Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore 64-08-25-คู่มือและแผนการเรียนรู้_ภาษาไทย ม.3-05271359

64-08-25-คู่มือและแผนการเรียนรู้_ภาษาไทย ม.3-05271359

Published by elibraryraja33, 2021-08-25 03:55:52

Description: 64-08-25-คู่มือและแผนการเรียนรู้_ภาษาไทย ม.3-05271359

Search

Read the Text Version

341 หน่วยการเรยี นร้ทู ่ี ๔ พัฒนาพาที แผนการจัดการเรยี นรูท้ ่ี ๖ เวลา ๑ ชั่วโมง กลุม่ สาระการเรยี นรู้ ภาษาไทย เร่ือง ประโยคไทยใช้ให้ถูก ช้ันมัธยมศึกษาปีท่ี ๓ ขอบเขตเนื้อหา รายวชิ าพนื้ ฐานภาษาไทย ประโยคภาษาไทย กจิ กรรมการเรียนรู้ ส่ือ/แหลง่ เรียนรู้ จดุ ประสงค์การเรยี นรู้ ข้นั นา ๑. บตั รคา ๒ ชุด ด้านความรู้ ๒. ใบความร้เู รอื่ ง ประโยคภาษาไทย ๑. นักเรียนเรยี งคาท่คี รูกาหนดให้เป็นประโยคทั้ง ๒ ชดุ ๓. ใบงานเรอื่ ง ประโยคในภาษาไทย ประโยคชนิดตา่ ง ๆ ชุดที่ ๑ ตน้ ไม้ ฉนั ปลกู ๔. ใบงานเรอื่ ง ประโยค ด้านทกั ษะ/กระบวนการ ชดุ ท่ี ๒ และ พ่ีสาว ไป ภาระงาน/ชน้ิ งาน จาแนกประโยคชนดิ ต่าง ๆ พ่อ วดั ด้านคณุ ลกั ษณะ ๒. นักเรยี นร่วมกันวิเคราะหค์ วามแตกต่างของประโยค ๑. ใฝ่เรียนรู้ ท้งั ๒ ชนิด โดยครูคอยชีแ้ นะและอธิบายเพ่ิมเติม ๒. มวี นิ ยั ขนั้ สอน ๓. มุง่ ม่ันในการทางาน ๔. จติ อาสา ๑. นกั เรียนศกึ ษาใบความรู้เรอ่ื ง ชนิดของประโยค โดยครู อธบิ ายเพม่ิ เตมิ ๒. นักเรยี นจับค่ทู าใบงานเรื่อง ประโยคในภาษาไทย จากนัน้ อาสาสมัครนักเรยี นตอบคาถาม โดยเพือ่ นในช้ันเรยี นและครู ร่วมกนั ตรวจสอบความถูกต้องและอธบิ ายเพ่ิมเติม ๓. นักเรยี นแตง่ ประโยคชนิดตา่ ง ๆ ทคี่ รูกาหนด โดยใหเ้ พ่อื นใน ช้นั เรยี นรว่ มกนั ตรวจสอบความถกู ต้อง 332471

หน่วยการเรยี นรทู้ ี่ ๔ พัฒนาพาที แผนการจัดการเรียนร้ทู ี่ ๖ 342 กลมุ่ สาระการเรยี นรู้ ภาษาไทย เร่อื ง ประโยคไทยใชใ้ หถ้ ูก เวลา ๑ ชั่วโมง รายวิชาพืน้ ฐานภาษาไทย ช้ันมัธยมศกึ ษาปที ี่ ๓ กิจกรรมการเรียนรู้ ขั้นสอน (ต่อ) ๔. นกั เรยี นแตล่ ะคนแตง่ ประโยคชนดิ ตา่ ง ๆ จากน้นั อาสาสมคั รนักเรียนพูดประโยคทนี่ ักเรียนคดิ ข้นึ แล้วให้เพ่อื น อกี คนตอบให้ได้วา่ เปน็ ประโยคชนิดใด ขัน้ สรุป ๑. นักเรียนและครูร่วมกนั สรุปชนดิ ของประโยค ความแตกตา่ ง ของประโยคชนิดต่าง ๆ จากน้ันเขยี นสรุปลงในสมุดบันทึกของ นกั เรยี น ๒. นักเรยี นตอบคาถามทา้ ทายในชน้ั เรยี นรว่ มกนั วา่ ประโยคมี ความสาคญั ต่อการส่ือสารในชวี ติ ประจาวันอยา่ งไร ๓. นกั เรยี นทาใบงานเรื่อง ประโยค เพื่อทบทวนเนื้อหา เรื่อง ชนิดของประโยค 332482

343 332493 การวดั และประเมนิ ผล ส่งิ ทต่ี ้องการวดั /ประเมิน วธิ ีการ เครื่องมือทใี่ ช้ เกณฑ์ ดา้ นความรู้ ทาใบงาน ใบงาน ผ่านเกณฑ์ ร้อยละ ๘๐ ทาใบงาน ใบงาน ผา่ นเกณฑ์ ร้อยละ ๘๐ ประโยคชนดิ ตา่ ง ๆ ด้านทักษะและกระบวนการ จาแนกประโยคชนดิ ต่าง ๆ ดา้ นคุณลกั ษณะ สงั เกตพฤติกรรม แบบประเมนิ ระดบั คุณภาพ ๒ ๑. ใฝเ่ รียนรู้ ผ่านเกณฑ์ ๒. มวี นิ ยั ๓. มงุ่ ม่ันในการทางาน ๔. จติ อาสา ๘. บนั ทกึ ผลหลังสอน ผลการเรยี นรู้ ............................................................................................................................. ................................................ ปัญหาและอปุ สรรค ............................................................................................................................. ............................................. ข้อเสนอแนะและแนวทางแก้ไข ........................................................................................................................................................................... ลงชือ่ ......................................ผสู้ อน (.......................................................) วนั ท่ี..........เดอื น..........พ.ศ............. ๙. ความคิดเห็น/ขอ้ เสนอแนะของผบู้ รหิ ารหรือผู้ที่ไดร้ ับมอบหมาย ............................................................................................................................. .............................................. ลงชอื่ ......................................ผตู้ รวจ (.......................................................) วนั ท่.ี .........เดอื น..........พ.ศ.............

344 333404 ใบความรู้เรื่อง ประโยคไทยใช้ใหถ้ ูก หน่วยที่ ๔ แผนการจดั การเรียนรู้ที่ ๖ รายวิชาพ้ืนฐานภาษาไทย ท๒๓๑๐๑ ภาคเรียนท่ี ๑ ชั้นมธั ยมศึกษาปีที่ ๓ ประโยคในภาษาไทย จาแนกตามโครงสรา้ งมี ๓ ชนิด ๑. ประโยคสามัญ หมายถึง ประโยคท่ีมีใจความเดียว ซึ่งจะมีบทประธานและบทแสดงอย่างละหนึ่ง เดียว เท่าน้ัน อาจมีกริยาหลักเพียงกริยาเดียวหรือกริยาหลักหลายกริยาก็ได้แต่มีใจความสาคัญเพียงอย่างเดียว ไมม่ ีคาเชือ่ มประโยค ประโยคสามัญแบ่งออกเปน็ ๒ ชนดิ ๑.๑ ประโยคสามญั กรยิ าหลกั กรยิ าเดยี ว เชน่ มาลกี าลังรดน้าตน้ ไม้ เขาหวั เราะ ม้าวิง่ สเุ มธอา่ นหนงั สอื พิมพ์ วนั นีเ้ ขาคงจะมาที่บ้านฉนั ๑.๒ ประโยคสามญั กริยาหลกั ประเภทกริยาเรยี ง เชน่ ตารวจวิง่ ไล่จบั ผูร้ า้ ย ชาตรีขับรถขา้ มสะพาน แมววิง่ ไลจ่ บั หนู ราตรีพับผ้าเกบ็ ไวใ้ นตู้ ๒. ประโยครวม หมายถึง ประโยคที่มีประโยคสามัญต้ังแต่ ๒ ประโยคขึ้นไปมารวมกัน โดยมี คาสันธานเช่ือมประโยค เพื่อให้ได้ใจความติดต่อกันเป็นประโยคเดียวกัน ถ้าประธานหรือกริยาของประโยค เปน็ ความเดียวกันกอ็ าจละได้ แบง่ เปน็ ๔ ชนิด คือ ๒.๑ ประโยครวมท่ีมีใจความคล้อยตามกัน ใชค้ าสันธานเช่ือมประโยค และ กับ ทั้ง….แล ถ้า….จึง พอ…. ก็ เมื่อ….ก็ แล้ว….จึง แลว้ ….ก็ เช่น มาลแี ละรัตตกิ าลกาลังทาแบบฝกึ หัด ทั้งเขาและเธอตา่ งก็ตงั้ ใจเรยี น พอฉันทาการบ้านเสร็จวรวฒุ กิ ม็ าถงึ บ้านฉนั ถ้าฉนั สอบไดค้ ะแนนดคี ุณพอก็จะใหร้ างวัลแก่ฉนั ๒.๒ ประโยครวมท่ีมใี จความขัดแยง้ กัน ใช้คาสนั ธานเชอื่ มประโยค แต่ แต่ทว่า ถงึ ….ก็ ทัง้ ท่ี….ก็ กวา่ ….ก็ แมว้ า่ ….ก็ แม้….ก็ เชน่ น้องชอบวิชาวิทยาศาสตรแ์ ต่ฉนั ชอบวิชาภาษาไทย สมบัตชิ อบทุเรียนสว่ นสมชายชอบมังคดุ ถึงฝนจะตกเพียงใดเราก็จะไปใหไ้ ด้ กวา่ เขาจะมาถงึ บา้ นแมก่ ็ปดิ ประตูแลว้ ๒.๓ ประโยครวมท่ีมีใจความให้เลือกเอาอย่างใดอย่างหน่ึง ใช้คาสันธานเชื่อมประโยค หรือ มิฉะนั้น ไมเ่ ช่นน้นั มิฉะนัน้ ….ก็ ไม…่ .ก็ หรอื ไม่อย่างน้ัน….ก็ เชน่ เธอชอบผลไมห้ รือขนมหวาน เธอตอ้ งออกกาลงั กายเสมอมิฉะน้นั จะไมแ่ ข็งแรง นุชต้องขยันทางานมิฉะน้ันเธอจะไม่มีเงนิ ถ้าคุณไมร่ ับประทานผกั กต็ ้องรบั ประทานผลไม้ ๒.๔ ประโยครวมท่ีมีใจความเป็นเหตุเป็นผลกัน ใช้สันธานเช่ือมประโยค จึง เพราะ….จึง เพราะฉะน้ัน เพราะฉะน้นั ….จึง เพราะว่า ดงั น้ัน….จึง เชน่ เพราะมาลัยทาความดจี ึงไดร้ บั แตส่ ิ่งทีด่ ีๆ เพราะเขาขยนั เรียนเขาจงึ สอบได้คะแนนดี เพราะเขาเป็นคนเก่งจึงได้รับรางวลั มากมาย

345 333415 ๓. ประโยคซ้อน คือ ประโยคที่ประกอบด้วยประโยคความเดียว ๒ ประโยคขึ้นไปซ้อนกันอยู่ โดยมีประโยคหนึ่งเป็นประโยคหลัก เรียกว่า มุขยประโยค และมีประโยคความเดียวอีกประโยคหน่ึงมาขยาย ประโยคหลัก เรียกว่า อนุประโยค ขยายส่วนใดส่วนหน่ึงของประโยคหลักเพ่ือให้ได้ใจความชัดเจนดยี ยง่ิ ิ่งขขน้ึ ้ึนทท้งั ยั้งังยัง ทาใหเ้ นื้อความของประโยคสละสลวยยง่ิ ขน้ึ อกี ดว้ ย ชนดิ ของประโยคความซอ้ น แบง่ ตามอนปุ ระโยคท่ีมาขยาย แบ่งออกเปน็ ๓ ชนิด คอื ๓.๑ ประโยคซ้อนท่ีมีนามานุประโยค คือ อนุประโยคท่ีทาหน้าที่แทนนาม คือ เป็นประธาน บทกรรมและ ขยายนาม เช่น ตัวอยา่ งนามานปุ ระโยคทยี่ กมาต่อไปน้ี เช่น บทประธาน : ๑. เขาพดู เชน่ นี้เปน็ การสอ่ นสิ ัยช่วั มขุ ยประโยค = เขาสอ่ นสิ ัยช่ัว อนปุ ระโยค = เขาพดู เช่นน้ี ๒. คนเดินริมถนนมองดตู ารวจ มขุ ยประโยค = คนมองดูตารวจ อนุประโยค = คนเดินรมิ ถนน บทกรรม : ๑. ฉนั เห็นเด็กเรียนหนังสอื มขุ ยประโยค = ฉนั เหน็ เด็ก อนปุ ระโยค = เด็กเรยี นหนงั สือ ๒. เขาพดู วา่ ตน้ เงาะงอกขน้ึ ในกระถาง มุขยประโยค = เขาพูด อนุประโยค = ตน้ เงาะงอกข้นึ ในกระถาง ๓. เขาทาใหฉ้ นั กลัวผี มขุ ยประโยค = เขาทาฉนั อนปุ ระโยค = ฉันกลัวผี บทขยาย : ๑. อาหารสาหรับนกั เรยี นเลน่ ละครมีอย่ใู นห้อง มขุ ยประโยค = อาหารมีอยูใ่ นหอ้ ง อนปุ ระโยค = นกั เรียนเลน่ ละคร ๒. การเงนิ ของพ่อคา้ ขายของชาฝดื เคืองมาก มขุ ยประโยค = การเงนิ ของเขาฝดื เคอื ง อนปุ ระโยค = พอ่ ค้าขายของชา ข้อสังเกต มีข้อที่สังเกตนามานุประโยคตามตัวอย่างข้างบนนใ้ี ห้ถอื ว่า คา ว่า ให้ สาหรับ ของ เปน็ บทเชือ่ มประโยค ท่ีตามมา ข้างหลังเป็น นามานุประโยค ถ้าสกรรมกริยา (กริยาท่ีต้องการกรรม) ที่อยู่ข้างหน้า คา ว่า ให้ น้ันไม่มี กรรมมารบั ไดค้ วามสมบูรณ์แล้ว ประโยคท่ีอยู่หลงั คา วา่ หรือ ให้ นัน้ ต้องเปน็ วิเศษณานปุ ระโยค

346 333426 ๓.๒ ประโยคซ้อนที่มีคณุ านุประโยค คือ อนุประโยคที่ทาหน้าทีข่ ยายคา นาม สรรพนาม ในมุขยประโยค โดยมปี ระพันธสรรพนาม ที่ ซ่ึง อนั เป็นบทเช่อื ม เชน่ - คนทีไ่ ม่จา่ ยทรพั ยต์ ามสมควรยอ่ มเหมือนฝงั ทรัพย์ทิ้งจมดิน - นกั เรยี นท่ตี ง้ั ใจเรยี นย่อมประสบความสาเร็จ - แกว้ กระจกซึ่งรวมอยกู่ ับสวุ รรณยอ่ มเลื่อมพรายเหมอื นมรกต - บคุ คลอนั มีจติ สงบแลว้ มสี ุขในโลก ข้อสังเกต ประโยคทตี่ ามหลงั ประพนั ธสรรพนาม (ที่ ซง่ึ อนั ) จะเปน็ คุณานุประโยค ๓.๓ ประโยคซ้อนที่มีวิเศษณานุประโยค คือ อนุประโยคซ่ึงทาน้าท่ีเป็นวิเศษณ์สาหรับขยายกริยา หรือ ขยายวิเศษณ์ อันเปน็ ส่วนหน่งึ ของมขุ ยประโยค เช่น - เขามาหาเม่ือฉนั ไมอ่ ยู่ (ขยายกรยิ า มา) - เขาดีจนฉนั เกรงใจ (ขยายกริยา ดี) - เขาพูดเสียงดังจนเพอ่ื น ๆ ราคาญ - เขามาหาฉนั ขณะทีฉ่ นั รดน้าต้นไม้ - หมองูตายเพราะงูกัด (ขยายกริยา ตาย) ขอ้ คิดเหน็ คือ ประโยคทีม่ ีใจความสาคัญเป็นประโยคหลักและมีประโยคยอ่ ยแทรกอยดู่ ้วย ประโยคย่อยน้ที าหน้าท่ี ขยายคานาม (ข้ึนตน้ ดว้ ย คาเชื่อม ท่ี ซึ่ง อนั ) หรอื คากริยา (ขนึ้ ตน้ ดว้ ย คาเช่ือม เมื่อ จน เพ่ือ ตงั้ แต่ เพราะ ฯลฯ) ในประโยคหลัก

347 333437 ใบงานเรื่อง ประโยคในภาษาไทย หนว่ ยที่ ๔ แผนการจดั การเรียนรู้ท่ี ๖ รายวิชาพนื้ ฐานภาษาไทย ท๒๓๑๐๑ ภาคเรียนท่ี ๑ ชน้ั มธั ยมศกึ ษาปีที่ ๓ ประโยคสามัญ คาชีแ้ จง ให้นกั เรียนวิเคราะห์ประโยคสามัญท่ีกาหนดใหว้ า่ เป็นประโยคสามญั ชนดิ ใด ขอ้ ประโยค ชนดิ ของประโยคสามัญ ๑ แม่ซือ้ ดอกกุหลาบดอกใหญ่ ๒ นอ้ งชายของฉนั วงิ่ เล่นท่สี วนสาธารณะในหมูบ่ ้าน ๓ พสี่ าวตงั้ ใจอา่ นหนังสอื ๔ ผมรกั ครอบครัวของผมมาก ๕ เขาฟังเพลงอยา่ งตัง้ ใจ ประโยครวม คาช้แี จง ให้นกั เรยี นวิเคราะห์ประโยครวมทกี่ าหนดให้ว่าเป็นประโยครวมชนิดใด ขอ้ ประโยค ชนดิ ของประโยครวม ๑ กวา่ ถ่วั จะสุกงานก็ไหม้ ๒ พอฉันทาการบา้ นเสรจ็ พ่อก็กลับถงึ บา้ นพอดี ๓ ไมเ่ ธอกฉ็ นั ต้องนาเสนอผลงานหนา้ ช้นั เรียน ๔ เพราะเธอตั้งใจเรียนเธอจึงประสบความสาเรจ็ ๕ มาลกี ับมาลยั ชอบทาบุญท่วี ัด ประโยคซอ้ น คาชีแ้ จง ให้นักเรียนวิเคราะห์ประโยคซ้อนท่กี าหนดใหว้ า่ เป็นประโยคซ้อนชนิดใด ข้อ ประโยค ชนดิ ของประโยคซ้อน ๑ พอ่ ดูน้องร้องเพลง ๒ เดก็ ผู้หญิงท่ีอยหู่ ลงั ฉนั เปน็ ดาวโรงเรียน ๓ เขาพดู ชา้ จนฉันราคาญ ๔ นายกรฐั มนตรพี ดู วา่ เยาวชนไทยตอ้ งมีจติ อาสา ๕ หลอ่ นไปทางานตง้ั แต่ฟา้ เพง่ิ จะสาง ๆ เท่านั้นเอง

348 333448 คาชีแ้ จง ให้นักเรียนวิเคราะห์ประโยคทกี่ าหนดให้ไดว้ ่าเป็นประโยคชนิดใด ๑. ลมพดั แรงจนโตะ๊ ล้ม = ................................................................................... ๒. เสือ้ กันฝนขายดเี พราะเริ่มเข้าฤดูฝน = ................................................................................... ๓. นกั เรยี นหญิงทานก๋วยเตี๋ยวแตน่ กั เรยี นชายทานขา้ วผดั .................................................................................. = .................................................................................. ๔. เจ้าหน้าทีอ่ นุญาตให้ถา่ ยภาพได้ = .................................................................................. ๕. น้องสาวไปเชยี งใหม่หรอื เชียงราย = .................................................................................. ๖. นาฬิกาตีบอกเวลา = .................................................................................. ๗. โต้งโยนขนมปังให้ปลาในบ่อกิน = .................................................................................. ๘. คุณครตู รวจข้อสอบ = .................................................................................. ๙. ตน้ ไม้มีความสาคัญต่อชวี ติ = .................................................................................. ๑๐. ฝนตกเพราะอากาศรอ้ น =

349 333459 เฉลยใบงานเร่อื ง ประโยคในภาษาไทย หนว่ ยที่ ๔ แผนการจดั การเรยี นรู้ท่ี ๖ รายวชิ าพ้นื ฐานภาษาไทย ท๒๓๑๐๑ ภาคเรยี นท่ี ๑ ชน้ั มธั ยมศึกษาปีท่ี ๓ ประโยคสามัญ คาช้แี จง ใหน้ กั เรียนวิเคราะห์ประโยคสามญั ท่ีกาหนดให้ว่าเป็นประโยคสามญั ชนดิ ใด ข้อ ประโยค ชนิดของประโยคสามัญ ๑ แม่ซอื้ ดอกกหุ ลาบดอกใหญ่ ประโยคสามัญกริยาหลักกริยาเดยี ว ๒ น้องชายของฉนั วิง่ เล่นทส่ี วนสาธารณะในหมู่บ้าน ประโยคสามญั กริยาหลักประเภทกริยาเรียง ๓ พ่ีสาวตง้ั ใจอ่านหนังสือ ประโยคสามัญกริยาหลกั ประเภทกรยิ าเรียง ๔ ผมรกั ครอบครวั ของผมมาก ประโยคสามญั กรยิ าหลักกรยิ าเดียว ๕ เขาฟังเพลงอยา่ งตัง้ ใจ ประโยคสามญั กรยิ าหลกั กริยาเดียว ประโยครวม คาช้ีแจง ให้นกั เรยี นวเิ คราะห์ประโยครวมทก่ี าหนดใหว้ ่าเป็นประโยครวมชนดิ ใด ข้อ ประโยค ชนิดของประโยครวม ๑ กว่าถ่ัวจะสุกงานก็ไหม้ ประโยครวมท่มี ีใจความขัดแย้งกัน ๒ พอฉนั ทาการบา้ นเสร็จพ่อก็กลบั ถึงบ้านพอดี ประโยครวมที่มีใจความคล้อยตามกนั ๓ ไมเ่ ธอกฉ็ นั ต้องนาเสนอผลงานหนา้ ช้นั เรยี น ประโยครวมที่มีใจความให้เลือกอยา่ งใดอยา่ งหนึ่ง ๔ เพราะเธอตัง้ ใจเรียนเธอจึงประสบความสาเรจ็ ประโยครวมทม่ี ีใจความเป็นเหตเุ ปน็ ผลกนั ๕ มาลกี ับมาลยั ชอบทาบญุ ทว่ี ัด ประโยครวมทม่ี ีใจความคล้อยตามกนั ประโยคซอ้ น คาชี้แจง ใหน้ ักเรียนวเิ คราะห์ประโยคซ้อนที่กาหนดใหว้ า่ เป็นประโยคซอ้ นชนิดใด ข้อ ประโยค ชนดิ ของประโยคซ้อน ๑ พอ่ ดนู ้องร้องเพลง ประโยคซอ้ นที่มีนามานุประโยค ๒ เด็กผู้หญงิ ท่ีอย่หู ลงั ฉนั เปน็ ดาวโรงเรียน ประโยคซอ้ นที่มีคุณานปุ ระโยค ๓ เขาพูดชา้ จนฉนั ราคาญ ประโยคซ้อนทมี่ วี เิ ศษณานุประโยค ๔ นายกรฐั มนตรพี ูดวา่ เยาวชนไทยตอ้ งมจี ิตอาสา ประโยคซอ้ นท่ีมนี ามานุประโยค ๕ หล่อนไปทางานต้งั แต่ฟา้ เพง่ิ จะสาง ๆ เทา่ น้ันเอง ประโยคซอ้ นทม่ี วี เิ ศษณานุประโยค

35 333560 คาชแ้ี จง ให้นักเรยี นวเิ คราะห์ประโยคทก่ี าหนดให้ได้วา่ เปน็ ประโยคชนดิ ใด ๑. ลมพดั แรงจนโตะ๊ ล้ม = ประโยคซอ้ น ๒. เขาเปน็ คนดีดังนัน้ เธอจงึ รักเขา = ประโยครวม ๓. นกั เรียนหญงิ ทานกว๋ ยเต๋ยี วแตน่ กั เรียนชายทานขา้ วผดั ประโยครวม = ประโยคซ้อน ๔. เจ้าหนา้ ทอ่ี นุญาตให้ถา่ ยภาพได้ = ประโยครวม ๕. นอ้ งสาวไปเชียงใหมห่ รอื เชียงราย = ประโยคสามัญ ๖. นาฬิกาตบี อกเวลา = ประโยคซอ้ น ๗. โต้งโยนขนมปงั ใหป้ ลาในบอ่ กิน = ประโยคสามญั ๘. คุณครูตรวจข้อสอบ = ประโยคสามัญ ๙. ตน้ ไมม้ ีความสาคญั ต่อชวี ติ = ประโยคซอ้ น ๑๐. ฝนตกเพราะอากาศรอ้ น =

50 351 333571 แบบทดสอบเรือ่ ง ประโยค หนว่ ยที่ ๔ แผนการจัดการเรยี นร้ทู ี่ ๖ รายวิชาพนื้ ฐานภาษาไทย ท๒๓๑๐๑ ภาคเรียนที่ ๑ ชัน้ มธั ยมศกึ ษาปีท่ี ๓ คาชแี้ จง ใหน้ กั เรยี นเลอื กคาตอบที่ถูกต้องทีส่ ุด (๑๐ คะแนน) ได้ ๘ คะแนนขึน้ ไปถือวา่ ผา่ น ๑. ขอ้ ใดเปน็ ประโยค ง. ขา้ งกระถางต้นไม้ ก. อนสุ าวรยี ์ทา้ วสุรนารี ข. ชามกว๋ ยเตีย๋ วใบใหญ่ ค. ไกข่ นั ๒. ขอ้ ใดต่างจากข้ออนื่ ก. สุนัขวิ่ง ข. ปลาวาฬวา่ ยนา้ ค. คณุ พ่อร้องเพลง ง. พีเ่ ลีย้ งนอ้ ง ๓. ประโยคข้อใดมี ๓ สว่ น ก. นาฬิกาเดนิ ข. แมวกินปลา ค. แจกันแตกละเอียด ง. หนังสือตก ๔. ประโยคใดตา่ งจากขอ้ อ่นื ก. ฉนั ไปเท่ียวกับครอบครวั ค. นอ้ งทาการบา้ น ข. แพรวและพลอยไปว่ายนา้ ง. ชาวบ้านชว่ ยกันขุดดิน ๕. ประโยคชนิดใดมปี ระโยคย่อย ก. ประโยคสามัญ ค. ประโยคเดยี ว ข. ประโยครวม ง. ประโยคซอ้ น ๖. ข้อใดต่างจากข้ออ่นื ก. จนิ ตหราและสมพรไปชมภาพยนตร์ ข. จนิ ตหราทานขา้ วแลว้ ทานไอศกรีม ค. สมพรชอบทานกว๋ ยเตี๋ยวและซ่าหร่ิม ง. ไมส่ มพรก็จนิ ตหราต้องจองต๋วั ชมภาพยนตร์ล่วงหนา้ ๒ วนั ๗. ข้อใดคือกลมุ่ คา ก. เทยี นไขสเี หลืองเลม่ ใหญ่ล้ม ค. แชมพูสระผมขวดสนี ้าตาลแตก ข. รองเทา้ หนงั สีนา้ ตาลแดง ง. ดอกทานตะวนั กาลงั บาน ๘. ข้อใดตา่ งจากข้ออนื่ ค. สมุดจดการบา้ นของนักเรยี น ก. ว่ิงไปข้างหนา้ อยา่ งรวดเร็ว ง. วัดพระศรรี ัตนศาสดาราม ข. แกงเขยี วหวานลกู ชนิ้ ปลากราย ค. น่ังขัดสมาธิอย่หู นา้ โทรทัศน์ ๙. ข้อใดตา่ งจากข้ออ่นื ง. ทีห่ า้ งสรรพสินค้าเปิดใหมใ่ กลบ้ ้าน ก. นอนอยใู่ นห้องรบั แขก ค. ทา่ นผ้ปู กครองที่เคารพทุกทา่ น ข. กินข้าวหนา้ เป็ดกับคณุ แม่ ง. งานอดิเรกประจาวันหยดุ ๑๐. ขอ้ ใดคือนามวลี ก. สวมรองเท้าผา้ ใบยหี่ ้อดงั ข. โอ้ หายห่วงไป

352 333582 เฉลยแบบทดสอบเรือ่ ง ประโยค หน่วยท่ี ๔ แผนการจัดการเรียนรูท้ ่ี ๖ รายวชิ าพ้นื ฐานภาษาไทย ท๒๓๑๐๑ ภาคเรยี นท่ี ๑ ช้ันมัธยมศกึ ษาปีท่ี ๓ คาชี้แจง ใหน้ กั เรียนเลอื กคาตอบท่ีถกู ต้องทีส่ ดุ (๑๐ คะแนน) ได้ ๘ คะแนนขนึ้ ไปถือวา่ ผ่าน เฉลย ข้อ ๑ ค ข้อ ๒ ง ข้อ ๓ ข ข้อ ๔ ข ขอ้ ๕ ง ขอ้ ๖ ง ขอ้ ๗ ข ข้อ ๘ ก ขอ้ ๙ ง ข้อ ๑๐ ง

353 หนว่ ยการเรียนรทู้ ี่ ๔ พัฒนาพาที แผนการจัดการเรียนรู้ท่ี ๗ เวลา ๑ ชัว่ โมง กลมุ่ สาระการเรียนรู้ ภาษาไทย เรื่อง การสรา้ งประโยคซับซ้อน ช้ันมัธยมศึกษาปีท่ี ๓ ขอบเขตเน้ือหา สือ่ /แหล่งเรียนรู้ รายวชิ าพื้นฐานภาษาไทย ๑. ใบความรู้ เรือ่ ง ประโยคซับซ้อน ประโยคซบั ซอ้ น กิจกรรมการเรยี นรู้ ๒. แถบประโยค ๒ ประโยค จุดประสงคก์ ารเรียนรู้ ขัน้ นา ๓. กจิ กรรม KAHOOT ด้านความรู้ ๔. ใบงานเรือ่ ง การสรา้ งประโยคซบั ซ้อน ๑. นักเรยี นอา่ นประโยคจากแถบประโยคที่ครูกาหนด ภาระงาน/ชน้ิ งาน วิเคราะห์ประโยคซับซ้อน แถบประโยคที่ ๑ ดา้ นทกั ษะ/กระบวนการ ผมรักครอบครัวและประเทศชาตขิ องผม แตง่ ประโยคซับซ้อน แถบประโยคที่ ๒ ดา้ นคณุ ลกั ษณะ ผมรักครอบครวั และรักเพื่อน ๆ แต่ผมรกั ประเทศชาติ ๑. ใฝเ่ รยี นรู้ บ้านเมืองมากกว่าคนในครอบครวั และเพ่ือนพอ้ ง ๒. มงุ่ มนั่ ในการทางาน ท้งั หลายของผม ๓. จิตอาสา ๒. นักเรยี นร่วมกนั วิเคราะหค์ วามแตกต่างของประโยค ทงั้ ๒ ประโยควา่ มคี วามเหมอื นหรือแตกต่างกันอย่างไร โดยครชู ี้แนะ และอธบิ ายเพิ่มเติม ขน้ั สอน ๑. นักเรยี นศกึ ษาใบความรู้เร่ือง ประโยคซับซ้อน โดยครูอธบิ าย ๒. นกั เรยี นร่วมกนั ตอบคาถามให้ไดว้ ่าประโยคท่ีกาหนดให้เป็น ประโยคซับซ้อนชนิดใดจากกิจกรรม KAHOOT พร้อมท้ังร่วมกัน วเิ คราะหต์ รวจสอบความถกู ต้อง โดยครอู ธิบายเพิ่มเติม (กรณีที่โรงเรียนปลายทางสญั ญาณอินเทอรเ์ น็ตไม่มหี รอื ไม่เพยี งพอ ใหค้ รนู าเน้อื หามาจดั ทาเปน็ แถบประโยคให้นักเรียนตอบ) 333593

หนว่ ยการเรยี นรทู้ ี่ ๔ พัฒนาพาที แผนการจัดการเรยี นรทู้ ่ี ๗ 354 กลุม่ สาระการเรยี นรู้ ภาษาไทย เร่อื ง การสร้างประโยคซับซ้อน เวลา ๑ ช่ัวโมง ชั้นมธั ยมศึกษาปีที่ ๓ รายวิชาพื้นฐานภาษาไทย กิจกรรมการเรียนรู้ ขนั้ สอน (ต่อ) ๓. นักเรียนร่วมกันแตง่ ประโยคซบั ซอ้ นคนละ ๑ ประโยค จากน้นั อาสาสมคั รนักเรียนให้พูดประโยคที่นกั เรียนแตง่ แล้วให้เพ่ือนในช้ัน เรยี นรว่ มกันตรวจสอบความถูกตอ้ ง ครคู อยชแี้ นะอธบิ ายเพิ่มเตมิ ขนั้ สรปุ ๑. นกั เรยี นและครรู ่วมกันสรปุ ลักษณะประโยคซบั ซ้อนว่าเปน็ การนารูปประโยคท้ังประโยคสามญั ประโยครวมและประโยคซ้อน มาขยายความให้ซับซ้อนย่งิ ข้ึน โดยประโยคซบั ซ้อนมี ๓ ชนดิ ได้แก่ ประโยคสามญั ซับซ้อน ประโยครวมซับซ้อน และ ประโยคซ้อนซบั ซ้อน ๒. นกั เรยี นทาใบงานเรือ่ ง การแต่งประโยคซบั ซ้อน 334504

355 334515 การวัดและประเมินผล วิธีการ เครื่องมอื ที่ใช้ เกณฑ์ สงิ่ ทีต่ ้องการวดั /ประเมิน ซกั ถาม ทาใบงาน กจิ กรรม KAHOOT ผ่านเกณฑ์ ร้อยละ ๘๐ ดา้ นความรู้ วิเคราะห์ประโยคซับซ้อน ใบงาน ผา่ นเกณฑ์ ร้อยละ ๘๐ ดา้ นทกั ษะและกระบวนการ แต่งประโยคซับซ้อน ด้านคุณลกั ษณะ สังเกตพฤตกิ รรม แบบประเมนิ ระดับคุณภาพ ๒ ๑. ใฝเ่ รยี นรู้ ผา่ นเกณฑ์ ๒. มุ่งมั่นในการทางาน ๓. จติ อาสา ๘. บันทกึ ผลหลังสอน ผลการเรียนรู้ ............................................................................................................................. ................................................ ปญั หาและอุปสรรค ............................................................................................................................. ............................................. ขอ้ เสนอแนะและแนวทางแกไ้ ข ........................................................................................................................................................................... ลงช่ือ ......................................ผู้สอน (.......................................................) วนั ท่.ี .........เดอื น..........พ.ศ............. ๙. ความคดิ เห็น/ข้อเสนอแนะของผบู้ ริหารหรือผู้ทไ่ี ดร้ บั มอบหมาย ......................................................................................................................................................................... .. ลงชอื่ ......................................ผ้ตู รวจ (.......................................................) วนั ท่ี..........เดอื น..........พ.ศ.............

356 334526 ใบความรู้เร่อื ง ประโยคซับซ้อน หน่วยที่ ๔ แผนการจดั การเรยี นรู้ที่ ๗ รายวชิ าพน้ื ฐานภาษาไทย ท๒๓๑๐๑ ภาคเรียนที่ ๑ ชั้นมัธยมศึกษาปีท่ี ๓ ประโยคซับซ้อน ประโยคทซ่ี ับซ้อน คอื การนารูปประโยค ทัง้ ประโยคสามัญ ประโยครวมและประโยคซ้อนมาขยายความ ใหซ้ บั ซ้อนยิง่ ข้นึ ประโยคซบั ซอ้ นเกิดจากประโยคท่แี บ่งเป็นประโยคสามญั ประโยครวม และประโยคซ้อน จากประโยค ทั้งสามน้ีเพ่ิมคาขยายหรือข้อความขยาย การรวมประโยคดงั กล่าวเขา้ ดว้ ยกันทาใหก้ ลายเป็นประโยคซบั ซ้อนข้นึ แตส่ ามารถสื่อสารชัดเจนและสละสลวย เพ่มิ ข้อความขยาย โดยมหี ลกั สาคญั ดงั นี้ ๑. ตาแหนง่ คาขยายในประโยค การขยายความในประโยคภาษาไทยนั้น ส่วนขยายจะอยู่ด้านหลังข้อความทจ่ี ะไปขยาย เช่น • ตารวจจานวนหา้ นายประจาสถานีตารวจนครเชียงใหม่จบั ผู้คา้ ยาบ้ารายใหญ่ทีท่ างการเคยทราบเบาะแส มาก่อนได้เมือ่ เชา้ ตอนสายวันอาทติ ย์ที่ ๒21๑ เดือนน้ีเอง ประโยคนี้ประธาน คือ ตารวจ ส่วนขยาย คอื จานวนหา้ นายประจาสถานีนครเชยี งใหม่ ตวั แสดงหรือคากริยา คือ จบั สว่ นขยาย คือ ได้เมื่อเช้าตอนสายวันอาทิตย์ท่ี ๒21๑ เดือนนเี้ อง คาขยายกริยาเรยี งไวห้ ลังกรรม หรือสว่ นขยายกรรมเสมอ กรรมในประโยคน้ี คือ ผู้ค้ายาบา้ และสว่ นขยายกรรม คือ รายใหญ่ทท่ี าการเคยทราบเบาะแส มขี อ้ สงั เกตอย่างหนึง่ คือ สว่ นขยายกริยาที่บอกช่วงเวลาสามารถนาไปเรยี งหนา้ ประธานในประโยคได้ด้วยประโยค ข้างต้นนีเ้ ปลี่ยนแปลงได้ คือ • เม่ือตอนสายวันอาทิตยท์ ่ี ๒๑ เดือนนเี้ อง ตารวจจานวนหา้ นายประจาสถานีตารวจนครเชียงใหม่ จับผู้ค้า ยาบ้ารายใหญ่ท่ีทางการทราบเบาะแสมาก่อน ๒. ขอ้ ระมดั ระวังการวางคาขยาย การเรยี งคาขยายเพอ่ื ไม่ให้ความกากวม หรือความคลาดเคลือ่ น เพ่ือส่ือสารไดช้ ดั เจน ควรให้คาขยาย อยใู่ กล้กับคาท่จี ะไปขยาย ถ้าไมเ่ ป็นเช่นน้แี ลว้ จะมีผลดังกล่าว เชน่ • ผ้หู ญงิ ทีอ่ ุ้มลูกหมาหน้าตาคล้ายคุณพึง่ เดินออกไปเมอ่ื คร่นู ีเ้ อง แก้เป็น ผ้หู ญงิ หน้าตาคลา้ ยคณุ ที่อุ้มลูกหมาเพิ่งเดนิ ออกไปเมื่อครนู่ เ้ี อง • หนังสือพิมพเ์ ป็นยามเฝา้ รฐั บาลท่ดี ี แก้เปน็ หนังสอื พมิ พ์ทดี่ ีเปน็ ยามเฝา้ รฐั บาล

357 334537 ประโยคสามญั ที่ซับซอ้ น ประโยคสามญั ที่ซบั ซ้อนสามารถทาได้ ดงั นี้ ๑. ความซับซ้อนในภาคประธาน ตัวประธานมีส่วนขยายที่เป็นคาและกลุ่มคาทาให้ประโยคสามัญ มขี ้อความซบั ซอ้ นข้นึ ๑.๑ ประธานที่ขดี เสน้ ใต้ เปน็ คานาหน้าด้วยการหรอื ความ หรือคาอาการนาม ตามด้วยส่วนขยาย เช่น • การเฝา้ ตดิ ตามความเคลื่อนไหวของกลมุ่ ดาวยามค่าคนื ทาให้พบดาวดวงใหม่ • ความขยันหมน่ั เพยี รอยา่ งยงิ่ ยวดเปน็ ผลให้ถึงจุดหมายปลายทาง ๑.๒ ประธานทข่ี ีดเสน้ ใตม้ คี าและกลมุ่ คาขยายประธาน ทาใหค้ วามซบั ซ้อนเพ่ิมขน้ึ เชน่ • บา้ นพักคนงานบริษทั หลังใหม่บนเนนิ เขาสร้างเสรจ็ แลว้ • รถเมลส์ าย ๔๐ คันสีแดงเขม้ คาดสีเหลืองวิ่งเรว็ มาก ๒. ความซบั ซ้อนในภาคแสดง ๒.๑ มคี ากรยิ าเป็นกลมุ่ คาหลายคา เช่น • กระรอกตัวนั้นกระโดดไปท่ีผลมะพร้าว มันพยายาม กัด แทะ เคี้ยว และกลืนกินเนื้อมะพร้าว อย่างเอรด็ อรอ่ ย • คนปา่ กลุ่มน้นั ตา่ งกระโดดโลดเตน้ ร่ายราและร้องเพลงไปตามจงั หวะกลอง ๒.๒ มีคากริยาเป็นส่วนขยายอยู่หลายแหง่ ในประโยค เชน่ • นักเรียนต่างขยันเตรียมตัวสอบไล่โดยทบทวนตาราอ่านเน้ือหาและสรุปประเด็นพร้อมกับท่องจา อยา่ งเขา้ ใจ • เขาพยายามพายเรอื ลาเล็ก ๆ มาทางรมิ สระนา้ โดยไมร่ บี รอ้ นนกั ข้อควรระมัดระวังประการหน่ึง ในประโยคมีประธานอย่างเดียว แต่คากริยาประกอบหลายอย่าง ต้องใช้วิภาค สรรพนาม คือ คาว่าบ้าง หรอื บาง มาชว่ ยเชน่ • ผูโ้ ดยสารเข้าคิวกันซอ้ื ตว๋ั ออกนั ขึน้ รถมองหาผนู้ ัดหมายและซอ้ื ของฝากญาติมิตร แก้เป็นผู้โดยสารเข้าคิวกันซื้อต๋ัวบ้างออกันข้ึนรถบ้างมองหาคู่นัดหมายและบ้างซื้อของฝากญาติมิตร วิภาคสรรพนาม คือ บ้าง ไดแ้ ก่ ผ้โู ดยสารนนั่ เอง และทาหน้าท่ีเป็นประธานในประโยคสนั้ ๆ ดงั กลา่ ว

358 334548 ประโยครวมท่ซี ับซ้อน ประโยครวมทซ่ี ับซ้อน คือ ประโยครวมท่ีมสี ่วนขยายเพิม่ ขึ้นเนือ่ งจากมีประโยครวมซ้อนกนั หลายช้ัน เชน่ • ปรชี าไม่ชอบเล่นฟตุ บอลแตเ่ ขาชอบพนนั ฟตุ บอลดงั นน้ั เขามีปญั หาเรอ่ื งการเงินและในทส่ี ุดปรชี า หยุดการเรียนไปอยา่ งนา่ เสียดาย “ดังน้ัน” เป็นคาสนั ธานเชื่อมประโยคความรวมท้ัง ๒ ค่เู ข้าด้วยกัน • บญุ ยนื เป็นเด็กกาพรา้ พ่อแม่ ฉันจึงรับเขามาเลย้ี งดูด้วยความรกั และสง่ บุญยนื เรียนหนงั สือแตภ่ ายหลงั เด็กคนนข้ี าดความเช่ือฟงั ฉันและไปคบเพื่อนทเ่ี ลวดังนนั้ เขาจงึ ติดยาเสพตดิ ไปเม่ือเร็ว ๆ นี้เอง “แต”่ เปน็ คาสนั ธานเชอ่ื มประโยคความรวมทั้งหมด ประโยคซ้อนทซ่ี บั ซ้อน ประโยคซอ้ นทีซ่ ับซ้อน เช่น • ประเสริฐเดนิ ทางไปสงขลาโดยรถด่วนสายใต้ขบวนยาวเหยียดเพราะชว่ งนนั้ เปน็ เทศกาลสงกรานต์ที่ทุกคน พากันเดินทางท่องเทยี่ ว “เพราะ” เป็นคาสนั ธานเชื่อมระหว่างประโยคซ้อนเข้าดว้ ยกนั • ชายร่างผอมผิวคล้าวัยกลางคนนน้ั เดินเร็วมากจนฉนั เดินตามแทบไมท่ นั แต่ขณะท่เี ขากาลงั ย่างขนึ้ น่ัง บนรถประจาทางเมื่อฉันก้าวเท้าขึ้นรถคนั น้นั พอดเี ช่นกนั “แต”่ เป็นคาสันธานเชือ่ มระหว่างประโยคซอ้ นเข้าด้วยกนั ประโยคทซี่ ับซ้อน ประกอบด้วย ประโยคสามญั และประโยคซอ้ น • พระราชาองคน์ ้ีทรงทศพิธราชธรรมดียิ่ง ดังน้ันราษฎรจงึ รักพระองค์จนพวกเขาสละชีพเพ่ือพระองค์ได้ ประโยคสามัญ = พระราชาองค์นท้ี รงทศพธิ ราชธรรมดียงิ่ ประโยคซอ้ น = ราษฎรจงึ รักพระองคจ์ นพวกเขาสละชีพเพื่อพระองค์ คาเชื่อมระหว่างประโยคสามัญและประโยคซ้อน = ดงั นัน้

359 334559 ใบงานเรอ่ื ง การสร้างประโยคซับซ้อน หน่วยท่ี ๔ แผนการจดั การเรยี นรู้ท่ี ๗ รายวชิ าพืน้ ฐานภาษาไทย ท๒๓๑๐๑ ภาคเรยี นที่ ๑ ชน้ั มธั ยมศกึ ษาปีท่ี ๓ คาสง่ั ใหน้ กั เรียนทาประโยคต่อไปน้ีใหเ้ ปน็ ประโยคซับซ้อนยิง่ ข้ึน ๑. ข้าวในนากาลงั สกุ .................................................................................................................................................................... ๒. เสอื ดาทงุ่ ใหญน่ เรศวรถูกฆ่าตาย ............................................................................................................ ........................................................ ๓. พอ่ หรือแม่ทจ่ี ะมารับลูกสาว ............................................................................................................................. ....................................... ๔. เสอ้ื กนั ฝนขายดเี พราะเริม่ เข้าฤดูฝน .................................................................................................................................................................... ๕. ลกู สนุ ัขวง่ิ เล่น .......................................................................................................................... .......................................... ๖. โตะ๊ ล้ม ............................................................................................................................. ....................................... ๗. คุณครูตรวจข้อสอบ ............................................................................................................................................ ........................ ๘. น้องสาวไปเชียงใหมห่ รอื เชียงราย ............................................................................................................................. ....................................... ๙. พ่อทานข้าวเย็นแล้วก็ทานยาหลังอาหาร .................................................................................................................................................................... ๑๐. เจ้าหน้าที่อนุญาตใหถ้ ่ายภาพได้ ............................................................................................................ ...................................................... ๑๑. โตง้ โยนขนมปังให้ปลาในบอ่ กิน ............................................................................................................................. ..................................... ๑๒. ตน้ มะพรา้ วทค่ี ุณตาปลูกมีลูกดกมาก ............................................................................................................................. ..................................... ๑๓. รฐั บาลประกาศวา่ พรงุ่ นี้คือวันหยดุ พเิ ศษ ............................................................................................................................................... ....................... ๑๔. กว่าแมจ่ ะทาขนมเสร็จน้องก็หลับแลว้ .....................................................................................................................................................................

360 334660 ๑๕. นาฬกิ าแกว่ง ............................................................................................................................. ................................... ๑๖. ยากนั ยุงหมด ............................................................................................................................. ................................... ๑๗. นักกีฬาเลน่ ฟตุ บอลกลางสนามทเ่ี พ่ิงปรับปรงุ เสร็จ .................................................................................................................................... ........................... ๑๘. นกั เรียนปวดท้องเพราะทานยาถา่ ยพยาธิ ............................................................................................................................. .................................. ๑๙. โรงเรียนจัดไปทศั นศกึ ษาวันที่ ๒๐ เดือนนี้ ............................................................................................................................................................... ๒๐. นักเรยี นหญงิ ทานกว๋ ยเตี๋ยวแตน่ กั เรียนชายทานข้าวผดั ............................................................................................. ...................................................................

361 334671 เฉลยใบงานเร่ือง การสร้างประโยคซับซ้อน หน่วยท่ี ๔ แผนการจดั การเรยี นรู้ท่ี ๗ รายวิชาพ้ืนฐานภาษาไทย ท๒๓๑๐๑ ภาคเรยี นที่ ๑ ชน้ั มธั ยมศึกษาปีที่ ๓ ๑. ขา้ วพันธ์ กข.๑ ปทุมธานีในนาของคณุ ลงุ ขา้ งบา้ นกาลงั สกุ สีเหลืองเตม็ ทุง่ นา ๒. เสอื ดาท่งุ ใหญ่นเรศวรตัวใหญท่ เ่ี พ่ิงค้นพบเมอ่ื ปที ีแ่ ลว้ ถูกพรานปา่ ฆา่ ตายโดยไมไ่ ด้ตง้ั ใจ ๓. พ่อของนวลอนงค์หรือแม่ของน้องปลายฟา้ ทีจ่ ะมารับลูกสาวของคุณครปู ระจาชนั้ มัธยมศกึ ษาปที ่ี ๓/๓ ๔. เสอื้ กันฝนทีท่ าจากพลาสติกหนาสลี กู กวาดกาลงั ขายดีมากเพราะเรมิ่ เขา้ ฤดูฝนเร็วกวา่ ทุกปที ีผ่ า่ นมา ๕. ลูกสุนัขพนั ธ์บางแก้วสีน้าตาลดากาลังวงิ่ เลน่ อยู่กบั เจ้าของอย่างสนกุ สนาน ๖. โตะ๊ ไมส้ นี า้ ตาลตวั ใหญ่หอ้ งประชุมของหมวดภาษาไทยลม้ ลงตง้ั แต่เมื่อวานเยน็ ๗. คุณครผู ู้สอนประจาวิชาภาษาไทยช้ัน ม.๓ กาลังตรวจข้อสอบวัดผลกลางภาคเรียนวชิ าภาษาไทยอยา่ ง ขะมักเขม้น ๘. นอ้ งสาวคนสุดท้องของศุภนันทาเจ้าของรา้ นขายขนมไทยในตลาดประจาอาเภอไปเที่ยวทีจ่ งั หวดั หรอื จังหวัด เชยี งรายเม่อื วานนี้ ๙. พ่อของภรรยาพช่ี าย รับประทานข้าวเยน็ ท่รี ิมระเบยี ง แลว้ ก็รบั ประทานยาแก้ไข้หลังอาหาร ๑๐. เจา้ หน้าทป่ี ระจาหอสมดุ อนญุ าตให้ถ่ายภาพภายในห้องหนังสอื ได้ ๑๑. โต้งนกั เรยี นช้นั ม.๓ โยนขนมปังใหป้ ลาในบอ่ หลังโรงเรียน กินอย่างสนุกสนาน ๑๒. ต้นมะพร้าวในสวนหลังบา้ นท่ีคุณตาปลกู เมื่อปกี ่อน มีลูกดกมาก ๑๓. รฐั บาลลุงตู่ประกาศอยา่ งเป็นทางการว่าพรงุ่ นี้ คือวนั หยุดพิเศษสาหรับปีนี้ ๑๔. กวา่ แม่ของเพื่อนจะทาขนมไทยแสนอร่อยเสรจ็ น้องคนเล็กกห็ ลบั แล้ว ๑๕. นาฬิกาโบราณเรอื นใหญ่ท่ขี ้างฝาห้องนอน แกว่งลกู ตุ้มตลอดเวลา ๑๖. ยากนั ยุงท่แี มซ่ ื้อมาจากตลาดเม่ือวานนหี้ มดแลว้ ๑๗. นักกีฬาเยาวชนไทยเลน่ ฟตุ บอลกลางสนามแขง่ ขันที่เพง่ิ ปรบั ปรุงเสรจ็ เม่ือวานนี้ ๑๘. นกั เรยี นชั้นประถมศึกษาปวดทอ้ งอย่างรนุ แรง เพราะรับประทานยาถา่ ยพยาธิมากเกินไป ๑๙. โรงเรยี นมัธยมศึกษาจังหวัดประจวบครี ขี นั ธ์จัดไปทัศนศกึ ษาเมอื่ วนั ท่ี ๒๐ เดือนนี้ ๒๐. นกั เรียนหญงิ รับประทานกว๋ ยเตยี๋ วเสน้ เลก็ แห้ง แต่นักเรียนชายรับประทานข้าวผดั ปู (อยใู่ นดลุ ยพินจิ ของครู)

362 334682 ขัน้ ตอนการเขา้ กจิ กรรม KAHOOT เร่อื ง การสรา้ งประโยคซับซ้อน หน่วยที่ ๔ แผนการจดั การเรยี นรู้ท่ี ๗ รายวิชาพื้นฐานภาษาไทย ท๒๓๑๐๑ ภาคเรยี นที่ ๑ ชั้นมธั ยมศกึ ษาปีท่ี ๓ การเขา้ เล่นเกม Kahoot ๑. พมิ พ์ Kahoot.it ใน Google ๒. ครูเขา้ ระบบในกรณีทสี่ มัครเป็นสมาชิกแล้ว หากยงั ไม่เปน็ สมาชกิ ต้องสมัครเป็นสมาชิกในระบบก่อน ๓. ค้นหาเกม”ทบทวนเร่ืองประโยคโดยครศู ุภนันทา” (กรณีที่โรงเรยี นปลายทางสัญญาณอินเทอรเ์ น็ตไม่มหี รอื ไมเ่ พียงพอ ให้ครนู าเนื้อหามาจดั ทาเปน็ แถบประโยคให้ นักเรียนตอบ)

363 หนว่ ยการเรียนรู้ท่ี ๔ พัฒนาพาที แผนการจัดการเรียนรู้ท่ี ๘ เวลา ๑ ชว่ั โมง กลุม่ สาระการเรียนรู้ ภาษาไทย เรื่อง เขยี นประโยคซบั ซ้อน ช้นั มัธยมศกึ ษาปที ่ี ๓ ขอบเขตเนื้อหา รายวชิ าพืน้ ฐานภาษาไทย เขยี นประโยคซบั ซ้อน กจิ กรรมการเรยี นรู้ ส่อื /แหลง่ เรียนรู้ จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้ ขนั้ นา ๑. แถบประโยค ๒ ข้อความ ด้านความรู้ ๒. หนงั สอื เรียนรายวชิ าพื้นฐานภาษาไทย ๑. นกั เรยี นอ่านประโยคจากแถบประโยคที่ครกู าหนด ววิ ิธภาษา ช้ันมธั ยมศึกษาปีที่ ๓ เรอ่ื ง เปงิ วิเคราะหร์ ปู ประโยคทซ่ี บั ซ้อน แถบประโยคท่ี ๑ สเปงิงกสรงากนรตา์นต์ ด้านทกั ษะและกระบวนการ ภาระงาน/ชิน้ งาน ชาวบา้ นพยายามจ้องมองดตู ้นไมป้ ระหลาด การเขียนแผนผังความคดิ เรื่องชนิดของ เขยี นประโยคซบั ซ้อน ด้วยความสนใจ ประโยคซับซ้อนลงในสมดุ บันทกึ ของนักเรียน ดา้ นคณุ ลกั ษณะ แถบประโยคที่ ๒ ๑. ใฝเ่ รียนรู้ บริษัทใกล้ถนนดสุ ติ เขตกรงุ เทพมหานคร เพ่ิงเปิด ๒. รกั ความเป็นไทย เมอ่ื เดือนทีแ่ ล้ว แตต่ อนน้ีปดิ กจิ การแล้ว ๓. มีจติ อาสา ๒. นักเรียนรว่ มกันวเิ คราะห์ความแตกต่างของประโยค ทั้ง ๒ ประโยคว่ามีความเหมอื นหรือแตกต่างกันอย่างไร โดยครูคอยช้ีแนะและอธิบายเพิม่ เติม ข้นั สอน ๑. นักเรียนร่วมกันอธิบายเรอ่ื ง ประโยคซบั ซอ้ น อกี ครั้ง โดยครู คอยชี้แนะอธิบายเพิ่มเติม ๒. นกั เรียนอา่ นตานานเปิงสงกรานต์ ในหนงั สือเรยี น รายวชิ าพ้นื ฐานภาษาไทย ววิ ิธภาษา ชัน้ มธั ยมศึกษาปีท่ี ๓ หน้า ๘๔ – ๘๙ จากนน้ั นักเรยี นชว่ ยกนั รวบรวมประโยคซบั ซ้อน ท่ีพบในเร่ือง พร้อมระบชุ นดิ ของประโยคคนละประโยค 334693

หน่วยการเรียนรูท้ ่ี ๔ พัฒนาพาที แผนการจดั การเรยี นรู้ที่ ๘ 364 กลมุ่ สาระการเรียนรู้ ภาษาไทย เรอื่ ง เขียนประโยคซับซ้อน เวลา ๑ ช่วั โมง รายวชิ าพื้นฐานภาษาไทย ชน้ั มัธยมศกึ ษาปที ่ี ๓ ๓. อาสาสมัครนักเรยี นนาเสนอเรอื่ ง ประโยคซับซ้อนที่พบใน เรื่อง เปงิ สงกรานต์ พร้อมทั้งวเิ คราะห์รูปประโยค โดยให้เพอื่ นใน ช้นั เรยี นและครรู ว่ มกันตรวจสอบความถกู ต้อง ๔. นกั เรียนคดิ ประโยคซับซอ้ นชนดิ ต่าง ๆ คนละ ๑ ประโยค และเขยี นลงในสมุดบนั ทึกการเรียนรู้ จากนั้นนาประโยคที่คิดข้นึ ให้เพื่อนตอบวา่ เป็นประโยคซับซ้อนชนิดใดและพูดวเิ คราะห์ รูปประโยค โดยให้เพ่ือนในชนั้ เรยี นรว่ มกนั ตรวจสอบความถูกตอ้ ง และครคู อยช้ีแนะอธิบายเพมิ่ เติม ข้ันสรปุ ๑. นักเรียนและครูร่วมกันสรุปประโยคซบั ซ้อนชนดิ ต่าง ๆ ลงในสมดุ บนั ทกึ ของนักเรยี น ๒. นกั เรียนรว่ มกันตอบคาถามท้าทายวา่ ประโยคมีความสาคัญ ตอ่ การสื่อสารและการอนุรักษว์ ัฒนธรรมไทยอย่างไร 335604

365 335615 การวดั และประเมนิ ผล ส่งิ ท่ีต้องการวดั /ประเมิน วิธกี าร เคร่ืองมอื ทใี่ ช้ เกณฑ์ ดา้ นความรู้ ทาใบงาน ใบงาน ผ่านเกณฑ์ ร้อยละ ๘๐ ผา่ นเกณฑ์ ร้อยละ ๘๐ วเิ คราะหร์ ูปประโยค - เขยี นประโยคซบั ซ้อน - ตรวจประโยค ซับซ้อน ทคี่ ิดขนึ้ เอง ๑ ประโยค ซับซ้อนที่คดิ ขึ้นเอง ระดับคุณภาพ ๒ ด้านทักษะและกระบวนการ - ทาแผนผงั ความคิด - ตรวจแผนผัง ผ่านเกณฑ์ เร่อื ง ประโยคซับซอ้ น ความคิด เขยี นประโยคซับซ้อน - ซักถาม - ขอ้ คาถาม ด้านคณุ ลกั ษณะ สงั เกตพฤติกรรม แบบประเมิน ๑. ใฝเ่ รยี นรู้ ๒. รกั ความเปน็ ไทย ๓. มีจติ อาสา ๘. บนั ทึกผลหลังสอน ผลการเรยี นรู้ ............................................................................................................................. ................................................ ปญั หาและอุปสรรค ............................................................................................................................. ............................................. ข้อเสนอแนะและแนวทางแกไ้ ข ........................................................................................................................................................................... ลงชอื่ ......................................ผู้สอน (.......................................................) วันท.่ี .........เดอื น..........พ.ศ............. ๙. ความคดิ เหน็ /ขอ้ เสนอแนะของผู้บริหารหรือผู้ทไี่ ด้รบั มอบหมาย ......................................................................................................................................................................... .. ลงชือ่ ......................................ผู้ตรวจ (.......................................................) วันท.ี่ .........เดอื น..........พ.ศ.............

366 335626 ใบงานเรือ่ ง เขยี นประโยคซับซอ้ น หนว่ ยท่ี ๔ แผนการจดั การเรยี นรทู้ ี่ ๘ รายวชิ าพืน้ ฐานภาษาไทย ท๒๓๑๐๑ ภาคเรยี นที่ ๑ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๓ คาชี้แจง ใหน้ กั เรียนสบื ค้นประโยคซับซ้อนที่พบในเร่ือง เปงิ สงกรานต์ ในหนงั สือเรยี นรายวชิ าพื้นฐานภาษาไทย วิวธิ ภาษา ชน้ั มธั ยมศกึ ษาปีที่ ๓ ประโยคสามญั ซบั ซ้อน .....…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… การวเิ คราะห์ประโยค ................................................................................................................................................. ............................................................................................................................. ....................................................... .................................................................................................................................................................................... ประโยครวมซับซอ้ น ......…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… การวเิ คราะห์ประโยค ................................................................................................................................................. ............................................................................................................................. ....................................................... ............................................................................................................................. ....................................................... ประโยคซอ้ นซบั ซ้อน .....…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… การวิเคราะหป์ ระโยค ................................................................................................................................................. ............................................................................................................................................................ ........................ .......................................................................................................... ..........................................................................

367 335637 ใบงานเรื่อง เขียนประโยคซับซ้อน หน่วยที่ ๔ แผนการจัดการเรยี นรทู้ ี่ ๘ รายวชิ าพ้ืนฐานภาษาไทย ท๒๓๑๐๑ ภาคเรียนท่ี ๑ ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปีท่ี ๓ คาชีแ้ จง ใหน้ ักเรยี นสืบค้นประโยคซับซ้อนที่พบในเร่ือง เปงิ สงกรานต์ ในหนงั สือเรียนรายวิชาพื้นฐานภาษาไทย ววิ ิธภาษา ช้ันมัธยมศกึ ษาปีที่ ๓ ประโยคสามญั ซบั ซ้อน ๑. การนาข้าวแชถ่ วายพระทว่ี ัดตลอดระยะสงกรานต์ท้ัง ๓ วนั การวิเคราะหป์ ระโยค การนาข้าวแช่เปน็ ประธานของประโยค ถวายเปน็ กริยาหลักของประโยค พระเป็นกรรม ท่วี ัดตลอดระยะสงกรานต์ท้ัง ๓ วนั เปน็ ส่วนขยายกรรมของประโยค ๒. เศรษฐีผู้หนงึ่ มีทรัพย์สมบตั ิแกว้ แหวนเงนิ ทอง การวเิ คราะหป์ ระโยค เศรษฐเี ป็นประธานของประโยค มีเป็นกริยาหลกั ของประโยค ทรพั ยเ์ ป็นกรรมของ ประโยค ผ้หู นึง่ เป็นสว่ นขยายประธานของประโยค สมบัตแิ ก้วแหวนเงนิ ทองเปน็ ส่วนขยายกรรมของประโยค ประโยครวมซบั ซ้อน ๑. นางทงุ ษะ นางรากษส นางโคราค นางกริณี นางมณฑา นางกิมทิ า และนางมโหทรจะผลดั เปลี่ยนเวียนกนั นาเศยี รท้าวกบลิ พรหมออกแหแ่ หนรอบเขาพระสเุ มรปุ ีละครัง้ การวิเคราะห์ประโยค มี ๗ ประโยคย่อย โดยมคี าสันธานคือ และ ประโยคที่ ๑ คือ นางทุงษะจะผลัดเปล่ยี นเวียนกนั นาเศียรทา้ วกบลิ พรหมออกแห่แหนรอบเขาพระสุเมรุปีละครั้ง ประโยคท่ี ๒ คือ นางรากษสจะผลัดเปลีย่ นเวียนกันนาเศยี รท้าวกบลิ พรหมออกแห่แหนรอบเขาพระสุเมรุปลี ะครั้ง ประโยคท่ี ๓ คอื นางโคราคจะผลดั เปลี่ยนเวยี นกนั นาเศียรท้าวกบิลพรหมออกแหแ่ หนรอบเขาพระสเุ มรปุ ีละครั้ง ประโยคที่ ๔ คือ นางกริณจี ะผลดั เปลี่ยนเวียนกนั นาเศียรท้าวกบิลพรหมออกแห่แหนรอบเขาพระสเุ มรุปีละครง้ั ประโยคที่ ๕ คอื นางมณฑาจะผลัดเปลีย่ นเวยี นกนั นาเศียรทา้ วกบิลพรหมออกแหแ่ หนรอบเขาพระสเุ มรุปลี ะคร้ัง ประโยคที่ ๖ คอื นางกมิ ิทาจะผลดั เปล่ียนเวียนกันนาเศยี รทา้ วกบิลพรหมออกแห่แหนรอบเขาพระสุเมรุปลี ะคร้ัง ประโยคที่ ๗ คอื นางมโหทรจะผลัดเปลย่ี นเวยี นกนั นาเศียรทา้ วกบลิ พรหมออกแห่แหนรอบเขาพระสุเมรุปลี ะครั้ง ประโยคซอ้ นซบั ซอ้ น ๑. เศรษฐีบงการบา่ วไพรใ่ หจ้ ดั เครื่องบวงสรวงสังเวยพระไทรซ่งึ สิงสถติ อยู่ ณ ตน้ ไทรใหญร่ มิ น้า การวเิ คราะหป์ ระโยค เศรษฐบี งการบ่าวไพร่ เปน็ มุขยประโยค (ประโยคหลัก) ให้จดั เคร่ืองบวงสรวงสังเวยพระไทรซึง่ สิงสถิตอยู่ ณ ตน้ ไทรใหญร่ ิมน้า เปน็ อนุประโยค (ประโยคยอ่ ย) และคาว่า พระไทร มีอนปุ ระโยคคือ สิงสถิตอยู่ ณ ต้นไทรใหญร่ ิมนา้ ขยายตามลาดบั

368 335648 เกณฑ์ประเมนิ การเขียนแผนผังความคิด เรอ่ื ง ประโยคซับซ้อนชนิดต่าง ๆ รายการประเมนิ ดีมาก คาอธบิ ายระดับคุณภาพ /ระดับคะแนน ๑. การระบุชนิดของ (๔) ดี พอใช้ ปรับปรงุ ประโยค ระบชุ นิดของประโยค (๓) (๒) (๑) ๒. การอธบิ าย ได้ถูกตอ้ ง ครบถว้ น ระบชุ นดิ ของประโยค ระบชุ นดิ ของประโยค ระบชุ นิดของประโยค ประโยคแต่ละชนดิ ชัดเจน ได้ถูกตอ้ ง ไดถ้ ูกตอ้ ง ได้ถูกตอ้ ง ๓. ความถูกตอ้ งใน เปน็ สว่ นใหญ่ เป็นบางส่วน เพียงเลก็ น้อย การเขยี นกรอบ อธิบายประโยค ครบถว้ น แต่ไม่ค่อย แนวคิด แตล่ ะชนิดได้ถูกต้อง ชดั เจน มีตวั อยา่ งชัดเจน การอธบิ ายประโยค การอธิบายประโยค การอธิบายประโยค ๔. การใชภ้ าษา วิเคราะห์เนอื้ หา แตล่ ะชนิดได้ถกู ต้อง แต่ละชนิดได้ถูกต้อง แตล่ ะชนิดได้ถกู ต้อง ๕. ความสวยงามและ เรียบเรยี งจดั หมวดหมู่ มีตัวอยา่ งชัดเจนเป็น มีตวั อย่างชดั เจนเปน็ แตไ่ ม่มตี ัวอย่าง ความเรยี บรอ้ ยของ เนือ้ หา วางประเด็น สว่ นใหญ่ บางส่วน ประกอบ ชนิ้ งาน หลักไวก้ ลาง มีข้อบกพร่องใน มขี อ้ บกพร่องใน มีข้อบกพร่องใน หนา้ กระดาษ การเขียนผังความคิด การเขยี นผังความคิด การเขียนผงั ความคดิ เขยี นประเด็นรองไว้ ๑ รายการ ๒ รายการ ต้งั แต่ ๓ รายการ ตามหัวขอ้ ขนึ้ ไป ใชภ้ าษาถูกต้อง สละสลวย ไม่สับสน ใช้ภาษาถกู ต้อง ใชภ้ าษาถกู ต้อง ใชภ้ าษาถกู ต้อง แต่ วกวน อา่ นเขา้ ใจง่าย สละสลวย ไม่สับสน สละสลวย ไม่สบั สน ไมส่ ละสลวย สับสน ผลงานการเขียน วกวน อ่านเขา้ ใจง่าย วกวน อ่านเข้าใจง่าย วกวน อา่ นเข้าใจยาก แผนผังความคิด เปน็ ส่วนใหญ่ เปน็ บางส่วน ผลงานการเขียน สวยงาม เรยี บรอ้ ย ผลงานการเขียน ผลงานการเขียน แผนผงั ความคิด และสรา้ งสรรค์ดี แผนผงั ความคดิ แผนผังความคิด ไมส่ วยงามและ สวยงาม เรียบรอ้ ย สวยงาม แตไ่ ม่คอ่ ย ไมเ่ รียบรอ้ ย เรยี บรอ้ ย

369 335659 เกณฑ์การประเมินคุณภาพ ระดับคุณภาพ ช่วงคะแนน ดมี าก ๑๗ – ๒๐ ดี ๑๓ – ๑๖ พอใช้ ๑๐ – ๑๒ ต่ำกวา่ ๑๐ ควรปรับปรงุ

370 หนว่ ยการเรียนร้ทู ี่ ๔ พัฒนาพาที แผนการจดั การเรยี นรูท้ ี่ ๙ เวลา ๑ ชั่วโมง กลมุ่ สาระการเรยี นรู้ ภาษาไทย เรอื่ ง พนิ จิ วรรณกรรม ช้ันมัธยมศกึ ษาปีท่ี ๓ รายวชิ าพืน้ ฐานภาษาไทย ขอบเขตเนอื้ หา กิจกรรมการเรียนรู้ สอื่ /แหล่งเรยี นรู้ การวิเคราะหว์ ิถีไทยและคุณค่าจากวรรณคดี ขน้ั นา ๑. ใบความรเู้ รอื่ ง หลกั การวเิ คราะหเ์ ร่ืองส้ัน และวรรณกรรมท่ีอา่ น ๑. นกั เรยี นสนทนาแลกเปล่ยี นความคิดเหน็ เกี่ยวกับเรอื่ งสัน้ ๒. ใบงานเร่อื ง เรือ่ งสัน้ ซีไรต์เรอื่ ง ซ่นิ ไหม การสรปุ ความรแู้ ละข้อคิดจากการอ่าน ท่นี กั เรียนเคยอา่ นวา่ มีเร่ืองอะไรบ้าง พร้อมท้ังบอกแรงจูงใจวา่ ทาไม ผนื เกา่ ๆ เพือ่ นาไปประยกุ ต์ใช้ในชวี ิตจริง นกั เรยี นจึงสนใจอ่านเร่ืองส้ันเร่อื งนัน้ ๓. ใบงานเรอ่ื ง การวเิ คราะห์องคป์ ระกอบ จุดประสงค์การเรยี นรู้ ของเรื่องสน้ั วถิ ีไทย คุณค่าและข้อคิดที่พบใน ดา้ นความรู้ ข้นั สอน เรอื่ งสน้ั เร่อื ง ซิ่นไหมผนื เก่า ๆ วเิ คราะห์วิถีไทยและอธิบายคณุ คา่ จากเรื่องส้ัน ๑. นักเรียนรว่ มกันอธบิ ายหลักการอา่ นเรื่องสนั้ โดยครูช้ีแนะและ ภาระงาน/ชน้ิ งาน เรอ่ื ง ซิ่นไหมผืนเกา่ ๆ อธิบายเพม่ิ เติม ด้านทักษะ/กระบวนการ ๒. นักเรยี นแบ่งกลุ่ม กลุ่มละ ๔ คน ร่วมกันอา่ นและวิเคราะห์ พดู นาเสนอผลงานการวเิ คราะหอ์ งค์ประกอบ องค์ประกอบของเร่ืองสั้น วถิ ไี ทย คุณค่าและขอ้ คดิ ท่ีพบในเรอื่ งสนั้ เรือ่ งสน้ั วิถีไทย คณุ ค่า และข้อคดิ ท่ีพบในเรื่องสั้น เร่ือง ซนิ่ ไหมผืนเกา่ ๆ ในใบงาน เร่ือง ซิน่ ไหมผืนเกา่ ๆ ๔. อาสาสมคั รนกั เรียนพูดนาเสนอผลงานการวิเคราะห์ ด้านคณุ ลักษณะ องค์ประกอบเรื่องสั้น วถิ ีไทย คุณค่า และข้อคิดทพ่ี บในเร่อื งสั้น ๑. ใฝเ่ รียนรู้ เร่ือง ซน่ิ ไหมผนื เก่า ๆ โดยให้เพื่อนในช้ันเรียนและครรู ่วมกัน ๒. มีมารยาทในการอา่ น พจิ ารณา ๓. มีมารยาทในการพดู 335760

หน่วยการเรยี นรู้ท่ี ๔ พัฒนาพาที แผนการจดั การเรียนรทู้ ่ี ๙ เวลา ๑ ช่ัวโมง กลุ่มสาระการเรียนรู้ ภาษาไทย เรอื่ ง พนิ ิจวรรณกรรม ชั้นมัธยมศกึ ษาปีที่ ๓ รายวชิ าพ้นื ฐานภาษาไทย ข้นั สรปุ ๑. นกั เรียนร่วมกันสรปุ องค์ประกอบการอ่านเร่ืองส้ัน วิถีไทย คณุ คา่ และข้อคดิ ท่ีพบในเรื่องส้นั เรอ่ื ง ซิ่นไหมผืนเก่า ๆ โดยครู ชีแ้ นะเพิ่มเตมิ ๒. นักเรียนรว่ มกันตอบคาถามทา้ ทายวา่ หากนักเรียนอ่าน เร่ืองสั้น ๑ เรื่อง นกั เรยี นจะมีแนวทางการอ่านอยา่ งไร 371 357

372 335782 การวัดและประเมินผล สง่ิ ท่ีต้องการวดั /ประเมิน วิธีการ เครือ่ งมือท่ใี ช้ เกณฑ์ ดา้ นความรู้ วเิ คราะห์วิถีไทยและอธบิ าย ทาใบงาน ใบงาน ผา่ นเกณฑ์ ร้อยละ ๘๐ คุณค่าท่ีพบในเร่อื งสัน้ เรื่อง ซิน่ ไหมผนื เก่า ๆ ด้านทักษะและกระบวนการ พดู นาเสนอผลงาน พดู นาเสนอผลงาน แบบประเมินการพดู ผา่ นเกณฑ์ ร้อยละ ๘๐ การวิเคราะห์องค์ประกอบ นาเสนอผลงาน เรื่องสั้น วถิ ไี ทย คุณค่า และข้อคิดทพี่ บในเรอ่ื งสัน้ เรอื่ ง ซนิ่ ไหมผนื เก่า ๆ ดา้ นคุณลกั ษณะ ๑. ใฝเ่ รียนรู้ สังเกตพฤตกิ รรม แบบประเมิน ระดบั คุณภาพ ๒ ๒. มีมารยาทในการอ่าน ผ่านเกณฑ์ ๓. มีมารยาทในการพดู ๘. บนั ทึกผลหลังสอน ผลการเรยี นรู้ ............................................................................................................................. ................................................ ปัญหาและอปุ สรรค .................................................................................................................................................................... ...... ข้อเสนอแนะและแนวทางแกไ้ ข ............................................................................................................................. .............................................. ลงชอื่ ......................................ผู้สอน (.......................................................) วนั ท.ี่ .........เดือน..........พ.ศ............. ๙. ความคดิ เหน็ /ขอ้ เสนอแนะของผูบ้ ริหารหรือผู้ท่ีไดร้ ับมอบหมาย ............................................................................................................................. .............................................. ลงชอ่ื ......................................ผู้ตรวจ (.......................................................) วันท.่ี .........เดอื น..........พ.ศ.............

373 335793 ใบความรู้ เรอื่ ง หลักการวิเคราะห์องคป์ ระกอบเรื่องส้ัน หนว่ ยที่ ๔ แผนการจดั การเรียนร้ทู ่ี ๙ รายวชิ าพน้ื ฐานภาษาไทย ท๒๓๑๐๑ ภาคเรียนที่ ๑ ชัน้ มัธยมศกึ ษาปีท่ี ๓ หลักการวเิ คราะห์องค์ประกอบเรอ่ื งส้นั เรอื่ งสน้ั คือ งานเขยี นที่แตง่ ข้ึนเป็นเรือ่ ง มขี นาดสน้ั และไม่ซับซอ้ นเหมือนงานเขียนประเภทนวนยิ าย แต่ ก็ไม่ใชน่ วนิยายขนาดสนั้ หรอื การยอ่ นวนยิ ายให้ส้นั ลง ลักษณะเรอ่ื งสน้ั ๑) มีขนาดส้ันและมุง่ เสนอแนวคิดเพียงอย่างเดยี ว ๒) มโี ครงเรือ่ งสนุก เรา้ ใจตดิ ตาม ๓) มีการดาเนนิ เรื่องในชว่ งระยะเวลาส้นั ๔) มตี วั ละครสาคัญน้อยตวั ๕) มีการสรา้ งฉาก บรรยากาศ บทสนทนา และองคป์ ระกอบตา่ ง ๆ ดว้ ยภาษาและกลวิธกี ารแตง่ ท่ีกระชบั รัดกมุ และทาใหเ้ ร่ืองสมจรงิ การพจิ ารณาแนวคดิ สาคญั ของเรือ่ งสนั้ การอ่านเรื่องสัน้ นอกจากจะได้ความสนกุ สนานเพลดิ เพลินแล้ว คุณคา่ ของเร่ืองส้ันยงั อยู่ทีแ่ นวคดิ สาคญั หรือแก่นเรื่อง ซึ่งผูแ้ ต่งไม่ได้บอกกลา่ วไวต้ รง ๆ ผูอ้ า่ นต้องพิจารณาจากสง่ิ ต่อไปน้ี ๑) ชอ่ื เรอ่ื ง นบั เป็นจุดชแ้ี นะหัวใจของเรื่องสั้น บางเรื่องตั้งชื่อใหเ้ ห็นแก่นเรือ่ งอย่างชดั เจน ๒) พิจารณาจากข้อขดั แย้งของเรื่อง แล้วตดิ ตามการคลี่คลายของขอ้ ขัดแย้งวา่ สิ้นสุดลงอย่างไร จะช่วย ชี้ใหเ้ หน็ แก่นเรื่องได้ชดั เจน ๓) สรุปสาระสาคญั โดยการตอบคาถามให้ได้วา่ ใคร ทาอะไร ทไี่ หน อย่างไร และทาไม ซ่ึงนอกจากจะทา ใหผ้ ูอ้ ่านจับใจความของเรอื่ งได้แล้ว ยังเป็นจดุ ช้ีนาให้เหน็ แกน่ เรื่องหรือแนวคิดสาคญั ได้ ๔) ภูมหิ ลัง การมีความรู้ความเขา้ ใจเกีย่ วกับสังคมและเหตุการณใ์ นเร่ืองจะช่วยใหเ้ ขา้ ใจเรอื่ งสัน้ นน้ั ไดด้ ี ย่ิงขึน้ ๕) นา้ เสยี งหรือหางเสียงของผ้แู ตง่ บางครั้งผแู้ ต่งไม่ไดน้ าเสนออย่างตรงไปตรงมา อาจนาเสนอในลักษณะ เสียดสี เหนบ็ แนม ประชดประชัน เปน็ ต้น การจบั น้าเสยี งของผูแ้ ตง่ ไดจ้ ะช่วยใหจ้ ับใจความสาคญั ของเร่ืองและ คน้ หาแก่นเรื่องได้

374 336704 องค์ประกอบของเรอ่ื งสน้ั ๑) แนวคิดหรือแก่นเรื่อง (Theme) คือสาระสาคัญที่ผู้เขียนตั้งใจจะบอกแก่ผู้อ่าน เป็นแนวคิดหลักเพียง แนวคิดเดียวของเรือ่ ง ผเู้ ขยี นอาจจะบอกแนวคิดตรง ๆ โดยผา่ น “ปาก” ของตัวละครตวั ใดตัวหนง่ึ ในเร่อื ง แนวคิดของเรื่องสั้นบางเรื่อง ผู้เขียนอาจไม่ได้บอกโดยตรง ผู้อ่านจะต้องค้นหาจากการตีความตามเรื่อง ตามพฤตกิ รรมของตวั ละคร และตามเหตกุ ารณ์ที่เกิดข้นึ ๒) โครงเร่ือง (Plot) คือเค้าโครงของการดาเนินเร่ืองท่ีผู้ประพันธ์กาหนดข้ึน รวมทั้งพฤติกรรมของ ตัวละคร และเหตุการณ์ต่าง ๆ เพ่ือให้การดาเนินเรื่องมีความเกี่ยวพันกัน โครงเร่ืองของเร่ืองสั้นจะชัดเจน ไมซ่ ับซอ้ นเหมือนนวนิยาย ซง่ึ มโี ครงเร่ืองย่อย (sub plot) ซ้อนอยใู่ นโครงเรื่องใหญ่อกี ๓) ตัวละคร (Characters) และบทสนทนา (Dialoque) ตัวละคร คือ ผู้ที่แสดงบทบาทหรือพฤติกรรมต่าง ๆ เพื่อให้สอดคล้องกับโครงเรื่องและแนวคิดของเร่ือง ตวั ละครเหลา่ น้อี าจเป็นมนุษย์ สัตว์ หรอื สง่ิ ท่ีไมม่ ีชวี ติ เช่น โตะ๊ เก้าอี้ ต้นไม้ ฯลฯ ส่วนบทสนทนา (Dialoque) เป็นองค์ประกอบที่สาคัญอีกอย่างหน่ึง ซึ่งจะทาให้ผู้อ่านเห็นลักษณะของ ตวั ละครและการดาเนินเร่อื งชดั เจนและสมจรงิ ยงิ่ ขึน้ บทสนทนาจะช่วยให้เน้ือเร่ืองมีความสมจริงมากขึ้น เน่ืองจากบทสนทนาจะต้องสร้างให้ตรงกับลักษณะ ของตัวละคร คือ ตามฐานะ การศึกษา อุปนิสัย และสภาพความเป็นอยู่ ปรกติจะแยกบทสนทนาออกมาจาก บทบรรยาย ๔) ฉาก (Setting) คือ สถานที่ เวลา และส่ิงแวดล้อมทางสังคมที่เหตุการณ์ในเร่ืองน้ัน ๆ เกิดข้ึน ฉากจะ ชว่ ยให้ผเู้ ขียนกาหนดเวลา สถานที่ บรรยากาศไดต้ รงตามเนื้อเรอ่ื ง ทาให้เรื่องสมจริงมากขึ้น จะเห็นได้ว่า แก่นเรื่อง โครงเร่ือง ตัวละคร และฉาก เป็นองค์ประกอบที่จาเป็นและสาคัญในการเขียน เร่ืองสน้ั

375 336715 ใบงานเร่อื ง เรือ่ งสน้ั ซไี รต์เรอ่ื ง ซ่นิ ไหมผืนเกา่ ๆ หน่วยที่ ๔ แผนการจัดการเรียนรทู้ ี่ ๙ รายวิชาพนื้ ฐานภาษาไทย ท๒๓๑๐๑ ภาคเรียนท่ี ๑ ช้ันมัธยมศึกษาปีที่ ๓ เร่ืองส้นั เร่ือง ซ่ินไหมผืนเก่า ๆ “แม่เอ้ย แม่... แม่เอ้ย...” “อะไรกัน เอง็ ทาไมตาลีตาเหลือกมา ไอ้เป๊ยี ก” “เขามาหาซื้อซน่ิ เก่า เขาว่าถา้ ไมอ่ ยากขาย กแ็ ลกกะซ่นิ ผนื ใหม่ๆ ก็ได้!” ลกู ชายคนเลก็ ว่ิงตาลีตาเหลือกมาท้ัง ๆ ยงั หอบกระเส่ารีบรายงานแม่ “ อย่ไู หน ท่ีเอ็งวา่ จริงเปล่าวะ ” “ จรงิ ๆ แม่ โนน่ อยตู่ รงโนน้ ไง!” ไมร่ ีรอ ลูกชายตัวกะเป๊ียกลากแขนแม่ไปทรี่ ถกระบะคันหน่งึ ที่จอดอย่ตู รงปากทางเข้าหมบู่ ้าน ซึง่ มกี ล่มุ ชาวบา้ นกาลังมงุ กนั เต็มราวกับมงี านบุญ นานแล้วทีแ่ มไ่ ม่ได้ซอ้ื ซนิ่ ผนื ใหมใ่ ส่เหมอื นชาวบา้ นชาวเมืองเขา แมค่ ดิ วา่ ตวั เองนนั้ แก่ชรามากแล้ว ใสอ่ ะไรกใ็ ส่ ๆ ไป เก็บเงินไว้ซ้ือใหล้ ูกเต้าใส่ และส่งเสรมิ ใหล้ ูกไดเ้ ล่าไดเ้ รียนหนงั สือหนังหาดกี วา่ เรือ่ งนี้ลกู สาวคนโตกเ็ คยเตือนออกบอ่ ยไปวา่ “ แม่ควรจะซ้ือซิน่ ผืนใหม่ ๆ มาใชส้ กั ผืนนะ!” ลูกสาวคนโตช่อื “นวล” กาลังเรียนท่ีโรงเรยี นวิจติ รกรรมปีสุดทา้ ย สว่ นลกู ชายคนเลก็ ก็เรยี นโรงเรียนประถม เม่ือพดู ถึงนวลน่ีกเ็ กือบจะถึงเดือนแล้วท่ียงั ไมเ่ หน็ หน้ากลบั มาเยีย่ มบา้ น ตามปกติ นวลจะกลับมาเยยี่ มแม่ทุกอาทิตย์ หรอื ถา้ นานหน่อยก็ไมเ่ กนิ สองอาทติ ย์ นวลมันกจ็ ะกลับมาเย่ียมบา้ นทหี นง่ึ แม่สังเกตดูซิ่นผืนใหม่ ๆ ทเ่ี พ่ือนบ้านกาลังเลือก พลางนกึ ถึงคาพดู ของลกู สาว แลว้ ทาให้ร้สู ึกวา่ ใจสดชื่นขน้ึ มาทนั ที แมพ่ นิ ิจดดู ี ๆ แล้วเหน็ ว่า ซ่ินไหมทชี่ าวบ้านเอามาขายหรือแลกเปล่ยี นกับซน่ิ ผนื ใหมน่ ้นั มนั เกา่ มาก เก่าจนขาดกม็ ี

376 336726 แมต่ ัดสินใจกลบั บา้ น เปิดเอาซน่ิ ไหมผนื เกา่ ๆ ออกมาจากหีบ ซน่ิ ผนื น้เี ป็นซ่ินทแ่ี ม่ของแมเ่ ป็นคนทอและเอามาฝาก ถงึ มันจะเกา่ ก็ยังไม่ขาด ยังดูเปน็ เงางาม แม่เคยสวมใส่แต่คร้งั ยงั เปน็ สาว พอได้สามกี ็เอาเก็บไวใ้ นหีบและไม่เคยใส่มนั อีกเลย แม้แต่ลกู ท้ังสองคนก็ไม่เคยรูด้ ้วยซา้ ว่าแมม่ ีซน่ิ ผนื น้ี แม่ถือผา้ กลบั มาหาพ่อค้าเร่ มีเพือ่ นบ้านหลายคนทยอยกนั เอาผา้ ซิ่นเก่ามาแลกผนื ใหม่ พ่อค้าเรม่ องผ้าซิ่นที่แม่ถือมา แลว้ พูดวา่ “ผนื นี้ยังไม่ขาด แต่เก่ามากแล้ว ขอสามพันกบี ขายมั้ย” “ไม่ขาย! แมไ่ มข่ าย แม่ขอเปลยี่ นกบั ซ่ินผนื ใหม่” “ราคาซ่ินผนื ใหมน่ ้ีส่พี นั กบี แต่ไม่เปน็ ไรหรอก ถอื เสียวา่ ลกู เขยตามนโยบายใหม่ มอบใหแ้ ม่ยายเป็นพเิ ศษกแ็ ล้วกัน มีลกู สาวม้ัยล่ะ แม่ยายน่ะ” เม่ือรบั เอาผ้าซ่ินผนื ใหม่มาแล้ว แมก่ ็ไมล่ ืมกล่าวขอบอกขอบใจชายคนที่ยน่ื ผ้าซ่นิ ให้ “แม่ขอบใจพวกลกู หลานหลาย ๆ ที่เหน็ อกเห็นใจคนเฒ่าคนแก่ ดีราคาซน่ิ ผนื เก่า ๆ เทา่ กับซิน่ ผืนใหม่ท่มี รี าคาตงั้ สี่พันกบี น่ะ” คนื น้นั แม่นอนไมห่ ลับตลอดคนื แม่อยากใหล้ ูกสาวคนโตกลบั มาเยี่ยมบ้านเรว็ ๆ จะได้อวดซน่ิ ผืนใหม่ แม่คิดวา่ นวลจะตอ้ งดใี จมากทเี่ ห็นแม่มซี ่นิ ผืนใหม่ใส่ เหมือนชาวบ้านชาวเมืองแล้ว แม่ยังนกึ ขอบคุณคนทีม่ ากบั รถกระบะคนั น้นั เขาเข้ากับคนไดง้ ่าย ช่างพูดช่างจาจนน่าฟงั ถึงไมเ่ คยเหน็ หนา้ คา่ ตากันมาก่อนก็ตาม สมควรลดให้กล็ ด สมควรจะแจกจะแถมก็ให้ ชา่ งเปน็ คนมีนา้ ใจเหลือเกิน แม่จะต้องเล่าเร่อื งน้ีให้นวลฟังอย่างแน่นอน เม่ือถึงเย็นวนั ต่อมา นวลกลบั มาเย่ียมบ้าน วันนี้รสู้ กึ ว่าเธอมีใบหนา้ ทีส่ ดใสผิดปกติ จนแมน่ กึ สงสัยวา่ “หรือวา่ เจ้าเป๊ียกมนั แอบบอกพี่สาวมันแล้วว่าแม่ไดซ้ ่นิ ใหม่ ” เม่ือเหน็ แมม่ ีสหี น้าสงสัย นวลก็คิดว่าแม่ข้องใจที่สองอาทติ ย์กอ่ นน้นั เธอไม่ไดก้ ลบั บ้าน นวลรบี อธบิ ายใหแ้ ม่เข้าใจทันทีว่า ทีเ่ ธอไม่ได้กลบั มาเยี่ยมบ้าน กเ็ พราะเธอช่วยงานนิทรรศการการแสดงภาพจิตรกรรมของกระทรวง ซงึ่ บัดน้ีงานดงั กลา่ วไดเ้ สรจ็ ผา่ นพน้ ไปแล้ว

377 336737 “ ลกู ยงั ไดน้ าภาพจติ รกรรมสามภาพเขา้ ร่วมแสดงครงั้ นี้อีกดว้ ยนะแม่ แมเ่ หน็ ไหมวา่ ผู้หญิงก็สามารถมสี ่วนรว่ มชว่ ยเหลอื สังคมไดเ้ ช่นกัน” ครตู่ อ่ มา นวลไดล้ ้วงเอาห่อหอ่ หนึ่งออกมาอวดแม่ “แม่เอย้ ... แม่ทายดูซิว่า ลูกได้อะไรมานี่” แมย่ งั ไมเ่ อ่ยตอบ นวลรีบเปดิ ห่อกระดาษนนั้ ออกมา จนทาใหแ้ ม่น่ิงอ้ึงตะลงึ อยตู่ รงน้ัน เพราะในหอ่ กระดาษนั้นมซี ิ่นไหมเก่า ๆ ผนื หน่งึ “ลกู เห็นเขาวางขายอยู่ตลาดเช้า พอดตี อนนี้ ลกู ขายภาพจิตรกรรมชนิ้ แรกได้ ลกู เลยซอ้ื เอาซ่นิ ผนื นี้ สามรอ้ ยบาทเท่าน้นั เอง แถมมีคนให้ลูกต้งั สีร่ ้อยบาทแลว้ นะ แม่ไม่รูเ้ รอะ ถา้ เก็บเอาไวข้ ายให้คนไทยอาจจะได้ถงึ หา้ ร้อยบาทโนน่ แน่ะ แตจ่ ะไปตเี ป็นราคากไ็ ม่ได้ดอกแม่ มันอย่ทู ่ีคุณค่าทางศลิ ปะนน้ั ต่างหาก เพราะมันคือศิลปะอนั วิจิตรงดงาม และก็เปน็ ฝีมือของผูห้ ญิงลาวไดป้ ระดิษฐ์ คิดสรา้ งสรรค์ข้นึ มา กลายเป็นสมบตั ิชิน้ หนึ่งของชาติลาวเรา ทส่ี ามารถอวดอา้ งในระดบั สากลได้” “ห้าร้อยบาทของลกู มันเปน็ เงินกีบเราเทา่ ไรล่ะ” แมอ่ ดถามไม่ได้ “หนง่ึ หม่นื ส่ีพนั กีบโน้นแหละแม่ แต่ลูกไมข่ ายดอก ลกู ไมอ่ ยากให้ของดีๆ ช้ินนี้ สูญหายไปจากผนื ดินลาว ลูกจะเกบ็ รักษาไว้ เกบ็ ไว้เปน็ มรดก เป็นต้นแบบหากลูกอยากทอผ้าซิน่ ถ้าแม่อยากจะใส่กเ็ อาไปใสไ่ ดเ้ ลยนะ งามวจิ ิตรจริงๆ ดูลวดลายของมนั สิ ไหมล้วนๆ ของแทเ้ ลย ดูสแิ ม่” หยาดนา้ ตาของแม่คอ่ ยๆ เอ่อไหลซึมออกมา แม่พูดไม่ออก กดั ฟัน กลัน้ ความคั่งแค้นเอาไว้ แมจ่ าได้แม่นว่า ซ่นิ ไหมเกา่ ๆ ผนื น้ี ก่อนหน้านเี้ พยี งวันเดียว มนั ยังนอนอยู่ในหบี ของแม่ ............................. ผ้เู ขยี น ฮงุ่ อะลนุ แดนวิไล เรอ่ื ง ซิน่ ไหมผืนเกา่ ๆ ได้รับรางวลั ที่ 1 ในการประกวดบทประพนั ธว์ รรณคดี จัดโดยวารสารวรรณศลิ ป์ ปี 1991 และไดร้ บั รางวัลซีไรตห์ ลงั จากตพี มิ พใ์ นหนังสือรวมเรอื่ งสัน้ ชดุ “รอยยม้ิ ท่ีไม่มีกล่นิ เหล้า” ปี 2008

378 336748 ใบงานเร่ือง การวิเคราะห์องค์ประกอบของเร่ืองสนั้ วถิ ีไทย คุณค่าและข้อคดิ ท่ีพบในเรอ่ื งสั้น เรื่อง ซน่ิ ไหมผืนเก่า ๆ หนว่ ยที่ ๔ แผนการจดั การเรยี นรู้ที่ ๙ รายวชิ าพ้ืนฐานภาษาไทย ท๒๓๑๐๑ ภาคเรียนที่ ๑ ชัน้ มัธยมศกึ ษาปีที่ ๓ คาชี้แจง ใหน้ กั เรียนอา่ นเร่ืองสัน้ เรอื่ ง ซิน่ ไหมผนื เกา่ ๆ จากนนั้ ให้แตล่ ะกลุม่ ร่วมกันวเิ คราะห์องค์ประกอบของ เร่ืองส้นั วิถไี ทย คณุ ค่าและข้อคิดท่ีพบ แนวการวิเคราะหเ์ รื่องส้ันเรอ่ื ง ซิ่นไหมผืนเกา่ ๆ ๑. แนวคิด .............................................................................................................................................................. ๒. โครงเรอื่ งและเน้ือเรอ่ื ง ............................................................................................................................. .......... ........................................................................................................................ ............................................................ ............................................................................................................................. ....................................................... ๒.๑ การเปิดเร่ือง ............................................................................................................................. ....... ๒.๒ การดาเนนิ เร่อื ง ................................................................................................................................... ๒.๓ การปดิ เร่อื ง ............................................................................................................................. ...... ๓. ตัวละคร ............................................................................................................................................................. ............................................................................................................................. ....................................................... ............................................................................................................................. ....................................................... ๔. บทสนทนา ......................................................................................................................................................... ............................................................................................................................. ....................................................... ............................................................................................................................. ....................................................... ๕. ฉากและบรรยากาศ .................................................................................................................................. .......... ............................................................................................................................. ....................................................... .................................................................................................................................................................................... ๖. กลวิธกี ารเขยี น/สานวนภาษา .......................................................................................................................... .......................................................... ............................................................................................................................. ....................................................... ๗. วถิ ไี ทยท่พี บในเรอ่ื งส้ันเร่ือง ซน่ิ ไหมผนื เกา่ ๆ ............................................................................................................................. ....................................................... ....................................................................................................................................................................... ............. ๘. คณุ คา่ ข้อคดิ ที่นาไปประยุกต์ใช้ (ดา้ นวรรณคดี/เนอ้ื หา/สงั คม/การนาไปใช้) ......................................................................................................................................................................... ........... ........................................................................................................................ ............................................................

379 336759 เฉลยใบงานเรือ่ ง การวเิ คราะห์องค์ประกอบของเรอ่ื งส้ัน วิถีไทย คุณค่าและขอ้ คิดทพี่ บในเรื่องส้นั เรือ่ ง ซิน่ ไหมผนื เก่า ๆ หนว่ ยท่ี ๔ แผนการจดั การเรยี นรู้ที่ ๙ รายวิชาพื้นฐานภาษาไทย ท๒๓๑๐๑ ภาคเรยี นที่ ๑ ชัน้ มัธยมศึกษาปีที่ ๓ คาชแี้ จง ให้นกั เรยี นอ่านเรื่องสัน้ เรื่อง ซ่นิ ไหมผืนเก่า ๆ จากนน้ั ให้แต่ละกลุ่มร่วมกันวิเคราะห์องคป์ ระกอบของ เรื่องสั้น วิถไี ทย คุณค่าและข้อคิดที่พบ แนวการวิเคราะหเ์ ร่อื งส้นั เร่อื ง ซิ่นไหมผืนเกา่ ๆ ๑. แนวคิด ศลิ ปวัฒนธรรมพืน้ บา้ นควรอย่างยิ่งทจี่ ะอนุรักษไ์ ว้ ไมค่ วรละทิ้งหรือเพกิ เฉยแตค่ วรภาคภูมใิ จใน ศิลปวฒั นธรรมพ้ืนบา้ นของเรา ๒. โครงเร่ืองและเนื้อเร่อื ง แมน่ าซ่ินไหมเก่า ๆ ไปขายใหพ้ ่อคา้ ที่มารบั ซื้อและแลกเปลี่ยนเป็นผ้าซนิ่ ผนื ใหม่ แม่ดีใจมากทีม่ ีผา้ ซ่ิน ผืนใหมเ่ พ่ืออวดลกู สาวที่ไปเรียนจติ รกรรมทีป่ ระเทศไทย เม่อื ลกู สาวของแม่กลบั มา ลูกสาวได้ซือ้ ซน่ิ ไหมซึ่งเป็น ศิลปวัฒนธรรมพน้ื บา้ นทขี่ ายในประเทศไทยกลบั มา เพราะลูกต้องการอนรุ ักษ์ศิลปวัฒนธรรมพ้ืนบ้านน้นั ไว้ แตเ่ มอ่ื แม่เหน็ ซนิ่ ไหมทีล่ ูกนามาด้วยน้ัน แมก่ ็ร้องไห้ด้วยความแค้นเพราะจาไดว้ า่ ซิ่นไหมทีล่ ูกนามาใหน้ ้นั เปน็ ซิน่ ไหมผืนเก่า ๆ ทีแ่ ม่ได้ขายให้กบั พ่อค้าเม่ือวาน ๒.๑ การเปดิ เรอ่ื ง เปดิ เร่อื งดว้ ยบทสนทนาของลกู ชายที่สร้างความเร้าใจใหแ้ กผ่ อู้ า่ น ๒.๒ การดาเนนิ เรือ่ ง ดาเนนิ เรื่องด้วยบทสนทนาของตัวละคร มบี ทบรรยายแทรกบ้าง ๒.๓ การปิดเร่อื ง ปิดเรื่องแบบหกั มุม กระตนุ้ ให้ผู้อา่ นฉุกคิดและใหข้ ้อคดิ แก่ผู้อา่ น ๓. ตัวละคร ตวั ละครในเรอ่ื งมี ๔ ตวั คือ แม่ ลกู ชายของแม่ ลกู สาวของแม่ (นวล) พ่อค้า ซง่ึ ตวั ละครที่มบี ทบาทต่อ การดาเนนิ เร่อื งมากท่สี ุด คือ แม่ แม่ เป็นตัวละครกลม กลา่ วคือ เปน็ ตัวละครท่ียึดตดิ กบั ระบบทุนนยิ ม นิยมสิง่ ของใหม่ ๆ แต่ไมร่ ู้จักรักษา ศิลปวัฒนธรรมพน้ื บ้านของเรา แต่เม่อื พบผา้ ซ่ินไหมเกา่ ๆ ของตนเอง และการอนุรักษศ์ ิลปวัฒนธรรมพื้นบา้ น ของลูกดว้ ยแลว้ กลับทาให้แม่สะเทอื นใจและฉกุ คิดใหม่ได้ ลกู สาวของแม่ (นวล) คือ เป็นตัวละครที่อนุรักษ์ศลิ ปวฒั นธรรมพน้ื บ้าน ช่นื ชอบและภาคภูมใิ จในศิลปวัฒนธรรม พ้ืนบา้ นนน้ั ๔. บทสนทนา เรื่องส้นั น้ีใชบ้ ทสนทนาในการดาเนินเร่อื ง มีบทบรรยายแทรกอยู่บา้ ง ทาให้เนื้อเร่ืองดาเนินไดอ้ ย่างรวดเรว็ ๕. ฉากและบรรยากาศ ฉากและบรรยากาศที่พบในเร่ืองส้นั คอื สังคมชนบทในประเทศลาว ๖. กลวธิ ีการเขียน/สานวนภาษา มีบทสนทนาสอดแทรกบทบรรยาย การใชภ้ าษาเข้าใจง่าย สือ่ ความหมายไดด้ ี

380 336860 ๗. วิถไี ทยท่ีพบในเร่ืองสัน้ เรื่อง ซิ่นไหมผนื เกา่ ๆ ศลิ ปวัฒนธรรมเกย่ี วกับการประดิษฐ์ลวดลายผ้าซิ่นพื้นบ้าน ๘. คุณคา่ ข้อคิดที่นาไปประยุกต์ใช้ (ดา้ นวรรณคดี/เนอ้ื หา/สังคม/การนาไปใช้) ศิลปวฒั นธรรมพื้นบา้ นน้ัน เราควรภาคภมู ิใจและอนรุ กั ษไ์ ว้ให้นานเท่านาน

381 336871 แบบประเมินการพูดนาเสนอผลงาน คาชแ้ี จง ให้ครูประเมนิ การพดู นาเสนอผลงานของนกั เรยี นตามรายการทก่ี าหนด แล้วขีด ✓ ลงในชอ่ งท่ตี รงกบั ระดบั คะแนน ท่ี รายการประเมิน ระดับคะแนน ๑ เนอ้ื หาที่นาเสนอชดั เจนและละเอยี ด ๔ ๓ ๒๑ ๒ เนอื้ หาท่ีนาเสนอถูกตอ้ ง ๓ ใช้ภาษาท่เี ข้าใจงา่ ย ๔ ประโยชน์ทไี่ ดจ้ ากการนาเสนอ ๕ วิธกี ารนาเสนอผลงาน รวม ลงชือ่ ..................................................................... ผ้ปู ระเมนิ ........................ / ....................... / .......................... เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน ให้ ๔ คะแนน ผลงานหรอื พฤตกิ รรมสมบูรณ์ชดั เจน ให้ ๓ คะแนน ผลงานหรอื พฤติกรรมมีข้อบกพรอ่ งบางสว่ น ให้ ๒ คะแนน ผลงานหรอื พฤติกรรมมขี ้อบกพรอ่ งเป็นสว่ นใหญ่ ให้ ๑ คะแนน ผลงานหรือพฤตกิ รรมมขี ้อบกพร่องมาก เกณฑ์การตัดสนิ คุณภาพ ระดับคุณภาพ ชว่ งคะแนน ดมี าก ๑๘ – ๒๐ ดี ๑๔ – ๑๗ พอใช้ ๑๐ – ๑๓ ปรับปรุง ต่ากวา่ ๑๐

382 หน่วยการเรียนรทู้ ี่ ๔ พัฒนาพาที แผนการจัดการเรยี นรู้ท่ี ๑๐ เวลา ๑ ช่วั โมง กลมุ่ สาระการเรยี นรู้ ภาษาไทย เร่ือง นาเสนอคุณคา่ ชนั้ มัธยมศกึ ษาปีท่ี ๓ รายวชิ าพื้นฐานภาษาไทย ขอบเขตเน้ือหา กิจกรรมการเรียนรู้ ส่อื /แหลง่ เรียนรู้ การวเิ คราะหว์ ถิ ีไทยและคุณคา่ จากเรือ่ งส้นั ขนั้ นา ๑. ใบงานเรือ่ ง เรอ่ื งสัน้ เร่ือง ปลาทู เร่ือง ปลาทู ๑. นักเรยี นร่วมกันแลกเปลี่ยนความคิดเหน็ วา่ เร่ืองสัน้ ท่ีดคี วรมี ๒. ใบงานเรื่อง การวเิ คราะห์องค์ประกอบ การสรุปความรูแ้ ละข้อคดิ จากการอา่ นเร่ือง ลกั ษณะอยา่ งไร เร่ืองสนั้ วิถไี ทย คณุ ค่าและข้อคิดที่พบใน สนั้ เร่อื ง ปลาทู เพ่ือนาไปประยกุ ต์ใช้ในชีวติ จริง ขัน้ สอน เรื่องสัน้ เร่ือง ปลาทู จุดประสงค์การเรียนรู้ ๑. นกั เรียนร่วมกันอธบิ ายหลกั การอา่ นวิเคราะห์เร่ืองส้ัน โดยครู ภาระงาน/ชิ้นงาน ด้านความรู้ ช้ีแนะและอธิบายเพ่ิมเตมิ ๑. เขยี นแผนผังความคิดหลักการวเิ คราะห์ วเิ คราะห์วถิ ไี ทยและอธิบายคุณคา่ ท่พี บใน ๒. นกั เรยี นอา่ นเร่ืองสนั้ เร่ือง ปลาทู พร้อมท้ังวเิ คราะห์ เรื่องสน้ั วิถีไทย คุณค่าและข้อคิดจากการอ่าน เรอื่ งส้ันเร่ือง ปลาทู องค์ประกอบ วถิ ไี ทย คณุ คา่ และขอ้ คดิ ท่ีพบในเรื่องสนั้ เร่ือง ปลาทู เรอื่ งสั้น ดา้ นทกั ษะ/กระบวนการ ๓. นกั เรียนอภิปราย แลกเปล่ยี นความคดิ เหน็ รว่ มกันเกี่ยวกบั ๒. สืบคน้ เรื่องสน้ั ๑ เรื่องทีน่ ักเรยี นสนใจ พูดนาเสนอผลงานการวิเคราะห์องค์ประกอบ การวเิ คราะห์องค์ประกอบเร่ืองสั้นเรอ่ื ง ปลาทู วถิ ไี ทย คุณค่าและ เพื่ออ่านและวเิ คราะหอ์ งค์ประกอบ วถิ ีไทย เร่อื งสน้ั วถิ ีไทย คณุ ค่า และข้อคิดท่ีพบใน ขอ้ คิดท่ีพบในเรือ่ งสน้ั เร่อื ง ปลาทู คุณคา่ และข้อคิดในชว่ั โมงถัดไป เร่ืองสน้ั เรื่อง ปลาทู ๔. อาสาสมัครนักเรยี น ๓ คนพดู นาเสนอผลงานการวิเคราะห์ ด้านคณุ ลกั ษณะ องค์ประกอบเร่ืองสน้ั วถิ ไี ทย คณุ คา่ และข้อคิดท่ีพบในเรือ่ งสั้นเร่อื ง ๑. ใฝ่เรยี นรู้ เรือ่ งสน้ั โดยใหเ้ พื่อนในชัน้ เรียนและครรู ่วมกันตรวจสอบและพจิ ารณา ๒. มมี ารยาทในการอ่าน ขน้ั สรุป ๓. มีมารยาทในการพูด ๑. นกั เรียนร่วมกันสรปุ องค์ประกอบการอ่านเร่ืองส้นั วถิ ีไทย ๔. มงุ่ ม่ันในการอา่ น คณุ ค่า และข้อคิดจากการอ่านเรอื่ งสั้นเรื่อง ปลาทู เปน็ แผนผัง ความคิดลงในสมุดบันทึกของนักเรยี น ๒. นักเรียนสืบคน้ เรื่องสั้นทน่ี กั เรียนสนใจมา ๑ เรือ่ งเพื่อใชอ้ า่ น และวเิ คราะห์ในช่ัวโมงถัดไป 336882

383 336893 การวัดและประเมนิ ผล สิ่งท่ีต้องการวดั /ประเมิน วธิ ีการ เคร่ืองมือท่ใี ช้ เกณฑ์ ด้านความรู้ วเิ คราะหว์ ถิ ีไทยและอธิบาย ทาใบงาน ใบงาน ผา่ นเกณฑ์ ร้อยละ ๘๐ คุณคา่ ที่พบในเรื่องสัน้ เรอ่ื ง ปลาทู ดา้ นทกั ษะและกระบวนการ เขียนแผนผงั ความคดิ สังเกต แบบสังเกต ผา่ นเกณฑ์ ร้อยละ ๘๐ เร่อื ง การวเิ คราะห์ กเขาียรนเขแยี ผนนแผผงั นคผวังาคมวคาดิมคดิ แบบประเมิน องคป์ ระกอบเร่ืองสน้ั วถิ ีไทย การเขียนแผนผัง คณุ คา่ และข้อคิดท่ีพบใน ความคดิ เร่ืองสน้ั เร่อื ง ปลาทู ดา้ นคณุ ลกั ษณะ ๑. ใฝเ่ รยี นรู้ สงั เกตพฤตกิ รรม แบบประเมิน ระดับคุณภาพ ๒ ๒. มมี ารยาทในการอา่ น ผ่านเกณฑ์ ๓. มีมารยาทในการพูด ๘. บนั ทึกผลหลังสอน ผลการเรยี นรู้ ............................................................................................................................. ................................................ ปญั หาและอปุ สรรค .................................................................................................................................................................... ...... ข้อเสนอแนะและแนวทางแกไ้ ข ............................................................................................. .............................................................................. ลงชอื่ ......................................ผสู้ อน (.......................................................) วนั ท่.ี .........เดือน..........พ.ศ............. ๙. ความคดิ เหน็ /ขอ้ เสนอแนะของผ้บู ริหารหรอื ผู้ทไ่ี ด้รับมอบหมาย ................................................................................................................................. .......................................... ลงช่ือ ......................................ผตู้ รวจ (.......................................................) วันท่.ี .........เดอื น..........พ.ศ.............

384337804

385 337815 ต้ังแต่นายเทียบได้มาท�ำงานในตัวเมืองนคร ทุกคร้ังท่ีนายเทียบได้กิน ข้าวกับน�้ำพริกปลาทู เขามักจะนึกถึงพ่อเสมอ เพราะพ่อเป็นคนชอบกินปลาทู เอามาก ๆ ทีจ่ รงิ แม่กช็ อบ ทกุ คนในครอบครัวชอบ เพียงแคค่ นอ่ืน ๆ ชอบนอ้ ย กวา่ พ่อเท่าน้ัน นายเทียบบอกกับตัวเองว่าคงเป็นกรรมพันธุ์ก็ได้ ท่ีท�ำให้เขาชอบกิน ปลาทูเหมือนพ่อ “กับขา้ วอยา่ งอื่นกินบอ่ ย ๆ เบอ่ื แตก่ ินปลาทไู ม่เคยเบ่อื ” เขาเคย บอกกบั ใครต่อใครเชน่ น้ี ถงึ แมพ้ อ่ กบั แมแ่ ละคนในครอบครวั ชอบกนิ ปลาทอู ยา่ งไร แตไ่ มใ่ ชว่ า่ จะ หาปลาทกู นิ ไดง้ า่ ย ๆ ทง้ั นกี้ เ็ พราะบา้ นเดมิ ของเขาอยหู่ มบู่ า้ นหลงั เขาไกลออกไป จากตัวเมืองหลายสิบกิโลเมตรและยังอยู่หา่ งทะเลด้วย ทส่ี �ำคญั ไมม่ ที างรถยนต์ หมายถึงคนในหมู่บ้านน้ีจะออกมาท่ีตัวจังหวัดจะต้องใช้เท้าเดินเป็นหลัก หรือ เวลาทน่ี ายเทยี บจะกลับไปเย่ียมบา้ นกต็ อ้ งเดนิ เขา้ ปา่ ขา้ มภเู ขา กว่าจะถงึ บ้าน ต้องใช้เวลาหลายชั่วโมง

386 337826

387 337837 ไปยังหมู่บ้านของตัวเอง อยู่ๆ ฝนก็ตกลงมาอย่างหนัก แล้วก็มีลมพัดแรงด้วย ทจี่ รงิ ฝนตง้ั เคา้ มาตงั้ นานแลว้ เพยี งแตเ่ ขาไมไ่ ดส้ นใจเทา่ นนั้ คดิ อยอู่ ยา่ งเดยี ววา่ ท�ำอย่างไรก็ได้ขอให้ไดถ้ งึ บ้านเรว็ ๆ นายเทยี บไมอ่ ยากเดินฝ่าสายฝนซึ่งตกหนักข้ึนเร่อื ยๆ บงั เอญิ เขาเหลือบ ไปเห็นถ�้ำเลก็ ๆ ถ�ำ้ หนึ่งอยใู่ ก้ลๆ ทางเดิน เขาจึงรบี เดินเข้าไปหลบฝนในถำ้� นายเทียบหลบอยู่ในถ�้ำนานเท่าไรไม่รู้ เพราะไม่มีนาฬิกาช้ รู้แต่ว่า

388 337848 หายไปอาจติดอย่ใู นถำ�้ น้กี ไ็ ด้ เร็วเทา่ ความคิด เขาตะโกนร้องเรยี กชอื่ เพอ่ื น แตก่ ็เงยี บ ไม่มีเสยี งตอบ กลับออกมาเลย มีอะไรบางอย่างท�ำให้เขาเช่ือม่ันว่านายเทียบจะต้องติดอยู่ในถ�้ำแน่ เขา จงึ ไปบอกทุกคนที่หมู่บ้านใหม้ าชว่ ยขุดดนิ จากปากถ�้ำ ท้ังๆ ท่ีชาวบ้านหลายคนไม่ค่อยแน่ใจว่านายเทียบจะติดอยู่ในถ�้ำจริง หรอื ไม่ แตก่ ็มนี �้ำใจเอาจอบ เอาเสียม และเคร่ืองไมเ้ คร่ืองมือท่ีพอมีมาช่วยกัน ขุดดิน ทั้งนี้ก็เพราะท้ังพ่อและแม่ของนายเทียบเป็นที่รักของคนในหมู่บ้าน น้ันด้วย

389 337859 ใบงานเร่ือง การวเิ คราะห์วิถีไทย คุณค่าและขอ้ คดิ ทพี่ บในเรือ่ งสั้นเร่อื ง ปลาทู หน่วยท่ี ๔ แผนการจัดการเรยี นรทู้ ี่ ๑๐ รายวชิ าพืน้ ฐานภาษาไทย ท๒๓๑๐๑ ภาคเรยี นที่ ๑ ช้นั มัธยมศกึ ษาปีท่ี ๓ คาช้ีแจง ให้นักเรียนอ่านเร่ืองสั้นเร่อื ง ปลาทู จากน้นั ให้แตล่ ะกล่มุ ร่วมกันวิเคราะห์วถิ ีไทย คุณค่าและขอ้ คดิ ที่พบ ในเรือ่ งส้นั เรอ่ื ง ปลาทู แนวการวิเคราะห์เร่อื งส้ันเร่ือง ปลาทู ๑. วิถีไทยท่ีพบในเรื่องส้นั เรื่อง ปลาทู ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ๒. ข้อคดิ ที่พบในเรื่องส้นั เร่ือง ปลาทู (พรอ้ มทั้งเขยี นอธิบายการนาไปประยุกตใ์ ช้) ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ๓. คณุ ค่าท่ีได้จากการอา่ นเร่ืองส้นั เรื่อง ปลาทู (ดา้ นวรรณคดี/เน้ือหา/สังคม) ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

390 337960 เฉลยใบงานเรอื่ ง การวิเคราะห์วถิ ไี ทย คณุ คา่ และข้อคิดที่พบในเรือ่ งสนั้ เร่ือง ปลาทู หน่วยที่ ๔ แผนการจดั การเรยี นรทู้ ่ี ๑๐ รายวชิ าพ้นื ฐานภาษาไทย ท๒๓๑๐๑ ภาคเรียนท่ี ๑ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๓ คาชแี้ จง ให้นักเรียนอ่านเร่ืองสน้ั เรอ่ื ง ปลาทู จากนั้นให้แต่ละกลมุ่ ร่วมกนั วิเคราะหว์ ถิ ีไทย คุณคา่ และขอ้ คดิ ท่ีพบ ในเร่อื งสั้นเรือ่ ง ปลาทู แนวการวเิ คราะหเ์ รือ่ งส้ันเร่ือง ปลาทู ๑. วิถีไทยทพี่ บในเร่ืองสนั้ เรื่อง ปลาทู ๑. วฒั นธรรมการกิน ๒. การชว่ ยเหลอื เพ่ือนมนุษย์ ๓. ความกตญั ญู ฯลฯ (อย่ใู นดลุ ยพินิจของครู) ๒. ขอ้ คดิ ท่ีพบในเร่ืองสน้ั เรือ่ ง ปลาทู (พร้อมท้งั เขียนอธบิ ายการนาไปประยุกต์ใช้) ๑. การช่วยเหลือผตู้ กทุกข์ได้ยากยอ่ มทาใหผ้ ู้รบั ไม่มีความทกุ ขแ์ ละผู้ให้มีความสุขใจ ขา้ พเจา้ จะนาไปใชโ้ ดยการชว่ ยเหลอื มนี าใจแกเ่ พ่ือนมนุษย์ไมเ่ ลือกทร่ี ักมักท่ชี งั ๒. ความกตญั ญูทาใหบ้ คุ คลนันประสบความเจรญิ และรอดพ้นจากภยันตราย ฯลฯ (อยู่ในดุลยพนิ จิ ของครู) ๓. คณุ คา่ ทไ่ี ด้จากการอา่ นเรื่องส้นั เร่ือง ปลาทู (ด้านวรรณคดี/เนอ้ื หา/สังคม) มเี นือหาสอนใจได้ดี เช่น ความกตญั ญู สะทอ้ นสภาพสงั คมไทยได้ดี ไมว่ า่ จะเปน็ สงั คมแห่งการชว่ ยเหลอื กนั และกนั มนี าใจต่อกัน ฯลฯ (อยูใ่ นดุลยพินจิ ของครู)


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook