Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore 64-08-24-คู่มือและแผนการเรียนรู้_สังคมศึกษาฯ ม.3-05271401

64-08-24-คู่มือและแผนการเรียนรู้_สังคมศึกษาฯ ม.3-05271401

Published by elibraryraja33, 2021-08-24 03:34:08

Description: 64-08-24-คู่มือและแผนการเรียนรู้_สังคมศึกษาฯ ม.3-05271401

Search

Read the Text Version

๒๙๒ หนว่ ยการเรยี นรทู้ ่ี 7 เรือ่ ง สังคมดมี สี ุข แผนการจดั การเรยี นรู้ท่ี 51 เรือ่ ง ปัญหาในชุมชนและแนวทางแกไ้ ข เวลา 1 ช่ัวโมง กลุม่ สาระการเรยี นรู้สังคมศกึ ษา ศาสนาและวัฒนธรรม รายวิชาสังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม ชั้นมัธยมศกึ ษาปีที่ 3 มาตรฐานการเรยี นรู้ กิจกรรมการเรียนรู้ สอ่ื /แหล่งเรียนรู้ ส 2.1 เข้าใจและปฏบิ ัตติ นตามหน้าทีข่ องการเปน็ ข้นั นา 1-. ข่าวปัญหาในชมุ ชนท้องถ่ิน พลเมอื งดี มคี า่ นิยมท่ีดีงามและธารงรกั ษา 1. ครนู าข่าวปัญหาในชุมชนทอ้ งถ่นิ เชน่ ปัญหาดา้ นคมนาคมขนส่ง ภาระงาน/ช้ินงาน ประเพณีและวฒั นธรรมไทย ดารงชวี ิตอย่รู ่วมกนั - ในสงั คมไทยและสงั คมโลกอย่างสนั ตสิ ขุ ปัญหาด้านสาธารณปู โภคและสาธารณูปการ ปัญหาภยั ธรรมชาติและ สิง่ แวดลอ้ ม ปญั หานาท่วม ปัญหาการชะลา้ งพงั ทลายของดนิ และดินถล่ม ตวั ชี้วัด ปญั หานาเสีย ปัญหาการบุกรุกพนื ที่ป่า ปญั หาการขยายตัวของ ภาคอุตสาหกรรม เปน็ ต้น ใหน้ กั เรยี นดูแลว้ ตงั ประเด็นคาถามดังต่อไปนี ม.3/4 วเิ คราะห์ปัจจัยทกี่ ่อใหเ้ กดิ ปัญหาความ 1) จากขา่ วปญั หาในชุมชนข้างตน้ นกั เรียนคิดวา่ ปัญหานันสง่ ผล ขดั แยง้ ในประเทศ และเสนอแนวคดิ ในการลด กระทบตอ่ คนในชมุ ชนอย่างไรบา้ ง ความขดั แย้ง 2) ในชมุ ชนของนกั เรียนมปี ัญหาใดบา้ งที่ส่งผลกระทบต่อคนใน ม.3/5 เสนอแนวคดิ ในการดารงชวี ติ อย่างมี ชุมชน ความสุขในประเทศและสังคมโลก 2. ครกู ล่าวเชอื่ มโยงคาตอบของนกั เรยี นว่า สภาพสังคมไทยจากอดีต ถงึ ปัจจุบนั เปล่ยี นแปลงไปอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะปัญหาสังคมทเ่ี กดิ ขนึ สาระสาคัญ อยา่ งต่อเนอื่ งที่นบั วันยิ่งจะทวคี วามรนุ แรงมากขึน การศกึ ษาเกย่ี วกับ การอยูร่ ่วมกนั ในสงั คมยคุ ปจั จุบันระดบั ครอบครวั ปัญหาในชุมชน จะทาให้เกดิ ความเข้าใจท่ีถูกต้องและสามารถนาไป ชมุ ชน สังคม ประเทศชาติ และสงั คมโลก บคุ คล แกป้ ญั หาในชุมชนของตนเองรวมถึงใช้ในชีวิตประจาวันได้ถูกต้อง จะตอ้ งมีความสัมพันธ์ซง่ึ กนั และกันในระดับต่างๆ การดาเนนิ วิถีชวี ติ มคี วามสุขจะตอ้ งมี ปัจจยั ท่ี ส่งเสรมิ การดารงชีวิตอย่างสรา้ งสรรค์ ขัน้ สอน ขอบเขตเนอ้ื หา 1. ครูเปดิ โอกาสใหผ้ ู้เรยี นร่วมกนั แสดงความคิดเหน็ โดยครูถามใช้คาถาม ดงั ต่อนี 22892

๒๙๓ ๒๙๓ แผนการจัดการเรยี นรู้ที่ 51 เร่ือง ปัญหาในชุมชนและแนวทางแก้ไข หน่วยการเรียนรทู้ ี่ 7 เร่อื ง สังคมดมี สี ุข แผนการจดั การเรียนร้ทู ่ี 51 เรเว่ือลงาป1ัญหชา่วั ใโนมชงมุ ชนและแนวทางแกไ้ ข กหลนมุ่ ่วสยากราะรกเรายีรนเรรยี ู้ทนี่ ร7ู้สังเรคือ่ มงศสกึ ังษคามดศมีาสี นุขาและวฒั นธรรม รายวชิ าสังคมศกึ ษา ศเวาลสานา1แลชะว่ั วโมัฒงนธรรม ชน้ั มัธยมศกึ ษาปีท่ี 3 1ขกลอ) ุม่บปสัญเขาหตราเะนใกน้อื าชหรมุ เารชียนนทร้อู้สงงั ถคนิ่ มศกึ ษา ศาสนาและวัฒนธร1ร.1ม นักรเารยียวนชิ คาิดสวัง่าคคมนศทกึ ่ีษน่าาจศะามสีคนวาาแมลสะุขวัฒท่ีสนุดธใรนรมโลกนี คชือน้ั ใมคัธรยม(ผศู้เกึรษียานปีท่ี 3 21) แปนัญวหทาาใงนกชาุมรชแนก้ไทข้อปงัญถิน่หา ส1ะ.1ทอ้ นนักแเนรีวยคนดิ ค)ิด(วท่ากั คษนะทก่ีนาร่าคจดิ ะวมิเีควราะมหส)์ุขที่สุดในโลกนี คือใคร (ผู้เรียน จ2ุด) ปแรนะวสทงาคง์การแเรกยี ไ้ นขรปู้ ญั หา 1สะ.2ทอ้ใหนน้แักนเวรคยี ิดน)ย(กทตักัวษอยะก่างาแรนควิดทวาิเงคกราาระรห่ว)์มมือในการลดความขัดแย้งและ ดจ้าุดนปครวะสามงครู้ก์ ารเรยี นรู้ ก1า.2รสใรหา้ ้นงคกั วเราียมนสมยกานตฉวั อันยทา่์ใงนแสนงั วคทมาไทงกยาแรลระ่วรม่วมมือกในั กอาภริปลรดาคยวถาึงมผขลัดทแี่เยก้งดิ และ 1ดา้. นคกั วเราียมนรอู้ ธบิ ายสภาพปญั หาในชมุ ชนและ ขกึนารกสับรปา้ งรคะวเทามศสชมาตานิ (ฉผันู้เรทยี ์ในสะงั คทม้อไนทแยนแวลคะิดร)่วม(ทกักนษอะภกปิ ารรายยกถตึงผัวลอทย่าีเกงิด) ส1า.มนาักรเถรวยี ิเนคอราธะิบหายป์ สัจภจยัาพทปสี่ ง่ญั เสหราิมในกชารุมดชานรแงลชะวี ติ ให้ 2ขึน. กคับรปูนราะเเสทนศอชวาีตดิีท(ผัศู้เนรีย์เรนื่อสงะท“้อคนนแดนีขวคอิดง)แ(ผท่นกั ดษินะก”ารโยดกยตมัวีใอจยคา่วงา)มสาคัญ มสคีามวามรถสวขุ เิ ไคดร้ าะหป์ ัจจัยทส่ี ง่ เสรมิ การดารงชวี ิตให้ เ2ก.ี่ยควรกูนับา(เกสานรอปวฏีดิบีทัตัศิตนน์เรเป่ือ็นง แ“บคบนอดยีข่าองขงแอผงค่นนดดินีใ”นสโังดคยมม)ีใจเวคลวาาม5สนาคาัทญี มคี วามสุขได้ จเกา่ียกวนกั นับ ใ(หก้ ผาู้ รเรปี ยฏนิบรัต่ วิตมนกเันปแ็นสแดบงบคอวยา่ามงคขิดอเงกค่ียนวดกีใับนกสาังรคดมา)รเงวชลีวาิต5อยน่ าางทมี ด้านทักษะและกระบวนการ คจวาากมนสันุขขใหอง้ผตู้เนรียเอนงร่วโดมยกคันรแูถสาดมคงคาถวามคดิดังเนกี ี่ย(Oวกbับj.1ก)า(รทดักาษรงะชกีวาิตรทอยา่งาางนมี 1ด.้าผนู้เรทียักนษนะาแเสลนะกอรตะัวบอวยน่างกกาารรประยุกต์ใช้หลัก กคลวมุ่าม) สุขของตนเอง โดยครูถามคาถาม ดังนี (Obj.1) (ทักษะการทางาน พ1อ.ผเเู้พรียงนเนพาอ่ื เสสง่ นเสอรติมวั กอายร่าดงการางรชปวี รติ ะใยหุก้สตนั ์ใชตห้ิสขุลไกั ด้ 2กล.1มุ่ )ในปจั จุบันนนี ักเรยี นมีความสุขดีหรือไม่ (ตัวอย่างคาตอบ ไม่มี อพยอา่เพงหยี ลงาเพก่อืหสลง่าเยสริมการดารงชวี ิตให้สันติสขุ ได้ ค2ว.1ามใสนุขป/ัจมจีคบุ วนั านมีนสกั ุขเ)รียนมีความสุขดีหรือไม่ (ตัวอยา่ งคาตอบ ไม่มี ดอา้ยนา่ งคหณุ ลลากั ษหลณาะย 2คว.2ามนสักขุ เร/ยีมนคี มวคีามวาสมุขส)ขุ ด้วยเร่ืองอะไรมากที่สุด (ตัวอยา่ งคาตอบ เรื่อง ด1า้.ผนู้เครียุณนลสกั าษมณาระถเชญิ ชวนให้ผู้อนื่ ใชช้ ีวติ อยา่ งมี ก2า.2รไนดเ้กั รเียรยีนนหมนคี ังวสาือม)สุขด้วยเร่ืองอะไรมากทีส่ ุด (ตัวอยา่ งคาตอบ เรือ่ ง ค1ว.ผาู้เมรสยี ขุ นเสพาื่อมคารรอถบเชคญิ รัวชวชนมุ ใชหน้ผอู้สืน่ังคใชมช้ แีวิตละอย่างมี 2กา.3รไนดักเ้ รเรยี ียนนหคนิดงั วส่าือม)ีปัจจัยใดบา้ งท่ีจะสร้างความสุขใหก้ ับคนในสังคม ปควระามเทสศุขชเพาต่ือิครอบครวั ชมุ ชน สงั คม และ (2ต.ัว3อนยัก่าเงรคียานตคอิดบวา่คมนีปไมัจจ่ทยั ะใเดลบาะ้ากงทนั ี่จมะสนี รา้ ้าใงจควราักมษสาขุ กใฎหหก้ มับาคยนใแนลสะังเคปมน็ ประเทศชาติ พ(ตลัวเอมยอื ่างงทคีด่ าีขตองบสคงั คนมไม)่ท(ทะเกั ลษาะกคันวามมนี คา้ิดใสจรา้รกังสษรารกคฎ์)หมาย และเปน็ พลเมืองทเพี่ด่อื ีขทอบงทสวงั นคคมว)า(มทรกั ู้เดษิมะแคลวะานมคาเดิ ขส้ารส้าู่กงจิ สกรรรรคม)์ เรอื่ ง “แกไ้ ขปัญหา สังคม ลบเพป่ือมทดบ้วทยวอนุดคมวกาามรรณู้เด์”ิมและนาเขา้ สู่กจิ กรรมเรอื่ ง “แกไ้ ขปัญหา สงั คม ลบปมด้วยอุดมการณ์” 22893293

๒๙๔ หน่วยการเรียนรู้ที่ 7 เร่ือง สังคมดมี สี ุข แผนการจัดการเรียนรทู้ ี่ 51 เรอ่ื ง ปัญหาในชุมชนและแนวทางแก้ไข เวลา 1 ช่ัวโมง กลุ่มสาระการเรียนรู้สงั คมศึกษา ศาสนาและวฒั นธรรม รายวิชาสังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม ช้ันมัธยมศึกษาปีที่ 3 3. ผู้เรียนศึกษาแนวทางการดารงชีวิตในสังคมไทยและสังคมโลกจาก หนังสือเรียน จากนันสรุปความรู้ลงในบันทึกการเรียนรู้ เพ่ือเร่ิมกิจกรรม “คอนเสปแหง่ ความสุข” โดยมีขันตอนดังตอ่ ไปนี (Obj.2) 3.1 ครจู าลองห้องเรียนเป็นเวทเี สวนา การสรา้ งความสุขในสังคม และมอบหมายให้ ผู้เรียนเป็นวิทยากรอบรมด้านการดารงชีวิตอย่างมี ความสุข 3.2 ผู้เรียนร่วมกันอภิปรายแลกเปลี่ยนความคิดเห็นเก่ียวกับ ปัจจัยที่ทาให้คนดารงชีวิตอยู่ในสังคมได้อย่างมีความสุข ทังระดับตนเอง ครอบครวั สังคม และประเทศชาติ (ทกั ษะการอภิปราย) 3.3 ผู้เรียนแต่งคาขวัญหรือคาคมสัน ๆ เกี่ยวกับการดารงชีวิต อย่างมีความสุขในสงั คมไทยและสังคมโลก (Obj.3) 22894

๒๙๕ หนว่ ยการเรียนรทู้ ี่ 7 เร่อื ง สังคมดีมสี ุข แผนการจัดการเรยี นรทู้ ี่ 51 เรื่อง ปัญหาในชมุ ชนและแนวทางแกไ้ ข เวลา 1 ชวั่ โมง กลุ่มสาระการเรียนรู้สงั คมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม รายวิชาสังคมศกึ ษา ศาสนาและวัฒนธรรม ช้ันมัธยมศกึ ษาปีที่ 3 3.4 ครูสุ่มผู้เรียนออกมาเสนอแนวคิดในการดารงชีวิตอย่างมี ความสุขในประเทศไทยและสังคมโลก จากนันร่วมกันสรุปแนวคิดท่ีได้ลง ในชนิ งาน (ทกั ษะการสร้างยทุ ธศาสตร,์ ประยุกต์ใช้ความรู้) ครูใหผ้ ้เู รยี นเขียนเรยี งความเก่ยี วกับแนวทางการดาเนนิ ชีวิต อย่างมีความสขุ ของนักเรยี น และออกมานาเสนอเรยี งความอยา่ ง สรา้ งสรรค์ในคาบเรียนหนา้ จากนนั สรปุ กิจกรรมและอธิบายเสนอแนะ เพ่ิมเติมใหส้ มบูรณ์ ข้ันสรุป ผเู้ รียนและครูรว่ มกันสรุปความรู้ ดังนี “ปัญหาความขัดแย้งที่ เกิดในสงั คมไทย สง่ ผลให้เกิดการเปล่ยี นแปลงทางสังคมมากมาย ดังนั้น ประชาชนทกุ คนในสังคม จึงควรเสนอแนวคิดในการลดความขัดแย้ง เพ่ือ เป็นแนวทางในการดารงชวี ิตอยา่ งมีความสุข” (GEN) 22895

22896 296 การวดั และประเมินผล วธิ ีการ เคร่อื งมอื ผู้ประเมนิ ขอบเขตการวดั - การตอบคาถาม - ห นั ง สื อ เ รี ย น สั ง ค ม ศึ ก ษ า ชั น ผู้สอน/ ความรู้ - การทาใบงาน มธั ยมศกึ ษาปที ี่ 3 ผเู้ รียน - การทากจิ กรรม - การถามคาถาม  ปัจจยั ทสี่ ่งเสรมิ การดารงชีวิตให้มี - การชมวดี ที ัศน์ - กจิ กรรม “คอนเสปแห่งความสุข” - บันทกึ การเรยี นรู้ ความสขุ - การตอบคาถาม - ห นั ง สื อ เ รี ย น สั ง ค ม ศึ ก ษ า ชั น ผู้สอน/  ตวั อย่างแนวทาง - การทาใบงาน มธั ยมศกึ ษาปีที่ 3 ผู้เรยี น - การทากิจกรรม - การถามคาถาม สมรรถนะสาคญั - การชมวดี ที ศั น์ - กิจกรรม “คอนเสปแหง่ ความสุข” 1. ความสามารถในการสื่อสาร - บันทกึ การเรียนรู้ 2. ความสามารถในการคิด 3. ความสามารถในการใชท้ ักษะชีวิต - การตอบคาถาม - การถามคาถาม ผู้สอน คณุ ลักษณะอันพงึ ประสงค์ - การสงั เกต - แ บ บ สั ง เ ก ต พ ฤ ติ ก ร ร ม ด้ า น 1. มีวนิ ยั พฤติกรรม คณุ ลักษณะอันพงึ ประสงค์ 2. ใฝ่เรียนรู้ - คาถามเพอื่ พัฒนาเจตคติ 3. มงุ่ มั่นในการทางาน ชนิ้ งาน/ภาระงาน  กจิ กรรม “คอนเสปแหง่ ความสขุ ” เกณฑก์ ารประเมินผล  กจิ กรรม “คอนเสปแหง่ ความสขุ ”

22897 297 1. ด้านความรู้ (K) ประเดน็ การ ระดบั คณุ ภาพ น้าหนกั คะแนน ประเมนิ 2.5 10 4 32 1 0.75 3 วเิ คราะห์ปัจจยั ที่ เช่ือมโยงปัจจัยที่ เชอื่ มโยงปัจจยั ที่ สง่ เสริมการ ส่งเสรมิ การดารงชวี ติ เชือ่ มโยงปจั จัยท่ี เชือ่ มโยงปจั จยั ที่ 0.75 3 ดารงชีวติ ให้มี ให้มคี วามสขุ ได้อย่าง ส่งเสริมการ ส่งเสรมิ การ สง่ เสริมการ ความสุข ถกู ต้องครบถ้วน ดารงชวี ิตใหม้ ี ดารงชีวติ ใหม้ ี ดารงชีวิตใหม้ ี 14 นาเสนอตวั อยา่ ง ความสขุ ได้อย่าง ความสุขได้ได้ ความสุขไมไ่ ด้ การประยกุ ต์ใช้ อธิบายแสดงตัวอย่าง ถูกต้องครบถ้วน อย่างถูกต้อง 2.5 10 หลกั พอเพยี งเพื่อ การประยุกตใ์ ช้หลัก ครบถว้ น อธบิ ายแสดง สง่ เสรมิ การ พอเพียงเพือ่ สง่ เสริม อธบิ ายแสดง อธบิ ายแสดง ตัวอยา่ งการ ดารงชีวติ ใหส้ ันติ การดารงชีวติ ให้สนั ติ ตวั อยา่ งการ ตวั อย่างการ ประยุกต์ใช้หลกั สขุ ได้อย่าง สุขไดม้ ากกวา่ 3 ประยกุ ตใ์ ช้หลกั ประยกุ ต์ใชห้ ลกั พอเพียงเพอื่ หลากหลาย พอเพยี งเพ่ือ พอเพยี งเพอื่ สง่ เสรมิ การ เชญิ ชวนใหผ้ ู้อนื่ ใช้ ประเด็น สง่ เสริมการ สง่ เสรมิ การ ดารงชีวติ ให้สันติ ชวี ิตอยา่ งมี ชกั ชวน และโน้มน้าว ดารงชีวิตใหส้ นั ตสิ ขุ ดารงชีวติ ใหส้ ันติ สขุ ได1้ ประเด็น ความสุขเพ่ือ ใจใหผ้ อู้ ่ืน ใช้ชวี ิต ได้ 3 ประเด็น สุขได้2 ประเดน็ ชกั ชวน และโน้ม ครอบครัว ชุมชน อยา่ งมีความสุขเพื่อ ชกั ชวน และโน้ม ชกั ชวน และโนม้ นา้ วใจใหผ้ อู้ น่ื ใช้ สงั คม และ ครอบครวั ชุมชน น้าวใจใหผ้ ้อู น่ื ใช้ นา้ วใจใหผ้ ูอ้ ืน่ ใช้ ชีวติ อย่างมี ประเทศชาติ ชวี ติ อยา่ งมี ชวี ิตอยา่ งมี ความสขุ เพื่อ สังคม และ ความสขุ เพื่อ ความสขุ เพื่อ ครอบครวั ชุมชน ประเทศชาติอย่าง ครอบครวั ชุมชน ครอบครัว ชมุ ชน สงั คม และ สร้างสรรค์ มากกว่า สังคม และ สังคม และ ประเทศชาติอย่าง ประเทศชาติอยา่ ง ประเทศชาติอยา่ ง สร้างสรรค์นอ้ ยกว่า 5 ข้อ สร้างสรรค์ 4-5 ขอ้ สรา้ งสรรค2์ -3 ขอ้ 2 ขอ้ รวม เกณฑ์การตัดสนิ คุณภาพดา้ นความรู้ เกณฑ์การผา่ น : ระดบั พอใช้ขึนไป ระดบั คะแนน เกณฑก์ ารตัดสินคุณภาพ 8-10 ดมี าก 6-7 ดี 5 พอใช้ ตา่ กว่า 5 ปรับปรงุ

298 22898 2. ดา้ นสมรรถนะของผู้เรียน (P) รายการ 3 ระดับคณุ ภาพ 21 การนาความรทู้ ีไ่ ด้ไปใช้ 1๑. ความสามารถในนการ นิยามเนือหาองค์ความรู้ได้อย่าง นยิ ามเนือหาองค์ความรไู้ ด้อย่าง นยิ ามเนอื หาองค์ความรู้ได้ สก่ือารสสาร่อื สาร ชัดเจน ถกู ต้องครบถ้วน ทุก ชดั เจน ถกู ต้องครบถ้วน ทุก อย่างชัดเจน ถกู ตอ้ ง 1.1ทกั ษะการอภปิ ราย ประเด็น ตลอดจนสื่อสารได้อยา่ ง ประเดน็ ตลอดจนสื่อสารได้ ครบถว้ น ทุกประเด็น มคี วามเขา้ ใจ และชกั จูงผู้อื่นให้ อย่างมีความเข้าใจ ปฏิบัตติ ามหลกั เศรษฐกิจพอเพียง ได้ 2๒. ควาามมสสาามมาารรถถใในนการ วิเคราะห์ เชอื่ มโยง องค์ความรู้ วเิ คราะห์ เช่ือมโยง องค์ความรู้ วเิ คราะห์ เชอ่ื มโยง องค์ คกิดารคดิ เพ่อื ตอบคาถามได้อยา่ ง เพ่อื ตอบคาถามได้อย่าง ความร้เู พ่ือตอบคาถามได้ 2.1ทักษะการคดิ หลากหลาย หลากหลาย อย่างหลากหลาย วเิ คราะห์ นาเสนอผลงานอย่างมคี วามมั่นใจ นาเสนอผลงานอย่างมีความ นาเสนอผลงานอย่างมีความ 2.2ทักษะความคิด มเี หตุผล และยกตัวอย่างได้อย่าง ม่นั ใจ มีเหตุผล มนั่ ใจ สรา้ งสรรค์ สร้างสรรค์ 2๒.3๓ทักษะกกาารรยยกกตตัวัวออยย่าา่งง ๒3. ความสามมาารรถถใในนการ ประยกุ ต์ใช้ความรใู้ นการทาใบงาน ประยกุ ต์ใช้ความรู้ในการทาใบ ประยุกต์ใช้ความรู้ในการทา กใชา้ทรใกั ชษ้ทะักชษีวะติ ชีวติ และกจิ กรรมไดส้ มเหตสุ มผล มี งานและกจิ กรรมได้ ใบงานและกจิ กรรมได้ 3.1ทกั ษะการประยุกต์ใช้ การกาหนดยุทธศาสตร์ท่สี ามารถ สมเหตุสมผล มกี ารกาหนด สมเหตุสมผล ความรู้ นาไปพัฒนาและต่อยอดไดจ้ ริง ยทุ ธศาสตร์ ท่มี จี ดุ บกพร่องบาง 3.2ทกั ษะการสรา้ ง ประเดน็ ยุทธศาสตร์ เกณฑ์การตัดสนิ คุณภาพสมรรถนะของผเู้ รียน ระดับคะแนน เกณฑก์ ารตดั สนิ คุณภาพ 3 ดีมาก 2 พอใช้ 1 ปรบั ปรุง เกณฑก์ ารผ่าน : ระดับพอใช้ขนึ ไป

299 22899 3. เกณฑ์การประเมนิ คุณลักษณะอันพึงประสงค์ (A) ระดับคะแนน 2 รายการทป่ี ระเมิน 3 1 1. มีวนิ ยั 1. ส า ม า ร ถ ป ฏิ บั ติ ต า ม 1. ส า ม า ร ถ ป ฏิ บั ติ ต า ม 1. ส า ม า ร ถ ป ฏิ บั ติ ต า ม 1.1 ป ฏิ บั ติ ต า ม ข้ อ ต ก ล ง ขอ้ ตกลงในชันเรยี น ขอ้ ตกลงในชนั เรียน ข้ อ ต ก ล ง ใ น ชั น เ รี ย น แ ต่ ไ ม่ กฎเกณฑ์ ระเบียบ ข้อบังคับของ 2. เคารพกติกาในการยกมือ 2. เคารพกติกาในการตอบ เคารพกติกาในการตอบถาม ครอบครวั โรงเรยี นและสงั คม ตอบคาถาม คาถาม และเลน่ ในขณะเรยี น 1.2 ตรงต่อเวลาในการปฏิบัติ 3. ไม่เล่นหรือพูดคุยกันใน แต่เล่นหรือพูดคุยในขณะ 2. ตรงต่อเวลาในการปฏิบัติ กิจกรรมต่างๆในชีวิตประจาวัน ชันเรยี น เรียน กจิ กรรมในชันเรยี น และมีความรับผิดชอบในการ 4. ตรงตอ่ เวลาในการปฏบิ ัติ 3. ตรงต่อเวลาในการปฏิบัติ 3. ส่งงานชา้ กวา่ กาหนด ทางาน กิจกรรมในชันเรียน กจิ กรรมในชันเรียน 5. ส่งงานตรงตามเวลาท่ี 4. ส่งงานตรงตามเวลาท่ี กาหนดทุกครงั กาหนดบางครงั 2. ใฝเ่ รยี นรู้ 1. แสวงหาข้อมูลจากแหล่ง 1. แสวงหาข้อมูลจากแหล่ง 1. แสวงหาข้อมูลจากแหล่ง 2๒.1๑แสวงหาข้อมูลจากแหล่งการ กา ร เ รี ย น รู้ ต่ า ง ๆ เ พ่ื อ การเรียนรู้ต่าง ๆ เพอ่ื ทบทวน การเรรียียนนรรู้ ตู้ า่ ง ๆต่าเพง ือ่ ๆ เพื่อ เกราียรเนรยรี ู้นต่ราตู้งา่ งๆๆเพเพื่ออ่ื ททบบททวน ทบทวนบทเรยี นอยู่เสมอ บทเรียนอยูเ่ สมอ ทบทวนบทเรยี นอยู่เสมอ บทเรียนออยยเู่ ู่เสสมมออ 2. มีการจดบันทึกความรู้ลง 2. มีการจดบันทึกความรู้ลง 2๒.2๒จดบันททึกกคคววาามมรรลู้ ู้ลงใงนในสมสดุมุด ในสมุดประจาวิชาอย่างเป็น ในสมุดประจาวิชาอย่างเป็น ประจาวิชาอย่างเป็นระบบ ระบบ ระบบ สรุปความรู้ได้อย่างมีเหตุผล 3. สรุปความรู้ได้อย่างมี เหตผุ ล 3. มงุ่ มน่ั ในการทางาน 1. ตังใจและรับผิดชอบใน 1. ตังใจและรับผิดชอบในการ 1. ตงั ใจและรับผิดชอบในการ 3.1 ตงั ใจรับผิดชอบในหน้าที่การ การปฏิบัติหน้าท่ีท่ีได้รับ กปาฏรปิ บฏั ิบติัตหิหน้าาทที่ที่ ี่ไทด่ี ้รไับด้ รั บ กปาฏรปิ บฏั ิบติัตหิหน้าาทที่ ่ี ไทด่ี ้รไับด้ รั บ กงานรงาน มอบหมายไดเ้ ป็นอย่างดี มอบหมายได้ มอบหมายได้ 2. ส่งงานครบทุกชนิ 2. สง่ งานไม่ครบทุกชิน 2. ขาดการส่งงาน เกณฑ์การตดั สินคุณลักษณะอันพงึ ประสงค์ ระดบั คะแนน เกณฑก์ ารตัดสนิ คุณภาพ 3 ดมี าก 2 พอใช้ 1 ปรบั ปรุง เกณฑก์ ารผา่ น : ระดับพอใช้ขนึ ไป

300 23900 8. บนั ทึกผลหลังสอน ผลการเรยี นรู้ ............................................................................................................................. ................................................ ปัญหาและอปุ สรรค ............................................................................................................................. ............................................. ข้อเสนอแนะและแนวทางแก้ไข ............................................................................................................................................................ ............... ลงชอ่ื ......................................ผสู้ อน (.......................................................) วนั ท.่ี .........เดอื น..........พ.ศ............. ความคิดเหน็ /ขอ้ เสนอแนะของผบู้ ริหารหรอื ผู้ที่ไดร้ ับมอบหมาย ...................................................................................................................................................................... ..... ลงชอ่ื ......................................ผ้ตู รวจ (.......................................................) วันท.่ี .........เดอื น..........พ.ศ.............

๓๐๑ แผนการจัดการเรยี นรูท้ ี่ 52 เรื่อง แนวทางการสร้างความสมานฉนั ท์ ๓๓๐๐๑๑ กหลนุม่ว่ สยากราะรกเราหยี รหนนเรนว่ รียยว่ ู้ทกนย่ีากร7ราู้สเรรเงัเยีรรคนียอื่ มนรงู้ทศรสู้ที่กึ 7ังี่ษ7คเารมเื่อรดศงื่อมีางสสสี ังสุนขคังมคาดมแีมดลสีมะุขสี วุขัฒนธรรแมผแนผนกากรราจารดัจยกัดวากิชราาเรรสเียรังนยี คนรทู้มรทู้ี่ศ5่ี กึ 52ษ2าเรเอ่ืศรง่ือางแสนแนนวาทวแทาลงากะงากวราัฒสรรสนา้รธง้าครงวคราวมมามสมสามนานฉันฉันทท์ ์ เวลา 1 ชั่วโมง เวเลวาลา11ช่วัชชโ่ัวมโั้นมงมงธั ยมศกึ ษาปีท่ี 3 สคตตแขโมพปใสมขมคขตแลนนบััด่นอวว..าาอรล33น2กัวสาาระตแไวบเเเชนค//อปวมงัมม.ะเทยร1เ45พคทลงสีว้ั้นอืสขขฐง้าเมณือ่าัดาใงัดขุาตเงปเวนตขงดไคสนกนใแเเิีแน็ทกน้อ้าปนคีนัญายกลหาใแยงปรรร้ือม้องจาะรอลแตกขปโตพใคแสมขตขมมคสพาะรหคีแรตแแลนสวนบัดัาะล่อนวว..าาอกขขขปตมมพใโสสตแคมคกัลรล่สเะัฒ33เน2กนวั่าตแฒัลนสลาทราารตะศแไ่มุนดับัวบเหลอน่ววเ..าเาอรรลเะ่ิงเ33นชนคน//อปว2มกัวงัมม.ะสา้เะวพทยาารรนทะตแไสมุ่วศ1บเัยเียเสเ54นสพ์ปคทลงส้ีวชนค้ัือ//อปวสขมขงัมมง.ะฐยิ้งคเปทยาราส1่ืาอเปศนเ45าพมคงัณทอ่ืาธัดาคใลงงจััดสุขว้ีั้นือสขาตขเงปฐ้งแรมวเาดิาตฏนตคขงคเดเไแคมสนณกัจร่ือานรใัดแาใงัดุขจะวเาติเเงีแปน็รปวเทลกทนใอ้้านปตนคนขีงดนัญัญไิบาครมสนยลู้กกจนใแกาละยัเเิแีนน็หาใทแยกะง็นนปรอ้า้รปรนคีื้อดี่มมน้อัญงาเายจกาะโัยกตัมะรลอททหลแตาใพาแยกะองเปรรรรหลรคี้ือแมรร้อแงงีสวาไจาสะหสราติะสอักล่สเลแตพะา่กีัฒะส่ีเาเงรทนา่หาาัฒรคีลาแกรทรแสวศรหรงัาเะะนง่ิักลเมนสลเะนใรัฒเ่อเดุก้ามนะว่าพัฒลานททยีรศยยัยีอสศคนรหสป์รหเะิ่งเงดาอานิยคตป้าะวใพฐื่นนทแาอปศนียาศัยียสังยนธสป์คัจมยแนด้คมงหิดยิคาปตแฏดคาคเาแื่นาอปศรัจนรลารงัจวธ่คาัปลโทแมใดดิรนาือมตฉฏัญบิ้สูเ้นนรมคลู้คาเจแรัาัยรละนจงวะกปน็ลทงด่ีใรมนเ้าังัญะโิบัยรู้สตัมนัรมลู้หจททวทสายันกธอกเละชก็นรดิงีงคได่มนสเหสงติงัสะโัยัมคทกี่ททีส่นานัางทกอาาเดี่กอลรวีาีงมคงัชไปนสมนหสลติสเใร่อดุกมกีรสี่าดิงทยาาอ์คก้าตขีปหรยิตศมงัดนวีาอามนตลญัใรใฐง่แอดุกมยทยใอมคมหยิสนด้อคหึก่ไูศอาแติน็ดดาอาาตารลในฐแ่ายโดมหดราือี่ขยษมนด้ฉคงุ่หึกเ้นนขุงาาแดยากัอาละงตลก่ากงรโ้าพใ้รดนัรสหาือษมฉ้เอนนวทาสาาธก่าละษยงชกดิงวักนนงงรา้าครันทหคนาันังวทสาด่ีฒังงอธกวีาชชกปู่รศดิงานเรงรสิดคคท์นา้กาันตมขีปวร่ดยิตอีววีา่วชปาัญศงลเนทรใดิงัมิส์อม้าตู่ไาีขอปราติย็นติีสรวีมนาัญงดดหคทใี่ขงุ่ามุขงมสิอยรู่ไกัออติ็นตนสรนกกพ้ใสดหอาขี่ม่งุขุง่าเษยยกัอัวตนนาากคปังันพ้ใสัฒงงอาู่ร่าษยารแวันสคาากมวคงััฒง่วง็นลูรนลารแังสมคาาีกมวม่วดคลนาะมลรังมาาีกมมดควเาะมรปนักฒัมวเอภกจซไต:ททป็นันดฒั าทยบันจิา่าสี่ีม่น็ ้อนงนพธ่ากม่ีะซายรงอภกซไจตท:วธทร้อภาๆดร12ขไ่าานทยบัิจา่นอกภไจซ:ทตา่ีสรภน้อรมา้อดนรงงพ่ากาทยั้นับี่มจิา่ะซ..าี่สักจมมพายม้อนแงไนวงพทรา่อ้กาๆม่ีะซคคนบัเ12ขรกไ21คา่าพนยนงรลวภถรนท้อรอ้าๆงรรบ12กนั้ขไ..m่ามนกัาาจมวนม))รภรียาะนนแงึไ้อรนูกูงคคm้ันบั..เทรากัรกจม้า21คพามอืคราลหนจเนถรแไgรรบลกคคยมานบัเเงมาาปวรก21คาพา))ต่ีียระึงลวถารรrนูกูจgาmทรรราบภกว้า่ายือมาาวคหนจเ))ว่oลยีะ้อึงกาrียลกูนกูมาเงปะmชิทร่ีตวาว้ารอืวาาคoรหนจมจgเาม่ียnภงา่กลมานเนง่วปลม้าอชิกเี่ตารrยีกพวาะรจgาวnอกภชนา่าoขlมาสม่ยีว่ลงก้าอกัสีารนนrมยีกเiะพวทlยnาันอnoกรม่ือชนดััขงสแมย่ีางกู้นนกัสีรว่มเiเพทคlยnทนัnรอ่ือกูร่่สีัดชรนแeัขมงแาปู้ว่เiนกัีสรnททภู่รสี่รมคlมย่วันรแ่อืยีปeดัแะ่นีน.ู้โยว่เiลภว่ียcรenทะนี่รูี่สรมศโยมมยแปาลน.ทนร้งักมยภานง่ว.coว่ทียeะน่ี้งักกึศโยพงว่cงลกรเพง้กอไมยเาoมนเ.ท้อไmเoม้งัษกใจกึคงว่cใจรคปนักรปพนักงกนหเนห้mอใไmเใoมษาออียายีาใจครปลลอันซอนซกน/นถห้นถmน้ใตเตนาอเยีานุ่/มi่ึยงศลอซนกหุ่/มึ่ยงึงกหถnน้ักองึตiเนไักมอ่าiบุ่n/มคยึ่าไงาศมกหต่าึงดบnเคาับกอdตiงีคไดมรสเรบdา่บวnคุคาากุตงีค้ดรรเรบdขวุคลวยีoงกุคีานรส้ดoรdควุรากุขวภูด้ลวยีรอาาขดมนลoวียคานารccาลoควภูดาวภูมาอางดมอนคาสดมนดณhแรchลปรcาลดเดพนแมามางงวรมคคูแสสดiณลดhณแhปรปi์nทเพเนักทตพนแว็าnแาวรลมูแะiวบัรลมูแiรa์nทีเ่มเกักทรตงั้นว็์nทาว้ักทวาaตลกร็วกาะับค/าลสaขี่เตมเับก้งัตนฉียัฒaว้d่ยี/ว่ีเมกเารกกวั้งคน/อสัด้วา่ขตกรัน้ังกนdตฉรคียวั/ฒedีย่าสาวขตนงงอแปัตดฉา่ยีทันdทกั้งีย่นวมาtรวeeวภากอนังธงดยา่aแปรันัง้า่ทบันส่ีทกร์เเวมวteานัtภการ้งขชะiงงธยaแปรงัlา่บัทส่ีเa์เเทกพวมใtแันใรา/เภกา้่นร้งชขะiคนยนังaดlรiเ9มพ่าลับน่ีสใใ่ืแอใร์เเl/เา้น่รนัมคานสจน็นห้งชขะiด/ภ9มะ6ลนงักใ่ืองัlเปพมใกงัแ9ใสจ็นคห/ลคเส้า่นรภาะค6เงัก0นนคดปรันร9กัง6ลพานาวรใคลื่คอสาเ0มะมยีคสรจยถ็นหนัร้าาภ0พาาวผระ6งักเก0นะยปมยีงมายถกัง้าาปู้นค0ลคผสาๆอเคเก0คุมนมยข0งมคารปน็ันรนู้า0พาาวรๆบวอคปดคุมีคัดมข0ด0ะจมยีน็ตายถา0้าาบไวงัผปัจวดแคีดั้าาดเก0จน้มปนตย0งมตาาาไจปยงัักวนแ้นู้าาๆส0้นมอปคด4คุมอ่มตม0ขุบา้ง0จยปแกน็นามส้วด4บไสดรว3มอ่ปดบุ4นัีคง้ัดลปรแดป0จยามตูส้ว้่งังาไสดร35ะไะัน3มังลจัวแรนคปนผ้าใยาึกาูส้0น้มป่งังเภ5ตะ9ีะนม5าจยนฉนทลคกนนี้ผใึกสเภดา49ีนมอ่9ันใุบฉนท้งลศี้ปแพหมาว้9ไ9สดันทร3ใศนัลพรหป้ยา้สูท์ง่ัง5ะะม้นคนผใึก์ ชเภ1ส12ว43สเภ9ีนรฉนทลี้ฒัังมุ่ือ1เชภ3ส2วส14า)))))่ือาร9ันคใัฒศรช/ังมุอื่าหกPภภ)))))นพงื่อหแมคะนทรช/กoจิหกPภภนาานธงงหแม้ะนสาพพกกรwoิจ์มนาาังธางหรลรงัรสสาพพกททw.นมงัeาส3คม่งรรลชภ1เส1432สวรืองัสททสี่สี่.นr/eรรเมสม3-----คม่งPรัฒเือังุมชอ่ืราะะ)))))่ีีสส่แrา้/ือ่รรเแมมoPคยีเททนิ้ชรงรMละะช/ียแ้าหกPภภนรงลแioนคยีแมททน้ิ้้ะnออะงงนMลยีนกชoะRิจลนาาธiวนคารกนนtง้้nออะงหนโั้.ชนสาะRพพการwู้นหมสวังาารลากนนtถถปโมรลั้.นมรงัารรสู้นหนมททสกา.นลึึงงถถeปรสส3มคดมัธม่งรรคคานมา้ือกงึงึะี่สสี่r/รมยสารดเนธัมทมววคคา้าPกเชะระะเแามมา้ยาาารนฉทีพ่ววนแอoกยีนเททิ้นมมางศมMลียันาาฉีพ่ลนิบลอiนฉนคสขมมึกศ้้nออนัะงทนเลนิชบกะRันฉมมดัสขษวกึารทก์นนtเวีชากโนั.ทือแมามดัาษู้นหาิตส์ราลีวาถถนปยงท์ใือแามปเาใติรรนมนกรงึงึนฉ้งนยง์ใรปทีเสดใยีนคคา้ารันฉ้งนะที่มนาียนทววนัท3ก่ีเนาาาฉท์ี่พ3นอนมม์นั ลินบฉสขทเชกันมมัด์ีวาทือแาิตรนยง์ใเในรฉง้นยี ันนท์ 23901 330011

เ1กห1สส1จด1เดจส1ส1กหเ1สส1ด1หกจดดดดดดรรรมมุดลมมา้มมุดลดุล้าา้น)))้านน))))))้าา้ือ่่ืออื่า้า้้านนนาาุ่มปนาาาา่มุปนมุ่นปนนน่วนนนนนว่วงนงนงนนนนนนคคสกคสกทสกรยททรรยกัักักยกักกััักกััคคคฉฉฉฉฉฉะวาะะาวาวาาากกกเเเักเเเักเเเกัณุณณุุรรรรรรัันนรรรรสนันัันนัรสสรารราาาาาษษษยียีียียียยีียยียีสสสะะมะงททมมลงงททททลลรรระะะนนนนนนนนนรกครกรกคคเรเเักรร์ไไ์กักัไ์์ไไ์์ไแแแรรรา้้าา้เอวดดาเวอเอวดดดดา์กาู้ก์์กูู้้ษษษหหหียงลยียีงงลลเิริเเิรรธอ้้อธธอ้้ออ้อ้าาาคคคคคณคณณ็นน็นนน็นะเะะเเบิบิิบรยยรรยยยยรรรรวรรววกกกครคครรเเเาา่่าะาาา่่่าา่ะะียียยีาาาาารารรู้ทรู้ทรทู้รุณยุณุณงงยยงงงงะะะมนมนมนยีียยีะะะถถถถถถี่ค่ีี่คคหหหคสคคนสสรนนร7รบ7บ7บกกูููกูกูกูกววว์แ์สู้์แา่แมูส้้สูา่ม่ามรรรวตตววตตตตาาาคคคนเนนังเเาู้ังงัาาูู้้นมนมนม้ออ้้อ้ออ้อ้รรรวคนวควคนนวววอ่ืหงงหอ่ืหือ่กงงงงกกาาาทมททมมฉฉฉงงงามามมามมมันศาันนัศศาารรราสาาสสสงสสงงกึทกึกึททยยยาใาาใใังัังงษษษ์น์์นนขขขคคคคคคาอากาอกอกัญญััญมมมงางงาาดดดศศขศขขครคครรมีมีมีาอาอาอสสสาาาสสีสสสีีงงงวรววสรรกกกุนขุนุขนข่า้าา่า่า้าุ้ขาาางงงาาารครรคคแแแศศศวววลลลกึกึกึาาาะะะมมมษษษวววาาาฒัฒััฒแแแนนนผผผธธธนนนรรรตทเสเสขใทตสขเเสใตทขเสใสหกกหกหนนนรรกรกกัุน่าขนัุันุา่้นัา่ขขา้นั้าิดดิิดมตมมตตหหหางางางงงตตตสสสปๆปปจปุๆๆจอจุรปุอรอรวััววัสิสิสิอออจาจ,จัญาา,า,ขญัญัาาัจขขจจัขุุขขุนนนกรกกรัดรกดััดกอ้กจอ้้อจจหรหตหรรตตมมมแแแากยัตากากัยตยัตาาาอ่า่ออ่าาณรณณรรหหหขา่อขาขาอ่่อยยย2ค2ค2คไไไปปป1ร1ร1รอลไออปลลไไปวป์,วว,์ห์,หหววว...ปปเปรเรเรง่.งงง่่..งิชงริชาิชรราารรรวััววัผผผบับับัปนปปนกนกก้จูมคจู้้จูมมคคยีายียีาาขขขูเ้้เููเ้ปปปั้ีญาัี้ัญาี้ักญาักรักขรสรรขรสขรสนนน้อ้อ้อรรรรยีรรอู7ยียี๗ูอ7บอู7บัดบ8214365ดัััดง86452138542361ัังงหรหหรรใใใเุงเเุงงุนนธนคธธคคแ)รแแ)ู้ทนร)รรทู้นทู้รนร))))))))))))))าาาตตติบิบบิิโแโีมโิแแยยีมีมยยยยกแกกแแี่กกกกหกกกี่กี่กกกกหกกกหนนนภภภ5าต5า5าต้ตงน้้งศงนนาศลศาลาลาาาาาาาาาาาาาาาลลลเเเคคยคยหยหห่รล่ร่ลรลอ2อรึกรรอะรรร22รึกรระรรรรรึกะรรรรกักักัดเดดเเเเเลลปะบสลอเมปะบสอมเู้สปะสบมอเตงรู้สู้สตงรงตรษษษรรรลลลปปปหหหว้้ว้วแแแาว่คา่วรคยา่วคอรยรย่อบืรรือ่อา่ืบร่่ือบืรร่อืาาอืาอืือาาเเเรยรร็นยย็นน็กกมกล้ามมลา้ลา้ับิโนรู่งบัิโนบัโิรู่รนรู่งงงรรงงงงงคคคกัชกกัชชัภปภภงปปงงคหคค่วโหะหศก่วโะว่อ่ืโะศกศก่อื่อืปศปศปศ้นร้ๆ้นญนรทรๆลญๆกญททลลกกคมัญสคมุณคมญััญสุณสุณนัลางันลนัลางงากึึกึกรบัรับรับกากกาักาัักดง่ิากดดสง่ิากงิ่ากสสาาาสุงสสเ(งุญุงษเ(เ(ญษญษคคครแแรรแแแแใใตใษตขตชษษขขชชทย้วททยนัยตว้ว้นันันตตนนรรรนนอนอา่อา่า่าลาานลลนนาาาา่อ่่่ายอนอ่่ยรนยะนรระะา้นกัอา้น้านกัักออาาใาขใใยขขแยยแแ,ะ,,งะะงงวปูวงวปูปปูงงทงปนปงทงทนนษแยเษแยษแยเเ้อู่ๆร้อ้งอู่ๆู่รๆรงงปกปปกเกหสเเหหสอสทออททแแัญแตาัญัญาตาต่าลศา่า่่ดลศลศว่่ด่ดว่ว่ะมะะมมาาฏามฏฏมงมงนงงนนบางงงบาบางงนในนใมใระมมกีรระะกีีกญรญูญลรรูลูลออหอาขิเหางขหาขเิเิงงัังับษงงบษวบษวเวกเเกาเกสาเาเสสเเเนนกนากกาาอันาสอันาลอนัสส้ดลลด้้ดกกกัฒัรัจฒฒฐรัรจนจฐฐัันนธธธรรราฉาฉางฉืงืองอืตืืออขีืออตตีขขีี่ยคย่คยี่คกึงกกขึงงึขขอมอมอมรนรนรนนัันันกเิธนึ้กกจเธิน้ึเิธึน้จจววดิวจิดิดจอ้จิอ้อ้ยยสรณยสรณสรณธธทธรทรรทรารกราากกอออพพวพมววีมมยีี่ายย่า่ารรรรรับรรรเรับบัเเ์์์เั์บ์์ัเบยับยยิเงิเเิงปลูงอปูลปอนลู้าอน้าน้าพมพรพมมรรคคคแแแสเู่สสเู่เู่กกกงขเงงขเขเน็ม็น็นมมสสส่ือ่ืื่ออรลพรรลพลพนันันัคหาคคหาหา่า่าา่ตมตตมมาทาทาทะะะรรียรียตยีวตตวววว้วอ้้ออ้อะอ้ออ้ะะออปาอปาปาอสงสงสงิสาิสสิาางงงหหหง)งใง))ใใยยยฏฏฏามาามมสุขสุสุขขหหหรรร์))์์)(((รู่รรู่่รูรริเิิเเสมว่สOสมว่ม่วOO้ส้้สสสสส่ว่(่วว((มมมมุกดมมุกุกดดังังงัbbbมธมธมธกคกกคาคาาาาาขjขขjjกกกอ.ออ..รันรรนนัันมนนมม111า่่า่าันันันิสนิสิสนนพมพวพมฉมววฉฉ)))อออรรรเเเแแแคีคีีคันจิันนัิจิจททท้ายา้ย้ายลลลวาววาาทททงงงา่อา่า่ออะราะระราาทททง์งง์์รรรณมณมณมสสสักักกัว์เว์ว์เเนนนันัันาษาาษตัษัตตั ็็ต็ตตตตถะถถะะิิุิุุ ๓๓๓๐๐๐๒๒๒ ชชเชเเววว้ัน้ันั้นลลลมมมาาาธััธธั 111ยยยมมมชชชศศศัว่ั่ววั่ กึึกึกโโโษษษมมมาาางงงปปปทีีทที ี่ี่่ี 333 30320232902

แผนการจดั การเรียนรทู้ ่ี 52 เรอื่ ง แนวทางการสรา้ งความสมานฉันท์ ๓๐๓ หน่วยการเรียนรู้ท่ี 7 เรื่อง สังคมดมี สีสุขขุ เวลา 1 ช่ัวโมง กลุ่มสาระการเรยี นร้สู งั คมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม รายวชิ าสังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม ช้ันมธั ยมศกึ ษาปีท่ี 3 จากน้นั ให้นกั เรยี นบันทกึ ขอ้ มลู ลงในแบบบนั ทึกความรู้ 3. ครูเริ่มกิจกรรม “สร้างสัมพันธ์ สุขสู่สังคม” โดยให้ผู้เรียนนั่ง เป็นวงกลมร่วมกันอภิปรายเกี่ยวกับการอยู่ร่วมกันอย่างสันติสุข มีขั้นตอน ดงั ตอ่ ไปนี้ 3.1 ครูทาหน้าที่เป็นประธานในการอภิปรายและคัดเลือก ผู้เรียนเป็นเลขานุการบันทึกการอภิปราย 2–3 คน ขณะอภิปรายครู กระตนุ้ ให้ผเู้ รียนไดแ้ สดงความคิดเหน็ ทกุ คน 3.2 เม่ือผู้เรียนอภิปรายจบ ครูสรุปผลการอภิปราย โดยให้ นักเรียนบันทกึ ลงในแบบบันทึกผลการอภิปราย และขยายความเพ่มิ เติมให้ สมบรู ณ์ 3.3 ครูให้นักเรียนเขียนเรียงความในหัวข้อ การอยู่ร่วมกัน อย่างสันติสุขในประชาคมอาเซียน แล้วนาเสนอผลงานหน้าชั้นเรียน เมื่อนักเรียนนาเสนอผลงานครบทุกคนแล้ว ครูและนักเรียนร่วมกัน คัดเลือกผลงานท่ีดีท่ีสุด 5 อันดับแรกติดเป็นป้ายนิเทศประจาห้อง (Obj.2) (ทักษะความคิดสร้างสรรค์, ทักษะการเชอ่ื มโยงความร)ู้ 4. ในขณะที่นักเรียนปฏิบัติกิจกรรม ให้ครูสังเกตพฤติกรรมในการ ทางานและการนาเสนอผลงานของนักเรียนตามแบบประเมินพฤติกรรมใน การทางานเปน็ รายบคุ คลหรือเปน็ กล่มุ ข้นั ท่ี 3 ฝกึ ฝนผู้เรียน ครูให้ผู้เรียนทาใบงานเรื่อง การอยู่ร่วมกันอย่างสันตสิ ุข จากนั้นทา 23903

แผนการจัดการเรยี นรู้ท่ี 52 เรอ่ื ง แนวทางการสรา้ งความสมานฉันท์ ๓๐๔ หนว่ ยการเรยี นรูท้ ่ี 7 เรือ่ ง สังคมดีมีสุข เวลา 1 ชว่ั โมง กลมุ่ สาระการเรียนรู้สงั คมศกึ ษา ศาสนาและวฒั นธรรม รายวิชาสังคมศกึ ษา ศาสนาและวัฒนธรรม ชั้นมัธยมศกึ ษาปที ี่ 3 แบแบบททดดสสออบบกกาารรววัดัดแแลละะปปรระะเเมมินนิ ผผลลกกาารรเรียนรู้ ประจ�ำาหนว่ ยยกกาารรเเรรียียนนรรู้ ใู้ นใน แบแบบฝึฝกึกททักกัษษะะรราายยววิชชิ าาพพื้นน้ื ฐฐาานนหหนน้า้ ท่ีพลเมือง วัฒนธรรรมมแแลละะกกาารรดด�ำ าเนเนินิน ชีวชิตีวิตในในสสังังคคม ม. 33แแลล้วช้ว่วชย่วกยันกเัฉนลเฉยคลำ�ยตคอาบตทอี่ถบูกทต่ี้อถงูก(ตท้อักงษะ(ทักษะการ ปรกะายรุกปตร์ใะชย้คุกวตา์ใชมค้รู)้ วามรู้) ข้ันที่ 4 นาไปใช้ ครูแนะนาให้ผู้เรียนนาความรู้ท่ีได้รับจากการศึกษาเรื่อง การอยู่ ร่วมกันอย่างสันติสุข ไปปฏิบัติและเผยแพร่ความรู้ให้ผู้อ่ืนสามารถปฏิบัติ ตนไดอ้ ยา่ งถกู ตอ้ ง ขนั้ ท่ี 5 สรปุ 1. ครูและผู้เรียนร่วมกันสรุปความรู้เร่ือง การอยู่ร่วมกันอย่างสันติ สุข โดยให้นักเรียนสรุปลงในสมุดหรือเขียนเป็นแผนที่ความคดิ ยุทธศาสตร์ การพัฒ นาตนเอง พร้อมทั้งตกแต่งให้สวยงาม (ทักษะการสร้าง ยทุ ธศาสตร์) 2. ครูสรุปบทเรียนโดยให้ผู้เรียนร่วมกันตอบคาถามว่า การอยู่ ร่วมกันให้เกิดผลดีต่อสังคมมีความสาคัญอย่างไร “แนวทางการพัฒนา ตนเองให้ดารงอยู่ได้ในสังคมโลกน้ัน ต้องอาศัยปัจจัยหลายด้านเป็นตัว ขับเคล่ือน แต่สิ่งสาคัญที่สุด คือ การมุ่งพัฒนาตนเองเป็นหลักเพื่อเป็น รากฐานทดี่ ีของสังคมต่อไป” (GEN) ขน้ั สรปุ 7. ครแู ละนกั เรียนร่วมกนั สรุปความสาคญั ของการศึกษาเรอื่ งการสรา้ ง 23904

แผนการจัดการเรียนร้ทู ่ี 52 เร่ือง แนวทางการสร้างความสมานฉันท์ ๓๐๕ หน่วยการเรยี นรู้ที่ 7 เรอ่ื ง สังคมดมี ีสุข เวลา 1 ช่วั โมง กล่มุ สาระการเรียนร้สู ังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม รายวิชาสังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม ชั้นมธั ยมศกึ ษาปที ่ี 3 ความสมานฉนั ท์ แนวทางการแกไ้ ข การลดความขดั แย้ง ตลอดจนการสร้าง ความสมานฉันท์ในชุมชน สงั คมและโลกใหม้ คี วามสันติสุข 23905

306 23906 การวดั และประเมินผล ขอบเขตการวดั วธิ ีการ เครอื่ งมือ ผู้ประเมนิ ความรู้  แนวทางการพัฒนาตนเองเพื่อเป็น - การตอบคาถาม - ห นั งสื อ เรี ย น สั งค ม ศึ ก ษ า ชั้ น พลเมืองดีของสงั คม - การทาใบงาน มธั ยมศึกษาปที ี่ 3 - การทากิจกรรม - การถามคาถาม - การชมวดี ที ศั น์ - กิจกรรม “สร้างสัม พั น ธ์ สุข สู่ สงั คม” ผสู้ อน/ - วีดีทัศน์เรื่อง “ความสุขอยู่รอบตัว ผเู้ รยี น เรา” สมรรถนะสาคัญ - บันทึกการเรียนรู้ 1. ความสามารถในการสอ่ื สาร - มโนทศั น์ (Concept Map ) 2. ความสามารถในการคิด 3. ความสามารถในการใช้ทกั ษะชีวิต - การตอบคาถาม - ห นั งสื อ เรี ย น สั งค ม ศึ ก ษ า ช้ั น ผสู้ อน/ - การทาใบงาน มธั ยมศกึ ษาปที ี่ 3 ผ้เู รยี น - การทากิจกรรม - การถามคาถาม ผ้สู อน/ - การชมวดี ที ศั น์ - กิจกรรม “สร้างสัม พั น ธ์ สุข สู่ ผเู้ รยี น สังคม” คณุ ลักษณะอันพงึ ประสงค์ - วีดีทัศน์เร่ือง “ความสุขอยู่รอบตัว 1. มีวินยั เรา” 2. ใฝ่เรยี นรู้ - บนั ทกึ การเรียนรู้ 3. มุง่ ม่นั ในการทางาน - มโนทัศน์ (Concept Map ) - การตอบคาถาม - การถามคาถาม ผูส้ อน - การสังเกต - แ บ บ สั ง เก ต พ ฤ ติ ก ร ร ม ด้ า น พฤติกรรม คุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์ - คาถามเพ่ือพัฒนาเจตคติ ชิ้นงาน/ภาระงาน  กิจกรรม “สรา้ งสัมพนั ธ์ สขุ ส่สู งั คม” เกณฑ์การประเมนิ ผล  กิจกรรม “สรา้ งสมั พนั ธ์ สขุ สสู่ ังคม”

307 23907 1. ดา้ นความรู้ (K) ประเดน็ การ ระดบั คณุ ภาพ น้าหนกั คะแนน ประเมนิ 2.5 10 4 32 1 1.25 3 อธิบายแนวทาง ระบุแนวทางการ ระบุแนวทางการ การพัฒนาตนเอง พัฒนาตนเองเพ่ือเปน็ ระบแุ นวทางการ ระบุแนวทางการ พฒั นาตนเองเพ่ือ 1.25 4 เพื่อเป็นพลเมืองดี พลเมอื งดขี องสังคม พัฒนาตนเองเพื่อ พัฒนาตนเองเพ่ือ เป็นพลเมืองดีของ ของสังคม ไดอ้ ยา่ งถกู ตอ้ ง เปน็ พลเมืองดีของ เปน็ พลเมืองดีของ 2.5 10 วเิ คราะหต์ นเองสู่ สงั คมได้อยา่ ง สังคมได้อยา่ งถกู ต้อง สงั คมไม่ได้ การพัฒนา ครบถ้วน ถูกต้องบางประเด็น เป็นส่วนน้อย ประเทศชาติให้ วิเคราะห์ตนเองสกู่ าร วิเคราะหต์ นเองสู่ วเิ คราะห์ตนเองสู่ วเิ คราะหต์ นเองสู่ เจรญิ รุ่งเรือง พัฒนาประเทศชาติให้ การพัฒนา การพัฒนา การพฒั นา ประเทศชาติให้ ประเทศชาติให้ เจริญรงุ่ เรืองได้ เจรญิ รุง่ เรอื งได้ เจริญร่งุ เรอื งได้อย่าง ประเทศชาติให้ สรา้ งสรรค์ มากกวา่ อย่างสรา้ งสรรค์ 4- สร้างสรรค์ 2-3 ขอ้ เจริญรงุ่ เรืองได้ 5 ขอ้ อย่างสร้างสรรค์ 5 ขอ้ นอ้ ยกว่า 2 ข้อ รวม ระดบั คะแนน เกณฑก์ ารตดั สนิ คณุ ภาพดา้ นความรู้ เกณฑก์ ารตดั สินคุณภาพ 8-10 ดีมาก 6-7 ดี 5 พอใช้ ต่ากวา่ 5 ปรับปรุง เกณฑก์ ารผ่าน : ระดบั พอใช้ข้ึนไป 2. ดา้ นสมรรถนะของผู้เรยี น (P) ระดับคุณภาพ รายการ 3 21 การนาความรทู้ ่ีไดไ้ ปใช้ 1. ความสามารถในการ นยิ ามเนอื้ หาองค์ความรไู้ ด้อย่าง นิยามเน้อื หาองค์ความรูไ้ ด้อย่าง นิยามเนือ้ หาองค์ความรไู้ ด้ สือ่ สาร ชัดเจน ถกู ต้องครบถว้ น ทุก ชดั เจน ถูกตอ้ งครบถว้ น ทุก อยา่ งชัดเจน ถูกต้อง 1.1ทกั ษะการอภิปราย ประเด็น ตลอดจนสื่อสารได้อย่าง ประเด็น ตลอดจนส่ือสารได้ ครบถว้ น ทกุ ประเดน็ มีความเขา้ ใจ อย่างมีความเขา้ ใจ 2. ความสามารถในการ วิเคราะห์ เชือ่ มโยง องค์ความรู้ วเิ คราะห์ เชอื่ มโยง องคค์ วามรู้ วเิ คราะห์ เช่อื มโยง องค์ คดิ เพอ่ื ตอบคาถามได้อยา่ ง เพ่อื ตอบคาถามได้อย่าง ความรูเ้ พื่อตอบคาถามได้ 2.1ทกั ษะการคดิ หลากหลาย หลากหลาย อยา่ งหลากหลาย วิเคราะห์ นาเสนอผลงานอยา่ งมคี วามม่ันใจ นาเสนอผลงานอยา่ งมคี วาม นาเสนอผลงานอยา่ งมคี วาม 2.2ทักษะความคิด มีเหตผุ ล และยกตัวอย่างได้อยา่ ง มนั่ ใจ มเี หตุผล มนั่ ใจ

308 23908 รายการ ระดบั คณุ ภาพ 3 21 การนาความรู้ท่ีไดไ้ ปใช้ สรา้ งสรรค์ สร้างสรรค์ 2๒.3๓ทักษะะกกาารรเชเชือ่ ่ืมอโมยโงยง ความรู้ 3. ความสามารถในการ ประยุกต์ใช้ความรู้ในการทาใบงาน ประยุกตใ์ ช้ความรู้ในการทาใบ ประยกุ ตใ์ ช้ความรูใ้ นการทา ใช้ทักษะชีวติ และกจิ กรรมได้สมเหตสุ มผล มี งานและกิจกรรมได้ ใบงานและกจิ กรรมได้ 3.1ทกั ษะการประยุกตใ์ ช้ การกาหนดยุทธศาสตรท์ สี่ ามารถ สมเหตุสมผล มีการกาหนด สมเหตุสมผล ความรู้ นาไปพัฒนาและต่อยอดไดจ้ ริง ยุทธศาสตร์ ที่มีจุดบกพร่องบาง 3.2ทักษะการสร้าง ประเด็น ยทุ ธศาสตร์ เกณฑ์การตัดสนิ คุณภาพสมรรถนะของผู้เรียน ระดบั คะแนน เกณฑ์การตดั สินคุณภาพ 3 ดมี าก 2 พอใช้ 1 ปรบั ปรงุ เกณฑ์การผ่าน : ระดบั พอใช้ขึน้ ไป 3. เกณฑ์การประเมินคณุ ลักษณะอนั พงึ ประสงค์ (A) ระดับคะแนน 2 รายการท่ปี ระเมิน 3 1 1. มวี นิ ัย 1. ส า ม า ร ถ ป ฏิ บั ติ ต า ม 1. ส า ม า ร ถ ป ฏิ บั ติ ต า ม 1. ส า ม า ร ถ ป ฏิ บั ติ ต า ม 1.1 ป ฏิ บั ติ ต า ม ข้ อ ต ก ล ง ข้อตกลงในชน้ั เรียน ข้อตกลงในช้นั เรียน ข้ อ ต ก ล ง ใน ช้ั น เรี ย น แ ต่ ไ ม่ กฎเกณฑ์ ระเบียบ ข้อบังคับของ 2. เคารพกติกาในการยกมือ 2. เคารพกติกาในการตอบ เคารพกติกาในการตอบถาม ครอบครวั โรงเรยี นและสังคม ตอบคาถาม คาถาม และเล่นในขณะเรยี น 1.2 ตรงต่อเวลาในการปฏิบัติ 3. ไม่เล่นหรือพูดคุยกันใน แต่เล่นหรือพูดคุยในขณ ะ 2. ตรงต่อเวลาในการปฏิบัติ กิจกรรมต่างๆในชีวิตประจาวัน ชั้นเรียน เรียน กิจกรรมในชน้ั เรียน และมีความรับผิดชอบในการ 4. ตรรงตงอ่ตเ่ อวลเาวใลนากาใรนปกฏาิบรัติ 3. ตรงต่อเวลาในการปฏิบัติ 3. ส่งงานชา้ กว่ากาหนด กทารงทานำ�งาน กปจิฏกิบรัตริกมจิ ใกนรชรัน้มเใรนยี ชนั้นเรียน กจิ กรรมในชนั้ เรยี น 5. ส่งงานตรงตามเวลาที่ 4. ส่งงานตรงตามเวลาที่ กาหนดทุกคร้ัง กาหนดบางครง้ั 2. ใฝ่เรียนรู้ 1. แสวงหาข้อมูลจากแหล่ง 1. แสวงหาข้อมูลจากแหล่ง 1. แสวงหาข้อมูลจากแหล่ง 2.1แสวงหาข้อมูลจากแหล่งการ ก า ร เรี ย น รู้ ต่ า ง ๆ เพื่ อ การเรียนรู้ต่าง ๆ เพื่อทบทวน การเรียนรู้ตา่ งๆต่เาพงอ่ื ๆทบเทพวื่อน กเราียรเนรรียู้ตน่าร้ตูง ่าๆงๆเพเพื่ออ่ื ททบบททววนน ทบทวนบทเรยี นอยเู่ สมอ บทเรยี นอยเู่ สมอ บททบทเรวยี นนบอทยเู่เรสียมนออยเู่ สมอ บทเรยี นอยู่เสมอ 2. มีการจดบันทึกความรู้ลง 2. มีการจดบันทึกความรู้ลง ๒2.2๒จดบนั นททกึ ึกคคววาามมรร้ลู ู้ลงใงนในสมสดุมุด ในสมุดประจาวิชาอย่างเป็น ในสมุดประจาวิชาอย่างเป็น

309 23909 รายการทปี่ ระเมิน 3 ระดับคะแนน 1 2 ประจาวิชาอย่างเป็นระบบ ระบบ ระบบ สรปุ ความรูไ้ ด้อย่างมีเหตุผล 3. สรุปความรู้ได้อย่างมี เหตุผล 3. มุง่ มั่นในการทางาน 1. ต้ังใจและรับผิดชอบใน 1. ตั้งใจและรับผิดชอบในการ 1. ตั้งใจและรับผิดชอบในการ 3.1 ตั้งใจรับผิดชอบในหน้าที่การ การปฏิบัติหน้าท่ีท่ีได้รับ กปาฏรปิ บฏั ิบตัติ หิหน้าาที่ที่ไทด้่ีรไับด้ รั บ กปาฏรปิ บฏั ิบตัติ หิหน้าาที่ที่ไทด่ี้รไับด้ รั บ งาน มอบหมายไดเ้ ปน็ อย่างดี มอบหมายได้ มอบหมายได้ 2. สง่ งานครบทุกชิน้ 2. สง่ งานไมค่ รบทกุ ช้นิ 2. ขาดการสง่ งาน เกณฑก์ ารตัดสนิ คุณลักษณะอนั พึงประสงค์ ระดบั คะแนน เกณฑก์ ารตัดสินคณุ ภาพ 3 ดมี าก 2 พอใช้ 1 ปรบั ปรุง เกณฑ์การผา่ น : ระดบั พอใช้ข้นึ ไป

310 3100 8. บนั ทกึ ผลหลังสอน ผลการเรยี นรู้ ............................................................................................................................. ................................................ ปัญหาและอปุ สรรค .................................................................................................................................................................... ...... ขอ้ เสนอแนะและแนวทางแกไ้ ข ............................................................................................. .............................................................................. ลงชอื่ ......................................ผสู้ อน (.......................................................) วันท่.ี .........เดือน..........พ.ศ............. ความคิดเห็น/ข้อเสนอแนะของผู้บริหารหรอื ผู้ทไ่ี ดร้ บั มอบหมาย ............................................................................................................................. .............................................. ลงชื่อ ......................................ผู้ตรวจ (.......................................................) วันที.่ .........เดอื น..........พ.ศ.............

๓๑๑ แผนการจัดการเรียนร้ทู ี่ 53 เรอื่ ง การใชช้ ีวติ ตามพระบรมราโชวาท หลกั การทรงงานและปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพียงของพระบาทสมเดจ็ พระเจา้ อยูห่ ัว หน่วยการเรยี นร้ทู ่ี 7 เร่อื ง สังคมดมี สี ุข เวลา 1 ชัว่ โมง กลมุ่ สาระการเรียนรู้สังคมศกึ ษา ศาสนาและวฒั นธรรม รายวชิ าสังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม ชนั้ มัธยมศกึ ษาปีที่ 3 มาตรฐานการเรียนรู้ กิจกรรมการเรยี นรู้ สื่อ/แหลง่ เรยี นรู้ ขั้นนา 1-) วดี ีทัศนเ์ กี่ยวกับหลอดยาสีพระ ส 2.1 เข้าใจและปฏบิ ตั ิตนตามหนา้ ท่ีของการเป็น 1. ครูเปดิ วดี ีทัศน์เกย่ี วกับหลอดยาสพี ระทนต์ ทนต์ พลเมอื งดี มีค่านิยมที่ดงี ามและธารงรักษา https://wwwwww.t.tnneewwss.c.coo.t.hth/c/oconntetnetnst/s3/63644111144 และถามนกั เรยี นใน 2-) Powerpoint ประกอบการสอน ประเพณีและวัฒนธรรมไทย ดารงชวี ิตอยรู่ ่วมกัน ประเด็นดังต่อไปนี้ เรอื่ งปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพียง ในสงั คมไทยและสงั คมโลกอย่างสันติสขุ 3-) กรณีตัวอยา่ ง ภาระงาน/ชิน้ งาน ตวั ชีว้ ดั กิจกรรม เล่าปรชั ญาของเศรษฐกิจ พอเพียง ม.3/4 วเิ คราะหป์ จั จยั ที่ก่อให้เกดิ ปัญหาความ ขดั แย้งในประเทศ และเสนอแนวคดิ ในการลด ความขดั แย้ง ม.3/5 เสนอแนวคดิ ในการดารงชวี ติ อยา่ งมี ความสุขในประเทศและสงั คมโลก 1) นกั เรยี นคดิ ว่าทาไมพระบาทสมเด็จพระเจา้ อย่หู วั ทรงใช้ยาสี พระทนตจ์ นแบนเรียบเช่นน้ี(พจิ ารณาจากคาตอบผูเ้ รยี น) ขอบเขตเน้ือหา 2) เพราะเหตุใดพระองค์จึงทรงประหยัด แมว้ า่ ยาสีพระทนต์นั้น 1. ความเปน็ มาของปรชั ญาเขศอรงษเศฐรกษจิ ฐพกอจิ เพยีองเพยี ง เกือบหมดแลว้ (พิจารณาจากคาตอบผู้เรียน) 2. พระบรมราโชวาทของพระบาทสมเดจ็ พระ 2. ครูกลา่ วเช่อื มโยงคาตอบของผู้เรียนวา่ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เจ้าอยู่หวั รัชกาลที่ 9 3.หลกั การของเศรษฐกิจพอเพยี ง หลักการทรง ทเจร้างอเยปูห่น็ ัวผทคู้ รดิ งคเปน้ ็นปผร้คูัชดิญคาน้ ขปอรงัชเศญราษขฐอกงิจเศพรอษเฐพกยี จิ งพใหอแ้เพกียป่ งรใะหชแ้ ากชป่ นระชาชน งานของพระบาทสมเดจ็ พระเจ้าอยู่หัว รชั กาลที่ 9 เพ่อื ฝา่ ฟันอปุ สรรคและปัญหาตา่ ง ๆ ใหผ้ ่านพน้ ไปได้ด้วยดี ดงั น้ันวันน้เี รา จะมารว่ มกันศกึ ษาเก่ียวกบั การใช้ชวี ติ ตามปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพียง เพ่อื สง่ เสรมิ การใชช้ วี ติ ในสังคมอยา่ งมีความสขุ 3101

๓๑๒ แผนการจัดการเรยี นรู้ที่ 53 เร่อื ง การใช้ชีวติ ตามพระบรมราโชวาท หลกั การทรงงานและปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพยี งของพระบาทสมเดจ็ พระเจ้าอยหู่ ัว หนว่ ยการเรียนรทู้ ี่ 7 เร่อื ง สังคมดมี ีสุข เวลา 1 ชว่ั โมง กลุม่ สาระการเรียนรู้สังคมศกึ ษา ศาสนาและวฒั นธรรม รายวิชาสังคมศกึ ษา ศาสนาและวัฒนธรรม ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปีที่ 3 จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้ ขน้ั สอน ดา้ นความรู้ 1. นักเรยี นรว่ มกนั ศกึ ษาถงึ ความหมายและลักษณะสาคัญของพระ 1.นกั เรยี นอธิบายความหมายและลกั ษณะสาคญั ของพระบรมราโชวาท และหลักการทรงงานของ บรมราโชวาท จาก Powerpoint พระบรมราโชวาทและหลักการทรงงาน พระบาทสมเด็จพระเจา้ อยู่หัวไดอ้ ยา่ งถูกตอ้ งและ ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยูห่ วั รัชกาลท่ี 9 จากนั้นครูใชป้ ระเด็น มเี หตผุ ล คาถามเพื่อวดั ความร้คู วามเขา้ ใจของนักเรยี นดงั น้ี 2. นกั เรยี นอธบิ ายประวัตคิ วามเปน็ มาของ ปรชั ญาเศรษฐกจิ พอเพยี งได้ 1๑) หากนนกั ักเเรรยี ียนนเเปปรรยี ียบบเทเทียียบบสสังคังมคไมทไยทเยปเน็ปค็นรคอรบอคบรควั รคัวรอๆบคหรนวั ึ่ง 3. นักเรยี นอธิบายหลักการของปรชั ญาเศรษฐกจิ คพรอะบครรมวั รหานโชึง่ วพาทระแบลระมหรลาักโชกวาารททแรลงะงหานลขักอกางรทรงงานของ พอเพียงได้ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รชั กาลท่ี 9 จะเปรยี บเทียบไดก้ บั อะไร ดา้ นทักษะและกระบวนการ (เปรียบเสมอื นคาสอน คติ ของครอบครวั ท่ีจะทาใหค้ รอบครวั มีความสุข) 1. นกั เรยี นวิเคราะห์ความสาคญั ของพระบรม 2. นักเรยี นและครูรว่ มกันอภปิ รายและทดลองนาความร้แู ละข้อคิดที่ ราโชวาท และวิเคราะหห์ ลักการทรงงานของ ได้รบั จากพระบรมราโชวาท และหลกั การทรงงานของพระบาทสมเดจ็ พระบาทสมเดจ็ พระเจ้าอย่หู ัวกบั การ พระเจา้ อยู่หัว รชั กาลท่ี 9 มาประยุกตใ์ ชใ้ นการแก้ปญั หาจากกรณี แก้ปัญหาในกรณีศึกษาได้อย่างมีเหตุผล ตวั อย่างจากกจิ กรรม“ตามรอยพ่อหลวง” โดยใหน้ ักเรยี นแตล่ ะคน 2. วเิ คราะห์พฤตกิ รรมการดาเนินชวี ติ ที่ ออกมาจบั ฉลากเพอื่ สมุ่ หวั ข้อ สอดคลอ้ งกับคุณลักษณะและเงอ่ื นไขตาม พระบรมราโชวาท หรือหลกั การทรงงาน 1 หัวขอ้ หลกั การของเศรษฐกจิ พอเพียงได้ 3. นกั เรียนแตล่ ะคน สรปุ ความร้คู วามเข้าใจและแนวทางการปฏบิ ัตติ น ตามพระบรมราโชวาทหรอื หลักการทรงงานตามหัวข้อที่ตนไดร้ ับ มอบหมายและบันทึกความรทู้ ่ตี นไดร้ บั ลงในกระดาษ 4.นกั เรียนรว่ มกนั ศึกษากรณีตวั อย่างทีผ่ ูส้ อนยกมาโดยให้ร่วมกันวิเคราะห์ 3102

๓๑๓ แผนการจดั การเรียนรูท้ ี่ 53 เรื่อง การใช้ชีวติ ตามพระบรมราโชวาท หลกั การทรงงานและปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพียงของพระบาทสมเดจ็ พระเจา้ อยู่หัว หน่วยการเรยี นรูท้ ่ี 7 เร่อื ง สังคมดีมสี ุข เวลา 1 ช่วั โมง กล่มุ สาระการเรยี นรู้สังคมศกึ ษา ศาสนาและวฒั นธรรม รายวชิ าสังคมศกึ ษา ศาสนาและวัฒนธรรม ช้นั มัธยมศกึ ษาปีท่ี 3 ดา้ นคณุ ลักษณะ และสรุปความรู้ความเข้าใจเก่ียวกบั ขอ้ เทจ็ จรงิ ท่เี กดิ ขนึ้ ในกรณศี กึ ษานน้ั 1. นักเรียนอภปิ รายคุณค่าของการนาพระบรม ปัญหาและอุปสรรคท่ีพบเจออยู่ โอกาสหรือผลดีท่ีจะเกดิ ข้ึนหาก ราโชวาท และหลักการทรงงานของ แกป้ ญั หาในกรณีศึกษาไดส้ าเรจ็ และแนวทางการนาหลกั คิดจากพระ พระบาทสมเดจ็ พระเจ้าอยหู่ วั มาประยุกต์ใชใ้ น บรมราโชวาทหรือหลกั การทรงงานของพระบาทสมเด็จพระเจา้ อยหู่ วั ชีวติ ประจาวนั และสง่ เสรมิ การดาเนนิ ชีวติ ใหม้ ี รัชกาลท่ี 9 ทต่ี นจบั ฉลากได้มาประยุกต์ใช้เพ่ือแกป้ ัญหานน้ั ((O๑b,๒j:)K,P) ความสุขได้อยา่ งถกู ต้องมเี หตุผล 2. นกั เรยี นอภิปรายคุณค่า และความสาคัญของ 5. ครใู ชป้ ระเดน็ คาถามเพิม่ เติมเพ่ือให้นักเรียนร่วมกนั วเิ คราะห์คุณค่า หลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงทีม่ ีต่อสังคมไทยได้ ของพระบรมราโชวาทและหลักการทรงงานของพระเจ้าอยู่หวั รัชกาลท่ี 9 อย่างมเี หตผุ ล ดงั นี้ 1) นักเรยี นคดิ วา่ พระบรมราโชวาท และหลกั การทรงงานตา่ ง ๆ ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยหู่ ัว รัชกาลที่ 9 มีประโยชน์กับสงั คมไทย อยา่ งไร(ชว่ ยเป็นแนวทางในการดาเนินชวี ิต เป็นที่ยึดเหนย่ี วยามทห่ี มดหวัง เปน็ ทางออกในยามท่คี ดิ อะไรไมไ่ ด้) 2) หากเรานาหลักการทรงงาน พระบรมราโชวาทหรอื ขอ้ คิดตา่ ง ๆ ทพี่ ระบาทสมเดจ็ พระเจ้าอยู่หัว รชั กาลที่ 9 ได้ทรงชแี้ นะแนวทางไว้มา ประยุกต์ใช้ในชีวิตประจาวัน นักเรียนคดิ ว่าจะช่วยพฒั นาตัวของนกั เรยี น เองไดอ้ ย่างไรบา้ ง(มแี นวทางท่หี ลากหลายในการแก้ไขปัญหาตา่ งๆ) 3) นักเรียนคิดว่าลักษณะสาคัญของเศรษฐกจิ พอเพียงคืออะไร (คอื แนวคิดในการอยู่ได้ด้วยตนเอง ต้งั อยบู่ นสามหว่ งสองเง่ือนไข) 4) นกั เรียนคิดว่าเศรษฐกจิ พอเพยี งเปน็ เร่อื งของเกษตรกรอย่าง เดียวหรือไม่ เพราะอะไร(ใช้ไดก้ บั ทกุ อาชพี ) 3103

๓๑๔ แผนการจัดการเรยี นรทู้ ่ี 53 เรือ่ ง การใช้ชีวติ ตามพระบรมราโชวาท หลกั การทรงงานและปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพยี งของพระบาทสมเดจ็ พระเจา้ อย่หู ัว หน่วยการเรยี นร้ทู ี่ 7 เรือ่ ง สังคมดมี ีสุข เวลา 1 ชวั่ โมง กลุ่มสาระการเรียนรสู้ ังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม รายวิชาสังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปีที่ 3 6. ครูนาเสนอกรณตี ัวอยา่ ง และใหน้ กั เรียนวเิ คราะหจ์ ากนน้ั ตอบคาถาม จากกรณีตัวอยา่ งว่าบคุ คลดังกล่าวดาเนนิ ชวี ติ สอดคลอ้ งตามปรัชญาของ เศรษฐกจิ พอเพยี งหรือไม่ เพราะเหตุใด กรณีตัวอย่างท่ี 1 เดก็ ชายไก่ และเด็กชายไข่ ได้ข่าวว่ามีร้านอาหาร เปดิ ใหมย่ า่ นโรงเรียน แถมเป็นรา้ นอาหารชนดิ ทเ่ี ลอื กตักได้ไม่อั้น เขาทง้ั สองคนเหน็ ว่าเป็นฤกษ์งามยามดีจึงชวนกนั ไปทีร่ า้ นอาหารดังกลา่ ว และตกั อาหารมาให้คมุ้ ทส่ี ดุ เท่าท่จี ะทาได้กะให้คนขายขาดทนุ แต่เขากท็ านไมห่ มด กรณตี ัวอยา่ งท่ี 2 เดก็ ชายโอมีเงินอยู่ 30 บาท ไว้สาหรบั ซื้อปากกา แตส่ ายตาก็เหลือบไปเหน็ ซิมโทรศพั ท์ ราคา 29 บาท มโี ปรโมช่นั คยุ ตง้ั แต่ เทยี่ งวนั ยันเท่ยี งคืน แค่คร้งั ละบาท เขาจงึ คดิ อยู่นานว่าจะซอื้ อะไรดี แต่ใน ทส่ี ุดเขาก็ตัดสนิ ใจซอื้ ปากกา เพราะถ้าเขาซอ้ื ซิมโทรศัพท์ เขาก็จะไม่มี ปากกาไวจ้ ดงานและทาการบ้าน กรณีตัวอย่างท่ี 3 เดก็ ชายปกรณ์อ่านข่าวจากหนังสือพิมพ์พบว่าคน ไทยใชจ้ ่ายฟุ่มเฟือยมากข้นึ วัยรนุ่ นิยมซ้อื สินค้านาเขา้ จากต่างประเทศ และ เปลี่ยนโทรศัพทเ์ พอ่ื ใหท้ นั ต่อเทคโนโลยี แต่เดก็ ชายปกรณ์ไม่ไดห้ ลงไปตาม กระแส และยังนาเงนิ ทเ่ี หลอื จากค่าขนมมาหยอดกระปุกทกุ วัน กรณีตวั อย่างท่ี 4 นงนชุ อาศัยอยูใ่ นหมบู่ ้านชวนชม ซึง่ อยู่ติดกับ แมน่ า้ ทม่ี ีผักตบชวาเปน็ จานวนมาก ชาวบา้ นในชมุ ชนจึงมกี ารรวมกลุ่มเพ่ือ สานกระเปา๋ จากผักตบชวา แตก่ ็ขายไม่ค่อยดีนัก เวลาผ่านไป 10 ปี นงนุช กลบั มาหลังจากเรียนจบด้านการออกแบบจากมหาวิทยาลัยชื่อดัง จงึ มา 3104

๓๑๕ แผนการจดั การเรียนรู้ที่ 53 เรอ่ื ง การใชช้ ีวิตตามพระบรมราโชวาท หลักการทรงงานและปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพียงของพระบาทสมเดจ็ พระเจ้าอย่หู ัว หน่วยการเรียนรูท้ ี่ 7 เร่อื ง สังคมดีมสี ุข เวลา 1 ชั่วโมง กลมุ่ สาระการเรียนรู้สังคมศกึ ษา ศาสนาและวฒั นธรรม รายวิชาสังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม ชั้นมัธยมศึกษาปีท่ี 3 ช่วยคนในหมบู่ า้ นลดตน้ ทุนการผลิตและออกแบบกระเป๋าโดยอาศยั ความรู้ ทตี่ นเองได้ร่าเรยี นมา จนกระเปา๋ จากผกั ตบชวาเปน็ ทตี่ ้องการของตลาด สร้างรายไดใ้ หแ้ กช่ ุมชนมากมาย กรณีตัวอยา่ งที่ 5 ณ หอ้ งประจา 3/1 ทกุ คนชวนกนั ไปปิกนิกชว่ ง ปดิ เทอม แต่ไม่มีใครมเี งินพอที่จะซื้อเต็นท์ ทุกคนจึงเร่ิมปรึกษาหารือกัน ดงั น้ี เดก็ ชายเอ : เราว่าไปแอบหยิบเงินของพ่อแม่ดีกวา่ เด็กหญิงบี : เราวา่ ไปขอเงินพอ่ แมน่ า่ จะดกี ว่านะ บรรยากาศภายในห้องเป็นไปอยา่ งตงึ เครยี ด เดก็ ชายซี : นึกออกแลว้ ...เราวา่ พวกเรามาช่วยกันขายดอกกุหลาบ ในช่วงเทศกาลแหง่ ความรักกันดกี วา่ จะได้มีเงนิ เป็นของตวั เอง ไมต่ ้องไป ขโมยและไม่ต้องขอพ่อแมม่ า น่าภมู ใิ จกวา่ กนั ต้องเยอะ ทุกคนในห้อง : เห็นด้วยๆ ถ้าอย่างน้นั พวกเรามาแบ่งหน้าที่กัน ดีกว่า วา่ ใครตอ้ งทาอะไรบา้ ง กรณตี ัวอย่างที่ 6 ครอบครวั ของเด็กชายบอยประกอบธุรกิจนาเขา้ รถสปอรต์ หรูรวยพนั ลา้ นตดิ อันดบั 1 ใน 5 ของผทู้ ร่ี วยท่ีสุดในประเทศ แต่เดก็ ชายบีเป็นคนทตี่ ระหนีม่ าก เมื่อเพ่ือนเดือดร้อนเรอ่ื งเงนิ มาก ๆ เด็กชายบกี ็ยงั ไม่ให้ยืมแม้แต่บาทเดียว ขั้นสรุป 1. นักเรียนรว่ มกนั สรุปจากประเดน็ คาถามของผู้สอน ดังน้ี 3105

๓๑๖ แผนการจดั การเรยี นรู้ท่ี 53 เรอ่ื ง การใชช้ ีวติ ตามพระบรมราโชวาท หลกั การทรงงานและปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงของพระบาทสมเดจ็ พระเจ้าอยู่หัว หนว่ ยการเรียนร้ทู ่ี 7 เรอ่ื ง สังคมดีมสี ุข เวลา 1 ชว่ั โมง กลมุ่ สาระการเรยี นร้สู ังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม รายวิชาสังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม ชน้ั มธั ยมศึกษาปีท่ี 3 1) นักเรยี นคิดวา่ ในการดาเนินงานต่าง ๆ หรอื การใชช้ ีวิตประจาวัน ของนักเรยี นสามารถหลีกเลีย่ งการพบเจอปัญหาทไี่ มค่ าดคิดได้หรือไม่ 2) นักเรยี นคดิ ว่าพระบรมราโชวาทหรอื หลกั การทรงงานของ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รชั กาลที่ 9 ท่ีมีอยูม่ ากมายทุกยคุ สมัย ชว่ ยให้พัฒนาเราใหพ้ ร้อมในการเผชิญ และแก้ไขปญั หาต่างๆได้มากนอ้ ย เพยี งใด 3) หากจะนาปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพียงมาใชเ้ พอื่ ใหก้ ารดาเนนิ ชวี ติ มีความสุข นกั เรยี นคิดว่าปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงจะชว่ ยพัฒนา ตัวนักเรยี นใหเ้ ป็นบุคคลมีลักษณะนิสยั เชน่ ไร และนกั เรียนคดิ วา่ เมื่อเราพบ เจอกบั ปัญหาตา่ งๆทเี่ กดิ ขึ้น สิ่งทสี่ าคัญที่สดุ ต้องระลึกถึงอยู่เสมอคืออะไร (คอื ใช้สตแิ ละปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงเพ่ือสง่ เสรมิ การดาเนินชวี ิตใหม้ ี ความสขุ ) 3106

317 3107 การวัดและประเมินผล ความรู้ ขอบเขตการวัด วธิ กี าร เครื่องมือ ผู้ประเมิน  แนวทางการพัฒนาตนเองเพื่อเป็น - การตอบคาถาม - ห นั งสื อ เรี ย น สั งค ม ศึ ก ษ า ชั้ น พลเมอื งดีของสังคม - การทาใบงาน มธั ยมศึกษาปที ่ี 3 - การทากิจกรรม - การถามคาถาม - การชมวีดีทศั น์ - กจิ กรรม “พอเพียงกรณีตวั อยา่ ง” - วีดที ัศนเ์ ร่ือง “การใชช้ ีวติ ตามพระ ผสู้ อน/ บรมราโชวาท หลักการทรงงานและ ผ้เู รยี น สมรรถนะสาคญั ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง 1. ความสามารถในการสอ่ื สาร ของพระบาทสมเดจ็ พระเจ้าอยู่หัว” 2. ความสามารถในการคดิ ” 3. ความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต - บนั ทกึ การเรยี นรู้ - มโนทศั น์ (Concept Map ) - การตอบคาถาม - ห นั งสื อ เรี ย น สั งค ม ศึ ก ษ า ชั้ น ผู้สอน/ - การทาใบงาน มัธยมศกึ ษาปีท่ี 3 ผู้เรยี น - การทากจิ กรรม - การถามคาถาม ผสู้ อน/ - การชมวดี ีทศั น์ กิจกรรม “พอเพียงกรณตี วั อยา่ ง” ผเู้ รยี น - วีดที ศั น์เรอื่ ง “การใชช้ ีวติ ตามพระ คุณลักษณะอันพึงประสงค์ บรมราโชวาท หลกั การทรงงานและ 1. มวี นิ ัย 2. ใฝเ่ รยี นรู้ ปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพียง 3. มุ่งมน่ั ในการทางาน ของพระบาทสมเด็จพระเจา้ อยู่หัว” ” - บันทกึ การเรยี นรสู้ ถานการณ์ - มโนทัศน์ (Concept Map ) - การตอบคาถาม - การถามคาถาม ผ้สู อน - การสงั เกต - แ บ บ สั ง เก ต พ ฤ ติ ก ร ร ม ด้ า น พฤติกรรม คุณลักษณะอันพงึ ประสงค์ - คาถามเพ่อื พัฒนาเจตคติ ชิ้นงาน/ภาระงาน กจิ กรรม “พอเพียงกรณีตัวอย่าง” เกณฑ์การประเมนิ ผล กิจกรรม “พอเพยี งกรณีตวั อย่าง”

318 3108 ดา้ นความรู้ (K) ประเดน็ การ ระดบั คุณภาพ น้าหนัก คะแนน ประเมิน 2.5 10 4 32 1 1.นักเรียนอธบิ าย อธบิ ายความหมาย อธิบายความหมาย ๐.๒๕ ๓ ความหมายและ และลักษณะสาคญั อธบิ ายความหมาย อธบิ ายความหมาย และลกั ษณะสาคัญ ลกั ษณะสาคญั ของ และลักษณะสาคญั และลักษณะสาคัญ 1.25 3 พระบรมราโชวาท ของพระบรม ของพระบรม ของพระบรม ของพระบรม และหลกั การทรง ราโชวาท และ ราโชวาท และ ราโชวาท และ ราโชวาท และ งานของ หลักการทรงงานของ หลกั การทรงงาน หลักการทรงงาน หลกั การทรงงาน พระบาทสมเดจ็ พระบาทสมเด็จพระ ของ ของ พระเจ้าอยหู่ ัวได้ เจา้ อยูห่ ัวได้อย่าง พระบาทสมเด็จ พระบาทสมเด็จพระ ของ อย่างถูกต้อง ถกู ต้องและมีเหตุผล พระเจา้ อยหู่ ัวได้ เจา้ อยูห่ วั ได้อยา่ ง พระบาทสมเดจ็ 2. นกั เรยี นอธบิ าย อย่างถูกต้องบาง ถกู ต้องเปน็ สว่ นนอ้ ย พระเจา้ อย่หู วั ไม่ได้ ประวตั ิความ ครบถ้วน ประเดน็ เป็นมาของปรชั ญา ระบุแนวทางการ ระบแุ นวทางการ ระบแุ นวทางการ เศรษฐกจิ พอเพียง ระบุแนวทางการ พฒั นาตนเองเพ่ือ พัฒนาตนเองเพื่อ พฒั นาตนเองเพื่อ ได้ พฒั นาตนเองเพ่ือเป็น เปน็ พลเมืองดขี อง เปน็ พลเมืองดีของ เป็นพลเมืองดขี อง พลเมืองดีของสงั คม สังคมได้อยา่ ง สงั คมได้อยา่ ง ถูกต้องบางประเด็น ถกู ต้องเปน็ ส่วนนอ้ ย สังคมไม่ได้ ได้อยา่ งถูกต้อง ครบถว้ น วิเคราะห์ตนเองสู่ วิเคราะห์ตนเองสู่การ วิเคราะหต์ นเองสู่ วเิ คราะหต์ นเองสู่ วเิ คราะห์ตนเองสู่ 1.25 4 3. นักเรยี นอธิบาย พัฒนาประเทศชาติ การพฒั นา การพัฒนา การพัฒนา 10 หลักการของ ให้เจรญิ รุง่ เรืองได้ ประเทศชาติให้ ประเทศชาติให้ ๒2.๗.5๕ ปรัชญาเศรษฐกิจ สรา้ งสรรค์ มากกว่า เจรญิ รุ่งเรืองได้ เจรญิ รงุ่ เรืองไดอ้ ย่าง ประเทศชาติให้ พอเพยี งส่กู าร 5 ขอ้ อยา่ งสรา้ งสรรค์ 4- สร้างสรรค์ 2-3 ขอ้ เจรญิ รงุ่ เรืองได้ พฒั นาประเทศชาติ 5 ขอ้ อย่างสร้างสรรค์ ให้เจรญิ รุ่งเรืองได้ นอ้ ยกว่า 2 ข้อ รวม เกณฑก์ ารตดั สินคณุ ภาพดา้ นความรู้ ระดับคะแนน เกณฑก์ ารตดั สนิ คุณภาพ 8-10 ดีมาก 6-7 ดี 5 พอใช้ ต่ากวา่ 5 ปรบั ปรุง เกณฑ์การผ่าน : ระดบั พอใช้ขึ้นไป

3109 319 1. ดา้ นสมรรถนะของผเู้ รยี น (P) ระดบั คุณภาพ รายการ 3 21 การนาความรู้ท่ีได้ไปใช้ ๑1. ความสาสมาามราถรใถนในการ นยิ ามเนือ้ หาองค์ความรู้ไดอ้ ย่าง นิยามเน้อื หาองค์ความรู้ไดอ้ ย่าง นยิ ามเนอ้ื หาองค์ความรู้ได้ กสือ่ารสสารื่อสาร ชดั เจน ถูกต้องครบถ้วน ทุก ชดั เจน ถกู ตอ้ งครบถว้ น ทุก อยา่ งชดั เจน ถกู ตอ้ ง 1.1ทักษะการอภปิ ราย ประเดน็ ตลอดจนสื่อสารได้อย่าง ประเด็น ตลอดจนส่ือสารได้ ครบถว้ น ทุกประเดน็ มีความเขา้ ใจ อย่างมีความเขา้ ใจ ๒2. ควาามมสสาสมามรถาใรนถกใานร วิเคราะห์ เชือ่ มโยง องค์ความรู้ วิเคราะห์ เชอื่ มโยง องคค์ วามรู้ วเิ คราะห์ เช่อื มโยง องค์ กคาิดรคิด เพอ่ื ตอบคาถามได้อย่าง เพอ่ื ตอบคาถามได้อยา่ ง ความรเู้ พ่ือตอบคาถามได้ 2.1ทกั ษะการคิด หลากหลาย หลากหลาย อย่างหลากหลาย วเิ คราะห์ นาเสนอผลงานอย่างมีความม่ันใจ นาเสนอผลงานอยา่ งมคี วาม นาเสนอผลงานอยา่ งมคี วาม 2.2ทักษะความคดิ มเี หตุผล และยกตวั อย่างได้อย่าง ม่ันใจ มีเหตผุ ล มน่ั ใจ สร้างสรรค์ สรา้ งสรรค์ ๒2.3๓ทั ก ษ ะ ก า ร เชื่ อ ม โย ง ความรู้ ๓3. ควาามมสสาสมามรถาใรนถกใานร ประยกุ ตใ์ ช้ความรูใ้ นการทาใบงาน ประยกุ ตใ์ ช้ความรใู้ นการทาใบ ประยุกต์ใช้ความรู้ในการทา กใชาท้ รใักชษ้ทะชักีวษิตะชีวิต และกิจกรรมได้สมเหตสุ มผล มี งานและกิจกรรมได้ ใบงานและกจิ กรรมได้ 3.1ทักษะการประยุกต์ใช้ การกาหนดยุทธศาสตร์ท่ีสามารถ สมเหตสุ มผล มกี ารกาหนด สมเหตสุ มผล ความรู้ นาไปพัฒนาและต่อยอดได้จริง ยทุ ธศาสตร์ ทม่ี จี ดุ บกพร่องบาง 3.2ทักษะการสร้าง ประเด็น ยทุ ธศาสตร์ เกณฑก์ ารตัดสินคณุ ภาพสมรรถนะของผเู้ รียน ระดบั คะแนน เกณฑก์ ารตัดสนิ คุณภาพ 3 ดีมาก 2 พอใช้ 1 ปรับปรงุ เกณฑก์ ารผ่าน : ระดับพอใช้ขนึ้ ไป

320 3210 2. เกณฑ์การประเมินคณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ (A) ระดบั คะแนน 2 รายการทีป่ ระเมนิ 3 1 1. มีวินัย 1๑. สาามมาราถรปถฏปบิ ฏัติ ติบาั ตมิ ต า ม 1๑. สาามมาราถรปถฏปิบตั ฏติ ิ บามั ติ ต า ม 1๑. สาามมาราถรปถฏปิบัตฏติ บาัมติ ต า ม ๑1.1๑ ปฏฏิบิ บัติตั ตาิ มตขา้อมตกขล้ องต ก ล ง ขอ้ ตกลงในชนั้ เรียน ขอ้ ตกลงในชน้ั เรียน ข้ อ ต ก ล ง ใน ชั้ น เรี ย น แ ต่ ไ ม่ กฎเกณฑ์ ระเบียบ ข้อบังคับของ 2. เคารพกติกาในการยกมือ 2. เคารพกติกาในการตอบ เคารพกติกาในการตอบถาม ครอบครัว โรงเรยี นและสงั คม ตอบคาถาม คาถาม และเล่นในขณะเรียน 1.2 ตรงต่อเวลาในการปฏิบัติ 3. ไม่เล่นหรือพูดคุยกันใน แต่เล่นหรือพูดคุยในขณ ะ 2. ตรงต่อเวลาในการปฏิบัติ กิจกรรมต่างๆในชีวิตประจาวัน ชั้นเรียน เรียน กิจกรรมในชั้นเรยี น และมีความรับผิดชอบในการ ๔4. ตรรงงตต่อ่ เอวเลวาลในา ใน ก า ร 3. ตรงต่อเวลาในการปฏิบัติ 3. สง่ งานชา้ กวา่ กาหนด กทารงทาน�ำ งาน กปาฏริบปัตฏกิ บิ ิจตั กกิ รจิ รกมรใรนมชในั้นเชรน้ัยี เนรยี น กจิ กรรมในชนั้ เรยี น 5. ส่งงานตรงตามเวลาท่ี 4. ส่งงานตรงตามเวลาท่ี กาหนดทุกครง้ั กาหนดบางครั้ง 2. ใฝเ่ รียนรู้ 1. แสวงหาข้อมูลจากแหล่ง 1. แสวงหาข้อมูลจากแหล่ง 1. แสวงหาข้อมูลจากแหล่ง 2.1แสวงหาข้อมูลจากแหล่งการ ก า ร เรี ย น รู้ ต่ า ง ๆ เพื่ อ การเรียนร้ตู ่าง ๆ เพ่ือทบทวน การเรียนรู้ ต่าง ๆ เพ่ือ เรียนรู้ต่าง ๆ เพ่ือทบทวน ทบทวนบทเรยี นอยู่เสมอ บทเรยี นอยู่เสมอ ทบทวนบทเรียนอยู่เสมอ บทเรยี นอย่เู สมอ 2. มีการจดบันทึกความรู้ลง 2. มีการจดบันทึกความรู้ลง ๒2.2๒จดบันทึกความรู้ลงในสมุด ในสมุดประจาวิชาอย่างเป็น ในสมุดประจาวิชาอย่างเป็น ประจาวิชาอย่างเป็นระบบ ระบบ ระบบ สรุปความรู้ได้อย่างมีเหตผุ ล 3. สรุปความรู้ได้อย่างมี เหตผุ ล 3. ม่งุ ม่ันในการทางาน 1. ตั้งใจและรับผิดชอบใน 1. ต้ังใจและรับผิดชอบในการ 1. ตั้งใจและรับผิดชอบในการ 3.1 ตงั้ ใจรับผิดชอบในหน้าที่การ การปฏิบัติหน้าที่ท่ีได้รับ กปาฏริปบฏั ิตบิัตหิหนน้ ้าทที่ท่ี ที่ไดี่ ไ้รดับ้ รั บ กปาฏรปิ บฏั ิบติัตหิหนน้ ้าาทที่ท่ี ที่ไดี่ ไ้รดับ้ รั บ กงานรงาน มอบหมายไดเ้ ป็นอย่างดี มอบหมายได้ มอบหมายได้ 2. สง่ งานครบทกุ ชิ้น 2. สง่ งานไม่ครบทุกชนิ้ 2. ขาดการสง่ งาน เกณฑ์การตดั สนิ คุณลักษณะอนั พึงประสงค์ ระดบั คะแนน เกณฑ์การตัดสินคุณภาพ 3 ดมี าก 2 พอใช้ 1 ปรับปรงุ เกณฑ์การผา่ น : ระดบั พอใช้ข้ึนไป

3211 321 8. บันทกึ ผลหลังสอน ผลการเรียนรู้ ............................................................................................................................. ................................................ ปัญหาและอุปสรรค ............................................................................................................................. ............................................. ข้อเสนอแนะและแนวทางแก้ไข ........................................................................................................................................................................... ลงชอื่ ......................................ผสู้ อน (.......................................................) วันท่ี..........เดือน..........พ.ศ............. ความคิดเห็น/ขอ้ เสนอแนะของผ้บู ริหารหรือผู้ทไ่ี ดร้ บั มอบหมาย ........................................................................................................................................................................... ลงช่อื ......................................ผตู้ รวจ (.......................................................) วนั ที.่ .........เดือน..........พ.ศ.........

๓๒๒ 3212 หน่วยการเรยี นร้ทู ่ี 8 ชือ่ หน่วยการเรียนรู้ การเมืองการปกครอง รหัสวิชา ส 23101 รายวิชา หน้าที่พลเมืองวัฒนธรรมและการดาเนนิ ชีวิตในสังคม กลุ่มสาระฯสังคมศกึ ษาฯ ชน้ั มธั ยมศกึ ษาปีท่ี 3 ภาคเรยี นที่ 1 ปกี ารศกึ ษา 2562 เวลา 7 ชั่วโมง 1.มาตรฐานการเรียนร/ู้ ตวั ชี้วดั สาระหน้าทพี่ ลเมือง วฒั นธรรมและการดาเนินชวี ิตในสงั คม มาตรฐานการเรยี นรู้ ส 2.2 เข้าใจระบบการเมืองการปกครองในสงั คมปัจจบุ นั ยึดม่นั ศรัทธาและธารง รกั ษาไว้ ซ่ึงการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตรยิ ์ทรงเป็นประมขุ ตัวช้วี ดั ส 2.2 ม.3/1 อธบิ ายระบอบการปกครองแบบต่างๆ ที่ใชใ้ นยุคปจั จบุ นั ส 2.2 ม.3/2 วิเคราะห์ เปรียบเทียบระบอบการปกครองของไทยกับประเทศอน่ื ๆที่มี การปกครองระบอบประชาธิปไตย ส 2.2 ม.3/3 วเิ คราะหร์ ัฐธรรมนญู ฉบบั ปัจจบุ นั ในมาตราต่างๆ ทเ่ี กย่ี วข้องกับการ เกลาอื รกเลตือั้งกกตาั้งรมกสี า่วรนมรีสว่ ่วมนแรล่วะมกแารลตะรกวาจรสตอรบวกจสารอใบชกอ้ านรใาชจ้อรำ�ฐั นาจรัฐ ส 2.2 ม.3/4 วิเคราะห์ประเดน็ ปัญหาท่เี ปน็ อุปสรรคต่อการพัฒนาประชาธปิ ไตย ของประเทศไทยและเสนอแนวทางแก้ไข 2.สาระสาคัญ/ความคิดรวบยอด ปัจจุบันประเทศต่างๆในโลกมีระบอบการเมืองการปกครองของตนเองเพื่อเป็นแบบแผนในการ ปฏิบัติ รวมถึงข้อตกลงระหว่างรัฐกับประชาชน ขึ้นอยู่กับแนวคิดหรืออุดมการณ์ทางการเมืองของประเทศ นั้นๆ ซ่ึงจะส่งผลต่อการพัฒนาประเทศ 3. สาระการเรยี นรู้ ความรู้ 1) อธบิ ายระบอบการปกครองรปู แบบต่างๆ 2) อธิบายรัฐธรรมนญู ฉบบั ปัจจุบันในมาตราตา่ งๆ ที่เกย่ี วขอ้ งกับการเลือกต้ัง การมีส่วน ร่วมและการตรวจสอบการใช้อานาจรัฐ 3) แนวทางแก้ไขปัญหาทใี่ นการพฒั นาประชาธิปไตยของประเทศไทย ทักษะ/กระบวนการ 1) วิเคราะห์ ระบอบการปกครองของไทยกับประเทศอน่ื ๆที่มีการปกครองระบอบ ประชาธปิ ไตย 2) เปรยี บเทียบระบอบการปกครองของไทยกบั ประเทศอน่ื ๆทีม่ กี ารปกครองระบอบ ประชาธปิ ไตย 3) วเิ คราะหร์ ัฐธรรมนูญฉบบั ปจั จุบนั ในมาตราตา่ งๆ ทเี่ กี่ยวขอ้ งกบั การเลอื กตง้ั การมีส่วน ร่วมและการตรวจสอบการใช้อานาจรฐั

3213 ๓๒๓ 4) วิเคราะห์ประเดน็ ปัญหาท่ีเป็นอปุ สรรคต่อการพัฒนาประชาธปิ ไตยของประเทศไทย และเสนอแนวทางแกไ้ ข 5) นาเสนอแนวทางแก้ไขปญั หาท่ใี นการพัฒนาประชาธิปไตยของประเทศไทย 6) ประเมินผลกระทบของปัญหาทีเ่ กิดขนึ้ ต่อการพฒั นาประชาธิปไตย เจตคติ 1) ตระหนักความสาคัญของการปกครองระบอบประชาธิปไตย 2) ตระหนักถงึ ปญั หาในการพัฒนาประชาธิปไตยของประเทศไทย 3) มสี ่วนร่วมในการเสนอแนวทางแก้ไขปญั หาทใ่ี นการพัฒนาประชาธิปไตยของประเทศ ไทย 4. สมรรถนะสาคญั ของผูเ้ รยี น 4.1 ความสามารถในการส่ือสาร - ทักษะการอธบิ าย 4.2 ความสามารถในการคดิ - ทกั ษะกระบวนการคดิ วิเคราะห์ - ทกั ษะการให้เหตผุ ล - ทักษะการเปรียบเทยี บ 4.2 ความสามารถในการใช้ทกั ษะชีวติ - ทักษะการทางานรว่ มกบั ผู้อื่น - ทกั ษะการแกป้ ัญหา 5. คุณลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ 1. มีวนิ ยั 2. ใฝ่เรยี นรู้ 3. มุ่งมั่นในการทางาน 4. รักความเป็นไทย 6. การประเมินผลรวบยอด ช้ืนงานหรอื ภาระงาน - เรียงความ เร่อื ง การปกครองระบอบประชาธิปไตยชว่ ยสรา้ งความสุขต่อตัวเรา 7. เกณฑก์ ารประเมินผลชิ้นงานหรอื ภาระงาน แบบประเมนิ เรียงความ เร่ือง การปกครองระบอบประชาธิปไตยช่วยสร้างความสขุ ต่อตัวเรา

๓๒๔ 3214 รายการประเมนิ คาอธิบายระดบั คุณภาพ / ระดบั คะแนน 1. การวิเคราะห์ คุณคา่ ความสาคัญ ดีมาก (4) ดี (3) พอใช้ (2) ปรับปรุง (1) ของการปกครอง ไมส่ ามารถวเิ คราะห์ ระบอบ วิเคราะหค์ ุณค่า วิเคราะหค์ ุณค่า วเิ คราะหค์ ุณค่า คณุ คา่ ความสาคญั ประชาธิปไตย ความสาคญั ของการ ความสาคญั ของการ ความสาคัญของการ ของการปกครอง ปกครองระบอบ ปกครองระบอบ ปกครองระบอบ ระบอบ 2. การเสนอ ประชาธิปไตยท่ีมีต่อ ประชาธปิ ไตยที่มีตอ่ ประชาธิปไตยที่มตี อ่ ประชาธปิ ไตยที่มตี อ่ แนวทางการ ตนเองได้อย่างนอ้ ย ตนเองได้อยา่ งนอ้ ย ตนเองได้อย่างนอ้ ย ตนเอง ดารงชีวิตอยา่ งมี 3 ประเด็น 2 ประเดน็ 1 ประเดน็ ไม่สามารถเสนอแนว ความสุขใน ทางการดารงชวี ิต สังคมไทยตาม เสนอแนวทางการ เสนอแนวทางการ เสนอแนวทางการ อย่างมีความสุขใน ระบอบการ ดารงชีวติ อยา่ งมี สงั คมไทยตาม ปกครอง ความสุขใน ดารงชวี ิตอย่างมี ดารงชวี ติ อยา่ งมี ระบอบการปกครอง ประชาธปิ ไตย สงั คมไทยตาม ความสุขใน ความสขุ ใน ประชาธปิ ไตยได้ ระบอบการปกครอง 3. รูปแบบการ ประชาธปิ ไตยได้ สงั คมไทยตาม สงั คมไทยตาม เขยี นไมต่ รงประเด็น เขยี นเรยี งความ อย่างมเี หตุผล ระบอบการปกครอง ระบอบการปกครอง ไมม่ สี ว่ นประกอบ เหมาะสม ประชาธปิ ไตยได้ ประชาธิปไตยได้ การเขยี นเรยี งความ 3 ประเดน็ ขึน้ ไป อยา่ งมีเหตุผล อย่างมเี หตุผล ครบถ้วน (คานา เนื้อ เขยี นตรงประเดน็ เหมาะสม เหมาะสม เรอื่ ง สรุป) ใช้ภาษา ตามท่ีกาหนด มี 2 ประเด็นขึน้ ไป 1 ประเดน็ ข้นึ ไป วกวนผู้อา่ นสบั สน ส่วนประกอบการ เขยี นเรียงความ เขียนตรงประเดน็ เขยี นตรงประเดน็ ครบถ้วน (คานา เน้ือ ตามท่ีกาหนด มี ไมม่ ีสว่ นประกอบ เร่ือง สรปุ ) ใชภ้ าษา สว่ นประกอบการ การเขยี นเรียงความ ถกู ต้องเหมาะสม เขยี นเรียงความ ครบถว้ น (คานา เน้ือ ครบถว้ น (คานา เนื้อ เรือ่ ง สรปุ ) ใช้ภาษา เร่อื ง สรปุ ) ใชภ้ าษา วกวนผอู้ า่ นสบั สน วกวนผู้อา่ นสบั สน เกณฑ์การตัดสนิ คะแนน 9-8 หมายถึง ดมี าก คะแนน 7-6 หมายถงึ ดี คะแนน 5-4 หมายถึง พอใช้ คะแนน ตา่ กวา่ 4 หมายถึง ปรบั ปรงุ เกณฑ์การผ่าน ตง้ั แตร่ ะดับ ดี ขึ้นไป

๓๒๕ แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 54 เร่ือง รปู แบบการปกครองในยุคปจั จบุ นั เวลา 1 ชั่วโมง หน่วยการเรยี นรู้ท่ี 8 เรื่อง การเมอื งการปกครอง ชัน้ มัธยมศึกษาปีท่ี 3 กล่มุ สาระการเรยี นรู้สงั คมศึกษา ศาสนาและวฒั นธรรม รายวชิ าสังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม ตัวชวี้ ัด กจิ กรรมการเรียนรู้ ส่อื /แหล่งเรียนรู้ ส 2.2 ม. 3/1 อธิบายระบอบการปกครอง ข้นั นา 1) Power Point เร่ือง “ระบบ 1. นักเรียนร่วมกนั ตอบคาถามในประเดน็ ตา่ งๆดงั นี้ เพื่อเป็นการกระต้นุ การเมืองการปกครอง” แบบต่างๆ ท่ใี ชใ้ นยุคปจั จบุ นั ความสนใจนกั เรียน 2) วีดโี อ Birth of Democracy สาระสาคัญ “นกั เรยี นรจู้ ักระบอบการปกครองที่ใชก้ ันในโลกใบน้ีอะไรบ้าง” (ระบอบ ประชาธปิ ไตย ระบอบเผด็จการ) การปกครองระบอบประชาธิปไตย คือการ “นักเรียนคดิ ว่าอยากให้สงั คมไทย เหมาะกับการปกครองรูปแบบไหน ภาระงาน/ชน้ิ งาน ปกครองทยี่ ึดหลักสิทธิ เสรีภาพ และความเสมอ เพราะอะไร” (ระบอบประชาธปิ ไตย/ ระบอบเผดจ็ การ) 1) กิจกรรม”คน้ หาประชาธิปไตย” ภาค มีประชาชนเป็นเจา้ ของอานาจอธปิ ไตย บน 2. ครเู ช่ือมโยงคาตอบเข้าสู่บทเรียน โดยกล่าววา่ “การปกครองในรูปแบบ 2) การวิเคราะห์และตอบคาถามจาก พื้นฐานของการเคารพเสียงข้างมากและศักดศิ์ รี ต่างๆนน้ั มคี วามแตกต่างและความเหมาะสมท่แี ตกตา่ งกนั ดงั นัน้ วนั น้เี รา วีดโี อ ความเปน็ มนุษย์ จะมาเรียนรกู้ นั ในเร่อื ง ระบบการเมืองการปกครองกนั ” ขอบเขตเนื้อหา ขัน้ สอน 1. นกั เรียนศึกษาหนงั สือเรียนรายวชิ าพื้นฐานหนา้ ทพี่ ลเมือง ช้ัน - ระบบการเมืองการปกครอง มัธยมศกึ ษาปที ี่ 3 เร่ือง รูปแบบการปกครองในสมัยปัจจบุ ัน - ความหมายของระบอบประชาธิปไตย 2. นกั เรียนและครรู ่วมกนั ศกึ ษาสื่อประกอบการสอน Power Point เรือ่ ง - หลกั การของประชาธปิ ไตย “ระบบการเมืองการปกครอง” ในหัวข้อดังน้ี จุดประสงค์การเรยี นรู้ ด้านความรู้ ระบอบการเมอื งการปกครอง คอื อะไร (รปู แบบของความสัมพันธ์ 1. อธบิ ายความหมายระบบการเมอื งการปกครอง ระหว่างมนษุ ยซ์ ่ึงก่อ ใหเ้ กดิ การใช้อานาจบงั คับในสงั คมทเี่ รียกวา่ “อานาจ ความหมายระบอบประชาธิปไตยได้อยา่ งถกู ต้อง รัฐ”) 2. อธิบายหลักการของประชาธปิ ไตยได้อย่าง 3. นักเรยี นศึกษา วีดีโอ Birth of Democracy เขา้ ถึงไดจ้ าก ครบถ้วน 3215

แผนการจดั การเรียนรู้ท่ี 54 เร่อื ง รูปแบบการปกครองในยคุ ปจั จบุ นั ๓๒๖ หน่วยการเรียนรทู้ ่ี 8 เรอ่ื ง การเมอื งการปกครอแงผนการจัดการเรยี นรู้ท่ี 54 เรื่อง รปู แบบการปกครองในยคุ ปจั จุบัน ๓๒๖ หกลน่มุวสยากราะรกเราียรนเรรียทู้ นี่ ร8ู้สเังรคื่อมงศกึ าษราเมศือางสกนาารแปลกะควรฒัองนธรรม รายวชิ าสังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม เวลา 1 ช่วั โมง กคลรบ่มุ ถสว้านระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนาและวฒั นธรhรtมtps:/ร/wายwวwิช.าyสoังuคtมuศbกึe.ษcาomศา/wสนaาtcแhล?ะvว=ัฒInนdธRรAรsมYX4W4 และรว่ มกัน เชว้ันลมาธั 1ยมชศัว่ กึโมษงาปีท่ี 3 ช้ันมธั ยมศกึ ษาปีที่ 3 คดร้าบนถท้วักนษะและกระบวนการ hตtอtบpคs:า/ถ//wาwมwwดwังwน.y.ี้yoouuttuubbee.c.coomm/w/watacthc?hv?=vI=nIdnRdARsAYsXY4XW4W4 4แแลละะร่วรม่วมกกันัน 1ด.้านยกทตักัวษอะยแ่าลงะหกลรกั ะกบาวรนขอกงาปรระชาธปิ ไตยได้ ตอบค“านถกั าเมรียดนังนค้ีดิ วา่ ระบอบประชาธปิ ไตยมีตน้ กาเนดิ มาจากท่ีใด” (กรีก) ด1้า.นยคกุณตัวลอกั ยษ่าณงหะลกั การของประชาธปิ ไตยได้ “ในนกั คเรวยีานมคิดขวา่องรนะกับเอรบยี นปรปะรชะาชธาปิ ธไปิตไยตมยตี น้คอืกอาเะนไิดร”มา(จกากรทที่ใดุก”คน(กมรี กี ) ดา้ น1ค. ณุนกั ลเกัรยีษนณบะอกคณุ ค่าและความสาคัญของการ สว่ นร“ว่ ใมนใคนวกาามรคปดิ กขคอรงอนงัก) เรยี น ประชาธปิ ไตย คืออะไร” (การทที่ ุกคนมี ปก1ค. รนอักงเระยี บนอบบอปกรคะุณชคา่ธาแิปลไตะยคไวดา้อมยสา่ งคถัญกู ขตอ้ งการ ส่วนร“่วจมงใบนอกกาหรปลกั คกราอรขง)องประชาธไิ ตย” (หลักอานาจอธปิ ไตยเปน็ ของ ปกครองระบอบประชาธปิ ไตยได้อยา่ งถูกตอ้ ง ประช“าจชงนบอ,หกลหักลคักวกาามรเขสอมงอปภราะคช,าหธลไิ ตักยเส”ร(ภี หาลพักอ,หาลนักาจเสอียธงปิ ขไ้าตงยมเาปกน็ ของ ป,หรละกั ชฎาหชนมา,ยห(ลนักติ คธิ วรารมเ)สมอภาค, หลกั เสรภี าพ ,หลักเสียงข้างมาก ,4ห.ลนักกั ฎเหรยีมนายท(านกิติจธิ กรรรรมม)”คน้ หาประชาธปิ ไตย” ใหจ้ ับกลมุ่ โดยการ นบั 1-5 4ใ๔ค.รนนกั บั เรหยี ียมนนาทยท�ำเาลกกขจิ ิจกใกดรรใรรหมม้เข“”้าคกน้ ลห่มุ ากปับระหะชมชาาธยธปิ ปิเลไไตขตยนย”น้ั”ใใหเชหจ้ ่น้จบั บั กนกลักลมุ่ เุ่มรโดยีโดยนยกนกาับราร1นนบั กบั อ็๑ย-1๕ู่ก-5ับ ในคักรเนรียับนหคมนาอยเื่นลๆขทใดน่ี ใับห้เ1ข้านกกั ลเุ่มรียกนับทห่นีมับาย2เลขกนอ็ ย้ันกู่ เับชน่ กั นเรักียเรนยี คนนนอบั ื่นๆ1ทกีน่ อ็บั ย2่กู ับ น5ัก. เรมยี ่ือนนคักนเรอยี ืน่ นๆจทบั ่นี กับลมุ่ 1เสนรัก็จเรใีหยน้แทต่ลนี ะับก2ลุ่มกน็อยิ ยากู่ มับคนวากั มเรหียมนาคยนขอ่ืนงหๆลทัก่ีนกบั าร2 ข5อ. งเมก่อืลนมุ่ ตักนเรเียอนงจตบั ากมลหุ่มัวเขส้อรห็จมใาหย้แเตลล่ขะแกลละุ่มยนกิยตาัวมอคยว่าางมใหช้มัดายเจขนอลงงหใลนกั การ กขอระงดกลาษมุ่ ตAน4เอง ตามหวั ข้อหมายเลข และยกตวั อยา่ งใหช้ ัดเจนลงใน กระดกาลษุ่ม A14หลกั อานาจอธิปไตยเป็นของประชาชน กลมุ่ 12 หลกั อคาวนามาจเสอมธอิปภไตาคยเปน็ ของประชาชน กลุม่ 32 หลักคเสวราภี มาเสพมอภาค กลุ่ม 43 หลกั เสยีรีภงขา้าพงมาก กลุ่ม 54 หลกั เฎสหยี มงขาย้าง(มนาติ กธิ รรม) 6. นกกั ลเรุ่มยี 5นแหตล่ลกั ะฎกหลมุ่ าสย่งต(นวั แติ ทธิ รนรอมอ)กมานาเสนอ โดยมคี รูอธิบายขยาย 6. นักเรียนแต่ละกลมุ่ ส่งตัวแทนออกมานาเสนอ โดยมคี รูอธิบายขยาย 3263216

แผนการจัดการเรียนรทู้ ่ี 54 เร่อื ง รูปแบบการปกครองในยคุ ปจั จุบนั ๓๒๗ หนว่ ยการเรียนร้ทู ่ี 8 เรอ่ื ง การเมอื งการปกครอง เวลา 1 ชั่วโมง กลุ่มสาระการเรียนรู้สงั คมศึกษา ศาสนาและวฒั นธรรม รายวชิ าสังคมศกึ ษา ศาสนาและวัฒนธรรม ชน้ั มธั ยมศกึ ษาปีที่ 3 ขอ้ มูลเพม่ิ เติม ขน้ั สรปุ 1. นกั เรียนรว่ มกันตอบคาถาม “สงิ่ สาคญั ของประชาธปิ ไตยคอื อะไร” (การปกครองที่ยึดหลกั สทิ ธิ เสรีภาพ และความเสมอภาค มีประชาชนเปน็ เจา้ ของอานาจ) “ความสาคัญของระบอบการปกครองสู่การสรา้ งสงั คมให้มีความสุข อยา่ งไร (ทาให้คนรู้หนา้ ท่ี, ควบคมุ คนให้อยู่ในระเบียบ ฯลฯ) 3217

328 3218 การวัดและประเมนิ ผล วธิ ีการ เครอ่ื งมอื ที่ใช้ เกณฑ์ ส่งิ ทต่ี ้องการวดั /ประเมนิ - ดี :; อธิบายความหมาย ดา้ นความรู้ การตอบคาถาม, การทา - คาถาม ระบบการเมอื งการปกครอง 1. อธิบายความหมายระบบ กิจกรรม - วดี ีโอ ความหมายระบอบ การเมืองการปกครอง - กจิ กรรรรมม”ค“น้ค้หนาหา ประชาธปิ ไตย และหลักการ ความหมายระบอบ ประชาธิปิปไไตตยย”” ประชาธิปไตยได้อย่างถกู ต้อง ประชาธิปไตยได้อยา่ งถกู ต้อง ครบถ้วน 2. อธิบายหลกั การของ การตอบคาถาม, การทา - คาถาม - พอใช้ ;: อธบิ ายความหมาย ประชาธปิ ไตยได้อย่างครบถว้ น กิจกรรม - กจิ กรรรรมม”ค“้นค้หนาหา ระบบการเมอื งการปกครอง ประชาธปิ ิปไไตตยย”” ความหมายระบอบ ด้านทกั ษะ/กระบวนการ ประชาธปิ ไตย หรอื หลกั การ 1. ยกตวั อย่างหลักการของ การตอบคาถาม คาถาม ประชาธิปไตยได้ ประชาธิปไตยได้ - ปรบั ปรุง :; ไม่สามารถ ดา้ นคุณลกั ษณะ อธิบายความหมายระบบ 1. นักเรียนบอกคุณคา่ และ การเมืองการปกครอง ความสาคญั ของการ ปกครอง ความหมายระบอบ ระบอบประชาธิปไตยไดอ้ ย่าง ประชาธปิ ไตย หรือหลักการ ถกู ต้อง ประชาธปิ ไตยได้เลย - ดี :; ยกตวั อย่างหลกั การของ ประชาธปิ ไตยได้ถูกตอ้ ง ครบถ้วน - พอใช้ ;: ยกตัวอยา่ ง หลักการของประชาธปิ ไตยได้ พอสงั เขป - ปรบั ปรงุ :; ไม่สามารถ ยกตัวอยา่ งหลกั การของ ประชาธปิ ไตยได้ - ดี :; บอกคณุ ค่าและ ความสาคัญของการ ปกครอง ระบอบประชาธิปไตยไดอ้ ย่าง น้อย 2 ขอ้ - พอใช้ ;: บอกคุณคา่ และ ความสาคญั ของการ ปกครอง ระบอบประชาธปิ ไตยได้อย่าง น้อย 1 ข้อ

3219 329 สงิ่ ทต่ี ้องการวดั /ประเมิน วธิ กี าร เครอื่ งมอื ทใ่ี ช้ เกณฑ์ - ปรับปรุง ;: ไม่สามารถบอก คณุ คา่ และความสาคญั ของ การ ปกครองระบอบ ประชาธิปไตยได้เลย 8. บนั ทกึ ผลหลังสอน ผลการเรียนรู้ ............................................................................................... .............................................................................. ปญั หาและอุปสรรค ............................................................................................................................. ............................................. ข้อเสนอแนะและแนวทางแก้ไข ............................................................................................................................. .............................................. ลงช่ือ ......................................ผู้สอน (.......................................................) วนั ท.ี่ .........เดือน..........พ.ศ. ............ ความคิดเหน็ /ข้อเสนอแนะของผบู้ ริหารหรอื ผู้ทไ่ี ดร้ บั มอบหมาย ............................................................................................................................. .............................................. ลงชอื่ ......................................ผูต้ รวจ (.......................................................) วันที่..........เดอื น..........พ.ศ. ............

๓๓๐ แผนการจัดการเรยี นรู้ที่ 55 เร่ือง การปกครองแบบประชาธปิ ไตย เวลา 1 ชัว่ โมง หน่วยการเรียนรูท้ ่ี 8 เรือ่ ง การเมอื งการปกครอง ชัน้ มธั ยมศึกษาปีที่ 3 กลมุ่ สาระการเรยี นรูส้ งั คมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม รายวชิ าสังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม ส่ือ/แหล่งเรียนรู้ 1-) ภาพรฐั สภาแหง่ ราชอาณาจกั รไทย ตัวชวี้ ัด กจิ กรรมการเรยี นรู้ 2-) กิจกรรม “ยุวประชาธปิ ไตย” ส 2.2 ม. 3/1 อธิบายระบอบการปกครอง ข้ันนา 3-) Power Point เร่ือง “การปกครอง 1.นักเรยี น ศกึ ษาภาพรฐั สภาแหง่ ราชอาณาจักรไทย และแสดงความ ระบอบประชาธิปไตย” แบบตา่ งๆ ทใ่ี ช้ในยุคปจั จุบนั คดิ เหน็ ต่อไปนี้ ท่ีมาภาพ : ภาระงาน/ชนิ้ งาน สาระสาคัญ www.radioparliament.net/parliament/viewnews.php?nld=11100 - ใบงาน ประชาธิปไตย การปกครองระบอบประชาธิปไตยมหี ลาย 9#.XFuvGaQ55qqaaMM - การวิเคราะหแ์ ละตอบคาถามจาก รปู แบบ ทกุ รูปแบบมจี ุดเนน้ เดียวกนั คอื การรกั ษา วีดโี อและกิจกรรม ผลประโยชน์ของประชาชนเป็นหลัก และศักดิ์ศรี ความเท่าเทยี มกันของความเปน็ มนษุ ย์ ขอบเขตเน้อื หา 1. รูปแบบการปกครองระบอบประชาธิปไตย - การปกครองระบอบประชาธิปไตยแบบรัฐสภา - การปกครองระบอบประชาธปิ ไตยในระบบ ประธานาธิบดี 1.1 นักเรยี นทราบหรอื ไมว่ ่า การปกครองของไทยเป็นประชาธปิ ไตยแบบ ใด (แบบรฐั สภา) - การปกครองระบอบประชาธปิ ไตยในระบบกงึ่ 1.2 นกั เรยี นคิดวา่ ยังมกี ารปกครองระบอบประชาธิปไตยในรูปแบบอ่ืนๆ ประธานาธบิ ดกี งึ่ รฐั สภา อกี หรือไม่ ถ้ามีเช่นอะไรบา้ ง (มี เชน่ แบบรฐั สภา แบบประธานาธบิ ดี 2. ข้อดี และข้อเสยี ของการปกครองระบอบ ฯลฯ) ประชาธิปไตย 2. ครอู ธิบายเพ่มิ เติมถงึ รูปแบบการปกครอง ระบอบประชาธปิ ไตย ซงึ่ มี หลายรูปแบบ ทั้งแบบกระจายอานาจ และรวมอานาจ เพ่ือนาเขา้ สู่ บทเรยี นเรอื่ ง “การปกครองแบบประชาธปิ ไตย” 3230

๓๓๑ แผนการจดั การเรยี นรูท้ ี่ 55 เรื่อง การปกครองแบบประชาธิปไตย เวลา 1 ชั่วโมง หนว่ ยการเรียนรูท้ ี่ 8 เรื่อง การเมอื งการปกครอง ช้นั มัธยมศึกษาปที ่ี 3 กลุม่ สาระการเรียนรูส้ งั คมศึกษา ศาสนาและวฒั นธรรม รายวชิ าสังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้ ขั้นสอน ดา้ นความรู้ 1. นกั เรยี นศึกษาหนงั สือเรียนรายวิชาพน้ื ฐานหนา้ ทีพ่ ลเมือง ชั้น 1.นักเรยี นสามารถอธิบายรปู แบบการปกครอง มธั ยมศึกษาปีท่ี 3 เรื่อง การปกครองระบอบประชาธปิ ไตย (การปกครอง ระบอบประชาธปิ ไตย แบบต่างๆในปัจจบุ นั ได้ แบบรัฐสภา ,การปกครองแบบประธานาธิบด,ี การปกครองแบบก่ึง อย่างถูกต้อง ประธานาธบิ ดกี ่งึ รฐั สภา) ด้านทกั ษะและกระบวนการ 2. นกั เรียนทากิจกรรม “ยุวประชาธิปไตย” โดยจับกลุม่ ออกเป็น 3 กลมุ่ 1.นกั เรยี นสามารถวเิ คราะหค์ วามแตกตา่ งของ กลุ่มละเท่าๆกนั คละความสามารถ โดยมอบหมายให้อภปิ รายภายในกลมุ่ การปกครองระบอบประชาธิปไตย รูปแบบต่างๆ และบันทึกข้อมูลลงในใบงาน ประชาธิปไตย ตามหัวข้อท่ีได้รบั ไดอ้ ย่างถูกต้อง กลมุ่ ท่ี 1 การปกครองรูปแบบรฐั สภา ด้านคณุ ลกั ษณะ กลุม่ ท่ี 2 เปน็ การปกครองรปู แบบประธานาธิบดี 1. นกั เรยี นวเิ คราะหค์ วามสาคญั ท่ีได้รบั จากขอ้ ดี กลุ่มที่ 3 การปกครองรปู แบบกึง่ รฐั สภากง่ึ ประธานาธิบดี ของการปกครองระบอบประชาธิปไตยในรูปแบบ 3. นักเรยี นแตล่ ะกลุ่ม ออกมานาเสนอข้อมลู ท่ีได้จาการอภิปรายภายใน ต่างๆได้ กลมุ่ โดยมคี รูเปน็ ผอู้ ธิบายสรุปรูปแบบการปกครอง ของแตล่ ะกลุม่ เพมิ่ เติมผ่านโปรแกรม Power Point เรอื่ ง “การปกครองระบอบ ประชาธปิ ไตย” 4. นักเรยี นร่วมกัน อภิปรายข้อดแี ละขอ้ เสยี ของการปกครองระบอบ ประชาธปิ ไตย และส่ิงที่ได้จากการเป็นพลเมืองตามข้อดขี องระบอบ ประชาธิปไตย โดยสรปุ ลงในกระดานหน้าชั้นเรยี น (มีอิสรเสรีภาพสามารถ ประกอบอาชีพได้อย่างสจุ รติ มคี วามเสมอภาคเท่าเทยี มกัน มสี ทิ ธใิ นการ ปกครอง ฯ) 3231

แผนการจัดการเรยี นรู้ท่ี 55 เรือ่ ง การปกครองแบบประชาธิปไตย ๓๓๒ หนว่ ยการเรยี นรทู้ ่ี 8 เรื่อง การเมืองการปกครอง เวลา 1 ช่ัวโมง กลุม่ สาระการเรียนร้สู งั คมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม รายวชิ าสังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม ชัน้ มธั ยมศึกษาปที ่ี 3 ขั้นสรุป 1. นักเรยี นรว่ มกันตอบคาถามดังนี้ “เพราะเหตใุ ด การปกครองระบอบประชาธปิ ไตย จึงมหี ลากหลาย รูปแบบ” (เพ่ือความสะดวกและความเหมาะสม ของการปกครอง ตาม ลักษณะของสภาพสังคมในประเทศนั้นๆ แตท่ ุกรปู แบบมีจุดเนน้ เดียวกัน คอื การรกั ษาผลประโยชน์ของประชาชนเป็นหลัก และศักด์ิศรคี วามเทา่ เทียมกนั ของความเป็นมนุษย)์ 3232

333 3233 การวัดและประเมินผล วธิ ีการ เครือ่ งมือทใ่ี ช้ เกณฑ์ สิง่ ทตี่ ้องการวดั /ประเมนิ ดา้ นความรู้ - ดี ; สามารถอธิบาย 1.นกั เรียนสามารถอธิบาย การตอบคาถาม, การ - คาถาม รปู แบบการปกครองระบอบ ทากิจกรรม, การทาใบ - วีดโี อ รูปแบบการปกครอง ประชาธิปไตย แบบตา่ งๆใน งาน - กิจกรรม “ยวุ ประชาธปิ ระบอบประชาธิปไตย ปจั จบุ ันไดอ้ ยา่ งถูกต้อง ไตย” แบบตา่ งๆในปจั จบุ ันได้ - ใบงาน ประชาธิปไตย อย่างถูกต้อง 3 รูปแบบ - พอใช้ ; สามารถอธบิ าย รปู แบบการปกครอง ระบอบประชาธิปไตย แบบต่างๆในปจั จุบนั ได้ ถกู ต้องอย่างนอ้ ย 1 รูปแบบ - ปรับปรุง ; ไม่สามารถ อธบิ ายรปู แบบการ ปกครองระบอบ ประชาธิปไตย แบบต่างๆ ในปจั จุบันไดเ้ ลย ดา้ นทกั ษะ/กระบวนการ 1.นกั เรยี นสามารถ การตอบคาถาม - คาถาม - ดี ; วิเคราะห์ความ วิเคราะห์ความแตกตา่ งของ แตกต่างของการปกครอง การปกครองระบอบ ระบอบประชาธปิ ไตย ประชาธิปไตย รปู แบบตา่ งๆ รูปแบบตา่ งๆไดอ้ ย่าง ได้อยา่ งถกู ตอ้ ง น้อย 2 ประเด็น - พอใช้ ; วเิ คราะห์ความ แตกตา่ งของการปกครอง ระบอบประชาธิปไตย รูปแบบต่างๆไดอ้ ย่าง น้อย 1 ประเด็น - ปรับปรงุ ; ไม่สามารถ วิเคราะห์ความแตกต่าง ของการปกครองระบอบ ประชาธิปไตย รูปแบบ ตา่ งๆไดเ้ ลย

ส่ิงท่ตี ้องการวัด/ประเมิน วิธกี าร เครือ่ งมอื ท่ใี ช้ 3234 334 เกณฑ์ ด้านคุณลกั ษณะ การตอบคาถาม - คาถาม - ดี ; วิเคราะห์ 1. นกั เรียนวิเคราะห์ ความสาคญั ที่ได้รบั จาก ความสาคญั ท่ีได้รบั จากข้อดี ข้อดีของการปกครอง ของการปกครองระบอบ ระบอบประชาธิปไตยใน ประชาธปิ ไตยในรูปแบบ รปู แบบต่างๆไดอ้ ย่าง ตา่ งๆได้ น้อย 2 ข้อ - พอใช้ ; วเิ คราะห์ ความสาคญั ท่ีได้รบั จาก ข้อดีของการปกครอง ระบอบประชาธิปไตยใน รปู แบบตา่ งๆไดอ้ ย่าง น้อย 1 ขอ้ - ปรับปรุง ; ไม่สามารถ วเิ คราะหค์ วามสาคญั ที่ ไดร้ ับจากขอ้ ดีของการ ปกครองระบอบ ประชาธปิ ไตยในรูปแบบ ต่างๆได้เลย

3235 335 8. บันทึกผลหลังสอน ผลการเรียนรู้ ........................................................................................................................................................................ ..... ปัญหาและอปุ สรรค ...................................................................................................... .................................................................... ข้อเสนอแนะและแนวทางแกไ้ ข ............................................................................................................................. .............................................. ลงชอ่ื ......................................ผสู้ อน (.......................................................) วันท.่ี .........เดอื น..........พ.ศ............. ความคิดเห็น/ขอ้ เสนอแนะของผูบ้ ริหารหรอื ผู้ท่ไี ด้รับมอบหมาย ............................................................................................................................. .............................................. ลงช่อื ......................................ผตู้ รวจ (.......................................................) วนั ท่ี..........เดอื น..........พ.ศ.............

336 3236 ใบงานเรอ่ื ง ประชาธปิ ไตย คาชแ้ี จง เตมิ คาหรอื ข้อความใหส้ มบูรณ์ตามหัวข้อทีไ่ ดร้ ับมอบหมายจากกิจกรรม “ยุวประชาธปิ ไตย” ชือ่ ............................................................ช้นั ......................................เลขท่.ี ...................... รูปแบบการปกครองตามระบอบประชาธปิ ไตยทไี่ ด้รับ .................................................................................... 1. ประมุขของรฐั = 2. ประมุขฝ่ายบรหิ าร = คณะบริหาร 3. อานาจหนา้ ที่ของรัฐสภา = ............................................... 4...ห..ล...ัก..ก...า..ร..ใ.ช..อ้...า..น..า..จ.................. ........................... .......................................................... .......................................................... .......................................................... .......................................................... .......................................................... .......................................................... .......................................................... .......................................................... .......................................................... ..........................................................

๓๓๗ หนว่ ยการเรียนร้ทู ี่ 8 เร่อื ง การเมืองการปกครอง แผนการจดั การเรียนรู้ท่ี 56 เร่อื ง การปกครองระบอบเผดจ็ การ เวลา 1 ชั่วโมง กลมุ่ สาระการเรยี นรสู้ งั คมศกึ ษา ศาสนาและวัฒนธรรม รายวชิ าสังคมศกึ ษา ศาสนาและวัฒนธรรม ช้นั มัธยมศึกษาปีท่ี 3 ตวั ช้ีวัด กจิ กรรมการเรยี นรู้ สสอ่ื ือ่ //แแหหลลง่ ง่ เเรรยี ียนนรรู้ ู้ ส 2.2 ม. 3/1 อธิบายระบอบการปกครอง ขนั้ นา 1- -)ภาภพาพธงสัญลกั ษณ์เผด็จการ (-คPอoมwมิวeนr สิPตo์)int เรื่อง “เผดจ็ การ” แบบต่างๆ ทีใ่ ช้ในยุคปจั จบุ ัน ๑1. คนรกั แู เรลียะนศกั ึกเรษยี านภราว่ พมธกงนั สสญั นลทักนษาณ์เผด็จการ (คอมมิวนิสต)์ และร่วมกัน 3- -)ผPา้ ดoำ�w/eผr้าเPชo็ดiหnนt า้เร/อื่ผง้าป“ดิ เผตดาจ็ การ” สาระสาคญั ตอบค“าเถมาอ่ื มพดดู ังถนงึ ้ี ค�ำ วา่ เผดจ็ การ ในความคดิ นกั เรยี น เผดจ็ การเปน็ อยา่ งไร” กภ456น-ิจาัก---)))กกรโวผกาะรทดีร้าิจงรษวดีโากมอิเนารค/ร/เรผกมชาา้านิ้ะเลหชหง้ิมล็ดา์แรีเนหลหสนะเนผตา้ อื ด/อสผ็จบ่งัา้กคปปาำ�ริดรถะตาหามาจราก ๒. ครเู ช่ือมโยงเข้าสู่บทเรยี น “จากความคิดท่ีนักเรยี นแสดงมาน้ัน อาจจะ การปกครองระบอบเผดจ็ การมหี ลักการสาคัญ ถูกหรือไม่ถูก วนั นีเ้ ราจะมาเรียนรู้ในเรอ่ื งระบอบเผด็จการกนั ” คือ การควบคุมอานาจ และเสรีภาพดา้ นตา่ งๆของ ขนั้ สอน ประชาชน โดยทกุ คนต้องปฏิบัตติ ามอย่าง ๑. นักเรียนศกึ ษาหนังสอื เรยี น และให้นักเรียนท�ำ กจิ กรรม และรว่ มกัน เคร่งครัด หากฝ่าฝนื จะถูกลงโทษอยา่ งรุนแรง เพื่อ แสดงความคิดเห็นเกยี่ วกับสถานการณก์ ารปกครองของประเทศตา่ ง ๆ ตกี รอบสังคมให้อยใู่ นระเบยี บแบบแผนตามท่ีผู้นา ๒ไโคดปอ.““ยนมเจภมม้ี ามอาขีื่อกิวยพอ้พนนา่ทแูด้ันิสงมน่ีถเตคคว้กัึง)์รร่าคเูแรง่ าจหคียวกา้นรา่ มผดัเเหา้ใผหสน็ ด้เดี คหจ็ ำ�ือกน็ ภใาโหลราผ้พกใู้เภอนราะียคยไนวรนาท”มอุกคก(คธิดนงแนลสคักะัญนเตรลลีย้อกัะนงษป1เณฏผผบิด์เืนผัตจ็ ดกิตปจ็ าาิดกรมตาเคปารำ�ข/็นสออ่ังงยขต่าอนงงไเคอรร”งูตไว่อ้ ภาระงาน/ชน้ิ งาน ประเทศได้กาหนด 2. คร-ูเชให่ือมท้ โุกยคงนเขย้าืนสขูบ่ ้ึนทเรยี น “จากความคิดทีน่ ักเรียนแสดงมานัน้ อาจจะ - การวิเคราะห์และตอบคาถามจาก ขอบเขตเนือ้ หา ถูกหร-อื ใไหม้ท่ถูกุ คนวนั หนัวี้เรเราาจะะมาเรยี นรใู้ นเรือ่ งระบอบเผดจ็ การกนั ” วดี ีโอและกจิ กรรม 1. ความหมายของระบอบเผด็จการ - ให้ทุกคนยกมือซา้ ย ยกมือขวา 2. หลกั การของการปกครองระบอบเผด็จการ ข1้นั. นสักอ-เนรใหียท้นกุศคึกนษหาหมนนุ ังตสัวือเรยี น และให้นักเรียนทากิจกรรม ล้ิมรสเผด็จการ - อานาจอธิปไตยหรอื อานาจสงู สุดในการ ปกครองประเทศเปน็ ของผ้นู า - ควบคุมการมสี ว่ นรว่ มทางการเมืองของ ประชาชน โดยใหน้ ักเรียนศกึ ษาวีดโี อ เร่ือง เกาหลเี หนือสั่งประหาร นักโทษ เขา้ ถงึ ได้ - ควบคมุ เสรภี าพ จาก https://www.youtube.com/watch?v=dzwBs9-fQxY และ 3237

๓๓๘ แผนการจดั การเรยี นรทู้ ี่ 56 เรื่อง การปกครองระบอบเผดจ็ การ หนว่ ยการเรยี นรู้ที่ 8 เร่อื ง การเมืองการปกครอง เวลา 1 ช่ัวโมง กลมุ่ สาระการเรียนร้สู งั คมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม รายวชิ าสังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม ช้นั มัธยมศึกษาปีที่ 3 - การไม่ยอมรบั ความเสมอภาค ต๓๔ท(ใไ2คหรอดอวำ�“..ว่รดึร.”“้โบรมใชตูอืโอทจนหสู้ดไแ้ี(ก่อไดัาเษกัด้นกึมจยนัผไก----,เ้/ใอปกัง้ส่มดรแนนใใใใตไใยเมนยีหหหหีขมจ็สหรัน้อฐ่านคอ้ี้กอ่ทท้้ท้้ทดียาบ้นคองวแทายงนนกกุกุุุกไรักถยรรครมารคคคคะตูแูกเา่ท)ทกวาร้วคนนนนอจงบาาียา่ท่ตีจเรกบยยหมคนหห้อ�ำเูะผหืกนคมปคร,เงใรัวา้มา้ขำ�ตุนง่ห็นดิถไอืเสมถคือ้นึรรมตูกเ้เผไีดาปหใาียรซมช่วับู้นหามะัดม็นดิ้าอ่วัง�ำเ้ยตผา่ใวบหคโเหผกดา่อา้บั)็นยผ้สดายบกกโรู้ดีเจ็มใลครามกหก�ำคีกำ�รียอืรอ้ทาถ�ำภกนะขรอ�ำถาราททวสกมาะยโาุกำ�ง่ิมดทนใลถตคดยคาอกัา้า่นมังดรกใงษนคีตงัคๆคณกี้แ�ำอร”นลถลจบะลา่าะะนผะวมตต้เีิดรด้ออ1ทหยี งังบารกนปผใงือวี้หฏนืกต่าย้าิบกอปรกตัาบเิดมิตรกไตือปมาาามหกไ่ โขดคคลดอจ้าสีรยงะสอมถตโงั่งา้คนดขแใวนเคอบอรครงบทงราู - การแก้ไขปัญหาของบา้ นเมอื งมักใช้ความ 3.“ใกหาน้รปักเกรคยี รนอตงอรบะบคอาถบาเผมดโจ็ดกยามรีคหาถมามยดถงัึ นอ้ี ะไร” เด็ดขาดและความรนุ แรง “รตู้สัวกึออยยา่ า่งบงไคุ รคทล่ีตท้อ่เีงปถ็นูกผบู้นังค�ำ เบั ผดให็จก้ทารสทง่ิ ตี่สำ�่างคๆัญ”เ(ชอ่นึดบอุคัดค, ลไมใด่อบย้างกท(เาบ,ตไโิมต่ จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้ มชสุ อโบส)ลินี ผู้น�ำ ของอิตาลี และอดอล์ฟ ฮติ เลอร์ ฯ) ด้านความรู้ ““หนลกั ักเรกียานรท่ีสรำ�าคบัญหรขืออไงมเผ่วา่ดก็จากรากรรมะีอทะาไลรบกั ้าษงณแะตนล่ เี้ ระยีอกยวา่ ่างมกาีลรกั ปษกณคะรเอปง็นแเบชบน่ 1) อธบิ ายความหมายและหลักการของการ ไใรด”” (เผด็จการ) ปกครองระบอบเผดจ็ การ ได้อย่างถูกต้อง ๔4..คชร้ีแอู จธ้งิบใหาย้นคกั วเราียมนรู้เพตรม่ิ ยีเตมิมตผอ่าบนคาPถoาwมeถrา้ Pใoคiรnจtะเตรอ่ื บง ใ“หเผ้ยกดม็จกือาโรด”ยถ้าใคร ดา้ นทักษะและกระบวนการ ๑ตทตม่อ.อุสา“ไ““โบโเปนขทสกตพไนกัน้ัลาษวัดรเ้ีรอินสา/้ใรปนตยะียีรผกอเ่าฐุปนหนู้งาคบรบตนารว่ถุใขคุอะมูกดอคคงกรจงลรกนั ะอเูะทาอปบิตใร่ีเภหน็ปอาปปิลเ้ผบ็นกปีร้นูเผคแดิผาานู้รลผยดเอาผะ้าสจ็ เงอสดรผกรดดีปุจ็ดาะอากรส็จบอลาากอหรอ์รฟาบมะกรโเาฮสดทผใยติำ�ยส่ีคดถคเมาร็จลงึัญคีคตกออัญาอขารถะรอบ์ ฯถไาเงผชรม)งึเดิ”นน่อดหื้อบยังรหน่มูคุ อื าี้าคตโกลดอไใยดบดคจ้ไบมรนา้ ูใ่ไถงชดึงค้(้จทเำ�ะบกุถโตวดาิโนัมนตนดคี้ังรู 1) ตคี วามหลักการปกครองระบอบเผดจ็ การได้ อย่างมีเหตุผล ดา้ นคุณลักษณะ 1) อภปิ รายถึงความสาคัญของหลักการการ ปกครองระบอบเผด็จการต่อสังคมได้อยา่ งมี เหตผุ ล 3238

๓๓๙ แผนการจัดการเรยี นรูท้ ่ี 56 เรอ่ื ง การปกครองระบอบเผดจ็ การ หน่วยการเรยี นรูท้ ่ี 8 เร่ือง การเมืองการปกครอง เวลา 1 ชว่ั โมง กลุ่มสาระการเรียนร้สู ังคมศึกษา ศาสนาและวฒั นธรรม รายวชิ าสังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม ชั้นมัธยมศกึ ษาปีที่ 3 (จา“กหหลลกั กั กกาารรททส่ี ีส่ า�ำ คคัญญั ขขอองงเกผาดร็จปกกาครมรอี งะไสรรบา้ ้างงคแวาตม่ลเะขอ้มยแ่าขง็งมใีนลกั ษารณปะกเคปรน็ อง ปเชรน่ ะไชรา”ชนและความเด็ดขาด) 4. ครอู ธิบายความร้เู พ่ิมเตมิ ผ่าน Power Point เร่อื ง “เผด็จการ” ขัน้ สรุป 1. นกั เรียนรว่ มกนั อภิปรายสรุปสาระสาคัญของเนื้อหาโดยครูใช้คาถาม ดงั ต่อไปนี้ “เพราะเหตใุ ด การปกครองระบอบเผด็จการถึงอยู่มากไดจ้ นถึงทกุ วนั นี้ (จากหลกั การทส่ี าคัญของการปกครอง สรา้ งความเขม้ แข็งในการปกครอง ประชาชนและความเดด็ ขาด) 3239

การวดั และประเมนิ ผล วธิ กี าร เครอ่ื งมือท่ีใช้ 340 ส่งิ ท่ีต้องการวัด/ประเมิน 3340 การตอบคาถาม, การทา - คาถาม ด้านความรู้ กิจกรรม - วดี ีโอ เกณฑ์ ๑1.) อธบิ ายความหมายและ - กิจกรรม “ลมิ้ รส - ดี :; อธบิ ายความหมาย หลกั การของการปกครอง เผด็จการ” และหลกั การของการ ระบอบเผดจ็ การ ได้อย่าง ปกครองระบอบเผด็จ ถูกต้อง การ ได้อย่างถูกต้อง ครบถว้ น ด้านทักษะ/กระบวนการ การตอบคาถาม คาถาม - พอใช้ ;: อธบิ าย ๑1.) ตีความหลกั การปกครอง ความหมายและหลกั การ ระบอบเผด็จการได้อยา่ งมี ของการปกครองระบอบ เหตผุ ล เผดจ็ การ ได้อย่าง ถูกต้อง ด้านคุณลักษณะ การตอบคาถาม คาถาม - ปรับปรงุ :; ไมส่ ามารถ ๑1.) อภิปรายถงึ ความสาคัญ อธบิ ายความหมายและ ของหลักการการปกครอง หลักการของการ ระบอบเผดจ็ การต่อสงั คมได้ ปกครองระบอบเผด็จ อยา่ งมีเหตผุ ล การ ได้เลย - ดี ;: ตีความหลกั การ ปกครองระบอบเผด็จ การได้อย่างมีเหตุผล - พอใช้ ;: ตีความ หลกั การปกครองระบอบ เผด็จการได้ - ปรับปรงุ :; ไมส่ ามารถ ตคี วามหลักการปกครอง ระบอบเผดจ็ การได้ได้ เลย - ดี :; อภปิ รายถึง ความสาคญั ของหลักการ การปกครองระบอบ เผด็จการตอ่ สังคมได้ อยา่ งมเี หตุผล - พอใช้ ;: อภปิ รายถงึ ความสาคัญของหลักการ การปกครองระบอบ เผดจ็ การตอ่ สังคมได้ - ปรบั ปรงุ :; ไมส่ ามารถ

341 3341 สิ่งท่ีต้องการวัด/ประเมนิ วิธกี าร เคร่อื งมอื ท่ใี ช้ เกณฑ์ อภปิ รายถงึ ความสาคญั ของหลักการการ กปากรคปรกอคงระอบงรอะบบเผอดบจ็เผด็จ การตอ่ สังคมได้เลย 8. บนั ทกึ ผลหลังสอน ผลการเรียนรู้ ..................................................................................................................................................................... ........ ปัญหาและอุปสรรค ................................................................................................... ....................................................................... ข้อเสนอแนะและแนวทางแก้ไข ............................................................................................................................. .............................................. ลงช่ือ ......................................ผูส้ อน (.......................................................) วันที.่ .........เดอื น..........พ.ศ............. ความคิดเหน็ /ข้อเสนอแนะของผูบ้ ริหารหรือผู้ที่ไดร้ บั มอบหมาย ............................................................................................................................. .............................................. ลงชอ่ื ......................................ผู้ตรวจ (.......................................................) วนั ท่ี..........เดือน..........พ.ศ.............


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook