การวดั ผลประเมนิ ผล กจิ กรรม-พฤตกิ รรมทป่ี ระเมิน เครื่องมอื ที่ใช้ใน วธิ กี ารประเมิน เกณฑ์การประเมนิ การประเมิน สงั เกตรายบุคคล รอ้ ยละ ๗๐ ขึ้นไป ๑. สังเกตพฤตกิ รรม แบบประเมนิ สงั เกตพฤติกรรม รอ้ ยละ ๗๐ ข้ึนไป และผลงานระหวา่ ง พฤติกรรม เรียน ๒. ประเมินพฤติกรรมและ แบบบนั ทึกการสังเกต ผลงานระหวา่ งเรียน พฤติกรรม และผลงาน ระหว่างเรียน
บันทึกขอ้ เสนอแนะของผู้บริหารหรือผ้ทู ่ไี ดร้ บั มอบหมาย ……………………………………………………………………………………………………….………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………….………………………………………………… ลงชื่อ…………………………………….. ( …………………………………. ) ตาแหน่ง……………………… วนั ท่ี……เดอื น……………..พ.ศ………. บันทึกผลหลงั กระบวนการจดั การเรียนรู้ ผลการเรียนรู้ท่ีเกิดขึ้นกบั ผู้เรยี น (เก่ง ดี มสี ุข) ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………….…………………………………………………………………………………………………………………………… ปญั หา / อปุ สรรค ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ข้อเสนอแนะ / แนวทางแกไ้ ข ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………….…………………………………………………………………………………………………………………………… ลงชือ่ ……………………………….…ผสู้ อน (………………..…………….) ตาแหนง่ ………………………………… ………../…………./…………
บัตรกจิ กรรมท่ี ๑ คาชี้แจง ใหน้ ักเรียนฝึกอา่ นบทเพลง “ ดินโป่ง หลายๆรอบให้คลอ่ ง อ่านคล่อง ร้องเล่น ใบโบก ใบบวั เดนิ ทั่ว ในป่า ไปกบั ภผู า เท่ียวเดนิ เพลินใจ เจอกอง ดนิ โปง่ ตวั โก่ง วง่ิ ใส่ ดดู กนิ ช่นื ใจ อรอ่ ย จริงจรงิ อม่ิ แลว้ หนั มา ภผู า อย่าว่ิง รสดี จรงิ จริง กนิ อยา่ ง พวกเรา ภผู า ชอบใจ ไมก่ นิ หรอกเจ้า เพราะว่า คนเขา ไมก่ ิน ดนิ โปง่
บตั รกิจกรรมท่ี ๒ คาชี้แจง ให้นักเรยี นเติมคาในบทเพลง “ ดินโปง่ ” ใหถ้ ูกตอ้ ง ใบโบก ......... เดินทวั่ ในป่า ไปกบั ............. เท่ยี วเดิน เพลนิ ใจ เจอกอง ดินโป่ง .......... ว่งิ ใส่ ............ ช่ืนใจ อรอ่ ย จริงจรงิ อม่ิ แลว้ หันมา ภผู า ............. รสดี ............. กนิ อย่าง พวกเรา ภผู า ชอบใจ ........... หรอกเจา้ เพราะว่า คนเขา ........... ดินโป่ง
แผนการจดั การเรยี นรทู้ ่ี ๑๐.๙ ช้นั ประถมศึกษาปีที่ ๑ กลุ่มสาระการเรยี นรู้ภาษาไทย (รายวิชา ท ๑๑๑๐๑) เวลา ๑๑ ช่วั โมง ชอ่ื หนว่ ยการเรยี นรทู้ ี่ ๑๐ เพ่ือนร้ใู จ เวลา ๑ ช่ัวโมง เรอ่ื ง ฝึกสมองลองปัญญา สาระท่ี ๓ การฟัง การดู และการพูด มาตรฐาน ท ๓.๑ สามารถเลือกฟงั และดอู ย่างมีวจิ ารณญาณ และพดู แสดงความรู้ ความคดิ และความรสู้ กึ ใน โอกาสต่างๆ อย่างมีวจิ ารณญาณและสรา้ งสรรค์ ตัวชว้ี ัดและสาระการเรยี นรู้ สาระการเรียนร้แู กนกลางทอ้ งถน่ิ ตัวชีว้ ัด ความรู้ (K) ทกั ษะ/กระบวนการ (P) คณุ ลักษณะ (A) ท ๓.๑ ป.๑/๑ ฟังคาแนะนา -การฟงั คาแนะนา -ฝกึ ทกั ษะการฟัง -มีมารยาทในการฟัง คาส่ังงา่ ยๆ และปฏบิ ัติตาม คาสั่งงา่ ยๆ คาแนะนา คาสั่งง่ายๆ -ปฏบิ ตั ติ ามคาแนะนา และปฏบิ ัติตาม คาส่งั งา่ ยๆได้ ท ๓.๑ ป.๑/๒ ตอบคาถามและ -หลกั การตัง้ คาถาม -ฝกึ การตง้ั คาถามและ -สามารถต้งั คาถามและ เลา่ เรื่องที่ฟงั และดทู ง้ั ทีเ่ ป็น และตอบคาถาม ตอบคาถาม ตอบคาถาม ความร้แู ละความบนั เทงิ ท ๓.๑ ป.๑/๓ พูดแสดงความ -หลักการพูดแสดง -ฝึกการพูดความคิดเห็น -มมี ารยาทในการพูด คดิ เหน็ และความรู้สกึ จากเรอื่ งที่ ความคิดเห็นและ และความร้สู ึก ฟงั และดู ความรสู้ ึก สาระสาคัญ การฝึกคิดและพูด เป็นการวางพื้นฐานการใช้ภาษาไทยและสร้างคุณลักษณะที่ดีแกผ่ ู้เรียนจะชว่ ยให้ เกดิ ความเชอื่ มัน่ ทจ่ี ะใช้ภาษาได้ถูกตอ้ งมากข้ึน และสามารถพัฒนาทักษะการคิดและเกิดความสนุกสนาน จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้ ๑. ฟงั คาแนะนาและปฏบิ ตั ติ ามคาสั่งได้ ๒. ตอบคาถามและเลา่ เรอื่ งท่ฟี ังได้ กจิ กรรมการเรียนรู้ ๑. ครใู ห้นักเรยี นร้องเพลงท่ีเรยี นมาแล้ว พรอ้ มแสดงทา่ ทางประกอบเปน็ การทบทวน ๒. ครูลองทายปรศิ นาคาทายทนี่ ักเรยี นเคยรู้จกั มาแลว้
๓. นกั เรียนเลน่ ทายปรศิ นาคาทายทีเ่ คยรู้จัก แล้วใหเ้ พื่อนในชัน้ เรยี นตอบปริศนาคาทาย ( ครูให้ นกั เรียนหาปรศิ นามาลว่ งหนา้ ) ๕. ครูอ่านปริศนาคาทาย ในหน้า ๑๑๘ แล้วนามาเขียนลงในบตั รกิจกรรมที่ ๑ ๖. นกั เรยี นเข้ากลุม่ ๕ กลมุ่ มอบหมายให้นกั เรียนไปค้นคว้าปริศนาคาทาย ๘. ใหน้ กั เรียนตัวแทนกลมุ่ นาเสนอผลงาน ๙. ครแู ละนักเรียนสรปุ ประโยชนท์ ี่ไดร้ บั จากการทายปริศนาคาทาย ส่ือ / แหลง่ เรยี นรู้ ลาดับท่ี รายการสอ่ื กิจกรรมท่ีใช้ แหล่งท่ไี ด้มา ๑. บัตรกจิ กรรม/ภาพ/ปรศิ นาคา เพิ่มเติมความชัดเจนในเน้ือหา ครูจัดเตรียม ทาย ๒. หนังสือเรยี น ชุด ภาษาพาที นกั เรียนดูภาพและฝึกอ่าน ครูจัดหา ช้ัน ป. ๑ ๓. แบบบันทึกการสังเกต สงั เกตพฤติกรรมระหว่างเรียน ครูจัดทา พฤตกิ รรม ๔. แบบบนั ทึกการสังเกต สงั เกตพฤตกิ รรม และผลงาน ครูจดั ทา พฤติกรรม และผลงานระหว่าง ระหวา่ งเรียน เรียน การวัดผลประเมนิ ผล กิจกรรม-พฤติกรรมทป่ี ระเมิน เครอ่ื งมือทใ่ี ชใ้ น วิธีการประเมิน เกณฑ์การประเมนิ การประเมนิ สงั เกตรายบุคคล ร้อยละ ๗๐ ขนึ้ ไป ๑. สงั เกตพฤตกิ รรม แบบประเมนิ สงั เกตพฤติกรรม ร้อยละ ๗๐ ข้นึ ไป และผลงานระหวา่ ง พฤตกิ รรม เรยี น ๒. ประเมินพฤติกรรมและ แบบบนั ทกึ การสังเกต ผลงานระหวา่ งเรียน พฤติกรรม และผลงาน ระหวา่ งเรยี น
บันทึกขอ้ เสนอแนะของผ้บู ริหารหรอื ผทู้ ี่ได้รับมอบหมาย ……………………………………………………………………………………………………….………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………….………………………………………………… ลงชื่อ…………………………………….. ( …………………………………. ) ตาแหน่ง……………………… วันที่……เดอื น……………..พ.ศ………. บันทึกผลหลงั กระบวนการจัดการเรียนรู้ ผลการเรียนรู้ท่ีเกิดขึน้ กับผู้เรียน (เกง่ ดี มสี ุข) ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………….…………………………………………………………………………………………………………………………… ปญั หา / อปุ สรรค ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ข้อเสนอแนะ / แนวทางแกไ้ ข ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………….…………………………………………………………………………………………………………………………… ลงชื่อ ……………………………….…ผสู้ อน (………………..…………….) ตาแหนง่ ………………………………… ………../…………./…………
บตั รกจิ กรรมท่ี ๑ คาช้แี จง ครูอ่านปริศนาคาทายให้นกั เรียนตอบ เม่ือตอบ ไดท้ ุกขอ้ แล้วร่วมกนั แสดงความคดิ เหน็ ว่า มีอะไรบ้างที่ ชา้ งกนิ ได้ ก. ผลไมอ้ ะไร เนอ้ื ในสีแดง เปลือกเขียวแขง็ แรง เมล็ดสีดาๆ ............................................. ข. ผลไม้อะไร เปลือกเหลืองสดใส ปอกเห็นเนือ้ ใน ขาวนวลน่ากิน ……………………………. ค. ต้นอะไร มีใบที่ปลาย ตน้ เรียวปลอ้ งลาย เคี้ยว แลว้ คายกาก …………………………… ค. ผลไม้อะไร มีตารอบตัว มีจกุ บนหัว รสฉ่าชื่นใจ ………………………..
เฉลยบัตรกิจกรรมท่ี ๑ ก. ผลไม้อะไร เน้อื ในสีแดง เปลือกเขียวแข็งแรง เมล็ดสดี าๆ .................แตงโม............................ ข. ผลไมอ้ ะไร เปลือกเหลืองสดใส ปอกเหน็ เน้อื ใน ขาวนวลนา่ กิน ……………กล้วย………………. ค. ต้นอะไร มใี บท่ีปลาย ตน้ เรียวปลอ้ งลาย เคีย้ ว แลว้ คายกาก ……………ออ้ ย……………… ค. ผลไม้อะไร มตี ารอบตวั มีจกุ บนหัว รสฉา่ ชน่ื ใจ ……………สบั ปะรด…………..
แผนการจดั การเรยี นรู้ที่ ๑๐.๑๐ ชนั้ ประถมศึกษาปีท่ี ๑ กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย (รายวิชา ท ๑๑๑๐๑) เวลา ๑๑ ชว่ั โมง ชอ่ื หนว่ ยการเรยี นรู้ท่ี ๑๐ เพ่ือนรใู้ จ เวลา ๑ ชว่ั โมง เรอื่ ง พฒั นาทักษะการเขยี น สาระที่ ๒ การเขยี น มาตรฐาน ท ๒.๑ ใชก้ ระบวนการเขยี นเขยี นส่ือสาร เขียนเรยี งความ ย่อความ และเขียนเร่ืองราวในรปู แบบ ต่างๆ เขียนรายงานขอ้ มลู สารสนเทศและรายงานการศึกษาคน้ ควา้ อยา่ งมีประสทิ ธิภาพ สาระการเรยี นรู้แกนกลางทอ้ งถิน่ ตัวชวี้ ัด ความรู้ (K) ทกั ษะ/กระบวนการ (P) คณุ ลกั ษณะ (A) ท ๒.๑ ป.๑/๑ คัดลายมือ -หลักการเขียนตัว -ฝกึ ทกั ษะคดั ลายมอื ตวั -สามารถคดั ลายมือได้ ตวั บรรจงเตม็ บรรทัด อักษรไทยและเลขไทย บรรจงเต็มบรรทัด ถกู ตอ้ งและสวยงาม ท ๒.๑ ป.๑/๒ เขียนสื่อสาร -การเขียนส่ือสาร -ฝกึ ทักษะการเขยี นคา -ใช้คาได้ถกู ต้อง ด้วยคาและประโยคงา่ ยๆ และประโยค -มมี ารยาทในการเขยี น ท ๒.๑ ป.๑/๓. มมี ารยาท -มารยาทในการเขยี น -ฝึกมารยาทในการเขียน -มีมารยาทในการเขียน ในการเขียน -มนี สิ ัยรักเขียน สาระสาคญั การเขียน พยญั ชนะ สระ และคา จะนาไปสู่การแต่งประโยคและการบรรยาย เป็นการเพม่ิ พูนทักษะ การอา่ นและเขยี น เปน็ พ้นื ฐานในเรียนในช้นั สงู ตอ่ ไป จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้ ๑. คัดลายมอื พยญั ชนะ สระ และคาทอ่ี า่ น ในบทเรยี นได้ ๒. เขยี นส่ือสารด้วยคาและประโยคง่ายๆ ๓. มมี ารยาทในการเขียน กิจกรรมการเรยี นรู้ ๑. นกั เรยี นอา่ นทบทวน พยัญชนะ สระ และคา ท่เี รียนไปแลว้ ๒. โดยครูนานกั เรยี น ฝึกอา่ นคาและประโยค จากบัตรคาและแถบประโยคท่ีครูจัดเตรียมไว้ ๓. นักเรียนเขา้ กลุ่ม ๕ กลุ่ม ฝกึ อ่านคาและประโยค ทีค่ รูจัดเตรียมไวจ้ นคลอ่ ง ๔. จัดให้นักเรยี นแข่งขันการอา่ นคาและประโยค ครชู มเชยกลมุ่ ทอี่ า่ นไดด้ ที ่ีสดุ ๕. ครใู ห้นักเรียนฝกึ เขยี น คาและประโยค ท่ีครจู ัดเตรยี มไว้ให้ในบัตรกจิ กรรม ๖. มอบหมายใหน้ กั เรยี นฝึกคัดลายมอื คาและประโยค ทีน่ ักเรยี นสนใจ ๗. ครูตรวจและชมเชยคนท่คี ดั ได้ลายมือสวยงาม
สือ่ / แหลง่ เรยี นรู้ ลาดับที่ รายการส่อื กจิ กรรมท่ใี ช้ แหลง่ ท่ีไดม้ า ๑. บตั รกจิ กรรม/บัตรคา แถบ เพิ่มเตมิ ความชัดเจนในเนื้อหา ครจู ดั เตรยี ม ประโยค ๒. หนงั สือเรียน ชดุ ภาษาพาที นกั เรียนดภู าพและฝกึ อา่ น ครูจดั หา ชนั้ ป. ๑ ๓. แบบบันทึกการสังเกต สงั เกตพฤตกิ รรมระหว่างเรยี น ครูจัดทา พฤตกิ รรม ๔. แบบบนั ทึกการสงั เกต สงั เกตพฤตกิ รรม และผลงาน ครูจัดทา พฤตกิ รรม และผลงานระหว่าง ระหว่างเรยี น เรยี น การวดั ผลประเมินผล กจิ กรรม-พฤตกิ รรมท่ีประเมิน เครอื่ งมือท่ีใชใ้ น วิธีการประเมนิ เกณฑก์ ารประเมนิ การประเมนิ สังเกตรายบคุ คล รอ้ ยละ ๗๐ ข้ึนไป ๑. สงั เกตพฤติกรรม แบบประเมิน สังเกตพฤตกิ รรม ร้อยละ ๗๐ ขน้ึ ไป และผลงานระหวา่ ง พฤติกรรม เรยี น ๒. ประเมินพฤตกิ รรมและ แบบบันทกึ การสังเกต ผลงานระหว่างเรยี น พฤติกรรม และผลงาน ระหวา่ งเรียน
บันทึกขอ้ เสนอแนะของผู้บริหารหรือผ้ทู ่ไี ดร้ บั มอบหมาย ……………………………………………………………………………………………………….………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………….………………………………………………… ลงชอ่ื …………………………………….. ( …………………………………. ) ตาแหนง่ ……………………… วนั ท่ี……เดอื น……………..พ.ศ………. บันทึกผลหลงั กระบวนการจดั การเรียนรู้ ผลการเรียนรู้ท่ีเกิดขึน้ กับผู้เรยี น (เก่ง ดี มีสุข) ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………….…………………………………………………………………………………………………………………………… ปญั หา / อปุ สรรค ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ข้อเสนอแนะ / แนวทางแกไ้ ข ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………….…………………………………………………………………………………………………………………………… ลงช่อื ……………………………….…ผสู้ อน (………………..…………….) ตาแหนง่ ………………………………… ………../…………./…………
บัตรกจิ กรรม คาชีแ้ จง ใหน้ กั เรียนฝึกเขียนพยญั ชนะ สระ และคา ต่อไปนใี้ ห้สวยงาม ฝึกเขียนประโยคจากภาพ ................................................................... ................................................................... ................................................................... ...................................................................
แผนการจัดการเรียนรู้ท่ี ๑๐.๑๑ ชั้นประถมศกึ ษาปีที่ ๑ กลุ่มสาระการเรียนรภู้ าษาไทย (รายวิชา ท ๑๑๑๐๑) เวลา ๑๑ ชวั่ โมง ช่ือหนว่ ยการเรยี นรู้ท่ี ๑๐ เพ่อื นรใู้ จ เวลา ๑ ชั่วโมง เรอื่ ง สรุปองคค์ วามรู้ สาระท่ี ๑ การอ่าน มาตรฐาน ท ๑.๑ ใชก้ ระบวนการอา่ นสร้างความรแู้ ละความคดิ เพ่อื นาไปใชต้ ัดสนิ ใจ แกป้ ัญหาในการดาเนนิ ชวี ิต และมนี สิ ัยรกั การอ่าน ตัวช้ีวัดและสาระการเรยี นรู้ สาระการเรยี นรแู้ กนกลาง/ท้องถิ่น ตัวชี้วัด ความรู้ (K) ทักษะ/กระบวนการ (P) คุณลักษณะ (A) ท ๑.๑ ป.๑/๑ อ่านออกเสยี ง -หลักการอา่ นออกเสยี ง -ฝกึ อ่านออกเสยี งรอ้ ยแกว้ -อา่ นรอ้ ยแก้วและรอ้ ย คา คาคลอ้ งจอง และขอ้ ความ ส้ันๆ ร้อยแกว้ และร้อยกรอง และรอ้ ยกรอง กรองไดถ้ กู ต้อง ท ๑.๑ ป.๑/๒ บอก ความหมายของคา และ -มมี ารยาทในการอา่ น ข้อความทอ่ี ่าน ท ๑.๑ ป.๑/๓ ตอบคาถาม -นิยามความหมายของ - ฝกึ ทักษะการอธิบาย -สามารถอธิบาย เก่ยี วกับเร่อื งทอ่ี า่ น คา ความหมายของคา ความหมายของคา -หลักการอ่าน -ฝกึ การอา่ นเรอ่ื งส้นั ๆ -สามารถตอบคาถามจาก และตอบคาถามจากเรอื่ ง เรื่อง -มนี สิ ัยรกั การอา่ น สาระท่ี ๔ หลกั การใชภ้ าษาไทย มาตรฐาน ท ๔.๑ เข้าใจธรรมชาตขิ องภาษาและหลกั ภาษาไทย การเปลี่ยนแปลงของภาษาและพลังของภาษา ภูมปิ ัญญาทางภาษา และรกั ษาภาษาไทยไวเ้ ปน็ สมบัติของชาติ สาระการเรียนร้แู กนกลางทอ้ งถนิ่ ตัวช้ีวัด ความรู้ (K) ทักษะ/กระบวนการ (P) คุณลักษณะ (A) ท ๔.๑ ป.๑/๑ บอกและ -ช่ือและการเขียนตัว -ฝึกทกั ษะการเขยี น -สามารถใชไ้ ด้ เขยี นพยญั ชนะ สระ อักษรไทยและเลขไทย พยญั ชนะ สระ วรรณยุกต์ ถกู ต้องและสวยงาม วรรณยกุ ตแ์ ละเลขไทย และเลขไทย ท ๔.๑ ป.๑/๒ เขียนสะกด -หลักการเขยี นสะกดคา -ฝกึ การสะกดคาและบอก -สามารถสะกดคา คาและบอกความหมายของ ความหมายของคา และบอกวามหมาย คา ของคา
สาระสาคัญ การอ่านบทกวี บทเพลง จะชว่ ยให้นกั เรยี นรกั การอ่านและเกดิ นิสยั รักการอา่ นตามมาได้ จุดประสงคก์ ารเรียนรู้ ๑. อา่ นออกเสยี งคา คาคลอ้ งจอง และขอ้ ความสั้นๆ ในบทเรียนได้ ๒. บอกความหมายของคา และข้อความท่ีอ่านได้ ๓. ตอบคาถามเก่ยี วกบั เรอ่ื งทอ่ี ่าน ๔. เขียนสะกดคาได้ถูกตอ้ ง กิจกรรมการเรียนรู้ ๑. ครใู หน้ กั เรียนร้องเพลงดนิ โป่งและทาท่าประกอบ ๒. ครสู นทนาและใหค้ วามรเู้ กย่ี วกบั ดนิ โปง่ ๓. นักเรยี นเข้ากล่มุ ชว่ ยกันตงั้ และตอบคาถามจากเร่ืองทีอ่ ่าน ๔. ครนู าบตั รคาจากเรอื่ ง ดินโป่งแจกให้นักเรียน เม่ือครูอ่านคาใดให้นกั เรียนท่ีมีบัตรคาออกมายืน หนา้ ชั้นแล้วอา่ นออกเสียงให้เพื่อนฟงั พรอ้ มบอกความหมายของคาดว้ ย ๕. ให้นักเรียนวาดภาพประกอบเรื่อง เพ่ือนรู้ หรือบทเพลง พร้อมเขียนบรรยายภาพส้ัน ๆและ ระบายสใี ห้สวยงาม ทาลงในบตั รกิจกรรมนักเรียนรวบรวมผลงานส่งครู ๖. นักเรยี นทดสอบหลงั เรียน สอื่ / แหล่งเรียนรู้ ลาดับท่ี รายการส่อื กิจกรรมทใ่ี ช้ แหลง่ ทไ่ี ดม้ า ๑. บตั รคา/บตั รกจิ กรรม เพิม่ เตมิ ความชัดเจนในเนือ้ หา ครูจัดเตรียม ๒. นักเรยี นดภู าพและฝึกอา่ น ครจู ัดหา หนงั สือเรียน ชดุ ภาษาพาที ๓. ชนั้ ป. ๑ สงั เกตพฤติกรรมระหวา่ งเรยี น ครจู ดั ทา แบบบนั ทกึ การสังเกต ๔. พฤติกรรม สังเกตพฤตกิ รรม และผลงาน ครจู ัดทา แบบบนั ทกึ การสังเกต ระหวา่ งเรียน พฤตกิ รรม และผลงานระหว่าง เรียน
การวดั ผลประเมนิ ผล กจิ กรรม-พฤตกิ รรมท่ปี ระเมิน เคร่อื งมือทใี่ ช้ใน วิธกี ารประเมนิ เกณฑก์ ารประเมนิ การประเมนิ สงั เกตรายบคุ คล รอ้ ยละ ๗๐ ข้นึ ไป ๑. สงั เกตพฤตกิ รรม แบบประเมิน สังเกตพฤติกรรม รอ้ ยละ ๗๐ ขน้ึ ไป และผลงานระหวา่ ง พฤตกิ รรม เรียน สอบ ร้อยละ ๗๐ ข้ึนไป ๒. ประเมินพฤติกรรมและ แบบบันทึกการสังเกต ผลงานระหวา่ งเรยี น พฤตกิ รรม และผลงาน ระหว่างเรยี น ๓. การทดสอบความรคู้ วาม แบบทดสอบหลงั เรยี น เขา้ ใจ
บันทึกขอ้ เสนอแนะของผู้บริหารหรอื ผทู้ ีไ่ ดร้ บั มอบหมาย ……………………………………………………………………………………………………….………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………….………………………………………………… ลงช่อื …………………………………….. ( …………………………………. ) ตาแหนง่ ……………………… วนั ที่……เดอื น……………..พ.ศ………. บันทึกผลหลังกระบวนการจัดการเรียนรู้ ผลการเรียนรู้ที่เกิดขึ้นกับผู้เรียน (เกง่ ดี มีสุข) ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………….…………………………………………………………………………………………………………………………… ปญั หา / อุปสรรค ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ข้อเสนอแนะ / แนวทางแกไ้ ข ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………….…………………………………………………………………………………………………………………………… ลงช่อื ……………………………….…ผู้สอน (………………..…………….) ตาแหนง่ ………………………………… ………../…………./…………
แบบทดสอบก่อน-หลงั เรยี น คาช้แี จง ใหน้ ักเรยี นตอบคาถามในข้อต่อไปน้ี ๑. สง่ิ ใดบอกไดว้ า่ ใบโบก ใบบวั ต่นื แล้ว ……………………………………………… ๒. ภผู าพาใบโบก ใบบวั ……………………………………………… ๓. ดินโปร่งมีรสอะไร ใหป้ ระโยชนอ์ ะไรแก่ ช้าง ……………………………………………… ๔. ภผู ากบั ใบโบก ใบบัว มคี วามสมั พันธก์ นั อยา่ งไร ……………………………………………… ๕. ใบโบกใช้หัวดันภูผา ใบบัวดงึ แขน บอก บง่ ถงึ อะไร ………………………………………………
เฉลยข้อสอบก่อน-หลังเรียน ๑. เสียงกระดงึ และกระพรวน ๒. กนิ ดินโปรง่ ๓. รสเค็ม ทาใหร้ ่างกายแงแรง ๔. เพ่อื นกนั ๕. ชวนภผู ากนิ ดว้ ยกนั
แผนการจัดการเรยี นรู้ที่ ๑๑.๑ ช้ันประถมศึกษาปที ี่ ๑ เวลา ๑๓ ชั่วโมง กลุ่มสาระการเรียนร้ภู าษาไทย (รายวชิ า ท ๑๑๑๐๑) เวลา ๑ ชัว่ โมง ช่อื หน่วยการเรยี นรู้ท่ี ๑๑ ชา้ งน้อยน่ารกั เรือ่ ง รูจ้ กั คานาเร่ือง ๑ สาระท่ี ๓ การฟัง การดู และการพดู มาตรฐาน ท ๓.๑ สามารถเลอื กฟังและดอู ย่างมีวจิ ารณญาณ และพูดแสดงความรู้ ความคิด และความรู้สกึ ใน โอกาสต่างๆ อย่างมีวจิ ารณญาณและสร้างสรรค์ ตวั ชว้ี ัดและสาระการเรียนรู้ สาระการเรยี นรแู้ กนกลาง/ท้องถิน่ ตัวชี้วัด ความรู้ (K) ทกั ษะ/กระบวนการ (P) คุณลักษณะ (A) ท ๓.๑ ป.๑/๑ ฟงั คาแนะนา คาสัง่ งา่ ยๆ และปฏิบัติตาม -การฟังคาแนะนา -ฝกึ ทักษะการฟงั -มีมารยาทในการฟงั ท ๓.๑ ป.๑/๒ ตอบคาถามและ คาสั่งงา่ ยๆ คาแนะนา คาสั่งงา่ ยๆ -ปฏบิ ัติตามคาแนะนา เลา่ เรื่องที่ฟงั และดูทง้ั ทีเ่ ป็น ความรูแ้ ละความบนั เทิง และปฏิบัตติ าม คาสัง่ ง่ายๆได้ -หลกั การตง้ั คาถาม -ฝกึ การตง้ั คาถามและ -สามารถต้ังคาถามและ และตอบคาถาม ตอบคาถาม ตอบคาถาม ท ๓.๑ ป.๑/๓ พูดแสดงความ -หลักการพดู แสดง -ฝกึ การพูดความคดิ เห็น -มีมารยาทในการพูด คดิ เห็นและความรู้สกึ จากเร่ืองท่ี ความคิดเห็นและ และความร้สู ึก ฟังและดู ความร้สู กึ ท ๓.๑ ป.๑/๔ พูดสอ่ื สารได้ -การพดู ส่อื สาร -ฝกึ พดู สอ่ื สาร -มมี ารยาทในการพูด ตามวัตถปุ ระสงค์ ท ๓.๑ ป.๑/๕ มมี ารยาทในการ -มารยาทในการฟงั -ฝึกมารยาทในการฟงั มีมารยาทในการฟงั ฟัง การดู และการพดู การดู และการพดู การดู และการพดู การดู และการพดู
สาระสาคญั ทกั ษะการฟงั เป็นการสรา้ งประสบการณอ์ ย่างหน่งึ ท่ีทาใหม้ ีความรู้จากสงิ่ ทีฟ่ งั สามารถเล่าเรือ่ ง และตอบคาถามจากเรื่องไดถ้ ูกตอ้ ง จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้ ๑. ฟงั เร่ือง “ช้างน้อยน่ารกั ” แล้วตอบคาถามและเลา่ เรอ่ื งไดถ้ กู ตอ้ ง ๒. เล่าเรอ่ื งที่อ่านได้ถูกต้อง กจิ กรรมการเรียนรู้ ๑. ครแู จ้งตวั ช้ีวัด และทดสอบกอ่ นเรียน ๒. ครแู ละนักเรียนร่วมกันสนทนาเกยี่ วกับ การแสดงของช้างและงานชา้ งจังหวดั สุรนิ ทร์ โดยดรู ูปภาพ แลว้ โยงไปช่ือเรอ่ื ง “ชา้ งน้อยนา่ รกั ” ๓. ครรู ่วมกันสนทนาเกยี่ วกับภาพในบทเรียน ในหน้า ๑๒๒ ดงั น้ี ๔. นกั เรยี นฟังครูอา่ นเรอ่ื งหรือเลา่ เรือ่ ง “ชา้ งนอ้ ยนา่ รกั ” จากบทเรียนโดยเนน้ มารยาทใน การฟัง ๕. นักเรยี นทุกคนฝกึ อา่ นจากภาพจากบัตรความรู้ “รู้จกั คา นาความเรอ่ื ง” ตามครพู ร้อม กัน วา่ อา่ นอยา่ งไร จนคล่อง ๖. นกั เรยี นทบทวนบทเรียนโดยสมุ่ ให้นักเรียนอ่านคาจากเรือ่ ง ๗. มอบหมายให้นกั เรยี นไปฝึกอ่านคาจากหนังสือภาษาพาทีในชว่ ง “รจู้ ักคา นาความเร่อื ง” เป็นการบา้ น สอ่ื / แหล่งเรียนรู้ ลาดับท่ี รายการสอ่ื กิจกรรมท่ใี ช้ แหล่งทไ่ี ด้มา ๑. ภาพการแสดงของชา้ ง เพิม่ เติมความชัดเจนในเนอ้ื หา ครูจดั เตรยี ม ครจู ดั หา ๒. หนังสือเรียน ชุด ภาษาพาที นักเรียนดูภาพและฝึกอ่าน ครูจัดทา ชน้ั ป. ๑ ๓. แบบบันทึกการสงั เกต สงั เกตพฤติกรรม และผลงาน พฤตกิ รรม และผลงานระหวา่ ง ระหว่างเรียน เรียน
การวดั ผลประเมินผล กิจกรรม-พฤติกรรมทีป่ ระเมนิ เคร่ืองมอื ทใี่ ช้ใน วิธกี ารประเมิน เกณฑ์การประเมนิ การประเมิน สงั เกตรายบุคคล ร้อยละ ๗๐ ข้นึ ไป ๑. สังเกตพฤติกรรม แบบประเมนิ สังเกตพฤติกรรม รอ้ ยละ ๗๐ ขึน้ ไป และผลงานระหวา่ ง พฤติกรรม เรยี น สอบ รอ้ ยละ ๗๐ ข้ึนไป ๒. ประเมินพฤตกิ รรมและ แบบบนั ทึกการสงั เกต ผลงานระหวา่ งเรยี น พฤตกิ รรม และผลงาน ระหว่างเรียน ๓. ทดสอบวดั ความรู้ แบบทดสอบ ความสามารถ
บันทึกขอ้ เสนอแนะของผบู้ รหิ ารหรือผทู้ ี่ได้รับมอบหมาย ……………………………………………………………………………………………………….………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………….………………………………………………… ลงชื่อ…………………………………….. ( …………………………………. ) ตาแหน่ง……………………… วันที่……เดอื น……………..พ.ศ………. บันทึกผลหลงั กระบวนการจดั การเรียนรู้ ผลการเรียนรู้ท่ีเกิดข้ึนกับผู้เรยี น (เกง่ ดี มสี ุข) ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………….…………………………………………………………………………………………………………………………… ปญั หา / อปุ สรรค ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ข้อเสนอแนะ / แนวทางแก้ไข ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………….…………………………………………………………………………………………………………………………… ลงชื่อ ……………………………….…ผสู้ อน (………………..…………….) ตาแหนง่ ………………………………… ………../…………./…………
แผนการจดั การเรยี นรทู้ ่ี ๑๑.๒ ช้นั ประถมศกึ ษาปที ่ี ๑ กล่มุ สาระการเรียนรู้ภาษาไทย (รายวิชา ท ๑๑๑๐๑) เวลา ๑๓ ช่ัวโมง ชอ่ื หน่วยการเรียนรทู้ ่ี ๑๑ ชา้ งนอ้ ยน่ารัก เวลา ๑ ช่วั โมง เรื่อง ร้จู กั คานาเร่ือง สาระที่ ๓ การฟงั การดู และการพูด มาตรฐาน ท ๓.๑ สามารถเลอื กฟงั และดอู ยา่ งมวี ิจารณญาณ และพดู แสดงความรู้ ความคิด และความรสู้ ึกใน โอกาสต่างๆ อยา่ งมีวิจารณญาณและสร้างสรรค์ ตัวชีว้ ัดและสาระการเรยี นรู้ สาระการเรยี นรู้แกนกลาง/ทอ้ งถน่ิ ตัวช้วี ัด ความรู้ (K) ทกั ษะ/กระบวนการ (P) คณุ ลักษณะ (A) ท ๓.๑ ป.๑/๑ ฟังคาแนะนา คาสัง่ ง่ายๆ และปฏบิ ตั ิตาม -การฟังคาแนะนา -ฝกึ ทกั ษะการฟัง -มมี ารยาทในการฟงั ท ๓.๑ ป.๑/๒ ตอบคาถามและ คาส่ังง่ายๆ คาแนะนา คาส่ังงา่ ยๆ -ปฏิบตั ิตามคาแนะนา เลา่ เรอ่ื งท่ีฟังและดูทั้งที่เป็น ความรู้และความบนั เทิง และปฏิบัตติ าม คาส่ังงา่ ยๆได้ -หลกั การตัง้ คาถาม -ฝึกการต้งั คาถามและ -สามารถตั้งคาถามและ และตอบคาถาม ตอบคาถาม ตอบคาถาม ท ๓.๑ ป.๑/๓ พดู แสดงความ -หลกั การพูดแสดง -ฝกึ การพดู ความคดิ เห็น -มีมารยาทในการพูด คิดเหน็ และความรู้สกึ จากเร่ืองท่ี ความคิดเห็นและ และความรู้สกึ ฟงั และดู ความร้สู ึก ท ๓.๑ ป.๑/๔ พูดสอื่ สารได้ -การพดู ส่อื สาร -ฝึกพูดสื่อสาร -มมี ารยาทในการพูด ตามวัตถุประสงค์ ท ๓.๑ ป.๑/๕ มมี ารยาทในการ -มารยาทในการฟงั -ฝกึ มารยาทในการฟัง มมี ารยาทในการฟงั ฟงั การดู และการพดู การดู และการพดู การดู และการพดู การดู และการพูด
สาระสาคญั ทกั ษะการฟังเป็นการสรา้ งประสบการณ์อยา่ งหนงึ่ ที่ทาใหม้ ีความรู้จากสง่ิ ที่ฟัง สามารถเลา่ เรอ่ื ง และตอบคาถามจากเรือ่ งไดถ้ กู ต้อง จุดประสงค์การเรยี นรู้ ๑. ฟังเรื่อง “ชา้ งนอ้ ยนา่ รกั ” แลว้ ตอบคาถามและเลา่ เรอื่ งได้ถกู ต้อง ๒. เลา่ เร่ืองทีอ่ า่ นไดถ้ กู ตอ้ ง กิจกรรมการเรียนรู้ ๑. ครแู ละนักเรียนร่วมกนั สนทนาเก่ยี วกบั การแสดงของชา้ งที่นักเรียนเคยไปดวู ่าแสดง อะไรบ้าง เชน่ ชา้ งเตะฟุตบอล ชา่ งเล่นดนตรี เป็นต้น ๒. ครูร่วมกนั สนทนาเก่ียวกบั ภาพในบทเรยี น ในหนา้ ๑๒๓ ดังนี้ ๓. ครนู านักเรียนทกุ คนฝกึ อ่านจากภาพจากบตั รความรู้ “รูจ้ กั คา นาความเรือ่ ง” ตามครู พร้อมกัน ว่าอา่ นอยา่ งไร จนคล่อง ๔. นกั เรยี นชว่ ยกนั เลา่ เรื่องทฟ่ี งั ถา้ เลา่ ไม่ได้ครูถามนาใหน้ กั เรยี นตอบ ๕. นกั เรียนทบทวนบทเรยี นโดยสุ่มใหน้ ักเรียนอ่านคาจากเร่อื ง ๖. มอบหมายใหน้ ักเรียนไปฝึกอา่ นคาจากหนังสือภาษาพาทีในช่วง “ร้จู กั คา นาความ เรือ่ ง” เปน็ การบ้าน สอ่ื / แหลง่ เรยี นรู้ ลาดบั ท่ี รายการสื่อ กจิ กรรมทใี่ ช้ แหล่งทไี่ ดม้ า ๑. ภาพการแสดงของช้าง เพิม่ เติมความชัดเจนในเนอื้ หา ครจู ดั เตรียม ครจู ัดหา ๒. หนงั สือเรยี น ชดุ ภาษาพาที นักเรยี นดภู าพและฝกึ อ่าน ครูจดั ทา ชัน้ ป. ๑ ๓. แบบบันทกึ การสงั เกต สงั เกตพฤตกิ รรม และผลงาน พฤตกิ รรม และผลงานระหวา่ ง ระหวา่ งเรียน เรียน
การวดั ผลประเมนิ ผล กจิ กรรม-พฤตกิ รรมทป่ี ระเมิน เครื่องมอื ที่ใช้ใน วธิ กี ารประเมิน เกณฑ์การประเมนิ การประเมิน สงั เกตรายบุคคล รอ้ ยละ ๗๐ ขึ้นไป ๑. สังเกตพฤตกิ รรม แบบประเมนิ สงั เกตพฤติกรรม รอ้ ยละ ๗๐ ข้ึนไป และผลงานระหวา่ ง พฤติกรรม เรียน ๒. ประเมินพฤติกรรมและ แบบบนั ทึกการสังเกต ผลงานระหวา่ งเรียน พฤติกรรม และผลงาน ระหว่างเรียน
บันทึกขอ้ เสนอแนะของผู้บริหารหรือผ้ทู ่ไี ดร้ บั มอบหมาย ……………………………………………………………………………………………………….………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………….………………………………………………… ลงช่อื …………………………………….. ( …………………………………. ) ตาแหนง่ ……………………… วนั ที่……เดอื น……………..พ.ศ………. บันทึกผลหลงั กระบวนการจดั การเรียนรู้ ผลการเรียนรู้ท่ีเกิดขึน้ กับผู้เรยี น (เก่ง ดี มีสุข) ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………….…………………………………………………………………………………………………………………………… ปญั หา / อปุ สรรค ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ข้อเสนอแนะ / แนวทางแกไ้ ข ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………….…………………………………………………………………………………………………………………………… ลงช่อื ……………………………….…ผู้สอน (………………..…………….) ตาแหนง่ ………………………………… ………../…………./…………
บัตรความรูส้ าหรบั ครู เรือ่ ง การฟังและการพูด การฟงั เป็นการได้ยินเร่อื งราวใหเ้ กิดความเข้าใจในเรอ่ื งท่ไี ด้ยิน และ นามาพิจารณาว่า เรอื่ งราวนั้น ๆ ควรเช่อื ไดห้ รอื ไม่ นาไปใช้ประโยชนไ์ ด้เพียงใด ขอ้ ควรปฏิบตั ิในการฟงั ๑. ตั้งใจฟัง ไมพ่ ูดหรือสนทนากันขณะฟังผู้อืน่ พดู ๒. คิดติดตามเรือ่ งฟงั ว่าเร่อื งทฟ่ี ังเก่ยี วกับอะไร มคี วามถกู ต้องเชอื่ ถือไดห้ รือไม่ ๓. การฟังคาบรรยายควรจดข้อความสาคัญท่ีได้จากการฟงั ไว้ มารยาทในการฟัง ๑. ตง้ั ใจฟงั มองผพู้ ูด ๒. ไม่คยุ หรือเล่นขณะฟงั ผู้อน่ื พูด ๓. ไมส่ ่งเสียงดังหรือทาความราคาญให้ผู้อน่ื ๔. ถา้ จะถามควรขออนญุ าตกอ่ น หรือใหผ้ ้พู ดู หยุดพูดกอ่ น ไมค่ วรถามขณะผพู้ ูดยงั พดู ไมจ่ บ การพูด เปน็ การแสดงความคิดเห็นหรือบอกเล่าเร่ืองราว โดยการพดู ใหผ้ ู้อน่ื ฟัง ผูพ้ ูด ต้องมีความคดิ มีเรอื่ งราวทจ่ี ะพดู และตอ้ งจดั ลาดบั ความคิดหรือเรือ่ งราวที่ จะพดู ไม่ใหส้ ับสน เพ่อื ผู้ฟังจะได้เกิดความเข้าใจชัดเจน ผพู้ ดู ต้องพูดให้ชัดเจน ใช้ภาษาทถ่ี กู ตอ้ ง ข้อปฏบิ ตั ใิ นการพดู ๑. จะพดู เร่อื งอะไร ต้องมีความร้ใู นเรื่องนนั้ โดยการอ่าน การซักถาม ผู้อนื่ ให้เข้าใจก่อน ๒. ใชภ้ าษาพดู ท่ีถกู ต้อง สุภาพ ๓. พดู ให้เสียงดัง ฟงั ชดั แตไ่ มใ่ ชต่ ะโกน ๔. พดู ใหช้ ดั เจน ใชค้ าแทนชือ่ ใหถ้ ูกตอ้ ง ๕. มองผพู้ ูด ๖. ขณะพูดตอ้ งน่งั หรอื ยืนตัวตรงในทา่ สบาย ๗. ไม่เอามอื ลว้ ง ควัก แกะ เกา ขณะพดู หรือยนื เอามือไขวห้ ลงั
มารยาทในการพดู ๑. ใชน้ ้าเสยี งนุ่มนวล ไม่พดู กระโชกโฮกฮาก ๒. ใชถ้ อ้ ยคาสภุ าพ ๓. พูดด้วยใจจรงิ และยกย่องผูฟ้ งั ๔. ไมน่ ินทาผู้อื่นหรอื พูดวา่ ร้ายผอู้ ่ืน ๕. ไมแ่ สดงความโกรธเคืองผ้ฟู งั ๖. รอจังหวะในการพดู ซกั ถาม ไมพ่ ูดสอดขณะผู้อนื่ กาลงั พดู
แผนการจัดการเรียนรทู้ ี่ ๑๑.๓ ชัน้ ประถมศึกษาปีที่ ๑ กลมุ่ สาระการเรยี นร้ภู าษาไทย (รายวชิ า ท ๑๑๑๐๑) เวลา ๑๓ ช่ัวโมง ชื่อหนว่ ยการเรียนร้ทู ่ี ๑๑ ช้างน้อยน่ารกั เวลา ๑ ชั่วโมง เร่อื ง อา่ นคดิ วิเคราะหเ์ ร่อื ง ๑ สาระท่ี ๑ การอ่าน มาตรฐาน ท ๑.๑ ใช้กระบวนการอา่ นสร้างความรแู้ ละความคิดเพอ่ื นาไปใช้ตดั สินใจ แกป้ ัญหาในการดาเนิน ชีวิต และมีนิสัยรักการอ่าน ตัวช้วี ัดและสาระการเรยี นรู้ สาระการเรยี นรู้แกนกลาง/ทอ้ งถิน่ ตัวช้วี ัด ความรู้ (K) ทกั ษะ/กระบวนการ (P) คุณลักษณะ (A) ท ๑.๑ ป.๑/๑ อา่ นออกเสยี ง -หลกั การอา่ นออกเสียง -ฝึกอ่านออกเสียงรอ้ ยแกว้ -อ่านรอ้ ยแกว้ และรอ้ ย คา คาคลอ้ งจอง และขอ้ ความ ร้อยแก้วและร้อยกรอง และร้อยกรอง กรองไดถ้ ูกตอ้ ง สน้ั ๆ -มีมารยาทในการอ่าน ท ๑.๑ ป.๑/๒ บอก -นิยามความหมายของ - ฝึกทกั ษะการอธบิ าย -สามารถอธิบาย ความหมายของคา และ คา ความหมายของคา ความหมายของคา ข้อความทีอ่ า่ น ท ๑.๑ ป.๑/๓ ตอบคาถาม -หลักการอา่ น -ฝกึ การอา่ นเรอ่ื งสน้ั ๆ -สามารถตอบคาถามจาก เกย่ี วกับเรอ่ื งที่อ่าน และตอบคาถามจากเรอื่ ง เรื่อง -มีนสิ ยั รกั การอา่ น ท ๑.๑ ป.๑/๔ เลา่ เรื่องย่อ -การเล่าเร่อื ง -ฝึกทกั ษะการเล่าเรอื่ ง -สามารถการเล่าเร่ือง จากเรือ่ งท่ีอา่ น ท ๑.๑ ป.๑/๕ คาดคะเน - การคาดคะเน - ฝกึ การคาดคะเน - คาดคะเนเหตุการณ์ได้ เหตกุ ารณจ์ ากเร่ืองท่อี า่ น เหตุการณ์ เหตุการณ์ ถูกต้อง ท ๑.๑ ป.๑/๖ อ่านหนงั สอื -หลักการอา่ นจับใจความ -ฝึกสรุปความและข้อคิด -สรุปความรูแ้ ละข้อคิด ตามความสนใจอย่างสม่าเสมอ จากการอา่ นเรอ่ื ง และนาเสนอเรอ่ื งทีอ่ า่ น ท ๑.๑ ป.๑/๗ บอก -การอ่านเคร่อื งหมาย -ฝึกอา่ นเคร่อื งหมายหรอื -มีมารยาทในการอ่าน ความหมายของเครอื่ งหมาย หรือสัญลกั ษณ์ สญั ลักษณ์ -มนี สิ ัยรักการอา่ น หรือสัญลกั ษณส์ าคัญทีม่ ักพบ เห็นในชีวิตประจาวัน ๘. มีมารยาท ในการอ่าน -มารยาทในการอ่าน -ฝึกมารยาทในการอ่าน มมี ารยาทในการอ่าน
สาระสาคญั การอ่านออกเสียงจะช่วยใหเ้ รารู้ไดว้ า่ เราสามารถออกเสยี งคาและประโยคที่อา่ นถกู ตอ้ งหรือไม่ เพ่ือจะ ได้ปรับปรงุ การอ่านให้ดีข้ึน จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ ๑. อา่ นเร่ือง “ช้างน้อยน่ารัก” ได้ถกู ต้อง ๒. เลา่ เรือ่ งที่เลา่ ได้ ๓. ตอบคาถามจากเรอื่ งทีอ่ า่ นได้ ๔. คาดคะเนเหตกุ ารณจ์ ากเรอื่ งทอ่ี ่าน กจิ กรรมการเรียนรู้ ๑๐.ครูนานกั เรยี นร้องเพลงช้างเปน็ การทบทวน ๑๑. ครูนานักเรียนให้นักเรียนอ่านคาในบทเรยี นช่วง เนื้อเรื่อง หน้าที่ ๑๒๔-๑๒๕ จนคล่องและเรียนรู้ คาใหม่ ๓. ครเู ขยี นคาบนกระดานดาใหน้ ักเรียนอ่าน เพอ่ื หาคาตอบจากการอ่านในใจ ๔. ครูกาหนดเวลาให้นักเรียนอา่ นในใจ แลว้ ตอบคาถามปากเปล่า ๕. แบง่ กล่มุ นักเรียน ใหแ้ ตล่ ะกลมุ่ เลือกประธาน เลขานุการ ร่วมกนั อภิปรายสรปุ ประเดน็ สาคญั ของเรื่อง นักเรยี นตวั แทนออกมาเล่าเรือ่ งใหเ้ พ่ือน ๆ ฟงั เนน้ มารยาทการฟังและการอา่ น ส่ือ / แหลง่ เรยี นรู้ ลาดบั ท่ี รายการส่ือ กจิ กรรมท่ีใช้ แหลง่ ทไ่ี ด้มา ๑. เพลงช้าง เพ่มิ เติมความชัดเจนในเนอ้ื หา ครจู ดั เตรยี ม ครูจดั หา ๒. หนงั สอื เรียน ชดุ หนังสอื เรียน นกั เรียนดูภาพและฝกึ อา่ น ครจู ัดทา ชุด ภาษาพาที ช้นั ป. ๑ ครจู ัดทา ๓. แบบบนั ทกึ การสงั เกต สังเกตพฤตกิ รรมระหว่างเรยี น พฤตกิ รรม ๔. แบบบันทกึ การสังเกต สังเกตพฤติกรรม และผลงาน พฤตกิ รรม และผลงานระหว่าง ระหว่างเรยี น เรียน
การวดั ผลประเมนิ ผล กจิ กรรม-พฤตกิ รรมทป่ี ระเมิน เครื่องมอื ที่ใช้ใน วธิ กี ารประเมิน เกณฑ์การประเมนิ การประเมิน สงั เกตรายบุคคล รอ้ ยละ ๗๐ ขึ้นไป ๑. สังเกตพฤตกิ รรม แบบประเมนิ สงั เกตพฤติกรรม รอ้ ยละ ๗๐ ข้ึนไป และผลงานระหวา่ ง พฤตกิ รรม เรียน ๒. ประเมินพฤติกรรมและ แบบบนั ทึกการสังเกต ผลงานระหวา่ งเรียน พฤติกรรม และผลงาน ระหว่างเรียน
บันทึกขอ้ เสนอแนะของผู้บริหารหรือผ้ทู ่ไี ดร้ บั มอบหมาย ……………………………………………………………………………………………………….………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………….………………………………………………… ลงชอ่ื …………………………………….. ( …………………………………. ) ตาแหนง่ ……………………… วนั ท่ี……เดอื น……………..พ.ศ………. บันทึกผลหลงั กระบวนการจดั การเรียนรู้ ผลการเรียนรู้ที่เกิดขึน้ กับผู้เรยี น (เก่ง ดี มีสุข) ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………….…………………………………………………………………………………………………………………………… ปญั หา / อุปสรรค ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ข้อเสนอแนะ / แนวทางแกไ้ ข ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………….…………………………………………………………………………………………………………………………… ลงช่อื ……………………………….…ผู้สอน (………………..…………….) ตาแหนง่ ………………………………… ………../…………./…………
บัตรความรู้ ชา้ งน้อยนา่ รัก ทกุ ปี หมู่บ้าน เล้ยี ง ช้าง แห่ง นี้ จะ นา ช้าง ไป แสดง ที่ จังหวัด เพอื่ ตอ้ นรับ นักท่องเท่ียว ปี นี้ เป็น ปี แรก ท่ี ใบโบก และ ใบบัว จะ แสดง กับ ภผู า ทั้ง เดก็ และ ลกู ชา้ ง แตง่ ตัว สวยงาม เมอื่ ได้ เวลา ภผู า เดนิ นาหน้า ออกมา ใบโบก ถือ ไม้ ตี ฆอ้ ง ใบบวั ถือ พวงมาลยั ทงั้ หมด เดิน ตรงไป ท่ี ประธาน ใบโบก สง่ ไม้ ตี ฆ้อง ประธาน รับ ไป ตี ฆ้อง เปดิ งาน เสียง ฆ้อง ดัง โหมง่ ๆ ใบบัว สง่ พวงมาลัย เพื่อ ขอบคุณ ประธาน คนดู ปรบมือ ชอบใจ
บตั รกจิ กรรม คาช้แี จง ใหน้ ักเรยี นฟังครูเล่าเร่ืองและดูภาพประกอบ แล้วตอบคาถามต่อไปนี้ให้ถูกต้อง ๑. ผู้เดินนาหนา้ ชา้ งในการเปิดงานคือใคร …………………………………………………………………………………………………………… ๒. ใบโบกถอื อะไร …………………………………………………………………………………………………………… ๓. ใบบวั ถืออะไร …………………………………………………………………………………………………………… ๔. เสยี งฆ้องดังอยา่ งไร …………………………………………………………………………………………………………… ๕. ช้างใช้อวัยวะอะไรในการตอ่ แถวชา้ ง …………………………………………………………………………………………………………… เฉลยบตั รกจิ กรรม ๑. ภูผา ๒. ฆ้อง ๓. พวงมาลัย ๔. โหม่ง ๕. งวง
บทเพลง ชา้ ง ชา้ ง ชา้ ง ช้าง ช้าง ชา้ ง หนูเคยเห็นช้างหรอื เปล่า ชา้ งมันตวั โตไม่เบา จมกู ยาวยาว เรียกว่า งวง มีเข้ียวใตง้ วง เรียกว่างา มีหู มีตา หางยาว
แผนการจัดการเรียนรทู้ ี่ ๑๑.๔ ชนั้ ประถมศึกษาปีที่ ๑ กลมุ่ สาระการเรยี นร้ภู าษาไทย (รายวชิ า ท ๑๑๑๐๑) เวลา ๑๓ ช่ัวโมง ชื่อหน่วยการเรยี นร้ทู ่ี ๑๑ ช้างน้อยน่ารกั เวลา ๑ ชั่วโมง เร่อื ง อา่ นคิดวเิ คราะห์เรื่อง ๒ สาระที่ ๑ การอ่าน มาตรฐาน ท ๑.๑ ใช้กระบวนการอา่ นสร้างความรแู้ ละความคิดเพอ่ื นาไปใช้ตดั สินใจ แกป้ ัญหาในการดาเนนิ ชีวิต และมนี ิสยั รกั การอ่าน ตัวช้วี ัดและสาระการเรยี นรู้ สาระการเรยี นรู้แกนกลาง/ท้องถิน่ ตัวชี้วัด ความรู้ (K) ทกั ษะ/กระบวนการ (P) คุณลักษณะ (A) ท ๑.๑ ป.๑/๑ อา่ นออกเสยี ง -หลกั การอา่ นออกเสียง -ฝึกอ่านออกเสียงรอ้ ยแก้ว -อ่านรอ้ ยแกว้ และรอ้ ย คา คาคลอ้ งจอง และขอ้ ความ ร้อยแก้วและร้อยกรอง และร้อยกรอง กรองไดถ้ ูกตอ้ ง สน้ั ๆ -มีมารยาทในการอา่ น ท ๑.๑ ป.๑/๒ บอก -นิยามความหมายของ - ฝึกทักษะการอธบิ าย -สามารถอธิบาย ความหมายของคา และ คา ความหมายของคา ความหมายของคา ข้อความทอ่ี า่ น ท ๑.๑ ป.๑/๓ ตอบคาถาม -หลักการอา่ น -ฝกึ การอ่านเรอ่ื งสน้ั ๆ -สามารถตอบคาถามจาก เกย่ี วกบั เรอื่ งทอ่ี ่าน และตอบคาถามจากเรือ่ ง เร่อื ง -มีนสิ ยั รกั การอา่ น ท ๑.๑ ป.๑/๔ เลา่ เรื่องย่อ -การเล่าเร่อื ง -ฝึกทักษะการเล่าเรอื่ ง -สามารถการเล่าเรอื่ ง จากเร่ืองทอ่ี ่าน ท ๑.๑ ป.๑/๕ คาดคะเน - การคาดคะเน - ฝึกการคาดคะเน - คาดคะเนเหตกุ ารณ์ได้ เหตกุ ารณ์จากเร่อื งทอี่ า่ น เหตุการณ์ เหตุการณ์ ถูกต้อง ท ๑.๑ ป.๑/๖ อา่ นหนังสือ -หลักการอา่ นจับใจความ -ฝึกสรุปความและข้อคิด -สรุปความรูแ้ ละข้อคิด ตามความสนใจอย่างสม่าเสมอ จากการอ่านเรอ่ื ง และนาเสนอเรือ่ งทอี่ า่ น ท ๑.๑ ป.๑/๗ บอก -การอ่านเคร่อื งหมาย -ฝึกอ่านเครอื่ งหมายหรอื -มีมารยาทในการอ่าน ความหมายของเครือ่ งหมาย หรือสัญลกั ษณ์ สญั ลักษณ์ -มนี สิ ัยรักการอา่ น หรือสัญลักษณ์สาคัญทีม่ ักพบ เห็นในชวี ติ ประจาวนั ๘. มมี ารยาท ในการอ่าน -มารยาทในการอ่าน -ฝึกมารยาทในการอ่าน มมี ารยาทในการอา่ น
สาระสาคัญ การอา่ นออกเสยี งจะชว่ ยใหเ้ รารไู้ ด้ว่าเราสามารถออกเสยี งคาและประโยคท่ีอ่านถูกต้องหรอื ไม่ เพอื่ จะ ได้ปรับปรงุ การอ่านให้ดีข้นึ จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้ ๑. เลา่ เร่ืองยอ่ ทอี่ า่ นได้ ๒. ตอบคาถามจากเร่ืองที่อา่ นได้ ๓. อา่ นหนังสือตามความสนใจอย่างสมา่ เสมอและนาเสนอเรื่องท่ีอา่ น ๔. มมี ารยาท ในการอา่ น กจิ กรรมการเรยี นรู้ ๑. ครใู ห้นักเรียนร้องเพลงทเี่ รียนมาแล้วและทาทา่ ประกอบ ๒. ครูต้งั คาถามทบทวนความรใู้ นเนื้อหาทผี่ ่านมา ๔. ครูนานักเรียนอา่ นคาในบทเรยี นช่วง เนอ้ื เรอื่ ง หน้า ๑๒๖ จนคลอ่ ง ๕. นักเรียนเข้ากลมุ่ กล่มุ ละ๕ คน รว่ มกนั คิดตอบคาถามจากเรอื่ ง โดยครอู า่ นใหฟ้ งั แลว้ ส่งตวั แทน ออกมาตอบคาถามเรอ่ื งจนครบทกุ ขอ้ ๖. ครเู ขียนคาบนกระดานดาให้นักเรยี นอา่ น เพื่อหาคาตอบจากการอา่ นในใจ ๗. ครมู อบหมายให้นกั เรยี นไปอ่านเรื่อง ช้างนอ้ ยน่ารัก เปน็ การบ้าน สื่อ / แหลง่ เรยี นรู้ ลาดบั ท่ี รายการสอื่ กจิ กรรมที่ใช้ แหล่งท่ีได้มา ครูจดั เตรยี ม ๑. เพลงและภาพแสดงของสตั ว์ เพ่มิ เติมความชัดเจนในเนื้อหา ๒. หนงั สอื เรียน ชดุ ภาษาพาที นักเรียนดภู าพและฝึกอ่าน ครูจดั หา ช้ัน ป. ๑ ๓. แบบบนั ทึกการสงั เกต สังเกตพฤตกิ รรมระหว่างเรยี น ครจู ัดทา พฤตกิ รรม ๔. แบบบนั ทกึ การสงั เกต สงั เกตพฤติกรรม และผลงาน ครูจัดทา พฤติกรรม และผลงานระหวา่ ง ระหวา่ งเรยี น เรยี น
การวดั ผลประเมนิ ผล กจิ กรรม-พฤตกิ รรมทป่ี ระเมิน เครื่องมอื ที่ใช้ใน วธิ กี ารประเมิน เกณฑ์การประเมนิ การประเมิน สงั เกตรายบุคคล รอ้ ยละ ๗๐ ขึ้นไป ๑. สังเกตพฤตกิ รรม แบบประเมนิ สงั เกตพฤติกรรม รอ้ ยละ ๗๐ ข้ึนไป และผลงานระหวา่ ง พฤติกรรม เรียน ๒. ประเมินพฤติกรรมและ แบบบนั ทึกการสังเกต ผลงานระหวา่ งเรียน พฤติกรรม และผลงาน ระหว่างเรียน
บันทึกขอ้ เสนอแนะของผู้บริหารหรือผ้ทู ่ไี ดร้ บั มอบหมาย ……………………………………………………………………………………………………….………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………….………………………………………………… ลงชื่อ…………………………………….. ( …………………………………. ) ตาแหน่ง……………………… วนั ท่ี……เดอื น……………..พ.ศ………. บันทึกผลหลงั กระบวนการจดั การเรียนรู้ ผลการเรียนรู้ท่ีเกิดขึน้ กับผู้เรยี น (เก่ง ดี มสี ุข) ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………….…………………………………………………………………………………………………………………………… ปญั หา / อปุ สรรค ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ข้อเสนอแนะ / แนวทางแกไ้ ข ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………….…………………………………………………………………………………………………………………………… ลงชือ่ ……………………………….…ผสู้ อน (………………..…………….) ตาแหนง่ ………………………………… ………../…………./…………
บัตรความรู้ ลูกชา้ ง น่ารกั ได้ แสดง อกี ครัง้ รายการ สุดทา้ ย ชา้ งน้อย ระบายสี ภูผา สง่ แปรง ให้ ใบโบก แต่ ใบโบก จับ พลาด คว้า มือ ภูผา จมุ่ ลง ถังสี ยก ขึ้น แลว้ ระบาย ๆ ใบบวั โยก ตวั มว้ น งวง ใส่ ปาก โบก หู แกวง่ หาง สง่ เสยี ง รอ้ ง แอก๊ ๆ อาย จัง ๆ คน ดู ปรบมือ หัวเราะ ร้องเรยี ก ใบโบก ใบบัว ดารา แสนรู้ ชา้ งน้อย นา่ รัก นา่ รกั จรงิ ๆ
บตั รกิจกรรม คาช้ีแจง ให้นกั เรียนฟงั ครูเล่าเร่อื งและอ่านเรือ่ ง แลว้ ตอบคาถามตอ่ ไปน้ี ๑. รายการสุดท้ายลูกช้างทาอะไร …………………………………………………………………………………………………………… ๒. อวัยวะของชา้ งส่วนใดที่ทาหนา้ ท่ีใชจ้ ับแปรง …………………………………………………………………………………………………………… ๓. คนปรบมือใหช้ ้างเพราะชา้ งเปรยี บเหมอื นอะไร …………………………………………………………………………………………………………… ๔. เม่ือมเี สยี งเพลงช้างจะทาอะไร …………………………………………………………………………………………………………… ๕. เร่อื งช้างนอ้ ยนา่ รักนกั เรียนอา่ นแลว้ มีความรสู้ กึ อย่างไร …………………………………………………………………………………………………………… เฉลยบัตรกจิ กรรม ๑. ระบายสี ๒. งวง ๓. เปรียบเหมือนดารา ๔. แกวง่ งวง ๕. รกั ช้าง ( อยูใ่ นดุลพินจิ ของคร)ู
แผนการจดั การเรียนรู้ที่ ๑๑.๕ ชน้ั ประถมศึกษาปที ี่ ๑ กลุม่ สาระการเรยี นรู้ภาษาไทย (รายวิชา ท ๑๑๑๐๑) เวลา ๑๓ ชั่วโมง ช่ือหนว่ ยการเรยี นรทู้ ี่ ๑๑ ช้างน้อยนา่ รกั เวลา ๑ ชั่วโมง เรื่อง อ่านผันวรรณยกุ ต์ สาระท่ี ๑ การอ่าน มาตรฐาน ท ๑.๑ ใช้กระบวนการอ่านสร้างความรูแ้ ละความคิดเพอ่ื นาไปใช้ตัดสนิ ใจ แกป้ ญั หาในการดาเนนิ ชีวติ และมีนิสัยรกั การอ่าน สาระการเรยี นรู้แกนกลาง/ท้องถน่ิ ตัวช้วี ัด ความรู้ (K) ทกั ษะ/กระบวนการ (P) คณุ ลกั ษณะ (A) ท ๑.๑ ป.๑/๑ อ่านออกเสยี ง คา คาคล้องจอง และขอ้ ความ -หลกั การอ่านออกเสยี ง -ฝกึ อา่ นออกเสียงรอ้ ยแกว้ -อา่ นร้อยแกว้ และรอ้ ย ส้นั ๆ ท ๑.๑ ป.๑/๒ บอก รอ้ ยแก้วและรอ้ ยกรอง และรอ้ ยกรอง กรองไดถ้ ูกตอ้ ง ความหมายของคา และ ข้อความทอ่ี ่าน -มมี ารยาทในการอ่าน -นยิ ามความหมายของ - ฝึกทักษะการอธิบาย -สามารถอธบิ าย คา ความหมายของคา ความหมายของคา สาระท่ี ๔ หลักการใช้ภาษาไทย มาตรฐาน ท ๔.๑ เขา้ ใจธรรมชาติของภาษาและหลกั ภาษาไทย การเปลีย่ นแปลงของภาษาและพลังของภาษา ภูมปิ ัญญาทางภาษา และรกั ษาภาษาไทยไวเ้ ป็นสมบตั ิของชาติ สาระการเรียนรู้แกนกลางทอ้ งถ่ิน ตัวชว้ี ัด ความรู้ (K) ทักษะ/กระบวนการ (P) คุณลกั ษณะ (A) ท ๔.๑ ป.๑/๑ บอกและ -ชือ่ และการเขยี นตัว -ฝกึ ทักษะการเขียน -สามารถใช้ได้ เขยี นพยญั ชนะ สระ วรรณยกุ ต์และเลขไทย อกั ษรไทยและเลขไทย พยัญชนะ สระ วรรณยุกต์ ถกู ตอ้ งและสวยงาม ท ๔.๑ ป.๑/๒ เขียนสะกด คาและบอกความหมายของ และเลขไทย คา -หลกั การเขียนสะกดคา -ฝึกการสะกดคาและบอก -สามารถสะกดคา ความหมายของคา และบอกวามหมาย ของคา
สาระสาคัญ การอา่ นออกเสียงจะช่วยใหเ้ รารู้ไดว้ า่ เราสามารถออกเสียงคาและประโยคท่ีอา่ นถูกตอ้ งหรือไม่ เพอ่ื จะ ไดป้ รบั ปรุงการอา่ นใหด้ ีขึ้น จุดประสงค์การเรียนรู้ ๑. อา่ นออกเสียงผันวรรณยกุ ต์ไดช้ ัดเจน ๒. บอกหลกั การผันความหมายของคา และขอ้ ความท่ีอ่าน ๓. เขยี นคาได้ถกู ต้อง เปน็ ระเบียบ กจิ กรรมการเรยี นรู้ ๑. ครูทบทวนให้นักเรียนอา่ นผันวรรณยุกต์จากบัตรคาท่ีเรยี นมาแลว้ ๒. ครนู านกั เรยี นฝกึ ผนั เสียงวรรณยกุ ต์ จากหนังสอื ภาษาพาที หนา้ ๑๒๗ ตามครู จนนกั เรยี นอา่ น ได้คล่อง ๓. นักเรยี นจับคู่กนั (เปลย่ี นคู่ใหม่) ฝึกอ่านผันวรรณยกุ ตจ์ ากหนงั สอื ภาษาพาที จนคล่อง โดยใหเ้ พอื่ นได้บอกถา้ อ่านไม่ถูก ๔. นกั เรียนฝึกอา่ นสะกดคาตามบัตรกจิ กรรมที่ ๑ อา่ นรายบุคคลและเป็นคจู่ นคลอ่ ง ๕. นกั เรยี นรว่ มกนั อภปิ รายถึงความหมายของคา ๖. ครตู รวจและชมเชยคนทอ่ี า่ นได้ เขียนถูก สอ่ื / แหล่งเรยี นรู้ ลาดับท่ี รายการสอื่ กิจกรรมทีใ่ ช้ แหล่งที่ได้มา ๑. บตั รกิจกรรม/บตั รคา เพิ่มเตมิ ความชัดเจนในเนอื้ หา ครจู ัดเตรียม ๒. นกั เรยี นดูภาพและฝึกอ่าน ครจู ดั หา หนงั สอื เรยี น ชุด ภาษาพาที ๓. ชนั้ ป. ๑ สงั เกตพฤติกรรมระหว่างเรยี น ครจู ัดทา แบบบนั ทกึ การสังเกต ๔. พฤตกิ รรม สงั เกตพฤติกรรม และผลงาน ครูจดั ทา แบบบนั ทึกการสงั เกต ระหว่างเรยี น พฤติกรรม และผลงานระหว่าง เรียน
การวดั ผลประเมนิ ผล กจิ กรรม-พฤตกิ รรมทป่ี ระเมิน เครื่องมอื ที่ใช้ใน วธิ กี ารประเมิน เกณฑ์การประเมนิ การประเมิน สงั เกตรายบุคคล รอ้ ยละ ๗๐ ขึ้นไป ๑. สังเกตพฤตกิ รรม แบบประเมนิ สงั เกตพฤติกรรม รอ้ ยละ ๗๐ ข้ึนไป และผลงานระหวา่ ง พฤติกรรม เรียน ๒. ประเมินพฤติกรรมและ แบบบนั ทึกการสังเกต ผลงานระหวา่ งเรียน พฤติกรรม และผลงาน ระหว่างเรียน
บันทึกขอ้ เสนอแนะของผู้บริหารหรือผ้ทู ่ไี ดร้ บั มอบหมาย ……………………………………………………………………………………………………….………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………….………………………………………………… ลงชื่อ…………………………………….. ( …………………………………. ) ตาแหน่ง……………………… วนั ท่ี……เดอื น……………..พ.ศ………. บันทึกผลหลงั กระบวนการจัดการเรียนรู้ ผลการเรียนรู้ท่ีเกิดขึน้ กับผู้เรยี น (เก่ง ดี มสี ุข) ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………….…………………………………………………………………………………………………………………………… ปญั หา / อปุ สรรค ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ข้อเสนอแนะ / แนวทางแกไ้ ข ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………….…………………………………………………………………………………………………………………………… ลงชือ่ ……………………………….…ผสู้ อน (………………..…………….) ตาแหนง่ ………………………………… ………../…………./…………
แผนการจัดการเรียนรู้ท่ี ๑๑.๖ ชัน้ ประถมศึกษาปที ี่ ๑ กล่มุ สาระการเรยี นรภู้ าษาไทย (รายวชิ า ท ๑๑๑๐๑) เวลา ๑๓ ช่ัวโมง ช่ือหน่วยการเรียนรทู้ ี่ ๑๑ ช้างน้อยน่ารกั เวลา ๑ ช่ัวโมง เร่ือง อ่านเขยี นเรียนสะกด สาระที่ ๑ การอ่าน มาตรฐาน ท ๑.๑ ใช้กระบวนการอา่ นสรา้ งความรแู้ ละความคดิ เพื่อนาไปใช้ตดั สินใจ แก้ปญั หาในการดาเนิน ชีวิต และมนี สิ ยั รักการอ่าน ตัวชี้วัดและสาระการเรยี นรู้ สาระการเรียนรแู้ กนกลาง/ทอ้ งถิน่ ตัวช้ีวัด ความรู้ (K) ทักษะ/กระบวนการ (P) คุณลักษณะ (A) ท ๑.๑ ป.๑/๑ อ่านออกเสียง -หลกั การอา่ นออกเสยี ง -ฝกึ อ่านออกเสยี งร้อยแกว้ -อ่านร้อยแกว้ และร้อย คา คาคลอ้ งจอง และขอ้ ความ ส้นั ๆ ร้อยแก้วและรอ้ ยกรอง และร้อยกรอง กรองไดถ้ กู ต้อง ท ๑.๑ ป.๑/๒ บอก ความหมายของคา และ -มีมารยาทในการอา่ น ขอ้ ความทอ่ี ่าน -นิยามความหมายของ - ฝึกทักษะการอธิบาย -สามารถอธบิ าย คา ความหมายของคา ความหมายของคา สาระท่ี ๒ การเขียน มาตรฐาน ท ๒.๑ ใช้กระบวนการเขยี นเขียนสอ่ื สาร เขียนเรยี งความ ยอ่ ความ และเขียนเร่อื งราวในรูปแบบ ต่างๆ เขยี นรายงานขอ้ มลู สารสนเทศและรายงานการศกึ ษาคน้ คว้าอย่างมปี ระสทิ ธภิ าพ ตวั ชี้วัดและสาระการเรียนรู้ สาระการเรยี นรู้แกนกลาง/ท้องถน่ิ ตัวชวี้ ัด ความรู้ (K) ทกั ษะ/กระบวนการ (P) คณุ ลกั ษณะ (A) ท ๒.๑ ป.๑/๑ คดั ลายมอื -หลกั การเขยี นตวั -ฝึกทกั ษะคัดลายมอื ตัว -สามารถคดั ลายมอื ได้ ตวั บรรจงเตม็ บรรทดั อกั ษรไทยและเลขไทย บรรจงเตม็ บรรทัด ถกู ต้องและสวยงาม ท ๒.๑ ป.๑/๒ เขยี นส่ือสาร -การเขียนส่อื สาร -ฝกึ ทักษะการเขยี นคา -ใชค้ าไดถ้ ูกตอ้ ง ด้วยคาและประโยคงา่ ยๆ และประโยค -มีมารยาทในการเขียน ท ๒.๑ ป.๑/๓. มีมารยาท -มารยาทในการเขียน -ฝึกมารยาทในการเขียน -มมี ารยาทในการเขยี น ในการเขียน -มนี สิ ยั รกั เขียน
สาระสาคัญ การอ่านออกเสียงจะช่วยให้เรารู้ได้ว่าเราสามารถออกเสียงคาและประโยคท่ีอ่านถูกต้อง หรือไม่ เพ่อื จะได้ปรบั ปรงุ การอ่านใหด้ ีขน้ึ และการเขียนเป็นพื้นฐานในการสื่อสาร จุดประสงคก์ ารเรียนรู้ ๑. อ่านสะกดคา ในบทเรียน ได้ ๒. เขียนคาตามคาบอกไดถ้ ูกต้อง ๓. คดั ลายมือตวั บรรจงเต็มบรรทัดได้ ๔. มีนิสยั รักเขยี น กิจกรรมการเรียนรู้ ๗. ครูให้นักเรียนอา่ นท่องจาพยญั ชนะไทย ๔๔ ตวั สระและวรรณยุกต์จากปา้ ยนเิ ทศ ๘. ครนู านกั เรียนฝกึ อ่านสะกดคา จากบตั รกิจกรรมที่ ๑ โดยให้นักเรยี นสังเกตพยญั ชนะ เสียงสระ ๓. นกั เรยี นจบั คู่กนั ฝึกอา่ นสะกดคาจากบัตรกจิ กรรมจนคลอ่ ง ๔. นักเรยี นฝกึ อ่านสะกดคาเป็นรายบุคคล จากหนงั สือภาษาพาที ๕. ครูอ่านใหน้ กั เรยี นเขียนพยญั ชนะและสระตามคาบอก ประมาณ ๑๐ ตวั ๖. ครูตรวจและชมเชยคนทีเ่ ขยี นถูกมากท่ีสดุ และลายมอื สวยงาม ๗. ให้นกั เรียนฝกึ เขียนพยญั ชนะ สระ ในบตั รกิจกรรมท่ี ๒ เปน็ การบ้าน สื่อ / แหลง่ เรยี นรู้ กจิ กรรมท่ีใช้ แหล่งท่ไี ด้มา ลาดบั ท่ี รายการส่ือ เพมิ่ เตมิ ความชัดเจนในเน้อื หา ครจู ดั เตรยี ม ๑. บัตรกิจกรรม/ปา้ ยนิเทศ นกั เรยี นดูภาพและฝกึ อา่ น ครจู ัดหา ๒. หนงั สือเรียน ชดุ ภาษาพาที ชัน้ ป. ๑ ๓. แบบบันทกึ การสงั เกต สงั เกตพฤตกิ รรมระหว่างเรยี น ครจู ัดทา พฤติกรรม ๔. แบบบนั ทกึ การสังเกต สังเกตพฤตกิ รรม และผลงาน ครจู ัดทา พฤติกรรม และผลงานระหว่าง ระหว่างเรียน เรยี น
การวดั ผลประเมนิ ผล กจิ กรรม-พฤตกิ รรมทป่ี ระเมิน เครื่องมอื ที่ใช้ใน วธิ กี ารประเมิน เกณฑ์การประเมนิ การประเมิน สงั เกตรายบุคคล รอ้ ยละ ๗๐ ขึ้นไป ๑. สังเกตพฤตกิ รรม แบบประเมนิ สงั เกตพฤติกรรม รอ้ ยละ ๗๐ ข้ึนไป และผลงานระหวา่ ง พฤติกรรม เรียน ๒. ประเมินพฤติกรรมและ แบบบนั ทึกการสังเกต ผลงานระหวา่ งเรียน พฤติกรรม และผลงาน ระหว่างเรียน
บนั ทกึ ขอ้ เสนอแนะของผบู้ ริหารหรอื ผทู้ ไ่ี ดร้ ับมอบหมาย ……………………………………………………………………………………………………….………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………….………………………………………………… ลงชือ่ …………………………………….. ( …………………………………. ) ตาแหนง่ ……………………… วันท่ี……เดือน……………..พ.ศ………. บันทกึ ผลหลงั กระบวนการจดั การเรียนรู้ ผลการเรยี นรทู้ เี่ กิดข้ึนกับผู้เรียน (เก่ง ดี มสี ุข) ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………….…………………………………………………………………………………………………………………………… ปญั หา / อปุ สรรค ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ข้อเสนอแนะ / แนวทางแก้ไข ลงชอ่ื ……………………………….…ผู้สอน (………………..…………….) ตาแหนง่ ………………………………… ………../…………./…………
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147
- 148
- 149
- 150
- 151
- 152
- 153
- 154
- 155
- 156
- 157
- 158
- 159
- 160
- 161
- 162
- 163
- 164
- 165
- 166
- 167
- 168
- 169
- 170
- 171
- 172
- 173
- 174
- 175
- 176
- 177
- 178
- 179
- 180
- 181
- 182
- 183
- 184
- 185
- 186
- 187
- 188
- 189
- 190
- 191
- 192
- 193
- 194
- 195
- 196
- 197
- 198
- 199
- 200
- 201
- 202
- 203
- 204
- 205
- 206
- 207
- 208
- 209
- 210
- 211
- 212
- 213
- 214
- 215
- 216
- 217
- 218
- 219
- 220
- 221
- 222
- 223
- 224
- 225
- 226
- 227
- 228
- 229
- 230
- 231
- 232
- 233
- 234
- 235
- 236
- 237
- 238
- 239
- 240
- 241
- 242
- 243
- 244
- 245
- 246
- 247
- 248
- 249
- 250
- 251
- 252
- 253
- 254
- 255
- 256
- 257
- 258
- 259
- 260
- 261
- 262
- 263
- 264
- 265
- 266
- 267
- 268
- 269
- 270
- 271
- 272
- 273
- 274
- 275
- 276
- 277
- 278
- 279
- 280
- 281
- 282
- 283
- 284
- 285
- 286
- 287
- 288
- 289
- 290
- 291
- 292
- 293
- 294
- 295
- 296
- 297
- 298
- 299
- 300
- 301
- 302
- 303
- 304
- 305
- 306
- 307
- 308
- 309
- 310
- 311
- 312
- 313
- 314
- 315
- 316
- 317
- 318
- 319
- 320
- 321
- 322
- 323
- 324
- 325
- 326
- 327
- 328
- 329
- 330
- 331
- 332
- 333
- 334
- 335
- 336
- 337
- 338
- 339
- 340
- 341
- 342
- 343
- 344
- 345
- 346
- 347
- 348
- 349
- 350
- 351
- 352
- 353
- 354
- 355
- 356
- 357
- 358
- 359
- 360
- 361
- 362
- 363
- 364
- 365
- 366
- 367
- 368
- 369
- 370
- 371
- 372
- 373
- 374
- 375
- 376
- 377
- 378
- 379
- 380
- 381
- 382
- 383
- 384
- 385
- 386
- 387
- 388
- 389
- 390
- 391
- 392
- 393
- 394
- 395
- 396
- 397
- 398
- 399
- 400
- 401
- 402
- 403
- 404
- 405
- 406
- 407
- 408
- 409
- 410
- 411
- 412
- 413
- 414
- 415
- 416
- 417
- 418
- 419
- 420
- 421
- 422
- 423
- 424
- 425
- 426
- 427
- 428
- 429
- 430
- 431
- 432
- 433
- 434
- 435
- 436
- 437
- 438
- 439
- 440
- 441
- 442
- 443
- 444
- 445
- 446
- 447
- 448
- 449
- 450
- 451
- 452
- 453
- 454
- 455
- 456
- 457
- 458
- 459
- 460
- 461
- 462
- 463
- 464
- 465
- 466
- 467
- 468
- 469
- 470
- 1 - 50
- 51 - 100
- 101 - 150
- 151 - 200
- 201 - 250
- 251 - 300
- 301 - 350
- 351 - 400
- 401 - 450
- 451 - 470
Pages: