แผนภาษาไทย ป ๑ ภาคเรียนที่ ๒

สาระสาคัญ ทกั ษะการฟงั เปน็ การสรา้ งประสบการณ์อยา่ งหนึง่ ท่ีทาใหม้ ีความรจู้ ากสิ่งทฟ่ี ัง สามารถเล่าเร่ือง และตอบคาถามจากเรื่องไดถ้ ูกต้อง จุดประสงค์การเรยี นรู้ ๑. ฟงั เรื่อง “เพอ่ื นรใู้ จ” แลว้ ตอบคาถามและเลา่ เร่ืองได้ถูกตอ้ ง ๒. อา่ นเร่ืองที่เล่าไดถ้ ูกตอ้ ง กิจกรรมการเรียนรู้ ๑. ครูแจ้งตัวชว้ี ัดแลว้ ทดสอบก่อนเรยี น โดยไม่ตอ้ งเฉลย ๒. ครูกบั นักเรยี นรว่ มกนั สนทนาเกยี่ วกับ คาวา่ เพือ่ นของนักเรียนวา่ ช่ืออะไรบา้ ง มี พฤติกรรมอย่างไรบ้าง เชน่ - แบง่ ขนมใหก้ ิน -มาโรงเรยี นด้วยกนั -เล่นด้วยกนั -ทาการบ้านดว้ ยกัน -ไปมาหาสู่กัน -รักและหวงั ดีต่อกนั ๓. ครูถามนกั เรียนวา่ เพือ่ นทดี่ ีควรเปน็ อย่างไร ครแู ล้วโยงไป เร่อื ง “เพ่ือนรู้ใจ” ๔. ครรู ว่ มกนั สนทนาเก่ียวกับภาพในบทเรียน ดงั น้ี ๕. นกั เรยี นฟังครอู ่านเร่อื งหรือเลา่ เรือ่ ง “เพ่อื นรใู้ จ” จากบทเรียนโดยเนน้ มารยาทในการฟัง ๖. นักเรยี นทกุ คนฝึกอ่านจากภาพจากบัตรความรู้ “รจู้ กั คา นาความเรือ่ ง” ตามครพู ร้อม กัน ว่าอา่ นอยา่ งไร จนคลอ่ ง ๗. นักเรียนช่วยกันเล่าเรอ่ื งที่ฟงั ถา้ เลา่ ไมไ่ ดค้ รูถามนาใหน้ กั เรียนตอบ ๘. ครูเขยี นคาบนกระดานให้นักเรยี นฝึกอ่านคา จนคล่อง ( ใหป้ ิดหนังสอื เรยี น) ๙. มอบหมายให้นกั เรียนไปฝกึ อา่ นคาจากหนงั สือภาษาพาทีในช่วง “ร้จู ักคา นาความ เร่อื ง” เป็นการบา้ น

สื่อ / แหล่งเรยี นรู้ ลาดบั ที่ รายการสอ่ื กิจกรรมทใ่ี ช้ แหล่งท่ไี ด้มา ๑. เพลงชา้ ง เพม่ิ เติมความชัดเจนในเนื้อหา ครจู ัดเตรียม ครจู ดั หา ๒. หนังสอื เรียน ชดุ ภาษาพาที นักเรียนดภู าพและฝึกอา่ น ครูจดั ทา ชนั้ ป. ๑ ครจู ดั ทา ๓. แบบบนั ทกึ การสังเกต สังเกตพฤติกรรม และผลงาน พฤติกรรม และผลงานระหวา่ ง ระหวา่ งเรียน เรียน ๔. แบบทดสอบ สอบวัดความรู้ การวดั ผลประเมนิ ผล กิจกรรม-พฤตกิ รรมทป่ี ระเมิน เครอ่ื งมอื ท่ใี ช้ใน วิธีการประเมิน เกณฑ์การประเมนิ การประเมนิ สังเกตรายบคุ คล ร้อยละ ๗๐ ขึ้นไป ๑. สังเกตพฤติกรรม แบบประเมิน สงั เกตพฤตกิ รรม รอ้ ยละ ๗๐ ขนึ้ ไป และผลงานระหวา่ ง พฤติกรรม เรยี น สอบรายบคุ คล ร้อยละ ๗๐ ขึน้ ไป ๒. ประเมนิ พฤตกิ รรมและ แบบบนั ทกึ การสังเกต ผลงานระหวา่ งเรียน พฤติกรรม และผลงาน ระหวา่ งเรยี น ๓. วดั ความรู้ แบบทดสอบ

บันทึกขอ้ เสนอแนะของผู้บริหารหรือผ้ทู ่ไี ดร้ บั มอบหมาย ……………………………………………………………………………………………………….………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………….………………………………………………… ลงชอ่ื …………………………………….. ( …………………………………. ) ตาแหนง่ ……………………… วนั ที่……เดอื น……………..พ.ศ………. บันทึกผลหลงั กระบวนการจดั การเรียนรู้ ผลการเรียนรู้ท่ีเกิดขึน้ กับผู้เรยี น (เก่ง ดี มีสุข) ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………….…………………………………………………………………………………………………………………………… ปญั หา / อปุ สรรค ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ข้อเสนอแนะ / แนวทางแกไ้ ข ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………….…………………………………………………………………………………………………………………………… ลงช่อื ……………………………….…ผสู้ อน (………………..…………….) ตาแหนง่ ………………………………… ………../…………./…………

บัตรความรู้ ๑. รู้จักคา นาเรื่อง ปาก ข้าว แขน คอก ป้อน จะ สิ เชำ้ ส่ำย ดึง โยก นกั ยงั ดนั เคม็ รส เปิ ด ส่วน ไกล ไหน หลบั

บทเพลง ช้าง ชา้ ง ช้าง ช้าง นอ้ งเคยเห็นชา้ งหรอื เปลา่ ชา้ งมันตวั โตไม่เบา จมกู ยาวยาว เรียกว่า งวง มีเขี้ยวใตง้ วง เรยี กว่างา มหี ู มีตา หางยาว

แบบทดสอบกอ่ น-หลงั เรียน คาชแ้ี จง ใหน้ ักเรยี นตอบคาถามในขอ้ ต่อไปนี้ ๑. สงิ่ ใดบอกไดว้ า่ ใบโบก ใบบวั ตืน่ แล้ว …………………………………………………………………………… ๒. ภูผาพาใบโบก ใบบวั …………………………………………………………………………… ๓. ดนิ โปรง่ มีรสอะไร ให้ประโยชนอ์ ะไรแก่ช้าง …………………………………………………………………………… ๔. ภูผากับใบโบก ใบบวั มคี วามสัมพนั ธก์ ันอย่างไร …………………………………………………………………………… ๕. ใบโบกใชห้ วั ดันภผู า ใบบัวดึงแขน บอกบง่ ถึงอะไร …………………………………………………………………………… เฉลยข้อสอบกอ่ น-หลงั เรียน ๑. เสยี งกระดึงและกระพรวน ๒. กินดินโปร่ง ๓. รสเค็ม ทาให้ร่างกายแงแรง ๔. เพือ่ นกัน ๕. ชวนภูผากนิ ด้วยกนั

บตั รความรูส้ าหรบั ครู เรือ่ ง การฟงั และการพูด การฟัง เปน็ การไดย้ นิ เร่อื งราวใหเ้ กิดความเข้าใจในเรอื่ งท่ไี ดย้ นิ และ นามาพิจารณาว่า เรอื่ งราวนนั้ ๆ ควรเชื่อไดห้ รอื ไม่ นาไปใช้ประโยชน์ไดเ้ พียงใด ข้อควรปฏิบตั ใิ นการฟัง ๑. ตง้ั ใจฟงั ไมพ่ ูดหรือสนทนากันขณะฟงั ผ้อู ่นื พดู ๒. คิดตดิ ตามเร่ืองฟงั ว่าเรือ่ งท่ฟี งั เก่ยี วกบั อะไร มีความถูกต้องเชื่อถือไดห้ รือไม่ ๓. การฟงั คาบรรยายควรจดข้อความสาคญั ที่ไดจ้ ากการฟังไว้ มารยาทในการฟัง ๑. ตงั้ ใจฟัง มองผู้พดู ๒. ไมค่ ยุ หรือเลน่ ขณะฟังผู้อืน่ พูด ๓. ไม่สง่ เสียงดังหรือทาความราคาญให้ผู้อ่นื ๔. ถ้าจะถามควรขออนุญาตก่อน หรือใหผ้ ู้พูดหยุดพูดกอ่ น ไม่ควรถามขณะผ้พู ูดยงั พดู ไมจ่ บ การพูด เปน็ การแสดงความคิดเห็นหรอื บอกเล่าเรื่องราว โดยการพูดใหผ้ อู้ ื่นฟงั ผพู้ ูด ต้องมคี วามคดิ มเี รื่องราวท่ีจะพูด และตอ้ งจัดลาดบั ความคิดหรือเรือ่ งราวที่ จะพูดไม่ใหส้ บั สน เพอ่ื ผฟู้ ังจะไดเ้ กดิ ความเข้าใจชัดเจน ผ้พู ูดต้องพูดใหช้ ัดเจน ใชภ้ าษาทีถ่ กู ต้อง ขอ้ ปฏิบัติในการพูด ๑. จะพูดเรอื่ งอะไร ต้องมคี วามร้ใู นเร่อื งนน้ั โดยการอ่าน การซกั ถาม ผ้อู ืน่ ให้เขา้ ใจกอ่ น ๒. ใช้ภาษาพดู ทีถ่ ูกตอ้ ง สุภาพ ๓. พูดให้เสยี งดัง ฟังชัด แต่ไมใ่ ช่ตะโกน ๔. พดู ให้ชดั เจน ใช้คาแทนชอื่ ให้ถกู ตอ้ ง ๕. มองผูพ้ ดู ๖. ขณะพดู ตอ้ งน่งั หรือยนื ตัวตรงในท่าสบาย ๗. ไมเ่ อามอื ล้วง ควกั แกะ เกา ขณะพูดหรอื ยนื เอามือไขว้หลัง

มารยาทในการพดู ๑. ใชน้ ้าเสยี งนุ่มนวล ไม่พดู กระโชกโฮกฮาก ๒. ใชถ้ อ้ ยคาสภุ าพ ๓. พูดด้วยใจจรงิ และยกย่องผูฟ้ งั ๔. ไมน่ นิ ทาผู้อื่นหรอื พูดวา่ ร้ายผอู้ ่ืน ๕. ไมแ่ สดงความโกรธเคืองผ้ฟู งั ๖. รอจงั หวะในการพดู ซกั ถาม ไมพ่ ูดสอดขณะผู้อนื่ กาลงั พดู

แผนการจัดการเรยี นรทู้ ี่ ๑๐.๒ ช้ันประถมศกึ ษาปที ่ี ๑ กล่มุ สาระการเรยี นรู้ภาษาไทย (รายวิชา ท ๑๑๑๐๑) เวลา ๑๑ ชวั่ โมง ชอ่ื หนว่ ยการเรยี นรทู้ ี่ ๑๐ เพื่อนรใู้ จ เวลา ๑ ช่วั โมง เรือ่ ง อา่ นคิดวิเคราะห์เรื่อง ๑ สาระท่ี ๑ การอา่ น มาตรฐาน ท ๑.๑ ใช้กระบวนการอา่ นสรา้ งความรแู้ ละความคิดเพ่ือนาไปใชต้ ัดสนิ ใจ แก้ปญั หาในการดาเนิน ชีวิต และมนี ิสัยรักการอา่ น ตวั ชว้ี ัดและสาระการเรยี นรู้ สาระการเรยี นร้แู กนกลาง/ทอ้ งถ่นิ ตัวช้ีวัด ความรู้ (K) ทกั ษะ/กระบวนการ (P) คุณลักษณะ (A) ท ๑.๑ ป.๑/๑ อา่ นออกเสยี ง -หลกั การอา่ นออกเสยี ง -ฝกึ อ่านออกเสียงรอ้ ยแก้ว -อา่ นร้อยแกว้ และรอ้ ย คา คาคล้องจอง และข้อความ ร้อยแกว้ และรอ้ ยกรอง และร้อยกรอง กรองไดถ้ กู ตอ้ ง สั้นๆ -มีมารยาทในการอ่าน ท ๑.๑ ป.๑/๒ บอก -นยิ ามความหมายของ - ฝกึ ทกั ษะการอธบิ าย -สามารถอธบิ าย ความหมายของคา และ คา ความหมายของคา ความหมายของคา ข้อความท่ีอา่ น ท ๑.๑ ป.๑/๓ ตอบคาถาม -หลักการอา่ น -ฝกึ การอา่ นเรื่องสั้นๆ -สามารถตอบคาถามจาก เกี่ยวกับเรอื่ งที่อา่ น และตอบคาถามจากเรอื่ ง เร่อื ง -มีนสิ ัยรักการอา่ น ท ๑.๑ ป.๑/๔ เลา่ เรอื่ งย่อ -การเลา่ เรื่อง -ฝึกทักษะการเลา่ เรือ่ ง -สามารถการเล่าเรอื่ ง จากเร่อื งท่อี า่ น ท ๑.๑ ป.๑/๕ คาดคะเน - การคาดคะเน - ฝึกการคาดคะเน - คาดคะเนเหตุการณ์ได้ เหตกุ ารณจ์ ากเรอื่ งที่อา่ น เหตุการณ์ เหตุการณ์ ถูกต้อง ท ๑.๑ ป.๑/๖ อา่ นหนงั สอื -หลกั การอ่านจบั ใจความ -ฝึกสรปุ ความและขอ้ คิด -สรปุ ความรแู้ ละขอ้ คดิ ตามความสนใจอย่างสมา่ เสมอ จากการอา่ นเร่ือง และนาเสนอเร่อื งทอ่ี า่ น ท ๑.๑ ป.๑/๗ บอก -การอา่ นเครอ่ื งหมาย -ฝึกอา่ นเคร่อื งหมายหรือ -มีมารยาทในการอ่าน ความหมายของเคร่อื งหมาย หรือสญั ลักษณ์ สญั ลกั ษณ์ -มนี สิ ยั รักการอ่าน หรือสัญลกั ษณส์ าคัญท่ีมักพบ เหน็ ในชีวติ ประจาวนั ๘. มีมารยาท ในการอา่ น -มารยาทในการอ่าน -ฝกึ มารยาทในการอา่ น มีมารยาทในการอา่ น

สาระสาคัญ การอา่ นออกเสียงจะชว่ ยใหเ้ ราร้ไู ดว้ า่ เราสามารถออกเสียงคาและประโยคที่อา่ นถกู ต้องหรอื ไม่ เพอื่ จะ ได้ปรบั ปรุงการอา่ นให้ดขี ้ึน จุดประสงค์การเรยี นรู้ ๑. อา่ นเรอื่ ง “เพอ่ื นร้ใู จ” ได้ถูกต้อง ๒. เลา่ เร่ืองทเี่ ล่าได้ ๓. ตอบคาถามจากเรอ่ื งทอี่ ่านได้ ๔. คาดคะเนเหตกุ ารณจ์ ากเรอื่ งท่อี า่ น กจิ กรรมการเรียนรู้ ๘. ครูนานักเรยี นรอ้ งเพลง เพ่อื นลกู ช้าง เปน็ การทบทวน ๙. ครูใหน้ ักเรยี นบอกช่อื เพ่ือนและส่งิ ที่ปฏบิ ัตใิ นสง่ิ ท่ีดี อยา่ งไรบา้ ง ๓. ใหน้ กั เรยี นอา่ นคาในบทเรยี นชว่ ง เนอื้ เรื่อง และเรียนรคู้ าใหม่ ๕. ครูเขียนคาบนกระดานดาใหน้ กั เรียนอ่าน เพื่อหาคาตอบจากการอ่านในใจ ๗. ครกู าหนดเวลาให้นักเรยี นอา่ นในใจ แลว้ ตอบคาถามปากเปลา่ ๗. แบง่ กลมุ่ นักเรยี น ให้แต่ละกลุ่มเลือกประธาน เลขานกุ าร ร่วมกนั อภปิ รายสรุปประเด็นสาคัญของเร่อื ง เพือ่ นรู้ใจ นกั เรียนตวั แทนออกมาเลา่ เรือ่ งให้เพือ่ น ๆ ฟงั เนน้ มารยาทการฟงั และการอา่ น ส่ือ / แหลง่ เรยี นรู้ ลาดบั ท่ี รายการสือ่ กจิ กรรมที่ใช้ แหลง่ ท่ีไดม้ า ๑. เพลงเพอื่ นลูกช้าง เพม่ิ เตมิ ความชัดเจนในเนื้อหา ครูจัดเตรยี ม ครูจัดหา ๒. หนงั สอื เรยี น ชดุ หนังสือเรียน นกั เรยี นดูภาพและฝกึ อา่ น ครจู ัดทา ชุด ภาษาพาที ช้ัน ป. ๑ ครจู ดั ทา ๓. แบบบันทึกการสงั เกต สงั เกตพฤตกิ รรมระหว่างเรียน พฤติกรรม ๔. แบบบนั ทกึ การสังเกต สังเกตพฤตกิ รรม และผลงาน พฤตกิ รรม และผลงานระหว่าง ระหวา่ งเรยี น เรียน

การวดั ผลประเมนิ ผล กจิ กรรม-พฤตกิ รรมทป่ี ระเมิน เครื่องมอื ที่ใช้ใน วธิ กี ารประเมิน เกณฑ์การประเมนิ การประเมิน สงั เกตรายบุคคล รอ้ ยละ ๗๐ ขึ้นไป ๑. สังเกตพฤตกิ รรม แบบประเมนิ สงั เกตพฤติกรรม รอ้ ยละ ๗๐ ข้ึนไป และผลงานระหวา่ ง พฤติกรรม เรียน ๒. ประเมินพฤติกรรมและ แบบบนั ทึกการสังเกต ผลงานระหวา่ งเรียน พฤติกรรม และผลงาน ระหว่างเรียน

บันทึกขอ้ เสนอแนะของผบู้ ริหารหรอื ผู้ทไ่ี ดร้ บั มอบหมาย ……………………………………………………………………………………………………….………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………….………………………………………………… ลงช่อื …………………………………….. ( …………………………………. ) ตาแหนง่ ……………………… วนั ที่……เดอื น……………..พ.ศ………. บันทึกผลหลังกระบวนการจัดการเรยี นรู้ ผลการเรยี นรูท้ ่ีเกดิ ข้ึนกบั ผู้เรียน (เกง่ ดี มีสุข) ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………….…………………………………………………………………………………………………………………………… ปญั หา / อุปสรรค ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ข้อเสนอแนะ / แนวทางแก้ไข ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………….…………………………………………………………………………………………………………………………… ลงช่อื ……………………………….…ผู้สอน (………………..…………….) ตาแหนง่ ………………………………… ………../…………./…………

บัตรความรู้ เพือ่ นร้ใู จ ภผู า ตืน่ แต่ เช้า รีบ ไป ดู เพอ่ื นชา้ ง ท่ี อยู่ ใน คอก เพ่ือน ทั้ง สอง ยัง ไม่ ต่นื ใบโบก ยืน หลบั โยก ตวั เบาๆ แต่ ใบบัว นอนตะแคง ภูผา หัน หลงั กลบั จะ เดนิ ข้ึน บา้ น เสยี ง กระดงึ แกว่ง กระพรวน ส่าย ใบโบก ใบบัว ต่ืน แล้ว ภูผา เปดิ คอก ให้ เพ่ือน ช้างออก มา ภูผา จะ พา ใบโบก กบั ใบบัว ไปไหน ไปไหน กัน นะ

ทงั้ หมด เดนิ ออก จาก หมบู่ ้าน ไป ทาง ภูเขา เดิน ไป ไม่ ไกล นัก มี เนินดนิ อยู่ ข้างหน้า ใบโบก ใบบัว ชู งวง โบก หู แกว่ง หาง สง่ เสียง เอกิ๊ ๆ แอ๊กๆ ว่งิ ไป ทนั ที ภูผา ร้ใู จ เพ่ือนรัก พา มา กิน ดิน โป่ง เพอื่ นรกั ไม่ ชักช้า ใช้ งวง ดดู ดิน ปอ้ น เขา้ ปาก อรอ่ ยจังๆ ดนิ โป่ง รสเคม็ มี ประโยชน์ ทาให้ รา่ งกาย แข็งแรง และ โต เร็ว

ทั้งสอง กนิ อม่ิ แล้ว ใบโบก ใช้ หัว ดนั ภูผา สว่ น ใบบวั ดึง แขน ภูผา ไป ที่ เนินดนิ เหมอื น จะ บอก วา่ อรอ่ ย ๆ กิน สิ ๆ ภผู า หัวเราะ บอก วา่ ไมก่ นิ ๆ คน กนิ ข้าว ไม่ กนิ ดนิ โปง่

เพ่อื นลูกช้าง เด็ก เด็ก เปน็ เพ่อื น ลูกช้าง ลกู ช้าง เปน็ เพ่ือน เดก็ เด็ก ลูกช้าง แม้ ตัว ยงั เลก็ แต่ เดก็ เดก็ ตวั เล็ก กว่า ลูกชา้ ง

แผนการจดั การเรียนรูท้ ่ี ๑๐.๓ ชัน้ ประถมศึกษาปที ่ี ๑ กล่มุ สาระการเรยี นรู้ภาษาไทย (รายวิชา ท ๑๑๑๐๑) เวลา ๑๑ ชวั่ โมง ชอื่ หน่วยการเรียนร้ทู ่ี ๑๐ เพ่อื นรใู้ จ เวลา ๑ ชว่ั โมง เรอ่ื ง อ่านคดิ วเิ คราะห์เร่อื ง ๒ สาระท่ี ๑ การอา่ น มาตรฐาน ท ๑.๑ ใชก้ ระบวนการอา่ นสร้างความรแู้ ละความคิดเพ่ือนาไปใชต้ ัดสนิ ใจ แก้ปญั หาในการดาเนนิ ชวี ิต และมีนสิ ยั รกั การอา่ น ตัวชว้ี ัดและสาระการเรียนรู้ สาระการเรยี นรแู้ กนกลาง/ทอ้ งถ่ิน ตัวชี้วัด ความรู้ (K) ทกั ษะ/กระบวนการ (P) คณุ ลกั ษณะ (A) ท ๑.๑ ป.๑/๑ อ่านออกเสยี ง -หลักการอา่ นออกเสยี ง -ฝกึ อา่ นออกเสยี งรอ้ ยแก้ว -อา่ นรอ้ ยแกว้ และรอ้ ย คา คาคลอ้ งจอง และขอ้ ความ ร้อยแกว้ และรอ้ ยกรอง และร้อยกรอง กรองไดถ้ ูกตอ้ ง ส้ันๆ -มมี ารยาทในการอา่ น ท ๑.๑ ป.๑/๒ บอก -นยิ ามความหมายของ - ฝึกทักษะการอธิบาย -สามารถอธบิ าย ความหมายของคา และ คา ความหมายของคา ความหมายของคา ข้อความท่ีอ่าน ท ๑.๑ ป.๑/๓ ตอบคาถาม -หลกั การอา่ น -ฝึกการอา่ นเรือ่ งส้ันๆ -สามารถตอบคาถามจาก เกย่ี วกบั เร่ืองที่อา่ น และตอบคาถามจากเรอ่ื ง เรอ่ื ง -มีนสิ ยั รกั การอา่ น ท ๑.๑ ป.๑/๔ เลา่ เร่อื งย่อ -การเล่าเรื่อง -ฝกึ ทักษะการเล่าเรือ่ ง -สามารถการเล่าเรอ่ื ง จากเรอ่ื งท่ีอา่ น ท ๑.๑ ป.๑/๕ คาดคะเน - การคาดคะเน - ฝึกการคาดคะเน - คาดคะเนเหตกุ ารณไ์ ด้ เหตุการณ์จากเรอ่ื งท่อี ่าน เหตุการณ์ เหตุการณ์ ถกู ตอ้ ง ท ๑.๑ ป.๑/๖ อ่านหนังสอื -หลกั การอา่ นจับใจความ -ฝึกสรุปความและข้อคิด -สรปุ ความร้แู ละขอ้ คิด ตามความสนใจอยา่ งสม่าเสมอ จากการอ่านเร่ือง และนาเสนอเรื่องท่อี า่ น ท ๑.๑ ป.๑/๗ บอก -การอ่านเครอ่ื งหมาย -ฝึกอา่ นเครือ่ งหมายหรอื -มมี ารยาทในการอ่าน ความหมายของเครอ่ื งหมาย หรือสัญลักษณ์ สญั ลกั ษณ์ -มนี ิสัยรกั การอา่ น หรอื สัญลักษณส์ าคญั ทม่ี ักพบ เหน็ ในชวี ติ ประจาวนั ๘. มมี ารยาท ในการอา่ น -มารยาทในการอา่ น -ฝกึ มารยาทในการอา่ น มีมารยาทในการอ่าน

สาระสาคัญ การอ่านออกเสยี งจะช่วยใหเ้ รารู้ไดว้ ่าเราสามารถออกเสยี งคาและประโยคที่อ่านถกู ตอ้ งหรือไม่ เพือ่ จะ ไดป้ รบั ปรงุ การอ่านให้ดขี ้ึน จุดประสงค์การเรียนรู้ ๑. เล่าเร่ืองยอ่ ทอ่ี ่านได้ ๒. ตอบคาถามจากเรอ่ื งทอ่ี ่านได้ ๓. อ่านหนงั สอื ตามความสนใจอย่างสมา่ เสมอและนาเสนอเรอ่ื งท่ีอา่ น ๔. มมี ารยาท ในการอา่ น กิจกรรมการเรยี นรู้ ๓. ครใู หน้ กั เรยี นรอ้ งเพลง เพอ่ื นลูกช้าง เป็นการทบทวน ๒. ครูให้นักเรียนบอกชื่อเพ่ือนของตนและนาภาพถ่ายเพ่ือนมาให้ดแู ละการทากิจกรรมร่วมกัน ( ครบู อก ล่วงหนา้ ) ๓. ครสู ุ่มให้นกั เรียนออกมาเลา่ หน้าชัน้ ๔. ครูอา่ นนาใหน้ กั เรียนอา่ นตามในบทเรยี นชว่ ง เนือ้ เร่อื ง หน้า ๑๑๑-๑๑๒ จนคล่อง ๕. ครูเขยี นคาบนกระดานดาให้นักเรียนอ่าน เพอื่ หาคาตอบจากการอ่านในใจ ๖. ครูกาหนดเวลาใหน้ ักเรยี นอา่ นในใจตวั แทนออกมาเลา่ เรือ่ งให้เพ่ือน ๆ ฟงั ๗. นกั เรยี นเข้ากลุ่มเดมิ ร่วมกันคดิ ตอบคาถามจากเร่อื ง เพื่อนร้ใู จ โดยครูอ่านใหฟ้ งั แล้วส่งตัวแทน ออกมาตอบคาถามเรอ่ื งจนครบทุกขอ้ ๘. ครูมอบหมายให้นักเรียนไปอ่านเร่อื ง เพอ่ื นรู้ใจ เปน็ การบา้ น สื่อ / แหลง่ เรียนรู้ กิจกรรมทใี่ ช้ แหลง่ ทีไ่ ด้มา ลาดับที่ รายการสอ่ื เพ่มิ เติมความชัดเจนในเนอ้ื หา ครูจดั เตรียม ๑. เพลงและภาพเพือ่ น ครจู ัดหา ๒. หนงั สอื เรียน ชุด ภาษาพาที นกั เรยี นดภู าพและฝึกอา่ น ครจู ดั ทา ชน้ั ป. ๑ ครจู ดั ทา ๓. แบบบนั ทกึ การสงั เกต สังเกตพฤติกรรมระหวา่ งเรียน พฤติกรรม ๔. แบบบนั ทกึ การสงั เกต สงั เกตพฤติกรรม และผลงาน พฤติกรรม และผลงานระหว่าง ระหว่างเรียน เรยี น

การวดั ผลประเมนิ ผล กจิ กรรม-พฤตกิ รรมทป่ี ระเมิน เครื่องมอื ที่ใช้ใน วธิ กี ารประเมิน เกณฑ์การประเมนิ การประเมิน สงั เกตรายบุคคล รอ้ ยละ ๗๐ ขึ้นไป ๑. สังเกตพฤตกิ รรม แบบประเมนิ สงั เกตพฤติกรรม รอ้ ยละ ๗๐ ข้ึนไป และผลงานระหวา่ ง พฤติกรรม เรียน ๒. ประเมินพฤติกรรมและ แบบบนั ทึกการสังเกต ผลงานระหวา่ งเรียน พฤติกรรม และผลงาน ระหว่างเรียน

บันทึกขอ้ เสนอแนะของผู้บริหารหรือผทู้ ี่ไดร้ บั มอบหมาย ……………………………………………………………………………………………………….………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………….………………………………………………… ลงช่ือ…………………………………….. ( …………………………………. ) ตาแหน่ง……………………… วนั ท่ี……เดอื น……………..พ.ศ………. บันทึกผลหลงั กระบวนการจดั การเรียนรู้ ผลการเรียนรู้ท่ีเกิดขึน้ กับผู้เรยี น (เกง่ ดี มีสุข) ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………….…………………………………………………………………………………………………………………………… ปญั หา / อปุ สรรค ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ข้อเสนอแนะ / แนวทางแกไ้ ข ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………….…………………………………………………………………………………………………………………………… ลงช่ือ ……………………………….…ผสู้ อน (………………..…………….) ตาแหนง่ ………………………………… ………../…………./…………

บัตรความรู้ เพือ่ นร้ใู จ ภผู า ตืน่ แต่ เช้า รีบ ไป ดู เพอื่ นชา้ ง ท่ี อยู่ ใน คอก เพอ่ื น ทั้ง สอง ยัง ไม่ ต่นื ใบโบก ยืน หลบั โยก ตวั เบาๆ แต่ ใบบัว นอนตะแคง ภูผา หัน หลงั กลบั จะ เดนิ ข้ึน บา้ น เสยี ง กระดงึ แกว่ง กระพรวน ส่าย ใบโบก ใบบัว ต่ืน แล้ว ภูผา เปิด คอก ให้ เพอ่ื น ช้างออก มา ภูผา จะ พา ใบโบก กบั ใบบัว ไปไหน ไปไหน กัน นะ

ทงั้ หมด เดนิ ออก จาก หมบู่ ้าน ไป ทาง ภูเขา เดิน ไป ไม่ ไกล นัก มี เนินดนิ อยู่ ข้างหน้า ใบโบก ใบบัว ชู งวง โบก หู แกว่ง หาง สง่ เสียง เอกิ๊ ๆ แอ๊กๆ ว่งิ ไป ทนั ที ภูผา ร้ใู จ เพ่ือนรัก พา มา กิน ดิน โป่ง เพอื่ นรกั ไม่ ชักช้า ใช้ งวง ดดู ดิน ปอ้ น เขา้ ปาก อรอ่ ยจังๆ ดนิ โป่ง รสเคม็ มี ประโยชน์ ทาให้ รา่ งกาย แขง็ แรง และ โต เร็ว

ทั้งสอง กนิ อม่ิ แล้ว ใบโบก ใช้ หัว ดนั ภูผา สว่ น ใบบวั ดึง แขน ภูผา ไป ที่ เนินดนิ เหมอื น จะ บอก วา่ อรอ่ ย ๆ กิน สิ ๆ ภผู า หัวเราะ บอก วา่ ไมก่ นิ ๆ คน กนิ ข้าว ไม่ กนิ ดนิ โปง่

บตั รกิจกรรม คาชแ้ี จง ใหน้ กั เรยี นอ่านเรอ่ื ง แล้วตอบคาถามต่อไปนี้ ๑. ถา้ มีเสยี งกระดึงและเสยี งกระพรวนแสดงว่าช้างเป็นอย่างไร …………………………………………………………………………………………………………… ๒. อวยั วะของช้างส่วนใดทท่ี าหนา้ ท่ีดดู ดนิ เขา้ ปาก …………………………………………………………………………………………………………… ๓. ชา้ งไดก้ ินดนิ โป่งแล้วเปน็ อย่างไร …………………………………………………………………………………………………………… ๔. ดนิ โปง่ มรี สและประโยชน์อยา่ งไร …………………………………………………………………………………………………………… ๕. เรื่องเพื่อนรูใ้ จนักเรยี นมีความรสู้ ึกอย่างไรเพือ่ น …………………………………………………………………………………………………………… เฉลยบัตรกิจกรรม ๑. ตื่นแลว้ ๒. งวง ๓. อร่อย ๔. เคม็ ทาใหแ้ ข็งแรง ๕. รักเพื่อน ( อยใู่ นดุลพนิ จิ ของคร)ู

เพอื่ นลกู ชา้ ง เดก็ เด็ก เปน็ เพ่อื น ลูกช้าง ลกู ช้าง เป็น เพือ่ น เดก็ เด็ก ลูกช้าง แม้ ตัว ยงั เล็ก แต่ เด็ก เดก็ ตวั เลก็ กว่า ลูกชา้ ง

แผนการจัดการเรียนรูท้ ่ี ๑๐.๔ ชั้นประถมศกึ ษาปที ่ี ๑ กลุ่มสาระการเรียนรภู้ าษาไทย (รายวชิ า ท ๑๑๑๐๑) เวลา ๑๑ ช่ัวโมง ชือ่ หน่วยการเรยี นรู้ที่ ๑๐ เพือ่ นรู้ใจ เวลา ๑ ช่วั โมง เรอ่ื ง อ่านผันวรรณยกุ ต์ สาระที่ ๑ การอา่ น มาตรฐาน ท ๑.๑ ใช้กระบวนการอา่ นสรา้ งความรแู้ ละความคดิ เพ่อื นาไปใชต้ ดั สินใจ แกป้ ัญหาในการดาเนนิ ชีวติ และมนี ิสยั รกั การอา่ น สาระการเรียนรแู้ กนกลาง/ทอ้ งถ่ิน ตัวชี้วัด ความรู้ (K) ทกั ษะ/กระบวนการ (P) คณุ ลักษณะ (A) ท ๑.๑ ป.๑/๑ อา่ นออกเสียง คา คาคล้องจอง และข้อความ -หลักการอา่ นออกเสยี ง -ฝึกอ่านออกเสยี งรอ้ ยแกว้ -อ่านร้อยแกว้ และรอ้ ย สน้ั ๆ ท ๑.๑ ป.๑/๒ บอก ร้อยแก้วและรอ้ ยกรอง และรอ้ ยกรอง กรองไดถ้ ูกตอ้ ง ความหมายของคา และ ขอ้ ความทีอ่ ่าน -มีมารยาทในการอ่าน -นยิ ามความหมายของ - ฝกึ ทักษะการอธบิ าย -สามารถอธิบาย คา ความหมายของคา ความหมายของคา สาระท่ี ๔ หลักการใช้ภาษาไทย มาตรฐาน ท ๔.๑ เขา้ ใจธรรมชาติของภาษาและหลกั ภาษาไทย การเปลยี่ นแปลงของภาษาและพลังของภาษา ภมู ิปัญญาทางภาษา และรกั ษาภาษาไทยไวเ้ ปน็ สมบตั ขิ องชาติ สาระการเรยี นรแู้ กนกลางทอ้ งถนิ่ ตัวชวี้ ัด ความรู้ (K) ทักษะ/กระบวนการ (P) คุณลกั ษณะ (A) ท ๔.๑ ป.๑/๑ บอกและ -ชอ่ื และการเขยี นตัว -ฝกึ ทกั ษะการเขยี น -สามารถใช้ได้ เขียนพยญั ชนะ สระ วรรณยุกตแ์ ละเลขไทย อกั ษรไทยและเลขไทย พยญั ชนะ สระ วรรณยุกต์ ถูกต้องและสวยงาม ท ๔.๑ ป.๑/๒ เขยี นสะกด คาและบอกความหมายของ และเลขไทย คา -หลกั การเขยี นสะกดคา -ฝึกการสะกดคาและบอก -สามารถสะกดคา ความหมายของคา และบอกวามหมาย ของคา

สาระสาคญั การอ่านออกเสียงจะช่วยให้เรารูไ้ ดว้ ่าเราสามารถออกเสยี งคาและประโยคท่ีอา่ นถกู ตอ้ งหรือไม่ เพอื่ จะ ไดป้ รบั ปรุงการอา่ นให้ดีขึน้ จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ ๑. อ่านออกเสียงผนั วรรณยกุ ต์ได้ชดั เจน ๒. บอกหลกั การผันความหมายของคา และขอ้ ความทีอ่ ่าน ๓. เขียนคาได้ถูกต้อง เป็นระเบียบ กิจกรรมการเรียนรู้ ๑. ครูทบทวนใหน้ กั เรยี นอา่ นแจกลกู จากคาท่ีเรียนมาแลว้ หนงั สือภาษาพาที ๒. ครูนานักเรยี นฝึกผนั เสยี งวรรณยกุ ต์ จากหนงั สือภาษาพาที หนา้ ๑๑๓ ตามครู จนนักเรยี นอา่ น ไดค้ ลอ่ ง ๓. นักเรยี นจับคู่กัน (เปลีย่ นคู่ใหม)่ ฝกึ อ่านผันวรรณยกุ ต์จากหนงั สอื ภาษาพาที จนคล่อง โดยให้เพอ่ื นไดบ้ อกถา้ อา่ นไมถ่ ูก ๔. นักเรียนฝึกอ่านสะกดคาตามบัตรกิจกรรมที่ ๑ อ่านรายบุคคลและเปน็ ค่จู นคล่อง ๕. นกั เรียนรว่ มกนั อภิปรายถงึ ความหมายของคา ๖. ครูตรวจและชมเชยคนท่อี า่ นได้ เขยี นถกู ส่ือ / แหลง่ เรยี นรู้ ลาดบั ที่ รายการสอื่ กจิ กรรมทใี่ ช้ แหลง่ ทไี่ ดม้ า ๑. บัตรกิจกรรม เพมิ่ เตมิ ความชัดเจนในเนอ้ื หา ครจู ัดเตรียม ๒. นกั เรียนดูภาพและฝกึ อ่าน ครูจัดหา หนงั สือเรียน ชุด ภาษาพาที ๓. ชัน้ ป. ๑ สงั เกตพฤติกรรมระหวา่ งเรียน ครจู ัดทา แบบบนั ทึกการสงั เกต ๔. พฤตกิ รรม สังเกตพฤติกรรม และผลงาน ครูจัดทา แบบบนั ทกึ การสงั เกต ระหวา่ งเรียน พฤตกิ รรม และผลงานระหว่าง เรียน

การวดั ผลประเมนิ ผล กจิ กรรม-พฤตกิ รรมทป่ี ระเมิน เครื่องมอื ที่ใช้ใน วธิ กี ารประเมิน เกณฑ์การประเมนิ การประเมิน สงั เกตรายบุคคล รอ้ ยละ ๗๐ ขึ้นไป ๑. สังเกตพฤตกิ รรม แบบประเมนิ สงั เกตพฤติกรรม รอ้ ยละ ๗๐ ข้ึนไป และผลงานระหวา่ ง พฤติกรรม เรียน ๒. ประเมินพฤติกรรมและ แบบบนั ทึกการสังเกต ผลงานระหว่างเรียน พฤติกรรม และผลงาน ระหว่างเรียน

บตั รกิจกรรม ขำ้ ผ้ี คาชี้แจง ใหน้ กั เรยี นฝึกอา่ นสะกดคา หลายๆรอบใหค้ ลอ่ ง สู้ เข้ อ่านผนั วรรณยุกต์ แถ้ โห้ ขำ ข่ำ ถ้ือ ผี ผี่ เส้ีย สู สู่ เส้ือ เข เข่ ถ้ำ แถ แถ่ เขำ้ โห โห่ ถือ ถ่ือ หอ้ เสีย เสี่ย เหอ้ เสือ เสื่อ ถำ ถ่ำ เขำ เข่ำ หอ ห่อ เหอ เห่อ

บันทึกขอ้ เสนอแนะของผู้บริหารหรือผ้ทู ี่ไดร้ บั มอบหมาย ……………………………………………………………………………………………………….………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………….………………………………………………… ลงชอ่ื …………………………………….. ( …………………………………. ) ตาแหนง่ ……………………… วนั ที่……เดอื น……………..พ.ศ………. บันทึกผลหลงั กระบวนการจดั การเรียนรู้ ผลการเรียนรู้ท่ีเกิดขึน้ กับผู้เรยี น (เกง่ ดี มีสุข) ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………….…………………………………………………………………………………………………………………………… ปญั หา / อปุ สรรค ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ข้อเสนอแนะ / แนวทางแกไ้ ข ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………….…………………………………………………………………………………………………………………………… ลงช่อื ……………………………….…ผู้สอน (………………..…………….) ตาแหน่ง………………………………… ………../…………./…………

แผนการจัดการเรยี นรู้ที่ ๑๐.๕ ชัน้ ประถมศึกษาปีท่ี ๑ กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย (รายวิชา ท ๑๑๑๐๑) เวลา ๑๑ ช่วั โมง ชอ่ื หน่วยการเรยี นรู้ท่ี ๑๐ เพ่อื นรใู้ จ เวลา ๑ ชว่ั โมง เรอื่ ง อา่ นเขยี นเรยี นสะกด สาระท่ี ๑ การอ่าน มาตรฐาน ท ๑.๑ ใชก้ ระบวนการอา่ นสรา้ งความรแู้ ละความคิดเพอ่ื นาไปใชต้ ัดสินใจ แก้ปัญหาในการดาเนนิ ชีวิต และมีนิสยั รักการอา่ น ตวั ชว้ี ัดและสาระการเรยี นรู้ สาระการเรียนร้แู กนกลาง/ทอ้ งถิ่น ตัวช้วี ัด ความรู้ (K) ทกั ษะ/กระบวนการ (P) คุณลักษณะ (A) ท ๑.๑ ป.๑/๑ อา่ นออกเสยี ง -หลักการอ่านออกเสยี ง -ฝึกอ่านออกเสียงรอ้ ยแกว้ -อ่านร้อยแก้วและรอ้ ย คา คาคลอ้ งจอง และขอ้ ความ สน้ั ๆ ร้อยแกว้ และรอ้ ยกรอง และร้อยกรอง กรองได้ถกู ต้อง ท ๑.๑ ป.๑/๒ บอก ความหมายของคา และ -มีมารยาทในการอ่าน ขอ้ ความทีอ่ ่าน -นยิ ามความหมายของ - ฝึกทักษะการอธบิ าย -สามารถอธบิ าย คา ความหมายของคา ความหมายของคา สาระที่ ๒ การเขยี น มาตรฐาน ท ๒.๑ ใชก้ ระบวนการเขยี นเขียนส่ือสาร เขยี นเรียงความ ย่อความ และเขียนเรื่องราวในรูปแบบ ตา่ งๆ เขียนรายงานข้อมูลสารสนเทศและรายงานการศึกษาค้นควา้ อย่างมีประสทิ ธภิ าพ ตวั ชีว้ ัดและสาระการเรยี นรู้ สาระการเรยี นรแู้ กนกลาง/ทอ้ งถ่ิน ตัวชว้ี ัด ความรู้ (K) ทกั ษะ/กระบวนการ (P) คุณลักษณะ (A) ท ๒.๑ ป.๑/๑ คดั ลายมือ -หลกั การเขยี นตัว -ฝกึ ทักษะคัดลายมือตวั -สามารถคดั ลายมือได้ ตวั บรรจงเต็มบรรทดั อกั ษรไทยและเลขไทย บรรจงเตม็ บรรทดั ถกู ต้องและสวยงาม ท ๒.๑ ป.๑/๒ เขยี นสื่อสาร -การเขียนสอ่ื สาร -ฝกึ ทักษะการเขียนคา -ใช้คาได้ถกู ตอ้ ง ด้วยคาและประโยคง่ายๆ และประโยค -มีมารยาทในการเขียน ท ๒.๑ ป.๑/๓. มมี ารยาท -มารยาทในการเขียน -ฝึกมารยาทในการเขียน -มมี ารยาทในการเขยี น ในการเขียน -มนี สิ ัยรักเขียน

สาระสาคญั การอ่านออกเสยี งจะช่วยให้เรารูไ้ ดว้ ่าเราสามารถออกเสียงคาและประโยคที่อา่ นถกู ต้องหรือไม่ เพื่อจะ ได้ปรบั ปรงุ การอา่ นให้ดีขึ้น และการเขยี นเปน็ พน้ื ฐานในการส่ือสาร จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้ ๑. อ่านสะกดคา ได้ ๒. เขยี นคาตามคาบอกไดถ้ ูกต้อง ๓. คัดลายมือตวั บรรจงเต็มบรรทัดได้ ๔. มนี ิสัยรักเขียน กจิ กรรมการเรยี นรู้ ๕. ครูให้นักเรียนอา่ นทอ่ งจาพยญั ชนะไทย ๔๔ ตวั สระและวรรณยกุ ต์จากป้ายนเิ ทศ ๖. ครนู านกั เรียนฝกึ อ่านสะกดคา จากบตั รกจิ กรรมท่ี ๑ โดยให้นักเรียนสังเกตพยัญชนะ เสียงสระ ๓. นักเรยี นจบั คกู่ นั ฝึกอ่านสะกดคาจากบตั รกิจกรรมจนคลอ่ ง ๔. นกั เรยี นฝกึ อา่ นสะกดคาเป็นรายบุคคล จากหนังสอื ภาษาพาที ๕. ครอู ่านใหน้ ักเรยี นเขยี นพยัญชนะและสระตามคาบอก ประมาณ ๑๐ ตัว ๖. ครูตรวจและชมเชยคนท่เี ขยี นถูกมากท่ีสุดและลายมือสวยงาม ๗. ให้นักเรียนฝึกเขียนพยัญชนะ สระ ในบตั รกจิ กรรมท่ี ๒ เปน็ การบา้ น ส่ือ / แหล่งเรยี นรู้ กจิ กรรมท่ใี ช้ แหล่งที่ได้มา ลาดบั ที่ รายการสื่อ เพ่มิ เตมิ ความชัดเจนในเน้อื หา ครจู ดั เตรียม ๑. บัตรกิจกรรม นักเรียนดภู าพและฝึกอา่ น ครูจดั หา ๒. หนงั สอื เรียน ชดุ ภาษาพาที ชั้น ป. ๑ ๓. แบบบันทึกการสงั เกต สงั เกตพฤตกิ รรมระหวา่ งเรยี น ครจู ัดทา พฤตกิ รรม ๔. แบบบนั ทกึ การสงั เกต สงั เกตพฤตกิ รรม และผลงาน ครูจดั ทา พฤตกิ รรม และผลงานระหวา่ ง ระหว่างเรียน เรียน

การวดั ผลประเมนิ ผล กจิ กรรม-พฤตกิ รรมทป่ี ระเมิน เครื่องมอื ที่ใช้ใน วธิ กี ารประเมิน เกณฑ์การประเมนิ การประเมิน สงั เกตรายบุคคล รอ้ ยละ ๗๐ ขึ้นไป ๑. สังเกตพฤตกิ รรม แบบประเมนิ สงั เกตพฤติกรรม รอ้ ยละ ๗๐ ข้ึนไป และผลงานระหวา่ ง พฤติกรรม เรียน ๒. ประเมินพฤติกรรมและ แบบบนั ทึกการสังเกต ผลงานระหวา่ งเรียน พฤติกรรม และผลงาน ระหว่างเรียน

บันทึกขอ้ เสนอแนะของผู้บริหารหรือผทู้ ไ่ี ด้รับมอบหมาย ……………………………………………………………………………………………………….………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………….………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………….………………………………………………… ลงช่ือ…………………………………….. ( …………………………………. ) ตาแหน่ง……………………… วนั ท่ี……เดือน……………..พ.ศ………. บันทึกผลหลงั กระบวนการจัดการเรยี นรู้ ผลการเรยี นร้ทู เี่ กิดข้นึ กับผู้เรยี น (เกง่ ดี มีสุข) ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………….…………………………………………………………………………………………………………………………… ปัญหา / อปุ สรรค ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ขอ้ เสนอแนะ / แนวทางแกไ้ ข ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………….…………………………………………………………………………………………………………………………… ลงชื่อ ……………………………….…ผู้สอน (………………..…………….) ตาแหนง่ ………………………………… ………../…………./…………

บตั รกิจกรรมที่ ๑ คาชีแ้ จง ให้นักเรยี นฝึกอา่ นสะกดคาจาก เรื่อง เพอื่ นร้ใู จ หลายรอบให้คลอ่ ง อา่ นสะกดคา ชา้ พยัญชนะ สระ วรรณยุกต์ สะกด อา่ นวา่ ช _า ้ ชอ – อา – ชา – ไมโ้ ท ช้า ชา้ ง พยัญชนะ สระ ตวั สะกด วรรณยุกต์ สะกด ช _า ง ้ ชอ – อา –งอ - ชาง – ไมโ้ ท อา่ นว่าช้าง มอง พยญั ชนะ สระ ตัวสะกด สะกดว่า อา่ น ว่า ม _อ ง มอ – ออ – งอ มอง

บตั รกิจกรรมท่ี ๒ คาชแ้ี จง ใหน้ ักเรียนฝึกเขยี นพยญั ชนะจาก เรื่อง เพื่อนรใู้ จ แล้วฝึกเขียนคาตามแบบต่อไปนี้ เขียนสะกดคำ ช้า ช้า ช้า ชา้ ช้า ชา้ ช้าง ช้าง ช้าง ชา้ ง ช้าง ช้าง มอง มอง มอง มอง มอง เลย้ี ง เล้ียง เลี้ยง เลีย้ ง เล้ยี ง ป้อน ป้อน ปอ้ น ปอ้ น ป้อน ป้อน เพอ่ื น เพอื่ น เพือ่ น เพื่อน โรงเรียน โรงเรียน โรงเรยี น โรงเรียน

แผนการจัดการเรยี นร้ทู ่ี ๑๐.๖ ชน้ั ประถมศึกษาปีที่ ๑ กล่มุ สาระการเรยี นรูภ้ าษาไทย (รายวชิ า ท ๑๑๑๐๑) เวลา ๑๑ ชั่วโมง ช่ือหน่วยการเรยี นรู้ที่ ๑๐ เพอื่ นรใู้ จ เวลา ๑ ชวั่ โมง เรือ่ ง อ่านเขียนเรียนสะกดตามแม่สะกด สาระท่ี ๑ การอา่ น มาตรฐาน ท ๑.๑ ใช้กระบวนการอา่ นสรา้ งความรูแ้ ละความคดิ เพ่อื นาไปใชต้ ัดสินใจ แกป้ ัญหาในการดาเนนิ ชีวติ และมีนิสยั รักการอา่ น ตัวช้ีวัดและสาระการเรียนรู้ สาระการเรียนร้แู กนกลาง/ท้องถ่นิ ตัวชว้ี ัด ความรู้ (K) ทักษะ/กระบวนการ (P) คณุ ลกั ษณะ (A) ท ๑.๑ ป.๑/๑ อา่ นออกเสียง -หลกั การอ่านออกเสยี ง -ฝกึ อ่านออกเสียงร้อยแก้ว -อา่ นรอ้ ยแกว้ และร้อย คา คาคล้องจอง และข้อความ สัน้ ๆ ร้อยแกว้ และร้อยกรอง และร้อยกรอง กรองไดถ้ ูกต้อง ท ๑.๑ ป.๑/๒ บอก ความหมายของคา และ -มมี ารยาทในการอา่ น ขอ้ ความที่อา่ น -นิยามความหมายของ - ฝกึ ทักษะการอธบิ าย -สามารถอธบิ าย คา ความหมายของคา ความหมายของคา สาระท่ี ๒ การเขยี น มาตรฐาน ท ๒.๑ ใชก้ ระบวนการเขียนเขียนสื่อสาร เขยี นเรียงความ ยอ่ ความ และเขยี นเร่อื งราวในรูปแบบ ตา่ งๆ เขียนรายงานขอ้ มลู สารสนเทศและรายงานการศึกษาค้นควา้ อย่างมปี ระสิทธภิ าพ ตัวชี้วัดและสาระการเรียนรู้ สาระการเรียนรูแ้ กนกลางทอ้ งถนิ่ ตัวชี้วัด ความรู้ (K) ทักษะ/กระบวนการ (P) คุณลกั ษณะ (A) ท ๒.๑ ป.๑/๑ คดั ลายมือ -หลักการเขยี นตัว -ฝึกทกั ษะคดั ลายมอื ตวั -สามารถคดั ลายมอื ได้ ตวั บรรจงเตม็ บรรทดั อักษรไทยและเลขไทย บรรจงเตม็ บรรทัด ถูกต้องและสวยงาม ท ๒.๑ ป.๑/๒ เขียนส่ือสาร -การเขียนส่ือสาร -ฝึกทกั ษะการเขียนคา -ใชค้ าได้ถูกตอ้ ง ด้วยคาและประโยคง่ายๆ และประโยค -มีมารยาทในการเขยี น ท ๒.๑ ป.๑/๓. มีมารยาท -มารยาทในการเขยี น -ฝึกมารยาทในการเขยี น -มีมารยาทในการเขยี น ในการเขียน -มนี สิ ยั รกั เขยี น

สาระสาคัญ การอา่ นออกเสยี งจะชว่ ยใหเ้ รารู้ไดว้ ่าเราสามารถออกเสยี งคาและประโยคท่ีอา่ นถกู ต้องหรอื ไม่ เพอ่ื จะ ได้ปรบั ปรงุ การอ่านให้ดีขนึ้ จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ ๑. อา่ นออกเสยี งคาในแม่สะกดในบทเรยี นได้ชัดเจน ๒. บอกความหมายของคา และข้อความทีอ่ ่าน ๓. คัดลายมอื ไดส้ วยงาม ถกู ต้อง เปน็ ระเบียบ ๔. มนี สิ ยั รักเขยี น กิจกรรมการเรียนรู้ ๑. ครทู บทวนให้นักเรียนอา่ นสะกดคาจากหนังสือภาษาพาที ๒. ครูนานกั เรยี นฝกึ อา่ นคา จากหนงั สอื ภาษาพาที หน้า ๑๑๖ ตามครู จนนักเรียนอ่านไดค้ ล่อง ๓. นกั เรยี นจบั คูก่ นั ฝกึ อา่ นคา จากหนังสอื ภาษาพาที จนคลอ่ ง โดยให้เพือ่ นไดบ้ อกถ้าอ่านไม่ถกู ๔. นกั เรยี นฝกึ อ่านคาตามบัตรกจิ กรรมที่ ๑ อ่านรายบุคคลและเปน็ คู่จนคล่อง ๕. ร่วมกันอภปิ รายถงึ ความหมายของคา ๖. ให้นกั เรียนฝกึ คัดลายมือสะกดคา ตามบัตรกจิ กรรมท่ี ๒ เปน็ รายบุคคล ๗. ครูตรวจและชมเชยคนท่ีคัดได้ลายมือสวยงาม

สอื่ / แหล่งเรยี นรู้ กิจกรรมทีใ่ ช้ แหล่งท่ไี ดม้ า เพ่ิมเตมิ ความชัดเจนในเน้อื หา ครูจัดเตรยี ม ลาดับท่ี รายการส่อื ๑. บตั รกิจกรรม ๒. หนงั สือเรียน ชดุ ภาษาพาที นักเรยี นดภู าพและฝกึ อา่ น ครจู ดั หา ชั้น ป. ๑ ๓. แบบบันทกึ การสงั เกต สังเกตพฤติกรรมระหวา่ งเรยี น ครูจดั ทา พฤติกรรม ๔. แบบบนั ทึกการสงั เกต สังเกตพฤตกิ รรม และผลงาน ครจู ัดทา พฤตกิ รรม และผลงานระหวา่ ง ระหว่างเรยี น เรียน การวดั ผลประเมนิ ผล กจิ กรรม-พฤตกิ รรมทป่ี ระเมนิ เคร่อื งมือท่ใี ชใ้ น วิธกี ารประเมนิ เกณฑก์ ารประเมนิ การประเมิน สังเกตรายบุคคล ร้อยละ ๗๐ ขึ้นไป ๑. สงั เกตพฤติกรรม แบบประเมนิ สงั เกตพฤติกรรม ร้อยละ ๗๐ ขน้ึ ไป และผลงานระหว่าง พฤติกรรม เรยี น ๒. ประเมินพฤตกิ รรมและ แบบบนั ทึกการสังเกต ผลงานระหว่างเรยี น พฤติกรรม และผลงาน ระหวา่ งเรยี น

บันทึกขอ้ เสนอแนะของผู้บรหิ ารหรอื ผู้ท่ไี ด้รบั มอบหมาย ……………………………………………………………………………………………………….………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………….………………………………………………… ลงชื่อ…………………………………….. ( …………………………………. ) ตาแหนง่ ……………………… วันที่……เดอื น……………..พ.ศ………. บันทึกผลหลังกระบวนการจัดการเรียนรู้ ผลการเรยี นรู้ทเี่ กิดขึน้ กับผู้เรยี น (เกง่ ดี มีสุข) ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………….…………………………………………………………………………………………………………………………… ปญั หา / อุปสรรค ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ข้อเสนอแนะ / แนวทางแกไ้ ข ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………….…………………………………………………………………………………………………………………………… ลงชือ่ ……………………………….…ผู้สอน (………………..…………….) ตาแหน่ง………………………………… ………../…………./…………

บตั รกิจกรรมที่ ๑ คาช้แี จง ให้นักเรียนฝกึ อา่ นสะกดคา หลายๆรอบใหค้ ลอ่ ง ฝกึ อา่ น ฝึกเขียนคา แม่ ก กา พา ชู น่ี เขา เมอ่ื ให้ ภผู า ใบบัว ทะแนะ ตัวโต ดใี จ แม่ กง ชา้ ง หาง จูง ฝูง ของ แยง่ เสยี งรอ้ ง สองข้าง กางมุ้ง กรงุ๋ กร๋งิ ว่ิงแขง่ แม่ กน กิน ดนิ แขน งาน เรยี น ป้อน ช่ืนบาน บา้ นเรอื น เพือ่ นเล่น เช่นกัน ฝันหวาน

บัตรกิจกรรมที่ ๒ คาช้ีแจง ใหน้ ักเรียนฝึกเขียนสะกดคา ลงในบตั รกิจกรรม เขียนคำ พา เม่ือ ให้ ภผู า ตัวโต ดีใจ ช้าง หาง กนิ บา้ นเรอื น เรียน กางม้งุ วิง่ แขง่ แขน

แผนการจัดการเรยี นรู้ที่ ๑๐.๗ ชั้นประถมศกึ ษาปีที่ ๑ กลมุ่ สาระการเรยี นรู้ภาษาไทย (รายวชิ า ท ๑๑๑๐๑) เวลา ๑๓ ช่ัวโมง ชื่อหน่วยการเรียนรทู้ ่ี ๑๐ เพือ่ นรใู้ จ เวลา ๑ ชว่ั โมง เร่ือง อ่านเขยี นเรียนประโยค สาระที่ ๑ การอา่ น มาตรฐาน ท ๑.๑ ใชก้ ระบวนการอ่านสร้างความรแู้ ละความคิดเพอื่ นาไปใช้ตดั สินใจ แกป้ ญั หาในการดาเนนิ ชีวิต และมนี สิ ัยรักการอา่ น ตวั ช้วี ัดและสาระการเรียนรู้ สาระการเรียนร้แู กนกลาง/ทอ้ งถน่ิ ตัวชี้วัด ความรู้ (K) ทกั ษะ/กระบวนการ (P) คุณลักษณะ (A) ท ๑.๑ ป.๑/๑ อ่านออกเสยี ง -หลกั การอ่านออกเสยี ง -ฝกึ อ่านออกเสียงรอ้ ยแก้ว -อา่ นร้อยแกว้ และร้อย คา คาคลอ้ งจอง และข้อความ สั้นๆ รอ้ ยแกว้ และรอ้ ยกรอง และรอ้ ยกรอง กรองได้ถกู ต้อง ท ๑.๑ ป.๑/๒ บอก ความหมายของคา และ -มมี ารยาทในการอา่ น ข้อความท่ีอา่ น -นิยามความหมายของ - ฝกึ ทักษะการอธิบาย -สามารถอธบิ าย คา ความหมายของคา ความหมายของคา สาระท่ี ๒ การเขยี น มาตรฐาน ท ๒.๑ ใชก้ ระบวนการเขยี นเขียนสอื่ สาร เขียนเรียงความ ยอ่ ความ และเขยี นเรื่องราวในรปู แบบ ต่างๆ เขยี นรายงานข้อมูลสารสนเทศและรายงานการศกึ ษาค้นคว้าอย่างมีประสทิ ธิภาพ ตวั ชว้ี ัดและสาระการเรียนรู้ สาระการเรียนรูแ้ กนกลางทอ้ งถิน่ ตัวช้ีวัด ความรู้ (K) ทกั ษะ/กระบวนการ (P) คุณลกั ษณะ (A) ท ๒.๑ ป.๑/๑ คัดลายมอื -หลกั การเขยี นตวั -ฝกึ ทกั ษะคัดลายมอื ตัว -สามารถคัดลายมอื ได้ ตวั บรรจงเต็มบรรทดั อกั ษรไทยและเลขไทย บรรจงเต็มบรรทัด ถกู ต้องและสวยงาม ท ๒.๑ ป.๑/๒ เขยี นส่ือสาร -การเขยี นส่ือสาร -ฝกึ ทกั ษะการเขียนคา -ใช้คาได้ถูกตอ้ ง ดว้ ยคาและประโยคง่ายๆ และประโยค -มีมารยาทในการเขียน ท ๒.๑ ป.๑/๓. มมี ารยาท -มารยาทในการเขียน -ฝึกมารยาทในการเขียน -มีมารยาทในการเขยี น ในการเขียน -มีนสิ ัยรกั เขียน

สาระสาคญั การอ่านออกเสียงจะช่วยให้เรารไู้ ด้วา่ เราสามารถออกเสยี งคาและประโยคท่ีอ่านถกู ต้องหรือไม่ เพือ่ จะ ได้ปรับปรุงการอา่ นให้ดขี ้นึ จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้ ๑. อา่ นออกเสียงประโยคในบทเรียนไดช้ ัดเจน ๒. บอกความหมายของประโยคคา และข้อความทอี่ ่าน ๓. คัดลายมอื ได้สวยงาม ถูกตอ้ ง เป็นระเบยี บ ๔. มีมารยาทและนสิ ัยรกั เขยี น กิจกรรมการเรียนรู้ ๑.ครูให้นกั เรียนอ่านแถบประโยค ท่ีครจู ดั เตรยี ม นกั เรยี นอา่ นพร้อมกนั ๒. ครนู านักเรยี นฝกึ อา่ นประโยคจากหนังสือภาษาพาที หนา้ ๑๑๖ ตามครู จนอ่านไดค้ ลอ่ ง ๓. นกั เรียนจบั ค่กู ันฝึกประโยค ( เปล่ียนคู่ใหม่ )คาจากหนงั สือภาษาพาที จนคลอ่ ง โดยใหเ้ พ่ือนได้บอกถ้าอ่านไมถ่ กู ๔. นกั เรยี นฝึกอ่านประโยคตามบตั รกจิ กรรมท่ี ๑ อา่ นรายบคุ คลและเปน็ คู่จนคล่อง ๕. ครูและนักเรียนร่วมกันอภิปรายถงึ ลกั ษณะของประโยค ๖. ใหน้ กั เรียนฝึกแต่งประโยคจากภาพ ตามบตั รกิจกรรมท่ี ๒ เปน็ รายบคุ คล ๘. ครูตรวจและชมเชยคนแตง่ ได้ดี สอ่ื / แหลง่ เรยี นรู้ ลาดบั ที่ รายการสื่อ กิจกรรมทีใ่ ช้ แหล่งท่ีได้มา ๑. บัตรกิจกรรม/แถบประโยค เพิ่มเติมความชัดเจนในเน้อื หา ครจู ัดเตรียม ๒. นกั เรียนดูภาพและฝกึ อ่าน ครูจัดหา หนังสอื เรียน ชุด ภาษาพาที ๓. ช้นั ป. ๑ สังเกตพฤติกรรมระหว่างเรยี น ครูจดั ทา แบบบนั ทึกการสงั เกต ๔. พฤติกรรม สังเกตพฤติกรรม และผลงาน ครูจดั ทา แบบบันทึกการสงั เกต ระหว่างเรียน พฤติกรรม และผลงานระหวา่ ง เรียน

การวดั ผลประเมนิ ผล กจิ กรรม-พฤตกิ รรมทป่ี ระเมิน เครื่องมอื ที่ใช้ใน วธิ กี ารประเมิน เกณฑ์การประเมนิ การประเมิน สงั เกตรายบุคคล รอ้ ยละ ๗๐ ขึ้นไป ๑. สังเกตพฤตกิ รรม แบบประเมนิ สงั เกตพฤติกรรม รอ้ ยละ ๗๐ ข้ึนไป และผลงานระหวา่ ง พฤติกรรม เรียน ๒. ประเมินพฤติกรรมและ แบบบนั ทึกการสังเกต ผลงานระหว่างเรียน พฤติกรรม และผลงาน ระหว่างเรียน

บันทึกขอ้ เสนอแนะของผู้บริหารหรือผ้ทู ่ไี ดร้ บั มอบหมาย ……………………………………………………………………………………………………….………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………….………………………………………………… ลงช่อื …………………………………….. ( …………………………………. ) ตาแหนง่ ……………………… วนั ที่……เดอื น……………..พ.ศ………. บันทึกผลหลงั กระบวนการจดั การเรียนรู้ ผลการเรียนรู้ท่ีเกิดขึน้ กับผู้เรียน (เก่ง ดี มีสุข) ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………….…………………………………………………………………………………………………………………………… ปญั หา / อปุ สรรค ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ข้อเสนอแนะ / แนวทางแกไ้ ข ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………….…………………………………………………………………………………………………………………………… ลงช่อื ……………………………….…ผู้สอน (………………..…………….) ตาแหน่ง………………………………… ………../…………./…………

บตั รกจิ กรรมท่ี ๑ คาชแี้ จง ให้นักเรยี นฝึกอา่ นประโยค หลายๆรอบให้ คล่อง ฝกึ อา่ นประโยค ชา้ ง กนิ ดินโป่ง ภูผา ไม่ กนิ ดินโป่ง เพื่อนชา้ ง ว่งิ ไป ทนั ที เสียง กระพรวน ดงั กรุ๋งกร๋ิง

บัตรกจิ กรรมที่ ๒ คาชีแ้ จง ให้นักเรยี นฝกึ แต่งประโยคจากภาพทีก่ าหนดให้ ๔ ประโยค ลงในบัตรกจิ กรรม เขียนประโยค ................................................ ................................................ ................................................ ................................................

แผนการจัดการเรียนรูท้ ่ี ๑๐.๘ ชั้นประถมศกึ ษาปที ่ี ๑ กลมุ่ สาระการเรียนร้ภู าษาไทย (รายวชิ า ท ๑๑๑๐๑) เวลา ๑๑ ช่ัวโมง ช่อื หนว่ ยการเรียนรู้ที่ ๑๐ เพอื่ นรใู้ จ เวลา ๑ ช่วั โมง เรอ่ื ง อ่านคลอ่ งรอ้ งเลน่ สาระท่ี ๑ การอา่ น มาตรฐาน ท ๑.๑ ใช้กระบวนการอา่ นสรา้ งความรแู้ ละความคดิ เพ่อื นาไปใชต้ ดั สินใจ แกป้ ัญหาในการดาเนนิ ชีวิต และมนี สิ ยั รักการอา่ น ตัวชี้วัดและสาระการเรยี นรู้ สาระการเรียนรแู้ กนกลาง/ทอ้ งถ่ิน ตัวช้ีวัด ความรู้ (K) ทกั ษะ/กระบวนการ (P) คณุ ลักษณะ (A) ท ๑.๑ ป.๑/๑ อ่านออกเสยี ง -หลกั การอา่ นออกเสยี ง -ฝึกอ่านออกเสยี งรอ้ ยแกว้ -อ่านร้อยแกว้ และรอ้ ย คา คาคล้องจอง และขอ้ ความ ส้นั ๆ รอ้ ยแก้วและรอ้ ยกรอง และรอ้ ยกรอง กรองไดถ้ ูกตอ้ ง ท ๑.๑ ป.๑/๒ บอก ความหมายของคา และ -มีมารยาทในการอ่าน ขอ้ ความท่อี า่ น -นยิ ามความหมายของ - ฝกึ ทักษะการอธบิ าย -สามารถอธิบาย คา ความหมายของคา ความหมายของคา สาระท่ี ๔ หลกั การใช้ภาษาไทย มาตรฐาน ท ๔.๑ เข้าใจธรรมชาติของภาษาและหลกั ภาษาไทย การเปลยี่ นแปลงของภาษาและพลังของภาษา ภมู ิปัญญาทางภาษา และรักษาภาษาไทยไวเ้ ปน็ สมบตั ขิ องชาติ สาระการเรยี นรแู้ กนกลางทอ้ งถนิ่ ตัวชว้ี ัด ความรู้ (K) ทักษะ/กระบวนการ (P) คุณลกั ษณะ (A) ท ๔.๑ ป.๑/๑ บอกและ -ชอื่ และการเขยี นตัว -ฝกึ ทกั ษะการเขยี น -สามารถใช้ได้ เขียนพยญั ชนะ สระ วรรณยุกต์และเลขไทย อักษรไทยและเลขไทย พยญั ชนะ สระ วรรณยุกต์ ถูกต้องและสวยงาม และเลขไทย ท ๔.๑ ป.๑/๒ เขยี นสะกด -หลกั การเขยี นสะกดคา -ฝึกการสะกดคาและบอก -สามารถสะกดคา คาและบอกความหมายของ ความหมายของคา และบอกวามหมาย คา ของคา

สาระสาคัญ การอา่ นคาและร้องเพลง “ดินโป่ง” เป็นการฝึกประสบการณท์ างภาษา ทง้ั ทาใหเ้ กิดความ สนกุ สนานในการเรยี น จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ ๑. อา่ นออกเสยี งคาและรอ้ งเพลงในบทเรยี นได้ชัดเจน ๒. ตอบคาถามได้ถูกตอ้ ง ๓. สามารถสะกดคาในบทเรยี นได้ ๔. สามารถเขยี นคาในบทเพลง ได้ถกู ต้อง กิจกรรมการเรียนรู้ ๑. ครใู ห้นกั เรียนร้องเพลงทเ่ี รยี นมาแลว้ สัก ๒ เพลง พรอ้ มปรบมอื เป็นจังหวะ ๒. นกั เรียนทุกคนทาทา่ ทางประกอบเพลงท่รี ้อง ๓. ครูตดิ แผนภมู ิบนกระดานดา “ บทอ่านคลอ่ ง ร้องเลน่ ” และนานกั เรียนอา่ น สัก ๓ รอบ ๔. นกั เรยี นฝกึ อา่ นออกเสียง ใน “ บทอา่ นคล่อง รอ้ งเล่น” ในหนังสอื ภาษาพาที หนา้ ๙ ๕. ใหน้ ักเรยี นแขง่ ขนั กนั อ่านออกเสยี ง บทเพลง “ ดนิ โป่ง” ๖. ครรู ้องเพลงหรอื เปดิ ซดี ี ใหน้ ักเรยี นฟงั และรอ้ งตามจนคล่อง และฝกึ ทาทา่ ทางประกอบ เพลงใหเ้ หมาะสม สวยงาม ๗. นักเรียนฝกึ เขียนขอ้ ความในแผนภมู ิ โดยหาคามาเตมิ ในชอ่ งว่างใหถ้ กู ต้องลงในบตั รกจิ กรรม ใครเขียนเสร็จกอ่ นและถกู ตอ้ งเปน็ ผู้ชนะ ๘. นกั เรยี นแต่ละคนอา่ นขอ้ ความในแผนภมู ิและคัดบทเพลงลงสมุด สอื่ / แหลง่ เรียนรู้ ลาดบั ที่ รายการสื่อ กิจกรรมทีใ่ ช้ แหล่งท่ไี ด้มา ๑. บตั รกิจกรรม/เพลง เพม่ิ เติมความชัดเจนในเนื้อหา ครจู ัดเตรยี ม ๒. หนังสือเรยี น ชุด ภาษาพาที นกั เรียนดภู าพและฝึกอ่าน ครูจัดหา ชั้น ป. ๑ ๓. แบบบนั ทึกการสงั เกต สงั เกตพฤติกรรมระหว่างเรียน ครจู ดั ทา พฤติกรรม ๔. แบบบันทึกการสังเกต สงั เกตพฤตกิ รรม และผลงาน ครจู ัดทา พฤติกรรม และผลงานระหว่าง ระหว่างเรียน เรียน