Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore ວິຊາ การออกแบบและพัฒนาระบบสารสนเทศ

ວິຊາ การออกแบบและพัฒนาระบบสารสนเทศ

Published by lavanh9979, 2021-08-24 09:10:19

Description: ວິຊາ การออกแบบและพัฒนาระบบสารสนเทศ

Search

Read the Text Version

เทคโนโลยีคอมพิวเตอรแ์ ละการสอ่ื สารข้อมูล | 19 ภาพท่ี 1.27 หน้าหลกั ระบบปฏิบัตกิ าร iOS ภาพที่ 1.28 หนา้ หลกั ระบบปฏิบัติการ Android ภาพท่ี 1.29 ระบบปฏบิ ัตกิ าร Linux รนุ่ Ubuntu (ท่ีมา: http://www.ubuntu.com/desktop)

เทคโนโลยคี อมพิวเตอร์และการส่ือสารข้อมลู | 20 ภาพท่ี 1.30 ระบบปฏบิ ัติ Windows (ทีม่ า: http://www.microsoft.com/en-us/default.aspx) ภาพท่ี 1.31 ระบบปฏิบตั ิ Macintosh (ทม่ี า: http://southernstars.com/products/skysafari_mac/index.html) 2.1.2 ซอฟต์แวร์อรรถประโยชน์ (Utility) เป็นโปรแกรมท่ีใช้ สาหรับจัดสรรทรัพยากรของคอมพิวเตอร์ เช่น ซอฟต์แวร์ตรวจสอบไวรัสและป้องกัน สปายแวร์ดังภาพที่ 1.32 ซอฟต์แวร์จัดเรียงข้อมูลดังภาพที่ 1.33 และภาพท่ี 1.34 ซอฟต์แวร์บริหารจัดการพื้นท่ีฮารด์ ดกิ ส์ ภาพท่ี 1.32 ซอฟตแ์ วร์ตรวจสอบไวรสั ของระบบปฏิบตั กิ ารวินโดวส์

เทคโนโลยคี อมพิวเตอรแ์ ละการสอ่ื สารข้อมลู | 21 ภาพท่ี 1.33 ซอฟตแ์ วร์จดั เรยี งข้อมูลบนระบบปฏิบัติการวินโดวส์ ภาพท่ี 1.34 ซอฟตแ์ วร์บริหารจัดการฮาร์ดดสิ ก์บนระบบปฏิบัตกิ ารวนิ โดวส์ 2.1.3 ซอฟต์แวร์ขับอุปกรณ์หรือดีไวซ์ไดเวอร์ (Device driver) เป็นซอฟต์แวร์ท่ีใช้ติดตั้ง เพื่อช่วยให้อุปกรณ์รับ / ส่งสามารถสื่อสารกับระบบ คอมพวิ เตอรไ์ ด้ ดังภาพที่ 1.35 แสดงการเข้าเวบ็ ไซต์ผูใ้ ห้บริการจากผลิตภณั ฑ์เครอ่ื งพิมพ์ ให้บริการที่ผู้ใช้บริการสามารถดาวน์โหลดซอฟต์แวร์ได้จากผู้ให้บริการ และภาพที่ 1.36 แสดงหนา้ จอเว็บไซต์ท่ีให้บริการซอฟต์แวร์ขับอุปกรณ์หน้าจอสาหรับการ์ดจอจากบริษัท NVIDIA ภาพท่ี 1.35 ซอฟต์แวร์ดีไวซ์ไดเวอร์เคร่อื งพิมพ์ (ท่มี า : http://www8.hp.com/us/en/drivers.html)

เทคโนโลยีคอมพิวเตอรแ์ ละการส่ือสารขอ้ มูล | 22 ภาพท่ี 1.36 ซอฟตแ์ วร์ดไี วซ์ไดเวอร์การ์ดจอ (ที่มา: http://notebookspec.com/) 2.1.4 ซอฟตแ์ วร์ตัวแปลภาษา (Compiler) ซอฟต์แวร์ตัวแปลภาษาเป็นการสั่งงานให้คอมพิวเตอร์ ทางานตามคาสั่งท่ีเขียนกาหนด โดยคอมพิวเตอร์การแปลและประมวลผล โดย ภาษาคอมพิวเตอร์จะแบ่งเป็น 2 ระดับ คือภาษาระดับสูงและภาษาระดับต่า การ ทางานของคอมพวิ เตอร์จะต้องแปลภาษาดงั นี้ 1. ภาษาระดับต่าคือ ภาษาที่ทาหน้าท่ีแปลคาสั่ งให้ ฮาร์ดแวร์ทางานตามท่ผี ้พู ฒั นาต้องการ 2. ภาษาระดับสงู คือ ภาษาท่ีผู้พฒั นาจะต้องใชส้ ญั ลักษณ์ ของภาษาที่มนุษย์สามารถเข้าใจใช้สั่งงานคอมพิวเตอร์ เช่น ภาษาซี ภาษาจาวา ภาษา ไพทอน เปน็ ต้น 2.2 ซอฟต์แวร์ประยุกต์ (Application Software) คือซอฟต์แวร์ท่ีใช้งานเฉพาะด้านหรือซอฟต์แวร์ในการจัดการงาน ซอฟตแ์ วรป์ ระยกุ ต์แบง่ เปน็ ดา้ นตามการประยกุ ต์ใช้งาน ดงั นี้

เทคโนโลยคี อมพิวเตอร์และการส่อื สารขอ้ มูล | 23 2.2.1 ซอฟต์แวร์ความบันเทิง เชน่ โปรแกรมดหู นัง ฟังเพลง เปน็ ต้น ดงั ภาพท่ี 1.37 ภาพท่ี 1.37 ซอฟต์แวร์ดวู ีดโิ อบนระบบปฏิบตั กิ ารวินโดวส์ 2.2.2 ซอฟต์แวร์ส่วนบุคคล เช่น ซอฟต์แวร์จดบันทึก ซอฟต์แวร์ ปฏิทิน เป็นต้น ดังภาพท่ี 1.38 เป็นซอฟต์แวร์ที่ใช้ในการบันทึกรายละเอียดการทางาน ในแต่ละวนั และแสดงรายละเอยี ดรปู แบบปฏทิ นิ ภาพที่ 1.38 ซอฟต์แวร์ปฏิทนิ บนระบบปฏบิ ตั กิ ารวินโดวส์ 2.2.3 ซอฟต์แวร์ดา้ นการศึกษา เช่น ซอฟต์แวร์จัดทาบรรณานกุ รม ซอฟต์แวร์จดั ทาสือ่ การเรยี นการสอน เปน็ ต้น ดงั ภาพที่ 1.39

เทคโนโลยคี อมพิวเตอร์และการสอื่ สารข้อมลู | 24 ภาพท่ี 1.39 ซอฟตแ์ วร์ Endnote (ทมี่ า: http://www.stollenweb.de/blogs/endnote/) 2.2.4 ซอฟต์แวร์ประยุกตง์ านสานักงาน เช่น ซอฟต์แวร์สานักงาน สาหรับฐานข้อมูลใช้ Microsoft Access ด้านเอกสารใช้ Microsoft Word ซอฟต์แวร์ สาหรับคานวณด้านสถติ ิการเงินใช้ Microsoft Excel และซอฟต์แวร์สาหรับใช้นาเสนอ งาน Microsoft PowerPoint เปน็ ตน้ ดงั ภาพที่ 1.40 Microsoft Excel Microsoft PowerPoint Microsoft Word ภาพท่ี 1.40 ซอฟต์แวร์ Microsoft Office

เทคโนโลยคี อมพวิ เตอรแ์ ละการสอ่ื สารขอ้ มูล | 25 2.2.5 ซอฟตแ์ วร์เฉพาะใช้งาน เช่น การตัดต่อภาพ Animation3D เป็นต้น ตวั อยางภาพที่ 1.41 ภาพท่ี 1.41 ซอฟตแ์ วร์ PhotoScape 3. บคุ ลากร คือผู้ที่เกยี่ วขอ้ งในการดาเนินงาน โดยมหี น้าทใี่ นการดูแล พฒั นาและควบคุม ระบบสารสนเทศของแต่ละองค์กร ดังแสดงรายละเอียดหน้าท่ีบุคคลท่ีเกี่ยวข้องกับ เทคโนโลยีสารสนเทศดังตารางที่ 1.1 ตารางท่ี 1.1 ตาแหนง่ ของบคุ คลท่เี กยี่ วข้องกับเทคโนโลยีสารสนเทศ ตาแหน่ง หนา้ ที่ ผ้ดู ูแลเว็บ (Web Master) พัฒนาและบารงุ เวบ็ ไซตใ์ หท้ ันสมัยอยู่เสมอ ผเู้ ชี่ยวชาญคอมพวิ เตอร์ สนับสนุนและให้ความช่วยเหลอื ใช้เกีย่ วกบั เทคนคิ การใช้ (Computer Support specialist) บริการเทคโนโลยีในองค์กร เจ้าหนา้ ที่สนับสนุนการพฒั นา (Development สนับสนุนงานด้านเอกสารท่ีเก่ียวกับการพัฒนาระบบ Support Staff) สารสนเทศ วิศวกรซอฟตแ์ วร์ วิเคราะห์ความต้องการของผู้ใช้ และพัฒนาซอฟต์แวร์ (Software Engineer) ตามทีผ่ ใู้ ช้ตอ้ งการ ผ้บู รหิ ารเครือข่าย พัฒนาและบารงุ รักษาเครือขา่ ยคอมพิวเตอร์ (Network Administrator) ผบู้ ริหารฐานข้อมูล ผู้ดูแลบริหารจัดการฐานข้อมูล วางแผนจัดการ (Database Administrator) เพ่มิ ประสิทธภิ าพการให้บรกิ ารฐานข้อมูล นักวเิ คราะหร์ ะบบ วางแผน ออกแบบ และบารงุ รกั ษาระบบสารสนเทศ (System Analyst) นักเขยี นโปรแกรม พัฒนา ทดสอบ และแกไ้ ขโปรแกรม (Programmer)

เทคโนโลยคี อมพวิ เตอร์และการส่ือสารข้อมลู | 26 3.1 โครงสรา้ งบุคลากรด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ การดาเนินงานด้านเทคโนโลยีสารสนเทศภายในองค์กร จะต้อง มีตาแหน่งตามลาดับสายงานจากบนลงล่าง น่ันหมายถึงจากผู้บริหารระดับสูงจนถึง ผปู้ ฏบิ ัตงิ าน ซงึ่ โครงสร้างบุคลากรแต่ละองค์กรอาจจะมกี ารปรับเปล่ียนตามบรบิ ทของ การทางานของแตล่ ะองคก์ รการ ดาเนนิ งานจะต้องมีผบู้ ริหารด้านเทคโนโลยสี ารสนเทศ ทาหน้าท่ีวางแผนการดาเนินงาน วางแผนยุทธศาสตร์และควบคุมตรวจสอบการ ดาเนนิ งานให้เกิดประสิทธิภาพสงู สุด ประกอบดว้ ยบุคลากรดังน้ี 3.1.1 ผู้บริหารระดับสูงด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ (Chief Information Officer: CIO) เป็นผู้รับผิดชอบในการบริหารงานและจัดการงาน ด้านสารสนเทศขององค์กร ทาหน้าที่ในการวางแผนกลยุทธ์และแผนงานระยะยาวใน การใช้สารสนเทศให้เป็นไปตามนโยบายขององค์กร ซ่ึงต้องมีความรู้ทางด้านเทคโนโลยี สารสนเทศ การบริหารงานสารสนเทศ และมีประสบการณ์การทางานที่เกี่ยวกับ กิจกรรมหลักขององค์กร รวมท้ังทราบความสัมพันธ์ของสารสนเทศท่ีหน่วยงานต่างๆ ต้องใช้ร่วมกัน ทาหน้าที่อนุมัติและติดตามโครงการต่างๆ ตลอดจนส่ังการและ ประสานงานการพัฒนาระบบสารสนเทศใหก้ บั หนว่ ยงานตา่ งๆ ควบคุมการใช้เทคโนโลยี สารสนเทศขององค์กรใหเ้ กดิ ประโยชนส์ ูงสุดและเปน็ ไปในทิศทางเดียวกนั 3.1.2 ผู้อานวยการศูนย์เทคโนโลยีสารสนเทศ (Information Technology Director) ทาหน้าท่ีบรหิ ารและควบคมุ การปฏบิ ตั ิงานของศูนยเ์ ทคโนโลยี สารสนเทศ ประมวลผลสารสนเทศด้วยคอมพิวเตอร์ ให้บริการด้านการส่ือสารข้อมูล/ สารสนเทศ และพัฒนาการเชื่อมโยงสารสนเทศจากหน่วยงานต่างๆ แก่ผู้บริหารระดบั สูงได้ ดังนั้น ผู้บริหารระบบสารสนเทศจะต้องมีความรู้ในเทคโนโลยีสารสนเทศ กิจกรรมต่างๆ ที่องค์กรต้องดาเนินการ ข้อมูล/สารสนเทศที่องค์กรต้องใช้ ความรู้ ความเข้าใจในการพัฒนาระบบงาน เพื่อควบคุมและติดตามการพัฒนาระบบงาน ประยุกต์ใหส้ าเร็จ กาหนดมาตรการบารงุ รกั ษาอปุ กรณ์ ฮาร์ดแวร์ ซอฟต์แวร์ เครอื ข่าย ข้อมูล การบริหารงบประมาณของศูนย์เทคโนโลยีสารสนเทศ บริหารบุคลากรให้ ปฏบิ ตั ิงานไดต้ ามแผนงาน

เทคโนโลยคี อมพวิ เตอร์และการสื่อสารขอ้ มูล | 27 3.1.3 บุคลากรฝ่ายการพัฒนาระบบงานสารสนเทศ แยกตามหน้าท่ีใน การทางานดงั น้ี 1) ผู้จัดการฝ่ายพัฒนาระบบสารสนเทศ (Information Systems Manager) ทาหน้าที่รับผิดชอบงานในฝ่ายงานพัฒนาระบบสารสนเทศท้ังหมด โดยทาหน้าที่ในการวางแผนงานพัฒนาระบบประยุกต์ของทั้งศูนย์เทคโนโลยีสารสนเทศ และหน่วยงานอ่ืนๆ ในโครงการต่างๆ ให้สาเร็จตามเป้าหมาย ติดตาม ประสานงาน การพัฒนาระบบงานประยุกต์ระหว่างบุคลากรและผู้ใช้ มีประสบการณ์ในการออกแบบ และวิเคราะห์ระบบสารสนเทศ เพือ่ ติดตามและควบคุมการทางานของบคุ ลากร 2) นักวิเคราะห์ระบบ (System Analyst) ทาหน้าท่ีวิเคราะห์ และออกแบบระบบงานประยุกต์ ส่งระบบงานที่วิเคราะห์และออกแบบไว้แล้วให้กับ โปรแกรมเมอร์ พัฒนาระบบงานให้ประมวลผลได้ตามวัตถุประสงค์ของระบบงาน นกั เคราะหร์ ะบบต้องมคี วามรู้และประสบการณ์ทงั้ ด้านการพฒั นาระบบงาน การพฒั นา โปรแกรมด้านเทคโนโลยีคอมพวิ เตอร์และระบบเครือขา่ ย การจัดเกบ็ ขอ้ มูล สามารถให้ ความรู้และความเข้าใจกับโปรแกรมเมอร์ในข้ันตอนต่างๆ ของการพัฒนา ทาการ ทดสอบจนระบบใชง้ านได้ 3) ผู้บริหารฐานข้อมูล (Database Administrator) ทาหน้าท่ี บริหารดูแล ตรวจสอบบารุงรกั ษาระบบฐานข้อมูลให้มีความถกู ต้อง สมบูรณ์ การรักษา ความปลอดภัยของฐานข้อมูลให้ทางานได้อย่างมีประสิทธิภาพและต่อเนื่อง โดยการ บริหารจัดการจะมีหน้าท่ีหลัก 3 ประเด็นคือ 1) การกาหนดโครงสร้างหรอื รูปแบบของ ฐานข้อมูล 2) การวางแผนงานดูแลการสารองข้อมูลและฟ้ืนฟูสภาพข้อมูลเมื่อมี ข้อผิดพลาด 3) กาหนดคุณสมบัติการเข้าถึงระบบฐานข้อมูลตามสิทธิการใช้งานพรอ้ ม ประสาน 4) ผู้บริหารเครือข่าย (Network Administrator) ทาหน้าท่ี บรหิ าร ควบคุมการทางานด้านเครอื ขา่ ยคอมพวิ เตอร์ ตรวจสอบ วเิ คราะห์ และรายงาน สถานภาพการใช้บริการบนระบบเครือข่าย ตรวจสอบ ปรับปรุง แก้ไข วางแผน และ กาหนดมาตรการรักษาความม่ันคงปลอดภัยของเครื่องคอมพวิ เตอร์ลูกข่ายและแม่ข่าย ใหส้ ามารถใช้งานได้อยา่ งมีประสทิ ธิภาพและต่อเนื่อง

เทคโนโลยีคอมพวิ เตอรแ์ ละการสอ่ื สารขอ้ มลู | 28 5) นักเขียนโปรแกรม (Programmer) ทาหน้าที่พัฒนา โปรแกรมด้วยคาส่ังต่างๆ ของซอฟตแ์ วร์ตามที่นักวิเคราะหร์ ะบบได้ออกแบบไว้ มคี วามรู้ ในการพัฒนาโปรแกรม รเู้ ทคนิคของโปรแกรมนั้นๆ ให้โปรแกรมสามารถประมวลผลตามที่ ออกแบบได้ ทดสอบและแก้ไขข้อผิดพลาดที่เกิดขึ้นจากการพัฒนาได้ และยังรวมไปถึง ตาแหน่งเว็บมาสเตอร์ที่มีหน้าที่เขียนโปรแกรมภาษา HTML หรือเครื่องมืออื่นๆ ในการ สร้างเวบ็ เพจใหก้ ับหนว่ ยงาน 3.1.4 บุคลากรฝ่ายบริการและสนับสนุนระบบงานสารสนเทศ แยกตามหน้าท่ดี งั น้ี 1) เจ้าหน้าที่สนับสนุนการพัฒนา (Development Support Staff) ทาหน้าท่ีด้านธุรการ ดูแลด้านการจัดเอกสาร ข้อมูลที่จาเป็นในการพัฒนา ระบบงาน ดแู ลการรับส่งเอกสาร ประสานงานในการจัดประชมุ การพฒั นาระบบงาน 2) ผู้เชยี่ วชาญคอมพิวเตอร์ (Computer Support Specialist) ทาหน้าท่ีบริหารและควบคุมการให้บริการทรัพยากรต่าง ๆ ด้านคอมพิวเตอร์ให้กับ องค์กร มีความรู้และประสบการณ์ในเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์ การประมวลผลเครือขา่ ย เพอ่ื ให้คาแนะนาในการประมวลผลสารสนเทศแกผ่ ู้ใช้งานทั่วไป และบรหิ ารควบคุมการ ปฏิบัติงานของบุคลากรในองค์กร มีความรู้ทางด้านอุปกรณ์การซ่อมบารุงฮาร์ดแวร์ ให้บริการแก่ผู้ใช้งาน ให้คาปรึกษาและแนะนาการใช้งานระบบสารสนเทศ เพ่ือ สนบั สนนุ การทางานในองค์กรอย่างมีประสิทธภิ าพ ผู้บรหิ ารระดบั สูงดา้ นเทคโนโลยสี ารสนเทศ ผู้อานวยการศนู ย์เทคโนโลยีสารสนเทศ ฝา่ ยการพัฒนาระบบสารสนเทศ ฝา่ ยบริการและสนบั สนุนระบบสารสนเทศ นกั วิเคราะหร์ ะบบ เจา้ หนา้ ท่ีสนับสนุนการพฒั นา ผู้บรหิ ารฐานข้อมลู ผ้เู ชีย่ วชาญคอมพวิ เตอร์ ผ้บู รหิ ารเครอื ขา่ ย นกั เขียนโปรแกรม/ผดู้ แู ลเวบ็ ภาพที่ 1.42 โครงสรา้ งบคุ ลากรดา้ นเทคโนโลยสี ารสนเทศ

เทคโนโลยีคอมพวิ เตอร์และการสอ่ื สารขอ้ มลู | 29 จากภาพท่ี 1.42 แสดงโครงสร้างการบริหารงานตามลาดับบนลงล่าง แสดงให้ เห็นว่าการทางานเทคโนโลยมี ีผบู้ รหิ ารระดับสูงและผู้อานวยการดูแล วางแผน ควบคุม การดาเนินงานโครงการ โดยแบ่งการทางานเป็น 2 ฝ่าย ฝ่ายพัฒนาระบบสารสนเทศ ทาหน้าที่พัฒนาและดูแลระบบสารสนเทศขององค์กร มีผู้ปฏิบัติหน้าท่ีหลัก คือ นักวิเคราะห์ระบบ ผู้บริหารระบบฐานข้อมูล ผู้บริหารเครือข่ายคอมพิวเตอร์ นักเขียนโปรแกรม และฝ่ายบริการและสนับสนุนระบบสารสนเทศ มีบุคลากรที่ สนับสนุนการทางานคือตาแหน่งเจ้าหน้าท่ีสนับสนุนการพัฒนาและผู้เช่ียวชาญ คอมพวิ เตอร์ ดูแลการจัดทาเอกสารการประชาสมั พันธ์และให้คาปรกึ ษาเกี่ยวกบั การใช้ บริการรวมถึงการซ่อมบารุงอุปกรณ์ฮาร์ดแวร์ให้สามารถใช้งานได้อย่างต่อเนื่องและ มปี ระสทิ ธภิ าพในองค์กร 4. ข้อมลู ขอ้ มูล (Data) คอื ขอ้ เทจ็ จรงิ ท่ีสนใจจะรวบรวม ยังไม่ผา่ นการประมวลผล การนาข้อมูลที่ต้องการจัดเก็บนาเข้าสู่กระบวนการประมวลผลรูปแบบคอมพิวเตอร์ ในรูปแบบแฟ้มข้อมูล เช่น ไฟล์เอกสารท่ีสร้างจากโปรแกรม Microsoft word ไฟล์ นาเสนอผลงานจากโปรแกรม Microsoft PowerPoint หรือไฟล์ที่ต้องการคานวณเป็น ตารางขอ้ มลู จากโปรแกรม Microsoft Excel เป็นต้น 5. ระเบยี บปฏบิ ัติ (Procedure) เป็นรูปแบบกระบวนการทางาน หรือแนวทางการดาเนินงานทีผ่ ใู้ ช้ระบบ คอมพิวเตอร์ บริหารจัดการระหว่างฮาร์ดแวร์ ซอฟต์แวร์ ที่ต้องมีการศึกษาเรียนรู้ ในรูปแบบต่าง ๆ แล้วนาความรู้ที่ไดร้ ับมาประยกุ ตใ์ ช้ในงานหรือกิจกรรม ตัวอย่างการทางานขององค์ประกอบในระบบคอมพวิ เตอร์ สานักวิทยบริการและเทคโนโลยีสารสนเทศ มหาวิทยาลัยราชภัฏอุดรธานี มีหน้าที่ดาเนินการบันทึกข้อมูลหนังสือราชการเข้าระบบสารบรรณของหน่วยงานด้วย ระบบสานักงานอัตโนมัติ โดยเจ้าหน้าท่ีธุรการจะเป็นบุคลากรในการดาเนินงานซึ่งมี ความรู้เก่ียวกับงานธุรการ หากเป็นองค์ประกอบของระบบคอมพิวเตอร์จะเรียกว่า “บุคคล” จากน้ันใช้คอมพิวเตอร์และอุปกรณ์ต่อพ่วงในการบันทึกข้อมูลที่เรียกว่า องค์ประกอบ “ฮาร์ดแวร์” และเปิดโปรแกรมไปใช้บริหารจัดการข้อมูลหนังสือเข้า

เทคโนโลยคี อมพวิ เตอรแ์ ละการสอื่ สารข้อมูล | 30 หนังสือออกหรือบันทึกข้อมูลที่เรียกว่า “ซอฟต์แวร์” ท่ีใช้ในการดาเนินงานจากการ พัฒนาของนักพัฒนาโปรแกรมของมหาวิทยาลัย โดยใช้ข้อมูลสารสนเทศ คือ หนังสือ ราชการท่ไี ด้รบั จากกระบวนการสง่ เอกสารและทาการบันทึกข้อมลู ตามรปู แบบระเบียบ ปฏิบัติของกระบวนการทางานงานสารบรรณขององค์กร ดังนั้น จะเห็นได้ว่า กระบวนการทางานขององค์ประกอบระบบคอมพิวเตอร์แต่ละหน่วยงาน จะมีความ เช่ือมโยงและสอดคล้องกันอย่างไร ก็ขึ้นอยู่กับการประยุกต์ใช้ในแต่ละองค์กร ดงั ภาพท่ี 1.43   เจ้าหน้าที่ธรุ การ/ หนงั สือราชการ/ บุคลากร ข้อมลู ระเบยี นวิธีการปฏบิ ตั ติ ามกระบวนการระบบงาน สารบรรณ  ฮาร์ดแวร์  ซอฟตแ์ วร์ ภาพที่ 1.43 กระบวนการทางานระบบงานสารบรรณ

เทคโนโลยคี อมพิวเตอร์และการสอื่ สารขอ้ มลู | 31 2. เทคโนโลยกี ารส่ือสารข้อมูล เทคโนโลยีการสื่อสารข้อมูล หมายถึง การนาเอาความรู้ทางด้าน วิทยาศาสตร์มาใช้ในการแลกเปล่ียนข้อมูลจากบุคคลหนึ่งไปยังบุคคลหนึ่ง โดยใช้ อุปกรณ์ส่อื สารขอ้ มลู 2.1 องคป์ ระกอบเทคโนโลยกี ารสอื่ สารขอ้ มลู การส่อื สารข้อมูลมีสว่ นประกอบดังน้ี 1. ผู้สง่ ข้อมูล (Sender) คอื บคุ คลหรอื อุปกรณ์ทาหน้าที่สง่ ข้อมลู เริ่มตน้ 2. ผู้รับข้อมูล (Receiver) คือบุคคลหรืออุปกรณ์ทาหน้าที่รับข้อมูล ทถี่ ูกสง่ มา 3. ข้อมูล (Data) คือข้อมูลท่ีผู้ส่งให้ผู้รับ ข้อมูลท่ีส่งมีหลากหลาย รูปแบบ เช่น ตวั อกั ษร ตัวเลข รปู ภาพ ภาพเคลอ่ื นไหว เสยี ง เป็นต้น 4. สือ่ นาข้อมูล (Medium) คือตัวกลางทาหนา้ ทส่ี ่งข้อมูล 5. โพรโทคอล (Protocol) คือกฎหรอื วิธที ีถ่ ูกกาหนดเพื่อส่งข้อมลู จากภาพท่ี 1.44 แสดงองค์ประกอบการส่ือสารข้อมูลท่ีนาข้อมูลจากผู้ สง่ ขอ้ มูลไปยงั ผู้รับข้อมลู ผ่านสอ่ื นาขอ้ มลู และรปู แบบโพรโทคอล ขอ้ มูล สื่อนาขอ้ มลู ผสู้ ง่ โพรโทคอล ผ้รู ับ ภาพท่ี 1.44 องคป์ ระกอบการสื่อสารขอ้ มลู

เทคโนโลยคี อมพิวเตอรแ์ ละการสอื่ สารขอ้ มลู | 32 2.2 ทิศทางของการสือ่ สารขอ้ มลู การส่งข้อมูลของเทคโนโลยกี ารสอื่ สารมที ิศทางของการสือ่ สารข้อมูล จาแนกได้ 3 แบบ คือ 1. แบบทิศทางเดียว (Simplex Transmission) ข้อมูลจะถูกส่ง จากทศิ ทางหนึ่งไปยังอีกทิศทางหน่ึง ผูส้ ง่ และผู้รับทาหน้าทขี่ องตนเอง เช่น ระบบ วทิ ยุ โทรทศั น์ เป็นต้น ดงั ภาพที่ 1.45 ภาพที่ 1.45 การสอ่ื สารแบบทศิ ทางเดียวแบบระบบโทรทัศน์ 2. แบบกงึ่ สองทิศทาง (Half-Duplex Transmission) ข้อมลู สามารถส่ง สลับกนั แลกเปลย่ี นขอ้ มูลระหว่าง 2 ทิศทางโดยตอ้ งผลัดกนั เช่น วิทยุสือ่ สาร ดงั ภาพท่ี 1.46 ภาพที่ 1.46 การสอื่ สารแบบกงึ่ สองทิศทางโดยวทิ ยสุ ือ่ สาร 3. แบบสองทิศทาง (Full-Duplex Transmission) สามารถแลกเปลี่ยน ขอ้ มูลพร้อมกันทง้ั การสง่ และการรับในเวลาเดียวกนั เช่น โทรศัพท์ ประชมุ ทางไกล เป็นตน้ ดงั ภาพที่ 1.47

เทคโนโลยีคอมพวิ เตอร์และการสื่อสารข้อมูล | 33 ภาพท่ี 1.47 การส่อื สารแบบสองทิศทางระบบโทรศัพท์ 2.3 ตัวกลางการสื่อสาร องค์ประกอบในการส่ือสารที่เป็นตัวนาส่งข้อมูลจากผู้ส่งไปยังผู้รับ คือตวั กลางการสือ่ สาร แบง่ เปน็ 2 ประเภทคอื สอื่ กลางแบบมีสาย และสอ่ื กลางแบบไร้ สาย โดยมรี ายละเอียดคอื 2.3.1 สื่อกลางแบบมีสาย สอื่ กลางท่ีใชใ้ นการส่งขอ้ มูลมี 3 ชนดิ ดังนี้ 1) สายคบู่ ดิ เกลียว (Twisted-Pair) คอื สายสัญญาณนาขอ้ มูล ไฟฟ้า มีลักษณะคล้ายสายไฟฟ้า มีกาลังความถี่ในการส่งข้อมูล 100 Hz ถึง 5 MHz ลักษณะการส่งข้อมูลมี 2 ลักษณะคือสายคู่บิดเกลียวแบบไม่มีช้ันโลหะห่อหุ้ม (Unshielded Twisted-Pair) และสายคู่บิดเกลียวแบบมีช้ันโลหะห่อหุ้ม (Shielded Twisted-Pair) ดงั ภาพท่ี 1.48 ภาพท่ี 1.48 สายคบู่ ิดเกลยี ว

เทคโนโลยคี อมพวิ เตอร์และการสอ่ื สารข้อมูล | 34 2) สายร่วมแกน (Coaxial) คือสายสัญญาณนาข้อมูลไฟฟ้า มีกาลังความถ่ีในการส่งข้อมูล 100 Hz ถึง 500 MHz มีความเร็วในการส่งข้อมูลดีกว่า สูงกว่าสายคู่บิดเกลียว มีสายดินและวัสดุป้องกันคลื่นรบกวนจึงสามารถส่งข้อมูล ระยะไกลได้ ดงั ภาพที่ 1.49 ภาพที่ 1.49 สายเคเบิลรว่ มแกน 3) สายเส้นใยนาแสง (Fiber Optic) สายสัญญาณทาจากใย แก้วหรือสารนาแสงหอ่ หุ้มวัสดุป้องกันแสง มีความเร็วสูงเท่ากับความเร็วแสง สามารถ สง่ ในที่ท่มี คี วามถสี่ งู ได้ มีประสิทธภิ าพในการส่งระยะไกล ดังภาพท่ี 1.50 ภาพที่ 1.50 สายเส้นใยแก้วนาแสง (ที่มา : http://wifinotes.com/computer-networks/types-of-fiber-optic- cable.html)

เทคโนโลยคี อมพิวเตอร์และการสอื่ สารข้อมลู | 35 2.3.2 ส่ือกลางแบบไร้สาย 1) แสงอินฟราเรด (Infrared) เป็นการสื่อกลางท่ีใชแ้ สงสง่ ขอ้ มลู จะต้องมีอุปกรณ์ส่งข้อมูลและอุปกรณ์รับสัญญาณ เช่น เมาส์ไร้สาย รีโมทคอนโทรล เคร่อื งพมิ พ์ กล้องดิจทิ ัล เป็นตน้ ดงั ภาพท่ี 1.51 อุปกรณ์ไร้สายปากกาเลเซอร์ ภาพที่ 1.51 ปากกาเลเซอร์ (Laser Pointer) 2) สัญญาณวิทยุ (Radio Wave) เป็นการส่ือสารโดยมีอุปกรณ์ ส่งสัญญาณคล่ืนวิทยุไปในอากาศ และมีอุปกรณ์รับสัญญาณวิทยุแบบไร้สาย อุปกรณ์ กระจายสัญญาณอินเทอร์เน็ต บลูทูธ เป็นต้น ดังภาพที่ 1.52 แสดงการใช้อุปกรณ์รับ สัญญาณวทิ ยุของเครื่องโทรทัศน์ ภาพท่ี 1.52 การใช้โทรทัศนใ์ นการรับสัญญาณวทิ ยุ 3) ไมโครเวฟภาคพ้ืนดิน (Terrestrial Microwave) เป็นการ สื่อสารส่งข้อมูลจากเสาสัญญาณไปยังอากาศ และมีอุปกรณ์รับสัญญาณจากเสา รับข้อมูล ในกรณีที่ห่างกันมาก ก็ต้องมีอุปกรณ์ทวนสัญญาณเพื่อส่งข้อมูล

เทคโนโลยคี อมพวิ เตอรแ์ ละการสอ่ื สารขอ้ มูล | 36 ให้มีประสิทธิภาพยิ่งข้ึน สามารถส่งข้อมูลได้ปริมาณมาก ดังภาพท่ี 1.53 แสดงการใช้ คลื่นไมโครเวฟในเช่อื มโยงแลกเปลยี่ นข้อมูลในชุมชน ภาพที่ 1.53 การส่งสญั ญาณคลนื่ ไมโครเวฟ (ทม่ี า : http://www.ipecp.ac.th/ipecp/wbi/ edtechno/program/unit9/page4.html) 4) การส่ือสารผ่านดาวเทียม (Satellite Communication) เป็น การส่งสญั ญาณจากพ้นื โลกทมี่ ีสัญญาณข้อมลู ไปยงั ดาวเทยี ม โดยดาวเทียมจะทาหน้าท่ี เป็นสถานีทวนสัญญาณ เพื่อจัดส่งสัญญาณต่อไปยังสถานีภาคพนื้ ดินอื่นๆ ระยะการส่ง ข้อมูลจากโลกถึงดาวเทียมประมาณ 22,000 ไมล์ เหมาะสาหรับการสื่อสารระยะไกล ภาพท่ี 1.54 แสดงภาพดาวเทียมโคจรรอบโลก ภาพท่ี 1.54 ดาวเทยี ม (ท่มี า: http://www.tpa.or.th/writer/)

เทคโนโลยีคอมพิวเตอร์และการสื่อสารขอ้ มลู | 37 2.4 อปุ กรณเ์ ครอื ข่ายคอมพิวเตอร์ การแลกเปลี่ยนข้อมูลผ่านระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์ จะประกอบ ไปด้วยอปุ กรณ์ท่ีใชใ้ นการทาหนา้ ท่ีตามการใชง้ าน ดงั นี้ 2.4.1 เครื่องกระจายสัญญาณ คือ อุปกรณ์ท่ีใช้เชื่อมต่อกลุ่ม ของคอมพวิ เตอร์มีหน้าทรี่ บั สง่ จากเคร่ืองหน่ึงไปยงั เครือ่ งหนึง่ ดงั ภาพที่ 1.55 ภาพท่ี 1.55 อปุ กรณก์ ระจายสัญญาณ (ท่มี า : http://www.cisco.com/c/en/us/support/switches/fasthub-100- series-hubs/tsd-products-support-eol-series-home.html) 2.4.2 เครื่องกระจายสัญญาณแบบไร้สาย (Access Point) คือ อุปกรณ์ กระจายสัญญาณสาหรบั การเข้าใชง้ านผ่านเครอื ขา่ ยไร้สายทาหน้าทรี่ องรบั การเช่อื มโยง จากเครอื่ งลูกข่าย สง่ ข้อมลู ทางคลนื่ ความถว่ี ทิ ยุ ดงั ภาพท่ี 1.56 ภาพท่ี 1.56 เคร่ืองกระจายสญั ญาณแบบไรส้ าย

เทคโนโลยีคอมพิวเตอรแ์ ละการสื่อสารขอ้ มลู | 38 2.4.3 อุปกรณ์ชี้เส้นทางเราเตอร์ (Router) คือ อุปกรณ์ท่ีทาหน้าที่ เช่ือมต่อระบบเครือข่ายหลายระบบเข้าด้วยกัน โดยเราเตอร์จะมีเส้นทางการเชื่อมโยง ระหว่างแตล่ ะเครอื ข่ายเก็บไว้เป็นตารางเสน้ ทาง ทาให้เราเตอร์สามารถทาหน้าท่จี ดั หา เส้นทางและเลอื กเส้นทางที่เหมาะสมท่ีสดุ ดังภาพที่ 1.57 ภาพที่ 1.57 เราเตอร์ (ทีม่ า : http://www.cisco.com/c/en/us/products/index.html) 2.4.4 ไฟร์วอลล์ (Firewall) ทาหน้าท่ีป้องกันภัยคุกคามจากภายนอก ลามเข้ามาภายในเครือข่าย LAN หรืออาจถูกใช้เพื่อป้องกันไม่ให้ผู้ใช้ใน LAN มีกลไก ตรวจสอบสิทธิ์การใช้งานของผู้ใช้บริการและภัยคุกคามที่น่าสงสัยเข้ามาในระบบ เครอื ข่ายคอมพวิ เตอร์ดังภาพท่ี 1.58 ภาพที่ 1.58 ไฟรว์ อลล์ (ทม่ี า : http://www.cisco.com/c/en/us/products/index.html) 2.5 ประเภทเครือข่ายคอมพวิ เตอร์ การสื่อสารข้อมูล มีลักษณะการใช้งานตามลักษณะงานของแต่ละ องค์กร มีคุณสมบัตเิ ฉพาะทแ่ี ตกตา่ งกนั ไป แบง่ ประเภทคอมพวิ เตอร์ 3 แบบ คือ 2.5.1 เครอื ขา่ ยเฉพาะท่ี เครือข่ายเฉพาะท่ี (Local Area Network: LAN) หรอื ระยะใกล้ หรือระดับท้องถ่ิน คือการเช่ือมต่อเครือข่ายมีระยะเชื่อมต่อภายในองค์กร อาคารหรือ ท้องถ่ินเดียวกัน เป็นเครือข่ายพื้นฐานที่ใช้ในองค์กร โดยมีเคร่ืองคอมพิวเตอร์และ อุปกรณ์เครือข่ายเชื่อมโยงและติดต้ังการใช้งาน ปัจจุบันนิยมติดตั้งเครือข่าย

เทคโนโลยคี อมพวิ เตอร์และการส่ือสารข้อมูล | 39 คอมพิวเตอร์เพื่อใช้แลกเปล่ียนข้อมูลข่าวสาร ทาให้สามารถใช้ทรัพยากรร่วมกันได้ อย่างมีประสิทธิภาพและประหยัดค่าใช้จ่าย เช่น การทางานภายในสานักงานหรือ ฝ่ายงานธุรการ มีการติดต้ังเครอื่ งพิมพท์ ่ีแชร์เครือ่ งพมิ พ์ไว้ให้เครื่องอ่ืนสามารถใช้งานได้ เป็นต้น ภาพที่ 1.59 แสดงแผนผังการเช่ือมโยงเครือข่ายภายในมหาวิทยาลัราชภัฏ อุดรธานี ภาพที่ 1.59 แผนผงั เครือขา่ ยภายในมหาวทิ ยาลยั ราชภฏั อดุ รธานี (ท่มี า : http://academic.udru.ac.th/~compcenter/index.php/2014-09-17-09- 52-50/networkudru.html) ปัจจุบันมีเครือข่ายแลนแบบไร้สาย ( Wireless LAN: WLAN) เป็นเครือข่ายคอมพิวเตอร์ท่ีใช้ภายในองค์กร โดยใช้คลื่นความถี่วิทยุในการ รับส่งข้อมูล โดยใช้อุปกรณ์กระจายสัญญาณไร้สาย (Wireless Access Point) เช่น มหาวทิ ยาลยั ราชภฏั อุดรธานีไดใ้ ห้บรกิ ารเครือข่ายแบบไร้สายสาหรับนกั ศกึ ษา บุคลากร และคณาจารย์ภายในมหาวิทยาลัย โดยติดอุปกรณ์กระจายสัญญาณ ดังภาพที่ 1.60 แสดงการเชอี่ มโยงเครอื ข่ายแบบไร้สาย

เทคโนโลยคี อมพิวเตอร์และการส่ือสารขอ้ มลู | 40 ภาพท่ี 1.60 แผนผงั เครอื ขา่ ยคอมพวิ เตอร์แบบไร้สายในมหาวิทยาลยั ราชภัฏอดุ รธานี (ทม่ี า : http://academic.udru.ac.th/~compcenter/index.php/2014-09-17-09- 52-50/networkudru.html) 2.5.2 เครือข่ายนครหลวง เครือข่ายนครหลวง (Metropolitan Area Network: MAN) คอื การเช่อื มต่อเครอื ขา่ ยระบบเมือง มรี ะยะเช่อื มต่อมขี นาดใหญ่กว่าเครือข่าย LAN โดย มีระยะทางการเช่ือมต่อประมาณ 160 กม. มักจะเกิดจากการเชื่อมต่อเครือข่ายแบบแลน ในบริเวณเดียวกันและขยายเพิ่มขนาดระดับใหญ่ออกไป เช่น การใช้ระบบเคเบิลทีวี มกี ารเช่อื มต่อระดบั เมือง และกระจายในระดับท้องถ่ิน ดงั ภาพที่ 1.61 แสดงการเชือ่ มโยง เครือขา่ ยระหว่างศูนย์การศึกษาบึงกาฬกับเครือขา่ ยภายในมหาวิทยาลยั ราชภฏั อุดรธานี ภาพที่ 1.61 แผนผงั เครอื ข่ายระหวา่ งศูนยก์ ารศกึ ษาบงึ กาฬ

เทคโนโลยคี อมพวิ เตอร์และการส่อื สารข้อมลู | 41 2.5.3 เครอื ข่ายบรเิ วณกวา้ ง เครือข่ายบริเวณกว้าง (Wide Area Network: WAN) คือ การเช่ือมโยงเครือข่ายระยะไกล เหมาะสาหรับองค์กรขนาดใหญ่ เกิดจากการ นาเครือข่ายแลนสองเครือข่ายมาเชื่อมต่อกันแล้วตั้งค่าการส่งข้อมูลระดับประเทศ ขา้ มทวปี มีการกาหนดการตงั้ คา่ โดยใช้โปรแกรมและอุปกรณ์เครือข่ายปอ้ งกันและดูแล เครือข่าย เช่น การใช้อุปกรณ์ดาวเทียมในการส่งสัญญาณเครือข่ายคอมพิวเตอร์ หรือ การให้บริการของผู้ใช้บริการเครือข่ายอินเทอร์เน็ต โดยมหาวิทยาลัยได้รับการบริการ โครงสร้างเครือข่ายจากหน่วยงานสานักงานบริหารเทคโนโลยีสารสนเทศเพ่ือพัฒนา การศึกษา (Uninet) ดังภาพท่ี 1.62 แสดงแผนผังเครือข่าย Uninet ระหว่าง มหาวิทยาลัยราชภัฏอดุ รธานี กับ Uninet และภาพท่ี 1.63 แสดงโครงสร้างเครือขา่ ยที่ Uninet ได้ให้บริการโครงสร้างพื้นฐานด้านเครือข่าย และเช่ือมโยงโครงข่ายเทคโนโลยี สารสนเทศและการส่ือสารของสถาบันการศกึ ษาระดับอุดมศกึ ษา ภาพที่ 1.62 เครอื ขา่ ย Uninet กบั มหาวิทยาลยั ราชภัฏอุดรธานี

เทคโนโลยคี อมพวิ เตอรแ์ ละการส่ือสารข้อมูล | 42 ภาพที่ 1.63 โครงสรา้ งเครอื ขา่ ยของ Uninet (ท่ีมา: http://www.uni.net.th/UniNet/uninet_network_map.php) 2.6 รปู แบบลักษณะการทางานของเครอื ข่าย การแลกเปล่ียนข้อมูลโดยใช้ทรัพยากรร่วมกันในการทางาน แบ่งตาม ลกั ษณะการใช้งาน 2 แบบดงั น้ี 2.6.1 เครือข่ายแบบลูกข่ายและแม่ข่าย (Client/Server) คือระบบ เครือข่ายที่ให้บริการ โดยมีเครื่องแม่ข่ายทาหน้าท่ีให้บริการจัดสรรทรัพยากร และมีลูก ข่ายทาหน้าที่ร้องขอข้อมูล นิยมใช้งานในองค์กรปัจจุบัน เนื่องจากมีการบริหารจัดการ ควบคุมการทางานของระบบเครือข่ายอย่างมีประสิทธิภาพ เช่น การให้บริการเว็บแอป พลิเคชัน การให้บริการฐานข้อมูล เป็นต้น จากภาพที่ 1.64 แสดงการให้บริการระหว่าง เครื่องลกู ขา่ ยและเคร่อื งแม่ขา่ ยในการแลกเปลยี่ นขอ้ มลู ภายในระบบเครือข่าย

เทคโนโลยีคอมพวิ เตอร์และการสอ่ื สารข้อมลู | 43 เคร่อื งคอมพิวเตอร์ลูกข่าย เคร่อื งคอมพวิ เตอรล์ กู ข่าย เครื่องคอมพิวเตอรแ์ มข่ า่ ย เคร่ืองคอมพิวเตอรล์ ูกขา่ ย ภาพท่ี 1.64 การแลกเปล่ียนขอ้ มลู ระหว่างเครอื่ งลกู ข่ายและแม่ข่าย 2.6.2 ระบบเครือข่ายแบบเพียร์ทูเพียร์ (Peer to Peer Network System) คือการทางานท่ีร้องขอข้อมูลและทาการแลกเปล่ียนข้อมูลระหว่างเครื่องลูก ข่ายกับเครื่องลูกข่าย ข้อดีของรูปนี้จะเหมาะสาหรับองค์กรขนาดเล็กที่ต้องการ แลกเปล่ียนข้อมูลแฟ้มงานจากเคร่ืองลูกข่ายด้วยกัน ติดตั้งง่าย ไม่มีค่าใช้จ่ายในการ จัดหาซอฟต์แวร์ ดังตัวอย่างภาพท่ี 1.65 แสดงการทางานของเครื่องลูกข่าย A มีแฟ้ม งานท่ีจะต้องส่งให้เครื่องลูกข่าย B โดยท้ังสองเคร่ืองได้ทาการเช่ือมโยงเครือข่าย คอมพิวเตอร์ในองค์กรเดียวกัน จากนั้นเครื่อง A ก็ทาการกาหนดค่าในการแชร์ข้อมูล เพือ่ ให้เครื่อง B สามารถเข้าถงึ แฟ้มข้อมลู เพ่อื ใช้งานเป็นต้น AB ภาพท่ี 1.65 การแลกเปล่ยี นขอ้ มูลแบบเพยี ร์ทูเพยี ร์

เทคโนโลยีคอมพวิ เตอรแ์ ละการส่ือสารขอ้ มลู | 44 2.7 ประเภทเครอื ข่ายไร้สาย เ ค รื อ ข่ า ย ไ ร้ ส า ย ผ่ า น ช่ อ ง ท า ง ก า ร ส่ื อ ส า ร ท่ี เ ริ่ ม มี ก า ร ใ ช้ ง า น เ ป็ น อย่างมากในปัจจุบัน เนื่องจากความสะดวกรวดเร็วในการใช้บริการของอุปกรณ์หรือ คอมพิวเตอร์ ไม่ว่าจะเป็นการนามาใช้ในติดต่อสื่อสาร เพ่ือดาวน์โหลดข้อมูล รับ-ส่ง อีเมลหรือขอ้ ความ รวมไปถงึ การใช้งานบริการเวิลดไ์ วดเ์ วบ็ (World Wide Web) ดงั นั้น เพ่ือให้สามารถเห็นภาพโดยรวมของการใช้งานเครือข่ายไร้สาย จึงได้จาแนกเป็น ประเภท ดังภาพที่ 1.66 ประเภทของเครือขา่ ยไร้สาย Wireless Networks Personal Area Networks Wireless Local Area Wireless Man Area Wireless Wide Area (PANs) Networks (WLANs) Networks (WMANs) Networks (WWANs) ภาพท่ี 1.66 ประเภทของเครือขา่ ยไรส้ าย (ที่มา: ดดั แปลงจาก Paige Baltzan, 2014, pp. 268) 2.7.1 เครือข่ายไร้สายส่วนบุคคล (Personal Area Wireless Networks: PANs) เป็นระบบเครือข่ายท่ีมีการใช้งานระยะใกล้ที่ไม่เกิน 10 เมตร ซ่ึงรูปแบบการบริการแบบนี้จะอยู่ในรูปแบบการใช้เทคโนโลยีที่เรียกว่า “บลูทูธ (Bluetooth)” ซ่ึงมีการพัฒนาข้ึนใช้งานโดยใช้ความเร็วท่ีมีการรับ-ส่งข้อมูลประมาณ 1 Mbps โดยอุปกรณ์ที่ประยุกต์ใช้เทคโนโลยีบลูทูธ เช่น โทรศัพท์ คอมพิวเตอร์ หูฟัง ไรส้ ายและอปุ กรณอ์ ื่น ๆ 2.7.2 เค รือข่ายท้องถิ่นแบบไร้สาย ( Wireless Local Area Networks : WLANs) เครอื ข่ายท้องถิ่นแบบไร้สาย หรือเรียกอีกชอื่ วา่ “แลนไรส้ าย” เป็นเครือข่ายที่รับ-ส่งข้อมูลผ่านคล่ืนความถี่สัญญาณวิทยุ โดยรูปแบบการเช่ือมต่อ ระหวา่ งคอมพิวเตอร์หรืออุปกรณ์เคลื่อนท่อี ่ืนๆ ผ่านอุปกรณก์ ระจายสัญญาณ (Access Point) เพื่อการประยกุ ตใ์ ชง้ านอินเทอร์เนต็ หรอื รปู แบบอื่น ๆ ดังภาพที่ 1.67

เทคโนโลยคี อมพิวเตอร์และการสอ่ื สารข้อมลู | 45 ภาพท่ี 1.67 เครอื ข่ายบรกิ ารรูปแบบ Wi-Fi (ทม่ี า : Paige Baltzan, 2014, pp. 269) การทางานของอุปกรณ์ต้องใช้เทคโนโลยีที่มมี าตรฐานรองรับ ของสถาบันวิชาชีพวิศวการไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ (Intitule of Electronic and Electronic Engineers : IEEE) มีการใช้งานในรูปแบบเทคโนโลยีไวไฟ (Wireless Fidelity: Wi-Fi) ท่ีเป็นชุดผลิตภัณฑ์ต่างๆ บนมาตรฐานเครือข่ายที่เรียกว่า IEEE 802.11 แต่ในประเทศไทยจะอนุญาตให้ใช้เฉพาะช่องคล่ืนความถี่ที่ 2.4 GHz เป็นคลื่น ความถว่ี ิทยทุ ี่สามารถใช้งานได้ จากมาตรฐานความถ่ีของ Wi-Fi สามารถแสดงใหเ้ หน็ ดัง ตารางที่ 1.2 ตารางที่ 1.2 แสดงมาตรฐานความกว้างแถบความถ่ี Wi-Fi Standard Bandwidth 802.11a 54 Mbps 802.11b 11 Mbps 802.11g 54 Mbps 802.11n 140 Mbps

เทคโนโลยคี อมพวิ เตอรแ์ ละการส่อื สารขอ้ มลู | 46 2.7.3 เครือข่ายเมืองแบบไร้สาย (Wireless Metropolitan Area Networks : WMANs) เปน็ รูปแบบเครือขา่ ยอกี แบบหนึ่งที่มกี ารใช้งานผา่ นคล่ืนความถี่ วิทยุ ในการรับ-ส่งข้อมูล แต่บริเวณที่สามารถใช้บรกิ ารได้ จะมีพื้นที่ครอบคลมุ ได้กว้าง กว่าแบบแลนไร้สาย รูปแบบเทคโนโลยีที่นามาประยุกต์ใช้งานเครือข่ายแบบไร้สาย ยกตัวอย่างเช่น “ไวแมกซ์ (Worldwide Interoperability for Microwave Access: WiMAX)” นอกจากน้ีแล้วชุดผลิตภัณฑ์ของ WiMAX จะรองรับมาตรฐานเครือข่ายที่ เรียกว่า IEEE 802.16 ซึ่งมีผู้ให้บริการหลายรายกาลังดาเนินการจะมีการให้บริการ เพม่ิ เติม เพ่อื รองรบั ความตอ้ งการใช้เครือขา่ ยไรส้ าย ดังแสดงภาพตวั อยา่ งที่ 1.65 ภาพท่ี 1.68 WiMAX (ทม่ี า : Paige Baltzan, 2014, pp. 271) 2.7.4 เครือข่ายระยะไกลแบบไร้สาย (Wireless Wide Area Networks: WWANs) เป็นรูปแบบการใช้งานเครือข่ายท่ีเร่ิมมกี ารใช้งานเพ่ิมมากขนึ้ เนื่องจากสามารถใช้งานได้อย่างต่อเน่ือง หรือจากที่ห่างไกลได้อย่างมีประสิทธิภาพ ผ่านรูปแบบเทคโนโลยที ่ีเกี่ยวขอ้ งมี 2 รปู แบบ คือ ระบบการสอื่ สารโทรศัพท์ (Cellular Communication System) แ ล ะ ร ะ บ บ ก า ร สื่ อ ส า ร ด า ว เ ที ย ม (Satellite

เทคโนโลยคี อมพวิ เตอรแ์ ละการสอ่ื สารข้อมูล | 47 Communication System) โดยรูปแบบการสื่อสารในลักษณะโทรศัพท์เ ริ่มมี การแข่งขัน และขยายตัวเป็นอย่างมาก เร่ิมตั้งแต่การใช้งานผ่านระบบ 1G, 2G–2.5G, 3G-3.5G, และ 4G ที่มีความเร็วในการรบั -ส่งข้อมูลเพิม่ มากข้ึนซึ่งสามารถใช้งานรับชม วิดีโอ เสียง หรือรูปแบบอื่นๆ ผ่านช่องทางแอปพลิเคชันบนอุปกรณ์โทรศัพท์แบบ สมาร์ตโฟนท่ีมีการพัฒนาในปัจจุบันค่อนข้างสูง ส่งผลให้การใช้งานเครือข่าย รูปแบบนสี้ งู ตามด้วย ส่วนรูปแบบทเ่ี ป็นลกั ษณะดาวเทียมก็มีการใช้งานในลักษณะพื้นท่ี ที่มีปัญหาทางด้านสัญญาณโทรศัพท์ เพื่อเพ่ิมความสะดวก รวดเร็วให้กับผู้รับบริการ ผ่านรูปแบบเครือขา่ ยไรส้ ายแบบน้ี 2.7.5 ประโยชนข์ องการใชง้ านเครือข่ายแบบไร้สาย 1. สามารถใช้งานเครือข่ายได้อย่างอิสระ สะดวก และ รวดเรว็ ผา่ นเทคโนโลยีต่างๆ ท่รี องรับการทางานไมว่ า่ จะอย่ทู ่ีไหนกต็ าม 2. เพิม่ ประสทิ ธภิ าพในการประยุกตใ์ ชง้ านการเข้าถึงข้อมูล จากท่ตี า่ งๆ ได้หลากหลาย 3. เพมิ่ โอกาสแขง่ ขันทางดา้ นธุรกิจให้ได้เปรยี บคู่แข่งขันไม่ ว่าจะเปน็ ดา้ นการตลาด การบรกิ าร และรวมไปถงึ การสง่ั ซื้อสินค้า เป็นตน้ 4. ส่งเสริมให้การทางานสามารถทาได้อย่างต่อเนื่อง เมอื่ ต้องมกี ารปรบั เปลยี่ นสถานท่ี หรือรปู แบบการใช้งานผา่ นระบบเครือขา่ ย 2.8 เครอื ข่ายอนิ เทอรเ์ น็ต อินเทอร์เน็ตเป็นเครือข่ายท่ีเกิดในปี พ.ศ. 2512 โดยประเทศ สหรัฐอเมริกาได้มีการพัฒนาโครงการเช่ือมโยงเครือข่ายคอมพิวเตอร์ท่ีเรียกว่าอาร์พา เน็ต “ARPANET” ต่อมามีการพัฒนาในการส่งข้อมูลผ่านเครือข่าย โดยมีองค์กรความ ร่วมมือกับประเทศสวิตเซอร์แลนด์ มีลักษณะการส่งข้อมูลท่ีไม่มีกราฟฟิก ต่อมา ได้มีการพฒั นาให้มีเว็บท่มี สี ่วนตดิ ต่อกบั ผใู้ ช้งานในรปู แบบส่อื ประสมจนถงึ ยคุ ปัจจบุ ัน การแลกเปลี่ยนข้อมลู มีวิวัฒนาการจากอดีตจนถงึ ปัจจุบันตามลักษณะ การใช้งาน เร่ิมจากยุคเว็บ 1.0 ปีพ.ศ.2533 มีแลกเปลี่ยนข้อมูลมุ่งเน้นการเชื่อมโยง ขอ้ มลู โดยผพู้ ัฒนาเวบ็ สร้างและนาเสนอแก่ผใู้ ชบ้ ริการ

เทคโนโลยคี อมพวิ เตอร์และการสื่อสารข้อมลู | 48 ยุคเว็บ 2.0 ปี พ.ศ.2543 ได้มีการพัฒนาเน้ือหาเว็บแบบ Dynamic มีการสร้างงานด้วยภาพเคล่ือนไหว มีการแบ่งปันข้อมูล สร้างช่องทางการส่ือสาร การแลกเปล่ียนระหวา่ งผพู้ ฒั นาและผใู้ ชง้ าน เช่น กระดานสนทนา เปน็ ตน้ ยุคเว็บ 3.0 ปี พ.ศ.2553 นักพัฒนาได้พัฒนาแอปพลิเคชันในรูปแบบ แพลตฟอร์มท่ีหลากหลายมากขึ้น เป็นยุคท่ีนักพัฒนาและผู้ใช้งานนาข้อมูลท่ีมีอยู่ ไปวิเคราะห์ให้เกิดประโยชน์ โดยอานวยความสะดวกไดร้ ูปแบบออนไลนม์ ากข้ึน อกี ทัง้ ยคุ นีผ้ ู้พัฒนาจะเนน้ การเขา้ ถึงเพิ่มประสิทธภิ าพในการเขา้ ถึง มีการวิเคราะห์และพัฒนา คาค้นหาจากเนื้อหาของเว็บ เช่น การให้บริการของ Google ในการวิเคราะห์คาผิด และวเิ คราะหค์ าทใี่ กลเ้ คียงใหผ้ ใู้ ช้งาน เปน็ ต้น ยคุ เวบ็ 4.0 ปี พ.ศ. 2563 ยคุ นี้อุปกรณเ์ ทคโนโลยจี ะใช้งานบนพื้นฐาน การเช่ือมโยงเครือข่ายอินเทอร์เน็ต อุปกรณม์ ีความฉลาดเรียนรจู้ ากการใช้งานอัตโนมัติ มีระบบการเรียนรู้และการวิเคราะห์ผลการใช้งาน เช่น การติดตั้งระบบเตือนภัยไฟฟ้า บ้านอัจฉริยะ ระบบม่านปรับแสงอัตโนมัติ การพยากรณ์อากาศ เป็นต้น ในยุคน้ี การทางานของเว็บที่มีความอัจฉริยะ สามารถวิเคราะห์และมีระบบตรวจสอบตัวตน ในการนาเสนอขอ้ มูล ภาพที่ 1.69 วิวฒั นาการของเวบ็ (ทมี่ า : http://www.mdpi.com/1999-5903/4/3/852)

เทคโนโลยคี อมพวิ เตอร์และการสื่อสารข้อมลู | 49 จากภาพที่ 1.69 แสดงวิวัฒนาการ เร่ิมต้น Web 1.0 ท่ีเริ่มต้น การนาเสนอเว็บรูปแบบ World Wide Web ต่อมายุค Web 2.0 มีการใช้เว็บโดย ผู้ใช้งานและผู้ให้บริการโต้ตอบรูปแบบ Social Web จนเข้าสู่ยุค Web 3.0 ได้นา เทคโนโลยีเว็บเชิงความหมาย (Semantic Web Service) มาประยุกต์ใช้ในการค้นหา ในเว็บไซต์ทั่วไป จนมาถึงยุค Web 4.0 เป็นยุคของการเช่ือมโยงเพื่อใช้บริการ อนิ เทอรเ์ น็ต อินเทอร์เนต็ เป็นเครือขา่ ยคอมพวิ เตอร์ที่มีการใช้บริการทวั่ โลกขนาดใหญ่ ทีส่ ุดในยคุ ปจั จุบัน เกิดจากการเชื่อมเครือข่ายย่อยจานวนมากทท่ี าการแลกเปลี่ยนข้อมูล โดยไม่จากัดระยะทาง สถานที่ ด้วยโพรโทรคอลทีซีพี/ไอพี (TCP/IP) ซึ่งปัจจุบัน การใช้บรกิ ารเครือขา่ ยอินเทอร์เน็ตมผี ใู้ หบ้ ริการอินเทอร์เน็ตท่ีเรียกว่า (Internet Service Provider: ISP) เช่น บริษัท กสท โทรคมนาคม จากัด (มหาชน) ทีโอที (TOT) ทริปเปิลที (3BB) ดีแทค (DTAC) เอไอเอส (AIS) ทรอู นิ เตอรเ์ น็ต (True) เปน็ ต้น มีหน่วยงานท่ีควบคุมดูแลเก่ียวกับการให้บริการอินเทอร์เน็ต คือสานัก คณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ หรือ กสทช. เป็นองค์กรของรัฐที่เป็นอิสระ ซ่ึงจัดต้ังขึ้นตามพระราชบัญญัติองค์กร จัดสรรคลื่นความถ่ีและกากับการประกอบกิจการวิทยุกระจายเสยี ง วิทยุโทรทัศน์ และ กิจการโทรคมนาคม พ.ศ. 2553 2.9 การใชง้ านเครอื ขา่ ยอนิ เทอรเ์ น็ต การใช้อินเทอร์เน็ตในประเทศ มีการใช้งานปริมาณเพ่ิมมากข้ึน และมีรายงานการสารวจพฤติกรรมผใู้ ช้อินเทอร์เน็ตในประเทศมีรายงานการสารวจจาก สานักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ (องค์การมหาชน) ในปี พ.ศ. 2559 ได้ แบง่ กลมุ่ การใช้อนิ เทอร์เน็ต 4 กลุ่มไดแ้ ก่ Gen x (35-50 ปี), Gen y (15-34 ปี), Gen z (น้อยกว่า 15 ปี) และ Baby Boomer (51 ปีขึ้นไป) ผลสารวจพบว่า กลุ่ม Gen Y ใช้งานเครือข่ายอินเทอร์เน็ตมากที่สุด และใช้อุปกรณ์เคลื่อนที่ในการเข้าถึงเครือข่าย อินเทอร์เน็ต ซึ่งกิจกรรมยอดฮิต คือการใช้งานสังคมออนไลน์และการชมวิดีโอผ่าน YouTube จากรายงานผลการใช้อุปกรณ์ในการเข้าถึงเครือข่ายอินเทอร์เน็ต ผู้ใช้งานเลือกใช้เครื่องสมาร์ตโฟนมากท่ีสุดถึง 85.5% คอมพิวเตอร์ต้ังโต๊ะ 62%

เทคโนโลยคี อมพิวเตอร์และการสอ่ื สารขอ้ มูล | 50 คอมพิวเตอร์พกพา 48.7% แท็บเล็ตคอมพิวเตอร์ 30% และสมาร์ตทีวี 19.8% จากรายงานจะเหน็ ไดว้ ่าเครอื ข่ายอนิ เทอร์เน็ตเป็นเครือข่ายท่ีนยิ มใช้กันอยา่ งแพร่หลาย ทว่ั โลก มีลักษณะการใช้บรกิ ารดงั นี้ 1) การส่ือสาร คือการสื่อสารข้อมูล เป็นลักษณเครือข่ายที่นิยม มากที่สุดในการใช้บริการเครือข่ายอินเทอร์เน็ต เนื่องจากปัจจุบันมีเทคโนโลยีการสื่อสาร ที่ทันสมัย สามารถติดต่อส่ือสารกันได้ในระยะไกลโดยไม่จากัดเร่ืองระยะและประหยัด ค่าใชจ้ า่ ย ทาให้ผูใ้ ช้บรกิ ารมีปรมิ าณเพ่ิมขึ้นมาก บรกิ ารทน่ี ิยมใช้ในการติดต่อส่ือสารมีดงั น้ี  การใช้บริการจดหมายอิเล็กทรอนิกส์ (Electronic Mail : e-mail) คือการแลกเปลย่ี นขอ้ มูลข่าวสาร ผ้ใู ช้ต้องสมคั รสมาชกิ เพอ่ื ใช้งาน เช่น Gmail, Hotmail, Yahoo เป็นต้น ท่ีอยู่ของผู้ใช้บริการจดหมายอิเล็กทรอนิกส์มีส่วนประกอบ 2 ส่วน คือ ชื่อผู้ใช้บริการและผู้ให้บริการ เช่น [email protected] ดังภาพท่ี 1.70 แสดงหนา้ จอหลกั อเี มล ภาพท่ี 1.70 การเขยี นจดหมายอิเล็กทรอนิกสใ์ หม่ของ Hotmail (ท่ีมา : www.hotmail.com)  การใช้บริการสังคมออนไลน์ (Social Network) คือ การแลกเปล่ียนข้อมูลข่าวสาร การแสดงความคิดเห็นในกลุ่มเครือข่ายจนเรียกว่า สังคมออนไลน์ มีโปรแกรมประยุกต์หลากหลายอย่าง เช่น Facebook, Twitter, Instagram, Line, skype, YouTube เปน็ ตน้

เทคโนโลยคี อมพิวเตอร์และการสือ่ สารข้อมูล | 51 หน้าจอหลัก Facebook เป็นเว็บลักษณะการใช้บริการ แลกเปล่ียนโดยสามารถโพสต์ รูปภาพ การพิมพ์เคร่ืองหมาย # ที่เรียกว่า Hashtag เพ่อื งา่ ยตอ่ การสบื ค้นขอ้ มูลในกลุ่มคาเดียวกันทีใ่ สเ่ ครอื่ งหมาย # ดังภาพที่ 1.71 ภาพที่ 1.71 การใชบ้ รกิ าร Facebook (ที่มา : www.facebook.com) ตัวอย่างหน้าจอ Twitter บริการลักษณะ Microblog คือ สง่ ข้อความส้ัน ๆ ครั้งละไมเ่ กนิ 140 ตัวอักษร ใช้ในการประชาสมั พันธ์สินค้าหรอื บริการ เป็นต้น ดงั ภาพที่ 1.72 ภาพท่ี 1.72 การใช้บรกิ าร twitter (ท่มี า : www.twitter.com)

เทคโนโลยคี อมพวิ เตอร์และการสือ่ สารข้อมลู | 52 หน้าจอหลัก Instagram เป็นโปรแกรมประยุกต์ท่ีเรียกว่า IG เปน็ โปรแกรมใช้สาหรบั ถา่ ยภาพหรือคลปิ วดี โิ อ เพอ่ื แชร์หรอื แบง่ ปนั ใหก้ ับผูอ้ ่ืน สามารถ ใช้เครื่องหมาย # เพื่อเชื่อมโยงหมวดหมู่ และติดตาม แสดงความคิดเห็นได้ ปัจจุบัน Facebook ซ้อื โปรแกรมต้งั แต่เดือนเมษายน 2555 ดงั ภาพที่ 1.73 ภาพที่ 1.73 การใชบ้ รกิ าร Instagram (ทม่ี า : www.Instagram.com) หน้าจอหลัก Line เป็นโปรแกรมประยุกต์สนทนายอดนิยม อีกโปรแกรมหน่ึง ท่ีมีผู้ใช้งานเพิ่มข้ึนเรื่อย ๆ จุดเด่นสามารถสนทนา และแลกเปล่ียน ไฟล์ไดห้ ลากหลายรปู แบบ เช่น อักษร เสยี ง รปู ภาพ เป็นต้น Line เปน็ โปรแกรมรองรับ ระบบปฏิบัติการท่ีหลากหลาย เช่น iOS, Android, windows phone เป็นต้น ดงั ภาพที่ 1.74 แสดงการใชบ้ รกิ ารของ Line ภาพที่ 1.74 การใช้บรกิ าร Line (ท่ีมา : www.line.me.th)

เทคโนโลยคี อมพิวเตอรแ์ ละการส่ือสารข้อมลู | 53 หน้าจอหลัก YouTube เป็นบริการลักษณะวีดิโอแชร์ ท่ีสามารถอัปโหลด เผยแพร่เพ่ือถ่ายทอดเรื่องราวต่างๆ ได้ ปัจจุบัน Google ได้เข้ามา ซ้ือ YouTube และหากผู้ใช้บริการท่ีเป็นสมาชิก Google สามารถเข้าไปใช้งานระบบ YouTube ไดเ้ ลย ดังภาพที่ 1.75 ภาพท่ี 1.75 การใช้บรกิ าร YouTube (ท่มี า : www.youtube.com)  การซื้อสินค้าและบริการ (Electronic Commerce : E-Commerce) เป็นการซื้อขายสินค้าและบริการผ่านเครือข่าย เช่น ขายหนังสือ คอมพิวเตอร์ การท่องเที่ยว อุปกรณ์โทรศัพท์เคล่ือนที่ เคร่ืองสาอาง เป็นต้น ปัจจุบัน เทคโนโลยีการสื่อสารและมีการติดต่อสื่อสารง่าย จึงเป็นที่นิยมในปัจจุบัน เช่น Amazon.com, Lazada.co.th, pantipmarket.com เ ป็ น ต้ น ดั ง ภ า พ ที่ 1.76 แสดงการจาหนว่ ยสินคา้ ผ่านเว็บไซต์

เทคโนโลยีคอมพวิ เตอร์และการสอื่ สารขอ้ มลู | 54 ภาพที่ 1.76 การซือ้ สนิ คา้ เว็บไซต์ Pantipmarket (ท่มี า : www.pantipmarket.com)  การสืบคน้ ข้อมลู (Search) เป็นการค้นหาข้อมลู บนเครือขา่ ย อินเทอร์เน็ตที่ได้รับความนิยมในการใช้งาน โดยการพิมพ์ช่ือเว็บไซต์ท่ีต้องการสืบค้น โปรแกรมประยุกต์ท่ีใช้ในการสืบค้นเว็บไซต์ต่างๆ ที่เรียกว่าเว็บเบราว์เซอร์ (Web Browser) โดยเว็บเบราว์เซอร์จะเข้าใจและทางานตามคาส่ังของภาษา HTML โปรแกรม เว็บเบราว์เซอร์ท่ีนิยมใช้ในปัจจุบันมีหลายโปรแกรม เช่น Windows Internet Explorer (IE), Mozilla Firefox, Chrome เป็นต้น ดังภาพท่ี 1.77 แสดงการใช้โปรแกรม Chrome และภาพที่1.78 แสดงการใชโ้ ปรแกรม Windows Internet Explorer (IE) ภาพท่ี 1.77 เว็บเบราว์เซอร์ Chrome (ท่ีมา : www.Google.com)

เทคโนโลยีคอมพวิ เตอร์และการสอื่ สารข้อมลู | 55 ภาพท่ี 1.78 เว็บเบราว์เซอร์ Windows Internet Explorer (IE) (ทม่ี า: http://www.msn.com/th-th/) ปัจจุบันมีการค้นหาข้อมูลด้วยโปรแกรมค้นหาข้อมูลที่เรียกว่า Search Engine การทางานของ Search Engine คือจะอาศยั เว็บไซต์การค้นหาข้อมูลด้วย การพิมพ์คาค้นที่ต้องการสืบค้น โปรแกรมจะทาการค้นหาข้อมูลจากเว็บไซต์มาแสดงผล เว็บไชต์ท่ีให้บริการ Search Engine เช่น www.google.com, www.yahoo.com, www.teenee.com, www.sanook.com, www.kapook.com เป็นต้น ดังภาพท่ี 1.79 แสดงการสบื คน้ ข้อมูลจากเวบ็ ไซต์ Google ภาพท่ี 1.79 แสดงวธิ กี ารสืบค้นขอ้ มลู แบบ Search Engine เวบ็ ไซต์ Google (ท่ีมา: http://www.google.co.th)

เทคโนโลยีคอมพิวเตอร์และการส่ือสารขอ้ มูล | 56  ความบันเทิง ปัจจุบันมีเทคโนโลยีการส่ือสารมีการพัฒนา ทีป่ รับการใชง้ านบนเครือข่ายอินเทอร์เนต็ ใหม้ ีปริมาณการใช้งานเพ่ิมมากขน้ึ ผ้ใู ชบ้ ริการ สามารถค้นหาข้อมูลด้านความบันเทิงได้ ผู้ให้บริการ สถานีวิทยุ โทรทัศน์ หน่วยงาน เอกชน รัฐบาลก็ใช้เครือข่ายอินเทอร์เน็ตในการประชาสัมพันธ์ โฆษณา ผ่านเว็บไซต์ มากขึ้น ผู้ใช้บริการสามารถดูภาพยนตร์ อ่านนิตยสาร ฟังเพลง ดูโทรทัศน์ได้โดยไม่เสีย ค่าใช้จ่าย และสามารถดูรายการต่าง ๆ ย้อนหลังได้ การใช้บริการด้านความบันเทิง จึงเป็นส่ิงจูงใจอีกช่องทางหน่ึงท่ีเอกชนเพ่ิมช่องทางการโฆษณามากยิ่งข้ึน ดังภาพท่ี 1.80 แสดงการชมโทรทัศนแ์ บบออนไลน์ ภาพที่ 1.80 โทรทศั น์แบบออนไลน์ Adintrend (ทม่ี า: http://www.adintrend.com)  การใช้บริการพื้นท่ีจัดเก็บข้อมูลบนเครือข่ายอินเทอร์เน็ต (Cloud Storage) การใช้บริการพ้ืนทจ่ี ดั เก็บข้อมูลในปัจจุบนั เรม่ิ มีการใช้งาน เพ่ิมมากขนึ้ การบรกิ ารน้คี ือการโอนยา้ ยข้อมูลบนเคร่ืองคอมพิวเตอรล์ กู ข่ายไปยงั เครื่อง คอมพิวเตอร์แม่ข่าย ซ่ึงในปัจจุบันผู้ให้บริการข้อมูลหรือเว็บไซต์หลายๆ เว็บไซต์ ก็ให้บริการพ้นื ท่ีในการจัดเก็บฟรีไม่เสียค่าใช้จ่าย เช่น Google, Hotmail เป็นต้น และ เสยี ค่าบรกิ ารจากการเช่าพื้นท่ีในการจัดเก็บขอ้ มลู เชน่ Thnic, idc.cattelecom.com เปน็ ต้น ดังภาพท่ี 1.81 แสดงการใช้บรกิ ารจดั เกบ็ พน้ื ทข่ี อง Google

เทคโนโลยีคอมพวิ เตอร์และการสอ่ื สารข้อมลู | 57 ภาพท่ี 1.81 การใช้บรกิ ารจดั เกบ็ พืน้ ทข่ี อง Google (ท่มี า : http://www.google.co.th) 2.10 เทคโนโลยีการสื่อสารขอ้ มูลในยุคปจั จุบัน 2.10.1 การส่ือสารข้อมูลผ่านเครือข่ายโทรศัพท์คือการให้บริการจาก ผู้ให้บริการเครือข่ายโทรศัพท์ บนคลื่นความถี่ไมโครเวฟ มีหน่วยงานรัฐบาลเป็น ผู้ตรวจสอบการให้บรกิ ารแกป่ ระชาชน เช่น AIS, DTAC, Truemove H เป็นต้น 2.10.2 การระบุตาแหน่งด้วยดาวเทียม (Global Positioning Systems : GPS) คือ ระบบที่ใช้การวิเคราะห์ระบุตาแหน่งพิกัดโดยใช้ดาวเทียม ปัจจุบันนิยมใช้กับการเดินทางรถยนต์ เรือ เคร่ืองบิน เป็นต้น ดังตัวอย่างภาพท่ี 1.82 แสดงตัวอย่างการใชโ้ ปรแกรม Sygic หรือ Google Map เป็นต้น ภาพท่ี 1.82 โปรแกรมประยกุ ต์ระบพุ ิกัด

เทคโนโลยีคอมพิวเตอร์และการส่อื สารข้อมูล | 58 2.10.3 การโอนเงินทางอิเล็กทรอนิกส์ ระบบธุรกรรมการเงิน ในปัจจุบัน ได้นาเทคโนโลยีการส่ือสารเข้ามาช่วยในการให้บริการเพอ่ื เพิม่ ความสะดวก สบาย ความรวดเร็ว ทาให้ผู้ใช้บริการสามารถชาระเงินหรือจ่ายค่าบริการได้ด้วยระบบ อิเล็กทรอนิกส์ต่างๆ เช่น ตู้เอทีเอ็ม สมาร์ตการ์ด เป็นต้น ดังภาพท่ี 1.83 แสดงบริการ ธรุ กรรมการเงินท่มี ีในปจั จบุ นั ภาพท่ี 1.83 การทาธุรกรรมการเตมิ เงินอิเลก็ ทรอนกิ ส์ (ทม่ี า : https://www.1213.or.th/th/serviceunderbot/payment/Pages/ e-money.aspx) 2.10.4 การระบุลักษณะของวัตถุด้วยคลื่นความถี่วิทยุ (Radio Frequency Identification หรอื RFID) เปน็ ระบลุ กั ษณะของวัตถุด้วยคล่ืนความถี่วิทยุ ปจั จบุ นั นยิ มนามาประยกุ ตใ์ ช้กับการตรวจสอบหาวัตถุ ตรวจสอบฉลากยา บตั รทางดว่ น ระบบหนังสือเดินทาง ระบบกุญแจอิเล็กทรอนิกส์ในรถยนต์ เป็นต้น ดังภาพท่ี 1.84-1.87 แสดงภาพรวมของการทางานระบบ RFID และตวั อยา่ งการประยกุ ตใ์ ช้ RFID ในยคุ ปัจจุบัน ภาพท่ี 1.84 การทางานของระบบ RFID (ท่มี า : http://rfid.siam2web.com/?cid=1648847)

เทคโนโลยีคอมพวิ เตอร์และการส่อื สารข้อมลู | 59 ภาพที่ 1.85 แผงวงจร RFID (ทมี่ า : http://rfid.siam2web.com/?cid=1648847) ภาพที่ 1.86 ประยกุ ต์ใชก้ ับฉลากสินคา้ (ท่มี า : http://rfid.siam2web.com/?cid=1648847) ภาพท่ี 1.87 ประยกุ ต์ใช้กับการเกษตร (ท่ีมา : http://rfid.siam2web.com/?cid=1648847)

เทคโนโลยคี อมพิวเตอรแ์ ละการส่อื สารข้อมลู | 60 2.10.5 บลูทูธ (Bluetooth) คือเทคโนโลยีสาหรับเครือข่ายบุคคล ใช้คล่นื วทิ ยใุ นการส่งสัญญาณความถ่ี 2.45 GHz นยิ มใชใ้ นระยะทางใกล้ สะดวกในการ ติดตั้งและเคล่ือนย้าย อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ปัจจุบันจะมีการใช้ระบบบลูทูธในการส่ง สัญญาณและยังสามารถใช้เชื่อมต่อกับอุปกรณ์ท่ีหลากหลายระบบปฏิบัติการ เช่น แป้นพิมพ์ไร้สาย เมาส์ไร้สาย หูฟังไร้สาย ลาโพงไร้สาย เครื่องพิมพ์ไร้สาย เป็นต้น ดงั ภาพตัวอย่างท่ี 1.88 ภาพที่ 1.88 เมาสไ์ รส้ ายและหฟู ังไร้สาย ประโยชน์ของเทคโนโลยีสารสนเทศ 1. ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศช่วยเพิ่มผลผลิต ลดต้นทุน ควบคุม ตรวจสอบ และเพม่ิ ประสิทธภิ าพการทางานในองค์กร ดา้ นธรุ กิจและอตุ สาหกรรม ผ่านการใช้เทคโนโลยีคอมพิวเตอร์และเทคโนโลยีการส่ือสาร ท้ังรูปแบบออนไลน์ และออฟไลน์ 2. เทคโนโลยีสารสนเทศเปลี่ยนรูปแบบการบริการเป็นแบบกระจาย พัฒนาระบบข้อมูลและให้ผู้ใช้บริการสามารถเลือกรูปแบบตามความต้องการ และสามารถเลอื กเวลาและสถานที่บริการไดต้ ามสะดวก เช่น ศนู ยบ์ รกิ ารสอบถาม การสั่งซ้ือสินคา้ ออนไลน์ การตรวจสอบผลการเรยี น เปน็ ต้น

เทคโนโลยคี อมพิวเตอร์และการสื่อสารขอ้ มลู | 61 3. ใช้เทคโนโลยีในการสร้างระบบสารสนเทศ เทคโนโลยีสารสนเทศ เป็นส่ิงจาเป็น เนื่องจากปริมาณข้อมูลมีเพิ่มมากข้ึน ดังนั้นทั้งภาครัฐและเอกชน จึงนาเทคโนโลยีสารสนเทศมาช่วยในการจัดเก็บข้อมูลอย่างเป็นระบบ และง่าย ตอ่ การสืบค้นขอ้ มูล สามารถปรับปรงุ แกไ้ ขขอ้ มลู ให้มีความทันสมยั และตอบสนอง ความต้องการ เช่น ระบบการสืบค้นทรัพยากรหนังสือ ระบบเวชระเบียน ระบบ การจดั เกบ็ สารสนเทศทะเบียนราษฎร์ เปน็ ตน้ 4. เทคโนโลยีสารสนเทศช่วยเสริมสร้างคุณภาพชีวิตให้ดีข้ึน สภาพ ความเป็นอยู่ของสังคมเมือง มีระบบประมวลผลด้วยคอมพิวเตอร์ มีการพัฒนา ระบบสื่อสารโทรคมนาคมให้ติดต่อส่ือสารสะดวกยิ่งขึ้น มีส่ิงอานวยความสะดวก ภายในบา้ น เชน่ ระบบตเู้ ย็นอตั โนมัติ ระบบจอภาพอัจฉรยิ ะ ปา้ ยโฆษณาอัจฉริยะ เป็นตน้ ดังนั้น ในการดาเนินชีวติ ประจาวันจงึ สะดวกสบายยิง่ ขนึ้ 5. ใชเ้ ทคโนโลยีสารสนเทศเพ่ือการพัฒนาการเรียนการสอน ให้มีการ เรียนรู้ตามอัธยาศัยโดยไม่จากัดเวลา สถานท่ี เช่น ระบบการเรียนการสอน อิเลก็ ทรอนกิ ส์ (E-Learning) การเรียนห้องเรยี นเสมือน การเรยี นทางไกล และใช้ ระบบสารสนเทศมาชว่ ยในการบรหิ ารจัดการระบบสนบั สนุนการเรยี นการสอน 6. ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศเพ่ือการจัดการสภาพแวดล้อม ภูมิศาสตร์ และการใช้เทคโนโลยีในการสร้างรูปแบบจาลองพยากรณ์อากาศ ภูมิศาสตร์ เช่น ระบบสารสนเทศภูมิศาสตร์เพื่อหาเส้นทางการกระจายตัวของก้อนเฆมในรูปแบบ แผนท่ีดาวเทยี ม เป็นตน้ 7. ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศในด้านความมั่นคง ในการตรวจสอบ ควบคุม รายงาน ติดตามข้อมูลเพ่ือการรักษาความมั่นคงปลอดภัย และป้องกัน ประเทศ เช่น ระบบจัดเก็บสารสนเทศทะเบียนผู้ก่อการร้าย ประวัติอาชญากรรม เปน็ ต้น 8. ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศในด้านอุตสาหกรรมและการพาณิชยกรรม ปัจจุบันธุรกิจมีการแข่งขันสูง จึงจาเป็นต้องหาวิธีเพิ่มคุณภาพของผลผลิตให้มี

เทคโนโลยีคอมพิวเตอร์และการส่อื สารขอ้ มูล | 62 มาตรฐาน และควบคุมตรวจสอบ เช่น การใช้หุ่นยนต์มาช่วยในด้านแรงงาน ระบบ ตรวจสอบคุณภาพผลิตภัณฑ์ เป็นต้น 9. ระบบสารสนเทศสุขภาพและแพทย์ ประชาชนมีระบบสารสนเทศ ที่สามารถสืบคน้ ขอ้ มลู หรือองคค์ วามร้ใู นการรกั ษา ดูแลสขุ ภาพ 10. ความบันเทิงมีระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ เพ่ิมคุณภาพของสื่อ ประสม (Multimedia) เชน่ ระบบแสง สี เสียง ภาพยนตรส์ ม่ี ิติ และหนังสอื การ์ตนู สามมติ ิ เปน็ ต้น เทคโนโลยีในยุคปจั จุบนั ยุคโลกาภิวัฒน์ยุคนี้ผู้ใช้งานคอมพิวเตอร์จะนิยมใช้คอมพวิ เตอร์มาช่วยในการ จัดเก็บข้อมูลและติดต่อสือ่ สาร ดังนั้นผู้ผลติ จะต้องผลติ และออกแบบคอมพิวเตอร์ ให้เหมาะสมกับความต้องการของผู้ใช้ ให้หลากหลายมากขึน้ รวมถึงต้องอานวย ความสะดวกในการใช้ชีวิตในปัจจุบัน ดังนั้น การศึกษาหรือรู้จักกับเทคโนโลยีในยุค ปัจจุบัน จะได้ปรบั ตัวและทราบถึงลักษณะการใช้งานของเทคโนโลยีที่นยิ มใชใ้ น ปัจจุบัน ดังนี้ 1. รถยนตอ์ ัจฉริยะ เป็นเทคโนโลยีที่ออกแบบมาเพื่ออานวยความสะดวกให้คนใช้งานรถยนต์ ซึ่งในปัจจุบันได้นาเทคโนโลยีนี้มาใช้เบื้องต้น เช่น การตรวจจับส่ิงผิดปกติด้วยระบบ ป้องกันภัย การเปิดประตูรถด้วยลายนิ้วมือ เป็นต้น เทคโนโลยีท่ีได้กล่าวมาข้างต้น มีการใช้งานจรงิ นอกจากนีย้ งั มเี ทคโนโลยที ี่มีความนยิ มมากข้ึนในอนาคต คือ การเชือ่ มตอ่ มือถือและสั่งการด้วยเสียง โดยมีระบบการประมวลผล ท้ังเร่ืองเส้นทางการจราจร ความ ปลอดภัย ความชว่ ยเหลอื ขณะขับรถได้ หรอื เทคโนโลยีรถยนต์ไร้คนขบั ที่มกี ารสั่งกาหนด จุดหมายปลายทางว่าจะไปจุดใด รถยนต์ก็จะทาการประมวลผลและผู้ใช้งานสามารถ ตดิ ตามด้วยกลอ้ งวงจรปิด ดา้ นการแข่งขันทางการตลาด ผู้ผลติ ตดิ ตั้งระบบดงั กลา่ วมากับ ตัวรถที่เรียกว่า Built–in เพ่ือเพ่ิมสถรรนะความโดดเด่นเป็นจุดขายในตลาดมากย่ิงข้ึน ดังภาพท่ี 1.89 แสดงการสาธิตการใช้งานรถยนต์อัจฉริยะกับการควบคุมการทางาน ของระบบ

เทคโนโลยีคอมพวิ เตอรแ์ ละการสอ่ื สารขอ้ มูล | 63 ภาพที่ 1.89 รถยนต์อัจฉรยิ ะ (ทม่ี า : http://www.thairath.co.th/content/561658) 2. นาฬกิ าอจั ฉริยะ นาฬิกาถือเป็นอุปกรณ์ท่ีใช้ในการดูเวลาท่ีเรารู้จักกันมาอย่างแพร่หลาย แต่ในปัจจุบันการแข่งขันทางการตลาดเพิ่มมากข้ึน จึงได้นาเทคโนโลยีเข้ามาใช้ควบคุม กับการดูเวลา เป็นฟังก์ชันท่ีตอบสนองความต้องการท่ีมีการใช้งานเพิ่มมากข้ึน สาหรบั เทคโนโลยีท่ีนาเข้ามาใช้งาน ทาให้เรียกว่านาฬิกาอัจฉริยะ จะมีความสามารถใน การระบุตาแหน่งท่ีอยู่ การคานวณระยะทาง สามารถติดต่อส่ือสารแบบโทรศัพท์หรือ การสนทนา การจดั เกบ็ ขอ้ มลู พืน้ ฐานจากการใชง้ านได้ มกี ารวัดการเต้นหวั ใจ นับการว่ิง ออกกาลงั กาย เช่อื มตอ่ เครอื ขา่ ยอนิ เทอรเ์ น็ต มีกล้องบนั ทกึ ภาพได้ เปน็ ตน้ ภาพท่ี 1.90 แสดงภาพนาฬิกาอัจฉริยะท่ีนิยมใช้กับเด็ก มีฟังก์ชันพื้นฐานการนับจานวนก้าว การออกกาลงั กาย วัดการเต้นของหัวใจ ระบบระบพุ กิ ัดจากดาวเทียม มไี มโครโฟนและ ลาโพงสนทนาได้ ในการทางานดังกล่าวสามารถทางานผ่านระบบโปรแกรมประยุกต์ ทตี่ ิดตงั้ กับโทรศพั ท์ไดท้ กุ ระบบปฏิบัตกิ าร ในภาพด้านซา้ ยเป็นภาพนาฬิกาและดา้ นขวา แสดงหนา้ จอแอปพลิเคชันท่ใี ช้ควบคุมการทางาน

เทคโนโลยีคอมพวิ เตอร์และการสอ่ื สารขอ้ มลู | 64 ภาพท่ี 1.90 นาฬกิ าอจั ฉรยิ ะ 3. ความเปน็ จริงเสมือน (Virtual Reality: VR) นวัตกรรมใหม่ที่มีกระแสการใช้งานในตลาดเพิ่มขึ้นในโลกปัจจุบัน คือ เทคโนโลยีท่ีสร้างโปรแกรมจาลองสถานณ์ การหรือกิจกรรมให้เสมือนจริง โดยการมองเห็นจอภาพ 360 องศา หรืออุปกรณ์แสดงผลสามมิติ ผู้ใช้งานสามารถ ควบคุมส่ังการเสมือนตนเองอยู่ในโลกเสมือนน้ันจริง เช่น ทัวร์สถานท่ีท่องเท่ียว ต่างประเทศสร้างโปรแกรมและกาหนดจดุ โตต้ อบการใช้งาน การจาลองการบิน การเลน่ เกมกีฬาแทนนิส เกมยิงปืน เป็นต้น ส่วนประกอบของเทคโนโลยี VR จอภาพที่ 1.91 แสดงหน้าจอที่แว่นตาแต่ละบริษัทจะออกแบบมาหลากหลายรูปแบบ เช่น เป็นแว่นตา หรอื แบบสวมบนศรี ษะ เปน็ ต้น ภาพที่ 1.91 การใช้แว่นตา VR

เทคโนโลยีคอมพวิ เตอรแ์ ละการสือ่ สารขอ้ มูล | 65 4. ความเปน็ จรงิ เสริม (Augmented Reality: AR) AR เป็นเทคโนโลยีใหม่ที่นาเสนอด้วยการผสานของสื่อท่ีมีภาพสามมิติ ท่ีแสดงภาพเสมือนจริงลอยอยู่เหนือพื้นผิวท่ีถูกกาหนด ด้วยการมองผ่านอุปกรณเ์ สริม เช่น กล้อง แว่นตา สมาร์ตโฟน เป็นต้น ทาให้ผู้พบเห็นรู้สึกตื่นเต้นเร้าใจ เป็นรูปแบบ การนาเสนอท่ีถูกนามาสร้างความสนใจโฆษณากับผลิตภัณฑ์มากขึ้น มีการนาโลโก้มา สรา้ งภาพ AR เกม AR มากขน้ึ และในปพี .ศ. 2559 ได้มีเกมโปเกม่อน ทส่ี ร้างเกมขึ้นมา ด้วยระบบ AR เป็นท่ีนิยมอย่างมาก หรือในวงการหนังสือกาลังใช้เทคโนโลยี AR มา สร้างความสนใจเสมือนจริงเพิ่มมากขึ้น เช่น หนังสือไดโนเสาร์ได้สร้างภาพไดโนเสา ร์ ตามลักษณะต่าง ๆ เป็นต้น ดังภาพท่ี 1.92 แสดงตัวอย่างเกมท่ีถูกสร้างมาจาก AR โดยมีการใช้แผนที่ของ google ระบุพิกัดการเดินทางเพ่ือเจอกับตัวละครเมื่อพบก็ทา การจับด้วยภาพ ซึ่งจะมีการแสดงตัวโปเกม่อนรปู แบบ AR จากสถานท่ีผ้เู ล่นใช้งานจริง ภาพท่ี 1.93 แสดงตวั อย่างแอปพลิเคชัน Aurasma ซง่ึ ผู้ใช้สามารถสรา้ ง AR ได้เองจาก การเลอื กตัวการ์ตูนและรวมภาพเปน็ AR ภาพท่ี 1.92 เกมโปเกมอ่ น ภาพท่ี 1.93 แอปพลิเคช่ัน Aurasma 5. อากาศยานไร้คนขบั (Drone) อากาศยานไร้คนขับหรือที่เรยี กว่า โดรน คอื อากาศยานทส่ี ามารถบินและ ปฏิบัติงานได้ โดยไม่มีนกั บินหรอื คนบงั คับอยภู่ ายในตัวอากาศยานนั่นเอง ทง้ั น้ี โดรนนัน้ สามารถถูกควบคุมได้หลายรูปแบบ มีการนาโดรนไปประยุกต์ใช้อย่างหลากหลาย ท้ังในด้านภูมิศาสตร์ การตรวจสอบพ้ืนที่การเกษตร การบริการถ่ายภาพทางอากาศ การตรวจสอบโครงสร้างขนาดใหญ่ของอาคาร การสารวจพื้นที่ทส่ี าคญั ตา่ ง ๆ เปน็ ต้น

เทคโนโลยคี อมพิวเตอรแ์ ละการสอ่ื สารข้อมูล | 66 ปัจจุบันใช้งานของโดรนนิยมแพร่หลายทั้งหน่วยงานเอกชนหรือรัฐบาล การประยุกต์ใช้ ดังตัวอย่างภาพท่ี 1.94 แสดงภาพเครอื่ งโดรนท่ีบริษัทอินเทลเป็นผู้ผลิต ท่มี ีหลากหลายรปู แบบ ภาพท่ี 1.94 โดรนบริษทั อินเทล (ท่ีมา: http://www.thailand.intel.com/content/www/th/th/technology- innovation/aerial-technology-overview.html) 6. การประมวลผลแบบกล่มุ เมฆ (Cloud Computing) การประมวลผลโดยใช้ทรัพยากรร่วมกัน บนเครือข่ายคอมพิวเตอร์ท่ีอยู่ ใกล้และอยู่ไกล เป็นการใช้ทรัพยากรร่วมกันโดยผ่านระบบแอปพลิเคชันบนเครือข่าย อินเทอร์เน็ตโดยผู้ใช้บริการสามารถติดตั้งแอปพลิเคชันและเรียกใช้ งานผ่าน ท้ังเคร่ืองคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคล โทรศัพท์หรือเครื่องแท็บเล็ต เป็นต้น ปัจจุบันเป็น ท่ีนิยมกันอย่างแพร่หลาย เช่น Google เม่ือสมัครเป็นสมาชิกสามารถใช้พื้นท่ีในการ จัดเก็บข้อมูลท่ีเรียกว่า Drive 15 GB และ Hotmail ก็ให้พื้น OneDrive จานวน 5 GB เป็นต้น ดังแสดงการให้บรกิ ารท่ีภาพท่ี 1.95

เทคโนโลยคี อมพิวเตอรแ์ ละการสอื่ สารข้อมูล | 67 ผูใ้ หบ้ รกิ าร ภาพท่ี 1.95 การใช้บริการ Cloud Computing ลักษณะการทางานของการประมวลผล แบบกลุ่มเฆ มหรือที่เรียกว่า ร ะ บบ คลาวด์ท่ีต้องการติดต้ังในอุปกรณ์ที่สามารถทางานร่วมกัน แบ่งประเภทการใช้งาน 3 ประเภทดังน้ี 1) Infrastructure–as-a-Service (IaaS) คือการใหบ้ รกิ ารระบบจัดเก็บข้อมูล ที่มีเครือข่ายระบบเสมือนใช้งานผ่านระบบแอปพลิเคชันและซอฟต์แวร์ ซึ่งระบบนจ้ี ะมี ก า ร ใ ช้ ง บ ป ร ะ ม า ณ ใ น ก า ร ล ง ทุ น ใ น ก า ร เ พ่ิ ม ศั ก พ ภ า พ ใ น ก า ร ป ร ะ ม ว ล ผ ล ข้ อ มู ล มกี ารประยกุ ตใ์ ชใ้ นการบรกิ ารสาหรบั องค์กรเดียวกนั ในเครอื ขา่ ยเดยี วกันหรือสาขาย่อย ผู้ใช้บรกิ ารไม่ต้องจัดหาทรัพยากรเอง เชน่ การใชบ้ ริการของ Amazon web services เปน็ ตน้ 2) Platform–as–a-Service (Pass) คือการให้บริการสาหรับนักพัฒนา ระบบ ซอฟต์แวร์หรือแอปพลิเคชัน ที่มีการให้บริการในการใช้บริการผ่านเครื่อง คอมพิวเตอร์แม่ข่ายท่ีอยู่ในการตรวจสอบควบคุมและดูแลรักษาความปลอดภัย โดยผใู้ หบ้ ริการจะทาการจัดเตรยี มทรพั ยากรใหบ้ รกิ ารเพ่ือให้นกั พัฒนาสามารถเรียกใช้ บริการผ่านเว็ปแอปพลิเคชันได้ เช่น Microsoft Azure หรือ Web Hosting เว็บไซต์ที่ ให้บริการในการเช่าพ้ืนท่เี วบ็ ไซต์ เปน็ ต้น 3) Software-as-a-Service (Saas) คือการใช้บริการด้านซอฟต์แวร์และ แอปพลิเคชัน โดยการให้บริการด้านซอฟต์แวร์และแอปพลิเคชันผ่านการเรียกใช้บน

เทคโนโลยคี อมพิวเตอรแ์ ละการสือ่ สารข้อมูล | 68 เครือข่ายอินเทอร์เน็ต มีลักษณะการใช้บริการแบบจ่ายค่าบริการตามรูปแบบท่ี ผู้ใช้บริการกาหนด ผู้ให้บริการจะทาหน้าที่ให้บริการดูแลรักษาระบบความปลอดภัย ผู้ใช้บริการสามารถเรียกใช้บริการผ่านแอปพลิเคชันบนระบบเครือข่ายอินเทอร์เน็ต มีการใช้แอปพลิเคชันปัจจุบันจะมีบริการให้เริ่มต้นฟรีโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย แต่ก็จะมี ข้อจากัดบางอยา่ งในการใช้บรกิ าร เชน่ Google Drive, OneDrive, Dropbox, iCloud เปน็ ต้น 7. อินเทอร์เน็ตในทุกสรรพสง่ิ (Internet of Things: IoT) อินเทอร์เน็ตในทุกสรรพสิ่งหรือที่เรียกว่าไอโอที ถูกคิดค้นเมื่อปี 1999 Kevin Ashton โครงการ Auto-ID Center ที่มหาวิทยาลัย Massachusetts Institute of Technology หรือ MIT จากเทคโนโลยี RFID ท่ีจะทาให้เป็นมาตรฐานระดับโลก สาหรับ RFID Sensors ต่างๆ ท่ีจะเช่ือมต่อกันได้ โดยต่อมายุคปี 2000 โลกมีอุปกรณ์ อิเล็กทรอนิกส์ออกมาเป็นจานวนมากและมีการใช้คาว่า สมาร์ต (Smart) หมายถึง อุปกรณ์ที่รองรับการเชื่อมต่อ เช่น สมาร์ตดีไวซ์ สมาร์ตกริด สมาร์ตฟาร์ม สมาร์ตซิตี้ เป็นตน้ ทก่ี ล่าวมามีโครงสรา้ งพ้ืนฐานทส่ี ามารถเชอื่ มตอ่ กบั โลกอนิ เทอร์เนต็ ได้ ด้วยอาศัย ตวั เซ็นเซอรก์ ารสอื่ สาร ท่ี Kevin นยิ ามมันไวต้ อนนน้ั ว่าเปน็ “internet-like” คืออปุ กณ์ อิเล็กทรอนิกส์สามารถส่ือสารพูดคยุ กันเองได้ การทางานของ IoT ในการติดต่อส่ือสารผ่านโพรโทคอลแบบใช้สายและ ไรส้ ายมีวิธีการระบุตัวตนได้ รับร้กู ารทางานรว่ มกนั เช่น การสงั่ เปดิ ปิดสวิตซไ์ ฟตามห้อง ทม่ี คี นอย่หู รอื ไม่มีคนอยจู่ ากการเซ็นเซอร์ การตรวจสญั ญาณชพี ของผู้ปว่ ยและสง่ ข้อมูล ไปยังบุคลากรทางการแพทย์ และการส่งข้อความไปยังรถฉุกเฉิน เป็นตัวอย่างในการ ประยุกต์ใช้ IoT จากความนิยมของ IoT จึงมีผู้ผลิตเทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์ท่ีสามารถ สื่อสารและเช่อื มต่อกนั ได้ผ่านโพรโทคอลการสอ่ื สารทั้งแบบใชส้ ายและไร้สาย โดยสรรพ สิ่งต่าง ๆ มีวิธีการระบุตัวตนได้ รับรู้บริบทของสภาพแวดล้อมได้ และมีปฏิสัมพันธ์ โต้ตอบและทางานร่วมกันได้มากยิ่งข้ึน ความสามารถในการส่ือสารของสรรพสิ่งน้ีจะ นาไปสู่นวัตกรรมและบริการใหม่อีกมากมาย มีการจัดอันดับ การเข้าถึงฮาร์ดแวร์ ซอฟต์แวร์ และการวิเคราะห์ระบบความปลอดภัย จากเว็บไซต์ www.cio.com ปี พ.ศ. 2559 ไดส้ รุป 10 อนั ดบั การใช้งานดังนี้


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook