93 กรณที ่ี 14 สิทธิชมุ ชนและสทิ ธิพลเมอื ง กรณกี ลา่ วอา้ งวา่ โครงการก่อสรา้ งโรงไฟฟา้ ถา่ นหิน บทท่ี เทพาส่งผลกระทบต่อประชาชน และแกนนำ� ผคู้ ดั ค้านโครงการ ฯ ถูกขม่ ขคู่ กุ คาม 1 ประเด็นการรอ้ งเรยี น คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติได้รับเรื่องร้องเรียนขอให้ตรวจสอบ กรณี บทท่ี กล่าวอ้างว่า การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทยด�ำเนินโครงการโรงไฟฟ้าถ่านหินเทพา 2 ต้ังอยู่ในพ้ืนท่ีต�ำบลปากบาง อ�ำเภอเทพา จังหวัดสงขลา ใช้ถ่านหินเป็นเช้ือเพลิงในการ บทที่ ผลิตกระแสไฟฟ้า และโครงการท่าเทียบเรือส�ำหรับโรงไฟฟ้าถ่านหินจะต้องสร้างสะพาน 3 ย่ืนไปในทะเลยาว 3 กิโลเมตร ผู้ร้องเห็นว่าโครงการดังกล่าวจะส่งผลกระทบ บทท่ี อย่างรุนแรงท้ังทางด้านส่ิงแวดล้อม ระบบนิเวศ สุขภาพ วัฒนธรรมและชุมชน รวมท้ัง 4 วิถีการท�ำประมงพ้ืนบ้าน และขาดการมีส่วนร่วมของประชาชน รวมท้ังมีการใช้อิทธิพล บทที่ ข่มขู่ประชาชนผู้เป็นแกนน�ำคัดค้านโครงการ 5 ภาค การด�ำ เนนิ การ คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติพิจารณาแล้วเห็นว่า กรณีการจัดท�ำรายงาน ผนวก ผลกระทบส่ิงแวดล้อมและสุขภาพ (Environment Health Impact Assessment : EHIA) ของโครงการโรงไฟฟ้าถ่านหินเทพา และโครงการท่าเทียบเรือส�ำหรับโรงไฟฟ้า ถ่านหินเทพาของผู้ถูกร้อง แม้จะมีการกระท�ำที่ไม่เหมาะสมและไม่เป็นไปตาม เจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญ รวมท้ังการพิจารณาท่ีไม่รอบด้านและไม่ท่ัวถึงก็ตาม แต่ปรากฏว่ากลุ่มผู้ร้องร่วมกับเครือข่ายปกป้องสองฝั่งทะเลกระบ่ี-เทพา และ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานได้จัดท�ำบันทึกข้อตกลงร่วมกัน โดยมีสาระส�ำคัญ ให้การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทยถอนรายงาน EHIA โรงไฟฟ้าถ่านหินเทพา ออกจากกระบวนการพิจารณาในชั้นเสนอขอความเห็นจากคณะกรรมการส่ิงแวดล้อม แห่งชาติ รวมทั้งให้ผู้ร้องและการไฟฟ้าฝ่ายผลิตฯ จัดต้ังคณะกรรมการร่วมเพ่ือศึกษา ผลกระทบสิ่งแวดล้อมระดับยุทธศาสตร์ จึงมีมติให้ยุติเร่ือง ส�ำหรับกรณีการข่มขู่คุกคาม เห็นว่าเป็นเร่ืองท่ีมีการฟ้องร้องเป็นคดีในศาลหรือเร่ืองที่มีค�ำพิพากษา ค�ำสั่ง หรือ ค�ำวินิจฉัยเสร็จเด็ดขาดแล้ว จึงมีมติให้ยุติเร่ือง กรณีผู้บัญชาการมณฑลทหารบกท่ี 42 มีหนังสือถึงอธิการบดีมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ ขอความร่วมมือให้ท�ำความเข้าใจ กับบุคลากรที่เข้าร่วมกับกลุ่มคัดค้านโครงการก่อสร้างโรงไฟฟ้าถ่านหินเทพา แม้ว่าหนังสือขอความร่วมมือของผู้บัญชาการมณฑลทหารบกท่ี 42 ดังกล่าว อาจมี ความไม่เหมาะสมต่อเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับประโยชน์สาธารณะ แต่ยังไม่มีผลโดยตรงที่จะเป็นการจ�ำกัดเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็นตามท่ี รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2550 และรัฐธรรมนูญ แห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2560 บัญญัติรับรองและคุ้มครองไว้ และมิได้เป็น การยับยั้งการแสดงความคิดเห็นที่เก่ียวกับประโยชน์สาธารณะ จึงมีมติให้ยุติเรื่อง อยา่ งไรกต็ าม เนอื่ งจากการตรวจสอบพบการกระท�ำทอี่ าจน�ำไปสกู่ ารละเมดิ สทิ ธมิ นษุ ยชน คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติจึงให้มีข้อเสนอแนะมาตรการหรือแนวทาง ในการส่งเสริมและคุ้มครองสิทธิมนุษยชนต่อหน่วยงานที่เก่ียวข้อง ตามนัยมาตรา 247 (3) ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2560 และพระราชบัญญัติ ประกอบรัฐธรรมนญู ว่าดว้ ยคณะกรรมการสิทธมิ นษุ ยชนแห่งชาติ พ.ศ. 2560 มาตรา 26 (3) ประกอบมาตรา 42 ดงั น้ี
รายงานผลการปฏิบัติงานคณะปกรระรจมำ�กปางี รบสปิทรธะิมมนาณุษยพชน.ศแ.ห2่ง5ช6าต2ิ 94 คณะกรรมการสทิ ธมิ นุษยชนแห่งชาติ ขอ้ เสนอแนะมาตรการ 1) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยควรจัดท�ำแนวทางว่าด้วยการปฏิบัติงาน หรอื แนวทางทเ่ี หมาะสม บนหลักการสิทธิมนุษยชนส�ำหรับผู้ว่าราชการจังหวัดและผู้บริหารทุกระดับ ในการป้องกนั หรอื ของกระทรวงมหาดไทย ตามที่รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2560 แกไ้ ขการละเมดิ บัญญัติรับรองไว้ และก�ำชับให้ถือปฏิบัติโดยเคร่งครัด สิทธิมนุษยชน 2) ผู้บัญชาการทหารบกควรก�ำชับหน่วยทหารในสังกัดให้ระมัดระวังการปฏิบัติ หน้าท่ีท่ีอาจส่งผลต่อการละเมิดเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็นหรือละเมิด สิทธิมนุษยชนประการอ่ืน 3) กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมควรก�ำชับหน่วยงานในสังกัด ที่รับผิดชอบการพิจารณารายงานการวิเคราะห์ผลกระทบส่ิงแวดล้อมส�ำหรับโครงการ หรือกิจการที่อาจก่อให้เกิดผลกระทบต่อชุมชนอย่างรุนแรง ทั้งทางด้านคุณภาพ ส่ิงแวดล้อม ทรัพยากรธรรมชาติและสุขภาพ (รายงาน EHIA) ให้น�ำหลักการมีส่วนร่วม ตามที่ก�ำหนดไว้ในเอกสาร “แนวทางการมีส่วนร่วมของประชาชนและการประเมิน ผลกระทบส่ิงแวดล้อมทางสังคมในกระบวนการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อม” มาใช้ ในการพิจารณาให้ความเห็นต่อรายงาน EHIA อย่างเคร่งครัด รวมทั้งควรจัดให้มีระบบ การตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูล มาตรฐานทางวิชาการ และการเปิดให้มีการ รับฟังความเห็นทางวิชาการเพ่ือประกอบการพิจารณาหรือทบทวนรายงานการศึกษา 4) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน และการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย ควรจดั ใหม้ กี ารตดิ ตามการด�ำเนนิ การตามบนั ทกึ ขอ้ ตกลงกบั เครอื ขา่ ยปกปอ้ งสองฝง่ั ทะเล กระบ่ี-เทพา ยุติโรงไฟฟ้าถ่านหิน โดยให้มีการปฏิบัติบนหลักวิชาการและการมีส่วนร่วม ของประชาชนเป็นส�ำคัญ ตลอดจนเร่งรัดการแก้ไขปัญหาคดีความท่ีมีสาเหตุมาจาก การคดั คา้ นโรงไฟฟา้ ถา่ นหนิ เทพาใหแ้ ลว้ เสรจ็ โดยเรว็ ตามขอ้ 4 ของบนั ทกึ ขอ้ ตกลงดงั กลา่ ว ผลสำ�เรจ็ / 1) กระทรวงมหาดไทย แจ้งว่า ในปีงบประมาณ พ.ศ. 2561-2562 รัฐมนตรีว่าการ ความกา้ วหน้า กระทรวงมหาดไทยไดม้ ขี ้อส่งั การและแนวปฏบิ ัติงานใหผ้ วู้ ่าราชการจงั หวัดและผบู้ ริหาร ในการคุ้มครอง ทกุ ระดบั ของกระทรวงมหาดไทยด�ำเนนิ งานในระดบั พน้ื ทเ่ี พอ่ื ดแู ลประชาชนใหเ้ ปน็ ไปตาม สทิ ธมิ นุษยชน กรอบของกฎหมายท่ีก�ำหนดให้มีการบูรณาการงานและสร้างการรับรู้สู่ชุมชน 2) กองทัพบก แจ้งว่า ผู้บัญชาการทหารบกได้มีการประชุมและสั่งการให้เจ้าหน้าท่ี ทุกระดับปฏิบัติให้เป็นไปตามกรอบที่กฎหมายก�ำหนด และบังคับใช้ค�ำส่ังหัวหน้า คณะรกั ษาความสงบแห่งชาติ ที่ 3/2558 เทา่ ท่จี �ำเป็นเพยี งเพอ่ื รักษาความสงบเรียบรอ้ ย 3) กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและส่ิงแวดล้อม แจ้งว่า ได้น�ำข้อเสนอแนะของ คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติแจ้งคณะกรรมการผู้ช�ำนาญการพิจารณารายงาน การวเิ คราะหผ์ ลกระทบสง่ิ แวดลอ้ มซง่ึ คณะกรรมการผชู้ �ำนาญการฯ รบั ทราบขอ้ เสนอแนะ และไดม้ แี นวทางปฏบิ ตั ิ โดยเนน้ การมสี ว่ นรว่ มของประชาชนในกระบวนการวเิ คราะหร์ ายงาน ผลกระทบสงิ่ แวดลอ้ มและสขุ ภาพ (Environment Health Impact Assessment: EHIA)
95 3.1.1.3 การติดตามผลการดำ�เนินการตามมาตรการ ในปีงบประมาณ พ.ศ. 2562 คณะกรรมการ บทที่ สิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ได้ติดตามผลการดำ�เนินการ 1 หรือแนวทางของคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ตามมาตรการหรือแนวทางในการป้องกันหรือแก้ไข การละเมิดสิทธิมนุษยชน และมาตรการหรือแนวทาง บทที่ ในการป้องกันหรือแก้ไขการละเมิดสิทธิมนุษยชน หรือ ในการส่งเสริมและคุ้มครองสิทธิมนุษยชน รวมทั้งสิ้น 2 289 เรื่อง จำ�แนกเป็นการติดตามผลการดำ�เนินการ บทที่ ในการส่งเสรมิ และคมุ้ ครองสทิ ธมิ นษุ ยชน ตามมาตรการหรือแนวทางในการป้องกันและแก้ไข 3 การละเมิดสิทธิมนุษยชน จำ�นวน 173 เรื่อง และการ บทที่ รฐั ธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พทุ ธศกั ราช 2560 ติดตามข้อเสนอแนะ มาตรการหรือแนวทางในการ 4 มาตรา 247 วรรคสอง ประกอบพระราชบัญญัติ สง่ เสรมิ และคมุ้ ครองสทิ ธมิ นษุ ยชน จ�ำ นวน 116 เรอื่ ง ดงั นี้ บทที่ ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยคณะกรรมการสทิ ธมิ นษุ ยชน 1) การติดตามผลการดำ�เนินการตามมาตรการหรือ 5 แห่งชาติ พ.ศ. 2560 มาตรา 36 กำ�หนดให้กรณีที่ แนวทางของคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ภาค คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ตรวจสอบแล้ว ในการป้องกันหรือแก้ไขการละเมิดสิทธิมนุษยชนจาก ผนวก เห็นว่าเป็นการละเมิดสิทธิมนุษยชนให้เสนอแนะ การตดิ ตามผลการด�ำ เนนิ การตามมาตรการหรอื แนวทาง มาตรการหรือแนวทางในการป้องกันหรือแก้ไขการ ในการปอ้ งกนั หรือแกไ้ ขการละเมิดสิทธิมนุษยชน ละเมิดสิทธิมนุษยชน รวมทั้งการเยียวยาผู้ได้รับความ เสียหายไปยังหน่วยงานของรัฐหรือเอกชนที่เกี่ยวข้อง ในปีงบประมาณ พ.ศ. 2562 จำ�นวน 173 เรื่อง และมาตรา 42 ที่กำ�หนดให้คณะกรรมการสิทธิมนุษยชน สามารถจำ�แนกเป็นมาตรการหรือแนวทางที่ปรากฏ แห่งชาติ อาจเสนอมาตรการหรือแนวทางในการสง่ เสรมิ ในรายงานผลการตรวจสอบการละเมิดสิทธิมนุษยชน และคุ้มครองสิทธิมนุษยชน รวมท้ังการแก้ไขปรับปรุง ที่ออกก่อนปีงบประมาณ พ.ศ. 2562 จำ�นวน 169 เรื่อง กฎหมาย กฎ ระเบียบ คำ�ส่ังต่อรัฐสภา คณะรัฐมนตรี และที่ออกภายในปีงบประมาณ พ.ศ. 2562 จำ�นวน หรอื หนว่ ยงานทเ่ี กย่ี วขอ้ ง ทง้ั นใ้ี นการตดิ ตามการด�ำ เนนิ การ 4 เรื่อง รายละเอียดตามตารางที่ 9 ตามมาตรการหรอื แนวทางน้ี คณะกรรมการสทิ ธมิ นษุ ยชน แห่งชาติ ได้ออกระเบียบว่าด้วยหลักเกณฑ์และ วิธีการตรวจสอบการละเมิดสิทธิมนุษยชน พ.ศ. 2561 ในหมวด 5 ว่าด้วยเรื่องการติดตามผลการดำ�เนินการ ตามมาตรการหรือแนวทางของคณะกรรมการ
รายงานผลการปฏิบัติงานคณะปกรระรจมำ�กปางี รบสปทิ รธะมิมนาณษุ ยพชน.ศแ.ห2่ง5ช6าต2ิ 96 คณะกรรมการสทิ ธิมนุษยชนแหง่ ชาติ ตารางท่ี 9 มาตรการหรือแนวทางในการป้องกันหรือแก้ไขการละเมิดสิทธิมนุษยชนท่ีคณะกรรมการ สิทธมิ นุษยชนแหง่ ชาติ เสนอไปยังหนว่ ยงานของรัฐ จ�ำแนกตามประเภทสิทธิ หน่วย: เรอ่ื ง ประเภทสิทธิ รวม สิทธิชุมชน 19 สิทธิในกระบวนการยตุ ธิ รรม 5 สทิ ธใิ นการจดั การที่ดิน 19 สทิ ธใิ นกระบวนการปกครอง 0 สทิ ธแิ ละเสรภี าพในชวี ิตและร่างกาย 104 สิทธิพลเมือง 11 การเลือกปฏิบตั ิไม่เปน็ ธรรม 6 สิทธใิ นการรับบรกิ ารทางสาธารณสขุ 4 สิทธสิ ตรี 1 สิทธผิ สู้ งู อายุ 1 สทิ ธิเด็ก 2 สิทธใิ นทรพั ย์สนิ 1 สทิ ธิและเสรภี าพสว่ นบคุ คล 0 รวม 173 ที่มา: สำ�นักมาตรฐานและตดิ ตามการคมุ้ ครองสทิ ธมิ นษุ ยชน (ข้อมูล ณ วนั ท่ี 30 กนั ยายน 2562) จากตารางท่ี 9 มาตรการหรือแนวทางในการป้องกัน สาเหตุของการยุติการติดตามตามเงื่อนไขที่กำ�หนดไว้ หรือแก้ไขการละเมิดสิทธิมนุษยชนท่ีคณะกรรมการ ในระเบียบว่าด้วยหลักเกณฑ์และวิธีการตรวจสอบการ สิทธิมนุษยชนแห่งชาติเสนอต่อหน่วยงานของรัฐเป็น ละเมิดสิทธิมนุษยชน พ.ศ. 2561 ข้อ 42 รายละเอียด มาตรการหรือแนวทางด้านสิทธิและเสรีภาพในชีวิต ตามตารางที่ 10 และร่างกาย จำ�นวน 104 เรื่อง ด้านสิทธิชุมชน จำ�นวน 19 เรื่อง และด้านสิทธิในการจัดการที่ดิน จำ�นวน 19 เรื่อง เมื่อพิจารณาผลการติดตามการดำ�เนินการตามมาตรการ หรือแนวทางของหน่วยงานรัฐตามที่คณะกรรมการ สิทธิมนุษยชนแห่งชาติ เสนอและปรากฏในรายงาน ผลการตรวจสอบการละเมิดสิทธิมนุษยชนที่ออก ก่อนปีงบประมาณ พ.ศ. 2562 จำ�นวน 173 เรื่อง พบว่า คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติได้พิจารณาและ ส่ังการให้สำ�นักงานคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ยุติการติดตาม 39 เรื่อง โดยสามารถจำ�แนกออกตาม
97 ตารางท่ี 10 ผลการติดตามการด�ำเนินการของหน่วยงานของรัฐตามมาตรการหรือแนวทางในการ บทท่ี 1 ป้องกันหรือแก้ไขการละเมิดสิทธิมนุษยชนท่ีปรากฏในรายงานผลการตรวจสอบการละเมิดสิทธิมนุษยชน บทท่ี ท่ีรบั เปน็ คำ� ร้องกอ่ นปีงบประมาณ พ.ศ. 2562 หนว่ ย: รายงาน (ฉบบั ) 2 บทท่ี เหตแุ หง่ การยตุ ิการตดิ ตาม จำ�นวน ร้อยละ 3 บทที่ กรณีบุคคลหรือหน่วยงานที่เก่ียวข้องได้ดำ�เนินการตามมาตรการการแก้ไขปัญหาทั้งหมด 34 87.18 4 หรอื บางสว่ นทีเ่ ป็นประเดน็ สาระส�ำ คญั ในการบรรเทาปัญหา 2 5.13 บทที่ กรณีที่คู่กรณีได้มีการฟ้องร้องเป็นคดีต่อศาลหรือท่ีศาลมีคำ�พิพากษาหรือคำ�สั่งเด็ดขาดแล้ว 2 5.13 5 ในประเด็นเดยี วกนั กับมาตรการการแกไ้ ขปัญหา 1 2.56 ภาค กรณที บ่ี คุ คลหรอื หนว่ ยงานมไิ ดด้ �ำ เนนิ การตามมาตรการการแกไ้ ขปญั หาการละเมดิ สทิ ธมิ นษุ ยชน ผนวก หรือด�ำ เนินการแลว้ แต่ยังไมแ่ ลว้ เสร็จ โดยมเี หตุผลอันสมควร 39 100 กรณีอ่ืนตามที่คณะกรรมการก�ำหนด (หน่วยงานที่เกี่ยวข้องปฏิบัติการท่ีไม่ต�่ำกว่ามาตรการ หรือแนวทางในการป้องกันหรือแก้ไขการละเมิดสิทธิมนุษยชนที่คณะกรรมการสิทธิมนุษยชน แห่งชาติ ก�ำหนด) รวม ท่มี า: ส�ำ นกั มาตรฐานและตดิ ตามการคมุ้ ครองสทิ ธิมนษุ ยชน (ขอ้ มลู ณ วนั ที่ 30 กนั ยายน 2562) จากตารางที่ 10 สาเหตุส่วนใหญ่ที่คณะกรรมการ 2) การติดตามผลการดำ�เนินการตามมาตรการหรือ สทิ ธมิ นษุ ยชนแหง่ ชาตไิ ดพ้ จิ ารณาและสง่ั การใหส้ �ำนกั งาน แนวทางของคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ยุติการติดตาม ในการสง่ เสรมิ และคุม้ ครองสิทธมิ นษุ ยชน ผลการด�ำเนินการตามมาตรการหรือแนวทางที่ปรากฏ ในรายงานผลการตรวจสอบการละเมดิ สทิ ธมิ นษุ ยชนทอี่ อก การติดตามผลการดำ�เนินการตามมาตรการหรือ ก่อนปีงบประมาณ พ.ศ. 2562 ได้แก่ กรณีบุคคลหรือ แนวทางของคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ หนว่ ยงานทเี่ กยี่ วขอ้ งไดด้ �ำเนนิ การตามมาตรการการแกไ้ ข ในการส่งเสริมและคุ้มครองสิทธิมนุษยชนน้ีเป็นไปตาม ปัญหาท้ังหมดหรือบางส่วนท่ีเป็นประเด็นสาระส�ำคัญแล้ว รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2560 คิดเป็นจ�ำนวน 34 เรื่อง หรอื ร้อยละ 87.18 นอกน้ันเปน็ มาตรา 247 วรรคสอง ซ่ึงบัญญัติว่าเมื่อคณะรัฐมนตรี การสั่งการให้ยุติการติดตามผล เนื่องจากเป็นกรณีที่มี รับทราบข้อเสนอแนะมาตรการหรือแนวทางในการ การฟอ้ งรอ้ งเปน็ คดตี อ่ ศาลหรอื มคี �ำพพิ ากษาแลว้ เปน็ กรณี ส่งเสริมและคุ้มครองสิทธิมนุษยชนที่คณะกรรมการ ทบี่ คุ คลหรอื หนว่ ยงานมอิ าจด�ำเนนิ การตามมาตรการหรอื สิทธิมนุษยชนแห่งชาติเสนอแล้วให้ดำ�เนินการปรับปรุง แนวทางได้โดยมีเหตุอันสมควร และเป็นกรณีอื่นตามที่ แก้ไขตามความเหมาะสมโดยเร็ว กรณีไม่อาจดำ�เนินการ คณะกรรมการก�ำหนด (หน่วยงานท่ีเก่ียวข้องปฏิบัติการ ไ ด้ ห รื อ ต้ อ ง ใ ช้ เ ว ล า ดำ � เ นิ น ก า ร ใ ห้ แ จ้ ง เ ห ตุ ผ ล ใ ห้ ทไี่ มต่ ำ่� กวา่ มาตรการหรอื แนวทางในการปอ้ งกนั หรอื แกไ้ ข คณะกรรมการสทิ ธิมนุษยชนแห่งชาติ ทราบโดยไม่ชกั ชา้ การละเมิดสิทธิมนุษยชนท่ีคณะกรรมการสิทธิมนุษยชน แหง่ ชาติก�ำหนด) ตามล�ำดับ ในปีงบประมาณ พ.ศ. 2562 คณะกรรมการ สิทธิมนุษยชนแห่งชาติได้ติดตามผลการดำ�เนินการ ตามข้อเสนอแนะมาตรการหรือแนวทางในการส่งเสริม และคมุ้ ครองสทิ ธมิ นษุ ยชนทเ่ี สนอตอ่ รฐั สภา คณะรฐั มนตรี หรือหน่วยงานท่ีเก่ียวข้อง จำ�นวน 116 เร่ือง สามารถ จำ�แนกตามประเภทสิทธมิ นุษยชนไดต้ ามตารางที่ 11
รายงานผลการปฏิบตั ิงานคณะปกรระรจมำ�กปาีงรบสปทิ รธะมิมนาณุษยพชน.ศแ.ห2่ง5ช6าต2ิ 98 คณะกรรมการสทิ ธิมนษุ ยชนแห่งชาติ ตารางที่ 11 ผลการติดตามการด�ำเนินการตามข้อเสนอแนะมาตรการหรือแนวทางในการส่งเสริมและ คมุ้ ครองสิทธมิ นุษยชน ในปงี บประมาณ พ.ศ. 2562 จ�ำแนกตามประเภทสิทธิ หน่วย: รายงาน (ฉบบั ) ประเภทสิทธิ ขอ้ เสนอแนะมาตรการหรอื แนวทาง ในการสง่ เสรมิ และคมุ้ ครองสทิ ธมิ นษุ ยชน สิทธิพลเมอื ง 1 สิทธแิ ละเสรีภาพในชีวิตและรา่ งกาย 100 สิทธชิ ุมชน 3 สทิ ธใิ นการรบั บรกิ ารทางสาธารณสขุ - สทิ ธทิ างเศรษฐกจิ สงั คม และวฒั นธรรม - สทิ ธิในกระบวนการยตุ ิธรรม 3 สทิ ธแิ ละเสรภี าพในการประกอบอาชพี 2 สทิ ธิและเสรีภาพส่วนบุคคล - สทิ ธิในการจดั การทดี่ ิน 2 สิทธิผ้พู กิ าร 2 สทิ ธิเดก็ 2 สทิ ธิผตู้ ้องขัง 1 รวม 116 ท่มี า: สำ�นกั มาตรฐานและติดตามการคุ้มครองสิทธิมนษุ ยชน (ขอ้ มลู ณ วนั ท่ี 30 กนั ยายน 2562) จากตารางท่ี 11 ข้อเสนอแนะมาตรการหรือแนวทาง มาตรา 26 (2) ซง่ึ ก�ำ หนดใหค้ ณะกรรมการสิทธมิ นษุ ยชน ในการสง่ เสรมิ และคมุ้ ครองสทิ ธมิ นษุ ยชนทคี่ ณะกรรมการ แห่งชาติจัดทำ�รายงานดังกล่าวเสนอต่อรัฐสภาและ สทิ ธมิ นษุ ยชนแหง่ ชาตเิ สนอไปยงั คณะรฐั มนตรี รฐั สภา หรอื คณะรัฐมนตรี และเผยแพร่ต่อประชาชน นอกจากนี้ หน่วยงานท่ีเกี่ยวข้องอยู่ระหว่างดำ�เนินการทั้ง 116 เรื่อง พระราชบญั ญตั ปิ ระกอบรฐั ธรรมนญู วา่ ดว้ ยคณะกรรมการ ส่วนใหญ่เป็นเรื่องเกี่ยวกับสิทธิและเสรีภาพในชีวิตและ สิทธิมนุษยชนแห่งชาติ มาตรา 40 ได้กำ�หนดกรอบเวลา ร่างกาย (จ�ำ นวน 100 เรอ่ื ง) ตวั อยา่ งเชน่ กรณีเจา้ หน้าท่ี ว่ า ใ ห้ จั ด ทำ � ร า ย ง า น ผ ล ก า ร ป ร ะ เ มิ น ส ถ า น ก า ร ณ์ ทหารซ้อมทรมานบุคคลผู้ต้องสงสัยในระหว่างถูกควบคุม ด้ า น สิ ท ธิ ม นุ ษ ย ช น ใ ห้ แ ล้ ว เ ส ร็ จ ภ า ย ใ น เ ก้ า สิ บ วั น ตัวในพ้ืนท่ีจังหวัดชายแดนภาคใต้ อยู่ระหว่างกองอำ�นวย นับแต่วันสิ้นปีปฏิทิน สามารถขอขยายเวลาได้อีกไม่เกิน การรักษาความม่ันคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า ตรวจสอบ 180 วัน โดยต้องแจ้งให้รัฐสภาทราบ รวมท้ังให้แนวทาง ข้อร้องเรียนตามทถ่ี กู กล่าวหา การจัดทำ�รายงานการประเมินสถานการณ์สิทธิมนุษยชน ของประเทศไทยว่า ให้กระทำ�เป็นการสรุป ประกอบด้วย 3.1.2 การจัดทำ�รายงานผลการประเมินสถานการณ์ ปัญหา อุปสรรค และข้อเสนอแนะในการส่งเสริมและ ดา้ นสทิ ธมิ นุษยชนของประเทศ คุ้มครองสิทธิมนุษยชน โดยมิให้ระบุรายละเอียดอันเป็น การเปิดเผยความลับของบุคคลหรือหน่วยงานของรัฐ การจัดทํารายงานผลการประเมินสถานการณ์ด้าน ท่ีเกี่ยวข้องโดยไม่จำ�เป็น และต้องคำ�นึงถึงความถูกต้อง สิทธิมนุษยชนของประเทศนี้ เป็นหน้าท่ีและอำ�นาจของ เป็นธรรม และผลประโยชน์ส่วนรวมของชาติเป็นสำ�คัญ คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ตามบทบัญญัติ และมาตรา 41 กำ�หนดว่า ให้คณะกรรมการสทิ ธมิ นษุ ยชน แหง่ รฐั ธรรมนญู แห่งราชอาณาจกั รไทย พทุ ธศกั ราช 2560 แหง่ ชาตจิ ดั ใหม้ แี ผนการด�ำ เนนิ การเพอ่ื ใหก้ ารปฏบิ ตั หิ นา้ ทน่ี ้ี มาตรา 247 (2) พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ เป็นไปโดยไม่ชกั ช้า แล้วเสรจ็ ในระยะเวลาท่กี �ำ หนด ว่าด้วยคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ พ.ศ. 2560
99 ในการด�ำ เนนิ การตามกฎหมายขา้ งตน้ คณะกรรมการสทิ ธมิ นษุ ยชนแหง่ ชาตไิ ดจ้ ดั ท�ำ และประกาศแผนการด�ำ เนนิ การ บทที่ การจดั ท�ำ รายงานผลการประเมนิ สถานการณด์ า้ นสทิ ธมิ นษุ ยชนของประเทศไทยประจ�ำ ปี 2561 ทางเวบ็ ไซตข์ องส�ำ นกั งาน 1 คณะกรรมการสทิ ธิมนษุ ยชนแหง่ ชาติ มรี ายละเอยี ด ดังน้ี บทท่ี ตารางที่ 12 แผนการด�ำเนินการการจัดท�ำรายงานผลการประเมินสถานการณ์ด้านสิทธิมนุษยชน 2 ของประเทศไทย ประจ�ำปี 2561 บทท่ี 3 ระยะเวลา ข้นั ตอนหลกั กระบวนการ บทท่ี 4 ธันวาคม 2560-มกราคม ขนั้ ท่ี 1 การวางแผน • การประมวลสถานการณท์ ผี่ า่ นมา และจดั ท�ำ ขอ้ มลู เบอื้ งตน้ บทที่ 2561 ขั้นท่ี 2 การออกแบบ พร้อมนำ�เสนอประเดน็ หลักทจ่ี ะตดิ ตาม 5 ภาค • การวิเคราะหผ์ ู้มีส่วนได้ส่วนเสียและการออกแบบคำ�ถาม ผนวก กมุ ภาพนั ธ-์ ธนั วาคม 2561 ขน้ั ท่ี 3 การเก็บข้อมลู / • การประชมุ ภายในส�ำ นกั งานคณะกรรมการสทิ ธมิ นษุ ยชนแหง่ ชาติ ตรวจสอบ • การเกบ็ ข้อมลู จากแหลง่ เปดิ พรอ้ มสอบทานขอ้ มูล ขน้ั ที่ 4 การติดตาม/ • การเปรียบเทียบ/ตรวจสอบมาตรฐานสิทธิมนุษยชน วิเคราะห์ ตามสนธิสัญญาหลักด้านสิทธิมนุษยชน และข้อสังเกตของ คณะกรรมการประจ�ำ สนธสิ ญั ญา รฐั ธรรมนญู การตอบรบั ของรัฐบาลตอ่ กระบวนการ UPR • การตรวจสอบการเปลย่ี นแปลงของประเดน็ นน้ั จากปที ผ่ี า่ นมา กันยายน-ธนั วาคม 2561 ขนั้ ที่ 5 การจัดทำ�รายงาน • การจัดทำ�เค้าโครง • การจัดทำ�รายงานตามประเด็น กลมุ่ ประเดน็ และการจดั ท�ำ รายงานในภาพรวม • การรับฟังความเหน็ /ข้อมูลจากส่วนท่ีเกยี่ วข้อง • การนำ�เสนอร่างรายงานต่อท่ีประชุมคณะกรรมการ สทิ ธิมนุษยชนแหง่ ชาติ เพอ่ื เหน็ ชอบ ธันวาคม 2561-มีนาคม ขน้ั ที่6การเสนอรายงานผล • การจัดพิมพ์และจัดส่งรายงานผลการประเมินสถานการณ์ 2562 การประเมินสถานการณ์ ดา้ นสทิ ธมิ นษุ ยชนของประเทศไทยใหร้ ฐั สภา คณะรฐั มนตรี ด้านสิทธิมนุษยชนของ เผยแพรใ่ ห้ประชาชนทราบ ประเทศไทย ต่อรัฐสภา และคณะรฐั มนตรี เผยแพร่ ต่อสาธารณะ กุมภาพันธ์ 2562 ขนั้ ที่ 7 การส่อื สาร/ • การน�ำ เสนอและรบั ฟงั ความเหน็ ของรฐั สภาและคณะรฐั มนตรี เปน็ ต้นไป สร้างการเปล่ียนแปลง • การติดตามการปฏิบตั ติ ามขอ้ เสนอแนะ • การประมวลสถานการณแ์ ละจดั ท�ำ ขอ้ มลู เบอ้ื งตน้ พรอ้ มเสนอ ประเด็นหลักท่ีจะตดิ ตามในปี 2562 • การจดั ท�ำ และเสนอแผนด�ำ เนนิ การส�ำ หรบั จดั ท�ำ รายงานฯ ปี2562 ที่มา: ส�ำ นักเฝา้ ระวงั และประเมินสถานการณ์สทิ ธิมนษุ ยชน (ขอ้ มลู ณ วันท่ี 30 กนั ยายน 2562) ในการจดั ท�ำรายงานผลการประเมนิ สถานการณด์ า้ นสทิ ธมิ นษุ ยชนของประเทศไทยประจ�ำปี 2561 นนั้ คณะกรรมการ สิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ได้ประมวลเหตกุ ารณ์ส�ำคัญในปี 2561 ท่ีมีผลกระทบตอ่ สทิ ธิมนษุ ยชนจากแหล่งตา่ ง ๆ ทง้ั จาก แหลง่ ขา่ วเปดิ ทวั่ ไปแหลง่ ขอ้ มลู จากภาควชิ าการและขอ้ มลู ทไี่ ดจ้ ากการปฏบิ ตั งิ านของคณะกรรมการสทิ ธมิ นษุ ยชนแหง่ ชาตเิ อง ทง้ั การตรวจสอบกรณีรอ้ งเรียน การลงพน้ื ที่และการจัดการรับฟงั ความคดิ เห็นในประเด็นต่าง ๆ รวมท้ังได้ขอข้อมลู จาก
รายงานผลการปฏิบตั งิ านคณะปกรระรจมำ�กปางี รบสปิทรธะมิมนาณุษยพชน.ศแ.ห2ง่ 5ช6าต2ิ 100 คณะกรรมการสทิ ธิมนุษยชนแห่งชาติ หนว่ ยงานภาครฐั ทีเ่ กีย่ วข้อง ท้ังโดยการมหี นงั สือขอทราบ ส่วนท่ีสาม สิทธิมนุษยชนของบุคคล 5 กลุ่ม ได้แก่ ข้อมูลอย่างเป็นทางการ การประชุม และการสัมภาษณ์ สิทธิเด็ก สิทธิผู้สูงอายุ สิทธิคนพิการ สิทธิของผู้มีปัญหา เจา้ หนา้ ทผี่ ปู้ ฏบิ ตั งิ านจากหนว่ ยงานบางแหง่ เพอ่ื ตรวจสอบ สถานะและสิทธิ และนกั ปกป้องสทิ ธมิ นุษยชน ความถูกต้องของข้อมูลก่อนน�ำมาวิเคราะห์ถึงความ สอดคล้องกับพันธกรณีของไทยตามสนธิสัญญาระหว่าง ส่วนท่ีสี่ สถานการณ์ที่อยู่ในความห่วงใย 3 ประเด็น ประเทศด้านสิทธิมนุษยชนท่ีประเทศไทยเป็นภาคี ได้แก่ สิทธิชุมชนในการจัดการทรัพยากรธรรมชาติและ ซ่ึงในภาพรวมได้รับความร่วมมือด้วยดีจากหน่วยงาน ส่ิงแวดล้อม สถานการณ์ในพ้ืนที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ที่เกี่ยวข้อง หลังจากนั้นคณะกรรมการสิทธิมนุษยชน และการคา้ มนุษย์ แหง่ ชาติ ไดท้ �ำการประเมนิ สถานการณโ์ ดยระบถุ งึ พฒั นาการ และความก้าวหน้าในการด�ำเนินงานในประเด็นต่าง ๆ สถานการณ์ด้านสิทธิมนุษยชนของประเทศในปี ตลอดจนปัญหาอุปสรรคท่ีพบ และจัดท�ำความเห็นและ 2561 ในภาพรวมแสดงให้เห็นว่ารัฐได้มีความพยายาม ข้อเสนอแนะเพ่ือการส่งเสริมและคุ้มครองสิทธิมนุษยชน หลายประการในการส่งเสริมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ ทมี่ ีประสทิ ธผิ ลยง่ิ ข้ึน และแก้ไขปัญหาด้านสิทธิมนุษยชน โดยเฉพาะ การลดความเหลื่อมล�้ำ การส่งเสริมและเพิ่มศักยภาพ เมอื่ วนั ที่ 26 มนี าคม 2562 คณะกรรมการสทิ ธมิ นษุ ยชน เพ่ือให้ผู้มีอุปสรรคในการเข้าถึงสิทธิข้ันพื้นฐานที่ได้รับ แห่งชาติได้ส่งรายงานผลการประเมินสถานการณ์ การรับรองไว้ในรัฐธรรมนูญและกฎหมาย ได้มีโอกาส ด้านสิทธิมนุษยชนของประเทศไทย ปี 2561 ถึงประธาน เขา้ ถงึ สทิ ธดิ งั กลา่ วมากขน้ึ มกี ารจดั ท�ำแผนยทุ ธศาสตรช์ าติ สภานิติบัญญัติแห่งชาติและนายกรัฐมนตรีและเมื่อวันที่ 20 ปี แผนปฏิรูปประเทศ การตราหรือแก้ไขเพ่ิมเติม 23 เมษายน 2562 ผแู้ ทนของคณะกรรมการสทิ ธมิ นษุ ยชน กฎหมาย การก�ำหนดนโยบายและมาตรการต่าง ๆ แห่งชาติ ประกอบด้วยนางประกายรัตน์ ต้นธีรวงศ์ เช่น การออกกฎหมายและมาตรการให้ความช่วยเหลือ กรรมการสทิ ธมิ นษุ ยชนแหง่ ชาติ และนายชาตชิ าย สทุ ธกิ ลม ในการประกันตัวแก่ประชาชนเพื่อให้ได้รับการปล่อยตัว กรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ได้แถลงรายงานผล ช่ัวคราวระหว่างการด�ำเนินคดี การลดความเหล่ือมล้�ำ ก า ร ป ร ะ เ มิ น ส ถ า น ก า ร ณ ์ ด ้ า น สิ ท ธิ ม นุ ษ ย ช น ข อ ง ทางการศึกษาท้ังในมิติของการเข้าถึงและมิติด้านคุณภาพ ประเทศไทย ฉบบั น้ีตอ่ รฐั สภา ซึ่งสามารถสรุปสาระส�ำคญั ผ่านมาตรการตา่ ง ๆ รวมถึงการจัดต้ังกองทุนเพื่อความ ของรายงานผลการประเมนิ สถานการณด์ า้ นสทิ ธมิ นษุ ยชน เสมอภาคทางการศึกษา การจัดท�ำแผนปฏิรูปประเทศ ของประเทศไทย ไดด้ งั น้ี ด้านสาธารณสุขที่มุ่งให้ประชาชนได้รับโอกาสที่เท่าเทียม ในการเขา้ ถงึ บรกิ ารสาธารณสขุ ทจ่ี �ำเปน็ การใหค้ วามส�ำคญั เน้ือหาของรายงานผลการประเมินสถานการณ์ กับการพัฒนาเด็กปฐมวัย และการจัดท�ำพระราชบัญญัติ ดา้ นสทิ ธมิ นุษยชนของประเทศไทย แบง่ ออกเป็น 4 สว่ น ไกลเ่ กลย่ี ขอ้ พิพาท โดยให้ความส�ำคญั กบั การแก้ไขปญั หา รวม 14 ประเดน็ กลา่ วคอื ความขัดแย้ง อันเป็นการสร้างความสมานฉันท์ในสังคม ไทย ซงึ่ ในการตราพระราชบญั ญตั ทิ งั้ สองฉบบั นี้ ส�ำนกั งาน ส่วนที่หน่ึง สิทธิพลเมืองและสิทธิทางการเมือง คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติได้มีข้อเสนอแนะ มี 3 ประเดน็ ไดแ้ ก่ สทิ ธใิ นกระบวนการยตุ ธิ รรม การกระท�ำ และสนับสนุน จึงขอชื่นชมการด�ำเนินการของรัฐบาล ทรมานและการบงั คบั ใหส้ ญู หาย และเสรภี าพในการแสดง และสภานติ ิบญั ญัตแิ หง่ ชาตใิ นเรื่องดังกล่าว ความคดิ เหน็ เสรภี าพในการชมุ นมุ โดยสงบและปราศจากอาวธุ อย่างไรก็ตาม คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ส่วนท่ีสอง สิทธิทางเศรษฐกิจ สังคมและวัฒนธรรม เห็นว่ายังมีการด�ำเนินการบางประการที่เป็นปัญหาหรือ มี 3 ประเดน็ ไดแ้ ก่ สทิ ธทิ างการศกึ ษา สทิ ธดิ า้ นสขุ ภาพ มีผลกระทบด้านสิทธิมนุษยชน จึงมีข้อสังเกตรวมท้ัง และธุรกิจกบั สทิ ธิมนุษยชน ข้อเสนอแนะเพ่ือพัฒนาและส่งเสริมให้เกิดการเคารพและ ค้มุ ครองสทิ ธิมนุษยชนให้ดยี ิ่งขึน้ ในบางประเด็น ดังนี้
101 ประเดน็ แรก สทิ ธใิ นกระบวนการยตุ ธิ รรม โดยเฉพาะ บริการสาธารณะที่เป็นสิทธิขั้นพ้ืนฐาน รัฐบาลควรเร่งรัด บทที่ อยา่ งยง่ิ การปฏบิ ตั ขิ องเจา้ หนา้ ทผี่ บู้ งั คบั ใชก้ ฎหมายในการ ก�ำกับ และติดตามการปฏิบัติตามแผนปฏิรูปประเทศ 1 จับกุมบุคคล ซึ่งเป็นประเด็นท่ีมีการร้องเรียนมายัง กฎหมายและมาตรการท่ีเก่ียวข้อง โดยให้ความส�ำคัญ คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ค่อนข้างมาก กับประชาชนที่เป็นกลุ่มเปราะบางเป็นพิเศษ เพ่ือให้ บทท่ี จึงเห็นควรที่หน่วยงานท่ีเกี่ยวข้องควรก�ำกับดูแลให้ ประชาชนทุกกลุ่มสามารถเข้าถึงสิทธิได้อย่างเท่าเทียม 2 เ จ ้ า ห น ้ า ท่ี ป ฏิ บั ติ ห น ้ า ท่ี ต า ม ข้ั น ต อ น ข อ ง ก ฎ ห ม า ย ลดความเหลอ่ื มลำ�้ ซง่ึ เปน็ เปา้ หมายหลกั ส�ำคญั ประการหนง่ึ บทที่ อย่างเคร่งครัด หากพบว่ามีเจ้าหน้าท่ีกระท�ำผิด ควรต้อง ของการปฏริ ูปประเทศ 3 ด�ำเนินการทางกฎหมายอย่างจริงจัง รวมท้ังควรเร่ง บทท่ี พิจารณาร่างพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปราม ประเด็นท่ีส่ี สิทธิชุมชนในการจัดการทรัพยากร 4 การทรมานและการกระท�ำให้บุคคลสูญหาย โดยให้มี ธรรมชาติและส่ิงแวดล้อม การพัฒนาทางเศรษฐกิจ บทที่ บทบัญญัติที่สอดคล้องกับหลักการของอนุสัญญาต่อต้าน ของประเทศท่ีมีการใช้ประโยชน์จากทรัพยากรธรรมชาติ 5 การทรมาน และการปฏิบัติหรือการลงโทษที่โหดร้าย ได้ส่งผลกระทบต่อประชาชนท่ีมีวิถีชีวิตที่พ่ึงพิงทรัพยากร ภาค ไรม้ นุษยธรรม หรือท่ียำ่� ยศี กั ดศ์ิ รี ในพื้นที่ในบางกรณี นอกจากน้ี การประกอบกิจการ ผนวก อตุ สาหกรรมบางประเภทยงั ท�ำให้เกดิ มลพษิ ประเดน็ ทสี่ อง เสรภี าพในการแสดงออกและเสรภี าพ ในการชุมนุมโดยสงบและปราศจากอาวุธ ซ่ึงอาจมี ในสิ่งแวดล้อม เช่น การปล่อยสารเคมีที่เป็นอันตราย ข้อโต้แย้งเกี่ยวกับการบังคับใช้กฎหมายท่ีเก่ียวข้อง อาทิ ปัญหาฝุ่นละออง และปัญหาการท้ิงขยะและกากของเสีย ประกาศ/ค�ำส่ัง คสช. ท่ียังมีอยู่ หรือกฎหมายที่ออกตาม ซง่ึ สง่ ผลกระทบต่อความเปน็ อยู่ คุณภาพชวี ติ และสขุ ภาพ มาตรา 44 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย ของประชาชน คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (ฉบบั ชว่ั คราว) พทุ ธศักราช 2557 และการใช้ดลุ พินจิ ตาม เห็นว่า รัฐบาลควรให้ชุมชนได้เข้าไปมีส่วนร่วมในการ พระราชบัญญัติการชุมนุมสาธารณะ พ.ศ. 2558 จัดการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมอย่างแท้จริง ของเจ้าพนักงานตามกฎหมายการใช้เสรีภาพดังกล่าว ซ่ึงเป็นสิทธิท่ีได้รับการรับรองในรัฐธรรมนูญแห่ง สามารถมีข้อจ�ำกัดได้ โดยมีเง่ือนไขบางประการ รวมถึง ราชอาณาจักรไทย รวมท้ังควรมีมาตรการตรวจสอบ เงื่อนไขเพื่อประโยชน์ของความสงบเรียบร้อยของสังคม การประกอบกิจการท่ีส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม โดยรวมแต่การใช้เง่ือนไขนี้ต้องมีการตีความโดยเคร่งครัด อยา่ งเขม้ งวดและจรงิ จงั และควรเรง่ แกไ้ ขปญั หาประชาชน คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติจึงเห็นว่า รัฐควรใช้ ทไ่ี ดร้ บั ผลกระทบดา้ นสขุ ภาพและความเปน็ อยจู่ ากปญั หา ความระมัดระวังในการบังคับใช้กฎหมายประเภทน้ี สิ่งแวดลอ้ มเป็นพิษ โดยเฉพาะกับกลุ่มท่ีเห็นต่างจากรัฐเพื่อลดปัจจัยที่อาจ ท�ำให้เกิดความขัดแย้งในสังคมเพม่ิ มากขึ้น ต่อมาเมอื่ วนั ที่ 21 มถิ นุ ายน 2562 ส�ำนกั เลขาธิการ คณะรฐั มนตรไี ดจ้ ดั สง่ ความเหน็ ตอ่ รายงานผลการประเมนิ ประเดน็ ทสี่ าม การเข้าถงึ สทิ ธขิ ้ันพื้นฐานของบคุ คล สถานการณ์ด้านสิทธิมนุษยชนของประเทศไทย ปี 2561 บางกลุ่ม ในปีท่ีผ่านมา รัฐบาลมีความพยายามในการ ของหน่วยงานท่ีเก่ียวข้องให้คณะกรรมการสิทธิมนุษยชน พฒั นาบรกิ ารสาธารณะทเ่ี ปน็ สทิ ธขิ นั้ พน้ื ฐานแกป่ ระชาชน แห่งชาติทราบจ�ำนวน 17 หน่วยงาน ให้ดียิ่งขึ้น ท้ังด้านการศึกษาสาธารณสุข และด้านอ่ืน ๆ อย่างไรก็ดี ยังพบว่ามีบุคคลบางกลุ่มที่เข้าไม่ถึงบริการ 3.1.3 การเสนอแนะมาตรการหรือแนวทางในการ ขน้ั พนื้ ฐานของรฐั ไดแ้ ก่ ประชาชนกลมุ่ เปราะบางกลมุ่ ตา่ ง ๆ สง่ เสรมิ และคุ้มครองสทิ ธมิ นษุ ยชน เช่น บุคคลหรือเด็กท่ีมีฐานะยากจน เด็กเร่ร่อน ผู้อาศัย ในพ้ืนที่ห่างไกลและทุรกันดาร โดยเฉพาะผู้ที่อาศัย การเสนอแนะมาตรการหรือแนวทางในการส่งเสริม ในจังหวัดชายแดนใต้ คนไร้รัฐ ไร้สัญชาติ เป็นต้น และคุ้มครองสิทธิมนุษยชนนี้เป็นหน้าที่และอ�ำนาจ คณะกรรมการสทิ ธมิ นษุ ยชนแหง่ ชาติจงึ เหน็ วา่ ในการพฒั นา ตามรัฐธรรมนูญแหง่ ราชอาณาจกั รไทย พุทธศกั ราช 2560 มาตรา 247 (3) และพระราชบัญญัติประกอบรฐั ธรรมนูญ
รายงานผลการปฏบิ ตั ิงานคณะปกรระรจมำ�กปาีงรบสปทิ รธะิมมนาณษุ ยพชน.ศแ.ห2่ง5ช6าต2ิ 102 คณะกรรมการสิทธิมนษุ ยชนแห่งชาติ ว่าด้วยคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ พ.ศ. 2560 มาตรา 247 (3) ซงึ่ บญั ญตั ใิ ห้คณะกรรมการสทิ ธิมนุษยชน มาตรา 26 (3) ซงึ่ ให้คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ แห่งชาติมีหน้าท่ีและอ�ำนาจเสนอแนะมาตรการหรือ มีหน้าที่และอ�ำนาจเสนอแนะมาตรการหรือแนวทาง แนวทางในการส่งเสริมและคุ้มครองสิทธิมนุษยชน ในการสง่ เสรมิ และคมุ้ ครองสทิ ธมิ นษุ ยชนตอ่ รฐั สภา คณะรฐั มนตรี ต่อรัฐสภา คณะรัฐมนตรีและหน่วยงานที่เก่ียวข้อง และหนว่ ยงานท่เี ก่ียวข้อง รวมตลอดทง้ั การแกไ้ ขปรบั ปรงุ รวมตลอดถึงการแก้ไขปรบั ปรุงกฎหมาย กฎ ระเบียบหรอื กฎหมาย กฎ ระเบียบ หรอื ค�ำส่ังใด ๆ เพอื่ ใหส้ อดคลอ้ ง ค�ำสั่งใด ๆ ให้สอดคลอ้ งกับหลักสิทธิมนษุ ยชน กับหลักสิทธิมนุษยชน และตามหลักรัฐธรรมนูญมาตรา ข้อเสนอแนะมาตรการหรือแนวทางในการส่งเสริมและ 247 วรรคสอง ท่ีบัญญัติให้เม่ือรับทราบข้อเสนอแนะ คมุ้ ครองสทิ ธิมนุษยชน ดังกล่าวให้คณะรัฐมนตรีด�ำเนินการปรับปรุงแก้ไข ตามความเหมาะสมโดยเร็วหากไม่อาจด�ำเนินการได้หรือ คณะกรรมการสทิ ธมิ นษุ ยชนแหง่ ชาติ ไดม้ ขี อ้ เสนอแนะ ต้องใช้เวลาให้แจ้งเหตุผลให้คณะกรรมการสิทธิมนุษยชน ไปยังคณะรัฐมนตรีเพื่อแก้ไขปัญหาการประกาศเขต แหง่ ชาติทราบโดยไมช่ กั ช้า ป่าสงวนแห่งชาติ เขตอุทยานทับซ้อนท่ีอยู่อาศัยและ ท่ีท�ำกินของชุมชนท้องถ่ินด้ังเดิมซึ่งอยู่อาศัยมาก่อน ในปีงบประมาณ พ.ศ. 2562 คณะกรรมการ การขาดแคลนพื้นท่ีท�ำกิน การจับกุม ด�ำเนินคดีและ สิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ได้มีข้อเสนอแนะ ท้ังที่เป็น ไล่ร้ือทรัพย์สินของชุมชนโดยมีประเด็นเกี่ยวข้องกับ เอกสารข้อเสนอแนะในเร่ืองนั้นโดยเฉพาะและท่ีเป็น ร่างพระราชบัญญัติป่าชุมชน พ.ศ. .... รวมอยู่ด้วย ขอ้ เสนอแนะปรากฏในรายงานผลการตรวจสอบการละเมดิ อีกท้ัง คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติมีความเห็น สทิ ธิมนุษยชน และเสนอไปยังรัฐสภา คณะรฐั มนตรี และ ต่อร่างพระราชบญั ญัติป่าชมุ ชน พ.ศ. .... ดงั ต่อไปนี้ หนว่ ยงานทเี่ กย่ี วขอ้ ง จ�ำนวน 5 ฉบับ สรปุ ได้ดงั น้ี 1) ร่างมาตรา 31 ถึงมาตรา 41 การจัดต้ังป่าชุมชน 1) ข้อเสนอแนะในการแก้ไขปรับปรุงกฎหมายเพื่อให้ บัญญัติให้ชุมชนท่ีประสงค์น�ำพ้ืนที่ป่ามาขอจัดตั้ง สอดคลอ้ งกบั หลกั สทิ ธมิ นษุ ยชนตอ่ รา่ งพระราชบญั ญตั ิ ป่าชุมชนต้องย่ืนแผนจัดการป่าชุมชนประกอบค�ำขอ ป่าชมุ ชน พ.ศ. .... ตอ่ คณะกรรมการปา่ ชมุ ชนประจ�ำจงั หวดั พจิ ารณาอนญุ าตกอ่ น คณะกรรมการสทิ ธมิ นษุ ยชนแหง่ ชาตเิ หน็ วา่ รฐั ควรมหี นา้ ที่ ประเดน็ /ความเป็นมา รบั รองสทิ ธทิ ม่ี อี ยแู่ ลว้ ของชมุ ชนและไมเ่ พม่ิ อปุ สรรคในการ คณะรัฐมนตรีได้เสนอร่างพระราชบัญญัติป่าชุมชน เขา้ ถงึ สิทธิของชุมชนทอ้ งถิน่ ด้ังเดิมมากเกนิ ไป โดยเฉพาะ ชุมชนใดท่ีด�ำเนินการจัดการ บ�ำรุงรักษาและใช้ประโยชน์ พ.ศ. .... ต่อสภานิติบัญญัติแห่งชาติพิจารณาตามหนังสือ จากทรพั ยากรธรรมชาติ สงิ่ แวดลอ้ มและความหลากหลาย ส�ำนักนายกรัฐมนตรี ที่ นร 0503/41625 ลงวันที่ 20 ทางชีวภาพอยู่ก่อนวันท่ีพระราชบัญญัตินี้ใช้บังคับ ธนั วาคม 2561 เรอ่ื ง รา่ งพระราชบญั ญตั ปิ า่ ชมุ ชน พ.ศ. .... โดยมีข้อกังวลว่าชุมชน เช่น กลุ่มชาติพันธุ์กะเหรี่ยง ต่อมา สภานิติบัญญัติแห่งชาติได้รับพิจารณาเป็นวาระ ชาวมันนิ อาจไม่มีโอกาสรับรู้ถึงวิธีการเข้าถึงทรัพยากร เร่งด่วน โดยมีมติรับหลักการร่างพระราชบัญญัติฯ ว่าจะต้องจัดท�ำแผนจัดการป่าชุมชนเสนอต่อรัฐก่อนใช้ ดังกล่าว ในคราวการประชุม ครั้งที่ 89/2561 ประโยชน์และอาจเป็นภาระมากเกินกว่าที่ชุมชนเหล่านั้น เม่ือวันพุธท่ี 26 ธันวาคม 2561 ซึ่งร่างพระราชบัญญัติฯ ท่จี ะด�ำเนินการได้เอง จึงมีข้อเสนอวา่ รา่ งพระราชบัญญตั ิ ในขณะน้ันอยู่ระหว่างการพิจารณาของคณะกรรมาธิการ ป่าชุมชนฯ จ�ำเป็นต้องมีมาตรการหรือวิธีการอ�ำนวย วิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติป่าชุมชน พ.ศ. .... ความสะดวกให้กับชุมชนเหล่าน้ันเพ่ิมเติม เช่น บัญญัติ คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติพิจารณาแล้วเห็น องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นและกรมป่าไม้มีส่วนร่วม ความส�ำคัญของสิทธชิ ุมชน จงึ เห็นควรจดั ท�ำข้อเสนอแนะ ช่วยเหลือในการเขียนแผนโครงการของชุมชนในพ้ืนท่ี ในการแก้ไขปรับปรุงกฎหมายเพื่อให้สอดคล้องกับ เพือ่ เปน็ การขจดั อุปสรรคในการเข้าถึงสทิ ธิของชุมชน หลกั สิทธิมนุษยชนไปยงั สภานิติบัญญัตแิ ห่งชาติ ทั้งนีต้ าม รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2560
103 2) ร่างมาตรา 44 หน้าที่และอ�ำนาจคณะกรรมการ ผลส�ำ เร็จ/ความก้าวหน้าในการคุม้ ครองสทิ ธิมนุษยชน บทท่ี จัดการป่าชุมชน เห็นควรเพิ่มหน้าท่ีในการติดตามและ คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติมีมติมอบหมาย 1 ประเมินผลการใช้ทรัพยากรอย่างยั่งยืนในป่าชุมชนด้วย เพื่อประโยชน์ในการติดตามและบริหารจัดการทรัพยากร ให้ส�ำนักงานคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ บทที่ ในปา่ ชุมชน เสนอความเห็นต่อร่างพระราชบัญญัติป่าชุมชน พ.ศ. .... 2 ไปยังสภานิติบัญญัติแห่งชาติโดยเร่งด่วน ต่อมาส�ำนักงาน บทท่ี 3) ร่างพระราชบัญญัติป่าชุมชน พ.ศ. .... บัญญัติ เลขาธิการวุฒิสภาปฏิบัติหน้าท่ีส�ำนักงานเลขาธิการ 3 ให้มีการตราอนุบัญญัติหลายมาตรา ซ่ึงกฎหมายระดับ สภานิติบัญญัติแห่งชาติมีหนังสือกราบเรียนประธาน บทที่ อนุบัญญัติถือว่ามีความส�ำคัญและกระทบสิทธิเสรีภาพ กรรมการสทิ ธมิ นษุ ยชนแหง่ ชาตวิ า่ ประธานสภานติ บิ ญั ญตั ิ 4 ของประชาชน เน่ืองจากก�ำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ แหง่ ชาตไิ ดพ้ จิ ารณาแลว้ มอบหมายใหส้ �ำนกั งานเลขาธกิ าร บทท่ี เงื่อนไข และมาตรการควบคุมต่าง ๆ เช่น การก�ำหนด วุฒิสภา ปฏิบัติหน้าที่ส�ำนักงานเลขาธิการสภานิติบัญญัติ 5 เขตป่าอนุรักษ์ (มาตรา 4) การก�ำหนดหลักเกณฑ์ต่าง ๆ แห่งชาติพิจารณา ซึ่งต่อมาได้ส่งข้อเสนอแนะต่อร่าง ภาค เกย่ี วกบั คณะกรรมการจดั การปา่ ชมุ ชน (มาตรา 42 วรรคสอง) กฎหมายดงั กล่าว ให้แกค่ ณะกรรมาธกิ ารวสิ ามญั พิจารณา ผนวก การออกข้อห้ามมิให้กระท�ำการในป่าชุมชน (มาตรา 51 ร่างพระราชบัญญัติป่าชุมชน พ.ศ. .... สภานิติบัญญัติ วรรคสอง (2) การขออนญุ าตใชป้ ระโยชนจ์ ากไม้ (มาตรา 52) แห่งชาติเพื่อพิจารณาตามหน้าท่ีและอ�ำนาจต่อไป การก�ำหนดอัตราค่าธรรมเนยี ม ค่าตอบแทน (มาตรา 56) เม่ือพิจารณาตามข้อสังเกตของคณะกรรมาธิการฯ รวมถงึ การก�ำหนดกฎระเบยี บเพอื่ ปฏบิ ตั ติ ามพระราชบญั ญตั นิ ี้ พจิ ารณารา่ ง พ.ร.บ. ปา่ ชมุ ชน พ.ศ. .... ฉบบั ทส่ี ภานติ บิ ญั ญตั ิ โดยผ่านการพิจารณาให้ความเห็นชอบจากคณะกรรมการ แห่งชาติเห็นสมควรประกาศใช้เป็นกฎหมายแล้ว นโยบาย ซ่ึงมีสัดส่วนกรรมการโดยต�ำแหน่งมาจาก และพระราชบัญญัติป่าชุมชน พ.ศ. 2562 ฉบับประกาศ หนว่ ยงานของรฐั มากกวา่ การมสี ว่ นรว่ มของชมุ ชน โดยไมไ่ ด้ ราชกิจจานุเบกษา เมื่อวันท่ี 29 พฤษภาคม 2562 ก�ำหนดหลักประกันความเป็นธรรมของประชาชนในการ ในภาพรวมแล้วเห็นว่า ทั้งคณะกรรมาธิการฯ และ จัดท�ำร่างอนุบัญญัติไว้ คณะกรรมการสิทธิมนุษยชน ส ภ า นิ ติ บั ญ ญั ติ แ ห ่ ง ช า ติ ไ ด ้ เ ห็ น ถึ ง ข ้ อ กั ง ว ล ข อ ง แหง่ ชาติ จงึ เหน็ วา่ การออกกฎหมายล�ำดบั รองควรเปดิ โอกาส ค ณ ะ ก ร ร ม ก า ร สิ ท ธิ ม นุ ษ ย ช น แ ห ่ ง ช า ติ ท่ี ไ ด ้ จั ด ท�ำ ให้ประชาชนผู้มีส่วนได้ส่วนเสียและหน่วยงานอื่น ข้อเสนอแนะไป ทั้งในประเด็นที่พระราชบัญญัติป่าชุมชน ที่เก่ียวข้อง เช่น คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ พ.ศ. 2562 อาจสร้างภาระให้แก่ประชาชน เช่น ในส่วน เข้าไปมีส่วนร่วมเพ่ือแสดงความคิดเห็นในการจัดท�ำร่าง การท�ำแผนจัดท�ำป่าชุมชน การก�ำหนดอายุของ อนบุ ญั ญัตเิ หลา่ นน้ั ดว้ ย แผนจดั การปา่ ชมุ ชน 5 ปี ตามขอ้ สงั เกตของคณะกรรมาธกิ ารฯ เพิ่มเติมระยะเวลาแก้ไขค�ำขอจัดตั้งป่าชุมชนที่ไม่ถูกต้อง 4) ร่างมาตรา 56 ถึงมาตรา 57 การเรียกเก็บ ซ่ึงต้องไม่น้อยกว่า 30 วัน เป็นต้น จึงได้มีข้อสังเกตและ ค่าธรรมเนียม ค่าตอบแทนหรือค่าบริการจากบุคคล มีการแก้ไขเพ่ิมเติมในประเด็นดังกล่าว กรณีดังกล่าว ท่ีไม่ใช่สมาชิกและการรับเงินบริจาคจากบุคคลภายนอก ถือได้ว่าเป็นผลส�ำเร็จของการจัดท�ำข้อเสนอแนะในการ ของป่าชุมชน มีข้อสังเกตว่าเงินดังกล่าวไม่ต้องน�ำส่งคลัง ปรับปรุงกฎหมายของคณะกรรมการสิทธิมนุษยชน เป็นรายได้แผ่นดินและให้ตกเป็นทรัพย์สินส่วนกลาง แหง่ ชาติ ซงึ่ เปน็ หน้าทีแ่ ละอ�ำนาจโดยตรงตามรฐั ธรรมนูญ ของป่าชุมชน จึงเห็นควรบัญญัติให้คณะกรรมการ แห่งราชอาณาจักรไทย พทุ ธศกั ราช 2560 มาตรา 247 (3) จัดการป่าชุมชนต้องแสดงบัญชีทรัพย์สินรายรับ-รายจ่าย ของปา่ ชมุ ชนตอ่ สาธารณะดว้ ย เพอ่ื ปอ้ งกนั ปญั หาทอี่ าจใช้ เ ป ็ น ช ่ อ ง ท า ง ใ น ก า ร แ ส ว ง ห า ป ร ะ โ ย ช น ์ โ ด ย มิ ช อ บ ดว้ ยกฎหมาย
รายงานผลการปฏิบตั ิงานคณะปกรระรจมำ�กปางี รบสปทิ รธะิมมนาณษุ ยพชน.ศแ.ห2ง่ 5ช6าต2ิ 104 คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ 2) ข้อเสนอแนะในการแก้ไขปรับปรุงกฎหมายเพื่อให้ 2) ประเด็นความสัมพันธ์กับชุมชนท้องถิ่น เห็นว่า สอดคลอ้ งกบั หลกั สทิ ธมิ นษุ ยชนตอ่ รา่ งพระราชบญั ญตั ิ การรวมตัวเป็นชุมชนเป็นแนวคิดว่าด้วยสิทธิเชิงกลุ่ม อทุ ยานแห่งชาติ พ.ศ. .... (collective rights) ที่ก่อให้เกิดอัตลักษณ์และการสร้าง เจตจ�ำนงร่วมกันอันสืบทอดมาในรูปแบบของประเพณี ประเดน็ /ความเป็นมา ซง่ึ ยาวนานกวา่ ระบบกรรมสทิ ธขิ์ องปจั เจกบคุ คล เหน็ ควรมี ค ณ ะ ก ร ร ม ก า ร สิ ท ธิ ม นุ ษ ย ช น แ ห ่ ง ช า ติ เ ห็ น ว ่ า บทนิยามเก่ียวกับชุมชน ที่ให้บุคคลหรือชุมชนเข้ามา มีส่วนรว่ มในกระบวนการตา่ ง ๆ ทมี่ ผี ลกระทบตอ่ วิถชี ีวิต รา่ งพระราชบญั ญตั อิ ทุ ยานแหง่ ชาติ พ.ศ. .... ซงึ่ อยรู่ ะหวา่ ง หรือส่ิงแวดล้อมในชุมชนตามเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญ การพจิ ารณาของสภานติ บิ ญั ญตั แิ หง่ ชาติ ควรใหค้ วามส�ำคญั แห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2560 มาตรา 43 ของสทิ ธิชุมชน จงึ เหน็ ควรจัดท�ำข้อเสนอแนะในการแกไ้ ข เพื่อให้สอดคล้องกับวิถีชีวิตของชุมชนโดยเฉพาะชุมชน ปรับปรุงกฎหมายเพื่อให้สอดคล้องกับหลักสิทธิมนุษยชน ทจี่ �ำเปน็ ตอ้ งพง่ึ พาอาศยั พนื้ ทช่ี ายฝง่ั และทะเลในการด�ำรงชพี ไปยงั สภานติ ิบญั ญัตแิ หง่ ชาติ การมีบทบัญญัติห้ามการเข้าไปกระท�ำการบางอย่าง ในเขตที่ถูกประกาศเป็นพ้ืนที่อุทยานแห่งชาติ วนอุทยาน ข้อเสนอแนะมาตรการหรือแนวทางในการส่งเสริมและ สมควรจะต้องก�ำหนดบทยกเว้นไว้ส�ำหรับกรณีดังกล่าว คุ้มครองสทิ ธิมนษุ ยชน เปน็ การเฉพาะดว้ ย เชน่ การแกไ้ ขเพิม่ เติมร่างมาตรา 22 ซึ่งเป็นอ�ำนาจของพนักงานเจ้าหน้าท่ีในการใช้ดุลพินิจ 1) ประเด็นการมีส่วนร่วมของประชาชนหรือชุมชน อนุญาตให้บุคคลเข้าไปกระท�ำการตามมาตรา 19 (2) ในท้องถิ่น เห็นว่า ร่างพระราชบัญญัติอุทยานแห่งชาติ (5) (6) และ (7) โดยเพ่ิมเติมให้อ�ำนาจแก่พนักงาน พ.ศ. .... มาตรา 8 มีการปรับปรุงหลักการให้ดีข้ึนกว่า เจ้าหน้าท่ีอนุญาตให้บุคคลหรือชุมชนสามารถเข้าไป กรณีตามมาตรา 6 แห่งพระราชบัญญัติอุทยานแห่งชาติ เก็บหาทรัพยากรธรรมชาติ ล่อหรือน�ำสัตว์ป่าออก พ.ศ. 2504 คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ โดยอาจใช้เครื่องมือต่าง ๆ ภายใต้เงื่อนไขว่าจะต้องเป็น เห็นสมควรให้ระบุรายละเอียดเก่ียวกับการมีส่วนร่วม การด�ำเนินการเพื่อการเลี้ยงชีพตามวิถีปกติของชุมชน ของประชาชนและชุมชน เช่น การจัดให้มีการรับฟัง ท้องถิ่นแห่งน้ันและไม่กระทบต่อความสมดุลและย่ังยืน ต้ังแต่การเร่ิมส�ำรวจพ้ืนที่ การให้ข้อมูลข่าวสาร ของสง่ิ แวดลอ้ ม ทงั้ ยงั ตอ้ งสอดคลอ้ งกบั แผนบรหิ ารจดั การ อย่างเพียงพอต่อการพิจารณาให้ความเห็นเพ่ือสร้าง พื้นทตี่ ามมาตรา 18 ซึ่งชุมชนทอ้ งถนิ่ เขา้ ไปมีส่วนรว่ มกบั ความเข้าใจที่ตรงกันไว้ในกฎหมายล�ำดับรอง ตลอดจน รัฐในการจัดท�ำดว้ ย ทงั้ น้ี มขี อ้ สงั เกตว่า แมร้ ่างมาตรา 63 เปิดโอกาสให้บุคคลหรือชุมชนมีสิทธิในการโต้แย้งหรือ วรรคทา้ ยจะไดบ้ ญั ญตั ยิ กเวน้ โทษบคุ คลทก่ี ระท�ำการตา่ ง ๆ คัดค้านการก�ำหนดเขตเพ่ือขอให้หน่วยงานของรัฐ อันเป็นความผิดตามร่างมาตรา 19 ในเขตพื้นที่อุทยาน ท่ี เ ก่ี ย ว ข ้ อ ง ไ ด ้ ท บ ท ว น ดุ ล พิ นิ จ อี ก ค ร้ั ง แ ล ะ เ ห็ น ว ่ า ไว้แล้วก็ตาม แต่ด้วยเหตุท่ีบทบัญญัติดังกล่าวเป็น ร่างมาตรา 18 เกี่ยวกับการจัดท�ำแผนการบริหารจัดการ บทเฉพาะกาลซ่ึงใช้บังคับเฉพาะกรณีของบุคคลท่ีไม่มี พื้นที่อุทยานแห่งชาติแต่ละแห่งยังคงเป็นอ�ำนาจของ ที่ท�ำกินและอยู่อาศัยในพ้ืนที่ท่ีถูกประกาศเป็นเขตอุทยาน หน่วยงานของรัฐ และอธิบดีในการจัดท�ำและเห็นชอบ แห่งชาติอยู่ก่อนร่างพระราชบัญญัติฉบับน้ีใช้บังคับ ก่อนการประกาศใช้ ซ่ึงแผนการบริหารจัดการพ้ืนท่ี จึงไม่ครอบคลุมถึงกรณีของบุคคลหรือชุมชนที่อยู่อาศัย ดังกล่าวเก่ียวข้องเป็นไปเพื่อดูแล รักษา คุ้มครองพื้นท่ี หรอื พง่ึ พงิ ทรพั ยากรธรรมชาตใิ นเขตพน้ื ทอี่ นื่ ซง่ึ ยงั ไมไ่ ดร้ บั ภายในเขตอุทยานแห่งชาติ เห็นสมควรเพ่ิมเติมข้อความ การประกาศเป็นเขตอุทยานแห่งชาติ หรือในเวลาต่อมา ในมาตราน้ีให้ก�ำหนดกระบวนการและข้ันตอนการรับฟัง มกี ารขยายพน้ื ทอ่ี ทุ ยานแหง่ ชาตมิ าถงึ กจ็ ะท�ำใหบ้ คุ คลหรอื ความเหน็ ของบคุ คลหรอื ชมุ ชนทอ้ งถน่ิ นอกจากนี้ เหน็ ควร ชุมชนท่ีไม่โยกย้ายออกไปจากเขตพื้นที่ดังกล่าวมีความผิด ให้มีการก�ำหนดแผนท่ีเหมาะสมในการร่วมกันบริหาร อันจะท�ำให้กระทบต่อสิทธิทางวัฒนธรรมและสิทธิ จัดการอุทยานแห่งชาติระหว่างรัฐและประชาชน ในที่อยู่อาศัย โดยการก�ำหนดให้เป็นดุลพินิจของ บุคคลและชุมชนมีส่วนร่วมในการจ�ำแนกเขตการจัดการ (zoning) ในแผนบริหารจัดการพื้นที่ซ่ึงต้องพิจารณา ความเปน็ ไปไดใ้ นการจัดการพนื้ ทปี่ ระเภทตา่ ง ๆ
105 พนักงานเจ้าหน้าท่ีจะท�ำให้การบังคับใช้กฎหมายเป็นไป กับการใช้ชีวิตในพื้นที่ป่า หากเป็นแต่เพียงเกณฑ์การช่วย บทท่ี อยา่ งยดื หยนุ่ และเหมาะสมกบั แตล่ ะระบบนเิ วศทงั้ ทางบก เหลือในเร่ืองท่ีอยู่อาศัย และท่ีท�ำกินซ่ึงอยู่ในกรอบทาง 1 และทางทะเล เศรษฐกจิ ซง่ึ ขาดการค�ำนงึ ถงึ หลกั การสง่ เสรมิ ใหช้ มุ ชนดง้ั เดมิ ชว่ ยกนั ดแู ลสงิ่ แวดลอ้ มอนั เปน็ มติ ทิ างวฒั นธรรม อาจท�ำให้ บทท่ี 3) ประเด็นการสร้างความชัดเจนในเรื่องของ มหี ลกั การทแ่ี ตกตา่ งกนั ระหวา่ งการบญั ญตั ใิ หร้ า่ งกฎหมาย 2 การท�ำกนิ ของบคุ คลและชมุ ชนทอ้ งถน่ิ ทตี่ อ้ งพงึ่ พงิ ทรพั ยากร ว่าด้วยอุทยานแห่งชาติเป็นกฎหมายที่ก�ำหนดให้ชุมชน บทท่ี ธรรมชาติในเขตอุทยานแห่งชาติ มีข้อสังเกตว่า มีบทบาทส�ำคัญในการบริหารจัดการร่วมกันระหว่างรัฐ 3 ร่างพระราชบัญญัติอุทยานแห่งชาติ พ.ศ. .... มาตรา 63 กับชุมชน จึงควรน�ำมติคณะรฐั มนตรี เม่อื วนั ที่ 3 สงิ หาคม บทท่ี วรรคสอง ที่ก�ำหนดให้ประชาชนท่ีได้รับความช่วยเหลือ 2553 เรอื่ ง แนวนโยบายและหลกั ปฏบิ ตั ใิ นการฟน้ื ฟวู ถิ ชี วี ติ 4 จากปัญหาไม่มีท่ีดินท�ำกินและท่ีอยู่อาศัยนั้น ควรก�ำหนด ชาวกะเหร่ียงมาใช้ประกอบในการพิจารณาก�ำหนดกรอบ บทที่ ให้ชัดเจนว่า บุคคลหรือชุมชนที่ได้อยู่อาศัยและ พระราชกฤษฎกี าด้วย นอกจากนี้ การส�ำรวจการถอื ครอง 5 ด�ำรงชีวิตในเขตพ้ืนที่อุทยานแห่งชาติ วนอุทยานต่าง ๆ ที่ดินก็ควรพิจารณาข้อมูลจากภาพถ่ายทางอากาศแผนที่ ภาค เป็นสิทธิหรือประโยชน์ประเภทใด และจะมีหลักเกณฑ์ แนบท้ายประกาศเขตหวงห้ามหรือเขตป่าอนุรักษ์ และ ผนวก และเง่ือนไขในการพิจารณารับรองสิทธิหรือประโยชน์ การใช้ข้อมูลเชิงประวัติศาสตร์ในการศึกษารากเหง้า ดังกล่าวของบุคคลหรือชุมชนอย่างไร ทั้งนี้ สิทธิหรือ ของชมุ ชนท้องถิ่นดั้งเดิม ประโยชน์ ตลอดจนการรับรองและเพิกถอนสิทธิ ผลส�ำ เรจ็ /ความกา้ วหนา้ ในการคมุ้ ครองสทิ ธมิ นษุ ยชน ดงั กลา่ วจะตอ้ งไมป่ ะปนไปกบั สทิ ธคิ รอบครอง สทิ ธใิ นการ ท�ำประโยชนใ์ นทด่ี นิ หรอื กรรมสทิ ธิ์ เพอื่ มใิ หม้ กี ารเปลย่ี นมอื คณะกรรมการสทิ ธมิ นษุ ยชนแหง่ ชาตไิ ดเ้ สนอความเหน็ หรือแปลงสิทธิไปเป็นสิทธิครอบครอง กรรมสิทธ์ิ หรือ ตอ่ ร่างพระราชบญั ญัติอทุ ยานแห่งชาติพ.ศ. .... ไปยังสภา สิทธิประเภทอ่ืนตามกฎหมายว่าด้วยท่ีดิน หรือกฎหมาย นิติบัญญัติแห่งชาติ ต่อมาส�ำนักงานเลขาธิการวุฒิสภา วา่ ดว้ ยการปฏริ ปู ที่ดนิ เพอ่ื การเกษตรกรรม ประการต่อมา แจ้งว่าประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติได้พิจารณาแล้ว มีข้อสงั เกตวา่ เจตนารมณใ์ นการปรับปรุงพระราชบญั ญตั ิ มอบหมายให้ส�ำนักงานเลขาธิการวุฒิสภา ปฏิบัติหน้าที่ อุทยานแห่งชาติ พ.ศ. .... ตามที่ปรากฏในค�ำแถลง ส�ำนักงานเลขาธิการสภานิติบัญญัติแห่งชาติพิจารณา ช้ีแจงร่างพระราชบัญญัติอุทยานแห่งชาติ พ.ศ. .... มีว่า ซ่ึงต่อมาได้ส่งข้อเสนอแนะต่อร่างกฎหมายดังกล่าว “3.1 ชุมชนมีส่วนร่วมในการประกาศจัดต้ัง และการ ใหแ้ กค่ ณะกรรมาธกิ ารวสิ ามญั พจิ ารณารา่ งพระราชบญั ญตั ิ บรหิ ารจัดการอทุ ยานแหง่ ชาติ และขอ้ 3.4 เพ่ือช่วยเหลือ อุทยานแห่งชาติ พ.ศ. .... สภานิติบัญญัติแห่งชาติ ราษฎรท่ีอยู่อาศัยหรือท�ำกินอยู่แล้วในอุทยานแห่งชาติ” เพ่ือพิจารณาตามหน้าท่ีและอ�ำนาจต่อไปแล้ว และต่อมา แต่เม่ือได้พิจารณาร่างพระราชบัญญัติอุทยานแห่งชาติ เมื่อวันที่ 29 พฤษภาคม 2562 ราชกิจจานุเบกษา พ.ศ. .... มาตรา 63 ทีก่ �ำหนดใหต้ ราเปน็ พระราชกฤษฎีกา กไ็ ดป้ ระกาศพระราชบญั ญตั ิปา่ ชุมชน พ.ศ. 2562 ใชเ้ ป็น จัดท�ำโครงการเกี่ยวกับการอนุรักษ์และดูแทรัพยากร กฎหมาย ก็ปรากฏว่ามีการแก้ไขเนื้อหาในบทบัญญัติ ธรรมชาติภายในอุทยานแห่งชาติโดยมีวัตถุประสงค์ ซ่ึ ง ส อ ด ค ล ้ อ ง กั บ ข ้ อ เ ส น อ แ น ะ ข อ ง ค ณ ะ ก ร ร ม ก า ร เพ่ือช่วยเหลือบุคคลที่ไม่มีท่ีดินท�ำกินและได้อยู่อาศัยหรือ สิทธิมนุษยชนแห่งชาติท้ังในเรื่องของการก�ำหนดให้ ท�ำกินในอุทยานแห่งชาติ ภายใต้กรอบมติคณะรัฐมนตรี บุคคลหรือชุมชนเข้าไปรับฟังความเห็น และให้ผู้มีส่วน เมอ่ื วนั ท่ี 30 มถิ นุ ายน 2541 หรอื ค�ำสง่ั คณะรกั ษาความสงบ ได้เสียเข้าไปส่วนร่วมในการก�ำหนดให้การจัดท�ำแผน แหง่ ชาติ ท่ี 66/2557 น้ัน จะเห็นไดว้ า่ เง่ือนไขทก่ี �ำหนด การบริหารจัดการพื้นที่อุทยานแห่งชาติ และการเพ่ิมเติม กรอบในการตราพระราชกฤษฎีกายังไม่มีความชัดเจน บทบญั ญตั ใิ นบทเฉพาะกาลใหบ้ คุ คลสามารถเขา้ ไปเกบ็ หา ในเร่ืองของการประกันสิทธิของบุคคลหรือชุมชนที่เป็น หรือใช้ประโยชน์จากทรัพยากรธรรมชาติได้โดยไม่ต้อง ชนกลุ่มน้อยหรือกลุ่มชาติพันธุ์ที่มีวิถีประพฤติปฏิบัติ รบั โทษ ภายใต้หลักเกณฑ์และเง่อื นไขท่กี �ำหนด สืบทอดกันมาจนเกิดเป็นจารีตประเพณีที่เก่ียวข้อง
รายงานผลการปฏบิ ตั งิ านคณะปกรระรจมำ�กปางี รบสปทิ รธะิมมนาณุษยพชน.ศแ.ห2ง่ 5ช6าต2ิ 106 คณะกรรมการสทิ ธมิ นุษยชนแหง่ ชาติ 3) ข้อเสนอแนะมาตรการหรือแนวทางในการส่งเสริมและ ในกรณีที่ผู้เสียหายและผู้ถูกกล่าวหาไม่ยินยอมตามท่ี คมุ้ ครองสทิ ธมิ นษุ ยชนตอ่ รา่ งพระราชบญั ญตั กิ ารไกลเ่ กลย่ี ไกล่เกลี่ย ใหจ้ �ำหน่ายขอ้ พพิ าทน้นั แต่เพื่อประโยชน์ในการ ข้อพิพาท พ.ศ. .... ท่ีผู้เสียหายจะไปด�ำเนินคดีต่อไป อายุความการร้องทุกข์ ตามประมวลกฎหมายอาญาให้เร่ิมนับแต่วันท่ีจ�ำหน่าย ประเด็น/ความเปน็ มา ข้อพิพาทหรือนับแต่วันท่ีศาลมีค�ำส่ังถึงที่สุดไม่บังคับ คณะกรรมการสทิ ธมิ นษุ ยชนแหง่ ชาตเิ หน็ ควรใหม้ กี าร ตามข้อตกลงระงับข้อพิพาท” เพ่ือป้องกันการใช้สิทธิ โดยไม่สุจริตในการประวิงคดี และคุ้มครองสิทธิของ พิจารณาศึกษา รวบรวมข้อเท็จจริงและวิเคราะห์ ผเู้ สียหายในการด�ำเนนิ คดอี าญา กรณีการสนับสนุนและผลักดันร่างพระราชบัญญัติ การไกล่เกลีย่ ข้อพิพาท พ.ศ. .... เพ่ือให้สอดคลอ้ งกับหลกั 4) ควรก�ำหนดใหช้ ดั เจนในมาตรา 8 (2) วา่ ผขู้ น้ึ ทะเบยี น สิทธิมนุษยชน ต่อคณะรัฐมนตรีและสภานิติบัญญัติ เป็นผู้ไกล่เกลี่ยควรประกอบด้วยผู้มีประสบการณ์ แหง่ ชาติ ตามรฐั ธรรมนญู แหง่ ราชอาณาจกั รไทยพทุ ธศกั ราช ในแตล่ ะดา้ นซงึ่ มคี วามหลากหลายอยา่ งนอ้ ยควรประกอบดว้ ย 2560 มาตรา 247 (3) และพระราชบัญญัติประกอบ ผมู้ ปี ระสบการณด์ า้ นกฎหมายเฉพาะดา้ นการประนปี ระนอม รัฐธรรมนูญว่าด้วยคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ข้อพิพาททางแพ่งหรือทางอาญาด้านวิชาชีพต่าง ๆ พ.ศ. 2560 มาตรา 26 (3) และมาตรา 42 ดา้ นสทิ ธมิ นษุ ยชน ดา้ นการสงั คมสงเคราะห์ ดา้ นจติ วทิ ยา ดา้ นการพฒั นาชมุ ชน ดา้ นอาชญาวทิ ยา หรอื ดา้ นอนื่ ๆ ทจ่ี �ำเปน็ ข้อเสนอแนะมาตรการหรือแนวทางในการส่งเสริมและ และเปน็ ประโยชนต์ อ่ การไกลเ่ กลยี่ ขอ้ พพิ าทตามทกี่ �ำหนด คุ้มครองสิทธมิ นษุ ยชน ในกฎกระทรวง โดยใหห้ นว่ ยงานทบี่ คุ คลนน้ั เคยท�ำงานหรอื มปี ระสบการณท์ เ่ี กยี่ วขอ้ งกบั หนว่ ยงานนนั้ ๆ เปน็ ผรู้ บั รอง 1) ควรก�ำหนดนยิ ามของค�ำว่า “คูก่ รณ”ี ในมาตรา 3 ให้ชัดเจน เช่น “คู่กรณีตามข้อพิพาททางอาญา” 5) ควรแก้ไขบทบัญญัติมาตรา 12 วรรคสอง ว่า หมายความรวมถึงผู้มีอ�ำนาจจัดการแทนผู้เสียหาย “ในกรณีที่คู่กรณีฝ่ายใดฝ่ายหน่ึงมีหลายคน หากมีการ ตามประมวลกฎหมายวธิ พี จิ ารณาความอาญา “คกู่ รณตี าม ต้ังข้อรังเกียจผู้ไกล่เกล่ียตามวรรคหน่ึงโดยคู่กรณีคนใด ข้อพิพาททางแพ่ง” หมายรวมถึงผู้แทนโดยชอบธรรม คนหนงึ่ ในฝา่ ยเดยี วกนั ใหม้ กี ารพจิ ารณาขอ้ รงั เกยี จดงั กลา่ ว และผู้อนุบาล เป็นต้น เพ่ือป้องกันความผิดพลาดท่ีอาจ รว่ มกนั เพอ่ื พจิ ารณาถอดถอนผไู้ กลเ่ กลยี่ และตง้ั ผไู้ กลเ่ กลยี่ เกิดขึ้นในกระบวนการไกล่เกล่ีย รวมทั้งเพื่อความถูกต้อง คนใหม่เพื่อปฏิบัติหน้าท่ีไกล่เกลี่ยข้อพิพาทน้ันต่อไป” สมบรู ณข์ องการตกลงระงบั ขอ้ พพิ าทและยตุ กิ ารด�ำเนนิ คดี และมีควรบัญญัติผลของการถูกถอดถอนตามมาตรา 13 ให้เกิดความชัดเจน โดยเฉพาะการถูกถอดถอนตาม 2) ควรพิจารณาทบทวนบทบัญญัติมาตรา 4 มาตรา12วรรคหนง่ึ ประกอบมาตรา13(4)ใหเ้ หน็ ความแตกตา่ ง ให้ครอบคลุมหน่วยงานของรัฐท่ีจะต้องปฏิบัติตาม กับเพิกถอนตามมาตรา 15 (3) ทมี่ ผี ลท�ำให้ขาดคณุ สมบตั ิ พระราชบัญญัติน้ีให้มีความชัดเจน เป็นต้นว่า “มาตรา ตามมาตรา 8 4 หลักเกณฑ์และวิธีการไกล่เกล่ียตามกฎหมายต่าง ๆ ใหเ้ ปน็ ไปตามทก่ี �ำหนดไวใ้ นกฎหมายนนั้ เวน้ แตใ่ นกรณใี ด 6) ควรแก้ไขปรบั ปรงุ มาตรา 33 ก�ำหนดใหข้ อ้ พิพาท ท่ีไม่มีกฎหมายก�ำหนดหลักเกณฑ์และวิธีการไกล่เกลี่ย ทเี่ กยี่ วกบั การกระท�ำความผดิ เกยี่ วกบั เพศ ความผดิ เกย่ี วกบั ในเรื่องใดไวเป็นการเฉพาะ ให้น�ำหลักเกณฑ์และวิธีการ การทารุณกรรมต่อเด็ก สตรี และบุคคลในครอบครัว ตามที่ก�ำหนดไว้ในพระราชบัญญัติน้ีไปใช้บังคับ” เพื่อให้ เป็นข้อพิพาททางอาญาที่ไม่สามารถไกล่เกล่ียได้ สอดคล้องกับสถานะของการเป็นกฎหมายกลางว่าด้วย ตามพระราชบญั ญตั นิ ี้ เนอื่ งจากผเู้ สยี หายมสี ทิ ธทิ จ่ี ะรอ้ งขอ การไกลเ่ กลีย่ ข้อพิพาท คุ้มครองสวัสดิภาพและมีมาตรการพิเศษตามกฎหมาย เฉพาะประเภทน้ัน ๆ อยู่แล้ว ซ่ึงมีความเหมาะสมกว่า 3) ควรพิจารณาทบทวนบทบญั ญัตมิ าตรา 5 ก�ำหนด การใชก้ ระบวนการทางอาญา ให้น�ำหลกั “อายุความสะดุดหยดุ อย”ู่ มาใช้แทนการขยาย ระยะเวลาออกไป 60 วัน และส�ำหรับขอ้ พิพาททางอาญา เหน็ ควรเพมิ่ เตมิ บทบญั ญตั วิ า่ “ส�ำหรบั ขอ้ พพิ าททางอาญา
107 7) ควรก�ำหนดให้สิทธิน�ำคดีอาญามาฟ้องระงับเม่ือ กับกฎหมายเกยี่ วกบั การไกลเ่ กลี่ยท่ีใช้บังคบั อยใู่ นปัจจบุ นั บทที่ คู่กรณีได้ปฏิบัติตามบันทึกข้อตกลงระงับข้อพิพาททาง เช่น การไกลเ่ กล่ยี ขอ้ พพิ าท ตามพระราชบัญญตั ริ ะเบยี บ 1 อ า ญ า ค ร บ ถ ้ ว น ส ม บู ร ณ ์ แ ล ้ ว เ พื่ อ เ ป ็ น ห ลั ก ป ร ะ กั น บริหารราชการแผ่นดิน พ.ศ. 2534 ซึ่งแก้ไขเพ่ิมเติม การเยียวยาแก่ผู้เสียหาย ท้ังน้ี ควรก�ำหนดให้หน่วยงาน โดยพระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน บทท่ี ซึ่งด�ำเนินการไกล่เกล่ียข้อพิพาทหรือส�ำนักงานอัยการ (ฉบับที่ 7) พ.ศ. 2550 การไกล่เกล่ียคดีผู้บริโภคตาม 2 ในท้องท่ีท�ำการตรวจสอบบันทึกข้อตกลงระงับข้อพิพาท พระราชบัญญัติวิธีพิจารณาคดีผบู้ ริโภค พ.ศ. 2551 และ บทท่ี และมีอ�ำนาจก�ำหนดให้ใช้วิธีการฟื้นฟู บ�ำบัดรักษา หรือ การไกล่เกลี่ยตามพระราชบัญญัติความรับผิดต่อความ 3 แก้ไขพฤตกิ รรมทีไ่ ม่เหมาะสมของคกู่ รณที ีเ่ ปน็ ฝ่ายกระท�ำ เสยี หายทเี่ กดิ ขนึ้ จากสนิ คา้ ทไ่ี มป่ ลอดภยั พ.ศ. 2551 ซง่ึ ไมไ่ ด้ บทท่ี ให้เกิดความเสียหาย หรือให้กระท�ำการที่เป็นการแสดง มกี ารก�ำหนดบทลงโทษทางอาญาไว้ ประกอบกับตามร่าง 4 ความส�ำนึกรับผิดชอบต่อผู้เสียหาย หรือให้ท�ำกิจกรรม พระราชบญั ญตั นิ ้ี มาตรา 15 (3) ก�ำหนดใหค้ วามเปน็ ผไู้ กลเ่ กลยี่ บทที่ ที่ส่งเสริมความปรองดองสมานฉันท์ระหว่างคู่กรณี สน้ิ สดุ ลง เมอ่ื ถกู เพกิ ถอนการเปน็ ผไู้ กลเ่ กลยี่ และมขี อ้ ก�ำหนด 5 โดยให้ชมุ ชนเขา้ มามสี ว่ นร่วม จริยธรรมของผู้ไกล่เกล่ีย ตามมาตรา 11 ซึ่งถือเป็น ภาค มาตรการก�ำกบั ดแู ลการปฏบิ ตั หิ นา้ ทข่ี องผไู้ กลเ่ กลยี่ ไวแ้ ลว้ ผนวก 8) ควรก�ำหนดให้หน่วยงานซ่ึงด�ำเนินการไกล่เกล่ีย ผลส�ำ เรจ็ /ความกา้ วหนา้ ในการคมุ้ ครองสทิ ธมิ นษุ ยชน ส่งบันทึกข้อตกลงไปให้ส�ำนักงานอัยการในท้องที่เพ่ือ ตรวจสอบ หากเป็นการยอมความโดยชอบด้วยกฎหมาย เมื่อวันท่ี 22 พฤษภาคม 2562 ราชกิจจานุเบกษา แ ล ะ คู ่ ก ร ณี ไ ด ้ ป ฏิ บั ติ ต า ม ข ้ อ ต ก ล ง น้ั น แ ล ้ ว ใ ห ้ สิ ท ธิ ได้ประกาศใช้พระราชบัญญัติการไกล่เกล่ียข้อพิพาท น�ำคดีอาญามาฟ้องเป็นอันระงับ แต่หากบันทึกข้อตกลง พ.ศ. 2562 โดยมีการแก้ไขปรับปรุงกฎหมายสอดคล้อง ไม่ชอบด้วยกฎหมายหรือคู่กรณีไม่ได้ปฏิบัติตามข้อตกลง กับข้อเสนอแนะของคณะกรรมการสิทธิมนุษยชน ให้บันทึกข้อตกลงดังกล่าวสิ้นผลไปเฉพาะข้อตกลง แหง่ ชาติ ดงั นี้ ในส่วนอาญา แต่ไม่กระทบต่อการระงับข้อพิพาทในส่วน แพ่งหรือการเยียวยาอ่ืน ๆ แก่ฝ่ายผู้เสียหาย และควร 1) ประเด็นอายุความน�ำหลักอายุความสะดุด ก�ำหนดวา่ “เพอ่ื ประโยชนใ์ นการทผี่ เู้ สยี หายจะไปด�ำเนนิ คดี หยุดอยู่มาใช้ในระหว่างการไกล่เกลี่ยส�ำหรับข้อพิพาท ต่อไป อายคุ วามการรอ้ งทุกข์ตามประมวลกฎหมายอาญา ทางอาญาในช้ันการสอบสวน “มาตรา 40 เม่ือพนักงาน ใหเ้ รมิ่ นบั แต่วนั ท่บี นั ทึกขอ้ ตกลงระงบั พพิ าทน้ันสิ้นผล” สอบสวนผมู้ อี �ำนาจออกค�ำสง่ั มคี �ำสง่ั ใหไ้ กลเ่ กลย่ี ขอ้ พพิ าท ทางอาญาตามมาตรา 44 แล้ว ให้หยุดนับอายุความ 9) ควรปรับปรุงแก้ไขบทบัญญัติ มาตรา 37 มิให้น�ำ ในการด�ำเนนิ คดอี าญา และเมอ่ื พนกั งานสอบสวนผมู้ อี �ำนาจ คุณสมบัตขิ องผู้ไกลเ่ กลีย่ ทัว่ ไป ตามมาตรา 8 มาใชบ้ งั คบั ออกค�ำส่ังมีค�ำสั่งให้ด�ำเนินคดีต่อไป ตามมาตรา 61 ผู้ไกล่เกลี่ยของศูนย์ไกล่เกลี่ยข้อพิพาทภาคประชาชน ให้นบั อายุความด�ำเนนิ คดีต่อจากเวลานั้น” โดยให้เป็นกลไกของภาคประชาชนผู้ใช้บริการที่จะ พิจารณาคัดเลือกผู้ไกล่เกลี่ยท่ีคู่กรณีท้ังสองฝ่ายยอมรับ 2) ประเด็นการต้ังข้อรังเกียจผู้ไกล่เกล่ียในกรณี และไว้วางใจมาท�ำหน้าท่ี เนื่องจากการไกล่เกลี่ยเป็น ท่ีคู่กรณีฝ่ายใดฝ่ายหน่ึงมีหลายคน ผลของการท่ี กระบวนการท่ีเปิดโอกาสให้คู่พิพาทได้มีบทบาทและ ผู้ไกล่เกล่ียซึ่งถูกต้ังข้อรังเกียจถูกถอดถอนตามร่าง มีส่วนร่วมอย่างแท้จริงในการหาหนทางแก้ไขปัญหา มาตรา 13 (เดมิ ) รา่ งมาตรา 15 (ใหม่) นนั้ ได้ปรบั ปรุง ให้กับตนเอง เพื่อให้สอดคล้องกับบริบทของสังคมและ แก้ไขในร่างมาตรา 18 โดยการบัญญัติผลของการ ขนบธรรมเนยี มประเพณขี องแต่ละชุมชน ถูกถอดถอนให้ชัดเจนแล้ว ดังน้ี “มาตรา 18 ในกรณีท่ี ผู้ไกล่เกลี่ยถูกถอดถอนหรือความเป็นผู้ไกล่เกล่ียสิ้นสุดลง 10) ควรพิจารณาทบทวนบทก�ำหนดโทษทางอาญา ในระหว่างการด�ำเนินการไกล่เกล่ียข้อพิพาท คู่กรณี ในหมวด 5 มาตรา 40 และมาตรา 41 ใหม้ ีความเหมาะสม อาจต้ังผู้ไกล่เกลี่ยคนใหม่เพื่อปฏิบัติหน้าท่ีไกล่เกล่ีย เนอื่ งจากมบี ทก�ำหนดโทษทค่ี อ่ นขา้ งรนุ แรง และไมส่ อดคลอ้ ง ข้อพิพาทนั้นต่อไปโดยอาจใช้เอกสารของกระบวนการ
รายงานผลการปฏบิ ตั ิงานคณะปกรระรจมำ�กปาีงรบสปิทรธะมิมนาณุษยพชน.ศแ.ห2ง่ 5ช6าต2ิ 108 คณะกรรมการสิทธิมนษุ ยชนแหง่ ชาติ ไกลเ่ กลยี่ ขอ้ พพิ าททด่ี �ำเนนิ การมาแลว้ ไดต้ ามทค่ี กู่ รณแี ละ ศาล ข้อพิพาททางอาญาในช้ันการสอบสวนตามหมวด 4 ผูไ้ กลเ่ กลี่ยคนใหมเ่ หน็ สมควร ทม่ี ีการเพ่มิ เติมขึ้นใหม่ ไดก้ �ำหนดไวใ้ นร่างมาตรา 64 รา่ ง มาตรา 65 และรา่ งมาตรา 66 คอื เม่อื คู่กรณไี ดป้ ฏิบัติตาม 3) ประเด็นข้อพิพาททางอาญาท่ีสามารถไกล่เกลี่ย บันทึกข้อตกลงแล้ว ให้แจ้งพนักงานสอบสวนทราบ ได้ตามพระราชบัญญัตินี้ ได้เพ่ิมเติมความในร่างมาตรา 8 เพอ่ื จดั ท�ำบันทึกการปฏิบัติตามขอ้ ตกลง ส่งไปยงั พนกั งาน มผี ลครอบคลมุ ขอ้ เสนอแนะของคณะกรรมการสทิ ธมิ นษุ ยชน อัยการพร้อมส�ำนวนการสอบสวนและเอกสารท่ีเก่ียวข้อง แห่งชาติ ท่ีเสนอให้ความผิดเกี่ยวกับการทารุณกรรม เพอ่ื พจิ ารณาสง่ั ยตุ คิ ดี ซงึ่ หากผตู้ อ้ งหาปฏบิ ตั ติ ามขอ้ ตกลง ต่อเด็ก สตรี และบุคคลในครอบครัวเป็นข้อพิพาท ไม่ครบถ้วนหรือจงใจไม่ปฏิบัติตามข้อตกลงโดยไม่มีเหตุ ทางอาญาท่ีไม่สามารถไกล่เกลี่ยได้ตามพระราชบัญญัตินี้ อนั สมควร พนกั งานสอบสวนมอี �ำนาจออกค�ำสงั่ ด�ำเนนิ คดี เนื่องจากผู้เสียหายมีสิทธิที่จะร้องขอคุ้มครองสวัสดิภาพ ต่อไป และกรณีอายุความร้องทุกข์ตามประมวลกฎหมาย ตามพระราชบัญญัติศาลเยาวชนและครอบครัวและ อาญา ส�ำหรับข้อพิพาททางอาญาในช้ันการสอบสวน วิธีพิจารณาคดีเยาวชนและครอบครัว พ.ศ. 2553 และ ตามหมวด 4 รา่ งมาตรา 40 ดงั น้ี “มาตรา 40 เมอ่ื พนกั งาน ท่ีแก้ไขเพิ่มเติม ดังน้ี “มาตรา 8 พระราชบัญญัตินี้มิให้ สอบสวนผมู้ ีอ�ำนาจออกค�ำส่ังมีค�ำสงั่ ให้ไกล่เกล่ียขอ้ พพิ าท ใช้บังคับแก่คดีอาญาท่ีอยู่ในอ�ำนาจของศาลเยาวชนและ ทางอาญาตามมาตรา 44 แลว้ ใหห้ ยุดนบั อายคุ วามในการ ครอบครวั ตามกฎหมายวา่ ดว้ ยการจดั ตัง้ ศาลเยาวชนและ ด�ำเนินคดีอาญา และเมื่อพนักงานสอบสวนผู้มีอ�ำนาจ ครอบครัวและวิธีพจิ ารณาคดเี ยาวชนและครอบครัว” ออกค�ำสัง่ มคี �ำสัง่ ใหด้ �ำเนนิ คดตี ่อไปตามมาตรา 61 ใหน้ ับ อายุความด�ำเนินคดีตอ่ จากเวลานน้ั 4) ประเด็นผลของการที่คู่กรณีท�ำข้อตกลงระงับ ขอ้ พิพาททางอาญา ร่างมาตรา 37 (ร่างมาตรา 35 เดมิ ) 6) ประเด็นบทก�ำหนดโทษ ร่างมาตรา 71 จากเดิม ไ ด ้ แ ก ้ ไ ข เ ก่ี ย ว กั บ ข ้ อ พิ พ า ท ท า ง อ า ญ า ที่ คู ่ ก ร ณี มีก�ำหนดระวางโทษจ�ำคุกและปรับข้ันต่�ำไว้ด้วยได้ ฝ่ายใดฝา่ ยหนง่ึ มีสิทธิฟอ้ งคดีแพง่ ทีเ่ ก่ียวเน่ืองกบั คดีอาญา ยกเลิกโดยก�ำหนดเฉพาะเพดานโทษขั้นสูงแทน ดังนี้ ให้สิทธิน�ำคดีอาญามาฟ้องระงับเมื่อคู่กรณีได้ปฏิบัติตาม “มาตรา 71 ผู้ไกล่เกลี่ยผู้ใดเรียก รับ หรือยอมจะรับ ขอ้ ตกลงระงบั ขอ้ พพิ าทในสว่ นแพง่ แลว้ โดยไมม่ ขี อ้ ยกเวน้ ทรัพย์สินหรือประโยชน์อ่ืนใดส�ำหรับตนเองหรือผู้อ่ืน (ได้ตัดข้อยกเว้นที่ว่า “...เว้นแต่คู่กรณีจะตกลงให้สิทธิ โดยมิชอบ เพื่อกระท�ำการหรือไม่กระท�ำการอย่างใด น�ำคดีอาญามาฟ้องระงบั ทนั ท.ี ..” ออกไป) สว่ นข้อพพิ าท ในหน้าที่ ไม่ว่าการนั้นจะชอบหรือมิชอบด้วยหน้าท่ี ทางอาญาในชั้นการสอบสวน ตามหมวด 4 ได้ก�ำหนดไว้ ตอ้ งระวางโทษจ�ำคกุ ไมเ่ กนิ หา้ ปี หรอื ปรบั ไมเ่ กนิ หนงึ่ แสนบาท ในรา่ งมาตรา 64 รา่ งมาตรา 65 และร่างมาตรา 66 นัน้ หรอื ทงั้ จ�ำทงั้ ปรบั และ “มาตรา 72 ผใู้ ดให้ ขอให้ หรอื รบั วา่ ก�ำหนดใหส้ ทิ ธนิ �ำคดอี าญามาฟอ้ งระงบั เมอ่ื คกู่ รณไี ดป้ ฏบิ ตั ิ จะให้ทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใดแก่ผู้ไกล่เกลี่ย ตามบันทึกข้อตกลงระงับข้อพิพาททางอาญาครบถ้วน เพอ่ื จงู ใจใหก้ ระท�ำการ ไมก่ ระท�ำการ หรอื ประวงิ การกระท�ำ สมบรู ณแ์ ลว้ แจง้ พนักงานสอบสวนทราบ เพอื่ จดั ท�ำบนั ทกึ อนั มชิ อบดว้ ยหนา้ ที่ ตอ้ งระวางโทษจ�ำคกุ ตงั้ แตไ่ มเ่ กนิ หา้ ปี การปฏิบัติตามข้อตกลงส่งไปยังพนักงานอัยการพร้อม หรือปรับต้ังแต่ไม่เกินหน่ึงแสนบาท หรือท้ังจ�ำทั้งปรับ” ส�ำนวนการสอบสวน เพือ่ พิจารณาส่งยุตคิ ดี เมื่อพนกั งาน นอกจากนี้ เนื้อหา หมวด 4 การไกล่เกลี่ยข้อพิพาท อัยการมคี �ำสง่ั ยุตคิ ดี สิทธนิ �ำคดอี าญามาฟ้องเป็นอนั ระงับ ทางอาญา ในช้ันการสอบสวน ในชั้นคณะกรรมาธิการ วิสามัญ และสภานิติบัญญัติแห่งชาติได้มีการเพ่ิมเติม 5) ประเด็นการด�ำเนินการไกล่เกล่ียในกรณีที่ ข้ึนใหม่ทั้งหมวด โดยน�ำมาจากร่างพระราชบัญญัติการ ข้อพิพาททางอาญา อยู่ระหว่างการสอบสวนหรือ ไกลเ่ กลยี่ คดอี าญาในช้นั การสอบสวน พ.ศ. .... การพิจารณาของพนกั งานสอบสวน พนกั งานอัยการ หรอื
109 4) ความเห็นต่อร่างพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่ มเติม ข้อเสนอแนะมาตรการหรือแนวทางในการส่งเสริมและ บทท่ี ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา (ฉบับท่ี ..) คมุ้ ครองสทิ ธมิ นษุ ยชน 1 พ.ศ. .... (หลักเกณฑ์เก่ียวกับการปล่อยตัวช่ัวคราว และการใช้สิทธิฟอ้ งร้องด�ำเนินคดีหรือการด�ำเนินการ คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติในคราวประชุม บทที่ กระบวนการพิจารณาในคดีอาญา) เมื่อวันท่ี 10 และ 18 กรกฎาคม 2561 ได้พิจารณา 2 หลักการ วัตถุประสงค์และเป้าหมายในการตรา บทที่ ประเด็น/ความเป็นมา พระราชบัญญัติในเรอ่ื งดงั กล่าวแล้ว มคี วามเห็น ดังน้ี 3 คณะกรรมาธิการการปฏิรูปกฎหมาย กระบวนการ บทที่ 1. ประเทศไทยได้สนับสนุนการรับรองข้อมติของ 4 ยตุ ธิ รรมและกจิ การต�ำรวจไดม้ หี นงั สอื ท่ี สว (สนช) (กมธ2) สมัชชาใหญ่สหประชาชาติ (ข้อมติที่ 53/144 เมื่อวันท่ี บทท่ี 0010/2043 ลงวันที่ 5 มถิ นุ ายน 2561 ส่งข้อเสนอแนะ 9 ธนั วาคม 2541) ท่ีเหน็ ชอบกบั สาระของปฏิญญาวา่ ด้วย 5 มาตรการหรือแนวทางในการส่งเสริมและคุ้มครอง สิทธิและความรับผิดชอบของปัจเจกบุคคล กลุ่มบุคคล ภาค สิ ท ธิ ม นุ ษ ย ช น ข อ ง ค ณ ะ ก ร ร ม ก า ร สิ ท ธิ ม นุ ษ ย ช น และองค์กรของสังคมในการส่งเสริมและคุ้มครอง ผนวก แห่งชาติ เร่ือง สิทธิพลเมืองเก่ียวกับเสรีภาพในการ สิทธิมนุษยชนและเสรีภาพข้ันพื้นฐานท่ีเป็นที่ยอมรับ แสดงออกของประชาชน กรณีกล่าวอ้างว่านักต่อสู้เพื่อ อย่างสากล (Declaration on Human Rights and สิทธิมนุษยชนถูกเจ้าหน้าท่ีของรัฐคุกคาม ท�ำให้ได้รับ Responsibility of individuals, Groups and Organs of ความหวาดกลัวและเกรงว่าจะไม่ได้รับความปลอดภัย SocietytoPromoteandProtectUniversallyRecognized ไปยงั คณะกรรมาธิการการกฎหมาย กระบวนการยุตธิ รรม Human Rights and Fundamental Freedoms) หรอื และกิจการต�ำรวจ ซึ่งมอบหมายให้คณะอนุกรรมาธิการ ปฏิญญาว่าด้วยนักปกป้องสิทธิมนุษยชน (Declaration สิทธิมนุษยชนและการคุ้มครองผู้บริโภคพิจารณา on Human Rights Defenders) แต่จากข้อมูล และคณะนุกรรมาธิการฯ ได้เชิญประธานกรรมการ การร้องเรียนต่อคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ สิทธิมนุษยชนแห่งชาติและเจ้าหน้าท่ีเข้าร่วมประชุม ระหว่างปี 2557-2560 และรายงานผลการประเมิน เมื่อวันที่ 12 มิถุนายน 2561 ซ่ึงผู้แทนคณะกรรมการ สถานการณ์ด้านสิทธิมนุษยชนในประเทศไทย ปี 2560 สิทธิมนุษยชนแห่งชาติได้เข้าร่วมประชุมดังกล่าว และ คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติพบว่า นักปกป้อง จากการติดตามเรื่องน้ีอย่างต่อเน่ืองได้ทราบว่า สมาชิก สิทธิมนุษยชนในประเทศไทยประสบปัญหาอุปสรรค สภานติ บิ ญั ญตั แิ หง่ ชาตแิ ละส�ำนกั งานศาลยตุ ธิ รรมไดเ้ สนอ ในการด�ำเนินงานส่งเสริมและคุ้มครองสิทธิมนุษยชน ร่างพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมาย เชน่ หายตวั ไป ถกู ลอบสงั หาร ถกู ขม่ ขคู่ กุ คามจากเจา้ หนา้ ท่ี วิธีพิจารณาความอาญา (ฉบับที่..) พ.ศ. .... (หลักเกณฑ์ ของรัฐ ถูกฟ้องร้องด�ำเนินคดีเชิงยุทธศาสตร์เพื่อระงับ เก่ียวกับการปล่อยตัวชั่วคราว และการใช้สิทธิฟ้องร้อง การมีส่วนร่วมของสาธารณชน (Strategic Litigation ด�ำ เ นิ น ค ดี ห รื อ ก า ร ด�ำ เ นิ น ก ร ะ บ ว น ก า ร พิ จ า ร ณ า Against Public Participation: SLAPP) โดยการด�ำเนิน ในคดีอาญา) ซ่ึงมาตรา 8 แห่งร่างพระราชบัญญัติ คดแี พง่ หรอื คดอี าญาเพอ่ื ยบั ยง้ั การใชเ้ สรภี าพในการแสดง ดงั กลา่ ว มีขอ้ ความว่า ความคิดเห็น ซ่ึงมุ่งใช้เพ่ือข่มขู่บุคคลท่ีแสดงความคิดเห็น ในเรื่องท่ีเกี่ยวข้องกับประโยชน์สาธารณะ อันเป็นการ “ใหเ้ พม่ิ ความต่อไปนเี้ ปน็ มาตรา 161/1 แห่งประมวล กดดันให้บุคคลที่ถูกด�ำเนินคดีติดสินใจระงับการแสดง กฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา 161/1 ในกรณี ความคิดเห็น จ�ำต้องประนีประนอมยอมความ และยุติ ที่ราษฎรเป็นโจทก์ หากความปรากฏต่อศาลว่า โจทก์ การตรวจสอบประเดน็ สาธารณะ ใช้สิทธิฟ้องคดีโดยไม่สุจริตหรือโดยบิดเบือนข้อเท็จจริง เพ่ือกลั่นแกล้งหรือเอาเปรียบจ�ำเลยหรือโดยมุ่งหวังผล 2. หลักการในการตราพระราชบัญญัติดังกล่าวระบุ อย่างอ่ืนยิ่งกว่าประโยชน์ที่พึงได้โดยชอบ ศาลจะมีค�ำส่ัง ว่า “...ป้องกันมิให้มีการใช้สิทธิฟ้องคดีอาญาโดยไม่สุจริต ไมป่ ระทับฟ้องคดีนนั้ กไ็ ด้ และหา้ มโจทกย์ ่นื ฟอ้ งคดีน้นั อีก อันเป็นการล่วงละเมิดสิทธิและเสรีภาพของบุคคลอื่น” ค�ำส่ังเช่นว่าน้ีไม่ตัดอ�ำนาจพนักงานอัยการที่จะย่ืนฟ้องคดี โดยมีวัตถุประสงค์และเป้าหมายในส่วนท่ีให้เพิ่มเติม นัน้ ใหม”่
รายงานผลการปฏิบตั งิ านคณะปกรระรจมำ�กปาีงรบสปิทรธะมิมนาณุษยพชน.ศแ.ห2ง่ 5ช6าต2ิ 110 คณะกรรมการสทิ ธมิ นษุ ยชนแหง่ ชาติ มาตรา 161/1 ว่า “การฟ้องคดีอาญาในปัจจุบันปรากฏ ในกฎหมายและเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็น ปัญหาว่า คดีจ�ำนวนไม่น้อยท่ีโจทก์ใช้สิทธิโดยไม่สุจริต อีกทั้งรัฐบาลไทย ได้สนับสนุนการรับรองปฏิญญาว่าด้วย หรือโดยบิดเบือนข้อเท็จจริงเพื่อกล่ันแกล้งหรือเอาเปรียบ นักปกป้องสิทธิมนุษยชน และได้รับข้อเสนอแนะภายใต้ จ�ำเลยหรือโดยมุ่งหวังผลอย่างอ่ืนย่ิงกว่าประโยชน์ท่ีพึงได้ ก ร ะ บ ว น ก า ร ท บ ท ว น ส ถ า น ก า ร ณ ์ สิ ท ธิ ม นุ ษ ย ช น โดยชอบ เช่น การย่ืนฟ้องต่อศาลในพ้ืนที่ห่างไกล (Universal Periodic Review: UPR) วา่ จะท�ำใหก้ ฎหมาย เพอื่ ใหจ้ �ำเลยไดร้ บั ความล�ำบากและตอ้ งเสยี คา่ ใชจ้ า่ ยจ�ำนวนมาก ไทยวา่ ดว้ ยเสรภี าพในการแสดงออกสอดคลอ้ งกบั กฎหมาย ในการเดินทางไปต่อสู้คดี หรือการฟ้องจ�ำเลยในข้อหา ระหวา่ งประเทศดา้ นสทิ ธมิ นษุ ยชน ประกอบกบั แผนปฏริ ปู ท่ีหนักกว่าความเป็นจริง เพื่อต่อรองให้จ�ำเลยต้องยอม ประเทศด้านกระบวนการยุติธรรมได้ก�ำหนดให้มี กระท�ำหรือไม่กระท�ำการอย่างหน่ึงอย่างใดอันเป็นการ การพัฒนากลไกช่วยเหลือและเพิ่มศักยภาพให้ประชาชน มิชอบ โดยเฉพาะการฟ้องร้องเพ่ือคุกคามการใช้ เขา้ ถงึ กระบวนการยตุ ธิ รรมดว้ ย การเพมิ่ บทบญั ญตั มิ าตรา สิทธิเสรีภาพข้ันพ้ืนฐานของจ�ำเลยในการป้องกันตนเอง 161/1 ไว้ในประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา หรอื ปอ้ งกนั ประโยชนส์ าธารณะ ท�ำใหม้ คี ดขี น้ึ สกู่ ารไตส่ วน จะเป็นการคุ้มครองนักปกป้องสิทธิมนุษยชนซึ่งมี มูลฟ้องของศาลเป็นจ�ำนวนมาก ซึ่งสร้างความเดือดร้อน ความเส่ียงต่อการถูกฟ้องด�ำเนินคดีในลักษณะดังกล่าว แก่ผู้ท่ีถูกฟ้องร้องและบุคคลที่เกี่ยวข้อง” ซึ่งในเรื่องนี้ รวมทั้งมีผลเป็นการปกป้องคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ คณะท�ำงานสหประชาชาติว่าด้วยธุรกิจกับสิทธิมนุษยชน ขั้นพื้นฐานของบุคคลและชุมชนในการป้องกันตนเอง ได้ออกแถลงการณ์ เมื่อส้ินสุดการเยือนประเทศไทย และป้องกันประโยชน์สาธารณะ ซึ่งจะเป็นประโยชน์ (ระหว่างวันที่ 26 มีนาคม – 4 เมษายน 2561) และ ต่อการส่งเสริมและคุ้มครองสิทธิมนุษยชนในภาพรวม มีข้อเสนอแนะต่อรัฐบาลไทยว่า “รัฐบาลควรดูแลว่า ทั้งยังอาจส่งผลไปสู่การลดความเหล่ือมล้�ำในโอกาส การฟอ้ งหมน่ิ ประมาทจะไมถ่ กู ธรุ กจิ น�ำมาใชเ้ ปน็ เครอื่ งมอื ทางสงั คม อันเปน็ สว่ นหนึ่งของยทุ ธศาสตร์ชาติ 20 ปดี ้วย บ่ันทอนสิทธิและเสรีภาพอันชอบธรรมของผู้ได้รับ คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติมีหนังสือ ด่วนที่สุด ผลกระทบองคก์ รประชาสงั คมและนกั ปกปอ้ งสทิ ธมิ นษุ ยชน ที่ สม 0007/167 ลงวนั ท่ี 1 สิงหาคม 2561 กราบเรยี น เราทราบข้อเสนอแนะแก้ไขมาตรา 161/1 ของประมวล ประธานสภานติ บิ ญั ญตั แิ หง่ ชาติ แสดงความเหน็ สนบั สนนุ กฎหมายวธิ พี จิ ารณาความอาญาและกฎหมายคมุ้ ครองพยาน มาตรา 8 แห่งร่างพระราชบัญญัติแก้ไขเพ่ิมเติมประมวล รวมถงึ ความรเิ ริม่ ในการจดั ท�ำแนวทางปฏบิ ตั เิ พอื่ คมุ้ ครอง กฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... นักปกป้องสิทธมิ นษุ ยชน ความพยายามด�ำเนนิ การเหลา่ น้ี ทีใ่ หเ้ พ่มิ มาตรา 161/1 แห่งประมวลกฎหมายวิธพี ิจารณา เป็นโอกาสอันดีส�ำหรับรัฐบาลไทยที่จะได้จัดการกับ ความอาญา ความว่า “มาตรา 161/1 ในกรณีท่ีราษฎร ขอ้ กงั วลเกยี่ วกบั พนื้ ทพ่ี ลเมอื งทหี่ ดแคบลงไป อยา่ งไรกต็ าม เป็นโจทก์ หากความปรากฏต่อศาลว่า โจทก์ใช้สิทธิ เพ่ือให้บังเกิดผลหน่วยงานของรัฐทั้งหมดท่ีรับผิดชอบ ฟ้องคดีโดยไม่สุจริตหรือโดยบิดเบือนข้อเท็จจริง การด�ำเนนิ การดงั กลา่ ว ควรท�ำงานรว่ มกบั ผไู้ ดร้ บั ประโยชน์ เพอื่ กลนั่ แกลง้ หรอื เอาเปรยี บจ�ำเลยหรอื โดยมงุ่ หวงั ผลอยา่ งอนื่ อย่างสร้างสรรค์และตราบทบัญญัติท่ีตอบต่อข้อกังวล ยิ่งกว่าประโยชน์ท่ีพึงได้โดยชอบ ศาลจะมีค�ำส่ัง ท่ีชอบธรรมทั้งหมด” ไมป่ ระทบั ฟอ้ งคดีน้ันกไ็ ด้ และหา้ มโจทก์ยนื่ ฟอ้ งคดนี ั้นอีก ค�ำสั่งเช่นว่าน้ี ไม่ตัดอ�ำนาจพนักงานอัยการที่จะย่ืนฟ้อง 3. กรณีนักปกป้องสิทธิมนุษยชนประสบปัญหา คดนี ้ันใหม”่ ถู ก ฟ ้ อ ง ร ้ อ ง ด�ำ เ นิ น ค ดี เ ชิ ง ยุ ท ธ ศ า ส ต ร ์ เ พ่ื อ ร ะ งั บ ผลส�ำ เรจ็ /ความกา้ วหนา้ ในการคมุ้ ครองสทิ ธมิ นษุ ยชน การมีส่วนร่วมของสาธารณชน (Strategic Litigation Against Public Participation: SLAPP) นน้ั รัฐธรรมนูญ คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติได้เสนอ แห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2560 และกติกา ความเห็นและข้อเสนอในการปรับปรุงแก้ไขกฎหมายต่อ ระหว่างประเทศว่าด้วยสิทธิพลเมืองและสิทธิทาง ร่างพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมาย การเมือง (International Covenant on Civil and วิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 161/1 ดังกล่าวเพื่อ Political Rights: ICCPR) ไดร้ บั รองหลกั ความเสมอภาคกนั ให้สอดคล้องกับหลักสิทธิมนุษยชน พร้อมท้ังสนับสนุน
111 ใหม้ กี ารด�ำเนนิ การเรอ่ื งดงั กลา่ วเพอื่ คมุ้ ครองสทิ ธมิ นษุ ยชน เพือ่ เผยแพรใ่ หเ้ กิดการเรียนรู้อย่างเหมาะสม และสง่ เสริม บทที่ โดยมีความเห็นให้ปรับปรุงแก้ไขถ้อยค�ำบางส่วน สิทธิมนุษยชนให้ครอบคลุมกลุ่มเป้าหมายทุกภาคส่วน 1 โดยหนว่ ยงานทเี่ กยี่ วขอ้ งไดน้ �ำความเหน็ ของคณะกรรมการ ในสงั คม ซงึ่ สอดคลอ้ งกบั ยทุ ธศาสตรช์ าติ พ.ศ. 2561–2580 สทิ ธมิ นษุ ยชนแหง่ ชาตไิ ปประกอบการพจิ ารณาด�ำเนนิ การ ดา้ นการสรา้ งโอกาสและความเสมอภาคทางสงั คม ทมี่ งุ่ เนน้ บทท่ี จนน�ำไปสู่การตราพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวล ทจ่ี ะกอ่ ใหเ้ กดิ สงั คมแหง่ ความเสมอภาค โดยไมท่ อดทง้ิ ใคร 2 กฎหมายวธิ ีพิจารณาความอาญา (ฉบับท่ี 34) พ.ศ. 2562 ไว้เบอ้ื งหลัง สรา้ งโอกาสทเ่ี ปน็ ธรรม โดยไม่แบ่งแยก และ บทที่ ซ่ึงได้ประกาศในราชกิจจานุเบกษาเพ่ือให้มีผลบังคับใช้ ค�ำนึงถึงหลกั สทิ ธิมนษุ ยชน และศกั ด์ิศรคี วามเปน็ มนุษย์ 3 ตามกฎหมาย เมอ่ื วันท่ี 20 มีนาคม 2562 บทที่ 2) การส่งเสริมเผยแพร่ให้เด็กและเยาวชนตระหนัก 4 5) ข้อเสนอแนะแนวทางในการส่งเสริมสิทธิมนุษยชน ถึงสิทธิมนุษยชนของแต่ละบุคคลท่ีทัดเทียมกัน และ บทที่ (หลักสูตรสิทธิมนุษยชนศึกษาส�ำหรับกลุ่มเป้าหมาย การเคารพสิทธิมนุษยชนของบุคคลอ่ืนซ่ึงอาจแตกต่างกัน 5 ที่หลากหลาย และคู่มือการเรียนรู้สิทธิมนุษยชนศึกษา ในทางวัฒนธรรม ประเพณี และศาสนา โดยได้ประสาน ภาค ส�ำหรับการศกึ ษาขั้นพ้ืนฐาน) ความร่วมมือกับกระทรวงศึกษาธิการซ่ึงก�ำกับดูแล ผนวก สถานศึกษาในสังกัดกว่า 30,000 แห่ง มีบุคลากร ประเด็น/ความเปน็ มา ทางการศึกษากวา่ 400,000 คน ท�ำหนา้ ที่สนบั สนนุ และ คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติได้พัฒนา ให้การศึกษาข้ันพื้นฐานแก่เด็กนักเรียนในประเทศ กวา่ 7,000,000 คน ด�ำเนนิ การอยา่ งมสี ว่ นรว่ มในการจดั ท�ำ การด�ำเนินการตามหน้าที่และอ�ำนาจในการสร้างเสริม คู่มือการจัดการเรียนรู้สิทธิมนุษยชนศึกษา ส�ำหรับ ทุกภาคส่วนของสังคมให้ตระหนักถึงความส�ำคัญของ การศกึ ษาขน้ั พน้ื ฐาน ประกอบดว้ ย คมู่ อื การจดั การเรยี นรู้ สิทธิมนุษยชน อันจะเป็นรากฐานในการสร้างวัฒนธรรม สิทธิมนุษยชนศึกษา 5 ช่วงชั้น ได้แก่ 1) ระดับปฐมวัย การเคารพสทิ ธมิ นษุ ยชนใหน้ �ำมาซง่ึ ความผาสกุ ของสงั คมและ 2) ระดับประถมศึกษาตอนต้น 3) ระดับประถมศึกษา ประเทศชาตติ อ่ ไป ทัง้ น้ี ได้ด�ำเนนิ การโดยม่งุ หมายใหเ้ กดิ ตอนปลาย 4) ระดับมัธยมศึกษาตอนต้น และ 5) ระดับ การสง่ เสรมิ การเคารพสทิ ธิมนุษยชนอย่างเปน็ ระบบ ดังน้ี มธั ยมศกึ ษาตอนปลาย เพอื่ ใชเ้ ปน็ แนวทางอยา่ งเปน็ ระบบ ในการสรา้ งเสริมสทิ ธมิ นุษยชน ในสถานศึกษาทว่ั ประเทศ 1) การส่งเสริมและสนับสนุน รวมท้ังร่วมมือกับ ซ่ึงจะเป็นประโยชน์ต่อการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ หน่วยงานของรัฐในการเผยแพร่ความรู้และพัฒนา ช่วงวยั เรียน/วยั รุ่น ตามยทุ ธศาสตร์ชาติ พ.ศ. 2561-2580 ความเข้มแข็งด้านสิทธิมนุษยชน อันจะช่วยสร้างเสริม ด้านการพฒั นาและเสรมิ สร้างศกั ยภาพทรัพยากรมนุษย์ ให้เจ้าหน้าที่ของรัฐเกิดความตระหนักถึงความส�ำคัญ ของสิทธิมนุษยชน และท�ำหน้าที่ใช้บังคับกฎหมาย ดังน้ัน คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ และด�ำเนินงานต่าง ๆ ตามหน้าท่ีและอ�ำนาจของแต่ละ จึ ง เ ห็ น ส ม ค ว ร เ ส น อ แ น ะ แ น ว ท า ง ใ น ก า ร ส ่ ง เ ส ริ ม หน่วยงาน โดยค�ำนึงถึงผลกระทบด้านสิทธิมนุษยชน สิทธิมนุษยชนดังกล่าวต่อคณะรัฐมนตรี ตามหน้าท่ีและ ที่อาจเกิดข้ึนกับประชาชน สร้างความเท่าเทียมกัน อ�ำนาจของคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ในเร่ืองสิทธิ เสรีภาพ ความเสมอภาค และศักดิ์ศรี ที่บัญญัติไว้ในรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย ความเป็นมนุษย์ เพ่ือให้เปน็ ไปตามความมุง่ หมายดงั กล่าว พทุ ธศกั ราช 2560 มาตรา 247 (3) (5) และพระราชบญั ญตั ิ คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติได้ด�ำเนินการ ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยคณะกรรมการสิทธิมนุษยชน อย่างมีส่วนร่วมกับผู้ทรงคุณวุฒิด้านสิทธิมนุษยชนศึกษา แหง่ ชาติ พ.ศ. 2560 มาตรา 26 (3) (5) ประกอบกบั มาตรา ในคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ผู้แทนสถาบัน 27 (1) (2) และมาตรา 33 การศึกษาในระดับอุดมศึกษา และผู้แทนหน่วยงาน ที่เก่ียวข้องด้านการศึกษาและกระบวนการยุติธรรม จดั ท�ำหลกั สตู รสทิ ธมิ นษุ ยชนศกึ ษาในกลมุ่ เปา้ หมายตา่ ง ๆ
รายงานผลการปฏบิ ตั ิงานคณะปกรระรจมำ�กปาีงรบสปทิ รธะมิมนาณุษยพชน.ศแ.ห2่ง5ช6าต2ิ 112 คณะกรรมการสทิ ธิมนษุ ยชนแห่งชาติ ข้อเสนอแนะมาตรการหรือแนวทางในการส่งเสริมและ เฉพาะทาง และ 5) เทคนิคการเป็นวิทยากร คุ้มครองสิทธมิ นุษยชน กระบวนการด้านสิทธิมนุษยชน ท้ังนี้ หลักสูตร ดังกล่าวมุ่งส่งเสริมให้บุคลากรในกระบวนการ คณะกรรมการสทิ ธมิ นษุ ยชนแหง่ ชาตไิ ดม้ ขี อ้ เสนอแนะ ยุติธรรมตระหนักถึงความส�ำคัญของสิทธิมนุษยชน ไปยังคณะรัฐมนตรี เพ่ือพิจารณาส่งเสริมและสนับสนุน และปฏิบัติงานโดยค�ำนึงถึงหลักสิทธิมนุษยชน ให้หน่วยงานท่ีเก่ียวข้องน�ำแนวทางในการส่งเสริม หลักมนุษยธรรม หลักนิติธรรม และศักด์ิศรี สทิ ธมิ นุษยชน ได้แก่ หลักสตู รสิทธมิ นุษยชนศกึ ษาส�ำหรับ ความเปน็ มนษุ ย์ เพอ่ื ประกนั การเคารพและคมุ้ ครอง กลุ่มเป้าหมายท่ีหลากหลาย และคู่มือการจัดการเรียนรู้ สทิ ธิของพลเมอื ง และการปฏิบัตอิ ย่างเทา่ เทยี มกัน สิทธิมนุษยชนศึกษาส�ำหรับการศึกษาข้ันพ้ืนฐานไปใช้ อนั จะเปน็ รากฐานในการสรา้ งวฒั นธรรมการเคารพ ประโยชน์ในการสร้างความตระหนักและส่งเสริม สิทธิมนุษยชนในกระบวนการยุติธรรม และน�ำมา การเคารพสิทธิมนุษยชนในสังคมไทยต่อไปโดยมี ซงึ่ ความผาสกุ ของประชาชน สงั คม และประเทศชาติ สาระส�ำคญั ดังนี้ • หลักสูตรประกาศนียบัตรสิทธิมนุษยชน ส�ำหรับ นักบริหารระดับสูงเป็นหลักสูตรท่ีคณะกรรมการ 1) หลกั สตู รสทิ ธมิ นษุ ยชนศกึ ษาส�ำหรบั กลมุ่ เปา้ หมาย สิทธิมนุษยชนแห่งชาติร่วมกับสถาบันพระปกเกล้า ที่หลากหลาย เป็นหลักสูตรสิทธิมนุษยชนศึกษาส�ำหรับ จดั ท�ำขน้ึ โดยมงุ่ เนน้ การใหค้ วามรดู้ า้ นสทิ ธมิ นษุ ยชน กล่มุ เป้าหมายตา่ ง ๆ ได้แก่ แ ก ่ ก ลุ ่ ม นั ก บ ริ ห า ร ร ะ ดั บ สู ง ใ น ทุ ก ภ า ค ส ่ ว น ทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน ประชาชนและสื่อมวลชน • หลกั สตู รสทิ ธมิ นษุ ยชนศกึ ษาพนื้ ฐาน ประกอบดว้ ย เช่น ความหมายและแนวคิดด้านสิทธิมนุษยชน 5 รายวชิ า ได้แก่ 1) พัฒนาการและความรูพ้ ื้นฐาน พันธกรณีระหว่างประเทศด้านสิทธิมนุษยชน ดา้ นสทิ ธมิ นษุ ยชน 2) กฎหมาย พนั ธกรณี มาตรฐาน ทป่ี ระเทศไทยเปน็ ภาคี ขอ้ ตกลงระหวา่ งประเทศและ และกลไกระหวา่ งประเทศทเี่ กยี่ วขอ้ งกบั สทิ ธมิ นษุ ยชน มาตรฐานดา้ นสทิ ธมิ นษุ ยชนทเ่ี กยี่ วขอ้ งสทิ ธมิ นษุ ยชน 3) กฎหมายภายในประเทศและกลไกการบังคับใช้ ในประเทศไทย สถานการณ์สิทธิมนุษยชน กฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการคุ้มครองสิทธิมนุษยชน ในปจั จบุ นั บทบาทนกั บรหิ ารในการสรา้ งวฒั นธรรม 4) การประยุกต์ใช้แนวทางฐานสิทธิมนุษยชน การเคารพสิทธิมนุษยชน เป็นต้น อันเป็น (Human Rights – based approach) และ การสร้างเสริมความรู้ให้แก่กลุ่มบุคคลท่ีมีศักยภาพ 5) ทัศนคตแิ ละคา่ นยิ มด้านสิทธมิ นุษยชน ซ่ึงผ้สู อน ในการก�ำหนดทศิ ทาง และบรหิ ารจดั การองคก์ รตา่ ง ๆ สามารถน�ำโครงสร้างเน้ือหาท่ีเป็นหลักการของ ซึ่งสามารถก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงเก่ียวกับ สิทธิมนุษยชนในแต่ละรายวิชาดังกล่าวไปประยุกต์ นโยบายและยทุ ธศาสตร์ การใชบ้ งั คบั กฎหมาย และ/ ในการเรยี นการสอนทเ่ี หมาะสมส�ำหรบั กลมุ่ เปา้ หมาย หรอื การปฏบิ ตั งิ านขององคก์ ร และการเปลยี่ นแปลง ต่าง ๆ ทง้ั ภาครฐั ภาคเอกชน ประชาชน สถาบัน พฤติกรรมของบุคคล ให้เกิดความตระหนัก การศกึ ษา สอ่ื มวลชน รวมท้ังกลุม่ เปราะบางท่เี ส่ียง ถึงความส�ำคัญของสิทธิมนุษยชน และเคารพ ต่อการถูกละเมิดสิทธิมนุษยชน โดยมุ่งให้ผู้เรียน สิทธิมนุษยชนของบุคคลในองค์กรและผู้มีส่วนได้ เกิดความรู้ด้านสิทธิมนุษยชน (Knowledge) สว่ นเสยี ในสงั คม รวมทง้ั เกดิ เครอื ขา่ ยดา้ นสทิ ธมิ นษุ ยชน ทักษะด้านสิทธิมนุษยชน (Skill) และทัศนคติ ส�ำหรบั นกั บริหารระดับสงู ในทกุ ภาคส่วน ด้านสิทธิมนษุ ยชน (Attitude) • หลกั สตู รธุรกิจกับสิทธิมนุษยชนส�ำหรบั รฐั วสิ าหกจิ เป็นหลักสูตรระยะสั้น ประกอบด้วยหัวข้อวิชา • หลักสูตรสิทธิมนุษยชนศึกษาสิทธิในกระบวนการ การด�ำเนินการของรัฐวิสาหกิจกับการละเมิด ยุติธรรม ประกอบด้วย 5 รายวิชา ได้แก่ สิทธิมนุษยชน: ก�ำหนดกรอบประเด็นปัญหา 1) สถานการณส์ ทิ ธมิ นษุ ยชน 2) สทิ ธใิ นกระบวนการ (Framing the problem) จากกรณีศึกษา ยุติธรรมเฉพาะทาง 3) ทักษะการปฏิบัติงาน แ ล ะ ก า ร น�ำ ห ลั ก ก า ร ช้ี แ น ะ ว ่ า ด ้ ว ย ธุ ร กิ จ กั บ ดา้ นสทิ ธมิ นษุ ยชนในกระบวนการยตุ ธิ รรมเฉพาะทาง 4) วเิ คราะหแ์ ละสมั มนาปญั หาพเิ ศษและกรณศี กึ ษา ในเรื่องการละเมิดสิทธิในกระบวนการยุติธรรม
113 สิ ท ธิ ม นุ ษ ย ช น ข อ ง ส ห ป ร ะ ช า ช า ติ ไ ป พั ฒ น า สิทธิมนุษยชนศึกษาส�ำหรับกลุ่มเป้าหมายที่หลากหลาย บทที่ เพื่อรัฐวิสาหกิจไทย เพื่อเป็นต้นแบบให้กับ และคู่มือการจัดการเรียนรู้สิทธิมนุษยชนศึกษาส�ำหรับ 1 การด�ำเนนิ ธรุ กจิ ทเี่ คารพสทิ ธมิ นษุ ยชน ทงั้ น้ี เพอื่ เปน็ การศึกษาข้ันพ้ืนฐานเพ่ือน�ำไปศึกษาและเสนอความเห็น แนวทางส�ำคญั ทีจ่ ะช่วยปอ้ งกนั แก้ไข และบรรเทา ตามทีค่ ณะรฐั มนตรีสงั่ การ บทท่ี ผลกระทบด้านสิทธิมนุษยชนอันอาจเกิดจาก 2 การประกอบธุรกิจ ส่งผลให้เกิดความเชื่อม่ัน ในปงี บประมาณ พ.ศ. 2562 คณะกรรมการสทิ ธมิ นษุ ยชน บทที่ ต่อการค้าและการลงทุนในระดับประเทศและ แหง่ ชาตไิ ดเ้ สนอความเหน็ และขอ้ เสนอแนะตอ่ รา่ งกฎหมาย 3 ภมู ภิ าค และมสี ว่ นส�ำคญั ในการสง่ เสรมิ การคา้ และ ของหน่วยงานราชการต่าง ๆ เพื่อให้สอดคล้องกับ บทท่ี พัฒนาท้ังในระดับประเทศและระหว่างประเทศ หลกั สิทธมิ นษุ ยชน จำ� นวน 12 เรื่อง ดังน้ี 4 ให้เปน็ ไปอย่างย่งั ยืน บทท่ี 2) คู่มือการจัดการเรียนรู้สิทธิมนุษยชนศึกษาส�ำหรับ 1) ขอ้ เสนอแนะมาตรการหรอื แนวทางในการสง่ เสรมิ 5 การศึกษาขั้นพ้ืนฐาน เป็นแนวทางในการจัดการเรียนรู้ และคุ้มครองสิทธิมนุษยชน กรณีการสนับสนุนและ ภาค เพ่ือพัฒนาคุณภาพผู้เรียนด้านสิทธิมนุษยชน โดยยึดโยง ผลกั ดนั รา่ งพระราชบญั ญตั กิ ารไกลเ่ กลยี่ ขอ้ พพิ าท พ.ศ. .... ผนวก กับหลักสูตรแกนกลางการศึกษาข้ันพ้ืนฐาน พุทธศักราช เสนอต่อคณะรัฐมนตรีและรัฐสภา 2551 ในกลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนาและ วัฒนธรรม รวมทั้งส้ิน 5 ช่วงช้ัน ได้แก่ ระดับประถม 2) ความเห็นต่อร่างพระราชบัญญัติอุทยานแห่งชาติ ศึกษาตอนต้น ไปจนถึงระดับมัธยมศึกษาตอนต้นและ พ.ศ. .... เสนอตอ่ ประธานสภานติ ิบัญญตั แิ หง่ ชาติ ตอนปลาย รวมถึงการปลูกฝังเกี่ยวกับสิทธิมนุษยชน แทรกไปในการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ในหลักสูตร 3) ความเห็นตอ่ ร่างพระราชบัญญตั ปิ ่าชุมชน พ.ศ. .... การศึกษาปฐมวยั พุทธศักราช 2560 ทัง้ น้ี เพ่ือให้เด็กและ เสนอต่อประธานสภานิตบิ ญั ญัตแิ ห่งชาติ เยาวชน ซ่ึงเป็นอนาคตและพลังท่ีจะขับเคล่ือนประเทศ ในภายภาคหน้าเกิดการเรียนรู้เกี่ยวกับ สิทธิมนุษยชน 4) ความเห็นต่อร่างพระราชบัญญัติว่าด้วยการ อย่างมีส่วนร่วม มีความรู้ ความเข้าใจและตระหนัก ลงคะแนนเสียงเพื่อถอดถอนสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือ ในหลักการเคารพสิทธิมนุษยชน ท้ังการเคารพในศักด์ิศรี ผู้บริหารทอ้ งถิน่ (ฉบบั ที่ ..) พ.ศ. .... ความเป็นมนุษย์ การเช่ือม่ันในความเท่าเทียมของบุคคล โดยปราศจากการแบ่งแยก การศรัทธาในสิทธิและ 5) ความเห็นต่อร่างพระราชบัญญัติคุ้มครองพยาน เสรีภาพของบุคคล และการปฏิบัติต่อผู้อื่นในฐานะที่เป็น ในคดีอาญา (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... เพื่อนมนุษย์เช่นเดียวกัน ภายใต้บริบทของสังคมท่ีมี ความหลากหลายทั้งทางชาติพันธุ์ ศาสนา และวิถีชีวิต 6) ความเห็นต่อรา่ งพระราชบัญญตั คิ ชู่ วี ติ พ.ศ. .... ทางวฒั นธรรมโดยไม่เลือกปฏบิ ตั ิ 7) ความเหน็ ตอ่ รา่ งพระราชบญั ญตั สิ ง่ เสรมิ การพฒั นา และค้มุ ครองสถาบนั ครอบครัว พ.ศ. .... ผลส�ำ เรจ็ /ความกา้ วหนา้ ในการคมุ้ ครองสทิ ธมิ นษุ ยชน 8) ความเห็นต่อร่างพระราชบัญญัติป้องกัน คณะรฐั มนตรมี อบหมายใหส้ ว่ นราชการตา่ ง ๆ พจิ ารณา และปราบปรามการทรมานและการกระท�ำให้บุคคล สญู หาย พ.ศ. .... ให้ความเห็นเก่ียวกับหลักสูตรสิทธิมนุษยชนศึกษาส�ำหรับ กลุ่มเป้าหมายที่หลากหลาย และคู่มือการจัดการเรียนรู้ 9) เสนอความเห็นเกี่ยวกับข้อจ�ำกัดตามกฎหมาย สิทธิมนุษยชนศึกษาส�ำหรับการศึกษาข้ันพื้นฐาน ทั้งน้ี ในการเปดิ เผยขอ้ มลู ขา่ วสารทางราชการ กรณสี ถาบนั วจิ ยั ได้มีการประสานจากกระทรวงแรงงาน ส�ำนักงาน เพื่อการพัฒนาประเทศไทย (TDRI) ขอความอนุเคราะห์ สภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติและกระทรวง ทรพั ยากรธรรมชาติและส่งิ แวดลอ้ ม เปน็ ตน้ ขอหลักสูตร
รายงานผลการปฏิบตั งิ านคณะปกรระรจมำ�กปางี รบสปิทรธะิมมนาณุษยพชน.ศแ.ห2ง่ 5ช6าต2ิ 114 คณะกรรมการสิทธิมนษุ ยชนแหง่ ชาติ เข้าศึกษาข้อมูลรายละเอียดเร่ืองร้องเรียนที่ส�ำนักงาน ช้ีแจงหรือจัดท�ำรายงานข้อเท็จจริงที่ถูกต้องโดยไม่ชักช้า คณะกรรมการสทิ ธิมนษุ ยชนแห่งชาติ เพอ่ื เผยแพร่ใหป้ ระชาชนทราบเป็นการท่ัวไป 10) จดั ท�ำความเหน็ ทางกฎหมายเกย่ี วกบั การยน่ื บญั ชี ในปี 2562 คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ แสดงรายงานทรัพย์สินและหน้ีสินของประธานกรรมการ ได้เฝ้าระวังการรายงานเกยี่ วกับสถานการณส์ ทิ ธิมนษุ ยชน และกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติท่ีอยู่ปฏิบัติหน้าท่ี ในประเทศไทยที่ไม่ถูกต้องหรือไม่เป็นธรรม และ ต่อไปตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วย มีการช้ีแจงและรายงานข้อเท็จจริงท่ีถูกต้องและเผยแพร่ คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ พ.ศ. 2560 ใหแ้ ก่ประชาชนทราบ 2 เรอ่ื ง ไดแ้ ก่ มาตรา 60 วรรคหนึง่ 1. การชแี้ จงตอ่ รายงานสรปุ สถานการณด์ า้ นสทิ ธมิ นษุ ยชน 11) จัดท�ำความเห็นทางกฎหมายเกี่ยวกับการ ทว่ั โลก ครงั้ ที่ 29 ประจำ� ปี 2562 (World Report 2019) ออกระเบียบและประกาศของคณะกรรมการ ป.ป.ช. ขององค์กรฮิวแมน ไรทส์ วอทซ์ (Human Rights เปน็ การใชอ้ �ำนาจในการวนิ จิ ฉยั ชขี้ าดซงึ่ เปน็ การใชอ้ �ำนาจ Watch-HRW) โดยตรงตามรัฐธรรมนญู หรอื ไม่ เมื่อวนั ที่ 17 กุมภาพันธ์ 2562 ฮวิ แมน ไรทส์ วอทซ์ 12) จัดท�ำความเห็นทางกฎหมายเก่ียวกับข้ันตอน ซึ่งเป็นองค์กรสิทธิมนุษยชนต่างประเทศ ได้เปิดเผย และระยะเวลาในการยื่นบัญชีทรัพย์สินและหนี้สิน รายงานสรุปสถานการณ์ด้านสิทธิมนุษยชนท่ัวโลก ของคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติและเลขาธิการ ส�ำ นั ก ง า น ค ณ ะ ก ร ร ม ก า ร สิ ท ธิ ม นุ ษ ย ช น แ ห ่ ง ช า ติ คณะกรรมการสทิ ธมิ นษุ ยชนแหง่ ชาติ ได้ตรวจสอบข้อมูลในรายงานสถานการณ์ดังกล่าว ทเ่ี กย่ี วกบั สทิ ธมิ นษุ ยชนในประเทศไทยแลว้ พบวา่ มขี อ้ มลู 3.1.4 การชี้แจงและรายงานข้อเท็จจริงที่ถูกต้อง บางประการไม่ถูกต้องหรือไม่เป็นธรรม คณะกรรมการ ใ น ก ร ณี ท่ี มี ก า ร ร า ย ง า น เ ก่ี ย ว กั บ ส ถ า น ก า ร ณ์ สิทธมิ นษุ ยชนแหง่ ชาติ จึงไดต้ รวจสอบและจดั ท�ำค�ำชีแ้ จง สิทธิมนุษยชนในประเทศไทยโดยไม่ถูกต้องหรือ ท่ี 1/2562 เผยแพร่เมื่อวนั ที่ 2 กรกฎาคม 2562 รวมท้งั ไมเ่ ป็นธรรม ใหข้ ้อมูลเพ่ิมเติมเพื่อความเข้าใจท่ีถกู ต้อง 2 ประเดน็ ดงั นี้ การช้ีแจงและรายงานข้อเท็จจริงท่ีถูกต้อง ฯ เสรภี าพในการแสดงออก เป็นหน้าที่และอ�ำนาจที่บัญญัติไว้ในรัฐธรรมนูญแห่ง 1.1 กรณีที่รายงานว่า รัฐบาลชะลอการยกเลิก ราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2560 มาตรา 247 (4) แ ล ะ พ ร ะ ร า ช บั ญ ญั ติ ป ร ะ ก อ บ รั ฐ ธ ร ร ม นู ญ ว ่ า ด ้ ว ย มาตรการจ�ำกัดเสรีภาพในการแสดงออก การสมาคม คณะกรรมการสิทธมิ นษุ ยชนแห่งชาติ พ.ศ. 2560 มาตรา และการชุมนุมอย่างเข้มงวด ท้ังที่มีการประกาศให้มี 26 (4) บัญญัติให้คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ การเลือกต้ังทัว่ ไปในเดอื นกมุ ภาพันธ์ 2562 แลว้ ช้ีแจงและรายงานข้อเท็จจริงท่ีถูกต้องโดยไม่ชักช้า ในกรณีท่ีมีรายงานสถานการณ์เก่ียวกับสิทธิมนุษยชน จากการตรวจสอบข้อเท็จจริงปรากฏว่า เม่ือวันที่ ในประเทศไทยโดยไม่ถูกต้องหรือไม่เป็นธรรม และ 11 ธนั วาคม 2561 ไดม้ คี �ำสั่งหัวหนา้ คณะรักษาความสงบ พระราชบญั ญตั ปิ ระกอบรฐั ธรรมนญู วา่ ดว้ ยคณะกรรมการ แห่งชาติ (คสช.) ท่ี 22/2561 เรอื่ ง การใหป้ ระชาชนและ สิทธิมนษุ ยชนแหง่ ชาติ พ.ศ. 2560 มาตรา 44 ก�ำหนดว่า พรรคการเมืองด�ำเนินกิจกรรมทางการเมือง ซ่ึงมีผลให้ เมื่อความปรากฏต่อคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่ง ยกเลิกค�ำส่ังหัวหน้า คสช. จ�ำนวนหลายฉบับ รวมทั้ง ชาติว่ามีรายงานสถานการณ์เกี่ยวกับสิทธิมนุษยชน การยกเลิกความผิดฐานมั่วสุมหรือชุมนุมทางการเมือง ในประเทศไทยโดยไม่ถูกต้องหรือไม่เป็นธรรมให้ เกินกว่า 5 คนขึ้นไปตามข้อ 12 ของค�ำส่ังหัวหน้า คสช. คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติตรวจสอบและ ที่ 3/2558 ท�ำให้ประชาชนและพรรคการเมืองสามารถ ด�ำเนินกิจกรรมทางการเมืองได้ตั้งแต่วันท่ี 11 ธันวาคม 2561 เปน็ ตน้ ไป และปจั จบุ ันมีการเลอื กตัง้ แลว้
115 1.2 กรณีท่ีรายงานว่านักเคล่ือนไหวเพื่อเรียกร้อง 2.1 หมวด 2 การเคารพสทิ ธิเสรีภาพของพลเมือง บทท่ี ประชาธปิ ไตยอยา่ งนอ้ ย 130 คน ในกรงุ เทพมหานคร และ กรณีที่รายงานว่ารัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย 1 ตา่ งจงั หวดั ถกู ด�ำเนนิ คดใี นขอ้ หาชมุ นมุ อยา่ งผดิ กฎหมาย และบางคนถูกด�ำเนินคดีในข้อหายุยงปลุกปั่นจากการ พุทธศักราช 2560 ให้เสรีภาพในการชุมนุมอย่างสงบ บทที่ เรียกร้องอย่างสงบ ให้รัฐบาลทหารจัดการเลือกต้ัง ซึ่งต้องเป็นไปตามข้อจ�ำกัดของบทบัญญัติแห่งกฎหมาย 2 โดยไม่ให้มีการชะลอออกไป และให้ยกเลิกมาตรการ ทบี่ งั คบั ใชเ้ พอื่ “คมุ้ ครองประโยชนส์ ว่ นรวมของประชาชน บทที่ จ�ำกดั เสรีภาพขั้นพน้ื ฐานโดยทันที เ พื่ อ รั ก ษ า ค ว า ม ส ง บ เ รี ย บ ร ้ อ ย ห รื อ ศี ล ธ ร ร ม อั น ดี 3 ของประชาชน หรือเพื่อคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ บทท่ี จากการตรวจสอบข้อเท็จจริงปรากฏว่า ค�ำสั่ง ของบุคคลอ่ืน” อย่างไรก็ดี ค�ำสั่ง คสช. ที่ประกาศใช้ 4 หัวหน้า คสช. ท่ี 22/2561 ดังกล่าวข้างต้น ได้ยกเลิก ภายใตม้ าตรา 44 ของรฐั ธรรมนญู แห่งราชอาณาจกั รไทย บทที่ ค�ำสง่ั หวั หน้า คสช. ท่ี 3/2558 ขอ้ 12 ท�ำใหศ้ าลจ�ำหนา่ ย (ฉบับช่ัวคราว) พุทธศักราช 2557 และยังมีผลบังคับใช้ 5 คดีในข้อหาชุมนุมทางการเมืองตั้งแต่ 5 คน ข้ึนไป ภายใตร้ ฐั ธรรมนญู ฉบบั นี้ ยงั คงหา้ มการชมุ นมุ ทางการเมอื ง ภาค นอกจากนี้ จากการตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณี ของบุคคลตั้งแต่ห้าคนข้ึนไปและก�ำหนดบทลงโทษ ผนวก การเคลอื่ นไหวเพอื่ เรยี กรอ้ งประชาธปิ ไตย พบวา่ ในบางกรณี ผทู้ ่สี นับสนนุ การชุมนุมทางการเมืองใด ๆ กต็ าม รฐั สกัดกัน้ การชมุ นมุ ผู้จดั การชุมนมุ ได้ขอใหศ้ าลปกครอง มีค�ำสั่งเกี่ยวกับวิธีการชั่วคราวก่อนการพิพากษาคดีเพื่อ จากการตรวจสอบข้อเท็จจริงปรากฏว่า เมื่อวันท่ี คมุ้ ครองเสรภี าพในการชมุ นมุ โดยสงบ เชน่ การจดั กจิ กรรม 11 ธันวาคม 2561 หัวหน้าคณะรักษาความสงบ “We Walk…เดินมิตรภาพ” ของเครือข่ายประชาชน แห่งชาติ (คสช.) ซึ่งด�ำรงต�ำแหน่งนายกรัฐมนตรีด้วย People Go Network เมอื่ เดือนมกราคม 2561 ซงึ่ ศาล ได้มคี �ำส่งั หัวหนา้ คสช. ท่ี 22/2561 เรือ่ งการให้ประชาชน ไดม้ คี �ำสง่ั มใิ หเ้ จา้ หนา้ ทขี่ องรฐั กระท�ำการใด ๆ ทมี่ ลี กั ษณะ แ ล ะ พ ร ร ค ก า ร เ มื อ ง ด�ำ เ นิ น กิ จ ก ร ร ม ท า ง ก า ร เ มื อ ง เปน็ การปดิ กน้ั ขดั ขวางการใชเ้ สรภี าพในการชมุ นมุ ภายใต้ ยกเลิกค�ำส่ังหัวหน้า คสช. จ�ำนวนหลายฉบับรวมท้ัง ขอบเขตของกฎหมาย รวมท้ังให้ด�ำเนินการใช้อ�ำนาจ การยกเลิกความผิดฐานม่ัวสุมหรือชุมนุมทางการเมือง หนา้ ทต่ี ามพระราชบญั ญตั กิ ารชมุ นมุ สาธารณะ พ.ศ. 2558 เกินกว่าห้าคนขึ้นไปตามข้อ 12 ของค�ำสั่งหัวหน้า คสช. ในการอ�ำนวยความสะดวกแก่ประชาชน ดูแลการชุมนุม ที่ 3/2558 ท�ำให้ประชาชนและพรรคการเมืองสามารถ สาธารณะและรักษาความสงบเรียบร้อยหรือศีลธรรมอันดี ด�ำเนินกิจกรรมทางการเมืองได้ต้ังแต่วันที่ 11 ธันวาคม ของประชาชนโดยเคร่งครัด เป็นผลให้กิจกรรมดังกล่าว 2561 เป็นต้นไป และหลังจากการยกเลิกค�ำสั่งฉบับน้ี สามารถด�ำเนนิ การไดจ้ นแล้วเสร็จ เป็นตน้ มขี อ้ มลู วา่ ศาลยตุ ธิ รรมและศาลทหารมคี �ำพพิ ากษายกฟอ้ ง และจ�ำหน่ายคดีความผิดฐานชุมนุมทางการเมืองเกินกว่า 2. การชี้แจงต่อรายงานการปฏิบัติด้านสิทธิมนุษยชน ห้าคนแลว้ จ�ำนวนหนง่ึ ประจ�ำปี 2561 (Country Reports on Human Rights 2.2 หมวด 5 ท่าทีของรัฐบาลต่อการสืบสวนโดย Practices for 2018) ของกระทรวงการต่างประเทศ องค์กรระหว่างประเทศและองค์กรเอกชนในประเด็น สหรัฐอเมริกา การละเมิดสิทธิมนุษยชน คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติได้ตรวจสอบ กรณที ร่ี ายงานวา่ คณะกรรมการสทิ ธมิ นษุ ยชนแหง่ ชาติ ข ้ อ มู ล ใ น ร า ย ง า น ส ถ า น ก า ร ณ ์ ดั ง ก ล ่ า ว ท่ี เ กี่ ย ว กั บ ได้รับค�ำร้อง 225 เรื่อง นับตั้งแต่เดือนตุลาคม 2560 สิทธิมนุษยชนในประเทศไทยแล้ว พบว่ามีข้อเท็จจริง จนถงึ เดอื นกนั ยายน 2561 ในจ�ำนวนนม้ี ี 36 เรอื่ ง เกย่ี วขอ้ งกบั เกี่ยวกับสถานการณ์สิทธิมนุษยชนในประเทศไทยท่ีอาจ ขอ้ กลา่ วหาการกระท�ำมชิ อบโดยต�ำรวจ กลมุ่ สทิ ธมิ นษุ ยชน ไม่ถูกต้องหรือไม่เป็นธรรม จึงได้ตรวจสอบและจัดท�ำ ยงั คงวพิ ากษว์ จิ ารณค์ ณะกรรมการสทิ ธิมนุษยชนแห่งชาติ ค�ำชี้แจง ท่ี 2/2562 เผยแพร่เม่ือวันท่ี 19 พฤศจิกายน ท่ีไม่ยื่นฟ้องร้องผู้กระท�ำการละเมิดสิทธิมนุษยชน 2562 ดงั น้ี ด้วยตนเองหรือในนามของผ้รู ้องเรียน
รายงานผลการปฏิบตั ิงานคณะปกรระรจมำ�กปางี รบสปทิ รธะิมมนาณษุ ยพชน.ศแ.ห2ง่ 5ช6าต2ิ 116 คณะกรรมการสิทธมิ นุษยชนแหง่ ชาติ ขอช้ีแจงว่าต้ังแต่วันท่ี 1 ตุลาคม 2560 ถึงวันที่ ประกอบด้วย กลยุทธ์ที่ 1) ให้มีหลักสูตรสิทธิมนุษยชน 30 กนั ยายน 2561 มีเรอ่ื งรอ้ งเรยี นท่ี กสม. รบั เปน็ ค�ำรอ้ ง ศึกษาในกลุ่มเป้าหมายท่ีหลากหลาย กลยุทธ์ท่ี 2) จ�ำนวน 232 เรื่อง ในจ�ำนวนน้ีมีกรณีข้อกล่าวหาว่า พัฒนาเคร่ืองมือเพ่ือการส่ือสารและสร้างแหล่งเรียนรู้ เป็นการกระท�ำมิชอบโดยต�ำรวจ จ�ำนวน 9 เร่ือง ซึ่ง สิทธิมนุษยชน กลยุทธ์ท่ี 3) ค้นหา สนับสนุน ส่งเสริม คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติได้ด�ำเนินการ และเชิดชูบุคคลหรือองค์กรต้นแบบด้านสิทธิมนุษยชน ตรวจสอบข้อเท็จจริงและจัดท�ำเป็นรายงานผลการ (Human Rights IDOL) กลยทุ ธท์ ่ี 4) การสอื่ สารเชงิ กลยทุ ธ์ ตรวจสอบ ฯ เรยี บรอ้ ยแลว้ จ�ำนวน 5 เรอื่ ง และอยรู่ ะหวา่ ง เพ่ือสร้างวัฒนธรรมสิทธิมนุษยชน กลยุทธ์ท่ี 5) ติดตาม การตรวจสอบขอ้ เทจ็ จริง จ�ำนวน 4 เร่ือง วิเคราะห์ ให้ข้อเสนอแนะ และเข้าไปมีส่วนร่วม ในแผนยทุ ธศาสตร์ แผนปฏบิ ตั กิ าร หรอื กจิ กรรมทเ่ี กยี่ วขอ้ ง ในประเด็นที่มีการวิพากษ์วิจารณ์ว่าคณะกรรมการ กับการส่งเสริมสิทธิมนุษยชนของหน่วยงานต่าง ๆ สิทธิมนุษยชนแห่งชาติไม่ย่ืนฟ้องร้องผู้กระท�ำการละเมิด และจดั ท�ำแผนความรว่ มมอื กบั หนว่ ยงานตา่ ง ๆ กลยทุ ธท์ ี่ 6) สิทธิมนุษยชนด้วยตนเองหรือในนามของผู้ร้องเรียนนั้น ขยายประเด็นสิทธิมนุษยชนจากวาระโลกเพื่อสร้าง ขอชี้แจงว่า พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วย ความรับรู้และผลักดันให้เกิดการด�ำเนินการให้สอดคล้อง คณะกรรมการสทิ ธมิ นษุ ยชนแหง่ ชาติ พ.ศ. 2560 ไมไ่ ดก้ �ำหนด ตามวาระโลก กลยทุ ธท์ ี่ 7) จดั ใหม้ ศี นู ยก์ ลางการบรู ณาการ ให้ กสม. มหี นา้ ทแ่ี ละอ�ำนาจในการฟอ้ งคดแี ทนผรู้ อ้ งเรยี น และการเรียนร้ดู ้านสิทธิมนษุ ยชนศกึ ษา (Human Rights แต่ให้ร้องทุกข์กล่าวโทษแทนผู้เสียหายซ่ึงเป็นไปตาม Education & Learning Hub) และกลยทุ ธท์ ่ี 8) สรา้ งดชั นี มาตรา 37 ของพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ Thailand Human Rights Index: Thailand HRI ในรฐั กจิ ว่าด้วยคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ พ.ศ. 2560 ธรุ กจิ ประชากจิ โดยมผี ลการด�ำเนนิ งานในปงี บประมาณ ทบี่ ญั ญตั วิ ่า พ.ศ. 2562 ดงั น้ี ในกรณีท่ีการละเมิดสิทธิมนุษยชนเรื่องใดเป็น 1) การจัดท�ำหลักสูตรสิทธิมนุษยชนศึกษาในกลุ่ม ความผดิ อาญาและผเู้ สยี หายไมอ่ ยใู่ นฐานะทจี่ ะรอ้ งทกุ ขห์ รอื กล่าวโทษด้วยตนเองได้ ให้คณะกรรมการสิทธิมนุษยชน เปา้ หมายทีห่ ลากหลาย แห่งชาติหรือผู้ซึ่งคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ มอบหมายมีอ�ำนาจร้องทุกข์หรือกล่าวโทษได้โดยให้ คณะกรรมการสทิ ธมิ นษุ ยชนแหง่ ชาตไิ ดใ้ หค้ วามส�ำคญั ถือว่าเป็นผู้เสียหายตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณา กบั งานสทิ ธมิ นษุ ยชนศกึ ษาจงึ ไดด้ �ำเนนิ การอยา่ งมสี ว่ นรว่ ม ความอาญา ท้ังน้ีคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ กับผู้ทรงคุณวุฒิด้านสิทธิมนุษยชนศึกษา ผู้แทนสถาบัน ได้ออกแนวปฏิบัติในการร้องทุกข์หรือกล่าวโทษแทน การศกึ ษาในระดบั อดุ มศกึ ษา และผแู้ ทนหนว่ ยงานทเี่ กย่ี วขอ้ ง ผู้เสียหายในคดอี าญาแล้วเมอ่ื วันที่ 6 พฤศจกิ ายน 2561 เพื่อจัดท�ำหลักสูตรสิทธิมนุษยชนศึกษาในกลุ่มเป้าหมาย ทห่ี ลากหลาย เพอื่ สง่ เสรมิ ใหก้ ลมุ่ เปา้ หมายตา่ ง ๆ มคี วามรู้ 3.1.5 การสร้างเสริมทุกภาคส่วนของสังคม ความเขา้ ใจ และตระหนกั ถงึ ความส�ำคญั ของสทิ ธมิ นษุ ยชน ใหต้ ระหนกั ถงึ ความส�ำคัญของสิทธิมนษุ ยชน โดยค�ำนึงถึงบริบทและวิธีการที่หลากหลายและเหมาะสม โดยมงุ่ หวงั ใหผ้ เู้ รยี นเกดิ การเรยี นรดู้ า้ นสทิ ธมิ นษุ ยชนศกึ ษา มาตรา 26 (5) ตามพระราชบญั ญตั ปิ ระกอบรฐั ธรรมนญู อย่างเป็นระบบ ประกอบด้วย ความรู้ด้านสิทธิมนุษยชน ว่าด้วยคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ พ.ศ. 2560 (Knowledge หรือ K) ทักษะด้านสิทธิมนุษยชน บัญญัติหน้าที่และอ�ำนาจให้คณะกรรมการสิทธิมนุษยชน (Skill หรือ S) และทัศนคติด้านสิทธิมนุษยชน แห่งชาติด�ำเนินงานเพื่อการสร้างเสริมทุกภาคส่วนของ (Attitude หรือ A) ท่ีจะช่วยส่งเสริมให้ครอบคลุมแก่ สังคม ตลอดจนประชาชนได้ตระหนักถึงความส�ำคัญของ กลุ่มเป้าหมายทุกภาคส่วนในสังคม และเป็นรากฐาน สิทธิมนุษยชน และได้จัดท�ำแผนส่งเสริมสิทธิมนุษยชน ในการสร้างวัฒนธรรมการเคารพสิทธิมนุษยชนอันจะ ตามยุทธศาสตร์คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ น�ำมาซึ่งความผาสุกของสังคมและประเทศชาติ ท้ังน้ี พ.ศ. 2560-2565 เพื่อส่งเสริมความรู้ ความเข้าใจ และ ไ ด ้ ด�ำ เ นิ น ก า ร จั ด ท�ำ ห ลั ก สู ต ร สิ ท ธิ ม นุ ษ ย ช น ศึ ก ษ า สรา้ งความตระหนกั ในเรอ่ื งสทิ ธมิ นษุ ยชน จ�ำนวน 8 กลยทุ ธ์ ในกลมุ่ เปา้ หมายท่ีหลากหลาย จ�ำนวน 4 หลักสูตร ดังนี้
117 หลกั สตู รที ่ 1 หลกั สูตรสทิ ธิมนษุ ยชนส�ำหรบั นกั บริหารระดับสงู บทที่ หลกั สูตรท ่ี 2 หลกั สตู รธุรกิจกบั สิทธมิ นษุ ยชน 1 หลกั สตู รท ี่ 3 หลกั สูตรสทิ ธิมนุษยชนศกึ ษาพนื้ ฐานในกระบวนการยุติธรรม หลักสูตรที ่ 4 หลกั สูตรสิทธมิ นษุ ยชนศึกษาพืน้ ฐาน บทท่ี 2 บทที่ 3 บทท่ี 4 บทท่ี 5 ภาค ผนวก เพ่ือขบั เคลอ่ื นงานด้านสิทธมิ นุษยชนศึกษาให้เกดิ ผลส�ำ เร็จเปน็ รปู ธรรม ในปงี บประมาณ พ.ศ. 2562 คณะกรรมการ สทิ ธมิ นษุ ยชนแหง่ ชาตไิ ดจ้ ดั ฝกึ อบรมหลกั สตู รสทิ ธมิ นษุ ยชนศกึ ษาในกลมุ่ เปา้ หมายทห่ี ลากหลาย จ�ำ นวน 2 หลกั สตู ร ดงั นี้ 1.1) หลกั สตู รสทิ ธมิ นษุ ยชนส�ำ หรบั นกั บรหิ ารระดบั สงู คณะกรรมการสทิ ธมิ นษุ ยชนแหง่ ชาตไิ ดจ้ ดั ท�ำ โครงการสรา้ งเสรมิ ความตระหนกั ดา้ นสทิ ธมิ นษุ ยชนส�ำ หรบั นกั บรหิ าร ระดบั สูง (Human Rights Executive Program) เพ่ือสรา้ งเสริมความรู้ ความเขา้ ใจ และตระหนกั ถึงความสำ�คญั ของ สิทธิมนุษยชนสำ�หรับนักบริหารระดับสูง ซ่ึงถือเป็นกลุ่มเป้าหมายที่มีบทบาทสำ�คัญในการขับเคลื่อนนโยบายและ ยุทธศาสตร์ด้านสิทธิมนุษยชน ตลอดจนการสร้างแนวปฏิบัติขององค์กรในการปรับเปล่ียนพฤติกรรมให้เกิดการเคารพ สิทธิมนุษยชนแก่บุคคลในองค์กรและผู้มีส่วนได้ส่วนเสียในสังคม กลุ่มเป้าหมาย ประกอบด้วย ผู้บริหารระดับสูง จากภาครัฐ ภาคเอกชน ภาคประชาสังคม และส่ือมวลชน โดยสำ�นักงานคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ
รายงานผลการปฏบิ ตั ิงานคณะปกรระรจมำ�กปาีงรบสปิทรธะมิมนาณุษยพชน.ศแ.ห2่ง5ช6าต2ิ 118 คณะกรรมการสทิ ธิมนุษยชนแห่งชาติ ได้ว่าจ้างสถาบันพระปกเกล้าจัดการฝึกอบรมหลักสูตร 1.2) หลกั สตู รธุรกจิ กับสทิ ธมิ นุษยชน ประกาศนียบัตรสิทธิมนุษยชนสำ�หรับนักบริหารระดับ • คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติได้ร่วมกับ สูง ผู้เข้ารับการฝึกอบรม ประกอบด้วย ผู้บริหารระดับ สูงจากภาครัฐ ภาคเอกชน ภาคประชาสังคม และ สถาบันระหว่างประเทศเพื่อการค้าและการพัฒนา ส่อื มวลชน จำ�นวน 70 คน ระยะเวลาฝึกอบรม ระหว่าง (องค์การมหาชน) หรือ ITD และสถาบันบัณฑิต วันท่ี 21 เมษายน-10 กันยายน 2562 ผู้เข้ารับการฝึก พัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) จัดฝึกอบรมเชิงปฏิบัติการ อบรมได้รับความรู้พื้นฐานหลักการด้านสิทธิมนุษยชน หลักสูตร “ธุรกิจกับสิทธิมนุษยชนสำ�หรับรัฐวิสาหกิจ” แนวทางฐานสิทธิมนุษยชน (Human Rights-Based โดยมีผู้แทนรัฐวิสาหกิจในประเทศไทยที่เข้ารับการ Approach) ตลอดจนการวิเคราะห์สถานการณ์ ฝึกอบรม จำ�นวนรวมทั้งสิ้น 56 แห่ง เมื่อวันที่ 6 ธันวาคม สิทธิมนุษยชนและการนำ�ไปประยุกต์ใช้ ความรู้ในเร่ือง 2561 ณ ห้องจามจุรี บอลรูม เอ บี โรงแรมปทุมวัน สิทธิมนุษยชนในภาคธุรกิจ แนวทางในการส่งเสริมให้ ปริ๊นเซส กรุงเทพมหานคร ภาคธุรกิจปฏิบัติตามหลักการช้ีแนะของสหประชาชาติ ว่าด้วยธุรกิจกับสิทธิมนุษยชน หลักการของกระบวน • คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติได้ร่วมกับ การยตุ ธิ รรม แนวคิดและวธิ กี ารสนั ติวิธี และประชาเสวนา สถาบันระหว่างประเทศเพื่อการค้าและการพัฒนา เพ่ือเป็นเครื่องมือในการหาทางออกในการแก้ไขปัญหา (องค์การมหาชน) หรือ ITD จัดฝึกอบรมเชิง การเยียวยาเพ่ือคุ้มครองและขับเคลื่อนงานสิทธิมนุษยชน ปฏบิ ตั กิ ารหลกั สตู ร “สทิ ธมิ นษุ ยชนและประเดน็ กฎหมาย ตลอดจน ความรู้ด้านกฎหมายสิทธิมนุษยชน พันธกรณี ธุรกิจ การค้า การลงทุนที่เกี่ยวข้อง” เพื่อให้ผู้เข้ารับ ระหว่างประเทศด้านสิทธิมนุษยชน และกฎหมาย การอบรมมีความรู้ ความเข้าใจเกี่ยวกับสนธิสัญญา ภายในประเทศที่เก่ียวข้องกับสิทธิมนุษยชน ความรู้ หรือความตกลงระหว่างประเทศด้านการค้าและ กลไกภายใต้สนธิสัญญา (The Treaty-Based การลงทนุ และหลกั สตู รธรุ กจิ พน้ื ฐานของไทยทเ่ี กย่ี วขอ้ งกบั Bodies) และกลไกท่ีมีท่ีมาจากกฎบัตรสหประชาชาติ (Charter-Based Bodies) รวมถึง Universal Periodic Review (UPR) กฎหมายและกลไกสิทธิมนุษยชน ระดับชาติ และคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ใ น ป ร ะ เ ท ศ ไ ท ย โ ด ย มี กิ จ ก ร ร ม ฝึ ก ป ฏิ บั ติ เ พื่ อ ส่งเสริมและคุ้มครองสิทธิมนุษยชนในสังคมและองค์กร การอภปิ รายแลกเปลย่ี นความคดิ เหน็ และก�ำ หนดแนวทาง ในการขับเคลื่อนสิทธิมนุษยชนในสังคมและองค์กร ร่วมกัน และมีกิจกรรมศึกษาดูงานด้านสิทธิมนุษยชน กบั องคก์ รภาครฐั ภาคเอกชน องคก์ รชมุ ชน ภายในประเทศ ทั้งในกรุงเทพมหานครและต่างจังหวัด เพื่อเสริมสร้าง ประสบการณ์เชิงประจักษ์ โดยมีกิจกรรมให้ผู้เข้ารับ การอบรมศึกษาและวิเคราะห์ปัญหาในพ้ืนท่ีจริง และ จัดทำ�เอกสารวิชาการเชิงนโยบายส่วนบุคคล/กลุ่ม เพื่อเป็นแนวทาง/ข้อเสนอแนะเชิงนโยบายในการส่งเสริม และคุ้มครองสิทธิมนุษยชน และเกิดความตระหนักถึง การนำ�ความรู้ในเร่ืองสิทธิมนุษยชนจากการฝึกอบรม ไปประยุกต์ใช้ในการทำ�งานเพ่ือร่วมสร้างสังคมให้เคารพ สทิ ธิมนุษยชน
119 การคุ้มครองสิทธิแรงงาน สิทธิส่วนบุคคล สิทธิชุมชนและ ของแตล่ ะบคุ คลทท่ี ดั เทยี มกนั และการเคารพสทิ ธมิ นษุ ยชน บทที่ สิ่งแวดล้อม สามารถนำ�ความรู้ไปประยุกต์ใช้ในการ ของบุคคลอื่นซึ่งอาจแตกต่างกันในทางวัฒนธรรม 1 ปฏิบัติงาน ตลอดจนให้คำ�ปรึกษาแก่ผู้ที่มาร้องเรียน ประเพณี และศาสนา โดยประสานความร่วมมือกับ ได้อย่างเป็นระบบและมีมาตรฐานสากล จำ�นวน 2 รุ่น กระทรวงศึกษาธิการซึ่งกำ�กับดูแลสถานศึกษาในสังกัด บทท่ี รุ่นที่ 1 จัดขึ้นระหว่างวันที่ 31 มกราคม -1 กุมภาพันธ์ กวา่ 31,000 แหง่ มบี คุ ลากรทางการศกึ ษากวา่ 400,000 คน 2 2562 โดยมีเจ้าหน้าที่สำ�นักงานคณะกรรมการ ทำ�หน้าที่สนับสนุนและให้การศึกษาขั้นพื้นฐานแก่ บทที่ สิทธิมนษุ ยชนแห่งชาติเขา้ รบั การฝึกอบรม จำ�นวน 50 คน เด็กนักเรียนในประเทศกว่า 7,000,000 คน ดำ�เนินการ 3 ณ โรงแรมโนโวเทล สยามสแควร์ กรุงเทพมหานคร อย่างมีส่วนร่วมในการจัดทำ�คู่มือการจัดการเรียนรู้ บทที่ และรุ่นที่ 2 จัดขึ้นระหว่างวันที่ 7-8 มีนาคม 2562 สิทธิมนุษยชนศึกษา 5 ช่วงชั้น เพื่อเป็นแนวทาง 4 โดยมีเจ้าหน้าที่สำ�นักงานคณะกรรมการสิทธิมนุษยชน ในการสร้างเสริมสิทธิมนุษยชนศึกษาในสถานศึกษา บทที่ แห่งชาติเข้าร่วมการอบรม จำ�นวน 48 คน ณ โรงแรม ทั่วประเทศอย่างเป็นระบบ ดังนี้ 5 โนโวเทล สยามสแควร์ กรุงเทพมหานคร ภาค • คู่มือการจัดการเรียนรู้สิทธิมนุษยชนศึกษา ช่วงชั้น ผนวก 2) การพั ฒนาเครื่องมือเพื่ อการสื่อสารและสร้าง ปฐมวัย แหล่งเรียนร้สู ทิ ธิมนษุ ยชน • คู่มือการจัดการเรียนรู้สิทธิมนุษยชนศึกษา ช่วงชั้น ในปีงบประมาณ พ.ศ. 2562 คณะกรรมการ ประถมศึกษาตอนต้น สิทธิมนุษยชนแห่งชาติได้มุ่งเน้นในการพัฒนาเครื่องมือ ให้กับบุคลากรทางการศึกษา โดยการจัดทำ�คู่มือการ • คู่มือการจัดการเรียนรู้สิทธิมนุษยชนศึกษา ช่วงชั้น จัดการเรียนรู้สิทธิมนุษยชนศึกษาให้ครูผู้สอนใช้เป็น ประถมศึกษาตอนปลาย แนวทางในการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ เพื่อส่งเสริมและ เผยแพร่ให้เด็กและเยาวชนตระหนักถึงสิทธิมนุษยชน • คู่มือการจัดการเรียนรู้สิทธิมนุษยชนศึกษา ช่วงชั้น มัธยมศึกษาตอนต้น • คู่มือการจัดการเรียนรู้สิทธิมนุษยชนศึกษา ช่วงชั้น มัธยมศึกษาตอนปลาย
รายงานผลการปฏบิ ัติงานคณะปกรระรจมำ�กปางี รบสปทิ รธะมิมนาณษุ ยพชน.ศแ.ห2ง่ 5ช6าต2ิ 120 คณะกรรมการสทิ ธมิ นุษยชนแหง่ ชาติ 3) การกระตนุ้ และสรา้ งบคุ คลตน้ แบบดา้ นสทิ ธมิ นษุ ยชน เม่ือวันที่ 11 ธันวาคม 2561 คณะกรรมการ (Human Rights IDOL) สิทธิมนุษยชนแห่งชาติได้จัดงานวันสิทธิมนุษยชนสากล 10 ธนั วาคม ในหวั ขอ้ “70 ปี ปฏญิ ญาสากล: สทิ ธมิ นษุ ยชน คณะกรรมการสทิ ธมิ นษุ ยชนแหง่ ชาตใิ หค้ วามส�ำ คญั กบั ก้าวไกลสู่สังคมไทยยั่งยืน” ณ โรงแรมมิราเคิล แกรนด์ การคน้ หาสนบั สนนุ สง่ เสรมิ และเชดิ ชใู หม้ บี คุ คลหรอื องคก์ ร คอนเวนชั่น กรุงเทพมหานคร ซึ่งได้รับความสนใจ ตน้ แบบดา้ นสทิ ธมิ นษุ ยชน โดยมผี ลการด�ำ เนนิ งานทส่ี �ำ คญั ดงั น้ี จากภาคส่วนต่าง ๆ โดยมีผเู้ ขา้ ร่วมงาน จำ�นวน 555 คน ท้ังจากหนว่ ยงานภาครัฐ ภาคเอกชน องค์กรพฒั นาเอกชน 3.1) โครงการจดั งานวนั สทิ ธมิ นษุ ยชนสากล 10 ธนั วาคม สื่อมวลชนและประชาชนทั่วไป และองค์กรภาคีเครือข่าย ประจ�ำ ปี 2561 ดา้ นสทิ ธมิ นษุ ยชนเขา้ รว่ มจดั นทิ รรศการ จ�ำ นวน 10 องคก์ ร ทำ�ให้เกิดการเผยแพร่ข้อมูลความรู้ด้านสิทธิมนุษยชน สมัชชาใหญ่แห่งสหประชาชาติได้รับรองปฏิญญา และขอ้ มลู ของหนว่ ยงานทท่ี �ำ งานเกย่ี วขอ้ งกบั การสง่ เสรมิ สากลว่าด้วยสิทธิมนุษยชน เม่ือวันท่ี 10 ธันวาคม 2491 ปกป้อง และคุ้มครองสิทธิมนุษยชนอย่างกว้างขวาง (ค.ศ. 1948) และได้ถือเอาวันท่ี 10 ธันวาคมของทุกปี ประชาชนได้รับรู้ เรียนรู้ และเข้าใจเรื่องสิทธิมนุษยชน เป็นวันสิทธิมนุษยชน (Human Rights Day) โดยใน มากขน้ึ กิจกรรมภายในงาน ประกอบดว้ ย ปี 2561 น้ี เปน็ ปที ค่ี รบรอบ 70 ปขี องปฏญิ ญาสากลวา่ ดว้ ย สิทธิมนุษยชน แม้ปฏิญญาฉบับน้ีจะไม่มีผลบังคับใช้ • การปาฐกถาพิเศษ โดยประธานกรรมการ ทางกฎหมาย แต่ปฏิญญาฉบับน้ีก็มีพลังยิ่งกว่ากฎหมาย สทิ ธิมนุษยชนแหง่ ชาติ นายวสั ตงิ สมติ ร ในหวั ขอ้ “70 ปี หลายฉบบั เนือ่ งจากเปน็ เอกสารสทิ ธมิ นษุ ยชนส�ำ คัญของ ปฏญิ ญาสากล: สทิ ธิมนุษยชนก้าวไกลสสู่ งั คมไทยยงั่ ยนื ” โลกที่แสดงให้เห็นถึงความมุ่งหมายของมวลมนุษยชาติ ที่ต้องการรว่ มกนั สร้างความเทา่ เทียม ไมแ่ บ่งแยก เพอื่ ให้ • การฉายวดี ทิ ศั น์ “เหลียวหลงั แลหน้า บนเส้นทาง ทุกคนเคารพในสิทธิ เสรีภาพ ความเสมอภาค และ สทิ ธมิ นษุ ยชนในประเทศไทย” ซง่ึ กลา่ วถงึ การเกดิ ปฏญิ ญา เห็นคุณค่าของศักด์ิศรีความเป็นมนุษย์ คณะกรรมการ สากลว่าด้วยสิทธิมนุษยชนและพัฒนาการของเร่ือง สิทธิมนุษยชนแห่งชาติเห็นความสำ�คัญของวันดังกล่าว สิทธมิ นษุ ยชนท่ีผา่ นมา 70 ปี และรายงานผลการประเมิน ทรี่ �ำ ลกึ ถงึ การประกาศปฏญิ ญาสากลวา่ ดว้ ยสทิ ธมิ นษุ ยชน สถานการณ์ด้านสิทธิมนุษยชนของประเทศไทย ประจำ�ปี ซึ่งองค์การสหประชาชาติได้มีมติรับรอง เม่ือวันที่ 2561 โดยแบ่งเนื้อหาออกเป็น 4 กลุ่ม ประกอบด้วย 10 ธันวาคม 2491 เพื่อเป็นมาตรฐานในการส่งเสริม 1) สทิ ธพิ ลเมอื งและสทิ ธทิ างการเมอื ง 2) สทิ ธทิ างเศรษฐกจิ และคุ้มครองสิทธิมนุษยชนของประชาชนทั่วโลก โดยมี สังคม และวัฒนธรรม 3) สิทธิมนุษยชนของบุคคล และ วัตถุประสงค์ ดงั นี้ 4) สถานการณห์ ลกั 3 ประเด็น ไดแ้ ก่ สิทธชิ มุ ชนในการ จัดการทรัพยากรธรรมชาติและส่ิงแวดล้อม สถานการณ์ 1) เพ่ือร่วมรำ�ลึกถึงความสำ�คัญของวันสิทธิมนุษยชน ในพืน้ ท่จี งั หวดั ชายแดนภาคใต้ และการคา้ มนษุ ย์ สากล ซึ่งเป็นวันท่ีสหประชาชาติมีมติรับรอง ปฏญิ ญาสากลว่าดว้ ยสิทธมิ นษุ ยชน • การมอบรางวัลเกียรติยศ “ผู้อุทิศตนเพ่ือ สิทธิมนุษยชน” รางวัลบุคคลและองค์กรท่ีมีผลงานดีเด่น 2) เพื่อกระตุ้นให้เกิดกระแสสังคมให้ประชาชนสนใจ ด้านการส่งเสริม ปกป้อง และคุ้มครองสิทธิมนุษยชน และตระหนักถึงเรอื่ งสิทธิ เสรีภาพ ความเสมอภาค อย่างตอ่ เนอ่ื ง ประจ�ำ ปี 2561 เพ่ือใหส้ งั คมไดร้ บั รู้ เปน็ การ ศักด์ิศรีความเป็นมนุษย์ และการปฏิบัติตามหลัก สร้างขวัญกำ�ลังใจให้แก่บุคคล และองค์กรท่ีอุทิศตนเพ่ือ สิทธมิ นุษยชน สทิ ธมิ นษุ ยชนอยา่ งมงุ่ มน่ั ตลอดจนเปน็ การประชาสมั พนั ธ์ และเผยแพร่ประวัติ ผลงานเพื่อเป็นแบบอย่างและ 3) เพ่ือรณรงค์เผยแพร่ความรู้ด้านสิทธิมนุษยชน แรงบันดาลใจแก่บุคคลอ่ืนในสังคม โดยมีการมอบรางวัล ท่หี ลากหลายให้สาธารณชนได้รับร้แู ละเรียนร้อู ย่าง “ผู้อุทิศตนเพื่อสิทธิมนุษยชน” จำ�นวน 3 ราย และ กวา้ งขวาง 4) เพื่อส่งเสริมความร่วมมือในการดำ�เนินงาน ด้านสิทธิมนุษยชนและประสานการทำ�งานร่วมกัน เป็นเครอื ข่ายกับหน่วยงานท่เี ก่ยี วข้อง
121 รางวัลบุคคลและองค์กรที่มีผลงานดีเด่นด้านการส่งเสริม 2.2 ประเภทเดก็ และเยาวชน (อายไุ ม่เกนิ 25 ป)ี บทที่ ปกป้อง และคุ้มครองสิทธิมนุษยชน ประจำ�ปี 2561 จ�ำ นวน 1 ราย ไดแ้ ก่ สโมสรนกั ศกึ ษาวทิ ยาลยั 1 ในแต่ละประเภท จำ�นวน 10 ราย ดงั รายชอ่ื ตอ่ ไปนี้ นวัตกรรมสงั คม มหาวิทยาลยั รงั สิต บทท่ี 1. รางวัลเกียรติยศ “ผู้อุทิศตนเพื่อสิทธิมนุษยชน” 2.3 ประเภทสือ่ มวลชน จ�ำ นวน 3 ราย ไดแ้ ก่ 2 จำ�นวน 3 ราย ไดแ้ ก่ 2.3.1 นางสาวนลทั พร ไกรฤกษ์ บทที่ 1.1 นางซนิ เทียค่า (แพทย์หญิงซนิ เธีย หม่อง) 2.3.2 นางสาวหทัยรตั น์ พหลทัพ 3 1.2 ผ้ชู ่วยศาสตราจารย์ สุชาติ เศรษฐมาลนิ ี 2.3.3 Mr. Luke Duggleby บทที่ 1.3 นายเสรี นนทสตู ิ 4 2.4 ประเภทองค์กรภาคเอกชน จำ�นวน 3 ราย บทท่ี 2. รางวัลบุคคลและองค์กรที่มีผลงานดีเด่นด้านการ ได้แก่ 5 สง่ เสรมิ ปกปอ้ ง และคมุ้ ครองสทิ ธมิ นษุ ยชน ประจ�ำ ปี 2.4.1 เครอื ขา่ ยปฏริ ปู ท่ดี นิ เทอื กเขาบรรทดั 2561 จ�ำ นวน 10 ราย แบง่ เปน็ แตล่ ะประเภท ดังนี้ 2.4.2 ฝ่ายสตรี สหพนั ธ์เกษตรกรภาคใต้ 2.1 ประเภทบุคคลทั่วไป จ�ำ นวน 3 ราย ได้แก่ 2.4.3 มูลนธิ เิ พ่อื ผบู้ รโิ ภค 2.1.1 นายฐติ ญิ านนั ท์ หนักป้อ 2.1.2 นายแพทย์สุภัทร ฮาสวุ รรณกิจ ภาค 2.1.3 นางอภนั ตรี เจรญิ ศักดิ์ ผนวก
รายงานผลการปฏบิ ัติงานคณะปกรระรจมำ�กปาีงรบสปทิ รธะิมมนาณุษยพชน.ศแ.ห2ง่ 5ช6าต2ิ 122 คณะกรรมการสิทธมิ นษุ ยชนแหง่ ชาติ ผูไ้ ด้รับรางวลั ทัง้ 9 ราย การมอบรางวัลให้แก่บุคคลและองค์กรที่มีผลงาน ทั้งนี้ สำ�นักงานคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ดเี ดน่ ดา้ นการสง่ เสรมิ ปกปอ้ ง และคุม้ ครองสทิ ธมิ นษุ ยชน ได้ดำ�เนินงานร่วมกับบุคคลและองค์กรที่ได้รับรางวัล ก่อให้เกิดขวัญและกำ�ลังใจแก่บุคคลและองค์กรในการ อย่างต่อเนื่อง โดยเชิญผู้ที่ได้รับรางวัลเป็นวิทยากร ที่จะปฏิบัติงานให้ดียิ่งขึ้นในฐานะเป็นบุคคลและองค์กร เผยแพร่ความรู้ด้านสิทธิมนุษยชนในโครงการต่าง ๆ ที่ได้รับการยกย่องให้เป็นผู้ที่อุทิศตนและมีบทบาทสำ�คัญ มีการแลกเปลี่ยนแนวคิดและประสบการณ์กับนักปกป้อง ในการปฏิบัติงานด้านการส่งเสริม ปกป้องและคุ้มครอง สิทธิมนุษยชนเพื่อร่วมกันหาแนวทางป้องกันและแก้ไข สิทธมิ นษุ ยชน ทำ�ให้ส่งผลดีทัง้ ตอ่ ตนเองและผลประโยชน์ ปัญหาด้านสิทธิมนุษยชนภายในประเทศ รวมทั้งส่งเสริม ของประเทศโดยส่วนรวม อีกทั้งการเผยแพร่ประวัติ ให้สังคมไทยเป็นสังคมแห่งการส่งเสริม สิทธิเสรีภาพ และผลงานของบุคคลและองค์กรที่ได้รับรางวัลดังกล่าว และความเท่าเทียม โดยคำ�นึงถึงศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ ทำ�ให้ประชาชนได้เห็นความสำ�คัญของการส่งเสริม เพื่อนำ�ไปสู่สังคมสันติสุข ปกป้องและคุ้มครองสิทธิมนุษยชน และเห็นตัวอย่าง 3.2) โครงการจัดงานวันสตรีสากล 8 มีนาคม และ การทำ�งานของผู้ได้รับรางวัลที่สามารถนำ�ไปเป็น ประกาศเกียรติยศ “ผู้หญิงนักปกป้องสิทธิมนุษยชน” แบบอยา่ งและเปน็ แรงบนั ดาลใจในการท�ำ งาน เพือ่ รว่ มกนั ประจ�ำ ปี 2562 ทำ�ให้การละเมิดสิทธิมนุษยชนลดลงและคนในสังคม อยู่ร่วมกันอย่างสงบสุข หลายปที ผี่ า่ นมาประเทศไทยมนี กั ปกปอ้ งสทิ ธมิ นษุ ยชน หลายคนทงั้ หญงิ และชายถกู สงั หาร ถกู อมุ้ หาย ถกู ท�ำรา้ ย • การมอบรางวลั ผชู้ นะการแขง่ ขนั โตว้ าทสี ทิ ธมิ นษุ ยชน หรือถูกคุกคาม รวมถึงการคุกคามทางเพศ ซ่ึงพบว่า ภาษาอังกฤษ ระดับอุดมศึกษา และได้เป็นผู้แทน มีหลายกรณีท่ีไม่สามารถน�ำตัวผู้กระท�ำผิดมาลงโทษ ประเทศไทยเขา้ รว่ มการแขง่ ขนั โตว้ าทสี ทิ ธมิ นษุ ยชน ตามกฎหมายได้ และบ่อยคร้ังที่มีการน�ำเรื่องเพศสภาพ ระดับเยาวชนในประชาคมอาเซียน ประจำ�ปี 2561 มาลดทอนศักดิ์ศรีและคุณค่าความเป็นมนุษย์ของผู้หญิง (AICHR Youth Debates on Human Rights) นักปกป้องสิทธิมนุษยชน ซึ่งส่งผลกระทบต่อวิถีชีวิตของ ณ กรงุ พนมเปญ ราชอาณาจกั รกมั พชู า ผู้หญิงนักปกป้องสิทธิมนุษยชน ส�ำนักงานคณะกรรมการ สิทธิมนุษยชนแห่งชาติจึงได้ก�ำหนดจัดงานวันสตรีสากล • การจัดนิทรรศการเพื่อแสดงประวัติและผลงาน 8 มีนาคม โดยมีวัตถุประสงค์เพ่ือเชิดชูเกียรติ สร้างขวัญ ของผู้ได้รับรางวัลดังกล่าว และนิทรรศการของ ก�ำลงั ใจในการเสยี สละ อทุ ศิ ตนในการตอ่ สเู้ พอ่ื สทิ ธมิ นษุ ยชน หนว่ ยงานภาครฐั ภาคเอกชน และองคก์ รเครอื ขา่ ย แก่ผู้หญิงนักปกป้องสิทธิมนุษยชนอันเป็นแบบอย่าง เพ่ือเผยแพร่ความรู้สิทธิมนุษยชนสู่สังคมอย่าง กว้างขวาง
123 ที่ดีของสังคม รวมท้ังเป็นการส่งเสริมให้สังคมเกิดการ 1) เครอื ขา่ ยผหู้ ญงิ กลมุ่ รกั ษน์ ำ�้ อนู ผปู้ กปอ้ งสทิ ธชิ มุ ชน บทท่ี รับรู้ในวงกว้าง จนเกิดความตระหนักถึงบทบาทของ จากผลกระทบของโครงการสร้างโรงน�้ำตาล และ 1 ผู้หญิงนักปกป้องสิทธิมนุษยชนและความส�ำคัญของ โรงไฟฟ้าชีวมวล จังหวัดสกลนคร วนั สตรสี ากล ในโอกาสวนั สตรสี ากล ส�ำนกั งานคณะกรรมการ บทท่ี สิทธิมนุษยชนแห่งชาติได้จัดงานวันสตรีสากล 8 มีนาคม 2) เครือข่ายปกป้องสิทธิผู้หญิงมุสลิมในจังหวัด 2 และประกาศเกียรติยศ “ผู้หญิงนักปกป้องสิทธิมนุษยชน” ชายแดนภาคใต้ ผู้ทำ�งานในประเด็นการยุติ บทที่ ป ระจ�ำ ปี 2562 เ ม่ือวันที่ 7 มีนาคม 2 5 6 2 ความรุนแรงในครอบครัว 3 ณ หอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร ผู้เข้าร่วม บทท่ี กิจกรรม ประกอบด้วย ผู้แทนจากภาครัฐ ภาคประสังคม 3) เครือข่ายสตรีม้งในประเทศไทย ผู้ต่อสู้กับปัญหา 4 ผู้แทนสถานเอกอัครราชทูตและคณะผู้แทนสหภาพยุโรป ความรุนแรงในครอบครัวจากวัฒนธรรมความเชื่อ บทท่ี ประจ�ำประเทศไทย ผู้แทนองค์กรระหว่างประเทศ ท้องถิ่น 5 จ�ำนวน 200 คน กิจกรรมภายในงาน ประกอบด้วย ภาค การปาฐกถา เรื่อง “มาตรการคุ้มครองผู้หญิงนักปกป้อง 4) มูลนิธิผู้หญิง องค์กรท่ีทำ�งานด้านสิทธิและ ผนวก สทิ ธมิ นษุ ยชน” โดยรองศาสตราจารย์ ดร.ปกปอ้ ง ศรีสนิท การเข้าถงึ ความยุติธรรมของผู้หญิงพม่ามุสลิม รองคณบดีฝ่ายวิจัยและบริการสังคม คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ การกล่าวแสดงความยินดี 5) นางสาวสุธาสินี แก้วเหล็กไหล ผู้ประสานงาน ต่อบุคคลและกลุ่มบุคคลท่ีได้รับการประกาศเชิดชูเกียรติ เครือข่ายเพื่อสิทธิแรงงานข้ามชาติ (MWRN) โดย Ms.Katia Chirizzi รองผู้แทนภูมิภาค ส�ำนักงาน ข้าหลวงใหญ่แห่งสหประชาชาติประจ�ำภูมิภาคเอเชีย 6) นางพะเยาว์ อัคฮาด สตรผี ู้เรียกร้องความยตุ ิธรรม ตะวันออกเฉียงใต้ และการมอบรางวัลประกาศเกียรติยศ สำ�หรับเหย่ือที่ได้รับผลกระทบจากการชุมนุม “ผู้หญิงนักปกป้องสิทธิมนุษยชน” ประจ�ำปี 2562 ทางการเมือง เมื่อวันที่ 19 พฤษภาคม 2533 ประกอบด้วย
รายงานผลการปฏบิ ัตงิ านคณะปกรระรจมำ�กปางี รบสปิทรธะมิมนาณุษยพชน.ศแ.ห2ง่ 5ช6าต2ิ 124 คณะกรรมการสทิ ธิมนษุ ยชนแห่งชาติ ทั้งนี้ ผู้ได้รับการประกาศเกียรติยศ “ผู้หญิง 3.3) โ ค ร ง ก า ร แ ข่ ง ขั น โ ต้ ส า ร ะ ว า ที สิ ท ธิ ม นุ ษ ย ช น นักปกป้องสิทธิมนุษยชน” ได้ร่วมกันอภิปราย ภาษาองั กฤษระดบั อดุ มศกึ ษา ถอดบทเรียนจากประสบการณ์การต่อสู้ของผู้หญิง นักปกป้องสิทธิมนุษยชนในเวทีดังกล่าว ซึ่งสามารถ การโต้สาระวาทีเป็นเทคนิคหนึ่งที่สามารถนำ� นำ�ไปใช้เป็นข้อมูลประกอบการพิจารณาแนวทาง มาใช้เพื่อปลูกฝังแนวคิดและหลักการสิทธิมนุษยชน การดำ�เนินงาน แก้ไขปัญหาและการพัฒนากลไกในการ สร้างกระบวนการเรียนรู้ การคิดวิเคราะห์ และจัดการ ส่งเสริมและคุ้มครองสิทธิมนุษยชนที่สำ�คัญ ดังนี้ ปัญหาต่าง ๆ ให้แก่เยาวชนได้เป็นอย่างดี เนื่องจาก เป็นการโต้สาระวาทีในเรื่องเกี่ยวกับสิทธิมนุษยชน 1) รัฐบาลควรเร่งพิจารณาแก้ไขปัญหาความรุนแรง ที่มีแก่นสาระสำ�คัญและมีประโยชน์บนพื้นฐานของ ซ�้ำซ้อนท่ีผู้หญิงกลุ่มชาติพันธุ์ ผู้หญิงนักปกป้อง ข้อมูลที่เป็นจริง มีกลุ่มเป้าหมาย ประกอบด้วย เยาวชน สิทธิมนุษยชน รวมถึงผู้หญิงกลุ่มเฉพาะอื่น ๆ ยังคงต้อง นิสิต นักศึกษาซึ่งกำ�ลังศึกษาในสถาบันการศึกษาระดับ เผชิญอยู่อันเกิดจากทัศนคติ ค่านิยม เศรษฐกิจและ อุดมศึกษาจากทุกภูมิภาคทั่วประเทศ คณะกรรมการ วัฒนธรรมทางสังคมท่ีมีลักษณะเหลื่อมล้�ำ ไม่เป็นธรรม สิทธิมนุษยชนแห่งชาติได้ร่วมกับกรมอาเซียน กระทรวง และเลือกปฏิบัติ การต่างประเทศ กรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ กระทรวง ยุติธรรม และผู้แทนไทยในคณะกรรมาธิการระหว่าง 2) รัฐบาลควรสร้างหลักประกันในการเข้าถึงความ รัฐบาลอาเซียนว่าด้วยสิทธิมนุษยชน ดำ�เนินการ ยุติธรรมของผู้หญิงทุกคน สร้างพื้นท่ีปลอดภัยอันเป็น จัดแข่งขันโต้สาระวาทีสิทธิมนุษยชนภาษาอังกฤษ ระดับ มิตรต่อผู้หญิง เพ่ิมความตระหนักรู้ถึงความอ่อนไหว อุดมศึกษา เพื่อส่งเสริมให้เยาวชนมีความรู้ ความเข้าใจ ทางเพศสภาพ หลีกเล่ียงการกระท�ำอันเป็นการละเมิดซ�้ำ แ ล ะ ป ลู ก ฝั ง ใ ห้ มี ค ว า ม ต ร ะ ห นั ก แ ล ะ รู้ คุ ณ ค่ า ข อ ง ต่อหญิงผู้เสียหายจากความรุนแรง การเคารพสิทธิมนุษยชน กระตุ้นให้เกิดความสนใจเรียนรู้ เรื่องสิทธิมนุษยชนในสถาบันการศึกษา ตลอดจนพัฒนา 3) รัฐบาลควรประกันการเพิ่มสัดส่วนของผู้หญิง ศักยภาพเยาวชนให้มีทักษะด้านการฟัง การคิด การพูด ในการเข้าไปมีส่วนร่วมในการตัดสินใจทุกระดับ ซ่งึ รวมถึง การใช้ภาษาและการนำ�เสนอโดยผ่านการเรียนรู้ การเข้าร่วมเป็นส่วนหนึ่งของกลไกต่าง ๆ ทั้งทางด้าน จากการแข่งขันโต้วาที นอกจากนี้ ยังเป็นการคัดเลือก การเมืองและกฎหมายเพื่อสร้างพื้นที่ให้ผู้หญิงได้มีโอกาส ผู้แทนเยาวชนไทย จำ�นวน 3 คน เข้าร่วมการแข่งขัน นำ�เสนอปัญหา รวมถึงมีส่วนร่วมกำ�หนดแนวทาง โต้วาทีสิทธิมนุษยชนระดับเยาวชนในประชาคมอาเซียน การปอ้ งกนั และแกไ้ ขปญั หาความรนุ แรง หรอื ปญั หาอืน่ ใด ประจำ�ปี 2562 ซึ่งประเทศไทยเป็นเจ้าภาพในการ ที่กระทบต่อสิทธิและคุณภาพชีวิตของผู้หญิง เช่น จัดแข่งขัน ระหว่างวันที่ 17-20 กันยายน 2562 ปัญหาความยากจน ปัญหาเชิงโครงสร้างทางเศรษฐกิจ ณ โรงแรมรอยัล ออคิด เชอราตัน กรุงเทพมหานคร ทั้งนี้ สังคม และวัฒนธรรม เป็นต้น การดำ�เนินการประกอบด้วย 1) การจัดสัมมนา เชิงปฏิบัติการ เรื่อง การส่งเสริมความรู้สิทธิมนุษยชน 4) รัฐบาลควรเพิ่มมาตรการในการเสริมสร้างความรู้ สำ�หรับนิสิตนักศึกษาเพื่อสร้างความรู้ความเข้าใจและ ความเข้าใจแก่เจ้าหน้าที่ของรัฐซึ่งมีหน้าที่บังคับ ลงพื้นที่ทำ�กิจกรรมด้านสิทธิมนุษยชน ระหว่างวันที่ ใช้กฎหมาย ให้มีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับการทำ�งาน 29 สิงหาคม -1 กันยายน 2562 ณ โรงแรมทีเค พาเลซ & ของนักปกป้องสิทธิมนุษยชน โดยเฉพาะการใช้สิทธิ คอนเวนชั่น กรุงเทพมหานคร และ 2) การแข่งขันโต้วาที ในการแสดงความคิดเห็นต่อประเด็นนโยบายสาธารณะ ในประเด็นสิทธิมนุษยชน เมื่อวันที่ 4 กันยายน 2562 โดยสุจริตอันเป็นวิสัยของประชาชนซึ่งสามารถกระทำ�ได้ ณ กระทรวงการต่างประเทศ กรุงเทพมหานคร ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 329 (3)
125 บทท่ี 1 บทที่ 2 บทที่ 3 3.4) โครงการงานประกาศผลรางวัล “อรรธนารีศวร • รางวัลด้านส่งเสริมความเข้มแข็งและศักยภาพ บทที่ ประจำ�ปี พ.ศ. 2561 ของชมุ ชนหลากหลายทางเพศ 4 • ประเภทบุคคล คอื บาทหลวงเอยี น แบก็ ซเ์ ตอร์ บทที่ สำ�นักงานคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ 5 ได้ร่วมกับสมาคมฟ้าสีรุ้งแห่งประเทศไทยจัดงานประกาศ • รางวลั แหง่ ความพยายาม (EFFORT RECOGNITION ภาค ผลรางวัลและประกาศเกียรติคุณต่อบุคคลและหน่วยงาน AWARD) ผนวก ที่ให้การสนับสนุนการทำ�งานของบุคคลที่มีความ • ชมรมรุง้ สรา้ งสรรค์ จังหวดั เชยี งราย หลากหลายทางเพศโดยปราศจากอคติและไม่เลือกปฏิบัติ • องค์กรพิงค์ม้ิงกี้เพื่อความหลากหลายทางเพศ ใช้ชื่อรางวัลว่า “รางวัลอรรธนารีศวร” โดยมีวัตถุประสงค์ ประเทศไทย จงั หวดั ลพบุรี เพื่อสนับสนุนและส่งเสริมสิทธิมนุษยชนของกลุ่ม ผู้มีความหลากหลายทางเพศ ยกระดับคุณภาพชีวิตของ 4) การสอื่ สารสาธารณะเพื่อสรา้ งวฒั นธรรมสทิ ธมิ นษุ ยชน บุคคลที่มีความหลากหลายทางเพศให้ดีขึ้น เพื่อให้สังคม ได้รับรู้และตระหนักถึงสิทธิของกลุ่มผู้มีความหลากหลาย คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติได้สื่อสาร ทางเพศและการอยู่ร่วมกันโดยปราศจากการเลือกปฏิบัติ สิทธิมนุษยชนต่อสาธารณชน โดยผ่านกลไกคณะทำ�งาน และอคติ รวมทั้งยกย่องและเชิดชูเกียรติบุคคลและ สื่อสารองค์กร สำ�นักงานคณะกรรมการสิทธิมนุษยชน ห น่ ว ย ง า น ด้ า น สิ ท ธิ ม นุ ษ ย ช น ที่ ใ ห้ ก า ร ส นั บ ส นุ น แห่งชาติ เพื่อให้ทราบถึงข้อเท็จจริง ข้อตระหนักรู้ การทำ�งานของบุคคลที่มีความหลากหลายทางเพศ ในหลักสิทธิมนุษยชนต่อสถานการณ์สิทธิมนุษยชน โดยปราศจากการเลือกปฏิบัติและอคติ โดยมีผู้ได้รับ ทง้ั ในประเทศและตา่ งประเทศ อกี ทง้ั เปน็ การสรา้ งการรบั รู้ รางวัล “อรรธนารีศวร ประจำ�ปี พ.ศ. 2561” ดังนี้ ให้สังคมเกิดความตระหนักถึงการไม่ละเมิดสิทธิมนุษยชน ในปงี บประมาณ พ.ศ. 2562 มแี ถลงการณค์ ณะกรรมการ • รางวัลมิตรภาพ (FRIENDSHIP AWARD) สิทธิมนุษยชนแห่งชาติไปยังสาธารณชนอย่างกว้างขวาง คอื เอกอคั รราชทูต โดนิก้า พอตตี้ เอกอัครราชทูต ผ่านเว็บไซต์ www.nhrc.or.th ดังนี้ แคนาดาประจำ�ประเทศไทย 1) เร่ือง ขอประณามการยึดโรงพยาบาลส่งเสริม • รางวลั แห่งความภาคภูมิใจ (PRIDE AWARD) สุขภาพ ตำ�บลกาหนั๊วะ และการก่อเหตุระเบิด • ประเภทบคุ คล คือ รศ.ดร.เสรี วงษม์ ณฑา ในพื้นท่ีภาคใต้ช่วงเทศกาลปีใหม่ 2562 (เม่ือวันท่ี • ประเภทองคก์ ร คอื Gisney Land Taiwan 31 ธนั วาคม 2561) • รางวัลด้านส่งเสริมสุขภาพในชุมชนหลากหลาย 2) เร่ือง ขอประณามการก่อเหตุฆาตกรรมและ ทางเพศ ลอบวางระเบดิ คาร์บอมบห์ นา้ หนว่ ย ตชด. สงขลา • ประเภทบคุ คล คอื แพทยห์ ญงิ จริ าภรณ์ อรณุ ากรู (เมื่อวนั ท่ี 9 มกราคม 2562) • ประเภทองค์กร คอื มูลนธิ เิ พอ่ื พนกั งานบรกิ าร (SWING) 3) เรือ่ ง ขอให้นำ�เสนอข่าวการหายตวั ไปของเดก็ หญงิ โดยเคารพในหลักสิทธเิ ดก็ กฎหมาย และจริยธรรม • รางวัลด้านส่งเสริมสิทธิมนุษยชนของชุมชน วิชาชีพ (เม่อื วันท่ี 13 มกราคม 2562) หลากหลายทางเพศ • ประเภทบุคคล คือ คณุ นาดา ไชยจิตต์
รายงานผลการปฏิบตั ิงานคณะปกรระรจมำ�กปางี รบสปทิ รธะิมมนาณุษยพชน.ศแ.ห2่ง5ช6าต2ิ 126 คณะกรรมการสิทธมิ นษุ ยชนแหง่ ชาติ 4) เร่ือง ความห่วงใยต่อวิกฤตการณม์ ลพิษทางอากาศ “มดจว๋ิ สรี งุ้ ” และชกั ชวนใหผ้ ใู้ หญเ่ ปดิ โอกาสรบั ฟงั ค�ำ ตอบ ในภาคเหนอื ทสี่ ง่ ผลกระทบตอ่ สทิ ธใิ นการมสี ขุ ภาพ จากเด็ก ๆ ไมด่ ว่ นสรุปและตัดสินใจซึง่ เปน็ การเคารพสิทธิ ทดี่ ีของประชาชน (เมอื่ วนั ที่ 3 เมษายน 2562) ของเดก็ อยา่ งสรา้ งสรรค์ และท�ำ ใหป้ ระชาชนทว่ั ไปมคี วามรู้ ความเข้าใจเร่ืองสทิ ธิมนษุ ยชนภายในระยะเวลาอันสัน้ 5) เรอ่ื ง ขอประณามการกอ่ เหตลุ อบวางระเบดิ บรเิ วณ ตลาดบอ่ ทองปตั ตานี (เมอ่ื วนั ท่ี 28 พฤษภาคม 2562) 2) โครงการประกวดคลิปสั้นส่งเสริมสิทธิมนุษยชน เพื่อส่งเสริมการเคารพสิทธิมนุษยชนผ่านรูปแบบคลิปสั้น 6) เร่ือง ความห่วงใยต่อกรณีนักกิจกรรมการเมือง ที่สอดคล้องกับพฤติกรรมของผู้รับสื่อในปัจจุบัน ถูกทำ�ร้ายและขอให้หน่วยงานของรัฐนำ�ผู้กระทำ� สำ�นักงานคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติได้จัด ความผดิ มาลงโทษตามกระบวนการยตุ ธิ รรมโดยเรว็ กิจกรรมการประกวดคลิปสั้นส่งเสริมสิทธิมนุษยชน (เม่อื วันท่ี 29 มถิ นุ ายน 2562) หัวข้อ “สิทธิมนุษยชน... เรื่องรอบตัว” หรือ Human Rights are All Around ประจำ�ปี 2562 ขึ้น โดยเปิด ท้ังน้ี เพ่ือสร้างวัฒนธรรมสิทธิมนุษยชนในสังคมไทย โอกาสให้นิสิต นักศึกษา และประชาชนทั่วไปได้ร่วม คณะกรรมการสทิ ธมิ นษุ ยชนมกี ารด�ำ เนนิ โครงการทส่ี �ำ คญั แบ่งปันมุมมองและความเข้าใจต่อเรื่องสิทธิมนุษยชน ในการประชาสมั พันธ์เพอ่ื ส่ือสารสิทธิมนษุ ยชน ดงั นี้ ผ่านการผลิตสื่อในรูปแบบคลิปสั้นที่สามารถสื่อสารและ 4.1) โครงการผลติ สอ่ื ดจิ ทิ ลั สง่ เสรมิ สทิ ธมิ นษุ ยชนเผยแพร่ ถ่ายทอดประเด็นสำ�คัญเรื่องสิทธิมนุษยชน จากนามธรรม ผ่านส่ือออนไลน์ สู่รูปธรรมได้อย่างกระชับและน่าสนใจซึ่งมีผู้สนใจ ส่งผลงานเข้าร่วมประกวดทั้งสิ้น 61 เรื่อง แบ่งเป็น 1) นทิ านสง่ เสรมิ สทิ ธเิ ดก็ เรอ่ื ง “มดจวิ๋ สรี งุ้ ” ในรปู แบบ ประเภทอุดมศึกษา 32 เรื่อง และประเภทประชาชนทั่วไป Motion Graphic เป็นส่ือสร้างสรรค์เป็นภาพกราฟิก 29 เรื่อง และมีการประกาศและมอบรางวัล เมื่อวันที่ แบบเคลอ่ื นไหว โดยมวี ตั ถปุ ระสงคเ์ พอ่ื ปลกู ฝงั ใหเ้ ดก็ เยาวชน 25 กันยายน 2562 ดังนี้ รู้จักเคารพในตัวเองและยอมรับในความแตกต่างของ กนั และกนั เสรมิ การมองโลกอยา่ งมจี นิ ตนาการผา่ นตวั ละคร E-book Motion graphic
127 ประเภทประชาชนทั่วไป จ�ำ นวน 6 รางวัล ไดแ้ ก่ อนึ่ง ผู้สนใจรับชมผลงานนิทานส่งเสริมสิทธิเด็ก บทที่ • ทีม IN DEEP SOUTH ผลงานเร่ือง ขอเป็น เรื่อง “มดจิ๋วสีรุ้ง” ในรูปแบบ Motion Graphic และ 1 คนไทย ได้รบั รางวลั ชนะเลศิ คลิปส้ันที่ได้รับรางวัลทั้ง 9 เรื่อง หรือต้องการนำ�ผลงาน • ทีมเล่าผ่านเลนส์ ผลงานเร่ือง ทุนไทยบนหลัง ไปเผยแพร่ไปใช้ประโยชน์ในการเสริมสร้างความตระหนัก บทท่ี ทวาย ได้รบั รางวัลรองชนะเลศิ อนั ดบั 1 ด้านสิทธิมนุษยชนร่วมกัน สามารถติดตามรับชมผลงาน 2 • ทมี Filmseree ผลงานเรอ่ื ง เดก็ ชายกบั ซองขนม ทง้ั หมดทางเวบ็ ไซตส์ �ำ นกั งานคณะกรรมการสทิ ธมิ นษุ ยชน บทที่ ไดร้ ับรางวลั รองชนะเลิศ อนั ดบั 2 แห่งชาติ (www.nhrc.or.th) หรือช่องทางยูทูปของ 3 • ทมี สงั กะลี ผลงานเรอ่ื ง จติ ส�ำ นกึ ไดร้ บั รางวลั ชมเชย ศูนยส์ ารสนเทศสิทธิมนษุ ยชน บทท่ี • ทีมลอยฟ้าสตูดิโอ โรงเรียนอุ้มผางวิทยาคม 4.2) โครงการประชาสมั พนั ธเ์ พอ่ื การสอ่ื สารสทิ ธมิ นษุ ยชน 4 จงั หวดั ตาก ผลงานเรอ่ื ง กมุ ภา ไดร้ บั รางวลั ชมเชย บทที่ • ทมี We are family ผลงานเรอ่ื ง We are family การผลติ สอ่ื และเผยแพรป่ ระชาสมั พนั ธเ์ พอื่ การสอื่ สาร 5 ได้รบั รางวัลชมเชย สิ ท ธิ ม นุ ษ ย ช น ผ่ า น สื่ อ วิ ท ยุ เ พ่ื อ เ ผ ย แ พ ร่ ใ ห้ ค ว า ม รู้ ภาค ความเขา้ ใจเรอ่ื งสทิ ธมิ นษุ ยชนและสถานการณส์ ทิ ธมิ นษุ ยชน ผนวก ประเภทอดุ มศกึ ษา จ�ำ นวน 3 รางวัล ได้แก่ ท้ังในและต่างประเทศ กระตุ้นให้สังคมเกิดการตระหนัก • ทีม Shura Media มหาวิทยาลัยราชภัฏยะลา และเคารพสิทธิของตนเองและผู้อ่ืนรวมทั้งเป็นการ ผลงานเรื่องปลายดินสอ ได้รับรางวัลรองชนะ ประชาสัมพันธ์ภาพลักษณ์และกิจกรรมขององค์กร เลศิ อนั ดับ 2 คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติในรายการ “คุยกับ • ทีม It’s mornor rights here มหาวิทยาลัย คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ” ออกอากาศสด นเรศวร ผลงาน เรื่อง Always beside you ทางสถานีวิทยุกระจายเสียงรัฐสภา คลื่น FM 87.5 KHz ได้รบั รางวลั ชมเชย ทกุ วันพุธของสัปดาหเ์ วลา 21.00-21.30 น. และรายการ • ทมี Hang out มหาวทิ ยาลยั เทคโนโลยรี าชมงคล “หยิบมาถก ยกมาคุย” ออกอากาศสดทางสถานีวิทยุ กรงุ เทพ ผลงาน เร่อื ง Homeless’s life ไดร้ ับ แห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย คล่ืน FM 101.5 KHz รางวลั ชมเชย ทกุ วันพฤหัสบดขี องสัปดาห์ เวลา 13.05-13.55 น. รวมท้ัง การจดั นทิ รรศการเพอ่ื เผยแพรค่ วามรเู้ กย่ี วกบั สทิ ธมิ นษุ ยชน ในโอกาสและสถานที่ต่าง ๆ รวมท้ังมีการประสาน ความร่วมมือในการจัดนิทรรศการสัญจรร่วมกับองค์กร ภาคเี ครอื ขา่ ยตา่ ง ๆ อยา่ งตอ่ เนอ่ื ง อาทิ ส�ำ นกั งานผตู้ รวจการ แผ่นดิน สำ�นักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปราม การทจุ ริตแห่งชาติ เปน็ ต้น 4.3) โครงการผลติ สอ่ื สง่ิ พมิ พเ์ ผยแพรค่ วามรสู้ ทิ ธมิ นษุ ยชน และสอ่ื ประชาสัมพันธ์ เพื่อการประชาสัมพันธ์องค์กร ประกอบด้วย เอกสารเผยแพรค่ วามรสู้ ทิ ธมิ นษุ ยชน จ�ำ นวน 85,000 แผน่ แผ่นพับเกี่ยวกับคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ฉบับภาษาไทย จำ�นวน 20,000 แผ่น และแผ่นพบั เกยี่ วกบั คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ฉบับภาษาอังกฤษ จำ�นวน 3,000 แผน่
รายงานผลการปฏบิ ัตงิ านคณะปกรระรจมำ�กปาีงรบสปิทรธะิมมนาณษุ ยพชน.ศแ.ห2่ง5ช6าต2ิ 128 คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ 4.4) โครงการจดหมายข่าวมุมมองสิทธ์ิ คณะกรรมการ 5.1) โครงการสัมมนาทางวิชาการ เร่ือง “การลงโทษ สทิ ธมิ นษุ ยชนแห่งชาติ ทางอาญากับหลักสทิ ธมิ นุษยชน คร้งั ท่ี 2” ได้จัดทำ�จดหมายข่าวมุมมองสิทธ์ิ เพ่อื เผยแพร่ความรู้ สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภา นเรนทิรา ดา้ นสทิ ธมิ นษุ ยชนตอ่ สาธารณะ เดอื นละ 1 ฉบบั ตอ่ เนอ่ื งมา เทพยวดี กรมหลวงราชสาริณีสิริพัชร มหาวัชรราชธิดา 18 ปี โดยในปที ่ี 18 ได้จดั พิมพ์ฉบับที่ 10 เดือนตลุ าคม เสด็จพระดำ�เนินไปทรงเปิดงานสัมมนาทางวิชาการ เร่ือง 2562 ถงึ ปที ี่ 19 ฉบับที่ 9 กนั ยายน 2563 รวมจ�ำ นวน “การลงโทษทางอาญากับหลักสิทธิมนุษยชน ครั้งที่ 2” 12 ฉบบั ซ่ึงการจัดสัมมนาทางวิชาการในครั้งน้ี คณะกรรมการ สิทธิมนุษยชนแห่งชาติได้ร่วมกับหน่วยงานที่เก่ียวข้อง ประกอบด้วย กระทรวงยุติธรรม และสถาบันเพ่ือการ ยตุ ธิ รรมแหง่ ประเทศไทย จดั ขึ้นเมือ่ วนั ศุกรท์ ี่ 6 กนั ยายน 2562 ณ โรงแรมเซน็ ทรา บายเซ็นทารา ศนู ยร์ าชการและ คอนเวนชัน เซ็นเตอร์ กรุงเทพมหานคร มีวัตถุประสงค์ เพ่ือส่งเสริมความรู้ความเข้าใจด้านสิทธิมนุษยชนให้ หน่วยงานที่บังคับใช้กฎหมาย ตระหนักถึงความสำ�คัญ ของหลกั สทิ ธมิ นษุ ยชน โดยเฉพาะกรณเี กย่ี วกบั การลงโทษ ทางอาญากับหลักสิทธิมนุษยชน และเพ่ือผลักดัน ข้อเสนอแนะมาตรการหรือแนวทางแก้ไขปัญหาคนล้นคุก เน้นยตุ ธิ รรมเชิงสมานฉนั ท์ ม่งุ น�ำ คนดคี นื สสู่ ังคม 5) การตดิ ตาม วเิ คราะห์ ใหข้ อ้ เสนอแนะ และเขา้ ไปมสี ว่ นรว่ ม ในแผนยทุ ธศาสตรแ์ ผนปฏบิ ตั กิ าร หรอื กจิ กรรมทเ่ี กย่ี วขอ้ ง กับการส่งเสริมสิทธิมนุษยชนของหน่วยงานต่าง ๆ และจัดท�ำแผนความรว่ มมือกบั หน่วยงานตา่ ง ๆ ในปีงบประมาณ พ.ศ. 2562 คณะกรรมการ สิทธิมนุษยชนแห่งชาติได้ดำ�เนินโครงการ/กิจกรรม ดา้ นการสง่ เสรมิ สทิ ธมิ นษุ ยชนทส่ี �ำ คญั และขบั เคลอ่ื นหลกั การ ชี้แนะว่าด้วยธุรกิจกับสิทธิมนุษยชนของสหประชาชาติ ในประเทศไทย ดังน้ี
129 สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภา นเรนทิรา สามารถกลับคืนสู่สังคมได้ และชุมชนมีส่วนร่วมในการ บทที่ เทพยวดี กรมหลวงราชสาริณีสิริพัชร มหาวัชรราชธิดา แก้ไขปัญหา รวมทั้งการนำ�มาตรการทางเลือกอื่น ๆ เช่น 1 ทรงมีพระราชดำ�รัสเปิดงานสัมมนาว่ามีความยินดี การใช้เทคโนโลยีกำ�กับติดตามเข้ามาใช้แทนการลงโทษ ที่ได้มาร่วมในพิธีเปิดสัมมนาทางวิชาการครั้งนี้ คำ�ว่า ทางอาญา ทั้งนี้ เพื่อให้ผู้กระทำ�ความผิดได้รับการลงโทษ บทที่ “สิทธิมนุษยชน” มีความสำ�คัญและแสดงถึงสิทธิที่มนุษย์ ที่เหมาะสม และอยากที่จะกลับมาเป็นคนดีในสังคมได้ 2 ทุกคนพึงมีเพื่อทรงไว้ซึ่งศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์และ บทท่ี พึงได้รับความคุ้มครอง รวมถึงผู้ต้องขังที่อยู่ในเรือนจำ� มาตรการดา้ นสทิ ธมิ นษุ ยชนเพอื่ การลงโทษทางอาญาเปน็ 3 โดยต้นเหตุของการกระทำ�หลายครั้งมักเกิดขึ้นจากการ แนวทางปฏิบัติท่ีคำ�นึงถึงศักดิ์ศรีและคุณค่าความเป็นมนุษย์ บทท่ี ขาดโอกาส ขาดความรู้ และทางเลือกที่ถูกต้องในชีวิต สำ�หรับเด็กจะมีอนุสัญญาว่าด้วยสิทธิเด็กเพิ่มเข้ามา 4 ดังนั้นนอกเหนือจากการลงโทษด้วยการจำ�กัดเสรีภาพ เพื่อให้การกระทำ�ต่าง ๆ คำ�นึงถึงประโยชน์สูงสุดของเด็ก บทที่ แล้ว การคุ้มครองสิทธิขั้นพื้นฐานรวมทั้งการให้สิทธิ ซึ่งอนุสัญญานี้ถือเป็นฐานสำ�คัญที่ถูกนำ�มาใช้เป็นหลักคิด 5 ในการแก้ไขตนเองและการเรียนรู้ทักษะต่าง ๆ เพื่อแก้ไข ในการก�ำ หนดมาตรการพเิ ศษแทนการด�ำ เนนิ คดที างอาญา ภาค ปรับปรุงพฤติกรรมจึงเป็นสิ่งสำ�คัญ ที่ผ่านมาประเทศไทย เช่น การใช้กระบวนการประชุมกลุ่มบำ�บัด ฟื้นฟู แก้ไข ผนวก มีบทบาทนำ�ในการผลักดันมาตรฐานสากลที่คุ้มครอง หรือการไกล่เกลี่ย หรือที่เรียกว่า กระบวนการยุติธรรม สิทธิขั้นพื้นฐานของผู้ต้องขัง โดยเฉพาะผู้ต้องขังหญิง เชิงสมานฉันท์ เพื่อไม่ให้เด็กต้องถูกกักขังและได้มีโอกาส จนทำ�ให้สหประชาชาติรับรองข้อกำ�หนดสหประชาชาติ พัฒนาตนเอง ว่าด้วยการปฏิบัติต่อผู้ต้องขังหญิง และมาตรการที่มิใช่ การคุมขังสำ�หรับผู้กระทำ�ผิดหญิง ซึ่งถือเป็นก้าวสำ�คัญ การสัมมนาในคร้ังน้ีได้มีข้อเสนอแนะในการแก้ไข ในประวัติศาสตร์ด้านสิทธิมนุษยชนเพราะข้อกำ�หนด ปัญหากระบวนการยุติธรรมไทย ผ้ทู ่เี ก่ยี วข้องจะต้องกลับ กรุงเทพมหานคร ทำ�ให้นานาประเทศหันมาสนใจ มาพิจารณาต้ังแต่กระบวนการเรียนการสอนกฎหมาย เรื่องสิทธิขั้นพื้นฐานของผู้ต้องขังและนำ�ไปสู่การรับรอง ในระดบั มหาวทิ ยาลยั การบรู ณาการการท�ำ งานของหนว่ ยงาน ข้อกำ�หนดแมนเดลาในเวลาต่อมา ทเ่ี กย่ี วขอ้ งทง้ั ระบบ และผลกั ดนั ใหเ้ ปน็ วาระแหง่ ชาตเิ พอ่ื แกไ้ ข ปญั หาคนลน้ คกุ รวมทง้ั จะตอ้ งเพม่ิ ทางเลอื กในการลงโทษ ผู้เข้าร่วมการสัมมนาได้รับทราบข้อมูลสำ�คัญและ ทางอาญา คอื การบ�ำ เพญ็ ประโยชนห์ รอื บรกิ ารสาธารณะ มีโอกาสในการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นเรื่อง การลงโทษ ส่ิงเหล่าน้ีเป็นมาตรการท่ีจะต้องดำ�เนินการควบคู่ไปกับ ทางอาญากับหลักสิทธิมนุษยชน อาทิ “ยุติธรรมเชิง การสรา้ งความเขา้ ใจและลดอคตขิ องคนในสงั คม เพอ่ื ใหผ้ ตู้ อ้ งขงั สมานฉันท์” ปัจจุบันจำ�นวนผู้ต้องขังในไทยที่เพิ่มสูงถึง สามารถกลบั มาเปน็ ทรัพยากรท่สี ำ�คญั ของชาติไดอ้ ีกครงั้ เกือบสี่แสนคน ทำ�ให้ไทยครองอันดับ 6 ของโลก และ 5.2) การจดั สมั มนาวชิ าการระดบั ชาติ เรอ่ื ง “การเขา้ ถงึ เป็นอันดับ 1 ในกลุ่มประเทศอาเซียน จนเกิดภาวะ กระบวนการเยยี วยาทม่ี ปี ระสทิ ธภิ าพตามหลกั การชแ้ี นะ ที่เรียกว่า “คนล้นคุก” โดยสถิติผู้ต้องขัง 80% เป็น ของสหประชาชาตวิ ่าด้วยธรุ กจิ กับสิทธมิ นษุ ยชน” ผู้ต้องขังในคดียาเสพติด ทั้งนี้หากมองย้อนกลับไปถึง สาเหตุของจำ�นวนผู้ต้องขังที่เพิ่มสูงขึ้น จะพบว่าเกิดจาก เมื่อวันที่ 7 พฤศจิกายน 2561 ณ โรงแรม อนันตรา ปัญหาเชิงโครงสร้างที่กระบวนการยุติธรรมเน้นไปที่ ริเวอร์ไซด์ อาคารอวานี เขตธนบุรี กรุงเทพมหานคร การลงโทษผู้กระทำ�ความผิดและการแก้แค้นทดแทน เพื่อเป็นการเผยแพร่ความรู้ความเข้าใจในเรื่องหลักการ เป็นหลัก ซึ่งหากปล่อยให้เป็นเช่นนี้เรื่อยไป มีความกังวล ชี้แนะของสหประชาชาติว่าด้วยธุรกิจกับสิทธิมนุษยชน ว่าจะกลายเป็นระเบิดเวลาที่จะสร้างผลกระทบต่อ (UN Guiding Principles on Business and Human กระบวนการยุติธรรมไทยและสังคมทั้งระบบ ดังนั้น Rights) ให้แก่หน่วยงานต่างๆ ที่ทำ�หน้าที่เป็นกลไก จึงต้องปรับกระบวนทัศน์ในการแก้ไขปัญหาที่มุ่งเน้น ทางการยุติธรรมของรัฐ (State-based Judicial การลงโทษผู้กระทำ�ความผิดมาเป็นกระบวนการทำ�ให้ Mechanisms) กลไกการร้องทุกข์ที่ไม่ใช่กระบวนการ ผู้เสียหายได้รับการชดเชย เยียวยา ผู้กระทำ�ผิดได้รับ ยุติธรรมโดยรัฐ (State-based Non-judicial การฟื้นฟู แสดงความรับผิดชอบต่อการกระทำ�ของตน Mechanisms)
รายงานผลการปฏิบัตงิ านคณะปกรระรจมำ�กปาีงรบสปทิ รธะมิมนาณษุ ยพชน.ศแ.ห2ง่ 5ช6าต2ิ 130 คณะกรรมการสทิ ธมิ นษุ ยชนแหง่ ชาติ 5.3)การสมั มนาวชิ าการระดบั ชาติ เรอ่ื ง “สทิ ธมิ นษุ ยชน: ปัจจัยขับเคล่ือนความสามารถในการแข่งขันของ บริษัทจดทะเบียนไทยสู่ความยั่งยืนตามหลักการชี้แนะ เรื่องธุรกิจกับสิทธิมนุษยชนขององค์การสหประชาชาติ (UNGPs)” คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติร่วมกับ สำ � นั ก ง า น ค ณ ะ ก ร ร ม ก า ร กำ � กั บ ห ลั ก ท รั พ ย์ แ ล ะ ตลาดหลักทรัพย์จัดการสัมมนาวิชาการระดับชาติ เรื่อง “สิทธิมนุษยชน: ปัจจัยขับเคลื่อนความสามารถในการ แข่งขันของบริษัทจดทะเบียนไทยสู่ความยั่งยืนตาม หลักการชี้แนะเรื่องธุรกิจกับสิทธิมนุษยชนขององค์การ สหประชาชาติ (UNGPs)”และจัดพิธีลงนามในบันทึก ข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) เพื่อขับเคลื่อนธุรกิจและ สิทธิมนุษยชนด้วยการนำ�หลักการชี้แนะว่าด้วยธุรกิจ กับสิทธิมนุษยชนของสหประชาชาติไปปฏิบัติ ณ โรงแรม แกรนด์ ไฮแอท เอราวัณ กรุงเทพมหานคร 5.4) โครงการสร้างความเข้มแข็งในพ้นื ทจี่ งั หวัดชายแดนใต้ ในปีงบประมาณ พ.ศ. 2562 คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติได้แต่งตั้งคณะทำ�งานจัดทำ�คู่มือสิทธิมนุษยชน ศกึ ษาส�ำ หรบั เจา้ หนา้ ทีข่ องรฐั ในพืน้ ทีจ่ งั หวดั ชายแดนภาคใต้ ประกอบดว้ ย ผูแ้ ทนส�ำ นกั งานคณะกรรมการสทิ ธมิ นษุ ยชน แห่งชาติ ผู้แทนกรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ กระทรวงยุติธรรม และผู้แทนกองอำ�นวยการรักษาความมั่นคงภายใน ราชอาณาจักร ภาค 4 ส่วนหน้า รวมถึงผู้แทนสำ�นักงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อจัดทำ�คู่มือสิทธิมนุษยชนศึกษาสำ�หรับ เจ้าหน้าที่ของรัฐในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ทั้งในส่วนที่เป็นแนวคิดพื้นฐาน ความหมาย และเนื้อหาของสิทธิ ตามพันธกรณีระหว่างประเทศ รัฐธรรมนูญ และกฎหมาย รวมถึงการเคารพและไม่ล่วงละเมิดสิทธิเสรีภาพของผู้อื่น ตามหน้าที่ของพลเมือง และรับฟังความคิดเห็นเพื่อนำ�ไปปรับปรุงคู่มือดังกล่าวให้มีความถูกต้อง ครบถ้วน สมบูรณ์ เพื่อให้เจ้าหน้าที่รัฐในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้มีแนวทางการปฏิบัติงานที่มีมาตรฐานชัดเจน ซึ่งถือเป็นเครื่องมือ ในการป้องกันและแก้ไขปัญหาด้านสิทธิมนุษยชนในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้
131 5.5) โครงการเสวนาวชิ าการระดบั ชาติ เรอ่ื ง “การเขา้ ถงึ 3) กลไกการร้องทุกข์ในระดับปฏิบัติการโดยภาคธุรกิจ บทที่ กระบวนการเยียวยาท่ีมีประสิทธิภาพ (Access to ท้ังนี้ การส่งเสริมภาคธุรกิจให้เคารพสิทธิมนุษยชน 1 Remedy) ตามหลกั การชแี้ นะของสหประชาชาตวิ า่ ดว้ ย จะไม่ประสบความส�ำเร็จได้หากปราศจากการด�ำเนินการ ธุรกจิ และสทิ ธมิ นษุ ยชน” ตามเสาหลักท่ี 3 “การเข้าถึงกระบวนการเยียวยา” บทที่ (Access to Remedy) โดยภาครัฐต้องมีกระบวนการ 2 ค ณ ะ ก ร ร ม ก า ร สิ ท ธิ ม นุ ษ ย ช น แ ห ่ ง ช า ติ ไ ด ้ เ ชิ ญ ท่ีท�ำให้แน่ใจได้ว่าผู้เสียหายสามารถเข้าถึงการเยียวยา บทที่ หน่วยงานท่ีเก่ียวข้องกับกระบวนการเยียวยาการละเมิด ที่มีประสิทธิภาพ ไม่ว่าจะเป็นกลไกทางศาลหรือกลไก 3 สิทธิมนุษยชนจากกิจกรรมทางธุรกิจ ประกอบด้วย ท่ีนอกเหนือจากศาล หรือกระบวนการทางปกครอง บทท่ี ผู ้ แ ท น ค ณ ะ ทู ต แ ล ะ อ ง ค ์ ก า ร ร ะ ห ว ่ า ง ป ร ะ เ ท ศ และเม่ือปรากฏว่าธุรกิจกระท�ำหรือมีส่วนท�ำให้เกิด 4 ในประเทศไทย ผู้แทนหน่วยงานหน่วยงานภาครัฐ ผลกระทบทางลบต่อสิทธิมนุษยชน ภาคธุรกิจก็ถูก บทท่ี ในกระบวนการยุติธรรม ผู้แทนสหประชาชาติ และ คาดหวงั ใหเ้ ปน็ สว่ นหนงึ่ ในกระบวนการบรรเทาผลกระทบ 5 สมาคมธุรกิจท่ีเกี่ยวข้องเข้าร่วมการเสวนาวิชาการ ต่อบุคคล/ชุมชนในระดับปฏิบัติการ การเสวนาครั้งน้ี ภาค ระดับชาติ เร่ือง “การเข้าถึงกระบวนการเยียวยา จึงเป็นประโยชน์ต่อการขับเคลื่อนหลักการช้ีแนะ ผนวก ที่มีประสิทธิภาพ ตามหลักการชี้แนะของสหประชาชาติ ของสหประชาชาติว่าด้วยเรื่องธุรกิจกับสิทธิมนุษยชน ว่าด้วยธุรกิจกับสิทธิมนุษยชน” ณ โรงแรมอนันตรา อันจะน�ำไปสู่การสร้างความเชื่อมั่นของนานาประเทศ ริเวอร์ไซต์ กรุงเทพมหานคร มีวัตถุประสงค์เพ่ือเป็นการ ในเรื่องการท�ำธุรกิจท่ีเคารพสิทธิมนุษยชน อภิปรายและเผยแพร่ความรู้ความเข้าใจในหลักการช้ีแนะ 5.6) โครงการส่งเสริมสิทธิของกลุ่มชาติพันธุ์ และ ของสหประชาชาติว่าด้วยเรื่องธุรกิจกับสิทธิมนุษยชน คนไทยพลัดถนิ่ (UN Guiding Principles on Business and Human Rights: UNGPs) ให้แก่หน่วยงานต่าง ๆ ท่ีท�ำหน้าท่ี ในปีงบประมาณ พ.ศ. 2562 คณะกรรมการ เก่ียวข้องกับการเข้าถึงการเยียวยา เพื่อขับเคลื่อน สิทธิมนุษยชนแห่งชาติได้ดำ�เนินโครงการเพื่อส่งเสริม หลักการช้ีแนะของสหประชาชาติว่าด้วยเรื่องธุรกิจกับ ความรู้ ความเข้าใจ เกี่ยวกบั สทิ ธแิ ละการค้มุ ครองวิถชี ีวิต สิทธิมนุษยชน อันจะน�ำไปสู่การสร้างความเชื่อมั่นของ ตามประเพณีและวัฒนธรรมท้องถิ่น และสนับสนุนให้ นานาประเทศต่อประเทศไทยในเรื่องการท�ำธุรกิจที่ไม่มี กลุ่มชาติพันธ์ุ และคนไทยพลัดถ่ินสามารถเข้าถึง การละเมิดสิทธิมนุษยชน สิทธิของตน และเปิดพ้ืนที่ในการแสดงออกถึงอัตลักษณ์ ทางวัฒนธรรม รวมถึงส่งเสริมให้ประชาชนทั่วไปเข้าใจ การจัดงานเสวนาวิชาการ เรื่อง “การเข้าถึง ถึงวัฒนธรรมท้องถ่นิ และวถิ ชี ีวติ ของกล่มุ ชาตพิ ันธุ์ ดังน้ี กระบวนการเยียวยาที่มีประสิทธิภาพ (Access to Remedy) ตามหลักการชี้แนะของสหประชาชาติ 1) กิจกรรมรวมญาติชาติพันธุ์ชาวเล ภายใต้หัวข้อ ว่าด้วยธุรกิจและสิทธิมนุษยชน” ได้รับความสนใจ “เหลียวหลังแลหน้า 9 ปี มติ ครม. ชาวเล” เพ่ือส่งเสริม จากภาคส่วนต่าง ๆ ท้ังในประเทศและต่างประเทศ การพัฒนาสิทธิต่าง ๆ ของกลุ่มชาติพันธุ์ชาวเลอย่างย่ังยืน เป็นอย่างมาก โดยมีผู้เข้าร่วมสัมมนาประมาณ 300 คน และติดตามผลการปฏิบัติงานตามมติคณะรัฐมนตรี ผู้เข้าร่วมการเสวนาคร้ังน้ีได้รับความรู้ความเข้าใจ เมื่อวันท่ี 2 มิถุนายน 2553 เร่ือง การฟื้นฟูวิถีชีวิตชาวเล ในหลักการช้ีแนะของสหประชาชาติว่าด้วยเรื่องธุรกิจกับ ผู้เข้าร่วมจ�ำนวน 550 คน ประกอบด้วย คณะกรรมการ สิทธิมนุษยชน (UN Guiding Principles on Business สิทธิมนุษยชนแห่งชาติ เครือข่ายกลุ่มชาติพันธุ์ชาวเล and Human Rights: UNGPs) โดยเฉพาะหนว่ ยงานตา่ ง ๆ ในพื้นที่ 5 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดระนอง พังงา ภูเก็ต กระบี่ ท่ีท�ำหน้าท่ีเกี่ยวข้องกับการเข้าถึงการเยียวยาโดยมุ่งไปที่ และสตลู รวม 44 ชมุ ชน ผแู้ ทนหนว่ ยงาน ภาคประชาสงั คม กลไกหลัก 3 ประเด็น ประกอบด้วย 1) กลไกทางการ ท่ีเก่ียวข้อง ได้แก่ กระทรวงมหาดไทย กระทรวง ยุติธรรมของรัฐ (State-based judicial Mechanisms) ทรัพยากรธรรมชาติและส่ิงแวดล้อม กระทรวงการพัฒนา 2) กลไกการร้องทุกข์ท่ีไม่ใช่กระบวนการยุติธรรมโดยรัฐ สังคมและความมั่นคงของมนุษย์ สถาบันพัฒนาองค์กร (State-Based non-judicial mechanism) และ
รายงานผลการปฏบิ ตั ิงานคณะปกรระรจมำ�กปาีงรบสปทิ รธะิมมนาณษุ ยพชน.ศแ.ห2่ง5ช6าต2ิ 132 คณะกรรมการสทิ ธมิ นุษยชนแห่งชาติ ชมุ ชน (องคก์ ารมหาชน) มลู นธิ ชิ มุ ชนไท ศนู ยม์ านษุ ยวทิ ยา ชาวเล 10 ประเด็น ได้แก่ ความม่ันคงด้านที่อยู่อาศัย สิรินธร และสถาบันวิจัยสังคม จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย การประกอบอาชีพด้านการประมงและทรัพยากร ระหว่างวันท่ี 1-2 ธันวาคม 2561 ณ สวนอนุสรณ์สึนามิ ทางบกโดยการผ่อนปรนให้ใช้อุปกรณ์ด้ังเดิมของชาวเล บ้านน้�ำเค็ม ต�ำบลบางม่วง อ�ำเภอตะกั่วป่า จังหวัดพังงา ปัญหาด้านสาธารณสุข การไม่มีบัตรประจ�ำตัวประชาชน โดยมีกิจกรรมการแสดงออกทางวัฒนธรรมเพ่ือแสดง การศึกษาของเด็ก การส่งเสริมด้านภาษาและวัฒนธรรม อัตลักษณ์ของแต่ละกลุ่มชาติพันธุ์ชาวเล เช่น การแสดง ท้องถิ่น การส่งเสริมชุมชนและเครือข่ายชาวเลให้เข้มแข็ง ประกอบเพลง “ตัวก็ไทยใจก็ไทย” ของกลุ่มเยาวชน ตลอดจนปัญหาด้านอคติทางชาติพันธุ์ซึ่งการด�ำเนินงาน มอแกลนบ้านน้�ำเค็ม การแสดงรองแง็งและการเสวนา ตามมติคณะรัฐมนตรีดังกล่าวผ่านมา 9 ปี แล้ว แต่พบว่า เพ่ือสะท้อนปัญหาของกลุ่มชาวเล กลุ่มชาติพันธุ์ชาวเล ปัญหาในหลายด้านยังไม่ได้รับการแก้ไขหรือการแก้ไข ประกอบด้วย ชาวอูรักลาโว้ย มอแกน และมอแกลน ให้แล้วเสร็จ การจัดกิจกรรมนี้ท�ำให้เกิดความเข้าใจ จ�ำนวน 2,800 ครอบครัว ประชากรประมาณ 14,000 คน ระหว่างชาวเลและหน่วยงานภาครัฐที่เก่ียวข้องมากขึ้น อาศัยอยู่บริเวณชายฝั่งอันดามันมานานกว่า 300 ปี น�ำไปสู่การแก้ไขปัญหาหลายประการ เช่น การพัฒนา ที่ได้รับผลกระทบจากนโยบายการพัฒนาท่ีมุ่งเน้น ที่อยู่อาศัยแบบแปลงรวมในพื้นที่ป่าชายเลน การท�ำ การเติบโตทางเศรษฐกิจ ได้แก่ การส่งเสริมการท่องเท่ียว ข้อตกลงร่วมกับกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช และการประกาศเขตอุทยานทางทะเล ส่งผลกระทบ การผ่อนปรนการท�ำประมงในเขตอุทยานแห่งชาติ ต่อวิถีและการด�ำรงชีวิตของกลุ่มชาติพันธุ์ชาวเล เป็นต้น แต่อย่างไรก็ตามการด�ำเนินงานก็ไม่อาจบรรลุ เป็นอย่างมาก เช่น ความไม่ม่ันคงในท่ีอยู่อาศัยและ เป้าหมายได้ เนื่องจากยังมีปัญหาด้านนโยบาย ส่งผลให้ ที่ท�ำกิน พ้ืนท่ีทางจิตวิญญาณ เป็นต้น ซึ่งหลายหนว่ ยงาน หน่วยงานภาครัฐท่ีเกี่ยวข้องขาดความม่ันใจในการ ทั้งภาครัฐและเอกชนได้ร่วมกับผู้แทนกลุ่มชาติพันธุ์ ด�ำเนินงานแก้ปัญหา จึงมีข้อเสนอแนะเพ่ือแก้ไขปัญหา ชาวเลจัดท�ำข้อเสนอแนะแนวทางแก้ไขจนน�ำไปสู่ ของชาวเล ตามมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันท่ี 2 มิถุนายน มตคิ ณะรฐั มนตรี เมอื่ วนั ท่ี 2 มถิ นุ ายน 2553 โดยมอบหมาย 2561 ที่เกิดจากกระบวนการมีส่วนร่วมและความเข้าใจ ให้หน่วยงานต่าง ๆ ร่วมกันแก้ไขปัญหาของกลุ่มชาติพันธุ์ ท่ีดีต่อกันจากทุกภาคส่วนอย่างเป็นระบบ ดังน้ี
133 • รัฐบาลควรจะมีการเผยแพร่ประชาสัมพันธ์ พิ สู จ น ์ แ ล ะ ก า ร รั บ ร อ ง ค ว า ม เ ป ็ น ค น ไ ท ย พ ลั ด ถิ่ น บทที่ เ รื่ อ ง ค ว า ม ส�ำ คั ญ แ ล ะ ห ลั ก ป ฏิ บั ติ ต า ม ม ติ ตามกฎหมายว่าด้วยการทะเบียนราษฎร ภายใต้ 1 คณะรัฐมนตรี เม่ือวันที่ 2 มิถุนายน 2553 และ หลักเกณฑ์และเงื่อนไขตามที่คณะรัฐมนตรีก�ำหนด มีหนังสือสั่งการไปยังหน่วยราชการท่ีเก่ียวข้อง เพื่อส่งเสริมและสนับสนุนบุคคลให้สามารถเข้าถึง บทท่ี ในพ้นื ทเี่ พอื่ เป็นแนวทางในการปฏิบัตติ ่อไป สิทธิ และบรกิ ารสาธารณะตา่ ง ๆ ทีป่ ระเทศไทยได้รบั รอง 2 ไว้ให้ประชาชนชาวไทยในฐานะพลเมือง ซึ่งกิจกรรม บทที่ • เห็นควรให้จัดต้ังคณะท�ำงานด้านแก้ไขปัญหา ดงั กลา่ วเปน็ การสรา้ งความรู้ ความเขา้ ใจเรอื่ งสทิ ธมิ นษุ ยชน 3 ชาติพันธุ์ชาวเลในพื้นท่ี 5 จังหวัด โดยมี ความส�ำคัญของการพิสูจน์สัญชาติและการรับรอง บทที่ องค์ประกอบจากภาคประชาสังคมและชุมชน ความเป็นคนไทยพลัดถิ่น ตลอดจนวิธีการจัดเก็บข้อมูล 4 มากกว่าก่ึงหน่ึง ให้มีหน้าที่ในการร่วมกันวางแผน ให้นักศึกษาและคณาจารย์ของมหาวิทยาลัยรังสิต บทที่ แก้ไขปัญหา รวมท้ังติดตามสรุปบทเรียน เพื่อให้นักศึกษาน�ำความรู้ท่ีได้ไปลงเก็บข้อมูลข้อมูลของ 5 และประมวลปัญหาที่ติดขัดเพ่ือพัฒนาข้อเสนอ คนไทยพลัดถิ่นในพื้นท่ี จ�ำนวน 40 คน โดยตรวจสอบ ภาค แนะเชิงโครงสร้างและนโยบายต่อคณะกรรมการ เครือญาติ พยาน และเอกสารแสดงตัวตนเท่าท่ีมี ผนวก ระดบั ชาตใิ นการตดิ ตามผลการปฏบิ ตั งิ านเพอ่ื แกไ้ ข ส�ำรวจข้อมูล สอบประวัติ บันทึกข้อมูลผังเครือญาติ ปญั หาชาวเลในภาพรวม ถา่ ยภาพ และออกหนงั สอื รบั รองการส�ำรวจขอ้ มลู เบอ้ื งตน้ ของเครือข่ายคนไทยพลัดถ่ิน ซึ่งถือเป็นเอกสารเบื้องต้น • เห็นควรจัดต้ังกลไกคณะกรรมการระดับชาติ ก่อนการส�ำรวจข้อมูลของกรมการปกครอง กระทรวง เพอื่ ตดิ ตามและหนนุ เสรมิ การแกไ้ ขปญั หาชาตพิ นั ธ์ุ มหาดไทย ระหว่างวนั ท่ี 26 กมุ ภาพันธ์ -2 มนี าคม 2562 ชาวเล และพิจารณาขับเคลื่อนการด�ำเนินงาน ณ วดั ตโปธาราม อ�ำเภอเมือง จังหวัดระนอง และระหว่าง ในภาพรวม โดยเฉพาะอย่างย่ิงปัญหาที่ซับซ้อน วนั ท่ี 2-8 มิถนุ ายน 2562 ณ หอประชุมองคก์ ารบริหาร ซึ่งต้องการการประสานงานระหว่างหน่วยงาน ส่วนจังหวัดระนอง อ�ำเภอเมือง จังหวดั ระนอง ได้ส�ำรวจ ในระดับกระทรวง และปัญหาท่ีต้องมีการปรับ ข้อมูลเพ่ิมเติมและย่ืนเอกสารต่อเจ้าหน้าท่ีระดับอ�ำเภอ เปล่ียนเชิงโครงสร้างกฎหมายและนโยบาย เพอื่ บนั ทกึ ขอ้ มลู กลมุ่ คนไทยพลดั ถน่ิ เขา้ สรู่ ะบบการพจิ ารณา เพ่อื ให้เกิดความมั่นคงตอ่ ชมุ ชนชาวเลให้รอบดา้ น ปี 2562 โดยสามารถบันทึกข้อมูลของคนไทยพลัดถ่ิน จ�ำนวนรวมท้ังส้ิน 112 ราย การด�ำเนินการดังกล่าว • เหน็ ควรใหร้ ฐั มนี โยบายในการประกาศเขตคมุ้ ครอง สง่ ผลใหก้ ลมุ่ คนไทยพลดั ถน่ิ สามารถเขา้ ใจเรอื่ งสทิ ธคิ วามเปน็ ทางวัฒนธรรมชาติพันธุ์ชาวเล โดยเร่ิมต้นที่พื้นที่ พลเมือง และสามารถมาแสดงตัวเพื่อรับการส�ำรวจและ น�ำร่องที่มีการท�ำงานร่วมกันระหว่างหน่วยงานรัฐ จัดท�ำข้อมูลเบื้องต้น และเข้าสู่กระบวนการแก้ไขปัญหา ชุมชน ภาคประชาสังคมภาควิชาการ เพื่อที่ สิทธิและสถานะบุคคล สอดคล้องกับมติคณะรัฐมนตรี จะถอดบทเรียนและขยายผลไปสู่ชุมชนอ่ืน ๆ เมื่อวันท่ี 7 ตลุ าคม 2562 เหน็ ชอบตอ่ รา่ งค�ำมน่ั ของไทย ตามเจตนารมณ์ของมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ ท่ีจะประกาศในการประชุมระดับสูงว่าด้วยความไร้รัฐ 2 มิถุนายน 2553 โดยมีงบประมาณและ ของส�ำนักงานข้าหลวงใหญ่ผู้ล้ีภัยแห่งสหประชาชาติ ทรัพยากรสนบั สนนุ เพราะเมื่อชุมชนมคี วามม่ันคง สมัยท่ี 70 ระหว่างวันท่ี 7-11 ตุลาคม 2562 โดย ด้านที่อยู่อาศัยและการด�ำรงชีวิตจะส่งผลให้ มีสาระส�ำคัญเป็นการแสดงเจตนารมณ์ทางการเมือง ประหยัดงบประมาณของภาครัฐในการจัดหา เพื่อพัฒนากระบวนการแก้ไขปัญหาคนไร้รัฐ ไร้สัญชาติ สวัสดกิ ารและให้ความชว่ ยเหลือดา้ นตา่ ง ๆ ให้มีประสิทธิภาพมากข้ึนบนพื้นฐานของกฎหมาย และระเบียบที่มีอยู่ และให้ครอบคลุมกลุ่มที่ตกหล่น 2) กิจกรรมจัดเก็บข้อมูลของกลุ่มคนไทยพลัดถิ่น จากการแกไ้ ขปญั หาในอดตี เนอ่ื งจากชอ่ งทางกฎหมายและ ร่วมกับมหาวิทยาลัยรังสิต กรมการปกครอง กระทรวง แนวทางปฏิบตั ิในช่วงที่ผา่ นมา มหาดไทย ส�ำนักงานประสานการพัฒนาสังคมสุขภาวะ และมูลนิธิชุมชนไท เพ่ือแก้ไขปัญหาคนไทยพลัดถิ่น ในพ้ืนทีจ่ งั หวดั ประจวบคีรีขันธ์ ตราด และระนอง โดยการ
รายงานผลการปฏบิ ตั ิงานคณะปกรระรจมำ�กปาีงรบสปทิ รธะมิมนาณษุ ยพชน.ศแ.ห2่ง5ช6าต2ิ 134 คณะกรรมการสทิ ธิมนษุ ยชนแห่งชาติ 5.7) กิจกรรมวันชนเผ่าพ้ืนเมืองแห่งประเทศไทย 3) การจัดนิทรรศการของส�ำนักงานคณะกรรมการ ประจำ�ปี 2562 สทิ ธมิ นษุ ยชนแหง่ ชาติ และสว่ นราชการอน่ื ๆ ใหค้ �ำปรกึ ษา ด้านสิทธิมนุษยชน และรับเร่ืองร้องเรียน ปัญหาสถานะ วันท่ี 9 สิงหาคม ของทกุ ปีเปน็ วันชนเผ่าพ้ืนเมืองโลก บุคคล ซ่ึงมีกลุ่มผู้มีปัญหาสถานะได้ย่ืนเร่ืองเพ่ือให้ คณะกรรมการสทิ ธมิ นษุ ยชนแหง่ ชาตริ ว่ มกบั สมชั ชาชนเผา่ คณะกรรมการสทิ ธมิ นษุ ยชนแหง่ ชาตติ รวจสอบการละเมดิ พนื้ เมอื งแหง่ ประเทศไทย และองคก์ รภาคเี ครอื ขา่ ย จดั งาน สทิ ธิมนุษยชน “วนั ชนเผา่ พนื้ เมอื ง ประจ�ำปี 2562” ในชอื่ งาน “ภาษาแม่ ภาษาเรา ภาษาโลก” เพอ่ื ใหเ้ ครือขา่ ยกลุม่ ชาตพิ ันธุ์ และ นอกจากน้ี ส�ำนักงานคณะกรรมการสิทธิมนุษยชน กลุ่มคนไทยพลัดถิ่น มีความรู้ความเข้าใจและตระหนัก แห่งชาติได้จัดท�ำข้อเสนอแนะหรือแนวทางในการส่งเสริม เกยี่ วกบั สทิ ธแิ ละการคมุ้ ครองวถิ ชี วี ติ ตามประเพณวี ฒั นธรรม และคุ้มครองสิทธมิ นษุ ยชนทีไ่ ดจ้ ากการจัดกิจกรรม ดงั นี้ ท้องถ่ินของตน และสามารถแสดงออกถึงอัตลักษณ์ ทางวัฒนธรรมได้ ประชาชนท่ัวไปสามารถรับรู้และ 1) ขอให้ประชาชนสามารถเข้ามามีส่วนร่วมใน เข้าใจถึงวัฒนธรรมท้องถิ่น และวิถีชีวิตของกลุ่มชาติพันธุ์ กระบวนการประกาศเขตมรดกโลกในพ้ืนท่ีกลุ่มป่า และกลุ่มคนไทยพลัดถิ่น ยอมรับถึงความแตกต่าง แกง่ กระจาน การฟน้ื ฟวู ถิ ชี วี ติ ชนเผา่ พน้ื เมอื ง กลมุ่ ชาตพิ นั ธ์ุ หลากหลายระหว่างเช้ือชาติ ยอมรับความเท่าเทียมกัน ชาวเล และกะเหรี่ยงโดยการให้หน่วยงานท่ีเก่ียวข้อง ในฐานะเพ่ือนมนุษย์ และเข้าใจในความเป็นพหุสังคม ด�ำเนนิ การยกรา่ งกฎหมายและตงั้ คณะท�ำงานเพอื่ คมุ้ ครอง ซง่ึ จะน�ำไปสกู่ ารไมเ่ ลอื กปฏบิ ตั แิ บง่ เขาแบง่ เรามองคนเปน็ คน พน้ื ทที่ างวฒั นธรรม เคารพในศักด์ิศรีความเป็นมนุษย์ของผู้คนทุกเผ่าพันธุ์ ระหวา่ งวนั ที่ 8-10 สงิ หาคม 2562 ณ มหาวิทยาลัยแม่โจ้ 2) ขอให้ยุติการท�ำเหมืองแร่ถ่านหินที่อมก๋อย อาํ เภอสนั ทราย จงั หวดั เชยี งใหม่ โดยมกี ลมุ่ ชาตพิ นั ธต์ุ า่ ง ๆ จังหวัดเชียงใหม่ และให้เร่งติดตามและคลี่คลายคดี กวา่ 36 กลุ่ม เข้าร่วมกิจกรรมตา่ ง ๆ ที่ส�ำคัญ ดังน้ี การละเมิดสิทธิมนุษยชนที่มีต่อชนเผ่าพื้นเมือง และให้มี การเยยี วยาครอบครวั ของนกั ปกปอ้ งสิทธิมนษุ ยชนชนเผา่ 1) การเปิดพ้ืนท่ีแสดงออกทางวัฒนธรรมชนเผ่า อยา่ งเป็นรปู ธรรม โดยมีการรณรงค์เผยแพร่วัฒนธรรมของชนเผ่าต่าง ๆ การประกวดชดุ ประจ�ำเผา่ เพื่อสร้างความภาคภูมิใจ และ 3) กรณกี ารฟน้ื ฟวู ถิ ชี วี ติ ชนเผา่ พนื้ เมอื ง กลมุ่ ชาตพิ นั ธ์ุ การแสดงอตั ลักษณ์ในการแต่งตัวของแต่ละเผา่ การแสดง ชาวเล และกะเหรย่ี ง มีข้อเสนอท่สี �ำคัญ อาทิ การค้มุ ครอง ละครสั้นของกลุ่มเยาวชนต้นกล้าชนเผ่าพื้นเมืองท่ีแสดง พ้ืนท่ีทางจิตวิญญาณ โดยจัดตั้งกลไกการท�ำงานโดย ใหเ้ ห็นถงึ ความส�ำคญั ของภาษาทอ้ งถิน่ ความร่วมของส�ำนักนายกรัฐมนตรี กระทรวงวัฒนธรรม กระทรวงมหาดไทยและผู้เก่ียวข้อง เพื่อแก้ไขปัญหา 2) การจัดเวทีวิชาการในประเด็นที่สนใจร่วมกัน และพัฒนาชนเผ่าพ้ืนเมืองและเร่งรัดด�ำเนินการส่งเสริม อาทิ ภาษาชนเผ่าพื้นเมืองท่ีเช่ือมโยงกับการเรียนรู้ พ้ืนท่ีน�ำร่องเรื่องเขตวัฒนธรรมพิเศษหรือเขตคุ้มครอง ประวัติศาสตร์ชุมชน การจัดการท่ีดินบรรพบุรุษและ ทางวัฒนธรรมและโฉนดชุมชน ตามมติคณะรัฐมนตรี พื้นท่ีศักด์ิสิทธ์ิ การจัดการระบบไร่หมุนเวียนและ เมื่อวันที่ 2 มิถุนายน และ 7 สิงหาคม 2553 ให้เกิด ความมั่นคงทางอาหาร ผ้ากับผู้หญิงชนเผ่าพื้นเมือง รูปธรรมที่เน้นความสอดคล้องกับอัตลักษณ์ และวิถี และมีการเสวนา เรื่อง “ชนเผ่าพ้ืนเมือง: การยกระดับ ชีวิตของชนเผ่าพื้นเมือง ขอให้กระทรวงมหาดไทยและ มติคณะรัฐมนตรี แนวนโยบายฟื้นฟูวิถีชีวิตกะเหร่ียง หน่วยงานท่ีเกี่ยวข้องเร่งด�ำเนินการเร่ืองเอกสารสิทธิ และชาวเลสู่การพัฒนากฎหมายว่าด้วยการส่งเสริมและ ในพ้ืนท่ีด้ังเดิมของกลุ่มชาติพันธุ์ชาวเล เพ่ือให้เกิด อนุรักษ์วิถีชีวิตชาติพันธุ์” และมีการเสวนา หัวข้อ ความมน่ั คงในการด�ำรงชวี ติ และเรง่ รดั ตดิ ตามและคลคี่ ลาย “ตัวตนชนเผ่าพื้นเมืองและการยกระดับมติคณะรัฐมนตรี คดีการละเมิดสิทธิมนุษยชนที่มีต่อชนเผ่าพื้นเมือง และ แนวนโยบายฟ้นื ฟูวิถีชวี ิตกะเหร่ียงและชาวเล”
135 ขอใหม้ กี ารเยยี วยาครอบครวั ของนกั ปกปอ้ งสทิ ธมิ นษุ ยชน สร้างความตระหนักด้านสิทธิมนุษยชนให้แก่ประชาชน บทท่ี ชนเผ่าอย่างเป็นรูปธรรม และชุมชนในพ้ืนที่ ตลอดจนเป็นการระดมความคิดเห็น 1 และแลกเปล่ียนประสบการณ์การท�ำงานร่วมกับเครือข่าย 6) จัดให้มีศูนย์กลางการบูรณาการและการเรียนรู้ ด้านสิทธิมนุษยชน ทั้งในส่วนของภาครัฐ ภาคเอกชน บทท่ี ดา้ นสิทธมิ นษุ ยชน และภาคประชาสังคมในพื้นทีใ่ นปงี บประมาณ พ.ศ. 2562 2 คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติได้จัดท�ำโครงการ บทที่ คณะกรรมการสทิ ธมิ นษุ ยชนแหง่ ชาตไิ ดใ้ หค้ วามส�ำคญั ขับเคลื่อนกิจกรรมภายใต้ศูนย์ศึกษาและประสานงาน 3 ในการท�ำงานร่วมกับเครือข่ายเพื่อให้เกิดพลังในการ ดา้ นสิทธมิ นษุ ยชนในพ้ืนทีส่ รุปไดด้ ังนี้ บทที่ ส่งเสริมและคุ้มครองสิทธิมนุษยชนในระดับภูมิภาค 4 จึงได้จัดต้ังศูนย์ศึกษาและประสานงานด้านสิทธิมนุษยชน 1) กิจกรรมการสัมมนาเพื่อขับเคล่ือนความร่วมมือ บทท่ี ในภมู ภิ าครว่ มกับสถาบันการศกึ ษา จ�ำนวน 6 แห่ง ดังน้ี ระหว่างศูนย์ศึกษาและประสานงานด้านสิทธิมนุษยชน 5 เพื่อแลกเปล่ียนประสบการณ์ระหว่างศูนย์ศึกษาและ ภาค 1) ศูนย์ประสานงานสิทธิมนุษยชนจังหวัดชายแดน ประสานงานด้านสิทธิมนุษยชน ท้ัง 6 แห่งทั่วประเทศ ผนวก ภาคใต้ จัดตั้งร่วมกับคณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัย ด�ำเนินการกิจกรรมแล้วเสร็จ ระหว่างวันท่ี 23-24 สงขลานครินทร์ วิทยาเขตปัตตานี พฤษภาคม 2562 ณ โรงแรมเจริญธานี จังหวดั ขอนแก่น 2) ศูนย์ศึกษาและประสานงานด้านสิทธิมนุษยชน 2) กิจกรรมการส่งเสริมสิทธิมนุษยชนร่วมกับ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จัดต้ังร่วมกับคณะนิติศาสตร์ สถาบันการศึกษาในพื้นท่ีภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มหาวิทยาลัยขอนแกน่ โดยจัดสัมมนาวิชาการด้านสิทธิมนุษยชนและลงพื้นท่ี กรณีศึกษา: โครงการศึกษาแม่น�้ำโขงกับการพัฒนานิเวศ 3) ศูนย์ศึกษาและประสานงานด้านสิทธิมนุษยชน วัฒนธรรมชุมชนริมโขง เพื่อส่งเสริมให้สถาบันวิชาการ ภาคตะวนั ออก จดั ตงั้ รว่ มกบั คณะรฐั ศาสตรแ์ ละนติ ศิ าสตร์ ในท้องถ่ินเป็นที่พึ่งของชุมชนและเพ่ือการส่งเสริม มหาวิทยาลยั บรู พา สิทธิมนุษยชนและแก้ไขปัญหาการละเมิดสิทธิมนุษยชน ในพ้ืนท่ีด�ำเนินการกิจกรรมแล้วเสร็จระหว่างวันท่ี 4) ศูนย์ศึกษาและประสานงานด้านสิทธิมนุษยชน 31 พฤษภาคม -3 มถิ นุ ายน 2562 ภาคใต้ จัดต้ังร่วมกับคณะนติ ศิ าสตร์ มหาวทิ ยาลยั ราชภัฏ สุราษฎร์ธานี 3) กจิ กรรมสมั มนาวชิ าการดา้ นสทิ ธมิ นษุ ยชนในพน้ื ท่ี ภาคตะวันตก: บทบาทครูในโรงเรียนระดับมัธยมศึกษา 5) ศูนย์ศึกษาและประสานงานด้านสิทธิมนุษยชน กบั การเรียนการสอนเกย่ี วกับสทิ ธมิ นุษยชน” เพื่อส่งเสริม ภาคเหนือ จัดตั้งร่วมกับคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัย ให้สถาบันวิชาการในท้องถิ่นเป็นท่ีพึ่งของชุมชน และ เชียงใหม่ เพื่อการส่งเสริมสิทธิมนุษยชนและแก้ไขปัญหาการละเมิด สิทธิมนุษยชนในพ้ืนที่ ด�ำเนินการกิจกรรมแล้วเสร็จ 6) ศูนย์ศึกษาและประสานงานด้านสิทธิมนุษยชน ระหว่างวันที่ 6-7 มิถุนายน 2562 ณ โรงแรมเมธาวลัย ภาคตะวันตก จัดตั้งร่วมกับคณะมนุษยศาสตร์และ จังหวดั เพชรบุรี สงั คมศาสตร์ มหาวทิ ยาลัยราชภัฏเพชรบุรี โดยมีภารกิจในการร่วมสร้างความรู้ความเข้าใจ 4) การจัดสัมมนาวิชาการด้านสิทธิมนุษยชนในพื้นท่ี ด้านสิทธิมนุษยชน ส่งเสริมกิจกรรมด้านสิทธิมนุษยชน ภาคใต้: สิทธิชุมชนและสิทธิในที่ดินท�ำกิน เพื่อให้ความรู้ รวมทั้งการระดมพลังภาคีเครือข่ายสิทธิมนุษยชน เกี่ยวกับสิทธิมนุษยชนกับประชาชนและนิสิตนักศึกษา เพื่อปฏิบัติงานด้านสิทธิมนุษยชนในพ้ืนท่ี ดังนั้น ให้มีความรู้ ความเข้าใจเก่ียวกับสิทธิชุมชนและสิทธิ เพื่อขับเคล่ือนกิจกรรมด้านการส่งเสริม คุ้มครอง และ ในที่ดินท�ำกิน ด�ำเนินการกิจกรรมแล้วเสร็จ เมื่อวันท่ี
รายงานผลการปฏบิ ตั งิ านคณะปกรระรจมำ�กปาีงรบสปิทรธะมิมนาณษุ ยพชน.ศแ.ห2่ง5ช6าต2ิ 136 คณะกรรมการสทิ ธมิ นุษยชนแหง่ ชาติ 14 มถิ นุ ายน 2562 ณ มหาวทิ ยาลัยราชภฏั สรุ าษฎรธ์ านี โดยในปีงบประมาณ พ.ศ. 2562 คณะกรรมการ จงั หวดั สรุ าษฎรธ์ านี สิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ร่วมกับสถาบันวิจัยเพื่อ การพัฒนาประเทศไทย (Thailand Development 5) กิจกรรมการส่งเสริมสิทธิมนุษยชนร่วมกับสถาบัน Research Institution: TDRI) ศกึ ษาวจิ ยั ดา้ นสทิ ธมิ นษุ ยชน การศึกษาในพื้นที่ภาคตะวันออก โดยการจัดค่ายเยาวชน เพื่อพัฒนาองค์ความรู้ส่งเสริมคุ้มครองสิทธิมนุษยชน ส่งเสริมสิทธิมนุษยชน เพ่ือส่งเสริมความรู้ ความเข้าใจ และเพ่ือพัฒนาประสิทธิผลในการด�ำเนินงานขององค์กร และสร้างความตระหนักด้านสิทธิมนุษยชนแก่นักเรียน ภายใตแ้ ผนบรู ณาการวจิ ยั และนวตั กรรม จ�ำนวน 1 เรอื่ ง ระดบั ชนั้ มธั ยมศกึ ษาตอนปลายในพนื้ ท่ี และนสิ ติ นกั ศกึ ษา คือ เร่ือง แนวทางในการส่งเสริมและคุ้มครองสิทธิ ระหว่างวันที่ 26-28 มิถุนายน 2562 ณ โรงแรมไอยรา ของแรงงานขา้ มชาตใิ นประเทศไทย: กรณแี รงงานขา้ มชาติ แกรนด์ พทั ยาใต้ จังหวัดชลบุรี ในอสุ าหกรรมสตั วป์ กี 3.1.6 การศกึ ษาวจิ ัยดา้ นสิทธิมนุษยชน 1) สารตั ถะของเน้อื หา และข้อเสนอแนะ พ ร ะ ร า ช บั ญ ญั ติ ป ร ะ ก อ บ รั ฐ ธ ร ร ม นู ญ ว ่ า ด ้ ว ย โครงการวจิ ยั ฯ ไดน้ �ำความเหน็ และขอ้ เสนอแนะตา่ ง ๆ คณะกรรมการสทิ ธมิ นษุ ยชนแหง่ ชาติ พ.ศ. 2560 มาตรา ม า ป ร ะ ม ว ล กั บ ข ้ อ มู ล ที่ ไ ด ้ จ า ก ก า ร ส อ บ ถ า ม แ ล ะ 27 (1) ได้บัญญัติว่า เพ่ือประโยชน์ในการปฏิบัติหน้าที่ สัมภาษณ์ท้ังเชิงกลุ่ม (focus group) และเชิงบุคคล ตามมาตรา 26 ให้คณะกรรมการมีหน้าท่ีและอ�ำนาจ ซึ่ ง ไ ด ้ ป รั บ / ป ร ะ ยุ ก ต ์ จ า ก เ ค รื่ อ ง มื อ ก า ร ต ร ว จ ส อ บ ในการส่งเสริม สนับสนุน และร่วมมือแก่บุคคล หน่วยงาน สิทธิมนุษยชนอย่างรอบด้าน (Human Rights Due ของรัฐ และภาคเอกชนในการศึกษาวิจัยและเผยแพร่ Diligence: HRDD) และการรับฟังความเห็นจาก ความรู้และพัฒนาความเข้มแข็งด้านสิทธิมนุษยชน ผมู้ สี ว่ นไดส้ ว่ นเสยี และผทู้ เี่ กย่ี วขอ้ ง เมอื่ วนั ท่ี 24 กรกฎาคม รวมตลอดท้ังในการให้ความช่วยเหลือหรือเยียวยา 2562 ณ ห้องประชุมอาคารเคยูโฮม มหาวิทยาลัย แก่ผู้ถูกละเมิดสิทธิมนุษยชนด้วย โดยตลอดระยะเวลา เกษตรศาสตร์ บางเขน กรุงเทพมหานคร ที่ผ่านมา คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ได้สนับสนุนให้มีการศึกษาวิจัยเพ่ือน�ำไปใช้ประโยชน์ เน้ือหาของรายงานฉบับสมบูรณ์ (final report) ในหลายด้าน ดังน้ี น�ำเสนอเป็น 5 ส่วนหลัก ดังน้ี • เพ่ือสนับสนุนการจัดท�ำรายงานการตรวจเรื่อง ส่วนท่ี 1 ปญั หาและขน้ั ตอนการศกึ ษา รอ้ งเรยี น 1) อุตสาหกรรมสัตว์ปีกไทยพ่ึงพาแรงงานข้ามชาติ • เพื่อสนับสนุนการจัดท�ำข้อเสนอแนะมาตรการ เป็นส�ำคัญ ท�ำให้การจัดการต่าง ๆ ต้องด�ำเนินการ ห รื อ แ น ว ท า ง ใ น ก า ร ส ่ ง เ ส ริ ม แ ล ะ คุ ้ ม ค ร อ ง อย่างระมัดระวังเนื่องจากจะมีผลกระทบ หรือเชื่อมโยง สิทธิมนุษยชนต่อรัฐสภา คณะรัฐมนตรี และ กับภาคส่วนต่าง ๆ หน่วยงานท่ีเก่ียวข้อง รวมตลอดท้ังการแก้ไข ปรับปรุงกฎหมาย กฎ ระเบียบ หรือค�ำสั่งใด ๆ 2) การทบทวนรายงานการศกึ ษาทผี่ า่ นมา ซง่ึ น�ำเสนอ เพ่ือให้สอดคล้องกับหลักสิทธิมนุษยชน สถานการณ์การละเมิดสิทธิของแรงงานในอุตสาหกรรม สัตว์ปีกของไทย พบว่า เหตุการณ์ความขัดแย้ง • เพื่อเป็นข้อมูลสนับสนุนการจัดท�ำรายงาน ในกรณีของแรงงานข้ามชาติกับอุตสาหกรรมสัตว์ปีก ผลการประเมินสถานการณ์ด้านสิทธิมนุษยชนของ ของไทยหลัก ๆ เกิดข้ึนในเดือนตุลาคม 2558 จ�ำนวน ประเทศ 2 เหตุการณ์ คือ กรณีแรงงานสัญชาติเมียนมากับ โรงงานไก่เน้ือในจังหวัดนครราชสีมาประท้วง (เรื่องการ • เพื่อส่งเสริมสนับสนุนให้สังคม/ภาคส่วนต่าง ๆ จ่ายเงิน และการใช้แป้งทานาคา) และกรณีแรงงาน เคารพสิทธิมนุษยชน ในฟาร์มไก่ (ปกปิดชื่อ) จังหวัดลพบุรี และต่อมาในเดือน • เพ่ือสร้างองค์ความรู้และพัฒนาประสิทธิภาพ ในการท�ำงานขององค์กร
137 พฤศจกิ ายน 2558 องคก์ รพฒั นาเอกชนตา่ งประเทศ ไดแ้ ก่ ผลิตภัณฑ์สัตว์ปีกมากที่สุดเป็นอันดับท่ี 4 ของโลก บทท่ี Swedwatch และ Finnwatch ได้น�ำเสนอรายงาน และเป็นผู้ส่งออกผลิตภัณฑ์สัตว์ปีกแปรรูปมากท่ีสุด 1 การละเมิดสิทธิแรงงานในโรงงานผลิตไก่เน้ือของ เป็นอันดับที่ 1 ของโลก ซึ่งประเทศต่าง ๆ ในสหภาพยุโรป ประเทศไทย เป็นทั้งคู่ค้า และคู่แข่งท่ีส�ำคัญของประเทศไทย เนื่องจาก บทท่ี ส่วนหน่ึงท�ำการค้าขายกันภายในภูมิภาคเป็นหลัก 2 3) มีการน�ำเสนอรายงานการละเมิดสิทธิแรงงานฯ บทที่ ดังกล่าวเผยแพร่ผ่านสื่อ ก่อให้เกิดการวิพากษ์วิจารณ์ 3) หลังจากวิกฤติการณ์ในช่วงปี 2558-2559 3 และการเคล่ือนไหวของภาคประชาสังคม เช่นเดียว อุตสาหกรรมสัตว์ปีกมีความเคล่ือนไหว โดยเฉพาะ บทที่ กับสถานการณ์ของธุรกิจประมงก็พบว่า มีการส่ังห้าม ในด้านที่เก่ียวกับแรงงานโดยทั่วไป และแรงงานข้ามชาติ 4 การน�ำเข้าและการลดลงของยอดจ�ำหน่ายผลิตภัณฑ์ ทั้งในเชิงบวกและลบ ท่ีส�ำคัญ อาทิ (3.1) การก�ำหนด บทท่ี ไก่เนื้อจากประเทศไทยในตลาดของประเทศต่าง ๆ รูปแบบการปฏิบัติที่ดีด้านแรงงาน (Good Labor 5 อาทิ สหภาพยุโรป เยอรมนี สวีเดน และฟินแลนด์ Practice: GLP) โดยการท�ำบันทึกความเข้าใจร่วม (MoU) ภาค แม้ว่าจะไม่มีด�ำเนินการด�ำเนินมาตรการของรัฐบาล ระหว่างกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน กรมปศุสัตว์ ผนวก ของประเทศน้ัน ๆ อย่างเป็นทางการก็ตาม และสมาคมผู้ผลิตไก่เพ่ือส่งออกไทยเพื่อยกระดับ การคุ้มครองแรงงานในอุตสาหกรรมสัตว์ปีกไทย 4) เปา้ หมายและการออกแบบกระบวนการทน่ี �ำมาใช้ (3.2) การแสดงออกของผู้ประกอบการในการเสนอแก้ไข ในการศึกษา คือ (4.1) การเน้นการสานสร้างความเข้าใจ กฎหมายท่ีเกี่ยวข้องกับการเก็บสะสมวันหยุด และการ ในสังคม และ (4.2) การลดจุดอ่อนการศึกษาในอดีต นับเวลาพักจาก 2 เป็น 4 ชั่วโมง เพ่ือให้สอดคล้อง ท่ียังมีการส�ำรวจข้อมูลไม่รอบด้าน หรืออาจจะครอบคลุม กับระบบการผลิต (แบบฟาร์มปิด) ซ่ึงปัจจุบันยังไม่มี กลุ่มเป้าหมายบางกลุ่มเท่าน้ัน ความคบื หนา้ ในการด�ำเนนิ การแตอ่ ยา่ งใด (3.3) การก�ำหนด สว่ นท่ี 2 อตุ สาหกรรมสตั วป์ กี กบั การละเมดิ สทิ ธมิ นษุ ยชน บทลงโทษท่ีรุนแรงมากข้ึนแก่แรงงานข้ามชาติที่เข้าเมือง ผิดกฎหมาย (ท�ำให้แรงงานบางส่วนเดินทางกลับประเทศ 1) อุตสาหกรรมสัตว์ปีกเป็นอุตสาหกรรมปศุสัตว์ ต้นทาง) และ (3.4) การเปิดศูนย์บริการแบบเบ็ดเสร็จ ท่ีใหญ่ที่สุดของไทย มีปัจจัยความส�ำเร็จในช่วงท่ีผ่านมา (One Stop Service: OSS) ท�ำให้แรงงานข้ามชาติ โดย (1.1) การปรับรูปแบบไปสู่การเป็นฟาร์มขนาดใหญ่ ที่เดินทางมายังประเทศไทยโดยส่วนใหญ่ได้รับการ มากยงิ่ ขน้ึ (1.2) การพฒั นาเทคโนโลยกี ารผลติ และการลงทนุ ข้ึนทะเบียนตามกฎหมาย และสามารถติดตามตรวจสอบ ส่งเสริมโดยธุรกิจขนาดใหญ่ และ (1.3) การปรับตัว ได้เป็นระบบมากย่ิงข้ึน เป็นต้น เพ่ือให้สินค้าของอุตสาหกรรมเป็นที่ยอมรับในระดับโลก สว่ นที่ 3 ชอ่ งวา่ งทางกติกาในการกำ�กับดูแล 2) ที่ผ่านมา อุตสาหกรรมสัตว์ปีกเผชิญความท้าทาย 1) หลักการสิทธิมนุษยชนสากลส่วนใหญ่เป็นหลัก ต่าง ๆ มาโดยตลอด แต่ก็มีการปรับตัว/พัฒนารูปแบบ ปฏิบัติแบบท่ัวไป และมิได้มีสภาพบังคับในตัวเอง การผลิตในอุตสาหกรรมอยู่ตลอดเวลา โดยหลังจาก นอกจากนั้นระบบการบังคับใช้กฎหมายภายนอกและ ท่ีเผชิญกับวิกฤตไข้หวัดนกระบาดในเอเชีย เม่ือปี 2548 ภายในของประเทศไทยก็มีลักษณะทวินิยม (dualism) อุตสาหกรรมสัตว์ปีกในประเทศไทยได้น�ำระบบฟาร์ม ซึ่งการผูกพันใด ๆ ของกฎหมายหรือข้อตกลงระหว่าง แบบปิด (compartment) มาใช้ในกระบวนการผลิต ประเทศจะเกิดขึ้นและมีกระบวนการติดตาม บังคับใช้ เปน็ รายแรกของโลก นอกจากนนั้ ยงั น�ำระบบความปลอดภยั ได้อย่างมีประสิทธิภาพ จ�ำเป็นต้องอาศัยการแก้ไข ทางชีวอนามัย (biosecurity) มาใช้เป็นมาตรการส�ำคัญ การตรา การบังคับใช้กฎหมายภายในประเทศก่อน จนท�ำให้ผลิตภัณฑ์สัตว์ปีกของประเทศไทยได้รับ โดยเบื้องต้น การยอมรับจากทั่วโลก โดยประเทศไทยเป็นผู้ส่งออก
รายงานผลการปฏิบัติงานคณะปกรระรจมำ�กปาีงรบสปทิ รธะมิมนาณุษยพชน.ศแ.ห2่ง5ช6าต2ิ 138 คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ 2) ประเทศไทยให้สัตยาบันในสนธิสัญญาหลักด้าน เกือบทั้งหมด ยกเว้นการจัดท�ำสัญญาจ้างในภาษา สิทธิมนุษยชนจ�ำนวน 7 ฉบับ (จากทั้งหมด 9 ฉบับ) โดย ที่ลูกจ้างสามารถเข้าใจได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในภาษาแม่ สนธิสัญญาหลักด้านสิทธิมนุษยชน 2 ฉบับ ที่ประเทศไทย ของลูกจ้างน้ัน ๆ ในขณะที่ยังมีข้อพิพาทเร่ืองระบบ ยงั ไมเ่ ป็นภาคี (ไมใ่ ห้สัตยาบนั และ/หรือภาคยานุวัติสาร) การนับเวลาการท�ำงานของแรงงานในฟาร์มและการ คือ อนุสัญญาระหว่างประเทศว่าด้วยการคุ้มครองบุคคล สะสมวันหยุด ทุกคนจากการหายสาบสูญโดยถูกบังคับ (International Convention for the Protection of All Persons 6) การตรวจสอบมาตรการการปฏิบัติทางการเกษตร from Enforced Disappearance: CPED) และอนสุ ญั ญา ที่ดี (Good Agricultural Practice: GAP) ส�ำหรับไก่เนื้อ ว่าด้วยการคุ้มครองสิทธิของแรงงานโยกย้ายถ่ินฐาน (GAP Broiler) พบว่า ยังไม่ระบุประเด็นแรงงาน และสมาชกิ ในครอบครวั (Convention on the Protection ภาคบังคับและเสรีภาพในการรวมกลุ่ม ในขณะที่ส�ำหรับ of the Rights of Migrant Workers and Members รูปแบบการปฏิบัติที่ดีด้านแรงงาน (GLP) ส�ำหรับสัตว์ปีก of Their Families: ICRMW) ขณะที่ได้ให้สัตยาบัน ทั่วไป (GLP Poultry) ระบุประเด็นแรงงานภาคบังคับ กบั อนุสญั ญาพนื้ ฐานขององคก์ ารแรงงานระหว่างประเทศ และเสรีภาพในการรวมกลุ่ม ส่วน GAP ส�ำหรับสัตว์ปีก (ILO) จ�ำนวน 19 ฉบับ จากทั้งหมด 189 ฉบับ ยกเว้น อ่ืน ๆ ระบุเฉพาะประเด็นความปลอดภัยทางชีวอนามัย อนุสัญญาว่าด้วยเสรีภาพการรวมกลุ่ม นอกจากน้ัน (biosecurity) เท่านั้น ยังน�ำหลักการชี้แนะแห่งสหประชาชาติด้านธุรกิจกับ สิทธิมนุษยชน (UNGP) มาปรับใช้ในการด�ำเนินงาน 7) ประเทศผู้ผลิตช้ันน�ำในอุตสาหกรรมสัตว์ปีกโลก ของภาคส่วนต่าง ๆ แต่ทว่ายังไม่สามารถประกาศ ในลักษณะเดียวกับประเทศไทย อาทิ บราซิล เยอรมนี แผนปฏิบัติการแห่งชาติด้านธุรกิจกับสิทธิมนุษยชน และสวีเดน ต่างมีบริบททางสังคมและเศรษฐกิจ (NAP) ได้แต่อย่างใด4 ที่แตกต่าง (เช่น ประเทศไทยขาดแคลนแรงงานขณะที่ บราซิลมีคนตกงานจ�ำนวนมาก) 3) โดยหลักการพ้ืนฐานตามรัฐธรรมนูญแห่ง ราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2560 ก�ำหนดว่าแรงงาน 8) บริการด้านสาธารณสุขและการศึกษาของไทย ข้ามชาติย่อมได้รับความคุ้มครองสิทธิเทียบเท่ากับ เป็นไปตามสถานการณ์การเข้าเมือง ขณะที่ในหลายกรณี แรงงานไทย เว้นแต่มีกฎหมายอ่ืนที่ระบุการปฏิบัติ ประเทศคู่แข่งก�ำหนดให้บริการสาธารณสุขของประเทศ โดยจ�ำเพาะแตกต่างออกไป เป็นสิทธิแบบถ้วนหน้า 4) มาตรฐานสินค้าด้านแรงงานต่าง ๆ ที่มีอยู่ แม้ว่า 9) กระบวนการขอเอกสารเพ่ือเข้าเมืองของ จะเป็นมาตรฐานโดยสมัครใจ แต่ผู้ผลิตสินค้าสัตว์ปีก ประเทศไทย ยังใช้ระบบกระดาษ ในขณะที่ในหลาย ๆ ส่งออกในประเทศไทยจะอยู่ในลักษณะ “การจ�ำต้อง ประเทศ (อาทิ สวีเดน และประเทศในสหภาพยุโรป) ปฏิบัติตามโดยปริยาย” เน่ืองจากการเรียกร้องของ เปลี่ยนเป็นระบบออนไลน์แล้ว ผู้ซ้ือและกลไกทางการตลาดในต่างประเทศรวมถึง กรมปศุสัตว์ 10) กฎหมายไทยยังไม่น�ำระบบชั่วโมงการเตรียม ความพร้อมส�ำหรับการท�ำงาน (on-calling hour) มาใช้ 5) การส�ำรวจการแก้ไขปัญหาการละเมิดหลักการ ซึ่งแตกต่างจากในต่างประเทศ (อาทิ สวีเดน) และยังไม่ สิทธิมนุษยชนสากลท่ีถูกอ้างถึงในการศึกษาที่ผ่านมา จ�ำแนกความแตกต่างระหว่างการลาป่วย(sick leave) พบวา่ ประเทศไทยมกี ฎหมายคมุ้ ครองแรงงานในมติ ติ า่ ง ๆ กับการลาเน่ืองจากประสบอุบัติเหตุ (disability leave) 4 ขณะทศ่ี ึกษาวิจัย แต่ ณ ปงี บประมาณ 2562 มีการประกาศใช้แผนปฏบิ ตั กิ ารแห่งชาตดิ า้ นธรุ กิจกับสทิ ธิมนุษยชน (NAP) แลว้
139 ส่วนที่ 4 การกำ�กับดูแลในทางปฏิบัติ บทเรียนจาก ส่ิงแวดล้อมภายใต้รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย บทท่ี ผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย พุทธศักราช 2560 และ (3) โครงการศึกษาวิจัยเพอ่ื จดั ท�ำ 1 ข้อเสนอแนะนโยบายหรือมาตรการเพ่ือคุ้มครอง การน�ำเสนอในส่วนนี้แสดง (1) เนื้อหาประมวลสรุป และสง่ เสรมิ สทิ ธขิ องผสู้ งู อายุ เผยแพรส่ รา้ งความตระหนกั รู้ บทที่ จากการสัมภาษณ์เชิงลึก การสัมภาษณ์แบบกลุ่ม และ ด้านสิทธิมนุษยชน โดยการน�ำเสนอผลการศึกษาวิจัย 2 ก า ร จั ด ก า ร ป ร ะ ชุ ม รั บ ฟ ั ง ผ ล ก า ร ศึ ก ษ า แ ล ะ ร ะ ด ม ต่อหน่วยงานภาครัฐ ได้แก่ องค์กรปกครอง บทท่ี ความคิดเห็นโครงการแนวทางในการส่งเสริมและ 3 คุ้มครองสิทธิของแรงงานข้ามชาติในอุตสาหกรรม ส่วนท้องถิ่นในจังหวัดเพชรบุรี อุบลราชธานี และ บทที่ สัตว์ปีก เม่ือวันที่ ๒๔ กรกฎาคม ๒๕๖๒ ณ เคยูโฮม สตูล ศูนย์พัฒนาผู้สูงอายุ จังหวัดสุพรรณบุรี ศูนย์ยุติธรรม 4 มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ บางเขน กรุงเทพมหานคร ชุมชนในเขตจังหวัดภาคกลาง ภายใต้สังกัดส�ำนักกิจการ บทที่ และ (2) การประมวล/เปรียบเทียบข้อมูลสถิติ ยุติธรรม กระทรวงยุติธรรม ณ จังหวัดเพชรบุรี และ 5 การตรวจแรงงานของกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน ต่อหน่วยงานภาควิชาการ และองค์กรภาคประชาสังคม ภาค ปี 2556-2561 โดยพบว่า ฟาร์มเล้ียงสัตว์ปีกของไทย ในพ้ืนท่ี กลุ่มผู้สูงอายุไร้รัฐไร้สัญชาติ จังหวัดเชียงราย ผนวก มีแรงงานข้ามชาติจ�ำนวนมาก และยังคงพบปัญหากรณี และเชียงใหม่ สถาบันการศึกษาท่ีจัดท�ำบันทึกความเข้าใจ การปฏิบัติไม่ถูกต้องตามกฎหมายแรงงาน ร่วม (MOU) กับคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ในจังหวัดขอนแก่น เพชรบุรี สงขลา และชลบุรี และ สว่ นท่ี 5 สรปุ ผลและข้อเสนอแนะ นักวิชาการเครือข่ายคนพิการ จังหวัดนครปฐม โดยภาพรวม กฎหมายไทยโดยส่วนใหญ่สอดคล้อง 3.1.7 การสง่ เสรมิ ความร่วมมอื และการประสานงาน กับหลักการสิทธิมนุษยชนสากล และมีเพียงบางประเด็น ดา้ นสิทธิมนุษยชนระหว่างประเทศ ท่ีต้องปรับปรุงหรือยังมีมาตรฐานไม่เท่าประเทศคู่แข่ง ในขณะที่ยังมีปัญหาหลัก คือ การปฏิบัติของภาคธุรกิจ คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติได้ด�ำเนิน และการขาดความรู้ ความเข้าใจเกี่ยวกับสิทธิมนุษยชน ความสัมพันธ์และความร่วมมือกับสถาบันสิทธิมนุษยชน ของแรงงานและผู้ที่เกี่ยวข้อง ดังนั้น โครงการศึกษาวิจัย แห่งชาติของประเทศต่าง ๆ หน่วยงานของสหประชาชาติ จึงมีข้อเสนอแนะเชิงนโยบายหรือข้อเสนอในการปรับปรุง และองค์กรภาคประชาสังคมระหว่างประเทศ ตลอดจน ห รื อ ก า ร จั ด ท�ำ ก ฎ ห ม า ย / ก ฎ / ร ะ เ บี ย บ / ป ร ะ ก า ศ หน่วยงานที่ท�ำหน้าท่ีในการส่งเสริมและคุ้มครอง ต่อหน่วยงานท่ีเก่ียวข้อง โดยเน้นการเชื่อมโยงโครงสร้าง สิทธิมนุษยชนของต่างประเทศสรุปสาระส�ำคัญ ดังนี้ ของกฎหมายเพื่อการส่งเสริมและคุ้มครองสิทธิของ แรงงานข้ามชาติเป็นส�ำคัญ ความร่วมมือกับคณะกรรมการประจ�ำสนธิสัญญา ด้านสิทธิมนุษยชน (Treaty bodies) และสถาบัน 2) การขบั เคลือ่ นผลงานการศกึ ษาวจิ ัยสู่สงั คม สิทธมิ นษุ ยชนในระดับต่าง ๆ ในปีงบประมาณ พ.ศ. 2562 คณะกรรมการ 1) ความร่วมมือด้านการจัดทำ�รายงานการปฏิบัติตาม สิทธิมนุษยชนแห่งชาติได้ขับเคล่ือนผลงานการศึกษา พนั ธกรณรี ะหวา่ งประเทศดา้ นสิทธมิ นษุ ยชน วิจัยด้านสิทธิมนุษยชนให้องค์กรและหน่วยงานต่าง ๆ ทีเ่ กีย่ วขอ้ ง ตลอดจนประชาชนทว่ั ไปที่สนใจ รับทราบและ เพื่อส่งเสริมการปฏิบัติตามพันธกรณีระหว่างประเทศ น�ำผลการศึกษาวิจัยไปใช้ประโยชน์ จ�ำนวน 3 เรื่อง ได้แก่ ดา้ นสทิ ธมิ นษุ ยชนของประเทศไทย รวมถงึ ใหข้ อ้ เสนอแนะ (1) โครงการศึกษาวิจัยเชิงปฏิบัติการแบบมีส่วนร่วม เพ่ือน�ำไปสู่การปฏิบัติที่ท�ำให้เกิดการเคารพสิทธิมนุษยชน เพ่ือแก้ไขปัญหาการละเมิดสิทธิมนุษยชนในพื้นที่เรื่อง ให้ดียิ่งข้ึน ในปี 2562 คณะกรรมการสิทธิมนุษยชน “การเคลื่อนไหวเพื่อสิทธิมนุษยชนของชุมชนประมง แห่งชาติได้จัดท�ำรายงานคู่ขนานตามพันธกรณีระหว่าง พื้นท่ีอ่าวปัตตานี” (2) โครงการศึกษาวิจัยความเช่ือมโยง ประเทศ จ�ำนวน 2 ฉบับ ดังนี้ ร ะ ห ว ่ า ง สิ ท ธิ ชุ ม ช น กั บ ท รั พ ย า ก ร ธ ร ร ม ช า ติ แ ล ะ
รายงานผลการปฏิบัติงานคณะปกรระรจมำ�กปางี รบสปิทรธะิมมนาณุษยพชน.ศแ.ห2่ง5ช6าต2ิ 140 คณะกรรมการสทิ ธมิ นุษยชนแห่งชาติ 1.1) รายงานคู่ขนานการปฏิบัติตามอนุสัญญา • สถานการณ์สิทธิมนุษยชนของกลุ่มคนไทย วา่ ดว้ ยการขจดั การเลอื กปฏบิ ตั ทิ างเชอ้ื ชาติ ในทกุ รปู แบบ เช้ือสายมลายู เช่น การมักถูกเจ้าหน้าท่ีของรัฐสงสัย (Convention on the Elimination of All Forms ว ่ า ใ ห ้ ก า ร ส นั บ ส นุ น ห รื อ มี ส ่ ว น ร ่ ว ม ใ น ข บ ว น ก า ร of Racial Discrimination: CERD) โดยมีเนื้อหา ก่อความไม่สงบในพื้นที่ ปัญหาการถูกทรมานโดย ในประเด็นต่าง ๆ เช่น เจา้ หนา้ ทขี่ องรฐั และปญั หาการไรส้ ญั ชาตใิ นพนื้ ทด่ี งั กลา่ ว อั น เ น่ื อ ง ม า จ า ก ก า ร ต ก ส�ำ ร ว จ ข อ ง ท า ง ร า ช ก า ร • พัฒนาการเชิงบวกที่ส�ำคัญของไทยเก่ียวกับ การไม่แจ้งเกิด การถูกทอดทิ้งและการขาดความรู้ มาตรการทั่วไปในการปฏิบัติตามอนุสัญญา CERD เช่น ความเข้าใจในกระบวนการรับรองสถานะทางทะเบียน รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2560 มาตรา 27 และมาตรา 70 ที่บัญญัติถึงความเสมอกัน • สถานการณ์สิทธิมนุษยชนของกลุ่มแรงงาน ของบุคคล และการส่งเสริมรวมถึงให้ความคุ้มครอง ข้ามชาติ เช่น ปัญหาการค้ามนุษย์และปัญหาเด็กท่ีเป็น ชาวไทยกลุ่มชาติพันธุ์ แผนสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ บุ ต ร ข อ ง แ ร ง ง า น ข ้ า ม ช า ติ จ า ก ป ร ะ เ ท ศ เ พื่ อ น บ ้ า น ฉบับท่ี 3 พ.ศ. 2557-2561 ที่ได้ก�ำหนดแผนของกลุ่ม ที่เข้ามาท�ำงานในประเทศไทยโดยไม่ถูกกฎหมาย ผู้ไร้รัฐ กลุ่มชาติพันธุ์และกลุ่มผู้แสวงหาท่ีพักพิงหรือ ท่ีอาจมีความเส่ียงที่จะกลายเป็นเด็กไร้รัฐ ไร้สัญชาติ ผู้หนีภัยการสู้รบไว้เป็นการเฉพาะ มติคณะรัฐมนตรี เม่ือวันท่ี 7 ธันวาคม 2559 ที่ได้อนุมัติแนวทางและ • สถานการณ์สิทธิมนุษยชนของกลุ่มผู้อพยพ ม า ต ร ก า ร แ ก ้ ไ ข ป ั ญ ห า ส ถ า น ะ บุ ค ค ล แ ล ะ ค น ไ ร ้ รั ฐ ผู้แสวงหาที่พักพิง เช่น ผลกระทบจากการอพยพ ในประเทศไทย และการถอนข้อสงวน ข้อ 4 ของ โยกย้ายถ่ินฐานของชาวโรฮีนจาจากเมียนมาและ อนุสัญญา CERD เร่ือง การประณามการโฆษณาชวนเช่ือ บังกลาเทศที่เข้าเมืองโดยไม่ถูกต้องตามกฎหมาย การเผยแพร่ความคิดและการกระท�ำที่ต้ังอยู่บนพ้ืนฐาน ปัญหาความแออัดของชาวโรฮีนจาที่ถูกควบคุมตัว ความเช่ือเก่ียวกับความเหนือกว่าทางเชื้อชาติ อยู่ในห้องกักของส�ำนักงานตรวจคนเข้าเมือง และปัญหา เด็กผู้อพยพที่เข้าเมืองโดยผิดกฎหมายเนื่องจากเดินทาง • สถานการณ์ด้านสิทธิมนุษยชนของกลุ่มคน มากับบิดามารดา ไร้รัฐ ไร้สัญชาติ เช่น กลุ่มผู้สูงอายุไร้สัญชาติและ ก ลุ ่ ม ค น ไ ร ้ สั ญ ช า ติ ที่ ไ ม ่ ไ ด ้ เ กิ ด ใ น ร า ช อ า ณ า จั ก ร • ข้อเสนอแนะต่างๆ ที่คณะกรรมการสิทธิมนุษยชน แตม่ คี วามกลมกลนื กบั สงั คมไทย และปญั หาการถกู จ�ำหนา่ ย แห่งชาติมีต่อรัฐบาลเพ่ือแก้ไขปัญหาข้างต้น เช่น ร า ย ชื่ อ แ ล ะ ร า ย ก า ร บุ ค ค ล ท า ง ท ะ เ บี ย น ร า ษ ฎ ร การพิจารณาส�ำรวจจ�ำนวนผู้สูงอายุไร้สัญชาติและ ของชาวบ้านในอ�ำเภอแม่แตงและอ�ำเภอเวียงแหง คนไร้สัญชาติท่ีไม่ได้เกิดในราชอาณาจักร แต่มีความ จังหวัดเชียงใหม่ กลมกลืนกับสังคมไทย การเร่งตรวจสอบสาเหตุ ของการจ�ำหน่ายชื่อบุคคลออกจากทะเบียนราษฎร • สถา นกา รณ ์ด้านสิทธิมนุษยชนของก ลุ ่ ม ก า ร ท�ำ ค ว า ม เ ข ้ า ใ จ กั บ ค น ไ ท ย พ ลั ด ถ่ิ น เ ก่ี ย ว กั บ ชาติพันธุ์ต่าง ๆ ในประเทศไทย เช่น กลุ่มชาติพันธุ์ กระบวนการยื่นค�ำขอคืนสัญชาติตามพระราชบัญญัติ กระเหรี่ยงและชุมชนท้องถิ่นดั้งเดิมบนพื้นที่สูงของ สัญชาติ (ฉบับที่ 5) พ.ศ. 2555 การยุติการจับกุม ประเทศ โดยเฉพาะทางภาคเหนือและภาคตะวันตก ก ลุ ่ ม ช า ติ พั น ธุ ์ ก ะ เ ห รี่ ย ง แ ล ะ ชุ ม ช น ท ้ อ ง ถ่ิ น ดั้ ง เ ดิ ม ที่ได้รับผลกระทบต่อวิถีชีวิตด้ังเดิมอันเป็นผลจากการ การเร่งรัดด�ำเนินการเพื่อให้ชาวมานิได้เข้าถึงสิทธิ ประกาศเขตป่าสงวนและเขตอุทยานทับซ้อนที่อยู่ ด้านต่าง ๆ ตามแนวทางของมติคณะรัฐมนตรี อาศัยและที่ท�ำกิน กลุ่มชนเผ่ามานิในจังหวัดตรัง พัทลุง เมื่อปี 2553 เร่ืองการฟื้นฟูวิถีชีวิตชาวกระเหร่ียงและ และสตูลท่ีประสบปัญหาการใช้ชีวิตและความเป็นอยู่ เมื่อเดือนสิงหาคม 2553 เร่ืองการฟื้นฟูวิถีชีวิตชาวเล หลายด้าน เช่น แหล่งอาหารไม่เพียงพอต่อการยังชีพและ การติดตามตรวจสอบการใช้อ�ำนาจของเจ้าหน้าท่ีรัฐ การไม่มีสถานะทางทะเบียนจึงท�ำให้ไม่ได้รับสวัสดิการ ต่อคนไทยเชื้อสายมลายูให้อยู่ในกรอบของกฎหมาย จากภาครัฐ
141 อยา่ งเครง่ ครดั การทบทวนการประกาศใชพ้ ระราชบญั ญตั ิ ในสถานการณ์ต่าง ๆ และกลไกการติดตามดูแลเด็ก บทที่ กฎอัยการศึก พุทธศักราช 2457 และพระราชก�ำหนด ในครอบครัว รวมท้ังการให้ความรู้เร่ืองการสร้างวินัย 1 การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 เชิงบวกแก่ผู้ปกครองและบุคลากรทางการศึกษา ในจังหวัดชายแดนภาคใต้โดยควรบังคับใช้เท่าที่จ�ำเป็น บทท่ี และในระยะเวลาที่จ�ำกัดเท่านั้น การส่งเสริมให้มี • สภาพแวดล้อมทางครอบครัว เช่น การส่งเสริมให้ 2 การบังคับใช้กฎหมายที่ป้องกันการลักลอบน�ำแรงงาน พ่อแม่ตระหนักถึงความรับผิดชอบในการเลี้ยงดูลูก บทท่ี จากประเทศเพ่ือนบ้านเข้ามาท�ำงานในประเทศไทย ม า ต ร ก า ร ช ่ ว ย เ ห ลื อ ค ร อ บ ค รั ว ย า ก จ น ใ ห ้ ส า ม า ร ถ 3 อยา่ งไมถ่ กู ตอ้ ง การเรง่ พจิ ารณาระบบคดั กรองคนเขา้ เมอื ง เล้ียงดูเด็กได้ และการจัดหาครอบครัวทดแทนให้แก่ บทท่ี ผิดกฎหมายตามมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 10 มกราคม เ ด็ ก ที่ ถู ก ท อ ด ทิ้ ง ร ว ม ถึ ง แ น ว ท า ง ก า ร ต ร ว จ ส อ บ 4 2560 และการพิจารณาแก้ไขปัญหาความแออัดของ ปัญหาและอุปสรรค รวมถึงแนวทางการแก้ไขปัญหา บทท่ี ห้องกักและจัดให้มีระบบการรักษาพยาบาลผู้ต้องกัก การด�ำเนินงานของสถาบันที่ให้การดูแลทางเลือกแก่เด็ก 5 ท่ีเจ็บป่วยอย่างเหมาะสม ภาค • สุขภาพและสวัสดิการ เช่น การได้รับโภชนาการ ผนวก ทั้งน้ี เมื่อวันที่ 8 พฤศจิกายน 2561 คณะกรรมการ ไม่เพียงพอของเด็กบางกลุ่มในบางพ้ืนท่ี การเข้าถึง สทิ ธมิ นษุ ยชนแหง่ ชาตไิ ดจ้ ดั สมั มนาเพอื่ รบั ฟงั ความคดิ เหน็ การศึกษาของเด็กก่อนวัยเรียน ปัญหาเด็กออกจาก จากผู้มีส่วนเก่ียวข้องท้ังภาครัฐและภาคประชาสังคม โรงเรียนกลางคัน การปรับปรุงคุณภาพการศึกษา ต่อร่างรายงานคู่ขนานการปฏิบัติตามอนุสัญญา CERD การเข้าถึงการศึกษาของเด็กพิการ ปัญหาเด็กพิการ เพื่อจะได้ด�ำเนินการปรับปรุงร่างรายงานดังกล่าวตาม ที่ไม่มีสัญชาติไทยไม่สามารถเข้าถึงสวัสดิการของรัฐได้ ความเห็นที่ได้จากการสัมมนาก่อนส่งให้คณะกรรมการ สถานการณ์การต้ังครรภ์ในวัยรุ่น เด็กติดสารเสพติด ประจ�ำอนุสัญญา CERD พิจารณาควบคู่กับรายงาน และระบบประกันสุขภาพส�ำหรับแรงงานข้ามชาติ (เด็ก) ทจี่ ดั ท�ำโดยรัฐบาลต่อไป • มาตรการคุ้มครองพิเศษส�ำหรับเด็ก เช่น 1.2) รายงานคู่ขนานการปฏิบัติตามอนุสัญญา ปัญหาเด็กผู้อพยพท่ีเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย ปัญหาเด็ก วา่ ดว้ ยสิทธิเด็ก (Convention on the Rights of the ที่เป็นบุตรของแรงงานโยกย้ายถิ่นฐานในประเทศไทย Child-CRC) ประกอบด้วยเนอื้ หาทสี่ �ำ คญั ดังนี้ ปญั หาเดก็ เรร่ อ่ น เดก็ ในกระบวนการยตุ ธิ รรม เดก็ ทไี่ ดร้ บั ผลกระทบจากสถานการณ์ความรุนแรงในจังหวัด • มาตรการท่ัวไปเพื่อรองรับการด�ำเนินการ ชายแดนภาคใต้ ปัญหาเด็กติดเกม กีฬามวยไทย ตามอนุสัญญา CRC เช่น แผนปฏิรูปประเทศ ในเด็ก ปัญหาการขลิบอวัยวะเพศหญิงของเด็กหญิง ยุทธศาสตร์คุ้มครองเด็ก แผนพัฒนาเด็กและเยาวชน ในพ้ืนท่ีจังหวัดชายแดนภาคใต้ การค้าประเวณีเด็ก แห่งชาติ ความคืบหน้าการแก้ไขอายุข้ันต�่ำในการสมรส การท่องเที่ยวทางเพศในเด็กชาย และการแต่งงาน และอายขุ ั้นต่ำ� ในการรบั ผิดทางอาญา ร่างพระราชบญั ญตั ิ ของเด็ก (child marriage) การพัฒนาเด็กปฐมวัย พ.ศ. .... ร่างพระราชบัญญัติ ส่งเสริมการพัฒนาและคุ้มครองสถาบันครอบครัว นอกจากน้ี คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ พ.ศ. .... และกลไกการท�ำงานของคณะกรรมการ ได้จัดให้มีการประชุมเพื่อรับฟังความคิดเห็นจาก ตามมาตรา 14 ของพระราชบญั ญตั คิ มุ้ ครองเดก็ พ.ศ. 2546 ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องท้ังจากภาครัฐและภาคประชาสังคม จ�ำนวน 2 ครั้ง เพ่ือน�ำข้อมูลท่ีได้รับจากการรับฟัง • สิทธิพลเมือง เช่น การขอสถานะหรือสัญชาติ ความคิดเห็นดังกล่าวมาใช้ในการปรับปรุงร่างรายงาน ของเด็กไร้รัฐ การจดทะเบียนเกิดของเด็กกลุ่มเสี่ยง คู่ขนานก่อนส่งให้คณะกรรมการประจ�ำอนุสัญญา มาตรการป้องกันหรือลดการเสียชีวิตของเด็กจากการ CRC พิจารณาควบคู่กับรายงานท่ีจัดท�ำโดยรัฐบาลต่อไป จมน�้ำและอุบัติเหตุจราจร สถานการณ์เด็กที่ถูกกระท�ำ รุนแรง ระบบการให้ความคุ้มครองเด็กที่ถูกกระท�ำรุนแรง
รายงานผลการปฏบิ ัติงานคณะปกรระรจมำ�กปางี รบสปิทรธะมิมนาณษุ ยพชน.ศแ.ห2ง่ 5ช6าต2ิ 142 คณะกรรมการสทิ ธิมนษุ ยชนแห่งชาติ 2) ความร่วมมือด้านสิทธิมนุษยชนระหว่างประเทศ • การประชุม GANHRI Annual Conference กับสถาบันสิทธิมนุษยชนแห่งชาติในประเทศต่าง ๆ การประชุมประจ�ำปี 2562 ของ GANHRI ในหัวข้อ “บทบาทของสถาบันสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ในการ ในปีงบประมาณ พ.ศ. 2562 คณะกรรมการ ส่งเสริมการน�ำข้อตกลงระหว่างประเทศว่าด้วยการ สิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ผู้บริหารและบุคลากร โ ย ก ย ้ า ย ถิ่ น ฐ า น ท่ี ป ล อ ด ภั ย เ ป ็ น ร ะ เ บี ย บ แ ล ะ ป ก ติ ของส�ำนักงานคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ไ ป ป ฏิ บั ติ ใ ช ้ โ ด ย ค�ำ นึ ง ถึ ง ห ลั ก สิ ท ธิ ม นุ ษ ย ช น แ ล ะ ไ ด ้ เ ข ้ า ร ่ ว ม ป ร ะ ชุ ม ต า ม ก ร อ บ ค ว า ม ร ่ ว ม มื อ ด ้ า น มิติทางเพศของผู้โยกย้ายถิ่นฐาน ตลอดจนการติดตาม สิทธิมนุษยชนระหว่างประเทศเพ่ือส่งเสริมความร่วมมือ ประเมินผลและทบทวนข้อตกลงดังกล่าว” เน่ืองจาก กับพันธมิตรในเวทีระหว่างประเทศ ทั้งในกรอบ ปัจจุบันการโยกย้ายถ่ินฐานระหว่างประเทศ ซึ่งมี ความร่วมมือระหว่างสถาบันสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ จ�ำนวนประชากรอพยพย้ายถิ่นข้ามประเทศขยายตัว ในระดับต่าง ๆ กลไกด้านสิทธิมนุษยชนของอาเซียน เพ่ิมสูงข้ึน ก่อให้เกิดปัญหาที่มีความซับซ้อน ส่งผลกระทบ แ ล ะ ห น ่ ว ย ง า น ข อ ง ส ห ป ร ะ ช า ช า ติ เ พื่ อ ติ ด ต า ม ต่อทุกประเทศท่ัวโลก โดยท่ีประเทศใดประเทศหนึ่ง พัฒนาการท่ีส�ำคัญด้านสิทธิมนุษยชนระหว่างประเทศ ไม่สามารถจัดการได้โดยล�ำพัง และแลกเปลี่ยนประสบการณ์ ตลอดจนตัวอย่างท่ีดี ในการด�ำเนินงานเพื่อส่งเสริมการเคารพสิทธิมนุษยชน ร ว ม ทั้ ง ก า ร ติ ด ต า ม ค ว า ม ก ้ า ว ห น ้ า ข อ ง รั ฐ บ า ล ในประเด็นส�ำคัญที่อยู่ในความสนใจร่วมกัน สรุปได้ดังน้ี ใ น ก า ร ด�ำ เ นิ น ก า ร ใ ห ้ ส อ ด ค ล ้ อ ง กั บ วั ต ถุ ป ร ะ ส ง ค ์ ท้ัง 23 ข้อของข้อตกลงระหว่างประเทศเพ่ือการโยกย้าย 2.1) ความร่วมมือกับพันธมิตรระดับโลกว่าด้วย ถิ่นฐานท่ีปลอดภัย เป็นระเบียบ และปกติ (High-level สถาบันสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (Global Alliance of Intergovernmental Conference to Adopt The Global National Human Rights Institutions: GANHRI) Compact for Safe, Orderly and Regular Migration: โดยมีการประชุมที่สำ�คัญประกอบด้วย GCM) การสร้างความร่วมมือ การแลกเปล่ียนข้อมูล และการท�ำงานร่วมกันของสถาบันสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ • การประชุม GANHRI General Meeting ในระดบั ภมู ภิ าค ตลอดจนบทบาทของสถาบนั สทิ ธมิ นษุ ยชน การประชุมประจ�ำปีตามกรอบความร่วมมือกับพันธมิตร แห่งชาติในเวทีโลกเพื่อพิจารณาประเด็นการโยกย้าย ร ะ ดั บ โ ล ก ว ่ า ด ้ ว ย ส ถ า บั น สิ ท ธิ ม นุ ษ ย ช น แ ห ่ ง ช า ติ ถ่ินฐานระหว่างประเทศ และที่การร่วมกันจัดท�ำ (Global Alliance of National Human Rights แถลงการณ์สุดท้ายเพ่ือแสดงเจตนารมณ์และความมุ่งมั่น Institutions: GANHRI) เมื่อวันท่ี 5-6 มีนาคม 2562 ของสมาชกิ GANHRI ตอ่ การสนับสนุนให้เกดิ การน�ำ GCM ณ ส�ำนักงานสหประชาชาติ นครเจนีวา สมาพันธรัฐสวิส ไปปฏิบัติใช้อย่างเป็นรูปธรรม มีสาระส�ำคัญ ได้แก่ การรับรองการแก้ไขธรรมนูญของ GANHRI การรายงานผลการด�ำเนินงานของ GANHRI นอกจากน้ี ยงั มกี ารประชมุ เพอ่ื เสรมิ สรา้ งความรว่ มมอื ในรอบปีท่ีผ่านมา การรับรองสมาชิกแทนสมาชิก และความเข้มแข็งระหว่างสถาบันสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ที่หมดวาระ รวมทั้งการเลือกตั้งประธานและเลขานุการ ที่ส�ำคัญอ่ืน ๆ ได้แก่ ของ GANHRI เพ่ือท�ำหน้าที่ในวาระ 3 ปีข้างหน้า การรบั ทราบรายงานผลการพจิ ารณาของคณะอนกุ รรมการ 1) การประชุมเชิงปฏิบัติการว่าด้วยบทบาทหน้าที่ ว่าด้วยการประเมินสถานะ (Sub-Committee on ของสถาบันสิทธิมนุษยชนแห่งชาติในการป้องกัน Accreditation: SCA) ในรอบปีที่ผ่านมา และเป็นเวที สภาวการณ์อันจะนำ�ไปสู่การพลัดถิ่นภายในประเทศ การพิจารณาวาระต่าง ๆ ท่ีต้องได้รับความเห็นชอบ (Workshop on the role of National Human Rights จากท่ีประชุมใหญ่ Institutions in preventing conditions leading to internal displacement) จัดขึ้นโดยความร่วมมือของ GANHRI UNHCR และ OHCHR ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของ
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147
- 148
- 149
- 150
- 151
- 152
- 153
- 154
- 155
- 156
- 157
- 158
- 159
- 160
- 161
- 162
- 163
- 164
- 165
- 166
- 167
- 168
- 169
- 170
- 171
- 172
- 173
- 174
- 175
- 176
- 177
- 178
- 179
- 180
- 181
- 182
- 183
- 184
- 185
- 186
- 187
- 188
- 189
- 190
- 191
- 192
- 193
- 194
- 195
- 196
- 197
- 198
- 199
- 200
- 201
- 202
- 203
- 204
- 205
- 206
- 207
- 208
- 209
- 210
- 211
- 212
- 213
- 214
- 215
- 216
- 217
- 218
- 219
- 220
- 221
- 222
- 223
- 224
- 225
- 226
- 227
- 228
- 229
- 230
- 231
- 232
- 233
- 234
- 235
- 236
- 237
- 238
- 239
- 240
- 241
- 242
- 243
- 244
- 245
- 246
- 247
- 248
- 249
- 250
- 251
- 252
- 253
- 254
- 255
- 256
- 257
- 258
- 259
- 260
- 261
- 262
- 263
- 264
- 265
- 266
- 267
- 268
- 269
- 270
- 271
- 272
- 273
- 274
- 275
- 276
- 277
- 278
- 279
- 280
- 281
- 282
- 283
- 284
- 285
- 286
- 287
- 288
- 289
- 290
- 291
- 292
- 293
- 294
- 295
- 296
- 297
- 298
- 299
- 300
- 301
- 302
- 303
- 304
- 305
- 306
- 307
- 308
- 309
- 310
- 311
- 312
- 313
- 314
- 315
- 316
- 317
- 318
- 319
- 320
- 321
- 322
- 323
- 324
- 325
- 326
- 327
- 328
- 329
- 330
- 331
- 332
- 333
- 334
- 335
- 336
- 337
- 338
- 339
- 340
- 341
- 342
- 343
- 344
- 345
- 346
- 347
- 348
- 349
- 350
- 351
- 352
- 353
- 354
- 355
- 356
- 357
- 358
- 359
- 360
- 361
- 362
- 363
- 364
- 365
- 366
- 367
- 368
- 369
- 370
- 371
- 372
- 373
- 374
- 375
- 376
- 377
- 378
- 379
- 380
- 381
- 382
- 383
- 384
- 385
- 386
- 387
- 388
- 389
- 390
- 391
- 392
- 393
- 394
- 395
- 396
- 397
- 398
- 399
- 400
- 401
- 402
- 403
- 404
- 405
- 406
- 407
- 408
- 409
- 410
- 411
- 412
- 413
- 414
- 415
- 416
- 417
- 418
- 419
- 420
- 421
- 422
- 423
- 424
- 425
- 426
- 427
- 428
- 429
- 430
- 431
- 432
- 433
- 434
- 435
- 436
- 437
- 438
- 439
- 440
- 441
- 442
- 443
- 444
- 445
- 446
- 447
- 448
- 449
- 450
- 451
- 452
- 453
- 454
- 455
- 456
- 457
- 458
- 459
- 460
- 461
- 462
- 463
- 464
- 465
- 466
- 467
- 468
- 469
- 470
- 471
- 472
- 473
- 474
- 475
- 476
- 477
- 478
- 479
- 480
- 481
- 482
- 483
- 484
- 485
- 486
- 487
- 488
- 489
- 490
- 491
- 492
- 493
- 494
- 495
- 496
- 497
- 498
- 499
- 500
- 501
- 502
- 503
- 504
- 505
- 506
- 507
- 508
- 509
- 510
- 511
- 512
- 513
- 514
- 515
- 516
- 517
- 518
- 519
- 520
- 521
- 522
- 523
- 524
- 525
- 526
- 527
- 528
- 529
- 530
- 531
- 532
- 533
- 534
- 535
- 536
- 537
- 538
- 539
- 540
- 541
- 542
- 543
- 544
- 545
- 546
- 547
- 548
- 549
- 550
- 551
- 552
- 553
- 554
- 555
- 556
- 557
- 558
- 559
- 560
- 561
- 562
- 563
- 564
- 565
- 566
- 567
- 568
- 569
- 570
- 571
- 572
- 573
- 574
- 575
- 576
- 577
- 578
- 579
- 580
- 581
- 582
- 583
- 584
- 585
- 586
- 587
- 588
- 589
- 590
- 591
- 592
- 593
- 594
- 595
- 596
- 597
- 598
- 599
- 600
- 601
- 602
- 603
- 604
- 605
- 606
- 607
- 608
- 609
- 610
- 611
- 612
- 613
- 614
- 615
- 616
- 617
- 618
- 619
- 620
- 621
- 622
- 623
- 624
- 625
- 626
- 627
- 628
- 629
- 630
- 631
- 632
- 633
- 634
- 635
- 636
- 637
- 638
- 639
- 640
- 641
- 642
- 643
- 644
- 645
- 646
- 647
- 648
- 649
- 650
- 651
- 652
- 653
- 654
- 1 - 50
- 51 - 100
- 101 - 150
- 151 - 200
- 201 - 250
- 251 - 300
- 301 - 350
- 351 - 400
- 401 - 450
- 451 - 500
- 501 - 550
- 551 - 600
- 601 - 650
- 651 - 654
Pages: