานักเรียน 10 นาที ทํา แบบฝก หัด 7. ครูสุม เรยี กใหน ักเรียนตอบคาํ ถาม เพอ่ื นๆ ชว ยกันเฉลยคาํ ตอบ เฉลยคําตอบ Vocabulary A ใน Workbook หนา 39 1. braces 4. pale 7. long 10. clever 2. shy 5. moustache 8. skin 11. weird 3. blue 6. funny 9. sad 12. เฉลยคาํ ตอบ Vocabulary B ใน Workbook หนา 39 1. wavy 3. cheerful 5. curly 7. skin 2. brown 4. silly 6. short 8. red  Production 1. ครูอธบิ ายคาํ สง่ั แบบฝกหัด Vocabulary K ใน Student’s Book หนา 73 2. ครใู หนกั เรียนอา น Text อยา งรวดเร็ว แลว ใหนกั เรียนตอบคาํ ถามเก่ียวกบั Text ดงั น้ี 1) Who is the text about? 2) What does Uncle Ed look like? 3) What other family member does the writer talk about in the text? 4) What did Uncle Ed do in the writer's bedroom? 5) What kind of person is Uncle Ed? 1. Uncle Ed เฉลยคําตอบ 3. His/her mum 2. He's got curly brown hair and a beard. 5. kind, funny sociable, silly 4. He danced. 3. ครูใหนกั เรียนอาน Text และหา Key words และคําที่เหมือนกนั ใหนกั เรียนสงั เกตคําท่อี ยกู อนและหลังชอ งวา ง 4. ครูใหนักเรียนอา นตวั เลอื กของคําตอบอีกครั้ง และเลอื กคําตอบท่ดี ที ่ีสุด 5. ครใู หนกั เรียนชวยกนั เฉลยคาํ ตอบ ครเู ขียนคําตอบบนกระดานและอธบิ ายเพ่มิ เติม เฉลยคาํ ตอบ Vocabulary K ใน Student’s Book หนา 73 1. c 2. b 3. a 4. b 5. c 6. b 7. a 8. c Ideas Focus 1. ครใู หน ักเรยี นอานคาํ ถามใน Ideas Focus ท่อี ยดู านลา งของหนา 73 2. ครใู หน ักเรียนจบั คูกันตอบคําถาม โดยครูกระตุนใหน กั เรยี นใชขอมูลตา ง ๆ เพ่อื สนับสนุนความคดิ เห็นของนักเรียน คูมอื ครแู ละแผนการจดั การเรยี นรู Close-up 2 ช้นั มัธยมศกึ ษาปท ่ี 2

287 3. ครเู ดนิ สงั เกตและตรวจสอบนักเรียนพูดสนทนากัน และจดบันทึกขอผิดพลาดของนักเรียนในระหวางการใชภาษาพูด ถามและตอบเมอ่ื สิ้นสดุ การสนทนา ใหครูเขยี นขอ ผิดพลาดบนกระดาน แลวใหน ักเรียนทั้งช้นั ชวยกันแกไขใหถ ูกตอ ง 6. การวดั และประเมินผล วิธกี าร เคร่อื งมอื เกณฑการประเมนิ 1. ประเมนิ ความรูคําศพั ท - แบบสังเกต - นกั เรียนผานเกณฑโดยปฏบิ ัตกิ ิจกรรม สาํ นวนภาษา ประโยค - แบบบนั ทกึ ผลการปฏิบตั งิ าน ไดถ กู ตองรอยละ 70 2. ประเมนิ การอาน การเขยี น - นักเรียนผานเกณฑโ ดยปฏิบตั ิกิจกรรม - แบบสังเกต ไดถกู ตองรอ ยละ 70 3. ประเมินการพดู การฟง - นักเรยี นผานเกณฑโดยปฏิบตั กิ ิจกรรม - สงั เกตพฤตกิ รรมการเขา รวม ไดถ กู ตอ งรอยละ 70 4. สงั เกตพฤติกรรมการเขารวม กจิ กรรม - นักเรยี นผา นเกณฑโดยมสี วนรวม กจิ กรรม ในกิจกรรมและมคี วามสุขในการเรยี น อยางนอ ยรอยละ 80 7. ส่อื /แหลง การเรียนรู 7.1 หนังสือเรียน Close-up 2, Unit 6 หนา 73 7.2 แบบฝก หัด Close-up 2, Unit 6 หนา 39 8. บนั ทกึ หลังการจัดการเรียนรู ................................................................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................................................................. 9. กิจกรรมเสนอแนะ ................................................................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................................................................. คูม อื ครแู ละแผนการจัดการเรียนรู Close-up 2 ช้ันมธั ยมศกึ ษาปท่ี 2

288 แผนจัดการเรยี นรู หนว ยการเรียนรทู ี่ 6 เร่ือง Look At Me! แผนการจดั การเรียนรทู ี่ 5 เรอ่ื ง He was at the doctor’s รหัสวิชา ................... รายวชิ าพ้ืนฐานภาษาอังกฤษ ช้ันมธั ยมศกึ ษาปที่ 2 กลุมสาระการเรียนรูภ าษาตา งประเทศ ปก ารศกึ ษา 25...... ภาคเรียนท่ี 2 เวลา 1 ชว่ั โมง ผูสอน..................................................... 1. มาตรฐานการเรียนรู/ตัวชวี้ ดั ต 1.1 ม.2/4 เลือกหัวขอเรื่อง ใจความสําคัญ บอกรายละเอียดสนับสนุน (supporting detail) และแสดงความคิดเห็น เกีย่ วกับเร่ืองทฟ่ี ง และอาน พรอมท้ังใหเหตุผล และยกตัวอยางงายๆ ประกอบ ต 1.2 ม.2/4 พูดและเขียนเพ่ือขอและใหข อมลู บรรยาย และแสดงความคดิ เห็น เกยี่ วกับเร่ืองทีฟ่ งหรืออาน อยางเหมาะสม 2. จุดประสงคการเรียนรู อานขอ ความท่กี ําหนดใหแลวจบั ใจความสาํ คญั โดยใชค าํ ศัพท สํานวน โครงสรางภาษาไดอยางถกู ตอ ง 3. สาระสําคัญ/ความคดิ รวบยอด (Learning Concept) การอานขอความท่ีกําหนดใหแลวสามารถจับใจความสําคัญได ทําใหมีความมั่นใจในการใชภาษาอังกฤษในการสื่อสาร มีประสทิ ธิภาพในการส่อื ความ รักการเรยี นรูภาษาองั กฤษ ฝก ฝนอยางจรงิ จงั และเพยี งพอ 4. สาระการเรียนรู (Learning Contents) 4.1 ดา นความรู (Knowledge) Grammar: Past Simple 4.2 ดานทักษะกระบวนการ (Process/Skill) 1) ทกั ษะการฟง พดู อา น และเขียน 2) กระบวนการเรียนภาษาเพ่อื การส่อื สาร 4.3 ดานเจตคติ (Attitude) 1) มคี วามมนั่ ใจในการใชภ าษาอังกฤษในการสื่อสาร 2) รกั การเรียนรภู าษาอังกฤษและฝกฝนอยา งจรงิ จังและเพยี งพอ 3) มีประสทิ ธิภาพในการสื่อความ 5. กจิ กรรมการเรียนรู  Lead-in 1. ครูเขยี นประโยคใหน ักเรียนดูบนกระดาน แลวใหนักเรียนชว ยกันเปล่ียนเปน Past Simple และ Past Continuous ดงั นี้ - I talk on the phone with my aunt. - They eat breakfast in the kitchen. - Sarah runs two kilometres at the park. คูม อื ครแู ละแผนการจัดการเรยี นรู Close-up 2 ชนั้ มัธยมศึกษาปท ่ี 2

289 - Adam tries hard in maths class. - We leave for work at 8.00 a.m. 2. ครูสมุ ใหนกั เรยี นชวยกันเฉลยคาํ ตอบ แลวเขียนคําตอบบนกระดาน เฉลยคําตอบ Past Simple - I talked on the phone with my aunt. - They ate breakfast in the kitchen. - Sarah ran two kilometres at the park. - Adam tried hard in maths class. - We left for work at 8.00 a.m. Past Continuous - I was talking on the phone with my aunt. - They were eating breakfast in the kitchen. - Sarah was running two kilometres at the park. - Adam was trying hard in maths class. - We were leaving for work at 8.00 a.m.  Presentation 1. ครูใหน กั เรียนทัง้ ชั้นทบทวน Past Simple Affirmative I/he/she/it /we/you/they worked. 2. ครใู หน กั เรียนชว ยกนั สรปุ รูปประโยคบอกเลาวา Subject + Verb 2 Negative I/he/she/it/we/you/they didn't work. 3. ครใู หนกั เรียนชวยกันสรปุ รูปประโยคปฏเิ สธวา Subject + didn’t + Verb 1 Question Did I/he/she/it /we/you/they work? 4. ครูใหนกั เรียนชว ยกันสรุปรปู ประโยคคาํ ถามวา Did + Subject + Verb 1? Short answers Yes, /he/she/it/we/you/they did. 5. ครใู หน ักเรยี นชวยกันสรปุ รปู ประโยคคําตอบรับแบบสั้นวา Yes, + Subject + did. Short answers No, /he/she/it/we/you/ they didn't. 6. ครูใหนกั เรยี นชวยกนั สรปุ รูปประโยคคาํ ตอบปฏเิ สธแบบสน้ั วา No, + Subject + didn’t. 7. ครูใหนกั เรยี นสังเกตการสะกดคําของ Verb ท่เี ติม ed และชว ยกันสรุป ดังน้ี - dance → danced Verbs ท่ีลงทา ยดวย e เปลยี่ นเปน กรยิ าชอง 2 ดวยการเติม d - travel → travelled Verbs ท่ีลงทายดวยสระ 1 ตวั แลวตามดว ยพยัญชนะ 1 ตวั ใหเติมพยัญชนะอีก 1 ตวั แลวเติม d คูม อื ครูและแผนการจดั การเรียนรู Close-up 2 ช้นั มัธยมศกึ ษาปท ่ี 2

290 - study → studied Verbs ทีล่ งทา ยดวยพยัญชนะ 1 ตัว แลวตามดวย y ใหเ ปลยี่ น y เปน i แลว จงึ เตมิ ed - play → played Verbs ทีล่ งทา ยดว ยสระ 1 ตัว แลวตามดว ย y ใหเ ตมิ ed 8. ครูใหน กั เรยี นสังเกตการสะกดคาํ ของกรยิ าบางตวั เปน Irregular verbs คอื Verb ทีม่ ีการสะกดคําไมเ ปนไปตามกฎ เชน - cut, hit, hurt, put และ shut เมื่อเปล่ียนเปนกริยาชอง 2 จะมรี ูปเหมือนกรยิ าชอ ง 1 - blow, draw, fly, grow, throw เมอ่ื เปลี่ยนเปนกริยาชอง 2 จะมีรปู blew, drew, flew, grew, threw 9. ครูทบทวนการใช Past Simple ใหน กั เรยี นเขา ใจดงั น้ี 1) ใชกบั เหตกุ ารณท เ่ี กิดข้ึนในอดตี และสน้ิ สดุ ในอดตี เชน Dad met Mum in 1982. 2) ใชก บั กิจวตั รประจาํ วันและสิ่งที่ทําจนเปนนิสัยซึ่งจะตองมี Adverbs of frequency เชน Dave often played basketball at weekends. 3) ใชก ับเหตุการณหน่ึงทเ่ี กดิ ขนึ้ หลงั อีกเหตุการณห น่ึงในอดีต เชน การเลา นทิ าน The bell rang and the children went into their classrooms. คําบอกเวลาที่ใชใน Past Simple เชน yesterday, last night/week/month/summer a week/month/year ago, twice a week, once a month, at the weekend, in March, in the morning/afternoon/evening at night, on Thursdays, on Monday mornings, etc. ตวั อยา งประโยค เชน I looked at old family photos last night. 10. ครูอธิบายคาํ สัง่ แบบฝกหดั Grammar A ใน Student’s Book หนา 74 11. ครูใหน กั เรยี นอา นออกเสียงประโยค และขดี เสนใตกรยิ าท่เี ปน Past Simple ดวย 12. ครูเดินตรวจสอบใหน กั เรยี นขีดเสน ใตค ําตอบทถี่ ูกตอง 13. ครใู หน ักเรยี นชว ยกันเฉลยคําตอบ ครูเขียนคาํ ตอบบนกระดานและอธบิ ายเพม่ิ เติม เฉลยคาํ ตอบ Grammar A ใน Student’s Book หนา 74 1. bought 2. worked 14. ครูอธิบายคําสง่ั แบบฝก หัด Grammar B ใน Student’s Book หนา 74 15. ครใู หน กั เรียนดูประโยคในขอ A เพอ่ื เลือกขอสรุปในขอ B แลวนํามาตอบ 16. ครูใหน กั เรยี นชว ยกันเฉลยคําตอบ ครเู ขยี นคาํ ตอบบนกระดานและอธบิ ายเพิม่ เตมิ เฉลยคําตอบ Grammar B ใน Student’s Book หนา 74 1. b 2. a 3. b 4. a 17. ครูอธิบายใหน กั เรียนเขาใจความแตกตางระหวางเหตุการณท่ีเปน Past Simple กับ Past Continuous นั่นคือ Past state คอื สง่ิ ท่เี ปน ความจริงท่เี กดิ ขึ้นในอดตี และ Past event คือเหตกุ ารณท ่เี กิดขึ้นเพยี งครั้งเดียวในอดตี 18. ครูเขยี นประโยคใหน กั เรยี นดูบนกระดาน (ประโยคทงั้ หมดจะใหนกั เรียนเรียนอีกครัง้ ในแบบฝก หัด Grammar C) - My mum taught Spanish in her twenties. - My dad flew to Miami for work yesterday. - My sister ate all the cereal. - My brother took piano lessons as a child. คมู ือครูและแผนการจัดการเรียนรู Close-up 2 ช้ันมัธยมศึกษาปท ี่ 2

291 19. ครใู หนักเรียนพจิ ารณาวาประโยคใดเปน Past state หรอื Past event 20. ครูใหน กั เรียนชว ยกันเฉลยคําตอบ ครูเขียนคําตอบบนกระดานและอธบิ ายเพิ่มเติม เฉลยคําตอบ - past state - past event - past event - past state  Practice 1. ครูอธิบายคําส่ังแบบฝกหดั Grammar C ใน Student’s Book หนา 74 2. ครูใหนักเรียนดูประโยคบนกระดานที่ทําในแบบฝกหัด Grammar B แลวใหนักเรียนชวยกันทําเปน Negative และ Question 3. ครูสุมใหนกั เรียนชวยกนั เขยี นคําตอบบนกระดานครูอธิบายเพิม่ เตมิ เฉลยคําตอบ Negative - My mum didn’t teach Spanish in her twenties. - My dad didn’t fly to Miami for work yesterday. - My sister didn’t eat all the cereal. - My brother didn’t take piano lessons as a child. Question - Did my mum teach Spanish in her twenties? - Did my dad fly to Miami for work yesterday? - Did my sister eat all the cereal? - Did my brother take piano lessons as a child? 4. ครูใหน กั เรยี นขดี เสน ใต Verbs ที่เปน Past Simple 5. ครูใหน กั เรยี นชวยกันเฉลยคําตอบ ครเู ขียนคําตอบบนกระดานและอธิบายเพิม่ เติม เฉลยคําตอบ Grammar C ใน Student’s Book หนา 74 didn’t see, Were; wasn’t, left; Did…see; didn’t, went out 6. ครูอธบิ ายคําสงั่ แบบฝกหัด Grammar D ใน Student’s Book หนา 74 7. ครูใหนักเรยี นอานออกเสยี งขอ 1 - 3 และครูใหนกั เรยี นจับคูประโยคในแบบฝก หัด Grammar C กับประโยคใน แบบฝก หดั Grammar D 8. ใหครูตรวจสอบนักเรยี นใหเขา ใจ เร่อื ง หลักการใช Past Simple 9. ครใู หน ักเรียนชวยกนั เฉลยคําตอบ ครเู ขยี นคําตอบบนกระดานและอธิบายเพ่มิ เตมิ เฉลยคาํ ตอบ Grammar D ใน Student’s Book หนา 74 1. infinitive verb 2. did 3. to be  Production 1. ครูอธบิ ายคาํ สัง่ แบบฝกหดั Grammar A ใน Workbook หนา 41 2. ครใู หนักเรียนอานประโยค และทบทวนการเปลยี่ นกรยิ าเปนชองท่ี 2 กอนเปลีย่ นกริยาชองท่ี 1 เปน กรยิ าชองที่ 2 เติม ลงในชองวาง 3. ครใู หนกั เรียนชว ยกันเฉลยคําตอบ ครูเขยี นคาํ ตอบบนกระดานและอธิบายเพิม่ เติม เฉลยคาํ ตอบ Grammar A ใน Workbook หนา 41 1. worked 2. bought 3. thought 4. went 5. ate 6. drank 4. ครูอธบิ ายคําสง่ั แบบฝกหดั Grammar B ใน Workbook หนา 41 คูมอื ครูและแผนการจัดการเรยี นรู Close-up 2 ช้ันมัธยมศกึ ษาปท ี่ 2

292 5. ครูยํา้ เตอื นนักเรยี นใหร ะมดั ระวงั การใช Did ท่ีนํามาชวยทําใหเปนประโยคคําถาม และเนนนักเรียนตองไมลืมเปลี่ยน กริยาจากชองที่ 2 มาเปน ชองที่ 1 6. ครใู หน กั เรยี นชวยกนั เฉลยคําตอบ ครเู ขยี นคาํ ตอบบนกระดานและอธบิ ายเพิ่มเติม เฉลยคาํ ตอบ Grammar B ใน Workbook หนา 41 1. Did you catch the bus in time? 2. Did they bring enough food? 3. Did they leave work at 5 pm? 4. Was he at the doctor’s all day? 6. การวัดและประเมินผล วิธกี าร เครอ่ื งมือ เกณฑก ารประเมนิ 1. ประเมนิ ความรูคาํ ศพั ท สํานวน - แบบสงั เกต - นักเรยี นผานเกณฑโ ดยปฏิบตั กิ ิจกรรมไดถ ูกตอง รอยละ 70 ภาษา ประโยค - แบบบันทึกผลการ 2. ประเมินการอา น การเขียน ปฏิบัตงิ าน - นักเรียนผานเกณฑโ ดยปฏบิ ัตกิ ิจกรรมไดถ ูกตอง รอยละ 70 วธิ กี าร เคร่ืองมือ 3. ประเมนิ การพูด การฟง - แบบสงั เกต เกณฑการประเมิน - นักเรยี นผานเกณฑโดยปฏบิ ตั ิกิจกรรมไดถูกตอง 4. สังเกตพฤตกิ รรมการเขา - สังเกตพฤติกรรมการ รอ ยละ 70 รว มกิจกรรม เขา รว มกิจกรรม - นกั เรียนผานเกณฑโ ดยมสี วนรวมในกิจกรรมและ มคี วามสุขในการเรียนอยา งนอยรอยละ 80 7. สือ่ /แหลง การเรยี นรู 7.1 หนังสือเรยี น Close-up 2, Unit 6 หนา 74 7.2 แบบฝกหดั Close-up 2, Unit 6 หนา 41 8. บนั ทึกหลังการจัดการเรยี นรู ................................................................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................................................................. 9. กิจกรรมเสนอแนะ ................................................................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................................................................. คูมือครแู ละแผนการจัดการเรียนรู Close-up 2 ชัน้ มธั ยมศึกษาปท่ี 2

293 แผนจัดการเรียนรู หนว ยการเรยี นรทู ่ี 6 เรือ่ ง Look At Me! แผนการจัดการเรียนรูท ี่ 6 เร่ือง My Dad รหัสวิชา ................... รายวิชาพ้ืนฐานภาษาอังกฤษ ชั้นมธั ยมศึกษาปที่ 2 กลุมสาระการเรียนรภู าษาตางประเทศ ปการศึกษา 25...... ภาคเรยี นท่ี 2 เวลา 1 ชัว่ โมง ผสู อน..................................................... 1. มาตรฐานการเรียนร/ู ตวั ชว้ี ดั ต 1.1 ม.2/4 เลือกหัวขอเรื่อง ใจความสําคัญ บอกรายละเอียดสนับสนุน (Supporting detail) และแสดงความคิดเห็น เก่ยี วกบั เร่ืองทีฟ่ ง และอาน พรอมทงั้ ใหเหตผุ ล และยกตวั อยางงายๆ ประกอบ ต 1.2 ม.2/4 พูดและเขยี นเพือ่ ขอและใหข อ มูล บรรยาย และแสดงความคดิ เห็น เก่ยี วกับเร่ืองทฟ่ี ง หรืออานอยางเหมาะสม 2. จุดประสงคการเรยี นรู อา นขอความท่ีกําหนดใหแ ลวจบั ใจความสําคัญโดยใชคาํ ศัพท สํานวน โครงสรางภาษาไดอ ยา งถกู ตอง 3. สาระสําคญั /ความคิดรวบยอด (Learning Concept) การอานขอความที่กําหนดให แลวสามารถจับใจความสําคัญได ทําใหมีความมั่นใจในการใชภาษาอังกฤษในการส่ือสาร มปี ระสิทธภิ าพในการสอ่ื ความ รักการเรยี นรูภาษาองั กฤษ ฝก ฝนอยา งจรงิ จังและเพียงพอ 4. สาระการเรียนรู (Learning Contents) 4.1 ดา นความรู (Knowledge) Used to 4.2 ดา นทกั ษะกระบวนการ (Process/Skill) 1) ทกั ษะการอาน 2) ทักษะการเขยี น 3) ทักษะการฟง 4) ทกั ษะการพูด 5) กระบวนการเรยี นภาษาเพอื่ การสื่อสาร 4.3 ดา นเจตคติ (Attitude) 1) มคี วามมั่นใจในการใชภาษาองั กฤษในการสื่อสาร 2) รกั การเรียนรภู าษาองั กฤษและฝกฝนอยางจรงิ จังและเพียงพอ 3) มีประสทิ ธภิ าพในการสื่อความ 5. กจิ กรรมการเรยี นรู  Lead-in ครูสมุ ถามนกั เรียน - Did you use to go to Chaingmai? คูมอื ครูและแผนการจัดการเรียนรู Close-up 2 ชน้ั มธั ยมศึกษาปที่ 2

294 - Did you drive a car there by yourself? - Who used to go to Doi Suthep? - Is it beautiful? เฉลยคาํ ตอบ Students’ own answers  Presentation 1. ครูอธิบายคาํ สง่ั แบบฝก หัด Grammar E ใน Student’s Book หนา 74 2. ครูใหนักเรียนท้ังช้ันทบทวนการใช Used to Affirmative I/he/she/it /we/you/they used to work. 3. ครูใหน ักเรยี นชวยกันสรปุ รปู ประโยคบอกเลาวา Subject + used to + Verb 1 Negative I/he/she/it/we/you/they didn't use to work. 4. ครูใหน ักเรยี นชว ยกันสรุปรูปประโยคปฏเิ สธวา Subject + didn’t + use to + Verb 1 Question Did I/he/she/it /we/you/they use to work? 5. ครใู หนกั เรยี นชวยกันสรปุ รูปประโยคคําถามวา Did + Subject + use to + Verb 1? Short answers Yes, /he/she/it/we/you/they did. 6. ครใู หน กั เรยี นชว ยกันสรุปรูปประโยคคําตอบรบั แบบสั้นวา Yes + Subject + did. Short answers No, /he/she/it/we/you/ they didn't. 7. ครใู หน กั เรียนชวยกันสรุปรูปประโยคคาํ ตอบปฏิเสธแบบส้ันวา No + Subject + didn’t. 8. ครูทบทวนการใช used to + verb 1 ใหน ักเรยี นเขาใจดงั นี้  เพอื่ แสดงการกระทําท่ีเคยทาํ ในอดตี แตไมไ ดท าํ ตอนน้ี เชน My sister used to ride her bike to School.  ระบวุ าทําแลวในอดีต แตไมไดท ําตอนนี้ เชน Jim's hair used to be curly, but now it's straight. 9. ครูเขียนประโยคใหน ักเรยี นดบู นกระดานใหนกั เรยี นพิจารณาวาประโยคใดเปน Past state หรือ Past event - I used to study for four hours a day. - He used to be a police officer. - They used to have seven dogs. (Answer: states) คมู อื ครูและแผนการจดั การเรยี นรู Close-up 2 ชน้ั มธั ยมศึกษาปที่ 2

295 10. ครูอธิบายการใช Used to เพ่ือใชอธิบาย Past state คือ สิ่งที่เปนความจริงท่ีเกิดข้ึนในอดีตเปนนิสัยและเปนกิจวัตร ประจําวัน แตไ มใ ช Past event ท่ีเปนเหตกุ ารณท เ่ี กิดข้นึ เพียงครง้ั เดยี วในอดตี 11. ครใู หนกั เรียนอานประโยคและตอบคําถาม 12. ครูใหน ักเรยี นชวยกนั เฉลยคําตอบ ครเู ขียนคาํ ตอบบนกระดานและอธิบายเพิ่มเติม เฉลยคาํ ตอบ Grammar E ใน Student’s Book หนา 74 1. no 2. no 3. read 4. yes 13. ครูอธิบายคําส่ังแบบฝกหดั Grammar F ใน Student’s Book หนา 74 14. ครใู หน ักเรยี นจับคูกนั ใชขอมูลในขอ E เพอ่ื เตมิ ขอมูลในขอ F 15. ครใู หน ักเรียนชว ยกันเฉลยคําตอบ ครเู ขียนคําตอบบนกระดานและอธบิ ายเพิ่มเติม เฉลยคาํ ตอบ Grammar F ใน Student’s Book หนา 74 1. now 2. verb (infinitive without to) 3. used to 4. verb (infinitive without to) 16. ครูอธบิ ายคาํ สัง่ แบบฝก หัด Grammar G ใน Student’s Book หนา 74 17. ครูเขยี นหวั ตารางบนกระดาน Infinitives Past Simple 18. ครูเขียน Verbs ลงในชอง Infinitives แลวครูสุมถามนักเรียนใหสะกด Verbs รูป Past Simple แลวเขียนลงในชอง Past Simple 19. ครูกระตุน ใหน กั เรียนจด Irregular verbs ไวเ พ่ือทบทวน 20. ครูใหนกั เรยี นชว ยกันเฉลยคําตอบ ครเู ขยี นคาํ ตอบบนกระดานและอธบิ ายเพมิ่ เตมิ เฉลยคาํ ตอบ Grammar G ใน Student’s Book หนา 74 Infinitive Past Simple bring brought buy bought catch caught eat ate drink drank go went teach taught think thought  Practice 1. ครูอธบิ ายคาํ ส่ังแบบฝก หดั Grammar H ใน Student’s Book หนา 74 2. ครใู หน กั เรียนจบั คูกันแกป ระโยคท่ีใช Past Simple หรอื used to ใหถ ูกตอง แลว เขียนลงสมดุ 3. ครใู หนกั เรียนชว ยกนั เฉลยคําตอบ ครูเขยี นคาํ ตอบบนกระดานและอธิบายเพม่ิ เติม เฉลยคําตอบ Grammar H ใน Student’s Book หนา 1. used to play … 2. Did you use to like … 3. Where did you go … 4. I ate … 5. didn’t use to 6. Were you at school … คมู ือครูและแผนการจดั การเรยี นรู Close-up 2 ช้ันมธั ยมศกึ ษาปท่ี 2

296  Production 1. ครูอธบิ ายคําสงั่ แบบฝกหดั Grammar C ใน Workbook หนา 41 2. ครใู หน ักเรียนทบทวนการใช used to ทง้ั ในประโยคบอกเลา คําถาม และปฏิเสธ 3. ครูใหน ักเรยี นเลอื กคําตอบทีถ่ ูกตอง 4. ครูใหนักเรียนชวยกนั เฉลยคําตอบ ครเู ขียนคําตอบบนกระดานและอธบิ ายเพิม่ เติม เฉลยคําตอบ Grammar C ใน Workbook หนา 41 1. used 2. take 3. see 4. get 5. use 6. Did you 6. การวดั และประเมินผล เคร่ืองมือ เกณฑการประเมิน วธิ กี าร - แบบสังเกต - นักเรยี นผานเกณฑโดยปฏิบัติกจิ กรรมไดถูกตอง 1. ประเมินความรูคาํ ศพั ท - แบบบันทึกผลการปฏบิ ัติงาน รอยละ 70 สาํ นวนภาษา ประโยค - แบบสังเกต - นักเรยี นผานเกณฑโดยปฏิบตั กิ จิ กรรมไดถูกตอง 2. ประเมนิ การอาน การเขียน รอยละ 70 - สังเกตพฤติกรรมการเขา รวม 3. ประเมินการพูด การฟง กิจกรรม - นกั เรยี นผานเกณฑโ ดยปฏบิ ตั กิ ิจกรรมไดถ กู ตอง รอ ยละ 70 4. สงั เกตพฤตกิ รรมการเขา รวมกิจกรรม - นักเรียนผานเกณฑโดยมีสวนรวมในกิจกรรม และมคี วามสุขในการเรยี นอยา งนอ ยรอยละ 80 7. สื่อ/แหลง การเรียนรู 7.1 หนังสือเรียน Close-up 2, Unit 6 หนา 74 7.2 แบบฝกหัด Close-up 2, Unit 6 หนา 41 8. บนั ทึกหลังการจดั การเรียนรู ................................................................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................................................................. 9. กิจกรรมเสนอแนะ ................................................................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................................................................. คูมอื ครแู ละแผนการจดั การเรียนรู Close-up 2 ชน้ั มัธยมศึกษาปท่ี 2

297 แผนจัดการเรยี นรู หนว ยการเรียนรูท ่ี 6 เร่อื ง Look At Me! แผนการจดั การเรยี นรทู ี่ 7 เรอ่ื ง A Family Photo รหัสวิชา ................... รายวิชาพนื้ ฐานภาษาอังกฤษ ชนั้ มัธยมศึกษาปท ี่ 2 กลมุ สาระการเรียนรภู าษาตางประเทศ ปก ารศกึ ษา 25...... ภาคเรยี นที่ 2 เวลา 1 ชั่วโมง ผสู อน..................................................... 1. มาตรฐานการเรียนรู/ตัวช้ีวดั ต 1.1 ม.2/4 เลือกหัวขอเร่ือง ใจความสําคัญ บอกรายละเอียดสนับสนุน (supporting detail) และแสดง ความคิดเห็น เกยี่ วกบั เรื่องท่ฟี ง และอา น พรอมทัง้ ใหเหตผุ ล และยกตวั อยางงายๆ ประกอบ ต 1.2 ม.2/4 พดู และเขียนเพอ่ื ขอและใหข อมลู บรรยาย และแสดงความคดิ เห็น เกี่ยวกับเรือ่ งท่ฟี งหรืออา นอยา งเหมาะสม 2. จุดประสงคก ารเรยี นรู อานเรื่อง A family photo แลวจับใจความสาํ คัญโดยใชคําศพั ท สํานวนภาษาท่ีถกู ตองได 3. สาระสําคัญ/ความคิดรวบยอด (Learning Concept) การอาน A family photo แลวสามารถจับใจความสําคัญได ทําใหมีความม่ันใจในการใชภาษาอังกฤษในการส่ือสาร มีประสทิ ธภิ าพในการส่ือความ รักการเรียนรภู าษาอังกฤษ ฝก ฝนอยา งจริงจังและเพียงพอ 4. สาระการเรียนรู (Learning Contents) 4.1 ดา นความรู (Knowledge) Past Continuous 4.2 ดานทกั ษะกระบวนการ (Process/Skill) 1) ทกั ษะการอาน 2) ทักษะการเขียน 3) ทักษะการฟง 4) ทกั ษะการพูด 5) กระบวนการเรยี นภาษาเพือ่ การส่ือสาร 4.3 ดา นเจตคติ (Attitude) 1) มคี วามมน่ั ใจในการใชภาษาองั กฤษในการสื่อสาร 2) รกั การเรยี นรูภาษาองั กฤษและฝกฝนอยางจริงจงั และเพียงพอ 3) มปี ระสทิ ธิภาพในการสอื่ ความ 5. กจิ กรรมการเรียนรู  Lead-in ครสู ุม ถามนักเรยี น - What were you doing at 6 o’clock yesterday? คูม ือครแู ละแผนการจัดการเรยี นรู Close-up 2 ช้นั มธั ยมศกึ ษาปที่ 2

298 - What were you doing when your mother cook dinner yesterday? - What was your father doing when you do your homework? เฉลยคําตอบ Students’ own answers  Presentation 1. ครูอธบิ ายคาํ สั่งแบบฝก หัด Grammar I ใน Student’s Book หนา 75 2. ครูใหน กั เรยี นทบทวนรปู แบบประโยค Past Continuous คอื Verb to be (was/were) + V-ing 3. ครูใหนักเรยี นท้งั ชั้นทบทวน Past Continuous ดงั นี้ Affirmative I/he/she/it was working. We/you/they were working. 4. ครูใหนักเรียนชว ยกันสรุปรูปประโยคบอกเลาวา - Subject (I/he/she/it) + was + verb + ing. - Subject (we/you/they) + were + verb + ing. Negative I/he/she/it was not (wasn’t) working. We/you/they were not (weren’t) working. 5. ครูใหนกั เรียนชวยกนั สรปุ รูปประโยคปฏเิ สธวา - Subject (I/he/she/it) + was not (wasn’t) + verb + ing. - Subject (we/you/they) + were not (weren’t) + verb + ing. Question Was I/he/she/it working? Were we/you/they working? 6. ครใู หน กั เรยี นชวยกันสรปุ รูปประโยคคาํ ถามวา - Was + Subject (I/he/she/it) + verb + ing? - Were + Subject (we/you/they) + verb + ing? Short answers Yes, he/she/it was. Yes, we/you/they were. 7. ครใู หนกั เรยี นชว ยกนั สรุปรูปประโยคคาํ ตอบรบั แบบสนั้ - Yes, + Subject (he/she/it) + was. - Yes, + Subject (we/you/they) + were. คมู ือครูและแผนการจัดการเรียนรู Close-up 2 ชน้ั มธั ยมศึกษาปท ่ี 2

299 Short answers No, he/she/it wasn’t. No, we/you/ they weren't. 8. ครใู หน ักเรียนชว ยกันสรุปรูปประโยคคําตอบปฏิเสธแบบสัน้ - No, + Subject (he/she/it) + wasn’t. - Yes, + Subject (we/you/they) + weren’t. 9. ครใู หนกั เรียนสังเกตการสะกดคาํ ของ Verb ทีเ่ ติม ing และชวยกันสรปุ ดงั นี้ - write  writing Verbs ทลี่ งทายดว ย e ใหตดั e ออก แลว เติม ing - travel  travelling Verbs ทล่ี งทายดว ยสระ 1 ตวั แลวตามดว ยพยัญชนะ 1 ตัว ใหเตมิ พยญั ชนะอีก 1 ตัวแลวเติม ing - study  studying Verbs ท่ลี งทายดวยพยัญชนะ 1 ตวั แลวตามดว ย y ใหเ ติม ing 10. ครูทบทวนการใช Past Simple ใหนกั เรยี นเขาใจดังนี้ 1) ใชก ับเหตกุ ารณที่เกิดข้นึ ในอดีตและมคี าํ บอกเวลาทแี่ นน อน เชน - I was playing with my sister at 5 o'clock yesterday afternoon. 2) ใชกับเหตุการณท ีเ่ กิดข้นึ ในอดตี พรอ มๆ กัน ตงั้ แต 2 เหตุการณขึ้นไป เชน - Helen was talking and her friend was listening. 3) ใชบอกขอมลู พ้ืนฐานของเรอ่ื งราวตาง ๆ ที่เกิดข้นึ ในอดีตและมีคาํ บอกเวลาทแี่ นนอน เชน - I was playing with my sister at 5 o'clock yesterday afternoon. - The family was having dinner and discussing their day. 4) ใชบ อกการกระทาํ ท่ีกําลังดาํ เนนิ อยูในอดตี ที่ถกู ขดั จังหวะโดยการกระทาํ อ่ืนเชน - Dad was making breakfast when he heard the good news. คาํ บอกเวลาทใ่ี ชใน Past Continuous ไดแ ก while, as, all day/week/month/year, at ten o'clock, last night, last Sunday/week/ year, this morning, etc. ตวั อยางประโยค เชน - The children were playing on the beach all day. 11. ครูเขยี นประโยคใหนกั เรยี นดบู นกระดานแลวครูสุม ใหนกั เรียนออกไปชวยกันเปลี่ยนเปน Past Continuous - Alex ran for the bus, but he fell down. - We worked on our projects; then the bell rang. เฉลยคาํ ตอบ - Alex was running for the bus, but he fell down. - We were working on our projects when the bell rang. 12. ครูใหน กั เรียนขดี เสนใตกรยิ าท่ีเปน Past Continuous ในขอ I 13. ครใู หน ักเรยี นชวยกันเฉลยคําตอบ ครูเขยี นคาํ ตอบบนกระดานและอธบิ ายเพมิ่ เติม คูมือครูและแผนการจัดการเรียนรู Close-up 2 ชน้ั มธั ยมศกึ ษาปท่ี 2

300 เฉลยคาํ ตอบ Grammar I ใน Student’s Book หนา 75 1. was making 2. was snowing, was showing, weren’t moving 3. was going 14. ครูอธบิ ายคาํ สงั่ แบบฝก หัด Grammar J ใน Student’s Book หนา 75 15. ครูใหนักเรียนอานออกเสียงประโยคในขอ J ที่เปนกฎการใช Past Continuous แลวใหนักเรียนชวยกันหาคําตอบ เตมิ ลงในชอ งวา ง 16. ครใู หนกั เรียนชวยกนั สรุปกฎแตล ะขอ เพ่ือใหน ักเรยี นเขาใจกฎการใช Past Continuous ตรงกัน 17. ครูใหนกั เรยี นชวยกันเฉลยคําตอบ ครเู ขียนคาํ ตอบบนกระดานและอธิบายเพิ่มเติม เฉลยคาํ ตอบ Grammar J ใน Student’s Book หนา 75 a. past b. the same time c. information d. action e. to be 18. ครูอธิบายคําส่ังแบบฝก หดั Grammar K ใน Student’s Book หนา 75 19. ครูใหน กั เรียนอานประโยคในขอ I แลวใหร ะบุวาขอใดตรงตามกฎในขอ a - d ในขอ J 20. ครูใหน กั เรียนชวยกันเฉลยคําตอบ ครเู ขยี นคําตอบบนกระดานและอธิบายเพิ่มเตมิ เฉลยคําตอบ Grammar K ใน Student’s Book หนา 75 1. a, c, d 2. b, c 3. a, c  Practice 1. ครูอธบิ ายคําสั่งแบบฝกหัด Grammar L ใน Student’s Book หนา 75 2. ครูใหนกั เรยี นทบทวนการใช Verb to be และหลักการเตมิ ing 3. ครใู หน กั เรยี นเปลี่ยน Verb ทอี่ ยูในวงเล็บเปน Past Continuous เติมลงในบทสนทนา 4. ครูเดนิ รอบๆ หอ งเพอ่ื สงั เกตและใหความชว ยเหลือนกั เรยี น 5. ครูใหนกั เรยี นชวยกันเฉลยคาํ ตอบ ครูเขียนคาํ ตอบบนกระดานและอธิบายเพิ่มเตมิ เฉลยคาํ ตอบ Grammar L ใน Student’s Book หนา 75 1. wasn't feeling 2. was swimming 3. was working 4. were ... driving 5. was shining, was blowing 6. was playing, was burning 6. ครูอธิบายคาํ สง่ั แบบฝกหัด Grammar D และ E Workbook หนา 41 ใหเวลานกั เรยี นทําแบบฝก หัด 10 นาที 7. ครสู ุมเรยี กนกั เรียนเฉลยคาํ ตอบ นักเรยี นแกไ ขคาํ ตอบของตนเองใหถ กู ตอง เฉลยคําตอบ Grammar D ใน Student’s Book หนา 75 1. was sending, called 4. was talking, was listening 2. were singing, was shining 5. was running, fell 3. went, was swimming 6. were talking, wasn’t/was not เฉลยคาํ ตอบ Grammar D ใน Student’s Book หนา 75 1. Did you enjoy 4. was studying 7. did you see 10. drove 2. was playing 3. was dancing 5. went 8. was laughing 6. watched 9. was it showing คมู อื ครแู ละแผนการจดั การเรียนรู Close-up 2 ชั้นมธั ยมศึกษาปท ี่ 2

301  Production 1. ครูอธิบายคําสั่งแบบฝก หัด Grammar M ใน Student’s Book หนา 75 2. ครูใหน กั เรียนดภู าพ และถามคําถามนักเรียนวา - What do you see in the photo? - What do the people in the photo are looking at? เฉลยคําตอบ (Suggested answers) - A mother and daughter - A photo album 3. ครูใหนักเรียนอานเร่ือง A family photo แลวเลือกคําตอบที่ถูกตอ ง 4. ครูใหนักเรียนชวยกันบอกวา Verb ตัวไหนท่ีเปน Past Simple ครูเขียนคําตอบบนกระดาน took, didn’t like, (never) had, (always) listened, looked 5. ครูใหน ักเรียนชวยกันบอกตัวอยางของการใช used to ครูเขียนคําตอบบนกระดาน used to have, used to think, used to hate 6. ครูใหนักเรียนชวยกันบอกวา Verb ตัวไหนที่เปน Past Continuous ครูเขียนคําตอบบนกระดาน wasn't smiling, was she wearing 7. ครูใหน กั เรียนชว ยกนั เฉลยคาํ ตอบ ครเู ขยี นคําตอบบนกระดานและอธบิ ายเพ่ิมเติม เฉลยคาํ ตอบ Grammar M ใน Student’s Book หนา 75 1. took 2. used to have 3. didn't like 4. used to think 5. never had 6. always listened 7. wasn't smiling 8. used to hate 9. was she wearing 10. looked 8. ครูใหน ักเรยี นชวยกนั ใหเ หตุผลในการพจิ ารณาเลือกคําตอบของแตล ะขอ 6. การวดั และประเมนิ ผล วธิ ีการ เคร่อื งมอื เกณฑการประเมนิ 1. ประเมินความรูคําศัพท สาํ นวน - แบบสังเกต - นักเรียนผานเกณฑโ ดยปฏิบัตกิ จิ กรรมไดถูกตอ ง ภาษา ประโยค - แบบบนั ทกึ ผลการปฏิบัตงิ าน รอยละ 70 2. ประเมินการอาน การเขยี น - นกั เรียนผา นเกณฑโ ดยปฏบิ ัตกิ ิจกรรมไดถูกตอง รอยละ 70 3. ประเมินการพูด การฟง - แบบสงั เกต - นกั เรยี นผานเกณฑโดยปฏบิ ัติกิจกรรมไดถ ูกตอง 4. สังเกตพฤตกิ รรมการเขา - สังเกตพฤติกรรมการเขา รอยละ 70 รว มกิจกรรม รวมกิจกรรม - นกั เรยี นผานเกณฑโดยมีสว นรวมในกจิ กรรมและ มีความสุขในการเรียนอยา งนอ ยรอ ยละ 80 7. สือ่ /แหลงการเรยี นรู 7.1 หนังสือเรยี น Close-up 2, Unit 6 หนา 75 7.2 แบบฝก หัด Close-up 2, Unit 6 หนา 41 คมู ือครูและแผนการจัดการเรยี นรู Close-up 2 ช้นั มธั ยมศึกษาปที่ 2

302 8. บนั ทกึ หลงั การจัดการเรียนรู ................................................................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................................................................. 9. กจิ กรรมเสนอแนะ ................................................................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................................................................. คมู อื ครแู ละแผนการจดั การเรยี นรู Close-up 2 ชนั้ มัธยมศกึ ษาปท่ี 2

303 แผนจัดการเรยี นรู หนวยการเรียนรูท ี่ 6 เรื่อง Look At Me! แผนการจดั การเรยี นรทู ่ี 8 เรอื่ ง Good looking รหสั วชิ า ................... รายวชิ าพ้ืนฐานภาษาอังกฤษ ชน้ั มธั ยมศึกษาปท ่ี 2 กลุมสาระการเรียนรูภาษาตา งประเทศ ปก ารศึกษา 25...... ภาคเรยี นท่ี 2 เวลา 1 ชัว่ โมง ผสู อน..................................................... 1. มาตรฐานการเรียนร/ู ตวั ชว้ี ดั ต 1.1 ม.2/4 เลือกหวั ขอ เรอ่ื ง ใจความสาํ คัญ บอกรายละเอียดสนับสนุน (supporting detail) และแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับ เร่ืองทีฟ่ ง และอา น พรอ มท้ังใหเหตุผล และยกตวั อยางงา ย ๆ ต 1.2 ม.2/1 สนทนาแลกเปลี่ยนขอมูลเก่ียวกับ ตนเอง เร่ืองตางๆ ใกลตัว และ สถานการณตางๆ ในชีวิตประจําวัน อยาง เหมาะสม 2. จดุ ประสงคก ารเรยี นรู ฟง บทสนทนาท่ีกาํ หนดใหแ ลวจับใจความสําคญั โดยใชคาํ ศัพท สาํ นวนภาษาไดอยางถกู ตอง 3. สาระสําคัญ/ความคดิ รวบยอด (Learning Concept) การฟงบทสนทนาท่กี ําหนดให แลวจับใจความสําคัญทําใหมีความรูดานคําศัพท สํานวนภาษา ประโยค และขอความ ทําใหมี ประสิทธภิ าพในการสื่อความและมคี วามม่นั ใจในการใชภ าษาอังกฤษในการส่ือสาร 4. สาระการเรยี นรู (Learning Contents) 4.1 ดานความรู (Knowledge) Multiple choice 4.2 ดา นทกั ษะกระบวนการ (Process/Skill) 1) ทกั ษะการฟง พดู อาน และเขียน 2) กระบวนการเรียนภาษาเพ่ือการส่อื สาร 4.3 ดา นเจตคติ (Attitude) 1) มคี วามมน่ั ใจในการใชภาษาองั กฤษในการสื่อสาร 2) มปี ระสิทธิภาพในการสือ่ ความ 5. กจิ กรรมการเรียนรู Listening  Lead-in ครใู หน ักเรยี นดภู าพใน Student’s Book 2 หนา 76 แลวตอบคาํ ถาม - What are they doing? - Where are they? - Are they serious? คูมือครูและแผนการจัดการเรียนรู Close-up 2 ชนั้ มัธยมศกึ ษาปท ่ี 2

304  Presentation 1. ครูอธบิ ายคําสงั่ แบบฝกหดั Listening A ใน Student’s Book หนา 76 2. ครูอธิบายใหนักเรียนรูวาในการฝกทักษะการฟงนั้น ส่ิงท่ีสําคัญคือ นักเรียนจะตองฝกการอานและการเขียนขอมูล เปนลําดับแรก 3. ครูใหน ักเรียนอา นประโยคขอ A และตัวเลอื ก โดยยงั ไมเ ตมิ คําลงในประโยค จนกวา นักเรียนจะไดฟงคําตอบจาก Short dialogues 4. ครูใหน กั เรียนชวยกันบอก Key words ในแตละประโยคทนี่ กั เรยี นจะไดฟง จาก Short dialogues เฉลยคําตอบ Listening A ใน Student’s Book หนา 76 1. eye colour or size 2. height or hair colour 3. clothing 4. time of day 5. a place 6. a reason for liking someone  Practice 1. ครูอธบิ ายคําสงั่ แบบฝก หดั Listening B ใน Student’s Book หนา 76 2. ครใู หน กั เรยี นฟงบทสนทนาครง้ั ท่ี 1 จาก Class Audio CD Track 6.1 และใหนักเรียนฟงตัวเลือกท้ัง a และ b อยาง ตงั้ ใจ นักเรยี นจะยงั ไมตอ งตอบคําถาม  Production 1. ครูอธบิ ายคําสง่ั แบบฝกหัด Listening C ใน Student’s Book หนา 76 2. ครูใหนักเรียนฟง บทสนทนาอกี คร้ังแลวใหน ักเรียนเลือกคําตอบทีถ่ ูกตองท่ีสดุ 3. ครูใหนักเรยี นฟงบทสนทนาท่ี 1 แลวหยดุ เพอื่ ใหนกั เรยี นทําตอบ แลวจึงใหนักเรียนฟงบทสนทนาที่ 2 แลวหยุดเพ่ือให นกั เรียนทาํ ตอบ ทาํ เชน นจี้ นครบทงั้ 5 บทสนทนา 4. ครูอาจหยุดบทสนทนาเปนชว งเทา ท่ีจาํ เปน เพ่อื ใหน กั เรียนเขาใจและทําตอบไดทนั 5. ครูใหนักเรยี นชว ยกนั เฉลยคาํ ตอบ ครูเขยี นคาํ ตอบบนกระดานและอธบิ ายเพ่ิมเติม เฉลยคาํ ตอบ Listening C ใน Student’s Book หนา 76 1. a 2. a 3. a 4. b 5. a 6. a 6. การวดั และประเมนิ ผล วธิ กี าร เคร่ืองมือ เกณฑการประเมิน 1. ประเมนิ ความรูคาํ ศัพท - แบบสังเกต - นักเรียนผานเกณฑโ ดยปฏบิ ัตกิ จิ กรรมไดถูกตอง รอยละ 70 สาํ นวนภาษา ประโยค - แบบบันทึกผลการปฏบิ ัติงาน - นกั เรียนผานเกณฑโดยปฏบิ ัติกิจกรรมไดถ ูกตอง 2. ประเมินการอา น การเขียน รอยละ 70 - แบบสังเกต - นักเรยี นผานเกณฑโ ดยปฏิบัติกิจกรรมไดถกู ตอง 3. ประเมนิ การพูด การฟง รอยละ 70 - สงั เกตพฤติกรรมการเขา - นกั เรียนผานเกณฑโ ดยมสี วนรวมในกิจกรรมและ 4. สังเกตพฤติกรรมการเขา รวมกิจกรรม มีความสุขในการเรียนอยางนอยรอยละ 80 รว มกิจกรรม คูม ือครูและแผนการจัดการเรียนรู Close-up 2 ชน้ั มัธยมศึกษาปท ่ี 2

305 7. สื่อ/แหลงการเรยี นรู 7.1 หนังสือเรียน Close-up 2, Unit 6 หนา 76 7.2 Class Audio CD Track 6.1 8. บันทึกหลังการจดั การเรยี นรู ................................................................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................................................................. 9. กจิ กรรมเสนอแนะ ................................................................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................................................................. คมู ือครูและแผนการจดั การเรยี นรู Close-up 2 ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปที่ 2

306 แผนจัดการเรยี นรู หนว ยการเรยี นรทู ี่ 6 เร่ือง Look At Me! แผนการจัดการเรยี นรทู ่ี 9 เรอ่ื ง What are you watching? รหสั วชิ า ................... รายวชิ าพืน้ ฐานภาษาอังกฤษ ชน้ั มัธยมศึกษาปท ่ี 2 กลมุ สาระการเรียนรูภ าษาตางประเทศ ปก ารศกึ ษา 25...... ภาคเรียนที่ 2 เวลา 1 ชั่วโมง ผสู อน..................................................... 1. มาตรฐานการเรียนร/ู ตัวช้ีวดั ต 1.1 ม.2/4 เลือกหวั ขอเร่อื ง ใจความสําคัญ บอกรายละเอียดสนับสนุน (supporting detail) และแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับ เรื่องท่ีฟง และอาน พรอมทั้งใหเ หตุผล และยกตวั อยา งงายๆ ต 1.2 ม.2/1 สนทนาแลกเปลี่ยนขอมูลเกี่ยวกับ ตนเอง เรื่องตางๆ ใกลตัว และ สถานการณตางๆ ในชีวิตประจําวัน อยาง เหมาะสม 2. จุดประสงคก ารเรียนรู ฟง บทสนทนาที่กาํ หนดใหแ ลวจับใจความสําคัญโดยใชคําศัพท สํานวนภาษาไดอ ยางถูกตอง 3. สาระสําคัญ/ความคิดรวบยอด (Learning Concept) การฟงบทสนทนาทีก่ าํ หนดใหแ ลว จับใจความสาํ คัญไดท ําใหม คี วามรดู า นคําศัพท สํานวนภาษา ประโยค และขอความ ทําใหมี ประสทิ ธิภาพในการส่ือความและมีความมนั่ ใจในการใชภาษาอังกฤษในการสื่อสาร 4. สาระการเรียนรู (Learning Contents) 4.1 ดา นความรู (Knowledge) Function: Identifying the wrong answer 4.2 ดานทกั ษะกระบวนการ (Process/Skill) 1) ทักษะการฟง พดู อาน และการเขยี น 2) กระบวนการเรียนภาษาเพอื่ การส่ือสาร 4.3 ดานเจตคติ (Attitude) 1) มีความมั่นใจในการใชภาษาอังกฤษในการส่ือสาร 2) มีประสทิ ธิภาพในการสือ่ ความ 5. กิจกรรมการเรียนรู  Lead-in ครใู หน ักเรยี นตอบคาํ ถามตอไปน้ี - Do you like to have short hair or long hair? - What colour of your hair do you like most? - Do you like to wear jeans? Why or Why not? คูมอื ครแู ละแผนการจัดการเรียนรู Close-up 2 ชน้ั มธั ยมศึกษาปท ่ี 2

307  Presentation 1. ครูอธบิ ายคําส่งั แบบฝกหัด Listening D ใน Student’s Book หนา 76 2. ครูใหนกั เรียนอาน Exam Close-up เพื่อใหน กั เรียนเขาใจเรื่อง Identifying the wrong answer  ใหน กั เรียนอา นคําถามกอน แลวจึงอานตวั เลือก  ใหนักเรยี นฟงตัวเลือกของแตล ะคําถาม และสามารถบอกไดว าขอใดผดิ  เม่ือนักเรียนฟง บทสนทนาครง้ั แรก อยารบี ตัดสินใจเลือกคาํ ตอบ  ใหนักเรยี นฟง บทสนทนาคร้งั แรกอยา งตงั้ ใจ และฟง บทสนทนานนั้ ซ้ําอีกคร้งั แลวจงึ เลือกคําตอบ 3. ครูอาน Exam Close-up แตละหัวขอใหนักเรียนฟง แลวใหนักเรียนดูตัวอยางคําถามในขอ A แลวฝกหลักการ Identifying the wrong answer โดยเรมิ่ จากขอแรก ใหน ักเรียนอานโจทยขอที่ 1 และตวั เลอื กทั้งหมด 4. ครใู หนักเรียนทง้ั ชน้ั ทําตามขน้ั ตอนของหลักการ identifying the wrong answer ขอที่ 2 โดยใหนักเรียนฟงตัวเลือก ของแตล ะคาํ ถาม แลว ใหน ักเรียนบอกวา ขอใดผิด 5. ครูใหน กั เรียนฟง บทสนทนาครัง้ ท่ี 1 โดยยงั ไมเลือกคาํ ตอบ 6. ครูใหน ักเรียนฟงบทสนทนาซาํ้ อีกครั้ง แลว จงึ เลือกคําตอบ 7. ครูเนน ยา้ํ นักเรียนในการฟง บทสนทนาตองฟง 2 ครั้ง จึงจะเลือกคําตอบ ไมจําเปนตองรีบตอบเม่ือฟงบทสนทนาเปน คร้งั แรก 8. ครูแนะนาํ ใหนกั เรียนจดบันทึกคําตอบไวดา นขา งของขอ น้ันๆ เพ่ือตรวจสอบความถูกตองเมื่อนักเรียนไดฟงบทสนทนา นน้ั ซา้ํ เปน ครั้งท่ี 2 9. ครูใหน กั เรยี นอานทบทวน Exam Close-up แลว เลือกตอบในขอ D 10. ครูใหน ักเรียนชวยกนั เฉลยคําตอบ ครูเขียนคาํ ตอบบนกระดานและอธิบายเพมิ่ เตมิ เฉลยคําตอบ Listening D ใน Student’s Book หนา 76 1. F 2. T 3. F 4. T  Practice 1. ครูอธบิ ายคําสงั่ แบบฝกหดั Listening E ใน Student’s Book หนา 76 2. ครูใหน ักเรียนดูภาพดา นลางของ Exam Task แลวถามนักเรียนวา 1) Who do you see in the photo? 2) What do they look like? 3) Where are they? 4) What are they doing? เฉลยคําตอบ 1. two girls 2. Young, one with brown curly hair, the other with brown wavy hair 3. At someone's home 4. They are looking at a tablet computer. 3. ครใู หนักเรียนอานคําสั่งใน Exam Task เพ่ือใหนักเรียนเขาใจวานักเรียนจะตองฟงบทสนทนาระหวาง Lisa กับ Sue เกีย่ วกบั Video โดยครเู ขยี นคาํ ถามเกยี่ วกบั บทสนทนานบี้ นกระดาน - Who is speaking in the listening task? - How do they know each other? - What are they going to talk about? คูมอื ครแู ละแผนการจดั การเรียนรู Close-up 2 ชัน้ มธั ยมศึกษาปท ่ี 2

308 - How many questions are there to answer? - How many answer choices are there for each question? เฉลยคําตอบ - Lisa and Sue - They are friends. - a video -5 -3 4. ครใู หนักเรียนอานคําถามและตัวเลอื กทุกขอใน Exam Task 5. ครใู หนักเรยี นบอกสง่ิ ที่นกั เรียนจะไดฟ งเปน เรื่องเก่ียวกับอะไร โดยใหนักเรียนดจู ากคาํ ถามแตละคําถาม 1) hair colour 2) clothing 3) appearance orange 4) a type of music 5) a person who went to a concert 6. ครใู หนักเรียนฟง บทสนทนาจาก Recording Script Student’s Book Track 6.2 คร้ังแรก ใหนักเรียนจดบันทึก คําตอบไวดานขาง 7. ครใู หนักเรยี นฟง บทสนทนาครงั้ ที่ 2 แลวเลือกคาํ ตอบท่ีถูกตอง  Production 1. ครูอธบิ ายคาํ ส่ังแบบฝกหัด Listening F ใน Student’s Book หนา 76 2. ครูใหนกั เรยี นฟง บทสนทนาจาก Recording Script Student’s Book Track 6.2 ซํ้าอีกครงั้ เพ่อื เลือกคาํ ตอบ 3. ครูหยดุ บทสนทนาใหนกั เรยี นฟง สวนท่เี ปนคาํ ตอบของคําถามที่นักเรยี นมีปญ หา แตจ ะไมทาํ เชนน้ถี าเปนการสอบ 4. ครูใหน กั เรยี นชวยกนั เฉลยคําตอบ ครเู ขียนคาํ ตอบบนกระดานและอธิบายเพ่มิ เตมิ เฉลยคาํ ตอบ Listening F ใน Student’s Book หนา 76 1. C 2. B 3. A 4. B 5. C 6. การวดั และประเมินผล วธิ ีการ เครือ่ งมอื เกณฑก ารประเมิน 1. ประเมนิ ความรูคําศพั ท - แบบสงั เกต - นกั เรียนผา นเกณฑโ ดยปฏบิ ตั กิ ิจกรรมไดถกู ตอง รอยละ 70 สาํ นวนภาษา ประโยค - แบบบันทึกผลการปฏบิ ัตงิ าน 2. ประเมินการอาน การเขียน - นักเรยี นผานเกณฑโ ดยปฏิบตั กิ จิ กรรมไดถ กู ตอง - แบบสงั เกต รอ ยละ 70 3. ประเมนิ การพูด การฟง - สังเกตพฤติกรรมการเขา - นกั เรียนผานเกณฑโ ดยปฏบิ ตั กิ จิ กรรมไดถ กู ตอง 4. สงั เกตพฤตกิ รรมการเขารว ม รว มกิจกรรม รอยละ 70 กิจกรรม - นักเรียนผา นเกณฑโ ดยมีสวนรวมในกิจกรรมและ มีความสขุ ในการเรียนอยา งนอยรอยละ 80 7. สื่อ/แหลงการเรยี นรู 7.1 หนงั สือเรยี น Close-up 2, Unit 6 หนา 76 7.2 Class Audio CD Track 6.2 คูม ือครูและแผนการจัดการเรยี นรู Close-up 2 ช้ันมธั ยมศกึ ษาปท่ี 2

309 8. บนั ทึกหลงั การจดั การเรยี นรู ................................................................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................................................................. 9. กจิ กรรมเสนอแนะ ................................................................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................................................................. คูม ือครูและแผนการจัดการเรียนรู Close-up 2 ชน้ั มธั ยมศึกษาปท ่ี 2

310 แผนจัดการเรียนรู หนว ยการเรียนรูที่ 6 เรือ่ ง Look At Me! แผนการจดั การเรยี นรทู ี่ 10 เร่อื ง Describing the best friend รหสั วชิ า ................... รายวชิ าพ้นื ฐานภาษาอังกฤษ ช้นั มธั ยมศกึ ษาปท่ี 2 กลมุ สาระการเรียนรภู าษาตา งประเทศ ปก ารศกึ ษา 25...... ภาคเรยี นท่ี 2 เวลา 1 ช่ัวโมง ผสู อน..................................................... 1. มาตรฐานการเรียนร/ู ตัวชี้วดั ต 1.2 ม.2/4 พูดและเขยี นเพือ่ ขอและใหข อ มูล บรรยาย และแสดงความคิดเหน็ เกยี่ วกบั เร่ืองท่ีฟง หรืออานอยางเหมาะสม 2. จดุ ประสงคการเรียนรู พดู ถาม – ตอบขอ ความที่กาํ หนดให แลวสามารถบอกรายละเอยี ดโดยใชคําศพั ท สํานวนโครงสรา งภาษาไดอยางถกู ตอง 3. สาระสําคัญ/ความคดิ รวบยอด (Learning Concept) การพูดถาม – ตอบขอความที่กําหนดใหไดแลวจับใจความสําคัญทําใหมีความรูดานคําศัพท สํานวนภาษา ประโยค และ ขอความ ทาํ ใหม ปี ระสิทธภิ าพในการสอ่ื ความและมีความมั่นใจในการใชภาษาอังกฤษในการสอื่ สาร 4. สาระการเรียนรู (Learning Contents) 4.1 ดานความรู (Knowledge) Function: Giving a description of a friend 4.2 ดานทักษะกระบวนการ (Process/Skill) 1) ทกั ษะการฟง พูด อา น และเขียน 2) กระบวนการเรยี นภาษาเพื่อการสื่อสาร 4.3 ดานเจตคติ (Attitude) 1) มีความมนั่ ใจในการใชภาษาองั กฤษในการส่ือสาร 2) มีประสิทธิภาพในการส่ือความ 5. กิจกรรมการเรียนรู  Lead-in ครใู หนกั เรียนดภู าพใน Close-up Student’s Book 2 หนา 77 และตอบคาํ ถาม ดงั นี้ - Are they brothers and sisters? Why or Why not? - Do they study in a school? Why or Why not?  Presentation 1. ครูอธบิ ายคาํ สงั่ แบบฝก หดั Speaking A ใน Student’s Book หนา 77 2. ครูใหนกั เรยี นจับคูกนั ให Student A เลือกคนในรปู ภาพ โดยไมบ อก Student B วาเปนภาพของคนใด 3. ครูให Student B ถามคาํ ถามโดยใช Yes/No questions ถาม Student A จนไดคําตอบ ซึ่งนักเรียนสามารถใชตัวอยาง ประโยคคําถามในขอ A เปน แนวคาํ ถาม คูมอื ครูและแผนการจดั การเรยี นรู Close-up 2 ชนั้ มัธยมศึกษาปท่ี 2

311 4. ครใู หนักเรียนจบั คูกันผลัดการถาม-ตอบ 5. ครูเดินรอบหองเพ่ือสงั เกตการถาม-ตอบของนักเรยี น เพ่ือตรวจสอบการใชภาษา 6. ครูเขียนขอผิดพลาดท่ีนักเรียนใชในการถาม-ตอบบนกระดาน โดยไมระบุวาเปนขอผิดพลาดของใคร แลวใหนักเรียน ท้ังหองชว ยกันแกไขขอ ผดิ พลาดนนั้ ๆ 7. ครใู หนกั เรยี นชวยกนั เฉลยคาํ ตอบ ครูเขยี นคาํ ตอบบนกระดานและอธบิ ายเพ่ิมเติม เฉลยคําตอบ Speaking A ใน Student’s Book หนา 77 Students’ own answers  Practice 1. ครูอธบิ ายคาํ สัง่ แบบฝก หัด Speaking B ใน Student’s Book หนา 77 2. ครูอานคาํ ถามใหน กั เรยี นทง้ั ชัน้ ฝกตอบ 2 - 3 คาํ ถาม 3. ครใู หน กั เรยี นจับคกู ันตอบคําถามท่ีเหลือจนครบทกุ คําถาม 4. ครูใหนักเรียนชวยกนั เฉลยคําตอบ ครูเขยี นคาํ ตอบบนกระดานและอธิบายเพิม่ เติม เฉลยคําตอบ Speaking B ใน Student’s Book หนา 77 1. P 2. L 3. L or P 4. A 5. L 6. L 7. P 8. L  Production 1. ครูอธบิ ายคาํ สัง่ แบบฝกหัด Speaking C ใน Student’s Book หนา 77 2. ครูใหนักเรยี นอา นออกเสียงขอมูลใน Exam Close-up เรอื่ ง Giving a description of a friend ดงั น้ี  ถาครูพูดวา What is your best friend like? ใหนักเรียนบรรยายขอมูลของเพ่ือนโดยหามนักเรียนตอบวา My best friend likes …….  นกั เรียนตองใช Adjectives หลายคําในการบรรยายเพ่ือน  ใหนักเรียนบรรยายเพ่ือนโดยใช and, but และ so เพอื่ เชื่อมความคิดของนักเรียนภายใน 1 paragraph 4. ครเู นนใหนกั เรยี นหลกี เลีย่ งการตอบคําถามแบบสั้นมากจนเกินไป เชน ถาถามวา Tell me about your best friend ….. นักเรียนไมควรตอบสั้นแค 3 - 4 คํา และควรตอบแบบเต็มประโยค เชน บอกช่ือของเพื่อนสนิท บอกลักษณะ รูปราง หนาตา และใหรายละเอียดอืน่ ๆ เพิ่มเตมิ เชน นกั เรียนกับเพื่อนสนิท รูจักกันมานานเทาไร เคยทํากิจกรรมอะไรรวมกันมาบาง หรือนักเรียน กบั เพื่อนสนิทชอบหรือไมชอบอะไรบาง ถามเี วลามากพอที่จะบรรยาย 5. ครูเนนใหนักเรียนใช Linking words เชน and, but, so และ becauseเพ่ือแสดงวานักเรียนมีความรู สามารถใช คาํ เหลานไ้ี ดอยา งถูกตอ งและเหมาะสม 6. ครูใหนักเรยี นทบทวนการใช Linking words และความหมาย 7. ครใู หน กั เรยี นจบั คูกนั เลอื กใชL inking wordsทถ่ี กู ตองเติมลงใน Text 8. ครูเดนิ สังเกตรอบๆ หอ ง เพ่ือใหค วามชวยเหลอื นกั เรยี นใหน ักเรยี นเลอื กคาํ ตอบไดถกู ตอง 9. ครใู หนกั เรียนชวยกันเฉลยคาํ ตอบ ครเู ขียนคาํ ตอบบนกระดานและอธบิ ายเพมิ่ เติม เฉลยคําตอบ Speaking C ใน Student’s Book หนา 77 1. for example 2. and 3. but 4. so 5. or Teaching Tip ครูควรใหนักเรียนสลับคูกันเพ่ือเปล่ียนคูสนทนาเปนคนใหม ๆ ที่ไมเคยรูจักกันมากอน จะทําใหนักเรียนไดรับโอกาส แลกเปล่ียนแนวความคดิ ใหม ๆ นอกจากน้ี ครูอาจสรา งบรรยากาศในหอ งเรียนใหมใ หน กั เรยี นจับคูสนทนากบั คนท่ไี มคอยรจู ักกัน คมู ือครแู ละแผนการจดั การเรยี นรู Close-up 2 ช้นั มธั ยมศึกษาปท ่ี 2

312 Useful Expressions 1. ครใู หนกั เรยี นจบั คกู ันอานสํานวนใน Useful Expressions เรอ่ื ง Describing a person กอ นทีจ่ ะทํา Exam Task 2. ครูใหนักเรียนทบทวนสํานวนใน Useful Expressionsท่ีใชใน Exam Task แลวนําสํานวนเหลานี้ไปใชในการสนทนา ของนกั เรียน 3. ครูอธิบายคาํ สง่ั แบบฝกหดั Speaking D ใน Student’s Book หนา 77 4. ครูใหน ักเรียนอานขอ มลู ใน Exam Task ทัง้ Task 1 และ Task 2 5. ครใู หน ักเรียนจับคกู นั Student 1 ถาม โดยใชค าํ ถามจาก Task 1 แลว ให Student 2 ตอบคาํ ถาม 6. ครใู หนกั เรียนจบั คกู ัน Student 2 ถาม โดยใชคําถามจาก Task 2 แลวให Student 1 ตอบคาํ ถาม 7. ครูเดินรอบหองเพื่อสงั เกตการถาม-ตอบของนกั เรยี น เพื่อตรวจสอบการใชภ าษา 8. ครูเขียนขอผิดพลาดที่นักเรียนใชในการถาม-ตอบบนกระดาน โดยไมระบุวาเปนขอผิดพลาดของใคร แลวใหนักเรียน ทง้ั หองชว ยกันแกไขขอ ผิดพลาดน้ันๆ 9. ครูใหน ักเรียนชว ยกันเฉลยคาํ ตอบ ครูเขยี นคาํ ตอบบนกระดานและอธิบายเพมิ่ เตมิ เฉลยคาํ ตอบ Speaking D ใน Student’s Book หนา 77 Students’ own answers Ideas Focus 1. ครูใหน ักเรียนจับคูกันผลัดกนั ถาม-ตอบคาํ ถามใน Ideas Focus 2. ครูกระตุนใหน กั เรียนผลัดกันตอบคาํ ถามและบอกเหตุผลเพื่อสนับสนุนความคิดเหน็ ของนักเรยี น 3. ครูเดินสงั เกตและตรวจสอบนักเรียนพูดสนทนากัน และจดบันทึกขอผิดพลาดของนักเรียนในระหวางการใชภาษาพูด ถามและตอบเมอื่ สิน้ สดุ การสนทนา ใหครเู ขยี นขอผดิ พลาดบนกระดาน แลวใหน กั เรียนทั้งช้นั ชวยกนั แกไขใหถูกตอ ง 6. การวดั และประเมนิ ผล วิธกี าร เครื่องมือ เกณฑก ารประเมิน 1. ประเมินความรูคาํ ศพั ท - แบบสังเกต - นกั เรยี นผา นเกณฑโ ดยปฏบิ ตั ิกิจกรรมไดถ กู ตอง สาํ นวนภาษา ประโยค รอยละ 70 2. ประเมินการอา น การเขียน - แบบบันทึกผลการปฏบิ ตั งิ าน - นักเรียนผา นเกณฑโดยปฏิบัตกิ ิจกรรมไดถกู ตอง รอยละ 70 3. ประเมนิ การพูด การฟง - แบบสงั เกต - นักเรียนผานเกณฑโดยปฏิบัติกจิ กรรมไดถ กู ตอง 4. สงั เกตพฤตกิ รรมการ - สังเกตพฤตกิ รรมการเขารว ม รอยละ 70 เขารวมกิจกรรม กจิ กรรม - นักเรียนผานเกณฑโดยมสี วนรวมในกิจกรรมและ มคี วามสขุ ในการเรยี นอยางนอ ยรอยละ 80 คมู ือครูและแผนการจดั การเรยี นรู Close-up 2 ชนั้ มัธยมศึกษาปท่ี 2

313 7. สอ่ื /แหลง การเรยี นรู 7.1 หนังสือเรียน Close-up 2, Unit 6 หนา 77 8. บนั ทกึ หลงั การจดั การเรยี นรู ................................................................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................................................................. 9. กิจกรรมเสนอแนะ ................................................................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................................................................. คูมือครูและแผนการจัดการเรียนรู Close-up 2 ช้นั มัธยมศึกษาปท ี่ 2

314 แผนจดั การเรียนรู หนว ยการเรยี นรทู ่ี 6 เร่อื ง Look At Me! แผนการจัดการเรียนรทู ี่ 11 เร่ือง Alice’s email รหสั วิชา ................... รายวิชาพนื้ ฐานภาษาอังกฤษ ช้นั มัธยมศึกษาปท ี่ 2 กลมุ สาระการเรียนรภู าษาตา งประเทศ ปก ารศกึ ษา 25...... ภาคเรยี นท่ี 2 เวลา 1 ช่ัวโมง ผสู อน..................................................... 1. มาตรฐานการเรียนร/ู ตวั ชี้วัด ต 1.2 ม.2/4 พดู และเขียนเพื่อขอและใหข อมูล บรรยาย และแสดงความคิดเห็น เกี่ยวกบั เร่ืองท่ีฟงหรืออานอยางเหมาะสม 2. จุดประสงคก ารเรียนรู เขยี นขอ ความที่กําหนดใหแลว จบั ใจความสําคญั โดยใชค ําศพั ท สํานวนภาษาท่ถี ูกตองได 3. สาระสําคัญ/ความคิดรวบยอด (Learning Concept) การเขียนขอความทีก่ ําหนดใหแ ลวจบั ใจความสําคัญได ทาํ ใหนักเรยี นมีความรดู า นคําศัพท สาํ นวนภาษา ประโยค และขอความ ทําใหมีความมั่นใจในการใชภาษาอังกฤษในการส่ือสาร มีประสิทธิภาพในการสื่อความรักการเรียนรูภาษาอังกฤษ และฝกฝน อยา งจริงจัง 4. สาระการเรยี นรู (Learning Contents) 4.1 ดา นความรู (Knowledge) Writing about personality 4.2 ดานทกั ษะกระบวนการ (Process/Skill) 1) ทักษะการฟง พูด อา น และเขยี น 5) กระบวนการเรียนภาษาเพ่อื การสื่อสาร 4.3 ดา นเจตคติ (Attitude) 1) มีความมนั่ ใจในการใชภ าษาอังกฤษในการสื่อสาร 2) รักการเรยี นรูภาษาองั กฤษและฝกฝนอยา งจรงิ จังและเพียงพอ 3) มีประสทิ ธิภาพในการสอ่ื ความ 5. กจิ กรรมการเรยี นรู  Lead-in 1. ครูเขียนคําศัพท friendly, kind, sociable, loving, careful beautiful, worried, annoying, shy และ cheerful บนกระดานซ่ึงเปนคาํ ศัพทนักเรียนเคยเรยี นใน Vocabulary มาแลว 2. ครใู หนักเรียนชวยกนั บอกความหมายคาํ ศัพท และแยกคําศัพทท ่ีมีความหมายในทางดีและไมด ี 3. ครูและนกั เรยี นอานขอ มลู ใน Learning Focus และครเู ขยี นประโยคเหลา น้ีบนกระดาน - Shelley is friendly, .................. she's good in school. - Martin is very nice, .................. he's also quite shy. คมู อื ครแู ละแผนการจดั การเรียนรู Close-up 2 ชัน้ มธั ยมศกึ ษาปท่ี 2

315 - I help Jose with his homework, .................. he does well in class. - Jane is worried .................. she didn't pass her exam. 4. ครูและนกั เรียนชวยกนั เตมิ Linking words ลงในประโยคใหถกู ตอง 5. ครใู หนักเรยี นอธบิ ายเหตุผลทเี่ ลอื กคาํ นน้ั ๆ เตมิ ลงในชองวา ง ครูอธิบายเพิ่มเติม  Presentation 1. ครูใหนักเรียนอาน Learning Focus ใน Close-up Student’s Book 2 หนา 78 เร่ือง Writing about personality ดงั นี้ - เมื่อนกั เรยี นเขยี นบรรยายบคุ ลกิ ของบุคคล ใหน ักเรียนเขียนบรรยายทงั้ ลักษณะที่ดีและไมดีของเขาเหลาน้ันดวย - นักเรยี นควรยกตัวอยางเพอื่ สนับสนนุ การบรรยายบุคลกิ ของคนเหลานั้นดวย - นกั เรยี นควรใช Linking words และวลี เพ่ือเช่ือมการบรรยายบุคลิก และการใหตัวอยางประกอบ (so, and, but, because, that’s why, for example) 2. ครูอธิบายคําสัง่ แบบฝก หดั Writing A ใน Student’s Book หนา 78 3. ครใู หน ักเรยี นจบั คูกนั เลือกคาํ ที่ถูกตอ งในประโยค โดยดูความหมายของคําที่อยูหนา และหลังชอ งวาง 4. ครูใหนักเรียนชว ยกันเฉลยคาํ ตอบ ครูเขยี นคําตอบบนกระดานและอธบิ ายเพิม่ เติม เฉลยคําตอบ Writing A ใน Student’s Book หนา 78 1. so 2. because 3. and 4. that’s why 5. for example 6. but  Practice 1. ครูอธบิ ายคาํ สัง่ แบบฝกหัด Writing A ใน Student’s Book หนา 78 2. ครูใหนักเรยี นจบั คูกันอาน Writing task ในขอ B แลวตอบคาํ ถาม 3. ครูใหน กั เรียนชว ยกนั เฉลยคําตอบ ครเู ขยี นคําตอบบนกระดานและอธิบายเพม่ิ เติม เฉลยคําตอบ Writing B ใน Student’s Book หนา 78 1. an email 2. Alice 3. 3 4. ครูใหน กั เรยี นตอบคาํ ถามดังตอไปนี้ - What is the subject of the email? - When is the party? Saturday - Where is Chloe from? เฉลยคําตอบ - meeting Julie's cousin, Chloe - Saturday - London  Production 1. ครูอธิบายคาํ สงั่ แบบฝกหดั Writing C ใน Student’s Book หนา 78 2. ครใู หนักเรียนอา นEmail แลว ตอบคําถาม 3. ครูกระตุน ใหน ักเรยี นหาคําตอบเฉพาะคําถาม โดยไมตองอานขอมูลทัง้ หมด 4. ครูใหน กั เรียนชว ยกนั เฉลยคําตอบ ครเู ขยี นคาํ ตอบบนกระดานและอธิบายเพิม่ เตมิ คูมอื ครูและแผนการจดั การเรียนรู Close-up 2 ช้ันมธั ยมศึกษาปท ี่ 2

316 เฉลยคาํ ตอบ Writing C ใน Student’s Book หนา 78 1. yesterday 2. She has long red hair, blue eyes and freckles. 3. She's very nice and has lots of friends. She's chatty too and sometimes doesn't stop talking! 6. การวดั และประเมนิ ผล วธิ กี าร เครอ่ื งมอื เกณฑการประเมิน 1. ประเมนิ ความรูคําศพั ท - แบบสังเกต - นกั เรียนผา นเกณฑโดยปฏิบตั กิ จิ กรรม สาํ นวนภาษา ประโยค ไดถกู ตองรอ ยละ 70 2. ประเมนิ การอาน การเขียน - แบบบันทึกผลการปฏบิ ตั งิ าน - นกั เรียนผา นเกณฑโ ดยปฏบิ ตั กิ จิ กรรม ไดถกู ตอ งรอ ยละ 70 3. ประเมินการพดู การฟง - แบบสงั เกต - นักเรยี นผานเกณฑโ ดยปฏบิ ตั กิ ิจกรรม ไดถูกตองรอ ยละ 70 4. สังเกตพฤตกิ รรมการเขา - สงั เกตพฤติกรรมการเขา - นกั เรียนผานเกณฑโดยมสี วนรวมในกิจกรรม และมคี วามสุขในการเรียนอยา งนอยรอ ยละ 80 รวมกิจกรรม รวมกิจกรรม 7. สื่อ/แหลงการเรยี นรู หนงั สอื เรยี น Close-up 2, Unit 6 หนา 78 8. บนั ทึกหลังการจัดการเรียนรู ................................................................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................................................................. 9. กิจกรรมเสนอแนะ ................................................................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................................................................. คมู ือครแู ละแผนการจัดการเรยี นรู Close-up 2 ชนั้ มัธยมศกึ ษาปที่ 2

317 แผนจัดการเรียนรู หนว ยการเรยี นรทู ่ี 6 เร่อื ง Look At Me! แผนการจัดการเรียนรูท ่ี 12 เรื่อง Chloe’s Personality รหสั วิชา ................... รายวิชาพื้นฐานภาษาอังกฤษ ชนั้ มัธยมศึกษาปท ่ี 2 กลมุ สาระการเรียนรภู าษาตางประเทศ ปการศึกษา 25...... ภาคเรยี นที่ 2 เวลา 1 ชว่ั โมง ผสู อน..................................................... 1. มาตรฐานการเรียนรู/ตัวช้ีวดั ต 1.2 ม.2/4 พูดและเขียนเพ่ือขอและใหข อมูล บรรยาย และแสดงความคิดเห็น เกีย่ วกับเรื่องที่ฟงหรืออา นอยางเหมาะสม 2. จุดประสงคก ารเรียนรู เขียนขอความที่กําหนดใหแลวจับใจความสําคญั โดยใชค ําศพั ท สาํ นวนภาษาทีถ่ กู ตองได 3. สาระสําคัญ/ความคิดรวบยอด (Learning Concept) การเขียนขอความท่กี าํ หนดใหแ ลวจับใจความสาํ คัญไดทาํ ใหน ักเรียนมีความรูดานคําศัพท สํานวนภาษา ประโยค และขอความ ทําใหมีความมั่นใจในการใชภาษาอังกฤษในการสื่อสาร มีประสิทธิภาพในการส่ือความรักการเรียนรูภาษาอังกฤษ และฝกฝน อยางจริงจงั 4. สาระการเรียนรู (Learning Contents) 4.1 ดา นความรู (Knowledge) Describe personality and appearance 4.2 ดานทักษะกระบวนการ (Process/Skill) 1) ทกั ษะการฟง พดู อาน และเขยี น 2) กระบวนการเรียนภาษาเพอ่ื การสอื่ สาร 4.3 ดานเจตคติ (Attitude) 1) มีความมน่ั ใจในการใชภ าษาองั กฤษในการสื่อสาร 2) รกั การเรียนรูภาษาอังกฤษและฝกฝนอยางจรงิ จังและเพียงพอ 3) มปี ระสทิ ธิภาพในการส่ือความ 5. กจิ กรรมการเรียนรู  Lead-in ครูใหน ักเรียนตอบคาํ ถามตอไปน้ี - Have you checked emails today? - How often do you send emails? - How many email accounts do you have/need? - What email provider do you use? (Hotmail, Gmail, Yahoo etc.) คูม ือครูและแผนการจัดการเรยี นรู Close-up 2 ช้ันมัธยมศกึ ษาปที่ 2

318  Presentation 1. ครูอธบิ ายคําสงั่ แบบฝกหดั Writing D ใน Student’s Book หนา 78 2. ครใู หนักเรียนอาน Email ในขอ C อกี ครั้ง แลว ขดี เสน ใตคําทีเ่ ปน Key words 3. ครูใหนักเรียนจับคกู นั หาคาํ ตอบ 4. ครใู หนกั เรยี นชวยกนั เฉลยคาํ ตอบ ครูเขยี นคําตอบบนกระดานและอธบิ ายเพ่ิมเติม เฉลยคาํ ตอบ Writing D ใน Student’s Book หนา 78 and, that’s why, but  Practice 1. ครูอธิบายคําส่งั แบบฝกหัด Writing E ใน Student’s Book หนา 79 2. ครใู หนกั เรยี นดูท้ัง Alice’s email และ Julie’s email 3. ครูถามนกั เรยี นวานักเรียนจะหาคาํ ตอบไดจ ากท่ีใด - Will you find the answers to the task in Alice's email or Julie's reply? - the reply 4. ครูใหนักเรียนท้ังหองชวยกันอานออกเสียงคําถาม แลวใหนักเรียนชวยกันตอบคําถามพรอมท้ังใหนักเรียนชวยกัน ใหเหตผุ ลในการเลือกคาํ ตอบนน้ั ๆ 5. ครูใหน กั เรียนชวยกนั เฉลยคําตอบ ครเู ขียนคาํ ตอบบนกระดานและอธิบายเพ่มิ เติม เฉลยคําตอบ Writing E ใน Student’s Book หนา 79 1.  2.  3.  4.  5.  6.  7.  8.   Production 1. ครูอธบิ ายคําสงั่ แบบฝกหัด Writing F ใน Student’s Book หนา 79 2. ครใู หนักเรียนใชคําตอบเพ่ือเติมประโยคเก่ียวกับ Chloe 3. ครใู หน กั เรียนจับคูกันเตมิ ประโยค โดยใช Linking words ทเ่ี รียนใน Unit นี้ 4. ครูเดินรอบๆ หอง เพ่ือตรวจสอบความถูกตองของการใชภาษาของนักเรียน และจดบันทึกขอผิดพลาดของนักเรียน เมือ่ สน้ิ สุดกจิ กรรม ใหค รเู ขยี นขอผิดพลาดบนกระดาน โดยไมบอกวาเปนขอผิดพลาดของนักเรียนคนใด แลวใหนักเรียนทั้งชั้นชวยกัน แกไ ขใหถ กู ตอ ง 5. ครใู หน ักเรยี นชวยกันเฉลยคําตอบ ครเู ขียนคําตอบบนกระดานและอธบิ ายเพิ่มเติม เฉลยคาํ ตอบ (Suggested answers) Writing F ใน Student’s Book หนา 79 1. Chloe is a good student because she studies a lot. 2. Chloe loves animals; that's why she wants to be a vet. 3. She's very friendly and is always relaxed and happy. 4. Everyone likes her, so she's very popular. คูมอื ครูและแผนการจดั การเรียนรู Close-up 2 ชั้นมธั ยมศกึ ษาปท่ี 2

319 6. การวดั และประเมินผล วิธีการ เคร่ืองมอื เกณฑก ารประเมนิ 1. ประเมินความรูคําศพั ท - แบบสงั เกต - นกั เรยี นผานเกณฑโดยปฏบิ ัตกิ ิจกรรมไดถูกตอง สํานวนภาษา ประโยค - แบบบนั ทึกผลการปฏิบตั ิงาน รอ ยละ 70 2. ประเมนิ การอา น การเขียน - แบบสงั เกต - นกั เรียนผานเกณฑโดยปฏบิ ัตกิ จิ กรรมไดถูกตอ ง 3. ประเมินการพดู การฟง รอ ยละ 70 - สงั เกตพฤตกิ รรมการเขา รว ม 4. สงั เกตพฤตกิ รรมการเขา รวม กิจกรรม - นกั เรยี นผานเกณฑโดยปฏบิ ตั ิกจิ กรรมไดถูกตอ ง กิจกรรม รอ ยละ 70 - นักเรียนผา นเกณฑโดยมีสวนรวมในกิจกรรมและ มคี วามสุขในการเรยี นอยางนอ ยรอยละ 80 7. สอื่ /แหลง การเรียนรู หนังสอื เรียน Close-up 2, Unit 6 หนา 78-79 8. บันทกึ หลังการจัดการเรียนรู ................................................................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................................................................. 9. กจิ กรรมเสนอแนะ ................................................................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................................................................. คมู อื ครแู ละแผนการจดั การเรียนรู Close-up 2 ช้นั มธั ยมศกึ ษาปที่ 2

320 แผนจดั การเรียนรู หนวยการเรยี นรูที่ 6 เร่อื ง Look At Me! แผนการจดั การเรียนรูที่ 13 เรือ่ ง An email to Max รหัสวิชา ................... รายวชิ าพ้ืนฐานภาษาอังกฤษ ชน้ั มัธยมศกึ ษาปท่ี 2 กลุมสาระการเรียนรภู าษาตางประเทศ ปก ารศกึ ษา 25...... ภาคเรยี นที่ 2 เวลา 1 ชว่ั โมง ผูสอน..................................................... 1. มาตรฐานการเรียนรู/ตวั ชวี้ ัด ต 1.2 ม.2/4 พูดและเขียนเพอื่ ขอและใหข อมลู บรรยาย และแสดงความคิดเหน็ เกย่ี วกบั เรื่องท่ีฟง หรอื อา นอยางเหมาะสม 2. จุดประสงคก ารเรียนรู เขียน Email แลว จบั ใจความสําคญั โดยใชค ําศัพท สาํ นวนภาษาทถ่ี ูกตองได 3. สาระสําคัญ/ความคดิ รวบยอด (Learning Concept) การเขียนEmail แลวจับใจความสําคัญไดทําใหนักเรียนมีความรูดานคําศัพท สํานวนภาษา ประโยค และขอความ ทําใหมี ความมัน่ ใจในการใชภ าษาอังกฤษในการส่อื สาร มปี ระสทิ ธิภาพในการส่อื ความ รักการเรียนรภู าษาองั กฤษ และฝก ฝนอยา งจริงจัง 4. สาระการเรยี นรู (Learning Contents) 4.1 ดานความรู (Knowledge) Writing an email 4.2 ดา นทักษะกระบวนการ (Process/Skill) 1) ทักษะการฟง พดู อาน และเขียน 2) กระบวนการเรียนภาษาเพ่อื การสื่อสาร 4.3 ดา นเจตคติ (Attitude) 1) มคี วามมัน่ ใจในการใชภาษาองั กฤษในการสื่อสาร 2) รักการเรียนรภู าษาองั กฤษและฝกฝนอยา งจรงิ จงั และเพียงพอ 3) มปี ระสทิ ธิภาพในการสื่อความ 5. กจิ กรรมการเรยี นรู  Lead-in ครถู ามนักเรียนดว ยคาํ ถามตอ ไปนี้ - Have you ever hand-written a letter and sent it to someone? If no, why not? If yes, how often do you send letters and to whom? - What can happen if someone steals your email password? - Have you ever gotten a computer virus from email? คูม ือครแู ละแผนการจัดการเรียนรู Close-up 2 ชั้นมัธยมศกึ ษาปที่ 2

321  Presentation 1. ครูอธบิ ายคาํ สงั่ แบบฝกหัด Writing G ใน Student’s Book หนา 79 2. ครใู หนกั เรยี นดวู ิธีการเขียนของ Alice’s email 3. ครูใหน ักเรยี นจับคกู ันเรียงลําดับขอมลู เพื่อใชเปนเคา โครงในการเขียน Email ตอไป 4. ครูใหนกั เรียนชว ยกันเฉลยคําตอบ ครูเขยี นคาํ ตอบบนกระดานและอธบิ ายเพ่ิมเตมิ เฉลยคาํ ตอบ (Suggested answers) Writing G ใน Student’s Book หนา 79 4 Say what Chloe is like 5 Sign off 2 Say when Chloe arrived 1 Greet 3 Say what Chloe looks like Useful Expressions 1. ครูใหนักเรียนดูขอมูลใน Useful Expressions และใหดูคําตางๆ ซ่ึงเปน Linking words ที่นักเรียนไดเรียน ใน Unit นี้แลว 2. ครูกระตุน ใหน ักเรียนใชสาํ นวนตางๆ ใน Useful Expressions ในการเขยี น Emails ใน Exam Task  Practice 1. ครูอธิบายคาํ สั่งแบบฝก หดั Writing H ใน Student’s Book หนา 79 2. ครใู หนักเรยี นอา นขอ มูลใน Exam Close-up เร่ือง Answering all the questions วา - มคี าํ ถามใน Email ทัง้ หมด 3 คําถาม นกั เรยี นตองตอบคําถามใหค รบทงั้ 3 คาํ ถาม - ใหนกั เรยี นขีดเสน ใต Question words เพอื่ ใหแนใจวานักเรียนเขาใจทกุ คําถามเปน อยางดี 3. เมื่อนักเรยี นทาํ Task 1 ใน Exam Task เรียบรอ ยแลว ครูใหนกั เรียนตอบคําถาม ดงั น้ี - Where are the three questions that you have to answer? - What are the question words that you should underline to help you? เฉลยคาํ ตอบ - in the email - When, What, What 4. ครูใหน ักเรยี นวางแผนในการเขียน Email โดยใชเคา โครงในขอ G 5. ครูใหนักเรยี นชวยกนั เฉลยคําตอบ ครูเขยี นคําตอบบนกระดานและอธิบายเพม่ิ เติม เฉลยคําตอบ (Suggested answers) Writing H ใน Student’s Book หนา 79 1. Greet 2. Say when I met Pedro 3. Say what Pedro looks like 4. Say what Pedro is like 5. Sign off  Production 1. ครูอธบิ ายคาํ ส่ังแบบฝกหดั Writing I ใน Student’s Book หนา 79 2. ครใู หน กั เรียนตอบคําถามใน Email 3 คําถาม คูมอื ครแู ละแผนการจัดการเรยี นรู Close-up 2 ชั้นมธั ยมศึกษาปท ี่ 2

322 3. ครูใหน ักเรยี นจบั คูกนั ตรวจสอบคําตอบ 4. ครูเดินรอบหอ งเพ่ือสังเกตการณเขียน Email นักเรียน เพื่อใหแนใจวานักเรียนเริ่มตนการเขียน Email ไดถูกตองและ เหมาะสม 5. ครูเขยี นขอผิดพลาดบนกระดาน โดยไมบอกวาเปนขอผิดพลาดของนักเรียนคนใด แลวใหนักเรียนท้ังชั้นชวยกันแกไข ใหถ กู ตอง 6. ครใู หน ักเรยี นชวยกันเฉลยคําตอบ ครเู ขียนคาํ ตอบบนกระดานและอธบิ ายเพ่มิ เตมิ เฉลยคาํ ตอบ (Suggested answers) Writing I ใน Student’s Book หนา 79 Hi Max I met Pedro on holiday last summer. He's really tall, with Wavy brown hair and brown eyes. He's really funny and he's always making me laugh. You will really like him. Teaching Tip 1. ครูควรฝกใหนักเรยี นตรวจสอบขอ ผิดพลาดในการเขียนจนเปน นิสัย 2. ครูควรใหห ัวขอนักเรียน เพ่ือใชต รวจสอบและทบทวนการเขียนของนักเรยี น 3. ครูกระตนุ ใหน ักเรียนตรวจสอบการเขียนทีละหวั ขอนักเรยี นไมค วรตรวจสอบพรอมกันทุกหัวขอ 4. ครูใหนกั เรียนตรวจสอบการสะกดคาํ การใชเ คร่อื งหมายวรรคตอน และอื่นๆ 5. ครูเขยี นหวั ขอเพอื่ ใชตรวจสอบการเขียนของนักเรยี นดงั น้ี - Organisation - Word limit - Proper grammar - Proper use of vocabulary - Spelling and capital letters - Punctuation 6. การวัดและประเมนิ ผล วธิ กี าร เคร่อื งมอื เกณฑก ารประเมิน 1. ประเมินความรูคาํ ศพั ท - แบบสงั เกต - นักเรยี นผานเกณฑโ ดยปฏิบตั กิ ิจกรรมไดถ ูกตอง สาํ นวนภาษา ประโยค - แบบบนั ทึกผลการปฏิบัติงาน รอ ยละ 70 2. ประเมนิ การอาน การเขยี น - แบบสงั เกต - นกั เรียนผานเกณฑโดยปฏิบัติกิจกรรมไดถ ูกตอง 3. ประเมินการพูด การฟง รอยละ 70 - สงั เกตพฤตกิ รรมการเขา รว ม 4. สังเกตพฤติกรรมการเขา กิจกรรม - นกั เรียนผานเกณฑโ ดยปฏบิ ัตกิ ิจกรรมไดถ ูกตอง รวมกิจกรรม รอ ยละ 70 - นกั เรยี นผา นเกณฑโ ดยมีสวนรวมในกิจกรรมและ มีความสุขในการเรียนอยางนอยรอยละ 80 คมู อื ครูและแผนการจัดการเรยี นรู Close-up 2 ชน้ั มธั ยมศกึ ษาปท่ี 2

323 7. ส่ือ/แหลง การเรียนรู หนังสือเรียน Close-up 2, Unit 6 หนา 79 8. บันทกึ หลังการจดั การเรยี นรู ................................................................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................................................................. 9. กจิ กรรมเสนอแนะ ................................................................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................................................................. คมู ือครูและแผนการจัดการเรยี นรู Close-up 2 ช้นั มธั ยมศึกษาปท ่ี 2

324 แผนจดั การเรียนรู หนว ยการเรียนรูท ี่ 6 เร่อื ง Look At Me! แผนการจดั การเรยี นรูท่ี 14 เร่ือง Happy Elephants รหัสวิชา ................... รายวชิ าพ้ืนฐานภาษาอังกฤษ ช้ันมธั ยมศึกษาปท่ี 2 กลุมสาระการเรียนรภู าษาตา งประเทศ ปการศึกษา 25...... ภาคเรียนที่ 2 เวลา 1 ชว่ั โมง ผูสอน..................................................... 1. มาตรฐานการเรียนร/ู ตวั ชีว้ ัด ต 1.1 ม.2/4 เลือกหัวขอเร่ือง ใจความสําคัญ บอกรายละเอียดสนับสนุน (supporting detail) และแสดงความคิดเห็น เกี่ยวกบั เรื่องทีฟ่ ง และอา น พรอมท้ังใหเหตุผล และยกตวั อยา งงายๆ ประกอบ 2. จดุ ประสงคก ารเรยี นรู ฟงและดู Video เรื่อง Happy Elephants แลวสามารถสรุปใจความสําคัญและบอกรายละเอียดได โดยใชคําศัพทสํานวน ภาษาไดอยา งถูกตอ ง 3. สาระสําคัญ/ความคิดรวบยอด (Learning Concept) การฟงและดู Video เร่ือง Happy Elephants ทําใหนักเรียนมีความรูดานคําศัพท สํานวนภาษาไดฝกทักษะการฟงทําให มีความม่ันใจในการใชภาษาองั กฤษในการสื่อสารอยางมีประสิทธิภาพรักการเรยี นรแู ละฝก ฝนอยา งจรงิ จัง 4. สาระการเรยี นรู (Learning Contents) 4.1 ดา นความรู (Knowledge) Vocabulary: intelligent, wild, closely, feelings, happiness, happier, similar, normal 4.2 ดา นทกั ษะกระบวนการ (Process/Skill) 1) ทกั ษะการฟง พดู อาน และเขยี น 2) กระบวนการเรยี นภาษาเพอ่ื การส่อื สาร 4.3 ดา นเจตคติ (Attitude) 1) มีความมน่ั ใจในการใชภาษาอังกฤษในการส่ือสาร 2) รักการเรียนรูภาษาองั กฤษและฝกฝนอยา งจรงิ จงั และเพียงพอ 3) มีประสทิ ธิภาพในการส่ือความ 5. กจิ กรรมการเรียนรู  Lead-in Geographic videos เปน Video ที่ใหความรทู างดา นภูมศิ าสตร นับเปนเครื่องมือท่ีดีมากท่ีจะใหนักเรียนมีโอกาสคุนเคย กบั วฒั นธรรมอ่นื ๆ ในขณะทนี่ ักเรยี นไดเรียนภาษาอังกฤษควบคูไปดวย นักเรียนไมจําเปนตองเขาใจเนื้อหาใน Video ของ National Geographic ทง้ั หมด แต Geographic videos มวี ตั ถุประสงคเ พือ่ ใชป ระโยชนในการเรยี นรู กิจกรรมสวนใหญที่นักเรียนตองทําจะให ความสาํ คัญกับเนอื้ หาภาพมากกวา เสยี ง ดังน้นั เมอื่ นักเรียนทํากิจกรรมแลวไมสามารถตอบคําถามบางคําถามได นักเรียนไมตองกังวล แตใ หน กั เรยี นดู Video เพื่อใหร ูวา เกดิ อะไรขน้ึ และมีจุดมุงหมายอะไร เพื่อใหนักเรียนเกิดแรงบันดาลใจในการดูและการฟงเร่ืองราว คูม ือครูและแผนการจดั การเรยี นรู Close-up 2 ช้นั มธั ยมศึกษาปท ่ี 2

325 ทีเ่ ปน ภาษาอังกฤษ และนกั เรียนสามารถใชเวลาวา งดรู ายการตา ง ๆ ท่บี รรยายเปนภาษาอังกฤษ เชน รายการโทรทัศนและภาพยนตร ภาษาอังกฤษ เพอ่ื ใหนกั เรยี นสามารถพูดภาษาอังกฤษไดอยางคลองแคลว จะทําใหนักเรียนมีพัฒนาการในการใชภาษาอังกฤษในการ ฟงและการพดู รวดเร็วย่ิงข้นึ ครใู หนักเรยี นดรู ปู ภาพแบบฝกหดั A ใน Student’s Book 2 หนา 80 แลว ใหนักเรยี นตอบคาํ ถาม ดงั นี้ - Which photo shows elephants in the wild? - Which photo shows an elephant doing a job? - Which photo shows an elephant in a cage? (Explain cage, if necessary, as a place where someone or something cannot leave...) เฉลยคําตอบ Students’ own answers  Before you watch 1. ครูอาน Background information ใหนกั เรียนฟงดังน้ี Background information Elephants and people have worked together for over 2,000 years. Sadly, the way most elephants know people is in captivity. How can we keep elephants happy when they live in zoos? Animal trainer Mike Hackenberger works with elephants in the Baltimore zoo in the USA. He talks to them and believes he knows when they are happy. Some people wonder how we can know whether animals have feelings, and what those feelings are. It seems true that elephants are happier if their zoo environment most closely matches the wild. Elephants are social animals, they live in families and they need to be around other elephants. Hackenberger thinks that keeping elephants together in a natural setting makes them happy. 2. ครูใหน กั เรยี นจบั คกู นั อานคําส่ังแบบฝกหัด A ใน Student’s Book 2 หนา 80 ใหเ ขาใจกอ น 3. ครใู หนักเรยี นจบั คูกันแลกเปลย่ี นความคดิ เห็นเกี่ยวกบั รูปภาพ 4. ครูใหน กั เรยี นทบทวนคําศัพท captivity และ circus ซึ่งนักเรียนไดเจอคําทั้ง 2 คํานี้ในขอ 2 และ 3 แลวใหนักเรียน ชว ยกันบอกความหมาย - Captivity means to be in a place that is not your real home and you cannot leave. - A circus is a place where people go to see animals perform in a show. 5. ครใู หน ักเรยี นจบั คูป ระโยคกับภาพ 6. ครูใหน ักเรยี นชว ยกนั เฉลยคําตอบ ครูเขยี นคาํ ตอบบนกระดานและอธบิ ายเพ่มิ เติม เฉลยคําตอบ แบบฝกหดั A ใน Student’s Book หนา 80 1. b 2. d 3. c 4. a 7. ครูใหน ักเรยี นดูภาพ แลว ชวยกันบอกความเหมือนและความแตกตาง 8. ครูเขียน บนกระดาน แลวครูเขียนคําตอบของนักเรยี น เชน ครถู ามวา - Do the photos all have elephants? - That is a similar 9. ครูใหน ักเรียนชว ยกันเฉลยคําตอบ ครูเขียนคําตอบบนกระดานและอธิบายเพ่มิ เติม คมู ือครูและแผนการจดั การเรยี นรู Close-up 2 ช้ันมธั ยมศกึ ษาปท ี่ 2

326 Similarities เฉลยคาํ ตอบ all show elephants Differences elephant in the wild elephant as a method of transport elephant in captivity in a circus elephant in captivity in a zoo  While you watch 1. ครใู หน ักเรยี นจบั คูกันอา นคําสง่ั แบบฝกหดั B ใน Student’s Book 2 หนา 80 ใหเขาใจกอ น 2. ครูใหนักเรียนดู Video สน้ั ๆ ความยาวประมาณ 3.30 นาที 3. ขณะท่ีนกั เรียนดู Video นักเรียนตองตดั สนิ ใจเลือกตอบวา True หรอื False 4. ครูบอกใหน ักเรยี นวาครูจะหยดุ หลงั จากที่ผบู รรยายบอกใหต อบคําถามเทา นั้น 5. ครูใหนกั เรยี นดู Video และหยุดหลังจากท่ผี บู รรยายอา นประโยคแรก 6. หากนักเรียนไมเขาใจ ใหครูเปด Video ใหน ักเรยี นดซู ้าํ จนกวา นักเรยี นจะเขา ใจ 7. ครูใหนักเรียนดู Video ตอ หากจําเปนกใ็ หค รูหยุด Video จนกระทั่งนักเรียนตอบคาํ ถามไดค รบทกุ ขอ 8. ครใู หนักเรยี นชว ยกันเฉลยคําตอบ ครเู ขียนคาํ ตอบบนกระดานและอธิบายเพม่ิ เตมิ เฉลยคําตอบ แบบฝก หดั B ใน Student’s Book หนา 80 1. T 2. T 3. T 4. F 5. F 6. T  After you watch 1. ครูใหนกั เรียนจับคูกันอานคาํ สง่ั แบบฝก หดั C ใน Student’s Book 2 หนา 80 ใหเ ขา ใจกอ น 2. ครูใหนกั เรยี นอานคาํ ศพั ทใ น Yellow wordbank ซ่ึงมคี ําศัพททีน่ ักเรยี นไมคุนเคย 3. ครูใหน กั เรียนดูขอ ความใน Text และตอบคําถาม ตอ ไปนี้ - How many gaps are there in the text? - What part of speech goes in the first gap? - Where does Mike Hackenberger work? เฉลยคําตอบ -8 - An adjective - The Baltimore zoo 4. ครูใหน กั เรยี นจบั คกู ันเตมิ คําลงในชอ งวา ง 5. ครใู หน กั เรยี นชว ยกนั เฉลยคาํ ตอบ ครูเขียนคําตอบบนกระดานและอธิบายเพ่มิ เตมิ เฉลยคําตอบ แบบฝก หดั C ใน Student’s Book หนา 80 1. intelligent 2. wild 3. closely 4. feelings 5. happiness 6. happier 7. similar 8. normal Ideas Focus 1. ครูใหนักเรยี นจบั คกู ันผลดั กนั ถาม-ตอบคาํ ถามใน Ideas Focus 2. ครูกระตุน ใหน ักเรยี นแสดงความคิดเห็นและผลดั กันตอบคาํ ถามและบอกเหตผุ ลเพ่ือสนับสนุนความคดิ เหน็ ของนักเรยี น คูม ือครูและแผนการจัดการเรียนรู Close-up 2 ช้ันมัธยมศกึ ษาปท่ี 2

327 3. ครูเดนิ สงั เกตและตรวจสอบนักเรียนพูดสนทนากัน และจดบันทึกขอผิดพลาดของนักเรียนในระหวางการใชภาษาพูด ถามและตอบเมือ่ สิ้นสุดการสนทนา ใหครเู ขียนขอ ผิดพลาดบนกระดาน แลว ใหน กั เรยี นทัง้ ชนั้ ชว ยกันแกไ ขใหถูกตอ ง 6. การวัดและประเมนิ ผล วิธีการ เครอ่ื งมอื เกณฑก ารประเมิน - แบบสงั เกต 1. ประเมินความรูคําศพั ท - นกั เรยี นผา นเกณฑโ ดยปฏิบัติกิจกรรมไดถ ูกตอง สาํ นวนภาษา ประโยค - แบบบนั ทึกผลการปฏบิ ตั ิงาน รอยละ 70 2. ประเมนิ การอา น การเขียน - นกั เรยี นผานเกณฑโดยปฏิบตั กิ จิ กรรมไดถูกตอง รอ ยละ 70 3. ประเมนิ การพูด การฟง - แบบสังเกต - นกั เรียนผา นเกณฑโดยปฏบิ ตั ิกจิ กรรมไดถ กู ตอง 4. สังเกตพฤติกรรมการเขารว ม - สังเกตพฤติกรรมการเขา รว ม รอ ยละ 70 กิจกรรม กิจกรรม - นักเรยี นผานเกณฑโ ดยมีสวนรวมในกิจกรรมและ มคี วามสขุ ในการเรยี นอยางนอ ยรอยละ 80 7. ส่ือ/แหลง การเรียนรู 7.1 หนังสอื เรยี น Close-up 2, Unit 6 หนา 80 7.2 Class DVD: Video “Happy Elephants” 8. บนั ทึกหลงั การจัดการเรยี นรู ................................................................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................................................................. 9. กจิ กรรมเสนอแนะ ................................................................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................................................................. คูมอื ครูและแผนการจัดการเรยี นรู Close-up 2 ชัน้ มัธยมศกึ ษาปที่ 2

328 328 Review Unit 5 & 6 หนวยการเรยี นรู รหสั วชิ า..................... รายวชิ า ภาษาองั กฤษพื้นฐาน ชั้นมธั ยมศึกษาปที่ 2 กลมุ สาระการเรยี นรูภาษาตา งประเทศ เวลา 2 ชวั่ โมง 5-6 ปก ารศกึ ษา 2560 ภาคเรยี นที่ 1 ผูสอน ................................ 1. มาตรฐานการเรียนร/ู ตวั ช้วี ดั ต 1.2 ม.2/3 พดู และเขยี นแสดงความตอ งการเสนอและใหความชว ยเหลือ ตอบรบั และปฏิเสธการใหความชวยเหลือ ใน ต 1.2 ม.2/4 สถานการณตา งๆ อยางเหมาะสม ต 1.2 ม.2/5 พูดและเขียนเพ่ือขอและใหขอมูล บรรยาย และแสดงความคิดเห็น เกี่ยวกับเรื่องท่ีฟงหรืออาน อยาง ต 1.3 ม.2/1 เหมาะสม ต 1.3 ม.2/3 พูดและเขยี นแสดงความรูสึก และความคดิ เห็นของตนเอง เก่ียวกับเร่ืองตางๆ กิจกรรม และประสบการณ พรอมทง้ั ใหเหตุผลประกอบอยา งเหมาะสม พูดและเขียนบรรยายเก่ียวกับตนเอง กิจวัตรประจําวัน ประสบการณและ ขาว/เหตุการณท่ีอยูในความ สนใจ ของสงั คม พดู และเขียนแสดงความคดิ เห็น เกี่ยวกับกิจกรรม เรอื่ งตา งๆ ใกลต ัว และประสบการณ พรอมทั้งใหเหตุผล ส้ันๆ ประกอบ 2. สาระสําคัญ/ความคิดรวบยอด (Learning Concept) การอาน การเขียน การพูด และการฟง ขอความเก่ียวกับส่ิงแวดลอมใกลตัว การตีความ บทสนทนากิจกรรม ตางๆ จบั ใจความสาํ คัญแสดงความตอ งการ ความคิดเห็น ขอและใหขอมูล ทําใหนักเรียนไดรับความรูดานเน้ือหาภาษา โครงสรางประโยค และไวยากรณ ไดฝ กทักษะภาษาทัง้ 4 เสรมิ สรางเจตคตใิ นการเรยี นภาษา ทาํ ใหก ารสอื่ สารในชวี ิตประจําวันบรรลุวัตถุประสงค 3. สาระการเรยี นรู (Learning Contents) 3.1 ดานความรู (Knowledge) คําศัพท สาํ นวนภาษา ประโยค คาํ แนะนาํ ขอความที่ใชใ นการขอและใหข อ มูล ขอความตางๆ ภาษาที่ใชในแสดงความ ตอ งการ การตอบคําถาม การบรรยายประสบการณ สง่ิ แวดลอ มใกลต ัวและการจบั ใจความสําคญั 3.2 ดานทักษะกระบวนการ (Process/Skill) 1) ทกั ษะการอาน 2) ทักษะการเขียน 3) ทกั ษะการฟง 4) ทกั ษะการพูด 5) กระบวนการเรียนภาษาเพ่ือการส่ือสาร 3.3ดา นเจตคติ (Attitude/Desired Character) 1) มคี วามมั่นใจในการใชภาษาองั กฤษในการส่ือสาร 2) รักการเรยี นรูภ าษาอังกฤษและฝกฝนอยางจริงจงั และเพยี งพอ คูมอื ครูและแผนการจัดการเรียนรู Close-up 2 ชั้นมัธยมศึกษาปที่ 2

329 329 3) มปี ระสทิ ธภิ าพในการสือ่ ความ 4. สมรรถนะสําคญั ของผเู รียนตามหลกั สูตรแกนกลางการศึกษาข้นั พื้นฐาน พทุ ธศักราช 2551  ความสามารถในการสื่อสาร  ความสามารถในการคดิ  ความสามารถในการแกป ญหา  ความสามารถในการใชท ักษะชีวิต  ความสามารถในการใชเทคโนโลยี 5. คณุ ลักษณะอนั พึงประสงคต ามหลักสตู รแกนกลางการศกึ ษาขนั้ พ้นื ฐาน พทุ ธศักราช 2551  รักชาติ ศาสน กษัตรยิ   ซ่ือสัตย สุจรติ  มวี นิ ยั  ใฝเ รียนรู  มีจิตสาธารณะ  อยูอยา งพอเพยี ง  มงุ มัน่ ในการทาํ งาน  รักความเปนไทย 6. ภาระงาน/ชิ้นงาน - 7. การวัดและประเมนิ ผล (ภาระงาน/ชิ้นงาน) วิธกี าร เครอื่ งมือ เกณฑก ารประเมนิ 1. ประเมนิ ความรูคาํ ศพั ท สํานวนภาษา - แบบสังเกต - นกั เรียนผานเกณฑโดยปฏบิ ตั ิกจิ กรรมไดถ กู ตอง ประโยค - แบบบันทกึ ผล รอ ยละ 70 2. ประเมนิ การอา น การเขยี น การปฏิบัตงิ าน - นกั เรยี นผา นเกณฑโ ดยปฏิบตั กิ จิ กรรมไดถกู ตอง 3. ประเมินการพูด การฟง - แบบสังเกต รอ ยละ 70 4. สงั เกตพฤติกรรมการเขา รวมกิจกรรม - สงั เกตพฤติกรรม - นักเรยี นผานเกณฑโดยปฏบิ ัตกิ จิ กรรมไดถ กู ตอง การเขา รว มกิจกรรม รอยละ 70 - นกั เรยี นผา นเกณฑโดยมีสวนรวมในกิจกรรมและ มคี วามสขุ ในการเรียนอยางนอ ยรอ ยละ 80 8. กิจกรรมการเรยี นรู 8.1 ระดมสมอง 8.2 จับคูพูดโตตอบฟง อาน เขยี น แสดงความคดิ เห็น 8.3 ถามตอบเก่ียวกับเรื่องที่ฟง อาน 8.4 อภิปรายท้ังช้ัน 329 9. สอ่ื /แหลง เรียนรู หนังสอื เรยี น Close up 2, Review 3 Unit 5 & 6 หนา 81-82 คูมือครแู ละแผนการจัดการเรียนรู Close-up 2 ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปท ี่ 2

330 330 แผนจดั การเรียนรู หนว ยการเรียนรูท ี่ 5-6 เรอ่ื ง Review 5 แผนการจดั การเรียนรทู ่ี 1 เรือ่ ง Vocabulary Revision รหสั วิชา ................... รายวชิ าพ้ืนฐานภาษาอังกฤษ ช้นั มัธยมศึกษาปท ี่ 2 กลมุ สาระการเรียนรภู าษาตา งประเทศ ปการศกึ ษา 25...... ภาคเรียนที่ 1 เวลา 1 ช่วั โมง ผสู อน..................................................... 1. มาตรฐานการเรียนรู/ตัวชว้ี ดั ต 1.2 ม.2/3 พูดและเขียนแสดงความตองการเสนอและใหความชวยเหลือ ตอบรับ และปฏิเสธการใหความชวยเหลือ ในสถานการณตา งๆ อยา งเหมาะสม ต 1.2 ม.2/4 พูดและเขียนเพือ่ ขอและใหข อมลู บรรยาย และแสดงความคิดเห็น เกยี่ วกับเร่ืองที่ฟงหรืออา นอยางเหมาะสม ต 1.2 ม.2/5 พูดและเขยี นแสดงความรูสึก และความคิดเหน็ ของตนเอง เก่ยี วกบั เร่ืองตา งๆ กิจกรรม และประสบการณ พรอมทั้ง ใหเหตุผลประกอบอยางเหมาะสม ต 1.3 ม.2/1 พูดและเขียนบรรยายเก่ียวกับตนเอง กิจวัตรประจําวัน ประสบการณและ ขาว/เหตุการณที่อยูในความสนใจ ของสงั คม ต 1.3 ม.2/3 พดู และเขยี นแสดงความคิดเห็น เก่ียวกับกิจกรรม เรื่องตาง ๆ ใกลตัว และประสบการณ พรอมท้ังใหเหตุผลสั้นๆ ประกอบ 2. จุดประสงคก ารเรียนรู อา นขอความท่ีกําหนดใหแ ลวจับใจความสําคญั โดยใชคําศัพท สํานวนไดอยางถูกตอ ง 3. สาระสําคญั /ความคดิ รวบยอด (Learning Concept) การอานขอความที่กําหนดใหแลวจับใจความสําคัญไดทําใหนักเรียนมีความรูดานคําศัพท สํานวนภาษาไดฝกทักษะการอาน ทาํ ใหม ีความมนั่ ใจในการใชภ าษาอังกฤษในการสอ่ื สารไดอ ยางมีประสทิ ธิภาพรกั การเรียนรูและฝก ฝนอยา งจริงจังและเพียงพอ 4. สาระการเรยี นรู (Learning Contents) 4.1 ดา นความรู (Knowledge) Pronunciation: - Vocabulary: numbers, dates, months, nationalities, family, word completion Grammar: Prepositions Function: Appearance and personality Culture: Playing extreme sports 4.2 ดานทักษะกระบวนการ (Process/Skill) 1) ทักษะการอา น 2) ทักษะการเขยี น 3) ทกั ษะการฟง 4) ทักษะการพูด 5) กระบวนการเรียนภาษาเพอื่ การสื่อสาร 4.3 ดานเจตคติ (Attitude/Desired Character)) 1) มีความม่ันใจในการใชภาษาอังกฤษในการสื่อสาร 2) มีประสิทธิภาพในการสอ่ื ความ คูมือครูและแผนการจดั การเรียนรู Close-up 2 ชั้นมัธยมศึกษาปท่ี 2


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook