Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore 64-08-04-คู่มือครู สังคมศึกษา ป.4.-3 PDF

64-08-04-คู่มือครู สังคมศึกษา ป.4.-3 PDF

Published by elibraryraja33, 2021-08-04 07:18:20

Description: 64-08-04-คู่มือครู สังคมศึกษา ป.4.-3 PDF

Search

Read the Text Version

หนว่ ยการเรยี นรทู้ ี่ ๒ เร่อื ง ภูมิใจในท้องถ่นิ ๑๐๙๑ แบบประเมินใบงาน คำชี้แจง ให้ครผู สู้ อนประเมินใบงานของนักเรยี นแล้วใหท้ ำเคร่ืองหมาย ✓ ลงในช่องที่ตรงกบั ระดับคะแนน ลำดับท่ี ชือ่ –สกลุ การรว่ ม การรับฟัง ความ ขยนั หมั่นเพยี ร ตรงต่อเวลา รวม กจิ กรรม ความคิดเหน็ รบั ผดิ ชอบ ๒๐ คะแนน ของผู้อน่ื ๔๓๒๑๔๓๒๑๔๓๒๑๔ ๓ ๒ ๑๔๓๒๑ ๑ ๒ ๓ ๔ ๕ ลงชอ่ื ................................................................ผ้ปู ระเมนิ ...................../..................../................... เกณฑ์การให้คะแนน เกณฑ์การตัดสนิ คณุ ภาพ นกั เรยี นท่ไี ดร้ ะดบั คุณภาพพอใช้ข้นึ ไป ถือว่า ผ่าน ช่วงคะแนน ระดับคณุ ภาพ ๑๖-๒๐ ดีมาก ๑๑-๑๕ ดี ๖-๑๐ พอใช้ ๑-๕ ปรบั ปรุง

๑๐๙๒ คู่มือครแู ละแผนการจดั การเรียนรู้ ระดับประถมศกึ ษา ภาคเรยี นท่ี ๑ (ประวตั ิศาสตร์ ป.๔) แบบประเมินการสังเกตพฤติกรรมนักเรยี นรายบุคคล ช้นั ประถมศกึ ษาปีท่ี ๔ สงั เกตพฤติกรรมการเรยี นรู้ วนั ท.่ี ......................เดอื น.......................................พ.ศ......................... เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน ลำดบั ท่ี ช่ือ–สกลุ ความ ความสนใจ การ มีส่วน รวม ระดบั ตัง้ ใจใน และการ ตอบ ร่วมใน (๑๖) คณุ ภาพ การเรียน ซักถาม คำถาม กิจกรรม (๔) (๔) (๔) (๔) ๑ ๒ ๓ ๔ ๕ ๖ ๗ ๘ ๙ ๑๐ ลงชือ่ ........................................................ผปู้ ระเมนิ ...................../..................../................... เกณฑ์การใหค้ ะแนนดังตารางแนบทา้ ย เกณฑ์การประเมนิ ในการสังเกตพฤตกิ รรมนักเรยี นรายบุคคล ดงั น้ี ช่วงคะแนน ระดับคุณภาพ เกณฑก์ ารสรุปผลการประเมิน ๑๔-๑๖ ดีมาก นกั เรยี นท่ีไดร้ ะดบั คณุ ภาพพอใช้ขึน้ ไป ถือว่า ผ่าน ๑๑-๑๓ ดี ๘-๑๐ พอใช้ ๐-๗ ปรบั ปรงุ

หนว่ ยการเรียนร้ทู ี่ ๒ เรอื่ ง ภูมใิ จในท้องถน่ิ ๑๐๙๓ เกณฑ์การวัดและประเมินผลการสังเกตพฤติกรรมนักเรียนรายบคุ คล (Rubric) ประเดน็ เกณฑ์การให้คะแนน การประเมนิ ดีมาก (๔) ดี (๓) พอใช้ (๒) ตอ้ งปรับปรุง (๑) ๑. ความต้ังใจใน สนใจในการเรยี น สนใจในการเรียน สนใจในการเรยี น ไมส่ นใจใน การเรยี น ไมค่ ุยหรือเล่นกนั คยุ กันเลก็ น้อย คยุ กันและเลน่ กนั การเรียน คยุ และ ในขณะเรียน ในขณะเรยี น ในขณะเรียนเปน็ เล่นกันในขณะ บางครงั้ เรยี น ๒. ความสนใจและ มกี ารถามในหัวข้อท่ี มกี ารถามในหัวข้อ มกี ารถามในหวั ข้อ ไมถ่ ามในหวั ข้อที่ การซกั ถาม ตนไม่เข้าใจทุกเรอื่ ง ทต่ี นไม่เขา้ ใจเปน็ ทีต่ นไม่เขา้ ใจเปน็ ตนไม่เข้าใจและ และกล้าแสดงออก สว่ นมากและกล้า บางคร้ังและไม่ค่อย ไมก่ ลา้ แสดงออก แสดงออก กลา้ แสดงออก ๓. การตอบคำถาม ร่วมตอบคำถามใน รว่ มตอบคำถามใน รว่ มตอบคำถามใน ไมต่ อบคำถาม เรอื่ งท่ีครูถามและ เรื่องท่ีครถู ามและ เร่อื งที่ครถู ามเปน็ ตอบคำถามถูกทุกข้อ ตอบคำถาม บางครง้ั และตอบ ส่วนมากถกู คำถามถกู เป็น บางครั้ง ๔. มสี ่วนร่วมใน ร่วมมือและ รว่ มมอื และ รว่ มมือและ ไมม่ ีความรว่ มมือ กจิ กรรม ชว่ ยเหลอื เพื่อนใน ชว่ ยเหลอื เพ่อื น ชว่ ยเหลือเพื่อนใน ในขณะทำกจิ กรรม การทำกจิ กรรม เปน็ ส่วนใหญใ่ น การทำกจิ กรรม การทำกิจกรรม เป็นบางคร้งั

๑๐๙๔ คมู่ อื ครแู ละแผนการจดั การเรยี นรู้ ระดับประถมศึกษา ภาคเรียนท่ี ๑ (ประวตั ิศาสตร์ ป.๔) แบบประเมนิ การสังเกตพฤติกรรมการทำงานกลุ่ม ชน้ั ประถมศกึ ษาปที ่ี ๔ สังเกตพฤตกิ รรมการเรียนรู้ วันท.ี่ ......................เดือน......................................พ.ศ.............................. เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน ลำดบั ท่ี ชอ่ื กลุ่ม การ การสนทนา การ พฤติกรรม รวม ระดบั ปฏิสมั พันธ์ เร่อื ง ตดิ ต่อส่ือสาร การทำงาน (๑๖) คณุ ภาพ ๑ ๒ กนั ท่กี ำหนด กลุ่ม ๓ ๔ (๔) (๔) (๔) (๔) ๕ ๖ ๗ ๘ ๙ ๑๐ ลงชื่อ................................................................ผู้ประเมนิ ...................../..................../................... เกณฑ์การใหค้ ะแนนดังตารางแนบทา้ ย เกณฑ์การประเมนิ ในการสังเกตพฤติกรรมการทำงานกลุ่ม ดังนี้ ชว่ งคะแนน ระดบั คณุ ภาพ เกณฑก์ ารสรปุ ผลการประเมิน ๑๔-๑๖ ดมี าก นักเรยี นทไ่ี ดร้ ะดบั คุณภาพพอใชข้ นึ้ ไป ถือว่า ผ่าน ๑๑-๑๓ ดี ๘-๑๐ พอใช้ ๐-๗ ปรบั ปรงุ

หนว่ ยการเรยี นรทู้ ี่ ๒ เร่อื ง ภมู ิใจในท้องถนิ่ ๑๐๙๕ เกณฑก์ ารวดั และประเมินผลการสงั เกตพฤติกรรมนกั เรียนรายกลุม่ (Rubric) ประเดน็ เกณฑ์การใหค้ ะแนน การประเมนิ ดมี าก (๔) ดี (๓) พอใช้ (๒) ต้องปรับปรุง (๑) ๑. การ ร่วมมอื และช่วยเหลือ ปฏิสัมพันธ์กนั เพอ่ื นในการทำ ร่วมมือและ ร่วมมอื และ ไม่ใหค้ วามร่วมมือ กิจกรรม ชว่ ยเหลอื เพอ่ื นเป็น ชว่ ยเหลือเพอื่ นใน ในขณะทำกิจกรรม สว่ นใหญใ่ นการทำ การทำกจิ กรรมเป็น กิจกรรม บางคร้งั ๒. การสนทนา สนทนาตรงประเดน็ สนทนาตรงประเดน็ สนทนาตรงประเด็น สนทนาไมต่ รง เร่ืองท่ีกำหนด ครอบคลุมเนอ้ื หา ครอบคลุมเนอ้ื หา ประเดน็ บางส่วน ๓. การติดตอ่ มีการปรกึ ษาครูและ มีการปรึกษาครแู ละ มกี ารปรกึ ษาครแู ละ ไม่มีการปรกึ ษาครู สอ่ื สาร เพอ่ื นกลมุ่ อื่น ๆ เพอื่ นกล่มุ อน่ื ๆ เพ่อื นกลุ่มอ่ืน ๆ และเพื่อนกล่มุ อ่ืน ๆ เปน็ ส่วนใหญ่ เปน็ บางครงั้ ๔. พฤตกิ รรม มกี ารวางแผนอยา่ ง มีการวางแผนอยา่ ง มกี ารวางแผนอยา่ ง ไมม่ ีการวางแผน การทำงาน เป็นระบบ และแบง่ หนา้ ท่ขี องสมาชกิ เปน็ ระบบ และแบ่ง เป็นระบบ และแบ่ง อย่างเป็นระบบ ในกลุ่ม หน้าที่ของสมาชิก หนา้ ทีข่ องสมาชิก และไม่มกี ารแบง่ ในกลุม่ เปน็ ส่วนใหญ่ ในกลมุ่ เป็นบางคร้งั หน้าท่ขี องสมาชิก ในกลมุ่

๑๐๙๖ คูม่ ือครูและแผนการจดั การเรยี นรู้ ระดับประถมศกึ ษา ภาคเรียนที่ ๑ (ประวัตศิ าสตร์ ป.๔) แบบประเมินคุณลักษณะอนั พึงประสงค์ คำช้แี จง ใหผ้ ู้สอนสงั เกตพฤตกิ รรมของนักเรยี นในระหว่างเรียนและนอกเวลาเรียนแลว้ ขีด ลงในชอ่ งที่ ตรงกบั ระดับคะแนน รายการ พฤตกิ รรมการแสดงออก ระดบั การปฏิบัติ ประเมิน ๓๒๑ ๑. รกั ชาติ ๑.๑ ยนื ตรงเมื่อไดย้ นิ เพลงชาติ รอ้ งเพลงชาติได้ และบอกความหมาย ศาสน์ ของเพลงชาติ กษัตริย์ ๑.๒ ปฏบิ ัตติ นตามสทิ ธิและหนา้ ทข่ี องนักเรยี น ให้ความร่วมมือ ร่วมใจ ในการทำงานกบั สมาชิกในหอ้ งเรยี น ๑.๓ เขา้ รว่ มกจิ กรรมทีส่ ร้างความสามัคคี ปรองดอง และเป็นประโยชน์ ต่อโรงเรียนและชุมชน ๑.๔ เข้ารว่ มกิจกรรมทางศาสนาทต่ี นนับถือ ปฏิบตั ติ นตามหลกั ของ ศาสนา และเป็นตัวอย่างที่ดีของศาสนิกชน ๑.๕ เข้าร่วมกจิ กรรมและมีส่วนร่วมในการจัดกจิ กรรมทเ่ี กี่ยวกบั สถาบนั พระมหากษัตริย์ตามทีโ่ รงเรียนและชมุ ชนจดั ขึน้ ชน่ื ชมในพระราช กรณียกิจพระปรชี าสามารถของพระมหากษตั รยิ ์และพระราชวงศ์ ๒. มีวินยั ๒.๑ ปฏิบัติตามขอ้ ตกลง กฎเกณฑ์ ระเบยี บ ข้อบงั คบั ของครอบครัว รับผิดชอบ และโรงเรยี น มคี วามตรงต่อเวลาในการปฏิบตั ิกิจกรรมต่าง ๆ ใน ชีวติ ประจำวนั มคี วามรบั ผดิ ชอบ ๓. ใฝ่เรียนรู้ ๓.๑ ตง้ั ใจเรยี น ๓.๒ เอาใจใสใ่ นการเรยี นและมีความเพียรพยายามในการเรยี น ๓.๓ เข้ารว่ มกจิ กรรมการเรยี นรูต้ า่ ง ๆ ๓.๔ ศกึ ษาคน้ ควา้ หาความรู้จากหนงั สอื เอกสาร สิ่งพมิ พ์ สอ่ื เทคโนโลยีต่าง ๆ แหลง่ การเรียนรทู้ ั้งภายในและภายนอกโรงเรียน และ เลอื กใช้สื่อได้อยา่ งเหมาะสม ๓.๕ บันทกึ ความรู้ วเิ คราะห์ ตรวจสอบบางสิ่งทเ่ี รียนรู้ สรุปเปน็ องค์ความรู้ ๓.๖ แลกเปลีย่ นความรดู้ ว้ ยวิธกี ารตา่ ง ๆ และนำไปใชใ้ นชีวติ ประจำวัน ๔. มุ่งมน่ั ใน ๔.๑ มคี วามตั้งใจและพยายามในการทำงานท่ีไดร้ ับมอบหมาย การทำงาน ๔.๒ มคี วามอดทนและไม่ทอ้ แท้ต่ออุปสรรคเพื่อใหง้ านสำเร็จ ลงชื่อ................................................................ผปู้ ระเมนิ ...................../..................../...................

หนว่ ยการเรยี นรู้ท่ี ๒ เร่ือง ภูมิใจในท้องถ่ิน ๑๐๙๗ เกณฑ์การใหค้ ะแนน ๓ คะแนน หมายถึง ปฏิบตั หิ รือแสดงพฤติกรรมอย่างสม่ำเสมอ ๒ คะแนน หมายถึง ปฏิบตั ิหรอื แสดงพฤติกรรมบอ่ ยครงั้ ๑ คะแนน หมายถึง ปฏิบตั หิ รือแสดงพฤตกิ รรมบางคร้งั ๐ คะแนน หมายถึง ปฏิบตั ิหรือแสดงพฤตกิ รรมนอ้ ยคร้งั เกณฑ์การให้คะแนนดงั ตารางแนบท้าย เกณฑก์ ารประเมนิ คณุ ลักษณะอันพึงประสงค์ ดงั น้ี ช่วงคะแนน ระดับคุณภาพ เกณฑ์การสรปุ ผลการประเมิน ๒๒-๒๗ ดมี าก นักเรยี นท่ีได้ระดับคณุ ภาพผา่ นขน้ึ ไป ถือวา่ ผ่าน ๑๕-๒๑ ดี ๘-๑๔ ผ่าน ๐-๗ ไม่ผ่าน

๑๐๙๘ ค่มู อื ครแู ละแผนการจดั การเรียนรู้ ระดับประถมศึกษา ภาคเรียนที่ ๑ (ประวตั ศิ าสตร์ ป.๔) แบบประเมนิ สมรรถนะสำคญั ของผเู้ รยี น คำชแี้ จง ใหผ้ ู้สอนสังเกตพฤติกรรมของนักเรยี นในระหว่างเรยี นและนอกเวลาเรยี นแล้วขีด ลงในชอ่ งที่ ตรงกับระดับคะแนน รายการประเมนิ พฤตกิ รรมการแสดงออก ระดบั การปฏบิ ตั ิ ๓๒๑ ๑. ความสามารถใน ๑.๑ มคี วามสามารถในการรับ–ส่งสาร การสอื่ สาร ๑.๒ มคี วามสามารถในการถา่ ยทอดความรู้ ความคดิ ความเขา้ ใจของตนเอง โดยใช้ภาษาอย่างเหมาะสม ๒. ความสามารถใน ๒.๑ มีทักษะในการคดิ นอกกรอบอยา่ งสร้างสรรค์ การคิด ๒.๒ มคี วามสามารถในการคิดอย่างมรี ะบบ ๓. ความสามารถใน ๓.๑ สามารถทำงานกลมุ่ รว่ มกบั ผู้อื่นได้ การใชท้ ักษะชวี ิต ๓.๒ นำความรทู้ ่ีได้ไปใชป้ ระโยชน์ในชีวิตประจำวัน ลงช่ือ................................................................ผู้ประเมิน ...................../..................../................... เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน ๓ คะแนน หมายถึง ปฏิบตั หิ รอื แสดงพฤติกรรมอยา่ งสม่ำเสมอ ๒ คะแนน หมายถึง ปฏบิ ัตหิ รือแสดงพฤตกิ รรมบอ่ ยครั้ง ๑ คะแนน หมายถึง ปฏบิ ัติหรอื แสดงพฤตกิ รรมบางครงั้ ๐ คะแนน หมายถึง ปฏิบัติหรอื แสดงพฤติกรรมน้อยครง้ั เกณฑ์การใหค้ ะแนนดงั ตารางแนบทา้ ย เกณฑ์การประเมินสมรรถนะสำคัญของผู้เรียน ดงั น้ี ชว่ งคะแนน ระดับคุณภาพ เกณฑ์การสรปุ ผลการประเมิน ๑๖-๑๘ ดมี าก นกั เรยี นทไ่ี ดร้ ะดบั คุณภาพผ่านขน้ึ ไป ถือวา่ ผ่าน ๑๓-๑๕ ดี ๑๐-๑๒ ผ่าน ๐-๙ ไมผ่ า่ น

หน่วยการเรียนรทู้ ่ี ๒ เรื่อง ภมู ใิ จในท้องถนิ่ ๑๐๙๙ แผนการจัดการเรียนร้ทู ี่ ๕ เรอ่ื ง แคว้นโบราณในดินแดนไทย (แคว้นทวารวดี แควน้ ละโว)้ หน่วยการเรยี นร้ทู ี่ ๒ เรอ่ื ง ภมู ิใจในท้องถน่ิ เวลา ๑ ชว่ั โมง กลมุ่ สาระการเรยี นร้สู งั คมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม รายวิชาประวตั ศิ าสตร์ ชัน้ ประถมศกึ ษาปที ่ี ๔ ๑. มาตรฐานการเรยี นร/ู้ ตัวชว้ี ดั มาตรฐาน ส ๔.๒ เขา้ ใจพฒั นาการของมนุษยชาตจิ ากอดีตจนถงึ ปจั จบุ ัน ในดา้ นความสัมพันธ์และ การเปลี่ยนแปลงของเหตกุ ารณ์อยา่ งต่อเน่ือง ตระหนักถงึ ความสำคัญและสามารถ วิเคราะหผ์ ลกระทบทีเ่ กิดข้ึน ตวั ชวี้ ัด ป.๔/๑ อธิบายการตง้ั หลักแหล่งและพัฒนาการของมนุษยย์ คุ ก่อนประวตั ิศาสตร์และ ยุคประวัตศิ าสตร์โดยสังเขป ๒. สาระสำคัญ/ความคิดรวบยอด อาณาจักรทวารวดี เป็นอาณาจักรท่ีตั้งอยู่ในบริเวณที่ราบลุ่มแม่น้ำเจ้าพระยา มีศูนย์กลางอยู่บริเวณ นครปฐม สุพรรณบุรี ราชบุรี อาณาจักรละโว้หรืออาณาจักรลพบุรี เป็นอาณาจักรท่ีต้ังอยู่บริเวณลุ่มแม่น้ำ ลพบุรี ป่าสกั และบางปะกง ๓. จุดประสงคก์ ารเรียนรู้ ๓.๑ ด้านความรู้ ความเข้าใจ (K) อธิบายพัฒนาการของแคว้นทวารวดีและแคว้นละโว้ได้ ๓.๒ ดา้ นทกั ษะ/กระบวนการ (P) วเิ คราะห์พฒั นาการของแคว้นทวารวดีและแควน้ ละโวจ้ ากหลักฐานทางประวตั ิศาสตร์ ๓.๓ ดา้ นคณุ ลักษณะ เจตคติ ค่านิยม (A) เห็นความสำคัญของหลักฐานทางประวตั ิศาสตร์ท่แี สดงถึงพัฒนาการของแควน้ ทวารวดีและ แควน้ ละโว้ ๔. สาระการเรียนรู้ แควน้ โบราณในดนิ แดนไทย - แควน้ ทวารวดี - แควน้ ละโว้ ๕. สมรรถนะสำคญั ของผเู้ รยี น ๑. ความสามารถในการคิด ๒. ความสามารถในการแก้ปัญหา ๓. ความสามารถในการใช้ทกั ษะชีวติ ๖. คณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ ๑. รกั ชาติ ศาสน์ กษัตรยิ ์ ๒. มีวนิ ัย ๓. ใฝ่เรยี นรู้ ๔. มุ่งมนั่ ในการทำงาน ๗. กจิ กรรมการเรียนรู้

๑๑๐๐ ค่มู อื คร การจดั กจิ กรรมการเรียน แผนการจัดการเรียนรูท้ ี่ ๕ เรื่อง แคว้นโบราณ รายวชิ าประวตั ิศาสตร ลำดับที่ จุดประสงค์ ขัน้ ตอนการจัด เวลา แน ๑. การเรียนรู้ การเรียนรู้ ท่ใี ช้ กิจกรรมครู ขัน้ นำ ๑๐ ๑. ครูนำภาพหลักฐานท นาที ประวตั ิศาสตร์ทีแ่ สดงถงึ พฒั นาการของมนุษย์ในด ไทยสมัยแควน้ ทวารวดแี ละแควน้ ละโว้ ใหน้ กั เรยี นร่วมกันวเิ ครา ๒. ครตู ้ังประเดน็ คำถาม ๑) หลักฐานทางประวัต ในภาพคืออะไร ๒) หลักฐานทางประวตั ในภาพเป็นหลกั ฐานทาง ประวัติศาสตรป์ ระเภทใด ๒. ๑. อธบิ าย ข้ันสอน ๒๐ ๑. ครูให้นกั เรียนดูวิดโี อ เร พฒั นาการของ แคว้นทวารวดี นาที อาณาจักรทวารวดี [ฉบบั เ ๒. ครใู ห้นักเรยี นแบ่งกล

รูและแผนการจัดการเรียนรู้ ระดับประถมศกึ ษา ภาคเรียนท่ี ๑ (ประวัติศาสตร์ ป.๔) นรู้ ชนั้ ประถมศกึ ษาปที ี่ ๔ ณในดนิ แดนไทย (แควน้ ทวารวดี แควน้ ละโว้) ร์ จำนวน ๑ ช่วั โมง นวการจดั การเรยี นรู้ สอื่ การเรยี นรู้ การประเมนิ กจิ กรรมนกั เรียน การเรียนรู้ ทาง ๑. นักเรียนดภู าพหลักฐาน - PowerPoint - การสงั เกต ง ทางประวัติศาสตรท์ ีแ่ สดงถึง - ภาพหลักฐานทาง - การประเมิน ดินแดน พฒั นาการของมนุษยใ์ น ประวตั ศิ าสตร์สมยั ดินแดนไทยสมยั แควน้ แควน้ ทวารวดี จากนนั้ ทวารวดแี ละแคว้นละโว้ และแควน้ ละโว้ าะห์ ม ๒. นักเรียนตอบคำถาม ติศาสตร์ ๑) แนวคำตอบ พระปรางค์ สามยอด และพระพุทธรูป ติศาสตร์ ๒) แนวคำตอบ หลกั ฐาน ง ชั้นตน้ ท่ีไมเ่ ปน็ ลายลกั ษณ์ ด อกั ษร เรอ่ื ง ๑. นักเรียนดวู ิดโี อ เร่ือง อาณา- - วิดโี อ เรอื่ ง - การสงั เกต เขา้ ใจง่าย] จักรทวารวดี [ฉบับเข้าใจง่าย] อาณาจักรทวารวดี - การประเมิน ลมุ่ ศึกษา ๒. นักเรียนแบ่งกลมุ่ ศึกษา [ฉบบั เข้าใจง่าย]

หนว่ ยการเรยี นรูท้ ี่ ๒ เรือ่ ง ภมู ิใจในท้องถนิ่ ลำดับที่ จดุ ประสงค์ ขั้นตอนการจดั เวลา แน การเรยี นรู้ การเรยี นรู้ ทใี่ ช้ กิจกรรมครู และแควน้ ละโว้ ใบความรู้ เร่ือง แคว้นโบ ได้ ดินแดนไทย (แควน้ ทวาร ๒. วิเคราะห์ แคว้นละโว้) พัฒนาการของ ๓. ครใู หน้ ักเรียนรว่ มกนั แควน้ ทวารวดี สรุป โดยครูอธิบายเพ่มิ เ และแควน้ ละโว้ เขา้ ใจยิ่งข้ึน จากหลักฐานทาง ๔. ครตู ัง้ คำถามให้นกั เรีย ประวัตศิ าสตร์ รว่ มกนั วเิ คราะห์คำถามเ พัฒนาการของแคว้นทวา แคว้นละโวจ้ ากหลักฐาน ประวตั ิศาสตร์ในประเด็น ๑) ปัจจยั ใดที่ส่งเสริมให รวมกลมุ่ ของเมืองที่ต้ังอย ลุม่ แมน่ ำ้ เจ้าพระยาและ เปน็ แคว้นทวารวดี ๒) ธรรมจกั รศิลากบั กวา เป็นหลกั ฐานทางประวตั แสดงถึงพัฒนาการความ ทางด้านใดของแคว้นทว

๑๑๐๑ นวการจัดการเรียนรู้ ส่ือการเรียนรู้ การประเมนิ กจิ กรรมนักเรยี น การเรยี นรู้ - ใบความรู้ เรือ่ ง บราณใน เกยี่ วกับแคว้นโบราณใน แควน้ โบราณใน - การประเมิน รวดี ดนิ แดนไทย (แคว้นทวารวดี ดนิ แดนไทย - การตอบ (แคว้นทวารวดี คำถาม แคว้นละโว้) แควน้ ละโว)้ นอภิปราย ๓. นกั เรยี นรว่ มกันอภปิ ราย - แบบสังเกต เติมให้ สรปุ เนอื้ หาที่ศึกษา - แบบประเมิน - คำถาม ยน ๔. นักเรียนร่วมกันวิเคราะห์ เก่ียวกบั หาตอบ ารวดีและ นทาง น ดังน้ี ห้เกดิ การ ๑) แนวคำตอบ ปจั จยั ทาง ยบู่ ริเวณ ภมู ศิ าสตร์ กลมุ่ เมืองมีแม่นำ้ พฒั นา ไหลผา่ น ทำให้การติดตอ่ สะดวก างหมอบ ๒) แนวคำตอบ ความเช่ือ ตศิ าสตรท์ ่ี เกยี่ วกบั พุทธศาสนา มเจริญ วารวดี

๑๑๐๒ คูม่ ือคร ลำดับท่ี จุดประสงค์ ขนั้ ตอนการจัด เวลา แน การเรยี นรู้ การเรียนรู้ ท่ใี ช้ กิจกรรมครู ๓) เหตใุ ดงานศิลปกรรม จึงได้รบั อิทธิพลความเช่ือ ศาสนาพราหมณ-์ ฮนิ ดูแล ศาสนาพุทธ ๔) หลักฐานทางประวัติศ ของแควน้ ทวารวดี และแ ละโว้แสดงถึงพัฒนาการ นนั้ อยา่ งไร ๓. ขั้นปฏิบตั ิ ๑๐ ครใู หน้ กั เรียนแบง่ กลมุ่ นาที ๓ คน และใหน้ ักเรยี นทำ เรือ่ ง แควน้ โบราณในดิน (แคว้นทวารวดี แควน้ ล

รแู ละแผนการจดั การเรยี นรู้ ระดับประถมศกึ ษา ภาคเรียนท่ี ๑ (ประวัตศิ าสตร์ ป.๔) นวการจัดการเรยี นรู้ สอ่ื การเรียนรู้ การประเมิน กจิ กรรมนกั เรยี น การเรียนรู้ มของละโว้ ๓) แนวคำตอบ ละโว้เคยตก - การตรวจงาน - การสงั เกต อของ อย่ใู ต้อทิ ธิพลเขมร ซง่ึ เขมร - การประเมนิ ละ นบั ถือศาสนาพุทธและ พราหมณ-์ ฮินดู ส่งผลให้ละโว้ รับอิทธิพลของเขมรมาไว้ใน งานศลิ ปกรรม ศาสตร์ ๔. แนวคำตอบ การต้งั ถิ่น แคว้น ฐานอยูใ่ นทำเลท่ีติดตอ่ รในสมัย ค้าขายสะดวก ส่งผลให้เกิด ความม่ังค่ังและเจริญ ทางด้านศลิ ปวัฒนธรรม กล่มุ ละ นกั เรียนแบ่งกลุ่ม ทำใบงาน - ใบงานท่ี ๕ เรอื่ ง ำใบงาน เร่ือง แคว้นโบราณในดินแดน แควน้ โบราณใน นแดนไทย ไทย (แควน้ ทวารวดี แคว้น ดินแดนไทย ละโว)้ ละโว้) (แคว้นทวารวดี แควน้ ละโว)้ - แบบสงั เกต - แบบประเมิน

หนว่ ยการเรยี นรูท้ ี่ ๒ เรอ่ื ง ภมู ใิ จในท้องถิ่น ลำดับท่ี จุดประสงค์ ข้นั ตอนการจดั เวลา แน การเรยี นรู้ การเรยี นรู้ ทีใ่ ช้ กจิ กรรมครู ๔. ๓. เหน็ ความสำคญั ข้ันสรุป ๑๐ ๑. ครูสุ่มตัวแทนนักเรีย ของหลักฐานทาง นาที ๓ กลมุ่ นำเสนอผลงาน ประวัติศาสตรท์ ี่ ๒. ครแู ละนักเรียนร่วม แสดงถึง ตรวจสอบความถูกต้อง พัฒนาการของ ๓. ครแู ละนักเรยี นร่วม แควน้ ทวารวดี องค์ความรู้ และแคว้นละโว้

๑๑๐๓ นวการจัดการเรยี นรู้ ส่ือการเรยี นรู้ การประเมิน กิจกรรมนกั เรยี น การเรียนรู้ ยน ๑. นกั เรยี นตวั แทนกลมุ่ - ใบงานท่ี ๕ เรื่อง - การตรวจงาน - การสังเกต ๓ กลุม่ นำเสนอผลงาน แคว้นโบราณใน - การประเมิน มกนั ๒. นกั เรียนรว่ มกันตรวจสอบ ดินแดนไทย ง ความถกู ต้อง (แคว้นทวารวดี มกันสรุป ๓. นกั เรียนร่วมกันสรปุ องค์ แคว้นละโว้) ความรู้ - แบบสงั เกต - แควน้ ทวารวดเี กิดจาก - แบบประเมนิ การรวมกลุ่มของเมอื งทีต่ ัง้ อยู่ ในบรเิ วณล่มุ แมน่ ำ้ เจ้าพระยา เมืองเหลา่ นี้มี แม่นำ้ ไหลผ่านสะดวกในการ ติดต่อค้าขายกบั ตา่ งชาติ ทำ ให้เกดิ ความมง่ั ค่ังและมีความ เจริญทางดา้ นศลิ ปวัฒนธรรม - แควน้ ละโวเ้ กิดจากการ รวมกลุ่มของเมืองทีต่ ั้งอยู่ใน บรเิ วณลมุ่ แมน่ ำ้ ลพบรุ ี ปา่ สัก และบางปะกง สามารถตดิ ต่อ

๑๑๐๔ คู่มือคร ลำดบั ท่ี จุดประสงค์ ข้ันตอนการจดั เวลาท่ี แ การเรียนรู้ การเรียนรู้ ใช้ กจิ กรรมครู

รูและแผนการจดั การเรียนรู้ ระดับประถมศกึ ษา ภาคเรยี นที่ ๑ (ประวัตศิ าสตร์ ป.๔) แนวการจัดการเรยี นรู้ สอื่ การเรยี นรู้ การประเมิน กจิ กรรมนกั เรียน การเรยี นรู้ คา้ ขายกบั เมืองตา่ ง ๆ ทำให้ มีความมงั่ คั่งและเจริญด้าน ศลิ ปวัฒนธรรม - จากหลกั ฐานทาง ประวตั ศิ าสตรข์ องแควน้ ทวารวดแี ละแควน้ ละโว้ แสดงให้เหน็ ถงึ พฒั นาการ ของมนษุ ยโ์ บราณในดนิ แดน ไทยมีความเจรญิ ด้าน ศลิ ปวัฒนธรรมซงึ่ เกิดจาก ความมง่ั ค่ังจากการตดิ ต่อ ค้าขายกบั เมืองต่าง ๆ

หนว่ ยการเรยี นรู้ที่ ๒ เรื่อง ภูมิใจในท้องถิน่ ๑๑๐๕ ๘. ส่ือการเรยี นร/ู้ แหลง่ เรียนรู้ ๑. PowerPoint ภาพหลกั ฐานทางประวตั ศิ าสตร์สมยั แคว้นทวารวดแี ละแควน้ ละโว้ ๒. สอื่ วิดีโอ เร่อื ง อาณาจักรทวารวดี ฉบบั เขา้ ใจง่าย ๓. ใบความรู้ที่ ๒ เร่อื ง แควน้ โบราณในดนิ แดนไทย (แควน้ ทวารวดี แควน้ ละโว)้ ๔. ใบงานที่ ๕ เรอ่ื ง แคว้นโบราณในดนิ แดนไทย (แคว้นทวารวดี แควน้ ละโว้) ๙. การประเมนิ ผลรวบยอด ช้ินงานหรือภาระงาน ใบงานท่ี ๕ เรือ่ ง แคว้นโบราณในดินแดนไทย (แคว้นทวารวดี แคว้นละโว)้ การวดั และประเมินผล ประเด็นการวัด วิธีการ เครือ่ งมือ เกณฑก์ ารประเมิน และประเมนิ ผล ดา้ นความรู้ - ตรวจใบงาน - ใบงานท่ี ๕ เร่ือง แควน้ ผ่านเกณฑ์การประเมิน - การสงั เกต โบราณในดินแดนไทย ร้อยละ ๖๐ - การประเมนิ (แคว้นทวารวดี แควน้ ละโว้) - แบบสงั เกต - แบบประเมนิ ด้านทกั ษะ กระบวนการ - การสังเกต - แบบสังเกต ผ่านเกณฑ์ประเมินระดับ - การประเมิน - แบบประเมนิ คณุ ภาพพอใช้ขนึ้ ไป ด้านคุณลักษณะ เจตคติ สังเกตพฤติกรรม แบบประเมินพฤตกิ รรม ผ่านเกณฑป์ ระเมินระดบั คุณภาพพอใชข้ นึ้ ไป ด้านคุณลักษณะอนั พึง ประเมิน รักชาติ ศาสน์ แบบประเมนิ คุณลักษณะ ผ่านเกณฑ์ประเมินระดับ ประสงค์ กษัตรยิ ์ มีวนิ ยั อนั พึงประสงค์ คณุ ภาพพอใชข้ น้ึ ไป ใฝเ่ รียนรู้ มุง่ มนั่ ใน การทำงาน สมรรถนะสำคญั ประเมินความสามารถ แบบประเมินสมรรถนะ ผ่านเกณฑป์ ระเมนิ ระดบั ของผเู้ รียน ในการคดิ ความสามารถ สำคัญของผเู้ รยี น คุณภาพพอใชข้ ้นึ ไป ในการแก้ปญั หา ความสามารถในการใช้ ทักษะชีวติ

๑๑๐๖ คมู่ ือครแู ละแผนการจดั การเรียนรู้ ระดับประถมศึกษา ภาคเรยี นท่ี ๑ (ประวัติศาสตร์ ป.๔) ๑๐. บันทึกผลหลังสอน ผลการจัดการเรยี นการสอน …………………………………………………………………………………………………………..……………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………..……………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….. ความสำเรจ็ ....................................................................................................................................................................... ....... ............................................................................................................................ .................................................. ............................................................................................................................. ................................................. ปญั หาและอปุ สรรค ............................................................................................................................................. ................................. .................................................................................................. ............................................................................ ............................................................................................................................. ................................................. ขอ้ จำกดั การใช้แผนการจัดการเรียนรู้ และข้อเสนอแนะ/แนวทางการปรบั ปรุงแกไ้ ข ……………………………………………………………………………………………………………………………...………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………….………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………….……………… ลงชอื่ ……………………………………………………….ผู้สอน (…...........………………………………………….) วันท่ี……………เดอื น……………………………พ.ศ……………… ๑๑. ความคดิ เหน็ /ข้อเสนอแนะของผบู้ รหิ ารหรือผู้ท่ไี ดร้ บั มอบหมาย ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ลงช่อื ……………………………………………………….ผตู้ รวจ (…...........………………………………………….) วนั ท่ี……………เดอื น……………………………พ.ศ………………

หน่วยการเรียนรทู้ ี่ ๒ เร่อื ง ภูมิใจในท้องถิ่น ๑๑๐๗ ใบความรู้ท่ี ๒ เร่ือง แคว้นโบราณในดนิ แดนไทย (แควน้ ทวารวดี แควน้ ละโว้) หนว่ ยการเรยี นรู้ท่ี ๒ เรอ่ื ง ภมู ิใจในทอ้ งถ่นิ แผนการจดั การเรยี นร้ทู ี่ ๕ เรอ่ื ง แคว้นโบราณในดนิ แดนไทย (แคว้นทวารวดี แคว้นละโว้) รายวิชาประวตั ิศาสตร์ รหัสวชิ า ส๑๔๑๐๒ ภาคเรียนที่ ๑ ชัน้ ประถมศกึ ษาปีท่ี ๔ แคว้นทวารวดี ทวารวดีเป็นแควน้ โบราณท่ไี ด้รบั อิทธิพลจากวัฒนธรรมอินเดีย เจริญรุ่งเรอื งบรเิ วณภาคกลางของไทย และแผอ่ ิทธิพลไปอย่างกวา้ งขวาง ลักษณะชมุ ชนโบราณทไ่ี ด้รับอิทธิพลวัฒนธรรมทวารวดี ปรากฏขึ้นราวพุทธ ศตวรรษที่ ๑๑-๑๒ ทางฝ่ังตะวันตกของลุ่มแม่น้ำเจ้าพระยา สันนิษฐานว่ามีเมืองเก่า คือ อู่ทองและนครีชัยศรี โบราณเป็นศูนย์กลางการปกครองและวัฒนธรรมในช่วงแรก นอกจากนี้ยังมีเมืองโบราณกระจัดกระจายตามลุ่ม แม่น้ำหลายสาย เช่น เมืองคูบัว ราชบุรี ในบริเวณลุ่มแมน่ ้ำแมก่ ลอง เมืองศรเี ทพ เพชรบรู ณ์ ในบริเวณลุ่มแม่น้ำป่าสัก กลุ่มเมืองเหล่านี้สามารถจะติดต่อกับทะเลไดส้ ะดวก และมีชาวต่างชาติ เช่น จีน อินเดีย เปอรเ์ ซีย และอาหรับ นำเรือ เข้ามาค้าขายและตั้งถ่ินฐานชั่วคราวและยังสามารถติดต่อกับเมืองภายในทางน้ำได้ นอกจากน้ียังติดต่อกับคาบสมุทร ทางตอนใต้ ล่มุ น้ำบริเวณน้มี ีพ้ืนดนิ อุดมสมบรู ณ์ทำให้ผู้คนทอี่ ยู่ดินแดนภายในที่ไกลจากฝั่งรมิ แม่น้ำได้อพยพเข้ามาตั้ง หลักแหลง่ ทำมาหากนิ การติดต่อค้าขายกับคนต่างบ้านต่างเมือง ทำให้เมืองบริเวณลุ่มแม่น้ำเจ้าพระยาได้รับวัฒนธรรมจาก ชาติต่าง ๆ ที่เข้ามาติดต่อค้าขาย หรือมีความสัมพันธ์ด้านอ่ืนด้วย เช่น จากผู้ท่ีมาจากอินเดีย ชาวเมืองในลุ่ม แม่น้ำเจ้าพระยาได้รับเอาพุทธศาสนานิกายต่าง ๆ แบบแผนการปกครอง ศิลปวัฒนธรรมมาประยุกต์เข้ากับ ศิลปะพ้ืนเมือง การรับนับถือพุทธศาสนามีส่วนส่งเสริมให้เกิดความศรัทธาต่อพระมหากษัตริย์ มีการแบ่ง ประชาชนเป็นชนชั้นปกครองและชนช้ันท่ีอยู่ภายใต้การปกครอง รวมทั้งมีการนำภาษาบาลีและภาษาสันสฤต มาใช้ ศาสนาพุทธนิกายเถรวาทเป็นศาสนาท่ีได้รับความนิยมมากในแคว้นน้ี มีการรับเอาศิลปะของอินเดียมา ผสมผสานกับความเชื่อพื้นฐานของท้องถ่ินและพยายามพัฒนาเป็นลักษณะเฉพาะของตนเอง เรียกว่า ศิลปะ สมยั ทวารวดี ศลิ ปะสมัยทวารวดีท่ีสำคัญ ได้แก่ วงล้อพระธรรมจกั รและกวางหมอบ (หมายถึงพระพุทธเจ้าประทาน ปฐมเทศนา ณ ป่าอิสิปตนมฤคทายวัน เมืองพาราณสี ประเทศอินเดีย) พบท่ีนครชัยศรี จังหวัดนครปฐม และ พทุ ธรูปศิลาท่าประทับนง่ั ห้อยพระบาท ศลิ ปะสมัยทราวดีท่ปี ฐมเจดยี ์ จังหวดั นครปฐม เปน็ ตน้ ลักษณะเด่นของแคว้นที่ได้รับอิทธิพลวัฒนธรรมจากทวารวดี คือ เอกลักษณ์ทางศิลปะที่งดงามและ การวางผงั เมือง เชน่ เมืองอู่ทอง เมืองคูบัว และเมอื งศรเี ทพ แหล่งท่ีมา/อา้ งอิง https://sites.google.com/site/stitchja555/prawati-phu

๑๑๐๘ คู่มือครแู ละแผนการจัดการเรียนรู้ ระดับประถมศกึ ษา ภาคเรยี นท่ี ๑ (ประวตั ศิ าสตร์ ป.๔) แคว้นละโว้ แคว้นละโว้มีเมืองละโว้เป็นศูนย์กลางการปกครอง เร่ิมต้นจากแหล่งชุมชนในแม่น้ำ ๓ สาย คือ แม่น้ำ เจ้าพระยา ลพบุรี และป่าสัก การตั้งชุมชนในแหล่งอุดมสมบูรณ์ทำให้สามารถผลิตข้าวได้เป็นจำนวนมาก จึงกลายเป็นแหล่งข้าวท่ีสำคัญ และมีการติดต่อค้าขายทางทะเล ราวพุทธศตวรรษท่ี ๑๐-๑๒ ละโว้กลายเป็น เมืองขนาดใหญ่ และมีความเจริญรุ่งเรืองมากขึ้นเร่ือย ๆ จนมีอิทธิพลครอบคลุมดินแดนภาคกลางตอนบน ต้งั แตจ่ งั หวัดนครสวรรคล์ งมา รวมท้งั ภาคตะวนั ออกและภาคตะวนั ออกเฉยี งเหนือบางสว่ น เมืองละโว้มีมาต้ังแต่ พ.ศ. ๑๐๐๒ แล้ว และจากการขุดค้นทางโบราณคดี ปรากฏว่าต้ังแต่อำเภอชัยบาดาล ถึงอำเภอพัฒนานิคม จังหวัดลพบุรี ล้วนแต่มีหลักฐานเกี่ยวกับมนุษย์ในอดีตที่ยาวนานมาแล้ว จากชุมชนขนาดย่อม ขยายเป็นเมอื งเลก็ ๆ จนกระทัง่ รวมตัวกันเป็นอาณาจกั รหรือเขตปกครองท่ีเปน็ ส่วนย่อยของประเทศ ราวพทุ ธศตวรรษ ที่ ๑๐–๑๒ ละโว้กลายเป็นอาณาจักรหรือเมืองขนาดใหญ่แล้ว และในช่วงพุทธศตวรรษที่ ๑๓–๑๔ อาณาจักรละโว้ มีความรุ่งเรืองอยา่ งมาก โดยเฉพาะดา้ นพระพทุ ธศาสนา อาณาจักรละโว้ มีความเจริญมากข้ึนเร่อื ย ๆ จนมีอทิ ธิพลครอบคลุมดนิ แดนภาคกลางตอนบน ตัง้ แต่ จังหวัดนครสวรรค์เรื่อยมาจนถึงภาคตะวันออกและภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศไทยบางส่วน ศูนย์กลางของอาณาจักรละโว้ในตอนต้นสันนิษฐานว่าอยู่ที่เมืองลพบุรี และประมาณพุทธศตวรรษที่ ๑๗ ได้ย้ายมาอยู่ท่ีเมืองอโยธยา ภายหลังต่อมาเมื่อใน พ.ศ. ๑๘๙๓ ได้มีการสถาปนาอาณาจักรอยุธยาขึ้นนั้นให้ ละโว้กลายเป็นส่วนหนึ่งของอาณาจักรอยุธยา หลังจากพุทธศตวรรษที่ ๑๖ เป็นต้นมา อาณาจักรขอมได้ขยายอิทธิพลเข้ามายังบริเวณนี้ ทำให้ ความสำคัญของอาณาจักรละโว้ลดลง อิทธิพลศิลปวัฒนธรรมของขอมได้แพร่เข้ามาในดินแดนประเทศไทย โดยเฉพาะภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เช่น ปราสาทพนมรุ้ง จังหวัดบุรีรัมย์ ปราสาทหินพิมาย จังหวัด นครราชสีมา และเลยมาทางตะวันตก ได้แก่ ปราสาทเมอื งสิงห์ จังหวัดกาญจนบุรี และในช่วงเวลาดังกล่าวละโว้เป็น ศูนย์กลางที่สำคัญทางภาคกลาง จึงได้รับอิทธิพลศิลปะขอม โดยนำมาผสมผสานรูปแบบให้เป็นลักษณะเฉพาะของ ตนเอง ได้แก่ พระปรางค์สามยอด และเทวสถานปรางค์แขก จังหวดั ลพบุรี แม้ว่าละโว้จะได้รับอิทธิพลจากขอมไว้เป็นอันมาก แต่บางส่วนก็นำมาปรับปรุงผสมผสานกับอารย ธรรมเดิมของตนที่รับมาจากทวารวดีจนมีลักษณะเฉพาะตน ดังจะเห็นได้จากสถาปัตยกรรมพระปรางค์ สามยอดในตัวเมืองลพบุรี เทวรูปพระนารายณ์ทรงครุฑ ซ่ึงนอกจากเป็นส่งิ ที่แสดงให้เห็นถึงความเจริญรุ่งเรือง ทางด้านศลิ ปะแล้วยังแสดงใหเ้ ห็นถงึ ความเชอื่ ทผ่ี สมผสานระหวา่ งศาสนาพุทธและฮินดูด้วย แหลง่ ที่มา/อ้างองิ http://thailandhitstory.yolasite.com/อาณาจักรละโว้.php

หนว่ ยการเรียนรูท้ ี่ ๒ เรือ่ ง ภมู ิใจในท้องถน่ิ ๑๑๐๙ ใบงานที่ ๕ เรือ่ ง แควน้ โบราณในดนิ แดนไทย (แควน้ ทวารวดี แควน้ ละโว)้ หนว่ ยการเรยี นรทู้ ่ี ๒ เร่ือง ภูมใิ จในท้องถน่ิ แผนการจดั การเรียนร้ทู ่ี ๕ เรอื่ ง แควน้ โบราณในดินแดนไทย (แควน้ ทวารวดี แควน้ ละโว)้ รายวิชาประวัติศาสตร์ รหสั วิชา ส๑๔๑๐๒ ภาคเรยี นที่ ๑ ช้ันประถมศกึ ษาปีท่ี ๔ คำชีแ้ จง ใหน้ กั เรยี นเขยี นอธิบายพัฒนาการของแควน้ ทวารวดีและแคว้นละโวไ้ ด้ ให้ถกู ต้อง แคว้นทวารวดี แควน้ ละโว้ ทีต่ ้ัง/อาณาเขต ที่ตัง้ /อาณาเขต ........................................................................ ........................................................................ ........................................................................ ........................................................................ ........................................................................ ........................................................................ ........................................................................ ........................................................................ ........................................................................ ........................................................................ ศิลปวัฒนธรรม ศลิ ปวฒั นธรรม ........................................................................ ........................................................................ ....................................................................... ....................................................................... ....................................................................... ....................................................................... ....................................................................... ....................................................................... หลักฐานที่ค้นพบในสมยั แคว้นทวารวดี หลกั ฐานทคี่ น้ พบในสมัยแคว้นละโว้ ........................................................................ ........................................................................ ........................................................................ ........................................................................ ........................................................................ ........................................................................ ........................................................................ ........................................................................ ........................................................................ ........................................................................ ........................................................................ ........................................................................

๑๑๑๐ คมู่ อื ครูและแผนการจัดการเรียนรู้ ระดับประถมศึกษา ภาคเรยี นที่ ๑ (ประวตั ศิ าสตร์ ป.๔) เฉลยใบงานที่ ๕ เรือ่ ง แควน้ โบราณในดนิ แดนไทย (แคว้นทวารวดี แคว้นละโว้) หนว่ ยการเรียนรู้ที่ ๒ เร่ือง ภูมิใจในทอ้ งถ่นิ แผนการจดั การเรยี นรู้ที่ ๕ เร่อื ง แคว้นโบราณในดินแดนไทย (แควน้ ทวารวดี แควน้ ละโว)้ รายวิชาประวัติศาสตร์ รหัสวิชา ส๑๔๑๐๒ ภาคเรยี นที่ ๑ ชั้นประถมศกึ ษาปีท่ี ๔ คำช้ีแจง ใหน้ กั เรียนเขยี นอธิบายพัฒนาการของแควน้ ทวารวดแี ละแควน้ ละโว้ได้ ให้ถกู ต้อง แคว้นทวารวดี แคว้นละโว้ ท่ีตั้ง/อาณาเขต ทีต่ ง้ั /อาณาเขต ........................................................................ ........................................................................ ........................................................................ ........................................................................ คำตอบของนกั เรียนอยูใ่ นดุลพนิ จิ ของครู........................................................................ ........................................................................ ........................................................................ ........................................................................ ........................................................................ ........................................................................ ศิลปวฒั นธรรม ศิลปวัฒนธรรม ........................................................................ ........................................................................ ....................................................................... ....................................................................... ....................................................................... ....................................................................... ....................................................................... ....................................................................... หลักฐานที่ค้นพบในสมัยแคว้นทวารวดี หลกั ฐานท่คี ้นพบในสมัยแคว้นละโว้ ........................................................................ ........................................................................ ........................................................................ ........................................................................ ........................................................................ ........................................................................ ........................................................................ ........................................................................ ........................................................................ ........................................................................ ........................................................................ ........................................................................

หน่วยการเรยี นรูท้ ี่ ๒ เร่ือง ภูมิใจในท้องถ่นิ ๑๑๑๑ แบบประเมนิ การนำเสนอหน้าช้ันเรียน เกณฑ์ ดีมาก (๔) ระดบั คณุ ภาพ ปรับปรงุ (๑) การประเมนิ ดี (๓) พอใช้ (๒) ๑. การถ่ายทอด คล่องแคลว่ ไม่ติดขัด คล่องแคลว่ ไม่ ไมค่ ล่องแคลว่ ตดิ ขัด หยดุ ชะงัก เนื้อหา ทำใหเ้ ขา้ ใจประเดน็ ได้ ติดขัด ทำให้เข้าใจ มีการหยดุ ชะงักบ้าง ในหลายจงั หวะ ง่ายและเร็ว การพูดมี ประเด็นได้ง่าย บางคร้งั จงั หวะพดู พูดเรว็ หรอื ชา้ การเว้นจังหวะและ การพูดมีการเวน้ ชา้ จับประเดน็ ไม่ได้ เกินไป เน้นคำ เนน้ สาระ จังหวะอย่าง สำคญั อยา่ งเหมาะสม เหมาะสม ความเรว็ เพือ่ ใหผ้ ฟู้ งั ติดตาม ในการพูดอยใู่ น การนำเสนอ ความเร็ว ระดับเหมาะสม ในการพูดอยู่ในระดับ เหมาะสม ๒. บุคลกิ ภาพ มีความม่นั ใจ สบสายตา สบสายตาผฟู้ งั สบสายตาผ้ฟู งั น้อย ก้มหน้าไมส่ บตา ผูฟ้ งั ตลอดเวลาเพ่อื พอสมควร นำ้ เสยี ง น้ำเสียงสัน่ ขาด และน้ำเสยี งสนั่ ดงึ ดูดใหผ้ ูฟ้ ังสนใจใน สะท้อนถึงความ ความมั่นใจ เสียง และเบา เนือ้ หาทถี่ ่ายทอด มั่นใจ เสียงดัง เบาและดังสลบั ไป เสยี งดังพอเหมาะ พอเหมาะ ๓. การใช้ภาษา คล่องแคล่ว เช่น ยก แสดงกริยาท่าทาง ใชภ้ าษากาย ไมใ่ ชภ้ าษากาย กายในการส่ือสาร มอื /ผายมอื แสดงกริยา ประกอบการ ส่ือสารน้อยคร้ัง สอ่ื สาร ทา่ ทางประกอบการ นำเสนอพอสมควร นำเสนอเพื่อดึงดูดความ สนใจ ๔. ความเหมาะสม ใช้เวลาในการนำเสนอ ใช้เวลาในการนำ ใช้เวลาในการนำ ใชเ้ วลาในการนำ เสนอเกินเวลาที่ เสนอเกินเวลาที่ กบั เวลา เหมาะสม เสนอเกินเวลาที่ กำหนด ๔-๕ นาที กำหนด มากกวา่ ๕ นาทีขึ้นไป กำหนด ๑-๓ นาที เกณฑ์การใหค้ ะแนน ดมี าก คะแนน ๑๓–๑๖ คะแนน หมายถงึ ดี คะแนน ๙–๑๒ คะแนน หมายถงึ พอใช้ คะแนน ๕–๘ คะแนน หมายถึง ปรับปรุง คะแนน ๑–๔ คะแนน หมายถึง เกณฑ์การผา่ น ต้งั แต่ ๕ คะแนน ขึน้ ไป

๑๑๑๒ คูม่ อื ครูและแผนการจัดการเรยี นรู้ ระดับประถมศกึ ษา ภาคเรียนที่ ๑ (ประวัติศาสตร์ ป.๔) แบบประเมินการสงั เกตพฤติกรรมการเรียนรู้ เกณฑ์การประเมิน ระดับคุณภาพ ๑. การรว่ มกจิ กรรม ดี (๓) พอใช้ (๒) ปรับปรงุ (๑) ๒. การรบั ฟังความ คดิ เห็นของผู้อ่นื มีความกระตือรอื รน้ ใน มีความกระตือรอื รน้ ใน ไม่มีความกระตือรือร้น ๓. ความรับผิดชอบ การรว่ มกิจกรรมอยา่ ง การร่วมกิจกรรมใน ในการร่วมกจิ กรรม ๔. ขยนั หม่นั เพียร สม่ำเสมอ บางครง้ั ๕. ตรงตอ่ เวลา รบั ฟงั ความคิดเห็นของ รบั ฟงั ความคิดเหน็ ของ ไมร่ บั ฟังความคดิ เห็น ผอู้ ่นื อยา่ งสม่ำเสมอ ผู้อืน่ เปน็ บางครั้ง ของผู้อืน่ มคี วามรับผดิ ชอบในงาน มคี วามรบั ผิดชอบในงาน ไมม่ ีความรบั ผิดชอบใน ท่ีได้รับมอบหมายอยา่ ง ทีไ่ ดร้ ับมอบหมายใน งานทไ่ี ดร้ ับมอบหมาย สมำ่ เสมอ บางครง้ั มีความขยันหมนั่ เพยี ร มคี วามขยันหมั่นเพียร ไมม่ ีความขยันหมัน่ เพียร พยายามทำงานให้สำเร็จ พยายามทำงานใหส้ ำเร็จ พยายามทำงานใหส้ ำเรจ็ อยา่ งสมำ่ เสมอ เป็นบางคร้งั สง่ ชิน้ งานภายในเวลาท่ี สง่ ผลงานเสร็จตรงเวลา ส่งผลงานช้ากวา่ เวลา กำหนด กำหนด เกณฑก์ ารให้คะแนน ดี คะแนน ๑๑–๑๕ คะแนน หมายถงึ พอใช้ คะแนน ๖–๑๐ คะแนน หมายถงึ ปรับปรงุ คะแนน ๑–๕ คะแนน หมายถึง เกณฑ์การผา่ น ตั้งแต่ ๖ คะแนน ข้นึ ไป

หนว่ ยการเรยี นรทู้ ี่ ๒ เร่อื ง ภูมิใจในท้องถ่นิ ๑๑๑๓ แบบประเมินใบงาน คำชี้แจง ให้ครผู สู้ อนประเมินใบงานของนักเรยี นแล้วใหท้ ำเครอื่ งหมาย ✓ ลงในชอ่ งที่ตรงกับระดับคะแนน ลำดับท่ี ชือ่ –สกลุ การรว่ ม การรับฟัง ความ ขยนั หมน่ั เพียร ตรงตอ่ เวลา รวม กจิ กรรม ความคิดเห็น รบั ผดิ ชอบ ๒๐ คะแนน ของผู้อน่ื ๔๓๒๑๔๓๒๑๔๓๒๑๔ ๓ ๒ ๑๔๓๒๑ ๑ ๒ ๓ ๔ ๕ ลงช่อื ................................................................ผปู้ ระเมิน ...................../..................../................... เกณฑ์การให้คะแนน เกณฑ์การตดั สนิ คณุ ภาพ นกั เรยี นท่ไี ดร้ ะดบั คุณภาพพอใช้ข้นึ ไป ถือว่า ผ่าน ช่วงคะแนน ระดับคุณภาพ ๑๖-๒๐ ดีมาก ๑๑-๑๕ ดี ๖-๑๐ พอใช้ ๑-๕ ปรับปรงุ

๑๑๑๔ คูม่ ือครูและแผนการจดั การเรยี นรู้ ระดับประถมศกึ ษา ภาคเรียนท่ี ๑ (ประวัตศิ าสตร์ ป.๔) แบบประเมินการสงั เกตพฤติกรรมนักเรยี นรายบุคคล ช้นั ประถมศกึ ษาปีท่ี ๔ สงั เกตพฤตกิ รรมการเรียนรู้ วนั ท.่ี ......................เดอื น.......................................พ.ศ......................... เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน ลำดบั ท่ี ช่ือ–สกลุ ความ ความสนใจ การ มีสว่ น รวม ระดบั ต้ังใจใน และการ ตอบ ร่วมใน (๑๖) คุณภาพ การเรียน ซักถาม คำถาม กจิ กรรม (๔) (๔) (๔) (๔) ๑ ๒ ๓ ๔ ๕ ๖ ๗ ๘ ๙ ๑๐ ลงชอื่ ........................................................ผปู้ ระเมิน ...................../..................../................... เกณฑ์การใหค้ ะแนนดงั ตารางแนบท้าย เกณฑ์การประเมนิ ในการสงั เกตพฤตกิ รรมนกั เรยี นรายบคุ คล ดงั นี้ ช่วงคะแนน ระดบั คณุ ภาพ เกณฑ์การสรปุ ผลการประเมิน ๑๔-๑๖ ดีมาก นกั เรียนทไ่ี ดร้ ะดับคณุ ภาพพอใช้ขน้ึ ไป ถือว่า ผา่ น ๑๑-๑๓ ดี ๘-๑๐ พอใช้ ๐-๗ ปรับปรุง

หนว่ ยการเรียนร้ทู ี่ ๒ เรอื่ ง ภูมใิ จในท้องถน่ิ ๑๑๑๕ เกณฑ์การวัดและประเมินผลการสังเกตพฤติกรรมนักเรียนรายบคุ คล (Rubric) ประเดน็ เกณฑ์การให้คะแนน การประเมนิ ดีมาก (๔) ดี (๓) พอใช้ (๒) ตอ้ งปรับปรุง (๑) ๑. ความต้ังใจใน สนใจในการเรยี น สนใจในการเรียน สนใจในการเรยี น ไมส่ นใจใน การเรยี น ไมค่ ุยหรือเล่นกนั คยุ กันเลก็ น้อย คยุ กันและเลน่ กนั การเรียน คยุ และ ในขณะเรียน ในขณะเรยี น ในขณะเรียนเปน็ เล่นกันในขณะ บางครงั้ เรยี น ๒. ความสนใจและ มกี ารถามในหัวข้อท่ี มกี ารถามในหัวข้อ มกี ารถามในหวั ข้อ ไมถ่ ามในหวั ข้อที่ การซกั ถาม ตนไม่เข้าใจทุกเรอื่ ง ทต่ี นไม่เขา้ ใจเปน็ ทีต่ นไม่เขา้ ใจเปน็ ตนไม่เข้าใจและ และกล้าแสดงออก สว่ นมากและกล้า บางคร้ังและไม่ค่อย ไมก่ ลา้ แสดงออก แสดงออก กลา้ แสดงออก ๓. การตอบคำถาม ร่วมตอบคำถามใน รว่ มตอบคำถามใน รว่ มตอบคำถามใน ไมต่ อบคำถาม เรอื่ งท่ีครูถามและ เรื่องท่ีครถู ามและ เร่อื งที่ครถู ามเปน็ ตอบคำถามถูกทุกข้อ ตอบคำถาม บางครง้ั และตอบ ส่วนมากถกู คำถามถกู เป็น บางครั้ง ๔. มสี ่วนร่วมใน ร่วมมือและ รว่ มมอื และ รว่ มมือและ ไมม่ ีความรว่ มมือ กจิ กรรม ชว่ ยเหลอื เพื่อนใน ชว่ ยเหลอื เพ่อื น ชว่ ยเหลือเพื่อนใน ในขณะทำกจิ กรรม การทำกจิ กรรม เปน็ ส่วนใหญใ่ น การทำกจิ กรรม การทำกิจกรรม เป็นบางคร้งั

๑๑๑๖ คมู่ อื ครแู ละแผนการจดั การเรยี นรู้ ระดับประถมศกึ ษา ภาคเรียนท่ี ๑ (ประวตั ิศาสตร์ ป.๔) แบบประเมนิ การสังเกตพฤติกรรมการทำงานกลุ่ม ชน้ั ประถมศกึ ษาปที ่ี ๔ สังเกตพฤตกิ รรมการเรียนรู้ วันท.ี่ ......................เดือน......................................พ.ศ.............................. เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน ลำดบั ท่ี ชอ่ื กลุ่ม การ การสนทนา การ พฤติกรรม รวม ระดบั ปฏิสมั พันธ์ เรื่อง ติดต่อส่ือสาร การทำงาน (๑๖) คณุ ภาพ ๑ ๒ กนั ทกี่ ำหนด กลุ่ม ๓ ๔ (๔) (๔) (๔) (๔) ๕ ๖ ๗ ๘ ๙ ๑๐ ลงช่ือ................................................................ผู้ประเมนิ ...................../..................../................... เกณฑ์การใหค้ ะแนนดังตารางแนบทา้ ย เกณฑ์การประเมินในการสังเกตพฤติกรรมการทำงานกลุ่ม ดังนี้ ชว่ งคะแนน ระดบั คณุ ภาพ เกณฑ์การสรปุ ผลการประเมิน ๑๔-๑๖ ดมี าก นกั เรียนท่ไี ด้ระดบั คุณภาพพอใชข้ นึ้ ไป ถือว่า ผ่าน ๑๑-๑๓ ดี ๘-๑๐ พอใช้ ๐-๗ ปรบั ปรงุ

หนว่ ยการเรยี นรทู้ ี่ ๒ เร่อื ง ภมู ิใจในท้องถนิ่ ๑๑๑๗ เกณฑก์ ารวดั และประเมินผลการสงั เกตพฤติกรรมนกั เรียนรายกลุม่ (Rubric) ประเดน็ เกณฑ์การใหค้ ะแนน การประเมนิ ดมี าก (๔) ดี (๓) พอใช้ (๒) ต้องปรับปรุง (๑) ๑. การ ร่วมมอื และช่วยเหลือ ปฏิสัมพันธ์กนั เพอ่ื นในการทำ ร่วมมือและ ร่วมมอื และ ไม่ใหค้ วามร่วมมือ กิจกรรม ชว่ ยเหลอื เพอ่ื นเป็น ชว่ ยเหลือเพอื่ นใน ในขณะทำกิจกรรม สว่ นใหญใ่ นการทำ การทำกจิ กรรมเป็น กิจกรรม บางคร้งั ๒. การสนทนา สนทนาตรงประเดน็ สนทนาตรงประเดน็ สนทนาตรงประเด็น สนทนาไมต่ รง เร่ืองท่ีกำหนด ครอบคลุมเนอ้ื หา ครอบคลุมเนอ้ื หา ประเดน็ บางส่วน ๓. การติดตอ่ มีการปรกึ ษาครูและ มีการปรึกษาครแู ละ มกี ารปรกึ ษาครแู ละ ไม่มีการปรกึ ษาครู สอ่ื สาร เพอ่ื นกลมุ่ อื่น ๆ เพอื่ นกล่มุ อน่ื ๆ เพ่อื นกลุ่มอ่ืน ๆ และเพื่อนกล่มุ อ่ืน ๆ เปน็ ส่วนใหญ่ เปน็ บางครงั้ ๔. พฤตกิ รรม มกี ารวางแผนอยา่ ง มีการวางแผนอยา่ ง มกี ารวางแผนอยา่ ง ไมม่ ีการวางแผน การทำงาน เป็นระบบ และแบง่ หนา้ ท่ขี องสมาชกิ เปน็ ระบบ และแบ่ง เป็นระบบ และแบ่ง อย่างเป็นระบบ ในกลุ่ม หน้าที่ของสมาชิก หนา้ ทีข่ องสมาชิก และไม่มกี ารแบง่ ในกลุม่ เปน็ ส่วนใหญ่ ในกลมุ่ เป็นบางคร้งั หน้าท่ขี องสมาชิก ในกลมุ่

๑๑๑๘ คูม่ ือครูและแผนการจดั การเรยี นรู้ ระดับประถมศกึ ษา ภาคเรียนที่ ๑ (ประวัตศิ าสตร์ ป.๔) แบบประเมินคุณลักษณะอันพึงประสงค์ คำช้แี จง ใหผ้ ู้สอนสงั เกตพฤตกิ รรมของนักเรยี นในระหว่างเรียนและนอกเวลาเรียนแลว้ ขีด ลงในชอ่ งที่ ตรงกบั ระดับคะแนน รายการ พฤตกิ รรมการแสดงออก ระดบั การปฏิบัติ ประเมิน ๓๒๑ ๑. รกั ชาติ ๑.๑ ยนื ตรงเมื่อไดย้ ินเพลงชาติ รอ้ งเพลงชาติได้ และบอกความหมาย ศาสน์ ของเพลงชาติ กษัตริย์ ๑.๒ ปฏบิ ัตติ นตามสทิ ธิและหนา้ ทข่ี องนักเรยี น ให้ความรว่ มมือ รว่ มใจ ในการทำงานกบั สมาชิกในหอ้ งเรยี น ๑.๓ เขา้ รว่ มกจิ กรรมทสี่ ร้างความสามัคคี ปรองดอง และเป็นประโยชน์ ต่อโรงเรียนและชมุ ชน ๑.๔ เข้ารว่ มกิจกรรมทางศาสนาทต่ี นนับถือ ปฏิบตั ติ นตามหลกั ของ ศาสนา และเป็นตัวอย่างที่ดีของศาสนิกชน ๑.๕ เข้ารว่ มกจิ กรรมและมีส่วนร่วมในการจัดกิจกรรมทเ่ี กยี่ วกบั สถาบนั พระมหากษัตริยต์ ามท่โี รงเรียนและชมุ ชนจดั ขึน้ ชน่ื ชมในพระราช กรณยี กิจพระปรชี าสามารถของพระมหากษตั ริย์และพระราชวงศ์ ๒. มีวินยั ๒.๑ ปฏิบัติตามข้อตกลง กฎเกณฑ์ ระเบยี บ ข้อบงั คบั ของครอบครัว รับผิดชอบ และโรงเรยี น มคี วามตรงต่อเวลาในการปฏิบตั ิกิจกรรมต่าง ๆ ใน ชีวติ ประจำวนั มีความรบั ผดิ ชอบ ๓. ใฝ่เรียนรู้ ๓.๑ ตง้ั ใจเรยี น ๓.๒ เอาใจใสใ่ นการเรยี นและมีความเพียรพยายามในการเรียน ๓.๓ เข้ารว่ มกจิ กรรมการเรยี นรู้ตา่ ง ๆ ๓.๔ ศกึ ษาคน้ ควา้ หาความรู้จากหนงั สอื เอกสาร สิ่งพมิ พ์ สอ่ื เทคโนโลยีต่าง ๆ แหลง่ การเรียนรทู้ ั้งภายในและภายนอกโรงเรียน และ เลอื กใช้สื่อได้อยา่ งเหมาะสม ๓.๕ บนั ทกึ ความรู้ วเิ คราะห์ ตรวจสอบบางสิ่งทเ่ี รยี นรู้ สรุปเป็นองค์ความรู้ ๓.๖ แลกเปลีย่ นความร้ดู ว้ ยวิธกี ารตา่ ง ๆ และนำไปใชใ้ นชีวติ ประจำวัน ๔. มุ่งมน่ั ใน ๔.๑ มคี วามตั้งใจและพยายามในการทำงานท่ีได้รับมอบหมาย การทำงาน ๔.๒ มคี วามอดทนและไม่ทอ้ แท้ต่ออุปสรรคเพื่อใหง้ านสำเรจ็ ลงชื่อ................................................................ผปู้ ระเมนิ ...................../..................../...................

หนว่ ยการเรยี นรูท้ ี่ ๒ เรอ่ื ง ภมู ใิ จในท้องถ่ิน ๑๑๑๙ เกณฑ์การใหค้ ะแนน ๓ คะแนน หมายถึง ปฏิบัติหรือแสดงพฤตกิ รรมอยา่ งสม่ำเสมอ ๒ คะแนน หมายถงึ ปฏิบตั ิหรอื แสดงพฤติกรรมบ่อยครง้ั ๑ คะแนน หมายถงึ ปฏบิ ัตหิ รือแสดงพฤตกิ รรมบางครงั้ ๐ คะแนน หมายถงึ ปฏิบัติหรอื แสดงพฤตกิ รรมน้อยคร้ัง เกณฑ์การให้คะแนนดงั ตารางแนบท้าย เกณฑ์การประเมินคุณลักษณะอนั พึงประสงค์ ดังน้ี ช่วงคะแนน ระดบั คุณภาพ เกณฑก์ ารสรุปผลการประเมิน ๒๒-๒๗ ดมี าก นกั เรียนทไ่ี ดร้ ะดบั คณุ ภาพผา่ นข้ึนไป ถือวา่ ผา่ น ๑๕-๒๑ ดี ๘-๑๔ ผ่าน ๐-๗ ไม่ผ่าน

๑๑๒๐ คู่มือครูและแผนการจัดการเรียนรู้ ระดับประถมศึกษา ภาคเรียนที่ ๑ (ประวตั ศิ าสตร์ ป.๔) แบบประเมินสมรรถนะสำคญั ของผเู้ รยี น คำชแี้ จง ให้ผู้สอนสงั เกตพฤตกิ รรมของนักเรียนในระหว่างเรยี นและนอกเวลาเรยี นแล้วขีด ลงในชอ่ งที่ ตรงกับระดับคะแนน รายการประเมนิ พฤตกิ รรมการแสดงออก ระดบั การปฏบิ ตั ิ ๓๒๑ ๑. ความสามารถใน ๑.๑ มีความสามารถในการรับ–ส่งสาร การสอื่ สาร ๑.๒ มคี วามสามารถในการถ่ายทอดความรู้ ความคดิ ความเข้าใจของตนเอง โดยใช้ภาษาอย่างเหมาะสม ๒. ความสามารถใน ๒.๑ มที ักษะในการคิดนอกกรอบอยา่ งสร้างสรรค์ การคิด ๒.๒ มคี วามสามารถในการคิดอย่างมรี ะบบ ๓. ความสามารถใน ๓.๑ สามารถทำงานกลมุ่ รว่ มกบั ผู้อื่นได้ การใชท้ ักษะชวี ติ ๓.๒ นำความรู้ทไ่ี ด้ไปใชป้ ระโยชน์ในชีวิตประจำวัน ลงช่ือ................................................................ผู้ประเมิน ...................../..................../................... เกณฑก์ ารให้คะแนน ๓ คะแนน หมายถึง ปฏบิ ตั หิ รอื แสดงพฤติกรรมอย่างสม่ำเสมอ ๒ คะแนน หมายถึง ปฏบิ ัติหรือแสดงพฤตกิ รรมบอ่ ยครั้ง ๑ คะแนน หมายถึง ปฏิบัติหรอื แสดงพฤตกิ รรมบางครงั้ ๐ คะแนน หมายถึง ปฏบิ ตั ิหรือแสดงพฤติกรรมน้อยครง้ั เกณฑ์การใหค้ ะแนนดังตารางแนบท้าย เกณฑ์การประเมินสมรรถนะสำคัญของผู้เรียน ดงั น้ี ชว่ งคะแนน ระดบั คุณภาพ เกณฑ์การสรปุ ผลการประเมิน ๑๖-๑๘ ดีมาก นกั เรยี นทไ่ี ดร้ ะดบั คุณภาพผ่านขน้ึ ไป ถือวา่ ผ่าน ๑๓-๑๕ ดี ๑๐-๑๒ ผ่าน ๐-๙ ไม่ผ่าน

หนว่ ยการเรยี นร้ทู ี่ ๒ เร่ือง ภูมิใจในท้องถิน่ ๑๑๒๑ แผนการจดั การเรียนรู้ที่ ๖ เรอื่ ง แคว้นโบราณในดนิ แดนไทย (แควน้ ลงั กาสกุ ะ แควน้ ศรีวชิ ยั แควน้ ตามพรลิงค์) หน่วยการเรยี นรู้ท่ี ๒ เร่อื ง ภมู ใิ จในท้องถ่นิ เวลา ๑ ช่วั โมง กล่มุ สาระการเรยี นรูส้ ังคมศกึ ษา ศาสนา และวฒั นธรรม รายวิชาประวัตศิ าสตร์ ชนั้ ประถมศกึ ษาปที ี่ ๔ ๑. มาตรฐานการเรยี นร/ู้ ตวั ชี้วดั มาตรฐาน ส ๔.๒ เข้าใจพัฒนาการของมนุษยชาติจากอดีตจนถงึ ปัจจุบนั ในด้านความสัมพันธแ์ ละ การเปล่ียนแปลงของเหตุการณ์อยา่ งต่อเนื่อง ตระหนักถงึ ความสำคญั และสามารถ วเิ คราะหผ์ ลกระทบทีเ่ กดิ ข้ึน ตัวชี้วัด ป.๔/๑ อธบิ ายการตั้งหลักแหลง่ และพฒั นาการของมนุษยย์ คุ ก่อนประวตั ิศาสตร์และ ยุคประวัตศิ าสตร์โดยสังเขป ๒. สาระสำคัญ/ความคิดรวบยอด อาณาจักรลังกาสุกะ อาณาจักรศรีวิชัย และอาณาจักรตามพรลิงค์ตั้งอยู่ทางภาคใต้ของประเทศไทย อาณาจักรลังกาสุกะมีศูนย์กลางอยู่ที่หมู่บ้านกาแลจิน อ.เมืองปัตตานี อาณาจักรศรีวิชัย มีศูนย์กลางอยู่ที่ อำเภอไชยา จังหวัดสุราษฎร์ธานี ลงไปจนจดแหลมมลายู อาณาจักรตามพรลิงค์ ศูนย์กลางอยู่ที่จังหวัด นครศรีธรรมราช อาณาจักรศรีวิชัยและอาณาจักรตามพรลิงค์เป็นศูนย์กลางการค้าขายทางทะเลและมีความ เจรญิ รุ่งเรืองทง้ั ทางพระพทุ ธศาสนา ๓. จุดประสงค์การเรียนรู้ ๓.๑ ด้านความรู้ ความเขา้ ใจ (K) อธบิ ายพฒั นาการของแคว้นลังกาสกุ ะ แคว้นศรีวชิ ัย แควน้ ตามพรลงิ ค์ได้ ๓.๒ ดา้ นทกั ษะ/กระบวนการ (P) วเิ คราะห์พฒั นาการของแคว้นลงั กาสุกะ แควน้ ศรีวิชัย แควน้ ตามพรลิงค์ ๓.๓ ด้านคุณลกั ษณะ เจตคติ คา่ นยิ ม (A) เหน็ ความสำคัญของหลักฐานทางประวัตศิ าสตรท์ ีแ่ สดงถึงพัฒนาการของแคว้นลงั กาสุกะ แคว้นศรวี ิชัย แควน้ ตามพรลิงค์ ๔. สาระการเรียนรู้ แควน้ โบราณในดินแดนไทย (แคว้นลงั กาสกุ ะ แควน้ ศรวี ิชยั แควน้ ตามพรลงิ ค)์ ๕. สมรรถนะสำคญั ของผู้เรยี น ๑. ความสามารถในการคิด ๒. ความสามารถในการแก้ปัญหา ๓. ความสามารถในการใชท้ ักษะชวี ิต ๖. คุณลักษณะอนั พงึ ประสงค์ ๑. รักชาติ ศาสน์ กษตั ริย์ ๒. มีวนิ ยั ๓. ใฝเ่ รียนรู้ ๔. มุง่ ม่นั ในการทำงาน ๗. กจิ กรรมการเรยี นรู้

๑๑๒๒ ค่มู ือคร การจดั กจิ กรรมการเรยี นร แผนการจดั การเรียนรูท้ ี่ ๖ เรือ่ ง แควน้ โบราณในดนิ แดน รายวิชาประวตั ศิ าสตร ลำดับท่ี จุดประสงค์ ขั้นตอนการจดั เวลา แน ๑. การเรียนรู้ การเรยี นรู้ ทใี่ ช้ กจิ กรรมครู ขั้นนำ ๕ ๑. ครใู หน้ กั เรยี นดูภาพแ นาที เส้นทางการเดินทางติดต ในภูมิภาคเอเชียตะวนั ออ ใต้ และใหน้ ักเรียนรว่ มกัน วเิ คราะหว์ ่าจีนและอนิ เด เส้นทางการเดินทางมายั โบราณในดนิ แดนไทยอย ๒. ครูต้ังประเดน็ คำถาม ๑) นักเรยี นคิดวา่ ในสม การเดินทางตดิ ต่อกันสาม ได้เส้นทางใดบ้าง ๒) นกั เรียนคิดวา่ จนี แล ใช้เส้นทางการเดินทางมา โบราณในดินแดนไทยอย

รูและแผนการจัดการเรยี นรู้ ระดบั ประถมศึกษา ภาคเรียนที่ ๑ (ประวตั ศิ าสตร์ ป.๔) รู้ ช้ันประถมศึกษาปที ่ี ๔ นไทย (แควน้ ลังกาสุกะ แคว้นศรีวชิ ยั แคว้นตามพรลิงค์) ร์ จำนวน ๑ ชวั่ โมง นวการจดั การเรียนรู้ สอ่ื การเรยี นรู้ การประเมิน กิจกรรมนักเรียน การเรียนรู้ - การสงั เกต แผนท่ี ๑. นักเรียนดูภาพแผนท่ี - PowerPoint ต่อค้าขาย เส้นทางการเดินทางติดต่อ ภาพแผนท่ี อกเฉียง คา้ ขายในภูมภิ าคเอเชีย เอเชียตะวันออก น ตะวนั ออกเฉียงใต้ และร่วมกัน เฉียงใต้ ดียใช้ วิเคราะห์เส้นทางการเดนิ ทาง - แบบสงั เกต งแคว้น ของจนี และอนิ เดีย ย่างไร ๒. นักเรียนตอบคำถาม มยั โบราณ ๑) แนวคำตอบ ๒ เส้นทาง มารถทำ คอื ทางบก โดยการเดนิ เท้า และใชส้ ัตว์เปน็ พาหนะ และ ทางนำ้ โดยทางเรือ ละอนิ เดยี ๒) แนวคำตอบ เสน้ ทางบก ายังแคว้น และเสน้ ทางนำ้ ดังน้ี ย่างไร

หนว่ ยการเรียนรทู้ ่ี ๒ เรอ่ื ง ภูมิใจในท้องถิน่ ลำดับท่ี จดุ ประสงค์ ข้ันตอนการจัด เวลา แ การเรยี นรู้ การเรียนรู้ ท่ีใช้ กจิ กรรมครู ๒. ๑. อธบิ าย ขั้นสอน ๒๐ ๑. ครูให้นกั เรียนแบ่งกล พฒั นาการของ นาที กลมุ่ ละ ๖ คน ศึกษาใบค แควน้ ลังกาสุกะ แควน้ ศรีวิชยั เร่ือง แควน้ โบราณในดนิ แควน้ ตาม (แควน้ ลงั กาสุกะ แคว้นศ พรลิงค์ได้ แควน้ ตามพรลงิ ค์) โดยแ ดังนี้ - ศกึ ษาทำความเข้าใจ ใบความรู้ ๒ คน/๑ แคว - นำความรทู้ ่ศี ึกษามา อภปิ รายแลกเปลย่ี นกับเ กลมุ่ ถามตอบซักถามข้อส มคี วามรแู้ ละความเข้าใจ ๒. ครอู ธิบายเพ่ิมเติมเพ่ือ นกั เรยี นเข้าใจยิง่ ข้ึน

๑๑๒๓ แนวการจัดการเรยี นรู้ สอ่ื การเรียนรู้ การประเมิน กิจกรรมนักเรยี น การเรียนรู้ - ใบความรู้ที่ ๓ (นักเรียนตอบตามเส้นทางจาก เรอื่ ง แคว้น - การสังเกต แผนทีโ่ ดยครูพิจารณาจาก โบราณใน - การประเมนิ ความเป็นไปไดจ้ ริง) ดินแดนไทย - การตรวจงาน ล่มุ ๑. นักเรยี นแบง่ กลุ่มศึกษา (แควน้ ลงั กาสุกะ ความรู้ ความรจู้ ากใบความรู้ โดย แคว้นศรีวิชยั นแดนไทย ปฏิบัติหนา้ ทีต่ ามท่รี บั แควน้ ตามพรลงิ ค)์ ศรีวิชัย มอบหมาย และร่วมอภิปราย แบง่ หน้าที่ แลกเปลย่ี นกับเพ่ือนในกล่มุ ถามตอบซกั ถามข้อสงสยั จนมี จ ความร้แู ละความเขา้ ใจตรงกนั วน้ าร่วม เพ่ือนใน สงสยั จน จตรงกัน อให้ ๒. นกั เรยี นฟังครูอธิบาย และ ซักถามประเดน็ ทย่ี งั สงสยั

๑๑๒๔ คู่มือคร ลำดับที่ จุดประสงค์ ขนั้ ตอนการจัด เวลา แ การเรยี นรู้ การเรยี นรู้ ท่ใี ช้ กิจกรรมครู ๓. ๒. วเิ คราะห์ ขั้นปฏิบัติ ๑๐ ๓. ครูให้นกั เรียนแตล่ ะก พฒั นาการของ นาที ใบงานเร่อื ง แควน้ โบรา แคว้นลังกาสกุ ะ ดินแดนไทย (แควน้ ลงั ก แควน้ ศรวี ชิ ยั แคว้นศรีวิชัย แควน้ ตาม แควน้ ตามพรลิงค์ อธิบายและวเิ คราะห์พัฒ ของแคว้นโบราณในประ ๔. ๓. เหน็ ความสำคญั ขนั้ สรปุ ๑๐ ๑. ครูสมุ่ ตวั แทนนกั เรีย ของหลักฐานทาง นาที นำเสนอใบงาน เร่ือง แค ประวตั ศิ าสตรท์ ี่ แสดงถงึ พัฒนาการ โบราณในดินแดนไทย ( ของแคว้นลังกาสกุ ะ ลงั กาสกุ ะ แควน้ ศรวี ิชัย แคว้นศรีวชิ ัย ตามพรลิงค)์ แควน้ ตามพรลิงค์ ๒. ครแู ละนกั เรยี นรว่ มก ตรวจสอบความถูกต้อง ๓. ครูและนกั เรยี นร่วมก องค์ความรู้

รูและแผนการจดั การเรยี นรู้ ระดบั ประถมศึกษา ภาคเรียนท่ี ๑ (ประวตั ศิ าสตร์ ป.๔) แนวการจัดการเรียนรู้ สอ่ื การเรียนรู้ การประเมนิ กิจกรรมนักเรียน การเรียนรู้ กล่มุ ทำ ๓. นกั เรยี นแบง่ กลุม่ กลุม่ ละ - ใบงานท่ี ๖ าณใน ๓ คน แล้วทำใบงานเร่อื ง กาสุกะ แคว้นโบราณในดนิ แดนไทย เรอ่ื ง แคว้นโบราณ มพรลิงค์) (แควน้ ลงั กาสุกะ แควน้ ศรีวิชัย ฒนาการ แควน้ ตามพรลิงค)์ ในดินแดนไทย ะเด็นต่าง ๆ อธิบายและวเิ คราะห์พัฒนาการ (แควน้ ลงั กาสุกะ ของแคว้นโบราณ แควน้ ศรีวชิ ยั ยน ๒ กล่มุ ๑. ตัวแทนนักเรียน ๒ กลุ่ม คว้น นำเสนอใบงาน เร่ือง แควน้ แคว้นตามพรลิงค์) (แคว้น โบราณในดินแดนไทย (แคว้น ย แควน้ ลงั กาสุกะ แควน้ ศรวี ิชัย แควน้ - แบบสังเกต ตามพรลงิ ค์) - แบบประเมิน กนั ๒. นักเรียนร่วมกนั ตรวจสอบ ง ความถกู ตอ้ ง - ใบงานท่ี ๖ - การตรวจงาน กนั สรุป ๓. นักเรยี นร่วมกันสรปุ ความรู้ เรื่อง แควน้ โบราณ - การสงั เกต หลกั ฐานทางประวัติศาสตร์ของ แคว้นลงั กาสุกะ แคว้นศรวี ิชัย ในดนิ แดนไทย - การประเมนิ (แควน้ ลงั กาสุกะ แควน้ ศรวี ชิ ยั แควน้ ตามพรลิงค์) - แบบสังเกต - แบบประเมิน

หนว่ ยการเรยี นรทู้ ่ี ๒ เร่อื ง ภมู ใิ จในท้องถิน่ ลำดับท่ี จุดประสงค์ ขั้นตอนการจดั เวลา แ การเรียนรู้ การเรียนรู้ ทใี่ ช้ กิจกรรมครู

๑๑๒๕ แนวการจดั การเรยี นรู้ สื่อการเรยี นรู้ การประเมนิ กจิ กรรมนักเรียน การเรียนรู้ แควน้ ตามพรลิงค์แสดงให้เหน็ ถึง พัฒนาการของอาณาจกั รโบราณ มคี วามเจริญด้านศลิ ปวฒั นธรรม ซึ่งเกิดจากความม่ังคงั่ จาก การติดต่อค้าขายกับเมืองต่าง ๆ

๑๑๒๖ คู่มือครูและแผนการจดั การเรียนรู้ ระดับประถมศกึ ษา ภาคเรียนท่ี ๑ (ประวัติศาสตร์ ป.๔) ๘. สอ่ื การเรยี นร/ู้ แหลง่ เรยี นรู้ ๑. PowerPoint ภาพแผนทเ่ี อเชยี ตะวนั ออกเฉยี งใต้ ๒. ใบความรู้ท่ี ๓ เรือ่ ง แควน้ โบราณในดนิ แดนไทย (แควน้ ลงั กาสกุ ะ แควน้ ศรีวชิ ัย แคว้นตามพรลงิ ค์) ๓. ใบงานท่ี ๖ เรอ่ื ง แคว้นโบราณในดินแดนไทย (แคว้นลงั กาสุกะ แคว้นศรีวชิ ัย แควน้ ตามพรลิงค์) ๙. การประเมินผลรวบยอด ช้ินงานหรือภาระงาน ใบงานท่ี ๖ เร่ือง แควน้ โบราณในดินแดนไทย (แคว้นลังกาสุกะ แคว้นศรวี ชิ ยั แคว้นตามพรลิงค์) การวัดและประเมนิ ผล ประเด็นการวัด วิธีการ เครื่องมือ เกณฑก์ ารประเมิน และประเมินผล ด้านความรู้ - ตรวจใบงาน - ใบงานที่ ๖ เร่ือง แคว้น ผ่านเกณฑ์การประเมนิ - การสงั เกต โบราณในดินแดนไทย ร้อยละ ๖๐ - การประเมนิ (แคว้นลังกาสุกะ แคว้น ศรีวิชัย แควน้ ตามพรลิงค์) - แบบสังเกต - แบบประเมิน ด้านทักษะ กระบวนการ - ตรวจใบงาน - ใบงานท่ี ๖ เรอ่ื ง แคว้น ผา่ นเกณฑ์การประเมิน - การสงั เกต โบราณในดินแดนไทย ร้อยละ ๖๐ - การประเมนิ (แคว้นลังกาสุกะ แควน้ ศรีวชิ ัย แควน้ ตามพรลิงค์) - แบบสงั เกต - แบบประเมิน ดา้ นคณุ ลักษณะ เจตคติ สงั เกตพฤตกิ รรม แบบประเมินพฤติกรรม ผา่ นเกณฑป์ ระเมินระดบั คุณภาพพอใชข้ นึ้ ไป ดา้ นคณุ ลักษณะ ประเมิน รักชาติ ศาสน์ แบบประเมนิ คุณลักษณะ ผา่ นเกณฑป์ ระเมนิ ระดบั อนั พงึ ประสงค์ กษัตรยิ ์ ใฝ่เรียนรู้ ม่งุ ม่ัน อันพึงประสงค์ คณุ ภาพพอใช้ขน้ึ ไป ในการทำงาน สมรรถนะสำคัญ ประเมินความสามารถใน แบบประเมนิ สมรรถนะ ผ่านเกณฑ์ประเมินระดับ ของผเู้ รียน การคิด ความสามารถใน สำคญั ของผู้เรยี น คุณภาพพอใช้ขึ้นไป การแก้ปญั หา ความสามารถในการใช้ ทกั ษะชีวิต

หนว่ ยการเรียนรู้ที่ ๒ เรอ่ื ง ภมู ิใจในท้องถนิ่ ๑๑๒๗ ๑๐. บนั ทกึ ผลหลังสอน ผลการจัดการเรียนการสอน …………………………………………………………………………………………………………..……………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………..……………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….. ความสำเรจ็ .............................................................................................................................................................................. ............................................................................................................................. ................................................. ............................................................................................................................. ................................................. ปัญหาและอปุ สรรค .................................................................................................................................................................... .......... ......................................................................................................................... ..................................................... ............................................................................................................................. ................................................. ข้อจำกัดการใชแ้ ผนการจดั การเรียนรู้ และข้อเสนอแนะ/แนวทางการปรับปรุงแก้ไข ……………………………………………………………………………………………………………………………...………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………….………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………….……………… ลงช่ือ……………………………………………………….ผูส้ อน (…...........………………………………………….) วันที่……………เดือน……………………………พ.ศ……………… ๑๑. ความคิดเห็น/ข้อเสนอแนะของผบู้ ริหารหรือผทู้ ไ่ี ด้รบั มอบหมาย ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ลงชอื่ ……………………………………………………….ผูต้ รวจ (…...........………………………………………….) วันท่ี……………เดอื น……………………………พ.ศ………………

๑๑๒๘ คูม่ ือครูและแผนการจดั การเรียนรู้ ระดับประถมศกึ ษา ภาคเรียนที่ ๑ (ประวัตศิ าสตร์ ป.๔) ใบความรู้ที่ ๓ เร่อื ง แคว้นโบราณในดินแดนไทย (แคว้นกาสุกะ แคว้นศรวี ชิ ยั แคว้นตามพรลิงค์) หน่วยการเรยี นร้ทู ่ี ๒ เรือ่ ง ภูมิใจในทอ้ งถิ่น แผนการจดั การเรยี นรทู้ ี่ ๖ เร่ือง แคว้นโบราณในดินแดนไทย (แคว้นกาสุกะ แแคควว้นน้ ศลรงวีั กชิ ัายสแุกคะวน้ ตามพรลิงค์) รายวิชาประวตั ศิ าสตร์ รหสั วิชา ส๑๔๑๐๒ ภาคเรยี นท่ี ๑ ชน้ั ประถมศึกษาปีท่ี ๔ แคว้นลังกาสกุ ะ ลังกาสุกะเป็นนครรัฐตั้งแต่พุทธศตวรรษที่ ๗ เสื่อมสลายไปเพราะทะเลถอยห่างตัวเมืองออกไปทุกที จนผู้คนพากันทิ้งเมือง ซ้ำโดนน้ำท่วมโคลนถมทับตัวเมืองแทบหมด เชื่อกันว่าคนในหมู่บ้านกาแลจิน อ.เมือง ปตั ตานี ปจั จบุ ันคอื ผสู้ ืบเชือ้ สายชาวเมืองลังกาสุกะ ทีเ่ ปน็ ลูกครง่ึ ชาวจีนกับคนพ้นื เมืองท่ีตอ้ งท้ิงเมืองเก่ามาอยู่ ในปัตตานี ลังกาสุกะเป็นนครรัฐที่โลกตะวันตกตะวันออกรู้จักกันแล้ว ตั้งแต่พุทธศตวรรษที่ ๗ เป็นเมืองท่า นครรัฐยิ่งใหญ่สมัยโบราณในภูมิภาคนี้ แคว้นลังกาสุกะนี้ ถูกแคว้นฟูนันโจมตีในพุทธศตวรรษที่ ๑๑ แล้ว กลายเปน็ เมืองขน้ึ ตอ่ มา แคว้นโบราณยิ่งใหญ่ที่เชื่อว่ามีพื้นที่คลุมไปถึงตอนเหนือมาเลเซีย เพราะพบสิ่งก่อสร้างโบราณ แบบ เดียวกับที่พบในปัตตานีแถวริมฝั่งแมน่ ้ำบูจังและปาดังลาวาส (ปากแม่น้ำลาวาส) ในรัฐเคดาห์ เรียกว่า “เมือง โบราณยะรงั ” เพราะซากเมืองเก่าพบท่ี อ.ยะรัง ทั้งทมี่ ีความเกา่ แก่รุ่งเรืองมา เมอื งโบราณทกี่ รมศิลปากรกำลัง ขุดแต่งอยู่ที่อำเภอยะรัง ในขณะนี้คือ ศูนย์การปกครอง แคว้นลังกาสุกะในเมื่อบันทึก ชาวอินเดียและชาว อาหรับเรียกเมืองนี้ว่า “ลังกาสุกะ” กับบันทึกของชาวจีนที่เรียก “หลาง หย่า ซุ่ย” ล้วนระบุทิศทางและที่ตั้ง ตรงกนั หมด หลักฐานที่แสดงให้เห็นถึงความเจริญของแคว้นลังกาสุกะ ได้แก่ เอกสารพื้นเมือง เอกสารจีนที่บันทึก โดยนักการทูต เทวรปู สถปู จำลอง โบราณสถานเมืองยะรงั ท่ีพบจงั หวดั ปตั ตานี ปัตตานีวันนี้คือ ดินแดนเกิดใหม่เมื่อทะเลถอยห่างฝั่งออกไปทุกที ลังกาสุกะเลยกลายเป็นเมืองภายใน แผน่ ดิน อยหู่ า่ งชายฝง่ั ทะเลในวันน้ีเกอื บ ๒๕ กม. แควน้ ลงั กาสกุ ะ แหลง่ ที่มา/อา้ งอิง http://sites.google.com/a/thantong.ac.th/xanacakr-boran4phakh/xanacakr-langka-su-ka

หน่วยการเรียนรู้ที่ ๒ เรื่อง ภูมิใจในท้องถ่นิ ๑๑๒๙ แคว้นศรวี ิชัย แคว้นศรีวิชัย หรือแคว้นศรีโพธิ์ เกิดในปี พ.ศ. ๑๒๐๒ ก่อตั้งโดยราชวงศ์ไศเลนทร์ มีอาณาเขต ครอบคลมุ มลายู เกาะชวา เกาะสุมาตรา ช่องแคบมะละกา ช่องแคบซนุ ดา และบริเวณภาคใต้ของประเทศไทย โดยมีศูนย์กลางอยู่บริเวณจังหวัดสุราษฎร์ธานีของประเทศไทยในปัจจุบัน พื้นที่แคว้นแบ่งได้ ๓ ส่วน คือส่วน คาบสมุทรมลายู เกาะสุมาตรา และเกาะชวา โดยส่วนของชวาได้แยกตัวออกไปตั้งเป็นแคว้นมัชปาหิต ต่อมา เมื่อแคว้นศรีวิชัยอ่อนแอลง แคว้นมัชปาหิตได้ยกทัพเข้ามาตีศรีวิชัยได้ดินแดนสุมาตราและบางส่วนของ คาบสมทุ รมลายไู ป และทำให้ศรวี ิชยั ล่มสลายไปในท่สี ุด หลักฐานที่แสดงให้เห็นถึงความเจริญของแควน้ ศรีวิชยั ได้แก่ รูปหล่อสำริดพระโพธสิ ัตวอ์ วโลกิเตศวร พระบรมธาตุไชยา พระพิมพ์ดินดิบสมัยศรีวิชัย และมีการพบศิลาจารึกภาษามลายูโบราณเกี่ยวกับแคว้น ศรีวิชัยทั้งที่สุมาตรา และที่วัดเสมาเมืองจังหวัดนครศรีธรรมราช และพบศิลาจารึกภาษาสันสกฤต เมืองไชยา ระบุว่าศรีวชิ ัยเป็นเมอื งท่าคา้ พริก ดีปลี และพริกไทยเม็ด โดยมตี น้ หมากและต้นมะพรา้ วจำนวนมาก พุทธศาสนาแบบมหายานเจริญรุง่ เรืองในแควน้ ศรีวิชัย ประชาชนทางแหลมมลายูเดิมส่วนใหญ่นับถือ พระพุทธศาสนา แต่พ่อค้าอาหรับ มุสลิมที่เดินทางผ่านเพื่อไปยังประเทศจีน ดังนั้น ในเวลาต่อมาศาสนา อิสลามจึงได้เผยแพร่ไปยังมะละกา กลันตัน ตรังกานู ปาหัง และปัตตานี จนกลายเป็นรัฐอิสลามไป ต่อมาใน พ.ศ. ๑๕๖๘ แคว้นศรีวชิ ัยได้ตกอยใู่ ตอ้ ำนาจและกลายเปน็ ส่วนหนงึ่ ของแควน้ มชั ปาหิตของชวาใน พ.ศ. ๑๙๔๐ พระพิมพ์ดินดิบสมัยศรีวิชยั แหลง่ ท่ีมา/อา้ งอิง - https://th.wikipedia.org/wiki/ศรีวชิ ัย - ฐานขอ้ มลู บทความวชิ าการ ศาสตราจารย์ หมอ่ มเจา้ สภุ ทั รดิศดศิ กุล - เสนียอ์ นุชิต ถาวรเศรษฐ. สยามประเทศ ไม่ได้เริม่ ต้นท่สี โุ ขทัย. พมิ พ์ครัง้ ท่ี ๒. กรงุ เทพมหานคร : สำนกั พิมพ์ร่วมดว้ ยชว่ ยกัน, ๒๕๔๗. หนา้ ๖๐, ๖๒. ISBN ๙๗๔-๙๐๖๔๐-๓-๘

๑๑๓๐ ค่มู ือครูและแผนการจัดการเรียนรู้ ระดับประถมศึกษา ภาคเรียนท่ี ๑ (ประวัตศิ าสตร์ ป.๔) แควน้ ตามพรลิงค์ แคว้นตามพรลิงค์ ซึ่งต่อมาได้กลายเป็นแคว้นนครศรีธรรมราชนั้น เป็นแคว้นโบราณที่มีมาตั้งแต่ก่อน สมัยพุทธศตวรรษที่ ๗ ตั้งอยู่บริเวณคาบสมุทรมลายู มีศูนย์กลางอยู่ที่อำเภอเมืองนครศรีธรรมราชในปัจจุบนั มีอาณาเขตทางทิศเหนือถึงบริเวณจังหวัดชุมพรในปัจจุบัน ทิศใต้ครอบคลุมถึงบางส่วนบริเวณตอนบนของ ประเทศมาเลเซีย และด้านทศิ ตะวนั ออก ตะวนั ตกจรดทะเลท้ัง ๒ ฝ่ัง โดยฝ่ังทะเลอนั ดามนั ถงึ บรเิ วณท่ีเรียกว่า ทะเลนอก ซง่ึ เป็นบริเวณจงั หวัดกระบใ่ี นปัจจบุ นั หลักฐานที่แสดงให้เห็นถึงความเจริญของแคว้นตามพรลิงค์ จากการพบเมืองโบราณและวัตถุโบราณ บริเวณบ้านพระเวียง ต.ในเมือง อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช เช่น พระบรมธาตุเจดีย์จังหวัดนครศรีธรรมราช และศิลาจารึกตำนานท้องถิ่นจากเมืองไชยา (ซึ่งปัจจุบันตั้งอยู่ในจังหวัดสุราษฎร์ธานี) เอกสารจีน และ ประตมิ ากรรมศิลปะอินเดยี ใต้ แคว้นตามพรลิงค์ มีกษัตริย์สำคัญคือ พระเจ้าศรีธรรมาโศกราชและพระเจ้าจันทรภาณุ แคว้นตาม พรลงิ ค์นเ้ี ป็นเส้นทางการเผยแพร่พระพุทธศาสนาแบบลงั กาวงศ์ ไปยังแคว้นสุโขทยั และดนิ แดนทวั่ แหลมมลายู เนื่องจากแควน้ ตามพรลิงคก์ บั ศรีลังกามคี วามสัมพันธ์แบบบ้านพเ่ี มืองน้องมาแตส่ มัยโบราณ แคว้นตามพรลิงค์ มีเมืองรอง ที่สำคัญ อยู่ ๒ เมือง เมืองแรกคือ เมืองไชยา ตั้งอยู่ถัดไปทางด้านใต้ ศูนย์กลางอยู่ที่อำเภอไชยา จังหวัดสุราษฎร์ธานี กำเนิดขึ้นพร้อม ๆ กับเมืองตามพรลิงค์ ในระยะแรกต่างเป็น อสิ ระ ไม่ขน้ึ ตอ่ กัน ต่อมาในยคุ หลงั เมืองไชยากลบั ข้ึนกับแควน้ ตามพรลิงค์ในฐานะเมืองอุปราช และคงจะอยู่ใน ฐานะดังกล่าวเรื่อยมาจนถึงสมัยกรุงรัตนโกสินทร์ เมืองที่สอง คือ เมืองสทิง คือ บริเวณโดยรอบทะเลสาบ สงขลา จงั หวดั สงขลาและพัทลุง สว่ นใหญเ่ ก่ียวข้องกบั เมืองนครศรธี รรมราช ในสมยั อยุธยา เมอื งบริวาร ได้แก่ เมืองสิบสองนักษัตร ที่ปรากฏในตำนานเมือง นครศรีธรรมราช ซึ่งปัจจุบันตราสิบสองนักษัตร ได้เป็นตรา ประจำจงั หวัดนครศรธี รรมราช ไดแ้ ก่ ตราประจำจงั หวดั นครศรีธรรมราช แหล่งที่มา/อ้างอิง https://th.wikipedia.org/wiki/อาณาจักรตามพรลิงค์ http://www.thaigoodview.com/library/contest2553/type2/social04/04/Page1.html https://www.baanjomyut.com/library/knowledge_of_encyclopedias/179.html http://www.sac.or.th/databases/inscriptions/inscribe_detail.php?id=507

หน่วยการเรยี นรู้ที่ ๒ เรื่อง ภมู ิใจในท้องถน่ิ ๑๑๓๑ ใบงานท่ี ๖ เรือ่ ง แควน้ โบราณในดนิ แดนไทย (แควน้ กาสุกะ แคว้นศรวี ชิ ัย แควน้ ตามพรลิงค์) หนว่ ยการเรยี นรู้ท่ี ๒ เร่ือง ภมู ใิ จในทอ้ งถิน่ แผนการจดั การเรยี นรู้ท่ี ๖ เร่อื ง แควน้ โบราณในดนิ แดนไทย (แควน้ กาสกุ ะ แควน้ ศรีวิชัย แควน้ ตามพรลิงค์) รายวชิ าประวัติศาสตร์ รหสั วชิ า ส๑๔๑๐๒ ภาคเรยี นที่ ๑ ชน้ั ประถมศกึ ษาปีท่ี ๔ คำชีแ้ จง ให้นกั เรียนเขยี นอธิบายและวเิ คราะห์พฒั นาการของแคว้นโบราณในดินแดนไทย (แควน้ ลงั กาสุกะ แควน้ ศรวี ิชัย แคว้นตามพรลิงค)์ ให้ถูกต้อง แคว้นลังกาสุกะ ทต่ี งั้ ............................................................................................................................. ................................................. .............................................................................................................................................................................. ประวตั ิความเปน็ มา ............................................................................................................................. ................................................. ............................................................................................................................. ................................................. .............................................................................................................................................................................. ............................................................................................................................. ................................................. ............................................................................................................................. ................................................. ...................................................................................................................................................................... ........ หลกั ฐานทค่ี ้นพบในสมยั น้ัน ................................................................................................ .............................................................................. ............................................................................................................................. ................................................. ความสำคญั ของหลักฐานทางประวตั ศิ าสตร์ที่มีตอ่ พฒั นาการของแคว้นโบราณ ............................................................................................................................. ................................................. ............................................................................................................................................... ............................... ................................................................................................... ...........................................................................


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook