Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore แผนภาษาไทย ป ๑ ภาคเรียนที่ ๒

แผนภาษาไทย ป ๑ ภาคเรียนที่ ๒

Published by Chotika Sueapin, 2021-11-19 05:15:29

Description: แผนภาษาไทย ป ๑ ภาคเรียนที่ ๒

Search

Read the Text Version

สาระสาคัญ การอา่ นออกเสียงจะช่วยใหเ้ รารู้ได้วา่ เราสามารถออกเสยี งคาและประโยคที่อ่านถกู ตอ้ งหรอื ไม่ เพื่อจะ ไดป้ รบั ปรุงการอ่านใหด้ ีข้นึ จุดประสงคก์ ารเรียนรู้ ๑. อา่ นออกเสียงคาในบทเรยี นไดช้ ัดเจน ๒. บอกความหมายของคา และข้อความท่ีอ่าน ๓. คดั ลายมอื ไดส้ วยงามถูกต้อง เปน็ ระเบียบ ๔. มีนิสัยรกั เขยี น กจิ กรรมการเรียนรู้ ๑. ครูทบทวนให้นกั เรยี นอ่านแจกลูกจากหนังสอื ภาษาพาที ๒. ครนู านกั เรียนฝึกอา่ นคา จากหนังสือภาษาพาที หน้า ๗๔ ตามครู จนนกั เรยี นอ่านไดค้ ล่อง ๓. นกั เรียนจบั คกู่ นั ฝกึ อา่ นสะกด ( เปลี่ยนคู่ใหม่ )คาจากหนงั สอื ภาษาพาที จนคลอ่ ง โดยใหเ้ พอ่ื นได้บอกถ้าอา่ นไมถ่ กู ๔. นกั เรยี นฝึกอา่ นสะกดคาตามบัตรกจิ กรรมที่ ๑ อา่ นรายบคุ คลและเป็นค่จู นคล่อง ๕. ครแู ละนักเรียนรว่ มกันอภปิ รายถงึ ความหมายของคา ๖. ใหน้ กั เรยี นฝึกคัดลายมือสะกดคา ตามบัตรกจิ กรรมที่ ๒ เป็นรายบุคคล ๘. ครตู รวจและชมเชยคนทคี่ ดั ได้ลายมอื สวยงาม สอื่ / แหล่งเรยี นรู้ ลาดบั ที่ รายการสื่อ กิจกรรมท่ีใช้ แหล่งท่ีไดม้ า ๑. บตั รกจิ กรรม เพม่ิ เติมความชัดเจนในเนือ้ หา ครูจดั เตรียม ครูจดั หา ๒. หนังสือเรียน ชดุ ภาษาพาที นกั เรยี นดภู าพและฝึกอา่ น ครจู ัดทา ชั้น ป. ๑ ครจู ัดทา ๓. แบบบันทกึ การสังเกต สังเกตพฤตกิ รรมระหวา่ งเรยี น พฤตกิ รรม ๔. แบบบันทึกการสังเกต สงั เกตพฤติกรรม และผลงาน พฤตกิ รรม และผลงานระหวา่ ง ระหวา่ งเรียน เรียน

การวดั ผลประเมนิ ผล กจิ กรรม-พฤตกิ รรมทป่ี ระเมิน เครื่องมอื ที่ใช้ใน วธิ กี ารประเมิน เกณฑ์การประเมนิ การประเมิน สงั เกตรายบุคคล รอ้ ยละ ๗๐ ขึ้นไป ๑. สังเกตพฤตกิ รรม แบบประเมนิ สงั เกตพฤติกรรม รอ้ ยละ ๗๐ ข้ึนไป และผลงานระหวา่ ง พฤติกรรม เรียน ๒. ประเมินพฤติกรรมและ แบบบนั ทึกการสังเกต ผลงานระหวา่ งเรียน พฤติกรรม และผลงาน ระหว่างเรียน

บนั ทกึ ข้อเสนอแนะของผู้บริหารหรือผ้ทู ี่ไดร้ บั มอบหมาย ……………………………………………………………………………………………………….………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………….………………………………………………… ลงชื่อ…………………………………….. ( …………………………………. ) ตาแหนง่ ……………………… วันท่ี……เดอื น……………..พ.ศ………. บนั ทึกผลหลังกระบวนการจดั การเรยี นรู้ ผลการเรยี นรู้ที่เกิดขึน้ กบั ผู้เรยี น (เก่ง ดี มีสุข) ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………….…………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………….………………………………………………… ปญั หา / อปุ สรรค ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………….………………………………………………… ขอ้ เสนอแนะ / แนวทางแกไ้ ข ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………….…………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………….………………………………………………… ลงชื่อ ……………………………….…ผู้สอน (………………..…………….) ตาแหน่ง………………………………… ………../…………./…………

บัตรกิจกรรมท่ี ๑ คาช้แี จง ใหน้ ักเรียนฝกึ อา่ นสะกดคา หลายๆรอบใหค้ ลอ่ ง ฝึกอา่ นคา ปปุ ะ ปปุ ะ ปุปะ ปุปะ ปปุ ะ ปปุ ะ ปุปะ ปุปะ ปปุ ะ ปุปะ ปุปะ ปุปะ ปปุ ะ ปปุ ะ ปุปะ ปปุ ะ ปุปะ นะจะ๊ นะจะ๊ จะจะ๊ นะจ๊ะ นะจ๊ะ นะจ๊ะ นะจะ๊ นะจ๊ะ นะจ๊ะ จะจะ๊ นะจ๊ะ นะจะ๊ นะจ๊ะ นะจะ๊ นะจ๊ะ มะไฟ มะไฟ มะไฟ มะไฟ มะไฟ มะไฟ มะไฟ มะไฟ มะไฟ มะไฟ มะไฟ มะไฟ มะไฟ มะไฟ มะไฟ ใยบวั ใยบัว ใยบัว ใยบวั ใยบวั ใยบัว ใยบวั ใยบัว ใยบวั ใยบวั ใยบวั ใยบัว ใยบัว ใยบัว ใยบัว ตวั เมีย ตวั เมยี ตวั เมีย ตวั เมยี ตวั เมีย ตวั เมีย ตวั เมีย ตัว เมีย

ตัวเมีย ตวั เมีย ตวั เมีย ตัวเมีย ตัวเมีย ตัวเมีย ตัว เมีย เขี่ยดู เข่ยี ดู เขย่ี ดู เข่ยี ดู เขี่ยดู เขย่ี ดู เขีย่ ดู เขี่ยดู เขยี่ ดู เข่ียดู เขี่ยดู เขี่ยดู เข่ียดู เขย่ี ดู เขย่ี ดู เขย่ี ดู เขีย่ ดู ผดู้ ี ผู้ดี ผู้ดี ผดู้ ี ผ้ดู ี ผูด้ ี ผู้ดี ผู้ดี ผดู้ ี ผดู้ ี ผู้ดี ผูด้ ี ผดู้ ี ผ้ดู ี ผดู้ ี ผดู้ ี ผดู้ ี ผูด้ ี ผู้ดี ผูด้ ี ผู้ดี ผู้ดี ผู้ดี ผดู้ ี ผดู้ ี สีดา สดี า สดี า สดี า สดี า สดี า สีดา สีดา สดี า สีดา สดี า สดี า สีดา สดี า สดี า สีดา สดี า สดี า สีดา

แผนการจดั การเรยี นรทู้ ่ี ๗.๑๐ ช้นั ประถมศึกษาปีท่ี ๑ กลุ่มสาระการเรยี นรู้ภาษาไทย (รายวชิ า ท ๑๑๑๐๑) เวลา ๑๓ ช่ัวโมง ชือ่ หน่วยการเรียนร้ทู ี่ ๗ เพอื่ นรกั เพอื่ นเลน่ เวลา ๑ ชั่วโมง เรื่อง อ่านเขียนเรยี นสะกดคา สาระท่ี ๑ การอา่ น มาตรฐาน ท ๑.๑ ใช้กระบวนการอา่ นสรา้ งความร้แู ละความคิดเพอื่ นาไปใชต้ ัดสนิ ใจ แกป้ ญั หาในการดาเนิน ชวี ติ และมีนิสยั รกั การอา่ น ตัวช้ีวัดและสาระการเรียนรู้ สาระการเรยี นรู้แกนกลาง/ทอ้ งถน่ิ ตัวชว้ี ัด ความรู้ (K) ทกั ษะ/กระบวนการ (P) คณุ ลักษณะ (A) ท ๑.๑ ป.๑/๑ อา่ นออกเสียง -หลกั การอ่านออกเสยี ง -ฝึกอา่ นออกเสยี งร้อยแก้ว -อ่านรอ้ ยแกว้ และรอ้ ย คา คาคลอ้ งจอง และขอ้ ความ สน้ั ๆ รอ้ ยแก้วและร้อยกรอง และร้อยกรอง กรองไดถ้ ูกตอ้ ง ท ๑.๑ ป.๑/๒ บอก ความหมายของคา และ -มมี ารยาทในการอ่าน ข้อความท่ีอา่ น -นยิ ามความหมายของ - ฝึกทักษะการอธิบาย -สามารถอธบิ าย คา ความหมายของคา ความหมายของคา สาระท่ี ๒ การเขยี น มาตรฐาน ท ๒.๑ ใชก้ ระบวนการเขียนเขยี นสอื่ สาร เขยี นเรียงความ ย่อความ และเขียนเร่ืองราวในรูปแบบ ต่างๆ เขียนรายงานข้อมูลสารสนเทศและรายงานการศกึ ษาค้นคว้าอย่างมีประสิทธิภาพ ตัวชีว้ ัดและสาระการเรียนรู้ สาระการเรยี นรู้แกนกลางท้องถน่ิ ตัวช้วี ัด ความรู้ (K) ทักษะ/กระบวนการ (P) คณุ ลักษณะ (A) ท ๒.๑ ป.๑/๑ คัดลายมือ -หลกั การเขยี นตวั -ฝกึ ทักษะคดั ลายมือตวั -สามารถคดั ลายมอื ได้ ตัวบรรจงเตม็ บรรทัด อักษรไทยและเลขไทย บรรจงเตม็ บรรทัด ถูกตอ้ งและสวยงาม ท ๒.๑ ป.๑/๒ เขยี นสื่อสาร -การเขยี นสือ่ สาร -ฝกึ ทักษะการเขยี นคา -ใช้คาได้ถกู ตอ้ ง ดว้ ยคาและประโยคงา่ ยๆ และประโยค -มมี ารยาทในการเขียน ท ๒.๑ ป.๑/๓. มีมารยาท -มารยาทในการเขียน -ฝึกมารยาทในการเขียน -มมี ารยาทในการเขียน ในการเขยี น -มีนิสยั รกั เขยี น

สาระสาคญั การอ่านออกเสียงจะช่วยให้เรารไู้ ด้ว่าเราสามารถออกเสียงคาและประโยคท่ีอา่ นถูกต้องหรือไม่ เพอื่ จะ ได้ปรับปรงุ การอ่านใหด้ ขี ึน้ จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ ๑. อา่ นออกเสยี งประโยคในบทเรยี นไดช้ ัดเจน ๒. บอกความหมายของประโยคคา และขอ้ ความทอ่ี า่ น ๓. คัดลายมอื ไดส้ วยงาม ถูกตอ้ ง เป็นระเบยี บ ๔. มีนิสัยรกั เขยี น กจิ กรรมการเรียนรู้ ๑. ครทู บทวนให้นักเรยี นอ่านคาจากหนงั สือภาษาพาทีเรยี นมาแล้ว ๒. ครนู านกั เรียนฝึกอ่านประโยคจากหนังสือภาษาพาที หน้า ๗๔ ตามครู จนนกั เรียนอ่านไดค้ ล่อง ๓. นักเรยี นจบั คู่กันฝกึ อ่านสะกด ( เปลยี่ นคู่ใหม่ )คาจากหนังสอื ภาษาพาที จนคล่อง โดยใหเ้ พื่อนไดบ้ อกถ้าอา่ นไม่ถูก ๔. นกั เรยี นฝึกอ่านสะกดคาตามบัตรกจิ กรรมที่ ๑ อา่ นรายบคุ คลและเป็นคูจ่ นคล่อง ๕. ครูและนกั เรียนร่วมกนั อภปิ รายถงึ ความหมายของคา ๖. ใหน้ กั เรยี นฝกึ แตง่ ประโยคจากภาพ ตามบัตรกจิ กรรมท่ี ๒ เป็นรายบคุ คล ๘. ครูตรวจและชมเชยคนแต่งไดดี สอื่ / แหลง่ เรียนรู้ ลาดบั ที่ รายการสอื่ กจิ กรรมทใ่ี ช้ แหลง่ ทไี่ ด้มา ๑. บัตรกจิ กรรม เพิม่ เติมความชัดเจนในเนื้อหา ครูจัดเตรยี ม ๒. หนังสือเรยี น ชุด ภาษาพาที นักเรยี นดภู าพและฝกึ อา่ น ครจู ดั หา ช้นั ป. ๑ ๓. แบบบนั ทึกการสังเกต สังเกตพฤติกรรมระหวา่ งเรียน ครูจดั ทา พฤตกิ รรม ๔. แบบบนั ทกึ การสงั เกต สังเกตพฤติกรรม และผลงาน ครูจดั ทา พฤติกรรม และผลงานระหวา่ ง ระหว่างเรยี น เรยี น

การวดั ผลประเมนิ ผล กจิ กรรม-พฤตกิ รรมทป่ี ระเมิน เครื่องมอื ที่ใช้ใน วธิ กี ารประเมิน เกณฑ์การประเมนิ การประเมิน สงั เกตรายบุคคล รอ้ ยละ ๗๐ ขึ้นไป ๑. สังเกตพฤตกิ รรม แบบประเมนิ สงั เกตพฤติกรรม รอ้ ยละ ๗๐ ข้ึนไป และผลงานระหวา่ ง พฤติกรรม เรียน ๒. ประเมินพฤติกรรมและ แบบบนั ทึกการสังเกต ผลงานระหวา่ งเรียน พฤติกรรม และผลงาน ระหว่างเรียน

บันทึกขอ้ เสนอแนะของผู้บรหิ ารหรือผทู้ ไ่ี ด้รบั มอบหมาย ……………………………………………………………………………………………………….………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………….………………………………………………… ลงชื่อ…………………………………….. ( …………………………………. ) ตาแหน่ง……………………… วนั ท่ี……เดือน……………..พ.ศ………. บนั ทกึ ผลหลงั กระบวนการจดั การเรียนรู้ ผลการเรียนรูท้ ่ีเกดิ ขึ้นกับผู้เรยี น (เกง่ ดี มสี ขุ ) ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………….…………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………….………………………………………………… ปัญหา / อปุ สรรค ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………….………………………………………………… ข้อเสนอแนะ / แนวทางแก้ไข ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………….…………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………….………………………………………………… ลงช่อื ……………………………….…ผสู้ อน (………………..…………….) ตาแหนง่ ………………………………… ………../…………./…………

บัตรกิจกรรมท่ี ๑ คาชแ้ี จง ให้นักเรียนฝกึ อา่ นสะกดคา หลายๆรอบใหค้ ลอ่ ง อา่ นประโยค พอ่ ไป ปา่ พี่ มี เสือ้ ผ้า แม่ ถอื โถยา ใบบวั ดู ภูผา ภูผา มาหา ใบโบก

บัตรกิจกรรมท่ี ๒ คาช้ีแจง ให้นกั เรยี นฝกึ เขยี นแตง่ ประโยคจากภาพที่กาหนดให้ ๔ ประโยค ลงในบัตรกิจกรรม เขียนประโยค ................................................ ................................................ ................................................ ................................................

แผนการจดั การเรยี นรทู้ ี่ ๗.๑๑ ชนั้ ประถมศกึ ษาปีท่ี ๑ กลมุ่ สาระการเรยี นรภู้ าษาไทย (รายวชิ า ท ๑๑๑๐๑) เวลา ๑๓ ชัว่ โมง ชื่อหน่วยการเรียนรู้ท่ี ๗ เพอื่ นรกั เพื่อนเลน่ เวลา ๑ ช่ัวโมง เรื่อง อ่านคล่องรอ้ งเล่น สาระท่ี ๑ การอ่าน มาตรฐาน ท ๑.๑ ใชก้ ระบวนการอ่านสรา้ งความร้แู ละความคิดเพ่อื นาไปใชต้ ัดสนิ ใจ แก้ปัญหาในการดาเนนิ ชวี ิต และมีนสิ ยั รกั การอา่ น ตัวชีว้ ัดและสาระการเรียนรู้ สาระการเรยี นร้แู กนกลาง/ทอ้ งถิน่ ตัวชี้วัด ความรู้ (K) ทกั ษะ/กระบวนการ (P) คุณลกั ษณะ (A) ท ๑.๑ ป.๑/๑ อา่ นออกเสยี ง -หลักการอ่านออกเสยี ง -ฝกึ อา่ นออกเสยี งรอ้ ยแกว้ -อ่านรอ้ ยแกว้ และร้อย คา คาคลอ้ งจอง และข้อความ สัน้ ๆ ร้อยแกว้ และรอ้ ยกรอง และรอ้ ยกรอง กรองไดถ้ กู ต้อง ท ๑.๑ ป.๑/๒ บอก ความหมายของคา และ -มมี ารยาทในการอ่าน ขอ้ ความที่อ่าน -นิยามความหมายของ - ฝึกทักษะการอธิบาย -สามารถอธิบาย คา ความหมายของคา ความหมายของคา สาระท่ี ๔ หลักการใชภ้ าษาไทย มาตรฐาน ท ๔.๑ เข้าใจธรรมชาตขิ องภาษาและหลักภาษาไทย การเปล่ียนแปลงของภาษาและพลังของภาษา ภมู ิปญั ญาทางภาษา และรักษาภาษาไทยไว้เปน็ สมบตั ิของชาติ สาระการเรยี นรแู้ กนกลางท้องถิ่น ตัวชีว้ ัด ความรู้ (K) ทักษะ/กระบวนการ (P) คณุ ลกั ษณะ (A) ท ๔.๑ ป.๑/๑ บอกและ -ช่ือและการเขียนตัว -ฝกึ ทักษะการเขยี น -สามารถใช้ได้ เขยี นพยญั ชนะ สระ อักษรไทยและเลขไทย พยญั ชนะ สระ วรรณยุกต์ ถกู ตอ้ งและสวยงาม วรรณยุกต์และเลขไทย และเลขไทย ท ๔.๑ ป.๑/๒ เขียนสะกด -หลักการเขยี นสะกดคา -ฝกึ การสะกดคาและบอก -สามารถสะกดคา คาและบอกความหมายของ ความหมายของคา และบอกวามหมาย คา ของคา

สาระสาคัญ การอ่านคาและร้องเพลง “ช้างอาบน้า” เป็นการฝกึ ประสบการณ์ทางภาษา ทง้ั ทาให้เกิดความ สนุกสนานในการเรยี น จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้ ๑. อา่ นออกเสยี งคาและรอ้ งเพลงในบทเรยี นไดช้ ัดเจน ๒. ตอบคาถามไดถ้ ูกต้อง ๓. สามารถสะกดคาในบทเรยี นได้ ๔. สามารถเขียนคาในบทเพลง ไดถ้ ูกตอ้ ง กจิ กรรมการเรยี นรู้ ๑. ครใู หน้ กั เรยี นร้องเพลงฝกึ จงู หาง พร้อมปรบมือเปน็ จงั หวะ ๒. นักเรียนทกุ คนทาทา่ ทางประกอบเพลงฝกึ จงู หาง ๓. ครตู ิดแผนภมู บิ นกระดานดา “ บทอ่านคล่อง ร้องเล่น” และนานกั เรยี นอา่ น สกั ๓ รอบ ๔. นกั เรยี นฝกึ อา่ นออกเสยี ง ใน “ บทอ่านคล่อง ร้องเลน่ ” ในหนังสือภาษาพาที หนา้ ๙ ๕. ใหน้ ักเรียนแข่งขันกันอ่านออกเสียง บทเพลง “ ช้างอานนา้ ” ๖. ครูรอ้ งเพลง หรือเปิดซีดี “ ช้างอาบน้า” ให้นักเรยี นฟังและรอ้ งตามจนคล่อง และฝึกทาทา่ ทาง ประกอบเพลงให้เหมาะสม สวยงาม ๗. นกั เรียนฝกึ เขียนข้อความในแผนภูมิ โดยหาคามาเตมิ ในชอ่ งวา่ งให้ถูกต้องลงในบัตรกจิ กรรม ใครเขียนเสรจ็ ก่อนและถูกต้องเปน็ ผชู้ นะ ๘. นกั เรยี นแตล่ ะคนอ่านข้อความในแผนภูมิและคัดบทเพลงลงสมุด

ส่ือ / แหล่งเรียนรู้ ลาดบั ที่ รายการสอื่ กจิ กรรมที่ใช้ แหล่งท่ีได้มา ๑. บตั รกิจกรรม/ซีดเี พลง เพิ่มเติมความชัดเจนในเน้ือหา ครูจัดเตรยี ม ๒. หนังสอื เรียน ชุด ภาษาพาที นกั เรียนดภู าพและฝึกอ่าน ครจู ดั หา ชน้ั ป. ๑ ๓. แบบบนั ทึกการสงั เกต สงั เกตพฤตกิ รรมระหว่างเรียน ครจู ดั ทา พฤติกรรม ๔. แบบบันทกึ การสงั เกต สังเกตพฤติกรรม และผลงาน ครจู ัดทา พฤติกรรม และผลงานระหวา่ ง ระหว่างเรียน เรยี น การวัดผลประเมินผล กจิ กรรม-พฤติกรรมทปี่ ระเมนิ เคร่ืองมือที่ใช้ใน วิธีการประเมนิ เกณฑก์ ารประเมนิ การประเมิน สงั เกตรายบคุ คล ร้อยละ ๗๐ ขึ้นไป ๑. สังเกตพฤตกิ รรม แบบประเมนิ สังเกตพฤติกรรม รอ้ ยละ ๗๐ ขึน้ ไป และผลงานระหว่าง พฤติกรรม เรียน ๒. ประเมินพฤตกิ รรมและ แบบบันทกึ การสงั เกต ผลงานระหวา่ งเรียน พฤตกิ รรม และผลงาน ระหวา่ งเรยี น

บนั ทกึ ข้อเสนอแนะของผู้บรหิ ารหรือผทู้ ่ไี ด้รบั มอบหมาย ……………………………………………………………………………………………………….………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………….………………………………………………… ลงช่ือ…………………………………….. ( …………………………………. ) ตาแหน่ง……………………… วันท่ี……เดือน……………..พ.ศ………. บนั ทึกผลหลังกระบวนการจดั การเรยี นรู้ ผลการเรยี นรู้ที่เกิดขึ้นกบั ผู้เรยี น (เกง่ ดี มสี ขุ ) ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………….…………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………….………………………………………………… ปญั หา / อปุ สรรค ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………….………………………………………………… ขอ้ เสนอแนะ / แนวทางแกไ้ ข ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………….…………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………….………………………………………………… ลงช่ือ ……………………………….…ผู้สอน (………………..…………….) ตาแหน่ง………………………………… ………../…………./…………

บตั รกิจกรรมที่ ๑ คาช้แี จง ใหน้ ักเรยี นฝึกอ่านและรอ้ งเพลง “ ชา้ งอาบนา้ ” หลายๆรอบให้คล่อง อ่านชค้าลงอ่อางบรน้อา้ งเล่น ชวนช้าง ไปอาบน้า แสนช่ืนฉา่ น้าเย็นใส เพอื่ นเดก็ อาบนา้ ให้ ถูท่หี ลัง ขาและหาง เพ่อื นช้าง พ่นนา้ ใส่ อาบน้าให้ เพื่อนเดก็ บ้าง อาบพลาง หวั เราะพลาง คนรกั ช้าง ช้างรกั คน

บัตรกจิ กรรมท่ี ๒ คาชี้แจง ใหน้ กั เรียนเตมิ คาในบทเพลง “ โยกไป โยกมา” ให้ถกู ตอ้ ง ชวน..... ไปอาบน้า แสนชืน่ ฉ่า .....เยน็ ใส เพือ่ นเดก็ อาบน้า..... .....ท่ีหลัง ขาและ...... .....ช้าง พ่นนา้ ....... อาบนา้ ..... เพอื่ นเดก็ ........ อาบ......... หัวเราะพลาง คนรัก...... ช้างรกั .....

แผนการจดั การเรียนรูท้ ี่ ๗.๑๒ ชัน้ ประถมศึกษาปที ่ี ๑ กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย (รายวิชา ท ๑๑๑๐๑) เวลา ๑๓ ชว่ั โมง ช่อื หน่วยการเรียนรูท้ ี่ ๗ เพอื่ นรกั เพื่อนเลน่ เวลา ๑ ชัว่ โมง เรอ่ื ง ชวนคดิ พนิ จิ สานวน สาระท่ี ๑ การอา่ น มาตรฐาน ท ๑.๑ ใชก้ ระบวนการอ่านสรา้ งความร้แู ละความคิดเพ่อื นาไปใชต้ ัดสินใจ แก้ปัญหาในการดาเนนิ ชีวติ และมีนิสยั รกั การอ่าน ตัวช้วี ัดและสาระการเรียนรู้ สาระการเรยี นรู้แกนกลาง/ทอ้ งถนิ่ ตัวชีว้ ัด ความรู้ (K) ทักษะ/กระบวนการ (P) คณุ ลกั ษณะ (A) ท ๑.๑ ป.๑/๑ อ่านออกเสียง -หลกั การอา่ นออกเสยี ง -ฝึกอา่ นออกเสยี งรอ้ ยแกว้ -อ่านร้อยแกว้ และร้อย คา คาคล้องจอง และข้อความ ร้อยแกว้ และร้อยกรอง และร้อยกรอง กรองไดถ้ ูกต้อง สนั้ ๆ -มีมารยาทในการอ่าน ท ๑.๑ ป.๑/๒ บอก -นยิ ามความหมายของ - ฝกึ ทักษะการอธบิ าย -สามารถอธิบาย ความหมายของคา และ คา ความหมายของคา ความหมายของคา ข้อความทอ่ี า่ น สาระที่ ๔ หลกั การใช้ภาษาไทย มาตรฐาน ท ๔.๑ เข้าใจธรรมชาตขิ องภาษาและหลักภาษาไทย การเปลีย่ นแปลงของภาษาและพลังของภาษา ภมู ิปัญญาทางภาษา และรักษาภาษาไทยไว้เป็นสมบัติของชาติ สาระการเรียนรแู้ กนกลางทอ้ งถน่ิ ตัวชี้วัด ความรู้ (K) ทักษะ/กระบวนการ (P) คณุ ลักษณะ (A) ท ๔.๑ ป.๑/๒ เขยี นสะกด -หลกั การเขียนสะกดคา -ฝึกการสะกดคาและบอก -สามารถสะกดคา คาและบอกความหมายของ คา ความหมายของคา และบอกวามหมาย ท ๔.๑ ป.๑/๓ เรียบเรยี งคา เปน็ ประโยคงา่ ย ๆ ของคา ท ๔.๑ ป.๑/๔ ต่อคาคลอ้ ง จองง่ายๆ -ลักษณะของประโยค -ฝกึ แตง่ ประโยค -แต่งประโยคได้ ถกู ตอ้ ง -คาคลอ้ งจอง -ฝึกต่อคาคล้องจอง -นาคาคล้องจองไป ใชใ้ นชวี ิตประจาวนั

สาระสาคัญ การฝึกคิดและพูด เป็นการวางพ้ืนฐานการใช้ภาษาไทยและสร้างคุณลักษณะที่ดีแก่ผู้เรียนจะชว่ ยให้ เกดิ ความเช่อื มนั่ ทจ่ี ะใชภ้ าษาไดถ้ กู ตอ้ งมากขน้ึ จุดประสงค์การเรียนรู้ ๑. อ่านและเขียนสะกดคาในบทเรยี นได้ ๒. เรียบเรียงประโยคได้ ๓. ต่อคาคลอ้ งจองและบอกความหมายได้ กิจกรรมการเรยี นรู้ ๑. ครูใหน้ ักเรยี นดูรปู ภาพชา้ งและสนทนากับนกั เรียนถึงลักษณะของชา้ ง ๒. ครูใหน้ กั เรยี นดภู าพประกอบสานวนไทย ในหน้า ๗๖ และอธบิ ายความหมาย ๓. ครอู ่านนานกั เรยี น โดยใหน้ ักเรียนอา่ นตามหรอื ครูใหค้ วามรเู้ ร่อื งสานวนไทย จากบัตรความรู้ ๔. ครูให้นกั เรียนเข้ากล่มุ สัก ๕ กลุ่ม ระดมความคิด ดงั นี้ - คน้ หาสานวนไทยจากสัตว์เพม่ิ เติม - บอกความหมายสานวนไทย ๕. ให้นกั เรยี นนาเสนอความรู้ของกลมุ่ ตน ๖. นกั เรียนตอบคาถามตามบตั รกิจกรรมเป็นรายบคุ คลแล้วนาส่งครู สอ่ื / แหลง่ เรียนรู้ ลาดับท่ี รายการส่อื กจิ กรรมที่ใช้ แหล่งทีไ่ ดม้ า ๑. บตั รกจิ กรรม/สานวนไทย เพิม่ เติมความชัดเจนในเน้อื หา ครจู ัดเตรียม นกั เรยี นดูภาพและฝึกอา่ น ครูจดั หา ๒. หนังสือเรยี น ชุด ภาษาพาที ช้นั ป. ๑ สังเกตพฤตกิ รรมระหวา่ งเรยี น ครจู ัดทา ๓. แบบบันทกึ การสงั เกต พฤตกิ รรม ๔. แบบบันทกึ การสังเกต สังเกตพฤติกรรม และผลงาน ครูจดั ทา พฤตกิ รรม และผลงานระหวา่ ง ระหวา่ งเรียน เรยี น

การวดั ผลประเมนิ ผล กจิ กรรม-พฤตกิ รรมที่ประเมิน เครอ่ื งมือทีใ่ ช้ใน วธิ ีการประเมนิ เกณฑก์ ารประเมนิ การประเมนิ ๑. สังเกตพฤติกรรม แบบประเมนิ สงั เกตรายบุคคล รอ้ ยละ ๗๐ ขึน้ ไป พฤติกรรม ๒. ประเมนิ พฤติกรรมและ แบบบันทึกการสังเกต สงั เกตพฤตกิ รรม ร้อยละ ๗๐ ขน้ึ ไป ผลงานระหวา่ งเรยี น พฤติกรรม และผลงาน และผลงานระหว่าง ระหว่างเรียน เรยี น ๓. ประเมินความรู้ บตั รกจิ กรรม ตรวจคาตอบ ร้อยละ ๗๐ ขึน้ ไป

บนั ทึกข้อเสนอแนะของผู้บรหิ ารหรือผทู้ ีไ่ ดร้ ับมอบหมาย ……………………………………………………………………………………………………….………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………….………………………………………………… ลงช่อื …………………………………….. ( …………………………………. ) ตาแหน่ง……………………… วันที่……เดือน……………..พ.ศ………. บันทกึ ผลหลงั กระบวนการจดั การเรียนรู้ ผลการเรยี นรู้ท่ีเกดิ ข้นึ กับผู้เรียน (เก่ง ดี มีสุข) ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………….…………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………….………………………………………………… ปัญหา / อุปสรรค ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………….………………………………………………… ข้อเสนอแนะ / แนวทางแก้ไข ……………………………………………………………………………………………………….………………………………………………… ลงชือ่ ……………………………….…ผ้สู อน (………………..…………….) ตาแหน่ง………………………………… ………../…………./…………

สานวนเก่ียวกบั ชา้ ง ดูภาพและสนทนาเกยี่ วกบั ภาพ แล้วช่วยกนั คดิ ว่าจะ เติมพยญั ชนะและสระอะไรให้สมบรู ณ์และมคี วามหมาย ครูและนักเรียนช่วยกันสรุปข้อคดิ ของสานวนน้ี เ น ช้_ง ขี้ _ ต_ ม ช้_ง (ความหมายของสานวนน้ีคอื ทาเลียนแบบคนใหญ่คนโต หรอื คนมง่ั มี ท้ังๆ ที่ตนไม่มกี าลงั ทรัพย์ หรือ ความสามารถพอ)

บัตรความรู้ สานวน จับแพะชนแกะ ความหมาย ทาอย่างขอไปที ไม่ได้อยา่ งนเี้ อาอย่างนน้ั สานวน แพะรบั บาป ความหมาย ผู้ที่ได้รับเคราะห์กรรมแทนผู้อ่นื ที่ทากรรมไว้ สานวน กบเลือกนาย ความหมาย ผู้ทตี่ ้องการเปล่ยี นผู้บังคบั บญั ชาอยเู่ รื่อย ๆ สานวน เสือสองตัวอยถู่ ้าเดียวกันไม่ได้ ความหมาย คนที่มีอานาจพอ ๆ กนั อยูร่ ่วมกนั ไมไ่ ด้ สานวน ม้าอารี ความหมาย ทาตนเป็นคนใจดี ยอมเสยี สละของตนให้ ผอู้ ื่นแมจ้ ะลาบากก็ยอม สานวน คางคกขน้ึ วอ ความหมาย คนทม่ี ฐี านะต่าตอ้ ยแตพ่ อไดด้ ีก็มักอวดดลี ืม ตวั

บัตรกจิ กรรม คาช้ีแจง นาสานวนต่อไปนีใ้ หเ้ ตมิ ลงในชอ่ งว่างหนา้ ข้อความใหข้ ้อความมคี วามสมั พันธ์กนั กบในกะลาครอบ วานรได้แก้ว กระต่ายต่ืนตูม หมูในอวย สุนัขจนตรอก จบั แพะชนแกะ ...........1. อยูใ่ ต้อานาจ ...........2. อาการตืน่ ตาใจง่าย โดยไมส่ ารวจให้ถ่อง แท้ก่อน ….......3. คนทีฮ่ ึดสู้โดยไมค่ ดิ ชวี ติ ...........4. ผูท้ ่ไี มร่ คู้ ่าของส่ิงที่ไดม้ าหรือส่งิ ทมี่ อี ยู่ ...........5. ผู้ทม่ี ีความรหู้ รือประสบการณน์ ้อย แต่ สาคญั วา่ ตนมคี วามรมู้ าก

แผนการจัดการเรยี นรู้ที่ ๗.๑๓ ชั้นประถมศกึ ษาปที ี่ ๑ กลุ่มสาระการเรียนรูภ้ าษาไทย (รายวชิ า ท ๑๑๑๐๑) เวลา ๑๓ ชว่ั โมง ชอื่ หน่วยการเรยี นรูท้ ่ี ๗ เพอื่ นรกั เพื่อนเลน่ เรอื่ ง สรุปองค์ความรู้ เวลา ๑ ชั่วโมง สาระท่ี ๑ การอ่าน มาตรฐาน ท ๑.๑ ใชก้ ระบวนการอ่านสร้างความรู้และความคิดเพ่อื นาไปใช้ตดั สนิ ใจ แก้ปัญหาในการดาเนนิ ชีวิต และมนี ิสยั รักการอ่าน ตวั ช้วี ัดและสาระการเรยี นรู้ สาระการเรยี นร้แู กนกลาง/ทอ้ งถนิ่ ตัวช้ีวัด ความรู้ (K) ทกั ษะ/กระบวนการ (P) คณุ ลักษณะ (A) ท ๑.๑ ป.๑/๑ อา่ นออกเสียง -หลักการอ่านออกเสียง -ฝกึ อา่ นออกเสยี งรอ้ ยแก้ว -อา่ นรอ้ ยแก้วและรอ้ ย คา คาคล้องจอง และข้อความ ส้ันๆ รอ้ ยแกว้ และรอ้ ยกรอง และร้อยกรอง กรองได้ถูกต้อง ท ๑.๑ ป.๑/๒ บอก ความหมายของคา และ -มมี ารยาทในการอา่ น ข้อความที่อา่ น ท ๑.๑ ป.๑/๓ ตอบคาถาม -นยิ ามความหมายของ - ฝึกทกั ษะการอธิบาย -สามารถอธิบาย เกี่ยวกับเรือ่ งท่ีอ่าน คา ความหมายของคา ความหมายของคา -หลกั การอ่าน -ฝกึ การอ่านเร่อื งส้ันๆ -สามารถตอบคาถามจาก และตอบคาถามจากเรอ่ื ง เรอ่ื ง -มนี ิสยั รกั การอา่ น สาระท่ี ๔ หลกั การใชภ้ าษาไทย มาตรฐาน ท ๔.๑ เขา้ ใจธรรมชาตขิ องภาษาและหลักภาษาไทย การเปลย่ี นแปลงของภาษาและพลังของภาษา ภมู ปิ ัญญาทางภาษา และรกั ษาภาษาไทยไวเ้ ป็นสมบตั ขิ องชาติ

ตัวชวี้ ัดและสาระการเรยี นรู้ สาระการเรยี นรแู้ กนกลางท้องถ่ิน ตัวชวี้ ัด ความรู้ (K) ทักษะ/กระบวนการ (P) คุณลกั ษณะ (A) ท ๔.๑ ป.๑/๑ บอกและ -ชื่อและการเขียนตวั -ฝกึ ทกั ษะการเขียน -สามารถใช้ได้ เขียนพยัญชนะ สระ วรรณยุกตแ์ ละเลขไทย อักษรไทยและเลขไทย พยัญชนะ สระ วรรณยกุ ต์ ถกู ต้องและสวยงาม ท ๔.๑ ป.๑/๒ เขยี นสะกด คาและบอกความหมายของ และเลขไทย คา -หลกั การเขียนสะกดคา -ฝกึ การสะกดคาและบอก -สามารถสะกดคา ความหมายของคา และบอกวามหมาย ของคา สาระสาคญั การอา่ นบทกวี บทเพลง จะช่วยให้นักเรยี นรักการอ่านและเกดิ นสิ ัยรักการอ่านตามมาได้ จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้ ๑. อา่ นออกเสยี งคา คาคล้องจอง และขอ้ ความสั้นๆ ในบทเรียนได้ ๒. บอกความหมายของคา และข้อความท่ีอ่านได้ ๓. ตอบคาถามเกี่ยวกับเรอื่ งทอ่ี ่าน ๔. เขยี นสะกดคาได้ถกู ต้อง กจิ กรรมการเรยี นรู้ ๑. ครใู หน้ ักเรยี นรอ้ งเพลงชา้ งอาบนา้ และทาทา่ ประกอบ ๒. นักเรียนเข้ากลุ่มเลน่ เกม ใหน้ กั เรียนเดินเป็นวงกลม พร้อมกับท่องบท อ่านคล่อง รอ้ งเล่น และ ทาท่าประกอบ เมอ่ื ครเู ป่านกหวีด ให้หยุดเดนิ และจบั กลุ่มตามคาสง่ั เชน่ จบั กล่มุ เท่ากับจานวนขาช้างหนงึ่ เชือก ใบหูของช้างหนึ่งเชอื ก งาและงวงของชา้ งหนึง่ เชอื ก หางของชา้ ง ๕ เชอื ก เป็นตน้ ๓. นกั เรยี นในกลุ่มช่วยกันตั้งและตอบคาถามจากเรือ่ งทีอ่ า่ น ๕. ให้นกั เรียนวาดภาพประกอบสานวน โดยเลือกสานวนมา ๑ สานวน พรอ้ มกับบอกความหมาย ของสานวนน้ัน และระบายสใี ห้สวยงาม ทาลงในบตั รกิจกรรม ๖. นกั เรยี นรวบรวมผลงานส่งครู

สอ่ื / แหลง่ เรียนรู้ ลาดบั ที่ รายการส่ือ กจิ กรรมท่ีใช้ แหลง่ ทไ่ี ดม้ า ๑. บตั รความรู้/บตั รกิจกรรม เพม่ิ เตมิ ความชัดเจนในเนือ้ หา ครจู ดั เตรียม ครจู ดั หา ๒. หนงั สือเรยี น ชดุ ภาษาพาที นกั เรยี นดภู าพและฝกึ อ่าน ครูจัดทา ชัน้ ป. ๑ ครูจดั ทา ๓. แบบบันทึกการสังเกต สังเกตพฤติกรรมระหว่างเรียน พฤติกรรม ๔. แบบบันทึกการสังเกต สงั เกตพฤติกรรม และผลงาน พฤติกรรม และผลงานระหว่าง ระหวา่ งเรยี น เรยี น การวดั ผลประเมินผล กจิ กรรม-พฤตกิ รรมท่ปี ระเมิน เคร่อื งมอื ท่ใี ชใ้ น วธิ ีการประเมิน เกณฑก์ ารประเมนิ การประเมิน สงั เกตรายบคุ คล รอ้ ยละ ๗๐ ข้ึนไป ๑. สงั เกตพฤติกรรม แบบประเมนิ สังเกตพฤตกิ รรม ร้อยละ ๗๐ ขึน้ ไป และผลงานระหวา่ ง พฤติกรรม เรยี น ๒. ประเมนิ พฤตกิ รรมและ แบบบนั ทกึ การสงั เกต ผลงานระหว่างเรยี น พฤตกิ รรม และผลงาน ระหวา่ งเรียน

บนั ทกึ ขอ้ เสนอแนะของผบู้ รหิ ารหรอื ผทู้ ไ่ี ดร้ บั มอบหมาย ……………………………………………………………………………………………………….………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………….………………………………………………… ลงชอื่ …………………………………….. ( …………………………………. ) ตาแหน่ง……………………… วนั ที่……เดือน……………..พ.ศ………. บนั ทึกผลหลงั กระบวนการจดั การเรียนรู้ ผลการเรียนร้ทู ี่เกดิ ขึ้นกับผู้เรยี น (เกง่ ดี มสี ขุ ) ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………….…………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………….………………………………………………… ปญั หา / อปุ สรรค ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………….………………………………………………… ข้อเสนอแนะ / แนวทางแกไ้ ข ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………….…………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………….………………………………………………… ลงชอ่ื ……………………………….…ผู้สอน (………………..…………….) ตาแหนง่ ………………………………… ………../…………./…………

แผนการจดั การเรียนรู้ท่ี ๘.๑ ชนั้ ประถมศึกษาปีที่ ๑ กล่มุ สาระการเรยี นรู้ภาษาไทย (รายวชิ า ท ๑๑๑๐๑) เวลา ๑๓ ช่วั โมง ชอ่ื หน่วยการเรยี นรทู้ ่ี ๘ พูดเพราะ เรื่อง รู้จักคานาเร่ือง เวลา ๑ ชั่วโมง สาระที่ ๓ การฟัง การดู และการพูด มาตรฐาน ท ๓.๑ สามารถเลือกฟังและดอู ยา่ งมีวิจารณญาณ และพดู แสดงความรู้ ความคิด และความรู้สกึ ใน โอกาสตา่ งๆ อยา่ งมีวจิ ารณญาณและสร้างสรรค์ ตวั ชวี้ ัด/สาระการเรยี นรู้ สาระการเรียนรแู้ กนกลาง/ท้องถิน่ ตัวชวี้ ัด ความรู้ (K) ทกั ษะ/กระบวนการ (P) คุณลักษณะ (A) ท ๓.๑ ป.๑/๑ ฟงั คาแนะนา -การฟงั คาแนะนา -ฝึกทักษะการฟัง -มีมารยาทในการฟงั คาสง่ั ง่ายๆ และปฏบิ ตั ติ าม คาสัง่ ง่ายๆ คาแนะนา คาสง่ั ง่ายๆ -ปฏิบัตติ ามคาแนะนา และปฏิบัตติ าม คาส่งั ง่ายๆได้ ท ๓.๑ ป.๑/๒ ตอบคาถามและ -หลกั การตั้งคาถาม -ฝกึ การตั้งคาถามและ -สามารถตงั้ คาถามและ เลา่ เรอื่ งท่ฟี ังและดูทงั้ ท่ีเป็น และตอบคาถาม ตอบคาถาม ตอบคาถาม ความรู้และความบนั เทงิ ท ๓.๑ ป.๑/๓ พดู แสดงความ -หลักการพดู แสดง -ฝึกการพดู ความคดิ เหน็ -มีมารยาทในการพูด คิดเห็นและความรู้สกึ จากเรื่องที่ ความคดิ เหน็ และ และความรสู้ ึก ฟังและดู ความรสู้ กึ ท ๓.๑ ป.๑/๔ พดู ส่ือสารได้ -การพดู สื่อสาร -ฝกึ พูดสือ่ สาร -มมี ารยาทในการพดู ตามวตั ถปุ ระสงค์ ท ๓.๑ ป.๑/๕ มมี ารยาทในการ -มารยาทในการฟัง -ฝึกมารยาทในการฟงั มีมารยาทในการฟัง ฟงั การดู และการพูด การดู และการพดู การดู และการพูด การดู และการพดู

สาระสาคัญ ทักษะการฟงั เปน็ การสร้างประสบการณ์อย่างหน่ึง ท่ีทาใหม้ ีความรจู้ ากสิง่ ท่ฟี งั สามารถเลา่ เรอื่ ง และตอบคาถามจากเร่อื งไดถ้ ูกตอ้ ง จุดประสงคก์ ารเรียนรู้ ๑. ฟงั เรอ่ื ง “พูดเพราะ” แลว้ ตอบคาถามไดถ้ กู ต้อง ๒. ฟังเร่อื งแลว้ เล่าเรอ่ื งได้ กิจกรรมการเรยี นรู้ ๑. ครแู ละนกั เรยี นร่วมกันสนทนาเกี่ยวกบั การพดู เพราะ และความสาคญั ของการพูด โดย ยกสานวนเปน็ ปา้ ยนเิ ทศ เช่น ปากเป็นเอก เลขเปน็ โท ,พดู ดีเปน็ ศรีแกป่ าก พดู มากปากเปน็ สี เปน็ ตน้ แลว้ โยงไปเรือ่ ง “พูดเพราะ” ๒. ครูเล่าเรือ่ งเล่าเรือ่ ง “พูดเพราะ” ให้นักเรยี นฟงั จากบทเรียนโดยเน้นมารยาทในการฟัง ๓. นกั เรยี นทุกคนฝึกอา่ นคาจากภาพจากบตั รความรู้ “ร้จู ักคา นาความเร่อื ง” ตามครู พร้อมกนั ว่าอ่านอย่างไร จนคล่อง ๔. นักเรยี นช่วยกันเลา่ เรอ่ื งทีฟ่ ัง ถา้ เลา่ ไม่ไดค้ รูถามนาใหน้ ักเรียนตอบ ๕. ครเู ขียนคาบนกระดานให้นกั เรียนฝกึ อ่านคา จนคลอ่ ง ( ให้ปิดหนงั สือเรียน) ๖. นักเรียนทบทวนบทเรียนโดยสมุ่ ใหน้ กั เรียนอา่ นคาจากเรอ่ื ง ๗. มอบหมายให้นกั เรียนไปฝกึ อ่านคาจากหนังสือภาษาพาทีในชว่ ง “รจู้ กั คา นาความ เร่ือง” เปน็ การบ้าน สอ่ื / แหล่งเรียนรู้ ลาดบั ที่ รายการสอ่ื กิจกรรมท่ีใช้ แหล่งทไ่ี ดม้ า ๑. ป้ายนิเทศสานวน เพมิ่ เติมความชัดเจนในเนือ้ หา ครูจัดเตรียม ครูจดั หา ๒. หนังสอื เรยี น ชุด ภาษาพาที นกั เรียนดภู าพและฝึกอา่ น ครจู ัดทา ช้ัน ป. ๑ ๓. แบบบันทึกการสงั เกต สงั เกตพฤตกิ รรม และผลงาน พฤติกรรม และผลงานระหว่าง ระหวา่ งเรยี น เรียน

การวดั ผลประเมนิ ผล กจิ กรรม-พฤตกิ รรมทป่ี ระเมิน เครื่องมอื ที่ใช้ใน วธิ กี ารประเมิน เกณฑ์การประเมนิ การประเมิน สงั เกตรายบุคคล รอ้ ยละ ๗๐ ขึ้นไป ๑. สังเกตพฤตกิ รรม แบบประเมนิ สงั เกตพฤติกรรม รอ้ ยละ ๗๐ ข้ึนไป และผลงานระหวา่ ง พฤติกรรม เรียน ๒. ประเมินพฤติกรรมและ แบบบนั ทึกการสังเกต ผลงานระหวา่ งเรียน พฤติกรรม และผลงาน ระหว่างเรียน

บนั ทกึ ขอ้ เสนอแนะของผู้บรหิ ารหรือผู้ทไี่ ดร้ บั มอบหมาย ……………………………………………………………………………………………………….………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………….………………………………………………… ลงชอื่ …………………………………….. ( …………………………………. ) ตาแหน่ง……………………… วนั ที่……เดอื น……………..พ.ศ………. บนั ทกึ ผลหลงั กระบวนการจัดการเรียนรู้ ผลการเรียนรทู้ ีเ่ กดิ ขน้ึ กับผู้เรียน (เกง่ ดี มสี ุข) ……………………………………………………………………………………………………….………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………….………………………………………………… ปญั หา / อปุ สรรค ……………………………………………………………………………………………………….………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………….………………………………………………… ข้อเสนอแนะ / แนวทางแกไ้ ข ……………………………………………………………………………………………………….………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………….………………………………………………… ลงชอ่ื ……………………………….…ผสู้ อน (………………..…………….) ตาแหนง่ ………………………………… ………../…………./…………

รู้จกั คา นาเรื่อง ลบู แยง่ โกรธ ประตู ฟุตบอล ตล่งิ ก็ คำ เตะ รู้ ไล่ วำ่ ข้ึน คน ชวน น้นั ผำ่ น เดิม ริม จำก บอก พดู สตั ว์ ใหญ่ หรือ หนุ่ม เหมือน หยดุ เพรำะ กลบั กลำง พลำย เอะอะ เบำๆ ทะแนะ ตอนบ่ำย สนบตัำรมความสร้สู ักาหครบั รครู่ ูชอบใจ

เร่อื ง การฟงั และการพดู การฟงั เป็นการได้ยนิ เร่อื งราวให้เกดิ ความเข้าใจในเร่ืองทไ่ี ดย้ นิ และ นามาพิจารณาว่า เรอ่ื งราวนั้น ๆ ควรเชอ่ื ได้หรอื ไม่ นาไปใชป้ ระโยชนไ์ ด้เพียงใด ข้อควรปฏิบตั ใิ นการฟัง ๑. ตง้ั ใจฟงั ไมพ่ ูดหรอื สนทนากันขณะฟังผู้อ่นื พูด ๒. คดิ ติดตามเรอื่ งฟงั วา่ เรอ่ื งท่ฟี งั เกีย่ วกบั อะไร มคี วามถกู ต้องเชื่อถอื ได้หรือไม่ ๓. การฟังคาบรรยายควรจดขอ้ ความสาคญั ที่ไดจ้ ากการฟังไว้ มารยาทในการฟงั ๑. ต้งั ใจฟงั มองผู้พดู ๒. ไมค่ ยุ หรือเล่นขณะฟงั ผู้อนื่ พดู ๓. ไมส่ ่งเสยี งดังหรอื ทาความราคาญใหผ้ ูอ้ นื่ ๔. ถ้าจะถามควรขออนุญาตกอ่ น หรือให้ผู้พูดหยุดพูดก่อน ไม่ควรถามขณะผู้พดู ยงั พูดไมจ่ บ การพูด เปน็ การแสดงความคิดเห็นหรือบอกเล่าเร่ืองราว โดยการพดู ให้ผอู้ ่ืนฟัง ผพู้ ดู ต้องมคี วามคดิ มเี รอื่ งราวทีจ่ ะพูด และตอ้ งจัดลาดับความคิดหรือเรื่องราวที่ จะพดู ไมใ่ ห้สับสน เพ่อื ผฟู้ งั จะไดเ้ กดิ ความเข้าใจชัดเจน ผ้พู ูดตอ้ งพูดให้ชัดเจน ใช้ภาษาที่ถูกต้อง ข้อปฏิบัตใิ นการพดู ๑. จะพดู เรือ่ งอะไร ตอ้ งมีความรใู้ นเร่ืองนั้นโดยการอา่ น การซักถาม ผอู้ ืน่ ใหเ้ ข้าใจกอ่ น ๒. ใชภ้ าษาพดู ท่ีถูกต้อง สุภาพ ๓. พูดใหเ้ สยี งดัง ฟังชดั แต่ไม่ใชต่ ะโกน ๔. พดู ให้ชดั เจน ใชค้ าแทนช่ือใหถ้ กู ตอ้ ง ๕. มองผู้พดู ๖. ขณะพูดตอ้ งนั่งหรือยืนตวั ตรงในท่าสบาย ๗. ไม่เอามอื ลว้ ง ควัก แกะ เกา ขณะพดู หรอื ยืนเอามอื ไขวห้ ลัง

มารยาทในการพดู ๑. ใชน้ ้าเสยี งนุ่มนวล ไม่พดู กระโชกโฮกฮาก ๒. ใชถ้ อ้ ยคาสภุ าพ ๓. พูดด้วยใจจรงิ และยกย่องผูฟ้ งั ๔. ไมน่ นิ ทาผู้อื่นหรอื พูดวา่ ร้ายผอู้ ่ืน ๕. ไมแ่ สดงความโกรธเคืองผ้ฟู งั ๖. รอจงั หวะในการพดู ซกั ถาม ไมพ่ ูดสอดขณะผู้อนื่ กาลงั พดู

แผนการจัดการเรียนรู้ท่ี ๘.๒ ชั้นประถมศกึ ษาปีที่ ๑ กลุ่มสาระการเรยี นรภู้ าษาไทย (รายวชิ า ท ๑๑๑๐๑) เวลา ๑๓ ช่ัวโมง ช่อื หนว่ ยการเรยี นรู้ที่ ๘ พดู เพราะ เรือ่ ง อ่านคิดวเิ คราะห์เรอ่ื ง ๑ เวลา ๑ ชั่วโมง สาระที่ ๑ การอา่ น มาตรฐาน ท ๑.๑ ใช้กระบวนการอา่ นสร้างความรแู้ ละความคดิ เพอื่ นาไปใชต้ ดั สินใจ แก้ปัญหาในการดาเนิน ชีวติ และมนี ิสยั รกั การอ่าน ตัวชว้ี ัดและสาระการเรยี นรู้ สาระการเรยี นรแู้ กนกลาง/ท้องถนิ่ ตัวชวี้ ัด ความรู้ (K) ทักษะ/กระบวนการ (P) คุณลักษณะ (A) ท ๑.๑ ป.๑/๑ อา่ นออกเสยี ง -หลักการอา่ นออกเสียง -ฝึกอา่ นออกเสยี งรอ้ ยแกว้ -อ่านร้อยแก้วและร้อย คา คาคลอ้ งจอง และข้อความ ร้อยแก้วและร้อยกรอง และรอ้ ยกรอง กรองได้ถูกต้อง สน้ั ๆ -มมี ารยาทในการอ่าน ท ๑.๑ ป.๑/๒ บอก -นยิ ามความหมายของ - ฝกึ ทกั ษะการอธิบาย -สามารถอธบิ าย ความหมายของคา และ คา ความหมายของคา ความหมายของคา ขอ้ ความทอี่ า่ น ท ๑.๑ ป.๑/๓ ตอบคาถาม -หลักการอ่าน -ฝกึ การอ่านเรอ่ื งสนั้ ๆ -สามารถตอบคาถามจาก เกีย่ วกบั เรือ่ งทอ่ี า่ น และตอบคาถามจากเรื่อง เรอื่ ง -มนี สิ ัยรกั การอ่าน ท ๑.๑ ป.๑/๔ เล่าเรือ่ งย่อ -การเลา่ เรอื่ ง -ฝกึ ทกั ษะการเล่าเรือ่ ง -สามารถการเล่าเรอื่ ง จากเรื่องทอี่ ่าน ท ๑.๑ ป.๑/๕ คาดคะเน - การคาดคะเน - ฝกึ การคาดคะเน - คาดคะเนเหตุการณ์ได้ เหตุการณจ์ ากเรอื่ งทอ่ี า่ น เหตุการณ์ เหตกุ ารณ์ ถูกตอ้ ง ท ๑.๑ ป.๑/๖ อ่านหนงั สอื -หลักการอา่ นจบั ใจความ -ฝกึ สรปุ ความและข้อคิด -สรุปความรู้และข้อคิด ตามความสนใจอยา่ งสม่าเสมอ จากการอ่านเรอ่ื ง และนาเสนอเร่อื งทีอ่ ่าน ท ๑.๑ ป.๑/๗ บอก -การอา่ นเครื่องหมาย -ฝึกอา่ นเครื่องหมายหรอื -มมี ารยาทในการอา่ น ความหมายของเครอื่ งหมาย หรอื สัญลกั ษณ์ สัญลักษณ์ -มนี สิ ัยรกั การอ่าน หรอื สญั ลกั ษณ์สาคญั ที่มกั พบ เหน็ ในชีวติ ประจาวัน ๘. มีมารยาท ในการอ่าน -มารยาทในการอา่ น -ฝึกมารยาทในการอ่าน มีมารยาทในการอ่าน

สาระสาคัญ การอา่ นออกเสยี งจะช่วยให้เรารู้ได้ว่าเราสามารถออกเสียงคาและประโยคท่ีอา่ นถกู ต้องหรือไม่ เพือ่ จะ ได้ปรับปรงุ การอ่านใหด้ ีข้ึน จดุ ประสงค์การเรยี นรู้ ๑. อา่ นเร่อื ง “พดู เพราะ” ได้ถูกตอ้ ง ๒. เลา่ เร่อื งท่อี า่ นได้ ๓. ตอบคาถามจากเรือ่ งทีอ่ ่านได้ ๔. คาดคะเนเหตุการณ์จากเรอ่ื งท่ีอ่าน กิจกรรมการเรียนรู้ ๔. ครูใหน้ กั เรียนรอ้ งเพลง ชา้ งอาบน้า และทาทา่ ประกอบเปน็ การทบทวน ๕. ครูสนทนาเก่ียวกับการพูดของนักเรยี นทีต่ ้องมหี างเสยี ง เช่นคะ่ ครับ ขอบคณุ ขอโทษ ๓. ใหน้ กั เรยี นอา่ นเร่อื งพดู เพราะในหน้า ๘๑ จนคลอ่ งและเรยี นร้คู าใหม่ ๔. ครเู ขียนคาบนกระดานดาใหน้ กั เรียนอา่ น เพอ่ื หาคาตอบจากการอ่านในใจ ๕. ครูกาหนดเวลาให้นกั เรยี นอา่ นในใจ แลว้ ตอบคาถามปากเปล่า ๖. ครูมอบหมายใหน้ กั เรียนไปอ่านเนื้อเร่อื ง ส่ือ / แหล่งเรียนรู้ ลาดบั ท่ี รายการสอ่ื กจิ กรรมทีใ่ ช้ แหล่งที่ได้มา ๑. เพลงชา้ งอาบน้า เพม่ิ เติมความชัดเจนในเนอื้ หา ครูจดั เตรียม ครจู ดั หา ๒. หนังสอื เรยี น ชุด หนังสือเรียน นกั เรยี นดภู าพและฝึกอา่ น ครจู ดั ทา ชุด ภาษาพาที ช้ัน ป. ๑ ครูจดั ทา ๓. แบบบันทึกการสงั เกต สงั เกตพฤติกรรมระหวา่ งเรียน พฤตกิ รรม ๔. แบบบนั ทึกการสังเกต สังเกตพฤตกิ รรม และผลงาน พฤติกรรม และผลงานระหวา่ ง ระหว่างเรยี น เรียน

การวดั ผลประเมนิ ผล กจิ กรรม-พฤตกิ รรมทป่ี ระเมิน เครื่องมอื ที่ใช้ใน วธิ กี ารประเมิน เกณฑ์การประเมนิ การประเมิน สงั เกตรายบุคคล รอ้ ยละ ๗๐ ขึ้นไป ๑. สังเกตพฤตกิ รรม แบบประเมนิ สงั เกตพฤติกรรม รอ้ ยละ ๗๐ ข้ึนไป และผลงานระหวา่ ง พฤติกรรม เรียน ๒. ประเมินพฤติกรรมและ แบบบนั ทึกการสังเกต ผลงานระหวา่ งเรียน พฤติกรรม และผลงาน ระหว่างเรียน

บนั ทกึ ขอ้ เสนอแนะของผู้บรหิ ารหรือผู้ทไี่ ดร้ บั มอบหมาย ……………………………………………………………………………………………………….………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………….………………………………………………… ลงชือ่ …………………………………….. ( …………………………………. ) ตาแหนง่ ……………………… วันที่……เดือน……………..พ.ศ………. บนั ทกึ ผลหลงั กระบวนการจดั การเรียนรู้ ผลการเรียนรทู้ ีเ่ กดิ ขน้ึ กับผู้เรยี น (เกง่ ดี มสี ุข) ……………………………………………………………………………………………………….………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………….………………………………………………… ปญั หา / อปุ สรรค ……………………………………………………………………………………………………….………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………….………………………………………………… ข้อเสนอแนะ / แนวทางแก้ไข ……………………………………………………………………………………………………….………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………….………………………………………………… ลงช่ือ ……………………………….…ผ้สู อน (………………..…………….) ตาแหน่ง………………………………… ………../…………./…………

บัตรความรู้ พูดเพราะ ทุก วนั หยดุ ตอนบ่าย ภูผา ชวน เพ่อื นๆ มา เลน่ ฟตุ บอล กับ ใบโบก และ ใบบัว ท่ี ริม ตล่งิ เดก็ ๆ วงิ่ แยง่ ลูกบอล ลูกช้าง ว่ิง ตาม ภูผา ได้ ลกู บอล เตะ ไป ให้ ใบโบก ใบโบก ใช้ งวง ตี ลกู บอล เข้า ประตู เด็กๆ หวั เราะ ชอบใจ

มี เสียง เอะอะ ดงั ขึ้น พลายทะแนะ ช้าง หนมุ่ ตัว ใหญ่ ว่งิ ขึน้ จาก นา้ ผ่าน เดก็ ๆ ไป มี ควาญช้าง วิ่ง ไล่ ตาม ร้องเรียก ให้ พลายทะแนะ หยุด พลายทะแนะ วงิ่ ไป หยดุ ท่ี กลาง สนาม ควาญชา้ ง เข้า ไป ลูบ ขา ลูบ งวง พดู เบาๆ สักครู่ พลายทะแนะ เดิน กลับ ไป อาบน้า ตาม เดิม ควาญโพ พอ่ ของ ภูผา บอกวา่ ช้าง ชอบ คน พดู เพราะ ถ้า ควาญ พูด ไม่ เพราะ ช้าง ก็ โกรธ เปน็ เหมือน กนั ภูผา และ เพ่อื น ๆ รู้ แล้ว วา่ ไม่ วา่ คน หรือ สัตว์ ก็ ชอบ คา พูด เพราะๆ ทั้งนนั้

บตั รกจิ กรรม คาช้แี จง ให้นักเรียนฟงั ครเู ล่าเรื่องและดภู าพประกอบ แลว้ ตอบคาถามตอ่ ไปน้ใี หถ้ กู ต้อง ๑. ภผู าชวนเพื่อนๆไปเล่นกฬี าชนดิ ใด ……………………………………………………… ๒. สถานท่เี ลน่ ฟตุ บอลอยู่ท่ีใด ……………………………………………………… ๓. ใบโบก ใบบัวใช้อะไรตีลูกบอล ……………………………………………………… ๔. เดก็ เลน่ ฟุตบอลในวันใด ……………………………………………………… ๕. กีฬาฟตุ บอลของคน ใชอ้ วยั วะสว่ นใดเตะลูกบอล ……………………………………………………

แผนการจัดการเรียนรู้ท่ี ๘.๓ ชั้นประถมศกึ ษาปีที่ ๑ กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย (รายวิชา ท ๑๑๑๐๑) เวลา ๑๓ ช่ัวโมง ช่อื หนว่ ยการเรยี นร้ทู ่ี ๘ พูดเพราะ เรือ่ ง อ่านคดิ วเิ คราะหเ์ ร่อื ง ๒ เวลา ๑ ชั่วโมง สาระท่ี ๑ การอา่ น มาตรฐาน ท ๑.๑ ใช้กระบวนการอ่านสร้างความรแู้ ละความคดิ เพอื่ นาไปใชต้ ดั สินใจ แก้ปัญหาในการดาเนิน ชีวติ และมนี สิ ยั รกั การอ่าน ตวั ช้ีวัดและสาระการเรยี นรู้ สาระการเรยี นรแู้ กนกลาง/ท้องถนิ่ ตัวชีว้ ัด ความรู้ (K) ทักษะ/กระบวนการ (P) คุณลักษณะ (A) ท ๑.๑ ป.๑/๑ อ่านออกเสยี ง -หลกั การอา่ นออกเสียง -ฝึกอา่ นออกเสยี งรอ้ ยแกว้ -อ่านร้อยแกว้ และร้อย คา คาคลอ้ งจอง และขอ้ ความ รอ้ ยแกว้ และร้อยกรอง และรอ้ ยกรอง กรองได้ถูกตอ้ ง ส้ันๆ -มมี ารยาทในการอ่าน ท ๑.๑ ป.๑/๒ บอก -นิยามความหมายของ - ฝกึ ทกั ษะการอธิบาย -สามารถอธิบาย ความหมายของคา และ คา ความหมายของคา ความหมายของคา ข้อความทอ่ี ่าน ท ๑.๑ ป.๑/๓ ตอบคาถาม -หลักการอ่าน -ฝกึ การอ่านเรอ่ื งสนั้ ๆ -สามารถตอบคาถามจาก เกย่ี วกับเรอ่ื งท่ีอา่ น และตอบคาถามจากเรื่อง เรอื่ ง -มนี สิ ัยรกั การอ่าน ท ๑.๑ ป.๑/๔ เล่าเร่อื งย่อ -การเล่าเรอื่ ง -ฝกึ ทกั ษะการเล่าเรือ่ ง -สามารถการเล่าเรอื่ ง จากเรอื่ งทอ่ี ่าน ท ๑.๑ ป.๑/๕ คาดคะเน - การคาดคะเน - ฝกึ การคาดคะเน - คาดคะเนเหตุการณ์ได้ เหตุการณจ์ ากเรอื่ งท่อี า่ น เหตุการณ์ เหตกุ ารณ์ ถูกตอ้ ง ท ๑.๑ ป.๑/๖ อา่ นหนงั สือ -หลักการอา่ นจบั ใจความ -ฝกึ สรปุ ความและข้อคิด -สรุปความรแู้ ละข้อคิด ตามความสนใจอย่างสม่าเสมอ จากการอ่านเรอ่ื ง และนาเสนอเรือ่ งทอี่ ่าน ท ๑.๑ ป.๑/๗ บอก -การอา่ นเครื่องหมาย -ฝึกอา่ นเครื่องหมายหรอื -มมี ารยาทในการอา่ น ความหมายของเครื่องหมาย หรอื สัญลกั ษณ์ สัญลักษณ์ -มนี สิ ัยรกั การอ่าน หรอื สญั ลกั ษณส์ าคญั ทมี่ กั พบ เห็นในชีวิตประจาวัน ๘. มีมารยาท ในการอ่าน -มารยาทในการอา่ น -ฝึกมารยาทในการอ่าน มีมารยาทในการอ่าน

สาระสาคญั การอา่ นออกเสยี งจะชว่ ยใหเ้ รารูไ้ ด้ว่าเราสามารถออกเสยี งคาและประโยคท่ีอา่ นถูกต้องหรือไม่ เพ่ือจะ ได้ปรบั ปรงุ การอา่ นให้ดขี ้ึน จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้ ๑. เล่าเรื่องย่อทอี่ า่ นในบทเรยี นได้ ๒. ตอบคาถามจากเร่อื งที่อา่ นได้ ๓. อา่ นหนังสือตามความสนใจอย่างสมา่ เสมอและนาเสนอเร่ืองที่อา่ น ๔. มมี ารยาท ในการอ่าน กจิ กรรมการเรยี นรู้ ๑. ครูใหน้ ักเรียนรอ้ งเพลงช้างเปน็ การทบทวน ๒. ครใู หน้ กั เรยี นอา่ นบัตรคา เก่ียวกับเนื้อเรื่อง ทเ่ี รยี นผ่านมาแล้ว ๓. ให้นักเรยี นอา่ นคาในบทเรยี นชว่ ง เนอ้ื เร่อื ง หนา้ ๘๒ จนคลอ่ ง ๕. ครูเขียนคาบนกระดานดาให้นกั เรยี นอา่ น เพ่อื หาคาตอบจากการอา่ นในใจ ๖. ครกู าหนดเวลาให้นกั เรยี นอ่านในใจตัวแทนออกมาเลา่ เรือ่ งให้เพื่อน ๆ ฟงั ๗. นกั เรียนเข้ากลุม่ เดิม ร่วมกันคิดตอบคาถามจากเรอื่ ง พูดเพราะ โดยครอู ่านให้ฟงั แลว้ ส่งตวั แทน ออกมาตอบคาถามเร่อื งจนครบทุกข้อ ๘. ครูมอบหมายใหน้ กั เรียนไปอา่ นเนอ้ื เร่อื ง พูดเพราะ เป็นการบ้าน

สอ่ื / แหล่งเรียนรู้ ลาดับท่ี รายการสือ่ กจิ กรรมท่ีใช้ แหล่งที่ได้มา ๑. เพลงช้างและบัตรคา เพ่ิมเตมิ ความชัดเจนในเนอ้ื หา ครูจดั เตรียม ครจู ดั หา ๒. หนงั สือเรยี น ชุด ภาษาพาที นักเรียนดูภาพและฝกึ อา่ น ครูจดั ทา ช้นั ป. ๑ ครูจัดทา ๓. แบบบันทึกการสังเกต สงั เกตพฤตกิ รรมระหวา่ งเรยี น พฤติกรรม ๔. แบบบนั ทกึ การสงั เกต สังเกตพฤติกรรม และผลงาน พฤตกิ รรม และผลงานระหว่าง ระหว่างเรียน เรยี น การวัดผลประเมนิ ผล กจิ กรรม-พฤติกรรมทป่ี ระเมนิ เคร่อื งมอื ที่ใช้ใน วธิ ีการประเมิน เกณฑ์การประเมนิ การประเมนิ สงั เกตรายบคุ คล ร้อยละ ๗๐ ขึน้ ไป ๑. สังเกตพฤตกิ รรม แบบประเมิน สังเกตพฤติกรรม รอ้ ยละ ๗๐ ขึ้นไป และผลงานระหว่าง พฤติกรรม เรียน ๒. ประเมนิ พฤติกรรมและ แบบบนั ทกึ การสงั เกต ผลงานระหวา่ งเรยี น พฤติกรรม และผลงาน ระหว่างเรียน

บนั ทกึ ขอ้ เสนอแนะของผู้บริหารหรอื ผ้ทู ี่ไดร้ บั มอบหมาย ……………………………………………………………………………………………………….………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………….………………………………………………… ลงชือ่ …………………………………….. ( …………………………………. ) ตาแหน่ง……………………… วันท่ี……เดือน……………..พ.ศ………. บนั ทกึ ผลหลงั กระบวนการจดั การเรียนรู้ ผลการเรียนรทู้ ีเ่ กดิ ขน้ึ กบั ผู้เรียน (เกง่ ดี มีสขุ ) ……………………………………………………………………………………………………….………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………….………………………………………………… ปญั หา / อปุ สรรค ……………………………………………………………………………………………………….………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………….………………………………………………… ข้อเสนอแนะ / แนวทางแก้ไข ……………………………………………………………………………………………………….………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………….………………………………………………… ลงชอ่ื ……………………………….…ผสู้ อน (………………..…………….) ตาแหน่ง………………………………… ………../…………./…………

บัตรความรู้ พูดเพราะ ทุก วนั หยดุ ตอนบ่าย ภูผา ชวน เพ่อื นๆ มา เล่น ฟตุ บอล กับ ใบโบก และ ใบบัว ท่ี ริม ตล่งิ เดก็ ๆ วงิ่ แยง่ ลูกบอล ลูกช้าง ว่ิง ตาม ภผู า ได้ ลกู บอล เตะ ไป ให้ ใบโบก ใบโบก ใช้ งวง ตี ลกู บอล เข้า ประตู เด็กๆ หวั เราะ ชอบใจ

มี เสียง เอะอะ ดงั ขน้ึ พลายทะแนะ ช้าง หนมุ่ ตวั ใหญ่ วง่ิ ข้นึ จาก นา้ ผ่าน เดก็ ๆ ไป มี ควาญช้าง วง่ิ ไล่ ตาม ร้องเรียก ให้ พลายทะแนะ หยดุ พลายทะแนะ ว่ิง ไป หยุด ที่ กลาง สนาม ควาญช้าง เขา้ ไป ลบู ขา ลบู งวง พูด เบาๆ สักครู่ พลายทะแนะ เดนิ กลับ ไป อาบน้า ตาม เดมิ ควาญโพ พ่อ ของ ภผู า บอกวา่ ชา้ ง ชอบ คน พูด เพราะ ถ้า ควาญ พดู ไม่ เพราะ ชา้ ง ก็ โกรธ เปน็ เหมือน กนั ภผู า และ เพ่ือน ๆ รู้ แล้ว วา่ ไม่ วา่ คน หรือสตั ว์ ก็ ชอบ คา พูด เพราะๆ ท้งั นน้ั

บตั รกิจกรรม คาชี้แจง ให้นกั เรยี นฟังครเู ล่าเรื่องและดูภาพประกอบ เรอ่ื ง ใบบก ใบบวั แลว้ ตอบคาถามต่อไปนี้ ๑. เสียงเอะอะ ดงั ข้นึ เพราะอะไร …………………………………………………… ๒. พลายทะแนะไปหยดุ ท่ใี ด …………………………………………………… ๓. ควาญชา้ งทาอย่างไรเม่ือพลายทะแนะหยดุ ว่ิง …………………………………………………… ๔. คนและสัตว์ชอบคาพดู อย่างไรเหมอื นกัน …………………………………………………… ๕. ใครคอื คนบอกว่าช้างก็ชอบคนพดู เพราะ ……………………………………………………

เพลงช้าง คาร้อง คณุ หญงิ ช้นิ ศิลปะบรรเลง ทานอง พมา่ เขว ชา้ ง ช้าง ชา้ ง นอ้ งเคยเหน็ ช้างหรอื เปลา่ ชา้ งมนั ตวั โตไม่เบา จมูกยาว ยาว เรียกวา่ งวง มีเขย้ี วใตง้ วงเรยี กว่า งา มีหมู ีตาหางยาว


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook