64-07-30-คู่มือครู สังคมศึกษา ป.3.-2

๙๒๐ คมู่ อื ครแู ละแผนจัดการเรยี นรู้ ระดับประถมศึกษา ภาคเรยี นท่ี ๑ (ประวัติศาสตร์ ป.๓) เฉลยใบงานที่ เรอ่ื ง ปัจจยั ท่ีมผี ลตอ่ การตงั้ ถิ่นฐานและพฒั นาการของชมุ ชนภาคกลาง หนว่ ยการเรียนร้ทู ่ี 2 เร่ือง ภมู ิใจในภูมิถน่ิ แผนการจดั การเรยี นรทู้ ี่ ๕ เรื่อง ปัจจยั ที่มผี ลตอ่ การตัง้ ถน่ิ ฐานและพฒั นาการของชมุ ชนภาคกลาง รายวิชาประวตั ศิ าสตร์ รหสั วชิ า ส13102 ภาคเรียนท่ี 1 ชนั้ ประถมศึกษาปีที่ 3 คาชแ้ี จง ใหน้ ักเรียนวิเคราะหป์ ัจจัยทางภมู ศิ าสตร์และปัจจยั ทางสงั คมทม่ี อี ิทธพิ ลตอ่ การตั้งถิน่ ฐานและพัฒนาการของชุมชนภาคกลาง ปจั จยั ทางภูมิศาสตร์ ……………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………..……………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………..……………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………… ปัจจัยทางสังคม ……………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………..……………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………..……………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………… (คำตอบตำมดลุ พนิ จิ ของครผู ้สู อน)

หนว่ ยการเรียนรทู้ ่ี 2 เรื่อง ภมู ใิ จในภมู ิถิ่น ๙๒๑ แบบประเมินการสังเกตพฤตกิ รรมนักเรียนรายบุคคล ช้ันประถมศกึ ษาปที ี่ 3 สงั เกตพฤตกิ รรมการเรียนรวู้ ันท่ี.......................เดือน............................................พ.ศ.............................. เกณฑก์ ารให้คะแนน ลาดบั ช่ือ – สกลุ ความ ความ การตอบ มสี ว่ น รวม ระดับ ที่ ตงั้ ใจใน สนใจ คาถาม ร่วมใน (16) คณุ ภาพ การเรียน และการ (4) กิจกรรม ซักถาม (4) (4) (4) 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 ลงช่ือ................................................................ผ้ปู ระเมนิ ...................../..................../................... เกณฑก์ ารใหค้ ะแนนดงั ตารางแนบทา้ ย เกณฑก์ ารประเมนิ ในการสงั เกตพฤติกรรมการเรยี นรู้ ดงั นี้ ชว่ งคะแนน ระดบั คณุ ภาพ เกณฑก์ ารสรุปผลการประเมนิ 14-16 ดีมาก นกั เรยี นทไ่ี ดร้ ะดบั คณุ ภาพพอใชข้ ึน้ ไป ถือวา่ ผา่ น 11-13 ดี 8-10 พอใช้ 1-7 ปรับปรุง

๙๒๒ คมู่ ือครแู ละแผนจดั การเรยี นรู้ ระดบั ประถมศกึ ษา ภาคเรยี นที่ ๑ (ประวตั ศิ าสตร์ ป.๓) เกณฑก์ ารวดั และประเมินผลการสงั เกตพฤตกิ รรมนักเรยี นรายบุคคล (Rubric) ประเดน็ การประเมิน เกณฑก์ ารให้คะแนน ดี (3) พอใช้ (2) ดมี าก (4) ตอ้ งปรบั ปรงุ (1) 1. ความต้ังใจใน สนใจในการเรียน สนใจในการเรยี น สนใจในการเรยี น ไมส่ นใจใน การเรยี น ไม่คุยหรือเลน่ กัน คยุ กันเลก็ น้อย คุยกันและเลน่ กัน การเรียน คุยและ ในขณะเรยี น ในขณะเรียน ในขณะเรียนเป็น เล่นกนั ในขณะ 2. ความสนใจและ บางคร้ัง เรยี น การซกั ถาม มีการถามในหวั ขอ้ มีการถามในหวั ข้อ ไมถ่ ามในหัวขอ้ ที่ ท่ตี นไม่เขา้ ใจทกุ ท่ตี นไมเ่ ขา้ ใจเป็น มกี ารถามในหวั ขอ้ ตนไม่เขา้ ใจและ 3. การตอบคาถาม เรอ่ื งและกลา้ ส่วนมากและกล้า ท่ีตนไมเ่ ขา้ ใจเป็น ไมก่ ล้าแสดงออก แสดงออก แสดงออก บางครง้ั และไม่คอ่ ย 4. มีส่วนร่วมใน ร่วมตอบคาถามใน ร่วมตอบคาถามใน กลา้ แสดงออก ไมต่ อบคาถาม กจิ กรรม เรอ่ื งทค่ี รถู ามและ เร่อื งท่ีครถู ามและ ตอบคาถามถูกทุก ตอบคาถาม ร่วมตอบคาถามใน ไม่มคี วามร่วมมอื ข้อ สว่ นมากถูก เรือ่ งที่ครูถามเป็น ในขณะทา บางครัง้ และตอบ กจิ กรรม ร่วมมอื และ ร่วมมอื และ คาถามถกู เปน็ ช่วยเหลอื เพอื่ นใน ช่วยเหลือเพ่อื นเปน็ บางครง้ั การทากิจกรรม ส่วนใหญใ่ นการทา กจิ กรรม ร่วมมอื และ ชว่ ยเหลอื เพอ่ื นใน การทากิจกรรมเปน็ บางคร้งั

หน่วยการเรยี นรู้ท่ี 2 เรื่อง ภมู ใิ จในภมู ิถ่นิ ๙๒๓ แบบประเมนิ การสงั เกตพฤติกรรมการทางานกลมุ่ ช้ันประถมศกึ ษาปที ี่ 3 สงั เกตพฤติกรรมการเรยี นรวู้ ันท่ี.......................เดอื น............................................พ.ศ............................. เกณฑก์ ารให้คะแนน ลาดบั ชอ่ื กลุม่ การ การ การ พฤตกิ รรม รวม ระดบั ท่ี ปฏสิ ัมพนั ธ์ สนทนา ตดิ ต่อสอ่ื สาร การทางาน (16) คุณภาพ เร่อื ง กนั ทกี่ าหนด (4) กล่มุ (4) (4) (4) 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 ลงชื่อ................................................................ผ้ปู ระเมนิ ...................../..................../................... เกณฑก์ ารให้คะแนนดังตารางแนบทา้ ย เกณฑก์ ารประเมินในการสังเกตพฤตกิ รรมการเรยี นรู้ ดงั นี้ ชว่ งคะแนน ระดบั คณุ ภาพ เกณฑ์การสรปุ ผลการประเมนิ 14-16 ดีมาก นกั เรยี นทไ่ี ดร้ ะดบั คณุ ภาพพอใชข้ ึน้ ไป ถือวา่ ผา่ น 11-13 ดี 8-10 พอใช้ 1-7 ปรบั ปรงุ

๙๒๔ คู่มือครูและแผนจดั การเรียนรู้ ระดับประถมศกึ ษา ภาคเรยี นที่ ๑ (ประวตั ิศาสตร์ ป.๓) เกณฑ์การวัดและประเมนิ ผลการสังเกตพฤตกิ รรมนกั เรยี นรายกลุ่ม (Rubric) ประเดน็ การ ดมี าก (4) เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน ต้องปรับปรงุ (1) ประเมนิ ดี (3) พอใช้ (2) 1. การปฏสิ มั พันธ์ ร่วมมอื และช่วยเหลอื ร่วมมือและ รว่ มมือและ ไม่ให้ความรว่ มมือ กนั เพอ่ื นในการทา ช่วยเหลือเพอ่ื นเป็น ชว่ ยเหลือเพื่อนใน ในขณะทา กจิ กรรม ส่วนใหญใ่ นการทา การทากิจกรรมเป็น กิจกรรม กจิ กรรม บางครงั้ 2. การสนทนาเรือ่ ง สนทนาตรงประเดน็ สนทนาตรงประเด็น สนทนาตรงประเดน็ สนทนาไมต่ รง ทก่ี าหนด ครอบคลมุ เนื้อหา ครอบคลมุ เน้อื หา ประเดน็ บางสว่ น 3. การติดตอ่ สอื่ สาร มกี ารปรึกษาครแู ละ มกี ารปรึกษาครูและ มีการปรกึ ษาครูและ ไมม่ กี ารปรึกษาครู เพอ่ื นกล่มุ อืน่ ๆ เพื่อนกลุ่มอน่ื ๆ เป็น เพือ่ นกลมุ่ อื่น ๆ เป็น และเพอ่ื นกลมุ่ อื่น ๆ ส่วนใหญ่ บางครั้ง 4. พฤตกิ รรม มกี ารวางแผนอยา่ ง มีการวางแผนอย่าง มีการวางแผนอย่าง ไมม่ กี ารวางแผน การทางาน เปน็ ระบบ และแบ่ง เป็นระบบ และแบ่ง เป็นระบบ และแบ่ง อย่างเปน็ ระบบ หนา้ ท่ขี องสมาชกิ หน้าท่ีของสมาชิก หนา้ ท่ีของสมาชิก และไมม่ ีการแบง่ ในกลมุ่ ในกลมุ่ เปน็ สว่ น ในกลุม่ เปน็ บางครั้ง หน้าทีข่ องสมาชิก ใหญ่ ในกลุ่ม

หน่วยการเรียนรู้ที่ 2 เรอ่ื ง ภมู ใิ จในภูมถิ นิ่ ๙๒๕ แบบประเมินคณุ ลักษณะอนั พึงประสงค์ คาชแ้ี จง ใหผ้ สู้ อนสงั เกตพฤติกรรมของนกั เรียนในระหวา่ งเรยี นและนอกเวลาเรยี นแล้วขีด ✓ลงในช่องที่ ตรงกับระดบั คะแนน รายการ พฤตกิ รรมการแสดงออก ระดับการปฏบิ ตั ิ ประเมนิ ๓๒๑ ๑. มีวินยั ๑.1 ปฏิบตั ติ ามข้อตกลง กฎเกณฑ์ ระเบียบ ข้อบงั คบั ของครอบครัว ๒. ใฝ่เรยี นรู้ และโรงเรยี น มีความตรงตอ่ เวลาในการปฏิบตั ิกิจกรรมต่าง ๆ ใน ชีวิตประจาวนั มคี วามรับผิดชอบ 3. มุ่งมน่ั ใน 2.1 ตงั้ ใจเรียน การทางาน 2.2 เอาใจใส่ในการเรยี น และมีความเพยี รพยายามในการเรียน 2.3 เข้ารว่ มกจิ กรรมการเรียนรูต้ ่าง ๆ 2.4 ศึกษาคน้ ควา้ หาความรจู้ ากหนงั สอื เอกสาร สงิ่ พิมพ์ สือ่ เทคโนโลยตี า่ ง ๆ แหลง่ การเรียนร้ทู ง้ั ภายในและภายนอกโรงเรยี น และ เลอื กใชส้ ่อื ไดอ้ ย่างเหมาะสม 2.5 บนั ทกึ ความรู้ วิเคราะห์ ตรวจสอบบางสิง่ ท่เี รยี นรู้ สรปุ เปน็ องค์ความรู้ 2.6 แลกเปลี่ยนความรู้ ด้วยวธิ ีการต่าง ๆ และนาไปใช้ใน ชวี ติ ประจาวนั 3.1 มีความตง้ั ใจและพยายามในการทางานท่ไี ดร้ ับมอบหมาย 3.2 มคี วามอดทนและไม่ทอ้ แทต้ อ่ อุปสรรคเพอื่ ใหง้ านสาเร็จ ลงช่ือ................................................................ผู้ประเมนิ ...................../..................../................... เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน ๓ คะแนน หมายถึง ปฏิบัติหรือแสดงพฤติกรรมอย่างสม่าเสมอ ๒ คะแนน หมายถงึ ปฏบิ ัตหิ รือแสดงพฤติกรรมบอ่ ยครั้ง ๑ คะแนน หมายถึง ปฏิบตั ิหรือแสดงพฤติกรรมบางครั้ง เกณฑก์ ารใหค้ ะแนนดงั ตารางแนบทา้ ย เกณฑก์ ารประเมินคุณลกั ษณะอันพงึ ประสงคด์ งั นี้ ช่วงคะแนน ระดบั คณุ ภาพ 22-27 ดีเย่ยี ม 15-21 ดี 8-14 ผา่ น 1-7 ไมผ่ า่ น

๙๒๖ คูม่ อื ครแู ละแผนจดั การเรียนรู้ ระดับประถมศึกษา ภาคเรยี นที่ ๑ (ประวตั ิศาสตร์ ป.๓) แบบประเมนิ สมรรถนะสาคญั ของผู้เรยี น คาชแ้ี จง ให้ผู้สอนสังเกตพฤติกรรมของนกั เรียนในระหวา่ งเรียนและนอกเวลาเรยี นแลว้ ขดี ✓ลงในชอ่ งทต่ี รง กบั ระดับคะแนน รายการประเมิน พฤตกิ รรมการแสดงออก ระดบั การปฏบิ ตั ิ ๓๒๑ ๑.ความสามารถ ๑.1 มคี วามสามรถในการรับ – ส่งสาร ในการสอ่ื สาร 1.2 มีความสามารถในการถา่ ยทอดความรู้ ความคิด ความเขา้ ใจ ของตนเอง โดยใชภ้ าษาอย่าง เหมาะสม 2. ความสามารถ 2.1 มีทักษะในการคิดนอกกรอบอยา่ งสร้างสรรค์ ในการคดิ 2.2 มคี วามสามารถในการคดิ อยา่ งมรี ะบบ 3. ความสามารถ 3.1 สามารถทางานกลุ่มร่วมกบั ผูอ้ ืน่ ได้ ในการใชท้ กั ษะ 3.2 นาความรทู้ ไี่ ด้ไปใชป้ ระโยชนใ์ นชีวิตประจาวนั ชีวิต ลงชอื่ ................................................................ผปู้ ระเมิน ...................../..................../................... เกณฑก์ ารให้คะแนน ๓ คะแนน หมายถึง ปฏิบัติหรอื แสดงพฤติกรรมอย่างสม่าเสมอ ๒ คะแนน หมายถงึ ปฏิบตั หิ รือแสดงพฤตกิ รรมบ่อยครงั้ ๑ คะแนน หมายถงึ ปฏบิ ตั ิหรือแสดงพฤตกิ รรมบางคร้งั เกณฑก์ ารใหค้ ะแนนดงั ตารางแนบทา้ ย เกณฑก์ ารประเมนิ สมรรถนะสาคญั ของผูเ้ รยี นดังน้ี ชว่ งคะแนน ระดับคณุ ภาพ 13-18 ดีเยยี่ ม 9-12 ดี 5-8 ผ่าน 1-4 ไม่ผา่ น

หนว่ ยการเรียนรทู้ ี่ 2 เรอ่ื ง ภมู ิใจในภูมถิ น่ิ ๙๒๗ แผนการจดั การเรยี นรทู้ ่ี ๖ เรื่อง ปัจจยั ท่มี ผี ลต่อการต้งั ถน่ิ ฐานและพฒั นาการของชมุ ชนภาคใต้ หน่วยการเรียนรู้ที่ 2 เร่ือง ภูมใิ จในภมู ถิ ิ่น เวลา 1 ช่ัวโมง กลุม่ สาระการเรียนรู้สงั คมศกึ ษา ศาสนา และวฒั นธรรม รายวชิ าประวัตศิ าสตร์ ชัน้ ประถมศกึ ษาปที ี่ 3 1. มาตรฐานการเรียนร้/ู ตัวชี้วัด มาตรฐาน ส ๔.2 เข้าใจพฒั นาการของมนษุ ยชาตจิ ากอดีตจนถึงปจั จุบัน ในดา้ นความสมั พนั ธแ์ ละการเปลี่ยนแปลง ของเหตกุ ารณอ์ ย่างต่อเน่ือง ตระหนกั ถึงความสาคญั และสามารถวิเคราะห์ผลกระทบทีเ่ กดิ ขึน้ ตัวชี้วดั ป.๓/1 ระบปุ ัจจยั ท่มี ีอทิ ธิพลต่อการต้งั ถนิ่ ฐานและพฒั นาการของชุมชน ๒. สาระสาคญั /ความคิดรวบยอด ปัจจัยทางภูมิศาสตร์และทางสังคมมีอิทธิพลต่อการต้ังถิ่นฐานและพัฒนาการของชุมชน สภาพทาง ภูมิศาสตร์และทางสังคมท่ีแตกต่างกันมีผลให้ภูมิภาคต่าง ๆ ของไทยมีแตกต่างกันในด้านการต้ังถิ่นฐาน การดารงชวี ิต วฒั นธรรมและประเพณี ๓. จุดประสงค์การเรยี นรู้ 3.1 ดา้ นความรู้ ความเข้าใจ (K) - ระบปุ ัจจยั ท่ีมีอทิ ธพิ ลตอ่ การตัง้ ถ่ินฐานและพัฒนาการของชุมชนภาคใตไ้ ด้ 3.2 ด้านทักษะ กระบวนการ (P) - วิเคราะห์ปัจจยั ท่ีมีอิทธพิ ลตอ่ การตัง้ ถิ่นฐานและพฒั นาการของชมุ ชนภาคใต้ 3.๓ ดา้ นคณุ ลกั ษณะ เจตคติ ค่านิยม (A) - เหน็ ความสาคญั ของปจั จัยทมี่ อี ทิ ธพิ ลต่อการตั้งถนิ่ ฐานและพัฒนาการของชมุ ชนภาคใต้ ๔. สาระการเรยี นรู้ ปจั จยั ทม่ี ีอทิ ธพิ ลต่อการตง้ั ถ่ินฐานและพฒั นาการของชมุ ชนภาคใต้ ๕. สมรรถนะสาคญั ของผเู้ รยี น 1. ความสามารถในการส่อื สาร ๒. ความสามารถในการคิด 3. ความสามารถในการใช้ทกั ษะชวี ิต ๖. คุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์ 1. มีวินัย 2. ใฝเ่ รียนรู้ 3. มุ่งมั่นในการทางาน 7. กจิ กรรมการเรยี นรู้

๙๒๘ คมู่ ือครูและแผนจดั การเรยี นรู้ ระดับประถมศกึ ษา ภาคเรยี นท่ี ๑ (ประวัตศิ าสตร์ ป.๓) ลาดบั ท่ี การจดั กิจกรรมการเรียนรู้ ชนั้ ประถมศกึ ษาปีท่ี 3 1. แผนการจดั การเรียนรทู้ ่ี ๖ เรื่อง ปัจจัยทม่ี ีผลตอ่ การตง้ั ถิน่ ฐานและพฒั นาการของชุมชนภาคใต้ รายวชิ าประวตั ศิ าสตร์ จานวน 1 ชวั่ โมง จุดประสงค์ ขั้นตอนการจดั เวลา แนวการจดั การเรยี นรู้ สอ่ื การเรียนรู้ การประเมนิ การเรยี นรู้ การเรียนรู้ ท่ใี ช้ การเรยี นรู้ กจิ กรรมครู กจิ กรรมนกั เรียน ข้นั นา 5 นาที 1. ครใู ห้ตวั แทนนกั เรยี นท่ี 1. นกั เรยี นแสดงบทบาท - การแสดง การสังเกต เตรยี มไวก้ ่อนลว่ งหนา้ แสดง สมมตุ กิ ารแหป่ ระเพณสี ารท บทบาทสมมุติ บทบาทสมมตุ กิ ารแห่ เดอื นสบิ ประเพณีสารทเดอื นสบิ มา แสดงหนา้ ชัน้ เรียน ๒. ครใู หน้ ักเรยี นบอก 2. นกั เรยี นบอกชอ่ื ประเพณี ลักษณะของกิจกรรมท่ีแสดง สารทเดือนสิบ/ เปน็ ประเพณี หรอื เอกลกั ษณ์ เปน็ ประเพณีของภาคใต้ ของท้องถิ่นใด ๓. ครแู ละนกั เรียนร่วมกัน 3. นักเรียนอธบิ ายประเพณี เ ลยคาตอบที่ถูกต้อง จากนัน้ หรือเอกลักษณข์ องท้องถน่ิ อธบิ ายเก่ยี วกบั ลักษณะของ ภาคใตอ้ ย่างครา่ วๆ ประเพณี หรอื เอกลักษณข์ อง ทอ้ งถิ่นภาคใต้อย่างคร่าวๆ

หนว่ ยการเรยี นรทู้ ี่ 2 เร่ือง ภมู ิใจในภมู ถิ ่นิ ๙๒๙ ลาดบั ที่ จุดประสงค์ ข้นั ตอนการจดั เวลา แนวการจดั การเรยี นรู้ สอื่ การเรยี นรู้ การประเมนิ 2. การเรียนรู้ การเรียนรู้ การเรียนรู้ ทใี่ ช้ 1. ระบปุ ัจจัยท่มี ีอิทธิพล ขัน้ สอน ต่อการต้ังถน่ิ ฐานและ กิจกรรมครู กจิ กรรมนักเรยี น พัฒนาการของชมุ ชน ภาคใตไ้ ด้ 25 นาที 1. ครูแบง่ นักเรียนเปน็ กลุ่ม 1. นกั เรยี นแบง่ กลุม่ เพ่อื - แบบประเมนิ - การประเมนิ กระบวนการ 2. วเิ คราะห์ปจั จยั ทางท่ีมี ออกเป็น กลุ่มละ 4 คน ชว่ ยกันแบง่ ปันความคิด ทางานกล่มุ อทิ ธิพลตอ่ การต้งั ถนิ่ ฐาน และพฒั นาการของชุมชน 2. ครูแจกใบความรู้เร่ือง 2. นกั เรยี นศึกษาใบความรู้ - ใบความร้เู รอื่ ง - การประเมิน ภาคใต้ ปัจจัยทมี่ ผี ลตอ่ การตั้งถนิ่ ฐาน เร่ือง ปัจจยั ที่มผี ลต่อการต้งั และพัฒนาการของชมุ ชน ถนิ่ ฐานและพฒั นาการของ ปัจจัยที่มีผลต่อ - การสงั เกต ภาคใต้ ชมุ ชนภาคใต้ การต้ังถนิ่ ฐาน พฤตกิ รรม และพัฒนาการ ของชมุ ชน ภาคใต้ 3. ครูต้ังคาถามให้นกั เรยี น 3. นกั เรยี นภายในกลุ่ม - คาถาม - การประเมินการ ร่วมกันอภิปรายและวิเคราะห์ อภิปรายและวเิ คราะห์หา ตอบคาถาม หาคาตอบดงั ต่อไปนี้ คาตอบ

๙๓๐ ค่มู ือครูและแผนจดั การเรียนรู้ ระดับประถมศกึ ษา ภาคเรยี นท่ี ๑ (ประวัตศิ าสตร์ ป.๓) ลาดับท่ี จุดประสงค์ ขนั้ ตอนการจดั เวลา แนวการจดั การเรียนรู้ สือ่ การเรยี นรู้ การประเมิน การเรยี นรู้ การเรียนรู้ ทใ่ี ช้ การเรียนรู้ กจิ กรรมครู กจิ กรรมนกั เรียน 3. เห็นความสาคญั ของ - นกั เรยี นเคยไปเทย่ี วภาคใต้ - เคย/ไมเ่ คย ปจั จยั ทมี่ อี ิทธพิ ลต่อการตง้ั หรือไม่ ถน่ิ ฐานและพฒั นาการของ - หากนึกถงึ ภาคใต้ นกั เรยี น - ทะเล,ชายหาด,หนงั ตะลุง ชมุ ชนภาคใต้ จะนึกถึงสง่ิ ใดเปน็ สิง่ แรก (ตามดุลพนิ จิ ครผู สู้ อน) - ภาคใต้มลี ักษณะภมู ปิ ระเทศ - ภาคใตม้ ลี กั ษณะภมู ิ เป็นอย่างไร ประเทศเปน็ คาบสมทุ รทม่ี ี ทะเลขนาบอยู่ 2 ดา้ น คือ ตะวนั ออกด้านอา่ วไทย และ ตะวนั ตกดา้ นทะเลอนั ดามนั อดุ มสมบรู ณ์ อากาศบรสิ ทุ ธิ - เหตใุ ดชมุ ชนในภาคใดทม่ี ี - ชมุ ชนภาคใตป้ ระกอบดว้ ย ความหลากหลายในด้าน ผู้คนหลายเชือ้ สาย หลาย วฒั นธรรม ศาสนา เชน่ ไทย พุทธ จนี - ประเพณีในภาคใตม้ ี - ประเพณแี หพ่ ระแข่งเรอื / อะไรบา้ ง ประเพณสี ารทเดือนสบิ

หนว่ ยการเรยี นรู้ท่ี 2 เร่ือง ภมู ใิ จในภมู ิถ่นิ ๙๓๑ ลาดบั ที่ จดุ ประสงค์ ขนั้ ตอนการจดั เวลา แนวการจดั การเรียนรู้ ส่อื การเรียนรู้ การประเมิน การเรยี นรู้ การเรียนรู้ ทีใ่ ช้ การเรยี นรู้ กจิ กรรมครู กจิ กรรมนักเรยี น - ภูมปิ ระเทศทีม่ ีทะเลขนาบ - พ้นื ท่ภี าคใตม้ ที ะเลขนาบ ท้งั สองขา้ ง คาดคะเนไดว้ า่ ทั้ง 2 ด้าน จึงเหมาะแก่ ผู้คนจะประกอบอาชีพใด การประกอบอาชพี ประมง นา้ เคม็ และทาการเกษตร - ผคู้ นทนี่ บั ถอื ศาสนาอสิ ลาม - โรตี มะตะบะ สลัดแขก ในภาคใตม้ ักจะรบั ประทาน ขา้ วหมกไก่ กุรหุ มา่ ไก่ อาหารประเภทใด - เพราะเหตุใด ภาคใตจ้ งึ มี - เพราะภมู ปิ ระเทศ นกั ท่องเท่ยี วมาเทย่ี วชมเป็น ประกอบดว้ ย ทะเล เกาะ จานวนมากในแตล่ ะป และปา่ ไม้ ทม่ี คี วามสวยงาม เหมาะแก่การท่องเที่ยว 4. ครแู ละนกั เรียนร่วมกัน 4. นกั เรยี นผลดั กนั อธบิ าย อธิบายปัจจัยทางภูมิศาสตร์ ความรแู้ ละซักถามข้อสงสัย และปจั จยั สังคมท่ีมผี ลตอ่ การ ภายในกลุ่มของตนเอง ตง้ั ถิน่ ฐานและพัฒนาการของ ชุมชนภาคใต้

๙๓๒ คมู่ อื ครูและแผนจดั การเรยี นรู้ ระดบั ประถมศึกษา ภาคเรยี นท่ี ๑ (ประวัตศิ าสตร์ ป.๓) ลาดับท่ี จดุ ประสงค์ ข้ันตอนการจดั เวลา แนวการจดั การเรียนรู้ ส่ือการเรียนรู้ การประเมนิ 3.. การเรียนรู้ การเรยี นรู้ การเรยี นรู้ ท่ใี ช้ 4. วเิ คราะห์ปจั จัยทางทมี่ ี ขั้นปฏบิ ตั ิ อทิ ธิพลตอ่ การต้ังถิ่นฐาน กิจกรรมครู กิจกรรมนักเรียน และพัฒนาการของชุมชน ภาคใต(้ P) ๑๐ นาที ครูใหน้ กั เรยี นสรปุ ปจั จยั ทีม่ ี นกั เรยี นทาใบงาน เรื่อง - ใบงาน เร่อื ง - การประเมนิ ปัจจัยทมี่ ีผลตอ่ สังเกตพฤตกิ รรม ผลตอ่ การตง้ั ถ่นิ ฐานและ ปัจจยั ท่มี ผี ลต่อการตง้ั ถนิ่ การตง้ั ถนิ่ ฐาน - การตรวจใบงาน และพัฒนาการ พฒั นาการของชุมชนภาคใต้ ฐานและพฒั นาการของ ของชมุ ชน ภาคใต้ และบนั ทกึ ลงในใบงาน เร่อื ง ชมุ ชนภาคใต้ ปจั จยั ท่มี ผี ลต่อการต้ังถ่นิ ฐาน และพัฒนาการของชมุ ชน ภาคใต้ 4. ข้ันสรุป ๑๐ นาที 1. ครสู ่มุ ใหต้ วั แทนแตล่ ะกลมุ่ 1. นกั เรียนตัวแทนกลมุ่ - ใบงาน เร่อื ง - การตรวจใบงาน ๓ กลุม่ ออกมานาเสนอใบงาน นาเสนอผลงานหน้าชั้นเรียน ปัจจยั ท่ีมีผลตอ่ - การประเมิน ๒. ครแู ละนกั เรยี นร่วมกัน ๒. นกั เรยี นรว่ มกนั การตง้ั ถนิ่ ฐาน สังเกตพฤตกิ รรม ตรวจสอบความถกู ตอ้ ง ตรวจสอบความถกู ตอ้ ง และพัฒนาการ ๓. ครแู ละนักเรียนร่วมกนั ๓. นกั เรยี นรว่ มกนั สรุป ของชมุ ชน สรปุ เร่อื ง ปัจจัยที่มผี ลต่อ เรื่อง ปจั จยั ทมี่ ผี ลต่อการตงั้ ภาคใต้ การต้งั ถ่ินฐานและพฒั นาการ ถ่ินฐานและพฒั นาการของ - แบบประเมนิ ของชมุ ชนภาคใต้ ชุมชนภาคใต้คือ ปจั จยั ทางด้านภูมิศาสตร์และ ปัจจัยทางสงั คม

หน่วยการเรยี นรทู้ ่ี 2 เรือ่ ง ภูมใิ จในภูมถิ ่นิ ๙๓๓ 8. สอื่ การเรยี นรู้/แหลง่ เรยี นรู้ 1. บตั รภาพประเพณีสารทเดอื นสบิ 2. ใบความรทู้ ่ี 6 เร่ือง ปัจจยั ทมี่ ผี ลต่อการตั้งถิ่นฐานและพฒั นาการของชุมชนภาคใต้ 3. ใบงานที่ 6 เรอ่ื ง ปัจจยั ท่มี ผี ลตอ่ การตง้ั ถน่ิ ฐานและพฒั นาการของชุมชนภาคใต้ 9. การประเมินผลรวบยอด ช้ินงานหรอื ภาระงาน ใบงานท่ี 6 เรือ่ ง ปจั จยั ท่ีมีผลต่อการตั้งถ่ินฐานและพัฒนาการของชุมชนภาคใต้ การวดั และประเมนิ ผล ประเดน็ การวดั วธิ กี าร เครือ่ งมอื เกณฑก์ ารประเมิน และประเมินผล ด้านความรู้ - ตรวจใบงานเรื่อง ปจั จัยที่ - ใบงานที่ 6 เรอื่ ง ปัจจยั ทม่ี ี ผา่ นเกณฑ์การประเมิน ความเขา้ ใจ (K) มีผลตอ่ การตั้งถิน่ ฐานและ ผลต่อการต้งั ถนิ่ ฐานและ ร้อยละ 60 พฒั นาการของชมุ ชนภาคใต้ พัฒนาการของชุมชนภาคใต้ - การสังเกต - แบบประเมนิ การสงั เกต - การตอบคาถาม พฤตกิ รรมนกั เรยี น - แบบประเมนิ การตอบ คาถาม ด้านทกั ษะ - ตรวจใบงานเร่ือง ปจั จยั ที่ - ใบงานท่ี 6 เรอ่ื ง ปัจจยั ที่มี ผา่ นเกณฑ์การประเมิน กระบวนการ (P) มีผลตอ่ การตงั้ ถ่นิ ฐานและ ผลตอ่ การตั้งถน่ิ ฐานและ รอ้ ยละ 60 พัฒนาการของชุมชนภาคใต้ พฒั นาการของชมุ ชนภาคใต้ - การสังเกต - แบบประเมินการสงั เกต - การตอบคาถาม พฤตกิ รรมนกั เรยี น - แบบประเมนิ การตอบ คาถาม ดา้ นคุณลกั ษณะ - การสังเกตพฤติกรรม - แบบประเมินการสงั เกต ผา่ นเกณฑป์ ระเมนิ ระดับ เจตคติ คา่ นยิ ม - การตอบคาถาม - แบบประเมนิ การตอบคาถาม คณุ ภาพพอใช้ขึน้ ไป (A) คุณลักษณะ - ประเมนิ มีวนิ ัย ใฝเ่ รียนรู้ - แบบประเมนิ คณุ ลกั ษณะ ผา่ นเกณฑ์ประเมนิ ระดบั อันพึงประสงค์ และมงุ่ มั่นในการทางาน อนั พงึ ประสงค์ คุณภาพผ่านขนึ้ ไป สมรรถนะสาคญั - ประเมินความสามารถ - แบบประเมินสมรรถนะ ผา่ นเกณฑป์ ระเมนิ ระดบั ของผเู้ รียน ในการสื่อสาร สาคญั ของผู้เรยี น คุณภาพผา่ นขนึ้ ไป ความสามารถในการคิดและ ความสามารถในการใช้ ทกั ษะชวี ิต

๙๓๔ คู่มือครูและแผนจดั การเรียนรู้ ระดบั ประถมศึกษา ภาคเรยี นท่ี ๑ (ประวัติศาสตร์ ป.๓) 10. บนั ทกึ ผลหลังสอน ผลการจัดการเรียนการสอน .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. ความสาเรจ็ .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. ปญั หาและอปุ สรรค .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. ขอ้ จากัดการใช้แผนการจดั การเรียนรู้ และข้อเสนอแนะ/แนวทางการปรับปรุงแก้ไข .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. ลงช่ือ......................................................ผสู้ อน (..........................................................) วันท่ี .......... เดือน ..................... พ.ศ. ............. 11. ความคิดเห็น/ข้อเสนอแนะของผบู้ รหิ ารหรอื ผทู้ ี่ไดร้ บั มอบหมาย .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. ลงชือ่ ...................................................... ผู้ตรวจ (..........................................................) วันที่ .......... เดือน ..................... พ.ศ. .............

หนว่ ยการเรยี นร้ทู ี่ 2 เรื่อง ภมู ิใจในภมู ิถ่นิ ๙๓๕ ใบความรทู้ ี่ เรื่อง ปจั จัยทมี่ ีผลตอ่ การตงั้ ถิน่ ฐานและพฒั นาการของชุมชนภาคใต้ หนว่ ยการเรยี นรทู้ ่ี 2 เร่ือง ภูมิใจในภมู ถิ น่ิ แผนการจดั การเรียนรทู้ ี่ ๖ เรอ่ื ง ปัจจยั ท่ีมผี ลต่อการตัง้ ถน่ิ ฐานและพฒั นาการของชุมชนภาคใต้ รายวิชาประวตั ิศาสตร์ รหสั วิชา ส13102 ภาคเรียนท่ี 1 ชนั้ ประถมศกึ ษาปที ี่ 3 ปจั จยั ทางภมู ิศาสตร์ ลักษณะภูมปิ ระเทศ เป็นคาบสมุทรทมี่ ที ะเลขนาบอยู่ 2 ดา้ น คือ ตะวนั ออกดา้ นอา่ วไทย และ ตะวนั ตกดา้ นทะเลอันดามันเปน็ ชายฝงั ทะเลท่ีสวยงาม มีภูเขาและปา่ ไม้อดุ มสมบรู ณ์ ลักษณะภูมอิ ากาศ มฝี นตกชุกสลบั กับฤดูแล้งส้ัน ๆ ภาคใต้ไม่มฤี ดหู นาว เนอื่ งจากอยใู่ กล้เส้น ศนู ย์สูตร และได้รับอทิ ธิพลจากลมมรสมุ ตะวนั ตกเ ียงใตแ้ ละลมมรสุมตะวนั ออกเ ยี งเหนือทาให้ ฝนตกชุกตลอดทงั้ ป ทรัพยากรธรรมชาติ ทรพั ยากรปา่ ไมพ้ ื้นทีป่ า่ ไมส้ ว่ นใหญใ่ นภาคใต้เปน็ ป่าดบิ ชืน้ ตามเทอื กเขา และปา่ ชายเลนภาคใต้มีแร่ธาตุหลายชนดิ เช่นแรด่ ีบุก พบมากทีส่ ดุ ในภาคใต้และของประเทศไทย https://mgronline.com/south/detail/95900 00064000 ปัจจยั ทางสังคม ผู้คนในภาคใต้ชุมชนที่มีความหลากหลายด้านประชากร ในพ้ืนที่ที่มีประชากรอาศัยอยู่ รวมกันเป็นจานวนมากหลายเชื้อสาย ย่อมเกิดความแตกต่างทางด้านวัฒนธรรมและประเพณีของ ชุมชน ทาให้แต่ละชุมชนมีความหลากหลายและผสมผสานทางด้านวัฒนธรรมและประเพณีจาก การนับศาสนาท่ีแตกตา่ งกันทงั้ พุทธ อิสลาม จีนลกั ษณะอาคารบ้านเรือนมีความแตกตา่ งกันเพราะ ไดร้ ับอิทธิพลจากชาวจีน ชาวตะวันตก รายได้สาคัญได้มาจากอตุ สาหกรรมการท่องเที่ยวเน่ืองจาก ฝังทะเลท่ีสวยงามมีป่า น้าตก มีวัฒนธรรมประเพณีท่ีมีเอกลักษณ์และหลากหลายจึงเป็นที่นิยม ของนกั ทอ่ งเท่ยี ว

๙๓๖ ค่มู ือครแู ละแผนจดั การเรยี นรู้ ระดับประถมศกึ ษา ภาคเรยี นที่ ๑ (ประวตั ิศาสตร์ ป.๓) ใบงานท่ี เรอ่ื ง ปัจจัยทม่ี ผี ลต่อการต้งั ถิน่ ฐานและพฒั นาการของชมุ ชนภาคใต้ หนว่ ยการเรียนร้ทู ี่ 2 เรอื่ ง ภมู ิใจในภมู ถิ น่ิ แผนการจดั การเรียนรทู้ ่ี ๖ เร่อื ง ปจั จยั ทีม่ ผี ลต่อการตงั้ ถนิ่ ฐานและพฒั นาการของชุมชนภาคใต้ รายวชิ าประวตั ศิ าสตร์ รหสั วชิ า ส13102 ภาคเรียนท่ี 1 ชนั้ ประถมศกึ ษาปีที่ 3 คาชี้แจง ใหน้ ักเรยี นวิเคราะห์ปัจจัยทางภมู ศิ าสตรแ์ ละปัจจยั ทางสังคมทมี่ อี ทิ ธิพลต่อการตง้ั ถนิ่ ฐานและพฒั นาการของชุมชนภาคใต้ ปัจจยั ทางภูมิศาสตร์ ……………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………..……………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………..……………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………… ปัจจยั ทางสังคม ……………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………..……………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………..……………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………… ชื่อ...............................................................นามสกลุ ..................................................เลขท.ี่ ....................

หนว่ ยการเรยี นรูท้ ่ี 2 เรอื่ ง ภมู ิใจในภมู ถิ ิน่ ๙๓๗ เฉลยใบงานที่ เร่ือง ปจั จยั ท่มี ผี ลต่อการต้งั ถ่ินฐานและพฒั นาการของชมุ ชนภาคใต้ หนว่ ยการเรยี นร้ทู ี่ 2 เร่ือง ภมู ใิ จในภูมถิ นิ่ แผนการจัดการเรยี นรทู้ ่ี ๖ เรอื่ ง ปัจจยั ทีม่ ผี ลต่อการตงั้ ถนิ่ ฐานและพฒั นาการของชุมชนภาคใต้ รายวชิ าประวัตศิ าสตร์ รหสั วชิ า ส13102 ภาคเรียนที่ 1 ชั้นประถมศึกษาปที ี่ 3 คาชี้แจง ใหน้ กั เรยี นวิเคราะหป์ ัจจัยทางภมู ศิ าสตรแ์ ละปัจจัยทางสังคมที่มอี ิทธพิ ลตอ่ การตง้ั ถน่ิ ฐานและพฒั นาการของชมุ ชนภาคใต้ ปัจจยั ทางภูมศิ าสตร์ ……………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………..……………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………..……………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………… ปัจจยั ทางสงั คม ……………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………..……………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………..……………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………(…ค…ำต…อ…บ…ต…ำ…ม…ด…ุล…พ…ิน…จิ …ข…อ…ง…ค…รูผ…ู้ส…อ…น…)……………………………………

๙๓๘ คู่มือครแู ละแผนจดั การเรยี นรู้ ระดบั ประถมศึกษา ภาคเรยี นที่ ๑ (ประวตั ิศาสตร์ ป.๓) แบบประเมินการสงั เกตพฤติกรรมนกั เรียนรายบคุ คล ชัน้ ประถมศกึ ษาปที ่ี 3 สงั เกตพฤตกิ รรมการเรยี นรวู้ นั ท่ี.......................เดอื น............................................พ.ศ............................. เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน ลาดับ ชือ่ – สกลุ ความ ความ การตอบ มีสว่ น รวม ระดบั ที่ ต้ังใจใน สนใจ คาถาม ร่วมใน (16) คณุ ภาพ การเรียน และการ (4) กจิ กรรม ซักถาม (4) (4) (4) 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 ลงช่อื ................................................................ผปู้ ระเมิน ...................../..................../................... เกณฑก์ ารใหค้ ะแนนดังตารางแนบทา้ ย เกณฑก์ ารประเมินในการสงั เกตพฤติกรรมการเรยี นรู้ ดงั น้ี ชว่ งคะแนน ระดบั คณุ ภาพ เกณฑก์ ารสรปุ ผลการประเมิน 14-16 ดมี าก นกั เรยี นทไ่ี ดร้ ะดบั คณุ ภาพพอใชข้ ึน้ ไป ถือวา่ ผ่าน 11-13 ดี 8-10 พอใช้ 1-7 ปรับปรุง

หน่วยการเรียนร้ทู ่ี 2 เรือ่ ง ภูมใิ จในภมู ิถิ่น ๙๓๙ เกณฑก์ ารวดั และประเมนิ ผลการสงั เกตพฤตกิ รรมนักเรียนรายบุคคล (Rubric) ประเดน็ การประเมิน เกณฑก์ ารให้คะแนน ดี (3) พอใช้ (2) ดมี าก (4) ต้องปรบั ปรุง (1) 1. ความตง้ั ใจใน สนใจในการเรียน สนใจในการเรยี น สนใจในการเรยี น ไมส่ นใจใน การเรียน ไมค่ ุยหรอื เลน่ กัน คยุ กนั เลก็ น้อย คยุ กนั และเลน่ กนั การเรยี น คยุ และ ในขณะเรียน ในขณะเรยี น ในขณะเรยี นเปน็ เลน่ กันในขณะ 2. ความสนใจและ บางคร้ัง เรยี น การซกั ถาม มกี ารถามในหวั ขอ้ มกี ารถามในหวั ขอ้ ไม่ถามในหวั ขอ้ ที่ ท่ีตนไมเ่ ขา้ ใจทกุ ทีต่ นไมเ่ ข้าใจเป็น มกี ารถามในหวั ขอ้ ตนไม่เข้าใจและ 3. การตอบคาถาม เรอื่ งและกล้า ส่วนมากและกล้า ทตี่ นไมเ่ ขา้ ใจเป็น ไมก่ ล้าแสดงออก แสดงออก แสดงออก บางครัง้ และไมค่ อ่ ย 4. มสี ว่ นร่วมใน รว่ มตอบคาถามใน รว่ มตอบคาถามใน กลา้ แสดงออก ไมต่ อบคาถาม กจิ กรรม เรื่องที่ครถู ามและ เร่อื งทีค่ รถู ามและ ตอบคาถามถกู ทกุ ตอบคาถาม ร่วมตอบคาถามใน ไมม่ ีความรว่ มมือ ข้อ ส่วนมากถูก เร่ืองท่คี รถู ามเป็น ในขณะทา บางครงั้ และตอบ กิจกรรม รว่ มมือและ รว่ มมือและ คาถามถกู เปน็ ช่วยเหลือเพอื่ นใน ชว่ ยเหลือเพ่อื นเป็น บางคร้งั การทากิจกรรม ส่วนใหญ่ในการทา กจิ กรรม รว่ มมอื และ ช่วยเหลอื เพื่อนใน การทากจิ กรรมเป็น บางคร้งั

๙๔๐ คู่มือครแู ละแผนจดั การเรียนรู้ ระดบั ประถมศกึ ษา ภาคเรยี นท่ี ๑ (ประวตั ศิ าสตร์ ป.๓) แบบประเมนิ การสังเกตพฤติกรรมการทางานกลมุ่ ชน้ั ประถมศกึ ษาปที ี่ 3 สังเกตพฤติกรรมการเรยี นรวู้ ันที่.......................เดอื น............................................พ.ศ.............................. เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน ลาดบั ชื่อกลุ่ม การ การ การ พฤตกิ รรม รวม ระดบั ที่ ปฏสิ มั พันธ์ สนทนา ตดิ ต่อส่อื สาร การทางาน (16) คณุ ภาพ เรอ่ื ง กนั ทกี่ าหนด (4) กลมุ่ (4) (4) (4) 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 ลงชอ่ื ................................................................ผู้ประเมนิ ...................../..................../................... เกณฑก์ ารให้คะแนนดงั ตารางแนบทา้ ย เกณฑก์ ารประเมินในการสงั เกตพฤติกรรมการเรียนรู้ ดงั น้ี ชว่ งคะแนน ระดบั คณุ ภาพ เกณฑก์ ารสรุปผลการประเมิน 14-16 ดีมาก นกั เรยี นทไ่ี ดร้ ะดบั คณุ ภาพพอใชข้ ึน้ ไป ถือวา่ ผ่าน 11-13 ดี 8-10 พอใช้ 1-7 ปรับปรงุ

หน่วยการเรยี นรู้ท่ี 2 เรอื่ ง ภมู ิใจในภมู ถิ ิ่น ๙๔๑ เกณฑ์การวัดและประเมนิ ผลการสงั เกตพฤตกิ รรมนกั เรยี นรายกลมุ่ (Rubric) ประเดน็ การ ดมี าก (4) เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน ตอ้ งปรบั ปรงุ (1) ประเมนิ ดี (3) พอใช้ (2) 1. การปฏสิ ัมพนั ธ์ ร่วมมอื และชว่ ยเหลอื รว่ มมือและ รว่ มมือและ ไมใ่ ห้ความร่วมมือ กนั เพ่ือนในการทา ชว่ ยเหลอื เพ่ือนเปน็ ชว่ ยเหลอื เพื่อนใน ในขณะทา กจิ กรรม ส่วนใหญ่ในการทา การทากิจกรรมเป็น กิจกรรม กจิ กรรม บางครงั้ 2. การสนทนาเรอื่ ง สนทนาตรงประเดน็ สนทนาตรงประเดน็ สนทนาตรงประเดน็ สนทนาไมต่ รง ท่ีกาหนด ครอบคลุมเนื้อหา ครอบคลุมเน้อื หา ประเด็น บางส่วน 3. การติดตอ่ ส่อื สาร มกี ารปรกึ ษาครูและ มกี ารปรกึ ษาครูและ มกี ารปรกึ ษาครูและ ไมม่ ีการปรึกษาครู เพ่อื นกล่มุ อน่ื ๆ เพ่อื นกลมุ่ อนื่ ๆ เปน็ เพอื่ นกล่มุ อนื่ ๆ เปน็ และเพื่อนกลุม่ อน่ื ๆ สว่ นใหญ่ บางคร้ัง 4. พฤตกิ รรม มกี ารวางแผนอย่าง มีการวางแผนอยา่ ง มกี ารวางแผนอย่าง ไม่มกี ารวางแผน การทางาน เปน็ ระบบ และแบง่ เปน็ ระบบ และแบง่ เปน็ ระบบ และแบ่ง อยา่ งเปน็ ระบบ หน้าทข่ี องสมาชิก หนา้ ท่ขี องสมาชิก หนา้ ทขี่ องสมาชิก และไม่มีการแบง่ ในกลมุ่ ในกลมุ่ เป็นส่วน ในกลมุ่ เปน็ บางครง้ั หนา้ ที่ของสมาชกิ ใหญ่ ในกลมุ่

๙๔๒ คู่มือครแู ละแผนจดั การเรียนรู้ ระดบั ประถมศึกษา ภาคเรยี นท่ี ๑ (ประวตั ศิ าสตร์ ป.๓) แบบประเมินคณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ คาชแ้ี จง ให้ผูส้ อนสงั เกตพฤตกิ รรมของนักเรียนในระหว่างเรียนและนอกเวลาเรยี นแล้วขดี ✓ลงในชอ่ งทต่ี รง กบั ระดับคะแนน รายการ พฤตกิ รรมการแสดงออก ระดับการปฏบิ ตั ิ ประเมนิ ๓๒๑ ๑. มวี ินัย ๑.1 ปฏิบัตติ ามขอ้ ตกลง กฎเกณฑ์ ระเบยี บ ขอ้ บงั คับของครอบครวั ๒. ใฝ่เรยี นรู้ และโรงเรียน มีความตรงต่อเวลาในการปฏบิ ัตกิ จิ กรรมตา่ ง ๆ ใน ชวี ิตประจาวันมีความรบั ผิดชอบ 3. มุ่งมน่ั ใน 2.1 ตง้ั ใจเรียน การทางาน 2.2 เอาใจใสใ่ นการเรยี น และมคี วามเพียรพยายามในการเรยี น 2.3 เขา้ ร่วมกิจกรรมการเรียนร้ตู า่ ง ๆ 2.4 ศกึ ษาคน้ ควา้ หาความรู้จากหนังสือ เอกสาร สงิ่ พิมพ์ ส่อื เทคโนโลยตี ่าง ๆ แหล่งการเรียนรู้ท้ังภายในและภายนอกโรงเรียน และ เลอื กใช้สอ่ื ไดอ้ ยา่ งเหมาะสม 2.5 บันทกึ ความรู้ วิเคราะห์ ตรวจสอบบางสง่ิ ท่ีเรยี นรู้ สรุปเป็นองค์ความรู้ 2.6 แลกเปลย่ี นความรู้ ดว้ ยวธิ ีการตา่ ง ๆ และนาไปใชใ้ นชีวิตประจาวัน 3.1 มีความตั้งใจและพยายามในการทางานท่ีไดร้ บั มอบหมาย 3.2 มีความอดทนและไมท่ อ้ แท้ตอ่ อุปสรรคเพ่อื ให้งานสาเรจ็ ลงชอ่ื ................................................................ผ้ปู ระเมนิ ...................../..................../................... เกณฑก์ ารให้คะแนน ๓ คะแนน หมายถึง ปฏบิ ตั หิ รอื แสดงพฤติกรรมอยา่ งสม่าเสมอ ๒ คะแนน หมายถงึ ปฏบิ ตั หิ รอื แสดงพฤตกิ รรมบ่อยครั้ง ๑ คะแนน หมายถงึ ปฏิบตั ิหรือแสดงพฤติกรรมบางคร้ัง เกณฑก์ ารให้คะแนนดังตารางแนบทา้ ย เกณฑก์ ารประเมินคุณลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ดังนี้ ชว่ งคะแนน ระดบั คณุ ภาพ 22-27 ดีเยี่ยม 15-21 ดี 8-14 ผา่ น 1-7 ไมผ่ า่ น

หนว่ ยการเรียนรูท้ ่ี 2 เรอื่ ง ภมู ิใจในภมู ถิ น่ิ ๙๔๓ แบบประเมนิ สมรรถนะสาคัญของผเู้ รยี น คาชแี้ จง ให้ผูส้ อนสงั เกตพฤตกิ รรมของนกั เรยี นในระหวา่ งเรียนและนอกเวลาเรยี นแล้วขีด ✓ลงในชอ่ งทต่ี รง กบั ระดบั คะแนน รายการประเมนิ พฤตกิ รรมการแสดงออก ระดบั การปฏบิ ตั ิ ๓๒๑ ๑.ความสามารถ ๑.1 มีความสามรถในการรับ – สง่ สาร ในการสอื่ สาร 1.2 มคี วามสามารถในการถ่ายทอดความรู้ ความคดิ ความเขา้ ใจ ของตนเอง โดยใชภ้ าษาอย่าง เหมาะสม 2. ความสามารถ 2.1 มีทักษะในการคิดนอกกรอบอยา่ งสร้างสรรค์ ในการคดิ 2.2 มีความสามารถในการคดิ อยา่ งมีระบบ 3. ความสามารถ 3.1 สามารถทางานกลุ่มร่วมกบั ผอู้ ่นื ได้ ในการใชท้ กั ษะ 3.2 นาความรทู้ ่ีไดไ้ ปใช้ประโยชนใ์ นชวี ิตประจาวนั ชวี ิต ลงชอ่ื ................................................................ผู้ประเมนิ ...................../..................../................... เกณฑก์ ารให้คะแนน ๓ คะแนน หมายถึง ปฏิบตั หิ รอื แสดงพฤตกิ รรมอยา่ งสมา่ เสมอ ๒ คะแนน หมายถงึ ปฏิบตั ิหรือแสดงพฤตกิ รรมบ่อยครั้ง ๑ คะแนน หมายถงึ ปฏิบตั ิหรือแสดงพฤติกรรมบางคร้งั เกณฑก์ ารใหค้ ะแนนดังตารางแนบทา้ ย เกณฑก์ ารประเมนิ สมรรถนะสาคญั ของผ้เู รยี นดงั นี้ ชว่ งคะแนน ระดับคณุ ภาพ 13-18 ดีเยี่ยม 9-12 ดี 5-8 ผ่าน 1-4 ไม่ผา่ น

๙๔๔ คูม่ ือครูและแผนจดั การเรียนรู้ ระดบั ประถมศึกษา ภาคเรยี นที่ ๑ (ประวัติศาสตร์ ป.๓) แผนการจดั การเรยี นรทู้ ี่ เรือ่ ง ปัจจยั ทีม่ ผี ลตอ่ การต้งั ถน่ิ ฐานและพฒั นาการของชุมชน ภาคตะวนั ออกเฉียงเหนอื หน่วยการเรยี นรู้ที่ 2 เรือ่ ง ภมู ใิ จในภมู ถิ ิ่น เวลา 1 ช่วั โมง กลมุ่ สาระการเรียนรู้สงั คมศกึ ษา ศาสนา และวฒั นธรรม รายวิชาประวตั ิศาสตร์ ชน้ั ประถมศึกษาปที ่ี 3 1. มาตรฐานการเรียนรู้/ตวั ชี้วดั มาตรฐาน ส ๔.2 เขา้ ใจพฒั นาการของมนุษยชาตจิ ากอดตี จนถึงปัจจบุ นั ในด้านความสมั พันธแ์ ละการเปลีย่ นแปลง ของเหตุการณอ์ ยา่ งต่อเนอื่ ง ตระหนกั ถึงความสาคญั และสามารถวเิ คราะหผ์ ลกระทบท่เี กดิ ขนึ้ ตัวชวี้ ดั ป.๓/1 ระบุปัจจัยท่มี ีอทิ ธพิ ลต่อการตง้ั ถิ่นฐานและพฒั นาการของชมุ ชน ๒. สาระสาคัญ/ความคิดรวบยอด ปัจจัยทางภูมิศาสตร์และทางสังคมมีอิทธิพลต่อการตั้งถิ่นฐานและพัฒนาการของชุมชน สภาพทาง ภูมิศาสตร์และทางสังคมท่ีแตกต่างกันมีผลให้ภูมิภาคต่าง ๆ ของไทยมีแตกต่างกันในด้านการต้ังถ่ินฐาน การดารงชวี ิต วฒั นธรรมและประเพณี ๓. จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ 3.1 ด้านความรู้ ความเข้าใจ (K) - ระบปุ ัจจัยท่มี อี ิทธพิ ลต่อการตัง้ ถิ่นฐานและพฒั นาการของชุมชนภาคตะวันออกเ ียงเหนอื ได้ 3.2 ด้านทักษะ กระบวนการ (P) - วิเคราะหป์ ัจจัยทีม่ อี ทิ ธพิ ลต่อการตงั้ ถ่ินฐานและพฒั นาการของชมุ ชนภาคตะวนั ออกเ ยี งเหนือ 3.๓ ด้านคณุ ลักษณะ เจตคติ คา่ นิยม (A) - เหน็ ความสาคญั ของปจั จยั ท่มี อี ิทธพิ ลตอ่ การต้ังถิ่นฐานและพฒั นาการของชมุ ชน ภาคตะวนั ออกเ ยี งเหนอื ๔. สาระการเรยี นรู้ ปจั จยั ท่มี อี ทิ ธพิ ลตอ่ การต้งั ถิ่นฐานและพฒั นาการของชุมชนภาคตะวนั ออกเ ียงเหนอื ๕. สมรรถนะสาคญั ของผู้เรยี น 1. ความสามารถในการสือ่ สาร ๒. ความสามารถในการคดิ 3. ความสามารถในการใช้ทกั ษะชีวิต ๖. คุณลกั ษณะอันพึงประสงค์ 1. มีวินัย 2. ใฝ่เรียนรู้ 3. มุง่ มัน่ ในการทางาน 7. กิจกรรมการเรียนรู้

หนว่ ยการเรียนรู้ท่ี 2 เรื่อง ภูมิใจในภูมถิ ิ่น ๙๔๕ แผนการจัดการเรยี นรทู้ ี่ การจดั กิจกรรมการเรียนรู้ ชน้ั ประถมศึกษาปที ่ี 3 เรอื่ ง ปจั จัยทมี่ ีผลตอ่ การตง้ั ถิ่นฐานและพฒั นาการของชุมชนภาคตะวันออกเฉยี งเหนือ รายวชิ าประวตั ศิ าสตร์ จานวน 1 ชัว่ โมง ลาดบั ท่ี จุดประสงค์ ข้ันตอนการจดั เวลา แนวการจดั การเรยี นรู้ ส่ือการเรยี นรู้ การประเมนิ 1. การเรยี นรู้ การเรยี นรู้ ทใี่ ช้ การเรียนรู้ กิจกรรมครู กิจกรรมนกั เรียน ขั้นนา 5 นาที 1. ครใู ห้ตวั แทนนกั เรยี นทีค่ รู 1. นกั เรยี นแสดงบทบาท - การแสดง เตรียมไวล้ ่วงหน้าแสดง สมมุติประเพณีแหน่ างแมว บทบาทสมมุติ บทบาทสมมุตปิ ระเพณแี ห่ หนา้ ช้ันเรยี น นางแมวหนา้ ช้ันเรียน ๒. ครใู ห้นักเรยี นบอก 2. นกั เรยี นบอกลกั ษณะ ลกั ษณะของกิจกรรมที่แสดง ของกจิ กรรมประเพณบี ญุ เป็นประเพณี หรอื เอกลกั ษณ์ บง้ั ไ เป็นประเพณภี าค ของทอ้ งถ่นิ ใด ตะวันออกเ ียงเหนอื ๓. ครแู ละนกั เรยี นรว่ มกัน 3. นกั เรยี นอธิบายประเพณี เ ลยคาตอบท่ีถกู ตอ้ ง หรือเอกลักษณข์ องท้องถ่นิ จากนั้นอธบิ ายเกี่ยวกบั ภาคตะวนั ออกเ ียงเหนือ ลกั ษณะของ ประเพณี หรอื อย่างคร่าว ๆ เอกลกั ษณข์ องทอ้ งถิน่ ตะวนั ออกเ ียงเหนอื อย่าง ครา่ ว ๆ

๙๔๖ คู่มอื ครแู ละแผนจดั การเรยี นรู้ ระดับประถมศกึ ษา ภาคเรยี นท่ี ๑ (ประวตั ิศาสตร์ ป.๓) ลาดบั ที่ จดุ ประสงค์ ขั้นตอนการจดั เวลา แนวการจดั การเรียนรู้ ส่ือการเรียนรู้ การประเมิน การเรียนรู้ การเรียนรู้ ที่ใช้ การเรยี นรู้ กจิ กรรมครู กิจกรรมนกั เรยี น 2. 1. ระบปุ จั จัยทีม่ อี ทิ ธพิ ล ขั้นสอน 25 นาที 1. ครแู บง่ นักเรียนเปน็ กลุม่ 1. นกั เรยี นแบง่ กล่มุ เพ่ือ - แบบประเมนิ ต่อการตัง้ ถิน่ ฐานและ ออกเปน็ กล่มุ ละ 4 คน ชว่ ยกันแบง่ ปันความคิด กระบวนการ พฒั นาการของชมุ ชนภาค ทางานกลุม่ ตะวันออกเ ยี งเหนือได้ 2. ครแู จกใบความรู้เร่ือง 2. นกั เรยี นศึกษาใบความรู้ - ใบความร้เู ร่อื ง - การประเมิน ปัจจัยทีม่ ผี ลตอ่ การตั้งถิน่ ฐาน เร่ือง ปจั จยั ที่มผี ลต่อการตง้ั ปัจจยั ท่มี ผี ลต่อ - การสงั เกต และพัฒนาการของชุมชน ถ่นิ ฐานและพฒั นาการของ การตง้ั ถ่ินฐาน พฤตกิ รรม ภาคตะวันออกเ ยี งเหนือ ชุมชนตะวนั ออกเ ยี งเหนอื และพฒั นาการ ของชมุ ชนภาค ตะวนั ออกเ ยี ง เหนือ 2. วเิ คราะหป์ ัจจัยทางทม่ี ี 3. ครูตัง้ คาถามใหน้ กั เรยี น 3. นกั เรียนภายในกลมุ่ - คาถาม - การประเมิน อิทธพิ ลต่อการตงั้ ถนิ่ ฐาน รว่ มกนั อภปิ รายและ อภปิ รายและวิเคราะห์หา การตอบคาถาม และพฒั นาการของชุมชน วเิ คราะหห์ าคาตอบ คาตอบ ภาคตะวนั ออกเ ยี งเหนอื ดงั ต่อไปน้ี - ประเทศไทยมีกภี่ าค - 6 ภาค หากแบ่งตามภูมปิ ระเทศ - ภาคตะวนั ออกเ ยี งเหนือ - ภาคอสี าน เรียกอีกอย่างวา่ อะไร

หน่วยการเรยี นรู้ที่ 2 เรื่อง ภมู ใิ จในภมู ิถิน่ ๙๔๗ ลาดบั ที่ จุดประสงค์ ขน้ั ตอนการจดั เวลา แนวการจดั การเรียนรู้ สอ่ื การเรียนรู้ การประเมิน การเรียนรู้ การเรียนรู้ ท่ใี ช้ การเรียนรู้ กจิ กรรมครู กิจกรรมนกั เรียน 3. เห็นความสาคญั ของ - หากนึกถงึ ส้มตาปลาร้า - ภาคอีสาน หรอื ภาค - คาถาม - การประเมิน ปัจจัยท่ีมีอทิ ธพิ ลต่อ ตามความคิดของนกั เรยี นจะ ตะวนั ออกเ ยี งเหนือ การตอบคาถาม การตง้ั ถนิ่ ฐานและ นึกถงึ ภาคใดในประเทศไทย (ตามดุลพนิ จิ ครผู สู้ อน) - การสังเกต พฒั นาการของชมุ ชนภาค - ภาคตะวนั ออกเ ยี ง - ภาคตะวันออกเ ียงเหนือ พฤติกรรม ตะวนั ออกเ ยี งเหนอื เหนือมีลักษณะภมู ปิ ระเทศ มีลกั ษณะภมู ิประเทศเป็นที่ อย่างไร ราบสูงมีแม่น้าสายสาคัญคือ แม่นา้ ชแี ละแมม่ ลู ผู้คนจะ มักตงั้ ถน่ิ ฐานบรเิ วณแม่น้า - แม่ใดในภาค - บริเวณแมน่ ้ามลู แมน่ า้ ชี ตะวันออกเ ยี งเหนือมคี วาม อดุ มสมบูรณ์ - ประเพณใี นภาค - ประเพณีผีตาโขน ตะวันออกเ ยี งเหนอื - ประเพณีแห่เทยี น มอี ะไรบ้าง เข้าพรรษา - ประเพณีใดของภาค - ประเพณีบญุ บ้งั ไ ตะวนั ออกเ ยี งเหนอื ที่มี - ประเพณแี ห่นางแมว ความเก่ยี วข้องกับความแห้ง แล้ง เกษตรกรรม

๙๔๘ คู่มือครูและแผนจัดการเรียนรู้ ระดับประถมศึกษา ภาคเรยี นที่ ๑ (ประวตั ิศาสตร์ ป.๓) ลาดบั ท่ี จดุ ประสงค์ ขัน้ ตอนการจดั เวลา แนวการจดั การเรียนรู้ สื่อการเรยี นรู้ การประเมิน การเรียนรู้ การเรียนรู้ ท่ีใช้ การเรยี นรู้ กจิ กรรมครู กิจกรรมนักเรียน - เพราะเหตุใด คนในภาค - เพราะความแล้งของพ้นื ที่ ตะวันออกเ ยี งเหนอื สว่ น การตอ้ งการมีงานทา ใหญม่ กั จะอพยพไปทางานใน โอกาสการทางานมมี ากกว่า เมอื งหลวง - ภาคอีสาน หรือ ภาค - ใช้ภาษาอสี าน และภาษา ตะวันออกเ ยี งเหนือมกั จะ เขมรในการสอ่ื สารกนั ส่อื สารดว้ ยภาษาใด 4. ครแู ละนกั เรยี นร่วมกัน 4.นกั เรยี นผลดั กนั อธบิ าย อธบิ ายปัจจยั ท่มี ผี ลต่อการตัง้ ความรแู้ ละซกั ถามขอ้ สงสยั ถน่ิ ฐานและพฒั นาการของ ภายในกลมุ่ ของตนเอง ชุมชนภาคตะวันออกเ ยี งเหนือ

หนว่ ยการเรียนรู้ท่ี 2 เรื่อง ภมู ิใจในภมู ิถน่ิ ๙๔๙ ลาดับท่ี จุดประสงค์ ขั้นตอนการจดั เวลา แนวการจดั การเรียนรู้ ส่อื การเรยี นรู้ การประเมนิ การเรยี นรู้ การเรยี นรู้ ทใ่ี ช้ การเรียนรู้ กิจกรรมครู กจิ กรรมนกั เรยี น 3. 4. วิเคราะหป์ จั จัยทางที่มี ขน้ั ปฏิบัติ 1๐ นาที ครใู ห้นักเรียนสรปุ ปจั จัยทมี่ ี นกั เรยี นทาใบงาน เรื่อง - ใบงาน เรอื่ ง - การประเมนิ อทิ ธิพลตอ่ การตั้งถน่ิ ฐาน และพฒั นาการของชุมชน ผลต่อการตงั้ ถ่ินฐานและ ปจั จยั ที่มผี ลตอ่ การต้ังถนิ่ ปัจจยั ทมี่ ผี ลต่อ สงั เกตพฤติกรรม ภาคตะวนั ออกเ ยี งเหนือ พัฒนาการของชมุ ชนภาค ฐานและพัฒนาการของ การต้งั ถิ่นฐาน - การตรวจใบ ตะวนั ออกเ ียงเหนือและ ชุมชนภาค และพัฒนาการ งาน บนั ทกึ ลงในใบงาน เรอื่ ง ตะวันออกเ ียงเหนอื ของชุมชนภาค ปจั จัยทีม่ ผี ลต่อการตัง้ ถ่นิ ฐาน ตะวันออกเ ยี ง และพัฒนาการของชมุ ชน เหนอื ภาคตะวนั ออกเ ยี งเหนอื 4. ข้ันสรปุ ๑๐ นาที 1. ครูสุ่มใหต้ วั แทนแต่ละกลุม่ 1. นักเรียนตัวแทนกลุ่ม - ใบงาน เรอ่ื ง - การตรวจใบ ๓ กลุ่มออกมานาเสนอใบงาน นาเสนอผลงานหนา้ ช้นั เรียน ปจั จัยทีม่ ีผลต่อ งาน ๒. ครแู ละนกั เรยี นร่วมกัน ๒. นักเรียนร่วมกันตรวจสอบ การตง้ั ถ่นิ ฐาน - การประเมิน ตรวจสอบความถกู ตอ้ ง ความถูกตอ้ ง และพฒั นาการ สงั เกตพฤติกรรม ๓. ครแู ละนกั เรียนรว่ มกันสรุป ๓. นกั เรยี นร่วมกนั สรุป เรอื่ ง ของชุมชนภาค เรื่อง ปจั จัยทีม่ ผี ลต่อการตงั้ ถนิ่ ปัจจัยที่มผี ลต่อการตงั้ ถน่ิ ตะวันออกเ ยี ง ฐานและพฒั นาการของชุมชน ฐานและพฒั นาการของชุมชน เหนอื ภาคตะวันออกเ ยี งเหนือ ภาคตะวนั ออกเ ียงเหนือ คือ - แบบประเมิน ปจั จยั ทางดา้ นภมู ศิ าสตรแ์ ละ ปจั จยั ทางสงั คม

๙๕๐ คู่มือครแู ละแผนจัดการเรียนรู้ ระดับประถมศกึ ษา ภาคเรยี นที่ ๑ (ประวัติศาสตร์ ป.๓) 8. สอื่ การเรยี นรู้/แหลง่ เรียนรู้ 1. บตั รภาพประเพณบี ุญบง้ั ไ 2. ใบความรทู้ ี่ 7 เร่ือง ปจั จัยที่มีผลต่อการต้ังถิ่นฐานและพัฒนาการของชมุ ชนภาคตะวันออกเ ียงเหนือ 3. ใบงานที่ 7 เร่ือง ปจั จัยทมี่ ผี ลต่อการต้งั ถิ่นฐานและพฒั นาการของชุมชนภาคตะวันออกเ ียงเหนอื 9. การประเมนิ ผลรวบยอด ช้นิ งานหรือภาระงาน ใบงานที่ 7 เรอื่ ง ปัจจยั ทม่ี ีผลต่อการตงั้ ถิ่นฐานและพฒั นาการของชุมชนภาคตะวันออกเ ียงเหนือ การวดั และประเมนิ ผล ประเดน็ การวัด วิธกี าร เครอื่ งมอื เกณฑก์ ารประเมนิ และประเมินผล ผ่านเกณฑก์ ารประเมิน - ตรวจใบงาน - ใบงาน รอ้ ยละ 60 ดา้ นความรู้ - การสังเกต - แบบประเมินการสงั เกต ความเขา้ ใจ (K) - การตอบคาถาม พฤตกิ รรมนกั เรียน ผ่านเกณฑ์การประเมิน - แบบประเมินการตอบ รอ้ ยละ 60 ดา้ นทักษะ - ตรวจใบงาน คาถาม กระบวนการ (P) - การสงั เกต - ใบงาน ผา่ นเกณฑป์ ระเมนิ ระดบั - แบบประเมินการสงั เกต คุณภาพพอใชข้ ึ้นไป - การตอบคาถาม พฤตกิ รรมนกั เรยี น ผ่านเกณฑป์ ระเมนิ ระดับ - แบบประเมินการตอบ คุณภาพผ่านขึน้ ไป ด้านคุณลักษณะ - การสงั เกตพฤตกิ รรม คาถาม เจตคติ ค่านิยม - การตอบคาถาม - แบบประเมินการสังเกต (A) - แบบประเมินการตอบ - ประเมนิ มีวินยั ใฝเ่ รียนรู้ คาถาม คุณลักษณะ และมุ่งมนั่ ในการทางาน - แบบประเมินคุณลกั ษณะ อันพึงประสงค์ อันพงึ ประสงค์ สมรรถนะสาคญั - ประเมนิ ความสามารถ - แบบประเมนิ สมรรถนะ ผา่ นเกณฑป์ ระเมินระดับ ของผเู้ รียน ในการสือ่ สารความสามารถ สาคัญของผู้เรยี น คณุ ภาพผา่ นขึ้นไป ในการคิดและความสามารถ ในการใช้ทกั ษะชวี ติ

หนว่ ยการเรียนรทู้ ี่ 2 เรือ่ ง ภมู ใิ จในภมู ถิ นิ่ ๙๕๑ 10. บนั ทึกผลหลังสอน ผลการจัดการเรยี นการสอน .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. ความสาเรจ็ .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. ปัญหาและอุปสรรค .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. ข้อจากัดการใช้แผนการจดั การเรยี นรู้ และข้อเสนอแนะ/แนวทางการปรับปรงุ แก้ไข .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. ลงชื่อ......................................................ผสู้ อน (..........................................................) วนั ที่ .......... เดือน ..................... พ.ศ. ............. 11. ความคดิ เห็น/ข้อเสนอแนะของผบู้ รหิ ารหรอื ผทู้ ี่ไดร้ บั มอบหมาย .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. ลงชือ่ ...................................................... ผู้ตรวจ (..........................................................) วนั ที่ .......... เดือน ..................... พ.ศ. .............

๙๕๒ คมู่ ือครูและแผนจดั การเรยี นรู้ ระดบั ประถมศึกษา ภาคเรยี นท่ี ๑ (ประวัติศาสตร์ ป.๓) ใบความรทู้ ่ี 7 เร่ือง ปจั จยั ทมี่ ีผลตอ่ การตง้ั ถ่นิ ฐานและพฒั นาการของชุมชนภาคตะวนั ออกเฉยี งเหนอื หน่วยการเรยี นรู้ที่ 2 เร่ือง ภมู ิใจในภูมถิ นิ่ แผนการจัดการเรยี นรทู้ ี่ เรื่อง ปัจจยั ทมี่ ผี ลต่อการต้งั ถนิ่ ฐานและพฒั นาการของชุมชน ภาคตะวนั ออกเฉียงเหนือ รายวิชาประวัตศิ าสตร์ รหสั วชิ า ส13102 ภาคเรียนท่ี 1 ชน้ั ประถมศึกษาปที ี่ 3 ปจั จัยทางภมู ิศาสตร์ ลกั ษณะภมู ิประเทศ ภาคตะวันออกเ ียงเหนือตง้ั อยูบ่ นแอ่งโคราชและแอง่ สกลนคร มแี ม่น้าสาย หลกั คอื แมน่ า้ มูล และแม่นา้ ชีแมน่ ้าโขงก้นั พรมแดนระหว่างไทยกับลาว ภูมปิ ระเทศแห้งแล้ง ลักษณะภูมิอากาศ ลกั ษณะสภาพภูมิอากาศแบบทงุ่ หญ้าสะวนั นา เปน็ ภูมอิ ากาศแบบรอ้ นชนื้ สลับแหง้ และมปี รมิ าณนา้ ฝนปานกลาง ทรพั ยากรธรรมชาติ ภาคตะวันออกเ ียงเหนอื มีพื้นดนิ ปนทรายเปน็ แหลง่ หินทราย ซึ่งเมอ่ื สลายตัวจะเป็นดนิ ทรายท่ขี าดความอุดมสมบรู ณแ์ ละไมเ่ กบ็ นา้ ทาใหเ้ กิดปญั หา ความแหง้ แลง้ https://mgronline.com/south/detail/95900 00064000 ปัจจยั ทางสงั คม ผู้คนในภาคตะวันออกเ ียงเหนือหรือภาคอีสาน เป็นชุมชนที่มีความหลากหลายด้าน ประชากร ในพ้ืนที่ที่มีประชากรอาศัยอยู่รวมกันเป็นจานวนมาก มีอาณาเขตติดลาวและกัมพูชา ย่อมเกิดความแตกต่างทางด้านวัฒนธรรมและประเพณีของชุมชน อีสานตอนบนติดกับลาว เป็น วัฒนธรรมลุ่มน้าโขง อีสานตอนล่างติดกับกัมพูชา มีกลุ่มชนอาศัยอยู่หลากหลาย เช่น ไทยโคราช ลาวส่วย ลาวกระโซ่ ชาวเขมร ทาให้บางจังหวัดพูดภาษาเขมร แต่ละชุมชนมีความหลากหลาย ทางดา้ นวัฒนธรรมและประเพณี

หนว่ ยการเรยี นรทู้ ี่ 2 เรื่อง ภมู ิใจในภูมิถนิ่ ๙๕๓ ใบงานท่ี 7 เรื่อง ปัจจยั ทม่ี ผี ลตอ่ การตง้ั ถ่นิ ฐานและพฒั นาการของชุมชนภาค ตะวนั ออกเฉยี งเหนอื หนว่ ยการเรยี นรู้ที่ 2 เร่ือง ภูมใิ จในภูมถิ น่ิ แผนการจดั การเรยี นรทู้ ี่ เรื่อง ปจั จยั ท่ีมผี ลต่อการตงั้ ถนิ่ ฐานและพฒั นาการของชมุ ชน ภาคตะวันออกเฉียงเหนอื รายวชิ าประวตั ศิ าสตร์ รหสั วชิ า ส13102 ภาคเรยี นที่ 1 ช้ันประถมศกึ ษาปที ่ี 3 คาช้แี จง ใหน้ กั เรยี นวเิ คราะห์ปจั จยั ทางภมู ศิ าสตรแ์ ละปจั จยั ทางสงั คมทม่ี อี ทิ ธพิ ลต่อการตัง้ ถ่นิ ฐานและพัฒนาการของชมุ ชนภาคตะวนั ออกเ ียงเหนอื ปัจจยั ทางภูมศิ าสตร์ ……………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………..……………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………..……………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………… ปัจจยั ทางสังคม ……………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………..……………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………..……………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………… ชอ่ื .....…..…...…..…...…...…..…...…..…...…...…..…...…...…..…...…..…...…...…..…น…าม…ส…ก…ลุ …..…..…...…..…...…...…..…...…...…..…...…..…...…...…..…...…..…...…...…เล…ข…ท….่ี …...…...…..…..........

๙๕๔ คู่มอื ครูและแผนจัดการเรียนรู้ ระดับประถมศึกษา ภาคเรยี นที่ ๑ (ประวตั ศิ าสตร์ ป.๓) เฉลยใบงานท่ี 7 เร่ือง ปจั จยั ท่มี ผี ลตอ่ การตงั้ ถ่ินฐานและพฒั นาการของชุมชนภาค ตะวนั ออกเฉยี งเหนือ หนว่ ยการเรียนรูท้ ่ี 2 เรื่อง ภูมิใจในภูมถิ น่ิ แผนการจดั การเรยี นรทู้ ี่ เรอ่ื ง ปจั จยั ท่มี ผี ลต่อการตง้ั ถน่ิ ฐานและพฒั นาการของชมุ ชน ภาคตะวันออกเฉยี งเหนือ รายวชิ าประวตั ศิ าสตร์ รหสั วชิ า ส13102 ภาคเรยี นที่ 1 ชนั้ ประถมศกึ ษาปที ี่ 3 คาชี้แจง ให้นักเรยี นวเิ คราะหป์ จั จยั ทางภูมศิ าสตรแ์ ละปจั จัยทางสงั คมทม่ี ีอทิ ธพิ ลต่อการตง้ั ถิน่ ฐานและพัฒนาการของชมุ ชนภาคตะวันออกเ ียงเหนือ ปจั จัยทางภมู ศิ าสตร์ ……………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………..……………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………..……………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………… ปจั จยั ทางสังคม ……………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………..……………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………..……………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………… (คำตอบตำมดุลพนิ ิจของครูผู้สอน)

หน่วยการเรยี นรทู้ ี่ 2 เรอ่ื ง ภมู ใิ จในภมู ถิ น่ิ ๙๕๕ แบบประเมนิ การสังเกตพฤตกิ รรมนักเรยี นรายบคุ คล ช้ันประถมศกึ ษาปที ่ี 3 สังเกตพฤตกิ รรมการเรียนรวู้ ันที่.......................เดอื น...........................................พ.ศ.............................. เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน ลาดบั ช่ือ – สกลุ ความ ความ การตอบ มสี ่วน รวม ระดับ ท่ี ตั้งใจใน สนใจ คาถาม รว่ มใน (16) คุณภาพ การเรียน และการ (4) กิจกรรม ซกั ถาม (4) (4) (4) 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 ลงชอื่ ................................................................ผู้ประเมิน ...................../..................../................... เกณฑก์ ารให้คะแนนดังตารางแนบทา้ ย เกณฑก์ ารประเมนิ ในการสังเกตพฤตกิ รรมการเรียนรู้ ดงั นี้ ชว่ งคะแนน ระดับคณุ ภาพ เกณฑ์การสรุปผลการประเมนิ 14-16 ดมี าก นกั เรยี นทไ่ี ดร้ ะดบั คณุ ภาพพอใชข้ ึน้ ไป ถือวา่ ผา่ น 11-13 ดี 8-10 พอใช้ 1-7 ปรับปรุง

๙๕๖ คมู่ ือครแู ละแผนจดั การเรยี นรู้ ระดบั ประถมศกึ ษา ภาคเรยี นที่ ๑ (ประวตั ศิ าสตร์ ป.๓) เกณฑก์ ารวดั และประเมินผลการสงั เกตพฤตกิ รรมนักเรยี นรายบุคคล (Rubric) ประเดน็ การประเมิน เกณฑก์ ารให้คะแนน ดี (3) พอใช้ (2) ดมี าก (4) ตอ้ งปรบั ปรงุ (1) 1. ความต้ังใจใน สนใจในการเรียน สนใจในการเรยี น สนใจในการเรยี น ไมส่ นใจใน การเรยี น ไม่คุยหรือเลน่ กัน คยุ กันเลก็ น้อย คุยกันและเลน่ กัน การเรียน คุยและ ในขณะเรยี น ในขณะเรียน ในขณะเรียนเป็น เล่นกนั ในขณะ 2. ความสนใจและ บางคร้ัง เรยี น การซกั ถาม มีการถามในหวั ขอ้ มีการถามในหวั ข้อ ไมถ่ ามในหัวขอ้ ที่ ท่ตี นไม่เขา้ ใจทกุ ท่ตี นไมเ่ ขา้ ใจเป็น มกี ารถามในหวั ขอ้ ตนไม่เขา้ ใจและ 3. การตอบคาถาม เรอ่ื งและกลา้ ส่วนมากและกล้า ท่ีตนไมเ่ ขา้ ใจเป็น ไมก่ ล้าแสดงออก แสดงออก แสดงออก บางครง้ั และไม่คอ่ ย 4. มีส่วนร่วมใน ร่วมตอบคาถามใน ร่วมตอบคาถามใน กลา้ แสดงออก ไมต่ อบคาถาม กจิ กรรม เรอ่ื งทค่ี รถู ามและ เร่อื งท่ีครถู ามและ ตอบคาถามถูกทุก ตอบคาถาม ร่วมตอบคาถามใน ไม่มคี วามร่วมมอื ข้อ สว่ นมากถูก เรือ่ งที่ครูถามเป็น ในขณะทา บางครัง้ และตอบ กจิ กรรม ร่วมมอื และ ร่วมมอื และ คาถามถกู เปน็ ช่วยเหลอื เพอื่ นใน ช่วยเหลือเพ่อื นเปน็ บางครง้ั การทากิจกรรม ส่วนใหญใ่ นการทา กจิ กรรม ร่วมมอื และ ชว่ ยเหลอื เพอ่ื นใน การทากิจกรรมเปน็ บางคร้งั

หนว่ ยการเรยี นร้ทู ่ี 2 เร่ือง ภูมใิ จในภมู ิถิน่ ๙๕๗ แบบประเมินการสงั เกตพฤติกรรมการทางานกลมุ่ ชั้นประถมศกึ ษาปที ่ี 3 สงั เกตพฤติกรรมการเรียนรวู้ นั ที่.......................เดอื น.............................................พ.ศ.............................. เกณฑก์ ารให้คะแนน ลาดบั ช่อื กลุ่ม การ การ การ พฤตกิ รรม รวม ระดบั ท่ี ปฏสิ มั พันธ์ สนทนา ตดิ ต่อสอ่ื สาร การทางาน (16) คุณภาพ เร่ือง กัน ทก่ี าหนด (4) กลุ่ม (4) (4) (4) 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 ลงชอ่ื ................................................................ผ้ปู ระเมิน ...................../..................../................... เกณฑก์ ารใหค้ ะแนนดงั ตารางแนบทา้ ย เกณฑก์ ารประเมินในการสงั เกตพฤติกรรมการเรยี นรู้ ดงั น้ี ช่วงคะแนน ระดับคณุ ภาพ เกณฑก์ ารสรุปผลการประเมนิ 14-16 ดมี าก นกั เรยี นทไ่ี ดร้ ะดบั คณุ ภาพพอใชข้ ึน้ ไป ถือวา่ ผา่ น 11-13 ดี 8-10 พอใช้ 1-7 ปรบั ปรงุ

๙๕๘ คู่มือครูและแผนจดั การเรียนรู้ ระดับประถมศกึ ษา ภาคเรยี นที่ ๑ (ประวตั ิศาสตร์ ป.๓) เกณฑ์การวัดและประเมนิ ผลการสังเกตพฤตกิ รรมนกั เรยี นรายกลุ่ม (Rubric) ประเดน็ การ ดมี าก (4) เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน ต้องปรับปรงุ (1) ประเมนิ ดี (3) พอใช้ (2) 1. การปฏสิ มั พันธ์ ร่วมมอื และช่วยเหลอื ร่วมมือและ รว่ มมือและ ไม่ให้ความรว่ มมือ กนั เพอ่ื นในการทา ช่วยเหลือเพอ่ื นเป็น ชว่ ยเหลือเพื่อนใน ในขณะทา กจิ กรรม ส่วนใหญใ่ นการทา การทากิจกรรมเป็น กิจกรรม กจิ กรรม บางครงั้ 2. การสนทนาเรือ่ ง สนทนาตรงประเดน็ สนทนาตรงประเด็น สนทนาตรงประเดน็ สนทนาไมต่ รง ทก่ี าหนด ครอบคลมุ เนื้อหา ครอบคลมุ เน้อื หา ประเดน็ บางสว่ น 3. การติดตอ่ สอื่ สาร มกี ารปรึกษาครแู ละ มกี ารปรึกษาครูและ มีการปรกึ ษาครูและ ไมม่ กี ารปรึกษาครู เพอ่ื นกล่มุ อืน่ ๆ เพื่อนกลุ่มอน่ื ๆ เป็น เพือ่ นกลมุ่ อื่น ๆ เป็น และเพอ่ื นกลมุ่ อื่น ๆ ส่วนใหญ่ บางครั้ง 4. พฤตกิ รรม มกี ารวางแผนอยา่ ง มีการวางแผนอย่าง มีการวางแผนอย่าง ไมม่ กี ารวางแผน การทางาน เปน็ ระบบ และแบ่ง เป็นระบบ และแบ่ง เป็นระบบ และแบ่ง อย่างเปน็ ระบบ หนา้ ท่ขี องสมาชกิ หน้าท่ีของสมาชิก หนา้ ท่ีของสมาชิก และไมม่ ีการแบง่ ในกลมุ่ ในกลมุ่ เปน็ สว่ น ในกลุม่ เปน็ บางครั้ง หน้าทีข่ องสมาชิก ใหญ่ ในกลุ่ม

หน่วยการเรียนร้ทู ี่ 2 เรอื่ ง ภมู ิใจในภูมิถ่นิ ๙๕๙ แบบประเมินคณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค์ คาชแ้ี จง ให้ผสู้ อนสงั เกตพฤตกิ รรมของนกั เรยี นในระหว่างเรยี นและนอกเวลาเรียนแลว้ ขีด✓ลงในช่องทีต่ รง กับระดับคะแนน รายการ พฤตกิ รรมการแสดงออก ระดับการปฏบิ ตั ิ ประเมนิ ๓๒๑ ๑. มีวนิ ยั ๑.1 ปฏิบัตติ ามข้อตกลง กฎเกณฑ์ ระเบยี บ ข้อบงั คับของครอบครัว ๒. ใฝเ่ รยี นรู้ และโรงเรียน มคี วามตรงตอ่ เวลาในการปฏบิ ตั กิ ิจกรรมต่างๆ ใน ชวี ิตประจาวนั มีความรับผิดชอบ 3. มุ่งมนั่ ใน 2.1 ต้ังใจเรยี น การทางาน 2.2 เอาใจใสใ่ นการเรียน และมีความเพยี รพยายามในการเรยี น 2.3 เขา้ ร่วมกจิ กรรมการเรียนรตู้ ่าง ๆ 2.4 ศกึ ษาค้นคว้า หาความรูจ้ ากหนังสอื เอกสาร สงิ่ พิมพ์ สื่อ เทคโนโลยีตา่ ง ๆ แหล่งการเรียนรู้ทงั้ ภายในและภายนอกโรงเรยี น และ เลือกใช้สอ่ื ได้อย่างเหมาะสม 2.5 บนั ทึกความรู้ วิเคราะห์ ตรวจสอบบางสงิ่ ท่เี รยี นรู้ สรุปเป็นองคค์ วามรู้ 2.6 แลกเปลย่ี นความรู้ ด้วยวธิ ีการต่าง ๆ และนาไปใชใ้ นชีวติ ประจาวัน 3.1 มีความต้ังใจและพยายามในการทางานทีไ่ ดร้ ับมอบหมาย 3.2 มคี วามอดทนและไม่ทอ้ แทต้ อ่ อุปสรรคเพอื่ ให้งานสาเรจ็ ลงช่ือ................................................................ผู้ประเมนิ ...................../..................../................... เกณฑก์ ารให้คะแนน ๓ คะแนน หมายถึง ปฏบิ ตั หิ รือแสดงพฤตกิ รรมอย่างสม่าเสมอ ๒ คะแนน หมายถงึ ปฏบิ ัตหิ รือแสดงพฤติกรรมบ่อยครั้ง ๑ คะแนน หมายถงึ ปฏิบัตหิ รอื แสดงพฤตกิ รรมบางครั้ง เกณฑก์ ารให้คะแนนดังตารางแนบทา้ ย เกณฑก์ ารประเมนิ คุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงคด์ ังนี้ ช่วงคะแนน ระดับคณุ ภาพ 22-27 ดีเยี่ยม 15-21 ดี 8-14 ผ่าน 1-7 ไม่ผ่าน

๙๖๐ คมู่ ือครูและแผนจดั การเรียนรู้ ระดบั ประถมศกึ ษา ภาคเรยี นที่ ๑ (ประวตั ศิ าสตร์ ป.๓) แบบประเมินสมรรถนะสาคัญของผูเ้ รยี น คาชแี้ จง ใหผ้ ้สู อนสังเกตพฤติกรรมของนักเรยี นในระหวา่ งเรียนและนอกเวลาเรยี นแลว้ ขดี ✓ลงในช่องที่ตรง กับระดบั คะแนน รายการประเมิน พฤตกิ รรมการแสดงออก ระดบั การปฏบิ ตั ิ ๓๒๑ ๑.ความสามารถ ๑.1 มีความสามรถในการรับ – ส่งสาร ในการสอ่ื สาร 1.2 มคี วามสามารถในการถ่ายทอดความรู้ ความคดิ ความเขา้ ใจ ของตนเอง โดยใชภ้ าษาอยา่ ง เหมาะสม 2. ความสามารถ 2.1 มที ักษะในการคิดนอกกรอบอย่างสร้างสรรค์ ในการคดิ 2.2 มคี วามสามารถในการคดิ อย่างมรี ะบบ 3. ความสามารถ 3.1 สามารถทางานกล่มุ รว่ มกบั ผู้อน่ื ได้ ในการใชท้ กั ษะ 3.2 นาความรทู้ ่ไี ดไ้ ปใชป้ ระโยชนใ์ นชวี ติ ประจาวัน ชีวิต ลงชื่อ................................................................ผู้ประเมนิ ...................../..................../................... เกณฑก์ ารให้คะแนน ๓ คะแนน หมายถงึ ปฏิบัติหรือแสดงพฤตกิ รรมอย่างสม่าเสมอ ๒ คะแนน หมายถึง ปฏิบัติหรือแสดงพฤตกิ รรมบ่อยคร้ัง ๑ คะแนน หมายถงึ ปฏบิ ัติหรือแสดงพฤติกรรมบางครั้ง เกณฑก์ ารใหค้ ะแนนดงั ตารางแนบทา้ ย เกณฑก์ ารประเมินสมรรถนะสาคญั ของผู้เรยี นดงั นี้ ช่วงคะแนน ระดับคณุ ภาพ 13-18 ดีเย่ยี ม 9-12 ดี 5-8 ผา่ น 1-4 ไมผ่ า่ น

หน่วยการเรียนร้ทู ี่ 2 เรอื่ ง ภูมใิ จในภมู ิถิน่ ๙๖๑ แผนการจดั การเรียนรทู้ ี่ เรือ่ ง ประเพณแี ละวฒั นธรรมของชมุ ชน ท่เี กดิ จากสภาพทางภูมิศาสตร์และทางสงั คม หนว่ ยการเรียนร้ทู ่ี 2 เรอื่ ง ภูมใิ จในภมู ิถน่ิ เวลา 1 ช่วั โมง กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศกึ ษา ศาสนา และวฒั นธรรม รายวชิ าประวตั ศิ าสตร์ ชัน้ ประถมศกึ ษาปที ่ี 3 1. มาตรฐานการเรียนร/ู้ ตัวช้วี ัด มาตรฐาน ส ๔.2 เขา้ ใจพฒั นาการของมนษุ ยชาติจากอดีตจนถึงปัจจุบนั ในดา้ นความสัมพนั ธแ์ ละการเปลี่ยนแปลง ของเหตกุ ารณอ์ ย่างตอ่ เน่ือง ตระหนกั ถงึ ความสาคญั และสามารถวิเคราะห์ผลกระทบท่ีเกดิ ขนึ้ ตวั ชว้ี ดั ป.๓/2 สรปุ ลักษณะท่สี าคัญของขนบธรรมเนยี มประเพณี และวัฒนธรรมของชุมชน ๒. สาระสาคญั /ความคดิ รวบยอด ปัจจัยทางภูมิศาสตร์และปัจจัยทางสังคม เป็นปัจจัยสาคัญที่มีผลทาให้ขนบธรรมเนียม ประเพณี และ วฒั นธรรม การนบั ถอื ศาสนา ความเช่อื และการประกอบอาชีพของแต่ละชมุ ชนมีความแตกตา่ งกัน ๓. จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้ 3.1 ดา้ นความรู้ ความเขา้ ใจ (K) - อธบิ ายลกั ษณะสาคัญของประเพณแี ละวัฒนธรรมของชุมชนทเ่ี กดิ จากสภาพทางภูมิศาสตร์ และทางสังคมได้ 3.2 ด้านทกั ษะ กระบวนการ (P) - วิเคราะหล์ ักษณะสาคญั ประเพณีและวฒั นธรรมของชมุ ชน 3.2 ด้านคณุ ลกั ษณะ เจตคติ คา่ นิยม (A) - ตระหนกั ในคุณค่าของประเพณีและวัฒนธรรมของชมุ ชน ๔. สาระการเรียนรู้ ลกั ษณะสาคญั ของประเพณแี ละวัฒนธรรมของชมุ ชนทเ่ี กดิ จากสภาพทางภูมิศาสตรแ์ ละทางสังคม ๕. สมรรถนะสาคญั ของผเู้ รยี น 1. ความสามารถในการส่ือสาร ๒. ความสามารถในการคิด 3. ความสามารถในการใชท้ กั ษะชวี ิต ๖. คุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์ 1. มีวินยั 2. ใฝ่เรยี นรู้ 3. ม่งุ ม่ันในการทางาน 7. กจิ กรรมการเรยี นรู้

๙๖๒ คมู่ อื ครูและแผนจัดการเรียนรู้ ระดบั ประถมศกึ ษา ภาคเรยี นท่ี ๑ (ประวัตศิ าสตร์ ป.๓) ลาดับท่ี การจดั กจิ กรรมการเรยี นรู้ ชั้นประถมศกึ ษาปที ่ี 3 1. แผนการจัดการเรยี นรทู้ ี่ เรื่อง ประเพณแี ละวฒั นธรรมของชุมชนทเ่ี กดิ จากสภาพทางภมู ศิ าสตรแ์ ละทางสงั คม รายวชิ าประวตั ศิ าสตร์ จานวน 1 ชว่ั โมง จุดประสงค์ ขั้นตอนการจดั เวลา แนวการจดั การเรียนรู้ ส่ือการเรียนรู้ การประเมนิ การเรยี นรู้ การเรียนรู้ ทใี่ ช้ การเรียนรู้ กิจกรรมครู กิจกรรมนักเรียน ขัน้ นา 5 นาที 1. ครนู าวดิ โี อประเพณแี ห่นาง 1. นกั เรยี นดปู ระเพณแี หน่ าง - วดิ ีโอประเพณี การสงั เกต เเมว เปดใหน้ กั เรียนชม แลว้ ให้ เเมว แห่นางเเมว นกั เรียนร่วมกนั สนทนา (ตวั อย่างคาตอบ) -ประเพณีที่นกั เรียนชมเป็น - ประเพณแี หน่ างเเมว ประเพณอี ะไร -ประเพณีน้ีมคี วามสาคญั - ขอฝนเทวดาเพ่ืออานวย อยา่ งไร ความอดุ มสมบรู ณ์ - ประเพณแี หน่ างแมวเปน็ ของ - ภาคตะวันออกเ ียงเหนือ ภาคใด ๒. ในทอ้ งถนิ่ /ชมุ ชนของ - นกั เรยี นตอบตามความเปน็ นักเรยี นมปี ระเพณอี ะไรและมี จรงิ ความสาคญั อยา่ งไร ๓. ครแู ละนกั เรยี นรว่ มกัน ๓. นกั เรยี นร่วมกันอธิบายถงึ อธบิ าย เพอ่ื เชือ่ มโยงให้ ความสาคญั ของประเพณี นกั เรยี นเห็นความสาคญั ของ ตา่ งๆ ประเพณแี ตล่ ะทอ้ งถ่นิ

หน่วยการเรยี นรูท้ ี่ 2 เร่อื ง ภมู ใิ จในภูมถิ ่ิน ๙๖๓ ลาดบั ท่ี จุดประสงค์ ข้ันตอนการจดั เวลา แนวการจดั การเรียนรู้ ส่ือการเรยี นรู้ การประเมิน 2. การเรยี นรู้ การเรยี นรู้ การเรยี นรู้ ทใ่ี ช้ - ใบความรู้เรือ่ ง 1. อธิบายลกั ษณะสาคญั ประเพณแี ละ - แบบประเมิน ของประเพณีและ กิจกรรมครู กจิ กรรมนักเรียน วัฒนธรรมของ กระบวนการ วฒั นธรรมของชมุ ชนท่ี ชมุ ชนทีเ่ กิดจาก ทางานกลุ่ม เกิดจากสภาพทาง ข้นั สอน 25 นาที 1. ครแู บง่ นักเรยี นเปน็ กลมุ่ 1. นกั เรยี นแบง่ กลมุ่ เพ่อื สภาพทาง - การประเมนิ ภมู ิศาสตร์ ภมู ศิ าสตรแ์ ละ - การสงั เกต ออกเปน็ กลุ่มละ 4 คน ชว่ ยกนั แบ่งปนั ความคดิ ทางสังคม พฤติกรรม - คาถาม 2. ครแู จกใบความรูเ้ รอื่ ง 2. นกั เรยี นศกึ ษาใบความรู้ - การประเมนิ การตอบคาถาม ประเพณแี ละวฒั นธรรมของ เร่อื ง ประเพณแี ละวฒั นธรรม ชมุ ชนทีเ่ กดิ จากสภาพทาง ของชุมชนทเี่ กิดจากสภาพ ภูมิศาสตร์และทางสงั คม ทางภูมศิ าสตรแ์ ละทางสงั คม 3. ครูตัง้ คาถามใหน้ กั เรียน 3. นกั เรยี นภายในกลุ่ม ร่วมกนั อภิปรายและวิเคราะห์ อภปิ รายและวิเคราะหห์ า หาคาตอบดงั ตอ่ ไปนี้ คาตอบ - ประเพณมี คี วามหมายวา่ - สงิ่ ท่ีเช่ือถอื และยึดเปน็ แนว อยา่ งไร ปฏิบัติสืบตอ่ กันมาในสงั คม หนึ่งๆ จนเป็นแบบแผน - วฒั นธรรมมีความหมายวา่ - สิ่งมนษุ ยส์ รา้ งข้นึ มา อยา่ งไร นับตง้ั แต่ภาษา ศาสนา ขนบธรรมเนยี มประเพณี กฎหมาย ศลิ ปะ จรยิ ธรรม

๙๖๔ ค่มู อื ครแู ละแผนจดั การเรียนรู้ ระดบั ประถมศกึ ษา ภาคเรยี นที่ ๑ (ประวตั ศิ าสตร์ ป.๓) ลาดบั ที่ จุดประสงค์ ขนั้ ตอนการจดั เวลา แนวการจดั การเรยี นรู้ ส่อื การเรยี นรู้ การประเมนิ การเรยี นรู้ การเรียนรู้ ทีใ่ ช้ การเรยี นรู้ กจิ กรรมครู กจิ กรรมนกั เรียน 2. วิเคราะห์ลักษณะ - การท่ชี มุ ชนตงั้ อยใู่ กลแ้ ม่นา้ - จะมีการพ่ึงพานา้ เปน็ หลกั - คาถาม - การประเมนิ สาคัญประเพณแี ละ วฒั นธรรมของชมุ ชน ขนบธรรมเนียม ประเพณแี ละ ประเพณจี ะเกยี่ วข้องกับน้า การตอบคาถาม วฒั นธรรม จะมลี กั ษณะเปน็ เช่น ประเพณโี ยนบวั แข่งเรือ แบบใด - ชมุ ชนที่ต้ังอยู่ใกลแ้ ม่นา้ - อาชีพจะเปน็ การประมงท้งั มักจะทาอาชีพอะไรและ น้าจืดและนา้ เคม็ เก่ยี วข้องใน เก่ยี วขอ้ งกบั ปจั จัยดา้ นใด ปจั จยั ทางภมู ิศาสตร์ - ประเพณีบายศรีสู่ขวญั ขา้ ว - เปน็ ประเพณที ม่ี ีอทิ ธิพลมา เกี่ยวข้องกบั ปจั จัยใด จากความเชือ่ ของชุมชนท่ี ประกอบอาชพี ทานา เกี่ยว ขอ้ งกับปจั จัยทางภมู ิศาสตร์ - เพราะเหตใุ ดภาคใต้จงึ ไม่มี - เพราะชุมชนในภาคใต้ เปน็ ประเพณแี หน่ างแมวหรือบญุ บงั้ พื้นท่ีทม่ี ฝี นตกชกุ ไ 4. ครแู ละนกั เรยี นรว่ มกนั 4.นักเรยี นผลัดกันอธิบาย อธิบายเพม่ิ เตมิ เกย่ี วกับ ความรแู้ ละซักถามขอ้ สงสัย ลักษณะสาคญั ประเพณแี ละ ภายในกลุ่มของตนเอง วฒั นธรรมของชุมชนภมู ิภาค ตา่ ง ๆ

หนว่ ยการเรียนรู้ที่ 2 เรื่อง ภูมใิ จในภมู ถิ น่ิ ๙๖๕ ลาดับท่ี จดุ ประสงค์ ขัน้ ตอนการจดั เวลา แนวการจดั การเรียนรู้ สื่อการเรียนรู้ การประเมิน 3. การเรียนรู้ การเรยี นรู้ ท่ีใช้ การเรียนรู้ ขนั้ ปฏบิ ัติ กิจกรรมครู กิจกรรมนกั เรยี น 4. 3. อธบิ ายลักษณะ - การตรวจใบ สาคัญของประเพณแี ละ ขั้นสรปุ 1๐ นาที ครูให้นักเรยี นสรุปและ นกั เรยี นทาใบงาน เรอื่ ง ลักษณะ - ใบงาน เร่ือง งาน วัฒนธรรมของชมุ ชนท่ี - การประเมนิ เกดิ จากสภาพทาง บนั ทึกลงในใบงาน เรือ่ ง สาคญั ของประเพณีและ ลกั ษณะสาคัญ สังเกต ภมู ศิ าสตร์ พฤติกรรม ลกั ษณะสาคญั ของ วัฒนธรรมของชมุ ชนที่เกิดจาก ของประเพณแี ละ 4. ตระหนกั ในคณุ ค่า - การตรวจใบ ของประเพณีและ ประเพณีและวัฒนธรรม สภาพทางภมู ศิ าสตร์และทาง วัฒนธรรมของ งาน วฒั นธรรมของชมุ ชน - การประเมนิ ของชมุ ชนท่เี กิดจาก สังคม ชมุ ชนทเ่ี กิดจาก สังเกต พฤตกิ รรม สภาพทางภูมิศาสตร์และ สภาพทาง ทางสังคม ภูมศิ าสตรแ์ ละ ทางสังคม ๑๐ นาที 1. ครูสุม่ ตัวแทน ๒ กล่มุ 1. นักเรียนนาเสนอผลงานหน้าชนั้ - ใบงาน เร่ือง ออกมานาเสนอผลงาน เรียน ลกั ษณะสาคญั ๒. ครูและนกั เรยี น ๒. นกั เรียนรว่ มกนั ตรวจสอบความ ของประเพณี ร่วมกนั ตรวจสอบความ ถกู ตอ้ ง และวัฒนธรรม ถกู ตอ้ ง ๓. นกั เรียนรว่ มกนั สรุป ของชุมชนทเี่ กดิ ๓. ครแู ละนกั เรียน - ลักษณะสาคญั ของประเพณีและ จากสภาพทาง ร่วมกันสรปุ วัฒนธรรมของชุมชนท่เี กิดจาก ภูมศิ าสตร์และ สภาพทางภูมศิ าสตร์และทางสังคม ทางสงั คม - ประเพณีและวฒั นธรรมเป็นสงิ่ ดี งาม ทีแ่ สดงถึงความเจรญิ งอกงาม และยึดถือเปน็ แนวปฏบิ ตั ิสบื ต่อกนั มาในสงั คมหนึ่ง ๆ

๙๖๖ คู่มือครแู ละแผนจดั การเรียนรู้ ระดับประถมศกึ ษา ภาคเรยี นท่ี ๑ (ประวัตศิ าสตร์ ป.๓) 8. ส่อื การเรยี นร/ู้ แหลง่ เรียนรู้ 1. วดิ ีโอประเพณีแห่นางเเมว 2. ใบความรทู้ ี่ 8 เรอื่ ง ประเพณแี ละวัฒนธรรมของชมุ ชนท่ีเกดิ จากสภาพทางภมู ิศาสตรแ์ ละทางสังคม 3. ใบงานที่ 8 เรอื่ ง ลกั ษณะสาคญั ของประเพณีและวัฒนธรรมของชุมชนท่เี กดิ จากสภาพทาง ภมู ิศาสตรแ์ ละทางสงั คม 9. การประเมนิ ผลรวบยอด ชน้ิ งานหรอื ภาระงาน ใบงาน เรอ่ื ง ลักษณะสาคญั ของประเพณแี ละวฒั นธรรมของชุมชนท่ีเกดิ จาก สภาพทางภมู ศิ าสตร์และทางสังคม การวดั และประเมนิ ผล ประเดน็ การวดั วิธีการ เครือ่ งมอื เกณฑก์ ารประเมิน และประเมินผล ผา่ นเกณฑ์ ด้านความรู้ - ตรวจใบงานเรอื่ ง ลกั ษณะ - ใบงาน การประเมนิ รอ้ ยละ 60 ความเข้าใจ (K) ท่ีสาคญั ของประเพณแี ละ - การแบบประเมนิ ผา่ นเกณฑป์ ระเมนิ ระดบั คุณภาพพอใชข้ ้ึนไป วัฒนธรรมของชุมชนที่เกิด การสงั เกตพฤตกิ รรม ผา่ นเกณฑ์ประเมิน จากสภาพทางภูมศิ าสตร์ นกั เรยี นรายบคุ คล ระดบั คุณภาพพอใชข้ ึ้นไป และทางสังคม - แบบประเมนิ การตอบ ผา่ นเกณฑป์ ระเมิน ระดับคณุ ภาพผ่านขนึ้ ไป - การตอบคาถาม คาถาม ดา้ นทักษะ - การแบบประเมนิ - แบบประเมนิ กระบวน กระบวนการ (P) กระบวนการทางานกลุ่ม การทางานกลมุ่ - การตอบคาถาม - แบบประเมนิ การตอบ คาถาม ดา้ นคุณลักษณะ - การสังเกตพฤตกิ รรม - แบบประเมนิ การสงั เกต เจตคติ คา่ นิยม นกั เรยี น พฤติกรรม (A) คุณลกั ษณะ - ประเมนิ มีวินยั ใฝ่เรยี นรู้ - แบบประเมนิ คณุ ลักษณะ อันพงึ ประสงค์ และมงุ่ ม่นั ในการทางาน อนั พึงประสงค์ สมรรถนะสาคญั - ประเมินความสามารถ - แบบประเมนิ สมรรถนะ ผา่ นเกณฑ์ประเมนิ ของผูเ้ รียน ในการส่ือสารความสามารถ สาคญั ของผ้เู รยี น ระดบั คุณภาพผ่านข้นึ ไป ในการคิดและความสามารถ ในการใช้ทักษะชีวิต

หนว่ ยการเรยี นรทู้ ี่ 2 เร่ือง ภมู ใิ จในภูมิถน่ิ ๙๖๗ 10. บนั ทกึ ผลหลงั สอน ผลการจัดการเรียนการสอน .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. ความสาเรจ็ .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. ปัญหาและอปุ สรรค .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. ขอ้ จากดั การใช้แผนการจดั การเรยี นรู้ และขอ้ เสนอแนะ/แนวทางการปรับปรงุ แกไ้ ข .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. ลงช่อื ......................................................ผสู้ อน (..........................................................) วันท่ี .......... เดือน ..................... พ.ศ. ............. 11. ความคดิ เหน็ /ข้อเสนอแนะของผบู้ รหิ ารหรือผทู้ ไ่ี ดร้ บั มอบหมาย .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. ลงช่ือ ...................................................... ผู้ตรวจ (..........................................................) วนั ที่ .......... เดือน ..................... พ.ศ. .............

๙๖๘ คมู่ อื ครูและแผนจัดการเรยี นรู้ ระดับประถมศึกษา ภาคเรยี นที่ ๑ (ประวตั ิศาสตร์ ป.๓) ใบความรทู้ ี่ 8 เรือ่ ง ประเพณแี ละวฒั นธรรมของชุมชนทเี่ กดิ จากสภาพทางภมู ิศาสตรแ์ ละทางสงั คม หน่วยการเรียนรทู้ ี่ 2 เรอื่ ง ภูมใิ จในภมู ิถนิ่ แผนการจดั การเรียนรทู้ ่ี เรอ่ื ง ประเพณแี ละวฒั นธรรมของชมุ ชนทเี่ กดิ จากสภาพ ทางภูมศิ าสตรแ์ ละทางสังคม รายวิชาประวัตศิ าสตร์ รหสั วิชา ส13102 ภาคเรยี นท่ี 1 ชั้นประถมศึกษาปที ี่ 3 ประเพณีของชุมชนเป็นส่ิงที่ดีงามที่สมาชิกในชุมชนได้ปฏิบัติสืบต่อกันมาช้านาน แสดงถงึ ความเจริญของชุมชนที่ได้สงั่ สมและปรับปรุงให้สอดคลอ้ งกับวิถีการดาเนินชีวิตในปัจจุบัน ถอื ว่าเป็นส่วนหน่ึงของวัฒนธรรมของชุมชน ปจั จัยทางภูมิศาสตร์และปจั จยั ทางสังคมมีอทิ ธิพลต่อ การตั้งถ่ินฐานและพัฒนาการของชุมชน ขนบธรรมเนียมประเพณีและวัฒนธรรมของชุมชนด้วย กล่าวคือ วัฒนธรรมในแต่ละชุมชนมีความเหมือน ความคล้ายคลึง หรือความแตกต่างข้ึนอยู่กับ ปจั จยั ทางภูมศิ าสตร์ และปัจจัยทางสังคม ดงั นี้ ปัจจยั ทางภูมศิ าสตร์ ซง่ึ ประกอบดว้ ย ลักษณะภูมิประเทศ ภมู อิ ากาศและทรัพยากรธรรมชาติ ท่ีเหมอื นกนั มกั มขี นบธรรมเนยี มประเพณีท่ีเหมอื นกนั ดว้ ย เชน่ • ชุมชนทอี่ ยใู่ กล้แมน่ า้ มปี ระเพณีแข่งเรือ • ชมุ ชนท่ตี ้ังถ่ินฐานอยู่บนภูเขาซึ่งป่าไมม้ มี าก สง่ ผลใหม้ ีประเพณีบวชปา่ สบื ชะตาแม่น้าเพื่อ อนุรกั ษ์ป่าไม้ • ชมุ ชนที่อยบู่ ริเวณทร่ี าบลุ่มแมน่ า้ สว่ นใหญจ่ ะประกอบอาชีพทานาจงึ มปี ระเพณีทาขวญั ขา้ ว ปัจจัยทางสงั คม เช่น การนับถือศาสนา ความเช่อื เชอ้ื ชาติ ความเป็นมาของชุมชนกเ็ ปน็ ปจั จัยท่ี ทาใหเ้ กิดความเหมอื นและความแตกตา่ งทางวัฒนธรรม เชน่ • พทุ ธศาสนิกชนไมว่ า่ จะอยใู่ นพน้ื ทีใ่ ดกจ็ ะประกอบพธิ กี รรมทางพระพุทธศาสนาเหมือนกนั เช่นประเพณีบวชพระ ประเพณีเข้าพรรษา ประเพณอี อกพรรษา • ชุมชนชาวมสุ ลมิ ก็เชน่ กันก็ยอ่ มประกอบพิธีกรรมทางศาสนาอิสลามในช่วงเวลาตา่ งๆ เชน่ ประเพณีถอื ศลี อด • การประกอบอาชีพทแ่ี ตกตา่ งกันทาใหม้ ีวัฒนธรรมทแี่ ตกตา่ งกัน อาชีพทานา ชาวนาจะมี ประเพณีเกี่ยวกบั การทานา เช่น การบชู าแม่โพสพ การทาขวัญขา้ ว อาชีพทอผา้ ใน ภาคเหนอื จะมีการราเรียกวา่ การราสาวไหม

หนว่ ยการเรยี นรทู้ ่ี 2 เรื่อง ภมู ิใจในภมู ถิ น่ิ ๙๖๙ ใบงานที่ 8 เรอ่ื ง ลกั ษณะทีส่ าคญั ของประเพณแี ละวฒั นธรรมของชุมชน ที่เกดิ จากสภาพทางภูมศิ าสตรแ์ ละทางสงั คม หนว่ ยการเรียนรู้ที่ 2 เร่ือง ภมู ิใจในภมู ถิ น่ิ แผนการจดั การเรยี นรทู้ ่ี เร่อื ง ประเพณแี ละวฒั นธรรมของชมุ ชนทเี่ กดิ จากสภาพ ทางภูมศิ าสตรแ์ ละทางสังคม รายวิชาประวตั ิศาสตร์ รหสั วิชา ส13102 ภาคเรียนท่ี 1 ชน้ั ประถมศกึ ษาปที ่ี 3 คาชแ้ี จง ให้นกั เรยี นดภู าพทกี่ าหนดให้ แล้วอธิบายลักษณะสาคัญของประเพณแี ละวฒั นธรรมของ ชมุ ชนที่เกดิ จากสภาพทางภมู ศิ าสตร์และทางสงั คม https://www.thairath.co.th/ ภาพน้คี อื .................................................................... ประเพณี / วฒั นธรรมของภาค.................................. มีลกั ษณะสาคญั ดงั น้ี................................................. ................................................................................... ................................................................................... ปจั จยั ทที่ าให้เกิดประเพณี / วัฒนธรรมนี้ คอื ................................................................................... ................................................................................... ................................................................................... ................................................................................... 2. ภาพนค้ี ือ.................................................................... ประเพณี / วัฒนธรรมของภาค.................................. https://www.bangkokbiznews.com/ne มลี กั ษณะสาคญั ดังน้ี................................................. ws/detail/1151 ................................................................................... ................................................................................... ปจั จยั ที่ทาใหเ้ กดิ ประเพณี / วฒั นธรรมนี้ คือ ................................................................................... ................................................................................... ................................................................................... ...................................................................................