Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore กฏ ระเบียบ ที่ออกตามกฎหมายว่าด้วยหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ

กฏ ระเบียบ ที่ออกตามกฎหมายว่าด้วยหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ

Published by kc_studio, 2018-10-12 02:24:50

Description: กฏ ระเบียบ ที่ออกตามกฎหมายว่าด้วยหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ

Search

Read the Text Version

โครงการหรือให้ผู้รับด�ำเนินงานตามโครงการวางหลักประกันสัญญาตามหลักเกณฑ์แห่งกฎหมายว่าด้วยการจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐโดยอนุโลม เว้นแต่ผู้รับด�ำเนินงานตามโครงการเป็นองค์กรอ่ืนท่ีไม่แสวงหาก�ำไรและจ�ำนวนเงินสนับสนุนตามสัญญาไม่เกิน ๒๐๐,๐๐๐ บาท อาจย่ืนค�ำขอต่อส�ำนักงานเพื่อขอยกเว้นหลักประกันสัญญากไ็ ด้ ๗.๓ การคนื หรอื จา่ ยคนื หลกั ประกนั สญั ญา จะกระทำ� ไดเ้ มอื่ สญั ญาสน้ิ สดุ และผตู้ รวจรบั งานได้ตรวจรบั งานถูกตอ้ งครบถว้ นตามวัตถุประสงค์ของสัญญาแล้ว โดยใหค้ ืนหรอื จ่ายคืนหลกั ประกันสญั ญาพรอ้ มกับการจา่ ยเงนิ งวดสดุ ท้าย ขอ้ ๘ การเบกิ จา่ ยเงนิ ตามขอ้ ตกลงหรอื สญั ญา จะกระทำ� ไดต้ อ่ เมอื่ คณะกรรมการตรวจรบั งานหรอืเจา้ หน้าที่ตามข้อ ๔.๒ ได้ตรวจรับงานถูกตอ้ ง ครบถว้ น ตรงตามเงอื่ นไขในขอ้ ตกลงหรอื สัญญาและมกี ารอนุมตั จิ ่ายโดยผมู้ ีอำ� นาจแล้ว ข้อ ๙ การสนบั สนนุ คา่ ใชจ้ า่ ยดำ� เนนิ งานตามอำ� นาจหนา้ ทขี่ องสำ� นกั งานทตี่ อ้ งปฏบิ ตั ติ ามขอ้ บงั คบัระเบียบ ประกาศ ท่ีคณะกรรมการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติหรือคณะกรรมการควบคุมคุณภาพและมาตรฐานบริการสาธารณสุขกำ� หนดและต้องดำ� เนินงานตอ่ เนื่อง อาจไมต่ อ้ งท�ำเปน็ โครงการกไ็ ด้ เชน่ การรับพิจารณาคำ� รอ้ งและจา่ ยเงนิ ชว่ ยเหลอื เบอื้ งตน้ กรณผี รู้ บั บรกิ ารไดร้ บั ความเสยี หายจากการรกั ษาพยาบาลของหนว่ ยบรกิ าร ตามมาตรา ๔๑การก�ำหนดหน่วยรับเรื่องร้องเรียนตามมาตรา ๕๐ (๕) แห่งกฎหมายว่าด้วยหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ เป็นต้นหากในข้อบังคับ ระเบียบ ประกาศดังกล่าวได้ระบุช่ือหรือต�ำแหน่งขององค์กรอื่นไว้แล้ว เม่ือส�ำนักงานอนุมัติแผนปฏิบัติการแล้ว ให้จ่ายเงินสนับสนุนองค์กรอื่นดังกล่าวได้ตามแผนปฏิบัติการ กรณีองค์กรอ่ืนท่ีเป็นหน่วยงานภาครัฐอาจไมท่ ำ� เป็นข้อตกลงตามขอ้ ๗.๑ ก็ได้ ขอ้ ๑๐ ประกาศน้ใี หใ้ ช้บงั คับ ตั้งแต่บดั นเ้ี ปน็ ตน้ ไป ประกาศ ณ วนั ท่ี ๒๐ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๖๐ ศักดิช์ ยั กาญจนวัฒนา เลขาธิการส�ำนักงานหลักประกนั สขุ ภาพแห่งชาติ186

ระเบียบคณะกรรมการหลักประกันสขุ ภาพแห่งชาติ เร่อื ง การเกบ็ รกั ษาและการใช้จา่ ยเงนิ ของสำ� นักงาน พ.ศ. ๒๕๖๐ โดยทมี่ ีการประกาศใชร้ ะเบียบคณะกรรมการหลกั ประกนั สขุ ภาพแห่งชาติ ว่าด้วยการงบประมาณบริหารของสำ� นกั งาน พ.ศ. ๒๕๖๐ จึงสมควรปรับปรุงสำ� นักงานหลกั ประกนั สุขภาพแห่งชาติ ว่าดว้ ยการเก็บรกั ษาและการใช้จ่ายเงนิ ของส�ำนักงาน พ.ศ. ๒๕๔๖ ทงั้ น้เี พอ่ื ให้การบริหารและการจดั การสำ� นักงาน มีประสทิ ธิภาพมากยิ่งข้นึ อาศัยอ�ำนาจตามความในมาตรา ๓๐ วรรคหน่งึ แห่งพระราชบัญญตั ิหลักประกนั สุขภาพแห่งชาติพ.ศ. ๒๕๔๕ ประกอบมติคณะกรรมการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ในการประชุมคร้ังท่ี ๑๑/๒๕๖๐วันที่ ๔ กันยายน ๒๕๖๐ คณะกรรมการหลกั ประกนั สขุ ภาพแห่งชาติ จงึ ออกระเบียบไว้ ดังตอ่ ไปนี้ ขอ้ ๑ ระเบียบนี้เรียกวา่ “ระเบียบคณะกรรมการหลักประกันสุขภาพแหง่ ชาติ เรอื่ ง การเก็บรักษาและการใช้จา่ ยเงินของสำ� นกั งาน พ.ศ. ๒๕๖๐” ข้อ ๒ ระเบยี บนใ้ี หใ้ ช้บังคบั ต้ังแต่บดั น้เี ปน็ ต้นไป ขอ้ ๓ ใหย้ กเลกิ ระเบยี บสำ� นกั งานหลกั ประกนั สขุ ภาพแหง่ ชาติ วา่ ดว้ ยการเกบ็ รกั ษาและการใชจ้ า่ ยเงินของสำ� นกั งาน พ.ศ. ๒๕๔๖ ขอ้ ๔ ในระเบยี บน้ี “คณะกรรมการ” หมายความวา่ คณะกรรมการหลักประกันสุขภาพแหง่ ชาติ “ประธานกรรมการ” หมายความวา่ ประธานกรรมการหลกั ประกนั สุขภาพแห่งชาติ “เลขาธิการ” หมายความว่า เลขาธกิ ารส�ำนกั งานหลักประกันสขุ ภาพแห่งชาติ “ส�ำนักงาน” หมายความว่า ส�ำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ และให้หมายรวมถึงส�ำนักงานสาขาดว้ ย “ผู้ปฏิบัติงาน” หมายความว่า บคุ คลซ่งึ ปฏิบตั งิ านในส�ำนกั งาน “ปี” หมายความวา่ ปีงบประมาณตามกฎหมายวา่ ดว้ ยวธิ ีการงบประมาณ “เงนิ งบประมาณแผน่ ดนิ ” หมายความวา่ เงนิ งบประมาณรายจา่ ยประจำ� ปที ไ่ี ดร้ บั จดั สรรจากรฐั บาลรวมถึงเงนิ งบประมาณเหลือจ่ายจากปกี ่อน “เงนิ รายได”้ หมายความว่า เงินท่ีส�ำนกั งานไดร้ ับจากการดำ� เนินงานของสำ� นกั งานประกอบดว้ ย (๑) เงินทมี่ ผี ู้บริจาคหรือมอบให้เพอ่ื เปน็ คา่ ใชจ้ า่ ยในการบริหารงานของส�ำนกั งาน (๒) เงนิ คา่ ธรรมเนียมหรือค่าบริการในการด�ำเนนิ กจิ การของสำ� นกั งาน (๓) เงินรายได้อ่ืนของส�ำนักงาน ยกเว้นเงินท่ีมีระเบียบก�ำหนดไว้เป็นการเฉพาะหรือตามสัญญาขอ้ ตกลง เชน่ ระเบยี บเงนิ สวัสดกิ าร เงินสนับสนุนกิจกรรมภาครฐั เงินจากองคก์ รระหว่างประเทศ เป็นตน้ 187

ข้อ ๕ ระเบียบนใ้ี หใ้ ชบ้ ังคบั เฉพาะการบรหิ ารงานของสำ� นกั งาน บรรดาระเบียบ ข้อบงั คบั คำ� สง่ั หรอื มติคณะกรรมการอน่ื ใด ในสว่ นทีก่ ำ� หนดไว้แล้วในระเบียบน้ีหรือทีข่ ดั หรอื แย้งกบั ระเบยี บนใี้ ห้ใช้ระเบยี บนแ้ี ทน หลักเกณฑ์และวิธีปฏิบัติอื่นใดท่ีไม่ได้ก�ำหนดไว้ในระเบียบนี้ ให้ถือปฏิบัติตามคู่มือปฏิบัติงานด้านการเงนิ และการบญั ชที ่ีสำ� นกั งานก�ำหนด ข้อ ๖ ใหป้ ระธานกรรมการเปน็ ผรู้ กั ษาการตามระเบยี บนแ้ี ละมอี ำ� นาจวนิ จิ ฉยั ชขี้ าดปญั หาทเ่ี กดิ ขน้ึในการปฏิบัตติ ามระเบยี บนี้ หมวด ๑ การรบั เงินและการเกบ็ รักษาเงิน สว่ นที่ ๑ การรบั เงินและการเปิดบญั ชีฝากเงนิ ขอ้ ๗ การรบั เงนิ ให้รับเปน็ เงินสด เชค็ ต๋ัวแลกเงิน ดรา๊ ฟท์ หรือธนาณัติ การรบั เงนิ ทางธนาคาร ใหเ้ ป็นไปตามระเบียบทส่ี �ำนกั งานกำ� หนด ข้อ ๘ การรบั เงนิ เพอ่ื เปน็ คา่ ใชจ้ า่ ยในการบรหิ ารงานของสำ� นกั งาน จะตอ้ งออกใบเสรจ็ รบั เงนิ ใหแ้ ก่ผู้ช�ำระเงินทุกคร้ัง เว้นแต่การรับเงินตามฎีกาที่ขอเบิกจากคลังหรือการรับเงินจากธนาคาร ให้ใช้ใบส�ำเนาฎีกาหรือสำ� เนาใบนำ� ฝากธนาคารเป็นหลักฐาน ใบเสร็จรับเงินให้ใช้ตามแบบท่ีเลขาธิการก�ำหนด และให้มีส�ำเนาอย่างน้อย ๑ ฉบับ เพื่อเป็นหลักฐานการตรวจสอบ ขอ้ ๙ ใบเสรจ็ รับเงนิ จะตอ้ งพิมพ์หมายเลขก�ำกับเล่ม และมหี มายเลขกำ� กับเลขทีใ่ นใบเสรจ็ รบั เงินเรยี งกนั ไปทกุ ฉบบั และใหม้ รี ะบบการควบคมุ ใบเสรจ็ รบั เงนิ ทรี่ ดั กมุ และตรวจสอบไดท้ งั้ น้ี ตามหลกั เกณฑแ์ ละวธิ กี ารทีเ่ ลขาธกิ ารก�ำหนด ใบเสร็จรับเงินที่ออกด้วยเครื่องคอมพิวเตอร์ ไม่จ�ำเป็นต้องมีหมายเลขก�ำกับเล่มก็ได้แต่จะต้องมีหมายเลขก�ำกับเลขท่ีในใบเสร็จรบั เงนิ ทุกฉบับ ข้อ ๑๐ ใบเสร็จรับเงินเล่มใดหรือชุดใด ใช้ส�ำหรับรับเงินของปีใดให้ใช้รับเงินภายในปีน้ันเท่าน้ันเมอ่ื เริม่ ปีใหม่ ให้ใชใ้ บเสร็จรับเงนิ เล่มใหมห่ รือชุดใหม่ ใบเสร็จรบั เงินฉบับใดหรอื ชดุ ใดยงั ไม่ไดใ้ ช้ ใหค้ งตดิ ไวก้ บั เลม่และประทบั ตรา “ยกเลกิ ” หรอื เจาะรู เพื่อมิให้น�ำกลับมาใช้รับเงินอกี ขอ้ ๑๑ หา้ มขดู ลบ แกไ้ ข เพม่ิ เตมิ ขอ้ ความในใบเสรจ็ รบั เงนิ หากมรี ายการผดิ พลาดใหข้ ดี ฆา่ แกไ้ ขแลว้ ใหผ้ ูร้ ับเงนิ ลงลายมอื ชอื่ กำ� กับการแกไ้ ขนั้นหรือยกเลกิ และออกฉบบั ใหม่ กรณใี บเสรจ็ รบั เงนิ ทอ่ี อกดว้ ยเครอื่ มคอมพวิ เตอรห์ ากมรี ายการผดิ พลาด ใหย้ กเลกิ และออกฉบบั ใหม่ ใบเสร็จรับเงินทีย่ กเลิกใหเ้ กบ็ รวบรวมไว้กบั สำ� เนาเพ่ือประโยชน์ในการตรวจสอบ188

สว่ นท่ี ๒ การเกบ็ รกั ษาเงนิ ข้อ ๑๒ บรรดาเงินที่ส�ำนักงานได้รับเพ่ือเป็นค่าใช้จ่ายในการบริหารงานของส�ำนักงาน ให้น�ำฝากธนาคารที่คณะกรรมการก�ำหนด ในวนั ที่ได้รับเงินหรอื อยา่ งชา้ ในวันท�ำการถัดไป สำ� นกั งานอาจน�ำเงินไปฝากสถาบนั การเงนิ อน่ื ได้ตามทคี่ ณะกรรมการก�ำหนด ข้อ ๑๓ ให้ส�ำนักงานมีเงินสดประจ�ำท่ีส�ำนักงานเพ่ือไว้ส�ำหรับส�ำรองจ่ายในกรณีจ�ำเป็นได้ไม่เกิน๕๐,๐๐๐ บาท (หา้ หม่ืนบาท) ต่อวัน โดยเก็บรักษาไว้ในต้นู ริ ภยั หมวด ๒ การจา่ ยเงนิ ส่วนที่ ๑ การจา่ ยเงนิ ข้อ ๑๔ คา่ ใชจ้ ่ายในการบรหิ ารงานของส�ำนกั งานทีจ่ า่ ยจากเงินงบประมาณแผ่นดิน ได้แก่ (๑) คา่ ใช้จา่ ยด้านบุคลากร เชน่ เงนิ เดอื น คา่ จ้าง เงินสงเคราะหแ์ ละสวสั ดิการของผู้ปฏิบัตงิ าน (๒) ค่าใช้จ่ายด้านการดำ� เนนิ งาน เช่น คา่ ตอบแทน ค่าใช้สอย คา่ วสั ดุ และค่าสาธารณปู โภค (๓) คา่ ใชจ้ า่ ยดา้ นการลงทนุ เชน่ คา่ ครุภณั ฑ์ คา่ ทด่ี นิ และค่าสงิ่ ก่อสรา้ ง (๔) คา่ ใช้จ่ายประเภทอ่นื ที่คณะกรรมการกำ� หนด หลักเกณฑ์ วิธีการ อัตราและเง่ือนไข การจ่ายค่าใช้จ่ายในการบริหารงานของส�ำนักงานตาม (๒)ให้เป็นไปตามที่เลขาธิการก�ำหนด โดยความเห็นชอบของคณะกรรมการหรือคณะอนุกรรมการที่คณะกรรมการมอบหมาย ค่าใช้จ่ายในการบริหารงานของส�ำนักงานที่จ่ายจากเงินรายได้ ให้เป็นไปตามระเบียบที่ส�ำนักงานประกาศก�ำหนด โดยความเหน็ ชอบของกระทรวงการคลงั ข้อ ๑๕ การจา่ ยเงินตอ้ งมหี ลกั ฐานการจา่ ยเป็นใบเสรจ็ รบั เงนิ หรือหลกั ฐานการนำ� เงินเขา้ บญั ชีเงนิฝากของผมู้ สี ิทธริ ับเงนิ หรือหลักฐานการรบั เงินอย่างอื่นทเ่ี ลขาธิการก�ำหนด เพ่อื การตรวจสอบ ขอ้ ๑๖ การจา่ ยเงนิ รายใด ซงึ่ ตามลกั ษณะไมอ่ าจเรยี กใบเสรจ็ รบั เงนิ จากผรู้ บั เงนิ ได้ ใหผ้ จู้ า่ ยเงนิ ทำ�ใบรบั รองการจา่ ยเงินตามแบบและรายการท่ีเลขาธกิ ารกำ� หนด ข้อ ๑๗ การจ่ายเงิน ถ้าผู้มีสิทธิรับเงินไม่สามารถมารับเงินด้วยตนเอง จะมอบฉันทะให้ผู้อ่ืนเป็นผูร้ บั เงินแทนก็ได้ 189

ขอ้ ๑๘ ในกรณใี บสำ� คญั คูจ่ า่ ยสญู หาย ใหป้ ฏิบตั ดิ งั นี้ (๑) ถ้าใบส�ำคัญคู่จ่ายท่ีเป็นใบเสร็จรับเงินสูญหาย ให้ใช้ส�ำเนาใบเสร็จรับเงิน ซ่ึงผู้รับเงินรับรองใบส�ำเนานน้ั หรอื ใบรับรองการรับเงินซง่ึ ผรู้ บั เงินรบั รองแล้วแทนได้ (๒) ถ้าใบส�ำคัญคู่จ่ายที่เป็นใบเสร็จรับเงินสูญหาย หากไม่อาจขอส�ำเนาใบเสร็จรับเงินตาม (๑)ได้ ให้ผู้จ่ายเงินท�ำใบรับรองการจ่ายโดยชี้แจงเหตุผล พร้อมทั้งค�ำรับรองว่าไม่เคยน�ำใบส�ำคัญคู่จ่ายมาเบิกจ่ายและหากค้นพบภายหลังก็จะไม่น�ำมาเบิกจ่ายอีก เสนอเลขาธิการหรือผู้ที่เลขาธิการมอบหมายแล้วแต่กรณีเพือ่ พจิ ารณาอนุมัติ เม่อื ไดร้ บั อนุมัติแลว้ ใหใ้ ชใ้ บรบั รองการจ่ายเงนิ น้นั แทนใบส�ำคญั คจู่ ่าย ข้อ ๑๙ การจา่ ยเงนิ ใหจ้ า่ ยเปน็ เชค็ หรอื ทางธนาคาร ตามทผ่ี มู้ สี ทิ ธริ บั เงนิ รอ้ งขอเวน้ แตก่ ารจา่ ยเงนิซึ่งมจี ำ� นวนต่ำ� กวา่ ๑๐,๐๐๐ บาท (หนึง่ หมื่นบาท) หรอื การจ่ายเงินจากวงเงนิ สำ� รองจ่าย จะจ่ายเป็นเงนิ สดกไ็ ด้ ข้อ ๒๐ การออกเช็คสง่ั จา่ ยเงินใหเ้ ลขาธิการ รองเลขาธกิ าร หรอื ผู้ไดร้ ับมอบหมายจากเลขาธกิ ารลงนามรว่ มกันสองคน การออกเช็คสง่ั จา่ ย ให้ปฏบิ ตั ดิ ังนี้ (๑) การจา่ ยเงนิ ใหแ้ กเ่ จา้ หนี้ หรอื ผมู้ สี ทิ ธริ บั เงนิ ใหส้ งั่ จา่ ยในนามของเจา้ หน้ี หรอื ผมู้ สี ทิ ธริ บั เงนิ นน้ั (๒) การสง่ั จา่ ยเงนิ ใหผ้ ปู้ ฏบิ ตั งิ านหรอื หนว่ ยงาน ใหส้ งั่ จา่ ยเงนิ ในนามผปู้ ฏบิ ตั งิ านหรอื หนว่ ยงานนน้ั (๓) การออกเช็คส่ังจ่ายเงินทุกครั้ง ให้จ่ายเป็นเช็คขีดคร่อมและขีดฆ่าค�ำว่า “หรือตามคำ� สัง่ ” หรอื “หรอื ผอู้ น่ื ” ออก และเขยี นหรอื พิมพจ์ ำ� นวนเงนิ ในเช็คที่เปน็ ตัวอักษาให้ชิดค�ำว่า “บาท” หรือขีดเส้นหน้าจำ� นวนเงนิ อยา่ ใหม้ ีชอ่ งวา่ งท่จี ะเขียนหรอื พมิ พ์จำ� นวนเงินเพิม่ เติมได้ และให้ขดี เสน้ ตรงหลัง ช่อื สกลุ ชอ่ื บริษทัหรอื ชือ่ หา้ งหนุ้ ส่วน หรอื ผ้มู สี ทิ ธิรับเงิน จนชดิ ค�ำว่า “หรอื ผูถ้ ือ” หรือ “ตามคำ� สั่ง” แล้วแต่กรณี โดยมิใหก้ ารเขยี นหรือพมิ พช์ ่ือบุคคลอื่นเพม่ิ เติมไดอ้ ีก สว่ นที่ ๒ การจา่ ยเงินยมื ขอ้ ๒๑ การจ่ายเงินยืม จะจ่ายได้แต่เฉพาะท่ีผู้ยืมได้ท�ำใบยืมเงินตามแบบที่เลขาธิการก�ำหนดและเลขาธิการหรอื ผู้ที่เลขาธิการมอบหมายอนุมัตใิ ห้จ่ายเงินยืมตามใบยืมเงนิ แลว้ เทา่ น้ัน ข้อ ๒๒ ให้ผู้ยืมเงินส่งหลักฐานการชดใช้เงินและเงินเหลือจ่าย (ถ้ามี) ภายใน ๑๕ วัน หลังจากสนิ้ สุดการปฏบิ ตั ิงาน ขอ้ ๒๓ ผู้ยืมจะยืมเงินคร้ังใหม่ จะกระท�ำได้ต่อเมื่อได้ส่งใช้เงินยืมคร้ังก่อนเสร็จส้ินแล้วเท่าน้ันเว้นแต่มีเหตุจำ� เป็นและไดร้ บั อนมุ ตั จิ ากเลขาธกิ ารหรอื ผไู้ ดร้ บั มอบหมายจากเลขาธิการ190

หมวด ๓ การบญั ชี ข้อ ๒๔ การบญั ชขี องส�ำนกั งาน ให้ถอื ปฏบิ ัตติ ามหลักบญั ชคี เู่ กณฑ์คงคา้ ง ขอ้ ๒๕ หลกั ฐานทใี่ ชใ้ นการลงบญั ชี จะตอ้ งเกบ็ ไวใ้ หเ้ ปน็ ระเบยี บ เพอ่ื สะดวกในการตรวจสอบและใหเ้ ก็บรักษาไม่นอ้ ยกวา่ ๑๐ ปี เม่อื ได้รับการตรวจสอบและการรับรองจากผู้ตรวจสอบบัญชแี ลว้ ใหเ้ กบ็ ไวไ้ ด้เหมือนเอกสารทั่วไป ข้อ ๒๖ ใหส้ �ำนักงานจดั ทำ� รายงานการเงิน ดงั น้ี (๑) รายงานประจ�ำเดือนเสนอตอ่ เลขาธิการ ภายในวนั ที่ ๑๕ ของเดือนถัดไป (๒) รายงานประจ�ำไตรมาสเสนอตอ่ คณะกรรมการ ภายใน ๓๐ วนั นบั จากวันส้ินไตรมาส (๓) งบการเงิน เสนอต่อคณะกรรมการ ภายใน ๖๐ วันนับจากวันสิ้นปีงบประมาณและส่งให้ส�ำนกั งานตรวจเงนิ แผ่นดินเพ่อื ตรวจสอบและสำ� เนาส่งกรมบัญชกี ลางเพื่อทราบ หมวด ๔ การรับเงนิ การจ่ายเงนิ และการเกบ็ รกั ษาเงนิ ขององค์กรอื่นหรอื บคุ คลอ่นื ท่ไี ด้รบั มอบหมาย ใหท้ ำ� กจิ การในอ�ำนาจหน้าท่ขี องส�ำนกั งาน ข้อ ๒๗ ในกรณที สี่ ำ� นกั งานมอบใหอ้ งคก์ รอนื่ หรอื บคุ คลอนื่ ทำ� กจิ การในอำ� นาจหนา้ ทข่ี องสำ� นกั งานตามมาตรา ๒๖ (๑๒) ใหอ้ งคก์ รอนื่ หรอื บคุ คลนัน้ มสี ิทธไิ ด้รบั ค่าใชจ้ า่ ยในการดำ� เนินงาน ตามหลกั เกณฑท์ ีส่ �ำนกั งานกำ� หนด หรือสญั ญาหรอื ขอ้ ตกลงทตี่ กลงกันไว้ กรณีองค์กรท่ีรับมอบภารกิจ เป็นการด�ำเนินงานตามยุทธศาสตร์หรือพันธกิจท่ีคณะกรรมการใหค้ วามเหน็ ชอบแล้ว ให้องคก์ รทีร่ ับทำ� ภารกจิ มีสทิ ธไิ ดร้ บั เงินลว่ งหน้า เพื่อด�ำเนนิ งานได้ตามทต่ี กลงกนั ข้อ ๒๘ ความในข้อ ๒๙ ถงึ ข้อ ๓๑ ไม่ใช้บงั คบั กับหนว่ ยงานของรฐั ท่ีมกี ฎหมายเฉพาะก�ำหนดไว้หรือได้รับอนญุ าตจากกระทรวงการคลงั ให้น�ำเงนิ ท่ไี ด้รบั ตามขอ้ ๒๗ ไปใช้จา่ ยเพือ่ ใหบ้ รรลุวตั ถุประสงค์ทีต่ กลงกันไว้กับสำ� นกั งานได้ สว่ นที่ ๑ การรับเงนิ ขอ้ ๒๙ ให้องค์กรหรือบุคคลท่ีได้รับเงินตามข้อ ๒๗ น�ำเงินเข้าบัญชีเงินของหน่วยงานของรัฐหรือองค์กรหรือบุคคลดังกล่าวข้างต้น โดยให้จัดท�ำทะเบียนคุมเงินที่ได้รับ และให้ออกหลักฐานการรับเงินไว้ เพื่อการตรวจสอบ ส�ำหรับองค์กรภาคเอกชนหรือบุคคลตามวรรคหนึ่ง ให้ออกหลักฐานการรับเงินให้แก่ส�ำนักงานเพอ่ื การตรวจสอบ 191

ส่วนท่ี ๒ การจา่ ยเงิน ข้อ ๓๐ ให้องค์กรหรือบุคคลที่ได้รับเงินตามข้อ ๒๙ จ่ายเงินเพ่ือด�ำเนินการให้บรรลุวัตถุประสงค์ตามท่ีได้รบั มอบหมาย โดยระเบยี บวธิ ีปฏิบัติใหถ้ ือตามระเบยี บขององค์กรนัน้ กรณที รี่ ะเบยี บขององคก์ ร ไมไ่ ดก้ ำ� หนดไวห้ รอื กำ� หนดไวต้ ำ�่ กวา่ ทกี่ ำ� หนดไวใ้ นขอ้ ตกลงหรอื โครงการใหอ้ งคก์ รดงั กลา่ วจา่ ยเงนิ ตามคำ� สง่ั หรอื ประกาศมอบหมายใหท้ ำ� กจิ การในอำ� นาจหนา้ ทข่ี องสำ� นกั งานหรอื ขอ้ ตกลงหรือโครงการได้ สำ� หรบั องคก์ รภาคเอกชนหรอื บคุ คลตามวรรคหนง่ึ ใหจ้ า่ ยเงนิ เพอื่ ดำ� เนนิ การใหบ้ รรลวุ ตั ถปุ ระสงค์ตามที่กำ� หนดในโครงการและสัญญา ส่วนที่ ๓ การเก็บรักษาเงิน ข้อ ๓๑ ให้องค์กรหรือบุคคลท่ีได้รับเงินตามหมวดนี้ เก็บรักษาเงินไว้ได้ตามระยะเวลาท่ีก�ำหนดในโครงการ หากด�ำเนินการยังไม่แล้วเสร็จ ให้ขอขยายเวลาด�ำเนินการได้ครั้งละไม่เกิน ๑ ปีงบประมาณ แต่ท้ังน้ีตอ้ งไม่เกนิ ๒ ปงี บประมาณ กรณีครบก�ำหนดเวลาตามวรรคหน่ึงแล้ว ยังไม่ด�ำเนินการหรือด�ำเนินการไม่แล้วเสร็จให้ส่งเงินที่เหลอื อยคู่ ืนส�ำนกั งาน บทเฉพาะกาล ขอ้ ๓๒ หลกั เกณฑ์ วธิ กี าร อตั ราและเงอื่ นไข การใชจ้ า่ ยเงนิ ทคี่ ณะกรรมการหรอื เลขาธกิ ารกำ� หนดไว้ตามระเบียบส�ำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ว่าด้วยการเก็บรักษาและการใช้จ่ายเงินของส�ำนักงานพ.ศ. ๒๕๔๖ ใหใ้ ช้บังคบั ต่อไป จนกวา่ จะได้มีการก�ำหนดข้นึ ใหม่ตามระเบียบน้ี ประกาศ ณ วนั ท่ี ๑๔ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๖๐ ปิยะสกล สกลสตั ยาทร รฐั มนตรีวา่ การกระทรวงสาธารณสขุ ประธานกรรมการหลักประกันสขุ ภาพแหง่ ชาติ192

ประกาศส�ำนักงานหลกั ประกนั สขุ ภาพแห่งชาติ เรื่อง ค่าใช้จ่ายในการบรหิ ารและการจัดการสำ� นักงานหลกั ประกันสุขภาพแหง่ ชาติ พ.ศ. ๒๕๕๖ โดยทเี่ ปน็ การสมควรปรบั ปรงุ ประกาศสำ� นกั งานหลกั ประกนั สขุ ภาพแหง่ ชาติ เรอื่ ง คา่ ใชจ้ า่ ยในการบรหิ ารและการจดั การสำ� นกั งานหลกั ประกนั สขุ ภาพแหง่ ชาติ เพอื่ ใหก้ ารบรหิ ารและการจดั การสำ� นกั งานหลกั ประกนัสขุ ภาพแห่งชาติ มปี ระสทิ ธิภาพมากยงิ่ ข้ึน ฉะนั้น อาศยั อ�ำนาจตามความในมาตรา ๓๑ และมาตรา ๓๖ วรรคหนงึ่ (๒) แหง่ พระราชบญั ญตั ิหลกั ประกนั สขุ ภาพแหง่ ชาติ พ.ศ. ๒๕๔๕ ประกอบกบั ขอ้ ๑๔ และขอ้ ๑๕ แหง่ ระเบยี บสำ� นกั งานหลกั ประกนั สขุ ภาพแหง่ ชาตวิ า่ ดว้ ยการเกบ็ รกั ษาและการใชจ้ า่ ยเงนิ ของสำ� นกั งาน พ.ศ. ๒๕๔๖ เลขาธกิ ารสำ� นกั งานหลกั ประกนั สขุ ภาพแห่งชาตจิ งึ ออกประกาศไว้ ดังต่อไปนี้ ข้อ ๑ คา่ ใชจ้ า่ ยตามประกาศนี้ ใหจ้ า่ ยจากเงนิ คา่ ใชจ้ า่ ยในการบรหิ ารงานของสำ� นกั งานตามระเบยี บสำ� นักงานหลักประกนั สุขภาพแหง่ ชาติวา่ ดว้ ยการเกบ็ รกั ษาและการใช้จา่ ยเงนิ ของส�ำนักงาน พ.ศ. ๒๕๔๖ ขอ้ ๒ ใหย้ กเลิก (๑) ประกาศส�ำนักงานหลกั ประกนั สุขภาพแห่งชาติ เรอ่ื ง ค่าใชจ้ ่ายในการบรหิ ารและการจดั การสำ� นกั งานหลกั ประกนั สุขภาพแหง่ ชาติ พ.ศ. ๒๕๕๕ ลงวนั ที่ ๒๐ กันยายน ๒๕๕๕ (๒) ประกาศส�ำนักงานหลักประกันสุขภาพแหง่ ชาติ เรอ่ื ง ค่าใช้จ่ายในการบรหิ ารและการจดั การสำ� นกั งานหลักประกันสุขภาพแหง่ ชาติ (ฉบับท่ี ๒) พ.ศ. ๒๕๕๖ ลงวันท่ี ๘ มกราคม ๒๕๕๖ (๓) ประกาศส�ำนกั งานหลกั ประกนั สุขภาพแห่งชาติ เรอื่ ง ค่าใชจ้ า่ ยในการเดินทางสำ� หรบั บุคคลภายนอก พ.ศ. ๒๕๕๐ ลงวนั ท่ี ๑๖ มีนาคม ๒๕๕๐ (๔) ประกาศสำ� นกั งานหลกั ประกันสขุ ภาพแหง่ ชาติ เร่อื ง คา่ ใช้จา่ ยในการเดินทางส�ำหรบั บุคคลภายนอก (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๕๓ ลงวนั ที่ ๑๒ พฤษภาคม ๒๕๕๓ (๕) ประกาศส�ำนกั งานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ เรอื่ ง คา่ ใชจ้ า่ ยในการเดินทางส�ำหรบั บคุ คลภายนอก (ฉบับที่ ๓) พ.ศ.๒๕๕๕ ลงวนั ที่ ๒๐ กันยายน ๒๕๕๕ ข้อ ๓ หลกั เกณฑห์ รอื อัตราใด ทเ่ี ลขาธิการไดก้ ำ� หนดหรือประกาศไว้แลว้ ตามประกาศทถ่ี ูกยกเลกิตามขอ้ ๒ นน้ั ใหค้ งอนโุ ลมใชห้ ลกั เกณฑห์ รอื อตั ราทกี่ ำ� หนดหรอื ประกาศไวแ้ ลว้ ดงั กลา่ วตอ่ ไป จนกวา่ จะมกี ารกำ� หนดหลักเกณฑห์ รอื อัตราในเรื่องน้นั ใหม่ตามประกาศน้ี ขอ้ ๔ ในประกาศน้ี “ค่าใช้จ่าย” หมายความว่า รายจ่ายท่ีก�ำหนดให้จ่ายเพ่ือการบริหารและการจัดการส�ำนักงานตามอ�ำนาจหน้าทีข่ องส�ำนกั งาน หรือรายจา่ ยทเี่ ปน็ ผลสืบเนื่องจากการปฏิบตั หิ น้าท่ีดังกลา่ วซ่ึงเปน็ การเบิกจา่ ยจากงบด�ำเนินงานหรืองบรายจ่ายอ่ืน ลักษณะค่าตอบแทน ค่าใช้สอย ค่าวัสดุ และค่าสาธารณูปโภค หรือค่าใช้จ่ายอื่น 193

และใหห้ มายความรวมถึงรายจา่ ยทเ่ี กดิ จากภารกจิ ท่ไี ดร้ ับมอบหมายจากคณะรัฐมนตรี “ส�ำนักงาน” หมายความว่า ส�ำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติและให้หมายความรวมถึงส�ำนักงานหลกั ประกันสุขภาพแห่งชาติสาขาเขตพืน้ ที่ดว้ ย “เลขาธิการ” หมายความวา่ เลขาธิการสำ� นักงานหลักประกันสขุ ภาพแหง่ ชาติ “ผบู้ ริหาร” หมายความวา่ ผปู้ ฏิบตั งิ านท่ีด�ำรงต�ำแหน่งหรือผไู้ ด้รับแตง่ ต้งั ใหร้ ักษาการในตำ� แหน่งในกลุ่มบริหารระดับสูง กลุ่มบริหารและกลุ่มวิชาการ ตามประกาศส�ำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติเร่ือง หลักเกณฑ์การปรับชั้นงาน (ฉบับท่ี ๒) พ.ศ.๒๕๕๓ ลงวันที่ ๖ ตุลาคม ๒๕๕๓ และท่ีแก้ไขเพิ่มเติมและให้หมายรวมถึงเลขาธิการดว้ ย เว้นแตใ่ นประกาศนีก้ �ำหนดอัตราส�ำหรบั เลขาธิการไวเ้ ปน็ การเฉพาะ “ผู้ปฏิบัติงาน ” หมายความว่า ผู้ปฏิบัติงานตามข้อบังคับส�ำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติวา่ ด้วยการบริหารงานบุคคล พ.ศ. ๒๕๔๖ และทีแ่ กไ้ ขเพิม่ เตมิ ยกเวน้ ผูบ้ ริหาร “ผอู้ ำ� นวยการสำ� นกั ” หมายความรวมถงึ ผอู้ ำ� นวยการสำ� นกั งานหลกั ประกนั สขุ ภาพแหง่ ชาตสิ าขาเขตพ้ืนท่ี หรือผอู้ �ำนวยการสว่ นงานหรือหนว่ ยงานภายในทเี่ รียกชื่ออย่างอนื่ ซึ่งมีฐานะเทยี บเท่าสำ� นัก “กรรมการหรืออนุกรรมการตามกฎหมาย” หมายความว่า กรรมการหรืออนุกรรมการตามมาตรา ๑๓ มาตรา ๑๘ มาตรา ๒๐ มาตรา ๒๑ มาตรา ๔๑ มาตรา ๔๗ มาตรา ๔๘ มาตรา ๕๑ มาตรา ๕๗และมาตรา ๖๑ ของกฎหมายว่าดว้ ยหลักประกนั สขุ ภาพแห่งชาติ “บุคคลภายนอก” หมายความว่า บุคคลท่ีไม่ได้เป็น กรรมการหรืออนุกรรมการตามกฎหมายหรือผู้บริหารหรือผู้ปฏิบัติงานตามประกาศน้ี และส�ำนักงานมีหนังสือเชิญให้มาช่วยปฏิบัติงานหรือประชุมหรอื ฝึกอบรม เพอื่ ประโยชนข์ องสำ� นกั งาน “การประชมุ ” หมายความวา่ การประชมุ ตามภารกจิ หนา้ ทปี่ ระจำ� ของสำ� นกั งาน โดยมวี ตั ถปุ ระสงค์เพ่ือให้บรรลุภารกิจตามยุทธศาสตร์ของส�ำนักงาน เช่น การประชุมก�ำหนดยุทธศาสตร์ ก�ำหนดตัวชี้วัดผลงานการรายงานหรอื ตดิ ตามหรอื ประเมนิ ผลการปฏบิ ตั งิ าน การประชุมรบั ฟังความคิดเห็น เปน็ ต้น “การฝึกอบรม” หมายความว่า การอบรม การประชุมทางวชิ าการหรือเชงิ ปฏบิ ัตกิ าร การสัมมนาทางวิชาการ การบรรยายพิเศษ การฝึกศึกษา การดูงาน การฝึกงานหรือที่เรียกชื่ออย่างอ่ืน ภายในราชอาณาจักรโดยมีโครงการหรอื หลักสูตรและช่วงเวลาจัดท่แี นน่ อน มวี ัตถุประสงคเ์ พ่อื พฒั นาบุคคลหรอื เพมิ่ ประสิทธิภาพในการปฏิบัติงาน โดยไม่มกี ารรบั ปรญิ ญาหรอื ประกาศนียบัตรวิชาชพี ” “ค่าพาหนะ” หมายความว่า คา่ ใชจ้ า่ ยในการเดนิ ทาง และหมายความรวมถงึ ค่าเชา่ พาหนะดว้ ย “รถประจ�ำตำ� แหน่ง” หมายความวา่ รถยนตท์ ีจ่ ดั ให้ผบู้ ริหาร ตามข้อบังคับส�ำนักงานหลกั ประกนัสุขภาพแห่งชาติว่าดว้ ยการใชร้ ถของส�ำนกั งาน พ.ศ. ๒๕๔๖ ขอ้ ๕ รายการคา่ ใช้จา่ ยที่เป็นเบ้ียประชมุ ค่าใช้จ่ายในการเดินทาง และค่าใช้จา่ ยอ่ืนในการปฏบิ ตั ิหน้าที่ของกรรมการหรืออนุกรรมการตามกฎหมาย ให้เป็นไปตามท่ีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขก�ำหนดตามกฎหมายวา่ ดว้ ยหลกั ประกนั สุขภาพแห่งชาติ ขอ้ ๖ รายการค่าใช้จ่ายท่ีจ�ำเป็นเพื่อการบริหารและการจัดการของส�ำนักงาน รายการใดท่ีมิได้ก�ำหนดไว้ในประกาศน้ี แต่เป็นรายการที่ส่วนราชการเบิกจ่ายได้ หรือเป็นรายการที่ก�ำหนดไว้ในประกาศน้ี แต่มีความจำ� เปน็ ตอ้ งเบกิ จา่ ยเกนิ อตั ราทก่ี ำ� หนดไว้ ใหข้ ออนมุ ตั ติ อ่ เลขาธกิ าร รองเลขาธกิ ารหรอื ประธานกรรมการบรหิ ารกล่มุ ภารกิจ พิจารณาอนมุ ัติเป็นกรณีๆ ไป194

รายจา่ ยใดทม่ี ไิ ดก้ ำ� หนดไวใ้ นประกาศนแี้ ละไมม่ กี ำ� หนดไวใ้ นระเบยี บหรอื หลกั เกณฑข์ องสว่ นราชการหากมคี วามจ�ำเปน็ ต้องจา่ ยเพ่อื ประโยชนข์ องสำ� นกั งาน ให้เป็นอำ� นาจเฉพาะของเลขาธกิ ารพจิ ารณาอนุมัติ ให้ผู้อ�ำนวยการส�ำนักงานสาขาเขตพื้นท่ี มีอ�ำนาจอนุมัติเบิกจ่ายค่าใช้จ่ายเพ่ือการบริหารและการจดั การส�ำนกั งานตามกรณีในวรรคหน่งึ ได้ในวงเงินไมเ่ กิน ๕,๐๐๐ บาทตอ่ เดือน แล้วรายงานเหตุผลความจ�ำเป็นให้เลขาธิการทราบ ข้อ ๗ ให้เลขาธิการเป็นผูร้ กั ษาการตามประกาศน้ี หมวด ๑ ค่าใช้จ่ายในการประชมุ หรอื การฝึกอบรม ขอ้ ๘ การเบิกจ่ายค่าใช้จ่ายในการประชุมหรือการฝึกอบรม ให้เบิกจ่ายได้เท่าท่ีจ่ายจริงและโดยประหยดั ดงั นี้ (๑) คา่ ใช้จ่ายเกีย่ วกบั การใช้และการตกแต่งสถานที่ (๒) ค่าใชจ้ า่ ยในพธิ เี ปิด-ปิดการประชุม การฝึกอบรม (๓) ค่าวสั ดุ เคร่อื งเขยี นและอปุ กรณ์ (๔) ค่าพมิ พแ์ ละเขยี นใบประกาศนียบตั ร วุฒบิ ัตรหรืออ่นื ๆ ในทำ� นองเดียวกนั ๕) คา่ ถ่ายเอกสาร คา่ พิมพเ์ อกสารและสงิ่ พมิ พ์ (๖) คา่ หนงั สอื ส�ำหรับผเู้ ขา้ รับการฝกึ อบรม (๗) คา่ ใช้จ่ายในการติดต่อส่อื สาร (๘) คา่ เช่าอุปกรณ์ตา่ งๆ (๙) ค่ากระเป๋าหรือสิ่งท่ีใช้บรรจุเอกสารส�ำหรับผู้เข้ารับการฝึกอบรม ให้เบิกจ่ายได้เท่าท่ีจ่ายจริงไม่เกินใบละ ๓๐๐ บาท (๑๐) คา่ ของสมนาคุณในการดงู าน ให้เบกิ จ่ายไดเ้ ท่าท่จี า่ ยจริง ไม่เกินแหง่ ละ ๑,๕๐๐ บาท (๑๑) คา่ ลงทะเบยี นหรอื อน่ื ๆในท�ำนองเดียวกัน (๑๒) คา่ ใช้จา่ ยอื่นท่จี �ำเป็นในการประชมุ หรอื การฝกึ อบรม รายการค่าใช้จ่ายตาม (๑) – (๑๒) ท่ีมีค่าใช้จ่ายไม่เกิน ๑๐,๐๐๐ บาท ที่ได้รับการอนุมัติแล้วใหถ้ อื ว่าเป็นการอนมุ ตั กิ ารจัดหาตามขอ้ บงั คบั วา่ ดว้ ยการพสั ดุด้วย ขอ้ ๙ การเบิกจ่ายค่าอาหารว่างและเคร่ืองด่ืมในการประชุมหรือการฝึกอบรม ให้เบิกจ่ายตามหลกั เกณฑแ์ ละอัตรา ดงั นี ้ (๑) การประชุมหรือการฝึกอบรม ในส�ำนักงาน ให้เบิกจ่ายได้เท่าท่ีจ่ายจริง แต่ไม่เกินคนละ๕๐ บาท ตอ่ ครัง้ (๒) การประชุมหรือการฝึกอบรม นอกส�ำนักงาน ให้เบิกจ่ายได้เท่าท่ีจ่ายจริง แต่ไม่เกินคนละ๗๐ บาท ต่อครั้ง ทง้ั นใี้ นกรณที มี่ กี ารประชมุ หรอื การฝกึ อบรมตอ่ เนอื่ งในเวลากอ่ นเทย่ี งและหลงั เทย่ี ง ใหถ้ อื เปน็ การประชมุ สองครงั้ 195

ขอ้ ๑๐ การเบิกจ่ายค่าอาหารและเคร่อื งด่มื ใหเ้ บิกจา่ ยไดต้ ามหลักเกณฑแ์ ละอัตรา ดงั น้ี (๑) การประชมุ ในส�ำนักงาน ใหเ้ บิกจ่ายไดเ้ ท่าท่จี า่ ยจริง แต่ไมเ่ กนิ คนละ ๑๘๐ บาท ตอ่ มอื้ (๒) การประชมุ นอกส�ำนักงาน ใหเ้ บิกจา่ ยไดเ้ ท่าท่จี า่ ยจรงิ แตไ่ มเ่ กินคนละ ๔๐๐ บาท ต่อมือ้ (๓) การฝกึ อบรมในสำ� นักงาน ใหเ้ บกิ จา่ ยไดเ้ ทา่ ที่จา่ ยจริง โดยประหยดั ดังน ้ี (ก) กรณจี ดั อาหารครบทกุ มื้อ ให้เบิกจา่ ยได้ไม่เกนิ วนั ละ ๘๕๐ บาทต่อคน (ข) กรณีจดั อาหารไม่ครบทกุ ม้อื ใหเ้ บกิ จ่ายไดไ้ มเ่ กินวนั ละ ๖๐๐ บาทตอ่ คน (๔) การฝึกอบรมนอกสำ� นักงาน ให้เบิกจ่ายไดเ้ ท่าท่จี ่ายจริง โดยประหยัด ดงั นี ้ (ก) กรณีจัดอาหารครบทุกม้ือ ให้เบิกจ่ายไดไ้ มเ่ กินวนั ละ ๑,๒๐๐ บาทต่อคน (ข) กรณีจดั อาหารไมค่ รบทกุ มื้อ ให้เบิกจ่ายได้ไม่เกนิ วนั ละ ๘๕๐ บาทต่อคน ข้อ ๑๑ การเบิกจ่ายค่าสมนาคุณวิทยากรในการฝึกอบรมหรือการประชุม วิทยากรให้เบิกจ่ายได้ตามหลกั เกณฑ์และอตั รา ดังน้ี (๑) หลักเกณฑก์ ารเบิกจ่ายค่าสมนาคณุ วิทยากรท่เี ปน็ บคุ คลภายนอก (ก) ช่วั โมงการฝกึ อบรมทม่ี ลี กั ษณะเป็นการบรรยาย ใหเ้ บกิ จ่ายคา่ สมนาคณุ วิทยากร ไม่เกนิ๒ คน (ข) ชั่วโมงการฝึกอบรมท่ีมีลักษณะเป็นการอภิปรายเป็นคณะหรือสัมมนา ให้เบิกจ่ายคา่ สมนาคณุ วิทยากรได้ไม่เกนิ ๕ คน โดยรวมถงึ ผ้ดู �ำเนินการอภิปรายหรือสัมมนาด้วย (ค) ช่ัวโมงการฝึกอบรมท่ีมีลักษณะเป็นการแบ่งกลุ่มฝึกภาคปฏิบัติ แบ่งกลุ่มอภิปรายหรอื แบง่ กลมุ่ ทำ� กจิ กรรม ซงึ่ จำ� เปน็ ตอ้ งมวี ทิ ยากรประจำ� กลมุ่ ใหเ้ บกิ จา่ ยคา่ สมนาคณุ วทิ ยากรไดไ้ มเ่ กนิ กลมุ่ ละ ๒ คน (ง) ชวั่ โมงการฝกึ อบรมใดทม่ี วี ทิ ยากรเกนิ กวา่ จำ� นวนทก่ี ำ� หนดไวด้ งั กลา่ วขา้ งตน้ ใหเ้ ฉลย่ี จา่ ยเงนิ สมนาคุณภายในจ�ำนวนเงินท่ีเบกิ จ่ายได้ (จ) ให้เบิกจ่ายค่าสมนาคุณได้เฉพาะชั่วโมงท่ีท�ำหน้าที่วิทยากร เศษของช่ัวโมงต้ังแต่๓๐ นาทขี ึน้ ไป ให้นบั เปน็ หนึ่งช่ัวโมง ถา้ ไม่ถึง ๓๐ นาที ให้นับเปน็ คร่ึงช่ัวโมง และจ่ายคา่ สมนาคุณได้ไมเ่ กินก่ึงหนง่ึ (๒) อัตราค่าสมนาคุณวิทยากรบุคคลภายนอกที่เป็นข้าราชการ พนักงานหรือลูกจ้างของส่วนราชการ หน่วยงานอิสระตามรฐั ธรรมนูญ องคก์ รปกครองสว่ นท้องถ่นิ องค์การมหาชน รฐั วสิ าหกิจ และหน่วยงานของรัฐ ใหเ้ บกิ จา่ ยในอตั รา ดงั นี้ (ก) การฝึกอบรมที่ผู้เข้าประชุมมากกว่าก่ึงหนึ่งเป็นผู้ปฏิบัติงาน พนักงาน บุคคลทั่วไปหรอื ข้าราชการระดบั ปฏิบตั กิ าร ช�ำนาญการ หรือเทียบเท่า ให้เบิกจา่ ยได้ไม่เกนิ ชัว่ โมงละ ๖๐๐ บาท (ข) การฝกึ อบรมทผ่ี เู้ ขา้ ประชมุ มากกวา่ กงึ่ หนง่ึ เป็นผู้บริหารหรอื ขา้ ราชการตง้ั แต่ชำ� นาญการพเิ ศษหรือเทยี บเท่าขนึ้ ไป ใหเ้ บกิ จา่ ยได้ไม่เกนิ ชว่ั โมงละ ๘๐๐ บาท (๓) อัตราค่าสมนาคุณวิทยากรบุคคลภายนอกที่มิใช่บุคคลตาม (๒) ให้เบิกจ่ายเพิ่มได้อีกไม่เกินหน่งึ เท่าของอัตราตาม (๒) ทั้งน้ีการฝึกอบรมท่ีจ�ำเป็นต้องใช้วิทยากรท่ีมีความรู้ ความสามารถเป็นพิเศษ และจะเบิกจ่ายค่าสมนาคุณวิทยากรสูงกว่าอัตราที่ก�ำหนดข้างต้น ให้อยู่ในดุลพินิจของเลขาธิการ รองเลขาธิการหรือประธานกรรมการบรหิ ารกล่มุ ภารกจิ พจิ ารณาอนมุ ตั เิ ป็นกรณี ๆ ไป การเบกิ จ่ายคา่ พาหนะและค่าทพ่ี กั ของวิทยากรตาม (๒) และ (๓) ใหเ้ บิกจา่ ยได้ในอัตราเดียวกับผบู้ รหิ าร196

(๔) หลกั เกณฑแ์ ละอตั ราการเบกิ จา่ ยคา่ สมนาคณุ วทิ ยากรทเี่ ปน็ ผปู้ ฏบิ ตั งิ านหรอื ผบู้ รหิ าร ใหเ้ ปน็อำ� นาจเฉพาะของเลขาธิการพจิ ารณาเป็นกรณีๆ ไป ขอ้ ๑๒ การเบกิ จ่ายค่าตอบแทนให้แกบ่ ุคคลภายนอกท่มี ีค�ำสั่งแตง่ ตง้ั หรอื มหี นงั สือเชญิ มาประชุมหรอื เข้าร่วมประชุม ใหเ้ ปน็ ไปตามหลกั เกณฑด์ งั นี้ (๑) กรณีบุคคลภายนอกเข้าร่วมประชุมคณะกรรมการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติหรอื คณะกรรมการควบคมุ คณุ ภาพและมาตรฐานบรกิ ารสาธารณสขุ ใหเ้ บกิ จา่ ยคา่ ตอบแทนไดค้ นละไมเ่ กนิ ๑,๐๐๐ บาทตอ่ การประชุมหนง่ึ ครง้ั (๒) กรณีเป็นคณะทำ� งานท่คี ณะกรรมการหรอื คณะอนุกรรมการตามกฎหมายแตง่ ตั้ง ให้เบกิ จา่ ยค่าตอบแทนได้คนละไมเ่ กิน ๘๐๐ บาทตอ่ การประชุมหนง่ึ ครัง้ (๓) กรณเี ปน็ คณะทำ� งานหรอื คณะอนกุ รรมการหรอื คณะกรรมการทสี่ ำ� นกั งานแตง่ ตง้ั ใหเ้ บกิ จา่ ยคา่ ตอบแทนได้คนละไมเ่ กนิ ๕๐๐ บาทต่อการประชุมหนึ่งครั้ง (๔) กรณีบุคคลภายนอกเข้าร่วมประชุมคณะท�ำงานหรือคณะอนุกรรมการหรือคณะกรรมการตาม (๒) หรอื (๓) ใหเ้ บิกจ่ายค่าตอบแทนได้คนละไม่เกนิ ๕๐๐ บาทตอ่ การประชุม หนึง่ คร้งั (๕) กรณีเป็นท่ีปรึกษาซึ่งเข้าร่วมประชุมคณะท�ำงานหรือคณะอนุกรรมการหรือคณะกรรมการตาม (๒) หรือ (๓) ใหเ้ บิกจ่ายค่าตอบแทนได้เทา่ กับคณะท�ำงานหรอื อนกุ รรมการหรือกรรมการในคณะนัน้ ๆ ทั้งน้ี เม่ือได้รับค่าตอบแทนตาม (๑) - (๕) แล้ว ไมม่ ีสิทธิเบิกคา่ เบย้ี เล้ยี งอกี หมวด ๒ ค่าใช้จา่ ยในการเดนิ ทาง ข้อ ๑๓ ผู้บริหารหรือผู้ปฏิบัติงานท่ีได้รับอนุมัติให้เดินทางในราชอาณาจักร เพ่ือไปปฏิบัติงานหรือเพ่ือการประชุมหรือการฝึกอบรม หรือบุคคลภายนอก ให้เบิกจ่ายค่าใช้จ่ายในการเดินทาง คือ ค่าเบี้ยเล้ียงค่าพาหนะ และคา่ ท่พี ัก ตามหลักเกณฑ์ และอัตราทีก่ �ำหนดไว้ในประกาศน้ี กรณผี บู้ รหิ ารหรอื ผปู้ ฏบิ ตั งิ านไดร้ บั คา่ ใชจ้ า่ ยในการเดนิ ทางจากสว่ นราชการหรอื หนว่ ยงานของรฐัหรือองค์กรอน่ื แลว้ ไมม่ สี ทิ ธเิ บิกค่าใชจ้ ่ายในการเดินทางจากสำ� นักงานอีก เว้นแต่การให้เบกิ จา่ ยเฉพาะส่วนยงั ไม่ไดร้ ับ ข้อ ๑๔ การเดินทางไปปฏิบัติงานหรือประชุมในราชอาณาจักรของผู้บริหารและหรือผู้ปฏิบัติงานในลักษณะเป็นหมู่คณะ ให้ผู้มีต�ำแหน่งอาวุโสสูงสุดหรือผู้ที่ส�ำนักงานมอบหมาย เป็นหัวหน้าคณะเดินทางมีหน้าที่กำ� กับดแู ลการเดนิ ทางและการพกั แรมของผูบ้ รหิ ารและหรือผปู้ ฏบิ ตั งิ าน ให้เป็นไปอยา่ งเหมาะสม ข้อ ๑๕ ให้เจ้าหน้าที่ของสำ� นักงานหลักประกนั สขุ ภาพแห่งชาตสิ าขาจังหวัด ทส่ี �ำนกั งานมหี นงั สือเชิญเข้าประชุม หรือบุคคลภายนอกที่ส�ำนักงานแต่งตั้งเป็นคณะกรรมการหรือคณะท�ำงาน มีสิทธิเบิกค่าเบ้ียเลี้ยงคา่ พาหนะ ค่าทีพ่ กั ไดใ้ นอตั ราเท่ากับผปู้ ฏบิ ัตงิ าน ยกเวน้ เปน็ ขา้ ราชการตำ� แหน่ง ระดบั เชี่ยวชาญ หรือผู้อำ� นวยการของสำ� นักงานสาขาจงั หวัด ให้เบิกคา่ เบีย้ เลี้ยง คา่ พาหนะ ค่าทพ่ี ัก ไดใ้ นอตั ราเท่ากับผบู้ ริหาร ข้อ ๑๖ วิธกี ารจา่ ยค่าใชจ้ า่ ยในการเดินทางใหก้ ับบคุ คลภายนอก สำ� นกั งานอาจจ่ายเงินสดโดยตรงหรอื โอนเขา้ บญั ชใี หก้ บั บคุ คลภายนอกโดยเรว็ ภายหลงั เสรจ็ สนิ้ การประชมุ กรณมี คี วามจำ� เปน็ สำ� หรบั บคุ คลภายนอกท่เี ป็นข้าราชการ ส�ำนักงานอาจโอนเงินเข้าบัญชีของหนว่ ยงานตน้ สังกดั ภายหลงั เสรจ็ สิ้นการประชุม เพอื่ จา่ ยให้แก่บคุ คลภายนอกน้ันได้ 197

ส่วนที่ ๑ ค่าเบีย้ เลีย้ ง ข้อ ๑๗ ค่าเบี้ยเลยี้ งเดินทาง ให้เบิกจา่ ยในลกั ษณะเหมาจ่าย โดยนับวันตามปฏิทิน ดังนี้ (๑) เลขาธกิ าร ใหเ้ บกิ จ่ายได้ในอตั ราวนั ละ ๕๐๐ บาท (๒) ผู้บรหิ าร ใหเ้ บิกจ่ายไดใ้ นอัตราวนั ละ ๓๐๐ บาท (๓) ผปู้ ฏบิ ัตงิ าน ให้เบกิ จา่ ยได้ในอัตราวันละ ๒๔๐ บาท (๔) บคุ คลภายนอก ใหเ้ บิกจา่ ยได้ในอตั ราวันละ ๒๔๐ บาท เว้นแต่บุคคลภายนอกที่เป็นหรอื เคยเปน็ ขา้ ราชการ ตำ� แหนง่ ประเภทบรหิ ารระดับตน้ ระดบั สงู ตำ� แหน่งประเภทอำ� นวยการระดบั สงู ต�ำแหน่งประเภทท่วั ไประดับทักษะพเิ ศษ หรือต�ำแหน่งประเภทวิชาการระดับเชย่ี วชาญ ขน้ึ ไป หรอื ต�ำแหน่งทเ่ี ทียบเทา่ หรอื เคยเปน็กรรมการหรอื อนกุ รรมการตามกฎหมาย ใหเ้ บกิ จ่ายได้ในอัตราวันละ ๓๐๐ บาท การเดินทางตามวรรคหน่ึงเพื่อการฝึกอบรม ท่ีมีการเบิกค่าอาหารให้บางม้ือระหว่างการฝึกอบรมใหห้ กั ค่าเบีย้ เลีย้ งในอัตราม้อื ละหน่ึงในสามของอตั ราค่าเบ้ียเลีย้ งตาม (๑) (๒) (๓) และ (๔) ผู้บริหารหรือผู้ปฏิบัติงานท่ีเดินทางไปปฏิบัติงานหรือเพื่อการประชุมหรือเพ่ือการฝึกอบรมภายในจงั หวดั ทเ่ี ปน็ ทต่ี ง้ั ของสำ� นกั งานทต่ี นปฏบิ ตั งิ านอยู่ ไมม่ สี ทิ ธเิ บกิ คา่ เบยี้ เลย้ี ง เวน้ แตเ่ ปน็ การเดนิ ทางขา้ มอำ� เภอภายในจังหวัดเดียวกันท่ีมีระยะเวลาปฏิบัติงานหรือการประชุมหรือการฝึกอบรมต้ังแต่ ๑๒ ชั่วโมงข้ึนไปหรือมีระยะทางไปกลบั ตง้ั แต่ ๑๔๐ กิโลเมตรขนึ้ ไป ใหม้ ีสทิ ธิเบิกค่าเบยี้ เล้ยี งได้ ผู้บริหารหรือผู้ปฏิบัติงานท่ีปฏิบัติงานประจ�ำในส�ำนักงานซ่ึงมีที่ตั้งอยู่ในพ้ืนที่กรุงเทพมหานครจังหวัดนนทบุรี และจังหวัดปทุมธานี เดินทางไปปฏิบัติงานหรือเพื่อการประชุมหรือเพื่อการฝึกอบรมภายในพ้ืนท่ีดงั กลา่ ว ไมม่ สี ทิ ธเิ บกิ คา่ เบ้ียเลย้ี ง ส่วนที่ ๒ ค่าพาหนะ ขอ้ ๑๘ ค่าพาหนะเดนิ ทางส�ำหรบั ผูบ้ ริหารหรอื ผู้ปฏบิ ัติงาน ให้เบกิ จ่ายดงั น้ี (๑) กรณเี ดนิ ทางโดยพาหนะประจำ� ทางหรอื พาหนะรบั จา้ ง ใหเ้ บกิ จา่ ยคา่ พาหนะไดเ้ ทา่ ทจี่ า่ ยจรงิโดยประหยัด และกรณีที่มีความจ�ำเป็นต้องใช้พาหนะรับจ้างเดินทางข้ามจังหวัดท่ีไม่มีเขตพื้นท่ีติดต่อกับกรงุ เทพมหานคร ให้ระบุเหตุผลความจ�ำเป็นเพ่อื ประกอบการพจิ ารณาอนุมัตดิ ้วย (๒) กรณเี ดนิ ทางโดยพาหนะสว่ นตวั ใหร้ ะบเุ หตผุ ลความจำ� เปน็ ทต่ี อ้ งใชพ้ าหนะสว่ นตวั ประกอบการพจิ ารณาอนมุ ัติดว้ ย โดยใหเ้ บิกจา่ ยเงนิ ชดเชยคา่ เช้อื เพลิงในอัตรากโิ ลเมตรละ ๔ บาท เวน้ แตก่ รณที กี่ ระทรวงการคลงั กำ� หนดอตั ราการเบกิ จา่ ยเงนิ ชดเชยคา่ เชอื้ เพลงิ มากกวา่ กโิ ลเมตรละ ๔ บาท ใหเ้ บกิ จา่ ยตามอตั ราทก่ี ระทรวงการคลังกำ� หนด (๓) กรณเี ดินทางโดยรถประจำ� ต�ำแหนง่ ใหเ้ บิกจา่ ยเงินชดเชยคา่ เช้อื เพลงิ ดังน้ี (ก) กรณีน�ำรถไปใช้ในการปฏิบัติหน้าที่ ซึ่งนอกเหนือไปจากหน้าที่ปกติประจ�ำ ในเขตกรุงเทพมหานคร จังหวัดนนทบุรี หรือจังหวัดปทุมธานี ให้เบิกจ่ายเงินชดเชยค่าเชื้อเพลิงในลักษณะเหมาจ่าย๓,๐๐๐ บาทต่อเดอื น198

(ข) กรณีน�ำรถไปใช้ในการปฏิบัติหน้าท่ี ซ่ึงนอกเหนือจากหน้าที่ปกติประจ�ำ นอกเขตกรงุ เทพมหานคร จงั หวดั นนทบรุ ี และจงั หวดั ปทมุ ธานี ใหเ้ บกิ จา่ ยเงนิ ชดเชยคา่ เชอื้ เพลงิ ในอตั รากโิ ลเมตรละ ๔ บาทเวน้ แตก่ รณีทีก่ ระทรวงการคลงั กำ� หนดอัตราการเบิกจา่ ยเงินชดเชยคา่ เช้อื เพลิงมากกว่ากิโลเมตรละ ๔ บาท ให้เบกิจ่ายตามอตั ราทีก่ ระทรวงการคลงั ก�ำหนด (ค) กรณีผู้บริหารที่มีรถประจ�ำต�ำแหน่งได้รับอนุมัติให้เดินทางไปปฏิบัติงานหรือไปประชุมและมคี วามจำ� เปน็ ตอ้ งเดนิ ทางโดยพาหนะรบั จา้ ง ให้เบกิ จ่ายค่าพาหนะรับจ้างไดเ้ ทา่ ทีจ่ ่ายจรงิ การเดินทางตาม (๑) (๒) หรือ (๓) ถ้ามีค่าผ่านทางพิเศษ ให้เบิกจ่ายค่าผ่านทางพิเศษได้เท่าท่ีจ่ายจริงโดยประหยดั ขอ้ ๑๙ ค่าโดยสารเครื่องบนิ ส�ำหรบั ผู้บรหิ ารหรอื ผ้ปู ฏบิ ัตงิ าน ใหเ้ บกิ จา่ ยไดต้ ามหลักเกณฑ์ดงั น้ี (๑) ผู้บริหารยกเว้นผ้เู ชีย่ วชาญ รองหรอื ผ้ชู ว่ ยผูอ้ ำ� นวยการสำ� นัก รองหรือผชู้ ว่ ยผ้จู ดั การกองทนุหรือตำ� แหน่งอนื่ ท่ีเทยี บเทา่ ใหเ้ บกิ จา่ ยไดเ้ ท่าทจี่ ่ายจรงิ (๒) ผเู้ ชย่ี วชาญ รองหรอื ผชู้ ว่ ยผอู้ ำ� นวยการสำ� นกั รองผจู้ ดั การกองทนุ หรอื ตำ� แหนง่ อน่ื ทเี่ ทยี บเทา่ให้เบิกจ่ายในชั้นประหยัด เว้นแต่มีเหตุผลความจ�ำเป็นให้ระบุเหตุผลความจ�ำเป็นประกอบการพิจารณาอนุมัติด้วยโดยให้เบกิ จา่ ยได้เทา่ ทจ่ี ่ายจริง (๓) ผปู้ ฏิบตั งิ านในต�ำแหนง่ หัวหน้ากลุม่ งาน หวั หน้างาน หรือตำ� แหน่งอืน่ ท่ีเทียบเท่า ให้เบกิ จา่ ยในช้นั ประหยดั (๔) ผู้ปฏิบัติงานนอกจาก (๑ (๒) หรือ (๓) ถ้ามีความจ�ำเป็นต้องเดินทางโดยเคร่ืองบิน ให้ระบุเหตุผลความจ�ำเปน็ ประกอบการพจิ ารณาอนมุ ัตดิ ้วย โดยใหเ้ บกิ จา่ ยในช้ันประหยัด ข้อ ๒๐ ค่าพาหนะเดินทางสำ� หรับบคุ คลภายนอก ให้เบิกจ่ายได้ตามหลักเกณฑแ์ ละอตั ราดงั นี้ (๑) กรณีสถานที่จัดประชุมหรือฝึกอบรมต้ังอยู่ในพื้นที่กรุงเทพมหานครหรือจังหวัดนนทบุรีและจงั หวดั ปทมุ ธานี ให้เบกิ จา่ ยดังนี้ (ก) กรณีบุคคลภายนอกซึ่งพักอาศัยอยู่ในจังหวัดท่ีจัดประชุม ให้เบิกจ่ายค่าพาหนะได้เทา่ ทจ่ี ่ายจริง ไม่เกินเท่ียวละ ๕๐๐ บาท (ข) กรณีบุคคลภายนอกซ่ึงพักอาศัยอยู่นอกจังหวัดที่จัดประชุมหรือฝึกอบรม ให้เบิกจ่ายค่าพาหนะได้เท่าที่จ่ายจริง แต่ไม่เกินเที่ยวละ ๘๐๐ บาท หรือเบิกตามระยะทางจากอ�ำเภอท่ีพักอาศัยถึงอ�ำเภอท่จี ดั ประชมุ หรอื ฝึกอบรม ตามระยะทางที่ส�ำนกั งานกำ� หนด ในอัตรากิโลเมตรละ ๔ บาทหรือตามอัตราทีก่ ระทรวงการคลงั ก�ำหนด (๒) กรณีสถานที่จัดประชุมหรือฝึกอบรมต้ังอยู่ในจังหวัดอ่ืนนอกจาก (๑) ให้เบิกจ่ายค่าพาหนะในลักษณะเหมาจ่ายคนละ ๔๐๐ บาทต่อวัน เว้นแต่ต้องเดินทางไปกลับระหว่างอ�ำเภอท่ีมีระยะทางมากกว่า๑๐๐ กิโลเมตรขึ้นไป ใหเ้ บิกจา่ ยในอตั รากิโลเมตรละ ๔ บาทหรือตามอตั ราทก่ี ระทรวงการคลังก�ำหนด การเดนิ ทางระหวา่ งอำ� เภอถงึ อำ� เภอ ในพน้ื ทใ่ี ดทส่ี ำ� นกั งานไมไ่ ดก้ ำ� หนดระยะทางไว้ ใหใ้ ชร้ ะยะทางจากข้อมูลของกรมทางหลวง การเบิกจ่ายค่าพาหนะเดินทางส�ำหรับบุคคลภายนอกตาม (๑) (๒) อาจเป็นไปตามท่ีก�ำหนดในโครงการที่ได้รับอนุมัติและได้แจ้งให้บุคคลภายนอกทราบในหนังสือเชิญประชุมแล้วก็ได้ ทั้งนี้ตามความจ�ำเป็นและประหยดั 199

ข้อ ๒๑ ค่าโดยสารเครื่องบินส�ำหรับบุคคลภายนอกซ่ึงเป็นหรือเคยเป็นข้าราชการตั้งแต่ระดับช�ำนาญการหรือระดับช�ำนาญงานหรือระดับ ๖ ข้ึนไป หรือบุคคลภายนอกที่จ�ำเป็นต้องเดินทางโดยเครื่องบินและผู้อำ� นวยการสำ� นกั ท่ีเกย่ี วข้องรบั รองความจำ� เป็นแลว้ ใหเ้ บิกจ่ายในชั้นประหยัด นอกจากเบิกจ่ายค่าพาหนะตามข้อ ๒๐ หากจ�ำเป็นต้องโดยสารเครื่องบินและมีสนามบินอยู่ในจังหวดั ท่ีพกั อาศยั หรอื อยู่ใกลจ้ ังหวัดท่ีพกั อาศยั ใหเ้ บกิ จ่ายค่าพาหนะดังนี้ (๑) คา่ พาหนะเดนิ ทางจากกรงุ เทพมหานครหรอื จงั หวดั ทมี่ เี ขตตดิ ตอ่ กบั กรงุ เทพมหานครไปกลบัสนามบินสุวรรณภูมิ ให้เบิกจ่ายไดเ้ ท่าทจี่ ่ายจริง แตไ่ ม่เกินเทีย่ วละ ๖๐๐ บาท (๒) คา่ พาหนะเดนิ ทางจากกรงุ เทพมหานครหรอื จงั หวดั ทมี่ เี ขตตดิ ตอ่ กบั กรงุ เทพมหานครไปกลบัสนามบินดอนเมอื ง ใหเ้ บกิ จ่ายไดเ้ ท่าท่ีจา่ ยจรงิ แต่ไมเ่ กนิ เท่ียวละ ๕๐๐ บาท (๓) คา่ พาหนะเดนิ ทางไปกลบั สนามบนิ นอกจาก (๑) (๒) ใหเ้ บกิ จ่ายในลกั ษณะเหมาจา่ ย คนละ๔๐๐ บาท เว้นแต่เป็นกรณีเดินทางไปกลับท่มี รี ะยะทางมากกวา่ ๑๐๐ กโิ ลเมตรขน้ึ ไป ใหเ้ บกิ คา่ โดยสารประจ�ำทางไดเ้ ทา่ ที่จ่ายจริงโดยประหยดั หรือรถยนตส์ ่วนตวั ในอัตรากโิ ลเมตรละ ๔ บาทหรืออตั ราทก่ี ระทรวงการคลังกำ� หนด ข้อ ๒๒ กรณีท่มี กี ารจดั ท่ีพกั ให้ผ้บู ริหารหรอื ผู้ปฏิบตั ิงานหรอื บคุ คลภายนอก ท่ีจะเข้าประชมุ หรือฝึกอบรมไว้อย่างเพียงพอแล้ว แต่ผู้บริหารหรือผู้ปฏิบัติงานหรือบุคคลภายนอกไม่พักในท่ีพักที่จัดให้ ผู้บริหารหรือผูป้ ฏบิ ัติงานหรอื บคุ คลภายนอกนัน้ ไม่มีสทิ ธิเบิกคา่ พาหนะจากที่พกั อ่ืนมายังสถานที่จัดประชุมหรือฝึกอบรม สว่ นที่ ๓ คา่ ทีพ่ กั ขอ้ ๒๓ คา่ ทพ่ี กั สำ� หรบั ผบู้ ริหาร ผปู้ ฏิบตั งิ าน และบุคคลภายนอก ใหเ้ บิกจ่ายได้ ดงั นี้ (๑) เลขาธิการ ให้เบิกจ่ายได้เท่าทจ่ี า่ ยจริง แต่ไม่เกนิ คนื ละ ๒,๕๐๐ บาท (๒) ผู้บรหิ าร ใหเ้ บกิ จา่ ยได้เทา่ ทจ่ี ่ายจริง แตไ่ มเ่ กนิ คนื ละ ๒,๔๐๐ บาท หรือเบกิ จา่ ยในลักษณะเหมาจ่ายคืนละ ๑,๒๐๐ บาท (๓) ผู้ปฏิบตั ิงานใหพ้ กั ห้องคู่ เว้นแตก่ รณจี �ำเป็นตอ้ งพกั ห้องเดี่ยว ให้ระบเุ หตผุ ลความจำ� เป็นเพื่อประกอบการเบกิ จา่ ย ทง้ั นีใ้ หเ้ บิกจ่ายไดเ้ ทา่ ท่จี า่ ยจรงิ แตไ่ มเ่ กนิ คนื ละ ๑,๖๐๐ บาทต่อคนหรือเบิกจา่ ยในลักษณะเหมาจา่ ย คืนละ ๑,๐๐๐ บาท การเบิกจ่ายค่าที่พกั ตาม (๒) หรือ (๓) ทเี่ ปน็ การเดนิ ทางพรอ้ มกันและพักเปน็ หมู่คณะ หากมกี ารเบิกค่าท่ีพักในลักษณะเหมาจ่ายแยกจากการเบิกจ่ายตามท่ีจ่ายจริงของหมู่คณะ ให้ผู้เบิกระบุเหตุผลความจ�ำเป็นในการแยกทพี่ กั จากหมคู่ ณะไวใ้ นเอกสารขอเบกิ คา่ ใชจ้ า่ ยดว้ ย กรณีจ�ำเป็นต้องพักในพ้ืนที่ท่ีมีค่าครองชีพสูงหรือเป็นแหล่งท่องเท่ียว ให้ขออนุมัติเพิ่มค่าท่ีพักได้รอ้ ยละ ๒๕ ของอตั ราตาม (๑) - (๓) แล้วแต่กรณี (๔) บคุ คลภายนอกในกรณสี ำ� นกั งานจดั ทพ่ี กั ไวใ้ ห้ ใหพ้ กั คา้ งคนื ในสถานทที่ ส่ี ำ� นกั งานจดั ไวใ้ หแ้ ละให้เบกิ จ่ายตามหลกั เกณฑ์ดังนี้ (ก) บคุ คลภายนอกนอกทวั่ ไป หรอื บคุ คลภายนอกทเี่ ปน็ หรอื เคยเปน็ ขา้ ราชการใหเ้ บกิ จา่ ยพักห้องคู่ หากบุคคลน้ันประสงค์พักห้องเดี่ยวให้จ่ายค่าห้องส่วนเกินเอง เว้นแต่กรณีไม่เหมาะสมหรือมีเหตุจ�ำเป็นไม่อาจพกั รวมกับผู้อนื่ ได้ ให้ผอู้ �ำนวยการส�ำนักท่จี ดั ประชมุ หรอื ฝกึ อบรมพิจารณาใหพ้ กั หอ้ งเด่ยี วได้ ทัง้ นี้ให้เบิกจ่าย200

ไดเ้ ทา่ ทีจ่ ่ายจรงิ แต่ไมเ่ กนิ คนื ละ ๑,๖๐๐ บาท ตอ่ คน (ข) บุคคลภายนอกท่ีเป็นหรือเคยเป็นข้าราชการ ต�ำแหน่งประเภทบริหารระดับต้นระดับสูง หรือต�ำแหน่งท่ีเทียบเท่า ต�ำแหน่งประเภทอ�ำนวยการระดับสูง ต�ำแหน่งประเภทวิชาการระดับเช่ียวชาญหรือต�ำแหน่งประเภททั่วไประดับทักษะพิเศษ ข้ึนไป หรือเคยเป็นกรรมการหรืออนุกรรมการตามกฎหมายให้เบกิ จ่ายค่าห้องพกั เดี่ยวไดเ้ ทา่ ทจี่ ่ายจรงิ แต่ไมเ่ กินคืนละ ๒,๔๐๐ บาท (๕) บคุ คลภายนอกในกรณสี ำ� นกั งานไมจ่ ดั ทพี่ กั ไว้ ใหเ้ บกิ จา่ ยไดต้ ามหลกั เกณฑแ์ ละอตั ราตาม (๔)หรือเบิกจ่ายค่าที่พักได้ในลักษณะเหมาจ่ายส�ำหรับบุคคลตาม (๔) (ก) ให้เบิกจ่ายได้คนละ ๑,๐๐๐ บาท ต่อคืนและบุคคลตาม (๔) (ข) ใหเ้ บกิ จา่ ยในลักษณะเหมาจ่ายคนละ ๑,๒๐๐ บาท ต่อคืน ส่วนที่ ๔ คา่ ใช้จ่ายอน่ื ในการเดินทาง ข้อ ๒๔ การเบิกจ่ายค่าใช้จ่ายอ่ืนๆในการเดินทางไปปฏิบัติงานหรือเพื่อการประชุม หรือเพื่อการฝึกอบรมในราชอาณาจักร ให้เบิกจ่ายได้ตามที่จ่ายจริงโดยประหยัด เว้นแต่ค่ารับรองท่ีผู้บริหารซึ่งเป็นหัวหน้าคณะเดินทางเห็นสมควรให้มีการเล้ียงรับรองระหว่างหน่วยงาน เพื่อประโยชน์แก่กิจการของส�ำนักงาน ให้เบิกจ่ายไดไ้ มเ่ กิน ๒,๐๐๐ บาทต่อวนั การเบิกจา่ ยคา่ ใช้จ่ายอ่นื ๆ ตามวรรคหนง่ึ ใหแ้ นบใบเสรจ็ รบั เงนิ หรือหลกั ฐานอื่นเพ่อื ประกอบการขออนมุ ตั ิเบิกจา่ ยด้วย หมวด ๓ คา่ ใช้จา่ ยอ่นื ข้อ ๒๕ การเบกิ จ่ายคา่ เล้ยี งรับรองผแู้ ทนของส่วนราชการหรือหนว่ ยงานหรือองค์กรอน่ื ท่ีมาเยี่ยมชมกิจการของส�ำนักงาน ให้เบิกจ่ายได้เท่าที่จ่ายจริงและโดยประหยัด แต่ไม่เกิน ๒,๐๐๐ บาทต่อมื้อ และไม่เกินเดือนละ ๕,๐๐๐ บาทตอ่ ผู้บรหิ ารทอ่ี นมุ ตั ิจ่าย ข้อ ๒๖ ผู้บริหารหรือผู้ปฏิบัติงาน ที่มีสิทธิใช้โทรศัพท์เคล่ือนท่ี เพ่ือการปฏิบัติงานของส�ำนักงานโดยส�ำนักงานจะจ่ายค่าโทรศัพท์และค่าบริการเสริมท่ีเก่ียวข้องโดยตรงกับการปฏิบัติงาน ตามท่ีจ่ายจริง แต่ไม่เกินวงเงินท่กี ำ� หนดไว้ ดงั นี้ (๑) เลขาธิการ รองเลขาธิการหรือผชู้ ่วยเลขาธิการ ใหเ้ บิกจ่ายไดไ้ มจ่ ำ� กดั วงเงนิ (๒) ผู้บรหิ ารนอกจาก (๑) ใหเ้ บิกจา่ ยได้ในวงเงินไมเ่ กนิ เดือนละ ๓,๐๐๐ บาท (๓) ผู้ปฏิบัติงานท่ีมีความจ�ำเป็นต้องใช้โทรศัพท์เคล่ือนที่ ซึ่งผู้อ�ำนวยการส�ำนักได้เสนอขอความเห็นชอบจากเลขาธกิ ารหรอื ผู้ได้รับมอบอำ� นาจ ให้เบิกจ่ายได้ในวงเงนิ ไมเ่ กนิ เดอื นละ ๑,๕๐๐ บาท การใช้โทรศัพท์เคลื่อนที่ของผู้บริหาร ผู้ปฏิบัติงาน เพื่อปฏิบัติงานของส�ำนักงาน ให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ วิธีการ เงอ่ื นไข และอตั รา เป็นอ�ำนาจเฉพาะของเลขาธิการ พิจารณาก�ำหนด 201

ข้อ ๒๗ ผ้ปู ฏบิ ัติงาน ท่ีได้รบั มอบหมายจากผอู้ ำ� นวยการส�ำนักให้ปฏิบัติงานพเิ ศษ ผปู้ ฏบิ ัตงิ านน้นัอาจไดร้ บั คา่ ตอบแทนการปฏบิ ตั งิ านพเิ ศษ ตามลกั ษณะงาน อัตราและเงื่อนไข ดงั นี้ (๑) ลักษณะงาน (ก) งานทม่ี งุ่ ความสำ� เรจ็ ของงานเปน็ หลกั และผปู้ ฏบิ ตั งิ าน ตอ้ งปฏบิ ตั งิ านดงั กลา่ วใหส้ ำ� เรจ็ในเวลาท่กี �ำหนด (ข) งานทตี่ อ้ งอาศัยความรู้ความเช่ียวชาญเทคนคิ เฉพาะ (๒) อัตราค่าตอบแทน ใหผ้ ู้อำ� นวยการส�ำนกั เปน็ ผู้พิจารณาอนุมตั ติ ามอตั รา ดังน้ี (ก) งานตาม (๑) (ก) เบิกจ่ายในลักษณะเหมาจ่ายเป็นรายวันๆ ละไม่เกิน ๓๐๐ บาทกรณเี หน็ ควรอนมุ ตั ิ เบกิ จา่ ยเกนิ กวา่ วนั ละ ๓๐๐ บาท แตไ่ มเ่ กนิ ๕๐๐ บาท ใหเ้ ลขาธกิ าร รองเลขาธกิ าร หรอื ประธานกรรมการบริหารกลุม่ ภารกจิ พิจารณาอนมุ ตั ิเปน็ กรณีๆไป (ข) งานตาม (๑) (ข) ให้เบิกจ่ายในอัตราที่ได้รับอนุมัติจากเลขาธิการ รองเลขาธิการหรือประธานกรรมการบรหิ ารกลุ่มภารกิจ ผปู้ ฏบิ ตั งิ านทไ่ี ดร้ บั อนมุ ตั คิ า่ ตอบแทนตามวรรคหนงึ่ ไมม่ สี ทิ ธเิ บกิ คา่ เบยี้ เลยี้ ง คา่ ลว่ งเวลา คา่ ทำ� งานในวนั หยุด หรอื ค่าลว่ งเวลาในวันหยดุ ข้อ ๒๘ บุคคลภายนอกที่ส�ำนักงานแต่งต้ังเป็นกรรมการในคณะกรรมการตรวจสอบเวชระเบียนให้จ่ายค่าตอบแทนในอตั ราดงั นี้ (๑) การตรวจสอบเวชระเบียนหรือการตรวจประเมินผลตรวจสอบเวชระเบียน (Re audit)กรณี Coding Audit หรือ Quality หรอื Billing Audit ใหจ้ ่ายค่าตอบแทนได้ ดงั นี้ (ก) กรณีตรวจสอบเวชระเบียนแบบรวมศนู ย์ จ่ายค่าตอบแทนฉบับละไมเ่ กนิ ๓๐๐ บาท (ข) กรณตี รวจสอบเวชระเบยี น ณ หนว่ ยบรกิ าร จา่ ยคา่ ตอบแทนฉบบั ละไมเ่ กนิ ๕๐๐ บาท การจ่ายค่าตอบแทนตาม (ก) (ข) เป็นอัตราเท่าใด ให้ส�ำนักงานจ่ายตามความยากง่ายของการตรวจสอบเวชระเบยี นและขนาดของหน่วยบรกิ าร การตรวจสอบเวชระเบียนรายเดียวกันทั้งผู้ป่วยนอกและผู้ป่วยใน หรือการตรวจสอบเวชระเบียนในกรณตี า่ งๆ รว่ มกนั มากกว่าหนงึ่ ประเภท เชน่ กรณี Quality Audit รว่ มกับ Coding Audit หรอื Billing Auditรว่ มกบั Coding Audit เปน็ ต้น ให้จ่ายคา่ ตอบแทนแบบกรณีรวมศนู ยห์ รือกรณีตรวจสอบ ณ หนว่ ยบริการ โดยจะรวมจา่ ยหรือแยกจา่ ย ให้ส�ำนักงานพิจารณาตามความเหมาะสมแตท่ ้ังน้ีตอ้ งไม่เกนิ อัตราทีก่ ำ� หนดตาม (๑) (ก) (ข) (๒) การตรวจประเมินคุณภาพการบันทึกเวชระเบียน (Medical Record Audit) ให้จ่ายค่าตอบแทนได้ ดังน้ี (ก) กรณีผปู้ ่วยนอก จา่ ยคา่ ตอบแทนฉบับละ ไม่เกนิ ๕๐ บาท (ข) กรณีผปู้ ่วยใน จ่ายคา่ ตอบแทนฉบับละ ไมเ่ กิน ๑๐๐ บาท (๓) การบนั ทึกผลการตรวจสอบเวชระเบยี น จา่ ยคา่ ตอบแทนฉบบั ละ ไมเ่ กิน ๒๐ บาท ข้อ ๒๙ คา่ ตอบแทนกรณอี ื่นๆ ทีจ่ �ำเป็นตอ้ งจ่ายตามภาระงาน ให้เปน็ อ�ำนาจเฉพาะของเลขาธกิ ารพจิ ารณาประกาศกำ� หนด202

ข้อ ๓๐ การเบกิ จ่ายค่าใช้จา่ ยเพอื่ สนับสนุนสว่ นราชการ หนว่ ยงาน องค์กรการกศุ ลหรอื องคก์ รอืน่ที่มกี ารดำ� เนินงานเพือ่ สร้างความเข้มแขง็ และเปน็ ประโยชน์ต่อระบบงานหลกั ประกันสขุ ภาพแหง่ ชาติ ให้เบกิ จ่ายได้เปน็ กรณีๆ ตามสัญญาหรือขอ้ ตกลงกบั สำ� นกั งาน การเบกิ จา่ ยคา่ ใชจ้ า่ ยทเี่ กยี่ วกบั การสรา้ งขวญั และกำ� ลงั ใจของผบู้ รหิ ารและผปู้ ฏบิ ตั งิ าน สำ� นกั งานอาจกำ� หนดใหผ้ บู้ รหิ ารหรอื ผปู้ ฏบิ ตั งิ านมสี ว่ นรว่ มจา่ ยได้ ทง้ั นใ้ี หเ้ ปน็ อำ� นาจเฉพาะของเลขาธกิ ารพจิ ารณาอนมุ ตั เิ ปน็ กรณๆี ไป ข้อ ๓๑ รายการคา่ ใชจ้ า่ ยอ่นื ๆที่จำ� เป็นเพอ่ื การบรหิ ารและการจัดการของสำ� นกั งาน ตามเอกสารแนบทา้ ยประกาศน้ี ใหเ้ ลขาธกิ ารหรอื ผไู้ ดร้ บั มอบอำ� นาจ พจิ ารณาอนมุ ตั ติ ามความจำ� เปน็ และเหมาะสมเปน็ กรณๆี ไป ขอ้ ๓๒ ประกาศนี้ ให้ใช้บงั คบั ต้งั แต่ วนั ที่ ๑ สงิ หาคม ๒๕๕๖ เปน็ ตน้ ไป ประกาศ ณ วนั ท่ี ๑๒ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๕๕๖ วินัย สวสั ดวิ ร เลขาธกิ ารส�ำนักงานหลกั ประกันสุขภาพแหง่ ชาติ 203

เอกสารแนบท้ายประกาศส�ำนกั งานหลักประกนั สุขภาพแหง่ ชาติ เรอ่ื ง ค่าใช้จ่ายในการบรหิ ารและการจัดการส�ำนกั งานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ พ.ศ. ๒๕๕๖ ลงวันท่ี ๑๒ กรกฎาคม ๒๕๕๖ รายการคา่ ใชจ้ า่ ยอนื่ ๆ ทจี่ ำ� เปน็ เพอ่ื การบรหิ ารและการจดั การของสำ� นกั งาน ดงั ตอ่ ไปน้ี ใหเ้ ลขาธกิ ารพิจารณาอนมุ ัติตามความจำ� เป็นและเหมาะสมเปน็ กรณๆี ไป (๑) คา่ ตอบแทนล่ามในการแปลภาษาทอ้ งถิ่น ภาษาต่างประเทศ หรือภาษามือ (๒) คา่ ตอบแทนในการแปลหนังสอื หรือเอกสาร (๓) คา่ ตอบแทนในการจดั เกบ็ หรอื สำ� รวจขอ้ มลู เฉพาะในชว่ งระยะเวลาทมี่ กี ารจดั เกบ็ หรอื สำ� รวจขอ้ มลู (๔) ค่าใช้จ่ายในการเตรียมการ ระหว่างการรับเสด็จ ส่งเสด็จ หรือเก่ียวเน่ืองกับการรับเสด็จส่งเสดจ็ พระมหากษัตริย์ พระราชนิ ี พระบรมวงศานวุ งศ์ (๕) ค่าจ้างเอกชนดำ� เนนิ งานของส�ำนักงาน (๖) ค่าใช้จ่ายในการเผยแพร่ หรือการประชาสัมพันธง์ านของสำ� นกั งาน (๗) ค่าพานพุ่มดอกไม้ พานประดับพุ่มดอกไม้ พานพุ่มเงิน พุ่มทอง กรวยดอกไม้พวงมาลัยชอ่ ดอกไม้ กระเชา้ ดอกไม้ หรอื พวงมาลา สำ� หรบั วางอนสุ าวรยี ์ หรอื ใชใ้ นการจดั งาน การจดั กจิ กรรมเฉลมิ พระเกยี รติในวโรกาสต่าง ๆ (๘) คา่ หรดี หรอื พวงมาลา สำ� หรบั สกั การะศพ ใหเ้ บกิ จา่ ยในนามของสำ� นกั งานเปน็ สว่ นรวม เฉพาะสกั การะศพ ผทู้ ี่เคยใหค้ วามช่วยเหลอื หรอื เป็นผเู้ คยทำ� ประโยชน์ ให้แก่ประเทศหรอื ส�ำนกั งานจนเปน็ ทปี่ ระจักษช์ ัด (๙) ค่าอาหารว่างและเคร่ืองด่ืมในการแถลงข่าวของส�ำนักงาน หรือการรับมอบเงินหรือส่ิงของบริจาค (๑๐) ค่าซ่อมแซมทรัพย์สินของส�ำนักงานท่ีเกิดจากการเส่ือมสภาพหรือ ช�ำรุดเสียหายจากการใชง้ านปกติ (๑๑) ค่าซ่อมแซมทรพั ยส์ ินของส�ำนกั งานท่ีได้รบั ความเสียหาย ซ่งึ มิไดเ้ กดิ จากการเสือ่ มสภาพหรือช�ำรุดเสียหายจากการใช้งานปกติ เมื่อส�ำนักงานจ่ายค่าใช้จ่ายดังกล่าวแล้ว ให้ด�ำเนินการหาผู้รับผิดทางละเมิดตามกฎหมายและระเบียบวา่ ด้วยความรับผดิ ทางละเมิดของเจ้าหน้าท่ี (๑๒) ค่าของขวัญหรือของที่ระลึกที่มอบให้ชาวต่างประเทศ กรณีเดินทางไปราชการต่างประเทศชวั่ คราว กรณชี าวตา่ งประเทศเดนิ ทางมาประเทศไทย ในนามสำ� นกั งานเปน็ สว่ นรวม หรอื คา่ ของขวญั หรอื ของทรี่ ะลกึทม่ี อบใหก้ รณหี นว่ ยงาน ทใี่ หค้ วามชว่ ยเหลอื สำ� นกั งาน หรอื กรณกี ารเยย่ี มชมสำ� นกั งาน ในนามสำ� นกั งานเปน็ สว่ นรวม (๑๓) คา่ โล่ ใบประกาศเกียรตคิ ณุ ค่ากรอบใบประกาศเกยี รตคิ ณุ ของขวญั ของรางวลั ของที่ระลกึส�ำหรับผู้บริหารหรือผู้ปฏิบัติงานประจ�ำที่เกษียณอายุ หรือผู้ให้ความช่วยเหลือหรือควรได้รับการยกย่องจากทางราชการและส�ำนักงาน (๑๔) คา่ ใชจ้ า่ ยในการจัดทำ� เว็บไซต์ และส่วนอน่ื ทเี่ ก่ียวขอ้ งในการจดั ท�ำเวบ็ ไซต์204

(๑๕) คา่ ธรรมเนยี มในการคนื บตั ร เปลย่ี นบตั รโดยสารพาหนะในการเดนิ ทางไปราชการ หรอื คา่ บตั รโดยสารที่ไม่สามารถคืนหรือเปล่ียนบัตรได้กรณีเลื่อนการเดินทางไปราชการ กรณีส�ำนักงานส่ังให้งด หรือเลื่อนการเดินทางไปราชการ และให้รวมถึงกรณีเหตุสุดวิสัยอื่น ๆ ท่ีท�ำให้ไม่สามารถเดินทางได้ ทั้งนี้ ต้องมิได้เกิดจากตวั ผ้เู ดนิ ทาง เป็นเหตุ (๑๖) ค่าใช้จ่ายในการเป็นสมาชิก หรือการจัดซ้ือหนังสือจุลสาร วารสาร หนังสือพิมพ์ หนังสืออิเลก็ ทรอนิกส์ เพอื่ ใชใ้ นราชการของสำ� นักงานโดยส่วนรวม (๑๗) คา่ บริการในการกำ� จัดสิ่งปฏิกลู จดั เกบ็ ขยะของส�ำนักงาน (๑๘) ค่าเบย้ี ประกันภยั (๑๙) ค่าใช้จ่ายในการเช่าอาคารและที่ดิน รวมท้ังค่าบริการอื่นใดท่ีเก่ียวกับการเช่า ให้เบิกจ่ายเทา่ ทีจ่ า่ ยจรงิ ตามอตั รา ดงั นี้ (ก) การเชา่ อาคารเพอื่ ใชใ้ นการปฏบิ ตั งิ าน เกบ็ เอกสารหรอื พสั ดตุ า่ ง ๆ ใหเ้ บกิ จา่ ยเทา่ ทจ่ี า่ ยจรงิ ไม่เกนิ อตั ราตารางเมตรละ(ห้าร้อยบาท)ต่อเดอื น หรอื ในกรณีท่มี ีเหตุผลความจำ� เปน็ ตอ้ งเชา่ ในอัตราเกินตารางเมตรละห้าร้อยบาทตอ่ เดอื น ให้เบิกจา่ ยในวงเงนิ ไม่เกนิ (ห้าหมืน่ บาท)ตอ่ เดือน (ข) การเชา่ ทด่ี นิ เพอ่ื ใชใ้ นการปฏบิ ตั งิ าน ใหเ้ บกิ จา่ ยเทา่ ทจ่ี า่ ยจรงิ ไมเ่ กนิ อตั รา (หา้ หมน่ื บาท)ตอ่ เดอื น ในกรณที มี่ เี หตุจำ� เปน็ ทจี่ ะต้องเบกิ จ่ายคา่ ใช้จ่ายตาม (ก) หรือ (ข) เกินอตั ราท่กี ำ� หนดไว้ ให้เบกิ จา่ ยเท่าท่ีจ่ายจริง ท้ังนี้ อัตราที่เบิกจ่ายต้องไม่สูงกว่าอัตราตามท้องตลาด และต้องบันทึกเหตุผลความจ�ำเป็นท่ีต้องเบกิ จา่ ยในอัตรานั้นไวด้ ว้ ย (๒๐) ค่าไฟฟา้ ค่าน้ำ� ค่าโทรศัพท์ ของสำ� นักงาน ให้จา่ ยเทา่ ทีจ่ ่ายจริง (๒๑) ค่าบริการไปรษณีย์ ค่าฝากส่งไปรษณีย์ ค่าบริการไปรษณีย์ตอบรับค่าดวงตราไปรษณีย์หรือค่าเชา่ ตไู้ ปรษณีย์ (๒๒) ค่าบริการสื่อสารและโทรคมนาคม รวมถึงค่าใช้จ่ายเพื่อให้ได้มาซ่ึงบริการส่ือสารและโทรคมนาคม เช่น คา่ ใช้จา่ ยเกยี่ วกับการใช้ระบบและคา่ ใชบ้ ริการอินเทอรเ์ น็ต ค่าเคเบลิ้ ทีวี คา่ เชา่ ชอ่ งสัญญาณดาวเทยี ม คา่ สื่อสารผา่ นดาวเทยี ม ค่าวทิ ยสุ อ่ื สาร วิทยุติดตามตวั เปน็ ตน้ (๒๓) คา่ เช่าพืน้ ที่เว็บไซต์ และคา่ ธรรมเนียมทเ่ี ก่ยี วขอ้ ง (๒๔) ค่าธรรมเนียมธนาคารเก่ียวกับการท�ำธุรกรรมทางการเงินเพื่อความสะดวกของส�ำนักงานท่ีมิใช่เป็นการร้องขอของผูม้ สี ิทธิรับเงนิ (๒๕) ค่าตอบแทนกรรมการตรวจการจา้ งและผู้ควบคมุ งาน กรรมการสอบสวน (๒๖) ค่าใชจ้ า่ ยอื่นทเี่ ลขาธกิ ารอนมุ ตั ิ 205

ประกาศส�ำนกั งานหลักประกนั สุขภาพแหง่ ชาติ เร่อื ง ค่าใชจ้ ่ายในการบรหิ ารและการจัดการสำ� นักงานหลักประกนั สุขภาพแหง่ ชาติ (ฉบบั ที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๕๖ โดยที่เป็นการสมควรแก้ไขประกาศส�ำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ เรื่อง ค่าใช้จ่ายในการบรหิ ารและการจดั การสำ� นกั งานหลกั ประกนั สขุ ภาพแหง่ ชาติ เพอื่ ใหบ้ รหิ ารและการจดั การสำ� นกั งานมปี ระสทิ ธภิ าพมากย่ิงข้ึน อาศัยตามความในมาตรา ๓๑ และมาตรา ๓๖ วรรคหนึ่ง (๒) แห่งพระราชบัญญัติหลักประกันสุขภาพแหง่ ชาติ พ.ศ. ๒๕๔๕ ประกอบกบั ข้อ ๑๔ และข้อ ๑๕ ของระเบียบส�ำนักงานหลักประกันอำ� นาจสุขภาพแหง่ ชาติ วา่ ดว้ ยการเกบ็ รกั ษาและการใชจ้ า่ ยเงนิ ของสำ� นกั งาน พ.ศ. ๒๕๔๖ เลขาธกิ ารสำ� นกั งานหลกั ประกนั สขุ ภาพแห่งชาติ จงึ ออกประกาศไว้ ดงั ต่อไปน้ี ข้อ ๑ ใหย้ กเลกิ ความหมายของคำ� วา่ ผบู้ รหิ ารตามขอ้ ๔ ของประกาศสำ� นกั งานหลกั ประกนั สขุ ภาพแห่งชาติ เรื่อง ค่าใช้จ่ายในการบริหารและการจัดการส�ำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ พ.ศ. ๒๕๕๖และใชค้ วามดังตอ่ ไปน้ีแทน “ผู้บริหาร” หมายความว่า ผู้ปฏิบัติงานที่ด�ำรงต�ำแหน่งหรือได้รับแต่งตั้งให้รักษาการในต�ำแหน่งในกลมุ่ บรหิ ารระดบั สงู กลมุ่ บรหิ าร/กลมุ่ วชิ าการ ตามประกาศสำ� นกั งานหลกั ประกนั สขุ ภาพแหง่ ชาติ เรอื่ ง โครงสรา้ งระดับช้ันงานและต�ำแหน่งงาน พ.ศ.๒๕๕๖ และให้ หมายรวมถึงเลขาธิการด้วย เว้นแต่ในประกาศน้ีก�ำหนดอัตราส�ำหรับเลขาธกิ ารไวเ้ ป็นการเฉพาะ” ข้อ ๒ ใหย้ กเลิกความใน ข้อ ๘ (๖) (๙) ของประกาศสำ� นักงานหลกั ประกนั สขุ ภาพแหง่ ชาติ เร่อื งคา่ ใชจ้ า่ ยในการบรหิ ารและการจดั การสำ� นกั งานหลกั ประกนั สขุ ภาพแหง่ ชาติ พ.ศ. ๒๕๕๖ และใชค้ วามดงั ตอ่ ไปนแี้ ทน “ข้อ ๘ การเบิกจ่ายค่าใช้จ่ายในการประชุม การฝึกอบรม ให้เบิกจ่ายได้เท่าที่จ่ายจริงและโดยประหยัด ดังนี้ (๖) ค่าหนงั สือสำ� หรบั การประชมุ การฝกึ อบรม (๙) ค่ากระเป๋าหรือส่ิงท่ีใช้บรรจุเอกสารส�ำหรับการประชุม การฝึกอบรม ให้เบิกจ่ายได้เท่าท่ีจ่ายจรงิ ไมเ่ กนิ ใบละ ๓๐๐ บาท” ข้อ ๓ ให้ยกเลิกความในข้อ ๑๑ (๑) ของประกาศส�ำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ เรื่องคา่ ใชจ้ า่ ยในการบรหิ ารและการจดั การสำ� นกั งานหลกั ประกนั สขุ ภาพแหง่ ชาติ พ.ศ. ๒๕๕๖ และใชค้ วามดงั ตอ่ ไปนแี้ ทน “(๑) หลักเกณฑ์การเบิกจ่ายค่าสมนาคุณวิทยากรท่ีเป็นบุคคลภายนอกและกรรมการหรืออนกุ รรมการตามกฎหมาย (ก) ชว่ั โมงการฝกึ อบรมทมี่ ลี กั ษณะเปน็ การบรรยาย ใหเ้ บกิ จา่ ยคา่ สมนาคณุ วทิ ยากรไมเ่ กนิ๒ คน206

(ข) ช่ัวโมงการฝึกอบรมที่มีลักษณะเป็นการอภิปรายเป็นคณะหรือสัมมนา ให้เบิกจ่ายค่าสมนาคุณวิทยากรไดไ้ มเ่ กิน ๕ คน โดยรวมถึงผดู้ �ำเนนิ การอภปิ รายหรือสมั มนาด้วย (ค) ชว่ั โมงการฝึกอบรมท่ีมีลกั ษณะเป็นการแบ่งกลุ่มฝกึ ภาคปฏิบัติ แบ่งกลมุ่ อภปิ รายหรอืแบง่ กลมุ่ ท�ำกิจกรรม ซ่ึงจ�ำเป็นต้องมวี ทิ ยากรประจ�ำกลมุ่ ใหเ้ บิกจา่ ยคา่ สมนาคณุ วทิ ยากรไดไ้ มเ่ กินกลุ่มละ ๒ คน (ง) ช่ัวโมงการฝึกอบรมใดที่มีวิทยากรเกินกว่าจ�ำนวนที่ก�ำหนดไว้ดังกล่าวข้างต้น ให้เฉลี่ยจา่ ยเงินสมนาคณุ ภายในจ�ำนวนเงินทีเ่ บกิ จา่ ยได้ (จ) ให้เบิกจ่ายค่าสมนาคุณได้เฉพาะชั่วโมงท่ีท�ำหน้าที่วิทยากร เศษของช่ัวโมงตั้งแต่๓๐ นาทีข้ึนไป ให้นบั เป็นหนึง่ ช่วั โมง ถ้าไม่ถงึ ๓๐ นาที ให้นับเปน็ ครงึ่ ชว่ั โมง และจ่ายคา่ สมนาคณุ ได้ไมเ่ กนิ กึ่งหนงึ่ ” ขอ้ ๔ ให้ยกเลิกความในข้อ ๑๒ (๓) ของประกาศส�ำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ เรื่องคา่ ใชจ้ า่ ยในการบรหิ ารและการจดั การสำ� นกั งานหลกั ประกนั สขุ ภาพแหง่ ชาติ พ.ศ. ๒๕๕๖ และใชค้ วามดงั ตอ่ ไปนแ้ี ทน “(๓) กรณบี คุ คลภายนอกทส่ี ำ� นกั งานมหี นงั สอื เชญิ มาประชมุ หรอื สำ� นกั งานแตง่ ตงั้ เปน็ คณะทำ� งานหรอื คณะอนกุ รรมการหรอื คณะกรรมการ ใหเ้ บกิ จา่ ยคา่ ตอบแทนไดค้ นละไมเ่ กนิ ๕๐๐บาทตอ่ การประชมุ หนงึ่ ครงั้ ” ข้อ ๕ ใหย้ กเลกิ ความในขอ้ ๒๐ ของประกาศสำ� นกั งานหลกั ประกนั สขุ ภาพแหง่ ชาติ เรอื่ ง คา่ ใชจ้ า่ ยในการบริหารและการจดั การสำ� นักงานหลักประกันสขุ ภาพแหง่ ชาติ พ.ศ. ๒๕๕๖ และใชค้ วามดงั ตอ่ ไปนีแ้ ทน “ขอ้ ๒๐ คา่ พาหนะเดินทางสำ� หรบั บุคคลภายนอก ให้เบิกจา่ ยได้ตามหลกั เกณฑแ์ ละอตั รา ดังนี้ (๑) กรณสี ถานทจี่ ดั ประชมุ หรอื ฝกึ อบรมหรอื ปฏบิ ตั งิ าน ตง้ั อยใู่ นพน้ื ทกี่ รงุ เทพมหานคร หรอื จงั หวดันนทบุรีและจงั หวัดปทุมธานี ให้เบกิ จ่าย ดังน้ี (ก) กรณีบุคคลภายนอกซ่ึงพักอาศัยอยู่ในจังหวัดท่ีจัดประชุม ฝึกอบรมหรือปฏิบัติงานใหเ้ บกิ จา่ ยค่าพาหนะได้เท่าทีจ่ ่ายจรงิ ไมเ่ กินเทีย่ วละ ๕๐๐ บาท (ข) กรณีบุคคลภายนอกซ่ึงพักอาศัยอยู่นอกจังหวัดท่ีจัดประชุม ฝึกอบรมหรือปฏิบัติงานใหเ้ บิกจา่ ยค่าพาหนะไดเ้ ทา่ ที่จ่ายจริง ไมเ่ กินเที่ยวละ ๘๐๐ บาท หรือเบกิ จ่ายตามระยะทางจากอำ� เภอท่ีพักอาศัยถึงอ�ำเภอท่ีจัดประชุมหรือฝึกอบรมหรือปฏิบัติงาน ตามระยะทางท่ีส�ำนักงานก�ำหนดในอัตรากิโลเมตรละ ๔ บาทหรืออัตราทกี่ ระทรวงการคลงั กำ� หนด (๒) กรณสี ถานทจี่ ดั ประชมุ หรอื ฝกึ อบรมหรอื ปฏบิ ตั งิ านตง้ั อยใู่ นจงั หวดั อนื่ นอกจาก (๑) ใหเ้ บกิ จา่ ยคา่ พาหนะในลกั ษณะเหมาจา่ ยคนละ ๔๐๐ บาทตอ่ วนั เวน้ แตต่ อ้ งเดนิ ทางไปกลบั ระหวา่ งอำ� เภอทมี่ รี ะยะทางมากกวา่๑๐๐ กิโลเมตรขน้ึ ไป ใหเ้ บกิ จา่ ยในอัตรากโิ ลเมตรละ ๔ บาทหรือตามอัตราทีก่ ระทรวงการคลังก�ำหนด การเดนิ ทางระหวา่ งอำ� เภอถงึ อำ� เภอ ในพนื้ ทใี่ ดทส่ี ำ� นกั งานไมไ่ ดก้ ำ� หนดระยะทางไวใ้ หใ้ ชร้ ะยะทางจากข้อมูลของกรมทางหลวง การเบิกจ่ายค่าพาหนะเดินทางส�ำหรับบุคคลภายนอกตาม (๑) (๒) อาจเป็นไปตามที่ก�ำหนดในโครงการที่ได้รับอนุมัติและได้แจ้งให้บุคคลภายนอกทราบในหนังสือเชิญประชุมแล้วก็ได้ ทั้งน้ีตามความจ�ำเป็นและประหยัด” ข้อ ๖ ประกาศนีใ้ หม้ ผี ลใชบ้ งั คับ ตั้งแต่บดั นี้เปน็ ต้นไป ประกาศ ณ วนั ท่ี ๑ ตลุ าคม พ.ศ. ๒๕๕๖ วนิ ัย สวัสดิวร เลขาธกิ ารส�ำนักงานหลกั ประกนั สขุ ภาพแห่งชาติ 207

ข้อบงั คบั คณะกรรมการหลกั ประกันสุขภาพแหง่ ชาติ ว่าดว้ ยการมอบอ�ำนาจของเลขาธกิ ารส�ำนักงานหลกั ประกันสขุ ภาพแหง่ ชาติ พ.ศ. ๒๕๔๙ โดยทเี่ ปน็ การสมควรปรบั ปรงุ การมอบอำ� นาจของเลขาธกิ ารสำ� นกั งานหลกั ประกนั สขุ ภาพแหง่ ชาติเพอื่ ให้เกิดความเหมาะสมและเกดิ ประสิทธิภาพในการดำ� เนินงานมากย่งิ ขนึ้ ฉะนั้น อาศัยอ�ำนาจตามความในมาตรา ๑๙ และมาตรา ๓๖ วรรคสองแห่งพระราชบัญญัติหลกั ประกนั สขุ ภาพแหง่ ชาตพิ .ศ. ๒๕๔๕ คณะกรรมการหลักประกันสุขภาพแหง่ ชาตจิ งึ ไดม้ มี ติในการประชุมครง้ั ท่ี๔/๒๕๔๙ เม่อื วนั ท่ี ๑๓ มนี าคม ๒๕๔๙ ให้ออกขอ้ บงั คับไวด้ งั ต่อไปนี้ ข้อ ๑ ข้อบังคับนี้เรียกว่า “ข้อบังคับคณะกรรมการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ว่าด้วยการมอบอำ� นาจของเลขาธกิ ารส�ำนกั งานหลกั ประกนั สุขภาพแห่งชาติพ.ศ. ๒๕๔๙” ข้อ ๒ ใหย้ กเลกิ ขอ้ บงั คบั สำ� นกั งานหลกั ประกนั สขุ ภาพแหง่ ชาติ วา่ ดว้ ยการมอบอำ� นาจของเลขาธกิ ารสำ� นักงานหลกั ประกนั สุขภาพแห่งชาติ พ.ศ. ๒๕๔๖ ขอ้ ๓ ข้อบังคับน้ีให้ใช้บงั คับ ตั้งแต่วันที่ ๑๓ มนี าคม ๒๕๔๙ เป็นต้นไป ขอ้ ๔ ในข้อบงั คบั น้ี “เลขาธิการ” หมายความว่า เลขาธิการส�ำนกั งานหลกั ประกันสุขภาพแหง่ ชาติ “คณะกรรมการ” หมายความวา่ คณะกรรมการหลกั ประกันสขุ ภาพแห่งชาติ ข้อ ๕ อำ� นาจในการสง่ั การอนญุ าต การอนุมตั ิ การปฏบิ ัตงิ านหรือการดำ� เนินงานอน่ื ทีเ่ ลขาธกิ ารจะพึงปฏิบตั หิ รอื ด�ำเนนิ การตามกฎหมาย ระเบยี บ ข้อบงั คับ คำ� สั่ง มตขิ องคณะรฐั มนตรหี รอื มตขิ องคณะกรรมการถ้ากฎหมาย ระเบยี บ ขอ้ บงั คบั คำ� สง่ั มตขิ องคณะรัฐมนตรีหรอื มตขิ องคณะกรรมการในเรอ่ื งนัน้ มไิ ดก้ ำ� หนดเรือ่ งการส่งมอบอ�ำนาจไว้เป็นอย่างอื่น หรือมิได้ห้ามเร่ืองการมอบอ�ำนาจไว้ เลขาธิการอาจมอบอ�ำนาจให้บุคคลหรือผู้ดำ� รงต�ำแหน่งดังต่อไปนี้ ปฏิบัตงิ านแทนได้ คอื (๑) รองเลขาธกิ ารสำ� นักงานหลักประกนั สขุ ภาพแห่งชาติ (๒) ผูช้ ว่ ยเลขาธิการส�ำนักงานหลกั ประกันสขุ ภาพแห่งชาติ (๓) ผอู้ ำ� นวยการส�ำนัก หรอื ผอู้ ำ� นวยการกลุม่ หรือผอู้ ำ� นวยการส�ำนกั งานสาขาเขตพน้ื ท่ี (๔) รองผู้อ�ำนวยการส�ำนัก หรือรองผู้อ�ำนวยการกลุ่ม หรือรองผู้อ�ำนวยการส�ำนักงานสาขาเขตพืน้ ท่ี208

ข้อ ๖ การมอบอ�ำนาจของเลขาธิการตามข้อบังคับนี้ ให้ท�ำเป็นหนังสือ ทั้งน้ีให้ค�ำนึงถึง ระดับตำ� แหนง่ หน้าทแ่ี ละความรบั ผิดชอบของผู้ทจ่ี ะได้รับมอบอ�ำนาจเป็นส�ำคญั ขอ้ ๗ เมื่อเลขาธิการได้มีการมอบอ�ำนาจตามข้อบังคับน้ีโดยชอบแล้ว ผู้รับมอบอ�ำนาจมีหน้าท่ีตอ้ งรบั มอบอำ� นาจนั้น และจะมอบอ�ำนาจนัน้ ให้แกผ่ ดู้ �ำรงตำ� แหนง่ อื่นต่อไปไม่ได้ ขอ้ ๘ ให้ประธานกรรมการหลักประกนั สุขภาพแห่งชาติ เปน็ ผู้รกั ษาการตามข้อบงั คับน้ี ประกาศ ณ วันท่ี ๗ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๕๔๙ พินิจ จารสุ มบัต ิ รัฐมนตรีวา่ การกระทรวงสาธารณสุข ประธานกรรมการหลกั ประกันสขุ ภาพแห่งชาติ 209

ข้อบังคับคณะกรรมการหลักประกนั สุขภาพแห่งชาติ วา่ ดว้ ยการมอบอำ� นาจของเลขาธิการ สำ� นักงานหลักประกนั สขุ ภาพแหง่ ชาติ (ฉบบั ที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๕๐ โดยท่ีได้มีการแก้ไขปรับปรุงการก�ำหนดส่วนงานภายในส�ำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติจงึ ตอ้ งมีการปรบั เปลย่ี นต�ำแหน่งในส่วนงานต่างๆ ฉะน้ัน อาศัยอ�ำนาจตามความในมาตรา ๑๙ และมาตรา ๓๖ วรรคสองแห่งพระราชบัญญัติหลกั ประกันสุขภาพแห่งชาติ พ.ศ. ๒๕๔๕ คณะกรรมการหลกั ประกนั สขุ ภาพแห่งชาตจิ ึงได้มมี ตใิ นการประชมุ คร้ังท่ี๓/๒๕๕๐ เมื่อวันที่ ๑๒ มนี าคม ๒๕๕๐ ใหอ้ อกข้อบงั คับไวด้ ังต่อไปนี้ ข้อ ๑ ข้อบังคับนี้เรียกว่า “ข้อบังคับคณะกรรมการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ว่าด้วยการมอบอ�ำนาจของเลขาธิการส�ำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (ฉบับท่ี ๒) พ.ศ. ๒๕๕๐” ข้อ ๒ ขอ้ บงั คบั นีใ้ หใ้ ชบ้ ังคบั ตัง้ แต่บัดน้ี เป็นต้นไป ขอ้ ๓ ใหย้ กเลิกความในข้อ ๕ แห่งข้อบงั คบั คณะกรรมการหลกั ประกนั สุขภาพแหง่ ชาติว่าดว้ ยการมอบอำ� นาจของเลขาธกิ ารส�ำนกั งานหลกั ประกนั สุขภาพแห่งชาติ พ.ศ. ๒๕๔๙ และใหใ้ ชค้ วามดงั ตอ่ ไปนแ้ี ทน ขอ้ ๔ อำ� นาจในการสั่ง การอนญุ าต การอนมุ ัติ การปฏบิ ัตงิ านหรือการดำ� เนินงานอืน่ ท่ีเลขาธกิ ารจะพึงปฏิบตั ิหรอื ดำ� เนินการตามกฎหมาย ระเบียบ ข้อบงั คับ ค�ำสง่ั มตขิ องคณะรัฐมนตรหี รือมตขิ องคณะกรรมการถ้ากฎหมาย ระเบียบ ข้อบังคับ ค�ำสั่ง มติของคณะรัฐมนตรีหรือมติของคณะกรรมการในเรื่องนั้นมิได้ก�ำหนดเรื่องการมอบอำ� นาจไวเ้ ปน็ อยา่ งอนื่ หรอื มไิ ดห้ า้ มเรอ่ื งการมอบอำ� นาจไว้ เลขาธกิ ารอาจมอบอำ� นาจใหบ้ คุ คลผดู้ ำ� รงตำ� แหนง่ดงั ต่อไปน้ี ปฏิบัติงานแทนได้คอื (๑) รองเลขาธกิ ารสำ� นักงานหลกั ประกันสขุ ภาพแห่งชาติ (๒) ผชู้ ว่ ยเลขาธกิ ารสำ� นกั งานหลกั ประกนั สขุ ภาพแห่งชาติ (๓) ผู้อ�ำนวยการส�ำนัก หรือผู้อ�ำนวยการกลุ่ม หรือผู้อ�ำนวยการส�ำนักงานสาขาเขตพื้นท่ีหรอื ต�ำแหนง่ ที่เลขาธิการกำ� หนดให้เทยี บเทา่ กับต�ำแหน่งดังกล่าว (๔) รองผู้อ�ำนวยการส�ำนัก หรือรองผู้อ�ำนวยการกลุ่ม หรือรองผู้อ�ำนวยการส�ำนักงานสาขาเขตพน้ื ท่ี หรือผู้จัดการกองทุน หรือต�ำแหนง่ ท่เี ลขาธกิ ารก�ำหนดให้เทียบเทา่ กับตำ� แหน่งดังกลา่ ว ประกาศ ณ วนั ที่ ๒๙ พฤศจกิ ายน พ.ศ. ๒๕๕๐ มงคล ณ สงขลา รฐั มนตรวี า่ การกระทรวงสาธารณสุข ประธานกรรมการหลกั ประกนั สุขภาพแห่งชาติ210

๔หมวดกองทุนหลกั ประกนั สขุ ภาพแห่งชาติ



ระเบยี บคณะกรรมการหลักประกนั สขุ ภาพแห่งชาติ วา่ ดว้ ยการงบประมาณกองทนุ หลกั ประกนั สขุ ภาพแหง่ ชาติ พ.ศ. ๒๕๕๘ โดยท่ีเป็นการสมควรก�ำหนดให้มีระเบียบเกี่ยวกับการงบประมาณเพื่อให้การบริหารและจัดการงบประมาณในสว่ นเงินกองทนุ หลักประกนั สุขภาพแหง่ ชาตขิ องสำ� นกั งานหลกั ประกนั สขุ ภาพแหง่ ชาติ เปน็ ไปอย่างมปี ระสิทธิภาพและมธี รรมาภิบาล อาศยั อำ� นาจตามความในมาตรา ๑๙ (๓) ประกอบมาตรา ๒๖ (๔) และมาตรา ๔๐ แหง่ พระราชบญั ญตั ิหลกั ประกนั สขุ ภาพแหง่ ชาติ พ.ศ. ๒๕๔๕ คณะกรรมการหลกั ประกนั สขุ ภาพแหง่ ชาติ ในการประชมุ ครงั้ ท่ี ๑๐/๒๕๕๗เม่อื วนั ที่ ๑๐ พฤศจิกายน ๒๕๕๗ จึงออกระเบยี บไว้ดงั ต่อไปน้ี ขอ้ ๑ ระเบยี บนเี้ รยี กวา่ “ระเบยี บคณะกรรมการหลกั ประกนั สขุ ภาพแหง่ ชาติ วา่ ดว้ ยการงบประมาณกองทนุ หลักประกันสุขภาพแห่งชาติ พ.ศ. ๒๕๕๘” ข้อ ๒ ระเบยี บนีใ้ หใ้ ชบ้ งั คับต้ังแต่บดั นเ้ี ปน็ ต้นไป ข้อ ๓ ในระเบยี บน้ี “ปีงบประมาณ” หมายความว่า ระยะเวลาตัง้ แตว่ ันท่ี ๑ ตุลาคมของปีหนงึ่ ถึงวนั ที่ ๓๐ กันยายนของปีถดั ไป และใหใ้ ช้ปี พ.ศ. ของปีถดั ไปเปน็ ชือ่ สำ� หรบั ปงี บประมาณนัน้ “กองทุน” หมายความว่า กองทุนหลักประกนั สขุ ภาพแห่งชาติ ประกอบดว้ ย (๑) งบประมาณรายจ่ายประจ�ำปีท่ีได้รับตามพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจ�ำปีหรอื พระราชบญั ญตั งิ บประมาณรายจา่ ยประจำ� ปเี พมิ่ เตมิ ตามมาตรา ๓๙ (๑) แหง่ กฎหมายวา่ ดว้ ยหลกั ประกนั สขุ ภาพแหง่ ชาติ (๒) เงนิ ทรพั ยส์ นิ หรอื ดอกผลตามมาตรา ๓๙ (๒) – (๘) แหง่ กฎหมายวา่ ดว้ ยหลกั ประกนั สขุ ภาพแห่งชาติ “คณะกรรมการ” หมายความว่า คณะกรรมการหลกั ประกนั สุขภาพแห่งชาติ “เลขาธกิ าร” หมายความว่า เลขาธกิ ารสำ� นกั งานหลักประกนั สขุ ภาพแห่งชาติ “สำ� นักงาน” หมายความว่า ส�ำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ “รายการเงินกองทุน” หมายความว่า รายการและประเภทบริการตามประกาศเรื่องหลักเกณฑ์การดำ� เนนิ งานและการบริหารจดั การกองทุน ข้อ ๔ ให้เลขาธิการเป็นผู้รักษาการตามระเบียบน้ี และมีอ�ำนาจตีความและวินิจฉัยชี้ขาดปัญหาท่เี กิดข้ึนในการบงั คับใช้ระเบยี บน้ี 213

หมวด ๑ การจัดท�ำและการเสนอคำ� ขอรบั เงินกองทนุ ขอ้ ๕ ให้ส�ำนักงานจัดท�ำค�ำขอรับงบประมาณรายจ่ายประจ�ำปี โดยให้น�ำรายงานความเห็นของคณะกรรมการควบคุมคุณภาพและมาตรฐานบรกิ ารสาธารณสุข และประมาณการรายรับเงินกองทุนตามข้อ ๓ (๒)ตลอดจนบญั ชกี ารเงนิ และทรพั ยส์ นิ ของกองทนุ ในขณะทจ่ี ดั ทำ� คำ� ขอนน้ั มาใชใ้ นการพจิ ารณา เพอื่ ใหค้ ณะกรรมการให้ความเหน็ ชอบ แลว้ น�ำเสนอต่อคณะรัฐมนตรี ตามมาตรา ๓๙ วรรคสาม แห่งกฎหมายวา่ ด้วยหลกั ประกนั สขุ ภาพแห่งชาติ หมวด ๒ การบรหิ ารและการเปลีย่ นแปลงรายการเงนิ กองทนุ ขอ้ ๖ ให้ส�ำนักงานจัดท�ำหลักเกณฑ์การด�ำเนินงานและการบริหารจัดการกองทุนเสนอต่อคณะกรรมการเพอื่ พจิ ารณากำ� หนดหลกั เกณฑต์ ามมาตรา ๑๘ (๔) แหง่ กฎหมายวา่ ดว้ ยหลกั ประกนั สขุ ภาพแหง่ ชาติ หลักเกณฑ์ตามวรรคหนึง่ ให้จดั ทำ� เปน็ ประกาศ อยา่ งน้อยประกอบดว้ ย (๑) รายการและประเภทบริการ (๒) วงเงนิ หรอื สัดสว่ นการจดั สรรเงินกองทนุ ในแต่ละรายการและประเภทบริการ (๓) หลักเกณฑ์ วิธีการ เงือ่ นไขในการจัดสรร (๔) หลักเกณฑใ์ นการเปลี่ยนแปลงรายการยอ่ ยในแตล่ ะรายการหรอื ประเภทบริการ ทงั้ นรี้ ายละเอยี ดคณะกรรมการอาจกำ� หนดใหเ้ ปน็ ไปตามประกาศหรอื คมู่ อื หรอื แนวทางการปฏบิ ตั ิทสี่ ำ� นักงานก�ำหนด ให้ส�ำนักงานบริหารกองทุนตามท่ีก�ำหนดไว้ตามวรรคหน่ึง ตามอ�ำนาจหน้าที่ในมาตรา ๒๖แห่งกฎหมายว่าด้วยหลักประกนั สุขภาพแห่งชาติ ขอ้ ๗ เงินกองทนุ ที่ไดร้ ับในปีงบประมาณใด ให้ใช้จ่ายภายในปีงบประมาณนน้ั เวน้ แต่ (๑) กรณจี ำ� เป็นไม่สามารถใช้จา่ ยไดท้ ันภายในปีงบประมาณให้ขออนุมตั ิกันเงนิ ไว้ตามหลกั เกณฑ์และวิธกี ารตามทีเ่ ลขาธิการกำ� หนด ส�ำหรบั วงเงินท่ีได้ขอกนั ไวใ้ ห้ใช้จา่ ยได้อกี ไม่เกิน ๑ ปีงบประมาณ (๒) กรณีท่ีหลักเกณฑ์การด�ำเนินงานและการบริหารจัดการกองทุน ก�ำหนดให้ใช้เงินกองทุนขา้ มปงี บประมาณ ใหใ้ ชจ้ า่ ยได้ตามหลักเกณฑ์ดังกลา่ ว แต่ท้ังนตี้ ้องไมเ่ กิน ๒ ปงี บประมาณ กรณีทีไ่ มส่ ามารถใชจ้ า่ ยเงินกองทนุ ภายในระยะเวลาตามวรรคหนง่ึ ให้ขออนมุ ัตติ อ่ คณะกรรมการหรือคณะอนุกรรมการหรือเลขาธิการ ตามท่ีคณะกรรมการมอบหมาย เพื่อขยายเวลาการใช้จ่ายเงินออกไปได้อีกไมเ่ กนิ ๑ ปี ข้อ ๘ เงินกองทุนท่ไี ด้รับตามมาตรา ๙ มาตรา ๑๐ มาตรา ๑๑ และมาตรา ๑๒ แห่งกฎหมายวา่ ด้วยหลักประกนั สขุ ภาพแห่งชาติ หรอื ตามข้อตกลงระหว่างหนว่ ยงานหรอื เงินช่วยเหลอื เบ้อื งต้นใหแ้ กผ่ ู้รบั บริการกรณีท่ีได้รับความเสียหายจากการรับบริการตามมาตรา ๔๑ แห่งกฎหมายว่าด้วยหลักประกันสุขภาพแห่งชาติหรอื เงนิ กองทนุ รายการอ่ืนท่คี ณะกรรมการก�ำหนด ให้สามารถนำ� ไปสมทบไว้ใชจ้ ่ายในปีงบประมาณถดั ไปได้214

ขอ้ ๙ เงินกองทุนท่ีได้รบั คืนมาไม่วา่ กรณีใด ถา้ เป็นเงินของปงี บประมาณใด ให้ส�ำนักงานน�ำสง่ เข้ากองทุนในรายการหรือประเภทบริการเดิมในปีงบประมาณนั้น และให้ส�ำนักงานบริหารเงินดังกล่าวตามหลักเกณฑ์ข้อ ๖ เงนิ กองทุนท่ไี ดร้ บั คืนตามวรรคหนึง่ และเปน็ เงินจากปงี บประมาณทผี่ ่านมา หรือเงินทไี่ มไ่ ดใ้ ช้จา่ ยภายในเวลาตามขอ้ ๗ รวมทง้ั ดอกผลของเงนิ กองทนุ ทง้ั หมด ใหส้ ำ� นกั งานนำ� สง่ เขา้ กองทนุ รายการรายไดส้ งู (ตำ่� ) กวา่คา่ ใชจ้ า่ ยสะสม และเงนิ กองทนุ รายการรายไดส้ งู (ตำ�่ ) กวา่ คา่ ใชจ้ า่ ยสะสม ใหเ้ ลขาธกิ ารอนมุ ตั จิ า่ ยเพมิ่ สำ� หรบั รายการหรือประเภทบริการท่ีมีจ�ำนวนผลงานบริการมากกว่าเป้าหมายที่ได้รับงบประมาณ ทั้งน้ีรวมแล้วไม่เกินปีละ๒๐๐ ลา้ นบาท แลว้ รายงานคณะกรรมการทราบ หากมคี วามจำ� เปน็ ตอ้ งใชจ้ า่ ยเงนิ กองทนุ รายการรายไดส้ งู (ตำ�่ ) กวา่คา่ ใชจ้ า่ ยสะสมเพม่ิ เตมิ อกี ใหเ้ สนอขออนมุ ตั คิ ณะกรรมการ สำ� หรบั เงนิ สว่ นทเ่ี หลอื ใหพ้ จิ ารณานำ� เสนอคณะกรรมการเพื่อก�ำหนดหลักเกณฑก์ ารด�ำเนินงานในปงี บประมาณถัด ๆ ไป ขอ้ ๑๐ เงนิ กองทนุ ทไ่ี ดจ้ ดั สรรไปตามหลกั เกณฑ์ ขอ้ ๖ หากมกี รณที จ่ี ำ� เปน็ ตอ้ งเปลย่ี นแปลงรายการหรือวงเงินหรือประเภทบริการแตกต่างไปจากหลักเกณฑ์ข้อ ๖ ให้เลขาธิการเสนอเหตุผลความจ�ำเป็น เพ่ือขอความเห็นชอบจากคณะกรรมการ เมื่อคณะกรรมการมมี ตใิ ห้ความเหน็ ชอบแล้วให้เปลี่ยนแปลงได้ การเปลย่ี นแปลงรายการยอ่ ยในแตล่ ะรายการหรอื ประเภทบรกิ าร ใหเ้ ปน็ ไปตามหลกั เกณฑท์ ก่ี ำ� หนดในขอ้ ๖ ข้อ ๑๑ การจ่ายเงนิ กองทุนใหห้ นว่ ยบรกิ ารหรือหน่วยงานหรือองคก์ รหรอื คณะบคุ คลที่มีลกั ษณะการจ่ายตามผลงานบริการหรือรายการท่ีมีวัตถุประสงค์เฉพาะตามท่ีตกลงกัน ให้หน่วยบริการหรือหน่วยงานหรือองค์กรหรือคณะบุคคลนั้น ด�ำเนินงานตามท่ีตกลงกันให้แล้วเสร็จภายในระยะเวลา ๑ ปีงบประมาณถัดไปนบั แต่วนั ท่ไี ด้รบั เงินกองทุน กรณีที่มีความจ�ำเป็นต้องเพิ่มเติมวัตถุประสงค์หรือขอขยายเวลาการใช้จ่ายเงินกองทุน ให้เสนอขออนุมัติต่อผมู้ อี ำ� นาจพิจารณาตามที่กำ� หนดตามหลกั เกณฑใ์ นขอ้ ๖ ทั้งนใี้ หข้ ยายเวลาได้อกี ไมเ่ กิน ๑ ปี กรณหี นว่ ยบรกิ ารหรอื หนว่ ยงานหรอื องคก์ รหรอื คณะบคุ คล ผมู้ สี ทิ ธริ บั เงนิ นนั้ ไดผ้ กู พนั ดว้ ยสญั ญาเพื่อจา่ ยเงนิ ให้กบั บุคคลอ่นื แล้ว ใหร้ ะยะเวลาการใช้จา่ ยเงินเป็นไปตามสัญญา การดำ� เนนิ งานตามวรรคหนงึ่ และสอง หากมเี งนิ เหลอื และมเี หตจุ ำ� เปน็ ตอ้ งใชจ้ า่ ยเงนิ กองทนุ ทเี่ หลอืใหจ้ ดั ทำ� แผนการใชจ้ า่ ยเงนิ ตามกรอบวตั ถปุ ระสงคข์ องมาตรา ๓๘ แหง่ กฎหมายวา่ ดว้ ยหลกั ประกนั สขุ ภาพแหง่ ชาติเพื่อเสนอต่อผู้มีอ�ำนาจพิจารณาอนุมัติ แล้วให้ด�ำเนินการได้ภายใต้กรอบระยะเวลาตามวรรคหน่ึงและวรรคสองแลว้ แตก่ รณี หมวด ๓ การติดตามกำ� กับการใช้จา่ ยเงินกองทุน ข้อ ๑๒ ให้ส�ำนักงานรายงานผลการปฏิบัติงานและผลการใช้จ่ายเงินกองทุนต่อคณะกรรมการเพ่ือทราบเป็นรายไตรมาส 215

ข้อ ๑๓ ให้ส�ำนักงานน�ำเสนองบดุลและรายงานการรับจ่ายเงินกองทุนในปีท่ีล่วงมาซ่ึงส�ำนักงานการตรวจเงินแผ่นดินตรวจสอบรับรองแล้วต่อคณะกรรมการ แลว้ เสนอต่อคณะรฐั มนตรเี พื่อทราบ งบดุลและรายงานการรับจ่ายเงินตามวรรคหนึ่ง ให้รัฐมนตรีเสนอต่อนายกรัฐมนตรีเพื่อน�ำเสนอต่อสภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภาเพื่อทราบ และจัดให้มีการประกาศในราชกิจจานุเบกษาต่อไป ตามมาตรา ๔๓แหง่ กฎหมายวา่ ดว้ ยหลกั ประกนั สุขภาพแหง่ ชาติ หมวด ๔ บทเฉพาะกาล ข้อ ๑๔ การบริหารเงินกองทุน การเปล่ียนแปลงรายการและวงเงิน หรือการใช้จ่ายเงินกองทุนใดๆที่ด�ำเนินการก่อนระเบียบน้ีมีผลใช้บังคับ ที่เป็นไปตามหลักเกณฑ์การด�ำเนินงานและการบริหารจัดการกองทุนหรือประกาศ หรือคู่มือ หรือแนวทางการปฏิบัติที่ส�ำนักงานก�ำหนดหรือตามวัตถุประสงค์ของมาตรา ๓๘หรอื เจตนารมณแ์ หง่ กฎหมายวา่ ดว้ ยหลกั ประกนั สขุ ภาพแหง่ ชาตแิ ลว้ ใหถ้ อื วา่ เปน็ การบรหิ าร การเปลย่ี นแปลงรายการและวงเงนิ และการใชจ้ า่ ยเงนิ กองทุน ตามระเบยี บนด้ี ้วย ประกาศ ณ วนั ที่ ๒๒ มกราคม พ.ศ. ๒๕๕๘ ศาสตราจารยร์ ัชตะ รัชตะนาวิน รัฐมนตรวี ่าการกระทรวงสาธารณสขุ ประธานกรรมการหลักประกนั สขุ ภาพแหง่ ชาติ216

ระเบียบคณะกรรมการหลกั ประกนั สขุ ภาพแห่งชาติ วา่ ด้วยการรับเงิน การจ่ายเงิน และการเก็บรกั ษาเงนิ กองทุน พ.ศ. ๒๕๕๕ โดยที่เป็นการสมควรปรับปรุงระเบียบการรับเงิน การจ่ายเงิน และการเก็บรักษาเงินกองทุนหลกั ประกนั สุขภาพแห่งชาติ อาศัยอำ� นาจตามความในมาตรา ๑๘ (๖) และมาตรา ๔๐ แห่งพระราชบัญญตั ิหลักประกนั สขุ ภาพแห่งชาติ พ.ศ. ๒๕๔๕ อันเป็นกฎหมายท่ีมีบทบัญญัติบางประการเกี่ยวกับการจ�ำกัดสิทธิและเสรีภาพของบุคคลซึ่งมาตรา ๒๙ ประกอบกบั มาตรา ๓๖ และมาตรา ๔๑ ของรฐั ธรรมนูญแหง่ ราชอาณาจกั รไทยบัญญตั ใิ ห้กระท�ำได้โดยอาศยั อำ� นาจตามบทบญั ญตั แิ หง่ กฎหมาย ประกอบกบั คณะกรรมการหลกั ประกนั สขุ ภาพแหง่ ชาติ ไดม้ มี ตใิ นการประชมุ ครัง้ ที่ ๗/๒๕๕๕ เมอ่ื วนั ท่ี ๑๓ มถิ นุ ายน ๒๕๕๕ จึงออกระเบียบไวด้ ังน้ี ข้อ ๑ ระเบียบนี้เรียกว่า “ระเบียบคณะกรรมการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ว่าด้วยการรบั เงนิ การจา่ ยเงิน และการเก็บรักษาเงินกองทนุ พ.ศ. ๒๕๕๕” ขอ้ ๒ ระเบียบนี้ให้มีผลใช้บังคับ ต้ังแต่วันที่ ๑ เมษายน ๒๕๕๕ เป็นต้นไป ยกเว้นในพ้ืนท่ีจังหวดั ยะลาและจังหวดั สงขลา ให้มผี ลใช้บังคบั ตั้งแต่วนั ท่ี ๓๑ มนี าคม ๒๕๕๕ ข้อ ๓ ให้ยกเลิกระเบียบส�ำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ว่าด้วย การรับเงิน การจ่ายเงินและการเกบ็ รักษาเงินกองทนุ พ.ศ. ๒๕๔๖ ขอ้ ๔ ในระเบียบน้ี “คณะกรรมการ” หมายความว่า คณะกรรมการหลักประกันสุขภาพแหง่ ชาติ “เลขาธกิ าร” หมายความว่า เลขาธิการหลักประกนั สุขภาพแห่งชาติ “กองทุน” หมายความวา่ กองทนุ หลกั ประกันสุขภาพแหง่ ชาติ “ส�ำนักงาน” หมายความว่า ส�ำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ และให้หมายความรวมถึงส�ำนักงานสาขาด้วย ขอ้ ๕ ระเบยี บนใี้ หใ้ ชบ้ งั คบั กบั การบรหิ ารงานของกองทนุ หลกั ประกนั สขุ ภาพแหง่ ชาตเิ ฉพาะในสว่ นของสำ� นกั งาน เวน้ แตก่ ารบรหิ ารกองทนุ ในสว่ นของสำ� นกั งานสาขาทเี่ ปน็ หนว่ ยงานของรฐั หรอื เอกชนทค่ี ณะกรรมการมอบหมายใหเ้ ป็นไปตามหลกั เกณฑ์และวิธีทเี่ ลขาธิการประกาศก�ำหนด บรรดาระเบียบ ข้อบังคับ ค�ำส่ัง มติของคณะกรรมการ หรือวิธีปฏิบัติอ่ืนใดที่ขัดหรือแย้งกับความในระเบยี บนี้ ใหใ้ ชค้ วามในระเบียบน้ีแทน ขอ้ ๖ ให้เลขาธิการรักษาการตามระเบียบน้ีและให้มีอ�ำนาจวินิจฉัยชี้ขาดปัญหา หรือออกประกาศเก่ียวกบั การปฏบิ ัติตามระเบียบนี้ โดยไมข่ ัดหรอื แย้งกบั ระเบยี บน้ี 217

หมวด ๑ การรับเงนิ ข้อ ๗ บรรดาเงนิ รายรบั ของกองทนุ ใหน้ ำ� สง่ เขา้ บญั ชกี องทนุ ทเี่ ปดิ บญั ชไี วก้ บั ธนาคารทคี่ ณะกรรมการก�ำหนด ข้อ ๘ การรบั เงนิ เข้ากองทนุ ให้รับเป็นเงนิ สด เชค็ ตั๋วแลกเงนิ หรือธนาณัติ การรับเงินเป็นเช็ค หากเป็นเช็คที่ได้รับล่วงหน้าให้เก็บรักษาไว้ในตู้นิรภัยและให้น�ำฝากธนาคารเมือ่ ถึงวนั กำ� หนด การรบั เงินทางธนาคาร หรอื ทางอ่ืนให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ท่สี �ำนกั งานก�ำหนด ข้อ ๙ การรับเงินกองทุนทุกประเภทให้ส�ำนักงานออกใบเสร็จรับเงินในนามของส�ำนักงานให้แก่ผู้ชำ� ระเงินทุกคร้ัง เวน้ แต่ การรบั เงนิ งบประมาณรายจา่ ย หรอื การรบั เงินทางธนาคาร ให้ใช้สำ� เนาใบฎีกาหรอื สำ� เนาใบน�ำฝากเงนิ ของธนาคารเปน็ หลกั ฐาน ใบเสรจ็ รบั เงนิ ใหใ้ ชต้ ามแบบทเี่ ลขาธกิ ารกำ� หนดและใหม้ สี ำ� เนาอยา่ งนอ้ ยหนง่ึ ฉบบั เพอ่ื เปน็ หลกั ฐานการตรวจสอบ ข้อ ๑๐ เมื่อส�ำนักงานได้รับเงินแล้ว ให้น�ำส่งเข้าบัญชีกองทุนในวันท่ีได้รับเงินหรืออย่างช้าในวันทำ� การรุ่งขนึ้ หมวด ๒ การจ่ายเงนิ ข้อ ๑๑ การจ่ายเงินกองทุน ให้จ่ายได้เฉพาะภายในตามวัตถุประสงค์เพ่ือเป็นค่าใช้จ่ายสนับสนุนและสง่ เสรมิ การจดั บรกิ ารสาธารณสขุ ของหนว่ ยบรกิ าร เพอื่ เปน็ การสง่ เสรมิ ใหบ้ คุ คลสามารถเขา้ ถงึ บรกิ ารสาธารณสขุไดอ้ ยา่ งทว่ั ถงึ และมปี ระสทิ ธภิ าพ ตามหลกั เกณฑท์ ก่ี ำ� หนดไวใ้ นระเบยี บน้ี และเลขาธกิ ารหรอื ผทู้ เ่ี ลขาธกิ ารมอบหมายอนมุ ตั ิใหจ้ า่ ยเงินได้ ดงั น้ี (๑) จ่ายเป็นค่าใช้จ่ายเพื่อบริการสาธารณสุขแก่หน่วยงานและหน่วยบริการตามมาตรา ๘มาตรา ๔๖ และมาตรา ๖๕ ท้ังน้ตี ามท่ีคณะกรรมการจดั สรรใหใ้ นแตล่ ะปี (๒) จา่ ยเปน็ คา่ ใชจ้ า่ ยใหส้ ถานบรกิ ารทใี่ หบ้ รกิ ารสาธารณสขุ กรณที ม่ี เี หตสุ มควร หรอื กรณอี บุ ตั เิ หตุหรือกรณีเหตฉุ กุ เฉนิ ตามมาตรา ๗ (๓) จา่ ยเป็นเงินช่วยเหลอื เบือ้ งตน้ ให้แก่ผรู้ ับบรกิ าร ตามมาตรา ๔๑ (๔) จ่ายเป็นเงินช่วยเหลือเบื้องต้นให้แก่ผู้ให้บริการ กรณีผู้ให้บริการได้รับความเสียหายจากการใหบ้ ริการสาธารณสขุ ตามขอ้ บังคบั ที่คณะกรรมการก�ำหนด (๕) จ่ายให้แก่องค์กรชุมชน องค์กรเอกชนและภาคเอกชนท่ีไม่มีวัตถุประสงค์เพื่อด�ำเนินการแสวงหาผลก�ำไร องค์กรปกครองส่วนทอ้ งถนิ่ ตามมาตรา ๑๘ และมาตรา ๔๗ (๖) จา่ ยเปน็ เงนิ สนบั สนนุ และสง่ เสรมิ การจดั บรกิ ารสาธารณสขุ ของหนว่ ยบรกิ าร รวมทง้ั การพฒั นาระบบบรกิ ารและบคุ ลากรตามที่คณะกรรมการจัดสรรให้ในแตล่ ะปี218

(๗) จา่ ยคนื แกร่ ัฐบาล นติ บิ คุ คล หรอื บคุ คลในกรณเี งินทไี่ ด้รบั เปน็ เงินไมพ่ ึงชำ� ระแก่กองทนุ (๘) จ่ายเพือ่ ใหเ้ ป็นการจัดการผลประโยชน์ของกองทุ น ตามมาตรา ๔๐ (๙) จา่ ยเป็นคา่ ใชจ้ ่ายในการด�ำเนนิ การยดึ อายัดและขายทอดตลาดทรพั ยส์ ิน ตามมาตรา ๕๘ (๑๐) จา่ ยให้กระทรวงสาธารณสขุ ตามมาตรา ๖๕ วรรคสาม (๑๑) จา่ ยเป็นคา่ ใชจ้ ่ายอน่ื ตามทค่ี ณะกรรมการกำ� หนด ข้อ ๑๒ เงินกองทุนอาจใช้ทดรองจ่ายให้แก่สถานบริการอื่นหรือหน่วยบริการ กรณีที่ผู้มีสิทธิตามมาตรา ๙ หรอื มาตรา ๑๐ แห่งพระราชบญั ญตั ิหลักประกนั สขุ ภาพ พ.ศ. ๒๕๔๕ เขา้ รบั บรกิ ารสาธารณสุขในกรณีเจ็บป่วยฉุกเฉินเร่งด่วน หรือกรณีเจ็บป่วยฉุกเฉินวิกฤติ โดยไม่ต้องท�ำสัญญายืมเงินทดรองจ่าย และให้ส�ำนักงานเรียกเก็บค่าใช้จ่ายในการบริการสาธารณสุขที่ได้ทดรองจ่ายไปแล้วคืนจากหน่วยงานหรือกองทุนอื่นที่เก่ียวข้องของบุคคลตามมาตรา ๙ หรือมาตรา ๑๐ แห่งพระราชบัญญตั ิหลักประกันสุขภาพ พ.ศ. ๒๕๔๕ เข้ากองทุนเพอื่ เป็นคา่ ใชจ้ า่ ยตามวตั ถปุ ระสงคใ์ นขอ้ ๑๐ ทงั้ นี้ หลกั เกณฑ์ วธิ กี ารและเงอื่ นไขในการทดรองจา่ ย ใหเ้ ปน็ ไปตามทสี่ ำ� นกั งานก�ำหนด กรณีทส่ี ำ� นกั งานเรยี กเกบ็ คา่ ใชจ้ ่ายในการบรกิ ารสาธารณสุขทไ่ี ดท้ ดรองจา่ ยแล้วคนื จากหน่วยงานหรอื กองทุนท่ีเกี่ยวข้องของบุคคลตามมาตรา ๙ หรือมาตรา ๑๐ แห่งพระราชบญั ญตั ิหลกั ประกันสขุ ภาพแห่งชาติพ.ศ. ๒๕๔๕ ตามวรรคหน่งึ ไมไ่ ด้ ให้ส�ำนกั งานรายงานคณะกรรมการเพ่ือพิจารณาด�ำเนนิ การตอ่ ไป ข้อ ๑๓ การจา่ ยเงนิ กองทุนให้จา่ ยจากบญั ชีเงนิ ฝากธนาคารตามท่ไี ด้รบั อนุมตั ิ ขอ้ ๑๔ วธิ กี ารจ่ายเงินกองทุนใหจ้ ่ายไดด้ งั นี้ (๑) จ่ายเป็นเงนิ สด หรือเชค็ หรือตัว๋ แลกเงิน หรือธณาณตั ิ (๒) จ่ายทางธนาคารหรือทางอ่ืนตามที่เลขาธกิ ารก�ำหนด ข้อ ๑๕ การจา่ ยเงินตามขอ้ ๑๔ ใหป้ ฏบิ ตั ดิ งั นี้ (๑) การจ่ายเงินให้แกเ่ จา้ หนี้หรือผู้มสี ทิ ธิรบั เงิน ให้จ่ายในนามเจา้ หนี้หรอื ผู้มสี ิทธไิ ดร้ ับเงนิ น้นั (๒) การจา่ ยเงินใหแ้ กผ่ ู้ปฏบิ ัตงิ าน หรอื หน่วยงาน ให้จา่ ยเงินในนามผู้ปฏบิ ัตงิ าน หรือหน่วยงานนัน้ (๓) การออกเช็คสั่งจ่ายเงินทุกคร้ัง ให้จ่ายเป็นเช็คขีดคร่อมและขีดฆ่าค�ำว่า “หรือตามค�ำส่ัง”หรอื “หรอื ผถู้ อื ” ออก และเขยี นหรอื พมิ พจ์ ำ� นวนเงนิ ในเชค็ ทเ่ี ปน็ อกั ษรใหช้ ดิ คำ� วา่ “บาท” หรอื ขดี เสน้ หนา้ จำ� นวนเงนิอยา่ ใหม้ ชี ่องวา่ งท่ีจะเขียนหรือพิมพจ์ �ำนวนเงินเพ่ิมได้ และให้ขีดเสน้ ตรงหลงั ชอื่ สกุล ช่อื บรษิ ัท หรอื ห้างห้นุ ส่วนหรือผู้มีสิทธิรับเงินจนชิดค�ำว่า “หรือผู้ถือ” หรือ “ตามค�ำส่ัง” แล้วแต่กรณี โดยมิให้เขียนหรือพิมพ์ชื่อบุคคลอ่ืนเพม่ิ เตมิ ได้อีก ข้อ ๑๖ การจ่ายเงินกองทุน โดยปกติต้องมีหลักฐานการจ่ายที่เป็นใบเสร็จรับเงิน หรือหลักฐานการนำ� เงนิ เขา้ บญั ชเี งนิ ฝากของผรู้ บั ทธ่ี นาคาร หรอื หลกั ฐานการรบั เงนิ อยา่ งอน่ื ทเี่ ลขาธกิ ารกำ� หนดเกบ็ ไวใ้ หต้ รวจสอบ ข้อ ๑๗ การจ่ายเงินกองทุนรายใด ซึ่งตามลักษณะไม่อาจเรียกใบเสร็จรับเงินจากผู้รับเงินได้ใหผ้ ู้จ่ายเงินทำ� ใบรบั รองการจา่ ยเงินตามแบบและรายการทีเ่ ลขาธกิ ารก�ำหนด ข้อ ๑๘ การจ่ายเงินกองทุน ถ้าผู้มีสิทธิรับเงินไม่สามารถมารับเงินด้วยตนเอง จะมอบอ�ำนาจให้ผอู้ ่ืนเปน็ ผ้รู ับเงินแทน ก็ใหก้ ระท�ำได้ ข้อ ๑๙ ในกรณีใบสำ� คญั คู่จ่ายสูญหาย ให้ปฏบิ ัตดิ งั นี้ (๑) ถ้าใบส�ำคัญคู่จ่ายท่ีเป็นใบเสร็จรับเงินสูญหาย ให้ใช้ส�ำเนาใบเสร็จรับเงินซึ่งผู้รับเงินรับรองใบสำ� เนานนั้ หรือใบรับรองการรับเงินซง่ึ ผ้รู ับเงินรบั รองแล้วแทนได้ 219

(๒) ถา้ เปน็ ใบสำ� คญั คจู่ า่ ยทเี่ ปน็ ใบเสรจ็ รบั เงนิ สญู หาย หากไมอ่ าจขอสำ� เนาใบเสรจ็ รบั เงนิ ตาม (๑) ได้ให้ผู้จ่ายเงินท�ำใบรับรองการจ่ายเงิน โดยชี้แจงเหตุผลพร้อมทั้งค�ำรับรองว่าไม่เคยน�ำใบส�ำคัญคู่จ่ายมาเบิกจ่ายและหากค้นพบภายหลังก็จะไม่น�ำมาเบิกจ่ายอีก เสนอเลขาธิการหรือผู้ที่เลขาธิการมอบหมายแล้วแต่กรณีเพ่ือพจิ ารณาอนมุ ตั ิ เมือ่ ได้รบั อนุมตั แิ ลว้ ให้ใชใ้ บรับรองการจ่ายเงนิ น้ันแทนใบส�ำคัญคูจ่ ่าย หมวด ๓ การเกบ็ รกั ษาเงิน ข้อ ๒๐ ให้ส�ำนักงานเปิดบัญชีเงินฝากกับธนาคาร ประเภทบัญชีเงินฝากประจ�ำ บัญชีเงินฝากออมทรัพย์ และบัญชีเงนิ ฝากกระแสรายวนั ขอ้ ๒๑ ให้สำ� นกั งานมเี งินสดประจำ� ที่สำ� นักงาน เพื่อสำ� รองจ่ายในกรณจี ำ� เปน็ ภายในวงเงินไม่เกิน๕๐,๐๐๐ บาท (หา้ หม่นื บาทถว้ น) ต่อวนั โดยเกบ็ รกั ษาในตนู้ ริ ภัย หมวด ๔ การบัญชี ขอ้ ๒๒ การบัญชีของกองทนุ ใหส้ ำ� นกั งานจดั ท�ำบญั ชีตามแบบเกณฑค์ งคา้ ง ข้อ ๒๓ ให้ส�ำนักงานจัดเก็บเอกสารการรับจ่ายเงินท่ีเป็นหลักฐานในการบันทึกควบคุมตามระบบบญั ชไี วใ้ นทป่ี ลอดภยั เพอื่ การตรวจสอบไมน่ อ้ ยกวา่ สบิ ปี เมอ่ื ไดร้ บั การตรวจสอบและรบั รองจากผตู้ รวจสอบบญั ชแี ลว้ใหเ้ กบ็ รักษาไว้เหมือนเอกสารทวั่ ไป ข้อ ๒๔ ให้ส�ำนักงานจดั ท�ำรายงานการเงนิ ดังน้ี (๑) รายงานประจำ� เดือนเสนอตอ่ เลขาธกิ าร ภายในวันท่ีสบิ ห้าของเดือนถัดไป (๒) รายงานประจ�ำไตรมาสเสนอต่อคณะกรรมการ ภายในสามสบิ วนั นบั จากวนั สิน้ ไตรมาส (๓) ภายในหกสิบวันนับจากวันสิ้นปีงบประมาณตามกฎหมายว่าด้วยวิธีการงบประมาณให้ส�ำนักงานเสนองบดุลและรายงานการรับจ่ายเงินของกองทุนในปีท่ีล่วงมา ซ่ึงส�ำนักงานการตรวจเงินแผ่นดินตรวจสอบรับรองแลว้ เสนอตอ่ เลขาธิการเพอ่ื นำ� เสนอตอ่ คณะกรรมการเพ่ือทราบ (๔) งบดุลและรายงานการรับจ่ายเงินกองทุนในปีที่ล่วงมา ซ่ึงส�ำนักงานการตรวจเงินแผ่นดินตรวจสอบรบั รองแลว้ ให้เสนอคณะกรรมการภายในสามเดือน เพื่อรายงานตอ่ คณะรฐั มนตรี ข้อ ๒๕ ในกรณีท่ีมีความจ�ำเป็นท่ตี ้องจำ� หนา่ ยหน้อี อกจากบญั ชเี ปน็ สญู ให้เลขาธิการเสนอรายงานต่อคณะกรรมการเพื่อพจิ ารณา220

บทเฉพาะกาล ขอ้ ๒๖ บรรดาประกาศ หลักเกณฑ์ ค�ำสั่ง คู่มือปฏิบัติ แบบใบเสร็จรับเงิน แบบใบรับรองการจ่ายเงนิ หรอื มตคิ ณะกรรมการใด ๆ ทไ่ี ดก้ �ำหนดหรือมขี น้ึ ตามระเบียบสำ� นักงานหลกั ประกนั สุขภาพแหง่ ชาติ วา่ ด้วยการรับเงิน การจ่ายเงิน และการเก็บรักษาเงินกองทุน พ.ศ. ๒๕๔๖ ให้ถือว่าได้ก�ำหนดขึ้นหรือมีข้ึนและคงมีผลใช้บงั คับต่อไปตามระเบยี บนี้ ขอ้ ๒๗ การดำ� เนนิ การเกยี่ วกบั การเงนิ และการบญั ชใี ดทอ่ี ยใู่ นระหวา่ งดำ� เนนิ การและยงั ไมแ่ ลว้ เสรจ็ในวนั ทรี่ ะเบยี บนใี้ ชบ้ งั คบั ใหด้ ำ� เนนิ การตอ่ ไปตามระเบยี บทใี่ ชบ้ งั คบั อยเู่ ดมิ จนกวา่ จะดำ� เนนิ การแลว้ เสรจ็ หรอื จนกวา่จะสามารถด�ำเนินการตามระเบยี บนี้ได้ ประกาศ ณ วนั ท่ี ๒๙ มถิ นุ ายน พ.ศ. ๒๕๕๕ วิทยา บุรณศริ ิ รฐั มนตรีวา่ การกระทรวงสาธารณสขุ ประธานกรรมการหลกั ประกันสุขภาพแห่งชาติ 221

ระเบยี บคณะกรรมการหลักประกนั สุขภาพแห่งชาติ วา่ ด้วย การรบั เงนิ การจ่ายเงิน และการเก็บรกั ษาเงนิ กองทุน (ฉบบั ท่ี ๒) พ.ศ. ๒๕๕๙ โดยทค่ี ณะกรรมการหลกั ประกนั สขุ ภาพแหง่ ชาติ มมี ตใิ หย้ กเลกิ การจา่ ยเงนิ ชว่ ยเหลอื เบอ้ื งตน้ กรณีผใู้ หบ้ ริการไดร้ บั ความเสยี หายจากการให้บรกิ ารสาธารณสุข และยกเลิกกฎ ระเบยี บท่ีเก่ียวขอ้ ง อาศยั อ�ำนาจตามความในมาตรา ๑๘ (๖) และมาตรา ๔๐ แห่งพระราชบญั ญตั หิ ลกั ประกันสุขภาพแห่งชาติ พ.ศ. ๒๕๔๕ ประกอบกับมติการประชุมคณะกรรมการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ คร้ังท่ี ๑/๒๕๕๙เม่ือวันท่ี ๔ มกราคม ๒๕๕๙ จึงออกระเบียบไว้ดงั ต่อไปน้ี ขอ้ ๑ ระเบียบน้เี รยี กว่า “ระเบียบคณะกรรมการหลกั ประกนั สขุ ภาพแห่งชาติ วา่ ด้วย การรับเงนิการจา่ ยเงนิ และการเกบ็ รักษาเงินกองทุน (ฉบบั ท่ี ๒) พ.ศ. ๒๕๕๙” ข้อ ๒ ระเบยี บนี้ ให้ใช้บงั คับตัง้ แต่วนั ท่ี ๑๐ กมุ ภาพนั ธ์ ๒๕๕๙ ขอ้ ๓ ใหย้ กเลิก (๔) ของข้อ ๑๑ ของระเบยี บคณะกรรมการหลักประกนั สขุ ภาพแห่งชาติ ว่าด้วยการรับเงิน การจา่ ยเงิน และการเก็บรักษาเงนิ กองทนุ พ.ศ. ๒๕๕๕ ประกาศ ณ วนั ท่ี ๒๗ มถิ นุ ายน พ.ศ. ๒๕๕๙ ปิยะสกล สกลสตั ยาทร รัฐมนตรวี า่ การกระทรวงสาธารณสขุ ประธานกรรมการหลกั ประกันสุขภาพแห่งชาติ222

ประกาศคณะกรรมการหลักประกนั สุขภาพแหง่ ชาติ เรอ่ื ง หลักเกณฑ์การด�ำเนินงานและการบรหิ ารจดั การเงินคา่ ใช้จา่ ยในการรกั ษาพยาบาลพนักงาน หรอื ลูกจา้ งขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นและบุคคลในครอบครวั และหลักเกณฑ์ วิธีการและเงื่อนไข การรับคา่ ใช้จ่ายเพอ่ื บรกิ ารสาธารณสขุ ของหน่วยบริการ พ.ศ. ๒๕๕๗ ด้วยพระราชกฤษฎีกาก�ำหนดให้พนักงานหรือลูกจ้างขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นและบุคคลในครอบครวั ของพนกั งานหรอื ลกู จา้ งขององคก์ รปกครองสว่ นทอ้ งถน่ิ ใชส้ ทิ ธริ บั บรกิ ารสาธารณสขุ ตามพระราชบญั ญตั ิหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ พ.ศ. ๒๕๔๕ ได้ประกาศในราชกิจจานุเบกษาเม่ือวันท่ี ๑๓ พฤศจิกายน ๒๕๕๖และคณะกรรมการการกระจายอ�ำนาจให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถ่ินได้ออกประกาศจัดสรรเงินในส่วนที่เป็นค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาลส�ำหรับพนักงานหรือลูกจ้างขององค์กรปกครองส่วนท้องถ่ินและบุคคลในครอบครัวใหแ้ ก่กองทุนหลักประกันสุขภาพแหง่ ชาติ ตามมาตรา ๙ วรรคสี่ แห่งพระราชบญั ญตั หิ ลักประกันสุขภาพแหง่ ชาติพ.ศ. ๒๕๔๕ อาศัยอ�ำนาจตามมาตรา ๑๘ (๔) มาตรา ๔๑ และมาตรา ๔๖ แห่งพระราชบัญญัติหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ พ.ศ. ๒๕๔๕ คณะกรรมการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ โดยมติในการประชุมครั้งที่ ๒/๒๕๕๗เมอ่ื วนั ที่ ๑๐ กมุ ภาพนั ธ์ ๒๕๕๗ จงึ กำ� หนดหลกั เกณฑก์ ารดำ� เนนิ งานและการบรหิ ารจดั การเงนิ คา่ ใชจ้ า่ ยในการรกั ษาพยาบาลพนักงานหรือลูกจ้างขององค์กรปกครองส่วนท้องถ่ินและบุคคลในครอบครัว และหลักเกณฑ์ วิธีการและเงื่อนไขการรับค่าใช้จ่ายเพ่ือบริการสาธารณสุขของหน่วยบริการ คณะกรรมการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติจึงออกประกาศไว้ ดังต่อไปน้ี ขอ้ ๑ เงินค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาลพนักงานหรือลูกจ้างขององค์กรปกครองส่วนท้องถ่ินและบุคคลในครอบครัวที่ส�ำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ได้รับตามข้อ ๑ (๑๐) ข้อ ๒ (๒) และข้อ ๔ของประกาศคณะกรรมการการกระจายอำ� นาจให้แกอ่ งคก์ รปกครองส่วนท้องถิ่น เรือ่ ง การจัดสรรเงนิ อุดหนุนท่วั ไปเพ่ือสนับสนุนการกระจายอ�ำนาจให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถ่ิน ปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๗ หรือตามประกาศดังกล่าวในปีงบประมาณต่อ ๆ ไป ให้น�ำเข้ากองทุนหลักประกันสุขภาพแห่งชาติเป็นรายการค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาลพนักงานหรือลกู จ้างขององค์กรปกครองสว่ นทอ้ งถ่ินและบุคคลในครอบครวั เวน้ แต่ค่าใช้จา่ ยในการบรหิ ารจัดการ ให้น�ำเข้าสมทบเป็นค่าใช้จ่ายในการบริหารงานของสำ� นักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ตามมาตรา ๒๙แห่งพระราชบญั ญตั หิ ลักประกนั สุขภาพแห่งชาติ พ.ศ. ๒๕๔๕ ข้อ ๒ รายการค่าใช้จ่ายตามข้อ ๑ ให้ใช้จ่ายเพ่ือสนับสนุน และส่งเสริมการจัดบริการสาธารณสุขสำ� หรบั พนกั งานหรอื ลกู จา้ งขององคก์ รปกครองสว่ นทอ้ งถนิ่ และบคุ คลในครอบครวั ตามพระราชกฤษฎกี ากำ� หนดให้พนักงานหรือลูกจ้างขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นและบุคคลในครอบครัวของพนักงานหรือลูกจ้างขององค์กรปกครองสว่ นท้องถ่ิน ใช้สทิ ธิรับบรกิ ารสาธารณสุขตามพระราชบัญญตั หิ ลักประกันสุขภาพแห่งชาติ พ.ศ. ๒๕๔๕ 223

เงินค่าใช้จ่ายตามวรรคหน่ึงของแต่ละปี หากมีเงินเหลือจ่ายให้น�ำไปสมทบเป็นเงินค่าใช้จ่ายในปีงบประมาณถัดไป แต่หากไม่เพียงพอให้ค้างจ่ายหน่วยบริการไว้หรือเสนอคณะกรรมการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ เพ่ือส�ำรองจ่ายเงินกองทุนหลักประกันสุขภาพแห่งชาติในส่วนของรายการอื่นไปพลางก่อนและให้ขอรับคา่ ใชจ้ า่ ยทดแทนและเพมิ่ เตมิ จากคณะกรรมการการกระจายอำ� นาจใหแ้ กอ่ งคก์ รปกครองสว่ นทอ้ งถนิ่ ในปงี บประมาณถัดไป ข้อ ๓ หลักเกณฑ์ วิธีการ อัตรา และเง่ือนไขในการรับค่าใช้จ่ายเพื่อบริการสาธารณสุขของหน่วยบริการจากเงินค่าใช้จ่ายตามประกาศนี้ ให้เป็นไปตามที่ส�ำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติประกาศก�ำหนด โดยอ้างอิงหรือเทียบเคียงกับกฎ ระเบียบท่ีกระทรวงการคลังก�ำหนดตามกฏหมายว่าด้วยเงินสวัสดิการเกี่ยวกับการรักษาพยาบาล เว้นแต่กรณีเฉพาะหรือกรณีจ�ำเป็นให้เป็นไปตามท่ีส�ำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติประกาศก�ำหนดเพิ่มเติมได้ ขอ้ ๔ ในแต่ละปีให้ส�ำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติกันค่าใช้จ่ายที่ได้รับตามข้อ ๑ จ�ำนวนไมเ่ กนิ รอ้ ยละหนง่ึ ของเงนิ ทไี่ ดร้ บั แตล่ ะงวดไว้ เปน็ เงนิ ชว่ ยเหลอื เบอ้ื งตน้ กรณผี รู้ บั บรกิ ารซง่ึ เปน็ พนกั งานหรอื ลกู จา้ งขององค์กรปกครองส่วนท้องถ่ินและบุคคลในครอบครัวได้รับความเสียหายจากการรับบริการสาธารณสุขของหน่วยบริการ ทั้งน้ี ตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขท่ีคณะกรรมการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติก�ำหนดตามมาตรา ๑๘ (๗) และมาตรา ๔๑ แห่งพระราชบญั ญตั หิ ลกั ประกนั สุขภาพแห่งชาตพิ .ศ. ๒๕๔๕ ค่าใช้จ่ายท่ีกันไว้ตามวรรคหน่ึง ให้ใช้จ่ายเพื่อเป็นเงินช่วยเหลือเบ้ืองต้นกรณีผู้ให้บริการของหน่วยบริการท่ีได้รับความเสียหายจากการให้บริการสาธารณสุขแก่พนักงานหรือลูกจ้างองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นและบคุ คลในครอบครัวดว้ ย ทัง้ นี้ ตามหลกั เกณฑ์ วิธีการ และเง่ือนไขท่ี คณะกรรมการหลกั ประกนั สุขภาพแห่งชาติก�ำหนดตามมาตรา ๑๘ (๔) แห่งพระราชบัญญตั ิหลกั ประกันสุขภาพแห่งชาติพ.ศ. ๒๕๔๕ ข้อ ๕ มาตรฐานการให้บริการสาธารณสุข การก�ำกับมาตรฐานหนว่ ยบรกิ าร และการคุม้ ครองสิทธิส�ำหรับพนักงานหรือลูกจ้างขององค์กรปกครองส่วนท้องถ่ินและบุคคลในครอบครัว ให้เป็นไปตามพระราชบัญญัติหลกั ประกนั สุขภาพแห่งชาติ พ.ศ. ๒๕๔๕ ข้อ ๖ ประกาศน้ี ใหใ้ ช้บังคับตงั้ แตว่ นั ท่ี ๑ ตลุ าคม ๒๕๕๖ เป็นตน้ ไป ประกาศ ณ วันที่ ๓ เมษายน พ.ศ. ๒๕๕๗ ประดิษฐ สนิ ธวณรงค์ รัฐมนตรีวา่ การกระทรวงสาธารณสุข ประธานกรรมการหลักประกนั สขุ ภาพแห่งชาติ224

ประกาศคณะกรรมการหลกั ประกนั สขุ ภาพแห่งชาติ เรอ่ื ง หลกั เกณฑก์ ารด�ำเนนิ งานและการบริหารจดั การเงินคา่ ใชจ้ า่ ยในการรกั ษาพยาบาลพนกั งาน หรือลกู จา้ งขององคก์ รปกครองสว่ นท้องถนิ่ และบุคคลในครอบครวั และหลกั เกณฑ์ วธิ ีการ และเง่อื นไขการรบั ค่าใชจ้ ่ายเพื่อบริการสาธารณสุขของหน่วยบริการ (ฉบบั ที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๕๙ โดยท่ีคณะกรรมการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ มีมติให้ยกเลิกการจ่ายเงินช่วยเหลือเบื้องต้นกรณผี ู้ให้บริการได้รับความเสียหายจากการใหบ้ รกิ ารสาธารณสขุ และยกเลกิ กฎ ระเบียบทเี่ ก่ยี วขอ้ ง อาศัยอ�ำนาจตามความในมาตรา ๑๘ (๔) มาตรา ๔๑ และมาตรา ๔๖ แห่งพระราชบัญญัติหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ พ.ศ. ๒๕๔๕ ประกอบกับมติการประชุมคณะกรรมการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติคร้ังที่ ๑/๒๕๕๙ เมื่อวนั ท่ี ๔ มกราคม ๒๕๕๙ จงึ ออกประกาศไว้ ดังตอ่ ไปนี้ ขอ้ ๑ ให้ยกเลิกวรรคสองของข้อ ๔ ของประกาศคณะกรรมการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติเรื่อง หลักเกณฑ์การด�ำเนินงานและการบริหารจัดการเงินค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาลพนักงานหรือลูกจ้างขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นและบุคคลในครอบครัว และหลักเกณฑ์ วิธีการ และเง่ือนไขการรับค่าใช้จ่ายเพ่ือบริการสาธารณสุขของหนว่ ยบริการ พ.ศ. ๒๕๕๗ ข้อ ๒ ประกาศน้ี ให้ใชบ้ ังคับตงั้ แตว่ ันท่ี ๑๐ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๙ ประกาศ ณ วันท่ี ๒๗ มิถุนายน พ.ศ. ๒๕๕๙ ปิยะสกล สกลสตั ยาทร รัฐมนตรวี ่าการกระทรวงสาธารณสุข ประธานกรรมการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ 225

ประกาศสำ� นักงานหลักประกันสขุ ภาพแหง่ ชาติ เรือ่ ง หลกั เกณฑ์ วธิ ีการ อตั รา และเง่อื นไขในการรับค่าใช้จ่ายเพอื่ บริการสาธารณสุขของหนว่ ยบรกิ าร กรณใี หบ้ ริการสาธารณสขุ ส�ำหรับพนกั งานหรอื ลูกจ้างขององค์กรปกครองส่วนท้องถ่ินและบคุ คลในครอบครัว พ.ศ. ๒๕๖๐ โดยทเี่ ปน็ การสมควรก�ำหนด หลกั เกณฑ์ วิธีการ อัตรา และเงื่อนไขในการรับคา่ ใช้จ่ายเพือ่ บรกิ ารสาธารณสขุ ของหนว่ ยบรกิ าร กรณใี หบ้ รกิ ารสาธารณสขุ สำ� หรบั พนกั งานหรอื ลกู จา้ งขององคก์ รปกครองสว่ นทอ้ งถนิ่และบคุ คลในครอบครวั เพอ่ื ใหก้ ารใชส้ ทิ ธใิ นการเขา้ รบั การรกั ษาพยาบาลของพนกั งานหรอื ลกู จา้ งขององคก์ รปกครองสว่ นท้องถน่ิ และบุคคลในครอบครวั เปน็ ไปโดยสะดวกและเขา้ ถึงบริการทมี่ ีคณุ ภาพมาตรฐานไดอ้ ยา่ งท่ัวถึง อาศัยอ�ำนาจตามความในมาตรา ๒๖ มาตรา ๓๑ และมาตรา ๓๖ แห่งพระราชบัญญตั ิหลกั ประกนัสุขภาพแห่งชาติ พ.ศ. ๒๕๔๕ ประกอบกับข้อ ๓ ของประกาศของคณะกรรมการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติเร่ือง หลักเกณฑ์การด�ำเนินงานและการบริหารจัดการเงินค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาลพนักงานหรือลูกจ้างขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นและบุคคลในครอบครัว และหลักเกณฑ์ วีธีการ และเง่ือนไขในการรับค่าใช้จ่ายเพ่ือบริการสาธารณสุขของหน่วยบริการ พ.ศ. ๒๕๕๗ สำ� นักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ จึงออกประกาศไว้ดังตอ่ ไปน้ี ขอ้ ๑ ในประกาศนี้ “พนักงานหรือลูกจ้างขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น” หมายความว่า พนักงานหรือลูกจ้างขององค์กรปกครองส่วนท้องถ่ิน และบุคคลในครอบครัวของพนักงานหรือลูกจ้างขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นตามพระราชกฤษฎีกาก�ำหนดให้พนักงานหรือลูกจ้างขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นและบุคคลในครอบครัวของพนกั งานหรอื ลกู จา้ งขององคก์ รปกครองสว่ นทอ้ งถนิ่ ใชส้ ทิ ธริ บั บรกิ ารสาธารณสขุ ตามพระราชบญั ญตั หิ ลกั ประกนัสุขภาพแหง่ ชาติ พ.ศ. ๒๕๔๕ พ.ศ. ๒๕๕๖ “หน่วยบรกิ าร” หมายความวา่ สถานพยาบาลของทางราชการและสถานพยาบาลของเอกชน “สถานพยาบาลของทางราชการ” หมายความวา่ (๑) สถานพยาบาลของทางราชการตามพระราชกฤษฎีกาว่าด้วยเงินสวัสดิการเก่ียวกับการรักษาพยาบาล (๒) สถานพยาบาลขององค์กรปกครองส่วนท้องถ่ินตามกฎหมายว่าด้วยการจัดต้ังขององค์กรปกครองสว่ นทอ้ งถิ่นแต่ละประเภท (๓) สถานพยาบาลอ่ืนตามทก่ี ระทรวงมหาดไทยประกาศกำ� หนด “สถานพยาบาลของเอกชน” หมายความวา่ สถานพยาบาลทมี่ ลี กั ษณะการใหบ้ รกิ ารเปน็ โรงพยาบาลซ่งึ ได้รบั อนุญาตให้ประกอบกจิ การและดำ� เนินการตามกฎหมายว่าดว้ ยสถานพยาบาล “ส�ำนักงาน” หมายความว่า ส�ำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ หรือส�ำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาตเิ ขต226

ข้อ ๒ หลักเกณฑ์ อัตรา และเง่ือนไขในการรับค่าใช้จ่ายเพื่อบริการสาธารณสุขของหน่วยบริการกรณีให้บริการสาธารณสุขส�ำหรับพนักงานหรือลูกจ้างขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นและบุคคลในครอบครัวให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ วิธีการ เง่ือนไข และอัตราค่าใช้จ่ายที่กระทรวงการคลังก�ำหนดตามพระราชกฤษฎีกาว่าด้วยเงินสวสั ดกิ ารเกย่ี วกบั การรักษาพยาบาลส�ำหรบั การรบั ค่าใช้จา่ ย กรณเี ฉพาะหรือจำ� เป็นให้เป็นไปตามขอ้ ๓ของประกาศนี้ ข้อ ๓ แนวทางปฏิบัติและวิธีการส่งข้อมูลขอรับค่าใช้จ่ายเพื่อบริการสาธารณสุขกรณีให้บริการสาธารณสขุ สำ� หรบั พนกั งานหรอื ลกู จา้ งขององคก์ รปกครองสว่ นทอ้ งถนิ่ และบคุ คลในครอบครวั ใหเ้ ปน็ ไปตามหนงั สอืคู่มือแนวทางปฏิบัติในการขอรับค่าใช้จ่ายเพ่ือบริการสาธารณสุขของหน่วยบริการ กรณีการให้บริการสาธารณสุขส�ำหรับพนักงานหรือลูกจ้างขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นและบุคคลในครอบครัว ประจ�ำปีงบประมาณนั้น ๆทีส่ ำ� นักงานก�ำหนด ขอ้ ๔ ประกาศนี้ ให้ใช้บงั คับตัง้ แตบ่ ัดนี้ เป็นต้นไป ประกาศ ณ วันที่ ๔ มกราคม พ.ศ. ๒๕๖๐ ศกั ดิช์ ัย กาญจนวัฒนา รองเลขาธิการ รกั ษาการแทน เลขาธกิ ารส�ำนักงานหลักประกนั สขุ ภาพแห่งชาติ 227

ประกาศคณะกรรมการหลกั ประกันสขุ ภาพแห่งชาติ เรอื่ ง หลกั เกณฑก์ ารดำ� เนินงานและการบริหารจัดการกองทุนหลกั ประกนั สขุ ภาพแห่งชาติ ในกรณีฉกุ เฉิน กรณีเกดิ โรคระบาดหรอื ภยั พบิ ตั ิ พ.ศ. ๒๕๕๕ โดยที่เป็นการสมควรก�ำหนดหลักเกณฑ์การด�ำเนินงานและการบริหารจัดการกองทุนหลักประกันสุขภาพแหง่ ชาติ เพื่อเป็นคา่ ใชจ้ ่าย สนับสนนุ และสง่ เสรมิ การจัดบรกิ ารสาธารณสุขของหน่วยบริการหรอื หน่วยงานที่เกยี่ วขอ้ งในสถานการณ์ฉุกเฉนิ สถานการณ์เกิดโรคระบาดหรอื ภัยพิบตั ิ ข้นึ อาศัยอำ� นาจตามความในมาตรา ๑๘ (๔) มาตรา ๗ ประกอบกับมาตรา ๓๘ แห่งพระราชบัญญัติหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ พ.ศ. ๒๕๔๕ และข้อ ๑๐ (๑๑) ของระเบียบส�ำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติวา่ ด้วยการรับเงิน การจ่ายเงิน และการเกบ็ รักษาเงนิ กองทนุ พ.ศ. ๒๕๔๖ โดยมติคณะกรรมการหลกั ประกันสุขภาพแหง่ ชาติ ในการประชมุ ครัง้ ท่ี ๙/๒๕๕๔ เม่ือวนั ท่ี ๒๖ กนั ยายน ๒๕๕๔ จึงออกประกาศไว้ ดังต่อไปน้ี ขอ้ ๑ จัดให้มีงบประมาณส�ำรองกรณีฉุกเฉินเกิดโรคระบาด หรือภัยพิบัติ ในกองทุนหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ประกอบด้วย (๑) เงินเหลอื จา่ ยทไี่ ด้รับโอนตามมาตรา ๖๙ (๒) เงินเหลอื จ่ายจากกองทุนหลกั ประกันสุขภาพแหง่ ชาติในแต่ละปีทไ่ี มม่ ภี าระผกู พัน (๓) เงินงบประมาณของรฐั บาลหรอื เงนิ จากกองทุนตามกฎหมายอ่นื ๆ ท่จี ดั สรรทดแทนคืนใหแ้ ก่กองทุนหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ในส่วนงบประมาณส�ำรองกรณีฉุกเฉิน กรณีเกิดโรคระบาดหรือภัยพิบัติซ่ึงไดส้ ำ� รองจา่ ยไปก่อน (๔) เงนิ บริจาค หรือเงนิ อนื่ ๆ ท่ีคณะกรรมการหลักประกันสขุ ภาพแหง่ ชาติกำ� หนด ขอ้ ๒ งบประมาณสำ� รองกรณีฉุกเฉนิ กรณเี กิดโรคระบาดหรอื ภัยพบิ ตั ิ มีวัตถุประสงค์เพ่ือ (๑) จ่ายให้หน่วยบริการ สถานบริการอ่ืน เพื่อให้บริการสาธารณสุขแก่ผู้มีสิทธิประกันสุขภาพแหง่ ชาตทิ ปี่ ระสบภยั หรอื จา่ ยใหห้ นว่ ยงาน หรอื องคก์ ร หรอื บคุ คล ทสี่ นบั สนนุ และสง่ เสรมิ การจดั บรกิ ารสาธารณสขุของหน่วยบริการ ซึ่งครอบคลุมทั้งการสรา้ งเสรมิ สขุ ภาพ การปอ้ งกันโรค การตรวจวินิจฉยั โรค การรกั ษาพยาบาลและการฟื้นฟูสมรรถภาพที่จ�ำเป็นต่อสุขภาพและการด�ำรงชีวิตในสถานการณ์ฉุกเฉิน สถานการณ์เกิดโรคระบาดหรอื ภยั พบิ ัติ ทัง้ ในชว่ งเกิดสถานการณ์และในชว่ งฟ้ืนฟูหลงั เกิดสถานการณ์228

(๒) ส�ำรองจ่ายกรณีฉุกเฉิน กรณีเกิดโรคระบาดหรือเกิดภัยพิบัติ ให้หน่วยบริการ สถานบริการอื่นท่ีให้บริการสาธารณสุขแก่ผู้มีสิทธิประกันสังคมหรือผู้มีสิทธิสวัสดิการข้าราชการหรือรัฐสวัสดิการอื่นตามข้อตกลงซ่ึงหน่วยงานหรือองค์กรดังกล่าวจะต้ังงบประมาณหรือส่งเงินทดแทนคืนให้แก่กองทุนหลักประกันสุขภาพแห่งชาติในส่วนงบประมาณส�ำรองกรณฉี ุกเฉนิ กรณเี กดิ โรคระบาดหรือภัยพิบัติ ข้อ ๓ รายการหรือวงเงินท่ีจ�ำเป็นต้องจ่ายตามวัตถุประสงค์ในข้อ ๒ ให้เป็นไปตามที่เลขาธิการส�ำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติพิจารณาอนุมัติ และรายงานการต่อคณะกรรมการหลักประกันสุขภาพแหง่ ชาติ ภายหลังส้นิ สดุ สถานการณ์ในกรณีฉกุ เฉนิ กรณเี กดิ โรคระบาดหรอื ภยั พบิ ตั นิ ้ัน ข้อ ๔ ประกาศนี้ ให้ใช้บงั คบั ตัง้ แต่วันที่ ๒๗ กันยายน ๒๕๕๔ เป็นตน้ ไป ประกาศ ณ วนั ท่ี ๑ มีนาคม พ.ศ. ๒๕๕๕ วิทยา บรุ ณศริ ิ รฐั มนตรวี ่าการกระทรวงสาธารณสขุ ประธานกรรมการหลักประกนั สขุ ภาพแห่งชาติ 229

ข้อบงั คบั คณะกรรมการหลกั ประกันสุขภาพแห่งชาติ ว่าดว้ ยหลกั เกณฑ์ วิธกี าร และเงอ่ื นไข ในการจ่ายเงนิ ชว่ ยเหลอื เบ้ืองต้น กรณผี รู้ บั บริการได้รบั ความเสยี หายจากการรกั ษาพยาบาล พ.ศ. ๒๕๕๕ โดยท่ีเป็นการสมควรปรับปรุงหลักเกณฑ์ วิธีการและเง่ือนไข ในการจ่ายเงินช่วยเหลือเบ้ืองต้นกรณีผู้รับบริการได้รับความเสียหายจากการรักษาพยาบาลของหน่วยบริการ เพ่ือให้เกิดความเหมาะสมมากยิ่งข้ึนและสอดคลอ้ งตามเจตนารมณ์ของกฎหมาย อาศยั อำ� นาจตามความในมาตรา ๑๘ (๗) และมาตรา ๔๑ แห่งพระราชบญั ญัติหลักประกนั สขุ ภาพแห่งชาติ พ.ศ. ๒๕๔๕ อันเป็นกฎหมายที่มีบทบัญญัติบางประการเกี่ยวกับการจ�ำกัดสิทธิและเสรีภาพของบุคคลซง่ึ มาตรา ๒๙ ประกอบกับมาตรา ๓๖ และมาตรา ๔๑ ของรฐั ธรรมนญู แหง่ ราชอาณาจกั รไทย บัญญตั ใิ หก้ ระทำ� โดยอาศัยอ�ำนาจตามบทบัญญัติแห่งกฎหมาย ประกอบกับคณะกรรมการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติได้มีมติในการประชมุ ครง้ั ท่ี ๗/๒๕๕๕ เมอ่ื วนั ท่ี ๑๓ มถิ ุนายน ๒๕๕๕ คณะกรรมการหลกั ประกนั สขุ ภาพแห่งชาติ จงึ ออกขอ้ บังคับไว้ ดงั ตอ่ ไปนี้ ขอ้ ๑ ข้อบงั คับน้เี รยี กว่า “ข้อบงั คบั คณะกรรมการหลักประกันสุขภาพแหง่ ชาติ วา่ ดว้ ยหลักเกณฑ์วิธีการ และเง่ือนไข ในการจ่ายเงินช่วยเหลือเบ้ืองต้น กรณีผู้รับบริการได้รับความเสียหายจากการรักษาพยาบาลพ.ศ. ๒๕๕๕” ข้อ ๒ ข้อบงั คบั น้ีใหใ้ ช้บังคับ ตั้งแต่วนั ท่ี ๑ ตลุ าคม ๒๕๕๕ เป็นต้นไป ข้อ ๓ ให้ยกเลิกข้อบังคับส�ำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ว่าด้วยหลักเกณฑ์ วิธีการและเงอื่ นไข ในการจา่ ยเงนิ ชว่ ยเหลอื เบอ้ื งตน้ กรณผี รู้ บั บรกิ ารไดร้ บั ความเสยี หายจากการรกั ษาพยาบาล พ.ศ. ๒๕๔๙ ขอ้ ๔ ในขอ้ บงั คับนี้ “การรักษาพยาบาล” หมายความว่า บริการสาธารณสุขตามมาตรา ๓ แห่งพระราชบัญญัติหลักประกนั สขุ ภาพแห่งชาติ พ.ศ. ๒๕๔๕ “หนว่ ยบรกิ าร” หมายความวา่ หนว่ ยบรกิ ารตามมาตรา ๓ แหง่ พระราชบญั ญตั หิ ลกั ประกนั สขุ ภาพแหง่ ชาติ พ.ศ. ๒๕๔๕ “เงินช่วยเหลือเบ้ืองต้น” หมายความว่า เงินท่ีจ่ายให้ผู้รับบริการหรือทายาทหรือผู้อุปการะเพ่ือบรรเทาความเดือดร้อน ในกรณีที่ผู้รับบริการได้รับความเสียหายท่ีเกิดจากการรักษาพยาบาลของหน่วยบริการโดยมิตอ้ งรอการพิสจู นถ์ ูกผดิ “ผ้อู ุปการะ” หมายความวา่ ผู้ให้ความช่วยเหลือเกอื้ กูลหรอื ดูแลผรู้ บั บรกิ ารกอ่ นเขา้ รบั การรักษาพยาบาลอยา่ งต่อเนอ่ื งเป็นเวลานานพอสมควร230

“คณะอนุกรรมการ” หมายความวา่ คณะอนุกรรมการพิจารณาวนิ ิจฉยั ค�ำร้องขอรบั เงนิ ชว่ ยเหลือเบือ้ งตน้ ระดับจังหวดั ข้อ ๕ ความเสียหายที่เกิดจากการรักษาพยาบาลของหน่วยบริการ ท่ีจะเป็นเหตุให้ได้รับเงินช่วยเหลือเบ้ืองต้นตามข้อบังคับนี้ ให้รวมถึงเหตุสุดวิสัยในระบบการรักษาพยาบาล แต่มิใช่เป็นความเสียหายที่เกิดจากการดำ� เนนิ ไปตามพยาธิสภาพหรือเหตุแทรกซอ้ นของโรคทเ่ี ป็นไปตามสภาพปกตธิ รรมดาของโรคน้นั อยู่แล้ว ข้อ ๖ ประเภทของความเสียหายท่ีเกิดจากการรักษาพยาบาลของหน่วยบริการ และอัตราการจา่ ยเงนิ ชว่ ยเหลือเบอื้ งตน้ แบ่งเปน็ (๑) เสียชีวิต หรือทุพพลภาพอย่างถาวร หรือเจ็บป่วยเรื้อรังที่ต้องได้รับการรักษาตลอดชีวิตและมีผลกระทบอย่างรุนแรงต่อการด�ำรงชีวิต จ่ายเงินช่วยเหลือเบื้องต้นได้ ต้ังแต่ ๒๔๐,๐๐๐ บาท แต่ไม่เกิน๔๐๐,๐๐๐ บาท (๒) สูญเสียอวัยวะหรือพิการ ท่ีมีผลกระทบต่อการด�ำเนินชีวิต จ่ายเงินช่วยเหลือเบ้ืองต้นได้ตั้งแต่ ๑๐๐,๐๐๐ บาท แต่ไมเ่ กิน ๒๔๐,๐๐๐ บาท (๓) บาดเจ็บหรือเจ็บป่วยต่อเนอื่ ง จ่ายเงนิ ช่วยเหลือเบ้อื งตน้ ได้ไมเ่ กิน ๑๐๐,๐๐๐ บาท กรณที มี่ กี ารฝากครรภอ์ ยา่ งสมำ�่ เสมอตอ่ เนอื่ งและไดร้ บั การดแู ลตามมาตรฐานการฝากครรภจ์ นอายุครรภ์ต้ังแต่ ๓๗ สัปดาห์ข้ึนไป และทารกเสียชีวิตในครรภ์ระหว่างการดูแลในหน่วยบริการให้จ่ายเงินช่วยเหลือเบอื้ งตน้ ไดเ้ ทา่ กบั อตั ราทก่ี ำ� หนดในวรรคหนง่ึ (๑) และหากมารดาไดร้ บั ความเสยี หายอนื่ ดว้ ย กใ็ หไ้ ดร้ บั เงนิ ชว่ ยเหลอืได้อีกตามประเภทความเสียหายทีไ่ ด้รบั น้ัน กรณีท่ีความเสียหายไม่อาจจัดเป็นประเภทใดประเภทหน่ึงตามวรรคหน่ึง (๑) (๒) และ (๓) ได้ใหเ้ ปน็ อำ� นาจของคณะกรรมการควบคมุ คณุ ภาพและมาตรฐานบรกิ ารสาธารณสขุ ทจ่ี ะพจิ ารณาเทยี บเคยี งกบั ประเภทความเสียหายท่กี �ำหนดไว้ไดต้ ามความเหมาะสม ขอ้ ๗ ผู้รบั บรกิ ารทไี่ ดร้ ับความเสยี หายท่เี กดิ จากการรกั ษาพยาบาลของหน่วยบรกิ าร ทายาทหรือผอู้ ปุ การะหรอื หนว่ ยบรกิ ารทใี่ หบ้ รกิ าร มสี ทิ ธยิ น่ื คำ� รอ้ งขอรบั เงนิ ชว่ ยเหลอื เบอื้ งตน้ ไดท้ ส่ี ำ� นกั งานสาขาของสำ� นกั งานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติในจังหวัดนั้น หรือหน่วยรับเรื่องร้องเรียนตามมาตรา ๕๐ (๕) แห่งพระราชบัญญัติหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ พ.ศ. ๒๕๔๕ หรือท่ีส�ำนักงานสาธารณสุขจังหวัด ทั้งนี้ ต้องยื่นค�ำร้องภายใน ๑ ปีนบั ตง้ั แต่วันทท่ี ราบความเสยี หาย ขอ้ ๘ ใหค้ ณะกรรมการควบคมุ คณุ ภาพและมาตรฐานบรกิ ารสาธารณสขุ แตง่ ตงั้ คณะอนกุ รรมการมีจ�ำนวน ๕ - ๗ คน ขึ้นท�ำหน้าที่พิจารณาวินิจฉัยค�ำร้องขอรับเงินช่วยเหลือเบ้ืองต้นว่าเข้าเกณฑ์ที่จะได้รับความช่วยเหลือตามข้อบังคับน้ีหรือไม่ และถ้าควรได้รับควรจะได้ตามค�ำร้องขอหรือไม่เพียงใด ทั้งน้ีโดยค�ำนึงถึงความรุนแรงของความเสียหายและเศรษฐานะของผูเ้ สียหายดว้ ย คณะอนุกรรมการมอี ำ� นาจอนมุ ัติจำ� นวนเงินชว่ ยเหลือเบอ้ื งตน้ ไดไ้ มเ่ กนิ อัตราที่กำ� หนดในขอ้ ๖ การพจิ ารณาวนิ จิ ฉัยของคณะอนกุ รรมการใหก้ ระทำ� ให้แล้วเสร็จโดยเร็ว ท้ังน้ีไมเ่ กิน ๓๐ วนั นับแต่วนั ทไี่ ดร้ บั คำ� รอ้ งขอ ผลการวนิ จิ ฉยั ของคณะอนกุ รรมการใหร้ ายงานตอ่ คณะกรรมการควบคมุ คณุ ภาพและมาตรฐานบรกิ ารสาธารณสุขเพ่ือทราบ ข้อ ๙ ให้คณะอนุกรรมการควบคุมคุณภาพและมาตรฐานบริการสาธารณสุขระดับจังหวัดหรอื สำ� นกั งานหลกั ประกนั สขุ ภาพแหง่ ชาตสิ ำ� หรบั สาขาเขตพน้ื ทกี่ รงุ เทพมหานครหรอื จงั หวดั ใดทไี่ มม่ คี ณะอนกุ รรมการ 231

ควบคมุ คณุ ภาพและมาตรฐานบรกิ ารสาธารณสขุ เปน็ ผเู้ สนอชอ่ื บคุ คลทเี่ หมาะสมจำ� นวน ๕ - ๗ คน เพอ่ื ใหค้ ณะกรรมการควบคุมคุณภาพและมาตรฐานบริการสาธารณสุขพิจารณาแต่งต้ังเป็นคณะอนุกรรมการตามข้อ ๘ โดยชื่อบุคคลทเี่ หมาะสมตอ้ งมาจากผทู้ รงคณุ วฒุ ใิ นพนื้ ทไ่ี ม่น้อยกวา่ ๓ คน ตัวแทนหนว่ ยบรกิ ารและตวั แทนประชาชนผใู้ ชบ้ รกิ ารฝา่ ยละเท่า ๆ กนั โดยให้ดำ� เนนิ การคดั เลอื กตามวธิ ีการสำ� นกั งานหลกั ประกนั สขุ ภาพแหง่ ชาตกิ �ำหนด ใหผ้ อู้ ำ� นวยการสำ� นกั งานสาขาของสำ� นกั งานหลกั ประกนั สขุ ภาพแหง่ ชาตใิ นจงั หวดั นน้ั เปน็ เลขาธกิ ารคณะอนุกรรมการ ใหค้ ณะอนกุ รรมการ มวี าระการด�ำรงต�ำแหนง่ คราวละ ๒ ปี เมอื่ มกี ารแตง่ ตง้ั คณะอนกุ รรมการแลว้ ใหเ้ ลขานกุ ารเรยี กประชมุ คณะอนกุ รรมการ เพอ่ื ใหท้ ปี่ ระชมุเลือกอนกุ รรมการคนหนง่ึ เปน็ ประธานคณะอนุกรรมการ ข้อ ๑๐ ในกรณีผู้รับบริการหรือทายาทหรือผู้อุปการะของบุคคลดังกล่าว ไม่เห็นด้วยกับผลการวินิจฉัยของคณะอนุกรรมการท่ีสั่งจ่ายเงินช่วยเหลือเบื้องต้นไม่เต็มตามอัตราท่ีก�ำหนดในข้อ ๖ หรือไม่จ่ายเงินช่วยเหลือเบ้ืองต้นหรือจัดประเภทของความเสียหายโดยไม่ถูกต้อง ให้มีสิทธิย่ืนอุทธรณ์ต่อคณะกรรมการควบคุมคุณภาพและมาตรฐานบริการสาธารณสุข โดยยื่นท่ีส�ำนักงานสาขาของส�ำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติในจังหวัดนั้น หรือหน่วยรับเรื่องร้องเรียนตามมาตรา ๕๐ (๕) แห่งพระราชบัญญัติหลักประกันสุขภาพแห่งชาติพ.ศ. ๒๕๔๕ หรือส�ำนักงานสาธารณสุขจังหวัด ท้ังนี้ต้องย่ืนอุทธรณ์ภายใน ๓๐ วัน นับจากวันท่ีได้รับทราบผลการวนิ จิ ฉยั ขอ้ ๑๑ กรณีทีม่ กี ารอุทธรณผ์ ลการวินิจฉัยของคณะอนุกรรมการ ใหส้ ำ� นกั งานหลกั ประกนั สขุ ภาพแห่งชาติพิจารณาว่าเป็นไปตามเง่ือนไขการยื่นอุทธรณ์ตามข้อ ๑๐ หรือไม่ หากเป็นไปตามเงื่อนไขให้เสนอคณะกรรมการควบคมุ คุณภาพและมาตรฐานบรกิ ารสาธารณสุขวนิ จิ ฉยั ช้ขี าด ดงั นี้ (๑) สงั่ ใหจ้ ่ายเงินช่วยเหลือเบอื้ งต้นไม่เกนิ อตั ราทีก่ ำ� หนดในขอ้ ๖ หรือ (๒) สง่ั ให้ยกอุทธรณ์ คำ� วนิ ิจฉัยช้ขี าดของคณะกรรมการควบคมุ คณุ ภาพและมาตรฐานบริการสาธารณสขุ ใหเ้ ปน็ ท่ีสดุ ขอ้ ๑๒ ใหค้ ณะอนกุ รรมการตามขอ้ บงั คบั สำ� นกั งานหลกั ประกนั สขุ ภาพแหง่ ชาติ วา่ ดว้ ยหลกั เกณฑ์วิธีการและเง่ือนไขในการจ่ายเงินช่วยเหลือเบื้องต้น กรณีผู้รับบริการได้รับความเสียหายจากการรักษาพยาบาลพ.ศ. ๒๕๔๙ เปน็ คณะอนุกรรมการตามขอ้ บังคับน้ี ความเสยี หายทเี่ กดิ ขน้ึ กอ่ นวนั ที่ ๑ ตลุ าคม ๒๕๕๕ ใหพ้ จิ ารณาตามขอ้ บงั คบั สำ� นกั งานหลกั ประกนัสุขภาพแห่งชาติ ว่าด้วยหลักเกณฑ์ วิธีการและเง่ือนไขในการจ่ายเงินช่วยเหลือเบื้องต้น กรณีผู้รับบริการได้รับความเสียหายจากการรักษาพยาบาล พ.ศ. ๒๕๔๙ จนเสร็จส้ินกระบวนการพิจารณา และความเสียหายที่เกิดขึ้นตัง้ แต่วันท่ี ๑ ตลุ าคม ๒๕๕๕ เป็นตน้ ไปให้พจิ ารณาตามข้อบังคบั นี้ ข้อ ๑๓ ใหเ้ ลขาธกิ ารสำ� นักงานหลักประกนั สุขภาพแห่งชาติเป็นผรู้ ักษาการตามขอ้ บงั คบั นี้ ประกาศ ณ วันท่ี ๒๙ มถิ นุ ายน พ.ศ. ๒๕๕๕ วิทยา บุรณศิริ รฐั มนตรวี ่าการกระทรวงสาธารณสขุ ประธานกรรมการหลักประกนั สุขภาพแหง่ ชาติ232

ขอ้ บงั คับคณะกรรมการหลกั ประกันสุขภาพแห่งชาติ วา่ ด้วยหลกั เกณฑ์ วิธกี าร และเงือ่ นไข ในการจ่ายเงินชว่ ยเหลอื เบื้องต้น กรณผี รู้ ับบรกิ ารได้รบั ความเสียหายจากการรักษาพยาบาล (ฉบับท่ี ๒) พ.ศ. ๒๕๕๗ โดยท่ีเป็นการสมควรแก้ไขเพิ่มเติมหลักเกณฑ์ วิธีการ และเง่ือนไขการจ่ายเงินช่วยเหลือเบ้ืองต้นเนอ่ื งจากมกี ารยกเลกิ การมอบหมายใหส้ ำ� นกั งานสาธารณสขุ จงั หวดั ทำ� หนา้ ทส่ี ำ� นกั งานหลกั ประกนั สขุ ภาพแหง่ ชาติสาขาจงั หวัด อาศยั อำ� นาจตามความในมาตรา ๑๘ (๗) และมาตรา ๔๑ แห่งพระราชบญั ญตั หิ ลกั ประกนั สุขภาพแห่งชาติ พ.ศ. ๒๕๔๕ ประกอบกบั คณะกรรมการหลกั ประกันสุขภาพแหง่ ชาติไดม้ ีมติในการประชมุ คร้ังท่ี ๙/๒๕๕๗เมอ่ื วันที่ ๑๖ ตลุ าคม ๒๕๕๗ คณะกรรมการหลักประกนั สขุ ภาพแหง่ ชาติ จึงออกข้อบังคับไว้ ดังตอ่ ไปน้ี ขอ้ ๑ ขอ้ บังคบั นเ้ี รยี กว่า “ข้อบงั คบั คณะกรรมการหลกั ประกนั สุขภาพแหง่ ชาติ วา่ ด้วยหลักเกณฑ์วิธีการและเง่ือนไข ในการจ่ายเงินช่วยเหลือเบ้ืองต้น กรณีผู้รับบริการได้รับความเสียหายจากการรักษาพยาบาล(ฉบบั ท่ี ๒) พ.ศ. ๒๕๕๗” ข้อ ๒ ข้อบังคบั นใี้ หใ้ ชบ้ งั คับ ตงั้ แตว่ นั ท่ี ๑ ตลุ าคม ๒๕๕๗ เปน็ ต้นไป ข้อ ๓ ใหย้ กเลกิ ข้อ ๗ ของข้อบงั คบั คณะกรรมการหลักประกนั สุขภาพแหง่ ชาติ ว่าดว้ ยหลักเกณฑ์วีธีการและเงื่อนไข ในการจ่ายเงินช่วยเหลือเบื้องต้น กรณีผู้รับบริการได้รับความเสียหายจากการรักษาพยาบาลพ.ศ. ๒๕๕๕ และใหใ้ ชค้ วามต่อไปน้แี ทน “ข้อ ๗ ผู้รับบริการท่ีได้รับความเสียหายที่เกิดขึ้นจากการรักษาพยาบาลของหน่วยบริการทายาทหรือผู้อุปการะหรือหน่วยบริการท่ีให้บริการ มีสิทธิย่ืนค�ำร้องขอรับเงินช่วยเหลือเบ้ืองต้นได้ท่ีหน่วยบริการหรือหน่วยรับเรื่องร้องเรียนตามมาตรา ๕๐ (๕) แห่งพระราชบัญญัติหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ พ.ศ. ๒๕๔๕หรอื สำ� นกั งานสาธารณสขุ จงั หวดั หรอื สำ� นกั งานหลกั ประกนั สขุ ภาพแหง่ ชาตสิ าขาเขตพน้ื ทห่ี รอื หนว่ ยงานหรอื องคก์ รอนื่ทส่ี �ำนกั งานหลักประกนั สขุ ภาพแห่งชาตกิ �ำหนด ท้ังน้ี ตอ้ งย่ืนคำ� ร้องภายใน ๑ ปี นบั ตงั้ แตว่ นั ที่ทราบความเสยี หาย” ข้อ ๔ ให้ยกเลิกข้อ ๙ ของข้อบังคบั คณะกรรมการหลกั ประกันสขุ ภาพแห่งชาติ ว่าด้วยหลักเกณฑ์วิธีการ และเง่ือนไข ในการจ่ายเงินช่วยเหลือเบ้ืองต้น กรณีผู้รับบริการได้รับความเสียหายจากการรักษาพยาบาลพ.ศ. ๒๕๕๕ และให้ใช้ความตอ่ ไปนีแ้ ทน “ข้อ ๙ ให้คณะอนุกรรมการควบคุมคุณภาพและมาตรฐานบริการสาธารณสุขระดับเขตพ้ืนท่ีหรือส�ำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติสาขาเขตพ้ืนท่ีกรณีไม่มีคณะอนุกรรมการควบคุมคุณภาพและมาตรฐานบริการสาธารณสุขระดับเขตพื้นท่ี เป็นผู้เสนอช่ือบุคคลท่ีเหมาะสมจ�ำนวน ๕ - ๗ คน เพ่ือเสนอให้คณะกรรมการควบคุมคุณภาพและมาตรฐานบริการสาธารณสุขพิจารณาแต่งตั้งเป็นคณะอนุกรรมการตามข้อ ๘ โดยชื่อบุคคลทเ่ี หมาะสมตอ้ งมาจากผทู้ รงคณุ วฒุ ใิ นพนื้ ท่ไี ม่นอ้ ยกวา่ ๓ คน ตัวแทนหนว่ ยบรกิ ารและตวั แทนประชาชนผใู้ ชบ้ รกิ ารฝา่ ยละเท่า ๆ กัน โดยใหด้ ำ� เนนิ การคดั เลือกตามวธิ ีการทส่ี ำ� นกั งานหลักประกนั สขุ ภาพแห่งชาตกิ ำ� หนด 233

ใหน้ ายแพทย์สาธารณสขุ จงั หวดั เปน็ เลขานุการของคณะอนุกรรมการจังหวัดนัน้ ให้อนุกรรมการ มวี าระการดำ� รงตำ� แหนง่ คราวละ ๔ ปี และอาจไดร้ ับเลอื กใหม่อกี ได้ แต่จะด�ำรงตำ� แหนง่ เกินกวา่ สองวาระติดต่อกนั ไมไ่ ด้ เมื่อครบก�ำหนดวาระตามวรรคสาม หากยังมิได้มีการแต่งต้ังอนุกรรมการขึ้นใหม่ ให้อนุกรรมการซึ่งพ้นจากต�ำแหน่งตามวาระน้ัน อยู่ในต�ำแหน่งเพื่อปฏิบัติหน้าท่ีต่อไป จนกว่าอนุกรรมการซ่ึงได้รับคัดเลือกใหม่เขา้ รับหนา้ ท่ี เมอ่ื มกี ารแตง่ ตงั้ คณะอนกุ รรมการแลว้ ใหเ้ ลขานกุ ารเรยี กประชมุ คณะอนกุ รรมการ เพอื่ ใหท้ ปี่ ระชมุเลอื กอนุกรรมการคนหนึ่งเปน็ ประธานคณะอนุกรรมการ” ขอ้ ๕ ให้เพม่ิ เตมิ ข้อความตอ่ ไปนี้ เปน็ ขอ้ ๙/๑ ของข้อบังคบั คณะกรรมการหลักประกันสขุ ภาพแหง่ ชาติ วา่ ดว้ ยหลกั เกณฑ์ วธิ กี ารและเงอ่ื นไข ในการจา่ ยเงนิ ชว่ ยเหลอื เบอ้ื งตน้ กรณผี รู้ บั บรกิ ารไดร้ บั ความเสยี หายจากการรกั ษาพยาบาล พ.ศ. ๒๕๕๕ “ข้อ ๙/๑ นอกจากการพ้นจากต�ำแหน่งตามวาระตามข้อ ๙ วรรคสามแล้ว ใหอ้ นุกรรมการพ้นจากตำ� แหนง่ เม่อื (๑) เปน็ กรณตี ามมาตรา ๑๖ (๑) - (๕) แหง่ พระราชบญั ญตั หิ ลกั ประกนั สขุ ภาพแหง่ ชาติ พ.ศ. ๒๕๔๕ (๒) อนุกรรมการย้ายไปด�ำรงต�ำแหน่งหรือประกอบวิชาชีพหรืออาชีพในจังหวัดอ่ืน หรือย้ายถ่ินทอ่ี ยูอ่ าศัยไปจงั หวดั อน่ื (๓) คณะอนุกรรมการควบคุมคุณภาพและมาตรฐานบริการสาธารณสุขท่ีแต่งตั้งอนุกรรมการพน้ จากตำ� แหนง่ ” ขอ้ ๖ ใหย้ กเลกิ ขอ้ ๑๐ ของขอ้ บงั คบั คณะกรรมการหลกั ประกนั สขุ ภาพแหง่ ชาติ วา่ ดว้ ยหลกั เกณฑ์วีธีการ และเงื่อนไข ในการจ่ายเงินช่วยเหลือเบื้องต้น กรณีผู้รับบริการได้รับความเสียหายจากการรักษาพยาบาลพ.ศ. ๒๕๕๕ และให้ใชค้ วามตอ่ ไปนี้แทน “ข้อ ๑๐ ผู้ย่ืนค�ำร้องตามข้อ ๗ ที่ไม่เห็นด้วยกับผลการวินิจฉัยของคณะอนุกรรมการท่ีสั่งจ่ายเงินช่วยเหลือเบื้องต้นไม่เต็มตามอัตราท่ีก�ำหนดในข้อ ๖ หรือไม่จ่ายเงินช่วยเหลือเบื้องต้นหรือจัดประเภทของความเสยี หายโดยไมถ่ กู ตอ้ ง ใหม้ สี ทิ ธยิ นื่ อทุ ธรณต์ อ่ คณะอนกุ รรมการควบคมุ คณุ ภาพและมาตรฐานบรกิ ารสาธารณสขุได้ที่หน่วยบริการหรือหน่วยรับเรื่องร้องเรียนตามมาตรา ๕๐(๕) แห่งพระราชบัญญัติหลักประกันสุขภาพแห่งชาติพ.ศ. ๒๕๔๕ หรือส�ำนักงานสาธารณสุขจังหวัดหรือส�ำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติสาขาเขตพ้ืนท่ีหรือหนว่ ยงานหรือองคก์ รอ่นื ทีส่ �ำนกั งานหลกั ประกนั สุขภาพแห่งชาตกิ �ำหนด ทัง้ น้ี ต้องย่ืนอุทธรณ์ภายใน ๓๐ วนันบั จากวันที่ได้ทราบผลการวินจิ ฉยั ” ขอ้ ๗ ใหเ้ พม่ิ เติมข้อความต่อไปนเ้ี ปน็ ขอ้ ๑๒/๑ ของข้อบังคับคณะกรรมการหลักประกนั สุขภาพแห่งชาติ ว่าด้วยหลักเกณฑ์ วิธีการ และเง่ือนไข ในการจ่ายเงินช่วยเหลือเบ้ืองต้น กรณีผู้รับบริการได้รับความเสยี หายจากการรกั ษาพยาบาล พ.ศ. ๒๕๕๕ “ข้อ ๑๒/๑ กรณีท่ีมีปัญหาในการปฏิบัติตามข้อบังคับนี้ ให้คณะกรรมการควบคุมคุณภาพและมาตรฐานบริการสาธารณสุขเป็นผู้มีอ�ำนาจในการวินจิ ฉัยช้ขี าด คำ� วนิ จิ ฉยั ชข้ี าดของคณะกรรมการควบคมุ คณุ ภาพและมาตรฐานบรกิ ารสาธารณสขุ ใหถ้ อื เปน็ ทส่ี ดุ ”234

ข้อ ๘ ใหอ้ นกุ รรมการทไ่ี ดร้ บั แตง่ ตงั้ ตามขอ้ บงั คบั คณะกรรมการหลกั ประกนั สขุ ภาพแหง่ ชาตวิ า่ ดว้ ยหลกั เกณฑ์ วธิ กี าร และเงื่อนไข ในการจา่ ยเงินช่วยเหลอื เบ้อื งตน้ กรณีผรู้ ับบริการได้รับความเสียหายจากการรักษาพยาบาล พ.ศ. ๒๕๕๕ เป็นอนกุ รรมการตามขอ้ บังคบั นี้ เพ่ือเพิ่มประสิทธิภาพการพิจารณาค�ำร้อง ส�ำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติสาขาเขตพื้นที่มีอ�ำนาจมอบให้หัวหน้าหน่วยงานหรือองค์กรอ่ืน เป็นเลขานุการและผู้ช่วยเลขานุการของคณะอนุกรรมการจังหวัดได้ตามความจ�ำเป็น ข้อ ๙ ใหเ้ ลขาธิการสำ� นกั งานหลักประกนั สุขภาพแหง่ ชาติ เป็นผู้รกั ษาการตามข้อบังคับน้ี ประกาศ ณ วันท่ี ๓๑ ตลุ าคม พ.ศ. ๒๕๕๗ ศาสตราจารยร์ ชั ตะ รชั ตะนาวนิ รัฐมนตรวี า่ การกระทรวงสาธารณสุข ประธานกรรมการหลกั ประกนั สุขภาพแห่งชาติ 235