ชดุ การจดั กจิ กรรมการเรยี นรู้ (สำ� หรบั ครผู สู้ อน) กลมุ่ สาระการเรยี นรวู้ ทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ภาคเรยี นท่ี ๑ ชน้ั ประถมศกึ ษาปที ่ี ๖ (ฉบบั ปรบั ปรงุ ) 43 แผนการจดั การเรียนรู้ที่ ๑.๑ สารอาหารและประโยชนข์ องสารอาหาร หนว่ ยการเรยี นรทู้ ี่ ๑ สารอาหารกบั ระบบยอ่ ยอาหาร หนว่ ยยอ่ ยท่ี ๑ อาหารกบั การรับประทานอาหาร เวลา ๒ ชั่วโมง ช้นั ประถมศึกษาปีท่ี ๖ กลุ่มสาระการเรยี นรวู้ ิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี รายวชิ าวิทยาศาสตร์ ๑๗.๔ ในการรับประทานอาหารม้ือต่อไป นักเรียนควรรับประทานอาหาร อะไร เพราะเหตใุ ด (นกั เรียนตอบตามความเขา้ ใจ แตค่ วรตอบไดว้ า่ ถ้าใน ๑ ม้ือที่ส�ำรวจไป นักเรียนรับประทานแต่ข้าวเหนียวหมูทอด มอื้ ตอ่ ไปควรรบั ประทานผกั ผลไมแ้ ละนำ�้ เพอ่ื ใหไ้ ดร้ บั สารอาหารครบ ทง้ั ๖ ประเภท รา่ งกายจะไดร้ บั ประโยชนท์ ที่ ำ� ใหร้ า่ งกายเจรญิ เตบิ โต และมสี ุขภาพดี) ๑๘. นกั เรยี นตอบคำ� ถามหลงั จากทำ� กจิ กรรม หนา้ ๙–๑๐ และชว่ ยกนั เฉลยคำ� ตอบ ๑๙. นกั เรยี นทำ� ใบงาน ๐๒ แบบฝกึ หดั เรอ่ื งอาหารและสารอาหาร หนา้ ๑๑ และ ชว่ ยกนั เฉลยค�ำตอบ ขน้ั สรปุ (๑๐ นาท)ี ๒๐. ครูและนักเรียนร่วมกันอภิปรายและลงข้อสรุป โดยให้นักเรียนพิจารณา ผงั แนวคิดท่ีท�ำไวใ้ นชวั่ โมงทแี่ ลว้ แล้วถามนักเรียนว่า วนั นเี้ ราได้เรียนรอู้ ะไร เพิ่มขึ้นบ้าง จากนั้นครูช่วยเขียนเพิ่มเติมส่ิงท่ีนักเรียนได้เรียนรู้ต่อจาก ผงั แนวคดิ เดมิ ทส่ี รา้ งไว้ ซงึ่ อาจมรี ปู แบบและแนวคดิ ทแ่ี ตกตา่ งจากตวั อยา่ งนไ้ี ด้ โดยครพู จิ ารณาความสอดคลอ้ งกับเรือ่ งทีเ่ รยี นเป็นส�ำคัญ
44 ชดุ การจดั กจิ กรรมการเรยี นรู้ (สำ� หรบั ครผู สู้ อน) กลมุ่ สาระการเรยี นรวู้ ทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ภาคเรยี นท่ี ๑ ชน้ั ประถมศกึ ษาปที ี่ ๖ (ฉบบั ปรบั ปรงุ ) แผนการจดั การเรยี นรู้ท่ี ๑.๑ สารอาหารและประโยชนข์ องสารอาหาร หนว่ ยการเรยี นรทู้ ี่ ๑ สารอาหารกบั ระบบยอ่ ยอาหาร หน่วยยอ่ ยที่ ๑ อาหารกบั การรบั ประทานอาหาร เวลา ๒ ชัว่ โมง ชัน้ ประถมศึกษาปีที่ ๖ กลมุ่ สาระการเรียนรู้วทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี รายวิชาวิทยาศาสตร์ ใน ๑ วนั ตอ้ ง ทมี่ ี สารอาหาร ชว่ ยใน การเจรญิ เตบิ โต รบั ประทานอาหาร และการดำ� รงชวี ติ แบง่ เปน็ สารอาหารทใี่ หพ้ ลงั งาน สารอาหารทไ่ี มใ่ หพ้ ลงั งาน ไดแ้ ก่ ไดแ้ ก่ โปรตนี คารโ์ บไฮเดรต ไขมนั วติ ามนิ เกลอื แร่ นำ้� พบมากใน พบมากใน พบมากใน พบมากใน พบมากใน พบ เชน่ เนอื้ สตั ว์ ไข่ ขา้ ว แปง้ นำ�้ มนั และ นำ�้ ดมื่ ในเนอ้ื สตั ว์ ถวั่ เมลด็ แหง้ เผอื ก มนั ไขมนั จากพชื ผกั และผลไม้ ผกั และผลไม้ ในนม ในผกั นม และงา และนำ้� ตาล และสตั ว์ และผลไม้ ชว่ ยให้ ชว่ ยให้ ชว่ ยให้ พลงั งานและ พลงั งานและ ชว่ ยให้ ซอ่ มแซม พลงั งาน ความอบอนุ่ รา่ งกายทำ� งานไดเ้ ปน็ ปกติ สว่ นทสี่ กึ หรอ กบั รา่ งกาย แกร่ า่ งกาย
แบบประเมนิ ดา้ นคณุ ธรรม แผนการจัดการเรียนรทู้ ี่ ๑.๑ สารอาหารและประโยชนข์ องสารอาหาร ช่อื ผ้ปู ระเมนิ /กลุ่มประเมนิ ................................................................................................................. ชอ่ื กลุม่ รับการประเมิน ....................................................................................................................... ประเมินผลคร้ังท.่ี ................... วันท่ี........................ เดอื น................................. พ.ศ.......................... เร่อื ง .................................................................................................................................................... ที่ ลกั ษณะ/พฤติกรรมบง่ ช้ี ระดบั พฤติกรรม คะแนนที่ได้ เกิด = ๑ ไม่เกดิ = ๐ ๑. มุ่งม่นั ในการทำ� งาน ๒. ใฝ่เรยี นรู้ รวมคะแนนที่ไดท้ ง้ั หมด = …………… คะแนน คณุ ลักษณะตามจดุ ประสงค์ดา้ นคุณธรรม - มากกว่า ๘๐ % ได้ ๓ คะแนน - ๕๐ % - ๗๙ % ได้ ๒ คะแนน - ตำ่� กว่า ๕๐ % ได้ ๑ คะแนน ชดุ การจดั กจิ กรรมการเรยี นรู้ (สำ� หรบั ครผู สู้ อน) กลมุ่ สาระการเรยี นรวู้ ทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ภาคเรยี นท่ี ๑ ชนั้ ประถมศกึ ษาปที ่ี ๖ (ฉบบั ปรบั ปรงุ ) 45
แบบประเมนิ ด้านทกั ษะกระบวนการทางวทิ ยาศาสตรใ์ นการท�ำกจิ กรรม แผนการจดั การเรียนรูท้ ่ี ๑.๑ สารอาหารและประโยชน์ของสารอาหาร เกณฑ์การประเมิน มีดังนี้ ๓ หมายถึง ดี ๒ หมายถงึ พอใช้ ๑ หมายถึง ควรปรับปรุง สิง่ ท่ปี ระเมนิ คะแนน การจำ� แนกประเภท การตคี วามหมายข้อมูลและลงขอ้ สรปุ รวมคะแนน เกณฑ์การประเมนิ ทกั ษะกระบวนการ ดี (๓) ระดบั ความสามารถ ควรปรับปรงุ (๑) ทางวิทยาศาสตร์ พอใช้ (๒) การจำ� แนกประเภท สามารถจ�ำแนกประเภท สามารถจ�ำแนกประเภท สามารถจ�ำแนกประเภท สารอาหารจากอาหาร สารอาหารจากอาหาร สารอาหารจากอาหาร ท่ีรับประทานใน ๑ มื้อ ที่รับประทานใน ๑ มื้อได้ ท่ีรับประทานใน ๑ มื้อ ได้ถูกต้อง ด้วยตนเอง ถูกต้องได้ โดยอาศัย ได้ไม่ถูกต้องทั้งหมด แม้จะ ค�ำแนะนำ� ของครหู รือผู้อนื่ ไ ด ้ รั บ ค� ำ ชี้ แ น ะ จ า ก ค รู หรอื ผอู้ ่นื การตีความหมาย สามารถตคี วามหมายขอ้ มลู สามารถตคี วามหมายขอ้ มลู สามารถตีความหมายข้อมูล ขอ้ มลู และลงขอ้ สรปุ ทไ่ี ดจ้ ากการรวบรวมขอ้ มลู ที่ได้จากการรวบรวมข้อมูล ที่ได้จากการรวบรวมข้อมูล และการอภิปราย แล้วลง และการอภิปราย แล้วลง และการอภิปราย แล้วลง ขอ้ สรปุ ได้ว่า สารอาหาร ขอ้ สรปุ ได้ว่า สารอาหาร ข้อสรุปได้ไม่ครบถ้วนว่า ที่อยู่ในอาหารแบ่งได้เป็น ท่ีอยู่ในอาหารแบ่งได้เป็น สารอาหารที่อยู่ในอาหาร ๖ ประเภท ไดแ้ ก่ โปรตนี ๖ ประเภท ได้แก่ โปรตีน แบ่งได้เป็น ๖ ประเภท คาร์โบไฮเดรต ไขมัน คาร์โบไฮเดรต ไขมัน ไดแ้ ก่ โปรตนี คารโ์ บไฮเดรต วิตามิน เกลือแร่ และน้�ำ วิตามิน เกลือแร่ และน้�ำ ไขมนั วติ ามนิ เกลอื แร่ และนำ้� 46 ชดุ การจดั กจิ กรรมการเรยี นรู้ (สำ� หรบั ครผู สู้ อน) กลมุ่ สาระการเรยี นรวู้ ทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ภาคเรยี นท่ี ๑ ชนั้ ประถมศกึ ษาปที ่ี ๖ (ฉบบั ปรบั ปรงุ )
เกณฑ์การประเมนิ (ตอ่ ) ทกั ษะกระบวนการ ดี (๓) ระดบั ความสามารถ ควรปรับปรุง (๑) ทางวทิ ยาศาสตร์ พอใช้ (๒) อาหารแตล่ ะอยา่ งมปี ระเภท อาหารแตล่ ะอยา่ งมปี ระเภท อาหารแตล่ ะอยา่ งมปี ระเภท และปรมิ าณของสารอาหาร และปรมิ าณของสารอาหาร และปริมาณของสารอาหาร และมปี ระโยชนต์ อ่ รา่ งกาย และมีประโยชน์ต่อร่างกาย และมีประโยชน์ต่อร่างกาย เพอื่ ใหร้ า่ งกายเจรญิ เตบิ โต เพ่ือให้ร่างกายเจริญเติบโต เพื่อให้ร่างกายเจริญเติบโต แ ล ะ ด� ำ ร ง ชี วิ ต อ ยู ่ ไ ด ้ และดำ� รงชวี ติ อยไู่ ด้ โดยอาศยั และด�ำรงชีวิตอยู่ได้ ถึงแม้ ดว้ ยตนเอง ค�ำแนะน�ำของครูหรือผู้อ่ืน จะไดร้ บั คำ� แนะนำ� จากครหู รอื ผอู้ นื่ ชดุ การจดั กจิ กรรมการเรยี นรู้ (สำ� หรบั ครผู สู้ อน) กลมุ่ สาระการเรยี นรวู้ ทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ภาคเรยี นท่ี ๑ ชน้ั ประถมศกึ ษาปที ่ี ๖ (ฉบบั ปรบั ปรงุ ) 47
เฉลยใบงาน 48 ชดุ การจดั กจิ กรรมการเรยี นรู้ (สำ� หรบั ครผู สู้ อน) กลมุ่ สาระการเรยี นรวู้ ทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ภาคเรยี นท่ี ๑ ชนั้ ประถมศกึ ษาปที ่ี ๖ (ฉบบั ปรบั ปรงุ )
ชอ่ื -สกุล เดอื น ชั้น เลขที่ บ. ๑.๑ / ผ.๑.๑ - ๐๑ วันท ี่ พ.ศ. ใบงาน ๐๑ : อาหารกบั สารอาหาร เขยี นชอื่ อาหาร จำ� แนกสว่ นประกอบในอาหารทร่ี บั ประทาน แลว้ ทำ� เครอ่ื งหมาย √ ในชอ่ ง สารอาหารที่พบในส่วนประกอบของอาหารนั้น ๆ พรอ้ มทัง้ เขยี นประโยชน์ท่ไี ด้รับ ตาราง สารอาหารและประโยชน์ของสารอาหารที่ได้จากการรับประทานอาหาร ๑ ม้อื ส ารอาหาร ชื่ออาหาร สว่ นประกอบในอาหาร โปร ีตน ประโยชนท์ ่ีไดร้ ับ คาร์โบไฮเดรต ไขมัน วิตา ิมน เก ืลอแ ่ร �้นำ นพำ้� ติจาาลรณาประเภทของอา√หาร√ทพี่ บสว่ น√ใหญ่ ขา้ วผดั ไข่ - ขา้ ว √ ช่วยซ่อมแซมส่วนท่ีสึกหรอ - ไข่ √ ใหพ้ ลงั งานแกร่ ่างกาย และ - √√ แครอท คะนา้ กระเทยี ม หอมหวั ใหญ่ ชว่ ยใหร้ า่ งกายเจรญิ เติบโต แตงกวา มะเขอื เทศ - นำ�้ ปลา √√ - น�้ำมันพืช √ ไขเ่ จยี วปู - ไข่ √ √ ช่วยซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอ - ปู √ ใหพ้ ลงั งานแกร่ า่ งกาย และ - หอมแดง - นำ้� มนั พชื √ √ ช่วยให้ร่างกายเจริญเติบโต - น�้ำปลา √ ทำ� งานเป็นปกติ √√ ชดุ การจดั กจิ กรรมการเรยี นรู้ (สำ� หรบั ครผู สู้ อน) กลมุ่ สาระการเรยี นรวู้ ทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ภาคเรยี นที่ ๑ ชน้ั ประถมศกึ ษาปที ่ี ๖ (ฉบบั ปรบั ปรงุ ) 4499
ชื่อ-สกลุ เดอื น ช้ัน เลขที่ บ. ๑.๑ / ผ.๑.๑ - ๐๑ วนั ท่ี พ.ศ. ตาราง สารอาหารและประโยชนข์ องสารอาหารท่ไี ด้จากการรบั ประทานอาหาร ๑ มอื้ สารอาหาร ชื่ออาหาร โปร ีตน ประโยชน์ท่ีไดร้ บั คา ์รโบไฮเดรต ไข ัมน วิตา ิมน เกลือแร่ น�้ำ นกั เรียนตอบตามอาหารทน่ี ักเรียนรบั ประทานใน ๑ มือ้ 5500 ชดุ การจดั กจิ กรรมการเรยี นรู้ (สำ� หรบั ครผู สู้ อน) กลมุ่ สาระการเรยี นรวู้ ทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ภาคเรยี นท่ี ๑ ชน้ั ประถมศกึ ษาปที ี่ ๖ (ฉบบั ปรบั ปรงุ )
ช่อื -สกุล เดอื น ชนั้ เลขท่ี บ. ๑.๑ / ผ.๑.๑ - ๐๑ วันที่ พ.ศ. ค�ำถามหลังจากท�ำกิจกรรม ๑. สารอาหารหมายถงึ อะไร สารอาหาร หมายถงึ สารทมี่ อี ยใู่ นอาหารซง่ึ เปน็ สารทรี่ า่ งกายสามารถนำ� ไปใชป้ ระโยชน์ ในการดำ� รงชีวติ ได้ ๒. สารอาหารที่ใหพ้ ลังงานได้แก่อะไรบ้าง ไขมนั โปรตนี และคาร์โบไฮเดรต ๓. สารอาหารทไี่ มใ่ หพ้ ลงั งานไดแ้ กอ่ ะไรบา้ ง วติ ามนิ เกลอื แร่ และนำ�้ ๔. นกั เรยี นไดร้ บั สารอาหารจากการรบั ประทานอาหารใน ๑ มอื้ ครบทง้ั ๖ ประเภทหรอื ไม่ อย่างไร ขึ้นอยู่กับอาหารท่นี ักเรยี นรับประทาน เช่น ใน ๑ มื้อ เรารบั ประทานอาหารไม่ครบ ๖ ประเภท โดยรับประทานอาหารทมี่ คี ารโ์ บไฮเดรต โปรตนี และไขมนั เท่าน้นั ชดุ 5กา1รจดั กชจิ ดกุ กรรามรจกดัารกเจิรยกี นรรมู้ (กสาำ� รหเรยีบั นครู้ผ(สู้ อำ� หนร)บั กคลรมุ่ผู สสู้ าอรนะ)กากรลเมรุ่ ยีสนารวะู้ ทิกยาราเศรายี สนตรว้รู แท์ิ ลยะาเศทาคสโตนรโแล์ ลยะี ภเทาคคโเนรยีโลนยที ่ีภ๑าคชเน้ัรยีปนระทถ่ี ม๑ศชกึ นั้ ษปารปะที ถ่ี ม๖ศ(กึฉษบาบั ปปที ร่ีบั ๖ป(รฉงุ บ) บั ปร5บั5ป11รงุ )
ช่อื -สกลุ เดือน ชัน้ เลขท่ี บ. ๑.๑ / ผ.๑.๑ - ๐๑ วนั ท่ ี พ.ศ. ๕. ใน ๑ มือ้ นกั เรยี นได้ประโยชนจ์ ากอาหารท่ีรบั ประทานอะไรบ้าง ข้นึ อย่กู บั อาหารทน่ี ักเรียนรับประทาน เชน่ ไดร้ ับพลังงาน ทำ� ให้ร่างกายอบอุ่น ซ่อมแซม สว่ นทีส่ กึ หรอ และชว่ ยให้ร่างกายเจริญเติบโต ๖. นกั เรยี นควรรบั ประทานอาหารอะไรบา้ งในอกี ๒ มอ้ื เพอื่ ใหไ้ ดร้ บั สารอาหารครบทง้ั ๖ ประเภท ใน ๑ วนั ยกตวั อยา่ ง ข้ึนอยู่กับอาหารท่ีนักเรียนรับประทาน เช่น อีก ๒ มื้อ เราควรรับประทานผัดผัก ผลไม้ และดืม่ นำ�้ เพื่อใหไ้ ดร้ บั สารอาหารประเภทเกลือแร่ วิตามนิ และน�ำ้ ๗. จากกจิ กรรมน้ี สรุปได้วา่ อยา่ งไร สารอาหารแบ่งไดเ้ ปน็ ๖ ประเภท ไดแ้ ก่ โปรตนี คารโ์ บไฮเดรต ไขมนั วติ ามนิ เกลอื แร่ และน้�ำ อาหารแตล่ ะอยา่ งมปี ระเภทและปรมิ าณของสารอาหารแตกตา่ งกนั และอาจมี สารอาหารประเภทเดียว หรือมีมากกว่า ๑ ประเภท คาร์โบไฮเดรต โปรตีน และไขมัน เป็นสารอาหารที่ให้พลังงานแก่ร่างกาย ส่วนเกลือแร่ วิตามิน และน�้ำ เป็นสารอาหารที่ ไมใ่ หพ้ ลงั งานแกร่ า่ งกาย แตช่ ว่ ยใหร้ า่ งกายทำ� งานไดเ้ ปน็ ปกติ สารอาหารแตล่ ะประเภท มีประโยชนต์ อ่ รา่ งกายเพ่อื ใหร้ า่ งกายเจรญิ เติบโตและดำ� รงชวี ติ อย่ไู ด้ 5522 ชดุ การจดั กจิ กรรมการเรยี นรู้ (สำ� หรบั ครผู สู้ อน) กลมุ่ สาระการเรยี นรวู้ ทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ภาคเรยี นที่ ๑ ชนั้ ประถมศกึ ษาปที ี่ ๖ (ฉบบั ปรบั ปรงุ )
ชอ่ื -สกุล เดือน ชั้น เลขท่ี บ. ๑.๑ / ผ.๑.๑ - ๐๒ วนั ท ี่ พ.ศ. ใบงาน ๐๒ : แบบฝกึ หดั เรื่อง อาหารและสารอาหาร ทำ� เครอ่ื งหมาย √ หน้าขอ้ ความท่ีถกู และทำ� เครอ่ื งหมาย X หนา้ ขอ้ ความทีผ่ ิด √ ๑. อาหารประเภท แป้ง นำ้� ตาล เผือก มนั ส่วนใหญ่จะให้ คารโ์ บไฮเดรตแก่รา่ งกาย X ๒. ผักและผลไม้ให้สารอาหารประเภทวิตามินและเกลือแร่เท่านัน้ √ ๓. อาหารประเภทไขมนั พชื และสตั วจ์ ะใหพ้ ลงั งานและความอบอนุ่ แกร่ า่ งกาย X ๔. การรบั ประทานอาหารประเภทเนอื้ สตั วเ์ ปน็ ประจำ� จะชว่ ยใหร้ า่ งกายไดร้ บั แต่วิตามนิ และเกลอื แร่เพ่มิ มากขนึ้ √ ๕. ถา้ รา่ งกายขาดวติ ามินซจี ะท�ำให้เกดิ โรคลกั ปิดลกั เปิดได้ √ ๖. อาหารประเภทเครอ่ื งในสตั ว์ ไขแ่ ดง และผกั ใบเขยี ว จะใหเ้ กลอื แร่ แกร่ า่ งกายได้ √ ๗. การรบั ประทานอาหารใหไ้ ดร้ บั สารอาหารทกุ ประเภทจะทำ� ใหร้ า่ งกาย เจริญเตบิ โตและแข็งแรง √ ๘. ผทู้ ต่ี อ้ งการลดนำ�้ หนกั ไมค่ วรบรโิ ภคสารอาหารประเภทคารโ์ บไฮเดรต และไขมนั มากเกนิ ความต้องการของรา่ งกาย X ๙. การดมื่ นำ�้ นอ้ ยบา้ งมากบา้ งสลบั ไปในแตล่ ะวนั ยงั ทำ� ใหร้ า่ งกายแขง็ แรงอยเู่สมอ X ๑๐. ในแตล่ ะวนั หากไมไ่ ดร้ บั ประทานอาหารทมี่ โี ปรตนี เราสามารถรบั ประทาน อาหารทีม่ คี ารโ์ บไฮเดรตและไขมนั ทดแทนได้ในทกุ มื้อ ชดุ การจดั กจิ กรรมการเรยี นรู้ (สำ� หรบั ครผู สู้ อน) กลมุ่ สาระการเรยี นรวู้ ทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ภาคเรยี นที่ ๑ ชนั้ ประถมศกึ ษาปที ี่ ๖ (ฉบบั ปรบั ปรงุ ) 5533
คำ� ช้แี จงประกอบแผนจดั การเรยี นรู้ หน่วยการเรียนร้ทู ี่ ๑ เวลา ๔ ชัว่ โมง แผนการจดั การเรยี นรู้ท่ี ๑.๒ รบั ประทานอาหารให้เหมาะสมกบั เพศและวยั ๑. ส าระสำ� คญั ของแผน ในแตล่ ะวนั เราควรรบั ประทานอาหารใหไ้ ดร้ บั สารอาหารครบทง้ั ๖ ประเภท และรบั ประทาน ใหไ้ ด้ปริมาณพลงั งานและได้สดั สว่ นตามธงโภชนาการทเ่ี หมาะสมกับเพศและวยั และตอ้ งค�ำนงึ ถึง ความปลอดภยั ตอ่ สขุ ภาพ ๒. ข้อเสนอแนะเพิ่มเติมในการน�ำไปใช้ (ให้ระบุสิ่งท่ีต้องการเน้นหรือข้อสังเกต ข้อเสนอแนะ ค�ำแนะนำ� ) ในเร่อื งต่อไปน้ี คือ ๒.๑ ขอบขา่ ยเน้อื หา ในแตล่ ะวนั รา่ งกายของเราแตล่ ะคนควรไดร้ บั สารอาหารทงั้ ๖ ประเภท เพราะสารอาหารแตล่ ะ ประเภทมปี ระโยชนต์ อ่ รา่ งกายแตกตา่ งกนั และควรไดร้ บั ปรมิ าณพลงั งานจากอาหารทรี่ บั ประทาน เพยี งพอกบั ความตอ้ งการของรา่ งกายซง่ึ ขนึ้ อยกู่ บั เพศ วยั และกจิ กรรมทท่ี ำ� รวมทงั้ ใหไ้ ดส้ ดั สว่ นของ อาหารเหมาะสมตามธงโภชนาการ และตอ้ งคำ� นงึ ถงึ ความปลอดภยั ของอาหารทม่ี ตี อ่ สขุ ภาพอกี ดว้ ย ๒.๒ จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ (ความรู้ ทักษะ คุณธรรมจริยธรรม ค่านยิ ม) (ถา้ มี) จุดประสงคด์ า้ นความรู้ ๑. เปรียบเทียบปริมาณพลังงานท่ีได้รับจากการรับประทานกับพลังงานที่ร่างกายต้องการ ใน ๑ วัน ทเ่ี หมาะสมตามเพศและวยั ๒ . เปรยี บเทยี บสัดสว่ นของอาหารทีร่ บั ประทานกบั สัดส่วนของอาหารตามธงโภชนาการ ทเี่ หมาะสมกับเพศและวยั ๓. บอกแนวทางในการเลอื กรบั ประทานอาหารท่ีเหมาะสมกบั เพศและวัย รวมท้งั ปลอดภัย ตอ่ สุขภาพ จดุ ประสงค์ดา้ นทกั ษะกระบวนการทางวทิ ยาศาสตร์ ๑. การจัดกระท�ำและสอ่ื ความหมายขอ้ มลู ๒. ก ารลงความเห็นจากขอ้ มลู ๓. การตีความหมายข้อมลู และลงข้อสรุป จ ดุ ประสงค์ดา้ นคุณธรรม ๑. มุ่งมน่ั ในการท�ำงาน ๒. ใฝเ่ รยี นรู้ ๓. มีวนิ ัย 54 ชดุ การจดั กจิ กรรมการเรยี นรู้ (สำ� หรบั ครผู สู้ อน) กลมุ่ สาระการเรยี นรวู้ ทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ภาคเรยี นที่ ๑ ชนั้ ประถมศกึ ษาปที ี่ ๖ (ฉบบั ปรบั ปรงุ )
๒.๓ การจดั กิจกรรมการเรยี นรู้ ๑) การเตรยี มตัวของครู นักเรียน (การจัดกลุ่ม) (ถา้ มี) ๑.๑ การจัดกลมุ่ โดยแบ่งนกั เรียนออกเป็นกล่มุ กลุ่มละ ๔-๕ คน ๑.๒ เตรียมดาวน์โหลดตารางปริมาณพลังงานและสัดส่วนของอาหารตามธงโภชนาการ แล้วอาจจัดท�ำเป็นเอกสาร ๑-๒ ฉบับ/ห้อง แยกเอกสารออกเป็นหมวดหมู่ เช่น อาหารจานเดียว ผลไม้ เพ่ือให้นักเรียนได้ค้นหาข้อมูลได้ง่าย หรือ เตรียมคอมพิวเตอร์หรือแท็บเล็ต หรือ Smart phone ไว้ให้นักเรียนเปิดดูข้อมูล ๑.๓ เมอ่ื มอบหมายใหน้ กั เรยี นไปสำ� รวจอาหารทตี่ นเองรบั ประทานใน ๑ วนั ครอู าจแนะนำ� ให้นักเรียนหาช่ืออาหารและส่วนประกอบของอาหารจากผู้ปกครองหรือจาก อินเทอรเ์ น็ต ๑.๔ ครูอาจใช้แอปพลิเคชันเกม EatD เป็นส่ือเสริมหน่ึงหลังจากนักเรียนได้เรียนรู้ กิจกรรมในแผนการจัดการเรียนรู้น้ีแล้วนอกเวลาเรียน โดยครูสามารถศึกษาข้ันตอน การเข้าแอปพลิเคชันนี้ได้จาก QR code หรือจากลิงค์ http://ipst.me/10914 หรอื ดาวน์โหลดแอปพลิเคชนั น้ีจาก App Store หรือ Play Store พิมพค์ �ำว่า EatD ในการเข้าใช้แอปพลิเคชันสามารถเข้าใช้ได้กับบัญชี facebook หรือสมัครใหม่ หรอื เข้าใช้ในระบบ Guest EatD เป็นแอปพลิเคชันเกม ที่สามารถกรอกข้อมูลส่วนตัว และเลือกตัวละคร แทนตัวเองได้ ในเกมน้ีนักเรียนสามารถวางแผนการรับประทานอาหารใน ๑ วัน เพอ่ื ใหไ้ ดส้ ารอาหารครบทกุ ประเภท ไดส้ ดั สว่ นตามธงโภชนาการ ไดป้ รมิ าณพลงั งาน เหมาะสมกับตนเอง ซึ่งสามารถศึกษาข้อมูลของอาหารแต่ละอย่างก่อนเลือกใส่ ในรายการอาหารได้ รวมทั้งได้เล่นเกมตอบค�ำถามเก่ียวกับประเภทของสารอาหาร ทอี่ ยู่ในอาหารแตล่ ะอยา่ ง ๑.๕ ครูอาจเตรียมเอกสารเกี่ยวกบั สาเหตุท่ที �ำใหอ้ าหารไมป่ ลอดภยั ต่อสุขภาพซ่ึงเกดิ จาก กระบวนการผลติ การคดั เลอื กวตั ถดุ บิ การสง่ วตั ถดุ บิ การประกอบอาหาร การขนสง่ อาหาร การเก็บรักษาอาหาร ผลกระทบต่อสุขภาพจากการรับประทานอาหารท่ีไม่ ปลอดภัย และแนวทางในการเลือกร้บประทานอาหารท่ีปลอดภัยต่อสุขภาพจาก แหลง่ การเรียนรทู้ ี่เชอื่ ถือได้ เพ่ือไว้ใหน้ ักเรียนไดศ้ กึ ษาคน้ คว้า เช่น จากเว็บไซต์คู่มอื การปฏบิ ตั งิ านดา้ นสขุ าภบิ าลอาหารและนำ�้ สำ� หรบั สาธารณสขุ อำ� เภอ จากกระทรวง สาธารณสุข เวบ็ ไซต์ของแพทย์ ชดุ กา รจดั ก จิ กรรมการเรยี นรู้ (สำ� หรบั ครผู สู้ อน) กลมุ่ สาระการเรยี นรวู้ ทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ภาคเรยี นที่ ๑ ชน้ั ประถมศกึ ษาปที ่ี ๖ (ฉบบั ปรบั ปรงุ ) 55
๒) การเตรียมสือ่ วัสดอุ ุปกรณ์ ของครู นกั เรยี น (ถ้าม)ี ส ง่ิ ท่ีครตู ้องเตรยี ม คือ ตารางปรมิ าณพลงั งานของสารอาหารตามธงโภชนาการในอาหาร ส งิ่ ทนี่ กั เรยี นตอ้ งเตรยี ม คือ - ๓) เตรียมใบงาน ใบความรู้ ใบกจิ กรรม (ถา้ ม)ี ๓.๑ ใบงาน ๐๑ การรบั ประทานอาหารให้เหมาะสมกบั เพศและวยั ๓.๒ ใบงาน ๐๒ แบบฝึกหัด เรอ่ื งการรับประทานอาหารให้เหมาะสมกับเพศและวัย ๒.๔ วัดผลประเมนิ ผล (ถา้ มี) ๑) วธิ ีการวดั ผลประเมนิ ผลการเรียนรู้ ๑.๑ การตอบคำ� ถามในใบงาน ๑.๒ สังเกตทกั ษะกระบวนการทางวทิ ยาศาสตร์ในการท�ำกจิ กรรม ๑.๓ สังเกตพฤติกรรมด้านคณุ ธรรมขณะท�ำกิจกรรม ๒) วธิ ีการ เครอ่ื งมือ เกณฑ์ ๒.๑ เครื่องมือและเกณฑใ์ นการประเมินดา้ นความรู้ ตรวจใหค้ ะแนนจากการตอบค�ำถามในใบงาน แลว้ ใช้เกณฑ์ในการให้คะแนนดงั นี้ - มากกว่า ๘๐ % ได้ ๓ คะแนน - ๕๐ % - ๗๙ % ได้ ๒ คะแนน - ตำ�่ กวา่ ๕๐ % ได้ ๑ คะแนน ๒.๒ เครื่องมือและเกณฑ์ในการประเมนิ ทักษะกระบวนการทางวทิ ยาศาสตร์ สังเกตทกั ษะกระบวนการทางวทิ ยาศาสตร์ โดยใช้แบบประเมนิ ทกั ษะกระบวนการ ทางวทิ ยาศาสตร์ (ดังแนบ) นำ� คะแนนมารวมกนั แลว้ ใชเ้ กณฑใ์ นการใหค้ ะแนนดงั นี้ - มากกวา่ ๘๐ % ได้ ๓ คะแนน - ๕๐ % - ๗๙ % ได้ ๒ คะแนน - ตำ�่ กวา่ ๕๐ % ได้ ๑ คะแนน ๒.๓ เครอ่ื งมือและเกณฑใ์ นการประเมินด้านคณุ ธรรม สงั เกตพฤตกิ รรมดา้ นคณุ ธรรมโดยใชแ้ บบประเมนิ ดา้ นคณุ ธรรม (ดงั แนบ) นำ� คะแนน มารวมกัน แลว้ ใชเ้ กณฑใ์ นการให้คะแนนดงั น้ี - มากกวา่ ๘๐ % ได้ ๓ คะแนน - ๕๐ % - ๗๙ % ได้ ๒ คะแนน - ตำ่� กว่า ๕๐ % ได้ ๑ คะแนน 56 ชดุ การจดั กจิ กรรมการเรยี นรู้ (สำ� หรบั ครผู สู้ อน) กลมุ่ สาระการเรยี นรวู้ ทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ภาคเรยี นที่ ๑ ชนั้ ประถมศกึ ษาปที ี่ ๖ (ฉบบั ปรบั ปรงุ )
๓) การทดสอบก่อนเรียน หลังเรยี น แบบฝึกหัดก่อนเรียน หลังเรยี น ท�ำแบบฝึกหดั ในใบงานหลงั เรยี น ๓. อืน่ ๆ .................................................................................................................................................... .................................................................................................................................................... ชดุ การจดั กจิ กรรมการเรยี นรู้ (สำ� หรบั ครผู สู้ อน) กลมุ่ สาระการเรยี นรวู้ ทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ภาคเรยี นท่ี ๑ ชนั้ ประถมศกึ ษาปที ่ี ๖ (ฉบบั ปรบั ปรงุ ) 57
58 ชดุ การจดั กจิ กรรมการเรยี นรู้ (สำ� หรบั ครผู สู้ อน) กลมุ่ สาระการเรยี นรวู้ ทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ภาคเรยี นท่ี ๑ ชน้ั ประถมศกึ ษาปที ี่ ๖ (ฉบบั ปรบั ปรงุ ) แนวการจดั กจิ กรรมการเรยี นรูข้ องแผนการจดั การเรียนร้ทู ่ี ๑.๒ หนว่ ยการเรยี นรทู้ ่ี ๑ สารอาหารกบั ระบบยอ่ ยอาหาร เรอ่ื งรบั ประทานอาหารใหเ้ หมาะสมกบั เพศและวยั เวลา ๔ ชัว่ โมง ชน้ั ประถมศึกษาปีที่ ๖ กลุ่มสาระการเรียนรู้วทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี รายวชิ าวทิ ยาศาสตร ์ ข้นั นำ� แนวการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ ขนั้ สอน • ทบทวนความรู้ท่ีได้เรียนมาเกยี่ วกับประเภทและประโยชน์ของสารอาหาร ขนั้ สรปุ ขน้ั ประเมนิ ผล • ทำ� กจิ กรรมท่ี ๑ เราจะเลอื กรบั ประทานอาหารอยา่ งไร ตอนที่ ๑ • ท�ำใบงาน ๐๑ การรับประทานอาหารใหเ้ หมาะสมกบั เพศและวยั • อภิปรายและน�ำเสนอเกยี่ วกับปรมิ าณพลงั งานทค่ี วรได้รบั จากอาหารและปรมิ าณพลงั งาน ท่ไี ด้รบั จากอาหารท่รี ับประทาน • ทำ� กิจกรรมท่ี ๑ เราจะเลือกรบั ประทานอาหารอย่างไร ตอนที่ ๒ • อภปิ รายและนำ� เสนอเกยี่ วกบั แนวทางในการเลอื กรบั ประทานอาหารทปี่ ลอดภยั ตอ่ สขุ ภาพ • อภิปรายและลงขอ้ สรปุ เกย่ี วกบั การรบั ประทานอาหารใหถ้ ูกตอ้ งตามหลักโภชนาการ • ทำ� ใบงาน ๐๒ แบบฝึกหัด เร่อื งการรับประทานอาหารให้เหมาะสมกบั เพศและวัย • ประเมนิ จากการตอบคำ� ถาม • ประเมินจากการท�ำกจิ กรรมในช้นั เรียน • ประเมนิ จากการท�ำแบบฝกึ หัด
ชดุ การจดั กจิ กรรมการเรยี นรู้ (สำ� หรบั ครผู สู้ อน) กลมุ่ สาระการเรยี นรวู้ ทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ภาคเรยี นท่ี ๑ ชน้ั ประถมศกึ ษาปที ่ี ๖ (ฉบบั ปรบั ปรงุ ) 59 แผนการจัดการเรียนรทู้ ี่ ๑.๒ รบั ประทานอาหารใหเ้ หมาะสมกับเพศและวัย หนว่ ยการเรยี นรทู้ ี่ ๑ สารอาหารกบั ระบบยอ่ ยอาหาร หนว่ ยย่อยท่ี ๑ อาหารกับการรบั ประทานอาหาร เวลา ๔ ชวั่ โมง ช้นั ประถมศึกษาปที ่ี ๖ กลุ่มสาระการเรียนรู้วทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี รายวชิ าวทิ ยาศาสตร์ ขอบเขตเนือ้ หา กจิ กรรมการเรยี นรู้ (๔ ชว่ั โมง) สอ่ื / แหล่งเรยี นรู้ ในแตล่ ะวนั รา่ งกายของเราแตล่ ะคน ชัว่ โมงท่ี ๑ ควรได้รับสารอาหารทั้ง ๖ ประเภท ขัน้ น�ำ (๑๐ นาที) ๑. ตารางปริมาณพลังงานและ ๑. ครูทบทวนความรู้เก่ียวกับประเภทและประโยชน์ของสารอาหาร โดยครู สั ด ส ่ ว น ข อ ง อ า ห า ร ต า ม ใหน้ กั เรยี นชมวดี ทิ ศั นส์ น้ั ๆ ประมาณ ๑-๒ นาที เกยี่ วกบั การประกอบอาหาร เพราะสารอาหารแต่ละประเภท ทีน่ ักเรยี นคนุ้ เคย เชน่ ข้าวมันไก่ ในกรณที ่ไี มส่ ามารถเปิดวีดทิ ัศน์ครูอาจใช้ ธงโภชนาการในอาหาร มีประโยชน์ต่อร่างกายแตกต่างกัน ภาพแทนได้ จากน้ันน�ำอภิปรายโดยใชค้ �ำถาม ดงั นี้ ๒. แอปพลเิ คชันเกม EatD และควรไดร้ บั ปรมิ าณพลงั งานจากอาหาร ๑.๑ วีดิทัศน์ท่ีนักเรียนดูแสดงการประกอบอาหารอะไร (ขา้ วมนั ไก)่ ทร่ี บั ประทานเพยี งพอกบั ความตอ้ งการ ๑.๒ ขา้ วมนั ไก่มีส่วนประกอบอะไรบา้ ง (ถ้านกั เรยี นบอกไม่ไดค้ รูชว่ ยบอกได้ ภาระงาน / ช้นิ งาน ของรา่ งกายซงึ่ ขนึ้ อยกู่ บั เพศ วยั และ ๑. การบนั ทกึ ผลการท�ำกจิ กรรม กจิ กรรมทที่ ำ� รวมทง้ั ใหไ้ ดส้ ดั สว่ นของ เชน่ เนื้อไก่ และไขมนั จากเนอื้ ไก่ เกลือ กระเทยี ม ขิง แตงกวา ขา้ ว น้�ำ ในใบงาน อาหารเหมาะสมตามธงโภชนาการ น้ำ� ตาลทราย เตา้ เจี้ยว ซอี ๊ิวด�ำ) ๒. การท�ำแบบฝึกหัด และตอ้ งคำ� นงึ ถงึ ความปลอดภยั ของ ๑.๓ เมอื่ รบั ประทานขา้ วมันไก่ เราจะได้รบั สารอาหารใดบา้ ง และสารอาหาร อาหารทม่ี ตี อ่ สขุ ภาพอกี ดว้ ย นนั้ มาจากสว่ นประกอบใด (ไดร้ บั โปรตนี จากเนอ้ื ไก่ คารโ์ บไฮเดรตจากขา้ ว และนำ�้ ตาลทราย ไขมนั จากเนอื้ ไก่ วติ ามนิ และเกลอื แรจ่ ากกระเทยี ม ขงิ ข้าว แตงกวา เกลือ เตา้ เจย้ี ว และซีอว๊ิ ด�ำ และน�ำ้ จากน้�ำซปุ ) ๑.๔ ถา้ รบั ประทานขา้ วมนั ไก่ จะมปี ระโยชนต์ อ่ รา่ งกายของเราอยา่ งไร (จะให้ พลังงาน ชว่ ยให้การท�ำงานของร่างกายเป็นปกติ และชว่ ยให้รา่ งกาย เจรญิ เตบิ โต)
60 ชดุ การจดั กจิ กรรมการเรยี นรู้ (สำ� หรบั ครผู สู้ อน) กลมุ่ สาระการเรยี นรวู้ ทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ภาคเรยี นท่ี ๑ ชน้ั ประถมศกึ ษาปที ี่ ๖ (ฉบบั ปรบั ปรงุ ) แผนการจดั การเรยี นรทู้ ี่ ๑.๒ รบั ประทานอาหารใหเ้ หมาะสมกับเพศและวยั หนว่ ยการเรยี นรทู้ ่ี ๑ สารอาหารกบั ระบบยอ่ ยอาหาร หน่วยยอ่ ยที่ ๑ อาหารกับการรบั ประทานอาหาร เวลา ๔ ชวั่ โมง กลุ่มสาระการเรยี นรวู้ ทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี รายวชิ าวทิ ยาศาสตร์ ช้ันประถมศกึ ษาปีท่ี ๖ จดุ ประสงคด์ ้านความรู้ ๒. ครตู รวจสอบความรเู้ ดมิ เกย่ี วกบั การรบั ประทานอาหารใหเ้ หมาะสมกบั เพศและวยั วิธีการประเมนิ ๑. เปรียบเทียบปริมาณพลังงาน โดยใชค้ ำ� ถามวา่ ถา้ เรารบั ประทานขา้ วมนั ไกท่ กุ วนั และรบั ประทานอาหารอยา่ งอนื่ ทไ่ี ดร้ บั จากการรบั ประทานกบั นอ้ ยมาก จะเกดิ อะไรขน้ึ กบั รา่ งกาย เพราะเหตใุ ด (นกั เรยี นตอบตามความเขา้ ใจ ๑. การตอบคำ� ถามในแบบฝกึ หดั พลังงานท่ีร่างกายต้องการ ของตนเอง เชน่ ทำ� ใหอ้ ว้ น เพราะไดร้ บั คารโ์ บไฮเดรตจำ� นวนมากจากขา้ ว ไขมนั ๒. สังเกตทักษะกระบวนการ ใน ๑ วัน ที่เหมาะสม จากเนอื้ ไก่ ทำ� ใหร้ า่ งกายได้รบั ไขมันสูง และอาจท�ำใหไ้ ดว้ ติ ามนิ และเกลอื แร่ ตามเพศและวัย ไมเ่ พยี งพอ เนอ่ื งจากมสี ดั สว่ นของผกั และผลไมน้ อ้ ย หรอื อาจขาดวติ ามนิ และ ทางวิทยาศาสตร์ในการ เกลอื แร่บางชนิด) ทำ� กจิ กรรม ๒. เปรยี บเทยี บสดั สว่ นของอาหาร ขน้ั สอน (๔๕ นาที) ๓. สงั เกตพฤตกิ รรมดา้ นคณุ ธรรม ที่ รั บ ป ร ะ ท า น กั บ สั ด ส่วน ๓. ครชู กั ชวนนกั เรยี นทำ� กจิ กรรมท่ี ๑ เราเลอื กรบั ประทานอาหารอยา่ งไร หนา้ ๑๓ ขณะทำ� กจิ กรรม ของอาหารตามธงโภชนาการ ทเ่ี หมาะสมกับเพศและวัย โดยใหน้ ักเรียนอา่ นชื่อกจิ กรรมและจุดประสงค์ข้อ ๑-๒ จากนนั้ ตรวจสอบ ความเข้าใจในจดุ ประสงค์ โดยอาจใชค้ �ำถามดังนี้ ๓. บอกแนวทางในการเลือก ๓.๑ นักเรียนจะเรยี นเร่อื งอะไร (ปรมิ าณพลังงานในอาหารและสัดส่วนของ รบั ประทานอาหารทเ่ี หมาะสม กับเพศและวัย รวมท้ัง อาหารทร่ี บั ประทานใน ๑ วนั เหมาะสมกบั เพศและวยั ) ปลอดภยั ตอ่ สขุ ภาพ ๓.๒ นักเรียนจะเรียนดว้ ยวิธกี ารใด (การรวบรวมขอ้ มูล) ๓.๓ เมอ่ื เรยี นแลว้ นกั เรยี นทำ� อะไรได้ (เปรยี บเทยี บปรมิ าณพลงั งานในอาหาร และสดั สว่ นของอาหารทรี่ บั ประทานใน ๑ วนั กบั ปรมิ าณพลงั งานในอาหาร และสดั ส่วนของอาหารทีเ่ หมาะสมกับเพศและวัย) ๔. ครแู จง้ จุดประสงค์ในวันนี้ใหน้ ักเรยี นทราบอกี ครงั้ หนงึ่
ชดุ การจดั กจิ กรรมการเรยี นรู้ (สำ� หรบั ครผู สู้ อน) กลมุ่ สาระการเรยี นรวู้ ทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ภาคเรยี นท่ี ๑ ชน้ั ประถมศกึ ษาปที ่ี ๖ (ฉบบั ปรบั ปรงุ ) 61 แผนการจดั การเรียนรูท้ ่ี ๑.๒ รบั ประทานอาหารใหเ้ หมาะสมกบั เพศและวยั หนว่ ยการเรยี นรทู้ ่ี ๑ สารอาหารกบั ระบบยอ่ ยอาหาร หน่วยยอ่ ยที่ ๑ อาหารกบั การรบั ประทานอาหาร เวลา ๔ ชว่ั โมง ช้นั ประถมศกึ ษาปที ี่ ๖ กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี รายวชิ าวิทยาศาสตร์ จุดประสงค์ด้านทักษะกระบวนการ ๕. ครใู ห้นกั เรียนอ่านวธิ ที �ำในกจิ กรรมท่ี ๑ ตอนท่ี ๑ ขอ้ ๑-๒ หนา้ ๑๓ โดยใช้ เกณฑก์ ารประเมนิ ทางวิทยาศาสตร์ วธิ กี ารฝกึ การอา่ นจบั ใจความตามความเหมาะสม จากนนั้ ตรวจสอบความเขา้ ใจ ๑. การตอบค�ำถามในแบบฝกึ หัด ๑. การจดั กระทำ� และสอ่ื ความหมาย ในขนั้ ตอนการทำ� กจิ กรรม โดยใชค้ �ำถามดังนี้ ไดถ้ ูกตอ้ งดว้ ยตนเอง ขอ้ มูล ๕.๑ นกั เรยี นอา่ นใบความรเู้ รอ่ื งอะไร (ใบความรทู้ ี่ ๑ เรอื่ งพลงั งานและสดั สว่ น - มากกวา่ ๘๐ % ได้ ๓ คะแนน ๒. การลงความเหน็ จากขอ้ มูล ของอาหาร) - ๕๐ % -๗๙ % ได้ ๒ คะแนน ๓. การตคี วามหมายขอ้ มลู และ ๕.๒ อา่ นใบความรแู้ ลว้ ตอ้ งทำ� อะไรตอ่ (ระบปุ รมิ าณพลงั งานทร่ี า่ งกายตอ้ งการ - ตำ�่ กวา่ ๕๐ % ได้ ๑ คะแนน ลงข้อสรุป ใน ๑ วัน โดยใช้หน่วยตามธงโภชนาการ ลงในตาราง ๑ หน้า ๑๙) ๒. มีทักษะกระบวนการทาง ๕.๓ นักเรียนระบุปริมาณของส่วนประกอบของอาหารโดยใช้หน่วยจากที่ใด วิทยาศาสตรข์ ณะท�ำกิจกรรม จดุ ประสงคด์ า้ นคุณธรรม (ใชห้ น่วยจากธงโภชนาการ ซึ่งอยู่ในหนา้ ๑๖) - มากกวา่ ๘๐ % ได้ ๓ คะแนน ๑. มงุ่ มัน่ ในการทำ� งาน ๕.๔ เมอ่ื นกั เรยี นไดส้ ำ� รวจรายการอาหารของตนเองแลว้ นกั เรยี นตอ้ งไปสบื คน้ - ๕๐ % -๗๙ % ได้ ๒ คะแนน ๒. ใฝเ่ รียนรู้ ขอ้ มลู อะไรบา้ ง (ขอ้ มลู สว่ นประกอบของอาหาร ปรมิ าณของสว่ นประกอบ - ตำ่� กวา่ ๕๐ % ได้ ๑ คะแนน ๓. ซ่อื สตั ย์สุจรติ ของอาหารทีม่ ีหนว่ ยตามธงโภชนาการ และปรมิ าณพลงั งานทไ่ี ดร้ บั จาก ๓. มีคุณลกั ษณะด้านคุณธรรม อาหารที่ตนเองรบั ประทานใน ๑ วัน) - มากกวา่ ๘๐ % ได้ ๓ คะแนน ๕.๕ นกั เรยี นสามารถสบื คน้ ขอ้ มลู ในขอ้ ๕.๔ ไดจ้ ากแหลง่ ขอ้ มลู ใดบา้ ง (หนงั สอื - ๕๐ % -๗๙ % ได้ ๒ คะแนน เอกสาร เว็บไซตท์ น่ี า่ เชือ่ ถอื ) - ตำ�่ กวา่ ๕๐ % ได้ ๑ คะแนน ครูอาจเขียนข้ันตอนการท�ำกิจกรรมสั้น ๆ ในแต่ละข้ันไว้บนกระดาน และเน้นย้�ำข้อมูลท่ีนักเรียนต้องรวบรวมให้ชัดเจนและชวนนักเรียน ทำ� กจิ กรรมไปทลี ะขั้น
62 ชดุ การจดั กจิ กรรมการเรยี นรู้ (สำ� หรบั ครผู สู้ อน) กลมุ่ สาระการเรยี นรวู้ ทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ภาคเรยี นท่ี ๑ ชน้ั ประถมศกึ ษาปที ี่ ๖ (ฉบบั ปรบั ปรงุ ) แผนการจัดการเรยี นรูท้ ี่ ๑.๒ รับประทานอาหารให้เหมาะสมกบั เพศและวยั หนว่ ยการเรยี นรทู้ ่ี ๑ สารอาหารกบั ระบบยอ่ ยอาหาร หน่วยย่อยท่ี ๑ อาหารกบั การรับประทานอาหาร เวลา ๔ ชว่ั โมง ชนั้ ประถมศึกษาปที ี่ ๖ กลมุ่ สาระการเรยี นรู้วทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี รายวชิ าวิทยาศาสตร์ ๖. เมอื่ นกั เรยี นเขา้ ใจขนั้ ตอนการทำ� กจิ กรรมแลว้ ครใู หน้ กั เรยี นอา่ นใบความรทู้ ่ี ๑ เรือ่ งพลงั งานและสัดส่วนของอาหาร จากนัน้ ครแู ละนกั เรียนร่วมกนั อภิปราย ผลการทำ� กิจกรรม โดยใช้แนวค�ำถามดงั นี้ ๖.๑ เพราะเหตใุ ด นกั เรยี นจงึ ตอ้ งรบั ประทานอาหาร (เราตอ้ งรบั ประทานอาหาร เพ่อื ให้ร่างกายได้รบั พลงั งาน และสามารถท�ำงานไดต้ ามปกต)ิ ๖.๒ สารอาหารแต่ละประเภทให้ปริมาณพลังงานเหมือนหรือแตกต่างกัน (แตกตา่ งกัน) ๖.๓ นกั เรยี นควรไดร้ บั สารอาหารเพอื่ ใหป้ รมิ าณพลงั งานเทา่ ใดเมอื่ เราทำ� กจิ กรรม เรียน หรือทำ� งานปกติ (นักเรียนอายุ ๙-๑๒ ปี ถ้าเป็นเพศชาย ต้องการ พลงั งาน ๑,๗๐๐ กโิ ลแคลอรี เพศหญงิ ตอ้ งการพลงั งาน ๑,๕๐๐ กโิ ลแคอร)ี ๖.๔ ถา้ นักเรียนเป็นนกั กฬี าหรอื ได้ใชแ้ รงงาน นกั เรียนควรรบั ประทานอาหาร ให้ไดป้ ริมาณพลงั งานเท่าใด (นักเรียนอายุ ๙-๑๒ ปี ถ้าเปน็ เพศชาย ต้องการพลงั งาน ๒,๐๐๐-๒,๖๐๐ กโิ ลแคลอรี เพศหญงิ ต้องการพลงั งาน ๑,๘๐๐-๒,๒๐๐ กโิ ลแคลอร)ี ๖.๕ การรบั ประทานอาหารในแตล่ ะวนั ตอ้ งคำ� นงึ ถงึ เรอื่ งอะไรบา้ ง (สารอาหาร ท่ีครบทุกประเภท ปรมิ าณพลังงานท่เี หมาะสมกับเพศและวยั และ สดั สว่ นของอาหารตามธงโภชนาการ) ๖.๖ นกั เรยี นควรรับประทานอาหารแต่ละประเภทเทา่ กนั หรอื ไม่ อยา่ งไร (ไม่ เท่ากัน โดยรับประทานอาหารประเภทข้าว แป้ง วันละ ๘ ทัพพี
ชดุ การจดั กจิ กรรมการเรยี นรู้ (สำ� หรบั ครผู สู้ อน) กลมุ่ สาระการเรยี นรวู้ ทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ภาคเรยี นท่ี ๑ ชน้ั ประถมศกึ ษาปที ่ี ๖ (ฉบบั ปรบั ปรงุ ) 63 แผนการจดั การเรียนรู้ท่ี ๑.๒ รบั ประทานอาหารให้เหมาะสมกับเพศและวัย หนว่ ยการเรยี นรทู้ ่ี ๑ สารอาหารกบั ระบบยอ่ ยอาหาร หนว่ ยยอ่ ยที่ ๑ อาหารกับการรับประทานอาหาร เวลา ๔ ชั่วโมง ช้นั ประถมศึกษาปที ่ี ๖ กลมุ่ สาระการเรียนร้วู ทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี รายวิชาวิทยาศาสตร์ ผักวันละ ๔ ทัพพี ผลไม้วันละ ๓ ส่วน นมวันละ ๓ แก้ว เนื้อสัตว์ วันละ ๖ ช้อนกินข้าว และน�้ำมัน น�้ำตาล เกลือวันละน้อย ๆ) ๗. ครใู หน้ กั เรยี นบนั ทกึ ปรมิ าณพลงั งานทร่ี า่ งการตอ้ งการใน ๑ วนั และหนว่ ยทใี่ ช้ วัดปริมาณอาหารตามธงโภชนาการในใบงาน ๐๑ การรับประทานอาหารให้ เหมาะสมกบั เพศและวยั หนา้ ๑๙ ๘. ครูใหน้ กั เรยี นส�ำรวจรายการอาหารทีต่ นเองรบั ประทานใน ๑ วัน ซึง่ อาจเป็น ข้อมูลอาหารท่ีนักเรียนรับประทานเมื่อวาน จากน้ันให้นักเรียนสืบค้นปริมาณ พลงั งาน สว่ นประกอบของอาหาร และปรมิ าณสว่ นประกอบของอาหารแตล่ ะอยา่ ง โดยใช้หน่วยตามในธงโภชนาการจากตารางปริมาณพลังงานและสัดส่วนของ อาหารตามธงโภชนาการในอาหารที่ครูท�ำเป็นเอกสารเตรียมไว้ให้ หรือใช้ คอมพิวเตอร์หรือ Smart phone เปิดตารางน้ีโดยการสแกน QR code หรือเข้าลิงค์ที่อยู่ในหน้า ๑๓ ได้ หรือถ้านักเรียนมีประสบการณ์ รู้ส่วนประกอบของอาหาร นักเรียนสามารถคิดส่วนประกอบและปริมาณของ ส่วนประกอบของอาหารโดยเทียบให้เป็นหน่วยตามในธงโภชนาการโดยใช้ ข้อมูลในใบความรู้หน้า ๑๗-๑๘ จากน้ันบันทึกข้อมูลลงในตาราง ๒ หน้า ๒๐-๒๒ ในคอลัมน์ชือ่ อาหาร ปรมิ าณพลังงาน สว่ นประกอบของอาหาร และ ปรมิ าณของสว่ นประกอบของอาหาร โดยครอู าจทำ� ใหน้ กั เรยี นดเู ปน็ ตวั อยา่ ง เชน่
64 ชดุ การจดั กจิ กรรมการเรยี นรู้ (สำ� หรบั ครผู สู้ อน) กลมุ่ สาระการเรยี นรวู้ ทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ภาคเรยี นท่ี ๑ ชน้ั ประถมศกึ ษาปที ี่ ๖ (ฉบบั ปรบั ปรงุ ) แผนการจัดการเรยี นรู้ที่ ๑.๒ รับประทานอาหารให้เหมาะสมกับเพศและวัย หนว่ ยการเรยี นรทู้ ่ี ๑ สารอาหารกบั ระบบยอ่ ยอาหาร หน่วยย่อยท่ี ๑ อาหารกับการรบั ประทานอาหาร เวลา ๔ ช่วั โมง ช้ันประถมศกึ ษาปที ่ี ๖ กล่มุ สาระการเรยี นรวู้ ิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี รายวิชาวิทยาศาสตร์ ชื่ออาหาร ปริมาณพลังงาน ส่วนประกอบ ปรมิ าณสว่ นประกอบ (กิโลแคลอร)ี ของอาหาร โดยประมาณ (หนว่ ย) ขา้ วมนั ไก่ ๕๙๕ ข้าว ๓ ทพั พี อกไก่ ๑๐ ชอ้ นกินข้าว นำ้� มนั ๓ ชอ้ นชา ขงิ กระเทยี ม แตงกวา ๑/๕ ทัพพี เกลอื นำ้� ตาล ซีอิ๊วด�ำ ๒ ชอ้ นชา เมอื่ นกั เรยี นเขา้ ใจแลว้ ใหน้ กั เรยี นลงมอื ทำ� กจิ กรรม โดยครคู อยใหค้ วามชว่ ยเหลอื และตรวจสอบความถกู ตอ้ ง ๙. หากนกั เรียนแต่ละคนยงั ทำ� ไมเ่ สรจ็ หรอื ไมพ่ บรายการอาหารจากตารางขอ้ มลู ในหนา้ ๑๓ นักเรียนสามารถไปสืบค้นข้อมูลเพมิ่ เติมหรือสอบถามผูป้ กครอง และจดบันทึกแหล่งที่มาของขอ้ มูลมาด้วย ข้ันสรปุ (๕ นาที) ๑๐. ครเู ปดิ โอกาสใหน้ กั เรยี นสรปุ แนวคดิ หรอื สงิ่ ทไ่ี ดเ้ รยี นรใู้ นชวั่ โมงนดี้ ว้ ยตนเองเกยี่ วกบั พลังงานที่ได้รับจากการรับประทานอาหารและสัดส่วนของปริมาณอาหาร ทเี่ หมาะสมกบั เพศและวยั ไดว้ า่ ในแตล่ ะวนั รา่ งกายตอ้ งการพลงั งานแตกตา่ งกนั ขึ้นอยู่กับเพศ วัย และกิจกรรมที่ท�ำ โดยเพศชายต้องการพลังงานมากกว่า
ชดุ การจดั กจิ กรรมการเรยี นรู้ (สำ� หรบั ครผู สู้ อน) กลมุ่ สาระการเรยี นรวู้ ทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ภาคเรยี นท่ี ๑ ชน้ั ประถมศกึ ษาปที ่ี ๖ (ฉบบั ปรบั ปรงุ ) 65 แผนการจดั การเรียนรู้ท่ี ๑.๒ รับประทานอาหารให้เหมาะสมกับเพศและวยั หนว่ ยการเรยี นรทู้ ี่ ๑ สารอาหารกบั ระบบยอ่ ยอาหาร หน่วยย่อยที่ ๑ อาหารกับการรับประทานอาหาร เวลา ๔ ชั่วโมง ชนั้ ประถมศกึ ษาปีที่ ๖ กลมุ่ สาระการเรยี นรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี รายวชิ าวทิ ยาศาสตร์ เพศหญงิ ผใู้ หญต่ อ้ งการพลงั งานมากกวา่ วยั เดก็ ถา้ ออกกำ� ลงั กายหรอื ใชแ้ รงงาน ต้องการพลังงานมากกว่าเรียนหรอื ทำ� กจิ กรรมปกติ รวมทั้งใหไ้ ดส้ ดั สว่ นของ ปริมาณอาหารตามหน่วยในธงโภชนาการ ท้ังหมดน้ีเพือ่ ให้ร่างกายได้น�ำมาใช้ ประโยชนท์ ีเ่ หมาะสมกบั เพศและวัย ๑๑. ครูชวนนักเรียนสรุปความรู้ท่ีได้เรียนรู้ในชั่วโมงน้ีอีกครั้งโดยใช้กราฟฟิก ช่วยในการสรปุ ดงั ตวั อยา่ ง เช่น ความตอ้ งการพลงั งาน สัดส่วนของอาหารส�ำหรับ เดก็ อายุ ๖-๑๓ ปี เพศ วัย พลงั งานและ สดั สว่ นของอาหาร พลังงานท่ีต้องการของแตล่ ะคน ท่ีเหมาะสมกบั เพศ แตกตา่ งกนั ขนึ้ อยกู่ บั และวยั ในแตล่ ะวนั กจิ กรรมทท่ี ำ� เชน่ ออกกำ� ลังกาย (ทกำ� นิปกอกิจาตกหิ)รารรม ธงโภชนาการ ๑๒. ครูแจ้งว่าในชว่ั โมงถดั ไป นักเรยี นจะได้ท�ำกิจกรรมท่ี ๑ ขอ้ ๓-๔ ต่อไป
66 ชดุ การจดั กจิ กรรมการเรยี นรู้ (สำ� หรบั ครผู สู้ อน) กลมุ่ สาระการเรยี นรวู้ ทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ภาคเรยี นท่ี ๑ ชน้ั ประถมศกึ ษาปที ี่ ๖ (ฉบบั ปรบั ปรงุ ) แผนการจดั การเรียนรู้ที่ ๑.๒ รับประทานอาหารให้เหมาะสมกับเพศและวยั หนว่ ยการเรยี นรทู้ ี่ ๑ สารอาหารกบั ระบบยอ่ ยอาหาร หนว่ ยยอ่ ยท่ี ๑ อาหารกบั การรบั ประทานอาหาร เวลา ๔ ชัว่ โมง ชัน้ ประถมศึกษาปีท่ี ๖ กลุม่ สาระการเรียนรวู้ ิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี รายวิชาวิทยาศาสตร์ ชั่วโมงที่ ๒ ข้นั นำ� (๕ นาที) ๑๓. ครูยกตัวอย่างอาหารและส่วนประกอบของอาหารที่นักเรียนได้บันทึกไว้ แล้วตรวจสอบว่านักเรียนจ�ำแนกประเภทของสารอาหารถูกต้องหรือไม่ เช่น ราดหน้าหมู แล้วใช้ค�ำถามว่าถ้านักเรียนรับประทานราดหน้าหมู นักเรียนจะได้รับสารอาหารประเภทใดบ้าง และได้รับจากส่วนประกอบใด (ได้รับสารอาหารประเภทคาร์โบไฮเดรตจากเส้นก๋วยเตี๋ยว น้�ำตาล และแป้งมัน ได้รับโปรตีนจากหมู ได้รับวิตามินและเกลือแร่จากผัก เกลอื และซอสปรุงรส) ๑๔. ครทู บทวนเกยี่ วกบั พลงั งานของสารอาหารและสดั สว่ นของอาหารทเี่ หมาะสม กบั นักเรียน ๑๕. ครูแจ้งจดุ ประสงคก์ ารเรยี นรขู้ องชั่วโมงนีใ้ หน้ ักเรยี นทราบ ขั้นสอน (๔๕ นาที) ๑๖. ครูให้นักเรียนอ่านวิธีท�ำในกิจกรรมท่ี ๑ ตอนที่ ๑ ข้อ ๓-๔ หน้า ๑๓-๑๔ โดยใชว้ ธิ กี ารฝึกการอ่านจบั ใจความตามความเหมาะสม จากนั้นตรวจสอบ ความเข้าใจในขนั้ ตอนการท�ำกิจกรรม โดยใชค้ �ำถามดังนี้ ๑๖.๑ นักเรียนต้องท�ำอะไรบ้าง (วิเคราะห์ประเภทของสารอาหารที่นักเรียน ไดส้ �ำรวจมา)
ชดุ การจดั กจิ กรรมการเรยี นรู้ (สำ� หรบั ครผู สู้ อน) กลมุ่ สาระการเรยี นรวู้ ทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ภาคเรยี นท่ี ๑ ชน้ั ประถมศกึ ษาปที ่ี ๖ (ฉบบั ปรบั ปรงุ ) 67 แผนการจัดการเรียนรู้ท่ี ๑.๒ รบั ประทานอาหารให้เหมาะสมกับเพศและวยั หนว่ ยการเรยี นรทู้ ่ี ๑ สารอาหารกบั ระบบยอ่ ยอาหาร หนว่ ยยอ่ ยท่ี ๑ อาหารกบั การรับประทานอาหาร เวลา ๔ ชั่วโมง ชั้นประถมศึกษาปีท่ี ๖ กลุม่ สาระการเรยี นรวู้ ทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี รายวชิ าวทิ ยาศาสตร์ ๑๖.๒ เมื่อได้ข้อมูลเกี่ยวกับสารอาหาร ปริมาณพลังงาน และสัดส่วนของ อาหารที่รับประทานแล้ว นักเรียนต้องใช้ข้อมูลนั้นท�ำอะไรต่อไป (วเิ คราะหว์ า่ ใน ๑ วนั ตนเองไดร้ บั สารอาหารครบทกุ ประเภทหรอื ไม่ ไดร้ บั ปรมิ าณพลงั งานเพยี งพอหรอื ไม่ และรบั ประทานอาหารในสดั สว่ น ทีเ่ หมาะสมหรอื ไม่) ๑๖.๓ นกั เรยี นตอ้ งนำ� เสนอเรอื่ งอะไร (ผลการวเิคราะหก์ ารรบั ประทานอาหารของตนเอง ใน ๑ วนั ) ๑๗. ครชู วนนกั เรยี นในแตล่ ะกลมุ่ ชว่ ยเพอื่ นตรวจสอบชอื่ อาหาร ปรมิ าณพลงั งานทไ่ี ดร้ บั จากอาหาร สว่ นประกอบของอาหาร และปรมิ าณสว่ นประกอบของอาหาร (ระบหุ นว่ ย ใหถ้ กู ตอ้ งตามธงโภชนาการ) โดยเทยี บจากตารางปรมิ าณพลงั งานและสดั สว่ นของ อาหารตามธงโภชนาการในอาหารทค่ี รทู ำ� เปน็ เอกสารเตรยี มไวใ้ หใ้ หถ้ กู ตอ้ งกอ่ น จากนนั้ ใหน้ กั เรยี นระบปุ ระเภทของสารอาหารลงในตาราง ๒ หนา้ ๒๐-๒๒ ๑๘. ครชู วนนกั เรยี นวเิ คราะหอ์ าหารทต่ี นเองรบั ประทานใน ๑ วนั ครสู าธติ การคำ� นวณหา ปรมิ าณพลงั งานทไ่ี ดร้ บั จากอาหารใน ๑ มอ้ื เปน็ ตวั อยา่ ง เมอ่ื ตรวจสอบวา่ นกั เรยี น เขา้ ใจแลว้ ครใู หน้ กั เรยี นวเิ คราะหป์ ระเภทของสารอาหารวา่ ไดร้ บั ครบหรอื ไมค่ รบ ทกุ ประเภท และคำ� นวณปรมิ าณพลงั งานทไี่ ดจ้ ากการรบั ประทานอาหารใน ๑ วนั บนั ทกึ ผลการคำ� นวณและการวเิ คราะหล์ งในใบงาน ๐๑ หนา้ ๒๓ บนั ทกึ สดั สว่ น ของอาหารทร่ี บั ประทานใน ๑ วนั เทยี บกบั ธงโภชนาการลงในหนา้ ๒๔ และ บนั ทกึ ผลการวเิ คราะหส์ ดั สว่ นของอาหารทรี่ บั ประทานใน ๑ วนั ลงในหนา้ ๒๕
68 ชดุ การจดั กจิ กรรมการเรยี นรู้ (สำ� หรบั ครผู สู้ อน) กลมุ่ สาระการเรยี นรวู้ ทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ภาคเรยี นท่ี ๑ ชน้ั ประถมศกึ ษาปที ี่ ๖ (ฉบบั ปรบั ปรงุ ) แผนการจัดการเรียนรทู้ ่ี ๑.๒ รบั ประทานอาหารใหเ้ หมาะสมกับเพศและวยั หนว่ ยการเรยี นรทู้ ี่ ๑ สารอาหารกบั ระบบยอ่ ยอาหาร หน่วยยอ่ ยที่ ๑ อาหารกบั การรบั ประทานอาหาร เวลา ๔ ช่วั โมง ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๖ กลมุ่ สาระการเรียนรู้วทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี รายวชิ าวทิ ยาศาสตร์ ๑๙. หลังจากนักเรียนบันทึกแล้ว ครูอาจสุ่มนักเรียนน�ำเสนอผลการส�ำรวจ การรบั ประทานอาหารของนกั เรยี นวา่ อาหารทรี่ บั ประทานอาหารใน ๑ วนั นนั้ เหมาะสมกับเพศและวัยหรือไม่ อย่างไร โดยพิจารณาประเด็นดังต่อไปนี้ ได้แก่ ประเภทของสารอาหาร ปริมาณพลังงานที่ได้รับ และสัดส่วนของ ปริมาณอาหารตามธงโภชนาการ ๒๐. ครแู ละนักเรยี นร่วมกนั อภปิ รายผลการทำ� กิจกรรม โดยใชค้ ำ� ถามดังตอ่ ไปน้ี ๒๐.๑ การเลือกรบั ประทานอาหารใน ๑ วัน ต้องพจิ ารณาสง่ิ ใดบ้าง เพ่อื ให้ เหมาะสมกบั ตนเอง (ตอ้ งพจิ ารณาวา่ ไดร้ บั สารอาหารครบถว้ นหรอื ไม่ ไดร้ บั ปรมิ าณพลงั งานเพยี งพอหรอื ไม่ และไดส้ ดั สว่ นตามธงโภชนาการ หรือไม่) ๒๐.๒ นกั เรยี นคนใดรบั ประทานอาหารใน ๑ วนั ทม่ี สี ารอาหารครบทกุ ประเภทบา้ ง และคนใดรบั ประทานอาหารไมค่ รบทกุ ประเภท ขาดสารอาหารประเภทใด (นกั รยี นตอบตามผลการวเิ คราะห์) ๒๐.๓ นักเรียนคนใดได้รับปริมาณพลังงานจากอาหารเหมาะสมกับเพศ วัย และกจิ กรรมทที่ ำ� บา้ ง (คำ� ตอบขน้ึ อยกู่ บั ผลการเปรยี บเทยี บของนกั เรยี น) ๒๐.๔ นกั เรยี นคนใดไดร้ บั ปรมิ าณพลงั งานมากกวา่ ปรมิ าณทตี่ นเองตอ้ งการ ต่อวันบ้าง และรับประทานอาหารชนิดใดท่ีน่าจะท�ำให้ได้รับปริมาณ พลังงานเกนิ (ค�ำตอบข้นึ อยูก่ บั ผลการเปรยี บเทียบของนกั เรยี น)
ชดุ การจดั กจิ กรรมการเรยี นรู้ (สำ� หรบั ครผู สู้ อน) กลมุ่ สาระการเรยี นรวู้ ทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ภาคเรยี นท่ี ๑ ชน้ั ประถมศกึ ษาปที ่ี ๖ (ฉบบั ปรบั ปรงุ ) 69 แผนการจัดการเรียนรู้ท่ี ๑.๒ รับประทานอาหารใหเ้ หมาะสมกับเพศและวยั หนว่ ยการเรยี นรทู้ ่ี ๑ สารอาหารกบั ระบบยอ่ ยอาหาร หนว่ ยยอ่ ยท่ี ๑ อาหารกบั การรบั ประทานอาหาร เวลา ๔ ชวั่ โมง ชั้นประถมศกึ ษาปที ่ี ๖ กลมุ่ สาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี รายวชิ าวิทยาศาสตร์ ๒๐.๕ นักเรียนคนใดได้รับปริมาณพลังงานน้อยกว่าปริมาณท่ีตนเองต้องการ ตอ่ วนั บา้ ง และควรปรบั ปรงุ การรบั ประทานอาหารอยา่ งไร (คำ� ตอบขนึ้ อยู่กับผลการเปรียบเทียบของนักเรียนและการปรับปรุงการ รับประทานอาหาร ค�ำตอบขึ้นอยู่กับรายการอาหารที่นักเรียนเลือก รับประทาน เช่น ถ้านักเรียนชายอายุ ๙-๑๒ ปี ควรได้รับพลังงาน ๑,๗๐๐ กโิ ลแคลอรี สามารถเลือกรบั ประทานอาหารไดด้ ังน้ี มื้อเช้า รบั ประทานขา้ วมนั ไก่ มอ้ื เทย่ี งรบั ประทานกว๋ ยเตยี๋ วเสน้ ใหญ่ และมอ้ื เยน็ รบั ประทานขา้ วขาหมู รวมพลงั งานทไ่ี ดร้ บั ทงั้ หมด ๑,๗๑๓ กโิ ลแคลอรี โดยประมาณ) ๒๐.๖ นักเรียนคิดว่าใน ๑ วัน เด็กชาย A (เด็กชาย A แทนชื่อนักเรียน ชายในหอ้ งทเ่ี ปน็ นกั กฬี า หรอื เลน่ กฬี าบอ่ ย) กบั เดก็ หญงิ B (เดก็ หญงิ B แทนช่ือนักเรียนหญิงในห้องที่ไม่ได้ออกก�ำลังกาย) จ�ำเป็นต้อง ได้รับปริมาณพลังงานจากอาหารเท่ากันหรือไม่ เพราะเหตุใด (นักเรียนท้ัง ๒ คน ไม่จ�ำเป็นต้องได้รับปริมาณพลังงานจากอาหาร เทา่ กนั ปรมิ าณพลงั งานทแี่ ตล่ ะคนตอ้ งการจะขนึ้ อยกู่ บั เพศ วยั และ กิจกรรมท่ีท�ำ เด็กชาย A จ�ำเป็นต้องรับประทานอาหารให้ได้ ปริมาณพลังงานมากกว่าเด็กหญิง B เพราะถ้า ๒ คนน้ีอายุเท่ากัน เพศชายจ�ำเป็นต้องได้รับพลังงานมากกว่า รวมทั้งเด็กชาย A ทำ� กจิ กรรมทตี่ อ้ งใชพ้ ลงั งานมาก จงึ จำ� เปน็ ตอ้ งไดร้ บั พลงั งานมากกวา่ )
70 ชดุ การจดั กจิ กรรมการเรยี นรู้ (สำ� หรบั ครผู สู้ อน) กลมุ่ สาระการเรยี นรวู้ ทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ภาคเรยี นท่ี ๑ ชน้ั ประถมศกึ ษาปที ี่ ๖ (ฉบบั ปรบั ปรงุ ) แผนการจดั การเรยี นรทู้ ่ี ๑.๒ รบั ประทานอาหารให้เหมาะสมกบั เพศและวยั หนว่ ยการเรยี นรทู้ ี่ ๑ สารอาหารกบั ระบบยอ่ ยอาหาร หน่วยย่อยที่ ๑ อาหารกบั การรับประทานอาหาร เวลา ๔ ช่วั โมง ชั้นประถมศึกษาปที ่ี ๖ กลมุ่ สาระการเรยี นรวู้ ทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี รายวชิ าวิทยาศาสตร์ ๒๐.๗ นักเรียนคนใดรับประทานอาหารได้สัดส่วนตามธงโภชนาการบ้าง ( ค� ำ ต อ บ ขึ้ น อ ยู ่ กั บ ผ ล ก า ร รั บ ป ร ะ ท า น อ า ห า ร ข อ ง นั ก เ รี ย น ) ๒๐.๘ นักเรยี นคนใดรับประทานอาหารไม่ไดส้ ัดสว่ นตามธงโภชนาการบ้าง เพราะเหตใุ ด (คำ� ตอบขนึ้ อยกู่ บั ผลการรบั ประทานอาหารของนกั เรยี น เชน่ รบั ประทานอาหารบางอยา่ งมากกวา่ หรอื นอ้ ยกวา่ สดั สว่ นทเ่ี หมาะสม) ๒๐.๙ เพราะเหตใุ ดเราจงึ ตอ้ งรบั ประทานอาหารใหไ้ ดส้ ดั สว่ นตามธงโภชนาการ (เพราะอาหารแต่ละอย่างให้ปริมาณพลังงานและสารอาหารท่ี แตกต่างกัน การรับประทานอาหารให้ได้สัดส่วนตามธงโภชนาการ ท�ำให้เราได้รับสารอาหารและปริมาณพลังงานจากอาหารที่เหมาะสม กบั รา่ งกายของเรา และเปน็ การรบั ประทานอาหารทห่ี ลากหลาย เนอ่ื งจาก สารอาหารบางประเภทจะอยู่ในอาหารท่ีแตกต่างกัน เช่น วิตามนิ เกลือแรบ่ างชนดิ ) ๒๐.๑๐ นกั เรยี นคนใดดม่ื นำ้� ในปรมิ าณทเ่ี พยี งพอกบั ความตอ้ งการของรา่ งกายบา้ ง (คำ� ตอบขนึ้ อยกู่ บั ผลการดม่ื นำ้� ของนกั เรยี น ซงึ่ นกั เรยี นควรดม่ื นำ�้ ตาม สตู รการคำ� นวณปรมิ าณนำ้� ทค่ี วรดมื่ ซงึ่ อยใู่ นใบความรหู้ นา้ ๑๘ เชน่ น�้ำหนักตัว ๔๐ กิโลกรัม ควรดื่มน�้ำ ๑,๓๒๐ ลูกบาศก์เซนติเมตร หรือ ๑.๓๒ ลติ ร)
ชดุ การจดั กจิ กรรมการเรยี นรู้ (สำ� หรบั ครผู สู้ อน) กลมุ่ สาระการเรยี นรวู้ ทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ภาคเรยี นท่ี ๑ ชน้ั ประถมศกึ ษาปที ่ี ๖ (ฉบบั ปรบั ปรงุ ) 71 แผนการจดั การเรยี นรู้ท่ี ๑.๒ รบั ประทานอาหารให้เหมาะสมกบั เพศและวยั หนว่ ยการเรยี นรทู้ ่ี ๑ สารอาหารกบั ระบบยอ่ ยอาหาร หนว่ ยยอ่ ยท่ี ๑ อาหารกับการรบั ประทานอาหาร เวลา ๔ ชั่วโมง ชั้นประถมศกึ ษาปีที่ ๖ กลมุ่ สาระการเรียนรู้วิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี รายวิชาวทิ ยาศาสตร์ ๒๐.๑๑ นกั เรยี นคนใดดม่ื นำ้� ไมเ่ พยี งพอกบั ความตอ้ งการของรา่ งกายบา้ ง และ ควรปรบั การดมื่ นำ้� อยา่ งไร (คำ� ตอบขนึ้ อยกู่ บั ผลการดมื่ นำ้� ของนกั เรยี น เชน่ ควรปรบั การดืม่ น้�ำโดยตอ้ งดื่มน้�ำเพิ่ม อาจตอ้ งเตอื นตวั เองให้ ดมื่ นำ�้ ฝกึ ดม่ื นำ�้ บอ่ ย ๆ ครง้ั ละไมม่ ากแทนการดมื่ นำ�้ ในปรมิ าณมาก ในครั้งเดยี ว) ๒๑. นกั เรยี นตอบค�ำถามหลังจากทำ� กจิ กรรมในใบงาน ๐๑ หน้า ๒๖ และร่วมกนั เฉลยคำ� ตอบ ข้ันสรปุ (๑๐ นาที) ๒๒. ครูเปิดโอกาสใหน้ กั เรียนสรุปแนวคดิ หรือสิง่ ทไี่ ดเ้ รียนรใู้ นชัว่ โมงนีด้ ว้ ยตนเอง เกย่ี วกบั การรบั ประทานอาหารของตนเองใน ๑ วนั โดยนกั เรยี นควรสรปุ ไดว้ า่ ในแต่ละวัน ร่างกายของเราแต่ละคนควรได้รับสารอาหารทั้ง ๖ ประเภท เพราะสารอาหารแต่ละประเภทมปี ระโยชน์ต่อร่างกายแตกต่างกัน และควร ไดร้ บั ปรมิ าณพลงั งานจากอาหารทร่ี บั ประทานเพยี งพอกบั ความตอ้ งการของ รา่ งกายซงึ่ ขน้ึ อยกู่ บั เพศ วยั และกจิ กรรมทที่ ำ� รวมทง้ั ใหไ้ ดส้ ดั สว่ นของอาหาร เหมาะสมตามธงโภชนาการ
72 ชดุ การจดั กจิ กรรมการเรยี นรู้ (สำ� หรบั ครผู สู้ อน) กลมุ่ สาระการเรยี นรวู้ ทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ภาคเรยี นท่ี ๑ ชน้ั ประถมศกึ ษาปที ี่ ๖ (ฉบบั ปรบั ปรงุ ) แผนการจดั การเรยี นรทู้ ่ี ๑.๒ รบั ประทานอาหารให้เหมาะสมกับเพศและวยั หนว่ ยการเรยี นรทู้ ่ี ๑ สารอาหารกบั ระบบยอ่ ยอาหาร หน่วยย่อยท่ี ๑ อาหารกบั การรับประทานอาหาร เวลา ๔ ช่ัวโมง ชัน้ ประถมศกึ ษาปที ี่ ๖ กลุ่มสาระการเรยี นรู้วทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี รายวชิ าวิทยาศาสตร์ ๒๓. ครูอาจสรุปแนวคิดรวบยอดท่ีนักเรียนได้เรียนรู้ในวันน้ีอีกครั้งด้วยกราฟฟิก ซงึ่ สามารถท�ำกราฟฟกิ เพ่มิ เตมิ จากช่ัวโมงทีแ่ ล้ว ดงั ตวั อย่าง เชน่ การรปั บระทานอาหารใน ๑ วัน ใหเ หมาะสมสําหรบั เด็กอายุ ๖-๑๓ ป พลงั งานทไี่ ดจ ากอาหารเพียงพอกับ ตามสัดสวนของปริมาณอาหารตาม สารอาหารครบทง้ั ๖ ประเภท ความตองการ ธงโภชนาการ ความตอ งการพลงั งานขนึ้ อยูกบั เพศ วัย > ธงโภชนาการ กจิ กรรมที่ทํา > เชน > ออกกําลงั กาย (ทกำ� ินกกอจินิ กาอรหารหามารปรกต)ิ ๒๔. ครูแจ้งว่าในชั่วโมงถัดไป นักเรียนจะได้ท�ำกิจกรรมที่ ๑ ตอนท่ี ๒ ต่อไป จงึ มอบใหน้ กั เรยี นสบื คน้ มาลว่ งหนา้ โดยใหน้ กั เรยี นแตล่ ะกลมุ่ แบง่ หนา้ ทกี่ นั ไปสืบค้นข้อมูลสาเหตุท่ีท�ำให้อาหารไม่ปลอดภัยต่อสุขภาพซ่ึงเกิดจาก เช่น กระบวนการผลิต การคดั เลอื กวตั ถุดิบ การสง่ วตั ถุดิบ การประกอบอาหาร การขนส่งอาหาร การเก็บรักษาอาหาร และผลกระทบต่อสุขภาพจากการ รับประทานอาหารไม่ปลอดภัยจากแหล่งการเรียนรู้ท่ีเชื่อถือได้ เช่น จากกระทรวงสาธารณสุข โรงพยาบาล หรือเว็บไซต์ของแพทย์ โดยครูอาจ
ชดุ การจดั กจิ กรรมการเรยี นรู้ (สำ� หรบั ครผู สู้ อน) กลมุ่ สาระการเรยี นรวู้ ทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ภาคเรยี นท่ี ๑ ชน้ั ประถมศกึ ษาปที ่ี ๖ (ฉบบั ปรบั ปรงุ ) 73 แผนการจดั การเรียนรทู้ ่ี ๑.๒ รบั ประทานอาหารให้เหมาะสมกบั เพศและวยั หนว่ ยการเรยี นรทู้ ่ี ๑ สารอาหารกบั ระบบยอ่ ยอาหาร หนว่ ยย่อยท่ี ๑ อาหารกับการรับประทานอาหาร เวลา ๔ ชว่ั โมง ชนั้ ประถมศกึ ษาปที ี่ ๖ กลุ่มสาระการเรยี นรู้วทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี รายวิชาวทิ ยาศาสตร์ แนะน�ำค�ำที่ใช้สืบค้น เช่น สาเหตุที่ท�ำให้อาหารไม่ปลอดภัย สารปนเปื้อน ในอาหาร แนวทางการรบั ประทานอาหารใหม้ สี ขุ ภาพดี และใหบ้ นั ทกึ แหลง่ ทมี่ า ของข้อมลู ด้วย ชวั่ โมงที่ ๓ ขนั้ น�ำ (๕ นาที) ๒๕. ครทู บทวนความรทู้ ไี่ ดเ้ รยี นไปแลว้ เกย่ี วกบั การรบั ประทานอาหารใหเ้ หมาะสม กับเพศและวัย และตรวจสอบความรู้เดิมเกี่ยวกับการรับประทานอาหารให้ ปลอดภยั ต่อสขุ ภาพ โดยใช้ค�ำถามดังนี้ ๒๕.๑ การเลือกรบั ประทานอาหารใน ๑ วัน ต้องพิจารณาสิ่งใดบ้าง เพื่อให้ เหมาะสมกบั ตนเอง (ตอ้ งพจิ ารณาวา่ ไดร้ บั สารอาหารครบถว้ นหรอื ไม่ ไดร้ บั ปรมิ าณพลงั งานเพยี งพอหรอื ไม่ และไดส้ ดั สว่ นตามธงโภชนาการหรอื ไม)่ ๒๕.๒ หากเรารบั ประทานอาหารไดเ้ หมาะสมกบั เพศและวยั ได้ รา่ งกายจะได้ ประโยชนอ์ ยา่ งไรบา้ ง (ไดร้ บั พลงั งานทเ่ี พยี งพอในการใชท้ ำ� กจิ กรรมตา่ ง ๆ ร่างกายเจริญเติบโต มีสุขภาพดี ไม่เป็นโรคที่เกี่ยวกับการขาด สารอาหารหรอื โรคทเี่ กยี่ วกบั การรบั ประทานอาหารทเี่ กนิ ความตอ้ งการ ของรา่ งกาย เช่น โรคอว้ น) ๒๕.๓ ในการรบั ประทานอาหาร นอกจากการพจิ ารณาสงิ่ ตา่ ง ๆ ในขอ้ ๒๕.๒ แลว้ เรายงั ตอ้ งค�ำนงึ ถงึ เรื่องใดอกี บา้ ง เพอ่ื ให้ร่างกายมีสขุ ภาพดี (นักเรยี น ตอบตามความเข้าใจของตนเอง)
74 ชดุ การจดั กจิ กรรมการเรยี นรู้ (สำ� หรบั ครผู สู้ อน) กลมุ่ สาระการเรยี นรวู้ ทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ภาคเรยี นท่ี ๑ ชน้ั ประถมศกึ ษาปที ี่ ๖ (ฉบบั ปรบั ปรงุ ) แผนการจัดการเรียนรู้ที่ ๑.๒ รบั ประทานอาหารให้เหมาะสมกับเพศและวัย หนว่ ยการเรยี นรทู้ ่ี ๑ สารอาหารกบั ระบบยอ่ ยอาหาร หนว่ ยยอ่ ยท่ี ๑ อาหารกบั การรบั ประทานอาหาร เวลา ๔ ชวั่ โมง ช้นั ประถมศกึ ษาปีท่ี ๖ กล่มุ สาระการเรียนรวู้ ิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี รายวชิ าวทิ ยาศาสตร์ ข้นั สอน (๕๐ นาที) ๒๖. นกั เรยี นอา่ นจดุ ประสงคข์ อ้ ๓-๔ ในใบงาน ๐๑ หนา้ ๑๓ จากนน้ั ครตู รวจสอบ ความเขา้ ใจโดยใช้ค�ำถามดงั นี้ ๒๖.๑ นักเรียนจะเรียนเก่ียวกับเรื่องอะไร (ความปลอดภัยของอาหาร และ แนวทางในการเลอื กรบั ประทานอาหารทเ่ี หมาะสมกบั เพศและวยั รวมทง้ั ปลอดภยั ตอ่ สุขภาพ) ๒๖.๒ นกั เรยี นจะเรยี นเรอ่ื งนดี้ ว้ ยวธิ กี ารใด (สบื คน้ ขอ้ มลู และวเิ คราะหข์ อ้ มลู ) ๒๖.๓ เมอ่ื เรยี นแลว้ นกั เรยี นจะทำ� อะไรได้ (อธบิ ายความปลอดภยั ของอาหาร และบอกแนวทางในการเลอื กรบั ประทานอาหารทเ่ี หมาะสมกบั เพศและวยั รวมทง้ั ปลอดภัยต่อสุขภาพ ๒๗. ครแู จ้งจดุ ประสงค์การเรียนรใู้ นวนั นีใ้ หน้ กั เรียนทราบอีกครง้ั ๒๘. ครชู วนนกั เรยี นอา่ นวธิ ที ำ� ตอนที่ ๒ หนา้ ๑๔ โดยครใู ชว้ ธิ ฝี กึ ทกั ษะการอา่ นทเี่ หมาะสม กับความสามารถของนักเรียน จากน้ันครูตรวจสอบความเข้าใจเกี่ยวกับวิธี การทำ� กิจกรรม จนนักเรยี นเข้าใจล�ำดับการท�ำกิจกรรม โดยใชค้ ำ� ถามดังน้ี ๒๘.๑ นกั เรียนตอ้ งสืบคน้ ข้อมูลเกี่ยวกบั อะไร (ขอ้ มูลเกีย่ วกับสาเหตทุ ่ีท�ำให้ อาหารไมป่ ลอดภยั ตอ่ สขุ ภาพ และผลกระทบจากการรบั ประทานอาหาร ท่ไี ม่ปลอดภัยตอ่ สุขภาพ) ซึ่งนกั เรยี นไดส้ ืบคน้ ขอ้ มูลมาลว่ งหนา้ ๒๘.๒ อาหารที่ไม่ปลอดภัยต่อสุขภาพเกิดจากขั้นตอนใดบ้าง (อาหารท่ี ไม่ปลอดภัยเกิดได้ท้ังจากกระบวนการผลิต (ครูอธิบายเพ่ิมเติม วา่ กระบวนการผลติ หมายถงึ ขนั้ ตอนการเลยี้ งสตั วห์ รอื การเพาะปลกู )
ชดุ การจดั กจิ กรรมการเรยี นรู้ (สำ� หรบั ครผู สู้ อน) กลมุ่ สาระการเรยี นรวู้ ทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ภาคเรยี นท่ี ๑ ชน้ั ประถมศกึ ษาปที ่ี ๖ (ฉบบั ปรบั ปรงุ ) 75 แผนการจดั การเรียนรทู้ ่ี ๑.๒ รบั ประทานอาหารใหเ้ หมาะสมกบั เพศและวัย หนว่ ยการเรยี นรทู้ ี่ ๑ สารอาหารกบั ระบบยอ่ ยอาหาร หนว่ ยยอ่ ยที่ ๑ อาหารกบั การรับประทานอาหาร เวลา ๔ ช่ัวโมง ชั้นประถมศกึ ษาปที ี่ ๖ กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี รายวชิ าวทิ ยาศาสตร์ การคดั เลอื กวตั ถดุ บิ การขนสง่ วตั ถดุ บิ การประกอบอาหาร การขนสง่ อาหาร และการเก็บรักษาอาหาร) ๒๘.๓ นักเรยี นไดส้ ืบค้นขอ้ มูลจากแหล่งการเรยี นรใู้ ดมาบา้ ง (นกั เรียนตอบ ตามที่ได้สืบค้นมา เช่น ชื่อเว็บไซต์ของกระทรวงสาธารณสุข โรงพยาบาล เพจของหมอ) ๒๘.๔ เมือ่ ไดข้ ้อมลู แล้วนักเรียนต้องทำ� อะไรต่อ (อภิปรายแนวทางการเลือก รับประทานอาหารท่ีปลอดภยั ต่อสุขภาพ) ๒๘.๕ นกั เรยี นตอ้ งทำ� อะไรกบั ขอ้ มลู อาหารทต่ี นเองรบั ประทานจากตอนท่ี ๑ (วเิ คราะห์ว่าอาหารที่ตนเองรบั ประทานปลอดภยั ต่อสขุ ภาพหรอื ไม่) ครอู าจเขยี นขนั้ ตอนการทำ� กจิ กรรมสนั้ ๆ ในแตล่ ะขน้ั ไวบ้ นกระดาน และเน้นย้�ำวา่ ขอ้ มูลที่นักเรยี นต้องบนั ทึกให้ชดั เจน ๒๙. เมอ่ื นกั เรยี นเขา้ ใจวธิ กี ารทำ� กจิ กรรม ตอนท่ี ๒ แลว้ ครเู รมิ่ ชวนนกั เรยี นทำ� กจิ กรรม ไปทีละขั้น โดยเริ่มจากให้นักเรียนสมาชิกในกลุ่มแลกเปล่ียนข้อมูลเก่ียวกับ สาเหตุที่ท�ำให้อาหารไม่ปลอดภัยต่อสุขภาพ และผลกระทบจากการ รบั ประทานอาหารทไี่ มป่ ลอดภยั ตอ่ สขุ ภาพ และบนั ทกึ ขอ้ มลู ทไ่ี ดล้ งในใบงาน ๐๑ หนา้ ๒๗ หากนกั เรยี นสบื คน้ ขอ้ มลู ไมไ่ ดห้ รอื ขอ้ มลู มาจากแหลง่ การเรยี นรทู้ ี่ ไมน่ า่ เชอ่ื ถอื ครอู าจใหน้ กั เรยี นศกึ ษาขอ้ มลู เพม่ิ เตมิ จากเอกสารทคี่ รเู ตรยี มไว้
76 ชดุ การจดั กจิ กรรมการเรยี นรู้ (สำ� หรบั ครผู สู้ อน) กลมุ่ สาระการเรยี นรวู้ ทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ภาคเรยี นท่ี ๑ ชน้ั ประถมศกึ ษาปที ี่ ๖ (ฉบบั ปรบั ปรงุ ) แผนการจัดการเรียนรทู้ ่ี ๑.๒ รับประทานอาหารให้เหมาะสมกับเพศและวยั หนว่ ยการเรยี นรทู้ ี่ ๑ สารอาหารกบั ระบบยอ่ ยอาหาร หนว่ ยย่อยท่ี ๑ อาหารกับการรบั ประทานอาหาร เวลา ๔ ชว่ั โมง ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๖ กลมุ่ สาระการเรยี นร้วู ทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี รายวชิ าวิทยาศาสตร์ ๓๐. จากนนั้ ครอู าจใหน้ กั เรยี นแตล่ ะกลมุ่ นำ� เสนอขอ้ มลู ทสี่ บื คน้ ได้ เพอ่ื แลกเปลย่ี น ขอ้ มลู รว่ มกัน ๓๑. ครแู ละนกั เรยี นรว่ มกนั อภปิ รายขอ้ มลู เกยี่ วกบั สาเหตทุ ท่ี ำ� ใหอ้ าหารไมป่ ลอดภยั ตอ่ สขุ ภาพ และผลกระทบจากการรบั ประทานอาหารทไ่ี มป่ ลอดภยั ตอ่ สขุ ภาพ โดยใช้ค�ำถามดังต่อไปนี้ ๓๑.๑ สาเหตุทท่ี ำ� ให้อาหารไม่ปลอดภัยต่อสุขภาพมีอะไรบ้าง (การทอี่ าหาร ไม่ปลอดภัยตอ่ สขุ ภาพเกิดจากหลายสาเหตุ เช่น - เกดิ จากกระบวนการผลติ มกี ารใชส้ ารเคมใี นการเพาะปลกู พชื ทำ� ให้ สารเคมีน้นั ตกคา้ งอยู่ในผลผลติ มยี าปฏิชวี นะตกค้างในเนือ้ สัตว์ การผสมสารบางอย่างในอาหาร เชน่ บอแรกซ์ - การเก็บเก่ยี วผลผลิต การคัดเลอื กวัตถดุ ิบ อาจท�ำให้มสี ่งิ ปนเปื้อน อยู่ในผลผลติ เชน่ แมลง รา แบคทเี รยี ไวรสั พยาธิ เศษดนิ หิน กรวด โลหะ แก้ว มูลสัตว์ - การขนส่งวัตถุดิบ ท�ำให้มีสิ่งปนเปื้อน หรือใช้ระยะเวลานานท�ำให้ อาหารไม่ได้มาตรฐาน ไม่สด เก่า หรือเนา่ เสยี มีรา - การประกอบอาหาร ไม่ล้างวัตถุดิบหรือล้างไม่สะอาดก่อนน�ำมา ประกอบอาหาร เกดิ การปนเปอ้ื น มกี ารใชส้ ารปรงุ แตง่ อาหารไมส่ ด หมดอายุ เนา่ เสยี ตดิ โรค ภาชนะไมส่ ะอาด ผูป้ ระกอบอาหารไม่มี ระบบรกั ษาความสะอาด
ชดุ การจดั กจิ กรรมการเรยี นรู้ (สำ� หรบั ครผู สู้ อน) กลมุ่ สาระการเรยี นรวู้ ทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ภาคเรยี นท่ี ๑ ชน้ั ประถมศกึ ษาปที ่ี ๖ (ฉบบั ปรบั ปรงุ ) 77 แผนการจดั การเรียนร้ทู ่ี ๑.๒ รับประทานอาหารให้เหมาะสมกบั เพศและวัย หนว่ ยการเรยี นรทู้ ่ี ๑ สารอาหารกบั ระบบยอ่ ยอาหาร หน่วยยอ่ ยท่ี ๑ อาหารกบั การรับประทานอาหาร เวลา ๔ ชวั่ โมง ช้นั ประถมศกึ ษาปที ่ี ๖ กลมุ่ สาระการเรียนรู้วิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี รายวิชาวิทยาศาสตร์ - การขนส่งอาหาร เชน่ ไมป่ ิดฝาภาชนะท่บี รรจุอาหาร - การเก็บรักษาอาหาร เช่น เก็บอาหารปะปนกับสารอื่น ๆ เก็บใน ภาชนะทไี่ มไ่ ดม้ าตรฐาน เกบ็ ในทที่ มี่ อี ณุ หภมู แิ ละความชนื้ ไมเ่ หมาะสม เกบ็ ไว้นาน) ๓๑.๒ ผลกระทบตอ่ สขุ ภาพจากการรบั ประทานอาหารทไี่ มป่ ลอดภยั มอี ะไรบา้ ง (ท�ำให้เป็นโรคหรือมีอาการต่าง ๆ เช่น อุจจาระร่วง อาหารเป็นพิษ อหิวาตกโรค มะเร็งที่เกิดจากราในอาหาร โรคไวรัสตับอักเสบเอ โรคไข้สมองอักเสบ โรคบิด) ๓๒. ครใู หน้ กั เรยี นแตล่ ะกลมุ่ รว่ มกนั อภปิ รายแนวทางในการเลอื กรบั ประทานอาหาร ท่ปี ลอดภัยต่อสุขภาพ และบันทึกผลในใบงาน ๐๑ หนา้ ๒๘ ๓๓. ครใู หน้ กั เรยี นนำ� เสนอผลการอภปิ รายเพอ่ื แลกเปลย่ี นขอ้ มลู รว่ มกนั และครอู าจ เขยี นแนวทางในการเลอื กรบั ประทานอาหารท่ีปลอดภยั ต่อสุขภาพไวบ้ น กระดาน เพอ่ื เปน็ ขอ้ มูลสำ� หรบั การท�ำกิจกรรมตอ่ ไป ๓๔. นักเรียนวิเคราะห์อาหารท่ีตนเองรบั ประทานวา่ ปลอดภัยตอ่ สขุ ภาพหรอื ไม่ เพราะเหตุใด และบันทึกผลลงในใบงาน ๐๑ หน้า ๒๘ ๓๕. ครแู ละนักเรียนรว่ มกนั อภิปรายโดยใชค้ �ำถามวา่ อาหารท่ีตนเองรับประทาน มคี วามปลอดภยั ตอ่ สขุ ภาพหรอื ไม่ อยา่ งไร (นกั เรยี นตอบตามผลการวเิ คราะห์ ของตนเอง เชน่ ปลอดภยั เพราะรบั ประทานอาหารโดยเลอื กวตั ถดุ บิ ทส่ี ะอาด สด ใหม่ และประกอบอาหารเองในครอบครัว หรือตอบว่าไม่ปลอดภัย
78 ชดุ การจดั กจิ กรรมการเรยี นรู้ (สำ� หรบั ครผู สู้ อน) กลมุ่ สาระการเรยี นรวู้ ทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ภาคเรยี นท่ี ๑ ชน้ั ประถมศกึ ษาปที ี่ ๖ (ฉบบั ปรบั ปรงุ ) แผนการจัดการเรียนรู้ที่ ๑.๒ รับประทานอาหารใหเ้ หมาะสมกับเพศและวยั หนว่ ยการเรยี นรทู้ ่ี ๑ สารอาหารกบั ระบบยอ่ ยอาหาร หน่วยยอ่ ยที่ ๑ อาหารกบั การรบั ประทานอาหาร เวลา ๔ ชวั่ โมง ช้นั ประถมศกึ ษาปที ่ี ๖ กลมุ่ สาระการเรียนรวู้ ิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี รายวิชาวิทยาศาสตร์ เชน่ พบเศษกรวดในขา้ ว อาหารทซี่ อื้ ไมม่ ฝี าปดิ ภาชนะทบ่ี รรจอุ าหาร มแี มลงเกาะ หรอื ตอมอาหาร) ขั้นสรปุ (๕ นาที) ๓๖. ครเู ปดิ โอกาสใหน้ กั เรยี นสรปุ ความรทู้ ไี่ ดเ้ รยี นรใู้ นชว่ั โมงนดี้ ว้ ยตนเองเกยี่ วกบั สาเหตทุ ที่ ำ� ใหอ้ าหารไมป่ ลอดภยั ตอ่ สขุ ภาพ และผลกระทบจากการรบั ประทาน อาหารทไ่ี มป่ ลอดภยั ตอ่ สขุ ภาพไดว้ า่ สาเหตทุ ที่ ำ� ใหอ้ าหารไมป่ ลอดภยั ตอ่ สขุ ภาพ มีหลายสาเหตุ เช่น เกิดจากกระบวนการผลิต การคัดเลือกวัตถุดิบ การขนส่งวัตถดุ ิบ การประกอบอาหาร การขนสง่ อาหาร และการเกบ็ รกั ษา อาหาร และส่งผลกระทบต่อสุขภาพ เช่น ท้องเสีย เพราะสารปนเปื้อน ในกระบวนการผลิต หรืออาหารเน่าเสีย หรืออาจเป็นโรคท่ีเกิดจากอาหาร ท่ีปลอดภัยได้ เช่น โรคไวรัสตับอักเสบเอ โรคไข้สมองอักเสบ โรคบิด และมีแนวทางในการเลือกรับประทานอาหารที่ปลอดภัยต่อสุขภาพท�ำได้ หลายแนวทาง เชน่ เลอื กวตั ถดุ บิ ทจ่ี ะนำ� มาประกอบอาหารทส่ี ะอาด สด ใหม่ รับประทานอาหารที่สุก อาหารท่ีไม่เน่าเสีย ไม่หมดอายุ และมีฝาปิด ภาชนะท่บี รรจุ
ชดุ การจดั กจิ กรรมการเรยี นรู้ (สำ� หรบั ครผู สู้ อน) กลมุ่ สาระการเรยี นรวู้ ทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ภาคเรยี นท่ี ๑ ชน้ั ประถมศกึ ษาปที ่ี ๖ (ฉบบั ปรบั ปรงุ ) 79 แผนการจัดการเรียนรู้ท่ี ๑.๒ รับประทานอาหารใหเ้ หมาะสมกับเพศและวัย หนว่ ยการเรยี นรทู้ ่ี ๑ สารอาหารกบั ระบบยอ่ ยอาหาร หนว่ ยย่อยท่ี ๑ อาหารกับการรบั ประทานอาหาร เวลา ๔ ชว่ั โมง ช้นั ประถมศกึ ษาปีที่ ๖ กลมุ่ สาระการเรยี นรวู้ ทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี รายวชิ าวทิ ยาศาสตร์ ๓๗. ครสู รปุ แนวคดิ ทส่ี ำ� คญั ของชว่ั โมงนอ้ี กี ครงั้ ดว้ ยกราฟฟกิ ทเี่ หมาะสม ดงั ตวั อยา่ ง เชน่ ท้องเสยี เช่น เลอื กวัตถดุ ิบทจ่ี ะนำ� มา โรคทเ่ี กดิ จากอาหาร ประกอบอาหารที่สะอาด สดใหม่ ทีไ่ ม่ปลอดภยั เชน่ รับประทานอาหารทีส่ กุ โรคไวรัสตบั อักเสบเอ อาหารทไ่ี ม่เนา่ เสีย ไม่หมดอายุ โรคไข้สมองอกั เสบ มีฝาภาชนะท่ีบรรจุ โรคบิด ชว่ั โมงที่ ๔ ขั้นน�ำ (๕ นาท)ี ๓๘. ครทู บทวนความรทู้ ไี่ ดเ้ รยี นไปแลว้ เกย่ี วกบั การรบั ประทานอาหารใหป้ ลอดภยั ตอ่ สุขภาพ โดยครูอาจใช้ข่าวหรือสถานการณ์ที่เกี่ยวข้อง เช่น ข่าวเก่ียวกับ การใสส่ ารเรง่ สีในอาหารให้หมูกิน จากนนั้ ครูใช้ค�ำถามดังต่อไปนี้ ๓๘.๑ จากขา่ วหรอื สถานการณน์ ้ี หากเรารบั ประทานเนือ้ หมูนี้ จะปลอดภัย ต่อสุขภาพหรือไม่ เพราะเหตุใด (ไม่ปลอดภัย เพราะสารเร่งสีอาจ ตกคา้ งอยู่ในเนอื้ หมไู ด้)
80 ชดุ การจดั กจิ กรรมการเรยี นรู้ (สำ� หรบั ครผู สู้ อน) กลมุ่ สาระการเรยี นรวู้ ทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ภาคเรยี นท่ี ๑ ชน้ั ประถมศกึ ษาปที ี่ ๖ (ฉบบั ปรบั ปรงุ ) แผนการจัดการเรียนรู้ที่ ๑.๒ รบั ประทานอาหารใหเ้ หมาะสมกับเพศและวยั หนว่ ยการเรยี นรทู้ ่ี ๑ สารอาหารกบั ระบบยอ่ ยอาหาร หน่วยย่อยที่ ๑ อาหารกับการรบั ประทานอาหาร เวลา ๔ ชั่วโมง ช้นั ประถมศึกษาปีที่ ๖ กลุ่มสาระการเรยี นร้วู ิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี รายวิชาวทิ ยาศาสตร์ ๓๘.๒ ถา้ เราไมท่ ราบในเรอื่ งน้ี เราจะมแี นวทางการรบั ประทานเนอื้ หมนู อี้ ยา่ งไร ใหป้ ลอดภยั ต่อสขุ ภาพ (นกั เรียนตอบตามความเข้าใจของตนเอง เชน่ สงั เกตเนอ้ื หมสู ดทซ่ี อื้ มสี ไี มค่ วรแดงเกนิ ไป ทำ� ใหส้ กุ กอ่ นรบั ประทาน อาหาร) ๓๘.๓ ในการรับประทานอาหารแต่ละวัน นอกจากต้องรับประทานอาหาร ให้ปลอดภัยต่อสุขภาพแล้ว เราต้องค�ำนึงเก่ียวกับเรื่องอะไรอีกบ้าง (ตอ้ งรบั ประทานทานอาหารใหไ้ ดส้ ารอาหารครบถว้ น ไดป้ รมิ าณพลงั งาน ที่เหมาะสมกับเพศ วัย และกิจกรรมท่ีทำ� และได้สัดส่วนของปริมาณ อาหารตามธงโภชนาการ) ๓๙. ครูแจ้งจดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้ของช่ัวโมงน้ใี หน้ ักเรยี นทราบ ขนั้ สอน (๕๐ นาท)ี ๔๐. ครใู หน้ กั เรยี นชว่ ยกนั สรปุ แนวคดิ รวบยอดของความรทู้ ไี่ ดเ้ รยี นไปตงั้ แตช่ ว่ั โมงท่ี ๑-๓ อกี ครง้ั ในรปู แบบของผงั แนวคดิ ในกระดาษปรฟู๊ แลว้ ใหน้ กั เรยี นแตล่ ะกลมุ่ ตดิ ผลงานรอบหอ้ งเรยี น แลว้ นกั เรยี นทง้ั ชนั้ เดนิ ดผู ลงานเพอื่ น หากผงั แนวคดิ ของนกั เรยี นยงั ไมถ่ ูกต้อง ครชู ว่ ยแกไ้ ขให้ถกู ต้อง ตัวอยา่ งผงั แนวคดิ เช่น
ชดุ การจดั กจิ กรรมการเรยี นรู้ (สำ� หรบั ครผู สู้ อน) กลมุ่ สาระการเรยี นรวู้ ทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ภาคเรยี นท่ี ๑ ชน้ั ประถมศกึ ษาปที ่ี ๖ (ฉบบั ปรบั ปรงุ ) 81 แผนการจัดการเรยี นรทู้ ่ี ๑.๒ รบั ประทานอาหารใหเ้ หมาะสมกบั เพศและวัย หนว่ ยการเรยี นรทู้ ี่ ๑ สารอาหารกบั ระบบยอ่ ยอาหาร หน่วยยอ่ ยที่ ๑ อาหารกับการรบั ประทานอาหาร เวลา ๔ ชวั่ โมง ชนั้ ประถมศึกษาปีที่ ๖ กลมุ่ สาระการเรียนรู้วิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี รายวชิ าวทิ ยาศาสตร์ การรับประทานอาหารใน ๑ วนั เพอ่ื ให้ ร่างกายเจรญิ เติบโตและมีสุขภาพดี ท่เี หมาะสมกบั เพศและวัย ควร รบั ประทานอาหารต่าง ๆ ทม่ี ี สารอาหาร ปริมาณพลังงานจากอาหาร สัดส่วนของปริมาณอาหาร ความปลอดภัยตอ่ สขุ ภาพ จนครบทัง ทมี่ ี ตาม ๖ ประเภท ความเหมาะสมกับเพศ วยั และกิจกรรมทที่ า ปริมาณในธงโภชนาการ เชน่ • อาหารท่ีสะอาด สด ใหม่ ไดแ้ ก่ เช่น ได้แก่ • สกุ • โปรตนี • คารโ์ บไฮเดรต เพศชาย อายุ ๙ ปี • ขา้ ว-แป้ง วันละ ๘ ทัพพี • ไมเ่ นา่ เสีย เรยี นหรอื ทางานปกติ • ผัก วนั ละ ๔ ทัพพี • ไม่หมดอายุ • ไขมนั ต้องการพลงั งาน ๑,๗๐๐ กโิ ลแคลรี • ผลไม้ วนั ละ ๓ ส่วน • มฝี าปดิ ภาชนะที่บรรจุ • วิตามนิ • นม วันละ ๓ แกว้ • เกลือแร่ • เนอื สัตว์ วนั ละ ๖ ช้อนกนิ ขา้ ว • นา • นามนั นาตาล เกลอื วันละน้อย ๆ ๔๑. นกั เรยี นตอบคำ� ถามหลงั จากทำ� กจิ กรรมในใบงาน ๐๑ หนา้ ๒๙ และรว่ มกนั เฉลยค�ำตอบ ๔๒. นกั เรียนทำ� ใบงาน ๐๒ แบบฝึกหัด เร่อื งการรับประทานอาหารให้เหมาะสม กับเพศและวัย หน้า ๓๐–๓๒ และร่วมกนั เฉลยค�ำตอบ ขั้นสรปุ (๕ นาที) ๔๓. ครแู ละนกั เรยี นรว่ มกนั อภปิ รายและลงขอ้ สรปุ ไดว้ า่ ในแตล่ ะวนั รา่ งกายของเรา แตล่ ะคนควรไดร้ บั สารอาหารทง้ั ๖ ประเภท เพราะสารอาหารแตล่ ะประเภท มปี ระโยชนต์ อ่ รา่ งกายแตกตา่ งกนั และควรไดร้ บั ปรมิ าณพลงั งานจากอาหาร
82 ชดุ การจดั กจิ กรรมการเรยี นรู้ (สำ� หรบั ครผู สู้ อน) กลมุ่ สาระการเรยี นรวู้ ทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ภาคเรยี นท่ี ๑ ชน้ั ประถมศกึ ษาปที ี่ ๖ (ฉบบั ปรบั ปรงุ ) แผนการจัดการเรยี นรทู้ ่ี ๑.๒ รบั ประทานอาหารให้เหมาะสมกบั เพศและวยั หนว่ ยการเรยี นรทู้ ี่ ๑ สารอาหารกบั ระบบยอ่ ยอาหาร หนว่ ยยอ่ ยที่ ๑ อาหารกับการรับประทานอาหาร เวลา ๔ ชวั่ โมง ชั้นประถมศกึ ษาปีที่ ๖ กลุ่มสาระการเรยี นร้วู ิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี รายวชิ าวทิ ยาศาสตร์ ทร่ี บั ประทานเพยี งพอกบั ความตอ้ งการของรา่ งกายซง่ึ ขน้ึ อยกู่ บั เพศ วยั และ กิจกรรมที่ท�ำ รวมท้ังให้ได้สัดส่วนของอาหารเหมาะสมตามธงโภชนาการ รวมทง้ั ยงั ตอ้ งไดส้ ดั สว่ นตามธงโภชนาการ และตอ้ งคำ� นงึ ถงึ ความปลอดภยั ของอาหารทีม่ ตี อ่ สุขภาพอีกด้วย
แบบประเมินดา้ นคุณธรรม แผนการจัดการเรยี นรทู้ ่ี ๑.๒ รบั ประทานอาหารให้เหมาะสมกับเพศและวยั ช่ือผู้ประเมนิ /กลมุ่ ประเมิน ................................................................................................................. ช่ือกล่มุ รบั การประเมิน ....................................................................................................................... ประเมนิ ผลครั้งท.่ี ................... วันท่.ี ....................... เดือน................................. พ.ศ.......................... เรื่อง .................................................................................................................................................... ที่ ลักษณะ/พฤตกิ รรมบง่ ช้ี ระดับพฤตกิ รรม คะแนนทีไ่ ด้ เกดิ = ๑ ไมเ่ กดิ = ๐ ๑. ม่งุ มนั่ ในการท�ำงาน ๒. ใฝ่เรยี นรู้ ๓ มีวนิ ัย รวมคะแนนที่ได้ทง้ั หมด = …………… คะแนน คณุ ลกั ษณะตามจดุ ประสงคด์ ้านคุณธรรม - มากกวา่ ๘๐ % ได้ ๓ คะแนน - ๕๐ % - ๗๙ % ได้ ๒ คะแนน - ตำ�่ กวา่ ๕๐ % ได้ ๑ คะแนน ชดุ การจดั กจิ กรรมการเรยี นรู้ (สำ� หรบั ครผู สู้ อน) กลมุ่ สาระการเรยี นรวู้ ทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ภาคเรยี นท่ี ๑ ชน้ั ประถมศกึ ษาปที ่ี ๖ (ฉบบั ปรบั ปรงุ ) 83
แบบประเมนิ ด้านทักษะกระบวนการทางวทิ ยาศาสตรใ์ นการท�ำกจิ กรรม แผนการจัดการเรียนรทู้ ี่ ๑.๒ รบั ประทานอาหารให้เหมาะสมกับเพศและวัย เกณฑ์การประเมนิ มดี งั น้ี ๓ หมายถงึ ดี ๒ หมายถงึ พอใช้ ๑ หมายถึง ควรปรับปรุง สิง่ ทป่ี ระเมิน คะแนน การจัดกระทำ� และสื่อความหมายข้อมูล การลงความเห็นจากขอ้ มูล การตีความหมายข้อมูลและลงขอ้ สรปุ รวมคะแนน เกณฑก์ ารประเมิน ทกั ษะกระบวนการ ดี (๓) ระดับความสามารถ ควรปรับปรุง (๑) ทางวิทยาศาสตร์ พอใช้ (๒) การจัดกระท�ำและ สามารถน�ำข้อมูลรายการ สามารถน�ำข้อมูลรายการ สามารถน�ำข้อมูลรายการ สอ่ื ความหมายขอ้ มลู อ า ห า ร ท่ี ต น เ อ ง เ ลื อ ก อ า ห า ร ที่ ต น เ อ ง เ ลื อ ก อ า ห า ร ที่ ต น เ อ ง เ ลื อ ก รบั ประทานใน ๑ วนั มาจดั รบั ประทานใน ๑ วนั มาจดั รบั ประทานใน ๑ วัน มาจัด กระท�ำในรูปแบบต่าง ๆ กระท�ำในรูปแบบต่าง ๆ กระท�ำในรูปแบบต่าง ๆ รวมทั้งสื่อให้ผู้อ่ืนเข้าใจ รวมท้ังส่ือให้ผู้อ่ืนเข้าใจ รวมท้ังส่ือให้ผู้อ่ืนเข้าใจ ไดอ้ ยา่ งชดั เจน ดว้ ยตนเอง ได้อย่างชัดเจน โดยอาศัย ได้ไม่ชัดเจน ถึงแมจ้ ะไดร้ บั ค�ำแนะน�ำของครูหรือผู้อ่ืน ค�ำแนะน�ำจากครหู รอื ผู้อนื่ 84 ชดุ การจดั กจิ กรรมการเรยี นรู้ (สำ� หรบั ครผู สู้ อน) กลมุ่ สาระการเรยี นรวู้ ทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ภาคเรยี นที่ ๑ ชน้ั ประถมศกึ ษาปที ่ี ๖ (ฉบบั ปรบั ปรงุ )
เกณฑ์การประเมิน (ต่อ) ทักษะกระบวนการ ดี (๓) ระดบั ความสามารถ ควรปรบั ปรุง (๑) ทางวทิ ยาศาสตร์ พอใช้ (๒) การลงความเห็น สามารถลงความเห็นจาก สามารถลงความเห็นจาก สามารถลงความเห็นจาก จากข้อมูล ข้อมูลได้อย่างถูกต้อง ข้อมูลได้อย่างถูกต้อง ข้อมูลเร่ืองการรับประทาน และชัดเจนด้วยตนเอง และชัดเจน โดยอาศัย อาหารใน ๑ วันได้ แต่ไม่ ว่าการรับประทานอาหาร คำ� แนะนำ� ของครหู รือผู้อ่ืน ครบถว้ นทกุ ประเดน็ ถงึ แม้ ใน ๑ วัน ต้องใหร้ ่างกาย ว่าการรับประทานอาหาร จะได้รับค�ำแนะน�ำจากครู ได้รับสารอาหารครบ ใน ๑ วัน ต้องให้ร่างกาย หรอื ผู้อ่นื ทุกประเภท ได้สัดส่วน ไ ด ้ รั บ ส า ร อ า ห า ร ค ร บ ตามธงโภชนาการ ไดป้ รมิ าณ ทุกประเภท ได้สัดส่วน พ ลั ง ง า น เ พี ย ง พ อ กั บ ตามธงโภชนาการ ไดป้ รมิ าณ ความตอ้ งการของรา่ งกาย พ ลั ง ง า น เ พี ย ง พ อ กั บ รวมท้ังต้องรับประทาน ความต้องการของร่างกาย อ า ห า ร ท่ี ป ล อ ด ภั ย ต่อ รวมท้ังต้องรับประทาน สขุ ภาพได้ อ า ห า ร ที่ ป ล อ ด ภั ย ต่อ สขุ ภาพได้ การตีความหมาย สามารถตีความหมาย สามารถตคี วามหมายขอ้ มลู สามารถตีความหมายข้อมลู ขอ้ มลู และลงขอ้ สรปุ ข้ อมู ลแ ละ ลง ข้ อส รุ ป และลงขอ้ สรปุ จากการสบื คน้ และลงขอ้ สรปุ จากการสบื คน้ จากการสืบค้นข้อมูล ข้อมูลและการวิเคราะห์ ข้อมูลและการวิเคราะห์ได้ แ ล ะ ก า ร วิ เ ค ร า ะ ห ์ ไ ด ้ ถู ก ต ้ อ ง โดยอาศัย ไมค่ รบทกุ ประเดน็ ถงึ แมจ้ ะ ได้ถูกต้อง ด้วยตนเอง ค�ำแนะน�ำของครูหรือผู้อ่ืน ได้รับค�ำแนะน�ำจากครู ว่าใ น แต่ล ะ วั น ค ว ร วา่ ในแตล่ ะวนั ควรรบั ประทาน หรอื ผอู้ น่ื รับประทานอาหารให้ได้ อาหารให้ได้สารอาหาร สารอาหารทั้ง ๖ ประเภท ท้ัง ๖ ประเภท และควร และควรไดป้ รมิ าณพลงั งาน ได้ปริมาณพลังงานเพียง เพียงพอกับความต้องการ พอกับความต้องการของ ของร่างกาย ได้สัดส่วน ร่างกาย ได้สัดส่วนตาม ตามธงโภชนาการ และตอ้ ง ธงโภชนาการ และต้อง ค�ำนึงถึงความปลอดภัย ค�ำนึงถึงความปลอดภัย ของอาหารท่ีมีต่อสุขภาพ ของอาหารท่ีมีต่อสุขภาพ ชดุ การจดั กจิ กรรมการเรยี นรู้ (สำ� หรบั ครผู สู้ อน) กลมุ่ สาระการเรยี นรวู้ ทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ภาคเรยี นท่ี ๑ ชน้ั ประถมศกึ ษาปที ่ี ๖ (ฉบบั ปรบั ปรงุ ) 85
เฉลยใบงาน 86 ชดุ การจดั กจิ กรรมการเรยี นรู้ (สำ� หรบั ครผู สู้ อน) กลมุ่ สาระการเรยี นรวู้ ทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ภาคเรยี นท่ี ๑ ชนั้ ประถมศกึ ษาปที ่ี ๖ (ฉบบั ปรบั ปรงุ )
ชอ่ื -สกุล เดือน ชั้น เลขท่ี บ. ๑.๑/ ผ. ๑.๒-๐๑ วนั ท ่ี พ.ศ. ใบงาน ๐๑ : การรับประทานอาหารให้เหมาะสมกับเพศและวัย บนั ทกึ ผลการทำ� กจิ กรรม เขียนล้อมรอบ คำ� ท่ีเลอื ก ฉนั อายุ ๑๒ ปี ปี ทำ� กจิ กรรมดงั น้ี (เรยี นหรอื ทำ� งานปกต/ิ ออกกำ� ลงั กายหรอื ใชแ้ รงงาน) ควตราไดรร้าบังป๑รมิ หานณว่ พยลทงั ี่ใงชานว้ ัดจาปกรกมิ าารณรบั อปารหะาทราชนนอิดาหตา่ารงในๆ๑ตวานัมธเทงโา่ ภกชบั น(เพ๑า,ศก๗ชา๐าร๐ย)กโิ ลแคลอรี อาหาร หนว่ ยทใ่ี ชว้ ัดปรมิ าณ ขา้ ว แปง้ เผอื ก มัน ๘ ทัพพี ผกั ๔ ทพั พี ผลไม้ ๓ ส่วน นม ๓ แก้ว เนอ้ื สัตว์ ๖ ชอ้ นกนิ ข้าว นำ�้ มัน น้�ำตาล วนั ละนอ้ ย ๆ ชดุ การจดั กจิ กรรมการเรยี นรู้ (สำ� หรบั ครผู สู้ อน) กลมุ่ สาระการเรยี นรวู้ ทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ภาคเรยี นที่ ๑ ชน้ั ประถมศกึ ษาปที ี่ ๖ (ฉบบั ปรบั ปรงุ ) 8877
8888 ชดุ การจดั กจิ กรรมการเรยี นรู้ (สำ� หรบั ครผู สู้ อน) กลมุ่ สาระการเรยี นรวู้ ทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ภาคเรยี นที่ ๑ ชน้ั ประถมศกึ ษาปที ี่ ๖ (ฉบบั ปรบั ปรงุ ) ผลการสำ� รวจและสบื ค้นข้อมลู ทำ� เคร่อื งหมาย √ ชอื่ -สกลุ วนั ที ่ ตาราง ๒ อาหาร ปรมิ าณพลงั งาน สว่ นประกอบของอาหาร ปรมิ าณและสารอาหาร ในชอ่ งสารอาหารที่ ทพี่ บในสว่ นประกอบของอาหารทต่ี นเองรบั ประทานใน ๑ วนั ปรมิ าณของ ชอื่ อาหาร ปริมาณพลงั งาน สว่ นประกอบ สว่ นประกอบ โปรตนี สารอาหารทพ่ี บ วติ ามนิ นำ้� เดอื น (กโิ ลแคลอร)ี ของอาหาร โดยประมาณ (หนว่ ย) คารโ์ บไฮเดรต ไขมนั เกลอื แร่ ข้าวผดั ปใู ส่ไข่ ๖๑๐ ขา้ ว ๒ ทพั พี √ ๑ จาน ปู ๔ ชอ้ นกินขา้ ว √ √√ ไข่ ๒ ช้อนกนิ ขา้ ว √ √ √ √√ ช้ัน เลขที่ แครร์ อท ๐.๑ ทพั พี √√ พ.ศ. น�ำ้ มนั ๕ ช้อนชา √ น�้ำตาล ๑ ช้อนชา √ นำ�้ ปลา ๑ ชอ้ นชา √ √√ ส้ม ๑ ลกู ๓๒ ๑ ส่วน √ √√ น้ำ� ๑ แกว้ √ บ. ๑.๑/ ผ. ๑.๒-๐๑
ชดุ การจดั กจิ กรรมการเรยี นรู้ (สำ� หรบั ครผู สู้ อน) กลมุ่ สาระการเรยี นรวู้ ทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ภาคเรยี นที่ ๑ ชน้ั ประถมศกึ ษาปที ่ี ๖ (ฉบบั ปรบั ปรงุ ) 8899 ตาราง ๒ อาหาร ปรมิ าณพลงั งาน สว่ นประกอบของอาหารปรมิ าณและสารอาหารทพ่ี บในสว่ นประกอบของอาหารทต่ี นเอง ชื่อ-สกุล รับประทานใน ๑ วัน (ตอ่ ) วันที ่ ชอ่ื อาหาร ปริมาณพลงั งาน ส่วนประกอบ ปรมิ าณของ สารอาหารทพ่ี บ นำ้� เดือน (กิโลแคลอร)ี ของอาหาร สว่ นประกอบ คารโ์ บไฮเดรต ไขมนั เกลอื แร่ โดยประมาณ (หนว่ ย) โปรตนี วติ ามนิ นักเรียนบันทึกช่ืออาหารและข้อมลู ของอาหารทตี่ นเองรบั ประทาน ช้นั เลขที่ พ.ศ. บ. ๑.๑/ ผ. ๑.๒-๐๑
9900 ชดุ การจดั กจิ กรรมการเรยี นรู้ (สำ� หรบั ครผู สู้ อน) กลมุ่ สาระการเรยี นรวู้ ทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ภาคเรยี นที่ ๑ ชน้ั ประถมศกึ ษาปที ี่ ๖ (ฉบบั ปรบั ปรงุ ) ตาราง ๒ อาหาร ปรมิ าณพลงั งาน สว่ นประกอบของอาหารปรมิ าณและสารอาหารทพ่ี บในสว่ นประกอบของอาหารทต่ี นเอง ชอื่ -สกลุ รบั ประทานใน ๑ วัน (ต่อ) วนั ที ่ ชอื่ อาหาร ปรมิ าณพลังงาน สว่ นประกอบ ปรมิ าณของ โปรตนี สารอาหารทพ่ี บ วติ ามนิ นำ้� เดอื น (กโิ ลแคลอรี) ของอาหาร สว่ นประกอบ คารโ์ บไฮเดรต ไขมนั เกลอื แร่ โดยประมาณ (หนว่ ย) นักเรยี นบันทกึ ชื่ออาหารและข้อมลู ของอาหารทตี่ นเองรับประทาน ช้ัน เลขที่ พ.ศ. บ. ๑.๑/ ผ. ๑.๒-๐๑
ช่อื -สกุล เดือน ช้นั เลขท่ี บ. ๑.๑/ ผ. ๑.๒-๐๑ วันท ี่ พ.ศ. ผลการค�ำนวณและการวิเคราะห์ สารอาหารทร่ี า่ งกายไดร้ บั (ครบ/ไมค่ รบ) ทกุ ประเภท ถา้ ไมค่ รบ สารอาหารทข่ี าดไดแ้ ก่ นกั เรียนบันทึกผลการวเิ คราะห์ของตนเอง ปริมาณพลงั งานท่ีได้รับจากอาหารที่รับแปนรวะคทำ� ตาอนบอเาชห่นารใน ๑ วัน เทา่ กบั กิโลแคลอรี ๑. อาหารเชา้ = ๕๕๐ ๒. อาหารกลางวัน = ๗๘๐ กโิ ลแคลอรี ๓. อาหารเย็น = ๔๓๐ กโิ ลแคลอรี ๔. อ่นื ๆ = กโิ ลแคลอรี รวมปรมิ าณพลังงานทง้ั หมดเท่ากบั ๑,๗๖๐ สรุป นักเรียนได้รับปรมิ าณพลงั งานทไ่ี ด้รบั จากอาหารท่รี บั ประทานใน ๑ วนั √ มากเกินไป พอดี น้อยเกนิ ไป ซ่งึ (เหมาะสม/ไมเ่ หมาะสม) กบั เพศและวยั ชดุ การจดั กจิ กรรมการเรยี นรู้ (สำ� หรบั ครผู สู้ อน) กลมุ่ สาระการเรยี นรวู้ ทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ภาคเรยี นที่ ๑ ชน้ั ประถมศกึ ษาปที ี่ ๖ (ฉบบั ปรบั ปรงุ ) 9911
ชื่อ-สกลุ เดือน ชัน้ เลขที่ บ. ๑.๑/ ผ. ๑.๒-๐๑ วนั ท ่ี พ.ศ. สัดส่วนของอาหารที่รับประทานใน ๑ วัน เทยี บกบั ธงโภชนาการ คำ� ตอบขนึ้ อยูก่ ับผลการสำ� รวจของนกั เรียน เติมตวั เลขสดั สว่ น ของอาหารท่ตี นเอง ธงโภชนาการ รบั ประทานใน ๑ วนั ลงในช่องวา่ ง ข้าวแป้ง ผลไม้ วนั ละ ๘ ทัพพี วนั ละ ๓ สว่ น ๖ ทพั พี ๗ สว่ น ผกั วนั ละ เ๖น้อื ชส้อตั นวก์ นิ ขา้ ว วันละ ๔ ทพั พี ๑๔ ชอ้ นกนิ ข้าว ๔ ทัพพี นม วนั ละ ๓ แกว้ ๑ แกว้ น้ำ� มนั น�้ำตาล เกลือ วันละน้อย ๆ ๓ ชอ้ นชา 9922 ชดุ การจดั กจิ กรรมการเรยี นรู้ (สำ� หรบั ครผู สู้ อน) กลมุ่ สาระการเรยี นรวู้ ทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ภาคเรยี นท่ี ๑ ชน้ั ประถมศกึ ษาปที ่ี ๖ (ฉบบั ปรบั ปรงุ )
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147
- 148
- 149
- 150
- 151
- 152
- 153
- 154
- 155
- 156
- 157
- 158
- 159
- 160
- 161
- 162
- 163
- 164
- 165
- 166
- 167
- 168
- 169
- 170
- 171
- 172
- 173
- 174
- 175
- 176
- 177
- 178
- 179
- 180
- 181
- 182
- 183
- 184
- 185
- 186
- 187
- 188
- 189
- 190
- 191
- 192
- 193
- 194
- 195
- 196
- 197
- 198
- 199
- 200
- 201
- 202
- 203
- 204
- 205
- 206
- 207
- 208
- 209
- 210
- 211
- 212
- 213
- 214
- 215
- 216
- 217
- 218
- 219
- 220
- 221
- 222
- 223
- 224
- 225
- 226
- 227
- 228
- 229
- 230
- 231
- 232
- 233
- 234
- 235
- 236
- 237
- 238
- 239
- 240
- 241
- 242
- 243
- 244
- 245
- 246
- 247
- 248
- 249
- 250
- 251
- 252
- 253
- 254
- 255
- 256
- 257
- 258
- 259
- 260
- 261
- 262
- 263
- 264
- 265
- 266
- 267
- 268
- 269
- 270
- 271
- 272
- 273
- 274
- 275
- 276
- 277
- 278
- 279
- 280
- 281
- 282
- 283
- 284
- 285
- 286
- 287
- 288
- 289
- 290
- 291
- 292
- 293
- 294
- 295
- 296
- 297
- 298
- 299
- 300
- 301
- 302
- 303
- 304
- 305
- 306
- 307
- 308
- 309
- 310
- 311
- 312
- 313
- 314
- 315
- 316
- 317
- 318
- 319
- 320
- 321
- 322
- 323
- 324
- 325
- 326
- 327
- 328
- 329
- 330
- 331
- 332
- 333
- 334
- 335
- 336
- 337
- 338
- 339
- 340
- 341
- 342
- 343
- 344
- 345
- 346
- 347
- 348
- 349
- 350
- 351
- 352
- 353
- 354
- 355
- 356
- 357
- 358
- 359
- 360
- 361
- 362
- 363
- 364
- 365
- 366
- 367
- 368
- 369
- 370
- 371
- 372
- 373
- 374
- 375
- 376
- 377
- 378
- 379
- 380
- 381
- 382
- 383
- 384
- 385
- 386
- 387
- 388
- 389
- 390
- 391
- 392
- 393
- 394
- 395
- 396
- 397
- 398
- 399
- 400
- 401
- 402
- 403
- 404
- 405
- 406
- 407
- 408
- 409
- 410
- 411
- 412
- 413
- 414
- 415
- 416
- 417
- 418
- 419
- 420
- 421
- 422
- 423
- 424
- 425
- 426
- 427
- 428
- 429
- 430
- 431
- 432
- 433
- 434
- 435
- 436
- 437
- 438
- 439
- 440
- 441
- 442
- 443
- 444
- 445
- 446
- 447
- 448
- 449
- 450
- 451
- 452
- 453
- 454
- 455
- 456
- 457
- 458
- 459
- 460
- 461
- 462
- 463
- 464
- 465
- 466
- 467
- 468
- 469
- 470
- 471
- 472
- 473
- 474
- 475
- 476
- 477
- 1 - 50
- 51 - 100
- 101 - 150
- 151 - 200
- 201 - 250
- 251 - 300
- 301 - 350
- 351 - 400
- 401 - 450
- 451 - 477
Pages: