Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore (4) เรื่องที่คณะกรรมาธิการพิจารณาเสร็จแล้ว 4.3 ผนวก ข(2)

(4) เรื่องที่คณะกรรมาธิการพิจารณาเสร็จแล้ว 4.3 ผนวก ข(2)

Published by agenda.ebook, 2020-09-03 06:09:14

Description: (4) เรื่องที่คณะกรรมาธิการพิจารณาเสร็จแล้ว 4.3 ผนวก ข(2) การประชุมสภาผู้แทนราษฎร ชุดที่ 25 ปีที่ 2 ครั้งที่ 29 (สมัยสามัญประจำปีครั้งที่หนึ่ง) วันที่ 10 กันยายน 2563

Search

Read the Text Version

๘๒๐ - หนูสงสัยเรื่องประเดน็ ของอำนำจศำล คือ เหมือนท่ีเรำเห็นข่ำวกัน บำงทมี ัน สมมติว่ำหนูมีคำถำมใน ใจว่ำถำ้ ศำลตดั สินผดิ เรำเอำผดิ ศำลได้ไหม มีอะไรที่ตรวจสอบคำตัดสนิ ของศำลไหม หรือคำตัดสินของศำลคือ ทีส่ ดุ แลว้ - ขอเสริมเร่ืองศำลครับ คือศำลเนี่ยหรือว่ำอำนำจตุลำกำรเป็นอำนำจเดียวในรัฐธรรมนูญท่ีเขียนมำ ทั้งหมดที่ไม่มีกำรยึดโยงกับประชำชนเลย กล่ำวคือกำรได้มำซ่ึงประธำนศำลฎีกำ รวมถึงตุลำกำรศำล รฐั ธรรมนูญไม่ไดม้ ำจำกกำรเลอื กต้ังของประชำชนเลย ประชำชนไมไ่ ดม้ ีส่วนในกำรทจี่ ะเลือกผู้พิพำกษำของเค้ำ เลย เพื่อที่จะมำบังคับใช้กฎหมำยที่เค้ำลงประชำมติกัน เป็นไปได้ไหมครับท่ีเรำจะทำให้กำรเลือกตั้งประธำน ศำลฎีกำ รวมถึงกำรเลือกตั้งตุลำกำรศำลรัฐธรรมนูญท่ีมีต้ังแต่รัฐธรรมนูญ ๒๕๔๐ เป็นไปได้ไหมที่จะมีส่วนท่ี ประชำชนจะได้เลือกผู้ท่ีจะบังคับใช้ตรำชั่งท่ีเป็นตรำช่ังสูงสุดของประเทศน้ีแทนประชำชนจริง ๆ อย่ำงที่สองก็ คอื ศำลเนี่ยในรูปแบบของกฎหมำยผมก็ไม่ได้ร้เู ยอะนะครับ แต่มีอำจำรยพ์ ูดเม่ือกว้ี ่ำเรำไมค่ วรมีรัฐธรรมนญู เลย คำถำมคือถ้ำเรำไม่ใช้รัฐธรรมนญู ในกำรควบคุมประเทศ เรำจะใช้จำรตี ในกำรควบคุมประเทศผมวำ่ ไมแ่ ฟรอ์ ยำ่ ง ย่ิงเลยนะ ยังไงเสียก็ต้องมีรัฐธรรมนูญ และรัฐธรรมนูญท่ีดีจริงจะต้องไม่มคี ำว่ำ จำรีตประเพณีอยใู่ นน้ันเลยมัน ควรเป็นเรื่องของคำว่ำ ช้ีว่ำถูกคืออะไรผิดคืออะไร ไม่เว้นที่ว่ำงให้กับวิจำรณญำณของผู้พิพำกษำ ไม่เว้นว่ำง ให้กับตีควำมของผู้ใช้กฎหมำยเองกล่ำวคือกฎหมำยเป็นอย่ำงไรก็ควรเขียนอย่ำงน้ัน ไม่เช่นนั้นกฎหมำยเขียน กว้ำงแค่ไหนสุดท้ำยศำลก็จะตีควำมเอง โอเคแหละครับมันมีบำงประเทศที่เค้ำใช้กฎหมำยในลักษณะท่ีว่ำเป็น คอมมอนลอว์เป็นลักษณะที่ว่ำ ศำลเคยพิพำกษำอย่ำงน้ีแล้วก็พิพำกษำอย่ำงน้ัน หรือว่ำมีกำรเปลี่ยนแปลง ก็ตำม ซึ่งมันก็เป็นกฎหมำยท่ีดีนะครับ แต่ในเม่ือบ้ำนเรำมีรัฐธรรมนูญแล้วก็ควรใช้ลักษณะเป็นซีวิลล์ลอว์ คือ กฎหมำยเขียนอย่ำงไรก็ควรเป็นอย่ำงน้ัน ไม่ควรยกเว้นให้กับใคร ไม่ควรยกเว้นให้กับวิจำรญำณของผู้พิพำกษำ เอง หรือผู้ใช้กฎหมำยเอง กฎหมำยควรมีควำมศกั ดิ์สิทธ์ิ ทุกคนเชื่อถอื ได้ แลว้ ทุกคนมองไปท่กี ฎหมำยแล้วรู้สึก วำ่ เฮ้ยอนั น้ีเรำเชอ่ื ใจได้ แม้คนเหล่ำนั้นจะมีอำนำจสูงกว่ำเรำแค่ไหน แม้เค้ำจะเป็น สส. ที่เรำเลือกเองแท้ ๆ ก็ ตำม กฎหมำยจะต้องอยู่สูงกวำ่ เค้ำ จะไม่มีใครอยสู่ ูงกว่ำกฎหมำยแม้แต่สงิ่ ที่สูงมำก ๆ ก็ควรอยู่ภำยใต้กฎหมำย เดยี วกับเรำ เปน็ ไปไดไ้ หมทจ่ี ะเกดิ ขึน้ ในประเทศน้ี ครบั ผม - สอบถำมค่ะ พอดีว่ำเป็นส่ือ เมื่อกี้เห็นพูดถึงเรื่องตุลำกำร เข้ำใจว่ำตุลำกำรศำลรัฐธรรมนูญมำจำก รัฐธรรมนูญปี ๒๕๔๐ ใชไ่ หมคะ แลว้ เขำ้ ใจว่ำมำจำกกำรสรรหำของ ส.ว. ท่ตี ้ังคณะกรรมกำรข้นึ มำสรรหำ แล้ว ตอนรัฐธรรมนูญ ปี ๔๐ เข้ำใจว่ำเรำเลือก ส.ว. ทั้งหมด อันนั้นทำให้เรำเห็นว่ำ คณะตุลำกำรมันมีควำมยึดโยง กบั ประชำชนผ่ำน ส.ว. ที่มำจำกกำรเลือกตั้ง มันเป็นไปได้หรือไม่ท่ีเรำจะกลบั มำเลือก ส.ว. อกี คร้ัง เพื่อที่ ส.ว. ท่ีมีหน้ำท่ีร่ำงกฎหมำย รวมทั้งจัดต้ังคณะกรรมกำรขึ้นมำสรรหำองค์กรต่ำง ๆ ท่ีเป็นองค์กรอิสระ จะสำมำรถ เกิดขนึ้ ไดแ้ บบน้ันอกี ครั้งหรือเปล่ำ เพื่อใหย้ ดึ โยงกับประชำชนจรงิ ๆ - องอำจจำกเภสัชนะครับ จะฝำกนิด ๆ หน่อย ๆ ครับผม ก็จะมีหมวดที่ ๔ มำตรำ ๕๐ นะครับ (๕) คือ รับรำชกำรทหำรเป็นหนำ้ ท่ีของปวงชนชำวไทยนะครับ รับรำชกำรตำมทีก่ ฎหมำยบัญญัติ ก็แค่สงสัยวำ่ แค่ ทหำรเหรอครับ อันนี้แค่สงสัยเฉย ๆ ไม่มีอะไรครับ แลว้ ก็มีบำงส่วนบอกว่ำกำรที่เรำจะยกเลิกเกณฑ์ทหำรเนี่ย ไม่ต้องแก้รัฐธรรมนูญ แต่ว่ำแก้แค่ พรบ. แบบนี้ก็ได้ มันเป็นได้ใช่ไหมครับว่ำแก่ พระรำชบัญญัติเฉย ๆ ไม่ต้อง แกร้ ัฐธรรมนูญ แต่ว่ำควำมเหน็ ของผมก็คือ เรำแกร้ ัฐธรรมนูญไปเลยได้ไหม เพรำะวำ่ มำตรำ ๕ รัฐธรรมนญู เป็น กฎหมำยสูงสุดของประเทศก็คือไม่ต้องแก้ พรบ. เลย แก้รัฐธรรมนูญแบบไม่ให้เกณฑ์ทหำรเลยแบบน้ีได้ไหม ครบั สงสัยเฉย ๆ ขอบคุณครบั -ผมมีประเด็นนิดเดียวครับ เม่ือกี้ท่ีพูดถึงกลไกกำรแก้ว่ำระหว่ำง สว. สส หรือรัฐสภำจะสำมำรถแก้ เร่ืองนี้ได้ คือ ถ้ำเอำตำมข้อเท็จจริงนะครับ มันต้องเป็นข้อเท็จจริงที่คนท่ัวไปรู้ว่ำ คือรัฐบำลเค้ำมีธงท่ีชัดเจน ใช่ไหมครับ แล้วก็ไม่มีกำรยึดโยงกับประชำชนเห็นได้ชัดจำกส่ิงท่ีมันเกิดข้ึน คือผมรู้สุกว่ำมันมำถึงจุดนี้มันมี

๘๒๑ ปัญหำและรัฐธรรมนูญบอกช่องทำง แต่พอไปถึงกลไกนึงพอไปถึงรัฐสภำอะไรอย่ำงนี้ เวลำท่ำนบอกรัฐบำลจะ ทำเพื่อประชำชนเนี่ย พอพูดถึงเรื่องประชำชนจริง ๆ เนี่ย กำรแกร้ ัฐธรรมนูญมันเสียอำนำจของเค้ำใชไ่ หมครับ ท่ีเค้ำทำมำ อันน้ีพูดในข้อเท็จจริงเลยว่ำ ไม่มีทำงเลย เค้ำอุตส่ำห์วำงแผนเขียนรัฐธรรมนูญขึ้นมำ วำงกติกำ เทคนิคต่ำง ๆ มำขนำดนี้ แล้วอยู่ดี ๆ เค้ำจะคืนมำ อันน้ีคือข้อเท็จจริงท่ีต้องรับรู้กัน ตรงนี้เลยเป็นปัญหำว่ำ แลว้ ทำงออกมันจะไปยงั ไง ถำ้ รัฐบำลบอกว่ำเป็นของประชำชนจริง ๆ ทำเพ่ือประชำชนจริง ๆ ตอ้ งเปิดใหม้ ีกำร แกร้ ฐั ธรรมนูญ ผมถำมวำ่ เร่ืองนเี้ กิดขึ้นไดไ้ หม ไม่มีทำงเปน็ ไปได้แน่นอนใช่ไหมครบั ท่ำนก็รู้ ท่ำนอยใู่ นสภำทำ่ น กร็ ู้ว่ำมันเป็นยังไง ทีนี้มนั มีชอ่ งทำงอ่ืนไหม อย่ำงเม่ือวำนเห็นกลุ่มรณรงค์เร่ืองรัฐธรรมนญู เปน็ กลมุ่ แรก คือ เค้ำ เรียกร้องว่ำถ้ำรัฐบำลไม่แก้ก็ออกไป ผมว่ำเรำต้องมองช็อตต่อไปดีกว่ำ ควำมเป็นจริงรัฐบำลน้ีไม่ทำแน่นอน ใช่ไหมครับ แล้วช็อตต่อไป เช่น ท่ีเค้ำกำลังเสนอมำว่ำถ้ำไม่แก้ก็ออกไปเน่ีย ถ้ำรัฐบำลน้ีไม่รับกำรแก้ไขออกไป เนีย่ เรำจะมีกลไกอย่ำงไรในกำรแก้รฐั ธรรมนูญ คดิ ว่ำน่ำจะมีช่องทำงตรงนี้เผอื่ ไว้ สเตป็ ตอ่ ไปถ้ำประเมนิ แล้วว่ำ รฐั บำลไม่แกช้ อ่ งทำงตอ่ ไปคอื อะไร - หนูขอพูดในฐำนะเด็กคนนึงก็ได้ เพรำะว่ำมันเป็นเร่ืองท่ีค่อนข้ำงยำกท่ีให้คนที่ยังไม่บรรลุนิติภำวะ มำอ่ำนรัฐธรรมนญู หรือศึกษำมำตรำอะไร แต่มันไม่ได้แปลว่ำเด็กเค้ำปิดหูปิดตำหรือไม่รบั รู้เหตุกำรณ์บ้ำนเมือง อะไรเลย เพรำะว่ำในโซเชี่ยลในส่ืออะไรก็มีค่อนข้ำงเยอะ และแบบทำให้เกิดคำถำมว่ำมัน มันเกิดอะไรกับทุก วนั นีข้ องเรำ แล้วกำรเลอื กต้ังครั้งล่ำสุดเน่ียนะคะมนั เปน็ กำรเลือกตั้งคร้ังแรกของพวกหนูก็พดู ในกลมุ่ เพื่อกนั ว่ำ แบบกำรเลอื กตั้งครง้ั น้ีมันดมู ีควำมหวัง เพรำะวำ่ มคี นรุ่นใหมห่ รือว่ำคนท่เี คำ้ จะเปน็ กระบอกเสยี งเป็นควำมหวัง ของเรำข้ึนมำได้อย่ำกลุ่มหน่ึง มันก็ทำให้เรำรู้สึกว่ำคนกลุ่มน้ีเค้ำอำจจะเป็นควำมหวังของเรำท่ีแบบทำให้อะไร มนั ดีขึ้นมำได้ค่ะ แต่ว่ำมันก็ค่อนขำ้ งอเมซซิ่งนะคะท่วี ่ำผลมันออกมำแบบนำยกไม่ต้องมำจำกกำรเปน็ ส.ส. ก็ได้ หรอื ส.ว. ท่เี รำไม่ได้เลอื กเลยสกั คนเดยี วเค้ำสำมำรถเลอื กนำยกไดอ้ ะไรแบบน้ี มันคอ่ นข้ำงเปน็ เร่ืองทเี่ ข้ำใจยำก นะคะสำหรบั เด็กแต่ว่ำ หนูร้สู ึกว่ำมนั ไม่แฟร์อะไรเลยกบั ประชำชนหรือกับทุกคนอันนี้เป็นควำมเห็นของหนูแล้ว กบุ่มเพือ่ ที่อยำกมคี วำมเหน็ ขอบคณุ คะ จำกน้นั ผดู้ ำเนนิ รำยกำรฟังสรปุ ในชว่ งท้ำย และปดิ กำรเสวนำ เลกิ ประชุมเวลา ๑๖.๐๐ นาฬิกา นำยเฉลิมศักด์ิ ใจชำนิ วทิ ยำกรชำนำญกำร ผู้สรุปรำยงำน

๘.๓.๔ การจดั สัมมนาของสถาบันสิทธิมนุษยชน และสันตศิ ึกษามหาวิทยาลยั มหิดล ณ ห้องประชุมศาสตราจารย์บุญชนะ อัตถากร วิทยาลัยการเมืองการปกครอง มหาวทิ ยาลัยมหาสารคาม

รายงานการรบั ฟังความคิดเห็นของประชาชน คณะอนกุ รรมาธกิ ารประชาสัมพนั ธ์และรับฟังความคดิ เหน็ ของประชาชน ในคณะกรรมาธกิ ารวสิ ามญั พิจารณาศึกษาปัญหา หลักเกณฑ์ และแนวทางการแกไ้ ขเพมิ่ เตมิ รัฐธรรมนูญ แห่งราชอาณาจกั รไทย พทุ ธศกั ราช ๒๕๖๐ เวทีภาคประชาชนทจี่ ดั โดย สถาบนั สทิ ธิมนษุ ยชนและสนั ติศกึ ษา มหาวิทยาลยั มหดิ ล วนั อาทติ ยท์ ี่ ๑๕ มีนาคม ๒๕๖๓ ณ หอ้ งประชมุ ศาสตราจารยบ์ ุญชนะ อัตถากร วทิ ยาลัยการเมืองการปกครอง มหาวทิ ยาลยั มหาสารคาม จงั หวดั มหาสารคาม สานักกรรมาธิการ ๒ สานักงานเลขาธกิ ารสภาผู้แทนราษฎร

รายงานการรับฟงั ความคดิ เห็นของประชาชน คณะอนุกรรมาธกิ ารประชาสัมพนั ธ์และรบั ฟงั ความคิดเห็นของประชาชน ในคณะกรรมาธิการวิสามญั พิจารณาศึกษาปัญหา หลักเกณฑ์ และแนวทางการแกไ้ ขเพมิ่ เติมรัฐธรรมนญู แห่งราชอาณาจักรไทย พทุ ธศักราช ๒๕๖๐ เวทีภาคประชาชนที่จดั โดยสถาบนั สทิ ธิมนุษยชนและสนั ตศิ ึกษา มหาวทิ ยาลัยมหดิ ล วันอาทติ ย์ท่ี ๑๕ มนี าคม ๒๕๖๓ ณ ห้องประชุมศาสตราจารย์บญุ ชนะ อัตถากร วิทยาลัยการเมืองการปกครอง มหาวิทยาลัยมหาสารคาม จังหวดั มหาสารคาม คณะกรรมาธกิ ารและคณะอนุกรรมาธกิ ารทเ่ี ข้าร่วมรบั ฟัง โฆษกคณะกรรมาธิการและอนกุ รรมาธกิ าร ๑. นายสุทนิ คลังแสง ท่ีปรกึ ษาคณะกรรมาธกิ าร ๒. พนั ตารวจเอกทวี สอดส่อง และคณะอนุกรรมาธกิ าร ๓. นายเอกพนั ธุ์ ปณิ ฑวณชิ กรรมาธกิ ารและอนกุ รรมาธิการ ๔. นายณฐั พัฒน์ พดั ทอง ผบู้ ังคบั บัญชา กลุม่ งานคณะกรรมาธิการการทหาร ๕. นายจาตรุ งค์ นาสมใจ สานักกรรมาธิการ ๒ นติ กิ รชานาญการพเิ ศษ ๖. นายอลงกรณ์ ม่งั มี กล่มุ งานคณะกรรมาธกิ ารการทหาร สานักกรรมาธกิ าร ๒ ๗. นายเฉลมิ ศกั ดิ์ ใจชานิ วิทยากรชานาญการ กลุ่มงานคณะกรรมาธิการการทหาร สานกั กรรมาธิการ ๒ วิทยากรชานาญการ กลุม่ งานบรกิ ารเอกสารอา้ งอิง สานักกรรมาธิการ ๒ ผู้เข้ารว่ มรับฟัง ๑. ประชาชนทุกภาคส่วน ๒. นักศกึ ษา ๓. นักวิชาการ (อาจารย์มหาวทิ ยาลยั ) ๔. สื่อมวลชน

๘๒๕ เรม่ิ รับฟงั ความคิดเหน็ เวลา ๑๓.๐๐ นาฬิกา นายเอกพันธ์ุ ปิณฑวณิช กรรมาธิการและอนุกรรมาธิการ ผู้ดาเนินรายการกล่าวช้ีแจงวิธีการ การดาเนินการรับฟังความคิดเห็นได้จาแนกการจัดกลุ่มออกเป็น 4 ประเด็น ได้แก่ (1) แนวนโยบายพื้นฐาน แห่งรัฐที่มีต่อประชาชน (๒) สิทธิ เสรีภาพ (๓) ระบบการเมืองและสถาบันการเมือง และ (๔) ระบบการ ตรวจสอบ จากนนั้ จงึ เขา้ สู่กระบวนการ โดยมปี ระเด็นการรบั ฟังความคิดเห็นสรุปสาระสาคัญได้ดังนี้ ช่วงที่ ๑ ผู้ดาเนินรายการได้สอบถามไปยังผู้เข้าร่วมสัมมนาถึงรัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบันว่า ผู้เข้าร่วมสัมมนาได้ทาความเข้าใจถึงเน้ือหาของรัฐธรรมนูญมากน้อยเพียงใด ทั้งน้ีได้ยกตัวอย่างถึงการ ดาเนินการตามรัฐธรรมนูญว่า รัฐจะต้องปฏิบัติตามรัฐธรรมนูญ เช่น กรณีการระบาดของโรคไวรัสโคโรน่า – ๑๙ ซึ่งรัฐจะต้องจัดให้มีการป้องกัน เช่น การแจกหน้ากากอนามัยหรือการดูแลเบ้ืองต้นไม่ให้มีการระบาดเพ่ิมเติม โดยผู้ดาเนินรายการได้ให้ข้อมูลเพ่ิมเติมว่า รัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบันน้ันจะต้องเป็นรัฐธรรมนูญของประชาชน ไม่ใช่เป็นการเขียนรัฐธรรมนูญเพื่อคนกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง โดยผู้เข้าร่วมสัมมนาได้ให้ข้อมูลในประเด็นการทาความ เข้าใจเก่ียวกับรัฐธรรมนูญว่าเข้าใจบางส่วนและไม่ได้เข้าใจเน้ือหาทั้งหมดของรัฐธรรมนูญ จากนั้นได้เชิญ ดร. เทียนชาย กล่าวเปิดงานสัมมนาในครั้งน้ี โดย ดร.เทียนชาย ได้กล่าวว่าการสัมมนารับฟังในคร้ังนี้เป็นการ ดาเนินการโดยคณะกรรมาธิการศึกษาแนวทางการแก้ไขรัฐธรรมนูญ สภาผู้แทนราษฎร เพ่ือที่จะนาข้อมูลท่ี ได้รับฟังจากภาคประชาชนไปเป็นแนวทางในการแก้ไขรัฐธรรมนูญให้เป็นรัฐธรรมนูญท่ีประชาชนมีส่วนร่วม อย่างแท้จริงเพราะประชาชนทุกคนในประเทศไทยเป็นเจ้าของอานาจท่ีแท้จริง ดังนั้นรัฐธรรมนูญจะต้องมี เจตนารมณ์เพื่อประชาชนคนไทยทุกภาคส่วน จากน้ันผู้ดาเนินรายการได้เชิญ พลตารวจเอกทวี สอดส่อง ท่ีปรึกษาคณะกรรมาธิการ กล่าวต่อผู้เข้าร่วมสัมมนา ดังนี้ การปกครองตามระบอบประชาธิปไตยอันมี พระมหากษัตริย์เป็นประมุขกวา่ ในหลักการของประชาธิปไตยมีหลกั การว่าอานาจเป็นของประชาชนตอ้ งมีการ เคารพในสิทธิและเสรีภาพของประชาชนโดยไม่ถกู บงั คบั ซ่ึงถือว่าเป็นเอกภาพและความม่ันคงของประชาชน ไม่ ว่าจะประกอบอาชีพใด อย่สู ่วนใดของประเทศ โดยมีกติกาท่ใี ช้รว่ มกันในสงั คม เรยี กว่ารฐั ธรรมนูญ โดยสังคมที่ มคี วามสุขต้องมีหลักสาคัญคือ ประชาชนของประเทศต้องเปน็ ประชาชนท่ีดี มคี วามสุขมีปัจจัย ๔ ท้ังนี้ จะต้อง มีกฎหมายรัฐธรรมนูญที่ดี สนองเจตนารมณ์ของประชาชน ที่ส่งเสริมศักยภาพของประชาชน เช่น การศึกษา ความเป็นอยู่ท่ีดี การอยู่รว่ มกนั แบบพหุวัฒนธรรมและการอยู่ร่วมกันระหว่างประเทศ กฎหมายรัฐธรรมนูญที่ดี ต้องเกิดจากการศรัทธาและความหวงแหนท่ีมาจากประชาชนและประชาชนมีส่ วนร่วมและประชาชนท่ีดี จะก่อให้เกิดตัวแทนท่ีดีเพื่อให้มีรัฐบาลที่ดีที่ทาเพื่อประชาชน ดังนั้นจึงเป็นท่ีมาของการรับฟังข้อคิดเห็นจาก ภาคประชาชนนาไปปรับและแก้ไขรัฐธรรมนูญเพ่ือให้มีรัฐธรรมนูญที่ดีเพื่อท่ีจะให้มีรัฐบาลที่ดีในการบริหาร ประเทศ โดยมีคณะกรรมาธิการจานวน ๔๙ ท่านเป็นผู้นาข้อคิดเห็นเหล่านี้ไปสรุปและรวบรวมเพื่อเสนอต่อท่ี ประชมุ สภาผแู้ ทนราษฎรตอ่ ไป จากนั้น ผ้ดู าเนนิ รายการได้แจกกระดาษสีส้มและสชี มพูเพื่อใหผ้ ู้เข้าร่วมสมั มนาไดเ้ ขยี นความเห็น เก่ียวกับข้อดีและข้อเสียของรัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบัน แบ่งเป็น ๒ ส่วนคือ ๑) สีส้ม เป็นความเห็นเก่ียวกับ ข้อเสยี และปัญหาของรัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบัน และ ๒) สีชมพู เป็นความเห็นเก่ียวกับขอ้ ดขี องรฐั ธรรมนูญฉบับ ปัจจุบัน ที่ผู้เข้าร่วมสัมมนาได้พบหรือมีความเห็นว่าควรปรับเปลี่ยนหรอื แก้ไขหรือให้คงไว้ดังเดิม ท้ังน้ีผู้ดาเนิน รายการไดใ้ ห้ข้อมลู เพม่ิ เติมแกผ่ เู้ ข้าร่วมสัมมนาในประเดน็ ของแบบสอบถามมีรายละเอียดดังนี้ คอื ๑) เปน็ การสอบถามเกี่ยวกับแนวนโยบายของภาครัฐ หน้าทข่ี องภาครฐั ทมี่ ีผลกระทบเก่ียวกับการ ดารงชีวติ ของประชาชน ผลกระทบเกี่ยวกบั เศรษฐกิจ ทรัพยากรธรรมชาตแิ ละส่ิงแวดลอ้ ม

๘๒๖ ๒) สทิ ธแิ ละเสรภี าพของภาคประชาชน เช่น การกาหนดสทิ ธิและหนา้ ท่ีของประชาชนในด้านต่าง ๆ ๓) ระบบการเมืองและสถาบันทางการเมือง เช่น ระบบการเลือกต้ัง ท่ีผ่านมา กรณีของ คณะกรรมการการเลือกตัง้ คิดสูตรการคานวณจานวนสมาชกิ สภาผู้แทนราษฎร นั้นมีผลกระทบอย่างไรกับภาค ประชาชน พรรคการเมืองควรมีความยึดโยงกับภาคประชาชนหรือไม่อย่างไร การปกครองท้องถ่ินควร ดาเนนิ การอยา่ งไร หรอื องค์กรตามรัฐธรรมนูญควรเป็นเชน่ ใด เป็นตน้ ๔) ระบอบการตรวจสอบภาครัฐหรือการใช้อานาจรัฐ ผู้ดารงตาแหน่งทางการเมือง องค์กรตุลา การ องค์กรอิสระและเจ้าหน้าที่รัฐ จะต้องมีการตรวจสอบได้หรือไม่และตรวจสอบอย่างไร การวิภาคและ วจิ ารณ์องคก์ รเหล่านค้ี วรทาได้โดยไมถ่ อื เป็นความผดิ ในการตอบแบบสอบถามนั้น ในข้อที่ ๑ น้ันหากมีความเห็นว่ารัฐธรรมนูญฉบับดังกล่าวดีอยู่แล้ว ไม่ควรมีการแก้ไขก็ให้ระบุเหตุผลว่าดีอย่างไร ในข้อท่ี ๒ ที่เห็นควรว่าต้องแก้ไขโดยจะแก้ไขท้ังฉบับหรือแก้ไข เป็นรายมาตราโดยให้ระบุว่าควรแก้ไขเร่ืองใดและมีเหตุผลอย่างไรในการแก้ไขพร้อมทั้งเสนอแนวทางในการ แก้ไขปัญหาดังกลา่ ว จากน้ันผู้ดาเนินรายการได้รวบรวมประเด็นการเสนอแนะจากผู้เข้าร่วมสัมมนาแต่ละท่านเพ่ือ นาเสนอให้กับผ้เู ขา้ ร่วมสัมมนารบั ทราบเพอ่ื จะได้ถกแถลงวา่ มีความคิดเหน็ อย่างไร ดงั นี้ ข้อคิดเห็นที่ ๑ เห็นว่าสิ่งท่ีควรปรับปรุง คือ โครงสร้างการบริหารโดยเฉพาะอย่างยิ่งนโยบาย สาธารณสุขท่ีสถานการณ์ปัจจุบันการระบาดของโรคไวรัสโคโรน่า – ๑๙ ที่ประชาชนไม่มีความปลอดภัย เทา่ ท่ีควร ข้อคิดเห็นท่ี ๒ เห็นว่าอยากให้มีการแก้ไขรัฐธรรมนูญท้ังฉบับ ไม่ให้เป็นของกลุ่มบุคคลใดบุคคล หนึ่งและใหเ้ ป็นรัฐธรรมนญู ของประชาชนอย่างแท้จริงโดยใหเ้ หตุผลว่า อานาจไม่ควรตกไปอยู่กับกลุ่มบคุ คลซ่ึง จะทาให้เกิดการจัดสรรผลประโยชน์เฉพาะกลุ่มบุคคลน้ันทาให้กลุ่มบุคคลอ่ืน ๆ ท่ีถูกกีดกันกลายเป็นกลุ่มชน ช้ัน ๒ ทาใหไ้ มไ่ ดร้ บั ผลประโยชนห์ รือสิทธิท่เี ทา่ เทยี มกันและไมไ่ ดเ้ ป็นผลประโยชนข์ องประชาชนอยา่ งแทจ้ ริง ข้อคิดเห็นที่ ๓ รัฐธรรมนูญท่ีมีนายกรัฐมนตรีมาจากบุคคลภายนอกแสดงให้เห็นว่ามีการแข่งขัน ทางอานาจโดยมีเหตุผลเพ่ิมเติมว่า รัฐธรรมนูญท่ีเปิดช่องว่างให้บุคคลภายนอกท่ีไม่ได้เป็นตัวแทนจากภาค ประชาชนจาทาใหเ้ กิดการแข่งขันทางอานาจเพื่อให้ได้เข้ามาบรหิ ารประเทศ ทั้งน้ีผู้ท่ีจะเป็นนายกรัฐมนตรีควร มาจากตัวแทนประชาชน คือ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรเท่าน้ัน และนายกรัฐมนตรีที่มาจากบุคคลภายนอกไมไ่ ด้ ผ่านการคดั กรองจากภาคประชาชนในข้ันแรกอาจตอบสนองความต้องการของประชาชนได้ไมด่ เี ท่าที่ควร ข้อคิดเห็นท่ี ๔ การเลือกปฏิบัติระหว่างฝ่ายรัฐบาลและฝ่ายค้านในการทาหน้าที่ผู้แทนประชาชน มีความเล่อื มล้ากนั ข้อคิดเห็นท่ี ๕ เห็นควรว่าควรมีการร่างรัฐธรรมนูญใหม่ท้ังฉบับเพ่ือให้เป็นรัฐธรรมนูญท่ีมาจาก ประชาชน เพราะรัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบันมีการเอ้ือประโยชน์ให้กลุ่มบุคคลบางกลุ่มเท่านั้น ในประเด็นกติกา ของการเลือกตั้งควรมีมีการปรับเปลี่ยน และยุทธศาสตร์ชาติ ๒๐ ปีนั้นควรมีการแก้ไขเช่นกัน โดยมีเหตุผล เพมิ่ เตมิ จากผู้เข้าร่วมสัมมนา ดังน้ี การร่างรัฐธรรมนูญใหม่ท้ังฉบับควรมาจากประชาชน โดยการมีส่วนร่วมของประชาชนและต้องมี การกระจายอานาจให้กับประชาชน โดยระยะเวลาในการดาเนนิ การนั้นอาจนารัฐธรรมนญู ฉบับปี พ.ศ. ๒๕๔๐ มาใชช้ ั่วคราว (นายอดศิ ร กลุ่มเครือขา่ ยปฏิรูปทีด่ นิ ภาคอสี าน)

๘๒๗ กติกาการเลือกต้ัง เห็นควรยกเลิกโครงสร้างการเลือกตั้งในปัจจุบัน เพราะตัวแทนภาคประชาชน ที่มีเสียงข้างมากไม่ได้จัดตั้งรัฐบาลและการเลือกตั้งควรมีความโปร่งใสตรวจสอบได้การนับคะแนนควรมีความ โปร่งใส บริสุทธ์ยิ ุติธรรม ทง้ั นี้ การเลือกตั้งในครั้งท่ีผ่านมาผูส้ ัมมนามีท้ังพอใจและไม่พอใจผลการเลอื กตั้ง ส่วน ที่พอใจให้เหตุผลว่า มีพรรคการเมืองที่ตนเองชอบ บางส่วนท่ีไม่พอใจให้เหตุผลว่าการเลือกตั้งไม่มีความ ยุตธิ รรม ประเด็นการแก้ไขยทุ ธศาสตร์ชาติ ๒๐ ปนี ้ัน ผูส้ มั มนาสว่ นใหญ่ไมม่ คี วามพึงพอใจโดยให้เหตุผลว่า การวางยุทธศาสตร์ชาติระยะเวลา ๒๐ ปี นั้นเป็นเวลาที่นานเกินไปเพราะ ๒๐ ปีเหตุการณ์ต่าง ๆ ย่อมมีการ เปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ กรณีตัวอย่างที่เกิดการแพร่ระบาดของ ไวรัสโคโรน่า – ๑๙ ซ่ึงใช้ระยะเวลาแค่ ๖ เดือน เท่านั้นสามารถเปลี่ยนแปลงเหตกุ ารณ์ในโลกได้อย่างมากมาย ดังนนั้ ระยะเวลา ๒๐ ปีอาจมีการเปลยี่ นแปลงใน เหตุการณ์อ่นื ๆ เช่นกันทาให้แผนยุทธศาสตร์ชาติ ๒๐ ปี ไมส่ ามารถดาเนินการได้ตามแผนซึ่งอาจมผี ลกระทบ กับประชาชน ควรมีการปรับเปลี่ยนให้เหลือระยะเวลา ๔ ปี เพ่ือให้มีการปรับเปล่ียนให้เหมาะกับสถานการณ์ ปจั จุบัน - เหตุผลต่อมาเห็นว่าเป็นการวางแผนเพื่อสืบทอดอานาจการปกครองเพราะหากมีการ เปล่ียนแปลงรัฐบาลท่ีเข้ามาบริหารประเทศจะทาให้รัฐบาลน้ัน ๆ จะต้องดาเนินการตามแผนยุทธศาสตร์ชาติ ๒๐ ปี ซ่งึ ทาใหข้ าดความคล่องตวั ในการบริหาร ตอ่ มา ผู้ดาเนินรายการได้ยกตัวอยา่ งข้อดีของรัฐธรรมนูญเพ่ือให้ผเู้ ข่าร่วมสัมมนารว่ มกันถกแถลง มรี ายละเอยี ด ดังนี้ ขอ้ คดิ เหน็ ท่ี ๑ ทาใหป้ ระชาชนมีความกระตอื รือร้นที่จะศึกษากฎหมายมากขึน้ และกลา้ แสดงออก ในการเหน็ แย้งกบั รฐั ธรรมนูญฉบบั ปัจจบุ ัน ขอ้ คิดเห็นที่ ๒ ประชาชนทัว่ ไปสนใจการเมอื งมากขึน้ ข้อคิดเห็นที่ ๓ มีการรับรองสิทธิและเสรีภาพมากกว่ารัฐธรรมนูญฉบับปี พ.ศ. ๒๕๕๗ เพราะ รัฐธรรมนูญฉบบั ปจั จุบันไมม่ ีมาตรา ๔๔ ที่ลดิ รอนสิทธขิ องประชาชน ข้อคิดเห็นท่ี ๔ ในมาตรา ๒๗ เรื่องสิทธิและเสรีภาพของประชาชนชาวไทยที่ระบุว่า บุคคลย่อม เสมอภาคกันทางกฎหมาย ได้รับความคุ้มครองอย่างเท่าเทยี มกัน ชายและหญิงมคี วามเท่าเทยี มกนั ข้อคิดเห็นท่ี ๕ มาตรา ๕๔ รัฐให้การศึกษาอย่างเท่าเทียมกันเป็นระยะเวลา ๑๒ ปี โดยไม่เสีย คา่ ใชจ้ า่ ย ข้อคิดเห็นท่ี ๖ ชอบรัฐธรรมนูญฉบับนี้ เพราะมีระบบทหารเข้ามาเกี่ยวข้องและมีการแจกเงิน ให้กับประชาชน ในประเด็นน้ีผู้สัมมนาบางส่วนให้ข้อเห็นแย้งว่าเป็นการล้มเหลวในการบริหารและไม่ควรให้ ทหารเข้ามามสี ่วนเกีย่ วข้องเพราะไม่เข้าใจความตอ้ งการของประชาชนอย่างแท้จรงิ ซง่ึ เงนิ ที่รฐั บาลนามาแจกให้ เป็นเงินภาษีของประชาชนทาให้เหมือนนาเงินประชาชนมาแจกประชาชนเอง ทั้งน้ีผู้เข้าร่วมสัมมนาให้ ความเหน็ เพิม่ เติมวา่ ควรนาเงินดังกล่าวไปพัฒนาประเทศด้านอืน่ ๆ แต่ทงั้ น้ีมีเหตุผลจากผเู้ ข้ารว่ มสมั มนา ดงั น้ี - ไมค่ วรนาระบบทหารเขา้ มาเกย่ี วขอ้ งเพราะไม่มคี วามสามารถในการบรหิ ารประเทศ ประเดน็ ตอ่ มาเกยี่ วกับอานาจอธิปไตย (มาตรา ๓) ข้อคิดเห็นที่ ๗ ชอบเพราะอานาจอธิปไตยเป็นของประชาชนชาวไทย ซ่ึงมีบางอย่าง แต่ใน บางส่วนเหน็ ควรแกไ้ ขเพราะประชาชนไม่มีส่วนรว่ มอยา่ งเตม็ ท่ี ข้อคดิ เหน็ ที่ ๘ เห็นด้วยในทางทฤษฎีแต่ในทางปฏิบตั ยิ ังมีปัญหา เช่น กรณขี องศาลรฐั ธรรมนูญท่ี ตดั สินเอื้อประโยชน์ให้บุคคลบางกลุ่ม ในส่วนขององค์กรอิสระ เช่น คณะกรรมการการเลือกตั้งท่ีผู้สัมมนาเห็น

๘๒๘ ว่ายังไม่มีความเป็นกลางในการคิดคะแนน (กรณีเคร่ืองคิดเลขและบัตรเลือกตั้งจานวนหน่ึง บัตรมีจานวน เพ่มิ ขน้ึ มากกว่าจานวนผ้ใู ช้สทิ ธ์ิ) ข้อคิดเหน็ ที่ ๙ ชอบแตท่ ั้งนี้ในทางปฏิบตั ิประชาชนไมไ่ ด้มีส่วนร่วมในการใช้อานาจอธปิ ไตยอย่าง แท้จริง ประเด็นต่อมาผู้ดาเนนิ รายการให้รายละเอียดวา่ บุคคลกลุ่มมีสิทธิเสรีภาพไม่มีบุคคลใดมาบังคับ ผูเ้ ข้ารว่ มสมั มนาเห็นด้วยหรือไมอ่ ยา่ งไร ข้อคิดเหน็ ท่ี ๑ ชอบ เพราะบคุ คลย่อมมีสิทธม์ิ าต้งั แต่กาเนดิ ตามรัฐธรรมนูญแต่ในทางปฏิบัติยังมี บุคคลบางกลุม่ มาจากดั สทิ ธิแ์ ละเสรภี าพ ข้อคิดเห็นท่ี ๒ ชอบ เพราะให้สิทธิประชาชนในการเลือกต้ังเมื่อเทียบกับรัฐธรรมนูญ ฉบับ ปี พ.ศ. ๒๕๕๗ ข้อคิดเห็นท่ี ๓ ชอบ รัฐธรรมนูญให้สิทธิประชาชนในการเลือกต้ังแม้ความเป็นจริงจะไม่ได้ตามท่ี ต้ังใจไว้ ข้อคดิ เห็นท่ี ๔ ชอบ เพราะรัฐธรรมนูญให้สิทธใิ นการเลือกตงั้ แตท่ ง้ั นจ้ี ะต้องมีความโปรง่ ใสในการ เลอื กตั้งทผี่ ่านมาเห็น ว่าไมโ่ ปร่งใสและตรวจสอบได้ยาก จากน้ันผู้ดาเนินรายการได้เชิญ ดร.สุทิน คลังแสง ได้กล่าวตอบข้อซักถามและให้ข้อมูลต่อ ผู้เข้าร่วมสัมมนาว่ากิจกรรมในวันนี้เป็นกิจกรรมที่เหมาะสมท่ีจะดาเนินการจึงต้องมีการดาเนินการเพ่ือหาทาง ออกของปญั หาการร่างรัฐธรรมนูญ ดังนั้น รัฐธรรมนูญคือกติกาที่จะทาให้ประเทศชาติดาเนินไปอย่างถกู ทานองคลองธรรม จะต้องมี กติกาการดาเนินการท่ียุติธรรมเพ่ือลดความขัดแย้งทางสังคมรัฐธรรมนูญท่ีดีที่สุดสาหรับประเทศไทยคือ รัฐธรรมนูญทปี่ ระชาชนยอมรับและส่ิงที่จะทาให้ประชาชนยอมรับรัฐธรรมนูญที่เปน็ กติกาของบ้านเมืองคือ ทุก คนต้องมีส่วนร่วมเพราะเมอื่ มีการเปล่ียนแปลงใด ๆ ก็ตามก็ถือว่าทกุ คนมสี ว่ นร่วมและจะต้องยอมรบั รว่ มกนั แม้ จะมีเหตุการณ์ใด ๆ ก็ตาม และเหตผุ ลทดี่ าเนนิ การกิจกรรมรบั ฟังความคิดเหน็ ท่ีมหาลัยขอนแก่น มหาวทิ ยาลัย มหาสารคาม เพราะนักศึกษามาจากพื้นท่ี ซึ่งจะทาให้ได้รับความคิดท่ีหลากหลายผ่านตัวแทนชุมชนนั้น ๆ คือ นกั ศึกษาที่มาศึกษาต่อ ทั้งนี้ การดาเนนิ การรับฟงั จะเปน็ การรวบรวมความคดิ เหน็ และข้อเสนอแนะและสรปุ ผล ต่อคณะกรรมาธิการเพื่อให้ประชาชน ๑.๑๘ มีส่วนร่วมมีสิทธ์ิมีเสียงปรากฏต่อคณะกรรมาธิการอย่างเป็น รูปธรรม โดยอาจแบ่ง ๒ แนวทาง คือ ๑. ใช่ สสร. และ ๒. ให้สภาผู้แทนราษฎรดาเนนิ การร่าง อาจจะเปน็ การ แกไ้ ขทัง้ ฉบับหรอื รายมาตราก็ได้ จากน้ันผดู้ าเนนิ กรายการได้ดาเนนิ การต่อไปเกี่ยวกบั ประเด็นของรัฐธรรมนญู ประเดน็ ต่อมาทผ่ี ดู้ าเนินรายการถกแถลงต่อผู้เข้ารว่ มสัมมนามีรายละเอียด คอื หากเปิดโอกาสให้ บุคคลภายนอกเปน็ นายกรัฐมนตรมี ีขอ้ ดีคือ ไม่ต้องเปล่ียนรฐั บาลบ่อยให้เปน็ การปฏิรูปอย่างชดั เจน ผู้สมั มนามี ความคิดเห็นอยา่ งไร ข้อคิดเห็นที่ ๑ ไม่เห็นด้วยเพราะไม่ได้เป็นตัวแทนประชาชนอย่างแท้จริงทาให้ประชาชนขาด ความเชอ่ื ม่นั เพราะไม่เคยพบปะกับประชาชนทาให้ไม่ทราบความต้องการของประชาชน ข้อคิดเห็นที่ ๒ หากบุคคลภายนอกสามารถเข้ามาบริหารประเทศให้ก้าวหน้าได้ก็ควรสนับสนุน แตถ่ า้ หากไม่สามารถบรหิ ารประเทศได้ก็ไม่ควรให้มนี ายกรฐั มนตรมี าจากบคุ คลภายนอก ข้อคิดเห็นท่ี ๓ นายกรัฐมนตรีท่ีมาจากบุคคลภายนอกก็ไม่มีความต้ังใจที่จะเข้ามาเป็น สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรอย่างแท้จริงแต่เป็นการฉาบฉวยโอกาสในการเข้ามาบริหารหากพรรคที่บุคคลนั้น

๘๒๙ สนับสนุนมีเสียงข้างมากบุคคลนั้นจะได้มาเป็นนายกรัฐมนตรี ซึ่งบุคคลน้ันไม่ได้มีความเสียสละที่จะมาหาเสียง กับประชาชน จงึ ทาใหข้ าดการยดึ โยงกบั ประชาชนในการเอื้อประโยชน์ใหก้ ับตนเอง ข้อคิดเห็นท่ี ๔ นายกรัฐมนตรีผ่านการคัดเลือกจากประชาชนและเป็นตัวแทนจากประชาชน คือสมาชิกสภาผแู้ ทนราษฎร ประเด็นต่อมา คือ รัฐธรรมนูญฉบับปี ๒๕๖๐ ที่สนับสนุนให้ประชาชนมีสิทธิมีเสียงและ เกิดประชาธิปไตย เหตุผลคอื ขอ้ คดิ เหน็ ที่ ๑ ถึงแม้จะมกี ารเลอื กตัง้ แตไ่ ม่ได้สะท้อนความต้องการของประชาชนอย่างแทจ้ ริง ข้อคิดเห็นที่ ๒ มีการเลือกตั้ง แต่ทั้งน้ีขาดความโปร่งใสในการนับคะแนนและกระบวนการ เลือกตั้งขาดความน่าเชื่อถอื ข้อคิดเห็นที่ ๓ รัฐธรรมนูญ ฉบับปี ๒๕๖๐ ทาให้สิทธ์ิบางส่วนหายไปจึงเป็นท่ีมาของเจตจานงท่ี จะให้มีการแก้ไขรัฐธรรมนูญและการเลือกตั้งดังน้ัน เป็นเพียงกระบวนการที่มีการเตรียมพร้อมมาแล้วก่อนการ เขียนรัฐธรรมนูญ ข้อคิดเห็นที่ ๔ เห็นดว้ ยที่ให้มีการเลอื กตั้งซ่ึงทาให้ประชาชนมีสทิ ธิม์ ีเสียง ซึง่ ตา่ งจากรัฐธรรมนูญ ปี พ.ศ. ๒๕๕๗ ข้อคิดเห็นที่ ๕ เหน็ ด้วยบางมาตรา ขอ้ คิดเห็นท่ี ๖ เห็นด้วยบางส่วนทใี่ ห้สิทธิ์กบั ประชาชนแต่ทง้ั น้กี ระบวนการเลอื กตงั้ ตอ้ งโปรง่ ใส ประเดน็ ต่อมา คือ การกาหนดใหม้ ีการศกึ ษาเป็นระเวลา ๑๒ ปีฟรี ข้อคิดเห็นที่ ๑ การศึกษาฟรีก่อนวัยเรียนจนถงึ ๑๒ ปี หากครอบครวั ที่มีรายได้นอ้ ยจะลดต้นทุน ให้กับครอบครวั น้นั ๆ หากมีการขยายเวลาเปน็ ๑๕ ปี จะสง่ ผลดีมากกว่าเดมิ ประเด็นต่อมาท่ีต้องปรับปรุงเก่ียวกับรัฐธรรมนูญควรร่างใหม่ท้ังฉบับเพราะประชาชนไม่มี ส่วนร่วม ร่างมาเพื่อบุคคลบางกลมุ่ เทา่ นัน้ ผู้นาขาดความสามารถในการนารัฐธรรมนญู มาใช้ ข้อคิดเห็นที่ ๑ เห็นด้วย ในการร่างฉบับใหม่เพราะฉบับปัจจุบันเอื้อนายทุน การร่างรัฐธรรมนูญ ต้องมาจากความคดิ เหน็ ของประชาชนเท่านัน้ ข้อคิดเห็นที่ ๒ เห็นด้วยในการร่างใหม่เพ่ือท่ีจะเอื้อประโยชน์ให้กับประชาชนมากข้ึน หาก ร่างรัฐธรรมนูญมาจากเสียงของประชาชน ขอ้ คิดเหน็ ท่ี ๓ เหน็ ดว้ ยกบั การแก้รายมาตรา ซึ่งบางมาตราดีอย่แู ล้ว ข้อคดิ เหน็ ท่ี ๔ เหน็ ดว้ ยว่าควรแก้ไขทง้ั ฉบบั เพราะการร่างทผี่ ่านมาเอ้ือประโยชน์นายทนุ ขอ้ คิดเห็นท่ี ๕ เห็นด้วยว่าควรแก้ไขท้ังฉบับเพราะต้องมีการตรวจสอบรัฐบาลโยประชาชนหรือมี กระบวนการตรวจสอบ ข้อคิดเห็นที่ ๖ เห็นดว้ ยว่าควรแก้ไขทงั้ ฉบับ ควรแก้ไขใหป้ ระชาชนมีอานาจตัดสินใจมากขึ้นหรือ มกี ารตดั สินใจร่วมกนั เพราะท่ผี า่ นมานโยบายมาจากชนชัน้ นาทาให้ขาดความมสี ว่ นรว่ มของประชาชน ข้อคิดเห็นท่ี ๗ เห็นด้วยว่าควรแก้ไขท้ังฉบับ จะทาให้ประชาชนมีความรู้สึกในการเป็นเจ้าของ รัฐธรรมนูญมากข้ึน ประเด็นต่อมา ผู้เข้าร่วมสัมมนายกข้อดีของรัฐธรรมนูญ คือ รัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบันดีอยู่แล้ว เพราะจัดใหม้ กี ารบรกิ ารด้านสาธารณสขุ อย่างท่วั ถึง ประเด็นต่อมา ผู้เข้าร่วมสัมมนายกข้อดีของรัฐธรรมนูญ คือ รัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบันให้สิทธิ เสรภี าพให้แก่ประชาชนนบั ถอื ศาสนาอยา่ งเสรี (มาตรา ๓๑) ผู้สัมมนาเหน็ ด้วยกับประเดน็ น้ี

๘๓๐ ประเด็นต่อมา ผู้เข้าร่วมสัมมนายกยกขอเสียของรัฐธรรมนูญ คือการบังคับใช้กฎหมาย รัฐธรรมนูญควรมคี วามน่าเชื่อถอื โดยใหเ้ หตุผลเพิ่มเตมิ วา่ ประเด็นต่อมา ผู้เข้าร่วมสมั มนายกข้อเสียของรัฐธรรมนูญฉบบั ปัจจบุ ัน คอื เอ้ือผลประโยชน์ให้กับ กลุ่มนายทุน ประเดน็ ต่อมา ผ้ดู าเนินรายการยกประเด็นการแตง่ ต้ังสมาชิกวฒุ ิสภาเพ่ือเออ้ื ประโยชนใ์ ห้กบั พวก พ้อง โดยมเี หตุผลเพิม่ เติมจากผเู้ ขา้ รว่ มสัมมนา ว่า ขอ้ คิดเหน็ ที่ ๑ สมาชิกวุฒิสภาได้รับการแต่งตั้งหรอื สรรหาจาก คสช. จะเป็นการเอื้อใหม้ ีการสืบ ทอดอานาจ จากกรณีให้สมาชิกวุฒิสภามีส่วนในการเลือกตั้งนายกรัฐมนตรี ซ่ึงที่ผ่านมาจะเป็นการเลือกตั้ง สมาชิกวุฒิสภา โดยบทเฉพาะกาลให้อานาจวุฒิสภาในการเลือกนายกรัฐมนตรีร่วมกบั สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ทาให้มองว่าเปน็ การเอาประโยชนแ์ ละสบื ทอดอานาจ ข้อคิดเห็นที่ ๒ คสช. เป็นผู้สรรหาสมาชิวุฒิสภาจึงเป็นการเอ้ือประโยชน์ให้กลุ่มคนบางกลุ่ม เพราะ คสช. แปรสภาพเป็นรัฐบาลถา้ ใหก้ ารแตง่ ต้งั วฒุ ิสภาเพื่อเอ้ือผลประโยชน์ ข้อคิดเห็นที่ ๓ สมาชิกวุฒิสภาเป็นการสรรหาและแต่งต้ังโดยตาแหน่ง แต่ควรจะมาจาก การเลือกต้งั และมาจากเสียงของประชาชนและยดึ โยงกบั ประชาชนและสมาชิกวุฒสิ ภาไม่ควรมสี ว่ นในการเลอื ก นายกรฐั มนตรเี พราะสมาชิกวฒุ ิสภามหี น้าที่ในการตรวจสอบการทางานของรัฐบาลอย่แู ลว้ ข้อคิดเห็นท่ี ๔ สมาชิกวุฒิสภาควรมาจากการเลือกตั้งและมีหน้าท่ีตรวจสอบองค์กรอิสระหรือ กลน่ั กรองกฎหมายหรือแตง่ ตง้ั กรรมการเพ่ือเลือกองค์กรอสิ ระ ข้อคิดเห็นที่ ๕ สมาชิกวุฒิสภามาจากการแต่งตั้งจะเป็นการเอื้อประโยชน์ให้กับผู้ท่ีแต่งตั้งเข้ามา ดงั น้นั สมาชกิ วฒุ ิสภาควรมาจากการเลือกตั้ง ประเด็นต่อมา ผู้เข้าร่วมสัมมนาให้ข้อคิดเห็นเพิ่มเติมว่า รัฐธรรมนูญ ฉบับ ปี พ.ศ. ๒๕๖๐ ประชาชนไม่มสี ทิ ธ์ิมเี สยี งในการปกครองประเทศ และรัฐธรรมนญู ฉบบั ปี พ.ศ. ๒๕๖๐ เป็นการสบื ทอดอานาจ ประเด็นต่อมา ผู้เข้าร่วมสัมมนาให้เหตุผลเกี่ยวกับท่ีมาของสมาชิกวุฒิสภาเพิ่มเติม คือสมาชิก วุฒิสภาไม่ได้มาจากการเลือกตั้งแต่มาจากการแต่งต้ังของ คสช. ทาให้มองว่าเป็นการสืบทอดอานาจ โดยมี เหตผุ ลจากผ้เู ขา้ ร่วมสมั มนาเพิม่ เตมิ ดงั น้ี ๑. จากการทารัฐประหารและคณะ คสช. ยังคงอยู่และต้องการท่ีจะสืบทอดอานาจจึงมีการ ร่างรัฐธรรมนูญ ฉบับ ปี พ.ศ. ๒๕๖๐ และกาหนดกติกาขึ้นมาและทาให้มีกฎหมายรองรับและอ้างความชอบ ธรรมในเร่ืองดงั กล่าวและลดแรงเสียดทานจากสังคมว่ารฐั บาลไม่ได้สบื ทอดอานาจ ๒. มีการสืบทอดอานาจโดย คสช. เปน็ กลุ่มท่ีกาหนดกติกาการเลือกตั้งขึ้นมาและแปรสภาพเป็น รฐั บาลท่มี พี รรคการเมืองรองรับ ๓. หลักการข้ันพื้นฐานของประชาธิปไตย คือการเลือกต้ัง แต่สมาชิกวุฒิสภาท่ีควรมาจาก การเลือกต้ังตั้งแตถ่ กู กาหนดมาจากการเลอื กตงั้ จึงเห็นว่าสบื ทอดอานาจ ๔. จากโครงสร้างหลังมกี ารเลือกตง้ั สมาชิกวฒุ ฺสภาเพือ่ เอื้อประโยชน์ให้กบั กลุ่มคนบางกลุ่ม ๕. เห็นควรว่า สมาชิกวุฒิสภาเป็นเคร่ืองมือในการสืบทอดอานาจของ คสช. เพราะมีการวาง แนวทางให้กลมุ่ คสช. ยงั คงอยแู่ ละเข้ามาสู่อานาจ ๖. รฐั ธรรมนญู เป็นการออกกฎหมายเอื้อตอ่ คสช. ประเด็นต่อมาท่ีผู้เขา้ ร่วมสัมมนาให้ข้อคิดเห็น รฐั ธรรมนูญฉบับนี้เป็นการทาให้คนก่อรัฐประหาร เปน็ เร่ืองท่ีถูกต้องและทาให้รัฐประหารฝังลงในรัฐธรรมนูญอย่างเปน็ ทางการ โดยให้เหตุผลว่ารัฐธรรมนูญ ฉบับ ปี พ.ศ. ๒๕๖๐ มบี ทเฉพาะกาลยงั คงอยู่ดงั นนั้ ผลของการรัฐประหารยังคงอย่ภู ายใต้รัฐธรรมนูญฉบบั นี้

๘๓๑ ประเด็นต่อมาท่ีผู้เข้าร่วมสัมมนาให้ข้อคดิ เหน็ คอื อานาจอธิปไตย ไม่ได้เป็นของประชาชน โดยมี เหตผุ ลสนับสนนุ จากผ้เู ขา้ ร่วมสมั มนา ดงั น้ี ๑. ประชาชนไมไ่ ด้รสู้ กึ ถงึ ความเปน็ เจ้าของรัฐธรรมนญู ๒. รัฐธรรมนูญ ฉบบั ปี พ.ศ. ๒๕๖๐ มีบางส่วนที่ประชาชนไม่เห็นด้วยทาให้ขาดความมีส่วนร่วม เพราะบางความคิดเห็นไม่สามารถท่ีจะแสดงออกได้อยา่ งเตม็ ท่ี ๓. ไม่มสี ่วนร่วมจากประชาชนทาให้ขาดความรูส้ ึกในการเปน็ เจ้าของ ๔. อานาจอธปิ ไตยไม่ไดเ้ ปน็ ของประชาชนเพราะเกิดจากลุ่มบคุ คลเทา่ น้นั ประเด็นต่อมา ผู้ดาเนินรายการได้ให้ผู้เข้าร่วมสัมมนาแสดงข้อคิดเห็นเกี่ยวกับรัฐธรรมนูญท่ี ตนเองสนใจ มรี ายละเอียด คือ ๑. ประเด็นท่ีผู้เข้าร่วมสัมมนาให้ข้อคิดเห็น คือ รัฐธรรมนูญฉบับปี พ.ศ. ๒๕๖๐ ไม่ได้เป็นของ ประชาชน คือมีการจากัดสิทธิเสรีภาพของประชาชน หากเป็นรัฐธรรมนูญของประชาชนจะต้องเพ่ิมเสรีภาพ ให้กับประชาชน ประเด็นแรกคือ การชุมนุมในท่ีสาธารณะซึ่งพระราชบัญญัติการชุมนุมในที่สาธารณะห้ามไว้ กลุ่มนักศึกษาจึงเปล่ียนมาชุมนุมในมหาวิทยาลัยแทนเน่ืองจากมหาวิทยาลัยเป็นนิติบุคคล ดังน้ันรัฐธรรมนูญ ฉบับน้ีจากัดสิทธิเสรีภาพของประชาชน ในแง่ของการตรวจสอบอานาจรัฐ รัฐธรรมนูญฉบับนี้จึงไม่ได้เป็นของ ประชาชนแตก่ ลับเปน็ เพ่ิมอานาจรัฐ ๒.๐๗ ๒. ประเด็นท่ผี ู้เขา้ รว่ มสัมมนาให้ขอ้ คิดเห็น คอื รัฐธรรมนูญ สทิ ธิและเสรีภาพของประชาชนที่ผา่ น มาท้ังการประชุมรัฐสภา การดาเนินการของรัฐบาล มีบางอย่างที่รัฐบาลชุดปัจจุบันพยายามบิดเบือนหลักการ ของรัฐธรรมนูญเพ่ือช่วยเหลือพรรคพวก หรือใช้ช่องว่างของรัฐธรรมนูญในการช่วยเหลือพรรคพวกจึงทาให้ดู เหมือนเป็นการสืบทอดอานาจ ท้ังน้ีบุคคลที่เป็นรัฐมนตรีและเป็ฯอดีตอาจารย์ซึ่งเคยมีความเคารพ แต่ท้ังน้ี หลังจากทางานให้รัฐบาล บุคคลท่านน้ีใช้ช่องว่างของรัฐธรรมนูญเอื้อต่อพรรคพวกและช่วยเหลือกลุ่มตนเอง ดังนนั้ สิทธิเสรภี าพของประชาชนสามารถสะทอ้ นได้จากการกระทาของรัฐบาล ๓. ประเด็นที่ผู้เข้าร่วมสัมมนาให้ข้อคิดเห็น คือ คสช. วางฐานอานาจให้อยู่ใน รฐั ธรรมนูญ โยมีข้อสงั เกต ๓ ขอ้ คอื ๑. ต้งั แตว่ ันทกี่ ่อรฐั ประหาร คอื คสช. อยใู่ นอานาจนานเกินไป ๒. การวางโครงสร้างผ่านการเลือกตั้งโดยการเลือกพรรคการเมืองเพ่ือมาสนับสนุนตนเองให้เป็น นายกรัฐมนตรี เพื่อสร้างความชอบธรรมตามรัฐธรรมนูญ ในการวางยุทธศาสตร์ชาติ ๒๐ ปี เป็นการฝังรากลึก หากรฐั บาลใดไม่สามารถดาเนินการตามยุทธศาสตร์ชาติไดจ้ ะเป็นขอ้ อา้ งท่ชี อบธรรม ๓. โครงสร้างจากการแต่งต้ังสมาชิกวุฒิสภาหากเปลี่ยนเป็นการเลือกต้ังสมาชิกวุฒิสภาและใน ประเด็นการร่างรัฐธรรมนูญท่ีผ่านมาน้ันผู้ร่างเป็นอย่างไรรัฐธรรม นูญจะเป็นอย่างนั้นทาให้ขาดความเป็น เจ้าของร่วมกัน หากรัฐธรรมนูญร่างให้อานาจอธิปไตยเป็นของประชาชนจะไม่เห็นปรากฏการณ์ของการก่อตัว มอ็ บเพื่อเรยี กร้องสทิ ธแิ ละเสรีภาพ ๔. ประเด็นท่ีผู้เข้าร่วมสัมมนาให้ข้อคิดเห็น คือ การคานวณจานวนสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรที่ผิ กดเพ้ียนโดยระบบการเลือกตั้งของไทยนั้น ประเทศไทยเป็นประเทศเดียวในโลกท่ีใช้ระบอบการเลอื กตั้งแบบน้ี อยู่ คือ นาระบบจัดสรรปันส่วนผสมมาประยุกตโ์ ดยระบบ MMP จะบัตรเลือกต้ัง ๒ ใบหรือใบเดียวแต่เลือกได้ ๒ แบบ จะเป็นการตรวจสอบคะแนนนิยมพรรคและจานวนสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรของพรรคน้ัน ในอดีตท่ี ผ่านมาใช้บัตรเลือกต้ังจานวน ๒ ใบโดยเลือกพรรคและเขต แต่ทั้งนี้ ในการเลือกตั้งท่ีผ่านมานั้นผู้สมัครรับ เลือกตงั้ ไม่มขี ้อมูลในพรรคที่เราจะเลอื กแต่การคานวณจานวนสมาชิกสภาผ้แู ทนราษฎรที่ผา่ นมามีการบิดเบอื น การคานวณจานวนสมาชิกสภาผแู้ ทนราษฎร

๘๓๒ ๕. ประเด็นท่ีผู้เข้าร่วมสัมมนาให้ข้อคิดเห็น คือมีข้อสงสัยเกี่ยวกับการคานวณจานวน สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรของคณะกรรมการการเลือกตงั้ ท่ีผิดเพ้ยี นและไมม่ ีการตรวจสอบ และเหตใุ ดประชาชน ไม่สามารถตรวจสอบได้ ต่อมา ผู้ดาเนินรายการได้ทาการสอบถามความคิดเห็นจากแบบสอบถามในแต่ละประเด็นท่ีได้ รวบรวมมาดังนี้ ๑. หลกั ประกันสุขภาพถ้วนหนา้ ๓๐ บาทรักษาทุกโรค ผสู้ มั มนาทุกคนเห็นว่าควรมีอยู่ ๒. การประกันรายได้และค่าแรงขั้นต่าผู้สัมมนาบางส่วนให้ความเห็นว่า เรียนไปด้วยทางานด้วย แตค่ า่ แรงที่ไดร้ บั ไมเ่ ปน็ ไปตามค่าแรงข้ันตา่ ๓. อยากให้มกี ารประกันรายไดห้ รอื แนวทางประกนั สิทธแิ รงงาน ๔. การเกณฑท์ หารอยากใหเ้ ปน็ การสมัครใจในการรับราชการทหาร โดยบางส่วนให้ความเห็นว่า การเกณฑ์ทหารน้ันเมื่อเข้าไปรับราชการทหารแล้ว การฝึก การลงโทษ บางครั้งรุนแรงเกินไป จึงอยากให้เป็น การสมคั รใจ หากเปน็ การสมัครใจจะตรงกบั ความต้องการของผู้ท่ีประสงค์จะรบั ราชการในดา้ นนี้ โดยมเี หตุผลเพิ่มเตมิ จากผูเ้ ข้าร่วมสัมมนาในมุมมองของสุภาพสตรี เกยี่ วกบั การเกณฑ์ทหาร ดังน้ี ในอดีตมองว่าเป็นการให้ผู้ชายทาหน้าท่ีปกป้องเอกราช แต่ในปัจจุบันใช้เทคโนโลยีและไม่มีการรบหรืออาจจะ ให้ผู้ท่สี มคั รใจจะเปน็ ทหารเขา้ ไปรับใช้ชาติหรือบางสว่ นมองวา่ เหน็ ควรใหผ้ ู้ตกงานหรือไม่มีงานทาได้ใชโ้ อกาสนี้ ข้อคิดเห็นต่อมา คือ การเกณฑ์ทหารเป็นการสร้างภารความรับผิดชอบให้กลุ่มบุคคลท่ีจะต้องมี ภาระรบั ผิดชอบในด้านอ่ืน ๆ ควรใชเ้ ทคโนโลยี ข้อคิดเห็นต่อมา การเกณฑ์ทหารในอดีตเพราะมีภาวะสงคราม อีกทั้งเป็นการสร้างภาระ งบประมาณของกองทัพ อาจเปล่ียนใช้เทคโนโลยีในการปกป้องประเทศและการใช้การรับสมัครแทน สังเกต จากกองทัพของสหรัฐอเมริกาใช้เทคโนโลยีช่วยเหลือทหารและมที หารหญิงที่ปฏิบัตหิ น้าท่ีอยู่ ซ่ึงคนเหล่าน้ีเต็ม ใจทีจ่ ะเป็นทหารและสามารถเพ่ิมศกั ยภาพตนเองได้ จะสามารถพฒั นาเปน็ ทหารอาชพี ได้ ข้อคิดเห็นต่อมา การใช้เทคโนโลยเี ขา้ มาทดแทนจานวนทหารที่จะตอ้ งเกณฑ์ ข้อคิดเห็นต่อมา จากภาพลักษณ์ของทหารทาให้ประชาชนส่วนใหญ่ไม่อยากเกณฑ์ทหารเพราะ ความเชื่อมั่น สาเหตุเพราะปัญหาโครงสร้างของกองทัพ การรับสมัครอาจเป็นการขัดผลประโยชน์ของกลุ่มคน บางกลุ่มในกองทพั หรือเปลา่ ข้อคิดเห็นต่อมา การเกณฑ์ทหารทาให้เสียโอกาสในการประกอบอาชีพอื่น ๆ ที่ตอบสนองความ ต้องการไดด้ ีกว่า ข้อคิดเห็นต่อมา การเกณฑ์ทหารเป็นการละเมิดสิทธ์ิของประชาชน ต้องมีการรับสมัครเพราะ ความชอบจะทาให้ประกอบอาชีพน้นั ๆ ไดด้ ีกวา่ ข้อคิดเห็นต่อมา ผู้สัมมนาส่วนใหญ่เห็นความควรยกเลิกการเกณฑท์ หาร แต่เปล่ียนมาเป็นสมัคร ใจมากกว่าและควรเปิดโอกาสให้ผู้ท่ีชอบไม่ควรนาคาพูดว่ารักชาติหรือไม่รักชาติมาเป็นเงื่อนไข เพราะผู้ ทป่ี ระกอบอาชพี อ่ืน ๆ ก็รกั ชาตไิ ดเ้ หมอื นกัน ขึ้นอยู่ทีท่ กุ คนทาตามหน้าที่ของตนให้ดีท่สี ดุ ข้อคิดเห็นต่อมา นอกจากจะให้ยกเลิกการเกณฑ์ทหารแล้ว ระดับสายการบังคับบญั ชาทอ่ี ยเู่ หนือ ขึ้นไปต้องเป็นทหารอาชพี จรงิ ๆ ไมใ่ ช่เป็นทหารการเมอื งทจ่ี ะเข้ามาสูก่ ารเมอื งโดยท่ีตนไมม่ คี วามถนัด จากนน้ั ผู้ดาเนนิ รายการได้สรุป ประเด็นที่ผูเ้ ข้ารว่ มสมั มนาได้เสนอความคดิ เหน็ แตท่ ั้งนม้ี ิไดน้ ามา ถกแถลงร่วมกันในทุกประเด็น แต่ข้อคิดเห็นท้ังหมดจะได้รวบรวมให้ฝ่ายเลขานุการได้ดาเนินการต่อไปมีดังนี้ ๑. ที่มาของสมาชิกวุฒิสภา ๒. การให้สมาชิกวฒุ สิ ภารว่ มโหวตนายกรฐั มนตรี ๓. การใช้บัตรเลือกต้ังนายกแบบ ใบเดียว และระบบการเลือกต้ัง ๔. ท่ีมาของศาลรัฐธรรมนูญ ๕. ระบบการเมือง และสถาบันทางการเมือง ๖.

๘๓๓ หลักประกันสุขภาพถ้วนค่า ๗. ค่าแรงขั้นต่า ๘. การเกณฑ์ทหาร ๙. ความเสมอภาคของประชาชน ๑๐. การศึกษา ๑๑. สิทธิและเสรีภาพ ๑๒. สิทธิเสรีภาพในการแสดงออก ๑๓. สิทธิเสรีภาพในการชุมนุม ๑๔. สิทธคิ นยากจนและคนชายขอบ จากนั้น ผู้ดาเนินรายการได้เชิญ พลตารวจเอกทวี สอดส่อ กล่าวปิดการสัมมนา และผู้ดาเนิน รายการฟงั สรปุ ในช่วงทา้ ย และปดิ การเสวนา เลกิ ประชุมเวลา ๑๖.๐๐ นาฬกิ า นายอลงกรณ์ มัง่ มี วทิ ยากรชานาญการ ผู้สรุปรายงาน

ภาคผนวก

ภาคผนวก ก ประมวลภาพการรบั ฟังความคิดเหน็ ของประชาชน

การรบั ฟังความคิดเหน็ แบบสนทนาการสนทนากลมุ่ (Focus Group Discussion) วันจันทรท์ ี่ ๙ มนี าคม ๒๕๖๓ กลุ่มผ้พู กิ าร

การรับฟงั ความคดิ เหน็ แบบสนทนาการสนทนากลมุ่ (Focus Group Discussion) วนั องั คารที่ ๑๗ มีนาคม ๒๕๖๓ กลุม่ ทรัพยากรธรรมชาตแิ ละสงิ่ แวดลอ้ ม

การรับฟงั ความคดิ เห็นแบบสนทนาการสนทนากลมุ่ (Focus Group Discussion) วันองั คารที่ ๒๓ มถิ ุนายน ๒๕๖๓ กลุ่มการมีสว่ นรว่ มของประชาชน และกลุม่ การพัฒนาเศรษฐกิจ

การรบั ฟังความคิดเหน็ แบบสนทนาการสนทนากลมุ่ (Focus Group Discussion) วนั พธุ ที่ ๒๔ มิถนุ ายน ๒๕๖๓ กลมุ่ ระบบเลอื กตั้งและพรรคการเมือง

การรับฟงั ความคิดเห็นแบบสนทนาการสนทนากลมุ่ (Focus Group Discussion) วนั องั คารที่ ๑๔ กรกฎาคม ๒๕๖๓ กลุ่มองค์กรตามรฐั ธรรมนญู /องค์กรอสิ ระ และกลมุ่ ชาติพนั ธ์ุ

การรับฟงั ความคดิ เหน็ แบบสนทนาการสนทนากลมุ่ (Focus Group Discussion) วันพุธท่ี ๑๕ กรกฎาคม ๒๕๖๓ กล่มุ ปฏิรปู กฎมายและปฏริ ปู ระบบราชการ

การรบั ฟังความคิดเหน็ แบบสนทนาการสนทนากลมุ่ (Focus Group Discussion) วันอังคารที่ ๒๑ กรกฎาคม ๒๕๖๓ กลมุ่ สทิ ธ/ิ สทิ ธิชุมชน

การจัดสมั มนาในกลมุ่ ลักษณะทเี่ ปิดกว้าง ในเวทีภมู ิภาค วันเสารท์ ่ี ๑๑ กรกฎาคม ๒๕๖๓ มหาวิทยาลยั เชยี งใหม่ จงั หวดั เชียงใหม่

การจัดสมั มนาในกลมุ่ ลักษณะท่ีเปิดกวา้ ง ในเวทภี มู ภิ าค วันเสารท์ ี่ ๑๘ กรกฎาคม ๒๕๖๓ มหาวทิ ยาลัยขอนแกน่ จงั หวดั ขอนแก่น

การจดั สัมมนาในกลมุ่ ลักษณะทีเ่ ปิดกว้าง ในเวทภี มู ภิ าค วันเสารท์ ่ี ๒๕ กรกฎาคม ๒๕๖๓ มหาวิทยาลยั บูรพา จงั หวัดชลบรุ ี

การจดั สัมมนาในกลุ่มลกั ษณะท่ีเปิดกว้าง ในเวทภี มู ิภาค วันอาทติ ยท์ ี่ ๒๖ กรกฎาคม ๒๕๖๓ มหาวิทยาลัยราชภฏั พระนครศรีอยธุ ยา จังหวดั พระนครศรีอยธุ ยา

การจดั สัมมนาในกล่มุ ลักษณะท่เี ปิดกว้าง ในเวทภี มู ิภาค วนั เสารท์ ี่ ๑ สงิ หาคม ๒๕๖๓ มหาวทิ ยาลัยราชภัฏสงขลา จงั หวดั สงขลา

การรบั ฟังความคดิ เห็นวันอาทิตย์ที่ ๒๓ กมุ ภาพันธ์ ๒๕๖๓ ณ ห้องราณี โรงแรมรัตนโกสินทร์ ถนนราชดาเนนิ กรงุ เทพมหานคร

การรับฟังความคดิ เห็นวันเสารท์ ่ี ๗ มีนาคม ๒๕๖๓ ณ มหาวทิ ยาลยั ราชภฏั พิบลู สงคราม จังหวัดพษิ ณุโลก

การรบั ฟังความคิดเห็นวันเสารท์ ี่ ๑๔ มนี าคม ๒๕๖๓ ณ มหาวทิ ยาลัยขอนแก่น จงั หวดั ขอนแก่น

การรับฟงั ความคิดเหน็ วันอาทิตยท์ ่ี ๑๕ มนี าคม ๒๕๖๓ ณ มหาวิทยาลยั มหาสารคาม จงั หวัดมหาสารคาม

ภาคผนวก ข คาสั่งแตง่ ตง้ั คณะอนุกรรมาธกิ าร





ภาคผนวก ค คาส่งั แตง่ ต้งั ท่ปี รกึ ษาคณะอนกุ รรมาธกิ าร











ภาคผนวก ง รายช่อื ผดู้ าเนนิ การสนทนา (Moderator) ของสถาบนั พระปกเกลา้

รายช่ือผ้ดู าเนนิ การสนทนา (Moderator) ของสถาบนั พระปกเกลา้ 1. ดร.สติธร ธนานิธโิ ชติ ผอู้ านวยการสานกั นวัตกรรมเพ่ือประชาธิปไตย 2. นางสาวธรี พรรณ ใจมนั่ สานกั นวตั กรรมเพือ่ ประชาธิปไตย 3. นายณวฒั น์ ศรปี ัดถา รกั ษาการผ้อู านวยการสานกั ส่งเสรมิ วิชาการรัฐสภา 4. นางสาวชมพนู ุท ตง้ั ถาวร สานกั ส่งเสริมวชิ าการรัฐสภา 5. นางสาววิลาวัณย์ หงษน์ คร นักวชิ าการผู้ชานาญการ 6. นางกันธรัตน์ ลาเทศ สานักส่งเสริมวิชาการรฐั สภา 7. นายชนาธิป โรจนส์ ิรวรพัฒน์ นักวิชาการผชู้ านาญการ 8. นายกิฎาพล ภทั รธรรมา สานักส่งเสรมิ วิชาการรฐั สภา 9. นางสาวภูรยาย์ พงษพ์ นั ธ์ นกั วชิ าการผูช้ านาญการ 10. นางสาวอภญิ ญา ส่งทวน วิทยาลยั พฒั นาการปกครองทอ้ งถิ่น 11. นางสาวธัญชนก ณ นคร พนักงานฝกึ อบรมและบรหิ ารโครงการ สานกั สง่ เสริมวิชาการรฐั สภา พนกั งานฝึกอบรมและบรหิ ารโครงการ สานักสง่ เสริมวชิ าการรัฐสภา พนักงานฝึกอบรมและบริหารโครงการ สานกั สง่ เสริมวชิ าการรัฐสภา พนักงานบรหิ ารงานทวั่ ไป สานกั สง่ เสรมิ วชิ าการรฐั สภา เจ้าหนา้ ทโ่ี ครงการ สานักส่งเสรมิ วิชาการรัฐสภา เจ้าหน้าท่ีโครงการ สานกั สง่ เสริมวชิ าการรัฐสภา

ภาคผนวก จ ฝ่ายเลขานกุ ารคณะอนกุ รรมาธกิ าร

ฝ่ายเลขานกุ ารคณะอนกุ รรมาธกิ าร กลุ่มงานคณะกรรมาธกิ ารการทหาร สานักกรรมาธกิ าร ๒ 1. นายณฐั พฒั น์ พัดทอง ผบู้ ังคับบัญชากลมุ่ งาน 2. นางสาวฉตั รยาภรณ์ คาผยุ นิติกรชานาญการพิเศษ 3. นายจาตรุ งค์ นาสมใจ นติ กิ รชานาญการพิเศษ 4. นายสวุ ัฒน์ สขุ วบิ ูลย์ วิทยากรชานาญการพิเศษ 5. นางสาวรจนี ขยันงาน นติ ิกรชานาญการ 6. นางสาวนลินรตั น์ เฉลิมทรัพย์ นติ ิกรชานาญการ 7. นางสาวขวัญประชา ชว่ ยกลาง วิทยากรชานาญการ 8. นายอลงกรณ์ มั่งมี วทิ ยากรชานาญการ 9. นางสาวสกุลกาญจน์ ตังประพฤทธ์กิ ลุ เจา้ พนกั งานธรุ การชานาญงาน 10. นางสาวอิสริยา ดโี ลก เจ้าพนักงานธุรการชานาญงาน 11. นางสาวรจุ ิรา โตชูวงศ์ เจ้าพนักงานธรุ การชานาญงาน 12. นางสาววรรณยา สงิ ห์วี เจ้าพนักงานธรุ การชานาญงาน กลมุ่ งานบริการเอกสารอา้ งอิง สานกั กรรมาธกิ าร ๒ วทิ ยากรชานาญการ 1. นายเฉลิมศกั ดิ์ ใจชานิ เจ้าพนกั งานธุรการชานาญงาน 2. นางสาวเอือ้ มพร ขอสขุ เจ้าพนักงานธรุ การชานาญงาน 3. นางสาวนราภรณ์ ใจอินทร์ เจา้ พนกั งานธุรการชานาญงาน 4. นางสาวตรีทพิ ยนิภา ธานี

ภาคผนวก ช รายละเอียดขอ้ เสนอของกลุ่มรฐั ธรรมนูญก้าวหนา้ (CONLAB) คณะกรรมการรณรงคเ์ พ่ือประชาธปิ ไตย (ครป.) และ นายสุคนธ์ สวา่ งแจง้ โดยข้อเสนอนีไ้ ด้รับ วนั ที่ ๒๕ สิงหาคม ๒๕๖๓ หลงั จากที่คณะอนกุ รรมาธิการ ประชาสัมพนั ธแ์ ละรบั ฟงั ความคิดเหน็ ของประชาชน ได้นาเสนอขอ้ สรุปตอ่ คณะกรรมาธิการวิสามญั พิจารณาศึกษาปัญหา หลกั เกณฑ์ และแนวทางการแก้ไขเพม่ิ เตมิ รฐั ธรรมนูญแหง่ ราชอาณาจักรไทย พทุ ธศกั ราช ๒๕๖๐ แลว้








Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook