ในกรณคี ณะกรรมการสอบสวนมาตรฐานจริยธรรมเหน็ ว่า พยานหลักฐานใด ท่มี ีกฎหมายคุ้มครองใหไ้ มต่ อ้ งเปดิ เผยหรอื เหน็ วา่ ไมจ่ ำ� เปน็ ตอ้ งเปดิ เผยเพอื่ มใิ หเ้ กดิ ความเสยี หายแกก่ ารดำ� เนนิ งานของรฐั คณะกรรมการสอบสวนมาตรฐานจริยธรรมอาจไม่อนุญาตให้ผู้ถูกร้องเรียนตรวจดูพยานหลักฐานได้และคณะกรรมการสอบสวนมาตรฐานจรยิ ธรรมจะน�ำพยานหลกั ฐานดงั กล่าวมาใช้ในการพิจารณาสอบสวนไมไ่ ด้ ข้อ ๒๐ คู่กรณีมีสิทธิน�ำทนายความหรือท่ีปรึกษาของตนเข้ามาในการพิจารณาเร่ืองร้องเรียนด้านจริยธรรม ในกรณที ี่คกู่ รณีตอ้ งมาปรากฏตวั ต่อเจา้ หนา้ ท่ี การทที่ นายความหรอื ทปี่ รกึ ษาไดท้ ำ� ลงตอ่ หนา้ คกู่ รณถี อื วา่ เปน็ การกระทำ� ของคกู่ รณี เวน้ แตค่ กู่ รณีจะไดค้ ัดค้านเสียแต่ในขณะนนั้ ขอ้ ๒๑ คู่กรณีมีหนา้ ทใ่ี หค้ วามร่วมมอื กบั คณะกรรมการสอบสวนมาตรฐานจรยิ ธรรมในการพิสจู น์ข้อเท็จจรงิ และมหี นา้ ทีแ่ จ้งพยานหลกั ฐานท่ตี นทราบ สว่ นที่ ๓ คณะกรรมการสอบสวนมาตรฐานจรยิ ธรรมและวธิ ีการพจิ ารณา ข้อ ๒๒ ให้คณะกรรมการหรือเลขาธิการแล้วแต่กรณี แต่งต้ังคณะกรรมการสอบสวนมาตรฐานจริยธรรมประกอบดว้ ย ประธานกรรมการ ซ่งึ มหี รือเคยมีระดับหรือตำ� แหนง่ เทียบเทา่ หรือสงู กว่าผูถ้ กู รอ้ งเรยี นและกรรมการอกี ๔ คน โดยอย่างน้อยกรรมการคนหน่ึงตอ้ งเป็นผู้ท่ีมีความรแู้ ละประสบการณด์ า้ นกฎหมายปกครอง ข้อ ๒๓ กรรมการสอบสวนมาตรฐานจริยธรรม ดังต่อไปน้ีจะท�ำการพิจารณาเร่ืองร้องเรียนด้านจรยิ ธรรมไม่ได้ (๑) เปน็ ค่กู รณีเอง (๒) เป็นคู่หม้ันหรอื คูส่ มรสของคกู่ รณี (๓) เป็นญาติของคู่กรณี คือ เป็นบุพการีหรือผู้สืบสันดานไม่ว่าชั้นใดๆ หรือเป็นพ่ีน้องหรือลกู พีล่ ูกนอ้ งนับไดเ้ พยี งภายในสามชั้น หรอื เป็นญาตเิ ก่ยี วพันทางแต่งงานนับไดเ้ พียงสองช้นั (๔) เป็นหรือเคยเปน็ ผ้แู ทนโดยชอบธรรมหรอื ผพู้ ทิ ักษ์ ผแู้ ทนหรือตวั แทนของคู่กรณี (๕) เปน็ เจา้ หน้ีหรือลูกหน้ี หรือเปน็ นายจ้างของคู่กรณี (๖) กรณอี ่ืนท่ีกำ� หนดตามกฎกระทรวงทีอ่ อกตามกฎหมายวา่ ดว้ ยวิธปี ฏิบตั ริ าชการทางปกครอง ข้อ ๒๔ การย่ืนค�ำคัดค้าน การพิจารณาค�ำคัดค้าน และสภาพร้ายแรงอันอาจท�ำให้การพิจารณาเรอื่ งรอ้ งเรยี นดา้ นจริยธรรมไมเ่ ปน็ กลาง ใหเ้ ป็นไปตามมาตรา ๑๔ มาตรา ๑๕ และมาตรา ๑๖ แหง่ กฎหมายว่าดว้ ยวิธปี ฏบิ ตั ิราชการทางปกครองและกฎกระทรวงท่ีออกตามกฎหมายดังกลา่ ว ขอ้ ๒๕ เมอื่ ประธานกรรมการสอบสวนมาตรฐานจริยธรรม ไดร้ บั เรื่องร้องเรียนเกี่ยวกับมาตรฐานจรยิ ธรรมแลว้ ใหป้ ระธานกรรมการสอบสวนมาตรฐานจรยิ ธรรมนดั ประชมุ คณะกรรมการสอบสวนมาตรฐานจรยิ ธรรมโดยมิชักชา้ เพ่อื ก�ำหนดประเดน็ เรื่องรอ้ งเรยี นและแนวทางในการแสวงหาข้อเทจ็ จรงิ เพอ่ื สนบั สนนุ ประเดน็ ดังกล่าว ให้คณะกรรมการสอบสวนมาตรฐานจริยธรรม พิจารณาเร่ืองร้องเรียนตามวรรคหนึ่งให้แล้วเสร็จภายในหกสบิ วนั นบั แตว่ นั ทไ่ี ดร้ บั เรอ่ื งรอ้ งเรยี น หากพจิ ารณาไมแ่ ลว้ เสรจ็ ภายในเวลาทก่ี ำ� หนดใหร้ ายงานปญั หาและอุปสรรคให้ผมู้ อี �ำนาจแตง่ ตงั้ ทราบและอาจขอขยายเวลาสอบสวนไดเ้ ท่าที่จำ� เปน็136
ข้อ ๒๖ คณะกรรมการสอบสวนมาตรฐานจริยธรรม อาจตรวจสอบข้อเท็จจริงเรื่องร้องเรียนได้ตามความเหมาะสม โดยไมต่ ้องผูกพนั กบั คำ� ร้องเรียน ค�ำช้ีแจงหรอื พยานหลกั ฐานของคกู่ รณี ขอ้ ๒๗ คณะกรรมการสอบสวนมาตรฐานจรยิ ธรรมตอ้ งพจิ ารณาพยานหลกั ฐานทต่ี นเหน็ วา่ จำ� เปน็แกก่ ารพิสูจน์ขอ้ เทจ็ จริง ในการน้ใี ห้รวมถึงการดำ� เนนิ การ ดงั ต่อไปนี้ (๑) แสวงหาพยานหลักฐานทุกอย่างท่ีเก่ียวข้อง รับฟังพยานหลักฐาน ค�ำชี้แจงหรือความเห็นของคู่กรณี หรือของพยานบุคคลหรอื พยานผูเ้ ชี่ยวชาญที่คู่กรณกี ล่าวอ้าง เวน้ แต่เห็นว่าเป็นการกลา่ วอา้ งที่ไมจ่ �ำเป็นฟุ่มเฟอื ยหรอื เพ่อื ประวงิ เวลา (๒) ขอข้อเทจ็ จริงหรือความเห็นจากคกู่ รณี พยานบุคคล หรอื พยานผ้เู ชยี่ วชาญ (๓) ขอให้ผู้ครอบครองเอกสารสง่ เอกสารที่เกีย่ วข้อง (๔) ออกไปตรวจสถานท่ี ข้อ ๒๘ เมื่อคณะกรรมการสอบสวนมาตรฐานจริยธรรมเห็นว่า พยานหลักฐานท่ีเก่ียวข้องเพยี งพอแลว้ ใหส้ รปุ ก�ำหนดประเดน็ ความผดิ มาตรฐานจรยิ ธรรมของผถู้ กู รอ้ งเรยี น พรอ้ มพยานหลกั ฐานทเ่ี กยี่ วขอ้ งแล้วส่งให้ผู้ถูกร้องเรียนได้โต้แย้งหรือชี้แจงเพื่อป้องกันสิทธิของตน โดยให้โอกาสผู้ถูกร้องเรียนท�ำหนังสือช้ีแจงภายในสามสิบวันนบั แต่วนั ทไ่ี ดร้ ับแจง้ เพื่อความเป็นธรรมในการพิจารณาเร่ืองร้องเรียนมาตรฐานจริยธรรม คณะกรรมการสอบสวนมาตรฐานจรยิ ธรรมอาจเชิญผูร้ อ้ งเรยี นมาให้ถ้อยค�ำกอ่ น และเชญิ ผถู้ ูกร้องเรยี นมาให้ถอ้ ยคำ� ภายหลังเพ่ือโตแ้ ยง้ และแสดงพยานหลักฐานของตนได้ หากผถู้ กู รอ้ งเรยี นไมโ่ ตแ้ ยง้ หรอื ชแ้ี จงภายในเวลาตามวรรคหนงึ่ ใหค้ ณะกรรมการสอบสวนมาตรฐานจรยิ ธรรมดำ� เนนิ การสอบสวนตอ่ ไปตามพยานหลกั ฐานที่มอี ยู่ ข้อ ๒๙ เม่อื คณะกรรมการสอบสวนมาตรฐานจรยิ ธรรมได้ด�ำเนินการสอบสวนส้ินสุดแล้ว ใหส้ รปุส�ำนวนการสอบสวนเสนอตอ่ ผูม้ อี ำ� นาจแต่งตงั้ โดยอย่างนอ้ ยตอ้ งมีสาระสำ� คญั ดังนี้ (๑) วัน เดือน ปี ท่ีคณะกรรมการสอบสวนมาตรฐานจริยธรรมพิจารณาสรุปส�ำนวนสอบสวนและความเห็น (๒) วันที่ .. เดือน ..... พ.ศ. ... (๓) ชอื่ ทอ่ี ยู่ ผู้ถูกรอ้ งเรียน (๔) ข้อเท็จจริงประกอบด้วย พฤติกรรมโดยย่อของผู้ถูกร้องเรียนที่ปรากฏในค�ำร้องเรียนและพฤตกิ รรมตลอดจนพยานหลักฐานทีค่ ณะกรรมการสอบสวนมาตรฐานจริยธรรมไดม้ าเพ่มิ เตมิ (๕) ขอ้ กฎหมายที่อ้างอิง (๖) ความเห็นของคณะกรรมการสอบสวนมาตรฐานจริยธรรมพร้อมท้ังข้อพิจารณาและขอ้ สนบั สนนุ ในการใช้ดลุ พินจิ วา่ ผถู้ กู รอ้ งเรียนประพฤตผิ ดิ มาตรฐานจริยธรรม ข้อใด หรือไม่ (ก) ถา้ เหน็ วา่ ผถู้ กู รอ้ งเรยี นไมป่ ระพฤตผิ ดิ มาตรฐานจรยิ ธรรม ใหเ้ สนอความเหน็ ใหย้ ตุ เิ รอ่ื ง (ข) ถ้าเห็นว่าผู้ถูกร้องเรียนประพฤติผิดมาตรฐานจริยธรรม ให้ระบุว่าประพฤติผิด ข้อใดพร้อมท้งั เสนอการลงโทษตามระเบยี บน้ี ความเหน็ ของคณะกรรมการสอบสวนมาตรฐานจรยิ ธรรมทจี่ ะเสนอตอ่ คณะกรรมการหรอื เลขาธกิ ารให้ถือความเห็นของคณะกรรมการสอบสวนมาตรฐานจริยธรรมฝ่ายข้างมาก ในกรณีท่ีกรรมการสอบสวนมาตรฐานจริยธรรมผใู้ ดมีความเห็นแตกตา่ งและตอ้ งการใหบ้ นั ทึกความเห็นท่ีแตกต่างไวก้ ็ใหก้ ระท�ำได้ 137
ส่วนที่ ๔ การแต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนมาตรฐานจรยิ ธรรมและการลงโทษ ขอ้ ๓๐ กรณที ป่ี ระธานกรรมการหลกั ประกนั สขุ ภาพแหง่ ชาตหิ รอื ประธานกรรมการควบคมุ คณุ ภาพและบริการสาธารณสุข ถูกร้องเรียนหรือมีหลักฐานปรากฏว่าอาจมีการประพฤติหรือฝ่าฝืนมาตรฐานจริยธรรมตามระเบยี บนี้ ใหก้ รรมการหลกั ประกนั สขุ ภาพหรอื กรรมการควบคมุ คณุ ภาพและมาตรฐานบรกิ ารสาธารณสขุ อน่ื ทเ่ี หลอืในท่ปี ระชมุ แล้วแตก่ รณี เลือกกรรมการคนหนง่ึ เป็นประธานท่ปี ระชุม และพิจารณาเรอ่ื งดงั กล่าว หากเห็นสมควรให้คณะกรรมการมีมตแิ ตง่ ตัง้ คณะอนุกรรมการดงั กล่าวเพ่อื ทำ� หน้าท่ตี รวจสอบขอ้ เท็จจริงจากบุคคลภายนอก โดยให้ประธานท่ีประชุมลงนามแต่งต้ังคณะอนุกรรมการดังกล่าวเพื่อท�ำหน้าที่ตรวสอบข้อเท็จจริงและน�ำเสนอผลการตรวจสอบต่อคณะกรรมการท่ีแต่งตั้ง เพื่อพิจารณาภายในส่ีสิบห้าวัน นับแต่วันที่ได้รับเร่ืองร้องเรียน ท้ังน้ี อาจขอขยายระยะเวลาตรวจสอบข้อเทจ็ จรงิ ได้ไมเ่ กิน ๒ คร้งั ครง้ั ละไมเ่ กินสามสิบวัน และถ้ายังด�ำเนนิ การไม่แลว้ เสร็จอีกใหร้ ายงานต่อทป่ี ระชมุ คณะกรรมการท่ีแตง่ ตง้ั พจิ ารณา และหากผลการตรวจสอบข้อเทจ็ จริงปรากฏวา่ (๑) ประธานกรรมการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ หรือประธานควบคุมคุณภาพและมาตรฐานบรกิ ารสาธารณสุข ไม่ได้ประพฤตผิ ิดมาตรฐานจริยธรรม ใหย้ ตุ ิเรอ่ื ง (๒) กรณีอาจเป็นการประพฤติผิดมาตรฐานจริยธรรม ให้ส่งเร่ืองให้คณะกรรมการหลักประกันสขุ ภาพแหง่ ชาตหิ รอื คณะกรรมการควบคมุ คณุ ภาพและมาตรฐานบรกิ ารสาธารณสขุ แตง่ ตงั้ คณะกรรมการสอบสวนมาตรฐานจรยิ ธรรมจากบคุ คลภายนอก ดำ� เนนิ การและรายงานผลการสอบสวนใหผ้ แู้ ตง่ ตงั้ พจิ ารณาดำ� เนนิ การตอ่ ไป ขอ้ ๓๑ กรณที มี่ กี รรมการในคณะกรรมการหลกั ประกนั สขุ ภาพแหง่ ชาตหิ รอื คณะกรรมการควบคมุคุณภาพและมาตรฐานสาธารณสุข ถูกร้องเรียนหรือมีหลักฐานปรากฎว่าอาจมีการประพฤติหรือฝ่าฝืนมาตรฐานจริยธรรมตามระเบียบนี้ ให้คณะกรรมการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติหรือคณะกรรมการควบคุมคุณภาพและมาตรฐานสาธารณสขุ แลว้ แตก่ รณี พจิ ารณาแตง่ ตงั้ คณะกรรมการสอบนสวนมาตรฐานจรยิ ธรรมตามระเบยี บนี้ ดำ� เนนิการและเสนอรายงานผลการสอบสวนต่อคณะกรรมการท่แี ต่งต้ัง ให้คณะกรรมการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติหรือคณะกรรมการควบคุมคุณภาพและมาตรฐานบริการสาธารณสุข พิจารณาวินิจฉัยผลการสอบสวนภายในหกสิบวันนับแต่วันท่ีได้รับเรื่อง หากผลการพิจารณาปรากฏว่า (๑) ผ้ถู ูกสอบสวนไมไ่ ด้กระท�ำผิด ใหย้ ตุ เิ รื่อง (๒) ในกรณที ่เี ป็นการกระท�ำผิดโดยไมเ่ จตนา ให้ดำ� เนินการตักเตือน (๓) กรณีที่มีการประพฤติ ปฏิบัติถึงขนาดเป็นการบกพร่องต่อหน้าที่ มีความประพฤติเส่ือมเสียหรือหยอ่ นความสามารถ ใหเ้ สนอคณะรฐั มนตรเี พ่ือพิจารณาตามมาตรา ๑๖ (๖) หรอื มาตรา ๔๙ แหง่ กฎหมายวา่ดว้ ยหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ความเหน็ ของคณะกรรมการสอบสวนมาตรฐานจรยิ ธรรมทจ่ี ะเสนอตอ่ คณะกรรมการหรอื เลขาธกิ ารให้ถือความเห็นของคณะกรรมการสอบสวนมาตรฐานจริยธรรมฝ่ายข้างมาก ในกรณีที่กรรมการสอบสวนมาตรฐานจริยธรรมผู้ใดมีความเหน็ แตกตา่ งและตอ้ งการใหบ้ ันทึกความเห็นที่แตกตา่ งไว้ก็ให้กระทำ� ได้138
ขอ้ ๓๒ กรณที เี่ ลขาธกิ ารถกู รอ้ งเรยี นหรอื มหี ลกั ฐานปรากฏวา่ อาจมกี ารประพฤตปิ ฏบิ ตั ไิ มเ่ หมาะสมฝา่ ฝนื มาตรฐานจรยิ ธรรมตามระเบยี บนี้ ใหค้ ณะกรรมการหลกั ประกนั สขุ ภาพแหง่ ชาติ พจิ ารณาแตง่ ตง้ั คณะกรรมการสอบสวนมาตรฐานจริยธรรมตามระเบียบน้ี ด�ำเนินการและเสนอรายงานผลการสอบสวนต่อคณะกรรมการหลักประกนั สุขภาพแห่งชาติ ใหค้ ณะกรรมการหลกั ประกนั สขุ ภาพแหง่ ชาตพิ จิ ารณาวนิ จิ ฉยั ผลการสอบสวนภายในหกสบิ วนั นบัแต่วันที่ได้รับเร่อื ง หากผลการพิจารณาปรากฏวา่ (๑) เลขาธกิ ารไม่ได้กระท�ำผดิ ให้ยุตเิ รอ่ื ง (๒) ในกรณีท่ีเป็นการกระท�ำผดิ โดยไม่เจตนา ให้ดำ� เนินการตกั เตือน (๓) ในกรณที เี่ ปน็ การกระทำ� ผดิ โดยบกพรอ่ งตอ่ หน้าที่ หรอื ฝ่าฝนื มาตรฐานจรยิ ธรรมตามระเบยี บน้ีให้พจิ ารณาด�ำเนนิ การตามสัญญาจา้ งตามความเหมาะสม ใหป้ ระธานกรรมการแจง้ ผรู้ อ้ งเรยี น และเลขาธกิ ารทราบภายในสบิ หา้ วนั นบั แตว่ นั ทมี่ ผี ลการสอบสวน ความเหน็ ของคณะกรรมการสอบสวนมาตรฐานจรยิ ธรรมทจี่ ะเสนอตอ่ คณะกรรมการหรอื เลขาธกิ ารให้ถือความเห็นของคณะกรรมการสอบสวนมาตรฐานจริยธรรมฝ่ายข้างมาก ในกรณีที่กรรมการสอบสวนมาตรฐานจริยธรรมผูใ้ ดมีความเห็นแตกตา่ งและตอ้ งการให้บนั ทกึ ความเห็นทแี่ ตกต่างไวก้ ใ็ ห้กระท�ำได้ ข้อ ๓๓ กรณีกรรมการอื่นที่มิใช่กรรมการในคณะกรรมการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติหรือคณะกรรมการควบคุมคุณภาพและมาตรฐานบริการสาธารณสุข ถูกร้องเรียนหรือมีหลักฐานปรากฏว่าอาจมีการประพฤติหรือปฏิบัติตนไม่เหมาะสม หรือฝ่าฝืนมาตรฐานจริยธรรมตามระเบียบน้ี ให้ผู้ท่ีแต่งตั้งคณะกรรมการหรือคณะอนุกรรมการหรือคณะท�ำงานน้ันๆ พิจารณาแต่งต้ังคณะกรรมการสอบสวนมาตรฐานจริยธรรมตามระเบียบนี้ดำ� เนนิ การและเสนอรายงานผลการสอบสวนต่อผู้ที่แตง่ ตงั้ ให้ผู้ที่แต่งตั้งตามวรรคหน่ึงพิจารณาวินิจฉัยผลการสอบสวนภายในหกสิบวันนับแต่วันที่ได้รับเรื่องหากผลการพิจารณาปรากฏวา่ (๑) ผู้ถูกสอบสวนไมไ่ ด้กระท�ำผดิ ให้ยุติเร่อื ง (๒) ในกรณที เ่ี ปน็ การกระท�ำผดิ โดยไม่เจตนา ใหด้ ำ� เนินการตกั เตือน (๓) ในกรณีท่ีเป็นการกระท�ำผิดโดยเจตนา แต่มิได้เป็นการฝ่าฝืนมาตรฐานจริยธรรมตามระเบียบน้ีอย่างร้ายแรง ให้พิจารณาด�ำเนินการตามความเหมาะสม หากเป็นการประพฤติปฏิบัติที่ฝ่าฝืนมาตรฐานจริยธรรมตามระเบยี บนอี้ ยา่ งรา้ ยแรง ใหม้ คี ำ� สง่ั เพกิ ถอนความเปน็ กรรมการหรอื อนกุ รรมการหรอื คณะทำ� งานของผกู้ ระทำ� ผดิ นน้ั ความเหน็ ของคณะกรรมการสอบสวนมาตรฐานจรยิ ธรรมทจ่ี ะเสนอตอ่ คณะกรรมการหรอื เลขาธกิ ารให้ถือความเห็นของคณะกรรมการสอบสวนมาตรฐานจริยธรรมฝ่ายข้างมาก ในกรณีท่ีกรรมการสอบสวนมาตรฐานจริยธรรมผู้ใดมคี วามเหน็ แตกตา่ งและตอ้ งการให้บนั ทึกความเหน็ ทีแ่ ตกตา่ งไว้กใ็ ห้กระท�ำได้ ข้อ ๓๔ กรณีท่ีมีผู้บริหารหรือผู้ปฏิบัติงาน ถูกร้องเรียนหรือมีหลักฐานปรากฏว่าอาจประพฤติปฏิบัติไม่เหมาะสมฝ่าฝืนมาตรฐานจริยธรรมตามระเบียบนี้ ให้ด�ำเนินการตามข้อบังคับหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ว่าด้วยการบรหิ ารงานบุคคล พ.ศ. ๒๕๔๖ และทีแ่ ก้ไขเพ่ิมเติม 139
ข้อ ๓๕ ใหส้ �ำนกั งานแจง้ คำ� ส่ังของผู้มอี ำ� นาจพจิ ารณาวินจิ ฉยั ผลการสอบสวนตามข้อ ๓๐ ขอ้ ๓๑ขอ้ ๓๒ และข้อ ๓๓ แลว้ แต่กรณี ไปยังผ้รู อ้ งเรียน ผูถ้ กู สอบสวนหรือสอบขอ้ เทจ็ จรงิ พรอ้ มแจ้งสทิ ธอิ ทุ ธรณ์หรอื สิทธิฟ้องต่อศาลปกครองแลว้ แต่กรณี ภายในสิบห้าวนั นบั แตว่ ันทม่ี ีมติดงั กล่าว ข้อ ๓๖ คู่กรณีที่ไม่เห็นด้วยกับค�ำส่ังของผู้มีอ�ำนาจพิจารณาวินิจฉัยตามข้อ ๓๒ และข้อ ๓๓ใหอ้ ทุ ธรณต์ อ่ คณะกรรมการหลักประกนั สุขภาพแหง่ ชาติ ภายในสามสิบวัน นับแต่วันที่ตนไดร้ ับคำ� ส่ัง ขอ้ ๓๗ คกู่ รณไี มเ่ หน็ ดว้ ยกบั คำ� สง่ั ของผมู้ อี ำ� นาจพจิ ารณาวนิ จิ ฉยั ตามขอ้ ๓๐ ใหฟ้ อ้ งตอ่ ศาลปกครองภายในเกา้ สบิ วนั นบั แต่วันทตี่ นไดร้ ับคำ� สั่ง ประกาศ ณ วันที่ ๓ มีนาคม พ.ศ. ๒๕๕๙ ปยิ ะสกล สกลสัตยาทร รฐั มนตรวี า่ การกระทรวงสาธารณสุข ประธานกรรมการหลักประกนั สขุ ภาพแห่งชาติ140
ประกาศคณะกรรมการหลักประกนั สขุ ภาพแห่งชาติ เร่อื ง การแต่งตั้งคณะอนุกรรมการหลักประกันสุขภาพแหง่ ชาตริ ะดบั เขตพื้นท่ี พ.ศ. ๒๕๕๘ โดยที่เป็นการสมควรปรับปรุงองค์ประกอบการแต่งต้ังคณะอนุกรรมการหลักประกันสุขภาพระดบั เขตพน้ื ท่ี เพอ่ื ใหก้ ารปฏบิ ตั ภิ ารกจิ ตามทคี่ ณะกรรมการหลกั ประกนั สขุ ภาพแหง่ ชาตมิ อบหมาย ใหม้ ปี ระสทิ ธภิ าพมากยิ่งข้ึน อาศยั อำ� นาจตามความในมาตรา ๒๐ และมาตรา ๒๖ (๑๔) แหง่ พระราชบญั ญตั หิ ลกั ประกนั สขุ ภาพแห่งชาติ พ.ศ. ๒๕๔๕ ประกอบกับมติการประชุมคณะกรรมการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ครั้งท่ี ๓/๒๕๕๘เม่ือวันท่ี ๒ มีนาคม ๒๕๕๘ จงึ ออกประกาศไว้ ดงั ต่อไปน้ี ขอ้ ๑ ให้ยกเลิกประกาศคณะกรรมการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ เรื่องการก�ำหนดหลักเกณฑ์วิธีการคดั เลอื ก และการแต่งตั้งคณะอนุกรรมการหลกั ประกันสุขภาพแหง่ ชาตริ ะดับเขตพ้นื ที่ พ.ศ. ๒๕๕๗ ขอ้ ๒ ในประกาศนี้ “ส�ำนกั งาน” หมายความว่า สำ� นกั งานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ “สำ� นกั งานเขตพ้นื ท”่ี หมายความว่า ส�ำนกั งานหลักประกันสขุ ภาพแหง่ ชาตสิ าขาเขตพืน้ ท่ี “องค์กรผู้บริโภค” หมายความว่า องค์กรเอกชนทั้งท่ีเป็นนิติบุคคลและไม่ได้เป็นนิติบุคคล เช่นชมรม กลมุ่ สมาคม มูลนธิ ิ หรือหน่วยงานทเี่ รยี กชอื่ อยา่ งอ่นื ซึ่งมวี ตั ถุประสงคท์ ีม่ ิใช่เปน็ การแสวงหาผลก�ำไร และได้ด�ำเนนิ กิจกรรมคมุ้ ครองผู้บรโิ ภคดา้ นสาธารณสุขอยใู่ นเขตพ้นื ที่หรอื ในจังหวัดแลว้ แต่กรณี และมผี ลการด�ำเนินงานอย่างเปน็ รูปธรรมชดั เจน “ผทู้ รงคณุ วฒุ ”ิ หมายความวา่ ผมู้ คี วามรคู้ วามสามารถดา้ นตา่ งๆ เชน่ ดา้ นการแพทยแ์ ละสาธารณสขุด้านกฎหมาย ดา้ นการเงินการคลัง ด้านบรหิ าร ดา้ นส่ือสารมวลชน ด้านปราชญ์ชาวบ้าน หรอื ด้านอน่ื ๆ “คณะกรรมการ” หมายความว่า คณะกรรมการหลักประกนั สุขภาพแหง่ ชาติ ขอ้ ๓ ให้มีคณะอนุกรรมการหลักประกันสุขภาพระดับเขตพ้ืนท่ีในทุกเขตพ้ืนท่ี ยกเว้นเขตพื้นท่ีกรงุ เทพมหานคร ประกอบดว้ ยบุคคลในเขตพ้นื ทีด่ ังน้ี (๑) ผตู้ รวจราชการกระทรวงสาธารณสขุ ในเขตรบั ผดิ ชอบ ทป่ี รึกษา (๒) ผอู้ ำ� นวยการหน่วยบรกิ ารสังกัดมหาวิทยาลยั ในเขตพืน้ ที่ (ถา้ ม)ี ทป่ี รกึ ษา (๓) ผู้อำ� นวยการส�ำนักงานหลักประกนั สขุ ภาพแหง่ ชาติสาขาเขตพืน้ ที่ รองประธาน (๔) นายแพทย์สาธารณสุขจังหวดั ในเขตพนื้ ท ่ี อนกุ รรมการ (๕) นายกองค์การบรหิ ารส่วนจังหวดั หรือนายกเทศมนตรีหรือ อนุกรรมการ นายกองค์การบริหารสว่ นตำ� บล ในเขตพื้นที่จงั หวดั ละ ๑ คน 141
(๖) ผอู้ ำ� นวยการโรงพยาบาลศนู ย์ หรือโรงพยาบาลทว่ั ไปในเขตพนื้ ที่ อนุกรรมการ จ�ำนวน ๑ คน (๗) ผู้อ�ำนวยการโรงพยาบาลชมุ ชนในเขตพ้ืนท่ี จ�ำนวน ๑ คน อนุกรรมการ (๘) ผู้อำ� นวยการโรงพยาบาลส่งเสรมิ สขุ ภาพตำ� บลในเขตพ้นื ท ี่ อนกุ รรมการ จำ� นวน ๑ คน (๙) ผู้อำ� นวยการหนว่ ยบริการของรฐั นอกสงั กัดกระทรวงสาธารณสุข อนกุ รรมการ ในเขตพนื้ ท่ี (ถ้ามี) จ�ำนวน ๑ คน (๑๐) ผบู้ ริหารสถานบรกิ ารภาคเอกชนท่ขี น้ึ ทะเบยี นเป็นหน่วยบริการ อนกุ รรมการ ในเขตพนื้ ที่ (ถา้ ม)ี จ�ำนวน ๑ คน (๑๑) ผแู้ ทนหน่วยรับเรอื่ งร้องเรยี นอสิ ระตามมาตรา ๕๐ (๕) อนกุ รรมการ แหง่ พระราชบญั ญัติหลักประกันสุขภาพแหง่ ชาติ พ.ศ. ๒๕๔๕ หรอื ศูนยป์ ระสานงานภาคประชาชนหรือองค์กรเอกชนดา้ นสาธารณสขุ หรือคมุ้ ครองผบู้ ริโภคในเขตพ้นื ท่ี จังหวดั ละ ๑ คน (๑๒) อาสาสมคั รสาธารณสุขประจำ� หมู่บา้ นในเขตพนื้ ที่ จ�ำนวน ๒ คน อนกุ รรมการ (๑๓) ผู้ทรงคุณวฒุ ิ จ�ำนวน ๕ คน อนกุ รรมการ (๑๔) รองผอู้ ำ� นวยการหรือผูช้ ่วยผ้อู ำ� นวยการหรือเจา้ หน้าที่ อนกุ รรมการและ ซึ่งผอู้ ำ� นวยการส�ำนกั งานหลักประกนั สุขภาพแหง่ ชาติเขตพ้ืนท ี่ เลขานุการ มอบหมาย จำ� นวน ๑ คน กรณีท่ีอนุกรรมการตาม (๓) – (๑๑) ไม่อาจเข้าประชุมได้ อาจมอบหมายให้ผู้บริหารหรือเจ้าหน้าท่ีทเ่ี หมาะสมเข้าประชมุ ในฐานะอนุกรรมการแทนได้ ข้อ ๔ ให้ส�ำนักงานสาขาเขตพ้ืนท่ี ด�ำเนินการหรือประสานกับหน่วยงานหรือบุคคลท่ีเกี่ยวข้องเพ่ือใหไ้ ดม้ าซง่ึ อนุกรรมการตามขอ้ ๓ (๕) – (๑๓) ข้อ ๕ เม่ือได้คณะอนุกรรมการตามข้อ ๓ แล้วให้ส�ำนักงานออกค�ำส่ังแต่งต้ังคณะอนุกรรมการหลักประกันสุขภาพระดับเขตพ้ืนที่ แล้วให้ส�ำนักงานเขตพ้ืนที่จัดประชุมอนุกรรมการเพ่ือคัดเลือกอนุกรรมการตามขอ้ ๓ (๑๓) คนหนึ่งเป็นประธานอนุกรรมการ ข้อ ๖ คณะอนกุ รรมการหลักประกนั สขุ ภาพระดับเขตพนื้ ที่ มีอ�ำนาจหน้าท่ี ดังน้ี (๑) ก�ำหนดกรอบและแนวทางการบริหารงานหลักประกันสุขภาพในเขตพ้ืนท่ีให้สอดคล้องกับนโยบายและมตขิ องคณะกรรมการและสำ� นกั งาน (๒) ก�ำหนดแนวทางการบริหารกองทุนหลักประกันสุขภาพแห่งชาติในส่วนท่ีเก่ียวข้อง เช่นงบลงทนุ งบบรกิ ารผปู้ ว่ ยใน งบสง่ เสริมสขุ ภาพและป้องกนั โรค เป็นตน้ (๓) ก�ำหนดแนวทางการข้ึนทะเบียนเครือข่ายหน่วยบริการ ระบบการส่งต่อผู้ป่วยและแบ่งพ้ืนที่รวมทงั้ จดั สรรจำ� นวนผลู้ งทะเบยี นของแตล่ ะหนว่ ยบรกิ าร เพอื่ ใหป้ ระชาชนในเขตพนื้ ทไี่ ดร้ บั ความสะดวกและเขา้ ถงึการบริการสาธารณสขุ ไดม้ ากยง่ิ ขึ้น (๔) สนับสนุนและก�ำกับการด�ำเนินงานของส�ำนักงานสาขาเขตพ้ืนที่ ให้เป็นไปตามกรอบและแนวทางท่ีก�ำหนด142
(๕) แต่งตั้งคณะท�ำงานท่ีเกี่ยวกับงานหลักประกันสุขภาพในระดับอ�ำเภอหรือจังหวัดหรือเขตพื้นที่ได้ เท่าท่ีจำ� เป็น (๖) อ�ำนาจหนา้ ทีอ่ ื่นตามท่ีคณะกรรมการและสำ� นักงานมอบหมาย ข้อ ๗ ใหอ้ นกุ รรมการตามข้อ ๓ (๕) – (๑๓) มวี าระอยใู่ นต�ำแหนง่ คราวละ ๔ ปี และอาจไดร้ ับการแต่งตั้งใหม่อีกได้ แต่จะด�ำรงต�ำแหน่งเกินกว่าสองวาระติดต่อกันไม่ได้ โดยให้เร่ิมนับวาระตั้งแต่คณะอนุกรรมการได้รับการแตง่ ตัง้ ตามประกาศน้ี เมอื่ ครบกำ� หนดวาระตามวรรคหนง่ึ หากยงั มไิ ดม้ กี ารแตง่ ตง้ั อนกุ รรมการตามขอ้ ๓ ใหอ้ นกุ รรมการซง่ึ พน้ จากตำ� แหนง่ ตามวาระนน้ั อยใู่ นตำ� แหนง่ เพอื่ ปฏบิ ตั หิ นา้ ทต่ี อ่ ไป จนกวา่ อนกุ รรมการซง่ึ แตง่ ตง้ั ใหมเ่ ขา้ รบั หนา้ ท่ี ในกรณีท่อี นุกรรมการทม่ี าจากการแต่งต้ังตามขอ้ ๓ พน้ จากตำ� แหน่งกอ่ นครบวาระ ให้ดำ� เนินการแตง่ ตงั้ อนกุ รรมการแทนภายในสามสบิ วนั นบั แตว่ นั ทอ่ี นกุ รรมการพน้ จากตำ� แหนง่ และใหผ้ ทู้ ไี่ ดร้ บั การแตง่ ตงั้ ใหด้ ำ� รงต�ำแหน่งแทน อยู่ในต�ำแหน่งเท่ากับวาระที่เหลืออยู่ของผู้ซึ่งตนแทน เว้นแต่วาระของอนุกรรมการเหลืออยู่ไม่ถึงเกา้ สบิ วนั จะไมแ่ ตง่ ตง้ั อนกุ รรมการแทนกไ็ ด้ และในการนใ้ี หค้ ณะอนกุ รรมการประกอบดว้ ย อนกุ รรมการเทา่ ทเ่ี หลอื อยู่ ขอ้ ๘ นอกจากพน้ จากต�ำแหนง่ ตามวาระตามข้อ ๗ แล้ว ให้อนกุ รรมการพน้ จากต�ำแหน่งเมอ่ื (๑) ตาย (๒) ลาออก (๓) ย้ายไปด�ำรงต�ำแหน่งหรือไปประกอบวิชาชีพหรืออาชีพ ในเขตพื้นท่ีอื่นหรือจังหวัดอ่ืนแลว้ แต่กรณี (๔) คณะกรรมการมีมติให้ออกเพราะบกพร่องต่อหน้าที่ มีความประพฤติเสื่อมเสียหรือหยอ่ นความสามารถ ข้อ ๙ ในระหว่างการแต่งตั้งคณะอนุกรรมการตามประกาศนี้ ให้คณะอนุกรรมการหลักประกันสุขภาพระดับเขตพื้นที่ตามประกาศคณะกรรมการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ เร่ืองหลักเกณฑ์และวิธีการแต่งต้ังคณะอนกุ รรมการหลกั ประกนั สขุ ภาพระดบั เขตพนื้ ที่ พ.ศ. ๒๕๕๗ อยใู่ นตำ� แหนง่ หนา้ ทเ่ี พอื่ ปฏบิ ตั หิ นา้ ทต่ี อ่ ไป จนกวา่คณะอนุกรรมการตามประกาศนีจ้ ะเข้ารับหนา้ ที่ ขอ้ ๑๐ ประกาศน้ีใหใ้ ชบ้ งั คบั ต้ังแตว่ นั ที่ ๑ เมษายน ๒๕๕๘ เปน็ ต้นไป ประกาศ ณ วันที่ ๒๖ มนี าคม พ.ศ. ๒๕๕๘ ศาสตราจารย์รชั ตะ รชั ตะนาวนิ รฐั มนตรีวา่ การกระทรวงสาธาณสขุ ประธานกรรมการหลกั ประกันสุขภาพแหง่ ชาติ 143
ระเบยี บคณะกรรมการหลกั ประกันสุขภาพแหง่ ชาติ วา่ ด้วยการตรวจสอบ พ.ศ. ๒๕๕๔ โดยท่ีเป็นการสมควรก�ำหนดระเบียบว่าด้วยการตรวจสอบของคณะอนุกรรมการตรวจสอบและการรายงานผลการตรวจสอบของส�ำนักงานตรวจสอบ อาศัยอ�ำนาจตามความในมาตรา ๑๘ มาตรา ๑๙ มาตรา ๒๑ มาตรา ๒๕ วรรคสาม และมาตรา๓๗ แห่งพระราชบัญญตั ิหลักประกนั สุขภาพแห่งชาติ พ.ศ. ๒๕๔๕ คณะกรรมการหลกั ประกนั สขุ ภาพแหง่ ชาติจงึ ได้มีมติในการประชุมคร้ังที่ ๕ (๑๓/๒๕๔๖) เม่ือวันที่ ๑ กันยายน ๒๕๔๖ และคร้ังท่ี ๑๑/๒๕๕๒ เม่ือวันท่ี๑๘ พฤศจกิ ายน ๒๕๕๒ ให้ออกระเบยี บไว้ดงั ตอ่ ไปนี้ ข้อ ๑ ระเบยี บนเ้ี รยี กวา่ “ระเบยี บคณะกรรมการหลกั ประกนั สขุ ภาพแหง่ ชาติ วา่ ดว้ ยการตรวจสอบพ.ศ. ๒๕๕๔” ข้อ ๒ ระเบยี บน้ใี ห้ใชบ้ ังคับ ต้ังแตว่ ันท่ี ๑๘ พฤศจิกายน ๒๕๕๒ เปน็ ต้นไป ข้อ ๓ ให้ยกเลกิ ระเบียบสำ� นักงานหลกั ประกนั สขุ ภาพแหง่ ชาติ วา่ ด้วยการตรวจสอบ พ.ศ. ๒๕๔๖ ขอ้ ๔ ในระเบยี บนี้ “สอบทาน” หมายความวา่ การทบทวนหรอื ตรวจสอบทานการปฏบิ ตั งิ าน วธิ กี าร เงอ่ื นไข เหตกุ ารณ์หรอื รายการต่างๆ “ความเห็นท่ีเป็นอิสระ” หมายความว่า การแสดงความเห็นหรือรายงานได้อย่างเสรีตามภารกิจท่ีได้รับมอบหมาย โดยไม่มีส่วนได้เสียทั้งทางตรงและทางอ้อมในเรื่องนั้นๆ และไม่ต้องค�ำนึงถึงผลประโยชน์ใดๆท่ีเกี่ยวกับทรัพย์สินหรือต�ำแหน่งหน้าท่ี และไม่ตกอยู่ภายใต้อิทธิพลของบุคคล หรือกลุ่มบุคคลใด รวมถึงไม่มีสถานการณใ์ ดๆ ท่ีจะมาบีบบังคับให้ไม่สามารถแสดงความเห็นได้ตามที่พงึ จะเป็น “เลขาธิการ” หมายความวา่ เลขาธิการสำ� นักงานหลกั ประกันสขุ ภาพแหง่ ชาติ “คณะอนุกรรมการตรวจสอบ” หมายความว่า คณะอนุกรรมการตรวจสอบตามมาตรา ๒๑แห่งพระราชบัญญตั ิหลกั ประกันสขุ ภาพแห่งชาติ พ.ศ. ๒๕๔๕ “คณะกรรมการ” หมายความวา่ คณะกรรมการหลกั ประกันสุขภาพแห่งชาติ “ส�ำนักงาน” หมายความว่า ส�ำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ และให้หมายความรวมถึงหน่วยงานของรัฐหรือเอกชนทคี่ ณะกรรมการมอบหมายใหท้ �ำหนา้ ทส่ี �ำนกั งานสาขาดว้ ย ข้อ ๕ ให้คณะอนุกรรมการตรวจสอบ มอี ำ� นาจหน้าทีด่ ังตอ่ ไปน้ี (๑) ตรวจสอบการบริหารเงิน และงบการเงินของส�ำนักงาน (๒) ตรวจสอบการดำ� เนินงานของส�ำนกั งาน (๓) อ�ำนาจหน้าท่อี ่ืนตามท่คี ณะกรรมการมอบหมาย144
การตรวจสอบตาม (๑) และ (๒) มีวัตถุประสงค์เพ่ือให้การด�ำเนินงานของส�ำนักงานเป็นไปโดยถูกต้องตามนโยบาย ตามกฎหมายและระเบียบแบบแผนทีเ่ ก่ยี วข้อง มปี ระสิทธิผลและประสทิ ธิภาพ มคี วามโปร่งใสและมผี ูร้ บั ผดิ ชอบ กรณี การตรวจสอบหน่วยงานของรัฐหรอื เอกชนท่คี ณะกรรมการมอบหมายให้ท�ำหน้าทีส่ �ำนักงานสาขา ให้ตรวจสอบเฉพาะการบริหารเงินและการด�ำเนินงานตามพระราชบัญญัติหลักประกันสุขภาพแห่งชาติพ.ศ. ๒๕๔๕ ขอ้ ๖ ให้คณะอนกุ รรมการตรวจสอบมกี รอบหรอื แนวทางการปฏบิ ัตงิ านดังน้ี (๑) สอบทานความถกู ต้องและเช่ือถอื ไดข้ องรายงานทางการเงนิ ของสำ� นักงาน (๒) สอบทานให้ส�ำนักงานมีระบบควบคุมภายใน และการตรวจสอบภายในที่มีความเหมาะสมและมปี ระสิทธผิ ล ทง้ั นี้อาจปรกึ ษาหารอื กบั สำ� นกั งานการตรวจเงินแผ่นดนิ ดว้ ยก็ได้ (๓) สอบทานการปฏิบัติตามนโยบาย กฎ ระเบียบ ข้อบังคับ มติคณะรัฐมนตรี และมติคณะกรรมการทีเ่ กีย่ วขอ้ งกับส�ำนกั งาน โดยก�ำหนดเงื่อนไขและข้ันตอนอยา่ งยตุ ธิ รรมและโปร่งใส (๔) สอบทานหลักฐานหากมีข้อสงสัยเก่ียวกับการด�ำเนินการที่อาจมีผลกระทบต่อผลการด�ำเนินงานของส�ำนักงานอย่างมีนัยส�ำคัญ หรือความขัดแย้งทางผลประโยชน์ท่ีอาจมีผลกระทบต่อการด�ำเนินงานของสำ� นกั งาน (๕) ประสานงานกับส�ำนักงานการตรวจเงินแผ่นดินเก่ียวกับผลการตรวจสอบประจ�ำปีและอาจเสนอแนะให้สอบทานหรือตรวจสอบรายการใดที่เห็นว่าจ�ำเป็นและเป็นเร่ืองส�ำคัญพร้อมท้ังน�ำข้อเสนอแนะเกี่ยวกับระบบการควบคุมภายในท่ีส�ำคัญและจ�ำเป็นเสนอคณะกรรมการเพื่อพิจารณาส่ังการให้ส�ำนักงานพิจารณาปรับปรุงแก้ไข (๖) คณะอนุกรรมการตรวจสอบต้องประชุมร่วมกันอย่างน้อยเดือนละ ๑ ครั้ง ในกรณีจ�ำเป็นอาจเชญิ ผบู้ ริหารหรอื ผู้ท่ีเก่ยี วขอ้ งเขา้ ร่วมประชุมและให้ข้อมูลได้ (๗) คณะอนุกรรมการตรวจสอบอาจแสวงหาความเห็นที่เป็นอิสระจากที่ปรึกษาทางวิชาชีพอื่นใดเมื่อเห็นว่าจ�ำเป็นด้วยค่าใช้จ่ายของส�ำนักงาน ทั้งมีการด�ำเนินการว่าจ้างให้เป็นไปตามระเบียบ ข้อบังคับของสำ� นักงานและภายใต้แผนการเงนิ ท่ไี ดร้ บั อนุมัตจิ ากคณะกรรมการ ขอ้ ๗ ใหค้ ณะอนกุ รรมการตรวจสอบ จดั ทำ� รายงานการตรวจสอบเสนอคณะกรรมการทกุ ๆ ๓ เดอื นและส�ำเนาดงั กลา่ วให้สำ� นักงานการตรวจเงนิ แผน่ ดนิ ทราบดว้ ย รายงานการตรวจสอบตามวรรคหนึง่ อย่างน้อยตอ้ งมีข้อมูลดังต่อไปน้ี (๑) ความเห็นเกี่ยวกับกระบวนการจัดท�ำ และการเปิดเผยข้อมูลในรายงานทางการเงินของสำ� นกั งานถงึ ความถกู ต้องตรงกับความเปน็ จรงิ ครบถว้ น เพียงพอและเชื่อถอื ได้ และถกู ตอ้ งตามมาตรฐานการบัญชี (๒) ความเห็นเกย่ี วกับความเพียงพอของระบบการควบคมุ ภายในของส�ำนักงาน (๓) ความเห็นเกี่ยวกับการปฏิบัติตามกฎ ระเบียบ มติคณะรัฐมนตรี และมติหรือนโยบายทคี่ ณะกรรมการก�ำหนด ข้อ ๘ ให้คณะอนุกรรมการตรวจสอบรายงานคณะกรรมการทันทีในกรณีที่คณะอนุกรรมการตรวจสอบตรวจพบหรอื มขี อ้ สงสยั วา่ มรี ายการหรอื การกระทำ� ดงั ตอ่ ไปนี้ ซงึ่ อาจมผี ลกระทบอยา่ งมนี ยั สำ� คญั ตอ่ ฐานะทางการเงนิ และผลการดำ� เนินงานของส�ำนักงาน 145
(๑) รายการท่ีเกิดความขดั แยง้ ทางผลประโยชน์ (๒) การทจุ รติ หรือมสี ่งิ ผิดปกตหิ รอื มคี วามบกพรอ่ งทีส่ �ำคัญในรายการควบคุมภายใน (๓) การฝา่ ฝนื กฎ ระเบยี บ ขอ้ บงั คับ มติ นโยบายของคณะกรรมการ หรอื มติคณะรฐั มนตรี ข้อ ๙ ให้คณะอนุกรรมการตรวจสอบประเมินผลการปฏิบัติงานโดยการประเมินตนเองทุกปีและรายงานผลการประเมิน พร้อมท้ังปัญหาอุปสรรคในการปฏิบัติงานท่ีเป็นเหตุให้การปฏิบัติงานไม่บรรลุวัตถุประสงค์ใหค้ ณะกรรมการทราบ ข้อ ๑๐ ในกรณีท่ีส�ำนักงาน มีเจตนาหรือปล่อยปละละเลยในการปฏิบัติตามระเบียบน้ี หรือตามข้อเสนอของคณะอนุกรรมการตรวจสอบโดยไม่มีเหตุอันสมควร ให้คณะอนุกรรมการตรวจสอบเสนอข้อสังเกตและแสดงความเหน็ พรอ้ มทงั้ พฤตกิ รรมของสำ� นกั งาน รวมทงั้ เสนอแนะมาตรการควบคมุ และการแกไ้ ขตอ่ คณะกรรมการเพื่อใหค้ ณะกรรมการกำ� หนดมาตรการท่จี �ำเป็นให้สำ� นกั งานรบั ไปปฏบิ ตั ิ ข้อ ๑๑ ให้ส่วนงานต่างๆ รวมทั้งหน่วยงานของรัฐหรือเอกชน ท่ีคณะกรรมการมอบหมายให้ท�ำหนา้ ท่สี �ำนกั งานสาขา ของส�ำนักงาน ยกเว้นสำ� นักตรวจสอบ มีหนา้ ท่ีดังตอ่ ไปนี้ (๑) อำ� นวยความสะดวก และใหค้ วามรว่ มมอื แกค่ ณะอนกุ รรมการตรวจสอบ (๒) จดั ให้มีระบบการเก็บเอกสาร ในการปฏิบตั งิ านทีเ่ หมาะสม (๓) จัดเตรยี มรายละเอียดแผนงาน โครงการ ตลอดจนเอกสาร ทเ่ี กีย่ วขอ้ งในการปฏบิ ัติงานเพ่ือประโยชน์ในการตรวจสอบ (๔) จัดท�ำบัญชีและจัดเก็บเอกสารประกอบรายการบัญชี รวมท้ังจัดท�ำรายงานการเงินให้เรยี บร้อยเป็นปัจจบุ ันพร้อมทีจ่ ะให้คณะอนกุ รรมการตรวจสอบ ตรวจสอบได้ (๕) ชี้แจงและตอบข้อซักถามต่างๆ พร้อมท้ังหาข้อมูลเพ่ิมเติมให้แก่คณะอนุกรรมการตรวจสอบ (๖) ปฏิบัติตามข้อทักท้วง และข้อเสนอแนะของคณะอนุกรรมการตรวจสอบ ในเรื่องต่างๆทีเ่ ลขาธกิ ารสงั่ ใหป้ ฏิบัติ ข้อ ๑๒ ในกรณีที่ส่วนงานหน่ึงส่วนงานใด รวมทั้งหน่วยงานของรัฐหรือเอกชนท่ีคณะกรรมการมอบหมายให้ท�ำหน้าที่ส�ำนักงานสาขา ของส�ำนักงานมีเจตนา หรือปล่อยปละละเลยในการไม่ปฏิบัติตามข้อ ๑๑ใหส้ ำ� นักตรวจสอบรายงานเลขาธกิ ารเพ่อื พจิ ารณาสงั่ การใหป้ ฏิบัติ ขอ้ ๑๓ ใหป้ ระธานกรรมการหลกั ประกนั สขุ ภาพแหง่ ชาติ รกั ษาการตามระเบยี บน้ี และใหม้ อี ำ� นาจวนิ ิจฉยั ชข้ี าดปญั หาในการปฏบิ ัตติ ามระเบียบนี้ ประกาศ ณ วนั ท่ี ๑๘ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๕๕๔ จรุ ินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสขุ ประธานกรรมการหลกั ประกันสขุ ภาพ146
ประกาศกระทรวงสาธารณสขุ เรื่อง อัตราเบี้ยประชมุ และคา่ ใชจ้ ่ายในการเดนิ ทางของกรรมการ ในคณะกรรมการหลกั ประกันสขุ ภาพแหง่ ชาติ และกรรมการในคณะกรรมการควบคมุ คณุ ภาพและมาตรฐานบริการสาธารณสขุ อาศัยอ�ำนาจตามความในมาตรา ๔ มาตรา ๒๓ และมาตรา ๕๓ แหง่ พระราชบญั ญัตหิ ลกั ประกันสขุ ภาพแหง่ ชาติ พ.ศ. ๒๕๔๕ รัฐมนตรวี ่าการกระทรวงสาธารณสุข จึงออกประกาศไว้ ดังต่อไปนี้ ข้อ ๑ ให้ยกเลิก (๑) ประกาศกระทรวงสาธารณสขุ เรอ่ื ง อตั ราเบย้ี ประชมุ และคา่ ใชจ้ า่ ยในการเดนิ ทางของประธานกรรมการ กรรมการ หรอื อนกุ รรมการในคณะคณะกรรมการหลกั ประกนั สขุ ภาพแหง่ ชาตหิ รอื คณะกรรมการควบคมุคุณภาพและมาตรฐานบรกิ ารสาธารณสขุ ลงวันท่ี ๒๐ พศฤจิกายน พ.ศ. ๒๕๔๖ (๒) ประกาศกระทรวงสาธารณสขุ เรอ่ื ง อตั ราเบย้ี ประชมุ และคา่ ใชจ้ า่ ยในการเดนิ ทางของประธานกรรมการ กรรมการ หรอื อนกุ รรมการในคณะคณะกรรมการหลกั ประกนั สขุ ภาพแหง่ ชาตหิ รอื คณะกรรมการควบคมุคณุ ภาพและมาตรฐานบริการสาธารณสุข (ฉบบั ท่ี ๒) ลงวนั ที่ ๑ มิถนุ ายน พ.ศ. ๒๕๔๗ (๓) ประกาศกระทรวงสาธารณสขุ เรอื่ ง อตั ราเบย้ี ประชมุ และคา่ ใชจ้ า่ ยในการเดนิ ทางของประธานกรรมการ กรรมการ หรอื อนกุ รรมการในคณะคณะกรรมการหลกั ประกนั สขุ ภาพแหง่ ชาตหิ รอื คณะกรรมการควบคมุคุณภาพและมาตรฐานบริการสาธารณสขุ (ฉบับท่ี ๓) ลงวันท่ี ๒๔ สงิ หาคม พ.ศ. ๒๕๔๘ ขอ้ ๒ ในประกาศนี้ “ประธานกรรมการ” หมายความว่า ประธานกรรมการในคณะกรรมการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ หรอื คณะกรรมการควบคมุ คณุ ภาพและมาตรฐานบรกิ ารสาธารณสุข “กรรมการ” หมายความวา่ กรรมการในคณะกรรมการหลกั ประกนั สขุ ภาพแหง่ ชาติ หรอื กรรมการในคณะกรรมการควบคมุ คุณภาพและมาตรฐานบริการสาธารณสขุ “การเดินทาง” หมายความว่า การเดินทางไปปฏิบัติงาน ประชุม สัมมนา หรือฝึกอบรมในราชอาณาจักร ท้ังนี้ตามที่สำ� นักงานหลักประกนั สขุ ภาพแห่งชาตเิ ปน็ ผูด้ �ำเนินการหรือเป็นผปู้ ระสานงาน ข้อ ๓ คา่ เบ้ียประชมุ (๑) ให้ประธานกรรมการและกรรมการ ในคณะกรรมการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติได้รับเบี้ยประชุมเป็นรายเดือน ทั้งนี้เฉพาะเดือนท่ีมีการประชุมและประธานกรรมการหรือกรรมการนั้นได้เข้าประชุมตามอัตรา ดงั นี้ (ก) ประธานกรรมการ ให้ได้รับเบยี้ ประชุมเดอื นละ ๑๕,๐๐๐ บาท (ข) กรรมการ ใหไ้ ดร้ ับเบยี้ ประชมุ เดือนละ ๑๒,๐๐๐ บาท 147
(๒) ให้ประธานกรรมการและกรรมการ ในคณะกรรมการควบคุมคุณภาพและมาตรฐานบริการสาธารณสุข ได้รบั เบย้ี ประชุมเปน็ รายเดอื น ทงั้ น้เี ฉพาะเดือนทีม่ กี ารประชุมและประธานกรรมการหรือกรรมการนน้ัไดเ้ ข้าประชุม ตามอัตราดงั น้ี (ก) ประธานกรรมการ ใหไ้ ด้รับเบีย้ ประชุมเดือนละ ๑๒,๕๐๐ บาท (ข) กรรมการ ใหไ้ ด้รบั เบ้ียประชุมเดือนละ ๑๐,๐๐๐ บาท ข้อ ๔ ค่าใช้จ่ายในการเดนิ ทาง (๑) ค่าเบี้ยเลี้ยง ให้ประธานกรรมการและกรรมการเบิกได้ในอัตราเหมาจ่าย โดยนับวันตามวันปฏิทนิ ไม่เกนิ วนั ละ ๕๐๐ บาท ท้ังน้ี กรณเี ดินทางไปประชมุ ซ่ึงมีสทิ ธิได้รบั เบย้ี ประชมุ ให้งดเบกิ ค่าเบ้ียเล้ยี ง (๒) ค่าทพ่ี ัก ใหเ้ บิกได้ตามหลกั เกณฑ์ ดงั นี้ (ก) ประธานกรรมการ ให้เบิกได้เท่าที่จ่ายจริงและโดยประหยัด ตามความจ�ำเป็นและเหมาะสม แต่ไม่เกินคืนละ ๒,๔๐๐ บาท (ข) กรรมการ ให้เบิกได้เท่าท่ีจ่ายจริงและโดยประหยัด ตามความจ�ำเป็นและความเหมาะสม แตไ่ ม่เกินคืนละ ๒,๒๐๐ บาท (๓) คา่ พาหนะ รวมถงึ ค่าเช่ายานพาหนะ ให้เบิกได้ตามหลกั เกณฑ์ ดังนี้ (ก) การเดินทางโดยเคร่ืองบินของประธานกรรมการหรือกรรมการ ให้เบิกได้เท่าท่ีจ่ายจริงและโดยประหยัด (ข) การเดนิ ทางโดยรถไฟ ให้เบกิ ได้ประเภทรถนั่งนอนปรับอากาศช้ันหนงึ่ (ค) การเดนิ ทางโดยพาหนะประจำ� ทาง รถรบั จา้ งหรอื ยานพาหนะประจำ� ทางอน่ื ๆ ใหเ้ บกิ ได้เท่าท่จี า่ ยจริง และโดยประหยัด (ง) การเดินทางโดยรถส่วนตัว ให้เบิกจ่ายเป็นเงินชดเชยค่าเช้ือเพลิง ในอัตรากิโลเมตรละ๓ บาท หรือตามอัตราทกี่ ระทรวงการคลังกำ� หนด ข้อ ๕ ให้ส�ำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ด�ำเนินการเบิกจ่ายค่าเบี้ยประชุมและค่าใช้จ่ายในการเดนิ ทางตามความเหมาะสมและประหยัด ท้ังน้ี โดยคำ� นงึ ถงึ งบทีไ่ ดร้ ับอนุมัตหิ รือท่ีได้รบั การจดั สรร แต่ไม่เกินอัตราท่กี ำ� หนดไว้ ข้อ ๖ ประกาศนี้ให้มผี ลใช้บังคบั ตง้ั แตบ่ ัดน้เี ป็นตน้ ไป ประกาศ ณ วนั ที่ ๓ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๕๕๐ มงคล ณ สงขลา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข148
ประกาศกระทรวงสาธารณสขุ เรอื่ ง อตั ราเบ้ียประชมุ และค่าใช้จ่ายในการเดนิ ทางของอนกุ รรมการ โดยท่ีเป็นการสมควรปรับปรุงค่าเบ้ียประชุม และค่าใช้จ่ายในการเดินทางในการปฏิบัติหน้าที่ของอนุกรรมการท่ีคณะกรรมการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติหรือคณะกรรมการควบคุมคุณภาพและมาตรฐานบริการสาธารณสุขแตง่ ตั้ง ให้มคี วามเหมาะสมมากยิ่งขึ้น อาศยั อำ� นาจตามความในมาตรา ๔ มาตรา ๒๓ และมาตรา ๕๓ แหง่ พระราชบัญญตั หิ ลกั ประกนัสขุ ภาพแห่งชาติ พ.ศ. ๒๕๔๕ รฐั มนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข จงึ ออกประกาศไว้ ดังตอ่ ไปน้ี ขอ้ ๑ ในประกาศนี้ “อนุกรรมการ” หมายความว่า อนุกรรมการหรือกรรมการที่คณะกรรมการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ และคณะกรรมการควบคุมคุณภาพและมาตรฐานบรกิ ารสาธารณสุขแตง่ ต้ัง “อนุกรรมการในส่วนกลาง” หมายความว่า อนุกรรมการที่คณะกรรมการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ และคณะกรรมการควบคุมคุณภาพและมาตรฐานบริการสาธารณสุขแต่งตั้ง ซ่ึงปฏิบัติหน้าท่ีเก่ียวกับการสร้างระบบหลกั ประกันสุขภาพในภาพรวม และใหห้ มายความรวมถงึ อนกุ รรมการอื่นในเขตพืน้ ท่กี รุงเทพมหานคร “อนุกรรมการในระดับเขตพน้ื ที”่ หมายความวา่ อนกุ รรมการท่คี ณะกรรมการหลักประกนั สุขภาพแห่งชาติ และคณะกรรมการควบคุมคุณภาพและมาตรฐานบริการสาธารณสุขแต่งต้ัง ซ่ึงปฏิบัติหน้าที่เก่ียวกับการสร้างระบบหลกั ประกนั สุขภาพในเขตพน้ื ที่ “อนุกรรมการในระดับจังหวัด” หมายความว่า อนุกรรมการท่ีคณะกรรมการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ และคณะกรรมการควบคุมคุณภาพและมาตรฐานบริการสาธารณสุขแต่งตั้ง ซึ่งปฏิบัติหน้าที่เกี่ยวกับการสรา้ งระบบหลกั ประกันสขุ ภาพในเขตจังหวดั “การเดินทาง” หมายความว่า การเดินทางไปปฏิบัติงาน ประชุม สัมมนา หรือฝึกอบรมในราชอาณาจักร ท้ังนี้ตามท่ีส�ำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติหรือส�ำนักงานสาขาเป็นผู้ด�ำเนินการ หรือเป็นผู้ประสานงาน ขอ้ ๒ คา่ เบีย้ ประชมุ (๑) ใหป้ ระธานอนกุ รรมการและอนกุ รรมการในสว่ นกลาง ไดร้ บั เบย้ี ประชมุ เดอื นละ ๑,๐๐๐ บาทแตไ่ ม่เกนิ เดอื นละ ๕,๐๐๐ บาท (๒) ใหป้ ระธานอนกุ รรมการและอนกุ รรมการในระดบั เขตพนื้ ที่ ไดร้ บั เบย้ี ประชมุ ครง้ั ละ ๘๐๐ บาทแตไ่ ม่เกนิ เดอื นละ ๔,๐๐๐ บาท (๓) ใหป้ ระธานอนกุ รรมการและอนกุ รรมการ ในระดบั จงั หวดั ไดร้ บั เบย้ี ประชมุ ครงั้ ละ ๕๐๐ บาทแตไ่ มเ่ กนิ เดือนละ ๒,๕๐๐ บาท 149
ข้อ ๓ คา่ ใช้จ่ายในการเดินทาง (๑) ค่าเบ้ียเลย้ี ง ให้เบกิ ในอตั ราเหมาจ่าย โดยนบั วันตามวนั ปฏทิ นิ ดงั น้ี (ก) ประธานอนุกรรมการและอนุกรรมการในส่วนกลาง และในระดับเขตพ้นื ท่ี ไมเ่ กินวนั ละ๔๐๐ บาท (ข) ประธานอนุกรรมการและอนกุ รรมการในระดับจงั หวดั ไม่เกนิ วนั ละ ๓๐๐ บาท ในกรณีการเดินทางไปประชมุ ซง่ึ มสี ทิ ธิได้รับเบ้ยี ประชุม ใหง้ ดเบกิ คา่ เบยี้ เลย้ี ง (๒) ค่าที่พัก ให้ประธานอนุกรรมการและอนุกรรมการ เบิกได้เท่าท่ีจ่ายจริง และโดยประหยัดตามความจำ� เปน็ และเหมาะสม แต่ไม่เกินคืนละ ๑,๘๐๐ บาท (๓) ค่าพาหนะ รวมถงึ ค่าเช่ายานพาหนะ ใหเ้ บกิ ได้ตามหลกั เกณฑ์ ดังนี้ (ก) การเดนิ ทางโดยเครอ่ื งบนิ ใหป้ ระธานอนกุ รรมการและอนกุ รรมการ เบกิ ไดใ้ นชนั้ ประหยดั (ข) การเดินทางโดยรถไฟ ให้ประธานอนุกรรมการและอนุกรรมการ เบิกได้ประเภทรถนงั่ นอนปรับอากาศชน้ั หนึ่ง (ค) การเดนิ ทางโดยพาหนะประจำ� ทาง รถรบั จา้ งหรอื ยานพาหนะประจำ� ทางอน่ื ๆ ใหป้ ระธานอนกุ รรมการหรอื อนกุ รรมการ เบิกไดเ้ ท่าทจี่ ่ายจรงิ และโดยประหยดั (ง) การเดินทางโดยรถส่วนตัว ให้ประธานอนุกรรมการหรืออนุกรรมการ เบิกจ่ายเป็นเงินชดเชยค่าเชอ้ื เพลิง ในอัตรากิโลเมตรละ ๓ บาท หรือตามอัตราท่กี ระทรวงการคลงั ก�ำหนด ข้อ ๔ ให้ส�ำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ หรือส�ำนักงานสาขา ด�ำเนินการเบิกจ่ายค่าเบี้ยประชุมและค่าใช้จ่ายในการเดินทางตามความเหมาะสมและประหยัด ท้ังนี้ โดยค�ำนึงถึงงบที่ได้รับอนุมัติหรอื ที่ไดร้ บั การจัดสรร แต่ไม่เกินอตั ราทก่ี �ำหนดไว้ ขอ้ ๕ ประกาศน้ีให้มผี ลใช้บงั คับตัง้ แต่บัดนีเ้ ป็นตน้ ไป ประกาศ ณ วนั ท่ี ๓ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๕๕๐ มงคล ณ สงขลา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข150
ประกาศกระทรวงสาธารณสุข เร่อื ง อัตราเบี้ยประชมุ และคา่ ใชจ้ า่ ยในการเดนิ ทางของอนกุ รรมการ (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๕๖ โดยท่ีเป็นการสมควรแก้ไขเพิ่มเติมค่าเบ้ียประชุมของอนุกรรมการที่คณะกรรมการหลักประกันสุขภาพแห่งชาตหิ รือคณะควบคมุ คณุ ภาพและมาตรฐานบรกิ ารสาธารณสุขแต่งต้ัง ให้มคี วามเหมาะสมมากยิง่ ขึน้ อาศัยอำ� นาจตามความในมาตรา ๔ มาตรา ๒๓ และมาตรา ๕๓ แห่งพระราชบัญญัตหิ ลกั ประกนัสุขภาพแห่งชาติ พ.ศ. ๒๕๔๕ อันเป็นกฎหมายท่ีมีบทบัญญัติบางประการเกี่ยวกับการจ�ำกัดสิทธิและเสรีภาพของบคุ คล ซง่ึ มาตรา ๒๙ ประกอบกับมาตรา ๓๖ และมาตรา ๔๑ ของรฐั ธรรมนูญแหง่ ราชอาณาจกั รไทย บัญญตั ิใหก้ ระท�ำโดยอาศัยอำ� นาจตามบทบัญญัตแิ ห่งกฎหมาย ประกอบกบั มติคณะรัฐมนตรี เรอ่ื ง การปรับปรุงหลกั เกณฑ์การกำ� หนดอตั ราเงนิ เดอื นหลกั เกณฑก์ ารกำ� หนดเบย้ี ประชมุ และการพฒั นาการดำ� เนนิ งานและการประเมนิ ผลองคก์ รมหาชน เม่ือวนั ที่ ๗ กนั ยายน ๒๕๔๗ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสขุ จงึ ออกประกาศไว้ ดังตอ่ ไปนี้ ข้อ ๑ ให้ยกเลิกความในข้อ ๒ ของประกาศกระทรวงสาธารณสุข เรื่องอัตราเบ้ียประชุมและค่าใช้จา่ ยในการเดนิ ทางของอนกุ รรมการ ลงวนั ที่ ๓ กรกฎาคม ๒๕๕๐ และให้ใชค้ วามตอ่ ไปนีแ้ ทน “ขอ้ ๒ คา่ เบยี้ ประชมุ (๑) ใหป้ ระธานอนกุ รรมการและอนกุ รรมการในสว่ นกลาง ไดร้ บั เบย้ี ประชมุ เปน็ รายเดอื นในอตั ราดงั นี้ (ก) ประธานอนกุ รรมการ เดือนละ ๒,๕๐๐ บาท (ข) อนุกรรมการ เดือนละ ๒,๐๐๐ บาท (๒) ให้ประธานอนุกรรมการและอนุกรรมการในระดับเขตพ้ืนที่ ได้รับเบ้ียประชุม เป็นรายเดือนในอัตราดังน้ี (ก) ประธานอนุกรรมการ เดือนละ ๒,๐๐๐ บาท (ข) อนกุ รรมการ เดอื นละ ๑,๖๐๐ บาท (๓) ให้ประธานอนุกรรมการและอนุกรรมการในระดับจังหวัด ได้รับเบ้ียประชุม เป็นรายเดือนในอตั ราดังนี้ (ก) ประธานอนุกรรมการ เดอื นละ ๑,๒๕๐ บาท (ข) อนกุ รรมการ เดือนละ ๑,๐๐๐ บาท การจา่ ยเบยี้ ประชมุ ตามวรรคหนงึ่ ใหจ้ า่ ยเฉพาะเดอื นทมี่ กี ารประชมุ และบคุ คลนน้ั ไดเ้ ขา้ รว่ มประชุมด้วย ขอ้ ๒ ประกาศน้ี ให้ใช้บงั คับตัง้ แต่วนั ถัดจากวนั ประกาศในราชกิจจานเุ บกษาเปน็ ตน้ ไป ประกาศ ณ วันที่ ๑๒ พฤศจกิ ายน พ.ศ. ๒๕๕๖ ประดิษฐ สนิ ธวณรงค ์ รฐั มนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสขุ 151
ประกาศกระทรวงสาธารณสขุ เรอ่ื ง คา่ ใช้จ่ายในการเดนิ ทางและค่าใช้จ่ายอ่นื ในการปฏิบตั ิหน้าท่ี ของประธานอนุกรรมการตรวจสอบและอนุกรรมการตรวจสอบ โดยทเี่ ปน็ การสมควรกำ� หนดอตั ราคา่ ใชจ้ า่ ยในการเดนิ ทางและคา่ ใชจ้ า่ ยอนื่ ในการปฏบิ ตั หิ นา้ ทขี่ องประธานอนุกรรมการตรวจสอบและอนกุ รรมการตรวจสอบ ใหม้ ีความชดั เจนมากยิ่งขึน้ อาศัยอ�ำนาจตามความในมาตรา ๔ และมาตรา ๒๓ แห่งพระราชบัญญัติหลักประกันสุขภาพแหง่ ชาติ พ.ศ. ๒๕๔๕ รฐั มนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสขุ จงึ ออกประกาศไว้ ดงั ต่อไปน้ี ข้อ ๑ การเดนิ ทางไปปฏบิ ตั หิ นา้ ทห่ี รอื ประชมุ ในราชอาณาจกั ร ของประธานอนกุ รรมการตรวจสอบและอนุกรรมการตรวจสอบ ที่ได้รับแต่งต้ังจากคณะกรรมการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติตามพระราชบัญญัติหลกั ประกนั สขุ ภาพแห่งชาติ พ.ศ. ๒๕๔๕ เบิกค่าใช้จ่ายในการเดนิ ทางไดต้ ามประกาศนี้ ขอ้ ๒ ค่าเบี้ยเลย้ี ง ใหเ้ บกิ จา่ ยไดใ้ นอตั ราเหมาจ่าย โดยนบั วนั ตามวันปฏิทนิ ดังน้ี (๑) ประธานอนุกรรมการตรวจสอบ ไม่เกนิ วนั ละ ๕๐๐ บาท (๒) อนกุ รรมการตรวจสอบ ไมเ่ กินวนั ละ ๔๐๐ บาท ข้อ ๓ คา่ ที่พกั เบกิ ได้เทา่ ที่จ่ายจรงิ และโดยประหยัดแต่ไม่เกนิ คนื ละ ๒,๔๐๐ บาท ขอ้ ๔ คา่ พาหนะ ซ่งึ รวมถงึ คา่ เชา่ ยานพาหนะด้วย ใหเ้ บิกจา่ ย ดังน้ี (๑) กรณโี ดยสารยานพาหนะประจำ� ทาง หรือโดยสารรถไฟ หรอื โดยสารเคร่ืองบนิ ให้เบกิ จา่ ยได้เท่าทีจ่ ่ายจริงและโดยประหยัด (๒) กรณโี ดยสารรถรบั จา้ ง ใหเ้ บิกได้เทา่ ท่จี า่ ยจรงิ และโดยประหยัด (๓) การเดินทางโดยรถยนต์ส่วนตัว ให้เบิกจ่ายเป็นเงนิ ชดเชยค่าเชื้อเพลิงในอัตรากโิ ลเมตรละ ๓บาทหรือตามอตั ราทีก่ ระทรวงการคลงั กำ� หนด ขอ้ ๕ ค่าใช้จ่ายอื่นในการปฏิบัติหน้าท่ีของประธานอนุกรรมการตรวจสอบและอนุกรรมการตรวจสอบ ให้เป็นไปตามทีเ่ ลขาธิการส�ำนักงานหลักประกนั สุขภาพแหง่ ชาติกำ� หนด ข้อ ๖ ประกาศฉบับนี้ ให้มผี ลใช้บังคับตั้งแตบ่ ดั น้เี ปน็ ตน้ ไป ประกาศ ณ วนั ที่ ๒๐ พฤศจกิ ายน พ.ศ. ๒๕๔๙ มงคล ณ สงขลา รัฐมนตรวี า่ การกระทรวงสาธารณสขุ152
ประกาศสาํ นักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ เรอ่ื ง คา่ ใช้จ่ายอ่นื ในการปฏบิ ตั ิหนา้ ที่ของอนกุ รรมการตรวจสอบ พ.ศ. ๒๕๕๖ โดยท่ีเป็นการสมควรกําหนดอัตราค่าใช้จ่ายอื่นในการปฏิบัติหน้าท่ีของอนุกรรมการตรวจสอบไวเ้ ปน็ แนวปฏบิ ัติ อาศัยอํานาจตามความในมาตรา ๓๑ และ ๓๖ แห่งพระราชบัญญตั ิหลักประกันสขุ ภาพแหง่ ชาติพ.ศ. ๒๕๔๕ และข้อ ๕ ของประกาศกระทรวงสาธารณสุข เรือ่ ง ค่าใช้จา่ ยในการเดนิ ทางและค่าใชจ้ า่ ยอน่ื ในการปฏบิ ตั หิ นา้ ทข่ี องประธานอนกุ รรมการตรวจสอบและอนกุ รรมการตรวจสอบ เลขาธกิ ารสาํ นกั งานหลกั ประกนั สขุ ภาพแหง่ ชาติ จงึ ออกประกาศไว้ ดังต่อไปนี้ ข้อ ๑ ในประกาศนี้ “ค่าใชจ้ ่ายอื่น” หมายความว่า คา่ ใชจ้ า่ ยอน่ื ในการปฏิบัติหนา้ ทขี่ องอนุกรรมการตรวจสอบ “สํานักงาน” หมายความว่า สํานักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ และให้หมายความรวมถึงหนว่ ยงานของรฐั หรอื เอกชนท่ีคณะกรรมการมอบหมายใหท้ าํ หนา้ ท่ีสาํ นักงานสาขาด้วย “คณะกรรมการ” หมายความว่า คณะกรรมการหลกั ประกันสขุ ภาพแห่งชาติ “อนุกรรมการ” หมายความว่า อนกุ รรมการตรวจสอบ ข้อ ๒ การปฏบิ ัตงิ านทม่ี สี ิทธริ ับค่าใชจ้ ่ายอนื่ ไดแ้ ก่ (๑) การสอบทานความถกู ต้องและเชอ่ื ถือได้ของรายงานการเงินของสาํ นักงาน (๒) การสอบทานให้สํานักงานมรี ะบบการควบคมุ ภายใน (๓) การสอบทานการปฏิบัติตามนโยบาย กฎ ระเบียบ ข้อบังคับ มติคณะรัฐมนตรีและมติคณะกรรมการที่เกย่ี วข้องกบั สํานักงาน (๔) การสอบทานหลักฐาน กรณีมีข้อสงสัยเก่ียวกับการดําเนินการท่ีอาจมีผลกระทบต่อการดําเนนิ งานของสํานักงาน หรือความขดั แย้งทางผลประโยชน์ทอ่ี าจมผี ลกระทบต่อการดําเนนิ งานของสํานกั งาน (๕) การจัดทํารายงานการตรวจสอบเสนอคณะกรรมการ (๖) งานอน่ื ๆ ทคี่ ณะกรรมการมอบหมาย ข้อ ๓ ใหอ้ นกุ รรมการแตล่ ะคน ไดร้ ับค่าใชจ้ ่ายอื่น เปน็ รายเดือน ๆ ละ ๑๐,๐๐๐ บาท ขอ้ ๔ คา่ ใช้จา่ ยตามข้อ ๓ ใหจ้ า่ ยเฉพาะเดอื นที่มกี ารปฏบิ ตั ิงานตามข้อ ๒ อยา่ งนอ้ ย ๓ รายการ ข้อ ๕ ประกาศน้ี ใหม้ ผี ลใชบ้ ังคับตั้งแตบ่ ดั น้ีเป็นต้นไป ประกาศ ณ วนั ที่ ๓๑ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๕๕๖ วนิ ัย สวัสดิวร เลขาธิการสาํ นักงานหลกั ประกันสุขภาพแหง่ ชาติ 153
ประกาศกระทรวงสาธารณสุข เร่อื ง อัตราเบยี้ ประชุมอนุกรรมการตรวจสอบ พ.ศ. ๒๕๕๖ โดยที่เป็นการสมควรปรับปรุงอัตราเบ้ียประชุมอนุกรรมการตรวจสอบ ให้มีความเหมาะสมและมปี ระสทิ ธิภาพ อาศัยอ�ำนาจตามความในมาตรา ๔ และมาตรา ๒๓ แห่งพระราชบัญญัติหลักประกันสุขภาพแหง่ ชาติ พ.ศ. ๒๕๔๕ ประกอบมตคิ ณะรัฐมนตรี เรอื่ ง การปรับปรุงหลักเกณฑก์ ารก�ำหนดอัตราเงินเดอื นหลักเกณฑ์การกำ� หนดเบย้ี ประชมุ และการพฒั นาการดำ� เนนิ งานและการประเมนิ ผลองคก์ ารมหาชน เมอื่ วนั ท่ี ๗ กนั ยายน ๒๕๔๗รฐั มนตรีวา่ การกระทรวงสาธารณสุข จึงออกประกาศไว้ ดังตอ่ ไปน้ี ขอ้ ๑ ใหย้ กเลกิ ประกาศกระทรวงสาธารณสขุ เรื่อง คา่ ตอบแทนอนกุ รรมการในคณะอนกุ รรมการตรวจสอบ ลงวนั ท่ี ๒๖ กันยายน พ.ศ. ๒๕๕๐ ข้อ ๒ ให้อนกุ รรมการตรวจสอบไดร้ ับเบยี้ ประชุมเปน็ รายเดือน ทง้ั นี้ เฉพาะเดือนที่มกี ารประชุมและบุคคลนน้ั ได้เข้าร่วมประชมุ ดว้ ย โดยใหไ้ ดร้ บั เบีย้ ประชมุ ตามอตั รา ดังน้ี (๑) ประธานอนกุ รรมการ ๗,๕๐๐ บาท (๒) อนกุ รรมการ ๖,๐๐๐ บาท ขอ้ ๓ ประกาศนี้ใหม้ ีผลใชบ้ งั คับตั้งแต่บัดน้ีเปน็ ตน้ ไป ประกาศ ณ วันท่ี ๒๖ สงิ หาคม พ.ศ. ๒๕๕๖ ประดษิ ฐ สนิ ธวณรงค ์ รัฐมนตรีวา่ การกระทรวงสาธารณสขุ154
๓หมวดสำ� นักงานหลกั ประกนั สขุ ภาพแหง่ ชาติ
ประกาศสำ� นกั งานหลักประกันสขุ ภาพแหง่ ชาติ เรื่องจดั ตั้งสำ� นกั งานสาขาของส�ำนกั งานหลักประกนั สุขภาพแห่งชาติ โดยที่เป็นการสมควรจัดตั้งส�ำนักงานสาขาของส�ำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติเพิ่มเติมเพ่อื มหี นว่ ยงานดำ� เนนิ การสรา้ งหลักประกนั สุขภาพในพ้นื ทไี่ ด้อย่างเตม็ ประสิทธภิ าพ อาศัยอ�ำนาจตามความในมาตรา ๑๘ และมาตรา ๒๕ แห่งพระราชบัญญัติหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ พ.ศ. ๒๕๔๕ คณะกรรมการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติได้มีมติในการประชุมครั้งท่ี ๓/๒๕๔๘วนั ท่ี ๑๔ กุมภาพันธ์ ๒๕๔๘ ให้ออกประกาศไว้ ดงั น้ี ข้อ ๑ ใหจ้ ัดตัง้ ส�ำนักงานสาขาของสำ� นักงานหลักประกันสขุ ภาพแหง่ ชาติ ดงั ตอ่ ไปนี้ (๑) ส�ำนกั งานหลกั ประกนั สุขภาพแหง่ ชาติ สาขาเขตพน้ื ที่ (กรุงเทพมหานคร) (๒) ส�ำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ สาขาพ้นื ท่ี (ขอนแกน่ ) (๓) สำ� นกั งานหลักประกันสขุ ภาพแหง่ ชาติ สาขาเขตพน้ื ที่ (เชยี งใหม)่ (๔) สำ� นกั งานหลักประกนั สุขภาพแห่งชาติ สาขาเขตพนื้ ท่ี (นครราชสมี า) (๕) สำ� นักงานหลกั ประกันสขุ ภาพแหง่ ชาติ สาขาเขตพื้นท่ี (นครสวรรค)์ (๖) สำ� นกั งานหลกั ประกนั สุขภาพแหง่ ชาติ สาขาเขตพน้ื ท่ี (พษิ ณุโลก) (๗) สำ� นักงานหลกั ประกันสขุ ภาพแห่งชาติ สาขาเขตพื้นที่ (ระยอง) (๘) สำ� นักงานหลักประกนั สขุ ภาพแหง่ ชาติ สาขาเขตพื้นท่ี (ราชบรุ )ี (๙) สำ� นกั งานหลกั ประกันสุขภาพแหง่ ชาติ สาขาเขตพน้ื ท่ี (สกลนคร) (๑๐) สำ� นักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ สาขาเขตพน้ื ที่ (สระบรุ ี) (๑๑) สำ� นักงานหลกั ประกนั สุขภาพแหง่ ชาติ สาขาเขตพ้ืนที่ (สุราษฎร์ธาน)ี (๑๒) ส�ำนกั งานหลกั ประกันสุขภาพแห่งชาติ สาขาเขตพนื้ ที่ (สงขลา) (๑๓) สำ� นักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ สาขาเขตพนื้ ที่ (อบุ ลราชธาน)ี ข้อ ๒ ส�ำนักงานสาขาของส�ำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติตามข้อ ๑ ให้มีผู้อ�ำนวยการส�ำนักงานสาขาเป็นผบู้ ังคับบัญชา มโี ครงสรา้ งการบรหิ ารและมีอำ� นาจหนา้ ที่ตามทเ่ี ลขาธิการส�ำนกั งานหลกั ประกันสขุ ภาพแหง่ ชาตกิ �ำหนดและมอบหมาย ขอ้ ๓ ให้ยกเลิกประกาศส�ำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ เรื่องจัดตั้งส�ำนักงานสาขาของสำ� นกั งานหลักประกนั สขุ ภาพแห่งชาติ ลงวนั ที่ ๒๕ เมษายน พ.ศ. ๒๕๔๘ ทงั้ น้ี ตง้ั แตบ่ ดั น้เี ปน็ ต้นไป ประกาศ ณ วันท่ี ๑๕ กุมภาพนั ธ์ พ.ศ. ๒๕๔๙ พินจิ จารสุ มบัติ รฐั มนตรีวา่ การกระทรวงสาธารณสขุ ประธานกรรมการหลักประกนั สขุ ภาพแห่งชาติ 157
ประกาศคณะกรรมการหลกั ประกนั สขุ ภาพแหง่ ชาติ เรื่อง โครงสร้างและอตั ราก�ำลงั ผู้ปฏิบัตงิ านของสำ� นกั งานหลกั ประกนั สุขภาพแหง่ ชาติ พ.ศ. ๒๕๕๕ โดยท่ีเป็นการสมควรปรับปรุงโครงสร้างและอัตราก�ำลังผู้ปฏิบัติงานของส�ำนักงานหลักประกันสขุ ภาพแหง่ ชาติ ใหเ้ หมาะสมกบั สภาวะในปจั จบุ นั เพอื่ ใหก้ ารบรหิ ารงานของสำ� นกั งานหลกั ประกนั สขุ ภาพแหง่ ชาติมีประสทิ ธิภาพมากยงิ่ ข้นึ อาศัยอ�ำนาจตามความในมาตรา ๑๙ (๓) แห่งพระราชบัญญัติหลักประกันสุขภาพแห่งชาติพ.ศ. ๒๕๔๕ คณะกรรมการหลกั ประกนั สขุ ภาพแหง่ ชาติ ในการประชมุ ครง้ั ท่ี ๑๑/๒๕๕๕ เมอื่ วนั ที่ ๑ ตลุ าคม ๒๕๕๕และครง้ั ท่ี ๑๒/๒๕๕๕ เมอื่ วนั ท่ี ๕ พฤศจกิ ายน ๒๕๕๕ เหน็ ชอบโครงสรา้ งและอตั รากำ� ลงั ผปู้ ฏบิ ตั งิ านของสำ� นกั งานหลกั ประกันสขุ ภาพแหง่ ชาติ จงึ ออกประกาศไว้ ดงั ตอ่ ไปน้ี ขอ้ ๑ ใหจ้ ดั โครงสรา้ งภายในสำ� นกั งานหลกั ประกนั สขุ ภาพแหง่ ชาติ (สำ� นกั งาน) เปน็ ๕ กลมุ่ ภารกจิดงั น้ี (๑) กลุ่มภารกจิ ยทุ ธศาสตร์และการประเมินผล (๒) กลมุ่ ภารกิจบรหิ ารกองทนุ (๓) กลมุ่ ภารกจิ สนบั สนนุ เครอื ข่ายระบบบรกิ าร (๔) กลุม่ ภารกจิ ระบบสนับสนุน (๕) กลมุ่ ภารกจิ งานสาขาเขตและการมีส่วนร่วม ใหม้ สี ำ� นกั เลขาธกิ ารและประชาสมั พนั ธแ์ ละสำ� นกั ตรวจสอบ เปน็ สว่ นงานภายในสำ� นกั งานดา้ นแผนและประเมินผล ด้านก�ำกับคุณภาพบริการและประเมินผลลัพธ์สุขภาพ ด้านงานสารสนเทศเพื่อการบริหาร (EIS)ด้านงานหลักประกนั สุขภาพระหวา่ งประเทศ โดยมีหน้าทแ่ี ละความรับผิดชอบ ดงั น้ี (๑) พัฒนาข้อเสนอเชงิ นโยบายและยุทธศาสตร์ในระบบหลกั ประกันสขุ ภาพแห่งชาติ (๒) สนบั สนนุ การปฏบิ ตั ภิ ารกจิ ของคณะกรรมการหลกั ประกนั สขุ ภาพแหง่ ชาติ คณะอนกุ รรมการภายใตค้ ณะกรรมการหลักประกันสุขภาพแหง่ ชาติ และคณะกรรมการหรือคณะอนุกรรมการอ่ืนๆ ทเ่ี ก่ียวข้อง (๓) จดั ทำ� และบรหิ ารแผนยทุ ธศาสตร์ แผนงบประมาณและแผนปฏบิ ตั กิ าร รวมทง้ั ตวั ชวี้ ดั ผลการด�ำเนนิ งานของส�ำนักงาน (๔) พัฒนา บรู ณาการนโยบาย และยุทธศาสตรด์ ้านการเงนิ การคลงั ในระบบหลกั ประกนั สุขภาพแห่งชาติ (๕) พัฒนาระบบข้อมูลเพ่ือสนับสนุนการบริหาร ด�ำเนินการติดตาม ประเมินผลการด�ำเนินงานวเิ คราะห์ และรายงานผล (๖) พฒั นาระบบและสนับสนนุ ขอ้ มูลการจา่ ยชดเชย เพื่อการวางแผนประกนั สุขภาพ158
(๗) พัฒนาเกณฑ์สุขภาพ ควบคมุ กำ� กับ และติดตามประเมนิ ผลคณุ ภาพบรกิ ารของหนว่ ยบรกิ ารในระบบหลกั ประกันสุขภาพแห่งชาติ (๘) ประสานความรว่ มมอื ในการพฒั นาระบบ เครอื ขา่ ย และบคุ ลากรดา้ นประกนั สขุ ภาพระหวา่ งประเทศ (๙) ปฏิบัตหิ น้าที่อน่ื ทไี่ ดร้ บั มอบหมาย ข้อ ๓ ให้กลุ่มภารกิจบริหารกองทุน รับผิดชอบภารกิจ ด้านทะเบียนหลักประกันสุขภาพด้านการจัดสรรและชดเชยค่าบริการ ด้านบริหารการจ่ายเงินกองทุน ด้านตรวจสอบการชดเชยและคุณภาพบริการ โดยมีหน้าทีแ่ ละความรับผิดชอบ ดงั น้ี (๑) พฒั นาระบบการจ่ายชดเชยค่าบรกิ ารและการตรวจสอบการจ่ายชดเชยค่าบรกิ าร (๒) สร้างระบบการตรวจสอบและบริหารการจา่ ยชดเชยค่าบริการ ใหเ้ ป็นไปตามมาตรฐาน (๓) จัดระบบสนับสนุนการจา่ ยชดเชยคา่ บรกิ ารทีม่ ีประสทิ ธิภาพ (๔) ก�ำกบั ตรวจสอบคุณภาพบริการสาธารณสขุ ใหเ้ ปน็ ไปตามมาตรฐานวิชาชพี (๕) พฒั นาระบบและมาตรฐานการตรวจสอบใหส้ อดคลอ้ งกบั สถานการณก์ ารบรกิ ารสาธารณสขุและการจา่ ยชดเชยค่าบรกิ าร (๖) ตรวจสอบความถูกตอ้ งของการเบิกจา่ ยชดเชยค่าบริการ ให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ทก่ี �ำหนด (๗) พัฒนาและสนับสนุนการด�ำเนินงานตรวจสอบการชดเชยและคุณภาพบริการของส�ำนักงานสาขา (๘) สง่ เสรมิ และสนบั สนนุ ใหห้ นว่ ยบรกิ ารมกี ารนำ� ผลการตรวจสอบไปใชใ้ นการพฒั นาการดำ� เนนิ งานดา้ นคณุ ภาพบรกิ ารและการใช้ทรัพยากรอย่างคุ้มคา่ (๙) พัฒนาระบบการจัดการและเบิกจ่ายเงินกองทุนให้มีประสิทธิภาพได้มาตรฐานสอดคล้องกับระบบธรรมาภบิ าล (๑๐) พฒั นาระบบงานทะเบยี น บรหิ ารจดั การ พฒั นาขอ้ มลู ใหเ้ กดิ ความครอบคลมุ และสนบั สนนุการบรหิ ารจัดการเงินกองทุนอยา่ งมปี ระสิทธิภาพ (๑๑) บรหิ ารการชดเชยค่าบริหารใหแ้ ก่หนว่ ยบริการอย่างรวดเร็ว ถูกตอ้ ง และเป็นธรรม (๑๒) ปฏบิ ตั ิหน้าทอี่ ่ืนทไี่ ดร้ บั มอบหมาย ขอ้ ๔ ให้กลุ่มภารกิจสนับสนุนเครือข่ายระบบบริการ รับผิดชอบภารกิจ ด้านสนับสนุนเครือข่ายบรกิ ารปฐมภูมิ ดา้ นสนับสนุนเครอื ข่ายบริการทุตยิ ภมู แิ ละตตยิ ภูมิ ด้านสนับสนนุ เครือขา่ ยการพัฒนาระบบยาและเวชภณั ฑ์ โดยมีหน้าทีแ่ ละความรับผิดชอบดงั นี้ (๑) สนับสนุนให้หน่วยบริการมีการพัฒนาระบบบริการและเครือข่ายบริการให้มีคุณภาพและไดม้ าตรฐาน (๒) สนับสนุนการบริการตติยภูมิและเครือข่ายบริการให้มีคุณภาพมาตรฐาน และมีการกระจายอย่างเหมาะสม (๓) ก�ำหนดแนวทางการประสานสนับสนุนและพัฒนาการด�ำเนินงานภายใต้งบประมาณพื้นฟูสมรรถภาพคนพิการ ระบบบริการปฐมภูมิ สง่ เสรมิ คณุ ภาพและปอ้ งกนั โรค การแพทยแ์ ผนไทย จดั ระบบการดูแลรักษาโรคเรื้อรัง เช่น โรคเอดส์ วณั โรค เบาหวาน ความดนั โลหติ สงู ไตวายเรอ้ื รัง ตลอดจนการจดั ซื้อยาและเวชภัณฑ์ทม่ี ีคณุ ภาพให้แกห่ น่วยบรกิ ารอยา่ งเพยี งพอ 159
(๔) พฒั นาราคากลางส�ำหรับเปน็ มาตรฐานในการจัดซอื้ ยา เวชภัณฑ์และวคั ซนี แก่หน่วยบรกิ ารในระบบหลกั ประกนั สุขภาพแหง่ ชาติ ผ่านองค์การเภสชั กรรมหรอื หน่วยงานอ่นื แล้วแตก่ รณี (๕) การพจิ ารณารว่ มกบั องคก์ รภาคตี า่ งๆ ในการพฒั นาระบบยา เวชภณั ฑแ์ ละวคั ซนี ของประเทศ (๖) ปฏบิ ัตหิ น้าที่อนื่ ทไี่ ด้รับมอบหมาย ข้อ ๕ ให้กลุ่มภารกิจระบบสนับสนุน รับผิดชอบภารกิจ ด้านบริหารท่ัวไป ด้านกฎหมายด้านการเงินและบัญชีงบบริหารงานของส�ำนักงาน ด้านสารสนเทศการประกัน ด้านบริหารทรัพยากรบุคคลและการเปลยี่ นแปลง ดา้ นงานคณุ ภาพองค์กรและธรรมาภบิ าล โดยมีหน้าทแ่ี ละความรับผิดชอบ ดังน้ ี (๑) ดำ� เนินการ ประสาน สนับสนนุ ดา้ นการบริหารทว่ั ไป (๒) ด�ำเนินการเบิกเงิน จ่ายเงิน ก�ำกับ ควบคุมการเบิกจ่าย งบประมาณตามระบบ GFMISงบบรหิ ารงานของสำ� นักงาน (๓) จัดท�ำบัญชรี ายงานการเงินของส�ำนักงาน (๔) ด�ำเนินการด้านงานกฎหมาย ระเบียบ ข้อบังคับ นิติกรรมสัญญา งานติดตามหน้ีและคดงี านชว่ ยเหลอื เบอื้ งตน้ แกผ่ ใู้ หบ้ รกิ ารและผรู้ บั บรกิ าร งานสอบสวนตามมาตรา ๕๗ และมาตรา ๕๙ งานอทุ ธรณ์ตามมาตรา ๖๑ งานสอบสวนความรับผิดชอบทางละเมิดและวินัย และงานปฏิบัติการอื่นๆ ตามกฎหมายว่าด้วยหลกั ประกันสุขภาพแห่งชาติ (๕) สนบั สนนุ และมสี ว่ นรว่ มในการพฒั นามาตรฐานของระบบสารสนเทศในงานหลกั ประกนั สขุ ภาพแหง่ ชาตขิ องประเทศใหเ้ ป็นสากล สามารถอา้ งองิ และเช่ือมโยงในระบบทกุ ระดับ (๖) พฒั นาและบริหารระบบทรัพยากรบุคคลอยา่ งเหมาะสม ยุติธรรม และมีประสทิ ธภิ าพ (๗) นำ� ระบบงานทไ่ี ดม้ าตรฐานมาประยกุ ตใ์ ช้ และพฒั นาอย่างต่อเนอื่ งใหเ้ กดิ ความพรอ้ มต่อการเปล่ยี นแปลงขององค์กร (๘) จดั หาสวัสดกิ ารและการบริการ ที่สรา้ งขวัญก�ำลงั ใจและเพ่ิมคุณภาพชีวติ ของผู้ปฏบิ ตั ิงาน (๙) ปฏบิ ตั หิ น้าทอี่ น่ื ทไ่ี ด้รบั มอบหมาย ขอ้ ๖ ใหก้ ลมุ่ ภารกจิ งานสาขาเขตและการมสี ว่ นรว่ ม รบั ผดิ ชอบภารกจิ ดา้ นสง่ เสรมิ การมสี ว่ นรว่ มด้านบริการประชาชนและค้มุ ครองสิทธิ ด้านสนับสนุนส�ำนักงานสาขาเขต โดยมหี น้าทแี่ ละความรับผดิ ชอบดังน้ี (๑) ประสานงานส�ำนักงานสาขาเขต สนับสนุนการพัฒนาศักยภาพและการกระจายอ�ำนาจตามนโยบายเขตบริการสุขภาพ (๒) เสริมสร้างความรู้ความเข้าใจในสิทธิและหน้าท่ีด้านหลักประกันสุขภาพอย่างเพียงพอแกป่ ระชาชน และผู้ให้บรกิ าร (๓) พัฒนาระบบการจัดการเพอ่ื การคุ้มครองสทิ ธผิ ู้รับบรกิ ารและผู้ให้บรกิ าร (๔) สง่ เสรมิ สนบั สนนุ ใหเ้ ครอื ขา่ ยองคก์ รประชาชน องคก์ รปกครองสว่ นทอ้ งถน่ิ และองคก์ รวชิ าชพีใหม้ ีส่วนรว่ มพัฒนาระบบหลกั ประกนั สขุ ภาพแหง่ ชาตอิ ย่างเข้มแขง็ (๕) ส่งเสริม สนับสนุนให้เกิดความเช่ือมโยงระหว่างเครือข่ายองค์กรประชาชน องค์กรปกครองส่วนทอ้ งถนิ่ องคก์ รวิชาชีพ และผู้ให้บริการ สรา้ งและพัฒนาการมสี ว่ นรว่ มอยา่ งเปน็ ระบบใหย้ ่งั ยนื (๖) บริหารจัดการ ติดตามสนับสนุนกิจกรรมของเครือข่ายองค์กรประชาชน องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และองค์กรวิชาชพี ท่ีไดร้ ับการสนับสนนุ จากส�ำนกั งาน160
(๗) พฒั นาความเปน็ เจา้ ของและความเข้มแขง็ ของภาคีเครือข่าย (๘) ปฏบิ ัติหน้าทอ่ี นื่ ทไี่ ดร้ บั มอบหมาย ข้อ ๗ ให้เลขาธิการส�ำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ออกประกาศแบ่งส่วนงานภายในของแตล่ ะกลุ่มภารกจิ ตามประกาศน้ี และมอบหมายให้มผี ู้ปฏบิ ตั ิงาน ปฏบิ ัติหนา้ ท่ีประธาน รองประธาน และกรรมการบรหิ ารของแตล่ ะกลุ่มภารกิจ เพ่ือรองรับการปฏิบตั ิหนา้ ท่ตี ามประกาศน้ ี ขอ้ ๘ ให้ส�ำนักเลขาธิการและประชาสัมพันธ์ เป็นส่วนงานในบังคับบัญชาโดยตรงของเลขาธิการสำ� นักงานหลักประกนั สุขภาพแห่งชาติ โดยมหี น้าทแ่ี ละความรบั ผดิ ชอบ ดงั นี้ (๑) ประสาน สนับสนุน ตดิ ตาม การทำ� งานระหว่างกล่มุ ภารกิจตา่ งๆ (๒) สนับสนุนการพัฒนายุทธศาสตร์ขององค์กรและตามทไ่ี ดร้ ับมอบหมาย (๓) ประชาสัมพันธ์และเสริมสร้างภาพลักษณ์องค์กรและระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติต่อทุกภาคส่วน (๔) ปฏบิ ัติหนา้ ท่อี ่ืนทไ่ี ดร้ บั มอบหมาย ข้อ ๙ ภายใต้บังคับมาตรา ๓๖ (๑) และมาตรา ๓๗ แห่งพระราชบัญญัติหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ พ.ศ. ๒๕๔๕ ให้ส�ำนักตรวจสอบ มหี นา้ ที่และความรบั ผดิ ชอบ ดังนี้ (๑) เป็นเลขานุการของคณะอนกุ รรมการตรวจสอบ (๒) สง่ เสริมใหม้ รี ะบบการควบคมุ ภายในทมี่ ปี ระสิทธภิ าพและประสิทธผิ ล (๓) ตรวจสอบการเงินและการดำ� เนนิ งานเพือ่ ให้ถูกต้องตามกฎหมายและระเบยี บที่เก่ยี วข้อง (๔) ปฏิบัติหน้าทอ่ี น่ื ที่ได้รับมอบหมาย ข้อ ๑๐ ให้ส�ำนักงานมีอัตราก�ำลังผู้ปฏิบัติงาน เพื่อปฏิบัติหน้าที่ตามข้อ ๒ - ๙ ในประกาศนี้จำ� นวนทงั้ สนิ้ ๘๗๐ อตั รา ตามทคี่ ณะกรรมการหลักประกันสุขภาพแห่งชาตใิ หค้ วามเห็นชอบ การเพิ่มอัตราก�ำลังผู้ปฏิบัติงานเพื่อปฏิบัติภารกิจตามประกาศน้ี หรือปฏิบัติภารกิจอื่น เช่นภารกิจบูรณาการสิทธิ ๓ กองทุน หรือภารกิจหน่วยงานกลางในการจัดการธุรกรรมการเบิกจ่ายค่ารักษาพยาบาล(National Clearing House) ใหเ้ ปน็ ไปตามสำ� นกั งานประกาศกำ� หนด ท้งั น้ี โดยความเหน็ ชอบของคณะกรรมการหลกั ประกนั สุขภาพแห่งชาติ ขอ้ ๑๑ ประกาศน้ี ใหใ้ ช้บังคับต้ังแตว่ นั ท่ี ๑ ธนั วาคม ๒๕๕๕ เปน็ ต้นไป ประกาศ ณ วันท่ี ๑๕ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๕๕ ประดษิ ฐ สินธวณรงค์ รฐั มนตรวี ่าการกระทรวงสาธารณสุข ประธานกรรมการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ 161
ระเบียบคณะกรรมการหลักประกนั สขุ ภาพแห่งชาติ เรือ่ ง การงบประมาณบรหิ ารของส�ำนักงาน พ.ศ. ๒๕๖๐ โดยทเ่ี ปน็ การสมควรใหม้ รี ะเบยี บเกยี่ วกบั การงบประมาณประจำ� ปขี องสำ� นกั งานหลกั ประกนั สขุ ภาพแห่งชาติ เพอ่ื ใหก้ ารบริหารงานเป็นไปอย่างมีประสิทธภิ าพและมีธรรมาภบิ าล อาศัยอ�ำนาจตามความในมาตรา ๑๙ (๓) แห่งพระราชบัญญัติหลักประกันสุขภาพแห่งชาติพ.ศ. ๒๕๔๕ ประกอบมตคิ ณะกรรมการหลกั ประกนั สขุ ภาพแหง่ ชาติ ในการประชมุ ครงั้ ที่ ๑๑/๒๕๖๐ วนั ท่ี ๔ กนั ยายน๒๕๖๐ จึงออกระเบียบไว้ ดงั ต่อไปนี้ ขอ้ ๑ ระเบยี บนเ้ี รยี กวา่ “ระเบยี บคณะกรรมการหลกั ประกนั สขุ ภาพแหง่ ชาติ เรอ่ื ง การงบประมาณบริหารของส�ำนกั งาน พ.ศ. ๒๕๖๐” ข้อ ๒ ระเบยี บนี้ให้ใชบ้ งั คับ ตงั้ แต่บัดน้ีเปน็ ตน้ ไป ขอ้ ๓ ในระเบียบนี้ “คณะกรรมการ” หมายความวา่ คณะกรรมการหลกั ประกนั สขุ ภาพแห่งชาติ “ประธานกรรมการ” หมายความว่า ประธานกรรมการหลักประกันสขุ ภาพแหง่ ชาติ “เลขาธกิ าร” หมายความว่า เลขาธกิ ารสำ� นกั งานหลักประกันสขุ ภาพแห่งชาติ “สำ� นักงาน” หมายความวา่ สำ� นกั งานหลักประกนั สขุ ภาพแหง่ ชาติ “ปีงบประมาณ” หมายความวา่ ระยะเวลาตงั้ แต่วนั ท่ี ๑ ตุลาคมของปหี น่งึ ถึงวันที่ ๓๐ กนั ยายนของปีถัดไป และใหใ้ ช้ปี พ.ศ. ของปถี ัดไปเป็นชื่อส�ำหรบั ปงี บประมาณนน้ั “เงนิ งบประมาณแผน่ ดนิ ” หมายความวา่ เงนิ งบประมาณรายจา่ ยประจำ� ปที ไี่ ดร้ บั จดั สรรจากรฐั บาลรวมถึงเงินงบประมาณเหลือจ่ายจากปีกอ่ น “เงนิ รายได้” หมายความวา่ เงนิ ท่ีสำ� นักงานไดร้ บั จากการดำ� เนนิ งานของส�ำนักงานประกอบดว้ ย (๑) เงินท่มี ีผบู้ ริจาคหรอื มอบให้เพือ่ เปน็ คา่ ใชจ้ า่ ยในการบริหารงานของสำ� นักงาน (๒) เงนิ ค่าธรรมเนียมหรือคา่ บริการในการดำ� เนนิ กิจการของสำ� นกั งาน (๓) เงินรายได้อื่นของส�ำนักงาน ยกเว้นเงินที่มีระเบียบก�ำหนดไว้เป็นการเฉพาะหรือตามสัญญาขอ้ ตกลง เชน่ ระเบียบเงนิ สวสั ดิการ เงนิ สนับสนนุ กจิ กรรมจากภาครฐั เงินจากองคก์ รระหว่างประเทศ เปน็ ตน้ ขอ้ ๔ ใหป้ ระธานกรรมการเปน็ ผรู้ กั ษาการตามระเบยี บนแ้ี ละมอี ำ� นาจวนิ จิ ฉยั ชขี้ าดปญั หาทเี่ กดิ ขน้ึในการปฏบิ ตั ิตามระเบียบนี้162
หมวด ๑ การเสนอขอรบั การจัดสรรงบประมาณแผ่นดนิ ขอ้ ๕ ให้เลขาธิการจดั ท�ำค�ำขอรบั เงนิ งบประมาณแผ่นดิน เพ่อื เปน็ คา่ ใชจ้ ่ายในการบริหารงานของสำ� นกั งาน เสนอขอความเหน็ ชอบตอ่ คณะกรรมการ เพอื่ ใหค้ ณะกรรมการเสนอขอรบั งบประมาณรายจา่ ยประจำ�ปตี อ่ คณะรฐั มนตรี หมวด ๒ การจัดท�ำงบประมาณประจำ� ปีของสำ� นกั งาน และการบริหารงบประมาณรายจา่ ย สว่ นที่ ๑ การจดั ทำ� งบประมาณประจำ� ปี ขอ้ ๖ ใหเ้ ลขาธกิ ารเสนองบประมาณประจำ� ปตี อ่ คณะกรรมการ ภายในเดอื นกรกฎาคมกอ่ นเรม่ิ ตน้ปงี บประมาณถัดไป งบประมาณประจำ� ปีตามวรรคหน่งึ ประกอบด้วย (๑) ประมาณการรายรบั ทไ่ี ดร้ บั มาจากเงนิ งบประมาณแผ่นดิน และเงนิ รายได้ (๒) วงเงินงบประมาณรายจ่ายท่ีขอต้ัง โดยให้จัดท�ำเป็นแผนการด�ำเนินงานและแผนการเงินใหส้ อดคลอ้ งกับแผนยทุ ธศาสตร์ของส�ำนักงาน ข้อ ๗ งบประมาณรายจา่ ยประจำ� ปี จ�ำแนกเป็นประเภทคา่ ใชจ้ ่าย ดังนี้ (๑) ค่าใชจ้ ่ายดา้ นบคุ ลากร (๒) คา่ ใช้จ่ายดา้ นการดำ� เนินงาน (๓) ค่าใช้จ่ายด้านการลงทุน (๔) คา่ ใชจ้ า่ ยประเภทอน่ื ท่ีคณะกรรมการกำ� หนด รายการคา่ ใช้จา่ ยตาม (๑) – (๓) จะจำ� แนกเป็นประเภทค่าใช้จา่ ยดา้ นใด ใหเ้ ป็นไปตามท่เี ลขาธกิ ารก�ำหนด ข้อ ๘ ในกรณีท่ีส�ำนักงานมีความจ�ำเป็นต้องจ่ายเงินหรือก่อหน้ีผูกพันนอกเหนือจากท่ีก�ำหนดไว้ในงบประมาณรายจ่ายประจ�ำปี เลขาธิการอาจเสนองบประมาณรายจ่ายเพิ่มเติมต่อคณะกรรมการระหว่างปงี บประมาณก็ได้ 163
ส่วนที่ ๒ การบรหิ ารงบประมาณรายจา่ ยประจำ� ปี ขอ้ ๙ ใหเ้ ลขาธกิ ารมหี นา้ ทบี่ รหิ ารงบประมาณรายจา่ ยประจำ� ปี ใหเ้ ปน็ ไปตามแผนดำ� เนนิ งานและแผนการเงินทไ่ี ดร้ บั อนุมตั ิจากคณะกรรมการอย่างเคร่งครดั และมปี ระสทิ ธิภาพ การโอนหรือเปล่ียนแปลงงบประมาณรายจ่ายท่ีได้รับจัดสรรให้กระท�ำได้เฉพาะที่ก�ำหนดไว้ในระเบยี บน้ี ข้อ ๑๐ งบประมาณรายจ่ายประจ�ำปีในประเภทเดียวกนั ตามขอ้ ๗ ใหถ้ วั จ่ายกนั ได้ ขอ้ ๑๑ ใหเ้ ลขาธกิ ารมอี ำ� นาจอนมุ ตั โิ อนหรอื เปลยี่ นแปลงรายการขา้ มประเภทรายจา่ ยตามขอ้ ๗ ได้เวน้ แต่ ก�ำหนดเปน็ รายการดงั ตอ่ ไปน้ี ให้ขอความเห็นชอบจากคณะกรรมการ (๑) รายการครภุ ัณฑ์ที่มีวงเงนิ ตอ่ หนว่ ยเกิน ๕,๐๐๐,๐๐๐ บาท (๒) รายการท่ีดนิ และสง่ิ กอ่ สรา้ งทม่ี วี งเงินแตล่ ะรายการเกิน ๑๐,๐๐๐,๐๐๐ บาท ขอ้ ๑๒ ภายใต้บงั คับข้อ ๑๑ ในกรณกี ารโอนหรอื เปล่ียนแปลงรายการในค่าใช้จ่ายดา้ นการลงทุนทม่ี าจากเงนิ งบประมาณแผน่ ดนิ แตกตา่ งจากทส่ี ำ� นกั งานงบประมาณกำ� หนด ใหข้ อความเหน็ ชอบจากคณะกรรมการ ในกรณมี คี วามจำ� เปน็ เรง่ ดว่ นเพอื่ ประโยชนข์ องสำ� นกั งาน เลขาธกิ ารมอี ำ� นาจโอนหรอื เปลยี่ นแปลงรายการก่อนเสนอคณะกรรมการได้ และให้รายงานประธานกรรมการทราบภายใน ๑๕ วันนับจากมีการโอนหรือเปล่ียนแปลงรายการเพอ่ื เสนอคณะกรรมการทราบตอ่ ไป ข้อ ๑๓ งบประมาณรายจ่าย ในปงี บประมาณใดใหจ้ า่ ยหรอื กอ่ หน้ีผกู พันภายในปงี บประมาณนัน้เวน้ แตก่ รณีจ�ำเป็นใหเ้ ลขาธิการมอี ำ� นาจอนุมตั ขิ ยายเวลาการใชจ้ า่ ยได้อีกไมเ่ กนิ ๖ เดือน หมวด ๓ การรายงานค่าใชจ้ า่ ยเงินงบประมาณ ข้อ ๑๔ ให้ส�ำนักงานรายงานผลตามแผนการด�ำเนินงานและแผนการเงินต่อคณะกรรมการทกุ ๖ เดือน ประกาศ ณ วันที่ ๑๔ พฤศจกิ ายน พ.ศ. ๒๕๖๐ ปยิ ะสกล สกลสตั ยาทร รฐั มนตรวี ่าการกระทรวงสาธารณสขุ ประธานกรรมการหลกั ประกันสุขภาพแหง่ ชาติ 164
ข้อบังคบั คณะกรรมการหลักประกนั สขุ ภาพแหง่ ชาติ เรื่อง การบรหิ ารงานบุคคล พ.ศ. ๒๕๖๐ โดยที่เป็นการสมควรปรับปรุงข้อบังคับว่าด้วยการบริหารงานบุคคลของส�ำนักงานหลักประกันสขุ ภาพแห่งชาติ ให้เปน็ ไปอยา่ งมีระบบมีประสิทธิภาพและเกิดประสทิ ธผิ ลมากย่ิงขึน้ อาศยั อำ� นาจตามความในมาตรา ๑๘ (๑๔) มาตรา ๑๙ (๓) แหง่ พระราชบญั ญตั หิ ลกั ประกนั สขุ ภาพแห่งชาติ พ.ศ. ๒๕๔๕ ประกอบมติคณะกรรมการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ครั้งท่ี ๑๓/๒๕๖๐ เมื่อวันที่๖ พฤศจิกายน ๒๕๖๐ คณะกรรมการหลกั ประกนั สขุ ภาพแหง่ ชาติจงึ ออกข้อบังคบั ไว้ ดังตอ่ ไปนี้ ขอ้ ๑ ข้อบังคับนเ้ี รียกว่า “ข้อบงั คับคณะกรรมการหลกั ประกันสขุ ภาพแห่งชาตวิ า่ ด้วยการบรหิ ารงานบุคคล พ.ศ. ๒๕๖๐” ข้อ ๒ ขอ้ บงั คับนใ้ี หใ้ ช้บงั คับตงั้ แต่บัดนี้ เปน็ ต้นไป ข้อ ๓ ให้ยกเลิก (๑) ข้อบังคับส�ำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ว่าด้วยการบริหารงานบุคคล พ.ศ. ๒๕๔๖ลงวันที่ ๒๑ มกราคม ๒๕๔๖ (๒) ข้อบังคับส�ำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ว่าด้วยการบริหารงานบุคคล พ.ศ. ๒๕๕๑(ฉบับที่ ๒) ลงวันที่ ๒๒ มกราคม ๒๕๕๑ ขอ้ ๔ ในข้อบังคับนี้ “คณะกรรมการ” หมายความวา่ คณะกรรมการหลกั ประกนั สขุ ภาพแหง่ ชาติ “ประธานกรรมการ” หมายความวา่ ประธานกรรมการหลกั ประกนั สุขภาพแห่งชาติ “เลขาธกิ าร” หมายความว่า เลขาธิการสำ� นักงานหลกั ประกนั สุขภาพแห่งชาติ “ผปู้ ฏบิ ตั งิ าน” หมายความวา่ ผปู้ ฏบิ ตั งิ านของสำ� นกั งานหลกั ประกนั สขุ ภาพแหง่ ชาตหิ รอื สำ� นกั งานสาขา “สำ� นกั งาน” หมายความวา่ สำ� นกั งานหลกั ประกนั สขุ ภาพแหง่ ชาตแิ ละใหห้ มายความรวมถงึ สำ� นกั งานสาขาด้วย ข้อ ๕ ในกรณีท่ีข้อบังคับนี้ไม่ได้ก�ำหนดเร่ืองท่ีเกี่ยวกับการบริหารงานบุคคลใดไว้หรือในกรณีที่มีปญั หาในการปฏิบัตติ ามข้อบังคบั น้ี ให้เลขาธิการเสนอคณะกรรมการเพ่อื พิจารณาวนิ จิ ฉัยชข้ี าด ข้อ ๖ ใหป้ ระธานกรรมการเป็นผู้รักษาการตามขอ้ บงั คับน้ี 165
หมวด ๑ การกำ� กับดูแลและการบังคบั บัญชา ข้อ ๗ ให้เลขาธิการเปน็ ผบู้ งั คบั บญั ชาของผปู้ ฏบิ ตั ิงานทุกต�ำแหน่ง ขอ้ ๘ ให้เลขาธิการมีอำ� นาจ (๑) บรรจุ แต่งต้ัง เลื่อน ลด ตัดเงินเดือนหรือค่าจ้าง ลงโทษทางวินัยเจ้าหน้าท่ีและลูกจ้างของสำ� นกั งานตลอดจนใหเ้ จ้าหนา้ ที่และลูกจ้างของส�ำนักงานออกจากตำ� แหน่ง ทัง้ น้ตี ามท่กี ำ� หนดไว้ในขอ้ บงั คบั นี้ และในกรณขี องเจา้ หนา้ ทแี่ ละลกู จา้ งของสำ� นกั งานทป่ี ฏบิ ตั งิ านในสำ� นกั ตรวจสอบ ใหฟ้ งั ความเหน็ ของคณะอนกุ รรมการตรวจสอบประกอบการพจิ ารณาด้วย (๒) ออกระเบียบหรือประกาศเก่ียวกับการบริหารงานบุคคลโดยไม่ขัดหรือแย้งกับระเบียบข้อบังคบั ประกาศ ขอ้ ก�ำหนด นโยบาย หรอื มติของคณะกรรมการ หมวด ๒ ผู้ปฏบิ ัตงิ านของส�ำนกั งาน ขอ้ ๙ ผู้ปฏิบัตงิ าน มี ๓ ประเภท ดงั น้ี (๑) เจ้าหน้าที่ ได้แก่ บุคคลผู้ซึ่งส�ำนักงานบรรจุแต่งต้ังให้ด�ำรงต�ำแหน่งท่ีเลขาธิการก�ำหนดตามขอ้ ๑๑ โดยใหป้ ฏิบัติงานเปน็ การประจำ� ภายหลงั จากพน้ ระยะเวลาทดลองปฏบิ ตั หิ น้าที่ (๒) ลกู จา้ ง ไดแ้ ก่ บคุ คลผซู้ ง่ึ สำ� นกั งานจา้ งใหท้ ำ� งานโดยมกี ารกำ� หนดระยะเวลาจา้ งไวใ้ นสญั ญาจา้ ง (๓) เจ้าหนา้ ที่ของรฐั ซงึ่ มาปฏิบัติงานในสำ� นักงานตามมติคณะรัฐมนตรี ขอ้ ๑๐ ต�ำแหนง่ ของผ้ปู ฏบิ ัติงาน มี ๓ ประเภท ดังน้ี ๑) ต�ำแหนง่ บริหาร (๒) ตำ� แหนง่ วิชาการ (๓) ต�ำแหนง่ ปฏิบัตกิ าร ขอ้ ๑๑ ภายใต้โครงสร้างและกรอบอัตราก�ำลังท่ีคณะกรรมการให้ความเห็นชอบส�ำนักงานจะมีผ้ปู ฏบิ ัติงานในต�ำแหนง่ ใด ประเภทใด ระดบั ใด อยูใ่ นส่วนงานใด จำ� นวนเท่าใด ใหเ้ ปน็ ไปตามทเี่ ลขาธิการกำ� หนดทงั้ นี้โดยคำ� นึงถึงความจ�ำเป็น ลกั ษณะหน้าที่ ความรบั ผิดชอบปรมิ าณและคุณภาพของงาน ข้อ ๑๒ ใหเ้ ลขาธกิ ารจดั ทำ� รายละเอยี ดเกย่ี วกบั หนา้ ทแี่ ละความรบั ผดิ ชอบของผปู้ ฏบิ ตั งิ านในแตล่ ะต�ำแหน่ง ลักษณะงานที่ต้องปฏิบัติ และคุณสมบัติเฉพาะส�ำหรับต�ำแหน่ง ท้ังนี้หน้าท่ีและความรับผิดชอบของงานจะต้องระบุทั้งงานหลักเฉพาะตำ� แหนง่ และงานอ่ืนที่ตอ้ งปฏิบัติหรือรับผดิ ชอบรว่ มกบั ตำ� แหนง่ อืน่ ดว้ ย166
หมวด ๓ การบรรจุแตง่ ต้ัง หรอื การจ้าง ข้อ ๑๓ ผู้ซ่ึงจะได้รับการบรรจุแต่งต้ังหรือจ้างให้เป็นเจ้าหน้าที่หรือลูกจ้างของส�ำนักงานต้องมีคุณสมบัตแิ ละไม่มีลักษณะตอ้ งหา้ มดงั ต่อไปน้ี (๑) มสี ัญชาติไทย (๒) มีอายไุ ม่ต�่ำกวา่ สิบแปดปีบริบูรณ์ และไม่เกินหกสบิ ปี (๓) สามารถทำ� งานใหแ้ กส่ ำ� นักงานได้เตม็ เวลา (๔) มคี ณุ วฒุ หิ รอื ประสบการณเ์ หมาะสมกบั วตั ถปุ ระสงคแ์ ละอำ� นาจหนา้ ทขี่ องสำ� นกั งาน รวมทง้ัเหมาะสมกบั งานเฉพาะน้นั ๆ (๕) ไม่เป็นข้าราชการหรือลูกจ้างของส่วนราชการ พนักงานหรือลูกจ้างของรัฐวิสาหกิจหรือหนว่ ยงานอนื่ ของรฐั หรือข้าราชการหรอื พนักงานหรอื ลกู จา้ งของสว่ นท้องถ่ิน (๖) ไม่เป็นบคุ คลล้มละลาย คนไรค้ วามสามารถ หรือคนเสมอื นไร้ความสามารถ (๗) ไม่เคยได้รับโทษจ�ำคุก โดยค�ำพิพากษาถึงที่สุดให้จ�ำคุก เว้นแต่เป็นโทษส�ำหรับความผิดที่ได้กระทำ� โดยประมาทหรือความผิดลหุโทษ (๘) ไม่เป็นผู้ด�ำรงต�ำแหน่งในทางการเมือง สมาชิกสภาท้องถ่ิน หรือผู้บริหารท้องถิ่น กรรมการหรอื ผดู้ ำ� รงตำ� แหนง่ ทร่ี บั ผดิ ชอบในการบรหิ ารพรรคการเมอื ง ทปี่ รกึ ษาพรรคการเมอื ง หรอื เจา้ หนา้ ทพ่ี รรคการเมอื ง ในกรณีที่มีเหตุผลและความจ�ำเป็นเพื่อประโยชน์ของส�ำนักงาน เลขาธิการอาจจ้างเจ้าหน้าท่ีหรือลกู จ้างท่มี ีอายุเกนิ หกสิบปใี นวันสิ้นปีงบประมาณ ใหป้ ฏิบตั งิ านตอ่ ไปก็ไดท้ ั้งนตี้ ามทก่ี ำ� หนดไวใ้ นขอ้ ๔๑ ข้อ ๑๔ การบรรจุแต่งตั้งหรือการจ้างบุคคลให้เป็นเจ้าหน้าที่หรือลูกจ้างของส�ำนักงานให้บรรจุแต่งตงั้ หรือจ้างจากผผู้ า่ นการคัดเลือกได้ในต�ำแหนง่ นนั้ ท้งั น้ตี ามหลักเกณฑแ์ ละวธิ กี ารที่เลขาธิการกำ� หนด ข้อ ๑๕ บุคคลผู้ได้รับการบรรจุแต่งตั้ง ให้เป็นเจ้าหน้าท่ีในต�ำแหน่งใด ให้ทดลองปฏิบัติหน้าที่ในตำ� แหน่งนนั้ เป็นเวลาสเี่ ดือน ในระหว่างเวลาทดลองปฏิบัติหน้าที่ ถ้าเลขาธิการเห็นว่า เจ้าหน้าท่ีผู้นั้นมีความประพฤติไม่ดีหรือไม่มีความรู้ หรือไม่มีความสามารถเหมาะสมท่ีจะปฏิบัติหน้าที่ในต�ำแหน่งที่ได้รับแต่งต้ัง และเห็นว่าไม่ควรให้ทดลองปฏบิ ตั หิ นา้ ทตี่ อ่ ไป เลขาธกิ ารจะสง่ั ใหเ้ จา้ หนา้ ทผี่ นู้ น้ั ออกจากงานกไ็ ดเ้ มอ่ื ครบกำ� หนดเวลาทดลองปฏบิ ตั หิ นา้ ท่ีใหเ้ ลขาธกิ ารพิจารณาเหน็ วา่ เจา้ หนา้ ที่ผู้นั้นมีความประพฤติ ความรู้ และความสามารถเหมาะสมทจี่ ะปฏิบตั หิ น้าที่ในตำ� แหนง่ ท่ีได้รบั แต่งต้งั หรือไม่ ถ้าเห็นว่าเจา้ หน้าทผ่ี ้นู ั้นควรปฏิบัติหนา้ ทต่ี อ่ ไป ใหเ้ ลขาธกิ ารบรรจแุ ต่งตั้งให้ดำ� รงตำ� แหนง่ เปน็ การประจำ� แตถ่ า้ เหน็ วา่ ควรใหผ้ นู้ นั้ ทดลองปฏบิ ตั หิ นา้ ทตี่ อ่ ไปอกี ระยะหนงึ่ หรอื เหน็ ควรใหอ้ อกจากงานเน่ืองจากมีความประพฤติไม่ดีหรือไม่มีความรู้หรือไม่มีความสามารถเหมาะสมท่ีจะปฏบัติหน้าท่ีในต�ำแหน่งที่ได้รับแตง่ ตง้ั ใหเ้ ลขาธกิ ารสง่ั ใหผ้ นู้ นั้ ทดลองปฏบิ ตั หิ นา้ ทตี่ อ่ ไปมกี ำ� หนดเวลาตามทเ่ี หน็ สมควร หรอื สงั่ ใหผ้ นู้ นั้ ออกจากงานแล้วแต่กรณี ผู้ซึ่งถูกสั่งให้ออกจากงานตามวรรคสองให้ถือเสมือนหน่ึงว่าไม่เคยเป็นเจ้าหน้าท่ีของส�ำนักงานแตท่ ัง้ นไี้ ม่กระทบกระเทือนถึงการปฏิบตั หิ นา้ ทหี่ รือการรับเงนิ เดอื นหรอื ผลประโยชนอ์ ่นื ใดที่ไดร้ ับในระหว่างท่ผี นู้ ั้นทดลองปฏิบตั หิ น้าท่ี 167
ข้อ ๑๖ ในกรณีจำ� เป็นโดยสภาพของงานท่มี ลี กั ษณะเฉพาะ หรอื งานท่มี ีลกั ษณะหรือเวลาของการปฏบิ ตั งิ านเปน็ พเิ ศษ หรอื งานทมี่ งุ่ หมายความสำ� เรจ็ ของงานเปน็ หลกั เลขาธกิ ารอาจจา้ งบคุ คลทเ่ี หน็ สมควรใหป้ ฏบิ ตั ิงานดงั กลา่ วเปน็ การเฉพาะกไ็ ด้ โดยทำ� เป็นสญั ญาจ้าง บุคคลท่ไี ด้รบั การจ้างตามวรรคหนึ่ง มิให้ถอื วา่ เปน็ ลกู จ้างตามข้อบงั คบั นี้ ข้อ ๑๗ การย้ายผู้ปฏิบัติงานผู้ด�ำรงต�ำแหน่งใด ไปแต่งตั้งให้ด�ำรงต�ำแหน่งอ่ืนให้เป็นอ�ำนาจของเลขาธกิ าร ขอ้ ๑๘ การเลอื่ นผปู้ ฏบิ ตั งิ านขน้ึ แตง่ ตงั้ ใหด้ ำ� รงตำ� แหนง่ ในระดบั ทสี่ งู ขนึ้ ใหเ้ ปน็ อำ� นาจของเลขาธกิ าร ขอ้ ๑๙ เจา้ หนา้ ทผี่ ใู้ ดไปรบั ราชการทหารตามกฎหมายวา่ ดว้ ยการรบั ราชการทหารเมอ่ื ผนู้ น้ั พน้ จากราชการทหารแลว้ โดยไมม่ คี วามเสยี หาย ประสงคจ์ ะเขา้ เปน็ เจา้ หนา้ ทข่ี องสำ� นกั งานตามเดมิ ภายในหนง่ึ รอ้ ยแปดสบิ วนันับแต่วันพ้นจากราชการทหาร ให้เลขาธิการพิจารณาบรรจุแต่งตั้งโดยให้ได้รับเงินเดือนตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่เลขาธกิ ารกำ� หนด เจา้ หนา้ ทซ่ี ง่ึ ไดก้ ลบั เขา้ ปฏบิ ตั งิ านตามวรรคหนงี่ ใหม้ สี ทิ ธนิ บั วนั ปฏบิ ตั งิ านกอ่ นถกู สงั่ ใหอ้ อกจากงานรวมกบั วนั รบั ราชการทหารตามกฎหมายวา่ ดว้ ยการรบั ราชการทหารและวนั ปฏบิ ตั งิ านเมอ่ื ไดร้ บั บรรจกุ ลบั เขา้ ปฏบิ ตั งิ านเป็นเวลาปฏิบัติงานติดต่อกัน เสมือนว่าผู้น้ันมิได้เคยถูกส่ังให้ออกจากงาน เจ้าหน้าที่ซึ่งอยู่ในระหว่างทดลองปฏิบัติหนา้ ทท่ี ไี่ ปรบั ราชการทหารตามกฎหมายวา่ ดว้ ยการรบั ราชการทหาร เมอ่ื ไดก้ ลบั เขา้ ปฏบิ ตั งิ านตามวรรคหนง่ึ แลว้ ให้ทดลองปฏบิ ตั ิหน้าทตี่ อ่ ไปในต�ำแหน่งเดมิ ทงั้ น้ใี หน้ �ำขอ้ ๑๕ มาใช้บงั คับโดยอนโุ ลม ข้อ ๒๐ ในกรณีจ�ำเป็นเลขาธิการมีอ�ำนาจส่ังให้ผู้ปฏิบัติงานไปปฏิบัติงานประจ�ำส่วนงานอ่ืนเป็นการชั่วคราว โดยใหพ้ ้นจากต�ำแหน่งหนา้ ทีเ่ ดมิ เป็นการชั่วคราวได้ ขอ้ ๒๑ ในกรณที ต่ี ำ� แหนง่ เจา้ หนา้ ทห่ี รอื ลกู จา้ งวา่ งลง หรอื ผปู้ ฏบิ ตั งิ านตำ� แหนง่ ใดไมส่ ามารถปฏบิ ตั ิหนา้ ทไี่ ด้ หรอื เปน็ กรณขี องตำ� แหนง่ ทก่ี ำ� หนดขนึ้ ใหม่ และยงั ไมไ่ ดม้ กี ารบรรจแุ ตง่ ตงั้ หรอื จา้ งบคุ คลใหด้ ำ� รงตำ� แหนง่ นนั้ใหเ้ ลขาธกิ ารมอี ำ� นาจส่งั ใหผ้ ้ปู ฏิบตั งิ านที่เห็นสมควรรกั ษาการในตำ� แหน่งนน้ั ได้เป็นการชว่ั คราว ให้ผู้รักษาการตามวรรคหน่ึง มีอ�ำนาจหน้าท่ีตามต�ำแหน่งท่ีตนรักษาการ ในกรณีท่ีมีกฎระเบียบข้อบงั คบั คำ� สงั่ หรือมติใดกำ� หนดให้ผ้ดู ำ� รงตำ� แหนง่ น้นั เปน็ กรรมการหรอื ให้มอี ำ� นาจหน้าที่อยา่ งใด ใหผ้ รู้ กั ษาการในต�ำแหนง่ ดงั กลา่ วเปน็ กรรมการหรอื มอี �ำนาจหน้าท่ตี ามที่ก�ำหนดนน้ั ด้วย หมวด ๔ เงินเดอื น ค่าจ้าง และประโยชน์ตอบแทนอนื่ ข้อ ๒๒ กรอบเงนิ เดือนหรอื คา่ จ้าง ใหเ้ ป็นไปตามท่ีคณะกรรมการให้ความเห็นชอบ ขอ้ ๒๓ เงนิ เดือนและค่าจ้างของผปู้ ฏิบัติงานแตล่ ะคน ให้เลขาธิการพจิ ารณาก�ำหนดให้เปน็ ไปตามขอ้ ๒๒ ท้งั นี้โดยค�ำนงึ ถึงปจั จัยดงั ต่อไปน้ี (๑) อัตราเงินเดือนหรือค่าจ้างของหน่วยงานอื่นที่มีสถานะใกล้เคียงกัน ท้ังในภาครัฐและภาคเอกชน (๒) สภาพของอตั ราคา่ แรงในตลาดแรงงานในประเทศ (๓) สถานการณ์และความจำ� เป็นของสำ� นงั าน (๔) สภาพทางเศรษฐกิจของประเทศ168
ข้อ ๒๔ ผู้ปฏิบัติงานอาจได้รับเงินประจ�ำต�ำแหน่ง เงินเพิ่มพิเศษ ค่าตอบแทนอ่ืน สวัสดิการการสงเคราะห์และประโยชน์เก้ือกูลอ่ืน ตามระเบียบ ประกาศท่ีส�ำนักงานก�ำหนด โดยความเห็นชอบของคณะกรรมการ เงนิ หรอื คา่ ตอบแทนตามวรรคหนง่ึ ไมถ่ อื เปน็ เงนิ เดอื นหรอื คา่ จา้ งในการคำ� นวณสทิ ธปิ ระโยชนต์ า่ งๆทผี่ ู้ปฏบิ ัตงิ านจะพงึ ไดร้ ับ ข้อ ๒๕ ระยะเวลาการจ่ายเงินเดือนหรือค่าจ้าง เงินประจ�ำต�ำแหน่ง เงินเพิ่มพิเศษหรือเงินค่าตอบแทนอื่น ใหเ้ ปน็ ไปตามทเ่ี ลขาธิการกำ� หนด ข้อ ๒๖ วัน เวลาท�ำงาน วันหยุดงานตามประเพณี วันหยุดงานประจ�ำปีและการลาหยุดงานของผปู้ ฏบิ ตั ิงาน ให้เป็นไปตามท่เี ลขาธิการก�ำหนด ข้อ ๒๗ เคร่อื งแบบและการแต่งเคร่อื งแบบ ให้เปน็ ไปตามทเ่ี ลขาธกิ ารก�ำหนด หมวด ๕ การเพ่มิ พนู ประสิทธิภาพและเสรมิ สร้างแรงจูงใจในการปฏิบัตงิ าน ข้อ ๒๘ ผู้ปฏิบัตงิ านผู้ใดปฏิบตั ติ นเหมาะสม และปฏิบตั หิ น้าทม่ี ีประสิทธภิ าพและเกิดประสิทธผิ ลในระดับอันเป็นท่ีพอใจของส�ำนักงาน ถือว่าผู้น้ันมีความชอบที่จะได้รับบ�ำเหน็จความชอบ ซ่ึงอาจเป็นค�ำชมเชยเครือ่ งเชิดชเู กียรติ รางวัลหรอื การได้เลอ่ื นเงนิ เดอื นหรอื ค่าจา้ งตามที่ก�ำหนดไวใ้ นข้อบงั คับนี้ ข้อ ๒๙ การเลื่อนเงนิ เดือนหรอื คา่ จา้ งให้ผู้ปฏิบตั ิงาน ให้เลขาธิการพจิ ารณาโดยคำ� นงึ ถึงคณุ ภาพและปริมาณงาน ประสิทธิภาพและประสิทธิผลของงานท่ีได้ปฏิบัติมา ความสามารถ และความอุตสาหะในการปฏิบัติงาน ตลอดจนการรักษาวนิ ัยและการปฏิบตั ิตน ท้ังน้ีตามหลกั เกณฑ์และวธิ กี ารท่ีเลขาธิการก�ำหนด ในกรณีท่ีไม่เลื่อนเงินเดือนหรือค่าจ้างประจ�ำปีให้ผู้ปฏิบัติงาน ให้เลขาธิการแจ้งให้ผู้นั้นทราบพรอ้ มท้ังเหตุผลท่ีไม่เลอื่ นเงินเดอื นหรือคา่ จ้างให้ ขอ้ ๓๐ ผปู้ ฏบิ ตั งิ านผใู้ ดถงึ แกค่ วามตายเนอื่ งจากการปฏบิ ตั หิ นา้ ทคี่ ณะกรรมการจะเลอื่ นเงนิ เดอื นหรอื ค่าจ้างให้ผนู้ ั้นเปน็ กรณีพเิ ศษกไ็ ด้ ข้อ ๓๑ ให้มีการพัฒนาผู้ได้รับการบรรจุเป็นเจ้าหน้าที่หรือลูกจ้างก่อนมอบหมายหน้าที่ให้ปฏิบัติเพอื่ ให้รรู้ ะเบียบแบบแผนของสำ� นกั งาน หลักและวธิ ีปฏิบัตงิ าน บทบาทและหนา้ ทแี่ ละแนวทางปฏบิ ตั ติ น ท้ังน้ตี ามหลักเกณฑแ์ ละวิธีการที่เลขาธกิ ารกำ� หนด ขอ้ ๓๒ ใหม้ กี ารพฒั นาผูป้ ฏบิ ัติงานกอ่ นเล่อื นขึ้นแต่งตั้งให้ดำ� รงตำ� แหนง่ บางตำ� แหนง่ เพ่ือเพ่ิมพนูความรู้ ทักษะ ทัศนคติที่ดี คุณธรรมและจริยธรรม อันจะท�ำให้ปฏิบัติหน้าที่ในต�ำแหน่งน้ันได้อย่างมีประสิทธิภาพท้งั น้ี ตามหลกั เกณฑแ์ ละวิธกี ารทเ่ี ลขาธกิ ารกำ� หนด ขอ้ ๓๓ การพฒั นาผปู้ ฏบิ ตั งิ านโดยใหไ้ ปศกึ ษาเพมิ่ เตมิ ฝกึ อบรม ดงู านหรอื ปฏบิ ตั งิ านวจิ ยั ในประเทศหรอื ต่างประเทศ ใหเ้ ปน็ ไปตามระเบยี บที่เลขาธิการกำ� หนด ข้อ ๓๔ ให้เลขาธิการมีอ�ำนาจหน้าที่ประเมินผลการปฏิบัติงานของผู้ปฏิบัติงานทุกๆ ปี เพื่อใช้ประกอบการพจิ ารณาแตง่ ตงั้ เลอื่ นเงนิ เดอื น พฒั นาบคุ ลากร เพม่ิ พนู ประสทิ ธภิ าพในการปฏบิ ตั งิ าน และใหอ้ อกจากงานหรอื เลิกจา้ งตามข้อ ๔๓ (๓) และมหี นา้ ที่เสริมสร้างแรงจูงใจใหผ้ ปู้ ฏิบัติงานปฏิบัติตนเหมาะสมและปฏิบตั ิหน้าที่อย่างมปี ระสทิ ธภิ าพและเกิดประสิทธผิ ล ท้ังนี้ตามหลกั เกณฑ์และวธิ ีการท่เี ลขาธกิ ารก�ำหนด 169
หมวด ๖ วนิ ัยและการรักษาวินยั ข้อ ๓๕ เจ้าหน้าทีห่ รือลกู จา้ งตอ้ งรกั ษาวนิ ยั ตามที่เลขาธกิ ารกำ� หนดโดยเครง่ ครดั อยเู่ สมอ ขอ้ ๓๖ เจา้ หนา้ ทหี่ รอื ลกู จา้ งผใู้ ดฝา่ ฝนื ขอ้ หา้ มหรอื ไมป่ ฏบิ ตั ติ ามขอ้ ปฏบิ ตั ทิ างวนิ ยั ตามทเี่ ลขาธกิ ารกำ� หนด ผู้นน้ั เปน็ ผู้กระท�ำผดิ วินยั จักต้องไดร้ ับโทษทางวินัย เวน้ แตม่ เี หตุอันควรงดโทษ ขอ้ ๓๗ โทษทางวนิ ยั มี ๔ สถานคือ (๑) ภาคทัณฑ์ (๒) ตดั เงินเดอื นหรือค่าจ้าง (๓) ปลดออก (๔) ไล่ออก ผูป้ ฏิบัติงานซึ่งถกู สงั่ ลงโทษไล่ออก ไมม่ ีสิทธิไดร้ ับเงนิ กองทุนส�ำรองเลยี้ งชพี ในส่วนของนายจา้ ง ผู้ปฏิบัติงานซึ่งถูกส่ังลงโทษไล่ออกเน่ืองจากทุจริตต่อหน้าท่ีอันเป็นความผิดอาญาให้ส�ำนักงานแจ้งความต่อพนกั งานสอบสวนเพื่อดำ� เนนิ คดีต่อไป ขอ้ ๓๘ การดำ� เนนิ การทางวนิ ยั แกเ่ จา้ หนา้ ทห่ี รอื ลกู จา้ ง ใหเ้ ปน็ ไปตามหลกั เกณฑว์ ธิ กี ารและเงอ่ื นไขทเ่ี ลขาธกิ ารกำ� หนด ขอ้ ๓๙ การลงโทษเจา้ หนา้ ทหี่ รอื ลกู จา้ ง เลขาธกิ ารตอ้ งสง่ั ลงโทษใหเ้ หมาะสมกบั ความผดิ และมไิ ด้เปน็ ไปโดยพยาบาท โดยอคติ หรือโดยโทสจรติ หรอื ลงโทษผทู้ ี่ไมม่ ีความผดิ ในคำ� สั่งลงโทษให้แสดงวา่ ผถู้ กู ลงโทษกระท�ำผดิ วนิ ัยในกรณีใดตามขอ้ ใด หมวด ๗ การออกจากงาน ขอ้ ๔๐ เจ้าหนา้ ที่หรอื ลกู จ้างออกจากงานเมอ่ื (๑) ตาย (๒) เกษยี ณอายุ (๓) ลาออกจากงานและไดร้ ับอนญุ าตใหล้ าออกหรอื การลาออกมีผลตามขอ้ ๔๒ (๔) ถกู สงั่ ให้ออกตามขอ้ ๑๕ หรือใหอ้ อกจากงานหรอื เลิกจ้างตามขอ้ ๔๓ (๕) ส้นิ สดุ สญั ญาจา้ ง (๖) ถกู สั่งลงโทษ ปลดออก ไล่ออก ขอ้ ๔๑ การออกจากงานเพราะเกษยี ณอายตุ ามขอ้ ๔๐ (๒) ใหน้ บั ตงั้ แตว่ นั ถดั จากวนั สนิ้ ปงี บประมาณที่เจ้าหน้าท่ีหรือลูกจ้างอายุครบหกสิบปีบริบูรณ์ เว้นแต่ผู้ปฏิบัติงานในต�ำแหน่งวิชาการหรือผู้เชี่ยวชาญ เลขาธิการอาจจ้างให้ปฏบิ ัตงิ านตอ่ ไปก็ได้ท้งั น้ีเพ่อื ประโยชนข์ องส�ำนักงาน วนั ออกจากงานตามข้อ ๔๐ (๔) หรอื (๖) ใหเ้ ป็นไปตามทเี่ ลขาธกิ ารก�ำหนด170
ขอ้ ๔๒ เจ้าหน้าท่หี รอื ลูกจ้างผใู้ ดประสงค์จะลาออกจากงาน ให้ย่นื หนังสอื ขอลาออกตอ่ เลขาธิการเป็นการล่วงหน้าก่อนวันขอลาออกไม่น้อยกว่าสามสิบวัน เว้นแต่กรณีจ�ำเป็นเลขาธิการอาจพิจารณาลดหย่อนระยะเวลาดังกลา่ วลงก็ได้ ในกรณีที่เลขาธิการเห็นว่าเพ่ือประโยชน์แก่งานของส�ำนักงาน เลขาธิการจะยับยั้งการลาออกไว้เป็นเวลาไม่เกินเก้าสิบวันนับแต่วันขอลาออกก้ได้ แต่ต้องแจ้งการยับยั้งการลาออกพร้อมท้ังเหตุผลให้ผู้ขอลาออกทราบ เมื่อครบกำ� หนดเวลาทย่ี บั ยง้ั แลว้ ให้การลาออกมีผลต้ังแตว่ นั ถัดจากวันครบกำ� หนดเวลาที่ยับย้ัง ในกรณีท่ีเจ้าหน้าท่ีหรือลูกจ้างผู้ใดจะลาออกเพ่ือสมัครรับเลือกตั้งเป็นสมาชิกรัฐสภา สมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น ให้ยื่นหนังสือขอลาออกต่อเลขาธิการและให้การลาออกมีผลนับต้ังแต่วันที่ผู้น้ันขอลาออก หลกั เกณฑแ์ ละวธิ กี ารเกยี่ วกบั การลาออก การพจิ ารณาอนญุ าตใหล้ าออกและการยบั ยงั้ การลาออกให้เป็นไปตามระเบียบทเ่ี ลขาธกิ ารก�ำหนด ขอ้ ๔๓ เลขาธกิ ารมอี ำ� นาจสง่ั ใหเ้ จา้ หนา้ ทห่ี รอื ลกู จา้ งออกจากงานหรอื เลกิ จา้ งไดใ้ นกรณตี อ่ ไปนี้ คอื (๑) เมือ่ เจา้ หนา้ ทห่ี รือลูกจา้ งผู้ใดขาดคุณสมบตั หิ รือมีลักษณะต้องห้ามตามขอ้ ๑๓ (๒) เมื่อส�ำนักงานยุบหรือเลิกต�ำแหน่งหรือยุบส่วนงานและไม่สามารถก�ำหนดให้ไปปฏิบัติงานในส่วนงานอื่นได้ (๓) เมอื่ เจา้ หนา้ ทหี่ รือลูกจ้างผูใ้ ด ไมส่ ามารถปฏิบัติงานให้มปี ระสิทธิภาพและเกดิ ประสิทธิผลตามทเี่ ลขาธิการกำ� หนด หมวด ๘ การรอ้ งทกุ ข์ ข้อ ๔๔ ผู้ปฏิบัติงานผู้ใดเห็นว่าเลขาธิการใช้อ�ำนาจหน้าที่ปฏิบัติต่อตนไม่ถูกต้องหรือไม่ปฏิบัติตอ่ ตนใหถ้ กู ตอ้ งตามกฎหมาย ระเบยี บหรอื แบบธรรมเนยี มของสำ� นกั งาน หรอื มคี วามคบั ขอ้ งใจอนั เกดิ จากการปฏบิ ตั ิของเลขาธกิ ารตอ่ ตน ผ้นู ้นั อาจร้องทุกขต์ ่อประธานกรรมการเพ่ือขอให้แก้ไขหรือแก้ความคับขอ้ งใจได้ ขอ้ ๔๕ การรอ้ งทุกขต์ ามขอ้ ๔๔ ตอ้ งกระท�ำภายในสามสบิ วนั นบั แตว่ ันทราบเรือ่ งทเี่ ปน็ มูลเหตใุ ห้รอ้ งทุกข์ ทง้ั นี้ ให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์และวิธกี ารทค่ี ณะกรรมการก�ำหนด หมวด ๙ การอทุ ธรณ์ ข้อ ๔๖ เจา้ หน้าทหี่ รอื ลกู จา้ งถกู สัง่ ใหอ้ อกจากงานหรือเลิกจ้างตามข้อ ๑๕ หรือขอ้ ๔๓ หรอื ผ้ใู ดถูกสงั่ ลงโทษทางวนิ ยั ตามข้อ ๓๗ ใหผ้ ู้น้ันมสี ทิ ธอิ ุทธรณ์ไดต้ ามหลักเกณฑแ์ ละวิธีการทก่ี �ำหนดไวใ้ นหมวดน้ี ขอ้ ๔๗ การอุทธรณต์ ามค�ำส่ังตามข้อ ๔๖ ใหอ้ ทุ ธรณต์ ่อคณะกรรมการภายในสามสิบวนั นบั แต่วนัทราบค�ำสั่ง 171
การอุทธรณ์และการพิจารณาอุทธรณ์ตามวรรคหน่ึง ให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์และวิธีการท่ีคณะกรรมการก�ำหนด ในกรณีท่ีคณะกรรมการวินิจฉัยให้ผู้อุทธรณ์กลับเข้าปฏิบัติงาน หรือให้เปลี่ยนแปลงค�ำส่ังของเลขาธิการหรือด�ำเนินการประการใด ให้เลขาธิการด�ำเนินการให้เป็นไปตามค�ำส่ังของคณะกรรมการและเม่ือคณะกรรมการวนิ ิจฉัยเปน็ ประการใดแล้วใหเ้ ป็นทสี่ ุด หมวด ๑๐ บทเฉพาะกาล ข้อ ๔๘ ขา้ ราชการหรือลูกจา้ งของส่วนราชการใด สมัครใจจะเปลยี่ นไปเป็นเจ้าหน้าทห่ี รอื ลกู จ้างของสำ� นกั งาน ใหแ้ จง้ ความจำ� นงเปน็ หนงั สอื ตอ่ ผบู้ งั คบั บญั ชา และใหเ้ ลขาธกิ ารเปน็ ผคู้ ดั เลอื กหรอื ประเมนิ โดยคำ� นงึถงึ ความรู้ ความสามารถและประสบการณใ์ นการทำ� งาน ทง้ั นจี้ ะตอ้ งสอดคลอ้ งกบั มาตรฐานตำ� แหนง่ และกรอบอตั ราก�ำลงั ตามขอ้ ๑๑ และข้อ ๑๒ ด้วย ข้อ ๔๙ มิให้น�ำโทษทางวินัยตามข้อ ๓๗ (๔) มาใช้บังคับกรณีเหตุการณ์ที่เป็นมูลเหตุให้มีการดำ� เนนิ การทางวนิ ัยกบั เจ้าหน้าทหี่ รือลกู จ้าง ซึง่ เกดิ ข้ึนก่อนวันทีข่ ้อบังคบั นม้ี ผี ลใชบ้ งั คับ ข้อ ๕๐ หลักเกณฑ์เก่ียวกับการบริหารงานบุคคลท่ีคณะกรรมการหรือเลขาธิการก�ำหนดไว้ตามข้อบังคับว่าด้วยการบริหารงานบุคคล พ.ศ. ๒๕๔๖ ให้ใช้บังคับต่อไป จนกว่าจะได้มีการก�ำหนดข้ึนใหม่ตามขอ้ บงั คบั น้ี ข้อ ๕๑ ในระหว่างที่ยังไม่มีระเบียบ ประกาศ หลักเกณฑ์หรือวิธีการที่ต้องออกตามข้อบังคับนี้ให้น�ำระเบียบ ข้อบังคับ ประกาศ หลักเกณฑ์ หรือวิธีการของทางราชการมาใช้บังคับโดยอนุโลมเท่าที่ไม่ขัดหรือแยง้ ข้อบงั คับน้ี ประกาศ ณ วนั ที่ ๑๙ ธนั วาคม พ.ศ. ๒๕๖๐ ปิยะสกล สกลสตั ยาทร รฐั มนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ประธานกรรมการหลักประกนั สขุ ภาพแหง่ ชาติ172
ประกาศส�ำนักงานหลักประกันสขุ ภาพแห่งชาติ เรื่อง หลกั เกณฑ์และวธิ กี ารบรรจแุ ต่งตัง้ เจา้ หนา้ ท่ี พ.ศ. ๒๕๕๗ โดยที่เป็นการสมควรก�ำหนดหลักเกณฑ์และวิธีการบรรจุแต่งต้ังหรือจ้างบุคคลท่ีผ่านการคัดเลือกให้เปน็ ผู้ปฏิบตั งิ านของส�ำนกั งานหลักประกันสุขภาพแหง่ ชาติ ใหม้ ีประสิทธภิ าพ อาศัยอ�ำนาจตามความในมาตรา ๓๑ และมาตรา ๓๖ แห่งพระราชบัญญัติหลักประกันสุขภาพแหง่ ชาติ พ.ศ. ๒๕๔๕ และขอ้ ๑๓ ของขอ้ บังคบั สำ� นกั งานหลกั ประกันสุขภาพแหง่ ชาติ วา่ ดว้ ยการบรหิ ารงานบุคคลพ.ศ. ๒๕๔๖ เลขาธิการส�ำนกั งานหลักประกันสขุ ภาพแหง่ ชาติ จึงออกประกาศไว้ ดงั ต่อไปนี้ ขอ้ ๑ ใหย้ กเลกิ ประกาศส�ำนักงานหลกั ประกนั สุขภาพแห่งชาติ เรื่อง หลกั เกณฑแ์ ละวิธีการบรรจุแต่งตง้ั เจ้าหน้าท่ี ลงวันท่ี ๒๗ สิงหาคม ๒๕๔๖ ข้อ ๒ การบรรจุแต่งตั้งหรือจ้าง บุคคลท่ีผ่านการคัดเลือกให้เป็นผู้ปฏิบัติงานของส�ำนักงานหลักประกนั สขุ ภาพแห่งชาติ ให้บรรจุแต่งตง้ั หรอื จ้างบุคคลน้นั ตั้งแต่วนั ท่ีเรม่ิ เข้าปฏบิ ตั ิหน้าท่ี ขอ้ ๓ ประกาศนี้ ให้ใช้บงั คับตงั้ แตบ่ ัดนี้ เป็นตน้ ไป ประกาศ ณ วันท่ี ๑๗ มิถนุ ายน พ.ศ. ๒๕๕๗ วนิ ยั สวสั ดิวร เลขาธิการส�ำนักงานหลักประกันสขุ ภาพแห่งชาติ 173
ระเบยี บส�ำนกั งานหลักประกนั สขุ ภาพแหง่ ชาติ ว่าด้วย วินยั การรักษาวนิ ัย และ หลักเกณฑ์ วิธกี าร และเงือ่ นไข การดำ� เนนิ การทางวินัย พ.ศ. ๒๕๕๗ โดยที่เป็นการสมควรก�ำหนดข้อปฏิบัติเกี่ยวกับวินัยและการรักษาวินัย รวมท้ังหลักเกณฑ์ วิธีการและเง่อื นไขเก่ยี วกับการดำ� เนินการทางวินยั เพอ่ื ให้การบรหิ ารงานบุคคลของส�ำนักงานหลกั ประกันสขุ ภาพแห่งชาติเปน็ ไปด้วยความเรียบรอ้ ยและมปี ระสทิ ธิภาพ อาศัยอ�ำนาจตามความในมาตรา ๓๑ มาตรา ๓๖ (๒) แห่งพระราชบัญญัติหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ พ.ศ. ๒๕๔๕ และข้อ ๓๕ และ ขอ้ ๓๘ ของขอ้ บังคับสำ� นักงานหลกั ประกนั สขุ ภาพแหง่ ชาติ ว่าด้วยการบรหิ ารงานบคุ คล พ.ศ.๒๕๔๖ และทแี่ กไ้ ขเพม่ิ เตมิ เลขาธกิ ารสำ� นกั งานหลกั ประกนั สขุ ภาพแหง่ ชาติ จงึ ออกประกาศไว้ ดงั ต่อไปน้ี ข้อ ๑ ระเบียบน้ีเรียกว่า “ระเบียบส�ำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติว่าด้วย วินัย การรักษาวินยั และหลกั เกณฑ์ วิธีการ เงื่อนไข การดำ� เนนิ การทางวินัย พ.ศ. ๒๕๕๗ ขอ้ ๒ ระเบียบน้ี ให้มผี ลใชบ้ ังคบั ตงั้ แต่ บัดนี้เป็นตน้ ไป ข้อ ๓ ในระเบยี บนี้ “ส�ำนักงาน” หมายความว่า ส�ำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติและให้หมายความรวมถึงส�ำนักงานหลักประกนั สขุ ภาพแหง่ ชาติสาขาเขตพนื้ ท่ดี ้วย “ผู้ปฏิบตั ิงาน” หมายความว่า เจ้าหน้าทแี่ ละลูกจา้ งของส�ำนักงาน หมวด ๑ วนิ ัยและการรกั ษาวินัย ข้อ ๔ ผู้ปฏิบัติงานต้องรักษาวินัย โดยกระท�ำการหรือไม่กระท�ำการตามท่ีบัญญัติไว้ในหมวดน้ีโดยเคร่งครดั ขอ้ ๕ ผู้ปฏิบัติงานต้องสนับสนุนการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขด้วยความบรสิ ทุ ธิ์ใจ ขอ้ ๖ ผู้ปฏิบัตงิ านตอ้ งกระทำ� การอันเปน็ ข้อปฏิบตั ิ ดงั ต่อไปน้ี (๑) ตอ้ งปฏบิ ตั ิหน้าท่ีด้วยความซ่ือสตั ย์ สุจรติ และเท่ยี งธรรม (๒) ตอ้ งปฏบิ ตั หิ นา้ ทใ่ี หเ้ ปน็ ไปตามกฎหมาย กฎ ระเบยี บ ขอ้ บงั คบั ประกาศ และประมวลจรยิ ธรรมของสำ� นักงานและคณะกรรมการหลกั ประกนั สขุ ภาพแห่งชาติ รวมทง้ั มติคณะรฐั มนตรีและนโยบายของรฐั บาล174
(๓) ตอ้ งปฏบิ ตั หิ นา้ ทใ่ี หเ้ กดิ ผลดหี รอื ความกา้ วหนา้ แกส่ ำ� นกั งานดว้ ยความตง้ั ใจอตุ สาหะ เอาใจใส่และรักษาประโยชนข์ องส�ำนักงาน (๔) ต้องปฏิบตั ติ ามค�ำสั่งของผ้บู ังคับบญั ชาซ่ึงส่งั ในหนา้ ที่โดยชอบด้วยกฎหมายและระเบียบของส�ำนักงาน โดยไม่ขัดขืนหรือหลีกเลี่ยง แต่ถ้าเห็นว่าการปฏิบัติตามค�ำสั่งนั้นจะท�ำให้เกิดความเสียหายแก่ส�ำนักงานหรือจะเป็นการไม่รักษาประโยชน์ของส�ำนักงาน จะต้องเสนอความเห็นเป็นหนังสือเพ่ือให้ผู้บังคับบัญชาทบทวนค�ำสั่งนัน้ และเมื่อได้เสนอความเหน็ แล้ว ถ้าผบู้ งั คบั บญั ชายนื ยนั ให้ปฏิบัติตามคำ� สงั่ เดิม ผู้ใต้บังคบั บัญชาต้องปฏิบตั ิตามค�ำสง่ั น้นั (๕) ต้องอุทิศเวลาของตนใหแ้ ก่ส�ำนกั งาน จะละทง้ิ หรือทอดทิ้งหนา้ ท่ี ทรี่ ับผิดชอบมไิ ด้ (๖) ต้องรกั ษาความลับของสำ� นักงาน (๗) ต้องสุภาพเรียบร้อย รักษาความสามัคคีและต้องช่วยเหลือกันในการปฏิบัติหน้าที่ระหว่างหน่วยงานและผรู้ ว่ มงานดว้ ยกนั (๘) ตอ้ งตอ้ นรบั ใหค้ วามสะดวก ใหค้ วามเปน็ ธรรมและใหก้ ารสงเคราะห์ แกป่ ระชาชนผตู้ ดิ ตอ่ งานที่เกยี่ วกับภารกจิ ของสำ� นกั งาน (๙) ตอ้ งวางตนเป็นกลางทางการเมืองในการปฏบิ ัติหนา้ ท่ี (๑๐) ตอ้ งรกั ษาชื่อเสียงและเกียรตศิ กั ด์ขิ องตนและสำ� นกั งาน มิใหเ้ สื่อมเสีย (๑๑) กระท�ำการอนื่ ใดตามท่ีส�ำนักงานก�ำหนด ขอ้ ๗ ผู้ปฏิบตั ิงานต้องไมก่ ระทำ� การใดอนั เปน็ ข้อห้าม ดงั ตอ่ ไปนี้ (๑) ต้องไม่รายงานเท็จต่อผู้บังคับบัญชา การรายงานโดยปกปิดข้อความซ่ึงควรต้องแจ้งถือว่าเป็นการรายงานเทจ็ ดว้ ย (๒) ต้องไม่ปฏิบัติงานอันเป็นการกระท�ำการข้ามผู้บังคับบัญชาเหนือตน เว้นแต่ ผู้บังคับบัญชาเหนือตนข้นึ ไปเป็นผู้ส่ังใหก้ ระท�ำหรือไดร้ ับอนญุ าตเปน็ พเิ ศษคร้งั คราว (๓) ต้องไม่อาศยั หรอื ยอมให้ผูอ้ ่ืนอาศัยตำ� แหนง่ หน้าท่ีของตนหาประโยชนท์ ่มี ิควรได้ใหแ้ กต่ นเองหรือผอู้ น่ื (๔) ตอ้ งไม่ประมาทเลนิ เลอ่ ในหน้าที่ทต่ี นรบั ผดิ ชอบ (๕) ตอ้ งไมก่ ระทำ� การหรอื ยอมใหผ้ อู้ น่ื กระทำ� การหาผลประโยชนอ์ นั อาจทำ� ใหเ้ สยี ความเทย่ี งธรรมหรอื เสื่อมเสียเกียรตศิ กั ดิ์ของต�ำแหนง่ หน้าท่ขี องตน (๖) ต้องไม่เป็นกรรมการผู้จัดการหรือผู้จัดการหรือด�ำรงต�ำแหน่งอื่นใดที่มีลักษณะงานคล้ายคลึงกันนัน้ ในห้างห้นุ สว่ นหรอื บรษิ ทั ทีเ่ ปน็ คู่สญั ญากับส�ำนกั งาน (๗) ต้องไม่กระท�ำการอยา่ งใดท่เี ป็นการกลั่นแกลง้ กดขห่ี รอื ข่มเหงกนั ในการปฏบิ ตั หิ นา้ ที่ (๘) ตอ้ งไมก่ ระท�ำการอนั เปน็ การลว่ งละเมิดหรือคกุ คามทางเพศ ตามที่กำ� หนดในกฎหมายอนื่ ใด (๙) ตอ้ งไมด่ ูหมิน่ เหยยี ดหยาม กดขี่ หรือข่มเหง ประชาชนผูต้ ดิ ตอ่ งาน (๑๐) ไมก่ ระทำ� การอ่ืนใดตามท่ีส�ำนักงานกำ� หนด ข้อ ๘ ผู้ปฏิบัติงานผู้ใดไม่ปฏิบัติตามข้อปฏิบัติ ข้อ ๕ ข้อ ๖ หรือฝ่าฝืนข้อห้ามตามข้อ ๗ ผู้น้ันเปน็ ผู้กระท�ำผิดวนิ ยั ข้อ ๙ การกระท�ำผิดวนิ ยั ในลกั ษณะดงั ต่อไปน้ี เป็นความผิดวนิ ัยอยา่ งรา้ ยแรง (๑) ปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าท่ีโดยมิชอบหรือโดยทุจริต เพ่ือให้เกิดความเสียหายหรือ 175
นา่ จะเกดิ ความเสยี หายอยา่ งรา้ ยแรงแก่ส�ำนักงานหรอื ผอู้ ่นื (๒) ละท้ิงหรือทอดท้ิงหน้าท่ีโดยไม่มีเหตุผลอันสมควรเป็นเหตุให้เกิดความเสียหายแก่ส�ำนักงานอย่างรา้ ยแรง (๓) ละท้งิ หนา้ ทีต่ ดิ ตอ่ ในคราวเดยี วกนั เป็นเวลาเกนิ สบิ หา้ วนั โดยไมม่ เี หตุอนั สมควร (๔) กระท�ำการโดยมีพฤติการณ์อันแสดงถึงความจงใจไม่ปฏิบัติตามข้อบังคับ ระเบียบ ประกาศของคณะกรรมการหลกั ประกนั สขุ ภาพแหง่ ชาตแิ ละสำ� นกั งาน เปน็ เหตใุ หเ้ กดิ ความเสยี หายแกส่ ำ� นกั งานอยา่ งรา้ ยแรง (๕) กระทำ� การอนั ไดช้ ื่อว่าเป็นผปู้ ระพฤตชิ ่ัวอย่างร้ายแรง (๖) ดหู มนิ่ เหยยี ดหยาม กดขี่ ข่มเหง หรอื ท�ำร้ายประชาชนผูต้ ดิ ต่องานอยา่ งรุนแรง (๗) กระทำ� ความผดิ อาญาจนไดร้ บั โทษจำ� คกุ หรอื โทษทห่ี นกั กวา่ โทษจำ� คกุ โดยคำ� พพิ ากษาถงึ ทสี่ ดุให้จ�ำคุกหรือให้รับโทษที่หนักกว่าโทษจ�ำคุก เว้นแต่เป็นโทษส�ำหรับความผิดที่ได้กระท�ำโดยประมาทหรือความผิดลหโุ ทษ (๘) ละเว้นการกระท�ำหรือกระท�ำการใด ๆ อันเป็นการไม่ปฏิบัติตามข้อ ๕ ข้อ ๖ หรือฝ่าฝืนข้อห้ามตามข้อ ๗ อนั เปน็ เหตใุ หเ้ สียหายแกส่ ำ� นกั งานอย่างรา้ ยแรง (๙) ละเว้นการกระท�ำหรือกระท�ำการใด ๆ อันเป็นการไม่ปฏิบัติตามข้อ ๕ ข้อ ๖ หรือฝ่าฝืนขอ้ ห้ามตามขอ้ ๗ ทีส่ �ำนกั งานกำ� หนดใหเ้ ปน็ ความผดิ วนิ ัยอย่างร้ายแรง หมวด ๒ การดำ� เนนิ การทางวนิ ยั ขอ้ ๑๐ เมอ่ื มกี ารกลา่ วหาหรอื มกี รณเี ปน็ ทสี่ งสยั วา่ ผปู้ ฏบิ ตั งิ านผใู้ ดกระทำ� ผดิ วนิ ยั ใหผ้ บู้ งั คบั บญั ชาของผู้นั้นมีหนา้ ที่ต้องรายงานใหเ้ ลขาธกิ ารทราบโดยเร็ว และให้เลขาธิการดำ� เนนิ การทางวินยั ตามระเบยี บนโี้ ดยเรว็ดว้ ยความยุตธิ รรมและปราศจากอคติ ผู้บังคับบัญชาผู้ใดละเลยไม่ปฏิบัติหน้าท่ีตามวรรคหน่ึงหรือปฏิบัติหน้าที่โดยไม่สุจริตให้ถือว่าผู้น้ันกระท�ำผดิ วนิ ัย ขอ้ ๑๑ เม่ือได้รบั รายงานตาม ขอ้ ๑๐ หรอื ความดังกล่าวปรากฏ ให้เลขาธกิ ารรีบด�ำเนนิ การหรือสงั่ ใหด้ ำ� เนนิ การสบื สวนหาขอ้ เทจ็ จรงิ หรอื พจิ ารณาในเบอ้ื งตน้ วา่ กรณมี มี ลู ทคี่ วรกลา่ วหาวา่ ผนู้ นั้ กระทำ� ผดิ วนิ ยั หรอืไม่ ถา้ เหน็ วา่ กรณไี มม่ มี ลู ทคี่ วรกลา่ วหาวา่ กระทำ� ผดิ วนิ ยั กใ็ หย้ ตุ เิ รอื่ ง กรณที เี่ หน็ วา่ มมี ลู ทคี่ วรกลา่ วหาวา่ ผปู้ ฏบิ ตั งิ านผู้ใดกระท�ำผิดวินัยโดยมีพยานหลักฐานเบื้องต้นอยู่แล้ว ให้แต่งต้ังคณะกรรมการสืบสวนหาข้อเท็จจริง โดยแจ้งขอ้ กลา่ วหาและสรปุ พยานหลกั ฐานใหผ้ ถู้ กู กลา่ วหาทราบพรอ้ มทงั้ รบั ฟงั คำ� ชแ้ี จงของผถู้ กู กลา่ วหา โดยใหร้ ายงานผลการสืบสวนต่อผู้แต่งตั้งคณะกรรมการสืบสวนหาข้อเท็จจริง ภายใน ๓๐ วันนับจากวันที่ได้รับการแต่งต้ังและด�ำเนนิ การตามขอ้ ๑๒ หรือขอ้ ๑๓ ต่อไปแลว้ แตก่ รณี ขอ้ ๑๒ ในกรณที ผ่ี ลการสบื สวนหรอื พจิ ารณา ตามขอ้ ๑๑ ปรากฏวา่ กรณมี มี ลู อนั เปน็ ความผดิ วนิ ยัไม่ร้ายแรง ถ้าเลขาธิการเห็นว่าผู้ถูกกล่าวหาได้กระท�ำผิดตามข้อกล่าวหา ให้สั่งลงโทษตามควรแก่กรณี โดยไม่ตั้งคณะกรรมการสอบสวนกไ็ ด้ ในกรณตี ามวรรคหนงึ่ ถา้ เลขาธกิ ารเหน็ วา่ ผถู้ กู กลา่ วหาไมไ่ ดก้ ระทำ� ผดิ ตามขอ้ กลา่ วหาใหส้ ง่ั ยตุ เิ รอ่ื ง176
ขอ้ ๑๓ ในกรณที ผ่ี ลการสบื สวนหรอื พจิ ารณา ตามขอ้ ๑๑ ปรากฏวา่ กรณมี มี ลู อนั เปน็ ความผดิ วนิ ยัอย่างรา้ ยแรง ใหเ้ ลขาธกิ ารแต่งต้ังคณะกรรมการสอบสวน จ�ำนวนไมน่ ้อยกว่า ๓ คน โดยมีเจา้ หนา้ ทีส่ ำ� นักกฎหมายเปน็ กรรมการไมน่ อ้ ยกวา่ ๑ คน และในการสอบสวนตอ้ งแจง้ ขอ้ กลา่ วหาและสรปุ พยานหลกั ฐานใหผ้ ถู้ กู กลา่ วหาทราบพรอ้ มทงั้ รบั ฟงั คำ� ชแี้ จงของผถู้ กู กลา่ วหา เมอ่ื คณะกรรมการสอบสวนดำ� เนนิ การเสรจ็ ใหร้ ายงานผลการสอบสวนและความเห็นต่อเลขาธิการ ถ้าเลขาธิการเห็นวา่ ผู้ถูกกล่าวหาไมไ่ ดก้ ระทำ� ผิดตามขอ้ กลา่ วหาให้ส่งั ยุตเิ รือ่ ง แตถ่ ้าเห็นว่าผถู้ ูกกลา่ วหากระท�ำผดิ ตามขอ้ กล่าวหา ใหด้ �ำเนนิ การต่อไปตามข้อ ๑๔ ข้อ ๑๕ หรือ ขอ้ ๑๖ แล้วแตก่ รณี ขอ้ ๑๔ ผู้ปฏบิ ัตงิ านผใู้ ดกระท�ำผดิ วนิ ัยไมร่ ้ายแรง ใหเ้ ลขาธกิ ารส่ังลงโทษภาคทัณฑ์ ตัดเงินเดือนหรอื ค่าจ้าง ตามควรแก่กรณใี หเ้ หมาะสมกบั ความผดิ ผูป้ ฏิบตั ิงานผใู้ ดกระทำ� ผิดวินัยอยา่ งรา้ ยแรงให้ลงโทษปลดออก ในกรณีมีเหตุอันควรลดหย่อน จะน�ำมาประกอบการพิจารณาลดโทษก็ได้ กรณีเป็นความผิดวินัยเลก็ น้อยและมีเหตอุ ันควรงดโทษ อาจวา่ กลา่ วตกั เตอื นหรือท�ำทัณฑบ์ นเปน็ หนงั สือกไ็ ด้ ผู้ใดถูกลงโทษปลดออก ไม่มีสิทธิได้รับเงินกองทุนส�ำรองเล้ียงชีพในส่วนของนายจ้างตั้งแต่วันที่ระเบยี บนมี้ ผี ลใชบ้ งั คบั จนถงึ วนั ทถ่ี กู ปลดออก ยกเวน้ ผถู้ กู ลงโทษปลดออกเนอ่ื งจากกระทำ� ผดิ วนิ ยั อยา่ งรา้ ยแรงตามขอ้ ๙(๓) ใหม้ สี ทิ ธริ ับเงินกองทนุ ส�ำรองเลี้ยงชพี เสมอื นผูน้ ัน้ ออกจากงาน ขอ้ ๑๕ ผปู้ ฏบิ ตั งิ านผใู้ ดมกี รณถี กู กลา่ วหาเปน็ หนงั สอื วา่ กระทำ� หรอื ละเวน้ กระทำ� ใดทเี่ ปน็ ความผดิวินัยอย่างร้ายแรง ถ้าเป็นการกล่าวหาต่อผู้บังคับบัญชาของผู้น้ันหรือต่อผู้มีหน้าที่สืบสวนสอบสวนหรือตรวจสอบตามกฎหมายหรอื ระเบยี บของสำ� นกั งาน หรอื เปน็ การกลา่ วหาโดยผบู้ งั คบั บญั ชาของผนู้ นั้ หรอื มกี รณถี กู ฟอ้ งคดอี าญาหรือต้องหาว่ากระท�ำความผิดอาญาอันมิใช่เป็นความผิดท่ีได้กระท�ำโดยประมาทที่ไม่เก่ียวกับหน้าท่ีหรือความผิดลหุโทษ แม้ภายหลังผู้นั้นจะออกจากงานไปแล้วโดยมิใช่เพราะเหตุตาย ผู้มีอ�ำนาจด�ำเนินการทางวินัยมีอ�ำนาจด�ำเนินการสืบสวน หรือพิจารณาและด�ำเนินการทางวินัย ตามที่บัญญัติไว้ในหมวดน้ีต่อไปได้เสมือนว่าผู้น้ันยังมิได้ออกจากงาน ทัง้ นี้เลขาธิการต้องด�ำเนินการภายในหนงึ่ ร้อยแปดสิบวนั นับแต่วนั ทผี่ นู้ ้นั พ้นจากการฏิบัตงิ าน ในกรณตี ามวรรคหนง่ึ ถา้ ผลการสอบสวนพจิ ารณาปรากฏวา่ ผนู้ น้ั กระทำ� ผดิ วนิ ยั ไมร่ า้ ยแรงกใ็ หง้ ดโทษ ขอ้ ๑๖ ผปู้ ฏบิ ตั งิ านผใู้ ดมกี รณถี กู กลา่ วหาวา่ กระทำ� ผดิ วนิ ยั อยา่ งรา้ ยแรง จนถกู ตง้ั กรรมการสอบสวนหรือถูกฟ้องคดีอาญาหรือต้องหาว่ากระท�ำความผิดอาญา เว้นแต่เป็นความผิดท่ีกระท�ำโดยประมาทหรือความผิดลหโุ ทษ เลขาธกิ ารมีอ�ำนาจสงั่ พักงานไวก้ ่อนเพอื่ รอฟงั ผลการสอบสวนหรอื พจิ ารณาหรอื ผลแห่งคดไี ด้ ถ้าภายหลังปรากฏผลการสอบสวนหรือพิจารณาว่า ผู้น้ันมิได้กระท�ำผิดหรือกระท�ำผิดไม่ถึงกับจะถูกลงโทษปลดออกและไม่มีกรณีท่ีจะต้องออกจากการปฏิบัติงานด้วยเหตุอ่ืน ให้เลขาธิการ สั่งให้ผู้น้ันกลับเข้าปฏบิ ตั ิงานในต�ำแหน่งและให้ได้รบั เงนิ เดือนตามเดมิ โดยให้ถือเสมอื นวา่ ไมเ่ คยถกู สง่ั พกั งานมากอ่ น เมอื่ ไดม้ ีการส่ังใหผ้ ู้ปฏิบัติงานผ้ใู ดพกั งานแลว้ ภายหลงั ปรากฏว่าผนู้ ้นั มีกรณถี กู กลา่ วหาว่ากระท�ำผิดวินัยอย่างร้ายแรงในกรณีอื่นอีก เลขาธิการมีอ�ำนาจด�ำเนินการหรือพิจารณาหรือแต่งต้ังคณะกรรมการสอบสวนตามข้อ ๑๓ ตลอดจนดำ� เนนิ การทางวนิ ัยตามทีบ่ ัญญัติไวใ้ นหมวดนี้ตอ่ ไปได้ ขอ้ ๑๗ หลกั เกณฑ์ วธิ กี าร เกย่ี วกบั การสอบสวนวนิ ยั แนวทางพจิ ารณาฐานความผดิ และการลงโทษท่มี ไิ ด้ก�ำหนดไวใ้ นระเบียบนี้ ใหน้ �ำกฎ ระเบียบ ท่อี อกตามพระราชบญั ญตั ิระเบียบข้าราชการพลเรอื น พ.ศ. ๒๕๕๑ท่ไี มข่ ัดหรอื แยง้ กับระเบยี บน้ี มาใชบ้ ังคบั โดยอนโุ ลม ประกาศ ณ วันท่ี ๔ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๕๗ วินัย สวสั ดวิ ร เลขาธิการสำ� นกั งานหลกั ประกันสุขภาพแห่งชาติ 177
ประกาศคณะกรรมการหลกั ประกนั สขุ ภาพแห่งชาติ เรอ่ื ง ค่าตอบแทนพิเศษแก่ผปู้ ฏบิ ัติงานทเี่ ข้าไปปฏบิ ัติงาน ในพนื้ ที่จังหวดั ชายแดนภาคใต้ พ.ศ. ๒๕๖๐ โดยทเี่ ปน็ การสมควรกำ� หนดคา่ ตอบแทนพเิ ศษใหแ้ กผ่ ปู้ ฏบิ ตั งิ านของสำ� นกั งานทปี่ ฏบิ ตั งิ านในพน้ื ท่ีจงั หวดั ชายแดนภาคใต้ อาศัยอ�ำนาจตามความในมาตรา ๑๙ (๓) แห่งพระราชบัญญัติหลักประกันสุขภาพแห่งชาติพ.ศ. ๒๕๔๕ ประกอบมตคิ ณะกรรมการหลกั ประกนั สขุ ภาพแหง่ ชาติ ครงั้ ที่ ๑๓/๒๕๖๐ เมอื่ วนั ท่ี ๖ พฤศจกิ ายน ๒๕๖๐คณะกรรมการหลกั ประกนั สุขภาพแหง่ ชาติ จงึ ออกประกาศไว้ดังตอ่ ไปน้ี ข้อ ๑ ใหย้ กเลิกประกาศสำ� นักงานหลักประกันสุขภาพแหง่ ชาติ เรือ่ ง เงินเพิม่ พเิ ศษเปน็ ค่าเสยี่ งภยัสำ� หรบั เจา้ หนา้ ทแ่ี ละลกู จา้ งของสำ� นกั งานหลกั ประกนั สขุ ภาพแหง่ ชาติ สาขาเขตพนื้ ที่ (สงขลา) ลงวนั ท่ี ๑๕ ธนั วาคมพ.ศ. ๒๕๔๘ ขอ้ ๒ ในประกาศนี้ “สำ� นักงาน” หมายความวา่ สำ� นักงานหลักประกนั สุขภาพแหง่ ชาติ “พนื้ ทจ่ี งั หวดั ชายแดนภาคใต”้ หมายความวา่ พน้ื ทจี่ งั หวดั ชายแดนภาคใตต้ ามทก่ี ระทรวงการคลงัก�ำหนดในแตล่ ะปงี บประมาณ ข้อ ๓ ให้เจ้าหน้าที่และลูกจ้างของส�ำนักงานที่ได้รับอนุมัติหรือมีค�ำส่ังให้เข้าไปปฏิบัติงานในพ้ืนที่จังหวัดชายแดนภาคใต้และได้เดินทางเข้าไปปฏิบัติงานจริงตามท่ีได้รับอนุมัติหรือค�ำส่ังดังกล่าว มีสิทธิได้รับเงินค่าตอบแทนพเิ ศษ ในอัตรา ๒๔๐ บาทต่อวัน โดยนับวันตามปฏทิ ิน ข้อ ๔ การเบกิ จ่ายคา่ ตอบแทนพิเศษ ตามขอ้ ๓ ใหใ้ ชเ้ อกสารหลกั ฐานประกอบการเบิกจ่าย ดงั น้ี (๑) หนังสืออนุมัติหรือค�ำส่ังให้เดินทางไปปฏิบัติงานในพ้ืนที่จังหวัดชายแดนภาคใต้และรายงานการเดนิ ทางไปปฏิบตั ิงานในพน้ื ท่ีจงั หวดั ชายแดนภาคใต้ ตามแบบที่ส�ำนกั งานก�ำหนด (๒) หลกั ฐานอน่ื ท่สี ำ� นักงานกำ� หนด ข้อ ๕ ประกาศนใ้ี ห้มีผลใชบ้ ังคบั ต้ังแตบ่ ัดนเ้ี ป็นต้นไป ประกาศ ณ วันท่ี ๑๙ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๖๐ ปิยะสกล สกลสตั ยาทร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ประธานกรรมการหลกั ประกนั สขุ ภาพแห่งชาติ178
ประกาศคณะกรรมการหลกั ประกันสขุ ภาพแหง่ ชาติ เร่อื ง คา่ ชดเชยและค่าทดแทนสำ� หรบั เจา้ หน้าทแี่ ละลูกจา้ ง พ.ศ. ๒๕๖๐ โดยที่กฎหมายว่าด้วยการคมุ้ ครองแรงงาน ฉบับที่ ๖ ได้ประกาศใช้บังคบั ต้ังแตว่ ันที่ ๑ กนั ยายน๒๕๖๐ เป็นต้นไป มีผลให้ลูกจ้างที่เกษียณอายุ มีสิทธิได้รับเงินชดเชยตามกฎหมายดังกล่าว และตามมาตรา ๒๔ วรรคสองของกฎหมายวา่ ดว้ ยหลกั ประกนั สขุ ภาพแหง่ ชาติ กำ� หนดใหเ้ จา้ หนา้ ทแี่ ละลกู จา้ งของสำ� นกั งานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ต้องได้รับประโยชน์ตอบแทนไม่น้อยกว่าที่ก�ำหนดไว้ในกฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองแรงงาน กฎหมายวา่ ด้วยประกนั สังคมและกฎหมายวา่ ดว้ ยเงินทดแทน อาศัยอ�ำนาจตามความในมาตรา ๑๙ (๓) แห่งพระราชบัญญัติหลักประกันสุขภาพแห่งชาติพ.ศ. ๒๕๔๕ ประกอบมติคณะกรรมการหลกั ประกนั สขุ ภาพแห่งชาติ ครง้ั ที่ ๑๓/๒๕๖๐ เมอ่ื วนั ที่ ๖ พฤศจกิ ายน๒๕๖๐ คณะกรรมการหลกั ประกนั สขุ ภาพแหง่ ชาติ จึงออกประกาศไวด้ ังตอ่ ไปนี้ ขอ้ ๑ ในประกาศน้ี “สำ� นกั งาน” หมายความวา่ ส�ำนกั งานหลกั ประกนั สขุ ภาพแหง่ ชาติ ขอ้ ๒ เจ้าหน้าท่ีและลกู จ้างมสี ทิ ธิได้รบั คา่ ชดเชย เมือ่ ส�ำนักงานเลิกจ้าง ในกรณีดงั นี้ (๑) กรณถี กู เลกิ จา้ ง เนอื่ งจากยบุ ตำ� แหนง่ หรอื เลกิ ตำ� แหนง่ หรอื ยบุ สว่ นงานและไมส่ ามารถกำ� หนดให้ไปปฏิบตั งิ านในสว่ นงานอื่นได้ หรือส้ินสดุ สัญญาจ้าง หรอื ถูกสง่ั ใหอ้ อกจากงานโดยไมม่ ีความผิด (๒) กรณีเกษียณอายุตามข้อบังคับว่าด้วยการบริหารงานบุคคล และให้เจ้าหน้าที่หรือลูกจ้างทม่ี อี ายุครบหกสบิ ปบี ริบรู ณ์ มสี ทิ ธแิ สดงเจตนาเกษียณอายรุ าชการได้ โดยให้แสดงเจตนาเป็นหนงั สอื ตอ่ ส�ำนักงานและใหส้ ำ� นกั งานจา่ ยคา่ ชดเชยใหแ้ ก่เจา้ หน้าที่หรอื ลูกจา้ งที่เกษยี ณอายุนนั้ ด้วย ขอ้ ๓ ให้ส�ำนักงานจ่ายค่าชดเชยให้แก่เจ้าหน้าที่และลูกจ้างตามข้อ ๒ ตามระยะเวลาท�ำงานและอตั รา ดงั นี้ (๑) เจา้ หนา้ ทแี่ ละลกู จา้ งซง่ึ ทำ� งานตดิ ตอ่ กนั ครบหนง่ึ รอ้ ยยส่ี บิ วนั แตไ่ มค่ รบหนงึ่ ปี ใหจ้ า่ ยคา่ ชดเชยในอตั ราหนง่ึ เดอื นของอัตราเงนิ เดือนหรือค่าจ้างเดอื นสดุ ทา้ ย (๒) เจ้าหนา้ ท่แี ละลูกจา้ งซึง่ ทำ� งานติดต่อกันครบหน่ึงปีแตไ่ ม่ครบสามปี ใหจ้ า่ ยค่าชดเชยในอตั ราสามเดือนของอตั ราเงินเดอื นหรอื คา่ จ้างเดอื นสุดท้าย (๓) เจ้าหน้าท่ีและลูกจ้างซ่ึงท�ำงานติดต่อกันครบสามปีแต่ไม่ครบหกปี ให้จ่ายค่าชดเชยในอัตราหกเดอื นของอัตราเงนิ เดือนหรอื คา่ จา้ งเดอื นสดุ ท้าย (๔) เจ้าหน้าที่และลูกจ้างซึ่งท�ำงานติดต่อกันครบหกปีแต่ไม่ครบสิบปี ให้จ่ายค่าชดเชยในอัตราแปดเดือนของอัตราเงนิ เดือนหรือค่าจ้างเดอื นสุดทา้ ย 179
(๕) เจ้าหน้าท่ีและลูกจ้างซ่ึงท�ำงานติดต่อกันครบสิบปีข้ึนไป ให้จ่ายค่าชดเชยในอัตราสิบเดือนของอัตราเงนิ เดอื นหรอื คา่ จ้างเดือนสดุ ทา้ ย (๖) เจา้ หนา้ ทแ่ี ละลกู จา้ งซง่ึ ทำ� งานตดิ ตอ่ กนั มากกวา่ สบิ ปขี นึ้ ไป ใหจ้ า่ ยคา่ ชดเชยไดต้ ามทก่ี ฎหมายวา่ ด้วยการคุ้มครองแรงงานบัญญัติ ขอ้ ๔ ส�ำนักงานไม่ต้องจ่ายค่าชดเชยตามข้อ ๓ ให้แก่เจ้าหน้าท่ีและลูกจ้างซึ่งถูกลงโทษทางวินัยถึงทส่ี ดุ ใหป้ ลดออก หรอื ไลอ่ อก ทงั้ นีต้ ามข้อบงั คบั ว่าด้วยการบริหารงานบุคคล ข้อ ๕ เจ้าหน้าที่และลูกจ้างซ่ึงท�ำงานติดต่อกันครบหน่ึงร้อยย่ีสิบวันและเสียชีวิต ให้มีสิทธิได้รับค่าทดแทนค่าจ้างตามระยะเวลาท�ำงานและอัตราที่ก�ำหนดในข้อ ๓ เว้นแต่เจ้าหน้าท่ีและลูกจ้างน้ัน จงใจท�ำให้ส�ำนักงานได้รับความเสียหาย หรือประมาทเลินเล่อเป็นเหตุให้ส�ำนักงานได้รับความเสียหายอย่างร้ายแรงหรอื ถกู ลงโทษตามข้อ ๔ สำ� นกั งานไม่ต้องจ่ายคา่ ทดแทนดังกลา่ ว คา่ ทดแทนคา่ จา้ งตามวรรคหนง่ึ ใหจ้ า่ ยแกบ่ คุ คลซง่ึ เจา้ หนา้ ทแ่ี ละลกู จา้ งทำ� หนงั สอื ระบใุ หเ้ ปน็ ผรู้ บัประโยชน์ไว้ตามแบบท่ีส�ำนักงานก�ำหนด กรณีเจ้าหน้าท่ีและลูกจ้างมิได้มีหนังสือระบุให้ผู้ใดเป็นผู้รับผลประโยชน์ใหจ้ า่ ยค่าทดแทนค่าจา้ งใหแ้ ก่ บตุ ร บิดามารดา และคสู่ มรส ของเจา้ หนา้ ท่ีหรอื ลูกจ้าง คนละเทา่ ๆ กัน ขอ้ ๖ ประกาศนีใ้ หใ้ ชบ้ ังคบั ต้งั แตว่ ันที่ ๑ กันยายน ๒๕๖๐ เปน็ ต้นไป ประกาศ ณ วันที่ ๑๙ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๖๐ ปิยะสกล สกลสัตยาทร รฐั มนตรวี า่ การกระทรวงสาธารณสขุ ประธานกรรมการหลักประกันสุขภาพแหง่ ชาติ180
ประกาศสำ� นกั งานหลักประกันสขุ ภาพแหง่ ชาติ เรอื่ ง การยา้ ยที่ตั้งและกำ� หนดชอ่ื สำ� นักงานสาขา ของสำ� นักงานหลกั ประกันสขุ ภาพแหง่ ชาติ โดยทเ่ี ปน็ การสมควรปรบั ปรงุ แกไ้ ข การกำ� หนดชอื่ สำ� นกั งานสาขาของสำ� นกั งานหลกั ประกนั สขุ ภาพแห่งชาติ ใหเ้ ป็นไปดว้ ยความเรยี บรอ้ ย เหมาะสมและมีประสทิ ธิภาพมากยง่ิ ขนึ้ อาศัยอ�ำนาจตามความในมาตรา ๓๑ และมาตรา ๓๖ แห่งพระราชบัญญัติหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ พ.ศ. ๒๕๔๕ ประกอบกบั ข้อ ๒ แหง่ ประกาศสำ� นักงานหลกั ประกันสุขภาพแหง่ ชาติ เรอ่ื งจัดต้งั ส�ำนักงานสาขาของสำ� นักงานหลักประกันสขุ ภาพแห่งชาติ ลงวนั ที่ ๑๕ กมุ ภาพันธ์ ๒๕๔๙ เลขาธิการส�ำนกั งานหลักประกนัสุขภาพแห่งชาติ จึงให้ยกเลิกประกาศส�ำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ เรื่องการย้ายท่ีตั้งและก�ำหนดช่ือสำ� นกั งานสาขาของสำ� นกั งานหลกั ประกนั สขุ ภาพแหง่ ชาติ ลงวนั ที่ ๑๘ ธนั วาคม ๒๕๕๑ และใหก้ ำ� หนดชอื่ สำ� นกั งานสาขาของสำ� นักงานหลกั ประกนั สุขภาพแห่งชาตใิ หม่ ดงั ตอ่ ไปน้ี (๑) สำ� นกั งานหลักประกนั สุขภาพแห่งชาติ เขต ๑ เชยี งใหม่ (๒) ส�ำนักงานหลกั ประกนั สุขภาพแหง่ ชาติ เขต ๒ พษิ ณโุ ลก (๓) ส�ำนักงานหลกั ประกันสขุ ภาพแห่งชาติ เขต ๓ นครสวรรค์ (๔) ส�ำนักงานหลกั ประกนั สขุ ภาพแหง่ ชาติ เขต ๔ สระบรุ ี (๕) สำ� นกั งานหลกั ประกนั สุขภาพแห่งชาติ เขต ๕ ราชบุรี (๖) สำ� นักงานหลักประกนั สขุ ภาพแหง่ ชาติ เขต ๖ ระยอง (๗) ส�ำนักงานหลกั ประกนั สขุ ภาพแหง่ ชาติ เขต ๗ ขอนแก่น (๘) สำ� นักงานหลกั ประกนั สขุ ภาพแหง่ ชาติ เขต ๘ อุดรธานี (๙) ส�ำนกั งานหลักประกันสขุ ภาพแห่งชาติ เขต ๙ นครราชสมี า (๑๐) ส�ำนกั งานหลกั ประกนั สุขภาพแห่งชาติ เขต ๑๐ อบุ ลราชธานี (๑๑) สำ� นกั งานหลักประกันสขุ ภาพแห่งชาติ เขต ๑๑ สุราษฎรธ์ านี (๑๒) ส�ำนักงานหลักประกันสุขภาพแหง่ ชาติ เขต ๑๒ สงขลา (๑๓) ส�ำนักงานหลกั ประกันสุขภาพแห่งชาติ เขต ๑๓ กรุงเทพมหานคร โดยท่ีส�ำนักงานสาขาดงั กลา่ วมเี ขตพืน้ ทีค่ วามรบั ผดิ ชอบ ตามทไ่ี ด้ก�ำหนดไว้เดมิ ท้งั น้ี ตง้ั แต่บัดนีเ้ ปน็ ต้นไป ประกาศ ณ วนั ท่ี ๒๕ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๕๑ วนิ ัย สวัสดวิ ร เลขาธกิ ารส�ำนกั งานหลกั ประกันสุขภาพแห่งชาติ 181
ประกาศส�ำนกั งานหลกั ประกันสุขภาพแห่งชาติ เร่ือง การแบ่งเขตพนื้ ทรี่ ับผดิ ชอบของสำ� นักงานสาขาเขตพน้ื ท่ี พ.ศ. ๒๕๕๔ โดยที่เป็นการสมควรปรับปรุงการแบ่งเขตพ้ืนที่รับผิดชอบของส�ำนักงานสาขาเขตพ้ืนที่ให้มีความเหมาะสมและมีประสทิ ธภิ าพในการปฏิบตั งิ านมากย่ิงขน้ึ และครอบคลุมจงั หวัดบงึ กาฬ อาศัยอ�ำนาจตามความในมาตรา ๓๑ และมาตรา ๓๖ แห่งพระราชบัญญัติหลักประกันสุขภาพแหง่ ชาติ พ.ศ. ๒๕๔๕ ประกอบประกาศส�ำนกั งานหลกั ประกันสขุ ภาพแห่งชาติ เรอื่ ง การยา้ ยที่ตงั้ และกำ� หนดช่ือส�ำนักงานสาขาของส�ำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ลงวันที่ ๒๕ ธันวาคม ๒๕๕๑ เลขาธิการส�ำนักงานหลกั ประกันสขุ ภาพแหง่ ชาติจึงออกประกาศ ดงั ต่อไปนี้ ขอ้ ๑ ให้ยกเลกิ ประกาศส�ำนกั งานหลักประกนั สุขภาพแห่งชาติ เรือ่ ง การแบง่ เขตพ้นื ท่ีรับผดิ ชอบของสำ� นกั งานสาขาเขตพนื้ ที่ พ.ศ. ๒๕๕๑ ลงวนั ที่ ๑๖ กนั ยายน ๒๕๕๑ ข้อ ๒ ใหส้ �ำนกั งานสาขาเขตพนื้ ท่ี มจี งั หวดั ในเขตพนื้ ที่รับผดิ ชอบ ดังน้ี (๑) สำ� นกั งานหลกั ประกนั สขุ ภาพแหง่ ชาติ เขต ๑ เชยี งใหม่ รบั ผดิ ชอบตลอดทอ้ งทจี่ งั หวดั เชยี งรายจังหวดั เชียงใหม่ จังหวดั น่าน จงั หวดั พะเยา จังหวดั แพร่ จงั หวัดแม่ฮอ่ งสอน จังหวัดล�ำปาง และจงั หวัดล�ำพูน (๒) สำ� นกั งานหลกั ประกันสุขภาพแหง่ ชาติ เขต ๒ พิษณุโลก รบั ผดิ ชอบตลอดทอ้ งท่ีจังหวดั ตากจังหวดั พิษณุโลก จงั หวัดเพชรบรู ณ์ จังหวัดสุโขทยั และจงั หวดั อุตรดิตถ์ (๓) ส�ำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ เขต ๓ นครสวรรค์ รับผิดชอบตลอดท้องท่ีจังหวัดก�ำแพงเพชร จงั หวัดชยั นาท จังหวดั นครสวรรค์ จงั หวดั พจิ ิตร และจงั หวดั อุทัยธานี (๔) สำ� นกั งานหลกั ประกนั สขุ ภาพแหง่ ชาติ เขต ๔ สระบรุ ี รบั ผดิ ชอบตลอดทอ้ งทจ่ี งั หวดั นครนายกจงั หวัดนนทบรุ ี จังหวัดปทุมธานี จังหวดั พระนครศรอี ยุธยา จังหวัดลพบุรี จังหวัดสระบรุ ี จงั หวดั สิงห์บุรี และจังหวัดอา่ งทอง (๕) สำ� นกั งานหลกั ประกนั สขุ ภาพแหง่ ชาติ เขต ๕ ราชบรุ ี รบั ผดิ ชอบตลอดทอ้ งทจี่ งั หวดั กาญจนบรุ ีจังหวดั นครปฐม จงั หวัดประจวบคีรีขนั ธ์ จงั หวดั เพชรบรุ ี จังหวดั ราชบรุ ี จังหวดั สมุทรสงคราม จังหวัดสมทุ รสาครและจังหวัดสุพรรณบรุ ี (๖) ส�ำนกั งานหลกั ประกนั สขุ ภาพแห่งชาติ เขต ๖ ระยอง รบั ผดิ ชอบตลอดท้องที่จังหวัดจันทบุรีจังหวัดฉะเชิงเทรา จังหวัดชลบุรี จังหวัดตราด จังหวัดปราจีนบุรี จังหวัดระยอง จังหวัดสระแก้ว และจังหวัดสมทุ รปราการ (๗) สำ� นกั งานหลกั ประกนั สขุ ภาพแหง่ ชาติ เขต ๗ ขอนแกน่ รบั ผดิ ชอบตลอดทอ้ งทจี่ งั หวดั กาฬสนิ ธ์ุจังหวดั ขอนแก่น จังหวัดมหาสารคาม และจงั หวดั ร้อยเอ็ด182
(๘) สำ� นกั งานหลกั ประกนั สขุ ภาพแหง่ ชาติ เขต ๘ อดุ รธานี รบั ผดิ ชอบตลอดทอ้ งทจ่ี งั หวดั นครพนมจงั หวัดบึงกาฬ จงั หวดั เลย จงั หวดั สกลนคร จังหวดั หนองคาย จงั หวดั หนองบวั ล�ำภู และจงั หวัดอุดรธานี (๙) ส�ำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ เขต ๙ นครราชสีมา รับผิดชอบตลอดท้องท่ีจังหวัดชัยภูมิ จังหวัดนครราชสมี า จงั หวดั บุรีรมั ย์ และจงั หวดั สุรนิ ทร์ (๑๐) ส�ำนักงานหลกั ประกนั สุขภาพแหง่ ชาติ เขต ๑๐ อุบลราชธานี รบั ผดิ ชอบตลอดทอ้ งทจ่ี งั หวัดมกุ ดาหาร จงั หวัดยโสธร จังหวัดศรีสะเกษ จงั หวัดอุบลราชธานี และจงั หวัดอ�ำนาจเจริญ (๑๑) สำ� นกั งานหลกั ประกนั สุขภาพแหง่ ชาตเิ ขต ๑๑ สุราษฎร์ธานี รับผดิ ชอบตลอดท้องท่ีจงั หวัดกระบี่ จังหวดั ชุมพร จงั หวดั นครศรธี รรมราช จงั หวดั พังงา จงั หวดั ภูเกต็ จังหวัดระนอง และจังหวัดสุราษฎรธ์ านี (๑๒) ส�ำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ เขต ๑๒ สงขลา รับผิดชอบตลอดท้องที่จังหวัดตรังจงั หวดั นราธิวาส จงั หวัดปัตตานี จังหวัดพัทลงุ จังหวดั ยะลา จงั หวัดสงขลา และจังหวัดสตลู (๑๓) ส�ำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ เขต ๑๓ กรุงเทพมหานคร รับผิดชอบตลอดท้องที่กรุงเทพมหานคร ข้อ ๓ การแบ่งเขตพื้นท่ีรับผิดชอบของส�ำนักงานสาขาเขตพื้นท่ีใด ขัดหรือแย้งกับประกาศน้ีให้ใชป้ ระกาศน้แี ทน ข้อ ๔ ประกาศนี้ ให้ใช้บังคับต้งั แต่วนั ที่ ๒๓ มีนาคม ๒๕๕๔ เปน็ ตน้ ไป ประกาศ ณ วนั ท่ี ๑๒ เมษายน พ.ศ. ๒๕๕๔ วนิ ยั สวสั ดิวร เลขาธกิ ารส�ำนกั งานหลักประกนั สขุ ภาพแหง่ ชาติ 183
ประกาศสำ� นักงานหลกั ประกนั สขุ ภาพแหง่ ชาติ เร่อื ง หลกั เกณฑ์การสนับสนนุ คา่ ใช้จา่ ยดำ� เนินงานท่สี �ำนักงาน มอบให้องค์กรอ่นื หรือบุคคลอ่นื ทำ� กิจการในอ�ำนาจหนา้ ทขี่ องส�ำนกั งาน พ.ศ. ๒๕๖๐ โดยทเ่ี ปน็ การสมควรกำ� หนดหลกั เกณฑก์ ารสนบั สนนุ คา่ ใชจ้ า่ ยดำ� เนนิ งานทส่ี ำ� นกั งานมอบใหอ้ งคก์ รอนื่ หรอื บคุ คลอนื่ ทำ� กจิ การในอำ� นาจหนา้ ทข่ี องสำ� นกั งาน เพอ่ื ใหก้ ารเบกิ จา่ ยเงนิ บรหิ ารจดั การสำ� นกั งาน เปน็ ไปอยา่ งมปี ระสทิ ธภิ าพมากยิง่ ขนึ้ อาศัยอำ� นาจตามความในมาตรา ๓๑ และมาตรา ๓๖ (๒) แหง่ พระราชบัญญตั ิหลกั ประกันสุขภาพแหง่ ชาติ พ.ศ. ๒๕๔๕ ประกอบขอ้ ๒๗ ของระเบยี บคณะกรรมการหลกั ประกนั สขุ ภาพแหง่ ชาติ วา่ ดว้ ย การเกบ็ รกั ษาและการใช้จา่ ยเงินของสำ� นกั งาน พ.ศ. ๒๕๖๐ เลขาธกิ ารส�ำนกั งานหลกั ประกันสขุ ภาพแห่งชาติ จึงออกประกาศไว้ดงั ต่อไปน้ี ข้อ ๑ ใหย้ กเลกิ ประกาศสำ� นกั งานหลกั ประกนั สขุ ภาพแหง่ ชาติ เรอื่ ง การวางแผนและการขอยกเวน้หลกั ประกนั สัญญา พ.ศ. ๒๕๕๗ ขอ้ ๒ ในประกาศนี้ “สำ� นกั งาน” หมายถงึ สำ� นกั งานหลกั ประกนั สขุ ภาพแหง่ ชาติ และใหห้ มายรวมถงึ สำ� นกั งานสาขาเขตพน้ื ทีด่ ว้ ย “เลขาธกิ าร” หมายถึง เลขาธกิ ารสำ� นกั งานหลกั ประกนั สุขภาพแหง่ ชาติ “ค่าใช้จ่ายด�ำเนินงาน” หมายถึง ค่าใช้จ่ายที่ส�ำนักงานสนับสนุนให้แก่องค์กรอื่นหรือบุคคลอ่ืนเพอ่ื ด�ำเนินงานทสี่ �ำนกั งานมอบใหท้ ำ� กิจการในอำ� นาจหนา้ ทแ่ี ทนส�ำนกั งาน ข้อ ๓ หลักเกณฑ์การสนบั สนนุ คา่ ใชจ้ ่ายด�ำเนนิ งานตามโครงการ มดี งั นี้ ๓.๑ เปน็ โครงการดำ� เนนิ การภายใตอ้ ำ� นาจหนา้ ทขี่ องสำ� นกั งาน ตามมาตรา ๒๖ มาตรา ๑๘และมาตรา ๕๐ และมาตราอ่ืนๆ ท่ีเกี่ยวข้องแห่งกฎหมายว่าด้วยหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ โดยค�ำนึงถึงความคุ้มคา่ โปร่งใส มปี ระสิทธิภาพ ประสทิ ธผิ ล และตรวจสอบได้ ๓.๒ เป็นโครงการที่รองรับแผนด�ำเนินงานที่ได้รับความเห็นชอบและแผนการเงินที่ได้รับอนุมตั จิ ากคณะกรรมการหลกั ประกันสุขภาพแหง่ ชาติ ๓.๓ เปน็ โครงการที่ไมม่ รี ายการคา่ ใชจ้ ่ายทีเ่ ป็นค่าครภุ ณั ฑ์ ๓.๔ เป็นโครงการท่ีไม่เป็นการพัฒนาบุคลากรของหน่วยบริการหรือหน่วยงานอ่ืนซ่ึงไม่เกย่ี วข้องกับอ�ำนาจหน้าที่ของสำ� นกั งาน ๓.๕ เป็นโครงการท่ีไม่เข้าลักษณะซึ่งต้องด�ำเนินการตามกฎหมายว่าด้วยการจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดภุ าครฐั184
ขอ้ ๔ การสนบั สนนุ คา่ ใชจ้ า่ ยในการดำ� เนนิ งานตามโครงการ ใหม้ กี ารแตง่ ตง้ั คณะกรรมการ ๒ คณะดงั น้ี ๔.๑ คณะกรรมการพิจารณาโครงการ โดยมีองค์ประกอบไม่น้อยกว่า ๓ คน และมอี ำ� นาจหน้าที่ ดังน้ี (๑) พิจารณาความเหมาะสมให้เป็นไปตามวัตถุประสงค์ของโครงการและจ�ำนวนเงินคา่ ใชจ้ า่ ยในโครงการ โดยพจิ ารณาจากอัตราค่าใช้จ่ายตามระเบยี บหรอื ประกาศของสำ� นักงาน (๒) พจิ ารณากำ� หนดจำ� นวนงวดการสง่ มอบงานและการจา่ ยเงนิ ในแตล่ ะงวด ตามขอ้ ๖ (๓) พิจารณาประเมินค่าความเสียหาย กรณีท่ีผู้รับเงินสนับสนุนไม่ด�ำเนินการตามขอ้ ตกลงหรือสัญญา ๔.๒ คณะกรรมการตรวจรบั งาน โดยมอี งค์ประกอบไมน่ อ้ ยกว่า ๓ คน เว้นแต่โครงการทม่ี ีจำ� นวนเงนิ ไมเ่ กนิ ๒๐๐,๐๐๐ บาท อาจแตง่ ตงั้ เจา้ หนา้ ทขี่ องสำ� นกั งานคนหนง่ึ เปน็ ผตู้ รวจรบั งานกไ็ ด้ และใหม้ อี ำ� นาจหน้าที่ ดังน้ี (๑) ตรวจรับ ก�ำกบั ติดตาม ผลงานให้ถกู ต้อง ครบถว้ น ตรงตามเงอ่ื นไขที่ก�ำหนดไว้ในขอ้ ตกลงหรือสญั ญา (๒) พิจารณาเสนอความเห็นต่อผู้ท่ีได้รับมอบอ�ำนาจจากเลขาธิการ กรณีผู้รับด�ำเนินงานตามโครงการขอขยายระยะเวลาด�ำเนินการตามข้อตกลงหรือสัญญา ท้ังน้ีผู้รับด�ำเนินงานตามโครงการตอ้ งขอขยายระยะเวลากอ่ นท่ขี ้อตกลง/สัญญาจะสนิ้ สดุ ไมน่ อ้ ยกว่า ๑๕ วัน และขอขยายระยะเวลาไดไ้ มเ่ กนิ ๒ คร้งัครัง้ ละไมเ่ กิน ๓ เดอื น (๓) พจิ ารณาเสนอความเห็นตอ่ คณะกรรมการพิจารณาโครงการตาม ๔.๑ กรณกี ารส่งมอบงานไม่ถูกต้อง ครบถ้วน ตรงตามเง่ือนไขที่ก�ำหนดไว้ในข้อตกลงหรือสัญญา เพ่ือพิจารณาประเมินค่าความเสียหาย ขอ้ ๕ การแต่งต้ังคณะกรรมการ การอนุมัติและการส่ังการตามความเห็นของคณะกรรมการตามขอ้ ๔ รวมถึงการลงนามในขอ้ ตกลงและสัญญาตามข้อ ๗ ให้เปน็ ไปตามคำ� ส่ังมอบอ�ำนาจของเลขาธิการ ขอ้ ๖ การกำ� หนดจำ� นวนงวดการสง่ มอบงานและงวดการจา่ ยเงนิ ใหค้ ำ� นงึ ถงึ ผลงานทจี่ ะสง่ มอบในแต่ละงวดสอดคล้องกับค่าใช้จ่ายที่เกิดข้ึนจริงในแต่ละงวดด้วย โดยก�ำหนดงวดการส่งมอบงานและงวดการจ่ายเงินอย่างน้อย ๒ งวดดังนี้ ๖.๑ งวดแรก ให้จ่ายได้ไม่เกินร้อยละ ๘๐ ของเงินสนับสนุนโครงการ โดยต้องมีแผนปฏิบัติงานทต่ี อ้ งดำ� เนินงานในงวดแรกประกอบ ๖.๒ งวดสุดท้ายให้จ่ายตามจำ� นวนเงินท่ีเหลือ แต่ไม่น้อยกวา่ ร้อยละ ๒๐ ของเงินสนบั สนุนโครงการ โดยต้องมกี ารส่งมอบงานหรอื รายงานผลการด�ำเนินงานทั้งหมดของโครงการประกอบ ข้อ ๗ โครงการที่ผ่านการพิจารณาจากคณะกรรมการพิจารณาโครงการตามข้อ ๔.๑ และได้รับอนุมัตจิ ากผมู้ อี �ำนาจตามข้อ ๕ แล้ว ให้ดำ� เนินการดังน้ี ๗.๑ กรณผี รู้ บั ดำ� เนนิ งานตามโครงการเปน็ หนว่ ยงานภาครฐั ใหจ้ ดั ทำ� เปน็ ขอ้ ตกลงตามแบบที่ส�ำนักงานก�ำหนด โดยไมต่ อ้ งวางหลกั ประกนั ๗.๒ กรณผี รู้ บั ด�ำเนนิ งานตามโครงการเปน็ องคก์ รอื่นหรอื บุคคลอน่ื ทีไ่ มใ่ ช่หน่วยงานภาครัฐให้จดั ท�ำเปน็ สัญญาตามแบบท่ีส�ำนกั งานกำ� หนด โดยใหห้ ักเงนิ ทีพ่ งึ จา่ ยในงวดทห่ี นงึ่ ไวร้ ้อยละ ๕ ของเงนิ สนับสนนุ 185
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147
- 148
- 149
- 150
- 151
- 152
- 153
- 154
- 155
- 156
- 157
- 158
- 159
- 160
- 161
- 162
- 163
- 164
- 165
- 166
- 167
- 168
- 169
- 170
- 171
- 172
- 173
- 174
- 175
- 176
- 177
- 178
- 179
- 180
- 181
- 182
- 183
- 184
- 185
- 186
- 187
- 188
- 189
- 190
- 191
- 192
- 193
- 194
- 195
- 196
- 197
- 198
- 199
- 200
- 201
- 202
- 203
- 204
- 205
- 206
- 207
- 208
- 209
- 210
- 211
- 212
- 213
- 214
- 215
- 216
- 217
- 218
- 219
- 220
- 221
- 222
- 223
- 224
- 225
- 226
- 227
- 228
- 229
- 230
- 231
- 232
- 233
- 234
- 235
- 236
- 237
- 238
- 239
- 240
- 241
- 242
- 243
- 244
- 245
- 246
- 247
- 248
- 249
- 250
- 251
- 252
- 253
- 254
- 255
- 256
- 257
- 258
- 259
- 260
- 261
- 262
- 263
- 264
- 265
- 266
- 267
- 268
- 269
- 270
- 271
- 272
- 273
- 274
- 275
- 276
- 277
- 278
- 279
- 280
- 281
- 282
- 283
- 284
- 285
- 286
- 287
- 288
- 289
- 290
- 291
- 292
- 293
- 294
- 295
- 296
- 297
- 298
- 299
- 300
- 301
- 302
- 303
- 304
- 305
- 306
- 307
- 308
- 309
- 310
- 311
- 312
- 313
- 314
- 315
- 316
- 317
- 318
- 319
- 320
- 321
- 322
- 323
- 324
- 325
- 326
- 327
- 328
- 329
- 330
- 331
- 332
- 333
- 334
- 335
- 336
- 337
- 338
- 339
- 340
- 341
- 342
- 343
- 344
- 345
- 346
- 347
- 348
- 349
- 350
- 351
- 352
- 353
- 354
- 355
- 356
- 357
- 358
- 359
- 360
- 361
- 362
- 363
- 364
- 365
- 366
- 367
- 368
- 369
- 370
- 371
- 372
- 373
- 374
- 375
- 376
- 377
- 378
- 379
- 380
- 381
- 382
- 383
- 384
- 385
- 386
- 387
- 388
- 389
- 390
- 391
- 392
- 393
- 394
- 395
- 396
- 397
- 398
- 399
- 400
- 401
- 402
- 403
- 404
- 405
- 406
- 407
- 408
- 409
- 410
- 411
- 412
- 413
- 414
- 415
- 416
- 417
- 418
- 419
- 420
- 421
- 422
- 423
- 424
- 425
- 426
- 427
- 428
- 429
- 430
- 431
- 432
- 433
- 434
- 435
- 436
- 437
- 438
- 439
- 440
- 441
- 442
- 443
- 444
- 445
- 446
- 447
- 448
- 449
- 450
- 451
- 452
- 453
- 454
- 455
- 456
- 457
- 458
- 459
- 460
- 461
- 462
- 463
- 464
- 465
- 466
- 467
- 468
- 469
- 470
- 471
- 472
- 473
- 474
- 475
- 476
- 477
- 478
- 479
- 480
- 481
- 482
- 1 - 50
- 51 - 100
- 101 - 150
- 151 - 200
- 201 - 250
- 251 - 300
- 301 - 350
- 351 - 400
- 401 - 450
- 451 - 482
Pages: