Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore 64-08-09-คู่มือครู วิทยาศาสตร์ ป.6

64-08-09-คู่มือครู วิทยาศาสตร์ ป.6

Published by elibraryraja33, 2021-08-09 01:46:16

Description: 64-08-09-คู่มือครู วิทยาศาสตร์ ป.6

Search

Read the Text Version

ชดุ การจดั กจิ กรรมการเรยี นรู้ (สำ� หรบั ครผู สู้ อน) กลมุ่ สาระการเรยี นรวู้ ทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ภาคเรยี นท่ี ๑ ชนั้ ประถมศกึ ษาปที ่ี ๖ (ฉบบั ปรบั ปรงุ ) 293 หนว่ ยการเรยี นรทู้ ี่ ๓ หนิ และซากดกึ ดำ� บรรพ์ แผนการจดั การเรียนรูท้ ่ี ๑.๑ กระบวนการเกิดหนิ และวฏั จกั รหิน หน่วยย่อยที่ ๑ หิน วฏั จกั รหินและประโยชนข์ องหนิ และแร่ เวลา ๖ ช่ัวโมง กลุ่มสาระการเรียนรวู้ ิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี รายวิชาวทิ ยาศาสตร์ ช้ันประถมศึกษาปีท่ี ๖ ขั้นสรุป (๑๐ นาท)ี ๓๗. ครูเปิดโอกาสให้นักเรยี นสรุปแนวคดิ หรอื สิง่ ท่ีได้เรยี นรู้ในชว่ั โมงนดี้ ้วยตนเอง เกีย่ วกบั ลักษณะของหินอัคนี หนิ ตะกอนและหินแปร ๓๘. ครูน�ำนักเรียนสรุปความรู้ได้เรียนในช่ัวโมงน้ีอีกคร้ังว่า หินอัคนี หินตะกอน และหนิ แปร บางกอ้ นมลี ักษณะบางอยา่ งเหมือนกันและมีลกั ษณะบางอย่าง ทแ่ี ตกตา่ งกนั และหนิ แตล่ ะประเภทมลี กั ษณะตา่ ง ๆ ดงั นี้ (ครอู าจทำ� เปน็ ตาราง แล้วมีบตั รคำ� ใหน้ ักเรยี นน�ำไปใส่ในตารางให้ถกู ตอ้ ง เช่น ลักษณะของหินอคั นี ลกั ษณะของหนิ ตะกอน ลกั ษณะของหนิ แปร • บางก้อนมีวสั ดแุ ขง็ • บางก้อนมเี ม็ดตะกอน • บางก้อนมีวัสดุแข็ง สตี า่ ง ๆ รวมตวั กัน อยรู่ วมกนั ขนาดตา่ ง ๆ รวมตวั กนั • บางก้อนมีเนอ้ื หยาบ • บางก้อนมเี น้อื หยาบ • บางก้อนมีวัสดุแข็ง • บางกอ้ นมเี นอ้ื ละเอยี ด • บางก้อนมเี นือ้ ละเอยี ด เรยี งตวั ขนานกนั เปน็ และมสี เี ดียว • บางกอ้ นมีเศษหนิ ปน แถบสี • บางก้อนเปน็ เน้ือแกว้ • บางก้อนมเี นือ้ หินเป็นช้ัน ๆ • บางกอ้ นกระเทาะเปน็ • บางกอ้ นมีรูพรุน แผ่นได้

294 ชดุ การจดั กจิ กรรมการเรยี นรู้ (สำ� หรบั ครผู สู้ อน) กลมุ่ สาระการเรยี นรวู้ ทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ภาคเรยี นที่ ๑ ชน้ั ประถมศกึ ษาปที ่ี ๖ (ฉบบั ปรบั ปรงุ ) หนว่ ยการเรยี นรทู้ ่ี ๓ หนิ และซากดกึ ดำ� บรรพ์ แผนการจัดการเรยี นรูท้ ี่ ๑.๑ กระบวนการเกดิ หินและวฏั จักรหิน เวลา ๖ ชัว่ โมง หน่วยย่อยที่ ๑ หิน วฏั จกั รหินและประโยชนข์ องหนิ และแร่ ช้ันประถมศึกษาปีที่ ๖ กลมุ่ สาระการเรียนรูว้ ิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี รายวิชาวทิ ยาศาสตร์ ๓๙. ครอู าจบอกใหน้ กั เรยี นไปศกึ ษาวธิ กี ารเลน่ เกม Rocks Dominoes มาลว่ งหนา้ จาก QR code ในหนา้ ๑๐๖ ได้ ชั่วโมงท่ี ๕ ข้นั นำ� (๕ นาที) ๔๐. ครูน�ำตารางที่ได้ใช้ในสรุปในชั่วโมงท่ีแล้ว และน�ำหินแต่ละชนิดที่มีลักษณะ เฉพาะโดยไม่บอกชื่อหิน เช่น หินพัมมิซ (มีเนื้อแก้ว มีรูพรุน) หินแกรนิต (มีสีต่าง ๆ) หินบะซอลต์ (มีเน้ือละเอียดและมีสีเดียว) หินกรวดมน (มเี ม็ดตะกอน) หนิ ทราย (มเี ศษหนิ ปน) หินดนิ ดาน (มเี นอ้ื หินเป็นช้นั ๆ) หนิ ไนส์ (มวี สั ดแุ ขง็ เปน็ แถบส)ี หนิ ชนวน (แซะเปน็ แผน่ ได)้ แลว้ ใหน้ กั เรยี น จัดกลมุ่ วา่ เป็นหนิ อัคนี หนิ ตะกอนและหินแปร พรอ้ มบอกเหตผุ ล ข้นั สอน (๕๕ นาท)ี ๔๑. ครูให้นักเรยี นอ่านจุดประสงคใ์ นใบกิจกรรมที่ ๒ ข้อ ๒ หน้า ๑๐๖ จากน้ัน ร่วมกันอภิปรายเพ่ือตรวจสอบความเข้าใจเก่ียวกับจุดประสงค์ใน การทำ� กจิ กรรม โดยใชค้ �ำถามดังน้ี ๔๑.๑ กิจกรรมนี้นักเรียนจะได้เรียนเรื่องอะไร (กระบวนการเกิดหินอัคนี หนิ ตะกอนและหนิ แปร) ๔๑.๒ นกั เรียนจะไดเ้ รียนรู้เรื่องนด้ี ้วยวิธใี ด (รวบรวมข้อมูลจากแบบจ�ำลอง)

ชดุ การจดั กจิ กรรมการเรยี นรู้ (สำ� หรบั ครผู สู้ อน) กลมุ่ สาระการเรยี นรวู้ ทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ภาคเรยี นท่ี ๑ ชนั้ ประถมศกึ ษาปที ่ี ๖ (ฉบบั ปรบั ปรงุ ) 295 หนว่ ยการเรยี นรทู้ ี่ ๓ หนิ และซากดกึ ดำ� บรรพ์ แผนการจัดการเรียนรู้ท่ี ๑.๑ กระบวนการเกิดหินและวฏั จักรหนิ เวลา ๖ ช่ัวโมง หนว่ ยยอ่ ยท่ี ๑ หนิ วฏั จักรหนิ และประโยชนข์ องหินและแร่ ช้นั ประถมศึกษาปีที่ ๖ กลมุ่ สาระการเรยี นรวู้ ิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี รายวิชาวิทยาศาสตร์ ๔๑.๓ เมอ่ื เรยี นแลว้ นกั เรยี นจะทำ� อะไรได้ (อธบิ ายและเปรยี บเทยี บกระบวนการ เกิดหนิ อัคนี หนิ ตะกอน และหนิ แปรได้) ๔๒. ครแู จ้งจุดประสงคท์ ีน่ กั เรียนจะไดเ้ รียนรู้ให้ทราบอกี คร้ัง ๔๓. ครชู วนนกั เรยี นอา่ นวธิ ที ำ� ในใบกจิ กรรมที่ ๒ ขอ้ ๒-๔ หนา้ ๑๐๗ โดยใชว้ ธิ กี าร ฝึกการอ่านตามความเหมาะสม จากนน้ั ครูใชค้ �ำถามดังตอ่ ไปนี้ ๔๓.๒ นักเรียนจะไดเ้ ลน่ เกมชื่อวา่ อะไร (Rocks Dominoes) ๔๓.๒ หลังจากเล่นเกมแล้ว นักเรียนต้องน�ำความรู้ท่ีได้จากการเล่มเกม มาท�ำอะไร (ท�ำผังมโนทัศน์เร่ืองกระบวนการเกิดหินแต่ละประเภท) ๔๓.๓ เมอ่ื ทำ� ผงั มโนทศั นเ์ สรจ็ แลว้ นกั เรยี นตอ้ งทำ� อะไรตอ่ (สงั เกตลกั ษณะ ของหินอีกครั้ง โดยใช้ข้อมูลจากการเล่มเกมมาประกอบการสังเกต อกี ครั้ง) ๔๓.๔ นักเรียนต้องใช้ข้อมูลจากการเล่มเกมและการสังเกตลักษณะของหิน มาอภปิ ราบเก่ียวกบั เรื่องอะไร (กระบวนการเกดิ หินแตล่ ะประเภท) ๔๔. ข้นั ตอนการเลน่ เกม Rocks Dominoes โดยเกมจะมขี อ้ มลู ดงั น้ี ๑) คมู่ อื การเล่นเกม Rocks Dominoes ๒) การด์ ภาพรวมหนิ ๓ ประเภท ๓) การ์ดประเภทของหิน

296 ชดุ การจดั กจิ กรรมการเรยี นรู้ (สำ� หรบั ครผู สู้ อน) กลมุ่ สาระการเรยี นรวู้ ทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ภาคเรยี นที่ ๑ ชน้ั ประถมศกึ ษาปที ่ี ๖ (ฉบบั ปรบั ปรงุ ) หนว่ ยการเรยี นรทู้ ่ี ๓ หนิ และซากดกึ ดำ� บรรพ์ แผนการจดั การเรียนรู้ที่ ๑.๑ กระบวนการเกดิ หินและวฏั จกั รหนิ เวลา ๖ ชว่ั โมง หนว่ ยยอ่ ยที่ ๑ หนิ วฏั จักรหินและประโยชน์ของหนิ และแร่ ชั้นประถมศึกษาปีท่ี ๖ กลมุ่ สาระการเรยี นรู้วิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี รายวชิ าวิทยาศาสตร์ ๔) การด์ วัสดุ ๕) การ์ดกระบวนการทางธรณีวทิ ยา ๖) การ์ดชนิดหิน ครูให้นักเรียนอ่านคู่มือการเล่นเกม Rocks Dominoes และรายละเอียด คำ� บรรยายและรปู ทปี่ รากฏอยใู่ นแผน่ การด์ ทกุ ใบของทกุ กลมุ่ ใหเ้ ขา้ ใจกอ่ นเพอื่ ให้ นกั เรยี นทราบวา่ การด์ แตล่ ะกลมุ่ แตล่ ะละใบ เกย่ี วกบั สงิ่ ใด และครชู ว่ ยอภปิ ราย กตกิ าการเลน่ วา่ เมอ่ื ใดทจี่ ะมผี ชู้ นะ และเมอ่ื ใดทจี่ ะจบเกม รวมทงั้ ควบคมุ เวลา ในการเลม่ เกม และสว่ นส�ำคญั มาก คือ เมอ่ื นักเรียนเลน่ เกมเสร็จ ครูถ่ายรูป การด์ ทวี่ างเรยี งไวข้ องนกั เรยี นแตล่ ะกลมุ่ เพอ่ื นำ� ไปใชใ้ นชว่ั โมงถดั ไป และนกั เรยี น ยังไม่เก็บการ์ด แต่ต้องร่วมกันพิจารณาข้อมูลจากการ์ดที่เรียงไว้ในประเด็น ดังต่อไปน้ี - อภปิ รายวา่ หนิ มกี ป่ี ระเภท อะไรบา้ ง (ใหพ้ จิ ารณาจากการด์ กลมุ่ ท่ี ๒ ทไี่ ดจ้ าก การเล่นเกม) - ศกึ ษาขอ้ มลู ลกั ษณะของหนิ จากการด์ กลมุ่ ท่ี ๕ ทเ่ี ปน็ การด์ ชนดิ ของหนิ จำ� นวน ๑๕ ชนิด และอภิปรายว่าหินแต่ละชนิดเป็นหินประเภทใด (ให้พิจารณา สัญลักษณ์ที่ปรากฏบนการ์ดกลุ่มที่ ๕ และให้น�ำไปเทียบกับสัญลักษณ์บน การ์ดกลุ่มที่ ๒ ที่เป็นการ์ดประเภทของหิน จะพบว่าหินแต่ละชนิดเป็นหิน ประเภทใด จากนั้นตรวจสอบว่าตรงกับทไี่ ดร้ ว่ มกันอภปิ รายไว้หรอื ไม่)

ชดุ การจดั กจิ กรรมการเรยี นรู้ (สำ� หรบั ครผู สู้ อน) กลมุ่ สาระการเรยี นรวู้ ทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ภาคเรยี นท่ี ๑ ชนั้ ประถมศกึ ษาปที ่ี ๖ (ฉบบั ปรบั ปรงุ ) 297 หนว่ ยการเรยี นรทู้ ่ี ๓ หนิ และซากดกึ ดำ� บรรพ์ แผนการจัดการเรยี นรู้ท่ี ๑.๑ กระบวนการเกดิ หินและวฏั จักรหิน เวลา ๖ ชวั่ โมง หนว่ ยย่อยท่ี ๑ หิน วฏั จกั รหนิ และประโยชน์ของหนิ และแร่ ชน้ั ประถมศึกษาปที ่ี ๖ กลมุ่ สาระการเรยี นรู้วทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี รายวชิ าวิทยาศาสตร์ - อภปิ รายลกั ษณะของหนิ อคั นี หนิ ตะกอน และหนิ แปร (พจิ ารณาจากการด์ กลมุ่ ท่ี ๒ และกลุ่มท่ี ๕ ทีไ่ ด้จากการเลน่ เกม) - อภปิ รายวา่ กระบวนการทางธรณวี ทิ ยาทที่ ำ� ใหห้ นิ มกี ารเปลย่ี นแปลงมอี ะไรบา้ ง (พิจารณาจากการด์ กลุ่มที่ ๔ ท่ไี ด้จากการเล่นเกม) อภิปรายว่ากระบวนการเกิดหินอัคนี หินตะกอน และหินแปร ต้องอาศัย กระบวนการทางธรณวี ทิ ยาใดบา้ ง (พจิ ารณาจากการด์ ทกุ กลมุ่ ทเ่ี รยี งตอ่ กนั ที่ไดจ้ ากการเลน่ เกม) - อภปิ รายเปรยี บเทยี บกระบวนการเกดิ หนิ แตล่ ะประเภท (พจิ ารณาจากการด์ ทุกกลุ่มทีเ่ รียงตอ่ กนั ท่ไี ด้จากการเลน่ เกม) ๔๕. นักเรียนแตล่ ะกลุ่มรว่ มกันนำ� ขอ้ มลู ทไ่ี ดจ้ ากการเลม่ เกมมาเขียนผังมโนทศั น์ กระบวนการเกิดและลักษณะของหินแต่ละประเภทลงในใบงาน ๐๒ หน้า ๑๑๑-๑๑๓ ๔๖. นกั เรยี นแตล่ ะกลมุ่ พจิ ารณาลกั ษณะของหนิ ทไ่ี ดส้ งั เกตในชว่ั โมงทแ่ี ลว้ อกี ครงั้ และบนั ทกึ ขอ้ มลู โดยใชข้ อ้ มลู ทไี่ ดจ้ ากการเลม่ เกมประกอบดว้ ย และบนั ทกึ ผล ในตาราง ๑ (คอลมั นห์ ลงั เลน่ เกม) หนา้ ๑๐๘-๑๐๙ และพจิ ารณาวา่ ขอ้ มลู ใด ทไี่ ดเ้ พม่ิ เตมิ มาบา้ งและนำ� ขอ้ มลู ทงั้ หมดมารว่ มกนั อภปิ รายกระบวนการเกดิ ของหนิ แตล่ ะประเภท และบนั ทกึ ผลลงในตาราง ๒ หนา้ ๑๑๑ (คอลมั นห์ ลงั เลน่ เกม) ๔๗. ครแู ละนกั เรยี นรว่ มกนั เฉลยผงั มโนทศั นใ์ นใบงาน ๑๑๑-๑๑๓ จากนน้ั ครใู ชค้ ำ� ถาม อภิปรายดงั ต่อไปน้ี

298 ชดุ การจดั กจิ กรรมการเรยี นรู้ (สำ� หรบั ครผู สู้ อน) กลมุ่ สาระการเรยี นรวู้ ทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ภาคเรยี นที่ ๑ ชน้ั ประถมศกึ ษาปที ่ี ๖ (ฉบบั ปรบั ปรงุ ) หนว่ ยการเรยี นรทู้ ี่ ๓ หนิ และซากดกึ ดำ� บรรพ์ แผนการจัดการเรยี นรทู้ ่ี ๑.๑ กระบวนการเกดิ หนิ และวฏั จักรหนิ เวลา ๖ ชั่วโมง หนว่ ยย่อยที่ ๑ หิน วฏั จกั รหินและประโยชนข์ องหินและแร่ ช้ันประถมศกึ ษาปที ี่ ๖ กลมุ่ สาระการเรียนรวู้ ทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี รายวิชาวทิ ยาศาสตร์ ๔๗.๑ หนิ แตล่ ะประเภทมลี กั ษณะเฉพาะอะไรบา้ งทแ่ี ตกตา่ งจากหนิ ประเภทอนื่ (หินอัคนีบางก้อนมีเนื้อแก้วและมีรูพรุน หินตะกอนมีเม็ดตะกอนและ อาจพบการวางตวั ของเนอื้ หนิ เปน็ ชนั้ ๆ หนิ แปรมผี ลกึ แรเ่ รยี งตวั ขนาน กนั เป็นแถบ และอาจกระเทาะออกเป็นแผน่ ได)้ ๔๗.๒ การเกดิ หนิ แตล่ ะประเภทมกี ระบวนการเกดิ เหมอื นหรอื แตกตา่ งกนั หรอื ไม่ อยา่ งไร (หนิ แตล่ ะประเภทมกี ระบวนการเกดิ แตกตา่ งกนั ดงั น้ี หนิ อคั นี เกิดจากการเย็นตัวและตกผลึกจากแมกมา หรือเกิดจากการเย็นตัว และตกผลึกอย่างรวดเร็วของลาวาบนผิวโลก หรือเกิดจากการเย็นตัว และแขง็ ตวั อยา่ งรวดเรว็ ทนั ทที นั ใดของลาวาบนผวิ โลก หนิ ตะกอนเกดิ จากการสะสมตัวของตะกอนและการเชื่อมประสานตะกอนหรือเกิด จากการตกผลกึ หรอื ตกตะกอนของสารบางชนดิ และหนิ แปรเกดิ จากหนิ ทกุ ประเภทมกี ารแปรสภาพโดยความรอ้ นความดนั และปฏกิ ริ ยิ าเคม)ี ๔๗.๓ หนิ อคั นแี ทรกซอนแตกตา่ งจากหนิ อคั นพี อุ ยา่ งไร (แตกตา่ งในกระบวนการเกดิ โดยหินอัคนีแทรกซอนเกิดจากการเย็นตัวและตกผลึกจากแมกมาใต้ ผวิ โลก สว่ นหนิ อคั นพี เุ กดิ จากการเยน็ ตวั และตกผลกึ ของลาวาบนผวิ โลก ๔๗.๔ กระบวนการเกดิ ของหนิ เกย่ี วขอ้ งกบั ลกั ษณะของหนิ แตล่ ะประเภทหรอื ไม่ อย่างไร (เกีย่ วช้อง ท�ำใหห้ นิ แต่ละประเภทมลี กั ษณะท่ีแตกต่างกัน) ขั้นสรุป (๕ นาท)ี ๔๘. ครเู ปดิ โอกาสให้นกั เรียนสรปุ แนวคดิ หรือสงิ่ ทีไ่ ดเ้ รียนรู้ในช่วั โมงนด้ี ้วยตนเอง เกี่ยวกับลักษณะของหินอัคนี หินตะกอนและหินแปรกับกระบวนการเกิดหิน แต่ละประเภท

ชดุ การจดั กจิ กรรมการเรยี นรู้ (สำ� หรบั ครผู สู้ อน) กลมุ่ สาระการเรยี นรวู้ ทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ภาคเรยี นท่ี ๑ ชนั้ ประถมศกึ ษาปที ่ี ๖ (ฉบบั ปรบั ปรงุ ) 299 แผนการจดั การเรียนรู้ท่ี ๑.๑ กระบวนการเกดิ หินและวฏั จกั รหิน หนว่ ยการเรยี นรทู้ ี่ ๓ หนิ และซากดกึ ดำ� บรรพ์ หน่วยย่อยที่ ๑ หิน วฏั จกั รหินและประโยชนข์ องหินและแร่ เวลา ๖ ช่วั โมง ชั้นประถมศึกษาปีท่ี ๖ กล่มุ สาระการเรียนรู้วทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี รายวิชาวิทยาศาสตร์ ๔๙. ครนู ำ� นกั เรยี นสรปุ ความรไู้ ดเ้ รยี นในชวั่ โมงนอี้ กี ครงั้ โดยอยใู่ นรปู ผงั มโนทศั น์ ดงั ตัวอย่าง เช่น หิน จำแนกตำม กระบวนกำรเกดิ แบง่ เปน็ หนิ อัคนี หินตะกอน หินแปร เกดิ จำก เกดิ จำก เกิดจำก กำรเยน็ ตวั และตก กำรเย็นตัวและตก กำรเยน็ ตัวแข็งตวั อยำ่ ง กำรสะสมของตะกอน กำรตกผลกึ หรือ กำรแปรสภำพของหินทกุ ชนดิ ผลกึ อย่ำงชำ้ ๆ ของ ผลกึ อย่ำงรวดเรว็ รวดเรว็ ทันทที ันใดของ ต่ำง ๆ ในแอง่ สะสม ตกตะกอนของสำร แมกมำใต้ผิวโลก ของลำวำผิวโลก เนื่องจำก ลำวำบนผิวโลก ตะกอน บำงชนดิ ทำให้เกิด ทำให้เกิด ควำมรอ้ น ควำมดันและปฏกิ ิริยำเคมี ทำให้เกิด ทำให้ เกิด ทเี่ กิดใตผ้ วิ โลก ผลกึ แร่ต่ำง ๆ ท่ีมี ผลกึ แรต่ ำ่ ง ๆ ทีม่ ี ขนำดใหญ่ ขนำดเล็ก มีแรงกดทับของตะกอน ผลกึ แรข่ นำดเล็ก ทำให้ และกำรเช่อื มประสำน ยดึ เกำะกันแน่น รวมเป็น รวมเป็น ตะกอน เปน็ หนิ เนอื้ หยำบ หนิ เนื้อละเอยี ด เรียกว่ำ หนิ ที่มีเน้อื แกว้ หนิ เนือ้ บำงชนิด บำงชนิด บำงชนิด เกดิ หินท่มี ีลักษณะ มีผลกึ แต่ แซะ เป็นเนอ้ื เรยี กว่ำ หินอัคนพี ุ เป็นเนือ้ ผลึก เรยี งขนำนกนั ออกเปน็ ผลกึ หินที่มเี นื้อเปน็ เม็ดตกตะกอน เปน็ แถบ แผน่ ได้ หนิ อคั นีแทรกซ้อน อำจพบ มที ง้ั เนอื้ หยำบและเนอื้ ละเอียด เช่น รพู รนุ ในหนิ อำจพบ หินแกรนติ เช่น เชน่ เนอ้ื หินมกี ำรเรียงตัวเป็นชน้ั ๆ เชน่ เชน่ เชน่ เช่น บำงครงั้ จงึ เรียกวำ่ หนิ ชัน้ หินบะซอลต์ หนิ พมั มิซ หินปนู หินไนต์ หินชนวน หินควอรด์ ไซด์ เช่น หนิ ดินดำน

หินอัคนีแหนว่ ยการเรยี นรทู้ ่ี ๓ หนิ และซากดกึ ดำ� บรรพ์แผนการจัดการเรียนรู้ที่ ๑.๑ กระบวนการเกดิ หินและวฏั จักรหินเวลา ๖ ชั่วโมง หน่วยย่อยที่ ๑ หิน วฏั จักรหินและประโยชนข์ องหนิ และแร่ ช้นั ประถมศึกษาปีที่ ๖ 300 ชดุ การจดั กจิ กรรมการเรยี นรู้ (สำ� หรบั ครผู สู้ อน) กลมุ่ สาระการเรยี นรวู้ ทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ภาคเรยี นที่ ๑ ชนั้ ประถมศกึ ษาปที ี่ ๖ (ฉบบั ปรบั ปรงุ )กลุ่มสาระการเรียนร้วู ทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยีรายวชิ าวิทยาศาสตร์ ช่วั โมงท่ี ๖ ข้ันนำ� (๑๐ นาที) ๕๐. ครทู บทวนความรขู้ องนกั เรยี นเกยี่ วกบั กระบวนการเกดิ หนิ โดยนำ� รปู การเกดิ วฏั จกั ร ของหนิ มาใหน้ ักเรยี นสังเกตแลว้ ใช้ค�ำถามดงั ตอ่ ไปนี้ 4 4 44 ลาวา 3 หนิ อคั นีพุ 55 5 66หินตะกอน 2 ทรกซอน 66 1 1 1 หนิ แปร แมกมา 1 ทม่ี า : สถาบนั ส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (2563). หนังสือเรียน รายวชิ าพน้ื ฐานวทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ป.6 เลม่ 1. กรงุ เทพมหานคร: โรงพิมพส์ กสค. ลาดพรา้ ว.

ชดุ การจดั กจิ กรรมการเรยี นรู้ (สำ� หรบั ครผู สู้ อน) กลมุ่ สาระการเรยี นรวู้ ทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ภาคเรยี นท่ี ๑ ชนั้ ประถมศกึ ษาปที ่ี ๖ (ฉบบั ปรบั ปรงุ ) 301 หนว่ ยการเรยี นรทู้ ่ี ๓ หนิ และซากดกึ ดำ� บรรพ์ แผนการจัดการเรียนร้ทู ี่ ๑.๑ กระบวนการเกิดหนิ และวฏั จักรหนิ เวลา ๖ ช่วั โมง หน่วยย่อยที่ ๑ หนิ วฏั จกั รหนิ และประโยชนข์ องหนิ และแร่ ช้นั ประถมศึกษาปีที่ ๖ กลุ่มสาระการเรียนรู้วทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี รายวิชาวิทยาศาสตร์ ๕๐.๑ หนิ อัคนแี ทรกซอน เกดิ ข้นึ เพราะเหตใุ ด (การเยน็ ตัวและตกผลึกของ แมกมา) ๕๐.๒ หมายเลข ๓ เกดิ การเปลย่ี นแปลงทางธรณอี ยา่ งไรจงึ เปน็ หนิ อคั นพี ไุ ด้ (การเยน็ ตัวและตกผลึกหรือแขง็ ตวั ของลาวาบนผวิ โลก) ๕๐.๓ หมายเลขใดเกี่ยวข้องกับการเกิดหินตะกอน และเก่ียวข้องอย่างไร (หมายเลข ๔ และ ๕ มกี ารสะสมตะกอนแลว้ เชอื่ มประสานตะกอน การตกผลึกหรือตกตกตะกอนของสารบางอย่าง) ๕๐.๔ หินแปรเกิดขึ้นได้อย่างไร (ความร้อน ความดัน และปฏิกิริยาเคมี ทเ่ี กิดใตผ้ วิ โลก) ๕๑. ครตู รวจสอบความรูข้ องนักเรยี นเกี่ยวกับวัฏจกั รหนิ โดยใช้ค�ำถามวา่ ๕๑.๑ หนิ แตล่ ะประเภทสามารถเปลย่ี นเปน็ หนิ ประเภทอน่ื ไดห้ รอื ไม่ อยา่ งไร (นักเรียนตอบตามความเข้าใจของตนเอง เช่น เปลี่ยนไปมาได้ เช่น หินตะกอนท่ีอยู่ใต้โลกก็มีการหลอมเหลวเป็นแมกมา แล้วแมกมาก็ เปลย่ี นเป็นหินอคั นไี ด้ต่อไปได)้ ๕๑.๒ หินมีวัฏจักรหรือไม่ ถ้ามีเกิดข้ึนได้เพราะเหตุใด (นักเรียนตอบตาม ความเขา้ ใจของตนเอง เชน่ มวี ฏั จกั รหนิ เกดิ ขน้ึ ไดเ้ พราะกระบวนการ การทางธรณีวิทยาตา่ ง ๆ) ๕๑.๓ วฏั จกั รหมายความวา่ อยา่ งไร (เปน็ การเปลย่ี นแปลงทมี่ แี บบรปู คงทแี่ ละ ต่อเนอ่ื งไมม่ ที ส่ี น้ิ สดุ )

302 ชดุ การจดั กจิ กรรมการเรยี นรู้ (สำ� หรบั ครผู สู้ อน) กลมุ่ สาระการเรยี นรวู้ ทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ภาคเรยี นที่ ๑ ชน้ั ประถมศกึ ษาปที ่ี ๖ (ฉบบั ปรบั ปรงุ ) หนว่ ยการเรยี นรทู้ ่ี ๓ หนิ และซากดกึ ดำ� บรรพ์ แผนการจัดการเรียนรู้ท่ี ๑.๑ กระบวนการเกดิ หนิ และวฏั จักรหนิ เวลา ๖ ช่วั โมง หน่วยย่อยที่ ๑ หิน วฏั จกั รหนิ และประโยชน์ของหินและแร่ ช้ันประถมศกึ ษาปีที่ ๖ กลมุ่ สาระการเรยี นรวู้ ทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี รายวิชาวิทยาศาสตร์ ข้ันสอน (๔๐ นาท)ี ๕๒. ครูใหน้ กั เรียนอ่านจดุ ประสงค์ ขอ้ ๓ หนา้ ๑๐๖ จากนั้นร่วมกนั อภิปรายเพ่อื ตรวจสอบความเขา้ ใจเกยี่ วกบั จดุ ประสงคใ์ นการทำ� กจิ กรรม โดยใชค้ ำ� ถามดงั น้ี ๕๒.๑ กจิ กรรมนน้ี กั เรยี นจะไดเ้ รยี นเรอ่ื งอะไร (กระบวนการเปลย่ี นแปลงของหนิ ในวฏั จกั รหนิ ) ๕๒.๒ นกั เรยี นจะไดเ้ รยี นรเู้ รอื่ งนด้ี ว้ ยวธิ ใี ด (รวบรวมขอ้ มลู และอภปิ รายขอ้ มลู ท่ีไดจ้ ากแบบจ�ำลอง) ๕๒.๓ เมอื่ เรยี นแลว้ นกั เรยี นจะทำ� อะไรได้ (อธบิ ายกระบวนการเปลย่ี นแปลง ของหินทที่ ำ� ใหเ้ กิดวัฏจกั รหนิ ได้) ๕๓. ครูแจง้ จุดประสงคข์ องชว่ั ใมงน้ใี ห้นกั เรียนทราบอกี ครงั้ ๕๔. ครใู ห้นักเรียนอา่ นวธิ ีทำ� ในใบกิจกรรมที่ ๒ ขอ้ ๕-๖ หน้า ๑๐๗ ดว้ ยวิธีการ ฝกึ การอา่ นตามความเหมาะสมจากนน้ั ครใู ชค้ ำ� ถามเพอื่ ตรวจสอบความเขา้ ใจ พรอ้ มกับอธิบายรายละเอียดดังต่อไปน้ี ๕๔.๑ นักเรยี นต้องร่วมกนั อภปิ รายเกี่ยวกบั เรือ่ งอะไร (การเปล่ยี นแปลงของ หนิ ประเภทหนึง่ ไปเป็นหินอกี ประเภทหนง่ึ ) ๕๔.๒ นักเรียนต้องอภิปรายการเปล่ียนแปลงของหินจ�ำนวนก่ีคู่ อะไรบ้าง (นักเรยี นเปดิ ตาราง ๓ หน้า ๑๑๔-๑๑๗) (อภปิ รายการเปลีย่ นแปลง ของหินทัง้ หมด ๑๕ คู่ ไดแ้ ก่

ชดุ การจดั กจิ กรรมการเรยี นรู้ (สำ� หรบั ครผู สู้ อน) กลมุ่ สาระการเรยี นรวู้ ทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ภาคเรยี นท่ี ๑ ชนั้ ประถมศกึ ษาปที ่ี ๖ (ฉบบั ปรบั ปรงุ ) 303 หนว่ ยการเรยี นรทู้ ่ี ๓ หนิ และซากดกึ ดำ� บรรพ์ แผนการจัดการเรียนรูท้ ี่ ๑.๑ กระบวนการเกิดหนิ และวฏั จักรหนิ เวลา ๖ ชว่ั โมง หนว่ ยยอ่ ยท่ี ๑ หิน วฏั จกั รหินและประโยชน์ของหนิ และแร่ ช้ันประถมศกึ ษาปีที่ ๖ กลมุ่ สาระการเรียนรูว้ ิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี รายวชิ าวทิ ยาศาสตร์ - หนิ อคั นี เปลยี่ นเปน็ หนิ ตะกอนเนอื้ เมด็ หนิ ตะกอนเนอ้ื ผลกึ หนิ แปร และ หนิ อคั นีพุ และหนิ อคั นแี ทรกซอน - หนิ ตะกอน เปลยี่ นเปน็ หนิ อัคนพี ุ หนิ อัคนแี ทรกซอน หินแปร หินตะกอน เนอ้ื เม็ด และหนิ ตะกอนเนอื้ ผลกึ - หินแปร เปลี่ยนเป็นหินอัคนีพุ หินอัคนีแทรกซอน หินตะกอนเน้ือเม็ด หนิ ตะกอนเนื้อผลึก และหินแปร) ๕๔.๓ การอภิปรายข้อมูลเก่ียวกับการเกิดวัฏจักรหินให้อภิปรายข้อมูลใน ประเดน็ ใด และบนั ทกึ ขอ้ มลู ในลกั ษณะใด (อภปิ รายการเกดิ วฏั จกั รหนิ ในประเดน็ เกยี่ วกบั กระบวนการทางธรณวี ทิ ยาทใ่ี ชใ้ นการเปลย่ี นแปลง และบนั ทกึ ขอ้ มลู กระบวนการทางธรณวี ทิ ยาดงั กลา่ วลงในแผนภาพใน แบบบนั ทึกกจิ กรรมหนา้ ๑๑๘) ๕๕. หลงั จากทน่ี กั เรยี นเขา้ ใจขน้ั ตอนวธิ ที ำ� แลว้ ครนู ำ� การด์ ในเกม Rock dominoes พร้อมกับรูปการวางการ์ดที่นักเรียนแต่ละกลุ่มได้เรียงไว้ในชั่วโมงที่แล้ว แล้วให้นักเรียนเรียงเหมือนเดิมและลงมืออภิปรายและบันทึกผล ในประเดน็ ต่าง ๆ โดยครูแนะน�ำดังน้ี - การอภปิ รายการเปลยี่ นแปลงของหนิ ประเภทหนง่ึ ไปเปน็ หนิ อกี ประเภทหนง่ึ ตอ้ งอาศยั กระบวนการทางธรณวี ทิ ยาใดบา้ ง (พจิ ารณาจากการด์ ทกุ กลมุ่ ที่ เรยี งตอ่ กนั ที่ไดจ้ ากการเล่นเกม)

304 ชดุ การจดั กจิ กรรมการเรยี นรู้ (สำ� หรบั ครผู สู้ อน) กลมุ่ สาระการเรยี นรวู้ ทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ภาคเรยี นที่ ๑ ชน้ั ประถมศกึ ษาปที ่ี ๖ (ฉบบั ปรบั ปรงุ ) หนว่ ยการเรยี นรทู้ ่ี ๓ หนิ และซากดกึ ดำ� บรรพ์ แผนการจัดการเรยี นรู้ท่ี ๑.๑ กระบวนการเกดิ หนิ และวฏั จักรหิน เวลา ๖ ช่วั โมง หน่วยยอ่ ยที่ ๑ หนิ วฏั จักรหินและประโยชน์ของหนิ และแร่ ชนั้ ประถมศกึ ษาปีท่ี ๖ กลุ่มสาระการเรยี นร้วู ทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี รายวชิ าวิทยาศาสตร์ - การอภปิ รายการเปลยี่ นแปลงของหนิ ประเภทหนง่ึ จนกลบั มาเปน็ หนิ ประเภทเดมิ ต้องอาศยั กระบวนการทางธรณีวทิ ยาใดบา้ ง (พิจารณาจากการด์ ทกุ กลุ่ม ที่เรียงต่อกนั ทไี่ ดจ้ ากการเลน่ เกม) - การอภิปรายการเปล่ียนแปลงของหินอัคนี หินตะกอนและหินแปรเป็น วฏั จกั รหนิ ตอ้ งอาศยั กระบวนการทางธรณวี ทิ ยาใดบา้ ง (พจิ ารณาจากการด์ ทกุ กลมุ่ ทเ่ี รยี งต่อกนั ทีไ่ ดจ้ ากการเลน่ เกม) ๕๖. ครูให้นักเรียนแตล่ ะกลุ่มน�ำเสนอตาราง ๓ ครจู ดบนั ทึกค�ำตอบของนักเรียน ไวบ้ นกระดาน จากนนั้ ครแู ละนกั เรยี นร่วมกันอภปิ รายโดยครูใช้คำ� ถามดังน้ี ๕๖.๑ กระบวนการเปลย่ี นแปลงของหนิ ตา่ ง ๆ ไปเปน็ หนิ อคั นี มกี ระบวนการ เปลย่ี นแปลงคงทเี่ ปน็ แบบรปู หรอื ไม่ อยา่ งไร (มกี ารเปลย่ี นแปลงคงท่ี เปน็ แบบรปู เชน่ หนิ ตะกอนจะเปลี่ยนไปเปน็ หนิ อคั นพี ตุ อ้ งผ่านการ แปรสภาพ การหลอมเหลว และการเยน็ ตวั และตกผลกึ ของลาวา หรอื การเยน็ ตวั และแขง็ ตวั ของลาวา หรอื จะตอ้ งผา่ น การหลอมเหลว และ การเยน็ ตวั และตกผลกึ ของลาวา หรอื การเยน็ ตวั และแขง็ ตวั ของลาวา) ๕๖.๒ กระบวนการเปลยี่ นแปลงของหนิ ตา่ ง ๆ ไปเปน็ หนิ ตะกอน มกี ระบวนการ เปลย่ี นแปลงคงทเี่ ปน็ แบบรปู หรอื ไม่ อยา่ งไร (มกี ารเปลย่ี นแปลงคงที่ เป็นแบบรูป เช่น หินแปรจะเปล่ียนไปเป็นหินตะกอนชนิดที่เนื้อเป็น เมด็ ตะกอน ตอ้ งผา่ นการหลอมเหลว การเยน็ ตวั และตกผลกึ ของแมกมา การผพุ งั และการสะสมตวั ของตะกอนและ การเชอ่ื มประสานตะกอน

ชดุ การจดั กจิ กรรมการเรยี นรู้ (สำ� หรบั ครผู สู้ อน) กลมุ่ สาระการเรยี นรวู้ ทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ภาคเรยี นท่ี ๑ ชนั้ ประถมศกึ ษาปที ่ี ๖ (ฉบบั ปรบั ปรงุ ) 305 หนว่ ยการเรยี นรทู้ ่ี ๓ หนิ และซากดกึ ดำ� บรรพ์ แผนการจดั การเรียนรู้ที่ ๑.๑ กระบวนการเกิดหนิ และวฏั จกั รหิน เวลา ๖ ชัว่ โมง หน่วยย่อยท่ี ๑ หิน วฏั จักรหนิ และประโยชน์ของหินและแร่ ชนั้ ประถมศกึ ษาปีที่ ๖ กลุม่ สาระการเรยี นร้วู ทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี รายวิชาวทิ ยาศาสตร์ หรือจะต้องผ่านการผุพัง และการสะสมตัวของตะกอน และการเช่ือม ประสานตะกอน) ๕๖.๓ กระบวนการเปล่ยี นแปลงของหินต่าง ๆ ไปเปน็ หนิ แปร มกี ระบวนการ เปลยี่ นแปลงคงทเี่ ปน็ แบบรปู หรอื ไม่ อยา่ งไร (การเปลย่ี นแปลงคงทเ่ี ปน็ แบบรูป เช่น หินอัคนีจะเปลี่ยนไปเป็นหินแปรต้องผ่านการแปรสภาพ หรอื ตอ้ งผา่ นการผพุ งั การตกผลกึ หรอื ตกตะกอนของสารบางชนดิ และ การแปรสภาพ หรือจะต้องผ่านการผุพัง การสะสมตัวของตะกอนและ การเชอื่ มประสานตะกอน และการแปรสภาพ) ๕๖.๔ การเปลยี่ นแปลงของหินเป็นวัฏจักรหินมลี ักษณะเป็นอยา่ งไร (เปน็ การ เปลย่ี นแปลงของหินอัคนี หนิ ตะกอน และหนิ แปรจากหินประเภทหน่งึ เปลย่ี นแปลงไปเปน็ หนิ อีกประเภทหน่ึงหรือเปลย่ี นแปลงกลับไปเปน็ หิน ประเภทเดมิ โดยมกี ระบวนการเปลย่ี นแปลงคงทเ่ี ปน็ แบบรปู และตอ่ เนอื่ ง เป็นวฏั จกั ร) ๕๖.๕ หนิ อคั นี หนิ ตะกอน และหนิ แปร สามารถเปลย่ี นไปเปน็ หนิ ประเภทอนื่ หรอื ประเภทเดิมได้หรือไม่ อย่างไร (หินอัคนี หินตะกอน และหินแปร สามารถเปลย่ี นไปเปน็ หนิ ประเภทอนื่ หรอื ประเภทเดมิ ไดโ้ ดยอาศยั ปจั จยั ตา่ ง ๆ ทางธรณวี ิทยา)

หินอัคนีแแผนการจัดการเรียนรทู้ ี่ ๑.๑ กระบวนการเกดิ หนิ และวฏั จักรหนิ หนว่ ยการเรยี นรทู้ ่ี ๓ หนิ และซากดกึ ดำ� บรรพ์ หน่วยยอ่ ยท่ี ๑ หนิ วฏั จักรหินและประโยชน์ของหินและแร่ เวลา ๖ ช่วั โมง 306 ชดุ การจดั กจิ กรรมการเรยี นรู้ (สำ� หรบั ครผู สู้ อน) กลมุ่ สาระการเรยี นรวู้ ทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ภาคเรยี นที่ ๑ ชนั้ ประถมศกึ ษาปที ี่ ๖ (ฉบบั ปรบั ปรงุ ) ชน้ั ประถมศกึ ษาปีที่ ๖ กลมุ่ สาระการเรียนรู้วทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี รายวชิ าวทิ ยาศาสตร์ ๕๗. ครนู ำ� รปู วฏั จกั รหนิ ในขน้ั นำ� เขา้ สบู่ ทเรยี นใหน้ กั เรยี นดอู กี ครง้ั แลว้ ชวนนกั เรยี น เขยี นลกู ศรลงในรปู ใหเ้ ปน็ ไปตามขอ้ มลู ทไ่ี ดจ้ ากการอภปิ ราย แลว้ ถามเกย่ี วกบั หมายเลขต่าง ๆ ว่าเป็นการเปลี่ยนแปลงทางธรณีวิทยาอะไรบ้าง จากนั้น ข้นึ รปู ที่สมบูรณด์ งั รปู ลาวา 3 44 4 หนิ อัคนพี ุ 44 4 555 66หินตะกอน 2 ทรกซอน 66 1 1 1 หนิ แปร แมกมา 1 1 การหลอมเหลว 4 การผพุ งั และการเคลอ่ื นทข่ี องตะกอน 2 การเยน็ ตวั และตกผลึกของแมกมา การสะสมตวั ของตะกอนและการเชอ่ื มมประสาน 3 การเย็นตวั และตกผลกึ ของลาวา 5 ตะกอน และการตกผลกึ หรอื ตกตะกอนของสาร 6 บกาางรชแนปดิ รสภาพ การเยน็ ตวั และแขง็ ตัวของลาวา

ชดุ การจดั กจิ กรรมการเรยี นรู้ (สำ� หรบั ครผู สู้ อน) กลมุ่ สาระการเรยี นรวู้ ทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ภาคเรยี นท่ี ๑ ชนั้ ประถมศกึ ษาปที ่ี ๖ (ฉบบั ปรบั ปรงุ ) 307 หนว่ ยการเรยี นรทู้ ี่ ๓ หนิ และซากดกึ ดำ� บรรพ์ แผนการจัดการเรยี นร้ทู ี่ ๑.๑ กระบวนการเกดิ หินและวฏั จกั รหิน เวลา ๖ ช่วั โมง หน่วยยอ่ ยที่ ๑ หนิ วฏั จักรหนิ และประโยชนข์ องหินและแร่ ชัน้ ประถมศึกษาปีท่ี ๖ กลมุ่ สาระการเรียนร้วู ิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี รายวชิ าวทิ ยาศาสตร์ ๕๘. ครแู ละนกั เรยี นรว่ มกนั เฉลยคำ� ตอบในแผนภาพการเกดิ วฏั จกั รหนิ จากขอ้ มลู ท่ไี ดจ้ ากการเลม่ เกมในใบงาน ๐๒ หน้า ๑๑๘ ๕๙. นกั เรยี นตอบคำ� ถามหลังจากท�ำกิจกรรม หน้า ๑๑๙–๑๒๒ ขัน้ สรุป (๑๐ นาท)ี ๖๐. นกั เรยี นสรปุ ความรทู้ ไ่ี ดเ้ กยี่ วกบั วฏั จกั รหนิ ดว้ ยตนเอง โดยสรปุ ไดว้ า่ การเปลยี่ นแปลง ของหนิ อคั นี หนิ ตะกอน และหนิ แปรจากหนิ ประเภทหนงึ่ เปลย่ี นแปลงไปเปน็ หินอีกประเภทหนึ่งหรือเปลี่ยนแปลงกลับไปเป็นหินประเภทเดิม โดยมี กระบวนการเปล่ียนแปลงคงที่เป็นแบบรูปและต่อเน่ืองเป็นวัฏจักร โดยมี กระบวนการเปลยี่ นแปลงทางธรณวี ทิ ยาตา่ ง ๆ ทเี่ กยี่ วขอ้ ง ไดแ้ ก่ การแปรสภาพ การหลอมเหลว การเย็นตัวและตกผลึกของแมกมา การเย็นตัวและตกผลึก ของลาวา การเย็นตัวและแข็งตัวของลาวา การผุพังและการเคลื่อนที่ของ ตะกอน การสะสมของตะกอนและการเช่ือมประสานตะกอน ๖๑. ครชู วนนกั เรยี นสรปุ เปน็ ภาพรวมอกี ครง้ั เกย่ี วกบั กระบวนการเกดิ หนิ และวฏั จกั รหนิ

308 ชดุ การจดั กจิ กรรมการเรยี นรู้ (สำ� หรบั ครผู สู้ อน) กลมุ่ สาระการเรยี นรวู้ ทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ภาคเรยี นที่ ๑ ชน้ั ประถมศกึ ษาปที ่ี ๖ (ฉบบั ปรบั ปรงุ ) แผนการจัดการเรยี นรู้ที่ ๑.๑ กระบวนการเกิดหินและวฏั จักรหนิ หนว่ ยการเรยี นรทู้ ี่ ๓ หนิ และซากดกึ ดำ� บรรพ์ หน่วยยอ่ ยท่ี ๑ หิน วฏั จักรหินและประโยชนข์ องหินและแร่ เวลา ๖ ชว่ั โมง ช้ันประถมศึกษาปที ่ี ๖ กลมุ่ สาระการเรียนรวู้ ทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี รายวชิ าวิทยาศาสตร์ โดยครูอาจเขียนแนวคดิ ทีไ่ ดเ้ พมิ่ เตมิ นีไ้ ปใสใ่ นผงั มโนทศั นเ์ รื่องกระบวนการ เกดิ หนิ ท่ไี ดท้ �ำไปในชัว่ โมงที่แลว้ ดังตวั อยา่ ง เชน่ หิน วฏั จักรหิน เป็น กำรเปลีย่ นแปลงไปมำของหนิ ทกุ ประเภท ซึ่งเกี่ยวข้องกนั จำแนกตำม โดยมแี บบรูปกำรเปลีย่ นแปลงอย่ำงต่อเน่ือง กำรเย็นตวั และตก กระบวนกำรเกิด ผลกึ อย่ำงชำ้ ๆ ของ แบ่งเป็น แมกมำใตผ้ วิ โลก หนิ อัคนี หนิ ตะกอน หนิ แปร ทำให้เกดิ เกดิ จำก เกิดจำก เกิดจำก ผลึกแรต่ ่ำง ๆ ท่ีมี กำรเยน็ ตัวและตก กำรเย็นตวั แข็งตัวอย่ำง กำรสะสมของตะกอน กำรตกผลึกหรอื กำรแปรสภำพของหินทุกชนดิ ขนำดใหญ่ ผลึกอยำ่ งรวดเร็ว รวดเร็วทันทที ันใดของ ตำ่ ง ๆ ในแอง่ สะสม ตกตะกอนของสำร รวมเป็น ของลำวำผวิ โลก เนือ่ งจำก ลำวำบนผิวโลก ตะกอน บำงชนิด หนิ เนือ้ หยำบ ทำให้เกดิ ทำให้เกิด ทำให้ เกดิ ควำมรอ้ น ควำมดนั และปฏกิ ิริยำเคมี เรยี กว่ำ ผลกึ แร่ตำ่ ง ๆ ทมี่ ี ทเี่ กิดใตผ้ วิ โลก หินทีม่ เี น้ือแกว้ มแี รงกดทบั ของตะกอน ผลกึ แรข่ นำดเลก็ ทำให้ หนิ อคั นแี ทรกซ้อน ขนำดเล็ก เรียกวำ่ และกำรเช่อื มประสำน ยึดเกำะกันแน่น เช่น หินเนอ้ื บำงชนดิ บำงชนดิ บำงชนิด รวมเปน็ ตะกอน เปน็ มีผลกึ แต่ แซะ เปน็ เน้อื หินแกรนิต หนิ เน้ือละเอยี ด เกดิ หนิ ทม่ี ลี ักษณะ ผลกึ เป็นเนือ้ ผลึก เรียงขนำนกนั ออกเป็น หินอคั นีพุ หินทีม่ ีเน้อื เปน็ เมด็ ตกตะกอน เป็นแถบ แผ่นได้ มที งั้ เนอ้ื หยำบและเนอื้ ละเอยี ด เชน่ อำจพบ หนิ ปูน รพู รุนในหนิ อำจพบ เชน่ เชน่ เนอื้ หนิ มกี ำรเรียงตวั เปน็ ชั้น ๆ เชน่ เชน่ เช่น หนิ บะซอลต์ หินพัมมซิ บำงคร้ังจึงเรียกวำ่ หินชน้ั หินไนต์ หนิ ชนวน หนิ ควอร์ดไซด์ เช่น หินดนิ ดำน

ชดุ การจดั กจิ กรรมการเรยี นรู้ (สำ� หรบั ครผู สู้ อน) กลมุ่ สาระการเรยี นรวู้ ทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ภาคเรยี นท่ี ๑ ชนั้ ประถมศกึ ษาปที ่ี ๖ (ฉบบั ปรบั ปรงุ ) 309 หนว่ ยการเรยี นรทู้ ี่ ๓ หนิ และซากดกึ ดำ� บรรพ์ แผนการจดั การเรยี นรูท้ ่ี ๑.๑ กระบวนการเกดิ หินและวฏั จักรหิน เวลา ๖ ชัว่ โมง หนว่ ยยอ่ ยท่ี ๑ หนิ วฏั จักรหนิ และประโยชน์ของหินและแร่ ช้ันประถมศึกษาปที ่ี ๖ กลุม่ สาระการเรียนรูว้ ิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี รายวิชาวิทยาศาสตร์ ๖๒. ครใู หน้ กั เรยี นรว่ มกนั ทำ� ใบงาน ๐๓ แบบฝกึ หดั เรอื่ งกระบวนการเกดิ หนิ และ วฏั จักรหนิ หน้า ๑๒๓–๑๒๔ ๖๓. ครอู าจใหน้ กั เรยี นศกึ ษากระบวนการเกดิ หนิ และวฏั จกั รหนิ เพม่ิ เตมิ นอกหอ้ งเรยี น ผา่ นส่ือแอนิเมชน่ั โดยสแกน QR code หรอื ดาวน์โหลดขอ้ มลู จากเว็บไซต์ http://ipst.me/10924

แบบประเมนิ ด้านคณุ ธรรม แผนการจัดการเรยี นรทู้ ่ี ๑.๑ กระบวนการเกดิ หินและวฏั จกั รหนิ ช่ือผู้ประเมนิ /กลุ่มประเมนิ ................................................................................................................. ชื่อกลุ่มรับการประเมิน ....................................................................................................................... ประเมินผลครัง้ ท.่ี ................... วันท่.ี ....................... เดอื น................................. พ.ศ.......................... เรือ่ ง .................................................................................................................................................... ที่ ลกั ษณะ/พฤติกรรมบ่งชี้ ระดบั พฤติกรรม คะแนนที่ได้ เกิด = ๑ ไม่เกดิ = ๐ ๑. มุง่ ม่ันในการท�ำงาน ๒. ใฝ่เรียนรู้ รวมคะแนนที่ได้ทั้งหมด = …………… คะแนน คณุ ลักษณะตามจุดประสงค์ดา้ นคุณธรรม - มากกวา่ ๘๐ % ได้ ๓ คะแนน - ๕๐ % - ๗๙ % ได้ ๒ คะแนน - ตำ่� กวา่ ๕๐ % ได้ ๑ คะแนน 310 ชดุ การจดั กจิ กรรมการเรยี นรู้ (สำ� หรบั ครผู สู้ อน) กลมุ่ สาระการเรยี นรวู้ ทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ภาคเรยี นท่ี ๑ ชน้ั ประถมศกึ ษาปที ี่ ๖ (ฉบบั ปรบั ปรงุ )

แบบประเมินดา้ นทกั ษะกระบวนการทางวิทยาศาสตรใ์ นการทำ� กจิ กรรม แผนการจัดการเรยี นรู้ท่ี ๑.๑ กระบวนการเกดิ หนิ และวัฏจกั รหนิ เกณฑก์ ารประเมนิ มดี งั น้ี ๓ หมายถงึ ดี ๒ หมายถงึ พอใช้ ๑ หมายถึง ควรปรับปรงุ ส่งิ ท่ปี ระเมนิ คะแนน การสังเกต การลงความเหน็ จากขอ้ มูล การตีความหมายขอ้ มูลและลงข้อสรปุ การสร้างแบบจำ� ลอง รวมคะแนน เกณฑ์การประเมนิ ทกั ษะกระบวนการ ดี (๓) ระดบั ความสามารถ ควรปรบั ปรงุ (๑) ทางวิทยาศาสตร์ พอใช้ (๒) การสงั เกต สามารถใชป้ ระสาทสมั ผสั และ สามารถใชป้ ระสาทสมั ผสั และ สามารถใชป้ ระสาทสมั ผสั และ แว่นขยายเก็บรายละเอียด แว่นขยายเก็บรายละเอียด แวน่ ขยายเกบ็ รายละเอยี ดขอ้ มลู ขอ้ มลู ลกั ษณะของหนิ แตล่ ะ ขอ้ มลู ลกั ษณะของหนิ แตล่ ะ ลกั ษณะของหนิ แตล่ ะประเภท ประเภทไดด้ ว้ ยตนเอง โดย ประเภทได้ จากการชแ้ี นะของ ไดเ้ พยี งบางสว่ น แมว้ า่ จะไดร้ บั ไมเ่ พม่ิ ความคดิ เหน็ ครหู รอื ผอู้ น่ื หรอื มกี ารเพมิ่ เตมิ คำ� ชแี้ นะจากครหู รอื ผอู้ นื่ ความคดิ เหน็ ชดุ การจดั กจิ กรรมการเรยี นรู้ (สำ� หรบั ครผู สู้ อน) กลมุ่ สาระการเรยี นรวู้ ทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ภาคเรยี นที่ ๑ ชนั้ ประถมศกึ ษาปที ่ี ๖ (ฉบบั ปรบั ปรงุ ) 311

เกณฑก์ ารประเมนิ (ต่อ) ทกั ษะกระบวนการ ดี (๓) ระดับความสามารถ ควรปรับปรงุ (๑) ทางวิทยาศาสตร์ พอใช้ (๒) การลงความเห็น สามารถลงความเห็นจาก สามารถลงความเห็นจาก สามารถลงความเห็นจาก จากขอ้ มูล ข้อมูลได้อย่างถูกต้อง ข้อมูลได้อย่างถูกต้อง ข้อมูลได้เพียงบางส่วนว่า ด้วยตนเองว่า ลักษณะ โดยอาศัยการช้ีแนะของครู ลั ก ษ ณ ะ ข อ ง หิ น แ ต ่ ล ะ ของหินแต่ละประเภทมี หรอื ผอู้ นื่ วา่ ลกั ษณะของหนิ ประเภทมบี างอยา่ งเหมอื นกนั บางอย่างเหมือนกันและ แต่ละประเภทมีบางอย่าง และบางอย่างแตกต่างกัน บางอย่างแตกต่างกัน เหมือนกันและบางอย่าง กระบวนการเกิดหินแต่ละ กระบวนการเกิดหินแต่ละ แตกต่างกัน กระบวนการ ประเภทมีกระบวนการเกิด ประเภทมกี ระบวนการเกดิ เกิดหินแต่ละประเภท แตกตา่ งกนั และหนิ ประเภท แตกตา่ งกนั และหนิ ประเภท มกี ระบวนการเกดิ แตกตา่ งกนั หนงึ่ สามารถเปลย่ี นแปลงไป หนงึ่ สามารถเปลยี่ นแปลงไป แ ล ะ หิ น ป ร ะ เ ภ ท ห น่ึ ง เป็นหินอีกประเภทหนึ่ง เป็นหินอีกประเภทหนึ่ง สามารถเปลยี่ นแปลงไปเปน็ หรือเปลี่ยนกลับไปเป็นหิน หรือเปล่ียนกลับไปเป็นหิน หินอีกประเภทหน่ึงหรือ ประเภทเดิมได้ แม้ว่าจะ ประเภทเดมิ ได้ เปล่ียนกลับไปเป็นหิน ไดร้ บั คำ� ชแ้ี นะจากครหู รอื ผอู้ น่ื ประเภทเดมิ ได้ การตีความหมาย สามารถตีความหมาย สามารถตคี วามหมายขอ้ มลู สามารถตคี วามหมายข้อมูล ขอ้ มลู และลงขอ้ สรปุ ข้อมูลและลงข้อสรุปจาก และลงข้อสรุปจากการ และลงขอ้ สรปุ จากการสงั เกต การสงั เกต รวบรวมขอ้ มลู สังเกต รวบรวมข้อมูลจาก รวบรวมข้อมูล จากการ จากการอภปิ ราย และจาก การอภิปราย และจากการ อภิปราย และจาการสร้าง การสร้างแบบจ�ำลอง สร้างแบบจ�ำลองได้ถูกต้อง แบบจำ� ลองได้เพียงบางสว่ น ได้ถูกต้องด้วยตนเองว่า โดยอาศัยการชี้แนะของ ว ่ า หิ น แ ต ่ ล ะ ป ร ะ เ ภ ท มี หิ น แ ต ่ ล ะ ป ร ะ เ ภ ท มี ครูหรือผู้อื่นว่า หินแต่ละ กระบวนการเกดิ แตกตา่ งกนั กระบวนการเกดิ แตกตา่ งกนั ประเภทมีกระบวนการเกิด และหนิ อคั นี หนิ ตะกอน และ และหินอัคนี หินตะกอน แตกต่างกัน และหินอัคนี หนิ แปร สามารถเปลยี่ นแปลง และหินแปร สามารถ หินตะกอน และหินแปร ไปมาโดยมีกระบวนการ เปล่ียนแปลงไปมาโดยมี ส า ม า ร ถ เ ป ลี่ ย น แ ป ล ง เปล่ียนแปลงเป็นแบบรูป กระบวนการเปล่ียนแปลง ไปมาโดยมีกระบวนการ และต่อเน่ืองเป็นวัฏจักร เปน็ แบบรปู และตอ่ เนอ่ื งเปน็ เปลี่ยนแปลงเป็นแบบรูป แม้ว่าจะได้รับค�ำชี้แนะ วฏั จกั ร และต่อเน่ืองเป็นวัฏจักร จากครหู รอื ผอู้ น่ื 312 ชดุ การจดั กจิ กรรมการเรยี นรู้ (สำ� หรบั ครผู สู้ อน) กลมุ่ สาระการเรยี นรวู้ ทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ภาคเรยี นที่ ๑ ชน้ั ประถมศกึ ษาปที ่ี ๖ (ฉบบั ปรบั ปรงุ )

เกณฑ์การประเมิน (ตอ่ ) ทกั ษะกระบวนการ ดี (๓) ระดับความสามารถ ควรปรบั ปรุง (๑) ทางวทิ ยาศาสตร์ พอใช้ (๒) การสรา้ งแบบจำ� ลอง สามารถสร้างแบบจ�ำลอง สามารถสร้างแบบจ�ำลอง สามารถสร้างแบบจ�ำลอง เ พ่ื อ เ ป รี ย บ เ ที ย บ แ ล ะ เ พื่ อ เ ป รี ย บ เ ที ย บ แ ล ะ เพ่ือเปรียบเทียบและอธิบาย อธิบายกระบวนการเกิด อธิบายกระบวนการเกิด กระบวนการเกิดหินและ หินและลักษณะของหิน หินและลักษณะของหิน ลกั ษณะของหนิ แตล่ ะประเภท แตล่ ะประเภท และอธบิ าย แตล่ ะประเภท และอธบิ าย และอธิบายกระบวนการ กระบวนการเปลี่ยนแปลง กระบวนการเปล่ียนแปลง เปล่ียนแปลงของหินทุก ของหินทุกประเภทใน ของหนิ ทกุ ประเภทในวฏั จกั ร ประเภทในวัฏจักรหินได้ถูก วัฏจักรหินได้อย่างถูกต้อง หินได้อย่างถูกต้อง จาก ต้องบางส่วน แม้ว่าจะได้ ดว้ ยตนเอง การช้ีแนะของครูหรือผู้อื่น รับค�ำช้ีแนะจากครูหรือผู้อ่ืน ชดุ การจดั กจิ กรรมการเรยี นรู้ (สำ� หรบั ครผู สู้ อน) กลมุ่ สาระการเรยี นรวู้ ทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ภาคเรยี นที่ ๑ ชนั้ ประถมศกึ ษาปที ี่ ๖ (ฉบบั ปรบั ปรงุ ) 313

เฉลยใบงาน 314 ชดุ การจดั กจิ กรรมการเรยี นรู้ (สำ� หรบั ครผู สู้ อน) กลมุ่ สาระการเรยี นรวู้ ทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ภาคเรยี นท่ี ๑ ชนั้ ประถมศกึ ษาปที ี่ ๖ (ฉบบั ปรบั ปรงุ )

ช่อื -สกุล เดือน ชนั้ เลขที่ บ. ๓.๑ / ผ. ๑.๑ - ๐๑ วนั ท่ี พ.ศ. ใบงาน ๐๑ : องคป์ ระกอบของหนิ บนั ทกึ ผลการทำ� กจิ กรรม ผลการสังเกต ตาราง ๑ ผลการสังเกตลกั ษณะเนอ้ื หนิ ลกั ษณะเนอ้ื หิน ประเภทของหนิ ช่อื หิน หนิ มเี นื้อหยาบ ประกอบด้วยวัสดุแขง็ ประมาณ ๓–๔ สี เกาะรวมกัน หิน แกรนิต หนิ อคั นี หนิ มเี นอื้ หยาบ ประกอบดว้ ยวสั ดแุ ขง็ ประมาณ ๒-๓ สี หนิ ไดออไรต์ เกาะรวมกัน ชดุ การจดั กจิ กรรมการเรยี นรู้ (สำ� หรบั ครผู สู้ อน) กลมุ่ สาระการเรยี นรวู้ ทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ภาคเรยี นที่ ๑ ชน้ั ประถมศกึ ษาปที ่ี ๖ (ฉบบั ปรบั ปรงุ ) 331155

ชือ่ -สกลุ เดอื น ช้ัน เลขที่ บ. ๓.๑ / ผ. ๑.๑ - ๐๑ วันท ี่ พ.ศ. ตาราง ๑ ผลการสงั เกตลักษณะเน้ือหนิ (ต่อ) ประเภทของหนิ ชอื่ หนิ ลักษณะเน้ือหิน หนิ มเี นอ้ื ละเอยี ด ประกอบดว้ ยวสั ดแุ ขง็ เกาะรวมกนั บางก้อนอาจมีรูพรุน โดยรวมหินมีสีด�ำ สีเทาเข้ม หนิ บะซอลต์ หรอื สีนำ�้ ตาลเขม้ หินอคั นี หินมีเน้ือแก้ว มีรูพรุน ส่วนใหญ่โดยรวมหิน หนิ พมั มซิ มสี ขี าวปนเหลอื ง หรอื มสี นี ำ�้ ตาล สนี ำ้� ตาลออ่ น หรอื สเี ทาออ่ น 331166 ชดุ การจดั กจิ กรรมการเรยี นรู้ (สำ� หรบั ครผู สู้ อน) กลมุ่ สาระการเรยี นรวู้ ทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ภาคเรยี นที่ ๑ ชน้ั ประถมศกึ ษาปที ี่ ๖ (ฉบบั ปรบั ปรงุ )

ชือ่ -สกุล เดือน ช้นั เลขที่ บ. ๓.๑ / ผ. ๑.๑ - ๐๑ วันที ่ พ.ศ. ตาราง ๑ ผลการสังเกตลกั ษณะเนื้อหนิ (ต่อ) ประเภทของหนิ ชื่อหิน ลกั ษณะเนือ้ หนิ หนิ ดนิ ดาน หนิ มเี นอื้ ละเอยี ด มลี กั ษณะเปน็ เมด็ ตะกอนขนาดเลก็ เกาะรวมกัน เน้ือหินมลี ักษณะเป็นชน้ั ๆ มีหลายสี เชน่ สนี ำ้� ตาล สเี ทา สีดำ� หนิ ตะกอน หนิ มเี นอื้ ละเอยี ด ประกอบดว้ ยวสั ดแุ ขง็ ขนาดเลก็ มาก หิน ปูน เกาะกันแน่น เน้ือหินอาจมีลักษณะเป็นช้ัน ๆ โดยรวมท้ังกอ้ นเป็นสเี ทาอ่อน หรือสีเทาเข้ม ชดุ การจดั กจิ กรรมการเรยี นรู้ (สำ� หรบั ครผู สู้ อน) กลมุ่ สาระการเรยี นรวู้ ทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ภาคเรยี นที่ ๑ ชนั้ ประถมศกึ ษาปที ่ี ๖ (ฉบบั ปรบั ปรงุ ) 331177

ชือ่ -สกุล เดอื น ชน้ั เลขที่ บ. ๓.๑ / ผ. ๑.๑ - ๐๑ วนั ท ่ี พ.ศ. ตาราง ๑ ผลการสังเกตลักษณะเนอ้ื หิน (ต่อ) ประเภทของหนิ ชอื่ หิน ลักษณะเนื้อหนิ หิน กรวดมน หินมีหยาบ มีลักษณะเป็นตะกอนขนาดใหญ่ เกาะรวมกัน อาจมีเศษหินชนิดต่าง ๆ ปะปนอยู่ในเนื้อดิน เม็ดตะกอนอาจมีหลายสี หนิ ตะกอน หนิ มเี นอ้ื หยาบถงึ ปานกลาง มลี กั ษณะเปน็ เมด็ ตะกอน หนิ ทราย ขนาดปานกลางหรือขนาดเม็ดทรายเกาะรวมกัน อาจมเี ศษหนิ ปะปน เนอ้ื หนิ อาจมลี กั ษณะเปน็ ชนั้ ๆ เม็ดตะกอนอาจมีหลายสี เช่น สีน้�ำตาล สีเหลือง สแี ดง 331188 ชดุ การจดั กจิ กรรมการเรยี นรู้ (สำ� หรบั ครผู สู้ อน) กลมุ่ สาระการเรยี นรวู้ ทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ภาคเรยี นที่ ๑ ชนั้ ประถมศกึ ษาปที ี่ ๖ (ฉบบั ปรบั ปรงุ )

ช่ือ-สกุล เดือน ช้นั เลขที่ บ. ๓.๑ / ผ. ๑.๑ - ๐๑ วนั ท่ี พ.ศ. ตาราง ๑ ผลการสงั เกตลักษณะเนอ้ื หิน (ต่อ) ประเภทของหนิ ชือ่ หิน ลกั ษณะเนื้อหิน หิน ไนส์ หินมเี นอื้ หยาบ ประกอบดว้ ยวสั ดุแข็งเกาะรวมกัน มีการเรียงตัวของวัสดุแข็งเป็แถบ อาจพบการสลับ แถบสีของวสั ดุแขง็ เป็นแถบสขี าวสลับด�ำ หนิ แปร หนิ มเี นอ้ื ละเอยี ด ประกอบดว้ ยวสั ดแุ ขง็ เกาะรวมกนั หนิ ชนวน มกี ารเรยี งตวั ของวสั ดแุ ขง็ เปน็ แถบ สามารถแซะหรอื กะเทาะออกเป็นแผ่นได้ หนิ มีสดี ำ� หรอื เทา ชดุ การจดั กจิ กรรมการเรยี นรู้ (สำ� หรบั ครผู สู้ อน) กลมุ่ สาระการเรยี นรวู้ ทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ภาคเรยี นที่ ๑ ชนั้ ประถมศกึ ษาปที ี่ ๖ (ฉบบั ปรบั ปรงุ ) 331199

ชอื่ -สกุล เดือน ชน้ั เลขที่ บ. ๓.๑ / ผ. ๑.๑ - ๐๑ วันท่ี พ.ศ. ตาราง ๑ ผลการสงั เกตลักษณะเนือ้ หิน (ต่อ) ประเภทของหนิ ช่อื หิน ลักษณะเนอื้ หิน หิน หินอ่อน หินมีเนอ้ื ละเอยี ดถึงหยาบ ประกอบดว้ ยวัสดแุ ขง็ เกาะรวมกนั โดยรวมภายในหนงึ่ กอ้ นมสี เี ดยี ว เชน่ สขี าว สเี ทา สนี ำ�้ ตาล อาจพบลวดลายในเนอ้ื หิน หินแปร หนิ หินควอรต์ ไซต์ หนิ มเี นอื้ ละเอยี ด ประกอบดว้ ยวสั ดแุ ขง็ เกาะรวมกนั โดยรวมภายในหน่ึงก้อนมีสีเดียว เช่น สีขาว สีเทาออ่ น สชี มพู ผลการอภิปราย องคป์ ระกอบของหนิ ไดแ้ ก่ ตัวอยา่ งผลการอภปิ รายกอ่ นเล่นเกม เชน่ วสั ดแุ ข็ง เศษหิน กรวด ทราย ตัวอยา่ งผลการอภิปรายหลังเลน่ เกม เช่น แร่ แกว้ ภูเขาไฟ เศษหนิ 332200 ชดุ การจดั กจิ กรรมการเรยี นรู้ (สำ� หรบั ครผู สู้ อน) กลมุ่ สาระการเรยี นรวู้ ทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ภาคเรยี นท่ี ๑ ชนั้ ประถมศกึ ษาปที ่ี ๖ (ฉบบั ปรบั ปรงุ )

ชือ่ -สกุล เดือน ช้นั เลขท่ี บ. ๓.๑ / ผ. ๑.๑ - ๐๑ วันท่ี พ.ศ. ข้อมลู ท่ีไดจ้ ากการเลน่ เกม ตาราง ๒ องคป์ ระกอบของหนิ ตามขอ้ มลู ทไี่ ด้ ทำ� เครอื่ งหมาย √ ลงในชอ่ งองคป์ ระกอบ จากการเลน่ เกม Rocks & Minerals ของหนิ แตล่ ะชนดิ องคป์ ระกอบของหิน ที่ ชอ่ื หิน แรค่ วอตซ์ แรสเ่ ฟปาลรด์ -์ แรด่ นิ แรไ่ มกา บแารงส่ ชเี ขนม้ ดิ แคลแรไซ่ ต์ เศษหิน ภูเแขกา้วไฟ ๑ หนิ แกรนิต √ √ √ ๒ หนิ ไดออไรต์ √ √ √√ ๓ หนิ บะซอลต์ √ √ ๔ หนิ พัมมซิ √ ๕ หนิ ออบซเิ ดยี น √ ๖ หนิ กรวดมน √ √ √ √ ๗ หินทราย √ √ √ √ ๘ หนิ ดินดาน √ √ ๙ หนิ ทรายแปง้ √ √ ๑๐ หินปูน √ √ √ ๑๑ หินไนส์ √ √ √√ ๑๒ หนิ ชนวน √ √ √ ชดุ การจดั กจิ กรรมการเรยี นรู้ (สำ� หรบั ครผู สู้ อน) กลมุ่ สาระการเรยี นรวู้ ทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ภาคเรยี นท่ี ๑ ชน้ั ประถมศกึ ษาปที ี่ ๖ (ฉบบั ปรบั ปรงุ ) 332211

ช่อื -สกุล เดือน ช้นั เลขท่ี บ. ๓.๑ / ผ. ๑.๑ - ๐๑ วันท่ี พ.ศ. ตาราง ๒ องคป์ ระกอบของหนิ ตามขอ้ มลู ทไี่ ดจ้ ากการเลน่ เกม Rocks & Minerals (ต่อ) องคป์ ระกอบของหนิ ที่ ชื่อหนิ แรค่ วอตซ์ แรสเ่ ฟปาลรด์ -์ แรด่ นิ แรไ่ มกา บแารงส่ ชเี ขนม้ ดิ แคลแรไซ่ ต์ เศษหนิ ภูเแขกา้วไฟ ๑๓ หินฟิลไลต์ √ √√ ๑๔ หนิ อ่อน √ ๑๕ หนิ ควอรต์ ไซต์ √ ผลการอภิปราย ลกั ษณะทางกายภาพของแร่มีอะไรบา้ ง หนิ สว่ นใหญ่ประกอบดว้ ยแร่ต้งั แต่ ๑ ชนดิ ขึ้นไป หินบางชนิดมอี งคป์ ระกอบเปน็ แก้วภเู ขาไฟ และบางชนดิ มเี ศษหนิ เป็นองคป์ ระกอบ 332222 ชดุ การจดั กจิ กรรมการเรยี นรู้ (สำ� หรบั ครผู สู้ อน) กลมุ่ สาระการเรยี นรวู้ ทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ภาคเรยี นที่ ๑ ชน้ั ประถมศกึ ษาปที ่ี ๖ (ฉบบั ปรบั ปรงุ )

ชื่อ-สกลุ เดอื น ชนั้ เลขที่ บ. ๓.๑ / ผ. ๑.๑ - ๐๑ วันท่ี พ.ศ. ค�ำถามหลงั จากท�ำกิจกรรม ๑. องค์ประกอบของหินมีอะไรบา้ ง แร่ แก้วภูเขาไฟ เศษหิน ๒. ลกั ษณะทางกายภาพของแรม่ ีอะไรบา้ ง เป็นผลกึ มสี ีสันหลากหลาย เปน็ รูปทรงเรขาคณิต ๓. หนิ ชนิดใดบ้างท่ีประกอบด้วยแร่ ๑ ชนดิ หนิ ออ่ น หินควอรต์ ไซต์ ๔. หนิ ชนดิ ใดบ้างท่ปี ระกอบด้วยแร่มากกวา่ ๑ ชนิด หนิ แกรนิต หินไดออไรต์ หินบะซลอต์ หินกรวดมน หินทราย หินดนิ ดาน หินทรายแป้ง หินปนู หินไนส์ หินชนวน หนิ ฟิลไลต์ ๕. หนิ ชนิดใดบา้ งทป่ี ระกอบดว้ ยแก้วภเู ขาไฟ หินพัมมิซ หนิ ออบซิเดยี น ๖. หนิ ชนิดใดบ้างท่ีมีเศษหินเป็นองคป์ ระกอบ หินกรวดมน หนิ ทราย ชดุ การจดั กจิ กรรมการเรยี นรู้ (สำ� หรบั ครผู สู้ อน) กลมุ่ สาระการเรยี นรวู้ ทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ภาคเรยี นที่ ๑ ชนั้ ประถมศกึ ษาปที ่ี ๖ (ฉบบั ปรบั ปรงุ ) 332233

ชอ่ื -สกุล เดอื น ชั้น เลขท่ี บ. ๓.๑ / ผ. ๑.๑ - ๐๑ วนั ท ี่ พ.ศ. ๗. จากกจิ กรรมน้ี สรปุ ได้ว่าอย่างไร หินส่วนใหญ่ประกอบด้วยแร่ตั้งแต่ ๑ ชนิดข้ึนไป บางก้อนประกอบด้วยแร่เพียงชนิดเดียว บางก้อนเป็นแก้วภูเขาไฟ และบางก้อนมีเศษหินปะปนอยู่ในเน้ือหิน การที่หินมีองค์ประกอบ แตกตา่ งกนั ท�ำใหเ้ นื้อหนิ ท่ปี รากฏมีลักษณะแตกต่างกนั ไปด้วย 332244 ชดุ การจดั กจิ กรรมการเรยี นรู้ (สำ� หรบั ครผู สู้ อน) กลมุ่ สาระการเรยี นรวู้ ทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ภาคเรยี นที่ ๑ ชนั้ ประถมศกึ ษาปที ่ี ๖ (ฉบบั ปรบั ปรงุ )

ชื่อ-สกลุ เดือน ช้นั เลขที่ บ. ๓.๑ / ผ. ๑.๑ - ๐๒ วนั ท ่ี พ.ศ. ใบงาน ๐๒ : กระบวนการเกิดหินและวฏั จักรหิน บันทึกผลการทำ� กิจกรรม ผลการสังเกต ตาราง ๑ ลกั ษณะของหนิ แตล่ ะประเภทกอ่ นและหลงั การเลน่ เกม Rocks Dominoes ประเภทของหนิ ลกั ษณะของหิน ก่อนเล่นเกม หลังเลน่ เกม มีวัสดุของแข็งสีต่าง ๆ รวมตัวกัน พบลักษณะเป็นผลึกแร่ขนาดใหญ่ บางก้อนหินมีเนื้อหยาบ บางก้อน เกาะอยรู่ วมกนั มเี นอ้ื หยาบ และพบ มเี นอื้ ละเอยี ด ถ้าหินมเี นอ้ื ละเอยี ด ลกั ษณะเปน็ ผลกึ แรข่ นาดเลก็ เกาะอยู่ หินอัคนี จะมองเห็นหินทั้งก้อนมีสีเดียว รวมกันมีเน้ือละเอียด หินบางก้อน หนิ บางกอ้ นเปน็ เนอ้ื แกว้ หนิ บางกอ้ น เป็นเนื้อแก้ว หินบางก้อนมีรูพรุน มรี พู รนุ ในเนอื้ หิน ในเนอื้ หิน ชดุ การจดั กจิ กรรมการเรยี นรู้ (สำ� หรบั ครผู สู้ อน) กลมุ่ สาระการเรยี นรวู้ ทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ภาคเรยี นท่ี ๑ ชน้ั ประถมศกึ ษาปที ่ี ๖ (ฉบบั ปรบั ปรงุ ) 332255

ช่ือ-สกลุ เดือน ช้ัน เลขที่ บ. ๓.๑ / ผ. ๑.๑ - ๐๒ วันท่ ี พ.ศ. ตาราง ๑ ลกั ษณะของหนิ แตล่ ะประเภทกอ่ นและหลงั การเลน่ เกม Rocks Dominoes (ตอ่ ) ประเภทของหนิ ลกั ษณะของหนิ กอ่ นเล่นเกม หลงั เล่นเกม พบเม็ดตะกอนเกาะอย่รู วมกนั พบลกั ษณะเปน็ เมด็ ตะกอนขนาดใหญ่ มีทั้งเนอื้ หยาบและเน้ือละเอียด เกาะอยรู่ วมกนั มเี นอื้ หยาบ หนิ บางกอ้ น บางกอ้ นมเี ศษหนิ ปะปน บางกอ้ น มลี กั ษณะเปน็ เมด็ ตะกอนขนาดเลก็ เนอ้ื หินมลี ักษณะเป็นช้ัน ๆ เกาะอยู่รวมกัน มีเน้ือละเอียด หินบางก้อนมีเศษหินปะปนอยู่ หินตะกอน บางกอ้ นมลี กั ษณะเนอื้ หนิ เปน็ ชนั้ ๆ หินแปร หนิ ประกอบดว้ ยวสั ดทุ เี่ ปน็ ของแขง็ หนิ มลี กั ษณะเปน็ ผลกึ แรข่ นาดใหญ่ ขนาดตา่ ง ๆ เกาะอยรู่ วมกนั บางกอ้ น เกาะอยรู่ วมกนั มเี นอื้ หยาบ บางกอ้ น วั ส ดุ ที่ เ ป ็ น ข อ ง แ ข็ ง จ ะ เ รี ย ง ตั ว มลี กั ษณะเปน็ ผลกึ แรข่ นาดเลก็ เกาะ ขนานกันเป็นแถบสี และบางกอ้ น อยรู่ วมกนั มเี นอื้ ละเอยี ด บางกอ้ น สามารถแซะออกเปน็ แผน่ ได้ เนอ้ื หนิ มผี ลกึ แรเ่ รยี งตวั ขนานกนั เปน็ แถบและแถบในเนอื้ หนิ บางชนดิ แซะหรอื กะเทาะออกเปน็ แผน่ ได้ 332266 ชดุ การจดั กจิ กรรมการเรยี นรู้ (สำ� หรบั ครผู สู้ อน) กลมุ่ สาระการเรยี นรวู้ ทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ภาคเรยี นท่ี ๑ ชน้ั ประถมศกึ ษาปที ่ี ๖ (ฉบบั ปรบั ปรงุ )

ชอ่ื -สกุล เดือน ชัน้ เลขท่ี บ. ๓.๑ / ผ. ๑.๑ - ๐๒ วนั ท ี่ พ.ศ. ผลการอภิปราย ตาราง ๒ การเปรยี บเทยี บกระบวนการเกดิ หนิ แตล่ ะประเภทกอ่ นและหลงั การเลน่ เกม Rocks Dominoes ทำ� เครอ่ื งหมาย √ ลงในช่อง หน้าข้อความทเ่ี ลือก และเขียนบอกเหตุผล กระบวนการเกดิ หนิ แต่ละประเภท ก่อนเล่นเกม หลังเลน่ เกม √ แตกตา่ งกัน √ แตกตา่ งกนั ไม่แตกต่าง ไม่แตกตา่ ง เพราะ เพราะ นกั เรยี นตอบตามความเขา้ ใจ เชน่ ลกั ษณะ หนิ อคั นี เกดิ จากการเยน็ ตวั และตกผลกึ จาก ของหนิ อคั นี หนิ ตะกอน และหนิ แปร มบี างอยา่ ง แมกมา หรอื เกดิ จากการเยน็ ตวั และตกผลกึ แตกตา่ งกนั เชน่ การพบเนอ้ื แกว้ และรพู รนุ ของลาวาหรอื เกดิ จากการเยน็ ตวั และแขง็ ตวั ของลาวา หนิ ตะกอนเกดิ จากการสะสมตวั ของ ในหนิ อคั นี การพบเมด็ ตะกอนและเศษหนิ ตะกอนและการเชอื่ มประสานตะกอนหรอื ทร่ี วมตวั กนั ในหนิ ตะกอน และการพบการ เกดิ จากการตกผลกึ หรอื ตกตะกอนของสาร เรยี งตวั ของวสั ดทุ เี่ ปน็ ของแขง็ เปน็ แถบขนานกนั ในหนิ แปร บางชนดิ และหนิ แปรเกดิ จากหนิ ทกุ ประเภท มีการแปรสภาพโดยความร้อน ความดัน และปฏกิ ริ ิยาเคมี ชดุ การจดั กจิ กรรมการเรยี นรู้ (สำ� หรบั ครผู สู้ อน) กลมุ่ สาระการเรยี นรวู้ ทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ภาคเรยี นที่ ๑ ชนั้ ประถมศกึ ษาปที ี่ ๖ (ฉบบั ปรบั ปรงุ ) 332277

ชอ่ื -สกุล เดอื น ช้นั เลขท่ี บ. ๓.๑ / ผ. ๑.๑ - ๐๒ วันท ่ี พ.ศ. ผลการรวบรวมขอ้ มลู ทไี่ ด้จากการเล่นเกม Rocks Dominoes กระบวนการเกดิ และลักษณะของหนิ อคั นี พจิ ารณาคำ� หรอื ขอ้ ความตอ่ ไปนี้ แลว้ นำ� ไปเตมิ ลงในผงั มโนทศั นเ์ รอื่ งกระบวนการเกดิ และ ลกั ษณะของหนิ อัคนใี หถ้ กู ต้อง แกว้ แก้วภเู ขาไฟ แมกมา ลาวา ชา้ ๆ ละเอียด หยาบ เล็ก ใหญ ่ รวดเรว็ ทนั ทีทนั ใด รวดเรว็ หินพมั มซิ หนิ ออบซิเดียน หินแกรนิต หนิ บะซอลต์ หินอคั นี ไดแ้ ก่ หินอัคนีแทรกซอน หินอคั นีพุ เกดิ จาก เกิดจาก แมกมา เยน็ ตวั และ ลาวา เยน็ ตวั และ ลาวาเย็นตัวและแข็งตัวอย่าง ตกผลกึ อยา่ ง ช้า ๆ ใตผ้ วิ โลก ตกผลกึ อยา่ ง รวดเร็ว บนผวิ โลก รวดเรว็ ทนั ทที นั ใด บนผวิ โลก ท�ำให้ ท�ำให้ ท�ำให้ ผลกึ แรช่ นดิ ตา่ ง ๆ ผลกึ แรช่ นดิ ตา่ ง ๆ ทเ่ี กดิ ขน้ึ สารไมต่ กผลกึ เปน็ แร่ แตแ่ ขง็ ตวั ทเ่ี กดิ ขน้ึ มขี นาด ใหญ่ มขี นาด เล็ก หนิ มเี นอ้ื หยาบ หนิ มเี นอ้ื ละเอียด เปน็ แกว้ ภูเขาไฟ หนิ มเี นอื้ แก้ว เช่น ถ้า ถา้ มีแกส๊ ดันตวั ออกมาขณะที่ สารกำ� ลงั เยน็ ตวั และตกผลกึ มีแก๊สดันตัวออกมาขณะท่ี เปน็ หิน สารกำ� ลงั เยน็ ตวั และตกผลกึ เปน็ หนิ จะพบ จะพบ รพู รนุ ในเนอื้ หนิ รพู รนุ ในเนอื้ หนิ เชน่ เชน่ เชน่ หนิ แกรนิต หนิ บะซอลต์ หนิ ออบซิเดยี น หนิ พัมมิซ ผังมโนทัศน์เร่ืองกระบวนการเกิดและลกั ษณะของหนิ อคั นี 332288 ชดุ การจดั กจิ กรรมการเรยี นรู้ (สำ� หรบั ครผู สู้ อน) กลมุ่ สาระการเรยี นรวู้ ทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ภาคเรยี นที่ ๑ ชนั้ ประถมศกึ ษาปที ่ี ๖ (ฉบบั ปรบั ปรงุ )

ชอ่ื -สกลุ เดอื น ชนั้ เลขที่ บ. ๓.๑ / ผ. ๑.๑ - ๐๒ วันท่ ี พ.ศ. กระบวนการเกิดและลกั ษณะของหนิ ตะกอน พจิ ารณาคำ� หรอื ขอ้ ความตอ่ ไปนี้ แลว้ นำ� ไปเตมิ ลงในผงั มโนทศั น์ เรอื่ งกระบวนการเกดิ และ ลักษณะของหนิ ตะกอนใหถ้ กู ต้อง แข็งตวั กลายเป็นหิน ผลกึ ละเอียด หยาบ เล็ก ใหญ่ หนิ กรวดมน หินปนู หนิ ทราย หนิ ดนิ ดาน หนิ ทรายแปง้ แรงกดทบั ไปทตี่ ะกอนและมกี ารเชอื่ มประสานตะกอน สะสมตวั ของตะกอนในแอง่ สะสมตะกอน ตกผลกึ และตกตะกอนของสารบางชนดิ หินตะกอนทีม่ ีเนื้อเปน็ เมด็ ตะกอน หนิ ตะกอน เกิดจาก ได้แก่ การ สะสมตวั ของตะกอน หินตะกอนที่มีเน้อื ผลึก ในแอ่งสะสมตะกอน เกดิ จาก ท�ำให้ การ ตกผลกึ และตกตะกอน มี แรงกดทบั ไปทต่ี ะกอนและ ของสารบางชนิด มีการเช่อื มประสานตะกอน ท�ำให้ เม่ือเวลาผา่ นไป มผี ลกึ แรข่ นาดเลก็ ยดึ เกาะกนั แนน่ ตะกอนจะแขง็ ตวั กลายเปน็ หนิ เป็นหนิ ตะกอนทีม่ เี น้อื ผลกึ ถ้า หนิ นน้ั จะประกอบไปดว้ ย เช่น หนิ นนั้ จะประกอบไปดว้ ย เมด็ ตะกอนขนาด เล็ก หนิ ปูน จะเปน็ หนิ ตะกอนทมี่ เี นอ้ื ละเอยี ด เมด็ ตะกอนขนาด ใหญ่ จะเปน็ หนิ ตะกอนทมี่ เี นอ้ื หยาบ เชน่ เช่น หนิ ดินดาน หนิ ทรายแปง้ หนิ กรวดมน หนิ ทราย ผงั มโนทศั น์เรือ่ งกระบวนการเกิดและลกั ษณะของหนิ ตะกอน ชดุ การจดั กจิ กรรมการเรยี นรู้ (สำ� หรบั ครผู สู้ อน) กลมุ่ สาระการเรยี นรวู้ ทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ภาคเรยี นที่ ๑ ชน้ั ประถมศกึ ษาปที ่ี ๖ (ฉบบั ปรบั ปรงุ ) 332299

ชอ่ื -สกลุ เดือน ชนั้ เลขที่ บ. ๓.๑ / ผ. ๑.๑ - ๐๒ วนั ที ่ พ.ศ. กระบวนการเกิดและลกั ษณะของหนิ แปร พจิ ารณาคำ� หรอื ขอ้ ความตอ่ ไปน้ี แลว้ นำ� ไปเตมิ ลงในผงั มโนทศั นเ์ รอ่ื งกระบวนการเกดิ และ ลักษณะของหนิ แปรใหถ้ ูกตอ้ ง ผลึก การแปรสภาพ ความรอ้ น ความดนั และปฏกิ ริ ยิ า ผลึกแรเ่ รยี งตวั ขนานกัน หนิ ฟลิ ไลต์ หนิ ชนวน หนิ ไนส์ หนิ ควอรต์ ไซต์ หนิ ออ่ น หินแปร เกดิ จาก การแปรสภาพ ของ หนิ อคั นี หนิ ตะกอน และหนิ แปร เนอ่ื งจากปจั จยั ความร้อน ความดนั และปฏิกิรยิ าเคมี ท�ำให้ หนิ แปรมเี นอ้ื หนิ ลักษณะต่าง ๆ เช่น เนอ้ื หนิ มี ผลึกเรยี งตวั ซึ่ง เนอ้ื หนิ มลี กั ษณะเปน็ ผลกึ ทย่ี ดึ เกาะกนั แนน่ ขนานกัน เปน็ แถบ เช่น เนอ้ื หนิ สามารถ เช่น แซะออกเปน็ แผน่ ได้ หนิ ไนส์ หนิ ควอรต์ ไซต์ หนิ ฟิลไลต์ เชน่ หนิ อ่อน หนิ ชนวน ผังมโนทศั น์เรื่องกระบวนการเกิดและลักษณะของหนิ แปร 333300 ชดุ การจดั กจิ กรรมการเรยี นรู้ (สำ� หรบั ครผู สู้ อน) กลมุ่ สาระการเรยี นรวู้ ทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ภาคเรยี นที่ ๑ ชน้ั ประถมศกึ ษาปที ี่ ๖ (ฉบบั ปรบั ปรงุ )

ชือ่ -สกุล เดือน ชน้ั เลขที่ บ. ๓.๑ / ผ. ๑.๑ - ๐๒ วันที่ พ.ศ. ผลการอภิปราย ตาราง ๓ กระบวนการทางธรณวี ทิ ยาที่ทำ� ให้หินประเภทหนงึ่ เปลยี่ นแปลงไปเปน็ หิน อกี ประเภทหนง่ึ หรอื เปลีย่ นกลับไปเป็นหินประเภทเดิม โดยใช้ข้อมูลจาก การเล่นเกม Rocks Dominoes ก. การผุพัง ข. การหลอมเหลว ค. การแปรสภาพ ง. การสะสมตัวของตะกอนและการเชือ่ มประสานตะกอน จ. การเยน็ ตวั และตกผลกึ ของแมกมา ฉ. การตกผลึกหรอื ตกตะกอนของสารบางชนดิ ช. การเยน็ ตวั และตกผลกึ ของลาวา และการเยน็ ตวั และแขง็ ตวั ของลาวา การเปลีย่ นแปลงของหินประเภทหน่ึงไปเปน็ หินอีก กระบวนการทางธรณีวทิ ยา ประเภทหน่งึ หรอื เปลี่ยนกลับไปเปน็ หินประเภทเดิม ทที่ ำ� ใหเ้ กดิ การเปลี่ยนแปลง หินตะกอนเนอื้ เม็ด ก, ง หรือ ค, ข, จ, ก, ง หรอื ค, ข, ช, ก, ง หรือ ข, ช, ก, ง หรอื ข, จ, ก, ง หรือ ค, ก, ง หินอัคนี เปล่ยี นเป็น หินตะกอนเน้อื ผลึก ก, ฉ หรือ ค, ข, จ, ก, ฉ หรือ ค, ข, ช, ก, ฉ หรือ ข, ช, ก, ฉ หรือ ข, จ, ก, ฉ หรือ ค, ก, ฉ หนิ แปร ค หรือ ก, ง, ค หรอื ก, ฉ, ค หรือ ข, ช, ค หรอื ข, จ, ค หรือ ก, ง, ก, ง, ค หรอื ก, ง, ก, ฉ, ค ชดุ การจดั กจิ กรรมการเรยี นรู้ (สำ� หรบั ครผู สู้ อน) กลมุ่ สาระการเรยี นรวู้ ทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ภาคเรยี นที่ ๑ ชน้ั ประถมศกึ ษาปที ่ี ๖ (ฉบบั ปรบั ปรงุ ) 333311

ชื่อ-สกุล เดอื น ชนั้ เลขท่ี บ. ๓.๑ / ผ. ๑.๑ - ๐๒ วันท่ ี พ.ศ. ตาราง ๓ กระบวนการทางธรณวี ิทยาที่ทำ� ใหห้ นิ ประเภทหนึง่ เปลยี่ นแปลงไปเปน็ หนิ อกี ประเภทหนง่ึ หรือเปล่ียนกลบั ไปเป็นหินประเภทเดิม โดยใช้ข้อมูลจาก การเลน่ เกม Rocks Dominoes (ต่อ) การเปล่ียนแปลงของหินประเภทหนง่ึ ไปเปน็ หนิ อกี กระบวนการทางธรณวี ิทยา ประเภทหนง่ึ หรอื เปลย่ี นกลบั ไปเปน็ หินประเภทเดิม ทีท่ ำ� ใหเ้ กดิ การเปลี่ยนแปลง หินอัคนพี ุ ข, ช หรือ ก, ง, ค, ข, ช หรอื ก, ฉ, ค, ข, ช หรอื ค, ข, ช หรอื ก, ง, ข, หนิ อัคนี เปลยี่ นเป็น ช หรือ ก, ฉ, ข, ช หินอัคนแี ทรกซอน ข, จ หรือ ก, ง, ค, ข, จ หรือ ก, ฉ, ค, ข, จ หรอื ค, ข, จ หรอื ก, ง, ข, จ หรอื ก, ฉ, ข, จ หินอัคนพี ุ ข, ช หรอื ค, ข, ช หรือ ก, ง, ค, ข, ช หรือ ก, ฉ, ค, ข, ช หินตะกอน เปลย่ี นเป็น หินอัคนีแทรกซอน ข, จ หรือ ค, ข, จ หรือ ก, ง, ค, ข, จ หรอื ก, ฉ, ค, ข, จ หนิ แปร ค หรือ ก, ง, ค หรือ ก, ฉ, ค หรอื ข, ช, ค หรือ ข, จ, ค หรือ ข, ช, ข, จ, ค 333322 ชดุ การจดั กจิ กรรมการเรยี นรู้ (สำ� หรบั ครผู สู้ อน) กลมุ่ สาระการเรยี นรวู้ ทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ภาคเรยี นที่ ๑ ชนั้ ประถมศกึ ษาปที ี่ ๖ (ฉบบั ปรบั ปรงุ )

ชื่อ-สกลุ เดอื น ชนั้ เลขท่ี บ. ๓.๑ / ผ. ๑.๑ - ๐๒ วันที ่ พ.ศ. ตาราง ๓ กระบวนการทางธรณีวทิ ยาที่ทำ� ให้หนิ ประเภทหนึ่งเปลยี่ นแปลงไปเป็นหนิ อกี ประเภทหนึง่ หรอื เปลยี่ นกลบั ไปเป็นหินประเภทเดิม โดยใช้ข้อมูลจาก การเล่นเกม Rocks Dominoes (ต่อ) การเปล่ียนแปลงของหินประเภทหนึ่งไปเป็นหินอกี กระบวนการทางธรณวี ทิ ยา ประเภทหนง่ึ หรอื เปลยี่ นกลับไปเป็นหินประเภทเดมิ ท่ีท�ำให้เกดิ การเปล่ียนแปลง หนิ ตะกอนเนอ้ื เมด็ ก, ง หรอื ค, ข, ช, ก, ง หรอื ค, ข, จ, ก, ง หรอื ข, จ, ก, ง หรือ ข, ช, ก, ง หนิ ตะกอน เปลยี่ นเป็น ก, ฉ หรือ ค, ข, ช, ก, ฉ หรอื ค, ข, จ, ก, ฉ หรอื ข, จ, ก, ฉ หรือ หนิ ตะกอนเนอื้ ผลึก ข, ช, ก, ฉ หนิ อคั นพี ุ ข, ซ หรอื ก, ง, ค, ข, ช หรอื ก, ฉ, ค, ข, ช หรือ ก, ฉ, ข, ช หรอื ก, ง, บ, ช หรือ ค, ข, ช หนิ แปร เปล่ียนเปน็ หนิ อคั นีแทรกซอน ข, จ หรอื ก, ง, ค, ข, จ หรอื ก, ฉ, ค, ข, จ หรือ ก, ฉ, ข, จ หรือ ก, ง, ข, จ หรอื ค, ข, จ หินตะกอนเนอ้ื เมด็ ก, ง หรอื ข, จ, ก, ง หรือ ข, ช, ก, ง หรือ ข, ช, ข, จ, ก, ง หรือ ข, จ, ข, ช, ก, ง ชดุ การจดั กจิ กรรมการเรยี นรู้ (สำ� หรบั ครผู สู้ อน) กลมุ่ สาระการเรยี นรวู้ ทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ภาคเรยี นท่ี ๑ ชน้ั ประถมศกึ ษาปที ่ี ๖ (ฉบบั ปรบั ปรงุ ) 333333

ชอื่ -สกุล เดือน ชน้ั เลขที่ บ. ๓.๑ / ผ. ๑.๑ - ๐๒ วันที ่ พ.ศ. ตาราง ๓ กระบวนการทางธรณวี ิทยาทที่ ำ� ใหห้ นิ ประเภทหนึ่งเปลยี่ นแปลงไปเป็นหนิ อกี ประเภทหนงึ่ หรือเปลี่ยนกลับไปเป็นหินประเภทเดิม โดยใช้ข้อมูลจาก การเลน่ เกม Rocks Dominoes (ต่อ) การเปล่ยี นแปลงของหนิ ประเภทหนึง่ ไปเป็นหนิ อกี กระบวนการทางธรณีวิทยา ประเภทหน่งึ หรือเปลย่ี นกลบั ไปเป็นหินประเภทเดมิ ท่ีทำ� ให้เกิดการเปล่ยี นแปลง หินตะกอนเน้อื ผลึก ก, ฉ หรือ ข, จ, ก, ฉ หรอื ข, ช, ก, ฉ หรอื ข, ช, ข, จ, ก, ฉ หรือ ข, จ, หินแปร เปลยี่ นเป็น ข, ช, ก, ฉ หนิ แปร ค หรือ ข, ช, ค หรอื ข, จ, ค หรือ ข, ช, ก, ง, ค หรือ ข, จ, ก, ง, ค หรือ ก, ฉ, ค หรือ ก, ง, ค หมายเหตุ: เส้นทางของกระบวนการทางธรณีวทิ ยาทท่ี �ำให้หินประเภทหน่งึ เปล่ยี นแปลงไปเปน็ หนิ อกี ประเภทหนึง่ และเปล่ยี นกลบั ไปเปน็ หนิ ประเภทเดมิ อาจมคี ำ� ตอบมากกวา่ ทเ่ี ฉลยไว้ 333344 ชดุ การจดั กจิ กรรมการเรยี นรู้ (สำ� หรบั ครผู สู้ อน) กลมุ่ สาระการเรยี นรวู้ ทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ภาคเรยี นที่ ๑ ชน้ั ประถมศกึ ษาปที ่ี ๖ (ฉบบั ปรบั ปรงุ )

ชื่อ-สกลุ เดอื น ช้นั เลขที่ บ. ๓.๑ / ผ. ๑.๑ - ๐๒ วันท่ ี พ.ศ. การเกิดวฏั จกั รหินจากขอ้ มูลท่ไี ด้จากการเลน่ เกม ของแผนภาพ พจิ ารณาขอ้ ความ ก ถงึ ช แลว้ นำ� อกั ษร ก ถงึ ช ไปเตมิ ใน การแปรสภาพ วัฏจักรหิน (สามารถเลือกอกั ษรซ�ำ้ ได้มากกวา่ ๑ ครั้ง) ก การผุ ข การหลอมเหลว ค ง การสะสมตวั ของตะกอนและการเชอ่ื มประสานตะกอน จ การเยน็ ตวั และตกผลกึ ของแมกมา ฉ การตกผลกึ หรอื ตกตะกอนของสารบาง ช การเยน็ ตวั และตกผลกึ ของลาวา และการเยน็ ตวั และแขง็ ตวั ของ จ หนิ อคั นี ช ก ตะกอนและ สารบางชนดิ ข ก ขช ก งฉ ค คก หินแปร ค หนิ ตะกอน แผนภาพวฏั จักรหนิ ชดุ การจดั กจิ กรรมการเรยี นรู้ (สำ� หรบั ครผู สู้ อน) กลมุ่ สาระการเรยี นรวู้ ทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ภาคเรยี นท่ี ๑ ชนั้ ประถมศกึ ษาปที ี่ ๖ (ฉบบั ปรบั ปรงุ ) 333355

ชอื่ -สกลุ เดือน ช้ัน เลขท่ี บ. ๓.๑ / ผ. ๑.๑ - ๐๒ วันท ี่ พ.ศ. คำ� ถามหลังจากท�ำกจิ กรรม ๑. หินแตล่ ะประเภทมีลกั ษณะเหมอื นหรือแตกตา่ งกนั เพราะเหตุใด หนิ แต่ละประเภทจะมีลกั ษณะบางอยา่ งทง้ั ท่ีเหมือนกันและแตกตา่ งกันเพราะมกี ระบวนการเกิด ที่แตกตา่ งกนั ๒. หนิ อคั นี หนิ ตะกอน และหนิ แปร มกี ระบวนการเกดิ แตกตา่ งกนั หรอื ไม่ อยา่ งไร หนิ อคั นี หินตะกอน และหนิ แปร มีกระบวนการเกิดแตกต่างกนั หินอคั นีเกิดจากการเยน็ ตัว และตกผลกึ จากแมกมา หรอื เกดิ จากการเยน็ ตวั และตกผลกึ ของลาวา หรอื เกดิ จากการเยน็ ตวั และแขง็ ตวั ของลาวา หินตะกอนเกิดจากการสะสมตวั ของตะกอนและการเชื่อมประสาน ตะกอนหรืออาจเกดิ จากการตกผลึกหรือตกตะกอนของสารบางชนดิ หินแปรเกดิ จาก การแปรสภาพของหนิ ทกุ ประเภทโดยความร้อน ความดนั และปฏกิ ริ ิยาเคมี ๓. ลักษณะของหนิ แต่ละประเภทแตกตา่ งกนั หรอื ไม่ อยา่ งไร หนิ แตล่ ะประเภทมลี กั ษณะแตกตา่ งกนั เชน่ หนิ อคั นอี าจมเี นอื้ แกว้ และมรี พู รนุ หนิ ตะกอนมเี นอื้ ทเ่ี ปน็ เมด็ ตะกอนและมเี ศษหนิ ปะปนอยใู่ นเนอ้ื หนิ และอาจพบการวางตวั ของตะกอนในเนอื้ หนิ เปน็ ชนั้ ๆ และหนิ แปรมผี ลกึ แรท่ เ่ี รยี งขนานกนั เปน็ แถบ ซง่ึ อาจแซะหรอื กะเทาะแถบดงั กลา่ ว ออกได้ 333366 ชดุ การจดั กจิ กรรมการเรยี นรู้ (สำ� หรบั ครผู สู้ อน) กลมุ่ สาระการเรยี นรวู้ ทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ภาคเรยี นท่ี ๑ ชนั้ ประถมศกึ ษาปที ่ี ๖ (ฉบบั ปรบั ปรงุ )

ชื่อ-สกุล เดือน ชนั้ เลขท่ี บ. ๓.๑ / ผ. ๑.๑ - ๐๒ วนั ท ่ี พ.ศ. ๔. หินอัคนี หินตะกอน และหินแปร เปล่ียนแปลงไปเป็นหินประเภทใดได้บ้าง และสามารถเปลย่ี นกลับไปเป็นหนิ ประเภทเดมิ ไดห้ รอื ไม่ หนิ อคั นี หนิ ตะกอน และหนิ แปร สามารถเปลย่ี นแปลงไปเปน็ หนิ อนื่ ไดท้ กุ ประเภท และสามารถ เปล่ยี นแปลงกลับไปเปน็ หนิ ประเภทเดิมได้ ๕. กระบวนการทางธรณวี ทิ ยาทท่ี ำ� ใหห้ นิ แตล่ ะประเภทเกดิ การเปลยี่ นแปลงไปมา ในวัฏจกั รหนิ มอี ะไรบ้าง กระบวนการทางธรณีวิทยาท่ีท�ำให้หินแต่ละประเภทเกิดการเปล่ียนแปลงไปมาในวัฏจักรหิน ไดแ้ ก่ การผพุ งั การหลอมเหลว การแปรสภาพ การสะสมตวั ของตะกอนและการเชอ่ื มประสาน ตะกอน การเยน็ ตวั และตกผลกึ จากแมกมา การตกผลกึ หรอื ตกตะกอนของสารบางชนดิ และ การเยน็ ตวั และตกผลกึ ของลาวา และการเย็นตัวและแข็งตัวของลาวา ชดุ การจดั กจิ กรรมการเรยี นรู้ (สำ� หรบั ครผู สู้ อน) กลมุ่ สาระการเรยี นรวู้ ทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ภาคเรยี นท่ี ๑ ชนั้ ประถมศกึ ษาปที ี่ ๖ (ฉบบั ปรบั ปรงุ ) 333377

ชอ่ื -สกุล เดือน ช้ัน เลขท่ี บ. ๓.๑ / ผ. ๑.๑ - ๐๒ วันท่ ี พ.ศ. ๖. การเปล่ียนแปลงของหินจากประเภทหนึ่งไปเป็นหินอีกประเภทหน่ึงหรือ เปลี่ยนกลบั ไปเป็นหนิ ประเภทเดมิ ในวฏั จักรหนิ เปน็ แบบรปู คงท่แี ละตอ่ เนื่อง หรือไม่ อย่างไร การเปลี่ยนแปลงของหินในวัฏจักรหินมีกระบวนการเปลี่ยนแปลงเป็นแบบรูปคงที่และ ต่อเนื่อง เช่น การท่ีหินอัคนีจะเปลี่ยนไปเป็นหินแปรจะผ่านกระบวนการทางธรณีวิทยาดังน้ี หนิ อคั นจี ะการผพุ งั กลายเปน็ ตะกอน จากตะกอนจะผา่ นกระบวนการสะสมตวั ของตะกอนและ การเช่ือมประสานตะกอนกลายเป็นหินตะกอน และจากหินตะกอนจะผ่านกระบวนการ แปรสภาพกลายเปน็ หนิ แปร หรอื การทหี่ นิ อคั นผี า่ นกระบวนการแปรสภาพกลายเปน็ หนิ แปรเลยกไ็ ด้ การเปล่ียนแปลงจากหินอัคนีไปเป็นหินแปรจะมีการเปล่ียนดังกล่าวซ้�ำเป็นแบบรูปคงท่ี และ เกิดขึ้นต่อเนื่อง ซึ่งการเปล่ียนแปลงในบางกระบวนการใช้เวลาน้อย บางกระบวนการใช้เวลา ยาวนานนับล้านปี ๗. จากแบบจ�ำลอง เราสามารถพยากรณก์ ารเปล่ยี นแปลงของเมด็ ทรายเม็ดหน่งึ ซง่ึ เปน็ ตะกอนบนผวิ โลกไดอ้ ยา่ งไร และการเปลยี่ นแปลงนน้ั เกดิ จากกระบวนการ ทางธรณีวิทยาใดบ้าง เมด็ ทรายเม็ดหนึง่ บนผิวโลก สามารถเปลย่ี นแปลงไปเป็นหินอัคนี หินตะกอน และหนิ แปรได้ เชน่ เมด็ ทรายเมด็ ดงั กลา่ วถกู นำ�้ นำ� พาไปสะสมตวั อยใู่ นแอง่ สะสมตะกอนและมกี ารเชอื่ มประสาน ตะกอน ก็จะกลายเป็นส่วนหนึ่งชองหินตะกอน และถ้าหินตะกอนดังกล่าวถูกแปรสภาพก็จะ กลายเปน็ หนิ แปร หรอื ถา้ หนิ ตะกอนดงั กลา่ วมกี ารหลอมเหลวกลายเปน็ แมกมา และถา้ แมกมา มีการเย็นตวั และตกผลึกกจ็ ะกลายเปน็ หนิ อคั นแี ทรกซอนได้ 333388 ชดุ การจดั กจิ กรรมการเรยี นรู้ (สำ� หรบั ครผู สู้ อน) กลมุ่ สาระการเรยี นรวู้ ทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ภาคเรยี นท่ี ๑ ชนั้ ประถมศกึ ษาปที ่ี ๖ (ฉบบั ปรบั ปรงุ )

ชอ่ื -สกลุ เดือน ช้นั เลขที่ บ. ๓.๑ / ผ. ๑.๑ - ๐๒ วนั ที่ พ.ศ. ๘. จากกจิ กรรมนี้ สรปุ ได้ว่าอย่างไร หินอัคนี หินตะกอน และหินแปร มีกระบวนการเกิดแตกต่างกัน หินท้ังสามประเภทนี้ มีการเปล่ียนแปลงไปมาโดยมีกระบวนการเปลี่ยนแปลงเป็นแบบรูปและต่อเน่ืองเป็นวัฏจักร ชดุ การจดั กจิ กรรมการเรยี นรู้ (สำ� หรบั ครผู สู้ อน) กลมุ่ สาระการเรยี นรวู้ ทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ภาคเรยี นท่ี ๑ ชนั้ ประถมศกึ ษาปที ี่ ๖ (ฉบบั ปรบั ปรงุ ) 333399

ชือ่ -สกลุ เดือน ช้นั เลขท่ี บ. ๓.๑ / ผ. ๑.๑ - ๐๓ วนั ท่ ี พ.ศ. ใบงาน ๐๓ : แบบฝกึ หดั เรื่องกระบวนการเกิดหินและวฏั จักรหนิ ตอบค�ำถามตอ่ ไปน้ีให้ถูกต้อง ๑. หินอคั นี หนิ ตะกอน และหนิ แปร มีกระบวนการเกดิ แตกตา่ งกันอย่างไร หนิ อคั นี หนิ ตะกอน และหนิ แปร มกี ระบวนการเกดิ แตกตา่ งกัน - หินอคั นเี กดิ จากการเย็นตัวและตกผลกึ จากแมกมา หรอื เกิดจากการเย็นตัวและตกผลกึ ของ ลาวา หรอื เกดิ จากการเยน็ ตวั และแข็งตวั ของลาวา - หนิ ตะกอนเกดิ จากการสะสมตวั ของตะกอนและการเชื่อมประสานตะกอนหรืออาจเกิดจาก การตกผลกึ หรอื ตกตะกอนของสารบางชนดิ - หินแปรเกิดจากการแปรสภาพของหนิ ทกุ ประเภทโดยความรอ้ น ความดัน และปฏิกริ ิยาเคมี 334400 ชดุ การจดั กจิ กรรมการเรยี นรู้ (สำ� หรบั ครผู สู้ อน) กลมุ่ สาระการเรยี นรวู้ ทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ภาคเรยี นที่ ๑ ชน้ั ประถมศกึ ษาปที ่ี ๖ (ฉบบั ปรบั ปรงุ )

ชอ่ื -สกลุ เดอื น ช้นั เลขที่ บ. ๓.๑ / ผ. ๑.๑ - ๐๓ วันท ี่ พ.ศ. ๒. แผนภาพวฏั จักรหนิ เปน็ อยา่ งไร ใหพ้ จิ ารณาขอ้ ความ ก ถงึ ช แลว้ นำ� อกั ษร ก ถงึ ช ไปเตมิ ในแผนภาพวฏั จกั รหนิ (สามารถเลอื กอกั ษรซ้�ำไดม้ ากกวา่ ๑ ครั้ง) ก การผุ ข การแปรสภาพ ค การหลอมเหลว ง การเย็นตัวและตกผลกึ ของแมกมา จ การตกผลกึ หรอื ตกตะกอนของสารบางชนดิ ฉ การสะสมตวั ของตะกอนและการเชอื่ มประสาน ช การเยน็ ตวั และตกผลกึ ของลาวา และการเยน็ ตวั และแขง็ ตวั ของลาวา ค ก งช ค ค หนิ แปร ข หนิ อคั นี ข ก ก กก หินตะกอน จ ฉ สตาะรกบอานงแชลนะดิ แผนภาพวัฏจกั รหิน ชดุ การจดั กจิ กรรมการเรยี นรู้ (สำ� หรบั ครผู สู้ อน) กลมุ่ สาระการเรยี นรวู้ ทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ภาคเรยี นที่ ๑ ชนั้ ประถมศกึ ษาปที ่ี ๖ (ฉบบั ปรบั ปรงุ ) 334411

ค�ำชีแ้ จงประกอบแผนจัดการเรียนรู้ หน่วยการเรยี นรทู้ ี่ ๓ แผนการจดั การเรยี นรทู้ ี่ ๑.๒ ประโยชนข์ องหนิ และแร่ เวลา ๓ ชวั่ โมง ๑. ส าระสำ� คญั ของแผน หินและแร่แต่ละชนิดมีลักษณะและสมบัติแตกต่างกัน มนุษย์ใช้ประโยชน์จากหินและแร่ ในชีวติ ประจำ� วนั ๒. ข้อเสนอแนะเพิ่มเติมในการน�ำไปใช้ (ให้ระบุส่ิงที่ต้องการเน้นหรือข้อสังเกต ข้อเสนอแนะ ค�ำแนะน�ำ) ในเรือ่ งตอ่ ไปน้ี คอื ๒ .๑ ขอบข่ายเน้ือหา หนิ และแร่แตล่ ะชนิดมีลักษณะและสมบตั ิแตกตา่ งกนั มนุษยใ์ ชป้ ระโยชนจ์ ากหินและแร่ ในการทำ� สง่ิ ตา่ ง ๆ ไดแ้ ตกตา่ งกนั สงิ่ ของเครอ่ื งใชส้ ว่ นใหญผ่ ลติ มาจากหนิ และแรห่ รอื มสี ว่ นผสมของหนิ และแร่ เชน่ เครอื่ งสำ� อาง ยาสฟี นั เครอื่ งประดบั อปุ กรณท์ างการแพทย์ หนิ มาใชใ้ นงานกอ่ สรา้ งตา่ ง ๆ ๒.๒ จุดประสงค์การเรียนรู้ (ความรู้ ทักษะ คุณธรรมจริยธรรม ค่านิยม) (ถ้ามี) จดุ ประสงค์ดา้ นความรู้ ๑. อธิบายการใช้ประโยชน์จากหนิ ๒. อธบิ ายการใชป้ ระโยชนจ์ ากแร่ ๓. บอกแหลง่ แรท่ พ่ี บในประเทศไทย ๔. การน�ำแรไ่ ปใช้ประโยชน์ จดุ ประสงค์ดา้ นทกั ษะกระบวนการทางวทิ ยาศาสตร์ ๑. การลงความเห็นจากขอ้ มลู ๒. การตคี วามหมายขอ้ มูลและลงขอ้ สรปุ จุดประสงคด์ ้านคุณธรรม ๑. มุง่ ม่ันในการทำ� งาน ๒. ใฝ่เรียนรู้ ๒.๓ การจดั กจิ กรรมการเรียนรู้ ๑) การเตรยี มตวั ของครู นักเรยี น (การจัดกลุม่ ) (ถ้ามี) ๑.๑ การจัดกล่มุ โดยแบ่งนักเรยี นออกเปน็ กลุ่ม กลมุ่ ละ ๔-๕ คน ๑.๒ ครเู ตรยี มแหลง่ ขอ้ มลู ในการสบื คน้ เกยี่ วกบั ประโยชนข์ องหนิ และแร่ และแหลง่ แรท่ พี่ บ ในประเทศไทย จากแหล่งสืบค้นข้อมูลท่ีน่าเช่ือถือไว้ล่วงหน้าเพ่ือไว้แนะน�ำนักเรียน เช่น เว็บไซตก์ รมทรพั ยากรธรณี http://www.dmr.go.th เว็บไซต์จาก สสวท. หรอื มหาวทิ ยาลัย 342 ชดุ การจดั กจิ กรรมการเรยี นรู้ (สำ� หรบั ครผู สู้ อน) กลมุ่ สาระการเรยี นรวู้ ทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ภาคเรยี นท่ี ๑ ชนั้ ประถมศกึ ษาปที ่ี ๖ (ฉบบั ปรบั ปรงุ )


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook