แผนการจดั การเรียนร้ทู ่ี 1 กลุ่มสาระการเรยี นรู้ ภาษาตา่ งประเทศ ชัน้ ประถมศึกษาปที ่ี 5 หน่วยการเรยี นรทู้ ่ี 1 เร่ือง A Day at School เวลา 10 ชว่ั โมง เร่ือง Rooms and Places in School เวลา 1 ชั่วโมง ใชส้ อนวนั ที.่ .....................เดอื น.......................................พ.ศ. .................. 1. สาระสำคัญ / ความคิดรวบยอด การเรียนรูเ้ ก่ยี วกับกิจกรรมในโรงเรยี นเปน็ ภาษาองั กฤษ เป็นพ้ืนฐานทน่ี กั เรียนควรเรียนรแู้ ละฝกึ ฝนให้ถูกต้อง เพอื่ นำไปใช้ในสถานการณ์จริง 2. มาตรฐาน/ตัวช้ีวัด/จุดประสงค์การเรยี นรู้ 2.1 มาตรฐาน ต 1.1 เขา้ ใจและตีความเรือ่ งท่ฟี งั และอ่านจากสอื่ ประเภทตา่ งๆ และแสดงความคิดเหน็ อย่างมี เหตผุ ล ต 1.3 นำเสนอข้อมูลข่าวสาร ความคิดรวบยอด และความคิดเหน็ ในเรอื่ งตา่ งๆ โดยการพูดและการ เขยี น ต 2.2 เขา้ ใจความเหมือนและความแตกตา่ งระหว่างภาษาและวัฒนธรรมของเจ้าของภาษากบั ภาษา และวัฒนธรรมไทย และนำมาใช้อย่างถกู ตอ้ งและเหมาะสม 2.2 ตัวชี้วดั ต 1.1 ป.5/2 อ่านออกเสยี งประโยค ขอ้ ความ และบทกลอนส้นั ๆ ถูกตอ้ งตามหลกั การอ่าน ต 1.3 ป.5/1 พดู /เขียนใหข้ อ้ มลู เก่ียวกับตนเองและเรอื่ งใกล้ตัว ต 2.2 ป.5/1 บอกความเหมอื น/ความแตกต่างระหว่างการออกเสียงประโยคชนิดต่างๆ การใช้เคร่อื งหมาย วรรคตอน และการลำดบั คำ (word order) ตามโครงสรา้ งประโยคของภาษาต่างประเทศและภาษาไทย 2.3 จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้ ความรู้ (K) การพูดบอกความหมายของห้องตา่ งๆ ในโรงเรยี น ทักษะ/กระบวนการ (P) การออกเสยี งคำศพั ท์ห้องตา่ งๆ และประโยคความหมายของหอ้ งและสถานทตี่ ่างๆ ในโรงเรยี น เจตคติ (A) มีวนิ ยั ใฝ่เรยี นรแู้ ละมงุ่ มน่ั ในการทำงาน 3. สาระการเรียนรู้ Function : Identifying rooms and places in school Structure : The room where (we study school subjects) is (a classroom). Vocabulary :คำศัพท์ใหม่ science laboratory (science lab), language laboratory (language lab), experiment คำศพั ท์ทบทวน school, classroom, playground, restroom, library, music room
4. สมรรถนะสำคญั ของผู้เรยี น ความสามารถในการสอื่ สาร ความสามารถในการคดิ ความสามารถในการแก้ปญั หา ความสามารถในการใชท้ ักษะชวี ิต ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี 5. คณุ ลกั ษณะอันพึงประสงค์ รกั ชาติ ศาสน์ กษตั ริย์ อยู่อย่างพอเพียง ซอื่ สัตยส์ ุจริต มุ่งมั่นในการทำงาน มีวินัย รกั ความเป็นไทย ใฝ่เรยี นรู้ มจี ิตสาธารณะ 6. จดุ เนน้ สกู่ ารพฒั นาผูเ้ รยี น ความสามารถและทกั ษะของผเู้ รยี นศตวรรษที่ 21 (3Rs x 8Cs x 2Ls) R1– Reading (อา่ นออก) R2– (W)Riting (เขียนได)้ R3 – (A)Rithmetics (คิดเลขเป็น) C1 - Critical Thinking and Problem Solving ( ทกั ษะด้านการคิดอย่างมวี จิ ารณญาณ และทักษะในการแกป้ ญั หา) C2 - Creativity and Innovation (ทกั ษะด้านการสร้างสรรค์และนวตั กรรม) C3 - Cross-cultural Understanding (ทักษะดา้ นความเข้าใจตา่ งวฒั นธรรม ต่างกระบวน ทัศน)์ C4 - Collaboration, Teamwork and Leadership (ทกั ษะด้านความร่วมมอื การทำงานเปน็ ทีม และภาวะผูน้ ำ) C5 – Communications, Information and Media Literacy (ทกั ษะดา้ นการสื่อสาร สารสนเทศ และรเู้ ท่าทนั ส่อื ) C6 - Computing and ICT Literacy (ทกั ษะด้านคอมพวิ เตอร์ และเทคโนโลยีสารสนเทศ และการสอื่ สาร) C7 - Career and Learning Skills (ทกั ษะอาชีพและทกั ษะการเรยี นร)ู้ C8 – Compassion (ความมีเมตตากรณุ า วินยั คณุ ธรรม จรยิ ธรรม) L1 – Learning (ทกั ษะการเรียนรู้) L2 – Leadership (ทักษะความเป็นผู้นำ) 7. กจิ กรรมการเรียนรู้ 1. Warm up ครสู นทนากับนกั เรยี นเร่อื งชื่อหอ้ งตา่ งๆ ในโรงเรียนทเี่ รียนมาแลว้ เชน่ classroom นักเรียน อาจบอกช่อื หอ้ งตา่ งๆ เปน็ ภาษาไทย เช่น ห้องวทิ ยาศาสตร์ และห้องดนตรี ครใู ห้นักเรยี นบอกชื่อห้องเปน็ ภาษาอังกฤษใหไ้ ดม้ ากท่ีสุด เชน่ computer room หรอื sound lab ครูกลา่ วชมเชยเมื่อนักเรยี นพูดคำศพั ท์ ไดถ้ กู ต้อง ถา้ นักเรียนพูดบอกเปน็ ภาษาไทย ครูพดู เปล่ียนเปน็ ภาษาองั กฤษ เช่น language laboratory, science laboratory และ music room
2. Presentation 2.1 นักเรยี นดูภาพ ใน SB หน้า 1 ครูสอนคำศัพทใ์ หม่โดยใช้บัตรภาพและบัตรคำ ครู ทบทวน classroom, playground, restroom, library, music room โดยให้สะกดคำพรอ้ มกัน แลว้ สอน คำศัพท์ใหม่ science laboratory/science lab และ language laboratory/language lab พร้อมทั้งชู ภาพประกอบ หลังจากนั้นครชู ูบัตรภาพพร้อมกบั ออกเสยี งคำศพั ท์นั้น เน้นเสียงหนกั ในคำ (stress) เช่น 'language laboratory และ 'science laboratory ใหน้ ักเรยี นพูดตาม ครชู บู ตั รคำศพั ท์ให้นกั เรยี นสะกดคำ แล้วออกเสยี งคำอีกครั้ง ครูตดิ บตั รภาพและบัตรคำทเี่ รยี นแลว้ บนกระดานดำ 2.3 ครพู ดู ประโยคความหมายของหอ้ งตา่ งๆ เป็นภาษาองั กฤษแลว้ ให้นกั เรยี นฟงั และคิด และทายวา่ คือห้องอะไร ครเู ขียนประโยคบนกระดานดำให้ตรงกบั บัตรภาพและบัตรคำท่ีติดบนกระดานดำ เพ่ือเปน็ แนวทางใหน้ กั เรยี นหาคำตอบที่ถกู ตอ้ ง เช่น The room where we study music is a music room. The room where we do an experiment is a science laboratory. 3. Practice 3.1 แบ่งนกั เรียนกลุ่มละ 4-5 คนช่วยกนั คดิ ประโยคพรอ้ มบอกความหมายของคำศพั ท์ เก่ยี วกับหอ้ งต่างๆ ในโรงเรยี นทเี่ รียนมาแลว้ ออกมานำเสนอหน้าชน้ั เรยี น เพื่อนชว่ ยกันตรวจความถกู ต้องหรอื แกไ้ ข ครูคอยแนะนำ จากน้นั ครูเขียนประโยค The room where we study and practice language is a language laboratory. The room where we study school subject is a classroom. 3.2 นกั เรียนแตล่ ะกลุม่ ฝกึ อ่านประโยคบนกระดานดำ 4. Production 4.1 นกั เรยี นอาสาออกมาพดู ความหมายของห้องตา่ งๆ หน้าชั้นเรยี นโดยหันหลังให้ กระดานดำ และหันหน้าให้เพอ่ื น 4.2 นกั เรียนคดั ลอกคำศัพท์ลงสมดุ บันทกึ คำศัพท์ และคัดลอกประโยคลงในสมุด แบบฝึกหดั 5. Wrap up 5.1 นักเรียนอา่ นประโยคทีเ่ ขยี นลงสมุดพร้อมกัน 5.2 ส่งสมดุ แบบฝกึ หัดให้ครูตรวจการเขยี นประโยค และความเรียบร้อย
8. การวัดและประเมินผล สงิ่ ทวี่ ดั วธิ ีวดั ผล เครอ่ื งมือวัดผล เกณฑ์การประเมินผล ดา้ นความรู้ (K) ประเมินการพดู แบบประเมนิ การพูด 60% ขึน้ ไป ผา่ น การพดู บอกความหมายของ ประเมินการพดู แบบประเมนิ การพูด 60% ขึ้นไป ผา่ น หอ้ งต่างๆ ในโรงเรยี น การสังเกตการรว่ ม กิจกรรมในชั้นเรียน แบบประเมนิ คณุ ลักษณะอัน 60% ขึน้ ไป ผ่าน ด้านทักษะกระบวนการ (P) พงึ ประสงค์ การออกเสยี งคำศพั ท์หอ้ ง ต่างๆ และประโยค ความหมายของห้องและ สถานท่ีต่างๆ ในโรงเรียน ด้านคุณลักษณะ อนั พงึ ประสงค์ (A) มีวินัย ใฝ่เรียนรู้และมุ่งม่ัน ในการทำงาน 9. ส่ือ/แหลง่ เรยี นรู้ 9.1 สอ่ื การเรยี นรู้ 9.1.1 Student’s Book 5 9.1.2 บัตรภาพ 9.1.3 บตั รคำ 9.1.4 สมดุ แบบฝกึ หดั 9.2 แหล่งเรียนรู้ หอ้ งสมุด ความคิดเห็น/ขอ้ เสนอแนะของผู้ที่ไดร้ ับมอบหมาย (ตรวจสอบ/นเิ ทศ/รบั รอง) ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ลงชอื่ ………………………………………………..…… (..........................................) หัวหน้ากลุ่มสาระการเรยี นรู้ภาษาต่างประเทศ วันที่…….....เดอื น…………........….พ.ศ. …...........
ความเหน็ ของหวั หน้าสถานศึกษาหรอื ผทู้ ไี่ ด้รับมอบหมาย ความเห็นของหัวหน้ากลมุ่ บริหารวิชาการ ความเห็นของผบู้ ริหาร/ผทู้ ี่ไดร้ บั มอบหมาย ได้ทำการตรวจแผนการจัดการเรียนร้แู ล้วมคี วามคิดเหน็ ดงั น้ี ได้ทำการตรวจแผนการจดั การเรียนรแู้ ล้วมคี วามคิดเหน็ ดงั น้ี 1. เป็นแผนการจดั การเรียนรทู้ ี่ 1. เป็นแผนการจัดการเรียนรทู้ ี่ ดมี าก ดีมาก ดี ดี พอใช้ พอใช้ ควรปรับปรงุ ควรปรับปรงุ 2. การจัดกิจกรรมได้นำเอากระบวนการเรียนรู้ 2. การจัดกิจกรรมไดน้ ำเอากระบวนการเรยี นรู้ เน้นผ้เู รยี นเปน็ สำคัญมาใชใ้ นการสอนได้อย่าง เนน้ ผ้เู รยี นเป็นสำคัญมาใช้ในการสอนได้อย่าง เหมาะสม เหมาะสม ยังไม่เนน้ ผ้เู รียนเปน็ สำคัญควรปรับปรงุ พัฒนาตอ่ ไป ยงั ไมเ่ นน้ ผู้เรียนเปน็ สำคัญควรปรบั ปรุงพฒั นาต่อไป 3. เป็นแผนการจัดการเรยี นรูท้ ่ี 3. เป็นแผนการจัดการเรยี นรทู้ ่ี นำไปใช้ไดจ้ ริง นำไปใช้ไดจ้ รงิ ควรปรับปรงุ ก่อนนำไปใช้ ควรปรบั ปรงุ กอ่ นนำไปใช้ 4. ข้อเสนอแนะอ่นื ๆ 4. ขอ้ เสนอแนะอ่นื ๆ ......................................................................................... .............................................................................. ......................................................................................... .............................................................................. ......................................................................................... .............................................................................. ......................................................................................... .............................................................................. (ลงชอ่ื ).......................................................... (ลงชื่อ).......................................................... (..........................................) (..............................................) หวั หน้ากลุ่มบริหารวิชาการ รองผอู้ ำนวยการโรงเรยี น......................
บนั ทกึ ผลหลงั การจัดการเรยี นรู้ 1. สรปุ ผลการจัดการเรยี นรู้ นักเรยี นจำนวน...............................คน ผา่ นจุดประสงค์การเรียนร.ู้ ...............คน คดิ เป็นร้อยละ............................. ไม่ผ่านจดุ ประสงค์การเรียนร.ู้ ............คน คดิ เปน็ รอ้ ยละ............................. ได้แก่ 1………………………………………………………………………………………… 2…………………………………………………………………………………………… นกั เรยี นทีม่ คี วามสามารถพเิ ศษ/นักเรียนเด็กพิเศษ ได้แก่ 1…………………………………………………………………………………………… 2…………………………………………………………………………………………… นกั เรียนทีไ่ ม่ผา่ นการประเมินจดุ ประสงค์ด้านความรู้ (K) จำนวน............................คน ได้แก่ ................................................................................................................................................................... ....................................................................................... นกั เรยี นที่ไม่ผา่ นการประเมินจุดประสงคด์ ้านทักษะ (P) จำนวน.............................คน ได้แก่ ............................................................................................................................. ...................................... ....................................................................................... นักเรียนที่ไม่ผ่านการประเมนิ จดุ ประสงคด์ ้านเจตคติ (A) จำนวน............................คน ได้แก่ ................................................................................................................................................................... ....................................................................................... 2. ปญั หา /อปุ สรรค /ข้อค้นพบ …………………………………………………….…………………..………………………………………………………………………… …………………………………………………….…………………..………………………………………………………………………… 3. แนวทางการแกไ้ ข/พฒั นา …………………………………………………….…………………..………………………………………………………………………… …………………………………………………….…………………..………………………………………………………………………… ลงชื่อ………………………………...…ผู้สอน (........................................................ ) ครูโรงเรียน........................................................... วนั ท่ี……..…เดอื น………….......…….……. พ.ศ. ………..........
เลขที่ ชอ่ื แบบบันทึกการประเมนิ การพดู การแสดงทา่ ทาง รวมคะแนน ช่อื – สกุล 20 ความถกู ต้อง ความคลอ่ งแคล่ว น้ำเสยี งปร4ะกอบการ พูด 88 ลงชือ่ ..............................................................ผปู้ ระเมนิ (................................................)
ระดบั คะแนน เกณฑ์การใหค้ ะแนนการพูด นำ้ หนัก/ คะแนน ประเด็น ความสำคญั รวม เกณฑ์การใหค้ ะแนน 1 การประเมิน 8 ความถูกตอ้ ง 432 8 ความคล่องแคลว่ ออกเสียง ออกเสยี ง ออกเสียง ออกเสียง 4 ตัวอักษร ตัวอกั ษร 20 การแสดงทา่ ทางและ คำศพั ทแ์ ละ คำศัพท์และ ตัวอักษรคำศัพท์ ตัวอักษร/ คำ/ น้ำเสียงประกอบ ประโยคได้ ประโยคได้ การพูด ถูกต้องตามหลัก ถูกตอ้ งตามหลกั และประโยคได้ ประโยคผิด การออกเสียง การออกเสียง ออกเสียงเนน้ ออกเสยี งเน้น ถูกต้องเป็น หลกั การออก หนัก-เบาในคำ หนัก-เบาในคำ และเสียงสงู -ตำ่ และเสยี งสูง-ต่ำ ส่วนใหญ่ ขาด เสยี ง ในประโยคอย่าง ในประโยคเป็น สมบูรณ์ ส่วนใหญ่ การออกเสียง ทำใหส้ ่อื สาร 2 2 เน้นหนกั -เบาใน ไม่ได้ คำและเสยี งสงู - ต่ำในประโยค พดู ต่อเนอ่ื ง พดู ตะกกุ พูดเปน็ คำๆ พดู ไดบ้ างคำ ไมต่ ดิ ขดั ตะกักบา้ ง แต่ หยุดเป็นชว่ งๆ ทำให้ส่อื พดู ชัดเจน ยงั พอสอื่ สารได้ ทำให้สือ่ สาร ความหมาย ทำใหส้ ื่อสารได้ ไดไ้ มช่ ัดเจน ไม่ได้ แสดงท่าทาง แสดงทา่ ทางและ แสดงท่าทางไม่ ไม่แสดงทา่ ทาง ประกอบการพูด และพดู ด้วย พดู ด้วยน้ำเสียง เปน็ ธรรมชาติ พดู ได้น้อยมาก นำ้ เสยี ง เหมาะสมกับ พูดเหมือนอ่าน 1 5 เหมาะสมกบั บท บทพูดเปน็ ส่วน พดู อยา่ งสมบรู ณ์ ใหญ่ รวม การกำหนดระดบั คุณภาพโดยรวมทัง้ หนว่ ย 17-20 13-16 - ระดบั ดีมาก คะแนนระหว่าง 9-12 - ระดับดี คะแนนระหวา่ ง 0-8 - ระดับพอใช้ คะแนนระหวา่ ง - ระดบั ปรับปรุง คะแนนระหวา่ ง
แบบประเมนิ คุณลกั ษณะท่พี งึ ประสงค์ (A) ที่ ชอื่ -สกลุ มวี นิ ัย รายการประเมนิ ม่งุ มัน่ ในการทำงาน คะแนนรวม ระดบั 321 ใฝเ่ รียนรู้ 3 21 (9) คุณภาพ 321 ลงช่อื .........................................................ผู้ประเมนิ (..................................................) เกณฑ์การตดั สินคุณภาพ ดี พอใช้ ปรบั ปรุง 7-9 คะแนน 4-6 คะแนน ต่ำกว่า 4 คะแนน ระดับคณุ ภาพ คะแนนรวม
เกณฑก์ ารให้คะแนนด้านคุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์ คุณลักษณะอันพึงประสงค์ : มีวนิ ัย คะแนน : ระดบั คุณภาพ คุณลักษณะท่ปี รากฏให้เหน็ 3 : ดี ผลงานสะอาดเรยี บร้อย ปฏิบตั ิตนอยู่ในข้อตกลงทกี่ ำหนดใหร้ ่วมกันทกุ ครั้ง 2 : พอใช้ ผลงานส่วนใหญส่ ะอาดเรยี บรอ้ ย ปฏิบตั ิตนอยใู่ นข้อตกลงทกี่ ำหนดให้รว่ มกนั เปน็ สว่ นใหญ่ 1 : ปรบั ปรงุ ผลงานไมค่ อ่ ยเรียบร้อย ปฏบิ ัตติ นอยใู่ นข้อตกลงทกี่ ำหนดใหร้ ่วมกนั บางคร้งั ตอ้ งอาศัยการแนะนำ คณุ ลักษณะอันพึงประสงค์ : ใฝ่เรียนรู้ คณุ ลักษณะทปี่ รากฏใหเ้ หน็ คะแนน : ระดบั คณุ ภาพ มคี วามสนใจ /ความตั้งใจตลอดระยะเวลาการเรียนรู้ 3 : ดี มคี วามสนใจ /ความตั้งใจเปน็ บางครงั้ 2 : พอใช้ มีความสนใจ /ความตงั้ ใจในระยะเวลาสัน้ ๆ ชอบเลน่ ในเวลาเรยี น 1 : ปรบั ปรุง คุณลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ : มุ่งมน่ั ในการทำงาน คะแนน : ระดบั คณุ ภาพ คุณลักษณะทีป่ รากฏให้เหน็ 3 : ดี ส่งงานก่อนหรอื ตรงกำหนดเวลานัดหมาย รบั ผิดชอบในงานทีไ่ ดร้ ับมอบหายและปฏิบัตติ นจนเปน็ นิสยั เปน็ ตัวอย่างแก่ผู้อื่น และแนะนำชักชวน 2 : พอใช้ สง่ งานช้ากวา่ กำหนด รับผดิ ชอบในงานที่ได้รบั มอบหายและปฏิบัตติ นจนเปน็ นิสัย 1 : ปรบั ปรงุ สง่ งานชา้ กวา่ กำหนด รับผดิ ชอบในงานทไี่ ด้รบั มอบหายและปฏิบัติตนจนเป็นนิสัย ปฏิบตั งิ านโดยอาศัยการช้ีแนะ แนะนำ ตักเตอื น
แผนการจดั การเรียนรทู้ ี่ 2 กลุ่มสาระการเรียนรู้ ภาษาต่างประเทศ ช้ันประถมศึกษาปที ่ี 5 หนว่ ยการเรยี นรทู้ ี่ 1 เร่อื ง A Day at School เวลา 10 ชวั่ โมง เรื่อง Rooms and Places in School เวลา 1 ช่วั โมง ใชส้ อนวนั ท.ี่ .....................เดือน.......................................พ.ศ. .................. 1. สาระสำคัญ / ความคิดรวบยอด การเรยี นรเู้ กยี่ วกับกจิ กรรมในโรงเรียนเป็นภาษาองั กฤษ เป็นพื้นฐานทนี่ กั เรียนควรเรยี นร้แู ละฝกึ ฝนให้ถกู ต้อง เพอื่ นำไปใชใ้ นสถานการณ์จริง 2. มาตรฐาน/ตวั ชี้วัด/จุดประสงคก์ ารเรียนรู้ 2.1 มาตรฐาน ต 1.1 เขา้ ใจและตคี วามเรอ่ื งที่ฟงั และอา่ นจากสือ่ ประเภทต่างๆ และแสดงความคิดเหน็ อยา่ งมี เหตุผล ต 1.3 นำเสนอขอ้ มลู ข่าวสาร ความคิดรวบยอด และความคดิ เหน็ ในเร่อื งตา่ งๆ โดยการพดู และการ เขยี น 2.2 ตวั ชี้วดั ต 1.1 ป.5/2 อ่านออกเสยี งประโยค ขอ้ ความ และบทกลอนส้นั ๆ ถูกต้องตามหลักการอ่าน ต 1.1 ป.5/3 ระบ/ุ วาดภาพสญั ลกั ษณ์หรอื เคร่ืองหมายตรงตามความหมายของประโยคและข้อความสนั้ ๆ ทฟี่ ังหรืออ่าน ต 1.3 ป.5/1 พูด/เขียนให้ขอ้ มูลเกี่ยวกบั ตนเองและเร่อื งใกล้ตัว 2.3 จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้ ความรู้ (K) การจบั คูภ่ าพห้องตา่ งๆ ในโรงเรยี นกับประโยค การเขยี นชื่อห้อง/สถานที่ในโรงเรยี นตามภาพและระบุห้อง/สถานที่ตามคำใบ้ท่ีให้ไว้ ทักษะ/กระบวนการ (P) การออกเสยี งคำศพั ท์และประโยคห้องตา่ งๆ ในโรงเรียน เจตคติ (A) มีวนิ ยั ใฝ่เรียนรูแ้ ละมุง่ ม่นั ในการทำงาน 3. สาระการเรยี นรู้ Identifying rooms and places in school Function : Structure : The place where (students like to play most) is (a playground). Vocabulary : คำศัพท์ใหม่ nurse’s room, cafeteria, gymnasium (gym), art room
4. สมรรถนะสำคญั ของผู้เรียน ความสามารถในการส่อื สาร ความสามารถในการคิด ความสามารถในการแกป้ ัญหา ความสามารถในการใช้ทักษะชวี ติ ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี 5. คุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ รักชาติ ศาสน์ กษัตรยิ ์ อยู่อย่างพอเพียง ซอ่ื สัตย์สุจริต มุ่งมัน่ ในการทำงาน มีวินัย รักความเป็นไทย ใฝ่เรียนรู้ มจี ติ สาธารณะ 6. จดุ เนน้ สกู่ ารพัฒนาผ้เู รียน ความสามารถและทกั ษะของผูเ้ รยี นศตวรรษท่ี 21 (3Rs x 8Cs x 2Ls) R1– Reading (อา่ นออก) R2– (W)Riting (เขยี นได้) R3 – (A)Rithmetics (คิดเลขเป็น) C1 - Critical Thinking and Problem Solving ( ทักษะดา้ นการคดิ อยา่ งมวี จิ ารณญาณ และทกั ษะในการแกป้ ัญหา) C2 - Creativity and Innovation (ทักษะด้านการสรา้ งสรรคแ์ ละนวตั กรรม) C3 - Cross-cultural Understanding (ทักษะดา้ นความเข้าใจต่างวฒั นธรรม ต่างกระบวน ทศั น)์ C4 - Collaboration, Teamwork and Leadership (ทักษะด้านความร่วมมอื การทำงานเปน็ ทมี และภาวะผนู้ ำ) C5 – Communications, Information and Media Literacy (ทกั ษะดา้ นการสอ่ื สาร สารสนเทศ และรเู้ ท่าทันสอื่ ) C6 - Computing and ICT Literacy (ทักษะด้านคอมพวิ เตอร์ และเทคโนโลยีสารสนเทศ และการส่ือสาร) C7 - Career and Learning Skills (ทกั ษะอาชีพและทักษะการเรยี นรู้) C8 – Compassion (ความมเี มตตากรณุ า วนิ ัย คุณธรรม จริยธรรม) L1 – Learning (ทกั ษะการเรียนร)ู้ L2 – Leadership (ทักษะความเป็นผู้นำ) 7. กจิ กรรมการเรียนรู้ 1. Warm up ทบทวนคำศัพท์หอ้ งในโรงเรียน classroom, playground, music room, science laboratory และ language laboratory โดยติดบตั รภาพบนกระดานดำ ให้นักเรียนออกเสียงคำศัพทต์ าม บตั รภาพ ครั้งแรกครชู บี้ ัตรภาพตามลำดบั ท่ีติด เม่ือนกั เรยี นออกเสียงครบทุกภาพ ครเู ลือกชบ้ี ัตรภาพให้ นักเรียนออกเสยี งสลับไปมาจนครบทุกภาพบนกระดานดำ ครูพูดประโยคความหมายของห้อง เช่น The room where we study language is ............... . ใหน้ กั เรยี นตอบ a language laboratory
2. Presentation 2.1 นกั เรียนดูภาพหอ้ งท่ีเหลือจากท่ีเรยี นไปแลว้ ใน SB หน้า 1 ครูสอนคำศพั ท์ใหมโ่ ดย ใชบ้ ตั รภาพและบตั รคำ คือ nurse’s room, cafeteria, gymnasium, art room โดยชูบตั รภาพ พรอ้ มกบั ออกเสียงคำศพั ท์นัน้ เน้นเสยี งหนกั ในคำ (stress) เชน่ 'nurse’s room, cafe'teria, gym'nasium, 'art room ให้นกั เรียนพดู ตาม ครชู ูบัตรคำศัพท์ใหน้ ักเรียนสะกดคำ แลว้ ออกเสยี งคำอีกคร้งั 2.2 ครอู ่านออกเสยี ง ให้นักเรียนฟังและออกเสียงตาม พร้อมกับชี้ภาพในหนงั สือเรยี น Welcome to My School 'school 'classroom 'playground 'nurse’s room 'restroom cafe'teria gym'nasium/gym 'library 'art room 'music room 's2c.i3ence lคaรbูพoดู raปtรoะrโyย/ค'ทsc่ีอieธบิncาeยคlวaาbมหมายของห้อง'lตaา่ nงgๆuเaปgน็eภlaาษboาอraังtกoฤrษy/แ'lลa้วnใgหuน้ aกั gเeรยี laนb ฟงั และคดิ และทายว่าคอื หอ้ งอะไร ขณะท่คี ิด ครเู ขยี นประโยคน้นั บนกระดานดำใหเ้ ห็นรปู ประโยค เพื่อเป็น แนวทางใหน้ กั เรียนหาคำตอบที่ถูกต้อง เช่น The room where we do the personal activities is a restroom. The place where we learn P.E. is a gymnasium. The place where students like to play most is a playground. 2.4 ครถู ามประโยคใหน้ ักเรยี นตอบพรอ้ มกนั Where do you study English? Where do you have lunch at school? 3. Practice 3.1 แบง่ นักเรียนออกเป็นกล่มุ กลุ่มละ 4-5 คน ชว่ ยกันคิดประโยคบอกความหมายของ คำศพั ท์ท่ีเหลือ ให้ฝึกใช้ท้งั room และ place โดย room แปลว่า ห้อง และ place แปลว่า สถานท่ี ซง่ึ ใชไ้ ด้ กวา้ งกวา่ room แล้วนำมาเขียนประโยคโดยใช้รูปแบบประโยคที่ครเู ขยี นบนกระดานดำ แต่เปลย่ี นขอ้ มลู เปน็ ของหอ้ งทีน่ ักเรยี นเขยี น ครูตรวจความถกู ต้อง และแกไ้ ข The room where we study art is an art room. The place where we go when we’re sick is a nurse’s room. 3.2The pนlaักcเรeียwนแhตeล่reะกwลeมุ่ ฝcกึanอา่ rนeปadระmโยaคnบyนbกoระoดksานisดaำ library. The place where we eat food in school is a cafeteria.
4. Production 4.1 นักเรยี นพดู ความหมายของห้องต่างๆ บนกระดานดำ 4.2 นกั เรยี นคดั ลอกคำศัพท์ลงในสมุดบนั ทกึ คำศพั ท์ และคัดลอกประโยคลงในสมดุ แบบฝกึ หดั 4.3 ใหน้ กั เรยี นแบบฝึกหดั ใน WB หนา้ 1 4.4 ครูเฉลยคำตอบ นักเรยี นสง่ สมุดให้ครูตรวจการเขียนประโยคและความเรยี บรอ้ ย 5. Wrap up นกั เรียนจดบนั ทกึ คำศัพท์ใหม่ท่ีเรยี นลงในสมดุ บนั ทกึ คำศพั ท์ 8. การวดั และประเมินผล ส่ิงทีว่ ดั วธิ วี ดั ผล เครอื่ งมอื วดั ผล เกณฑ์การประเมินผล ด้านความรู้ (K) ตรวจแบบฝกึ หัด แบบฝึกหดั 60% ข้นึ ไป ผา่ น - การจับคู่ภาพหอ้ งตา่ งๆ ใน โรงเรียนกับประโยค ประเมนิ การพูด แบบประเมินการพดู 60% ขึ้นไป ผ่าน - การเขยี นชอ่ื หอ้ ง/สถานที่ ในโรงเรยี นตามภาพและ การสงั เกตการรว่ ม แบบประเมินคณุ ลกั ษณะอัน 60% ขนึ้ ไป ผ่าน ระบหุ ้อง/สถานทตี่ ามคำใบ้ กิจกรรมในชั้นเรียน พงึ ประสงค์ ที่ใหไ้ ว้ ด้านทกั ษะกระบวนการ (P) การออกเสยี งคำศัพทแ์ ละ ประโยคห้องต่างๆ ใน โรงเรียน ด้านคณุ ลกั ษณะ อนั พงึ ประสงค์ (A) มีวินัย ใฝ่เรียนรู้และมุ่งม่ัน ในการทำงาน 9. ส่อื /แหล่งเรยี นรู้ 9.1 สื่อการเรียนรู้ 9.1.1 Student’s Book 5 9.1.2 Workbook 5 9.1.3 บัตรภาพห้องต่างๆ 9.1.4 บัตรคำห้องตา่ งๆ 9.1.5 สมดุ บันทึกคำศัพท์ 9.1.6 สมุดแบบฝึกหดั
9.2 แหลง่ เรยี นรู้ หอ้ งสมดุ ความคิดเหน็ /ข้อเสนอแนะของผ้ทู ี่ไดร้ ับมอบหมาย (ตรวจสอบ/นเิ ทศ/รับรอง) ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ลงชื่อ………………………………………………..…… (...................................................) หัวหนา้ กล่มุ สาระการเรียนรภู้ าษาตา่ งประเทศ วนั ท่ี…….....เดือน…………........….พ.ศ. …...........
ความเห็นของหัวหน้าสถานศกึ ษาหรอื ผ้ทู ่ไี ดร้ บั มอบหมาย ความเหน็ ของหวั หน้ากลุ่มบริหารวิชาการ ความเห็นของผู้บรหิ าร/ผูท้ ี่ไดร้ บั มอบหมาย ได้ทำการตรวจแผนการจดั การเรยี นรแู้ ล้วมีความคิดเห็นดังนี้ ได้ทำการตรวจแผนการจัดการเรียนรแู้ ลว้ มคี วามคิดเห็นดงั น้ี 1. เปน็ แผนการจัดการเรยี นรทู้ ี่ 1. เปน็ แผนการจดั การเรยี นร้ทู ่ี ดีมาก ดีมาก ดี ดี พอใช้ พอใช้ ควรปรบั ปรงุ ควรปรบั ปรงุ 2. การจดั กิจกรรมไดน้ ำเอากระบวนการเรียนรู้ 2. การจัดกจิ กรรมไดน้ ำเอากระบวนการเรียนรู้ เนน้ ผู้เรียนเป็นสำคัญมาใช้ในการสอนไดอ้ ย่าง เนน้ ผู้เรียนเปน็ สำคัญมาใชใ้ นการสอนไดอ้ ยา่ ง เหมาะสม เหมาะสม ยังไมเ่ น้นผู้เรียนเป็นสำคญั ควรปรับปรงุ พัฒนาตอ่ ไป ยังไมเ่ นน้ ผ้เู รยี นเปน็ สำคัญควรปรับปรุงพฒั นาต่อไป 3. เป็นแผนการจดั การเรียนรทู้ ่ี 3. เปน็ แผนการจดั การเรยี นรู้ที่ นำไปใชไ้ ด้จริง นำไปใช้ได้จรงิ ควรปรบั ปรงุ กอ่ นนำไปใช้ ควรปรับปรงุ ก่อนนำไปใช้ 4. ขอ้ เสนอแนะอืน่ ๆ 4. ข้อเสนอแนะอื่นๆ ......................................................................................... .............................................................................. ......................................................................................... .............................................................................. ......................................................................................... .............................................................................. ......................................................................................... .............................................................................. (ลงชื่อ).......................................................... (ลงชื่อ).......................................................... (..............................................) (.................................................) หวั หนา้ กลมุ่ บรหิ ารวชิ าการ รองผู้อำนวยการโรงเรยี น.......................
บันทกึ ผลหลังการจัดการเรียนรู้ 1. สรปุ ผลการจัดการเรียนรู้ นกั เรียนจำนวน...............................คน ผ่านจุดประสงค์การเรียนรู้................คน คดิ เป็นร้อยละ............................. ไม่ผ่านจุดประสงคก์ ารเรียนรู้.............คน คิดเป็นรอ้ ยละ............................. ได้แก่ 1………………………………………………………………………………………… 2…………………………………………………………………………………………… นกั เรยี นทีม่ ีความสามารถพเิ ศษ/นกั เรยี นเด็กพิเศษ ไดแ้ ก่ 1…………………………………………………………………………………………… 2…………………………………………………………………………………………… นักเรียนท่ีไมผ่ า่ นการประเมินจุดประสงค์ด้านความรู้ (K) จำนวน............................คน ได้แก่ ................................................................................................................................................. .................. ....................................................................................... นกั เรียนท่ไี ม่ผา่ นการประเมินจดุ ประสงคด์ า้ นทักษะ (P) จำนวน.............................คน ไดแ้ ก่ ............................................................................................................................. ...................................... ....................................................................................... นักเรียนทไ่ี ม่ผา่ นการประเมินจดุ ประสงค์ดา้ นเจตคติ (A) จำนวน............................คน ได้แก่ ................................................................................................................................................................... ....................................................................................... 2. ปญั หา /อปุ สรรค /ขอ้ คน้ พบ …………………………………………………….…………………..………………………………………………………………………… …………………………………………………….…………………..………………………………………………………………………… 3. แนวทางการแก้ไข/พัฒนา …………………………………………………….…………………..………………………………………………………………………… …………………………………………………….…………………..………………………………………………………………………… ลงช่ือ………………………………...…ผสู้ อน (........................................................... ) ครูโรงเรียน.............................................. วันท่ี……..…เดือน………….......…….……. พ.ศ. ………..........
เลขที่ ชอ่ื แบบบนั ทึกการประเมินการพดู การแสดงทา่ ทาง รวมคะแนน ชอื่ – สกุล 20 ความถูกตอ้ ง ความคลอ่ งแคล่ว น้ำเสยี งปร4ะกอบการ พดู 88 ลงชอื่ ..............................................................ผูป้ ระเมิน (................................................)
ระดับคะแนน เกณฑ์การใหค้ ะแนนการพดู นำ้ หนัก/ คะแนน ประเดน็ ความสำคญั รวม เกณฑ์การให้คะแนน 1 การประเมนิ 8 ความถกู ต้อง 432 8 ความคล่องแคลว่ ออกเสยี ง ออกเสียง ออกเสยี ง ออกเสยี ง 4 ตัวอกั ษร ตวั อกั ษร 20 การแสดงท่าทางและ คำศัพท์และ คำศัพท์และ ตัวอักษรคำศัพท์ ตวั อกั ษร/ คำ/ น้ำเสยี งประกอบ ประโยคได้ ประโยคได้ การพดู ถูกตอ้ งตามหลกั ถูกต้องตามหลกั และประโยคได้ ประโยคผิด การออกเสยี ง การออกเสยี ง ออกเสยี งเนน้ ออกเสยี งเนน้ ถูกต้องเป็น หลักการออก หนัก-เบาในคำ หนกั -เบาในคำ และเสยี งสูง-ต่ำ และเสยี งสงู -ต่ำ ส่วนใหญ่ ขาด เสียง ในประโยคอยา่ ง ในประโยคเปน็ สมบูรณ์ ส่วนใหญ่ การออกเสยี ง ทำให้สื่อสาร 2 2 เนน้ หนกั -เบาใน ไมไ่ ด้ คำและเสียงสงู - ตำ่ ในประโยค พดู ต่อเน่อื ง พดู ตะกุก พูดเป็นคำๆ พูดไดบ้ างคำ ไมต่ ดิ ขดั ตะกักบ้าง แต่ หยุดเป็นช่วงๆ ทำให้สื่อ พูดชัดเจน ยงั พอสอื่ สารได้ ทำใหส้ ื่อสาร ความหมาย ทำใหส้ อ่ื สารได้ ได้ไม่ชัดเจน ไม่ได้ แสดงท่าทาง แสดงทา่ ทางและ แสดงท่าทางไม่ ไมแ่ สดงทา่ ทาง ประกอบการพดู และพูดด้วย พดู ดว้ ยน้ำเสยี ง เป็นธรรมชาติ พดู ได้น้อยมาก นำ้ เสียง เหมาะสมกบั พูดเหมือนอา่ น 1 5 เหมาะสมกบั บท บทพดู เป็นสว่ น พดู อยา่ งสมบูรณ์ ใหญ่ รวม การกำหนดระดบั คณุ ภาพโดยรวมทัง้ หน่วย - ระดบั ดีมาก คะแนนระหว่าง 17-20 - ระดบั ดี - ระดบั พอใช้ คะแนนระหวา่ ง 13-16 คะแนนระหว่าง 9-12 - ระดับปรับปรงุ คะแนนระหวา่ ง 0-8
แบบประเมนิ คุณลกั ษณะทพี่ งึ ประสงค์ (A) ที่ ชอื่ -สกลุ มีวนิ ยั รายการประเมิน ม่งุ มั่นในการทำงาน คะแนนรวม ระดบั 321 ใฝ่เรยี นรู้ 3 21 (9) คณุ ภาพ 321 ลงช่อื .........................................................ผ้ปู ระเมิน (.....................................................) เกณฑ์การตดั สินคุณภาพ ดี พอใช้ ปรบั ปรงุ 7-9 คะแนน 4-6 คะแนน ตำ่ กว่า 4 คะแนน ระดับคณุ ภาพ คะแนนรวม
เกณฑก์ ารให้คะแนนดา้ นคุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์ คุณลักษณะอนั พึงประสงค์ : มีวนิ ัย คะแนน : ระดบั คุณภาพ คุณลกั ษณะทป่ี รากฏใหเ้ หน็ 3 : ดี ผลงานสะอาดเรียบร้อย ปฏิบตั ิตนอย่ใู นขอ้ ตกลงทกี่ ำหนดใหร้ ่วมกันทกุ ครั้ง 2 : พอใช้ ผลงานส่วนใหญ่สะอาดเรยี บรอ้ ย ปฏิบตั ิตนอยู่ในข้อตกลงท่ีกำหนดใหร้ ่วมกันเปน็ สว่ นใหญ่ 1 : ปรบั ปรงุ ผลงานไม่คอ่ ยเรียบรอ้ ย ปฏบิ ัตติ นอยใู่ นข้อตกลงทก่ี ำหนดให้ร่วมกัน บางคร้งั ตอ้ งอาศัยการแนะนำ คณุ ลกั ษณะอันพึงประสงค์ : ใฝ่เรียนรู้ คณุ ลักษณะที่ปรากฏใหเ้ หน็ คะแนน : ระดับคณุ ภาพ มคี วามสนใจ /ความตงั้ ใจตลอดระยะเวลาการเรียนรู้ 3 : ดี มคี วามสนใจ /ความตัง้ ใจเปน็ บางครง้ั 2 : พอใช้ มีความสนใจ /ความตั้งใจในระยะเวลาสน้ั ๆ ชอบเลน่ ในเวลาเรยี น 1 : ปรบั ปรุง คุณลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ : มุ่งมน่ั ในการทำงาน คะแนน : ระดบั คณุ ภาพ คุณลักษณะทปี่ รากฏให้เห็น 3 : ดี ส่งงานก่อนหรือตรงกำหนดเวลานัดหมาย รบั ผิดชอบในงานที่ได้รบั มอบหายและปฏิบัตติ นจนเปน็ นิสัย เปน็ ตัวอย่างแกผ่ ้อู ื่น และแนะนำชกั ชวน 2 : พอใช้ สง่ งานช้ากวา่ กำหนด รับผดิ ชอบในงานทีไ่ ดร้ บั มอบหายและปฏบิ ตั ติ นจนเปน็ นิสยั 1 : ปรบั ปรงุ สง่ งานชา้ กวา่ กำหนด รับผดิ ชอบในงานทไ่ี ด้รบั มอบหายและปฏิบัติตนจนเป็นนิสยั ปฏิบตั งิ านโดยอาศยั การชแี้ นะ แนะนำ ตกั เตอื น
แผนการจดั การเรียนรทู้ ่ี 3 กลุ่มสาระการเรยี นรู้ ภาษาต่างประเทศ ชั้นประถมศกึ ษาปีที่ 5 หน่วยการเรียนรู้ท่ี 1 เร่อื ง A Day at School เวลา 10 ชัว่ โมง เร่อื ง Rooms and Places in School เวลา 1 ชัว่ โมง ใช้สอนวนั ท.่ี .....................เดือน.......................................พ.ศ. .................. 1. สาระสำคญั / ความคดิ รวบยอด การเรยี นรูเ้ กย่ี วกบั กิจกรรมในโรงเรยี นเปน็ ภาษาองั กฤษ เป็นพ้นื ฐานที่นักเรียนควรเรียนรแู้ ละฝึกฝนใหถ้ ูกตอ้ ง เพื่อนำไปใชใ้ นสถานการณ์จรงิ 2. มาตรฐาน/ตัวช้ีวัด/จุดประสงค์การเรียนรู้ 2.1 มาตรฐาน ต 1.1 เขา้ ใจและตีความเรือ่ งที่ฟังและอ่านจากสื่อประเภทต่างๆ และแสดงความคิดเหน็ อยา่ งมี เหตผุ ล ต 1.2 มที ักษะการส่อื สารทางภาษาในการแลกเปลีย่ นข้อมลู ขา่ วสาร แสดงความร้สู กึ และความคดิ เห็นอย่างมี ประสิทธิภาพ ต 1.3 นำเสนอข้อมลู ข่าวสาร ความคดิ รวบยอด และความคดิ เห็นในเร่ืองตา่ งๆ โดยการพูดและการ เขียน ต 4.1 ใช้ภาษาต่างประเทศในสถานการณต์ า่ งๆ ท้ังในสถานศกึ ษา ชุมชน และสังคม 2.2 ตวั ช้ีวดั ต 1.1 ป.5/2 อ่านออกเสียงประโยค ขอ้ ความ และบทกลอนส้ันๆ ถกู ต้องตามหลักการอา่ น ต 1.1 ป.5/3 ระบ/ุ วาดภาพ สญั ลักษณ์ หรือเคร่อื งหมายตรงตามความหมายของประโยคและข้อความส้นั ๆ ที่ฟังหรืออ่าน ต 1.2 ป.5/4 พดู /เขยี นเพอ่ื ขอและใหข้ อ้ มูลเก่ยี วกับตนเอง เพ่อื น ครอบครัว และเร่อื งใกลต้ ัว ต 1.3 ป.5/1 พดู /เขียนใหข้ อ้ มลู เกย่ี วกับตนเองและเร่ืองใกลต้ ัว ต 4.1 ป.5/1 ฟงั พดู และอ่าน/เขียนในสถานการณต์ ่างๆ ทเ่ี กดิ ข้นึ ในห้องเรยี นและสถานศึกษา2.3 จุดประสงค์การเรียนรู้ ความรู้ (K) การพดู ถาม-ตอบเรอื่ งตารางเรียน ทักษะ/กระบวนการ (P) การออกเสียงคำศพั ท์ช่อื วนั และวิชาต่างๆ เจตคติ (A) มวี ินยั ใฝเ่ รียนรแู้ ละมุ่งม่นั ในการทำงาน
3. สาระการเรยี นรู้ Asking for and giving information about classroom schedule Function : Expressing likes and dislikes Structure : When do we have (a music class)? We have (a music class) on (Tuesdays). Do you like (math)? Yes, I do./No, I don’t. What (subject) do you like? I like (math and music). Vocabulary : คำศพั ท์ใหม่ semester, social studies, career & technology, history, physical education (P.E.), computer คำศพั ท์ทบทวน math, Thai, science, English, music, art, health 4. สมรรถนะสำคญั ของผเู้ รยี น ความสามารถในการสอื่ สาร ความสามารถในการคดิ ความสามารถในการแกป้ ัญหา ความสามารถในการใช้ทักษะชวี ิต ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี 5. คณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค์ รักชาติ ศาสน์ กษัตริย์ อยู่อย่างพอเพียง ซ่ือสตั ย์สุจรติ มุง่ มนั่ ในการทำงาน มีวินัย รักความเป็นไทย ใฝ่เรียนรู้ มีจติ สาธารณะ 6. จดุ เน้นสกู่ ารพฒั นาผู้เรียน ความสามารถและทักษะของผเู้ รยี นศตวรรษท่ี 21 (3Rs x 8Cs x 2Ls) R1– Reading (อ่านออก) R2– (W)Riting (เขยี นได้) R3 – (A)Rithmetics (คิดเลขเป็น) C1 - Critical Thinking and Problem Solving ( ทักษะดา้ นการคดิ อยา่ งมวี ิจารณญาณ และทกั ษะในการแก้ปญั หา) C2 - Creativity and Innovation (ทกั ษะด้านการสร้างสรรคแ์ ละนวัตกรรม) C3 - Cross-cultural Understanding (ทกั ษะด้านความเข้าใจตา่ งวัฒนธรรม ตา่ งกระบวน ทัศน์) C4 - Collaboration, Teamwork and Leadership (ทกั ษะด้านความร่วมมือ การทำงานเป็น ทมี และภาวะผนู้ ำ)
C5 – Communications, Information and Media Literacy (ทกั ษะดา้ นการสื่อสาร สารสนเทศ และรเู้ ทา่ ทันสื่อ) C6 - Computing and ICT Literacy (ทกั ษะดา้ นคอมพิวเตอร์ และเทคโนโลยีสารสนเทศ และการส่ือสาร) C7 - Career and Learning Skills (ทกั ษะอาชพี และทกั ษะการเรยี นรู้) C8 – Compassion (ความมีเมตตากรุณา วินยั คณุ ธรรม จริยธรรม) L1 – Learning (ทักษะการเรียนรู้) L2 – Leadership (ทักษะความเปน็ ผนู้ ำ) 7. กิจกรรมการเรยี นรู้ 1. Warm up 1.1 ทบทวนการบอกเวลาท โดยใช้นาฬิกาจำลอง และคำถาม What time is it? นักเรียนตอบ - 2:00 (It’s two o’clock.) - 10:15 (It’s ten fifteen.) - 7:30 (It’s seven thirty.) 1.3 ครูให้นกั เรียนดนู าฬิกาในหอ้ งเรยี น และพูดบอกเวลาตามความเปน็ จรงิ 2. Presentation 2.1 ครูสนทนาซกั ถามเกี่ยวกับวนั และเวลาทเ่ี รียนวิชาตา่ งๆ ตามตารางเรียนของหอ้ ง นกั เรยี นตอบคำถามตามวนั /เวลาในตารางเรยี น เช่น - When do you study math? We study math on (Mondays). หรือตอบเวลากไ็ ด้ เช่น We study math at (eight thirty). - What time do you study (Thai)? (At ten thirty.) - Do you study (art) on (Wednesdays)? Yes, we do./No, we don’t. - What subject do you like? 2.2 ครI ูตliดิkeบตั (sรcคieำชnือ่ceวิช/mาตu่าsงiๆc/แEnลgะlแisถhบ/ปP.รEะ.)โ.ยคบอกคำจำกัดความของแต่ละวิชาบน กระดานดำ ครูอธิบ-ายความหDมoาyยoแuละlใikหeน้ (ักaเrรtีย)?นอา่ นพร้อมกัน 2.3 ครอู ่านออกเสียงบทสนทนาใน SB หนา้ 2 นกั เรียนฟงั และอ่านออกเสียงบทสนทนา ทำความเข้าใจบทสนทนา Yes, I do./No, I don’t.
2.4 ครูถามเพื่อทดสอบความเข้าใจจากการฟงั และอ่าน - When do Win and Non study P.E.? - Do they study English on Fridays? - Who likes music? - Who doesn’t like math? 3. Practice 3.1 นักเรยี นจับคูฝ่ ึกพูดบทสนทนาและถาม-ตอบเกยี่ วกบั เรื่องท่ีสนทนา โดยใช้ โครงสร้างประโยคคำถามในลกั ษณะเดยี วกับที่ปรากฏในบทเรยี น 3.2 นักเรยี นทำแบบฝกึ หดั Write your classroom schedule. ใน WB หนา้ 2 ให้ทำ ตารางเรียนที่ตนเองตอ้ งการเรียน โดยเขียนประโยคบอกเวลาเรยี นของตนเอง 4. Production 4.1 นกั เรยี นจบั คกู่ บั เพอื่ นผลัดกนั บอกเวลาเรยี นในตารางทที่ ำขนึ้ 4.2 นักเรยี นทำแบบฝกึ หัด Match each of the following school subjects with its description. ใน WB หน้า 3 5. Wrap up นักเรยี นพดู บอกเวลาเรยี นจากตารางเรยี นของตนเอง คนละ 1 วัน ถา้ พดู ได้ไม่ครบทกุ คนให้ พดู ในคร้งั ตอ่ ไป สำหรบั นักเรียนทเี่ รียนออ่ น ครสู ุ่มนกั เรยี น 2- 3 คน ออกมาอา่ นเวลาเรยี นท่ีนกั เรียนทำ ครู ช่วยเสรมิ ให้กำลังใจ แนะนำใหฝ้ ึกอ่านเปน็ การบ้านแล้วมาพูดบอกครใู นครั้งต่อไป นกั เรียนทุกคนนำตาราง ของตนเองสง่ ครตู รวจความเรยี บร้อย 8. การวดั และประเมนิ ผล ส่ิงทีว่ ัด วธิ วี ัดผล เครอื่ งมือวัดผล เกณฑก์ ารประเมินผล ดา้ นความรู้ (K) ประเมินการพูด แบบประเมินการพดู 60% ขึ้นไป ผ่าน การพูดถาม-ตอบเรือ่ งตาราง ประเมินการอ่าน แบบประเมนิ การอา่ น 60% ขึน้ ไป ผา่ น เรยี น การสงั เกตการรว่ ม แบบประเมนิ คุณลักษณะอนั 60% ขนึ้ ไป ผ่าน ด้านทักษะกระบวนการ (P) กจิ กรรมในชัน้ เรยี น พึงประสงค์ การออกเสยี งคำศัพท์ช่ือวนั และวชิ าตา่ งๆ ดา้ นคณุ ลักษณะ อันพงึ ประสงค์ (A) มีวินัย ใฝ่เรียนรู้และมุ่งมั่น ในการทำงาน
9. สอ่ื /แหล่งเรียนรู้ 9.1 ส่ือการเรยี นรู้ 9.1.1 Student’s Book 5 9.1.2 Workbook 5 9.1.3 ตารางเรยี น 9.1.3 บัตรคำชอ่ื วิชา 9.1.4 แถบประโยคบอกคำจำกัดความแต่ละวิชา 9.1.5 นาฬิกาจำลอง และนาฬิกาจริง 9.2 แหล่งเรียนรู้ ห้องสมดุ ความคิดเหน็ /ขอ้ เสนอแนะของผ้ทู ีไ่ ด้รับมอบหมาย (ตรวจสอบ/นเิ ทศ/รบั รอง) ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ลงชอื่ ………………………………………………..…… (.................................................) หวั หน้ากลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาตา่ งประเทศ วันที่…….....เดือน…………........….พ.ศ. …...........
ความเห็นของหวั หน้าสถานศกึ ษาหรอื ผทู้ ไ่ี ดร้ บั มอบหมาย ความเหน็ ของหวั หนา้ กลุ่มบรหิ ารวิชาการ ความเหน็ ของผบู้ ริหาร/ผ้ทู ี่ได้รบั มอบหมาย ได้ทำการตรวจแผนการจดั การเรยี นรูแ้ ลว้ มคี วามคิดเหน็ ดังนี้ ไดท้ ำการตรวจแผนการจดั การเรยี นรู้แลว้ มีความคิดเหน็ ดังนี้ 1. เปน็ แผนการจัดการเรียนรทู้ ี่ 1. เปน็ แผนการจัดการเรียนรทู้ ี่ ดีมาก ดมี าก ดี ดี พอใช้ พอใช้ ควรปรบั ปรงุ ควรปรบั ปรงุ 2. การจดั กจิ กรรมไดน้ ำเอากระบวนการเรยี นรู้ 2. การจัดกิจกรรมได้นำเอากระบวนการเรยี นรู้ เนน้ ผเู้ รียนเป็นสำคัญมาใชใ้ นการสอนไดอ้ ยา่ ง เน้นผ้เู รยี นเป็นสำคัญมาใชใ้ นการสอนไดอ้ ย่าง เหมาะสม เหมาะสม ยงั ไม่เน้นผูเ้ รียนเป็นสำคญั ควรปรบั ปรุงพฒั นาตอ่ ไป ยังไมเ่ น้นผู้เรยี นเปน็ สำคัญควรปรับปรุงพฒั นาตอ่ ไป 3. เปน็ แผนการจดั การเรียนรทู้ ี่ 3. เป็นแผนการจดั การเรยี นรู้ที่ นำไปใชไ้ ดจ้ ริง นำไปใชไ้ ด้จรงิ ควรปรับปรุงกอ่ นนำไปใช้ ควรปรบั ปรุงก่อนนำไปใช้ 4. ข้อเสนอแนะอน่ื ๆ 4. ข้อเสนอแนะอนื่ ๆ ......................................................................................... .............................................................................. ......................................................................................... .............................................................................. ......................................................................................... .............................................................................. ......................................................................................... .............................................................................. (ลงชอ่ื ).......................................................... (ลงชอ่ื ).......................................................... (..........................................) (.............................................) หวั หนา้ กล่มุ บริหารวิชาการ รองผู้อำนวยการโรงเรยี นบา้ นหลงั เขา
บันทกึ ผลหลงั การจดั การเรียนรู้ 1. สรุปผลการจดั การเรยี นรู้ นักเรียนจำนวน...............................คน ผ่านจุดประสงค์การเรยี นร้.ู ...............คน คดิ เป็นร้อยละ............................. ไม่ผ่านจุดประสงคก์ ารเรียนรู้.............คน คดิ เป็นร้อยละ............................. ไดแ้ ก่ 1………………………………………………………………………………………… 2…………………………………………………………………………………………… นักเรียนทีม่ คี วามสามารถพเิ ศษ/นักเรยี นเดก็ พิเศษ ได้แก่ 1…………………………………………………………………………………………… 2…………………………………………………………………………………………… นกั เรยี นที่ไมผ่ า่ นการประเมินจุดประสงคด์ า้ นความรู้ (K) จำนวน............................คน ได้แก่ ................................................................................................................................................................... ....................................................................................... นกั เรียนทีไ่ มผ่ ่านการประเมนิ จดุ ประสงค์ด้านทกั ษะ (P) จำนวน.............................คน ได้แก่ ............................................................................................................................. ...................................... ....................................................................................... นักเรียนที่ไม่ผ่านการประเมินจดุ ประสงคด์ า้ นเจตคติ (A) จำนวน............................คน ไดแ้ ก่ ................................................................................................................................................................... ....................................................................................... 2. ปัญหา /อปุ สรรค /ขอ้ คน้ พบ …………………………………………………….…………………..………………………………………………………………………… …………………………………………………….…………………..………………………………………………………………………… 3. แนวทางการแก้ไข/พฒั นา …………………………………………………….…………………..………………………………………………………………………… …………………………………………………….…………………..………………………………………………………………………… ลงชอ่ื ………………………………...…ผู้สอน (............................................. ) ครูโรงเรียน................................................ วนั ท่ี……..…เดือน………….......…….……. พ.ศ. ………..........
เลขท่ี ชอ่ื แบบบันทึกการประเมนิ การพดู การแสดงท่าทาง รวมคะแนน ชื่อ – สกุล 20 ความถกู ต้อง ความคล่องแคลว่ นำ้ เสยี งปร4ะกอบการ พดู 88 ลงช่ือ..............................................................ผู้ประเมิน (............................................)
ระดับคะแนน เกณฑ์การใหค้ ะแนนการพดู นำ้ หนัก/ คะแนน ประเดน็ ความสำคญั รวม เกณฑ์การให้คะแนน 1 การประเมนิ 8 ความถกู ต้อง 432 8 ความคล่องแคลว่ ออกเสยี ง ออกเสียง ออกเสยี ง ออกเสยี ง 4 ตัวอกั ษร ตวั อกั ษร 20 การแสดงท่าทางและ คำศัพท์และ คำศัพท์และ ตัวอักษรคำศัพท์ ตวั อกั ษร/ คำ/ น้ำเสยี งประกอบ ประโยคได้ ประโยคได้ การพดู ถูกตอ้ งตามหลกั ถกู ต้องตามหลกั และประโยคได้ ประโยคผิด การออกเสยี ง การออกเสยี ง ออกเสยี งเนน้ ออกเสยี งเนน้ ถูกต้องเป็น หลักการออก หนัก-เบาในคำ หนกั -เบาในคำ และเสยี งสูง-ต่ำ และเสยี งสงู -ต่ำ ส่วนใหญ่ ขาด เสียง ในประโยคอยา่ ง ในประโยคเปน็ สมบูรณ์ ส่วนใหญ่ การออกเสยี ง ทำให้สื่อสาร 2 2 เนน้ หนกั -เบาใน ไมไ่ ด้ คำและเสียงสงู - ตำ่ ในประโยค พดู ต่อเน่อื ง พดู ตะกุก พูดเป็นคำๆ พูดไดบ้ างคำ ไมต่ ดิ ขดั ตะกกั บ้าง แต่ หยุดเป็นช่วงๆ ทำให้สื่อ พูดชัดเจน ยงั พอสอื่ สารได้ ทำใหส้ ื่อสาร ความหมาย ทำใหส้ ่ือสารได้ ได้ไม่ชัดเจน ไมไ่ ด้ แสดงท่าทาง แสดงทา่ ทางและ แสดงท่าทางไม่ ไมแ่ สดงทา่ ทาง ประกอบการพดู และพูดด้วย พดู ดว้ ยน้ำเสยี ง เป็นธรรมชาติ พดู ได้น้อยมาก นำ้ เสียง เหมาะสมกบั พูดเหมือนอา่ น 1 5 เหมาะสมกบั บท บทพดู เป็นสว่ น พดู อยา่ งสมบูรณ์ ใหญ่ รวม การกำหนดระดบั คณุ ภาพโดยรวมทงั้ หน่วย - ระดบั ดีมาก คะแนนระหว่าง 17-20 - ระดบั ดี - ระดบั พอใช้ คะแนนระหวา่ ง 13-16 คะแนนระหว่าง 9-12 - ระดบั ปรับปรงุ คะแนนระหวา่ ง 0-8
แบบบนั ทกึ การประเมินการอ่าน ประเดน็ /คะแนน ความเข้าใจ การจับใจความ การรูค้ วามหมาย รวมคะแนน เลขที่ ชื่อ – สกลุ 8 สำคญั 4 20 8 ลงช่ือ..............................................................ผู้ประเมิน (............................................)
เกณฑก์ ารให้คะแนนการอ่าน ระดับ เกณฑก์ ารให้คะแนน นำ้ หนัก/ คะแนน คะแนน 1 ความสำคญั รวม 8 ประเด็น 4 32 8 การประเมนิ ตอบคำถาม ตอบคำถาม ตอบคำถาม ตอบคำถาม 4 ความเข้าใจ หลงั จากที่ หลังจากท่ี หลังจากที่ หลงั จากที่ 20 อ่านได้ อ่านไดเ้ กอื บ อ่านได้ อา่ นไดน้ อ้ ย ทง้ั หมด ทั้งหมด เล็กน้อย มาก 2 2 การจบั ใจความสำคญั จับใจความ จบั ใจความ จับใจความ จับใจความ สำคัญของ สำคญั ของ สำคญั ของ สำคัญของ เนอ้ื หาได้ เ น ื ้ อ ห า ไ ด้ เนอื้ หาได้ เนือ้ หาได้ ท้ังหมด เกอื บ เล็กนอ้ ย นอ้ ยมาก ทั้งหมด การรคู้ วามหมาย เม่ืออ่านพบ เม่ืออ่านพบ เม่ืออ่านพบ เมือ่ อา่ นพบ คำศัพท์ คำศัพท์ใหม่ คำศัพท์ใหม่ คำศพั ท์ใหม่ คำศพั ท์ใหม่ สามารถเดา สามารถเดา สามารถเดา สามารถเดา ความหมาย ความหมาย ความหมาย ความหมาย 1 คำศัพท์จาก คำศพั ท์จาก คำศพั ท์จาก คำศพั ท์จาก บริบทได้ บริบทได้ บริบทได้ บรบิ ทไดน้ อ้ ย ท้งั หมด เกือบ เล็กน้อย มาก ทงั้ หมด รวม 5
แบบประเมนิ คุณลกั ษณะทพี่ งึ ประสงค์ (A) ที่ ชอื่ -สกลุ มีวนิ ยั รายการประเมิน มุ่งมน่ั ในการทำงาน คะแนนรวม ระดบั 321 ใฝเ่ รยี นรู้ 3 21 (9) คุณภาพ 321 ลงช่อื .........................................................ผู้ประเมนิ (....................................................) เกณฑ์การตดั สินคุณภาพ ดี พอใช้ ปรบั ปรุง 7-9 คะแนน 4-6 คะแนน ตำ่ กว่า 4 คะแนน ระดับคณุ ภาพ คะแนนรวม
เกณฑ์การให้คะแนนด้านคณุ ลักษณะอันพึงประสงค์ คุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ : มีวินยั คะแนน : ระดับคุณภาพ คณุ ลกั ษณะทป่ี รากฏใหเ้ ห็น 3 : ดี ผลงานสะอาดเรยี บรอ้ ย ปฏบิ ตั ิตนอยู่ในขอ้ ตกลงท่ีกำหนดให้ร่วมกนั ทกุ ครั้ง 2 : พอใช้ ผลงานสว่ นใหญส่ ะอาดเรยี บรอ้ ย ปฏิบัติตนอย่ใู นขอ้ ตกลงที่กำหนดใหร้ ่วมกนั เปน็ สว่ นใหญ่ 1 : ปรับปรงุ ผลงานไมค่ อ่ ยเรยี บรอ้ ย ปฏิบัติตนอยู่ในข้อตกลงท่กี ำหนดใหร้ ่วมกนั บางครั้ง ต้องอาศยั การแนะนำ คณุ ลักษณะอันพงึ ประสงค์ : ใฝเ่ รียนรู้ คุณลกั ษณะทป่ี รากฏใหเ้ ห็น คะแนน : ระดบั คณุ ภาพ มคี วามสนใจ /ความตั้งใจตลอดระยะเวลาการเรยี นรู้ 3 : ดี มคี วามสนใจ /ความต้งั ใจเปน็ บางครง้ั 2 : พอใช้ มีความสนใจ /ความตั้งใจในระยะเวลาสนั้ ๆ ชอบเล่นในเวลาเรียน 1 : ปรบั ปรงุ คุณลักษณะอันพงึ ประสงค์ : มุ่งมัน่ ในการทำงาน คะแนน : ระดบั คุณภาพ คุณลกั ษณะที่ปรากฏให้เหน็ 3 : ดี สง่ งานก่อนหรือตรงกำหนดเวลานดั หมาย รบั ผดิ ชอบในงานทีไ่ ด้รับมอบหายและปฏบิ ัตติ นจนเป็นนิสยั เป็นตัวอย่างแกผ่ ู้อน่ื และแนะนำชกั ชวน 2 : พอใช้ สง่ งานช้ากวา่ กำหนด รับผิดชอบในงานทีไ่ ด้รับมอบหายและปฏบิ ัตติ นจนเป็นนิสัย 1 : ปรบั ปรงุ สง่ งานช้ากว่ากำหนด รับผิดชอบในงานที่ได้รับมอบหายและปฏิบตั ติ นจนเป็นนิสยั ปฏบิ ตั งิ านโดยอาศัยการช้ีแนะ แนะนำ ตักเตือน
แผนการจดั การเรยี นร้ทู ี่ 4 กล่มุ สาระการเรยี นรู้ ภาษาต่างประเทศ ชนั้ ประถมศกึ ษาปที ่ี 5 หน่วยการเรยี นรู้ที่ 1 เร่ือง A Day at School เวลา 10 ช่วั โมง เรอื่ ง Subject เวลา 1 ช่วั โมง ใชส้ อนวนั ที.่ .....................เดือน.......................................พ.ศ. .................. 1. สาระสำคัญ / ความคิดรวบยอด การเรียนรเู้ กยี่ วกบั กจิ กรรมในโรงเรยี นเป็นภาษาองั กฤษ เปน็ พืน้ ฐานที่นกั เรียนควรเรียนร้แู ละฝกึ ฝนใหถ้ ูกต้อง เพ่ือนำไปใชใ้ นสถานการณ์จรงิ 2. มาตรฐาน/ตวั ช้ีวัด/จุดประสงค์การเรียนรู้ 2.1 มาตรฐาน ต 1.2 มที กั ษะการสอ่ื สารทางภาษาในการแลกเปลีย่ นข้อมูลขา่ วสาร แสดงความรูส้ ึกและความคิดเหน็ อย่างมี ประสทิ ธิภาพ ต 1.3 นำเสนอขอ้ มลู ข่าวสาร ความคิดรวบยอด และความคิดเห็นในเรอ่ื งตา่ งๆ โดยการพดู และการ เขียน ต 4.1 ใช้ภาษาต่างประเทศในสถานการณต์ ่างๆ ท้ังในสถานศึกษา ชมุ ชน และสงั คม 2.2 ตัวช้ีวัด ต 1.2 ป.5/4 พดู /เขยี นเพื่อขอและให้ขอ้ มลู เก่ยี วกับตนเอง เพื่อน ครอบครวั และเร่ืองใกลต้ วั ต 1.3 ป.5/1 พูด/เขยี นให้ขอ้ มูลเกยี่ วกบั ตนเองและเรือ่ งใกลต้ วั ต 4.1 ป.5/1 ฟัง พดู และอ่าน/เขียนในสถานการณต์ า่ งๆ ทีเ่ กิดข้ึนในห้องเรยี นและสถานศกึ ษา 2.3 จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ ความรู้ (K) การฟังและจบั คู่พูดบทสนทนา และเขียนบอกความชอบวิชาต่างๆ ทักษะ/กระบวนการ (P) การพดู บอกข้อมลู ของตนเอง เจตคติ (A) มีวนิ ยั ใฝเ่ รยี นร้แู ละมุ่งมั่นในการทำงาน 3. สาระการเรยี นรู้ Asking for and giving information about where one is going Function : Asking and answering about preference Structure : Where are you going? I’m going to (the science laboratory). What is your favorite (subject)? My favorite (subject) is (music). Vocabulary : คำศพั ท์ใหม่ favorite คำศัพท์ทบทวน -
4. สมรรถนะสำคญั ของผเู้ รียน ความสามารถในการสอื่ สาร ความสามารถในการคดิ ความสามารถในการแกป้ ัญหา ความสามารถในการใชท้ กั ษะชวี ิต ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี 5. คณุ ลักษณะอนั พึงประสงค์ รักชาติ ศาสน์ กษตั รยิ ์ อยู่อย่างพอเพียง ซือ่ สตั ยส์ ุจรติ มุ่งมั่นในการทำงาน มีวนิ ยั รักความเปน็ ไทย ใฝ่เรยี นรู้ มีจิตสาธารณะ 6. จุดเน้นสูก่ ารพัฒนาผ้เู รียน ความสามารถและทกั ษะของผู้เรียนศตวรรษท่ี 21 (3Rs x 8Cs x 2Ls) R1– Reading (อา่ นออก) R2– (W)Riting (เขยี นได)้ R3 – (A)Rithmetics (คิดเลขเป็น) C1 - Critical Thinking and Problem Solving ( ทักษะดา้ นการคดิ อย่างมีวจิ ารณญาณ และทกั ษะในการแกป้ ัญหา) C2 - Creativity and Innovation (ทกั ษะด้านการสรา้ งสรรคแ์ ละนวตั กรรม) C3 - Cross-cultural Understanding (ทักษะด้านความเข้าใจตา่ งวัฒนธรรม ต่างกระบวน ทศั น์) C4 - Collaboration, Teamwork and Leadership (ทกั ษะด้านความร่วมมอื การทำงานเปน็ ทมี และภาวะผู้นำ) C5 – Communications, Information and Media Literacy (ทักษะดา้ นการส่ือสาร สารสนเทศ และรู้เทา่ ทนั ส่อื ) C6 - Computing and ICT Literacy (ทกั ษะดา้ นคอมพวิ เตอร์ และเทคโนโลยีสารสนเทศ และการสอื่ สาร) C7 - Career and Learning Skills (ทักษะอาชพี และทกั ษะการเรียนรู้) C8 – Compassion (ความมีเมตตากรุณา วินัย คณุ ธรรม จริยธรรม) L1 – Learning (ทักษะการเรยี นรู้) L2 – Leadership (ทกั ษะความเป็นผนู้ ำ) 7. กจิ กรรมการเรียนรู้ 1. Warm up 1.1 ครทู บทวนการถาม-ตอบเก่ียวกบั วันและเวลาที่เรียนวิชาตา่ งๆ ตามตารางเรยี น โดย ใชค้ ำถาม When do you have P.E.? On Wednesdays. ครสู ่มุ ถามนกั เรียน 4-5 คน 1.2 ครทู บทวนชอื่ วิชาต่างๆ โดยใชบ้ ตั รคำ 2. Presentation 2.1 นักเรียนดภู าพ 2 ภาพในหนงั สือเรียน Listen and talk with your friends. ภาพ แรกเป็นเหตกุ ารณห์ น้าหอ้ งสมุด (In front of the Library) ภาพท่ี 2 เป็นเหตุการณ์ในห้องเรยี น (In the Classroom) ครูสอนคำศพั ท์ favorite ใหน้ กั เรยี นออกเสียงตามใหถ้ ูกตอ้ ง
2.2 ครูอา่ นออกเสยี ง ใหน้ ักเรียนฟงั บทสนทนาและออกเสียงตาม พร้อมกับช้ภี าพใน SB หนา้ 3 2.3 ครูใหน้ ักเรียนอาสาสมัคร 2 คน ออกมาพดู ตามแบบบทสนทนาทไ่ี ดฟ้ ังหนา้ ช้นั เรยี น ใหเ้ พ่ือนดูเปน็ ตัวอยา่ ง 3. Practice 3.1 นักเรียนจบั คูฝ่ ึกสนทนาใน SB หนา้ 3 เปลีย่ นกนั เป็นผูถ้ าม อกี ฝ่ายหนง่ึ เปน็ ผูต้ อบ 3.2 นกั เรยี นทำแบบฝึกหัด Write the correct sentences about the pictures. ใน WB หน้า 4 4. Production 4.1 นักเรียนจบั คอู่ อกมาสนทนาบอกขอ้ มลู ความชอบวชิ าต่างๆ ของตนเองหน้าช้นั เรยี น โดยใช้โครงสรา้ งบทสนทนาทไี่ ด้นำเสนอไวใ้ นข้อ 2.2 “In the Classroom” 4.2 ครูใหน้ กั เรยี นท่ีฟงั การสนทนา จดจำขอ้ มลู ของเพ่ือนเพื่อบนั ทึกเปน็ สถติ ิของห้องว่า นักเรยี นหอ้ งนี้ชอบวชิ าอะไรมากท่สี ุด 5. Wrap up 5.1 นักเรยี นรายงานวชิ าทีน่ ักเรียนชอบมากทสี่ ุด และมจี ำนวนกีค่ น 5.2 ให้นกั เรียนจดคำศัพท์วิชาต่างๆ ลงในสมดุ บนั ทกึ คำศพั ท์ 8. การวัดและประเมินผล สงิ่ ท่ีวัด วธิ วี ัดผล เคร่ืองมอื วัดผล เกณฑก์ ารประเมินผล ด้านความรู้ (K) ประเมนิ การพูด แบบประเมินการพดู 60% ข้ึนไป ผ่าน การฟังและจบั ค่พู ดู บท ประเมนิ การพูด แบบประเมินการพดู 60% ขน้ึ ไป ผ่าน สนทนา และเขยี นบอก การสงั เกตการร่วม แบบประเมนิ คณุ ลักษณะอัน 60% ขน้ึ ไป ผ่าน ความชอบวิชาตา่ งๆ กจิ กรรมในชน้ั เรียน พงึ ประสงค์ ดา้ นทักษะกระบวนการ (P) การพดู บอกข้อมลู ของ ตนเอง ดา้ นคณุ ลกั ษณะ อันพึงประสงค์ (A) มีวินัย ใฝ่เรียนรู้และมุ่งมั่น ในการทำงาน 9. สอ่ื /แหล่งเรยี นรู้ 9.1 สอื่ การเรียนรู้ 9.1.1 Student’s Book 5 9.1.2 Workbook 5 9.1.3 บตั รคำชอื่ วิชาตา่ งๆ 9.1.4 สมุดบันทึกคำศพั ท์
9.2 แหล่งเรยี นรู้ หอ้ งสมุด ความคดิ เหน็ /ขอ้ เสนอแนะของผทู้ ี่ได้รบั มอบหมาย (ตรวจสอบ/นเิ ทศ/รบั รอง) ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ลงชอื่ ………………………………………………..…… (..........................................) หัวหน้ากลุ่มสาระการเรยี นรู้ภาษาตา่ งประเทศ วนั ท่ี…….....เดือน…………........….พ.ศ. …........... ความเหน็ ของหวั หน้าสถานศกึ ษาหรอื ผทู้ ่ไี ด้รับมอบหมาย ความเหน็ ของหัวหน้ากลุ่มบรหิ ารวิชาการ ความเห็นของผ้บู ริหาร/ผทู้ ่ไี ด้รบั มอบหมาย ได้ทำการตรวจแผนการจดั การเรียนร้แู ล้วมคี วามคิดเห็นดังน้ี ไดท้ ำการตรวจแผนการจัดการเรยี นร้แู ลว้ มคี วามคิดเห็นดังน้ี 1. เปน็ แผนการจัดการเรยี นรู้ท่ี 1. เป็นแผนการจดั การเรียนร้ทู ี่ ดีมาก ดีมาก ดี ดี พอใช้ พอใช้ ควรปรบั ปรงุ ควรปรบั ปรงุ 2. การจัดกิจกรรมไดน้ ำเอากระบวนการเรยี นรู้ 2. การจัดกิจกรรมไดน้ ำเอากระบวนการเรยี นรู้ เน้นผเู้ รยี นเปน็ สำคัญมาใชใ้ นการสอนไดอ้ ยา่ ง เน้นผ้เู รยี นเป็นสำคญั มาใช้ในการสอนไดอ้ ย่าง เหมาะสม เหมาะสม ยังไม่เนน้ ผู้เรียนเปน็ สำคญั ควรปรบั ปรงุ พฒั นาต่อไป ยงั ไม่เนน้ ผู้เรียนเป็นสำคัญควรปรับปรงุ พัฒนาต่อไป 3. เป็นแผนการจดั การเรียนรทู้ ี่ 3. เปน็ แผนการจัดการเรยี นรู้ที่ นำไปใช้ไดจ้ รงิ นำไปใชไ้ ดจ้ รงิ ควรปรับปรงุ ก่อนนำไปใช้ ควรปรบั ปรุงกอ่ นนำไปใช้ 4. ขอ้ เสนอแนะอื่นๆ 4. ข้อเสนอแนะอนื่ ๆ ......................................................................................... .............................................................................. ......................................................................................... .............................................................................. ......................................................................................... .............................................................................. ......................................................................................... .............................................................................. (ลงชอ่ื ).......................................................... (ลงชื่อ).......................................................... (........................................) (..............................................) หวั หน้ากล่มุ บริหารวิชาการ รองผูอ้ ำนวยการโรงเรียน...........................
บันทึกผลหลังการจัดการเรียนรู้ 1. สรุปผลการจดั การเรียนรู้ นักเรียนจำนวน...............................คน ผ่านจดุ ประสงค์การเรยี นรู้................คน คดิ เป็นร้อยละ............................. ไม่ผ่านจดุ ประสงค์การเรยี นร.ู้ ............คน คิดเปน็ รอ้ ยละ............................. ได้แก่ 1………………………………………………………………………………………… 2…………………………………………………………………………………………… นกั เรยี นทมี่ ีความสามารถพเิ ศษ/นักเรยี นเด็กพิเศษ ได้แก่ 1…………………………………………………………………………………………… 2…………………………………………………………………………………………… นักเรียนทไ่ี มผ่ ่านการประเมินจดุ ประสงคด์ า้ นความรู้ (K) จำนวน............................คน ได้แก่ ................................................................................................................................................................... ....................................................................................... นักเรยี นที่ไมผ่ า่ นการประเมินจดุ ประสงค์ด้านทักษะ (P) จำนวน.............................คน ไดแ้ ก่ ........................................................................................................................................................... ........ ....................................................................................... นักเรยี นทีไ่ มผ่ ่านการประเมินจดุ ประสงคด์ า้ นเจตคติ (A) จำนวน............................คน ไดแ้ ก่ ................................................................................................................................................................... ....................................................................................... 2. ปญั หา /อปุ สรรค /ขอ้ ค้นพบ …………………………………………………….…………………..………………………………………………………………………… …………………………………………………….…………………..………………………………………………………………………… 3. แนวทางการแกไ้ ข/พฒั นา …………………………………………………….…………………..………………………………………………………………………… …………………………………………………….…………………..………………………………………………………………………… ลงชอื่ ………………………………...…ผู้สอน (............................................. ) ครโู รงเรียน.................................................... วันท่ี……..…เดือน………….......…….……. พ.ศ. ………..........
เลขท่ี ชอ่ื แบบบันทึกการประเมนิ การพดู การแสดงท่าทาง รวมคะแนน ช่อื – สกุล 20 ความถกู ตอ้ ง ความคลอ่ งแคล่ว น้ำเสยี งปร4ะกอบการ พูด 88 ลงชอื่ ..............................................................ผ้ปู ระเมิน (...........................................................)
ระดับคะแนน เกณฑก์ ารใหค้ ะแนนการพดู นำ้ หนัก/ คะแนน ประเดน็ ความสำคญั รวม เกณฑ์การให้คะแนน 1 การประเมนิ 8 ความถกู ต้อง 432 8 ความคล่องแคลว่ ออกเสยี ง ออกเสียง ออกเสยี ง ออกเสยี ง 4 ตัวอกั ษร ตวั อักษร 20 การแสดงท่าทางและ คำศพั ท์และ คำศัพท์และ ตัวอักษรคำศัพท์ ตวั อกั ษร/ คำ/ น้ำเสยี งประกอบ ประโยคได้ ประโยคได้ การพดู ถูกตอ้ งตามหลกั ถูกต้องตามหลกั และประโยคได้ ประโยคผิด การออกเสยี ง การออกเสยี ง ออกเสียงเน้น ออกเสยี งเนน้ ถูกต้องเป็น หลักการออก หนกั -เบาในคำ หนกั -เบาในคำ และเสยี งสูง-ตำ่ และเสยี งสงู -ต่ำ ส่วนใหญ่ ขาด เสียง 2 ในประโยคอยา่ ง ในประโยคเปน็ สมบรู ณ์ ส่วนใหญ่ การออกเสยี ง ทำให้สื่อสาร 2 1 เนน้ หนกั -เบาใน ไมไ่ ด้ 5 คำและเสียงสงู - ตำ่ ในประโยค พดู ตอ่ เน่อื ง พดู ตะกุก พูดเป็นคำๆ พูดไดบ้ างคำ ไม่ตดิ ขดั ตะกักบ้าง แต่ หยุดเป็นช่วงๆ ทำให้สื่อ พดู ชัดเจน ยงั พอสอื่ สารได้ ทำใหส้ ื่อสาร ความหมาย ทำใหส้ ่อื สารได้ ได้ไม่ชัดเจน ไมไ่ ด้ แสดงท่าทาง แสดงทา่ ทางและ แสดงท่าทางไม่ ไมแ่ สดงทา่ ทาง ประกอบการพดู และพดู ด้วย พดู ดว้ ยน้ำเสยี ง เป็นธรรมชาติ พดู ได้น้อยมาก นำ้ เสียง เหมาะสมกบั พูดเหมือนอา่ น เหมาะสมกบั บท บทพดู เป็นสว่ น พูดอย่างสมบรู ณ์ ใหญ่ รวม การกำหนดระดับคุณภาพโดยรวมทัง้ หน่วย - ระดบั ดีมาก คะแนนระหว่าง 17-20 - ระดบั ดี - ระดบั พอใช้ คะแนนระหวา่ ง 13-16 คะแนนระหว่าง 9-12 - ระดับปรับปรงุ คะแนนระหวา่ ง 0-8
แบบประเมนิ คุณลกั ษณะท่พี งึ ประสงค์ (A) ที่ ชอื่ -สกลุ มีวนิ ัย รายการประเมนิ ม่งุ มัน่ ในการทำงาน คะแนนรวม ระดบั 321 ใฝ่เรียนรู้ 3 21 (9) คุณภาพ 321 ลงช่อื .........................................................ผู้ประเมนิ (..................................................) เกณฑ์การตดั สินคุณภาพ ดี พอใช้ ปรบั ปรุง 7-9 คะแนน 4-6 คะแนน ต่ำกว่า 4 คะแนน ระดับคณุ ภาพ คะแนนรวม
เกณฑก์ ารให้คะแนนดา้ นคณุ ลักษณะอนั พึงประสงค์ คุณลักษณะอนั พึงประสงค์ : มีวนิ ัย คะแนน : ระดบั คุณภาพ คุณลกั ษณะท่ีปรากฏให้เห็น 3 : ดี ผลงานสะอาดเรียบรอ้ ย ปฏิบตั ิตนอย่ใู นข้อตกลงท่กี ำหนดใหร้ ่วมกนั ทกุ ครั้ง 2 : พอใช้ ผลงานส่วนใหญ่สะอาดเรียบรอ้ ย ปฏิบตั ิตนอยู่ในขอ้ ตกลงท่กี ำหนดให้รว่ มกนั เปน็ สว่ นใหญ่ 1 : ปรบั ปรงุ ผลงานไมค่ อ่ ยเรียบร้อย ปฏบิ ัตติ นอยใู่ นข้อตกลงทก่ี ำหนดให้ร่วมกนั บางคร้งั ตอ้ งอาศัยการแนะนำ คณุ ลกั ษณะอันพึงประสงค์ : ใฝ่เรียนรู้ คณุ ลักษณะทีป่ รากฏใหเ้ หน็ คะแนน : ระดับคณุ ภาพ มคี วามสนใจ /ความตง้ั ใจตลอดระยะเวลาการเรียนรู้ 3 : ดี มคี วามสนใจ /ความต้ังใจเป็นบางครงั้ 2 : พอใช้ มีความสนใจ /ความตั้งใจในระยะเวลาสั้นๆ ชอบเลน่ ในเวลาเรยี น 1 : ปรบั ปรุง คุณลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ : มุ่งมน่ั ในการทำงาน คะแนน : ระดบั คณุ ภาพ คุณลักษณะท่ปี รากฏใหเ้ หน็ 3 : ดี ส่งงานก่อนหรอื ตรงกำหนดเวลานัดหมาย รบั ผิดชอบในงานทไ่ี ดร้ ับมอบหายและปฏิบัติตนจนเปน็ นิสยั เปน็ ตัวอย่างแก่ผู้อ่นื และแนะนำชักชวน 2 : พอใช้ สง่ งานช้ากวา่ กำหนด รับผดิ ชอบในงานที่ไดร้ ับมอบหายและปฏบิ ัติตนจนเปน็ นิสัย 1 : ปรบั ปรงุ สง่ งานชา้ กวา่ กำหนด รับผดิ ชอบในงานทไี่ ดร้ ับมอบหายและปฏิบัติตนจนเป็นนิสัย ปฏิบตั งิ านโดยอาศัยการช้ีแนะ แนะนำ ตักเตอื น
แผนการจดั การเรียนรทู้ ี่ 5 กลมุ่ สาระการเรยี นรู้ ภาษาต่างประเทศ ช้นั ประถมศึกษาปที ่ี 5 หน่วยการเรยี นรทู้ ่ี 1 เรื่อง A Day at School เวลา 10 ชั่วโมง เรอื่ ง What sport do you like? เวลา 1 ชวั่ โมง ใชส้ อนวนั ท่.ี .....................เดอื น.......................................พ.ศ. .................. 1. สาระสำคญั / ความคดิ รวบยอด การเรยี นร้เู กยี่ วกบั กจิ กรรมในโรงเรยี นเปน็ ภาษาองั กฤษ เป็นพนื้ ฐานทน่ี กั เรยี นควรเรียนรู้และฝึกฝนให้ถูกต้อง เพือ่ นำไปใชใ้ นสถานการณ์จริง 2. มาตรฐาน/ตวั ชี้วดั /จุดประสงค์การเรียนรู้ 2.1 มาตรฐาน ต 1.2 มีทักษะการสอ่ื สารทางภาษาในการแลกเปล่ียนขอ้ มลู ข่าวสาร แสดงความรสู้ ึกและความคดิ เห็นอย่างมี ประสิทธภิ าพ ต 1.3 นำเสนอข้อมลู ข่าวสาร ความคดิ รวบยอด และความคิดเห็นในเรือ่ งตา่ งๆ โดยการพดู และการ เขยี น ต 4.2 ใชภ้ าษาตา่ งประเทศเป็นเครือ่ งมอื พ้ืนฐานในการศกึ ษาตอ่ การประกอบอาชพี และการ แลกเปล่ียนเรยี นรกู้ ับสังคมโลก 2.2 ตัวช้ีวัด ต 1.2 ป.5/4 พูด/เขียนเพ่อื ขอและให้ข้อมูลเกีย่ วกบั ตนเอง เพื่อน ครอบครวั และเร่ืองใกล้ตวั ต 1.2 ป.5/5 พดู /เขียนแสดงความรสู้ กึ ของตนเองเกี่ยวกบั เรือ่ งต่างๆ ใกลต้ วั และกจิ กรรมต่างๆ พรอ้ มทง้ั ให้เหตุผลส้ันๆ ประกอบ ต 1.3 ป.5/1 พดู /เขียนให้ข้อมูลเกี่ยวกบั ตนเองและเรอ่ื งใกล้ตวั ต 1.3 ป.5/3 พูดแสดงความคิดเห็นเกย่ี วกับเรอ่ื งต่างๆ ใกลต้ วั ต 4.2 ป.5/1 ใชภ้ าษาตา่ งประเทศในการสืบคน้ และรวบรวมข้อมลู ตา่ งๆ 2.3 จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ ความรู้ (K) การเขยี นประโยคบอกข้อมูลความชอบกฬี าชนิดต่างๆ ทกั ษะ/กระบวนการ (P) การพูดถาม-ตอบกฬี าท่ีชอบ เจตคติ (A) มีวนิ ยั ใฝเ่ รียนร้แู ละมุ่งม่ันในการทำงาน
3. สาระการเรยี นรู้ Expressing likes Function : Asking for and giving reasons Structure : What (sport) do you like? I like (soccer). Why do you think (ping-pong) is good? (Ping-pong) is good because (it is fun). Vocabulary : คำศัพท์ใหม่ soccer, basketball, gymnastics, running, ping-pong, tae kwon do, badminton, swimming, volleyball คำศพั ท์ทบทวน - 4. สมรรถนะสำคัญของผ้เู รียน ความสามารถในการสือ่ สาร ความสามารถในการคิด ความสามารถในการแก้ปัญหา ความสามารถในการใช้ทักษะชวี ิต ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี 5. คุณลักษณะอันพึงประสงค์ รักชาติ ศาสน์ กษัตริย์ อยู่อย่างพอเพียง ซือ่ สตั ยส์ ุจริต มุ่งมัน่ ในการทำงาน มีวนิ ัย รกั ความเปน็ ไทย ใฝ่เรยี นรู้ มจี ิตสาธารณะ 6. จุดเน้นสู่การพฒั นาผู้เรยี น ความสามารถและทักษะของผเู้ รียนศตวรรษที่ 21 (3Rs x 8Cs x 2Ls) R1– Reading (อ่านออก) R2– (W)Riting (เขยี นได้) R3 – (A)Rithmetics (คดิ เลขเป็น) C1 - Critical Thinking and Problem Solving ( ทกั ษะดา้ นการคดิ อยา่ งมวี ิจารณญาณ และทักษะในการแก้ปัญหา) C2 - Creativity and Innovation (ทักษะด้านการสรา้ งสรรค์และนวัตกรรม) C3 - Cross-cultural Understanding (ทกั ษะดา้ นความเข้าใจตา่ งวัฒนธรรม ต่างกระบวน ทัศน)์ C4 - Collaboration, Teamwork and Leadership (ทกั ษะด้านความรว่ มมือ การทำงานเป็น ทมี และภาวะผนู้ ำ)
C5 – Communications, Information and Media Literacy (ทกั ษะดา้ นการส่อื สาร สารสนเทศ และรู้เทา่ ทนั สื่อ) C6 - Computing and ICT Literacy (ทกั ษะดา้ นคอมพิวเตอร์ และเทคโนโลยีสารสนเทศ และการสือ่ สาร) C7 - Career and Learning Skills (ทักษะอาชพี และทกั ษะการเรยี นร)ู้ C8 – Compassion (ความมีเมตตากรุณา วินัย คุณธรรม จริยธรรม) L1 – Learning (ทกั ษะการเรยี นรู)้ L2 – Leadership (ทักษะความเปน็ ผูน้ ำ) 7. กจิ กรรมการเรยี นรู้ 1. Warm up 1.1 ครูใหน้ กั เรยี นดูตารางเรยี นและถามนกั เรียนทงั้ ชน้ั ดังนี้ When do you have a Thai class? Where do you study music? Do you have a music class today? 1.2 ครสู มุ่ นกั เรียน 3-4 คน ให้ตอบคำถาม What subject do you like?/What is your favorite subject? 2. Presentation 2.1 ครสู อนคำศพั ทใ์ หม่ โดยใช้บตั รคำและบตั รภาพของคำต่อไปนี้ soccer, basketball, gymnastics, running, ping-pong, tae kwon do, badminton, swimming volleyball 2.2 ครูถาม What sport do you like? พร้อมกบั ชูบัตรภาพกีฬาประเภทต่างๆ เพอื่ ให้ นักเรียนตอบ I like ……………. . เม่อื นักเรียนตอบแลว้ ครถู ามต่อด้วยประโยค Why do you like it? นักเรยี น อาจบอกเหตุผลเป็นภาษาไทยได้ จากน้ันเปลีย่ นใหน้ กั เรียนผลัดกันถามเพื่อนๆ เมอ่ื ถาม-ตอบกนั ไดป้ ระมาณ 4–5 คน 3. Practice 3.1 ครูติดแถบประโยคคำถาม-คำตอบบนกระดานดำ Why do you think …………….. is good? …………….. is good because it makes me healthy/strong. …………….. is good because I can play it with my friend. …………….. is good because it is fun.
จากนั้นใหน้ กั เรยี นแต่ละคนในกลุ่มเขยี นคำศพั ท์กฬี าคนละ 1 ประเภทลงในกระดาษคนละ แผน่ วางควำ่ บนโต๊ะ แล้วทำกิจกรรม ขอ้ B. Practice with your friends. ใน SB หน้า 4 โดยเปล่ียนกันถาม และตอบ ซง่ึ คนตอบหยบิ คำศพั ท์ทว่ี างควำ่ ไว้เปดิ ดแู ล้วตอบ และฝึกสนทนาตอ่ ดว้ ยประโยคถาม-ตอบที่ติดไว้ บนกระดาน 3.2 นกั เรียนทำแบบฝกึ หัด Find the hidden words about sports. ใน WB หนา้ 5 4. Production 4.1 ครใู ห้นกั เรียนออกมาพูดเก่ยี วกบั ความชอบของตนเองเหมือนกบั บทสนทนาทฝ่ี กึ ใน กจิ กรรมท่ี 3 ข้อ B เช่น I like tennis, Taekwondo, gymnastics and swimming. 4.2 นกั เรียนทำแบบฝึกหัด Find the hidden words about sports. ใน WB หน้า 5 4.3 นกั เรียนทำแบบฝกึ หดั Write sentences about the pictures. ใน WB หนา้ 6 4.4 ครเู ฉลยคำตอบในแบบฝกึ หัด 5. Wrap up นกั เรยี นจดคำศพั ท์ท่ีเรยี นลงในสมุด 8. การวดั และประเมินผล สิ่งทว่ี ดั วิธีวัดผล เคร่อื งมอื วัดผล เกณฑ์การประเมนิ ผล ดา้ นความรู้ (K) ตรวจแบบฝกึ หัด แบบฝกึ หดั 60% ขึน้ ไป ผา่ น การเขียนประโยคบอก ขอ้ มูลความชอบกฬี าชนิด ประเมินการพูด แบบประเมนิ การพูด 60% ขึ้นไป ผ่าน ตา่ งๆ การสงั เกตการรว่ ม แบบประเมินคุณลักษณะอัน 60% ขึน้ ไป ผ่าน ดา้ นทกั ษะกระบวนการ (P) กจิ กรรมในชน้ั เรียน พึงประสงค์ การพูดถาม-ตอบกฬี าที่ชอบ ดา้ นคณุ ลกั ษณะ อันพงึ ประสงค์ (A) มีวินัย ใฝ่เรียนรู้และมุ่งมั่น ในการทำงาน 9. ส่ือ/แหลง่ เรียนรู้ 9.1 สือ่ การเรียนรู้ 9.1.1 Student’s Book 5 9.1.2 Workbook 5 9.1.3 ตารางเรียน 9.1.4 บตั รภาพกีฬาประเภทต่างๆ 9.1.5 บตั รคำกีฬาประเภทตา่ งๆ 9.1.6 แถบประโยคคำถาม-คำตอบ 9.1.7 กระดาษเขียนคำศัพท์ 9.1.8 สมุดบันทกึ คำศัพท์
9.2 แหลง่ เรยี นรู้ หอ้ งสมดุ ความคดิ เหน็ /ข้อเสนอแนะของผู้ท่ไี ด้รับมอบหมาย (ตรวจสอบ/นิเทศ/รบั รอง) ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ลงชอื่ ………………………………………………..…… (...............................................) หัวหน้ากลุ่มสาระการเรียนรภู้ าษาตา่ งประเทศ วันท่ี…….....เดือน…………........….พ.ศ. …...........
ความเห็นของหวั หน้าสถานศกึ ษาหรือผูท้ ีไ่ ด้รบั มอบหมาย ความเหน็ ของหวั หนา้ กล่มุ บรหิ ารวชิ าการ ความเหน็ ของผู้บริหาร/ผู้ทไ่ี ด้รับมอบหมาย ได้ทำการตรวจแผนการจดั การเรยี นรแู้ ลว้ มคี วามคิดเหน็ ดงั นี้ ได้ทำการตรวจแผนการจดั การเรยี นรู้แลว้ มีความคิดเหน็ ดังน้ี 1. เป็นแผนการจัดการเรียนรทู้ ่ี 1. เป็นแผนการจดั การเรียนรทู้ ี่ ดมี าก ดมี าก ดี ดี พอใช้ พอใช้ ควรปรับปรงุ ควรปรบั ปรงุ 2. การจัดกิจกรรมไดน้ ำเอากระบวนการเรียนรู้ 2. การจดั กิจกรรมได้นำเอากระบวนการเรยี นรู้ เนน้ ผู้เรียนเป็นสำคัญมาใช้ในการสอนได้อยา่ ง เนน้ ผ้เู รียนเปน็ สำคญั มาใชใ้ นการสอนได้อย่าง เหมาะสม เหมาะสม ยังไมเ่ น้นผ้เู รยี นเปน็ สำคญั ควรปรบั ปรุงพัฒนาต่อไป ยงั ไม่เนน้ ผ้เู รยี นเปน็ สำคัญควรปรับปรงุ พฒั นาต่อไป 3. เปน็ แผนการจัดการเรียนรทู้ ี่ 3. เป็นแผนการจัดการเรยี นรูท้ ่ี นำไปใช้ได้จริง นำไปใชไ้ ดจ้ ริง ควรปรบั ปรุงก่อนนำไปใช้ ควรปรับปรุงกอ่ นนำไปใช้ 4. ข้อเสนอแนะอ่ืนๆ 4. ขอ้ เสนอแนะอน่ื ๆ ......................................................................................... .............................................................................. ......................................................................................... .............................................................................. ......................................................................................... .............................................................................. ......................................................................................... .............................................................................. (ลงช่ือ).......................................................... (ลงชื่อ).......................................................... (........................................) (................................................) หัวหนา้ กลุ่มบริหารวิชาการ รองผู้อำนวยการโรงเรยี นบา้ นหลงั เขา
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147
- 148
- 149
- 150
- 151
- 152
- 153
- 154
- 155
- 156
- 157
- 158
- 159
- 160
- 161
- 162
- 163
- 164
- 165
- 166
- 167
- 168
- 169
- 170
- 171
- 172
- 173
- 174
- 175
- 176
- 177
- 178
- 179
- 180
- 181
- 182
- 183
- 184
- 185
- 186
- 187
- 188
- 189
- 190
- 191
- 192
- 193
- 194
- 195
- 196
- 197
- 198
- 199
- 200
- 201
- 202
- 203
- 204
- 205
- 206
- 207
- 208
- 209
- 210
- 211
- 212
- 213
- 214
- 215
- 216
- 217
- 218
- 219
- 220
- 221
- 222
- 223
- 224
- 225
- 226
- 227
- 228
- 229
- 230
- 231
- 232
- 233
- 234
- 235
- 236
- 237
- 238
- 239
- 240
- 241
- 242
- 243
- 244
- 245
- 246
- 247
- 248
- 249
- 250
- 251
- 252
- 253
- 254
- 255
- 256
- 257
- 258
- 259
- 260
- 261
- 262
- 263
- 264
- 265
- 266
- 267
- 268
- 269
- 270
- 271
- 272
- 273
- 274
- 275
- 276
- 277
- 278
- 279
- 280
- 281
- 282
- 283
- 284
- 285
- 286
- 287
- 288
- 289
- 290
- 291
- 292
- 293
- 294
- 295
- 296
- 297
- 298
- 299
- 300
- 301
- 302
- 303
- 304
- 305
- 306
- 307
- 308
- 309
- 310
- 311
- 312
- 313
- 314
- 315
- 316
- 317
- 318
- 319
- 320
- 321
- 322
- 323
- 324
- 325
- 326
- 327
- 328
- 329
- 330
- 331
- 332
- 333
- 334
- 335
- 336
- 337
- 338
- 339
- 340
- 341
- 342
- 343
- 344
- 345
- 346
- 347
- 348
- 349
- 350
- 351
- 352
- 353
- 354
- 355
- 356
- 357
- 358
- 359
- 360
- 361
- 362
- 363
- 364
- 365
- 366
- 367
- 368
- 369
- 370
- 371
- 372
- 373
- 374
- 375
- 376
- 377
- 378
- 379
- 380
- 381
- 382
- 383
- 384
- 385
- 386
- 387
- 388
- 389
- 390
- 391
- 392
- 393
- 394
- 395
- 396
- 397
- 398
- 399
- 400
- 401
- 402
- 403
- 404
- 405
- 406
- 407
- 408
- 409
- 410
- 411
- 412
- 413
- 414
- 415
- 416
- 417
- 418
- 419
- 420
- 421
- 422
- 423
- 424
- 425
- 426
- 427
- 428