ชื่อบ้าน - นามเมือง ในภูเก็จ ๑๐ ชื่อบ้าน - นามเมือง : บ้านโคกโตนด สถานท่ีตั้ง หมู่ท่ี ๙ ต�ำบลฉลอง อ�ำเภอเมือง จังหวัดภูเก็ต ทิศเหนือ จด อาณาเขตหมู่ที่ ๔ ทิศใต้ จด อาณาเขตต�ำบลราไวย์ ทิศตะวันออก จด อาณาเขตอ่าวฉลอง ทิศตะวันตก จด อาณาเขตหมู่ที่ ๘ ประวัติความเป็นมาของชื่อ และอ่ืนๆ ท่ีเก่ียวข้อง พื้นที่บ้านโคกโตนดสมัยก่อนเป็นพื้นที่ลุ่ม มีคลองบางนุ้ยไหลผ่าน เป็น พื้นท่ีปลูกข้าว ในทุ่งนามีต้นโตนดขึ้นมาก ชาวนาใช้เป็นพ้ืนท่ีพักแดดทานข้าวหลัง ท�ำนาเสร็จ ชาวบ้านจึงต้ังชื่อบริเวณน้ันว่า “โคกโตนด” เป็นท่ีมาของช่ือหมู่บ้านโคก โตนดจนถึงปัจจุบัน (ต้นโตนด ภาษากลางคือ ต้นตาล) ภาษาท่ีใช้ ภาษาถิ่นภูเก็ต นับถือศาสนาพุทธ สถานท่ีส�ำคัญ เช่น ท่าเทียบเรืออ่าวฉลอง ชื่อผู้ให้ข้อมูล หนังสือ ชื่อบ้านนามเมือง ของ อ.สมหมาย ปิ่นพุทธศิลป์ มหาวิทยาลัย ราชภัฏภูเก็ต ชื่อผู้จัดเก็บข้อมูล คณะกรรมการวัฒนธรรม ต�ำบลฉลอง วัน/เดือน/ปี ท่ีจัดเก็บ วันท่ี ๑๕ เดือนตุลาคม ๒๕๖๐ 202
อ�ำเภอเมือง l ต�ำบลฉลอง ท่าเทียบเรืออ่าวฉลอง 203
ชื่อบ้าน - นามเมือง ในภูเก็จ ๑๑ ชื่อบ้าน - นามเมือง : บ้านยอดเสน่ห์ สถานที่ตั้ง หมู่ท่ี ๑๐ ต�ำบลฉลอง อ�ำเภอเมือง จังหวัดภูเก็ต ทิศเหนือ จด อาณาเขตหมู่ท่ี ๗ ทิศใต้ จด อาณาเขตต�ำบลราไวย์ ทิศตะวันออก จด อาณาเขตหมู่ท่ี ๘ ทิศตะวันตก จด อาณาเขตต�ำบลกะรน ประวัติความเป็นมาของชื่อ และอื่นๆ ท่ีเก่ียวข้อง เน่ืองจากในสมัยก่อนท่ีหมู่บ้านนี้มีหมอท�ำเสน่ห์ขึ้นชื่อ และมีคนนิยมเป็น จ�ำนวนมาก จึงเรียกบริเวณน้ันว่า “บ้านยอดเสน่ห์” ปัจจุบันยังมีช่ือ ซอยยอดเสน่ห์ ให้เห็นอยู่ ภาษาท่ีใช้ ภาษาถิ่นภูเก็ต นับถือศาสนาพุทธ ช่ือผู้ให้ข้อมูล หนังสือ ช่ือบ้านนามเมือง ของ อ.สมหมาย ปิ่นพุทธศิลป์ มหาวิทยาลัย ราชภัฏภูเก็ต ชื่อผู้จัดเก็บข้อมูล คณะกรรมการวัฒนธรรม ต�ำบลฉลอง วัน/เดือน/ปี ที่จัดเก็บ วันท่ี ๑๕ เดือนตุลาคม ๒๕๖๐ 204
205
ชื่อบ้าน - นามเมือง ในภูเก็จ 206
อ�ำเภอเมือง ต�ำบลราไวย์ ๑ ชื่อบ้าน - นามเมือง : ต�ำบลราไวย์ เดิมเทศบาลต�ำบลราไวย์มีฐานะเป็นองค์การบริหารส่วนต�ำบลราไวย์ ซึ่ง จัดตั้งข้ึนตามพระราชบัญญัติสภาต�ำบลและองค์การบริหารส่วนต�ำบล พ.ศ.๒๕๓๗ โดยกระทรวงมหาดไทยได้ประกาศและก�ำหนดให้มีฐานะเป็นองค์การบริหารส่วน ต�ำบล เมื่อวันที่ ๒ มีนาคม พ.ศ.๒๕๓๘ ต่อมาบ้านเมืองมีสภาพความเจริญเติบโต ทางเศรษฐกิจและสังคมเพิ่มขึ้น สมควรจัดต้ังองค์การบริหารส่วนต�ำบลราไวย์ข้ึน เป็น เทศบาลต�ำบลราไวย์ ตามประกาศกระทรวงมหาดไทย เมื่อวันท่ี ๒๒ สิงหาคม พ.ศ.๒๕๕๐ และมีผลต้ังแต่วันที่ ๓๐ สิงหาคม พ.ศ.๒๕๕๐ เทศบาลต�ำบลราไวย์ ต้ังอยู่ในอ�ำเภอเมืองภูเก็ตห่างจากที่ว่าการอ�ำเภอเมือง ภูเก็ต ๑๑ กิโลเมตร ต�ำบลราไวย์มีพ้ืนที่ประมาณ ๓๘ ตารางกิโลเมตร (ประมาณ ๒๓,๗๕๐ ไร่) เป็นพื้นท่ีบนเกาะภูเก็ตประมาณ ๒๓ ตารางกิโลเมตร และเป็นพ้ืนที่ บนเกาะต่างๆ อีก ๑๐ เกาะ ประมาณ ๑๕ ตารางกิโลเมตร ต�ำบลราไวย์อยู่ทางทิศใต้ ของจังหวัดภูเก็ต มีอาณาเขตดังน้ี ทิศเหนือ จด ต�ำบลฉลอง ทิศใต้ จด ทะเลอันดามัน ทิศตะวันออก จด อ่าวฉลอง และทะเลอันดามัน ทิศตะวันตก จด ต�ำบลกะรน และทะเลอันดามัน ภูมิประเทศของต�ำบลราไวย์มีลักษณะเป็นที่ราบชายฝั่ง รูปร่างค่อนข้างยาว ลงมาทางใต้ จากวงเวียนห้าแยก คือแนวเขตแบ่งแยกต�ำบล มีถนนวิเศษเป็น แนวยาวเลียบชายฝั่งทะเลอันดามัน จนสุดหาดราไวย์ จากน้ันเป็นถนนขึ้นแหลม พรหมเทพ และเข้าสู่ถนนรอบเกาะและชายฝั่ง เลียบเนินเขาไปต�ำบลกะรน พื้นที่ 207
ชื่อบ้าน - นามเมือง ในภูเก็จ ส่วนใหญ่เป็นท่ีราบลุ่มติดเนินเขา บางแห่งมีป่าไม้ หนองน�้ำ มีสถานท่ีท่องเที่ยวท่ี ส�ำคัญหลายแห่ง เช่น แหลมพรหมเทพ หาดราไวย์ แหลมกาน้อย แหลมกาใหญ่ หาดในหาน หาดยะนุ้ย หาดอ่าวเสน นอกจากนี้ต�ำบลราไวย์ยังประกอบด้วยพ้ืนที่ที่ เป็นเกาะต่างๆ จ�ำนวน ๑๐ เกาะ คือ เกาะโหลน เกาะเฮ เกาะรายาน้อย เกาะรายา ใหญ่ เกาะบอน เกาะมัน เกาะแอว เกาะนอก เกาะทนาน และเกาะแก้ว ชื่อบ้านนามเมืองของต�ำบลราไวย์ เป็นช่ือของหมู่บ้านท่ีใช้เรียกทั้งในอดีต และบางชื่อยังเรียกใช้อยู่ถึงปัจจุบัน ซ่ึงมีหมู่บ้านท้ังหมด ๗ หมู่บ้าน ประกอบด้วย หมู่ท่ี ๑ บ้านในหาน หมู่ท่ี ๒ บ้านราไวย์ หมู่ท่ี ๓ บ้านเกาะโหลน หมู่ท่ี ๔ บ้านบางคณฑี หมู่ท่ี ๕ บ้านห้าแยก หมู่ท่ี ๖ บ้านแหลมพรหมเทพ หมู่ท่ี ๗ บ้านใสยวน 208
อ�ำเภอเมือง l ต�ำบลราไวย์ ๒ ชื่อบ้าน - นามเมือง : บ้านในหาน สถานที่ต้ัง หมู่ท่ี ๑ ต�ำบลราไวย์ อ�ำเภอเมือง จังหวัดภูเก็ต ทิศเหนือ จด แนวถนนบ้านใสยวน - หาดในหาน ทิศใต้ จด หาดในหาน ทะเลอันดามัน ทิศตะวันออก จด บ้านใสยวน ทิศตะวันตก จด แนวชายเขา ประวัติความเป็นมาของช่ือ และอ่ืนๆ ที่เกี่ยวข้อง บ้านในหาน แต่เดิมรวมอยู่กับท้องท่ีบ้านใสยวน ต่อมาประมาณปี พ.ศ. ๒๕๓๔ ได้ท�ำการแยกตัวออกมาต้ังเป็นหมู่บ้าน อยู่ในท้องท่ีหมู่ท่ี ๑ ต�ำบลราไวย์ สภาพพ้ืนที่มีหนองน้�ำขนาดใหญ่ซ่ึงเรียกว่าหาน จึงเป็นท่ีมาของค�ำว่า ในหาน ถัดมา เป็นชายหาดแนวยาวท่ีมีช่ือเสียงคือ หาดในหาน และวัดในหาน เมื่อประมาณ ๖๐ กว่าปีที่ผ่านมา บริเวณหนองหานที่เห็นในปัจจุบันนั้น เป็นพ้ืนที่นาข้าวและเป็นอู่ข้าวอู่น้�ำ ชาวบ้านจะมาหาปลาในบริเวณหนองน้�ำน้ี อีกท้ัง มีการลากอวนบริเวณที่เป็นจุดต่อระหว่างคลองที่เป็นการผสมระหว่างน�้ำจืดกับ น�้ำเค็ม ซึ่งชาวบ้านเรียกพื้นท่ีนั้นว่า “ปากหานหัก” หนองหานจะอยู่ติดกับส�ำนักสงฆ์ หรือท่ีเป็นวัดในปัจจุบัน เม่ือก่อนไม่มีถนน จะเป็นเพียงทางเดินเท้าเล็กๆ ชาวบ้าน เรียกทางเดินนี้ว่า “หัวคันนา” เมื่อเวลาผ่านไปความอุดมสมบูรณ์ของป่าไม้และ ธรรมชาติค่อยๆ ลดลง เพราะบางพื้นที่ในบริเวณนั้นถูกปรับเปล่ียนเป็นส่ิงปลูกสร้าง ต่างๆ เช่น โรงแรม บังกะโล และรีสอร์ทในปัจจุบัน บริเวณโดยรอบของหนองหานประกอบด้วย ๒ ส่วน คือ ๑. พ้ืนท่ีน้�ำ ซ่ึงมีลักษณะเป็นแอ่งน้�ำล้อมรอบพ้ืนดิน เรียกว่า “หนองหาน” ๒. พ้ืนดิน อยู่บริเวณตรงกลางของหนองหาน เรียกว่า “เกาะกลาง” 209
ชื่อบ้าน - นามเมือง ในภูเก็จ ซ่ึงภายในเกาะกลางน้ีจะเป็นสวนสาธารณะ ร่มรื่นไปด้วยต้นสน และมีเคร่ือง ออกก�ำลังกายส�ำหรับเด็ก อีกทั้งใช้เป็นสถานท่ีจัดงานประจ�ำปีต่างๆ เช่น วันลอย กระทง สงกรานต์ งานวัด วันผู้สูงอายุ เป็นต้น และเป็นสถานที่ส�ำหรับค่ายพักแรม ลูกเสือเนตรนารีของนักเรียนในจังหวัดภูเก็ต ชาวชุมชนยังคงมีวิถีชีวิตแบบประมงชาวบ้าน ดังจะเห็นได้จากการท่ีใน อดีตชาวบ้านมีการลากอวน ทอดแห เพ่ือหาปลา กุ้ง บริเวณหน้าหาด และใน หนองหาน บ้างก็ใช้เรือออกไปหาปลาในทะเล แต่ในปัจจุบันประมงชาวบ้านเร่ิม ลดน้อยลงและได้ปรับเปล่ียนไปตามกาลเวลา ชาวชุมชนส่วนใหญ่จะมาหาปลา และหอยในหนองหาน ซ่ึงมีลักษณะเป็นแอ่งหรืออ่างเก็บน�้ำ ท่ีประตูก้ันน้�ำเปิดตลอด น�้ำเค็มสามารถเข้าออกได้ น้�ำในหนองจึงเป็นน้�ำกร่อย และเป็นแหล่งอาหารของ ชาวบ้าน จึงเป็นวิถีชุมชนท่ีมีลักษณะเฉพาะตัว แสดงให้เห็นถึงอัตลักษณ์ท่ียังคง ด�ำรงอยู่ในปัจจุบัน สถานที่ส�ำคัญ เช่น หาดในหาน อยู่ห่างจากตัวเมืองภูเก็ตประมาณ ๑๘ กิโลเมตร ความยาว ของหาดประมาณ ๗๐๐ เมตร เป็นหาดทรายท่ีตั้งอยู่ตอนใต้ของเกาะภูเก็ต ถือได้ว่า เป็นหาดทรายที่สวยงามแห่งหน่ึง บริเวณด้านทิศใต้สุดชายหาดจะมีทะเลสาบเล็กๆ ซ่ึงบางคร้ังจะมีน�้ำไหลกลับลงทะเล ท�ำให้เกิดสันทรายและท�ำให้เกิดคลื่นซัดท่ี ค่อนข้างชันและไล่แตกเป็นแนวสวยงาม โดยเฉพาะก่อนหน้าและหลังมรสุม ตะวันตกเฉียงใต้เล็กน้อยจะเป็นเวลาท่ีเหมาะสมในการเล่นคล่ืนที่หาดน้ี และ บางครั้งหาดในหานก็ยังสามารถเล่นโต้คลื่นในช่วงหน้าท่องเท่ียวอีกด้วย สวนสาธาณะหนองน้�ำในหาน ตั้งอยู่หมู่ท่ี ๑ ต�ำบลราไวย์ ถัดจากแหลม พรหมเทพ เป็นบึงน�้ำสวนสาธารณะอยู่ติดกับหาดในหาน มีสวนสุขภาพ บรรยากาศ ร่มร่ืน วัดในหาน เดิมเป็นส�ำนักสงฆ์ ก่อตั้งเมื่อ พ.ศ.๒๕๓๖ โดยประชาชน ชาวราไวย์และชาวจังหวัดภูเก็ตได้ก่อสร้างข้ึนเพ่ือเป็นท่ียึดเหน่ียวจิตใจ และเป็น แหล่งรวมในการประกอบศาสนพิธีต่างๆ มีพระครูสุนทรกิตยานุกูลปฏิบัติหน้าท่ี 210
อ�ำเภอเมือง l ต�ำบลราไวย์ หาดในหาน และสวนสาธาณะหนองน้�ำในหาน หัวหน้าที่พักสงฆ์ตั้งแต่เร่ิมก่อต้ังจนถึงปัจจุบัน และได้มีการพัฒนาเร่ือยมาจน เป็นสถานที่ทางศาสนาท่ีมีช่ือเสียงเป็นท่ีศรัทธาของพุทธศาสนานิกชน จนกระท่ัง ปี พ.ศ.๒๕๖๐ ทางมหาเถรสมาคมได้มีมติประกาศตั้งส�ำนักสงฆ์ในหานเป็น วัด ในหาน พร้อมแต่งตั้งพระครูสุนทรกิตยานุกูลเป็นเจ้าอาวาส ชื่อผู้ให้ข้อมูล นายสนาน ปจันทบุตร อายุ ๗๙ ปี ท่ีอยู่ผู้ให้ข้อมูล ๓๔ หมู่ที่ ๑ ถนนวิเศษ ต�ำบลราไวย์ อ�ำเภอเมือง จังหวัดภูเก็ต ชื่อผู้จัดเก็บข้อมูล นายเสทือน มุขดี วัน/เดือน/ปี ที่จัดเก็บ วันที่ ๒๘ เดือนกันยายน ๒๕๖๐ 211
ชื่อบ้าน - นามเมือง ในภูเก็จ สวนสาธาณะหนองน้�ำในหาน และวัดในหาน หาดในหาน 212
อ�ำเภอเมือง l ต�ำบลราไวย์ ๓ ชื่อบ้าน - นามเมือง : บ้านราไวย์ สถานท่ีต้ัง หมู่ท่ี ๒ ต�ำบลราไวย์ อ�ำเภอเมือง จังหวัดภูเก็ต ทิศเหนือ จด แหลมกา ทะเลอันดามัน ทิศใต้ จด แหลมพรหมเทพ ทะเลอันดามัน ทิศตะวันออก จด ทะเลอันดามัน ทิศตะวันตก จด บ้านบางคณฑี ประวัติความเป็นมาของช่ือ และอื่นๆ ท่ีเกี่ยวข้อง ราวัย หรือ ราไวย์ หมายถึง เบ็ดตกปลา เป็นภาษาของชาวเลอูรักลาโว้ย และหาดทรายด้านใต้ของเกาะภูเก็ตท่ีช่ือ หาดราไวย์ ก็มีความหมายว่า เบ็ด อัน แสดงถึงความเชื่อมโยงของกลุ่มคนดั้งเดิมที่อาศัยในบริเวณน้ัน ว่าเป็นผู้ตั้งช่ือ แหล่งอาศัยของตน เบ็ดราว ในสมัยเริ่มแรก ชาวเลจะน�ำเหล็กแหลมมาตัดและดัดให้เป็นตาเบ็ด ๑๐ - ๑๕ ตา ใช้สายทรงยาว ๒ วา มีสายผูกเบ็ดยาวประมาณครึ่งวา ท่ีตาเบ็ดจะมี เชือกฟางหรือริบบิ้น ท�ำเป็นพู่ผูกอยู่ (สมัยก่อนใช้ขนไก่) หรือปลาปลอมส�ำหรับล่อ เหย่ือ เมื่อออกเรือหาปลา ถึงกลางทะเล ชาวเลจะไม่ทิ้งสมอเรือ แต่ปล่อยให้เรือลอย ไปเร่ือยๆ เมื่อใดท่ีปลากินเบ็ดก็จะจดจ�ำต�ำแหน่งน้ันไว้ ว่าเป็นแหล่งปลาชุม ปูเยอะ หอยมาก โดยดูส ภาพภูมิประเทศรอบๆ ด้วยว่าใกล้กับเกาะไหน คล้ายกับการสร้าง พิกัดแหล่งท�ำกิน เพ่ือง่ายต่อการกลับมา ปลาท่ีได้จะเป็นปลาเก๋า ทั้งน้ีจะไม่ตก บริเวณท่ีมีปะการัง เพราะสายทรงจะไปพันปะการัง ท�ำให้เสียหาย ชาวอูรักลาโว้ยย้งคิดค้นอุปกรณ์อีกอย่าง คือ เบ็ดลากปลา (มาตา มืออูนา หรือ มาตา มืออีเระ) ซึ่งใช้เหง้าของต้นพลับพลึงมาเป็นเหย่ือปลอมเพราะมีกลิ่น 213
ชื่อบ้าน - นามเมือง ในภูเก็จ หาดราไวย์ คล้ายไส้เดือน ซึ่งต้นพลับพลึงน้ีจะขึ้นอยู่ตามชายหาดทั่วไป (นายอาหลิน หาด- ทรายทอง เกิดเมื่อ ๑๑ มกราคม พ.ศ.๒๕๐๓ ผู้ให้ข้อมูล) ในอดีต นายล้อม วงศ์จันทร์ ชาวบ้านจังหวัดนครศรีธรรมราช ได้อพยพ มาต้ังถิ่นฐาน ณ หาดราไวย์ เมื่อประมาณปี พ.ศ.๒๔๓๐ ได้แต่งงานสร้างบ้านเรือน เป็นหลักฐานมั่นคง ด้วยความขยันเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ จึงเป็นท่ียอมรับของเพื่อนบ้าน ในละแวกหมู่บ้าน จึงได้รับการแต่งต้ังจากเจ้าเมืองในสมัยนั้นให้เป็นนายพัน ต่อมา ได้รับการแต่งต้ังให้เป็นก�ำนัน โดยเรียกกันติดปากว่า ก�ำนันล้อม ถือได้ว่าเป็นก�ำนัน คนแรกของต�ำบลราไวย์ ต่อมาญาติพ่ีน้องก็อพยพมาอยู่ด้วย ช่ือ นายเอี่ยม ปจันทบุตร ซ่ึงเป็นหมอ แผนโบราณและเป็นบิดาของหมอเติม ปจันทบุตร นอกจากนี้ยังมีชาวเลพวกพลัด หรือพวกสิงห์จากเกาะบริเวณใกล้เคียงหาดราไวย์ มาขออยู่อาศัยด้วย ก�ำนันล้อม ได้แบ่งท่ีดินท�ำกินให้ตามส่วน ถือได้ว่าเป็นกลุ่มคนที่ได้เข้ามาต้ังรกรากกลุ่มแรก ในหมู่บ้านหาดราไวย์ (นายจ�ำเริญ มุขดี อดีตผู้ใหญ่บ้านหาดราไวย์ ผู้ให้ข้อมูล) 214
อ�ำเภอเมือง l ต�ำบลราไวย์ วัดสว่างอารมณ์ หรือวัดราไวย์ สถานท่ีส�ำคัญ เช่น หาดราไวย์ เป็นชายหาดยาว ด้านทิศเหนือเป็นที่ต้ังของหมู่บ้านชาวเล พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช รัชกาลที่ ๙ เคยเสด็จเยี่ยมหมู่บ้าน ชาวเล เมื่อปี พ.ศ.๒๕๐๒ ส่วนช่วงกลางเป็นท่าเทียบเรือ และทิศใต้ของหาด จดทางขึ้นแหลมพรหมเทพ วัดสว่างอารมณ์ หรือวัดราไวย์ ชื่อผู้ให้ข้อมูล นายเสทือน มุขดี อายุ ๗๑ ปี ที่อยู่ผู้ให้ข้อมูล ๔๗/๑ หมู่ท่ี ๒ ถนนวิเศษ ต�ำบลราไวย์ อ�ำเภอเมือง จังหวัดภูเก็ต นายจ�ำเริญ มุขดี อายุ ๗๐ ปี ที่อยู่ผู้ให้ข้อมูล ๔๗ หมู่ที่ ๒ ถนนวิเศษ ต�ำบล ราไวย์ อ�ำเภอเมือง จังหวัดภูเก็ต นายอาหลิน หาดทรายทอง อายุ ๕๗ ปี ที่อยู่ผู้ให้ข้อมูล หมู่ที่ ๒ ถนนวิเศษ ต�ำบลราไวย์ อ�ำเภอเมือง จังหวัดภูเก็ต ช่ือผู้จัดเก็บข้อมูล สภาวัฒนธรรมต�ำบลราไวย์ วัน/เดือน/ปี ท่ีจัดเก็บ วันที่ ๒๘ เดือนกันยายน ๒๕๖๐ 215
ชื่อบ้าน - นามเมือง ในภูเก็จ 216
อ�ำเภอเมือง l ต�ำบลราไวย์ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช รัชกาลที่ ๙ เสด็จชุมชนราไวย์ เม่ือปี พ.ศ.๒๕๐๒ 217
ชื่อบ้าน - นามเมือง ในภูเก็จ ๔ ชื่อบ้าน - นามเมือง : บ้านเกาะโหลน สถานที่ตั้ง หมู่ท่ี ๓ ต�ำบลราไวย์ อ�ำเภอเมือง จังหวัดภูเก็ต ทิศเหนือ จด ทะเลอันดามัน ทิศใต้ จด ทะเลอันดามัน ทิศตะวันออก จด ทะเลอันดามัน ทิศตะวันตก จด ทะเลอันดามัน อ่าวฉลอง ประวัติความเป็นมาของชื่อ และอื่นๆ ท่ีเก่ียวข้อง ในอดีตเม่ือ ๑๐๐ กว่าปีก่อน ได้มีชาวบ้านจากจังหวัดสตูล ชื่อ โต๊ะนางู้ เดินทางมาตั้งบ้านเรือนอยู่บนเกาะโหลนซึ่งมีสภาพเป็นป่า ต่อมาคนภายนอกเห็นว่า มีคนอยู่ ก็พากันอพยพไปอยู่ด้วยหลายครัวเรือน บ้านเกาะโหลนจัดต้ังเป็นทางการเม่ือปี พ.ศ ๒๔๘๐ มีผู้ใหญ่บ้านคนแรก ช่ือ นายดล สองเมือง มีประชากร ๓๓ ครัวเรือน และท่ีเรียกว่า บ้านเกาะโหลน ผู้น�ำ ชุมชนเล่าว่า พอถึงฤดูท�ำนา ชาวบ้านใกล้เคียงกลัวว่าควายที่เลี้ยงไว้จะกินข้าวในนา จึงกรรเชียงเรือ จูงควายว่ายน้�ำ มาปล่อยไว้ท่ีเกาะโหลน พอหมดฤดูท�ำนาเจ้าของ ควายก็จะมาพาควายกลับ แต่มีควายท่ีหลุดเชือก เป็นควายเถ่ือนอยู่ที่เกาะโหลน ควายเถื่อนพวกนี้ก็จะพากันกินหญ้า กินต้นไม้บนเกาะท�ำให้โหลน (ภาษากลางคือ โล้น) เตียน จึงได้เรียกว่า “บ้านเกาะโหลน” สถานที่ส�ำคัญ เช่น โรงเรียนบ้านเกาะโหลน เปิดสอนตั้งแต่ระดับอนุบาลถึงประถมศึกษา สังกัด ส�ำนักงานเขตพื้นท่ีการศึกษาประถมศึกษาภูเก็ต เขต ๑ มัสยิดดารุ้ลอิสลาม 218
อ�ำเภอเมือง l ต�ำบลราไวย์ เกาะโหลน ชื่อผู้ให้ข้อมูล นายเสทือน มุขดี อายุ ๗๑ ปี ท่ีอยู่ผู้ให้ข้อมูล ๔๗/๑ หมู่ที่ ๒ ถนนวิเศษ ต�ำบลราไวย์ อ�ำเภอเมือง จังหวัดภูเก็ต ช่ือผู้จัดเก็บข้อมูล สภาวัฒนธรรมต�ำบลราไวย์ วัน/เดือน/ปี ท่ีจัดเก็บ วันที่ ๒๘ เดือนกันยายน ๒๕๖๐ 219
ชื่อบ้าน - นามเมือง ในภูเก็จ ๕ ชื่อบ้าน - นามเมือง : บ้านบางคณฑี สถานที่ต้ัง หมู่ท่ี ๔ ต�ำบลราไวย์ อ�ำเภอเมือง จังหวัดภูเก็ต ทิศเหนือ จด บ้านราไวย์ ทิศใต้ จด บ้านห้าแยก ทิศตะวันออก จด อ่าวฉลอง ทิศตะวันตก จด บ้านใสยวน ประวัติความเป็นมาของชื่อ และอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง เมื่อ ๑๐๐ กว่าปีก่อน มีชาวมุสลิมจากจังหวัดสตูลเดินทางอพยพมาอยู่ ที่บ้านบางคณฑี ได้ตั้งถ่ินฐานมีครอบครัว มีญาติพี่น้องเดินทางมาอาศัยอยู่ด้วย จนมีจ�ำนวนมากขึ้น ปัจจุบันมีสภาพเป็นชุมชน ประวัติความเป็นมาของชื่อ บ้านบางคณฑี มาจากหลายแหล่ง สรุปได้ดังนี้ บ้านบางคณฑี สภาพหมู่บ้านมีบาง มีคลองเยอะ เวลามีเรือผ่านไปมา ก็จะ พักจอดเพ่ือตักน�้ำกินน�้ำใช้ เมื่อก่อนในหมู่บ้านมีคนอยู่น้อย ร้านค้าในหมู่บ้านก็จะ เปิดได้เพียง ๑ แห่ง ถ้าเปิดหลายแห่งก็จะขายไม่ได้ เพราะฉะน้ันถ้าร้านหน่ึงเปิด อีกร้านหน่ึงก็ต้องปิด กล่าวได้ว่าต้องเปิดร้าน คนละที บ้างก็เล่าว่า เม่ือก่อนคนในหมู่บ้าน มีนิสัยนักเลง อันธพาล ถ้ามีใครพลัด ถ่ิน ไม่มีเครือญาติในหมู่บ้าน เดินทางเข้าไปในหมู่บ้าน ก็จะถูกพวกนักเลง อันธพาล ก่อกวน เล่นงาน คนละที จนไม่สามารถอยู่ได้ ต้องอพยพออกไปจากหมู่บ้าน 220
อ�ำเภอเมือง l ต�ำบลราไวย์ ชื่อผู้ให้ข้อมูล นายส�ำราญ เนาว์ไพร อายุ ๗๓ ปี ท่ีอยู่ผู้ให้ข้อมูล ๔๖ หมู่ที่ ๔ ถนนวิเศษ ต�ำบลราไวย์ อ�ำเภอเมือง จังหวัดภูเก็ต ชื่อผู้จัดเก็บข้อมูล สภาวัฒนธรรมต�ำบลราไวย์ วัน/เดือน/ปี ที่จัดเก็บ วันท่ี ๒๘ เดือนกันยายน ๒๕๖๐ 221
ชื่อบ้าน - นามเมือง ในภูเก็จ ๖ ชื่อบ้าน - นามเมือง : บ้านห้าแยก สถานท่ีตั้ง หมู่ท่ี ๕ ต�ำบลราไวย์ อ�ำเภอเมือง จังหวัดภูเก็ต ทิศเหนือ จด บ้านบางคณฑี ทิศใต้ จด วงเวียนห้าแยกฉลอง ทิศตะวันออก จด อ่าวฉลอง ทิศตะวันตก จด เนินเขาบ้านกะตะ ประวัติความเป็นมาของชื่อ และอ่ืนๆ ที่เก่ียวข้อง บ้านห้าแยก ได้จัดตั้งเป็นหมู่บ้านมานานกว่า ๑๐๐ ปี พื้นที่หมู่บ้านต้ังอยู่ บริเวณวงเวียนห้าแยก เรียกชื่อหมู่บ้านตามสถานท่ีตั้ง คือ “บ้านห้าแยก” ชื่อผู้ให้ข้อมูล นายส�ำราญ เนาว์ไพร อายุ ๗๓ ปี ที่อยู่ผู้ให้ข้อมูล ๔๖ หมู่ท่ี ๔ ถนนวิเศษ ต�ำบลราไวย์ อ�ำเภอเมือง จังหวัดภูเก็ต ช่ือผู้จัดเก็บข้อมูล สภาวัฒนธรรมต�ำบลราไวย์ วัน/เดือน/ปี ท่ีจัดเก็บ วันท่ี ๒๘ เดือนกันยายน ๒๕๖๐ 222
อ�ำเภอเมือง l ต�ำบลราไวย์ ๗ ชื่อบ้าน - นามเมือง : บ้านแหลมพรหมเทพ สถานที่ต้ัง หมู่ท่ี ๖ ต�ำบลราไวย์ อ�ำเภอเมือง จังหวัดภูเก็ต ทิศเหนือ จด ทะเลอันดามัน ทิศใต้ จด บ้านราไวย์ บ้านใสยวน ทิศตะวันออก จด ทะเลอันดามัน ทิศตะวันตก จด บ้านในหาน ประวัติความเป็นมาของช่ือ และอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง บ้านพรหมเทพ ได้แยกออกมาจากหมู่ท่ี ๒ ต�ำบลราไวย์ เมื่อปี พ.ศ.๒๕๑๖ มีผู้ใหญ่บ้านคนแรกชื่อ นายสนิท หยดย้อย เดิมเป็นพื้นท่ีทุ่งเลี้ยงสัตว์ได้สงวนไว้ ตั้งแต่ ปี พ.ศ.๒๔๗๙ หลังสงครามโลกครั้งที่ ๒ ปี พ.ศ.๒๔๘๗ ข้าวยากหมากแพง จึงได้ให้ชาวบ้านมาท�ำไร่ปลูกข้าว ปี พ.ศ.๒๕๑๙ นายอ�ำเภอเมืองภูเก็ต ชื่อนายชิต นุ้ยภักดี ได้มีการพัฒนา ตัดทางข้ึนแหลมพรหมเทพโดยใช้งบประมาณขององค์การบริหารส่วนจังหวัดภูเก็ต ชาวบ้านได้อพยพขึ้นไปอยู่บนแหลม ลักษณะพื้นท่ียื่นออกไปในทะเลเดิมเรียก “แหลมเจ้า หรือแหลมคอจ้าว” และมีหาดในพื้นที่คือ หาดพรหมเทพนุ้ย หาด พรหมเทพใหญ่ จึงใช้ช่ือหมู่บ้าน “บ้านแหลมพรหมเทพ” ช่ือผู้ให้ข้อมูล นายเสทือน มุขดี อายุ ๗๑ ปี ท่ีอยู่ผู้ให้ข้อมูล ๔๗/๑ หมู่ท่ี ๒ ถนนวิเศษ ต�ำบลราไวย์ อ�ำเภอเมือง จังหวัดภูเก็ต 223
ชื่อบ้าน - นามเมือง ในภูเก็จ แหลมพรหมเทพ ชื่อผู้จัดเก็บข้อมูล สภาวัฒนธรรมต�ำบลราไวย์ วัน/เดือน/ปี ที่จัดเก็บ วันที่ ๒๘ เดือนกันยายน ๒๕๖๐ 224
อ�ำเภอเมือง l ต�ำบลราไวย์ ๘ ชื่อบ้าน - นามเมือง : บ้านใสยวน สถานท่ีต้ัง หมู่ท่ี ๗ ต�ำบลราไวย์ อ�ำเภอเมือง จังหวัดภูเก็ต ทิศเหนือ จด บ้านในหาน ทิศใต้ จด บ้านบางคณฑี ทิศตะวันออก จด บ้านราไวย์ ทิศตะวันตก จด เนินเขาบ้านกะตะน้อย ประวัติความเป็นมาของช่ือ และอื่นๆ ที่เก่ียวข้อง บ้านใสยวน เป็นชุมชนมุสลิม เดิมชุมชนบ้านใสยวนรวมอยู่ในหมู่ท่ี ๑ ต�ำบลราไวย์ ต่อมาได้แยกหมู่บ้านเป็นหมู่ที่ ๗ ต�ำบลราไวย์ เมื่อปี พ.ศ.๒๕๓๔ ประวัติช่ือของหมู่บ้าน มาจากสถานที่ต้ังของชุมชนเป็นป่าใส (ป่าไม้อ่อน ป่าซึ่งได้ ถางท�ำไร่มาแล้ว และมีไม้รุ่นใหม่เกิดข้ึน) เป็นท่ีท�ำรังของผ้ึงยวน (ยวน มาจากชื่อ ต้นไม้ คือ ต้นยวนผึ้ง ซ่ึงเป็นที่ท�ำรังของผ้ึงป่า) จึงตั้งชื่อชุมชนว่า “บ้านใสยวน” ชาวบ้านในชุมชนอยู่กันแบบเครือญาติ เดิมประกอบอาชีพเกษตรกรรม เช่น ท�ำนา ท�ำไร่ ท�ำสวนมะพร้าว และเล้ียงสัตว์ ปัจจุบันชุมชนบ้านใสยวนได้ขยายเป็น หมู่บ้านจัดสรร ธุรกิจบ้านเช่า ท�ำให้มีคนจากภายนอกเข้ามาอาศัยอยู่ในหมู่บ้าน มากขึ้น เนื่องจากสภาวะเศรษฐกิจของชุมชนประกอบกับคนรุ่นใหม่ได้เปล่ียนอาชีพ จากเกษตรกรรมมาเป็นขายแรงงาน รับจ้าง ค้าขาย รับเหมาก่อสร้าง และมีการ ประกอบธุรกิจบ้านเช่า บ้านจัดสรร โรงแรม และที่พัก ช่ือผู้ให้ข้อมูล นายวีระ กาวิเศษ อายุ ๗๓ ปี ที่อยู่ผู้ให้ข้อมูล ๗๙/๖ หมู่ท่ี ๗ ถนนวิเศษ ต�ำบลราไวย์ อ�ำเภอเมือง จังหวัดภูเก็ต 225
ชื่อบ้าน - นามเมือง ในภูเก็จ ชื่อผู้จัดเก็บข้อมูล สภาวัฒนธรรมต�ำบลราไวย์ วัน/เดือน/ปี ท่ีจัดเก็บ วันที่ ๒๘ เดือนกันยายน ๒๕๖๐ 226
227
ชื่อบ้าน - นามเมือง ในภูเก็จ 228
อ�ำเภอเมือง ต�ำบลกะรน ๑ ชื่อบ้าน - นามเมือง : บ้านกะรน สถานที่ตั้ง หมู่ที่ ๑ ต�ำบลกะรน อ�ำเภอเมือง จังหวัดภูเก็ต ตั้งอยู่ทางทิศใต้ของเกาะ ภูเก็ต ทิศเหนือ จด เทศบาลเมืองป่าตอง อ�ำเภอกะทู้ ทิศใต้ จด ต�ำบลราไวย์ ทิศตะวันออก จด ต�ำบลฉลอง ทิศตะวันตก จด ทะเลอันดามัน ประวัติความเป็นมาของช่ือ และอ่ืนๆ ท่ีเก่ียวข้อง ต�ำบลกะรน เดิมมีการปกครองเป็นสุขาภิบาลต�ำบลกะรน ซึ่งจัดตั้งข้ึนโดย ประกาศกระทรวงมหาดไทยในราชกิจจานุเบกษา เล่มท่ี ๑๐๔ ตอนที่ ๑๑๐ ลงวันท่ี ๑๑ มิถุนายน พ.ศ.๒๕๓๐ โดยมีผลบังคับใช้วันท่ี ๘ เมษายน พ.ศ.๒๕๓๐ ต่อมา ได้เปลี่ยนแปลงฐานะจาก สุขาภิบาลต�ำบลกะรน เป็น เทศบาลต�ำบลกะรน ตามพระราชบัญญัติ เปล่ียนแปลงฐานะสุขาภิบาลเป็นเทศบาล พ.ศ.๒๕๔๒ ใน ราชกิจจานุเบกษา ฉบับกฤษฎีกา เล่มท่ี ๑๑๖ ตอนที่ ๙ ก. ลงวันท่ี ๒๔ กุมภาพันธ์ พ.ศ.๒๕๔๒ ต�ำบลกะรนอยู่ห่างจากตัวเมืองภูเก็ตประมาณ ๑๙ กิโลเมตร บนพื้นท่ี ท้ังหมด ๒๐ ตารางกิโลเมตร หรือประมาณ ๑๔,๕๕๖ ไร่ มีหาดทรายขาวละเอียด ทอดยาวสวยงาม โดยหาดกะรนอยู่ติดกับหาดกะตะ มีเพียงเนินเขาเตี้ยๆ คั่นกลาง เท่าน้ัน ประกอบด้วยชุมชน ๕ ชุมชน ซ่ึงตั้งช่ือตามชื่อเรียกขานมาแต่อดีต ดังน้ี 229
ชื่อบ้าน - นามเมือง ในภูเก็จ ๑. ชุมชนกะรน (บริเวณหมู่ท่ี ๑) ๒. ชุมชนกะตะ (บริเวณหมู่ท่ี ๒) ๓. ชุมชนโคกโตนด - กะตะน้อย (บริเวณหมู่ท่ี ๒) ๔. ชุมชนบางลา (บริเวณหมู่ท่ี ๓) ๕. ชุมชนคอกช้าง (บริเวณหมู่ที่ ๔) หาดกะรน จุดชมวิวสามอ่าว 230
อ�ำเภอเมือง l ต�ำบลกะรน พระพุทธมิ่งมงคลเอกนาคคีรี หรือพระใหญ่ (Big Buddha) สถานที่ส�ำคัญ เช่น หาดกะรน อ่าวกะรนนุ้ย หาดกะตะ หาดกะตะน้อย จุดชมวิวสามอ่าว สวนสาธารณะกะรน บึงหนองหาน วัดสุวรรณคีรีเขต (วัดกะรน) วงเวียนกะรน (สร้าง เพ่ือจ�ำลองวิถีชีวิตดั้งเดิมของชาวกะรน) พระพุทธม่ิงมงคลเอกนาคคีรี หรือพระใหญ่ (Big Buddha) บึงหนองหาน ตั้งอยู่ทางทิศเหนือของหมู่ท่ี ๑ ต�ำบลกะรน อ�ำเภอเมือง จังหวัดภูเก็ต เป็นบึงขนาดใหญ่ ในอดีตเป็นแอ่งเก็บน้�ำที่ใช้ในการเกษตรและ เลี้ยงสัตว์ โดยเล้ียงเป็ดเลี้ยงห่านไล่ทุ่งมากินน้�ำท่ีนี่ ช่ือผู้ให้ข้อมูล นายเกิน กุ้งแก้ว อายุ ๘๓ ปี ที่อยู่ผู้ให้ข้อมูล ๒๒ ถนนปฏัก ซอย ๗ ต�ำบล กะรน อ�ำเภอเมือง จังหวัดภูเก็ต นางฝร่ัง ชูวงษ์ อายุ ๘๕ ปี ท่ีอยู่ผู้ให้ข้อมูล ๑๑๗/๒ ถนนปฏัก ต�ำบลกะรน อ�ำเภอเมือง จังหวัดภูเก็ต ช่ือผู้จัดเก็บข้อมูล นางแตงอ่อน สุทธิรักษ์ วัน/เดือน/ปี ท่ีจัดเก็บ วันท่ี ๕ เดือนมิถุนายน ๒๕๖๐ 231
ชื่อบ้าน - นามเมือง ในภูเก็จ ๒ ชื่อบ้าน - นามเมือง : บ้านกะตะ สถานที่ต้ัง หมู่ท่ี ๒ ต�ำบลกะรน อ�ำเภอเมือง จังหวัดภูเก็ต ทิศเหนือ จด บ้านคอกช้าง ทิศใต้ จด ต�ำบลราไวย์ และทะเลอันดามัน ทิศตะวันออก จด ต�ำบลฉลอง ทิศตะวันตก จด ทะเลอันดามัน ประวัติความเป็นมาของชื่อ และอ่ืนๆ ที่เก่ียวข้อง บ้านกะตะ บ้านกะรน บ้านคอกช้าง มีประวัติสืบเนื่องมานานเพียงใดไม่มี หลักฐานอ้างอิงท่ีแน่นอน แต่ตามต�ำนานเล่าขานกันว่า ในครั้งโบราณกาลบริเวณ กะตะ กะรน มีสิ่งศักด์ิสิทธิ์ ช่ือว่า พ่อตายมดึง สถิตอยู่ท่ีนี่ มีช้างสองเชือก และ สร้างบ้านเรือน (รน) อยู่ในหุบเขาแห่งหนึ่ง ซึ่งต่อมาเรียกว่า กะรน และท่ีเล้ียงช้าง ต่อมาเรียกว่า คอกช้าง นอกจากมีช้างแล้ว ท่านได้ท�ำนาท�ำไร่และเอาข้าวมาตาก (ตะ) บริเวณท่ีราบเชิงชายเขาแห่งหนึ่ง ซึ่งต่อมาเรียกว่า กะตะ อีกหลักฐานหน่ึงสันนิษฐานว่า กะตะ มาจากค�ำว่า กราตะ ที่แปลว่า อ่าวข้าว (สุนัย ราชภัณฑารักษ์, ๒๕๒๗:๑๙๕) ส่วนป่าตองนั้นก็คือ บริเวณที่ท่านไปหาใบกล้วยมาให้ช้างกิน และครั้งหนึ่ง ช้างได้ขาดหนีไป ท่านก็ลากหอกตามช้างไปทางแหลมพันวา เกิดเป็นช่องเขาขาด บริเวณก่อนถึงแหลมพันวา เพราะอิทธิฤทธ์ิของการลากหอกตามช้างของท่านน่ันเอง จึงเรียกบริเวณน้ันว่า เขาขาด สถานที่ต่างๆ ตามต�ำนานจึงเรียกชื่อสืบต่อกันมา จนถึงปัจจุบัน ภูมิประเทศของกะตะ ในอดีตเป็นทุ่งนา ทุ่งหญ้า ป่า ที่เนินควน ภูเขา ปัจจุบันเป็นร้านค้าโรงแรมที่อยู่อาศัย ชาวบ้านส่วนใหญ่ประกอบอาชีพรับจ้าง 232
อ�ำเภอเมือง l ต�ำบลกะรน หาดกะตะใหญ่ หาดกะตะน้อย วัดกิตติสังฆาราม หรือวัดกะตะ ธุรกิจ การบริการ ค้าขาย ส่วนใหญ่นับถือศาสนาพุทธ ภาษาที่ใช้ ภาษาถ่ินภูเก็ต วัฒนธรรมสถานมี วัดกิตติสังฆาราม สถานท่ีส�ำคัญ เช่น แหลมราบ บริเวณน้ีมีหินลาดยาวย่ืนลงไปในทะเล 233
ชื่อบ้าน - นามเมือง ในภูเก็จ เกาะปู เป็นเกาะขนาดเล็กอยู่หลังโรงแรมคลับเมด เป็นจุดท่ีนักด�ำน้�ำ นิยมใช้เป็นท่ีฝึกด�ำน้�ำเบื้องต้น ไม่มีผู้คนอาศัยอยู่ แต่จะมีปูไก่จ�ำนวนมาก จึง เรียกว่า เกาะปู หาดกะตะใหญ่ หาดกะตะน้อย ส�ำนักงานเทศบาลต�ำบลกะรน วัดกิตติสังฆาราม หรือวัดกะตะ ชื่อผู้ให้ข้อมูล นายประสิทธ์ิ นาดอน อายุ ๗๒ ปี ที่อยู่ผู้ให้ข้อมูล ๙ บ้านคอกช้าง ซอย ๑๐ ต�ำบลกะรน อ�ำเภอเมือง จังหวัดภูเก็ต นายเกิน กุ้งแก้ว อายุ ๘๓ ปี ท่ีอยู่ผู้ให้ข้อมูล ๒๒ ถนนปฏัก ซอย ๗ ต�ำบล กะรน อ�ำเภอเมือง จังหวัดภูเก็ต ชื่อผู้จัดเก็บข้อมูล นางแตงอ่อน สุทธิรักษ์ วัน/เดือน/ปี ท่ีจัดเก็บ วันที่ ๕ เดือนมิถุนายน ๒๕๖๐ 234
อ�ำเภอเมือง l ต�ำบลกะรน ๓ ชื่อบ้าน - นามเมือง : บ้านโคกโตนด หรือบ้านโคกโหนด สถานท่ีต้ัง หมู่ท่ี ๒ ต�ำบลกะรน อ�ำเภอเมือง จังหวัดภูเก็ต ทิศเหนือ จด ทุ่งนา ต�ำบลกะรน ทิศใต้ จด เนินเขาระหว่างกะตะน้อยกับกะตะใหญ่ ทิศตะวันออก จด ควนหลาน�้ำ ต�ำบลกะรน ทิศตะวันตก จด ทะเลอันดามัน ประวัติความเป็นมาของชื่อ และอื่นๆ ท่ีเก่ียวข้อง บ้านโคกโตนด หรือ โคกโหนด เดิมเป็นทุ่งนา ทุ่งหญ้า และมีต้นตาลจ�ำนวน มาก (เรียกต้นตาลโตนด แต่ชาวบ้านเรียก ต้นโหนด) ปัจจุบันเป็นสถานประกอบการ ที่อยู่อาศัย ชาวบ้านส่วนใหญ่ประกอบอาชีพรับจ้าง ค้าขาย ส่วนใหญ่นับถือศาสนาพุทธ นิยมใช้ภาษาถ่ินภูเก็ต สถานที่ส�ำคัญ เช่น ควนหลาน้�ำ ซอยปลักเจ ชื่อผู้ให้ข้อมูล นายเกิน กุ้งแก้ว อายุ ๘๓ ปี ที่อยู่ผู้ให้ข้อมูล ๒๒ ถนนปฏัก ซอย ๗ ต�ำบล กะรน อ�ำเภอเมือง จังหวัดภูเก็ต นางจันทรา อยู่สุข อายุ ๕๙ ปี ที่อยู่ผู้ให้ข้อมูล ๘/๒ ถนนปฏัก ต�ำบลกะรน อ�ำเภอเมือง ภูเก็ต 235
ชื่อบ้าน - นามเมือง ในภูเก็จ ชื่อผู้จัดเก็บข้อมูล นางแตงอ่อน สุทธิรักษ์ วัน/เดือน/ปี ท่ีจัดเก็บ วันท่ี ๕ เดือนมิถุนายน ๒๕๖๐ 236
อ�ำเภอเมือง l ต�ำบลกะรน ๔ ชื่อบ้าน - นามเมือง : บ้านบางลา และบ้านในพรุ หรือในโพละ สถานท่ีตั้ง หมู่ท่ี ๓ ชุมชนบางลา ต�ำบลกะรน อ�ำเภอเมือง จังหวัดภูเก็ต ทิศเหนือ จด หมู่ท่ี ๑ ทิศใต้ จด สันเขาหมู่ท่ี ๓ ทิศตะวันออก จด เขานาคเกิด ทิศตะวันตก จด ทะเลบางส่วน และโรงแรม ร้านค้าร้านอาหาร ประวัติความเป็นมาของชื่อ และอื่นๆ ท่ีเก่ียวข้อง บ้านบางลา เนื่องจากพ้ืนท่ีมีน้�ำไหลผ่านแต่ไม่ลึกมาก จึงเรียกว่า บ้านบางลา บ้านในพรุ มาจาก ค�ำว่า พรุ ซ่ึงเป็นท่ีที่มีน้�ำขัง เป็นบึงน้�ำตื้นชายฝั่งทะเล มีชาวบ้านปลูกบ้านอยู่ใกล้ป่าพรุ จึงเรียก บ้านในพรุ ภูมิประเทศในอดีตเป็นแหล่ง น้�ำ ทุ่งหญ้า ป่าพรุ ปัจจุบันเป็นร้านค้า ท่ีอยู่อาศัย ชาวบ้านส่วนใหญ่ประกอบอาชีพ รับจ้าง การบริการ ค้าขาย ส่วนใหญ่นับถือศาสนาพุทธ ภาษาท่ีใช้เป็นภาษาถ่ินภูเก็ต สถานที่ส�ำคัญ เช่น บ้านหัวคลา บริเวณรอยต่อสันเขาระหว่างต�ำบลกะรนกับป่าตอง ซ่ึงเดิม พื้นที่นี้เป็นแหล่งแร่ดีบุก มีการท�ำเหมืองขุดแร่ แต่ปัจจุบันเปล่ียนเป็นโรงแรม แหล่งท่องเที่ยว ช่ือผู้ให้ข้อมูล นายเกิน กุ้งแก้ว อายุ ๘๓ ปี ที่อยู่ผู้ให้ข้อมูล ๒๒ ถนนปฏัก ซอย ๗ ต�ำบล กะรน อ�ำเภอเมือง จังหวัดภูเก็ต 237
ชื่อบ้าน - นามเมือง ในภูเก็จ นางกานต์รวี แอนเดอร์สัน อายุ ๕๘ ปี ที่อยู่ผู้ให้ข้อมูล ๘/๕ ถนนปฏัก ต�ำบลกะรน อ�ำเภอเมือง จังหวัดภูเก็ต นางราตรี บุญมนภัทร อายุ ๔๘ ปี ที่อยู่ผู้ให้ข้อมูล ๒ ถนนปฏัก ต�ำบลกะรน อ�ำเภอเมือง จังหวัดภูเก็ต ชื่อผู้จัดเก็บข้อมูล นางแตงอ่อน สุทธิรักษ์ วัน/เดือน/ปี ท่ีจัดเก็บ วันท่ี ๕ เดือนมิถุนายน ๒๕๖๐ 238
อ�ำเภอเมือง l ต�ำบลกะรน ๕ ชื่อบ้าน - นามเมือง : บ้านคอกช้าง สถานที่ตั้ง หมู่ท่ี ๔ ต�ำบลกะรน อ�ำเภอเมือง จังหวัดภูเก็ต ประวัติความเป็นมาของชื่อ และอื่นๆ ท่ีเกี่ยวข้อง ในอดีตมีผู้เฒ่าช่ือ พ่อเฒ่าแดง เอาช้างมาเลี้ยง ๑ เชือก ตอนเช้าช้างที่เล้ียง ออกไปหาของกินในละแวกน้ัน ซ่ึงรบกวนชาวบ้าน พ่อเฒ่าแดงเกิดความเกรงใจ คนในหมู่บ้านจึงเอาช้างไปถวายหลวงพ่อที่วัดฉลอง หลวงพ่อที่วัดฉลองจึงต้ังช่ือว่า จ�ำปี ซึ่งปัจจุบันมีอนุสาวรีย์เจ้าจ�ำปีอยู่ท่ีหน้าอุโบสถในวัดฉลอง ดังน้ันผู้คนมักเรียก บริเวณบ้านพ่อเฒ่าแดงว่า บ้านคอกช้าง มาจนถึงปัจจุบัน สถานท่ีส�ำคัญ เช่น ศาลเจ้ากะตะ ช่ือผู้ให้ข้อมูล นายเกิน กุ้งแก้ว อายุ ๘๓ ปี ท่ีอยู่ผู้ให้ข้อมูล ๒๒ ถนนปฏัก ซอย ๗ ต�ำบล กะรน อ�ำเภอเมือง จังหวัดภูเก็ต นางจันทรา อยู่สุข อายุ ๕๙ ปี ท่ีอยู่ผู้ให้ข้อมูล ๘/๒ ถนนปฏัก ต�ำบลกะรน อ�ำเภอเมือง ภูเก็ต ช่ือผู้จัดเก็บข้อมูล นางแตงอ่อน สุทธิรักษ์ วัน/เดือน/ปี ที่จัดเก็บ วันท่ี ๕ เดือนมิถุนายน ๒๕๖๐ 239
ชื่อบ้าน - นามเมือง ในภูเก็จ ๖ ชื่อบ้าน - นามเมือง : บ้านท้ายนา สถานท่ีต้ัง หมู่ท่ี ๔ ต�ำบลกะรน อ�ำเภอเมือง จังหวัดภูเก็ต ทิศเหนือ จด บ้านบางลา หมู่ที่ ๓ ทิศใต้ จด ทะเลอันดามัน ทิศตะวันออก จด หมู่ท่ี ๔ ทิศตะวันตก จด ทะเลอันดามัน ประวัติความเป็นมาของช่ือ และอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง ช่ือบ้านท้ายนาน้ีหมายถึง ส่วนหลังสุดของทุ่งนา (ประสิทธิ์ นาดอน, ๒๕๔๖) ในอดีตบริเวณน้ีจะมีต้นจากจ�ำนวนมากอยู่ชายนา ชาวบ้านมักตัดไปท�ำหลังคาบ้าน และห่อขนม เรียกบริเวณน้ีว่า ป่าจากท้ายนา ภูมิประเทศในอดีตเป็นทุ่งนา ทุ่งหญ้า แหล่งน�้ำซึ่งชาวบ้านไปจับกุ้งสาร มาท�ำอาหารที่เรียกว่า เบือทอด ได้จ�ำนวนมาก ปัจจุบันท่ีนากลายเป็นนาร้างและ เปลี่ยนเป็นที่อยู่อาศัย ชาวบ้านส่วนใหญ่ประกอบอาชีพรับจ้าง ค้าขาย ศาสนาส่วนใหญ่นับถือศาสนาพุทธ นิยมใช้ภาษาถิ่นภูเก็ต ชื่อผู้ให้ข้อมูล นายประสิทธ์ิ นาดอน อายุ ๗๒ ปี ท่ีอยู่ผู้ให้ข้อมูล ๙ ซอย ๑๐ ต�ำบลกะรน อ�ำเภอเมือง จังหวัดภูเก็ต นางอนงค์ บุญวัฒน์ อายุ ๖๐ ปี ที่อยู่ผู้ให้ข้อมูล ๙/๒๕ ซอย ๑๐ ถนนปฏัก ต�ำบลกะรน อ�ำเภอเมือง จังหวัดภูเก็ต 240
อ�ำเภอเมือง l ต�ำบลกะรน ชื่อผู้จัดเก็บข้อมูล นางแตงอ่อน สุทธิรักษ์ วัน/เดือน/ปี ท่ีจัดเก็บ วันท่ี ๕ เดือนมิถุนายน ๒๕๖๐ 241
ชื่อบ้าน - นามเมือง ในภูเก็จ ๗ ชื่อบ้าน - นามเมือง : ซอยแม่เฒ่าล้อม สถานท่ีตั้ง ถนนปฏัก ซอย ๑๐ ต�ำบลกะรน อ�ำเภอเมือง จังหวัดภูเก็ต ประวัติความเป็นมาของชื่อ และอ่ืนๆ ที่เกี่ยวข้อง ซอยแม่เฒ่าล้อม เป็นช่ือเรียกขานเดิมของ ถนนปฏัก ซอย ๑๐ เน่ืองจาก เป็นท่ีต้ังบ้านเรือนของคุณยายทวดท่ีคนในละแวกน้ีนับถือและท่านมีอายุยืนยาว กว่าร้อยปี (ปัจจุบันเสียชีวิตแล้ว) แม้จะเปลี่ยนชื่อซอยแล้ว แต่คนท้องถ่ินเดิม ยังนิยมเรียกว่า ซอยแม่เฒ่าล้อม สถานท่ีส�ำคัญ เช่น บ้านหัวคลา บริเวณรอยต่อสันเขาระหว่างต�ำบลกะรนกับป่าตอง ซ่ึงเดิม พื้นที่นี้เป็นแหล่งแร่ดีบุก มีการท�ำเหมืองขุดแร่ แต่ปัจจุบันเปลี่ยนเป็นโรงแรม แหล่งท่องเท่ียว ชื่อผู้ให้ข้อมูล นางจันทรา อยู่สุข อายุ ๕๙ ปี ท่ีอยู่ผู้ให้ข้อมูล ๘/๒ ถนนปฏัก ต�ำบลกะรน อ�ำเภอเมือง จังหวัดภูเก็ต ชื่อผู้จัดเก็บข้อมูล นางแตงอ่อน สุทธิรักษ์ วัน/เดือน/ปี ที่จัดเก็บ วันท่ี ๕ เดือนมิถุนายน ๒๕๖๐ 242
ในอ�ำเภอถลาง 243
ชื่อบ้าน - นามเมือง ในภูเก็จ 244
อ�ำเภอถลาง ต�ำบลเทพกระษัตรี ๑ ชื่อบ้าน - นามเมือง : บ้านตะเคียน สถานท่ีตั้ง หมู่ท่ี ๑ ต�ำบลเทพกระษัตรี อ�ำเภอถลาง จังหวัดภูเก็ต ทิศเหนือ จด หมู่ที่ ๕ บ้านเมืองใหม่ และหมู่ที่ ๙ บ้านป่าครองชีพ ทิศใต้ จด หมู่ที่ ๑ บ้านในคล�ำ ต�ำบลศรีสุนทร ทิศตะวันออก จด หมู่ที่ ๒ บ้านแขนน หมู่ท่ี ๗ บ้านนาใน และหมู่ที่ ๙ บ้านป่าครองชีพ ทิศตะวันตก จด หมู่ที่ ๔ บ้านดอน หมู่ท่ี ๓ บ้านพรุจ�ำปา - บ้านเหรียง และหมู่ท่ี ๘ บ้านพรุสมภาร ประวัติความเป็นมาของช่ือ และอ่ืนๆ ที่เกี่ยวข้อง บ้านตะเคียน เป็นหมู่บ้านเก่าแก่ ต้ังแต่สมัยเมืองถลาง บริเวณน้ีมีลักษณะ คล้ายเป็นเกาะ มีนาล้อมรอบ มีต้นตะเคียนอยู่เป็นจ�ำนวนมาก จึงเรียกกันว่า เกาะ บ้านตะเคียน ต่อมาได้เรียกว่า เกาะบ้านเคียน และ บ้านเคียน (บริเวณบ้านท้าวเทพ- กระษัตรี หรือบ้านย่าในปัจจุบัน) เคยเป็นที่ต้ังของเมืองถลาง สมัยปลายกรุงศรี- อยุธยา โดยมีจอมร้างบ้านเคียนเป็นเจ้าเมือง ในปี พ.ศ.๒๓๒๘ คร้ังเกิดศึกถลาง ก็ ยังมีฐานะเป็นเมืองถลางอยู่ ในปี พ.ศ.๒๔๓๗ มีการเปล่ียนแปลงการปกครองเป็น แบบมณฑลเทศาภิบาล สมัยน้ันอ�ำเภอถลาง มี ๑๐ ต�ำบล บ้านตะเคียนมีฐานะเป็น ต�ำบลตะเคียน เมื่อมีการตัดถนนเทพกระษัตรีในปี พ.ศ.๒๔๕๒ ประชาชนได้ย้าย บ้านเรือนมาต้ังอยู่ท่ีสองฝั่งของถนนเทพกระษัตรีมากขึ้น ในปี พ.ศ.๒๔๘๔ ในสมัย รัชกาลที่ ๘ อ�ำเภอถลางได้ยุบเหลือเพียง ๖ ต�ำบล โดยต�ำบลท่ามะพร้าว ต�ำบลดอน 245
ชื่อบ้าน - นามเมือง ในภูเก็จ บ้านท้าวเทพกระษัตรี - ท้าวศรีสุนทร และต�ำบลตะเคียน ได้ยุบรวมกันเป็นต�ำบลเทพกษัตรี (ปัจจุบันคือ ต�ำบลเทพกระษัตรี เพ่ือเป็นเกียรติแด่ท้าวเทพกระษัตรี) ต�ำบลตะเคียนจึงเป็นเพียงชื่อหมู่ท่ี ๑ บ้าน ตะเคียนขึ้นกับต�ำบลเทพกระษัตรีมาจนถึงปัจจุบัน นอกจากน้ี หมู่ท่ี ๑ บ้านตะเคียน ยังมีบ้านย่อยคือ ๑. บ้านบ่อกรวด ๒. บ้านหินรุ่ย ซึ่งมีชื่อเสียงในด้านการท�ำข้าวหลาม ในนาม “เหนียวหลามบ้านหินรุ่ย” อยู่ข้างโรงเรียนถลางพระนางสร้าง ภาษาท่ีใช้คือ ภาษาถิ่นภูเก็ต ส่วนใหญ่นับถือศาสนาพุทธ และมีศาสนา อิสลามบางส่วน อาชีพของคนในหมู่บ้านคือ ค้าขาย ท�ำสวน รับจ้างทั่วไป และธุรกิจส่วนตัว สถานที่ส�ำคัญ เช่น ที่ว่าการอ�ำเภอถลาง เทศบาลต�ำบลเทพกระษัตรี อบต.เทพกระษัตรี สถานี ต�ำรวจภูธรถลาง โรงพยาบาลถลาง สนง.สาธารณสุขอ�ำเภอถลาง โรงเรียนถลาง พระนางสร้าง โรงเรียนถลางวิทยา ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กเทศบาลต�ำบลเทพกระษัตรี ที่ท�ำการไปรษณีย์ถลาง ส�ำนักงานโทรศัพท์ถลาง วัดพระทอง วัดพระนางสร้าง 246
อ�ำเภอถลาง l ต�ำบลเทพกระษัตรี วัดพระทอง ศาลเจ้าหง่อเห้ียนไต่เต่ ศาลเจ้าบู้เส่งต๋อง ศาลเจ้าจ๊งหง่ีเก้ง (น�้ำตกโตนไทร) มัสยิด ดารุลอามีน บ้านบ่อกรวด ตลาดสดเทศบาลต�ำบลเทพกระษัตรี บ้านท้าวเทพกระษัตรี - ท้าวศรีสุนทร ป้ายเมืองถลางบ้านเคียน ช่ือผู้ให้ข้อมูล นายนิโรธ โชติช่วง อายุ ๖๕ ปี ที่อยู่ผู้ให้ข้อมูล ๒๐๓ ถนนเทพกระษัตรี หมู่ท่ี ๑ ต�ำบลเทพกระษัตรี อ�ำเภอถลาง จังหวัดภูเก็ต ชื่อผู้จัดเก็บข้อมูล นายสุเชาว์ พงศานนท์ วัน/เดือน/ปี ที่จัดเก็บ วันที่ ๑๙ เดือนกุมภาพันธ์ ๒๕๖๐ 247
ชื่อบ้าน - นามเมือง ในภูเก็จ ๒ ชื่อบ้าน - นามเมือง : บ้านแขนน สถานที่ต้ัง หมู่ท่ี ๒ ต�ำบลเทพกระษัตรี อ�ำเภอถลาง จังหวัดภูเก็ต ทิศเหนือ จด หมู่ท่ี ๗ บ้านนาใน และบ้านบางตาก และหมู่ที่ ๑๑ บ้านควน ทิศใต้ จด หมู่ท่ี ๑ บ้านลิพอนเขาล้าน ต�ำบลศรีสุนทร ทิศตะวันออก จด หมู่ท่ี ๑๑ บ้านควน และเขาพระแทว ทิศตะวันตก จด หมู่ท่ี ๗ บ้านนาใน ประวัติความเป็นมาของชื่อ และอื่นๆ ที่เก่ียวข้อง ผู้เฒ่าผู้แก่ในหมู่บ้านเล่ากันว่า ท่ีน่ีเป็นหมู่บ้านสมัยท้าวเทพกระษัตรี เดิม เรียกว่า บ้านแหนง มีคลองบางแหนนหรือบางแหนง ไหลมาจากเทือกเขาพระแทว มีช่ือเสียงในด้านการท�ำเสน่ห์ยาแฝด ผู้คนที่เช่ือในด้านนี้มาใช้บริการกันอยู่เสมอ จนเป็นท่ีรู้จักกันในนาม บ้านเสน่ห์ ภาษาถ่ินใต้เรียกสั้นๆ ว่า บ้านเหน่ ต่อมาได้ เพี้ยนมาเป็นบ้านแหนน หรือบ้านแขนนในปัจจุบันน้ี เชื่อกันว่า น้�ำในบริเวณน้ี สามารถเอาไปให้คนที่ถูกเสน่ห์ด่ืม เพ่ือให้หายจากอาการคือ ให้เกิดหน่ายแหนง ผู้ที่ท�ำเสน่ห์น้ันเสีย ภาษาที่ใช้คือ ภาษาถ่ินภูเก็ต ส่วนใหญ่นับถือศาสนาพุทธ อาชีพของคนในหมู่บ้านคือ ท�ำสวน ค้าขาย และรับจ้างทั่วไป สถานท่ีส�ำคัญ เช่น วัดบ้านแขนน โรงเรียนบ้านโคกวัดใหม่ หมู่บ้านวัฒนธรรมถลาง สถานี พัฒนาและส่งเสริมการอนุรักษ์สัตว์ป่าเขาพระแทว (ศูนย์ศึกษาธรรมชาติและสัตว์ป่า เขาพระแทว) น�้ำตกโตนไทร 248
อ�ำเภอถลาง l ต�ำบลเทพกระษัตรี น้�ำตกโตนไทร วัดบ้านแขนน หมู่บ้านวัฒนธรรมถลาง บ้านแขนน ชื่อผู้ให้ข้อมูล นายนิโรธ โชติช่วง อายุ ๖๕ ปี ท่ีอยู่ผู้ให้ข้อมูล ๒๐๓ ถนนเทพกระษัตรี หมู่ท่ี ๑ ต�ำบลเทพกระษัตรี อ�ำเภอถลาง จังหวัดภูเก็ต ช่ือผู้จัดเก็บข้อมูล นายสุเชาว์ พงศานนท์ วัน/เดือน/ปี ที่จัดเก็บ วันท่ี ๑๙ เดือนกุมภาพันธ์ ๒๕๖๐ 249
ชื่อบ้าน - นามเมือง ในภูเก็จ ๓ ชื่อบ้าน - นามเมือง : บ้านพรุจ�ำปา สถานที่ต้ัง หมู่ท่ี ๓ ต�ำบลเทพกระษัตรี อ�ำเภอถลาง จังหวัดภูเก็ต ทิศเหนือ จด หมู่ที่ ๘ บ้านพรุสมภาร และต�ำบลสาคูบางส่วน ทิศใต้ จด หมู่ท่ี ๑ บ้านตะเคียน และหมู่ท่ี ๔ บ้านดอน ทิศตะวันออก จด หมู่ท่ี ๑ บ้านตะเคียน ทิศตะวันตก จด ภูเขาเมือง ต�ำบลสาคู ประวัติความเป็นมาของช่ือ และอ่ืนๆ ที่เกี่ยวข้อง ลักษณะภูมิประเทศบริเวณนี้ เดิมเป็นป่าพรุ มีต้นจ�ำปาข้ึนอยู่มากมาย รอบๆ ป่าพรุ เช่น พรุตาเฉย พรุจวก พรุเตียว พรุขุนอ้อ จึงเรียกหมู่บ้านนี้ว่า บ้าน พรุจ�ำปา ประกอบด้วยบ้านพรุจ�ำปาเหนือ และบ้านพรุจ�ำปาใต้ ภาษาที่ใช้คือ ภาษาถ่ินภูเก็ต ส่วนใหญ่นับถือศาสนาพุทธ อาชีพของคนในหมู่บ้านคือ ท�ำสวนยางพารา สวนผลไม้ และ ค้าขาย สถานท่ีส�ำคัญ เช่น ศูนย์เรียนรู้เศรษฐกิจพอเพียงแพะนม บ้านพรุจ�ำปา ช่ือผู้ให้ข้อมูล นายนิโรธ โชติช่วง อายุ ๖๕ ปี ที่อยู่ผู้ให้ข้อมูล ๒๐๓ ถนนเทพกระษัตรี หมู่ท่ี ๑ ต�ำบลเทพกระษัตรี อ�ำเภอถลาง จังหวัดภูเก็ต 250
อ�ำเภอถลาง l ต�ำบลเทพกระษัตรี ศูนย์เรียนรู้เศรษฐกิจพอเพียงแพะนม บ้านพรุจ�ำปา ชื่อผู้จัดเก็บข้อมูล นายสุเชาว์ พงศานนท์ วัน/เดือน/ปี ที่จัดเก็บ วันท่ี ๑๙ เดือนกุมภาพันธ์ ๒๕๖๐ 251
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147
- 148
- 149
- 150
- 151
- 152
- 153
- 154
- 155
- 156
- 157
- 158
- 159
- 160
- 161
- 162
- 163
- 164
- 165
- 166
- 167
- 168
- 169
- 170
- 171
- 172
- 173
- 174
- 175
- 176
- 177
- 178
- 179
- 180
- 181
- 182
- 183
- 184
- 185
- 186
- 187
- 188
- 189
- 190
- 191
- 192
- 193
- 194
- 195
- 196
- 197
- 198
- 199
- 200
- 201
- 202
- 203
- 204
- 205
- 206
- 207
- 208
- 209
- 210
- 211
- 212
- 213
- 214
- 215
- 216
- 217
- 218
- 219
- 220
- 221
- 222
- 223
- 224
- 225
- 226
- 227
- 228
- 229
- 230
- 231
- 232
- 233
- 234
- 235
- 236
- 237
- 238
- 239
- 240
- 241
- 242
- 243
- 244
- 245
- 246
- 247
- 248
- 249
- 250
- 251
- 252
- 253
- 254
- 255
- 256
- 257
- 258
- 259
- 260
- 261
- 262
- 263
- 264
- 265
- 266
- 267
- 268
- 269
- 270
- 271
- 272
- 273
- 274
- 275
- 276
- 277
- 278
- 279
- 280
- 281
- 282
- 283
- 284
- 285
- 286
- 287
- 288
- 289
- 290
- 291
- 292
- 293
- 294
- 295
- 296
- 297
- 298
- 299
- 300
- 301
- 302
- 303
- 304
- 305
- 306
- 307
- 308
- 309
- 310
- 311
- 312
- 313
- 314
- 315
- 316
- 317
- 318
- 319
- 320
- 321
- 322
- 323
- 324
- 325
- 326
- 327
- 328
- 329
- 330
- 331
- 332
- 333
- 334
- 335
- 336
- 337
- 338
- 339
- 340
- 341
- 342
- 343
- 344
- 345
- 346
- 347
- 348
- 349
- 350
- 351
- 352
- 353
- 354
- 355
- 356
- 357
- 358
- 359
- 360
- 361
- 362
- 363
- 364
- 365
- 366
- 367
- 368
- 369
- 370
- 371
- 372
- 373
- 374
- 375
- 376
- 377
- 378
- 379
- 380
- 381
- 382
- 383
- 384
- 385
- 386
- 387
- 388
- 389
- 390
- 391
- 392
- 393
- 394
- 395
- 396
- 397
- 398
- 399
- 400
- 401
- 402
- 403
- 404
- 405
- 406
- 407
- 408
- 409
- 410
- 411
- 412
- 413
- 414
- 415
- 416
- 417
- 418
- 419
- 420
- 421
- 422
- 423
- 424
- 425
- 426
- 427
- 428
- 429
- 430
- 431
- 432
- 433
- 434
- 435
- 436
- 437
- 438
- 439
- 440
- 441
- 442
- 443
- 444
- 445
- 446
- 447
- 448
- 449
- 450
- 451
- 452
- 453
- 454
- 455
- 456
- 457
- 458
- 459
- 460
- 461
- 462
- 463
- 464
- 465
- 466
- 467
- 468
- 469
- 470
- 471
- 472
- 473
- 474
- 475
- 476
- 477
- 478
- 479
- 480
- 481
- 482
- 483
- 484
- 485
- 486
- 487
- 488
- 489
- 490
- 491
- 492
- 493
- 494
- 495
- 496
- 1 - 50
- 51 - 100
- 101 - 150
- 151 - 200
- 201 - 250
- 251 - 300
- 301 - 350
- 351 - 400
- 401 - 450
- 451 - 496
Pages: