Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore 64-08-15-คู่มือและแผนการเรียนรู้_คณิตศาสตร์ ม.1-2

64-08-15-คู่มือและแผนการเรียนรู้_คณิตศาสตร์ ม.1-2

Published by elibraryraja33, 2021-08-15 05:58:52

Description: 64-08-15-คู่มือและแผนการเรียนรู้_คณิตศาสตร์ ม.1-2

Search

Read the Text Version

585 เกณฑAการใหค7 ะแนน รายการประเมิน ระดบั คณุ ภาพ รายละเอียดในการพจิ ารณา 1. การแก7ปญ` หา 3 ความสามารถในการใชว= ธิ ีดำเนนิ การแก=ปญZ หา และการอธิบายถึงเหตุผลใน (ด)ี กในารกใำชร=วใธิชกี้วธิารกี ดำังรกดลังกา? วลไำ่ ดว=เไขดา= เ้ ใขจ้ำใแจลแะลชะดั ชเจดั นเจน 2. การให7เหตุผล ความสามารถในการใช=วิธดี ำเนนิ การแกป= Zญหา และการอธบิ ายถึงเหตผุ ลใน 2 กในารกใำชรว=ใิธชดีว้ ธิังกี ลำรา? ดวไงั ดกเ=ลพ่ำยี วงไบด้เาพงสยี ?วงบนำงส่วน 3. การเชื่อมโยง (พอใช=) ไม?มรี ?องรอยการแกป= Zญหา หรอื ทำได=ไมเ? ปนi ไปตามเกณฑ7ข=างต=น 1 มกี ารอ=างอิง เสนอแนวคิดประกอบการตัดสินใจอยา? งถูกตอ= งและสมเหตสุ มผล (ควรปรับปรุง) สมเหตสุ มผล มกี ารอา= งองิ ทีถ่ ูกตอ= งบางส?วน และเสนอแนวคิดประกอบการตดั สนิ ใจ 3 (ดี) ไม?มกี ารอา= งองิ หรือแนวคดิ ประกอบการตัดสินใจ 2 มกี ารเช่ือมโยงความร=ูทางคณิตศาสตร7 เนื้อหา หลักการ และวิธีการทาง (พอใช=) ทคณำงติคศณาิตสศตำรส7 เตพรื่อ์ เชพ?ว่ือยชในว่ ยกใานรกแำกร=ปแZญกห้ปาญั หรำือหปรรอื ะปยรุกะตยใ7 กุชตไ= ดใ์ ช=อไ้ยด?า้องเยห่ำมงเาหะมสำมะสม มีการเชอ่ื มโยงความรูท= างคณติ ศาสตร7 เน้อื หา หลักการ และวิธีการทาง 1 คทณำงติ คศณาติสศตำรส7 เตพรอ่ื ์ ชเพว? ื่อยชใน่วกยาในรแกกำรป= แZญกหป้ าัญไดหบ= ำไาดงสบ้ ?วำนงสว่ น (ควรปรับปรุง) ไม?มกี ารเชื่อมโยงความร=ูคณิตศาสตร7 3 (ด)ี 2 (พอใช=) 1 (ควรปรับปรงุ )

593 หน่วยการเรยี นร้ทู ี่ 3 เรอ่ื ง เลขยกกาลงั แผนการจดั การเรียนรทู้ ่ี 10 เวลา 1 ช่วั โมง กลุ่มสาระการเรียนรคู้ ณติ ศาสตร์ เรื่อง การนาสมบัตขิ องเลขยกกาลงั ไปประยุกต์ใช้ ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปที ี่ 1 ขอบเขตเนอ้ื หา รายวชิ าคณิตศาสตร์ 1 สแหือ่ ลง่ เรียนรู้ การนาสมบัตขิ องเลขยกกาลงั ไปประยุกตใ์ ช้ 1. ใหบ้อกงจิคณกรติ รศมาทส่ีต1ร0์โรเงรเ่ือรยีงนกำรนำ� สมบตั ิ จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้ กิจกรรมการเรยี นรู้ ข2อ. หงเอ้ ลงขสยมกดุ กโร�ำงลเงัรไยี ปนประยกุ ต์ใช้ ดจาุ้ดนปครวะาสมงรคู้ ก์ ารเรยี นรู้ ขัน้ นา 434คส23สข21ส....มอม.ื่อ..ณหปสกบงสกใบิตบเลรลรตันำลัตศกะะากำเิขงัเิ ลำดิจกลดกกสยสขากโขำโำอืกจตยษจรษยเเกทคกรรทรปกปาม์กมยยียรกเลรทาป์นลีูฟ๊ป์๊ฟู�ำงั ลี่ม่ัญรไลัญ1ังปำงัหไ01หยปไปาปวำรเปเรเิชกะปกรอื่ยำี่ยระีย่งพกุวะยวตกกนื้ยุกกบัใ์ากุฐตับชรกำตใ์้กนชานใ์ ำร้าชรนส้ นมา�ำบัติ ด23ดด1ดนด12132้าน...า้า้้า้าำ� .....นนสกกกนนนามใกกกคสฝมทำำำรทคีวาาาณุมเ่รรรูค้บกัรรินรณุักรใแเบแใเษวัยลียตัชษหชหกลกัตานักะขิ่ืออื่้เะ้เ้ปกั้ปขิมแหษหรอมมแอษญัญัลู้รตณตงโโลงะยู้ยเณุผุผหหเละะกงงลลลาำกขะรขอระยยะบันกกบวกพกวน�ำาึงลนลกปงักังารไไราะปปรสปปงรรคะะ์ยยกุุกตตใ์ ์ใชช้ไ้ไดด้ ้ 1.ครูผ้สู อนทบความรู้เก่ยี วกับเลขยกกาลงั ทีเ่ รยี นมาแล้ว ช4นั้. ปมาัธกยกมาศเกึคมษีำปีท่ี 1 13..มมวีคี นิ วยัามมุง่ มัน่ ในการทางาน ดว้ ยการถาม – ตอบ ดงั นี้ 5. หนงั สอื เรียนรายวิชาพน้ื ฐาน 2. ใฝเ่ รียนรู้ 1) 3 20105 ( 6106 ) แคณหลิตง่ศกาสารตเรรเ์ ยีลน่มร1ู้ ชน้ั มธั ยมศกึ ษาปที ่ี 1 3. มคี วำมมุง่ มนั่ ในกำรท�ำงำน 2) 0.45109 (4.5108 ) 16.แหบอ้ บงทคดณสติอศบำหสลตังรเรโ์ ยีรนงเรยี น 2ภ.าหระอ้ งงาสนม/ุดชโิ้นรงงาเรนยี น ขัน้ สอน - 2. ครูแบ่งนักเรียนเป็นกล่มุ กลมุ่ ละ 3-4 คน คละความสามารถเกง่ ภาระงาน/ชิ้นงาน ปานกลาง ออ่ น ใบงำนที่ 10 เรือ่ ง กำรน�ำสมบตั ขิ องเลข 3. ตวั แทนกล่มุ จบั สลากโจทย์ปญั หาเกย่ี วกบั การนาสมบัตเิ ลขยก ยกก�ำลงั ไปประยุกตใ์ ช้ กาลงั ไปประยกุ ตใ์ ช้ ให้นักเรยี นแต่ละกลุม่ ระดมความคดิ เห็นเพือ่ หาคาตอบของโจทยท์ ี่ได้รับ นกั เรียนแต่ละคนเขยี นวธิ ีหาคาตอบลง ในใบกิจกรรมที่ 10 สมาชกิ ในกลุ่มชว่ ยกันสรปุ ลงในกระดาษปรู๊ฟ 5. ครูสุ่มตวั แทนกล่มุ 1-2 กลุ่ม นาเสนอผลการอภปิ รายและระดม ความคดิ เหน็ ครูเพิม่ เตมิ ความรู้ในส่วนทยี่ ังไม่ชดั เจน ให้ครบถว้ น สมบูรณ์ 558963

หนว่ ยการเรยี นร้ทู ่ี 3 เรอ่ื ง เลขยกกาลงั แผนการจัดการเรยี นรูท้ ่ี 10 594 กลุม่ สาระการเรียนรู้คณติ ศาสตร์ เร่ือง การนาสมบัติของเลขยกกาลงั ไปประยุกต์ใช้ เวลา 1 ช่วั โมง รายวิชาคณติ ศาสตร์ 1 ชัน้ มัธยมศกึ ษาปที ่ี 1 ขั้นสรุป 6. ใหน้ กั เรยี นทาแบบทดสอบหลังเรยี น เรอื่ ง เลขยกกาลัง 559847

558985 595 การวดั และประเมินผล วิธกี าร เครือ่ งมอื ทใ่ี ช้ เกณฑ์ สิง่ ทตี่ ้องการวดั /ประเมิน ตรวจแใบบงบาทนด สอบหลังเรยี น แแบบบบบบนั นั ททึกกึ คคะะแแนนนน ผา่ นเกณฑ์ร้อยละ 70 ขน้ึ ไป ดา้ นความรู้ กแำบรบตทรดวจสใอบบงหำลนงั -รอ้ ยละ 80 ข้ึนไปได้ระดับคณุ ภาพ 4 นาสมบัตขิ องเลขยกกาลังไป ทเร่ี ยี1น0 เร่ือง กเลำขรยนกำ� -รอ้ ยละ 70-79 ขน้ึ ไปได้ระดบั ประยกุ ตใ์ ช้ได้ สกมาบลังตั ิของเลขยกกำ� ลงั คุณภาพ 3 ไปประยุกต์ใช้ -ร้อยละ 60-69 ขน้ึ ไปได้ระดับ คุณภาพ 2 -ร้อยละ 50-59 ขึ้นไปได้ระดับ คุณภาพ 1 ด้านทกั ษะ/กระบวนการ 1.กกาำรรแแกกป้ ้ปัญัญหหาำ สงั เกตพฤตกิ รรม แบบบสงันเทกตกึ กำรสงั เกต ผ่านเกณฑใ์ นระดบั พอใช้ขนึ้ ไป 2.กกาำรรใหใหเ้ ห้เหตตุผผุลล พฤตกิ รรมด้าำนทกั ษะ - ค่าเฉล่ีย 2.50 ข้ึนไปได้ระดบั ดี 3.กกาำรรเชเชอ่ื ื่อมมโยโยงง และกระบวนกาำรทาง - ค่าเฉลยี่ 1.50 – 2.49 ได้ระดับ ทคณำงติ คศณาติสศตำรส์ ตร์ พอใช้ - ค่าเฉลย่ี ต่ากวา่ 1.50 ได้ระดับ ปรบั ปรงุ ดดา้ า้ นนคคุณุณลลักักษษณะอันพงึ ประสงค์ 1. มวี ินยั สังเกตพฤตกิ รรม แแบบบบบสันงั เทกึกตกำรสังเกต ไดร้ ะดับคณุ ภาพ 2 ทุกรำยกำรข้นึ ไป 2. ใฝเ่ รยี นรู้ พพฤฤตตกิ ิกรรรรมมดด้ำานน ทถุกือรวา่ำยผก่ำนารเกขณ้ึนไฑป์ ถอื วา่ ผ่านเกณฑ์ 3. มคี วามมุ่งมัน่ ในการ คคุณุณลลักกั ษษณณะอันพงึ ทางาน อปนั รพะึงสปงคร์ะสงค์

559869 596 บันทึกผลหลังสอน ผลการเรยี นรู้ ............................................................................................................................................................................... ............................................................................................................................................................................... ............................................................................................................................................................................... ............................................................................................................................................................................... ปัญหาและอปุ สรรค ..................................................................................................................................................................... .......... ............................................................................................................................................................................... ............................................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................... .......................... ข้อเสนอแนะและแนวทางแก้ไข ............................................................................................................................................................................... ............................................................................................................................................................................... ............................................................................................................................................................................... ............................................................................................................................................................................... ลงชือ่ ......................................ผูส้ อน (......................................) วันที.่ .........เดือน..........พ.ศ............. ความคดิ เหน็ /ขอ้ เสนอแนะของผบู้ ริหารหรือผู้ที่ได้รบั มอบหมาย ............................................................................................................................................................................... ............................................................................................................................................................................... ............................................................................................................................................................................... ลงชอื่ ......................................ผูต้ รวจ (.............................................) วนั ท่.ี .........เดอื น..........พ.ศ.......

559907 597 ใบกิจกรรมที่ 10 เร่อื ง การนาสมบัติของเลขยกกาลังไปประยุกต์ใช้ หน่วยท่ี 3 แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 10 เรอื่ ง การนาสมบัติของเลขยกกาลังไปประยุกตใ์ ช้ รายวิชาคณิตศาสตร์ 1 รหัสวชิ า ค21101 ภาคเรยี นที่ 1 ช้ันมธั ยมศึกษาปที ่ี 1 คาชแี้ จง 11..ตวั แทนกลุ่มจบั สลากโจทย์การนาสมบตั ิของเลขยกกาลงั ไปประยุกตใ์ ช้ กลุ่มละ 1 ข้อ 22..สมาชกิ ภายในกล่มุ รว่ มกนั ระดมความคิดเหน็ และรว่ มกันอภิปราย เพอ่ื หาคาตอบของโจทยท์ ไี่ ดร้ ับ แล้วสรปุ ลงในกระดาษปรู๊ฟ …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………… …………… ………… …………… ………… ………… …………… ………… ………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

559981 598 โจทย์ปัญหาเก่ยี วกับการนาสมบัตเิ ลขยกกาลงั ไปประยุกต์ใช้ PM2.5 คือฝุ่นละอองขนาดเลก็ ไม่เกนิ 2.5 ไมครอน ถ้า 1 ไมครอนมีความยาว เท่ากบั 1 ใน 1,000,000 เมตร อยากทราบวา่ PM2.5 คือฝุ่นละอองขนาดเล็ก ไม่เกนิ กเี่ มตร (ใหต้ อบในรปู สัญกรณว์ ทิ ยาศาสตร)์ สรุ เดชมีเงินมากกว่าสรุ ชาติ 45105 ถ้าสรุ ชาตมิ เี งนิ 32106 บาท สุรเดช มเี งนิ กีบ่ าท (ใหต้ อบในรปู สญั กรณ์วิทยาศาสตร์) ผลการจัดเก็บรายไดข้ องรัฐบาล กรมสรรพากรมรี ายได้ในเดือน กรกฎาคม 2561 เทา่ กบั 137,416 ล้านบาท เดอื น พฤษภาคม 2561 มีรายได้ 232,110 ล้านบาท อยากทราบวา่ เดอื นพฤษภาคม กรมสรรพากรมรี ายได้มากกวา่ เดอื นกรกฎาคม ก่บี าท (ให้ตอบในรูปสญั กรณว์ ิทยาศาสตร)์ ถ้าไรฝุ่นตวั หน่ึงหนกั 0.000000012 กรัม ไรฝุ่นซึ่งมนี ้าหนกั เทา่ ๆกัน ทุกตวั จานวน 200 ตวั จะมนี ้าหนกั เทา่ กบั กกี่ รัม (ใหต้ อบในรูปสญั กรณ์วิทยาศาสตร)์ ไฮโดรเจน 1 กรัม มจี านวนโมเลกุลอยู่ประมาณ 6.02381023 โมเลกุล ไฮโดนเจน 30 กรมั มีจานวนโมเลกุลประมาณกีโ่ มเลกุล (ให้ตอบในรปู สัญกรณว์ ิทยาศาสตร์)

559929 599 ในปี 2560 การส่งออกขา้ วในชว่ งคร่งึ แรกของปี (มกราคม-มิถุนายน 2560) มี ปริมาณ 5.43× 106 ตัน มลู ค่า 8.02× 1010บาท และในปี 2561 การสง่ ออกข้าว ในชว่ งครึง่ แรกของปี (มกราคม-มิถนุ ายน 2561) มีปรมิ าณ 5.33× 106 ตัน มลู คา่ 8.58 × 1010บาท การส่งออกข้าวในช่วงครงึ่ แรกของปี 2561 เม่อื เทียบกับการ ส่งออกข้าวในช่วงคร่งึ แรกของปี 2560 มลี ักษณะอย่างไร วัตถุช้นิ หนึง่ อยหู่ า่ งจากโลกประมาณ 11 x 107 ปีแสง และ 1 ปแี สงเทา่ กับ 9.4 x 1012 กโิ ลเมตร วัตถุช้ินนห้ี ่างจากโลกประมาณก่ีกโิ ลเมตร เส้นผา่ นศูนย์กลางลูกปงิ ปองเป็น 4 เซนติเมตร เส้นผา่ นศูนยก์ ลางลูกบอลเป็น 32 เซนตเิ มตร ลูกปงิ ปองมีขนาดเป็นก่ีเท่าของลกู บอล จรวดลาหนึง่ มีความเร็ว 3.12 x 107 เมตรตอ่ ช่วั โมง ถา้ จรวดลานี้วิง่ ในระยะ 5.6 ปีแสง และ 1 ปีแสงเท่ากบั 9.4 x 1012 กโิ ลเมตร แล้วจรวดลาน้ีตอ้ งใช้ เวลาประมาณกชี่ ั่วโมง

650903 600 เฉลยใบกิจกรรมท่ี 10 เรอ่ื ง การนาสมบตั ิของเลขยกกาลงั ไปประยุกตใ์ ช้ หนว่ ยท่ี 3 แผนการจัดการเรยี นรู้ที่ 10 เรือ่ ง การนาสมบตั ขิ องเลขยกกาลังไปประยกุ ตใ์ ช้ รายวิชาคณติ ศาสตร์ 1 รหสั วิชา ค21101 ภาคเรยี นที่ 1 ช้นั มัธยมศึกษาปีท่ี 1 1) PM2.5 คอื ฝนุ่ ละอองขนาดเล็กไม่เกิน 2.5 ไมครอน ถ้า 1 ไมครอนมคี วามยาวเท่ากับ 1 ใน 1,000,000 เมตร อยากทราบวา่ PM2.5 คอื ฝุ่นละอองขนาดเลก็ ไม่เกินก่เี มตร (ใหต้ อบในรปู สัญกรณ์วิทยาศาสตร์) แนวการตอบ 1 ไมครอนมีความยาวเทา่ กบั 1 ใน 1,000,000 เมตร นัน่ คือ 1 ไมครอน มคี วามยาวเทา่ กบั 1106 เมตร ดงั นั้น 2.5 ไมครอน มีความยาวเท่ากบั 2.5106 เมตร PM2.5 คอื ฝุ่นละอองขนาดเล็กไม่เกิน 2.5106 เมตร 2) สุรเดชมีเงินมากกวา่ สรุ ชาติ 45105 บาท ถา้ สรุ ชาตมิ เี งนิ 32106 บาท สรุ เดชมเี งนิ ก่บี าท (ให้ตอบในรปู สัญกรณ์วทิ ยาศาสตร์) แนวการตอบ สุรเดชมเี งินมากกวา่ สรุ ชาติ 45105 ถา้ สุรชาตมิ ีเงนิ 32106 บาท สรุ เดชมีเงิน (45105 )  (32106 )  (4.5106 )  (32 106 )  36.5106  3.65107 สุรเดชมีเงิน 3.65107 บาท 3) ผลการจัดเกบ็ รายไดข้ องรัฐบาล กรมสรรพากรมีรายไดใ้ นเดือน กรกฎาคม 2561 เท่ากบั 137,416 ลา้ นบาท เดอื น พฤษภาคม 2561 มรี ายได้ 232,110 ล้านบาท อยากทราบวา่ เดือนพฤษภาคม กรมสรรพากรมีรายได้ มากกว่าเดือนกรกฎาคม กบ่ี าท (ให้ตอบในรูปสัญกรณ์วทิ ยาศาสตร์) แนวการตอบ กรมสรรพากรมรี ายได้ในเดอื น กรกฎาคม 2561 เท่ากบั 1.37416105 106 บาท กรมสรรพากรมีรายได้ในเดือน พฤษภาคม 2561 เทา่ กับ 2.3211105 106 บาท กรมสรรพากรมีรายไดม้ ากกวา่ เดอื นกรกฎาคม เทา่ กบั (2.3211105 106 )  (1.37416105 106 ) 0.94694 1011  9.4694 1010 บาท กรมสรรพากรมีรายไดม้ ากกวา่ เดือนกรกฎาคม 9.4694 1010 บาท

569041 601 4) ถ้าไรฝ่นุ ตัวหน่งึ หนัก 0.000000012 กรมั ไรฝนุ่ ซึง่ มีนา้ หนักเทา่ ๆกนั ทุกตัว จานวน 200 ตัว จะมีนา้ หนัก เท่ากับกี่กรัม แนวการตอบ ไรฝ่นุ ตัวหน่งึ หนัก 1.2108 กรมั ไรฝุ่น 200 ตัว หนัก 1.2108  2 102  2.4 106  2.4 106 กรัม ไรฝนุ่ จานวน 200 ตวั จะมีนา้ หนกั 2.4 106 กรัม 5) ไฮโดรเจน 1 กรมั มจี านวนโมเลกุลอยู่ประมาณ 6.02381023 โมเลกุล ไฮโดนเจน 30 กรมั มีจานวน โมเลกลุ ประมาณก่ีโมเลกุล แนวการตอบ ไฮโดรเจน 1 กรัม มจี านวนโมเลกุลอยู่ประมาณ 6.02381023 โมเลกลุ ไฮโดรเจน 30 กรมั มีจานวนโมเลกลุ อยู่ประมาณ 30 6.02381023 โมเลกุล  180.714 1023 โมเลกุล  1.80714 102 1023 โมเลกลุ  1.80714 1025 โมเลกุล ไฮโดนเจน 30 กรมั มีจานวนโมเลกุลประมาณ 1.80714 1025 โมเลกลุ 6) ในปี 2560 การส่งออกข้าวในช่วงครึ่งแรกของปี (มกราคม-มิถุนายน 2560) มีปรมิ าณ 5.43× 106 ตนั มูลค่า 8.02× 1010 บาท และในปี 2561 การสง่ ออกข้าวในช่วงครึง่ แรกของปี (มกราคม-มิถนุ ายน 2561) มี ปริมาณ 5.33× 106 ตนั มูลคา่ 8.58 × 1010 บาท การส่งออกข้าวในช่วงครงึ่ แรกของปี 2561 เมอื่ เทียบกับการ สง่ ออกขา้ วในช่วงครึ่งแรกของปี 2560 มลี กั ษณะอยา่ งไร แนวการตอบ ปริมาณการส่งออกขา้ วในชว่ งครึ่งแรก พบวา่ (5.33× 106 )  (5.43× 106 )  (1×105 ) ตนั มูลค่าการส่งออกขา้ วในชว่ งคร่ึงแรก พบวา่ (8.58× 1010 )  (8.02× 1010 ) 5.6×109 บาท ดงั นนั้ ปริมาณการสง่ ออกขา้ วในช่วงครง่ึ แรกของปี 2561 เมื่อเทยี บกับการส่งออกข้าว ในช่วงครึง่ แรกของปี 2560 ลดลง 5.6×109 บาท 7. วัตถชุ น้ิ หนึง่ อยหู่ ่างจากโลกประมาณ 11 x 107 ปแี สง และ 1 ปีแสงเทา่ กับ 9.4 x 1012 กโิ ลเมตร วตั ถชุ ้ินนี้ห่างจากโลกประมาณกก่ี โิ ลเมตร แนวการตอบ 1 ปีแสง เทา่ กบั 9.4 x 1012 กโิ ลเมตร 11 x 107 ปแี สง เท่ากับ (9.4x1012 )x(11x107 ) = 1.03x1021 กิโลเมตร

650925 602 8. เส้นผ่านศูนยก์ ลางลกู ปิงปองเปน็ 4 เซนติเมตร เส้นผา่ นศูนยก์ ลางลกู บอลเปน็ 32 เซนตเิ มตร ลกู ปิงปองมีขนาดเปน็ กี่เท่าของลกู บอล แนวการตอบ เส้นผา่ นศนู ยก์ ลางลูกปงิ ปองเปน็ 4 เซนตเิ มตร เส้นผา่ นศูนย์กลางลกู บอลเปน็ 20 เซนติเมตร 4 ขนาดของลูกปงิ ปอง ตอ่ ขนาดของลกู บอล เท่ากบั 32 = 0.125 = 1.25x101 เทา่ 9. จรวดลาหนึ่งมคี วามเร็ว 3.12 x 107 เมตรตอ่ ชวั่ โมง ถ้าจรวดลานี้วงิ่ ในระยะ 5.6 ปีแสง และ 1 ปีแสง เทา่ กับ 9.4 x 1012 กิโลเมตร แลว้ จรวดลาน้ตี ้องใช้เวลาประมาณกี่ช่วั โมง แนวการตอบ 1 ปีแสงเท่ากบั 9.4 x 1012 กิโลเมตร 5.6 ปีแสงเทา่ กับ 5.6x9.4x1012 = 5.264x1013 กโิ ลเมตร จรวดมีความเร็ว 3.12 x 107 เมตรตอ่ ชว่ั โมง หรือเทา่ กบั 3.12 x 104กิโลเมตรต่อช่วั โมง ระยะทาง 3.12 x 104กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทาง 1 ช่วั โมง 5.264x1013 x1 ระยะทาง 5.264x1013 กิโลเมตร ใช้เวลาเดนิ ทาง 3.12x104 = 1.687x109 ชวั่ โมง

569063 603 แบบทดสอบหลังเรยี น หน่วยการเรียนรู้ที่ 3 เร่อื ง เลขยกกาลัง รายวชิ าคณติ ศาสตร์ 1 รหัสวชิ า ค21101 ภาคเรียนท่ี 1 ชน้ั มธั ยมศึกษาปีท่ี 1 คาชีแ้ จง ใหน้ ักเรยี นเลอื กคาตอบทถ่ี ูกตอ้ งท่ีสุดเพยี งคาตอบเดยี ว 1. 783,900 เขยี นให้อย่ใู นรปู สญั กรณ์วทิ ยาศาสตรไ์ ด้ตรงกบั ข้อใด ก. 7.839102 ข. 7.839103 ค. 7.839104 ง. 7.839105 2. ข้อใดกลา่ วถูกตอ้ ง ข. 80,000  810 3 ก. 260,000 2.6105 ง. 3,510,000 3.51108 ค. 7,000  7104 3. 8105 มีคา่ ตรงกับข้อใด ข. 0.008 ก. 0.08 ง. 0.00008 ค. 0.0008 4. 3,460 106 มคี ่าเท่ากับข้อใด ข. 3.46 106 ก. 3.46 109 ง. 3.46106 ค. 3.46 103 5. สมชายฝากเงินไว้ธนาคาร 210 6 บาท สมหญิงฝากเงนิ ไว้ธนาคาร 1 ของจานวนเงนิ ทสี่ มชายฝากไว้ 4 ธนาคาร อยากทราบวา่ สมหญิงฝากเงินไวธ้ นาคารเป็นจานวนเงินเทา่ ใด ก. 510 2 บาท ข. 510 3 บาท ค. 510 4 บาท ง. 510 5 บาท 6. 35 มคี วามหมายตรงกบั ข้อใด ข. 3 บวกกนั 5 ตวั ง. 3 คณู กัน 5 ตัว ก. 3 คณู 5 ค. 3 คูณกัน 5 คร้ัง

650947 6 7. ข้อใดกล่าวถกู ต้อง ก.  32 มี  3เป็นฐาน มี 2 เปน็ เลขชก้ี าลัง 1 5 ข.  2 มี 1 เป็นฐาน มี 5 เป็นเลขชี้กาลัง ค. (7)8 มี 7 เป็นฐาน มี 8 เปน็ เลขช้ีกาลงั ง. (0.2)6 มี 2 เป็นฐาน มี 6 เป็นเลขชี้กาลงั 8. -(9×9×9×9×9×9) เขียนใหอ้ ยใู่ นรูปเลขยกกาลังตรงกับข้อใด ก. 69 ข. (6)9 ค. 96 ง. (9)6 9.  2 4 มีคา่ ตรงกับขอ้ ใด  3  8 16 ก. 12 ข. 3 ค. 16 ง. 16 12 81 10.ข้อใดกลา่ วผดิ ข. (0.3)3  0.27 ก. 64 1,296 3 ค. (2)6 64 ง.  1  1 2 8 11. 625 เขียนใหอ้ ย่ใู นรูปเลขยกกาลงั ที่มฐี านเป็นจานวนเฉพาะตรงกับข้อใด ก. 54 ข. 54 ค. (25)2 ง. 252 12. 0.343 เขยี นให้อยใู่ นรปู เลขยกกาลังตรงกับขอ้ ใด ก. (0.7)3 ข. (0.7)4 ค. (0.7)5 ง. (0.7)6

569085 604 605 13. ถา้ x แทนจานวนเต็มบวก และ 4x=64 แลว้ x แทนจานวนใด ก. 1 ข. 2 ค.3 ง. 4 14. ค่าของ (8)4  85 มคี ่าตรงกับขอ้ ใด ข. 89 ก. (8)9 ง. ไม่สามารถหาคาตอบได้ ค. 820 15. คา่ ของ 9 34  27 มีค่าตรงกับข้อใด ข. 310 ก. 39 ง. 312 ค. 311 16. ผลลพั ธ์ของ 37  65 มคี ่าตรงกับข้อใด 81 62 ก. 32  62 ข. 33  63 ค. 311  66 ง. 312  66 17. ผลลัพธ์ของ 72  343 มคี ่าตรงกบั ข้อใด (7)4 ก. 7 ข. 7 ค. (7)9 ง. 79 ข. 1 18. ถา้ 10x  1 แลว้ x คอื จานวนใด ง. 100 ก. 0 ค. 10

650969 606 19. ผลลัพธข์ อง 40 มคี า่ ตรงกับข้อใด (5)0 58 ก. 0 ข. 48 ง. 58 ค. 58 20. ดาว A อยหู่ ่างจากโลกประมาณ 51020 กิโลเมตร ดาว B อยหู่ า่ งจากโลกเปน็ 6104 เทา่ ของ ระยะทางจากโลกถึงดาว A อยากทราบว่าดาว B อยู่ห่างจากโลกเปน็ ระยะทางตรงกับข้อใด ก. 3 1025 กิโลเมตร ข. 301025 กโิ ลเมตร ค. 31026 กิโลเมตร ง. 301026 กิโลเมตร

660007 607 เฉลยแบบทดสอบหลงั เรยี น หน่วยการเรียนรู้ท่ี 3 เร่อื ง เลขยกกาลัง รายวชิ าคณิตศาสตร์ 1 รหัสวิชา ค21101 ภาคเรียนท่ี 1 ชัน้ มัธยมศกึ ษาปีที่ 1 1. ง 11. ข 2. ก 12. ก 3. ง 13. ค 4. ค 14. ข 5. ง 15. ก 6. ง 16. ข 7. ค 17. ข 8. ค 18. ก 9. ง 19. ค 10. ข 20. ก

660081 608 แบบบนั ทกึ คะแนนการตรวจใบงานตามแผนการจดั การเรียนรู้ หน่วยการเรียนรทู้ ี่ 3 แผนการจัดการเรยี นร้ทู ่ี 10 เรื่อง การนาสมบตั ิของเลขยกกาลังไปประยุกต์ใช้ รายวชิ าคณิตศาสตร์ 1 รหสั วิชา ค21101 ภาคเรยี นท่ี 1 ชน้ั มัธยมศึกษาปที ่ี 1 เลขท่ี ชื่อ-ช่อื สกุล แบบทดสอบห ัลงเรียน ( 20) คะแนน) ร้อยละ ระดับ ุคณภาพ

660029 609 แบบบันทกึ การสงั เกตพฤติกรรมการเรยี นรขู้ องนักเรียน ด้านทกั ษะและกระบวนการทางคณิตศาสตร์ หน่วยการเรยี นร้ทู ่ี 3 แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 10 เรอื่ ง การนาสมบตั ขิ องเลขยกกาลงั ไปประยุกต์ใช้ รายวิชาคณิตศาสตร์ 1 รหสั วิชา ค21101 ภาคเรียนท่ี 1 ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปีท่ี 1 รายการประเมนิ การ การให้ การ ที่ ชื่อ – สกลุ แกป้ ญั หา เหตผุ ล เชอื่ มโยง รวม เฉ ่ีลย ระดับ 321321321

603 เกณฑAการใหค7 ะแนน รายการประเมิน ระดบั คณุ ภาพ รายละเอียดในการพจิ ารณา 1. การแก7ปญ` หา 3 ความสามารถในการใชว= ธิ ีดำเนนิ การแก=ปญZ หา และการอธิบายถึงเหตุผลใน (ด)ี กในารกใำชร=วใธิชกี้วธิารกี ดำังรกดลังกา? วลไำ่ ดว=เไขดา= เ้ ใขจ้ำใแจลแะลชะดั ชเจดั นเจน 2. การให7เหตุผล ความสามารถในการใช=วิธดี ำเนนิ การแกป= Zญหา และการอธบิ ายถึงเหตผุ ลใน 2 กในารกใำชรว=ใิธชดีว้ ธิังกี ลำรา? ดวไงั ดกเ=ลพ่ำยี วงไบด้เาพงสยี ?วงบนำงส่วน 3. การเชื่อมโยง (พอใช=) ไม?มรี ?องรอยการแกป= Zญหา หรอื ทำได=ไมเ? ปนi ไปตามเกณฑ7ข=างต=น 1 มกี ารอ=างอิง เสนอแนวคิดประกอบการตัดสินใจอยา? งถูกตอ= งและสมเหตสุ มผล (ควรปรับปรุง) สมเหตสุ มผล มกี ารอา= งองิ ทีถ่ ูกตอ= งบางส?วน และเสนอแนวคิดประกอบการตดั สนิ ใจ 3 (ดี) ไม?มกี ารอา= งองิ หรือแนวคดิ ประกอบการตัดสินใจ 2 มกี ารเช่ือมโยงความร=ูทางคณิตศาสตร7 เนื้อหา หลักการ และวิธีการทาง (พอใช=) ทคณำงติคศณาิตสศตำรส7 เตพรื่อ์ เชพ?ว่ือยชในว่ ยกใานรกแำกร=ปแZญกห้ปาญั หรำือหปรรอื ะปยรุกะตยใ7 กุชตไ= ดใ์ ช=อไ้ยด?า้องเยห่ำมงเาหะมสำมะสม มีการเชอ่ื มโยงความรูท= างคณติ ศาสตร7 เน้อื หา หลักการ และวิธีการทาง 1 คทณำงติ คศณาติสศตำรส7 เตพรอ่ื ์ ชเพว? ื่อยชใน่วกยาในรแกกำรป= แZญกหป้ าัญไดหบ= ำไาดงสบ้ ?วำนงสว่ น (ควรปรับปรุง) ไม?มกี ารเชื่อมโยงความร=ูคณิตศาสตร7 3 (ด)ี 2 (พอใช=) 1 (ควรปรับปรงุ )

661014 611 หนว่ ยการเรียนรู้ที่ 4 กลุ่มสาระการเรยี นรู้คณิตศาสตร์ ช่ือหน่วยการเรียนรู้ การสรา้ งทางเรขาคณิต เวลา 10 ช่วั โมง รหัสวชิ า ค21101 รายวิชา คณติ ศาสตร์ 1 ชนั้ มธั ยมศึกษาปีที่ 1 ภาคเรียนท่ี 1 ปีการศกึ ษา 2562 1. มาตรฐานการเรยี นรู้/ตวั ชี้วัด มาตรฐานการเรยี นรู้ ค 2.2 เขา้ ใจและวเิ คราะหร์ ูปเรขาคณติ สมบัติของรูปเรขาคณิต ความสัมพนั ธร์ ะหวา่ งรูป เรขาคณติ และทฤษฎบี ททางเรขาคณติ และนาไปใช้ ตัวช้ีวัด ม.1/1 ใชค้ วามรูท้ างเรขาคณิตและเคร่อื งมือ เชน่ วงเวียนและสันตรง รวมท้งั โปรแกรม The Geometer’s Sketchpad หรอื โปรแกรมเรขาคณิตพลวัตอนื่ ๆ เพือ่ สรา้ งรูปเรขาคณิต ตลอดจนนาความรู้ เกยี่ วกับการสรา้ งนี้ไปประยุกตใ์ ชใ้ นการแกป้ ญั หาในชวี ิตจรงิ 2. สาระสาคัญ/ความคิดรวบยอด ใชค้ วามรู้ทางเรขาคณติ และเครื่องมือ เช่น วงเวียนและสนั ตรง รวมทงั้ โปรแกรม The Geometer’s Sketchpad หรอื โปรแกรมเรขาคณิตพลวตั อื่น ๆ เพื่อสรา้ งรูปเรขาคณติ ตลอดจนนาความรู้ เก่ียวกับการสร้างน้ีไปประยกุ ต์ใช้ในการแก้ปัญหาในชวี ิตจริง 3. สาระการเรียนรู้ ดา้ นความรู้ 1. จดุ เสน้ ตรง สว่ นของเส้นตรง รังสแี ละมุม 2. การสรา้ งส่วนของเส้นตรงให้ยาวเท่ากับสว่ นของเส้นตรงทกี่ าหนดให้ 3. การแบ่งครงึ่ ส่วนของเสน้ ตรง 4. การสร้างมมุ ใหม้ ีขนาดเทา่ กบั มุมท่ีกาหนดให้ 5. การแบง่ คร่ึงมมุ 6. การสร้างเส้นตั้งฉากที่จดุ จดุ หนงึ่ บนเสน้ ตรงท่ีกาหนดให้ 7. การสร้างเสน้ ต้งั ฉากจากจุดภายนอกมายงั เส้นตรงทก่ี าหนดให้ 8. การสร้างมมุ ขนาดต่างๆๆ 9. การสรา้ งเส้นขนาน 10. การนาการสรา้ งทางเรขาคณิตไปใช้ในชีวติ จริง

612 605 612 ด้านทักษะและกระบวนการ 1. การแก้ปญั หา 2. การใหเ้ หตผุ ล 3. การเชื่อมโยง ดา้ นเจตคติ 1. เจตคตทิ ่ดี ตี ่อวิชาคณิตศาสตร์ 2. ตระหนักในคุณค่าของคณิตศาสตร์ 3. มีความรบั ผดิ ชอบ 4. สมรรถนะสาคัญของผเู้ รียน 1. ความสามารถในการส่อื สาร 2. ความสามารถในการคดิ 3. ความสามารถในการแก้ปญั หา 4. ความสามารถในการใช้ทักษะชวี ติ 5. ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี 5. คณุ ลักษณะอันพึงประสงค์ 1. มวี ินยั 2. ใฝเ่ รยี นรู้ 3. มงุ่ มั่นในการทางาน 6. การประเมินผลรวบยอด ชิ้นงานหรอื ภาระงาน สร้างใบงานเพ่อื ให้นักเรียนได้นาเสนอความรูจ้ านวนเต็มกับชีวิตประจาวนั เพ่ือการแกป้ ัญหาและแสดงให้ เห็นการคิดอยา่ งเปน็ ระบบ โดยแบง่ นักเรยี นเปน็ กลมุ่ ๆละ 3-4 คน โดยคละความสามารถ ใบกจิ กรรมที่ 1 เรื่อง จุด เสน้ ตรง สว่ นของเส้นตรง และรงั สมี มุ ใบกจิ กรรมท่ี 2 เรือ่ ง การสร้างส่วนของเสน้ ตรงใหย้ าวเทา่ กบั ส่วนของเส้นตรงทีก่ าหนดให้ ใบกจิ กรรมท่ี 3 เรือ่ ง การแบ่งครึ่งส่วนของเสน้ ตรง ใบกจิ กรรมท่ี 4 เรอ่ื ง การสรา้ งมมุ ให้มีขนาดเท่ากบั มุมทก่ี าหนดให้ ใบกิจกรรมท่ี 5 เรื่อง การแบ่งคร่งึ มุม 1. ใบกจิ กรรมท่ี 6 เรอื่ ง การสรา้ งเส้นต้ังฉากทจี่ ดุ จุดหน่ึงบนเสน้ ตรงทีก่ าหนดให้ ใบกิจกรรมท่ี 7 เร่ือง การสร้างเสน้ ตงั้ ฉากจากจดุ จดุ หนึง่ มายงั ส่วนของเส้นตรง ใบกิจกรรมท่ี 8.1 เรอ่ื ง กกำารรสสรรำ้ ้างงมมมุ ุมขขนนำาดด9900৹แลแะละ4455৹ ใใใใใใบบบบบบกกกกกกจิจิิจจจจิิิ กกกกกกรรรรรรรรรรรรมมมมมมทททททที่่ี่ีี่่ี่ี 891189.0.022เเรรเเเอื่ร่ือเรรรอ่ืงงอ่ือื่่ืองงกงกงกำากกกรำราำาสรสรรรสรสรสสำ้รา้รรงรำ้ง้าำ้เง้าเสงงสทงทมน้ มน้ำมุาขุมงขงขนเขนเรนรำนขาขนำนาำดาดคคณ6ณ60ติ0ิตก৹กบัับลลววดดลลำายยขขอองงหหนนำ้ า้ ปปดั ดั นนำาฬฬกิ ิกำา 2. 3. 4.

611 606 613 เเกกปปณณรรปปฑะะรฑรเเก์ะดะด%กาเ็นเม็นารมกนิรปกนิ าปราระรรเะมเนิมชนิ ิ้นชงิน้ างนาห44นรห((ือดดรภมีมีอื าาภารกกาะ))รงะานงาน 33((ดด)ี ี) รระะดดบัับคคณุุณภภาาพพ22((พพออใใชช)้ )C 11((ปปรรบับั ปปรรงุ ุง)) 11.ช.ชิ้นน้ิ งงาานนหหรรอื อื ภภาารระะ ชนิ้นงงาานนหหรรือือภภาารระะ ชน้ิ งาานนหหรรืออื ภภาารระะ ชช้นิ ิน้ งงาานนหหรรอื ือภภาารระะงาน ชิน้ งานหรือภาระ งงาานน งงาานนมมคี ีคววาามมถถูกูกตต้ออ9 งง งงาานนมมีคคี ววาามมถถูกกู ตตอ้ อ9 งง มงีคาวนามมคี ถวูกาตม้อถงูกตรตงอ9 ง งงาานนมมีคีคววาามมถถกูกู ตตอ้ 9องง ตคสขตคขนึ้รณุา้นึรุณมงไงไภตปภาตปาาราาพมถพมเรนเนร้อนาอ9อ้ืยทื้อยหลักหลาะษาะมะ8ม8ี 0ี0 7มสตม7ต0รคีา0รีคมงุ-ง-ณุณต77าตภา99รภามาถมาเพนพเนนราร้อื ้อทือ้ อ9หยหักยาลษาละะะ รตตคอ้ารณุมยงลเภตนะาาอ้ื พม6หเร0าน9อ-6อ้ืมย9หคีลณุาะภมาี พ ตรครสคต9อรุณอุ้ณรายงมยงภภตตลลาาาาาระะพพมมถ55เตเนตนน99ั้ง้ังาือ้แือ้แทหตหลตลกั า่ งางKษมมมะมาาีี 2. 2.ทักษะและ 6ส0า-ม6า9รถนาทกั ษะ กระบวนการทาง กระบวนการทาง กระบวนการทาง กระบวนการทาง กระบวนการทาง 2. ค2ณ.ทิตักศษาสะตแรล์ะ คสณามติ าศราถสนตำรทไ์ ปักใษชะ้ได้ คสณามิตาศราถสนตำรท์ไปักใษชะ้ได้ สคาณมติ าศราถสนตำรท์ไปักใษชะ้ได้ สคาณมติ าศราถสนตำรท์ไปกั ษใชะ้ได้ กระบวนการทาง เกหรมะาบะวสนมกถาูกรต้อง เกหรมะาบะวสนมกถารูกต้อง กเหรมะาบะวสนมกาถรูกตอ้ ง กเหรมะาบะวสนมกาถรกู ต้องได้ คณติ ศาสตรS ชทดั าเงจคนณไดิต้ ศคา่ สเฉตลรยี่S ไทดาค้ งา่ คเฉณลติ ีย่ ศา2ส.0ต1รS– ทไดา้คง่าคเณฉลิต่ียศา1ส.5ต1รS – ทคา่ งเฉคลณย่ี ิต1ศ.า0ส0ต- ร1S .50 2ไป.5ใ1ช-9ไ3ด.09เห0มาะสม 2ไป.5ใ0ช9ได9เหมาะสม ไ2ป.0ใ0ชไ9 ดเ9 หมาะสม ไปใชไ9 ด9เหมาะสม 3.คณุ ลักษณะอันพงึ มถีคูกณุ ต9อลกังษชณดั ะเจอนั ไพดึง9 ถมกู คี ตุณ9อลงักไษดณ9คะKาอเฉนั ลพย่ี งึ ถมกูคี ุณตอ9 ลงกั ษไดณ9คะาK อเันฉลพ่ยีงึ ถมกูีคตณุ อ9 ลงักไษดณ9คาKะเอฉันลพย่ี ึง ประสงค์ ปคราK ะเฉสลงค่ียอ์ 2ย.ใู่5น1ร-ะ3ด.0บั 0 ป2.ร0ะ1สง–คอ์2ย.5ใู่ 0นระดับ 1ป.ร5ะ1สง–ค2อ์ .ย0ูใ่ 0นระดบั 1ป.ร0ะ0ส-ง1ค.์อ5ย0่ใู นระดบั 3.คุณลกั ษณะอัน คม่าคี เุณฉลลย่ี ักษ2.ณ51ะ-อ3นั .0พ0ึง คมา่ คีเฉณุ ล่ยีลกั 2ษ.0ณ1ะ–อนั มไดีค้คณุ า่ เลฉกั ลษย่ี ณ1ะ.5อ1ันพ–ึง มไดคี ้คณุ ่าลเฉกั ลษี่ยณ1ะ.0อ0นั -พึง พึงประสงคS ประสงคอS ยูKในระดบั 2พ.ึง5ป0ระสงคSอยใูK น ป2.ร0ะ0สงคอS ยใKู นระดบั ป1ร.5ะ0สงคSอยูKในระดับ เกณฑก์ ารตดั สิน คKาเฉล่ีย 2.51-3.00 ระดบั คKาเฉล่ยี ได9คาK เฉล่ยี ได9คKาเฉลีย่ คะแนน หม2า.ย0ถ1ึง –ด2ีม.า5ก0 1.51 – 2.00 1.00- 1.50 12 - 10 เกณฑ%กคคาะระแตแนนัดนนสนิ 9-7 หมายถงึ ดี 6-4 หมายถงึ พอใช้ คคะแะนแนนน 312– -110 หมหามยาถยงึ ถึงปรดับีมปารกงุ เกณฑ์การคผะ่าแนนน ตั้งแ9ต่ร-ะ7ดับ พอใช้ หมายถงึ ดี คะแนน 6 - 4 หมายถึง พอใช9 คะแนน 3 – 1 หมายถงึ ปรับปรงุ เกณฑก% ารผาH น ตงั้ แตรH ะดับ พอใชC

614 หนว่ ยการเรียนรู้ที่ 4 การสร้างทางเรขาคณิต แผนการจดั การเรยี นรู้ท่ี 1 เวลา 1 ชั่วโมง กลมุ่ สาระการเรยี นรู้คณิตศาสตร์ เรอื่ ง จุด เส้นตรง สว่ นของเสน้ ตรง รงั สแี ละมมุ ชัน้ มธั ยมศึกษาปที ่ี 1 รายวิชาคณิตศาสตร์ 1 ขอบเขตเนน้อื อ้ื หหาา กจิ กรรมการเรียนรู้ แสหอื่ ล่งเรยี นรู้ จุดจเุดส้นเสตน้รงตรสงว่ สน่วขนอขงอเสงน้เสต้นรตงรรงังสรังแี สลีแะลมะุมมุม ขนั้ นา ห1น.งั สหืออ้ เงรคยี ณนติรำศยาวสชิตำรพโ์ รื้นงเฐรำียนนคณิตศำสตร์ 1. ครแู จง้ จดุ ประสงค์การเรียนรูใ้ หน้ กั เรียนทราบ จากนัน้ ให้ ม2.1. เหล้อม่ ง1สมสดุ สโรวงทเ.รยี น จจุดดุ ปปรระะสสงงคค์กก์ าารรเเรรียียนนรรู้ ู้ นกั เรียนทาแบบทดสอบกอ่ นเรยี น เรื่อง การสร้างทางเรขาคณิต ม1รดดฐแดพดะำ.มุ้้าาลา้้ืนา้ นบกนนน1รไะ2นฐดะุรำม.คทค.ทาไปู้รบมุกวดกวักนักแุาไราาแ้าษษสดกรูรมปมกไะ้ญัะแป้ดใร่รหแแก้จู้แญัลสู้ลเ้ล้ปุดกัักหญหะะัญ่ษตกเำกลจสหผุณรัุรกดน้ะลาะ์ษบตลบเสณวรกั ว้นงนษ์ นลกตสณกัารกว่ าะรงนษรขขสณออว่ งะงนรขเูปขสอเอ้นรงงตขรเรูปำสงค้นเรณรตขงั ริตสางพคแี น้ืรลณังะิตสี จานวน 20 ขอ้ ใชเ้ วลาประมาณ 20 นาที สม1แ2อื่...ห11หห.ลเอ้้อล่งหกงงม่นสคาัง1มณรสเดุอืสิตรโเสยีศรรวนำงยี ทเสนรร.ตู้รียรานโ์ยรวงิชเรายีคนณิตศาสตร์พ้ืนฐาน 2. ก3ำ. รกเาชรอ่ื เชม่ือโยมงโยง 2. ครูใชค้ าถามกระตุน้ ความคิด นกั เรียนรจู้ กั รูปเรขาคณติ หรอื ไม่ ภภาา1รร.ะะใงงบาากนนจิ//ชกชร้นิ ิ้นรงมงาาทนนี่ 1 เร่อื ง จุด เส้นตรง พร้อมให้ ยกตัวอยา่ ง รูปเรขาคณติ ท่นี กั เรียนรู้จกั อะไรบ้าง ส1่ว.นใบขอกงจิ เกสร้นรตมรทง่ี แ1ลเะรรื่อังงสีมจุมด เสน้ ตรง สว่ น (รูปสามเหลยี่ ม รปู สเ่ี หล่ียม วงกลม) ขอ2ง. เแสบ้นบตทรงดสแอลบะกรงัอ่ สนมี เรุมยี น เรื่อง การสรา้ ง ข้ันสอน ท2า. งแเบรขบาทคดณสิตอบก่อนเรยี น เร่ือง กำรสร้ำง 3. ครูแบ่งนักเรียนเปน็ กลุ่ม กลมุ่ ละ 4-5 คน คละตาม ทำงเรขำคณิต ความสามารถ แลว้ ร่วมกันศกึ ษาความรเู้ รื่อง จดุ เสน้ ตรง สว่ นของเส้นตรง รังสีและมุม จากหนงั สือเรียนรายวิชาพ้ืนฐาน 3ด.้ากนำครุณใหลเ้กั หษตณผุ ะล คณิตศาสตรพ์ ้นื ฐาน ม.1 เลม่ 1 ดงั นี้ ดา้ น1ค. มณุ ีวลินกัยษณะอนั พึงประสงค์ - สมาชกิ คนที่ 1 ศึกษาเร่อื ง จดุ 1. ม2ีว. ินใฝยั เ่ รียนรู้ - สมาชิกคนที่ 2 ศกึ ษาเร่อื ง เสน้ ตรง 2. ใ3ฝ.เ่ มรียคนวารมู้ มงุ่ ม่นั ในการทางาน - สมาชิกคนที่ 3 ศึกษาเร่อื ง สว่ นของเส้นตรง - สมาชกิ คนที่ 4 ศกึ ษาเรือ่ ง รงั สี 3. มีควำมมุง่ มนั่ ในกำรท�ำงำน - สมาชกิ คนท่ี 5 ศกึ ษาเร่อื ง มมุ 4. สมาชิกแต่ละคนในกลุ่มผลัดกันอธบิ ายลกั ษณะ และสมบัติของ จุด เสน้ ตรง สว่ นของเสน้ ตรง รงั สีและมุม ตามทีต่ นเองได้ศกึ ษา จนเกิดความเขา้ ใจตรงกัน 661047 614

หนว่ ยการเรยี นรทู้ ่ี 4 การสรา้ งทางเรขาคณติ แผนการจดั การเรยี นรู้ที่ 1 615 กลุ่มสาระการเรียนรู้คณติ ศาสตร์ เรือ่ ง จุด เส้นตรง ส่วนของเส้นตรง รงั สีและมมุ เวลา 1 ชว่ั โมง รายวิชาคณติ ศาสตร์ 1 ชั้นมธั ยมศกึ ษาปที ี่ 1 5. ครสู มุ่ ตัวแทนแตล่ ะกลุ่มอธิบายเก่ยี วกับลักษณะและสมบัตขิ อง จุด เส้นตรง ส่วนของเส้นตรง และรงั สีและมมุ หน้าช้นั เรียน โดยมี ครตู รวจสอบความถูกต้องและอธิบายเพิ่มเติมใหส้ มบรู ณ์ 6. นกั เรยี นทกุ คนทาใบกิจกรรมท่ี 1 เรอ่ื ง จุด เสน้ ตรง สว่ นของ เสน้ ตรง รังสี และมมุ ตามเวลาที่กาหนด ขั้นสรุป 7. ครูและนักเรยี นรว่ มกนั สรปุ ความรู้เกี่ยวกบั ลักษณะและสมบัติ ของจดุ เสน้ ตรง สว่ น ของเสน้ ตรง รงั สีและมุม 615 608 615

616 661069 การวดั และประเมนิ ผล วิธีการ เครื่องมอื ทใี่ ช้ เกณฑ์ ส่งิ ทตี่ ้องการวัด/ประเมิน ตรวจใบกิจกรรม แบบบันทึก ผา่ นเกณฑ์ร้อยละ 70 ขึน้ ไป ด้านความรู้ สงั เกตพฤติกรรม คะแนน --รอ้ ยละ 80 ข้ึนไปไดร้ ะดับคณุ ภาพ 4 ระบรุ ปู สัญลักษณ์ ลักษณะของ ใบกิจกรรมที่ 1 --รอ้ ยละ7700--79 ขไดน้ึ ้รไปะดไดบั ร้ คะดุณบั ภคาณุ พภ3ำพ 3 สงั เกตพฤตกิ รรม เร่ืองจดุ เสน้ ตรง --ร้อยละ6600--69 ขไดน้ึ ร้ไปะดไดับร้ คะดณุ บั ภคาณุ พภ2ำพ 2 รูปเรขาคณติ พื้นฐาน ไดแ้ ก่ จดุ ส่วนของเสน้ ตรง --ร้อยละ5500--5599ไไดดร้ ้ระะดดับบั คคุณณุ ภภาำพพ11 เส้นตรง ส่วนของเส้นตรง รงั สีและ รงั สี และมุม มุมได้ แบบสังเกต ผา่ นเกณฑใ์ นระดับพอใช้ข้ึนไป ดา้ นทกั ษะและกระบวนการ พฤติกรรมดา้ น - คา่ เฉลี่ย 2.50 ขึน้ ไปได้ระดับ ดี 1. การแกป้ ญั หา ทักษะและ - คา่ เฉลี่ย 1.50 – 2.49 ไดร้ ะดับ 2. การใหเ้ หตผุ ล กระบวนการทาง พอใช้ 3. การเชอ่ื มโยง คณติ ศาสตร์ - คา่ เฉลยี่ ต่ากวา่ 1.50 ไดร้ ะดบั ปรบั ปรุง ด้านคุณลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ 1. มวี ินัย แบบสงั เกต ได้ระดับคณุ ภาพ 2 2. ใฝ่เรียนรู้ พฤติกรรมดา้ น ทุกรายการขึ้นไปถอื ว่าผ่านเกณฑ์ 3. มคี วามมุ่งมนั่ ในการทางาน คดณุำ้ นลคักุณษณลกั ะษอณัน ะ พอันึงปพรึงะปสรงะคส์ งค์

617 661107 บันทกึ ผลหลงั สอน ผลการเรียนรู้ .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. ปญั หาและอปุ สรรค .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. ขอ้ เสนอแนะและแนวทางแกไ้ ข .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. ลงชื่อ ......................................ผู้สอน (...................................) วันท่ี..........เดือน..........พ.ศ............. ความคดิ เหน็ /ขอ้ เสนอแนะของผบู้ รหิ ารหรือผู้ทไี่ ดร้ บั มอบหมาย .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. ลงช่ือ ......................................ผสู้ อน (...................................) วนั ที.่ .........เดือน..........พ.ศ.............

618 661181 ใบกจิ กรรมท่ี 1 เรอ่ื ง จุด เสน้ ตรง สว่ นของเส้นตรง รงั สแี ละมมุ หน่วยท่ี 4 แผนการจดั การเรยี นรู้ที่ 1 จดุ เสน้ ตรง สว่ นของเส้นตรง รงั สแี ละมุม รายวิชาคณติ ศาสตร์ 1 รหัสวิชา ค21101 ภาคเรียนท่ี 1 ช้นั มธั ยมศึกษาปีท่ี 1 ช่ือ..............................................................นามสกลุ ...................................... ช้นั ................ เลขท่.ี .................. จดุ ประสงค์การเรียนรู้ : รระะบบุ รุ ปู สญั ลักษณ์ ลักษณะของรูปเรขาคณิตพ้ืนฐาน ได้แก่ จดุ เสน้ ตรง ส่วนของ เสน้ ตรง รงั สี และมมุ ได้ คาชี้แจง: ให้พจิ ารณา รปู สัญลักษณ์ ลักษณะ ขอ้ ความ ทอ่ี ยูใ่ นชอ่ งรายการให้สอดคล้องกับรปู สัญลักษณ์ ลักษณะ ของรูปเรขาคณิตพนื้ ฐานท่ีกาหนดให้แล้วนามาเขยี นคาตอบลงในช่องรายละเอยี ดให้ถูกต้อง รปู เรขาคณติ รปู สัญลกั ษณ์ พ้นื ฐาน ลกั ษณะ รายละเอยี ด รายการ รูป ⃡AB มคี วามยาวไมจ่ ากัด คือสว่ นหนึ่งของเสน้ ตรง จุด สญั ลกั ษณ์ ซง่ึ มีจดุ ปลายเพยี งจุดเดยี ว เสน้ ตรง ลักษณะ บางคร้ังใชอ้ กั ษรตัวพิมพเ์ ลก็ รปู ในภาษาองั กฤษแทนความยาว สัญลกั ษณ์ B̅̅̅A̅ ลักษณะ ส่วนของ รูป AB เมื่อมี A เป็นจุดปลาย เส้นตรง ขนาด เขยี นแทนดว้ ย สญั ลกั ษณ์ ลกั ษณะ m(BÂC) หรือ m BAC มีเพยี งเสน้ เดยี วเทา่ นน้ั ที่ลากผ่าน จุดสองจุดทีก่ าหนดให้ BÂC หรอื  BAC BA เมอื่ มี B เป็นจดุ ปลาย

รปู เรขาคณติ รูป สัญลกั ษณ์ รายละเอยี ด 619 661129 พืน้ ฐาน ลักษณะ รายการ รูป ความยาว เขยี นแทนด้วย รังสี สญั ลักษณ์ m(̅A̅̅B̅) หรือ AB คือรงั สีสองเส้น ลักษณะ ทมี่ ีจุดปลายเปน็ จุดเดียวกัน รปู มมุ สญั ลักษณ์ ̅A̅̅B̅ ลกั ษณะ คือส่วนหนง่ึ ของเส้นตรง ท่มี ีจุดปลายสองจดุ ขนาดมีหนว่ ยเป็นองศา B⃡ A ใชเ้ พอ่ื แสดงตาแหน่งเท่านัน้ สรุป จดุ คือ............................................................................................................................................. เส้นตรง คือ............................................................................................................................................. สว่ นของเสน้ ตรง คือ........................................................................................................................................ รงั สี คอื ............................................................................................................................................. มมุ คอื .............................................................................................................................................

620 662103 เฉลยใบกิจกรรมท่ี 1 เร่ือง จดุ เส้นตรง ส่วนของเสน้ ตรง รังสีและมุม หนว่ ยท่ี 4 แผนการจัดการเรยี นรู้ที่ 1 จุด เสน้ ตรง สว่ นของเส้นตรง รังสีและมมุ รายวิชาคณติ ศาสตร์ 1 รหสั วิชา ค21101 ภาคเรยี นที่ 1 ชั้นมัธยมศกึ ษาปที ่ี 1 ชอื่ ..............................................................นามสกลุ ...................................... ชั้น................ เลขท.ี่ .................. จุดประสงค์การเรียนรู้ : ระบุรูป สัญลักษณ์ ลักษณะของรปู เรขาคณติ พื้นฐาน ได้แก่ จดุ เสน้ ตรง ส่วนของ เส้นตรง รงั สี และมมุ ได้ คาชี้แจง: ให้พิจารณา รูป สญั ลักษณ์ ลกั ษณะ ขอ้ ความ ทีอ่ ยู่ในชอ่ งรายการให้สอดคลอ้ งกับรูป สัญลกั ษณ์ ลกั ษณะ ของรปู เรขาคณติ พ้นื ฐานทีก่ าหนดใหแ้ ล้วนามาเขียนคาตอบลงในช่องรายละเอยี ดใหถ้ ูกต้อง รูปเรขาคณิต รูป สญั ลักษณ์ พืน้ ฐาน ลักษณะ รายละเอยี ด รายการ รูป A⃡ B มคี วามยาวไมจ่ ากัด จุด สญั ลักษณ์ คือส่วนหนง่ึ ของเสน้ ตรง ซ่ึงมจี ดุ ปลายเพียงจุดเดยี ว ลกั ษณะ ใชเ้ พ่อื แสดงตาแหน่ง รูป บางครั้งใชอ้ กั ษรตัวพิมพ์เล็ก ในภาษาองั กฤษแทนความยาว เส้นตรง สัญลักษณ์ ⃡AB ̅B̅̅A̅ ลักษณะ มีความยาวไมจ่ ากดั สว่ นของ รูป ̅A̅̅B̅ AB เมื่อมี A เปน็ จุดปลาย เส้นตรง สัญลักษณ์ ขนาด เขยี นแทนด้วย ลกั ษณะ คอื สว่ นหนึง่ ของเสน้ ตรง mBÂC หรอื m BAC ท่ีมจี ดุ ปลายสองจุด มีเพยี งเส้นเดยี วเทา่ นน้ั ที่ลากผา่ น จดุ สองจดุ ทก่ี าหนดให้ BÂC หรือ  BAC BA เมอ่ื มี B เปน็ จุดปลาย

รูปเรขาคณิต รปู สัญลักษณ์ รายละเอยี ด 621 661241 พ้นื ฐาน ลักษณะ รายการ รปู ความยาว เขยี นแทนด้วย รังสี สญั ลักษณ์ AB เมอื่ มี A เป็นจุดปลาย m̅A̅̅B̅ หรอื AB คอื รงั สีสองเส้น ลักษณะ คอื สว่ นหนง่ึ ของเสน้ ตรง ซ่ึงมีจุดปลาย ท่มี ีจุดปลายเปน็ จุดเดียวกนั เพยี งจดุ เดียว A̅̅̅B̅ รูป คือสว่ นหน่ึงของเสน้ ตรง มุม สญั ลกั ษณ์ BÂC หรอื  BAC ท่ีมีจุดปลายสองจุด ลักษณะ ขนาดมหี นว่ ยเปน็ องศา ขนาดมีหน่วยเปน็ องศา ⃡BA ใช้เพื่อแสดงตาแหน่ง สรุป .จดุ คือ จุด ใชเ้ พ่อื แสดงตาแหน่ง สญั ลกั ษณ์ทีใ่ ชค้ ือ และเขยี นตวั อักษรกากับไวเ้ พ่อื ตอ้ งการระบุชื่อจุด เส้นตรง คือ เสน้ ตรงมคี วามยาวไมจ่ ากัด และไม่คานึงถึงความกว้างของเสน้ ตรง ส่วนของเสน้ ตรง คือ ส่วนหนง่ึ ของเสน้ ตรงที่มีจดุ ปลายสองจุด รังสี คือ ส่วนหนึง่ ของเสน้ ตรงท่ีมีจุดปลายเพียงจดุ เดียว มมุ คือ รงั สสี องเสน้ ที่มีจดุ ปลายเป็นจดุ เดียวกัน เรียกรงั สีสองเส้นนี้วา่ แขนของมมุ และเรยี ก จดุ ปลายที่เป็นจุดเดียวกนั นวี้ า่ จุดยอดมุม

662125 622 แบบบันทกึ คะแนนการตรวจใบกจิ กรรมตามแผนการจัดการเรียนรู้ หนว่ ยการเรียนรูท้ ี่ 4 แผนการจัดการเรยี นรู้ท่ี 1 เรอ่ื ง จดุ เสน้ ตรง ส่วนของเส้นตรง รงั สีและมุม รายวิชาคณติ ศาสตร์ 1 รหัสวิชา ค21101 ภาคเรียนที่ 1 ชัน้ มัธยมศกึ ษาปที ี่ 1 ใบ ิกจกรรม ่ีท 1 (10 คะแนน) แบบทดสอบ ่กอนเรียน (20 คะแนน) รวม (30 คะแนน) ร้อยละ ระ ัดบ ุคณภาพ ท่ี ชือ่ -ชือ่ สกุล 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 11 12 13 14 15 16 17 18 19 20 ลงชือ่ ..............................................................ผู้สอน (………………………………………………………)

661263 623 แบบบนั ทกึ การสงั เกตพฤติกรรมการเรียนรขู้ องนักเรียน ดา้ นทักษะและกระบวนการทางคณิตศาสตร์ หน่วยการเรียนร้ทู ี่ 4 แผนการจัดการเรียนรู้ท่ี 1 เร่ือง จุด เสน้ ตรง ส่วนของเส้นตรง รังสีและมุม รายวิชาคณิตศาสตร์ 1 รหสั วชิ า ค21101 ภาคเรียนท่ี 1 ชน้ั มธั ยมศึกษาปีที่ 1 คาชีแ้ จง ทาเคร่ืองหมาย  ลงในชอ่ งที่เป็นจรงิ มากทส่ี ดุ รายการประเมิน ท่ี ชอื่ – สกุล การ การให้ การ รวม แก้ปญั หา เหตุผล เชอื่ มโยง เฉ ่ีลย ระดับ 1 321321321 2 3 4 5 6 7 8 9 10 11 12 13 14 15 16 17 18 19 20 ลงช่ือ ..............................................................ผสู้ อน (………………………………………………………)

617 เกณฑAการใหค7 ะแนน รายการประเมิน ระดบั คณุ ภาพ รายละเอียดในการพจิ ารณา 1. การแก7ปญ` หา 3 ความสามารถในการใชว= ธิ ีดำเนนิ การแก=ปญZ หา และการอธิบายถึงเหตุผลใน (ด)ี กในารกใำชร=วใธิชกี้วธิารกี ดำังรกดลังกา? วลไำ่ ดว=เไขดา= เ้ ใขจ้ำใแจลแะลชะดั ชเจดั นเจน 2. การให7เหตุผล ความสามารถในการใช=วิธดี ำเนนิ การแกป= Zญหา และการอธบิ ายถึงเหตผุ ลใน 2 กในารกใำชรว=ใิธชดีว้ ธิังกี ลำรา? ดวไงั ดกเ=ลพ่ำยี วงไบด้เาพงสยี ?วงบนำงส่วน 3. การเชื่อมโยง (พอใช=) ไม?มรี ?องรอยการแกป= Zญหา หรอื ทำได=ไมเ? ปนi ไปตามเกณฑ7ข=างต=น 1 มกี ารอ=างอิง เสนอแนวคิดประกอบการตัดสินใจอยา? งถูกตอ= งและสมเหตสุ มผล (ควรปรับปรุง) สมเหตสุ มผล มกี ารอา= งองิ ทีถ่ ูกตอ= งบางส?วน และเสนอแนวคิดประกอบการตดั สนิ ใจ 3 (ดี) ไม?มกี ารอา= งองิ หรือแนวคดิ ประกอบการตัดสินใจ 2 มกี ารเช่ือมโยงความร=ูทางคณิตศาสตร7 เนื้อหา หลักการ และวิธีการทาง (พอใช=) ทคณำงติคศณาิตสศตำรส7 เตพรื่อ์ เชพ?ว่ือยชในว่ ยกใานรกแำกร=ปแZญกห้ปาญั หรำือหปรรอื ะปยรุกะตยใ7 กุชตไ= ดใ์ ช=อไ้ยด?า้องเยห่ำมงเาหะมสำมะสม มีการเชอ่ื มโยงความรูท= างคณติ ศาสตร7 เน้อื หา หลักการ และวิธีการทาง 1 คทณำงติ คศณาติสศตำรส7 เตพรอ่ื ์ ชเพว? ื่อยชใน่วกยาในรแกกำรป= แZญกหป้ าัญไดหบ= ำไาดงสบ้ ?วำนงสว่ น (ควรปรับปรุง) ไม?มกี ารเชื่อมโยงความร=ูคณิตศาสตร7 3 (ด)ี 2 (พอใช=) 1 (ควรปรับปรงุ )

661285 625 แบบสังเกตพฤติกรรมการเรยี นรู้ของนกั เรียน ด้านคณุ ลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ หนว่ ยการเรียนรูท้ ่ี 4 แผนการจดั การเรียนรู้ท่ี 1 เรอื่ ง จดุ เสน้ ตรง ส่วนของเส้นตรง รงั สแี ละมุม รายวิชาคณิตศาสตร์ 1 รหัสวิชา ค21101 ภาคเรยี นท่ี 1 ช้นั มธั ยมศึกษาปที ี่ 1 คาชแ้ี จง ทาเครอ่ื งหมาย  ลงในช่องทีเ่ ปน็ จรงิ มากทีส่ ดุ ที่ ช่อื -สกุล มีวนิ ยั ใฝเ่ รียนรู้ มคี วามมุง่ มนั่ รวม สรุปผลการ ในการทางาน ประเมิน 3 2 1 3 2 1 3 2 1 9 ผา่ น ไม่ผา่ น 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 11 12 13 14 15 16 17 18 19 20 หมายเหตุ ไดร้ ะดับคุณภาพ 2 ทุกรายการข้ึนไปถือวา่ ผา่ นเกณฑ์ ลงชื่อ ..............................................................ผ้สู อน (………………………………………………………)

619 เกณฑ%การให*คะแนน รายการประเมิน ระดบั คณุ ภาพ รายละเอียดในการพิจารณา 1. มีวนิ ยั 3 (ดี) สมดุ ชิ้นงาน สะอาดเรียบรอC ยและปฏิบตั ติ นอยูใH นขอC ตกลงที่กำหนดใหC 2. ใฝTเรยี นรCู 2 รHวมกันทกุ ครงั้ 3. มีความมงุH มน่ั (พอใช)C สมดุ ชิ้นงาน สHวนใหญHสะอาดเรยี บรCอยและปฏิบัติตนอยูHในขCอตกลง ในการทำงาน 1 ท่กี ำหนดใหCรHวมกนั เปPนสวH นใหญH สมุด ชิ้นงาน ไมคH อH ยเรียบรCอยและปฏบิ ัติตนอยใHู นขCอตกลงที่กำหนดใหC (ควรปรบั ปรุง) รวH มกันบางคร้งั ตCองอาศยั การแนะนำ 3(ด)ี มีการอCางองิ ที่ถกู ตCองและเสนอแนวคดิ ประกอบการตัดสนิ ใจอยาH ง สมเหตสุ มผล 2 (พอใช)C มีการอCางองิ ท่ถี ูกตCองบางสHวนและเสนอแนวคิดประกอบการตัดสินใจ แตHอาจไมHสมเหตุสมผลในบางกรณี สรปุ ผลไมคH HอยถูกตอC ง 1 (ควรปรับปรงุ ) มีการเสนอแนวคดิ ท่ไี มHสมเหตุสมผลในการตดั สินใจและไมอH Cางอิง สรุปผลไมถH กู ตอC ง 3 สงH งานกอH นหรือตรงตามกำหนดเวลานัดหมาย รับผิดชอบในงาน (ดี) ท่ไี ดCรับมอบหมายและปฏิบัตเิ องจนเปนP นสิ ยั และชกั ชวนใหCผCูอนื่ ปฏบิ ัติ 2 สHงงานชCากวาH กำหนด แตHไดCมกี ารติดตอH ชี้แจงโดยมีเหตุผลรบั ฟZงไดC (พอใชC) รบั ผดิ ชอบในงานทไ่ี ดCรับมอบหมายและปฏิบัติเองจนเปนP นสิ ยั 1 (ควรปรบั ปรุง) สHงงานชาC กวาH กำหนด ปฏิบตั ิงานโดยตCองอาศัยการช้แี นะคำแนะนำ และการตักเตอื น

627 662207 แบบทดสอบก่อนเรียน หนว่ ยท่ี 4 เรือ่ ง การสรา้ งทางเรขาคณติ แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 1 จุด เส้นตรง สว่ นของเสน้ ตรง รงั สแี ละมมุ รายวิชา คณติ ศาสตร์ 1 รหัสวิชา ค21101 ภาคเรยี นท่ี 1 ช้นั มัธยมศกึ ษาปที ่ี 1 คาชี้แจง 1. แบบทดสอบเป็นแบบปรนัย 4 ตวั เลอื ก จานวน 20 ข้อ 20 คะแนน ใช้ทาแบบทดสอบเวลา 20 นาที 2. ให้นักเรยี นเลือกคาตอบท่ีถกู ตอ้ งที่สุดเพียงคาตอบเดยี ว โดยทาเครือ่ งหมายกากบาท (X) ลงใน กระดาษคาตอบใหต้ รงกับข้อที่นักเรียนเลอื ก 1. รปู ตอ่ ไปน้ีมกี ี่รงั สี ก่ีมุม (ไม่นับมมุ กลับ) ก. 2 รังสี 2 มมุ ข. 2 รงั สี 3 มุม ค. 3 รังสี 2 มุม ง. 3 รังสี 3 มุม 2. ข้อใดกลา่ ว ไม่ถูกตอ้ ง ก. เขียนแทนด้วย AB , BA ข. เส้นตรง AB เขียนแทนดว้ ย AB ค.. เขียนแทนดว้ ย ABˆC ง. เขยี นแทนดว้ ย AB 3. จงพจิ ารณาข้อความต่อไปนี้ 1. AB มคี วามยาวจากัด 2. AB มคี วามยาวไมจ่ ากัด 3. AB มคี วามยาวไม่จากดั จากข้อความข้างตน้ ข้อใด ไมถ่ กู ตอ้ ง ก. ข้อ 1, 2 ข. ขอ้ 1, 3 ค. ขอ้ 2, 3 ง. ผิดทงั้ 3 ขอ้ 4. ข้อใดแทนความหมายของรูปท่ีกาหนดใหไ้ ด้ถกู ต้อง ก. m(AB) = 6 เซนตเิ มตร ข. AB = 6 เซนตเิ มตร ค. AB = 6 เซนติเมตร ง. ถกู ทงั้ ก และ ข

626682281 5. จากรปู ดา้ นล่างเปน็ การสร้างสิ่งใด ก. สร้างส่วนของเสน้ ตรงให้เท่ากนั 6. จากรูปดา้ นลา่ งเปน็ การสรา้ งสิ่งใด ข. แบง่ คร่งึ ส่วนของเสน้ ตรง ค. แบง่ คร่งึ มมุ ง. สร้างรงั สี 2 รงั สี ก. เปน็ การสรา้ งเส้นตงั้ ฉากทม่ี จี ุดจุดหน่ึงอยู่บนเสน้ ตรงทก่ี าหนดให้ ข. เปน็ การสร้างเสน้ ตั้งฉากจากจุดภายนอกมายังเส้นที่กาหนดให้ ค. เป็นการสรา้ งเส้นตรงใหข้ นานกับเส้นตรงท่ีกาหนดให้ ง. เป็นการแบง่ ครึง่ ส่วนของเสน้ ตรงท่ีกาหนดให้ 7. จากรูปขอ้ ใดกล่าวถงึ MP ได้ถกู ต้อง ก. MP = 1 MN 8. 4 1 ข. MN = 2 MP ค. 1 MP = PO 2 1 ง. 3 MN = MP จากรปู เปน็ การแบง่ สว่ นของเส้นตรง ขอ้ ใด ไม่ สามารถแบ่งส่วนของเส้นตรงด้วยวิธขี า้ งตน้ ได้ ก. แบ่งสว่ นของเสน้ ตรงออกเปน็ 6 ส่วน เท่า ๆ กนั ข. แบง่ ส่วนของเสน้ ตรงออกเป็น 8 สว่ น เท่า ๆ กัน ค. แบ่งสว่ นของเสน้ ตรงออกเป็น 12 ส่วน เทา่ ๆ กนั ง. แบง่ ส่วนของเสน้ ตรงออกเป็น 32 สว่ น เท่า ๆ กัน 9. เวลา 08.00 น. มุมท่ีเกิดจากเขม็ สน้ั และเข็มยาวของนาฬกิ ามขี นาดกี่องศา ก. 30 ข. 120 ค. 150 ง. 180

629662229 10. จากรปู ดา้ นลา่ ง จงหา 1ˆ + 2ˆ เท่ากบั ข้อใด ก. มากกว่า 90 องศา ข. 90 องศา ค. น้อยกว่า 90 องศา ง. สรปุ ไม่ได้ 11. ในการแบ่ง XYZ ตามรปู ที่กาหนดให้จะต้องกางวงเวยี น โดยใช้จดุ ใดเปน็ จุดศูนยก์ ลางอนั ดบั แรก 12. จากรูปมมุ ABC มขี นาดกอ่ี งศา ก. จดุ A ข. จุด B ค. จุด Y ง. จดุ D ก. 15 ข. 20.5 ค. 22.5 ง. 30 13. จากรูป ABˆC มีขนาดกีอ่ งศา ก. 60 ข. 90 ค. 120 ง. 150 14. จากรปู ในข้อ 13 ABˆO มีขนาดเป็นกเ่ี ทา่ ของ CBˆO ก. 2 เทา่ ข. 3 เท่า ค. 4 เทา่ ง. 5 เทา่ 221 15. ถ้าต้องการสรา้ งมมุ ท่ีมขี นาด 2 องศา ควรสร้างมมุ ใดกอ่ น ก. 50 ข. 60 ค. 90 ง. 120 16. รูปสามเหล่ียมหน้าจั่วที่มขี นาดมุมยอด 120° มมุ ทีฐ่ านจะมขี นาดเท่าใด ก. 15 ข. 30 ค. 60 ง. 90

663203 630 17. เสน้ แบง่ ครึง่ มมุ ทงั้ สามของรปู สามเหล่ียมใด ๆ ตดั กันไดก้ ่ีจดุ ก. 1 จุด ข. 2 จดุ ค. 3 จดุ ง. มากกวา่ 3 จดุ 18. ถ้าแบ่งครึ่งมมุ ภายในรปู สามเหลี่ยมดา้ นเท่ามุมใดมุมหนง่ึ ออกเปน็ สองส่วนเทา่ ๆ กันมมุ ทถี่ ูกแบง่ แตล่ ะมมุ มขี นาดกี่องศา ก. 15 ข. 20 ค. 30 ง. 45 19. กาหนดจดุ A เปน็ จุดภายนอก PQ ถา้ ตอ้ งการลากส่วนของเสน้ ตรงจากจดุ A มาตง้ั ฉากกบั PQ ที่จุด O วิธกี ารสร้างควรจะตอ้ งทาข้นั ตอนใดกอ่ น ก. ลาก AO ข. เขียนสว่ นโค้งให้ตัดกันทีจ่ ุด B ค. ใช้ B และ C เป็นจุดศูนยก์ ลางเขยี นสว่ นโคง้ ตัดกนั ทจ่ี ุด D ง. ใช้ A เป็นจุดศนู ย์กลางเขยี นสว่ นโค้งตดั PQ ทจ่ี ดุ B และ C 20. จากรูป AB และ CD มคี วามสมั พันธก์ ันตามข้อใด ก. AB = CD ข. AB  CD ค. AB  CD ง. AB < CD *****************************************

662341 631 เฉลยแบบทดสอบกอ่ นเรยี น หน่วยท่ี 4 เร่ือง การสรา้ งทางเรขาคณิต แผนการจัดการเรยี นรู้ที่ 1 จดุ เส้นตรง ส่วนของเส้นตรง รังสีและมมุ รายวิชาคณติ ศาสตร์ 1 รหสั วชิ า ค21101 ภาคเรียนที่ 1 ช้ันมธั ยมศกึ ษาปที ่ี 1 1. ง 11. ค 2. ค 12. ค 3. ข 13. ค 4. ง 14. ง 5. ก 15. ค 6. ง 16. ข 7. ก 17. ก 8. ก 18. ค 9. ข 19. ง 10. ก 20. ข **********************************************

หนว่ ยการเรียนรทู้ ี่ 4 การสร้างทางเรขาคณติ แผนการจดั การเรยี นรู้ท่ี 2 เวลา 1 ชวั่ โมง กลมุ่ สาระการเรียนรคู้ ณติ ศาสตร์ เร่อื ง การสร้างส่วนของเส้นตรงใหย้ าวเท่ากบั ส่วนของเส้นตรงที่กาหนดให้ ช้ันมัธยมศึกษาปที ่ี 1 ขอบเขตเนอ้ื หา รายวชิ าคณิตศาสตร์ 1 การสรา้ งส่วนของเสน้ ตรงให้ยาวเทา่ กับ ส่วนของเส้นตรงทกี่ าหนดให้ กิจกรรมการเรียนรู้ สแหือ่ ล่งเรยี นรู้ จดุ ประสงค์การเรียนรู้ ข้ันนา 1. โหป้อรงแคกณรมติ ศTาhสeตรG์โรeงoเรmยี eนter’s ด้านความรู้ 1. ครแู ละนกั เรยี นร่วมกนั สนทนาเก่ียวกบั การวดั ความยาวของ S2k. eหtcอ้ hงสpมaดุdโร(GงเSรPยี )น สิ่งตา่ ง ๆ วา่ มวี ธิ ีการวัดอย่างไร และมอี ุปกรณใ์ ดบ้างท่ใี ช้ในการวัด ขส23คส2S1สk..อ่ว.ว่อ่ื.ณeนนใหงใโติบtเบปขขนcสศคอครอhังน้ำแวงวสงpสตเำกาเือaสสตมรมรdเน้ ง้นรรมรรทต์้ทูยี้ทูต(มรTGี่กนี่ร่ี .งh22ำ�S1งรใeหใPหำเเหเ)รรยนย้ลG้ย่อืือ่วาด่มeำงงชิวใoวเห1ำกกทmเพท้าำา่สรืน้eรำ่กสสสกtฐบัวeรำรบั ทrา้น้ำสง.ง’ว่sน สรา้ งส่วนของเส้นตรงใหย้ าวเท่ากับ ความยาว เพอื่ ทบทวนความร้เู ดมิ เกี่ยวกบั การวัด ส่วนของเสน้ ตรงทกี่ าหนดให้ สว่ นของเส้นตรงที่กาหนดให้ได้ ขนั้ สอน แ3.หลหง่นกังสารอื เเรรียียนนรราู้ ยวิชา ดา้ นทกั ษะและกระบวนการ 2. ครเู ขยี นสว่ นของเสน้ ตรงและเสน้ ตรงให้นกั เรียนพิจารณา จากนัน้ 1ค.ณหติ ้อศงาคสณตริต์พศ้นื ำฐสาตนร์โมรง.1เรเยี ลน่ม 1 1. การแก้ปญั หา ครตู ้งั คาถามทดสอบกระบวนการคิดของนกั เรยี น ดงั นี้ 2ส.สหวท้อ.งสมดุ โรงเรียน 2. การใหเ้ หตุผล 3. การเช่อื มโยง P Q ดา้ นคุณลกั ษณะ 1. มีวนิ ัย รูปที่ 1 2. ใฝเ่ รียนรู้ 3. มคี วามมุ่งม่ันในการทางาน รปู ที่ 2 ภาระงาน/ชชิน้ นงงาานน 1) จากจุด P ไปจดุ Q เรียกว่าอะไร (ส่วนของเส้นตรง) เใขสสบอว่ ้นกนงติจเข4สรกอ.น้งรงทตเรใยสสบ่กีมรารน้ ง�ำกทว้าใตหงเจิ่ีหทรส2นก้ยง่า่วรดทเำกนรรใว่กีับขมื่อหเาอททง้หงี่ำ่ กนเ2กสำดบั้นเรใรสสหต่อื รร่ว้ งง้ำนใงกขหสาอ้่วรงน 2) จากจดุ S ไปจดุ T เรยี กวา่ อะไร (เสน้ ตรง) 3) นกั เรยี นสามารถบอกความยาวจาก จุด P ไปยงั จดุ Q และ บอกความยาวจากจดุ S ไปยงั จดุ T ได้หรอื ไม่ ทาได้อยา่ งไร (ไดเ้ ฉพาะจาก P ไป Q โดยใช้เครือ่ งมือในการวดั ) 663225 632

หนว่ ยการเรยี นรทู้ ่ี 4 การสรา้ งทางเรขาคณิต แผนการจดั การเรียนรูท้ ี่ 2 เวลา 1 ช่วั โมง กหลนุ่มว่ สยากราะรกเรายีรนเรรยี ู้ทน่ี ร4คู้ ณกาติ รศสารส้าตงทร์างเรขาคณิต เร่ือง การสร้างส่วแนผนขกอางรเสจ้นดั ตกรางรใเรหียย้ นารวู้ทเที่ ่า2กับส่วนของเส้นตรงท่ีกาหนดให้ ชนั้ เมวัธลยามศ1ึกชษัว่าโปมีทง่ี 1 กลมุ่ สาระการเรยี นรู้คณติ ศาสตร์ เรื่อง การสรา้ งสว่ รนาขยอวงิชเาสคน้ ณตริตงศใาหส้ยตารว์ เท1่ากับส่วนของเส้นตรงที่กาหนดให้ ชนั้ มัธยมศึกษาปที ่ี 1 รายวชิ าคณิตศาสตร์ 1 4) นกั เรยี นเขียนสญั ลักษณแ์ ทนความยาวของเส้นตรงและ สว่ นข4อ)งเนสกั ้นเตรียรงนอเขยียา่ งนไสรัญล(กัPษQณ, แ์SทT)นความยาวของเสน้ ตรงและ 3ส.ว่ นคขรอูแงลเสะน้ ักตเรรงียอนยร่าว่งมไรกนั อ(PภQิป,ราSยTเ)ก่ียวกับการบอกขนาดและ ส3ญั. ลคกัรษูแลณะข์ นอักงเกราียรนบรอว่ กมสก่วันนอขภอปิ งรเสายน้ เตกรี่ยงวกดบั ังกนาี้ รบอกขนาดและ สญั ลกั ษณ์ของการบอกสว่ นของเสน้ ตรง ดังนี้ Q P ความยาวของสP่วนของเส้นตรง PQ เขยี นแทนดว้ ย Qm(PQ) หรอื PคQวามมยี าPวขแอลงะสว่Qนเขปอ็นงจเสดุ ้นปตลรางยขPอQง เขPียQนแทนด้วย m(PQ) กหารหอื นPดQPQมี ยPาแวล4ะ เQซนเตปิเ็นมจตุดรปลายของ PQ กาหนmด(PQ)ยาว 4 =เซนต4ิเมเตซรนตเิ มตร หmรือ(PPQQ) = 4 เซนติเมตร 4. คหรูกอื าหPQนดส่วนข=องเส4น้ ตเซรนงบตนเิ มกตรระดาน 2-3 เสน้ จากน้ัน ครูต้ัง ค4า. ถาคมรกู ราะหตน้นุ ดคสวว่ านมขคอดิ งขเสอน้งนตักรงเรบียนนกเรกะ่ียดวากนับก2า-ร3สเรส้า้นงสจว่ านกขนอ้ันงเสคน้รูตตง้ั รง ทคาีก่ ถาาหมนกดรใะหต้ ้นุ ความคดิ ของนกั เรยี นเกี่ยวกบั การสร้างสว่ นของเส้นตรง ท่กี าหนดให้ PQ ทบทวนความPรู้เดิม ดงั น้ี Q ท1บ)ทนวกันเครวียานมมรวี ู้เธิดกีิมารดสงั รน้า้ี งส่วนของเส้นตรงใหย้ าวเทา่ กับ สว่ น1ข)องนเสัก้นเรตยี รนงมทีว่กิธาีกหานรดสใรห้าอ้งสยว่านงไขรองเส้นตรงให้ยาวเทา่ กับ สว่ นข(ใอชง้ไเมสบ้นรตรทงทัดกี่วดัาหแลนว้ดลใหากอ้ คยวา่ างมไรยาวใหเ้ ท่ากับสว่ นของเส้นตรง) (ใช้ไม้บรรทัดวัดแลว้ ลากความยาวใหเ้ ท่ากบั สว่ นของเสน้ ตรง) 633662363 633633

หน่วยการเรียนรทู้ ี่ 4 การสรา้ งทางเรขาคณิต แผนการจดั การเรยี นรทู้ ่ี 2 เวลา 1 ช่ัวโมง กลุ่มสาระการเรียนรูค้ ณติ ศาสตร์ เรอ่ื ง การสรา้ งส่วนของเสน้ ตรงใหย้ าวเท่ากับส่วนของเส้นตรงที่กาหนดให้ ชน้ั มัธยมศึกษาปีที่ 1 รายวชิ าคณติ ศาสตร์ 1 2) นกั เรียนต้องใชอ้ ุปกรณใ์ ดบา้ งในการสรา้ งส่วนของเส้นตรงให้ ยาวเทา่ กบั สว่ นของเส้นตรงท่ีกาหนดให้ (ไม้บรรทดั , วงเวียน) 5. ครูและนักเรียนชว่ ยกนั สรปุ และอภิปรายเกย่ี วกบั คาถามข้างตน้ 6. ครูใหน้ กั เรยี นจบั คู่ และศกึ ษาใบความรู้ที่ 2 เรื่องการสรา้ ง ส่วนของเสน้ ตรงให้ยาวเท่ากับส่วนของเส้นตรงที่กาหนดให้ 7. ครูและนักเรียนร่วมกันอภิปรายเก่ียวกับการสรา้ งสว่ นของเสน้ ตรง ใหย้ าวเทา่ กับส่วนของเส้นตรงท่กี าหนดให้ 8. ครูใหน้ กั เรยี นทาใบกิจกรรมท่ี 2 เร่อื ง การสร้างส่วนของเสน้ ตรงให้ ยาวเท่ากับสว่ นของเสน้ ตรงทก่ี าหนดให้ 9. ครคู อยให้คาแนะนาตรวจสอบความถกู ตอ้ งและคอยตอบคาถามเมอ่ื นกั เรยี นมีขอ้ สงสัย ขั้นสรปุ 10. นักเรียนรว่ มกันสรปุ เกยี่ วกบั การสรา้ งสว่ นของเส้นตรงให้ยาว เท่ากับสว่ นของเสน้ ตรงทก่ี าหนดให้ 634 627 634

662385 635 635 การวดั และประกเามรนิ วผัดลและประเมนิ ผล สิง่ ท่ีต้องการวดั ส/ิง่ ปทรตี่ ะ้อเมงกินารวัด/ประเวมิธนกี าร วิธีกเคารรื่องมือทีใ่ ช้ เคร่อื งมอื ท่ีใช้ เกณฑ์ เกณฑ์ ดา้ นความรู้ ดา้ นความรู้ ตรวจแบบบันทึก แบบบผนั า่ทนกึ เกณฑร์ อ้ ยผลา่ะน7เก0ณขฑึ้นร์ไปอ้ ยละ 70 ขึน้ ไป ใบกิจใคบกะกแริจรนมกนรรมท่ี คะแนน-รอ้ ยละ 80 ข-น้ึ -รไปอ้ ไยดลร้ ะะด8ับ0คขณุ ึ้นภไปาพไดร้ 4ะดับคุณภาพ 4 สร้างสว่ นของเสน้ร้าตงรสง่วใหน้ของเส้นตรงวใจห้ 2ใบกจิ ก-รรอ้ มยทล่ีะ270-79--ไรดอ้ ้รยะลดะบั 77ค00ณุ --77ภ9าพไขดน้ั ้ร3ไะปดไับดค้ระุณดภับาคพุณ3ภำพ 3 ยาวเทา่ กบั ควายมายวาเวทข่าอกงับความยาวขใอบงกจิ กรรม เรื่อง การสรา้ งเรื่อง ก-ารรอ้ สยรลา้ ะง60-69--ไรดอ้ ร้ ยะลดะบั 66ค00ณุ --66ภ9าพไขดั้นร้ 2ไะปดไบั ดคร้ ะณุ ดภบั าคพุณ2ภำพ 2 ส่วนของเสน้ ตรสง่วทนี่กขาอหงนเสดน้ใหต้ไรดง้ ทีก่ าหนดให้ได้ ส่วนของเสน้ ตรสงว่ นขอ-รงเอ้ สยน้ ลตะร5ง0-59--ไรด้อ้รยะลดะบั 55ค00ณุ --55ภ9าพได้ร1ะดบั คุณภาำพ 1 ใหย้ าวเทา่ กบั ใหย้ าวเทา่ กบั ส่วนของเสน้ ตรสงว่ทน่ี ของเสน้ ตรงท่ี กาหนดให้ กาหนดให้ ด้านทกั ษะและดก้ารนะบทวักนษกะแารละกระบวนการ 1. การแกป้ ญั ห1า. การแกป้ ัญหา สังเกตพฤตกิ รรสมังเกตพแบฤตบิกสรงั รเกมต แบบสังผเ่ากนตเกณฑใ์ นระผด่าบันพเกอณใชฑ้ขใ์ ้นึ ไรปะดบั พอใช้ขึน้ ไป 2. การใหเ้ หตผุ 2ล. การให้เหตผุ ล พฤติกรรมด้านพฤตกิ ร-รคมา่ ดเฉา้ นลยี่ 2.50- คขา่นึ้ เไฉปลไ่ยีดร้ 2ะ.ด5บั0 ขดน้ึี ไปไดร้ ะดับ ดี 3. การเช่ือมโยง3. การเชื่อมโยง ทักษะและ ทดำ้ักนษทะแัก-ลษคะา่ะเแฉละยี่ 1.50- ค–่า2เฉ.4ล9ย่ี ไ1ด.้ร5ะ0ดับ– 2พ.อ4ใ9ชไ้ ดร้ ะดบั พอใช้ กระบวนการทากงระบว-นคกา่ าเรฉทลายี่ งต่ากว-า่ ค1่า.เ5ฉ0ล่ยีไดตร้่าะกดวับ่า 1.50 ไดร้ ะดบั คณติ ศาสตร์ คณิตศปาสรตบั รป์ รุง ปรับปรุง ด้านคณุ ลกั ษณดะา้อนั คพณุ งึ ลักษณะอนั พงึ สงั เกตพฤติกรรสมงั เกตแพบฤบตสกิ ังรเกรมต แบบสังไดเกร้ ตะดบั คณุ ภาพได้ร2ะดับคณุ ภาพ 2 ประสงค์ ประสงค์ พฤตกิ รรมดา้ นพฤตกิ รทรุกมรดาา้ ยนการขึ้นไทปกุ ถรือาวย่ากผา่ารนขเน้ึกไณปฑถ์ือวา่ ผ่านเกณฑ์ คุณลักษณะอนั พคดณุึงำ้ นลคักุณษณลกัะอษนัณพะึง 1. มวี นิ ยั 1. มีวนิ ัย ประสงค์ ปอนัระพสึงงปคร์ ะสงค์ 2. ใฝ่เรียนรู้ 2. ใฝ่เรยี นรู้ 3. มคี วามมุง่ ม่นั 3ใ.นมกคี าวรามมุง่ ม่ันในการ ทางาน ทางาน

663269 636 บันทกึ ผลหลงั สอน ผลการเรยี นรู้ .................................................................................................................................. ............................................ .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. ปญั หาและอุปสรรค .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. ขอ้ เสนอแนะและแนวทางแก้ไข .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. ลงชื่อ ......................................ผสู้ อน (...................................) วันท่ี..........เดือน..........พ.ศ............. ความคิดเห็น/ขอ้ เสนอแนะของผูบ้ ริหารหรอื ผู้ทีไ่ ดร้ ับมอบหมาย .............................................................................................................................................................................. ......................................................................................................................................................................... ..... .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. ............................................................................................................................................................ .................. ลงช่ือ ......................................ผู้สอน (...................................) วันท่ี..........เดือน..........พ.ศ.............

663307 637 ใบความรู้ท่ี 2 เรอื่ ง การสรา้ งส่วนของเสน้ ตรงใหย้ าวเทา่ กับความยาวของส่วนของเส้นตรงที่กาหนดให้ หนว่ ยท่ี 4 แผนการจัดการเรียนรทู้ ี่ 2 การสร้างส่วนของเสน้ ตรงใหย้ าวเท่ากับความยาวของส่วนของเส้นตรงที่กาหนดให้ รายวชิ า คณติ ศาสตร์ 1 รหัสวชิ า ค21101 ภาคเรียนท่ี 1 ช้นั มธั ยมศึกษาปีท่ี 1 ชื่อ…………………………………………………..นามสกลุ ……………………………………….ช้ัน……………………..เลขที่…………….. จดุ ประสงค์การเรยี นรู้ : สร้างส่วนของเส้นตรงให้ยาวเท่ากบั ความยาวของสว่ นของเส้นตรงท่กี าหนดให้ได้ 1. สรา้ งส่วนของเส้นตรงให้ยาวเท่ากับความยาวของส่วนของเส้นตรงทีก่ าหนดให้ โดยใชว้ งเวียนและ สันตรง กาหนด AB ให้ดงั รูป AB วธิ ีทา จงสร้าง CD ใหม้ ีความยาวเท่ากบั ความยาวของ AB คาอธบิ าย ข้ันที่ 1 สร้างรังสี CX C X ขน้ั ท่ี 2 กางวงเวยี นรศั มียาวเท่ากับ AB AB ขัน้ ที่ 3 ใช้ C เปน็ จุดศนู ย์กลาง C DX เขียนสว่ นโคง้ ตัดรังสี CX ทจ่ี ดุ D จะได้ CD มคี วามยาวเทา่ กบั ความยาวของ AB 2. สรา้ งส่วนของเสน้ ตรงให้ยาวเทา่ กบั ความยาวของส่วนของเสน้ ตรงท่กี าหนดให้ โดยใช้โปรแกรม The Geometer ‘s Sketchpad (GSP) กาหนด AB ให้ดงั รปู จงสรา้ ง CD ให้มคี วามยาวเทา่ กบั ความยาวของ AB

คาอธิบาย 663381 ข้นั ท่ี 1 สร้างส่วนของเส้นตรง กาหนดช่ือจุดเป็น 638 จุด A และจุด B วธิ ีทา (กดท่แี ถบเครื่องมือเขียนเส้นในแนวตรง คา้ งไว้ จะมีแถบเครือ่ งมอื ใหเ้ ลือก 3 ปมุ่ ได้แก่ สว่ นของเส้นตรง รังสี และเส้นตรง เลือกรงั สี คลกิ แลว้ ลากสรา้ งรงั สี) ขัน้ ท่ี 2 ใชจ้ ุด C เปน็ จุดศูนยก์ ลาง (โดยคลกิ ทจ่ี ุด C แลว้ กดเมนู “การแปลง” เลือก “ระบุจดุ ศนู ยก์ ลาง” ) ขัน้ ท่ี 3 สรา้ งวงกลมทีร่ ศั มีมคี วามยาวเท่ากับ ความยาวขอ AB (คลกิ ที่ ABกดเมนู “สร้าง” เลือก “วงกลม ทส่ี ร้างจากจดุ ศนู ยก์ ลางและรศั มี”)

คาอธบิ าย 663329 ขน้ั ท่ี 4 สร้างจุดตัดระหว่าง CX กบั วงกลม 639 ที่จุด D วธิ ที า (คลิกทว่ี งกลมและ CX กดเมนู “สร้าง” เลือก “จุดตดั ” กาหนดช่ือเปน็ จดุ D) ข้นั ที่ 6 สรา้ ง CD (คลิกที่ จุด C และจดุ D แลว้ กดทีเ่ มนู “สรา้ ง” เลือก“ส่วนของเส้นตรง”) ขน้ั ท่ี 7 ตรวจสอบโดยคลกิ ทีจ่ ุด A จุด B และ ท่ี เพื่อเล่อื นใหม้ าซ้อนทบั จดุ C จุด D และ CD ตามลาดบั

664303 640 ใบกิจกรรมท่ี 2 เรื่อง การสรา้ งส่วนของเส้นตรงให้ยาวเท่ากบั สว่ นของเส้นตรงที่กาหนดให้ หน่วยการเรียนรทู้ ี่ 4 การสรา้ งทางเรขาคณติ แผนการจัดการเรียนรทู้ ่ี 2 เรอ่ื ง การสร้างส่วนของเสน้ ตรงให้ยาวเท่ากบั สว่ นของเส้นตรงทก่ี าหนดให้ รายวชิ า คณิตศาสตร์ 1 รหัสวชิ า ค21101 ภาคเรียนที่ 1 ชน้ั มธั ยมศึกษาปที ี่ 1 ชื่อ…………………………………………………..นามสกลุ ……………………………………….ชัน้ ……………………..เลขที่…………….. จุดประสงค์การเรยี นรู้: สรา้ งสว่ นของเส้นตรงใหย้ าวเทา่ กับความยาวของสว่ นของเส้นตรงกาหนดให้ได้ 1. กาหนด MN ให้ดงั รูป จงสรา้ ง (โดยใชว้ งเวียนและสนั ตรง) 1.1 ส่วนของเส้นตรง XY ใหย้ าวเท่ากบั MN 1.2 ส่วนของเส้นตรง XY ให้ยาวเทา่ กบั สองเท่าของ MN

663441 641 2. จงสร้างรูปสามเหลี่ยมหนา้ จ่วั ใหม้ ดี า้ นทเ่ี ทา่ กนั แต่ละดา้ นเทา่ กับส่วนของเสน้ ตรง a และมีฐาน ยาวเทา่ กบั ส่วนของเส้นตรง b ตามท่ีกาหนดให้ 3. จงสร้างรปู สามเหลยี่ ม MON ให้มคี วามยาวเทา่ กับรูปสามเหล่ยี ม PQR ทกี่ าหนดให้


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook