Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore 64-08-24-คู่มือและแผนการเรียนรู้_สังคมศึกษาฯ ม.3-05271401

64-08-24-คู่มือและแผนการเรียนรู้_สังคมศึกษาฯ ม.3-05271401

Published by elibraryraja33, 2021-08-24 03:34:08

Description: 64-08-24-คู่มือและแผนการเรียนรู้_สังคมศึกษาฯ ม.3-05271401

Search

Read the Text Version

๒๔๒ แผนการจดั การเรียนร้ทู ่ี 45 เรือ่ ง วัฒนธรรมสากล เวลา 1 ช่ัวโมง หน่วยการเรียนร้ทู ่ี 6 เรือ่ ง วัฒนธรรมไทยและวัฒนธรรมสากล ช้ันมัธยมศกึ ษาปีท่ี 3 กลุ่มสาระการเรียนรูส้ งั คมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม รายวชิ าสังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม ด้านคณุ ลักษณะ รบั เอาวฒั นธรรมสากลมาใชน้ ้ัน จาเป็นจะตอ้ งพจิ ารณาถงึ ประโยชนแ์ ละ 4. หนงั สอื พิมพ์ 1. นักเรียนบอกคุณค่าของวัฒนธรรมสากลได้ ความจาเป็นของวัฒนธรรมสากลเหล่าน้นั ดงั นั้น ในวันนีเ้ ราจะเรียนรู้ใน ภาระงาน/ช้ินงาน อย่างมเี หตุผล เรอื่ งความสาคญั ในวัฒนธรรมสากล” กจิ กรรม “สืบจากสิ่งพมิ พ์” โดย นกั เรยี นสืบค้นวฒั นธรรมสากล ขั้นสรา้ งองคค์ วามรู้ 3. ครเู ขยี นคาว่า “วัฒนธรรมสากล” บนกระดาน หลงั จากนั้น นักเรยี นร่วมกนั นยิ ามความหมายคาว่า “วฒั นธรรมสากล” แล้วสมุ่ ผู้เรียน 2-3 คน บอกความหมายคาว่า “วัฒนธรรมสากล” ตามความคิดของ ตนเอง โดยผู้สอนอธิบายความหมายให้สมบรู ณ์ (ความเจริญงอกงามที่สง่ ตอ่ จากรนุ่ หนึ่งถึงอีกรนุ่ หน่งึ อีกทงั้ ยังเป็นท่ยี อมรับกันท่ัวไปอยา่ ง กว้างขวาง) 4. นกั เรียนรว่ มกันศกึ ษาภาพข่าวและกรณีตัวอย่าง เชน่ กรณตี วั อยา่ ง เกยี่ วกับการรับสมัครเขา้ ทางานโดยต้องมีคุณสมบัติสามารถใช้ ภาษาอังกฤษในการสื่อสารได้อย่างดี ทม่ี า : https://www.youtube.com/watch?v=mxOly0DLE8Y 2342

๒๔๓ แผนการจดั การเรยี นรทู้ ี่ 45 เรื่อง วัฒนธรรมสากล เวลา 1 ชว่ั โมง หน่วยการเรยี นรทู้ ่ี 6 เร่อื ง วัฒนธรรมไทยและวฒั นธรรมสากล ช้ันมัธยมศกึ ษาปีท่ี 3 กลุม่ สาระการเรียนรู้สังคมศกึ ษา ศาสนาและวัฒนธรรม รายวิชาสังคมศกึ ษา ศาสนาและวัฒนธรรม ภาพการแต่งกายสมัยนยิ ม ท่มี า : https://today.line.me/th/pc/article/... ภาพโฆษณาขายสินคา้ อุปกรณค์ อมพวิ เตอร์ เป็นต้น ทมี่ า : https://notebookspec.com/topics... ให้นกั เรยี นเลือกวฒั นธรรมสากลท่ีมีความสาคญั ต่อการดาเนินชีวติ ของคนในสังคมยคุ ปัจจุบัน 5 ขอ้ พรอ้ มอธิบาย โดยครูอธบิ ายเพ่ิมเติมให้ สมบูรณ์ 2343

๒๔๔ แผนการจดั การเรียนรทู้ ี่ 45 เรื่อง วัฒนธรรมสากล เวลา 1 ชัว่ โมง หนว่ ยการเรียนรูท้ ี่ 6 เรอื่ ง วัฒนธรรมไทยและวัฒนธรรมสากล ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 กลมุ่ สาระการเรยี นรสู้ งั คมศึกษา ศาสนาและวฒั นธรรม รายวิชาสังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม 5. นกั เรียนแบง่ กลมุ่ 5 กลมุ่ กล่มุ ละเทา่ ๆ กัน ปฏบิ ตั ิกิจกรรม “สืบ “จสากบื สจงิ่าพกสมิ ง่ิพพ์”มิ พโด”์ ยโคดรยูจคะรแจู จะกแหจนกหงั สนืองั พสอืิมพมิใ์ หพ้กใ์ หับก้ ทบั ุกทกกุ ลกมุ่ ลม่ๆุ ๆละละ1๑ฉบฉับบั โดโยดย ใหน้ กั เรยี นรว่ มกันศึกษาในประเด็นต่อไปนี้ 1) ในหนงั สือพิมพ์ปรากฎวฒั นธรรมสากลใดบา้ งที่มีความสาคญั ในยคุ ปจั จบุ ัน 2) วัฒนธรรมสากลนั้นมีความสาคัญและมคี ณุ ค่าอย่างไร ตัวแทนนักเรยี นกลุ่มละ 1-2 คน ออกมานาเสนอในประเดน็ ขา้ งต้น โดยใชเ้ วลาในการปฏิบัตกิ ิจกรรม 10 นาที จากน้ัน ครอู ธิบาย เพ่ิมเติมให้สมบรู ณ์ ข้นั สรปุ ความคิดรวบยอด 6. นกั เรียนรว่ มกนั อภปิ รายสรุปสาระสาคญั ของเน้ือหาโดยครูใช้ คาถามดังต่อไปน้ี 1) วฒั นธรรมสากลในยคุ ปจั จบุ นั ได้แก่อะไรบ้าง ( การรบั ประทาน อาหารดว้ ยช้อนซ้อม การแต่งกายใสส่ ทู อาหาร แฮมเบอร์เกอร)์ 2) วัฒนธรรมสากลข้างต้นมีความสาคญั และมคี ุณค่าอย่างไร (เป็น ความเจริญกา้ วหน้าทางเทคโนโลยี มกี ารเปล่ยี นแปลงอย่างรวดเรว็ ช่วย ชพว่ัฒยนพาฒั ศนักายศภกั ายพภใานพกใานรกแาขร่งแขขนั ง่ ขนัองขปอรงปะเรทะศเท) ศ) 2344

245 2345 7. การวดั และประเมนิ ผล สงิ่ ทตี่ ้องการวดั /ประเมนิ วธิ กี าร เคร่อื งมือที่ใช้ เกณฑ์ ด้านความรู้ -กากราตรอตบอบคคาถ�ำ ถามาม ค- าคถ�ำ าถมาม ต- อตบอคบาคถ�ำ าถมาถมูกถตกู ้อตงอ้ ง 1. ความหมายและ ความสาคัญของวัฒนธรรม -ปประรเะมเมนิ นิกกาารรททา�ำกกจิ จิ กกรรรรมม ก- ิจกกจิ รกรมรมสสืบบื คค้นน้ จจาากก ร-ะรดะับดบัคคุณณุ ภภาาพพ2๒ผผ่าา่ นน สากล สง่ิสพง่ิ พมิ มิพพ์ ์ เกเณกณฑฑ์ ์ ดา้ นทักษะ/กระบวนการ ต- อตบอคบาคถำ�าถมามถกูถกูตต้ออ้งแงแลละะ 2. วเิ คราะห์ความสาคญั ของ ก- ากราตรอตบอคบาคถ�ำ าถมาม ค- าคถ�ำ าถมาม มเีมหเี ตหผุตลผุ ล วัฒนธรรมสากล ดา้ นคณุ ลกั ษณะ 3.บอกคุณคา่ ของวัฒนธรรม สากล 8. บันทึกผลหลังสอน ผลการเรยี นรู้ ............................................................................................................................. ................................................ ปัญหาและอปุ สรรค .................................................................................................................................................................... ...... ข้อเสนอแนะและแนวทางแก้ไข ............................................................................................. .............................................................................. ลงชอื่ ......................................ผสู้ อน (.......................................................) วนั ท่.ี .........เดือน..........พ.ศ............. 9. ความคดิ เห็น/ข้อเสนอแนะของผ้บู ริหารหรอื ผู้ท่ีได้รบั มอบหมาย ..................................................................................................... ...................................................................... ลงช่อื ......................................ผู้ตรวจ (.......................................................) วันท.่ี .........เดอื น..........พ.ศ.............

246 2346 ใบความรู้ เรอ่ื งวฒั นธรรมสากล วัฒนธรรมสากลหรือวฒั นธรรมนานาชาติ หมายถงึ วัฒนธรรมทีเ่ ปน็ ทีย่ อมรบั กนั ทว่ั ไปอยา่ งกวา้ งขวาง หรอื เปน็ อารยธรรมทไี่ ด้รบั ปฏิบตั ิตามกนั ท่วั โลก เช่น การแต่งกายชดุ สากล การใช้ภาษาอังกฤษเป็นภาษากลาง ในการติดต่อสื่อสาร การปกครองในระบอบประชาธิปไตย การค้าเสรี การใช้เครื่องจกั รกล ระบบการสื่อสารที่ ทันสมยั ความรูท้ างวิทยาศาสตร์ และมารยาทในการสมาคม เปน็ ต้น ในยคุ ปัจจบุ ันโลกของเรามคี วามเจรญิ ก้าวหน้าทางด้านเทคโนโลยอี ย่างสูง เปน็ ยุคแห่งโลกาภิวฒั น์ ทมี่ ี การเชื่อมโยงถงึ กนั ได้อยา่ งง่ายดาย มีการตดิ ต่อซ่งึ กนั และกนั เม่ือมีการติดต่อสอื่ สารกันมากขึ้น ก็ยอ่ มส่งผลให้ วัฒนธรรมมีการผสมผสานกันมากขึ้น จนในที่สุดมนุษย์จึงต้องมีการค้นหาหรือสร้างวัฒนธรรมสากลในด้าน ตา่ งๆ ข้ึนมาเพือ่ เป็นแนวทางในการปฏบิ ัติร่วมกัน เช่น มีการกาหนดภาษาสากล ระบอบการเมืองการปกครอง มาตรฐานดา้ นความปลอดภัย เป็นต้น การท่หี ลายประเทศในโลกรวมถึงประเทศไทยมคี วามต้องการจะพัฒนาตนเองเพื่อก้าวสู่ความเป็นสากล วัฒนธรรมสากลจึงมีความสาคัญซึ่งคนในสังคมจาเป็นที่จะต้องศึกษาและรับมาเป็นแนวทางหนึง่ ในการดาเนิน ชีวิต เพื่อที่จะพัฒนาศักยภาพของตนเองและก้าวทันความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว แต่ใน ขณะเดยี วกันหากมกี ารรบั วัฒนธรรมสากลมากเกินไป กอ็ าจสง่ ผลเสียทาให้วัฒนธรรมดง้ั เดิมของชาติสญู หายไป ในปัจจบุ นั มวี ฒั นธรรมสากลมากมายทเี่ ข้ามาเกีย่ วข้องกับการดาเนินชีวิตของเรา การที่เราจะ เรียนรู้หรอื รบั เอาวฒั นธรรมสากลมาใชน้ ้ัน จาเป็นจะต้องพิจารณาถงึ ประโยชน์และความจาเป็นของวัฒนธรรม สากลเหล่านัน้ ซ่งึ วฒั นธรรมสากลท่มี คี วามสาคญั ตอ่ การดาเนนิ ชวี ติ ของคนในสงั คมยคุ ปจั จบุ นั มดี งั นี้ 1) ภาษาอังกฤษ เนื่องจากภาษาอังกฤษ เป็นภาษาทีม่ ีผู้ใช้มากที่สุดในโลก โดยในปัจจุบัน มี มหีหลาลยาปยประรเะทเทศศททั่วโัว่ ลโลกกทที่ใชีใ่ ช้ภ้ภาาษษาาออังงักกฤฤษษเปเป็น็นภภาาษษาารราาชชกกาารร เชน่ สหหรราชชออาาณณาาจจักักรรสสหหรรฐั ัฐออเเมมรริกิกาาแแคคนนาาดดาา ออสเตรเลยี นิวซีแลนด์ สงิ คโปร์ อินเดีย เปน็ ตน้ นอกจากน้ีหนว่ ยงานสากลท่ีสาคญั ของโลกในหลายแหง่ กย็ ังใช้ ภาอังกฤษในการติดต่อสื่อสาร เช่น ธนาคารโลก องค์การสหประชาชาติ สหภาพยุโรป เป็นต้น ด้วยเหตุนี้จึง ส่งผลให้คนในสงั คมท่ัวทกุ มมุ โลกใหค้ วามสนใจท่ีจะเรยี นภาษาอังกฤษมากขน้ึ มากขนึ้ 2) คอมพวิ เตอร์และเครือข่ายอินเทอรเ์ นต็ ถือเป็นวฒั นธรรมสากลท่เี ขา้ มามบี ทบาทในชีวิตประจาวัน ของเราอย่างมาก เนือ่ งจากเคร่อื งคอมพิวเตอรส์ ามารถใชง้ านได้หลากหลาย เป็นสิ่งที่ช่วยให้เราสามารถทางาน ได้อย่างสะดวกรวดเร็วยิ่งข้ึน นอกจากนี้ก็ยังมีระบบอินเทอร์เน็ตท่ีมีเครือขา่ ยเชื่อมโยงไปท่ัวโลก เป็นท้ังแหล่ง รวบรวมข้อมูลต่างๆ สาหรับการสืบค้นและยังเป็นเคร่ืองมือในการติดต่อสื่อสารได้ท่ัวโลก เช่น อีเมล การ ประชมุ ทางไกล เป็นต้น 3) การแต่งกาย แมว้ า่ ในหลายประเทศจะมีเคร่ืองแตง่ กายท่ีเปน็ ชดุ ประจาชาติ ซึง่ มีเอกลักษณ์ท่ีแตกตา่ ง กันไป แตก่ ย็ ังมีการแต่งกายทคี่ นในสงั คมสว่ นใหญใ่ หก้ ารยอมรับวา่ เปน็ การแตง่ กายสากล อกี ท้ังยังรับเอา วัฒนธรรมการแต่งกายสากลน้ีมาใช้ในชวี ติ ประจาวนั อยา่ งแพรห่ ลายซง่ึ สามารถพบเห็นได้โดยท่ัวไปเครอ่ื งแต่ง กายสากล เชน่ เสอ้ื สูท เนคไท เสอ้ื เชิต้ รองเท้าหมุ้ สน้ เป็นตน้

๒๔๗ แผนการจดั การเรียนรทู้ ่ี 46 เร่ือง อิทธพิ ลของวัฒนธรรมสากล เวลา 1 ชว่ั โมง หน่วยการเรยี นรู้ท่ี 6 เรื่อง วัฒนธรรมไทยและวฒั นธรรมสากล ช้ันมัธยมศึกษาปีท่ี 3 กลุม่ สาระการเรียนร้สู ังคมศกึ ษา ศาสนาและวฒั นธรรม รายวิชาสังคมศกึ ษา ศาสนาและวัฒนธรรม ตัวช้ีวดั กจิ กรรมการเรยี นรู้ ส่อื /แหล่งเรยี นรู้ ส 3.1 ม.3/3 อนุรักษ์วฒั นธรรมไทยและ ขนั้ นาเขา้ สบู่ ทเรียน 1-. ภาพการแต่งกายของไทยแต่ละยคุ 1. นักเรยี นร่วมกันดูภาพ การแต่งกายของไทยแตล่ ะยคุ สมัย ต้ังแต่ สมยั เลอื กรับวฒั นธรรมสากลทเ่ี หมาะสม 2-. Power point เร่อื ง อิทธิพล สาระสาคญั อดตี จนถงึ ปจั จุบนั จานวน 4-5 ภาพ แล้วรว่ มกนั ตอบคาถามดังต่อไปนี้ วฒั นธรรมของตา่ งชาตทิ ่ีมเี ข้ามาใน ทีม่ า : https://sujitraweb.wordpress.com... (/ http://gg.gg/cw66bbll)) ประเทศไทย การพฒั นาทางเทคโนโลยี และการ ท่มี า : https://sujitraweb.wordpress.com... (/ http://gg.gg/cw66bbll)) ภาระงาน/ชิ้นงาน ติดต่อสื่อสารกันระหว่างสังคม ส่งผลตอ่ การ 1-. กิจกรรม “ขอ 3 คา”โดยนักเรยี น กถา่ รยถทา่ อยดทวอฒั ดนวฒัธรนรธมรซรึ่งมกซัน่งึ แกลนั ะแกลันะกัน วิเคราะหอ์ ิทธิพลของวฒั นธรรม ขอบเขตเนื้อหา ตา่ งชาติและผลกระทบท่ีมีต่อการ วัฒนธรรมสากล กดารเนดินำ�เชนีวนิ ิตชในวี ิตสใงั นคสมังไคทมยไทย 1) อทิ ธิพลของวัฒนธรรมสากลทม่ี ผี ลต่อการ กดารเนดนิ�ำ เชนวี นิ ติ ชในวี ติสใังนคสมงัไคทมยไทย 2) ผลกระทบของวฒั นธรรมสากลทม่ี ีต่อ สงั คมไทย จุดประสงคก์ ารเรียนรู้ ดา้ นความรู้ 1) นักเรยี นอธิบายวฒั นธรรมสากลที่สง่ ผลต่อการ ดกาเรนดินำ�ชเนวี นิตชในวี ติสงัในคสมงัไทคมยไดท้ยได้ 2347

๒๔๘ แผนการจดั การเรียนรู้ท่ี 46 เรือ่ ง อิทธพิ ลของวัฒนธรรมสากล เวลา 1 ช่ัวโมง หน่วยการเรียนร้ทู ี่ 6 เร่ือง วัฒนธรรมไทยและวฒั นธรรมสากล ชั้นมัธยมศกึ ษาปีที่ 3 กลุ่มสาระการเรียนร้สู งั คมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม รายวชิ าสังคมศกึ ษา ศาสนาและวัฒนธรรม ดา้ นทักษะและกระบวนการ 1) นกั เรียนวิเคราะหว์ ัฒนธรรมสากลทสี่ ่งผลตอ่ การดาเนินชีวิตในสงั คมไทยได้ ด้านคณุ ลกั ษณะ 1) นกั เรยี นบอกผลกระทบของวัฒนธรรมสากลท่ี มตี อ่ สังคมไทยได้อยา่ งถกู ต้อง ทีม่ า : https://sujitraweb.wordpress.com... (/ http://gg.gg/cw6bl) 2) นกั เรยี นอธิบายความสาคัญของการศึกษาเรื่อง อทิ ธพิ ลของวฒั นธรรมสากลท่ีมีต่อสังคมไทย ทม่ี า : https://sujitraweb.wordpress.com... (/ http://gg.gg/cw66bbll)) 1) จากภาพนักเรยี นคดิ ว่าการแตง่ กายแตล่ ะยุคสมัยมคี วามเหมือน หรอื แตกต่างกนั อยา่ งไร (แตกตา่ งกนั รปู แบบการแตง่ กาย เส้อื ผ้า เคร่ืองประดับมีความแตกตา่ งกัน) 2) เพราะเหตุใดการแตง่ กายในภาพจึงไมเ่ หมือนกัน (ข้ึนอยู่กบั ยุค สมัยที่เปลี่ยนไป) 2. ครูกลา่ วเช่ือมโยงคาตอบของผูเ้ รียนว่า “ในปจั จุบันวัฒนธรรม สากลได้เขา้ มามีบทบาทต่อการดาเนนิ ชีวติ ประจาวันของเราทุกคนอย่าง 2348

๒๔๙ แผนการจดั การเรยี นรู้ท่ี 46 เรอ่ื ง อิทธพิ ลของวัฒนธรรมสากล เวลา 1 ช่วั โมง หน่วยการเรียนรูท้ ี่ 6 เรื่อง วัฒนธรรมไทยและวฒั นธรรมสากล ชั้นมัธยมศกึ ษาปีท่ี 3 กลุ่มสาระการเรยี นรูส้ งั คมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม รายวชิ าสังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม อมยาา่กงมเราากจเะรเาหจน็ะไเหดน็้วา่ไดมว้ วี า่ ฒั มวีนฒั ธรนรธมรรสมาสกาลกอลยอ่รู ยอรู่ บอตบวัตเวั รเารแาแลละะกกลลาายยเเปป็น็ ส่วนหนง่ึ ของชีวติ ซึง่ สง่ ผลต่อการดาเนินชวี ติ ในปจั จบุ ันนี้ ดงั น้นั ในวนั นเี้ ราจะ เรียนรูใ้ นเรอ่ื งอิทธพิ ลของวฒั นธรรมสากลทมี่ ีผลต่อการดาเนินชวี ิตใน สังคมไทย” ขนั้ สรา้ งองค์ความรู้ 3. นักเรียนร่วมกนั ศึกษา Power point ทมี่ เี น้อื หาเก่ียวกับ กระแส อิทธิพลวัฒนธรรมของตา่ งชาติที่มเี ขา้ มาในประเทศไทยพร้อมท้ังอธิบาย โดยมีประเด็น ดังต่อไปน้ี 1) วฒั นธรรมดา้ นอาหาร 2) วฒั นธรรมดา้ นการแตง่ กาย 3) วัฒนธรรมท่อี ยู่อาศยั 4) วฒั นธรรมการตอ่ สูป้ อ้ งกันตวั 5) วฒั นธรรมดา้ นศลิ ปะการแสดง 4. ครแู บง่ นักเรียนออกเปน็ 2 กลมุ่ ได้แกฝ่ า่ ยเสนอ และฝา่ ยค้าน จากน้ันให้นกั เรยี นร่วมกันอภิปรายในประเด็น “วัฒนธรรมไทยดีกว่า วัฒนธรรมต่างชาติหรอื ไม่” 5. ครูใหน้ ักเรยี นทากิจกรรม ขอ 3 คา โดยมีขน้ั ตอนการจัดกิจกรรม ดงั นี้ 1) ครูแบ่งนกั เรยี นออกเป็น 2 กลุ่ม 2349

๒๕๐ ๒๕๐ แผนการจัดการเรยี นรทู้ ี่ 46 เรอ่ื ง อิทธิพลของวัฒนธรรมสากล เวลา 1 ช่ัวโมง หน่วยการเรยี นรทู้ ่ี 6 เรื่อง วัฒนธรแรผมนไกทายรแจลดั ะกวาัฒรนเรธียรนรรมูท้ สี่ า4ก6ล เรอื่ ง อิทธิพลของวัฒนธรรมสากล ชเวั้นลมาัธย1มชศ่ัวึกโษมางปีท่ี 3 กหลนุ่มวสยากราะรกเรายี รนเรรียทู้ น่ี ร6ู้สเงั รคอ่ื มงศวกึ ัฒษนาธศรารสมนไทาแยลแะลวะัฒวฒันธนรธรรมรมสารกายลวชิ าสังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม ช้นั มัธยมศกึ ษาปีที่ 3 กล่มุ สาระการเรยี นรูส้ ังคมศึกษา ศาสนาแล๑2ะ)วคใัฒหรนแู้ตบธวั ง่รแนรทกัมนเรนยี กั นรเอราอยียกนวเอิชปอาน็ สก2มังคากสมลมุ่ศจึกบัษสาลศากาสเพน่ือาเแลลือะกวหัฒมนวดธหรรมม่ใู น การใบ้คา2แ)ตใล่ หะต้ หัวมแวทดนหนมกั ่จู เะรเียปน็นอดอา้ กนมตาา่ สงมุ่ ๆจบั ขสอลงาวกฒั เนพธ่ือรเลรมือตก่าหงมชวาดตหิ ไมดู่ใ้แนก่ อกาหรใาบร้คกาาแรตแล่ ตะ่งหกมาวยดทห่ีอมยจู่ ู่อะาเปศ็นัยดกา้ านรต่าองสๆ้ปู ้อขงอกงันวตฒั ัวนศธลิรรปมะตก่างรชแาสตดิ งได้แก่ อาหาร ก3าร) แใหต่งต้ กวั าแยทนทกี่อลยุ่มูออาศอัยกมกาาใรบตค้ ่อาสโู้ปด้อยงใกหันพ้ ตูดัวแคศ่ลิ 3ปะคกาาหรแากสสดมงาชิก ในกลุ่มสา3ม)าใรหถ้ตตัวอแบทไนดก้ตลง้ั แุ่มตอ่คอากแมรากใบไค้ดา้ 3โดคยะใแหนพ้ นูดแตคอ่บ3ไดค้คาาหใบาท้กส่ี มองาช2ิก คในะกแลนุม่ นสแามลาะรตถอตบอไบด้ใไนด้ตค้ังาแใบต้สค่ ุดาทแร้ากย ไ1ด้ค3ะแคนะนแนตนามตลอาบดไบัด้คโาดใยบนท้ ักีส่ เอรยีงน2 ตค้อะแงวนเิ นครแาละะหตอ์ อิทบธไิพดล้ในขอคงาวใบฒั ส้ นุดธทร้ารยมต1า่ งคชะาแตนแิ นละตผาลมกลราะดทบั บโทดี่มยีตน่อักกเรายีรน ดตา้อเงนวินเคชรีวาิตะใหนอ์สิทังคธิพมไลทขยองวัฒนธรรมตา่ งชาตแิ ละผลกระทบท่ีมีตอ่ การ ดาเนินชวี ติ ในสังคมไทย ขนั้ สรปุ ขัน้ 6ส.รคปุ รแู ละนักเรียนร่วมกันสรุปอทิ ธพิ ลของวฒั นธรรมสากลที่มผี ลต่อ การ6ด.าคเนรินูแชลวีะิตนใักนเรสยีงั คนมร่วไทมยกแันลสะรรปุ ว่ อมิทกธนั พิ ตลอขบอคงาวถฒั านมธในรรปมรสะาเดกน็ลทดัง่มี นผี ี้ลตอ่ การดา1เ)นกนิ าชรวี ศิตึกใษนสาเงั รค่ือมงไอทิทยธแพิ ลละขรอว่ งมวกัฒันนตธอรบรคมาสถาากมลในมปีปรระะเโดยน็ ชดนงั แ์ นลี้ ะมี ความส1า)คกัญารอศยึก่าษงไารเ(รชื่อ่วงยอใิทหธ้เขพิ ้าลใขจอในงควัฒวานมธเรปรลมีย่ สนาแกปลลมงขีปอรงะสโยิ่งตชนา่ งแ์ ทล่ีเะกมิดีขน้ึ แคลวาะมเชสน่ ากคาญั รอแยต่างงกไารย(ชรว่ ปูยแใหบเ้ บขก้าใาจรใดนาคเนวินามชเีวปติ ล)ยี่ นแปลงของสิง่ ตา่ งทเี่ กดิ ขึน้ และ7เช.่นคกราถู ราแมตน่งักเารยยี นรปูว่าแบ“บเพกราาระดเาหเตนุในิ ดชวีวฒั ิตน) ธรรมสากลในปจั จุบนั จึง สาม7าร.ถคเรผูถยาแมพนรัก่ไดเร้อยี ยนา่ วง่ารว“ดเเพรร็วา”ะเ(กหาตรุใพดัฒวัฒนนาทธรารงมเทสคาโกนลโใลนยปี แัจลจุบะกนั าจรึง ตสาิดมตา่อรสถ่ือเผสยารแกพันรร่ไดะห้อยวา่ งสรวังคดเมรว็ส”ง่ ผ(กลาตรอ่ พกฒั ารนถา่าทยาทงอเทดควโฒั นนโลธยรรี แมลซะง่ึ กาันรและ กตันดิ ต) ่อสื่อสารกนั ระหว่างสังคม สง่ ผลต่อการถา่ ยทอดวฒั นธรรมซึ่งกันและ กนั ) 2540250

251 2541 7. การวัดและประเมินผล วิธกี าร เครือ่ งมือทีใ่ ช้ เกณฑ์ สง่ิ ทีต่ ้องการวดั /ประเมนิ ก- ากราตรอตบอบคาคถำ�าถมาม ค- าคถ�ำ าถมาม -นนกั ักเรเียรยีนนรร้อ้อยยลละะ8๘0๐ ตอบคาถามได้ถูกต้อง ด้านความรู้ ก- ากราตรอตบอบคาคถำ�าถมาม ค- าคถ�ำ าถมาม -นนกั ักเรเยีรียนนรรอ้ อ้ยยลละะ8๘0๐ -๑อ.ิทอธทิ พิ ธลพิ ขลอขงอธงรธรรมรสมาสกาลกทลี่ท่ี ตอบคาถามได้ถูกต้อง สง่ ผลตอ่ การดาเนินชีวิต ดา้ นทักษะ/กระบวนการ -๑ว.ิเควรเิ คาระาหะ์อหทิ ์อธิทิพธลิพขลอขงอง วฒั นธรรมสากล ดา้ นคุณลกั ษณะ ก- ากราตรอตบอบคาคถำ�าถมาม ค- าคถ�ำ าถมาม -นนกั กัเรเียรียนนรร้อ้อยยลละะ8๘0๐ อ๑ธ. ิบอาธยบิ คาวยาคมวสาามคสัญำ�คขญั อขงอง ตอบคาถามไดถ้ ูกต้อง วฒั นธรรมสากล 8. บันทกึ ผลหลังสอน ผลการเรียนรู้ ............................................................................................................................. ................................................ ปญั หาและอุปสรรค ............................................................................................................................. ............................................. ขอ้ เสนอแนะและแนวทางแก้ไข ........................................................................................................................................................................... ลงชอ่ื ......................................ผู้สอน (.......................................................) วันที่..........เดอื น..........พ.ศ............. ความคดิ เหน็ /ขอ้ เสนอแนะของผู้บริหารหรอื ผู้ทีไ่ ด้รับมอบหมาย ............................................................................................................................. .............................................. ลงชอื่ ......................................ผู้ตรวจ (.......................................................) วนั ท.่ี .........เดอื น..........พ.ศ..........

๒๕๒ แผนการจดั การเรียนรูท้ ี่ 47 เรอ่ื ง การเลือกรับวัฒนธรรมสากล เวลา 1 ชัว่ โมง หนว่ ยการเรียนรู้ที่ 6 เร่ือง วัฒนธรรมไทยและวัฒนธรรมสากล ช้ันมัธยมศึกษาปีท่ี 3 กลุ่มสาระการเรยี นรสู้ งั คมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม รายวิชาสังคมศกึ ษา ศาสนาและวัฒนธรรม ตัวช้ีวดั กจิ กรรมการเรยี นรู้ ส่ือ/แหล่งเรียนรู้ ส 3.1 ม.3/3 อนุรกั ษว์ ฒั นธรรมไทยและ ข้ันนาเข้าสบู่ ทเรยี น 1. คลปิ วดิ โี อเพลงสากล 1. ครนู าวิดีโอเก่ยี วกับเร่อื งวฒั นธรรมสากล เช่น MV เพลงสากล https://www.youtube.com/watc เลือกรบั วัฒนธรรมสากลทีเ่ หมาะสม h?v=099RR88__2n2JntjJgtjg สาระสาคัญ ให้นกั เรียนดแู ล้วตัง้ ประเด็นคาถามดงั ต่อไปนี้ การพัฒนาทางเทคโนโลยี และการ ทม่ี า : https://www.youtube.com/watch?v=099RR88_2_n2JntjJgtjg 2๒. กระดดาาษษเขเขยี ยี นนแแบบบ ติดตอ่ สอื่ สารกนั ระหว่างสงั คม ส่งผลตอ่ การ 1) จากภาพเปน็ วัฒนธรรมสากลเกีย่ วกบั เรื่องอะไรบ้าง ( การแตง่ ภาระงาน/ช้นิ งาน ถา่ ยทอดวฒั นธรรมซึง่ กนั และกนั นามาซึง่ การ กิจกรรม “Mix and Match” โดย ประยกุ ต์ และเลือกรับวฒั นธรรมน้ัน ๆ อยา่ ง ก(กาายรแกตาร่งกแาตย่งงกาานรแกตาร่งขงาับนรถก)ารขบั รถ) เหมาะสม 2) จากวดิ ีโอและภาพเก่ียวกับวัฒนธรรมสากล คนไทยรบั วัฒนธรรม ขอบเขตเนอ้ื หา สากลหรือวฒั นธรรมตะวันตกอะไรมาใชใ้ นชีวิตประจาวันบา้ ง (พิธีแต่งงาน แบ่งกลมุ่ และนาเอาผลติ ภณั ฑ์หรือ วัฒนธรรมสากล การแต่งกาย) กิจกรรมทางวฒั นธรรมต่าง ๆ มาปรบั 1) แนวทางการเลือกรบั วัฒนธรรมสากลอย่าง ใหเ้ ขา้ กับวฒั นธรรมสากล หรือ เหมาะสม 3) วฒั นธรรมสากลหรือวฒั นธรรมตะวนั ตกขา้ งตน้ มีผลต่อการ 2) ประโยชน์ของการเลอื กรบั วัฒนธรรมสากล ดารงชีวิตของคนในยคุ ปัจจบุ ันอยา่ งไรบ้าง (ลกั ษณะการแต่งกายท่ี นามาผสมผสานกนั จากนัน้ ใหน้ กั เรยี น จุดประสงค์การเรยี นรู้ เปลี่ยนไป ขน้ั ตอนพิธีการเฉลิมฉลองในงานแต่งงาน กายแตง่ กายในงาน นาเสนอผลงานและโหวตใหค้ ะแนน ด้านความรู้ แต่งงาน) ชิน้ งานท่ีน่าสนใจทีส่ ดุ 1) นกั เรยี นระบลุ ักษณะของวัฒนธรรมสากลได้ 2542

๒๕๓ แผนการจดั การเรยี นรูท้ ่ี 47 เรือ่ ง การเลือกรับวัฒนธรรมสากล เวลา 1 ช่ัวโมง หนว่ ยการเรียนร้ทู ี่ 6 เรอื่ ง วัฒนธรรมไทยและวฒั นธรรมสากล ชั้นมัธยมศกึ ษาปีที่ 3 กล่มุ สาระการเรยี นรู้สงั คมศึกษา ศาสนาและวฒั นธรรม รายวชิ าสังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม 2) นกั เรียนเสนอแนวทางการเลือกรับวัฒนธรรม 2. ครูกล่าวเชอ่ื มโยงคาตอบของนักเรยี นวา่ ภาพดงั กล่าวจัดเปน็ ส่วน สากลอยา่ งเหมาะสมได้ หนง่ึ ของวฒั นธรรมสากลท่ปี ระเทศไทยไดร้ ับวฒั นธรรมดงั กล่าวเขา้ มาเป็น ด้านทักษะและกระบวนการ สว่ นหนึง่ ของสงั คมไทย 1) นกั เรียนวิเคราะห์แนวทางการเลอื กรบั วัฒนธรรมสากลมาผสมผสานวัฒนธรรมไทยให้ ข้นั สร้างองคค์ วามรู้ เหมาะกบั สมัยปัจจุบันได้อย่างเหมาะสม 3. ครูเขียนประเด็นบนกระดาษร่วมกนั อภปิ รายกับนักเรยี นนักเรียน ในประเดน็ ต่อไปนี้ ดา้ นคุณลกั ษณะ 1) นักเรียนบอกประโยชนข์ องการเลอื กรับ 1) ในปัจจุบันคนไทยรบั เอาวัฒนธรรมสากลอะไรมาใชบ้ า้ ง วฒั นธรรมสากลไดอ้ ย่างถูกต้อง ( การรบั ประทานอาหาร การแต่งกาย) 2) วัฒนธรรมสากลน้ันมีความเหมาะสมหรือไมก่ ับสังคมและ วฒั นธรรมไทย (บางอย่างมีความเหมาะสมเช่นการแต่งกายท่ดี ูสภุ าพ เรียบร้อย แต่อาจไมเ่ หมาะสมกบั ภมู ิอากาศของประเทศไทย) โดยครูเขียบนสรุปคาตอบท่ีได้บนกระดาน 4. นกั เรยี นแบง่ กลุ่ม กลุ่มละ 4-5 คน ให้นกั เรียนทากิจกรรม “Mix and Match” โดยใหแ้ ตล่ ะกลมุ่ เลอื กวฒั นธรรมของไทยมา 1 ประการ โดยกาหนดให้เปน็ สนิ ค้า อาหาร หรอื ผลติ ภณั ฑต์ ่าง ๆ ตอ่ มาให้ทาการ ออกแบบเพิ่มเติมโดยการประยุกต์วัฒนธรรมสากลเข้าไปในกระดาษปรู๊ฟ และให้เวลาในการออกแบบและตกแต่ง 15 นาที 5. ตัวแทนนักเรียนแต่ละกลุ่ม 1-2 คน นาเสนอผลงานตัวอย่าง ผลิตภณั ฑต์ ิดบนกระดานหน้าชั้นเรียน โดยรับบทบาทเป็นผูข้ ายสนิ ค้า ดังกลา่ วและให้นักเรยี นท่ีเหลือเปน็ ลูกค้าโดยวเิ คราะห์สนิ ค้าว่ามกี ารเลือก 2543

๒๕๔ แผนการจัดการเรียนรทู้ ี่ 47 เร่ือง การเลอื กรบั วฒั นธรรมสากล เวลา 1 ชว่ั โมง หน่วยการเรยี นร้ทู ี่ 6 เรอ่ื ง วัฒนธรรมไทยและวฒั นธรรมสากล ชัน้ มัธยมศกึ ษาปีท่ี 3 กล่มุ สาระการเรยี นร้สู งั คมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม รายวิชาสังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม วรา่บั มวกี ัฒารนเธลรอื รกมรสบั าวฒกั ลนมธารผรมสสมาผกสลามนาวผฒัสมนผธสรารนมวไฒัทยนไธดร้เรหมมไทายะไสดมเ้ หมมาากะนส้อมยมากนอ้ ย เพยี งใด จากน้ันครูจะตัดสนิ ผลงานท่ีชนะโดยพจิ ารณาจากจานวนนักเรียน ทีร่ ว่ มโหวตโดยใชแ้ ผน่ สต๊ิกเกอรต์ ดิ ทผ่ี ลงาน โดยจะมปี ระเด็นในการตัดสนิ ตา่ ง ๆ ประกอบไปดว้ ย 1) ผลงานดงั กลา่ วเกดิ จากการเอาวฒั นธรรมในดา้ นใดหรือจาก ประเทศอะไรมาผสมผสานกันบา้ ง 2) ผลงานดงั กล่าวมกี ารแสดงออกเรอ่ื งความโดดเด่นในการเลอื ก รับวฒั นธรรมอยา่ งไรบ้างและจะสามารถนาไปใชป้ ระโยชน์ ในชีวติ ประจาวันไดม้ ากนอ้ ยเพียงใด ขั้นสรุปความคดิ รวบยอด 6. นักเรยี นรว่ มกันอภิปรายสรุปสาระสาคัญของเน้ือหาโดยครใู ชค้ าถาม ดังตอ่ ไปน้ี 1) วฒั นธรรมไทยและวัฒนธรรมสากลมีคุณคา่ ต่อทุกคนหรือไม่ อย่างไร(มคี ุณคา่ ต่อทกุ คน เพราะวัฒนธรรมแสดงใหเ้ ปน็ ถึงความเจริญ เอกลกั ษณ์ของชาตินนั้ ๆ ) 2) นักเรียนจะมีแนวทางในการอนุรักษ์วัฒนธรรมไทยให้คงอยไู่ ด้ อย่างไรบ้าง ( ปฏบิ ัติตามวัฒธรรมเดมิ อย่างถูกต้อง เหมาะสม พร้อมท้ัง เผยแพร่ใหผ้ ูอ้ ืน่ ) 3) ในยคุ สมยั ปจั จุบันนกั เรยี นจะมีแนวทางในการเลือกรบั วัฒนธรรมสากลและปรบั ให้สอดคล้องกบั ประเพณีวฒั นธรรมไทยได้ 2544

๒๕๕ แผนการจัดการเรยี นรูท้ ่ี 47 เรอื่ ง การเลือกรับวฒั นธรรมสากล เวลา 1 ชั่วโมง หนว่ ยการเรยี นรู้ท่ี 6 เรอ่ื ง วัฒนธรรมไทยและวฒั นธรรมสากล ชน้ั มัธยมศึกษาปีท่ี 3 กล่มุ สาระการเรยี นรู้สงั คมศกึ ษา ศาสนาและวฒั นธรรม รายวชิ าสังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม อยา่ งไร ( เลอื กรบั วฒั นธรรมสากลท่ีไม่ทาใหว้ ฒั นธรรมเดมิ ของไทยเสื่อม เสยีื่อมเสลียอื กเใลนือสกิง่ ใทนีท่สาิ่งทใหีท่ ้ส�ำ งั ใคหมส้ มังคี มวามมีคเวจารมญิ เจมราิญกขม้นึาก) ข้นึ ) 7. สง่ิ ใดท่ีทาให้วฒั นธรรมมีการเผยแพรถ่ ึงกันอย่างรวดเร็ว (การพัฒนา ทางเทคโนโลยี และการตดิ ต่อสื่อสารกนั ระหวา่ งสงั คม) เม่ือมวี ฒั ธรรม ต่าง ๆ เขา้ มาเราควรเลือกรบั และประยุกต์ใชก้ ับวัฒรธรรมไทยอยา่ งไร (นามาซงึ่ การประยกุ ต์ และเลือกรับวฒั นธรรมนน้ั ๆ อยา่ งเหมาะสม ) 2545

256 2546 7. การวดั และประเมินผล วธิ กี าร เคร่อื งมือท่ใี ช้ เกณฑ์ สง่ิ ท่ีต้องการวดั /ประเมิน -กากราตรอตบอบคคาถ�ำ ถามาม -คาคถ�ำ าถมาม ต- อตบอคบาคถำ�าถมามถูกถกูตต้อ้องง ด้านความรู้ -ปประรเะมเมินนิกกาารรททา�ำกกิจจิ กกรรรรมม -กจิกกจิ กรรมรมสสบื บื คค้นา้ จจาก ค- ณุคณุ ภภาพาพรระะดดับบั ดดี ผี ผา่ า่ นน 1๑). ลักษณะของวัฒนธรรรมม สง่ิ พิมพ์ เกณฑ์ สากล ด้านทักษะ/กระบวนการ 1๑). วิเคราะหแ์ นวทางการ เกลาือรกเลรอืบั กวรัฒับนวธฒั รนรมธรสรามกสลากล ด้านคุณลกั ษณะ -คาคถ�ำ าถมาม ต- อตบอคบาคถำ�าถมามถูกถกูตต้ออ้งแงแลละะ 1๑). ประโยชน์ของการเลอือกกรรับับ -กากราตรอตบอบคคาถ�ำ ถามาม มเี หตุผล วัฒนธรรมสากล 8. บันทกึ ผลหลังสอน ผลการเรยี นรู้ ............................................................................................................................. ................................................ ปญั หาและอุปสรรค .................................................................................................................................................................... ...... ข้อเสนอแนะและแนวทางแก้ไข ............................................................................................. .............................................................................. ลงช่อื ......................................ผู้สอน (.......................................................) วันท.ี่ .........เดอื น..........พ.ศ............. ความคดิ เห็น/ขอ้ เสนอแนะของผูบ้ ริหารหรอื ผู้ที่ได้รบั มอบหมาย ....................................................................................................... .................................................................... ลงช่ือ ......................................ผ้ตู รวจ (.......................................................) วนั ท.่ี .........เดอื น..........พ.ศ.............

๒๕๗ 2547 ช่อื หน่วยการเรียนรู้ สังคมดีมีสุข หน่วยการเรยี นร้ทู ี่ 7 รหัสวิชา ส 23101 รายวิชา หน้าที่พลเมืองวัฒนธรรมและการดาเนนิ ชีวติ ในสังคม กลุ่มสาระฯสังคมศึกษาฯ ช้ันมัธยมศกึ ษาปีที่ 3 ภาคเรียนท่ี 1 ปีการศกึ ษา 2562 เวลา 6 ชวั่ โมง 1.มาตรฐานการเรียนร/ู้ ตวั ช้ีวัด สาระหนา้ ทพี่ ลเมือง วฒั นธรรมและการดาเนินชีวิตในสังคม มาตรฐานการเรยี นรู้ ส 2.1 เข้าใจและปฏบิ ตั ิตนตามหนา้ ที่ของการเป็นพลเมอื งดี มคี า่ นิยมทีด่ ีงามและ ธารงรักษาประเพณแี ละวฒั นธรรมไทย ดารงชวี ติ อย่รู ่วมกนั ในสงั คมไทยและสงั คมโลก อยา่ งสนั ติสขุ ตัวช้ีวัด ม.3/4 วเิ คราะหป์ จั จยั ทก่ี ่อให้เกิดปัญหาความขัดแย้งในประเทศ และเสนอแนวคดิ ใน การลดความขัดแย้ง ม.3/5 เสนอแนวคดิ ในการดารงชวี ิตอย่างมีความสุขในประเทศและสงั คมโลก 2.สาระสาคัญ/ความคดิ รวบยอด การดาเนินชีวิตตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง เห็นคุณค่าในตนเอง รู้จักมองโลกในแง่ดี สร้างทักษะทางอารมณ์ รู้จักบริโภคด้วยปัญญา เลือกรับหรือปฏิเสธข่าวและวัตถุต่าง ๆ ปรับปรุงตนเองและ สิ่งต่าง ๆ ให้ดีขึ้นอยู่เสมอ รวมทั้งการอยู่ร่วมกันอย่างมีขันติธรรม เป็นปัจจัยสาคัญท่ีส่งเสริมการดารงชีวิตให้ มีความสุข 3. สาระการเรยี นรู้ ความรู้ 1) อธบิ ายปจั จัยทก่ี ่อให้เกิดความขัดแย้ง เช่น การเมืองการปกครอง เศรษฐกจิ สังคม ความเชือ่ 2) อธบิ ายสาเหตุปัญหาทางสงั คม เชน่ ปญั หาสง่ิ แวดล้อม ปัญหายาเสพติด ปัญหาการ กทาจุ รรทติ ุจปรติัญหปัญาอหาาชอญาาชกญรารกมรรม 3) แนวทางความร่วมมือในการลดความขัดแย้ง และการสร้างความสมานฉันท์ 4) ปจั จยั ทสี่ ่งเสริมการดารงชวี ติ ใหม้ คี วามสขุ เชน่ การอยู่ร่วมกันอย่างมขี ันติธรรม หลกั ปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพียง เหน็ คณุ ค่าในตนเอง ร้จู ักมองโลกในแง่ดี สรา้ งทกั ษะทางอารมณ์ รจู้ ักบริโภคด้วยปญั ญา เลอื กรับ-ปฏิเสธข่าวและวตั ถตุ า่ งๆ ปรับปรุงตนเองและส่งิ ต่างๆ ใหด้ ี ขึน้ อยู่เสมอ ทักษะ/กระบวนการ 1) วิเคราะห์ปจั จยั ทก่ี ่อให้เกิดความขดั แย้ง เชน่ การเมืองการปกครอง เศรษฐกิจ สังคม ความเชอื่ 2) วิเคราะหส์ าเหตปุ ัญหาทางสงั คม เช่น ปัญหาสง่ิ แวดล้อม ปญั หายาเสพตดิ ปญั หาการ กทาุจรรทิตุจปริตญั หปาญั อหาาชอญาาชกญรารกมรรม

๒๕๘ 2548 3) เสนอแนวทางความร่วมมือในการลดความขดั แย้ง และการสร้างความสมานฉันท์ 4) วเิ คราะหป์ จั จยั ทสี่ ง่ เสริมการดารงชีวิตใหม้ ีความสขุ เช่น การอยู่ร่วมกันอย่างมขี นั ติ ธรรม หลกั ปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพยี ง เห็นคุณคา่ ในตนเอง รู้จักมองโลกในแงด่ ี สรา้ งทกั ษะ ทางอารมณ์ รจู้ ักบริโภคด้วยปัญญา เลอื กรับ-ปฏเิ สธข่าวและวตั ถุตา่ งๆ ปรับปรุงตนเองและสงิ่ ตสงิ่าตงๆา่ งใๆหใด้ หีขด้ น้ึ ีขอน้ึ ยอู่เสยมู่เสอมอ เจตคติ 1) ตระหนักถึงปจั จัยทก่ี ่อให้เกิดความขัดแย้ง เช่น การเมอื งการปกครอง เศรษฐกิจ สังคม ความเช่อื 2) เหน็ ความสาคญั กับปัญหาที่เกดิ ขึน้ ทางสังคม เชน่ ปญั หาสงิ่ แวดลอ้ ม ปัญหายาเสพติด ปญั หาการทจุ รติ ปญั หาอาชญากรรม 3) มีสว่ นรว่ มในการเสนอแนวทางความรว่ มมือในการลดความขดั แยง้ และการสรา้ งความ สมานฉันท์ 4) มีส่วนร่วมสง่ เสรมิ การดารงชีวติ ใหม้ ีความสขุ เช่น การอย่รู ่วมกันอยา่ งมีขันติธรรม หลัก หปลรกชั ปญราชั ขญอางขเศอรงษเศฐรกษิจฐพกอจิ เพพอียเพง ยี เหง็นเหคน็ ณุ คคณุ ่าคในา่ ใตนนตเนอเงองรู้จรักจู้ มกั มอองโงลโลกกในในแแงง่ดด่ ี ีสสรรา้ า้ งงทกั ษะทางอารมณณ์ ์ รู้จกั บรโิ ภคด้วยปัญญา เลอื กรับ-ปฏิเสธขา่ วและวัตถุต่างๆ ปรบั ปรุงตนเองและส่ิงต่างๆ ให้ดี ข้ึนอยเู่ สมอ 4. สมรรถนะสาคญั ของผูเ้ รียน 4.1 ความสามารถในการคดิ - ทักษะกระบวนการคดิ อยา่ งมีวจิ ารณญาณ 4.2 ความสามารถในการใช้ทกั ษะชวี ติ 5. คุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์ 1. มีวนิ ัย 2. ใฝเ่ รยี นรู้ 3. มุง่ มน่ั ในการทางาน 4. รักความเป็นไทย 6. การประเมินผลรวบยอด ชภน้ืารงะางนาหนรือ/ภชาิน้ รงะางนาน -แแผผ่น่นพพับับ เร่ืองสังคมไทยยุคปัจจุบนั 7. เกณฑก์ ารประเมนิ ผลชนิ้ งานหรอื ภาระงาน -แแบบบบปปรระะเมนิ แผน่ พับ เรื่อง สงั คมไทยยุคปัจจุบนัน

๒๕๙ 2549 รายการประเมนิ ดมี าก (4) คาอธิบายระดบั คุณภาพ / ระดับคะแนน ปรับปรุง (1) ดี (3) พอใช้ (2) 1. การวเิ คราะห์ วิเคราะหป์ จั จยั ท่ี วิเคราะห์ปัจจยั ท่ี วเิ คราะห์ปัจจยั ท่ี วิเคราะหป์ จั จยั ที่ ปจั จยั ท่ีกอ่ ให้ ก่อใหเ้ กดิ ปญั หา กอ่ ใหเ้ กดิ ปัญหา กอ่ ให้เกดิ ปญั หา ก่อให้เกดิ ปญั หา เกิดปญั หาความ ความขัดแย้งใน ความขัดแย้งใน ความขดั แย้งใน ความขัดแย้งใน ขัดแยง้ ใน ประเทศ ประเทศ ประเทศ ประเทศ ประเทศ ไดถ้ ูกต้อง สมบรู ณ์ ไดถ้ ูกตอ้ ง สมบรู ณ์ ไดถ้ ูกตอ้ ง สมบรู ณ์ ไดถ้ ูกตอ้ ง สมบรู ณ์ 4 ปัญหาขึน้ ไป 3 ปญั หา 2 ปญั หา 1 ปัญหา 2. การเสนอ เสนอแนวคดิ ในการ เสนอแนวคดิ ในการ เสนอแนวคิดในการ เสนอแนวคิดในการ แนวคิดในการลด ลดความขัดแยง้ ใน ลดความขดั แย้งใน ลดความขัดแยง้ ใน ลดความขดั แยง้ ใน ความขดั แย้งใน สงั คมไทยอย่างมี สงั คมไทยอยา่ งมี สงั คมไทยอย่างมี สงั คมไทยอย่างมี สังคมไทย เหตุผลเหมาะสม เหตุผลเหมาะสม เหตุผลเหมาะสม เหตุผลเหมาะสม 4 ประเด็นข้ึนไป 3 ประเด็น 2 ประเดน็ 1 ประเด็น 3. การวิเคราะห์ วิเคราะห์ปญั หา วเิ คราะห์ปัญหา วเิ คราะห์ปัญหา วิเคราะห์ปญั หา ปญั หาสงั คมไทย สังคมไทย พร้อม สังคมไทย พร้อม สงั คมไทย พร้อม สงั คมไทย พร้อม พร้อมเสนอ เสนอแนวทางแก้ไข เสนอแนวทางแก้ไข เสนอแนวทางแกไ้ ข เสนอแนวทางแก้ไข แนวทางแก้ไข ปัญหาได้อย่างมี ปญั หาได้อย่างมี ปัญหาได้อย่างมี ปญั หาได้อย่างมี เหตผุ ลเหมาะสม 4 เหตผุ ลเหมาะสม 3 เหตุผลเหมาะสม 2 เหตผุ ลเหมาะสม 1 เรื่อง เร่ือง เรอ่ื ง เร่ือง 4. การเสนอแนะ เสนอแนวทางการ เสนอแนวทางการ เสนอแนวทางการ เสนอแนวทางการ แนวทางการ ดารงชวี ติ อย่างมี ดารงชีวิตอย่างมี ดารงชีวิตอย่างมี ดารงชีวิตอย่างมี ดารงชวี ิตอยา่ งมี ความสุขในสงั คมไทย ความสุขในสังคมไทย ความสขุ ในสังคมไทย ความสขุ ในสงั คมไทย ความสุขใน และสงั คมโลกได้ และสังคมโลกได้ และสังคมโลกได้ และสงั คมโลกได้ สงั คมไทยและ อย่างมเี หตุผล อยา่ งมีเหตุผล อยา่ งมเี หตผุ ล อย่าง สังคมโลก เหมาะสม เหมาะสม 3 เหมาะสม 2 มเี หตผุ ลเหมาะสม 4 ประเดน็ ข้นึ ไป ประเดน็ ประเด็น 1 ประเด็น เกณฑก์ ารตัดสิน คะแนน 8 หมายถึง ดีมาก คะแนน 6-7 หมายถงึ ดี คะแนน 4-5 หมายถึง พอใช้ คะแนน ต่ากว่า 4 หมายถึง ปรบั ปรุง เกณฑ์การผ่าน ตัง้ แตร่ ะดับ ดี ข้นึ ไป

๒๖๐ แผนการจดั การเรยี นรูท้ ี่ 48 เรื่อง ลักษณะของสังคมไทย เวลา 1 ชั่วโมง หนว่ ยการเรียนรทู้ ี่ 7 เรอ่ื ง สังคมดมี ีสุข ช้นั มัธยมศึกษาปที ี่ 3 กลุ่มสาระการเรียนรูส้ ังคมศกึ ษา ศาสนาและวัฒนธรรม รายวิชาสังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม มาตรฐานการเรียนรู้ กจิ กรรมการเรียนรู้: การจดั การเรียนรแู้ บบเผชญิ สถานการณ์ สอ่ื /แหล่งเรยี นรู้ ส 2.1 เขา้ ใจและปฏบิ ัติตนตามหน้าท่ีของการเป็น ขนั้ นา 1- เอกสารประกอบการเรียนรู้ พลเมืองดี มคี า่ นยิ มทด่ี งี ามและธารงรักษา กจิ กรรมนาเขา้ สบู่ ทเรียน (5 นาท)ี - การถามคาถาม ประเพณแี ละวัฒนธรรมไทย ดารงชวี ติ อยรู่ ว่ มกนั 1. ครูนาเสนอรูปภาพเก่ียวกับวฒั นธรรมไทย และให้ผู้เรียน - บันทึกการเรยี นรู้ ในสงั คมไทยและสังคมโลกอย่างสนั ตสิ ขุ ร่วมกันวิเคราะห์ว่า “วัฒนธรรมเหล่านี้มีความสาคัญต่อเรา - ใบงานเรื่อง วัฒนธรรมตระการตา ตัวชว้ี ัด อย่างไรบา้ ง” (ทักษะการคดิ วเิ คราะห์) คือคุณคา่ แห่งชาตไิ ทย ม.3/3 อนุรกั ษว์ ัฒนธรรมไทยและเลือกรับ - กจิ กรรม “วัฒนธรรมน้ันสาคัญ วฒั นธรรมสากลที่เหมาะสม ไฉน” ภาระงาน/ช้ินงาน ม.3/4 วิเคราะห์ปัจจัยที่ก่อใหเ้ กดิ ปญั หาความ - ใบงานเร่ือง วัฒนธรรมตระการตา ขดั แยง้ ในประเทศ และเสนอแนวคดิ ในการลด คือคุณค่าแห่งชาตไิ ทย ความขดั แย้ง - กจิ กรรม “วัฒนธรรมน้ันสาคัญ ม.3/5 เสนอแนวคิดในการดารงชีวติ อย่างมี ไฉน” ความสุขในประเทศและสงั คมโลก สาระสาคัญ วิถกี ารดาเนินชวี ิต ทดี่ งี าม ย่อมมีการปฏิบัติสืบต่อ กันมา อย่างมีแบบแผนจนเกิดเป็นมรดก ท่ีมคี วาม เปน็ เอกลักษณเ์ ฉพาะท้องถนิ่ ตนและมีการ 2560

๒๖๑ แผนการจัดการเรียนรทู้ ่ี 48 เรอื่ ง ลกั ษณะของสังคมไทย เวลา 1 ช่ัวโมง หน่วยการเรียนรทู้ ่ี 7 เรอ่ื ง สังคมดีมีสขุ ชั้นมธั ยมศึกษาปีที่ 3 กล่มุ สาระการเรียนรูส้ งั คมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม รายวชิ าสังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม ผสมผสานกับ วฒั นธรรมจากภายนอกนามาซึ่ง (รูปที่ 1 วัฒนธรรมการไหว้ เป็นการแสดงเอกลักษณ์ความเป็นไทยถึง แนวทางในการเลือกรับและปฏบิ ัติอยา่ งเหมาะสม ความนอบน้อมต่อผู้อืน่ : ที่มาภาพ www.thaicabincrew.com) ขอบเขตเนื้อหา 1) ความหมายของสังคมไทย (รปู ที่ 2 วฒั นธรรมการทาบญุ ตกั บาตร เปน็ การแสดงถงึ ความสมั พนั ธข์ อง 2) ลกั ษณะสาคญั ของสงั คมไทย คนไทยกับศาสนาพุทธ : ทม่ี าภาพ www.dhammathai.org/articles/dbview.php?) จุดประสงค์การเรยี นรู้ ดา้ นความรู้ (รูปที่ 3 วฒั นธรรมประเพณีวันสงกรานต์ เปน็ การแสดงถงึ ความเป็นอยู่ใน ๑ผู้ .เ รผี ยู้เรนียสนาสมามา รารถถออธธิ บิบา ยคววาามมหหมมายาขยอขงอคงำ�คว่า ว่ า ภูมิศาสตรเ์ ขตร้อนชนื้ และการอ่อนน้อมถ่อมตนเคารพผู้ใหญ่ : ท่มี าภาพ สงั คมไทยได้ www.radioparliament.net/parliament/viewnews.php?nld=559999 ๒ผูเ้.รผียู้เนรสียานมสาารมถาวริเถควริเาคะรหา์คะวหา์คมวสาามคสัญาขคอัญงของ #.xfuoqqq55qqaaMM..)) วฒั นธรรมไทยตอ่ การดารงชวี ติ ในสังคมปัจจบุ ันได้ (รปู ท่ี 4 วฒั นธรรมดนตรีไทย เป็นการแสดงถงึ ความสุขความสนุ ทรยี ะใน อยา่ งสมเหตสุ มผล ชีวติ ของคนไทย: ทีม่ าภาพ https://youtu.be/77ccnnttQQ33QQBBMM994)4) ดา้ นทกั ษะและกระบวนการ ๑ผเู้.รผยี ้เู นรยีสนามสารมถาจรถาแจน�ำ แกนปกรปะรเภะทเภขทอขงอวงัฒวนัฒธนรธรรมรไมดไ้ ด้ 2. ครูสุ่มผู้เรียนเพ่ือให้ผู้เรียนแสดงโครงสร้าง อยา่ งเหมาะสม ด้านคุณลักษณะ ความรู้ (Graphic Organizer) โดยการ “เลา่ ประสบการณเ์ ดิม เก่ียวกับวัฒนธรรมไทยท่ีเคยปฏิบัติมา” เพื่อทบทวนความรู้ 1. นักเรยี นบอกคณุ คา่ และความสาคญั ของ เดิมและนาเข้าสู่บทเรียนเร่ือง “วัฒนธรรมไทย ธารงไว้ซึ่ง สถาบันทางสงั คมไทยได้อยา่ งถูกต้อง ความงดงาม” (ทกั ษะการคิดวิเคราะห)์ 2561

๒๖๒ แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 48 เรือ่ ง ลักษณะของสังคมไทย เวลา 1 ช่วั โมง หนว่ ยการเรียนรู้ท่ี 7 เร่ือง สังคมดีมีสขุ ช้ันมัธยมศึกษาปที ี่ 3 กลุ่มสาระการเรยี นร้สู งั คมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม รายวชิ าสังคมศกึ ษา ศาสนาและวัฒนธรรม 2. สามารถวิเคราะห์ความสาคัญของวฒั นธรรม ขน้ั สอน ไทยต่อการดารงชีวิตในสังคมปัจจบุ นั ได้อย่าง 1๑.. ครเู ร่ิมกิจกรรม “วัฒนธรรมน้ันสาคญั ไฉน” โดยมีขนั้ ตอน สมเหตุสมผล ดงั ตอ่ ไปนี้ 2๒.. ครสู มุ่ ผู้เรียนเพ่ือตอบคาถามว่า “Material Culture กับ Non Material Culture วัฒนธรรมประเภทไหนมีความสาคัญตอ่ สงั คมมากกว่ากัน เพราะอะไร” (วัฒนธรรมทกุ ประเภทนัน้ มี ความสาคัญต่อสังคมโดยท้ังนั้น ข้นึ อยูก่ ับบริบทและสภาพแวดล้อม ของสังคมน้ันๆ ที่จะเลอื กใหค้ วามสาคัญกับวัฒนธรรมประเภทใด) 3๓.. ครยู กตัวอย่างสถานการณ์วฒั นธรรมไทยในปัจจบุ นั โดยเปิดวดี ที ัศน์ “วฒั นธรรมแปลกปลอมในสังคมไทย” จากส่อื สังคมออนไลนท์ ีม่ ี การกล่าวถงึ ในทกุ ๆวันนี้ โดยมใี จความเกย่ี วกับ รูปแบบของประเพณี ไทยที่ผดิ เพ้ยี นไปไปจจากากเดเดิมิมเชเช่นน่ ววันันสสงงกกรราานนตต์ ์ววันันลลออยยกกรระะททงงเเปป็นตน้ ความยาว 3 นาที แลว้ ตอบคาถามในใบงานเรื่อง วัฒนธรรมตระการ ตาคอื คณุ คา่ แห่งชาติไทย 4๔.. ผู้เรยี นรว่ มกนั วเิ คราะห์ถึงลกั ษณะของวฒั นธรรมไทยในวันนี้ ว่าเปน็ อย่างไร (วฒั นธรรมไทยเกดิ จากการพฒั นาที่ขาดสมดลุ การครอบงา ของวฒั นธรรมต่างชาติ วฒั นธรรมสมัยใหม่ (Modernization) การ บรโิ ภคนยิ มท่ีขาดการอบรมสง่ั สอน) 2562

๒๖๓ แผนการจดั การเรียนร้ทู ี่ 48 เรื่อง ลักษณะของสังคมไทย เวลา 1 ชัว่ โมง หนว่ ยการเรียนรูท้ ่ี 7 เร่อื ง สังคมดีมีสขุ ชน้ั มัธยมศึกษาปที ี่ 3 กลุ่มสาระการเรียนรูส้ ังคมศกึ ษา ศาสนาและวัฒนธรรม รายวิชาสังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม 5๕.. ผู้เรยี นและครรู ่วมกนั นาเสนอแนวทางการแก้ไขสถานการณ์ทาง วฒั นธรรมดังกล่าว (ใหก้ ารศึกษา สร้างบทลงโทษ รณรงคใ์ ห้เห็นว่า เป็นสง่ิ ทีไ่ ม่เหมาะสม) 6๖.. ครูใหผ้ เู้ รียนแตล่ ะคน คิดคาขวัญรณรงคใ์ ห้อนุรกั ษว์ ัฒนธรรมไทย ความยาวไมเ่ กิน 16 คา แล้วให้นาเสนอผ่านส่ือสงั คมออนไลน์ (Facebook) (ทกั ษะการประยกุ ต์ใช้ความรู้) 7๗.. ครูสรุปกิจกรรม และเสนอแนะแนวทางในการธารงรักษาวัฒนธรรม ของไทย ใหย้ ืนยงงดงามสืบต่อไป ข้ันสรปุ ผู้เรียนร่วมกันอภิปรายถึงความสาคัญของวัฒนธรรมไทยคือ “ความเจริญ งอกงามทางวัตถุ และจิตใจท่ีเกิดจากมนุษย์ โดยมีความหลากหลาย และ เปล่ียนแปลงอยู่เสมอ ส่งผลต่อการดารงชีวิตประจาวันของคนในสังคมการ ประพฤติปฏิบัติผิดแบบไปจากคนส่วนใหญ่และสร้างผลเสียแก่สังคมน้ัน เขาจะเรียกบคุ คลพวกนัน้ ว่า “คนไม่มวี ฒั นธรรม หรอื อานารยชน” (Gen) 2563

264 2564 การวดั และประเมินผล ขอบเขตการวดั วิธกี าร เคร่อื งมอื ผปู้ ระเมนิ ความรู้ (K) - การตอบคาถาม - การทาใบงาน - เอกสารประกอบการเรยี นรู้ ผ้สู อน/  ความหมายของวฒั นธรรม - การทากจิ กรรม - การถามคาถาม ผู้เรียน  ความสาคัญของวัฒนธรรม - การชมวีดีทศั น์ - บนั ทึกการเรยี นรู้ - ใบงานเร่ือง วัฒนธรรมตระการตา สงั คมไทย - การตอบคาถาม คือคุณค่าแห่งชาติไทย สมรรถนะสาคัญ (P) - การทาใบงาน - กิจกรรม “วัฒนธรรมน้ันสาคัญ 1. ความสามารถในการสอื่ สาร - การทากิจกรรม ไฉน” 2. ความสามารถในการคดิ - การชมวีดีทัศน์ 3. ความสามารถในการใช้ทกั ษะชวี ิต - เอกสารประกอบการเรียนรู้ ผ้สู อน/ คุณลักษณะอนั พึงประสงค์ (A) - การตอบคาถาม - การถามคาถาม ผู้เรียน 1. ใฝเ่ รยี นรู้ - การสังเกต - บนั ทกึ การเรียนรู้ 2. มงุ่ มัน่ ในการทางาน พฤติกรรม - ใบงานเร่ือง วัฒนธรรมตระการตา คือคุณค่าแหง่ ชาตไิ ทย - กิจกรรม “วัฒนธรรมน้ันสาคัญ ไฉน” - การถามคาถาม ผ้สู อน - แ บ บ สั ง เ ก ต พ ฤ ติ ก ร ร ม ด้ า น คุณลักษณะอนั พึงประสงค์ - คาถามเพื่อพฒั นาเจตคติ ผลงาน/กิจกรรม  กิจกรรม “วฒั นธรรมนน้ั สาคัญไฉน” เกณฑก์ ารประเมินผล  กจิ กรรม “วฒั นธรรมน้ันสาคญั ไฉน”

265 2565 1. ดา้ นความรู้ (K) ประเดน็ การ 4 ระดับคุณภาพ นา้ หนกั คะแนน ประเมนิ 32 1 2.5 10 สามารถอธบิ าย สามารถอธบิ าย สามารถอธิบาย ไมอ่ ธิบาย 0.75 3 อธบิ าย ความหมายของคาวา่ ความหมายของคา ความหมายของ ความหมายของคา ความหมายของคา “วฒั นธรรม”ได้ ว่า “วฒั นธรรม”ได้ คาว่า ว่า “วฒั นธรรม” วา่ “วัฒนธรรม” อยา่ งถูกต้อง ถูกต้องเป็น “วฒั นธรรม”ได้ ได้ ครบถว้ น ส่วนมาก ถกู ต้องบางส่วน สามารถจาแนก สามารถจาแนก ไมส่ ามารถจาแนก 0.75 3 สามารถจาแนก ประเภทของ ประเภทของ ประเภทของ จาแนกประเภท ประเภทของ วัฒนธรรมไดอ้ ยา่ ง วัฒนธรรมได้ วัฒนธรรมได้ ของวฒั นธรรม วัฒนธรรมไดอ้ ย่าง ถูกต้อง 3-4 ขอ้ อยา่ งถูกต้อง 1-2 ถกู ต้อง 5 ข้อ ขอ้ วิเคราะห์ สามารถวิเคราะห์ สามารถวิเคราะห์ สามารถวเิ คราะห์ สามารถวเิ คราะห์ 1 4 ความสาคญั ของ ความสาคญั ของ ความสาคญั ของ ความสาคญั ของ ความสาคัญของ วัฒนธรรมไทยต่อ วฒั นธรรมไทยตอ่ วฒั นธรรมไทยตอ่ วฒั นธรรมไทยตอ่ วัฒนธรรมไทยตอ่ การดารงชวี ิตใน การดารงชวี ิตใน การดารงชวี ิตใน การดารงชีวิตใน การดารงชีวติ ใน สังคมปัจจุบนั สงั คมปัจจบุ ันได้ สงั คมปัจจุบนั ได้ สงั คมปัจจบุ นั ได้ สังคมปจั จุบนั ได้ อย่างครบถว้ นและ อยา่ งครบถว้ น ถกู ต้องบางสว่ น ถกู ต้องเป็นสว่ น สรา้ งสรรค์ นอ้ ย รวม 2.5 10 เกณฑก์ ารตดั สินคุณภาพดา้ นความรู้ ระดับคะแนน เกณฑก์ ารตดั สนิ คณุ ภาพ 8-10 ดมี าก 6-7 ดี 5 พอใช้ ตา่ กวา่ 5 ปรบั ปรุง เกณฑ์การผ่าน : ระดับพอใช้ข้ึนไป

2566 266 2. ดา้ นสมรรถนะของผูเ้ รยี น (P) ระดับคณุ ภาพ 2 รายการ 3 1 การนาความร้ทู ่ไี ดไ้ ปใช้ ไมส่ ามารถอธิบายเนื้อหาได้ 1๑. ความสามารถในการ สามารถอธิบายเนื้อหาได้ชดั เจน สามารถอธบิ ายเนื้อหาไดช้ ัดเจน สกื่อารสสา่อืรสาร ถูกต้องครบถ้วน ทุกประเดน็ ถกู ต้อง 1๑.๑1ทักษะการอธบิ าย ถกู ต้องบางประเด็น สามารถระบุองคค์ วามรู้ ได้ 2๒. ความสามารถในการ สามารถระบุองค์ความรู้ ได้ถูกตอ้ ง สามารถระบุองคค์ วามรู้ ได้ คกาิดรคิด ครบถ้วน และตอบคาถามโต้ตอบ ถูกต้องเป็นสว่ นมากและ ถูกต้องบ้างบางสว่ น 2.1ทกั ษะการคดิ ครูอย่างชัดเจน ตลอดจนเช่ือมโยง เชอ่ื มโยงความร้สู ่กู ารใช้ วเิ คราะห์ ความรู้สูก่ ารใชช้ ีวติ ประจาวันได้ ไม่สามารถประยุกต์ใช้ อย่างสร้างสรรค์ ชวี ิตประจาวนั ได้ ความรใู้ นการทาใบงานและ ๓3. ความสามารถในการ สามารถประยุกต์ใช้ความรู้ในการ สามารถประยุกต์ใชค้ วามรู้ใน กใชา้ทรคกั ดิษะชวี ติ ทาใบงานและกิจกรรมได้ การทาใบงานและกิจกรรมได้ กิจกรรมได้ 3.1 ทักษะการประยุกตใ์ ช้ สมเหตสุ มผล ความรู้ บางสว่ น เกณฑ์การตดั สนิ คณุ ภาพสมรรถนะของผู้เรียน ระดบั คะแนน เกณฑ์การตดั สนิ คณุ ภาพ 3 ดีมาก 2 พอใช้ 1 ปรบั ปรุง เกณฑ์การผา่ น : ระดบั พอใช้ข้ึนไป

2567 267 3. เกณฑก์ ารประเมนิ คณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ (A) ระดบั คะแนน 2 รายการทีป่ ระเมนิ 3 1 1. มีวนิ ยั 1. ส า ม า ร ถ ป ฏิ บั ติ ต า ม 1. ส า ม า ร ถ ป ฏิ บั ติ ต า ม 1. ส า ม า ร ถ ป ฏิ บั ติ ต า ม 1.1 ป ฏิ บั ติ ต า ม ข้ อ ต ก ล ง ข้อตกลงในช้นั เรยี น ขอ้ ตกลงในชั้นเรียน ข้ อ ต ก ล ง ใ น ช้ั น เ รี ย น แ ต่ ไ ม่ กฎเกณฑ์ ระเบียบ ข้อบังคับของ 2. เคารพกติกาในการยกมือ 2. เคารพกติกาในการตอบ เคารพกติกาในการตอบถาม ครอบครัว โรงเรยี นและสังคม ตอบคาถาม คาถาม และเลน่ ในขณะเรยี น 1.2 ตรงต่อเวลาในการปฏิบัติ 3. ไม่เล่นหรือพูดคุยกันใน แต่เล่นหรือพูดคุยในขณะ 2. ตรงต่อเวลาในการปฏิบัติ กิจกรรมต่างๆในชีวิตประจาวัน ช้นั เรียน เรยี น กจิ กรรมในช้นั เรียน และมีความรับผิดชอบในการ 4. ตรงต่อเวลาในการปฏบิ ตั ิ 3. ตรงต่อเวลาในการปฏิบัติ 3. ส่งงานช้ากว่ากาหนด กทารงทาน�ำ งาน กจิ กรรมในชัน้ เรียน กจิ กรรมในช้นั เรียน 5. ส่งงานตรงตามเวลาท่ี 4. ส่งงานตรงตามเวลาท่ี กาหนดทกุ ครง้ั กาหนดบางคร้งั 2. ใฝเ่ รยี นรู้ 1. แสวงหาข้อมูลจากแหล่ง 1. แสวงหาข้อมูลจากแหล่ง 1. แสวงหาข้อมูลจากแหล่ง 2.1แสวงหาข้อมูลจากแหล่งการ กา ร เ รี ย น รู้ ต่ า ง ๆ เ พื่ อ การเรียนรตู้ ่าง ๆ เพ่อื ทบทวน การเเรรยี ียนนรรู้ ตู้ า่ ง ๆต่าเงพ่ือๆ เพ่ือ กเราียรเนรรยี ู้ตน่ารู้ตง่าๆงๆเพเพื่อ่อื ททบบททวน ทบทวนบทเรียนอยู่เสมอ บทเรยี นอยเู่ สมอ ทบทวนบทเรียนอยเู่ สมอ บทเรียนอยู่เสมอ 2. มีการจดบันทึกความรู้ลง 2. มีการจดบันทึกความรู้ลง 2๒.2๒จดบนั นททึกึกคคววาามมร้ลูรู้งลใงนใสนมสดุ มุด ในสมุดประจาวิชาอย่างเป็น ในสมุดประจาวิชาอย่างเป็น ประจาวิชาอย่างเป็นระบบ ระบบ ระบบ สรปุ ความรไู้ ด้อยา่ งมีเหตผุ ล 3. สรุปความรู้ได้อย่างมี เหตุผล 3. มุ่งมัน่ ในการทางาน 1. ต้ังใจและรับผิดชอบใน 1. ต้งั ใจและรับผิดชอบในการ 1. ตัง้ ใจและรับผิดชอบในการ 3.1 ต้ังใจรับผิดชอบในหน้าท่ีการ การปฏิบัติหน้าท่ีท่ีได้รับ กปาฏรปิ บฏั ิบติัตหิหน้าาทที่ที่ ี่ไทด่ี ้รไับด้ รั บ ปกาฏริปบฏั ติบิ ัตหิหนน้ ้าทที่ท่ี ี่ทไดี่ ไ้รับด้ รั บ กงานรงาน มอบหมายได้เปน็ อย่างดี มอบหมายได้ มอบหมายได้ 2. สง่ งานครบทกุ ชนิ้ 2. ส่งงานไม่ครบทกุ ชิ้น 2. ขาดการสง่ งาน 4. รักความเปน็ ไทย 1. มีทัศนคติที่ดีต่อความ 1. มีทัศนคติท่ีดีต่อความเป็น 1. มีทัศนคติท่ีดีต่อความเป็น 4.1 สามารถบอกแนวทางการอยู่ เป็นไทย ไทย ไทย ร่วมกับผู้อ่ืนในสังคมได้อย่างมี 2. สามารถเสนอแนะแนว 2. สามารถเสนอแนะแนว ความสุข ในฐานะเป็นพลเมือง ทางการรักษาวัฒนธรรม ทางการรักษาวัฒนธรรมของ ไทยและพลโลก ข อ ง ช า ติ ไ ท ย ไ ด้ อ ย่ า ง ชาติไทยได้ สรา้ งสรรค์ ระดับคะแนนเกณฑก์ ารตัดสนิ คณุ ภาพภาระงาน เกณฑ์การตัดสนิ คุณภาพ 3 ดมี าก 2 พอใช้ 1 ปรับปรงุ เกณฑ์การผา่ น : ระดับพอใช้ขึน้ ไป

268 2568 8. บนั ทกึ ผลหลังสอน ผลการเรยี นรู้ ............................................................................................................................. ................................................ ปัญหาและอปุ สรรค .................................................................................................................................................................... ...... ขอ้ เสนอแนะและแนวทางแกไ้ ข ............................................................................................. .............................................................................. ลงชอื่ ......................................ผสู้ อน (.......................................................) วันท่.ี .........เดือน..........พ.ศ............. ความคิดเห็น/ข้อเสนอแนะของผู้บริหารหรอื ผู้ทไ่ี ดร้ บั มอบหมาย ............................................................................................................................. .............................................. ลงชื่อ ......................................ผู้ตรวจ (.......................................................) วันที.่ .........เดอื น..........พ.ศ.............

๒๖๙ แผนการจัดการเรียนรทู้ ่ี 49 เรอื่ ง ปัจจัยทีก่ ่อใหเ้ กดิ ความขดั แย้ง เวลา 1 ช่ัวโมง หนว่ ยการเรียนรู้ท่ี 7 เร่ือง สังคมดมี ีสขุ ชัน้ มธั ยมศึกษาปีที่ 3 กลุม่ สาระการเรียนร้สู งั คมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม รายวชิ าสังคมศกึ ษา ศาสนาและวัฒนธรรม ส่ือ/แหล่งเรียนรู้ - หนังสือเรียนวิชาสังคมศึกษา ช้ัน มาตรฐานการเรียนรู้ กิจกรรมการเรียนรู้: การจัดการเรียนรู้แบบเผชิญสถานการณโ์ ดยใช้ ชม้ันธยมมธั ยศมึกศษึกาษปาที ป่ี 3ีที่ ๓ ส 2.1 เข้าใจและปฏบิ ตั ิตนตามหน้าที่ของการเป็น ปญั หาเปน็ ฐาน PBL (Problem-Based Learning)) - การถามคาถาม พลเมอื งดี มีค่านิยมทดี่ งี ามและธารงรกั ษา - บนั ทึกการเรียนรู้ ประเพณแี ละวัฒนธรรมไทย ดารงชีวติ อย่รู ่วมกัน ขั้นนา - Power Point เรื่อง ปัญหาความ 1. ครนู าเสนอขอ้ ความต่างๆ ทีเ่ กยี่ วขอ้ กับความขัดแยง้ ดังต่อไปน้ี ขัดแย้งสู่การสร้างยุทธศาสตร์หาทาง แก้ไขและพัฒนา ในสงั คมไทยและสงั คมโลกอย่างสันตสิ ขุ ภาระงาน/ชิ้นงาน ตัวชีว้ ดั - ใบงาน เรื่อง ปัญหาความขัดแย้งสู่ การสร้างยุทธศาสตร์หาทางแก้ไข ม.3/3 อนุรกั ษ์วฒั นธรรมไทยและเลอื กรบั และพัฒนา วัฒนธรรมสากลท่เี หมาะสม - กิจกรรม “ความขัดแย้งแก้ทีต่ วั เรา” - ตัวอยา่ งข่าวเก่ยี วกบั ปัญหาความ ม.3/4 วเิ คราะห์ปัจจัยท่กี ่อใหเ้ กิดปัญหาความ ขดั แย้ง ขดั แย้งในประเทศ และเสนอแนวคดิ ในการลด ความขัดแย้ง ม.3/5 เสนอแนวคดิ ในการดารงชีวติ อย่างมี ความสขุ ในประเทศและสงั คมโลก สาระสาคญั การอยู่รว่ มกนั ของคนหมู่มาก ยอ่ มมีความขัดแย้ง เกิดข้ึน ซง่ึ เป็นผลมาจากปจั จัยต่างๆ เชน่ การเมือง เศรษฐกิจ และสงั คม ล้วนแล้วแต่มี ท่มี าภาพ: oknattioionn.t.vt.vb.lbolgo/gin/tihnathilaanildamndagm/2a0g/1230/1038/0/288/2/e8n/etrny-t1ry-1 2569

แผนการจดั การเรยี นรูท้ ่ี 49 เร่อื ง ปจั จัยท่ีก่อให้เกดิ ความขัดแย้ง ๒๗๐ หนว่ ยการเรยี นร้ทู ี่ 7 เร่ือง สังคมดมี ีสขุ เวลา 1 ชั่วโมง กลุ่มสาระการเรียนรู้สงั คมศึกษา ศาสนาและวฒั นธรรม รายวิชาสังคมศกึ ษา ศาสนาและวัฒนธรรม ชัน้ มัธยมศกึ ษาปีท่ี 3 ผลกระทบต่อผ้อู ืน่ นามาซ่งึ การหาแนวทาง ผ้เู รียนวเิ คราะหข์ อ้ ความดงั กล่าว และตอบคาถามดงั ต่อไปน้ี ป้องกนั และแก้ไขต่อไป  ใหน้ ักเรียนรว่ มกันยกตัวอย่างปัญหาต่างๆ ท่ีอยใู่ นสังคมของเราให้ ได้มากท่ีสุด (แนวคาตอบ: ปัญหาการเมือง, ปัญหาความยากจน, ขอบเขตเนอ้ื หา ปัญหาการทะเลาะกันของคนในชาติ, ปัญหาทางเศรษฐกิจ ฯลฯ) ปัจจยั ทกี่ อ่ ใหเ้ กดิ ความขัดแยง้ 1) ด้านการเมืองการปกครอง (ทักษะการยกตัวอยา่ ง) 2) ด้านเศรษฐกจิ  นักเรียนคิดว่า ปัญหาต่างๆในสังคมของเรานั้น เกิดจากอะไร 3) ดา้ นสงั คม (แนวคาตอบ: ปัจจัยต่างๆ เช่น ความไม่เท่าเทียมกัน, ความเช่ือ, จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ การเมอื ง, สังคม ฯลฯ) ดา้ นความรู้  นกั เรยี นรสู้ ึกอยา่ งไรกบั ปัญหาที่เกิดขนึ้ (ผูเ้ รยี นสะท้อนความคิด) 1.ผู้เรียนสามารถอธิบายความหมายของคาว่า เพื่อทบทวนความรู้เดิม และนาเข้าสู่บทเรียนเรื่อง ปัญหาความขัดแย้งสู่ “ความขัดแยง้ ” ไดอ้ ยา่ งถูกตอ้ ง การสร้างยุทธศาสตรห์ าทางแกไ้ ขและพัฒนา ดา้ นทกั ษะและกระบวนการ 1. ผเู้ รยี นสามารถวิเคราะหป์ ัจจัยท่กี ่อใหเ้ กดิ ขนั้ สอน ความขัดแย้ง ส่ผู ลกระทบทเ่ี กิดขนึ้ ภายในประเทศ 1.ครูนาเสนอสื่อ Power Point เร่ือง “ปัญหาความขัดแย้งสู่การสร้าง ได้อยา่ งสมเหตสุ มผล ยุทธศาสตร์หาทางแก้ไขและพัฒนา” (Slide ที่ 5-12) และให้ผู้เรียน ดา้ นคณุ ลกั ษณะ ตอบคาถามดังตอ่ ไปนี้ 1. ผ้เู รียนสามารถนาเสนอแนวทางการแก้ไข หรอื ลดปญั หาความขัดแยง้ ได้อยา่ งสรา้ งสรรค์  ความขัดแย้งคืออะไร (แนวคาตอบ: ปฏิสัมพันธ์ท่ีมีลักษณะของ 2.นกั เรยี นบอกคุณค่าความสาคัญของการอยู่ ความไม่เป็นมิตรหรือตรงกันข้ามหรือไม่ลงรอยกันหรือความไม่ รว่ มกันอย่างสงบสุขได้ สอดคล้องกัน ลักษณะของความไม่ลงรอยกันหรือไม่สอดคลอ้ งกัน น้ีจะเก่ียวข้องกับประเด็นต่างๆ หลายประเด็น เช่น เป้าหมาย 2760

แผนการจัดการเรยี นร้ทู ี่ 49 เร่อื ง ปัจจัยทก่ี ่อให้เกิดความขดั แย้ง ๒๗๑ หน่วยการเรยี นรูท้ ี่ 7 เรื่อง สังคมดมี ีสขุ เวลา 1 ชวั่ โมง กล่มุ สาระการเรียนรสู้ ังคมศกึ ษา ศาสนาและวัฒนธรรม รายวิชาสังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ความคิด ทัศนคติ ความรู้สึก ค่านิยม ความสนใจ ความสัมพันธ์ เปน็ ตน้ ) (Obj.1)  ความขัดแย้งเชิงบวกคืออะไร (แนวค�ำาตฅออบบ:: ความขัดแย้งของ บคุ คลทตี่ ้งั อย่บู นพื้นฐานของเหตุผล แม้จะ มคี วามคิดเห็น แนวคดิ วิธีการของแต่ละฝ่ายมาพัฒนางานขององค์กรให้เกิดประสทิ ธิภาพ สูงสุด โดยใช้หลักการทางประชาธิปไตย หาข้อสรุปท่ีเป็น ประโยชนส์ งู สุดแกอ่ งค์กร สงั คม หรอื ประเทศไทย ได้)  ความขัดแย้งเชิงลบคืออะไร (แนวคค�ำ าตฅออบบ: : ความขัดแย้งของ บุคคลท่ีต้ังอยู่บนพื้นฐานของการใช้ความ รุนแรง การวิวาท การ ทาร้ายร่างกาย การจลาจล ไม่อาจหาข้อสรุปในเชิงสร้างสรรค์ ก่อให้เกิด ความเสียหายแก่องค์กร สังคม จนอาจนาไปสู่ความล่ม สลายทางสงั คมในทสี่ ดุ ) 2. ครเู ร่ิมกิจกรรม “ความขัดแย้งแก้ที่ตัวเรา” โดยมขี น้ั ตอน ดงั ตอ่ ไปน้ี 2.1 ครูแบ่งผู้เรียนออกเป็น 5 กลุ่ม เท่าๆกัน และให้แต่ ละกล่มุ ต้ังชอ่ื กล่มุ ของตนเองดว้ ย 2.2 ครูนาเสนอวีดีทัศน์ ตัวอย่างปัญหาความขัดแย้งที่ เกิดขึ้นในสังคมปัจจุบัน ที่พบเห็นตามสื่อต่าง ๆ ใน ปัจจุบัน เรื่อง มท. เตือนทุกฝ่ายยุติเคลื่อนไหว ม. 1ม.1๑2๑๒ฝ่าฝฝา่ ืนฝเนื จเอจอกก.ม.ม. .โดโดยยมมีใจใี จคคววาามมสสา�ำ คคญั ญั คคือ “มท. 2761

แผนการจัดการเรยี นรู้ที่ 49 เรื่อง ปจั จัยทีก่ ่อใหเ้ กดิ ความขัดแย้ง ๒๗๒ หนว่ ยการเรียนรทู้ ี่ 7 เรอ่ื ง สังคมดีมีสุข เวลา 1 ชั่วโมง กลุ่มสาระการเรยี นรู้สงั คมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม รายวชิ าสังคมศกึ ษา ศาสนาและวัฒนธรรม ชนั้ มัธยมศึกษาปที ี่ 3 ขอให้ประชาชนหยุดเคล่ือนไหว ในเร่ืองการแก้ ม. 112 เพราะจะนามาซ่ึงความขัดแย้ง” 2.3 ผ้เู รียนวเิ คราะห์เนื้อหา จากสือ่ วดี ีทศั น์ และให้แต่ ละกลุม่ รว่ มกัน ตอบคาถามดังต่อไปน้ี  ปัญหาความขัดแย้งท่ีเกิดข้ึนในข่าว มีสาเหตุ หรือมีปัจจัยมาจากอะไร (แนวคาตอบ: การ เสนอร่างแก้ไขกฎหมายอาญามาตรา 112 ท่ี อาจส่งผลกระทบต่อสถาบันพระมหากษัตริย์) (ทักษะการคิดวเิ คราะห์)  ปัญหาในข่าวส่งผลกระทบต่อใคร อย่างไรบ้าง (แนวคาตอบ: ส่งผลกระทบต่อจิตใจของ ประชาชนผู้ท่ีมีความจงรักภักดีต่อสถาบัน พระมหากษตั รยิ ์) 2.4 ผู้เรียนแต่ละกลุ่มวิเคราะห์ปัจจยั และผลกระทบของ ความขัดแย้ง รวมทั้งร่วมกันอภิปรายเพ่ือเสนอ แนวทางในการแก้ไขปัญหาเหล่าน้ันด้วย กลุ่มละ 1 ด้ า น จ า ก ล ง ใ น ใ บ ง า น ก้ า ง ป ล า ที่ ท่ี ค รู แ จ ก ใ ห้ (Obj.2,3) (ทักษะการระบุ, ทักษะการประยุกต์ใช้ ความร้,ู ทักษะการแก้ปญั หา)  กล่มุ ที่ 1 ดา้ นการเมืองการปกครอง 2762

หนว่ ยการเรียนร้ทู ่ี 7 เร่ือง สังคมดมี ีสุข แผนการจัดการเรียนร้ทู ่ี 49 เรอ่ื ง ปัจจัยที่ก่อให้เกดิ ความขัดแย้ง ๒๗๓ แผนการจัดการเรียนรู้ท่ี 49 เร่ือง ปัจจัยทก่ี ่อให้เกดิ ความขัดแย้ง ๒๗๓ กหลนมุ่วสยากราะรกเราียรนเรรียู้ทนี่ ร7้สู เังรคือ่ มงศสกึ ังษคามศดาีมสีสนุขาและวฒั นธรรม รายวิชาสังคมศกึ ษา ศาสนาและวัฒนธรรม เวลา 1 ชวั่ โมง กลุ่มสาระการเรยี นร้สู ังคมศึกษา ศาสนาและวฒั นธรรม รายวชิ าสังคมศึกษากศลาุ่มสทนี่ 2๑าแดลา้ ะนวเกัฒศารนรษธเมฐรือรกมงจิ การปกครอง ชเว้นั ลมาัธ1ยมชศ่วั กึ โษมางปที ี่ 3 ชัน้ มัธยมศึกษาปที ี่ 3  กลุ่มท่ี 32 ดา้ นสเศังรคษมฐกจิ  กล่มุ ท่ี 43 ด้านคสังวคามเชอ่ื  กลุ่มท่ี 54 ด้านปควัญาหมาเชส่ืองิ แวดลอ้ ม  กลมุ่ ที่ 5 ด้านปัญหาสง่ิ แวดลอ้ ม ผเู้ รียนแต่ละกลุ่มออกมานาเสนอ ปัญหาและแนวทางการแก้ไขของกลุ่ม ตผู้เนรเยีอนงแโตดล่ยะมกีคลรุ่มเู ปอ็นอผกู้อมธาบินายเสขนยอายปคญั วาหมาเแพลิ่มะเแตนิมวใหทช้างดั กเจานรแก้ไขของกลุ่ม (ตทนักเอษงะกโดายรมอคีธบิรูเาปยน็ )ผู้อธิบายขยายความเพมิ่ เติมให้ชดั เจน ข(ทั้นักสษระปุ การอธิบาย) ข้นั สรปุ 2763273

หน่วยการเรียนรู้ท่ี 7 เรื่อง สังคมดมี ีสขุ แผนการจดั การเรียนรทู้ ่ี 49 เรือ่ ง ปจั จัยทกี่ ่อใหเ้ กดิ ความขัดแย้ง ๒๗๔ แผนการจดั การเรยี นรทู้ ่ี 49 เร่อื ง ปัจจัยท่ีก่อให้เกดิ ความขดั แย้ง ๒๗๔ หกลนุ่มวสยากราะรกเรายี รนเรรยี ูท้ น่ี ร7้สู เังรคอ่ื มงศสกึ ังษคามศดามี สีสนุขาและวฒั นธรรม รายวชิ าสังคมศกึ ษา ศาสนาและวัฒนธรรม เวลา 1 ชวั่ โมง กลุ่มสาระการเรยี นรูส้ งั คมศึกษา ศาสนาและวฒั นธรคขรรั้นมูตส้ังรคุปารถาายมวเิชพาื่อสสังรคุปมผศลึกกษาารเรศียานสรนู้ าวแ่าล“ะนวักัฒเรนยี ธนรรมมีแนวทางอย่างไร ในการ ชเวน้ั ลมาธั 1ยมชศว่ั กึ โษมางปที ี่ 3 ชั้นมัธยมศึกษาปีท่ี 3 คลรดูตป้ังัญคหาถาาคมวเาพม่ือขสัดรแุปยผ้งลตก่าางรๆเรใียนนสรังู้ ควม่าไท“นยัก”เร(ปียันจจมุบีแันวคทวามงอขยัด่าแงยไร้งขใอนงกคานร ลในดสปังัญคหมาเพคิ่มวามมาขกัดขแ้ึนยอ้งัตน่าเนงๆ่ืองใมนาสจังาคกมปไัจทจยัย”ต(่าปงัจๆจุบคันวคามวาขมัดขแัดยแ้งยม้งีแขตอ่สงรค้านง ใผนลสเสังียคใมหเพ้กับ่ิมสมังาคกมข้ึนเพอรันาะเนฉื่อะนงม้ันาทจุกาคกนปคัจวจรัยรต่ว่ามงกันๆลคดวปาัญมหขัดาคแวยา้งมขีแดั ตแ่สยร้งาทงี่ ผกลาลเสังียจใะหเ้กับิดสขังึ้นคมหันเพหรนา้าะเฉขะ้านห้ันาทกุกันคเนมค่ือวเกริรดว่ ปมัญกหันลาดใปชัญ้เหหตาุผคลวใาหมข้มัดาแกยก้งวท่าี่ กอารลมังณจะ์ จเกะิดช่วขยึ้นทหาใันหหส้ นังค้ามเขแ้าลหะปากระันเเทมศ่ือชเากติดิสปงัญบสหขุ าขใ้ึนช)้เหตุผลให้มากกว่า อ(พารจิ มาณรณ์ จาะจชาว่ กยคทาาตใอหบ้สงัขคอมงแผลู้เระียปนร)ะเทศชาติสงบสขุ ขน้ึ ) (พิจารณาจากคาตอบของผเู้ รียน) 2764274

275 2765 การวดั และประเมนิ ผล วธิ ีการ เครือ่ งมอื ผปู้ ระเมิน ขอบเขตการวดั - หนังสือเรียนวิชาสังคมศึกษา ช้ัน ผสู้ อน/ ความรู้ (K) มชัน้ธยมมัธศยมกึ ษศึกาปษีทาปี่ 3ที ี่ ๓ ผเู้ รยี น  ความหมายของความขัดแย้ง - การตอบคาถาม - การถามคาถาม  ปจั จัยทกี่ ่อให้เกดิ ความขดั แยง้ - การทาใบงาน - บันทึกการเรยี นรู้  แนวทางการแก้ไขปัญหาความ - การทากจิ กรรม - Power Point เร่ือง ปัญหาความ ขดั แยง้ ในประเทศไทย ขั ด แ ย้ ง สู่ ก า ร ส ร้ า ง ยุ ท ธ ศ า ส ต ร์ หาทางแก้ไขและพฒั นา - ใบงาน เรื่อง ปัญหาความขดั แย้งสู่ การสร้างยุทธศาสตร์หาทางแก้ไข และพฒั นา - กิจกรรม “ความขัดแย้งแก้ท่ีตัว เรา” - ตัวอย่างข่าวเก่ียวกับปัญหาความ ขดั แยง้ สมรรถนะสาคัญ (P) 1. ความสามารถในการส่อื สาร - การตอบคาถาม - หนังสือเรียนวิชาสังคมศึกษา ชั้น 1.1 ทักษะการระบุ - การทาใบงาน มัธยมศึกษาปีที่ 3 2. ความสามารถในการคิด - การทากจิ กรรม - การถามคาถาม 2.1ทกั ษะการคิดวเิ คราะห์ - บนั ทึกการเรยี นรู้ 2.2ทักษะการยกตัวอย่าง - Power Point เรื่อง ปัญหาความ 2.3ทกั ษะการอธบิ าย ขั ด แ ย้ ง สู่ ก า ร ส ร้ า ง ยุ ท ธ ศ า ส ต ร์ 3 ความสามารถในการใช้ทักษะ หาทางแกไ้ ขและพัฒนา ผ้สู อน/ ชวี ติ - ใบงาน เรื่อง ปัญหาความขัดแย้งสู่ ผเู้ รียน 3.1ทั ก ษ ะ ก า ร ป ร ะ ยุ ก ต์ ใ ช้ การสร้างยุทธศาสตร์หาทางแก้ไข ความรู้ และพัฒนา 4 ความสามารถในการแกป้ ัญหา - กิจกรรม “ความขัดแย้งแก้ที่ตัว 1.1ทักษะการแกป้ ญั หา เรา” - ตัวอย่างข่าวเกี่ยวกับปัญหาความ ขดั แยง้

2766 276 ขอบเขตการวัด วิธีการ เครือ่ งมือ ผ้ปู ระเมนิ คุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ (A) 1. มวี ินัย - การตอบคาถาม - การถามคาถาม ผู้สอน 2. ใฝเ่ รียนรู้ - การสงั เกต - แ บ บ สั ง เ ก ต พ ฤ ติ ก ร ร ม ด้ า น 3. มุ่งมั่นในการทางาน พฤติกรรม คุณลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ - คาถามเพอ่ื พฒั นาเจตคติ ผ้สู อน ผลงาน/กิจกรรม  กจิ กรรม “ความขัดแย้งแกท้ ต่ี วั เรา” เกณฑ์การประเมินผล  กจิ กรรม “ความขดั แย้งแก้ที่ตวั เรา” 1. ดา้ นความรู้ (K) ระดับคุณภาพ นา้ หนกั คะแนน 32 1 2.5 10 ประเด็นการ 4 ประเมนิ สามารถ สามารถ สามารถ ไมส่ ามารถ 0.75 3 อธบิ าย อธบิ าย อธบิ าย อธบิ าย อธบิ าย ความหมาย ความหมาย ความหมาย ความหมาย ความหมายของ ของความ ของความ ของความ ของความ ความขดั แย้ง ขัดแย้งไดอ้ ยา่ ง ขดั แย้งได้ ขัดแย้งได้ ขัดแยง้ ได้ ถกู ต้อง ถูกต้องเปน็ ถกู ต้อง ครบถว้ น ส่วนมาก บางสว่ น สามารถ สามารถ สามารถ ไม่สามารถ 0.75 3 วิเคราะห์ปจั จัย วเิ คราะห์ปจั จยั วิเคราะห์ปัจจยั วิเคราะหป์ จั จัย วิเคราะห์ปจั จยั ท่ี ทกี่ ่อให้เกดิ ทก่ี ่อให้เกดิ ท่กี อ่ ใหเ้ กิด ที่ก่อใหเ้ กิด ก่อให้เกดิ ความ ขัดแย้ง สู่ ความขัดแย้ง สู่ ความขดั แย้ง สู่ ความขัดแย้ง สู่ ความขัดแย้ง สู่ ผลกระทบที่ สผ่ผู ลลกกรระะททบบทที่ ี่ สผผู่ ลลกกรระะททบบทที่ ี่ สผู่ผลลกกรระะททบบทท่ี ี่ สผู่ผลลกกรระะททบบทท่ี ี่ เกิดขน้ึ ภายในประเทศ เกดิ ข้นึ เกิดขึน้ เกิดขึ้น เกิดข้ึน ภายในประเทศ ภายในประเทศ ภายในประเทศ ภายในประเทศ ไดอ้ ย่างถูกตอ้ ง ได้อย่างถูกตอ้ ง ได้อยา่ งถกู ตอ้ ง มากกว่า 5 ข้อ ได้ 3-5 ขอ้ 1-2 ข้อ

2767 277 ประเด็นการ 4 ระดับคณุ ภาพ น้าหนัก คะแนน ประเมิน 32 1 2.5 10 สามารถ สามารถ สามารถ ไม่สามารถ 1 4 นาเสนอแนว นาเสนอแนว นาเสนอแนว นาเสนอแนว ทางการแกไ้ ข ทางการแกไ้ ข ทางการแก้ไข ทางการแกไ้ ข นาเสนอแนวทาง หรอื ลดปัญหา หรอื ลดปัญหา หรอื ลดปญั หา หรอื ลดปัญหา การแกไ้ ขหรือลด ความขัดแย้งได้ ความขดั แย้งได้ ความขดั แย้งได้ ความขัดแย้งได้ ปญั หาความ อย่าง อย่าง อยา่ ง อย่าง ขดั แย้ง สร้างสรรค์ สรา้ งสรรค์ 3- สร้างสรรค์ สรา้ งสรรค์ มากกว่า 5 5 ประเด็น 1-2 ประเด็น ประเดน็ รวม 2.5 10 เกณฑก์ ารตัดสินคณุ ภาพด้านความรู้ ระดับคะแนน เกณฑ์การตัดสนิ คุณภาพ 8-10 ดีมาก 6-7 ดี 5 พอใช้ ต่ากวา่ 5 ปรบั ปรงุ เกณฑ์การผ่าน : ระดับพอใช้ขนึ้ ไป 2. ดา้ นสมรรถนะของผู้เรียน (P) ระดบั คุณภาพ รายการ 3 21 การนาความรู้ท่ีไดไ้ ปใช้ 1. ความสามารถในการ สามารถระบเุ น้ือหาองค์ความรูไ้ ด้ สามารถระบเุ น้ือหาองค์ความรู้ ไม่สามารถระบุเนื้อหาองค์ สือ่ สาร อย่างชัดเจน ถกู ต้องครบถ้วน ทุก ไดอ้ ยา่ งชดั เจน ถูกต้องบาง ความร้ไู ด้ถูกต้อง 1.1ทักษะการระบุ ประเดน็ ประเดน็ 2. ความสามารถในการ สามารถวเิ คราะห์เชือ่ มโยง องค์ สามารถวิเคราะห์เชอ่ื มโยง องค์ ไม่สามารถวเิ คราะห์ คิด องควค์ าวมารม้เู รพเู้ ื่อพตอ่ื อตบอคบาคถำ�าถมาแมลแะละ องคว์คาวมารมเู้ รพ้เู ่ือพตื่ออตบอคบาคถำ�าถมามแลแะละ เชอ่ื มโยง องค์ความรเู้ พอ่ื 2.1ทักษะการคิด ยกตัวอย่างความขดั แย้งได้อย่าง ยกตวั อย่างความขดั แยง้ ได้อย่าง ตอบคาถามครไู ด้ วเิ คราะห์ หลากหลาย ตลอดจนสามารถ หลากหลาย 2.2ทักษะการยกตัวอยา่ ง อธิบายเนอ้ื หาได้อยา่ งกระจา่ งและ 2๒.3๓ทักษะการรออธธิบิบาายย มคี วามเขา้ ใจ

2768 278 รายการ 3 ระดบั คุณภาพ 1 3. ความสามารถในการ สามารถประยุกต์ใช้ความรู้ในการ 2 ไม่สามารถประยุกตใ์ ช้ ใช้ทกั ษะชวี ติ ความรู้ในการทาใบงานและ 3.1 ทกั ษะการประยุกตใ์ ช้ ทาใบงานและกิจกรรมได้ การนาความรูท้ ีไ่ ด้ไปใช้ ความรู้ สมเหตสุ มผลและสร้างสรรค์ สามารถประยุกต์ใช้ความรู้ใน กิจกรรมได้ 4.ความสามารถในการ สามารถนาเสนอแนวทางการ การทาใบงานและกจิ กรรมได้ ไม่สามารถนาเสนอแนว แก้ปัญหา แก้ปัญหาความขัดแย้งได้อยา่ งมี ทางการแกป้ ัญหาความ 4.1 ทกั ษะการแก้ปัญหา ความเขา้ ใจ และมีแนวโน้มในการ บางสว่ น ขดั แย้งไดอ้ ย่างมคี วามเข้าใจ นาไปปฏิบตั ิจริงในชวี ิตประจาวัน สามารถนาเสนอแนวทางการ แกป้ ัญหาความขัดแย้งได้อยา่ งมี ความเขา้ ใจ เกณฑ์การตดั สนิ คณุ ภาพสมรรถนะของผูเ้ รียน ระดบั คะแนน เกณฑก์ ารตัดสนิ คณุ ภาพ 3 ดีมาก 2 พอใช้ 1 ปรบั ปรงุ เกณฑก์ ารผา่ น : ระดบั พอใช้ขนึ้ ไป 3. เกณฑ์การประเมนิ คณุ ลกั ษณะอันพึงประสงค์ (A) ระดบั คะแนน 2 รายการทีป่ ระเมิน 3 1 1. มีวนิ ัย 1. ส า ม า ร ถ ป ฏิ บั ติ ต า ม 1. ส า ม า ร ถ ป ฏิ บั ติ ต า ม 1. ส า ม า ร ถ ป ฏิ บั ติ ต า ม 1.1 ป ฏิ บั ติ ต า ม ข้ อ ต ก ล ง ขอ้ ตกลงในชน้ั เรียน ขอ้ ตกลงในชั้นเรียน ข้ อ ต ก ล ง ใ น ช้ั น เ รี ย น แ ต่ ไ ม่ กฎเกณฑ์ ระเบียบ ข้อบังคับของ 2. เคารพกติกาในการยกมือ 2. เคารพกติกาในการตอบ เคารพกติกาในการตอบถาม ครอบครวั โรงเรียนและสงั คม ตอบคาถาม คาถาม และเล่นในขณะเรยี น 1.2 ตรงต่อเวลาในการปฏิบัติ 3. ไม่เล่นหรือพูดคุยกันใน แต่เล่นหรือพูดคุยในขณะ 2. ตรงต่อเวลาในการปฏิบัติ กิจกรรมต่างๆในชีวิตประจาวัน ชน้ั เรยี น เรยี น กจิ กรรมในชั้นเรียน และมีความรับผิดชอบในการ 4. ตรงต่อเวลาในการปฏบิ ัติ 3. ตรงต่อเวลาในการปฏิบัติ 3. ส่งงานช้ากวา่ กาหนด ทางาน กจิ กรรมในชน้ั เรียน กิจกรรมในชั้นเรยี น 5. ส่งงานตรงตามเวลาที่ 4. ส่งงานตรงตามเวลาท่ี กาหนดทุกคร้ัง กาหนดบางครง้ั 2. ใฝ่เรียนรู้

2769 279 279 ระดบั คะแนน 279 ระดับ2คะแนน รายการที่ประเมิน 3 1. แสวงหาข2้อมูลจากแหล่ง 1 2๒.1ใแฝส่เรวรียงาหนยากรขู้า้อรทม่ปีูลจระาเกมแินหล่งการ 1. แสวงหาข3้อมูลจากแหล่ง 1. แสวงหาข1้อมูลจากแหล่ง 2.1เแรสียวนงหรู้าตข่า้องมๆูลจเาพก่ือแทหบล่งทกวานร ก1า. รแรเสรเีวยรงีนยหรนาู้ตขร่าู้อตงม่ าๆูลงจเพาๆกื่อแเหพล่ื อ่ง ก1า.รแเรสียวนงรหตู้ า่าขง้อๆมูลเพจอ่ืาทกบแทหวลน่ง ก1า. รแเสรรียวยนงนหรรู้าู้ตข่า้องมๆตูล่าจเงพากื่อๆแหเพล่ือ่ง บเรทียเรนียรนู้ตอ่ายงเู่ สๆมอเพื่อทบทวน ทกบาทรวเนรีบยทนเรู้ยีตน่ าองย่เู ๆสมเอพื่ อ บกาทรเเรรยี ียนนอรยู้ตู่เ่าสงมๆอ เพ่อื ทบทวน ทกบารทเวรนียบนทรเู้ รียนอตย่าเู่ งสมๆอ เพ่ือ 2.2จบดทบเรันยี นทอึกยคเู่ วสามมอรู้ลงในสมุด 2ท.บมทีกวานรบจทดเบรันียนทอึกยค่เูวสามมอรู้ลง 2บ.ทมเรีกยี านรอจยดเู่ บสมันอทึกความรู้ลง ทบทวนบทเรยี นอยู่เสมอ ๒2.๒2จปดรบะบันจนาททวึกึกิชคคาววอาายมม่ารูง้รลู้เลงปใงน็นใสนรมะสุดบมุบด ใ2น.สมมีกุดาปรจระดจบาันวทิชึกาคอวยา่ มงเรปู้ล็นง ใ2น. สมมีกุดาปรจรดะจบาันวทิชึกาคอวยา่ มงเรปู้ล็นง สปรปุ ะคจวาาวมิชราไู้ ดอ้อยย่าา่งงเมปีเ็นหรตะุผบลบ รในะบสมบุดประจาวิชาอย่างเป็น รในะบสบมุดประจาวิชาอย่างเป็น สรุปความรู้ไดอ้ ยา่ งมเี หตผุ ล 3ระ.บสบรุปความรู้ได้อย่างมี ระบบ เ3ห.ตสุผรลุ ป ค ว า ม รู้ ไ ด้ อ ย่ า ง มี 3. มุง่ ม่นั ในการทางาน เ1ห.ตตุผ้ังลใจและรับผิดชอบใน 1. ตงั้ ใจและรับผิดชอบในการ 1. ต้ังใจและรับผิดชอบในการ 3.1มุ่งตมงั้ ในั่ จใรนับกผาิดรชทอาบงาในหน้าท่ีการ ก1า. ตร้ัปงใฏจิบแัลตะิหรนับ้าผทิดี่ทช่ีไอดบ้รใับน กป1า.ฏรตปิ ั้งบฏใัจิบตแิัตลหิหะนรับ้าาทผทิดี่ ี่ช่ไทดอี่ ้รบไับใดน้ กรัาบร กป1า.ฏรตปิ ้งับฏใัจิบตแิัตลหิหะนรับ้าาทผทิดี่ ่ีชี่ไทดอี่ ้บรไับใดน้ กรัาบร ง3า.น1 ตัง้ ใจรับผิดชอบในหน้าที่การ มกอาบรหปมฏาิบยัไตดิหเ้ ปนน็ ้าอทย่ีท่าง่ีไดดี ้รับ มปอฏบิ หบมั ตาิยหไดน้ ้ า ที่ ท่ี ไ ด้ รั บ มปอฏบิ หบมั ตาิยหไดน้ ้ า ที่ ที่ ไ ด้ รั บ งาน 2ม.อสบ่งหงมานายคไรดบ้เปทน็กุ ชอิน้ย่างดี 2มอ. บสหง่ งมาานยไไมดค่ ้ รบทุกชน้ิ 2มอ. บขาหดมกาายรไสด่ง้ งาน 2. ส่งงานครบทุกช้ิน 2. ส่งงานไมค่ รบทุกชนิ้ 2. ขาดการสง่ งาน เกณฑ์การตัดสินคุณลักษณะอนั พงึ ประสงค์ ระดับคะเแกนณนฑ์การตัดสินคุณลกั ษณะอันพงึ ประสเกงณค์ ฑก์ ารตดั สนิ คุณภาพ ระดบั ค3ะแนน เกณฑก์ ารดตมี ัดาสกนิ คุณภาพ 23 พดมีอาใชก้ 12 ปพรับอปใชรุ้ง 1 เกณฑก์ ารผา่ น : ระดับพอใช้ขนึ้ ไป ปรบั ปรุง เกณฑก์ ารผ่าน : ระดับพอใช้ข้นึ ไป

2870 280 8. บนั ทึกผลหลังสอน ผลการเรียนรู้ ............................................................................................................................. ................................................ ปญั หาและอปุ สรรค .................................................................................................................................................................... ...... ข้อเสนอแนะและแนวทางแก้ไข ............................................................................................................................. .............................................. ลงชอ่ื ......................................ผู้สอน (.......................................................) วันที.่ .........เดอื น..........พ.ศ............. ความคิดเหน็ /ขอ้ เสนอแนะของผบู้ ริหารหรือผู้ที่ได้รบั มอบหมาย ............................................................................................................................. .............................................. ลงชื่อ ......................................ผู้ตรวจ (.......................................................) วนั ท.่ี .........เดือน..........พ.ศ.............

2871 281 ใบงานเรื่อง ความขดั แย้งในสงั คม คาชีแ้ จง เตมิ คาหรือขอ้ ความใหส้ มบูรณ์ 1. จงยกตวั อยา่ งเหตุการณ์ความขดั แย้งในสังคมไทย ............................................................................................................................. ................................... ................................................................................................................................................................ 2. จงวเิ คราะห์สาเหตุของเหตุการณค์ วามขัดแย้งใน ข้อ 1 ......................................................................................................................... ....................................... ............................................................................................................................. ................................... 3. จงวเิ คราะหผ์ ลกระทบท่ีเกิดจากเหตกุ ารณ์ความขดั แย้งดังกล่าว ............................................................................................................................. ................................... ............................................................................................... ................................................................. 4. จงเสนอแนวทางการแก้ปญั หาใน ขอ้ 1 ............................................................................................................................. ................................... ............................................................................................................................. ................................... ช่ือ...........................................นามสกลุ ..............................................เลขท.่ี ........................ชน้ั ........................

๒๘๒ แผนการจัดการเรยี นร้ทู ี่ 50 เรือ่ ง ปัญหาสังคมและแนวทางแก้ไข เวลา ๑ ชวั่ โมง หนว่ ยการเรียนรูท้ ี่ 7 เรอ่ื ง สังคมดมี สี ุข เวลา 1 ช่ัวโมง ช้ันมธั ยมศกึ ษาปีที่ ๓ กลมุ่ สาระการเรียนรสู้ งั คมศกึ ษา ศาสนาและวฒั นธรรม รายวชิ าสังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม ชัน้ มัธยมศึกษาปีที่ 3 มาตรฐานการเรยี นรู้ กิจกรรมการเรยี นรู้ สอ่ื /แหลง่ เรียนรู้ ส 2.1 เข้าใจและปฏบิ ตั ิตนตามหนา้ ทีข่ องการเป็น ขัน้ นา - หนงั สือเรียนวชิ าสังคมศึกษา ช้ัน พลเมืองดี มคี ่านิยมทีด่ ีงามและธารงรักษา มชั้ธนยมมัธศยกึมษศึกาปษทีาปี่ 3ีที่ ๓ ประเพณแี ละวัฒนธรรมไทย ดารงชีวิตอยรู่ ว่ มกนั 1. ผู้เรียนร่วมกันดูวีดีทัศน์เรื่อง “เด็กขอทาน\" ใช้เวลาดูวีดีทัศน์ประมาณ - การถามคาถาม 3 นาทีแลว้ ตอบคาถามตอ่ ไปน้ี ในสงั คมไทยและสังคมโลกอย่างสนั ติสุข - บนั ทึกการเรยี นรู้ - Power Point เร่ือง แก้ไขปัญหา ตวั ช้ีวดั สงั คมลบปมด้วยอดุ มการณ์ ม.3/3 อนุรกั ษ์วัฒนธรรมไทยและเลอื กรบั ภาระงาน/ชนิ้ งาน วัฒนธรรมสากลท่ีเหมาะสม - ใบงาน เรื่องแก้ไขปัญหาสังคมลบ ม.3/4 วเิ คราะหป์ ัจจัยทกี่ ่อใหเ้ กดิ ปญั หาความ ปมด้วยอุดมการณ์ ขัดแยง้ ในประเทศ และเสนอแนวคดิ ในการลด - กิจกรรม “ปัญหาสงั คม แก้ได้ด้วย ความขัดแย้ง : ที่มาภาพ www.khaosod.co.th/monitor-news/news_19900224477 ทุกคน” ม.3/5 เสนอแนวคดิ ในการดารงชีวิตอย่างมี - จากวีดีทัศน์ นักเรียนเห็นสิ่งใด (แนวคาตอบ: การนาเด็กมา ขอทาน) ความสขุ ในประเทศและสงั คมโลก - นักเรียนคิดว่าการนาเด็กมาขอทาน มีผลต่อสังคมอย่างไร (แนว สาระสาคญั คาตอบ: ทาให้เด็กไม่ได้เรียนหนังสือและขาดการส่ังสอน จน สภาวการณ์ที่มีผลกระทบกระเทือนต่อ นาไปสู่อนาคตของเด็กๆ ที่อาจจะกลายเป็นอาชญากร หรือ คนจานวนมาก มีสาเหตุมาจาก การเปลี่ยนแปลง นาไปสู่หนทางที่ผิดๆ จนเกิดปัญหาสังคม) (ทักษะการคิด ทางสังคม ส่ิงแวดล้อม และวัฒนธรรม ซ่ึงบุคคล วิเคราะห)์ ทกุ คนตอ้ งร่วมกันเสนอทางออกเพ่ือแก้ปัญหาและ 2. ผ้เู รยี นรว่ มกนั อภิปราย โดยการตอบคาถามครูดงั ต่อไปนี้ สร้างความสขุ แก่ประเทศชาตแิ ละสงั คมโลก 2872

หนว่ ยการเรียนรู้ที่ 7 เรอ่ื ง สังคมดมี สี ุข แผนการจดั การเรียนรู้ที่ 50 เรื่อง ปัญหาสังคมและแนวทางแกไ้ ข ๒๘๓ เวลา 1 ช่วั โมง เวลา ๑ ช่ัวโมง กลุ่มสาระการเรียนรสู้ ังคมศกึ ษา ศาสนาและวัฒนธรรม รายวชิ าสังคมศกึ ษา ศาสนาและวัฒนธรรม ชน้ั มัธยมศึกษาปีที่ 3 ชั้นมัธยมศึกษาปที ่ี ๓ ขอบเขตเนื้อหา - ถ้านักเรยี นเป็นนายกรัฐมนตรี จะมวี ิธกี ารลดความขัดแยง้ ของคนใน 1) ปญั หาทางสงั คม เช่น ปญั หาส่ิงแวดล้อม ชาตดิ ว้ ยวิธกี ารใด (ผเู้ รียนสะทอ้ นแนวคิด) (ทักษะการคิดวเิ คราะห์) เพอ่ื ทบทวนความรเู้ ดิมและนาเข้าส่บู ทเรยี นเร่ือง “แกไ้ ขปัญหาสังคมลบ ปญั หายาเสพติด ปัญหาการทุจรติ ปัญหา ปมด้วยอุดมการณ์” อาชญากรรม 2) แนวทางการแก้ไขปญั หา 3. ครูกลา่ วเชือ่ มโยงคาตอบของนักเรยี นวา่ สภาพสังคมไทยจากอดีตถงึ ปัจจบุ ันเปลีย่ นแปลงไปอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะปัญหาสงั คมทเี่ กดิ ขึ้นอยา่ ง จุดประสงคก์ ารเรียนรู้ ตอ่ เน่อื งที่นบั วนั ยง่ิ จะทวคี วามรนุ แรงมากข้ึนและส่งผลกระทบตอ่ การ ดา้ นความรู้ 1) ผู้เรียนสามารถนิยามความหมายของคาว่า ดาเนนิ ชีวิตของคนในสังคมปจั จุบัน “ปัญหาสงั คม” ไดอ้ ยา่ งถูกต้อง ขัน้ สอน 1. ผู้เรียนศกึ ษา สอ่ื Power Point เรื่อง “แก้ไขปัญหาสังคมลบปม 2) นักเรียนอธิบายสภาพปญั หาสงั คมได้ถูกต้อง ดว้ ยอุดมการณ์” โดยมคี รูเปน็ ผู้อธบิ ายดงั หวั ขอ้ ต่อไปนี้ ด้านทักษะและกระบวนการ 1.1ปญั หาสงั คมคืออะไร (แนวคาตอบ: สภาวการณท์ ม่ี ี ผลกระทบกระเทือนต่อคนจานวนมากในสังคมและเหน็ 1) นักเรียนวิเคราะห์สาเหตุที่มาและ วา่ ควรร่วม กนั แกป้ ญั หาน้นั ให้ดีขน้ึ ) (Obj.1) ผลกระทบของปัญหาสงั คมได้อยา่ ง ถูกต้อง 1.2ผู้เรียนยกตัวอย่างปัญหาส่ิงแวดล้อมท่ีเกิดข้ึนในประเทศ ด้านคุณลกั ษณะ ไทย เช่น ปัญหาน้าท่วม แผ่นดินไหว ปัญหาภัยแล้ง 1) นักเรยี นอภิปรายถึงความสาคัญของการศกึ ษา ปัญหามลพิษต่าง ๆ จากน้ันร่วมกันวิเคราะห์ปัญหาที่ เรอื่ งปัญหาสังคมและแนวทางแกไ้ ข เกิดขึ้น ว่ามาจากสาเหตใุ ด (แนวคาตอบ: มนุษยเ์ ป็นผู้ 2) ผเู้ รียนสามารถนาเสนอแนวทางการแกไ้ ข ปัญหาสงั คมไดอ้ ย่างสรา้ งสรรค์ ท่ี ก่ อ ใ ห้ เ กิ ด ภั ย ธ ร ร ม ช า ติ เ พ ร า ะ ม นุ ษ ย์ ใ ช้ ทรัพยากรธรรมชาติอย่างส้ินเปลือง โดยไม่คานึงถึง 2873

๒๘๔ หนว่ ยการเรียนรทู้ ่ี 7 เร่ือง สังคมดมี สี ุข แผนการจดั การเรยี นร้ทู ่ี 50 เร่ือง ปัญหาสังคมและแนวทางแกไ้ ข เวลา 1 ชัว่ โมง กลุ่มสาระการเรยี นรูส้ ังคมศึกษา ศาสนาและวฒั นธรรม รายวชิ าสังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม ชั้นมัธยมศึกษาปีท่ี 3 ผลกระทบที่กาลังจะตามมา จึงทาให้ประเทศไทยเกิด ภัยพบิ ตั ดิ งั กล่าว) (ทักษะการยกตวั อยา่ ง) (Obj.1) 1.3ให้นักเรียนร่วมกันวิเคราะห์ว่า นอกจากปัญหาที่เกิดขึ้น ในข่าวเหล่านี้แล้ว ประเทศไทยยังมีปัญหาที่สาคัญอะไร อีกบ้าง ให้นักเรียนยกตัวอย่างคนละ 1 ปัญหา ครูเขียน คาตอบของนักเรียนลงบน กระดาน(ทัก ษะกา ร ยกตัวอยา่ ง) (Obj.2) 2. ผู้เรียนศกึ ษา ใบความรู้เก่ยี วกับปัญหาทางดา้ นสังคมของไทยทีส่ าคญั สาเหตุและผลกระทบท่ีเกดิ ขึ้น เพอ่ื เรม่ิ กจิ กรรม “ปญั หาสังคมแกไ้ ด้ ด้วยเราทกุ คน” โดยมีขั้นตอนดงั ตอ่ ไปน้ี 2.1ผเู้ รียนศึกษาใบความรู้ประกอบการบรรยายจากครู 2.2ผูเ้ รยี นร่วมกันวิเคราะหป์ ัญหา ทน่ี ักเรยี นเสนอบน กระดานวา่ แตล่ ะปญั หาจัดอยใู่ นปัญหาประเภทใด เช่น ปญั หาสง่ิ แวดลอ้ ม ปญั หาสารเสพตดิ ปัญหาการทจุ รติ หรอื ปญั หาอาชญากรรม พร้อมเสนอแนะแนวทางแก้ไข ลงในแบบบันทึก ดังตัวอย่าง (Obj.2,3) (ทักษะการระบุ , ทักษะการประยุกต์ใช้ความรู้, ทักษะการแก้ปัญหา) 2874

๒๘๕ หน่วยการเรยี นรูท้ ี่ 7 เร่อื ง สังคมดีมสี ุข แผนการจัดการเรยี นรทู้ ี่ 50 เรื่อง ปัญหาสังคมและแนวทางแก้ไข เวลา 1 ชวั่ โมง กลมุ่ สาระการเรยี นรู้สงั คมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม รายวชิ าสังคมศกึ ษา ศาสนาและวัฒนธรรม ชั้นมัธยมศกึ ษาปีที่ 3 2.3ผเู้ รยี นนาสภาพปัญหาท่ีทาลงในแบบบันทึก มานาเสนอ ในรูปแบบของการคยุ ขา่ วเช้า อาจจะนาเสนอคร้งั ละ 1 คน 2 คน หรอื 3 คนกไ็ ด้ เม่ือนาเสนอจบทุกคน/ทกุ กลุ่ม แล้ว ใหน้ กั เรียนร่วมกันลงความเหน็ วา่ คนหรือกลุ่มใด นาเสนอได้อย่างเป็นธรรมชาติและนา่ สนใจมากท่สี ุด (Obj.2,3) (ทักษะการอธบิ าย) 2.4ครูสรุปผลการทากจิ กรรม และอธิบายขยายความให้ สมบูรณ์ ขน้ั สรปุ 2875

๒๘๖ ๒๘๖ แผนการจดั การเรยี นร้ทู ่ี 50 เรือ่ ง ปัญหาสงั คมและแนวทางแกไ้ ข หนว่ ยการเรยี นรทู้ ่ี 7 เร่ือง สังคมดมี ีสุข แผนการจัดการเรยี นรทู้ ่ี 50 เรเวือ่ ลงาป1ัญชหั่วาโสมังงคมและแนวทางแก้ไข กหลนมุ่วสยากราะรกเรายี รนเรรียู้ทนี่ ร7สู้ เังรค่ือมงศสึกังษคามดศีมาสี นุขาและวัฒนธรรม รายวชิ าสังคมศึกษา ศเวาลสานา1แชละวั่ วโมัฒงนธรรม ชน้ั มัธยมศกึ ษาปีท่ี 3 กล่มุ สาระการเรียนรสู้ ังคมศกึ ษา ศาสนาและวัฒนธรขรน้ั ม1ส.รนปุ กัราเรยยี วนิชราว่ สมังกคันมอศภึกิปษราายศสารสุปนสาาแรละะสวาัฒคัญนขธอรรงเมน้ือหาโดชย้นั คมรัธูใยชมค้ ศาถกึ าษมาปีท่ี 3 ดัง1ต่อ. ไนปกั นเรี้ ียนรว่ มกนั อภิปรายสรปุ สาระสาคญั ของเน้ือหาโดยครูใชค้ าถาม ดงั ต่อไ1ป)นป้ี ัญหาสงั คมท่ีเกิดขน้ึ ในปัจจุบนั มีปัญหาใดบ้าง 21) ปัญหาสังคมใทน่ีเกปดิัจขจึ้นุบในั นปเกัจิดจจุบาันกมสีปาเญั หหตุใาดใดบบ้าา้งง 32) ใปนญั ฐหานาสะงัทคนี่ มักใเนรปียนจั จเปบุ ็นนั พเลกเิดมจือางกในสสาเงั หคตมใุ ดนบักา้เรงยี นจะมีส่วนป้องกนั และแก3้ไ)ขใปนัญฐาหนาะไดท้อ่นี ยัก่าเงรไยี รนบเา้ปง็นพลเมอื งในสงั คม นักเรยี นจะมีส่วนปอ้ งกัน แล2ะ.แผกู้เ้ไรขียปนัญแหลาะไคดร้อูรย่วา่ มงกไรันบอา้ ภงิปรายถึง “ปัญหาทางด้านสังคมของไทยท่ี สา2ค. ัญผู้เรไียดน้แแกล่ ปะัคญรหูรา่วสม่ิงกแันวอดภลิป้อรมายปถัญึง ห“าปสัญาหรเาสทพาตงดิด้านปสัญังหคามกขาอรงทไทุจยริทตี่ คสอาคร์รัญัปชไันด้แแกล่ ะปปัญัญหหาสอ่ิงาแชญวดาลก้รอรมมปปัญัญหาสตา่ งรเๆสพเหตลิดา่ นป้ีจัญะหมาดกไาปรทถุจ้าทริตุก ฝค่าอยรใร์ นัปสชังนคมแรล่วะมปมัญือหกาันอปา้อชงญกาันกแรลรมะแปกัญ้ไขหทาตี่สา่ งคัญๆ ทเหี่สลุดา่ปนร้ีจะะชหามชดนไทปุกคถน้าทในุก สฝัง่าคยมในคสวังรคมมจี ิตร่วสมานมือกึ กทันี่ดปใี น้อตงนกเันอแงล”ะ(แGกe้ไnข)ท่ีสาคัญที่สุดประชาชนทุกคนใน สังคมควรมจี ติ สานึกทด่ี ีในตนเอง” (Gen) 28726 86

287 2877 การวดั และประเมนิ ผล เครอื่ งมือ ผปู้ ระเมนิ ขอบเขตการวัด วิธกี าร ความรู้ (K)  ความหมายของปัญหาสงั คม - การตอบคาถาม - หนังสือเรียนวิชาสังคมศึกษา ชั้น  ตัวอย่างปัญหาทางสังคมไทยท่ีสาคญั - การทาใบงาน มธั ยมศึกษาปที ่ี 3 - การทากจิ กรรม - การถามคาถาม - บันทกึ การเรียนรู้ - Power Point เร่ือง แก้ไขปัญหา ผสู้ อน/ สงั คมลบปมดว้ ยอุดมการณ์ ผเู้ รยี น - ใบงาน เร่ืองแก้ไขปัญหาสังคมลบ ผสู้ อน/ ปมดว้ ยอุดมการณ์ ผเู้ รยี น - กิจกรรม “ปัญหาสังคม แก้ได้ด้วย ทกุ คน” สมรรถนะสาคัญ (P) - การตอบคาถาม - หนังสือเรียนวิชาสังคมศึกษา ชั้น ผู้สอน/ 1. ความสามารถในการสอ่ื สาร - การทาใบงาน มัธยมศกึ ษาปีท่ี 3 ผูเ้ รียน 1.1 ทกั ษะการระบุ - การทากจิ กรรม - การถามคาถาม 2. ความสามารถในการคดิ - การตอบคาถาม - บนั ทกึ การเรยี นรู้ 2.1ทักษะการคดิ วเิ คราะห์ - การสังเกต - Power Point เร่ือง แก้ไขปัญหา 2.2ทกั ษะการยกตัวอยา่ ง พฤติกรรม สังคมลบปมดว้ ยอดุ มการณ์ 2.3ทักษะการอธบิ าย - ใบงาน เรื่องแก้ไขปัญหาสังคมลบ 3 ความสามารถในการใช้ทักษะชวี ติ ปมด้วยอุดมการณ์ 3.1ทกั ษะการประยุกต์ใช้ความรู้ - กิจกรรม “ปัญหาสังคม แก้ได้ด้วย 4 ความสามารถในการแกป้ ัญหา ทกุ คน” ๔4.๑1ทักษะการแก้ปัญหา - การถามคาถาม ผูส้ อน/ คุณลักษณะอันพึงประสงค์ (A) - แ บ บ สั ง เ ก ต พ ฤ ติ ก ร ร ม ด้ า น ผเู้ รยี น 1. มีวนิ ัย คณุ ลักษณะอันพงึ ประสงค์ 2. ใฝ่เรียนรู้ - คาถามเพอ่ื พัฒนาเจตคติ 3. มงุ่ มั่นในการทางาน ผู้สอน ผลงาน/กิจกรรม  กิจกรรม “ปัญหาสงั คม แกไ้ ดด้ ว้ ยทุกคน” เกณฑก์ ารประเมินผล

2878 288  กิจกรรม “ปัญหาสังคม แก้ได้ด้วยทุกคน” 1. ดา้ นความรู้ (K) ประเดน็ การ ระดับคุณภาพ น้าหนกั คะแนน ประเมิน 2.5 10 4 32 1 0.75 3 นิยามความหมาย นยิ ามความหมาย นิยามความหมาย ของคาว่า “ปัญหา ของคาว่า “ปัญหา นิยามความหมาย นิยามความหมาย ของคาว่า “ปญั หา 0.75 3 สงั คม”ได้อยา่ ง ของคาวา่ “ปญั หา ของคาว่า สงั คม” ถกู ต้องครบถ้วน สงั คม”ได้ถูกตอ้ ง สงั คม”ไม่ได้ 1 4 วิเคราะหท์ ี่มาของ วิเคราะห์ท่ีมาของ “ปัญหาสังคม”ได้ วิเคราะห์ทีม่ าของ ปญั หาสงั คมไดอ้ ย่าง เป็นสว่ นมาก ถูกต้องบางสว่ น ปัญหาสงั คมไม่ได้ 2.5 10 ปัญหาสังคม ถกู ต้องมากกวา่ 5 วเิ คราะห์ท่มี าของ วเิ คราะห์ทีม่ าของ ปัญหาสงั คมได้ ปญั หาสงั คมได้ นาเสนอแนวทาง นาเสนอแนวทาง ขอ้ อย่างถูกต้อง 3-5 อย่างถูกต้อง 1-2 การแก้ไขปญั หา การแก้ไขปญั หา นาเสนอแนวทางการ แกไ้ ขปัญหาสงั คมได้ ข้อ ข้อ สังคมไม่ได้ สงั คม นาเสนอแนวทาง นาเสนอแนวทาง อยา่ งสร้างสรรค์ การแก้ไขปญั หา การแก้ไขปัญหา มากกว่า 5 ประเด็น สงั คมได้อย่าง สังคมได้อย่าง สร้างสรรค์ 3-5 สร้างสรรค์ 1- ประเดน็ 2 ประเดน็ รวม เกณฑ์การตัดสนิ คุณภาพดา้ นความรู้ ระดับคะแนน เกณฑก์ ารตัดสินคุณภาพ 8-10 ดีมาก 6-7 ดี 5 พอใช้ ต่ากว่า 5 ปรบั ปรุง เกณฑก์ ารผ่าน : ระดบั พอใช้ขน้ึ ไป

2879 289 2. ดา้ นสมรรถนะของผู้เรียน (P) รายการ 3 ระดบั คุณภาพ 1 1. ความสามารถในการ สามารถระบุเนื้อหาองค์ความรูไ้ ด้ 2 ไมส่ ามารถระบุเนื้อหาองค์ สอื่ สาร อยา่ งชัดเจน ถกู ตอ้ งครบถ้วน ทกุ 1.1ทักษะการระบุ การนาความรทู้ ไ่ี ดไ้ ปใช้ ความร้ไู ด้ถูกต้อง 2. ความสามารถในการ ประเดน็ สามารถระบเุ น้ือหาองค์ความรู้ ไมส่ ามารถวเิ คราะห์ คิด สามารถวเิ คราะห์เช่ือมโยง องค์ ไดอ้ ย่างชัดเจน ถกู ต้องบาง เช่ือมโยง องค์ความรเู้ พอ่ื 2.1ทักษะการคิด ความรู้เพื่อตอบคาถาม และ ตอบคาถามครูได้ ยกตัวอย่างปญั หาสังคมได้อย่าง ประเดน็ วเิ คราะห์ หลากหลาย ตลอดจนสามารถ สามารถวิเคราะหเ์ ชื่อมโยง องค์ ไมส่ ามารถประยุกต์ใช้ 2.2ทักษะการยกตัวอยา่ ง อธิบายเนือ้ หาได้อยา่ งกระจ่างและ ความรเู้ พื่อตอบคาถาม และ ความรใู้ นการทาใบงานและ 2๒.3๓ทกั ษะกกาารรออธธิบิบาายย ยกตัวอยา่ งปัญหาสงั คมได้อย่าง 3. ความสามารถในการ มคี วามเข้าใจ กิจกรรมได้ ใชท้ กั ษะชวี ิต สามารถประยุกต์ใชค้ วามรู้ในการ หลากหลาย ไม่สามารถนาเสนอแนว 3.1 ทักษะการประยุกตใ์ ช้ ทางการแกป้ ญั หาความ ความรู้ ทาใบงานและกิจกรรมได้ สามารถประยุกตใ์ ชค้ วามรู้ใน สงั คมได้อย่างมีความเขา้ ใจ 4.ความสามารถในการ สมเหตุสมผลและสรา้ งสรรค์ การทาใบงานและกิจกรรมได้ แก้ปัญหา สามารถนาเสนอแนวทางการ 4.1 ทกั ษะการแกป้ ัญหา แก้ปัญหาสังคมไดอ้ ยา่ งมคี วาม บางส่วน เขา้ ใจ และมีแนวโนม้ ในการนาไป สามารถนาเสนอแนวทางการ ปฏิบตั จิ รงิ ในชีวิตประจาวัน แกป้ ญั หาสงั คมได้อย่างมคี วาม เขา้ ใจ เกณฑก์ ารตัดสินคณุ ภาพสมรรถนะของผูเ้ รียน ระดบั คะแนน เกณฑก์ ารตดั สินคณุ ภาพ 3 ดีมาก 2 พอใช้ 1 ปรบั ปรุง เกณฑก์ ารผ่าน : ระดับพอใช้ขนึ้ ไป

290 22890 3. เกณฑ์การประเมินคุณลักษณะอนั พึงประสงค์ (A) รายการทีป่ ระเมนิ 3 ระดบั คะแนน 1 2 1. มีวนิ ยั 1. ส า ม า ร ถ ป ฏิ บั ติ ต า ม 1. ส า ม า ร ถ ป ฏิ บั ติ ต า ม 1. ส า ม า ร ถ ป ฏิ บั ติ ต า ม 1.1 ป ฏิ บั ติ ต า ม ข้ อ ต ก ล ง ขอ้ ตกลงในชั้นเรียน ขอ้ ตกลงในช้ันเรียน ข้ อ ต ก ล ง ใ น ชั้ น เ รี ย น แ ต่ ไ ม่ กฎเกณฑ์ ระเบียบ ข้อบังคับของ 2. เคารพกติกาในการยกมือ 2. เคารพกติกาในการตอบ เคารพกติกาในการตอบถาม ครอบครัว โรงเรยี นและสงั คม ตอบคาถาม คาถาม และเล่นในขณะเรยี น 1.2 ตรงต่อเวลาในการปฏิบัติ 3. ไม่เล่นหรือพูดคุยกันใน แต่เล่นหรือพูดคุยในขณะ 2. ตรงต่อเวลาในการปฏิบัติ กิจกรรมต่างๆในชีวิตประจาวัน ชนั้ เรียน เรยี น กิจกรรมในช้ันเรียน และมีความรับผิดชอบในการ 4. ตรงต่อเวลาในการปฏบิ ัติ 3. ตรงต่อเวลาในการปฏิบัติ 3. ส่งงานช้ากว่ากาหนด ทางาน กจิ กรรมในช้นั เรยี น กิจกรรมในชนั้ เรยี น 5. ส่งงานตรงตามเวลาท่ี 4. ส่งงานตรงตามเวลาท่ี กาหนดทุกครัง้ กาหนดบางครัง้ 2. ใฝ่เรียนรู้ 1. แสวงหาข้อมูลจากแหล่ง 1. แสวงหาข้อมูลจากแหล่ง 1. แสวงหาข้อมูลจากแหล่ง 2.1แสวงหาข้อมูลจากแหล่งการ กา ร เ รี ย น รู้ ต่ า ง ๆ เ พื่ อ การเรียนรู้ต่าง ๆ เพือ่ ทบทวน การเรียนรู้ ต่าง ๆ เพื่อ เรียนรู้ต่าง ๆ เพ่ือทบทวน ทบทวนบทเรียนอยู่เสมอ บทเรียนอยู่เสมอ ทบทวนบทเรยี นอย่เู สมอ บทเรยี นอยเู่ สมอ 2. มีการจดบันทึกความรู้ลง 2. มีการจดบันทึกความรู้ลง 2๒.2๒จดบนั ททกึ ึกคคววาามมรรู้ลู้ลงใงนในสมสดุมุด ในสมุดประจาวิชาอย่างเป็น ในสมุดประจาวิชาอย่างเป็น ประจาวิชาอย่างเป็นระบบ ระบบ ระบบ สรุปความรูไ้ ด้อย่างมเี หตผุ ล 3. สรุปความรู้ได้อย่างมี เหตุผล 3. มุง่ มั่นในการทางาน 1. ต้ังใจและรับผิดชอบใน 1. ต้ังใจและรับผิดชอบในการ 1. ตง้ั ใจและรับผิดชอบในการ 3.1 ต้งั ใจรับผิดชอบในหน้าท่ีการ การปฏิบัติหน้าท่ีที่ได้รับ กปาฏรปิ บฏั ิบติัตหิหน้าาทที่ ่ี ่ไทด่ี ้รไับด้ รั บ กปาฏรปิ บฏั ิบติัตหิหน้าาทที่ ี่ไทดี่้รไับด้ รั บ งาน มอบหมายได้เป็นอยา่ งดี มอบหมายได้ มอบหมายได้ 2. สง่ งานครบทกุ ชนิ้ 2. สง่ งานไม่ครบทกุ ชนิ้ 2. ขาดการสง่ งาน เกณฑ์การตดั สนิ คุณลักษณะอนั พึงประสงค์ ระดับคะแนน เกณฑ์การตัดสินคุณภาพ 3 ดีมาก 2 พอใช้ 1 ปรับปรงุ เกณฑ์การผา่ น : ระดับพอใช้ขนึ้ ไป

291 22891 8. บนั ทกึ ผลหลังสอน ผลการเรยี นรู้ ............................................................................................................................. ................................................ ปญั หาและอุปสรรค ............................................................................................................................. ............................................. ขอ้ เสนอแนะและแนวทางแก้ไข ........................................................................................................................................................................... ลงชอ่ื ......................................ผสู้ อน (.......................................................) วันท.ี่ .........เดือน..........พ.ศ............. ความคิดเหน็ /ขอ้ เสนอแนะของผูบ้ ริหารหรือผู้ทีไ่ ด้รบั มอบหมาย ........................................................................................................................................................................... ลงช่อื ......................................ผู้ตรวจ (.......................................................) วนั ท.ี่ .........เดือน..........พ.ศ.............


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook