๓๔๒ แผนการจัดการเรียนรูท้ ี่ 57 เรื่อง เข้าใจระบอบเผด็จการ เวลา 1 ชว่ั โมง หน่วยการเรียนรทู้ ี่ 8 เรอ่ื ง การเมอื งการปกครอง ช้นั มธั ยมศกึ ษาปีท่ี 3 กลมุ่ สาระการเรียนรสู้ ังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม รายวิชาสังคมศกึ ษา ศาสนาและวัฒนธรรม ตัวช้วี ัด กจิ กรรมการเรยี นรู้ สื่อ/แหลง่ เรียนรู้ ส 2.2 ม. 3/1 อธบิ ายระบอบการปกครอง ขัน้ นา 1--)วีดวีโดอีโอกอกงอทงพัทัพนานซาีซี 1. นกั เรียนศึกษาวดี ีโอ กองทัพนาซี เขา้ ถึงได้จาก 2--)ภวาดี พีโสอัญเผลดัก็จษกณาร์ฟอาาสนซาสิ จตน์,ิยม(พมา่ ) แบบตา่ งๆ ที่ใช้ในยุคปจั จุบนั https://www.youtube.com/watch?v=gcARigq6FFY แแลละะรว่ วมีดกโี นัอ นจากซ,ี คTอhมeมLิวaนdสิ yต(์ 2012) - Official เตผอดบ็จคกำ�าถราอมาดนังานจ้ีนิยม(พมา่ ) จาก The Lady (2012) - Official Trailer T-raPiolewrer Point เร่อื ง “รูปแบบของ สาระสาคญั เข้า“ถนงึ กั ไดเร้จียานกคhดิ tวtา่ psว:ีด//ีโอwทwี่ไwด้ด.yูไoปuนtั้นuเbปeน็ .cเรo่ือmงร/าwวaเกtc่ยี hว?กvับ=อ_ะCไ1ร”0u(กGาAร6ใชb้ tQ รภว4,ร653ค---ะดีะา---))))อกปกบบโีรปกภPมอาจิ้าะออoจิา้ารแมยกงบบยพกwวลาิวถรเเถเิรสนนะรผผือeครือมญักสิดด/rหรมหชิจต็จ็จาลPม“ม้ินกะก“์กoกัาเาขหรเงาายษiขnยรารา้รแ์เณา้มลtเใ”น”ลลจใข์ฟเจะขใรนตใา๑ื่อน1สอเงผเซแบผแด“ิสลคดล็จรตะ�ำ็จูปะก์,ถก๒าแนา2ารบมาร”บซจ”ขีากอง การปกครองระบอบเผดจ็ การมีหลากหลาย กแกลาำ�““ลละนนงังัรทท่วักกั มหหเเรรกาาียียรันรนนขขตคคอออิดิดงงบววกกคา่่าออางงเวถผททดี าดพััพโีมจ็อนนดกทาาังาี่ไซซนดรี)ีี้จ้แดาลูไกปะคนกลั้นาปิรเปใชเน็ปอ้ เน็ารนออื่ ยงารจา่ างทวไารเงก”ทีย่ หวการบั ขออะงไกรอ”ง(ทกพัารพใมช่า้ ) ภาระงาน/ชนิ้ งาน หขด2ข๑ค๒ูน�ำนั้น้ัร...“ถือ้ันคนนสสนาไรอกอกัั มมกัเเูเเนนปช่ตรรเอรน็ือ่ียียอ่ ยียเมนนไผน่าปโศศงดคยนึึกกไจ็งิดรี้ษษเกว”ขาาาา่ า้หภ(รสรเรานผูปบูู่ปพงัดแทสแส็จบเบอืัญกรบเบียารลเรเนยีดักดจนยีษียโาใวดณวกนกยกคฟ์หนั กันลาวั/ลหปิสคข่ารวซ้อนวือีดสิลวรไโีตา่ะมอปู ,์ร่ท“แเูปนรเง้ับผแาาสบซดบจอขี,จ็ะบคงอกม)อเงาาปมรรศน็ะมใกึ นบริวษูปนคอาลแสิบกิปบตเันผ์วบใแดีดนเลจ็ดีโวะอกยี ันตทาวนรอก่เี ปี้”บันิดให้ - การวเิ คราะห์และตอบคาถามจาก รูปแบบ ขึน้ อยู่กับพื้นฐานทางประวตั ิศาสตร์ และ 1. นักเรยี นศึกษาหนังสือเรียนในหวั ขอ้ รูปแบบของระบอบเผดจ็ การ ความเหมาะสมของสภาพสังคมของประเทศน้ันๆ 2. นกั เรียนศกึ ษาภาพสญั ลักษณฟ์ าสซิสต์, นาซี,คอมมวิ นสิ ต์ และตอบ วดี ีโอและกจิ กรรม ซง่ึ มจี ดุ หมายเดยี วกันคือการปกครองประชาชน อย่างเคร่งครัด คาถามตอ่ ไปนี้ ขอบเขตเนื้อหา 1. รูปแบบของระบอบเผดจ็ การ - เผด็จการอานาจนิยม - เผดจ็ การแบบเบ็ดเสร็จ 2. ข้อดขี ้อเสยี ของระบอบเผด็จการ 3. เปรียบเทยี บประชาธปิ ไตยกับเผดจ็ การ 3342
แผนการจดั การเรยี นรู้ที่ 57 เรือ่ ง เข้าใจระบอบเผด็จการ ๓๔๓ หนว่ ยการเรียนรทู้ ี่ 8 เรื่อง การเมอื งการปกครอง เวลา 1 ชว่ั โมง กล่มุ สาระการเรียนรูส้ ังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม รายวชิ าสังคมศกึ ษา ศาสนาและวัฒนธรรม ชัน้ มัธยมศกึ ษาปีท่ี 3 จุดประสงค์การเรยี นรู้ ภาพที่ 1 ภาพท่ี 2 ภาพท่ี 3 ดา้ นความรู้ “ภาพท่ีนกั เรียนเห็น คือภาพเกีย่ วกบั อะไร” (สัญลักษณ์เผด็จการ ๑1.) อธิบายรปู แบบของระบอบเผด็จการได้อย่าง คอมมวิ นิสต์, นาซี ,ฟาสซสิ ต์) “การปกครองระบอบเผดจ็ การมีรูปแบบอะไรบา้ ง” (อานาจนยิ ม/ทหาร, ถกู ต้อง เบ็ดเสร็จ) ดา้ นทักษะและกระบวนการ 1๑). วิเคราะห์ข้อดีและข้อเสยี ของการปกครอง ระบอบเผด็จการได้อย่างมเี หตุผล ดา้ นคุณลักษณะ 1๑). อภปิ รายถงึ ความสาคัญของการปกครอง ระบอบประชาธปิ ไตย หรอื เผด็จการ “จากภาพทส่ี ญั ลักษณข์ ้างตน้ เป็นรปู แบบเผดจ็ การแบบใด” (แบบ เบด็ เสร็จ) 3. นักเรียนทากจิ กรรม “เขา้ ใจในเผด็จการ” 3.1 โดยครแู จกปา้ ยถอื ใหน้ กั เรียนตามจานวนนกั เรยี นในหอ้ ง (โดย 1 ป้ายถือจะมสี องด้าน ด้าานนหนนึงึง่เปเป็น็นหหมมาายยเเลลขข1๑ อีกด้านนหึงนงึ่ เปเป็นน็หหมมาายยเลเลขข2๒)) 3343
แผนการจัดการเรยี นรทู้ ่ี 57 เรอื่ ง เขา้ ใจระบอบเผด็จการ ๓๔๔ หน่วยการเรียนรทู้ ่ี 8 เรอ่ื ง การเมืองการปกครอง เวลา 1 ช่วั โมง กลมุ่ สาระการเรยี นร้สู งั คมศกึ ษา ศาสนาและวัฒนธรรม รายวชิ าสังคมศกึ ษา ศาสนาและวัฒนธรรม ชน้ั มัธยมศึกษาปีท่ี 3 12 3.2 จากนน้ั ครูจะแสดงข้อความลักษณะสาคัญของรปู แบบเผด็จการ แบบอานาจนิยมและเผด็จการแบบเบด็ เสรจ็ ผ่านโปรแกรม Power Point เรอื่ ง “รปู แบบของระบอบเผดจ็ การ”ถ้านกั เรยี นคิดว่าเป็นลักษณะของ เผดจ็ การแบบอานาจนิยม ก็ใหช้ ปู า้ ยดา้ นหมายเลข 1 ถา้ คิดวา่ เปน็ เผดจ็ การแบบเบด็ เสรจ็ ก็ให้ชปู า้ ยด้านหมายเลข 2 3.3 ครูคอยอธิบายความรู้เพิ่มเตมิ ทลี ะโจทย์ทีแ่ สดง 4. นักเรยี นร่วมกันวิเคราะห์ “ขอ้ ดี ขอ้ เสียของการปกครองระบอบเผดจ็ การ มอี ะไรบ้าง”ลงบนกระดานดา 3344
แผนการจดั การเรียนรทู้ ่ี 57 เรื่อง เข้าใจระบอบเผด็จการ ๓๔๕ หน่วยการเรียนรทู้ ่ี 8 เร่อื ง การเมืองการปกครอง เวลา 1 ชวั่ โมง กลุ่มสาระการเรยี นรู้สงั คมศึกษา ศาสนาและวฒั นธรรม รายวชิ าสังคมศกึ ษา ศาสนาและวัฒนธรรม ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ข้ันสรุป 1.นักเรียนร่วมกนั ตอบคาถาม ดงั น้ี “นกั เรียนคดิ ว่า รปู แบบการปกครองระบอบประชาธปิ ไตยแตกต่างกับ ระบอบเผด็จการอย่างไร” “ประเทศไทยเหมาะสมกับการปกครองรปู แบบประชาธิปไตยหรอื เผด็จ การ เพราะอะไร” “การปกครองมีหลายรูปแบบ แตท่ ุกรปู แบบ มจี ุดประสงค์เพ่ือสงิ่ ใด” 3345
346 3346 การวดั และประเมินผล วิธกี าร เครอื่ งมือท่ีใช้ เกณฑ์ สิ่งทตี่ ้องการวดั /ประเมนิ การตอบคาถาม, การ ทากจิ กรรม - คาถาม - ดี :; อธิบายรูปแบบ ดา้ นความรู้ - วีดีโอ ของระบอบเผดจ็ การ ท้ัง 1๑). อธิบายรูปแบบของ - กจิ กรรม “เข้าใจใน 2 รปู แบบได้อย่าง ระบอบเผดจ็ การได้อยา่ ง เผด็จการ ถูกต้อง ถูกต้อง - พอใช้ ;: อธิบาย รปู แบบของระบอบ เผด็จการ อย่างน้อย 1 รูปแบบ อยา่ งถกู ต้อง - ปรับปรงุ :; ไม่สามารถ อธิบายรูปแบบของ ระบอบเผด็จการได้เลย ดา้ นทักษะ/กระบวนการ 1๑). วเิ คราะห์ข้อดแี ละข้อเสยี การตอบคาถาม คาถาม - ดี :; วิเคราะห์ขอ้ ดีและ ของการปกครองระบอบเผด็จ ขอ้ เสียของการปกครอง การได้อย่างมีเหตุผล ระบอบเผด็จการได้อยา่ ง มเี หตผุ ล ด้านคุณลกั ษณะ - พอใช้ ;:วิเคราะหข์ ้อดี 1๑). อภปิ รายถงึ ความสาคญั การตอบคาถาม และข้อเสยี ของการ ของการปกครอง ระบอบ ปกครองระบอบเผดจ็ ประชาธปิ ไตย หรอื เผด็จการ การได้ - ปรับปรุง :; ไม่สามารถ วิเคราะห์ข้อดีและ ข้อเสยี ของการปกครอง ระบอบเผดจ็ การได้เลย คาถาม - ดี :; อภปิ รายถงึ ความสาคัญของการ ปกครอง ระบอบ ประชาธิปไตย หรอื เผดจ็ การได้อยา่ งมี เหตผุ ล - พอใช้ :; อภปิ รายถึง ความสาคญั ของการ ปกครอง ระบอบ ประชาธปิ ไตย หรอื เผดจ็ การได้
3347 347 สิ่งท่ตี ้องการวดั /ประเมนิ วิธีการ เคร่ืองมือที่ใช้ เกณฑ์ - ปรับปรงุ ;: ไมส่ ามารถ อภปิ รายถงึ ความสาคัญ ของการปกครอง ระบอบประชาธิปไตย หรอื เผดจ็ การไดเ้ ลย 8. บนั ทกึ ผลหลังสอน ผลการเรียนรู้ ............................................................................................................................. ................................................ ปญั หาและอุปสรรค .................................................................................................................................................................... ...... ขอ้ เสนอแนะและแนวทางแก้ไข ............................................................................................. .............................................................................. ลงชือ่ ......................................ผสู้ อน (.......................................................) วันท.ี่ .........เดือน..........พ.ศ............. ความคดิ เห็น/ขอ้ เสนอแนะของผ้บู ริหารหรือผู้ท่ีได้รับมอบหมาย ....................................................................................................... .................................................................... ลงช่อื ......................................ผตู้ รวจ (.......................................................) วันท่ี..........เดือน..........พ.ศ.............
๓๔๘ แผนการจดั การเรยี นรูท้ ี่ 58 เร่ือง เปรียบเทยี บการปกครองของไทยกับประเทศท่ปี กครองแบบประชาธปิ ไตย หนว่ ยการเรยี นรู้ท่ี 8 เรื่อง การเมืองการปกครอง เวลา 1 ช่วั โมง กลมุ่ สาระการเรยี นร้สู ังคมศกึ ษา ศาสนาและวัฒนธรรม รายวชิ าสังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม ชัน้ มธั ยมศึกษาปที ี่ 3 ตัวชว้ี ัด กิจกรรมการเรยี นรู้ สื่อ/แหลง่ เรียนรู้ ส 2.2 ม. 3/2 วเิ คราะห์เปรียบเทียบระบอบ ขนั้ นา 1-) วีดโี อ กว่าจะเปน็ เมือง 1. นักเรยี นศึกษา วดี ีโอ กวา่ จะเปน็ เมืองประชาธิปไตย เข้าถงึ ได้จาก ประชาธิปไตย การปกครองของไทยกับประเทศอืน่ ๆ ทม่ี ีการ https://www.youtube.com/watch?v=Blt4VjxWQvM และรว่ มกัน 2-) ภาพพระมหากษัตริย์ของประเทศ ปกครองระบอบประชาธปิ ไตย ตอบคาถามดังนี้ ไทย สาระสาคญั 3-) ภาพแสดงความหมายทางยตุ ิธรรม “นกั เรยี นคดิ ว่า ระบอบประชาธิปไตยมีต้นกาเนิดมาจากทีใ่ ด” (กรีก) 4-) ภาพรฐั สภา ประเทศตา่ งๆที่มีรปู แบบของระบอบการเมือง “ในความคดิ ของนกั เรยี น ประชาธิปไตยเป็นอย่างไร” (ทุกคนมีสว่ น 5-) ภาพคณะรัฐมนตรี การปกครองคลา้ ยคลงึ กันนน้ั อาจจะเปน็ เพราะวา่ ร่วมทางการเมือง) 6-) Power Point เร่ือง มบี ริบทของการเมืองการปกครองคลา้ ยๆกันแต่ “นกั เรยี นรู้จักประเทศที่มรี ปู แบบการปกครองแบบประชาธปิ ไตย “ประชาธปิ ไตยในสยาม” การท่รี ะบอบการปกครองของแต่ละประเทศ ประเทศใดบ้าง” (ไทย มาเลเซีย ฟลิ ปิ ปินส์ อนิ เดีย ฯ) 7- ) กิจกรรม คิดได้แยกเป็น คล้ายคลึงหรอื แตกต่างกนั จะเป็นไปตามรปู แบบท่ี 2. ครูเชอื่ มโยงเขา้ ส่บู ทเรียนโดยกลา่ ววา่ “การปกครองในรูปแบบต่างๆ เหมาะสมในการใช้ปกครองประชาชนในประเทศ น้ันมีความแตกตา่ งและความเหมาะสมกันตามบรบิ ทในแต่ละประเทศ ภาระงาน/ช้นิ งาน นน้ั ๆ ดงั นัน้ วนั นเ้ี ราจะมาเรียนรูก้ นั ในเร่ืองการปกครองระบอบประชาธปิ ไตย - การวิเคราะห์และตอบคาถามจาก ขอบเขตเนื้อหา ของประเทศไทย และทาการเปรยี บเทยี บความเหมือนและแตกตา่ งของ วดี ีโอและกิจกรรม 1) การปกครองระบอบประชาธิปไตยในประเทศ การปกครองในประเทศมาเลเซยี ประเทศฟิลปิ ปินส์ ประเทศอนิ เดยี ” - ใบงาน เปรยี บเทยี บการปกครอง ไทย ขน้ั สอน 2) การเปรียบเทยี บการปกครองระบอบ 1. นกั เรียนศึกษาหนงั สือเรยี น ชน้ั มธั ยมศึกษาปีท่ี 3 เรอื่ งการปกครองของ ประชาธปิ ไตย ของไทยกบั ประเทศอ่ืน ไทย และการเปรียบเทียบการปกครองกบั ประเทศอ่นื ๆ 2. นกั เรยี นศกึ ษารูปภาพพระมหากษัตริย์ของประเทศไทย ภาพแสดง 1. รูปแบบของรัฐ 3348
๓๔๙ แผนการจดั การเรียนรู้ที่ 58 เรือ่ ง เปรยี บเทยี บการปกครองของไทยกับประเทศท่ปี กครองแบบประชาธปิ ไตย หน่วยการเรียนร้ทู ่ี 8 เร่ือง การเมืองการปกครอง เวลา 1 ชั่วโมง กลุ่มสาระการเรยี นรูส้ ังคมศกึ ษา ศาสนาและวฒั นธรรม รายวชิ าสังคมศกึ ษา ศาสนาและวัฒนธรรม ชั้นมัธยมศกึ ษาปีท่ี 3 2. รปู แบบการปกครอง ความหมายทางยุตธิ รรม ภาพรฐั สภา และภาพคณะรฐั มนตรี และร่วมกนั 3. ประมุขของรฐั ตอบคาถามดังน้ี 4. ประมุขฝา่ ยบริหาร 5. รัฐสภา 6. พรรคการเมือง จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ ดา้ นความรู้ 1) อธิบายลักษณะการปกครองระบอบ ประชาธิปไตยในประเทศไทยไดอ้ ยา่ งถูกต้อง ดา้ นทักษะและกระบวนการ 1) เปรียบเทยี บการปกครองระบอบ ประชาธิปไตย ของไทยกับประเทศอื่นได้อยา่ ง ถกู ต้อง ด้านคณุ ลักษณะ 1) อภปิ รายความสาคัญของการปกครองระบอบ ประชาธปิ ไตยในประเทศไทยตอ่ ตนเอง “ประเทศไทยมีการปกครองรปู แบบใด” (ประชาธปิ ไตยแบบรัฐสภา มี พระมหากษัตริย์เป็นประมุข) “จากภาพ แสดงถงึ หลักการสาคญั ของการปกครองระบอบ ประชาธิปไตยของไทย มีอะไรบ้าง” (อานาจอธิปไตย, อานาจนติ ิบัญญตั ิ (รฐั สภา), อานาจบริหาร (คณะรัฐมนตร)ี และอานาจตลุ าการ (ศาล) 3349
๓๕๐ แผนการจัดการเรยี นรทู้ ่ี 58 เร่ือง เปรียบเทียบการปกครองของไทยกับประเทศทป่ี กครองแบบประชาธปิ ไตย หน่วยการเรียนรทู้ ่ี 8 เรอ่ื ง การเมืองการปกครอง เวลา 1 ชั่วโมง กลุ่มสาระการเรยี นรสู้ งั คมศกึ ษา ศาสนาและวัฒนธรรม รายวชิ าสังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม ชน้ั มัธยมศึกษาปีท่ี 3 3. ครูอธบิ ายความรู้เพิ่มเติมผ่านโปรแกรม Power Point เร่อื ง “ประชาธิปไตยในสยาม” 4. นกั เรยี นทากิจกรรม คิดได้แยกเป็น โดยจะแจก “ใบงานเปรียบเทียบ การปกครอง”ให้กบั นักเรยี น เพอ่ื เปรยี บเทยี บตามหวั ข้อท่ีตารางกาหนด เก่ียวกบั การปกครองของไทยกบั ประเทศอ่ืนๆท่ปี กครองแบบประชาธปิ ไตย จากน้นั จะสุ่มตวั แทนนักเรียนมาเตมิ ข้อมูลลงในตารางหนา้ ชั้นเรยี น และครู อธิบายเพม่ิ เตมิ ความรู้ ขน้ั สรปุ 1. นกั เรียนรว่ มกันตอบคาถาม ดงั นี้ “สิง่ สาคญั ของระบอบประชาธปิ ไตย คือส่ิงใด” (อานาจอธิปไตยเปน็ ของประชาชน) “การปกครองระบอบประชาธปิ ไตยในประเทศไทยมีความสาคัญของ ตอ่ การดาเนนิ ชวี ติ ของนักเรยี นอย่างไร” “เพราะเหตุใดแตล่ ะประเทศแม้มกี ารปกครองรปู แบบเดยี วกนั แตก่ ็มี ความแตกตา่ งกัน” 3540
การวดั และประเมนิ ผล 351 3541 สง่ิ ท่ีต้องการวัด/ประเมนิ วิธีการ เครือ่ งมอื ทใี่ ช้ ด้านความรู้ เกณฑ์ ๑1.) อธบิ ายลกั ษณะการ การตอบคาถาม, การทา - คาถาม - ดี :; อธบิ ายลกั ษณะการ ปกครองระบอบ กจิ กรรม - วดี ีโอ ปกครองระบอบ ประชาธิปไตยในประเทศไทย - กจิ กรรม “คิดได้ ประชาธปิ ไตยในประเทศ ไดอ้ ยา่ งถกู ตอ้ ง แยกเปน็ ” ไทยได้อยา่ งถูกต้อง - ใบงาน เรือ่ ง การ - พอใช้ :; อธบิ าย กเปารยีเปบรเทียบยี บเทกียาบร ลักษณะการปกครอง กปากรคปรกอคงรอง ระบอบประชาธปิ ไตยใน ประเทศไทยได้ ดา้ นทกั ษะ/กระบวนการ การตอบคาถาม คาถาม - ปรับปรุง ;: ไมส่ ามารถ ๑1.) เปรียบเทียบการปกครอง อธบิ ายลักษณะการ ระบอบประชาธปิ ไตย ของ กปากรคปรกอคงระอบงรอะบบอบ ไทยกับประเทศอื่นได้อย่าง ประชาธิปไตยในประเทศ ถกู ต้อง ไทยได้ - ดี :; เปรียบเทยี บการ ด้านคุณลักษณะ การตอบคาถาม คาถาม กปากรคปรกอคงระอบงรอะบบอบ ๑1.) อภิปรายความสาคัญของ ประชาธิปไตย ของไทย การปกครองระบอบ กบั ประเทศอน่ื ได้อยา่ ง ประชาธปิ ไตยในประเทศไทย ถกู ต้องอย่างนอ้ ย 3 ต่อตนเอง หัวข้อ - พอใช้ ;: เปรียบเทยี บ การปกครองระบอบ ประชาธปิ ไตย ของไทย กับประเทศอื่นได้อย่าง ถกู ต้องอย่างน้อย 1 หวั ขอ้ - ปรบั ปรุง :; ไม่สามารถ เปรียบเทยี บการ กปากรคปรกอคงระอบงรอะบบอบ ประชาธิปไตย ของไทย กับประเทศอน่ื ได้เลย - ดี ;: อภิปราย ความสาคญั ของการ กปากรคปรกอคงรอะบงรอะบบอบ ประชาธิปไตยในประเทศ
352 3542 สิ่งทต่ี ้องการวัด/ประเมิน วธิ ีการ เครื่องมือท่ใี ช้ เกณฑ์ ไทยต่อตนเองได้อย่างมี เหตผุ ล - พอใช้ ;: อภปิ ราย ความสาคญั ของการ กปากรคปรกอคงระอบงรอะบบอบ ประชาธปิ ไตยในประเทศ ไทยต่อตนเองได้ - ปรับปรุง :; ไมส่ ามารถ อภิปรายความสาคัญของ การปกครองระบอบ ประชาธิปไตยในประเทศ ไทยต่อตนเองได้ 8. บนั ทกึ ผลหลังสอน ผลการเรยี นรู้ ............................................................................................................................. ................................................ ปัญหาและอุปสรรค .............................................................................................................................. ............................................ ข้อเสนอแนะและแนวทางแกไ้ ข ........................................................................................................................................................................... ลงช่อื ......................................ผสู้ อน (.......................................................) วันท.่ี .........เดือน..........พ.ศ............. ความคดิ เห็น/ข้อเสนอแนะของผู้บริหารหรอื ผู้ทไี่ ดร้ บั มอบหมาย ........................................................................................................................................................................... ลงช่ือ ......................................ผ้ตู รวจ (.......................................................) วันท.ี่ .........เดอื น..........พ.ศ...........
ใบงานเร่ือง เปรยี บเทยี บการปกครอง 353 3543 อนิ โดนเี ซยี หวั ข้อ ไทย ฟิลปิ ปนิ ส์ มาเลเซยี ประเทศ/ รปู แบบของ รัฐ รูปรแูปบแบกบาร กาปรกปคกรคอรงอง ประมขุ ของ รัฐฯ ประมุขฝา่ ย บริหาร รัฐสภา พรรค การเมอื ง ชอื่ ................................................นามสกุล.................................................เลขที.่ ...............................ช้นั ...................
กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศกึ ษา ศาสนาและวฒั นธรรม รายวชิ าสังคมศกึ ษา ศาสนาและวัฒนธรรม ชัน้ มธั ยมศึกษาปีที่ 3 ตปกสรขเปกกหสปกตขปเกรกหสปตกกเรปขรรรฐััฐาาัฐลาัวอาาจัรลานวัอาาจัราัวนอัจรยีียียธรหธรธรหะรหรชะมุ่จรบะชมุ่จบชจว่บบรว่บรบรรมรมะรส1มะชสนะสช3421ุบนช้วีนุบสัฐุบว้ีสเยฐัวี้เยฐัเรรรรรรสีสสขีสสาีสขาข.ดาธัดดัน....าธดันักธัดาม้อนัก2มอ้2ม้อ2ก่วาก่วาก่วาตรตกรบตรรบบกกกบใายนใายในยน.นค.คร.นครร4นรระเน2ราะเน2เ2ราาาทรททใทใูญในญูในญูญัใมนรใญัมรกัญรมรกนมรรร.นเมนเมนนบนบบ1บ่วรว่้ือรเนว่มื้อฉนื้อมาตเมนฉมาฉกากากาลปลปมาียปมาญัยีมาหรห.บญูรหตร.บสีญู.ตบญูตาาค3ือาท3ท3ือรทนแรนแเรแเวารรว่ญับารราับรรบัรเกวรเะเะ/กหะล/หล/หรจลรปาอนปาอปาอยีป3ยีาป3เปต3ัตเเตู้ทะน้ทูตะสนะตนตยท็นยทรยทน็มน็นจัั้งจเิจักัง้กกอ่า่ีา้่า่ีู่รา้่ว่า้าู่รกวศรู่วกศจวกศกจร8จรจ8างทางท่วบางมทว่เิว่ิเย่ีิเนาฎนู้สฎนบุู้สฎบุๆรคบุๆรคๆรคมมสี่มที่สกีส่เวนั้เหังต้นัเหงัตั้นันหตรปนัรนัรกรทิกริทกกาทิาทคททครๆามรๆามรๆาม็นอื่นัือ่รันงันธับธธีเ่วะมี่เะวม่ีเะวาาใกางกใงกิขใกขิเใขิใเรจหเจหจชหยศยศนยพนพนาพน่ยีีย่อี่ยัฐออสกสสกร์้อสร์ึส์รสึกรกส่ือวสื่อสวบ่ืบอวบบอัฐอาัฐอัฐาาูงเูษงูงษาขังคขังขคงัคมาเธรบเสธนรเบธสบสรคคขค้อาขข้อาว้อลววรอืเรเรดุดุกมาุดกกมมตมมงาตมตงารงาแรรแงจศขศาขีรขากามกมกกือมมกือมขกมผผรรอฐัราอราอบัับสาบัสงนาสงอานนัฐในใบนสใงสงงรกรงชกกรงชกงชกงูญูญปูญปปกนากนกบกบกบาป้อาา้อา้อาลราฉรราฉาฉารรรสรรรสารสราาะะระรบแบะปแเบะปเนเุขนะขุนุขลเลจเลจเททลทับลบัทกบัชทกาทาาือือัดอืคัดคคาะาะจาคาจจศคศศกกกกขวกวขวขววชรรรรรตาตตาาอาาทฒัอัฐทัฒอัฐนทฐัออมมั้งรมงั้รัง้งงงี่่ีง่ีงนนเเรรธธียยี รรขกคข2hต1ขก๑ข2ขกตhข1กขขสคก21ปhต1กขนนรรับอม็tอจิวบั้นัอ็มtอิจับา..นั้็มtอจิวน้ั้น..จั...รมtรมttางรบกกีางไบกีกงนคบไนกีกจนpคไนคนpสน้ทูpูท้มลรล“ะรมลร““ารคารรบุารคักรคsกัารs“อักกัาs“า่ีัฐ“่ีัฐส่ฐัแบส่รบ่สรแบรรูเร:รูเ:า5เู:าเ5นัาจเเจเน/บจช/บ/บชุจทชตามรจุทมรุจททตมรรถทรทถรถ//า/9า9าอื่คาียอ่ืินายี่อืกินายียีานิกwาากกwาาส่กwาอสาสกกลลมลัญนมสนมสดนตยนมสดายมดตามรารวมรwวwวwแแแโง่ิศโเรงิ่โวาศ่าิ่งใเุปรศวาศรใปุขาา่ีดใุปีดดียโรยรยตในตwในตใwเงนwเึกชิเงึกชิึกกึยอใโีดใโีใอ่ืดรคงโีด่ือรคงรคงกล่่ลกป่ลนอปนษปอน.อษาษษ.างงค.ียคตียคงตยีรตyงรyรันyะะันะทรกรสทเรกสทรกาาานาาาา่อนoาา่อนาo่ขอoสสไะสฐัระไราวะัน่ีงวาตัปห่ีนางวต่ีนปตปไปรuไรuไป้รuมาฐัมธเรมัฐเีดครเดีรคปีดอปักปอัรกนดอู้ักรดู้รดtู้สtรปtยัธปยัธปัยโีมิโีมีโดuบะ”เuบะด”เuบ็นะ”เังน็ร็นอูอ่รนบอรรนรรนรรรศยังbศสยbยเังมbเตเตรียตระีย(ะีย้ันขะ(ัน้ทข(ั้นขูรนยึกูรือeยกึรูรยeรนeมร่าม่านท่านทนท้า้า้านั้เา่้อษ่า.้นั้เอ่าษ้.งอ.งสงูญเนสเรนcสสเดว้cรสดcสว้ด้วงงรๆงรนๆรนๆนาาาoียียาoงบู่ญูาoรงใูไูบู่ญงรไููบ่ฉียรใไูยีียดดหดรหนปหรปรนปฐัmนนัฐmฐัmทกบศทกทศคกคฉคังะฉังะังะลธคลธลธควเานวบัือเานวเเอืนส/เือบส/เชบส/รโังรังารรงัปราป่าปสw่าส่าwกw้ีดกปาี้พกรี้าพัน้รยีาบพรับยีบัยีบน็น็น็คนามคาคมยaามจัaนฤaมนฤเนฤปเปพพรพเรรญัเารtนัญารญัtกนจtนษษัธรษรcัจจcัจจยีcจแฤโแฤยีโฤโุบูญอ่ืลญูอ่ืยูญอื่ภภhดภhัดดจhดดันจดัษหลษนหลษหงนัม่งาง)า?ย)าต?ย)าุบ?ยตุบตวะรภระรวภรรภรวvศทvvทกทกง้ักนััง้าวอืงั้านัวปันอืานัอื=าา=กึ=รมรลวมรลมวล“วัฒบนัฒทบเทบนีทเOฐัษOฐัOัฐเิฬา่กเพฬิ่าเกิฬ่าใี้ทกมทกี้ทมบกมนบนบวนาวเvว่ียvี่ยเvป.ปปีย่รบฬิ่ียีย่ศบิฬรวบิฬปาวธาCวธาCวกCวีาีวีาวลา่วัญ.ล่า)ลา่ญัร)ัญีรท2)J2กJ2าJกจกจกกใrร2ใrรใrรี่“ญับ5“ญะับ5M“ญห5MะหบัMหบัมับ3ม5รใมใใก3มกม3ตั3มอัตมตัอนLอนL่นLา6าาาเา่ิ5ใ่ะิ5ใl่ิ5ะใlะกงlกรกเพนพGเรพนG0รนGไรไรไรือ่าาาเรเอรรเอร8รเอียรเ88ัยีฐลรลรขรงขข”กฐั”ฐั”จัฐจgจนรgธรนรือgือา้้า้าธนัธรธัดัด่าัด่าร่รา(ถ(รถก(ถกรรัฐรกกง”ตกงตเู้งรตู้เงึึงรตึงรตรธรแรรารแาแา้งัมง้ัไ้งัไไมม่อืมฐังั้รฐั้งัรอ่ืฐัดรลรรดลรดลรนนรธนงปธนปัฐธงปัฐะจ้ัฐะจ้ะจ้กกมูรญรูญรบูญรบูญบรารราราาารรนระว่ะกะ่วากว่ากากรกรกมมมญูทลทมลทมลมจ็ม็จ็จนนนกใว้กใว้กใว้ฉะีสะีสะหญูหญูหญูงันงันงันมบม่วม่วมมมีับนีีน่่่ รร่วว่ ๑รภ-ก31ส2๒รก-ภ12ส3รภก-ส231มมาาจิา่ือิจอ่ื.)))ิจาื่อ.)า)))ทชกทชกชกร/กรก/รว/กวกวกอาอาแPาอะแาาPแะรPะรดีรดีิจดีจิจิรรางรงางoหางoรหงoรหโีกโิีกโีกววณกวาณกมาณมาอมwอwอลwลลรเิริเรเินานนาคคาคาง่รา่งรeง่รeeยรยรย//จ/รเจมรจเมรเมrrเrชอ้เรชอ้รชชอ้รชากัาักเมากัเมยีPนยีวP้ินยีนPวะ้นินเ้นันิ้ะเัน้ะเรรรือือยยยนoลนoหหนoลหหงไหหงไมงไมงางาาททiาทารiาiาร์แลาร์แลnแ์ลnธัวnัธววนู้ยนู้ยนู้ยลังลงัtลงัชยtยช1tช1พพพะะะนมนมนเเเรตฤรตฤรตชฤชศคศคค่ือ่อือ่ืษอษอษอ่วัวั่นึกนึกนงงงบบภบโภภโษรษรรมมครคารักครากัากัาางัฐทงฐัาัฐททาปาปปปปธถธธถถมมมรรรีทีทรราาาิฬะิฬะิฬะรรรม่ี่ีมมชชช3ปม3ปมปมจจจาาา๓นี๓นีนีาาาธ2ธธ22ญูก๕ญูก๕ูญกปิปิปิ555ววว๔๔ไไไ3ดี3ดี3ตดีตตีโีโ5ยโี5ย5ยอออแแแลลละะะ 21. การมเลีสือ่วกนตรั้ง่วมทางการเมอื งของประชาชน สคาวราะมสแาตคกญั ตข่างอกงันรัฐไปธรดรมงั นนั้ญู ฉในบคบั าปบจั เจรียบุ นั วปนั ีนพ้ี .เศรา. จ2ะ5ม6า0เรยี กนันร”เู้ รอ่ื ง 32. การตมรีสวว่ จนสรอ่วบมกทารงใกชาอ้ ราเมนอืางจขรอัฐงประชาชน ขสน้ัารสะอสนาคัญของรัฐธรรมนญู ฉบับปัจจบุ ัน ปี พ.ศ. 2560 กนั ” 354 3543544 43. บกาทรบตัญรวญจตั สเิ อกบย่ี กวการบั ใรชัฐ้อบาานลาจรัฐ 1ข.นั้ นสักอเนรยี นศกึ ษาหนงั สือเรียน ช้นั มัธยมศกึ ษาปีท่ี 3 เร่ือง รัฐธรรมนูญฉบบั 4. บ4ท.1บัญคญวาัตมิเกจ่ยีาเวปก็นบั ใรนฐั กบาารลมีรัฐบาล ป1ัจ. จนบุ กั นัเรียนศึกษาหนังสือเรียน ช้ันมัธยมศึกษาปีท่ี 3 เรื่อง รฐั ธรรมนญู ฉบบั 4.1 ความจาเป็นในการมีรฐั บาล ปัจจุบัน
๓๕๕ แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 59 รัฐธรรมนญู ฉบบั ปจั จุบนั เก่ียวกับการเลือกตง้ั การมีส่วนรว่ มทางการเมือง เวลา 1 ชว่ั โมง หน่วยการเรียนรทู้ ี่ 8 เรื่อง การเมอื งการปกครอง กล่มุ สาระการเรียนรสู้ ังคมศกึ ษา ศาสนาและวัฒนธรรม รายวิชาสังคมศกึ ษา ศาสนาและวัฒนธรรม ชั้นมัธยมศกึ ษาปที ่ี 3 4.2 อานาจหน้าทข่ี องรัฐบาล 2. นกั เรียนทากจิ กรรม เยาวชนคนรักประชาธิปไตย โดยแบ่งกล่มุ ออกเป็น 4.3 บทบาทของรฐั บาลในการบริหาร 5 กลมุ่ จานวนสมาชิกเทา่ ๆกัน เพ่ือทาการศึกษาและอภปิ รายภายในกล่มุ ประเทศ จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ ตามหวั ข้อท่ีจะมอบหมายดังน้ี ด้านความรู้ กลุ่ม 1.การเลอื กตั้ง 1๑). อธบิ ายบทบญั ญัตติ ่างๆ ของรัฐธรรมนูญฉบบั กล่มุ 2. การมสี ว่ นร่วมทางการเมอื งของประชาชน ปจั จุบัน ทีเ่ กยี่ วข้องกับการมสี ่วนรว่ มทางการเมือง กลุ่ม 3. การตรวจสอบการใช้อานาจรัฐ ไดอ้ ย่างถูกต้อง กลมุ่ 4. บทบญั ญัติเกยี่ วกบั รัฐบาล เรอ่ื งความจาเปน็ ในการมี ดา้ นทกั ษะและกระบวนการ 1๑). ระบหุ ลกั การสาคัญของรัฐธรรมนูญฉบบั รัฐบาลและบทบาทของรัฐบาลในการบรหิ ารประเทศไทย ปจั จุบนั ได้อยา่ งถูกต้อง กลมุ่ 5. บทบัญญตั ิเกี่ยวกับรัฐบาล เรอ่ื ง อานาจหน้าท่ีของรัฐบาล 3. นักเรยี นแต่ละกลุ่มคอยตอบคาถาม โดยครจู ะถามคาถามเกย่ี วกบั ดา้ นคณุ ลักษณะ 1๑). นกั เรยี นเหน็ คุณค่าความสาคญั ของรัฐธรรมนญู สาระสาคัญของรัฐธรรมนญู แหง่ ราชอาณาจักรไทย พทุ ธศักราช 2560 ฉบบั ปัจจุบนั กบั การมีส่วนรว่ มทางการเมอื ง ตามหวั ขอ้ ทแ่ี ตล่ ะกลมุ่ ศึกษา เมอ่ื ครูถามคาถามหวั ข้อทเ่ี ก่ียวกับกลมุ่ ของ ตนเอง นักเรียนในกลุ่มน้ันๆจะต้องช่วยกนั ตอบ เพราะร้เู รื่องราวในหวั ข้อ น้นั ๆ ก็ต้องช่วยกนั ตอบ โดยครจู ะแสดงคาถามผ่านโปรแกรม Power Point เร่อื ง รฐั ธรรมนญู ราชอาณาจักรไทยพร้อมการอธบิ ายประกอบ 3545
356 แผนการจดั การเรยี นรู้ท่ี 59 รฐั ธรรมนญู ฉบับปจั จบุ ันเกย่ี วกับการเลือกต้ัง การมสี ่วนร่วมทางการเมอื ง เวลา 1 ชว่ั โมง หน่วยการเรยี นรทู้ ่ี 8 เรอื่ ง การเมืองการปกครอง ชน้ั มัธยมศกึ ษาปีท่ี 3 กลมุ่ สาระการเรียนรสู้ งั คมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม รายวิชาสังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม 4. นกั เรยี นกลุม่ อน่ื ๆ ท่ีไม่ไดโ้ ดนคาถาม ก็จะต้องบันทกึ สาระสาคญั ของเน้ือหา ข้ันสรุป 1. นกั เรยี นสรปุ ความรู้ร่วมกนั ดว้ ยการตอบคาถาม ดังนี้ “ปัจจบุ ัน รัฐธรรมนูญแหง่ ราชอาณาจักรไทย มีกี่ฉบบั ” (20 ฉบบั ) “รัฐธรรมนญู ทีด่ ี ตอ้ งมีลักษณะอย่างไร” (ให้สทิ ธิประชาชนใน ประเทศอย่างเตม็ ที่ มีกฎหมายคุม้ ครองและบทลงโทษอย่างจรงิ จงั ไม่ เอ้อื ประโยชนต์ ่อบคุ คลใกหรือกลมุ่ ใด) - “นักเรยี นคิดว่า รฐั ธรรมนูญมีความสาคัญ หรือไม่ อยา่ งไร” 3546
357 3547 การวดั และประเมนิ ผล ส่ิงท่ตี ้องการวดั /ประเมนิ วิธีการ เคร่อื งมอื ที่ใช้ เกณฑ์ ด้านความรู้ ๑1.) อธิบายบทบัญญัติตา่ งๆ การตอบคาถาม, การทา - คาถาม - ดี ;: อธิบายบทบัญญตั ิ ของรฐั ธรรมนญู ฉบบั ปจั จุบนั กจิ กรรม - วีดีโอ ตา่ งๆ ของรัฐธรรมนูญ ทเี่ ก่ียวข้องกบั การมีส่วนร่วม - กิจกรรม “เยาวชน ฉบับปัจจุบัน ท่เี ก่ียวข้อง ทางการเมอื งได้อย่างถูกต้อง คนรกั ประชาธิปไตย” กบั การมสี ่วนรว่ ม ทางการเมอื งได้อยา่ ง ถกู ต้อง - พอใช้ ;: อธิบาย บทบัญญตั ติ า่ งๆ ของ รัฐธรรมนญู ฉบับปจั จุบนั ทเี่ ก่ยี วข้องกับการมสี ่วน รว่ มทางการเมอื งได้ - ปรบั ปรงุ :; ไม่สามารถ อธบิ ายบทบัญญัตติ า่ งๆ ของรัฐธรรมนูญฉบบั ปัจจุบัน ทเี่ กี่ยวข้องกบั การมสี ่วนรว่ มทางการ เกมาือรงเมไดือ้ งได้ ด้านทักษะ/กระบวนการ ๑1.) ระบุหลักการสาคัญของ การตอบคาถาม คาถาม - ดี ;: ระบหุ ลักการสาคญั รัฐธรรมนูญฉบับ ของรฐั ธรรมนญู ฉบบั ปัจจบุ นั ได้อย่างถูกต้อง ปัจจบุ ันได้อย่างน้อย 3 ข้อ - พอใช้ ;: ระบหุ ลกั การ สาคัญของรัฐธรรมนูญ ฉบับปัจจุบนั ได้อย่าง นอ้ ย 1 ขอ้ - ปรบั ปรงุ :; ไมส่ ามารถ ระบุหลักการสาคญั ของ รัฐธรรมนญู ฉบบั ปัจจุบันไดเ้ ลย ด้านคุณลักษณะ ๑1.) นกั เรียนเหน็ คุณคา่ การตอบคาถาม คาถาม - ดี ;: อภิปรายคุณค่า ความสาคญั ของรฐั ธรรมนญู ความสาคัญของ ฉบบั ปัจจบุ นั กบั การมสี ว่ นรว่ ม รฐั ธรรมนญู ฉบับปัจจบุ นั ทางการเมอื ง กบั การมสี ว่ นร่วม ทางการเมืองได้อย่างมี
358 3548 สง่ิ ท่ีต้องการวดั /ประเมิน วิธีการ เครือ่ งมอื ท่ใี ช้ เกณฑ์ เหตผุ ล - พอใช้ ;: อภปิ ราย คณุ ค่าความสาคัญของ รฐั ธรรมนญู ฉบับปจั จุบนั กบั การมีส่วนร่วม ทางการเมืองได้ - ปรบั ปรุง :; ไม่สามารถ อภิปรายคณุ คา่ ความสาคัญของ รฐั ธรรมนญู ฉบบั ปัจจบุ ัน กับการมสี ่วนรว่ ม ทางการเมืองได้ 8. บนั ทกึ ผลหลังสอน ผลการเรยี นรู้ ............................................................................................................................. ................................................ ปญั หาและอปุ สรรค ............................................................................................................................. ............................................. ข้อเสนอแนะและแนวทางแกไ้ ข ................................................................................................................................................ ........................... ลงช่อื ......................................ผูส้ อน (.......................................................) วนั ที่..........เดือน..........พ.ศ............. ความคดิ เหน็ /ขอ้ เสนอแนะของผู้บริหารหรือผู้ทไ่ี ดร้ บั มอบหมาย ......................................................................................................................................................... .................. ลงชอ่ื ......................................ผูต้ รวจ (.......................................................) วนั ที่..........เดือน..........พ.ศ...........
กลมุ่ สาระการเรยี นรู้สังคมศกึ ษา ศาสนาและวฒั นธรรม รายวิชาสังคมศกึ ษา ศาสนาและวัฒนธรรม ชน้ั มัธยมศกึ ษาปีท่ี 3 ๓๕๙ อตสไกปมกปกหไตสอขกปปมกปสตไอกมกหขทททุป้าาปุล้าาาีัวาีวัุปา้อลรราีรรัญนัวนอตตต1ยยรวยวรรวระะะะรชมุ่ชสบชสุ่มสว่งก่วกกหาาททหาหแแะหะสแสะชเส.ชเเรไี้วรวี้สรี้วสยเยาาททามมทมาสสลลทสุจลุจนขนาานรรรรดัดัารัดรการก22ท2บบศศบศธาธะาะรรคาะคะยคต้า้าา้ททรทราา.เี่น.นคิปิตคิปิตทท.เนเคทเไไบตไตตะเ22ะ2ป่ปีรปี่สสีป่รสปปปนัญั้ญัน้ัไไญับนั้บกบ่อ่อบกอ่เเนกนกน็นรรตรตออรอ้ือรมมยยมายากากาากอะะาะออออยยยียยียยหทรทััง.งท.รัง.าาารุปรชชช33แ3แปุแแแนา่า่ไนไเ่าไเรรรขาขรรขาาราถมมรมนนงลงลน//งส/พพรพรัฐฐัออธธอธีย4ยี4ททมั4ทต่่ตต่ะวะวรทู้วทู้ปปัฒฒัิิปฒังงปิงนนภ่ีคี่รคทรทรยยี่ครที่พพ่ีพรรววไไวไะะนนรคะ8นรังว8งัว์วาาาตตะตะเิิเลลเิลสู้หมหมู้สหรรตางรคางคางคหยหยยเเเเแแปงัเปีปแีปนปงัน่อนรรมมรมรใเใเรใาเาคคกกกนานารนนรนาญักัญัักรนกกือืออื่อืรอื่ระะม้ไ้ะไะะม้ไะอ่ื่อืาถป่ือถปถปงงงงงหหขขขหหททหชชชศรศดดงงดงึงึงงึรรราากพากามป์ม์ป่ีหทาี่หทมป์ึกหใีใีกึใะะะกกธธนนธานาาาัฒรารษนานาเรเษนเาาิปิปรททิปรทจจรรจะะใรใะา้า้า้ารรานเหหเะะไไาาศะศเไเาศเทมททมซซดตดตดตากกบบ้ปกป้บศไศไไอืที่้อื่ทีอือื้ที่ปน็ยน็ยทท็นยทปปปออรารอางสสงี่ตีต่ี่ตขขรขยยะะยสรรบบสรบกกปปปิททินะนอนออะชไะชไะไนนาาัญญัมมชัญธธมงเงเงเชชาชารราออาอิปขิปขา่ปไ่ไ่ไธธาาแหปหาแหปแดดงงดงธาาปิรปิรขขรขผผากาคคากลคล้้ิปย้ยะะะนนนไไทททนคนววควะะเเตตเไเเใใสใส่ีเทรเี่ทรเี่ทรตรวกรวกนยนยปนปปจจียยีจออัฒยศศาัฒศาน็็นน็ะะงงะงงรรนนจจธธดััดรร(เ2ป(ตh1กข(อ1ขเ2ป(ตhขก1๑(2ตhขก1กกกลกลรรกลรรtออจิtอิจ้ันนั้้ันtอจิรร..นั้....าียียา่าา่าา่ามttมtะะบกกบกบกคนรนคนนสนคนpรpนชรชรนpนชร““ชช“เเรรคเรครรรรครักอรกััก้าsา้sากัา้าsกกปรรใใใาารร“ัฐ“รฐัเูเู:“:ัฐูเ:าาาเเเนเนันียนั//นียช/ชช็เธเธมเมรรรมปรปจจปถจถรถร//สส/สนกกในอ่ืใื่อปิกิปยีือ่ียียยีกากwาwากาwาารารารนนยียียี7าามมรานนนมรไกนไกกยมะะายมาะากwกwเเกwรตรตรทู้้ทูโ2โโวศวทศรรหวรหศวรใรใหวใก1รรรยรยรรยยยนนwwนดี่ีดีwเเ่อืื่อดี่ีเกึกึ.ชิึกาชิาาฐััฐะะัฐละรรง6งรปง6.ขขปปโีีโงปงกโีรษรษรษ..าป.ปาบคบคปยียีบค่มุยีออyyรออyร00ิจรรสรสาาาปาปรนรนาววรขนoขะoวขะoทททงงะะะกคววัวงตตะัะงตะนนนบปญัปัญออชรuรuอรuน่ี่นีีน่เเเดีีดครีดคลเหหออเหอดดูู้้กดกู้งงากtบรงtรtรรกัหักหรกัีโีโมีโะมuบuบพuบพาาชพน็าน็ะาะาน็าื่อออ่ืออมอเเเาาครศรรbศbรรbเนรรเเรเเลรลตตลตงงปุกกขขททขวตตววยีตึกยีวeeยีกึปeเขเ่า่เทาท่าทาถา้้า้ออปศศินอินป้นิ้อนน้อษ..นษ.งงรางรราcาสcสามcสัมกกไไกๆๆางัญางๆางญัดดะดดาพพใใาooใo่บูทู่บทู่บสภยยททปยปทปหหดดหชดคูไูไูไmmัฒัหฒmหทยาทยทศกกป์ปศกปีรีรรรัีงัรางร้้กักงว้กมาไไาเเเัฐเนะัฐนะเเนธัฐนาะ//า/าาามลมรลรลรเเกาเกwสปwปยิปยwสปยมี้้ีรราี้ารปปปียียียกิิกพ่่พริกาาุทนทุพพปปุทรนรพไรรaaaนน็นน็ถน็นรรรรฒััฒรตะะู้ะธธารtฒัรธtฒัาtัฒฐััฐัฐเเพเพยccหหcห์์จแะระรโ์โแรนนโธธธจจนนจนhhดดhเดัฒอ่ือ่ืัฒช่ือาชาาลาลรราารบนัันันาา?ย?ยาเ?รยกรเงรงาางรรนะนระนวนวิกvvปปvปททรรกทกรธกธนมมมวว้นั้นั222ล==าล=บาาาารริปิปลรลรรลรน้ันนัฒนัฒปมมววปา2e2วeา2ะeะาะ์โโ์์โ่า่าไา่ไจูญูญูญเอเอเอหีหีนXชXนตชตรXชนวรวพพวพกกก11บัชชะช)ะ)าวาวลยลย)SาวSธSธ.่ีย.่ยี.ีย่โสคคชาธาคธช่าาา่ธา่pแpาแารpรชดชววว))ลิป)ปิ..ปิย.ายราลลรQQQก2ก2กยั่ว2““่ัว“าธมไสธไสมไะะับับใกโกับvvกโ55vต5ตกตปิปิาาหแมแม88าาอ8อาอยยห5ย55เเไนนไ้นงรงรหรห1ะะ1ะ1เเต1เตัว777กกปวปวกปักgไไตตไขยggยgทรทรรรรรvน็น็เ็นุุvvเเvอ้เแแร”ะ”ะ”ะใใwขขาชาขชออwอwwียนนลลทททงงา้า้า้ด้ันัน้ยยยนแวแะวะถถาาถาัง่าแ่าแม่าแมนัแันจกกแทททึงึงงึนงงงลลลัธัธนับไไ้นไ้นไนไี่สไี่สี่สไ้ดะดะขขยดะยรรรกวเ้ี้เีง่วง่ง่รรจ้ร้จรมจ้””ม”ผผผลทท่วว่่วาาาาาศศลลลุม่ามมจาจมกกกึกกึใใใงงะะกกกหหหษษแแมมันันนั ้้้กากาาาป้ไป้ไขขีทีทเ21สป--ภ2ว๑21เส-ปว2ภ-เ12สภ2-วปี่ี่ รรร3ดี3ีดดีื่อ่อืราอื่ราเเ)5).)5)ารเ5)าาารรกกรกโีโีะะีโรระ//ร/กกก555ยีอยีอยีอาาแแาววะแะชวชะชจิจิิจงงแ7รแ7รงแ7รดีดีงงีดหงหาาหากกคคกควววลลาาลาธโีธีโธโีลลลรรเิเิวรวอเิอวอนนะะนิปะปิิปคคค่ง่งรรง่ราาากกก///ไไไรเรเมวรมเวมมวมมชชตตรรชจิติจริจาาานินิินียียียยยนิ้้ินกกยะิ้นปะกปะปเเเาาารรรนนนชชหรหชรหรงงรงรรทททือ่ื่อือ่รรว่รว่ารารว่าะระแ์ะแ์์แีรรีรีงงงมมมยู้นยู้นยู้นชชชลลลัฐฐัฐั สสสกกาากาะะปปะปรธรธรธาาาตตตรรรา้้าปิิปา้รริปรออะะอะงงงปปปไไไหบหบหบคคคตตตกกกาาคควาวควยยยคคครรราาาาาาเเเรรรมมบบถมถบถ222อออสสาาิสิกากิก22งง2งมมมุขุขุขบบบรรร๓พพพจจจตตตะาะาะาา๕า..า.่อ่อนนอ่บนบบคคคกกกตต๙ตอออ...ัววัวับบบ กป้าร2วะห.ชนาปธา้รปิ ะไชตายชแนลขะายดังคมวปี าัญมรหู้ าการซ้อื สทิ ธิขายเสยี ง ข1อเขปรอ้นั.ั้นรยี กะนสสนชเอักอกปาเนนันน็ธรใยีิปน7นไเต43ทรกยือ่..าลกรขกงมุ่ะาอิจบปรงกคไบปญั มรลอรรห่กะะามลคาเวกทา้วปุโแาาสศรรมสไะพทสดชัฒางยาคมไธนมวาิปาราพ่ ไปมถตัฒรคยจะนดิเาชบาเกาหนกิ นธ็นนั้บิป้ันขมาไจอนีหตบั งลยโปสแาดลรยลยะาสะใกชหาแหาเ้นหชัวัวกนตขทเุอ้รใาียนงดนแวังจันกนบั้นไี้ ขกเี้ รลามุ่ จะมา ปขกกอ้าาัญ34รวบหทห..เาขุจนกรทระต้าา่ีเติบรเปนไบน็กมื้ออาอ่กหารุปลาวร้าสโุฐั แสรปสรรคดะตงหคอ่ าวกราามทรคพี่ทดิัฒาเใหนห็นา้ปปขรรอะะงชชปาารธธะิปิปชไไตาตชยยน 1. นักเรียนท1า.กรจิ ะกบรบรอมุปปถรัมะภช์ าธิปไตยเบกิ บาน โดยให้นักเรียนจบั กล่มุ 359 359 3549 ขอบงไเทขยตเนอื้ หา ออกเป็น 734223ก1.....ลปรกปร. ะุ่มะารรรบรบะะะคไชบบบชมลาาอบอ่กะชชาาอลคนนววปุา้วุโุโขขแถสาสาาสมัมดดดสภคคงา์ววคมาาวามมารรรมถูู้้ คจิดาเกหนน็ นั้ ขจอับงปสรละาชกาหชวั นขอ้ ดงั น้ี ปญั 1ห. ารทะเี่บปบ็นออปุ ุปถสัมรภรค์ ตอ่ การพัฒนาประชาธปิ ไตย ขอ2ง.ไทปยระชาชนขาดความรู้ 31. ระบบอาุปวถุโัมสภ์ 42. กปารระไชมา่กชลน้าขแาสดดคงวคาวมารมู้ คิดเห็นของประชาชน 3. ระบบอาวุโส 4. การไม่กลา้ แสดงความคิดเหน็ ของประชาชน 4.การไม่กลา้ แสดงความคดิ เห็นของประชาชน
๓๖๐ ๓๖๐ แผนการจดั การเรยี นรู้ที่ 60 เร่ือง ปัญหาการพัฒนาประชาธิปไตยและแนวทางแก้ไข หนว่ ยการเรียนรทู้ ่ี 8 เร่อื ง การเมอื งการแปผกนคกราอรงจัดการเรียนรู้ที่ 60 เรอื่ ง ปญั หาการพฒั เนวาลปาร1ะชชา่ัวธโปิ มไงตยและแนวทางแก้ไข หกนล่วมุ ยสกาารระเกรายี รนเรยีทู้ น่ี 8รูส้ เงัรคือ่ มงศกึกาษรเามอืศงากสานราปแกลคะรวอฒั งนธรรม รายวิชาสังคมศกึ ษา ศาสนาแลเวะลวัฒา น1ธชรวั่รมโมง ชน้ั มัธยมศกึ ษาปีที่ 3 กล่มุ5ส. าปรัญะกหาารทเารงยี ดน้ารนู้สเศงั ครษมฐศกึกจิษา ศาสนาและวฒั นธรรม รายว5ิช.ปาญัสังหคามทศาึกงดษ้าานศเศารสษนฐากแจิ ละวัฒนธรรม ชนั้ มัธยมศกึ ษาปีท่ี 3 56.. ปปญั ญั หหาาทคาวงาดม้าแนตเกศแรษยกฐกทิจางการเมอื ง ในสงั คม 56..ปปญั ญั หหาาทคาวงาดมา้ แนตเกศแรษยกฐกทจิางการเมอื ง ในสงั คมประชาธปิ ไตย ป6ระ. ชปาัญธิปหไาตคยวามแตกแยกทางการเมือง ในสงั คม ปร7ะช. าปธัญิปหไตายการนาเสนอขา่ วสารทไี่ ม่เปน็ กลาง 67.ป. ญัปญัหาหคาวกาามรแนตากเสแนยอกขทา่ าวงสกาารรทเมี่ไมอื ่เงปใ็นนกสลังาคงมขปอรงะสชือ่ าธิปไตย ขอ7ง.สปื่อญั หาการนาเสนอข่าวสารที่ไม่เปน็ กลาง 2. จากน้ันใ7ห.น้ ปักญัเรหียานกรา่วรมนกานั เสวเินคอรขา่าะวหส์ อารภทปิ ี่ไรมาเ่ ยปภ็นากยลใานงกขลอ่มุ งสใื่อนหวั ข้อที่ ขแอนงวสทอ่ื าแงนแวกท้ไขาปงแัญกหไ้ ขาปเพญั ่ือหกาาเรพพอ่ื ฒักานราพปฒั รนะชาาธปิ ไตย 2ได. ้รจบั ากตนา้ันมใปหร้นะักเดเรน็ ยี ดนังรต่ว่อมไกปนั นวี้ ิเคราะห์ อภิปรายภายในกลมุ่ ในหัวขอ้ ที่ แปขนรอวะงทชไาทงธยแปิ กไต้ไขยปขัญองหไทาเยพื่อการพฒั นาประชาธปิ ไตย ได้รับ ต- าอมธปิบราะยเสดภ็นาดพังหต่อรือไปลนกั ้ีษณะของปญั หา ของ๑ไ1ท..)ยปลกู ฝังคา่ นิยมเก่ยี วกับประชาธปิ ไตย ใหก้ 1ับ.เปยาลวกู ชฝนงั ค่านยิ มเกีย่ วกับประชาธิปไตย - อทธาิบไมาย/เสพภราาพะหเหรตอื ใุลดกั จษึงณเปะน็ขอองปุ สัญรหรคาต่อการพฒั นาประชาธปิ ไตย - ทาขไมอ/งเไพทรยาะเหตใุ ด จึงเปน็ อุปสรรคต่อการพฒั นาประชาธปิ ไตย ให้ก๒ับ2.เ.)ยปารวะชชนาชนท่ัวไปตอ้ งปฏิบตั ติ นตามหน้าที่ - แนขวอทงไาทงยการแก้ไขปญั หาและการพัฒนา พลเ2ม.อื ปงทระ่ีรัฐชธารชรนมทนวั่ ญู ไปไดต้กอางหปนฏดิบไัตวติ ้ นตามหน้าท่ี 3. นกั -เแรียนนวทแตางล่ กะากรลแ่มุ กส้ไขง่ ตปวั ัญแหทานแอลอะกกมาารนพาฒั เสนนาอขอ้ มูลท่ไี ด้จากการ พจลดุ เปมรอื ะงสทงีร่ คฐั ์กธรารมเรนียญู นไรดู้ ้กาหนดไว้ 3อ.ภนิปักรเารยยี ภนาแยตใล่นะกกลลุม่ มุ่ พสรง่ ต้อัวมแทท้ังนสรอปุ อแกนมวาคนิอาเกสานรอแขก้อไขมปลู ญัที่ไหดา้จใานกฐกาานระ จดดุ ้าปนรคะวสางมคร์กู้ ารเรียนรู้ กอภภาาริปคอรภาัฐปิย/ภรปารยะภใชนาายกชใลนุ่ม/กสพลอื่ มุ่รม้อพวมลรทข้อ้ังนมสทรจุป้งั ะสแทรนาปุ วหแคนนิอา้ วกทคา่ีอิดรยแก่ากางร้ไไขแรปกไ้ญั ขหปาัญใหนาฐาในฐะานะ ด๑1้า.)นอคธวิบาามยรปู้ ระเด็นปัญหาท่เี ป็นอุปสรรคต่อการ ภาขค้ันรสฐั /รปุ ประชาชน/สอ่ื มวลขน จะทาหนา้ ท่ีอย่างไร 1๑พ).ฒั อธนบิาปายรปะชระาธเดิปน็ ไตปยัญขหอางทปเ่ี รปะ็นเทอศปุ ไสทรยรไคดต้ออ่ ยกา่ างร 1ข. นั้ นสกั รเรุปียนสรปุ ความรรู้ ว่ มกนั ดว้ ยการตอบคาถาม ดังน้ี พถัฒกู ตน้อางประชาธิปไตยของประเทศไทยได้อย่าง 1. น“ักเพเรรียานะสเหรตุปุใคดวาปมรระ้รู ช่วามธกิปนั ไตดยว้ ยในกปารตะอเทบศคไาทถยาจมงึ พดัฒงนน้ี าล่าช้า” ถดูกา้ นต้อทงกั ษะและกระบวนการ (ปร“ะเชพารชานะเขหาตดใุ คดวาปมรระู้ชมาธีกิปาไรตรยัฐปในรปะรหะาเรทกศาไทรทยจุ รงึ พิตฒั กนาราซลอ้ื่าชสิทา้ ”ธิขายเสยี ง) ด้า1๑น). ทวิเกั คษระาแะหละ์ปกรระะเดบ็นวปนัญกาหราทเ่ี ปน็ อุปสรรคต่อการ (ประ“ชสาชเหนตขุทาดี่สคาควาญั มขรอู้ งมปีกัญาหรราัฐคปอืรอะะหไารร”การทจุ ริต การซื้อสทิ ธขิ ายเสยี ง) ๑1พ.) วฒั เิ คนราาปะรหะ์ปชารธะปิเดไน็ตปยขัญอหงาปทร่เีะปเน็ทอศุปไทสยรพรคร้อตม่อทกา้ังร ““สนาักเหเรตยี ุทน่ีสคาิดควัญ่าขกอางรปศัญึกษหาปคัญอื หอาะกไรา”รพฒั นาประชาธปิ ไตยน้ันมี พฒั นาประชาธปิ ไตยของประเทศไทยพร้อมท้ัง คว“ามนสักาเรคียญั นอคยดิ า่ วง่าไรก”ารศึกษาปัญหาการพฒั นาประชาธิปไตยน้ันมี ความสาคัญอยา่ งไร” 3603560
๓๖๑ แผนการจัดการเรยี นรู้ท่ี 60 เรอ่ื ง ปญั หาการพัฒนาประชาธปิ ไตยและแนวทางแก้ไข หน่วยการเรยี นรทู้ ี่ 8 เรอ่ื ง การเมืองการปกครอง เวลา 1 ชว่ั โมง กลุ่มสาระการเรยี นรสู้ งั คมศึกษา ศาสนาและวฒั นธรรม รายวิชาสังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม ชั้นมัธยมศึกษาปีท่ี 3 นาเสนอแนวทางแก้ไขปัญหาในการพัฒนา ๒2. ใหน้ กั เรรยี ยี นนเเขขยี ียนนแเสรยีดงความคเดิรเื่อหงน็ กเารรอ่ื ปงกกคารรอปงกรคะรบอองบระปบระอชปารธะปิชไาตธยปิ ชไตว่ ย ประชาธิปไตยของประเทศไทย ชสว่รา้ยงสครวา้ างมคสวาขุ มตส่อุขตตัวอ่เรตาัวสเรง่ าใน๒ช่ัวปโรมะงเเดร็นยี นสถ่งัดในไปช่วั โมงเรียนถดั ไป ดา้ นคณุ ลกั ษณะ 1) ตระหนกั ถงึ ปญั หาที่เปน็ อุปสรรคตอ่ การ พัฒนาประชาธิปไตยของประเทศไทยในการ สง่ ผลตอ่ การดาเนินชีวติ 3561
362 3562 การวัดและประเมินผล วิธกี าร เคร่ืองมือทีใ่ ช้ เกณฑ์ ส่ิงทตี่ ้องการวัด/ประเมนิ การตอบคาถาม, การ กทารกทิจำ�กกริจรกมรรม - คาถาม - ดี ;: อธิบายประเดน็ ด้านความรู้ - วดี ีโอ ปญั หาทเี่ ปน็ อุปสรรคตอ่ ๑1.) อธิบายประเด็นปัญหาท่ี - กิจกรรม การพัฒนา เป็นอปุ สรรคต่อการพฒั นา “ประชาธปิ ไตยเบิก ประชาธิปไตยของ ประชาธิปไตยของประเทศ บาน” ประเทศไทยได้อย่าง ไทยได้อย่างถูกต้อง ถกู ต้อง - พอใช้ :; อธบิ าย ดา้ นทักษะ/กระบวนการ ประเด็นปัญหาทีเ่ ปน็ ๑1.) วิเคราะหป์ ระเดน็ ปัญหาท่ี การตอบคาถาม อุปสรรคตอ่ การพัฒนา เปน็ อปุ สรรคต่อการพฒั นา ประชาธิปไตยของ ประชาธปิ ไตยของประเทศ ประเทศไทยได้ ไทยพร้อมทั้งนาเสนอแนว - ปรบั ปรุง ;: ไม่สามารถ ทางแก้ไขปัญหาในการ อธิบายประเด็นปัญหาที่ พฒั นาประชาธิปไตยของ เป็นอุปสรรคต่อการ ประเทศไทย พัฒนาประชาธิปไตย ของประเทศไทยได้ - คาถาม - ดี ;: วเิ คราะหป์ ระเด็น ปญั หาที่เปน็ อปุ สรรคตอ่ การพฒั นา ประชาธิปไตยของ ประเทศไทยพร้อมทงั้ นาเสนอแนวทางแก้ไข ปัญหาในการพัฒนา ประชาธิปไตยของ ประเทศไทยได้อยา่ ง น้อย 2 ประเดน็ - พอใช้ :; วเิ คราะห์ ประเด็นปัญหาท่ีเป็น อปุ สรรคต่อการพัฒนา ประชาธิปไตยของ ประเทศไทยพรอ้ มทง้ั นาเสนอแนวทางแก้ไข ปัญหาในการพฒั นา ประชาธิปไตยของ
3563 363 ส่ิงท่ีต้องการวัด/ประเมิน วิธกี าร เคร่อื งมือท่ใี ช้ เกณฑ์ ประเทศไทยได้อยา่ ง ด้านคณุ ลักษณะ นอ้ ย 1 ประเด็น 1๑). ตระหนกั ถึงปัญหาท่เี ปน็ - ปรับปรุง :; ไมส่ ามารถ อปุ สรรคตอ่ การพฒั นา วเิ คราะห์ประเด็นปญั หา ประชาธปิ ไตยของประเทศ ที่เปน็ อปุ สรรคต่อการ ไทยในการส่งผลต่อการ พัฒนาประชาธิปไตย กดารเนดนิ�ำ เชนวี ินิตชวี ิต ของประเทศไทยพร้อม ทั้งนาเสนอแนว ทางแก้ไขปัญหาในการ พัฒนาประชาธปิ ไตย ของประเทศไทยได้เลย การตอบคาถาม - คาถาม - ดี ;: วเิ คราะห์ - เรยี งความ เรือ่ ง ความสาคญั ของปัญหาท่ี กเราอ่ื รงปกการคปรกอคงรอะงรบะอบบอบ เปน็ อุปสรรคต่อการ ประชาธปิ ไตยชว่ ว่ ยย พัฒนาประชาธปิ ไตย สรา้ งความสขุ ตตอ่ ่อตตวั ัวเรา ของประเทศไทยในการ เรา สง่ ผลตอ่ การดาเนินชวี ติ ได้อย่างมีเหตุผล - พอใช้ :; วเิ คราะห์ ความสาคัญของปัญหาท่ี เปน็ อปุ สรรคต่อการ พัฒนาประชาธปิ ไตย ของประเทศไทยในการ สง่ ผลตอ่ การดาเนินชีวติ ได้ - ปรับปรุง ;: ไม่สามารถ วิเคราะหค์ วามสาคญั ของปัญหาทีเ่ ปน็ อปุ สรรคตอ่ การพัฒนา ประชาธิปไตยของ ประเทศไทยในการ สง่ ผลต่อการดาเนินชีวิต ไดเ้ ลย
3564 364 8. บนั ทกึ ผลหลังสอน ผลการเรยี นรู้ ............................................................................................................................. ................................................ ปญั หาและอุปสรรค .................................................................................................................................................... ...................... ข้อเสนอแนะและแนวทางแกไ้ ข ........................................................................................................................................................................... ลงช่อื ......................................ผู้สอน (.......................................................) วนั ท่ี..........เดอื น..........พ.ศ............ ความคดิ เหน็ /ข้อเสนอแนะของผ้บู ริหารหรือผู้ทไี่ ด้รบั มอบหมาย ........................................................................................................................................................................... ลงชื่อ ......................................ผู้ตรวจ (.......................................................)
on Historical Writing. pp. 1-24. Cambridge: Polity Press. Collingwood, R. G. (1982). The Idea of History. 21st ed. London: Oxford University Press. Dissanayake, Wimal. 1987. in Kincaid, D. Lawrence. (ed). Communication theory: Eastern๓a๖n๕d 3565 western perspective. NY: Academic Press, INC., pp. 151-160 Tosh, John. (2002). The Pursuit of Hisบtรoรrณy.า3นrุกdร. มLondon: Longman. กวCDBิทuรoisมrยlsklวa์ienวิชngิศาaPwกทyแศคoeาoaเลรึกntวรekoงั้ะษทeทHrdวกา.,ยี่iัฒ,รต1s(W์.1ะtRาน.oเทม.i9กสธmrรGหiรรถ9cวaุง.ลรียaง1เl(มกัlทรศ.1)สพWพกึ1.ช9ตู ษงั้นOฯ98rรษiาม8vtม2:ธ์iัeธn7ัธวโ)ิกยr.รgยร.tามง.Tรมuรiพnศphณrศ.eมิึกpeกึ(Kป.2พษ.ษiIกnTd51ค์าา.cheปุร4ต-aณe2สุaีทอ6idภ4รน่ีNo)1,.าง.ปfeกล-คDCล6wHาา์.aาเรดiตLsmสยHจพtaา็งัดoibพรwมปsสrา้trหุทyรrioาวde.ะลธรr.gny2ชศักะec:าักก1ส:eI.ราูตtsP.sรหาtรo(ชเกนePeรlidายีั2aงdtรyส)นs.5.ศtือรLP2Cึกู้aเorกรo4ษennียลmsาdd(นมุ่sขฉmo.iสส้ันบtnsัางuพับ:รคnF้ืนปOะมiucฐกรxศtaับาาfuึกotนรปriษเroeรรdพาn.งุียุทUIนรnพtธhาnร.ศยศNeู้ivสักว.oeeังร2ิชrwrคาyาs5มช:iPt3สศEy2e3aกึ 4r5Psษ)s.tr04pาeeพ1e4srิมศncs.สาพ.tพiaสังv์คิมnคนeรพdมาs้ัง์ ทw่ีe5st:eบrรnษิ pทั erอsกั pษeรcเtจivรeิญ.ทNัศYน: ์Aอcจaทd.eจmากicัดP. ress, INC., pp. 151-160 ทToินsพhัน, ธJoุ์ นhาnค. ะ(2ต0ะ.0ห2น).ังTสhือeเรPียuนrสsัuงคitมoศfึกHษisาtoราryย.ว3ิชrาd.สL0o3n1doกnา:รLปoกnคgรmองaขnอ. งไทย ระดับมัธยมศึกษา ตอน กรมวิชากปาลรายกหระลทกั รสวูตงรศมึกัธษยามธศกิ ึกาษร.าต(2อ5น4ป6ลา).ยกพารุทจธัดศสกั ารราะชก2าร5เร2ีย4นร(ฉู้ กบลับุม่ ปสราบั รปะรกุงารพเร.ศยี .น2ร5ู้ ส3ัง3ค)ม. ศพึกิมษพา์ คศราง้ั สทนี่ 8า :แบลระิษวัฒทนอธกั รษรรมเจชรั้นิญมทัธัศยนม์ศอึกจษทา.ปจีทาก่ี 1ดั -.6 ตามหลักสูตรการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2544. พิมพ์ ธีระ นชุ เปครี่ยง้ัมท.ี่ (12.5ก5รงุ2เท).พปฯระ:วโัตรศิงพาสมิ ตพรค์ ร์ รุ บั สุ ใภชา้ใลคารด. พในร้าปวร.ะวัตศิ าสตร์ในมติ ิวัฒนธรรมศึกษา ยกเครื่องวัฒนธรรม วิทย์ วิศทศเกึ วษทาย.์.บเรสรถณียารธพิกงาษร์ โวดรยรณสุวปรกร.ณณารเงกคร์ียเงสไ็งกปรรเพะ็ชรา์. หน้าังส1ือ0เร-ี7ยน8ส. ังกครมุงเศทึกพษฯา: ศราูนยยว์มิชาานษุสย4ว0ิท1ยาสสังิรคิธมร (ศอึกงษคา์กตาารมหลาชกั นส)ูต.ร(มเอัธกยสมาศรกึ วษชิ าตกาอรนลปาลดาับยทพี่ 8ทุ 2ธ)ศักราช 2524 (ฉบับปรับปรุง พ.ศ. 2533). พิมพ์คร้ัง นชพทธรีนธิิรนะิะ.พเไอนันตียุชรธวเป์ุ ปเ:ทปศนปิฎบย่ีลี่รา5็นกรวีมาคเิษงย.:กะเศหัทลบ(าต2์.่มละระอ(5เักษิท2.ปกั 5ส่ีัทห5ษ็น๑ูต2น4รทอ๙ร)เัง5.ักี่พมจสพปษัธ)ึ่งรื.อ)ยรญิรร.วเะะมเรทพจ่าสวศียดรัศรตัุตกึนิญ้วะนศิตษสยไ์ทาันตาอักงสศัตตรคจาตนปอปรทมร์ฎินเฎิศ.ร์อมกปกบัจึกจือฉลาษใทงเชบกาขล.าย้ใัดบัอ่มจคร.สงทาพราปยก.่ีทุย๑ารัดใวธมะน.๑ิชศวรกัปาััฐตสร.ริศงัสาะยาช0วสุตัต2ต3ติศรน51า์แิก2สกลา4ตาะยรรค(ใ์ปมฉวนหกบามมคาับิตทวรปิวาอรรฒัรงงบั วจขนปราอธรร.รงคุงพรไทมพิมเจยศพ.ศลึก์คร.สษระ2ตู า้ังด5รทับย3(่ี กมว23่าเัธ.ค)ดย.กรว้พมร่อื ยิมศุงงกเพึวกทาัฒษ์รพคมานฯรีธธง้ัต:รรทมอรร่ี ตน8มมิ พระไตรปศิฎึกษกาเ.ลบ่มรทร่ี ณ๒า๐ธิกพารระโดสยุตตสันุวตรรปณิฎากเเกลร่มียทงไ่ี ก๑ร2เพอ็ชังรค์.ุตหตนร้าน1ิกา0ย-7เอ8ก. -กทรุกุงเ-ทตพิกนฯ:ิบศาูนตยท์มุกานนิบษุ ายตวทิ อยังาคสุติรติธรร น(อิกงาคยก์ าปรฐมมหปาัณชนณ)า. ส(เกอ์.กพสราะรวไติชราปกิฎารกลฉาบดบั ับสทย่ี า8ม2ร)ฐั . พนธิริะเไอตียรวปศิฎรกีวงเศล์.่ม(2ท่ี5๒4๕5)พ. รวะ่าสดุต้วยตกันาตรปเมิฎือกงขเลอ่มงทป่ีร๑ะว๗ัตขิศุทาสทตกรน์แิกลาะยควขาุทมททกรปงจาาฐ.ะพ-ธิมรพรม์ครบ้ังทท-่ีอ2ุท.ากนร-ุงอเิตทิวพุตฯต: กมะต-ิ ชมนตชิ. น. สตุ ตนิบาต คาถาธรรมบท อัตตวรรคที่ ๑๒. พระไตรปิฎกฉบับสยามรัฐ. พระไตรปิฎก เลม่ ที่ ๑๗ พระ พระไตรปสฎิ ตุ กตันเลตม่ปทิฎ่ี ก๑๙เลม่พทร่ีะ๙สุตสตังันยุตตตปนิฎิกกาเยล่มขทันี่ธ๑ว๑ารวสรังรยคุตตอนัติกตาทยีปมวรหราควทารี่ ๕วรอรัตคตเทจลปี สสตููตรร.(วพ่ารดะ้วไยตกรปารฎิ มกีธฉรบรับม สเปยน็ าเมกราฐั ะ.เปน็ ทพี่ ึง่ ). พระไตรปฎิ กฉบบั สยามรัฐ. มพนระตไ์ ตทรอปงิชฎัยก. เ2ล5่ม3ท0ี่ ๒. ๐4 พศราสะสนุตาสตาันคตัญปขิฎอกงโเลลก่มปทัจี่ ๑จุบ2ันอัพงครุตาหตรมนณิก์-าฮยินดเอู พกุท-ทธุกค-ตริกิสนต์แิบลาะต อทิสุกลนาิบมา.ตกรอุงังเคทุตพตฯร: โนอิกเาดยยี นปสฐโมตปรณั.์ ณาสก์. พระไตรปิฎกฉบับสยามรัฐ. วพงรเะดไือตนรปนิฎารกาสเลัจ่มจท์. ี่(2๒5๕5พ0ร)ะ. สปุตรตะวันตั ติศปาิฎสกตรเ์ล:่มวทิธ่ีีก๑าร๗แลขุะทพทัฒกนนิกากายารข. ุทกรทุงกเทปพาฐฯะ: -ภธารครมวชิบาทป-รอะุทวาัตนิศ-าอสิตติวรุต์ ตคกณะะ- สสงัุตคตมนศิบาาสตตรค์ามถหาาธวรทิรมยบาลทัยศอัรตีนตควรรรินคททรี่ว๑โิ ร๒ฒ. .พระไตรปิฎกฉบับสยามรฐั . พระไตรปิฎก เล่มที่ ๑๗๓พ๖ร๖ะ วนิดา ขาสเขตุ ียตวัน.ต2ป5ิฎ4ก1เ.ลศ่มาทสี่ น๙าสเปังรยยีุตบตเนทิกยี าบย. ขกันรงุธเวทาพรฯวร: รเจคนอเดัตอตรทเ์ ีพปวรสรร. คที่ ๕ อตั ตทปี สูตร. พระไตรปฎิ กฉบับ อาร์โนลดส์,ยจาอมหร์นฐั . เอช. (2549). ประวัติศาสตร์ของประวัติศาสตร์. แปลโดย ไชยันต์ รัชชกูล. กรุงเทพฯ: ศูนย์ มนต์ ทอมงชานัย.ุษ2ยว5ทิ 3ย0า.ส4ิรินศธารส(นอางคส์กาคารัญมขหอางชโนล)ก.ปัจจุบัน พราหมณ์-ฮินดู พุทธ คริสต์และ อิสลาม. กรุงเทพฯ: อารี วชิ าโชอัยเ.ด2ยี น5ส4โ3ต.ร.์ปรัชญาธรรมของศาสนาพราหมณ์-ฮินด.ู กรุงเทพฯ: มหาวิทยาลยั ศรนี ครนิ ทรวิโรฒ. วงเดือน hนtาtรpาsส:/ัจ/จb์.it(.2ly5/520TK).6ปTรFะXวตั แิศผานสทตร่แี ์ส:ดวงธิ กีกาารรนแับลถะือพศัฒานสานกาาขรอ.งกโลรุงกเทสพบื ฯค: น้ ภเามค่ือววิชันาทปี่ ร๑ะ๓วัตมศิ การสาตครม์ คณะ ๒๕๖๒ สังคมศาสตร์ มหาวทิ ยาลัยศรีนครินทรวโิ รฒ. วนดิ า ขาhเขttยี pวs.:/2/5bi4t.1ly./ศ2าSสUนEาZเปagรียวบัดเอทมยี รบา.วกดรี ณงุ เทปพรฯะ:เทเจศนอเังดกอฤรษเ์ พรสสืบ.คน้ เมอื่ วันที่ ๑๓ มกราคม ๒๕๖๒ https://1th.me/1LeO พระสงฆ์ในประเทศเบลเยียม สบื ค้นเม่ือวนั ที่ ๑๓ มกราคม ๒๕๖๒ https://bit.ly/2HdJP0W สบื ค้นเมื่อวันที่ ๑๔ มกราคม ๒๕๖๒
https://bit.ly/2TK6TFX แผนทีแ่ สดงการนับถือศาสนาของโลก สบื ค้นเม่ือวนั ที่ ๑๓ มกราคม 356 ๒๕๖๒ https://bit.ly/2SUEZag วดั อมราวดี ณ ประเทศองั กฤษ สืบค้นเม่ือวันท่ี ๑๓ มกราคม ๒๕๖๒ https://1th.me/1LeO พระสงฆ์ในประเทศเบลเยียม สบื ค้นเมอื่ วนั ท่ี ๑๓ มกราคม ๒๕๖๒ https://bit.ly/2HdJP0W สืบค้นเม่ือวนั ท่ี ๑๔ มกราคม ๒๕๖๒ https://bit.ly/2FBoKfiพระพทุ ธชนิ ราช ณ วัดพระศรีรตั นมหาธาตุวรมหาวหิ าร จงั หวดั พิษณโุ ลก สบื คน้ เมือ่ วนั ท่ี ๑๔ มกราคม ๒๕๖๒ https://www.youtube.com/watch?v=7s22HX18wDY “ทรูมูฟเอช การให้ คือ การส่ือสารทีด่ ี ทสี่ ดุ ” สบื คน้ เม่ือวนั ที่ ๑๓ มกราคม ๒๕๖๒ https://1th.me/v2ftภาพการแสดงโอวาทปาฏโิ มกข์ สบื คน้ เมือ่ วนั ที่ ๑๓ มกราคม ๒๕๖๒ https://www.youtube.com/watch?v=FfG_yjy5NKk สืบค้นเมือ่ วนั ท่ี ๑๔ มกราคม ๒๕๖๒ https://www.youtube.com/watch?v=VTiBtlv-gXY เร่ืองปัญญา ๓ = สุตมยปัญญา จิตตมย ปญั ญา สบื ค้นเม่อื วันท่ี ๑๔ มกราคม ๒๕๖๒ https://www.youtube.com/watch?v=lsBlQF1prto สบื ค้นเมือ่ วันที่ ๑๓ มกราคม ๒๕๖๒ https://www.youtube.com/watch?v=aRKAZv9LPq8 สบื คน้ เมอ่ื วนั ท่ี ๑๓ มกราคม ๒๕๖๒ https://regional.kachon.com/279038 สบื ค้นเมือ่ วันท่ี ๑๓ มกราคม ๒๕๖๒ http://ploychom.blogspot.com/2017/02/13-1.html สิทธิเด็ก สืบค้นเม่ือวันท่ี ๑๓ มกราคม ๒๕๖๒ http://www.komchadluek.net/news/crime/156877 สิทธิแรงงานข้ามชาติมา สืบค้นเมื่อ วนั ท่ี ๑๓ มกราคม ๒๕๖๒ http://transbordernews.in.th/home/?p=16388 สิทธิทางการศึกษา สืบค้นเม่ือวันท่ี ๑๔ มกราคม ๒๕๖๒ http://www.komchadluek.net/news/scoop/2 5 0 4 8 7 สิท ธิสตรี สืบ ค้น เมื่อวันที่๓๑๖๗๓ มกราคม ๒๕๖๒ https://www.shopback.co.th... ภาพประเพณีลอยกระทง สืบค้นเมอ่ื วนั ท่ี ๑๓ มกราคม ๒๕๖๒ http://event.sanook.com/day/songkran/ ภาพประเพณี สงกรานต์ สืบค้นเมื่อวันท่ี ๑๓ มกราคม ๒๕๖๒ http://travel.trueid.net/detail/MeJLGwlJzvN ประเพณีบุญบ้ังไฟ สืบค้นเม่ือวันท่ี ๑๓ มกราคม ๒๕๖๒ https://www.youtube.com/watch?v=CPQNH8jYgfM สืบคน้ เม่อื วันท่ี ๑๓ มกราคม ๒๕๖๒ https://www.radioparliament.net/parliament/viewnews.php?nld=1109#.XFuvGaQ5qaM สบื คน้ เมือ่ วันท่ี ๑๓ มกราคม ๒๕๖๒
มกราคม ๒๕๖๒ http://travel.trueid.net/detail/MeJLGwlJzvN ประเพณีบุญบ้ังไฟ สืบค้นเมื่อวันที่ ๑๓ มกราคม 357 ๒๕๖๒ https://www.youtube.com/watch?v=CPQNH8jYgfM สืบคน้ เมอื่ วันที่ ๑๓ มกราคม ๒๕๖๒ https://www.radioparliament.net/parliament/viewnews.php?nld=1109#.XFuvGaQ5qaM สืบคน้ เมอ่ื วนั ท่ี ๑๓ มกราคม ๒๕๖๒ Burke Peter. (1991). Overture. The New History: Its Past and its Future. In New Perspectives on Historical Writing. pp. 1-24. Cambridge: Polity Press. Collingwood, R. G. (1982). The Idea of History. 21st ed. London: Oxford University Press. Dissanayake, Wimal. 1987. in Kincaid, D. Lawrence. (ed). Communication theory: Eastern and western perspective. NY: Academic Press, INC., pp. 151-160 Tosh, John. (2002). The Pursuit of History. 3rd. London: Longman.
๓๖๘3568 คำ�คชำแ้ีชจีแ้ จงง กำรใชแ้ ผนกำรจดั กำรเรียนรู้ รำยวิชำประวัติศำสตร์ ระดับชป้นั รมะธั กยอมบศึกกษาำรตใชอน้แตผ้นนกกาลรุม่ จสัดำรกะากรำเรรเียรียนนรรู้ สู้รางั คยมวศิชกึ าษปำระศวำสัตนศิ ำาสแลตะรว์ ัฒนธรรม สำํานกั งำานคณะกรรมกำรรกาำกราศรึกศษึกษำขาน้ัขพั้นื้นพฐื้นำฐนานร่วรม่วกมบั กมับลู มนูลธินิกิธำิกราศรึกศษึกำษทาำทงาไกงไลกผล่ำผน่าดนำดวาเทวเยี ทมียไมดไ้ดดำ้ดเนําิเนนกินำร พกาัฒรนพำัฒแนผานแกผำนรกจาัดรกจำัดรกเารรียเรนียรนู้ แรูล้ แะลสะื่อสกื่อำกราเรเียรนียนกำกราสรสออนนเพเพื่อื่อกกำารรศศึกึกษษำาททำางงไกลผ่ำานดาำวเททียียมม((DDLLTTVV))รระะดดับับ มัธยมศึกษำตอนต้น สำหรับโรงเรียนวังไกลกังวล ในพระบรมรำชูปถัมภ์ เพื่อเผยแพร่เป็นสื่อทำงไกลแก่ครูผู้สอน ทว่ั ประเทศ โดยมีเป้ำหมำยในกำรยกระดบั คณุ ภำพกำรศึกษำ และลดควำมเหลอื่ มล้ำทำงกำรศกึ ษำ คณะทำงำนกลุ่มสำระกำรเรียนรู้สังคมศึกษำ ศำสนำ และวัฒนธรรม ได้จัดทำแผนกำรจัดกำรเรียนรู้ และสื่อกำรเรียนกำรสอนเพ่อื กำรศกึ ษำทำงไกลผ่ำนดำวเทียม (DLTV) ภำคเรยี นท่ี ๒ ดงั น้ี ชัน้ มธั ยมศึกษำปที ่ี ๑ รำยวิชำ ส ๒๑๑๐๒ ประวตั ศิ ำสตร์ จำนวน ๐.๕ หน่วยกติ เวลำ ๒๐ ช่วั โมง ช้ันมัธยมศกึ ษำปที ี่ ๒ รำยวิชำ ส ๒๒๑๐๒ ประวตั ิศำสตร์ จำนวน ๐.๕ หนว่ ยกิต เวลำ ๒๐ ช่วั โมง ชน้ั มธั ยมศึกษำปที ี่ ๓ รำยวิชำ ส ๒๓๑๐๒ ประวัติศำสตร์ จำนวน ๐.๕ หนว่ ยกติ เวลำ ๒๐ ช่ัวโมง กำรนำแผนกำรจัดกำรเรยี นร้ไู ปใช้ กำรนำแผนกำรจัดกำรเรียนรู้รำยวิชำประวัติศำสตร์ ระดับชั้นมัธยมศึกษำตอนต้น ไปใช้ให้เกิด ประสิทธิภำพและประสิทธิผลสูงสุดได้น้ัน ผู้สอนจำเป็นต้องคำนึงถึงบริบทและเงื่อนไขบำงประกำรตำมประเด็น ตอ่ ไปนี้ ๑. ศึกษำมำตรฐำน ตัวช้ีวัด และคำอธิบำยรำยวิชำ เพ่ือเป็นกำรทำควำมเข้ำใจเป้ำประสงค์ของหลักสูตร กลุ่มสำระกำรเรียนรู้สังคมศึกษำ ศำสนำ และวัฒนธรรมและองค์ประกอบของสำระกำรเรียนรู้โดยภำพรวมใน รในำยรวาชิยำวปิชราะปวรตั ะิศวำัตสิศตารส์แตตร่ล์แะตร่ละะดรบั ะชดั้นับชั้น ๒. ศกึ ษำโครงสร้ำงรำยวิชำ เพอ่ื ให้เข้ำใจถึงมโนทัศนแ์ ละแนวคิดสำคัญในแตล่ ะองค์ประกอบของรำยวิชำ ประ วัติ ศำ สต ร์อั นจ ะเ ป็น กำ รส นับ สนุ นใ ห้ผู้ สอ นไ ด้เ ห็นถึ งก รอ บโ คร งส ร้ำ งท่ี สะ ท้อ นธ รร มช ำติ ขอ งร ำย วิช ำ ประวัติศำสตร์
3569 ๓๖๙ ๓. ศึกษำกำหนดกำรสอนรำยช่ัวโมงเพ่ือให้เห็นถึงกลยุทธ์และแนวทำงกำรจัดกำรเรียนรู้ประวัติศำสตร์ โดยภำพรวมในแต่ละชั่วโมงเรียน ๔. ศึกษำและทำควำมเข้ำใจรำยละเอียดในแต่ละองค์ประกอบของแผนกำรสอนรำยชั่วโมง เพื่อให้เห็นถึง องค์ประกอบเก่ียวกับตัวช้ีวัด ขอบเขตเนื้อหำ จุดประสงค์กำรเรียนรู้ท้ัง ๓ ด้ำน กิจกรรมกำรเรียนรู้ ส่ือ แหล่งเรียนรู้ ภำระงำน/ชิ้นงำน กำรวัดกำรประเมินผลและบันทึกผลหลังกำรสอน ที่มีควำมสัมพันธ์กันอย่ำงเป็น ระบบ ๕. ศึกษำแนวกำรจัดกิจกรรมกำรเรยี นกำรสอน สื่อกำรเรยี นกำรสอนและแหล่งกำรเรียนรู้ในแต่ละช่ัวโมง อันจะเป็นประโยชน์ตอ่ กำรออกแบบกจิ กรรมกำรเรยี นกำรสอนและจัดเตรียมส่ือและแหล่งกำรเรียนรู้ให้สอดคล้อง กับแผนกำรจัดกำรเรียนรู้ ทั้งน้ีกิจกรรมกำรเรียนรู้ท่ีประกอบไปด้วยกระบวนกำรเรียนกำรสอน ๓ ข้ันตอนหลัก ได้แก่ ๑) ขั้นนำเข้ำสู่บทเรียน ๒) ขั้นสร้ำงองค์ควำมรู้ และ ๓) ข้ันสรุปควำมคิดรวบยอด อำจมีกำรปรับเปลี่ยนใน บำงแผนกำรจัดกำรเรียนรู้ ท่ีมีกำรนำข้ันตอนกำรเรียนกำรสอนท่ียึดจำกรูปแบบกำรสอน กระบวนกำรเรียนกำร กสาอรนสอวนิธีสวอิธนีสอแนละแเลทะคเทนคิ นกิคำรกสาอรสนอเนพ่ืเอพใอ่ืหใ้เห้เมหำมะาสะมสตม่อตส่อำสราะรกะำกราเรรเียรียนนรู้ใรนู้ในววิชิชำาปปรระะววัตัติศศิ ำาสสตตรร์ ์ ททั้งั้ นี้ผู้สอนสำามาำรถ ปรับแนวทำงกำรจัดกิจกรรมกำรเรียนกำรสอนให้สัมพันธ์กับบริบทของผู้เรียน สถำนศึกษำและชุมชน เพื่อ ประโยชน์สูงสุดแกผ่ ู้เรยี น ๖. ศึกษำหลักฐำนทำงประวัตศิ ำสตร์ทใ่ี ชป้ ระกอบกำรจัดกำรเรียนกำรสอนในแต่ละสำระกำรเรียนรใู้ ห้เกิด ควำมเข้ำใจเกี่ยวกับข้อมูลท่ีปรำกฏในหลักฐำน สำระสำคัญ/แนวคิดหลักของหลักฐำน วัตถุประสงค์ในกำรสร้ำง หลักฐำน ประเภทของหลักฐำนและสภำพแวดล้อมทำงประวัติศำสตร์ ก่อนกำรจัดกำรเรียนกำรสอนเพื่อเป็น พ้ืนฐำนสำคัญต่อกำรจัดกิจกรรมกำรเรียนกำรสอนและกำรจัดกำรช้ันเรียนประวัติศำสตร์อันจะเป็นประโยชน์ต่อ กำรพัฒนำผู้เรียนให้บรรลุตัวช้ีวัด จุดประสงค์กำรเรียนรู้ และเป้ำประสงค์ตำมธรรมชำตวิ ิชำประวัติศำสตร์ได้อย่ำง มีประสิทธภิ ำพ คณะผจู้ ดั ทำ
๓๗๐ 3760 คำอธิบำยรำยวิชำพืน้ ฐำน รหัสวชิ า ส๒๓๑๐๒ รายวชิ า ประวตั ศิ าสตร์ กลมุ่ สาระการเรยี นรู้ สงั คมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม ช้ันมัธยมศึกษาปีที่ ๓ เวลา ๒๐ ชวั่ โมง จานวน ๐.๕ หนว่ ยกติ ศึกษาข้ันตอนของวิธีกาารรททาางงปปรระะววัตัติศิศาาสสตตรร์ส์สาำ�หหรรับับกกาารรศศึกึกษษาาเหเหตตุกุกาารรณณ์ท์ทางาปงประระวัตวัติศิศาสาตสรต์ทร์ท่ีเกี่เิดกขิด้ึนขใึ้นน ใทนอ้ ทงอ้ถงิ่นถตน่ิ นตเนอเงอกงากรานรานว�ำ ิธวีกธิ ากี ราทราทงาปงประรวะัตวตัิศศิาสาสตตร์มรม์าาใชใช้ในใ้ นกกาารรศศึกกึ ษษาาเเรรอ่ื อ่ื งงรราาววทท่ีเ่ี ก่ียวขอ้ งกบั ตนเอง ครอบครวัว แแลละะ ท้องถิ่นขอองงตตนนทที่ตี่ต้ังั้งแแลละะสสภภาพาพททางาภงภูมิูศมาิศสาตสรต์ขรอ์ขงอภงูมภิภูมาิภคาตค่าตง่าๆง ขๆองขโอลงกโล(ยกก(เยวก้นเวอ้นเชเอียเ)ชทียี่ม)ีผทลี่มตีผ่อลพตัฒ่อนพาัฒกานรา กทารงทปารงะปวรัตะิศวาัตสิศตารส์ ตสรัง์ คสมังคเมศรเษศรฐษกฐิจกแิจลแะลกะากราเมรืเอมงือขงอขงอภงูมภิภูมาิภคาตค่าตง่างๆๆขอของโงลโลกก(ย(ยกกเวเว้น้นเอเอเชเชียีย))โโดดยยสสังังเขป อิทธิพลของอารยธรรมตะวันตกที่มีผลต่อพัฒนาการและการเปลี่ยนแปลงของสังคมโลก ความร่วมมือและ ความขัดแย้งในคริสต์ศตวรรษที่ ๒๐ เกี่ยวกับสงครามโลกคร้ังท่ี ๑ ครั้งท่ี ๒ สงครามเย็น และองค์การความ ร่วมมอื ระหว่างประเทศ โดยใช้กระบวนการสืบค้น กระบวนการตรวจสอบ วิพากษ์ ตีความหลักฐานทางประวัติศาสตร์ การใช้ เหตุผล กระบวนการปฏิบัติ กระบวนการประชาธิปไตย กระบวนการเผชญิ สถานการณ์ กระบวนการแก้ปญั หา กระบวนการกลุ่ม การนาเสนอข้อมูล กระบวนการคิดวิเคราะห์ กระบวนการคิดสังเคราะห์ และวิธีการทาง ประวตั ิศาสตร์ เพื่อให้ตระหนักถึงความสาคัญของการอยู่ร่วมกันในสังคมโลกอย่างสันติสุข เห็นคุณค่าในการใช้ วิธกี ารทางประวัติศาสตรเ์ พ่ือสรรคส์ ร้างองคค์ วามร้ใู หมท่ างประวตั ศิ าสตร์ รหสั ตัวช้ีวัด มำตรฐำน ส ๔.๑ ตัวชีว้ ดั ม. ๓/๑ ม. ๓/๒ มำตรฐำน ส ๔.๒ ตวั ช้วี ดั ม. ๓/๑ ม. ๓/๒ รวมท้ังหมด ๔ ตัวช้ีวัด
๓๗๑ 3761 มาตรฐานการเรยี นรู/้ ตัวช้วี ดั รหัสวิชา ส๒๓๑๐๒ รายวิชา ประวตั ศิ าสตร์ ช้ันมัธยมศกึ ษาปีท่ี ๓ ภาคเรียนที่ ๑ ปกี ารศกึ ษา ๒๕๖๒ รวมเวลา ๒๒๐๐ชช่วั ั่วโโมมงง จ�ำ นวน ๐.๕ หนว่ ยกิต สารจะาปนรวะนวตั ศิ๐า.๕สตหร์นว่ ยกิต มสารตะรปฐราะนวกตั าศิรเารสยี ตนรร์ ู้ มาตรฐานการเรียสนร๔ู้ .๑ เขา้ ใจความหมาย ความสำ�คัญของเวลาและยุคสมัยทางประวัติศาสตร์ มาตรฐาน ส ๔.๑ สเขา้ามใาจรคถวใาชม้วหิธกีมารยทาคงวปารมะสวาตั คิศัญาสขตอรงเ์มวาลวาเิ แคลราะะยหคุ ์เสหมตัยุกทาารงณป์ตร่าะงวตั ๆิศอาสยตา่ งรเ์ ป็นระบบ ตวั ชว้ี ดั สามารถใช้วิธีการทางประวตั ิศาสตร์มาวเิ คราะหเ์ หตุการณ์ตา่ ง ๆ อยา่ งเป็นระบบ ตัวชี้วดั ม.๓/๑ วเิ คราะหเ์ ร่ืองราวเหตุการณ์ส�ำ คัญทางประวตั ิศาสตรไ์ ด้อย่างมเี หตุผลตามวิธกี ารทาง ม.๓/๑ วปิเรคะรวาตัะิศหา์เรส่อืตงรร์ าวเหตุการณส์ าคญั ทางประวัติศาสตร์ได้อย่างมเี หตผุ ลตามวิธีการทาง ม.๓/๒ ปใชรว้ ะิธวกี ตั าศิ ราทสาตงรป์ ระวัติศาสตรใ์ นการศกึ ษาเรื่องราวตา่ ง ๆ ทตี่ นสนใจ มาตรฐาน มส.๓๔/.๒ ใเขชา้วใธิ จกี พาฒัรทนาางกปารระขวอัตงิศมานสุษตยรช์ในาตกิจาราศกกึอษดตีาเจรนื่อถงรงึ ปาวจั ตจา่ ุบงนั ๆในทดีต่ า้ นสคนวาใจมสมั พนั ธแ์ ละ มาตรฐาน ส ๔.๒ กเขา้ารใเจปพลฒัย่ี นนแาปกลารงของมเหนตุษกุ ยาชราณตอ์ ิจยา่ากงอตดอ่ ีตเนจนอ่ื ถงึงตปรจั ะจหบุ นนั ักใถนึงดคา้ วนาคมวสา�ำ มคสัญมั แพลันะธส์แาลมะารถ วกเิ าครรเาปะลหี่ยผ์ นลแกปรละงทขบอทงเี่ หกิดตุขกึ้นารณอ์ ย่างต่อเน่ือง ตระหนักถึงความสาคัญและสามารถ ตวั ชว้ี ัด วเิ คราะหผ์ ลกระทบทเ่ี กดิ ขึ้น ตวั ชี้วัด ม.๓/๑ อธิบายพัฒนาการทางสงั คม เศรษฐกิจ และการเมืองของภูมิภาคต่าง ๆ ในโลก ม.๓/๑ โอดธยบิ สาังยเขพปฒั นาการทางสังคม เศรษฐกจิ และการเมืองของภมู ภิ าคตา่ ง ๆ ในโลก ม.๓/๒ วโเิ ดคยราสะังหเขผ์ ปลของการเปล่ยี นแปลงทน่ี �ำ ไปสู่ความร่วมมอื และความขัดแยง้ ใน ม.๓/๒ ควริเคสิ รตาศ์ ะตหว์ผรลรขษอทงี่ ก๒าร๐เปตลลยี่ อนดแจปนลคงวทาี่นมาพไยปาสยู่คาวมาใมนรกว่ ามรมขือจแดั ลปะญั คหวาคมวขาัดมแขยดั ง้ แในย้ง ครสิ ต์ศตวรรษที่ ๒๐ ตลอดจนความพยายามในการขจัดปัญหาความขดั แยง้
๓๗๒ 3762 โครงสรา้ งรายวิชา รหสั วิชา ส๒๓๑๐๒ รายวิชา ประวัตศิ าสตร์ ชัน้ มธั ยมศึกษาปีที่ ๓ ภาคเรียนท่ี ๑ ปกี ารศึกษา ๒๕๖๒ รวมเวลา ๒๐ ชั่วโมง จานวน ๐.๕ หนว่ ยกติ หน่วย ชื่อหน่วย มาตรฐานการเรยี นร้/ู สาระสาคัญ/ความคดิ รวบยอด เวลา นา้ หนกั ที่ การเรียนรู้ ตัวชว้ี ัด (ชวั่ โมง) คะแนน ๑ ชื่อหน่วย ส๔.๑ เข้าใจความหมาย สาระสาคัญ/ความคิดรวบยอด ๔ ๑๕ การเรียนรู้ ความสาคัญของเวลาและ การนาวิธีการทางประวตั ิศาสตรม์ าวิเคราะห์ การใชว้ ธิ ี ยุคสมัยทางประวัติศาสตร์ เร่ืองราวเหตุการณ์สาคัญทางประวตั ศิ าสตร์ ทางประวัติ สามารถใช้วิธีการทาง ท่ีเกี่ยวข้องกบั เร่ืองราวของตนเอง และ ศาสตร์ ประวัตศิ าสตร์มาวิเคราะห์ ประวตั ิศาสตร์เกิดขึน้ ในท้องถ่ินของตน ทา เหตุการณต์ า่ ง ๆ อย่างเปน็ ให้การศึกษาเร่ืองราวต่าง ๆ มีเหตุผล ระบบ แตล่างะมๆีคมวเีาหมตนุผ่าลเชแื่อลถะือมีความน่าเชือ่ ถือ ม.๓/๑ วิเคราะห์เรือ่ งราว เหตุการณ์สาคัญทาง ประวตั ิศาสตรไ์ ด้อยา่ งมี เหตุผลตามวธิ กี ารทาง ประวัติศาสตร์ ม.๓/๒ใชใชว้ ้วิธิธีกีกาารรททาางง ประวัติศาสตร์ในการศึกษา เรื่องราวต่าง ๆ ทต่ี นสนใจ ๒ ช่อื หน่วย ส๔.๒ เขา้ ใจพัฒนาการ สาระสาคัญ/ความคดิ รวบยอด ๑๑ ๒๐ การเรยี นรู้ ของมนษุ ยชาตจิ ากอดีต สภาพทางภูมิศาสตรต์ ลอดจนพฒั นาการ พัฒนาการ จนถงึ ปัจจุบนั ในด้าน และความเปน็ มาทางประวตั ศิ าสตร์ของ ของภูมภิ าค ความสัมพันธแ์ ละการ ภูมภิ าคตา่ ง ๆ ทตี่ ่างกนั เปน็ ผลทาให้สภาพ ตา่ ง ๆ ของ กเปาลร่ยีเปนลแี่ยปนลแงปขอลงของ สงั คม เศรษฐกิจ และรูปแบบการเมืองการ โลก เหตุการณ์อย่างต่อเนื่อง ปกากรคปรกอคงมรีคอวงมามีคแวตามกตแ่าตงกกตนั ่างกัน ตระหนักถึงความสาคญั และสามารถวิเคราะห์ ผลกระทบทีเ่ กิดขนึ้
๓๗๓ 3763 โครงสร้างรายวชิ า รรหหัสัสววชิ ิชาาส๒ส๓๒๑๓๐๑๒๐๒ รายยววชิ ิชาาปประรวะตัวิศัตาศิ สาตสรต์ ร์ ช้ันมัธยยมมศศึกึกษษาาปปที ที ี่ ๓ี่ ๓ ภาคเรรียียนนทที่ ี่๑๑ ปปกี ีกาารรศศกึ ึกษษาา๒๒๕๕๖๖๒๒ รวมรเวลมาเว๒ลา๐ ช๒ัว่๐โมชงวั่ จโมำ�งนวจนาน๐ว.๕น ๐หน.๕่วยหกนติว่ ยกติ หนว่ ย ช่อื หน่วย มาตรฐานการเรยี นร้/ู สาระสาคญั /ความคดิ รวบยอด เวลา น้าหนัก ที่ การเรียนรู้ ตัวช้วี ัด (ชว่ั โมง) คะแนน ม.๓/๑ อธิบายพัฒนาการ ทางสงั คม เศรษฐกจิ ๕ ๑๕ และการเมอื งของภูมภิ าค ตา่ ง ๆ ในโลก - ๒๐ โดยสงั เขป - ๓๐ ๓ หนว่ ยการ ส๔.๒ เข้าใจพัฒนาการ สาระสาคัญ/ความคดิ รวบยอด ๒๐ ๑๐๐ เรียนรู้ ของมนษุ ยชาตจิ ากอดีต ความขดั แย้งต่าง ๆ ในสงั คมโลกเป็นตัวแปร ความขดั แย้ง จนถึงปัจจุบนั ในดา้ น สาคญั ที่นาไปสูก่ ารร่วมมือในการจดั ตงั้ และความ ความสมั พันธ์และการ องค์การระหวา่ งประเทศ เพื่อสรา้ งความ รว่ มมอื ใน เกปาลร่ยีเปนลแี่ยปนลแงขปอลงงของ มนั่ คงทางการเมืองเศรษฐกจิ ครคิสรตสิ ต์ศ์ต เหตกุ ารณ์อย่างต่อเน่ือง และสังคมขึน้ เพื่อระงบั และป้องกันความ ศวตรวรษรษทที่ ๒่ี ๒๐๐ ตระหนักถึงความสาคญั ขัดแย้งท่ีอาจจะเกดิ ขนึ้ และสามารถวิเคราะห์ ผลกระทบทเ่ี กิดขน้ึ ม.๓/๒วิเคราะหผ์ ลของ การเปล่ียนแปลงที่นาไปสู่ ความร่วมมือและความ ขดั แยง้ ใน คริสต์ศตวรรษที่ ๒๐ ตลอดจนความพยายามใน การขจดั ปัญหาความ ขดั แย้ง สอบกลางภาค สอบปลายภาค รวมตลอดภาคเรยี น
๓๗๔ 3764 หนว่ ยการเรียนรทู้ ี่ 1 ช่ือหน่วยการเรียนรู้ การใช้วิธีการทางประวตั ิศาสตร์ รหสั วิชา ส23102 รายวิชา ประวัตศิ าสตร์ กลุ่มสาระการเรียนรู้ สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม ชัน้ มธั ยมศกึ ษาปีท่ี 3 ภาคเรียนท่ี 1 ปกี ารศึกษา 2562 เวลา 4 ช่วั โมง …………………………………………………………………………………..…………………………… 1. มาตรฐานการเรียนร/ู้ ตัวช้ีวัด สาระประวัติศาสตร์ มาตรฐานการเรยี นรู้ ส 4.1 เขา้ ใจความหมาย ความสาคัญของเวลาและยุคสมัยทางประวตั ิศาสตร์ สามารถใช้วิธกี ารทางประวัติศาสตรม์ าวเิ คราะห์เหตกุ ารณต์ ่าง ๆ อยา่ งเป็นระบบ ตวั ช้วี ัด ม.3/1 วเิ คราะหเ์ ร่อื งราวเหตกุ ารณส์ าคญั ทางประวตั ิศาสตร์ได้อยา่ งมีเหตุผลตามวิธีการ การทางประวตั ิศาสตร์ ม.3/2 ใช้วธิ กี ารทางประวัติศาสตร์ในการศกึ ษาเรื่องราวต่าง ๆ ทต่ี นสนใจ 2. สาระสาคญั /ความคิดรวบยอด การนาวิธีการทางประวัติศาสตรม์ าวเิ คราะหเ์ รื่องราวเหตกุ ารณส์ าคัญทางประวตั ิศาสตร์ทเ่ี กีย่ วข้องกบั เรื่องราวตนเอง และประวัติศาสตร์เกดิ ข้นึ ในทอ้ งถิน่ ตนเองทาใหก้ ารศึกษาเร่อื งราวตา่ ง ๆ มีเหตผุ ลและมีความ นา่ เชอื่ ถอื 3. สาระการเรยี นรู้ ความรู้ 1. ความหมาย ความสาคัญของวิธกี ารทางประวัตศิ าสตร์ 2. ขัน้ ตอนของวธิ ีการทางประวัตศิ าสตร์สาหรับการศกึ ษาเหตุการณ์ทางประวัติศาสตรท์ ่ีเกิดข้นึ ใน ใทนอ้ ทง้อถงนิ่ ถติ่นนตเอนงเอง ทกั ษะ/กระบวนการ 1. การนาวิธกี ารทางประวัตศิ าสตร์มาใช้ในการศกึ ษาเรอ่ื งราวทเี่ ก่ียวขอ้ งกบั ตนเอง ครอบครวั และ ท้องถิน่ ของตนเอง 2. วเิ คราะหเ์ หตุการณ์สาคัญในสมยั รัตนโกสนิ ทรโ์ ดยใชว้ ธิ กี ารทางประวตั ิศาสตร์ เจตคติ 1. ตระหนกั ถึงความสาคัญและคุณค่าของประวัติศาสตร์ 2. การอา่ นเอกสารทางประวตั ิศาสตรอ์ ย่างมวี จิ ารณญาณ 4. สมรรถนะสาคญั ของผูเ้ รยี น 1. ความสามารถในการส่ือสาร - ทักษะการนาเสนอ 2. ความสามารถในการคิด - ทกั ษะการคดิ วเิ คราะห์ - ทักษะกระบวนการคิดอย่างมีวิจารณญาณ - ทกั ษะการสังเคราะห์
๓๗๕ 3765 3. ความสามารถในการใช้ทกั ษะชีวติ - กระบวนการทางานกลุม่ - ทักษะการสบื ค้น 5. คุณลักษณะอนั พึงประสงค์ 1. มีวินัย 2. ใฝเ่ รียนรู้ 3. มงุ่ มนั่ ในการทางาน 4. รักความเป็นไทย 6. การประเมินผลรวบยอด ภชิ้นารงะานงาหนรอื /ภชาิ้นรงะางนาน - การทาแผ่นพบั เรื่องราวหรือเหตุการณ์สาคัญทางประวตั ศิ าสตร์ในทอ้ งถน่ิ ตนเอง ๗.เกณฑก์ ารประเมนิ ผลชิน้ งานหรือภาระงาน ประเด็นการ ระดบั คุณภาพ ประเมนิ 4 (ดีมาก) 3 (ดี) 2 (พอใช้) 1 (ปรับปรุง) ๑1. กการาวรวิเคเิ ครราะาะหห์ ์ เขยี นวิเคราะห์ เขยี นวเิ คราะห์ เขียนวิเคราะห์ เขยี นวเิ คราะห์ เหเหตตุกุกาารรณณ์สข์�ำ อคงัญ เหตุการณ์ทาง เหตกุ ารณท์ าง เหตกุ ารณท์ าง เหตกุ ารณท์ าง ในสทงค้อรงาถมน่ิ คตรนูเสเอดง ประวตั ศิ าสตรท์ ม่ี ีผล ประวตั ิศาสตรท์ ม่ี ีผล ประวตั ิศาสตร์ท่ีมผี ล ประวัตศิ าสตรท์ ี่มผี ล ต่อทโลอ้ กงปถจั่นิ จตุบนนั เอไดงไ้ ด้ ต่อทโล้อกงปถัจ่ินจตบุ นนั เอไดงไ้ ด้ ตอ่ โทล้อกงปถจัิ่นจตบุ นนั เอไดงไ้ ด้ ต่อโทล้อกงปถัจ่ินจตบุ นนั เอไดงไ้ ด้ ถูกตอ้ ง ชัดเจน และ ถกู ตอ้ ง ชัดเจนเป็น ถกู ต้องแต่มคี วาม บางประเดน็ และมี ครบถ้วนทกุ ประเดน็ สว่ นใหญค่แลรบะคถรว้ บนทุก บกพร่องบางประเดน็ ความบกพรอ่ งมาก ประเดน็ ประเด็น 2. การวิเคราะห์ อธิบายผลกระทบ อธิบายผลกระทบของ อธบิ ายผลกระทบ อธบิ ายผลกระทบ ผลกระทบของ ของการขยาย การขยายอิทธิพลของ ของการขยาย ของการขยาย สงครามครูเสด อิทธิพลของประเทศ ประเทศในยโุ รปไปยัง อทิ ธิพลของประเทศ อิทธิพลของประเทศ ในยโุ รปไปยงั ทวปี ทวีปต่างๆได้อยา่ ง ในยโุ รปไปยงั ทวปี ในยโุ รปไปยังทวปี ต่างๆได้อย่างชดั เจน ชดั เจนมีเหตผุ ล ต่างๆได้อย่างชดั เจน ต่างๆได้ไม่ชดั เจนมี มเี หตผุ ลเหมาะสม เหมาะสมเป็นส่วน มีเหตุผลเปน็ บาง เหตผุ ลเปน็ บาง ใหญ่ ประเดน็ ประเดน็ ๓3. การเรยี บเรยี ง เรียบเรียงเน้ือหา เรียบเรียงเน้ือหาได้ นด เรยี บเรยี งเน้อื หาได้ เรียบเรียงเนื้อหาได้ เนอื้ หา เปน็ ลาดบั เปน็ เหตุ เป็นลาดับส่วนใหญ่ เปน็ ลาดบั เปน็ บาง เปน็ ลาดบั ไมด่ ี อ่าน เปน็ ผลใชภ้ าษาได้ ใชภ้ าษาได้ ตอน แต่มีความ เขา้ ใจยาก เหมาะสมเข้าใจง่าย เหมาะสมเขา้ ใจงา่ ย บกพร่องในการใช้ คาในการส่ือสาร
๓๗๖ 3766 ประเดน็ การ 4 (ดมี าก) 3 (ดี) ระดับคณุ ภาพ2 (พอใช้) 1 (ปรบั ปรุง) ประเมิน รปู แบบแผ่นพบั มี รปู แบบแผน่ พบั มี รูปแบบแผน่ พบั มี รปู แบบแผน่ พับ มี ๔. รูปแบบ คมวีคาวมาสมวสยวงยางมาม คมวีคาวมาสมวสยวงยางมาแมลแะลมะี มี คมวคี าวมามสสวยวยงางมามแแตต่ไมไ่ ม่ ่ คมวคี าวมามสสวยวยงางมามไมไม่ ม่ ี ี น่าสนใจและมีความ ความคิดริเร่มิ ม่ีความคดิ รเิ ริ่ม ริเร่ิมสร้างสรรค์ สรา้ งสรรค์ สร้างสรรค์ เกณฑก์ ารตดั สนิ หมายถงึ ดดีมมี าากก คะแนน ๑๓-๑๖4 หมายถึง ดี คะแนน ๙-๑๒ 3 หมายถงึ พอใช้ คะแนน ๕-๘ 2 หมายถงึ ปรับปรุง คะแนน ๐-๔ 1 2 เกณฑก์ ารผ่าน ต้งั แตร่ ะดับ
๓๗๗ หนว่ ยการเรียนรู้ท่ี ๑ แผนการจัดการเรยี นร้ทู ี่ ๑ เร่อื ง ความหมายของวธิ ีการทางประวตั ศิ าสตร์ เวลา ๑ ชัว่ โมง เรื่อง การใชว้ ธิ กี ารทางประวตั ศิ าสตร์ ชั้นมัธยมศึกษาปที ่ี ๓ กลุม่ สาระการเรยี นรู้ สังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม รายวิชา ประวตั ศิ าสตร์ ตัวช้วี ัด กจิ กรรมการเรียนรู้ สื่อ/แหลง่ เรยี นรู้ ส ๔.๑ ม.๓/๑ วเิ คราะห์เรื่องราวเหตุการณ์สาคญั ข้นั นา ๑. หนังสอื เรยี นวิชาประวตั ศิ าสตร์ ม.๓ ทางประวัตศิ าสตร์ได้อยา่ งมีเหตุผลตามวิธกี ารทาง ๑. ครูชี้แจงสาระการเรียนรู้ของวิชาประวัติศาสตร์ หนว่ ยที่ ๑ ๒. โปรแกรม PowerPoint เร่ือง ความหมาย ประวัตศิ าสตร์ เร่อื งการใชว้ ิธีการทางประวตั ิศาสตร์ ความสาคญั ของวิธกี ารทาง ของวธิ ีการทางประวตั ิศาสตร์ ส ๔.๑ ม.๓/๒ ใช้วธิ ีการทางประวตั ศิ าสตรใ์ น ประวตั ิศาสตร์ และการใช้หลักฐานทางประวตั ศิ าสตร์ ๓. ใบงานเร่ืองความหมาย ความสาคัญของ การศึกษาเร่ืองราวต่าง ๆ ท่ีตนสนใจ ๒. ครูนาเสนอ รปู ภาพต่าง ๆ และให้นักเรียนร่วมกนั พิจารณา วิธกี ารทางประวตั ศิ าสตร์ ขอบเขตเนอื้ หา วเิ คราะห์ อภิปรายวา่ เป็นภาพอะไร และเกี่ยวข้องกบั ภาระงาน/ชน้ิ งาน ๑. ความหมายของวธิ กี ารทางประวัติศาสตร์ ประวตั ิศาสตร์อย่างไรดังต่อไปน้ี ๑. การเขียนอธบิ ายความหมาย ความสาคญั ๒. ความสาคญั ของวิธีการทางประวตั ิศาสตร์ ของวธิ ีการทางประวัติศาสตร์ในใบงาน จุดประสงค์การเรยี นรู้ ภาพท่ี ๑ หนงั สือเรยี นประวัติศาสตรช์ ัน้ ม.๓ เรอื่ งความหมาย ความสาคัญของวิธกี าร ดา้ นความรู้ ที่มา : https://www.suksapanpanit.com กทารงทปารงะปวรตั ะศิ วาตั สศิ ตารส์ ตร์ ๑. นกั เรยี นสามารถอธบิ ายความหมายของวิธีการ (หนังสือเรยี นเป็นหลักฐานชน้ั รองทร่ี วบรวมข้อมลู ท่ีสาคัญทาง ๒. พูดยกตวั อยา่ งการนาวธิ ีการทาง กทารงทปารงะปวรัตะิศวาตั สศิ ตารส์ไตดร้อไ์ ยด่าอ้ งยถา่ ูกงถตกู้อตงอ้ ง ประวัตศิ าสตร์ เปน็ ข้อมลู ความรู้ขนั้ พน้ื ฐาน ท่ีมีความสะดวกและ ประวัตศิ าสตร์ไปประยุกต์ใชใ้ นชีวติ ประจาวัน ด้านทกั ษะและกระบวนการ เหมาะสมในการศึกษาหาความรูข้ องนักเรยี นมากที่สดุ ) ๒. นกั เรยี นสามารถตัง้ ประเด็นในการศึกษา ประวตั ศิ าสตรไ์ ด้อยา่ งเหมาะสม ดา้ นคณุ ลกั ษณะ ๓. นกั เรียนเหน็ ความสาคัญของวิธีการทาง ประวัตศิ าสตร์ต่อการใช้ชีวิตประจาวันได้ 3767
หนว่ ยการเรยี นรู้ท่ี ๑ แผนการจัดการเรียนรทู้ ่ี ๑ เรือ่ ง ความหมายของวธิ กี ารทางประวตั ิศาสตร์ ๓๗๘ เรือ่ ง การใชว้ ิธกี ารทางประวตั ิศาสตร์ เวลา ๑ ช่วั โมง กลุ่มสาระการเรียนรู้ สังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม รายวชิ า ประวัตศิ าสตร์ ช้ันมัธยมศกึ ษาปที ่ี ๓ อยา่ งเหมาะสม ภาพท่ี ๒ วดั พระศรีสรรเพชญ์ ท่ีมา : https://th.wikipedia.org/wiki/ วดั พระศรสี รรเพชญ์#/media/File:Wat_phra_sri_sanpetch_ (Temple),_Ayutthaya,_Thailand.jpg (วัดพระศรีสรรเพชญ์เป็นโบราณสถานที่สรา้ งในสมัยอยุธยา เป็นเปน็ วัดประจาวังที่ไม่มีพระสงฆจ์ าพรรษา เชน่ เดยี วกบั วัดพระแก้ว และยังเปน็ หลักฐานชน้ั ต้นท่ีใช้ในการศึกษา ประวตั ศิ าสตรอ์ ยุธยา) ภาพที่ ๓ เครื่องสังคโลก ทีม่ า : http://siam-stories.blogspot.com/2000099/1/12/2b/lbolgo-g- 3768
หนว่ ยการเรียนรูท้ ่ี ๑ แผนการจดั การเรยี นรู้ที่ ๑ เรอ่ื ง ความหมายของวธิ กี ารทางประวัตศิ าสตร์ ๓๗๙ เรอ่ื ง การใช้วิธีการทางประวัตศิ าสตร์ เวลา ๑ ชัว่ โมง กลมุ่ สาระการเรียนรู้ สงั คมศึกษา ศาสนาและวฒั นธรรม รายวชิ า ประวตั ศิ าสตร์ ชั้นมธั ยมศึกษาปีท่ี ๓ post_8773300.h.htmtml l (สังคโลก เปน็ เครื่องป้ันดินเผาคุณภาพดี มกี ารเคลอื บผวิ และ ตกแตง่ ลวดลายงดงาม เทคนิคการเผาได้รับการพฒั นามาเป็น เวลานานนับร้อยปี ตั้งแตส่ มยั ต้นกรุงสโุ ขทยั จนปลายสมัย กรุงศรีอยุธยา ถอื เปน็ โบราณวัตถุท่สี าคญั ต่อการศกึ ษา ประวัติศาสตร์มาก) ๓. ครตู ้งั คาถามโดยให้นักเรยี นร่วมกนั ตอบเพ่ือทบทวนความรู้เดมิ ดงั ตอ่ ไปนี้ ๓.๑ นักเรียนรู้จักรูปภาพเหลา่ นีไ้ ด้อย่างไร ๓.๒ สิ่งท่อี ย่ใู นภาพมคี วามสาคัญอย่างไร ๓.๓ หากนักเรียนต้องการสืบคน้ ความรู้เพ่มิ ขนึ้ จากเดมิ นักเรียนควรทาอยา่ งไร จากน้ัน ครสู รปุ ว่า “การสบื ค้นขอ้ มลู ทางประวตั ิศาสตร์น้ัน จะตอ้ งอาศยั วธิ กี ารทางประวัตศิ าสตร์ท้งั ๕ ขั้นตอน ซงึ่ นักเรียน สามารถนาไปประยุกต์ใชก้ ับชีวติ ได้ในทุก ๆ ด้าน” เพ่ือนาเขา้ สู่ บทเรียนเรื่อง ความหมายของวธิ ีการทางประวตั ศิ าสตร์ ขัน้ สอน ๑. ครใู หน้ กั เรยี นช่วยกันบอกความหมายของวธิ ีการทาง ประวตั ิศาสตรจ์ ากความรู้เดิม จากนน้ั ให้นักเรยี นศึกษาความหมาย ของวิธีการทางประวัติศาสตร์จากหนงั สือเรียนวชิ าประวัติศาสตร์ 3769
หน่วยการเรยี นรู้ที่ ๑ แผนการจดั การเรยี นรทู้ ี่ ๑ เรื่อง ความหมายของวิธีการทางประวตั ิศาสตร์ ๓๘๐ กลุ่มสาระการเหรนีย่วนยกราู้ สรเังรคียนมรศทู้ กึ ี่ ๑ษา เรเเรรราอื่่อืื่อยงงงวิชคกกวาาาารมใปรชหใร้วชมะธิ าว้วกี ยธิาัตขรกี ศิอทางาารวสงทิธปตีการราะงร์วปทตั ราิศงะาปวสรตัตะรศิว์ ัตาศิสาตสรต์ร์ ศาสนาและวัฒนธรรมแผนการจดั การเรียนรู้ท่ี ๑ ๓๘๐ กลุ่มสาระการเรยี นรู้ สงั คมศึกษา ศาสนาและวฒัม.น๓ธรแรลมะบันทึกความหมายราขยอวงิชวาิธปีกราะรวทัตาศิ งาปสตรระ์ วัติศาสตร์ท่ีถูกต้อง เวลา ๑ ชว่ั โมง เวลา ๑ชชั้นัว่ มโมธั งยมศกึ ษาปีท่ี ๓ ชั้นมธั ยมศึกษาปีที่ ๓ ลงในมใ.บ๓งแาลนะบ(วนั ธิ ทีกึกาครวทามาหงมปารยะขวอัตงวศิ ธิ าีกสารตทรา์งหปมระาวยัตถศิ งึาสกตร์ทะ่ีบถูกวตน้อง ๒กสะา. รทคศอ้รสก๒ลึกนอูะงา.ษใรทธคขนศอ้ารบิ้อใกึ นอูบปาเษธขงทรยาิบา้อะป็จวนาเวทรธิยจ(ะัต็จวีกวรวิธจธิศิงิาัตีกรีกเราศิิงากาทสเรารี่ยกทสตทา่ยีวตางารวกงรงป์เกปปเ์พับพับรรรอ่ือะอ่ือะะวดใวดใวหหัตีตัตัตีตไ้ิศไิศไ้ิศดไดาดาดค้า้ถสสค้วถ้สูกตตาวูตกรตรมา์ท้อ์ตรรหมงงั้ แู้์ทอ้ มมรล๕งั้งาา้แูะมยกขลค๕ถทาั้นาะึง่สีกตขคดุดกทอั้น)ังารบ่ีสแะต(ทOผดุดบอ่ีเนbว)งัชบภนjแ่อื.(๑ทาOวผพ)า่่ีเนbชภjอ่ื.๑าวพ)า่ ๑) ข้นั ท่ี ๑ การตง้ั 5ป.รกะาเรดนน็ �ำ ทเสจ่ี นะอศขึก้อษมาูลโดยใช้ การตัง้ คาถาม 3870 ๑) ขพขน้ั ัน้้นื ทท“อพฐ่ี เดา๑น้ืี่ ห๑ตีนฐต”ากหกุ กนา(าลหWารรกัรลณตhกัตa์นง้ั๕ัง้tป๕ั้น)ป,เรคกค“ระาดิาเะหเถถขดเตาา้ึนดน็มกุมท็นาท่ไีคทรหค่จีอืณนี่จือะ์น“”ะศเ้ัน“ศก(ึกเWเดิึกกกษเิดhษหิดาขeาตเโ้ึนrหโุกดeเดา)มตย,รยื่อใกุ“ณชใไทาหชอ์้ ารรกะ้ ไณก่”ไมาราจร(์อขWรงึตึน้ะเตhก้งัใไนัง้ดิeครคnข�ำ )าถ้นึ,ถาใามนม 380 อดีตเห”ตุก(Wารhณa์นtนั้ )ข, ้ึน“”เห(Wตุกhyา)ร, ณแลน์ ะั้น“เกหิดตกุขา้ึนรณเม์น่ือ้นั ไเหกิดรข่”ึน้ (ไWด้ hen), “เหอตยุกา่ งาไรรณ” (์นH้ันoเwก)ดิ ข้นึ ที่ไหน” (Where), “ทาไมจงึ เกิด ๒เห) ตขกุ ้นั าทรี่ ณ๒ ์นกาน้ั รขรวึ้นบ”รว(มWหลhักyฐ)า,นและ “เหตกุ ารณน์ท้นัเ่ี กเดิกขิดึน้ขน้ึมีได้ ลอักยา่ษงณไระ”เป(H็นอoยw่า)งไร” (How) ๒) ขัน้ ท่ี ๒ การรวบรวมหลกั ฐาน
หนว่ ยการเรยี นร้ทู ี่ ๑ แผนการจัดการเรยี นรูท้ ่ี ๑ เร่อื ง ความหมายของวธิ ีการทางประวตั ศิ าสตร์ ๓๘๑ เรอื่ ง การใช้วิธกี ารทางประวัติศาสตร์ กลมุ่ สาระการเรยี นรู้ สังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม รายวิชา ประวตั ศิ าสตร์ เวลา ๑ ช๓ว่ั ๘โม๑ง ศาสนาและวฒั นแธผรนรกมาร๔๕๓จ)))ัดกขขขาันน้้ั้ันรทททเร่ี่ี่ี ๔๕๓ียนกกกราาา้ทู รรรี่ปนว๑เิารคเะรสเเเรารมนราะื่อื่อินอยหงงขขวแ์ ้อ้อชิ ลคกมมาะวาลููลตาปรีคมใรชวหะว้าวมมธิัตาขีกิศยอ้าาขรมสอทลู ตงารวง์ธิปกี ราะรวทตั าิศงาปสรตะรว์ ัตศิ าสตร์ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๓ หนว่ ยการเรยี นรูท้ ่ี ๑ สังคมศึกษา กลุม่ สาระการเรียนรู้ เวลา ๑ ช่วั โมง ช้ันมัธยมศึกษาปที ี่ ๓ ๓. ค๓รใู)หน้ข้ันกเทรี่ย๓นเกขายี รนวเิ คร่อืรางระาหว์แเลกะ่ยี ตวกีคับวาชมวี ขติ ้อขมอลูงตนเองซึ่งต้อง สอด๔คล) ้อขงนั้กับทค่ี ๔าถกาามรหปลรกัะเ๕มินคขา้อถมาูลม โดยจะเขยี นเร่ืองจรงิ หรอื เร่อื ง๕ท)่แี ตขง่ น้ัขท้นึ ี่ก๕็ไดก้ เาพรน่ือเารเิ่มสนกิจอกขรอ้ รมมูล“นกั สบื ประวัตศิ าสตร์” ๓(เช. ่นครเใูดหนิ ้นตักกเรบียันนไดเขเยีมนอ่ื เตรอ่ือนงร๖าวโเกมย่ีงเวชกา้ ับบชรีวิเติวขณอหงนตนา้ บเอ้างนทซทสี่ึงต่งี ้องเดิน ผสไปลอเกดพรคระลาทอ้ะบงกกตาับล่อังคชจาวิ ะถิตมาในมาโดหรา้ลงนเักรตีย๕า่ นงคแๆาลถะซาหึง่ มกตล้อโด้มงสยเพอจระดาเคขะลยีไอ้มนง่ทเกรันบั่ือไงคดจ�ำร้ รถะิงาวหมังร)หอื ลกั ๕เ(รO่อื คbงำ�jท.ถ๒แี่ า)ตมง่ เขพน้ึ ่ือกเ็ไรดิม่ ้ กเพิจก่อื รเรริ่มมก“ิจนกักรรสมบื ป“รนะักวสตั บื ศิ ปารสะตวรัต”์ ิศ(าOสbตjร.๒์”) (๔เช. ่นครเสูด่มุนิ นตกั เบรันียไนดเ๔มอ่ืคตนออนอ๖กมโามนงาเชเสา้ นบอรเเิหวตณุกหานรณา้ บ์ขา้ อนงตทนต่ี เอ้ งเดนิ ไพปรเอ้พมรทาะง้ั ใกหาน้ลักงจเระยี มนาคโรนงอเร่ืนยี ๆนแร่วลมะกหันกอลภม้ ิปเพรราายะเหไมต่ทุกนั าไรดณร้ ์นะ้นัวังๆ) และ (หOาbคjา.๒ต)อบว่า เหตุการณด์ งั กล่าวเปน็ เรอ่ื งจริงหรอื ไม่ (ใช้การ ๔รว.บครรวสู ม่มุ ขน้อักมเูลรยีโดนย๔กาครนสมั อภอากษมณาผ์นู้ทาเ่อี สอนกอมเหานตาุกเาสรนณอ์ข)องตนเอง พ๕ร. ้อตมวั ทแท้ังในหน้นักักเเรรียยี นนทคงั้ น๔อ่ืนคๆนรเ่วฉมลกยันคอาภติปอบราใยนเหตุการณ์นทัน้่ีอๆอกแมลาะ หนาคเสานตอคบรวสู า่ รเปุ หกติจุกการรรณมด์พังรก้อลม่าทวั้งเปเส็นนเอรอ่ืแงนจะรวิงธิ หีกราอื รไสมืบ่ (คใช้นก้ าร รขวอ้ บมรลู วตม่าขง้อๆมลูเพโดิ่มยเตกมิาร(สกัมาภรสาษัมภณา์ผษทู้ ณ่อี ์ผอทู้กมีเ่ กาย่ี นวาขเส้อนง,อก)ารใชห้ นังสอื , ๕กา. รตใวัชแ้สท่อื นตน่างักๆเรเียปนน็ ทต้ังน้ ๔) คน เฉลยคาตอบในเหตกุ ารณ์ท่ีออกมา นขาั้นเสรนปุ อครูสรปุ กิจกรรมพร้อมทัง้ เสนอแนะวธิ ีการสืบค้น ข๑อ้. มคูลรตู ่าง้ั ปง รๆะเดพน็ิม่ คเตาิมถา(มกการสะตัมุ้นภคาษวาณมผ์ คู้ทดิ ีเ่ ขกอ่ยี งวนขัก้อเงร,ียกนารแใลชว้ ห้ ในหงั้ สอื , กนาักรเใรชยี ส้นื่อรต่ว่ามงกๆันอเปภน็ ปิ ตรน้ าย) ถงึ คุณค่าของวิธกี ารทางประวตั ิศาสตร์ ขั้นสรุป ๑. ครตู งั้ ประเดน็ คาถามกระตุ้นความคดิ ของนักเรียน แลว้ ให้ นกั เรียนรว่ มกนั อภปิ รายถงึ คุณคา่ ของวิธกี ารทางประวตั ิศาสตร์ 381 3871
หน่วยการเรียนร้ทู ่ี ๑ แผนการจัดการเรียนร้ทู ่ี ๑ เรอ่ื ง ความหมายของวธิ กี ารทางประวตั ิศาสตร์ ๓๘๒ เรือ่ ง การใชว้ ธิ ีการทางประวัตศิ าสตร์ เวลา ๑ ชั่วโมง กลมุ่ สาระการเรยี นรู้ สังคมศกึ ษา ศาสนาและวฒั นธรรม รายวชิ า ประวตั ิศาสตร์ ช้ันมัธยมศึกษาปีท่ี ๓ ดังน้ี ๑) วิธีการทางประวตั ิศาสตรม์ ีความสาคัญต่อชวี ิตของนักเรียน อยา่ งไร (วิธกี ารทางประวตั ศิ าสตรเ์ ปน็ กระบวนการที่ทาให้เรา สามารถศึกษาประวัตศิ าสตร์ไดอ้ ย่างถูกต้อง ดังน้ัน เม่ือเราได้รบั ข้อมลู หรือเรือ่ งราวใดมา ควรนามาพจิ ารณาก่อนการตดั สนิ ใจเช่ือ ในข้อมลู นนั้ เพราะอาจไม่ใชค่ วามจริงเสมอไป) (Obj.๓) ๒. ครแู ละนักเรียนรว่ มกนั สรุปความรู้ เรื่องความหมาย ความสาคัญของวธิ กี ารทางประวัตศิ าสตร์ และให้นักเรียนทา ใบงานเรือ่ งความหมาย ความสาคญั ของวิธีการทางประวตั ศิ าสตร์ จากนนั้ ครูและนักเรียนร่วมกันเฉลยใบงาน 3872
383 3873 การวัดและประเมนิ ผล วิธกี าร สิง่ ที่ต้องการวัด/ประเมิน เครือ่ งมอื ท่ีใช้ เกณฑ์ ด้านความรู้ ๑. การตอบคาถาม ๑. ใบงาน ๑. ตอบคาถามใน ๑. บอกความหมายของวธิ กี าร ในใบงาน ๒. แบบสงั เกต ใบงานได้ถูกต้อง กทารงทปารงะปวรตั ะศิ วาตั สศิ ตารส์ ตร์ ๒. สงั เกตพฤติกรรม พฤติกรรม รอ้ ยละ ๘๐ ข้ึนไป การตอบคาถาม ๑. ใบงาน ระดบั ดีขึน้ ไป ดา้ นทกั ษะ/กระบวนการ ๑. การตอบคาถาม ๒. แบบสังเกต ๑. ตอบคาถามใน ๒. สามารถยกตัวอยา่ งแนว ในใบงาน พฤติกรรม ใบงานได้ถูกต้อง ทางการนาวธิ กี ารทาง ๒. สงั เกตพฤติกรรม รอ้ ยละ ๘๐ ขน้ึ ไป ประวตั ิศาสตรไ์ ปใชใ้ น การตอบคาถาม ๑. ใบงาน ระดับดีข้ึนไป ชวี ติ ประจาวัน ๒. แบบสังเกต ๑. ตอบคาถามใน ดา้ นคุณลักษณะ ๑. การตอบคาถาม พฤติกรรม ใบงานได้ถกู ต้อง ๓. อภปิ รายถึงคณุ ค่าของ ในใบงาน ร้อยละ ๘๐ ขน้ึ ไป วธิ กี ารทางประวตั ศิ าสตร์ ๒. สังเกตพฤติกรรม ระดบั ดีข้นึ ไป การตอบคาถาม ๘. บันทึกผลหลังสอน ผลการเรยี นรู้ ............................................................................................................................. ................................................ ปัญหาและอุปสรรค .................................................................................................................................................................... ...... ขอ้ เสนอแนะและแนวทางแกไ้ ข ............................................................................................. .............................................................................. ลงช่อื ......................................ผสู้ อน (.......................................................) วันท่.ี .........เดอื น..........พ.ศ............. ๙. ความคิดเหน็ /ขอ้ เสนอแนะของผบู้ รหิ ารหรือผ้ทู ี่ได้รบั มอบหมาย .............................................................................................................. ............................................................. ลงชอ่ื ......................................ผตู้ รวจ (.......................................................) วนั ท่ี..........เดอื น..........พ.ศ............
384 3874 ใบงานที่ ๑.๑ เรื่องความหมายของวธิ ีการทางประวัติศาสตร์ วธิ กี ารทางประวัตศิ าสตร์(Historical methods) ความหมายของวธิ ีการทางประวตั ศิ าสตร์ ............................................................................................................................................................................................................................................................. ............................................................................................................................................................................................................................................................. ๑. การก�ำาหนดประเดดน็ ็นปปญั ัญหหาา(WH Question)กกาารรศศึกกึ ษษาาปปรระะววัตตั ิศศิ าสตร์เร่มิ จากการตง้ั ค�ำาถามพน้ืนฐฐาานน หลกั ๕ คาถาม คอื ๑. เกิดเหตุการณอ์ ะไรข้ึนในอดีต................................ ๒. เหตกุ ารณ์นน้ั เกดิ ขนึ้ เมือ่ ไหร่................................... ๓. เหตุการณ์นนั้ เกดิ ขน้ึ ทไ่ี หน....................................... ๔. ทาไมจึงเกดิ เหตุการณน์ ้นั ขึน้ ................................. ๕. เหตุการณ์น้นั เกดิ ขน้ึ ไดอ้ ยา่ งไร............................. ใหน้ กั เรียนเขยี นประวัติชีวิตตนเอง ๑ กรณี โดยอธบิ ายตามหลักคาถามพืน้ ฐาน WhH Question ............................................................................................................................................................................................................................................................. ............................................................................................................................................................................................................................................................. ............................................................................................................................................................................................................................................................. ๒. การรวบรวมข้อมูลเปเป็น็นกกาารรสสืบบื คคน้ น้ ขขอ้ อ้มมูลูลตต่าา่งงๆ ๆโดโยดใยชให้ชล้หกัลฐกั าฐนาทนาทงาปงรปะรวะตั วศิตั าศิ สาตสรต์ ร์ ๓. การวิเคราะห์ ตีความม ปปรระะเเมมินินคคุณุณคค่า่าขขอองงหหลลักักฐฐาานนคคือือกการาตรตรวรจวสจอสบอบหลหักลฐักาฐนาแนลแะลขะ้อขม้อูลมูลใน หในลหักลฐักาฐนาเนหเลห่าลน่า้ันั้นว่าว่ามมีคีคววาามมนน่า่าเเชื่อื่ ถือหรือไม่ ถถือือวว่า่าเเปป็น็นขขั้น้ันตตออนนทที่ม่ีคมวีคาวมาสมำ�สคาัญคมัญามกาทกี่สทุดี่สในุดกใานรกศาึกรษศาึกษา ประวัติศาาสสตตรร์ ์มมวี ีวธิ ิธกี ีกาารรปปรระะเมเมนิ ินดดังนังน้ี ี้ ๓.๑ การประเมินภาย.....................คือ การประเมนิ ผูบ้ ันทกึ หลกั ฐาน และ ประเมนิ ตัวหลกั ฐาน ๓.๒ การประเมินภาย.....................คือ การตกราวรจตสรอวจบสคอวาบมคถวกู าตมอ้ถงูกขตอ้องงหขลอกั งฐหาลนักทฐจ่ี าะนศทกึ ่ีจษะาศึกษา ควบค่กู ับหลกั ฐานอน่ื ๆๆทท่ีเก่ีเกีย่ ี่ยววขขอ้ อ้ งงกกนั นั ในในชชว่ ่วงงเวเวลลาานนัน้ ั้น ๔.การสร๔ุป.กสาังรเสครรุปาะสหัง์เเคชรื่อามะโหย์ งเชข่ือ้ มเทโย็จงจขร้อิงเคทือ็จจกราิงรคนือำ�กขา้อรมนูลาทขี่ผ้อ่ามนูลกทา่ีผร่าวนิเคกราาระวหิเค์ขรอางะหหล์ขักอฐงาหนลแักตฐ่ลาะนแต่ละ ชิ้นมาเชื่อมโยงกนั ๕.การนาเสนอข้อมูล จัดเป็นข้ันตอนสุดท้ายของวิธีการทางประวัติศาสตร์ ซึ่งผู้ศึกษาค้นคว้าจะต้อง เรยี บเรียงเร่ือง หรือนาเสนอข้อมลู ในลักษณะทีเ่ ปน็ การตอบหรอื อธิบายความรู้ความคิดใหม่ที่ได้จากการศึกษา คน้ คว้า มวี ธิ กี ารนาเสนอมากมายเช่น............................................................................................................................................................................... ......................................................................................................................................................................................................................................................................... ความสาคญั ของวิธกี ารทางประวัติศาสตร์ ............................................................................................................................................................................................................................................................. ............................................................................................................................................................................................................................................................. ..................................(..แ....น....ว...ค....า...ต....อ....บ....)....ใ...บ....ง...า...น....ท....ี่...๑.......๑......เ..ร...ื่อ....ง...ค...ว....า...ม....ห....ม....า...ย....ข....อ...ง...ว....ิธ...ีก....า...ร...ท....า....ง...ป....ร...ะ...ว....ัต...ศิ....า...ส....ต....ร...์ .................................
385 3875 (แนวการตอบ) ใบงานท่ี ๑.๑ เรือ่ งความหมายของวธิ กี ารทางประวตั ศิ าสตร์ วิธกี ารทางประวัติศาสตร์(Historical methods) วธิ กี คารวทามางหปมราะยวขตั อศิ งาวสิธตกี รา(์ รHทisาtงoปrรicะaวlตั mิศาeสtตhรo์ ds) วธิ ีการทางประวตั ศิ าสตรเ์ ป็น กระบวนการศกึ ษาประวัติศาสตร์เพ่อื ให้ไดค้ วามรู้และคาตอบท่ีใกล้เคียงกับ ขอ้ เทจ็ จริงได้ถูกต้องมากทีส่ ดุ ๑. การก�ำาหนดปปรระะเเดดน็ ็นปปญั ัญหหาา(WH Question)กกาารรศศึกกึ ษษาาปปรระะววัตั ศิ าสตรเ์ รม่ิ จากการตง้ั ค�ำาถาามมพพน้ื ้ืนฐฐาานน หลกั ๕ ค�ำาถาม คอื 1๑.1๑เกดิ เหตกุ ารณอ์ ะไไรรขขน้ึ ึ้นใในนออดดตี ีตWhat 1๑.2๒เหตกุ ารณน์ น้ั เกกดิ ิดขขน้ึ ึน้ เเมมอ่ื อ่ื ไไหหรร่ ่When 1๑.3๓เหตกุ ารณน์ น้ั เกกดิ ิดขขน้ึ ึน้ ททไ่ี ่ไีหหนนWhere 1๑.4๔ทาไมจงึ เกดิ เหตกุ าารรณณน์ น์ น้ั น้ั ขขน้ึ ้ึนWhy 1๑.5๕เหตกุ ารณน์ น้ั เกกดิ ิดขขน้ึ นึ้ ไไดดอ้ ้อยยา่ ่างงไไรรHow ใหน้ กั เรยี นเขยี นประวัติชวี ิตตนเอง 1 กรณี โดยอธบิ ายตามหลักคาถามพนื้ ฐาน WHh Question ............................................................................................................................................................................................................................................................. ............................................................................................................................................................................................................................................................. ............................................................................................................................................................................................................................................................. ๒. การรวบรวมข้อมลู เปเปน็ ็นกกาารรสสืบืบคคน้ น้ ขข้อ้อมมลู ูลตตา่ า่งงๆ ๆโดโยดใยชใ้หชล้หักลฐักาฐนาทนาทงาปงรปะรวะัตวศิัตาศิ สาตสรต์ ร์ ๓. การวิเคราะห์ ตีความม ปปรระะเเมมินินคคุณุณคค่า่าขขอองงหหลลักักฐฐาานนคคือือกการาตรตรวรจวสจอสบอบหลหักลฐักาฐนาแนลแะลขะ้อขม้อูลมูลใน หในลหักลฐักาฐนาเนหเลห่าลน่าั้นั้นว่าว่ามมีคีคววาามมนน่า่าเเชื่อื่ ถือหรือไม่ ถถือือวว่า่าเเปป็น็นขขั้น้ันตตออนนทที่มี่คมวีคาวมาสมำ�สคาัญคมัญามกาทกี่สทุด่ีสในุดกใานรกศาึกรษศาึกษา ประวตั ศิ าาสสตตรร์ ์มมีวีวิธิธกี ีกาารรปปรระะเมเมนิ ินดดังนังน้ี ี้ ๓.๓.๑ การประเมนิ ภายใน.คอื การประเมนิ ผบู้ ันทึกหลกั ฐาน และ ประเมินตัวหลกั ฐาน ๓.๓.๒ การประเมินภายนอกคือ การกตรารวตจสรวอจบสคอวบามคถวูกามตถ้อูกงขตอ้องงหขลอักงหฐาลนักทฐี่จาะนศทึก่ีจษะาศึกษา ควบคกู่ ับหลักฐานอ่นื ๆๆททเ่ี ก่ีเกีย่ ่ยี ววขข้ออ้ งงกกนั นั ในในชช่ว่วงงเวเวลลาานนัน้ ้นั ๔.การสร๔ุป.กสาังรเสครรุปาะสหัง์เเคชรื่อามะโหย์ งเชขื่อ้ มเทโย็จงจขร้อิงคเทือ็จกจาริงนคำ�ือขก้อามรูลนทาี่ผข่า้อนมกูลาทรี่ผว่าิเคนรกาาะรหว์ขิเคอรงาหะลหัก์ขฐอางนหแลตัก่ลฐะานแต่ละ ช้ินมาเชอ่ื มโยงกัน ๕. การนาเสนอข้อมูล จัดเป็นขั้นตอนสุดท้ายของวิธีการทางประวัติศาสตร์ ซึ่งผู้ศึกษาค้นคว้าจะต้อง เรยี บเรียงเร่ือง หรอื นาเสนอข้อมลู ในลักษณะที่เป็นการตอบหรืออธิบายความรู้ความคิดใหมท่ ี่ได้จากการศึกษา ค้นควา้ มวี ธิ กี ารนาเสนอมากมายเช่นการเขยี นหนงั สือ บทความ ละคร เปน็ ต้น ความสาคญั ของวิธีการทางประวัติศาสตร์ ............................................................................................................................................................................................................................................................. ............................................................................................................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................................................................................................
๓๘๖ แผนการจดั การเรยี นรู้ท่ี ๒ เรื่อง หลกั ฐานทางประวัติศาสตร์ ๓๘๖ หนว่ ยการเรียนรู้ท่ี ๑ เรอื่ ง การใชว้ ิธกี ารทางประวตั ิศาสตร์ เวลา ๑ ช่ัวโมง กลมุ่ สาระการเรยี นรู้ สงั คมศกึ ษา ศาสนาและวฒั นธรรมแผนการจดั การเรียนรรทู้ าี่ ย๒วิชเารื่อปงรหะวลัตกศิฐาสนตทรา์งประวตั ิศาสตร์ ชั้นมธั ยมศกึ ษาปีท่ี ๓ ทปหกตสกทสปตสาลัวัวรราาน๔๔๔รงงะะชช่มุ่วศปป...ววี้ววี้ส๑๑๑ยึกัตัตรรัดัดากะะษศิิศมมมราววาาะ...ร๓๓๓ัตตัสสเกเริศิศร///ตตาื่อ๑๒๑ยีาารรรงสสน์์เรวใวรตตรชาิเเิยี รรคคทู้วว้ น์ไไ์ตรรธิี่ ดดร๑าาีกา่ ้้ออู้ะะงาสยยหหรๆัง่า่าทเ์์เครรงงทามม่ือม่อื งต่ีีีเเงงศปหหรรนึกราาตตสษะววุผุผนวเเาลลหหใตั จตตศตติศาาากุกุามมสสาาววนรรติธธิณณราีกีก์ใแส์์สาานลาารระคคททวญััญาาฒังง นธรใก๑ขใข๑กรหหจิจิัน้นั้..ม้น้นกกคคนนักักรรราาเเรรเูเู รรปปมมยีียิดิดกกนนววาาววดีดีรริเเิ ทิทิเเคครรัศศัรรียยี าานนนนะะ์์เเรรหหกกูู้้ ยี่่ียแ์์แววลลกกะะบับัรรรเว่ว่ รตตามม่อื ยาาอองนนวภภชิาากปิปิ นนาารรกกราาปใรรยยชระะใใะ้วสสนนวิธืืออปปัตีกรรซซศิาะะ่งึ่ึงราเเเเดดทสปป็นน็ตาน็น็ งดดรตตป์ังังาานนรนนะี้้ี าาวนนัตททศิ ้อ้อางงสถถตน่ินิ่ ร์ ๑สอื่. /หแนหังลส่งือเเรรียียนนรวู้ ิชาประชวั้นตั มิศเวธัาลยสาตมรศ์๑กึ มษ.๓ชาป่ัวโีทมี่ ง๓ สขอ๔บ.๑เขตมเ.๓น/้อื ๒หาใชว้ ธิ ีการทางประวตั ศิ าสตร์ใน ส๒อื่. /โแปหรแลกง่ รเรมยี Pนoรู้werPoint เรอื่ ง หลักฐาน ๑ทา. งหปนรงั ะสวือตั เศิรียาสนตวรชิ ์ าประวัติศาสตร์ ม.๓ ๒๓. โใปบรงาแนกรเมร่ือPงoหwลeกั rฐPาoนinทtาเงรปอื่ รงะวหตัลิศกั าฐสาตนร์ ท๔า. งปปรระะววัตตั ทิ ิศอ้ างสถต่ินรข์ องตนเอง ๓๕. ใภบางพาหนลเกั รฐ่ือางนหทลากังปฐารนะวทตัาิศงปาสระตวรตั์ ศิ าสตร์ ก๑ในา.รคกศวาึการษมศาหึกเมษร่ือายงเรรขื่อาองวงรตหา่าลวงตักๆ่าฐงาทนๆ่ตี ทนทาสง่ีตปนรใสจะนวใัตจศิ าสตร์ ๔ภา. รปะรงะาวนัต/ทิ ชอ้ ิ้นงงถา่ินนของตนเอง ข๒อ. บปเรขะตเภเนทื้อขหอางหลกั ฐานทางประวตั ิศาสตร์ ๕๑. ภเขาียพนหบลอกั กฐคาวนาทมาหงมปารยะขวอัตงิศหาลสกัตฐรา์ นทาง ๑จดุ. ปควราะมสหงคม์กายารขเอรงยี หนลรักู้ ฐานทางประวัติศาสตร์ ภปาระระวงัตาิศนา/สชต้นิ ร์ใงนาในบงานเรอ่ื งหลกั ฐานทาง ๒ด้า. นปคระวเาภมทรขู้ องหลักฐานทางประวัติศาสตร์ ทมี่ า: https://www.youtube.com/watch?v=YjWjsM๐4K๐E ๑ปร. ะเขวยีัตนศิ บาสอตกรค์ วามหมายของหลกั ฐานทาง จ๑ดุ. ปนรกั ะเรสยีงนคส์กามรเารรียถนบรอู้ กความหมายของหลักฐาน ๑) นกั เรียนเช่อื เรื่องตานานดังกล่าวหรอื ไม่ อย่างไร ป๒ร. ะแวยัตกิศปารสะตเภร์ใทนขใอบงหานลักเรฐ่ือางนหทลากั งฐานทาง ดทา้ นงปครวะาวมตั ริศู้ าสตร์ได้อยา่ งถูกต้อง ประวัติศาสตร์จากภาพท่ีครูกาหนด ๑๒. นกั เรียนสามารถรบะอบกปุ ครวะาเมภหทมขาอยงขหอลงักหฐลาักนฐทาานง (ทพี่มิจาา:รhณtาtpจsา:ก/ค/wาตwอwบ.ขyoองuนtuกั bเรeีย.cนo)m/watch?v=YjWjsM๐4K๐E ๒๓. แพยูดกยปกรตะวั เอภยทา่ ขงอกงาหรนลากั หฐลานักทฐานงทาง ทปรางะปวัตระศิ วาตัสศิตารส์ไดต้อรยไ์ ด่า้องถยูกา่ งตถ้อกู งต้อง ๑๒) นทักาอเรยยี ่านงไเชรใือ่ หเร้ต่อื างนตาานนดาังนกดลัง่ากวลมา่ คี ววหารมือนไ่ามเ่ชออื่ ยถ่าอืงมไรากขน้ึ ประวตั ิศาสตร์จไปาใกชภใ้ าหพ้เกทดิ ี่คปรรกู ะาโหยนชดน์ ๒. นกั เรียนสามารถระบปุ ระเภทของหลกั ฐานทาง ๓. พูดยกตัวอย่างการนาหลกั ฐานทาง ปทรางะวปตั รศิ ะาวสตั ติศรา์ไสดต้อรย์ไ่าดง้อถยกู า่ ตง้อถงกู ต้อง (พต้อจิ งามรณีพยาาจนากแคลาะตหอลบักขฐอานงนปกัรเะรกยี อนบ)) ประวตั ศิ าสตรไ์ ปใชใ้ ห้เกดิ ประโยชน์ ดา้ นทกั ษะและกระบวนการ ๒) ทาอย่างไรให้ตานานดังกล่าวมคี วามน่าเช่อื ถอื มากข้ึน ๓. นกั เรยี นสามารถยกตัวอย่างการนาหลักฐาน ดทา้ นงปทรักะษวะัตแศิ ลาสะกตระไ์ ปบใวชน้ใหก้เากริดประโยชนไ์ ด้ (ขตั้นอ้ สงอมนพี ยานและหลักฐานประกอบ) ๓. นกั เรยี นสามารถยกตวั อย่างการนาหลกั ฐาน ๑. ครใู หน้ กั เรียนช่วยกันบอกความหมายของหลกั ฐานทาง ทางประวัติศาสตร์ไปใชใ้ ห้เกดิ ประโยชนไ์ ด้ ขปัน้ระสวอัตนิศาสตรจ์ ากความรูเ้ ดิม จากนัน้ ให้นักเรยี นศึกษาความหมาย ๑ขอ. งคหรลใู หักน้ฐาักนเรทยี านงชปว่รยะกวนัติศบาอสกตครว์จาามกหหมนาังยสขืออเงรหยี ลนักวฐิชานทาง ประวัตศิ าสตรจ์ ากความรู้เดิม จากนั้นใหน้ ักเรยี นศึกษาความหมาย ของหลักฐานทางประวัติศาสตร์จากหนงั สือเรยี นวิชา 386 3876
หนว่ ยการเรียนรู้ท่ี ๑ แผนการจดั การเรยี นรู้ท่ี ๒ เรือ่ ง หลักฐานทางประวตั ศิ าสตร์ ๓๘๗ เรื่อง การใชว้ ธิ กี ารทางประวตั ศิ าสตร์ เวลา ๑ ชั่วโมง กลุ่มสาระการเรียนรู้ สงั คมศกึ ษา ศาสนาและวัฒนธรรม รายวิชา ประวัตศิ าสตร์ ชั้นมัธยมศกึ ษาปีที่ ๓ อยา่ งเหมาะสม ประวัตศิ าสตร์ แล้วบนั ทึกความหมายทถี่ ูกต้องตามความเข้าใจ ดา้ นคุณลกั ษณะ ของตนลงในสมุด ครูสุ่มเรยี กนักเรยี นให้บอกความหมายของ ๔. นกั เรียนอภปิ รายความสาคญั และระบุแนวทาง หลกั ฐานทางประวัติศาสตร์ ๔-๕ คน ครเู พิม่ เติมให้สมบูรณ์ใน ในการอนุรักษ์หลกั ฐานทางประวตั ิศาสตร์ได้อยา่ งมี ปในรปะรเดะน็เดท็นี่ขทาี่ขดาหดาหยาไปยไดปังดนงั้ี “นหี้ “ลหักลฐกัานฐาทนาทงปางรปะรวะัตวิศตั าศิสาตสรต์ ครือ์ คือ เหตุผล ร่องรอยการกระทาำ�ของมนุษย์ในอดีต ท่ีใช้เครื่องมอื ส�ำาคญั ในการ สกาบื รคส้นบื แคสน้ วแงสหวางขห้อาเขทอ้ จ็ เจทรจ็ งิ จเรกงิ่ียเกวกย่ี วบั กสบั งั คสงัมคมมนมุษนยษุ ์ใยนใ์อนดอีตดตีแหแลห่งลขข่ อ้ อ้ มมลู ลู ทางประวตั ศิ าสตร์ในการศกึ ษาปรากฏการณ์ที่เกิดข้ึนในสังคมไทย แต่ละยุคสมัย”(Obj.๑) ๒. ครใู หน้ ักเรียนศกึ ษาความรู้เร่ืองประเภทของหลกั ฐานทาง ประวตั ิศาสตร์จากหนังสอื เรียน โดยครูใช้คาถามเพื่อกระตุ้นการ กคาิดรขอคงดิ ผข้เูอรงยี ผนเู้ รวยีา่ นวา่ ๑) กาแพงเบอรล์ นิ และหนงั สอื เรียนวิชาประวัตศิ าสตร์ จดั เปน็ หลักฐานทางประวัติศาสตรห์ รือไม่ (เป็นหลักฐานทาง ประวัติศาสตร์) ๒) กาแพงเบอร์ลนิ และหนังสือเรียนวชิ าประวัติศาสตร์ เปน็ หลกั ฐานทางประวัติศาสตร์ที่ต่างกันอย่างไร (กาแพงเบอร์ลนิ มี ลกั ษณะเปน็ ส่งิ ปลูกสรา้ ง เกิดข้ึนในสมัยสงครามเยน็ ส่วนหนงั สือ เรียนวชิ าประวัตศิ าสตร์มีลักษณะเป็นตัวอักษร ข้อมูลในหนังสอื ถกู รวบรวมข้ึนในสมยั ปจั จุบนั ) ๓. ครูใหน้ กั เรียนบนั ทึกความรู้ทไ่ี ด้ลงในสมดุ “ลักษณะสาคญั ของ 3877
หน่วยการเรยี นรู้ที่ ๑ แผนการจัดการเรยี นรู้ท่ี ๒ เรอื่ ง หลักฐานทางประวัติศาสตร์ ๓๘๘ เรือ่ ง การใช้วิธกี ารทางประวตั ิศาสตร์ เวลา ๑ ช่ัวโมง กลมุ่ สาระการเรียนรู้ สังคมศกึ ษา ศาสนาและวฒั นธรรม รายวิชา ประวัตศิ าสตร์ ชั้นมธั ยมศึกษาปีที่ ๓ หลักฐานประวัติศาสตร์ มีอยู่หลายลักษณะ โดยหากแบ่งตาม ลักษณะจะได้ ๒ ประเภท คือ หลกั ฐานทีเ่ ปน็ ลายลกั ษณ์อักษร และไมเ่ ป็นลายลักษณ์อักษร หรอื แบง่ ตามความสาคัญจะได้ ๒ ประเภทคือ หลกั ฐานช้ันตน้ และหลักฐานชัน้ รอง” (Obj.๒) ๔. ครแู บง่ นักเรยี นออกเป็น ๒ กลุม่ กลมุ่ ละเท่าๆ กนั (เลขที่คู่กับ เลขทค่ี )ี่ จากนัน้ ใหน้ ักเรียนแต่ละกลุม่ แขง่ กนั แยกประเภท หลักฐานทางประวตั ิศาสตร์ตามท่ีครกู าหนด โดยครูมภี าพ หลักฐานทางประวัติศาสตร์แจกใหผ้ เู้ รยี นกล่มุ ละ ๑๐ ภาพ ดงั นี้ ทม่ี า : https://sitteess.g.goooogglele.c.coomm//ssitiete/s/osommyoyoscshchamamnnoonngsgosotoht/hw/wicihcah-a- s2222110022-p-rparwawataistiassatsrt/rh/hlalahh-t-hthaann--tthhaanngg--pprraawwaattisastr 3878
หน่วยการเรียนรทู้ ่ี ๑ แผนการจัดการเรยี นรู้ท่ี ๒ เร่อื ง หลกั ฐานทางประวัตศิ าสตร์ ๓๘๙ เรอ่ื ง การใชว้ ิธีการทางประวัติศาสตร์ เวลา ๑ ช่ัวโมง กลมุ่ สาระการเรยี นรู้ สังคมศกึ ษา ศาสนาและวฒั นธรรม รายวิชา ประวตั ศิ าสตร์ ช้ันมัธยมศึกษาปีท่ี ๓ ที่มา : https://writer.dekd.com/historyteacherp/ story/viewlongc.php?id=11005500717212 ท่ีมา : htttpp:/:/1/11199.4.466.1.11166..11226/sseelfl_f_alal/lsle/slfeaclfcaecscs8e/ss8/ M2/197/lessssoonn11/l/elsessosno1n.p1h.php 3879
หนว่ ยการเรยี นรทู้ ี่ ๑ แผนการจัดการเรียนรทู้ ่ี ๒ เร่อื ง หลักฐานทางประวตั ศิ าสตร์ ๓๙๐ เรื่อง การใชว้ ธิ ีการทางประวัตศิ าสตร์ เวลา ๑ ช่ัวโมง กลมุ่ สาระการเรียนรู้ สังคมศึกษา ศาสนาและวฒั นธรรม รายวิชา ประวัติศาสตร์ ชั้นมัธยมศกึ ษาปที ี่ ๓ ทม่ี า : http://moooyyoorr-j-ajacckk.b.blologsgpspoot.ct.ocmom/2/0200099//008/blog-poosstt.h.httmmll ทีม่ า : https://writer.dek- d.com/historyteacherp/story/ viewlongc.php?id=1050712 33890
หนว่ ยการเรียนรูท้ ี่ ๑ แผนการจดั การเรยี นรู้ที่ ๒ เรอื่ ง หลักฐานทางประวัติศาสตร์ ๓๙๑ เร่ือง การใชว้ ธิ ีการทางประวัติศาสตร์ เวลา ๑ ช่ัวโมง กลุ่มสาระการเรียนรู้ สงั คมศึกษา ศาสนาและวฒั นธรรม รายวิชา ประวตั ิศาสตร์ ชั้นมัธยมศึกษาปีท่ี ๓ ท่ีมา : https://pierceschoolbro okline.wikispaces.com/ Oracle+Bones+Shang+ Dynasty?responseToke n=04fb72a8149a613f6f ท8่ีม4า4c:51bfa42ea17 https://today.line.me/t h/pc/article/B94- 1V69gB ท่ีมา : http://readery.co/ 9786167146607 33891
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147
- 148
- 149
- 150
- 151
- 152
- 153
- 154
- 155
- 156
- 157
- 158
- 159
- 160
- 161
- 162
- 163
- 164
- 165
- 166
- 167
- 168
- 169
- 170
- 171
- 172
- 173
- 174
- 175
- 176
- 177
- 178
- 179
- 180
- 181
- 182
- 183
- 184
- 185
- 186
- 187
- 188
- 189
- 190
- 191
- 192
- 193
- 194
- 195
- 196
- 197
- 198
- 199
- 200
- 201
- 202
- 203
- 204
- 205
- 206
- 207
- 208
- 209
- 210
- 211
- 212
- 213
- 214
- 215
- 216
- 217
- 218
- 219
- 220
- 221
- 222
- 223
- 224
- 225
- 226
- 227
- 228
- 229
- 230
- 231
- 232
- 233
- 234
- 235
- 236
- 237
- 238
- 239
- 240
- 241
- 242
- 243
- 244
- 245
- 246
- 247
- 248
- 249
- 250
- 251
- 252
- 253
- 254
- 255
- 256
- 257
- 258
- 259
- 260
- 261
- 262
- 263
- 264
- 265
- 266
- 267
- 268
- 269
- 270
- 271
- 272
- 273
- 274
- 275
- 276
- 277
- 278
- 279
- 280
- 281
- 282
- 283
- 284
- 285
- 286
- 287
- 288
- 289
- 290
- 291
- 292
- 293
- 294
- 295
- 296
- 297
- 298
- 299
- 300
- 301
- 302
- 303
- 304
- 305
- 306
- 307
- 308
- 309
- 310
- 311
- 312
- 313
- 314
- 315
- 316
- 317
- 318
- 319
- 320
- 321
- 322
- 323
- 324
- 325
- 326
- 327
- 328
- 329
- 330
- 331
- 332
- 333
- 334
- 335
- 336
- 337
- 338
- 339
- 340
- 341
- 342
- 343
- 344
- 345
- 346
- 347
- 348
- 349
- 350
- 351
- 352
- 353
- 354
- 355
- 356
- 357
- 358
- 359
- 360
- 361
- 362
- 363
- 364
- 365
- 366
- 367
- 368
- 369
- 370
- 371
- 372
- 373
- 374
- 375
- 376
- 377
- 378
- 379
- 380
- 381
- 382
- 383
- 384
- 385
- 386
- 387
- 388
- 389
- 390
- 391
- 392
- 393
- 394
- 395
- 396
- 397
- 398
- 399
- 400
- 401
- 402
- 403
- 404
- 405
- 406
- 407
- 408
- 409
- 410
- 411
- 412
- 413
- 414
- 415
- 416
- 417
- 418
- 419
- 420
- 421
- 422
- 423
- 424
- 425
- 426
- 427
- 428
- 429
- 430
- 431
- 432
- 433
- 434
- 435
- 436
- 437
- 438
- 439
- 440
- 441
- 442
- 443
- 444
- 445
- 446
- 447
- 448
- 449
- 450
- 451
- 452
- 453
- 454
- 455
- 456
- 457
- 458
- 459
- 460
- 461
- 462
- 463
- 464
- 465
- 466
- 467
- 468
- 469
- 470
- 471
- 472
- 473
- 474
- 475
- 476
- 477
- 478
- 479
- 480
- 481
- 482
- 483
- 484
- 485
- 486
- 487
- 488
- 489
- 490
- 491
- 492
- 493
- 494
- 495
- 496
- 497
- 498
- 499
- 500
- 501
- 502
- 503
- 504
- 505
- 506
- 507
- 508
- 509
- 510
- 511
- 512
- 513
- 514
- 515
- 516
- 517
- 518
- 519
- 520
- 521
- 522
- 523
- 524
- 525
- 526
- 527
- 528
- 529
- 530
- 531
- 532
- 533
- 534
- 535
- 536
- 537
- 538
- 539
- 540
- 541
- 542
- 543
- 544
- 545
- 546
- 547
- 548
- 549
- 550
- 551
- 552
- 553
- 554
- 555
- 556
- 557
- 558
- 559
- 560
- 561
- 562
- 563
- 564
- 565
- 566
- 567
- 568
- 569
- 570
- 571
- 572
- 573
- 574
- 575
- 576
- 577
- 578
- 579
- 580
- 581
- 582
- 583
- 584
- 585
- 586
- 587
- 588
- 589
- 590
- 591
- 592
- 593
- 594
- 595
- 596
- 597
- 1 - 50
- 51 - 100
- 101 - 150
- 151 - 200
- 201 - 250
- 251 - 300
- 301 - 350
- 351 - 400
- 401 - 450
- 451 - 500
- 501 - 550
- 551 - 597
Pages:
