ศึกษาปญั หาความต้องการของระบบ | 269 1. วิธีการรวบรวมแบบด้งั เดิม มีวิธีการรวบรวม 5 วิธี คือ1) การรวบรวมจาก เอกสาร 2) การค้นคว้าข้อมูล 3) การสัมภาษณ์ 4) การใช้แบบสอบถาม และ 5) การสังเกตการณ์ แต่ละวิธีมีรูปแบบการทางานทแ่ี ตกต่างกัน ดังนี้ 1.1 การรวบรวมข้อมูลจากเอกสาร การรวบรวมความต้องการจากเอกสาร จะเป็นวิธีการที่นาเอกสารที่มกี ารดาเนินงานในระบบเดิม หรือใช้งานในปัจจุบัน นามา พิจารณาวิเคราะห์ความสาคัญ แหล่งข้อมูล รูปแบบการจัดเก็บ และการเรียกใช้ข้อมลู จนกระทั่งรปู แบบการแสดงสรปุ รายงาน 1.2 การค้นคว้าข้อมูล นกั วิเคราะห์ระบบจะสืบคน้ ข้อมูลเก่ียวกบั การทางาน ขององคก์ รหรือหนว่ ยงานท่ีเกย่ี วข้อง ในการดาเนนิ งานระบบงานท่จี ะพัฒนาขึ้น ในที่น้ี การสืบค้น ข้อมูลก็สามารถนาข้อมูลจากการสืบค้นผ่านระบบเครือข่ายอินเทอร์เน็ต ข้อมูลเอกสารเผยแพร่ประชาสัมพันธ์เพื่อจะนาข้อมูลดังกล่าวไปรวบรวม การศึกษา ความต้องการขององคก์ รต่อไป 1.3 ก า ร สั ม ภา ษณ์ วิ ธี ก า ร สั มภ าษณ์ เ ป็นก ระ บว นกา รต่ อ เน่ือง เมื่อนักวิเคราะห์ระบบได้ศึกษาข้อมูลพื้นฐาน เพ่ือให้ได้ข้อมูลที่แม่นยาและถูกต้อง ต่อความเข้าใจ การสัมภาษณ์เป็นวิธีการหน่ึงที่ทบทวนข้อมูลพื้นฐานจากบุคลากร ทเ่ี กีย่ วขอ้ งในการดาเนนิ งาน 1.3.1 ข้ันตอนการสัมภาษณ์ การสัมภาษณ์นักวิเคราะห์จะต้องมีการ เตรียมความพรอ้ มในการสมั ภาษณ์ เพ่ือให้ได้มาซงึ่ ข้อมูลท่ีถูกต้องและแม่นยามากท่สี ุด มขี นั้ ตอนการสมั ภาษณ์ดงั นี้ 1) กาหนดบุคคลที่สัมภาษณ์ การเลือกบุคคลสัมภาษณ์ นั ก วิ เ ค ร า ะ ห์ ร ะ บ บ ค ว ร เ ลื อ ก สั ม ภ า ษ ณ์ ห ล า ย ค น เ พ่ื อ ใ ห้ ไ ด้ ข้ อ มู ล ท่ี ห ล า ก ห ล า ย และสามารถทราบถึงทัศนคติของบคุ ลากรแตล่ ะคนเพิ่มขน้ึ 2) การเตรียมการสัมภาษณ์ นักวิเคราะห์ระบบจะต้องกาหนด วัตถุประสงค์การทางาน มีความกระชับในการสอบถาม มีคาถามชัดเจนเพื่อให้เกิด การบรรยายในการตอบคาถาม 3) ดาเนินการสัมภาษณ์ ถือเป็นข้ันตอนท่ีสาคัญที่นักวิเคราะห์ ระบบจะได้สัมภาษณ์ โดยเริ่มจากนักวิเคราะห์ระบบแนะนาตนเองให้กับผู้สัมภาษณ์ จากนั้นก็ดาเนินการสมั ภาษณ์ นักวิเคราะห์ระบบจะต้องจบั ประเด็นในการตอบคาถาม
ศกึ ษาปัญหาความตอ้ งการของระบบ | 270 เว้นระยะในการสัมภาษณ์ หากเป็นประเด็นท่ีเครียดเพ่ือไม่ให้บรรยายกาศในการตอบ คาถามน่าเบ่ือ นักวิเคราะห์ระบบจะต้องเก็บข้อมูลให้แม่นยาและละเอียดมากที่สุด ควรมีการจดบันทึกและบันทึกเสียงโดยในการดาเนินงานจะต้องมีการขออนุญาตจาก ผสู้ ัมภาษณ์กอ่ น 4) สรุปรายงานผลการสัมภาษณ์ เมื่อดาเนินการสัมภาษณ์ เรียบร้อย นักวิเคราะห์ระบบทาการสรุปจากบทสัมภาษณ์ให้ผู้ท่ีได้รับการสัมภาษณ์ ตรวจสอบความถูกต้อง รูปแบบการทารายงานควรมีรายละเอียดและแยกประเด็น เพ่ือง่ายต่อการตรวจสอบ เช่น การสรุปหัวข้อแยกเป็นประเด็น มีช่ือผู้สัมภาษณ์ ผู้ตอบ คาถาม วนั เวลาในการดาเนนิ การสัมภาษณ์ ข้อเสนอแนะเพมิ่ เตมิ อืน่ ๆ 5) ประเมินผลการสัมภาษณ์ เมื่อผู้ตอบคาถามรับรองความ ถูกต้องนักวิเคราะห์ระบบก็ดาเนินงานนาข้อมูลจากการสัมภาษณ์มาวิเคราะห์ ประมวลผล ว่าได้รับข้อมูลครบถ้วนหรือไม่ หรือไม่มีความชัดเจนประเด็นใดบ้าง หากพบข้อสงสัย นักวิเคราะห์ระบบจะต้องดาเนินสัมภาษณ์ข้อสงสัยอีกครั้งตาม กระบวนการสัมภาษณ์ 1.4 การใช้แบบสอบถาม การใช้แบบสอบถามเป็นการเกบ็ ข้อมลู แบบด้ังเดิม ท่ีนามาประยุกต์ใช้ในกรณีมีผู้ให้ข้อมูลปริมาณมาก การตอบแบบสอบถามจะทาให้ได้ ขอ้ มูลที่มคี วามหลากหลายจากบุคลากรทุกระดับ สามารถเข้าใจปญั หาทกุ ระดับ ทาให้ ผู้ตอบคาถามมีส่วนร่วมในการเสนอความคิดเห็น การสร้างแบบสอบถามมี 2 รูปแบบ หลัก คือ การตอบคาถามปลายเปิด ดังภาพที่ 6.2 แสดงตัวอย่างแบบสอบถาม ปลายเปิดเป็นคนถามท่ีผู้ตอบแบบสอบถามสามารถแสดงความคิดเห็น ข้อเสนอแนะ เพ่ิมเติมได้จากประเด็นคาถาม และการตอบคาถามปลายปิด ดังภาพที่ 6.3 ตัวอย่าง แบบสอบถามทผ่ี ูส้ ร้างแบบสอบถามเสนอเงื่อนไขให้ผตู้ อบคาถามไดเ้ ลือกคาตอบ
ศึกษาปัญหาความตอ้ งการของระบบ | 271 ภาพท่ี 6.2 แบบสอบถามระบบงานคาถามปลายเปดิ ภาพท่ี 6.3 แบบสอบถามระบบงานคาถามปลายปดิ 1.5 การสังเกตการณ์ การสังเกตการณ์จะเป็นวธิ ีการตรวจสอบ ข้อเท็จจริง เมื่อมีการสัมภาษณ์จะทาให้นักวิเคราะห์เกิดความมั่นใจจากข้อมูลที่รวบรวม ว่ามีความ ขัดแยง้ หรือไม่ สงั เกตจากพฤตกิ รรมการมสี ว่ นรว่ ม ทาให้นกั วิเคราะห์ระบบไดร้ ับข้อมูล ทีน่ ่าเช่อื ถอื และเข้าใจระบบงานมากยง่ิ ข้นึ 2. วิธีการรวบรวมแบบใหม่ มีวิธีการรวบรวมการพัฒนาแอปพลิชันร่วมกัน (Joint Application Development: JAD) และการสร้างโปรแกรมต้นแบบวนซ้า 2.1 การพฒั นาแอปพลิชันร่วมกัน การออกแบบนี้เป็นแนวคิดของของบริษัท IBM ได้ทาการพัฒนาระบบ ร่วมกันในการศึกษาความต้องการของผู้ใช้งานและทาการประชุมกลุ่มในการวิเคราะห์ ความต้องการ ซึ่งการออกแบบจะใช้แอปพลิเคชันในการรวบรวมและวิเคราะห์ความ ตอ้ งการของผู้ใชข้ อ้ มูล มบี คุ ลากรประกอบดว้ ย
ศึกษาปญั หาความตอ้ งการของระบบ | 272 2.1.1 ผนู้ าประชุม คือผูท้ ่ีอานวยความสะดวกระหวา่ งการประชุม และ สรปุ ประเด็นการสนทนาระหวา่ งประชมุ 2.1.2 ผใู้ ชร้ ะบบ คอื ผใู้ ช้ระบบงานเปน็ ประจา มีหน้าท่เี ก่ียวขอ้ งในการ ทางาน เข้าใจกระบวนการทางาน สามารถตอบปัญหาและแนวทางการใช้งาน ระบบงาน 2.1.3 ผบู้ รหิ าร คอื ผทู้ ่ีมีอานาจในการพจิ ารณาและบรหิ ารงานองคก์ ร 2.1.4 ผู้สนบั สนนุ คอื ผสู้ นับสนุนงบประมาณในการพัฒนาระบบ หรอื ผ้บู รหิ ารกรรมการดาเนินงาน 2.1.5 นักวิเคราะห์ระบบ คือนักวิเคราะห์ระบบและทีมพัฒนา ระบบงานทาหน้าที่รวบรวมขอ้ มลู และวเิ คราะห์ขอ้ มูล 2.2 การสร้างโปรแกรมตน้ แบบวนซา้ เป็นวิธีการสร้างโปรแกรมต้นแบบท่ีทีมนักวิเคราะห์ระบบพัฒนา โปรแกรมต้นแบบให้ผู้ใช้บริการ ผู้บริหารใช้งานเพื่อดูผลการตอบรับการใช้งานจากการ ทดลองใช้งาน เม่ือได้ทราบความต้องการของผู้บริหาร ผู้ใช้ระบบ ก็นาแนวทางปรับปรุง และนาโปรแกรมต้นแบบนาเสนอผ้ใู ช้บริการให้ทดสอบการใช้งานอีกครั้ง ข้อดีของวิธีน้ี คือ นักวิเคราะห์ระบบจะสามารถรู้ความต้องการ และ ผูใ้ ชร้ ะบบงานจะเหน็ รูปแบบการทางานและการเปล่ียนแปลงระบบงานใหม่ ขอ้ เสยี ของ วิธีน้ีหากมีการใช้งานวนซ้า ผู้ใช้ระบบงานอาจให้ทีมพัฒนางานเพ่ิมเกินขอบเขตงานท่ี กาหนดจงึ จาเปน็ ต้องระบุขอบเขตงานใหช้ ัดเจน การศกึ ษาความเป็นไปได้ การศึกษาความเป็นไปได้ เป็นการพิจารณาความเหมาะสมจากการรวบรวม ขอ้ มูล ทีส่ ามารถสรุปปญั หาในประเด็นต่าง ๆ ได้ มกี ารพจิ ารณาเปรยี บเทียบจากข้อมูล ทรัพยากรท่ีได้รวบรวมมา ทาให้เห็นแนวทางในการเลือกการแก้ไขปัญหา โดยสรุปมี ภาพรวม หลกั 3 ดา้ นคอื 1. ความเป็นไปได้ด้านเทคนคิ การศกึ ษาความเป็นไปได้ทางด้านเทคนิค เปน็ การประเมนิ ระบบการดาเนินงาน จากทรัพยากรด้านบุคคลว่ามีผู้เช่ียวชาญทางด้านเทคโนโลยีท่ีสามารถนามาพัฒนา
ศกึ ษาปัญหาความตอ้ งการของระบบ | 273 ระบบงานใหม่หรือไม่ การประเมินศักยภาพอุปกรณ์ เครื่องมือเทคโนโลยีสารสนเทศ เพื่อ นามาพิจารณาวิเคราะห์ ประสิทธิภาพในการวางแผนพัฒนาทางด้านเทคนิค ดังนั้น การศึกษาความเป็นไปได้ทางด้านเทคนิคจะมี 2 ประเด็น คือ การศึกษาทรัพยากร เทคโนโลยีสารสนเทศ และทรพั ยากรบคุ คล ดงั ภาพท่ี 6.4 ความเป็นไปไดท้ างด้านเทคนคิ ทรัพยากรเทคโนโลยี ทรพั ยากรบคุ คล ผเู้ ช่ยี วชาญ ผู้ปฏิบัติงาน สารสนเทศ อุปกรณ์เครอ่ื งมอื ปจั จบุ นั ทรพั ยากรดา้ น ทางด้านเทคโนโลยี สารสนเทศ เทคโนโลยีการส่ือสาร เช่น ฮารด์ แวร์ ซอฟตแ์ วร์ รปู การสือ่ สารข้อมูลเครอื ข่าย ภาพท่ี 6.4 ศกึ ษาความเปน็ ไปได้ทางเทคนคิ 2. ความเปน็ ไปไดด้ า้ นการปฏบิ ตั งิ าน การศึกษาความเปน็ ไปได้ทางดา้ นการปฏบิ ัตงิ าน จะเป็นการประเมนิ การทางาน ภายในองค์กร เริ่มต้ังแต่ประเมินการบริหารจัดการโครงสร้างองค์กร ขั้นตอนการทางาน ทศั นคติการดาเนินงาน การมสี ว่ นร่วมในการพจิ ารณา ทกั ษะการปฏิบตั งิ าน การพิจารณา ประเด็นนี้จะประเมินผลการดาเนินงานจากอดีตจนถึงปัจจุบัน ประสิทธิภาพในการใช้ เทคโนโลยีสารสนเทศในการดาเนินงาน การควบคุม ความปลอดภยั ของข้อมูล ผลจากการ นาเทคโนโลยีมาใช้ในการดาเนินงานหากมีระบบเก่า เพื่อพิจารณาการพัฒนาระบบใหม่ ขน้ึ มา 3. ความเป็นไปได้ด้านเศรษฐศาสตร์ การพิจารณาความเป็นไปได้เศรษฐศาสตร์จะพิจารณาประเมินเปรียบเทียบ การลงทุน ความคุ้มค่าและผลตอบแทนมีมากน้อยเพียงใดสาหรับการพัฒนางานระบบใหม่ อีกท้ังการพิจารณาค่าใช้จ่าย จุดคุ้มทุนในการวางแผนการลงทุนทางด้านเทคโนโลยี สารสนเทศ
ศึกษาปญั หาความต้องการของระบบ | 274 บทสรปุ บทน้ีไดก้ ลา่ วถงึ แนวทางการศึกษาปัญหาความต้องการของระบบ โดยทีม นกั พัฒนาระบบงานคอื นักวเิ คราะห์ระบบ จะตอ้ งทาความเข้าใจศึกษาปญั หาที่เกิดขนึ้ โดยใช้วิธีการศึกษาปญั หาความต้องการ เม่ือได้ทราบปัญหาที่เกดิ ข้ึน ต้องมีการศึกษา ความเป็นไปได้แนวทางในการแก้ไขปัญหาให้ตรงกบั ความต้องการของผู้ใชร้ ะบบงาน โดยการศกึ ษาปัญหาความต้องการ เปน็ จดุ เร่มิ ต้นในการพฒั นาระบบงาน ซ่ึงมีนักวิเคราะห์ระบบที่มีบทบาทในการทางานในระบบงานน้ี ไม่ว่าจะเป็นการ วิเคราะหแ์ ผนงานในการศึกษาความต้องการ การสรปุ บทการศึกษาปัญหาและความ เป็นไปได้ของระบบงาน การศึกษาปัญหาข้อมูลพื้นฐานจะการใช้เทคนิคการศึกษาความต้องการ ภาพรวมดังนี้ 1) ศึกษาข้อมูลพื้นฐานจากเอกสาร 2) สัมภาษณ์ผู้บริหาร บุคลากร 3) สังเกตข้อมูลส่ิงแวดล้อมท่ีเก่ียวข้องกับองค์กร 4) ศึกษาวิเคราะห์สภาพแวดล้อม ศักยภาพการทางานขององค์กร 5) การศึกษาจากซอฟตแ์ วรห์ รือระบบงานเดมิ ทม่ี ี วิธีการรวบรวมความต้องการของผู้ใช้ระบบงาน 2 กลุ่มหลัก คือ การรวบรวมขอ้ มูลแบบด้งั เดมิ มวี ธิ กี ารรวบรวม 5 วิธคี อื 1) การรวบรวมจากเอกสาร 2) การค้นคว้าข้อมูล 3) การสัมภาษณ์ 4) การใช้แบบสอบถาม 5) การสังเกตการณ์ และวธิ กี ารการรวบรวมข้อมลู แบบใหม่มี 2 วธิ คี ือ 1) การพฒั นาแอปพลิเคชันร่วมกัน 2) การสรา้ งโปรแกรมตน้ แบบวนซ้า การศึกษาความเป็นไปได้เพ่ือเป็นการพิจารณาความเหมาะสมจากการ รวบรวมข้อมูล ที่สามารถสรุปปัญหาในประเด็นต่างได้ๆ ตรงประเด็นมากท่ีสุด การศึกษาความเป็นไปได้จะแบ่งออกเป็น 3 ด้านคือ ความเป็นไปได้ด้านเทคนิค ดา้ นการปฏิบตั ิงานและดา้ นเศรฐศาสตร์
ศึกษาปญั หาความตอ้ งการของระบบ | 275 แบบฝึกหัดบทท่ี 6 ตอนท่ี 1 ตอบคาถามดงั ตอ่ ไปนี้ 1. การเริม่ ในการศึกษาปัญหาความตอ้ งการของระบบงานจะเริ่มต้องศึกษาอยา่ งไร 2. จงอธิบายวิธกี ารรวบรวมข้อมลู มีกี่วิธี อะไรบา้ ง 3. เหตใุ ดเราจึงตอ้ งศึกษาความเป็นไปได้ในการพฒั นาระบบงานขององคก์ ร ตอนท่ี 2 ใหน้ ักศกึ ษาศกึ ษารายละเอยี ดขอ้ มลู ระบบสารสนเทศเพื่อการจัดการงานวิจัย สานักวิชาศึกษาท่ัวไป มหาวิทยาลัย ราชภัฏอุดรธานี เป็นหน่วยงานที่จัดการเรียนการสอนในรายวิชาพื้นฐานท้ังหมด 14 รายวิชา มีอาจารย์ในสังกัด 80 คน ในการจัดการเรียนการสอนมีกลุ่มรายวิชาทั้งหมด 4 กลุ่มรายวิชา แผนการดาเนินงานของสานักวิชาการศึกษาทั่วไป มีนโยบายพัฒนา ศักยภาพทางวิชาการโดยมีฝ่ายวิจัยมีหน้าที่ดูแล สนับสนุนให้ทุนวิจัย ดังนั้นทาให้ฝ่าย วิจัยมีภารกิจในการจัดเก็บข้อมูลท่ีเก่ียวข้องทั้งหมดเก่ียวกับการดาเนินงานวิจัย ซึง่ ปัจจุบันฝ่ายวจิ ยั ไดม้ กี ารรวบรวมขอ้ มูลตามกระบวนการดาเนินงานท้ังหมดในรูปแบบ เอกสารท้งั หมด ทาใหเ้ กิดความลา่ ช้าในการสบื คน้ ข้อมูล ผบู้ ริหารจึงเลง็ เหน็ ความสาคัญ ของการประยุกต์ใช้ระบบสารสนเทศจดั ให้มีทาระบบสารสนเทศเพอ่ื การบริหารจดั การ งานวิจัย มีวัตถุประสงค์การพัฒนางาน ให้สามารถจัดเก็บเอกสารรูปแบบกระดาษเปน็ รูปแบบไฟล์งาน ทาให้การสืบค้นข้อมูลมีความสะดวกรวดเร็ว มีระบบติดตาม ประเมินผลการใช้บริการบนระบบเครือข่ายอินเทอร์เน็ต โดยฝ่ายวิจัยมีหน้าท่ีในการ พิจารณาผลงานทางวิชาการ และมีการรวบรวมข้อมูลตามกระบวนการดาเนินงาน ในรปู แบบเอกสารท้งั หมด มบี คุ ลากรเขา้ มาติดตอ่ ประสานงาน
ศึกษาปัญหาความตอ้ งการของระบบ | 276 จากวัตถปุ ระสงคด์ ังกล่าวสานักวิชาศึกษาทั่วไปได้ให้ทุนวจิ ัย เพอ่ื พฒั นาระบบ ดงั กล่าว ผูพ้ ฒั นาไดศ้ กึ ษาปญั หาจากการดาเนินงานจากขอ้ มูลพน้ื ฐาน จึงไดเ้ ห็นปญั หา หลักคือการจัดเก็บ รวบรวมเอกสารที่มีปริมาณมากขึ้นเร่ือย ๆ และการดาเนินงานมี ข้ันตอนการทางานท่ีซับซ้อน และมีการบริหารจัดการการเบกิ จา่ ย งบประมาณ รวมถึง กระบวนการบริหารจัดการงานประกันคุณภาพท่ีต้องจดั เก็บรายงานตามระบบประกัน คุณภาพ รูปแบบการศึกษาปญั หาทน่ี ักวิเคราะห์ได้ดาเนินงานเป็นขัน้ ตอน จากการศกึ ษาขอ้ มูลข้างต้น จงตอบคาถามดังต่อไปนี้ 1. นักศึกษาจะศึกษาข้อมูลพน้ื ฐานอย่างไร ประเดน็ ใด …………………………………………………………………………………………………….. …………………………………………………………………………………………………….. …………………………………………………………………………………………………….. …………………………………………………………………………………………………….. 2. วิธีการรวบรวมข้อมูลเพื่อศึกษาปัญหา รวบรวมจากวิธีการใด เพราะ เหตใุ ดจึงเลือกวิธีการน้ี …………………………………………………………………………………………………….. …………………………………………………………………………………………………….. …………………………………………………………………………………………………….. …………………………………………………………………………………………………….. 3. หากนักศึกษาจะศึกษาข้อมูลพื้นฐานรูปแบบสัมภาษณ์ นักศึกษา จะสมั ภาษณ์ผู้เกยี่ วข้องกลุม่ ใดบา้ ง …………………………………………………………………………………………………….. …………………………………………………………………………………………………….. …………………………………………………………………………………………………….. ……………………………………………………………………………………………………..
บทท่ี 7 แบบจำลองกระบวนกำร กระบวนการรวบรวมปัญหาจากการศึกษาระบบ จะเกดิ จากนกั วิเคราะห์ระบบ ได้ทาการศึกษาปัญหา กระบวนการทางานที่กาหนดความต้องการของระบบงาน เรียบร้อยแล้ว จึงนาเสนอผลการวิเคราะห์ข้อมลู ที่ได้มาสร้างแบบจาลอง นาเสนอดว้ ย ภาพ สัญลักษณ์ การอธิบายกระบวนการทางานด้วยพจนานุกรมข้อมูล และคาอธิบาย กระบวนรายละเอียดวิธีการทางานในแต่ละกระบวนการ เพื่อสรุปความเข้าใจจาก การรวบรวมศึกษาปัญหา และทราบความต้องการของระบบงาน ระหว่างทีมพัฒนา ระบบและผูบ้ ริหารองคก์ ร ผู้ใช้ระบบงานที่เกี่ยวขอ้ ง แบบจาลองกระบวนการทางานแบ่งได้ 2 ประเภทคือ 1) แบบจาลองเชิงตรรกะ (Logical model) เป็นการแสดงระบบการทางานว่าต้องทาอะไร (What) มีงานใด ท่ีเก่ียวข้องในระบบ 2) แบบจาลองเชิงกายภาพ (Physical model) เป็นการแสดงการ ทางานของระบบงานวา่ มีการดาเนนิ การ และมขี น้ั ตอนการทางานอย่างไร (How) ในบทนี้ จะอธิบายการสร้างแบบจาลองกระบวนการทางานของระบบงาน แบบจาลองเชิงตรรกะที่แสดงกระบวนการทางานทั้งหมดของระบบงาน ว่ามี การดาเนินงานอย่างไร โดยจะกล่าวถึงวิธีการสร้างแบบจาลองกระบวนการ ด้วยแผนภาพกระแสข้อมูล การสร้างพจนานุกรม คาอธิบายกระบวนการทางาน และแผนผงั กระบวนการทางาน แผนภำพกระแสขอ้ มูล (Data Flow Diagram: DFD) แผนภาพกระแสข้อมูล แสดงถึงกระบวนการทางานของระบบ ท่ีมีกระบวนการ ทางานที่มีความสัมพันธ์อยา่ งไร ระหว่างเอนทติ มี ีกระแสการจดั เก็บข้อมูลอยา่ งไร และ มีแหล่งจัดเก็บข้อมลู อย่างไรบ้าง ดังนั้น การแสดงการทางานทมี่ ีความสมั พันธ์ดังกล่าว จะทาใหผ้ ู้อ่านทราบองค์ประกอบกระบวนการทางานได้จากแผนภาพกระแสขอ้ มลู
แบบจาลองกระบวนการ | 278 1. องค์ประกอบกำรใชแ้ ผนภำพกระแสขอ้ มูล องค์ประกอบการใชง้ านจะประกอบไปดว้ ย 4 สว่ นหลกั คอื 1.1 กระบวนการทางาน หมายถึง กระบวนการในแต่ละข้ันตอนของ กิจกรรมน้ัน ๆ 1.2 เอนทติ ีภายนอก หมายถงึ แหลง่ ขอ้ มูล สถานท่ี บุคคลท่ีมีความสมั พันธ์ กับกระบวนการน้นั 1.3 กระแสข้อมูล หมายถึง สัญลักษณ์ที่แสดงทิศทางการไหลข้อมูล ทม่ี ีความสมั พนั ธก์ ับกระบวนการน้ัน 1.4 แหล่งจัดเก็บข้อมูล หมายถึง สัญลักษณ์ท่ีแสดงการนาข้อมูลเข้า หรือแสดงการนาขอ้ มูลออกในกระบวนการนน้ั ๆ 2. สัญลกั ษณ์แผนภำพกระแสข้อมูล แสดงความสัมพันธ์ของบุคคล สถานที่ คณะ ท่ีเรียกว่าเอนทิตี (Entity) สัญลักษณ์ท่ีใช้ในการเขียนภาพกระแสข้อมูล นิยมใช้งาน 2 รูปแบบคือ 1) สัญลักษณ์ แบบ Gane & Sarson เปน็ เคร่ืองมือท่ีใชใ้ นการวเิ คราะห์และออกแบบในปี ค.ศ. 1970 ท่ีนิยมใช้มาจนถึงปัจจุบัน เป็นการแสดงแนวคิดการออกแบบด้วยภาพแสดงให้เห็น กระบวนการไหลข้อมูลอย่างชัดเจน 2) สัญลักษณ์ DeMarco & Yourdon เป็นแนวคิด ท่ีพัฒนาเพ่ือแสดงการทางานลูกค้าและผู้ใช้ เพื่อใช้วิเคราะห์โครงสร้างจากสร้าง ผังองค์กรด้วยการแทนค่าสัญลักษณ์ ดังตารางท่ี 7.1 แสดงสัญลักษณ์การเขียนภาพ กระแสขอ้ มลู ตำรำงที่ 7.1 สญั ลกั ษณ์ทใ่ี ช้สรา้ งภาพกระแสข้อมลู สัญลกั ษณ์แบบ สญั ลักษณ์แบบ ควำมหมำย Gane & Sarson DeMarco & Yourdon กระบวนการ บคุ คล องคก์ ร
แบบจาลองกระบวนการ | 279 ตำรำงท่ี 7.1 สัญลักษณ์ท่ีใชส้ รา้ งภาพกระแสข้อมูล (ต่อ) สัญลักษณ์แบบ สัญลกั ษณ์แบบ ควำมหมำย เอนทติ ีภายนอก Gane & Sarson DeMarco & Yourdon เส้นทศิ ทางการไหลของขอ้ มลู แหลง่ จัดเก็บข้อมลู 2.1 หลกั กำรเขยี นภำพกระแสข้อมูล 2.1.1 กระบวนการทางาน (Process) การเขียนภาพแสดงการทางาน ในแต่ละขั้นตอน จะต้องมีการใช้ข้อมูลที่ต้องนาเข้า ประมวลผลและการแสดงผลลพั ธ์ โดยมีการจัดเก็บข้อมูลแหล่งข้อมลู มีหลักการกาหนดกระบวนการทางาน โดยรูปแบบ การเขียนจะต้องเขียนหมายเลขกากับทุกกระบวนการ เขียนคาอธบิ ายการทางานกากับ ทกุ ข้ันตอน และเรียงลาดับขัน้ ตอนจากหมายเลขท่กี าหนด ตัวอย่างการทางานฝ่ายวิจัยสานักวิชาศึกษาท่ัวไป มีหน้าที่ดูแล สนับสนุนให้ทุนวิจัย มีระบบสารสนเทศเพ่อื การบริหารจัดการงานวิจัย มีวัตถุประสงค์ ในการพัฒนาในการบริหารจัดการงานวิจัยทั้งกระบวนการดาเนินงาน สามารถจัดเก็บ เอกสารรูปแบบกระดาษเป็นรูปแบบไฟล์งาน ทาให้การสืบค้นข้อมูลมีความสะดวก รวดเร็ว มีระบบติดตามประเมินผลการใช้บริการบนระบบเครือข่ายอินเทอร์เน็ต สามารถเขียนภาพกระแสข้อมูล ดังภาพท่ี 7.1 แสดงการลาดับการจัดการข้อมูล บุคลากร
อาจารย์ ข้อมลู พื้นฐาน 1 แบบจาลองกระบวนการ | 280 รายงานข้อมลู พ้นื ฐาน จัดกำรข้อมลู แฟม้ บุคลากร หลัก กรรมการ ข้อมูลโครงการ 2 แฟ้มโครงการ รายงานขอ้ มลู โครงการ จัดกำร โครงกำร ภาพที่ 7.1 การสร้างภาพกระแสข้อมลู 2.1.2 เอนทิตภี ายนอก (External Entity) แหล่งข้อมูล สถานท่ี บุคคลทม่ี ีความสัมพันธ์กับกระบวนการนั้น แบง่ แหลง่ ขอ้ มูล 2 ประเภท คอื 1) แหล่งขอ้ มลู นาเข้า 2) แหล่งขอ้ มูลไดจ้ ากการทางาน ตามกระบวนการเกดิ ผลลพั ธข์ ึ้นจากแหล่งขอ้ มลู น้นั ๆ จากภาพท่ี 7.2 แสดงให้เห็นเอนทิตีภายนอก คือ อาจารย์ นาแหล่งข้อมูลเข้าเพ่ือจัดการข้อมูลพื้นฐาน และเมื่อดาเนินงานส้ินสุดก็มีผลลัพธ์จาก การจัดการขอ้ มูลพ้ืนฐาน อาจารย์ ขอ้ มูลพนื้ ฐาน 1 แฟ้มบคุ ลากร รายงานขอ้ มลู พ้นื ฐาน จัดการ ข้อมูลหลัก ภาพท่ี 7.2 การทางานของเอนทติ ีภายนอก 2.1.3 กระแสขอ้ มูล (Data Flow) ทิศทางการไหลข้อมูล ที่มีความสัมพันธ์กับกระบวนการน้ัน แสดงการสัมพันธ์ระหว่างเอนทิตี กระบวนการและแหล่งจัดเก็บข้อมูล ดังภาพที่ 7.2 แสดงใหเ้ ห็นทศิ ทางการไหลจากการทางานกระบวนการจดั การขอ้ มลู หลกั โดยมเี อนทิตี
แบบจาลองกระบวนการ | 281 อาจารย์นาข้อมูลเข้ากระบวนการจดั การสง่ ไปจัดเกบ็ ท่ีแฟ้มข้อมูล และการรายงานผล เอนทติ สี ามารถสบื คน้ ดผู ลลพั ธ์ขอ้ มูลพื้นฐานจากกระบวนการจัดการข้อมูลหลักได้ 2.1.4 แหลง่ จดั เก็บข้อมลู แหล่งจัดเก็บข้อมูลเป็น สัญลักษณ์ท่ีแสดงการนาข้อมูลเมื่อมี กระบวนการดาเนินงานเกิดข้ึนในกิจกรรมนั้น ในการนาข้อมูลเข้ามาจัดเก็บจะมี การกาหนดรูปแบบ คุณสมบัติการจัดเก็บข้อมูลหลายลักษณะ ซึ่งนักวิเคราะห์ควร พจิ ารณาการออกแบบการจดั เกบ็ ขอ้ มลู ให้เหมาะสมกบั การจดั แยกหรือรวมแหล่งขอ้ มูล 2.2 กฎเกณฑ์ในกำรสร้ำงภำพกระแสข้อมลู นักวิเคราะห์ระบบจะศึกษาปัญหาการทางาน และการทางานของ กระบวนการทีเ่ กิดข้นึ แล้วนาข้อมูลดังกล่าวมาสร้างภาพกระแสข้อมูล ซ่ึงการสรา้ งภาพ กระแสขอ้ มลู จะตอ้ งมีการศกึ ษาพ้ืนฐานการสรา้ งภาพกระแสข้อมูลทมี่ ีกฎพน้ื ฐานในการ สร้างดงั นี้ 2.2.1 แตล่ ะกระบวนการทางานจะต้องมีกระแสข้อมลู เข้า ดังตารางที่ 7.2 ตำรำงที่ 7.2 กระแสขอ้ มลู เขา้ ถกู ตอ้ ง ไมถ่ กู ตอ้ ง ข้อมูล1 1 ข้อมูล1 ข้อมูล2 กระบวนกำร ขอ้ มูล1 1 กระบวนกำร 2.2.2 แต่ละกระบวนการทางานจะต้องมกี ระแสข้อมูลออก ดังตารางท่ี 7.3 ตำรำงที่ 7.3 กระแสขอ้ มูลออก ถกู ต้อง ไม่ถูกต้อง ข้อมลู 1 1 ขอ้ มูล1 ขอ้ มูล1 1 ขอ้ มลู 2 กระบวนกำร ขอ้ มลู 2 ข้อมูล2 กระบวนกำร
แบบจาลองกระบวนการ | 282 2.2.3 เอนทติ ภี ายนอกจะตอ้ งทางานผ่านกระบวนการ ดังตารางท่ี 7.4 ตำรำงที่ 7.4 การทางานของเอนทิตีต้องผ่านกระบวนการ ถูกต้อง ไม่ถกู ต้อง เอนทิตี 1 ขอ้ มลู 1 1 ขอ้ มลู 1 เอนทติ ี 2 เอนทติ ี 1 ข้อมลู 1 เอนทติ ี 2 กระบวน กำรทำงำน 2.2.4 แหล่งจัดเกบ็ ขอ้ มูลจะตอ้ งทางานผ่านกระบวนการ ดงั ตารางที่ 7.5 ตำรำงท่ี 7.5 การทางานของแหล่งจัดเก็บขอ้ มลู ต้องผา่ นกระบวนการ ถกู ตอ้ ง ไม่ถูกตอ้ ง แฟ้มข้อมลู 1 ขอ้ มลู 1 1 ขอ้ มูล1 แฟม้ ขอ้ มลู 2 แฟม้ ข้อมลู 1 ข้อมลู 1 แฟม้ ขอ้ มลู 2 กระบวน กำรทำงำน 2.2.5 เอนทิตีภายนอกจะจัดเก็บแหล่งข้อมูลจะต้องผา่ นกระบวนการ ดังตารางท่ี 7.6 ตำรำงที่ 7.6 การทางานของเอนทติ จี ะจัดเก็บข้อมูล ถูกต้อง ไมถ่ กู ตอ้ ง ขอ้ มูล1 1 ขอ้ มลู 1 แฟ้มขอ้ มูล 1 เอนทติ ี 1 ขอ้ มูล1 แฟม้ ข้อมลู 1 เอนทติ ี 1 กระบวน กำร ทำงำน
แบบจาลองกระบวนการ | 283 2.2.6 กระแสข้อมูลการไหลจะต้องมีการผ่านทิศทางกระแสในแต่ละ กิจกรรมใช้รวมกันไม่ได้ และใช้ทิศทางต้นทางเดียวกันไปแยกอีกปลายทางไม่ได้ ดงั ตารางท่ี 7.7 ตำรำงที่ 7.7 ทศิ ทางกระแสข้อมูลแตล่ ะกจิ กรรม ถกู ตอ้ ง ไมถ่ ูกต้อง 1 ขอ้ มลู 1 1 ขอ้ มูล1 แฟ้มขอ้ มูล 1 ขอ้ มลู 2 แฟ้มข้อมลู 1 กระบวน กระบวน กำรทำงำน กำรทำงำน 1 ขอ้ มูล1 แฟ้มข้อมูล 1 1 ข้อมูล1 แฟม้ ข้อมูล 1 กระบวน ขอ้ มลู 2 แฟ้มข้อมูล 2 กระบวน ข้อมูล2 กำรทำงำน กำรทำงำน แฟม้ ขอ้ มลู 2 2.2.7 กระแสข้อมูลแต่ละเส้นจะต้องไม่ตัดผ่านหรือทับกระแสข้อมูล เส้นทศิ ทางอื่น ดังตารางท่ี 7.8 ตำรำงท่ี 7.8 ทศิ ทางกระแสข้อมูลแตล่ ะเสน้ ทาง ถกู ต้อง ไม่ถกู ต้อง แฟ้มขอ้ มลู 1 เอนทิตี 2 ขอ้ มลู 1 ข้อมูล1 แฟม้ ขอ้ มลู 2 ข้อมลู 2 แฟม้ ข้อมูล 1 เอนทิตี 1 ข้อมลู 1 1 เอนทิตี 1 ข้อมูล1 1 กระบวนก กระบวน แฟ้มขอ้ มูล 1 ำรทำงำน กำรทำงำน
แบบจาลองกระบวนการ | 284 2.2.8 กระแสขอ้ มูลจะไมย่ อ้ นกลับมาทางานทีก่ ระบวนการ ดงั ตารางท่ี 7.9 ตำรำงที่ 7.9 การกาหนดทิศทางกระแสข้อมูล ถูกตอ้ ง ไมถ่ กู ต้อง 1 ขอ้ มูล1 2 ข้อมลู 2 กระบวน กระบวน ขอ้ มูล1 กำรทำงำน กำรทำงำน 1 กระบวน กำรทำงำน 2.3 วธิ ีกำรสรำ้ งแผนภำพกระแสข้อมูล การสร้างแผนภาพข้อมูลมีลาดับหลักการทางานสร้างหลักการทางาน ลาดับการสร้างจากบนลงล่าง และเขียนแบ่งย่อยแผนภาพ มีแผนภาพกระแสข้อมูล ประกอบ ดงั น้ี 2.3.1 แผนภาพบริบท (Context Diagram) คือแผนภาพรวมแสดง การทางานทั้งหมดที่เก่ียวข้องกับระบบงาน ดังภาพท่ี 7.3 แสดงแผนภาพบริบทและ ตัวอย่างการทางานของระบบสารสนเทศเพอ่ื การจัดการ ดังภาพที่ 7.4 ภาพท่ี 7.3 แผนภาพบรบิ ท ตวั อย่างแผนภาพบริบทของระบบสารสนเทศเพ่ือการจัดการที่มีเอนทิตี ภายนอกเข้ามาใช้บริการ คณะกรรมการดาเนินงานพิจารณาทุนโครงการงบประมาณ คาของบประมาณ เอนทิตีอาจารย์ดาเนินการเสนอคาขอทุนโครงการ บุคลากรและ ประชาชนผสู้ นใจ สืบค้นข้อมลู บทคดั ยอ่ งานวิจัยจากงานวจิ ัยทดี่ าเนินงานเสร็จสมบรู ณ์
แบบจาลองกระบวนการ | 285 ภาพท่ี 7.4 ภาพบริบทระบบสารสนเทศเพอ่ื การจดั การงานวิจัย 2.3.2 แผนภาพกระแสข้อมลู ระดบั ที่ 0 (Data Flow Diagram Level 0) คือแผนภาพแสดงองค์ประกอบของกระบวนการทางานหลัก ดังภาพที่ 7.5 แผนภาพ กระแสข้อมูลระดับท่ี 0 มีกระบวนการท่ีมีเอนทิตีภายนอก มีความสัมพันธ์ใน กระบวนการดาเนินงานและมีการจัดเก็บข้อมูล และภาพท่ี 7.6 แสดงการทางานของ ระบบสารสนเทศเพื่อการจัดการงานวิจัยท่ีมีกระบวนการทางาน 6 กระบวนการ โดยมีเอนทติ ีทีม่ คี วามสมั พันธ์ในการดาเนนิ งานและจดั เกบ็ ข้อมลู
แบบจาลองกระบวนการ | 286 ภาพที่ 7.5 แผนภาพระดับที่ 0
แบบจาลองกระบวนการ | 287 ภาพที่ 7.6 แผนภาพระดับท่ี 0 ของระบบสารสนเทศเพื่อการจดั การงานวจิ ยั 2.3.3 แผนภาพกระแสข้อมูลระดับที่ 1 (Data Flow Diagram Level 1) คือ แผนภาพแสดงการทางานรายละเอียดของระดับ 0 ดังภาพท่ี 7.7 แสดง รายละเอียดการทางานของกระบวนการที่ 1 จะมีกระบวนการทางานย่อย 2 กระบวนการในที่น้ีจะมีเอนทิตีภายนอก ท่ีมีความสัมพันธ์ในการดาเนินงานและ จัดเก็บข้อมูลจากแฟ้มงาน 2 แฟ้มงาน และภาพที่ 7.8 แสดงรายละเอียดของ กระบวนการทางานเข้าสู่ระบบ จะมีข้ันตอนการตรวจสอบชื่อผู้ใช้งานท่ีมีความสมั พันธ์ จากอาจารย์และคณะกรรมการ หากผู้ใช้งานใช้ช่ือคณะกรรมการ จะมีข้ันตอน
แบบจาลองกระบวนการ | 288 กระบวนการบริหารจัดการข้อมูลพื้นฐานเก่ียวกับงานฝ่ายวิจัย เช่น การประกาศทุน การประชาสมั พนั ธ์เกีย่ วกบั การดาเนินงาน เป็นตน้ ภาพที่ 7.7 แผนภาพกระแสข้อมลู ระดับที่ 1 ภาพท่ี 7.8 แผนภาพกระแสข้อมลู ระดบั ท่ี 1
แบบจาลองกระบวนการ | 289 2.3.4 แผนภาพกระแสข้อมูลระดับท่ี 2 (Data Flow Diagram Level 2) คือแผนภาพแสดงการทางานในระดับรายละเอียดย่อยตามลาดับการทางาน โดยการ ทางานแต่ละกระบวนการ จะขึ้นอยู่กับความซับซ้อนของแต่ละระบบงาน เช่น การทางานที่มีกระบวนจากย่อยจากภาพท่ี 7.8 ที่มีกระบวนการทางานเพ่ิมกิจกรรม กระบวนการย่อยอกี กจ็ ะเป็นการสร้างแผนภาพกระแสขอ้ มลู ระดับท่ี 2 2.4 ตัวอยำ่ งกำรสร้ำงแผนภำพกระแสขอ้ มูล การทางานฝ่ายวิจยั สานักวิชาศึกษาท่ัวไป มีหน้าที่ดูแลสนับสนุนใหท้ นุ วิจัย มีระบบสารสนเทศเพ่ือการบริหารจัดการงานวิจัย มีวัตถุประสงค์การพัฒนา การบริหารจัดการงานวิจัยทั้งกระบวนการดาเนินงาน สามารถจัดเก็บเอกสารรูปแบบ กระดาษเปน็ รปู แบบไฟล์งาน ทาให้การสบื ค้นขอ้ มูลมีความสะดวกรวดเร็ว มผี ู้เก่ยี วขอ้ ง ทจี่ ะใชง้ าน 3 กลุ่มคือ 1) อาจารย์ผู้เสนอโครงการดาเนนิ งานโครงการ 2) คณะกรรมการ ฝ่ายวิจัยมีหน้าท่ีพจิ ารณาทุนวิจัย บริหารจัดการการดาเนินงาน และติดตามการดาเนิน โครงการ 3) บุคลากรผู้สนใจ เข้ามาสืบค้นข้อมูลเกี่ยวกับงานวิจัย โดยการดาเนินงาน มีขนั้ ตอนการทางานดังน้ี 1. อาจารย์ยื่นขอเสนอโครงการ โดยคณะกรรมการพิจารณาอนุมัติ งบประมาณ 2. การเซ็นสัญญา หากข้อเสนอโครงการได้รับการอนุมัติ อาจารย์ ผ้เู สนอโครงการก็จะเซ็นสัญญาโครงการวิจัย 3. อาจารย์ดาเนินงานวิจัยและรายงานความก้าวหน้าตามระยะเวลา ของสัญญาทกี่ าหนด 4. ดาเนินงานเสร็จสมบูรณ์ อาจารย์จะรายงานวิจัยฉบับสมบูรณ์ส่ง คณะกรรมการฝ่ายวจิ ัย 5. อาจารย์มีการนาเสนอผลงานทางวิชาการเรียบร้อย อาจารย์ ดาเนนิ การรายงานผลงานวิจัยทางวชิ าการตอ่ คณะกรรมการฝ่ายวิจัย
แบบจาลองกระบวนการ | 290 การสร้างแผนภาพของระบบสารสนเทศได้ 6 กระบวนการ โดยจะเรียงลาดับ การทางาน จากการเข้าสู่ระบบเพื่อบันทึกข้อมูลโครงการ รอผลพิจารณาโครงการ หากมีการพิจารณาอนุมัติ อาจารย์ท่ีไดร้ ับการอนุมตั ิกเ็ ข้าระบบการทาสญั ญาโครงการ และจะเป็นกระบวนการดาเนินงานวิจัยโดยผู้วิจัยจะต้องรายงานผลความก้าวหน้า ส่งงานวิจัยฉบับสมบูรณแ์ ละนาผลงานทางวิชาการ จึงจะครบกระบวนการดาเนินงาน วจิ ัยใน 1 ฉบบั จากข้อมลู ดังกลา่ วสามารถสรปุ ประเด็นได้ ดังนี้ เอนทิตีภายนอได้แก่ อาจารย์ คณะกรรมการ บุคลากรผู้สนใจ มีกระบวนการหลักท้ังหมด 5 กระบวนการคือ เสนอโครงการ การเซ็นสัญญา รายงานความก้าวหน้า ส่งงานวิจัยฉบับสมบูรณ์ นาเสนอผลงานทางวิชาการ มีแฟ้มข้อมูลหลักแต่ละกระบวนการคือ แฟ้มบุคลากร แฟ้ม สัญญา แฟ้มประกาศ แฟ้มโครงการ แฟ้มเผยแพร่งาน แฟ้ม ความก้าวหน้า แฟม้ รายงานวิจยั การสร้างแผนภาพกระแสข้อมูลแผนภาพบริบทของระบบสารสนเทศ เพื่อการจัดการงานวิจัย ท้ังหมด 3 กลุม่ ดังภาพที่ 7.4 ภาพบริบทของระบบสารสนเทศ เพื่อการจัดการงานวจิ ยั และภาพท่ี 7.6 แผนภาพกระแสข้อมูลระบบสารสนเทศเพอ่ื การ จัดการงานวิจัยระดับท่ี 0
แบบจาลองกระบวนการ | 291 พจนำนกุ รมข้อมลู (Data Dictionary) พจนานุกรมข้อมูล คือ การแสดงรายละเอียดของแผนภาพกระแสข้อมูล ท่ีมี กระบวนการทางานในแต่ละข้ันตอน การทาพจนานุกรมข้อมูล เป็นเครื่องมือท่ีช่วยใน การตรวจสอบคุณลักษณะของข้อมูล จากแผนภาพกระแสข้อมูลท่ีสร้างข้ึนมา พจนานุกรมได้แบ่งออกเป็น 2 ประเภท คือ พจนานุกรมข้อมูลของกระแสข้อมูล และพจนานุกรมของแหลง่ จดั เก็บข้อมูลดงั นี้ 1. พจนำนุกรมข้อมลู ของกระแสข้อมูล พจนานุกรมข้อมูลของกระแสข้อมูล เป็นการแสดงรายละเอียดการทางาน ของระบบจากการนาเข้าและแสดงข้อมูลออก ระหว่างเอนทีตีภายนอกในแต่ละ กระบวนการมีกระแสข้อมูล ด้วยการสร้างความสัมพนั ธ์ในการดาเนินงานท่ีจัดเกบ็ และ เรียกใช้ข้อมูลกับแหล่งจัดเก็บข้อมูล แบ่งรายละเอียด 3 ส่วนคือ 1) พจนานุกรมข้อมลู 2) พจนานุกรมข้อมูลท่ีแสดงโครงสร้างข้อมูล 3) พจนานุกรรมข้อมูลที่แสดงส่วนย่อย ของขอ้ มูล มีรายละเอยี ดแต่ละสว่ นดังนี้ 1.1 พจนานุกรมข้อมูล ท่ีแสดงคุณลักษณะของข้อมูล แสดงรายละเอียด ถึงคณุ ลกั ษณะของขอ้ มูลมรี ายละเอียดหลักดงั นี้ 1.1.1 ช่ือ ใช้ในการอ้างอิงข้อมูลในระบบงาน รายละเอียดท่ีแสดง ในแผนภาพกระแสขอ้ มลู ทส่ี อดคลอ้ งและไมซ่ า้ ซอ้ นกันภายในระบบงาน 1.1.2 คาอธิบายการทางานของระบบ ข้อความอธิบายเพิ่มเติม รายละเอยี ดท่เี กย่ี วขอ้ งกับระบบงาน 1.1.3 แหล่งกาเนิดข้อมูล เป็นเอนทีตีภายนอกของการทางาน ในกระบวนการที่สอดคลอ้ งกบั แผนภาพกระแสข้อมูลของระบบงาน 1.1.4 แหลง่ ขอ้ มูลรับ ข้อมลู ที่นาเข้าในกระบวนการระบบงาน 1.1.5 ชนิดของกระแสข้อมูล รูปแบบข้อมูลนาเข้าและผลลัพธ์ที่ แสดงกระแสขอ้ มลู ระหว่างกระบวนการทางานของระบบ 1.1.6 โครงสร้างข้อมูลแสดงรายละเอียดย่อยของกระแสข้อมูลน้ัน ในแต่ละกระบวนการ 1.1.7 หมายเหตุ ข้อมูลรายละเอียดอื่นๆ ที่เพ่ิมเติมในการวิเคราะห์ ข้อมูลจากระบบงาน ดงั ตวั อยา่ งภาพท่ี 7.9 แสดงพจนานุกรมข้อมลู ของกระแสข้อมลู
แบบจาลองกระบวนการ | 292 พจนำนุกรมขอ้ มูลกระแสข้อมูล ชอ่ื ข้อมลู สู่ระบบ คำอธิบำย การเขา้ ส่รู ะบบสารสนเทศเพ่ือใชบ้ ริการ แหลง่ กำเนิดขอ้ มูล อาจารย์ คณะกรรมการ แหลง่ รบั ชอ้ มูล แฟม้ บุคลากร ชนดิ กระแสขอ้ มูล หนา้ จอ ไฟล์ ขอ้ มูลในระบบ โครงสรำ้ งขอ้ มูล ขอ้ มูลบคุ ลากร หมำยเหตุ ………………………………………………………………………………………………………………………… ภาพที่ 7.9 พจนานุกรมขอ้ มูลของกระแสขอ้ มลู 1.2 พจนานุกรมขอ้ มูลท่แี สดงโครงสร้างข้อมูล การแสดงข้อมูลพจนานุกรมข้อมูลโครงสร้างเป็นการแสดงให้เห็น รายละเอียดของข้อมูลในระบบงาน โดยมีการแสดงสญั ลักษณ์ทางคณติ ศาสตร์เพ่ือเพิม่ ความเข้าใจในโครงสร้างข้อมูลมากย่ิงข้ึน ดังตารางที่ 7.10 แสดงสัญลักษณ์ทาง คณิตศาสตร์ ตำรำงท่ี 7.10 สัญลกั ษณท์ างคณติ ศาสตร์ สญั ลักษณ์ ควำมหมำย = รายละเอียดประกอบด้วย + และ มรี ายละเอียดเพิ่มเติม { } ขอ้ มลู รายละเอียดยอ่ ย [ ] ตวั เลอื กขอ้ มูลรายละเอยี ดย่อยที่ผ้ใู ชบ้ ริการต้องเลือก ( ) ตวั เลอื กข้อมลู รายละเอียดยอ่ ยที่ผ้ใู ชบ้ ริการสามารถเลอื กได้
แบบจาลองกระบวนการ | 293 สัญลักษณ์พจนานุกรมจะแสดงโครงสร้างข้อมลู ที่แสดงรายละเอียด จากแผนภาพกระแสข้อมูลของระบบ แสดงรายละเอียดดังภาพตัวอย่างท่ี 7.10 แสดงรูปแบบเขา้ สู่ระบบ ระบบสารสนเทศเพื่อการจัดการงานวิจัย มหาวิทยาลัยราชภัฏ อุดรธานี กาหนดการใช้บริการสาหรับผู้ใชง้ าน 2 กลุ่มคืออาจารยแ์ ละคณะกรรมการฝ่าย วิจัย โดยระบบจะทาตรวจสอบว่าเป็นบุคลากรหรือไม่ และเป็นบุคลากรสถานะการ ทางานเป็นบุคลากรประเภทใด ดังนั้น จะแสดงให้เห็นว่าพจนานุกรมแสดงโครงสร้าง การเรียกใช้และจัดเก็บข้อมูลที่ต้องมี ข้อมูลใดบ้างด้วยสัญลักษณ์ + เช่น รหัสผู้ใช้ รหสั ผา่ น สาขาวิชาการ ทอ่ี ยู่ เบอร์โทรศพั ท์ เครื่องหมายวงเล็บเป็นทางเลือกที่เรียกใช้ และเครื่องหมาย [ ] เป็น ทางเลือกของระบบท่ีกาหนดประเภทผู้ใช้บริการสองประเภท คือ อาจารย์และ คณะกรรมการ เขำ้ สู่ระบบ ช่ือผูใ้ ชง้ าน = รหัสผใู้ ช้ + รหัสผ่าน + สาขาวชิ า + ท่ีอยู่ + เบอร์โทรศัพท์ อเี มล+ (ID Line)+ (ID Facebook)+ ประเภทบุคลากร = รหสั ผใู้ ช้ + รหัสประเภทบุคลากร [อาจารย์ | คณะกรรมการ] สถานะการใชง้ าน ภาพท่ี 7.10 พจนานกุ รรมแสดงโครงสรา้ งขอ้ มลู การเข้าสู่ระบบ
แบบจาลองกระบวนการ | 294 1.3 พจนานกุ รมขอ้ มูลแสดงสว่ นยอ่ ยของข้อมลู พจนานุกรมข้อมูลแสดงส่วนย่อยของข้อมูล จะเป็นการแสดง รายละเอียดโครงสร้างข้อมูล คุณลักษณะเฉพาะของข้อมูล ขนาด ชนิดรูปแบบในการ จัดเก็บข้อมูล มีรายละเอียดหลักทั้งหมด 4 ส่วนคือ ข้อมูลพื้นฐาน คุณลักษณะเฉพาะ เงื่อนไขสาหรับตรวจสอบความถูกต้องและหมายเหตุเพ่มิ เติมของระบบ ดังภาพที่ 7.11 รายละเอียดโครงสร้างข้อมูลในกระบวนการ และภาพท่ี 7.12 แสดงตัวอย่าง การออกแบบพจนานกุ รมการเข้าสู่ระบบสารสนเทศ ข้อมูลพ้นื ฐำน คณุ ลักษณะเฉพำะ เงอ่ื นไขตรวจสอบ หมำยเหตุ • ขอ้ เสนอแนะ • รหัส • ชนดิ ข้อมลู • กาหนดเงือ่ นไข • ช่อื • ขนาดข้อมลู แบบต่อเนื่องใน เพิ่มเตมิ • ค่าเร่ิมต้นอตั โนมตั ิ การนาเข้าระบบ และการแสดง ข้อมลู ผลลัพธ์ • กาหนดเงอื่ นไข แบบไม่ตอ่ เนอื่ งแต่ มคี วามสอดคลอ้ ง กันกับระบบงาน ภาพที่ 7.11 สว่ นประกอบพจนานกุ รมสว่ นรายละเอียดข้อมลู
แบบจาลองกระบวนการ | 295 ข้อมูลพน้ื ฐำน พจนำนุกรมข้อมูลสว่ นรำยละเอยี ดขอ้ มลู รหสั ช่อื IDPerson คาอธบิ าย รหัสบุคลากร คณุ ลกั ษณะเฉพำะ ผู้ใชบ้ ริการพิมพช์ ่อื ผู้ใช้บรกิ ารและรหสั ผา่ น ชนดิ ข้อมลู ตวั อักษร เ ง่ื อ น ไ ข ส า ห รั บ ก า ร ขนาดขอ้ มลู 4 หลัก ตรวจสอบความถูกตอ้ ง คา่ เร่มิ ต้น - กาหนดเงื่อนไขตอ่ เน่อื ง .................................................. หมำยเหตุ ................................................... กาหนดเง่อื นไขไม่ตอ่ เนอื่ ง............................................. .............................................. ...................................................................................... ภาพที่ 7.12 พจนานกุ รมข้อมูลรหสั บคุ ลากร 2. พจนำนุกรมของแหล่งจัดเก็บขอ้ มลู การแสดงพจนานุกรมของแหลง่ เก็บข้อมูล จะแสดงรายละเอียดการจัดเก็บ ข้อมูลของระบบทม่ี ี ซ่งึ จะต้องปรากฏในแผนภาพกระแสข้อมูลมีรายละเอียดหลกั ดังน้ี 2.1 ชอื่ แฟ้มข้อมูล 2.2 ช่ือสว่ นย่อยข้อมูลที่จะสรา้ งเป็นแอตทรบิ ิวต์ในฐานขอ้ มูล 2.3 ประเภทข้อมูล 2.4 รูปแบบเงือ่ นไขของขอ้ มลู แ ผ น ภ า พ ก ร ะ แ ส ข้ อ มู ล ไ ด้ ส ร้ า ง จ า กก า ร วิ เ ค ร า ะ ห์ ค ว า ม ต้ อ ง ก า ร ของ ผู้ใชบ้ รกิ าร ผเู้ ก่ียวขอ้ งของระบบสารสนเทศและนาข้อมูลที่สร้างแผนภาพกระแสข้อมูล ม า ส ร้ า ง พ จ น า นุ ก ร มแ ห ล่งจัด เ ก็ บข้ อ มู ล เพ่ื อแ ส ด ง รา ยล ะ เ อีย ด ก า ร จัด เก็ บข้อมูล ดงั ตวั อยา่ งการสรา้ งพจนานุกรมแหล่งข้อมลู บคุ ลากรตารางท่ี 7.11
แบบจาลองกระบวนการ | 296 ตำรำงท่ี 7.11 พจนานกุ รมข้อมลู ของแฟ้มบุคลากร แฟม้ บุคลำกร ชือ่ แอตทรบิ วิ ต์ คำอธบิ ำย ประเภทข้อมลู รูปแบบค่ำ Not null Idperson รหัสบคุ ลากร Text(4) Title คานา Text(10) Firstname ชื่อสกลุ Text(50) Middlename ชือ่ รอง Text(30) Lastname นามสกลุ Text(50) House No บ้านเลขท่ี Text(5) Road ถนน Text(20) Sub-district ตาบล Text(50) District อาเภอ Text(50) Province จังหวดั Text(70) Postal Code รหัสไปรษณีย์ Number IdFacebook รหัสเฟซบุ๊ก Text(50) Idline รหัสไลน์ Text(30) Email อีเมล Text(50) Telephone โทรศัพท์ Text(15)
แบบจาลองกระบวนการ | 297 คำอธบิ ำยกระบวนกำร (Process Description) คาอธิบายกระบวนการ เป็นกระบวนการที่นักวิเคราะห์ระบบจะต้องสร้าง ควบคู่กับพจนานุกรม เพื่ออ้างอิงและเช่ือมโยงการทางานของกระบวนการของระบบ ทงั้ หมด ดังนนั้ การสรา้ งคาอธิบายกระบวนการ จะแสดงรายละเอยี ดของวิธีการทางาน ในกระบวนการต่าง ๆ ของระบบ มีการสร้างคาอธิบาย 2 รูปแบบคือ 1) คาอธิบาย กระบวนการในระดับการใช้งาน 2) คาอธิบายกระบวนการในระดับของระบบ โดยมี รายละเอยี ดการใช้งานดงั น้ี 1. คาอธบิ ายกระบวนการใช้ระดบั การใชง้ าน การสรา้ งคาอธิบายกระบวนการ ในระดับการใช้งาน เป็นการอธิบายการทางานของแผนภาพกระแสข้อมูล ที่มี ความสัมพันธ์ของระบบงาน โดยเน้นความเข้าใจในการนาเสนอคาอธิบายสาหรับ ผใู้ ช้งานท่เี กีย่ วขอ้ งกับระบบงานท้ังหมด 2. คาอธิบายกระบวนการในระดับของระบบ การสรา้ งคาอธิบายกระบวนการ ในระดับการใช้งาน เป็นการอธิบายการทางานสาหรับผู้ใช้งานระดับทีมนักพัฒนา ระบบงาน ซึ่งจะมีคาอธิบายในเชิงเทคนิคท่ีสามารถนาระบบงานไปประยุกต์ใช้งาน พัฒนาระบบตอ่ เนอ่ื งอย่างรวดเรว็ โดยการใชง้ านจะอธิบายการทางานรูปแบบโครงสร้าง หรือตน้ ไมก้ ารตดั สนิ ใจเปน็ ต้น ดังน้ัน การเขียนคาอธิบายกระบวนการ จะแบ่งตามรูปแบบการใช้งาน ท่ีอธิบายกระบวนการให้ผู้ใช้งานทั่วไป และคาอธิบายเชิงเทคนิคกระบวนการ เพื่อนา ขอ้ มลู ไปพฒั นาหรือประยุกตใ์ ช้งานในขั้นตอนตอ่ ไป 1. เคร่อื งมอื กำรสรำ้ งคำอธบิ ำยกระบวนกำร 1.1 กำรเขยี นเชิงบรรยำยดว้ ยภำษำธรรมชำติ เป็นการสร้างคาอธิบายกระบวนการรูปแบบตารางข้อมูล นาเสนอ กระบวนการทางานจากแผนภาพกระแสข้อมูล สาหรับผู้ใช้งานท่ีเก่ียวข้องของระบบ ดังตัวอย่าง ตารางท่ี 7.12 แสดงการทางานของระบบสารสนเทศการจัดการงานวิจัย การใช้ระบบสารสนเทศกระบวนการท่ี 1 ผู้ใช้งานจะต้องพิมพ์ชื่อผใู้ ช้งานและรหัสผา่ น เพอ่ื เข้าสู่ระบบสารสนเทศกอ่ นใช้บรกิ าร
แบบจาลองกระบวนการ | 298 ตำรำงที่ 7.12 คาอธบิ ายกระบวนการเชงิ บรรยายของการเสนอโครงการวิจัย DFD 1 ระบบ ระบบสำรสนเทศเพอ่ื กำรจัดกำรงำนวจิ ยั DFD Number 1 Process Name เขา้ สู่ระบบ Input Data Flow รหัสบคุ ลากร Output Data Flow ข้อมลู บคุ ลากร Data Stored Used แฟม้ บุคลากร Description ระบบจะทาการตรวจสอบช่ือผู้ใช้และรหัสผ่านและทา การแจ้งสถานะ ในกรณีพมิ พ์ผดิ พลาดหรอื ไมม่ ใี นระบบ การสร้างคาอธบิ าย ตารางที่ 7.13 แสดงตารางคาอธิบายกระบวนการ เชิงบรรยาย ของการทางานฝ่ายวิจัยที่มีอาจารย์เข้าระบบบันทึกขอเสนอโครงการวิจยั ต่อคณะกรรมการฝ่ายวจิ ยั ตำรำงท่ี 7.13 คาอธบิ ายกระบวนการเชงิ บรรยายการนาเสนอโครงการวจิ ยั DFD 2 ระบบ ระบบสำรสนเทศเพอื่ กำรจัดกำรงำนวิจยั DFD Number 2 Process Name เสนอโครงการ Input Data Flow ข้อมลู บคุ ลากร ขอ้ มูลผลการอนุมัติ Output Data Flow แฟ้มคาขอโครงการ รายงานข้อมูลโครงการ Data Stored Used แฟ้มคาขอโครงการ Description ระบบรับคาขอเสนอโครงการจากอาจารย์ที่บันทึกข้อมลู เสนอโครงการ โดยจะมีคณะกรรมการพิจารณาอนุมัติ โครงการ
แบบจาลองกระบวนการ | 299 1.2 กำรใช้ภำษำองั กฤษเชิงโครงสร้ำง (Structured English) การเขียนคาอธิบายกระบวนการใช้ภาษาอังกฤษเชิงโครงสร้างที่มี หลักการเขียนอธิบายรายละเอียดกระบวนการ โดยการใช้ภาษาอังกฤษเชิงโครงสร้าง จะต้องมีหลักการเขียนโครงสรา้ ง 3 ประการ ดงั น้ี 1.2.1 การเขียนภาษาอังกฤษเชิงโครงสร้าง จะมีรูปแบบคล้าย การเขียนโปรแกรมเชิงโครงสร้าง มีอธิบายกระบวนการทางาน มีลักษณะโครงสร้างใน การออกแบบคาอธิบาย 3 ลกั ษณะ คอื 1) โครงสรา้ งแบบลาดับ อธบิ ายลาดับในกระบวนการทางาน ตามลาดับขนั้ ตอน เช่น การบันทกึ ข้อมลู เสนอโครงการจะต้องบนั ทึกขอ้ มลู เป็นต้น 2) โครงสร้างแบบมีเงื่อนไข การอธิบายโครงสร้างข้อมูลท่ี กาหนดเงื่อนไขการทางานในกระบวนการของระบบงาน การกาหนดรูปแบบการทางาน ตามเงอื่ นไข เช่น If then else, Case เปน็ ตน้ 3) โครงสร้างแบบทาซ้า การอธิบายโครงสร้างข้อมูลท่ีมี กระบวนการทางานซา้ หรือวน ภายใต้เง่อื นไขของกระบวนการท่ีกาหนดคาส่งั ท่ีทาซ้าวน เช่น WHILE DO, FOR LOOP, DO UNTIL 1.2.2 การเขียนเพ่ือแสดงโครงสร้างการทางานของระบบงาน โดย จะต้องใช้คาศัพท์ทางเทคนิคท่ีใกล้เคียงกับไวยากรณ์ เป็นคาส่ังภาษาที่ใช้ใน การซอฟตแ์ วร์ เชน่ BEGIN, DO, END, FOR, OF เป็นต้น 1.2.3 การเขยี นเพ่ืออธบิ ายการทางานของกระบวนการด้วยคากริยา ตามโครงสร้างข้อมูล เป็นคาส่ังในการเขียนภาษาเพ่ือพัฒนาซอฟต์แวร์ เช่น READ, WRITE, PRINT, UPDATE, MOVE, ADD โดยการเขียนคาอธิบาย จะเกิดจากแผนภาพ กระแสข้อมลู หรือพจนานกุ รม ทนี่ กั วิเคราะหร์ ะบบได้ทาวิเคราะห์ระบบจากผใู้ ช้บริการ หรือผู้ทเ่ี กีย่ วขอ้ ง
แบบจาลองกระบวนการ | 300 1.3 กำรใช้ตำรำงตดั สนิ ใจ ตารางการตดั สินใจ เป็นโครงสร้างทอ่ี ธิบายถึงข้ันตอนการทางานของ ระบบ ท่ีมีข้ันตอนการทางานแบบมีเงื่อนไขท่ีซับซ้อนมีทางเลือกให้ตัดสินใจ โดยการ อธิบายจะแสดงเป็นตาราง มีส่วนประกอบหลักท่ีแสดงเงื่อนไข ผลลัพธ์ การกระทา กฎเกณฑก์ ารทางาน ทางเลอื กที่ผูใ้ ชง้ านกระทา การทางานของตารางตัดสินใจ จะทาการตรวจสอบเงื่อนไขที่มี คาตอบ 2 ทางเลือก คือ ใช่ กับ ไมใ่ ช่ ดงั ตารางท่ี 7.14 แสดงลกั ษณะเลอื กเง่ือนไขหรือ การกระทาในการทางาน และตารางที่ 7.15 แสดงตัวอย่างการทางานที่เลือกแบบ 2 เงื่อนไขโดยแสดงทางเลอื กใช่ทงั้ สองมี 1 กฎเกณฑ์ ตำรำงท่ี 7.14 สว่ นประกอบตารางตดั สินใจแบบ 2 เง่ือนไข เง่อื นไข กฎเกณฑ์ 1234 เงือ่ นไขที่ … ………… เง่อื นไขที่ … ………… ตำรำงท่ี 7.15 การตรวจสอบกระบวนการทางานดว้ ยตารางตดั สินใจ เงอ่ื นไข กฎเกณฑ์ 1234 เงอ่ื นไขที่ 1 YNNY เง่ือนไขท่ี 2 Y YNN การทางานที่มีมากกวา่ 2 เงื่อนไข ในการทางานจะตอ้ งมกี ารตรวจสอบและเลือก คาตอบเพิม่ ขึน้ ดังตารางที่ 7.16 แสดงลกั ษณะเลอื กเง่อื นไข 3 เง่ือนไข
แบบจาลองกระบวนการ | 301 ตำรำงที่ 7.16 การตรวจสอบกระบวนการทางานดว้ ยตารางตัดสินใจแบบ 3 เงือ่ นไข เง่ือนไข กฎเกณฑ์ 1234 เงอ่ื นไขท่ี 1 YNNY เงอ่ื นไขท่ี 2 Y YNN เงื่อนไขท่ี 3 Y YNN จากตารางที่ 7.16 แสดงเง่ือนไข 3 เง่ือนไขท่ีมีคาตอบจากกฎเกณฑ์ท้ังหมด 4 กฎเกณฑ์ กฎเกณฑ์ท่ี 1 และ 2 ผลการเลอื ก และเกณฑท์ ี่ 3 และ 4 เกณฑ์ผลการไม่ เลือก ตวั อย่าง การสรา้ งตารางตดั สินใจร้านสไตล์เสื้อจาหนา่ ยเสอื้ ผา้ การซ้ือสนิ คา้ จะมี การจัดสง่ สนิ คา้ ใหล้ ูกค้าทม่ี ีการซื้อสินคา้ เกิน ไม่ต่ากว่า 400 บาท ฟรีในรูปแบบธรรมดา และหากตา่ กวา่ ราคาสินคา้ มกี ารจัดส่ง มีรูปแบบการชาระเงินและส่วนลด ดังน้ี รูปแบบการจัดส่งสนิ คา้ ธรรมดา ดว่ น (EMS) ราคาจดั ส่ง 50 บาท รปู แบบการชาระเงนิ ผา่ นธนาคาร เกบ็ เงินปลายทาง มอบสทิ ธ์กิ ารซ้ือสนิ ค้าเกิน 400 บาท ใหส้ ่วนลด 1% มอบสิทธ์ิการซื้อสินค้าเกนิ 800 บาท ข้ึนไป ให้ส่วนลด 2% และคูปองเงินสดใช้ ครง้ั ต่อไป 100 บาท
แบบจาลองกระบวนการ | 302 ตำรำงที่ 7.17 รูปแบบการชาระเงิน กฎเกณฑ์ 1234 เงอื่ นไข YNNN ชาระเงินผ่านธนาคาร เก็บเงินปลายทาง NYYY ตำรำงที่ 7.18 รปู แบบการส่งสินคา้ กฎเกณฑ์ 1234 เงอ่ื นไข YYYN แบบธรรมดา แบบด่วน NNNY ตำรำงท่ี 7.19 ส่วนลดในการส่งซ้อื สินค้า กฎเกณฑ์ 1234 เงอื่ นไข Y Y NN ซ้อื สินคา้ ราคาเกนิ 400 บาท ซ้ือสินคา้ ราคาเกนิ 800 บาท NNYY ตำรำงที่ 7.20 รวมเง่ือนไขในการจาหนา่ ยสินค้า กฎเกณฑ์ 1234 เงื่อนไข YYYN NNNY แบบธรรมดา YNNN แบบดว่ น NYYY ชาระเงินผา่ นธนาคาร Y Y NN เกบ็ เงนิ ปลายทาง NNYY ซอื้ สินคา้ ราคาเกนิ 400 บาท ซือ้ สนิ คา้ ราคาเกิน 800 บาท ข้ึนไป
แบบจาลองกระบวนการ | 303 จากตารางที่ 7.17 – 7.19 แสดงเงื่อนไขในการพิจารณาแต่ละประเด็น และ ตารางท่ี 7.20 เป็นการรวมเงื่อนไขท้ังหมด แสดงภาพรวมขั้นตอนกระบวนการและ รูปแบบการจาหน่ายสินคา้ เช่น กฎที่ 1 มีการส่งสนิ คา้ แบบธรรมดา โดยลกู ค้าเลอื กการ ชาระเงินผ่านธนาคารและลูกค้าซื้อสนิ ค้าราคาเกิน 400 บาท แต่ไม่เกิน 800 บาทเป็น ตน้ การอธบิ ายกระบวนการทางานด้วยตารางตัดสินใจ จะแสดงให้เห็นวิธีการทางาน แบบตาราง 2 มิติ แสดงแนวนอนและแนวต้ัง ทาให้ผู้วิเคราะห์สามารถตรวจสอบ ข้ันตอนการทางานท่ีเกิดขึ้นของระบบงานได้อีกคร้ัง เพ่ือเป็นการตรวจสอบแผนภาพ กระแสข้อมูลที่วิเคราะห์ มีความสัมพันธ์กับกระบวนการข้ันตอนการทางาน อ้างอิงความสัมพันธข์ องกระบวนการเพ่ิมขึน้ 1.4 กำรใชต้ น้ ไม้กำรตดั สินใจ ต้นไม้การตัดสินใจ เป็นการแสดงภาพเง่ือนไข การกระทา ผลลัพธ์ ของกฎเกณฑ์ที่ระบบกาหนดตามกระบวนการทางาน โดยใช้สัญลักษณ์ของโหนด (Node) แสดงทิศทางเง่ือนไขจากซ้ายไปขวา ตามกระบวนการทางานในแต่ละเง่ือนไข ดังภาพท่ี 7.16 แสดงเง่ือนไขการใชต้ ้นไมก้ ารตนั สนิ ใจมเี งือ่ นไขท้ังหมด 3 เงื่อนไข Yes Yes Yes 1 2 3 No No No 2 3 ภาพท่ี 7.13 รปู แบบต้นไมต้ ัดสนิ ใจ จากตัวอย่างร้านสไตล์เสื้อ ท่ีกาหนดเงื่อนไขรูปแบบการจาหน่าย สินคา้ โดยมเี งือ่ นไขลกู คา้ สงั่ ซือ้ สนิ คา้ จะเขยี นต้นไม้การตัดสนิ ใจไดด้ ังนี้
แบบจาลองกระบวนการ | 304 ไม่เสยี คา่ ส่งสนิ คา้ 2 ค่าสง่ สนิ คา้ 50 บาท 1 ไม่ได้ส่วนลด ส่วนลด 1% 3 ส่วนลด 2% และคูปองเงินสด คำอธบิ ำยเงอื่ นไข ส่ังซอื้ สนิ คา้ ซอื้ สินค้ามากกว่า 400 – 800 ซอ้ื สินค้ามากกวา่ 800 ขึน้ ไป และคปู องเงนิ สดใช้ครัง้ ตอ่ ไป 100 บาท ภาพที่ 7.14 ตน้ ไม้ตัดสนิ ใจเงอ่ื นไขการจาหนา่ ยสินค้า จากภาพท่ี 7.14 แสดงให้เห็นเงื่อนไขการจาหน่ายสินค้าร้านสไตล์เสื้อ เมื่อ ลูกค้าสั่งซ้ือสินค้าตั้งแต่ราคา 400 บาท ข้ึนไป จะได้รับการจดั ส่งสนิ ค้ารูปแบบธรรมดา ให้โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย แต่หากต้องการรบั สนิ ค้าแบบพิเศษต้องชาระเงนิ ค่าส่ง 50 บาท เงื่อนไขส่วนลดการค้า เมื่อลูกค้าซ้ือสินค้าตั้งแต่ 400 – 800 บาท ได้รับส่วนลด 1% ซื้อสินค้าตั้งแต่ 800 บาท ข้ึนไป ได้รับส่วนลด 2% และคูปองเงินสดใช้คร้ังต่อไป 100 บาท การเขยี นต้นไมต้ ัดสินใจ เป็นการอธบิ ายกระบวนทางานด้วยภาพท่แี สดงโหนด การทางานของกระบวนการ โดยนกั วเิ คราะหร์ ะบบจะวิเคราะห์และสรา้ งต้นไม้ตัดสินใจ นาเสนอต่อผู้ใช้งานและผูม้ ีส่วนเกยี่ วข้อง เป็นรูปแบบแสดงท่ีง่ายต่อการทาความเข้าใจ ตามลาดับขั้นตอนแต่ละเง่ือนไขและยังเป็นการทบทวน ตรวจสอบเงื่อนไขการของ ระบบงานอกี ครงั้
แบบจาลองกระบวนการ | 305 กำรเขียนผงั งำน การเขียนผังงาน ( Flowchart Diagram) คือ เคร่ืองมือท่ีแสดงให้เห็น กระบวนการทางานและข้ันตอนการทางานของระบบงานท้ังหมด การเขียนภาพ สัญลักษณ์ ทิศทางการทางาน จะอธิบายกระบวนการทางาน ตั้งแต่เริ่มต้นจนส้ินสุด กระบวนการทางานของแตล่ ะระบบ ก า ร เ ขี ย น ผั ง ง า น จ ะ แ ส ด ง ขั้ น ต อ น ก า ร ท า ง า น โ ด ย มี วั ต ถุ ป ร ะ ส ง ค์ ห ลั ก 2 ประเด็น คอื 1) ผังงานระบบ และ 2) ผังงานโปรแกรม วัตถุประสงค์ของการเขียนผัง งานระบบจะแสดงให้เห็นภาพรวมของกระบวนการขั้นตอนการทางานท้ังหมด การเขยี นผังงานโปรแกรมจะแสดงให้เห็นข้ันตอนการทางานการประมวลผลขอ้ มลู และ การแสดงผลลัพธ์จากการทางานในแต่ละข้ันตอน วิธีการเขียนผังงานที่ดีแสดงให้เห็น ข้ันตอนการทางาน ควรคานึงถึงแนวทางการเขียนให้ได้แผนผังท่ีดีอ่าน แล้วเข้าใจง่าย ถกู ต้องตามกระบวนการทางาน มีหลกั การคานงึ ดงั น้ี 1. ใช้สัญลกั ษณแ์ ทนค่าให้ถกู ต้องตามหลกั มาตรฐานแห่งชาติของสหรัฐอเมริกา (American National Standard Institute: ANSI) 2. การเขยี นข้อความอธิบายควรกระชับและชดั เจน 3. หากผังงานมากกว่าหนึ่งหน้าต้องใส่สัญลักษณ์แสดงผังงานหน้าถัดไป ให้ชัดเจนถูกต้อง 1. สญั ลกั ษณท์ ใ่ี ชใ้ นกำรเขียนผังงำน ภาพสัญลักษณ์ที่ใช้ในการเขียนผังงานตามมาตรฐาน ANSI มีรายละเอียด และความหมายการใชง้ านดังตารางท่ี 7.21 ดงั น้ี
แบบจาลองกระบวนการ | 306 ตำรำงที่ 7.21 สญั ลกั ษณผ์ ังงาน สญั ลกั ษณ์ ช่ือ ควำมหมำย จดุ เรมิ่ ตน้ และจุดส้ินสุดของ Terminal ขั้นตอนการทางาน แสดงทศิ ทางการทางานตาม Direction ทศิ ทางลกู ศร การประมวลผล การทางาน Process แต่ละขั้นตอน Input/output การรบั และแสดงผลขอ้ มูล Keyboard รบั และอ่านขอ้ มลู จากแปน้ พมิ พ์ Between-Page เร่มิ ตน้ ผงั งานข้ึนหน้าใหม่ Connector Decision เปรยี บเทียบในการตัดสินใจ In-page Connector จดุ เชอื่ มต่อของผังงาน Manual Operation บุคคลทางาน Printer ผลลพั ธท์ างเครื่องพิมพ์
แบบจาลองกระบวนการ | 307 2. รูปแบบของผังงำน ลักษณะการเขียนผังงานมีข้ันตอนการทางานอธิบายขั้นตอนมี 3 รูปแบบ หลักๆ คอื แบบเรยี งลาดบั แบบมีเง่ือนไข และแบบทาซ้า 2.1 แบบเรียงลาดับ แบบเรียงลาดับเป็นการแสดงข้ันตอนการทางานจากบนลงล่าง แสดง ข้อมูลจากจุดเริ่มต้นจนสิ้นสุดข้ันตอนการทางาน เช่น ระบบสารสนเทศเพื่อการบริหาร จัดการงานวิจัยของสานักวิชาศึกษาทั่วไป ในการรายงานวิจัยตามกลุ่มวิชา โดยเริ่มจาก การคลกิ เลือกเมนูรายงานผลงานวจิ ัย ระบบจะประมวลผลและแสดงผลลัพธ์ตามการคลิก เลือกเมนูกลุ่มวิชา เป็นต้น ดังภาพตัวอย่างท่ี 7.15 แสดงขั้นตอนการทางานแบบ เรยี งลาดบั การทางาน เริม่ ป้อนรหัสบคุ ลำกร ตรวจสอบสิทธ์ิ แสดงผลลพั ธ์ ส้ินสุด ภาพที่ 7.15 ผังงานแบบเรียงลาดับ
แบบจาลองกระบวนการ | 308 2.2 แบบมเี งือ่ นไข การสร้างผงั งานแบบมีเง่อื นไขจะเป็นการแสดง การเปรยี บเทียบในการ เลือกใช้แต่ละกิจกรรมหรือข้ันตอนการทางาน เช่น ระบบสารสนเทศเพื่อการบริหาร จัดการงานวิจัยของสานักวิชาศึกษาทั่วไป กระบวนการบันทึกแบบเสนอโครงการวิจัย เสนอตอ่ ฝ่ายวิจัยสานกั วิชาศึกษาทั่วไป ภาพที่ 7.16 แสดงผงั งานแบบมีเง่ือนไข เรมิ่ พิมพ์เสนอโครงกำร กระบวนกำรพจิ ำรณำ ไม่อนมุ ัติ แสดงสถำนะ คณะกรรมกำร อนุมัติ กระบวนทำสญั ญำ ส้นิ สุด ภาพท่ี 7.16 ผังงานแบบมีเงอ่ื นไข
แบบจาลองกระบวนการ | 309 จากผังงานแสดงให้เห็นการทางานระบบสารสนเทศในการบริหาร จดั การระบบมีข้ันตอนดงั น้ี 1) บคุ ลากรไดพ้ มิ พข์ ้อเสนอโครงการระบบสารสนเทศ 2) คณะกรรมการรับเรื่องพิจารณา เข้าสู่กระบวนการประชุม พิจารณาทนุ วจิ ยั และแจ้งสถานะผา่ นระบบสารสนเทศ 3) หากได้รับการอนุมัติจากคณะกรรมการ จะเข้าสู่การประมวลผล ดว้ ยการทาสัญญาตอ่ ไประหวา่ งผู้ขอทุนวิจยั และสานกั วชิ าศกึ ษาทั่วไป 4) หากไม่ได้รับการอนุมัติ จะแสดงสถานะผลการพจิ ารณาใหผ้ ู้เสนอ โครงการได้รบั ทราบในระบบสารสนเทศ 2.3 แบบทาซา้ การสร้างผังงานแบบทาซ้า เป็นการแสดงการทางานที่มีข้ันตอน การทาซ้าของการประมวลผลแต่ละเงื่อนไข มีการทาซ้า 2 รูปแบบ คือ การทางานหรือ ดาเนินงานก่อนตรวจสอบเง่ือนไข และการตรวจสอบเงื่อนไขก่อนทาซ้าในระบบงาน เช่น ระบบสารสนเทศเพื่อการบริหารจัดการงานวิจัยของสานักวิชาศึกษาท่ัวไป กระบวนการเข้าสู่ระบบดงั ภาพท่ี 7.17 เร่มิ พมิ พ์ชอ่ื ผูใ้ ชแ้ ละรหสั ผ่ำน ไมถ่ ูกตอ้ ง ตรวจสอบ แสดงขอ้ ผิดพลำด ถกู ต้อง เข้ำระบบหนำ้ หลัก ถู กต้อง ส้ินสุด ภาพท่ี 7.17 ผังงานแบบทาซา้
แบบจาลองกระบวนการ | 310 จากภาพที่ 7.17 เปน็ การทาซ้าแบบมขี ้นั ตอนดังน้ี 1) ผู้ใช้ระบบพมิ พช์ อ่ื ผใู้ ช้และรหสั ผ่าน 2) ระบบจะทาการตรวจสอบเงื่อนไข หากเข้าระบบถูกต้องตามเง่ือนไขก็ จะเขา้ ส่หู น้าหลกั ของระบบสารสนเทศ 3) หากพิมพ์ชื่อผู้ใช้และรหัสผ่านไม่ถูกต้อง ระบบจะแสดงเตือนการเขา้ สู่ ระบบผิดพลาด 4) คลิกเพือ่ กรุณาพิมพ์ใหม่ทาซา้ การตรวจสอบให้ตรงตามเงอ่ื นไขซา้ อกี คร้ัง จากการทางานผังงานทั้ง 3 รูปแบบ จะเห็นการทางานที่แตกต่างกัน ซึ่งขึ้นอยู่กับการใช้งานแต่ละกรณี การทางานผังงานจะเป็นประโยชน์ในการแสดง ข้ั น ต อ น ก า ร ท า ง า น ใ ห้ ผู้ พั ฒ น า ไ ด้ เ ห็ น ก ร ะ บ ว น ก า ร ง า น ใ น แ ต่ ล ะ ข้ั น ต อ น ส า ม า รถ ตรวจสอบการทางานแต่ละข้ันตอนได้อย่างเป็นระบบ
แบบจาลองกระบวนการ | 311 บทสรุป แบบจาลองกระบวนการทางาน เป็นการวิเคราะห์ข้อมูลโดยนักวิเคราะห์ ระบบทีมพัฒนาระบบสารสนเทศ ที่วิเคราะห์กระบวนการทางานและนามาสร้าง แบบจาลองกระบวนการ เพื่อนาเสนอผลการวิเคราะห์ให้กับผู้ใช้งาน ผู้บริหารและ ผู้เก่ียวข้อง ตรวจสอบว่าตรงกับความต้องการหรือไม่ อีกท้ังยังเป็นการสรุปประเดน็ ของกระบวนการทางาน ก่อนนาสู่ขึ้นตอนการดาเนนิ งานข้นั ตอ่ ไป แบบจาลองกระบวนการทางาน แบ่งได้ 2 ประเภท คือ 1) แบบจาลอง เชงิ ตรรกะจะแสดงวา่ ทางานอะไรทเ่ี ก่ียวข้องงานใด 2) แบบจาลองเชงิ กายภาพแสดง วา่ กระบวนการนจี้ ะดาเนนิ งานขน้ั ตอนอย่างไร การสร้างแบบจาลองกระบวนการในบทน้ีจะกล่าวถึงการสร้างแผนภาพ กระแสข้อมลู พจนานกุ รมและคาอธบิ ายกระบวนการทางาน แผนภาพกระแสข้อมูล คือ การแสดงกระบวนการทางานของระบบที่มี ความสัมพนั ธ์ ระหวา่ งระบบและบุคคลในการจดั เก็บข้อมูลอ พจนานุกรมข้อมูล คือ การแสดงรายละเอียด แผนภาพกระแสข้อมลู ที่มี กระบวนการทางานในแต่ละขนั้ ตอน การทาพจนานุกรมขอ้ มลู เป็นเคร่ืองมอื ท่ชี ว่ ยใน การตรวจสอบคุณลักษณะของข้อมูล แบ่งออกเปน็ 2 ประเภท คือ พจนานกุ รมขอ้ มลู ของกระแสขอ้ มลู และพจนานุกรมของแหลง่ จัดเกบ็ ข้อมลู คาอธิบายกระบวนการ คือ กระบวนการท่ีนักวิเคราะหร์ ะบบจะต้องสร้าง ควบคู่กบั พจนานุกรม เพือ่ อ้างองิ และเชอ่ื มโยงการทางานของกระบวนการของระบบ ท้ังหมด ดังน้ัน การสร้างคาอธิบายกระบวนการ จะแสดงรายละเอียดของวิธีการ ทางานในกระบวนการต่าง ๆ ของระบบ มีการสร้างคาอธิบาย 2 รูปแบบ คือ คาอธิบายกระบวนการในระดับการใช้งาน และคาอธิบายกระบวนการในระดับของ ระบบ โดยมีรายละเอียดการใช้งาน มีเครื่องมือในการสร้างคาอธิบาย คือ การเขียน เชิงบรรยายด้วยภาษาธรรมชาติ การใช้ภาษาอังกฤษเชิงโครงสร้าง การใช้ตาราง ตัดสินใจการใช้ตน้ ไม้การตดั สนิ ใจ แผนผังการทางาน คือ เคร่ืองมือท่ีแสดงให้เห็นกระบวนการทางานและ ข้ันตอนการทางานของระบบงาน มีขั้นตอนมี 3 รูปแบบหลัก ๆ คือ แบบเรียงลาดับ แบบมเี งอ่ื นไข และแบบทาซ้า
แบบจาลองกระบวนการ | 312 แบบฝึกหัดบทที่ 7 ตอนที่ 1 ตอบคำถำมดงั ตอ่ ไปน้ี 1. จงอธบิ ายความหมายของแบบจาลองกระบวนการมาพอสงั เขป 2. เพราะเหตใุ ดจึงตอ้ งสร้างแบบจาลองกระบวนการ 3. จงอธิบายความหมายของแผนภาพกระแสข้อมูล 4. จงอธบิ ายความหมายของพจนานกุ รมข้อมูล 5. จงอธิบายความหมายของคาอธบิ ายกระบวนการ 6. จงอธบิ ายความหมายแผนผังการทางาน ตอนที่ 2 ใหศ้ ึกษำขอ้ มลู ขำ้ งล่ำงและตอบคำถำมดังต่อไปนี้ ร้านรองเท้าแชมป์จาหน่ายรองเท้ารูปแบบการขายเปิดร้านค้าและแบบ ออนไลน์ ท้ังรูปแบบขายปลกี และขายส่ง ซือ้ สนิ ค้า 500 บาท ขึ้นไปจัดสง่ สินค้าโดยไม่มี ค่าใช้จ่าย การจาหนา่ ยสนิ ค้ามเี ง่อื นไขการตลาดดงั นี้ เง่ือนไข สว่ นลด ลูกคา้ ขายสง่ 3 ชิ้นข้ึนไป (เฉพาะรายการกาหนด) ใหส้ ่วนลด 20% ลูกคา้ ที่ซอื้ สินคา้ ราคา 900 บาท ให้สว่ นลด 8% ลกู ค้าทซ่ี ้ือสินคา้ ราคา 2,000 ขึ้นไป ใหส้ ว่ นลด 15% บัตรคูปองเงนิ สด 150 บาท 1. ให้สร้างแผนภาพกระแสข้อมลู ของรา้ นรองเทา้ แชมป์
แบบจาลองกระบวนการ | 313 2. ให้สร้างพจนานกุ รมขอ้ มลู ของแผนภาพกระแสข้อมูล 3. ใหส้ ร้างการทางานต้นไมต้ ัดสินใจกระบวนการให้ส่วนลดสนิ คา้ 4. ให้สร้างแผนผงั การทางานการจดั สง่ สินค้า
แบบจาลองกระบวนการ | 314 แผนภำพ กระแสขอ้ มูล แผนผังกำร แบบจำลอง คำอธิบำย ทำงำน กระบวนกำร พจนำนุกรม ภาพท่ี 7.18 ภาพรวมความสมั พนั ธแ์ บบจาลองกระบวนการ
บทที่ 8 แบบจำลองขอ้ มลู กระบวนการวิเคราะห์ความต้องการของผู้บริหาร และผู้ใช้งานระบบงานที่ เก่ียวข้อง จากแบบจาลองกระบวนการนั้น นักวิเคราะห์ระบบจะต้องทาการวิเคราะห์ และออกแบบความสัมพันธ์ ด้วยการนามาสร้างแบบจาลองข้อมูลท่ีแสดงถึง ความสัมพันธ์ของโครงสร้างข้อมูลและลักษณะข้อมูล ในบทนี้จะกล่าวถึงระดับ แบบจาลองข้อมูล แผนภาพอีอารไ์ ดอะแกรม ส่วนประกอบ และความสัมพันธ์ระหว่าง เอนทิตี ระดบั แบบจำลองขอ้ มูล แบบจาลองข้อมูลแสดงถึงความสัมพันธ์และลักษณะข้อมูล และอธิบายโครงสร้าง ขอ้ มลู ในระบบงาน ดงั ภาพที่ 8.1 แสดงระดบั การทางาน ได้แบง่ การทางาน 3 ระดบั ดงั นี้ 1. แบบจาลองข้อมูลเชิงแนวคดิ เป็นแบบจาลองข้อมูล จะแสดงโครงสร้างข้อมูลที่กาหนดความสัมพันธ์ แสดง แนวคิดของโครงสร้างระบบงาน กฎเกณฑ์ระบบงาน 2. แบบจาลองข้อมลู เชงิ ตรรกะ เปน็ แบบจาลองทอ่ี อกแบบแนวคิดทแ่ี สดงข้อมลู เก่ียวกับระบบการจดั การฐานข้อมูล และแสดงความสัมพันธ์ข้อมูล เป็นการออกแบบที่รองรับการใช้งานของระบบการจัดการ ฐานข้อมูล เช่น แบบจาลองฐานข้อมลู เชงิ สมั พนั ธ์ หรือแบบจาลองฐานขอ้ มูลเชงิ วัตถุ เปน็ ต้น 3. แบบจาลองขอ้ มูลเชิงกายภาพ เป็นแบบจาลองท่ีนักวิเคราะห์และทีมพัฒนา ออกแบบรายละเอียดข้อมูล ชนิด ขนาด คุณสมบตั ขิ องข้อมลู และแสดงความสมั พนั ธร์ ะหว่างขอ้ มูล โครงสร้างข้อมลู ความสัมพันธ์ เชน่ แผนภาพความสัมพันธ์ เชิงแนวคดิ (E-R) (Conceptual Data ออกแบบระบบการจัดการฐานขอ้ มูล (DBMS) Model) เชิงตรรกะ (Logical Data Model) คุณสมบัติ ชนิด ขนาดขอ้ มูล เชิงกำยภำพ (Physical Data Model) ภาพที่ 8.1 ระดับแบบจาลองขอ้ มูล
แบบจาลองขอ้ มูล | 316 แผนภำพอีอำร์ไดอะแกรม แผนภาพ E-R Diagram (Entity-Relationship Diagram) คือ การเขียนแสดง ให้เห็นความสัมพันธ์ของข้อมูลที่ทางานในระบบงาน เป็นการเขียนแบบจาลองข้อมูล (Data Modeling) ที่ได้จากการวิเคราะห์ แสดงให้เห็นว่า มีความสัมพันธ์ของข้อมูล ในแต่ละวัตถุท่ีเก่ียวข้องท้ังหมด เห็นรูปแบบความสัมพันธ์ท่ีมีของวัตถุในทุกข้ันตอน การทางาน ดงั นั้น แผนผังความสมั พนั ธจ์ งึ เป็นเครอื่ งมือท่ีแสดงความสมั พนั ธ์ท่ีได้รบั จาก อดีตจนถึงปัจจุบัน เช่น ตัวอย่างความสัมพันธ์ท่ีบุคลากรได้สร้างดาเนินงานและบันทกึ ขอ้ มลู จดั เกบ็ ในไฟล์ขอ้ มลู และไฟลข์ ้อมลู สัมพนั ธ์ลักษณะใดกับหนว่ ยงานอย่างไรบ้าง 1. ส่วนประกอบแผนภำพ E-R Diagram การสร้าง E-R Diagram จะประกอบไปด้วยการทางานท่ีแสดงความสัมพันธ์ ความสัมพันธข์ องระบบงาน มีสญั ลักษณ์ท่นี ิยมใชก้ นั หลากหลายแบบ เช่น แบบ Chen, Crow’s Foot เป็นต้น ดังตารางที่ 8.1 แสดงสัญลักษณ์และความหมายเปรียบเทียบ สญั ลกั ษณ์ของ ER-Diagram ตำรำงที่ 8.1 สัญลักษณแ์ ผนภาพ E-R Diagram แบบ Chen Crow’s Foot ควำมหมำย เอนทติ ี - แอตทริบวิ ต์แบบหลายคา่ - แอตทรบิ วิ ต์ท่ไี ด้จากรับค่า
แบบจาลองขอ้ มลู | 317 ตำรำงท่ี 8.1 สัญลักษณ์แผนภาพ E-R Diagram (ต่อ) แบบ Chen Crow’s Foot ควำมหมำย แอตทริบวิ ตท์ ่ีเป็นคียห์ ลัก - ความสมั พนั ธร์ ะหว่างเอนทติ ี - ความสัมพันธ์ 1 ตอ่ คน M ตอ่ กลุ่ม การสร้าง E-R Diagram จะมสี ว่ นประกอบหลักดังนี้ 1.1 เอนทิตี (Entity) เอนทิตีคื อ ชื่อบุคคล สถานที่ ส่ิงของ เหตุการณ์ กิจกรรมท่ีจะเกิดขนึ้ ในระบบงาน มีเอนทิตี 2 ประเภทคอื เอนทิตปี กติ และเอนทติ แี บบอ่อน 1.1.1 เอนทิตีปกติ คือ เอนทิตีที่เกิดข้ึนด้วยความสัมพันธ์ของ กระบวนการทางานด้วยตวั เอนทิตเี อง มีคณุ สมบตั ิด้วยตนเอง 1.1.2 เอนทิตีแบบอ่อน คือ เอนทิตีที่เกิดข้ึนจากการส่ง ค่าของข้อมูล หรอื สง่ิ เกดิ ขน้ึ จากเอนทิตอี นื่ ส่งผลให้มเี อนทิตแี บบอ่อนขนึ้
แบบจาลองข้อมูล | 318 การแทนสญั ลักษณ์เอนทิตี โดยใช้แบบ Chen สามารถแสดงตัวอย่าง ดังภาพท่ี 8.2 เอนทิตีระบบสารสนเทศเพื่อการจัดการงานวิจัย ที่มีเอนทิตี ท้ังหมด 3 เอนทิตีทมี่ สี ่วนเกย่ี วข้องในระบบงานสารสนเทศ ชือ่ เอนทิตี โครงกำร บคุ ลำกร สำขำวชิ ำ ตวั อย่ำง ภาพที่ 8.2 เอนทิตรี ะบบสารสนเทศเพ่อื การจัดการงานวจิ ัย 1.2 แอตทรบิ วิ ต์ (Attribute) แอตทริบวิ ต์คอื รายละเอียด คณุ สมบตั ิของเอนทิตี เชน่ ข้อมูลบคุ ลากร อาจารย์ ขอ้ มูลหน่วยงาน เป็นตน้ ดงั ภาพที่ 8.3 แสดงตัวอยา่ งแอตทริบิวต์ของอาจารย์ ท่มี ีรายละเอียดคณุ สมบัตภิ ายในตวั เอนทติ ี บ้านเลขท่ี ถนน รหัส ชื่อ นามสกุล ตาบล ทอ่ี ยู่ บคุ ลำกร อาเภอ เชยี่ วชาญ จงั หวัด เรมิ่ ทางาน วันเกิด ภาพท่ี 8.3 แอตทรบิ ิวตข์ องเอนทิตบี คุ ลากร
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147
- 148
- 149
- 150
- 151
- 152
- 153
- 154
- 155
- 156
- 157
- 158
- 159
- 160
- 161
- 162
- 163
- 164
- 165
- 166
- 167
- 168
- 169
- 170
- 171
- 172
- 173
- 174
- 175
- 176
- 177
- 178
- 179
- 180
- 181
- 182
- 183
- 184
- 185
- 186
- 187
- 188
- 189
- 190
- 191
- 192
- 193
- 194
- 195
- 196
- 197
- 198
- 199
- 200
- 201
- 202
- 203
- 204
- 205
- 206
- 207
- 208
- 209
- 210
- 211
- 212
- 213
- 214
- 215
- 216
- 217
- 218
- 219
- 220
- 221
- 222
- 223
- 224
- 225
- 226
- 227
- 228
- 229
- 230
- 231
- 232
- 233
- 234
- 235
- 236
- 237
- 238
- 239
- 240
- 241
- 242
- 243
- 244
- 245
- 246
- 247
- 248
- 249
- 250
- 251
- 252
- 253
- 254
- 255
- 256
- 257
- 258
- 259
- 260
- 261
- 262
- 263
- 264
- 265
- 266
- 267
- 268
- 269
- 270
- 271
- 272
- 273
- 274
- 275
- 276
- 277
- 278
- 279
- 280
- 281
- 282
- 283
- 284
- 285
- 286
- 287
- 288
- 289
- 290
- 291
- 292
- 293
- 294
- 295
- 296
- 297
- 298
- 299
- 300
- 301
- 302
- 303
- 304
- 305
- 306
- 307
- 308
- 309
- 310
- 311
- 312
- 313
- 314
- 315
- 316
- 317
- 318
- 319
- 320
- 321
- 322
- 323
- 324
- 325
- 326
- 327
- 328
- 329
- 330
- 331
- 332
- 333
- 334
- 335
- 336
- 337
- 338
- 339
- 340
- 341
- 342
- 343
- 344
- 345
- 346
- 347
- 348
- 349
- 350
- 351
- 352
- 353
- 354
- 355
- 356
- 357
- 358
- 359
- 360
- 361
- 362
- 363
- 364
- 365
- 366
- 367
- 368
- 369
- 370
- 371
- 372
- 373
- 374
- 375
- 376
- 377
- 378
- 379
- 380
- 381
- 382
- 383
- 384
- 385
- 386
- 387
- 388
- 389
- 390
- 391
- 392
- 393
- 394
- 395
- 396
- 397
- 398
- 399
- 400
- 401
- 402
- 403
- 404
- 405
- 406
- 407
- 408
- 409
- 410
- 411
- 412
- 413
- 414
- 415
- 416
- 417
- 418
- 419
- 420
- 421
- 422
- 423
- 424
- 425
- 426
- 427
- 428
- 429
- 430
- 431
- 432
- 433
- 434
- 435
- 436
- 437
- 438
- 439
- 440
- 441
- 442
- 443
- 444
- 445
- 446
- 447
- 448
- 449
- 450
- 451
- 452
- 453
- 454
- 455
- 456
- 457
- 458
- 459
- 460
- 461
- 462
- 463
- 464
- 465
- 466
- 467
- 468
- 469
- 470
- 471
- 472
- 473
- 474
- 475
- 476
- 477
- 478
- 479
- 480
- 481
- 482
- 483
- 484
- 485
- 486
- 487
- 488
- 489
- 490
- 491
- 492
- 493
- 494
- 495
- 496
- 497
- 498
- 499
- 500
- 501
- 502
- 503
- 504
- 505
- 506
- 507
- 508
- 509
- 510
- 511
- 512
- 513
- 514
- 515
- 516
- 517
- 518
- 519
- 520
- 521
- 522
- 523
- 524
- 525
- 526
- 527
- 1 - 50
- 51 - 100
- 101 - 150
- 151 - 200
- 201 - 250
- 251 - 300
- 301 - 350
- 351 - 400
- 401 - 450
- 451 - 500
- 501 - 527
Pages: